กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามีบทที่ 262 อย่าขยับ

บทที่ 262 อย่าขยับ

บทที่ 262 อย่าขยับ

บทที่ 262 อย่าขยับ

ไม่เพียงแต่จางอวี้เอ๋อไม่หลบหน้าเท่านั้น ตรงกันข้ามเธอกลับทำท่าทางหยิ่งยโสโดยไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย

ถ้าไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนความจำดี เขาคงคิดว่าจางอวี้เอ๋อไม่ใช่คนที่ทำสิ่งนั้นเมื่อคืนนี้ไปแล้ว

ฉู่ซิงอวี่ขมวดคิ้ว ไม่อยากคิดถึงคนที่ทำให้เขารู้สึกขยะแขยง

ชายหนุ่มสงบสติอารมณ์ และเดินผ่านจางอวี้เอ๋อพร้อมกับหลิงเยี่ยราวกับว่าเธอเป็นอากาศธาตุ

จางอวี้เอ๋อพ่นลมหายใจ “เหอะ!” ให้กับด้านหลังของฉู่ซิงอวี่

ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เธอคงไม่ต้อง…

ช่างเถอะ ไม่ว่าจะยังไง จะใช้วิธีไหนก็สามารถบรรลุเป้าหมายของเธอได้เหมือนเดิม คอยดูแล้วกัน!

ขณะที่เซี่ยชิงหยวนกำลังคิดเรื่องปี่เหลาซานและปี่ฟู่หมาน เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากกงเหลียนซินซะก่อน

กงเหลียนซินพูดว่า “ตอนนี้ข้าวที่บ้านก็เกี่ยวแล้ว พี่อยากจะถือโอกาสเอาเวลาว่างนี้ไปเที่ยวในเมืองหน่อยน่ะ ไม่รู้ว่าเธอกับน้องเขยจะสะดวกรึเปล่า?”

หลังจากวางสายกับเซี่ยชิงหยวนในวันนั้น กงเหลียนซินก็ไม่สามารถระงับความคิดนี้ของเธอได้

เซี่ยจิ่งเยว่และญาติของเธอก็สนับสนุนเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะมา

เซี่ยชิงหยวนตอบอย่างตรงไปตรงมา “ทำไมจะไม่สะดวกล่ะพี่สะใภ้ ฉันดีใจนะที่พี่จะมาก่อนที่จะสายเกินไป”

เซี่ยชิงหยวนนำสมุดบันทึกขนาดเล็กออกมาเตรียมจด “พี่สะใภ้จะพาลูก ๆ ของพี่มาที่นี่กับพี่ชายของฉันด้วยไหม? แล้ววางแผนจะออกเดินทางวันไหน ฉันจะได้ซื้อตั๋วให้จากที่นี่น่ะ”

กงเหลียนซินกล่าวว่า “พี่ของเธอบอกว่าเขาจะอยู่บ้านเพื่อดูแลพ่อแม่น่ะ เขาเลยจะไม่มา ส่วนพี่จะพาเซี่ยไป่เหิงไปคนเดียว คราวนี้จะให้เซี่ยไป่อวิ๋นอยู่ที่บ้านก่อนน่ะ”

เมื่อเซี่ยชิงหยวนได้ยินว่าเซี่ยจิ่งเยว่และหลานชายตัวน้อยของเธอจะมาไม่ครบ หญิงสาวก็อดนึกเสียดายไม่ได้

แต่การที่กงเหลียนซินออกมาคนเดียว มันสะดวกกว่าที่จะนำหลานทั้งสองมาเพียงคนเดียวจริง ๆ นั่นแหละ

เซี่ยชิงหยวนพูดว่า “ได้ค่ะ พี่บอกมาได้เลยนะว่าจะมาเวลาไหน ฉันจะได้จัดการให้”

ท้ายที่สุดกงเหลียนซินก็ตัดสินใจที่จะมาเตียนเฉิงในอีกหนึ่งสัปดาห์

เดิมทีกงเหลียนซินต้องการจะพูดบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับจางอวี้เจียวและจางอวี้เอ๋อ แต่เธอไม่มีความสุขกับมันมากนักหลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอจึงปิดปากเงียบไป

เมื่อเธอไปที่เตียนเฉิง แล้วค่อยรอให้เจอเซี่ยชิงหยวนแล้วค่อยพูดคุยก็ได้

ทางเซี่ยชิงหยวนเองก็มองไปที่ปฏิทิน

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอกับอาเซียงไปขายเสื้อผ้าด้วยกัน ซึ่งพวกเธอก็ไปขายแถวศาลากลางและโรงงานบุหรี่ ในเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์นี้ พวกเธอขายเสื้อผ้าได้มากกว่าสามร้อยชิ้นแล้ว

ในมือยังเหลือเสื้อผ้าอีกมากกว่าสี่ร้อยชิ้น ซึ่งมีเวลาพอที่จะไปกว่างโจวก่อนที่กงเหลียนซินและหลานชายคนโตของเธอจะมา

ตอนนี้เป็นช่วงปลายเดือนตุลาคม และยังสามารถซื้อเสื้อผ้าสไตล์ฤดูใบไม้ร่วงได้

ขณะนี้ในเมืองส่วนใหญ่ของจีน เสื้อผ้ากันหนาวได้เริ่มวางจำหน่ายก่อนหน้านี้แล้ว

เธอหวังว่าเมื่อถึงเวลา ตนเองจะได้ซื้อเสื้อผ้าแบบโละขายอีกครั้ง

ที่โต๊ะอาหารเย็น เมื่อเซี่ยชิงหยวนบอกว่ากำลังจะไปเมืองกว่างโจวเพื่อซื้อเสื้อผ้าอีกรอบ เสิ่นอี้โจวก็ดูปกติและพยักหน้า “ตกลง”

ในตอนกลางคืน เสิ่นอี้โจวก็อุ้มเซี่ยชิงหยวน ซึ่งกำลังอยู่ในห้องหนังสือกลับไปที่ห้องนอน

การกระทำนี้ของเขาทำให้เธอกลัวมากจนเตะรองเท้าแตะที่ใส่อยู่ปลิวไป

เขาโยนภรรยาลงบนเตียง และตัวเขาก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อบราวนี่ออนไลน์

เซี่ยชิงหยวนตกตะลึงกับปฏิบัติการรอบนี้ไม่น้อย “นั่นคุณจะทำอะไรน่ะ?”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เสิ่นอี้โจวก็หัวเราะออกมา “แน่นอน…ทำเรื่อง…ที่น่าสนใจไง”

เซี่ยชิงหยวน “!”

เธอพยายามต่อรอง “เมื่อวานก็ทำแล้วไม่ใช่เหรอ?”

เสิ่นอี้โจวพยักหน้าอย่างจริงจัง “แต่นั่นมันเมื่อวาน ไม่ใช่วันนี้”

เซี่ยชิงหยวนอยากจะร้องไห้ “แต่เอวของฉันยังเจ็บอยู่เลย”

ในขณะที่เธอพูด เสิ่นอี้โจวได้ปลดกระดุมเสื้อของเขาทั้งหมดแล้ว

เขาโยนมันและเสื้อก็ตกลงบนโซฟาที่ปลายเตียง

เขาเอื้อมมือไปแตะข้อเท้าของเธอแล้วจับมันไว้ “ผมคิดว่าวันนี้คุณได้พักผ่อนพอแล้วนะ เมื่อตอนเย็นคุณยังสามารถนั่งเล่นหมากรุกกับอี้หลินได้อยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”

หลังจากพูดจบ เขาก็ดึงเธอมาใต้ร่างทันที

เขาลดกายลงจูบหญิงสาว ปิดกั้นสิ่งที่เธอต้องการจะเอ่ย

อีกมือหนึ่งก็โอบขาที่เตะไปมาของเธอไว้อย่างง่ายดาย “นี่ อย่าขยับสิ”

เซี่ยชิงหยวน “…”

เธอพบว่าทุกครั้งก่อนไปเมืองกว่างโจว เสิ่นอี้โจวจะชอบทำแบบนี้ก่อนเข้านอนไปอีกหลายวัน

ถ้าเธอรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เธอควรจะบอกเขาในตอนเช้าก่อนออกเดินทางมากกว่า

เซี่ยชิงหยวนไปที่เมืองกว่างโจวครั้งนี้ เธอนำอาเซียงไปด้วย

ส่วนงานขายเสื้อผ้านั้น เธอฝากไว้กับอาจ้วง

เซี่ยชิงหยวนพูดกับอาจ้วง ซึ่งกำลังมองดูกองเสื้อผ้าด้วยความขมขื่นและไม่มั่นใจ

“อย่ากดดันไป แค่ขายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็พอ”

อาจ้วงอยากบอกว่าเขาไม่กลัวที่จะขายเสื้อผ้า แต่เขากลัวพวกหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ ที่อายุมากกว่าจะรุมล้อมและล้อเลียนเขา

หลังจากได้รับการจ้องมองอย่างเอาเป็นเอาตายจากพี่สาวของตัวเอง เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้า “ตกลง ผมเข้าใจแล้ว”

นี่เป็นครั้งที่สองที่อาเซียงไปกว่างโจวกับเซี่ยชิงหยวน

เมื่อเทียบกับความแปลกใหม่และความตื่นเต้นในครั้งแรก ครั้งนี้เธอสงบลงอย่างเห็นได้ชัด

เซี่ยชิงหยวนกล่าวว่า “น่าจะมีสินค้าสำหรับฤดูหนาวในเมืองกว่างโจวอยู่แล้ว และพี่จะพาเธอไปดูรอบ ๆ ไปเลย เพื่อที่คราวหน้าเธอจะได้สามารถมาซื้อสินค้ากับเหล่าไต้ได้ด้วยตัวเองโดยตรงนะ”

เมื่ออาเซียงได้ยินเซี่ยชิงหยวนมอบหมายเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้ เธอก็กลืนน้ำลายตัวเองอย่างรวดเร็ว “ค่ะพี่สาวเซี่ย”

คราวนี้ยังคงเป็นเฮ่ออวี้เฟิงที่มารอรับที่สถานีรถไฟ

เมื่ออาเซียงเห็นเฮ่ออวี้เฟิง เสียงของเธอก็อดไม่ได้ที่จะตึงเครียด “พี่สาวเซี่ย คนคนนี้ดูดุร้ายมากเลยค่ะ”

เซี่ยชิงหยวนลูบหัวอาเซียงด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “เขาเป็นคนดีมาก แค่ไม่ค่อยพูดน่ะ”

อาเซียงพยักหน้า และเดินไปอีกด้านของเซี่ยชิงหยวนเห็นได้ชัดว่ายังคงกลัวเฮ่ออวี้เฟิงอยู่

เฮ่ออวี้เฟิงชำเลืองมองอาเซียง ซึ่งผิวเข้มกว่าเซี่ยชิงหยวนพอสมควร และไม่พูดอะไร

ครั้งนี้เฮ่ออวี้เฟิงจัดโรงแรมให้พวกเธอห่างจากร้านซ่อมรถของเขาหนึ่งถนน

ทั้งสองคนมีความเข้าใจทันทีและไม่ได้กล่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในกองเพลิง

เหล่าไต้เห็นเซี่ยชิงหยวนและถอนหายใจ “ตั้งแต่ลูกพี่โจวตาย สถานที่นี้ก็ไม่สงบเหมือนเมื่อก่อนเลย”

พอได้ยินแบบนั้น ดวงตาของเซี่ยชิงหยวนก็พลันแข็งค้างไป “เขาตายจริงเหรอ?”

เหล่าไต้พูดต่อ “มีคนเห็นด้วยตาตัวเองว่าเขาวิ่งไปข้างในโรงแรมที่ไฟไหม้ แต่ก็ไม่ได้ออกมาอีกเลยน่ะ”

“ไฟไหม้ใหญ่ขนาดนั้นจะรอดได้ยังไง? ถ้าเขาไม่ตาย ทำไมเขาถึงไม่ปรากฏตัวล่ะ?”

“ตอนนี้พื้นที่รอบ ๆ ถูกปกครองโดยแก๊งชิงเฉิงไปแล้ว”

“ตอนนี้มันยุ่งเหยิงจริง ๆ ฉันจ่ายค่าคุ้มครองครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ฉันก็ยังรู้สึกไม่สบายใจเลย”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เหล่าไต้ยังคงคิดถึงวันที่ลูกพี่โจวอยู่ใกล้ๆ

อย่างน้อยภายใต้การคุ้มครองของเขาก็ไม่มีการกดขี่

อาเซียงฟังเหล่าไต้และอดไม่ได้ที่จะถาม “พี่สาวเซี่ย ลูกพี่โจวที่พูดถึงกันอยู่คือนักเลงหัวไม้ที่ไปสถานีตำรวจกับเราครั้งล่าสุดใช่ไหมคะ?”

เมื่อได้ยินอาเซียงพูดถึงโจวจินจื่อ เซี่ยชิงหยวนก็พยักหน้าและพูดว่า “ใช่”

มีคนเพิ่งเดินผ่านไป และเหล่าไต้พูดว่า “คราวหน้าอย่าพูดถึงคนคนนี้อีกนะ และระวังอย่าให้ใครได้ยินด้วย นอกจากนี้เวลาออกไปดูสินค้าในอนาคตควรพยายามออกไปแต่ตอนกลางวันเท่านั้น ช่วงนี้ตอนกลางคืนฉันไม่กล้าพาพวกเธอไปตลาดเลย”

เซี่ยชิงหยวนตอบกลับ “ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”

เมื่อออกไปข้างนอก จะดีที่สุดคือใช้เวลาให้น้อยลงเพื่อเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิด

ท้ายที่สุดไม่ใช่นักเลงทุกคนที่เหมือนโจวจิ่นจือ

แต่ใครจะรู้ แม้ว่าเธอจะระมัดระวังมากแค่ไหน แต่ก็ยังมีบางสิ่งเกิดขึ้นอยู่ดี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Score 10
Status: Completed
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี ...ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด! เรื่องย่อ หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

Options

not work with dark mode
Reset