Ranker’s Return 8

ตอนที่ 8

“เลเวลอัพอีกแล้ว อัพค่าสเตตัสหน่อยดีกว่า เอาล่ะ! หน้าต่างข้อมูลตัวละครจงออกมา” เมื่อเลเวลของเขาเพิ่มขึ้น ฮยอนนูก็เรียกใช้หน้าต่างข้อมูลตัวละครเพื่อทำการอัพเกรดค่าสเตตัสให้ตัวเขาเองแข็งแกร่งขึ้น

 

[หน้าต่างข้อมูลตัวละคร]

 

[ชื่อตัวละคร: คังฮยอนนู]

 

เลเวล: 4

 

อาชีพ: มือใหม่

 

ฉายา: ไม่มี

 

ค่าสเตตัส: พละกำลัง: 10 (+65) ความว่องไว: 10 (+25) พลังโจมตีทางกายภาพ: 10 (+50) พลังโจมตีเวทมนตร์: 10

 

แต้มสเตตัสคงเหลือ: 20

 

 

“เฮ่อ~” ฮยอนนูได้แต่ทอดถอนใจเมื่อเขาเห็นหน้าต่างข้อมูลตัวละครของตนเอง มันทำให้เขานึกถึงตัวละครเมลีก็อดที่ตัวเองเคยมีในอดีต มันทั้งมีค่าสเตตัสที่มหาศาลและเรียงรายไปด้วยฉายาอันโดดเด่นหลากหลาย ทว่าตอนนี้สิ่งเหล่านั้นได้อันตรธานหายไปหมดแล้ว เหลือไว้เพียงมโนภาพในความทรงจำของเขาเพียงเท่านั้น

 

‘ฉันลบมันทิ้งไปแบบไม่เห็นค่าเลย’

 

พอหวนคิดถึงมันแล้วเขาก็อดเศร้าใจไม่ได้ สุดท้ายฮยอนนูจึงได้แต่ค่อย ๆ เพิ่มค่าสเตตัสให้ตัวเองโดยที่พยายามไม่กลับไปนึกถึงมันอีก ในอดีตเขาเคยเลือกเล่นอาชีพนักรบธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนัก การเพิ่มค่าสเตตัสก็เรียบง่าย เขาเลือกเพิ่มค่าพละกำลังและค่าพลังโจมตีทางกายภาพเป็นหลัก แต่พอมาครั้งนี้ เขาตัดสินใจแล้วว่าจะเล่นอาชีพนักรบที่มีความพิเศษต่างจากที่ผ่านมา ดังนั้นเขาจึงเลือกเพิ่มค่าสเตตัสในแนวทางที่ต่างจากเดิม

 

[หน้าต่างข้อมูลตัวละคร]

 

[ชื่อตัวละคร: คังฮยอนนู]

 

เลเวล: 4

 

อาชีพ: มือใหม่

 

ฉายา: ไม่มี

 

ค่าสเตตัส: พละกำลัง: 10 (+65) ความว่องไว: 25 (+25) พลังโจมตีทางกายภาพ: 10 (+50) พลังโจมตีเวทมนตร์: 15

 

แต้มสเตตัสคงเหลือ: 0

 

เขาเลือกเพิ่มค่าความว่องไว 15 แต้ม และเพิ่มค่าพลังโจมตีเวทมนตร์ 5 แต้ม…

 

ในตอนนี้เขาสามารถเพิ่มค่าสเตตัสแบบฉีกแนวนี้ได้ เนื่องจากแหวนแห่งยักษ์ที่เขาได้มาก่อนหน้านี้สามารถมอบค่าพละกำลังและค่าพลังโจมตีทางกายภาพมาทดแทนส่วนที่ขาดหายไปได้ ส่วนในอนาคตเขาได้วางแผนเอาไว้ว่าจะยังคงให้ความสำคัญกับค่าสเตตัสทั้งสองส่วนนี้ รวมถึงค่าพละกำลังก็เช่นเดียวกัน แต่เขาจะยังคงไม่ให้ความสนใจกับค่าพลังโจมตีทางกายภาพเหมือนเดิม

 

***

 

[-เก็บเขี้ยวของหมาป่า: 15/15]

 

[คุณได้รับค่าประสบการณ์]

 

[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]

 

[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]

 

“ตอนนี้ฉันเลเวล 6 แล้วงั้นเหรอ…?”

 

ฮยอนนูเลือกเพิ่มค่าสเตตัสให้กับค่าความว่องไวและปิดหน้าต่างข้อมูลตัวละครลง เขาไม่ควรมาเสียเวลามากมายกับที่นี่ ยังเหลือเรื่องที่ต้องทำอีกมากหากว่าเขาต้องการเพิ่มเลเวลจนถึงระดับสิบภายในวันนี้ตามแผนการที่วางเอาไว้

 

ป่าทางด้านนอกนี้มีพื้นที่กว้างขวางมาก ในความเป็นจริงเขตพื้นที่ต่าง ๆ ของเกมอารีน่าล้วนแล้วแต่กว้างขวางทั้งสิ้น โดยรวมแล้วพื้นที่ทั้งหมดภายในเกมนี้กว้างขวางเสียจนไม่สามารถสำรวจได้ด้วยผู้เล่นเพียงคนเดียว ดั้งนั้นการมีพาหนะหรือการใช้วิธีอื่น ๆ เพื่อการเดินทางจึงเป็นสิ่งสำคัญเรื่องแรก ๆ ของเกมนี้ อย่างไรก็ตามตัวฮยอนนูในตอนนี้มีเลเวลเพียงแค่ระดับ 6 มันยังไม่สูงพอที่จะสามารถใช้ระบบพวกนี้ได้ เขาจึงทำได้แค่เดินทางผ่านป่าผืนใหญ่ทั้งผืนนี้ด้วยขาทั้งสองข้างของตน

 

“ฉันว่านี่น่าจะเป็นถ้ำที่ว่านะ”

 

ในที่สุดฮยอนนูก็มองเห็นถ้ำถ้ำหนึ่ง มันเป็นถ้ำที่แลนซ์พูดถึงในภารกิจ ขณะนั้นเอง ฮยอนนูมองเห็นผู้คนมากมายมารวมตัวกันที่ถ้ำแห่งนี้ทำให้เขารู้สึกสับสนอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเขาไม่ทราบว่าจริง ๆ แล้วถ้ำแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่สามารถเข้าไปล่าเป็นทีม ปาร์ตี้ได้ ค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากการล่าก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว นอกจากนี้หนทางที่จะทำให้ผู้เล่นได้รับน้ำยาแบบพิเศษนั้นก็มีเพียงหนทางเดียวเท่านั้นคือการทำภารกิจนี้ของแลนซ์ให้สำเร็จเท่านั้น ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนอยู่บริเวณถ้ำแห่งนี้

 

“ไม่มีคนที่สามารถรักษาได้เลยเหรอ? ฮีลเลอร์มาช่วยหน่อย!”

 

“ต้องการอาชีพพระด่วนมาก!”

 

“หาคนเข้าปาร์ตี้! ขอเป็นอาชีพสายประชิด!”

 

เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น ฮยอนนูก็เข้าไปคุยกับหัวหน้าทีมที่กำลังมองหาอาชีพโจมตีระยะประชิดโดยทันที “ขอเข้าตี้ด้วยได้ไหม?”

 

หัวหน้าทีมของปาร์ตี้ดังกล่าวหันมามองยอนนูแล้วก็ส่ายหัว “ดูเหมือนว่านายจะไม่มีไอเทมป้องกันสถานะผิดปกตินะ พวกเราเป็นปาร์ตี้ที่ล่ากันอย่างจริงจัง นายไปหาปาร์ตี้ฝึกหัดก่อนเถอะ” คำขอเข้าร่วมทีมของฮยอนนูถูกปัดทิ้งอย่างไม่ใยดี และนั่นเป็นการหยามศักดิ์ศรีของเขาอีกด้วย ความหมายของปาร์ตี้ฝึกหัดคือกลุ่มผู้เล่นที่ตั้งขึ้นเพื่อลองฝึกล่าดันเจี้ยนกันเป็นครั้งแรก พูดอีกนัยหนึ่งก็คือพวกนั้นจะเป็นผู้เล่นมือใหม่ที่เข้าไปล่าด้วยกันและเมื่อเจออะไรในดันเจี้ยนก็จะแตกตื่นตกใจทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายทีมเหล่านี้จึงมักจะแตกพ่าย และนั่นแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นมืออาชีพของผู้เล่นมือใหม่ที่ผู้เล่นมืออาชีพไม่ค่อยพึงพอใจนัก

 

“กรอด!~” ฮยอนนูได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เขามั่นใจว่าตัวเองสามารถหลบหลีกและป้องกันเข็มพิษของพวกก็อบลินได้ แต่เขากลับถูกปฏิเสธเพราะว่าไม่มีไอเทมป้องกันสถานะติดพิษ…?

 

ศักดิ์ศรีของเขาถูกบั่นทอน แต่ในขณะที่เขากำลังกัดฟันข่มใจอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น “เธอสนใจจะเข้าร่วมกับปาร์ตี้ของพวกเรามั้ย?”

 

ฮยอนนูหันหน้ากลับไปมองต้นตอของเสียงนั้นทันที คนที่อยู่ตรงหน้าของเขาคือผู้เล่นอาชีพนักบวชที่มีหน้าตาน่ารัก เขาพยักหน้าตอบรับทันทีโดยที่ไม่ถามถึงกฎการล่าใด ๆ ของทีมเลย

 

‘ฉันเองก็กำลังรีบอยู่’

 

“ตกลงเลย รีบ ๆ ไปล่ากันเถอะ”

 

“ถ้างั้นเธอก็มาตรงนี้เลย เอาล่ะ! รวบรวมคนได้ครบแล้ว!” นักบวชสาวคนนั้นตะโกนบอกให้สมาชิกปาร์ตี้ทุกคนทราบ จากนั้นสมาชิกที่ต่างก็แยกย้ายไปหาคนเข้าร่วมทีมก็กลับมารวมตัวกัน

 

“ถ้างั้นเรามาแนะนำตัวกันก่อนดีมั้ย? ฉันชื่อชอยโซมีนะ”

 

“เธอจะพูดแนะนำทำไมในเมื่อเราต่างก็รู้จักกันอยู่แล้ว?”

 

“ไม่ใช่ทุกคนที่รู้นี่ ทำ ๆ ไปเถอะน่า!”

 

การถามความจำเป็นในการแนะนำตัวจากชายหนุ่มที่เล่นอาชีพนักรบถูกโต้กลับโดยโซมีแบบที่เขาเองก็เถียงไม่ได้

 

“ฉันชื่อฮยอนนู เล่นอาชีพนักรบ เลเวลตอนนี้อยู่ที่ 20” ฮยอนนูจงใจปกปิดข้อมูลเลเวลแท้จริงของเขา อย่างไรก็ตามไอเทมต่าง ๆ ที่เขาสวมใส่อยู่ตอนนี้ ทำให้ค่าสเตตัสและความสามารถพื้นฐานของเขาใกล้เคียงกับผู้เล่นอาชีพนักรบเลเวลยี่สิบ เขาแค่ไม่ทักษะสกิลเฉพาะของอาชีพนักรบเท่านั้น

 

“จะว่าไป นี่นายไม่มีไอเทมป้องกันสถานะผิดปกติเหรอ?”

 

“นั่นสิ นายเล่นอาชีพระยะประชิดนี่ จะทนการโจมตีได้เหรอ?”

 

“พอดีว่าฉันพอจะมีความสามารถในการต่อสู้อยู่บ้างล่ะนะ” ฮยอนนูพยายามฉีกยิ้มให้มากถึงมากที่สุดแม้ว่าเขาจะถูกวิจารณ์จากเพื่อนร่วมทีมก็ตาม

 

“โอปป้า! ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ! ฉันเป็นคนพาเขามานะ ไม่เชื่อใจการเลือกของฉันเลยเหรอ?”

 

“ก็ใช่น่ะสิ ฉันเลยต้องถามไง ฉันไม่อยากจะมาตายเพราะน้องสาวตัวเองเป็นเหตุหรอกนะ”

 

“เจ้าพี่บ้า!… ตายซะเถอะ!” ชอยโซมีหวดไม้เท้าในมือของเธอไปยังผู้เล่นอาชีพนักรบที่ดูแล้วดูเหมือนว่าจะเป็นพี่ชายของเธอ ในขณะเดียวกันนั้นสมาชิกในทีมคนอื่น ๆ ก็เริ่มแนะนำตัวเอง

 

“ฉันเล่นอาชีพนักเวท เลเวล 23 เรียกฉันว่าจีอาละกัน”

 

“อาชีพของฉันคือนักธนูเลเวล 22 ส่วนชื่อของฉันคือปาร์กชอลมิน”

 

เมื่อแนะนำตัวเสร็จแล้วการทะเลาะวิวาทระหว่างสองพี่น้องก็จบลงพอดี ผู้เล่นอาชีพนักรบจึงเข้ามาร่วมจับมือทักทายด้วย “เฮ่อ…ฉันเองก็ไม่ได้มาร่วมทักทายด้วยเลย  ชื่อของฉันคือชอยจีนู ก็อย่างที่เห็นน่ะแหละ หน้าที่ของฉันคือตัวแทงค์”

 

ทุกคนยังคงพูดคุยกันต่อและได้เปิดเผยอายุของตนกัน โซมีอายุ 20 ปี จีอาและชอลมินอายุ 21 ปี ทั้งสามคนนั้นอายุน้อยกว่าฮยอนนู ในขณะที่จีนูมีอายุมากกว่าเนื่องจากเขามีอายุ 24 ปี

 

“เรียบร้อยแล้วก็เข้าไปลุยกันเถอะ!” พูดเสร็จฮยอนนูก็เดินนำเข้าไปในถ้ำ

 

***

 

“สิ่งสำคัญที่ควรระวังมากที่สุดคือพยายามอย่าโดนเข็มพิษเด็ดขาด การล่าพวกก็อบลินไม่ได้ยากเท่าไหร่หรอก ปัญหาใหญ่ ๆ มีเพียงเข็มพิษที่พวกมันใช้เท่านั้น” ชอยจีนูอธิบายข้อมูลคร่าว ๆ หลังจากที่เข้ามาในดันเจี้ยน

 

“ถ้าพร้อมแล้วล่ะก็ ฉันกับฮยอนนูจะเป็นแนวหน้าในการโจมตีเอง ส่วนโซมีอย่าลืมคอยฮีลให้พวกเราด้วยล่ะ!”

 

“รู้แล้วน่า!” ชอยโซมีตอบกลับแบบห้วน ๆ หลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้น ดูจากการแสดงออกทางสีหน้าของเธอเห็นได้ชัดว่ากำลังสงสัยว่าทำไมชอยจีนูถึงกำชับให้เธอทำหน้าที่ของตนแค่คนเดียวโดยที่ไม่ย้ำเตือนหน้าที่ของคนอื่นเลย

 

ชอยจีนูแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร จากนั้นก็นำหน้าสำรวจไปก่อนด้วยดาบและโล่ในมือเขา

 

“คิรุก คิรุก!”

 

“คิรูรุก!”

 

เสียงร้องอันแปลกประหลาดดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของก็อบลินกลุ่มหนึ่ง ทันทีที่พวกมันมองเห็นปาร์ตี้ของฮยอนนู พวกมันก็ยิงเข็มพิษใส่เป็นการทักทายทันที อย่างไรก็ตามเข็มพิษที่ยิงมานั้นไม่สามารถทะลุผ่านโล่ของชอยจีนูไปได้ ในขณะนั้นเอง ห่าฝนลูกศรจากธนูของปาร์กชอลมินและเวทมนตร์ของจีอาก็เข้าทำลายพวกก็อบลิน

 

“เคี๊ยก!” การโจมตีเหล่านั้นทำให้พวกก็อบลินทั้งหลายต่างพากันแตกตื่น

 

‘ดู ๆ แล้วปาร์ตี้นี้ก็ใช้ได้เหมือนกันแฮะ แล้วทำไมถึงยังต้องการเขามาเสริมทีมกัน?’ นี่เป็นคำถามที่แวบผ่านมาในหัวของเขา ทว่าฮยอนนูยังไม่ทันคิดให้ถี่ถ้วน ก็อบลินตัวหนึ่งก็เข้ามาประชิดตัวเขาอย่างรวดเร็ว เขาเองก็ต้องร่วมต่อสู้ด้วยเช่นกัน คราวนี้ฮยอนนูไม่อาจใช้วิธีสังหารด้วยการฟันตัวก็อบลินให้ขาดเป็นสองท่อนแบบเดียวกับที่เขาเคยสู้กับหมาป่าแล้ว

 

อย่างไรก็ตามระดับความยากในการต่อสู้กับก็อบลินก็ยังคงไม่ต่างกับการต่อสู้ก่อนหน้ามากนัก ในความเป็นจริงการต่อสู้กับก็อบลินนั้นง่ายกว่าการต่อสู้กับหมาป่าเสียอีก ดาบยาวปลายมนอันแหลมคมของฮยอนนูทะลวงผ่านการป้องกันและฟันไปที่ลำคอของพวกมันได้อย่างง่ายดาย ก็อบลินตัวนั้นได้แต่กระเสือกกระสนเอามือจับคอของตัวเองไว้ก่อนที่จะล้มลงไปนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น

 

[คุณได้ฆ่าก็อบลิน]

 

[ได้รับค่าประสบการณ์]

 

[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]

 

[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]

 

[-ฆ่าก็อบลิน: 5/15]

 

[-เก็บเล็บหัวแม่มือของก็อบลิน: 5/15]

 

การต่อสู้ครั้งนี้จบลงด้วยการสังหารหมู่ฝ่ายเดียว

 

“ดู ๆ แล้วนายเองก็สู้ได้ไม่เลวเลยนี่”

 

“นั่นนะสิ ดาบของนายพริ้วไหวได้ลื่นไหลและงดงามมาก”

 

“พี่เองก็สู้ได้ดีเหมือนกันนะครับ”

 

สมาชิกในทีมไม่มีใครรู้เลยว่าฮยอนนูเพิ่งจะมีเลเวลเพิ่มมาเป็นเลเวล 7 เท่านั้น เพราะว่าเมื่อเทียบกับอาขีพนักรบเลเวล 20 แล้ว ประสิทธิภาพในการต่อสู้แทบจะไม่ต่างกันเลยด้วยซ้ำ

Ranker’s Return

Ranker’s Return

Score 10
Status: Completed

“คุณต้องการสร้างตัวละครใหม่หรือไม่?”

 

เขาคือผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด! เขาคือผู้ครองอันดับ 1 ในทุกสถิติ! เขาคือ เมลีก็อด (Meleegod) ผู้เล่นในตำนานแห่งเกมวิชวลเรียลลิตี้ชื่อดังของยุค

“อารีน่า” (Arena) กว่า 2 ปีที่ชื่อของเขาถูกลบเลือน ตำนานของเขาเริ่มจางหาย ทว่าตอนนี้เขากลับมาอีกครั้ง เพื่อช่วยกอบกู้ครอบครัวที่ล้มละลายของเขา

เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นหนึ่งอีกครั้ง ตำนานบทใหม่ของเขาได้เริ่มขึ้นแล้ว!

Options

not work with dark mode
Reset