(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki 93

ตอนที่ 93

ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ทพฝำไมเธอถึงได้พยายามขนาดนั้นด้วยนะ?

 

“ระ ร่างกายหยุดสั่นไม่ได้เลย ใจก็เต้นแรงปวดหัวตุบๆด้วย……คงจะประหม่าเกินไปรึป่าวนะ? ดูสิโคทาโร่คุง สั่นสั่นสั่น~”

 

ระหว่างทางกลับบ้าน พวกเราออกมาจากโรงเรียนได้นะ แต่ก็ต้องมาหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะใกล้ๆ เพราะชิโฮะเดินต่อไม่ไหวเลยขอพัก และก็มีโต๊ะให้นั่งพอดีด้วย พวกเราเลยนั่งพักหายใจ

 

“เธอทำเรื่องที่ผมไม่ค่อยได้เห็นไปแหละน้า……..ขี้อายแท้ๆ ยังสามารถยกมือในที่แบบนั้นได้ด้วยนะ”

 

ถึงเธอรวบรวมความกล้าและเปล่งเสียงสั่นๆออกมาท่ามกลางห้องเรียนที่เงียบสงัดก็ตาม แต่ก็มีพลังในการมัดใจทุกคนไว้ได้

 

ด้วยเหตุนั้น จึงทำให้ผมกลายเป็นตัวละครหลักไป

 

“ไม่ได้ขี้อายนะ ชาติที่แล้วเกิดเป็นกระต่ายเลยมีสัญชาติญาณของผู้ถูกล่าต่างหาก ดูนี่สิ หูกระดิกอยู่ด้วยใช่มั้ยล่ะ? นี่น่ะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเคยเป็นกระต่ายอย่างไงล่ะ”

 

เธอพูดแล้วหูของเธอก็ขยับๆ

ถึงจะน่ารัก แต่ทำไมเธอต้องปฏิเสธเรื่องขี้อายหัวชนฝาแบบนั้นด้วยนะ?

ชิโฮะที่หัวดื้อในเรื่องแปลกๆนั้น ผมก็คิดว่าน่ารักเหมือนกัน

 

“กระต่ายหรอ……ถ้ากินเข้าไปล่ะก็จะเป็นรสชาติแบบไหนกันนะ?”

 

ผมรู้สึกผ่อนคลาย เรื่องเครียดๆที่คิดอยู่นั้น หายไปและผมเองก็นั่งลงข้างๆชิโฮะ จากนั้น เธอก็เริ่มทุบมาที่ไหล่ผม

 

“มะ ไม่ได้นะ คุณกระต่ายไม่ใช่ของกินซักหน่อย……โคทาโร่คุงไม่มีจิตใจของมนุษย์หรอ? อะ แต่ว่า ลักษณะนามของคุณกระต่ายเนี่ยไม่ใช่’ฮิคิ’แต่เป็น’วะ’สินะ หรือว่าจะมีรสชาติเหมือนคุณไก่กัน…….!?”

(ประเทศไทยเรียกสัตว์เป็นตัวเหมือนกันหมด แต่ของญี่ปุ่นนี่เรียกแยกตามขนาด ซึ่งกระต่ายกับพวกสัตว์ปีกตัวน้อยๆจะใช้คำเดียวกัน)

 

“น้ำลาย ออกมาแล้วนะ……”

 

“อาระไม่นะ น่าอายจัง”

 

เปลี่ยนใจเร็วเกินไปแล้ว

อายจนหน้าแดงแบบนั้นก็น่ารักอยู่นะ แต่ว่าอย่าเช็ดด้วยชุดตัวเองเลย

 

“นี่ ผ้าเช็ดหน้า”

 

“ขอบคุณ”

 

จะว่าไป ก่อนหน้านี้ผมก็เคยยื่นผ้าเช็ดหน้าให้แบบนี้เหมือนกัน พอคิดถึงตอนนัันแล้ว ความสัมพันธ์ของผมกับชิโฮะนี่ พัฒนามาไกลมากเลยน้า

 

“……ขอบคุณที่เหน็ดเหนื่อยนะ แต่ว่า ไม่ต้องพยายามถึงขนาดนั้นก็ไม่เป็นอะไรนะ?”

 

พอลองมองดูดีๆ ก็เห็นว่าตัวเธอยังสั่นอยู่

เธอคงจะฝืนมากไปจริงๆนั่นแหละนะ ชิโฮะอ่อนไหวต่อคนรอบข้างขนาดนั้นแหละ

 

“ก็เพราะ อยากเห็นเวทีที่เฉิดฉายของโคทาโร่คุงนี่นา……พอคิดว่า จะได้เห็นด้านเท่ๆของเธอที่เป็นคนวิเศษแล้ว ใจมันก็เต้นไม่หยุดเลยล่ะ เพราะแบบนั้น ถึงจะไม่มากแต่ก็อยากจะพยายามช่วย”

 

ーเธอน่ะ ไม่ได้คิดอะไรอย่างลึกๆเลยจริงๆด้วย

เธอก็แค่อยากแสดงความรักอันอ่อนโยนที่มีต่อผม ในรูปแบบการกระทำแค่นั้นเอง

 

ทั้งเรื่องของแมรี่ซัง ทั้งเรื่องของริวซากิ สำหรับชิโฮะแล้วมันคงจะเป็นอย่างไงก็ช่างเถอะ

เธอนั้น คิดแต่เรื่องของผมอย่างเดียว

 

มีแค่ผม ที่เธอมีความรู้สึกที่พิเศษให้

นั่นทำให้…..ผมดีใจมาก

 

“ขอบคุณนะ”

 

เป็นความรู้สึกที่บริสุทธิ์

 

ขอบคุณที่รักคนแบบผมนะ

 

ความรู้สึกนั้นทำให้ผมขยับร่างกาย

ผมความมือของเธอที่กำลังตัวสั่นอยู่ ผมจับมันอย่างไม่แรงมาก แต่ก็ไม่คิดจะให้หลุดมือ

 

“เอ๊ะ? เอ่อ หืมหืม??? โคทาโร่คุง อาเระ? ทะ ทำไมหรอ?”

 

อยู่ดีๆก็ถูกจับมือ ชิโฮะคงจะสับสน

นั่นก็ไม่แปลกหรอก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีซักครั้งเลยที่ผมเป็นคนจับเธอด้วยตัวเอง

 

สกินชิพที่ผ่านๆมาทุกคนนั้น ชิโฮะจะเป็นคนเริ่มตลอด

ผมเป็นฝ่ายถูกกระทำมาตลอด และไม่ได้ทำอะไรเลย…….แต่ว่า ในที่สุดวันผมก็กล้าจับเธอด้วยตัวเองได้แล้ว

 

เพราะผมเอาแต่ปฏิเสธตัวเอง ผมเลยเอาแต่คิดไปเองว่า’คนแบบผมไม่ใช่คนที่จะจับต้องเธอได้’ จึงทำให้ผมลังเลมาตลอด

 

แต่ว่า ในที่สุด…….ผมเองก็คงจะเติบโตขึ้นแล้วเหมือนกัน

 

“……จู่ๆก็ทำเรื่องแบบนี้ ขี้โกงนะ ใจเต้นจนเหมือนมือจะสั่นมากกว่าเลยด้วย”

 

“งะ งั้นหรอ? ถ้าอย่างงั้น เอ่อ….”

 

แต่ว่า เธอยังทั้งเขินและอายอยู่

ผมคงจะรีบร้อนเกินไป เลยจะปล่อยมือออก…..แต่ว่า ถึงอย่างนั้น ชิโฮะก็ไม่ให้ปล่อย

 

“ไม่ได้นะ เป็นเพราะเธอนั่นแหละที่ทำให้สั่นขนาดนี้ーรับผิดชอบโดยการจับมือกันจนกว่ามันจะหายสั่นด้วยนะ?”

 

ในเวลาเดียวกันกับที่เธอเผยรอยยิ้มอันน่าดึงดูดขึ้นมา เธอก็จับมือแน่นมากกว่าเดิม

 

รอยยิ้มนี้เนี่ย ไม่ว่าตอนไหนก็ช่วยผมไว้ทุกครั้งเลยนะ

เธอน่ารักจริงๆ……

ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ทพฝำไมเธอถึงได้พยายามขนาดนั้นด้วยนะ?

 

“ระ ร่างกายหยุดสั่นไม่ได้เลย ใจก็เต้นแรงปวดหัวตุบๆด้วย……คงจะประหม่าเกินไปรึป่าวนะ? ดูสิโคทาโร่คุง สั่นสั่นสั่น~”

 

ระหว่างทางกลับบ้าน พวกเราออกมาจากโรงเรียนได้นะ แต่ก็ต้องมาหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะใกล้ๆ เพราะชิโฮะเดินต่อไม่ไหวเลยขอพัก และก็มีโต๊ะให้นั่งพอดีด้วย พวกเราเลยนั่งพักหายใจ

 

“เธอทำเรื่องที่ผมไม่ค่อยได้เห็นไปแหละน้า……..ขี้อายแท้ๆ ยังสามารถยกมือในที่แบบนั้นได้ด้วยนะ”

 

ถึงเธอรวบรวมความกล้าและเปล่งเสียงสั่นๆออกมาท่ามกลางห้องเรียนที่เงียบสงัดก็ตาม แต่ก็มีพลังในการมัดใจทุกคนไว้ได้

 

ด้วยเหตุนั้น จึงทำให้ผมกลายเป็นตัวละครหลักไป

 

“ไม่ได้ขี้อายนะ ชาติที่แล้วเกิดเป็นกระต่ายเลยมีสัญชาติญาณของผู้ถูกล่าต่างหาก ดูนี่สิ หูกระดิกอยู่ด้วยใช่มั้ยล่ะ? นี่น่ะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเคยเป็นกระต่ายอย่างไงล่ะ”

 

เธอพูดแล้วหูของเธอก็ขยับๆ

ถึงจะน่ารัก แต่ทำไมเธอต้องปฏิเสธเรื่องขี้อายหัวชนฝาแบบนั้นด้วยนะ?

ชิโฮะที่หัวดื้อในเรื่องแปลกๆนั้น ผมก็คิดว่าน่ารักเหมือนกัน

 

“กระต่ายหรอ……ถ้ากินเข้าไปล่ะก็จะเป็นรสชาติแบบไหนกันนะ?”

 

ผมรู้สึกผ่อนคลาย เรื่องเครียดๆที่คิดอยู่นั้น หายไปและผมเองก็นั่งลงข้างๆชิโฮะ จากนั้น เธอก็เริ่มทุบมาที่ไหล่ผม

 

“มะ ไม่ได้นะ คุณกระต่ายไม่ใช่ของกินซักหน่อย……โคทาโร่คุงไม่มีจิตใจของมนุษย์หรอ? อะ แต่ว่า ลักษณะนามของคุณกระต่ายเนี่ยไม่ใช่’ฮิคิ’แต่เป็น’วะ’สินะ หรือว่าจะมีรสชาติเหมือนคุณไก่กัน…….!?”

(ประเทศไทยเรียกสัตว์เป็นตัวเหมือนกันหมด แต่ของญี่ปุ่นนี่เรียกแยกตามขนาด ซึ่งกระต่ายกับพวกสัตว์ปีกตัวน้อยๆจะใช้คำเดียวกัน)

 

“น้ำลาย ออกมาแล้วนะ……”

 

“อาระไม่นะ น่าอายจัง”

 

เปลี่ยนใจเร็วเกินไปแล้ว

อายจนหน้าแดงแบบนั้นก็น่ารักอยู่นะ แต่ว่าอย่าเช็ดด้วยชุดตัวเองเลย

 

“นี่ ผ้าเช็ดหน้า”

 

“ขอบคุณ”

 

จะว่าไป ก่อนหน้านี้ผมก็เคยยื่นผ้าเช็ดหน้าให้แบบนี้เหมือนกัน พอคิดถึงตอนนัันแล้ว ความสัมพันธ์ของผมกับชิโฮะนี่ พัฒนามาไกลมากเลยน้า

 

“……ขอบคุณที่เหน็ดเหนื่อยนะ แต่ว่า ไม่ต้องพยายามถึงขนาดนั้นก็ไม่เป็นอะไรนะ?”

 

พอลองมองดูดีๆ ก็เห็นว่าตัวเธอยังสั่นอยู่

เธอคงจะฝืนมากไปจริงๆนั่นแหละนะ ชิโฮะอ่อนไหวต่อคนรอบข้างขนาดนั้นแหละ

 

“ก็เพราะ อยากเห็นเวทีที่เฉิดฉายของโคทาโร่คุงนี่นา……พอคิดว่า จะได้เห็นด้านเท่ๆของเธอที่เป็นคนวิเศษแล้ว ใจมันก็เต้นไม่หยุดเลยล่ะ เพราะแบบนั้น ถึงจะไม่มากแต่ก็อยากจะพยายามช่วย”

 

ーเธอน่ะ ไม่ได้คิดอะไรอย่างลึกๆเลยจริงๆด้วย

เธอก็แค่อยากแสดงความรักอันอ่อนโยนที่มีต่อผม ในรูปแบบการกระทำแค่นั้นเอง

 

ทั้งเรื่องของแมรี่ซัง ทั้งเรื่องของริวซากิ สำหรับชิโฮะแล้วมันคงจะเป็นอย่างไงก็ช่างเถอะ

เธอนั้น คิดแต่เรื่องของผมอย่างเดียว

 

มีแค่ผม ที่เธอมีความรู้สึกที่พิเศษให้

นั่นทำให้…..ผมดีใจมาก

 

“ขอบคุณนะ”

 

เป็นความรู้สึกที่บริสุทธิ์

 

ขอบคุณที่รักคนแบบผมนะ

 

ความรู้สึกนั้นทำให้ผมขยับร่างกาย

ผมความมือของเธอที่กำลังตัวสั่นอยู่ ผมจับมันอย่างไม่แรงมาก แต่ก็ไม่คิดจะให้หลุดมือ

 

“เอ๊ะ? เอ่อ หืมหืม??? โคทาโร่คุง อาเระ? ทะ ทำไมหรอ?”

 

อยู่ดีๆก็ถูกจับมือ ชิโฮะคงจะสับสน

นั่นก็ไม่แปลกหรอก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีซักครั้งเลยที่ผมเป็นคนจับเธอด้วยตัวเอง

 

สกินชิพที่ผ่านๆมาทุกคนนั้น ชิโฮะจะเป็นคนเริ่มตลอด

ผมเป็นฝ่ายถูกกระทำมาตลอด และไม่ได้ทำอะไรเลย…….แต่ว่า ในที่สุดวันผมก็กล้าจับเธอด้วยตัวเองได้แล้ว

 

เพราะผมเอาแต่ปฏิเสธตัวเอง ผมเลยเอาแต่คิดไปเองว่า’คนแบบผมไม่ใช่คนที่จะจับต้องเธอได้’ จึงทำให้ผมลังเลมาตลอด

 

แต่ว่า ในที่สุด…….ผมเองก็คงจะเติบโตขึ้นแล้วเหมือนกัน

 

“……จู่ๆก็ทำเรื่องแบบนี้ ขี้โกงนะ ใจเต้นจนเหมือนมือจะสั่นมากกว่าเลยด้วย”

 

“งะ งั้นหรอ? ถ้าอย่างงั้น เอ่อ….”

 

แต่ว่า เธอยังทั้งเขินและอายอยู่

ผมคงจะรีบร้อนเกินไป เลยจะปล่อยมือออก…..แต่ว่า ถึงอย่างนั้น ชิโฮะก็ไม่ให้ปล่อย

 

“ไม่ได้นะ เป็นเพราะเธอนั่นแหละที่ทำให้สั่นขนาดนี้ーรับผิดชอบโดยการจับมือกันจนกว่ามันจะหายสั่นด้วยนะ?”

 

ในเวลาเดียวกันกับที่เธอเผยรอยยิ้มอันน่าดึงดูดขึ้นมา เธอก็จับมือแน่นมากกว่าเดิม

 

รอยยิ้มนี้เนี่ย ไม่ว่าตอนไหนก็ช่วยผมไว้ทุกครั้งเลยนะ

เธอน่ารักจริงๆ……

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

Score 10
Status: Completed

ผมนั้น ก่อนที่จะขึ้นชั้นมัธยมปลาย ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองเป็นตัวประกอบ ไม่สิ ผมคิดว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า'ตัวเอก'ด้วยซ้ำ

 

แต่ทว่า ตั้งแต่ที่ขึ้นชั้นมัธยมปลายและได้พบกับหมอนั่น ผมก็รู้ตัวทันทีว่าผมเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset