Telesma 2

ตอนที่ 2

พูดตามตรงว่าตลอด 1 อาทิตย์มานี้ฉันไม่ได้เข้าใจอะไรมากขึ้นเลย แถมนับวันๆ ก็ยิ่งร่ายได้เร็วขึ้นเรื่อยๆ ยังดีที่ช่วง 2-3วันมานี้ความเร็วในการร่ายค่อนข้างคงที่ทำให้ฉันไม่ต้องมานั่งระแวงว่าจะโดนพวกผู้คุมสอบหมายหัวรึป่าว อย่างน้อยๆ ก็โชคดีที่วินซ์มาทำอาหารให้กินในช่วงอาทิตยืที่ผ่านมาล่ะนะ ถ้าขืนให้พ่อทำอาหารให้แบบทุกปีคงจะไม่มีแรงสอบแน่

 “ถึงแล้วๆ”

  “ขอบคุณที่มาส่งครับ” 
 

วินซ์กับพ่อพาฉันมาส่งที่สนามสอบ เพราะว่าสนามสอบตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของพวกเรามากนักพวกเขาก็เลยขี่ม้ามาส่ง 

  แต่ถึงจะบอกว่าสนามสอบก็เถอะ นี่มันกรมทหารชัดๆเลยไม่ใช่เรอะ! ประหยัดงบประมาณดีนี่

  “ขอให้โชคดีกับการสอบนะลูก”

  “ไปขว้าที่ 1มาให้ได้ล่ะนาคาซ”

  “แน่นอนครับ”

  ดูเหมือนว่าพวกเขาจะส่งได้แค่หน้าประตูสินะ

ฉันเดินไปลงทะเบียนและรอเรียกรวมตัว เหล่าเมจซีกเกอร์จากต่างเมืองเป็นผู้คุมการสอบในครั้งนี้ พวกเขาคือนักเวทที่เกิดมาพร้อมดวงตาที่สามารถมองเห็นพลังเวทที่แผ่ออกมาจากสิ่งมีชีวิตต่างๆได้และพวกเขาก็มีสายตาที่เฉียบคมมากพอที่จะสามารถจับคนโกงในการสอบได้เช่นกัน น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้สืบทอดความสามารถนั้นจากแม่มาไม่งั้นคงได้ไปฝึกเป็นฮัซซาซินล่านักเวทผิดกฎหมายไปแล้ว ยิ่งผสานกับความทรงจำสมบูรณ์แล้วอนาคตคงไกลน่าดู

บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างตึงเครียด เหล่านักเวทฝึกหัดต่างทำหน้าวิตกกังวลกับการสอบ เอาจริงๆก็คิดว่าโหดเกินไปนั่นแหละนะที่ให้เด็กอายุแค่ 6ขวบมาสอบเนี่ยอย่างน้อยๆก็สัก 9ขวบให้รู้ภาษากว่านี้กันหน่อยเถอะ(ฉันจะได้มีเวลาหาเวทดีๆมาโชว์พราวตอนสอบด้วยแหละนะ) 

 

พอฉันเหลือบไปมองที่ประตูทางเข้าก็พบกับเด็กน่าจะผู้ชายผมสั้นสีเทาอมน้ำเงิน และน่าจะเตี้ยกว่าฉันนิดหน่อย

  “เฮ๋~เด็กคนนั้นน่าสนใจดีนี่” ถึงฉันจะไม่มีเมจซีกเกอร์แต่ก็รับรู้ได้ว่ามีพลังเวทที่มากโขทีเดียว แถมท่าทีของพวกผู้คุมสอบก็ดูจะสนใจเจ้าตัวเป็นพิเศษด้วย ดูท่าคงจะเข้าเมืองหลวงได้ไม่ยากเลยล่ะ

  ถ้าในการสอบมีประลองเวทละก็คงต้องดูที่ว่าสามารถจำและประยุกต์คาถาได้มากขนาดไหนล่ะนะ ดูจากการแต่งตัวก็คงเป็นสามัญชนสินะน่าจะคุยกันได้อยู่ล่ะมั้ง

  “นี่ นายน่ะ”

  “ไม่ต้องหันซ้ายหันขวา นายนั่นแหละ”

  “ฉันหรอ?” ฉันพูดพลางเอานิ้วชี้มาที่ตัวเอง

  “ให้ตายสิ เห็นว่ามีท่าทีแปลกจากคนอื่นนึกว่าจะฉลาดกว่านี้ซะอีก”

  เมื่อกี้ว่าไงนะ นั่นด่ากันใช่ปะ นั่นด่ากันชัดๆเลย บ้านไม่สอนมารยาทรึไงกันห๊ะแต่งตัวก็ออกจะดูมีฐานะแท้ๆ

  “บ้านไม่สอนมารยาทรึไงกันห๊ะถึงได้มาปากเสียกับคนที่ไม่รู้จักแบบนี้เนี่ย”

  “ช่วยไม่ได้หนิ ก็ทำท่าแบบนั้นเองหนิ”

  “แค่ชี้นิ้วเข้าตัวเองนี่ก็ดูโง่แล้วเรอะ ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ”

  “….แล้วมีธุระอะไรกับฉันมิทราบ?”

  “ไม่มีอะไรหรอกแค่พลังเวทของนายมันผิดรูปไปจากคนอื่นน่ะแถมท่าทางของนายก็ดูไม่เหมือนนักเวทย์ฝึกหัดเท่าไหร่ด้วยก็เลยลองมาคุยด้วยดูน่ะ”

สวรรค์ส่งมาเกิดรึไงกัน พลังเวทเหลือล้นแล้วยังมีเมจซีกเกอร์อีก แต่เมื่อกี้ว่าไงนะ?พลังเวทผิดรูปหรอ? จำได้ว่าก่อนแม่ออกไปก็ให้ใช้เมจซีกเกอร์ตรวจอยู่หนิแถมไม่มีปัญหาอะไรด้วย หรือว่าเป็นผลจากการที่เราร่ายเวทได้เร็วขึ้นด้วยงั้นหรอ ถึงว่าพวกผู้คุมสอบมีท่าทีแปลกๆตอนเราเข้ามา เอาเถอะถ้าพวกเขาไม่ทักท้วงอะไรก็ไม่น่ามีปัญหามาก

  “นี่ ฟังกันอยู่รึเปล่าเนี่ย”

  “เมื่อกี้ว่าอะไรนะ”

  “ฉันบอกว่าฉันชื่อ โลล่า ลูน่าไชน์ไงเล่า!”

โล่ล่า?เด็กผู้หญิงงั้นหรอ แถมเป็นลูน่าไชน์ด้วย ลูกหลาน 13คทาเหมือนกันงั้นหรอ

  “ลูกหลานตระกูลใหญ่มาคุยกับสามัญชนแบบนี้เดี๋ยวฉันก็ซวยพอดี”

  “สามัญชน?อย่าให้ขำหน่อยเลย ดวงตาอสรพิษแบบนั้นมีแค่”โคคุจา”เท่านั้นแหละ คิดว่าแค่ทำตัวเป็นครอบครัวสามัญชนที่เปิดร้านขายยาอยู่นอกเมืองแล้วจะกลบความจริงข้อนี้ได้รึไง”

  รู้มากซะจริง เอาเถอะก็สสมกับเป็นลูกหลาน 13คทาดีอ่ะนะ

  “อายบลัด แค่นาคาช อายบลัดก็พอ แล้วก็ช่วยอย่าเรียกด้วยนามสกุลนั้นจะดีมากพวกเราไม่ได้ชอบให้ใครเรียกแบบนั้นหรอกนะ”

  “งั้น ยินดีที่ได้รู้จักนะนาคาซ” เด็กสาวยิ้มพลางยื่นมือมาให้จับเป็นการแสดงความเป็นมิตร 

  ก็คงต้องตอบรับตามระเบียบล่ะนะไม่งั้นคงจะดูเสียมารยาท

  “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันคุณลูน่าไชน์ และก็หวังว่าคุณคงจะไม่พูดมากเรื่องนั้นก็แล้วกันนะ ยังไงซะตอนนี้ฉันก็เป็นแค่นักเวทฝึกหัดธรรมดา”

  “ฉันก็คงไม่หาเรื่องตายเร็วหรอกน่า”

  “งั้นก็ไม่ควรพูดตั้งแต่แรกสิฟะ”

  “ฮิฮิ ก็คนมันอยากอวดภูมินี่นา” เด็กสาวยิ้มร่าอย่างภูมิใจ…

  “เก็บภูมิไปอวดตอนสอบเถอะนะคุณลูน่าไชน์”

  “ขอเถอะนะช่วยเรียกแค่โลล่าทีเถอะ”

  “ขอปฏิเสธ ฉันไม่มีเหตุผลจะต้องสนิทสนมกับคนไร้มารยาทอย่างเธอหรอกนะ”

  “ชิ โหดร้ายชะมัด งั้น…ถ้าฉันได้คะแนนสูงกว่านายนายต้งเรียกชื่อฉันนะ”

[นักเวทฝึกหัดทุกท่านกรุณาไปรวมตัวกัน ณ จุดนัดพบ] ผู้คุมสอบประกาศขึ้นมาได้ถูกจังหวะจริงๆ อย่างนี้ฉันก็ทำเป็นรีบไปและไม่ตอบรับคำท้าของยัยนั่นก็จบปิ๊ง ต่อให้ฉันจะเก่งก็เถอะแต่ก็ไม่หาเรื่องสู้กับพวกที่มีพลังเวทมากกว่าตัวเองหรอกนะ

  “งั้นฉันขอตัวก่อนล่ะ”

  เอ๊ะ? เหมือนโดนดึงชายเสื้อเลยแฮะ ฉันค่อยๆหันไปมองข้างหลังก็พบกับเด็กสาวที่มีรังสีอมหิตที่กำลังเกาะชายเสื้อของฉันอยู่

  “ถ้านายก้าวไปข้างหน้าอีกแค่ก้าวเดียวฉันจะถือว่านายตกลง”

  “แล้วถ้าฉันปฏิเสธล่ะ?”

  “ก็คิดเอาละกันว่าถ้ามีข่าวลือว่าลูกชายตระกูลดังปฏิเสธคำท้าเด็กสาวตัวน้อยๆจากอีกตระกูลนึงจะเป็นยังไง” เด็กสาวตอบอย่างมั่นใจ…

  เฮ้อ…. พูดกันตามตรงเลยบ้านฉันไม่สนใจเรื่องพรรค์นั้นหรอกกับอีแค่การท้าแข่งกันของเด็ก 6ขวบคิดว่าจะมีใครมาสนใจรึไง แต่ต่อให้ปฏิเสธไปเจ้าตัวก็คงไม่ปล่อยไปง่ายๆซะด้วยซิ เอาเถอะฉันคงต้องลงแรงสักหน่อยล่ะนะ

  “ก็ได้ๆเซ้าซี้จัง ทีนี้จะปล่อยฉันไปได้รึยัง” เด็กสาวปล่อยชายเสื้อพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความปีติยินดี

 

พวกเรามาถึงจุดนัดหมายเป็นอันดับเกือบท้ายๆเพราะความเอาแต่ใจของยัยนี่ ระหว่างนั้นกรรมการก็อธิบายถึงการสอบและกฎเกณฑ์ต่างๆ โดยสรุปคร่าวๆก็ต้องใช้คทาเวทของส่วนกลางที่ทางกระทรวงเอาไว้ใช้ในการสอบเพื่อให้ทุกคนมีความเท่าเทียมกันในด้านของปัจจัยภายนอก ส่วนปัจจัยภายในอย่างพลังเวทนั่นก็ตัวใครตัวมันล่ะนะ

หลังจากอธิบายทุกอย่างเสร็จเหล่ากรรมการก็เริ่มแจกไม้คทา อืม…เป็นรูปทรงมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปไม่มีการปรับแต่งเพิ่มเติม น้ำหนักเบาและมีความยืดหยุ่นนิดหน่อยเหมาะกับนักเวททุกเพศทุกวัยโดยรวมแล้วคุณภาพดีทีเดียวสำหรับนักเวททั่วไปแล้วจะเรียกว่าเป็นของหรูยังได้เลย งบประมาณส่วนนึงคงเอาไปจ่ายกับการซ่อมบำรุงคทาพวกนี้แหละนะ ถ้ามีคนโวยวายว่าเป็นของห่วยฉันจะซัดหน้าให้

  “ของห่วยชะมัด รูปร่างไม่น่าใช้เลย” เสียงของเด็กสาวกล่าวออกมา ขอฉันดีดกะโหลกสักทีเถอะยัยนี่

  “โอ๊ยย! กล้าทำแบบนี้กับกุลสตรีได้ไงกันยะ”

  “ยัยตาต่ำนี่ที่บ้านสอนใช้แต่มณีเวทรีไง นี่ถือเป็นของดีที่สุดที่นักเวททั่วไปจะหาใช้กันได้แล้วทั้งคุณภาพไม้ที่มีความยืดหยุ่นพอเหมาะ น้ำหนักเบาแถมขนาดพกพาง่าย และการแกะสลักอักขระเวทบริเวรด้ามจับที่มีความประณีตและละเอียดอ่อน ว่ากันตามตรงเลยว่าคุณภาพขนาดนี้สามารถร่ายเวทระดับ 4ได้โดยที่ไม่ต้องกลัวว่ามันจะพังเลยด้วยซ้ำ และอีกอย่างนึงนะฉันเป็นพวกเท่าเทียมทางเพศฉันไม่เลือกปฏิบัติหรอกนะ”

  “รู้ละเอียดจังเลยนะเจ้าหนู” เสียงของผู้หญิงดังมาจากข้างหลังของฉัน

  “แน่นอนครับ”

   แหงล่ะกว่าแม่จะสอนเวทมนตร์ให้ก็ต้องนั่งจำรายละเอียดของอุปกรณ์ร่ายมนตร์ทุกชนิดแถมต้องจำแนกคุณภาพให้ได้อีก กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ก็เลือดตาแทบกระเด็นเหมือนกัน

  “ลองตรวจคทาอันนี้ให้ดูหน่อยสิ” ผู้คุมสอบกล่าวพร้อมยื่นคทาเวทสีขาวมาให้

  “มีความแข็ง ค่อนข้างมีน้ำหนักและมีความโค้งมนที่เป็นธรรมชาติถ้าให้เดาคงทำจากเขาสัตว์ มีความมันเงาเล็กน้อย อักขระเวทถูกแกะสลักแบบพวกดรูอิดและที่บริเวณด้ามจับใช้เป็นผ้าพันแบบหยาบๆ คิดว่าเจ้าของคงเป็นผู้ชายและค่อนข้างรักธรรมชาติคิดว่าคงเป็นฮาล์ฟบลั-…”

 

พอรู้ตัวอีกทีก็หันไปเห็นผู้คุมสอบที่ทำหน้าอึ้งด้วยความตกใจเล็กน้อย

  “ขออภัย ผมคงจะเสียมารยาทไปหน่อยแต่นี่คงไม่ใช่คทาของคุณสินะครับ”

  “อะ…อ่า ของเพื่อนฉันน่ะ ทำเอาตกใจเลยแฮะไม่คิดว่าจะตอบได้ตรงขนาดนี้เด็กสมัยนี้น่ากลัวจริงๆเลยนะ ฮ่าๆ”

เจ้าตัวยื่นหน้าเข้ามาใกล้นิดหน่อยพร้อมกับกระซิบเบาๆ

  (อย่าให้หมอนั่นรู้ตัวว่าฉันแอบจิ๊กล่ะมาไม่งั้นคงโวยวายยกใหญ่แน่ ฮิๆๆ)

  “เตรียมตัวไปสอบได้แล้วล่ะ ขอโทษที่รั้งไว้นะ” ช่างเป็นพี่สาวที่ขี้เล่นจริงๆ เลยนะ

————————————————————————–

Options

not work with dark mode
Reset