Monster Factory 35 อย่าทําแบบนี้สิพี่ชาย

ตอนที่ 35 อย่าทําแบบนี้สิพี่ชาย

Monster Factory ตอนที่ 35 อย่าทําแบบนี้สิพี่ชาย

ตอนที่ 35 อย่าทําแบบนี้สิพี่ชาย

 

“ดูสิคะทุกคน ดูสิว่านี้ใคร”

โตวโตวรู้สึกสนใจเหมือนคนที่อยากมีส่วนร่วมในเหตุการณ์เมื่อมีเรื่องน่าตกใจเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา เมื่อกล้องโฟกัส ผู้ชมก็พากันอึ้ง แล้วกระหน่ําพิมพ์ข้อความ “นี่ใคร” “คนเท่ๆแบบนี้” “นี่คือฉันเองแหละ” และอื่นๆ ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ซุปเปอร์สตาร์แน่นอน ทําไมเราถึงต้องดูเขาด้วยล่ะ โตวโตวเป็นของเรา นี่คือสิ่งที่ผู้ชมกําลังคิดกันอยู่

“ดูดีๆนะคะทุกคน ดูดีๆ” โตวโตวขยับเข้าหาเย่ชิงอีกครั้ง เสียงของเธอเริ่มสั่น ตอนนี้ผู้ชมทุกคนเบิกตาและพิจารณาดูสตรีมตรงหน้าพวกเขา จากนั้นแบนเนอร์สีแดงก็ปรากฏขึ้น

[แม่เจ้าโว้ย นี่มันผู้ชายที่โตวโตวสัมภาษณ์ครั้งที่แล้วนี่]

 

ทันทีที่แบนเนอร์นี้ปรากฏขึ้นมาก็เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ผู้ชมนับไม่ถ้วนที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งก่อนออกมาบอกว่าคนที่อยู่ในกล้องนั้นคล้ายกับผู้ชายในสตรีมครั้งที่แล้ว ผู้ชมที่สายตาดีถึงกับอุทานด้วยความรู้สึกที่อธิบายออกมาเป็นคําพูดไม่ได้ว่ามันช็อคแค่ไหน พวกเขาช็อคเพราะคนที่ถูกทุกคนเยาะเย้ยที่ร้านข้างถนนกําลังนั่งอยู่ใน Bentley พร้อมกับคนขับของเขาเองได้รับการต้อนรับอย่างกระตือรือร้นจากพนักงานต้อนรับคนสวยของเทียนหวั่นจูดังเช่นกษัตริย์

 

เมื่อตัวตนของเยู่ชิงได้รับการยืนยัน ทันใดนั้นผู้ชมหลายหมื่นคนก็ตายไปอย่างเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย ราวกับว่าทุกคนเข้าสู่โหมดออฟไลน์ไปทันที แต่อย่างไรก็ตามช่วงพักนี้กินเวลาเพียงประมาณ 10 วินาที ก่อนที่ทุกคนจะกลับสู่ความเป็นจริง หลังจากนั้นพวกเขาก็ก่อจลาจล ทั้งแบนเนอร์และระบบแข็ตถล่มทลาย ราวกับถูกคลื่นสึนามิซัด

[พี่ชาย คุณช่างเป็นคนที่ติดดินเหลือเกิน ติดดินจนน่าจดจําเลยละครับ]

[ผมรู้สึกละอายใจ ขอสารภาพผิด ผมยอมคุกเข่าให้เลย]

 

[ท่านประธาน ผมขอโทษ โปรดยกโทษให้ผมด้วย]

 

(ฉันต้องคุกเข่าแล้วล่ะ Bentley คันนี้ แม้แต่คนรวยๆในเมืองของฉันก็ซื้อไม่ได้)

[ผู้ชายคนนี้ติดดินเกินไป เขาไปกินข้าวที่ร้านข้างถนนด้วยซ้ํา]

[โอเค ถึงเวลาไปกินข้าวที่ร้านข้างถนนแล้ว]

 

[ผมรู้สึกผิด ต้องไปขอโทษพี่ชายคนนี้เป็นการส่วนตัวที่เทียนหรันจูแล้วล่ะ]

ผู้ชมนับหมื่นพูดสรรเสริญเย่ชิงกันเกือบทุกคน ตอนนี้โตวโตวก็ช็อคไม่น้อยไปกว่าผู้ชมคนอื่น ครั้งก่อนที่เธอสัมภาษณ์เขา เขาเป็นคนติดดินมากเสียจนกลมกลืนไปกับลูกค้าที่นั่นได้ แต่วันนี้เขา เด่นสะดุดตาเกินไป เหมือนกับม้าที่ถูกปล่อยเป็นอิสระ ดุร้ายและควบคุมไม่ได้

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากผู้ชมหลายหมื่นคนบอกให้เย่ชิงรู้สึกตัว ว่ามีคนเฝ้าดูเขาอยู่ เขาหันไปมองเล็กน้อย สาวน้อยที่ดูเหมือนตัวการ์ตูนกําลังจ้องเขาด้วยความตกใจ คนสวยๆนั้นยากที่จะลืมได้ง่ายๆ ถึงจะผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เย่ชิงก็ยังจําเธอได้ทันที

“สวัสดีครับ โตวโตว!” เย่ชิงเป็นฝ่ายเริ่มกล่าวทักทายเธอ “บังเอิญจริงๆ คุณมาทานอาหารเย็นที่นี่ด้วยเหรอครับ?”

“เอ่อ ชะ….ใช่ค่ะ” ตอนนี้โตวโตวรู้สึกเคอะเขินและพูดติดอ่าง ครั้งที่แล้วเธอก็เหมือนกับพวกผู้ชม ไม่ได้เชื่อเลยว่าเย่ชิงจะเป็นบอสหรือเจ้าของบริษัทอะไรแบบนั้น ใครจะไปคิดว่าเขาเป็นบอสบริษัทใหญ่ ใช้คําว่า “วัยรุ่นพันล้าน” บรรยายเขาคงจะเหมาะสมกว่า

แบนเนอร์ถูกกระหน่ําส่งมาเรื่อยๆ และคนนับไม่ถ้วนก็แสดงอารมณ์ของพวกเขาโดยการส่งอิโมจิอกหัก ในขณะที่ผู้ชมกําลังหัวร้อน เพราะความเท่ ความน่าเบื่อ ความหรูหราวูบวาบของเย่ชิงก็ยังบอก อีกว่าโตวโตวหน้าแดง เธอจะต้องหักหลังพวกเขาแน่นอน

 

ไม่ ไม่ ไม่ใช่แบบนี้สิ ตอนนี้โตวโตวจะกลายเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว อีกหน่อยเธอจะลืมพวกเราทุกคน!]

ทันทีที่ประโยคนั้นปรากฏ ผู้ชมส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยและขู่ว่าจะเลิกติดตาม กงเหว่ยที่ลงรถมาจากประตูอีกฝั่งยังคงคิดถึงอนาคตที่ประสบความสําเร็จของเขาและบรรยากาศรอบตัวเขาก็แสดง มันออกมาเช่นกัน แต่เป็นเพราะความประทับใจแรกคือสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุด ผู้ชมทุกคนจึงจัดประเภทเขาให้เป็นคนที่ติดรถมาด้วยแทนที่จะเป็นเจ้าของรถ หากไม่ใช่เพราะคนขับที่เปิดประตูให้เยู่ชิงลงมาก่อน ใครจะไปเข้าใจเขาผิดขนาดนี้?

 

“คุณเย่ เพื่อนคนสวยของนายเป็นใคร อยากแนะนําเธอให้ฉันรู้จักไหม?” กงเหว่ยเดาะลิ้นของเขาแล้วถาม “สาวน้อย เธอมาทานอาหารเย็นที่นี่คนเดียวหรือ”

“นี่คือโตวโตว เธอกําลังทํารายการเกี่ยวกับอาหารที่ยอดเยี่ยมในจงหยุนครับ” เย่ชิงแนะนําคร่าวๆแล้วหันหลังกลับไปถามโตวโตว “อยากมาร่วมกับเราไหม? ผมกับคุณกงมาที่นี่เพื่อทานอาหารไม่ได้ มาคุยเรื่องธุรกิจ”

 

“ใช่ๆ แล้วผมก็จองห้องให้กับพวกเราอีกสองสามคนไว้ด้วย” กงเหว่ยเอ่ยปากชวน อาหารมื้อนี้เป็นการเลี้ยงขอบคุณเย่ชิงจึงไม่มีคนนอกมาร่วม มีเพียงเขา ผู้ดูแลโรงงานของเขาสองคนและเย่ชิง

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ไม่เป็นไร” โตวโตวที่รู้สึกเคอะเขินมากกว่าเดิม รีบปฏิเสธคําเชิญของกงเหว่ย

นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน พวกเขาทุกคนมาจากระดับบนของสังคม เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คุ้นเคยกับฉันเลย นี่เป็นการเชิญตามมารยาทเท่านั้น

 

หน้าจอโทรศัพท์มือถือตอนนี้เต็มไปด้วยข้อความว่า “ไปสิ!” ผู้ชม ทุกคนเชื่อว่าเย่ชิงนั้นมีอํานาจมากเกินไป และไม่ว่าตอนนี้พวกเขาจะให้ทิปหรือโดเนตเท่าไหร่ก็ไม่มีทางที่จะได้รับความสนใจจากโตวโตวอีกต่อไป ดังนั้นพวกเขาคงได้แต่เออออตามและให้โตวโตวยอมรับคําเชิญ วิธีนี้ไม่เพียงแต่พวกเขาจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของระดับบน แต่ยังสามารถเอาไปคุยโม้กับเพื่อนๆได้

 

โตวโตวไม่กล้ามองหน้าจอที่กําลังกะพริบอีกต่อไป “ฉัน … ตอนนี้ฉันกําลังถ่ายทํารายการอยู่ มันคงจะรบกวนพวกคุณแน่นอน ไม่ไปจะดีกว่าค่ะ”

 

“โอ๊ะ ใช่แล้ว ฉันชื่อไปโตว” โตวโตวยื่นมือขวาของเธอออกมาอย่างสุภาพ

 

“ผมชื่อเย่ชิง” เย่ชิงยื่นมือซ้ายออกมาแล้วจับมือกับเธอด้วยมือทั้งสองข้าง ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ แต่นาฬิกา Altiplan๐ ที่ข้อมือซ้ายของเย่ชิงเผยตัวออกมา แน่นอนว่าในแช็ตเต็มไปด้วยข้อความที่ไม่พอใจและขุ่นเคืองอีกครั้ง เช่น “ได้โปรด ไม่! อย่าทําแบบนี้สิพี่ชาย” และอื่นๆ

 

บางคนที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรนั้นจํานาฬิกาซีรีส์ Altiplan๐ ของเย่ชิงได้ บ้าเอ๊ย ไอ้หนุ่มที่โคตรรวยคนนี้นี่ เราจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงเนี่ย

 

ไปโตวปฏิเสธคําเชิญแล้ว เย่ชิงจึงไม่ได้พูดคุยด้วยความสุภาพต่อไปและกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ทําในสิ่งที่ตั้งใจจะมาทําที่นี่เถอะ เราจะไปกันแล้ว แล้วเจอกันนะครับ”

เมื่อบอกลาไปโตวไปแล้ว เย่ชิงและกงเหว่ยก็เข้าไปในลิฟต์วีไอพี ตามการนําทางของพนักงานต้อนรับ จากนั้นกงเหว่ยก็เผยรอยยิ้มอันชั่วร้าย “นายช่างเป็นคนที่น่านับถือจริงๆ ไม่ตามซื้อชวนให้สาวสวยมาทานกับเราอีกหน่อยล่ะ”

 

“ในเมื่อนายเป็นคนตรงๆแบบนี้ อย่างนั้นคืนนี้ลองเปลี่ยนไปเป็นสถานที่อันทรงเกียรติแทนดีไหม? ไปคลับ KTV เฉียนกุ้ยกันไหม?”

“คุณกง คุณเคยได้ยินสํานวนที่ว่า สัญญามีค่าเท่าทองนับพันหรือไม่?”

 

“ฮ่าๆๆ” กงเหว่ยตบขาของเขาแล้วหัวเราะออกมาดังๆเหมือนได้รางวัลจากสล็อตแมชชีน

ห้องวีไอพีที่กงเหว่ยจองไว้อยู่บนชั้น 5 สามารถมองเห็นวิวตอนกลางคืนของถนนด้านล่างได้จากที่นั่น พนักงานเสิร์ฟสาวสี่คนที่สวมกี่เพ้าสั้นๆรออยู่ในห้อง รวมกับผู้ดูแลโรงงานทั้งสองคนที่รออยู่ก่อนแล้ว ก็มีเพียงคนสี่คนมาดื่มกินเฉลิมฉลองเท่านั้น เป้าหมายหลักของมื้อนี้คือเย่ชิง ดังนั้นนอกเหนือจากเมนูเด็ดหลายๆจานที่ต้องสั่งไว้ล่วงหน้าจานอื่นๆก็สั่งตามที่เย่ชิงชอบทั้งหมด

เมื่อชายสี่คนกินข้าวด้วยกันแล้วไม่มีสิ่งบันเทิงใจก็เปิดขวดเหมาไถที่หมักไว้นานไปสองขวด ทั้งสี่คุยกันถึงเรื่องของผู้ชายแล้วดื่มไปด้วย ทําให้บรรยากาศมีชีวิตชีวาขึ้น แล้วพวกเขาก็มาที่นี่เพื่อตั้งรากฐานสําหรับการต่อสู้ฝ่าฟันในอนาคตเช่นกัน

 

เมื่ออยู่กันจนแสงไฟบนถนนสว่าง ดวงจันทร์อยู่เหนือท้องฟ้า และเห็นว่าเวลาผ่านไปเกินสองทุ่มครึ่งแล้ว กงเหว่ยก็ไปจ่ายบิลอย่างมีความสุข กงเหว่ยรู้วิธีการทําตัวเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว เขาถามผู้จัดการว่าสาวน้อยโตวโตวคนนั้นออกไปหรือยัง และเมื่อรู้ว่าเธอยังไม่ได้ออกไป เขาก็จ่ายบิลให้เธอด้วยเช่นกัน

 

คนขับที่ขยันขันแข็งกําลังรออยู่ด้านนอกทางเข้าหลักอยู่กับ Bentley เขาทําหน้าที่อย่างมืออาชีพอีกครั้งแล้วเชิญให้เยู่ชิงขึ้นรถ

“ได้เวลาไปซิลเวอร์พาเลซแล้ว!” กงเหว่ยตะโกนอย่างมีความสุข

 

Monster Factory

Monster Factory

Score 10
Status: Completed

เรื่องย่อ

 

ผมชื่อเย่ชิง โชคดีจริงๆที่ผมไปเจอแอปพลิเคชัน [โรงงานมอนสเตอร์]

 

มอนสเตอร์ที่แข็งแรงสุดๆพวกนี้เทียบได้กับคนกว่าร้อยคนเลยทีเดียวแถมยังใช้ทักษะได้ทุกชนิดเลยล่ะ!

 

ประสิทธิภาพเหรอ? ด้วยความเร็วของทักษะในการทำงาน +300 ยังอยากจะแข่งกับมันไหมล่ะ?

 

ความแม่นยำเหรอ? *แค่ก แค่ก* เอาไดอัลคาลิปเปอร์ระดับตำนานมาซิ แสดงให้พวกเขาเห็นหน่อยว่าความแม่นยำอย่างสมบูรณ์แบบน่ะมันเป็นยังไง

 

เย่ชิง: เมื่อเรา ผมหมายถึงมนุษย์น่ะ อยากจะประสบความสำเร็จเราจะหยิบกระเป๋าตังค์ออกมา

 

เหล่ามอนเตอร์: อย่ามาเล่นแง่กับพวกข้า การสร้างสรรค์เครื่องจักรที่สุดยอดคือความรักและชีวิตของพวกข้า ร่างกายที่แกร่งกล้านี้คือเครื่องมือทำมาหากินของข้า

 

เหล่ามอนสเตอร์สูง 20 เมตร ร่างเปลือยดูป่าเถื่อนถือเครื่องตัดอันทรงพลังแล้วตะโกนก้องใส่ฟ้า: “ข้าไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น! พวกมันล้วนเป็นขยะทั้งสิ้น!”

Options

not work with dark mode
Reset