(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki 10

ตอนที่ 10

ทันทีที่พักเที่ยง ชิโมสึกิมาทางนี้พร้อมกับทิ้งเสียงเท้า เตาะแตะ เอาไว้

 

“จะ จุย!”

 

เพียงแต่ ไม่รู้ว่าเธอต้องการจะบอกอะไร บางทีคงเพราะความขี้อายทำงาน พอประหม่าก็พูดไม่รู้เรื่อง

 

แค่รับรู้ถึงคนอื่นก็อายเลยเนี่ย หายากไม่เบาเลยนะ

 

เพื่อเป็นการรับมือปัญหา ชิโมสึกิยื่นจดหมายมาให้ ก็รับมาโดยอัติโนมัติ ในนั้นเขียนเอาไว้ว่า ‘ตามาหน่อย’

 

ดูเหมือนจะเตรียมไว้เรียบร้อยเลยนะ…..น่ารักจริงๆเลยนะ เธอนี่

 

“เข้าใจแล้ว”

 

พอพยักหน้า ชิโมสึกิก็แสยะยิ้มอย่างภูมิใจ สีหน้าของเธอบอกว่า ถึงไม่ต้องพูดก็เข้าใจกันได้สบายๆ

 

เธอติดใจกับการเขียนหมายแล้วสินะ ดูเหมือนอนาคตน่าจะได้รับจดหมายแบบนี้อีกไม่น้อยแน่ๆ

 

คิดนู่นคิดนี่ ขณะตามชิโมสึกิ

เธอคงจะมีน้ำหนักน้อยสินะ เสียงฝีเท้าของเธอจึงเบา และก็ก้าวเร็วด้วย ถ้าไม่ระวังผมอาจจะคาดสายตาได้เลย

 

จากนั้นเราก็มาถึงในที่ที่ไม่มีคนอยู่

ที่มุมหลังอาคารเรียน ขนาดผมเองยังตกใจที่มีที่แบบนี้อยู่ด้วย เป็นจุดลับตาคนอย่างมาก

 

“ที่นี่นะ เป็นสถานที่ลับของฉันเลยนะ? ดูสิ ไม่มีคนอยู่เลยใช่ไหมล่ะ? ปกติจะทานข้าวตรงนี้แหละ ถ้ามีเพื่อนแล้วอยากจะทานด้วยกันที่นี่…..ฝันเป็นจริง1อย่างแล้วล่ะ”

 

พออยู่ด้วยกัน2คน ชิโมสึกิพูดเก่งขึ้นทันที เอาเถอะ ก็อยากขอบคุณที่ช่วยบอกอะไรหลายๆอย่างก่อนที่จะถามละกัน

 

“เป็นที่สงบดีนะ”

“ใช่มั้ยล่ะ? อุฟุฟุ ฉันไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวตั้งแต่เกิดแค่เฉยๆหรอกนะ ฉันเก่งเรื่องการหาที่ไม่มีคนน่ะ ที่ๆจะทานข้าวกลางวันแบบเงียบได้กว่านี้คงมีแต่ห้องน้ำอาจารย์แล้วล่ะมั้ง?”

 

แต่ว่า ตอนที่ชิโมสึกิพูดออกมาทุกสิ่งทุกอย่างและปล่อยความรู้สึกดาร์คๆออกมาด้วยนี่ ทำเอากลัวแฮะ

ถึงเธอจะดูใสซื่อบริสุทธิ์ แต่ตัวเธอน่าจะมีด้านมืดอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ

 

“ห้องน้ำไม่ใช่ที่กินข้าวนะ”

 

ยิ้มแห้งๆ และเปิดซองขนมปังที่ซื้อมาเมื่อเช้า

แต่ว่าก็ไม่สามารถกินได้ เพราะชิโมสึกิที่ส่งสายตาจ้องมา เหมือนว่ามีอะไรจะพูด

 

“หืーม? เห~? โห?”

“ปะ เป็นอะไร?”

 

เพราะโดนจ้องอยู่อย่างเดียว เลยเผลอถามไปแบบไม่คิด

ชิโมสึกิก็เริ่มพูด ด้วยความรู้สึกว่ากำลังรอเวลานี้อยู่เลย อย่างยาวมาก

 

“…..เน่ ถ้านากายะมะคุงชวนคุยก็จะคุยด้วยแท้ๆ ทำไมถึงต้องแสร้งทำเป็นเหมือนคนอื่นด้วยล่ะ? ฉันคาดหวังไว้มากเลยนะ? ถ้าถึงเวลาพักแล้ว คิดว่าจะมาหาฉันเหมือนน้องหมาน้อยที่กระดิกหางไปมาพร้อมพูดคุยกันอย่างสนุกแท้ๆ แต่ดันทำตัวเหม่อลอยเป็นเป็นโคอาล่าแบบนั้น โหดร้าย ถ้าฉันพูดอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้ แบบนี้ก็เหมือนฉันชอบนากายะมะคุงอยู่ฝ่ายเดียวสิ ถึงจะอยู่ในห้องเรียนก็อยากให้คุยกะนมากกว่านี้อีก และก็อยากให้รักกันในฐานะเพื่อนด้วยแท้ๆ”

 

ดูเหมือนเธอจะบ่นท่าทางของผมตอนอยู่ในห้องเรียน

ในส่วนนั้นก็อยากจะขอโทษอยู่หรอก แต่ก่อนอื่นมี1อย่างที่อยากพูด

 

“คะ ความรักเนี่ย…..หนักหน่วงจัง”

 

ราวกับว่าเป็นคนรักกันเลยนะ แถมยังเป็นประเภทที่รับมือยากเอามากๆด้วย

ไม่ใช่ว่าเธอต้องการมากเกินไปสำหรับความสัมพันธ์ของเพื่อนหรอ ในใจก็คิดว่าอยากให้ คบกันสบายๆมากกว่านี้นะ

 

“เมื่อเช้า หลังจากที่ได้คุยกัน ฉันก็นึกได้ว่า ‘อาเระ? จะว่าไปนากายะมะไม่ยอมคุยกันเลยน้า’ เพราะอย่างงั้นก็เลยรอ แต่สุดท้ายก็ไม่มาคุยกันอยู่ดี ก็เลยเผลอเขียนจดหมายไปให้น่ะ ไอ้นั่นมันก็ไม่มีปัญหาเพราะมันก็วิเศษอยู่หรอก แต่ช่วยกระตือรือร้นมากกว่านี้หน่อยนะ? ฉันน่ะเป็นคนขี้เหงามากๆเลย”

“ขะ ขอโทษด้วยครับ”

 

เป็นคนขี้เหงา หรือเป็นคนที่อยากถูกเทคแคร์ก็ไม่รู้……ที่ผ่านคิดว่าเธอเป็นคนเงียบๆไร้อารมณ์เหมือนน้ำแข็งซะอีก แต่พอได้ลองเปิดฝาออกมาแล้ว เหมือนกับว่ามีความอ่อนแอของมนุษย์เอ่อล้นออกมา

 

“ให้ตายสิ จดหมายเองก็พยายามอย่างหนักเพื่อเขียนเลยนะ? เพราะฉันไม่ถนัดเรื่องเขียน มันเลยลำบากมากเลย…..แต่ก็ จดหมายมันก็สนุกกว่าที่คิด เพราะงั้นต่อกันอีกครั้งหน้านะ?”

 

ไอ้จดหมายที่เหมือนของเด็กประถมนั่น ดูเหมือนจะมาจากความสามารถทางภาษาของชิโมสึกิ จะว่าไปเมื่อวาน พูดไว้ว่ามังงะกับนิยายมีประโยคอยู่เลยอ่านไม่ได้สินะ…..หืม? ยัยนี่ หรือว่าค่อนข้างจะโง่อยู่พอตัวเลย???

 

เพราะหน้าตาดี เลยคิดไปเองว่าหัวน่าจะดีด้วย

บ่อยครั้ง ก็ได้กลิ่นความบ๊องออกมาจากตัวเธอ

 

“แต่ว่า เก่งมากนะ ที่พูดขอโทษได้อย่างชัดเจน อืม ยกโทษให้ก็ได้ ครั้งหน้าก็แคร์กันมากกว่านี้อีกนะ? เพราะเป็นเพื่อนกัน ไม่คุยกันเยอะๆไม่ได้นะ? ค่า ถ้าเข้าใจก็ดีแล้วล่ะ การอบรมจบเท่านี้”

 

แล้วก็ดูเหมือนจะโดนเทศน์อยู่

เข้าใจละ สายตาระหว่างคาบเรียความจริงแล้วคือไอ้นี่นี่เอง คงอยากจะเทศนามาตลอดเลยสินะ…..ชิโมสึกิที่พูดอะไรหลายๆจบแล้ว ทำหน้าผ่อนคลาย

 

ยัยสาวเงียบคนนั้น อาจจะเป็นคนที่อยากถูกแคร์จนทำเอาลำบากใจก็เป็นได้

แต่ว่า ตรงส่วนนั้นเองก็เป็นสเน่ห์ อย่างน่าแปลกเหมือนกัน…..

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

Score 10
Status: Completed

ผมนั้น ก่อนที่จะขึ้นชั้นมัธยมปลาย ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองเป็นตัวประกอบ ไม่สิ ผมคิดว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า'ตัวเอก'ด้วยซ้ำ

 

แต่ทว่า ตั้งแต่ที่ขึ้นชั้นมัธยมปลายและได้พบกับหมอนั่น ผมก็รู้ตัวทันทีว่าผมเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset