Scholar’s Advanced Technological System 860 ผมมีคำถาม

ตอนที่ 860 ผมมีคำถาม

ทางเข้าหอประชุม

ผู้เข้าร่วมทั้งหมดมาถึงแล้ว

เจ้าหน้าที่สวมสูทดำยืนอยู่ที่ทางเข้า เขามองไปที่นาฬิกาและเห็นว่ากำลังจะได้เวลาของการรายงาน เขาจึงส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมงานเพื่อเริ่มนำสแตนด์กั้นออก

อยู่ดีๆ ชายสองคนในชุดสูทก็เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ

หวังเจิ้งเฟยรีบหยิบตั๋วสองใบออกมาขณะที่กำลังหอบและยิ้มขอโทษให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

“สวัสดีครับ นี่ตั๋วของพวกเรา”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำหวังเจิ้งเฟยไม่ได้ เขามองไปที่ตั๋วและพูดอย่างไร้อารมณ์

“พวกคุณมาสาย”

หวังเจิ้งเฟยแสดงสีหน้าขอโทษขณะกำลังอธิบายด้วยความจริงใจ “ผมขอโทษจริงๆ ครับ! จากสนามบินรถติดมากเลย ผมตั้งหน้าตั้งตารอการรายงานนี้มานานมาก ขอเถอะ ให้เราเข้าไปเถอะนะครับ”

เจ้าหน้าที่ไม่ได้พูดอะไร เขามองไปที่ชายสองคนและประทับตั๋ว

หวังเจิ้งเฟยยิ้มพลางพยักหน้าแสดงความขอบคุณ เขามองไปที่เลขาและส่งสัญญาณให้เขารีบเดินเข้าไปในหอประชุม

“เจ้านาย ทำไมคุณต้องเสียเวลากับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วย”

เลขาไม่เข้าใจ

หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น หวังเจิ้งเฟยยิ้มยิงฟัน

“คุณอยากรู้ไหมว่าทำไม”

เลขานิ่งไปชั่วครู่และพยักหน้า

หวังเจิ้งเฟยยิ้มและชี้ไปที่ทางเข้า

“คนพวกนั้นมาจากกระทรวงความมั่นคงของรัฐ พวกเขาโหดของแท้เลย”

การรายงานกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาที

หวังเจิ้งเฟยเจอที่นั่งของตัวเองและนั่งลง เขาสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับบรรยากาศของหอประชุมนี้

มันคือพลังของนักวิชาการระดับโลก

ทั้งความยิ่งใหญ่และบรรยากาศน่าตื่นเต้นของการรายงานดูไม่เหมือนการรายงานทางวิชาการแม้แต่น้อย มันเหมือนคอนเสิร์ตซิมโฟนีมากกว่า

และลู่โจวกำลังจะเปิดงาน…

หวังเจิ้งเฟยในฐานะคนธรรมดา เขาไม่รู้ว่าทำไมใจของเขาจึงเต้นรัว ฝ่ามือของเขามีเหงื่อ หัวเข่าของเขาอ่อนแรงราวกับว่าสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนพวกนี้มีพลังดึงดูดความสนใจ…

“เขาเพิ่งจะยี่สิบกว่าเองเหรอ”

เลขานิ่งไปชั่วครู่และพยักหน้า

“ในแผ่นพับเขียนว่าอย่างนั้นนะครับ…”

หวังเจิ้งเฟยพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไร

หลังจากนั้นสักพักเขาก็ยื่นคางไปข้างหน้า

“เออใช่ คุณเข้าใจเรื่องพวกนั้นไหม”

หลังจากที่เห็นสีหน้าที่ว่างเปล่าของเลขา หวังเจิ้งเฟยพูดขึ้นมาก่อน

“ช่างมันเถอะ คิดเสียว่าผมไม่เคยถามก็แล้วกัน”

การรายงานเริ่มต้นขึ้น!

หอประชุมเงียบสงัด

สายตานับพันคู่จับจ้องไปที่คนคนเดียวบนเวที

ลู่โจวเดินบนเวทีและมองไปรอบๆ หลังจากนั้นเขามองไปที่จอโปรเจคเตอร์ด้านหลังเขา และพูดอย่างช้าๆ “ผมมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่อ่านวิทยานิพนธ์ของผมมาแล้ว”

“จุดประสงค์หลักของการรายงานครั้งนี้เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับข้อพิสูจน์ของผมในสมมติฐานเสมือนของรีมันน์”

“แน่นอนว่าผมจะอธิบายโดยรวม”

“ผมจะอธิบายคร่าวๆ อย่างรวดเร็ว ซึ่งน่าจะใช้เวลาสักประมาณ 20 นาที หวังว่าพวกคุณจะตั้งใจฟังนะครับ”

ลู่โจวหันหลังและเดินตรงไปที่ไวท์บอร์ดใกล้ๆ เขา เขาหยิบปากกาขึ้นและเขียนสิ่งที่สำคัญที่สุดในรายงาน

[ζ(s) = 2 ^ s ·π ^ (s-1) sin (πs / 2) Γ (1-s) ζ (1-s)…]

ทันทีที่เขาเขียนบนไวท์บอร์ด…

ชายสองคนในหมู่ผู้ชมขมวดคิ้ว

“น่าสนใจ” เถาเจ๋อเซวียนลูบคางและมองไปที่สมการที่อยู่บนไวท์บอร์ดและพูด “เริ่มต้นด้วยฟังก์ชัน Γ …เขาตั้งใจจะใช้ความต่อเนื่องของมันเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นเขาอาจจะต้องลดความยาวของวิทยานิพนธ์ไปสักสองหน้า”

ฟาลติ้งส์นั่งติดกับศาสตราจารย์เถาพูดขึ้นอย่างเฉยชา “เป็นไปได้อย่างไรกัน แก่นสำคัญของข้อพิสูจน์นี้ไม่ถูกต้อง แม้ว่าเขาจะใช้เล่ห์เหลี่ยมนี้ มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าข้อพิสูจน์หลักไม่ถูกต้องอยู่ดี”

เถาเจ๋อเซวียน “ไม่จำเป็นเสมอไปหรอกครับ”

ฟาลติ้งส์มองไปที่เขาและพูด “โอ้ จริงเหรอ”

“ในตอนแรก ผมก็คิดเหมือนคุณ ในหน้า 27 วิธีการความสอดคล้องที่ใช้ในบรรทัดที่ 3 มีปัญหา” เถาเจ๋อเซวียนนิ่งไปครู่หนึ่งและพูด “แต่ตอนนี้ผมพอจะเข้าใจแล้วว่าเขาพยายามจะบอกอะไร”

ฟาลติ้งส์เหลือบมองไปที่เขาและไม่ได้พูดอะไร

ไม่มีประโยชน์ที่จะมาเถียงกันตอนนี้

สิ่งเดียวที่พวกเขาต้องทำตอนนี้ก็คือรอ

ปากกาเคลื่อนไหวเป็นจังหวะขณะที่ไวท์บอร์ดเต็มไปด้วยสมการ คนกว่าพันคนรู้สึกประหลาดใจอย่างเงียบๆ

บนเวที

ตรงไวท์บอร์ด

ลู่โจวถือปากกาในมือ ตอนนี้เขาลืมโลกภายนอกไปหมดแล้ว เขาพูดในสิ่งที่คิดออกมาขณะกำลังคลายปมปัญหาอย่างช้าๆ

สิบห้านาทีผ่านไป

เขาหยุดเขียนและสูดลมหายใจเข้า หลังจากนั้นเขาก้าวถอยหลังออกมาสองก้าว

การพิสูจน์สิ้นสุดลง

เขาเคยปีนเขาลูกนี้มาแล้วเมื่อเดือนก่อน การจะเขียนมันอีกรอบจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร

แต่ส่วนที่ยากที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น

ปัญหานี้คือโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดของคณิตศาสตร์ และฟาลติ้งส์ไม่ได้ตั้งใจจะปรานีใครอยู่แล้ว

วินาทีที่ลู่โจวหันกลับมาเผชิญหน้ากับผู้ฟัง นั่นคือเวลาที่ศึกที่แท้จริงกำลังเริ่มต้นขึ้น

แต่ลู่โจวไม่ได้รู้สึกประหม่าแม้แต่น้อย

เขากลับรู้สึกตื่นเต้นด้วยซ้ำ

ฝ่ายตรงข้ามของเขาคือเทพแห่งคณิตศาสตร์ที่ยังมีชีวิต ที่รู้จักกันในนามของคนที่เก่งรองลงมาจากก็อตเท็นดิ๊ก ในทางกลับกันลู่โจวกำลังท้าทายสมมติฐานของรีมันน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟาลติ้งส์คุ้นเคยมากๆ และเครื่องมือที่ลู่โจวใช้เดิมทีมาจากองค์ประกอบของพีชคณิตเรขาคณิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟาลติ้งส์ชำนาญเช่นกัน

ลู่โจวสูดลมหายใจเข้าและวางปากกาลง

เขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับหอประชุมที่เงียบสนิท เขาพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น “จบแล้วครับ”

“ต่อไปคือช่วงของการตอบคำถาม”

ทันทีที่เขาพูดจบ

ทันทีที่คำพูดของลู่โจวดังก้องไปทั่วหอประชุม…

แขนผอมๆ อันสั่นเทายกขึ้นมา

แม้ว่าแขนของเขาจะดูอ่อนแรง แต่ก็สามารถดึงดูดความสนใจของคนทั้งหอประชุมได้

ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ถอดหมวกและยืนขึ้น

“ผมมีคำถาม”

“จากหน้า 17 บรรทัดที่ 11 คุณช่วยอธิบายรายละเอียดให้หน่อยได้ไหม”

………………………

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 801 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน

ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง

ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา

จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล

“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”

“ไม่ได้”

“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”

“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”


Options

not work with dark mode
Reset