The Novel’s Extra 359

ตอนที่ 359

บทที่ 359 กระบวนการของโชคชะตา (1)

 

[ชั้น 15 เรือถูกทอดทิ้งของ Genkelope]

 

“เฮ้อออออออออออออ เหนื่อยจังแฮะ”

 

จาก NPC ทั้งหมดที่ต้องมีสติกมาเปิด [กัปตันโฮเนอร์ ระดับ 1],

[หัวหน้าช่างเทคนิค – แมตต์] และ [หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ – เดวอน] พวกเขาเป็นคนที่ผมช่วยเหลือและมี NPC ระดับหัวหน้าอีก 4 คน

แต่พลังรอยสักผมหมดซะก่อนนี้สิ

 

“…ขอโทษนะ คุณยังไหวไหม”

 

รอยสัก 2 เส้นสำหรับกัปตัน 1 เส้นสำหรับช่างเทคนิคและเส้นสุดท้ายสำหรับนักวิทยาศาสตร์ ผมมึนงงไปหมดหลังจากใช้ไปทั้งหมด 4 เส้นใครจะคิดว่าผมจะใช้รอยสักจนหมด ปกติผมจะต้องระวังตัวตลอดไม่ให้มันหมดแม้แต่ในระหว่างการต่อสู้? ผมหันหัวของผมและมองไปที่

พวกเขาขณะที่ผมนอนบนพื้น

 

โฮเนอร์ แมตต์ เดวอน

3 คนนี้เป็น NPC ที่สำคัญที่ฉันสร้างขึ้นด้วยความระมัดระวังแม้ว่าการแต่งจะยุ่งยากและยุ่งเหยิง แต่พวกเขาเป็นทาสที่มีทักษะและมีประโยชน์อย่างมาก (?) ใครจะเคลียร์เควสทั้งหมดบนชั้นที่ 15 ได้ก็ต้องพึ่งพวกเขานี้ละ

 

“คุณผู้เล่น มีอะไรผิดปกติกับร่างกายของคุณเหรอ?”

 

“ไม่ ฉันไม่เป็นไร ฉันคิดว่าฉันทำงานหนักเกินไปน่ะ พักแปบก็หายแล้ว”

 

“อ้อ เข้าใจแล้ว.”

 

โฮเนอร์ กัปตันทีมที่มีแนวโน้มว่าหลุดจากยุค 30 ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

“จริงๆแล้วพวกเรามาจาก ‘Genkelope Zone’ บนชั้น 16 … ”

 

จากนั้นคำอธิบายที่ไม่เข้ากันซึ่งเป็นลักษณะของ NPC ก็เริ่มต้นขึ้น

เรื่องราวของพวกเขา : พวกเขาเป็นสมาชิกบนเรือลำเดียวกันทั้งหมดซึ่งแล่นผ่าน [Tower’s Void] เพื่อหลบหนีจากปีศาจที่ยึดครองชั้นที่ 16 ทันใดก็มีเรือเข้าโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว ความพ่ายแพ้ในครั้งนั้นของ

พวกเขา ทำให้พวกเขารวมพลังและกำลังคนทั้งหมดไปยังเขต 3 และเข้าสู่โหมดจำศีลโดยหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือในอนาคต

 

“หืมมม ดังนั้นพวกคุณคือคนที่อาศัยอยู่ในชั้นที่ 16 งั้นเหรอ”

 

“แต่เดิมพวกเราก็เป็นผู้อยู่อาศัยบนชั้นที่ 15 เพราะพวกเราจอดเรือของเราไว้ใน Tower’s Void ชั้นอื่นๆก็ถูกสร้างขึ้นอย่างดุเดือด..แต่ไม่ว่ายังไง พวกเราก็เป็นผู้รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายของ Genkelope”

 

“… .”

 

ผมพยักหน้า. เขต Genkelope เป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่ที่ถูกปีศาจทำลายไปแล้ว จะสังเกตเห็นว่าปีศาจแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ โฮเนอร์มองมาที่ผมพร้อมดวงตาที่เบิกกว้าง

 

“นอกจากพื้นที่ 3 แล้วผู้คนหลายพันคนยังนอนหลับอยู่ในส่วนลึกของห้องใต้ดินของเรือ น่าจะมีลูกเรือคนอื่นๆซ่อนอยู่ในพื้นที่ 1 และ 2 ด้วยเช่นกัน”

 

“ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย!”

 

ก่อนที่ โฮเนอร์ จะทำอะไร NPC หนุ่มสาวก็วิ่งมาหาผมแล้วโค้งคำนับ 90 องศา

 

– ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย!

 

– พวกเราขอร้องละ!

 

ข้างหลังพวกเขามีกลุ่ม NPC ประมาณ 50 คนซึ่งพึ่งออกมาจากการจำศีล ในเวลาเดียวกันการแจ้งเตือนของระบบก็โผล่ขึ้นมา

 

[ภารกิจใหญ่เกิดขึ้น – การกู้คืนและการเรียกพื้นสภาพเรือ]

[ฐานข้อมูล Extra7 ได้รับการลงทะเบียนในพื้นที่ 3]

[ผู้เล่น ‘Extra7’ ได้รับการเสนอชื่อในฐานะเจ้าของพื้นที่ 3]

[ตอนนี้คุณสามารถใช้ TP เพื่อปรับปรุงพื้นที่ 3 .]

[คุณสามารถสละสิทธิ์เหล่านี้ได้ตลอดเวลา]

 

ผมรู้สึกกดดัน แต่พวกเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของตอนจบที่ผมต้องการหลังจากนี้

 

“………นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะทำอยู่เลย”

 

บรรยากาศนั้นมืดมนกว่าบนชั้น 15 ซึ่งเป็นชั้นกลางของหอคอย

บนชั้นที่ 16 17 และ 18 ซึ่งถูกยึดครองโดยปีศาจอย่างสมบูรณ์ไม่มีความฝัน ความหวังหรือมนุษยชาติ ทิวทัศน์โดยสิ้นเชิงเป็นคำเตือนถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์โดย Tower of Wish

 

“อ้อ งั้นนั่นหมายความว่า…!”

 

“รอให้ผมฟื้นฟูพลังงานกลับมาก่อนนะ”

 

ผมทำสิ่งเดียวกับที่ผมสามารถทำได้ในตอนที่นอนพักนั้นคือ : ใช้เงิน

 

[จัดการพื้นที่ 3]

[คุณใช้ 50,000 TP เพื่อฟื้นฟู 12% ของพลังงาน ‘พื้นที่ 3’]

[พลังงานกลับสู่พื้นที่ 3]

 

ผมโชคดีที่มี TP เก็บไว้มากมายจนถึงตอนนี้ ถึงกระนั้นเรือลำนี้ก็ยังเป็นตัวดูดเงิน ผมไม่สามารถฟื้นฟูมันได้อย่างสมบูรณ์แม้ว่าผมจะได้กำไรตลอด 1 ปีจาก Prestige ก็ตาม แต่เรือลำนี้คุ้มค่า…น่าจะอะนะ.

 

บอกตามตรงผมไม่แน่ใจเท่าไรเพราะผมไม่ได้ลงรายละเอียดตอนที่เขียนนิยาย

 

เนื้อเรื่องเดิม คิมซูโฮ คิดว่าการทำลายหอคอยจะทำให้วิญญาณที่ติดอยู่ที่นี่ได้พักผ่อนอย่างสงบสุขและทำให้ผู้ดูแลที่เห็นแก่ตัวต้องจ่ายค่าตอบแทนดังนั้นเขาจึงเริ่มโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งตอนกลางและ

ตอนกลางคือ เอาจริงๆแล้วผมยอมรับว่าครึ่งหลังในเนื้อเรื่องบท Tower ผมเขียนได้แย่มากจริงๆ

 

“ตอนนี้ ผมจะจริงจังแล้วนะ เตรียมตัวให้พร้อม.”

 

ผมพูดและใช้ TP เป็นจำนวนมาก

 

[คุณใช้ 50,000 TP เพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ขั้นพื้นฐานใน ‘พื้นที่ 3’ – AUTO BOT ถูกเปิดใช้งาน]

[…สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกการฝึกขั้นพื้นฐาน  ป้อมปืน, คลังอาวุธ]

[…ขยายสิ่งอำนวยความสะดวกการป้องกันขั้นพื้นฐาน ระบบป้องกัน]

[…สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน – โรงอาบน้ำ, โรงอาหาร, หอพัก]

[…สร้างสถานที่อยู่รอดขั้นพื้นฐาน – โรงเก็บอาหาร, ฟาร์มเทียม]

 

เมื่อระบบประกาศแจ้งว่า TP ของผมลดลงอย่างรวดเร็วมีบางสิ่งที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นใน [พื้นที่ 3] แสงส่องลงมาจากเพดานที่ว่างเปล่าและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆก็ถูกส่งเข้ามาทั้งหมด

 

“ว้าวววววววว… !”

 

“มหัศจรรย์อะไรแบบนี้…?”

 

โรงอาหาร โรงอาบน้ำ สนามยิงปืน คลังแสง ฯลฯ ทั้งหมดที่ผมทำก็คือใช้จ่ายเงินผ่านระบบ แต่ NPC ยกย่องผมราวกับว่าพวกเขากำลังชื่นชม การกระทำของพระเจ้า

 

[NPC ของพื้นที่ 3 ยอมรับคุณในฐานะผู้ช่วยชีวิต]

 

พื้นที่ 3 ซึ่งมีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของเกาะเล็กๆ รับผิดชอบเป็นส่วนแกนกลางของเรือกลาง ดังนั้นขั้นตอนต่อไปคือการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่นี่ก่อนและใช้มันเพื่อเพิ่มพื้นที่อื่นๆเช่น [พื้นที่ 1]

[พื้นที่ 2] และ [โรงเก็บ]

 

“พวกคุณทุกคนคงหิวกันแล้ว ก่อนกินในสัปดาห์หน้าให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูและการฝึกการต่อสู้ พรุ่งนี้ผู้เชี่ยวชาญทหารที่นั่น….”

 

ผมเหลือบมองไปที่เครื่องจำศีลและลังเล กัปตันอธิบายอย่างรวดเร็ว

 

“นั่นพันเอก อีเรนเนอร์​ เขาเป็นทหารที่มีประสบการณ์ ทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการควบคุมที่ดีเยี่ยม”

 

“ใช่ๆ. ผมจะปลุกเขาในภายหลัง ต้องเริ่มทีละขั้นตอน….”

 

จากนั้นผมก็พิมพ์ภาพถ่ายผ่านระบบ

 

“นี่เป็นเรื่องในภายหลัง เมื่อเรือลำนี้มีความเสถียรและผู้เล่นอย่างผม

เริ่มเข้ามาถ้าคุณเจอคนที่มีลักษณะแบบนี้ … ”

 

ผมส่งรูปให้ โฮเนอร์ โฮเนอร์มองไปที่ภาพถ่ายอย่างสงสัย

 

“เธองดงามมาก เธอเป็นภรรยาของคุณงั้นเหรอ”

 

“ไม่ ไม่. เธอไม่มีทางเป็นภรรยาของผมได้หรอก”

 

สิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญที่สุดบนชั้น 15 คือคุกตามแบบความคิดของผม ใครก็ตามที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำของ Genkelope จะถูกควบคุมภายใต้ ‘ระบบป้องกัน’ แน่นอนว่าผมไม่สามารถทำให้ใครก็ตามที่ติดคุกกับกัปตัน เฝ้าดูผมได้ แต่อย่างน้อยผมก็สามารถเลือกผู้เล่น

1 คนเพื่อกลั่นแกล้ง

 

“จับกุมเธอไว้ เธอเป็นอาชญากร ชื่อของเธอคือ จินซาฮยอค เธอมั่นใจในตัวเองสูงมาก ดังนั้นเธอจะบอกเอง ถ้าคุณเรียกชื่อเธอ จำไว้เสมอละ”

 

“ครับท่าน.”

 

ผมพอใจกับคำตอบของเขา ผมเลยพูดต่อ

 

“อะแฮ่ม ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้….”

 

พรุ่งนี้ผมมีแผน แม้ว่าบอสจะบอกให้ผมออกไปทำภารกิจ แต่ผมไม่คิดว่าผมจะทำได้

 

“สปาร์ตัน?”

 

สปาร์ตันที่ออกไปเดินเล่นกับซันนูรีบินกลับมาและนั่งบนไหล่ของผม

 

“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็แค่บอกเขา พวกเราเชื่อมโยงถึงกันปละกันได้”

 

*************************************************************************

 

[4 วันต่อมา ชั้ย 8-3 ปราสาทแห่งราชวงค์อราธอส]

 

สวนศักดิ์สิทธิ์ของ อราธอส สามารถเข้าถึงได้เฉพาะบุคคลที่ถูกเลือกในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยดอกไม้ราวกับอัญมณีและหญ้าอ่อนๆ เรเชลกำลังเข้ารับการอบรม

 

“พยายามที่จะยอมรับพลังแห่งธาตุให้มากกว่านี้ เรเชล จงคิดว่ากำลังควบคุม พลังเวทมนต์ทำให้พวกเขามีความสุข เธอไม่สามารถควบคุมพวกเขาได้เธอต้องร่วมมือกับพวกเขา จำเอาไว้.”

 

“คะ คุณผู้หญิง.”

 

เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็น [อัศวินแห่งเจ้าหญิงอราฮา]

 

– เป็นสถานะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผู้เล่นในตอนนี้

 

– และด้วยความช่วยเหลือของ อราฮา เธอก็ได้พบกับอาจารย์สอนพลังธาตุคนใหม่

 

“ถ้างั้นลองอีกครั้ง”

 

“เอาล่ะ!”

 

อาจารย์คนใหม่ของเธอคือ ‘ยูฮิล’ ผู้ใช้พลังธาตุที่เก่งที่สุดของ Crevon

เธอมีทักษะมากกว่า ‘ซินแยฮวา’ ซึ่งเป็นผู้ใช้พลังธาตุที่เก่งที่สุดของโลกซะอีกและทั้ง 2 สอนไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย

 

…มันสายเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ แต่เรเชลผ่านความยากลำบากมากมายจากอดีตเพราะ อาจารย์ ชินโยะฮวา

 

แน่นอนเมื่อ ซินแยฮวา บอกเธอเมื่อ 4 ปีก่อนว่าเธอจะยอมรับเรเชลในฐานะศิษย์ เรเชลรู้สึกมีความสุขอย่างแท้จริง วันถัดมาเธอก็เห็นค่าเล่าเรียน 1 พันล้านวอนต่อวัน ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง แต่เธอสัญญากับตัวเองว่าเธอจะกลายเป็นคนที่คู่ควรเลยเข้าชั้นเรียนอย่างขยันขันแข็ง

 

อย่างไรก็ตามชั้นเรียนของ ซินแยฮวา นั้นเต็มไปด้วยเจ็บปวดและยากลำบาก

เธอจะโมโหเมื่อเจอข้อผิดพลาดและเมื่อเธออารมณ์ไม่ดีเธอจะใช้เวลาครึ่งหนึ่งของการเรียนเพื่อลงโทษเธอ ในบางครั้งชินเยโฮวาจะตีเธอด้วยไม้เรียว

 

ด้วยเหตุผลนี้เรเชลจึงรู้สึกผิดหวังเมื่อเจอกับการเรียนแบบนี้ไม่มีวันไหนที่เธอจะ

ไม่เหนื่อยล้าจากการฝึกซ้อมที่โหดร้าย ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ด้วยความมุ่งมั่นและกลายเป็นผู้ใช้พลังธาตุอย่างเต็มภาคภูมิ

 

อย่างไรก็ตามความอิจฉาริษยาของ ซินแยฮวา ยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าจะจบบทเรียนไปแล้วก็ตาม เธอเป็นคนที่กระจายข่าวลือเกี่ยวกับ เรเชล และ เฟนริล แต่เรเชลก็ไม่ได้ทำอะไรเพราะชินเยโฮวาเป็นอาจารย์ของเธอ

 

“…ทำได้ดีมาก เรเชล”

 

แต่ ยูฮิล นั้นแตกต่างกัน เธอชื่อชมเรเชลอย่างจริงใจและเมื่อเจอข้อผิดพลาดของเรเชล เธอก็บบอกอย่างใจดีไม่มีการห่วงวิชา

 

“เธอมีพรสวรรค์จริงๆ ศิษย์ของฉัน”

 

เรเชลยิ้มอย่างเขินอายจากคำชมของ ยูฮิล เธอเป็นอาจารย์ใจดีที่สอนให้เธอมีความสุขในการเรียนรู้ แน่นอนว่านั่นไม่ได้หมายความว่าเรเชลเกลียดหรือโทษซินแยฮวาว่า เรเชลยังคิดเสมอว่าอีกฝ่ายเป็นอาจารย์ของเธอและขอบคุณที่ได้สอนทักษะต่างๆให้กับเธอ

 

“แต่วันนี้พอแค่นี้เถอะ เดี๋ยวเธอจะหมดแรงจนเธอไม่ไหวในวันพรุ่งนี้”

 

“โอเค ขอบคุณมากคะ.”

 

ยูฮิล ตบเบาๆที่ไหล่และเรเชลก็โค้งคำนับอย่างสุภาพ

 

“ฉันหวังว่าจะได้เห็นอัศวินที่ทำให้พลังธาตุและดาบมาบรรจบกันด้วยตาตัวเองนะ”

 

“…ขอบคุณคะ.”

 

“ ถ้าอย่างนั้นฉันจะลา ขอให้โชคดี”

 

“คะ. ขอบคุณมากคะ สำหรับการทำงานอย่างหนัก”

 

ยูฮิล หายตัวไปโดยใช้ธาตุลม การใช้งานของพลังธาตุของเธอได้เปิดหูเปิดตาให้กับเรเชลอย่างแท้จริง

 

“ว้าว….”

 

เรเชลอยากที่จะแข็งแกร่งเช่นเดียวกับอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมของเธอ ยูฮิล

มีข่าวลือว่าแลนแคสเตอร์เพิ่งจัดตั้งกองกำลังขนาดใหญ่ ใครจะรู้ว่าเขาวางแผนอะไรเอาไว้? เรเชลอยากได้พลังที่จะต้านทานการโจมตีของเขาไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม

 

“นั่นอัศวินของฉัน -”

 

ทันใดนั้นเสียงปรบมือก็ดังดึงความสนใจของเรเชล เป็นเจ้าหญิงอราฮาที่เดินเข้ามาหาเธอ

 

“ท่านสบายดีมั้ยเจ้าหญิง?”

 

“อื้ม. ต้องขอบคุณเธอ ฉันสนุกมากเลยละวันนี้ ฉันต้องไปดูการแข่งขันการต่อสู้เพื่อฝึกซ้อม…ถ้าฉันรู้ว่าฉันจะเจอกับผู้เก่งกล้าอย่างเธอ ฉันจะให้ความสำคัญกับพัดขนหงส์ให้มากกว่านี้”

 

“หืม? พัดขนหงส์งั้นเหรอ”

 

“อ๋อ! มันคือสมบัติวิเศษที่สามารถช่วยให้เธอควบคุณพลังธาตุได้ง่ายขึ้นเพียงแค่มีมันไว้กับเธอ แต่มีหัวขโมยมันขโมยไป…เอ่อ นั่นเรื่องหนึ่งก่อนอื่นตอนนี้เธอคงจะหิวแล้ว”

 

“แน่นอน คะเจ้าหญิง”

———————————-2——————————

The Novel’s Extra

The Novel’s Extra

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 400 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


เมื่อคิมฮาจินตื่นขึ้นเขาพบตัวเองอยู่ในโลกที่คุ้นเคยแต่ไม่ใช่ร่างของเขา โลกที่เขาสร้างขึ้นและเรื่องราวที่เขารังสรรค์ แต่ยังไม่จบ เขากลายเป็นตัวประกอบของนิยายตัวเองเขียน เป็นตัวละครที่ไม่มีความสำคัญกับเรื่องราวเลย สิ่งเดียวที่เขาอยากทำคือการหลบเลี่ยงไม่ให้ตัวเองไปอยู่ในโครงเรื่องหลัก อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเขาก็พบว่าโลกใบนี้ไม่เหมือนโลกที่เขาสร้าง!!

Options

not work with dark mode
Reset