The Novel’s Extra 635 Final Name (6)

ตอนที่ 635 Final Name (6)

Chapter 635 Final Name (6)

…ไกลจากสนามรบ ผมกำลังสำรวจบาอัลอย่างถี่ถ้วน เขาอาจไม่ทราบว่าผมอยู่ที่นี่เพราะผมได้ปกปิดส่วนหนึ่งของปราการไว้ด้วยสติกมาของผมเอง

“พิ้ว….”

กำแพงสูงประมาณ 30 เมตรได้กลายเป็นของผมและพื้นที่นี้ปลอดจากอิทธิพลของบาอัล แม้แต่บาอัลในร่างที่แท้จริงของเขาก็ไม่สามารถตรวจพบผมได้ตราบใดที่ผมยังอยู่ที่นี่

ก่อนอื่นผมเปลี่ยน Desert Eagle ไปเป็นโหมดสไนเปอร์ Clunk— Kiik— Kiik— เสียงที่คุ้นเคยของเครื่องจักรดังขึ้น ปืนรวมกับอีเธอร์และกลายเป็นปืนที่ใหญ่กว่าร่างกายมนุษย์
จากนั้นผมก็เลือกตำแหน่งที่เหมาะเจาะและโหลดกระสุนมิสเทลทีนเข้าไปในปืน….

—แตะ

ตอนนั้นมีบางอย่างแตะเข้าที่ไหล่ของผม
แม้แต่เอเธอร์ก็ล้มเหลวในการตรวจสอบการปรากฏตัวขึ้นอย่างลึกลับนี้
ผมรู้สึกว่าเลือดในร่างกายกำลังเดือดพล่านและเส้นผมของตัวเองก็ลุกขึ้นตั้งแต่โคนจรดปลายจนสัมผัสได้
แต่ผมไม่มีเวลาให้ตกใจ ผมต้องโต้กลับเพื่อจู่โจมอย่างรวดเร็ว ผมครอบคลุมตัวเองด้วยอีเธอร์ และมองหันกลับไป … !

“ฮึ. นายจับฉันได้จริงๆนั่นแหละ”

…คนที่อยู่ข้างหลังของผมคือบอส ผมเห็นปลายริมฝีปากของเธอสั่นไหว เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังสนุกกับปฏิกิริยาของผม
ผมมองเธออย่างไม่พอใจ แต่บอสก็ทำเพียงแค่ยักไหล่

“ฉันไม่ได้ทำอะไร นายเข้าใจผิดเอง”

“เอาเถอะ คุณมาที่นี่ได้ไงครับ?”

สปาร์ตันเดินออกมาจากข้างหลังบอสอย่างช้า ๆ
บอสไม่ใช่คนเดียวที่เขาพามาที่นี่

“ เราอยู่ที่ไหนกันล่ะเนี่ย ฮาจิน ~?”

เจน, จินโยฮาน และฮิราโนะ อาราชิ ก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน เจนกำลังอุ้มผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะหมดสติไว้ในอ้อมแขนของเธอ แม้ว่าผมที่ยุ่งเหยิงของเธอจะปิดหน้าส่วนใหญ่เอาไว้ แต่ผมก็สามารถบอกได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้คือ ยูยอนฮา

“ สมาชิกคณะคมีเลียน ทุกคนติดอยู่ในปราการนี้ไหม?”

“ไม่ แค่ฉัน บอส จินโยฮานและอาราชิ คนอื่นอยู่ข้างนอก”

“ อืม…และเธอเหรอ?”

“ โอ้ เธอ ~?”

ผมชี้ไปที่ยูยอนฮา และเจนยกยูยอนฮาขึ้นเหนือหัวของเธอด้วยรอยยิ้มขี้เล่น

“ เธอเป็นลมไปอย่างที่นายเห็น ฉันอาจจะเล่นมากไปหน่อย ~ เอาเถอะ ฮาจิน นายควรตรวจสอบ สมาร์ทวอช ของตัวเองนะ! ผู้หญิงคนนี้ส่งข้อความยาวมากๆๆถึงนายล่ะ ~”

“… ข้อความ?”

“ช่ายย~ มันยาวมาก ~”

ผมหยิบสมาร์ตวอทช์ออกมาดูตามที่เจนแนะนำ แน่นอนผมได้รับข้อความจากยูยอนฮามาจริงๆ พอลองแสกนคร่าว ๆ มันก็ดูเหมือนจะเป็นนวนิยายซะมากกว่า
ผมเปิดข้อความและพยายามอ่าน

แตะ แตะ –

ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าของบางอย่างดังขึ้น ผมและบอสผู้ที่กำลังสมาร์ทวอช ของผมอยู่เงยหน้าพร้อมกันทันที เราทุกคนหันมองไปในทิศทางเดียวกันตอนนี้
และในทันใดความเงียบอันเย็นยะเยือกก็เกิดขึ้น

“…บาย์ออล”

เสียแผ่วเบาเรียกว่าชื่อของบอสดังขึ้นผ่านความเงียบสงัด
อียอนจุนอยู่ตรงนั้น

**

[เกาหลี – เกซัม]

บาอัลยึดเขตแดนของเกาหลีไว้ในปราการของเขา แต่ตอนนี้ชอคจุนกยองอยู่ไกลจากชายแดน
เขาเฝ้าสังเกตเมืองที่ชื่อชื่อ ‘เกซัม’ ซึ่งปัจจุบันถูกปีศาจทำลายไปแล้ว
เมืองนี้เคยเป็นหัวใจของโครยอ

“หึ”

ชอคจุนกยองรมีความรู้สึกแปลก ๆ ในท้องของเขา ราวกับว่ามีก้อนของร้อนจำนวนมากถูกโยนเข้าไปในนั้น เขาไม่ได้แคร์อะไรมากนักเกี่ยวกับผู้คนในยุคปัจจุบัน แต่ก็รู้สึกแปลก ๆ ที่ได้เห็นภาพของปีศาจร้ายทำลายบ้านเกิดของเขา

Chweeek— Chweeek— Chweeek—

ถัดจากเขา เสียงธนูที่ถูกดึงออกมาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชอคจุนกยองเหลือบมองไปด้านข้าง จินเซยอนยิงธนูออกไปหลายสิบดอกต่อวินาทีเพื่อโจมตีปีศาจ

“…”

ตรงกันข้าม ชอคจุนกยองกลับทำเพียงแค่ยืนกอดอกแน่นและไม่ได้ขยับตัวออกมาแม้แต่นิ้วเดียว เขายังคงเรียงลำดับตามความรู้สึกของเขาอยู่
เขาเคยได้ยินว่าบาอัลอยู่ทางตอนเหนือของเกาหลี การต่อสู้กับบาอัล แค่ได้ฟังก็ดูเหมือนจะมีเรื่องสนุกกว่าอะไรทั้งนั้น
แต่ชอคจุนกยองมาที่นี่ทันทีที่เขาพบว่าเกซัมถูกโจมตี ขาของเขาขยับไปเองได้ที่สมองยังไม่ทันได้สั่งการชอคจุนกยองไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนกัน

“ คุณจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม?”

จินเซยอนถามออกมาในที่สุด
เมื่อชอคจุนกยองปฏิเสธที่จะตอบ เธอจึงตะโกนออกมาเสียงดัง

“ หยุดดูและช่วยกันสักที!”

ชอคจุนกยองมองไปที่จินเซยอนด้วยสายตาเย็นชา คนไหนก็ตามที่ได้จ้องมองก็ต่างหลบสายตานั้น แต่จินเซยอนไม่ได้หันหน้าหนี

ชอคจุนกยองถามขึ้นอย่างสงบ “ มีประมาณ 100,000 คนใช่มั้ย”

จินเซยอนตอบอย่างห้วน ก้มมองดูสมาร์ทวอชของเธอ “100,000? คุณหวังไว้แบบนั้น การประมาณอย่างเป็นทางการคือ 500,000 “

“อ่า? ถ้าอย่างนั้นฉันเดาว่า…เราสามารถใช้หล่อนได้”

“ ใช้ใคร?”

“เธอจะได้เห็นเอง ฉันไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกเลยสักนิด”

ชอคจุนกยองหัวเราะเบา ๆ จากนั้นเขาก็เริ่มพูดพึมพำกับตัวเอง

“ ดรูน นายเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ไหม”

—เห็น แต่ก่อนหน้านั้นดูเหมือนว่าบอสและคนอื่น ๆ จะถูกลากเข้าไปในปราการของบาอัล

เสียงของดรูนซึมเข้าไปในหูของชอคจุนกยอง

“ ไม่เป็นไร บอสรู้วิธีดูแลตัวเองนายพร้อมหรือยัง?”

—ฮืมม … เท่าไหร่?

“500,000”

-500,000… เราจะตัดหัวพวกมันทั้งหมด แม้ว่า สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นคือการที่เราเสียเมืองนี้ไป

“ จัดการเลย” ชอคจุนกยองกดเสียงต่ำ

บทสนทนาของพวกเขาจบลงแค่นั้น จินเซยอนกำลังจะถามชอคจุนกยองเกี่ยวกับเรื่องนี้

“ขออนุญาต….”

แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบประโยคก็มีอะไรบางอย่างที่เคลื่อนมาจากเบื้องบน

KWAAAANG-!

สิ่งที่ตกลงมาจากชั้นบรรยากาศจนถึงพื้นเหมือนอุกกาบาตเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดูแปลกประหลาด

จินเซยอนถามด้วยความงุนงงว่า“ นั่นมันอะไรน่ะ”

“ … 500,000 มีมากเกินไปสำหรับเธอและฉันที่จะจัดการเพียงลำพัง อย่าคาดหวังว่าฉันจะตัดหัว ทั้ง500,000นั้นได้หมด”

ชอคจุนกยองเลื่อนสายตาของเขาไปที่ ‘มัน’ – มิมโย
ผิวของมันเป็นสีดำ ตาของมันเปล่งประกายสีแดงเข้มและมีหูยาวคู่หนึ่งสูงขึ้นเหนือหัว จากระยะไกลมันดูเหมือนกระต่าย แต่การมีอยู่ของมันไม่ง่ายนัก
มิโยเป็นสัตว์จากมิติ การมีอยู่ที่ไม่ได้เป็นของโลกนี้

“ นั่นไม่คำตอบจากคำถามของฉัน แล้วมันคืออะไรกันแน่?”

“ อาวุธที่ดีที่สุดของคณะคมีเลียน ฉันเห็นมันเป็นครั้งแรกเมื่อนานมาแล้วเช่นกัน”

มิมโยเปิดปากของมัน เขี้ยวแหลมคู่หนึ่งส่องประกายอยู่ข้างในนั้น

“ อาวุธสุดยอด…?”

มิมโยยื่นกรงเล็บที่มีความยาวเท่าไม้เบสบอลของมันออกมา
“ถูกตัอง มันไม่สามารถและไม่ควรใช้อย่างประมาท “

สัตว์ประหลาดที่แม้แต่ ชอคจุนกยองไม่สามารถควบคุมได้ตามใจชอบ

เมื่อเข้าใจคำเตือนแล้วเธอจึงถามอย่างระมัดระวัง “ …ฉันขอถามคุณได้ไหมว่าทำไม?”

“ เพราะเมื่อใดก็ตามที่มันบ้าคลั่ง ก็ไม่มีทางที่จะสามารถหยุดยั้งมันได้ จนกว่ามัน จะฆ่าอย่างเต็มที่”

ตลอดเวลา สายตาของชอคจุนกยองถูกล็อคไว้ที่มิมโย จินเซยอนก็หันไปหาสัตว์ประหลาดตัวนั้นเช่นกัน
จากนั้น

“Kuaaaaaa-!”

มิมโยพุ่งเขาไปในสนามรบทันที

“…อะไรกัน?!”

ตามที่ชอคจุนกยองว่าไว้ ความเร็วของมันไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า มิมโยวิ่งไปที่ปีศาจด้วยอ้าปากกว้าง ปีศาจในเส้นทางของมันถูกดูดเข้าไปในปากทั้งหมด

“…”

สมองของจินเซยอนไม่สามารถประมวลผลสิ่งที่เธอเห็น ฉากเบื้องหน้าเธอนั้นผิดปกติ กรามของจินเซยอนหล่นและเธอก็พูดไม่ออก

ชอคจุนกยองพูดด้วยรอยยิ้ม “ 500,000 ควรเพียงพอที่จะทำให้มันพอใจล่ะนะ”

จินเซยอนที่เมื่อสักครูกำลังงุนงงก็เอาชนะด้วยความกลัว เธออึกอักและถามกลับไปอีกครั้ง

“ …จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากมัน..ไม่พอใจ”

“อ่า มันก็จะกินทุกอย่างและทุกคนจนกว่ามันจะอิ่ม ไม่ว่าจะเป็นฮีโร่หรือมนุษย์ก็ตาม”

นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่สามารถใช้มิมโยได้โดยประมาท เมื่อมิมโยก้าวไปข้างหน้า แม้แต่ดรูนเจ้าของก็ไม่สามารถควบคุมมันได้
เมื่อได้รับการกระตุ้น มิมโยจะหยุดก็ต่อเมื่อมันพอใจเท่านั้น ดังนั้นคณะคมีเลียนจึงใช้งานได้เฉพาะในการต่อสู้ศึกใหญ่ๆเท่านั้น
เมื่อวันก่อนมิมโยก็เกือบจะทำลายทั้งเมือง

“กิน? นั่น-”

“ นี่คือวิธีที่เราจัดการกับสิ่งต่าง ๆ หากคุณไม่ชอบวิธีของเรา เชิญ”

จินเซยอนพยายามประท้วง แต่ชอคจุนกยอง ตัดบทของเธอทันที จินเซยอนปิดปากของเธอด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น ถึงตอนนี้มันชัดเจนสำหรับเธอว่า มิมโย เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาเกซัมในเวลานี้

“ ฉันต้องการอพยพฮีโร่และพลเรือนก่อน”

“ ทำตามที่คุณต้องการ เราได้สั่งให้มิมโยโจมตีปีศาจเท่านั้น แต่ก็มีโอกาสที่มนุษย์จะถูกกวาดล้างไปด้วยเช่นกัน”

จินเซยอนพยักหน้าและสั่งให้ฮีโร่แห่งเกซัมหนีไป

[นี่คือข้อความจากฮีโร่จินเซยอนตำแหน่งระดับมาสเตอร์ ฮีโร่แห่งเกซัม โปรดหยุดการต่อสู้และให้ความสำคัญกับการอพยพประชาชน นี่คือคำสั่ง ช่วยชีวิตผู้คนให้มากที่สุด]

หลังจากออกคำสั่งจินเซยอนก็ก้มลงและหันไปมองมิมโย

“KUWAAAAA-!”

ภาพที่เธอเห็นคือฉากการกินปีศาจอย่างเลือดเย็น
มันฉีกเนื้ออกจากกันด้วยกรงเล็บและฟันและเคี้ยวด้วยปาก
มิมโยทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ซ้ำๆอีกหลายต่อหลายครั้ง นั่นคือทั้งหมดที่มันกำลังทำ
ทุกครั้งที่มิมโยเหวี่ยงอุ้งมือไปข้างหน้า ปีศาจก็ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และทุกครั้งที่มิโยเปิดปากหัวของพวกมันก็จะหายไป
ในทางกลับกัน การโจมตีของปีศาจไม่มีผลต่อมิมโย สิ่งมีชีวิตยังคงกินและย่อย กินและย่อย ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกระทั่งความหิวไม่รู้จบของมันก็หยุดลง

“…ฮะ.”

มิมโยช่างโหดเหี้ยมจนจินเซยอนเกือบสงสารปิศาจพวกนนั้นแทน
ถึงแม้จะยังรู้สึกสับสน แต่จินเซยอนก็ยังคงดูฉากการสังหารหมู่ต่อไป

The Novel’s Extra

The Novel’s Extra

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 400 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


เมื่อคิมฮาจินตื่นขึ้นเขาพบตัวเองอยู่ในโลกที่คุ้นเคยแต่ไม่ใช่ร่างของเขา โลกที่เขาสร้างขึ้นและเรื่องราวที่เขารังสรรค์ แต่ยังไม่จบ เขากลายเป็นตัวประกอบของนิยายตัวเองเขียน เป็นตัวละครที่ไม่มีความสำคัญกับเรื่องราวเลย สิ่งเดียวที่เขาอยากทำคือการหลบเลี่ยงไม่ให้ตัวเองไปอยู่ในโครงเรื่องหลัก อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเขาก็พบว่าโลกใบนี้ไม่เหมือนโลกที่เขาสร้าง!!

Options

not work with dark mode
Reset