Oregairu Shin 0: [Vol.1] บทนำ

ตอนที่ 0: [Vol.1] บทนำ

บทนำ

 

เรื่องทั้งหมดนี่มันเกี่ยวกับอะไรน่ะเหรอคะ?

ถึงคุณจะถามโคมาจิไปโคมาจิเองก็ไม่รู้เหมือนกันแหละค่ะ…….โคมาจิก็อยากที่จะถามเขาด้วยตัวเองอยู่เหมือนกัน

อยากจะถามพี่จ๋าเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี่แต่ทุกครั้งที่โคมาจิพยายามจะถาม โคมาจิก็ดันไปต่อไม่เป็นเพราะอายเกินกว่าจะพูดต่อ…….

มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ ไม่ใช่เพราะว่า 

“พี่จ๋ากำลังจะถูกพรากไปจากโคมาจิแล้ว โคมาจิเหงาเหลือเกิน ฮือๆ…….” 

อ๊ะ เมื่อกี้โคมาจิแต้มสูงใช้ได้เลยใช่ม้า? 

ไม่ล่ะ ไม่จริงเลยเจ้าค่ะ

โคมาจิไม่ได้กำลังโกหกซักหน่อย! เอ๋ นี่ถามว่าโคมาจิซื่อตรงมากแค่ไหนเหรอคะ? 

โคมาจิก็ค่อนข้างที่จะซื่อตรงพอที่จะพูดความจริงแหละค่ะ

ว่ามันคงจะดีนะถ้าพี่จ๋าได้แต่งงานไวๆน่ะนั่นคือสิ่งที่โคมาจิคิดมาตลอดเลยล่ะ

ค๊า โคมาจิไม่ได้โกหกคุณจริงๆนะเออ มันเป็นความจริงนะ! 

โคมาจิไม่ได้รู้สึกเหงาเลยสักนิดเพราะงั้นสิ่งที่โคมาจิพูดมันคือความจริงที่ไม่มีอะไรจะจริงไปมากกว่านี้ได้แล้วล่ะค่ะ!!

……ก็บอกแล้วไงคะว่าโคมาจิพูดจริงๆน่ะ!!

เฮ้อ คุณนี่น่ารำคาญชะมัดเลย………จะไม่ยอมแพ้เลยสินะคะ! 

นี่คิดจะถามเรื่องเดิมๆซ้ำๆไปอีกกี่รอบกันคะ!

พ่อแม่เป็นนกแก้วนกขุนทองรึไงคะ!

อ๋า อย่างนี้นี่เอง โคมาจิเข้าใจแล้วค่ะ!

ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีอะไรที่โคมาจิจะสามารถทำได้แล้ว……คิดว่าจะได้เจอคู่แข่งที่เป็นรองแชมป์ของการแข่ง Birdman ที่นี่แล้วซะอีก…….

จริงๆแล้วโคมาจิไม่ได้รู้สึกเหงาหรืออิจฉาอะไรเลยสักนิดไม่ใช่ว่าโคมาจิกำลังปฏิเสธที่จะยอมรับนะ มันก็แค่นั่นไง….โคมาจิแค่อายเกินกว่าที่จะถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้

มันเหมือนกับการถามพ่อแม่ของคุณว่าพวกเขาเริ่มคบกันได้ยังไงนั่นแหละค่ะ

และการที่ไปได้ยินว่าพ่อจีบแม่ติดได้ยังไงมันก็ฟังดูจั๊กจี้หูเกินไปว่าไหมล่ะค่ะ?

แล้วถ้าเกิดว่าเขาทำหน้าเขินแล้วพูดใส่อารมณ์กลับมามันก็จะยิ่งแย่ลงไปอีก!

เหมือนกับเวลาคุณรู้สึกไม่สบายใจอะไรซักอย่างคุณก็จะเอาแต่นั่งจ้องนิ้วตัวเองอย่างเหม่อลอยอย่างนั้นแหละแล้วคุณก็จะทําสีหน้าเหมือนกับโคมาจิที่กําลังทำอยู่ตอนนี้

การได้ฟังพี่ชายของคุณสาธยายเรื่องราวความรักของตัวเองมันก็เป็นสถานการณ์ที่คล้ายๆกันนั่นแหละค่ะ

ทีนี้เข้าใจยังคะ? เข้าใจแล้วสินะคะ?

โคมาจิคิดว่าในชีวิตประจำวันโคมาจิมักจะรักษาระยะห่างให้พอเหมาะจากพี่จ๋าเพราะงั้นถึงแม้โคมาจิจะได้ยินหัวข้ออะไรที่มันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ โคมาจิก็ยังพอที่จะสงบสติอารมณ์ได้อยู่

หา? นี่คุณกำลังจะบอกว่ามันคนละกรณีกันเพราะพวกเราสนิทกันมากงั้นเหรอ?

จริงเหรอคะ? ไม่ใช่ว่าคนที่มีพี่น้องทุกคนเป็นแบบนี้กันหรอกเหรอคะ?

อันที่จริงตัวโคมาจิเองก็ชักจะไม่แน่เหมือนกัน

เพราะงั้นจนถึงวันนี้โคมาจิก็ไม่มีปัญหาในการได้ยินเรื่องแบบนี้เลยไม่รู้เพราะตอนนั้นโคมาจิไม่เข้าใจหรืออะไรกันแน่ แต่ยังไงมันก็รู้สึกเหมือนกับไม่ใช่เรื่องจริงเลยค่ะ

อ้ะ! ไม่ใช่ว่าโคมาจิไม่เคยจินตนาการว่าวันนี้จะมาถึงหรอกนะแต่แค่โคมาจิเองยังจินตนาการไม่มากพอล่ะมั้งมันเหมือนมีฉากที่พร่ามัวเข้ามาซึ่งในจินตนาการก็ทํานองว่า

“ว้ายโคมาจิมีความสุขที่ซู๊ดดเลย พี่จ๋า!!”

แต่ในความเป็นจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ

อะไรนะ?อยากให้โคมาจิพูดอีกรอบหรอ?

“ว้าย โคมาจิมีความสุขที่ซู๊ดด เลย โอนี่จัง”ท่อนนี้อ่ะนะ ?

แล้วทําไมโคมาจิต้องพูดอีกรอบด้วยล่ะ? แต่เอาเถอะ เดี๋ยวโคมาจิจะพูดอีกรอบให้ก็แล้วกันนะเพราะโคมาจิน่ะ มีจิตวิญญาณในการ “เซอร์วิส”คุณผู้อ่านยังไงล่ะ!

เอาล่ะ นึง ,สอง,ซั่ม !!!

เฮ้อ…. คุณนี่จริงๆเลยน๊า…..อ๊ะ…..โคมาจิขอดื่มชาก่อนล่ะ

อึกๆๆๆ…..ฮ๊า !โทษทีๆ เดี๋ยวพูดต่อนะ เอ๊ะ ….เดี๋ยวนะแล้วไหงโคมาจิถึงต้องขอโทษด้วยละเนี่ย! ยังไงก็เถอะเรื่องนั้นเอาไว้ก่อน

โคมาจิก็เคยได้ยินแว่วๆว่าพี่จ๋าพยายามจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาคุยกันอยู่ครั้งนึงเพราะเขาสัญญาว่าจะบอกโคมาจิด้วยถ้าหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแต่ด้วยความที่พี่จ๋าก็เป็นคนอย่างงนั้นถึงโคมาจิพยายามจะถามเขาไปเขาก็จะพยายามปิดบังแล้วก้แถหาข้อแก้ตัวไปเรื่อย

ด้วยเหตุนี้ โคมาจิจะให้เวลาเขาค่อยๆเปิดเผยความในใจนั้นออกมาเองทีละเล็กทีละน้อยและด้วยวิธีนี้เองโคมาจิก็จะสามารถค่อยๆยอมรับความจริงนั้นได้ทีละนิดเช่นกัน…..แต่หลายๆอย่างมันไม่เป็นอย่างที่จินตนาการไว้น่ะสิ…ทีแรกก็กะว่าจะชวนคุยให้เขาไหลไปตามกระแสเพื่อที่จะบีบให้เขาพูดออกมาให้ได้แต่เมื่อมาถึงช่วง 

“แล้วพวกพี่สองคนกําลังคบกันงั้นเหรอ?”

ทันใดนั้นก็ทนต่อพูดคุยกันต่อไม่ไหวไปกันต่อไม่เป็นทันทีนี่ละคือ พี่จ๋าล่ะ! พี่จ๋าของโคมาจิเองค่ะ!! แล้วคุณรู้มะว่าเกิดไรขึ้นต่อ? จู่ๆพี่จ๋าก็ทำหน้าจริงจังแล้วก็กระแอมไอออกมา แล้วพูดกับโคมาจิอย่างเครียดๆแบบว่า “อะแฮ่มๆ โคมาจิอันที่จริงพี่มีอะไรจะบอกน่ะ…”

โคมาจิเลยคิดว่า เอาแล้วๆเข้าเรื่องนี้สักที ในที่สุดก็เข้าเรื่องนี้สักทีนึง เย้! 

แล้วโคมาจิก็นั่งหลังตรงทันที

โคมาจิรอให้โอนี่จังเปิดปากพูดมานานแล้วซึ่งเขาไม่เคยคิดจะพูดเลย

และท้ายที่สุดเขาก็พูดออกมาเบาๆแว่วๆฟังดูเหมือนยุงบินมาตอมที่หู

“อืม….พี่เองก็คิดว่ามันก็ไปได้สวยนะโคมาจิ……”

หูโอนี่จังแดงก่ำแถมยังหลบตาพร้อมกับถอนหายใจแล้วก็ยังฝืนยิ้มเจื่อนๆออกมา

โคมาจิไม่รู้ว่าควรเรียกพี่จ๋าว่า “น่าขยะแขยง”หรือ “น่ารักใสๆ”ดีนะ?

และจริงๆก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีความสุขรึเปล่า?

แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้โคมาจิเริ่มรู้สึกอายและก็อดไม่ได้ที่จะพูว่า

“อะ-โอ้ งั้นเหรอ….อย่างนี้นี่เอง เยี่ยมไปเลย ถ้าเป็นอย่างงั้นโคมาจิก็เบาใจแล้วล่ะ”

และก็แกล้งทําสีหน้าสงบเสงี่ยมแล้วก็จบการสทนาไป

โอ้ว…..นี่มันทำให้โคมาจิตกใจจริงๆนะเนี่ย! โคมาจิไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองก็มีพรสวรรค์ด้านการแสดงอยู่ด้วยน่ะ! นี่ถ้าไม่คุมตัวเองดีๆ โคมาจิก็อาจจะกลายเป็นนางร้ายที่คอยเล่นกับหัวใจของเหล่าชายหนุ่มก็ได้นะ! 

หืม อะไรนะคุณจะบอกว่าพวกเราคล้ายกันตรงชอบทำให้ปัญหาของพวกเรามันยุ่งยากขึ้นอย่างงั้นเหรอ?

ไม่เลยๆ พวกเราน่ะไม่ได้คล้ายกันเลยซักนิด!! ถ้าขืนพูดอีกล่ะก็โคมาจิจะโกรธจริงๆด้วย!

พี่จ๋าน่ะเป็นพวกชอบทําเรื่องมันยุ่งยากขึ้นด้วยการเพิ่ม “การดูถูกตัวเองแบบแปลกๆ” เข้าไปนั่นแหละเลยทําให้เขาดูน่าขยะแขยงเป็นพิเศษใส่ไข่เลยล่ะ

แต่เทคนิคของโคมาจิน่ะนะ อืม…..มันก็อธิบายไม่ได้หรอกนะ…..

ก็น่ารักแล้วก็มีไหวพริบ……..

นี่หัวเราะเยาะอะไรกันคะ?! อาๆ ก็อย่างที่บอกไปว่าพวกเราน่ะไม่ได้คล้ายกันเลยซักนิด..หืม.. นี่คุณกําลังจะบอกว่าโคมาจิกําลังพยายามจะเข้าไปจุ้นจ้านสินะ? 

อื้อ….อันนั้นก็ยอมรับแหละ! เราสองคนเนี่ยคิดอะไรเหมือนๆกันเลยนะ

ตอนนี้โคมาจิน่ะนะหลวมตัวไปเจอกับปัญหานี้อีกแล้วล่ะแล้วก็คิดว่าพี่จ๋าเองก็ด้วย

มันเหมือนกับมีหนามที่ทิ่มแทงอยู่ภายในใจมีบางอย่างที่เขาไม่ได้พร้อมที่จะปลดปล่อยมันออกมาเพราะงั้นเขาก็เลยพูดมันออกมาดังๆไม่ได้

นั่นก็น่าจะเป็นเหตุผลที่เขาไม่ยอมบอกอะไรเพิ่มเติมกับโคมาจิเกี่ยวกับเรื่องนี้

แต่นั่นเป็นเพียงแค่ความคิดที่เห็นแก่ตัวของโคมาจิเอง…….

อ๊ะ ไม่ใช่ว่าไม่มีหลักฐานที่แท้จริงมามัดตัวอะไรหรอกนะ ยังไงซะโคมาจิเองก็ไม่ได้อยู่กับเขาตลอด ไม่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดและมีอีกหลายๆเรื่องที่โคมาจิยังไม่เข้าใจ

ยังไงซะช่วงที่อยู่ในห้องชมรมโคมาจิก็อดคิดไม่ได้ว่า

“อ๋า พี่จ๋าฝันกลางวันอีกแล้วนะ” 

นี่ๆรู้ป่ะ ตอนพี่จ๋าฝันกลางวันน่ะ เขาชอบฝันถึงเรื่องอะไรที่มันซับซ้อนๆและสีหน้าก็จะยุ่งเหยิงหน่อยๆ อ้อ ใช่ๆๆ คิดใบหน้าตอนที่กินขนมที่มันเปรี้ยวๆแบบนั้นแหละ

หืม…คุณรู้อยู่แล้วหรอกเหรอ? แหม…คุณเนี่ยดูฉลาดกว่าหน้าตาอีกนะคะเนี่ย!

ก็แบบว่ามันก็คงไม่เป็นอะไรหรอกนะถ้าเขาฝันแล้วทําหน้าบึ้งตึงขมวดคิ้วตามปกติ

แต่พอฝันกลางวันทีไรก็ชอบทําหน้าอารมณ์เสียเหมือนมีของเปรี้ยวๆเข้าปากอย่างงั้นแหละ

และแน่นอนเรื่องแบบนี้หากไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานก็ไม่มีวันรู้หรอกนะใช่มะ?

นั่นแหละคือสิ่งที่ทําให้โคมาจิคิดว่า เอาจริงดิ ? นอกจากโคมาจิ มีคนรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ?

โอ๊ะ โอเค……..

ในเมื่อทุกคนจะรู้อยู่แล้ว……..งั้นโคมาจิก็คงพูดอะไรไม่จําเป็นออกไปสินะ….

อ๊า! หยุดเลยไม่ต้องมาลูบหัวโคมาจิเลยนะ! 

รู้ไหมว่ากว่าจะจัดผมได้มันใช้เวลานานนะ!

นี่รุนแรงแบบนี้เวลาลูบหัวคนอื่นเหรอคะ?

เอามือออกไปจากหัวของโคมาจินะ! ……. อืมม เอาจริงๆมันก็ไม่เลวนะ……..

…….อื้อ ก็ถูกของคุณ

ถึงโคมาจิจะไม่ได้ทําอะไรเลยแต่คนอื่นก็คงจะลงมือทําอะไรซักอย่างเองนั่นแหละ

แฮะๆ พอได้ยินคุณพูดแบบนั้นแล้วโคมาจิเองก็ค่อยมีกําลังใจขึ้นมาหน่อย

เอ๊ะ ! ก็บอกให้หยุดลูบหัวได้แล้วไง!

 แต่ว่าอนาคตมันก็ทำให้โคมาจิรู้สึกไม่สบายใจเลยจริงๆ

เฮ้อ……..ช่างเป็นอนาคตที่ยากลำบากซะเหลือเกินค่ะ……พอคิดถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้แล้วโคมาจิก็เริ่มเป็นกังวลจริงๆ

อื้อ ก็อย่างที่คุณคิดนั่นแหละ

เรื่องนี้คงจะดําเนินต่อไปอีกสักพักแแต่โคมาจิเองก็คิดว่าหลายๆอย่างก็จะค่อยๆเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆไม่ว่าจะเป็นตัวโคมาจิเองหรือจะเป็นตัวพี่จ๋า……

หรือจะเป็นสมาชิกของชมรมอุทิศตนทุกคนเองก็ด้วย…….

ส่วนชีวิตใหม่ของโคมาจิน่ะเหรอ? อื้อ ก็ไปได้สวยเลยล่ะ! โคมาจิพยายามอย่างหนักเลยล่ะเป็นพวกทำงานช้าแต่ชัวร์ ส่วนเรื่องชมรมน่ะเหรอ? ก็นะ….บางอย่างไปได้สวยนะ….ไม่ได้ดีแต่ก็ไม่ได้แย่…….

เพราะงั้นถ้าคุณสามารถที่จะกรุณาเขาให้นานกว่านี้อีกสักหน่อยนึง 

โคมาจิจะมีความสุขมากเลยนะ ในฐานะที่เป็นน้องสาวน่ะ !

อ๊ะ เมื่อกี้โคมาจิแต้มสูงใช้ได้เลยใช่ม้า? 

งั้นถ้ามีอะไรอีกจะบอกให้รู้นะ!

สาระสำคัญมันก็ประมาณนี้แหละ

ขอฝากเนื้อฝากตัวไปอีกสักหน่อยนะคะ!!

Options

not work with dark mode
Reset