Scholar’s Advanced Technological System 1248 คืนฉลอง

ตอนที่ 1248 คืนฉลอง

ณ เพนตากอน

ในห้องประชุมพิเศษ

กลุ่มคนบนโต๊ะประชุมนั่งชมการถ่ายทอดสดของ CTV บนจอใหญ่โดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เมื่อกลุ่มทหารติดอาวุธโผล่มาบนหน้าจอพร้อมกับโดรนที่บินอยู่ข้างหลัง แทบทุกคนในห้องประชุมต่างก็กลั้นหายใจ

เมื่อทหารพวกนั้นหายไปจากหน้าจอแล้ว เสียงกระซิบกระซาบก็ดังไปทั่วห้องประชุม

“ผมไม่รู้ว่ากองกำลังของพวกเราจะมีโอกาสสู้กับพลร่มพวกนั้นได้มากแค่ไหน…” คนแรกที่เปิดบทสนทนาขึ้นมาคือรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เขาใช้นิ้วชี้เอื้อมไปเกี่ยวหูกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะ และก็ต้องพยายามอยู่นานกว่าเขาจะเกี่ยวถึง เขาแกล้งทำเป็นใจเย็นแล้วจิบกาแฟที่เพิ่งได้มา จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “พวกเราไม่ต้องใช้ชุดเกราะหน้าตาล้ำๆ แบบนั้นหรอก การต่อสู้โดยที่มีแบตเตอรี่ลิเธียมอยู่กับตัวก็ไม่ต่างอะไรกับแบกระเบิดไว้นั่นแหละ”

คำพูดนั้นทำให้คนส่วนใหญ่ในห้องรู้สึกดีขึ้น เพราะแบตเตอรี่ลิเธียมที่ถูกใช้ทำปฏิกิริยาโลหะเป็นอิเล็กโทรดนั้นมีคุณสมบัติเป็นเหมือนระเบิดมากกว่าเทอร์ไมต์[1]เสียอีก

แต่ถึงอย่างนั้นคนส่วนใหญ่ก็ยังมองสถานการณ์ในแง่ร้ายอยู่ดี

เพราะถ้าขนาดคนที่นี่ยังคิดเรื่องปัญหาของแบตเตอรี่ลิเธียมออกเลย ไม่มีทางที่พวกคนจีนจะคิดเรื่องนี้ไม่ออกอยู่แล้ว อีกอย่างชิ้นส่วนอุปกรณ์พวกนั้นมาจากวงโคจรต่ำของโลก พวกมันต้องมีความทนทานแน่ๆ

“…พวกเราคุยเรื่องนี้ไปตั้งแต่ครั้งที่แล้วแล้วนะ” ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติมองรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมที่มั่นใจเกินเหตุ เขาลุกขึ้นยืนแล้วดันแว่นตาให้ขึ้นไปอยู่บนสันจมูกแล้วก็พูดอย่างช้าๆ ว่า “นี่ก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาอยากจะสู้กับกองกำลังของเราหรือเปล่า”

รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมพูด “สนามรบมันเปลี่ยนไปตลอดนั่นแหละ พวกเราไม่มีทางเลือก”

ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติส่ายหัว

“มาพูดถึงสถานการณ์จริงกันดีกว่า พวกเราไม่สามารถป้องกันการบุกทางอากาศของพวกเขาได้ ไม่มีมิสไซล์ไหนจะสามารถไล่ตามความเร็วหลังจากที่พวกเขาพุ่งทะลุชั้นบรรยากาศเกิน 20 กิโลเมตรไปได้ นอกจากพวกเขาจะหันมาโจมตีใส่พวกเราโดยตรง หรือไม่พวกเราก็ต้องเตรียมมิสไซล์ไว้ทั่วทั้งประเทศ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว พวกเราก็ป้องกันอะไรไม่ได้”

ท่านประธานาธิบดีหมุนปากกาในมือ

“ก็ฟังดูเป็นไอเดียที่ดีนี่นา”

ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติมองท่านประธานาธิบดีอย่างจริงจัง

“ท่านประธานาธิบดีครับ ผมเกรงว่าจะไม่มีหน่วยงานไหนพอใจกับคำสั่งนี้นะครับ ด้วยความเคารพนะครับท่าน แทนที่เราจะเสียเงินไปกับเรื่องพวกนี้ พวกเราควรจะลงทรัพยากรของพวกเราไปกับเรื่องอื่นมากกว่า อย่างเรื่องความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน ไม่ว่าท่านจะอยากรับความจริงนี้หรือไม่ก็ตาม แต่พวกเราก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีจริงๆ ครับ”

“ตอนนี้พวกเรารู้แค่ว่าพวกเขามีทีมพลร่มการบินและอวกาศ แต่พวกเรายังไม่รู้ว่าทีมของพวกเขามีขนาดใหญ่แค่ไหน ท่านเข้าใจที่ผมกำลังจะสื่อใช่ไหมครับ? พวกเขาอาจจะมีพลร่มมากกว่าที่พวกเราคิดไว้ก็ได้ ถ้าพวกเขาติดอาวุธให้ทหารการบินและอวกาศทุกคนด้วยชุดเอ็กโซสเกลเลตันนั่นล่ะก็…”

ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติมองคนรอบๆ โต๊ะประชุม เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกล่าวออกมาว่า “ผมคิดว่า มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเราจะชนะพวกเขาครับ…”

การพูดคุยถกเถียงและความตื่นเต้นบนโลกอินเทอร์เน็ตก็ยังเพิ่มต่อไป

พาเหรดทหารจบแล้ว

การแสดงปิดฉากงานฉลองก็ต้องเป็นกองพลอากาศอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นทีมที่นำโดยหลี่เกาเหลียง หรือพลอากาศหลี่นั่นเอง

ตั้งแต่เริ่มช่วงครึ่งปีหลังนี้มา จำนวนประชากรของกองพลอากาศอวกาศก็ได้ขยายจากระดับกองร้อยไปเป็นกองพล ตอนแรกทีมพิเศษนี้อยู่ใต้การบังคับบัญชาของกองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออกแล้วจึงถูกย้ายไปเป็นกองทัพอวกาศที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาโดยตรงจากปักกิ่ง

ลู่โจวดีใจที่ได้เห็นหลี่เกาเหลียงเจริญก้าวหน้า

เขารู้ว่าหลี่เกาเหลียงดีใจที่เขาได้เลือกทางเดินนี้

“พ่อครับ โชว์ฉลองที่รังนกจะเริ่มตอนเย็น พ่อไม่ต้องกังวลขนาดนั้นก็ได้” ลู่โจวถอนหายใจแล้วมองพ่อของเขาที่มีท่าทางกระวนกระวาย เขาพูดเสริมว่า “อีกอย่างพวกเราก็มีที่นั่งพิเศษนะครับ ไม่ว่าพวกเราจะไปสายแค่ไหนพวกเราก็เข้าไปได้ตลอด”

อันที่จริงสนามกีฬารังนกก็มีที่นั่ง VIP ที่ทำเป็นบ็อกซ์เหมือนกัน แต่พอลู่โจวลองไปดูด้วยตาตัวเองแล้ว เขาก็พบว่าการสัมผัสประสบการณ์การดูจากที่นั่ง VIP ที่ทำเป็นบ็อกซ์นั้นไม่ดีเท่าที่นั่งในที่โล่งแจ้งเลย เพราะในบ็อกซ์จะมีกำแพงที่ล้อมไว้ทำให้มุมมองการดูโชว์ค่อนข้างแคบ

ถึงแม้เทคโนโลยีโฮโลแกรมของสตาร์สกายเทคโนโลยีจะถือเป็นศิลปะ แต่มันก็ยังไม่ได้เติบโตจนไร้ข้อจำกัด เทคโนโลยีนี้ยังห่างจากจุดที่มองแล้วครอบคลุมทุกที่อยู่สองสามก้าว

ดังนั้นที่นั่งที่ดีที่สุดก็คือที่นั่งชั่วคราวที่ตั้งอยู่ตรงลู่วิ่งกลางสนามกีฬา ส่วนที่นั่ง VIP ที่จะสัมผัสประสบการณ์การดูโชว์ได้ดีที่สุดคือที่นั่งแถวหน้า

ผู้เฒ่าลู่มองลู่โจวด้วยดวงตาเบิกกว้าง

“อะไรนะ? มันเริ่มตอนกลางคืนเหรอ? ”

“ใช่ครับ”

ถ้าลู่โจวจำไม่ผิด เขาบอกพ่อเรื่องนี้ไปสามรอบแล้วนะ

ลู่ปังกั๋วยิ้มเจื่อนๆ เขาเกาหัวตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า “มันเริ่มตอนกลางคืน…อย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่ต้องรีบสินะ…อ้อใช่ พ่อไปเจอตาแก่น่าสนใจคนหนึ่งตอนเดินทางมาที่นี่ด้วยแหละ หลานสาวของเขาก็อายุ 20 ต้นๆ และโสดด้วย บางทีพวกเราอาจจะจัดให้…”

พอลู่โจวเห็นพ่อของเขาหยิบนามบัตรออกมา ดวงตาของเขาก็แทบจะถลนออกมาจากเบ้า

นี่มันบ้าอะไรเนี่ย?!

พ่อไปคุยกับใครก็ไม่รู้บนรถไฟความเร็วสูงแล้วจะมาให้ฉันนัดบอดเนี่ยนะ? จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?

ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเฉินยู่ซานถึงไม่อยากกลับบ้าน นอกจากจะเป็นวันตรุษจีน

ลู่โจวกำลังคิดถึงวิธีที่จะปฏิเสธไปอย่างสุภาพ เฉินยู่ซานที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็สังเกตเห็นสีหน้าอับอายบนใบหน้าของลู่โจว

เธอก้าวเข้ามาอย่างใจเย็น ก่อนที่ลู่โจวจะได้ทันพูดอะไรออกมา เธอก็ยิ้มแล้วหยิบนามบัตรนั้นออกจากมือของพ่อเขา

“ลุงลู่คะ ตอนนี้ลู่โจวเขาไม่มีที่ให้เก็บนามบัตร หนูมีกระเป๋า เดี๋ยวหนูเก็บให้เองนะคะ เดี๋ยวหนูจะบอกให้เขาไปนัดบอดทีหลัง”

“โอ้…” ผู้เฒ่าลู่พยักหน้าแล้วยิ้ม เขาพูดว่า “อย่างนั้นก็โอเค…ลูกลุงไม่ฟังลุงเลย อย่างไรก็ขอบใจนะ”

“ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ!”

ลู่โจวดีใจมากที่เขาไม่ต้องวุ่นวายกับเรื่องเจ้าปัญหานี่ เขาแอบยกนิ้วโป้งให้เฉินยู่ซาน

ทำได้ดีมาก!

ในขณะที่ยามราตรีกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ไฟนีออนบนตึกสูงก็เริ่มส่องสว่าง

ข้างนอกสนามกีฬารังนก ทหารเริ่มรวมตัวกันเป็นกำแพงมนุษย์ พวกเขาทำหน้าที่ชี้ทางให้การจราจรใกล้ๆ และบอกให้คนที่เดินเท้าเข้ามาในสนามกีฬาเดินอย่างเป็นระเบียบ

ถนนหลายสายใกล้ๆ ก็มีการปิดเรียบร้อย หวังเผิงจอดรถของเขาที่ลานจอดรถใต้ดินในโรงแรมใกล้ๆ จากนั้นเขาก็พาลู่โจวและคนอื่นๆ ไปที่สนามกีฬา

เฉินยู่ซานมองฝูงชนแล้วทักขึ้นว่า

“ปีนี้คนเยอะนะเนี่ย”

“ก็นี่เป็นครั้งแรกนี่นา…” แล้วลู่โจวก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เลยถามขึ้นว่า “มันเคยมีการจัดงานฉลองแบบนี้ขึ้นมาด้วยเหรอ?”

หวังเผิงคิดแป๊บหนึ่งก็ตอบคำถามว่า “เป็นครั้งแรกของรังนกครับ แล้วก็เป็นครั้งแรกด้วยที่มีการฉายภาพโฮโลแกรมสเกลใหญ่ขนาดนี้…”

แหงแซะ

ลู่โจวส่ายหัวและยิ้ม

จะเคยมีการฉายภาพโฮโลแกรมที่สเกลใหญ่ขนาดนี้มาก่อนได้อย่างไรกันล่ะ?

ลู่ปังกั๋วเดินมาพร้อมกับภรรยาของเขา เขามองเข้าไปในฝูงชนแล้วพึมพำขึ้นมาว่า “คนเยอะขนาดนี้…เราจะหาพวกเขาเจอได้อย่างไรกันล่ะ?”

ก่อนจะมาที่นี่เขากับชายสูงวัยบนรถไฟคนนั้นตกลงกันว่าจะไปเจอกันที่สนามกีฬารังนก

ฟางเหมยกลอกตาของเธอแล้วเอ่ยว่า “ไม่เจอก็ช่างมันสิ ดูสิคนเยอะขนาดนี้ จะหาพวกเขาได้ก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทรนั่นแหละ”

ลู่ปังกั๋วทำหน้าเสียดาย

หลิวเพ่ยจงตกลงจะพาหลานสาวของเขามาดูโชว์ใหญ่นี้ด้วยกันแท้ๆ

แต่ดูเหมือนมันจะเป็นไปไม่ได้เสียแล้วที่พวกเขาจะได้เจอกัน

ลู่โจวรู้ดีว่าพ่อของเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า

ทันใดนั้นเองแสงไฟสีแดงก็สาดมาจากกลางสนามกีฬา และอนุภาคแสงก็ระเบิดขึ้นในอากาศทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยแสงสว่าง

พวกเขาไม่คิดว่าจะมีโชว์ดอกไม้ไฟก่อนงานฉลองด้วย ทั้งนักท่องเที่ยวทั้งคนเดินเท้าต่างก็ตกใจ พวกเขาคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปบนท้องฟ้าอย่างตื่นเต้น

ลู่โจวไม่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แต่เขากลับมองดอกไม้ไฟอันงดงามแล้วพูดขึ้นว่า

“มันกำลังจะเริ่มแล้ว”

เฉินยู่ซานก็เงยหน้ามองดอกไม้ไฟแล้วถามขึ้น “นั่นใช่…ดอกไม้ไฟจริงๆ เหรอ?”

“อ่าฮะ แต่ไม่ใช่ดอกไม้ไฟรูปแบบเก่าหรอกนะ” ลู่โจวเว้นจังหวะแล้วพูดต่อ “อนุภาคแสงที่กระจัดกระจายพวกนั้นน่ะ เป็นภาพฉายโฮโลแกรมหมดเลย”

“…งั้น มันก็เป็นแค่ภาพโฮโลแกรมสินะ”

ลู่โจวเหลือบมองเธอ

“ทำไมเธอพูดด้วยเสียงผิดหวังอย่างนั้นล่ะ?”

“ไม่ได้ผิดหวังนะ…จริงๆ แล้ว ฉันมีความสุขมากๆ ด้วยซ้ำ ก็แค่ว่า ดอกไม้ไฟพวกนี้มันไม่ใช่ของจริงน่ะสิ มันก็เลยรู้สึกเหมือนโดนหลอกนิดหน่อย” เฉินยู่ซานยักไหล่แล้วพูดติดตลกว่า “บางทีฉันอาจจะคิดมากไปเองก็ได้”

ลู่โจวส่ายหัวและยิ้ม

“จะเป็นดอกไม้ไฟโฮโลแกรมหรือดอกไม้ไฟที่ใช้ดินปืน มันก็มีช่วงเวลาอยู่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นแหละ ดอกไม้ไฟที่ใช้ดินปืนน่ะทั้งสร้างมลพิษแถมยังเป็นสิ่งคุกคามทางความปลอดภัยด้วยนะ เธอไม่รู้สึกว่าภาพโฮโลแกรมพวกนี้มันดูมีความอนาคตจ๋าๆ บ้างเหรอ?”

เฉินยู่ซานเอ่ยขึ้นว่า “ก็ว่าแล้วว่านายต้องพูดออกมาทำนองนี้แน่ๆ ”

“เธอหมายความว่าอะไรน่ะ?”

“นายมันเป็นเนิร์ดวิทยาศาสตร์ไง”

อะไรของเธอเนี่ย?

นี่มันวิศวกรรมศาสตร์นะ ไม่ใช่วิทยาศาสตร์เสียหน่อย

เฉินยู่ซานยิ้มมุมปาก ในขณะที่ลู่โจวมีสีหน้าเบื่อหน่าย เขามองขึ้นไปบนฟ้า

สงสัยว่าผู้ชายกับผู้หญิงจะมีความคิดที่ต่างกันล่ะมั้ง

…………………………

[1] อะลูมิเนียมที่ผสมกับออกไซด์ของเหล็ก ใช้เพื่อก่อความร้อนอย่างแรง พบในการเชื่อมโลหะและการทำลูกระเบิดเพลิง

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 801 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน

ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง

ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา

จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล

“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”

“ไม่ได้”

“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”

“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”


Options

not work with dark mode
Reset