Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล 701

ตอนที่ 701

จัดการขัดขวาง
ปั้งปั้ง ปั้ง!
“โฮก…”
กร๊าซ!
ภายในพื้นที่อาณาเขตบริเวณเเห่งนี้เสียงของสัตว์ป่าจำนวนมากได้ดังกึกก้องเเละเริ่มที่จะเงียบหายไปเหลือเพียงร่องรอยโลหิตสดๆ ที่ไหลลิน
สัตว์ประหลาดเหล่านี้ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับฮัลค์ได้พวกมันมีจำนวนที่มากเเละออกล่อเหยื่อกันเป็นหมู่หากศัตรูของพวกมันไม่ใช่ตัวตนแบบฮัลค์ย่อมถูกล่าอย่างสมบูรณ์
ขณะเดียวกันตำเเหน่งไม่ไกลจากฮัลค์ได้ปรากฏรูปแบบศัตรูรูปร่างมนุษย์เดินมาจากระยะไกล
นัยน์ตาของพวกมันเป็นสีเเดงเดือดทั้งลักษณะออร่าเเละกลิ่นอายพลังยังรุนเเรงระดับเดียวกับฮัลค์
ค้นพบศัตรูที่อยู่ห่างไม่ไกลจากตนเองฮัลค์ได้จ้องมองไปที่อีกฝ่ายด้วยประกายตาสีเขียวสัตว์ป่าเดิมที่มีอยู่เต็มพื้นที่ตัวที่รอดชีวิตต่างพากันหลบหนีอย่างรวดเร็ว
ฟุ่บ!
เป็นครั้งเเรกที่ฮัลค์ได้พบกับศัตรูรูปแบบมนุษย์ในโลกเเห่งนี้ดังนั้นธรรมดาที่ฮัลค์จะตอบสนองต่อการมีอยู่ของอีกฝ่ายมากกว่าสถานที่เเห่งนี้ราวกับอารยธรรมนึงที่มีสิ่งมีชีวิตต่างดาวอาศัยทั้งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นบ้านของพวกเขา
กลุ่มชนเผ่าอารยธรรมที่สามารถอยู่รอดบนดวงดาวเเห่งนี้ได้พวกเขาจะต้องมีศักยภาพพลังที่มากพอที่จะอยู่รอดดังนั้นไม่เเปลกใจหากชนเผ่าอารยธรรมที่นี่จะมีร่างกายที่เเข็งเเกร่งที่ไม่เเตกต่างไปจากฮัลค์ ทั้งเผ่าพันธุ์นี้ยังเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่อันตราย
ฟุ่บ!
ฮัลค์ได้กระโดดพุ่งเข้าไปหาศัตรูในทันทีสัญชาตญาณของเขาร้องเตือนให้รีบจัดการอีกฝ่ายลงอย่างรวดเร็ว ศัตรูในระยะสายตาของเขามากันสามคน พวกเขาเองก็จ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเบื้องหน้า
„@ # & ;% …… ” สิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ที่ถือขวานได้กล่าวพูดอะไรกับเพื่อนของเขาทั้งสองคน
หลังจากพูดออกมาเพื่อนทั้งสองของเขาก็เกิดการเปลี่ยนเเปลงอย่างเห็นได้ชัด
„%@„ # …… %! #”ในดวงตาสีเเดงของพวกเขาได้ส่องประกายเจิดจ้ามากขึ้น
เสียงของพวกเขาได้พูดคุยกันเเละจ้องมองไปที่ซากศพจำนวนมากเเละสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขา
เมื่อเห็นศัตรูบุกโจมตีพวกเขาทั้งสามคนได้กระจายตัวออกเพื่อเตรียมรับมือกับอีกฝ่ายดูเหมือนสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์เหล่านี้จะมีปัญญาที่เฉียบคมพวกเขาคือชนเผ่าที่มีความคิดเป็นของตนเอง
ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับทั้งสามคนฮัลค์ ได้พุ่งเข้าไปโดยไม่สนใจสิ่งใด คนเหล่านี้คือตัวเเทนของอารยธรรมต่างสถานที่ พวกเขาได้เตรียมทัพเตรียมจะบุกไปที่โลกเเต่เพราะการปรากฏตัวของฮัลค์ทำให้ ทัพสัตว์ป่าเหล่านั้นได้ถูกกวาดล้างไปจำนวนมาก
เเน่นอนว่าฮัลค์ไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งนี้เเต่ฮัลค์ได้ต่อสู้ตามสัญชาตญาณของตัวเองการจัดการศัตรูของฮัลค์ถือเป็นการช่วยเหลือโลกในเวลาเดียวกัน
ปั้ง!
บึ้ม
เพียงพริบตาเดียวการปะทะก็เกิดขึ้นฮัลค์ได้คำรามออกมาอย่างรุนเเรงเเละโจมตีไปที่สิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ที่ถือขวาน
เห็นพรรคพวกของตนเองถูกโจมตีพวกที่เหลืออีกสองคนได้จ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเเละเริ่มลงมือจู่โจมพร้อมกัน

คำเหยียดหยาม
!
หลังจากฮัลค์คำรามออกมาเขาได้ฉีกเสื้อตนเองจนขาดรุ่งริ่งด้วยร่างกายที่เเข็งเเกร่งของฮัลค์ก็เพียงพอเเล้วที่จะต้านรังสีในจักรวาลที่หลากหลายเหล่านี้
เเม้ที่นี่จะไม่ใช่ดาวเคราะห์โลกเเละ สภาพเเวดล้อมในปัจจุบันทั้งหมดไม่เหมาะกับมนุษย์โลกที่จะมาอาศัยเเละเอาชีวิตรอดอยู่ได้ เเต่การปรากฏตัวของฮัลค์ภายใต้สภาพเเวดล้อมเช่นนี้ ราวกับว่ามันไม่มีผลกระทบใด ๆ กับ ฮัลค์ จิตใต้สำนึกของ ดร.แบนเนอร์ รู้สึกดีใจที่ฮัลค์ปรากฏตัวออกมาเพื่อรักษาชีวิตนของตนเอง
หลังจากที่ดร.แบนเนอร์ ปล่อยฮัลค์ออกมา จิตใต้สำนึกของเขาก็เริ่มทรุดตัวลงสู่ห้วงลึก ก่อนหน้านี้ ดร.แบนเนอร์ ตั้งใจจะทดสอบองค์กร S.H.I.E.L.D. ด้วยการใช้ความเเข็งเเกร่งของฮัลค์ เเต่มันก็เหนือความคาดหมาย ฮัลค์ ได้อาละวาดอย่างบ้าคลั่งจนเขาไม่สามารถควบคุมได้
เเต่ในเวลานี้ดร.แบนเนอร์ ได้ยกการควบคุมทั้งหมดให้กับ ฮัลค์ เพราะที่นี่ไม่มีสิ่งที่ ดร.แบนเนอร์ ให้ความสนใจ เเละไม่มีความจำเป็นจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย
“โฮกก~~ ~~”เห็นการปรากฏตัวของฮัลค์ สัตว์ป่าที่ดุร้ายนั่นสั่นกลัวอย่างรุนเเรง
ฟุ่บ!
ได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านหลังดวงตาสีเขียวของฮัลค์ ได้สว่างวาบขึ้นจากนั้น เขาก็หันไปจ้องมองเงาร่างของสัตว์ป่าที่อยู่ไม่ไกลจากตนเอง ไอลีนโนเวล
ฟุ่บ!
ร่างกายของฮัลค์เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพุ่งโจมตีไปที่สัตว์ป่านั้นทันทีสัตว์ป่านั่นเเม้จะมีสติปัญหาไม่สูงเท่าไหร่เเต่ธรรมชาติของสัตว์ป่ามันย่อมมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอด เห็น ฮัลค์ เคลื่อนไหวตัวมันรีบพุ่งตัวหลบหนีในทันที
ทันทีที่เจ้าสัตว์ป่านั่นหลบหนีฮัลค์ได้ถีบขาของตนเองพุ่งเข้าไปเข้าหาประชิดตัวอย่างรวดเร็วเพียงพริบตาเดียวเขาก็สามารถถึงตัวเป้าหมายอีกฝ่ายได้
กึบ!
เเขนขนาดใหญ่ของฮัลค์ได้ขว้าจับร่างเล็กๆ ของสัตว์ป่านั่นก่อนที่จะขยำทิ้งเเละโยนขว้างราวกับขยะที่ไร้ค่าไร้ราคา
“อ่อนเเอเกินไป!”จ้องมองสัตว์ป่าที่โจมตีตัวเองเมื่อครู่นี้ฮัลค์ กล่าวดูถูกอย่างเหยียดหยาม
ตั้งเเต่ดร.แบนเนอร์ เปลี่ยนร่างเป็นฮัลค์ เขาก็สามารถกู้สถานการณ์ที่ยากลำบากของตนเองได้อย่างรวดเร็ว เเต่ลักษณะนิสัยของฮัลค์ได้ปรากฏออกมาเเละมองหาศัตรูที่เเข็งเเกร่ง
“โฮกกก!”เห็นเพื่อนของตนเองถูกฆ่าตายสัตว์ป่าเหล่านั้นได้ปรากฏตัวออกมาจำนวนมากราวกับว่านี่เป็นอาณาเขตของมัน
มันคำรามเเละพุ่งเข้าโจมตีใส่ฮัลค์โดยไม่สนใจสิ่งใดเเม้จะไม่สามารถสร้างบาดเเผลให้กับอีกฝ่ายได้เเต่ลักษณะนิสัยที่ดุร้ายเเละทำงานเป็นทีมของพวกมันย่อมสามารถสร้างความลำบากให้กับอีกฝ่าย
“โฮกก!”
เห็นสัตว์ประหลาดจำนวนมากพุ่งเข้ามารุมตัวเองฮัลค์คำรามใส่เเละพุ่งเข้าจัดการอย่างรวดเร็ว ด้วยอารมณ์ที่รุนเเรงของเขาในตอนนี้ความคิดเดียวของฮัลค์ก็คือการฆ่าเพียงเท่านั้น
ปั้ง!
สองเเขนของฮัลค์ได้พุ่งคว้าจับอีกฝ่ายเเละบดขยี้ราวกับเศษหินเศษดิน
“ฮัลค์จะจัดการให้หมด!”ฮัลค์คำรามอย่างโกรธเคืองพร้อมกับตะบบฝ่ามือคู่ยักษ์โจมตีอย่างต่อเนื่อง
ฟุ่บ!
ปั้ง
สัตว์ป่าจำนวนมากได้ถูกกวาดล้างโดยตรง
ฝูงสัตว์ป่าเหล่านี้ได้ถูกฆ่าล้างไปจำนวนมากเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชได้ดังไปทั่วอาณาเขตบริเวณเเห่งนี้
ทุกๆ พื้นที่ เต็มไปด้วยซากของสัตว์ป่าเหล่านี้ พวกมันเผชิญหน้ากับความตายที่โหดร้ายจากการถูกฆ่าอย่างทารุณ
เเม้จะเผชิญหน้ากับสัตว์ป่าจำนวนมากเหล่านี้ฮัลค์ก็ได้รับบาดเเผลเพัยงดเล็กน้อยเท่านั้นพวกมันไม่สามารถผ่านการป้องกันของฮัลค์เข้ามาได้กรงเล็บของพวกมันสามารถสร้างได้เพียงเเค่รอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ
“อ่อนเเอเกินไป!อ่อนเเอเกินไป!”ฮัลค์ตะบบสัตว์ป่าเเละฆ่าพวกมันอย่างโหดร้าย
ภายใต้สภาพเเวดล้อมที่เป็นถิ่นฐานของพวกมันเช่นนี้สัตว์ป่าพวกนี้ราวกับไม่เข้าใจ เหยื่อเพียงตัวเดียวสามารถที่จะทำให้สหายของพวกมันถูกฆ่าจำนวนมากนี่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่พวกมันเคยพบเคยเห็นมาก่อน

เปลี่ยนร่างฮัลค์
ปั้ง!
ฟุ่บ!~~
บุฟ!~~
เสียงเเตกต่างที่เกิดจากการต่อสู้ได้ดังติดต่อกันหลายครั้งมันเป็นการโจมตีของ กัปตันโรเจอร์ส เเละ เเดร์เดวิล ในเวลาต่อมา ซึ่งก็คือทั้งสองคนได้รุมโจมตีศัตรูที่ถูก เเส้สีทอง เเละ ใยเเมงมุม พันธนาการเอาไว้
เเม้ว่าการโจมตีของทั้งสองจะรุนเเรงเเค่ไหนกลับไม่สามารถทำอันตรายอีกฝ่ายได้เลยเเม้เเต่น้อย
ฟุ่บ!
“โจมตีโจมตี โจมตี!”กัปตันโรเจอร์สเเละเเดร์เดวิล ได้โจมตีอย่างต่อเนื่อง ส่วนสไปเดอร์แมนก็ใช้ความยืดหยุ่นของตนเองในการปล่อยใยเเมงมุมเเละโจมตีศัตรูอย่างกระทันหัน
อย่างไรก็ตามเเม้ใยเเมงมุมของปีเตอร์จะปล่อยออกมาจำนวนมากเเต่ผลกระทบเเละผลัพธ์ที่ได้กลับไม่ได้ใหญ่มากนัก เพียงพริบตาเดียว พันธนาการที่ผูกรัดเพื่อนคนนี้เอาไว้ก็เริ่มหลุดลอกมากขึ้น
!
ขณะที่สไปเดอร์แมนเข้าไปพัวพันกับการโจมตีเเฮร์รี่ เเละ ฟอลคอน ก็เตรียมการโจมตีพร้อมโดยสมบูรณ์ พริบตาต่อมา ขีปนาวุธขนาดจิ๋ว เเละ กระสุนเลเซอร์ หลายสิบนัดได้พุ่งโจมตีเข้าหาศัตรูทันที
บึ้ม! ไอรีนโนเวล
เปลวไฟได้ปรากฏขึ้นเเละล้อมรอบเพื่อนคนนั้น
“!!!!!!!!! ” เพื่อนคนนี้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธเห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกเเย่มากภายใต้การโดนรุมโจมตีเหล่านี้
ได้ยินเสียงโกรธของศัตรูกัปตันโรเจอร์ส ที่อยู่ไม่ไกล มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก เขารู้ว่าการโจมตีนี้ย่อมไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ ทั้งยังจะไปกระตุ้นให้อีกฝ่ายเอาจริงอีก
“กัปตัน!ระดับพลังงานภายในประตูมิติอวกาศกำลังเพิ่มสูงขึ้น!”ขณะที่กัปตันโรเจอร์สถอยร่นเตรียมตั้งรับ เขาก็ได้ยินเสียง เจ้าหน้าที่ กล่าวอธิบายสถานการณ์
ได้ยินเสียงเตือนเหล่านี้กัปตันโรเจอร์ส จ้องมองไปที่ ประตูมิติอวกาศ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับประตูมิติอวกาศที่จะนำพามาซึ่งภัยพิบัติเเล้วล่ะก็ กัปตันโรเจอร์สจะต้องทำลายมันไม่ว่าจะต้องจ่ายด้วยอะไรก็ตาม
ด้านหลังกัปตันโรเจอร์สตามมาด้วย สไปเดอร์แมน,เเดร์เดวิล ฮอว์กอาย ฟอลคอน สตอร์ม เเละ เเจ็ค พวกเขาก็คิดเช่นเดียวกับกัปตันโรเจอร์ส หากมีสิ่งใดออกมาจากประตูมิติอวกาศอีก เขาจะต้องทำลายประตูมิติอวกาศนี้ทิ้งให้ได้
ฟู่วว!
ขณะที่พวกกัปตันโรเจอร์สให้ความสนใจกับการเปลี่ยนเเปลงของประตูมิติอวกาศเงาขนาดใหญ่ของสัตว์ประหลาดที่ราวกับปีศาจที่ออกมาจากนรกได้เดินออกมาจากกองไฟที่กำลังลุกไหม้ราวกับเปลวไฟเหล่านั้นไม่มีผลอะไรกับเขา
“ระดมการโจมตีอย่างเต็มที่!”กัปตันโรเจอร์สตะโกนออกมาเเละ กระโดดพุ่งเข้าหาศัตรู
หากศัตรูที่ออกมาเป็นเหมือนกับสัตว์ประหลาดตัวที่พวกเขาจะจัดการล่ะก็สถานการณ์มันจะยิ่งเเย่อย่างเเน่นอนดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้พวกเขามีเเต่จะต้องตัดสินใจทำลายประตูมิติอวกาศนี่้ซะ
ขณะที่อีกฝั่งบนโลกกำลังเกิดเหตุการณ์อยู่ทางด้าน ดร.แบนเนอร์ เขากำลังศึกษาสิ่งเเวดล้อมของดวงดาวนี้เเละจดบันทึกอย่างตั้งใจ
เนื่องเพราะสภาพเเวดล้อมองที่นี่มีความเเตกต่างกับโลกมากดร.แบนเนอร์ ไม่ได้มีโอกาสปล่อยครั้งที่จะศึกษาสิ่งเหล่านี้
ขณะที่เขากำลังเดินเเละเก็บรวมรวบข้อมูลอย่างระวังเขาก็รู้สึกได้ถึงสัญญาณอันตรายบางอย่างเเละเเรงกดดันจำนวนมากที่ตรงมาจากทางด้านหลัง
“อ๊ะ!”ดร.แบนเนอร์หันกลับไปพร้อมกับอุทานอย่างตกใจ
ร่างกายที่บอบบางของดร.แบนเนอร์ ถูกโจมตีล้มลงอย่างกระทันหัน เสื้อผ้าของเขาถูกฉีกขาดจนเป็นรูขนาดใหญ่
ดูเหมือนสิ่งที่โจมตีนั้นจะเป็นสิ่งมีชีวิตบางอย่างเป็นที่ชัดเจนว่าที่นี่มีความเเตกต่างกับโลกจริง สภาพอากาศของที่นี่ไม่เหมาะเเก่การใช้ชีวิตอย่างเเน่นอนหากมีสิ่งมีชีวิตที่สามารถอยู่รอดในที่เเห่งนี้ได้มันจะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่เเข็งเเกร่งเพราะสามารถปรับสภาพเข้ากับสภาพเเวดล้อมได้สำเร็จ
ระหว่างที่ดร.แบนเนอร์ ล้มลง เขาก็จ้องมองไปที่ สิ่งมีชีวิตที่ประหลาดเเละกรงเล็บที่เเหลมคมของมันมันได้เดินเข้าหาเขา เเละ พยายามจะใช้กรงเล็บนั่นโจมตีตนเอง สีหน้าของ ดร.แบนเนอร์ ย่ำเเย่อย่างมาก เเต่ว่าเพียงพริบตาเดียว ในประกายตาของเขาก็บังเกิดประกายเเสงสีเขียว
!
ผิวของดร. แบนเนอร์ เริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีเขียวความกับขนาดตัวของเขาที่กำลังขยายใหญ่ขึ้น ขณะที่ สิ่งมีชีวิตนั้นใช้กรงเล็บโจมตี ดร.แบนเนอร์ มันก็พบว่ากรงเล็บของตนเองไม่สามารถเฉือนเนื้อของอีกฝ่ายได้ มันรู้สึกกดดันเเละหวาดกลัวกับเหยื่อรายนี้ทำให้มันคิดที่จะหลบหนีอย่างรวดเร็ว
“ฮัลค์!”หลังจากการเปลี่ยนร่างสำเร็จฮัลค์ ได้ตะโกนออกมาอย่างรุนเเรง

ตอนที่ 698 ประสานงานร่วมโจมตี

 

ไม่แปลกที่เหล่าทีมพันธมิตรอเวนเจอร์ ที่มX-MEN และ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์จะหวาดกลัวอีกฝ่ายด้วยร่างกายที่ทรงพลังที่สามารถทนทานการโจมตีจํานวนมากได้ หากมีคนเช่นนี้อยู่บนโลกจริง ๆ ตัวตนนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะกวาดล้างโลกทั้งใบได้

 

แม้แต่โคลอสซัสชายร่างเหล็กที่มีพละกําลังทางกายที่แข็งแกร่งเพียงโดนการโจมตีเดียวเขาก็ตกอยู่ในสภาพบาดเจ็บรุนแรง หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ๆ แล้วล่ะก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็เป็นได้

 

ดังนั้นทุกคนจึงให้ความสําคัญกับศึกครั้งนี้และศัตรูที่ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าพละกําลังที่แข็งแกร่งนั่นหากพวกเขาประมาทคงไม่ใช่แค่บาดเจ็บแน่นอน

 

การปรากฏตัวของเพื่อนคนนี้นํามาซึ่งความหวาดกลัวที่ฝังลึกเข้าไปในจิตใจของทุกคน พฤติกรรมที่อีกฝ่ายแสดงให้เห็น บ่งบอกถึงตัวแทนที่มาจากอารยธรรมระดับที่สูง หากอารยธรรมที่ว่านี้บุกโจมตีโลกจริง ๆ ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าโลกจะไม่ถึงคราวจุดจบ

 

เมื่อกัปตันโรเจอร์สและคนอื่น ๆ จ้องมองไปที่การกระทําของของเพื่อนคนนี้ จู่ๆ เพื่อนคนนี้ก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งเขาได้ก้าวเดินพร้อมกับขวานขนาดยักษ์นั่นด้วยท่าทีที่ไม่สนใจสิ่งใด

 

“ลงมือ!”กัปตันโรเจอร์สตะโกนบอกคนอื่น ๆ และ กล่าวสั่ง

 

ไม่ว่าเพื่อนคนนี้จะทําอะไร ปัจจุบันพวกเขาจะต้องร่วมมือร่วมใจกันป้องกันและหยุดเพื่อนคนนี้ให้ได้ นอกเหนือจากนี้ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ด้านหลังประตูมิติอวกาศหรือไม่หรือกระทั่งความปลอดภัยของ ดร.แบนเนอร์เองก็เช่นเดียวกัน

 

แม้ว่า ดร.แบนเนอร์ จะยังมีชีวิตอยู่ข้างในนั้นจริง พวกกัปตันโรเจอร์สก็สามารถเลือกที่จะทําลายประตูมิติอวกาศนี้ได้หากมันจะทําให้โลกต้องเกิดภัยพิบัติจริง ๆ การสูญเสียหนึ่งชีวิตเพื่อรักษาอารยธรรมโลกเอาไว้ถือว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามกัปตันโรเจอร์สไม่สามารถทําอย่างนั้นได้เขาไม่เพียงแต่จะไม่ทําลายประตูมิติอวกาศนั่นแต่ยังจะต้องจัดการเพื่อนคนนี้ เพื่อช่วยเหลือ ดร.แบนเนอร์ ที่อยู่ข้าง ใน

 

ทันทีที่เสี่ยงของกัปตันโรเจอร์สส่งออกมา ทุกคนก็เริ่มเคลื่อนไหวกันอีกครั้ง เนื่องจาก โคลอสซัสได้รับบาดเจ็บสตอร์ม ที่อยู่ข้างกายเขาย่อมช่วยเหลือและคอยระวังอีกฝ่าย สําหรับสถานการณ์ทั่วไป เธอย่อมปฏิเสธที่จะรับคําสั่งคนนอกแต่ในเมื่อนี้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินการทํางานเป็นทีมย่อมสําคัญที่สุด

 

สตอร์มได้ใช้พลังของเธอสร้างสายฟ้าที่แข็งแกร่งโจมตีไปที่ศัตรูจากระยะไกล เธอได้สนับสนุนเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆในการโจมตีอีกฝ่ายแม้การโจมตีนี้จะเข้าเป้าหมายโดยตรงแต่ราวกับว่าอีกฝ่ายแทบจะไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย

 

หลังจากสตอร์มลงมือ ฮอว์กอาย ได้เริ่มโจมตีมั้ง แม้การโจมตีของเขาจะไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ แต่ลูกธนูของฮอว์กอายก็ยังปักคาร่างกายของคนคนนี้แน่นอนว่าการโจมตีของเขาก็ต้องได้ผลบ้างไม่มากก็น้อย

 

ฟุบ!

 

ลูกธนูของฮอว์กอายที่ถูกยิงออกไปทันทีที่เกือบจะถูกศัตรู เพื่อนคนนี้ก็ได้ยกขวานขึ้นพร้อมกับผ่าลูกธนูนั้นออกเป็นเสี่ยง ๆ

 

การโจมตีดังกล่าวแทบจะทําให้เพื่อนคนนี้ไม่ได้ให้ความสนใจ เขาเริ่มตอบโต้การโจมตีและพุ่งกระโดดเข้าหาคนอื่น ๆ ทันที

 

เห็นสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นบุกโจมตีพวกตนเองแจ็คได้สร้างแส้สีทองหลายเส้นในการหยุดการเคลื่อนไหวอีกฝ่ายแจ็คได้รับบาดเจ็บรุนแรงและรู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่เพราะความอันตรายของเพื่อนคนนี้ทําให้แจ็คต้องสะกดข่มอาการบาดเจ็บและช่วยเหลือคนอื่น ๆ

 

แส้สีทองนั้นมีความยืดหยุ่นมากมันได้รัดกุมแขนขาทั้งสี่ของเป้าหมายและผนึกการเคลื่อนไหวเอาไว้ทําให้เปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆระดมการโจมตีเข้าใส่เป้าหมายอย่างเต็มกําลัง

 

บั้ม 

การโจมตีจํานวนมากได้ถาโถมเข้าใส่สัตว์ประหลาดยักษ์นั่นแต่ว่ามันกลับไม่เป็นอะไรแส้สีทองที่ยึดจับกุมมันไว้เริ่มที่สั่นไหวอย่างรุนแรง

 

“เร็วเข้า!”เพื่อรักษาเสถียรภาพของแส้เวทมนตร์ที่เหลืออยู่ แจ็คตะโกนพูดออกมา

 

ฟุบ!

 

เห็นแจ็คแทบจะไม่สามารถฝืนใช้พลังได้ต่อ เงาร่างสีแดงก็พุ่งตรงไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับใยแมงมุมสีเขียวที่ถูกพ่นออกมา

 

ฟ้าว!

 

ใยแมงมุมที่มีความเหนียมและทนทานได้พันรอบตัวอีกฝ่าย ปีเตอร์ ได้ใช้ทักษะไต่บนร่างกายของสัตว์ประหลาดร่างยักษ์นั้นจนวนรัดพันหลายรอบการประสานงานของปีเตอร์ด้วยใยแมงมุมและแส้เวทมนตร์ของแจ็ค ถือเป็นพันธนาการจับกุมที่เหนี่ยวแน่นที่สุด

 

หลังจากแจ็คและสไปเดอร์แมนลงมือจัดการแขนขาทั้งสี่ของศัตรูจนขยับเขยื้อนไม่ได้ กัปตันโรเจอร์สและแดร์เดวิลที่มาพร้อมกับโล่กัปตันอเมริกาและใบดาบที่ออกมาจากไม้เท้าคลําทางได้พุ่งเข้าหาศัตรูในทันที

 

ตอนที่ 697 โคลอสซัสถูกซัดปลิว

 

ฟูววว

 

สายลมได้พัดพาฝุ่นและกลุ่มควันออกไปเผยให้เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า ณ ตอนนี้

 

“เป็นไปได้ยังไง? เจ้าบ้านั่น มันไม่เป็นอะไรเลย!”สิ่งที่ปีเตอร์รับรู้ก็คืออีกฝ่ายมีพละกําลังที่แข็งแกร่งมากเขาได้ใช้ขวานยักษ์นั่นส่งตัวเองจนบินลอยไปไกล ในตอนนี้ ทั้งปีเตอร์ และ กัปตันโรเจอร์สล้วนตกตะลึงที่เห็นอีกฝ่ายที่ถูกระดมโจมตีกลับไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย

 

ไม่ใช่แค่ปีเตอร์และกัปตันโรเจอร์สเพียงเท่านั้น แม้แต่ แดร์เดวิล และ คนอื่น ๆ ก็รู้สึกตื่นตะลึงโดยสมบูรณ์เมื่อครู่พวกเขาได้ระดมการโจมตีแทบจะเรียกได้ว่าในโลกนี้ไม่มีกองกําลังพันธมิตรไหนที่จะมีประสิทธิภาพโจมที่ร่วมกันรุนแรงได้มากขนาดนี้แล้ว

 

อย่างไรก็ตามร่างโครงกระดูกของอีกฝ่ายราวกับไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน นอกเหนือจากตําแหน่งทรวงอกที่มีลูกธนูปักบาดแผลอื่น ๆ ก็ไม่มีเลยแม้แต่น้อย

 

“ฉันจัดการเอง!”หลังจากฟื้นสติกลับมาได้ โคลอสซัสคํารามออกมา และ พุ่งเข้าใส่ทันที

 

ความสามารถของเขาเป็นความสามารถทางกายภาพที่ใช้ต่อสู้ระยะไกล ธรรมชาติเขาจะต้องพุ่งเข้าใส่ศัตรูและอีกฝ่ายดูเหมือนจะมีค่าพละกําลังทางกายที่สูงน่าจะเป็นสายต่อสู้ระยะประชิดเหมือนกับตัวเอง

 

ฟุบล

 

“ระวังด้วย โคลอสซัส!”เห็นโคลอสซัสวิ่งนําหน้าพวกเขาขึ้นไป สตอร์ม ที่อยู่ไม่ไกล ได้ตะโกนบอก

 

ไม่รู้ว่าสตอร์มเห็นอะไรแต่เธอสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดาเลย เพราะอีกฝ่ายสามารถป้องกันการโจมตีทั้งหมดจากพวกเธอได้โดยไม่เป็นอะไร ลําพังกําลังของโคลอสซัสคนเดียวคงจะไม่สามารถต่อกรอีกฝ่ายได้

 

ปัง!

 

พริบตาต่อมากําปั้นของโคลอสซัสก็พุ่งตรงไปที่หน้าของศัตรูสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็คืออีกฝ่ายได้ยกขวานยักษ์นั่นขึ้นมาป้องกันอย่างง่ายดายทั้งร่างกายยังไม่ได้ผลกระทบแม้แต่น้อยราวกับต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีที่ไม่โอนเอนตามลมตามพายุที่ซัดเข้าหาทันทีที่อีกฝ่ายป้องกันการโจมตีได้ทั้งยังรับได้แบบชิว ๆสีหน้าของทุกคนกลายเป็นบึงตึงอีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงอันตรายที่เสียบแทงหัวใจข้างใน

 

“รับนี่ไปซะ!”เห็นการโจมตีของตนเองไม่ได้ผล โคลอสซัสได้ยกหมัดอีกข้างพุ่งโจมตีตอบโต้ในทันที

 

ปัง!

 

หมัดของโคลอสซัสได้ซัดเข้าหน้าบนใบหน้ายักษ์ของอีกฝ่ายแต่ร่างกายของอีกฝ่ายแข็งแกร่งและหนักหน่วงมากแทบจะไม่มีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ขณะเดียวกันขวานยักษ์ของอีกฝ่ายก็ถูกยกขึ้นมาพร้อมกับเหวี่ยงฟาดไปที่ร่างของโคลอสซัสจนร่างเหล็กของโคลอสซัสบุบและพุ่งบินลอยไปไกล

 

ตุบ

 

ร่างขนาดใหญ่ของโคลอสซัสได้บิดเบี้ยวกลับหัวกลับหาเสียการควบคุมชั่วคราว ตกจากความสูงและความเร็วเช่นนี้ย่อมได้รับบาดเจ็บหนักแน่นอน หากร่างกายของโคลอสซัสเป็นเหมือนคนธรรมดาคาดว่าน่าจะตกตายจากการโจมตีนี้ไปแล้ว

 

“เฮ้…”ปีเตอร์ที่เห็นพี่ใหญ่คนนี้บินมาตกใกล้ตนเอง เขารีบเข้าไปดูอาการทันที

 

“เฮ้,โคลอสซัส นายไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”หลังจากปีเตอร์เข้ามาดูอาการ สตอร์ม เอง ก็ตามมาติดๆเธอจ้องมองไปที่เขาด้วยความกังวล

 

เหตุผลที่เมื่อครู่สตอร์มเดือน โคลอสซัส ก็เพราะ เธอสัมผัสได้ว่าประตูมิติอวกาศนั่นมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างจากนั้นโคลอสซัสก็ถูกซัดโจมตีกลับมาอย่างเสียท่า

 

“แค่ก ๆ ยังไม่ตายหรอกน่า!”โคลอสซัสยก มือกุมหน้าอกของตัวเองและไอออกมาอย่างรุนแรง

 

“ทางที่ดี นายควรจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ระยะประชิดจะดีกว่า!”จ้องมองไปที่โคลอสซัส สตอร์มมีสีหน้าที่ย่าแย่อย่างมาก

 

สถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้เข้าขั้นเรียกได้ว่าย่าแย่อย่างแท้จริง ผู้นําของทีม X-MEN คราวนี้อย่างไอซ์แมน ก็ไม่อยู่ด้วย

 

“ให้ฉันพักฟื้นซักหน่อยน่าจะหายดี…”ได้ยินคําพูดของสตอร์ม โคลอสซัส กล่าวตอบ

 

ก่อนหน้านี้ โคลอสซัสก็เห็นการเปลี่ยนแปลงของประตูมิติอวกาศเหมือนกัน ก่อนที่ตัวเขาจะถูกซัดโจมตีและถูกส่งลอยออกมาตัวเขาเองไม่แปลกใจเลยที่อีกฝ่ายมีพละกําลังที่แข็งแกร่งและซัดตัวเองลอยมาไกลแบบนี้เพราะแม้แต่การโจมตีของทุกคนอีกฝ่ายยังแทบจะเรียกว่าไร้บาดแผล

 

ในเวลานี้ กัปตันโรเจอร์ส และ ทุกคนได้จ้องมองไปที่ ด้านหน้าของประตูมิติอวกาศ นอกเหนือจากสัตว์ประหลาดยักษ์เบื้องหน้าแล้ว พวกเขาหาได้สนใจสัตว์ประหลาดตัวอื่นไม่เพราะเขาเชื่อว่าตัวการสําคัญก็คืออีกฝ่าย

 

ความสามารถทางร่างกายที่แข็งแกร่งมากกว่ามนุษย์พละกําลังที่ยากจะจินตนาการสิ่งเหล่านี้ทําให้พวกกัปตันโรเจอร์สคิดสงสัยทําไมศัตรูที่น่าเกงขามเช่นนี้ถึงมาปรากฏตัวขึ้นที่อารยธรรมที่แสนจะอ่อนแอที่เรียกว่าโลก

 

ตอนที่ 696 ร่วมกําลังกันโจมตี

 

ฟูวว!

 

คลื่นลมที่รุนแรงกวาดไปทั่วสนามรบแห่งนี้ใครกันจะคิดว่าจุดประสงค์เดิมที่มาเพื่อศึกษาค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์จะชักน่าสงครามที่อันตรายแบบนี้มาให้

 

การปรากฏตัวขึ้นของสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ขนาดยักษ์ได้สะกดสายตาของทุกผู้คน แฮร์รี่สตอร์มและคนอื่นๆ ที่จัดการสัตว์ประหลาดตนอื่นอยู่ได้สังเกตุเห็นตัวตนแห่งภัยพิบัติที่กําลังเผชิญหน้ากับกัปตันโรเจอร์ส

 

ปัง !

 

เพียงพริบตาเดียวเบื้องหน้าสายตาของเขาเงาร่างของคนสองคนได้ถูกซัดกระเด็นลอยไปไกลเห็นได้ชัดว่าเจ้าของหนึ่งในเงาร่างนี้เป็นใคร เขาก็คือ กัปตันโรเจอร์ส ที่ถูกขวานยักษ์นั่นซัดโจมตีมาแม้เขาจะป้องกันด้วย โล่แต่ก็ได้รับบาดเจ็บหนัก

 

ส่วนเจ้าของเงาร่างอีกเงาก็คือปีเตอร์สไปเดอร์แมนสีหน้าของเขาตอนนี้ย่าแย่มาก เมื่อครู่สัญชาตญาณแมงมุมของเขาร้องเตือนให้รีบไปช่วยเหลือกัปตันโรเจอร์สดังนั้นเมื่อครู่เขาจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือกัปตันจนถูกซัดกระเด็นลอยมาไกลหากไม่ได้สไปเดอร์แมนช่วยกัปตันโรเจอร์สคงไม่ใช่เพียงแค่ได้รับบาดเจ็บหนักอย่างแน่นอน

 

“แค่ก!”กัปตันโรเจอร์สไอออกมาเป็นเลือดเขาได้ถ่มน้ําลายทิ้งทันที

 

จ้องมองไปที่ศัตรูที่สวมชุดเกราะโครงกระดูกทั้งตัวกัปตันโรเจอร์สรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากหากไม่ได้การช่วยเหลือจากแจ็คและสไปเดอร์แมนเขาคงจะถูกฆ่าไปแล้วสองรอบ เขาเองก็ไม่รู้ว่าทําไมอีกฝ่ายถึงโจมตีตนเองทั้งที่เขาพยายามจะสื่อสารด้วย แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะญาติดีเช่นนั้นท่าให้ผลที่ตามมาไม่เป็น อย่างที่เขาคิด

 

เห็นสถานการณ์ทางด้านกัปตันโรเจอร์สไม่ค่อยดี คนอื่น ๆ นอกเหนือจากเขาพยายามรีบกําจัดและละทิ้งศึกในการจัดการสัตว์ประหลาดเหล่านั้นและรีบมาช่วยเหลือกัปตันโรเจอร์ส

 

จากนั้นนอกเหนือจาก กัปตันโรเจอร์ส สไปเดอร์แมน ที่ถูกส่งลอยไปไกล คนอื่น ๆ ได้มายืนหน้าประตูมิติอวกาศทุกคนสัตว์ประหลาดเบื้องหน้านี้ร้ายกาจเกินไปมันไม่ใช่สิ่งที่กําลังของคนคนเดียวจะสามารถต่อกรได้

 

ฟุบ!

 

ฮอว์กอายได้ซุ่มยิงอีกฝ่ายจากระยะไกลด้วยลูกศรของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เผชิญหน้ากับตัวตนจาการอารยธรรมอื่นที่เป็นมนุษย์ต่างดาว

 

นอกเหนือจากฮอว์กอายแล้ว ฟอลคอน และ คนอื่น ๆ ก็ทําเช่นเดียวกัน แต่การโจมตีเหล่านี้มีผลประสิทธิภาพเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ศัตรูมีร่างกายที่แข็งแกร่งกระทั่งอาจจะเหนือกว่าฮัลค์ด้วยซ้ำปัจจุบันทั้งองค์กร S.H.I.E.L.D. ทีมอเวนเจอร์ส ทีม X-MEN และทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้ร่วมผนึกกําลังกันโจมตี

 

บึม!

 

เปลวเพลิงได้เผาไหม้พื้นที่รอบ ๆ ประตูมิติอวกาศจนปกคลุมไปทั่วร่างของสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์

 

ในขณะที่เปลวเพลิงกําลังลุกไหม้ลงไม่มีใครรู้ว่าสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์นั้นยังคงไม่ได้ถูกกําจัดมันยังคงยืนอยู่ภายในน

 

สิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์นี้ได้เข้าโจมตีทุกคนที่อยู่ใกล้ ซึ่งแดร์เดวิลได้ตกเป็นเป้าหมาย ด้วยพละกําลังความเร็วที่แตกต่างเป็นไปไม่ได้ที่แดร์เดวิลจะหลบหลักได้ทัน โชคดีที่สนามรบมีการช่วยเหลือของสไปเดอร์แมนอยู่ ทําให้พวกเขาสามารถหลบหลีกการโจมตีได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

 

“สไปเดอร์แมน นายไม่เป็นอะไรนะ!”เห็นสไปเดอร์แมนช่วยเหลือตนเอง แดร์เดวิล กล่าวถามอีกฝ่ายเพราะก่อนหน้านี้ สไปเดอร์แมนได้ถูกซัดกระเด็นไปไกล

 

“ไม่เป็นไรฉันยังสู้ไหว!”ปีเตอร์สะกดข่มอาการบาดเจ็บของตนเอง และกล่าวตอบในใจของเขายังรู้สึกยินดีอยู่ไม่น้อยเพราะตนเองได้ช่วยเหลือวีรบุรุษของโลกอย่างกัปตันอเมริกาเอาไว้ได้

 

ได้ยินคําตอบของสไปเดอร์แมนแดร์เดวิลได้หันไปหากัปตันโรเจอร์สที่อยู่ด้านข้าง

 

สถานการณ์ในตอนนี้ย่าแย่อย่างมากพวกเขาเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด

 

“กัปตัน,คุณโอเคมั้ย?”แดร์เดวิลกล่าวถามอาการของกัปตันโรเจอร์ส เขารู้ดีว่าพละกําลังร่างกายของกัปตันโรเจอร์สแข็งแกร่งขนาดไหนแต่ศัตรูนั้นมีพละกําลังมหาศาลอย่างแท้จริง

 

“ฉันคิดว่าซีโครงน่าจะหักสองสามซี!”ได้ยินคําถามของ แดร์เดวิล กัปดันโรเจอร์ส ตอบกลับทันที

 

โชคดีที่ร่างกายของกัปตันโรเจอร์สแข็งแกร่ง ซี่โครงสองสามซี่ย่อมไม่ได้สร้างอาการบาดเจ็บให้กับเขามากนักแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามามัวคิดเรื่องนี้ พวกเขากําลังตกอยู่ในอันตราย

 

“พวกมันเป็นใครกัน? ทําไมถึงปรากฏตัวขึ้นและจู่โจมพวกเรา?”ปีเตอร์กล่าวถามอย่างสงสัยอีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้นและโจมตีกัปตันโรเจอร์สอย่างไร้เหตุผล

 

ได้ยินคําถามของสไปเดอร์แมนแน่นอนว่าทั้งกัปตันโรเจอร์สและแดร์เดวิลไม่รู้จะตอบอย่างไรดีเดิมคําถามพวกนี้มันก็อยู่ในใจของพวกเขาแม้แต่ตัวพวกเขาเองยังไม่รู้คําตอบเลยขณะที่พวกเขากําลังครุ่นคิดจู่ ๆ เงาร่างขนาดใหญ่ก็ปรากฏออกมาจากกองเพลิงอีกครั้งสีหน้าของพวกเขาเผยให้เห็นใบหน้าแห่งความกังวล

 

ตอนที่ 695 โจมตีกระทัน

 

หลังจากที่แดร์เดวิลเห็นเงาร่างของคนตัวใหญ่ผ่านประตูมิติอวกาศออกมา เช่นเดียวกัน กัปตันโรเจอร์ส บลิงก์ และ แจ็ค ก็เห็นอย่างแน่นอน ทั้งพวกเขายังอยู่ใกล้มากที่สุด แต่ก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อนเพียงหยั่งเชิงกันเท่านั้น

 

ฟุบ!

 

ภายใต้สายตาการจ้องมองของคนหลายคนเงาร่างของคนตัวใหญ่ได้เดินออกมาจากประตูมิติอวกาศจนเผยให้เห็นรูปลักษณ์อย่างสมบูรณ์ ลักษณะของคนคนนี้มีขนาดใหญ่โตมากกว่า โคลอสซัส และ สัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์ที่โคลอสซัสกําลังต่อสู้อยู่ รูปร่างของเขาสูงใหญ่บนหัวสวมด้วยหมวกที่เป็นรูปลักษณะของโครงกระดูกผิวหนังของเขาแลดูน่ากลัวทั้งยังมีหนามที่แปลมคมปรากฏออกมามากมายด้านหลังของเขาคืออาวุธศึกขนาดใหญ่ขวานที่มีขนาดใหญ่ไม่น้อยไปกว่าร่างกายของเขา

 

เพียงแต่การแต่งตัวของเพื่อนคนนี้คล้ายกับมนุษย์โลกทั้งรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายก็แทบไม่ต่างไปจากมนุษย์ ยกเว้นร่างกายที่เต็มไปด้วยผิวสีเทาเข้ม หน้าตาอันอัปลักษณ์และลักษณะอันป่าเถื่อนของสัญชาตญาณสัตว์ร้าย

 

หลังจากออกมาจากประตูมิติอวกาศคนคนนี้ก็จ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดจํานวนมากที่ถูกฆ่าตาย ภายใต้สายตาของเขา เขาได้กวาดผ่านไปทั่วทุกคน แต่ก็ไม่ได้ลงมืออะไร จนในที่สุดสายตาของเขาก็สะดุดเข้ากับ กัปตันโรเจอร์ส บลิงก์ และ แจ็คสัน

 

” @ #% & ; @% # * & ; … “จ้องมองไปที่ทั้งสามคนเพื่อนตัวใหญ่คนนี้ได้เปิดเปลือกปากที่เหี่ยวเฉาและพูดอะไรบางอย่างที่พวกเขาไม่สามารถฟังออก

 

ได้ยินเพื่อนมนุษย์ต่างดาวคนนี้เปิดปากพูด พวกกัปตันโรเจอร์ส จ้องมองไปที่อีกฝ่ายด้วยดวงตาที่เป็นประกาย ปัจจุบัน พวกเขาไม่เข้าใจว่าเพื่อนคนนี้ต้องการจะสื่ออะไร แต่ถ้าอารยธรรมทั้งสองสามารถแลกเปลี่ยน พูดคุยกันได้บางที่อาจจะสามารถหลีกเลี่ยงสงครามในครั้งนี้

 

“ฉันไม่เข้าใจว่าคุณพูดอะไร แต่อย่างไรก็ตาม คุณจะสามารถช่วยหยุดการโจมตีจากเหล่าสัตว์ประหลาด พวกนี้ก่อนได้หรือไม่?”กัปตันโรเจอร์สพูดพร้อมกับทําสัญลักษณ์มือเชิงบอก

 

แม้ว่าโลกนี้ภาษาพูดจะมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่การสื่อสารโดยใช้ภาษามือมักจะได้รับการยกเว้น ดังนั้น กัปตันโรเจอร์สจึงเชื่อว่าตราบเท่าที่อีกฝ่ายไม่ใช่คนโง่ ย่อมสามารถเข้าใจเจตนารมณ์ที่เขาต้องการจะสื่อได้

 

หลังจากที่กัปตันโรเจอร์สเปิดปากพูดอีกฝ่ายเพียงจ้องมองมาที่เขาทั้งยังไม่ได้ตอบสนองอะไร

 

ในช่วงที่กัปตันโรเจอร์สรู้สึกผ่อนคลายจิตใจจนคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเข้าใจเจตนารมณ์ที่ตนเองต้องการจะสื่อ จู่ ๆ อาวุธด้านหลังของคนร่างยักษ์คนนั้นก็ถูกหยิบออกมาทั้งพุ่งโจมตีไปที่กัปตันโรเจอร์สให้ทนที่

 

เห็นขวานของศัตรูพุ่งเข้ามาที่ด้านหน้ากัปตันโรเจอร์สยกโล่ของตนเองขึ้นมาป้องกันอย่างรวดเร็ว

 

“เวรเอ้ย!”จ้องมองไปที่ขวานยักษ์ที่พุ่งเข้าหาตนเองแม้กัปตันโรเจอร์สจะยกโล่ขึ้นมาป้องกันอย่างรวดเร็วแต่เขาเชื่อว่าการตอบสนองของเขาย่อมไม่เพียงพอ

 

ทันทีที่นั่นเกือบจะกระทบถูกโล่ของกัปตันโรเจอร์ส จู่ ๆ บาเรียสีทองก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเขา ดูเหมือน แจ็คจะลงมืออย่างรวดเร็สพร้อมกับสร้างบาเรียเวทมนตร์เพื่อปกป้องกัปตันโรเจอร์ส

 

เพียงพริบตาเดียวโล่สีทองที่แจ็คสร้างขึ้นกลับสามารถถูกทําลายได้อย่างง่ายดายมันไม่สามารถหยุดการโจมตีของขวานยักษ์นั้นได้

 

เห็นโล่สีทองของตนเองแตกสลายลงคลื่นพลังเหล่านั้นได้ส่งผลให้กัปตันโรเจอร์สกระเด็นถอยไป แม้การป้องกันของตนเองจะถูกทําลายอย่างน้อยเขาก็ยังสามารถช่วยเหลือกัปตันโรเจอร์สเอาไว้ได้

 

“เกือบไปแล้ว!”เห็นโล่สีทองที่ปกป้องตนเองถูกทําลายกัปตันโรเจอร์สกลืนน้ําลายอย่างหนักหน่วงเมื่อครู่นี้ แม้เขาจะยกโล่ขึ้นมาได้ทันแต่หากถูกการโจมตีนั่นเข้าไปเขาจะต้องถูกสับทะลุหน้าอกอย่างแน่นอน

 

คลื่นแรงหวดอันทรงพลังของขวานยักษ์นั่นสร้างกระแสลมที่ปั่นป่วนไปทั่วสนามรบจนแม้แต่คนที่อยู่ห่างไกลก็ยังสามารถสัมผัสได้

 

กัปตันโรเจอร์สได้ถอยร่นออกไปยังตําแหน่งที่อยู่ไม่ไกลจากอีกฝ่ายก่อนที่สายตาของเขาจะจดจ้องการเคลื่อนไหวของศัตรูอย่างไม่ละสายตา

 

ตอนที่ 694 สิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์

 

ความรู้สึกไม่สบายใจได้แพร่กระจายไปทั่วหัวใจของกัปตันโรเจอร์ศเขาได้โบกมือออกคําสั่งอย่างเต็มที่”จัดการพวกนี้อย่าให้เหลือ เราจําเป็นจะต้องปิดกั้นภูมิภาคแห่งนี้!”

 

ไม่ว่าประตูมิติอวกาศจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม กัปตันโรเจอร์ส ตั้งใจจะปิดกั้นพื้นที่ภูมิภาคแห่งนี้ สัตว์ประหลาดจํานวนมาก ได้เริ่มถูกจัดการลงอย่างรวดเร็ว ภายใต้การร่วมมือกันระหว่าง S.H.I.E.L.D. ทีม X-MEN และ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ ด้วยขุมกําลังระดับนี้พวกเขาสามารถปิดกันที่นี่ได้อย่างสมบูรณ์หากมีอะไรเกิดขึ้นพวกเขาก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

 

หลังจากที่กัปตันโรเจอร์สออกค่าสั่งจัดการสัตว์ประหลาดพวกนี้ทั้งหมด แดร์เดวิล และ คนอื่น ๆ ก็เริ่มลงมืออย่างจริงจัง ทีมX-MEN เองก็เข้าร่วมต่อสู้ การจัดการปัญหาของพวกเขาแทบจะไม่ได้เป็นรององค์กร S.H.I.E.L.D. เลย

 

สําหรับ แจ็ค และ บลิงก์ พวกเขาทั้งคู่ อยู่ใกล้ประตูมิติอวกาศมากที่สุด เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประตูมิติอวกาศพวกเขาตัดสินใจที่จะเป็นทัพหลังเฝ้าอยู่ที่นี่

 

นอกเหนือจาก กัปตันโรเจอร์ส แจ็ค และ บลิ้งก์ สามคน ที่เฝ้าอยู่ทัพหลัง สมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ คนอื่น ๆ แดร์เดวิล และ แฮร์รี่ ได้ปกป้องเช่นทางด้านหน้า โชคดีที่สัตว์ประหลาดเหล่านี้ไม่ได้แข็งแกร่งมาก พวกเขาจึงจัดการได้อย่างง่ายดาย ทางด้านทีม X-MEN สตอร์ม และ โคลอสซัส พวกเขาได้ปกป้องเส้นทา งด้านหลังเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ประหลาดพวกนี้หนีไป นอกเหนือจากนี้ยังมี ฮอว์กอาย และ ฟอลคอน คอยสังเกตุการณ์ศัตรูและสนับสนุน

 

ฟุบ!

 

จากนั้นไม่นานก็มีสัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์ปรากฏตัวขึ้นขนาดของมันใหญ่อย่างมากพละกําลังและความแข็งแกร่งของมันเองก็ไม่ธรรมดามันได้จัดการสมาชิกทีม S.H.I.E.L.D. ไป และ มุ่งหน้าไปยังทิศทางของ โคลอสซัส

 

โคลอสซัส จ้องมองไปยังทิศทางของ สัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์ตนนี้ เขาต้องการเผชิญหน้ากับมันจนสั่งให้ สตอร์มถอยออกไป ธรรมชาติศัตรูที่มีพละกําลังทางกายจะมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งหน้าที่นี้มันเหมาะกับเขาที่มีความสามารถทางกายมากกว่า

 

ฟุบ!

 

“แดร์เดวิล ยังติดต่อมิราจไนท์ไม่ได้อีกหรอ?”ขณะที่แฮร์รี่ไล่ยิงพวกสัตว์ประหลาดเหล่านี้โดยใช้อาวุธปืนบนเครื่องร่อน เขาก็กล่าวถาม แดร์เดวิล

 

แฮร์รี่ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้เพราะต้องการช่วยเหลือแจ็คสัน แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะต้องมารับศึกหนักกับการเผชิญหน้าพวกสัตว์ประหลาดจํานวนมาก โชคดีที่ร่างกายของแฮร์รี่ แข็งแกร่งเพราะยายนพิเศษ และ เพราะมีเทคโนโลยีชุดเกราะจากออสคอร์ปทําให้แฮร์รี่สามารถร่วมศึกต่อสู้ในครั้งนี้ได้

 

“ฉันไม่สามารถติดต่อหาเขาได้ อย่างไรก็ตามฉันให้ เจอร์รี่ ตรวจสอบตําแหน่งของมิราจไนท์แล้วทั้งยังให้ J.A.R.V.I.S ไอรอนแมน ตรวจสอบเพิ่มด้วยอีกคน”แดร์เดวิลตอบกลับคําถาม

 

การที่มิราจไนท์หายตัวไป แดร์เดวิล ก็ชักเริ่มเป็นกังวลเหมือนกัน

 

“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย! แม้ว่าสัตว์ประหลาดพวกนี้จะไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่ทันที่ที่มิราจไนท์จากไปไม่นาน พวกมันก็ปรากฏตัวขึ้นราวกับมีจุดประสงค์บางอย่าง!”

 

“นายจะบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นเพราะการจากไปของมิราจไนท์งั้นหรอ?”แดร์เดวิลได้จัดการสัตว์ประหลาดสองตัวก่อนที่จะกล่าวตอบกลับแฮร์รี่ ในปัจจุบันเขาก็ชักสงสัยแล้วว่ามิราจไนท์มีความลับอะไรกันแน่ มีเรื่องหลายอย่างที่เขาไม่รู้เกี่ยวกับอีกฝ่ายมากเกินไป

 

“ไม่…คงไม่ใช่แบบนั้น เขาคงไม่ใช่ตัวซวยเหมือนเดดพูล!”แดร์เดวิลพึมพัมในใจ

 

ในสายตาของเขามองเห็นเงาร่างบางอย่างออกมาจากประตูมิติอวกาศคราวนี้ประตูมิติอวกาศได้ส่งคลื่นความผันผวนรุนแรงมากกว่าเดิมทั้งยังส่งผลให้พวกเขารู้สึกกดดันอย่างมาก

 

คราวนี้ในประตูมิติอวกาศได้ปรากฏสัตว์ประหลาดในสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์

 

หลังจากที่ ทีมX-MEN ค้นพบ ประตูมิติอวกาศนี้ จนถึงตอนนี้เวลาล่วงเลยผ่านไปราว 10 ชั่วโมง ความเสถียรภาพของประตูมิติอวกาศยังอยู่ดีแต่สิ่งที่ต่างออกไปคือการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดพวกนี้

 

แต่คนที่เสี่ยงมากที่สุดก็คือ ดร.แบนเนอร์ ที่อยู่ข้างในนั้น เขาได้ถูกส่งออกไปยังต่างโลกเป็นโลกที่เต็มไปด้วยท้องฟ้าและดวงดาว ตอนนี้ไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้ ทั้งยังต้องพัวพันจัดการสัตว์ประหลาดพวกนี้อีก หากในสถานที่แห่งนี้ ไม่มีขุมกําลังพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่อย่างเช่น S.H.I.E.L.D. ทีมX-MEN และ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ สถานที่แห่งนี้คงถูกทําลายไปแล้วอย่างแน่นอน

 

แต่อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกพวกมันน่าจะมาจากต่างดาว ในปัจจุบันพวกมันราวกับสัตว์ป่าดุร้ายที่น่าหวาดกลัว หากโลกไม่พัฒนาอารยธรรมให้แข็งแกร่งมากขึ้น ในอนาคตโลก คงไม่พ้น ชะตาจากการถูกทําลาย

 

ตอนที่ 693 ฝูงสัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวอย่างกระทันหัน

 

หลังจากตกลงกันได้แล้วว่าจะทําอย่างไรเพื่อพิสูจน์เวลาผ่านไปไม่นานแจ็คสันได้นั่งรอฟื้นคืนพลังจิตของตนเองให้กลับมาเหมือนเดิม คราวนี้เขาตั้งใจจะจับคลื่นความผันผวนนั้นและระบุตําแหน่งของมันให้ได้ ไม่นาน แจ็คสันก็หลับตาลงอีกครั้งพร้อมกับปล่อยพลังจิตให้แล่นผ่านออกไปยังพื้นที่โดยรอบ โดยมี ไอซ์แมนคอยเฝ้าระวังให้

 

ฟุบ!

 

ขณะที่แจ็คสันเร่งระดับพลังจิตถึงขีดสุด ไอซ์แมน ก็เปิดพื้นที่อาณาเขตเยือกแข็งของตนเองเหมือนกัน

 

ฟูววว!

 

ไม่นาน ห่างไม่ไกลจากพวกเขา คลื่นความผันผวนบางอย่างก็ได้เริ่มปรากฏขึ้นภายใต้การรุกรานของแจ็คสัน มันได้ปล่อยคลื่นพลังโจมตีสวนกลับออกมา

 

“….”เห็นระลอกคลื่นพลังงานสีฟ้าถูกปล่อยออกมายังตําแหน่งของพวกเขาอย่างกระทันหัน ไอซ์แมน จ้องมองไปที่มันด้วยยความตกใจ ผลกระทบของคลื่นความผันผวนนี้แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะป้องกัน

 

“ในที่สุดก็เผยตําแหน่งออกมา! ไอซ์แมน ต้องพึ่งคุณในการป้องกันแล้ว!”เห็นไอซ์แมนเตรียมพร้อม แจ็คสัน ได้กล่าวพูดออกมาอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน คลื่นความผันผวนนี้แข็งแกร่งมาก แจ็คสัน รู้ว่า ท่าป้องกัน ของไอซ์แมนนั้นสามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้

 

ฟุบ!

 

ได้ยินคําพูดของไอซ์แมน ผลึกเยือกแข็งรอบตัวของไอซ์แมนได้หนาขึ้นก่อนที่อุณหภูมิโดยรอบจะลดตัวลงจนก่อสร้างบาเรียน้ําแข็งขึ้นมาล้อมรอบ ไอซ์แมน และ มิราจไนท์อยู่ด้านใน

 

เห็นบาเรียนแข็งของไอซ์แมนปกคลุมไปรอบพื้นที่ที่ตัวเองอยู่ แจ็คสันเตรียมพร้อมที่จะรับแรงปะทะจากการโจมตีของคลื่นพลังนี้

 

เปรี้ยง!

 

เพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ บาเรียกําแพงน้ําแข็งของตนเองก็ได้แตกลงอย่างรวดเร็วทั้งมันยังคงพุ่งทําลายอย่างไม่หยุดยั้ง ไอซ์แมนได้พยายามสร้างกําแพงน้ําแข็งหนาหลายชั้นในการทบมันเพื่อต้านทานการโจมตีจนเขารู้ว่ามันใกล้จะเกินขีดจํากัดตนเองแล้ว

 

“ฉันต้านมันไว้ไม่อยู่แน่! มิราจไนท์ คุณต้องทําอะไรสักอย่างแล้ว!”เห็นกําแพงบาเรียนแข็งของตนเองถูกละลายอย่างต่อเนื่อง ไอซ์แมนตะโกนบอก มิราจไนท์

 

ฟุบ!

 

ทันทีที่ไอซ์แมนตะโกนออกมาชั้นน้ําแข็งด่านปราการสุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานคลื่นพลังนั้นได้อีกมันได้พุ่งเข้าหาพวกแจ็คสันโดยตรง

 

“คุณจะทําอะไรต้องรีบทําแล้วตอนนี้”เห็นชั้นน้ําแข็งหายไป ไอซ์แมน พึมพัมออกมาอย่างกังวลตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่สาบาก

 

ขณะเดียวกันแจ็คสันก็ได้หยิบดาบสปิริตซอร์ดของตนเองออกมาพร้อมกับแสงสีฟ้าที่ทอประกายบนใบดาบ เห็นกําแพงน้ําแข็งของไอซ์แมนถูกทําลายแจ็คสันได้รวบรวมคลื่นพลังและปลดปล่อยมันออกไป

 

“หายไปซะ!”แจ็คสันตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง

 

ฟรึบ!

 

คลื่นพลังของแจ็คสันได้สั่นสะเทือนคลื่นพลังความผันผวนเหล่านั้นจนทําลายมันได้ไปในที่สุดหลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์วิกฤติในตอนนี้ไป แขนขาของไอซ์แมนก็รู้สึกสั่นสะท้าน ในปัจจุบันร่างกายชั้นน้ําแข็งของเขาได้ ลอกแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เนื่องเพราะเขาฝืนใช้พลังมากเกินไป

 

ในขณะที่ แจ็คสัน และ ไอซ์แมน พบเหตุการณ์ฉุกเฉินในสถานที่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรในฐานของ S.H.I.E.L.D. ในปัจจุบันมีการระเบิดขึ้นภายในฐาน

 

ดูเหมือนว่าภายในฐานเองก็จะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นเหมือนกัน

 

ภายในฐานลำแสงของปืนเลเซอร์จํานวนมากได้ถูกยิงออกไปยังรูปแบบสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์

 

“บ้าเอ้ย! พวกมันเร็วเกินไป ติดต่อทีม S ส่งพวกเขาไปป้องกันพื้นเอเรียที่ 8 กับ 9 !”เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตลึกลบ กัปตันโรเจอร์ส กล่าวบอก ทีม K

 

“ครับ,กัปตัน!”

 

“คนที่เหลือมากับฉัน พวกเราจะต้องปิดกั้นพวกมัน!”

 

ทีม K รับฟังคําสั่งของ กัปตันโรเจอร์ส พร้อมกับติดตามกัปตันโรเจอร์สไปอย่างรวดเร็ว

 

เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วมากเมื่อไม่นานนี้ประตูมิติอวกาศได้ส่งคลื่นความผันผวนพิเศษบางอย่างออกมาจากนั้นก็มีสิ่งมีชีวิตลึกลับปรากฏตัวออกมาบุกโจมตีฐานของ S.H.I.E.L.D. ในทันที

 

โชคดีที่ ที่แห่งนี้ได้มีเหล่าผู้คนที่แข็งแกร่งจํานวนมากภายใต้สถานการณ์ที่ยากลําบากเช่นนี้พวกเขายังสามารถรับมือกับพวกมันได้

 

ปัง!

 

โล่ของกัปตันโรเจอร์สได้ถูกขว้างปาออกไปมันได้กระทบไปยังส่วนหัวของสัตว์ประหลาดเหล่านี้ สัตว์ประหลาดเหล่านี้มีรูปร่างเหมือนสุนัขแต่ตัวของมันกลับใหญ่กว่าและมีพละกําลังความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ

 

เผชิญหน้ากับการโจมตีของสัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่งเหล่านี้ พวกเขาได้พยายามปกป้องฐานแห่งนี้อย่างเต็มกําลัง แม้ว่าจะสามารถฆ่าพวกมันไปได้มาก แต่จํานวนของพวกมันราวกับไม่ได้ลดลงเลย

 

“เกิดอะไรขึ้นกับประตูมิติอวกาศกันแน่! แล้ว ดร.แบนเนอร์ จะเป็นยังไงบ้าง?”กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศอย่างกังวลใจ

 

จู่ ๆ ก็มีสัตว์ประหลาดเหล่านี้โผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้มาโจมตีฐานแห่งนี้และพยายามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประตูมิติอวกาศ กัปดันโรเจอร์สกังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นภายในนั้น

 

ตอนที่ 692 การเชื่อมต่อทั้งหมดถูกตัดขาด

 

ไอซ์แมนจ้องมองไปที่พื้นที่โดยรอบและสังเกตุความผิดปกติ

 

“เป็นไปไม่ได้ ถ้าพวกเราตกอยู่ในพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นจริง พวกเราจะอยู่รอดปลอดภัยจนถึงตอนนี้ได้อย่างไร?”ไอซ์แมนกล่าวถามออกมา

 

มิติอวกาศปิดกั้นคือหลักการทํางานของมิติอย่างหนึ่ง ตอนนี้ในทีมของพวกเขา บลิงก์ แม้ตอนนี้เธอจะสามารถใช้ได้เพียงแค่เชื่อมต่อพื้นที่มิติอวกาศและเปิดประตูไปสู่อีกมิติได้ แต่ในอนาคตเธอย่อมสามารถสร้างพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นได้ ยังมีอีกกลุ่มคนที่สามารถใช้สิ่งเหล่านี้ได้ พวกนั้นก็คือเหล่าพ่อมดธรรมชาติ พวกพ่อมดเหล่านี้สามารถบิดเบือนและเรียกมิติอวกาศปิดกั้นนี้ว่าโลกมิติกระจก

 

ดังนั้นไอซ์แมนจึงรู้รายละเอียดความสามารถของพื้นที่มิติออวกาศปิดกั้นดี หากมันเป็นอย่างที่มิราจไนท์บอกจริง ๆ สถานที่แห่งนี้จะต้องไม่ปลอดภัยอย่างแน่นอน แม้ ตัวเขา กับมิราจไนท์ จะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานคลื่นความผันผวนของมิติอวกาสปิดกันได้

 

“หากมันคือมิติอวกาศปิดกั้นจริง พวกเราคงจะถูกแรงอัดของมิติอวกาศกดทับไปแล้วไม่มีทางที่พวกเราจะอยู่รอดปลอดภัยอย่างแน่นอน”ไอซ์แมนยังคงยืนยันค่าเดิม

 

“ฉันรู้ว่าคุณไม่เชื่อฉัน ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน แต่นี่คือความจริง ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่แปลกคือทําไม เราถึงเข้ามายังพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นได้ ? หรือว่ามันจะเป็นเพราะลูกบาศก์เวทมนตร์?”แจ็คสันขมวดคิ้วแน่นกล่าวตอบ

 

เหตุผลที่แจ็คสันสรุปเช่นนี้เป็นเพราะครึ่งชั่วโมงก่อนอหน้าเขาใช้พลังจิตในการสแกนพื้นที่บริเวณแถบนี้อย่างระวังธรรมชาติมันย่อมดูดกลืนพลังงานทางจิตของเขาอย่างมหาศาลแม้จะสูญเสียพลังงานทางจิตไปมาก แต่แจ็คสันก็ตระหนักได้ถึงความผันผวนที่รุนแรงของพื้นที่จาง ๆ มันได้ถูกซ่อนอยู่ในแต่ละตําแหน่งของภูมิภาคแห่งนี้

แต่ในขณะที่เขาค้นพบ เขากลับไม่สามารถตรวจสอบบริเวณนั้นได้ นั่นเป็นเหตุผลที่แจ็คสันสรุปได้ว่าตนเองหลุดเข้าไปในพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นทําให้ไม่สามารถตรวจจับหาคลื่นพลังงานความผันผวนที่ว่านี้ได้อย่างชัดเจน

 

“คุณบอกว่านี่เป็นผลมาจากพลังของลูกบาศก์เวทมนตร์งั้นหรอ?เช่นนั้นคุณพบลูกบาศก์เวทมนตร์แล้วหรือไม่?”ไอซ์แมนกล่าวถาม

 

เขาเลิกสนใจที่ว่าตอนนี้ตนเองหลุดเข้ามาในพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นจริงหรือไม่เขาได้มุ่งเน้นคําถามไปที่ลูกบาศก์เวทมนตร์

 

“ยัง…”แจ็คสันตอบกลับอย่างงุ่มง่าม

 

แจ็คสันได้ค้นพบสถานที่แปลก ๆ ในพื้นที่แห่งนี้อย่างแท้จริง แต่เขาไม่สามารถวิเคราะห์พื้นที่ความผันผวน และตรวจจับมันได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทําให้เขาติดแหง็กอยู่แบบนี้และไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้

 

“ไม่ใช่ว่าคุณยังไม่สามารถยืนยันอะไรได้เลยไม่ใช่หรอ? แม้เราจะอยู่ในพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นจริง แต่พื้นที่แห่งนี้ก็ราวกับว่าไม่มีอะไรส่งผลกระทบต่อเรา”ได้ยินคําตอบของมิราจไนท์ ไอซ์แมน กล่าวตอบ

 

“ก็จริง! แต่พวกเราก็เข้าใกล้ความเป็นจริงแล้วอีกก้าว แม้ในตอนนี้พวกเราจะยังไม่พบลูกบาศก์เวทมนตร์ แต่ฉันมีลางสังหรณ์ว่าลูกบาศก์เวทมนตร์อาจจะอยู่แถว ๆ นี้ก็เป็นได้”แจ็คสันตอบกลับ

 

อันที่จริงเขารู้ว่าไอซ์แมนไม่สบายใจกับสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกไป แต่มันคือความจริง นอกจากนี้ลางสังหรณ์ที่เขาหมายถึง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันอยู่ตรงไหน

 

แต่เขารู้ดีว่าในไม่ช่า ลูกบาศก์เวทมนตร์จะต้องปรากฏขึ้น เนื่องจากพื้นที่ความผันผวนแปลก ๆ ที่เขาสัมผัสได้นี้ มันจะดีมากหากเขาพบมันโดยเร็ว

 

“ลางสังหรณ์ ? ฉันเองก็เคยรู้จัก มิวแทนท์ ที่มีความสามารถในการทํานายออนาคต แต่จริง ๆ แล้วสิ่งเหล่านั้นก็ไม่ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไป”ไอซ์แมนแสดงความคิดเห็น

 

“ก็จริง เอาเถถอะ ยังไงสภาพแวดล้อมที่นี่ก็เหมาะกับคุณมากที่สุด หากที่นี่คือพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นจริง ความสามารถของคุณถือเป็นจุดแข็งในการพาพวกเราออกจากที่นี่!”แจ็คสันตอบกลับ

 

ฟุบ!

 

ได้ยินคําพูดของมิราจไนท์ ไอซ์แมนเพียงพยักหน้าตอบรับ

 

“J.A.R.V.I.S, นายตรวจพบอะไรไหม?”ขณะที่นั่งลงบนพื้นที่หิมะ แจ็คสันได้ กล่าวถามหา J.A.R.V.I.S, เป็นระยะเวลากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ที่แจ็คสันได้ปลดปล่อยพลังจิตออกมา และ หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงตอบรับจาก J.A.R.VI.S, เลย

 

แม้ว่า J.A.R.V.I.S, จะไม่สามารถวิเคราะห์หรือตรวจพบสถานการณ์อะไร เขาก็น่าจะตอบกลับทันทีที่ได้ยินคําถาม

 

“หืม?การเชื่อมต่อถูกตัดขาดงั้นหรอ? ทางด้านที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ และ ก็ S.H.I.E.L.D. “แจ็คสันค้นพบว่าการเชื่อมต่อของเขาถูกตัดขาด

 

“ไอซ์แมน คุณสามารถติดต่อ ที่มX-MEN หรือ S.H.I.E.L.D. ได้หรือไม่?”แจ็คสันกล่าวถามไอซ์แมน

 

“ทําไมจะ….หืม? ไม่มีสัญญาณงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของมิราจไนท์ ไอซ์แมนได้พยายามลองติดต่อดูแต่ก็พบว่าสัญญาณถูกตัดขาดเหมือนกัน

 

“พวกเราถูกตัดขาดสัญญาณ ดูเหมือนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่จริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นมันเพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้!”แจ็คสันพยายามติดต่อ J.A.R.V.I.S แต่ก็ได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม

 

ตอนที่ 691 มิติอวกาศปิดกั้น

 

ดร.แบนเนอร์ยังปลอดภัยดีอยู่!”หลังจากเห็นข้อมูลและหุ่นยนต์ไร้คนขับที่กลับมา กัปตันโรเจอร์สตะโกนออกมาด้วยน้ําเสียงดีใจ

 

จะบอกว่าเขารู้สึกโล่งอกก็ไม่แปลก เพราะหากต้องสูญเสีย ดร.แบนเนอร์ ไปจริง ๆ มันไม่ใช่สิ่งที่จะยอมรับผลที่ตามมาได้โดยง่าย หาก ดร.แบนเนอร์ ยังปลอดภัยอยู่จริง เขาย่อมส่งข่าวผ่านหุ่นยนต์ไร้คนขับที่เหลืออยู่ข้างในนั้นได้

 

คนอื่น ๆ ที่ได้ยินเสียงของกัปตันโรเจอร์ส เองก็รู้สึกผ่อนคลายเช่นเดียวกัน แม้การสูญเสียนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกคนนึงไปในสายตาของพวกเขาจะดูรุนแรง แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับชื่อเสียงสถานะของกัปตันโรเจอร์สได้

 

“ดร.แบนเนอร์ เข้าไปข้างในอย่างปลอดภัย ดูเหมือนว่าตอนนี้คงจะไม่ต้องรีบแจ้งมิราจไนท์แล้วสินะ ว่าแต่เขาเองก็หายตัวไปนานเหมือนกัน?”เห็น ดร.แบนเนอร์ ปลอดภัย แดร์เดวิล กล่าวถามหามิราจไนท์

 

“ไม่จําเป็นต้องกังวลหรอก เขาเพียงแค่ออกไปเดินเล่นไม่มีทางที่จะเกิดอุบัติเหตุอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น คนของ ทีมX-MEN ไอซ์แมนก็อยู่กับเขาด้วย ความแข็งแกร่งของไอซ์แมนนั้นรุนแรงมาก หากเจออันตรายจริง ๆ พวกเขาร่วมมือรับศึกนั้นได้อย่างไม่ยากเย็น”เห็นความกังวลของ แดร์เดวิล แจ็ค กล่าวด้วยน้ําเสียงปลอบ

 

“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น, ฉันรู้สึกว่าจะมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้น!”

 

….

 

ขณะที่ฐานของ ฟุบ!

 

จ้องมองไปที่คลื่นประตูมิติอวกาศที่มั่นคง ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนแล้วแต่ทําอะไรไม่ถูก ตั้งแต่ที่ ดร.แบนเนอร์ ก้าวข้ามผ่านประตูมิติอวกาศไป โลกแห่งนั้นก็คือสถานที่ที่เต็มไปด้วยดวงดาว ไม่มีใครรู้ว่ามีสิ่งใดซ่อนอยู่ข้างหลังประตูมิติอวกาศนี้กันแน่

 

ทางด้าน ดร.แบนเนอร์ หลังจากหลุดเข้าไปยังพื้นที่ข้างในสิ่งที่เขาเห็นก็คือพื้นที่ทุ่งราบอันกว้างขวางนอกเหนือจากพื้นที่ทุ่งราบเหล่านี้ก็ไม่มีสิ่งใดอื่นอีก มีเพียงหุ่นยนต์ไร้คนขับที่ถูกส่งมาก่อนหน้านี้

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ดร.แบนเนอร์ถอนหายใจออกมา

 

จากนั้น ดร.แบนเนอร์ ก็เดินไปเรื่อย ๆ เขามองเห็นชิ้นส่วนหินสีดําที่กระจัดกระจายจํานวนมาก

 

นอกเหนือจากนั้น ดร.แบนเนอร์ ได้สํารวจตัวเองก็พบว่า สายเชื่อมต่อตนเองกับโลกได้ถูกตัดขาดออกจากกัน สีหน้าของ ดร.แบนเนอร์ ปรากฏความกังวลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คิดเอาไว้ แต่ ดร.แบนเนอร์ ก็ยังยึดมั่นทําตามแผนเดิมคือการสํารวจพื้นที่โดยรอบเมื่อถึงเวลาเข้าค่อยกลับออกไป

 

“แรงโน้มถ่วงของที่นี่กับโลกแทบจะไม่แตกต่างกันมากนัก มันมากกว่าโลกเพียงแค่ 1.3 เท่า … ดูเหมือนเครื่องมือถ่ายภาพทุกตัวที่นํามาจะเสียซะแล้ว!”ดร.แบนเนอร์ ได้เข้าสู่จิตวิญญาณของนักวิทยาศาสตร์คนนึง เขาเลื่อมใสที่นี่และเริ่มที่อยากจะศึกษาพวกมัน

 

แม้สถานที่แห่งนี้จะคือทุ่งราบรกร้างที่ว่างเปล่า และ มีหินสีดํา เพียงเท่านั้น แต่ด้วยพรสวรรค์ในการค้นคว้าและวิเคราะห์ของ ดร.แบนเนอร์ เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องได้รับบางสิ่งบางอย่างกลับไปแน่นอน

 

“กัปตัน! คุณไม่ควรเข้าไปข้างในนั้น!”เห็น ดร.แบนเนอร์หายไป ใกล้ประตูมิติอวกาศ นาตาชา ได้กล่าวห้ามกัปตันโรเจอร์ส

 

สายเชื่อมต่อของ ดร.แบนเนอร์ กับ โลกได้ถูกตัด ขาดเป็นเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีที่ กัปตันโรเจอร์สได้เตรียมพร้อมใส่ชุดเตรียมจะเข้าไปค้นหา ดร.แบนเนอร์ ข้างในนั้น

 

ด้านหลังของกัปตันโรเจอร์ส คือ ฟอลคอน และ ฮอว์กอาย แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เปิดปากพูด แต่การกระทําของพวกเขาก็ชัดเจนว่าจะป้องกันไม่ให้ กัปตันโรเจอร์สเข้าไปเสี่ยง องค์กร S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้เป็นที่ชัดเจนว่าไม่อาจสูญเสียกัปตันโรเจอร์สไปได้

 

“นาตาชา คุณไม่สามารถห้ามฉันได้!”เห็นการห้ามปรามของ นาตาชา กัปตันโรเจอร์สพูดอย่างจริงจัง

 

“กัปตันโรเจอร์ส แม้จะต้องส่งคนไปเพื่อช่วยเหลือ ดร.แบนเนอร์ แต่คนคนนั้นไม่จําเป็นจะต้องเป็นคุณ!”ได้ยินคําพูดของ กัปตันโรเจอร์ส นาตาชา กล่าวหามอีกครั้ง

 

“ฉันเป็นคนขอร้องให้เขาเข้าร่วมองค์กร S.H.I.E.L.D. เป็นธรรมชาติหากเขาตกอยู่ในอันตราย ฉันจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ”กัปตันโรเจอร์สเชื่อว่านี่คือความรับผิดชอบของเขา

 

“กัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์ หายตัวไปยังไม่ถึง 10 นาที บางทีเขาอาจจะไม่เป็นอะไร”เห็นกัปตันโรเจอร์สเตรียมจะวิ่งเข้าไปข้างใน แดร์เดวิล ได้เดินมาที่ด้านหลังและพูดขึ้น

 

แดร์เดวิลรู้ดีว่า กัปตันโรเจอร์สเป็นกังวลมากขนาดไหน ความสําคัญของ ดร.แบนเนอร์ นั้นมีมากเกินไป มันไม่ใช่สิ่งที่จะสูญเสียไปและจะได้รับกลับมา

 

“มันจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ฉันมั่นใจ!”ได้ยินคําพูดของ แดร์เดวิล กัปตันโรเจอร์สกล่าวตออบ

 

“แม้จะเป็นเช่นนั้นจริง คุณก็น่าจะรู้ตัวเองดี หากคุณหลุดเข้าไปข้างในนั้นอีกคนและไม่ได้กลับออกมา ความสูญเสียเดิมที่ลดน้อยมันจะเพิ่มมากขึ้น?”แดร์เดวิล เปลี่ยนวิธีชักชวน

 

ตอนนี้ความสําคัญของ กัปตันโรเจอร์ส เองก็มีมาก S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้ไม่สามารถขาดกัปตันโรเจอร์สไปได้ อีกทั้งกัปตันโรเจอร์สยังเป็นสะพานเชื่อมของ S.H.I.E.L.D. ระหว่างพันธมิตรคนอื่น ๆ

 

หลังจากได้ยินคําพูดเหล่านี้ กัปตันโรเจอร์ส ก็เริ่มใช้อารมณ์ส่วนตัวที่พลุ่งพล่านและหันมาใช้หัวคิดแทน เขาตั้งใจว่าจะรอหุ่นยนต์ไร้คนขับอีก 10 ตัวที่ยังไม่กลับมา หาก ดร.แบนเนอร์ ปลอดภัยยังอยู่ข้างในนั้น เขาก็ย่อมสามารถกลับมาได้ แต่เมื่อถึงเวลาครบ 10 นาทีและ ดร.แบนเนอร์ ยังไม่กลับมา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งสิ้น

 

ฟุบ!

 

ขณะนั้นเองหุ่นยนต์ไร้คนขับของ กัปตันโรเจอร์สก็ออกมาจากประตูมิติอวกาศทั้งยังได้ขนบางอย่างกลับมาด้วย

 

นอกเหนือจากสิ่งของแล้วยังมีข้อมูลบันทึกที่น่าจะมาจากมนุษย์อีก แสดงว่า ดร.แบนเนอร์ยังรอดปลอดภัยข้างในนั้นและกําลังศึกษาค้นคว้าพื้นที่แถวนั้นอยู่

 

“ดูเหมือน ดร.แบนเนอร์ จะปลอดภัยดีสินะ!”

 

ขณะที่ภายในฐานกําลังวุ่นวายและกลับมารู้สึกโล่งใจเพราะความปลอดภัยของ ดร.แบนเนอร์ ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร แจ็คสัน และ ไอซ์แมน ได้ยืนอยู่ในตําแหน่งทุ่งหิมะเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงโดยไม่ขยับ

 

ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมง แจ็คสัน ได้บอกต่อไอซ์แมนว่าอาจมีวิธีที่จะสามารถค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์ที่นี่ได้ ดังนั้น แจ็คสันจึงปล่อยพลังจิตออกมา ซึ่งไอซ์แมนก็เฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ พร้อมกับคอยเตรียมพร้อมสนับสนุนการกระทําของ มิราจไนท์ต่อไป

 

ฟุบ!

 

เห็นมิราจไนท์ยังคงเพ่งสมาธิอยู่อีกครั้ง ไอซ์แมนได้แผ่ตัวนอนราบลงบนพื้นหิมะพร้อมกับใช้พื้นที่เยือกแข็งในการสร้างหลุมนอนของตนเออง

 

“…”วินาทีนั้นเองแจ็คสันได้ลืมตาขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปที่การกระทําของ ไอซ์แมน

 

แจ็คสันเห็นไอซ์แมนนอนราบแผ่ลงไปกับพื้นเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความรุนแรงของกลิ่นอายเยือกแข็งที่ไอซ์แมนปลอดภัยออกอมาอย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

“ไอซ์แมน การที่คุณทําแบบนี้มันช่วยพัฒนาความสามารถของคุณงั้นหรอ?”แจ็คสันไม่รู้ว่าไอซ์แมนกําลังทําอะไร เขากล่าวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

ฟุบ!

 

ได้ยินคําพูดของมิราจไนท์ ไอซ์แมนได้ใช้สองแขนดันตัวเองลุกออกมาก่อนที่จะใช้พื้นที่เยือกแข็งในการปัดเศษน้ําแข็งและหิมะที่เกาะตัวเขาให้หลุดออกไป

 

“คุณมีเวลามาสนใจฉันด้วยงั้นหรอ?”ไอซ์แมนกล่าวตอบกลับ

 

เมื่อครู่ ไอซ์แมนได้เค้นคําตอบจากมิราจไนท์ เพียงแต่มิราจไนท์ไม่ได้ยอมบอกอะไรเลยทําให้ใบหน้าของไอซ์แมนได้กลายเป็นมืดครื้มก่อนที่เขาจะตัดสินใจนอนแผ่ราบลงไปที่พื้นเพื่อรอมิราจไนท์ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

 

“ฉันก็แค่อยากรู้ว่าคุณกําลังทําอะไรอยู่!”เผชิญหน้ากับคําถามของไอซ์แมน แจ็คสันตอบกลับด้วยน้ําเสียงตะกุกตะกัก

 

“ที่คุณยังไม่บอกฉันเกี่ยวกับการค้นพบเมื่อครู่นี้เลย!”ได้ยินคําพูดของ มิราจไนท์ ไอซ์แมนตอบกลับ

 

“เอ่อ…ก็ได้!”แจ็คสันได้เกาหัวเล็กน้อยพร้อมกับแสดงสีหน้าอย่างจริงจังอีกครั้ง

 

ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมง แจ็คสันที่รู้ว่าศพของ เร้ด สกัลล์หายไป เขาได้ปลดปล่อยพลังจิตของตนเองออกมา จากนั้นเขาก็ค้นพบสถานที่แปลก ๆ แห่งนึงที่อยู่ไม่ไกลจากตําแหน่งของเขา แต่เพราะพลังจิตของเขาได้หมด ลงทําให้เขาต้องพักฟื้นฟูอีกครั้ง

 

หลังจากที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับพื้นที่แปลก ๆ นี้ แจ็คสัน คิดว่าพื้นที่ที่ว่านี้น่าจะถูกพลังงานของลูกบาศก์เวทมนตร์รบกวนทําให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้น แจ็คสันจึงได้สแกนด้วยพลังจิตของตนเองอีกรอบหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเขาก็ค้นพบมันจนได้

 

“คุณเจออะไร?”ได้ยินคําตอบของมิราจไนท์ ไอซ์แมนกล่าวถามอย่างรวดเร็ว

 

“ฉันค้นพบพื้นที่ความผันผวนอีกแห่ง! ทั้งยังรุนแรงมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า!”แจ็คสันกล่าวตอบความจริง

 

ได้ยินคําพูดของมิราจไนท์ ไอซ์แมนจ้องมองไปที่เขาอย่างชัดเจน อะไรคือพื้นที่ความผันผวนที่มีความรุนแรงมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า หากเป็นคนธรรมดาแน่นอนว่าย่อมไม่เข้าใจในจุดนี้

 

“คุณพูดอะไรออกมา พื้นที่ความผันผวนที่มีความรุนแรงมากกว่า 10 เท่า?”ไอซ์แมนกล่าวถามต่อ

 

“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง อย่างไรก็ตามภูมิภาคแห่งนี้มีขนาดใหญ่อย่างมากอาจเป็นไปได้ว่าสิ่งที่ฉันค้นพบจะเป็นความจริง”แจ็คสันตอบกลับ

 

“พื้นที่ที่เราอยู่ตรงนี้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคลื่นความผันผวนที่รุนแรงนี้!”แจ็คสันได้กล่าวเสริมจุดนี้

 

จากนั้นเขาก็เดินไปทั่วท่ามกลางลานหิมะเหล่านี้พร้อมกับสังเกตพื้นที่โดยรอบจนพบกับคลื่นความผันผวนที่รุนแรงอย่างว่าจริง ๆ

 

“พวกเราอยู่ภายในมิติอวกาศปิดกั้นงั้นหรอ?”ไอซ์แมนพึมพัมออกมา

 

ตอนที่ 690 เริ่มสํารวจอีกครั้ง

 

ฟุบ!

 

จ้องมองไปที่คลื่นประตูมิติอวกาศที่มั่นคง ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนแล้วแต่ทําอะไรไม่ถูก ตั้งแต่ที่ ดร.แบนเนอร์ ก้าวข้ามผ่านประตูมิติอวกาศไป โลกแห่งนั้นก็คือสถานที่ที่เต็มไปด้วยดวงดาว ไม่มีใครรู้ว่ามีสิ่งใดซ่อนอยู่ข้างหลังประตูมิติอวกาศนี้กันแน่

 

ทางด้าน ดร.แบนเนอร์ หลังจากหลุดเข้าไปยังพื้นที่ข้างในสิ่งที่เขาเห็นก็คือพื้นที่ทุ่งราบอันกว้างขวางนอกเหนือจากพื้นที่ทุ่งราบเหล่านี้ก็ไม่มีสิ่งใดอื่นอีก มีเพียงหุ่นยนต์ไร้คนขับที่ถูกส่งมาก่อนหน้านี้

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ดร.แบนเนอร์ถอนหายใจออกมา

 

จากนั้น ดร.แบนเนอร์ ก็เดินไปเรื่อย ๆ เขามองเห็นชิ้นส่วนหินสีด่าที่กระจัดกระจายจํานวนมาก

 

นอกเหนือจากนั้น ดร.แบนเนอร์ ได้สํารวจตัวเองก็พบว่า สายเชื่อมต่อตนเองกับโลกได้ถูกตัดขาดออกจากกัน สีหน้าของ ดร.แบนเนอร์ ปรากฏความกังวลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คิดเอาไว้ แต่ ดร.แบนเนอร์ ก็ยังยึดมั่นทําตามแผนเดิมคือการสํารวจพื้นที่โดยรอบเมื่อถึงเวลาเข้าค่อยกลับออกไป

 

“แรงโน้มถ่วงของที่นี่กับโลกแทบจะไม่แตกต่างกันมากนัก มันมากกว่าโลกเพียงแค่ 1.3 เท่า .. ดูเหมือนเครื่องมือถ่ายภาพทุกตัวที่นํามาจะเสียซะแล้ว!”ดร.แบนเนอร์ ได้เข้าสู่จิตวิญญาณของนักวิทยาศาสตร์คนนึง เขาเลื่อมใสที่นี่และเริ่มที่อยากจะศึกษาพวกมัน

 

แม้สถานที่แห่งนี้จะคือทุ่งราบรกร้างที่ว่างเปล่า และ มีหินสีดําเพียงเท่านั้น แต่ด้วยพรสวรรค์ในการค้นคว้า และวิเคราะห์ของ ดร.แบนเนอร์ เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องได้รับบางสิ่งบางอย่างกลับไปแน่นอน

 

“กัปตัน! คุณไม่ควรเข้าไปข้างในนั้น!”เห็น ดร.แบนเนอร์หายไป ใกล้ประตูมิติอวกาศ นาตาชา ได้กล่าวห้ามกัปตันโรเจอร์ส

 

สายเชื่อมต่อของ ดร.แบนเนอร์ กับ โลกได้ถูกตัดขาดเป็นเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีที่ กัปตันโรเจอร์สได้เตรียมพร้อมใส่ชุดเตรียมจะเข้าไปค้นหา ดร.แบนเนอร์ ข้างในนั้น

ด้านหลังของกัปตันโรเจอร์ส คือ ฟอลคอน และ ฮอว์กอาย แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เปิดปากพูด แต่การกระทําของพวกเขาก็ชัดเจนว่าจะป้องกันไม่ให้ กัปตันโรเจอร์สเข้าไปเสี่ยง องค์กร S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้เป็นที่ชัดเจนว่าไม่อาจสูญเสียกัปตันโรเจอร์สไปได้

 

“นาตาชา คุณไม่สามารถห้ามฉันได้!”เห็นการห้ามปรามของ นาตาชา กัปตันโรเจอร์สพูดอย่างจริงจัง

 

“กัปตันโรเจอร์ส แม้จะต้องส่งคนไปเพื่อช่วยเหลือ ดร.แบนเนอร์ แต่คนคนนั้นไม่จําเป็นจะต้องเป็นคุณ!”ได้ยินคําพูดของ กัปตันโรเจอร์ส นาตาชา กล่าวห้ามอีกครั้ง

 

“ฉันเป็นคนขอร้องให้เขาเข้าร่วมองค์กร S.H.I.E.L.D. เป็นธรรมชาติหากเขาตกอยู่ในอันตราย ฉันจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ”กัปตันโรเจอร์สเชื่อว่านี่คือความรับผิดชอบของเขา

 

“กัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์ หายตัวไปยังไม่ถึง 10 นาที บางทีเขาอาจจะไม่เป็นอะไร”เห็นกัปตันโรเจอร์สเตรียมจะวิ่งเข้าไปข้างใน แดร์เดวิล ได้เดินมาที่ด้านหลังและพูดขึ้น

 

แดร์เดวิลรู้ดีว่า กัปตันโรเจอร์สเป็นกังวลมากขนาดไหน ความสําคัญของ ดร.แบนเนอร์ นั้นมีมากเกินไป มันไม่ใช่สิ่งที่จะสูญเสียไปและจะได้รับกลับมา

 

“มันจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ฉันมั่นใจ!”ได้ยินคําพูดของ แดร์เดวิล กัปตันโรเจอร์สกล่าวตออบ

 

“แม้จะเป็นเช่นนั้นจริง คุณก็น่าจะรู้ตัวเองดี หากคุณหลุดเข้าไปข้างในนั้นอีกคนและไม่ได้กลับออกมา ความสูญเสียเดิมที่ลดน้อยมันจะเพิ่มมากขึ้น?”แดร์เดวิล เปลี่ยนวิธีชักชวน

 

ตอนนี้ความสําคัญของ กัปตันโรเจอร์ส เองก็มีมาก S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้ไม่สามารถขาดกัปตันโรเจอร์สไปได้ อีกทั้งกัปตันโรเจอร์สยังเป็นสะพานเชื่อมของ S.H.I.E.L.D. ระหว่างพันธมิตรคนอื่น ๆ

 

หลังจากได้ยินคําพูดเหล่านี้ กัปตันโรเจอร์ส ก็เริ่มใช้อารมณ์ส่วนตัวที่พลุ่งพล่านและหันมาใช้หัวคิดแทน เขาตั้งใจว่าจะรอหุ่นยนต์ไร้คนขับอีก 10 ตัวที่ยังไม่กลับมา หาก ดร.แบนเนอร์ ปลอดภัยยังอยู่ข้างในนั้น เขาก็ย่อมสามารถกลับมาได้ แต่เมื่อถึงเวลาครบ 10 นาทีและ ดร.แบนเนอร์ ยังไม่กลับมา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งสิ้น

 

ฟุบ!

 

ขณะนั้นเองหุ่นยนต์ไร้คนขับของ กัปตันโรเจอร์สก็ออกมาจากประตูมิติอวกาศทั้งยังได้ขนบางอย่างกลับมาด้วย

 

นอกเหนือจากสิ่งของแล้วยังมีข้อมูลบันทึกที่น่าจะมาจากมนุษย์อีก แสดงว่า ดร.แบนเนอร์ยังรอดปลอดภัยข้างในนั้นและกาลังศึกษาค้นคว้าพื้นที่แถวนั้นอยู่

 

“ดูเหมือน ดร.แบนเนอร์ จะปลอดภัยดีสินะ!”

 

ตอนที่ 689 สูญเสียการติดต่อ

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ดร.แบนเนอร์ก็เตรียมพร้อมอย่างสมบูรณ์ เขาได้แต่งตัวอยู่ในชุดป้องกันที่เหมือนกับชุดอวกาศ ในระยะเวลาครึ่งชั่วโมงนี้ ดร.แบนเนอร์ ได้ทําการศึกษาหุ่นยนต์ไร้คนขับอย่างระมัดระวัง หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว การข้ามผ่านประตูมิติอวกาศอาจไม่ได้เป็นปัญหาสําหรับการข้ามผ่านมากนัก

 

แต่เพื่อความปลอดภัย ดร.แบนเนอร์จึงได้ทดลองกับสัตว์เล็ก ๆ เช่นกระต่ายก่อน เขาได้ใส่สิ่งมีชีวิตไว้ในตะกร้าจากนั้นก็โยนมันเข้าไปข้างในและใช้เยือกที่ผูกติดไว้ถึงกลับมา หลังจากดึงกลับมา สภาพของกระต่ายตัวนั้นก็ไม่มีอะไรบาดเจ็บ ในที่สุด กัปตันโรเจอร์สที่เห็นการทดลองนี้ก็รู้สึกโล่งใจอยู่บ้าง

 

“คงได้เวลาที่ฉันจะเข้าไปแล้ว!”ทันทีที่เตรียมใจและเตรียมพร้อมเสร็จ ดร.แบนเนอร์ เตรียมที่ก้าวผ่านเข้าไป

 

“ระวังตัวด้วย! ไม่ว่าคุณจะพบอะไรด้านในนั้นหรือไม่หากครบกําหนด 10 นาที ฉันจะดึงคุณกลับมาทันที!”กัปตันโรเจอร์ส พูดอย่างจริงจัง

 

“เข้าใจแล้ว!”จากนั้น ดร.แบนเนอร์ ก็ยิ้มออกมาพร้อมกับเดินไปที่เบื้องหน้าประตูมิติอวกาศ

 

ภายใต้สายตาของ กัปตันโรเจอร์ส ฟอลคอน แดร์เดวิล และ คนอื่น ๆ พวกเขาเห็น ดร.แบนเนอร์ ผ่านเข้าไปในประตูมิติอวกาศโดยตรง

 

“ตรวจดูข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของดร.แบนเนอร์อย่างต่อเนื่อง หากมีอะไรเกิดขึ้น ให้รีบดึงเขากลับมาทันที!”หลังจากเห็น ดร.แบนเนอร์หายไป กัปตันโรเจอร์สได้บอกต่อเจ้าหน้าที่ S.H.I.E.L.D.

 

“ครับ กัปตัน!”

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตัวแทนก็เฝ้าสังเกตการณ์ข้อมูลปัจจุบันของดร.แบนเนอร์ ผ่านเครื่องมือตรวจสอบ สีหน้ากัปตันโรเจอร์สไม่สู้ดีอย่างมาก เขาหวังว่าจะให้ 10 นาทีนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วในทันที เพราะเขากังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับดร.แบนเนอร์

 

ธรรมชาติแล้ว นอกเหนือจากความกังวลของดร.แบนเนอร์ แจ็คและแดร์เดวิลก็กําลังพูดคุยกันถึง มิราจไนท์

 

“แดร์เดวิล พวกเราควรแจ้งบอกมิราจไนท์ เรื่องที่ดร.แบนเนอร์เข้าไปข้างในหรือไม่?”แจ็คจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศด้านหน้าและกล่าวถาม

 

“คงไม่จําเป็นหรอก ตั้งแต่ที่มิราจไนท์ขอตัวออกไปเดินเล่นและป่านนี้ยังไม่กลับ ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องมีธุระสาคัญอะไรอย่างแน่นอน”ได้ยินคําถามของแจ็ค แดร์เดวิลตอบกลับ

 

“หวังว่าเรื่องสําคัญที่ว่านี้จะเกี่ยวข้องกับลูกบาศก์เวทมนตร์ แต่ถึงอย่างนั้น ประตูมิติอวกาศนี้ก็ดูแปลกเกินไป ด้วยขนาดและความเสถียรที่มันปล่อยออกมาแล้ว ฉันรู้สึกกังวลบางอย่าง…”แจ็คยนคิ้วเล็กน้อย

 

“คงมีแต่ต้องรอให้มิราจไนท์กลับมาถึงจะรู้ว่าเขาหายตัวไปไหน ส่วนเรื่องของดร.แบนเนอร์ ตอนนี้เราทําได้เพียงเฝ้ามองอย่างเชื่อมั่นเพียงเท่านั้น”แดร์เดวิลกล่าวตอบ

 

“อืม,จริงสิ ตั้งแต่ที่ฉันเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้ พื้นที่โดยรอบนี้ทําให้ฉันไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์มิติได้ เหตุผลน่าจะเป็นเพราะคลื่นความผันผวนที่ประตูมิติอวกาศนี้ปล่อยออกมา”แจ็คพึมพัมออกมาเล็กน้อย

 

“เป็นเรื่องจริงงั้นหรอ?เช่นนั้น นายลองถามบลิงก์ จาก ทีมX-MEN ดูหรือยัง ความสามารถของเธอถูกระงับด้วยหรือไม่?”ได้ยินว่าแจ็คไม่สามารถใช้ประตูมิติเวทมนตร์ได้ แดร์เดวิลเปลี่ยนเป็นคําถามทันที

 

“บลิงก์ ที่มX-MEN ? ฉันยังไม่ได้ถามใครเลยเพราะฉันไม่ค่อยรู้จักพวกเขา”แจ็คกล่าวตอบ

 

หลังจากที่แจ็คตอบคําถามตนเองแล้ว แดร์เดวิล ก็เดินไปที่ทางด้านทีมX-MEN เพื่อกล่าวถามบลิ้งก์ จากนั้นไม่นาน แดร์เดวิลก็เดินกลับมา

 

“ผู้หญิงคนนั้นว่ายังไงบ้าง?”แจ็คกล่าวถามอย่างเร่งรีบ

 

“เป็นอย่างที่คิด ความสามารถด้านมิติของบลิงก์เองก็ถูกระงับ จากตําแหน่งและระยะทางรอบ ๆ 100 เมตร เธอไม่สามารถใช้พลังมิติของเธอได้”แดร์เดวิลกล่าวตอบ

 

“ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะประตูมิติอวกาศนี้จริง ๆ มันได้สร้างผลกระทบทําให้ความสามารถด้านมิติต้องถูกระงับไป…”ได้ยินคําตอบของแดร์เดวิล แจ็คขมวดคิ้วแน่นด้วยความกังวล แม้คนในโลกจะมีคนที่แข็งแกร่งและมีความสามารถที่โดดเด่นหลายคน แต่คนที่มีความแข็งแกร่งทางด้านพลังมิตินั้นมีน้อยมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าผู้ที่สามารถใช้พลังมิติได้จึงมีความสําคัญขนาดไหน

 

“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าต้นเหตุคือประตูมิติอวกาศนหรือไม่ แต่คงจะต้องเฝ้าระวังต่อไปเพียงเท่านั้น”แดร์เดวิลเอง ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง เขากล่าวบอกสิ่งที่ตนเองคิด

 

เนื่องจากคําถามของพวกเขาไม่ได้รับการแก้ไข แดร์เดวิลและแจ็คก็เลิกที่จะถามคําเหล่านี้พวกเขาจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศด้านหน้า หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปแล้ว 5 นาที

 

ฟุบ!

 

ขณะที่พวกแดร์เดวิลกําลังจ้องมองประตูมิติอวกาศ พื้นที่ทางด้านฝั่งกัปตันโรเจอร์สก็มีเสียงเตือนภัยดังขึ้นอย่างรวดเร็ว สายตาของทุกคนในที่แห่งนี้ได้รับหันไปยังทิศทางเสียงที่ว่านี้ทันที

 

“เกิดอะไรขึ้น?”ได้ยินเสียงเตือนภัย กัปตันโรเจอร์สรีบกล่าวถามเจ้าหน้าที่ตัวแทนด้วยลางสังหรณ์ที่รู้สึกไม่

 

“ทางเรากําลังสูญเสียการติดต่อกับดร.แบนเนอร์!”เจ้าหน้าที่กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

 

ฟุบ!

 

จากนั้นประตูมิติอวกาศก็เกิดความผันผวนจํานวนมากส่งผลให้กัปตันโรเจอร์ส และคนอื่น ๆ รู้สึกกังวลเกี่ยวกับดร.แบนเนอร์ ตอนนี้พวกเขากําลังจะสูญเสียการติดต่อกับดร.แบนเนอร์ หากไม่สามารถดึงดร.แบนเนอร์ ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

 

“บ้าเอ๊ย! เตรียมชุดสูทให้ฉัน!”กัปตันโรเจอร์สกํากําปั้นแน่นด้วยความกังวล

 

สายเชื่อมต่อกับร่างของดร.แบนเนอร์ เองก็ถูกตัด ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถระบุได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับดร.แบนเนอร์ข้างในหรือไม่ ดังนั้น กัปตันโรเจอร์สจึงต้องการเตรียมพร้อมและเข้าไปช่วยเหลือ ดร.แบนเนอร์ด้วยตัวเอง

 

“ในช่วงเวลาที่สําคัญเช่นนี้ มิราจไนท์หายไปไหนกันนะ!”เห็นสถานการณ์ปัจจุบันไม่ค่อยดี แจ็คย่นคิ้วแน่นด้วยความกังวล

 

ตอนที่ 688 อารมณ์เดือดดาล

 

เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วหลังจากที่พวกแจ็คสันได้ออกไปข้างนอก ในเวลานี้ ประตูมิติอวกาศถูกปกคลุมไปด้วยโครงเหล็กและแผ่นโลหะผสมจํานวนมาก ดูเหมือน องค์กร S.H.I.E.L.D. จะทุ่มทุนสร้างสิ่งเหล่านั้นมาอย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

ฐานแห่งนี้ได้เปลี่ยนกลายเป็นฐานแห่งนึงที่เต็มไปด้วยมาตราฐานระดับสูงอย่างน้อยมันก็สามารถรักษา ความปลอดภัยจากการรุกรานได้ในระดับนึง เบื้องหลังของสิ่งก่อสร้างเหล่านี้คือการควบคุมประตูมิติอวกาศให้ อยู่ในเสถียรภาพที่ดีตอนนี้

 

“อุปกรณ์และทรัพยากรชุดที่สาม ใช้เวลา 10 นาทีในการติดตั้ง หากสามารถติดตั้งอุปกรณ์นั้นได้ฉันก็ค่อนข้างรู้สึกโล่งใจเล็กน้ออย”หลังจากยืนสังเกตุการณ์ประตูมิติอวกาศ ดร.แบนเนอร์ได้จ้องมองไปที่แสงสีฟ้าเบื้องหน้า

 

แม้ว่าด้านหลังของประตูมิติอวกาศเหล่านั้นจะมีท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว แต่พวกเขาก็เตรียมพร้อมสําหรับเกิดอุบัติเหตุขึ้น ธรรมชาติ ดร.แบนเนอร์มีแผนจะพาตนเองเข้าไปด้านหลังประตูมิติอวกาศนี้

 

“หุ่นยนต์สํารวจที่เข้าไปเริ่มสูญเสียการติดต่อแล้ว ฉันจะต้องรีบดึงพวกที่เหลือกลับมาไม่งั้นสิ่งที่ทําไปคงเสียเวลาเปล่า…”หลังจากปรับโครงสร้างของพื้นที่แถบนี้ ดร.แบนเนอร์ก็ครุ่นคิดบางอย่าง

 

ฟุบ!

 

หลังจากนั้นการประชุมในองค์กร S.H.I.E.L.D. ก็เริ่มต้นอีกครั้ง เสียงดังของกัปตันโรเจอร์สได้แทรกออกมา

 

“ไม่ได้ ฉันไม่อนุญาติ!”กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่ดร.แบนเนอร์ และกล่าวพูดในปัจจุบัน

 

“กัปตันโรเจอร์ส ฉันเคยบอกกับคุณแล้วว่า ฉันจะเข้าร่วมกับ องค์กร S.H.I.E.L.D. และพันธมิตรอเวนเจอร์ แต่ความสัมพันธ์ของเราก็เป็นแค่ความสัมพันธ์เชิงพันธมิตร ฉันไม่ใช่สมาชิกอย่างเต็มตัว ดังนั้นฉันไม่สนใจว่า คุณจะเห็นด้วยหรือไม่”ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์กล่าวตออบ

 

“ดร.แบนเนอร์ ฉันรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราเป็นความสัมพันธ์เชิงร่วมมือ แต่ฉันไม่เห็นด้วยที่คุณจะทําแบบนี้”

 

เมื่อไม่นานมานี้ ดร.แบนเนอร์บอกกับกัปตันโรเจอร์สว่าเขาจะสวมชุดป้องกันพลังงานแอลฟา และเดินเข้าไปในประตูมิติอวกาศ ปัจจุบันหุ่นยนต์สํารวจที่ส่งไปยังไม่ได้กลับมาไม่มีหลักอะไรรับประกันว่าหลังจากที่ดร.แบนเนอร์เข้าไปแล้ว จะได้รับผลกระทบอะไรหรือไม่

 

แต่ดูเหมือน ดร.แบนเนอร์ จะไม่ฟังเหตุผลของกัปตันโรเจอร์สแม้แต่น้อย มันสมองของ ดร.แบนเนอร์ เป็นสีงมีค่ามาก ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นดูอันตรายเกินไป หากมีอะไรเกิดขึ้นกับดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สคงเสียใจไปตลอดชีวิต

 

“หุ่นยนต์สํารวจนั้นสามารถแสดงประสิทธิภาพได้อย่างจํากัด เพื่อการสารวจที่ดีนั้นควรจะส่งผู้เชี่ยวชาญอย่างฉันเข้าไปถึงจะถูก คุณเองก็รู้ถึงสถานะประหลาดภายในร่างกายของฉันดีไม่ใช่หรอ”เห็นกัปตันโรเจอร์สกังวล ดร.แบนเนอร์อธิบาย

 

“แต่ฉันไม่สามารถปล่อยให้คุณไปเสี่ยงได้! แม้ฮัลค์จะแข็งแกร่งจริง แต่คุณยังไม่สามารถควบคุมเขาได้อย่างสมบูรณ์? ได้ยินคําพูดของดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจออร์ส ดร.แบนเนอร์เข้าใจดีว่าอีกฝ่ายคงไม่ต้องการให้เขาไปเสียง แต่การค้นพบด้านหลังประตูมิติอวกาศไม่สามารถหยุดความอยากรู้อยากเห็นของ ดร.แบนเนอร์ได้ แม้จะต้องเสี่ยงเขาก็ยอม

 

“กัปตันโรเจอร์ส คุณเองก็รู้จักนิสัยของฉันดี ถ้าฉันอยากจะทําอะไรแม่ใครจะบอกว่าไม่ฉันก็จะทํา!”เผชิญหน้ากับคําตอบปฏิเสธของกัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์ได้ต่อต้านทันที

 

ฟุบ!

 

หลังจากที่ ดร.แบนเนอร์พูดคําเหล่านี้ออกมา ประกายแสงสีเขียวในนัยน์ตาของ ดร.แบนเนอร์ก็สว่างวาบ

 

“เฮ้,เพื่อนยาก ใจเย็น ๆ !”ในใจของดร.แบนเนอร์ได้ตะโกนคําเหล่านี้อยู่ในลําคอ

 

เห็นการเปลี่ยนแปลงของดร.แบนเนอร์ และประกายแสงสีเขียวในนัยน์ตาคู่นั้น สีหน้าของกัปตันโรเจอร์สเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นตึงเครียดมากขึ้น หากฮัลค์ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ฐานแห่งนี้คงไม่รอดมอดวายเป็นแน่

 

“ก็ได้ ถ้าคุณยืนกรานเช่นนั้น ฉันก็จะไม่ห้ามคุณ!”ท้ายที่สุด กัปตันโรเจอร์สก็ไม่สามารถห้ามปราบอีกฝ่ายได้ ทำได้แต่ยอมรับผลลัพธ์ในตอนนี้

 

“ฮ่าฮ่า,คุณตัดสินใจได้ถูกแล้ว ผ่อนคลายเถอะ ฉันรับประกันว่าจะนําพาการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่มาให้คุณ!”เห็นสีหน้าของ กัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์ได้ยิ้มออกมา

 

“ดร.แบนเนอร์ หวังว่าการตัดสินใจของคุณในครั้งนี้ คุณจะยอมรับผลที่ตามมานะ การกระทําของคุณอาจมีผลตอบแทนด้วยค่าใช้จ่ายที่สูง!”ได้ยินคําพูดของดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สพูดอีกครั้ง

 

“สบายใจได้ ฉันรู้อยู่แก่ใจว่ากําลังทําอะไร นอกจากนี้ หุ่นยนต์ไร้คนขับได้กลับมาแล้ว 3 เครื่อง พวกเขานำของติดไม้ติดมือกลับมามากมาย คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉันจะรอดปลอดภัยกลับมา”ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์กล่าวตอบ

 

“ขอให้เป็นอย่างนั้น!”

 

จากนั้น ดร.แบนเนอร์ก็เตรียมสัมภาระของตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมสําหรับเข้าประตูมิติอวกาศ

 

ตอนที่ 687 การค้นพบของแจ็คสัน

 

หลังจากหยุดนิ่งอธิยายเป็นระยะเวลากว่าสองนาทีแจ็คสันก็ถอนหายใจออกมา

 

“เดิมเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าคุณตัดสินใจแล้วว่า เร้ด สกัลล์ ได้ตายไปแล้วหรอกหรอ?เช่นนั้นทําไมต้องมองหาเขาอีก?”ฟังการอธิบายของมิราจไนท์ ไอซ์แมนกล่าวถามอย่างนงง

 

“ก็อาจจะ…ดูบางทีฉันก็รู้สึกไม่โลกใจแปลก ๆ !”ได้ยินคําพูดของไอซ์แมน แจ็คสันตอบกลับ

 

ที่จริงแล้ว เกี่ยวกับการตายของ เร้ด สกัลล์ แจ็คสันก็ยังขาดความมั่นใจในจุดนี้ แม้ระบบจะส่งรางวัลให้ แต่ในโลกมาร์เวลอะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าเกิด เร้ด สกัลล์ ตายไปแล้วจริงๆอะไรกันที่ทําให้ศพของ เร้ด สกัลล์ หายไป

 

“ดี, ฉันจะช่วยเหลือคุณ หากเป็นสภาพแวดล้อมที่นี่ฉันคงพอจะช่วยอะไรได้บ้าง”ได้ยินคําอธิบายที่ไม่สมเหตุผลของ มิราจไนท์ ไอซ์แมนตอบกลับ

 

“ฮ่าฮ่า ขอบคุณไอซ์แมน”แจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

แม่ในครั้งนี้เขาจะออกมาเพื่อหาเร้ด สกัลล์ ก็จริง แต่เขาก็แค่มาเพื่อยืนยันด้วยตาตัวเองก็เท่านั้น

 

“เดิมด้วยด้วยสภาพอากาศที่ย่าแย่ของที่นี่ ถึงอีกฝ่ายจะมีชีวิตอยู่จริงก็ไม่น่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี้ได้หรอก”ไอซ์แมนกล่าวพูดลอย ๆ

 

“ไว้ไปดูเอง เดี๋ยวก็รู้”แจ็คสันตอบกลับ

 

“เป็นเพื่อนที่แปลกคนจริง ๆ !”เห็นมิราจไนท์ก้าวเดินออกไป ไอซ์แมนได้กระซิบกระซาบในใจ

 

จากนั้นไอซ์แมนก็เปิดพื้นที่เยือกแข็งและติดตามมิราจไนท์ไปยังตําแหน่งที่ เร้ด สกัลล์อยู่ก่อนหน้านี้

 

ขณะที่ไอซ์แมนและมิราจไนท์ออกไปเดินเล่นนอกฐาน ในฐานของS.H.I.E.L.D. ดร.แบนเนอร์ กำลังศึกษาวิจัยเกี่ยวกับคลื่นพลังงานด้านหลังประตูมิติอวกาศ สีหน้าของเขาราวกับคนบ้ามากตอนนี้

 

“นี่มันน่าสนใจมาก น่าสนใจจริง ๆ ! ไม่คิดเลยว่าสิ่งเหล่านี้จะมีอยู่ในจักรวาลอื่น ๆ “ดร.แบนเนอร์ จ้องมองไปที่ข้อมูลแผ่นแท็บเล็ตในมือ

 

มองจากสถานการณ์ในปัจจุบัน แม้การค้นหาด้านหลังประตูมิติอวกาศจะไม่เจอลูกบาศก์เวทมนตร์ก็จริง แต่ ดร.แบนเนอร์ เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถเก็บเกี่ยวสิ่งต่าง ๆ กลับมาได้จํานวนมาก จักรวาลอื่นนั้นคือสถานที่ที่แตกต่าง สถานที่เหล่านั้นเต็มไปด้วยทรัพยากรที่น่าสนใจและอาจเป็นปัจจัยสําคัญในการศึกษาขอองพวกเขา

“เนื่องจากหุ่นยนต์ที่เราส่งไปนั้นเป็นแบบไร้คนขับ เราจึงทําอะไรได้อย่างค่อนข้างจํากัด”ดร.แบนเนอร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

ประตูมิติอวกาศที่ปรากฏขึ้นนี้ มีรัศมีพลังที่แตกต่างไม่เหมือนของกับ ทีมX-MEN บลิงก์ หรือพวกสายเลือดแรกเริ่มของโลก พวกพ่อมด คลื่นพลังที่ประตูมิติอวกาศนี้ส่งออกมาเป็นทิศทางที่ลึกลับและครอบคลุมทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน

 

“ค่าพลังถูกปลดปล่อยออกมาในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตาม…”ดร.แบนเนอร์ ครุ่นคิด

 

“หากคลื่นพลังในทิศทางนี้มีพลังรุนแรงมากพอ ยิ่งเป็นระดับพลังงานที่มากล้นจนเกินไปล่ะก็อาจกระทั่งสามารถทําให้โลกถูกทําลายได้เลย”ดร.แบนเนอร์ อุทานออกมา

 

“ดังนั้น พวกเราจะต้องคอยควบคุมระดับพลังความผันผวนของพื้นที่มิติอวกาศนี้ให้ได้”ดร.แบนเนอร์ได้พูดเบา ๆ

 

“เดิม เร้ด สกลล์ได้อยู่ในตําแหน่งแถวนี้งั้นหรอ?”ไอซ์แมนได้จ้องมองไปรอบ ๆ พร้ออมกับกล่าวถามมิราจ ไนท์

 

“อืม,ที่นี่ แหละ ตามข้อมูลอ้างอิงที่ J.A.R.V.I.S ให้มา เป็นแถวนี้ไม่ผิดแน่ แต่ฉันจําไม่ได้ว่าตรงไหนที่ฉันได้นอนล้มบาดเจ็บในตอนนั้น”ได้ยินคําถามของไอซ์แมน แจ็คสันตอบกลับ

 

หลังจากถูกส่งออกมาจากประตูมิติอวกาศแจ็คสันก็ได้รับบาดเจ็บหนัก เขาได้ฟื้นคืนสติในเวลาต่อมา และเห็นหนูหิมะที่กําลังแทะโลมนิ้วของเขา จากนั้น แจ็คสันก็ได้เดินทางหาฐานลับไฮดร้า จนพบกับเร้ด สกัลล์ระหว่างทาง

 

“ที่นี่มีหิมะครอบคลุมหนามาก คงไม่อาจระบุตําแหน่งได้อย่างแม่นยํา ถ้าเกิดศพของ เร้ด สกัลล์อยู่แถวนี้จริง ๆ อาจเป็นไปได้ว่า การคํานวณของ J.A.R.VI.S นั้นผิดพลาด”แจ็คสันพึมพัมออกมาเล็กน้อย

 

ฟุบ!

 

จากนั้นแจ็คสันก็ปลดปล่อยพลังจิตที่น่าเกรงขามอออกมา ถ้าระบบของ J.A.R.VI.S ไม่สามารถค้นหาได้ แจ็คสันก็มีแต่จะต้องลองใช้พลังจิตเท่านั้น

 

ภายใต้คลื่นพลังจิตที่แข็งแกร่งของแจ็คสัน พื้นที่ทุ่งหิมะโดยรอบได้ถูกเขาสแกนอย่างสมบูรณ์

 

ฟุบ!

 

สุดท้ายพอยึดระยะออกไปได้มากพอ แจ็คสันที่สูญเสียพลังจิตไปกว่าครึ่งได้ถอนพลังจิตกลับมา ดูเหมือนศพของ เร้ด สกัลล์จะหายไปจริง ๆ

 

“มิราจไนท์ คุณไม่เป็นอะไรนะ? ผิวของคุณดูไม่ดีอย่างมาก บาดเจ็บหรือไม่?”เห็นมิราจไนท์หอบหนักหลังจากทําอะไรบางอย่าง ไอซ์แมนกล่าวถามอย่างรวดเร็ว

 

“ไม่เป็นไร แค่เหนื่อยจากการใช้พลังจิตไปมากเพียงเท่านั้น”ได้ยินค่าถามของไอซ์แมน แจ็คสันตอบกลับ

 

อย่างไรก็ตามคําตอบของ แจ็คสัน ท่าให้ไอซ์แมนเบิกดวงตาขึ้นกว้าง

 

“พลังจิต? ฮ่าฮ่า พลังจิตไม่แปลก !”ไอซ์แมนหัวเราะออกมาเบา ๆ

 

“มิราจไนท์?คุณโอเคนะ?”เห็นมิราจไนท์มีท่าที่แปลก ๆ ในเวลาต่อมา ไอซ์แมนตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“ไอซ์แมน บางทีเราอาจสามารถหาลูกบาศก์เวทมนตร์ที่นี่ได้!”ได้ยินคําถามของไอซ์แมน แจ็คสันจ้องมองไปที่พื้นที่ด้านหน้าราวกับครุ่นคิดอะไรได้ ก่อนที่เขากล่าวออกมาอย่างจริงจัง

 

ตอนที่ 686 เดินเล่นในทุ่งหิมะ

 

หลังจากมิราจไนท์พูดคําเหล่านี้ออกมาทุกคนในห้องประชุมก็จ้องมองไปที่พวกเขา ทิวทัศน์ของทุ่งหิมะเหล่านี้แทบจะไม่มีอะไรพิเศษแม้แต่น้อย แต่มิราจไนท์กลับบอกขอออกไปเดินเล่นชมทิวทัศน์ เดิมสิ่งที่พวกเขาควรสนใจตอนนี้คือการค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์ไม่ใช่หรอ

 

“ฮ่าฮ่า,จริง ๆ แล้ว ฉันเองก็อยากจะออกไปเดินเล่นด้วย มิราจไนท์ พวกเราไปด้วยกันเถอะ “จากนั้นไอซ์แมนก็เปิดปากขึ้น

 

เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ แล้ว สถานที่ภายนอกที่มีลมหนาวและทิวทัศน์ทุ่งหิมะที่ดูธรรมดา สําหรับไอซ์แมนแล้วมันเป็นบรรยากาศที่แสนสบายและช่วยให้เขาผ่อนคลาย ความสามารถของไอซ์แมนมาจากยืนกลายพันธุ์พิเศษในร่างกาย สภาพแวดล้อมของที่นี่มีผลความสามารถในการส่งผลกระทบต่ออการเปลี่ยนแปลงความสามารถของเขา หากเขาอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ความสามารถของไอซ์แมนสามารถดึงออกมาใช้ได้อย่างสูงสุด

 

“แน่นอน!”ได้ยินค่าพูดของ ไอซ์แมน แจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“คนอื่น ๆ ที่เหลือก็มาเตรียมพร้อมกันเถอะ จัดอุปกรณ์ที่จําเป็นสำหรับสถานการณ์อื่น ๆ จริงสิ ฉันหวังว่าพวกคุณจะรีบกลับมาโดยเร็วที่สุด”หลังจากตัดสินใจว่าจะเข้าไปค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์ด้านหลังประตูมิติอวกาศ กัปตันโรเจอร์สก็พูดขึ้น

 

“ผ่อนคลายเถอะ พวกเราจะรีบกลับมา! ไปกันเถอะ มิราจไนท์”หลังจากกล่าวบอกกัปตันโรเจอร์ส ไอซ์แมน ก็เดินนําหน้ามิราจไนท์ไป

 

“ตรงนี้ขอฝากนายด้วยล่ะ”แจ็คสันจ้องมองไปที่แฮร์รี่ พร้อมกับส่งสายตา

 

“อม”

 

จากนั้น แจ็คสันก็เดินออกจากห้องประชุมพร้อมกับไอซ์แมน คนอื่น ๆ ที่เหลือ ก็แยกทางกันตามล่าดับ กัปตันโรเจอร์ส นั้นได้กลับไปดูประตูมิติอวกาศและพื้นที่ใกล้เคียง ธรรมชาติเขาจะต้องเฝ้าระวังเหตุเตรียมพร้อมสําหรับการรวมตัวที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้

สิบนาทีผ่านไป แจ็คสัน และ ไอซ์แมน ได้เดินออกมาจากฐานของS.H.I.E.L.D. ค่อนข้างห่างไกล ทัศนียภาพโดยรอบของพวกเขาคือทุ่งหิมะอันไร้สิ้นสุด

 

ตุบ ตุบ

 

บนพื้นที่หิมะที่เย็นเฉียบเหล่านี้ แจ็คสัน ได้เดินต้านแรงลมหิมะด้วยเรี่ยวแรงที่มากล้นของเขา แต่สําหรับไอซ์แมนการก้าวเท้าของเขาเป็นเพียงการก้าวเท้าเบา ๆ ที่เรียบง่ายเพียงเท่านั้น

 

“ไอซ์แมน คุณปล่อยพื้นที่เยือกแข็งแบบนี้ ไม่ทําให้สิ้นเปลืองพลังงานงั้นหรอ?”แจ็คสันหันไปกล่าวถามไอซ์แมนที่อยู่ด้านข้าง

 

เหตุผลที่ไอซ์แมนสามารถเดินบนพื้นที่นี้ได้อย่างฉิว ๆ เป็นเพราะเขาเป็นใช้งานพื้นที่เยือกแข็งของตนเอง ลมหนาวจากภายนอกไม่มีผลกระทบอะไรต่อเขาแม้แต่น้อย

 

“ฮ่าฮ่า ถ้าเป็นที่นี่ล่ะก็ไม่เป็นไร อันที่จริงการเปิดใช้พื้นที่เยือกแข็งของฉันที่นี่ ก็เหมือนกับการอุ่นร่างกายเพียงเท่านั้น”ได้ยินคําถามของมิราจไนท์ ไอซ์แมนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

ไอซ์แมนได้ให้เหตุผลเกี่ยวกับร่างกายของเขาและสภาพแวดล้อมของที่นี่มันช่วยให้ตนเองได้วอร์มร่างกาย ทั้งยังสามารถส่งเสริมการใช้ความสามารถของตนเองด้วย

 

เมื่อเทียบกับความสามารถกลายพันธุ์ของคนอื่น ๆ แล้ว ความสามารถกลายพันธุ์ของไอซ์แมนค่อนข้างรุนแรงกว่าคนอื่น ๆ แต่ความสามารถของพวกคนเหล่านี้มักจะเติบโตได้ช้า หากเติบโตเร็วเกินไปความสามารถเหล่านั้นรั้งแต่จะเป็นผลเสีย นั่นเป็นเหตุผลที่ทําให้ผิวแทนท์ที่มีความสามารถที่น่ากลัวจะต้องค่อย ๆ พัฒนา และฝึกฝนไปได้อย่างยากลําบาก

 

การฝึกฝนนั้นเป็นปัจจัยสําคัญในการพัฒนาขึ้นกลายพันธุ์ของมิวแทนท์ ในมุมมองของมิวแทนท์จํานวนมาก การพัฒนาความสามารถนั้นเป็นไปได้ยาก นอกซะจากความเข้ากันได้ของพลังที่มากจนเกินไป

 

ความเข้ากันได้ของพลังนั้นจะทําให้ยืนกลายพันธุ์แข็งแกร่งและรุนแรงมากขึ้น ประสิทธิภาพของมันมักจะสูงกว่ายืนกลายพันธุ์อื่น ๆ เพราะแบบนี้คนเหล่านี้มักจะตกเป็นเหยื่อของการทดลองอย่างเช่นกลุ่มของพวกสไตรเกอร์ พวกมันได้จับพวกมิวแทนท์ที่มียนพิเศษเหล่านี้มาทดลองกับมนุษย์ และท่าให้มนุษย์เหล่านั้นเปลี่ยนกลายเป็นมิวแทนท์ที่มีลักษณะพันธุกรรมที่เหมือนกับตัวต้นแบบ อีกทั้งความสามารถของพวกรุ่นสองอาจจะกลายพันธุ์ ซึ่งนําไปสู่การวิวัฒนาการของยนต้นแบบได้

 

สําหรับการวิวัฒนาการของคนต้นแบบนั้นสามารถวิวัฒนาการได้หลายปัจจัย เช่นผ่านสภาพแวดล้อมหรือการฝึกฝน อย่างไอซ์แมน เขาสามารถใช้สภาพแวดล้อมของที่นี่ในการฝึกฝนความสามารถของตนเองได้ ทั้งยังจะช่วยพัฒนายนกลายพันธุ์ของเขาให้แข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก

 

“อืม”ได้ยินค่าตอบของ ไอซ์แมน แจ็คสันตอบกลับเบา ๆ

 

เขาเริ่มเข้าใจเกี่ยวกับความสามารถและยืนกลายพันธุ์ของพวกมิวแทนท์มากขึ้น ในใจของเขาก็ค่อนข้างชื่น ชมความสามารถของยืนกลายพันธุ์เหล่านี้ แต่ก็อย่างที่เขารู้มา ยืนกลายพันธุ์พวกนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวของมันเอง

 

“มิราจไนท์ คุณออกมาเดินเล่นเพราอะไรงั้นหรอ? คงไม่ใช่จะเพราะมาชมทิวทัศน์ของทุ่งหิมะเหล่านี้หรอก ใช่มั้ย?”ได้ยินคําตอบของมิราจไนท์ ไอซ์แมนกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับลดความรุนแรงในการควบคุมพื้นที่เยือกแข็งของตนเอง

 

ฟุบ!

 

เห็นไอซ์แมนลดการควบคุมพื้นที่เยือกแข็งของตนเอง แจ็คสันได้ดึงสติกลับมา

 

“เอ…เอ่อ อันที่จริงฉันก็ไม่ได้คิดจะออกมาเดินเล่นหรอก แต่เพราะคาใจเรื่องอะไรบางอย่างเพียงเท่านั้น”แจ็คสันตอบกลับอย่างเร่งรีบ

 

“เรื่องอะไรงั้นหรอ?”ได้ยินค่าตอบของมิราจไนท์ ไอซ์แมนได้กล่าวถามกลับ

 

ฟุบ!

 

จากนั้นพวกเขาก็หยุดเดิน ชุดแพนท่อมสูทของแจ็คสันได้ปลิวไปตามแรงลมขณะที่ไอซ์แมนกําลังรอคําตอบจากเขา

 

ตอนที่ 685 การประชุมที่เรียบง่าย

 

ขณะที่พวกเขารอทีมสํารวจที่ไปสํารวจประตูมิติอวกาศให้กลับมา คนอื่น ๆ ทั้งหมดก็มารอกันที่ห้องประชุมใหญ่ แจ็คสัน ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ ที่มX-MEN และ S.H.I.E.L.D. ยกเว้นไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ค ขุมกําลังขนาดใหญ่ที่เป็นพันธมิตรกันได้มารวมกันอย่างยิ่งใหญ่

 

“มิราจไนท์ คุณมีอะไรจะอธิบายเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์อีกมั้ย? ประตูมิติอวกาศได้ประกฏความผันผวนส่งไปยังพื้นที่ต่างโลก หากเราเข้าไปและไม่พบลูกบาศก์เวทมนตร์แล้วพวกเราจะทําอย่างไร เรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์เองก็ไม่สามารถปล่อยผ่านได้เหมือนกัน”ขณะที่ทุกคนได้นนั่งลงในห้องประชุมกัปตันโรเจอร์สได้จ้องมองไปที่มิราจไนท์

 

“เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์ ฉันได้บอกไปทั้งหมดก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้ฉันไม่มีวิธีอื่นที่จะทําให้โอกาสค้นหาของเราเพิ่มขึ้น แต่ฉันคิดว่าการติดตามคลื่นความผันผวนของพื้นที่มิตินั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว”ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส แจ็คสันตอบกลับ

 

ที่จริงแล้วแจ็คสันเองก็มีลางสังหรณ์ว่าหากพวกเขาเข้าไปข้างในและค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์พวกเขาก็อาจจะพบกับลูกบาศก์เวทมนตร์ แต่ในอีกลางสังหรณ์นึงเขาก็รู้สึกว่าอาจจะไม่ได้พบ อันที่จริงความรู้สึกแบบนี้ เขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน

 

เป็นเพราะการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกของแจ็คสันทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพล็อตเรื่องเดิม โลกสมควร ทรยศแออสการ์ด และชิงลูกบาศก์เวทมนตร์มาเพื่อใช้โจมตีโลก สงครามนั้นเกิดขึ้นในนิวยอร์ก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่เป็นเช่นนั้น

 

หากสงครามในนิวยอร์กปรากฏขึ้น ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร แจ็คสันก็ไม่สามารถคาดเดาได้เหมือนกัน? แต่ปัจจุบัน พวกเขายังไม่พบลูกบาศก์เวทมนตร์ แจ็คสันให้ความสําคัญกับลูกบาศก์เวทมนตร์และพื้นที่มิติอวกาศที่กําลังปรากฏอยู่มาก เขากังวลว่าอีกฟากนึ่งของประตูมิติอวกาศจะมีสัตว์ประหลาดร้ายรอพวกเขาอยู่

 

“นี่ก็เท่ากับว่าเราต้องพึ่งโชคชะตาอย่างงั้นหรอ?”ได้ยินคําตอบของมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์สพูดอย่างหมดหนทาง

 

ถึงแม้ว่า S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของกัปตันโรเจอร์สโดยสมบูรณ์ ภายนอกองค์กร S.H.I.E.L.D. เป็นองค์กรใหญ่ที่สุดในโลกจริง แต่ด้านขุมพลัง ไม่สามารถเปรียบเทียบกับเหล่าพันธมิตรของเขาได้ แม้จะนับรวม ดร.แบนเนอร์ เข้าไปแล้ว ก็ยังไม่มีความมั่นใจอยู่ดี เพราะเขาไม่สามารถชั่งน้ําหนักกับการปรากฏตัวขึ้นของฮัลค์ได้อย่างมั่นใจ ส่วนเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์ เป็นธรรมชาติที่กัปตันโรเจอร์สจะกังวล ฟังจากที่มิราจไนท์เล่าให้ฟังแล้ววัตถุระดับนี้สามารถที่จะนํามาศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีของโลกได้ หากได้มันมาไม่เพียงแต่จะช่วยส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ยังจะสามารถเสริมแกร่งความมั่นคงและความปลอดภัยของโลกได้อีก

 

ดังนั้น กัปตันโรเจอร์สจึงคิดว่า แม้เขาจะมีทีมอเวนเจอร์ส แต่ก็ไม่มีจุดแข็งที่เพียงพอ ยิ่งหากทีมอเวนเจอร์สขาดเขาไป ความแตกต่างทางด้านกําลังคนก็จะลดลง นอกเหนือจากเขาแล้วก็มีฮอว์กอายและฟอลคอน ทั้งสองคนไม่ได้มีพละกําลังเหนือมนุษย์ พวกเขาพึ่งพาเทคโนโลยีในการสู้รบ ถ้าหากอาวุธเทคโนโลยีของพวกเขาอยู่ในเกณฑ์ระดับต่ํา พวกเขาจะไม่สามารถแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ อันที่จริง กัปตันโรเจอร์ส ก็รู้สึกอิจฉามิราจไนท์อยู่เหมือนกัน อีกฝ่ายไม่เพียงแต่มีเทคโนโลยีที่น่าค้นหา ทั้งยังมีพละกําลังทางกายที่แข็งแกร่งอีก เขาไม่สามารถเทียบกับอีกฝ่ายได้เลย

 

“ถึงครั้งนี้เราจะไม่สามารถหาลูกบาศก์เวทมนตร์พบแต่เราย่อมมีการเก็บเกี่ยวที่มากมายกลับไป ไม่นานมานี้ ฉันได้ตรวจพบอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ ซึ่งฉันอยากที่จะศึกษาค้นคว้ามัน”เห็นกัปตันโรเจอร์สทําตัวไม่ถูกดร.แบนเนอร์ได้เดินเข้ามาในที่ประชุมและกล่าวพูดขึ้น

 

ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ พรสวรรค์ในการเรียนรู้ของดร.แบนเนอร์นั้นสูงมาก ไม่จําเป็นจะต้องเป็นลูกบาศก์เวทมนตร์ก็ได้

ดังนั้นสิ่งที่เขาสนใจย่อมเป็นสิ่งที่มีค่าเสมอมันคือความหนาแน่นของอนุภาคแอลฟาที่สูงอย่างผิดปกติ

 

“แต่…ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นคือสถานที่ต่างดาวนอกโลก?”กัปตันโรเจอร์สกล่าวอย่างกังวล

 

ไม่นานมานี้ เขาได้ยินจาก ดร.แบนเนอร์ว่า ด้านหลังประตูมิติอวกาศคือจักรวาลที่เต็มไปด้วยดวงดาว มันคือดวงดาวที่ไม่ใช่โลก อีกทั้งประตูมิติอวกาศที่เสถียรภาพเช่นนี้พวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันจะมีท่าทีแปลกเพียงใดในภายหลัง หากเขาเข้าไปข้างในและเกิดความผิดปกติตามมาผลลัพธ์ที่ตามมาคงไม่ดีเท่าไหร่นัก

 

“กัปตันโรเจอร์ส พวกเรา ทีมX-MEN มาที่นี่เพื่อค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์ ดังนั้นพวกเราจะไม่ยกเล็กภารกิจ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม”ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส ไอซ์แมน และสตอร์มได้เปิดปากพูดขึ้น

 

“แม้ทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์ ของเราจะไม่มีเครื่องมือระบบการวิจัย แต่ความมั่งคั่งที่อาจค้นหาได้ในจักรวาลนั้น พวกเราเองก็ต้องการเช่นเดียวกัน”หลังจากพวกสตอร์มเปิดปากพูด แจ็คสันได้กล่าวต่อ

 

เดิมเขาไม่ได้มีความคิดที่จะโน้มน้าวอีกฝ่าย แต่ในเมื่อพวกสตอร์มตอบตกลงเห็นด้วยในการค้นหาอีกฟากนึงของจักรวาล เป็นธรรมชาติที่แจ็คสันจะไม่ปฏิเสธ

 

“อันที่จริงเรื่องนั้นมันก็คือวัตถุประสงค์ที่พวกเรามารวมกันที่นี่นั่นแหละ!”ได้ยินคําพูดของพวกสตอร์มและมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์สยิ้มออกมา

 

กัปตันโรเจออร์ส ไม่ได้นําพาองค์กร S.H.I.E.L.D, มาเพื่อผูกขาดทรัพยากรเหล่านี้ ถึงแม้ว่าระบบการวิจัยของ S.H.I.E.L.D. จะสมบูรณ์แบบที่สุด แต่ในด้านการเก็บเกี่ยวนั้นพวกเขาอาจจะได้ไม่เท่าที่ควร

 

“ถ้าพวกเราตัดสินใจได้แล้วก็ไม่จําเป็นจะต้องรั้งรอกันอยู่ที่นี่แล้ว จริงสิ ฉันขอตัวออกไปเดินเล่นชมทัศนียภาพของทุ่งหิมะสักครู่ แล้วจะกลับมาโดยเร็วที่สุด”แจ็คสันตัดสินใจแล้วว่าจะเข้าสํารวจด้านหลังประตูมิติอวกาศ ดังนั้นเขาจึงกล่าวพูดขึ้น

อันที่จริงเขาต้องการค้นหาศพของเร้ด สกลล์ ที่เลิกคิดไปเมื่ออครู่ แม้ J.A.R.V.I.Sบอกว่าจะไม่ตรวจพบศพอีกฝ่าย แต่แจ็คสันก็อยากจะยืนยันด้วยตัวเอง

 

ตอนที่ 684 สํารวจพื้นที่ด้านหลังประตูมิติอวกาศ

 

หลังจากนั้นหนึ่งนาที ทางS.H.I.E.L.D. ได้เตรียมหุ่นยนต์ไร้คนขับจัดตั้งเป็นทีมเพื่อส่งเข้าประตูมิติอวกาศขนาดใหญ่ หากข้างหลังประตูนั้นมีประสบการณ์แบบเดียวกับ มิราจไนท์และเดดพูล ก่อนหน้านี้ก็อันตรายไม่ใช่น้อย ดังนั้นก่อนหน้านี้ กัปตันโรเจอร์ส จึงให้องค์กร S.H.I.E.L.D. สร้างกองทัพหุ่นยนต์สํารวจจํานวนมากขึ้นมาเพื่อสํารวจพื้นที่ด้านหลังประตูนี้

 

ตึก ตึก

 

ภายใต้การจ้องมองของแจ็คสัน และ คนอื่น ๆ หุ่นยนต์ไร้คนขับที่มีฟังก์ชั่นมากกว่า 20 ฟังก์ชั่น ได้ถูกส่งเข้าประตูมิติอวกาศจากนั้นพวกเขาก็รออย่างสงบ

 

“คลื่นสัญญาณได้รับผลกระทบอย่างมาก! อย่างไรก็ตามสัญญาณยังไม่ได้ถูกตัดออกทั้งหมด!”หลังจากหุ่นยนต์5วสุดท้ายเข้าไป เจ้าหน้าที่ขั้นสูงของ S.H.I.E.L.D. ได้กล่าวแจ้งต่อกัปตันโรเจอร์ส

 

สัญญาณไม่ได้ถูกตัดขาดอย่างสมบูรณ์ นั่นอธิบายได้ว่าพื้นที่ด้านหลังประตูนั่นยังอยู่ในโลก

 

“ด้านหลังประตูนั้น คือพื้นที่ในโลกนี้งั้นหรอ?”ได้ยินเสียงของลูกน้องตนเอง กัปตันโรเจอร์สพึมพัมออกมา

 

ประตูมิติอวกาศที่ส่งพวกมิราจไนท์และเดดพูลไป ได้นําพาไปสู่ดวงดาวอื่นในจักรวาล แม้สถานที่และข้อ มูลเหล่านี้เขาจะฟังมาจากการเล่าจากปาก แต่กัปตันโรเจอร์สก็เชื่อมั่น ทั้งยังทําการวิเคราะห์ออกมา เพราะฉะนั้นประตูมิติอวกาศขนาดใหญ่เช่นนี้ เขาจึงให้ความสําคัญอย่างมาก

 

“กําลังประมวลผลรวบรวมภาพของสภาพแวดล้อมโดยรวมอย่างสมบูรณ์”ได้ยินค่าถามของกัปตันโรเจอร์ส หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชารับกล่าวตอบ

 

ประตูมิติอวกาศคือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากพลังลึกลับของลูกบาศก์เวทมนตร์ดังนั้น กัปตันโรเจอร์สจึงไม่รีบร้อนที่จะแสดงอาการร้อนรนต่อพื้นที่ด้านหลังนั่น

 

“คราวนี้ไม่ได้นําพาไปยังดาวเคราะห์อื่น แต่อยู่ในโลกงั้นหรอ? ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี!”ได้ยินคําพูดการ สนทนาระหว่างกัปตันโรเจอร์ส และหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาคนนั้น แจ็คสันครุ่นคิดเงียบ ๆ

 

แม้ว่าสิ่งที่ประตูมิติอวกาศจะพาไปจะเป็นการสุ่ม เอกภพนั้นกว้างใหญ่ไพศาล ดวงดาวและดาวเคราะห์อื่น ๆ ก็มีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด การที่ประตูมิติอวกาศเลือกที่จะสุ่มในพื้นที่บางแห่งบนโลกถือเป็นเรื่องที่ดี

 

ธรรมชาติก่อนหน้านี้ แจ็คสัน ก็คิดว่าด้านหลังประตูมิติอวกาศนี้น่าจะเป็นดวงดาวของอารยธรรมอะไรซักอย่าง เพื่อที่จะช่วยเหลือให้พวกเขาได้ประโยชน์ในอนาคต แต่ในเมื่อมันเป็นเช่นนี้ ก็ดีไปอีกแบบ พวกเขาจะได้ลดจํานวนผลกระทบที่จะส่งผลต่อพวกเขาเองด้วย

 

สําหรับแจ็คสันแล้ว ถ้าประตูมิติอวกาศนี้ส่งไปยังดาวเคราะห์อื่นที่แตกต่างกัน เขาก็ยังสามารถเก็บประสบการณ์และกอบกู้ผลประโยชน์จากดาวเคราะห์นั้น ๆ กลับมาโลกได้ แม้โลกจะไม่ได้ขาดทรัพยากรมากมายในตอนนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่โลกต้องการคือการพัฒนาอารยธรรมให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

เนอร์ ก็ส่งเสียงออกมา

 

เจ้าหน้าที่ตัวแทนของ S.H.I.E.L.D. เละ คนอื่น ๆ ก็หยุดชะงัก ดร.แบนเนอร์ ได้เดินไปที่เครื่องตรวจสอบพร้อมกับคีย์ข้อมูลจํานวนมากลงไปซึ่งเจ้าหน้าที่ตัวแทนคนนี้รู้สึกตกใจอย่างมาก

 

“ดร.แบนเนอร์ คุณค้นพบอะไรงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สกล่าวถาม

 

“อม,จากการตรวจสอบอนุภาพในปัจจุบันหลังจากเข้าไปข้างในประตูมิติอวกาศ อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่อนุภาพ สภาพแวดล้อมของโลกในปัจจุบัน แม้โลกของเราจะมีสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุด แต่ก็ไม่เหมือนอานุภาพ ความหนาแน่พิเศษนี้”ได้ยินคําถามของกัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์กล่าวตอบ

 

“อนุภาพแอลฟาพวกนี้ มีความหนาแน่นระดับสูง ดังนั้นด้านหลังประตูมิติอวกาศนี้น่าจะเป็นสถานที่ใดสถานที่หนึ่งในจักรวาล”หลังจากดร.แบนเนอร์ได้เลือกลงมือเองเขาก็กล่าวพูดออกมาอย่างระวัง

 

โชคดีที่พวกที่ถูกส่งไปเป็นหุ่นยนต์ไร้คนขับ ซึ่งแม้องค์กร S.H.I.E.L.D. จะเป็นองค์กรระดับโลก แต่การทําภารกิจในจักรวาลอื่น ๆ พวกเขาก็ยังไม่เคยได้รับประสบการณ์ หากพวกเขาส่งคนเข้าไปผลกระทบที่ตามมารังแต่จะมีผลเสีย

 

“คุณมั่นใจใช่มั้ย?”หลังจากได้ยินคําพูดของดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สได้กล่าวถามยืนยันอีกครั้ง

 

“ครับ,ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่ ดร.แบนเนอร์บอก ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นคือจักรวาลที่เต็มไปด้วยดวงดาวบนท้องฟ้า!”หลังจากที่ได้เห็นผลวิเคราะห์ของ ดร.แบนเนอร์ เจ้าหน้าที่ของ S.H.I.E.L.D. คนนั้นได้ตอบกลับ

“รวบรวมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในนั้น

ให้ได้มากที่สุด จากนั้นส่งกองทัพพวกนั้นกลับมา เราจําเป็นจะต้อง ได้รับข้อมูลการประมวลผลจากข้างในนั้น”ภายใต้การพิจารณาของกัปตันโรเจอร์ส เขาได้กล่าวสั่งการอย่างรวดเร็ว

 

“ครับ!”เจ้าหน้าที่ตัวแทนคนนั้นได้ควบคุมหุ่นยนต์ไร้คนขับเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว

 

“ในช่วงระหว่างที่รอเก็บเกี่ยวข้อมูลเราจะปิดภูมิภาคแห่งนี้โดยสมบูรณ์ หน้าที่ของพวกเราคือประมวลผลอนุภาพในจักรวาลที่แตกต่างนี้ให้ได้และหาข้อมูลออกมาให้ได้มากที่สุด”ดร.แบนเนอร์กล่าวตอบ

กัปตันโรเจอร์สได้พยักหน้าพร้อมกับเดินออกจากที่นี่ แม้การสํารวจจะเริ่มขึ้นไปแล้ว แต่กัปตันโรเจอร์สไม่จําเป็นจะต้องรั้งรออยู่ที่นี่

 

“ฮอว์กอาย นี้เป็นครั้งแรกที่ ฉันจะมอบหมายหน้าที่ให้คุณ หากมีอะไรเกิดขึ้น คุณกับเจ้าหน้าที่โคลสันควรจะรู้นะว่าจะต้องทําอย่างไร”กัปตันโรเจอร์สได้หันไปกล่าวบอกฮอว์กอาย

 

ได้ยินคําพูดของ กัปตันโรเจอร์ส ฮอว์กอายพยักหน้าตอบอย่างเงียบ ๆ จากนั้น เขาก็เดินไปยังทิศทางของพวกมิราจไนท์ที่ยืนรออยู่ใกล้ตําแหน่งของประตูมิติอวกาศ

ตอนที่ 683 ประตูมิติอวกาศขนาดใหญ่พิเศษ

 

เห็นปีเตอร์กระโดดอย่างดีใจและมีรูปลักษณ์ที่ผ่อนคลาย อย่างไรก็ตามโทนี่รู้ว่าที่ปีเตอร์มีความสุขไม่ใช่เพราะว่าจะได้กลับบ้านแต่เขาจะไปที่ไซบีเรียเพื่อสมทบกับแจ็คสันก่อนหน้านี้โทนี่ได้ข่าวลูกบาศก์เวทมนตร์แล้วปีเตอร์เองก็เช่นเดียวกันดังนั้น โทนี่ จึงปล่อยให้ปีเตอร์กลับบ้านได้

 

“เจ้าเด็กคนนี้! รีบๆ ไปได้แล้วคิดหรอว่าฉันไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่!”หลังจากเห็นปีเตอร์ไล่เก็บสิ่งทดลองที่ทําค้างเอาไว้เขาก็เตรียมจะออกจากห้องลับแห่งนี้

 

“ฮ่าฮ่า ขอบคุณคุณสตาร์ค!”ได้ยินคําพูดของโทนี่ปีเตอร์รีบวิ่งไปที่ทางเข้าห้องทดลองทันที

 

“ไปที่ห้องประตูถัดไป เลือกชุดเกราะไอรอนแมนไปแล้วกันฉันจะให้ J.A.R.V.I.S ไปส่งเธอ!”โทนี่กล่าวเริ่ม

 

“ขอบคุณครับ!”หลังจากนั้นปีเตอร์ก็ออกไป

 

ในที่สุดห้องทดลองขนาดใหญ่นี้ก็เหลือโทนี่เพียงคนเดียวพร้อมกับการทดลองจํานวนมากที่ถูกวางเอาไว้ในห้องทดลองนี้มีเครื่องทดลองความแม่นยําสูงหลายตัวโทน ให้ความสําคัญกับมันมาก

 

“เจ้านายครับ ผมจะอยู่สนับสนุนคุณที่นี่ต่อเอง”เห็นโทนอยู่คนเดียวในห้องแล็ปแห่งนี้ เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังขึ้น

 

“ฮ่าฮ่า ฉันรู้อยู่แล้ง นอกจากนี้นายก็คือส่วนหนึ่งของฉัน J.A.R.V.I.S สัญญากับฉัน ว่านายจะคอยอยู่เคียงข้างฉันอย่างต่อเนื่อง”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S โทนี่ยิ้มออกมา

 

“เจ้านายครับผมจะเฝ้าคอยติดตามคุณ ถ้าคุณต้องการผม ผมก็ยินดีติดตามคุณอย่างต่อเนื่อง”ได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

 

“ฉันเชื่อนาย,เอาล่ะ ในเมื่ออีกทางด้านนึงกําลังพยายามหาสิ่งที่เรียกว่าลูกบาศก์เวทมนตร์อยู่ก็ให้พวกเขาจัดการไปแล้วกันส่วนฉันจะรั้งอยู่ที่นี่ทําการศึกษาวิจัยต่อ J.A.R.V.I.S มาช่วยกันหน่อย!”โทนี่ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องทางนั้นเขายังมีการศึกษาวิจัยจํานวนมากรออยู่แม้ว่ามันจะเทียบกับลูกบาศก์เวทมนตร์จะเป็นสิ่งเล็กน้อยก็ตาม

 

“ครับเจ้านาย!”

 

ขณะที่ ปีเตอร์ ขับชุดเกราะไอรอนแมนมุ่งมายังทิศทางของไซบีเรียอย่างรวดเร็ว ทางด้านแจ็คสันเขาก็ได้เข้าสู่ฐานชั่วคราวของ S.H.I.E.L.D.แล้วเขาเห็นสมาชิกของทีม X-MEN หลายคนแต่คราวนี้ศาสตราจาย์ชาร์ลส์ไม่ได้มาด้วยผู้นําของทีมX-MEN คราวนี้ก็คือไอซ์แมนโรเบิร์ดในสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นเช่นนี้ความสามารถของไอซ์แมนนั้นถือว่าเหมาะสมอย่างมาก

 

“ฮ่าฮ่า,มิราจไนท์คุณเองก็มาด้วยงั้นหรอ? ดูเหมือนคุณจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่แล้วสินะ!”เห็นมิราจไนท์เดินเข้ามาไอซ์แมนเดินเข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้ม

 

“อม,ขอโทดที่มาช้า และ ก็ขอบคุณ ไอซ์แมน”แจ็คสันได้สวมกอดไอซ์แมนอย่างเรียบง่ายพร้อมตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“เป็นเรื่องที่ดี,เอาล่ะ นอกเหนือจากโทนี่ สตาร์ค ทุกคนก็มาครบกันแล้ว พวกเรามาเริ่มการดําเนินการสํารวจประตูมิติอวกาศกันดีกว่า”เห็นการทักทายของ มิราจไนท์ และไอซ์แมนกัปตันโรเจอร์สไม่ต้องการเสียเวลามาเกินไปเขากล่าวพูดขึ้น

 

อันที่จริง แม่โทน จะไม่ได้มา แต่เขาก็ยังส่งเครือข่ายสําคัญ อย่าง J.A.R.V.I.S มาช่วยเหลือทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาโทนี่จะรับรู้ทั้งหมด

 

“มิราจไนท์ คุณยังไม่เห็นประตูมิติอวกาศที่ปรากฏขึ้นสินะ ถ้าคุณเห็นมัน คุณจะต้องประหลาดใจมากแน่นอน!”หลังจากได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์สไอซ์แมนได้ผละกอดออกจากมิราจไนท์และเดินกอดคอเขาเดินตรงไปที่ศูนย์กลางของฐาน

 

ภายใต้การนําของไอซ์แมน กัปตันโรเจอร์ส และ คนอื่น ๆ ก็เดินติดตามไปอย่างรวดเร็วเพียงระยะเวลา 3 นาทีแจ็คสันก็สามารถสัมผัสคลื่นพลังความผันผวนของพื้นที่มิดิพิเศษได้ทันที มันเป็นการเหนี่ยวนําพลังที่รุน แรงอย่างมาก เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้คลื่นความผันผวนครั้งนี้ทรงพลังกว่าหลายเท่า

 

จากนั้นบางสิ่งก็ปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขา

 

ด้านหน้าคือสนามพื้นที่หิมะโดยรอบระหว่างสนามพื้นที่นั้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางก็คือประตูมิติอวกาศสูงกว่า 5 เมตรเพราะการปิดกั้นล้อมรอบของพวก S.H.I.E.L.D. ทําให้ พื้นที่ภายในนั้นแทบจะไม่มีลมหนาวเล็ดรอดอย่างไรก็ตาม มีบางครั้งที่ประตูมิติอวกาศได้ส่งคลื่นไอความเย็นออกมาการปรากฏขึ้นของประตูมิติอวกาศในคราวนี้ยิ่งใหญ่อย่างมากและยังเสถียรภาพอีกด้วย

 

เทียบกับการปรากฏตัวของประตูมิติอวกาศที่ส่งพวก แจ็คสัน และ เดดพูล ไปยังโลกที่แตกต่างแล้วประตูมิติอวกาศในคราวนี้กลับทรงพลังกว่าโดยไม่ต้องสงสัยและ ประตูมิติอวกาศที่เสถียรเช่นนี้ก็ยากที่รักษาสภาพไว้ได้นานยิ่งนานจนกระทั่งมันถูกคนของ S.H.I.E.L.D. ตีฐานล้อมรอบเอาไว้ได้

 

“มิราจไนท์ คุณรู้สึกสงสัยมั้ยว่าทําไมประตูมิติอวกาศขนาดใหญ่ที่ถูกค้นพบจนถึงปัจจุบันถึงมีเสถียรภาพขนาดนี้?”เห็นมิราจไนท์จ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศกัปตันโรเจอร์สได้เปิดปากถาม

 

“อม,ประตูมิติอวกาศขนาดใหญ่เช่นนี้ ไม่ควรจะรักษาเสถียรภาพไว้ได้นาน อย่างน้อยมันก็คงไม่อยู่รอจนพวกเรามาถึง”ได้ยินคําถามของกัปตันโรเจอร์สแจ็คสันพยักหน้าตอบ

 

“ใช่ นี่เองก็เป็นผลลัพธ์ที่เราพูดคุยกันก่อนหน้านี้ เดิมเราคาดว่าคลื่นความผันผวนที่เราสัมผัสได้จะมาจากลูกบาศก์เวทมนตร์แต่กลับมาจากประตูมิติอวกาศนซะได้”กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

“อึม,ไม่พบสินะ…”ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส แจ็คสันรู้สึกไม่สบายใจ

 

เขาจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศขนาดใหญ่ด้วยความสงสัย

 

“มิราจไนท์ คุณคิดเห็นอย่างไร?”แจ็คที่ อยู่ด้านข้าง มิราจไนท์ ได้เปิดปากกล่าวถาม การที่เขาเห็นประตูมิติอวกาศที่มั่นคงในสภาพนี้ เขาเองก็รู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจ

 

“ไม่รู้เหมือนกัน,ดูเหมือนว่าพวกเราจําเป็นจะต้องสํารวจด้านหลังประตูมิติอวกาศนี้!”แจ็คสันสั่นศีรษะพร้อมกับเสนอความคิดเห็น

 

“อม,พวกเราได้เตรียมหุ่นยนต์สารวจไร้คนขับพร้อมแล้ว พวกเราสามารถเริ่มได้ทันที”ได้ยินคําพูดของมิราจไนท์กัปตันโรเจอร์สตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

“ไม่ต้องรอแล้ว! เริ่มเลยเถอะ!”

 

ตอนที่ 682 ดร.แบนเนอร์ มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ตํา

 

ได้ยินคําตอบที่ชัดเจนของ J.A.R.V.I.S,คิ้วของแจ็คสันขมวดแน่นขึ้นด้วยความสงสัย ตามระยะทางที่เขาเดินจากตรงนั้นไปยังฐานเก่าไฮดร้า มันน่าจะอยู่ในระยะทางที่เขาบอกอย่างแน่นอน ถ้าเกิดว่า…เร้ด สกัลล์ยังไม่ตาย ? ไม่สิ้มันไม่ถูกในเวลานั้นระบบได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่าเขาได้ฆ่าเร้ดสกัลล์ไปแล้วทั้งยังได้รางวัลภา รกิจด้วย

 

“ระบบ ไม่น่าจะผิดพลาด เป็นไปไม่ได้ที่ เร้ด สกัลล์ จะยังไม่ตาย ดังนั้นเรื่องความตายของเร้ดสกัลล์ ฉันก ล้ารับรอง! อย่างไรก็ตาม ท่าไมไม่พบศพของเขา หรือตําแหน่งที่ฉันให้ไปไม่ถูกต้อง?หรือว่ามีสัตว์ท้องถิ่นลากศพเร้ดสกัลล์ ไปกิน?”หลังจากที่หาศพ เร้ด สกัลล์ไม่เจอแจ็คสันได้ครุ่นคิดหนทางที่พอจะเป็นไปได้

 

“J.A.R.V.I.S, ไม่พบร่องรอยสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เลยงั้นหรอ?”แจ็คสันกล่าวถามอีกครั้ง

 

“ไม่มีครับ ในระยะทางรอบ ๆ ไม่มีรอยเท้าหรือร่องรอยของสัตว์ท้องถิ่นทิ้งเอาไว้ นอกจากนี้ยังไม่มีร่องรอยจุดที่ศพของเร้ดสกัลล์อยู่แม้แต่น้อย”ราวกับรู้ว่าแจ็คสันคิดอะไร J.A.R.V.I.S, ตอบกลับทันที

 

“นี่มันแปลกเกินไป!”ได้ยินค่าตอบของ J.A.R.V.I.S, แจ็คสันขมวดคิ้วแน่นอีกครั้ง

 

“บางที่ฉันควรจะลืม เรื่อง เร้ด สกัลล์ไป แม้ว่าจะหาศพไม่พบ แต่ในความเป็นจริง เร้ด สกัลล์ก็เป็นเพียงแค่ทหารทดลองผู้ล้มเหลวไม่ได้มีค่าต่อการวิจัยมากนัก”แจ็คสันได้ครุ่นคิดในใจ

 

“J.A.R.V.I.S, หลังจากจบเรื่องนี้แล้ว ฉันจะไปสํารวจที่ ฐานข้างหน้าดู ฉันจะดูว่ามันถูกเตรียมพร้อมสําหรับที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์มากน้อยแค่ไหน”แจ็คสันเล็กกังวลเกี่ยวกับศพของเร้ดสกัลล์จากนั้นเขาก็ตอบกลับ J.A.R.V.I.S,

 

“เข้าใจแล้ว,มิราจไนท์!”

 

“มิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์สมาแล้ว”ขณะที่ แจ็คสัน กําลังสนทนากับ J.A.R.V.I.S. เสียงแฮร์รีก็ได้ดังขึ้นเพื่อเดือนสติของเขา

 

เมื่อครู่ แจ็คสัน ได้ขอตัวปลีกแยกออกไปยังที่ลับตา เขาได้แอบสนทนากับ J.A.R.V.I.S. ซึ่งพวกแฮร์รี่ได้รู้ เขาจึงไม่จําเป็นจะต้องแอบฟังแจ็คสัน แต่ตอนนี้พวกเขาเดินมาถึงทางเข้าฐานชั่วคราวของ S.H.I.E.L.D. แล้ว และ กัปตันโรเจอร์ส ก็กําลังรอพวกเขาอยู่

 

ดังนั้นเมื่อแจ็คสันได้ยินเสียงเดือนของแฮร์รี่ กัปตันโรเจอร์ส ก็เดินออกมาจากภายในฐานและต้อนรับพวกเขาด้านข้างของกัปตันโรเจอร์ส มีหนึ่งชายและหญิงสาวเดินคู่กันมาหญิงสาวคนนั้นคือนาตาชาแบล็ควิโดว์และ ก็ดร.แบนเนอร์ฮัลค์พวกเขาได้ติดตามกัปตันโรเจอร์สมาด้วย

 

“สวัสดี มิราจไนท์ และ สมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ทุกคน”หลังจากสังเกตุเห็นการมาถึงของพวกเขาทั้ง 4คน กัปตันโรเจอร์สยิ้มทักทาย

 

“สวัสดี กัปตันโรเจอร์ส,มิส นาตาชา และ ก็ ดร.แบนเนอร์”หลังจากกัปดันโรเจอร์สเปิดปากทักทายแจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“มิราจไนท์ คุณสุดยอดมาก! จากอาการบาดเจ็บหนักเพียงระยะเวลาสองวันคุณกลับสามารถฟื้นฟูกลับมาได้โดยไม่คาดคิด!”ดร.แบนเนอร์ ที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวทักทาย

 

แม้ว่าสองวันก่อนหน้านี้คนที่ทําร้ายมิราจไนท์จริง ๆ จะเป็น ฮัลค์ แต่ ดร.แบนเนอร์ ก็สามารถสัมผัสรู้ได้ว่าการเคลื่อนไหวสุดท้ายของฮัลค์ ทรงพลังแค่ไหน ในเวลานั้น มิราจไนท์ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแท้จริงแต่ผ่านไปสองวัน รูปร่างหน้าตาที่เจ็บป่วยก่อนหน้านี้ กลับดีขึ้นอย่างน่าแปลกใจมันทําให้สีหน้าของดร.แบนเนอร์ในปัจจุบัน รู้สึกความีความสุข

 

“ฮ่ะ ฮ่ะ ได้ข่าวว่าคุณเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน”ได้ยินเสียงของ ดร.แบนเนอร์ แจ็คสันตอบกลับเบา ๆ

 

เขารู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อถึงคิดคําพูดของ ดร.แบนเนอร์ ,ดร.แบนเนอร์ เองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกันแต่ความสามารถทางด้านการรักษาของร่างกายเขาสุดยอดมาก ไม่นานแผลทั้งหมดก็หายดี

 

“เอ่,คุณว่าอะไรนะ?”ได้ยินค่าพูดของมิราจไนท์ ดร.แบนเนอร์ รู้สึกสงสัย

 

จู่ๆ นาตาชา ที่อยู่ด้านข้าง ก็เดินมาจับไหล่ของ ดร.แบนเนอร์ เพื่อบอกให้เขาปล่อยผ่านแม้ดร.แบนเนอร์จะฉลาดแต่แน่นอนว่าเขาไม่เข้าใจความคิดที่ มิราจไนท์ ต้องการจะถากถางเขาตอนนี้และดร.แบนเนอร์นั้นเป็นคนที่มีภาวะทางอารมณ์ต่ํานาตาชาไม่อยากจะให้เกิดเรื่องขึ้นที่นี่

 

เห็นการกระทําของ นาตาชา แจ็คสันยิ้มออกมาที่มุมปาก เกี่ยวกับภาวะทางอารมณ์ที่ตกต่ําของดร.แบนเนอร์ ไม่แปลกใจ ที่นาตาชา จะห้าม หาก ดร.แบนเนอร์ รู้สึกตัวถึงคําถากถางของเขา

 

“เข้าไปข้างในกันเถอะ,ลมข้างนอกค่อนข้างหนาว”เห็นการแสดงออกของทุกคน แจ็คสันกล่าวพูดกับกัปตันโรเจอร์ส

 

“อ่า,แม้ว่าฐานนี้จะถูกสร้างขึ้นมาอย่างชั่วคราว แต่ก็สามารถป้องกันสภาพอากาศที่หนาวเย็นของไซบีเรียนี้ได้”ได้ยินคําพูดของ มิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส ตอบกลับ

“ฟูว! เข้าไปกันเถอะ! ฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว!”ดร.แบนเนอร์ ไม่ได้สนใจการกระทําของนาตาชาเขาได้สาวเท้าเดินออกไป

 

จากนั้นภายใต้การนําของ กัปตันโรเจอร์ส แจ็คสัน และ สมาชิกที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์คนอื่นๆก็เดินเข้าไปภายในฐานทัพ

 

ขณะ ที่พวก แจ็คสัน ตรงดิ่งไปที่ ไซบีเรีย ในห้องปฏิบัติการของโทนี่ ในนิวยอร์ก โทนี่ได้ทําการทดลองรอบใหม่อีกครั้งมันคือวัสดุทดลองที่มาจากดาวเคราะห์ดึกดําบรรพ์ที่แจ็คสันทิ้งไว้ให้โทนี่ต้องการจัดการขั้น ตอนและเก็บพวกมัน

 

“ปีเตอร์,ตัวทดลองที่ 13 พยาพยามยื้อสภาวะและตรวจสอบมันดี ๆ ฉันรู้สึกได้ถึงความโดดเด่นพิเศษของ มัน”ขณะที่ โทนี่ กําลังถือลูกปัดทรงกลมสีเขียว เขาก็ตะโกนบอก

 

“เข้าใจแล้ว! คุณสตาร์ค คุณสมบัติของตัวทดลองที่ 13 ค่อนข้างดุร้ายจริง ๆ มันเกือบจะทําหลอดแก้วละลา ยอีกแล้ว!”ปีเตอร์ตอบกลับ

 

“เอาล่ะ เดี๋ยว ฉันจัดการที่เหลือต่อเอง!”โทนี่ พึมพัมออกมา จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่ลูกปัดสีเขียวในมือ

 

“ฟูว! ในที่สุดก็ได้กลับบ้านสักที!”ได้ยินคําพูดของโทนี่ ปีเตอร์ ได้บิดขี้เกียจเล็กน้อย

 

DMWS ตอนที่ 581 ไม่เจอศพ

 

ฟูว! w w

 

จากนั้นประตูมิติเวทมนตร์สีทองก็ปรากฏขึ้นและหายไปได้ในที่สุด เดดพูล ได้ยืนงุนงงอยู่ภายในฐานพร้อมกับสีหน้าที่บูดบึงอย่างมาก

 

“เชอะ! ทําเป็นให้ฉันอยู่ที่นี่! ใครบอกกันว่าฉันอยากจะไปสถานที่เย็นและหนาวแบบนั้นฉันไม่คิดอยากจะไปกับพวกนายซะหน่อย!”หลังจากเห็นรัศมีพลังแสงสีทองหายไปเดดพูลได้สบถออกมาอย่างโกรธเคือง

 

ได้ยินคําพูดของเดดพูล เจอร์รี่ ที่ยืนอยู่ด้านหลังยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้จากนั้นเขาก็กลับไปประจําที่หน้าคอมพิวเตอร์ของตนเองเพื่อคอยสนับสนุนมิราจไนท์มิราจไนท์ได้เดินทางไปที่ไซบีเรียเป้าหมายในคราวนี้คือการหาลูกบาศก์เวทมนตร์ที่หายไป เจอร์รี่หวังว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นเขาคิดงั้น

 

เมื่อเจอร์รี่เลิกสนใจเขาอีกคน เดดพูล ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเขาหันหลังกลับไปที่มุมห้องจากนั้นก็เดินไปยังเงาร่างของผู้คนที่ไม่ทราบชื่อเขาจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่วางตา

 

“ทําไมฉันถึงรู้สึกถึงความพิเศษจากตัวนายกันนะ ?นายมีความผูกพันพิเศษยังไงกับฉันกันแน่? นายเป็นใครกัน?”เดดพูลได้นั่งยอง ๆ และกล่าวด้วยเสียงต่ํา

 

เดดพูล และ มิราจไนท์ ได้คาดเดาสถานะของคน ๆ นี้แล้ว คนคนนี้อาจจะเป็นหนึ่งในลูกมือของสไตรเกอร์หรือเป็นหนึ่งในคนของกองทัพจริง ๆ แล้วเขาไม่รู้จักคน ๆ นี้เลยแม้แต่น้อยแต่เพราะความพิเศษของอีกฝ่ายทําให้เดดพูลรู้สึกคุ้นเคย

 

สองวันก่อนหน้านี้ สไตรเกอร์ ได้ถูก สมาคมพี่น้องมิวแทนท์จัดการจนย่อยยับ หากไม่ได้พวกที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์หรือคนอื่น ๆ เข้ามาห้ามเอาไว้จดจบของสงครามก่อนหน้านี้คงไม่สวยเท่าไหร่พื้นที่แถวนั้นกลายเป็นเศษซากปรักหักพังจํานวนมากมีผู้คนล้มตายเกลื่อนกราดเดดพูลได้เก็บคนคนนี้มาจากสนามรบในตอนนั้น

 

“ไม่ว่านายจะเปป็นใคร ฉันคงไม่อาจปล่อยให้นายนอนหมดสติอย่างงี้ไปได้ตลอดหรอกนะ!หวังว่าความรู้สึกของฉันจะไม่พลาด!”เดดพูลจ้องมองไปที่อีกฝ่าย

 

ฟุบ!

 

จากนั้นเดดพูลก็ได้นํายายืนฉีดเข้าใส่ร่างกายของชายคนนี้จากสภาวะในปัจจุบันของเขาหากได้รับการรักษาคาดว่าน่าจะตื่นขึ้นมาเร็ว ๆ นี้

 

“ถ้านายตื่นขึ้นมา แล้วเป็นภัยคุกคามต่อ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ ฉันจะฆ่านายด้วยตัวเอง!”หลังจากฉีดยายนรักษาอีกฝ่ายแล้วเดดพูลก็ครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

 

จากนั้นเดดพูลก็เดินเล่นภายในฐานของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เขาตั้งใจว่าจะรอสังเกตุการณ์อีกฝ่ายและเฝ้าระวังภัยคุกคามที่อาจมาโดยไม่รู้ตัว

 

ฟุบ!

 

ขณะที่เดดพูลเฝ้ารออยู่ที่ฐานที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ จู่ๆ ประตูมิติเวทมนตร์สีทองก็ปรากฏขึ้นที่ทางตอนเหนือของไซบีเรีย พวกเขาก็คือ พวกแจ็คสัน พวกเขาได้มาที่นี่เพื่อออกค้นหลูกบาศก์เวทมนตร์หลังจากมาถึงที่นี้พวกเขาสัมผัสได้ถึงลมหนาวเย็นที่พัดผ่านพวกเขาไปหากทั้ง 4 คนเป็นคนธรรมทั่วไปแล้วล่ะก็ลมหนาวระดับนี้รุนแรงมากพอที่จะทําให้หนาวแข็งตายได้

 

“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาถึงที่นี่สายมากจริง ๆ !”หลังจากสํารวจพื้นที่โดยรอยในไซบีเรียแฮร์รี่ได้เห็นกลุ่มคนของ S.H.I.E.L.D. ที่สร้างฐานรับรองไว้

 

เนื่องเพราะ ทีมX-MEN และ S.H.I.E.L.D. ได้มาถึงที่นี่กันก่อน แล้ว ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ของพวกเขากําลังประชุมกันอยู่ ทําให้พวกเขาเสียเวลากันไปมาก ตอนนี้ฐานรับรองที่พวก S.H.I.E.L.D. ได้สร้างไว้ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว

 

“กัปตันโรเจอร์ส อยู่ตรงนั้นพวกเราไปกันเถอะ!”หลังจากเห็นกัปตันโรเจอร์ส แดร์เดวิล ได้เปิดปากพูดขึ้น

 

“ยอม,ไปกันเถอะ!”

 

“หวังว่าครั้งนี้จะพบลูกบาศก์เวทมนตร์จริง ๆ สักที!”แจ็คสันพยักหน้าก่อนที่จะเดินไปและครุ่นคิดในใจหลังจากตัดสินใจได้แล้วแจ็คสันก็ได้ต่อสัญญาณหา J.A.R.V.I.S

 

“สวัสดี, มิราจไนท์ มีอะไรให้ผมช่วยงั้นหรอครับ?”หลังจากต่อสายกับ J.A.R.V.I.S เสียงของ J.A.R.V.I.S ได้ดังก้องในหูของแจ็คสัน ตอนนี้แจ็คสันอยู่ในสถานะมิราจไนท์ ดังนั้น J.A.R.V.I.S จึงเรียกขานแจ็คสันว่ามิราจไนท์

 

“J.A.R.V.I.S ตําแหน่งของฉันตอนนี้อยู่ห่างจากตําแหน่งเดิมของฐานลับไฮดร้ามากแค่ไหน?”แจ็คสันกล่าวถาม J.A.R.V.I.S อย่างรวดเร็ว

 

ก่อนหน้านี้แจ็คสันถูกส่งตัวไปยังพื้นที่ลานหิมะจํานวนมากเขาในตอนนั้นไม่รู้ว่าตนเองถูกส่งไปยังสถานที่

ไหน

 

หลังจากเดินไปได้หลายก้าวแจ็คสันก็รู้สึกคุ้นเคยจนในที่สุดก็จําได้ว่าที่นี่มีฐานลับไฮดร้าอยู่มันไม่ได้ถูกค์นพบก่อนหน้านี้ แต่แจ็คสันหลังจากเจอฐานลับไฮดร้าเขาได้ให้ J.A.R.V.I.S บันทึกตําแหน่งของฐานลับนั้นไว้

 

“ระยะทางจากจุดที่คุณอยู่ มีระยะทางมากกว่า 25.7 กิโลเมตร!”J.A.R.V.I.S ไม่ได้ใช้เวลาไตร่ตรองมากนักเขากล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

 

“25.7 กิโลเมตร?ไม่ไกลเท่าไหร่”หลังจากได้ยินค่าตอบของ J.A.R.V.I.S แจ็คสันกล่าวตอบ

 

แม้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนี้ การเดินทาง 25.7 กิโลเมตรจะเป็นเรื่องยาก แต่ไม่ใช่สําหรับแจ็คสัน

 

“จริงสิ J.A.R.V.I.S ฐานลับที่นั่น ดําเนินการเสร็จไปถึงขั้นไหนแล้ว นอกจากนี้ เกิดอะไรขึ้นกับศพของ เร้ดสกัลล์หลังจากนั้น?”หลังจากรู้ว่าฐานลับอยู่ไม่ไกล แจ็คสันก็กล่าวถาม

 

“การเปลี่ยนแปลงฐานลับแห่งนั้นดําเนินมาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว อีก หนึ่งสัปดาห์ให้หลังจะเสร็จสมบูรณ์สําหรับศพของเร้ดสกัลล์ผมไม่สามารถบอกตําแหน่งที่แน่ชัดของเขาได้”ได้ยินคําถามของแจ็คสัน J.A.R.V.I.Sกล่าวตอบ

 

“หืม?ไม่พบศพของ เร้ด สกัลล์”แจ็คสันไม่ได้สนใจฐานลับที่ใกล้จะเสร็จ เขายิงคําถามไปที่เรื่องศพของเร้ดสกลล์ทันทีแต่มันก็ทําให้เขารู้สึกประหลาดใจเพราะเขาไม่สามารถตรวจพบศพของเร้ดสกลล์ได้

 

“ในตําแหน่งรอบ ๆ ระยะทาง 10 กิโลเมตร ที่ คุณแนะนําให้ผมทําการค้นหา ตั้งแต่เริ่มการค้นหาจนถึงตอนนี้ยังไม่พบศพของเร้ดสกัลล์เลย!”ราวกับว่ารู้ว่าแจ็คสันต้องการอะไร J.A.R.V.I.S ตอบกลับทันที

 

ตอนที่ 680 ประตูมิติอวกาศอีกครั้ง

 

จากนั้นแจ็คสันก็ใช้เวลาในการอธิบายเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์เป็นระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงเชี่ยวเดียวกับอินฟินิตี้สโตนอื่น ๆ ให้ แดร์เดวิล และ คนอื่น ๆ ฟังอย่างระวัง เกี่ยวกับอิทธิพลของลูกบาศก์เวทมนตร์อาจกระทั่งสามารถนําภัยจากนอกโลกมายังโลกของตนเองได้ ดังนั้น แจ็คสันจึงบอกถึงการร่วมมือของพวกเขากับ S.H.I.E.L.D. รวมถึง ทีม X-MEN เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งโดยใช้อ่านาจพลังของลูกบาศก์เวทมนตร์

 

“ลูกบาศก์เวทมนตร์มีพลังลึกลับที่น่ากลัวจริง ๆ ! เดิมฉันคิดว่ามันมีเพียงหนึ่งเดียวที่มีพลังของจักรวาลเสียอีก!”ได้ฟังค่าอธิบายของแจ็คสัน แฮร์รี่ แสดงออกถึงอาการตกใจ

 

นอกจากแฮร์รี่ แจ็ค และ แดร์เดวิล แม้พวกเขาจะไม่พูด แต่ในสายตาของพวกเขาก็บ่งบอกถึงอาการตกตะลึง เกี่ยวกับมุมมองของพวกเขาที่มีต่อลูกบาศก์เวทมนตร์ได้เปลี่ยนแปลงไป

 

“มิราจไนท์ความหมายของนายคือ นายต้องการให้พวกเราใช้จุดแข็งความแข็งแกร่งของลูกบาศก์เวทมนตร์ในการสร้างรากฐานความมั่นคงของพวกเราเองใช่หรือไม่?”แดร์เดวิลกล่าวถาม

 

“ใช่, นี่เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ของพวกเรา พวกเราจําต้องเร่งรีบพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของโลก ในปัจจุบันให้เตรียมรับศึกที่จะมาในอนาคต”ได้ยินคําถามของแดร์เดวิล แจ็คสันกล่าวตอบ

 

“วิกฤตจากจักรวาลนอกโลก! ฉันเองก็รู้สึกว่าในไม่ช้ามันจะต้องมาอย่างแน่นอน!”ได้ยินการอธิบายของมิราจไนท์ แจ็ค กระซิบพูดออกมาเบา ๆ

 

นับตั้งแต่เขาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเหล่าพ่อมดวิสัยทัศน์ที่เขามีก็ไม่ได้จํากัดอยู่ที่แค่โลกเล็ก ๆ แห่งนี้อีกต่อไป ความรับผิดชอบในฐานะพ่อมดคือการปกป้องโลกจากภัยคุกคามต่าง ๆ ที่อยู่ในจักรวาลนอกโลก

 

เดิมแจ็คได้เรียนรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลต่อโลกใบนี้ ดังนั้นเมื่อได้ยินคําพูดของมิราจไนท์ ทำให้เขาชัดเจนเกี่ยวกับการเฝ้าระวังภัยในอนาคต

 

ได้ยินคําพูดของแจ็ค,นัยน์ตาของแจ็คสันเปล่งประกายเล็กน้อย มหันตภัยอันตรายจากนอกโลกนั้นมีอยู่จำนวนมาก และ อารยธรรมโลกในตอนนี้ถือเป็นอารยธรรมระดับต่ํา มันมักจะเป็นเป้าหมายของพวกอารยธรรมหัวรุนแรงอื่น ๆ ดังนั้นหนทางเดียวที่พวกเขาจะสามารถอยู่รอดได้ก็คือการพัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งพอจะต้านทานภัยเหล่านั้น

 

“เราจะเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เพื่อรับประกันว่าในอนาคตพวกเราจะมีความสามารถมากพอที่จะป้องกันภัยคุกคามเหล่านั้น ดังนั้นพวกเราไม่จําเป็นต้องวิตกกังวลมากเกินไป หากเราสามารถส่งเสริมความแข็งแกร่ง องเราและรวมกันเป็นหนึ่งได้แล้วล่ะก็ไม่ว่าจะเป็นอันตรายแบบไหนฉันคิดว่าพวกเราจะสามารถผ่านมันไปได้ด้วยกัน”แจ็คสันจ้องมองไปที่เหล่าผู้คนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์และกล่าวด้วยน้ําเสียงจริงจัง

 

ได้ยินคําพูดของมิราจไนท์ ประกายในนัยน์ตาของทุกคนมีความมุ่งมั่นมากขึ้น พวกเขาจําต้องสามัคคีกันเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคจํานวนมาก

 

“ดี! พวกเราจําเป็นจะต้องรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้!”แฮร์รี่ได้พูดขึ้นเป็นคนแรก

 

หลังจากแฮร์รี่พูดออกมา ทันใดนั้น เดดพูล ก็ได้ส่งเสียงบางอย่าง

 

“เอ่อ…”ขณะที่กําลังนั่งรับฟังการสนทนาของคนอื่น ๆ เดดพูลได้ส่งเสียงพูดขึ้น

 

ควับ!

 

ได้ยินเสียงของเดดพูล แจ็คสัน และ คนอื่น ๆ ได้จ้องมองไปที่เขาทันที

 

“ปัจจุบันพวกเราได้รับข่าวเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์มาแล้วใช่หรือไม่? เช่นนั้นพวกเราต้องออกค้นหามันไหม?”เดดพูลกล่าวถามออกมาอย่างสงสัย

 

ได้ยินคําพูดของเดดพูล ความประทับใจในตอนแรกของ แจ็คสัน และ คนอื่น ๆ ก็กลายเป็นอ่อนแอลงทันที มันเป็นความจริงที่ว่าตอนนี้พวกเขาเพียงได้รับข่าวเกี่ยวกับมันเพียงเท่านั้น ยังไม่ได้มันมาครอบครอง

 

“อืม,พวกเราเพียงแค่ได้รับข่าวเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์ ตอนนี้ คนของทีมX-MEN ได้ทําการออกค้นหาอยู่ ได้ยินว่าพวกเขาบอกว่าตรวจพบคลื่นความผันผวนที่รุนแรงมาก”แจ็คสันได้ถึงอารมณ์กลับมาเป็นปกติก่อนที่จะกล่าวตอบ

 

“ไม่ใช่ว่ามันเป็น คลื่นพลังของประตูมิติอวกาศงั้นหรอ ?..มิราจไนท์คุณคงจะไม่ลืมประสบการณ์ที่ขมขึ้นนั่นหรอกใช่มั้ย?”ได้ยินคําตอบของมิราจไนท์ เดดพูล กล่าวถามอีกครั้ง

 

“ฉันก็หวังให้มันไม่เป็นแบบนั้น!”แจ็คสันพูดตอบกลับเขาหวังจะได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์มาครอบครองให้ได้โดยเร็วที่สุดไม่งั้นพวกเขาจะไม่สามารถส่งเสริมความแข็งแกร่งของตนเองเพื่อเตรียมรับศึกที่จะมาในอนาคตได้

 

แต่แจ็คสันก็ลืมเรื่องสําคัญนี้ไปจริง ๆ เหมือนที่เดดพูลพูด ทีมX-MEN ได้ตรวจพบคลื่นสัญญาณของลูกบาศก์เวทมนตร์เพียงเท่านั้นไม่ได้พบลูกบาศก์เวทมนตร์โดยตรง นั่นอาจจะมีแนวโน้มที่จะเป็นประตูมิติอวกาศก็เป็นได้

 

หลังจากแจ็คสันพูดจบ จู่ๆ เจอร์รี่ ก็ได้ยินเสียงข้อความ เขาได้รับตรงไปที่คอมพิวเตอร์และเปิดอ่านข้อความดู

 

“มิราจไนท์ ,ดูเหมือนทีม X-MEN จะส่งข่าวตอบกลับมาแล้ว พวกเขาค้นพบประตูมิติอวกาศที่มีเสถียรภาพในทุ่งหิมะในไซบีเรีย ตอนนี้ พวกเขาได้เข้าควบคุมและปิดกั้นพื้นที่เอาไว้แล้ว นอกเหนือจากนี้พวกเขายังไม่ได้วางแผนเคลื่อนไหวอะไรเพิ่มเติม”หลังจากจ้องมองไปที่ข้อความเจอร์รี่ พูดขึ้น

 

ฟุบ!

 

ได้ยินคําพูดของเจอร์รี่ สีหน้าของ แจ็คสัน รู้สึกบิดเบี้ยวอย่างมาก จากนั้นวิสัยทัศน์ของเขาก็จ้องมองไปที่เดดพูลอย่างรุนแรง

 

“ปากนั้นชอบพาซวยจริง ๆ..”หลังจากจ้องมองไปที่เดดพูล แจ็คสันก็สบถูพูดออกมาอย่างไร้อารมณ์

 

“เอ่อ…ฉันขอโทษ เรื่องนี้จะโทษฉันก็ไม่ได้…”เห็นมิราจไนท์กล่าวโทษตัวเอง เดดพูล ได้รีบพูดห้ามทันที

 

“เจอร์รี,ทางด้าน S.H.I.E.L.D. ส่งกองกําลังไปที่ไซบีเรียแล้วหรือยัง?”แจ็คสันเลือกสนใจปากพาซวยของเดดพูลแล้วหันไปกล่าวถามหาเจอร์รี

 

“อืม,ดูเหมือนทาง S.H.I.E.L.D. จะส่งทีม เข้าไป 3 ทีม เพื่อประสานงานกับ ทีมX-MEN ในการสร้างฐานพักรับรองที่นั่น ตําแหน่งของประตูมิติอวกาศที่ปรากฏขึ้นนั้นอยู่ในเขตตอนเหนือบนสุด คนธรรมดาทั่วไปไม่น่าจะผ่านไปทางนั้น”ได้ยินคําพูดของมิราจไนท์ เจอร์รี ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

“เข้าใจแล้ว! เฮ้อ ถึงแม้สิ่งที่ปรากฏขึ้นจะเป็นประตูมิติอวกาศ แต่ฉันหวังว่าข้างในนั้นจะมีลูกบาศก์เวทมนตร์อยู่จริง ๆ ล่ะกัน”แจ็คสันได้พึมพัมออกมาจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน

 

ทันทีที่แจ็คสันยืนขึ้น คนอื่น ๆ ก็ลุกขึ้นยืนเช่นเดียวกัน เดดพูล เองก็เตรียมจะลุกขึ้น แต่แจ็คสันได้จ้องมองอย่างรุนแรงไปที่เขา

 

“เดดพูล นายอยู่รอสนับสนุนที่นี่แหละ!”เห็นเดดพูลเตรียมจะลุกขึ้นยืน แจ็คสันได้กล่าวเปิดปากทันที

 

เดดพูล”…”

 

ตอนที่ 679 บุคคลลึกลับ

 

เมื่อแจ็คสันเตรียมจะบอกทุกคนเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์ จู่ๆ เขาก็มองเห็นที่มุมห้องด้านหลังเป็นเงาของคนคนนึงนอนอยู่บนพื้น ไม่ผิด แจ็คสันเห็นเป็นเงาของคนจริง ๆ แต่นี่คือฐานของที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์จะมีคนนอกเข้ามาได้ยังไงนอกจากนี้เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติ

 

“คะ…คุณกําลังพูดอะไรหน่ะมิราจไนท์?”ได้ยินเสียงพูดของมิราจไนท์ เดดพูลที่นั่งตรงข้ามได้พูดด้วยน้ําเสียงสั่นเครือ

 

“ฉันบอกว่าพื้นที่ตรงนั้นมีคนอยู่ พวกนายไม่เห็นงั้นหรอ?”แจ็คสันชี้ไปยังตําแหน่งมุมห้อง

 

จริง ๆ หลังจากที่ได้ยินเสียงของเดดพูล แจ็คสันก็สามารถคาดเดาได้ อีกฝ่ายน่าจะมีความสัมพันธ์กับเดดพูล แต่เขารู้สึกแปลกใจที่คนอื่น ๆ ไม่ทักท้วงในเรื่องนี้เลยอย่างงั้นหรอ ไม่มีใครพูดกับเขาถึงเรื่องนี้เลยสักคน

 

ได้ยินคําพูดของมิราจไนท์เดดพูลไม่ได้ส่งเสียงตอบ อย่างไรก็ตาม แจ็ค กับ แฮร์รี่ ยิ้มเพียงเล็กน้อย แดร์เดวิล และ เจอร์รี่ ได้สั่นศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ อาจเป็นเพราะแดร์เดวิลเองก็ได้พบคนคนนั้นเมื่อไม่นานมานี้ และ เจอร์รี่ ก็รู้สถานการณ์อยู่ก่อนแล้วพวกเขาทั้งสองจึงไม่ได้อะไร

 

“ไม่มีใครคิดจะอธิบายให้ฉันฟังหน่อยหรอ?”เห็นคนอื่น ๆ หลบสายตาของตนเอง แจ็คสันได้พูดขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“เกี่ยวกับเรื่องนี้ปล่อยให้ เดดพูล อธิบายล่ะกัน พวกเราเองก็ไม่รู้รายละเอียดมากนัก”แจ็คกล่าวพร้อมกับมองไปที่เดดพูลด้วยสายตาเย็นชา

 

“เอ่…ทําไมฉันจะต้องอธิบาย!?”เห็นแจ็คมองมาที่ตนเอง เดดพูล ตะโกนขึ้นด้วยความไม่พอใจ

 

“ก็นายเป็นคนพาเขามา เห็นได้ชัดว่ามันต้องเป็นนายที่จะต้องอธิบายในเรื่องนี้!”แจ็คพูดด้วยน้ําเสียงเย็นชาและตอบกลับ

 

ได้ยินคําพูดของแจ็ค เดดพูล รู้สึกนิ่งค้างเพราะทําตัวไม่ถูก

 

“เดดพูล นายเป็นคนพาเขามางั้นหรอ?เพื่ออะไรกันทําไมนายถึงพาศพคนอื่นมาอยู่ที่นี่?”ได้ยินคําพูดของแจ็ค แจ็คสันจ้องมองไปที่เดดพูลและกล่าวถามอย่างรุนแรง

 

เขาได้จ้องมองไปที่มุมห้องอย่างระวังอย่างไรก็ตามเพื่อนคนนั้นไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อยดังนั้นแจ็คสันจึงประมวลผลตามสถานการณ์ นอกจากนี้เขายังสามารถสัมผัสพลังชีวิตของอีกฝ่ายได้แต่มันน้อยนิดมาก ดังนั้นแจ็คสันจึงตัดสินอีกฝ่ายว่าเป็นคนตาย

 

“ใครบอกว่าเขาตายกัน?เขายังมีชีวิตอยู่!”ได้ยินคําพูดของมิราจไนท์ เดดพูล ตะโกนขึ้นกล่าวตอบ

 

“ไม่สนว่าเขาจะเป็นหรือตาย ทําไมนายไม่ลองหาเหตุผลดี ๆ มาอธิบายสถานการณ์ปัจุบันให้ฉันฟัง? เร็วเข้า ฉันไม่ต้องการเสียเวลามากนัก”แจ็คสันจ้องมองไปที่เดดพูล เขาต้องการรู้คําตอบและเหตุผลของอีกฝ่ายในตอนนี้

 

“ก็ได้,เพื่อนคนนั้นฉันพบเมื่อสองวันก่อนในสนามรบที่พวกเราจากมา ฉันเองก็ไม่รู้จักเขา แต่ฉันสัมผัสได้ถึงบางอย่าง เพื่อนคนนี้มีความพิเศษที่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับฉัน”ได้ยินคําถามของมิราจไนท์นที่สุด เดดพูล ก็เปิดปากเล่าเรื่องทั้งหมด

 

ได้ยินคําตอบของเดดพูล แจ็คสันจ้องมองไปที่อีกฝ่ายอย่างสงสัย สองวันก่อนหน้านี้ เดดพูลไม่ได้ร่วมศึกสงครามและตอนที่พวกเขาจากไปในตอนแรก เดดพูลก็ไม่ได้ปรากฏออกมาแม้แต่น้อยดังนั้นมันอาจจะเป็นไปได้ว่า เดดพูล ได้เข้ามาในสนามรบภายหลังและพาคนคนนี้กลับมา

 

เดดพูล ในศึกสงครามก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือพวกเราในการต่อสู้ และ มาตอนนี้เขาคิดจะทําตัวเป็นพ่อพระในการช่วยเหลือเพื่อนคนนี้นี่มันแปลกเกินไปแล้ว?

 

“สองวันก่อนหน้านี้ เป็นศึกสงครามระหว่าง สมาคมพี่น้องมิวแทนท์ และ องค์กรมิวแทนท์ ศึกครั้งนั้นมีผู้บาดเจ็บและล้มตายจํานวนมาก โทนี่ สตาร์ค เองก็สูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนไปหลายตัว ทางเราและทีมX-MEN เองก็ได้เข้าไปช่วยเหลือทําให้สถานการณ์สิ้นสุดลง แต่สิ่งที่ประหลาดใจมากที่สุดในตอนนั้นก็คือ ทหารเปลี่ยนร่างของทางกองทัพ ฉันคิดว่าทางกองทัพน่าจะเร่งพัฒนาการทดลองที่ว่าให้เสร็จสมบูรณ์ในเร็วๆนี้”แจ็คสันกล่าวพูดขึ้น

 

“ได้ยินว่าทหารเปลี่ยนร่างนั้นเป็นคนของทางกองทัพใช่มั้ย?”ได้ยินคําพูดของแจ็คสัน แฮร์รี่ เปิดปากกล่าวถาม

 

เขาไม่ได้เข้าร่วมศึกสงครามแต่ก็มีข้อมูลการต่อสู้ในช่วงสองวันที่ผ่านมาดังนั้นเขาเองจึงค่อนข้างให้ความสนใจกับการต่อสู้ในครั้งนั้น

 

“อืม,ดังนั้นเพื่อนคนนี้น่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้น”แจ็คสันพยักหน้าตอบ

 

“คุณคงไม่คิดที่จะ…”เดดพูลกล่าวถามด้วยเสียงสั่นเครือ

 

เขาพาคนคนนี้กลับมาเพราะมีสัมผัสพิเศษที่รู้สึกคุ้นเคยดังนั้น เดดพูล จึงคิดว่าเพื่อนคนนี้มีอะไรบางอย่างที่มีความสัมพันธ์กับเขา แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้จักสถานะของอีกฝ่ายดี

 

เห็นการจ้องมองของทุกคนเดดพูลรู้สึกหมดหนทางจริง ๆ”ก็ฉันรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้มีอะไรพิเศษแบบนั้นจริง ๆ

 

“ก็ได้ ฉันจะไม่ซักถามเรื่องนี้ เดดพูล ในเมื่อนายพาเขามา เช่นนั้นนายก็จะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ หากมี ปัญหาเกิดขึ้น นายต้องรับผิดชอบ!”แจ็คสันตัดสินใจได้ในที่สุด

 

“ฉันจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดเอง!”

 

“ดี,เอาล่ะพวกเรามาเข้าประเด็นสําคัญเกี่ยวกับ ลูกบาศก์เวทมนตร์เถอะ…”

 

ตอนที่ 678 การรวมตัวของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

หลังจากมิราจไนท์เปิดปากถาม แดร์เดวิลก็กล่าวตอบ

 

“มิราจไนท์ นายมาช้านะ อันที่จริงเราแค่ไม่ได้เจอหน้ากันแค่ 2-3 วันไม่ใช่หรอ?”แดร์เดวิลตอบกลับมิราจไนท์

 

ก่อนหน้านี้มิราจไนท์ได้หายตัวไปแดร์เดวิลเป็นกังวลอย่างมากเขาได้ใช้เส้นทางของ S.H.I.E.L.D. ในการค้นหาอีกฝ่ายด้วยทุกอย่างที่มี แต่หลังจากนั้นมิราจไนท์ก็กลับมา อันที่จริงพวกเขาก็พบกันแล้วตอนที่ โทนี่ นอนหมดสติอยู่ในห้องบําบัดรักษาขององค์กร S.H.I.E.L.D.

 

“อาจเป็นไปได้ว่าฉันลืม..”แจ็คสันตอบกลับอย่างงุ่มง่าม

 

ในเวลานั้นแจ็คสันให้ความสนใจกับโทนี่ทําให้เขาจําไม่ได้ว่าเคยพบหน้าของแดร์เดวิลเมื่อเร็ว ๆ นี้ อันที่จริง แดร์เดวิลได้ยืนเฝ้าระวังอยู่ด้านหลังของเขาอย่างห่าง ๆ ทําให้พวกเขาไม่มีโอกาสได้คุยกัน

 

“คุณดูแข็งแกร่งมากมากขึ้นใช่มั้ยเนี่ย?”หลังจากสังเกตุทั่วร่างของแดร์เดวิลอย่างระวัง แจ็คสันกล่าวตอบ

 

หลังจากที่แดร์เดวิลกลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์และS.H.I.E.L.D. เขาก็ไม่ค่อยได้กลับมาที่ฐานที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ แดร์เดวิลได้เข้าร่วมทีมอเวนเจอร์สและมีพัฒนาการอย่างก้าวหน้า อาจเป็นเพราะแจ็คสันไม่ได้สังเกตุอีกฝ่ายและไม่ได้เจอหน้ากันบ่อยครั้งเหมือนแต่ก่อน ทําให้เขาเห็นพัฒนาการที่กําว กระโดดของแดร์เดวิล

 

“สไปเดอร์แมนไม่สามารถมาได้ชั่วคราวส่วนคนอื่น ๆ ก็มาถึงกันแล้ว”แดร์เดวิลไม่ได้สนใจคําถามของมิราจไนท์เขากล่าวเดือนในเรื่องนี้

 

“อ๋อ…ไปกันเถอะ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับลูกบาศก์เวทมนตร์พวกเรามีเรื่องต้องพูดคุยกันอย่างระวัง”แจ็คสันพยักหน้าตอบกลับ

 

จากนั้นทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในฐานของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

ตึก ตึก!

 

ปัง!

 

ขณะที่แจ็คสันและแดร์เดวิลเข้าสู่ฐานที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์พวกเขาได้ยินเสียงการต่อสู้บางอย่างดังออกมาจากภายในห้องโถง

 

“แจ็ค!”เห็นเงาร่างทั้งสองคนเสียงของ แจ็คสัน และ แดร์เดวิลได้ดังขึ้น

 

พวกเขาเห็นเงาร่างคนบางคนบินกระเด็นมายังเบื้องหน้าของตนเอง แดร์เดวิล และ แจ็คสันได้วิ่งไปตรวจดูอาการของอีกฝ่ายทันที

 

เงาร่างที่ว่านี้ก็คือเงาร่างของเดดพูล แขนขาทั้งสองข้างของเขาบิดขึ้นอย่างผิดรูป

 

แจ็คสันได้ใช้ความแข็งแกร่งของตนเองในการดัดแขนขาของอีกฝ่ายให้กลับเข้าสู่รูปร่างเดิม

 

“แจ็ค นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”จากนั้นแจ็คสันก็หันไปกล่าวถามเงาอีกร่างนึงซึ่งก็คือแจ็ค

 

ทหึ่ม!

 

เห็นการมาถึงของแดร์เดวิล และ มิราจไนท์ แจ็คได้สลายโล่แสงในมือก่อนที่จะยิ้มตอบกลับ

 

“คือเดดพูลอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับความสามารถของฉัน ดังนั้นเขาจึงต้องการทดสอบพลังของฉัน!”

 

ฟุบ!

 

ได้ยินคําพูดของแจ็คเงาร่างที่ใต้เท่าของแจ็คสันได้กระโดดลิ้นอย่างดุเดือด”แจ็ค ไม่ใช่ว่าพวกเราทําข้อตกลงว่าจะเล่นกันแบบเบา ๆ ไม่ใช่หรอ นี่เป็นนายรังแกฉันทั้งเพ!”

 

หลังจากที่เดดพูลเดินทางมายังฐานที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ เขาได้เห็น แจ็ค อยู่ก่อนแล้ว ในความที่ตนเองรู้สึกสนใจเวทมนตร์ของแจ็คทําให้เขามีความคิดที่ยากจะประลองฝีมือกับอีกฝ่าย เขาหวังว่าตนเองจะสามารถทําให้แจ็คบาดเจ็บเล็กน้อยได้ แต่ที่ไหน ตนเองกลับถูกซัดกลับอยู่ฝ่ายเดียว

 

“ฮ่าฮ่า เป็นไงล่ะเดดพูลที่นี้นายก็รู้จักเวทมนตร์และได้เรียนรู้แล้วใช่หรือไม่?”ได้ยินคําพูดของแจ็ค แจ็คสันได้หันไปกล่าวพูดกับเดดพูลดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกสะใจอีกฝ่ายไม่มากก็น้อย

 

“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ! อย่างไรก็ตาม มหัศจรรย์มากจริง ๆ เวทมนตร์นั่น มิราจไนท์คุณยังจําได้มั้ยตอนที่พวกเรากลับมาจากดาวเคราะห์ดึกดําบรรพ์นั่น!”ได้ยินคําพูดของมิราจไนท์ เดดพูลตอบกลับอย่างตื่นเต้น

 

ตั้งแต่ตนเองมีประสบการณ์และรับรู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเอนเชี่ยนวันรวมถึงพบเห็นสิ่งพิเศษที่แข็งแกร่งอื่น ๆ ในดาวเคราะห์พวกนั้นทําให้ เดดพูล ตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งอันน้อยนิดของตนเอง ดังนั้น เดดพูลจึงมีความอยากรู้อยากเห็นมากเกี่ยวกับเวทมนตร์อันลึกลับ

 

“เช่นนั้นนายก็ได้รับประสบการณ์แล้ว เป็นไงบ้างล่ะ?”แจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“แข็งแกร่ง ! สุดยอด! น่าทึ่ง ไม่มีค่าอะไรจะมาใช้สรรเสริญความแข็งแกร่งของเวทมนตร์แล้ว!”เดดพูลตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“ถ้าฉันสามารถเรียนรู้มันได้บ้างก็คงจะดีไม่น้อย!”เดดพูลพูดด้วยน้ําเสียงเบา ๆ

 

“เข้าใจแล้ว เกี่ยวกับเรื่องเวทมนตร์เอาไว้เราค่อยพูดคุยกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากนายสนใจจริง ๆ นายสามารถปรึกษาแจ็คในภายหลังได้!”แจ็คสันตอบกลับเดดพูล

 

“ฮ่าฮ่า! แต่ฉันไม่คิดว่าเดดพูลจะเหมาะกับการศึกษาเวทมนตร์หรอกนะ”ได้ยินคําพูดของมิราจไนท์ แจ็ค จ้องมองไปที่เดดพูลพร้อมกับหัวเราะ

 

การสืบเชื้อสายของพวกพ่อมดหรือการเข้ารับเป็นศิษย์นั้นค่อนข้างเคร่งครัด และคนอย่างเดดพูล ก็ไม่มีทางที่จะผ่านบททดสอบที่เคร่งครัดเหล่านี้แน่นอน

 

“มิราจไนท์ ยินดีที่คุณกลับมา”หลังจากแจ็คสันนั่งลงแฮร์รี ที่อยู่ไม่ไกลได้เปิดปากพูดขึ้น

 

“อืม, ฉันเองก็รู้สึกดีใจที่ได้เห็นคุณเช่นเดียวกัน!”แจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

นอกเหนือจาก สไปเดอร์แมนแล้ว สมาชิกที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ คนอื่น ๆ ได้มาถึงกันหมดแล้ว แจ็คสันได้นั่งลงตรงตําแหน่งตรงกลาง พร้อมกับเตรียมเริ่มการประชุม

 

“เอาล่ะพวกเรามาหารือหัวข้อสําคัญกันดีกว่า!”วิสัยทัศน์ของแจ็คสันได้กวาดมองไปโดยรอบพร้อมกับถอนหายใจ

 

“หืม?นั่นอะไรหน่ะ?”ขณะที่แจ็คสันเตรียมจะพูดเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์เขาก็สังเกตุเห็นบางสิ่งที่แอบหลบอยู่ที่มุมห้องโถง

 

ตอนที่ 677 ธอร์กล่าวให้คํามั่น   ก่อนหน้านี้แจ็คสันไม่ได้วางแผนที่จะบอกธอร์เรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์ แต่เขาจําได้ว่าธอร์น่าจะรู้จักลูกบาศก์ เวทมนตร์ทั้งต้องเคยเห็นมันมาก่อนแล้ว   แต่ลูกบาศก์เวทมนตร์นั้นไม่มีฟังก์ชั่นการทํางานที่เกี่ยวข้องกับแอสการ์ดอย่างน้อยมันก็เคยเป็นสมบัติหลังบ้านของโอดินพ่อของธอร์ บางที่ถ้าเขาได้ยินเรื่องนี้อาจจะสามารถช่วยเหลือแจ็คสันในการค้นหามันหรือกระทั่งสามารถควบคุมมันได้   “ลูกบาศก์เวทมนตร์ ? ข้าจําได้ว่าท่านพ่อของข้าได้เก็บสิ่งนี้ได้และผนึกมันไว้ในห้องสมบัติ! “ธอร์กล่าวพูด   ในสมัยก่อนที่จะเป็นเก้อาณาจักรในโลกมิดการ์ดมีตํานานเกี่ยวกับแอสการ์ดจํานวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเรื่องของลูกบาศก์เวทมนตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ลูกบาศก์เวทมนตร์ได้ตกเป็นของแอสการ์ด และลอร์ดโอดินได้ เก็บรักษามันไว้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ทําไมลูกบาศก์เวทมนตร์ถึงมาปรากฏขึ้นที่นี่ได้ เขาไม่รู้เรื่องนี้อย่างแท้จริง   “อม,ลูกบาศก์เวทมนตร์ มันถูกค้นพบเมื่อหลายปีก่อนในช่วงเวลานั้นมันได้ถูกควบคุมโดยองค์กรลับไฮดร้า หลังจากที่พวกเรากําจัดพวกไฮดร้าได้ ลูกบาศก์เวทมนตร์ก็ได้สูญหายไป ตอนนี้พวกเราค้นพบร่องรอยของมันแล้ว”ภายใต้การสังเกตุอย่างระวัง แจ็คสันกล่าวพูดขึ้น   ดูเหมือนว่าธอร์ในตอนนี้จะไม่มีความสนใจในลูกบาศก์เวทมนตร์มากนัก แม้ อินฟินิตี้สโตน จะมีพลังลึกลับที่แข็งแกร่ง แต่ความแข็งแกร่งของธอร์เมื่อตื่นขึ้นก็น่ากลัวเช่นเดียวกัน ดังนั้น เขาจึงไม่จําเป็นที่จะต้องมีอินฟินตี้สโตนในการครอบครอง แต่อินฟินิตี้สโตนทั้ง 6 นี้มีพลังลึกลับที่แข็งแกร่งหากตกไปอยู่ในมือของพวกชั่วร้าย จักรวาลจะโกลาหลทันที   ดังนั้นก่อนหน้านี้โอดินจึงไม่ได้ใช้มันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตนเอง แต่เลือกที่จะเก็บมันไว้ในห้องสมบัติหลังบ้าน อาจเป็นเพราะความแข็งแกร่งทางพลังเวทย์ของโอดินนั้นสูง เขาจึงไม่จําเป็นต้องการ แต่เขาก็ไม่อยากปล่อยสมบัติที่มีพลังระดับจักรวาลให้หลุดรอดออกไปเพราะกลัวจักรวาลจะเสียสมดุล   “แจ็คสัน,เจ้าต้องการลูกบาศก์เวทมนตร์ เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของแจ็คสันธอร์กล่าวถามเขา   ธอร์ไม่ได้ถามว่าท่าไม แจ็คสันถึงมองหาลูกบาศก์เวทมนตร์ แต่เขาย่อมรู้ว่าเพื่อนลึกลับคนนี้ของตนเองรู้ว่าลูกบาศก์เวทมนตร์แท้จริงแล้วก็คือ อินฟินิตี้สโตน   “นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น พลังงานลึกลับของลูกบาศก์เวทมนตร์คือสิ่งที่เราต้องการในตอนนี้หากเราได้ มันมาเราจะสามารถยกระดับความแข็งแกร่งได้ในระยะเวลาอันสั้น อีกอย่างคือสิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุด หากมันตกไปอยู่ในมือของคนไม่ดี คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเวลาต่อมา?”ได้ยินคําถามของธอร์ แจ็คสันกล่าวตอบ   “เจ้าหมายถึง ลูกบาศก์เวทมนตร์จะสามารถช่วยเจ้าพัฒนาเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ของโลกใบนี้ได้ใช่หรือไม่? ดังนั้นพวกเจ้าถึงต้องการมัน”ธอร์กล่าวถามอีกครั้ง   ตัวตนของลูกบาศก์เวทมนตร์ถูกเก็บไว้ในสมบัติหลังบ้านของแอสการ์ดเป็นระยะเวลาหลายปี โอดินไม่ได้วางแผนที่จะนํามันออกมาใช้แม้แต่น้อย อาจเป็นเพราะแอสการ์ดมีขุมกําลังที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่สามารถเป็นผู้ปกครองทั้ง 9 อาณาจักรได้   อย่างไรก็ตามดาวโลกเป็นเพียงดาวเคราะห์ขนาดเล็ก มนุษย์เป็นอารยธรรมตัวจ้อยในบรรดา 9 อาณาจักรทั้งหมด แต่พวกเขาก็มีจุดเด่นก็คือ เทคโนโลยีและการพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของพวกเขาสามารถยกระดับขึ้นเพื่อเทียบเท่ากับอารยธรรมอื่น ๆ ได้ ดังนั้นนั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมแจ็คสันถึงต้องการลูกบาศก์เวทมนตร์ในการพัฒนาเทคโนโลยีของโลก   “อม,เพราะฉันกังวลว่าในอนาคตอาจจะมีการคุกคามจากอารยธรรมอื่น ๆ ในจักรวาลข้างนอกนั่น ลูกบาศก์เวทมนตร์อาจเป็นหนทางที่ดีสําหรับการช่วยเหลือโลกของเรา ฉันจะไม่ปล่อยให้โอกาสแบบนี้หลุดมือไปได้อย่างแน่นอน ไม่งั้นในอนาคตหากเราไม่มีความเตรียมพร้อมพวกเราคงถูกบุกจู่โจมอย่างแน่นอน”ได้ยินคําถามของธอร์ แจ็คสันกล่าวตอบตามตรง   ในจักรวาลมีศัตรูที่ทรงพลังจํานวนมาก แต่แจ็คสันไม่กลัว เขาเลือกที่จะปกป้องโลกใบนี้ด้วชีวิตของตนเอง และเขาจะไม่อนุญาติให้คนอื่นมาทําลายความสงบสุขของโลก   เมื่อได้ยินคําพูดของแจ็คสันธอร์ยิ้มออกมาบนใบหน้า   “เข้าใจแล้ว! แจ็คสันข้ารู้ว่าข้าไม่ได้มองเจ้าผิดไป แต่ถ้าหากวันนั้นมาถึง โปรดจําไว้ว่า เจ้ายังมีข้าคนนี้ ธอร์ โอดินวูด ข้าคือสหายที่ดีของเจ้า!”ราวกับว่าจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของตนเองได้ลุกโชนอย่างรุนแรง ธอร์พูดตอบด้วยเสียงดัง   “อืมเช่นนั้นฉันหวังว่าคุณจะรีบฟื้นคืนพลังของตนเองให้กลับมาได้โดยเร็วที่สุด เพราะฉันมีลางสังหรณ์ว่าเหตุการณ์อันตรายพวกนั้นจะมาถึงในอีกไม่ช้า”ได้ยินคําพูดของธอร์ แจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม   “ผ่อนคลายเถอะ ข้าจะไม่ทําให้เจ้า และ ท่านพ่อผิดหวัง ! ข้าเองก็อยากกลับไปที่แอสการ์ด เพื่อจัดการโลกเกี่ยวกับปัญหาก่อนหน้านี้ด้วย!”ธอร์กํากําปั้นแน่นด้วยความมุ่งมั่น   “ดี,พวกเราแยกกันตรงนี้ล่ะกัน หลังจากกลับมาฉันเองก็คงต้องหาเหตุผลดี ๆ ในการบอกพ่อของฉัน หลังจากคุณกลับไปรบกวนคุณช่วยบอกพ่อของฉันด้วยว่าฉันมีเรื่องเร่งด่วน วันนี้อาจจะไม่กลับ”   หลังจากนั้นแจ็คสันและธอร์ก็เดินกลับไปที่บ้าน ก่อนที่แจ็คสันจะมุ่งตรงไปที่รถสปอร์ตสีน้ําเงินและขับออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว   ธอร์ที่ถูกทิ้งไว้ได้เดินเข้าไปในบ้านของแจ็คสันและบอกกับพ่อของเขา ก่อนที่จะขอตัวกลับไปทํางานที่สถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัดของตนเอง   ทางด้านแจ็คสันเขาได้มุ่งหน้ากลับไปยังฐานของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ นอกเหนือจาก สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ ที่อยู่ช่วยเหลือโทนี่แล้วคนอื่น ๆ ได้มากันครบแล้ว   “แดร์เดวิล ไม่ได้พบกันซะนาน!”เห็นแดร์เดวิลปรากฏตัวขึ้นในสายตาตนเอง แจ็คสันกล่าวทักทาย   แดร์เดวิลคือตัวตนที่เป็นคนคอยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์และ S.H.I.E.L.D. ดังนั้นบ่อยครั้งที่เขาจะไม่ค่อยเห็นเขากลับมาที่ฐานของตนเอง  

ตอนที่ 677 ธอร์กล่าวให้คํามั่น

 

ก่อนหน้านี้แจ็คสันไม่ได้วางแผนที่จะบอกธอร์เรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์ แต่เขาจําได้ว่าธอร์น่าจะรู้จักลูกบาศก์ เวทมนตร์ทั้งต้องเคยเห็นมันมาก่อนแล้ว

 

แต่ลูกบาศก์เวทมนตร์นั้นไม่มีฟังก์ชั่นการทํางานที่เกี่ยวข้องกับแอสการ์ดอย่างน้อยมันก็เคยเป็นสมบัติหลังบ้านของโอดินพ่อของธอร์ บางที่ถ้าเขาได้ยินเรื่องนี้อาจจะสามารถช่วยเหลือแจ็คสันในการค้นหามันหรือกระทั่งสามารถควบคุมมันได้

 

“ลูกบาศก์เวทมนตร์ ? ข้าจําได้ว่าท่านพ่อของข้าได้เก็บสิ่งนี้ได้และผนึกมันไว้ในห้องสมบัติ! “ธอร์กล่าวพูด

 

ในสมัยก่อนที่จะเป็นเก้อาณาจักรในโลกมิดการ์ดมีตํานานเกี่ยวกับแอสการ์ดจํานวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเรื่องของลูกบาศก์เวทมนตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ลูกบาศก์เวทมนตร์ได้ตกเป็นของแอสการ์ด และลอร์ดโอดินได้ เก็บรักษามันไว้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ทําไมลูกบาศก์เวทมนตร์ถึงมาปรากฏขึ้นที่นี่ได้ เขาไม่รู้เรื่องนี้อย่างแท้จริง

 

“อม,ลูกบาศก์เวทมนตร์ มันถูกค้นพบเมื่อหลายปีก่อนในช่วงเวลานั้นมันได้ถูกควบคุมโดยองค์กรลับไฮดร้า หลังจากที่พวกเรากําจัดพวกไฮดร้าได้ ลูกบาศก์เวทมนตร์ก็ได้สูญหายไป ตอนนี้พวกเราค้นพบร่องรอยของมันแล้ว”ภายใต้การสังเกตุอย่างระวัง แจ็คสันกล่าวพูดขึ้น

 

ดูเหมือนว่าธอร์ในตอนนี้จะไม่มีความสนใจในลูกบาศก์เวทมนตร์มากนัก แม้ อินฟินิตี้สโตน จะมีพลังลึกลับที่แข็งแกร่ง แต่ความแข็งแกร่งของธอร์เมื่อตื่นขึ้นก็น่ากลัวเช่นเดียวกัน ดังนั้น เขาจึงไม่จําเป็นที่จะต้องมีอินฟินตี้สโตนในการครอบครอง แต่อินฟินิตี้สโตนทั้ง 6 นี้มีพลังลึกลับที่แข็งแกร่งหากตกไปอยู่ในมือของพวกชั่วร้าย จักรวาลจะโกลาหลทันที

 

ดังนั้นก่อนหน้านี้โอดินจึงไม่ได้ใช้มันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตนเอง แต่เลือกที่จะเก็บมันไว้ในห้องสมบัติหลังบ้าน อาจเป็นเพราะความแข็งแกร่งทางพลังเวทย์ของโอดินนั้นสูง เขาจึงไม่จําเป็นต้องการ แต่เขาก็ไม่อยากปล่อยสมบัติที่มีพลังระดับจักรวาลให้หลุดรอดออกไปเพราะกลัวจักรวาลจะเสียสมดุล

 

“แจ็คสัน,เจ้าต้องการลูกบาศก์เวทมนตร์ เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของแจ็คสันธอร์กล่าวถามเขา

 

ธอร์ไม่ได้ถามว่าท่าไม แจ็คสันถึงมองหาลูกบาศก์เวทมนตร์ แต่เขาย่อมรู้ว่าเพื่อนลึกลับคนนี้ของตนเองรู้ว่าลูกบาศก์เวทมนตร์แท้จริงแล้วก็คือ อินฟินิตี้สโตน

 

“นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น พลังงานลึกลับของลูกบาศก์เวทมนตร์คือสิ่งที่เราต้องการในตอนนี้หากเราได้ มันมาเราจะสามารถยกระดับความแข็งแกร่งได้ในระยะเวลาอันสั้น อีกอย่างคือสิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุด หากมันตกไปอยู่ในมือของคนไม่ดี คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเวลาต่อมา?”ได้ยินคําถามของธอร์ แจ็คสันกล่าวตอบ

 

“เจ้าหมายถึง ลูกบาศก์เวทมนตร์จะสามารถช่วยเจ้าพัฒนาเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ของโลกใบนี้ได้ใช่หรือไม่? ดังนั้นพวกเจ้าถึงต้องการมัน”ธอร์กล่าวถามอีกครั้ง

 

ตัวตนของลูกบาศก์เวทมนตร์ถูกเก็บไว้ในสมบัติหลังบ้านของแอสการ์ดเป็นระยะเวลาหลายปี โอดินไม่ได้วางแผนที่จะนํามันออกมาใช้แม้แต่น้อย อาจเป็นเพราะแอสการ์ดมีขุมกําลังที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่สามารถเป็นผู้ปกครองทั้ง 9 อาณาจักรได้

 

อย่างไรก็ตามดาวโลกเป็นเพียงดาวเคราะห์ขนาดเล็ก มนุษย์เป็นอารยธรรมตัวจ้อยในบรรดา 9 อาณาจักรทั้งหมด แต่พวกเขาก็มีจุดเด่นก็คือ เทคโนโลยีและการพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของพวกเขาสามารถยกระดับขึ้นเพื่อเทียบเท่ากับอารยธรรมอื่น ๆ ได้ ดังนั้นนั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมแจ็คสันถึงต้องการลูกบาศก์เวทมนตร์ในการพัฒนาเทคโนโลยีของโลก

 

“อม,เพราะฉันกังวลว่าในอนาคตอาจจะมีการคุกคามจากอารยธรรมอื่น ๆ ในจักรวาลข้างนอกนั่น ลูกบาศก์เวทมนตร์อาจเป็นหนทางที่ดีสําหรับการช่วยเหลือโลกของเรา ฉันจะไม่ปล่อยให้โอกาสแบบนี้หลุดมือไปได้อย่างแน่นอน ไม่งั้นในอนาคตหากเราไม่มีความเตรียมพร้อมพวกเราคงถูกบุกจู่โจมอย่างแน่นอน”ได้ยินคําถามของธอร์ แจ็คสันกล่าวตอบตามตรง

 

ในจักรวาลมีศัตรูที่ทรงพลังจํานวนมาก แต่แจ็คสันไม่กลัว เขาเลือกที่จะปกป้องโลกใบนี้ด้วชีวิตของตนเอง และเขาจะไม่อนุญาติให้คนอื่นมาทําลายความสงบสุขของโลก

 

เมื่อได้ยินคําพูดของแจ็คสันธอร์ยิ้มออกมาบนใบหน้า

 

“เข้าใจแล้ว! แจ็คสันข้ารู้ว่าข้าไม่ได้มองเจ้าผิดไป แต่ถ้าหากวันนั้นมาถึง โปรดจําไว้ว่า เจ้ายังมีข้าคนนี้ ธอร์ โอดินวูด ข้าคือสหายที่ดีของเจ้า!”ราวกับว่าจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของตนเองได้ลุกโชนอย่างรุนแรง ธอร์พูดตอบด้วยเสียงดัง

 

“อืมเช่นนั้นฉันหวังว่าคุณจะรีบฟื้นคืนพลังของตนเองให้กลับมาได้โดยเร็วที่สุด เพราะฉันมีลางสังหรณ์ว่าเหตุการณ์อันตรายพวกนั้นจะมาถึงในอีกไม่ช้า”ได้ยินคําพูดของธอร์ แจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“ผ่อนคลายเถอะ ข้าจะไม่ทําให้เจ้า และ ท่านพ่อผิดหวัง ! ข้าเองก็อยากกลับไปที่แอสการ์ด เพื่อจัดการโลกเกี่ยวกับปัญหาก่อนหน้านี้ด้วย!”ธอร์กํากําปั้นแน่นด้วยความมุ่งมั่น

 

“ดี,พวกเราแยกกันตรงนี้ล่ะกัน หลังจากกลับมาฉันเองก็คงต้องหาเหตุผลดี ๆ ในการบอกพ่อของฉัน หลังจากคุณกลับไปรบกวนคุณช่วยบอกพ่อของฉันด้วยว่าฉันมีเรื่องเร่งด่วน วันนี้อาจจะไม่กลับ”

 

หลังจากนั้นแจ็คสันและธอร์ก็เดินกลับไปที่บ้าน ก่อนที่แจ็คสันจะมุ่งตรงไปที่รถสปอร์ตสีน้ําเงินและขับออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว

 

ธอร์ที่ถูกทิ้งไว้ได้เดินเข้าไปในบ้านของแจ็คสันและบอกกับพ่อของเขา ก่อนที่จะขอตัวกลับไปทํางานที่สถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัดของตนเอง

 

ทางด้านแจ็คสันเขาได้มุ่งหน้ากลับไปยังฐานของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ นอกเหนือจาก สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ ที่อยู่ช่วยเหลือโทนี่แล้วคนอื่น ๆ ได้มากันครบแล้ว

 

“แดร์เดวิล ไม่ได้พบกันซะนาน!”เห็นแดร์เดวิลปรากฏตัวขึ้นในสายตาตนเอง แจ็คสันกล่าวทักทาย

 

แดร์เดวิลคือตัวตนที่เป็นคนคอยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์และ S.H.I.E.L.D. ดังนั้นบ่อยครั้งที่เขาจะไม่ค่อยเห็นเขากลับมาที่ฐานของตนเอง

 

ตอนที่ 676 ท่าทีที่เปลี่ยนไปของธอร์   “หม? เจ้าหมายความว่ายังไง…”ได้ยินคําพูดของแจ็คสัน ธอร์กล่าวถามในทันที   “แม้ตอนนี้แอสการ์ดจะถูกเผ่ายักษ์น้ําแข็งและดาร์คเอลฟ์ผนึกกําลังร่วมโจมตี แต่สถานการณ์ในปัจจุบัน แอสการ์ดน่าจะยังรับมือได้อยู่ ดังนั้นภารกิจสําคัญของคุณในตอนนี้คือจะต้องรับฟื้นคืนพลังให้กลับมาได้อย่างเร็วที่สุด”แจ็คสันกล่าวพูดอย่างจริงจัง   “เจ้าคิดงั้นจริงหรอ?”ได้ยินคําพูดของแจ็คสันธอร์กล่าวถาม   ธอร์มีความมั่นใจในแอสการ์ดบ้านเกิดของเขาและมีความมั่นใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของพ่อของเขา โอดิน นี่คือความเชื่อมั่นของธอร์   “แน่นอน! ถ้าแอสการ์ดไม่สามารถรับศึกได้ไหวจริง ๆ คุณคิดว่าท่านพ่อของคุณจะไม่ต้องการความแข็งแกร่งของคุณ?”แจ็คสันตอบกลับในความคิดของเขา   “เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าสามารถมั่นใจได้เลย ข้าน่าจะสามารถฟื้นคืนพละกําลังความแข็งแกร่งของตัวเองกลับมาอย่างสมบูรณ์ได้ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน”ได้ยินคําพูดของแจ็คสัน ธอร์กล่าวตอบอย่างจริงจัง   หลังจากได้ยินคําพูดหลายอย่างจากปากของแจ็คสันธอร์ก็มั่นใจในคําพูดนั้นทั้งเขายังเชื่อมั่นแอสการ์ด นอกจากนี้เขายังรู้สึกขอบคุณแจ็คสันที่มีกําลังใจในการช่วยเหลือเขาให้รีบฟื้นฟูความแข็งแกร่งกลับมา   แต่อย่างไรก็ตามธอร์กลับไม่รู้ว่าตนเองจะสามารถฟื้นคืนพลังกลับมาทั้งหมดได้ตอนไหน ในใจเขาก็รู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อย   “ฮ่าฮ่า นั่นแหละ ฉันเชื่อว่าคุณจะต้องฟื้นฟูพละกําลังที่แท้จริงของคุณกลับมาเร็ว ๆ นี้ได้อย่างแน่นอน”เห็นจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ในประกายดวงตาของธอร์ แจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม   “แจ็คสันเจ้าต้องการลองทดสอบมันดูหรือไม่?”หลังจากสลัดความกังวลทิ้งออกไปธอร์จ้องมองไปที่แจ็คสันอีกครั้ง   แม้พละกําลังของตนเองจะฟื้นฟูกลับมาส่วนหนึ่ง แต่ธอร์ก็อดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากลองว่าพละกําลังของเขาฟื้นฟูกลับมาได้มากน้อยแค่ไหน และเขาต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของตัวเองในตอนนี้   “อืม?คุณต้องการที่จะต่อสู้กับฉันงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของธอร์ แจ็คสันรู้สึกแปลกใจก่อนที่จะกล่าวถาม   เกี่ยวกับพละกําลังความแข็งแกร่งของเทพเจ้าสายฟ้า แม้จะเป็นส่วนหนึ่งในใจของแจ็คสันก็อยากจะทดสอบกําลังของตัวเองเช่นเดียวกัน   “เจ้าไม่ต้องการงั้นหรอ?”เห็นแจ็คสันราวกับไม่มีความสนใจ ธอร์กล่าวถามอย่างจริงจัง   “ไม่เลย…อันที่จริงฉันเองก็อยากลองทดสอบดู แต่สถานที่ที่นี่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ พวกเราไปยังสถานที่นั่นกันเถอะ”แจ็คสันกล่าวตอบ   แม่แจ็คสันจะใช้สถานะของโทนในการอําพรางอิทธิพลจากพวก S.H.I.E.L.D. จนทําให้การตรวจสอบเฝ้าระวังเขานั้นน้อยลงแต่สถานที่แห่งนี้ก็อยู่ใกล้บ้านเขาทั้งธอร์ ยังจัดอยู่ในสถานะบุคคลพิเศษ เขาถูกเฝ้าระวังและจับตามองโดย S.H.I.E.L.D. ตลอดเวลา แต่หลัง ๆ มานี้ การเฝ้าระวังติดตามเริ่มน้อยลงมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถึงยังไง สถานที่สวนอุทยานแห่งนี้ก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่   “ข้าตั้งหน้าตั้งตารอเวลานี้มานานแล้ว หวังว่าเจ้าคงจะไม่โดนข้าซัดที่เดียวจนหมอบหรอกนะ ไม่งั้นเจ้าคงไม่ควรค่าแก่การให้ข้า ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้าผู้นี้ชื่นชม!”เห็นแจ็คสันตอบรับค่าของตนเอง ธอร์พูดขึ้นในทันที เป็นเพราะเขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตนเอง   “ฉันก็หวังอย่างนั้น!”   ติดด   ขณะที่แจ็คสันและธอร์กําลังสนทนากัน จู่ ๆ อุปกรณ์สื่อสารของที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ที่อยู่ในตัวของแจ็คสันก็ได้ดังขึ้น   ฟุบ!   แจ็คสันหยิบสมอลทอร์คขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็วจากนั้นเสียงของเจอร์รี่ก็ดังขึ้นในทันที”มิราจไนท์ ได้ข่าวของลูกบาศก์เวทมนตร์แล้ว!” ได้ยินข่าวจากเจอร์รี ท่าทีของแจ็คสันได้เปลี่ยนไปทันที ซึ่งมันทําให้ธอร์ที่อยู่ข้าง ๆ เขารู้สึกแปลกใจกับการเปลี่ยนแปลงของแจ็คสัน   “ดูท่า ข้าคงจะต้องเลื่อนการต่อสู้ระหว่างเราไปก่อน มองจากสีหน้าของเขาแล้ว น่าจะมีงานสําคัญเร่งด่วนเข้ามา!”ธอร์สัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงของแจ็คสันเขาครุ่นคิดเงียบๆ   “อยู่ที่ไหน?”แจ็คสันกล่าวถามออกไป   “ในไซบีเรีย! ทีม X-MEN ได้ตรวจพบคลื่นความผันผวนมาจากที่นั่น ตอนนี้พวกเขาได้ส่งกําลังคนไปเฝ้าระวังพื้นที่นั้นไว้แล้ว”ได้ยินคําถามของมิราจไนท์ เจอร์รี่ตอบกลับทันที   “ไซบีเรีย?…”แจ็คสันครุ่นคิดในใจอย่างเงียบ ๆ “เอาล่ะ ขอบคุณมาก เจอร์รี่ นายช่วยแจ้งสมาชิกที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ ให้ด้วย ฉันจะรีบกลับไปที่ฐานโดยเร็วที่สุด ไว้พวกเราค่อยหารือกันเรื่องนี้อีกที”แจ็คสันตอบกลับเจอร์รี่   “เข้าใจแล้ว มิราจไนท์ ฉันจะรอคุณอยู่ที่ฐาน”เจอร์รี่ตอบกลับ   “ถ้ามีข่าวหรือการเคลื่อนไหวอะไรรีบแจ้งให้ฉันรู้ทันที”หลังจากพูดทิ้งท้ายไว้แจ็คสันก็ตัดสายไป   เห็นสายตาที่มุ่งมั่นของแจ็คสันธอร์ได้จ้องมองเขาอย่างเงียบ ๆ   “ธอร์ ดูเหมือนว่า ฉันจะไม่มีเวลาอยู่เล่นกับคุณแล้ว ฉันต้องรีบไปยังสถานที่แห่งนึ่ง”แจ็คสันกล่าวพูดกับธอร์ที่อยู่ด้านหน้า   “เกิดอะไรขึ้น?”แม้ว่าธอร์จะไม่ได้ยินเสียง แต่เขาก็สามารถคาดเดาได้ มันน่าจะเป็นเรื่องสําคัญมากอย่างแน่นอน   “จริงสิ เกี่ยวกับเรื่องในคราวนี้มันมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับแอสการ์ดอยู่เหมือนกัน”ได้ยินคําพูดของธอร์ แจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม   “หม?มีความเกี่ยวข้องกับแอสการ์ด?มันคืออะไรกัน?”ธอร์ที่ได้ยินเช่นนี้เขาเองก็มีท่าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย   “ลูกบาศก์เวทมนตร์ คุณเคยได้ยินชื่อนี้หรือไม่?”  

ตอนที่ 676 ท่าทีที่เปลี่ยนไปของธอร์

 

“หม? เจ้าหมายความว่ายังไง…”ได้ยินคําพูดของแจ็คสัน ธอร์กล่าวถามในทันที

 

“แม้ตอนนี้แอสการ์ดจะถูกเผ่ายักษ์น้ําแข็งและดาร์คเอลฟ์ผนึกกําลังร่วมโจมตี แต่สถานการณ์ในปัจจุบัน แอสการ์ดน่าจะยังรับมือได้อยู่ ดังนั้นภารกิจสําคัญของคุณในตอนนี้คือจะต้องรับฟื้นคืนพลังให้กลับมาได้อย่างเร็วที่สุด”แจ็คสันกล่าวพูดอย่างจริงจัง

 

“เจ้าคิดงั้นจริงหรอ?”ได้ยินคําพูดของแจ็คสันธอร์กล่าวถาม

 

ธอร์มีความมั่นใจในแอสการ์ดบ้านเกิดของเขาและมีความมั่นใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของพ่อของเขา โอดิน นี่คือความเชื่อมั่นของธอร์

 

“แน่นอน! ถ้าแอสการ์ดไม่สามารถรับศึกได้ไหวจริง ๆ คุณคิดว่าท่านพ่อของคุณจะไม่ต้องการความแข็งแกร่งของคุณ?”แจ็คสันตอบกลับในความคิดของเขา

 

“เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าสามารถมั่นใจได้เลย ข้าน่าจะสามารถฟื้นคืนพละกําลังความแข็งแกร่งของตัวเองกลับมาอย่างสมบูรณ์ได้ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน”ได้ยินคําพูดของแจ็คสัน ธอร์กล่าวตอบอย่างจริงจัง

 

หลังจากได้ยินคําพูดหลายอย่างจากปากของแจ็คสันธอร์ก็มั่นใจในคําพูดนั้นทั้งเขายังเชื่อมั่นแอสการ์ด นอกจากนี้เขายังรู้สึกขอบคุณแจ็คสันที่มีกําลังใจในการช่วยเหลือเขาให้รีบฟื้นฟูความแข็งแกร่งกลับมา

 

แต่อย่างไรก็ตามธอร์กลับไม่รู้ว่าตนเองจะสามารถฟื้นคืนพลังกลับมาทั้งหมดได้ตอนไหน ในใจเขาก็รู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อย

 

“ฮ่าฮ่า นั่นแหละ ฉันเชื่อว่าคุณจะต้องฟื้นฟูพละกําลังที่แท้จริงของคุณกลับมาเร็ว ๆ นี้ได้อย่างแน่นอน”เห็นจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ในประกายดวงตาของธอร์ แจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“แจ็คสันเจ้าต้องการลองทดสอบมันดูหรือไม่?”หลังจากสลัดความกังวลทิ้งออกไปธอร์จ้องมองไปที่แจ็คสันอีกครั้ง

 

แม้พละกําลังของตนเองจะฟื้นฟูกลับมาส่วนหนึ่ง แต่ธอร์ก็อดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากลองว่าพละกําลังของเขาฟื้นฟูกลับมาได้มากน้อยแค่ไหน และเขาต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของตัวเองในตอนนี้

 

“อืม?คุณต้องการที่จะต่อสู้กับฉันงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของธอร์ แจ็คสันรู้สึกแปลกใจก่อนที่จะกล่าวถาม

 

เกี่ยวกับพละกําลังความแข็งแกร่งของเทพเจ้าสายฟ้า แม้จะเป็นส่วนหนึ่งในใจของแจ็คสันก็อยากจะทดสอบกําลังของตัวเองเช่นเดียวกัน

 

“เจ้าไม่ต้องการงั้นหรอ?”เห็นแจ็คสันราวกับไม่มีความสนใจ ธอร์กล่าวถามอย่างจริงจัง

 

“ไม่เลย…อันที่จริงฉันเองก็อยากลองทดสอบดู แต่สถานที่ที่นี่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ พวกเราไปยังสถานที่นั่นกันเถอะ”แจ็คสันกล่าวตอบ

 

แม่แจ็คสันจะใช้สถานะของโทนในการอําพรางอิทธิพลจากพวก S.H.I.E.L.D. จนทําให้การตรวจสอบเฝ้าระวังเขานั้นน้อยลงแต่สถานที่แห่งนี้ก็อยู่ใกล้บ้านเขาทั้งธอร์ ยังจัดอยู่ในสถานะบุคคลพิเศษ เขาถูกเฝ้าระวังและจับตามองโดย S.H.I.E.L.D. ตลอดเวลา แต่หลัง ๆ มานี้ การเฝ้าระวังติดตามเริ่มน้อยลงมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถึงยังไง สถานที่สวนอุทยานแห่งนี้ก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่

 

“ข้าตั้งหน้าตั้งตารอเวลานี้มานานแล้ว หวังว่าเจ้าคงจะไม่โดนข้าซัดที่เดียวจนหมอบหรอกนะ ไม่งั้นเจ้าคงไม่ควรค่าแก่การให้ข้า ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้าผู้นี้ชื่นชม!”เห็นแจ็คสันตอบรับค่าของตนเอง ธอร์พูดขึ้นในทันที เป็นเพราะเขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตนเอง

 

“ฉันก็หวังอย่างนั้น!”

 

ติดด

 

ขณะที่แจ็คสันและธอร์กําลังสนทนากัน จู่ ๆ อุปกรณ์สื่อสารของที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ที่อยู่ในตัวของแจ็คสันก็ได้ดังขึ้น

 

ฟุบ!

 

แจ็คสันหยิบสมอลทอร์คขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็วจากนั้นเสียงของเจอร์รี่ก็ดังขึ้นในทันที”มิราจไนท์ ได้ข่าวของลูกบาศก์เวทมนตร์แล้ว!”

ได้ยินข่าวจากเจอร์รี ท่าทีของแจ็คสันได้เปลี่ยนไปทันที ซึ่งมันทําให้ธอร์ที่อยู่ข้าง ๆ เขารู้สึกแปลกใจกับการเปลี่ยนแปลงของแจ็คสัน

 

“ดูท่า ข้าคงจะต้องเลื่อนการต่อสู้ระหว่างเราไปก่อน มองจากสีหน้าของเขาแล้ว น่าจะมีงานสําคัญเร่งด่วนเข้ามา!”ธอร์สัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงของแจ็คสันเขาครุ่นคิดเงียบๆ

 

“อยู่ที่ไหน?”แจ็คสันกล่าวถามออกไป

 

“ในไซบีเรีย! ทีม X-MEN ได้ตรวจพบคลื่นความผันผวนมาจากที่นั่น ตอนนี้พวกเขาได้ส่งกําลังคนไปเฝ้าระวังพื้นที่นั้นไว้แล้ว”ได้ยินคําถามของมิราจไนท์ เจอร์รี่ตอบกลับทันที

 

“ไซบีเรีย?…”แจ็คสันครุ่นคิดในใจอย่างเงียบ ๆ

“เอาล่ะ ขอบคุณมาก เจอร์รี่ นายช่วยแจ้งสมาชิกที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ ให้ด้วย ฉันจะรีบกลับไปที่ฐานโดยเร็วที่สุด ไว้พวกเราค่อยหารือกันเรื่องนี้อีกที”แจ็คสันตอบกลับเจอร์รี่

 

“เข้าใจแล้ว มิราจไนท์ ฉันจะรอคุณอยู่ที่ฐาน”เจอร์รี่ตอบกลับ

 

“ถ้ามีข่าวหรือการเคลื่อนไหวอะไรรีบแจ้งให้ฉันรู้ทันที”หลังจากพูดทิ้งท้ายไว้แจ็คสันก็ตัดสายไป

 

เห็นสายตาที่มุ่งมั่นของแจ็คสันธอร์ได้จ้องมองเขาอย่างเงียบ ๆ

 

“ธอร์ ดูเหมือนว่า ฉันจะไม่มีเวลาอยู่เล่นกับคุณแล้ว ฉันต้องรีบไปยังสถานที่แห่งนึ่ง”แจ็คสันกล่าวพูดกับธอร์ที่อยู่ด้านหน้า

 

“เกิดอะไรขึ้น?”แม้ว่าธอร์จะไม่ได้ยินเสียง แต่เขาก็สามารถคาดเดาได้ มันน่าจะเป็นเรื่องสําคัญมากอย่างแน่นอน

 

“จริงสิ เกี่ยวกับเรื่องในคราวนี้มันมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับแอสการ์ดอยู่เหมือนกัน”ได้ยินคําพูดของธอร์ แจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“หม?มีความเกี่ยวข้องกับแอสการ์ด?มันคืออะไรกัน?”ธอร์ที่ได้ยินเช่นนี้เขาเองก็มีท่าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

“ลูกบาศก์เวทมนตร์ คุณเคยได้ยินชื่อนี้หรือไม่?”

 

ตอนที่ 675 กระตุ้นส่งเสริม   ในขณะที่แจ็คสันมีประสบการณ์ในการพัฒนาฝีมือและความแข็งแกร่งอิทธิพลของเขาก็ส่งผลต่อพล็อต เรื่องมากขึ้นเท่านั้น   ก็เหมือนเหตุการณ์ของคิลเลี่ยนก่อนหน้านี้ เดิมเป็ปเปอร์จะต้องถูกคิลเลี่ยนจับตัวไป เพื่อบีบบังคับให้โทนี่ยอมจํานน แต่เรื่องราวทั้งหมดกลับตาลปัดเมื่อมีการแทรกแซงของแจ็คสันเข้ามาเกี่ยวข้อง   นอกเหนือจากนี้ยังมีเหตุการณ์การแทรกแซงของลูกบาศก์เวทมนตร์อีก ประตูมิติอวกาศที่ส่งพวกแจ็คสันและเดดพูลไปยังต่างโลก ดาวเคราะห์ดึกดําบรรพ์อันแสนอันตรายที่มีสิ่งที่ถูกผนึกสัตว์ประหลาดระดับ S   อุบัติเหตุเหล่านี้เป็นจุดแข็งของแจ็คสันก็ว่าได้ราวกับว่ามันคือบททดสอบเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาในอนาคต แน่นอนว่าย่อมมีเรื่องเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้นไปอีก   อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นคราวนี้ทําให้แจ็คสันรู้จักกับพวกสตาร์ลอร์ด และทีมพิทักษ์จักรวาล ในเนื้อเรื่องคนเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับพาวเวอร์สโตน ในอนาคตอาจมีความเป็นไปได้ที่มันจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของพล็อตเรื่องอื่น ๆ อีก   ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานสิ่งมีชีวิตสัตว์ประหลาดหรือตัวละครหลักที่มีความเปลี่ยนแปลงทางด้านความสามารถอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้อาจจะเข้ามาเกี่ยวข้องภายหลัง   ดังนั้นแจ็คสันจึงได้กล่าวบอกต่อธอร์ล่วงหน้าว่า แอสการ์ดกําลังถูก ยักษ์น้ําแข็งและดาร์คเอลฟ์ร่วมมือกันโจมตี เขาไม่อาจปล่อยให้ธอร์ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงเวลานี้ได้ การมาของโลกคือสัญญาณของการเริ่มต้น แจ็คสันจะต้องกระตุ้นให้ธอร์ฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้ากลับมาให้ได้ทั้งหมดเสียก่อน และเมื่อเวลาที่ธอร์สามารถปลุกพลังของเขาให้ตื่นขึ้นได้อย่างสมบูรณ์เขาจะมีความแข็งแกร่งในระดับเดียวกับโอดิน พ่อของเขา   “เจ้าว่าอะไรนะ?”ได้ยินค่าพูดของแจ็คสัน ดวงตาของธอร์เปล่งประกายอย่างรุนแรง   “คือฉันได้ยินมาจากปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ฉันคิดว่าตอนนี้สถานการณ์ที่แอสการ์ดคงจะไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คุณคิด!”เห็นการตอบสนองของธอร์ แจ็คสันกล่าวกระตุ้นอีกครั้ง   ได้ยินการยืนยันจากแจ็คสันในดวงตาของธอร์ปรากฏแสงไฟสีฟ้าสว่างวาบขึ้นเล็กน้อย   เรื่องบ้านเกิดของเขาแอสการ์ดทําให้จิตใจของธอร์รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมากอาจกล่าวได้ว่าแอสการ์ด คือสถานที่สําคัญของเขาก็ไม่ผิด   “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ! แม้ว่าข้าจะทําผิดจริง แต่ถ้าแอสการ์ดกําลังถูกพวก เผ่ายักษ์น้ําแข็ง และ ดาร์คเอลฟ์ ผนึกกําลังร่วมกันโจมตีแอสการ์ดแล้วล่ะก็ ทําไมท่านพ่อไม่ให้ข้ากลับไปยังแอสการ์ด!?”ธอร์กํากําปั้นแน่นด้วยความโกรธ   แม้ โอดิน พ่อของเขา จะผนึกกําลังของตนเองเอาไว้ แต่ถ้าอีกฝ่ายต้องการฟื้นคืนพลังให้เขา เพื่อร่วมสงครามต้านทานอีกฝ่าย มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้   “ธอร์ คุณไม่คิดหาเหตุผลหรอว่าทําไมพ่อของคุณถึงไม่ให้คุณกลับไปยังแอสการ์ด นี่เพื่อความปลอดภัยของคุณ หรือเพื่อการลงโทษกันแน่?”แจ็คสันพูดบอกธอร์   “ถ้ามันเป็นการลงโทษเล่า ข้าจะต้องทํายังไงถึงจะกลับไปยังแอสการ์ดได้”ธอร์กล่าวถามแจ็คสัน   ดูเหมือนว่าตอนนี้ธอร์กําลังสับสนอยู่มาก การต่อสู้ของแอสการ์ดและยักษ์น้ําแข็งเกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดของตนเอง เรื่องนี้ธอร์ยอมรับ แต่ธอร์ไม่เข้าใจเหตุผลที่พ่อของเขาต้องการจะบอกเขาแม้แต่น้อย   “ธอร์ ในตอนนี้คุณสามารถใช้ส่วนหนึ่งของจุดแข็งของคุณได้ ทําไมคุณไม่ลองค้นหามันเล่า ค้นหาว่าตัวตนของคุณในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างไร?”แจ็คสันจ้องมองไปที่ธอร์และพูดขึ้น   ในปัจจุบันเขากําลังเดิมพันกับธอร์ ธอร์จะต้องรับรู้สิ่งที่เขาคิดได้ในช่วงเวลาที่เขาใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์ธรรมดา เมื่อเขาสามารถทําได้สําเร็จ พลังเทพเจ้าสายฟ้าของเขาก็จะตื่นขึ้นและฟื้นกําลังกลับมาอย่างสมบูรณ์   “เดี๋ยวก่อนนะ ! เจ้ารู้ได้ยังไง”ได้ยินคําพูดของแจ็คสัน ธอร์จ้องมองไปที่แจ็คสันอย่างจริงจัง   ก่อนหน้านี้ธอร์ใช้ชีวิตในฐานะคนธรรมดามาโดยตลอด หลังจากที่สูญเสียความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตน เองไป หลังจากผ่านไปไม่นานธอร์ก็สามารถฟื้นคืนพลังส่วนหนึ่งของตนเองกลับมาได้ ธรรมชาติ เขาคิดว่าหาก ดําเนินชีวิตแบบธรรมดาพวกนี้ต่อไปในอนาคตอันใกล้เขาจะต้องฟื้นคืนพลังกลับมาได้อย่างแน่นอน แต่เรื่องนี้ เขายังไม่ได้บอกให้แจ็คสันรู้แล้วทําไมอีกฝ่ายถึงล่วงรู้ได้   “ฉันรู้ได้ยังไงงั้นหรอ? ฉันก็แค่คาดเดา ส่วนรายละเอียดนั้นเป็นความลับ!”แจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม   เห็นอีกฝ่ายสามารถคาดเดาตนเองธอร์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย   “เจ้าบอกว่าเจ้าคาดเดามันงั้นหรอ?แล้วความลับเล็กน้อยที่เจ้าหมายถึง…เอาเถอะสักวันนึ่งข้าจะล่วงรู้ให้ ได้”ธอร์กล่าวตอบกลับ   “แต่ข้าก็ยังสงสัยอยู่ดี หากท่านพ่อของข้าต้องการความช่วยเหลือจากข้าจริง เขาย่อมคืนพลังของข้าแล้ว ควรให้ข้ากลับไปยังแอสการ์ดสิถึงจะถูก?ตัวตนและพลังของข้าสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่เมื่ออยู่ในสนามรบ”   “เรื่องนี้..บางที่ในสถานการณ์ของสนามรบปัจจุบัน คงไม่จําเป็นต้องมีคุณก็ได้ คุณไม่คิดงั้นหรอ?”แจ็คสันกล่าวตอบประเด็นของธอร์  

ตอนที่ 675 กระตุ้นส่งเสริม

 

ในขณะที่แจ็คสันมีประสบการณ์ในการพัฒนาฝีมือและความแข็งแกร่งอิทธิพลของเขาก็ส่งผลต่อพล็อต เรื่องมากขึ้นเท่านั้น

 

ก็เหมือนเหตุการณ์ของคิลเลี่ยนก่อนหน้านี้ เดิมเป็ปเปอร์จะต้องถูกคิลเลี่ยนจับตัวไป เพื่อบีบบังคับให้โทนี่ยอมจํานน แต่เรื่องราวทั้งหมดกลับตาลปัดเมื่อมีการแทรกแซงของแจ็คสันเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

นอกเหนือจากนี้ยังมีเหตุการณ์การแทรกแซงของลูกบาศก์เวทมนตร์อีก ประตูมิติอวกาศที่ส่งพวกแจ็คสันและเดดพูลไปยังต่างโลก ดาวเคราะห์ดึกดําบรรพ์อันแสนอันตรายที่มีสิ่งที่ถูกผนึกสัตว์ประหลาดระดับ S

 

อุบัติเหตุเหล่านี้เป็นจุดแข็งของแจ็คสันก็ว่าได้ราวกับว่ามันคือบททดสอบเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาในอนาคต แน่นอนว่าย่อมมีเรื่องเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้นไปอีก

 

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นคราวนี้ทําให้แจ็คสันรู้จักกับพวกสตาร์ลอร์ด และทีมพิทักษ์จักรวาล ในเนื้อเรื่องคนเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับพาวเวอร์สโตน ในอนาคตอาจมีความเป็นไปได้ที่มันจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของพล็อตเรื่องอื่น ๆ อีก

 

ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานสิ่งมีชีวิตสัตว์ประหลาดหรือตัวละครหลักที่มีความเปลี่ยนแปลงทางด้านความสามารถอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้อาจจะเข้ามาเกี่ยวข้องภายหลัง

 

ดังนั้นแจ็คสันจึงได้กล่าวบอกต่อธอร์ล่วงหน้าว่า แอสการ์ดกําลังถูก ยักษ์น้ําแข็งและดาร์คเอลฟ์ร่วมมือกันโจมตี เขาไม่อาจปล่อยให้ธอร์ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงเวลานี้ได้ การมาของโลกคือสัญญาณของการเริ่มต้น แจ็คสันจะต้องกระตุ้นให้ธอร์ฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้ากลับมาให้ได้ทั้งหมดเสียก่อน และเมื่อเวลาที่ธอร์สามารถปลุกพลังของเขาให้ตื่นขึ้นได้อย่างสมบูรณ์เขาจะมีความแข็งแกร่งในระดับเดียวกับโอดิน พ่อของเขา

 

“เจ้าว่าอะไรนะ?”ได้ยินค่าพูดของแจ็คสัน ดวงตาของธอร์เปล่งประกายอย่างรุนแรง

 

“คือฉันได้ยินมาจากปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ฉันคิดว่าตอนนี้สถานการณ์ที่แอสการ์ดคงจะไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คุณคิด!”เห็นการตอบสนองของธอร์ แจ็คสันกล่าวกระตุ้นอีกครั้ง

 

ได้ยินการยืนยันจากแจ็คสันในดวงตาของธอร์ปรากฏแสงไฟสีฟ้าสว่างวาบขึ้นเล็กน้อย

 

เรื่องบ้านเกิดของเขาแอสการ์ดทําให้จิตใจของธอร์รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมากอาจกล่าวได้ว่าแอสการ์ด คือสถานที่สําคัญของเขาก็ไม่ผิด

 

“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ! แม้ว่าข้าจะทําผิดจริง แต่ถ้าแอสการ์ดกําลังถูกพวก เผ่ายักษ์น้ําแข็ง และ ดาร์คเอลฟ์ ผนึกกําลังร่วมกันโจมตีแอสการ์ดแล้วล่ะก็ ทําไมท่านพ่อไม่ให้ข้ากลับไปยังแอสการ์ด!?”ธอร์กํากําปั้นแน่นด้วยความโกรธ

 

แม้ โอดิน พ่อของเขา จะผนึกกําลังของตนเองเอาไว้ แต่ถ้าอีกฝ่ายต้องการฟื้นคืนพลังให้เขา เพื่อร่วมสงครามต้านทานอีกฝ่าย มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

 

“ธอร์ คุณไม่คิดหาเหตุผลหรอว่าทําไมพ่อของคุณถึงไม่ให้คุณกลับไปยังแอสการ์ด นี่เพื่อความปลอดภัยของคุณ หรือเพื่อการลงโทษกันแน่?”แจ็คสันพูดบอกธอร์

 

“ถ้ามันเป็นการลงโทษเล่า ข้าจะต้องทํายังไงถึงจะกลับไปยังแอสการ์ดได้”ธอร์กล่าวถามแจ็คสัน

 

ดูเหมือนว่าตอนนี้ธอร์กําลังสับสนอยู่มาก การต่อสู้ของแอสการ์ดและยักษ์น้ําแข็งเกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดของตนเอง เรื่องนี้ธอร์ยอมรับ แต่ธอร์ไม่เข้าใจเหตุผลที่พ่อของเขาต้องการจะบอกเขาแม้แต่น้อย

 

“ธอร์ ในตอนนี้คุณสามารถใช้ส่วนหนึ่งของจุดแข็งของคุณได้ ทําไมคุณไม่ลองค้นหามันเล่า ค้นหาว่าตัวตนของคุณในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างไร?”แจ็คสันจ้องมองไปที่ธอร์และพูดขึ้น

 

ในปัจจุบันเขากําลังเดิมพันกับธอร์ ธอร์จะต้องรับรู้สิ่งที่เขาคิดได้ในช่วงเวลาที่เขาใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์ธรรมดา เมื่อเขาสามารถทําได้สําเร็จ พลังเทพเจ้าสายฟ้าของเขาก็จะตื่นขึ้นและฟื้นกําลังกลับมาอย่างสมบูรณ์

 

“เดี๋ยวก่อนนะ ! เจ้ารู้ได้ยังไง”ได้ยินคําพูดของแจ็คสัน ธอร์จ้องมองไปที่แจ็คสันอย่างจริงจัง

 

ก่อนหน้านี้ธอร์ใช้ชีวิตในฐานะคนธรรมดามาโดยตลอด หลังจากที่สูญเสียความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตน เองไป หลังจากผ่านไปไม่นานธอร์ก็สามารถฟื้นคืนพลังส่วนหนึ่งของตนเองกลับมาได้ ธรรมชาติ เขาคิดว่าหาก ดําเนินชีวิตแบบธรรมดาพวกนี้ต่อไปในอนาคตอันใกล้เขาจะต้องฟื้นคืนพลังกลับมาได้อย่างแน่นอน แต่เรื่องนี้ เขายังไม่ได้บอกให้แจ็คสันรู้แล้วทําไมอีกฝ่ายถึงล่วงรู้ได้

 

“ฉันรู้ได้ยังไงงั้นหรอ? ฉันก็แค่คาดเดา ส่วนรายละเอียดนั้นเป็นความลับ!”แจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

เห็นอีกฝ่ายสามารถคาดเดาตนเองธอร์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

 

“เจ้าบอกว่าเจ้าคาดเดามันงั้นหรอ?แล้วความลับเล็กน้อยที่เจ้าหมายถึง…เอาเถอะสักวันนึ่งข้าจะล่วงรู้ให้ ได้”ธอร์กล่าวตอบกลับ

 

“แต่ข้าก็ยังสงสัยอยู่ดี หากท่านพ่อของข้าต้องการความช่วยเหลือจากข้าจริง เขาย่อมคืนพลังของข้าแล้ว ควรให้ข้ากลับไปยังแอสการ์ดสิถึงจะถูก?ตัวตนและพลังของข้าสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่เมื่ออยู่ในสนามรบ”

 

“เรื่องนี้..บางที่ในสถานการณ์ของสนามรบปัจจุบัน คงไม่จําเป็นต้องมีคุณก็ได้ คุณไม่คิดงั้นหรอ?”แจ็คสันกล่าวตอบประเด็นของธอร์

 

ตอนที่ 674 ความมั่นใจของธอร์

 

แม้ว่าแจ็คสันจะมีพรสวรรค์ในการเรียนรู้เวทมนตร์อยู่ในระดับที่ต่ำแต่เขาก็ไม่ได้ท้อถอยในเรื่องนี้อันที่จริง เขาสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ตามการฝึกในระบบของเขา ในอนาคต เขายังสามารถกลายเป็นบุคคลที่ทรงพลังที่แข็งแกร่งได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้น

 

“อม,ข้าเชื่อเจ้า!”เห็นสีหน้าที่จริงจังและความมุ่งมั่นของแจ็คสัน ธอร์ ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

แม้ตอนนี้ธอร์จะสามารถฟื้นคืนพลังส่วนหนึ่งของพลังเทพเจ้าสายฟ้ากลับมาได้ แต่ถ้าเกิดเข้าปะทะกับแจ็คสันเต็มกำลังตอนนี้จริง ๆ เขาเชื่อว่าตนเองอาจจะไม่มีสิทธิ์ชนะเลยก็ได้ ถ้าเกิดเขาฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้ากลับมาได้เต็มที่ ธอร์เชื่อว่าเขาย่อมสามารถเหนือกว่าแจ็คสันได้อย่างไม่ยากเย็น

 

“อืม,ดูเหมือนคุณจะดูเป็นกังวลมาก เมื่อเห็นการปรากฏขึ้นของสะพานไบฟรอส?”แจ็คสันกล่าวถาม

 

“เป็นเช่นนั้นจริง ตอนนี้ แอสการ์ด สมควรกำลังทำสงครามกับพวกยักษ์น้ำแข็ง แต่ฉันก็เชื่อมั่นในแอสการ์ดโลก ในฐานะเจ้าชายแห่งแอสการ์ดอีกคน แม้ความแข็งแกร่งของเขาจะด้อยกว่าข้า แต่ลำพังแค่เขาข้าก็เชื่อว่าเพียงพอ”ธอร์รู้สึกสบายใจในส่วนนี้นิดนึง

 

“จริงส์ เมื่อครู่ เจ้ายังไม่เล่าให้ข้าฟังเลยว่า เจ้าหลุดไปยังจักรวาลนอกโลกได้อย่างไร?”ธอร์กล่าวถามในจุด

 

“ฮ่าฮ่า…นึกว่าคุณจะไม่ถามซะแล้ว?”แจ็คสันยิ้มกล่าวตอบ

 

จากนั้นแจ็คสันก็อธิบายอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นให้ธอร์ฟังอย่างละเอียดภายใต้การอธิบายของแจ็คสัน ธอร์มีสีหน้าการเปลี่ยนแปลงจำนวนมาก

 

“แจ็คสัน,ข้าสามารถบอกได้เลยว่าเจ้าเป็นมนุษย์โลกคนแรก ที่ข้ารู้สึกชื่นชม!”ธอร์พูดตอบกลับแจ็คสัน

 

หลังจากฟังเรื่องของแจ็คสัน ธอร์ รู้สึกได้ถึงประสบการณ์ผจญอันตรายของตนเองในช่วงเวลาของเขาธอร์ได้ทำศึกสงครามจำนวนมาก เกี่ยวกับสัตว์ประหลาด ยักษ์ที่ แจ็คสันอธิบาย ธอร์ไม่ได้แปลกใจ สัตว์ประหลาดต่างดาวพวกนี้มีอิทธิพลที่น่าเกรงกลัว การที่พวกมันสามารถอยู่รอดบนดาวเคราะห์ดวงนั้นได้ก็คงเป็นเพราะอิทธิพลและนิสัยที่ก้าวร้าวของพวกมัน

 

“ฮ่าฮ่า,ไม่คิดเลยว่า เจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่แห่งแอสการ์ดจะเอ่ยปากชมฉัน ฉันค่อนข้างรู้สึกภูมิใจมากจริง ๆ !”ได้ยินคำพูดของธอร์ แจ็คสันยิ้มเล็กน้อย

 

“เจ้านี่ก็ไม่มีความละอายเลยหรือยังไง…เอาเถอะ ตั้งแต่ที่รู้ว่าการปรากฏขึ้นของสะพานไบฟรอสไม่ใช่คนของแอสการ์ดข้าเองก็สบายใจ”ธอร์รู้สึกโล่งใจ

 

เกี่ยวกับสถานการณ์ของแอสการ์ดตอนนี้ธอร์ทำได้เพียงเฝ้าระวังอยู่ห่าง ๆ เพียงเท่านั้น เขาเชื่อมั่นว่าแอสการ์ดจะต้องชนะศึกสงครามอย่างแน่นอน

 

“แม้ว่าฉันจะอยู่ที่แอสการ์ดเพียงไม่นาน แต่ฉันก็พอรู้สถานการณ์ปัจจุบันของเก้าโลกจากปากของปรมาจารย์เอนเชียนวัน ดูเหมือนพวกยักษ์น้ำแข็งจะซุ่มโจมตีท่านพ่อของคุณจนเขาได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้สถานการณ์ ของโอดิน ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ล่าบาก แต่เรื่องนี้ไม่เป็นไร โลก น้องชายของคุณ สามารถเข้ารับศึกหน้าในการทดแทนส่วนที่เหลือนี้ได้อย่างไรก็ตาม…”เห็นการแสดงออกของธอร์ แจ็คสันกล่าวพูดขึ้น

 

เผ่ายักษ์น้ำแข็งและแอสการ์ดทำสงครามกัน เรื่องนี้ ธอร์ รู้อยู่แล้ว เพราะช่วงเวลาที่โลกิมถึงโลกเขาได้เล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ในสนามรบให้ ธอร์ ฟัง เรื่องนี้แจ็คสันเชื่อว่าธอร์ย่อมไม่แปลกใจ

 

“เกิดอะไรขึ้น?พวกเผ่ายักษ์น้ำแข็งมันท่าไม?”

 

“ในช่วงเวลานี้แอสการ์ดน่าจะใกล้จบศึกสงครามกับพวกยักษ์น้ำแข็งแล้ว ข้าเชื่อว่าโลกจะสามารถนำชัยชนะกลับมาได้ เจ้ารู้อะไรมารีบบอกข้าเร็ว!”ธอร์รู้ว่ากองทัพทหารแอสการ์ดภายใต้การนำของโลกย่อมสามารถจัดการทัพของพวกยักษ์น้ำแข็งได้อย่างไม่มีปัญหา

 

“ฉันรู้ว่าด้วยพลังของแอสการ์ดย่อมสามารถปราบปรามพวกเผ่ายักษ์น้ำแข็งได้ แต่อย่างไรก็ตามฉันได้ยินมาว่า เผ่าดาร์คเอลฟ์ ได้เข้าร่วมสงครามด้วยพวกเขากับเผ่ายักษ์น้ำแข็งด้วยร่วมมือกัน”แจ็คสันกล่าวตอบ

 

เรื่องนี้แจ็คสันไม่ใช่ได้ยินมาจากเอนเชี่ยนวัน เขารู้มาจากพล็อตเรื่องดั้งเดิมเพราะเรื่องทั้งหมดถึงยังไงเผ่าพันธ์ดาร์คเอลฟ์ก็ยังเข้าร่วมสงครามนี้อยู่ดี

 

ในพล็อตเรื่องเดิม ธอร์ ได้โดนโจมตีจากเครื่องจักรสังหารของแอสการ์ดจนได้รับบาดเจ็บหนักช่วงเวลานั้นเขาได้ฟื้นคืนพลังและได้กลับไปยังแอสการ์ดแต่หลังจากมีการแทรกแซงของแจ็คสันพล็อตเรื่องกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น

 

ในความทรงจำของแอสการ์ดตามพล็อตเรื่องเดิม หลังจากเผ่าพันธ์ดาร์คเอลฟ์เข้าร่วมสงครามพวกเขาก็ได้ทำให้แม่ของ ธอร์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา สิ่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับ เรียลลิตี้สโตน ที่อยู่ในร่างของเจน อดีตแฟนสาวของธอร์

 

“แม้พล็อตเรื่องจะเปลี่ยนแปลงไปครั้งใหญ่ แต่สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้น ฉันคงไม่อาจเมินเฉยมันได้อย่างแน่นอน”แจ็คสันครุ่นคิดในใจพร้อมกับเฝ้าสังเกตอาการของธอร์

 

เขาต้องการดูสีหน้าของอีกฝ่ายและต้องการกระตุ้นให้ธอร์รู้ว่าการคุกคามที่แท้จริงนั้นไม่ใช่โลกหรือคนอื่น ๆ เขาต้องการจะบอกธอร์ว่าหายนะที่แท้จริงกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้เพื่อให้ธอร์กระตุ้นพลังเทพเจ้าสายฟ้ากลับมาให้ได้โดยเร็ว เพราะในอนาคต แจ็คสันต้องการยืมพลังของอีกฝ่าย

 

ตอนที่ 673 สนทนากับธอร์

 

ในช่วงเวลานี้ แสงแดดยามบ่ายค่อนข้างอบอุ่น บางพื้นที่มีชั้นเมฆหนาครึม แต่ถึงอย่างนั้นธอร์และแจ็คสันก็ไม่ได้สนใจบรรยากาศในตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนได้ออกไปเดินเล่นข้างนอก

 

“เจ้าบอกว่า เจ้าเพียงแค่อาศัยสะพานไบฟรอสกลับมาที่โลกเพียงเท่านั้น ไม่เห็นสถานการณ์อื่น ๆ ภายในของแอสการ์ดอย่างงั้นหรอ?”ขณะที่เดินเล่นกันอยู่ ธอร์ ได้กล่าวพูดอย่างผิดหวัง

 

เมื่อครู่แจ็คสันได้อธิบายว่าทำไมตนเองถึงไปใช้สะพานไบฟรอสได้ เพียงแค่อาศัยพลังของสะพานไบฟรอสในการกลับมาที่โลกไม่มีเวลามากพอจะดูสถานการณ์ในปัจจุบันของแอสการ์ด

 

“อม, ฉันได้หลุดไปยังสถานที่แห่งนั้น เป็น ปรมาจารย์ท่านหนึ่งที่ช่วยเหลือพวกเราเอาไว้ เขาได้ช่วยเหลือพวกเราในการยืมใช้สะพานไบฟรอสและช่วยพากลับมาที่โลก หากไม่ได้เขาช่วย คราวนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเราจะกลับมาที่โลกอีกทีตอนไหน”แจ็คสันพูดขึ้นก่อนที่จะเอาเท้าเตะหินที่อยู่ใต้เท้า

 

เกี่ยวกับคำถามของธอร์ ธอร์ให้ความสนใจกับการปรากฏขึ้นของสะพานไบฟรอสมากดังนั้นเมื่อแจ็คสันบอกว่าเป็นเขาที่ใช้งานสะพานไบฟรอสธอร์จึงรู้สึกสงสัยและถามเรื่องนี้

 

“ปรมาจารย์ท่านนึง? ใครกัน เขาสามารถกระทั่งของยืมสิทธิ์ในการใช้งานสะพานไบฟรอสได้ ใช่เป็นมนุษย์โลกหรือไม่?”ได้ยินคำพูดของแจ็คสัน ธอร์ กล่าวถมอีกครั้ง

 

ธอร์ รู้ดีแน่นอนว่า สะพานไบฟรอสไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะสามารถยืมใช้ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้ยินจากปากแจ็คสันว่าหลุดไปยังดาวเคราะห์อื่นมา หากปรมาจารย์คนที่แจ็คสันกล่าวถึงเป็นมนุษย์โลกล่ะก็สถานะของคนคนนั้นจะต้องยิ่งใหญ่มากแน่นอน เพราะไม่มีทางที่ท่านพ่อของเขาโอดินจะยินยอมให้บุคคลธรรมดาได้รับสิทธิ์ในการใช้งานสะพานไบฟรอส

 

“ใช่, เขาเป็นมนุษย์โลก ยิ่งไปกว่านั้นฉันคิดว่าคุณน่าจะรู้จักเขาด้วย”เห็นการเปลี่ยนแปลงของธอร์ แจ็คสันรู้ว่าธอร์คิดอะไรอยู่ตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้วางแผนที่จะปิดบังอีกฝ่าย

 

“ชาวมนุษย์โลก ที่สามารถยืมใช้สะพานไบฟรอสของแอสการ์ดได้ บุคคลดังกล่าวคงมีเพียงแค่…”ได้ยินคำพูดของแจ็คสันธอร์ขมวดคิ้วแน่นเล็กน้อย เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับบุคคลนี้

 

ตึก!

 

หลังจากคิดไตร่ตรองเพียงครู่นึง ธอร์ ก็จ้องมองไปที่แจ็คสันและพยายามพูดชื่อที่ตนเองคิดออกมา

 

“เจ้าคงจะไม่ได้หมายถึง ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน หรอกใช่มั้ย?”ธอร์กล่าวพูดออกมาอย่างลังเล

 

เห็นสีหน้าของธอร์ที่กังวลกับคำตอบ แจ็คสันระงับรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ดูเหมือนว่า เจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่แห่งแอสการ์ด เทพเจ้าสายฟ้าธอร์ ก็ยังรู้จัก ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน จอมขมังเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่

 

อืม เป็นปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน”แจ็คสันพยักหน้าตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

ได้ยินคำตอบยืนยันจากปากของแจ็คสัน ธอร์ รู้สึกไม่แปลกใจ ที่อีกฝ่ายสามารถยืมใช้สะพานไบฟรอสได้

 

“เขาเป็นคนที่ยากที่จะพบพานแม้แต่ข้าเองก็ไม่ค่อยได้เจอเขาบ่อยนัก!”ธอร์พูดออกมาเล็กน้อย

 

ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน บุคคลที่มีอิทธิพลระดับเดียวกับท่านพ่อของเขา โอดิน ในสมัยโบราณ ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างดี ดังนั้นหลายตาหลายครั้งเขาจึงเห็นการมาเยี่ยมเยือนของเอนเชี่ยนวันที่แอสการ์ดในอดีต ในตอนนั้นธอร์ค่อนข้างมีความรู้สึกอยากรู้อยากลองเขาต้องการวัดคุณสมบัติกับอีกฝ่าย แต่เมื่อได้เห็นสถานที่แท้จริงของอีกฝ่ายธอร์กลับไม่มั่นใจแม้เขาจะมีพลังของเทพเจ้าสายฟ้าแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะพูดเต็มปากว่าจะชนะเมื่อยืนต่อหน้าจอมขมังเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่

 

บางทีถ้าเกิดเขาสามารถปลุกพลังของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ในเวลานั้นเขาอาจจะพละกำลังและพลังเท่าเทียมกับจอมขมังเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น แต่ไม่รู้ว่าวันนั้นเมื่อไหร่จะมาถึง

 

“อม,เขาได้ปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือ ฉัน”

 

ได้ยินคำพูดของแจ็คสันธอร์ได้จ้องมองไปที่แจ็คสันพร้อมกับจับบ่าทั้งสองข้างของเขาและจ้องพินิจบางอย่าง

 

“มันไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นผู้สืบทอดของเขางั้นหรอ? แต่แปลกทำไมขาไม่สามารถสัมผัสพลังเวทมนตร์จากตัวเจ้าได้เลย ข้าเชื่อว่าความสามารถระดับเจ้า ย่อมต้องสามารถเรียนรู้เวทมนตร์ได้อย่างแน่นอน แต่ทำไมกัน เพราะอะไร…”ธอร์กล่าวถามแจ็คสันด้วยความสงสัย

 

ตั้งแต่เริ่มแรกที่ธอร์พบกับแจ็คสันเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งจากตัวอีกฝ่าย เบื้องหลังของแจ็คสันจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ดังนั้น ธอร์ จึงคิดว่า แจ็คสันคือผู้ที่มีคุณสมบัติจะสืบทอดพลังของจอมขมังเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่

 

อย่างไรก็ตามวันนี้แจ็คสันกล่าวว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่ ปรมาจารย์ที่ช่วยเหลือตนเอง ถ้าอีกฝ่ายคือศิษย์อาจารย์กัน แจ็คสัน จะต้องเรียกอีกฝ่ายว่าอาจารย์ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิด

 

“เอ่อ…ฉันและปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน เป็นเพียงแค่คนรู้จักกัน แต่เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าฉันจะชื่นชอบเวทมนตร์มากแค่ไหน และมีคนเต็มใจที่จะสอนฉัน แต่พรสวรรค์ในการเรียนรู้เวทมนตร์ของฉันอยู่ในระดับที่ต่ำมาก หากฝึกฝนอาจเป็นไปได้ที่ยากจะประสบความสำเร็จ”แจ็คสันกล่าวตอบอย่างไม่เต็มใจ

 

เมื่อนึกถึงจุดแข็งของแจ็คที่เขาเห็นในช่วงสองวันก่อน เขาเองก็ยังรู้สึกอิจฉา แจ็คเป็นมิวแทนท์ระดับ 3 มีคุณสมบัติร่างกายที่แข็งแกร่งทั้งยังมีความสามารถในการเรียนรู้เวทมนตร์ได้เป็นอย่างดี แม้ในใจเขาจะรู้สึกอิจฉาอีกฝ่าย แต่เมื่อคิดถึงผลรวมตอนนี้ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็เหมือนได้ยกระดับความแข็งแกร่งขึ้นไปอีกครั้ง

 

“ไม่มีพรสวรรค์ในการเรียนรู้เวทมนตร์?…ฮ่าฮ่า ข้าล่ะแปลกใจจริง ๆ “ธอร์จ้องมองไปที่แจ็คสันด้วยรอยยิ้ม

 

เดิมธอร์คิดว่าอีกฝ่ายมีพรสวรรค์ที่มากล้นกระทั่งสามารถเรียนรู้เวทมนตร์ได้อย่างไม่ยากเย็น แต่พอดูรวม ๆ คนที่มีพรสวรรค์อย่างแจ็คสัน ก็ยังมีข้อเสียกับเขาอยู่เหมือนกัน

 

“ใช่ แต่ถึงฉันจะไม่สามารถเรียนรู้เวทมนตร์ได้ ฉันก็ยังมีจุดแข็งอื่นอยู่”เผชิญหน้ากับการหัวเราะของธอร์แจ็คสันตอบกลับอย่างมั่นคง

 

ตอนที่ 672 การเฝ้ามองของทอม

 

ห่างจากบ้านแจ็คสันไม่ไกลบ้านของทอม ทอมจ้องมองออกไปที่นอกหน้าต่างเขาเห็นแจ็คสันสนทนากับลุงไมค์ทอมเองก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

 

“แจ็คสัน,ฉันละอยากมีอิสระทำเรื่องที่อยากจะทำเหมือนนายจริง ๆ “เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนแล้วหลังจากที่ทอมกลับมาบ้านเขาได้ซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนที่มืดมิดของตนเอง

 

เป็นระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วหลังจากที่แจ็คสันช่วยเหลือทอมออกมา สมาชิกในครอบครัวของทอมรู้สึกดีใจอย่างมากที่เห็นเขากลับมาพวกเขากลับมามีความสุขอีกครั้ง แต่ก็มีบางครั้งที่พวกเขารู้สึกสงสัย มันเป็นการเปลี่ยนแปลงของทอม เพราะหลังจากที่ทอมกลับมา เขาไม่ค่อยพูดค่อยจาทั้งยังชอบเก็บตัวอยู่ในห้องมืดคนเดียวไม่ออกไปข้างนอกไม่ไปโรงเรียน

 

หลายครั้งที่ครอบครัวของเขาพยายามจะถามเขาถึงเรื่องเพื่อนบ้านอย่างแจ็คสันและโทนี่ สตาร์ค ซึ่งทอมก็ไม่ได้พูดอะไร ครอบครัวของเขาพยายามจะถามเขาถึงสาเหตุที่ตนเองหายไป ซึ่งทอมก็ไม่ได้บอกพวกเขามันเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดมาก มันไม่ใช่เรื่องที่ดีที่เขาจะบอกกล่าวให้คนในครอบครัวฟัง

 

ดังนั้นในปัจจุบันทอมจึงการเป็นเด็กที่ชอบเก็บตัวอยู่ในห้องไม่พูดไม่จากับคนอื่น ๆ เรื่องนี้ทำให้ ครอบครัวเป็นห่วงเขามาก พวกเขาหวังว่าสักวันทอมจะกลับมาเป็นปกติ แม้ว่าพวกเขาอยากจะรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแต่ทอมก็ไม่ยอมบอก แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขารู้นั้นคือสภาพของทอมในปัจจุบันดูเป็นทุกข์ออย่างมากหากเป็นแบบนี้ต่อไปเขาจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตของคนทั่วไปได้

 

ฟุบ!

 

จ้องมองไปยังตำแหน่งของแจ็คสันที่หายไปทอมได้จับลูกบอลโลหะเล่นในมือก่ออนที่จะบดมันด้วยความแข็งแกร่งของตนเอง ร่างกายของทอมถูกพวกไฮดร้าเปลี่ยนเป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ พละกำลังที่เหนือกว่าคนธรรมดา ยังอยู่ในร่างกายของเขา

 

หลังจากบีบลูกบอลโลหะในมือแตกทอมได้สติกลับมาเขาจ้องมองไปที่เศษลูกบอลที่แตกในมือพร้อมกับครุ่นคิดบางอย่าง

 

“หลังจากเผชิญหน้าผ่านพ้นปัญหาเหล่านั้นมา ฉันยังจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตคนธรรมดาทั่วไปได้อีกงั้นหรอ?”ทอมขว้างเศษลูกบอลโลหะทิ้งในถังขยะ

 

แม้แจ็คสันจะใช้วิธีการบางอย่างในการกู้ความทรงจำของทอมกลับมาได้แต่มันไม่มีวิธีที่จะลบความทรงจำในช่วงที่ทอมกลายเป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์และฆ่าคนจำนวนมาก เป็นที่ชัดเจนว่าตัวเขากำลังสับสนตัวเองสับสนเกี่ยวกับการใช้ชีวิตต่อจากนี้

 

ถ้าทอมเลือกที่จะกลับไปใช้ชีวิตปกติแบบคนอื่น มันก็คงจะยากเพราะเรื่องที่พวกไฮดร้าเคยสั่งเขาตอนที่เป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ให้ลงมือทำ เขาจะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเมื่อเทียบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกันเขาไม่สามารถยอมรับในเรื่องนี้และทำใจกลับไปใช้ชีวิตประจำวันในโรงเรียนได้ เพราะในสายตาของเขาตัวเขามันเหมือนกับตัวประหลาดตัวนึง

 

“ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์? S.H.I.E.L.D.? ที่มX-MEN บางที่สถานที่แห่งนี้คงจะเหมาะกับฉันมากกว่า!”ทอมเคาะนิ้วเล็กน้อยที่มุมโต๊ะ

 

ตึก!

 

“แจ็คสันถึงแม้ว่านายจะไม่ต้องการให้ฉันเสียงอันตรายไปพร้อมกับนาย แต่ว่าฉัน…”ทอมพูดออกมาก่อนที่สายตาของเขาจะเปล่งประกายอย่างแปลก ๆ

 

ในห้องนั่งเล่นพ่อของแจ็คสัน หลิน ไช่ ได้ตักอาหารใส่จานของทุกคน วันนี้ ลูกชายของเขานาน ๆ ที่จะกลับมาบ้าน เป็นธรรมดาที่ หลิน ไช่ จะทำเมนูโปรดของลูกชายพร้อมกับทุ่มฝีมือสุดตัวเพื่อทำอาหารออกมาให้อร่อยที่สุด

 

“ธอร์,คุณ มานั่งตรงนี้เร็ว เพื่อนของแจ็คสัน ก็เหมือนแขกของบ้านเรา”หลิน ไฮ กล่าวพูดกับธอร์

 

“เอ่อ…ข้าขอนั่งตรงนี้ดีกว่า!”ธอร์กล่าวพูดเล็กน้อย

เห็นว่าธอร์พูดออกมาและท่าท่าที่อย่างสุภาพ ดวงตาของ แจ็คสันจ้องมองไปที่เขาก่อนที่จะเผยรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

 

“ฮ่าฮ่า ไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ ธอร์ ดูจากรูปร่างหน้าตาของคุณ คุณน่าจะไม่ใช่นักเรียนใช่มั้ย? คุณทำงานในบริษัทอุตสาหกรรมสตาร์คอินดัสตรีทด้วยงั้นหรอ?”หลิน ไฮ้ กล่าวถาม ธอร์

 

“เอ่อ…ข้าไม่ใช่นักเรียน ปีนี้ข้าอายุ 26 ปีแล้ว ข้าไม่ได้ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมสตาร์ค แต่ว่าทำงานอยู่กับครอบครัว ที่เรียกว่า สถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัด”ได้ยินคำถามของ หลิน ไช่ ธอร์ได้วางตะเกียบในมือลงพร้อมกับพูดอย่างตะกุกตะกัก เขาเกือบที่จะหลุดพูดอายุที่แท้จริงของตนเองออกไปแล้ว

 

“คุณss”ได้ยินคำตอบของธอร์ หลิน ไช่ ตกใจเล็กน้อย

 

ถ้าหากธอร์ไม่ใช่เพื่อนที่ทำงานอยู่ที่อุตสาหกรรมสตาร์ค เช่นนั้น ลูกของเขาแจ็คสันไปรู้จักอีกฝ่ายได้อย่างไร เรื่องนี้เขาจำเป็นจะต้องสอบถามอีกฝ่ายเพื่อความชัดเจน

 

“คือผมไปรู้จักธอร์ตอนที่ไปทัศนศึกษาที่นิวเม็กซิโก พวกเราได้รู้จักกันตอนนั้น จากนั้น ธอร์ ได้ย้ายมาอยู่ที่นิวยอร์ก เขาไม่มีเพื่อนอยู่ที่นี่ ดังนั้น ผมเลยช่วยเขามองหางาน เราจึงค่อนข้างสนิทกัน”เมื่อรับรู้ถึงความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพ่อตนเอง แจ็คสันได้เปิดปากพูดขึ้น

 

“ฮ่าฮ่า เป็นเช่นนี้นั่นเอง เอาล่ะ กินข้าวกันเถอออะ ธอร์ คุณใช้ตะเกียบเป็นไหม ในครัวของเรามีช่อนและส้อม ถ้าคุณไม่สะดวกเดวฉันจะไปหยิบให้”หลังจากได้ยินคำพูดของลูกชาย หลิน ไฮ่ ยิ้มออกมา และ จ้องมอองไปที่ธอร์

 

“เอ่อ..ไม่มีปัญหา หลังจากมาถึงนิวยอร์ก แจ็คสันได้สอนข้าหลายอย่างแน่นอนว่าการใช้ตะเกียบด้วยเหมือนกัน”ธอร์หยิบตะเกียบขึ้นมาลองคืบดู

 

จากนั้น ธอร์ และ แจ็คสัน ก็อยู่ร่วมรับประทานอาหารกลางวันภายในบ้านของแจ็คสัน หลังจากทานอาหารกลางวันกันเสร็จ หลิน ไช่ ได้เก็บจาน และบอกให้แจ็คสันไม่ต้องช่วยออกไปเดินเล่นกับเพื่อน ท้ายที่สุด ธอร์ และแจ็คสันก็ออกไปเดินเล่นกัน หลิน ไฮ้ มองว่า ธอร์คนนี้ ค่อนข้างมีความลึกลับที่เดียว แต่ถ้า ลูกชายของเขาโอเค เขาก็ไม่มีปัญหาอะไร

 

ตอนที่ 671 การทักทายเล็กน้อยของธอร์

 

เมื่อเห็นเจ้าหนูแจ็คสันหายหน้าหายตาไปนาน ลุงไมค์วางสายยางก่อนที่จะเดินไปที่เบื้องหน้าของแจ็คสัน

 

“ได้ยินว่าเธอหายตัวไปนานไปเป็นผู้ช่วย โทนี่ สตาร์ค เป็นไงมั่งละ เค้าให้กลับมาแล้วงั้นหรอ?”ลุงไมค์จ้องมองไปที่รถสปอร์ตสุดหรูที่จอดด้านหลังก่อนจะถามแจ็คสันด้วยรอยยิ้ม

 

เนื่องเพราะแจ็คสันทํางานให้กับโทนี่ สตาร์ค เขาจึงไม่ค่อยได้ไปโรงเรียนทั้งยังไม่ค่อยได้กลับบ้าน แม้ว่าฐานะนักเรียนของแจ็คสันจะดูย่าแย่ในสายตาคนอื่น ๆ แต่คนเหล่านี้ไม่กล้าที่จะนินทาลูกบ้านนี้แม้แต่น้อย จะมีสักกี่คนที่มีความสามารถมากพอจะเป็นผู้ช่วยเหลือของโทนี่ สตาร์คได้

 

“อื่ม,คุณสตาร์คปล่อยให้ผมกลับมาพักผ่อนสักพักนึ่ง เพราะถึงยังไงก็เป็นเวลานานแล้วที่ผมไม่ได้กลับบ้าน”แจ็คสันตอบกลับ ลุงไมค์พร้อมกับยิ้มออกมา

 

“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนโทนี่ สตาร์คจะให้ความสนใจกับเธอเป็นพิเศษ จริงสิ เจ้าหนู แจ็คสัน ลูกของฉันกําลังจะจบการศึกษาในสถาบันเทคโนโลยีแสซาซูเซตส์ในปีนี้เขาใช้เวลาสองปีในการศึกษาเธอพอจะ..”ลุงไมค์องเล็กน้อย

 

ลูก ๆ ของเขาใกล้ที่จะเรียนจบแล้ว ลุงไมค์ตั้งใจจะฝากแจ็คสันให้ไปพูดคุยกับโทนี่ สตาร์คหน่อย แต่พอคิดว่ามันจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายมากเกินไปทําให้ลุงไมค์หยุดชะงักเล็กน้อย

 

แต่แจ็คสันรู้ดีว่าลุงไมค์ต้องการจะพูดอะไร ลูกชายของลุงไมค์นั้นเป็นที่มีความสามารถและมีผลการเรียนที่ดีอย่างน้ออยในสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ก็เป็นนักเรียนดีเด่น เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แจ็คสันจะลองพยายามติดต่อโทนี่ดูให้ในภายหลัง

 

ลุงไมค์นิ่งเงียบไปครู่นึ่งเขาไม่รู้จะกล่าวพูดออกมาดีหรือไม่ มันจะดีแน่หรือที่ใช้ความสัมพันธ์เพื่อนบ้านในการขอให้แจ็คสันช่วยเหลือลูกของเขาให้ได้ทํางานกับโทนี่ สตาร์ค

 

“เอ่อ…ลุงไมค์ เพื่อนของผมรออยู่ในบ้านนานแล้ว ผมขอตัวเข้าบ้านก่อน!”แจ็คสันได้โบกมือลาพร้อมกับเดินไปที่ลานบ้านของตนเอง

 

“อะ…เดี๋ยวก่อนเจ้าหนูแจ็คสัน”เห็นแจ็คสันเดินจากไปลุงไมค์กล่าวพูดออกมา แต่ดูเหมือนจะไม่ทันซะแล้ว

 

จากนั้นไม่นานลุงไมค์ที่เตรียมจะหันหลังกลับไปเขาสังเกตุเห็นชายรูปร่างสูงใหญ่ และแข็งแรงเดินออกมาจากประตูบ้านของแจ็คสัน เกี่ยวกับชายคนนั้น ลุงไมค์ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนแต่รัศมีที่น่าเกรงขามและกดดันกลับปล่อยออกมาจากชายคนนั้น เมื่อเห็นว่าตนเองรู้สึกไม่ค่อยดี ลุงไมค์ได้เดินไปหยิบสายยาและเริ่มดูแลสวนต่อ

 

ฟุบ!

 

“เฮ้,ธอร์ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!”แจ็คสันกล่าวทักทายธอร์ด้วยรอยยิ้ม

 

อย่างไรก็ตามธอร์กลับไม่ได้ตอบสนองต่อแจ็คสันเขาจ้องมองไปที่อีกฝ่ายราวกับกําลังบอกว่าทําไมกลับมาชําแบบนี้

 

ฟุบ!

 

เห็นท่าทีของธอร์ที่กําลังจะทําอะไรบางอย่าง จู่ ๆ ธอร์ก็กําหมัดแน่นขึ้นพร้อมกับเตรียมจะชกแจ็คสันที่อยู่เบื้องหน้า

 

ซี้ดด!

 

“เวรล่ะ! ที่นี่เป็นทางเข้าหน้าบ้านของฉัน ด้านนอกยังมีพวกตัวแทนเฝ้าระวังขององค์กร S.H.I.E.L.D. ซุ่มอยู่ แม้ว่าตอนนี้ฉันจะไม่จําเป็นที่จะต้องซ่อนตัวตนอีกต่อไป แต่ฉันก็ไม่อยากเปิดเผยสถานะของฉัน!”เห็นประกายไฟฟ้าในสายตาของธอร์ แจ็คสันรู้สึกทําอะไรไม่ถูก

 

สถานะมิราจไนท์ของแจ็คสันถูกปกปิดโดยโทนี่อยู่ในตอนนี้ แต่องค์กร S.H.I.E.L.D. ก็ไม่ลดละความพยายามในการทราบสถานะที่แท้จริงของมิราจไนท์ เพราะตอนนี้พวกเขาเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน เขาเองก็อยากจะรู้ข้อมูลของอีกฝ่ายให้มากกว่านี้

 

เห็นหมัดของธอร์ที่พุ่งเข้ามาที่ใบหน้าของตนเองแจ็คสันได้สร้างกําแพงพลังงานภายในที่มองไม่เห็นเพื่อต้านรับการโจมตีของธอร์

 

ฟุบ!

 

หมัดของธอร์ไม่ทันได้โดนก่าแพงพลังงานภายในของแจ็คสัน ธอร์ได้หยุดหมัดลงเล็กน้อย กระแสลมจานวนมากได้ซัดผ่านไปหน้าของแจ็คสันไป แจ็คสันสามารถสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของพลังงานสายฟ้าในร่างกายของธอร์ หรือว่านี่เป็นการทักทายของธอร์ การทักทายเช่นนี้ไม่ใช่วิธีที่ปกติที่คนอื่นเขาคิดจะทํา

 

“อืม, ไม่ได้เจอกันนานจริง ๆ “หลังจากเห็นท่าทีของแจ็คสันธอร์ที่หยุดกําปั้นลงได้ถอน หมัดของเขากลับไป

 

“ฮ่าฮ่า, ธอร์ คุณดูดีขึ้นเยอะเลยนะ!”ธอร์ในตอนนี้จะมีรูปร่างค่อนข้างสมส่วนไม่อ้วนเหมือนแต่ก่อน ดังนั้นแจ็คสันจึงกล่าวชมออีกฝ่าย

 

จากนั้นแจ็คสันก็คลายกําแพงพลังงานภายในที่มองไม่เห็นออกก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้ตำแหน่งเบื้องหน้าของธอร์

 

“ฮ่าฮ่า,มาเถอะ พ่อของเจ้ากาลังทําอาหารที่เจ้าชอบเตรียมไว้ให้ เห็นแจ็คสันพยายามจะต้านทานหมัดเมื่อครู่ของตนเอง ธอร์ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

 

จากนั้นธอร์ก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน ทิ้งไว้เพียงแจ็คสันที่ยืนงงอยู่หน้าบ้านเล็กน้อย

 

“ธอร์! หากเมื่อครู่เขาโจมตีฉันด้วยพลังเต็มที่แล้วล่ะก็ฉันที่ถึงแม้จะใช้การป้องกันก็คงได้รับบาดเจ็บ เพราะบาดแผลของฉันยังไม่ฟื้นตัวดี”เห็นธอร์เดินกลับเข้าไปแจ็คสันพึมพัมออกมาเล็กน้อย

 

จากนั้นแจ็คสันก็เดินตามธอร์เข้าไปในสถานที่บางแห่งได้มีการเคลื่อนไหวการเฝ้าระวังอย่างแปลก ๆ เกี่ยวกับการทักทายของทั้งสองคนเมื่อครู่นี้ เกือบที่จะทําให้พวกเขาได้แตกตื่นกันยกใหญ่ แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาหวังดังนั้นพวกเขาก็คงมีแต่จะต้องเฝ้าระวังอยู่ห่างๆต่อไป

ตอนที่ 670 ข่าวใหม่ของลูกบาศก์เวทมนตร์

 

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าที่แมกนีโตเดินออกไปยังพื้นที่ทางเดินของโรงเรียน ในขณะนั้นเองก็มีวัยรุ่นหนุ่มสาว 4 คน ที่สังเกตุเห็นการกระทํานั้นพวกเขก็คือพวกไพโร ก่อนหน้านี้พวกเขาตั้งใจต่อสู้หมายเอาชนะคนของทีมX-MEN แต่ได้พ่ายแพ้และถูกจับขังไว้ที่นี่ อันที่จริงจะเรียกว่าจับขังก็ไม่ได้เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ได้ลงไม้ลงมือกับพวกเขา

 

“ไพโร นายคิดว่า บอสกับ ศาสตราจารย์ X คุยเรื่องอะไรกัน?ทําไมพวกเขาถึงมีท่าที่การแสดงออกที่เปลี่ยนไปขนาดนั้น?”เมื่อจ้องมองลงไปข้างล่างด้านนอกทางเดิน เร้ดแท้งค์ได้กล่าวถามไพโร

 

ได้ยินคําถามของเร้ดแท้งค์ ไพโพรไม่ได้กล่าวตอบเขายังคงให้ความสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่แมกนีโตและศาสตราจารย์ชาร์ลส์พูดคุยกัน แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นเรื่องสําคัญมากอย่างแน่นอนถึงขนาดเข้าไปคุยกันในห้องลับ

 

“นายคิดว่าไง ตอบหน่อยสิ?”เห็นไพโรไม่ตอบ เร้ดแท้งค์ยังคงดื้อดึงอีกครั้ง

 

เนื่องจากความสามารถกลายพันธุ์ของเร้ดแท้งค์ทั้งหมดคือความสามารถทางกายภาพ อาการบาดเจ็บในศึกสงครามเมื่อสองวันก่อนของเขาจึงหายเร็วกว่าคนอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตาม คนอื่น ๆ ก็มีสภาพร่างกายและฟื้นฟูกลับมาดีขึ้นแล้ว นี่ไม่ใช่ปัญหาที่ไพโรไม่ได้เลือกที่จะตอบคําถามเขา

 

ขณะที่ไพโรกําลังจ้องมองอีกฝ่ายและถูกรบกวนโดยเร้ดแท้งค์เขาได้หยิบถังเหล็กที่อยู่ข้าง ๆ มาคลุมหัวอีกฝ่ายทันที

 

“อื้อ..”ถูกคลุมหัวโดยถังเหล็กในที่สุดเร้ดแท้งค์ก็ไม่ได้ตอบสนองโดยใช้คําพูดเขาเพียงส่งเสียงอื้ออึงออกมาไม่กี่ครั้ง

 

ขณะที่ไพโรลงมือเพราะความรําคาญต่อเร้ดแท้งค์ จู่ๆไม่นาน แมกนีโตก็เดินมายังหน้าห้องของพวกเขา

 

“พวกเรารีบไปกันเถอะ!”แมกนีโตจ้องมองไปที่ทั้ง ๔ คนและกล่าวอย่างจริงจัง

 

จากนั้นไม่นานพวกแมกนีโตก็จากไปโดยใช้รถยนต์ที่จอดอยู่ด้านหน้าโรงเรียน ขณะนั้นเอง ก็มีเงาร่างสองคนปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

“ศาสตราจารย์ พวกเขาไปแล้วงั้นหรอ? เขาให้ค่าสัญญากับคุณหรือไม่?”เห็นพวกแมกนีโตจากไป ไอซ์แมน โรเบิร์ต ได้กล่าวถามศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

พวกเขาได้เฝ้าระวังความปลอดภัยของศาสตราจารย์ชาร์ลส์อย่างห่าง ๆ อาจเป็นเพราะตัวเขาเองก็ไม่มีความไว้ใจในตัวของแมกนีโตไปทั้งหมด

 

“ไอซ์แมน นายคิดมากเกินไปแล้ว เอริคคนนี้ เขารักคนในครอบครัวมากกว่าใคร ๆ แล้ว ยิ่งได้มีโอกาสเห็นหน้าพวกเขาอีกครั้งมีหรือที่เขาจะยอมทนอยู่เฉยได้” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ

 

“ก็หวังเช่นนั้น ดูแล้ว แมกนีโตคนนี้ ไม่น่าจะเห็นลูก ๆ ของตนเองสําคัญมากขนาดนี้”ไอซ์แมนสั่นศีรษะเล็กน้อย

 

“ไม่เลย ฉันเชื่อในคําพูดของเขา”เห็นความเห็นที่แตกต่างของไอซ์แมน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์สันศีรษะเล็กน้อยและกล่าวตอบ

 

“จริงสิ ศาสตราจารย์ แฮงค์ค้นพบคลื่นความผันผวนของลูกบาศก์เวทมนตร์ที่หายไปแล้ว”ไอซ์แมนไม่ได้โยงเข้าเรื่องแมกนีโตอีก เขาได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนา

 

“อืม ฉันรู้แล้ว ค้นของเราได้ค้นพบคลื่นความผันผวนของลูกบาศก์เวทมนตร์ในไซบีเรีย ครั้งนี้ คลื่นที่มันส่งออกมานั้นรุนแรงมาก”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ

 

ไอซ์แมน และ สมาชิกที่มX-MEN คนอื่น ๆ รับรู้ว่าลูกบาศก์เวทมนตร์นั้นมีพลังงานลึกลับที่สามารถสร้างพื้นที่มิติอวกาศได้ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าในความเป็นจริงมันคือสมบัติแห่งจักรวาล สเปซอินฟินิตี้สโตน อย่างไรก็ตามเพียงแค่ความสามารถควบคุมมิติของมันก็สามารถสร้างความสนใจให้แก่ทุกคนได้แล้ว

 

ในการค้นหาครั้งนี้มี S.H.I.E.L.D. ไอรอนแมน และ ทีมX-MEN รวมถึงที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ที่ช่วยกันค้นหามัน ก่อนหน้านี้ มิราจไนท์ของที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้ให้ข้อมูลหลังจากปิดฉาก เร้ด สกัลล์ผู้นําองค์กรไฮดร้า ได้ลูกบาศก์เวทมนตร์ได้หายไปในตอนนั้น

 

พวกเขาได้ออกค้นหามันเป็นระยะเวลาหลายเดือนจนในที่สุดก็ได้รับข่าวเพราะคลื่นความผันผวนที่มันส่งออกมาอย่างรุนแรง

 

“แล้วศาสตราจารย์ เรื่องนี้ต้องแจ้งกับ มิราจไนท์ด้วยหรือไม่?”ตอนนี้พวกเขาได้รับข่าว เรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์แล้ว ไอซ์แมนกล่าวถามด้วยเสียงเบา

 

แม้ว่า ที่มX-MEN S.H.I.E.L.D. และ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์จะมีความสัมพันธ์เชิง พันธมิตร แต่ความสามารถของลูกบาศก์เวทมนตร์นั้นยิ่งใหญ่มาก เขารู้สึกกังวลว่าสิ่งนี้อาจจะ น่ามาซึ่งการแตกหักของพวกเขา

 

“ไอซ์แมน ข้อมูลเกี่ยวกับมันที่เรารู้มีน้อยมาก มันไม่สําคัญถึงแม้ว่าพวกเราจะเก็บไว้เองก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่าพวกเราจะสามารถควบคุมมันได้อย่างอิสระ ดังนั้น แจ้งให้พวกเขารู้ก่อนดีกว่า บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องที่สําคัญที่สุด”

 

ลูกบาศก์เวทมนตร์คือสมบัติของจักรวาล มันมีค่าอย่างมาก แต่การที่ลูกบาศก์เวทมนตร์ปรากฏขึ้นที่โลกนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะมันจะน่าภัยคุกคามแห่งจักรวาลติดตามมันมาด้วย

 

“เข้าใจแล้ว”ไอซ์แมนได้พยักหน้าอย่างรวดเร็ว

 

“จริงสิ มันจะดีกว่าหากฉันส่งนายไปยังพื้นที่ไซบีเรีย อย่างไรก็ตามพื้นที่แถบนั้นก็เหมาะสมกับนายมากที่สุด”

 

“เข้าใจแล้ว!”

 

บรื้น

 

ขณะเดียวกันทางด้านแจ็คสันเขาได้ขับรถสปอร์ตสีเงินที่ด้านนอกประตูบ้าน รถสปอร์ตที่เขาขับมานั้นค่อนข้างเตะตาเพื่อนบ้านหลายคน

 

“อ้าว! เจ้าหนูแจ็คสันคนนั้นนี่!”เห็นเงาร่างของแจ็คสันลงมาจากรถ ลงไมค์ที่เหลือบไปเห็นได้กล่าวทักทายทันที

 

“สวัสดี! ลงไมค์!”เห็นว่าใครเป็นคนทักตนเอง แจ็คสันยิ้มพร้อมกับโบกมือทักทาย

 

ตอนที่ 669 แสงสว่างในใจ

 

หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที แมกนีโต ก็ออกจากพื้นที่แผนกสนับสนุนของทีม X-MEN และติดตามศาสตราจารย์ชาร์ลส์กลับไปยังทางเดินอีกครั้ง อย่างไรก็ตามคราวนี้แมกนีโตไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงของทีมX-MEN แล้ว เขาได้มุ่งเน้นไปที่จุดประสงค์หลักของตนเองที่มาที่นี่

 

“ชาร์ลส์นายเองก็รู้ว่าจุดประสงค์หลักที่ฉันมาที่นี่คืออะไร ตอนนี้นายจะพาฉันไปพบพวกไพโรได้หรือยัง?”ขณะที่กําลังเดิน แมกนีโต ได้เปิดปากพูดขึ้น

 

“แน่นอนว่าฉันรู้ นายมาเพื่อพาพวกเขากลับไปใช่มั้ย ผ่อนคลายเถอะ พวกเขาสบายดี อีกไม่นานนายก็จะได้พบพวกเขาแล้วนอกจากนี้ฉันมีบางอย่างที่อยากจะพูดคุยกับนาย”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ

 

“มีบางอย่างที่จะพูดคุยกับฉัน?ชาร์ลส์นายก็รู้ว่าฉันไม่เห็นด้วยกับความคิดของนายมัน เป็นไปไม่ได้ที่เราสองคนจะร่วมมือกันภายใต้ความคิดนั้น”เอริคกล่าวหยุดเล็กน้อยเพราะเขาคาดเดาว่าชาร์ลส์คงจะโน้มน้าวตนเองอีก

 

“ฉันรู้ว่านายรู้สึกยังไง แน่นอนว่าฉันไม่ได้ต้องการบีบบังคับนายแต่อย่างใด ฉันเพียงแค่ต้องการจะพูดคุยกับนายถึงเรื่องบางอย่าง”ชาร์ลส์ยังคงพูดต่อไป

 

“ชาร์ลส์นายคิดจะพูดอะไรกันแน่?”เอริคกล่าวถามอย่างสงสัย

 

“มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับนายในวันที่พวกเราเผชิญหน้ากันที่สนามรบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวพูดอีกครั้ง

 

“เรื่องอะไร?”เอริค กล่าวถามด้วยความสงสัย

 

“ในวันนั้นคนอื่นอาจจะไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ฉันเห็นมันทั้งหมด”เผชิญหน้ากับความ มึนงงของเอริคศาสตราจารย์ชาร์ลส์ย้ําถึงเรื่องบางเรื่อง

 

ได้ยินค่าพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์แมกนีโตทําหน้าที่มีสงสัยเล็กน้อยเรื่องอะไรกันที่ชาร์ลส์รู้เห็นเกี่ยวกับเขาในวันนั้น

 

“แล้วนายเห็นอะไรกันแน่ชาร์ลส์?”เอริค กล่าวถามด้วยเสียงนุ่มลึก

 

สองวันที่ผ่านมาศาสตราจารย์ชาร์ลส์เห็นการปรากฏตัวของลูก ๆ ของแมกนีโต สกาเล็ตวิช และ ควิกซิลเวอร์ ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์จได้ดี

 

“นายคงจําเรื่องตอนที่นายเกือบจะถูกมนุษย์เปลี่ยนร่างพวกนั้นจัดการได้หรือไม่?”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่แมกนีโตและกล่าวถาม

 

“?” ภายใต้คาถามของชาร์ลส์แมกนีโตจาได้ดีไม่มีวันลืม

 

“ทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยนาย และ ฉันก็รู้ว่าเหตุผลที่นายมองหาสไตรเกอร์ก็ เพราะพวกเขาทั้งสองคน” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวเข้าประเด็น

 

แมกนีโต”..”

 

เมื่อแมกนีโตได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์สีหน้าของเขาได้แปรเปลี่ยนไปเป็น หมองคล้ําเล็กน้อย ในวันนั้นเขาจําได้ดีเกี่ยวกับการปรากฏตัวของ ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ตวิช เขาตามหาทั้งสองคนถึงขนาดคิดเปิดฉากทําสงครามกับสไตรเกอร์

 

“เกี่ยวกับเด็กสองคนนั้น นายไม่มีอะไรจะพูดหน่อยงั้นหรอ เอริค”เห็นเอริคเงียบไปนาน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวพูดอีกครั้ง

 

“พูด?จะให้ฉันพูดอะไร นายก็คงเห็นพวกเขาปรากฏตัวขึ้นอย่างกระทันหันเพื่อช่วยเหลือฉันเพียงเท่านั้น”เอริค กล่าวตอบอย่างเลี่ยงปัญหา

 

“ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ต วิช นั่นเป็นชื่อเล่นของพวกเขาใช่มั้ย”เห็นเอริคยังคงปิดปากไม่พูดอะไร ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวพูดขึ้น

 

“นาย…นายรู้จักพวกเขา?นายรู้เรื่องราวตั้งแต่ต้นเลยใช่มั้ย?”ได้ยินคําพูดของชาร์ลส์ แมกนีโต ได้กล่าวซักถามเพื่อนคนนี้ของตนเอง

 

หากชาร์ลส์รู้ว่าทั้งสองคนเป็นลูกของตนเองตั้งนานแล้ว และจงใจที่จะปิดบังเขา แมกนีโต ย่อมไม่ให้อภัยเขาอย่างแน่นอน หลายครั้งหลายคราที่เขาต้องสูญเสียไปมาก หากชาร์ลส์ ตั้งใจปกปิดเรื่องนี้จริง เขาจะไม่ยอมให้เรื่องนี้จบง่าย ๆ แน่

 

“ฉันเองก็เพิ่งรู้ถึงสถานะของพวกเขาทั้งสองเมื่อไม่นานมานี้”เห็นเอริค พูดออกมาอย่างรุนแรงศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้กล่าวพูดขึ้นอีกครั้ง

 

“แล้วทําไมนายไม่บอกฉัน ท่าไมกัน?”แมกนีโต กล่าวถากถางในเรื่องนี้

 

“เหตุผลที่ฉันไม่ได้บอกนายก็เพราะนายได้ออกตามหาพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว นอกจากนี้ ฉันไม่รู้ตําแหน่งที่แน่นอนของพวกเขา ฉันสงสัยว่าในวันนั้นหลังจากที่พวกเขาช่วยเหลือนายให้รอดพ้นจากอันตราย พวกเขาได้เต็มใจจากไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่านั่นคือพ่อของพวกเขาหรือไม่?”ได้ยินค่าพูดของเอริค ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตอบกลับทันที

 

“นาย..ไม่ว่าอย่างไรฉันก็เป็นพ่อของพวกเขาไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องยอมรับฉันอย่างแน่นอน!”เมื่อนึกถึงสถานการณ์ตอนที่ ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ตวิช จากไป ในใจของ เอริค รู้สึกเจ็บปวดอย่ามาก

 

“ก็ได้ ถ้านายคิดแบบนั้น ทําไมเราไม่มาลองพิสูจน์เรื่องนี้กันเลยล่ะ?”ศาสตราจารย์ ชาร์ลส์กล่าวพูดขึ้น

 

“อะไร?นายรู้ว่าจะหาพวกเขาได้จากที่ไหนงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของชาร์ลส์เอริคกล่าวถามอย่างตื่นเต้น

 

“แม้ว่าจะไม่รู้ตาแหน่งที่แน่ชัด แต่ยังสามารถระบุพื้นที่ได้ ตั้งแต่ฉันรู้ว่าทั้งสองคนเป็นมิวแทนท์ระดับสูง และ เป็นลูกของนาย ฉันก็ให้ความสนใจกับพวกเขาทั้งสองคนมาโดยตลอด ดังนั้น ฉันจะเฝ้าติดตามพวกเขาอย่างไม่ละสายตา นายอาจจะยังไม่รู้ถึงความสามารถของพวกเขา แต่ฉันนั้นรู้ดีว่าเด็ก ๆ พวกนั้นแข็งแกร่งเพียงใด”เมื่อเห็นเอริคกินเหยื่อ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ยังคงกล่าวพูดต่อ

 

“ฮ่าฮ่า, นั่นมันก็เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว ก็พวกเขาเป็น ลูก ๆ ของฉัน แมกนีโต เอริค คนนี้มันจะเป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะเป็นแค่มิวแทนท์ธรรมดา ๆ “แม้ว่าชาร์ลส์จะบอกว่าสามารถระบุตําแหน่งทั่วไปได้ เอริค ก็รู้สึกมีความสุขมาก หากเขาสามารถพบทั้งสองคนเร็วขึ้นอีกหน่อย ก็ถือเป็นเรื่องดีสําหรับตนเอง

 

“แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนกัน?”หลังจากกล่าวออกมาอย่างภาคภูมิใจ เอริคได้จ้องมองไปที่ชาร์ลส์อีกครั้ง

 

เพียงแต่หลังจากเอริคกล่าวถามคําถามนี้ออกมาชาร์ลส์ได้จ้องมองไปที่อีกฝ่ายด้วยสายตาแฝงนัยบางอย่าง

 

ตอนที่ 668 การเปลี่ยนแปลงของทีมX-MEN

 

ได้ยินคําถามของแมกนีโต ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้ตอบในทันที แต่ยังคงเข็นรถเข็นเดินไปข้างหน้าก่อนที่จะหยุดที่ศูนย์กลางของห้องลับแห่งนี้

 

“พวกเขาเป็นแผนโลจิสติกส์ของทีม X-MEN ของเรา ส่วนสมาชิกคนอื่น ๆ กําลังทํา ภารกิจกันอยู่” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตอบง่าย ๆ

 

“แผนกที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง?แล้วนายกําลังทําอะไร อย่าบอกนะว่าที่พวกนายก่าลังทําคือการศึกษายืนกลายพันธุ์?”แมกนีโตกล่าวออกมาอย่างรุนแรง

 

ตั้งแต่เด็กแมกนีโตค่อนข้างมีอารมณ์พฤติกรรมด้านลบกับการกระทําเหล่านี้ อาจเป็น เพราะเขาเป็นมิวแทนท์ที่มีระดับสูงกว่าคนปกติทั่วไป ยีนของเขาสมบูรณ์แบบมาก จนเขาไม่มีความคิดที่จะทําสิ่งเหล่านี้เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

 

“แผนสนับสนุนของเรานั้นได้ทําการสนับสนุนทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้พวกเราได้รับความปลอดภัยและความแข็งแกร่ง” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ

 

“เช่นนั้น พวกนายเลยต้องศึกษายีนกลายพันธุ์?”เอริค กล่าวถามอีกครั้ง

 

ชาร์ลส์รู้ดีว่า เอริค ไม่ชอบพวกคนที่ทําการศึกษา ยีนกลายพันธุ์ของมิวแทนท์ แต่เพื่อ ความก้าวหน้าของพวกเขาเหล่ามิวแทนท์การศึกษาเหล่านี้เป็นสิ่งจําเป็น

 

เพราะทุกวันการจัดลาดับชั้นของมิวแทนท์ค่อนข้างกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบไปแล้ว พวกมิวแทนท์ระดับล่างนั้นมีพลังที่อ่อนแอกว่ามิวแทนท์ระดับสูงพวกนั้นดังนั้นเพื่อให้เกิดสมดุลที่เทียบเคียงกันการศึกษาเรื่องยนเพื่อพัฒนาให้เหล่ามิวแทนท์มีสถานะเท่าเทียมกันถือเป็นสิ่งที่ดีในการจัดการเรื่องนี้

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ต้องการให้พวกมิวแทนท์ที่ทรงอิทธิพลมีความคิดครองโลกเขาต้องการปรับสมดุลระหว่างกลุ่มมิวแทนท์ด้วยกันเองโดยมีพวกมิวแทนท์เฉลี่ยที่มีระดับพลังเท่าเทียมกัน ก็เหมือนกับกลุ่มอิทธิพลของแมกนีโต พลังของกลุ่มพวกเขาเพียงพอที่จะสามารถคุกคามโลกใบนี้ได้

 

“อุปกรณ์พวกนั้นเล่า มันคืออะไรกัน?”เอริค ชี้ไปที่โต๊ะทํางานที่มีชุดเกราะบางอย่างถูกวางเอาไว้

 

ด้านหน้าของพวกเขาเป็นโต๊ะทํางานสีที่มีเส้นหลักเป็นสีน้ําเงิน มันกําลังปรับแต่งชุด เกราะบางอย่างที่ดูแล้วน่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัยของพวกทีม X-MEN

 

“นั่นเป็นอุปกรณ์ส่วนหนึ่งที่เราวิจัยและพัฒนา เพื่อการรับมือกับอิทธิพลที่แข็งแกร่งอื่น ๆ แล้วพวกเราเหล่า X-MEN ไม่สามารถหยุดพัฒนาสิ่งเหล่านี้ได้ ไม่งั้นในอนาคตไม่มีสิ่งใดมา รับประกันว่าพวกเราเหล่ามิวแทนท์จะไม่เกิดการสูญเสีย” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ

 

“ชาร์ลส์ นายคิดมากเกินไป หากยังมีฉันอยู่ไม่มีทางที่พวกเขาจะเป็นอันตราย”แมกนีโตกล่าวออกมา

 

ในตอนนี้แมกนีโตถือเป็นหนึ่งในผู้นําเหล่ามิวแทนท์และมีอิทธิพลมากที่สุดในโลกนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทําก็เพื่อให้พวกเขาเหล่ามิวแทนท์มีสถานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ดูเหมือนว่าพวกมนุษย์เองก็ได้พัฒนาอาวุธต่อต้านมิวแทนท์ออกมาแล้ว ไม่ว่าอย่างไร แมกนีโต จะไม่ยอมให้อาวุธพวกนี้ถูกพัฒนาจนเสร็จถึงขั้นสมบูรณ์

 

“ก็อาจจะจริงตราบเท่าที่นายยังอยู่ แต่นั่นก็เป็นเพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ อีริค นายจะ สามารถสนับสนุนพวกเขาไปได้อีกสักกี่ปีกัน?” ชาร์ลส์กล่าวถามอีริค

 

เกี่ยวกับเพื่อนเก่าคนนี้ชาร์ลส์รู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังคงเป็นกังวลต่ออีกฝ่ายแม้ตอนนี้พวกเขาจะมีความเห็นไม่ลงรอยกัน

 

“พวกเราเองก็แก่ตัวลงมาก ความสามารถในการใช้พลังก็เริ่มถดถอด แต่ในเมื่อมีกลุ่มคนที่คิดต่อต้านพวกเราเหล่ามิวแทนท์อยู่ นายคิดว่า พวกมิวแทนท์รุ่นใหม่ในอนาคตพวกเขาจะมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร ทุกคนไม่ได้คิดและมองโลกที่เรียบง่ายแบบนายหรอกนะ ชาร์ลส์!”เอริค ตอบกลับอย่างจริงจัง

 

ชาร์ลส์เองก็รู้ดีว่ามันเป็นไปได้ยากที่จะโน้มน้าว เอริค เพื่อนของเขา ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ เพียงพาเอริค เดินเล่นในห้องลับแห่งนี้

 

ติ๊ด ๆ

 

ขณะที่ ชาร์ลส์กําลังพาเอริคเดินเที่ยวชมภายในห้องลับแห่งนั้น จู่ๆ หน้าจอบนโต๊ะ ทํางานด้านนึงก็ได้ปรากฏเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น

 

ฟุบ!

 

จากนั้นเงาร่างสีน้ําเงินก็พุ่งไปยังโต๊ะนั้นทันที มันเป็น แฮงค์ เขาได้รีบไปตรวจสอบรายงานที่แจ้งเตือนเข้ามา

 

ติ้ด – –

 

“นั่นเกี่ยวข้องกับภารกิจหรือไม่??”เห็นข้อมูลบางอย่างปรากฏขึ้นที่หน้าจอและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แมกนีโต กล่าวถามต่อชาร์ลส์

 

แมกนีโตรู้ดีถึงภารกิจที่ว่าของทีมX-MEN เดิมทีมX-MEN ถูกก่อตั้งเพื่อปกสันติสุขของพรรคพวกและโลกใบนี้ ดังนั้นเมื่อชาร์ลส์ส่งคนของทีมX-MEN ไปทําภารกิจแน่นอนว่าย่อมเป็นเรื่องที่อาจก่อให้เกิดภาวะสงครามที่อาจส่งผลเสียต่อโลกหรือพรรคพวกของพวกเขา

 

“ภารกิจนั่นเป็นภารกิจอย่างนึ่งไม่ใช่สิ่งที่นายต้องกังวลหรอก เนื่องจากมีพันธมิตรของเราได้ร้องขอความช่วยเหลือพวกเราจึงทําได้เพียงแต่ส่งคนไปช่วยเหลือให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”ชาร์ลส์ตอบกลับเบา ๆ

 

แต่อย่างไรก็ตาม เอริค รู้ว่านั่นไม่ใช่ภารกิจธรรมดา เพราะแสงสีแดงที่ปรากฏบนหน้าจอนั้นเป็นสีแดงเข้มพิเศษนั้นจะต้องเป็นภารกิจบางอย่างที่สําคัญแน่นอน

 

“ฉันจะไถามว่านายกําลังวางแผนอะไรเอาไว้ชาร์ลส์ แต่ทีมX-MEN ภายใต้การนําของ นายตอนนี้ถูกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ฉันละรู้สึกประหลาดใจมากจริง ๆ ที่มันเปลี่ยนไปมากขนาดนี้”เอริค พึมพัมออกมาเล็กน้อย

 

“อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในอดีตหลายอย่างนํามาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในวันนี้”ชาร์ลส์ตอบ กลับเอริคอย่างจริงจัง

 

เอริค”…”

 

“พวกเราออกจากที่นี่กันเถอะ ให้ฉันได้พานายไปเดินเล่นข้างนอก มันก็เป็นเวลาหลายปีแล้วที่นายไม่ได้กลับมาบางทีอาจจะยังมีสถานที่บางแห่งที่นายหลงลืมไปแล้ว”ชาร์ลส์ได้ กล่าวพูดขึ้นพร้อมกับเข็นรถเข็นเตรียมออกไปเดินข้างนอก

 

ตอนที่ 667 การเยี่ยมเยือนของแมกนีโต

 

ฟุบ!

 

แมกนีโตได้เดินเข้ามาภายในโรงเรียนและกําลังเดินเล่นอยู่ในสนามหญ้าหน้าโรงเรียนเซเวียร์ ด้านหน้าของเขาเป็นเหล่าเด็กหนุ่มสาวที่วิ่งเล่นกันอย่างเรียบง่ายโดยไม่มีใครให้ความสนใจกับตัวเขา แม้ว่าชื่อเสียงของแมกนีโต จะค่อนข้างยิ่งใหญ่ แต่ก็มีน้อยคนที่เคยพบเจอเขา นอกจากนี้ แมกนีโต ไม่ได้มีเจตนามุ่งร้ายต่อที่นี่ เขามาในฐานะของชายชราคนนึง

 

ฟุ่บ!

 

“เอ๋…คุณปู่ ต้องการผมช่วยเหลืออะไรหรือไม่?”เห็นแมกนีโตเดินมาถึงสนามฟุตบอลเล็ก ๆ เด็กอายุสิบขวบกว่าคนนึงได้มุ่งตรงมาที่เขาและกล่าวถามอย่างสงสัย

 

เพราะในโรงเรียนเซเวียร์มีเหล่าผู้สูงอายุน้อยมากคนส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงหมู่วัยรุ่นหรือวัยกลางคนเพียงเท่านั้นและคนเหล่านี้ก็เป็นพวกครูในโรงเรียนนอกเหนือจากครูใหญ่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่เป็นผู้สูงอายุที่สุดในโรงเรียนแล้ว ในโรงเรียนเซเวียร์ก็ไม่มีใครคนอื่นอีก ดังนั้น เด็กคนนี้จึงสงสัยว่า ชายชราคนนี้เป็นใคร

 

“ฮ่าฮ่า ไม่เป็นไร ฉันแค่มาเดินเที่ยวชมเพียงเท่านั้น” จ้องมองไปที่เด็กคนนี้ แมกนีโต ยิ้มออกมา

 

“คุณต้องการเดินเที่ยวชมโรงเรียนของเรางั้นหรอ?ให้ผมพาคุณไปเดินเล่นดีหรือไม่? เพราะสถานที่บางแห่งในโรงเรียนของเราค่อนข้างซับซ้อนคุณอาจจะหลงทางได้”เด็กคนนึ ได้พูดขึ้น

 

“ไม่เป็นไร ฉันค่อนข้างคุ้นกับโรงเรียนนี้พอสมควร น่าจะนะ ไม่จําเป็นที่พวกเธอจะต้องมาสนใจคนแก่อย่างฉันหรอก ไปเล่นเถอะ”แมกนีโตตอบกล่าวตอบ

 

ได้ยินคําพูดของ แมกนีโตจู่ๆ ดวงตาของเด็กคนที่ถามก็เบิกกว้างเล็กน้อย หรือว่า ชายชราคนนี้จะเคยอาศัยอยู่ในโรงเรียนนี้ แต่ว่าเขาก็ไม่เคยพบอีกฝ่ายมาก่อน

 

“ปู่เคยอยู่ที่นี่มาก่อนงั้นหรอ?”เด็กคนนั้นกล่าวถามอีกครั้ง

 

“ฮะ ฮะ ก็อาจจะใช่ มันก็เป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว ฉันได้กลับมาที่นี่เพื่อเยี่ยมเพื่อนเก่าคนนึ่ง”แมกนีโตตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“เดี๋ยวนะ ทําไมผมรู้สึก คุ้น ๆ ใบหน้าของคุณจัง หรือว่าคุณคือ…”เด็กคนนี้จ้องมองไปที่ใบหน้าของแมกนีโตอย่างชัด ๆ ก่อนที่จะตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ

 

“ชู่ว..”เห็นการจ้องมองของเด็กคนนี้ แมกนีโต ได้ทําสัญญาณมือไม่ให้อีกฝ่ายเปิดเผย ตัวตนของตนเองอับ

 

เห็นสัญญาณมือของแมกนีโต เด็กคนนี้ไม่ได้เปิดปากขึ้นอีก เขาเคยได้ยินเรื่องราวของแมกนีโตมาบ้างทําให้เขารู้สึกหวาดกลัว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายตรง ๆ ดังนั้น เขาจึงทำตัวว่าง่ายเพราะกลัวอีกฝ่ายจะทําอันตรายแก่ตนเอง

 

“เอริค นายคงไม่ได้กลับมาที่นี่เพื่อหยอกล้อเด็ก ๆ พวกนี้หรอกใช่มั้ย?”เห็นแมกนีโตพูดคุยกับเด็ก ๆ เสียงที่อบอุ่นได้ดังตรงมาจากทางด้านหลังของเขา

 

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์!”เด็กคนนั้นที่ได้ยินเสียงของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เขารีบวิ่งไปหลบหลังของศาสตราจารย์ชาร์ลส์อย่างรวดเร็ว

 

ฟุบ!

 

“สวัสดี, ชาร์ลส์”ได้ยินเสียงของชาร์ลส์เพื่อนเก่าของเขา แมกนีโต ได้หันศีรษะกลับไปช้า ๆ และจ้องมองชายชราหัวล้านที่นั่งอยู่บนรถเข็น

 

“สวัสดี,เอริค” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่แมกนีโต เพื่อนของเขา เห็นอีกฝ่าย ทักทายตนเอง เขาก็ทักทายกลับเช่นเดียวกัน

 

ตึก ตึก–

 

ผ่านไปหลายนาที่ภายในทางเดินภายในฐานของโรงเรียนเซเวียร์ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เข็นรถเข็นวิ่งไปพร้อมกับแมกนีโตที่อยู่ข้าง ๆ ,สายตาของแมกนีโตได้กวาดผ่านจ้องมองไป ยังพื้นที่ต่าง ๆ ที่คุ้นเคย ทําให้เขารู้สึกถึงภาพจาง ๆ ในอดีตที่แวบผ่านเข้ามาในสมองของเขา

 

“เหมือนกับเมื่อก่อนไม่มีผิด” เอริค ได้เปิดปากพูดขึ้น

 

“ใช่ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนแปลงไป แต่มันก็ไม่เป็นเช่นนั้น”ได้ยินคําพูดของเอริค ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวอย่างสงบ

 

โรงเรียนเซเวียร์แห่งนี้ ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง โดยเฉพาะภายในคฤหาสน์หลังนี้ มันคือสถานที่ที่เรียกว่าบ้านและครอบครัวของเขา หลายสิบปีก่อน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์และแมกนีโต ได้สร้างทีม X-MEN รุ่นแรก และสถานที่แห่งนี้ก็คือฐานลับของเขา มันเป็นความทรงจําที่ยิ่งใหญ่ที่ เขาไม่อาจหลงลืมมันได้ แต่แล้วหลังจากนั้นต่อมา ศาสตราจารย์ชาร์ลส์และแมกนีโตก็ได้แยกทางกัน เหลือทิ้งไว้แต่ความทรงจําอันวันวานเพียงเท่านั้น

 

นอกเหนือจากนี้ คฤหาสน์หลังนี้เกือบที่จะถูกทําลายมาแล้วหลายครั้งแต่ในที่สุดมันก็ได้ถูกบํารุงรักษาและแต่งเติมเมื่อเทียบกับอดีตแล้วทุกสิ่งทุกอย่างภายในดูจะมีการเพิ่มและพัฒนามากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

“เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ฉันไม่ได้กลับมาที่นี่อีก!”เอริค ได้พูดขึ้น

 

“ใช่ เป็นเวลานานแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ที่นี่คล้ายจะเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ภายในก็ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว พวกเราเองก็เช่นเดียวกัน” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตอบกลับด้วยน้ําเสียงนุ่มลึก

 

หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินทางมาถึงหน้าทางเข้าห้องลับในเวลานี้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้จ้องมองไปด้านหน้าก่อนที่เครื่องฉายรังสีสองล่าที่ซ้อนกันจากศูนย์ของประตูจะสแกนไปที่เรือนร่างของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

ฟุบ!

 

“ยินดีต้อนรับ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์!”หลังจากยืนยันสถานะได้สําเร็จ ระบบเสียงอัจฉริยะก็ได้พูดขึ้น

 

ฟีดดด–

 

จากนั้นประตูด้านหน้าของพวกเขาก็เปิดขึ้นโดยอัตโนมัติศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เข็นรถเข็นของตนเองเข้าไปอย่างช้า ๆ ส่วน เอริค ธรรมชาติเขาไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรเขาได้เดินตามเข้าไปอย่างไม่ลังเล

 

ตุบ!

 

หลังจากที่พวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์เข้ามาเสร็จ ประตูด้านหลังของเขาก็ปิดลง แมกนีโต ได้จ้องมองไปยังพื้นที่ห้องลับที่กว้างขวางมีขนาดใหญ่ผนังห้องเป็นสีเงินและสีขาวทําให้รู้สึกถึงข้อมูลทางเทคนิคที่หลากหลาย นอกเหนือจากนั้นยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่จํานวนมากวางเรียงเอาไว้ราวกับว่าห้องนี้เหมือนกับห้องพวกแลปวิจัยไม่มีผิด

 

ภายในห้องมีคนอื่น ๆ อยู่อีก 7-8 คน หนึ่งในนั้นคือมนุษย์คนนึงที่มีร่างกายเหมือนสัตว์อสูรร่างกายของเขามีสีฟ้า ในเวลานี้คนเหล่านั้นกําลังลงมือทําอะไรบางอย่างกับพวกเครื่องจักรเหล่านั้น แมกนีโต ได้จ้องมองไปที่การกระทําของพวกเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับไม่อาจทําความเข้าใจได้

 

“พวกเขา…ชาร์ลส์นายกําลังทําอะไรอยู่กันแน่?”แมกนีโตกล่าวถามออกมาอย่างสงสัย หลังจากเห็นสิ่งที่อยู่ภายในเครื่องจักรพวกนั้น

 

ตอนที่ 666 อุดมการณ์ของแจ็คสัน

 

“คุณสตาร์คผมขอตัวก่อนนะครับ!”

 

ฟุ่บ!

 

แจ็คสันได้บอกกล่าวกับโทนี่เขาได้ขอตัวอออกจากห้องทดลองก่อนหลังจากรับ โทรศัพท์เมื่อครู่ โทนี่สังเกตุว่าแจ็คสันได้โทรหาที่บ้าน จากนั้นก็เห็นเหมือนแจ็คสันรับสายใครบางคน หากเป็นเรื่องที่บ้าน โทนี่ก็คงจะได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ส่วนปีเตอร์ เขาไม่รู้ว่าทําไมแจ็คสันถึงเร่งรีบขนาดนั้นหลังจากรับสายจากทางบ้าน

 

“คุณสตาร์ค,แจ็คสัน เขา..” ปีเตอร์กล่าวถามโทนี่อย่างสงสัย

 

“ฉันก็ไม่รู้ บางทีอาจจะเป็นแฟนสาวเขาล่ะมั้ง?”โทนี่ไม่รู้ว่าทําไมแจ็คสันถึงเร่งรีบขนาดนั้น

 

แต่ถึงยังไงการทดลองของพวกเขาก็ไม่มีกําหนดระยะเวลาเสร็จอันใกล้นี้ดังนั้นโทนี่ตั้งใจจะปล่อยให้แจ็คสันพักผ่อนบ้างหลังจากที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์อันตรายและได้รับบาดเจ็บหนักมา

 

“แฟน?เขามีแฟนด้วยหรอ?”ได้ยินคําตอบของโทนี่ ปีเตอร์ กระซิบออกมา

 

“พึมพัมอะไรคนเดียว? ไปทํางานได้แล้วหลังจากที่เธอทําส่วนนั้นเสร็จจะกลับบ้านเลยก็ได้เจ้าแมงมุมน้อย”โทนี่กล่าวพูดออกมา

 

“เข้าใจแล้ว,ผมจะรีบเคลียส่วนของผมให้เสร็จเร็วขึ้นอีกหน่อย ผมเองก็อยากรีบกลับบ้าน แล้วเป็นเวลากว่าสองวันแล้วที่ปีเตอร์ไม่ได้กลับบ้านดังนั้นเขาจึงต้องการเร่งมือทําส่วนของตนเองให้เสร็จ ในใจของเขาก็กังวลเกี่ยวกับคําพูดของโทนี่ บางทีอาจจะเป็นแฟนสาวของแจ็คสันจริง ๆ ก็ได้

 

บรื้นน

 

ขณะที่ปีเตอร์และโทนี่ได้ลงมือทํางานต่อในห้องปฏิบัติการ แจ็คสันก็ได้ขับรถสปอร์ต ส่วนตัวของโทนี่ออกจากโรงรถ เขาต้องการกลับบ้านด้วยสถานะของแจ็คสันดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมิราจไนท์และบินกลับไป แน่นอนว่าการใช้ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ก็ไม่เหมาะสมเช่นเดียวกันการเดินทางด้วยรถนี่แหละเหมาะสมสุดแล้ว

 

ก่อนหน้านี้ที่เขาโทรศัพท์คุยกับธอร์เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อนที่สะพานไบฟรอสปรากฏขึ้น ธอร์ ได้ขอให้แจ็คสันกลับบ้านมาทันทีเพื่ออธิบายให้เขาฟังอย่างละเอียด ก่อนหน้านี้ธอร์ถูกเนรเทศมาที่ดาวเคราะห์โลกหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้กลับไปที่แอสการ์ดอีกเลย หากแจ็คสันไปเยือนที่แอสการ์ดจริง ธอร์ก็อยากจะฟังรายละเอียดจากปากของเขาให้มากขึ้น

 

แต่ทว่าแจ็คสันที่ไปเยือนแอสการ์ดเขาก็ไม่ได้สังเกตุหรือเฝ้ามองอะไรที่สําคัญเขาได้ไปเยือนที่นั่นเพื่อขอใช้สะพานไบฟรอสเพียงเท่านั้น แต่แจ็คสันตั้งใจขอตัวออกมาจากห้องทํางานของโทนี่เพราะเขาเองก็ต้องการที่จะกลับบ้านเหมือนกัน

 

บรื้น–

 

ด้วยบรรยากาศขณะที่นั่งขับรถสปอร์ตสุดหรูขอองโทนี่ แจ็คสันได้นั่งตากลมชิวจนเส้นผมของเขาปลิวสไว เมื่อเทียบบรรยากาศขณะที่ขับเคลื่อนชุดเกราะไอรอนแมน หรือใช้ท่า เหยียบอากาศ มันเป็นความรู้สึกที่ดีกว่ามาก

 

ท้ายที่สุดอาจจะเป็นเพราะว่าทั้งสองอย่างที่เขาอธิบายไปนั้นจะใช้ในเหตุการณ์สําคัญ อย่างการต่อสู้ เมื่อเป็นการขับรถกินลมธรรมดาจึงให้บรรยากาศที่แจ็คสันโหยหามานานก็เป็นได้

 

“J.A.R.V.I.S อากาศวันนี้เป็นยังไงบ้าง?”แจ็คสันได้กล่าวถาม J.A.R.V.I.S หลังจากเห็นบรรยากาศคลื่นทะเลที่ส่งระลอกคลื่นเป็นระยะ

 

“อุณหภูมิปัจจุบัน 26.7 องศา ความชื้นในอากาศ 50% สภาพอากาศเบาบางมีเมฆเล็ก หนาเล็กน้อย”ได้ยินค่าถามของแจ็คสัน ในรถยนต์ เสียงของ J.A.R.V.I.S ได้ดังขึ้น

 

“ขอบคุณ J.A.R.V.I.S”

 

“ยินดีครับ” J.A.R.V.I.Sตอบกลับอย่างสงบ

 

แจ็คสัน”….”

 

บรื้นน!

 

“J.A.R.V.I.S นายเคยคิดไหมว่าเดิมที่โลกก็สงบสุขในแบบของมัน คงเป็นเพราะฉันที่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงมันจนทําให้เกิดการทําลายล้างและสงครามเกิดขึ้น”

 

แจ็คสันได้เปิดปากกล่าวถาม J.A.R.V.I.S คราวนี้ J.A.R.V.S ไม่ได้ตอบกลับอย่าง รวดเร็วเหมือนอดีตราวกับว่า J.A.R.V.I.S กําลังไตร่ตรองคาถามนี้อย่างจริงจัง แน่นอนว่า แจ็คสัน ที่กําลังชมวิวทะเลด้านข้าง เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการไตร่ตรองของ J.A.R.V.I.S เพียงจ้องมองโลกที่สงบสุขในแบบของมัน

 

“คุณแจ็คสัน คําถามของคุณซับซ้อนเกินไป ผมไม่สามารถให้ค่าตอบที่คุณต้องการได้ แต่ถ้าประมวลผลตามการอ้างอิง สิ่งที่คุณทําไม่ใช่ว่าเป็นการป้องกันหรอกหรือ? ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องครอบครัว,เพื่อนและกระทั่งโลก ผมไม่คิดว่าคนที่มีความคิดกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงด้วยเจตนารมณ์แห่งการปกป้องจะมีเจตนาที่ชั่วร้ายต่อโลก ดังนั้น ผมจึงคิดว่าสิ่งที่คุณแจ็คสันทําคือการปกป้องความสงบสุขของดาวดวงนี้” J.A.R.V.I.Sตอบกลับในที่สุด

 

ได้ยินค่าตอบของ J.A.R.V.I.S ความรู้สึกบนใบหน้าของแจ็คสันได้แปรเปลี่ยนเป็นหลายอารมณ์

 

“ก็อาจจะจริง-J.A.R.V.I.S นายเริ่มเหมือนมนุษย์มากขึ้นจริง ๆ อย่างที่นายบอกใครก็ตามที่ต้องการทําลายดาวดวงนี้และความสงบสุขที่ฉันต้องการคนเหล่านั้นก็คือศัตรูของฉัน ฉันจะปกป้องในสิ่งที่ฉันรักและพยายามเพื่อเป้าหมายของตนเอง”แจ็คสันได้เปิดปากพูดขึ้น

 

“J.A.R.V.I.S สามารถเร่งความเร็วขึ้นอีกได้มั้ย?”หลังจากเหยียบคันเร่งลึกลงไปแจ็คสัน พบว่าความเร็วของรถสปอร์ตไม่ได้เร็วเพิ่มขึ้นเขาจึงกล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

“หากคุณต้องการเช่นนั้น”

 

บรื้นน!!

 

ด้านท้ายรถสปอร์ตได้ปล่อยไอพ่นสีฟ้าอ่อนออกมาจากท่อจากนั้นรถสปอร์ตของแจ็คสันก็เพิ่มความเร็วมากขึ้น

 

ขณะเดียวกันโรงเรียนเซเวียร์ หลังจากผ่านศึกสงครามอันรุนแรงเมื่อสองวันก่อน วันนี้ที่โรงเรียนเซเวียร์ได้มีแขกคนนึงที่คาดไม่ถึงปรากฏตัวขึ้น เขาก็คือ : แมกนีโต

 

ฟุบ!

 

เสียงฝีเท้าของแมกนีโตได้หยุดอยู่ที่ทางเข้าหน้าโรงเรียนเซเวียร์ จากนั้น แมกนีโตได้ยกศีรษะจ้องมองไปที่โรงเรียนที่อยู่ด้านหลังประตู

 

หลังจากยืนที่ทางเข้าคู่นึง แมกนีโต ได้ยกมือขึ้นเล็กน้อยจากนั้นประตูเหล็กที่ถูกปิด ก็ได้เปิดออกอย่างช้า ๆ

 

ฟูว!

 

กว่าหลายสิบปีเตอร์แล้วที่แมกนีโตไม่ได้มาเหยียบที่โรงเรียนเซเวียร์แห่งนี้ ในที่สุดหลังจากผ่านไปหลายสิบปีแมกนีโตก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง

 

“คุณสตาร์คผมขอตัวก่อนนะครับ!”

 

ฟุบ!

 

แจ็คสันได้บอกกล่าวกับโทนี่เขาได้ขอตัวอออกจากห้องทดลองก่อนหลังจากรับ โทรศัพท์เมื่อครู่ โทนี่สังเกตุว่าแจ็คสันได้โทรหาที่บ้าน จากนั้นก็เห็นเหมือนแจ็คสันรับสายใครบางคน หากเป็นเรื่องที่บ้าน โทนี่ก็คงจะได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ส่วนปีเตอร์ เขาไม่รู้ว่าท่าไมแจ็คสันถึงเร่งรีบขนาดนั้นหลังจากรับสายจากทางบ้าน

 

“คุณสตาร์ค,แจ็คสัน เขา..”ปีเตอร์กล่าวถามโทนอย่างสงสัย

 

“ฉันก็ไม่รู้ บางที่อาจจะเป็นแฟนสาวเขาล่ะมั้ง?”โทนี่ไม่รู้ว่าทําไมแจ็คสันถึงเร่งรีบขนาดนั้น

 

แต่ถึงยังไงการทดลองของพวกเขาก็ไม่มีกําหนดระยะเวลาเสร็จอันใกล้นี้ดังนั้นโทนี่ตั้งใจจะปล่อยให้แจ็คสันพักผ่อนบ้างหลังจากที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์อันตรายและได้รับบาดเจ็บหนักมา

 

“แฟน?เขามีแฟนด้วยหรอ?”ได้ยินคําตอบของโทนี่ ปีเตอร์ กระซิบออกมา

 

“พึมพัมอะไรคนเดียว? ไปทํางานได้แล้วหลังจากที่เธอท่าส่วนนั้นเสร็จจะกลับบ้านเลยก็ได้เจ้าแมงมุมน้อย”โทนกล่าวพูดออกมา

 

“เข้าใจแล้ว,ผมจะรีบเคลียส่วนของผมให้เสร็จเร็วขึ้นอีกหน่อย ผมเองก็อยากรีบกลับบ้านแล้ว”เป็นเวลากว่าสองวันแล้วที่ปีเตอร์ไม่ได้กลับบ้านดังนั้นเขาจึงต้องการเร่งมือทําส่วนของตนเองให้เสร็จ ในใจของเขาก็กังวลเกี่ยวกับคําพูดของโทนี่ บางที่อาจจะเป็นแฟนสาวของแจ็คสันจริง ๆ ก็ได้

 

บรื้นน

 

ขณะที่ปีเตอร์และโทนี่ได้ลงมือทํางานต่อในห้องปฏิบัติการ แจ็คสันก็ได้ขับรถสปอร์ต ส่วนตัวของโทนี่ออกจากโรงรถ เขาต้องการกลับบ้านด้วยสถานะของแจ็คสันดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมิราจไนท์และบินกลับไป แน่นอนว่าการใช้ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ก็ไม่เหมาะสมเช่นเดียวกันการเดินทางด้วยรถนี่แหละเหมาะสมสุดแล้ว

 

ก่อนหน้านี้ที่เขาโทรศัพท์คุยกับธอร์เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อนที่สะพานไบฟรอส ปรากฏขึ้น ธอร์ ได้ขอให้แจ็คสันกลับบ้านมาทันทีเพื่ออธิบายให้เขาฟังอย่างละเอียด ก่อนหน้านี้ธอร์ถูกเนรเทศมาที่ดาวเคราะห์โลกหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้กลับไปที่แอสการ์ดอีกเลย หากแจ็คสันไปเยือนที่แอสการ์ดจริง ธอร์ก็อยากจะฟังรายละเอียดจากปากของเขาให้มากขึ้น

 

แต่ทว่าแจ็คสันที่ไปเยือนแอสการ์ดเขาก็ไม่ได้สังเกตุหรือเฝ้ามองอะไรที่สําคัญเขาได้ไปเยือนที่นั่นเพื่อขอใช้สะพานไบฟรอสเพียงเท่านั้น แต่แจ็คสันตั้งใจขอตัวออกมาจากห้องทํางานของโทนี่เพราะเขาเองก็ต้องการที่จะกลับบ้านเหมือนกัน

 

บรื้น–

 

ด้วยบรรยากาศขณะที่นั่งขับรถสปอร์ตสุดหรูขอองโทนี่ แจ็คสันได้นั่งตากลมชิวจนเส้นผมของเขาปลิวสไว เมื่อเทียบบรรยากาศขณะที่ขับเคลื่อนชุดเกราะไอรอนแมน หรือ ใช้ท่าเหยียบอากาศ มันเป็นความรู้สึกที่ดีกว่ามาก

 

ทายที่สุดอาจจะเป็นเพราะว่าทั้งสองอย่างที่เขาอธิบายไปนั้นจะใช้ในเหตุการณ์สําคัญ อย่างการต่อสู้ เมื่อเป็นการขับรถกินลมธรรมดาจึงให้บรรยากาศที่แจ็คสันโหยหามานานก็เป็นได้

 

“J.A.R.V.I.S อากาศวันนี้เป็นยังไงบ้าง?”แจ็คสันได้กล่าวถาม J.A.R.V.I.S หลังจากเห็นบรรยากาศคลื่นทะเลที่ส่งระลอกคลื่นเป็นระยะ

 

“อุณหภูมิปัจจุบัน 26.7 องศา ความชื้นในอากาศ 50% สภาพอากาศเบาบางมีเมฆเล็ก หนาเล็กน้อย”ได้ยินค่าถามของ แจ็คสัน ในรถยนต์ เสียงของ J.A.R.V.I.S ได้ดังขึ้น

 

“ขอบคุณ J.A.R.V.I.S”

 

“ยินดีครับ” J.A.R.V.I.Sตอบกลับอย่างสงบ

 

แจ็คสัน”….”

 

บรื้นน!

 

“J.A.R.V.I.S นายเคยคิดไหมว่าเดิมที่โลกก็สงบสุขในแบบของมัน คงเป็นเพราะฉันที่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงมันจนทําให้เกิดการทําลายล้างและสงครามเกิดขึ้น”

 

แจ็คสันได้เปิดปากกล่าวถาม J.A.R.V.I.S คราวนี้ J.A.R.V.S ไม่ได้ตอบกลับอย่าง ดเร็วเหมือนอดีตราวกับว่า J.A.R.V.I.S กําลังไตร่ตรองคาถามนี้อย่างจริงจัง แน่นอนว่า แจ็คสันที่กําลังชมวิวทะเลด้านข้าง เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการไตร่ตรองของ J.A.R.V.I.S เพียงจ้องมองโลกที่สงบสุขในแบบของมัน

 

“คุณแจ็คสัน คําถามของคุณซับซ้อนเกินไป ผมไม่สามารถให้ค่าตอบที่คุณต้องการได้ แต่ถ้าประมวลผลตามการอ้างอิง สิ่งที่คุณทําไม่ใช่ว่าเป็นการป้องกันหรอกหรือ? ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องครอบครัว,เพื่อนและกระทั่งโลก ผมไม่คิดว่าคนที่มีความคิดกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงด้วยเจตนารมณ์แห่งการปกป้องจะมีเจตนาที่ชั่วร้ายต่อโลก ดังนั้น ผมจึงคิดว่าสิ่งที่คุณแจ็คสันทําคือการปกป้องความสงบสุขของดาวดวงนี้” J.A.R.V.I.Sตอบกลับในที่สุด

 

ได้ยินค่าตอบของ J.A.R.V.I.S ความรู้สึกบนใบหน้าของแจ็คสันได้แปรเปลี่ยนเป็นหลายอารมณ์

 

“ก็อาจจะจริง-J.A.R.V.I.S นายเริ่มเหมือนมนุษย์มากขึ้นจริง ๆ อย่างที่นายบอกใครก็ตาม ที่ต้องการทําลายดาวดวงนี้และความสงบสุขที่ฉันต้องการคนเหล่านั้นก็คือศัตรูของฉัน ฉันจะปกป้องในสิ่งที่ฉันรักและพยายามเพื่อเป้าหมายของตนเอง”แจ็คสันได้เปิดปากพูดขึ้น

 

“J.A.R.V.I.S สามารถเร่งความเร็วขึ้นอีกได้มั้ย?”หลังจากเหยียบคันเร่งลึกลงไปแจ็คสัน พบว่าความเร็วของรถสปอร์ตไม่ได้เร็วเพิ่มขึ้นเขาจึงกล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

“หากคุณต้องการเช่นนั้น”

 

บรื้นน!!

 

ด้านท้ายรถสปอร์ตได้ปล่อยไอพ่นสีฟ้าอ่อนออกมาจากท่อจากนั้นรถสปอร์ตของแจ็คสันก็เพิ่มความเร็วมากขึ้น

 

ขณะเดียวกันโรงเรียนเซเวียร์ หลังจากผ่านศึกสงครามอันรุนแรงเมื่อสองวันก่อน วันนี้ที่โรงเรียนเซเวียร์ได้มีแขกคนนึงที่คาดไม่ถึงปรากฏตัวขึ้น เขาก็คือ : แมกนีโต

 

ฟุบ!

 

เสียงฝีเท้าของแมกนีโตได้หยุดอยู่ที่ทางเข้าหน้าโรงเรียนเซเวียร์ จากนั้น แมกนีโตได้ยกศีรษะจ้องมองไปที่โรงเรียนที่อยู่ด้านหลังประตู

 

หลังจากยืนที่ทางเข้าคู่นึง แมกนีโต ได้ยกมือขึ้นเล็กน้อยจากนั้นประตูเหล็กที่ถูกปิด ก็ได้เปิดออกอย่างช้า ๆ

 

ฟุว!

 

กว่าหลายสิบปีเตอร์แล้วที่แมกนีโตไม่ได้มาเหยียบที่โรงเรียนเซเวียร์แห่งนี้ ในที่สุดหลังจากผ่านไปหลายสิบปีแมกนีโตก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง

 

ตอนที่ 665 ธอร์มาหาถึงบ้าน

 

หลังจากได้เห็นร่างสูงใหญ่กํายําและแข็งแรงรวมถึงใบหน้าที่คุ้นเคยแจ็คสันรู้สึกตกใจในทันที

 

“เจ้าลูกชาย เขาบอกว่าเขาชื่อธอร์ โอดินวูดส์ เขาเป็นเพื่อนของลูกงั้นหรอ?ทําไมลูกไม่เล่าถึงเขาเลย ไว้ลูกกลับมาบ้านเล่าให้พ่อแม่ฟังเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดด้วยล่ะ” หลังจากปรากฏรูปของชายร่างยักษ์ เสียงของพ่อแจ็คสันก็ทิ้งท้ายเอาไว้

 

“เฮ้,แจ็คสัน” หลังจากพ่อแจ็คสันทิ้งให้ตนเองพูดคุย ธอร์ได้ยิ้มออกมา

 

“ธอร์?คุณมาได้ยังไง”แจ็คสันรู้สึกประหลาดใจและตะโกนเรียกชื่อเขาออกมา

 

เนื่องจากแจ็คสันช่วยมองหางานให้ธอร์ช่วงนี้ เขาจึงไม่รู้ว่าธอร์ได้ฟื้นคืนพลังเหนือธรรมชาติขงตนเองไปแล้วหรือยัง แน่นอนว่าช่วงนี้เขาเองก็ไม่ได้ติดต่ออีกฝ่ายเลย

 

เห็นการแสดงออกของแจ็คสัน ธอร์รู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นด้วยอารมณ์บางอย่าง ดูเหมือนว่าแจ็คสันใกล้จะลืมเขาไปแล้วยังไงยังงั้น

 

“เอาล่ะ เช่นนั้นพ่อจะปล่อยให้ลูกคุยกับเพื่อนของลูกละกัน พ่อขอตัวไปทําอาหารเย็นก่อนล่ะ!”ได้ยินลูกชายของตนเองตะโกนชื่อธอร์อออกมา หลินไฮ่ได้บอกลูกของเขาทันที

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นแจ็คสันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของ หลินไฮ่ที่จากไป ดูเหมือนพ่อของเขาจะเดินไปทําอาหารเย็นที่ครัว

 

“สวัสดี, ธอร์ พวกเราไม่ได้เจอกันนานเลย คุณเป็นยังไงบ้าง?”แจ็คสันกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม

 

เขาไม่รู้ว่าทําไมธอร์ถึงมองหาตนเอง แต่สีหน้าของธอร์ตอนนี้ไม่ได้ดูดีใจเหมือนก่อนหน้านี้เลย

 

“ข้าก็ดี ชีวิตความเป็นอยู่ของข้าก็ดี ทั้งยังดีมากขึ้นเรื่อยๆ !”ได้ยินคําถามของแจ็คสันธอร์ตอบกลับอย่างเย็นชา

 

ฟู่วว!

 

จากนั้นแจ็คสันก็มองเห็นนัยน์ตาของธอร์มีแสงสีฟ้าที่เป็นไฟฟ้าจางๆวิ่งผ่านอยู่ ดูเหมือนว่าอารมณ์ของธอร์ตอนนี้จะไม่ค่อยสู้ดีนัก

 

“เอ่อ….ธอร์ คุณใจเย็นๆลงก่อน ไม่งั้นบ้านของฉันคงต้องระเบิดแน่ๆเลย!”เห็นว่าธอร์สามารถควบคุมพลังสายฟ้าได้แล้ว แจ็คสันรีบตะโกนออกมา

 

แจ็คสันไม่รู้ว่าธอร์โกรธตนเองเรื่องอะไร และอีกฝ่ายฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าแล้วหรือยัง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายตอนนี้จะสามารถควบคุมพลังสายฟ้าได้แล้ว แจ็คสันจึงพยายามระงับอารมณ์ให้ธอร์เย็นลง

 

“หึ่ม!”ได้ยินคําพูดของแจ็คสัน ธอร์ได้ส่งเสียงในลําคอก่อนที่ประกายแสงสีฟ้าในนัยน์ตาจะค่อยๆจางหายไป

 

เห็นธอร์เชื่อฟังแต่โดยดีแจ็คสันได้เงียบและสูดลมหายใจเข้าลึก ธอร์ได้ฟื้นฟูพลังเทพเจ้าสายฟ้ากลับมาแล้วจริงๆ เมื่อครู่นี้แค่เพียงมองผ่านการสนทนาทางวิดิโอแจ็คสันก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดัน

 

“จริงสิ คุณหาบ้านของฉันเจอได้ยังไง ?”หลังจากเงียบไปชั่วครู่ แจ็คสันได้กล่าวถามอย่างจริงจัง

 

“หากข้าสามารถติดต่อเจ้าผ่านโทรศัพท์ได้ ข้าคงไม่ดั้นด้นมองหาบ้านของเจ้าหรอก”ธอร์กล่าวตอบอย่างเย็นชา

 

“เอ่อ…โทรศัพท์มือถือของฉันเหมือนจะเสีย ฉันว่าจะไปหาซื้อหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่มีโอกาส”แจ็คสันพูดออกมาอย่างนุ่มง่ามในเรื่องนี้

 

โทรศัพท์มือถือขอองแจ็คสันได้ฟังที่ดาวเคราะห์ดึกดําบรรพ์ ดังนั้นตั้งแต่กลับมาเขาก็ยุ่งตลอดเวลา จนไม่มีเวลามองหาโทรศัพท์ใหม่

 

“มันไม่ใช่เหตุผลที่เจ้าควรจะแก้ตัว ถึงแม้เจ้าจะไม่มีเวลามองหาโทรศัพท์ใหม่จริง แต่เจ้าก็ยังหาช่องทางอื่นติดต่อข้าได้ แต่เจ้ากลับไม่แม้แต่จะติดต่อมา หากข้าไม่มาหาเจ้าที่บ้านวันนี้ก็คงไม่รู้ว่าข้าจะได้พบเจ้าอีกทีตอนไหน”

 

“เอ่อ…ฉันขอโทษ ช่วงสองวันมานี้ฉันค่อนข้างยุ่งๆ เลยไม่ได้ติดต่อกลับไป”แจ็คสันกล่าวตอบ

 

“จริงสิ สองวันก่ออน ข้าเห็นสะพานไบฟรอสปรากฏขึ้นที่ท่าเรือในเขตชานเมืองนิวยอร์กอยู่ห่างจากสถานที่ทํางานของข้าไม่ไกล ข้าสงสัยว่าอาจจะเป็นคนของแอสการ์ดมาเยือนยังโลกแห่งนี้ ดังนั้นข้าจึงรีบเร่งไปยังสถานที่แห่งนั้น แต่สะพานไบฟรอสได้หายไปแล้ว ข้ากังวลว่าโลกิจะชักนําหายนะมาสู่โลก ข้าจึงต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า” ธอร์คาดเดาและพูดออกมา

 

ได้ยินคําพูดของธอร์ แจ็คสันครุ่นคิดในใจบางอย่างก่อนที่จะแสดงสีหน้าเหมือนรู้อะไรเข้า

 

“สองวันก่อนวันที่สะพานไบฟรอสปรากฏขึ้นที่ชานเมืองนิวยอร์ก มันอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ทํางานของธอร์งั้นหรอ? ไม่ใช่ว่าเขากําลังหมายถึงช่วงเวลาที่พวกเรากลับมาที่โลกใช่มั้ย?”แจ็คสันครุ่นคิดในใจ

 

ธอร์”….”

 

“คุณบอกว่าคุณเห็นมันเมื่อ 2 วันก่อนใช่หรือไม่? มันเป็นช่วงเวลาเที่ยงใช่มั้ย ที่สะพานไบฟรอสปรากฏขึ้น?” หลังจากยืนยันความคิดของตนเองได้ แจ็คสันก็กล่าวถามธอร์

 

“เจ้าก็เห็นมันงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของแจ็คสัน ธอร์กล่าวตอบอย่างตื่นเต้น

 

“ถ้าเป็นการปรากฏขึ้นของสะพานไบฟรอสในช่วงเวลานั้น ฉันรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร”แจ็คสันตอบกลับ

 

“หืม?เจ้ารู้ พวกเขาเป็นใครกัน? ใช่พวกโลกิหรือไม่? หรือว่าเขาข่มขู่เจ้า!” ธอร์กล่าวถามอย่างเร่งรีบ

 

ก่อนหน้านี้โลกิได้มองหาธอร์และชักนําปัญหามาสู่เขาไม่เพียงเท่านั้นโลกิยังวางแผนทําให้เจนเลิกกับตนเอง อีกทั้งยังข่มขู่แจ็คสัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ธอร์จะคิดว่านั่นจะเป็นการมาของโลก

 

“เจ้าไม่จําเป็นจะต้องกังวลที่จะบอกกล่าวต่อข้า ตอนนี้ข้าสามารถชักนําพลังสายฟ้าของข้ากลับมาได้แล้วอีกไม่นานข้าน่าจะได้ค้อนโยเนียร์ของข้ากลับคืนมา เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะกลับไปที่แอสการ์ด และสั่งสอนเขาให้เข็ด” ธอร์กล่าวบอกแจ็คสัน

 

“ป่าวเลย…นั่นไม่ใช่โลก แต่เป็นคนอื่น”แจ็คสันยังคงสั่นศีรษะและตอบกลับ

 

“หืม?ไม่ใช่โลก และพวกเขาเป็นใคร?”ได้ยินคําตอบของแจ็คสันธอร์รู้สึกสงสัยอย่างมาก หากไม่ใช่พวกคนที่มาจากแอสการ์ดและจะเป็นใคร

 

สะพานไบฟรอสดูควบคุมดูแลโดยฮัมดาลล์ เขาเป็นนักรบที่ซื่อสัตย์ที่สุดของแอสการ์ด เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหักหลังแอสการ์ดอย่างแน่นอน และแน่นอนว่าสะพานไบฟรอสก็ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถเข้าถึงและได้รับอนุญาติให้ใช้มัน

 

“เป็นฉันกับเพื่อนอีกสองคน” เผชิญหน้ากับคําถามของธอร์ แจ็คสันตอบกลับความจริง

 

Related

ตอนที่ 664 อาการเป็นห่วงของธอร์

 

สองวันผ่านไป แจ็คสัน โทนี่ และปีเตอร์ ทั้งสามคนไม่ได้ออกจากห้องปฏิบัติการใต้ดินเลย นั่นก็เพราะแจ็คสันได้นําบางสิ่งบางอย่างที่เก็บได้จากดาวเคราะห์ดึกดําบรรพ์ออกมา ทําให้พวกเขาให้ความสนใจในการศึกษาพวกมันอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากสิ่งมีชีวิตเช่นเวน่อมแล้ว เป็นอีกครั้งที่โทนี่ได้สัมผัสกับวัตถุต่างดาวแม้จะเป็นแค่พืชพรรณก็ตาม

 

ดังนั้นในช่วงนี้โทนี่จะไม่มีแผนให้ทั้งสองคนกลับบ้าน เขาได้ให้แจ็คสันและปีเตอร์อยู่เป็นลูกมือในการวิเคราะห์และจัดหมวดหมูภายในห้องปฏิบัติการ โทนี่ตั้งใจจะสร้างห้องสําหรับศึกษาและวิจัยวัตถุต่างดาวโดยเฉพาะ

 

ก่อนหน้านี้ แจ็คสันได้ให้ J.A.R.V.I.S ช่วยติดต่อที่บ้านให้เขาแล้ว ทางครอบครัวของเขาเองก็รู้สึกสบายใจและไม่ได้ติดค้างอะไร เพราะลูกชายของพวกเขาได้อยู่ภายใต้การดูแลของโทนี่ สตาร์ค แน่นอนว่าย่อมมีสายติดต่อที่ไม่คุ้นเคยดังเข้ามาทําให้ J.A.R.V.I.S ต้องบอกแจ้งเตือนกับแจ็คสัน แต่แจ็คสันไม่มีแผนจะรับสายแปลกในตอนนี้

 

….

 

ตู๊ดดด

 

ปั้ง

 

ในนิวอยร์ก ห่างจากชานเมืองไม่ไกล เสียงกระแทกที่รุนแรงได้ดังขึ้นที่สนามหลังบ้านของศูนย์รับเลี้ยงสุนัขจรจัด

 

“เจ้าบ้าแจ็คสัน! เจ้าหายไปไหนกัน ทําไมไม่รับโทรศัพท์และอ่านข้อความที่ข้าส่งไปให้?”

 

ธอร์ได้ต่อยกําปั้นทุบไปที่กําแพงด้านหน้าของตนเองจนเกิดเป็นรอยไหม้สีดําขนาดใหญ่เป็นเวลาหลายวันแล้วที่เขาไม่สามารถติดต่อแจ็คสันได้ ในช่วงนี้ ความเป็นอยู่ของธอร์ได้คุ้นเคยกับโลกมากขึ้นความเย่อหยิ่งแต่เดิมที่มีฐานะเป็นเจ้าชายแห่งแอสการ์ดได้ค่อยๆมลายหายไป ลงเหลือแต่ฐานะคนธรรมดาเพียงเท่านั้น

 

สมบัติค้อนโยเนียร์ของเขาได้ค่อยๆคืบคลานกลับไปที่ร่างของธอร์มาขึ้นเรื่อยๆ แม้ปัจจุบันธอร์จะยังไม่ได้ครอบครองค้อนของตัวเอง แต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงตําแหน่งของค้อนได้อย่างชัดเจน อีกทั้งพละกําลังของเขาก็แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เขาสามารถใช้จุดแข็งที่เป็นพลังสายฟ้าของตนเองได้แล้ว

 

ก่อนหน้านี้สองวัน ธอร์มองเห็นแสงของสะพานไบฟรอสพุ่งตรงตกลงมาที่ใจกลางเมืองนิวยอร์ก ธอร์คิดว่าอาจจะเป็นคนของโลกแอสการ์ดมาเยือนที่นี่ ดังนั้นเขาจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ แต่ดูเหมือนสะพานไบฟรอสจะหายไปแล้ว

 

แน่นอนว่าธอร์ได้ออกตามหาแขกของแอสการ์ดจึงได้เริ่มเข้าใจโลกนี้มากขึ้น นอกเหนือจากความสัมพันธ์ของเขาและแจ็คสันแล้ว ธอร์ได้ค้นพบอุบัติเหตุที่น่าเหลือเชื่อโลกนี้ไม่ได้สงบสุขแบบที่เขาคิด

 

“สองสามวันที่ผ่ามามีการโจมตีจากทหารเอ็กซ์ทรีมิส สมาชิกที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้ปรากฏตัวขึ้น แต่ดูเหมือนมิราจในท์ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาก็มีเพียงแต่สไปเดอร์แมนที่ปรากฏตัวขึ้นที่ทําเนียบขาว แล้วแจ็คสันหายไปไหน?”ธอร์ดึงกําปั้นของตัวเองกลับมา

 

ธอร์อาศัยอยู่ที่โลกเป็นเวลานานเขาเริ่มเข้าใจวิถีชีวิตของคนธรรมดา เกี่ยวกับข่าวและเหตุการณ์เมื่อสองวันที่แล้ว ที่ทหารเอ็กซ์ทรีมิสโจมตีเมืองเขาเองก็ติดตามการรายงานข่าว แต่ไม่มีสักช่องที่เผยรูปของมิราจไนท์ แน่นอนว่าธอร์รู้ว่ามิราจในท์แท้จริงแล้วคือแจ็คสัน

 

“หรือว่าข้าจะลองไปที่บ้านของแจ็คสันดู?”

 

“ข้าไม่เคยไปบ้านของเขามาก่อนแต่ข้าพอจะรู้ว่ามีใครรู้จักบ้านของเขา เอาเถอะ ข้าว่าจะลองไปเยี่ยมครอบครัวของเขาดูก็ไม่เสียหาย หลังเลิกงานข้าจะไปบ้านของแจ็คสัน และทําความรู้จักกับครอบครัวของเขา”ในที่สุดธอร์ก็ตัดสินใจมองหาบ้านของแจ็คสัน

 

เพียงแต่เมื่อธอร์หันไปมองรอบๆ เขาก็เห็นกลุ่มสุนัขจํานวนมากที่จ้องมองมาที่เขา ธอร์ได้มองไปที่กําแพงที่เขาเพิ่งทําลายไปจนสีหน้าของเขาเผยแววสลดออกมา สนามบ้านหลังนี้เป็นที่พักผ่อนสําหรับสุนัขจรจัด เห็นทีธอร์คงต้องหาทางแก้ไขกําแพงนี้ใหม่ซะแล้ว

 

“เฮ้อ.ดูเหมือนว่าจะต้องใช้เงินจํานวนมากพอสมควร” ธอร์บ่นออกมาอย่างไม่เต็มใจ

 

….

 

ฟุ่บ

 

ในห้องปฏิบัติการใต้ดินในนิวยอร์กโทนี่กําลังวิเคราะห์ผลข้อมูลจากแท็บเล็ตที่แจ็คสันส่งให้ มันคือข้อมูลของเนื้อเยื่อพืชต่างดาว ขณะนั้น ดูเหมือนโทรศัพท์ของเขาจะดังขึ้น มันเป็นสายจากทางบ้าน

 

แจ็คสันได้วางสิ่งของทั้งหมดจากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

 

ฟุ่บ!

 

แจ็คสันได้กดรับโทรศัพท์พร้อมกับปัดเป็นวิดิโอคอล ด้านหลังของเขาคือห้องปฏิบัติการโล่ง ไม่มีความจําเป็นจะต้องปิดบังอะไร

 

“สวัสดี พ่อ!” หลังจากเปิดการสนทนาทางวิดีโอแจ็คสันก็เห็นใบหน้าของหลินไฮ่ พ่อของเขา

 

เพราะสถานะมิราจในท์ของตนเองทําให้บ่อยครั้งแจ็คสันไม่ได้กลับบ้านเลย ช่วงนี้เขาได้ใช้โทนี่เป็นที่กําบังให้กับตนเองในการหาเหตุผลที่ไม่กลับบ้านแต่อย่างไรก็ตามคนในครอบครัวก็คือคนในครอบครัว การเจอหน้ากันตรงๆย่อมเป็นการดีที่สุด

 

“ฮ่าฮ่า เจ้าลูกชาย เมื่อไหร่ลูกจะกลับบ้านกัน แม่ของลูกคิดถูกลูกมากรู้ไหม พ่อไม่รู้หรอกนะว่าลูกทําการทดลองอะไร การทดลองที่ว่ายังไม่เสร็จอีกงั้นหรอ ช่วงนี้พ่อกับแม่ไม่ได้เห็นหน้าลูกมาสักพักแล้ว ?” เห็นใบหน้าที่มีเสน่ห์ของลูกชาย หลินไฮ่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

 

“อืม, ดูเหมือนจะไม่มีกําหนดที่แน่นอน แต่ผมว่าผมจะหาเวลาหยุดพักผ่อนในเร็วๆนี้แหละ ผมจะไปพูดเรื่องนี้กับคุณสตาร์ค”ได้ยินคําพูดของพ่อตนเอง แจ็คสันกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

 

“ฮ่าฮ่า เป็นเรื่องที่ดี จริงสิ วันนี้มีคนมาที่บ้านของเราเขาบอกว่าเป็นเพื่อนของลูก”

 

“ใครกัน?”แจ็คสันรู้สึกสงสัยใครกันที่มองหาเขาถึงขนาดมาที่บ้านของตนเอง

 

ฟุบ!

 

ขณะที่แจ็คสันถามออกไป จู่ๆมุมกล้องของโทรศัพท์ก็ถูกเปลี่ยนไปยังตําแหน่งร่างสูง ใหญ่และแข็งแรง ใบหน้าที่คุ้นเคยได้ปรากฏสู่แนวสายตาของแจ็คสัน

 

Related

ตอนที่ 663 การบอกเล่าของแจ็คสัน

 

โทนี่และปีเตอร์ได้สอบถามแจ็คสันอย่างรอบคอบเกี่ยวกับช่วงระยะเวลาที่เขาหายตัวไปว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แม้เดดพูลจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังมาบ้างแล้ว แต่โทนี่ไม่เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นจากการเล่าของเดดพูล

 

ภายใต้การซักถามของโทนี่และปีเตอร์ แจ็คสัน ได้ระมัดระวังในคําพูดและเล่าประสบการณ์ที่อยู่บนต่างดาวของเขาออกมาอย่างสมบูรณ์ สีหน้าของโทนี่และปีเตอร์ที่ได้ฟังนั้นเริ่มแปลกออกไป ทุกอย่างที่แจ็คสันเล่าออกมาคล้ายกับสิ่งที่เดดพูลพูด แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ถูกเล่าออกมาจากปากของแจ็คสันจะน่าเชื่อถือกว่ามาก

 

“พวกเราได้ไปเยือนดาวแอสการ์ดก่อนที่จะอาศัยความช่วยเหลือของพวกเขากลับมาที่ “โลก”เป็นเวลาเกือบชั่วโมงที่แจ็คสันเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นทําให้เขารู้สึกปากแห้งลิ้นแห้งเล็กน้อย

 

ตึก!

 

ตึก ตึก

 

เสียงหัวใจของโทนี่และปีเตอร์ได้เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ โทนี่ที่ตกใจได้หยิบไวน์แดงของเขาขึ้นมาดื่ม แจ็คสันเองก็ได้เทส่วนของตัวเองและเริ่มดื่มมัน

 

“อ่า…”ขณะที่แจ็คสันกําลังดื่มไวน์แดงดูเหมือนโทนี่จะได้สติและส่งเสียงออกมา

 

“! แจ็คสันประสบการณ์ของนายมันจะน่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว! ดาวนั่นมีทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่และป่าบริสุทธิ์ที่มีอายุหลายหมื่นปี รวมถึงสัตว์ประหลาดพวกนั้น หากฉันไม่ได้ฟังจากปากนายตรงๆ ฉันอาจจะคิดว่าสิ่งที่เดดพูลเล่ามาอาจจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมดก็เป็นได้” หลังจากโทนี่ส่งเสียงเรียกสติกลับมา ปีเตอร์เองก็ส่งเสียงออกมาอย่างตื่นเต้นพร้อมกับจ้องมองไปที่แจ็คสัน

 

“สัตว์ประหลาดพวกนั้นอาศัยอยู่ในป่าบริสุทธิ์นั่น นอกจากนี้พวกมันยังแข็งแกร่งมากอีกด้วย หากเป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากไปยั่วยุพวกมันหรอก”ได้ยินคําพูดของปีเตอร์ แจ็คสันกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

 

“เมื่อครู่เธอพูดถึงร่องรอยอารยธรรมโบราณใช่หรือไม่?เธอพอจะรู้รายละเอียดของมันเพิ่มเติมไหม ฉันรู้สึกสนใจและอยากจะศึกษาอารยธรรมต่างดาวซะแล้วสิ”โทนี่ที่เห็นแจ็คสันจิบไวน์ไปหนึ่งแก้วเขาได้เปิดปากถามอีกครั้ง

 

“คือสถานการณ์ในตอนนั้นมันเร่งด่วนเกินไป เพื่อที่จะมีชีวิตผมเลยไม่ได้มีเวลามากพอที่จะศึกษาร่องรอยอารยธรรมนั่น!”ได้ยินคําพูดของโทนี่ แจ็คสันตอบกลับความจริง

 

“แล้วคนพวกนั้นเล่าเป็นพวกเอเลี่ยนงั้นหรอ? ฉันหมายถึง คนที่เธอเล่า สตาร์ลอร์ด และร็อคเก็ต แรคคูน อีกทั้งยังมีกรูซ ฉันรู้สึกสนใจพวกเขาจริงๆ โดยเฉพาะต้นไม้พูดได้ เธอพอจะมีกิ่งก้านอะไรของเขาทํานองนี้ไหม?”โทนี่ต้องการตรวจสอบร่างกายของมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ เผื่อมันจะช่วยเหลืออะไรในงานวิจัยในอนาคตของเขาได้

 

ท้ายที่สุดแล้วในความคิดของโทนี่ แจ็คสันอาจจะเป็นคนแรกของโลกที่ได้ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้อีกทั้งแจ็คสันยังบอกว่าเป็นเพื่อนกับพวกเขา ดังนั้นโทนี่จึงต้องการรู้รายละเอียดสิ่งที่แจ็คสันพบเจอเพิ่มเติม

 

ได้ยินคําพูดของโทนี่ แจ็คสันได้สั่นศีรษะทันที เขาจะไปมีเวลารวบรวมสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร

 

“เอ่อไม่มีหรอก…แต่มีบางสิ่งที่ผมพอเก็บเกี่ยวมาได้บ้าง”แจ็คสันได้สั่นศีรษะปฏิเสธก่อนที่จะพูดบางอย่างออกมา

 

“หืม?อะไรงั้นหรอ?”ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่เป็นวัตถุต่างดาวที่แจ็คสันสามารถนําติดไม้ติดมือกลับมาได้ โทนี่ก็รู้สึกต้องการและกระหายในความอยากรู้ของเขา

 

ได้ยินคําพูดของโทนี่ แจ็คสันไม่ได้หยิบสิ่งของที่ว่าออกมาทันที แต่เลื่อนสายตาของเขาออกไปทางนอกห้องประตู

 

“พวกเราไปที่ห้องปฏิบัติการกันก่อนดีหรือไม่?ที่นี้ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่”แจ็คสันกล่าวออกมา

 

ฟุบ

 

“ดี,พวกเราไปที่ห้องปฏิบัติการกัน” ราวกับว่าได้รับการเตือนจากแจ็คสัน โทนี่ได้ลุกขึ้นยืนทัน

 

“ไม่ใช่ว่าเวลานี้พวกเราสมควรมานั่งสนทนากันอย่างผ่อนคลายหรอกหรอ” ปีเตอร์กล่าวแย้งออกมาเบาๆ

 

“การสนทนาอย่างผ่อนคลายคืออะไร?พวกเรามีเวลามากพอที่จะใช้มันเพื่อพูดคุยกัน? ถ้าเธอยังไม่รีบลุกฉันจะโยนงานทดลองบางอย่างไปให้เธอทําในตอนนี้”แม้ว่าเสียงของปีเตอร์จะส่งออกมาเบามาก แต่โทนี่ก็ได้ยิน

 

ฟุบ!

 

“ไปเดี๋ยวนี้แหละ!”เห็นโทนี่ตอบกลับตัวเอง ปีเตอร์ได้ดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีพร้อมกับวิ่งออกประตูไป

 

“หืม! เจ้าเด็กคนนี้ ไปกันเถอะ”โทนี่ได้หันไปกล่าวกับแจ็คสัน

 

“อืม”แจ็คสันได้ตอบกลับแม้อาการบาดเจ็บของเขาจะยังไม่หายดี แต่เขาก็ไม่มีปัญหาในการเดินไปยังห้องปฏิบัติการใต้ดินกับโทนี่

 

หลังจากผ่านไปสองสามนาที แจ็คสันและปีเตอร์ได้เดินทางมาถึงห้องปฏิบัติการใต้ดินของโทนี่ เนื่องจากช่วงนี้โทนี่มีอย่างอื่นให้ศึกษานอกจากชุดเกราะไอรอนแมน เขาจึงสร้างพื้นที่และขยายขนาดของห้องปฏิบัติการให้กว้างขึ้นตอนนี้ แทบจะพื้นที่ใต้ดินของวิลล่าทั้งหมดของโทนี่ได้เปลี่ยนเป็นห้องปฏิบัติการใต้ดินขนาดใหญ่

 

นอกจากนี้โทนี่ยังส่งเสริมชุดเกราะไอรอนแมนและสั่งการให้พวกนั้นเฝ้าระวังภายในบ้านเพื่อความปลอดภัยในการทําการทดลอง ห้องทดลองของโทนี่เต็มไปด้วยหมายเลขโปรเจ็ควิจัยจํานวนมาก หนึ่งในห้องเหล่านี้ก็มีห้องเย็นทําอุณหภูมิที่เอาไว้แช่แข็งพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิส ส่วนห้องที่พวกเขามาตอนนี้เป็นห้องปฏิบัติการที่ใหม่เอี่ยมและมีขนาดใหญ่พิเศษเหมาะที่จะทําการทดลองทางชีววิทยาได้อย่างไม่มีปัญหา

 

“เวน่อมในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? ก่อนหน้านี้มันได้ซ่อนอยู่ในตัวของคุณและดูดซับพลังงานจํานวนมาก คาดว่าน่าจะฟื้นฟูกลับมาแล้วตอนนี้”แจ็คสันไม่ได้เริ่มประเด็นของเขาในทันที เขากล่าวถามหาเวน่อม

 

“เจ้านั่นงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของแจ็คสันดวงตาของโทนสว่างวาบก่อนที่จะยื่นส่งแท็บเล็ตให้เขาโดยตรง

 

แจ็คสันรีบแท็บเล็ตมาดูเขาได้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในทําให้สีหน้าของแจ็คสันแปลกใจเล็กน้อย สถานการณ์ปัจจุบันของเวน่อมที่แสดงอยู่ในแท็บเล็ตนั้นคือมันถูกขังอยู่ในกล่องโลหะผสมพิเศษขนาดเล็ก โดยรอบกล่องมีอุณหภูมิไฟฟ้าแรงสูงเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ทําร้ายมัน

 

แจ็คสัน ”…”

 

“นี่เป็นการลงโทษงั้นหรอ?โทนี่ก็ชั่งโหดร้ายจริงๆ !”เห็นสภาพของเวน่อมที่ถูกขังอยู่ในกล่องโลหะผสมพิเศษ และถูกกระตุ้นด้วยไฟฟ้าแรงสูงจนร่างกระตุกไปมา แจ็คสันครุ่นคิดในใจอย่างเงียบ ๆ

 

Related

ตอนที่ 662 การต่อว่าของโทนี่

 

“เอ๋…พวกคุณทั้งสองกำลังพูดอะไรเกี่ยวกับฉันหรือป่าว?” หลังจากประตูเปิดขึ้น เงาร่างที่คุ้นเคยก็ส่งเสียงทักทาย โทนี่ และ ปีเตอร์ ด้วยรอยยิ้ม คนที่ผลักประตูเปิดขึ้นนี้จะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากแจ็คสัน

 

“แจ็คสัน! นายดีขึ้นแล้วงั้นหรอ?” เห็นแจ็คสันเดินเข้ามาปีเตอร์กระโดดขึ้นจากโซฟาอย่างดีใจ

 

ฟุบ!

 

จากนั้นปีเตอร์ก็พุ่งสวมกอดแจ็คสันอย่างรวดเร็วโดยไม่สนว่าแจ็คสันจะยังบาดเจ็บอยู่หรือไม่เพราะนี่คือกอดแห่งมิตรภาพที่เขารู้สึกคุ้นเคย

 

“ขอโทษนะ!” เห็นใบหน้าแห่งความกังวลบนสีหน้าของปีเตอร์ แจ็คสันรีบกล่าวขอโทษทันที

 

“อย่าใส่ใจเลยไฉันรู้อยู่แล้วว่าเทคโนโลยีการรักษาของคุณสตาร์คนั้นสุดยอด ทั้งยังมียายืนรักษารุ่นล่าสุดที่แฮร์รี่ส่งมาให้ฉันอีกฉันเชื่อว่าหากนายได้พักผ่อนซักหน่อยน่าจะกลับมาดีเหมือนเดิม”ได้ยินคำขอโทษจจาก แจ็คสัน ปีเตอร์ ยิ้มออกมา

 

ที่จริงแล้ว J.A.R.V.I.S ได้ประเมิณศักยภาพร่างกายของแจ็คสันแล้ว ดูเหมือนร่างกายของแจ็คสันจะมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูตนเองสูง ดังนั้นเมื่อได้รับยารักษาขั้นสูงหลายชนิด แจ็คสันก็สามารถฟื้นฟูตัวได้อย่างรวดเร็ว ที่เหลือก็แค่รอเวลาเพียงเท่านั้น

 

“อืม” แจ็คสันพยักหน้าเล็กน้อย

 

จากนั้นแจ็คสันและปีเตอร์ ก็เดินไปทางโทนี่ เพียงแต่สีหน้าของโทนี่ไม่ได้เหมือนกับว่ากำลังดีใจอยู่แม้แต่น้อย

 

“หึม!อันที่จริงเธอนอนพักต่ออีกหน่อยก็ดี แต่ว่าเรื่องนี้หากเธอไม่ชักปัญหาเข้าไปหาฮัลค์และต่อสู้เธอก็คงไม่จำเป็นจะต้องมานอนซมล้มเจ็บแบบนี้หรอก” โทนี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา 

 

ก่อนหน้านี้โทนี่กับมิราจในท์ถือเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันความเป็นห่วงก็อยู่ในฐานะหนึ่งในเพื่อนร่วมทีมที่เป็นพันธมิตรแต่ภายหลัง หลังจากรู้ว่า มิราจในท์ คือ แจ็คสัน ความเป็นห่วงของเขาก็เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่ามิราจในท์จะแข็งแกร่งมากขนาดไหน แต่ในสายตาของโทนี่ เขาก็ยังเป็นแค่เด็กอายุ 17 ปีเท่านั้น

 

เมื่อเห็นว่าแจ็คสันได้ฝืนตัวเองในฐานะฮีโร่คนนึง โทนี่ก็อยากจะชื่นชม แต่เมื่อต้องเห็นเขาขัดคำพูดของตนเองและมาได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้โทนี่รู้สึกโกรธอยู่ในใจ

 

“ฮิฮิ… คุณสตาร์คอุปกรณ์เทคโนโลยีรักษาของคุณนั้นดีมาก! ผมคิดว่าผมกำลังนอนหลับฝันดีและกำลังเพลิดเพลินกับห้วงความฝันอย่างไงยังงั้น”ได้ยินโทนี่ตำหนิตัวเอง แจ็คสันได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที

 

ได้ยินคำพูดของแจ็คสันโทนี่ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

 

“อย่าเปลี่ยนเรื่อง! เธอไม่เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บหนัก หากเธอเป็นอะไรขึ้นมา เธอคิดว่าครอบครัวของเธอจะรู้สึกยังไง เพื่อนของเธอ และ ฉัน เธอไม่คิดหรอว่าพวกเขาจะรู้สึกยังไง?” เห็นการละเล่นของแจ็คสัน โทนี่ กล่าวตะโกนไปที่ด้านหน้าของแจ็คสัน

 

เมื่อเผชิญหน้ากับอารมณ์ของโกรธของโทนี่ แจ็คสันทำได้แต่ยอมรับความจริง อาจเป็นที่เขาเองที่ดั้นด้นอยากจะเผชิญหน้ากับฮัลค์เพื่อทดสอบความแข็งแกร่ง และ ตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าฮัลค์นั้นแข็งแกร่งมากขนาดไหน

 

“เอ่อ…ผมว่าผมไปหาของว่างมาเสริฟดีกว่า”เห็นบรรยากาศตรึงเครียดของโทนี่และแจ็คสันปีเตอร์ลอบกลืนน้ำลายก่อนที่จะพูดด้วยเสียงต่ำ

 

“ฉันไม่ให้ไป!”

 

“อย่าไปเชียว!”

 

โทนี่ไม่อนุญาติให้ปีเตอร์เดินหนีออกจากบรรยากาศสนทนาในครั้งนี้ส่วนแจ็คสันก็ไม่อยากให้ปีเตอร์ไปเพราะเขาไม่ต้องการทนฟังคำบ่นของโทนี่เพียงคนเดียว แม้จิตใจลึก ๆ ของแจ็คสันจะไม่ใช่เด็กอายุ 17 แต่เขาก็รู้สึกดีว่าการถูกดุด่าว่ากล่าวนั้นให้ความรู้สึกเช่นไร ไม่เหมือนกับปีเตอร์ที่เป็นเจ้าหนูอายุ 17 เขาเชื่อฟังโทนี่เป็นพิเศษอาจเป็นเพราะโทนี่ได้ช่วยเหลือปีเตอร์หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาชุดสไปเดอร์แมนและ อื่น ๆ

 

ดังนั้นคำพูดของโทนี่ ในมุมมองของ แจ็คสัน และ ปีเตอร์ จึงแตกต่างออกไป แจ็คสันเพียงแค่ต้องการหาเพื่อนอยู่ร่วมฟังคำบ่นของโทนี่ด้วยกัน

 

“ก็ได้” ได้ยินคำพูดของโทนี่ และ แจ็คสัน ปีเตอร์ ได้พูดเสียงต่ำเล็กน้อย

 

“ทำไมเธอไม่หัดเอาตัวอย่างเหมือนปีเตอร์บ้าง?เขาเป็นห่วงครอบครัว และ ทำตัวเหมือนนักเรียนมัธยมปลายส่วนเธอ มันไม่เหมือนสักนิด!”โทนี่ตวาดเล็กน้อย

 

แจ็คสัน”..”

 

เมื่อเผชิญหน้ากับอารมณ์โกรธของโทนี่ แจ็คสันได้นิ่งเงียบเป็นเวลานาน

 

“บ่อยครั้งที่เธอได้ออกไปผจญสถานที่อันตราย และ หายตัวไป เธอรู้ไหมว่า…” โทนี่ได้สาธยายออกมาเป็นคำพูดด้วยความรู้สึกในใจ

 

คำพูดของโทนี่ได้ทำให้สีหน้าของ แจ็คสันเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย จนเวลาล่วงเลยผ่านไป สีหน้าของโทนี่ จึงได้ผ่อนคลายลง

 

“…” แจ็คสันได้กระแอมไอออกมาสองครั้งด้วยความเป็นเพราะในที่สุดโทนี่ก็หยุดกล่าวผิดตนเอง

 

แน่นอนว่าเป็นเพราะเห็นแจ็คสันนิ่งเงียบเป็นเวลานานและรับฟังตนเองโทนี่จึงได้หยุดคำพูดลงแต่เพียงเท่านี้

 

“คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีก หากเธอเป็นอะไรขึ้นมาฉันจะบอกกับพ่อแม่เธอยังไง” โทนี่ได้พูดออกมาอีกครั้ง

 

“คุณสตาร์ค! ผมต้องขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้คุณเป็นกังวล” หลังจากโทนหยุดคำพูดลง แจ็คสันได้ส่งแววตาที่สำนึกผิดและกล่าวขอโทษออกไป

 

“เหอะ, หากเธอไม่อยากทำให้ฉันรู้สึกกังวล คราวหลังเธอก็ไม่ต้องเข้าไปพัวพันกับอันตรายพวกนี้อีก” ได้ยินคำพูดของแจ็คสัน โทนี่ รู้สึกพูดไม่ออก

 

ไม่ใช่ว่าแจ็คสันต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความเสี่ยงเหล่านี้ แต่อันตรายในโลกมาร์เวลได้คืบคลานเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ดังนั้น แจ็คสันจึงถูกดึงเข้าไปพัวพันกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างไม่อาจปฏิเสธได้

 

“จริงสิ ฉันได้ยินจากปีเตอร์แล้ว เมื่อไม่นานมานี้ เธอได้หายตัวไปจากโลกและไปปรากฏตัวบนดาวเคราะห์อื่นนอกโลกงั้นหรอ?”โทนี่ได้นั่งลงพร้อมกับกล่าวถามแจ็คสัน

 

“เอ๋…..อ๋อใช่”

 

Related

ตอนที่ 661 ข้อความจากกัปตันโรเจอร์ส

 

ช่วงรอแจ็คสันเข้ารับการรักษา โทนี่ และ ปีเตอร์ ได้เข้าสู่ช่วงบทสนทนาธรรมชาติมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการหายตัวไปของ แจ็คสัน และ เดดพูล ก่อนหน้านี้

 

“นี่คือเรื่องที่เธอรู้มาจากเขาทั้งหมด?ทําไมฉันรู้สึกว่าเจ้าบ้าเดดพูลนี่พูดเกินจริง?”โทนี่นั่งดื่มไวน์แดงพร้อมกับวิเคราะห์ข้อมูลที่ฟังจากปีเตอร์

 

เมื่อไม่นานมานี้ปีเตอร์ได้ยินมาจากเดดพูลว่าเขากับมิราจไนท์ได้เดินทางออกไปนอกโลกไปยังดาวเคราะห์บางอย่าง เรื่องที่ปีเตอร์เล่าในวันนี้เป็นคําพูดที่เขาได้ยินมาจากเดดพูลทั้งหมด

 

“แม้ว่าเรื่องที่เดดพูลเล่าจะเวอร์วังไปมาก แต่ผมก็ไม่คิดว่าเขาจะโกหก”ได้ยินคําตอบจากโรนี่ปีเตอร์ที่หยิบอาหารเข้าปากเขาได้ยกค้างเอาไว้และพูดเสริม

 

ปีเตอร์เองก็รู้จักเดดพูลมาพอสมควรแม้ช่องว่างระหว่างอายุพวกเขาจะแตกต่างกันแต่ปีเตอร์ก็รู้ว่าเดดพูลไม่มีทางโกหกเรื่องที่ไปผจญภัยกับแจ็คสันอย่างแน่นอนเมื่อดูจากแววตาของเดดพูลในตอนนั้นแล้วราวกับว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ

 

“โผล่ไปยังดาวเคราะห์ลึกลับบางอย่างจากการปรากฏตัวของประตูมิติอวกาศ มันอาจจะมีความเป็นไปได้ แต่เรื่องนี้ ฉันคงจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ส่วนเรื่อง สัตว์ประหลาดไดโนเสาร์ยักษ์สูงหลายร้อยเมตรนั่น อีกทั้งยังมีสัตว์ประหลาดรากไม้หลายพันตัว มันน่าเหลือเชื่อเกินไป นอกจากนี้เขาบอกว่าเขาเจอ ชนพื้นเมืองที่มีหน้าเหมือนเมอร์ไลออนของประเทศสิงคโปร์? พวกเขาร่วมต่อสู้กับสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์โบราณ คิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบหรือยังไง?”เผชิญหน้ากับการอธิบายของปีเตอร์ โทนี่ กล่าวปฏิเสธอย่างไม่แยแส

 

เรื่องที่เกิดขึ้นที่ประตูมิติอวกาศส่งพวกเขาไปยังสถานที่นึ่งอาจจะเป็นเรื่องจริง แต่โทนี่ยากที่จะยอมรับว่าสิ่งที่เดดพูลเล่ามาทั้งหมดมันมีตัวตนอยู่จริง ๆ

 

มันก็ไม่แปลกที่โทนี่จะไม่เชื่อในสิ่งที่ได้รับฟังมาเพราะเขาไม่เคยเห็นตัวตนเหล่านั้นจริง ๆ ชีวิตของเขาเกิดบนโลกและอยู่บนโลกมาเป็นระยะเวลานานหลายปี อาจเป็นเพราะด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันของโลกจึงไม่อาจเดินทางท่องอารยธรรมอื่น ๆ ได้

 

แต่ในใจของเขาก็ยังมีอีกเหตุผลเมื่อเคยพิจารณาว่าเขาเคยปฏิเสธว่าเวทมนตร์มีอยู่จริงแล้ว บางทีเรื่องที่เดดพูลเล่าอาจจะเป็นความจริงก็ได้

 

“บางที่เดดพูลอาจจะมีพรสวรรค์ในการเขียนหนังสือขายมากกว่าฉันว่านะ”โทนี่ยกไวน์แดงในมือขึ้นจิบอีกครั้ง

 

“ตอนแรกเดดพูลตั้งใจจะเขียนหนังสือเล่มนี้จากประสบการณ์ที่เขาได้รับชื่อว่า เดดพูล และ การผจญภัยในดวงดาวลึกลับของเดดพูล และ มิราจในท์” ปีเตอร์กล่าวบอกโทนี่ โทนี่””

 

“เจ้านายครับ ทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้ง 11 คนที่จับกุมได้ ได้เข้าสู่กระบวนการแช่แข็งเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ” ขณะที่โทนี่ไม่รู้จะกล่าวอะไรออกมา เสียงของป.A.R.V.I.S ก็ดังขึ้นอย่างกระทันหัน

 

หลังจากจบศึกกับพวก สมาคมมิวแทนท์และองค์กร มิวแทนท์ ของสไตรเกอร์เสร็จ โทนี่ให้ J.A.R.VIS พาพวก ทหารเอ็กซ์ทรีมิส ที่เคยเป็นลูกน้องของพวกคิลเลี่ยนกลับมา ทั้งเขายังให้ J.A.R.V.I.S พยายามหาวิธีปิดผนึกคนเหล่านี้ ด้วยอุณหภูมิต่ํากว่า 20 องศา เพื่อที่จะหยุดผลกระทบของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส โทนี่ จําเป็นจะต้องผนึกพวกเขาชั่วคราว

 

“ยืมเข้าใจแล้ว ไว้ฉันว่างฉันค่อยดําเนินการขั้นตอนต่อไปอีกครั้ง โทนี่ตอบกลับ J.A.R.V.I.S

 

เกี่ยวกับไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสโทนี่มีความสนใจอย่างมาก ลักษณะของพวกมันสามารถนําไปสู่การวิวัฒนาการได้ดังนั้นโทนี่ตั้งใจจะใช้เวน่อมเพื่อทดสอบพวกมันและพัฒนาการควบคุมเพื่อดําเนินการศึกษาอีกครั้ง หากเป็นไปได้ด้วยดี เขาจะสามารดึงพลังที่น่าเกรงขามออกมาเพื่อตอบสนองกับเวน่อมเพื่อให้เวน่อมกลายไปเป็นสิ่งที่โฮสต์ต้องการในอนาคต

 

“กัปตันโรเจอร์ส เพิ่งส่งข้อความใหม่มาครับ” หลังจากรายงานสถานการณ์เรื่องทหารเอ็กซ์ทรีมิสแล้ว J.A.R.V.I.S ก็พูดอีกครั้ง

 

“หืม?ว่ายังไงบ้าง?”ได้ยินว่าเป็นข่าวจากกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ ค่อนข้างสนใจ

 

“กัปตันโรเจอร์สให้ความสําคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ของมิราจไนท์อย่างมาก เขาบอกว่า หากต้องการให้ S.H.I.E.L.D. ช่วยเหลือเรื่องอะไร เขาจะสนับสนุนอย่างเต็มที่”

 

“หม! คิดว่าเครื่องมือการรักษาของฉันมีประสิทธิภาพน้อยกว่าองค์กร S.H.I.E.L.D. งั้นหรอ?” ได้ยินการรายงานของ J.A.R.V.S โทนี่พูดอย่างเหยียดหยาม

 

“เจ้านายครับ ที่จริงแล้ว เทคโนโลยีการรักษาขององค์กร S.H.I.E.L.D. มีประสิทธิภาพมากกว่ามากเมื่อเทียบกับเราได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.VIS เตือนความจริงเรื่องนี้

 

“โทนี่”

 

“แล้วเรื่องอื่นละ?”โทนี่ไม่ต้องการสนใจเรื่องนี้อีก ไม่ว่าอย่างไรเขาจะไม่ขอส่งตัวแจ็คสันไปรักษาตัวที่ องค์กร S.H.I.E.L.D. เด็ดขาด

 

“กัปตันโรเจอร์สบอกว่า ดร.บรูซ แบนเนอร์ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกับเจ้านายเพื่อทําการศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีองค์กร S.H.I.E.L.D. สนับสนุนและเตรียมความพร้อมให้อย่างเต็มที่”

 

“หากเป็นก่อนหน้านี้ฉันคงจะดีใจมากอย่างแน่นอน”ได้ยินคําพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ไม่ได้ประหลาดใจ

 

ความสามารถและพรสวรรค์ของ ดร.บรูช แบนเนอร์ อาจเรียกได้ว่าเทียบเคียงในระดับชั้นเดียวกับเขา หากเป็นก่อนหน้านี้ โทนี่ ก็หวังจะร่วมมือกับอีกฝ่ายในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพียงแต่ช่วงนี้ เขาเองก็มีโครงการมากมายให้ศึกษา โดยมี แจ็คสัน และ ปีเตอร์ เป็นลูกมือ แต่ทั้งสองคนก็มีงานอย่างเหลือล้น ยิ่งไปกว่านั้นในฐานะไอรอนแมน โทนี่ จําเป็นจะต้องไปปรากฏตัวในที่สาธารณะบ่อยครั้ง หากเป็นไปได้เขาก็อยากจะรับข้อเสนอนี้อยู่เหมือนกัน

 

“J.A.R.V.I.S นายตอบกลับไป เรื่องของมิราจในท์ ฉันจะเป็นดูแลเรื่องทั้งหมดเองบอกพวกเขาไม่ต้องเป็นห่วง เกี่ยวกับคําเชิญของ ดร.แบนเนอร์ ฉันรู้สึกยินดีอย่างมาก เอาเป็นว่าฉันจะเดินทางไปให้คําตอบด้วยตัวเอง”

 

“ครับเจ้านาย!” ได้ยินคําตอบของโทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับทันที

 

ฟุ่บ!

 

ตึก ตึก!

 

ขณะที่โทนี่กําลังสนทนากับ J.A.R.V.I.S จู่ ๆ ประตูห้องรับรองก็ถูกเปิดจากด้านนอก จากนั้นร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นสู่สายตาของโทนี่ และ ปีเตอร์ เขาเดินเข้ามาข้างในอย่างช้า ๆ

 

Related

ตอนที่ 660 หัวใจแห่งชีวิต

 

ในห้องบำบัดรักษาของ สตาร์ค แจ็คสันได้นอนหลับตาอย่างสงบและนอนรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้สมองของเขากำลังครุ่นคิดลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ ตั้งแต่เขากลับมาจากดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์แจ็คสันก็ไม่มีเวลาเข้าในร้านค้าระบบเลย

 

“ก่อนการเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตระดับ S ฉันได้สูญเสียแต้มคะแนนไปทั้งหมด”ในความคิดของเขาแจ็คสันได้สั่นศีรษะเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

ก่อนหน้าที่เอนเชี่ยนวันจะปรากฏตัวขึ้น แจ็คสันได้ใช้แต้มคะแนนในการแลกเปลี่ยนซื้อสิ่งต่างๆ เพื่อรักษาชีวิตของตนเอง ไม่งั้นเขาอาจจะไม่สามารถทนรอได้นานจนเอนเชี่ยนวันมาช่วยพวกเขาไว้ได้ทัน

 

“การเดินทางครั้งนี้เป็นเหตุการณ์บังเอิญที่เกิดขึ้น แม้จะเกิดการสูญเสียจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้รับบางอย่างกลับมา”แม้จะสูญเสียแต้มคะแนนไปจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ได้รับสิ่งตอบแทนกลับมา

 

การเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตระดับ S แจ็คสันไม่สามารถต้านทานมันได้เลย ยกเว้นสิ่งมีชีวิตระดับ B สองตัวที่แจ็คสันพบเจอก่อนหน้านี้ แม้จะยากลำบากสักหน่อยแต่ท้ายที่สุดเขาก็จัดการพวกมันจนสามารถยกระดับความแข็งแกร่งของเองขึ้นได้

 

หลังจากจัดการพืชสัตว์ประหลาดระดับ B เสร็จ แจ็คสันก็ยังรวบรวมพืชพรรณพื้นเมืองบนดาวดึกดำบรรพ์นั่นกลับมาหลายสายพันธุ์ เขาคิดว่าสิ่งเหล่านี้น่าจะมีประโยชน์กับเขาในอนาคต

 

พืชพรรณในปาบริสุทธิ์นั่นมีความลึกลับที่น่าชวนค้นหาดังนั้นแจ็คสันจึงได้เก็บมันกลับมาศึกษาที่โลกเพื่อที่จะพัฒนาสภาพแวดล้อมของโลกให้ยกระดับมากขึ้นไปอีก

 

นอกเหนือจากเรื่องนี้ชุดแพนท่อมสูทของเขาเองก็ได้รับการพัฒนาด้วยเช่นเดียวกันการปรับสภาพแวดล้อมโดยรอบของเขามีประสิทธิภาพมากขึ้น หากในอนาคตแจ็คสันได้เดินทางไปยังดาวดวงอื่นที่ยากลำบากอีก เขาก็ไม่น่าจะมีปัญหาต่อการดำรงชีวิตอยู่

 

“สิ่งที่ฉันได้เก็บเกี่ยวมาจากดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์นั่น ท้ายที่สุด ก็สามารถส่งมอบพวกมันให้ ดร.แบนเนอร์ กับ โทนี่ ศึกษาได้ในด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรื่องนี้ ดร.แบนเนอร์ คงจะค่อนข้างเชี่ยวชาญกว่าโทนี่”แจ็คสันครุ่นคิดในใจ

 

เหนือสิ่งอื่นใดแจ็คสันยังเก็บเกี่ยวบางอย่างกลับมาได้เขาได้ใช้จิตสำนึกของตนเองในการลอบมองดูมัน มันคือบางสิ่งสีเขียวที่ถูกเก็บไว้ในหลอด

 

ตุบ ตุบ!

 

กลุ่มก้อนสีเขียวเหล่านี้ราวกับมีชีวิตชีวามันเป็นวัตถุทรงกลมเล็ก ๆ จำนวนมากที่เกาะติดกันทั้งยังมีเสียงสั่น ตุบ ๆ เป็นระยะ

 

“นี่ก็คือหัวใจของพืชสัตว์ประหลาดระดับ B” ก่อนหน้านี้เขาไม่มีเวลาที่จะศึกษามันอย่างลอบคอบ หลังจากจัดการสัตว์ประหลาดนี่ได้แจ็คสันได้เก็บมันมาอย่างระวัง

 

“ฉันอยากที่จะรู้ราคาของมันซะจริง?”แจ็คสันได้เลื่อนจิตของตนเองเข้าไปยังร้านค้าระบบ

 

ฟุบ!

 

“หัวใจของสิ่งชีวิตระดับ B มูลค่าสิ่งของ : 50,000 แต้มคะแนน!”แจ็คสันเห็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่เบื้องหน้าของเขา

 

ศูนย์การค้าของระบบได้ประเมินออกมาอย่างรวดเร็ว” หัวใจของสิ่งมีชีวิตระดับ B นี่ค่อนข้างแพงเอาเรื่อง ฉันเชื่อว่ามันจะต้องมีประโยชน์อย่างแน่นอน”

 

“หัวใจแห่งชีวิต – หัวใจแห่งชีวิต”แจ็คสันพึมพัมออกมา

 

“เจ้าสิ่งนี้มีมูลค่าตั้ง 50,000 แต้มคะแนน อยากจะบ้าตาย แค่แต้มคะแนน 10,000 กว่าแต้มฉันก็แทบจะตกตะลึงแล้ว!”แจ็คสันบ่นออกมาเล็กน้อย

 

ผลของหัวใจพืชสัตว์ประหลาดนี้มีสรรพคุณที่ยอดเยี่ยมอย่างมากมันมีความสามารถในการฟื้นคืนพลังที่น่ากลัวอีกทั้งยังช่วยเพิ่มพลังชีวิตถือเป็นหนึ่งในไอเทมรักษาที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด

 

หัวใจแห่งชีวิตตกผลึกจากสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์เหล่านี้หลังจากที่มันตกตายมันจะตกผลึกสิ่งที่ว่านี้ออกมา

 

เมื่อดูสินค้ารักษาอื่น ๆ ภายในระบบ แจ็คสันก็เริ่มให้ความสำคัญกับหัวใจแห่งชีวิตทันที สิ่งเหล่านี้มีคุณภาพกว่ามากเมื่อเทียบกับน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยบรรเทาอาการและรักษาเล็กน้อย ราคาของ น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำไม่ถือว่าแพงมาก แต่ถ้าเป็นระดับสูงราคาก็อีกเรื่องนึ่ง ดังนั้น แจ็คสันจึงมองเห็นความสำคัญของ หัวใจแห่งชีวิตนี้มากทีเดียว

 

“ประสิทธิภาพของมันน่าจะรุนแรงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ฉันไม่คิดว่าจะได้ใช้มันเร็วๆนี้หรอก ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าการบริโภคไอเทมที่ทรงประสิทธิภาพเช่นนี้ไปในคราวเดียวจะให้ความรู้สึกที่สูญเสียมากน้อยแค่ไหน” แจ็คสันได้มองย้อนกลับความเป็นจริง

 

เขาตั้งใจว่าจะเก็บมันไว้ราวกับสมบัติชิ้นนึ่งหากไม่ถึงสถานการณ์ยามที่ต้องดิ้นทุรนทุรายอย่างตกตายจริง ๆ เขาไม่มีทางจะใช้มัน แน่ๆ

 

การเก็บเกี่ยวจากดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์นั้นได้ให้ประโยชน์ทั้งตัวแจ็คสันและการศึกษาและพัฒนาโลกในอนาคตถือเป็นประสบการณ์ที่ยากจะพบเจอ

 

“สิ่งนี้เองก็อาจจะมีความหมายหากให้โทนี่ช่วย วิจัยมัน แต่ฉันคิดว่าโทนี่ช่วงนี้คงจะยุ่ง ๆ มากแน่นอน”แจ็คสันกระซิบกระซาบที่หัวใจก่อนที่จะครุ่นคิดเรื่องอื่น

 

Related

ตอนที่ 659 การลอบมองของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

หลังจากเข้าสู่พื้นที่ห้องลับใต้ดินไอซ์แมนก็เห็นเก้าอี้รถเข็นของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่อยู่ด้านหน้าของโต๊ะ ไอซ์แมนได้เดินไปใกล้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก่อนที่จะมองหาเก้าอี้และนั่งลง

 

ฟัง

 

หลังจากเวลาผ่านไปเป็นเวลาหลายนาที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ยกมือขึ้นวางบนโต๊ะและเงยห น้ามองไอซ์แมน

 

“โรเบิร์ต นายมองหาฉันเพราะมีเรื่องอะไรงั้นหรอ?”มองไปที่ไอซ์แมน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เปิดคําถามแรก

 

ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไอซ์แมนเงยหน้ามองไปที่เขาพร้อมกับกล่าวออกมา” ฉันมีเรื่องบางอย่างที่อยากจะถาม”

 

เกี่ยวกับมิราจไนท์?”เมื่อรู้ว่าไอซ์แมนกําลังมองหาเรื่องบางอย่างศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวคาดเดา

 

“อืม,ศาสตราจารย์ฉันรู้ว่านี้ไม่ควรจะถาม แต่ก่อนหน้านี้ในสนามรบฉันเห็นคุณได้ใช้พลังจิตในการอ่านความคิดของมิราจไนท์ เพราะอะไร!?”ไอซ์แมนกล่าวถามออกมา

 

ในตอนที่มิราจไนท์ถูกฮัลค์ชัดจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและหมดสติ ไอซ์แมนเห็นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ใช้พลังจิตในตอนนั้นในการอ่านความคิดของมิราจในท์

 

อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์ชาร์ลส์ในตอนนั้นสัมผัสได้ว่ามิราจไนท์กําลังฟื้นขึ้นมาดังนั้นเขาจึงถอนพลังจิตของตนเองออก แน่นอนว่าตอนนั้นแจ็คไม่ได้รู้สึกไปเองเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังจิตที่แข็งแกร่ง ซึ่งก็ไม่สามารถตรวจสอบได้

 

นอกเหนือจากแจ็คแล้ว ไอซ์แมนก็รู้ทันทีว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ลงมือทําอะไรบางอย่าง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสงสัยและได้มาถามศาสตราจารย์ชาร์ลส์โดยตรง

 

“โรเบิร์ตนายรู้จักมิราจไนท์มากน้อยแค่ไหน?”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวถาม

 

“ก็พอสมควร มิราจในท์ถือเป็นพันธมิตรที่ดีเขาควรค่าแก่การคบหาเป็นเพื่อน!”ไอซ์แมนตอบกลับอย่างไม่ลังเล

 

อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่ได้ยินคําตอบของไอซ์แมนเขาสั่นศีรษะเล็กน้อย”นายไม่ได้รู้จักเขาดีเลยแม้แต่น้อย ด้านที่เขาแสดงให้พวกเราเห็นจะเรียกว่าเป็นอีกด้านนึ่งของเขาก็ได้ ดังนั้นนายจึงไม่รู้จักมิราจไนท์อย่างแท้จริง”

 

“นี่”ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์จิตใต้สํานึกของไอซ์แมนแทบจะสั่งให้เขาตะโกนโต้แย้งออกมา

 

แท้จริงแล้วไอซ์แมนก็เป็นอย่างที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ว่าเขาไม่ได้รู้จักมิราจในท์จริงๆ เบื้องหลังหน้ากากนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นใบหน้านั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ไอซ์แมนจะไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของมิราจในท์

 

“นี่คุณกําลังบอกว่าเขาไม่ใช่คนที่ควรคบหางั้นหรอ?ไม่ใช่ว่าพวกเราทีมX-MEN ได้ร่วมมือกับเขาในการเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันและร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันหรือไม่?การอ่านความคิดของพันธมิตรตนเอง คุณไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทําหรอกหรอ?”ไอซ์แมนกล่าวความคิดของตนเองออกมา

 

“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น สิ่งที่ฉันต้องการจะบอกนายก็คือตัวตนในชีวิตจริงๆ ของมิราจไนท์ พวกเราไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับเขาเลยสักอย่าง สิ่งที่พวกเรารู้จักจริงๆ ก็คือด้านดีที่เขาแสดงให้เห็น มิราจไนท์ในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก”

 

“แล้ว…”

 

“คุณคิดว่ามิราจไนท์น่าสงสัยอย่างงั้นหรอ?”

 

“ปาวเลย สิ่งที่พวกเราทุกคนไม่รู้อาจจะเป็นความลับบางอย่างที่สําคัญที่สุดของเขา ยกตัวอย่างเช่น เขามีความสามารถในการคาดการณ์อนาคตบางอย่าง และเป็นตัวตนที่คอยขจัดและลําดับสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ได้ สิ่งที่ฉันอธิบายไปนายอาจจะไม่เข้าใจ แต่จริงๆแล้วฉันรู้เกี่ยวกับมัน” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา

 

“ดังนั้นฉันจึงไม่ได้ต้องการขัดขวางเรื่องที่เขาเป็นพันธมิตร และคู่ควรแก่การคบหา แต่มันจะดีกว่าหากเราสามารถทราบสถานะที่แท้จริงของเขา ฉันคิดว่านายควรจะถามหาเขาตรงๆ”

 

“ฉันคิดว่านี่ควรไม่มีปัญหาอะไร มิราจไนท์น่าจะยินดีที่จะบอกเรา”ไอซ์แมนเปิดปากพูด

 

“การดําเนินการของฉันในตอนนั้นได้ถูกตรวจพบโดยมิราจในท์ ดังนั้นฉันจึงรีบถอนพลังจิตออกมา” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวพูดขึ้น

 

” หืม?ถูกตรวจพบ?”ได้ยินว่าความสามารถอ่านใจของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ถูกตรวจจับได้ ไอซ์แมนรู้สึกตกใจอย่างมาก

 

“อย่าได้ประเมินตัวตนของเขาต่ําเกินไป มิราจไนท์ถือเป็นบุคคลที่ค่อนข้างลึกลับที่เดียว”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ

 

“เขา…”

 

“แม้ว่ามิราจในท์จะรู้ว่าเป็นฝีมือฉัน แต่เขากลับไม่ได้พูดมันออกมา บางทีเขาอาจกําลังรอให้ฉันไปหาเขาและถามเรื่องทั้งหมดด้วยตนเอง”เห็นไอซ์แมนกําลังสงสัย ศาสตราจารย์ชาร์ลสพยักหน้าและยิ้มพูด

 

ณจะไปกับฉันไหม?”ไอซ์แมนกล่าวออกมา

 

เพราะในความคิดของไอซ์แมนหากมิราจในท์รู้เรื่องที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์อ่านจิตใจของตนเองจริง บางทีความสัมพันธ์ของพวกเขาอาจจะลดลง ไอซ์แมนไม่ต้องการให้พวกเขามีความขัดแย้งต่อกัน

 

“สบายใจเถอะ มิราจในท์ไม่ใช่บุคคลที่ขาดการพิจารณา เขาอาจจะสามารถคาดเดาได้อยู่ก่อนแล้วก็ได้ว่าพวกเราต้องการอะไร” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์คาดเดาความคิดของไอซ์แมนได้ เขาพูดขึ้น

 

“ในปัจจุบันพวกเรายังมีเรื่องอื่นที่ต้องทําก่อน เอริคได้พบควิกซิลเวอร์ และสกาเล็ต วิช แล้วเราจะไปหาเขาหลังจากที่เราเคลียธุระพวกนี้เสร็จสิ้น”

 

“เข้าใจแล้วศาสตราจารย์”

 

Related

ตอนที่ 658 ปัญหาของแต่ละฝ่าย

 

ด้านนอกห้องรักษษ โทนี่ และ ปีเตอร์ เห็นแจ็คสันขยับปากพึมพัมอะไรบางอย่าง ก่อนหน้านี้แต่พวกเขาไม่ได้ยินเสียง แน่นอนว่าพวกเขารู้ว่าแจ็คสันได้พูดอะไรบางอย่างกับ J.A.R.V.I.S และบทสนทนาของพวกเขาก็เหมือนจะไม่ใช่บทสนทนาที่เรียบง่ายทั่วไป

 

” J.A.R.V.I.S นายพูดอะไรกับ แจ็คสัน เมื่อครู่?”เพราะความอยากรู้อยากเห็น โทนี่ หลังจาก เห็นแจ็คสันหลับตาลงเขาจึงเลือกกล่าวถาม J.A.R.V.I.S โดยตรง

 

“ไม่มีอะไรหรอกคับ แค่คําถามทั่วไป” หลังจากโทนี่กล่าวถาม J.A.R.VIS ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

ระบบหลักของ J.A.R.VIS ได้พัฒนาไปอีกขั้นสู่ความเป็นมนุษย์ ดังนั้นคําถามที่ไม่มีสลักสําคัญอะไร J.A.R.V.1.S คิดว่าไม่เป็นปัญหาที่จะไม่ตอบคําถามของโทนี่

 

“งั้นหรอ?”ได้ยินคําตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่รู้สึกสงสัยบางอย่าง

 

ก่อนหน้านี้ในช่วงที่แจ็คสันกําลังทําการรักษา เขาเห็นได้ชัดว่า J.A.R.V.I.S กับแจ็คสัน กําลังสนทนาอะไรบางอย่างอยู่จริง แต่ในเมื่อ J.A.R.VIS ตอบกลับเช่นนี้ โทนี่ก็ไม่ได้กล่าวถามอะไรอีก

 

“ระยะเวลาการรักษาดําเนินการอีก 1 ชั่วโมงถึงจะเสร็จสิ้น ตอนนี้ กระดูกของคุณแจ็คสันกําลังสมานตัวและเคลื่อนไหวปรับแต่งไปยังตําแหน่งที่เหมาะสม” เมื่อเห็นว่าโทนี่ไม่ได้กล่าวถามอะไรอีก J.A.R.V.I.S ได้รายงานสถานการณ์ตอนนี้

 

“อืม,ปล่อยให้แจ็คสันเข้ารับการรักษาต่อไป พวกเราไม่จําเป็นจะต้องไปรบกวนเขา”ได้ยินรายงานของ J.A.R.V.I.S โทนี ตอบกลับเบาๆ

 

” ครับเจ้านาย!”

 

“ปีเตอร์ เธอมากับฉัน ฉันได้ยินมาว่า เธอได้รู้เรื่องราวบางอย่างจากเดดพูล ในช่วงที่เขาหายตัวไปพร้อมกับแจ็คสัน ดังนั้น ฉันต้องการฟังเรื่องราวทั้งหมดที่เธอรู้ในวันนี้”เห็นว่าแจ็คสันต้องใช้เวลาสักพักในการรักษาตัวเอง โทนี่หันไปกล่าวกับปีเตอร์

 

“ครับ คุณสตาร์ค!”ได้ยินคําพูดของโทนี่ ปีเตอร์พยักหน้าตอบรับ

 

ตึก- ตึก

 

จากนั้นโทนี่และปีเตอร์ ก็ได้เดินออกจากห้องบําบัดแห่งนี้ ทิ้งไว้เพียงแจ็คสันที่นอนอยู่บนเตียง โดยมี J.A.R.V.1.S คอยเฝ้าตรวจดูสถานการณ์เอาไว้

 

ในขณะที่แจ็คสันกําลังนอนรักษาตัวอยู่บนเตียง ทางด้านกัปตันโรเจอร์ส ที่นําทีม K และ นาตาชา รวมทั้งดร.แบนเนอร์ กลับไปที่สํานักงานใหญ่ของ S.H.I.E.L.D. แต่ก็ติดที่ทางกองทัพต้องการตัวของสไตรเกอร์คืน ซึ่งกัปตันโรเจอร์สก็ไม่อยากมีปัญหาเขาจึงส่งมอบสไตรเกอร์ให้ทางกองทัพไป

 

แม้ว่ากัปตันโรเจอร์สจะยอมความง่ายขนาดนี้ แต่ทางกองทัพเองก็รู้ตัวเองดีเช่นเดียวกัน องค์กร S.H.I.E.L.D. ภายใต้การนําของกัปตันโรเจอร์สได้มีความแข็งแกร่งเหนือกว่ากองทัพสหรัฐดังนั้นหากกัปตันโรเจอร์ส เลือกที่จะไม่ส่งมอบสไตรเกอร์ให้พวกเขาก็คงต้องจําใจแบกหน้ากลับ แต่ถึงแม้กัปตันโรเจอร์สจะส่งมอบสไตรเกอร์กลับไปให้เขาก็ให้ทางกองทัพจ่ายค่าราคาอย่างเหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ทางองค์กร S.H.I.E.L.D. ยังมีข่าวดี นั่นก็คือการเข้าร่วมของดร.แบนเนอร์นั่นเอง

 

“ดรแบนเนอร์ ฉันรู้สึกมีความสุขมากที่คุณเลือกที่จะเข้าร่วมองค์กร S.H.E.I.L.D. ของเรา ฉันให้คํามั่นเลยว่าไม่ว่าคุณต้องการจะทดลองหรือวิจัยอะไร ตราบเท่าที่องค์กร S.H.I.E.L.D. ของเราสนับสนุนคุณได้ เราจะให้การสนับสนุนคุณทุกอย่าง นาตาชา พาดร.แบนเนอร์ ไปเยี่ยมชมรอบๆสํานักงานใหญ่ของเราหน่อย” กัปตันโรเจอร์สกล่าวบอกดร.แบนเนอร์และนาตาชา

 

“กัปตันโรเจอร์ส ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนที่น่าเชื่อถือ ดังนั้นเมื่อฉันเลือกทางเดินนี้แล้วฉันจะไม่หลบซ่อนตัวอีกต่อไป”ดร.แบนเนอร์ พูดอย่างจริงจัง

 

เพื่อควบคุมฮัลค์ภายในร่าง ดร.แบนเนอร์ได้หลบซ่อนตัวเป็นระยะเวลาหลายปี ทั้งตัดความสัมพันธ์กับครอบครัว และคนอื่นๆ ธรรมชาติไม่ใช่เพราะเขาต้องการแต่มันจําเป็น ในฐานะนักวิทยาศาสตร์คนนึงที่มีความสามารถระดับโลก ดร.แบนเนอร์มีงานวิจัยอันตราย จํานวนมากที่ต้องศึกษาและทดลอง

 

ได้ยินคําพูดของ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สยิ้มออกมา” จริงสิ ดร. ตอนนี้คุณต้อองการอะไรหรือไม่?”

 

“สิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดตอนนี้ไม่ใช่การทดลองหรืออะไรบางอย่าง ฉันแค่ต้องการความร่วมมือจาก โทนี่ สตาร์ค กว่าหลายปีที่ผ่านมาฉันได้เคยร่วมงานกับเขา และในช่วงนั้นฉันได้ยอมรับความสามารถว่าเขาเป็นคนนึงที่ฉันควรค่าแก่การชื่นชม”

 

“ต้องการความร่วมมือจากโทนี่? ฉันคิดว่าหากนี่เป็นความต้องการของคุณเอง โทนี่ย่อมไม่ปฏิเสธ” กัปตันโรเจอร์สไม่คิดว่า โทนี่จะปฏิเสธข้อเสนอที่ดีเช่นนี้แน่นอน

 

เพราะก่อนหน้านี้ โทนี่คาดหวังให้ ดร.แบนเนอร์กลับมามาก แต่เพราะเหตุผลเรื่องมิราจไนท์ ทําให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาอาจจะไม่เหมือนเดิม แต่ก็ไม่ถึงขั้นแตกหักกัน ดังนั้นพอมิราจไนท์หายดีแล้ว กัปตันโรเจอร์สเชื่อว่าโทนี่ย่อมไม่ติดความอะไรเรื่องของดร.แบนเนอร์อีก

 

“นอกจากนี้ ฉันต้อองการห้องแลปส่วนตัว ยังรวมถึงเขตอํานาจในการเข้าพื้นที่ข้อมูลขององค์กร S.H.I.E.L.D. ด้วย หวังว่าเรื่องนี้คงจะไม่เป็นปัญหาสําหรับคุณนะ กัปตันโรเจอร์ส”ดร.แบนเนอร์ ได้ขอสิ่งเริ่มต้นที่เขาต้องการ

 

“แน่นอนไม่มีปัญหา!”

 

ทางด้านโรงเรียนเซเวียร์ ทีมX-MEN หลังจากจบการต่ออสู้ พวกเขาได้กลับมาที่สํานักงานใหญ่ในทันที

 

ฟุบ!

 

ไอซ์แมนได้เดินอยู่บนทางเดินพร้อมกับเตรียมจะเคาะห้องประตูใต้ดินที่ถูกปิดไว้ แต่ดูเหมือนมันจะถูกเปิดออกพร้อมกับเผยร่างของหญิงสาวผมสีเงิน

 

“ไอซ์แมน?นายมหาศาสตราจารย์งั้นหรอ?”ตรงทางเข้า สตอร์มได้กล่าวทักทายไอซ์แมน

 

“ยืมเฉันมีธุระเล็กน้อย”ไอซ์แมนพยักหน้าตอบ

 

“งั้นฉันขอตัวก่อน”ได้ยินคําตอบของไอซ์แมน สตอร์มเลือกที่จะเดินจากไป

 

“ไอซ์แมน มาแล้วงั้นหรอ” หลังจากสตอร์มออกไป เสียงของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ดังขึ้น

 

ฟุบ!

 

ได้ยินเสียงของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไอซ์แมนได้ผลักประตูเดินเข้าไปทันที

 

Related

ตอนที่ 657 บําบัดรักษา

 

ฟุบ!

 

หลังจากข้ามประตูมิติเวทมนตร์มา เดดพูลก็เหยียบลงบนพื้นภายในฐานของพวกเขาแต่สิ่งที่เดดพูลรู้สึกแปลกใจก็คือเขามองไปรอบๆ กลับไม่พบมิราจในท์ และสไปเดอร์แมน

 

“เดี๋ยวนะ? ไม่ใช่ว่าพวกนายกลับมาพร้อมกันหรอกหรอ แล้วมิราจไนท์และสไปเดอร์แมนไปไหนละ นอกจากนี้ นายไปเรียนเวทมนตร์พวกนี้มาจากไหนกัน?” พอไม่เห็นมิราจในท์และสไปเดอร์แมน เดดพูลกล่าวถามแจ็คทันที

 

“มิราจไนท์ได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ ได้ไปรักษาตัวกับ โทนี่ สตาร์ค ไอรอนแมน เพราะเครื่องมือทางการแพทย์ของพวกเราไม่เพียงพอต่อการรักษาเขาสไปเดอร์แมนก็ติดตามไปด้วย ส่วนฉัน ฉันได้ออกไปศึกษาเวทมนตร์พวกนี้เกี่ยวกับมันฉันไม่สามารถพูดออกมาได้เพราะมันเป็นความลับ”แจ็คอธิบายให้เดดพูลฟัง

 

“นายไปเรียนพวกนี้จากพวกพ่อมดพวกนั้นงั้นหรอ?ทําไมช่วงเวลาที่ฉันหายไปถึงไม่พบเจอประสบการณ์ที่ดีเช่นนี้บ้าง” เดดพูลพึมพัมออกมา

 

เพราะเดดพูล และ แจ็คสัน เพิ่งกลับมาถึงโลกได้ไม่นาน พวกเขาก็ต้องมารับมือกับ พวกคิลเลี่ยนอีก เดดพูลไม่มีเวลามากพอที่จะบอกกล่าวประสบการณ์ที่เขาไปเยือนต่างโลกมาแล้ว ดังนั้นเมื่อเห็นว่าตนเองไม่มีประสบการณ์ดีๆ นอกจากเรื่องนี้ เขาก็อยากจะอวดเรื่องนี้ให้คนอื่นๆรู้

 

“เดี๋ยว นายหายไปไหนมา? จริงสิ นายกับมิราจในท์ หายไปไหนมางั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของเดดพูล แจ็คกล่าวถามในทันที

 

“มันก็ค่อนข้างซับซ้อนพอสมควร..”เดดพูลอมยิ้มเล็กน้ออย

“ดูจากหน้าตานายแล้ว ดูเหมือนช่วงเวลาที่นายหายตัวไปหลายวัน คงจะมีเรื่องที่น่าจดจําเกิดขึ้นสินะ?”แจ็คกล่าวถามอีกครั้ง

 

“ถ้าอยากรู้มากขนาดนั้นฉันจะเล่าให้ฟังก็ได้ ในตอนนั้นช่วงที่เรากําลังเผชิญหน้ากับพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสของ คิลเลี่ยน สกาย’ อายได้บอกให้ฉันไปตรวจสอบตําแหน่งของมิราจในท์ที่หายไป จากนั้นฉันก็ไปพบอุโมงค์ประตูมิติอวกาศ” เดดพูลเริ่มนิ้วอารมณ์และพูดสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่ม

 

“เดี๋ยวนะ นายพาเขามาที่ฐานของเราด้วยงั้นหรอ?”มองไปที่พื้นซึ่งก็คือบุคคลนิรนามแจ็คกล่าวถามออกมา

 

“แจ็ค! นาย!” ถูกขัดอารมณ์โดยแจ็ค เดดพูลรู้สึกอุ่นเคืองอย่างมาก

 

“ฉันลืมตัว ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแต่เห็นเขาบาดเจ็บก่อนจะเข้ามายังที่นี่ฉันจึงแบกเขาเข้ามาด้วย”เดดพูลกล่าวตอบทันที

 

“สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่โรงพยาบาลมันคือฐานลับของพวกเรา เมื่อมิราจในท์กลับมาฉันหวังว่า คนคนนี้จะไม่ตื่นขึ้นมาอีกทุกกรณี”แจ็คกล่าวพูด

 

“ชั่งเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง ฉันพูดถึงไหนแล้วนะ อุโมงค์มิติอวกาศ..”เดดพูลเริ่มบิ้วอารมณ์อีกครั้ง

 

หลังจากผ่านช่วงที่เดดพูลแบกคนนิรนามกลับไปยังฐานลับของที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ ทางด้านแจ็คสัน ภายใต้การช่วยเหลือของ J.A.R.V.I.S เขาได้นอนรักษาตัวอยู่บนเตียงพิเศษของสตาร์คอินดัสตรี

 

แม้ว่าแจ็คสันจะสามารถใช้แต้มคะแนนเพื่อแลกสิ่งของในการฟื้นคืนอาการบาดเจ็บของตนเองได้แต่เขาก็ไม่เลือกที่จะทําเพราะมันจะเป็นการสูญเสียมากเกินไป ดังนั้นเขาว่าจะเก็บมันไว้ใช้ในยามจําเป็น

“แจ็คสัน คุณกําลังคิดอะไรอยู่งั้นหรอครับ? ผมตรวจพบคลื่นสมองของคุณที่ส่งคลื่น รัวแบบผิดปกติ”ในขณะที่ทําการรักษา J.A.R.V.IS ก็พูดขึ้น

 

“ฮ่าฮ่า ไม่มีอะไร J.A.R.VIS ดูเหมือนนายจะเริ่มเหมือนมนุษย์มากขึ้นทุกทีแล้วนะ”ได้ยินคําพูดของ J.A.R.V.I.S แจ็คสันยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“มันไม่ดีงั้นหรอครับ?”J.A.R.V.S กล่าวถามออกมา

 

“ไม่ใช่มันไม่ดี แต่ฉันแค่เป็นห่วงนิดหน่อย!”ในพล็อตเรื่องในภาพยนตร์ความใกล้เคียงมนุษย์ของ J.A.R.V.I.S คือวิวัฒนาการที่แข็งแกร่ง มันสามารถสร้างเหตุการณ์ในหลายๆความหมายได้

 

“กังวล?คุณกังวลเกี่ยวกับอะไรงั้นหรอครับ?หรือว่าคุณกังวลว่าปัญญาประดิษฐ์จะใช้ความฉลาดในการสร้างปัญหาให้กับมนุษย์?”ได้ยินคําพูดของแจ็คสัน J.A.R.V.I.S กล่าวถามอีกครั้ง

 

หากการวิวัฒนาการเป็นแบบนี้ต่อไป สมองเอไอของ J.A.R.VIS สามารถพัฒนาไปเป็นเหมือนสมองของมนุษย์ปกติได้และ สิ่งที่ J.A.R.V.1.S คาดเดาก็คือการพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ที่มากเกินไปอาจสามารถสร้างปัญหาให้กับมนุษย์ได้

 

“ไม่..ฉันไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่อีกแล้ว ท้ายที่สุดมันคงจะไม่เกิดขึ้น เพราะมีหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากมาย”ได้ยินคําพูดของ J.A.R.VIS แจ็คสันสั่นศีรษะทันที

 

“เปลี่ยนแปลง?คุณหมายถึงอะไร?” J.A.R.V.I.S ไม่เข้าใจคําพูดของแจ็คสัน

 

“ปาว…ไม่มีอะไร ว่าแต่ อีกนานแค่ไหนถึงจะเสร็จงั้นหรอ ฉันเริ่มรู้สึกคันแขนนิดหน่อยแล้ว”แจ็คสันได้เปลี่ยนหัวข้อคําถามทันที

 

“การรักษากําลังอยู่ในขั้นตอนสําคัญ ด้วยศักยภาพร่างกายที่แข็งแรงของคุณ อีกประมาณ 1 ชั่วโมงถึงจะเสร็จ” J.A.R.V.S ไม่ได้ซักถามต่อ เขากล่าวอธิบายตามหัวข้อคําถามของแจ็คสัน

 

จากนั้น แจ็คสันก็อยู่ภายใต้การรักษาของ J.A.R.V.I.S ในช่วงเวลานั้นแจ็คสันก็ได้ครุ่นคิดถึงประสบการณ์มากมายไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยังต่างโลกการเผชิญหน้ากับเรื่องที่ร้ายแรงต่างๆ และประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ในการเดินทางครั้งนี้ แจ็คสันก็ได้พบกับหนึ่งในตัวเอกของโลกมาร์เวลอีกคน ชื่อของเขาก็คือ ปีเตอร์ ควิลล์ หรือ สตาร์ลอร์ด

 

“ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าเราจะพบกันอีก สถานที่ต่อไปที่เราจะพบกันคงจะเป็นหนึ่งในดาวลึกลับสักดวงที่โคจรอยู่นอกโลกละมั้ง!”แจ็คสันได้ปิดตาทั้งสองข้างลงและเริ่มพักผ่อนจิตใจของเขา

Related

ตอนที่ 656 ออกจากสนามรบ

 

บรรยากาศแห่งมิตรภาพได้ดําเนินไปอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะ มิราจไนท์ไม่ได้ติดใจความของดร.แบนเนอร์ เรื่องทุกอย่างจึงจบลงด้วยดี

 

“พวกเราไปกันเถอะ บาดแผลของนายไม่สู้ดีนัก ต้องรีบทําการรักษาโดยด่วน” เห็นว่ากัปตันโรเจอร์สยังคงเข้าบทสนทนา โทนี่ จ้องมองไปที่ แจ็คสันและกล่าวบอก

 

ไม่นานจากนั้นกัปตันโรเจอร์สก็ได้นําทีม K,นาตาชา และ ดร.แบนเนอร์ จากไปด้วยเช่นเดียวกัน

 

“พวกเราเองก็ไปกันเถอะ”ได้ยินคําพูดของโทนี่ แจ็คสันเลือกที่จะปฏิบัติตาม

 

แจ็คสันได้หายตัวไปนานหลายวัน จนถึงปัจจุบันเขายังไม่ได้กลับบ้านเลย อาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้ก็ไม่สู้ดีอย่างมาก หากพ่อกับแม่เห็นเขาสภาพนี้ จะต้องเป็นห่วงมากแน่นอน

 

ทางด้านสมาชิกทีมX-MEN เขาได้กล่าวทักทาย มิราจไนท์ และ แจ็ค ตอนนี้ พวกเขารู้จักตัวตนของแจ็คว่าเป็นหนึ่งในผู้สืบเชื้อสายแรกเริ่มขอองโลกแล้ว แจ็คสันเองก็รู้สึกสนใจในเวทมนตร์ลึกลับที่แจ็คเรียนมาเหมือนกัน

 

“พวกคุณจะกลับไปนิวยอร์กใช่มั้ย !”เห็นมิราจในท์จ้องมองมาที่ตนเอง แจ็คเหมือนจะเข้าใจได้บางออย่าง

 

ประตูมิติเวทมนตร์ได้เปิดขึ้นที่เบื้องหน้าของมิราจไนท์ เมื่อเทียบกับประตูมิติอวกาศของบลิงก์แล้วประตูมิติเวทมนตร์ของแจ็คดูลึกลับกว่ามากด้านหลังประตูมิติเวทมนตร์คือฐานลับของที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

“ไปกันเถอะ! กลับนิวยอร์กกัน!”แจ็คสันตะโกนขึ้นอย่างมีความสุขก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในประตูมิติเวทมนตร์

 

ด้านหลังของแจ็คสันตามมาด้วยปีเตอร์และแจ็คต่อด้วยโทนี่ พวกเขาได้เข้าประตูมิติเวทมนตร์ไปทั้ง 4 คน จากนั้นประตูมิติเวทมนตร์นี้ก็หดตัวลงจนหายไปจากสายตาของพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

“ศาสตราจารย์ พวกเราเองก็ไปกันเถอะ! วันนี้มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นมากมายจริงๆ!” หลังจากที่พวกมิราจไนท์ไปแล้ว ไอซ์แมน ก็จ้องมองไปที่เศษซากปรักหักพังจํานวนมากและพูดกับศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

“อืม”ได้ยินคําพูดของไอซ์แมน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์พยักหน้าตอบ

 

ฟุบ!

 

จากนั้นบลิงก์ก็โบกมือขึ้นช่องว่างประตูมิติอวกาศสีม่วงได้ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าขอองสมาชิกทีมX-MEN จากนั้นพวกเขาทุกคนก็เดินหายเข้าไปข้างในหลงเหลือไว้เพียงซากปรักหักพังจํานวนมากและทหารเปลี่ยร่างที่หมดสภาพเหล่านี้

 

หลังจากที่พวกแจ็คสันและศาสตราจารย์ชาร์ลส์จากไปเงาร่างของคนคนนึงก็เดินกลับมาที่สนามรบอีกครั้งสีหน้าของเขาดูผิดปกติอย่างมาก

 

“อะไรวะเนี่ย! f ~~ k! หายไปไหนกันหมด!” เดดพูลจ้องมองไปที่ภูมิภาคแห่งนี้และระเบิดเสียงตะโกนออกมา

 

เพื่อหลีกเลี่ยงสมาชิกทีมX-MENเดดพูลได้หลบหนีออกจากสนามรบชั่วคราวเขาตั้งใจว่าจะรอให้พวก ทีมX-MEN จากไปก่อนและค่อยเข้าไปหาพวกมิราจในท์ แต่เขาไม่คิดเลยว่า พวกมิราจไนท์จะจากไปจากที่นี่โดยไม่รอตนเอง

 

จากนั้นเดดพูลก็เดินไปยังกลางเศษซากปรักหักพัง

 

เขาเดินวนรอบสนามรบให้มากที่สุดเพราะความเบื่อหน่าย ก่อนหน้านี้เขารีบเร่งมายังสถานที่แห่งนี้แต่ได้แต่เฝ้ามองสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ ดังนั้นสิ่งนี้จึงทําให้เขารู้สึกเซ็งอย่างมาก

 

หลังจากกวาดสายตาไปทั่วสนามรบ เดดพูลก็มองเห็นศพที่เท้าจํานวนมากไม่ว่าจะเป็นศพที่ถูกเศษซากขนาดยักษ์ทับตายหรือไม่ก็โดนเผาตายผลลัพธ์ของการต่อสู้ย่อมมีเจ็บและล้มตายนี่คือสงครามมันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแม้แต่น้อย

 

“เพื่อนเอ๋ยขอให้พวกนายหลับสบายเถอะน!” เดดพูลกล่าวออกมา

 

จากนั้นเดดพูลก็เข้าไปนั่งบนเศษซากปรักหักพังก่อนที่เขาจะหยิบอะไรบางอย่างออกมา

 

“ฟูวเยังอยู่ ฉันจะต้องรีบติดต่อ สกาย” อาย ให้เขามารับฉัน”เดดพูลได้หยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมาพร้อมกับเริ่มติดต่อไปยังฐานที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

ติ๊ด

 

“สกาย’อาย นี่ฉันเอง เดดพูล ฉันยังติดอยู่ในวอชิงตัน นายพอจะช่วยมองหาทางกลับให้ฉันหน่อยได้มั้ย? “เดดพูลกล่าวออกมา

 

“ได้เดี๋ยวคุณรอเดี๋ยว!”ได้ยินคําพูดของเดดพูล เจอร์รี่ ตอบกลับเล็กน้อยก่อนที่จะตัดสายไป

 

“เฮ้อ…ก็ว่าอยู่ว่าลืมอะไร ลืมนายไปนั่นเอง เดดพูล” ขณะนั้นเองก็มีเสียงลึกลับดังมาจากด้านหลังของเดดพูล

 

เดดพูลได้รีบหันไปจ้องมองทิศทางที่ด้านหลังของเขาประตูมิติเวทมนตร์สีทองได้ปรากฏออกมาจากอากาศบาง ๆ

 

“แจ็ค!”เห็นประตูมิติเวทมนตร์ เดดพูล เห็นด้านหลังคือฐานของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ และ แจ็ค ยืนอยู่

 

“ฉันมารับนายหนะ!”แจ็คกล่าวออกมาพร้อมกับคงสภาพประตูมิติเวทมนตร์เอาไว้

 

“โอ้ว!”ได้ยินคําพูดของแจ็ค เดดพูล ได้ดีดตัวลุกขึ้นพร้อมกับนําร่างของคนคนนึงที่อยู่ใต้เท้าที่ดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่แบกไปด้วยก่อนที่เขาจะรีบพุ่งไปที่ด้านหลังของเขาทันที

 

ฟุบ!

 

จากนั้นเดดพูลก็เดินหายไปเข้าในประตูมิติเวทมนตร์

 

Related

ตอนที่ 655 การทักทายของ ดร.แบนเนอร์

 

ฟุ่บ

 

เห็นเงาสี่คนเดินมาจากระยะไกล แจ็คสันพยายามพยุงตัวขึ้นอย่างเร่งรีบ

 

อั๊ก!

 

แต่ด้วยร่างกายที่กระดูกแตกหักจํานวนมากทําให้เขาผืนลุกได้อย่างยากลําบาก

 

ด้วยอาการบาดเจ็บที่สาหัสท้ายที่สุดแจ็คสันก็ไม่สามารถฝืนพยายามลุกขึ้นได้สําเร็จ

 

“มาให้ฉันช่วย!” เห็นลักษณะที่เป็นทุกข์ของมิราจไนท์ แจ็ค ที่อยู่ใกล้ ๆ ยื่นมือออกมาช่วยพยุงขึ้น

 

ภายใต้การสนับสนุนโดยอาศัยแขนของแจ็ค ในที่สุดแจ็คสันก็ยืนขึ้นได้สําเร็จ ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แน่นอนว่าอาการบาดเจ็บของเขาเป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นฟูให้หายดีดังนั้นแจ็คสันจึงพยายามสะกดข่มอาการเจ็บปวดเท่าที่เป็นไปได้

 

“ไม่เห็นจําเป็นต้องฝืนเลยแท้ ๆ !”โทนี่ที่เห็นแจ็คสันลุกขึ้นยืนได้อย่างยากลําบากเขาสั่นศีรษะเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปจ้องมองทั้ง 4 คน

 

ตึก ตึก!

 

ขณะที่แจ็คสันผืนลุกขึ้นยืน กัปตันโรเจอร์สเองก็เดินเข้ามาที่เบื้องหน้าของเขา ด้านหลังของเขาตามมาด้วย ดร.แบนเนอร์ ในปัจจุบัน ดร.แบนเนอร์ได้สวมชุดแต่งตัวเรียบร้อยดีด้วยรูปลักษณ์ที่ผอมบางของเขาแล้วมันยากที่จะเชื่อว่าแท้จริงเขาก็คือฮัลค์

 

จากนั้นก็ตามมาด้วย นาตาชา และก็ ปีเตอร์ พวกเขาทั้งหมดได้มารวมตัวกันเพื่อดูอาการของมิราจไนท์

 

“มิราจในท์ ฮ่าฮ่า ฉันรู้ว่าคุณจะต้องไม่เป็นอะไร!” ปีเตอร์ได้กระโดดเข้าไปหาแจ็คสันอย่างมีความสุข

 

“หืม?”เห็น ท่าที่สุภาพที่ สไปเดอร์แมนแสดงออก ดร.แบนเนออร์ จ้องมองไปที่ เขาอย่างประหลาดใจก่อนที่สายตาของเขาจะจดจ้องไปที่ร่างของมิราจไนท์

 

“อาการของแจ็คสันในตอนนี้ย่ำแย่มากฉันคิดว่าสถานการณ์คงจะยืดเยื้อออกไปอีกแน่ ๆ !”เห็นสีหน้าของแจ็คสันและการเข้าหาของกัปตันโรเจอร์สและคนอื่น ๆ โทนี่คิดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดบทสนทนาในตอนนี้

 

ฟุบ!

 

“มิราจไนท์ ฉันเป็นตัวแทนของ S.H..E.L.D. อยากจะกล่าวขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่รอให้ ดร.แบนเนอร์ เอ่ยปากพูดขึ้นก่อน กัปตันโรเจอร์สก้าวมาครึ่งก้าวด้านหน้าของมิราจไนท์และพูดขึ้น

 

ที่กัปตันโรเจอร์สเอ่ยปากขอโทษไม่ใช่เพราะว่านี่เป็นความผิดของฮัลค์เพียงอย่างเดียว มันผิดที่เขาด้วยที่เป็นคนดึงตัวของ ดร.แบนเนอร์กลับมาเพื่อสนับสนุนองค์กร S.H.I.E.L.D. ดังนั้นเรื่องนี้เองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา

 

ได้ยินคําขอโทษจากกัปตันโรเจอร์สแจ็คสันพยักหน้าเล็กน้อยในตอนนี้พวกเขาเป็นพันธมิตรกันไม่มีความจําเป็นต้องมากพิธีดังนั้น แจ็คสันจึงรับคําขอโทษง่าย ๆ โดยไม่ได้ติดค้างคาใจอะไร

 

“เขาคือ ดร. บรูซ แบนเนอร์ ?ไม่คิดเลยว่าชายวัยกลางคนคนนี้จะซ่อนสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอย่างบุคลิกฮัลค์เอาไว้”แจ็คสันจ้องมองไปที่ ดร.แบนเนอร์

 

เห็นมิราจในท์จ้องมองมาที่ตนเออง ดร.แบนเนอร์ ได้เดินออกไปข้างหน้า

 

“สวัสดี มิราจในท์! ฉัน บรูซ แบนเนอร์ ต้องขอโทษด้วยที่ฉันไม่สามารถควบคุมฮัลค์ได้และทําให้คุณได้รับบาดเจ็บ” ดร.แบนเนอร์กล่าวขอโทษ

 

แจ็คสันเองต้องการจะยื่นมือจับทักทายกับ ดร.แบนเนอร์ แต่เนื่องเพราะกระดูกแขนทั้งสองข้างของตนเองหักจึงไม่สามารถทําได้อย่างที่คิด

 

เห็นว่ามิราจไนท์พยายามจะยื่นแขนออกมาอย่างงุ่มง่าม ดร.แบนเนอร์ ได้กล่าวออกมาทันที” ขอโทษจริง ๆ ที่ฉันทําให้แขนของคุณหัก!”

 

“ไม่ ๆ… ไม่จําเป็นต้องขอโทษ!”ได้ยินคําขอโทษของ ดร.แบนเนอร์ แจ็คสันพยายามกล่าวห้ามอย่างเร่งรีบ

 

“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนจะเคลียปัญหากันจบแล้วสินะ มิราจไนท์ และ ฮัลค์ ในอนาคตพวกคุณก็ถือเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน ดังนั้นฉันหวังว่าพวกคุณจะเข้ากันได้ดี” เห็นมิราจไนท์ยอมรับคําขอโทษของ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สยิ้มออกมา

 

เห็นแจ็คสันยอมรับคําขอโทษ โทนี่ เองก็ไม่ได้พูดอะไร ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้สึกเหมือนว่าแจ็คสันรู้จักตัวตนที่แท้จริงของ บรูซ แบนเนอร์ มากกว่าเขาเสียอีก

 

เรื่องที่ฮัลค์อาละวาดในวันนี้ก็กลายเป็นหนึ่งวันที่ไม่จําเป็นจะต้องจดจํายังมีเรื่องอื่น ๆ อีกมากที่เขาควรจะรู้สึกกังวลตออนนี้

 

ขณะ ที่ ดร.แบนเนอร์ กําลังขอโทษ แจ็คสัน ศาตราจารย์ชาร์ลส์ได้เงียบตลอดช่วงการสนทนา ในช่วงที่พวกเขาพูดคุยกัน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้เปิดปากพูดขึ้นเลยเพียงแค่สังเกตุอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น

 

“โลกของเราดูเหมือนจะไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเราคิด! เหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือคนที่แข็งแกร่งก็ยังมีคนที่แข็งแกร่งกว่า”ในปัจจุบัน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กําลังครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

 

เทียบกับทหารเปลี่ยนร่างเหล่านั้นฮัลค์มีความแข็งแกร่งที่แท้จริงอีกทั้งความแข็งแกร่งนั้นยังยากที่จะประเมินเป็นตัวเลขได้ ไม่ว่าอย่างไรความแข็งแกร่งทางพละกําลังทางกายก็มีข้อเสียน้อยที่สุดในยามเกิดเหตุไม่คาดฝันจริงๆ

 

“ดร.แบนเนอร์ นี่คือศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เขาเป็นผู้นําของ ทีมX-MEN เป็นพันธมิตรขององค์กรS.H.E.L.D. เรา!” ขณะนั้นเองกัปตันโรเจอร์สก็กล่าวแนะนําให้ ดร.แบนเนอร์ รู้จัก ศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

“ยินดีที่ได้รู้จัก ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ฉันได้ยินเรื่องของคุณมานานแล้ว ทัศนคติของคุณที่ต้องการสร้างโลกที่มนุษย์ธรรมดาสามารถอยู่ร่วมกับเหล่ามิวแทนที่ได้อย่างสงบสุขนั้น ฉันรู้สึกชื่นชอบจริงๆ!”

 

“ฉันเองก็รู้สึกยินดีที่ได้พบคุณ ดร.แบนเนอร์”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ยิ้มกล่าวตอบ

 

Related

ตอนที่ 654 ความเป็นห่วงของโทนี่

 

ได้ยินคําพูดของ โทนี่ กัปตันโรเจออร์ส และ ดร.แบนเนอร์ สามารถคาดเดาได้ในทันที

 

“มิราจไนท์ เขาฟื้นแล้วงั้นหรอ?” กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามออกไป

 

“อืม มิราจในท์ เขาฟื้นแล้ว!” คราวนี้เป็นปีเตอร์ที่ตอบแทนเขาเองก็ได้รับข่าวจากแจ็คเมื่อไม่นานนี้

 

“เรื่องอื่น ๆ ค่อยว่ากันเอาเป็นว่าไปดูสถานการณ์ของเขาตอนนี้ก่อนแล้วกัน”โทนี้ไม่ได้สนใจกัปตันโรเจอร์สเขาได้บินขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง

 

ฟุบ!

 

โทนี่ได้จากไปจากพื้นที่ตรงนี้อย่างรวดเร็ว

 

“เอ่อ..”เห็นโทนจากไปด้วยความเร็ว ปีเตอร์ รู้สึกอับจนคําพูด

 

“กัปตันโรเจอร์สคุณจะไปกับฉันไหม?”ปีเตอร์ได้กล่าวถามกัปตันโรเจอร์ส

 

ได้ยินคําพูดของสไปเดอร์แมน กัปตันโรเจอร์ส ยิ้มออกมา ก่อนที่จะเดินไปจับไหล่ทั้งสองข้างของสไปเดอร์แมน เขารู้ดีว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีที่ที่ให้สไปเดอร์แมนใช้สิ่งก่อสร้างในการช่วยบินดังนั้นเขาจึงต้องการหยอกล้ออีกฝ่าย

 

“ขอบคุณสไปเดอร์แมน!” กัปตันโรเจอร์สยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“เอ่อ..ฉันไม่ได้หมายความแบบนี้เห็นท่าทีของกัปตันโรเจอร์ส ปีเตอร์ รีบกล่าวปฏิเสธในทันที

 

“ฮ่าฮ่า ฉันล้อเล่น ยังไงพวกเราก็ไปกันเถอะ” หลังจากหยอกล้อสไปเดอร์แมนเพื่อลดความตึงเครียดเสร็จ กัปตันโรเจอร์ส ก็ออกตัวเดินออกไป

 

สําหรับ ดร.แบนเนอร์ เขาได้เดินตามไปอย่างเงียบ ๆ ในขณะนั้นเขาก็คิดไตร่ตรองถึงการเผชิญหน้ากับ กัปตันโรเจอร์ส และ ไอรอนแมน ทั้งยังมีเรื่องของ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ สถานการณ์ในปัจจุบันตึงเครียดอย่างมาก แต่เขาก็ไม่อาจหลีกหนีความรับผิดชอบนี้ได้

 

“โลกในตอนนี้ชั่งวุ่นวายจริงๆ! ฉันคิดถูกหรือไม่ที่เลือกที่จะกลับมาอีกครั้ง?”มองไปที่เศษซากปรักหักพังโดยรอบ ดร.แบนเนอร์ ครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

 

ขณะที่โทนี่กําลังกลับมา แจ็ค และ ไอซ์แมน ได้สังเกตุอาการปัจจุบันของ มิราจในท์ที่ฟื้นขึ้นมา

 

“มิราจในท์ ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง?”เห็นมิราจไนท์ตื่นขึ้นมา แจ็ค รีบกล่าวถามอย่างกระทันหัน

 

“ฉันรู้สึกเจ็บที่แขนและซี่โครงตรงอกนิดหน่อย ทั้งยังเวียนหัวนิด ๆ แต่ขอแค่ได้พักหลายวันฉันคิดว่าอาการน่าจะดีขึ้น”ได้ยินคําพูดของ แจ็ค แจ็คสันกล่าวตอบอย่างเรียบง่าย

 

การต่อสู้ของแจ็คสันในวันนี้ดาบของเขาได้แตกเป็นเสี่ยง ๆ เนื่องมาจากการรวบรวมพลังที่สร้างเป็นดาบขนาดยักษ์เพื่อทุบฮัลค์ แต่เดิมเขาคิดว่าตนเองได้ชนะฮัลค์ไปแล้วแต่เขากลับคิดผิด

 

ฮัลค์สามารถรอดพ้นจากการโจมตีนี้มาได้ทั้งยังพุ่งตรงมาหาเขาด้วยความเร็วจนตัวเองไม่มีเวลาตอบสนองได้ทัน การป้องกันในตอนนั้นเป็นร่างกายของตนเองล้วนๆที่แบกรับความเสียหายทั้งหมดหากเขาไม่มีสัญลักษณ์แห่งการป้องกันแจ็คสันเชื่อว่าตนเองคงบาดเจ็บหนักกว่านี้

 

การเผชิญหน้ากับฮัลค์ในวันนี้นี้ได้สอนหลายอย่างให้กับเขาไม่ว่าการประมาทคู่ต่อสู้หรือการผ่อนคลายในสนามรบ ดังนั้นแจ็คสันตั้งใจจะจํามันเป็นบทเรียน

 

“เห้อ! ก่อนหน้านี้ที่ฉันเห็นคุณถูกซัดลอยกระเด็นไปไกล ฉันรู้สึกกังวลมาก!”ได้ยินคําตอบของมิราจในท์ ไอซ์แมนที่อยู่ใกล้เคียงกล่าวพูดขึ้น

 

“ฮ่าฮ่า,ไอซ์แมนต้องทําให้คุณเป็นกังวล ฉันขอโทษจริง ๆ !”ในเวลานี้ แจ็คสันเองก็สังเกตุเห็นเหล่าสมาชิกทีม X-MEN คนอื่น ๆ ด้วยเหมือนกัน

 

“คุณปลอดภัยก็ดีแล้ว!”ไอซ์แมนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“จริงสิตอนนี้ โทนี่ สตาร์ค กับ สไปเดอร์แมน กําลังออกไปทวงความยุติธรรมให้กับคุณอยู่”แจ็คกล่าวพูดออกมา

 

“อะไรนะ?”ได้ยินคําพูดของแจ็ค แจ็คสัน กล่าวตอบอย่างประหลาดใจ

 

ในการต่อสู้กับฮัลค์ในวันนี้ เป็นเพราะแจ็คสันอยากรู้อยากลองและทดสอบความสามารถของตนเองดู ดังนั้น หากจะว่าตามผิด เขาเองก็มีส่วนเช่นเดียวกัน ดังนั้น เขาจึงไม่อยากให้โทนี่ และ ปีเตอร์ ไปหาเรื่องฮัลค์ โดยไม่จําเป็น

 

“หลังจากที่คุณถูกโจมตีโดยฮัลค์ ดูเหมือนเขาเองก็หายไปเช่นเดียวกัน”แจ็คกล่าวพูดออกมาหลังจากเห็นมิราจในท์ถูกชัดลอยไปไกลตอนนั้นจนถึงตอนนี้เขาไม่สามารถตรวจจับคลื่นพลังงานของฮัลค์ได้

 

“หายไป?”ได้ยินคําพูดของ แจ็ค แจ็คสันราวกับไม่ประหลาดใจ

 

เพราะฮัลค์ไม่ได้หายไป แต่กลับร่างเป็น ดร.บรูช แบนเนอร์ ดังนั้นในตอนนี้ โทนี่ และ ปีเตอร์ ก็ไม่น่าจะได้รับอันตราย ดังนั้นแจ็คสันจึงรู้สึกโล่งใจ

 

ช่วงเวลาที่แจ็คสันฟื้นขึ้นมาเขาได้พูดสนทนากับไอซ์แมนหลายคํารวมถึงศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ในที่สุดเสียงไอพ่นของชุดเกราะไอรอนแมนก็ดังเข้ามาใกล้พวกเขา

 

ฟูว!

 

ชุดเกราะไอรอนแมนได้ร่อนลงตรงหน้าของ แจ็คสัน ก่อนที่หน้ากากหมวกของชุดเกราะจะเปิดขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าของโทนี่

 

“มิราจไนท์ ตอนนี้ นายรู้สึกยังไงบ้าง?”โทนี่กล่าวถามอย่างรวดเร็ว

 

“ฉันไม่เป็นไร ร่างกายของฉันมีความสามารถฟื้นฟูตนเองที่ดี ดังนั้นแผลเล็กแค่นี้แค่ได้พักสักหน่อยก็น่าจะหายดี”แจ็คสันกล่าวตอบตามจริง

 

“อย่าได้พูดหน่อยเลย ก่อนหน้านี้ใครกันที่บอกว่าจะไม่ฝืนตนเอง?”ได้ยินคําพูดของแจ็คสัน โทนี่กล่าวพูดอย่างจริงจัง

 

“เป็นฉันที่ประมาทไป ฮัลค์นั้นแข็งแกร่งจริง ๆ! จริงสิ ได้ยินว่าเมื่อครู่คุณมอองหาเขาแล้วเจอหรือไม่?”เห็นหน้าตาที่จริงจังของโทนี่ แจ็คสันเปลี่ยนหัวข้อคําถาม

 

“เจอแล้ว เขาตั้งใจที่จะมาขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โทนี่กล่าวออกมา

 

ของโทนี่ แจ็คสันตอบกลับด้วยความประ

 

“ขอโทษ?เขาจะมาขอโทษฉันงั้นหรอ?”ได้ยิน หลาดใจ

 

“พวกเขามานั้นแล้ว!”

 

หลังจากนั้นโทนี่ก็แจ้งเตือนให้แจ็คสันสังเกตุไปยังทิศทางนึงที่มีเงาร่างทั้ง 4 เดินเคียงคู่กันมา

 

ได้ยินคําพูดของ โทนี่ กัปตันโรเจออร์ส และ ดร.แบนเนอร์ สามารถคาดเดาได้ในทันที

 

“มิราจในท์ เขาฟื้นแล้วงั้นหรอ?” กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามออกไป

 

“อืม มิราจในท์ เขาฟื้นแล้ว!” คราวนี้เป็นปีเตอร์ที่ตอบแทนเขาเองก็ได้รับข่าวจากแจ็คเมื่อไม่นานนี้

 

“เรื่องอื่น ๆ ค่อยว่ากันเอาเป็นว่าไปดูสถานการณ์ของเขาตอนนี้ก่อนแล้วกัน”โทนี่ไม่ได้สนใจกัปตันโรเจอร์สเขาได้บินขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง

 

ฟุบ!

 

โทนี่ได้จากไปจากพื้นที่ตรงนี้อย่างรวดเร็ว

 

“เอ่อ…” เห็นโทนี่จากไปด้วยความเร็ว ปีเตอร์ รู้สึกอับจนคําพูด

 

“กัปตันโรเจอร์สคุณจะไปกับฉันไหม?”ปีเตอร์ได้กล่าวถามกัปตันโรเจอร์ส

 

ได้ยินคําพูดของสไปเดอร์แมน กัปตันโรเจอร์ส ยิ้มออกมา ก่อนที่จะเดินไปจับไหล่ทั้งสองข้างของสไปเดอร์แมน เขารู้ดีว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีที่ที่ให้สไปเดอร์แมนใช้สิ่งก่อสร้างในการช่วยบิ นดังนั้นเขาจึงต้องการหยอกล้ออีกฝ่าย

 

“ขอบคุณสไปเดอร์แมน!” กัปตันโรเจอร์สยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“เอ่อ.ฉันไม่ได้หมายความแบบนี้ เห็นท่าทีของกัปตันโรเจอร์ส ปีเตอร์ รีบกล่าวปฏิเสธในทันที

 

“ฮ่าฮ่า ฉันล้อเล่น ยังไงพวกเราก็ไปกันเถอะ” หลังจากหยอกล้อสไปเดอร์แมนเพื่อลดความตึงเครียดเสร็จ กัปตันโรเจอร์ส ก็ออกตัวเดินออกไป

 

สําหรับ ดร.แบนเนอร์ เขาได้เดินตามไปอย่างเงียบ ๆ ในขณะนั้นเขาก็คิดไตร่ตรองถึงการเผชิญหน้ากับ กัปตันโรเจอร์ส และ ไอรอนแมน ทั้งยังมีเรื่องของ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ สถานการณ์ในปัจจุบันตึงเครียดอย่างมาก แต่เขาก็ไม่อาจหลีกหนีความรับผิดชอบนี้ได้

 

“โลกในตอนนี้ชั่งวุ่นวายจริงๆ! ฉันคิดถูกหรือไม่ที่เลือกที่จะกลับมาอีกครั้ง?”มองไปที่เศษซากปรักหักพังโดยรอบ ดร.แบนเนอร์ ครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

 

ขณะที่โทนี่กําลังกลับมา แจ็ค และ ไอซ์แมน ได้สังเกตุอาการปัจจุบันของ มิราจในท์ที่ฟื้นขี้นมา

 

“มิราจในท์ ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง?”เห็นมิราจไนท์ตื่นขึ้นมา แจ็ค รีบกล่าวถามอย่างกระทันหัน

 

“ฉันรู้สึกเจ็บที่แขนและซี่โครงตรงอกนิดหน่อย ทั้งยังเวียนหัวนิด ๆ แต่ขอแค่ได้พักหลายวันฉันคิดว่าอาการน่าจะดีขึ้น”ได้ยินคําพูดของ แจ็ค แจ็คสันกล่าวตอบอย่างเรียบง่าย

 

การต่อสู้ของแจ็คสันในวันนี้ดาบของเขาได้แตกเป็นเสี่ยง ๆ เนื่องมาจากการรวบรวมพลังที่สร้างเป็นดาบขนาดยักษ์เพื่อทุบฮัลค์ แต่เดิมเขาคิดว่าตนเองได้ชนะฮัลค์ไปแล้วแต่เขากลับคิดผิด

 

ฮัลค์สามารถรอดพ้นจากการโจมตีนี้มาได้ทั้งยังพุ่งตรงมาหาเขาด้วยความเร็วจนตัวเองไม่มีเวลาตอบสนองได้ทัน การป้องกันในตอนนั้นเป็นร่างกายของตนเองล้วนๆที่แบกรับความเสียหายทั้งหมดหากเขาไม่มีสัญลักษณ์แห่งการป้องกันแจ็คสันเชื่อว่าตนเองคงบาดเจ็บหนักกว่านี้

 

การเผชิญหน้ากับฮัลค์ในวันนี้นี้ได้สอนหลายอย่างให้กับเขาไม่ว่าการประมาทคู่ต่อสู้หรือการผ่อนคลายในสนามรบ ดังนั้นแจ็คสันตั้งใจจะจํามันเป็นบทเรียน

 

“เห้อ! ก่อนหน้านี้ที่ฉันเห็นคุณถูกซัดลอยกระเด็นไปไกล ฉันรู้สึกกังวลมาก!”ได้ยินคําตอบของมิราจในท์ ไอซ์แมนที่อยู่ใกล้เคียงกล่าวพูดขึ้น

 

“ฮ่าฮ่า,ไอซ์แมนต้องทําให้คุณเป็นกังวล ฉันขอโทษจริง ๆ !”ในเวลานี้ แจ็คสันเองก็สังเกตุเห็นเหล่าสมาชิกทีม X-MEN คนอื่น ๆ ด้วยเหมือนกัน

 

“คุณปลอดภัยก็ดีแล้ว!”ไอซ์แมนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“จริงสิตอนนี้ โทนี่ สตาร์ค กับ สไปเดอร์แมน กําลังออกไปทวงความยุติธรรมให้กับคุณอยู่”แจ็คกล่าวพูดออกมา

 

“อะไรนะ?”ได้ยินคําพูดของแจ็ค แจ็คสัน กล่าวตอบอย่างประหลาดใจ

 

ในการต่อสู้กับฮัลค์ในวันนี้ เป็นเพราะแจ็คสันอยากรู้อยากลองและทดสอบความสามารถของตนเองดู ดังนั้น หากจะว่าตามผิด เขาเองก็มีส่วนเช่นเดียวกัน ดังนั้น เขาจึงไม่อยากให้โทนี่ และ ปีเตอร์ ไปหาเรื่องฮัลค์ โดยไม่จําเป็น

 

“หลังจากที่คุณถูกโจมตีโดยฮัลค์ ดูเหมือนเขาเองก็หายไปเช่นเดียวกัน”แจ็คกล่าวพูดออกมาหลังจากเห็นมิราจในท์ถูกขัดลอยไปไกลตอนนั้นจนถึงตอนนี้เขาไม่สามารถตรวจจับคลื่นพลังงานของฮัลค์ได้

 

” หายไป?”ได้ยินคําพูดของ แจ็ค แจ็คสันราวกับไม่ประหลาดใจ

 

เพราะฮัลค์ไม่ได้หายไป แต่กลับร่างเป็น ดร.บรูซ แบนเนอร์ ดังนั้นในตอนนี้ โทนี่ และ ปีเตอร์ ก็ไม่น่าจะได้รับอันตราย ดังนั้นแจ็คสันจึงรู้สึกโล่งใจ

 

ช่วงเวลาที่แจ็คสันฟื้นขึ้นมาเขาได้พูดสนทนากับไอซ์แมนหลายคํารวมถึงศาสตราจารย์ชาร์ลส์ในที่สุดเสียงไอพ่นของชุดเกราะไอรอนแมนก็ดังเข้ามาใกล้พวกเขา

 

ชุดเกราะไอรอนแมนได้ร่อนลงตรงหน้าของ แจ็คสัน ก่อนที่หน้ากากหมวกของชุดเกราะจะเปิดขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าของโทนี่

 

“มิราจในท์ ตอนนี้ นายรู้สึกยังไงบ้าง?”โทนี่กล่าวถามอย่างรวดเร็ว

 

“ฉันไม่เป็นไร ร่างกายของฉันมีความสามารถฟื้นฟูตนเองที่ดี ดังนั้นแผลเล็กแค่นี้แค่ได้พักสักหน่อยก็น่าจะหายดี”แจ็คสันกล่าวตอบตามจริง

 

“อย่าได้พูดหน่อยเลย ก่อนหน้านี้ใครกันที่บอกว่าจะไม่ฝืนตนเอง?”ได้ยินคําพูดของแจ็คสันโทนี่กล่าวพูดอย่างจริงจัง

 

“เป็นฉันที่ประมาทไป ฮัลค์นั้นแข็งแกร่งจริง ๆ จริงสิ ได้ยินว่าเมื่อครู่คุณมอองหาเขาแล้วเจอหรือไม่?” เห็นหน้าตาที่จริงจังของโทนี่ แจ็คสันเปลี่ยนหัวข้อคําถาม

 

“เจอแล้ว เขาตั้งใจที่จะมาขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น”โทนี่กล่าวออกมา

 

“ขอโทษ?เขาจะมาขอโทษฉันงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของโทนี่ แจ็คสันตอบกลับด้วยความประหลาดใจ

 

“พวกเขามานั้นแล้ว!”

 

หลังจากนั้นโทนี่ก็แจ้งเตือนให้แจ็คสันสังเกตุไปยังทิศทางนึงที่มีเงาร่างทั้ง 4 เดินเคียงคู่กันมา

 

Related

ตอนที่ 653 ดร.แบนเนอร์ กล่าวขอโทษ

 

ได้ยินคําพูดเหล่านั้นจากปากของโทนี่ กัปตันโรเจอร์ส และ ดร.แบนเนอร์ เงียบไปครู่นึง เพราะกัปตันโรเจอร์สสังเกตุเห็นได้ถึงอารมณ์โกรธและท่าทางของโทนีที่รุนแรงมากขึ้น

 

“ไม่…ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ที่ฉันจะบอกก็คือสถานการณ์ในตอนนั้นมันไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นพวกเราเองก็หวังว่าจะช่วยให้มิราจไนท์ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น อันที่จริงฉันคิดว่าเราไม่ควรจําเหตุผลนี้มาทะเลาะกันเลย” กัปตันโรเจอร์สกล่าวอย่างจริงใจ

 

การได้รับการสนับสนุนจากไอรอนแมนโทนี่ และ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ถือเป็นกําลังพันธมิตรที่สําคัญสําหรับองค์กร S.H.I.E.L.D. ในการโจมตีพวกองค์กรก่อการร้ายต่าง ๆ เพื่อพัฒนาองค์กร S.H.I.E.L.D. ให้แข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก การสนับสนุนจากพวกเขาเป็นสิ่งสําคัญ

 

แน่นอนว่าความช่วยเหลือจาก ดร. บรูซ แบนเนอร์ เองก็เช่นเดียวกัน ท้ายที่สุดกําลังของพวกเขาทั้งสามอิทธิพลถือเป็นปัจจัยหลักที่ กัปตันโรเจอร์ส และ องค์กร S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้ขาดไม่ได้ ดังนั้นมันจะดีกว่ามากหากพวกเราเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันและญาติดีกันไว้

 

“เหอะ! เรื่องของมิราจไนท์ ฉันไม่ต้องการให้นายเข้ามายุ่ง ฉันจะดูแลเขาเอง!”ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ พูดออกมาอย่างเย็นชา

 

เมื่อเห็นอารมณ์ที่อึดอัดของโทนี่ กัปตันโรเจอร์ส ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เดิม มิราจไนท์ ก็คือฮีโร่ คนนึงที่ปกป้องบ้านเมืองให้สงบสุขการเผชิญหน้ากับอันตรายถือเป็นเรื่องปกติสําหรับเขา แต่กัปตันโรเจอร์สก็คงไม่อาจใช้เหตุผลนี้ในการพูดคุยกับโทนได้

 

ฟุบ!

 

เมื่อกัปตันโรเจอร์สเลือกที่จะเงียบด้านหลังของเขาก็ปรากฏ ดร.แบนเนอร์ เดินก้าวออกมา

 

“มิสเตอร์ โที่ สตาร์ค มันก็นานหลายปีแล้วคุณยังคงดูสง่าราศีเหมือนเดิม”เห็นชุดเกราะไอรอนแมนที่โทนี่สวมในปัจจุบัน ดร.แบนเนอร์ เริ่มแสดงท่าที่สุภาพ

 

“มันก็นานหลายปีแล้ว ดร. บรูซ แบนเนอร์ นายเองก็ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย!”เห็นดร.แบนเนอร์ ทักทายตนเอง โทนี่ เริ่มที่จะเหน็บแนมเรื่องที่ ดร.แบนเนอร์ ไม่สามารถควบคุมฮัลค์ได้

 

“โทนี่ สตาร์ค คราวนี้มันเป็นความผิดพลาดของฉัน ฉันยินดีที่จะรับโทษทั้งหมดไม่ว่าคุณจะสั่งให้ฉันทําอะไรฉันก็ยินดีรับฟังอย่างเต็มที่” ดร.แบนเนอร์ กล่าวอออกมา

 

คําขอโทษของ ดร.แบนเนอร์ ทําให้อารมณ์ของโทนี่เย็นลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เรื่องที่มิราจไนท์ได้รับบาดเจ็บจากฮัลค์ ก็เป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

 

ฟุบ!

 

“คุณสตาร์ค!” ขณะที่ ดร.แบนเนอร์ กล่าวขอโทษโทนี่ ด้านหลังของ ชุดเกราะไอรอนแมนโทนี่ ก็ปรากฏเสียงของสไปเดอร์แมนปีเตอร์

 

ตุบ!

 

ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ปีเตอร์ ก็กระโดดไปที่เบื้องหน้าของโทนี่เพื่อกั้นเขาออกทันที ปีเตอร์ จ้องมองไปที่บรรยากาศของโทนี่ กับ กัปตันโรเจอร์ส เขารู้สึกได้ถึงความกังวลของทั้งสองฝ่าย

 

“…” ถูกกันโดย ปีเตอร์ โทนี่ ที่อยู่ตรงข้ามกับ ดร.แบนเนอร์ ได้ส่งเสียง ที่ในลําคอ

 

การปรากฏตัวของสไปเดอร์แมนทําให้บรรยากาศโดยรอบเริ่มผ่อนคลายลงมาก โทนี่เองก็อารมณ์เดือดมากเกินไป เพราะเห็นสีหน้าที่ไม่สู้ดีของแจ็คสันทําให้สติของเขาขาดชั่วขณะ หากกัปตันโรเจอร์สไม่เข้ามาห้ามเอาไว้เขาคงจะฆ่า ดร.แบนเนอร์ ไปแล้วจริง ๆ แน่นอนว่า หากก่อนหน้านี้ ดร.แบนเนอร์ ออกมาขอโทษตั้งแต่ต้น โทนี่ ก็คงจะไม่ใช้มาตราการที่รุนแรงเช่นนี้

 

“กัปตันอเมริกา! เอ่อ สวัสดี แล้วนั่น เขาคือ?”ปีเตอร์จ้องมองไปยังทิศทางของกัปตันโรเจอร์สและ ดร.แบนเนอร์

 

ไม่ทันให้ กัปตันโรเจอร์ส อธิบาย ปีเตอร์ได้เปิดปากขึ้นอีกครั้ง

 

“หม?กางเกงนั่นใหญ่เป็นบ้า เขาสวมมันไว้งั้นหรอ?”ปีเตอร์พูดออกมา

 

“นายคือ..”เห็นการปรากฏตัวของสไปเดอร์แมนและจ้องมองมาที่ตนเอง ดร.แบนเนอร์ เปิดปากกล่าวถาม

 

“ฉันคือ สไปเดอร์แมน! สมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ นอกจากนี้ ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมิราจไนท์!” ปีเตอร์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

ตออนนี้ชื่อเสียงในปัจจุบันของสไปเดอร์แมนสูงมาก เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้จักตนเอง

 

“สไปเดอร์แมน! ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ เพื่อนสนิทของมิราจไนท์?”ได้ยินคําตอบของปีเตอร์ ในที่สุด ดร.แบนเนอร์ ก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา

 

“สไปเดอร์แมน! ฉันชื่อ บรูซ แบนเนอร์ เป็นนักชีววิทยาทางกายภาพ นอกจากนี้ฉันก็คือสัตว์ประหลาดตัวเมื่อครู่ที่ปรากฏตัวเมื่อไม่นานนี้” ดร.แบนเนอร์กล่าวอธิบาย

 

เพื่อการขอโทษไม่มีอะไรที่เขาจําเป็นต้องปิดบังกับเพื่อนสนิทขอองมิราจไนท์

 

ได้ยิน ดร.แบนเนอร์ กล่าวแนะนําตัวเอง ปีเตอร์ได้กระโดดถอยหลังไปด้วยความตกใจสัญชาตญาณในร่างของเขาราวกับร้องเตือนอ

 

“คุณก็คือ สัตว์ประหลาดนั้นจริง ๆ!”ในปัจจุบัน ปีเตอร์ดูหวาดระแวงชายวัยกลางคนคนนี้มาก

 

“ใช่เขาทําร้ายมิราจไนท์ และ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด นอกจากนี้ ถึงแม้ว่านายจะขอโทษแต่ฉันจะไม่รับฟังคําขอโทษของนายโทนี่ที่อยู่ด้านหลังกล่าวออกมา

 

“เขายินดีรับผิดทั้งหมดแล้ว โทนี่ นายเองก็ปล่อยวางได้แล้ว” กัปตันโรเจอร์สได้กล่าวพูดบอกโทน

 

ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส ทันใดนั้นเสียงของ J.A.R.VIS ก็ได้ดังขึ้นข้างหูของโทนี่ทันที

 

ได้ยินเสียงและผลลัพธ์จาก J.A.R.VIS โทนี่รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย

 

” ก็ได้ฉันยอมรับคําขอโทษ แต่คนที่ควรตัดสินใจในเรื่องนี้ไม่ใช่ฉัน!”

 

Related

ตอนที่ 652 ฟื้นคืนสติและการเผชิญหน้า

 

ฟุบ!

 

“คุณสตาร์ค!” เห็นสีหน้าที่โกรธเคืองของโทนี่ ปีเตอร์ รีบกล่าวกระตุ้นอย่างเร่งรีบ

 

แม้ว่าอาการบาดเจ็บของแจ็คสันจะรุนแรงมาก แต่ปีเตอร์ก็รู้ว่าแจ็คสันมีความสามารถในการฟื้นตัวเองที่สูง บาดแผลที่คนธรรมดาทั่วไปแทบจะไม่มีทางรักษาแจ็คสันสามารถฟื้นคืนมันได้เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลาหลายวันดังนั้นปีเตอร์จึงไม่ต้องการให้ โทนี่ เข้าไปสร้างปัญหากับ ฮัลค์

 

จ้องมองไปที่ลมหายใจที่มั่นคงของแจ็คสันในที่สุดปีเตอร์ก็ยืนขึ้นในที่สุด

 

“แจ็ค,ฝากดูแลมิราจไนท์ด้วย พวกเราจะรีบกลับมาทันที!”ไม่ต้องรอให้โทนี่เข้าไปหาเรื่องฮัลค์ ปีเตอร์ รีบกล่าวบอก แจ็คทันที

 

“สไปเดอร์แมน นายสบายใจเถอะ ฉันจะดูแลเขาเอง!”แจ็คตอบรับคําของสไปเดอร์แมน ก่อนที่สไปเดอร์แมนจะวิ่งพุ่งตัวออกไปไกล

 

หึ่ม!

 

ขณะที่โทนี่และปีเตอร์มุ่งหน้าไปยังทิศทางของ ดร.แบนเนอร์ กับ กัปตันโรเจอร์ส จู่ ๆ พื้นที่ความผันผวนทางมิติสีม่วงก็ปรากฏขึ้นข้าง ๆ แจ็ค

 

เมื่อรู้ว่าประตูมิติอวกาศนี้เป็นของคนในทีมX-MEN แจ็คไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะดูเหมือนอีกฝ่ายเองก็เป็นห่วงอาการของมิราจไนท์

 

ฟุบ!

 

ทันทีที่ประตูมิติอวกาศสีม่วงนี้ถูกเปิดออกเงาร่างของบุคคลนึงก็ปรากฏออกมาจากภายในทันที

 

“มิราจไนท์! คุณ…”เห็นสภาพของมิราจไนท์ที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นดินไอซ์แมนตะโกนออกมาอย่างกังวล

 

“เขาไม่เป็นไรมากใช่มั้ย?”ไอซ์แมนหันไปกล่าวถามแจ็คที่อยู่ใกล้ ๆ

 

ไอซ์แมนไม่มีความสามารถในการตรวจจับออร่าแห่งชีวิตดังนั้นเขาจึงไม่รู้สถานการณ์ของมิราจไนท์ตอนนี้ แต่เหตุการณ์สุดท้ายที่มิราจไนท์โดนฮัลค์อัดเข้าอย่างรุนแรงนั้นไอซ์แมนเห็นด้วยสองตาของตนเอง

 

“กระดูกแตกหักสมองได้รับการกระทบกระเทือนระดับปานกลาง แต่เขาปลอดภัยดี”ได้ยินคําถามของไซแมน แจ็ค รีบอธิบายตอบกลับ

 

นอกเหนือจากไอซ์แมนแล้ว สมาชิกคนอื่น ๆ ของทีมX-MEN ที่ตามมาเองก็ได้ยินเช่นเดียวกัน พวกเขากับมิราจไนท์ถือเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน เมื่อพวกพ้องได้รับบาดเจ็บเป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะรู้สึกกังวล

 

“งั้นเหรอ..อาการแตกหัหักของกระดูกและผลกระทบกระเทือนทางสมองถือเป็นอาการบาดเจ็บเล็กน้อย สําหรับมิราจไนท์ ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องไม่เป็นอะไร”ไอซ์แมนกล่าวออกมาอย่างผ่อนคลาย

 

“อืมเขาควรจะฟื้นขึ้นมาในเร็วๆนี้”แจ็คพยักหน้าเห็นด้วย

 

เมื่อแจ็คพูดคําเหล่านี้ออกมาเสร็จเขาก็สัมผัสได้ถึงคลื่นความผันผวนทางจิตวิญญาณที่คลุมเคลือเมื่อแจ็คมองหาตําแหน่งของคลื่นเหล่านี้ในทันทีแต่เขาก็ไม่สามารถสัมผัสตําแหน่งที่มาของมันได้

 

“หืม?ฉันรู้สึกไปเองหรือไม่?”แจ็คครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

 

ฟุบ!

 

เมื่อแจ็คคิดว่าตนเองเข้าใจผิดไปเขาก็ปล่อยวางและจ้องมองไปที่ร่างของมิราจไนท์ แต่ดูเหมือนร่างของมิราจไนท์ในคราวนี้จะเคลื่อนไหวอย่างกระทันหัน

 

“อั๊ก” ทันทีที่แจ็คสันขยับตัวได้เขาได้เปล่งเสียงคร่ำครวญออกมา

 

“มิราจไนท์ คุณฟื้นแล้ว!”ได้ยินเสียงคร่ำครวญของมิราจไนท์ แจ็คได้เลิกสนใจคลื่นความผันผวนนั่นและมองไปที่มิราจไนท์อย่างมีความสุข

 

“…”แจ็คสันได้ยกแขนและขยับตัวอย่างยากลําบากเขาเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ

 

“สวัสดีแจ็ค ดีใจที่ได้พบนายอีกครั้ง!”

 

ขณะที่แจ็คสันฟื้นขึ้นมา ทางด้านโทนี่เขาได้พุ่งตัวเข้าหาทางด้าน กัปตันโรเจอร์สและ ดร.แบนเนอร์ อย่างรวดเร็ว

 

“ดร.แบนเนอร์ ฉันจะช่วยพูดคุยกับ สตาร์คให้ก่อนแล้วกัน” เห็นรังสีคุกคามที่ปล่อยออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมน กัปตันโรเจอร์สกล่าวออกมา

 

“อืม ฉันรู้ว่าเขาคงจะโกรธฉัน แต่ฉันก็จะไม่แก้ตัวในเรื่องนี้” ดร.แบนเนอร์ พยักหน้ายอมรับสถานการณ์ในปัจจุบัน

 

ฟุบ!

 

เพียงแต่ขณะที่กัปตันโรเจอร์สเตรียมจะพูดคุยกับโทนี่เขาก็เห็นบางอย่างถูกยิงออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมน

 

“โทนี่!” เห็นขีปนาวุธพุ่งตรงมาที่ทิศทางของตนเองกัปตันโรเจอร์สได้ขว้างโล่ไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

 

ขีปนาวุธได้ระเบิดขึ้นพร้อมกับส่งโล่ของกัปตันลอยกระเด็นไปไกล

 

แรงสั่นสะเทือนของขีปนาวุธที่ระเบิดขึ้นอยู่ห่างจากพวกเขาแค่ไม่หลายี่สิบเมตรดังนั้นคลื่นแรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดย่อมส่งผลให้ กัปตันโรเจอร์ส และ ดร.แบนเนอร์ ที่อยู่ด้านหลังมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก

 

หลังจากขีปนาวุธถูกยิงออกไปและระเบิดขึ้นสําเร็จ โทนี่ ก็บังคับชุดเกราะไอรอนแมนลอยตกลงมาที่เบื้องหน้าของ กัปตันโรเจอร์ส และ ดร.แบนเนอร์ ก่อนที่โทนี่ จะเปิดหน้ากากขึ้น

 

“สตีฟ! นายคิดจะปกป้องไอ้คนที่ทําร้าย มิราจไนท์งั้นหรอ?”เห็นสีหน้าของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ตะโกนถามออกมาอย่างรุนแรง

 

โทนี่ไม่สนใจว่านั่นจะเป็นอีกบุคลิกนึ่งที่เป็นของดร.แบนเนอร์หรือไม่แต่โทนี่คิดว่านี่เป็นความผิดของ ดร.แบนเนอร์ ที่ปล่อยให้ฮัลค์ออกมาอาละวาด ไม่เพียงแต่จะนําหายนะมาสู่กองทัพไอรอนแมนของเขา ยังสร้างอาการบาดเจ็บที่ร้ายแรงให้กับ แจ็คสันอีกด้วย

 

“โทนี่ นายใจเย็นลงก่อน ฮัลค์ได้หลุดการควบคุมและอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง สถานการณ์ดังกล่าวไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอก และอีกอย่าง มิราจไนท์ได้อาสาตนเองเข้าไปขัดขวางฮัลค์เองอีกด้วย” กัปตันโรเจอร์สรู้ว่าโทนี่กําลังเดือดดาลแต่เขาต้องพยายามระงับอารมณ์โกรธของโทนี่ก่อน

 

“นายจะบอกว่ามิราจไนท์แส่หาเรื่องเองว่างั้น?”ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ ตอบกลับอย่างรุนแรง

 

โทนี่คิดว่าเดิม สตีฟ โรเจอร์ส จะยืนอยู่ข้างตนเอง หลังจากที่ S.H.I.E.L.D. ต้องรับเคราะห์เรื่องนี้เช่นเดียวกัน แต่โทนี่ไม่คิดเลยว่า สตีฟ จะปกป้องอีกฝ่าย ปกป้องคนที่ทําร้าย มิราจไนท์ จนบาดเจ็บหนัก ดังนั้นเมื่อได้ยินคําอธิบายของ สตีฟ โทนี่ จึงรู้สึกไม่พอใจอย่างรุนแรง

 

Related

ตอนที่ 651 ดร.แบนเนอร์แสร้งเป็นคนโง่

 

เมื่อ ดร.แบนเนอร์ หันศีรษะไปใกล้หูของเขาก็ได้ยินเสียงทักทาย แน่นอนว่า ดร.แบนเนอร์สามารถคาดเดาได้ว่าใครเป็นคนพูดทักทายคําเหล่านี้

 

ดร.แบนเนอร์ได้กล่าวทักทายกลับทันที”สวัสดี กัปตันอเมริกา สตีฟ โรเจอร์ส!”

 

ฟุบ!

 

ในปัจจุบันสภาพของ ดร.แบนเนอร์ ได้ยืนอยู่บนซากปรักหักพังเขาได้ยืนตระหง่านขณะที่สวมใส่กางเกงลําลอง เพียงตัวเดียวก่อนที่จะยิ้มไปที่กัปตันโรเจอร์ส

 

“ดร.แบนเนอร์ ในที่สุดเราก็ได้พบกันสักที!”กัปตันโรเจอร์สเบิดปากขึ้นอีกครั้ง

 

นับตั้งแต่กัปตันโรเจอร์สเป็นผู้บริหารองค์กร S.H.I.E.L.D. เขาก็คิดจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภายในองค์กร อย่างขันแข็ง สิ่งที่องค์กร S.H.I.E.L.D. กําลังขาดตอนนี้ก็คือกองทัพที่แข็งแกร่งและบุคคลที่เป็นแกนนําเหล่านี้ดังนั้นกัปตันโรเจอร์สจึงต้องการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ดีมากขึ้นเพื่อสนับสนุนยุทโธปกรณ์ทางการทหาร

 

ในโลกมาร์เวลแห่งนี้ อุปกรณ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งนั้นเป็นตัวแปรสําคัญที่จะพาโลกไปสู่อารยธรรมที่ดีขึ้นดังนั้นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นจึงสําคัญกับโลกมาก

 

เพื่อต้องการสร้างสันติภาพให้โลกสงบสุขตราบเท่านาน กัปตันโรเจอร์ส จึงต้องการตัวของดร.แบนเนอร์ มาพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดังนั้นเขาจึงส่งนาตาชาออกไปทําภารกิจนี้โดยเฉพาะ

 

“ยินดีที่ได้พบกัปตันโรเจอร์ส” ดร.แบนเนอร์ ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

 

ฟู่ว!

 

สายลมเย็น ๆ ได้พัดกางเกงลําลองของเขาจน ดร.แบนเนอร์ รู้สึกหนาวที่ขา เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ทําให้เขาอย่างวิตก

 

“เมื่อครู่ ทำไม ฮัลค์ ถึงปรากฏตัวขึ้นงั้นหรอ?”มองไปที่ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สถามคําถามสาคัญออกมา

 

“…” ได้ยินคําพูดของ กัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี

 

ดร.แบนเนอร์ได้บอกเหตุผลบางอย่างกับนาตาชาเพื่อที่จะเปลี่ยนร่างกลายเป็นฮัลค์ แต่ดูเหมือน นาตาชา คงไม่ได้แจ้งต่อพวกกัปตันโรเจอร์ส ดังนั้น ดร.แบนเนอร์ จึงทําท่าทีแสร้งโง่ต่อไป

 

“อืม,ดูเหมือนคุณจะรู้สาเหตุที่ฮัลค์ปรากฏตัวออกมาการต่อสู้ในคราวนี้เกิดความสูญเสียมากมายโดยเฉพาะหนึ่งในพันธมิตรของเรา มิราจไนท์ เขาได้รับบาดเจ็บ” เห็นดร แบนเนอร์แสร้งเป็นคนโง่ กัปตันโรเจอร์ส พูดออกมาอีกครั้ง

 

“เรื่องนี้ฉันเองก็รู้สึกหนักใจเช่นเดียวกัน ฉันต้องขอโทษด้วย เป็นเพราะฉันไม่สามารถควบคุมฮัลค์ได้ ทําให้เขาอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง ฉันยินดีจะยอมรับโทษในสิ่งที่เขา ทํา” ดร.แบนเนอร์กล่าวออกมาอย่างจริงใจ

 

ตอนนี้ ฮัลค์ ที่ได้ระบายอารมณ์ที่บ้าคลั่งไปแล้วได้นอนหลับสนิทแต่ถึงอย่างไร ฮัลค์ ก็เป็นอีกบุคลิกนึ่งของ ดร.แบนเนอร์ เขาเองจะไม่รับผิดชอบเกี่ยวกับบุคลิกอีกด้านของตนเองได้อย่าง

 

“ฉันเข้าใจว่านี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ ดร. !”ได้ยินคําพูดของ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สใช้เหตุผลนี้เพื่อบีบบังคับ ดร.แบนเนอร์ ในทันที มันเป็นความจริงที่มิราจไนท์ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนที่สูญเสียจริง ๆ ควรจะเป็นโทนี่มากกว่า เพราะชุดเกราะไอรอนแมนจํานวนมาก ได้ถูกทําลายไปโดยฮัลค์

 

“ฉันรู้สึกละอายจริง ๆ ฉันจะพยายามควบคุมไม่ให้ฮัลค์ออกมาอาละวาดแบบนี้อีก!” ดร.แบนเนอร์ พูดอีกครั้ง

 

“อืม,” กัปตันโรเจอร์สพยักหน้าเห็นด้วยเขาเองก็รู้สึกถึงกับความแข็งแกร่งของฮัลค์ในวันนี้

 

ขณะที่กัปตันโรเจอร์สกําลังสนทนากับ ดร.แบนเนอร์ ห่างออกไปหลายร้อยเมตร แจ็คสันได้นอนหมดสติอยู่บนพื้นดินในเวลานี้ โดยมี โทนี่ ปีเตอร์ และ แจ็ค ทั้งสามคนคอยช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ สภาพใบหน้าของทั้งสามคนนั้นแสดงออกได้ถึงความเป็นห่วง

 

“J.A.R.V.I.S ได้ผลวิเคราะห์หรือยัง? มิราจไนท์อาการเป็นยังไงบ้าง?”โทนี่กล่าวถาม J.A.R.V.I.S ด้วยน้ำเสียงกังวล

 

หลังจากเห็นสภาพอาการของแจ็คสัน โทนี้ ก็รู้สึกร้อนใจอย่างมาก เขารีบให้ J.A.R.V.I.S สแกนร่างของแจ็คสันทันที โชคดีที่ ชุดของแจ็คสันมีส่วนช่วยในการรับแรงกระแทกไม่งั้นสภาพร่างกายของแจ็คสันคงย่ำแย่กว่านี้

 

“เจ้านายครับ,ร่างกายของคุณ มิราจไนท์ มีอาการแตกหักของกระดูกจํานวนมากทั้งแขนและหน้าอกมีการแตกหักของเนื้อเยื่อ แต่อวัยวะภายในไม่ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้สมองยังได้รับแรงสั่นสะเทือนระดับปานกลาง คงต้องรอดูอาการอีกที” J.A.R.V.I.S วิเคราะห์ออกมาอย่างรวดเร็ว

 

จากการรายงานของ J.A.R.V.I.S อาการบาดเจ็บของแจ็คสันดูเหมือนจะร้ายแรงอย่างมาก อาการกระดูกหักเหล่านั้นค่อนข้างน่าเป็นห่วงและสามารถกู้คืนกลับมาได้ยาก อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อสมองอีก การปรากฏตัวขึ้นของฮัลค์ในคราวนี้ แจ็คสัน เองก็มีสิ่งที่ต้องจ่ายไปด้วยราคาเช่นเดียวกัน

 

ได้ยินรายงานของ J.A.R.V.I.S สีหน้าของโทนี่ภายใต้หมวกไอรอนแมนได้กลายเป็นน่าเกลียดทันที เขาจ้องมองไปยังทิศทางที่ ดร.แบนเนอร์ ที่กําลังสนทนากับ กัปตันโรเจอร์สอยู่

 

ฟุบ!

 

จากนั้นโทนี่ก็จุดประกายไอพ่นที่ใต้เท้าและบินตรงไปยังทิศทางนั้นอย่างรวดเร็ว

 

Related

ตอนที่ 650 การต่อสู้จบลง

 

“แจ็คสัน!”ในขอบสนามรบปีเตอร์ที่เห็นเงาร่างยักษ์สีเขียวเข้าปะทะกับแจ็คสันกลางอากาศ เขาตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

 

ฟุบ!

 

ปีเตอร์ต้องอการจะพุ่งตัวออกไปแต่ก็ถูกหยุดโดยโทนี่ธรรมชาติโทนี่ย่อมไม่ปล่อยให้ปีเตอร์เข้าไปเสี่ยงอันตรายในใจของเขาก็เป็นห่วงแจ็คสันเหมือนกัน

 

ถูกพุ่งชนอย่างกระทันหันโดยฮัลค์ร่างของแจ็คสันที่ลอยอยู่บนอากาศได้ถูกซัดกระเด็นไปราวกับกระสอบทรายเลียบไปบนพื้นดินในเวลานี้แม้แต่ ทีมX-MEN และ คนอื่น ๆ ก็แทบหัวใจหลุดลงไปอยู่แทบตาตุ่ม แจ็ค ที่เฝ้ามองสถานการณ์อยู่เขาได้รีบสร้างประตูมิติเวทย์มนตร์อย่างรวดเร็วเพื่อหวังจะเข้าไปดูสถานการณ์ของมิราจในท์

 

หลังจากแจ็คสันถูกซัดเลียบไปบนพื้นดินไถลไปมากกว่า 20 เมตร ด้านหลังของเขาก็ปรากฏประตูมิติเวทมนตร์สีทองจากนั้น แจ็คก็ได้ออกมาจากภายใน

 

แจ็คได้ยื่นมือทั้งสองข้างเข้าไปเขย่าตัวของมิราจไนท์ แต่ดูเหมือนมิราจไนท์จะไม่ตอบสนองราวกับว่าหมดสติไป การปะทะกันอย่างกระทันหันและรุนแรงขนาดนั้นสร้างแรงพลังงานจลน์อย่างมหาศาล

 

แจ็คได้คว้าตัวของมิราจในท์และสร้างประตูมิติเวทมนตร์ขึ้นอีกครั้งจากนั้นเขาก็ดึงมิราจไนท์เข้าไปยังประตูมิติเวทมนตร์

 

ทางด้านปีเตอร์กับโทนี่ ทั้งคู่ สังเกตุเห็นประตูมิติเวทมนตร์สีทองปรากฏขึ้นด้านหลังจากนั้นแจ็คก็ดึงร่างที่หมดสติของแจ็คสันออกมาจากภายใน

 

การปะทะอย่างกระทันหันครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุที่แจ็คสันประมาทมากเกินไปเขาไม่คิดว่าฮัลค์จะสามารถทนการโจมตีสุดท้ายได้จึงชะล่าใจละการป้องกันไว้ทั้งหมดส่งผลให้ตนเองต้องมีสภาพหมดสติเช่นนี้

 

ส่วนฮัลค์หลังจากลอบโจมตีครั้งสุดท้ายได้สําเร็จร่างของเขาก็เริ่มเกิดกลายเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่เดิมร่างสีเขียวขนาดใหญ่นั้นได้ลดหดลงกลายเป็นคนธรรมดา ในรูปลักษณ์ของ ดร. บรูซ แบนเนอร์

 

”!” หลังจากเปลี่ยนร่างกลายเป็น ดร.แบนเนอร์ บนร่างกายของ ดร.แบนเนอร์ ตอนนี้หลงเหลีอเพียงกางเกงแห่งความยิ่งใหญ่เพียงตัวเดียว

 

ฟุบ!

 

ดร.แบนเนอร์ ได้ยกศีรษะขึ้นมองไปยังทิศทางของมิราจไนท์ที่ถูก ฮัลค์ซัดไปในตอนท้ายเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด

 

การต่อสู้กับมิราจในท์แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่ ดูเหมือนฮัลค์จะมีความสุขมาก เขาได้ทุ่มสุดตัวจนพลังงานภายในร่างเดือดหายไปจนหมด ฮัลค์ไม่ต้องการที่จะยอมรับความพ่ายแพ้จึงได้ระเบิดพลังโจมตีในครั้งสุดท้ายใส่มิราจในท์

 

ดร.แบนเนอร์ รู้สึกปวดระบมไปทั่วทั้งร่างจากการปะทะแต่ในคราวนี้คราวแม้แต่เขาเองก็ไม่มีทางลืมตัวตนของมิราจในท์อย่างแน่นอน

 

“อืม…แสงสีทองนั่น! น่าจะเป็นพรรคพวกของเขาสินะ!” เห็นคนอื่นมาช่วยมิราจไนท์ไปดวงตาที่พร่ามัวของ ดร.แบนเนอร์ ได้ครุ่นคิดออกมา

 

ฟุบ!

 

หลังจากกลายร่างกลายเป็น ดร.แบนเนอร์ แล้ว ดร.แบนเนอร์ ก็เห็นสายตาของคนรอบข้างที่เดินเข้ามา เป็นคนของ ที่มX-MEN และ กัปตันโรเจอร์ส

 

เมื่อเห็นว่าการต่อสู้จบลง ดร.แบนเนอร์ก็สามารถคาดเดาได้ว่าคนเหล่านั้นคงจะมาเค้นความจริงของเรื่องราวทั้งหมดจากตัวเขา ขณะนั้นเอง นาตาชา ก็ได้สั่งให้เครื่องบินลํานั้นจอดลงที่พื้นในเวลาต่อมา

 

“เขาคือใครกันนะคนที่ฮัลค์สู้ด้วย?ดูจากสีหน้าของ โทนี่ สตาร์ค แล้ว เขาคนนั้นจะต้องสําคัญมากแน่ ๆ ” ขณะที่ ดร.แบนเนอร์ กําลังรอให้นาตาชามารับและอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็หันไปยังทิศทางของ มิราจในท์ ที่นอนหมดสติอยู่

 

เดิม ดรแบนเนอร์ ต้องการใช้ องค์กร S.H.I.E.L.D. เป็นคนทดลองอารมณ์ในช่วงหลายปีของเขาที่ผ่านมา เขาต้องการทดสอบตนเอง แต่เพื่อนของโทนี่ คนนั้น ดร.แบเนอร์สไม่รู้จักมาก่ออน

 

เป็นเพราะ ดร.แบนเนอร์ ได้หายตัวไปเป็นระยะเวลานานทําให้เขาไม่รู้จักฮีโร่คนใหม่ของนิวยอร์กคนนี้ อีกทั้งยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ที่เขารู้สึกจดจําอีกฝ่ายได้ในตอนนี้ก็เป็นเพราะความแข็งแกร่งที่อีกฝ่ายแสดงให้ตนเองเห็น

 

เมื่อเห็นความกังวลของโทนี่ สตาร์ค ดร.แบนเนอร์ จึงรู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีก ในใจของเขาก็ค่อนข้างรู้สึกผิดเช่นเดียวกันเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากความอยากทดสอบตนเองของเขา

 

หลังจากสถานการณ์ในตรงนี้จบลงเขาจะให้ความร่วมมือกับ S.H.I.E.L.D. และ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาระหว่าง โทนี่ สตาร์ค เขาว่าจะไปอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจเหตุผลด้วยตนเอง

 

“หวังว่าเขาจะไม่มีอคติกับตัวเรานะ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยอมรับผิดในสิ่งที่ทําแม้นั่นจะไม่ใช้ฝีมือของฉันทั้งหมดก็ตาม” ดร.แบนเนอร์ ครุ่นคิดในใจ

 

ดร.แบนเนอร์ ผิดเองที่คิดว่าตนเองสามารถควบคุมฮัลค์ได้อย่างสมบูรณ์ แต่เหตุการณ์อาละวาดในภายหลังเป็นเขาที่ถูกฮัลค์ควบคุมเสียเอง

 

ขณะที่ดร.แบนเนอร์ ลุกขึ้นมายืนบัดฝุ่นที่เปรอะเต็มกางเกงของเขา จู่ ๆ ด้านข้างของเขาก็ปรากฏเสียงดังขึ้น

 

“สวัสดี ดร. บรูซ แบนเนอร์!”

 

Related

ตอนที่ 649 มิราจไนท์ ปะทะ ฮัลค์ 5

 

ฟวับ!

 

เมื่อแจ็คสันฟาดพลังดาบออกไปยังเงาร่างยักษ์ที่ลอยตัวอยู่บนฟ้าประกายแสงสีฟ้าได้เข้าปะทะกับร่างของฮัลค์ที่พุ่งตกลงมาอย่างรวดเร็ว

 

ร่างของฮัลค์ที่โดนฟันออกไปด้วยรัศมีพลังได้กระเด็นลอยตกลงไปเล็กน้อยก่อนที่จะยกศีรษะขึ้นมาจ้องมองไปยังทิศทางของแจ็คสัน

 

ตุบ!

 

เห็นศัตรูยังคงสามารถต้านทานความแข็งแกร่งของตนเองได้แจ็คสันรู้สึกชื่นชมในใจในขั้นต้นแจ็คสันไม่ได้ต้องการที่จะฆ่าอีกฝ่ายเขาจึงไม่สามารถทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อจัดการอีกฝ่ายได้ดังนั้นสิ่งที่เขาคิดตอนนี้ก็คือการทําให้อีกฝ่ายหมดสติหรือบาดเจ็บหนักจนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกเลย

 

“สมแล้วที่เป็น ฮัลค์ หนึ่งในฮีโร่สุดแกร่งของโลก มาร์เวล ฉันชักจะชอบเขาเข้าให้แล้ว”แจ็คสันกุมดาบสปิริตซอร์ดในมือแน่นพร้อมกับหัวเราะในใจ

 

พลังงานภายในร่างของแจ็คสันได้สั่นสะเทือนออกมาอย่างรุนแรงอีกครั้งคราวนี้มันได้ปลดปล่อยและปะทุออกมารุนแรงมากกว่าเดิม

 

“แต่คราวนี้ ฉันจะทําให้นายไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก!”แจ็คสันกําชับดาบด้วยมือทั้งสองข้างอย่างแน่นหนา

 

คลื่น!

 

ประกายพลังงานแสงสีฟ้าได้ก่อตัวบนตัวดาบสร้างออร่าดาบขนาดใหญ่สูงชันขึ้นไปบนฟ้า

 

คลื่น!

 

ภายใต้คลื่นรัศมีดาบกระแสอากาศพลันปั่นปวนอย่างรุนแรง ฮัลค์ ได้จ้องมองไปที่ภาพแสงสีฟ้าของตัวดาบที่ราวกับภาพมายาแห่งความฝัน ด้วยความตกตะลึง

 

แกรัก!

 

ออร่าพลังงานเหล่านี้เกิดจากการบีบอัดพลังงานสูงสุดของแจ็คสันเขาต้องการจะหยุดฮัลค์ไม่ให้ลุกขึ้นมาออาละวาดได้อีก

 

รัศมีพลังดาบกําลังรวบรวมกลายเป็นรุนแรมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นตัวดาบขนาดใหญ่สีฟ้าก็กดลงไปที่พื้นที่เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว ภายใต้รัศมีพลังแห่งดาบร่างกายสีเขียวใหญ่ของฮัลค์ได้ถูกกลืนกินเข้าไปในทันที

 

“ฮัลค์! ฉันคือ ฮัลค์!” เห็นรัศมีพลังแห่งดาบกลืนกินตนเองเข้าไป ฮัลค์ยกศีรษะขึ้นและคํารามอย่างโกรธเคือง

 

เพียงพริบตาเดียวรัศมีพลังแห่งดาบก็ตกกระทบและทุบเข้าไปที่ศีรษะของฮัลค์โดยตรงเหมือนกับในฉากของหนักที่ฮัลค์ถูกค้อนเทพเจ้าสายฟ้า

 

“นี่เป็นปราณดาบที่ฉันสร้างขึ้น โชคร้ายที่ฉันไม่ได้ใช้ค้อนเหมือนในหนังภาพยนตร์” หลังจากวาดผ่านรัศมีพลังแห่งดาบทุบศีรษะของฮัลค์ได้สําเร็จ แจ็คสัน ก็จ้องมองไปยังทิศทางของฮัลค์ด้วยสายตาล้ําลึก

 

ศีรษะของฮัลค์ได้ถูกปราณดาบฟาดเข้าเต็ม ๆ คราวนี้ ฮัลค์ไม่มีโอกาสที่จะยกมี อปัดป้องรัศมีพลังนี้ได้ทัน

 

ขณะที่แจ็คสันใช้ปราณดาบสีฟ้าในการล้มฮัลค์ ด้านนอกสนามรบ ก็มี คนในชุดรัดรูป สีแดงยืนสังเกตุการณ์อยู่ด้านหลังของเขาพกดาบสองเล่ม เขาก็คือ เดดพูล หนึ่งในลูกทีมของที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

“ฉันคิดไว้แล้ว! ในตอนนั้นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวก็ยังพ่ายแพ้แก่มิราจในท์ ไม่แปลกใจที่เจ้าสัตว์ประหลาดเขียวนั่นจะไม่ใช่คู่มือขอองเขา!” เห็นการปะทุพลังที่รุนแรงของมิราจในท์ เดดพูลรู้สึกชื่นชมอย่างมาก เขาเชื่อว่า ฮัลค์ ไม่สามารถเทียบกับสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งที่เขาเจอในดา วดึกดําบรรพ์ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายจะตกเป็นรองมิราจไนท์

 

“จนถึงปัจจุบัน มิราจในท์ ยังไม่ได้ใช้พลังอย่างเต็มที่แล้วเอาจริงเลยด้วยซ้ํา เขาแข็งแกร่งมากจริง ๆ!”เดดพูล ครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

 

“หม?นั่นพวก ทีมX-MEN งั้นหรอ? ไม่ได้ ฉันไม่ต้องการให้พวกเขาพบตัวฉัน ฉันไม่อยากถูกพวกเขาอบรมสั่งสอน”ในสายตาของเดดพูล เขาได้ตกไปกระทบอีกด้านนึงของสนามรบ

 

จากนั้นเดดพูลก็อ้อมเดินหนีจากสถานที่ตรงนี้ไปยังทิศทาง ทางด้านที่สไปเดอร์แมนอยู่

 

ในขณะที่เดดพูลเลือกที่จะถอยออกจากสนามและแล้วซ่อนตัวหลบสายตาของพวกที่มXMENทางด้านปีเตอร์ เขากําลังให้ความสนใจกับการต่อสู้ครั้งนี้ เพราะการเคลื่อนไหวของแจ็คสันคราวนี้ คือผลตัดสินแพ้ชนะ

 

แม้แต่โทนี่ก็ยังอดตกตะลึงไม่ได้เดิมเขาไม่คิดเลยว่าแจ็คสันจะซุกซ่อนความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้เอาไว้

 

“J.A.R.V.I.S,

 

“นายคิดว่า แจ็คสันเด็กคนนี้เติบโตมากขึ้นขนาดไหนกัน?ความแข็งแกร่งของเขามากมายกว่าแต่ก่อนเสียอีก!”มองไปที่แจ็คสันที่ลอยตัวอยู่บนอากาศกลางสนามรบ โทนี่กล่าวถาม J.A.R.V.I.S,

 

“เจ้านายครับ ผมเองก็ไม่สามารถประเมินออกมาเป็นตัวเลขชี้วัดได้” J.A.R.V.I.S, ตอบกลับทัน

 

“อึม,ไม่แปลกใจเลย”

 

เมื่อคนเหล่านี้ กําลังคิดว่าการต่อสู้นี้ควรจะจบลงจู่ ๆ เงาร่างขนาดใหญ่ก็พุ่งตัวออกมาจากดินอีกครั้ง มันได้พุ่งเข้าหามิราจในท์ ที่ลอยอยู่กลางอากาศโดยตรง

 

แจ็คสันที่ลอยอยู่กลางอากาศไม่มีเวลาตอบสนองได้ทันจนในที่สุดเงาร่างนั้นก็พุ่ง เข้าชนใส่แจ็คสันในที่สุด

 

Related

ตอนที่ 648 มิราจไนท์ ปะทะ ฮัลค์ 4

 

ฟุบ!

 

ร่างสีเขียวได้วิ่งตัดผ่านกระแสลมราวกับขีปนาวุธความเร็วสูง เสียงเสียดสีของลมได้ดังเป็นระลอก ๆ เพียงแค่ 0.0 วินาที ฮัลค์ก็พุ่งมาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของ มิราจในท์ ที่อยู่ใกลออกไปหลายเมตร

 

เผชิญหน้ากับฮัลค์แจ็คสันไม่ได้มีความหวาดกลัวและเลือกที่จะหลีกเลี่ยงแม้แต่น้อยจุดประสงค์ของเขาก็คือการเผชิญหน้ากับฮัลค์โดยตรง

 

ในเสี้ยววินาทีเองดาบในมือของแจ็คสันก็ยกขึ้นเขาได้ใช้สองมือยันดาบเอาไว้และต้านทานแรงพุ่งโจมตีของฮัลค์

 

ติ้ง!

 

แรงปะทะระหว่างความเร็วของฮัลค์และความแข็งแกร่งของแจ็คสันได้เข้าปะทะกันแต่เพราะความเร็วในพริบตาของฮัลค์ที่ดันดาบของแจ็คสันตอนนี้ทําให้แจ็คสันต้องถอยร่นไปหลายเมตร

 

“เกราะดาบ!”แจ็คสันคํารามออกมาแรงปะทะของพวกเขาค่อย ๆ ลดลงก่อนที่จะหยุดนิ่งในที่สุด

 

แรงปะทะแต่เดิมเหล่านั้นที่มากมหาศาลได้ถ่ายเถลงไปที่พื้นทั้งหมดหลังจากนั้นแรงปะทะเหล่านั้นก็หมดลงและแจก

 

แหน่งที่เหมาะสม

 

ฮัลค์จ้องมองไปที่แจ็คสันที่กระเด็นถอยไปหลายเมตรเขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายได้อีกครั้ง ณ วินาทีนั้น สายตาของฮัลค์ก็แปรเปลี่ยนไป เขาเห็นดาบในมือของศัตรูมีรูปแบบพลังงานไหลท่วมไปทั่วทั้งดาบ

 

“ฉันจะหยุดนายด้วยทุกอย่างที่มี!” หลังจากยกดาบขึ้นมาแล้วความคิดอันแรงกล้าข องแจ็คสันก็ปะทุขึ้นเช่นเดียวกัน

 

เพื่อป้องกันการโจมตีของฮัลค์แจ็คสันได้ใช้พละกําลังสวนมากไปกับเรื่องนี้ดังนั้นมันเป็นฝ่ายเขาบ้างแล้วที่จะตอบโต้การโจมตีของอีกฝ่าย

 

แม้ว่ากลิ่นออร่าพลังงานจะปรากฏขึ้นบนตัวดาบขอองแจ็คสันแต่ฮัลค์ก็ไม่ได้สนใจเขาเพิ่งเล็งไปที่แจ็คสันและเลือกที่จะเผชิญหน้ากับมัน

 

ขณะเดียวกันฮัลค์ที่เห็นอีกฝ่ายไม่ขยับเคลื่อนไหวเขาได้เปิดฉากโจมตีขึ้นอีกครั้ง ความเร็วของฮัลค์ที่เปิดเผยออกมา กําลังเผชิญหน้ากับความคล่องตัวของมิราจไนท์ ดังนั้นหากคนอื่น ๆ เช่นโทนี่และกัปตันโรเจอร์ส มาเห็นฉากปะทะของทั้งสองคนพวกเขาย่อมต้องไม่เชื่อในสายตาตนเองแน่นอน

 

“ J.A.R.V.I.S ยังไม่สามารถตรวจสอบสถานการณ์ของพวกเขาได้อีกงั้นหรอ?”ในปัจจุบันหมอกและฝุ่นละอองได้เต็มไปทั่วสนามรบอีกครั้ง โทนี่ ที่รู้สึกกังวลได้ กล่าวถามหา J.A.R.V.I.S

 

ก่อนหน้านี้ ฮัลค์ ที่ปะทุความเร็วเพื่อโจมตี แจ็คสัน ในเวลานั้น โทนี่ แทบจะมองสิ่งที่เกิดขึ้นแทบไม่เห็น ดังนั้นเมื่อเห็นว่าสนามรบถูกบดบังวิสัยทัศน์อีกครั้งเขาย่อมต้องไม่รู้สึกยินดีในใจ

 

“การต่อสู้ของ ฮัลค์ และ มิราจไนท์ รุนแรงมาก ด้วยระดับพลังมากที่พุ่งสูงขึ้นมากกว่าระดับ 4 ทําให้คลื่นพลังในสนามรบปั่นป่วนอย่างกระทันหันไม่สามารถตรวจสอบได้ชั่วคราว”ได้ยินคําถามของโทนี่ J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“แล้วจะตรวจสอบสถานการณ์ของพวกเขาได้อย่างไร?”ได้ยินคําตอบของ J.A.R.VIS โทนี่รู้สึกไม่พอใจในทันที

 

“คุณ สตาร์ค, แจ็คสัน จะต้องไม่เป็นอะไร! ผมเชื่อมั่นในตัวเขา”เห็นความกังวลของโทนี่ปีเตอร์ที่อยู่ด้านข้างได้กล่าวพูดขึ้น

 

หลังจากปีเตอร์เข้าสู่สถานที่แห่งนี้ เขาก็ถูกห้ามปรามโดย โทนี่ ในทันที ปีเตอร์ได้รับรู้สถานการณ์ที่ แจ็คสัน เข้าไปเผชิญหน้ากับ ฮัลค์ ในใจของเขาเองก็รู้สึกกังวลในตอนนั้นแต่หลังจากปีเตอร์ ได้รับรู้ข้อมูลบางอย่างมาจาก เดดพูล เกี่ยวกับประสบการณ์ลึกลับหลายวันเรื่องที่เดดพูล เล่าราวกับเรื่องแต่งในเทพนิยายอะไรแบบนั้นเขาเองก็อยากจะฟังเรื่องราวที่ว่านี้จากปากแจ็คสัน ให้มากกว่านี้ ดังนั้นหากเรื่องที่เดดพูลเล่าเป็นเรื่องจริงปีเตอร์ก็เชื่อว่าฮัลค์ย่อมไม่เป็นอันตรา ยต่อแจ็คสันแน่นอน

 

“นี่เป็นความเชื่ออย่างมืดบอดที่เธอมีต่อเพื่อนของเธออย่างงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของปีเตอร์โทนี่กล่าวถามอีกครั้ง อาจเป็นเพราะปีเตอร์ไม่รู้ว่าฮัลค์แข็งแกร่งขนาดไหนเลยพูดออกมาส่งเดช

 

“เดี๋ยวคุณก็ได้เห็น!” เห็นว่าโทนี่ไม่เชื่อใจในสัญชาตญาณของตนเอง ปีเตอร์ ชี้ไปที่กลางสนามรบ

 

ในสนามรบตอนนี้ปกคลุมไปด้วยหมอกและฝุ่นละออง เงาร่างสีดําได้พุ่งออกมาจากหมอกเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องสงสัยว่าเงาร่างนี้เป็นใคร ก็เพราะเขาคือ มิราจไนท์

 

“ดูเหมือนการเผชิญหน้ากับฮัลค์โดยตรงไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีนัก!”แจ็คสันได้กระโดดลอยตัวออกมาจากหมอกควันได้จ้องมองไปที่บาเรียเกราะดาบที่พังทลายลงไป

 

บาเรียเกราะดาบนี้เป็นการรวบรวมกําลังภายในของเขาเพื่อสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้นมาแต่เมื่อเผชิญหน้ากับฮัลค์ ถึงแม้จะหยุดการโจมตีของฮัลค์ ได้ แต่บาเรียเกราะดาบก็ได้ฟังทลายลงในทันที

 

เศษพลังงานเหล่านั้นได้กระจัดกระจายหายไป หากเกราะดาบเหล่านั้นหายไปและต้อองเผชิญหน้ากับฮัลค์ที่บ้าคลั่งแล้วแจ็คสันอาจจะเจ็บตัวโดยไม่จําเป็น

 

นอกจากนี้บาเรียเกราะดาบของตนเองยังกินพลังงานภายในมากกว่าที่คิด หากพลัง งานภายในร่างของเขาหมดลงมันจะเป็นเขาเองที่เสียเปรียบในการต่อสู้กับฮัลค์ต่อจากนี้

 

“หม?” ขณะที่แจ็คสันกําลังครุ่นคิดบางอย่างจู่ ๆ เขาก็เห็นเงาร่างขนาดใหญ่กระโดดขึ้นไปบนอากาศแจ็คสันได้ยกดาบสปิริตซอร์ดของตนเองขึ้นก่อนที่ปลายดาบจะสั่นไหวเล็กน้อย

 

ฟุบ!

 

พลังงานภายในของแจ็คสันได้ถ่ายโอนไปยังตัวดาบอีกครั้งจากนั้นตัวใบดาบก็ปกคลุมไปด้วยรัศมีพลังสีฟ้าที่มากล้น

 

“สะบั้น!”แจ็คสันได้ตวัดดาบสปิริตซอร์ดของเขาออกไปจากนั้นคลื่นรัศมีพลังสีฟ้าก็ถูกปลดปล่อยออกไปอย่างรุนแรง

 

ฟุบ!

 

Related

ตอนที่ 647 มิราจไนท์ ปะทะ ฮัลค์ 3

 

ฟุบ!

 

เมื่อแจ็คสันหายตัวไปฮัลค์ที่พุ่งเข้ามาคว้าจับเอาไว้ก็คว้าได้แต่เพียงภาพลวงตาที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังจากนั้น แจ็คสันก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะซัดกําปั้นไปที่แก้มด้านขวาของฮัลค์อย่างหนักหน่วง

 

หลังจากถูกโจมตีโดยแจ็คสันฮัลค์ก็ร่วงหล่นจากบนฟ้าพุ่งตรงลงสู่พื้นดินพริบตาต่อมาใบหน้าของฮัลค์ก็ปรากฏแววตาแห่งความโกรธเคือง

 

ติ้ง!

 

ฮัลค์ได้ดีดตัวลุกขึ้นมาอีกครั้งและเอียงศีรษะจ้องมองมิราจในท์ที่ลอยอยู่บนอากาศบาดแผลเดิมที่ถูกแจ็คสันโจมตีได้เริ่มฟื้นฟูตนเองอย่างกระทันหัน แม้ฮัลค์จะมีความยืดหยุ่นในการรักษาที่แข็งแกร่งแต่ก็ยังไม่อาจจับทิศทางและตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

 

“โฮก!”เห็นว่าตนเองไม่สามารถโจมตีโดนมิราจไนท์ได้ ฮัลค์ คํารามออกมาอีกครั้ง

 

ฟุบ!

 

จากั้นร่างของฮัลค์ก็ถีบตนเองพุ่งขึ้นไปบนอากาศเพื่อโจมตีแจ็คสันอย่างรวดเร็วโชคดีที่แจ็คสันมีความคล่องตัวและความเร็วสูงทําให้เขาสามารถโยกหลบการโจมตีกระทันหันของฮัลค์ได้

 

“สิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่ เพราะฮัลค์ไม่สามารถบินบนฟ้าได้”แจ็คสันจ้องมองไปที่ฮัลค์และครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

 

เขาต้องการจะทดสอบความแข็งแกร่งของตนเองดังนั้นการที่เขาบินบนฟ้าแบบนี้ก็ไม่สามารถทําให้ฮัลค์สามารถถจู่โจมเข้าได้ จุดแข็งของแจ็คสันมีมากเกินไป หากเขาต้องการทดสอบตนเองเขาจะต้องสู้กับฮัลค์อย่างสูสี

 

“แม้จะเสี่ยงสักหน่อยแต่เพื่อให้ฮัลค์จดจําฉันได้แล้วฉันคงต้องมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับเขา”ในที่สุดแจ็คสันก็ตัดสินใจที่จะไม่ใช่เทคนิคเหยียบอากาศ

 

ฟุบ!

 

เขาได้เหยียบบนอากาศหลายครั้งก่อนที่จะพุ่งเป้าไปยังทิศทางของฮัลค์พร้อมกับยกดาบสริตซอร์ดของตนเอองฟันออกไป

ฟวั่บ!

 

ภาพมายาของแจ็คสันที่ทิ้งไว้เบื้องหลังนั้นสามารถทําให้ผู้คนไขว้เขวได้แน่นอนว่าไม่ เว้นแม้แต่ฮัลค์แต่เพราะแจ็คสันเก็บงําความแข็งแกร่งที่แท้จริงเอาไว้และไม่ได้ต้องการที่จะสัง หารอีกฝ่ายทําให้จุดเด่นในการลอบจัดการของเขาต้องถูกฮัลค์มองเจตนาที่แท้จริงออก

 

ฟุบ!

 

ฮัลค์ได้สวนกําปั้นของตนเองไปยังตําแหน่งดาบของแจ็คสันก่อนที่จะส่งแจ็คสันลอยถอยกลับไปไกล

 

มือของแจ็คสันสั่นไหวเล็กน้อยหลังจากปะทะเข้ากับหมัดของฮัลค์โดยตรงหากข้อมือและพละกําลังทางกายของตนเองไม่แข็งแกร่งแจ็คสันเชื่อว่าข้อมือของเขาคงจะหักไปแล้ว

 

“ฟูว! เกือบไปแล้ว!” เห็นแรงปะทะจากตัวดาบที่ส่งผ่านมาที่ข้อมือของเขา แจ็คสันพึมพัมออกมาเล็กน้อย

 

ในปัจจุบันแจ็คสันจ้องมองไปที่ฮัลค์และเปรียบเทียบจุดแข็งที่ฮัลค์มีมันค่อนข้างน่าประใจจริงๆนั่นยิ่งกระตุ้นให้แจ็คสันอยากรู้อยากลองมากขึ้นไปอีก

 

ในขณะเดียวกันตําแหน่งไม่ไกลจากสนามรบก็มีหลายคนที่ตกตะลึงกับการต่อสู้ระหว่างมิราจไนท์กับฮัลค์

 

“ฮัลค์สามารถป้องกันการโจมตีของ มิราจไนท์ได้!” กัปตันโรเจอร์สและทีมสนับสนุนที่เฝ้ามองสนามรบจากระยะไกล เขาได้เปิดปากอุทานอย่างตกใจ

 

กัปตันโรเจอร์สรู้ดีถึงพละกําลังที่แข็งแกร่งของฮัลค์แต่ศักยภาพทางร่างกายของมิราจ ไนท์ก็แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่การต่อสู้นี้จะมีสิ่งที่ทําให้คนอย่างเขารู้สึกสั่นไหวอยู่หลายครั้ง

 

“เตรียมพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์อยู่ด้านนอกต้านทานพวกเขาเอาไว้ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในสนามรบหากฝ่ายตรงข้ามเริ่มตอบโต้ ให้ทําการโจมตีสวนกลับได้เลย” กัปตันโรเจอร์สได้หันไปกล่าวสั่งลูกทีมของเขา

 

“เข้าใจแล้วกัปตัน”ได้ยินคําสั่งของกัปตันโรเจอร์สพวกเขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นกัปตันโรเจอร์สก็มุ่งหน้าเข้าสู่สนามรบอีกครั้งดวงตาของเขาจ้องมองไปยังทิศทางทาง

 

“ฮัลค์! ฉันคือ ฮัลค์!”ร่างของฮัลค์ปะทุออกอมาอย่างรุนแรงและคํารามเสียงดัง

เขาได้ใช้ร่างกายของตนเองพุ่งตรงไปด้านหน้าราวกับขีปนาวุธความเร็วสูง

 

ฟุบ!

 

จากนั้นร่างกายสีเขียวก็พุ่งตรงออกไปเหนือความเร็วเสียง

 

ฟุบ!

 

เมื่อแจ็คสันหายตัวไปฮัลค์ที่พุ่งเข้ามาคว้าจับเอาไว้ก็คว้าได้แต่เพียงภาพลวงตาที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังจากนั้น แจ็คสันก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะซัดกําปั้นไปที่แก้มด้านขวาของฮัลค์อย่างหนักหน่วง

 

หลังจากถูกโจมตีโดยแจ็คสันฮัลค์ก็ร่วงหล่นจากบนฟ้าพุ่งตรงลงสู่พื้นดินพริบตาต่อมาใบหน้าของฮัลค์ก็ปรากฏแววตาแห่งความโกรธเคือง

 

ฮัลค์ได้ดีดตัวลุกขึ้นมาอีกครั้งและเอียงศีรษะจ้องมองมิราจในท์ที่ลอยอยู่บนอากาศบาดแผลเดิมที่ถูกแจ็คสันโจมตีได้เริ่มฟื้นฟูตนเองอย่างกระทันหัน แม้ฮัลค์จะมีความยืดหยุ่นในการรักษาที่แข็งแกร่งแต่ก็ยังไม่อาจจับทิศทางและตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

 

“โฮก!”เห็นว่าตนเองไม่สามารถโจมตีโดนมิราจไนท์ได้ ฮัลค์ คํารามออกมาอีกครั้ง

 

ฟุบ!

 

จากั้นร่างของฮัลค์ก็ถีบตนเองพุ่งขึ้นไปบนอากาศเพื่อโจมตีแจ็คสันอย่างรวดเร็วโชคดีที่แจ็คสันมีความคล่องตัวและความเร็วสูงทําให้เขาสามารถโยกหลบการโจมตีกระทันหันของฮัลค์ได้

 

“สิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่ เพราะฮัลค์ไม่สามารถบินบนฟ้าได้”แจ็คสันจ้องมองไปที่ฮัลค์และครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

 

เขาต้องการจะทดสอบความแข็งแกร่งของตนเองดังนั้นการที่เขาบินบนฟ้าแบบนี้ก็ไม่สามารถทําให้ฮัลค์สามารถถจู่โจมเข้าได้ จุดแข็งของแจ็คสันมีมากเกินไป หากเขาต้องการทดสอบตนเองเขาจะต้องสู้กับฮัลค์อย่างสูสี

 

“แม้จะเสี่ยงสักหน่อยแต่เพื่อให้ฮัลค์จดจําฉันได้แล้วฉันคงต้องมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับเขา”ในที่สุดแจ็คสันก็ตัดสินใจที่จะไม่ใช่เทคนิคเหยียบอากาศ

 

ฟบ!

 

เขาได้เหยียบบนอากาศหลายครั้งก่อนที่จะพุ่งเป้าไปยังทิศทางของฮัลค์พร้อมกับยกดาบสปิริตซอร์ดของตนเอองฟันออกไป

 

ฟวั่บ!

 

ภาพมายาของแจ็คสันที่ทิ้งไว้เบื้องหลังนั้นสามารถทําให้ผู้คนไขว้เขวได้แน่นอนว่าไม่เว้นแม่แต่ฮัลค์ แต่เพราะแจ็คสันเก็บงําความแข็งแกร่งที่แท้จริงเอาไว้และไม่ได้ต้องการที่จะสังหารอีกฝ่ายทําให้ จุดเด่นในการลอบจัดการของเขาต้องถูกฮัลค์มองเจตนาที่แท้จริงออก

 

ฟุบ!

 

ฮัลค์ได้สวนกําปั้นของตนเองไปยังตําแหน่งดาบของแจ็คสันก่อนที่จะส่งแจ็คสันลอยถอยกลับไปไกล

 

มือของแจ็คสันสั่นไหวเล็กน้อยหลังจากปะทะเข้ากับหมัดของฮัลค์โดยตรงหากข้อมือและพละกําลังทางกายของตนเองไม่แข็งแกร่งแจ็คสันเชื่อว่าข้อมือของเขาคงจะหักไปแล้ว

 

“ฟูว! เกือบไปแล้ว!” เห็นแรงปะทะจากตัวดาบที่ส่งผ่านมาที่ข้อมือของเขา แจ็คสันพึมพัมออกมาเล็กน้อย

 

ในปัจจุบันแจ็คสันจ้องมองไปที่ฮัลค์และเปรียบเทียบจุดแข็งที่ฮัลค์มีมันค่อนข้างน่าประใจจริงๆ นั่นยิ่งกระตุ้นให้แจ็คสันอยากรู้อยากลองมากขึ้นไปอีก

 

ในขณะเดียวกันตําแหน่งไม่ไกลจากสนามรบก็มีหลายคนที่ตกตะลึงกับการต่อสู้ระหว่างมิราจไนท์กับฮัลค์

 

“ฮัลค์สามารถป้องกันการโจมตีของ มิราจไนท์ได้!” กัปตันโรเจอร์สและทีมสนับสนุนที่เฝ้ามองสนามรบจากระยะไกล เขาได้เปิดปากอุทานอย่างตกใจ

 

กัปตันโรเจอร์สรู้ดีถึงพละกําลังที่แข็งแกร่งของฮัลค์แต่ศักยภาพทางร่างกายของมิราจ ไนท์ก็แข็งแกร่งเช่นเดียวกันดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่การต่อสู้นี้จะมีสิ่งที่ทําให้คนอย่างเขารู้สึกสั่นไหวอยู่หลายครั้ง

 

“เตรียมพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์อยู่ด้านนอกต้านทานพวกเขาเอาไว้ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในสนามรบหากฝ่ายตรงข้ามเริ่มตอบโต้ ให้ทําการโจมตีสวนกลับได้เลย” กัปตันโรเจอร์สได้หันไปกล่าวสั่งลูกทีมของเขา

 

“เข้าใจแล้วกัปตัน”ได้ยินคําสั่งของกัปตันโรเจอร์สพวกเขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นกัปตันโรเจอร์สก็มุ่งหน้าเข้าสู่สนามรบอีกครั้งดวงตาของเขาจ้องมองไปยังทิศทางทาง

 

นึ่ง

 

“ฮัลค์! ฉันคือ ฮัลค์!”ร่างของฮัลค์ปะทุออกอมาอย่างรุนแรงและคํารามเสียงดัง

 

เขาได้ใช้ร่างกายของตนเองพุ่งตรงไปด้านหน้าราวกับขีปนาวุธความเร็วสูง

ฟุบ!

 

จากนั้นร่างกายสีเขียวก็พุ่งตรงออกไปเหนือความเร็วเสียง

 

Related

ตอนที่ 646 มิราจไนท์ ปะทะ ฮัลค์ 2

 

คลื่น!

 

รัศมีพลังแสงสีฟ้าได้ปะทุออกมาจากบนอากาศตอนบนมันพุ่งเข้าใส่เบื้องหน้าของฮัลค์ที่อยู่ด้านล่าง

 

“คู่ต่อสู้ของฮัลค์!” ฮัลค์ราวกับอุทานคํานี้ออกมา

 

ตั้งแต่ฮัลค์เริ่มปรากฏตัวขึ้นในสนามรบการกระทําของเขาก็มีแต่การต่อสู้เขาให้ความสนใจแก่ศัตรูไม่ว่าจะเป็น ที่มX-MEN ไอซ์แมน สตอร์ม หรือ S.H.I.E.L.D. ทีม K กัปตันโรเจอร์สและตอน นี้ก็มาเป็นไอรอนแมน ทั้งหมดทั้งมวลไม่มีใครสามารถเอาชนะฮัลค์ได้ แต่พอมาตอนนี้เผชิญหน้ากับกลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่ง ฮัลค์สัมผัสได้ถึงคู่ต่อสู้ของตนเอง

 

เผชิญหน้ากับคลื่นพลังสีฟ้าในปัจจุบันฮัลค์ได้ยกแขนทั้งสอองข้างขึ้นเพื่อป้องกัน จากนั้นไม่นานทั่วทั้งร่างของฮัลค์ก็ปกคลุมและอยู่ภายใต้ของคลื่นพลังงานนั้น

 

” J.A.R.V.I.S สามารถตรวจสอบสถานการณ์ของแจ็คสันได้หรือไม่?”ในสนามรบปัจจุบันที่ถูกปกคลุมไปด้วยคลื่นพลังงานสีฟ้า โทนี่ รู้สึกกังวลใจบางอย่าง

 

“เจ้านายครับ,สามารถตรวจสอบ มิราจไนท์ และ ฮัลค์ได้ในตอนนี้ แต่ด้วยผลกระทบทางด้านพลังงานทําให้ไม่สามารถรับสถานการณ์และประมวลผลสนามรบที่ชัดเจนได้ แต่ก็สามารถคาดการณ์ได้ว่าทั้งสองคนยังคงปลอดภัยดี”ได้ยินคําพูดของ โทนี่ J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“ถือเป็นเรื่องที่ดี แล้วเรื่องการสนับสนุนจาก ที่มX-MEN และ S.H.I.E.L.D. ได้เรื่องว่าไงบ้าง?”โทนี่กล่าวถามอีกครั้ง

 

“ทางด้านทีม X-MEN พวกเขากําลังเตรียมพร้อมคงต้องใช้เวลาพอสมควร สวน กองกําลังสนับสนุนของ S.H.I.E.L.D. ได้มาถึงแล้ว แต่พวกเขาได้เข้าไปขัดขวางเจรจากับทางกองทัพเพื่อ ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสนามรบตอนนี้ J.A.R.V.S กล่าวตอบอีกครั้ง

 

ได้ยินว่า ทีมX-MEN กําลังฟอร์มทีมเตรียมพร้อม โทนี่ ก็รู้สึกโล่งใจ ส่วนทางด้านกัปตันโรเจอร์ส เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะโดยไม่จําเป็น กัปตันโรเจอร์สได้เข้าไปห้ามปราบพวกคนของทางกองทัพ ดังนั้นสิ่งที่โทนี่รอตอนนี้ ก็คือ กองกําลังสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือ แจ็คสัน

 

หากไม่เป็นเพราะทางกองทัพเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ กองกําลังของ S.H.E.L.D. ก็คงจะมาสนับสนุนได้อย่างไม่ยาก เรื่องนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางกองทัพเต็ม ๆ เหตุผลหนึ่งในนั้นคือการทดลองลับของทางกองทัพ ที่ใช้เลือดของฮัลค์ มาเป็นตัววิจัยและพัฒนาทหารเปลี่ยนร่างพวกนั้น

 

เทคโนโลยีพวกนี้หากเสร็จสมบูรณ์ย่อมกลายเป็นงานวิจัยที่เทียบเท่ากับเตาปฏิกรณ์อาร์คของชุดเกราะไอรอนแมนของตนเอง มันไม่สําคัญแล้วว่างานวิจัยอีกฝ่ายสามารถเทียบเท่าตนเองได้หรือไม่แต่เขาไม่ชื่นชอบวิธีการที่ทางกองทัพใช้ที่จะรับมือกับพวกมิวแทนท์คนอื่น ๆ ดูเหมือนจบเรื่องในคราวนี้เสร็จโทนี่จะต้องทําอะไรบางอย่างบ้างแล้ว

 

“เจ้านายครับ,สไปเดอร์แมนมาถึงแล้ว” ขณะที่โทนี่กําลังพูดถึงเรื่องกองทัพ J.A.R.V..S ก็กล่าวเตือนโทนี่

 

ก่อนหน้านี้ที่เผชิญหน้ากับคิลเลี่ยน ปีเตอร์ ได้เข้าการต่อสู้และจัดการคิลเลี่ยนได้ในที่สุดหลังจากนั้น ปีเตอร์ ก็ขอตัวจากไป เขาไม่รู้เลยว่ามีเรื่องเกิดขึ้นที่วอชิงตันแห่งนี้ต่อดังนั้นเมื่อได้รับข่าวปีเตอร์ จึงรีบมาที่นี่โดยเร็วที่สุด

 

“ปีเตอร์? บอกเขาอย่าให้เข้าใกล้าสนามรบ ฉันไม่ต้องการเพิ่มความกังวลใจของฉันอีก”โทนี่วางแผนจะให้ ปีเตอร์ เฝ้ามองสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ

 

เพราะแจ็คสันเจ้าเด็กตัวแสบนี้ไม่ค่อยฟังคําพูดของเขา หากปีเตอร์เป็นไปด้วยอีกคน โทนี่ก็ย่อมรู้สึกปวดหัวจริงๆดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เขาคิดว่าจะไปพูดกับ ปีเตอร์ โดยตรง

 

ฝุ่นจากการระเบิดที่เกิดขึ้นเกิดหน้านี้ค่อย ๆ จางหายไปในที่สุด จากนั้น สนามรบที่เดิมเห็นได้อย่างไม่ชัดเจน ก็ค่อย ๆ ปรากฏร่างเงาคนนึงขึ้น

 

“นั่น มิราจในทั้งั้นหรอ?” หลังจากหมอกควันและฝุ่นละอองค่อย ๆ หายไป ในที่สุด แจ็คที่เฝ้ามองสังเกตุการณ์อยู่ก็อุทานออกมาอย่างประหลาดใจ

 

ก่อนหน้านี้เขาได้ให้ความช่วยเหลือและต่อสู้ในแนวหน้าจนรู้สึกอ่อนล้า แจ็ค จึงได้ออกจากสนามรบมาเพื่อพักฟื้น แต่ตอนนั้นเอง มิราจไนท์ได้ปรากฏตัวขึ้น และ เข้าปะทะกับฮัลค์ทําให้แจ็ครู้สึกกังวลใจพอสมควร รูปแบบสีเขียวของฮัลค์ได้หายไปจากสายตาของเขาตอนนี้

 

“เดี๋ยวก่อน!เขาไม่ได้หายไป แต่…”

 

“ฮัลค์!” ขณะที่แจ็คกําลังสงสัยจู่ ๆ เสียงคํารามแห่งความโกรธก็ดังผ่านจากศูนย์กลางของนามรบ

 

ร่างกายขนาดใหญ่ของฮัลค์ได้ถูกซัดจมลงไปที่ใต้ดิน หลังจากได้สติฟื้นคืน ฮัลค์ก็ตะโกนออกมาและพุ่งตัวเข้าหามิราจในท์ในทันที

 

“แม้แต่ความแข็งแกร่ง 80% ก็ยังสามารถป้องกันได้อีกงั้นหรอ? สมแล้วที่ เป็นฮัลค์! แจ็คสันจ้องมองไปยังทิศทางของฮัลค์ที่กําลังพุ่งตัวเข้าหาตนเอง

 

เมื่อไม่นานมานี้ แจ็คสันได้ดึงดาบสปิริตซอร์ดของตนเองออกมาและใช้ท่าคลื่นสะบั้นผ่าวิญญาณออกไปเดิมเขาคิดว่าพละกําลังเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการฮัลค์ได้

 

แต่ถึงอย่างนั้นฮัลค์กลับใช้เพียงแค่แขนในการต้านรับการโจมตีสุดโหดอันนั้นไม่แปลกใจที่แจ็คสันจะชื่นชมอีกฝ่าย

 

“ดูเหมือนฉันจะดูถูกอีกฝ่ายมากไปหน่อย!” เห็นปัจจุบันฮัลค์เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ แจ็คสันได้กระพริบตาเล็กน้อย

 

ฟรี่บ!

 

จากนั้นร่างของแจ็คสันก็ทิ้งไว้เพียงภาพมายาก่อนที่จะหายตัวไป

 

Related

ตอนที่ 645 มิราจไนท์ ปะทะ ฮัลค์ 1

 

ไอรอนแมนอีกตัวได้ถูกฮัลค์ฉีกกระจายชิ้นส่วนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายไปทั่วทุกหนแห่งในใจของโทนี่รู้สึกตึงเครียดมาก แม้ว่ากองทัพไอรอนแมนของเขาจะปลดปล่อยปืนใหญ่พลังงานใส่ฮัลค์ก็ราวกับว่าไม่สามารถทําอันตรายใด ๆ ฮัลค์ได้เลย ความกลัวของชื่อฮัลค์ ค่อย ๆ สลักลงในใจโทนี่อย่างช้า ๆ

 

“แบนเนอร์ เพื่อนคนนี้หายตัวไปนานตั้งหลายปี?มาคราวนี้ปรากฏตัวขึ้นและเปลี่ยนร่างกลายเป็นฮัลค์อีกทั้งยังไม่สามารถควบคุมได้ เหตุผลที่แท้จริงมันคืออะไรกันแน่?”เห็น ดร.แบนเนอร์ กลายเป็นฮัลค์ในสถานการณ์ก่อนหน้านี้ โทนี่ ขมวดคิ้วแน่นอย่างสงสัย

 

บรูซ แบนเนอร์ หรือ ฮัลค์ ก่อนหน้านี้ มองหากัปตันโรเจอร์ส อย่างรุนแรง แต่มาคราวนี้ฮัลค์กลับเปลี่ยนเป้าหมายเป็น ตนเอง นี่ทําให้ โทนี่ รู้สึกสงสัย ฮัลค์ในตอนนี้ก็กําลังอาละวาดอย่างบ้าคลั่งทําให้ โทนี่รู้สึกราวกับหายนะที่สูญเงินของเขาออกไป

 

“ดูเหมือนฉันจะต้องหาทางยับยั้ง ฮัลค์ โดยเร็วที่สุด!”โทนี่กล่าวออกมาตอนนี้เขาเหลือชุดเกราะไอรอนแมนอีก 3 ตัว ที่อยู่ที่นี่

 

ฟุบ!

 

ขณะที่ โทนี่กําลังครุ่นคิดวิธีที่จะจัดการฮัลค์ จู่ ๆ เงาร่างสีดําบางอย่างก็พุ่งผ่านทิศทางของเขาไป

 

“เจ้านายครับ คุณมิราจไนท์ มุ่งหน้าเข้าสู่สนามรบแล้ว!” .A.R.VIS เปิดปากเตือน

 

“ฉันเห็นแล้ว! ทําไมเจ้าเด็กคนนี้ถึงดื้อดึงนัก แม้ฉันจะสูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนทั้งหมดฉันก็ไม่ต้องการให้เขาได้รับบาดเจ็บ!”โทนี่ กล่าวออกมาด้วยความกังวล

 

ฟุบ!

 

โทนี่ได้เตรียมพร้อมชุดเกราะไอรอนแมนของตนเอง เขาไม่ลังเลที่จะทุ่มสุดตัวเพื่อจัดการฮัลค์เพราะเขาไม่ต้องการให้ แจ็คสัน ต้องเข้าไปเผชิญหน้ากับอันตราย

 

” J.A.R.V.I.S ติดต่อ กัปตันโรเจอร์ส และ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ในทันที บอกกับพวกเขาว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีเวลามามัวเล่นกันอยู่แล้ว!”โทนี่ ตะโกนบอก J.A.R.V.I.S

 

“ครับเจ้านาย!”ได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.VIS ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เริ่มติดต่อกับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ และ กัปตันโรเจอร์ส

 

“แจ็คสัน! เจ้าเด็กคนนี้ เขากําลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ? ทําไมถึงพุ่งเข้าไปแบบนั้น ทั้งยังเมินเฉยการติดต่อจากฉันอีก!”โทนี่ ตะโกนออกมาอด้วยความโกรธ

 

แจ็คสันเลือกที่จะเมินเฉยคําพูดของโทนี่และไม่ตอบกลับ เขารู้ได้ชัดว่าตนเองกําลังทําอะไรแน่นอนว่าเขารู้ขีดจํากัดของตนเองดีหากไม่สามารถจัดการฮัลค์ได้เขาก็จะเลือกที่จะถอยออกมา

 

“คุณ สตาร์ค คุณสบายใจได้ ผมแค่จะลองทดสอบความแข็งแกร่งของตนเองกับฮัลค์ดูแน่นอนว่าผมจะไม่ฝืนตนเองเด็ดขาด!” แจ็คสันกล่าวอธิบายตอบกลับไปเล็กน้อย

 

“ฝืนตนเอง?อะไรที่เรียกว่าผืนตนเอง!?”ได้ยินคําตอบของแจ็คสัน โทนี่ แทบจะรู้สึก โกรธจนเป็นบ้าแจ็คสันต้องการใช้ความแข็งแกร่งของฮัลค์ทดสอบความแข็งแกร่งของตนเอง? นี่มันใช่เรื่องที่ควรทํางั้นหรอ

 

ฟุบ!

 

“เจ้านายครับ,ระดับพลังงานภายในร่างของ คุณ แจ็คสัน พุ่งสูงขึ้นมากถึงระดับ 4″ขณะเดียวกัน J.A.R.V.I.S ก็กล่าวเตือนโทนี่

 

เพื่อที่จะแสดงความมั่นใจให้โทนี่ดู แจ็คสันได้ปลดล็อคชุดแพนท่อมสูทของตนเองและปลดปล่อยความแข็งแกร่งออกมาโดยตรง เพื่อให้ J.A.R.V.I.S สามารถตรวจสอบระดับพลังงานภายในร่างของเขาได้

 

” หม?มากถึงระดับ 4! เจ้าเด็กคนนี้เก็บงําความแข็งแกร่งเอาไว้อย่างงั้นหรอ?”โทนี่รู้สึกไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

 

“เจ้านายครับ….บางทีตอนนี้คุณแจ็คสันอาจเป็นเพียงคน ๆ เดียวที่สามารถต่อกรกับฮัลค์ได้ดีที่สุดในตอนนี้” J.A.R.V.I.S กล่าวแนะนํา

 

จากการตรวจสอบของ J.A.R.V.I.S เมื่อเทียบความแข็งแกร่งของ แจ็คสัน และ ฮัลค์ ความแข็งแกร่งของพวกเขาแทบไม่ได้แตกต่างกันเลย ดังนั้น J.A.R.VIS เชื่อว่า แจ็คสันอาจมีโอกาสที่จะสามารถจัดการกับฮัลค์ได้

 

“นายคิดงั้นจริงหรอ?”ได้ยินคําพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวถามอย่างจริงจัง

 

“ครับ,” J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างมั่นใจ

 

“ก็ได้งั้นปล่อยให้เขาลองไป หากมีเรื่องที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นฉันจะลงมือตอบโต้ขั้นเด็ดขาดในทันที นายเองก็เถอะเตรียมตัวไว้”โทนี่ ปล่อยให้ แจ็คสัน รับมือกับฮัลค์

 

” ครับ!”

 

เมื่อตระหนักได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งของแจ็คสัน โทนี่ เชื่อว่าแจ็คสันคงจะไม่แพ้ง่าย ๆ ดังนั้นเขาจึงไว้วางใจให้แจ็คสันรับมือกับฮัลค์ จากนั้นไม่นานดาบสปิริตซอร์ดที่อยู่ข้างเอวของเขาก็ถูกดึงออกมาใช้

 

“ฮัลค์ ฉันมาแล้ว!” เมื่อเข้าใกล้ตําแหน่งสนามรบและเห็นฮัลค์อยู่ภายใต้ระยะการโจมตีแจ็คสันพุ่งเครื่องร่อนของตนเองเข้าหาอีกฝ่ายด้วยความเร็วสูง

 

“เพื่อนคนนั้นเป็นพันธมิตรร่วมทีมของโทนี่งั้นหรอ?”เห็นแจ็คสันพุ่งเครื่องร่อนเข้ามาหาตนเองจิตใต้สํานึกของ ดร.แบนเนอร์ ได้พึมพัมออกมา แม้เขาจะมีจิตใต้สํานึกคงเหลืออยู่แต่ก็ไม่อาจห้ามปราบฮัลค์ได้

 

สําหรับฮัลค์ที่ฉีกชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่เป็นว่าเล่นจนคิดว่าไม่มีใครพอที่จะเป็นคู่มือของเขาได้พอเห็นแจ็คสันปรากฏตัวฮัลค์ลิงโลดด้วยความดีใจ

 

“ฮัลค์!” ฮัลค์คํารามออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่แจ็คสันและเปิดแขนทั้งสองข้างขึ้น

 

พริบตาต่อมาคลื่นพลังที่คุ้นเคยได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากใบดาบของแจ็คสัน

 

ฟุบ!

 

ลําแสงสีฟ้าได้วาดผ่านออกมาจากเบื้องหน้าของแจ็คสันพุ่งเข้าหาฮัลค์ที่อยู่ด้านล่าง

 

Related

ตอนที่ 644 ความอยากรู้อยากเห็นของแจ็คสัน

 

ตึก!

 

“เกิดอะไรขึ้น? ฮัลค์กําลังต่อต้านฉัน!” หลังจากการจากไปของ ทีมX-MEN ดูเหมือนฮัลค์จะมีท่าทีที่โกรธมากขึ้น

 

เพราะการจากไปนี้ทําให้ ฮัลค์ไม่มีคู่ซ้อมมือตนเอง ดังนั้น ดร.แบนเนอร์จึงถูกฮัลค์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธกลืนกิน หากฮัลค์อาละวาดอย่างเต็มที่ นี่ย่อมไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เขาต้องการ

 

“ฮัลค!”ในที่สุดประกายแสงในนัยน์ตาของฮัลค์ก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวลึกล้ำอย่างทั่วถึงก่อนที่เขาจะคํารามออกมาด้วยความโกรธ

 

จิตใต้สํานึกของ ดร.แบนเนอร์เริ่มที่จะจางหายไป วิสัยทัศน์ของฮัลค์จ้องมองไปที่ชุดเกราะไอรอนแมนที่อยู่ด้านหลัง มีเพียงไอรอนแมนตัวนี้เท่านั้นที่ลอยอยู่ไม่ไกลจากตัวเขา

 

“J.A.R.V.I.S ฉันคิดว่ามีบางอย่างแปลกไป?”เห็นฮัลค์คํารามออกมาอย่างโกรธเคือง โทนี่กล่าวถามจาก J.A.R.V.I.S

 

“เจ้านายครับ,ระดับพลังงานของฮัลค์ กําลังพุ่งสูงขึ้น!”ได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

“บ้าเอ้ย! นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!”ได้รับข่าวจาก J.A.R.V.S ผิวของโทนี่ กลายเป็นน่าเกลียดมากขึ้น

 

ขณะที่โทนี่กําลังวิเคราะห์ว่าทําไมระดับพลังงานของฮัลค์กําลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฮัลค์เองก็กําลังพุ่งตรงเข้าหาโทนี่อย่างรวดเร็ว

 

“เร็วเข้า รีบหลบเร็ว!” เห็นฮัลค์พุ่งเข้ามาอยู่ไม่ไกลจากตนเอง โทนี่ กล่าวสั่ง J.A.R.V.I.S

 

ฟุบ!

 

แต่ทว่าร่างของฮัลค์ได้กระโดดลอยขึ้นไปบนอากาศพร้อมกับกางแขนออกเตรียมขย้ำชุดเกราะไอรอนแมนอย่างเต็มที่

 

“โฮกก!”

 

ปั้ง!

 

ชุดเกราะของโทนี่ถูกฮัลค์ตบกระเด็นร่วงลงไปที่พื้นแรงสั่นสะเทือนทําให้โทนี่รู้สึกจุกจากภายใน

 

“อั๊ก!”

 

“เจ้านายครับ,ระบบไฟฟ้าเสียหาย เหลือพลังงานเพียง 30%” หลังจากถูกฮัลค์ฟาดลงมาที่พื้นดิน ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ก็ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

 

ติ๊ด ติ๊ด!

 

“เวรเอ้ย! ทําไมเขาถึงเพ่งเล็งมาที่ฉันทันที หรือว่าพอไม่เห็นคู่ต่อสู้อื่นก็เลยเปลี่ยนตําแหน่งมาเป็นฉัน?”โทนี่กล่าวออกมาอย่างไม่เต็มใจ

 

เขาไม่รู้และทําได้เพียงแต่คาดเดาการกระทําของฮัลค์ ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

 

” J.A.R.V.I.S ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ หากเขาเปลี่ยนเป้าหมายเป็นเรา เราก็คงจะต้องอยู่เล่นกับเขา ฉันจะแสดงให้เห็นว่าชุดเกราะไอรอนแมนของฉัน ไม่ใช่ผักนุ่มที่จะสามารถเคี้ยวได้ง่าย ๆ “โทนี่ ตัดสินใจที่จะไม่หลบหนีอีกต่อไป

 

“ครับเจ้านาย!” J.A.R.V.I.S ได้ตอบรับคําพร้อมกับเริ่มคํานวณมุมโจมตีที่ดีที่สุด

 

ฟุบ!

 

ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ได้ลอยขึ้นกลางอากาศอีกครั้งจากนั้นชิ้นส่วนที่เสียหายก็ถูกปลดออกอย่างรวดเร็วขณะที่ชิ้นส่วนชุดเกราะใหม่หลายชิ้นได้บินเข้ามาประกอบทดแทนชิ้นส่วนเหล่านั้น

 

โทนี่ได้ตัดสินใจที่จะตอบโต้ฮัลค์คืนมั้ง ในเวลานี้ เขาเสียใจมากที่สั่งการชุดเกราะไอรอนแมนจํานวนมากให้กลับไปก่อนหน้านี้ไม่งั้นโทนี่ที่มีกองทัพไอรอนแมนมากกว่า 100 ตัวน่าจะสามารถเผชิญหน้ากับฮัลค์ได้พอสมควร

 

เมื่อได้รับคําสั่ง J.A.R.VIS ก็เริ่มบังคับชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อทําการโจมตี ฮัลค์ ได้จ้องมองและตั้งรับการโจมตีจากชุดเกราะไอรอนแมนเหล่านั้นในระหว่างนั้นสายตาสีเขียวที่ล้ำลึกของฮัลค์ก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“ฮัลค์!”ฮัลค์ตะโกนคํารามออกมาและเริ่มกระโจนเข้าหาชุดเกราะไอรอนแมนที่ลอยอยู่กลางเวหา

 

ปั้ง

 

ฮัลค์ได้ทําการโจมตีไปยังชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ที่ลอยอยู่กลางอากาศราวกับว่าสิ่งที่ฮัลค์ต้องการตอนนี้ก็คือการอาละวาดอย่างเต็มที่

 

“นั่นคือฮัลค์จริง ๆ อย่างงั้นหรอ? ทําไมถึงรู้สึกว่าพละกําลังมันอ่อนแอมากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้?”มองไปที่ความแข็งแกร่งของฮัลค์ แจ็คสันที่เฝ้ามองจากระยะไกลบ่นพึมพัมออกมา

 

ถึงเขาจะไม่เคยเผชิญหน้ากับฮัลค์มาก่อน แต่ แจ็คสันก็สามารถวิเคราะห์สถานการณ์โดยรวมได้ ก่อนหน้านี้ ฮัลค์ได้เผชิญหน้ากับกัปตันโรเจอร์ส แต่กัปตันโรเจอร์ส ก็ยังสามารถโจมตีสวนกลับป้องกันได้ นี่แสดงให้เห็นว่าพละกําลังของฮัลค์มันขัดต่อหลักความจริง ที่แจ็คสันรู้

 

ปั้ง!

 

แต่ถึงระดับความแข็งแกร่งจะไม่ถึงขอบเขตที่แจ็คสันคํานวณเอาไว้ก็ตามแต่ด้วยพลังระดับนี้ก็เพียงพอแล้วที่ฮัลค์จะสามารถบดขยี่ชุดเกราะไอรอนแมนได้ด้วยมือเปล่า

 

“ฉันจะลองเข้าปะทะเผชิญหน้ากับฮัลค์เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งดูดีหรือไม่?”แจ็คสันรู้สึกสนใจในเรื่องนี้

 

แจ็คสันได้ตัดสินใจที่จะเผชิญหน้าและท้าทายโลก มาร์เวล แห่งนี้ แน่นอนว่าหากความแข็งแกร่งระหว่างตนเองกับศัตรูห่างชั้นมากเกินไปแจ็คสันก็ย่อมไม่เอาตนเองเข้าไปเสี่ยงอย่างแน่นอน แต่ฮัลค์นั้น เพียงแค่อาละวาด เขาไม่ใช่ศัตรูที่แจ็คสันจะต้องกําจัดทิ้ง

 

“เอาล่ะตัดสินใจแล้ว! หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ชุดเกราะไอรอนแมน ของโทนี่ จะถูกทําลายไปทั้งหมด!”แจ็คสันที่ตัดสินใจได้ในที่สุดเขาได้หยิบเครื่องร่อนและเริ่มเดินเครื่องอีกครั้ง

 

ฟุบ!

 

จากนั้นแจ็คสันก็ขับเคลื่อนเครื่องร่อนของตนเองมุ่งตรงเข้าไปยังทิศทางสนามรบ

 

Related

ตอนที่ 643 ไม่ใช่คู่มือของฮัลค์

 

ฟ้าว!

 

ชุดเกราะไอรอนแมนที่อยู่บนอากาศจู่ ๆ ก็ถูกโจมตีจากพละกําลังอันแข็งแกร่งของฮัลค์ พริบตาเดียว ชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวก็ถูกซัดกระเด็นและถูกทําลายภายใต้การโจมตีนี้

 

“เวรเอ้ย! ฮัลค์ กําลังเป็นบ้าไปแล้ว”โทนี่ ที่สูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัว เขาจ้องมองฮัลค์ที่ ร่วงตกลงไปในเวลาเดียวกัน

 

เขารู้ดีว่าพละกําลังของฮัลค์นั้นแข็งแกร่งแต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะทุ่มกําลังและจัดการบดขยี้ชุดเกราะไอรอนแมนได้ในพริบตา

 

ฮัลค์ในปัจจุบันดูไม่เหมือนเมื่อหลายปีก่อน ฮัลค์ในตอนนี้ดูน่ากลัวกว่าเดิมอย่างมาก โทนี่ไม่ต้องการที่จะลองของและสร้างความโกรธเคืองให้กับฮัลค์ ดังนั้น โทนี่ จึงสั่งการให้ J.A.R.V.I.S ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมน ให้แยกย้ายออกจากกันอย่างรวดเร็ว

 

แม้ว่าโทนี่จะไม่เต็มใจที่จะใช้วิธีนี้ แต่มันก็เป็นสิ่งจําเป็น แม้การเผชิญหน้ากับคิลเลี่ยนก่อนหน้านี้ ไอรอนแมนจะมีบทบาทสําคัญ ไม่เว้นแม้แต่การต่อสู้กับพวกสมาคมมิวแทนท์ ไอรอนแมนก็ยังมีบทบาทสําคัญอยู่ แต่หลังจาก แมกนีโต จากไป และ ตอนนี้พวกเขามาเผชิญหน้ากับฮัลค์ ชุดเกราะไอรอนแมนที่เป็นจุดแข็งของโทนี่ ที่ไม่สามารถใช้การได้กับแมกนีโต ตอนนี้ศัตรูที่เขาควรกังวลก็มีเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งนั่นก็คือฮัลค์ ชุดเกราะไอรอนแมนทุกตัวล้วนเป็นทรัพย์สินของเขาพวกมันเปรียบเสมือนเงินของตนเอง หากชุดเกราะไอรอนแมนของตนเองถูกทําลายก็เหมือนกับเขาสูญเสียเงินไปนั่นเอง

 

“เจ้านายครับ โค้ดเนม ดูไบ อาวุธลับของเรากําลังเข้าสู่ตําแหน่งวงโคจรในระยะยิง แต่จําเป็นจะต้องใช้เวลาในการประมวลผลเนื่องจากเปิดใช้งานครั้งแรก” J.A.R.V.I.S กล่าวออกมา

 

ดูไบ เป็นโค้ดเนมลับของอาวุธใหม่ล่าสุดของ สตาร์คอินดัสตรีท เนื่องจากก่อนหน้านี้บนสะพานโกลเด้นเกทในระหว่างที่เผชิญหน้ากับไฮดร้า พวกเขาได้ใช้พลังเวทย์มนตร์ของลูกบาศก์เวทมนตร์ในการก่อกวนคลื่นสัญญาณต่าง ๆ ทําให้การโจมตีของพวกโทน ทั้งหมดถูกจับทางได้ ดังนั้นโทนี่ จึงเตรียมพร้อมอาวุธยุทธโธปกรณ์ที่โจมตีจากทางอากาศ มันมีส่วนที่คล้ายกับระบบดราม่าคริซิส ที่เป็นระบบฟื้นฟูสัญญาณของ โทนี่ เรื่องนี้ มีS.H.I.E.L.D. เข้ามาเกี่ยวข้อง โทนี่ไม่ได้มีอํานาจในส่วนนี้อย่างเต็มที่

 

ก่อนหน้านี้ที่โทนี่จะสร้างระบบอาวุธนี้เสร็จ เขาได้รับการสนับสนุนจากกัปตันโรเจอร์สเป็นอย่างดี ดังนั้นตัวของระบบจึงใช้เวลาสร้างไม่นานกว่าที่เขาคิดเอาไว้ ส่วนชื่ออาวุธ เป็น แจ็คสันที่เป็นคนตั้ง และ โทนี่ ก็ไม่ได้คัดค้านข้อเสนอแนะของแจ็คสัน

 

“ยกเลิกทั้งหมด ฉันไม่ต้องการใช้ ดูไบ ในตอนนี้”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวอย่างสงบ

 

เผชิญหน้ากับฮัลค์ที่ดุร้ายเช่นนี้เขาไม่กล้าที่จะเสี่ยงใช้ความรุนแรง ฮัลค์ คือบุคลิกที่รุนแรงดังนั้นโทนี่ จึงไม่อยากจะเผยไพ่ตายนี้ออกมาด้วย เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะสามารถต้านทานการโจมตีของตนเองได้หรือไม่ แต่พลังภายในร่างของฮัลค์ตอนนี้มีสูงมากกว่าระดับ 4

 

โทนี่เองก็ไม่ต้องการให้ชุดเกราะไอรอนแมนของตนเองถูกทําลายไปมากกว่านี้ แต่เขาก็อยากจะหยุดฮัลค์ให้ได้ นอกจากนี้ ฮัลค์ ก็คือ ดร.แบนเนอร์ เขาไม่สามารถทุ่มกําลังเพื่อจัดการฆ่าอีกฝ่ายได้

 

เห็นไอรอนจากไป ฮัลค์ ได้จ้องมองไปยังทิศทางนั้น จู่ ๆ จิตใต้สํานึกของ ดร.แบนเนอร์ ก็ผุดขึ้นมา ไม่รู้ว่าเขามีสติฟื้นขึ้นมาตอนไหน หรือว่านี่เป็นแผนการอะไรบางอย่างของเขากันแน่

 

“คิดถูกแล้วที่เลือกที่จะจากไป”จิตใต้สํานึกของ ดร.แบน พูดในใจ

 

เขาไม่สามารถตามชุดเกราะไอรอนแมนไปได้ อีกทั้ง ฮัลค์ ยังเริ่มกวาดวิสัยทัศน์ไปรอบ ๆ เป้าหมายของเขาก็ยังคงเป็นกัปตันโรเจอร์สอยู่เหมือนเดิม ความแข็งแกร่งของกัปตันโรเจอร์สนั้นรุนแรงมากก็จริง ดังนั้น ฮัลค์ จึงต้องการจะท้าทาย กัปตันโรเจอร์ส ไม่มีใครรู้ว่า นี่เป็นจิตใต้สํานึกของ ดร.แบนเนอร์ หรือ ฮัลค์ กันแน่ที่ต้องการจะทําอย่างนี้

 

“พวกเขาเองก็น่าสนใจ ฉันเองก็ต้องการจะทดสอบพวกเขาดูเหมือนกัน” นอกเหนือจากทิศทางของกัปตันโรเจอร์ส ฮัลค์จ้องมองไปยังทิศทางด้านของพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์และกลุ่ม X-MEN

 

เป็นกันที่แน่ชัดแล้วว่า ฮัลค์เพียงต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของตนเอง ฮัลค์รู้สึกได้ถึงพละกําลังที่น่าเกรงขามของพวกมิวแทนท์เหล่านี้ โดยเฉพาะเพื่อนที่สามารถปลดปล่อยพลังเยือกแข็งได้ อีกทั้งหญิงสาวสายฟ้า สตอร์ม นั่นก็ดี หากไม่ใช่เพราะร่างกายที่แข็งแกร่งของตนเองคงไม่สามารถต้านทานอีกฝ่ายได้แน่

 

“เดิมฉันก็ไม่ได้ต้องการให้ฮัลค์ทําแบบนี้ แต่ฉันไม่ลังเลที่จะทําให้ทุกคนได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฮัลค์” จิตใต้สํานึกของ ดร.แบนเนอร์ กล่าวออกมา

 

เห็นสายตาที่ฮัลค์มองมา กัปตันโรเจอร์ส และ พวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองก็สัมผัสได้

 

โดยเฉพาะศาสตราจารย์เขาขมวดคิ้วแน่นเล็กน้อย

 

“สายตาของพวกเขาราวกับว่ากําลังมองมาที่เรา พวกเรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ?”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่ฮัลค์อย่างสงสัย และจ้องมองไปที่บลิงก์

 

ฟุบ!

 

เห็นสายตาของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ บลิงก์ ได้เปิดประตูมิติอวกาศขึ้นอย่างรวดเร็วจากนั้นสมาชิกคนอื่น ๆ ของทีม X-MEN ก็เริ่มที่จะถอยกลับเข้าไปในประตูมิติอวกาศ

 

จากนั้นสมาชิกทั้งหมดของทีมX-MEN ก็หายตัวไปจากที่นี่ในทันที

 

Related

ตอนที่ 642 ไอรอนแมนถูกโจมตีอย่างกระทัน

 

ฟู่วว!

 

กลุ่มหมอกควันได้ลอยคงทั่วกลางสนามรบ ๆ หลังจากหมอกค่อย ๆ จางออกไป บนสนามรบก็ปรากฏเงาร่างขนาดใหญ่และเล็กสองคน เผชิญหน้ากัน กัปตันโรเจอร์สได้ชันเข่าลุกขึ้นมา

 

“เพื่อนกัปตันคนนี้สามารถต้านรับกําปั้นของฮัลค์ได้จริง ๆ ?”เห็นกัปตันโรเจอร์สสามารถรอดพ้นจากกําปั้นอันทรงพลังของฮัลค์ได้ โทนี่ที่คอยสังเกตุการณ์รู้สึกประหลาดใจ

 

เดิมโทนไม่คิดเลยว่า กัปตันโรเจอร์สจะสามารถป้องกันการโจมตีของฮัลค์ได้ ต้องบอกก่อนว่า พละกําลังของฮัลค์นั้นรุนแรงมาก สิ่งที่กัปตันโรเจอร์สครอบครองเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพละกําลังเหนือมนุษย์ส่วนน้อยเท่านั้น เซรุ่มซูเปอร์โซลเดอร์นั้นทรงพลังก็จริงแต่มันก็คือเทคโนโลยีที่มีมานานมากกว่าหลาย 10 ปีก่อน

 

หากเทียบกับผลข้างเคียงด้านศักยภาพของพลังมันย่อมไม่สามารถนํามาเปรียบเทียบกับพละกําลังของฮัลค์ได้

 

“ฮัลค์ ใช้พละกําลังทั้งหมดแล้วจริงงั้นหรอ?”โทนี่ คาดเดาสิ่งที่สามารถเป็นไปได้

 

เขาไม่รู้เหตุผลว่าทําไม ดร.แบนเนอร์ หรือ ฮัลค์ มีเป้าหมายเป็นทีม K และ กัปตันโรเจอร์ส สิ่งรอบตัวของเขา ฮัลค์ ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นทีม X-MEN หรือ คนอื่น ๆ ราวกับเป้าหมายของเขามีเพียงพวกกัปตันโรเจอร์สเพียงอย่างเดียว

 

อาจเป็นไปได้ว่าสัญชาตญาณของ ฮัลค์ นั้นสามารถตรวจพบความแข็งแกร่งที่มาจาก แหล่งพลังงานที่คล้ายเคียงกันของกัปตันโรเจอร์ส ดังนั้น ฮัลค์ หรือ ดร.แบนเนอร์ จึงเพ่งเล็งไปที่ กัปตันโรเจอร์ส โดยปริยาย

 

กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่ฮัลค์ที่อยู่เบื้องหน้า พละกําลังของเขาถูกลดทอนไปมากหลังจากต้านรับหมัดอันทรงพลังของฮัลค์ แต่ กัปตันโรเจอร์สไม่ได้สะทกสะท้าน เขายังมีไฟตายที่เป็นอาวุธพิเศษอยู่

 

“ฉันเองก็ไม่อยากจะใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาเลย ให้ตายสิ” กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่ฮัลค์

 

หลังจากหลายปีผ่านไป ดร.แบนเนอร์ ได้พยายามสะกดข่มฮัลค์และปรับตัวให้อยู่กับมันได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองได้ เขายังสามารถคงสติได้ ขณะที่อยู่ร่างฮัลค์อีกด้วย

 

แต่อย่างไรก็ตาม อิทธิพบในการเปลี่ยนร่างของ ดร.แบนเนอร์ อาจจะมีผลข้างเคียง เพราะบุคลิกภาพของฮัลค์แข็งแกร่งเกินไป ทําให้ ดร.แบนเนอร์ ไม่สามารถควบคุมได้

 

หลังจากตรวจสอบอีกฝ่ายสําเร็จ ในที่สุดกัปตันโรเจอร์สก็เตรียมพร้อมเข้าปะทะอีกครั้ง

 

ขณะเดียวกันดวงตาของฮัลค์ก็ปรากฏประกายไฟสีเขียวแวบผ่านรุนแรงมากขึ้นพละ กําลังของฮัลค์ราวกับว่ากําลังแข็งแกร่งมากกว่าเดิม

 

ฮัลค์จ้องมองไปยังตําแหน่งนึ่งมันเป็นตําแหน่งของเพราะไอรอนแมน

 

นักวิทยาศาสตร์ระดับชั้นแนวหน้าของโลกอย่าง ดร.แบนเนอร์ เอง ก็รู้จัก โทนี่ สตาร์ค แน่นอนว่า โทนี่ สตาร์ค ถือเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้เก่งกาจคนนึง แม้แต่คนอย่างเขาก็นับถือ แต่ไม่รู้ว่าทําไม ดร.แบนเนอร์ ในร่าง ฮัลค์ ตอนนี้ ถึงจ้องมองไปที่ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่

 

โทนี่ ที่เห็น ฮัลค์ จ้องมองมาที่ตนเอง เขารู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย

 

“ J.A.R.VIS เขากําลังจ้องมองมาที่เราใช่มั้ย?”เห็นฮัลค์จ้องมองมาที่ตนเอง โทนี่ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นครับ!”วิเคราะห์จากรูปลักษณ์ลักษณะท่าทางและเส้นสายตา J.A.R.V.I.S ได้ให้คําตอบอย่างรวดเร็วโทนี่”

 

จากนั้นร่างของฮัลค์ก็ย่อตัวลงเล็กน้อยเขากําลังนั่งยอง ๆ เพื่อที่จะทําอะไรบางอย่าง ขณะเดียวกัน ร่างของฮัลค์ก็ดีดตัวขึ้นจากพื้นขึ้นไปบนอากาศ

 

ฟ้าว!

 

” ตรวจพบเจตนาในการโจมตีของเป้าหมาย! ดําเนินการหลีกเลี่ยงอย่างรวดเร็ว!”เห็นฮัลค์ พุ่งเคลื่อนไหวเข้ามาหาตนเอง J.A.R.VIS วิเคราะห์อย่างรวดเร็ว และ เริ่มบังคับชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อหลีกเลี่ยง

 

ฟุ่บ!

 

กองทัพไอรอนแมนของโทนี่ ได้กระจายตัวออกไปภายใต้คําสั่งของ J.A.R.V.I.S แต่ทว่า การดีดตัวของ ฮัลค์นั้นรวดเร็วอย่างมาก

 

“ไม่ทันแล้ว!”

 

 

Related

ตอนที่ 641 ฮัลค์ ปะทะ กัปตันอเมริกา

ฟุ่บ!

เงาร่างสีเงินได้ปรากฏตัวขึ้นและเคลื่อนไหวเข้าใกล้ประชิดตัวของฮัลค์ ขณะนั้นเองกระแสอากาศเยือกแข็งขนาดใหญ่ก็ค่อย ๆ ปิดผนึกรางของฮัลค์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าของเงาร่างนี้เป็นใคร เขาก็คือ ไอซ์แมน ทีมX-MEN ในสถานการณ์ปัจจุบันศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่อาจปล่อยให้ พวกของกัปตันโรเจอร์ส เผชิญหน้ากับศัตรูอยู่ฝ่ายเดียวได้

ร่างกายของฮัลค์เต็มไปด้วยไอเย็นปกคลุมจากนั้นไม่นานร่างกายของฮัลค์ก็เริ่มก่อร่างกลายเป็นประติมากรรมน้ําแข็ง

แกร๊ก!

หลังจากแช่แข็งฮัลค์สําเร็จ ไอซ์แมนก็คลายสภาพร่างเยือกของตนเองเพื่อกลับคืนสู่ร่างมนุษย์ปกติ เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายย่อมไม่สามารถดิ้นหลุดจากการจับกุมของตนเองไปได้

ไอซ์แมนเลือกที่จะเดินหันหลังกลับพร้อมกับยกมือบอกกัปตันโรเจอร์สว่ามันจบแล้ว เพียงแต่กัปตันโรเจอร์สไม่ได้คลายความกังวลลงแม้แต่น้อยเขายังคงจ้องมองไปยังรูปปั้นประติมากรรมน้ําแข็งด้านหลังของไอซ์แมน จู่ ๆ สายตาของกัปตันโรเจอร์สก็เห็นนัยน์ตาสีเขียว ภายในนั้นของฮัลค์ได้สว่างวาบขึ้น

“ระวัง!”

“มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวลอย่างงั้นหรอ?” เห็นรูปลักษณ์ของกัปตันโรเจอร์ส ไอซ์แมนราวกับไม่เข้าใจ เพียงแต่ จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังใกล้ ๆ หูของเขา

แกร๊ก!

แกร๊ก!

ไอซ์แมนได้มองย้อนหันกลับไปเขาเห็นรูปปั้นน้ําแข็งเดิมขนาดใหญ่ตอนนี้ได้เริ่มเกิดรอยร้าว และรอยแตกมาขึ้นจากนั้นร่างกายขนาดใหญ่ก็หลุดพ้นจากการแช่แข็งและพุ่งตรงเข้าหาไอซ์แมนที่อยู่ไม่ไกลทันที

“เป็นไปไม่ได้!”ไอซ์แมนตะโกนออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา

ฟุ่บ!

จากนั้นร่างของไอซ์แมนก็กลับเป็นร่างผลึกน้ําแข็งอีกครั้งเขาได้ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นสบัดออกและสร้างกําแพงน้ําแข็งขนาดใหญ่ล้อมรอบตัวอย่างรวดเร็ว ร่างขนาดใหญ่ของฮัลค์ได้พุ่งชนเข้ากับกําแพงน้ําแข็ง แต่ทว่าฮัลค์กลับไม่ได้ยอมแพ้เขาเริ่มยกมือต่อยไปที่กําแพงน้ําแข็งอย่างรีบร้อน

ปั้ง

เสียงแรงสั่นสะเทือนจากการปะทะกันของกําปั้นและกําแพงน้ําแข็งได้ดังสนั่นไปทั่วพื้นที่กําแพงน้ําแข็งของไอซ์แมน เริ่มที่จะปริแตกออกภายใต้การโจมตีของฮัลค์

หลังจากกําแพงน้ําแข็งถูกทําลายฮัลค์ได้ชัดฝามือออกไปจนร่างของไอซ์แมนได้ถูกซัดกระเด็นเหมือนกับสมาชิกทีม K สองคนก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งของฮัลค์รุนแรงกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก

“ฮัลค์มต้านทานบรรยากาศเยือกแข็งด้วยงั้นหรอ?” หลังจากเห็นไอซ์แมนถูกส่งบินลอยไป กัปตันโรเจอร์ส บ่นพึมพัมออกมา

ตึง! ตึง

จากนั้นฮัลค์ก็มุ่งหน้าวิ่งไปยังทิศทางของกัปตันโรเจอร์ส ราวกับว่าเป้าหมายของฮัลค์คือ S.H.I.E.L.D. และกัปตันโรเจอร์ส คนอื่น ๆ ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา ขณะนั้นเองจู่ ๆ เหนือศีรษะของฮัลค์ก็ปรากฏสายฟ้าผ่าลงมากลางตัวเขาเต็ม ๆ

!

สายฟ้าเหล่านั้นเป็นการโจมตีของ สตอร์ม เธอได้ปลดปล่อยการโจมตีลงบนร่างของฮัลค์ แต่ถึงอย่างนั้นการโจมตีของเธอก็สร้างได้แค่รอยขีดข่วนเพียงเท่านั้น ฮัลค์มีภูมิต้านทานอากาศ ความเย็น แน่นอนว่าย่อมต้องมีภูมิต้านทานไฟฟ้าด้วย

ร่างของฮัลค์อยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากกัปตันโรเจอร์ส ด้วยมัดกล้ามและกางเกงขาสั้นที่เด่นสะดุดตาไม่นาน ฮัลค์ก็ปรากฏตัวที่ด้านหน้าของกัปตันโรเจอร์สและชัดการโจมตีด้วยหมัดขนาดยักษ์ออกไป

ฟุ่บ!

แต่ขณะที่กัปตันโรเจอร์สเตรียมยกโล่เตรียมรับแรงปะทะจู่ ๆ ด้านหลังของเขาก็ปรากฏประตูมิติอวกาศขึ้น ดูเหมือนศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะให้บลิงก์ทําการสนับสนุนกัปตันโรเจอร์สให้หลุดจากการโจมตีของฮัลค์เพราะเขาเชื่อว่ากัปตันโรเจอร์สย่อมไม่สามารถเผชิญหน้ากับฮัลค์โดยตรงได้

กัปตันโรเจอร์สมองไปที่ประตูมิติอวกาศที่อยู่ด้านหลังเขาสามารถเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อหลบเข้าไปข้างไหนได้ แต่มีหรือที่กัปตันโรเจอร์สจะกลัว ฮัลค์มีเป้าหมาย คือตนเอง เป็นธรรมชาติที่เขาจะไม่เลือกหนีจากการต่อสู้

ฟุ่บ!

กัปตันโรเจอร์สไม่สนใจประตูมิติอวกาศที่อยู่ด้านหลัง เขาสไลด์ตัวผ่านระหว่างขาของฮัลค์เพื่อหลบการโจมตี

ปั้ง

การโจมตีครั้งแรกของฮัลค์ได้พลาดเป้าแต่ฮัลค์ก็ไม่รีรอโจมตีไปที่กัปตันโรเจอร์สอีกครั้ง

ปั้ง

กัปตันโรเจอร์สได้ยกโล่ของตนเองขึ้นมาปะทะกับกําปั้นของฮัลค์พละกําลังของฮัลค์ส่งผลให้กัปตันโรเจอร์สจําต้องเข่าทรุดลงอย่างเจ็บปวด

คลื่นแรงกระแทกจากการปะทะของทั้งสองคนส่งผลให้ประตูมิติอวกาศที่ปรากฏขึ้นได้หายไป ศาสตราจารย์ชาร์ลส์และคนอื่น ๆ เองก็ได้ล่าถอยออกไปจากระยะโจมตีของฮัลค์

หมอกและฝุ่นได้ปกคลุมไปทั่วบริเวณแห่งนี้ การเผชิญหน้ากันระหว่างกัปตันโรเจอร์ส และ ฮัลค์ก็ยังคงอยู่ กัปตันโรเจอร์ส เป็นฝ่ายตั้งรับตลอดระยะเวลาที่สู้กัน

ถ้าจะให้พูดก็คือพละกําลังของฮัลค์เหนือกว่าพละกําลังทางกายของกัปตันโรเจอร์ส เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่กัปตันโรเจอร์สก็พยายามใช้ความคล่องตัวในการหลบหนีการโจมตีของฮัลค์อย่างต่อเนื่อง

จากนั้นเขาก็ส่วนกลับการโจมตีไปที่ใบหน้าของฮัลค์ ฮัลค์ ได้คว้ามือของกัปตันโรเจอร์สและเหวี่ยงกระเด็นลอยออกไป กัปตันโรเจอร์สได้หมุนตัวกลางอากาศและล้มลงบนพื้นอย่างมั่นคง

เขาได้กําโลในมือของตนเองแน่นและจ้องมองไปที่ฝ่ายตรงข้ามที่อยู่เบื้องหน้าอย่างดุเดือด

ตอนที่ 640 ทุบทําลาย

ขณะที่แจ็คสันโดดลงมาจากเครื่องบิน ควินเจ็ท,J.A.R.V.1.S ก็ได้แจ้งเตือนคําพูดของเขา ให้โทนี่รู้ หลังจากได้ยินข้อความจาก J.A.R.V.S การแสดงออกของโทนี่ค่อนข้างไม่สบอารมณ์ เขาเองก็รู้มานานแล้วว่า แจ็คสัน ไม่ค่อยเชื่อฟังและปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ วัยรุ่นเช่นแจ็คสัน อาจกําลังอยู่ในช่วงวัยต่อต้าน

“ไม่เป็นไร ยังไง การจัดการ ดร.แบนเนอร์ ในคราวนี้ก็ไม่รู้ผลลัพธ์ที่แน่ชัด หากเขาจะอยู่ดูการต่อสู้ก็ชั่งเขาเถอะ”โทนี่ได้แต่ปลอบใจตัวเอง

“J.A.R.V.I.S ให้ความสนใจในการตรวจจับพลังงานของ ดร.แบนเนอร์ เมื่อความรุนแรงมากกว่า 4 ให้รีบบอกฉันทันที”โทนี่ ได้กล่าวบอก J.A.R.V.I.S

“ครับเจ้านาย” J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ฟุ่บ!

จากนั้นโทนี่ก็ขับชุดเกราะไอรอนแมนของเขาบินไปข้างหน้า โทนี่ไม่ได้วางแผนที่จะเข้าปะทะกับฮัลค์บนเวทีสนามรบในตอนนี้ เขาหวังที่จะรอดูผลลัพธ์ในตอนแรกเสียก่อน

ฟ้าว!

ขณะที่โทนี้ไม่สามารถป้องกันความอยากรู้อยากเห็นของแจ็คสันได้สําเร็จ อีกทางด้านนึง กัปตันโรเจอร์สได้นําทีม K ไปสู่ใจกลางสนามรบ

“สมาชิกทีม K ทุกคน จัดตั้งบวนสร้างฟิลดพื้นที่เยือกแข็ง” กัปตันโรเจอร์สตะโกนออกมา

ฟุ่บ

ได้ยินคําสั่งจากกัปตันโรเจอร์สมาชิกทุกคนได้หันปืนอาวุธสนามพลังและยิงออกไปข้างหน้า จากนั้นภูมิภาคสนามพลังเยือกแข็งก็ถูกปกคลุมไปรอบพื้นที่ตําแหน่งของฮัลค์ที่อยู่ตรงกลาง ในเวลานี้ หากเป็นไปได้เขาก็ไม่ต้องการที่จะสู้กับ ฮัลค์ ในคราวนี้

ปั้ง

ฮัลค์ที่เห็นสนามพลังล้อมรอบตนเองเขาได้กระโดดขึ้นและทุบกําปั้นลงที่พื้นอย่างรุนแรง

“ไม่ดีแล้ว! กระจายตัว กระจายขนาดสร้างขอบเขตสนามพลังเพิ่มขึ้น!” เห็นฮัลค์เริ่มลงมือ กัป ตันโรเจอร์ส กล่าวสั่งอีกครั้ง

ฟู่วว!

แม้คําสั่งของกัปตันโรเจอร์สจะสั่งการในทันที แต่การตอบสนองของทีมK นั้นค่อนข้างช้า สมาชิกทีม K สองคนได้โดนคลื่นแรงกระแทกจนส่งตัวพวกเขากระเด็นลอยไป

ฟุ่บ!

หลังจากสมาชิกทีม K สองคนบินลอยไป หมอกและฝุ่นควันได้ปกคลุมภูมิภาคแห่งนี้ แม้ กระทั่งกัปตันโรเจอร์สก็ยังตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มืดบอด

“กระจายกําลังออกไป! เปิดใช้งานอาวุธโจมตีระยะไกล!” กัปตันโรเจอร์สตะโกนออกคําสั่ง

เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดในร่างมนุษย์ กัปตันโรเจอร์สย่อมไม่รู้สึกยินดี เขาไม่คิดเลยว่า ดร.แบนเนอร์ จะปรากฏตัวขึ้นที่สนามรบแห่งนี้ ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกทีม K ของเขาเองก็ค่อนข้างเหนื่อยล้า ไม่เว้นแม้แต่สมาชิกทีม X-MEN และ คนอื่น ๆ

ได้ยินคําสั่งของกัปตันโรเจอร์สคราวนี้สมาชิกทีม K ได้กระจายตัวออกไปอย่างรวดเร็วนอกเหนือจากอาวุธสนามพลังแล้วพวกเขายังมีอาวุธโจมตีระยะไกลพิเศาอีกด้วย แม้ว่ากระบวนทัพจะถูกทําลายเพราะขาดสมาชิกสองคนที่โดนโจมตีกระเด็นไป แต่คนอื่น ๆ ของสมาชิกทีม K ก็ไม่ได้หวั่นเกรง ถึงแม้พละกําลังทางด้านกายภาพจะไม่สามารถไม่สู้ฮัลค์ได้ แต่พวกเขาก็ทดแทนมันด้วยความชํานาญในการใช้อาวุธเทคโนโลยีระดับสูง

ฟุ่บ!

หลังจากที่สมาชิก ทีม K กระจายตัวออกไปพวกเขาก็หยิบปืนคลื่นแรงสั่นสะเทือนออกมา พลังงานคลื่นแรงสั่นสะเทือนกว่า 10 ครั้ง ได้ถูกยิงออกไปตรงทิศทางของฮัลค์

เห็นการโจมตีของสมาชิกทีม K ประกายแสงสีเขียวในดวงตาของฮัลค์ได้กระพริบวาบขึ้น จากนั้นแขนของฮัลค์ทั้งสองข้างก็เหยียดออกมาจากกัน

“ฮว๊าก โฮก-“ฮัลค์ใช้มือที่เหยียดออกทุบที่อกและคํารามออกมา

ฟุ่บ!

คลื่นสั่นสะเทือนเหล่านั้นล้วนไร้ผลเมื่ออยู่ต่อเบื้องหน้าของฮัลค์ราวกับว่าพละกําลังที่เด็ดขาดนี้ไม่มีผลกระทบต่อการโจมตีแม้แต่น้อย

ฟุ่บ!

ฮัลค์ได้กระโดดออกไปก่อนที่จะขัดสมาชิกทีม K หลายคนกระเด็นไป อุปกรณ์ในมือของพวกเขาล้วนถูกทําลายอย่างรวดเร็วกัปตันโรเจอร์สที่อยู่ไม่ไกลได้ยกโล่ของตนเองขึ้นและพุ่งเข้าปะทะกับฮัลค์

ด้านหน้าของฮัลค์กัปตันโรเจอร์สได้ชัดโล่ต่อยไปที่หน้าของเขาจากนั้นก็สวนกลับการโจมตีหลายอย่าง

เผชิญหน้ากับการโจมตีของกัปตันโรเจอร์สอย่างเต็มที่บนใบหน้าของฮัลค์ปรากฏรอยขีดข่วนเล็กน้อยแต่มันก็แค่รอยขีดข่วนไม่สามารถนํามาเทียบจริงกับบาดแผลได้ ดูเหมือนความแข็งแกร่งทางกายภาพของกัปตันโรเจอร์สจะไม่สามารถเทียบกับฮัลค์ได้

ขณะที่ฮัลค์กําลังพุ่งเข้าหากัปตันโรเจอร์ส จู่ ๆ เงาร่างสีฟ้าของคน ๆ นึง ก็พุ่งเข้าหาเขา จากนั้นกระแสอากาศเยือกแข็งขนาดใหญ่ก็ได้โจมตีเข้าใส่ฮัลค์โดยตรง

ตอนที่ 639 แจ็คสันกลับมาถึง

หลังจาก ดร.แบนเนอร์ กระโดดลงมา จู่ ๆร่างของเขาก็เปล่งแสงสีเขียวมากขึ้นเรื่อย ๆ จนปกคลุมไปทั่วร่างของเขา

“ฮัลค์ได้เวลาพานายออกไปเดินเล่นแล้ว!”

ฟุ่บ!

จากนั้นร่างของ ดร.แบนเนอร์ ก็ขยายมากขึ้นเรื่อย ๆ มวลกล้ามอันหนาแน่นได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วเสื้อผ้าสไตล์ตะวันตกของเขาที่สวมใส่อยู่ได้ฉีกขาดหายไป นอกเหนือจากการพองตัวของร่างกายแล้ว สีผิวของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นสีเขียวรูปลักษณ์เดิมของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด

คลื่น

ผ่านไปหลายวินาที ดร.แบนเนอร์ ได้ร่วงลงสู่พื้นสําเร็จ พื้นที่โดยรอบถูกเปลี่ยนเป็นหลุมขนาดยักษ์ ในขณะนี้บนร่างของฮัลค์หลงเหลือเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียวเพียงเท่านั้นส่วนอื่น ๆ ของร่างกายล้วนเปลือยเปล่าทั้งหมด กล้ามเนื้อที่ปรากฏค่อนข้างเด่นชัดอย่างมาก

ตึง

จากนั้นร่างของฮัลค์ได้เดินออกมาจากหลุมขนาดยักษ์จนร่างของเขาปรากฏตัวสู่วิสัยทัศน์ของพวกกัปตันโรเจอร์ส และ สมาชิก ทีม K

ทุกการเคลื่อนไหวของฮัลค์จะสร้างแรงสั่นสะเทือนบนพื้นที่ดุดันออกมา จากนั้นฮัลค์ก็กวาดสายตาไปโดยรอบก่อนที่จะจ้องไปยังตําแหน่งของ พวกกัปตันโรเจอร์ส และ คนอื่น ๆ

….

“เจ้านายครับ อุปกรณ์ หมายเลข 2 เตรียมพร้อมแล้ว คุณต้องการที่จะเปิดทํางานเลยหรือไม่?”เห็นฮัลค์กระโดดลงมาถึงพื้น J.A.R.V.I.S. ได้แจ้งเตือน โทนี่

“เตรียมพร้อมรอคําสั่งของฉัน”โทนี่สั่นศีรษะเล็กน้อย

จากการตรวจสอบของ J.A.R.V.I.S. ฮัลค์ ในปัจจุบัน มีพลังงานความผันผวนมากถึงระดับ 4 อีกทั้งยังเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์มากกว่าสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวนั่นอีก โทนี่ ต้องการจะรอดูผลลัพธ์ระหว่าง ทีมX-MEN กับ พวกกัปตันโรเจอร์สซะก่อน หากไม่ไหวจริงๆ เขาจะเผยอาวุธลับนี้ออกมา

“ครับเจ้านาย! เริ่มนับถอยหลัง 80 วินาที”ได้ยินคําตอบของโทนี่ J.A.R.V.I.S. เริ่มต้นเตรียมพร้อมใช้งานในทันที

ติ๊ด ๆ

เพียงแต่ว่าหลังจาก J.A.R.V.I.S. เริ่มนับถอยหลัง จู่ ๆ เขาก็ได้รับข้อความด่วนพิเศษ

“เจ้านายครับ คุณ มิราจในท์ มาถึงแล้ว”J.A.R.V.S. แจ้งเตือนแก้โทนี่

“หืม? แจ็คสัน มาถึงแล้ว?”ได้ยินรายงานของ J.A.R.VI.S. โทนี่ แสดงออกอย่างแจ่มแจ้ง

“แม้ว่าแจ็คสันจะกลับมา แต่ก็ไม่อาจประมวลผลสถานการณ์ได้ใหม่! ความแข็งแกร่งของฮัลค์ ไม่ใช่สิ่งที่จะประเมินได้ง่าย ๆ แจ้งข่าวต่อแจ็คสัน เรื่องนี้เขาไม่จําเป็นจะต้องมีส่วนร่วมได้”โทนี่ กล่าวบอก J.A.R.V.I.S.

….

“ครับเจ้านาย!” J.A.R.V.I.S. ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ ดร.แบนเนอร์ กระโดดลงมาและแปลงร่างเป็นฮัลค์ อีกทางด้านนึง เครื่องบินควินเจ็ทของ S.H.I.E.L.D ตอนนี้ แจ็คสันได้อยู่บนเครื่องนั้นเขาเพิ่งนั่งกลับมาจากเม็กซิโกด้วยความเร็วสูงสุดของตัวเครื่องแล้ว

ขณะที่แจ็คสันอยู่ในห้องนักบิน เขาก็จ้องมองสถานการณ์ด้านล่าง จากนั้นในหูของเขาก็ปรากฏเสียงของ J.A.R.V.S ขึ้น

“คุณ มิราจไนท์,ตอนนี้แมกนี้โตได้ออกจากสนามรบไปแล้ว ทหารเปลี่ยร่างของทางกองทัพเองก็ถูกควบคุมตัวแล้วเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น ดร. แบนเนอร์ ได้ปรากฏตัว และเปลี่ยนร่างกลายเป็นฮัลค์ เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้โดยไม่จําเป็น คุณสตาร์ค ให้ผมมาแจ้งคุณว่า คุณไม่จําเป็นจะต้องเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้”

ได้ยินเสียงของ J.A.R.VIS แจ็คสันขมวดคิ้วแน่นขึ้น มีหลายอย่างเกิดขึ้นที่นี่ แมกนีโต ได้ปรากฏตัวขึ้นและบุกกองกําลังของสไตรเกอร์ แต่เพราะมีทีมX-MEN เข้ามาร่วมต่อสู้ด้วย สถานการณ์จึงไม่บานปลาย เรื่องนี้ทําให้เขารู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทําให้แจ็คสันประหลาดใจก็คือเรื่องทหารเปลี่ยนร่างของทางกองทัพ ดูแล้วมันฟังดูน่าเหลือเชื่ออย่างมาก อีกทั้งกองทัพยังมีอาวุธพิเศษที่สามารถระงับพลังกลายพันธุ์ได้อีก นอกเหนือจากเรื่องนี้ก็ยังมีเรื่องของ ดร.แบนเนอร์

“ทําไม ดร.แบนเนอร์ ถึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้?อีกทั้งเขายังเปลี่ยนร่างกายเป็นฮัลค์?ถ้าฉันจําไม่ผิด ดร.แบนเนอร์ ในตอนนี้ยังมีสองบุคลิกในร่างเดียวอยู่ หากบุคลิกอีกด้านนึงของเขาออกมา บุคลิกเดิมของเขาก็จะหลับไป”แจ็คสันพึมพัมในใจ

ดร.แบนเนอร์นั้นเป็นนักชีววิทยา ความฉลาดของเขาถูกจัดอยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกัน อีกบุคลิกนึง ฮัลค์ นั้นก็ถูกจัดอยู่ในตัวตนของซูเปอร์ฮีโร่ที่น่าเกรงขามมากที่สุดคนนึ่งของโลกมาร์เวล อย่างน้อยแจ็คสันก็คิดแบบนั้น

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะไปมองด้วยตาของฉันเอง หากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง หากมีธอร์อยู่ด้วยล่ะก็ ก็คงจะพอฟัดพอเหวี่ยงได้บ้าง”แจ็คสันบ่นพึมพัมในใจ

“J.A.R.V.I.S แจ้งคุณสตาร์ค บอกว่าฉันจะไม่ทําตัวไร้เหตุผล”แจ็คสันตอบกลับ J.A.R.V.I.S

จากนั้น แจ็คสันก็เดินไปยังตําแหน่งห้องเครื่องและให้นักบินเปิดประตูห้องโดยสารออก

ฟุ่บ

แจ็คสันได้คว้าเครื่องร่อนและกระโดดลงไปโดยตรง!

ตอนที่ 638 การตัดสินใจของ ดร.แบนเนอร์

ก่อนหน้านี้หลายนาทีก่อนที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวยักษ์จะปรากฏขึ้น มีเครื่องบินลํานึงได้ลอยเหนือน่านฟ้ากลางสนามรบ เครื่องบินลํานี้เป็นเครื่องบินขององค์กร S.H.I.E.L.D.

ฟุบ!

ถูกต้องนี่คือเครื่องบินขององค์กร S.H.I.E.L.D. มีคนสองคนยืนอยู่ข้างกระจกห้องนักบิน ด้านหลังเป็นชายหญิงดูเหมือนพวกเขาอยากรู้อยากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้านล่างมาก

“ดร.แบนเนอร์ พวกเราตรงไปที่สํานักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. กันเลยหรือไม่?” หญิงสาวคนนึงได้เปิดปากกล่าวถามชายวัยกลางคน

หากแจ็คสันอยู่ที่นี่เขาย่อมจําเสียงนี้ได้อย่างแน่นอนเพราะนี่คือเสียงที่หายไปนาน ใช่แล้วเธอก็คือสมาชิกขององค์กร S.H.I.E.L.D. นาตาชา เธอได้หายตัวไปเพื่อทําภารกิจค้นหาวของ ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้าง ๆ เธอ ดร.แบนเนอร์ ชายคนนี้เป็นหนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ที่โด่งดังที่สุดของโลกมาร์เวล

นาตาชา ได้อยู่ช่วย ดร.แบนเนอร์ ในการช่วยเหลือผู้คนในสถานที่แห่งนึ่ง หลังจากผ่า นไปเกือบสองสัปดาห์ ดร.แบนเนอร์ ในที่สุดก็ยินยอมกลับไปที่องค์กร S.H.I.E.L.D. กับนาตาชา อย่างไรก็ตาม ดร.แบนเนอร์ จะเข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. หรือไม่ อันนี้เขาขอคิดพิจารณาก่อน

ขณะที่ นาตาชา กําลังพา ดร.แบนเนอร์ ไปที่สํานักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ด้านล่างก็เกิดสงครามระหว่าง แมกนีโต และ สไตรเกอร์ ดร.แบนเนอร์ ได้เฝ้ามองสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ หากเขาคิดจะเข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. เขาจําเป็นจะต้องเข้าใจอีกฝ่ายเสียก่อนและบุคคลที่เขาสนใจและต้องการเห็นเป็นอย่างมากก็ดี กัปตันอเมริกา

แต่สิ่งที่ ดร.แบนเนอร์ พบในขณะที่สังเกตุการณ์อยู่ก็คือ ทางกองทัพ ได้สร้างสัตว์ประหลายักษ์ตัวเขียวที่เหมือนกับเขา มันได้กระตุ้นอารมณ์ไม่พอใจของ ดร.แบนเนอร์ จนเขารู้สึกโกรธเคือง

อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นสีหน้าของ ดร.แบนเนอร์นาตาชาพยายามเกลี่ยกล่อมเขาให้ใจเย็นลง

“คุณไม่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าสนใจงั้นหรอ?” ดร.แบนเนอร์กล่าวออกมา

เอง ดร.แบนเนอร์ การแสดงออกของนาตาชาค่อนข้างแข็งที่อ” ดร.แบนเนอร์ คุณคงไม่คิดที่จะ…”

“สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเหล่านั้นเป็นผลจากการทดลองลับของทางกองทัพ ในอดีตที่ผ่านมาฉันได้ทํางานให้กับพวกเขา หลังจากหลายปีผ่านไปไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะสร้างสิ่งบกพร่องเหล่านี้ขึ้นมา”ดร.แบนเนอร์ ไม่ได้ฟังคําพูดของนาตาชา เขาอธิบายและเดินไปที่ด้านหลังห้องเครื่องยนต์

ได้ยินคําอธิบายของ ดร.แบนเนอร์ นาตาชา สามารถรับรู้ได้ถึงความเกลียดชังที่ออกมาจากน้ําเสียงเหล่านี้

“ดร.แบนเนอร์!”เห็น ดร.แบนเนอร์ เดินไปยังทิศทานด้านหลังห้องเครื่องยนต์ นาตาชา วิงตามไปด้วยความกังวล

ในเวลานี้ นาตาชา สามารถคาดเดาได้ว่า ดร.แบนเนอร์ คิดจะทําอะไร ดร.แบนเนอร์ ไม่พอใจสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเหล่านั้น เขาคิดจะโดดลงไปปรากฏตัวขึ้นกลางสนามรบแต่ทว่าการปรากฏตัวของ ดร.แบนเนอร์ อาจทําให้ ทั่วทั้งสนามรบเกิดความสับสน

“ไม่ใช่ว่าคุณต้องการให้ผมเข้าร่วมองค์กร S.H.I.E.L.D. งั้นหรอ? ไม่คิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่ผมจะได้แสดงจุดแข็งของตนเองออกมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขา?” ดร.แบนเนอร์กล่าวพูดกับนาตาชาที่วิ่งตามมา

“ดร.แบนเนอร์ คุณ…”ได้ยินคําพูดของ ดร.แบเนอร์ นาตาชา ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ดี เธอเห็นประกายสีเขียวที่แวบผ่านดวงตาของ ดร.แบนเนอร์

“เปิดประตูห้องโดยสารให้ผม คุณก็รู้ว่าผมไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอก!” ดร.แบนเนอร์ กล่าวออกมา

“ก็ได้”ในที่สุด นาตาชา ก็ยอม

สิ่งที่นาตาชากลัวก็คือ ทางด้านที่มพันธมิตร และ กองกําลังของ S.H.I.E.L.D. จะเข้าใจผิดแต่ถึงอย่างนั้น นาตาชา ก็เชื่อว่ากัปตันโรเจอร์ส จะสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้หากไม่แล้ว ธอก็คิดว่า พวกของเธอน่าจะสามารถหยุด ดร.แบนเนอร์ได้หลายปีมานี้ดร.แบนเนอร์สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้น ราวกับว่าบุคคลิกภาพอันดุร้ายปาเถื่อนนั้นไม่เป็นปัญหากับเขาอีก

ฟุบ!

หลังจากนาตาชาพยักหน้าตอบเธอก็สั่งให้นักบินเปิดประตูห้องโดยสารออกจากนั้นกระแสลมจากด้านนอกก็พัดโหมกระหน่ําเข้ามาในตัวเครื่องจนนาตาชาต้องหาที่จับให้มั่นคง

“ขอบคุณ!”ดร.แบนเนอร์หันศีรษะไปมองนาตาชาก่อนที่จะกล่าวขอบคุณและกระโดดลงไป

ฟบ!

จากนั้นร่างของ ดร.แบนเนอร์ ก็ปลิวหายไปกับกระแสลม

“หวังว่าทางด้านกัปตัน จะไม่มีปัญหานะ” จากนั้นประตูห้องโดยสารก็ถูกปิดอย่างช้า ๆ นาตาชาได้บ่นพึมพัมออกมาเล็กน้อย

ตอนนี้ ดร.แบนเนอร์ ได้โดดลงไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่นาตาชา สามารถทําได้ก็คือรอดูผลลัพธ์ทางด้านกัปตันโรเจอร์สเพียงเท่านั้น

ตอนที่ 637 เหตุการณ์กระทันหัน

การจากไปของแมกนีโตไม่ได้เป็นจุดสนใจของใคร ๆ นั่นก็เพราะไม่มีใครเห็นการจากไปของเขาแต่ทว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์นั้นรู้เห็นทุกอย่าง เขาให้ความสนใจเพื่อนคนนี้ของตนเองมาเป็นระยะเวลาหลายปี ก่อนหน้านี้เขาก็สัมผัสได้ลาง ๆ ถึงการมาถึงของพวกลูก ๆ แมกนีโตแต่ทว่าเขาก็ไม่ได้เข้าไปขัดขวางการพบกันของพ่อลูกเหล่านั้น

“ไอซ์แมน ถูกเหมือนผลระงับความสามารถของพวกเราจะหมดไปแล้ว นายใช้ความสามารถเยือกแข็งของนายในการจัดการคนเหล่านี้อย่างน้อยก็ช่วยลดจํานวนผู้เสียชีวิตโดยไม่จําเป็น” หลังจากละสายตาออกจากทิศทางของแมกนีโต ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็บอกกล่าวกับไอซ์แมน

เนื่องเพราะความสามารถจับกุมของไอซ์แมนสูงที่สุดในบรรดาคนในทีม X-MEN ก่อนหน้านี้พวกเขาได้เลือกซ่อนตัวด้านหลังกัปตันโรเจอร์สและทีม K เพราะว่าพลังถูกระงับ นั่นเองก็เป็นเหตุผลที่ทําให้ไอซ์แมนรู้สึกไม่พอใจ ตอนนี้พลังของเขาฟื้นคืนกลับมาแล้วไอซ์แมนไม่ต้องการที่จะ ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังคนอื่น ๆ อีก

ฟุบ!

ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไอซ์แมนได้เปลี่ยนร่างของตนเองเป็นผลึกน้ําแข็งอีกครั้งเขาได้กระโดดพุ่งเข้าไปในวงล้อมของพวกสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวหลายตัวก่อนที่จะทําการแช่แข็งพวกมันอย่างต่อเนื่อง

“ไหม?ดูเหมือนพลังของพวกเขาจะฟื้นคืนกลับมาแล้ว”เห็นไอซ์แมนลงมืออย่างรวดเร็ว กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่ เขาอย่างเงียบ ๆ

จากนั้นกัปตันโรเจอร์สก็ได้นําทีม K ของเขา ประสานงานกับ ไอซ์แมน ในการจัดการสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเหล่านี้ แน่นอนว่า กองทัพไอรอนแมนเองก็ช่วยเหลือเช่นเดียวกัน

หลังจากผ่านไปครึ่งนาที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวตัวสุดท้ายก็ถูกจัดการโดยไอรอนแมนและทีม K ทันทีที่จัดการสัตว์ประหลาดเหล่านี้เสร็จพวกเขาก็ช่วยกันควบคุมตัวพวกมันเอาไว้กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่สมาชิกทีม K ที่บาดเจ็บ รอยย่นบนคิวของเขาปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลัง จากผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไปดูเหมือนกัปตันโรเจอร์สจะต้องเร่งพัฒนากองกําลังของเขาให้มากกว่านี้

“กัปตันโรเจอร์ส,แมกนีโต ได้ไปแล้ว ฉันคิดว่า ศึกครั้งนี้ก็คงจะจบลงแต่เพียงเท่านี้ แม้จะเกิดความสูญที่เกินคาดหมายไปนิดหน่อย แต่อย่างน้อยพวกเราก็ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ขยายออกไปเพิ่มขึ้น” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่อยู่ข้าง ๆ กัปตันโรเจอร์สกล่าวพูดขึ้น

การต่อสู้ระหว่างมิวแทนท์ด้วยกันนั้นสามารถสร้างภัยคุกคามขนาดใหญ่เป็นวงกว้างได้แน่นอนว่าการสูญเสียไม่ได้จํากัดเฉพาะแค่กําลังคนแต่รวมถึงไปถึงสิ่งก่อสร้างเช่นตัวเมืองคราวนี้แมกนีโต ได้ระเบิดพลังอย่างบ้าคลั่งเพียงครั้งเดียว ทําให้ไม่เกิดผลกระทบต่อวอชิงตันมากนักผลลัพธ์ในตอนนี้ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็ว่าได้

“อืม ฉันมีความสุขมากที่ได้ร่วมพิทักษ์บ้านเมืองร่วมกับทีมX-MENของพวก คุณ” ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์กัปตันโรเจอร์สตอบกลับ

แม้กัปตันโรเจอร์สจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งอะไรมากนัก แต่เขาก็ยอมรับความแข็งแกร่งของทีมX-MEN ว่าเหนือกว่าทีมอเวนเจอร์สของเขา พวกเขาในตอนนี้มีแต่จะต้องเร่งพัฒนาอุปกรณ์ไฮเทคอย่างต่อเนื่อง หากเผชิญหน้ากับ แมกนีโต ครั้งต่อไป พวกเขาหวังว่าจะไม่เกิดผลลัพธ์เช่นเดิมอีก

“เกี่ยวกับการบุกโจมตีสไตรเกอร์ของแมกนีโตในครั้งนี้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์คุณพอจะรู้อะไรบ้างไหม?”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามเพื่อต้องการคําอธิบาย

“กัปตันโรเจอร์สเกี่ยวกับเรื่องเพื่อนคนนี้ฉันไม่ขอบอกเหตุผลกับคุณได้มั้ย”ได้ยินคํา ถามของกัปตันโรเจอร์ส ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวพูดและเตรียมจะอธิบาย

“นั่นมันอะไร?”กัปตันโรเจอร์สไม่ได้ฟังคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เขาจ้องมองไป ที่บนท้องฟ้าและตะโกนออกมา

“อะไร..?”เห็นท่าทีของกัปตันโรเจอร์สศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองก็ยกศีรษะขึ้นจ้องมองด้วยความสงสัย

วินาทีต่อมาศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็สังเกตุเห็นเงาบางอย่างที่ลอยอยู่กลางอากาศจากนั้นเงาของบุคคลนั้นก็พองตัวและกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวขนาดใหญ่

“นั่นคือทหารเปลี่ยนร่างอีกคนอย่างงั้นหรอ?”เห็นสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวที่ดิ่งลงมาจากบนอากาศศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา

“ไม่! เขาไม่ใช่คนของกองทัพ เวรเอ้ย! ทําไมเขาถึงทําแบบนั้นได้?”กัปตันโรเจอร์สสบถค่าออกมา

จากนั้นเขาก็หยิบโล่ขึ้นมาเตรียมพร้อม

“ถ้าเขาไม่ใช่คนของกองทัพแล้วเขาเป็นใคร?”ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์สศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้สึกสงสัย

“ทีม K เตรียมพร้อมเข้าปะทะ!” กัปตันโรเจอร์สไม่ได้ตอบข้อสงสัยของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เขากล่าวเรียกทีม K ที่กําลังพักฟื้นอยู่ ด้วยน้ําเสียงดุดัน

ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส ทีม K ได้ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน โทนี่ ที่ลอยอยู่กลางอากาศ ก็ตรวจจับสิ่งผิดปกติที่อยู่ข้างบนได้

“สัตว์ประหลาดตัวจริงกําลังจะมาแล้ว!”โทนี่ที่เห็นการสแกนของ J.A.R.V.I.S สีผิวของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

จากการตรวจสอบของ J.A.R.V.I.S สัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวนี้ค่อนข้างคุ้นเคย ก็ไม่แปลกเพราะอีกฝ่ายคือ ดร.แบนเนอร์

“J.A.R.V.1.S อาวุธลับของเราจะสามารถทนได้นานแค่ไหน?”โทนี่กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

เมื่อเผชิญหน้ากับ ฮัลค์ตัวจริง ลําพังเพียงแค่ชุดเกราะไอรอนแมนย่อมไม่เพียงพอ เขาหวังว่าอาวุธลับของตนเองจะสามารถควบคุมสถานการณ์นี้ได้

” 1 นาที 30 วินาที ครับ!” J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

”เตรียมพร้อมในทันที!” หลังจากเห็นสัตว์ประหลาดยักษ์ที่ว่านั่นร่วงหล่นลงสู่พื้นโทนี่ตะโกนอย่างรีบเร่ง

” ครับเจ้านาย!”

ตอนที่ 636 การลอบโจมตีและจุดจบ

 

ลําแสงสีแดงได้พุ่งมาที่แมกนีโตอย่างฉับพลัน แมกนีโต ได้ยกมือขวาขึ้นสร้างคลื่นสนามพลังแม่เหล็กเพื่อต้านทานการโจมตีนี้แต่เพราะความสามารถกลายพันธุ์ของตนเองเพื่อกลับมาสนามพลังแม่เหล็กของแมกตีโตจึงยังช้ากว่าการโจมตีที่ว่านี้ จากนั้นไม่นานลําแสงสีแดงก็พุ่งกระทบเข้ากับไหล่ของแมกนีโตโดยตรง

 

ฟุบ!

 

แมกนีโตทรุดตัวลงเล็กน้อยเดิมเขาที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วก็กลายเป็นบาดเจ็บหนักขึ้นไปอีกแมกนีโตได้มองไปยังตําแหน่งทิศทางที่ลําแสงสีแดงโจมตีเขาในที่สุดเขาก็เห็นตัวตนของอีกฝ่าย ดูเหมือนจะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากลูกน้องของสไตรเกอร์ชายคนนี้ถูกเรียกว่าหมายเลข 2

 

แมกนีโตได้ควบคุมคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของตนเองเพื่อโจมตีสวนกลับไปยังทิศทางของหมายเลข 2 อย่างรวดเร็วเพียงแต่ว่า หมายเลข 2 เองก็หลบหลีกการโจมตีของแมกนีโตได้

 

“ไม่คิดเลยว่าแกจะมีความสามารถที่สามารถช่วยฟื้นฟูตนเองได้!” แมกนีโตจ้องมองไปที่หมายเลข 2 และ กล่าวอย่างเย็นชา

 

ก่อนหน้านี้เขาถูกคุกคามโดยการโจมตีของหมายเลข 2 และ แมกนีโตก็ยอมรับความสามารถกลายพันธุ์ของคนคนนี้ มีน้อยคนมากที่จะสามารถโจมตีถึงตัวของแมกนีโตทั้ง ๆ ที่เขาใช้คลื่นสนามพลังแม่เหล็กได้ นั่นแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ร้ายกาจของอีกฝ่าย

 

แมกนีโตในตอนนี้อยู่ในจุดสูงสุดของมิวแทนท์ระดับ 4 ความสามารถการควบคุมคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของโลกนั้นเป็นความสามารถที่แข็งแกร่งและอันตราย แต่ก็อยู่ในสายควบคุมพลังจิต หากอีกฝ่ายเป็นสายควบคุมพลังจิตเหมือนตนเอง และ แมกนีโตไม่มีหมวกป้องกันพลังจิตเขาก็อาจจะเสียเปรียบได้

 

“ห์เลี่ยงจุดสําคัญไปได้เรอะ!” หมายเลข 2 บ่นออกมาอย่างพึมพัมเมื่อเห็นการโจมตีของตนเองพลาดเป้าไปโดนเพียงแค่แขนของอีกฝ่าย

 

ที่หมายเลข 2 มีความสามารถในการฟื้นฟูก็เพราะการทดลองของสไตรเกอร์นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมหมายเลข 2 ถึงมีความสามารถหลายอย่าง เดิมเขาก็เห็นแมกนีโตต่อสู้กับสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวทั้งสองตัวอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปร่วมด้วย เพราะคิดว่าแมกนีโตจะถูกจัดการแต่ไม่คิดเลยว่าแมกนีโตจะสามารถรอดมาได้เพราะการช่วยเหลือจากคนนอกหลังจากนั้นไม่นอนคลื่นพลังงานอาวุธลับของกองทัพก็สลายหายไป

 

ความสามารถกลายพันธุ์ของเขาเองก็กลับมาอีกครั้ง แต่ก่อนหน้านี้การปรากฏตัวของควิกซิลเวอร์และสกาเล็ตวิช ทําให้เขารู้สึกหวาดกลัว แต่หลังจากทั้งสองคนจากไปและเห็นแมกนี้ โตกําลังเหม่อลอย หมายเลข 2 ได้หาโอกาสลอบโจมตีอีกฝ่ายเพื่อหวังปลิดชีพแต่ไม่คิดเลยว่าอีก ฝ่ายจะไหวตัวทัน

 

แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังโจมตีสร้างบาดแผลให้กับแมกนีโตได้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะรีบจัดการแมกนีโตให้จบตั้งแต่ที่นี่

 

ฟุบ!

 

หลังจากเห็นชัดเจนว่าอีกฝ่ายเป็นใครคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโตได้กระจายพื้นที่ออกไปเป็นวงกว้างเห็นอีกฝ่ายที่ควรจะได้รับบาดเจ็บจากเขาก่อนหน้านี้ได้ฟื้นกลับมาแมกนีโตจําเป็นจะต้องจบศึกนี้ให้เร็วที่สุด

 

ฟรีบ!

 

เห็นแมกนีโตสร้างคลื่นสนามพลังแม่เหล็กกระจายไปยังพื้นที่รอบด้านหมายเลข 2 ราวกับว่ารู้ว่าแมกนีโตกําลังจะทําอะไร เขาได้แยกร่างออกเป็นหลายร่างพร้อมกับกระจายตัวไปยังทิศทางในตําแหน่งต่าง ๆ

 

ร่างแยกเหล่านั้นที่กระจายตัวออกไปดูเหมือนจะสร้างความผันผวนและเริ่มโจมตีสนา มพลังแม่เหล็กของแมกนีโตอีกครั้ง

 

“หึ! มุขเดิม ๆ ฉันไม่ได้ผลกับฉันเป็นครั้งที่สอง!” แมกนีโตบ่นพึมพัมออกมา

 

จากนั้นวิสัยน์ทัศน์ของเขาก็กวาดไปโดยรอบ

 

จากนั้นแมกนีโตก็เรียกพายุเศษโลหะจํานวนมากขึ้นมาลอยเหนือศีรษะของเขาคราวนี้เขาไม่ได้ต้องการปราณีอีกฝ่ายและใจจดใจจ่อที่จะกําจัดอีกฝ่ายโดยตรง

 

เห็นการโจมตีของแมกนีโต หมายเลข 2 รู้สึกตกใจอย่างมากเพราะเขาได้แบ่งร่า งแยกพลังจิตออกไปปั่นป่วนคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโตจนไม่สามารถส่งเสริมการโจมตีหรือป้องกันได้

 

แม้ร่างแยกเหล่านั้นจะสามารถช่วยบดบังวิสัยน์ทัศน์ร่างที่แท้จริงของตนเองแต่ดูเหมือนแมกนีโตจะเล็งมาที่ร่างหลักของเขาโดยตรง

 

“เวรเอ้ย!” หมายเลข 2 ตะโกนออกมาพร้อมกับเตรียมจะพุ่งกระโดดหลบหนี

 

ฟุบ!

 

เศษโลหะจํานวนมากพุ่งทะลุแทงร่างกายของหมายเลข 2 อย่างต่อเนื่อง

 

ฟ้าว!

 

พายุหะเศษโลหะเหล่านั้นทะลวงทะลุจนร่างของหมายเลข 2 เป็นรูพรุน ในเวลานี้ เสียงของหมายเลข 2 ในที่สุดก็เงียบแน่นิ่งไป

 

“นี่จะเป็นการยืนยันว่าแกจะไม่โผล่มาให้ฉันเห็นหน้าอีก!”แมกนีโตจ้องมองไปที่ร่างที่ถูกเจาะเป็นรูพรุนของหมายเลข 2 และกล่าวออกมาอย่างเย็นชา

 

จากนั้นแมกนีโตก็หันหลังเดินออกจาไปจากสนามรบแห่งนี้

 

Related

ตอนที่ 635 พ่อลูกพบหน้า

 

เมื่อ สกาเล็ต วิช และ ควิกซิลเวอร์ หันมาให้ความสนใจแมกนีโต,แมกนีโตได้จ้องมองไปที่ทั้งสองคนด้วยใบหน้าแตกตื่นยินดี

 

“พวกเธอ…พวกเธอชื่ออะไร?”แมกนีโตกล่าวถาม ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ต วิช ตอนนี้เขารู้สึกว่าหัวใจของตนเองเต้นแรงอย่างผิดปกติ

 

” พวกเรา?ฉันชื่อ ควิกซิลเวอร์ ส่วนเธอน้องสาวของฉันเธอชื่อ สกาเล็ต วิช!”เห็นสีหน้าที่แปลกใจของแมกนีโต ควิกซิลเวอร์ตอบกลับมากที่สุดเท่าที่จะทําได้

 

“ควิกซิลเวอร์และสกาเล็ต วิช? ไม่ฉันต้องการทราบชื่อจริงของพวกเธอ? เธอชื่อ เปโตรใช่มั้ย? เปโตร แม็กซิมอฟฟ์ !”ได้ยินคําตอบของควิกซิลเวอร์ แมกนีโต กล่าวถามอีกครั้ง

 

“คุณรู้จักพวกเรา คุณเป็นใครกันแน่?”คราวนี้ไม่ต้องรอให้ควิกซิลเวอร์กล่าวถาม สกาเล็ตวิชได้เดินมาที่เบื้องหน้าของ แมกนีโต

 

“เพราะฉัน…”ได้ยินคําพูดของสกาเล็ต วิช แมกนีโต ค่อนข้างตื่นเต้น เขาอยากที่จะตะ โกนออกไปว่าฉันคือพ่อของพวกเธอ

 

” พี่ชาย พวกเราต้องรีบออกจากที่นี่กันแล้ว!” เพียงแต่ว่าสกาเล็ต วิช ไม่ได้รอคําตอบจากแมกนีโตเธอหันไปกล่าวถาม ควิกซิลเวอร์ทันที

 

เหตุผลที่ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ตวิช ปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือ แมกนีโต นั้นเป็นเรื่องบังเอิญ หลังจากที่ ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ตวิช แยกตัวออกจาก พวกไฮดร้า พวกเขาก็เร่ร่อนอยากจะใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป แต่เพราะการมีอยู่ของทีม X-MEN พวกเขาจึงได้ตระเวณไปทั่วอย่างไร้จุดหมาย

 

เพื่อหลีกเลี่ยงการค้นหาของพวกทีมX-MEN ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ต วิช ได้ตะลอนไปทั่วเนื่องเพราะเมื่อไม่นานมานี้พลังของสกาเล็ต วิช ได้ตื่นขึ้นมา และ สามารถใช้ป้องกันจิตวิญญาณของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงมีโอกาสที่จะตอบโต้พวกทีม X-MEN แต่ถึงอย่างนั้นใจจริงของพวกเขาก็คือการมองหาแม่ของตนเอง แต่หลังจากนั้นพวกเขาได้รับข่าวว่าแม่ของต นเองที่ไม่ได้พบมาหลายปีเธอได้จากไปแล้วแต่เขาก็ได้รับข่าวที่น่าตกใจมานั่นก็คือพ่อของพวก เขายังมีชีวิตอยู่

 

แม่ของพวกเขาได้ทิ้งข่าวเอาไว้ให้ว่าพ่อของเขาคือ แมกนีโต ดังนั้น พวกเขาจึงมาที่วอชิงตันที่นี่เพื่อตามหาเขา แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่พบตัวตนของอีกฝ่ายเลย อาจเป็นเพราะพวกเขาไม่คุ้นเคยหรือเคยเห็นใบหน้าพ่อของตนเองมาก่อน

 

สกาเล็ต วิช ได้ยินชื่อเสียงของ แมกนีโต มาพอสมควร เธอได้ยินการกระทําที่โหดร้ายของพ่อคนนี้ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอยากที่จะเห็นใบหน้าพ่อของเธออีกสักครั้ง

 

“แวนด้า!”ควิกซิลเวอร์ได้กล่าวเรียกเธอ

 

แมกนีโตที่ได้ยินเช่นนั้นในที่สุดเขาก็สามารถยืนยันสถานะของทั้งสองคนได้อย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็นในฐานะพ่อคนนึงแล้วเขาปราถนาที่จะพบทั้งสองคนมาโดยตลอด

 

“แวนด้า!?เธอคือลูกของฉันจริง ๆ !”แมกนีโตรู้สึกอบอุ่นในใจ

 

แมกนีโตได้เดินไปข้างหน้า เขาต้องการที่จะบอกกับลูกๆของตนเองทั้งสองคนว่าแท้จริงแล้วเขาคือพ่อของพวกเธอ

 

ฟุบ!

 

เพียงแต่ว่าแมกนีโตได้เดินออกไปก้าวนึ่งและหยุดลง เพราะแสงสีแดงอ่อน ๆ บางอย่างได้หยุดร่างของเขาเอาไว้ ดูเหมือน สกาเล็ต วิช จะยังมีข้อเคลือบแคลงใจในตัวของเขาอยู่

 

“ไปกันเถอะ สกาเล็ตวิช กล่าวบอก ควิกซิลเวอร์

 

“อืม” ควิกซิลเวอร์กล่าวตอบ

 

ฟุบ!

 

แมกนีโตไม่ได้ทันได้ส่งเสียงอะไรจากนั้นควิกซิลเวอร์ก็ได้พาตัว สกาเล็ตวิช หายตัวไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

 

“แวนด้า…เปโตร” หลังจาก ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ตวิช จากไป แมกนีโต ได้จ้องมองไปที่ทิศทางที่ทั้งสองคนจากไป สีหน้าของเขาโศกเศร้ามาก

 

ฟุบ!

 

แต่ขณะที่แมกนีโตกําลังจ้องมองไปที่ยังทิศทางที่พวกเขาจากไป เขาก็เหลือบไปเห็นเศษกระดาษเล็ก ๆ ได้ลอยมาตกที่พื้น แมกนีโตได้เอื้อมลงไปเก็บและอ่านข้อความบนกระดาษนั้นมันเป็นเบอร์โทรศัพท์และข้อความบางอย่าง

 

“เปโตร แวนด้า”

 

“ไม่ว่าอย่างไรฉันจะทําให้พวกเธอจําฉันให้ได้”แมกนีโตรับเศษกระดาษมาจากนั้นก็บ่นพึมพัม เล็กน้อย

 

ฟุบ!

 

หลังจากรับเศษกระดาษมา แมกนีโต รู้สึกว่าร่างกายของเขาที่ถูกระงับความสามารถก่อนหน้านี้ได้ถูกเรียกคืนกลับมาแล้ว ดูเหมือนเวลาส่งผลของอาวุธลับทางกองทัพจะมีเวลาจํากัดที่ค่อนข้างสั้น แม้มันจะอยู่ได้เพียงแค่ 2 นาที แต่ก็ส่งผลต่อสนามรบหรือพวกมิวแทนท์อย่างมหาศาล

 

“หืม! ฉันได้เจอลูก ๆ ของฉันแล้ว คราวนี้ฉันจะปล่อยพวกแกไปก่อน อย่างไรก็ตาม พวกแกได้เผยอาวุธลับที่พวกแกภาคภูมิใจออกมาแล้ว ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็จะหาทางทําลายมันไม่งั้นพวกเราเหล่ามิวแทนท์จะไม่มีที่ยืนบนโลกใบนี้”แมกนีโตจ้องมองไปที่ สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวที่อยู่ไม่ไกล

 

ฟุบ!

 

แมกนีโตได้สร้างเศษโลหะขนาดยักษ์และจัดการสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวทั้งสองตัว

 

“ควรได้เวลาจากไปแล้ว”แมกนีโตจ้องมองไปยังทิศทางของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เล็กน้อย

 

สําหรับสมาชิกของสมาคมมิวแทนท์ของเขา แมกนีโต รู้ดีว่า ชาร์ลส์จะไม่ทําอันตรายคนเหล่านั้น เมื่อถึงเวลา แมกนีโต จะไปที่โรงเรียนเซเวียร์ และ พูดคุยกับชาร์ลส์โดยตรง

 

ฟุบ!

 

ขณะที่แมกนีโตตัดสินใจที่จะออกจากที่นี่จู่ ๆ ก็มีลําแสงสีแดงยิงตรงมาจากด้านข้างของเขาแมกนีโตได้หันศีรษะไปยังทิศทางที่ว่าในทันที

 

ตอนที่ 634 การมาถึงของคู่พี่น้อง

 

แมกนีโตไม่คิดเลยว่าตนเองจะได้รับการช่วยเหลือในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตยิ่งไปกว่านั้นตัวตนที่ปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือเขา เขาไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงอีกฝ่ายได้

 

“โฮก!”

 

ขณะที่แมกนีโตจ้องมองไปที่อีกฝ่าย และ มองหาเหตุผลที่อีกฝ่ายช่วยเหลือเขา จู่ ๆ เสียงคํารามของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียว ตัวนึง ก็พุ่งเข้ามายังทิศทางของแมกนีโตและจู่โจมเขา

 

เงาร่างสีเงินได้ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของแมกนีโตอีกครั้งและจับมือขนาดยักษ์ที่พุ่งโจมตีแมกนีโตซัดเหวี่ยงลอยไปไกล คราวนี้แมกนีโตสามารถมองเห็นคนคนนี้ได้อย่างชัดเจนผู้ชายคนนี้ ดูแล้วอายุไม่ถึง 30 ปี มีผมสีเงิน ใบหน้ามั่นคงและแน่วแน่อีกทั้งแมกนีโตยังค่อนข้างรู้สึกคุ้นเคย

 

“โฮกก!” สัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวนี้ที่ถูกเหวี่ยงโดย ควิกซิลเวอร์ ด้วยความเร็วสูงได้ลงไปกองจนน้ําลายฟูมปาก

 

ถูกต้องคนที่เข้ามาช่วยเหลือชีวิตของแมกนีโต ก็คือ ควิกซิลเวอร์ ลูกชายของแมกนีโตไม่รู้ว่า ทําไมเขาถึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่และช่วยเหลือแมกนีโต แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้รับผลกระทบจากอาวุธลับของทางกองทัพนั่นแสดงให้เห็นว่าเขาพึ่งจะมาถึงเมื่อไม่นานนี้

 

“เขารูปร่างหน้าตาของเขา!”เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของควิกซิลเวอร์แมกนีโตรู้สึกตกใจอย่างมาก

 

ก่อนหน้านี้แมกนีโตรู้สึกคุ้นเคยเป็นพิเศษเห็นได้ชัดว่าความรู้สึกผูกพันทางสายเลือดของเขามันได้ตอบสนองสัญชาตญาณของตนเอง

 

“เขาคือเปโตร! ลูกชายของฉัน!”แมกนีโตตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

 

ไม่คิดเลยว่าคนที่ช่วยเหลือตนเองจะเป็นลูกชายของเขาเปโตร ดังนั้นใบหน้าของแมกนีโตจึงปรากฏความร่องรอยแห่งความสุข มันค่อนข้างคุ้มค่ากับที่ตัวเขาบุกทุ่มสุดตัวในการโจมตีพวกสไตรเกอร์

 

บั้ง ทั้ง

 

“โฮก!!” ขณะที่แมกนีโตรู้ว่าอีกฝ่ายคือลูกชายของตนเองจู่ ๆ สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวสองตัวที่ถูก ควิกซิลเวอร์จัดการก็ได้ลุกขึ้นมาอีกครั้งคราวนี้เป้าหมายของมันคือ ควิกซิลเวอร์

 

“ระวัง!”เห็นสัตว์ประหลาดทั้งสองตัวลุกขึ้นมาและจู่โจม ควิกซิลเวอร์อย่างรวดเร็ว ใบหน้าของ แมกนีโต ปรากฏความกังวล

 

หืม!

 

ควิกซิลเวอร์ที่ได้ยินเสียงเรียกตะโกนพยายามที่จะหลีกเลี่ยงแต่ว่าอีกฝ่ายเองก็รวดเร็วอย่างมาก แมกนีโตในตอนนี้ไม่ลังเลที่จะฝืนใช้ความสามารถของตนเองแม้ว่าเขาจะได้รับผลย้อนกลับที่ตามมาก็ตาม จู่ ๆ วัสดุโลหะรอบข้าง ก็ถูกควบคุมอีกครั้งแมกนีโตได้ฝืนใช้ความสามารถของตนเองในการป้องกันศัตรูที่โจมตีควิกซิลเวอร์ที่เผลอ

 

สัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวถูกการโจมตีของแมกนีโตจนมึนงงเล็กน้อยซึ่งเปิดโอกาสให้ควิกซิลเวอร์ใช้จังหวะนี้ในการกู้สัญชาตญาณการตอบสนองของตนเองกลับมาอีกครั้ง

 

บัง บั้ง!

 

การโจมตีของสัตว์ประหลาดยักษ์ได้พลาดเป้า แมกนีโตหลังจากใช้ความสามารถร่างกายของเขากลับทรุดตัวลงอย่างอ่อนแออีกครั้ง

 

“เจ้าพวกคนของกองทัพ! ถ้าลูกชายของฉันแมกนีโตคนนี้เป็นอะไรล่ะก็ ฉันไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่!”

 

“ถึงจะต้องตายฉันก็จะตามจองเวรพวกแกให้ถึงที่สุด!”แมกนีโตจ้องมองไปที่ควิกซิลเวอร์อย่างกังวล

 

ควิกซิลเวอร์ได้พุ่งหลบการโจมตีของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวอย่างต่อเนื่องเหตุเพ ราะพวกมันคราวนี้ได้เพ่งเล็งการโจมตีมาที่ควิกซิลเวอร์โดยตรงจนแทบจะไม่เปิดโอกาสให้ควิกซิลเวอร์ได้โจมตีกลับ

 

แมกนีโตได้พยายามฝืนใช้ความนสามารถของตนเองอีกครั้งแต่ดูเหมือนครั้งนี้จะไม่สําเร็จควิกซิลเวอร์ที่กําลังตกที่นั่งลําบาก จู่ ๆ ก็มีพลังงานสีแดงพุ่งเข้ามาหยุดการเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวทั้งสองตัว

 

กําปั้นที่เดิมทุ่งโจมตีอย่างต่อเนื่องได้หยุดโจมตีลงจากนั้นการเคลื่อนไหวทั้งหมดก็ถูกหยุดโดยสมบูรณ์

 

จากนั้นไม่นานร่างของพวกมันก็ถูกส่งลอยไปโดยพลังงานสีแดงที่ว่านี้

 

หลังจากสัตว์ประหลาดยักษ์ถูกเหวี่ยงลอยไป ควิกซิลเวอร์ได้คลานลุกขึ้นมาจากพื้นดินพร้อมกับตบฝุ่นออกจากร่างกาย เมื่อครู่เขาพลาดเกือบที่จะถูกโจมตีแล้ว

 

ในตําแหน่งไม่ไกลจากพวกเขาจู่ ๆ ก็มีเงาร่างสีแดงปรากฏขึ้น ควิกซิลเวอร์ ได้เดินเข้าไปหาคนคนนี้ แมกนีโต เองก็จ้องมองไปที่ทั้งสองคนอย่างตื่นตะลึง เพราะอีกคน คงจะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก สกาเล็ต วิช แวนด้า

 

“ฉันบอกพี่แล้วให้ระวังตัว เห็นไหม พี่ได้รับบาดเจ็บอีกแล้ว!” สกาเล็ต วิช จ้องมองไปที่ควิกซิลเวอร์อย่างกังวล

 

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก บาดแผลแค่นี้ นอกจากนี้ฉันยังมีเธอคอยระวังหลังให้ ดังนั้นฉันจึงไม่รู้สึกกังวลเท่าไหร่” ควิกซิลเวอร์กล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

 

จากนั้นทั้งคู่ก็หันเหความสนใจไปยังทิศทางของแมกนีโต

 

ตอนที่ 633 เงาร่างสีเงิน

 

แจ็คถูกล้อมรอบไปด้วยสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวหลายตัว ก่อนหน้านี้เขาได้เผชิญหน้ากับแมกนีโตและใช้พลังเวทย์ไปมากดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเหน็ดเหนื่อยพอสมควร กัปตันโรเจอร์สกับแจ็ค ในตอนนี้ ได้ถูกล้อมไปด้วยฝูงสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียว

 

บัง บั้ง!

 

ในตําแหน่งไม่ห่างไกลจากแจ็ค ที่มพิเศษทีม K ของ S.H.I.E.L.D. ก็ตกที่นั่งลําบากเหมือนกันไม่เว้นแม้แต่กัปตันโรเจอร์ศ โล่ ในมือของเขาได้ถูกโยนออกไปกระแทกสัตว์ประหลาดยักษ์และเด้งกลับมาจนถึงตอนนี้กัปตันโรเจอร์สได้ใช้พลังกําลังในร่างกายอย่างมากในการจัดศัตรูที่ล้อมรอบตนเอง

 

ฟุบ!

 

เป็นอีกครั้งที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวที่ล้อมรอบเขาได้พุ่งโจมตีกรูเข้ามาพร้อมกัน กัปตันโรเจอร์สได้ยกโล่ในมือของเขาต้านทานหมัดยักษ์ของสัตว์ประหลาดนั่นจนเขาของเขาทรุดลงเล็กน้อยแต่กัปตันโรเจอร์สก็ใช้ความคล่องตัวของตนเองในการสวนกลับอีกฝ่ายและล่าถอยออกไปตั้งหลักตึก!

 

“สตาร์คนายจะมัวยืนรออีกนานไหม?”กัปตันโรเจอร์สเบิดปากพูดขึ้นขณะที่กําลังจัดการพวกสัตว์ประหลาดพวกนี้ไปด้วย

 

หืม!

 

หลังจากกัปตันโรเจอร์สกล่าวออกมาจู่ ๆลําแสงสีขาวหลายสิบสายก็พุ่งลงมาจากบนอากาศลําแสงเหล่านี้ได้หลบหลีกพวกกัปตันโรเจอร์สและสมาชิกของทีมK พุ่งเป้าอย่างแม่นยําโจมตีไปที่สัตว์ประหลาดยักษ์เหล่านั้น

 

“ฉันรู้แล้วน่า แค่วิเคราะห์สถานการณ์อยู่ก็เท่านั้น” จากนั้นเสียงของโทนี่ก็เปล่งข้าง หูของกัปตันโรเจอร์ส

 

ได้ยินคําพูดของโทนี่ กัปตันโรเจอร์สยนคิ้วเล็กน้อยเพราะเขารู้ดีว่า โทนี่ เป็นคนยังไง โทนี่ต้องการเข้ามาช่วยในวินาทีที่พวกเขากําลังตกที่นั่งลําบาก เพราะความสําคัญของกองทัพไอรอนแมนในตอนนี้สูงมากเนื่องเพราะความสามารถกลายพันธุ์ของเหล่ามิวแทนท์ถูกระงับ ประสิทธิภาพของชุดเกราะไอรอนแมนจะสามารถเชิดฉายมากที่สุดในตอนนี้ก็ไม่แปลก

 

ยิ่งไปกว่านั้นกําลังของกัปตันโรเจอร์สคนเดียวย่อมไม่สามารถกําจัดศัตรูได้หมดแม้สมาชิกทีมK ของตนเองจะมีเทคโนโลยีระดับสูงอยู่กับตัว แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าของตนเองได้ดังนั้นเมื่อได้กองทัพไอรอนแมนมาช่วยย่อมช่วยเบาแรงของตนเองไปเยอะ

 

“ประสานงานกับ กองทัพไอรอนแมน ช่วยกันหยุดสัตว์ประหลาดยักษ์พวกนี้ พวกมันย่อมไม่สามารถคงสภาพนี้ได้นานนัก” กัปตันโรเจอร์สกล่าวสั่งทีม K ของเขา

 

ไม่ว่าทางกองทัพจะวางแผนจัดการแมกนีโตเด็ดขาดขนาดไหนแต่พวกเขาก็ย่อมมีขีดจํากัดซึ่งกัปตันโรเจอร์สเชื่อว่ากองทัพสัตว์ประหลาดยักษ์นี่ย่อมอยู่ได้ไม่นาน หากไม่สามารถจัดการแมกนีโตลงได้ทางกองทัพที่สูญเสียไพ่ตายทั้งหมดย่อมต้องถอยทัพกลับไปดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือเวลา

 

บั้ง ทั้ง

 

กัปตันโรเจอร์สประสานงานกับชุดเกราะไอรอนแมนหลายสิบตัวเพื่อเข้าปะทะกับสัตว์ประหลาดตัวเขียวจํานวนมากเหล่านี้

 

ขณะที่กัปตันโรเจอร์สกําลังเผชิญหน้ากับการต่อสู้ ทางด้านแมกนีโต เขาที่ตัวคนเดียวในเวลานี้ดูเหมือนสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวสองตัวกําลังเดินหน้าหาเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ความสามารถควบคุมโลหะเดิมเขาไม่สามารถควบคุมมันได้ในตอนนี้

 

“ไม่คิดเลยว่าทางกอทัพจะได้ศึกษาอาวุธประเภทนี้ขึ้นมา มันถือเป็นอันตรายต่อพวกเราเหล่ามิวแทนท์อย่างแท้จริง หากพวกมันยังคงศึกษาวิจัยอาวุธประเภทนี้ต่อไปไม่นานทั่วทั้งโลกจะไม่มีที่ยืนให้พวกเราเหล่ามิวแทนท์”ในใจของแมกนีโตรู้สึกโกรธเคืองอย่างมาก

 

แม้สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวจะอยู่ห่างจากตนเองไม่ไกลเท่าไหร่แต่ในใจของแมกนีโตเวลานี้รู้สึกสงบจนถึงที่สุด

 

“ชาร์ลส์ถึงแม้ว่านายจะเปลี่ยน แต่โลกนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนไปเช่นเดิม มันไม่ เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยแม้จะอยู่ในช่วงนาทีสุดท้ายของชีวิต แมกนีโต ก็ไม่สนใจและบ่นพึมพัมกับตนเอง

 

แมกนีโตรู้สึกเสียใจกับช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตตนเองมากไม่ใช่ว่าเขากลัวตายแต่เขารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถพบเจอลูก ๆของตนเองอีกครั้ง อย่างน้อยในช่วงสุดท้ายของชีวิตเขาเขาก็อยากจะพบเจอทั้งสองคน

 

“แวนด้า เปโตร หวังว่าลูก ๆ จะสามารถใช้ชีวิตที่สงบสุขบนโลกนี้ได้ ชาร์ลส์ฉันหวังว่านายจะสามารถช่วยให้พวกเราเหล่ามิวแทนท์มีอนาคตที่สดใส”แมกนีโตจ้องมองไปที่กําปั้นขนาดยักษ์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึง 5 เมตร

 

เขาได้หลับตาลงอย่างช้า ๆ

 

ฟุบ!

 

จู่ ๆ แมกนีโตก็สัมผัสได้ถึงแรงลมที่ด้านหน้าจากนั้นร่างของสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวก็ถูกเหวี่ยงออกไปจากเบื้องหน้าของเขาด้วยความเร็วสูง

 

แมกนีโตได้เปิดเปลือกตาขึ้นเขาเห็นรูปแบบเงาสีเงินลาง ๆ พุ่งผ่านตนเองไป เป็นเพราะความเร็วของคนคนนี้รวดเร็วมากจนแมกนี้โตไม่สามารถมองได้ทัน

 

“เขาเป็นใครกัน?”แมกนีโตจ้องมองไปที่เงาสีเงินที่รวดเร็วจนมองไม่เห็นเขารู้สึกสงสัยว่าเจ้าของเงาร่างที่ว่านี้เป็นใคร

 

ตอนที่ 632 ความสามารถที่แข็งแกร่ง

 

ทันทีที่คลื่นความผันผวนเหล่านั้นถูกปลดปล่อยออกมา ทําให้พวกศาสตราจารย์ ชาร์ลส์และแมกนีโตถูกระงับความสามารถกลายพันธุ์ เพราะงี้ ชุดเกราะไอรอนแมน ของโทนี่จึงหลุดจากคลื่นสนามพลังของแมกนีโต

 

ความแข็งแกร่งของแมกนีโต ทําให้โทนี่รู้สึกหวาดกลัวอย่างแท้จริง หากให้ต้องเลือกสู้กับสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวและแมกนีโต โทนี่ขอเลือกสู้สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวยังดีซะกว่า

 

หลังจากที่คลื่นสนามพลังของแมกนีโตหายไป ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ก็ฟื้นกลับมาอย่างช้าๆ

 

จากนั้นฟังก์ชั่นทั้งหมดของชุดเกราะไอรอนแมนก็ฟื้นสภาพโดยสมบูรณ์

 

“J.A.R.V.1.S ส่งกองทัพของเราเข้าไปขัดขวางพวกสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวพวกนี้ ถ่วงเวลาไว้ให้ได้นานที่สุด ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถคงสภาพได้นานมากกว่า 3 นาที ไปเร็ว!”โทนี่กล่าวออกมา ก่อนหน้านี้เขาได้ยินสัญญาณขอความช่วยเหลือจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

“ครับเจ้านาย!”ได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.VIS ตอบกลับทันที

 

พริบตาต่อมา โทนี่ได้บังคับชุดเกราะไอรอนแมน จากนั้นก็พุ่งตรงขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

ปั้ง ปั้ง 

 

ทางด้านสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวพวกมันพุ่งเข้าหากพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์และแมกนีโตที่อยู่ไม่ไกล แม้ว่าทางด้านแมกนีโตจะมีพวกสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวหลายตัวพุ่งเข้ามา แต่ก็ยังไม่เท่าทางด้านพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

“กัปตันโรเจอร์สดูเหมือนว่าพวกเราต้องพึ่งคุณลงมือแล้ว”เห็นพลังจิตของตนเองถูกระงับเอาไว้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้สึกทําอะไรไม่ถูก เขากล่าวบอกกัปตันโรเจอร์ส

 

“ไม่ต้องกังวล พวกเราจะปกป้องคุณเอง” กัปตันโรเจอร์ศได้นําทีมพิเศษ K เพื่อเข้าต้านทานสัตว์ประหลาดพวกนั้น

 

แม้จะเป็นมิวแทนท์ที่แข็งแกร่งขนาดไหน หากความสามารถกลายพันธุ์ของตนเองถูกระงับ ย่อมไม่ต่างอะไรไปจากมนุษย์ธรรมดา ซึ่งพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองในตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นสมาชิกของทีม X-MEN ทุกคนตอนนี้คือพลเรือนธรรมดานั่นเอง

 

ทางกองทัพดูเหมือนจะสร้างอุปกรณ์เทคโนโลยีที่สามารถระงับพลังของพวกมิวแทนท์ขึ้นมา เพื่อใช้ในการควบคุมพวกมิวแทนท์เหล่านี้ พวกเขาไม่ต้องการให้พวกมิวแทนท์ใช้พลังอํานาจเหล่านั้นมากดดันประเทศให้ต้องพบกับภัยพิบัติ

 

หากทางกองทัพมีความสามารถในการระงับพวกมิวแทนท์อย่างสมบูรณ์ในเวลาต่อมา พวกมิวแทนท์ย่อมไม่กลายเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขาอีก ท้ายที่สุดแล้ว พวกมิวแทนท์ก็จะถูกควบคุมตัวโดยสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นมิวแทนท์ระดับ 4 หรือระดับ 5 อนาคตของพวกเขาก็คงไม่ต่างอะไรไปจากมนุษย์ธรรมดาที่ถูกควบคุมตัว

 

ในเวลานี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ค่อนข้างคลายกังวลนิดนึงเพราะมีกัปตันโรเจอร์สอยู่ด้วย ความสามารถของกัปตันโรเจอร์สคือพลังทางกายภาพแน่นอนว่าเขาเหมือนกับมิราจในท์ดังนั้นความสามารถเหล่านี้จึงไม่มีผลกระทบต่อคลื่นพลังความผันผวนนั่น

 

ขณะที่กัปตันโรเจอร์สนําทีม K ของตนเองเข้าระงับพวกสัตว์ประหลาดยักษ์เหล่านั้นทางด้านแจ็คเขาเองก็ถูกระงับความสามารถกลายพันธุ์ แต่เขาในตอนนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะตอนนี้แจ็คคือหนึ่งในเหล่าพวกพ่อมด เขายังคงสามารถใช้พลังเวทย์ได้อยู่

 

“แม้ว่าฉันจะรู้ไม่ว่าพวกนายเป็นใคร แต่ฉันจะไม่ยอมให้พวกนายทําร้ายพันธมิตรของฉัน”แจ็คได้วาดสัญลักษณ์มือและตะโกนขึ้น

 

ฟุบ!

 

สัญลักษณ์สีทองของแจ็คได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นเชือกเส้นยาว มันได้พุ่งไปยังสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเหล่านั้น โดยอัตโนมัติและจับกุมพวกมันไว้

 

“ดี!”เห็นสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวหลายตัวถูกจับกุมแจ็ครู้สึกดีใจเล็กน้อย

 

จากนั้นเชือกสีทองของเขาก็พุ่งเข้าไปหยุดการเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวหลายตัว สัตว์ประหลาดยักษ์พวกนั้นพอเห็นเชือกสีทองมัดตัวเองเอาไว้ดวงตาของพวกมันเผยแวดุร้ายมากขึ้น

 

โฮก!

 

แต่ทว่าไม่ว่าพวกสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวจะดิ้นมากเท่าไหร่พวกมันก็ไม่อาจสลัดหลุดจากเชือกสีทองเหล่านี้ได้

 

จากนั้นเชือกสีทองเหล่านั้นก็มัดทั้งมือและเท้าของพวกมันจนพวกมันแน่นิ่งไป

 

แจ็คถอนหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อยการใช้เชือกสีทองเหล่านี้จํานวนมาก ค่อนข้างกินพลังเวทย์ของเขาพอสมควร

 

“เขาคือหนึ่งในสมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์?เขาแข็งแกร่งมาก ทําไมก่อนหน้านี้เราถึงไม่เคยเห็นเขากันนะ?”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เห็นแจ็คที่ช่วยจัดการแมกนีโตก่อนหน้านี้ เขาค่อนข้างประทับใจในตัวของอีกฝ่ายพอสมควร

 

ปิ้ง ปิ้ง ปิ้ง

 

ขณะที่แจ็คช่วยสนับสนุนในการหยุดพวกสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียว กัปตันโรเจอร์สก็นําทีม K ของตนเองในการเข้าจัดการศัตรูที่เหลือ

 

ตอนที่ 631 อาวุธลับสุดร้ายกาจของทางกองทัพ

 

เมื่อศาสตราจารย์ชาร์ลส์ปล่อยจิตวิญญาณของตนเองสแกนไปยังทางพวกกองทัพที่ล่าถอย แท้จริงแล้วเขากลับพบว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล่าถอยแต่เลือกซ่อนตัวและจัดกองกําลังที่ภาคพื้นดิน พร้อมกับนําอาวุธที่ไม่เป็นที่รู้จักเตรียมออกมา ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ต้องการจะถามกัปตันโรเจอร์ส แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไปอาวุธที่ว่านั่นถูกยิงออกมาแล้ว

 

ฟุบ!

 

“นั่นมันอะไรหนะ?”เห็นแสงไฟที่เหมือนกับดาวหางสีขาวพุ่งขึ้นไปบนฟ้า กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามอย่างแปลกใจ

 

อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองก็ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะตอบปัญหาเช่นเดียวกัน และอีกอย่างเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร แต่ดูเหมือนทางกองทัพจะมั่นใจกับอาวุธนี้มาก

 

อีกทางด้านนึ่งของสนามรบ แมกนีโตที่ถูกคลื่นพายุสายฟ้ากลืนกิน เขาได้ใช้ความ แข็งแกร่งของตนเองสลัดออกมาได้ในเวลาต่อมา แต่พายุสายฟ้านั่นเองก็แข็งแกร่งมากทําให้แมกนีโตแสดงความเหนื่อยล้าออกมาตั้งแต่เริ่มแมกนีโตได้เผชิญหน้ากับการระเบิดอย่างไม่หยุดยั้ง แม้เขาจะทรงพลัง แต่ร่างกายก็ยังมีขีดจํากัด

 

คลื่น

 

ในสถานการณ์ที่ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วัตถุแสงบางอย่างได้พุ่งตรงไปยังทิศทางภูมิภาคของพวกเขา และระเบิดขึ้นท่ามกลางแมกนีโตและตําแหน่งของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ แต่ว่าระยะห่างก็ยังไกลมากอยู่ดี หากนั่นเป็นขีปนาวุธจริงแรงระเบิดจากระยะนั้นก็ไม่สามารถทําอันตรายอะไรแมกนีโต หรือพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ แต่ผิวของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้แสดงออกถึงความโล่งใจ เพราะหลังจากมันระเบิดขึ้นรัศมีระเบิดทําลายล้างกลับไม่ปรากฏให้เห็น

 

ฟุบ

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ใช้พลังจิตของตนเองสอดส่องขีปนาวุธที่ถูกยิงมาอีกครั้ง หลังจากมันระเบิดขึ้น แรงระเบิดไม่ได้ส่งผลกระทบ แต่กลับปล่อยคลื่นความผันผวนบางอย่างที่ดูลึกลับออกมา

 

“มันคืออะไร?” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์สัมผัสได้ถึงคลื่นความผันผวนที่น่ากลัวเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันส่งผลให้จิตวิญญาณของเขาสัมผัสได้ถึงสัญชาตญาณแห่งการหลบหนี

 

“ความรู้สึกนี้ ไม่ดีแล้ว! บลิงก์ รีบพาทุกคนออกจากที่นี่เร็ว!”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่มีเวลามากพอจะอธิบาย เขากล่าวตะโกนไปยังทิศทางของบลิงก์

 

บลิงก์ที่ได้ยินเสียงของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เธอได้ยกมือขึ้นสร้างประตูมิติอวกาศขึ้นมา แต่ดูเหมือนประตูมิติอวกาศของบลิงก์จะแปลกๆไป ตั้งแต่คลื่นความผันผวนที่ว่านั่นเริ่มทํางาน พริบตาต่อมาเรื่องที่ชวนน่าเหลือเชื่อก็ปรากฏขึ้น พลังงานประตูมิติอวกาศของบลิงก์เริ่มที่จะไม่มั่นคง ก่อนที่พลังทั้งหมดจะสลายหายไปต่อเบื้องหน้าของเธอ

 

“ความสามารถของฉัน ถูกทําลาย?”เห็นประตูมิติอวกาศหายไปจากด้านหน้าของเธอ บลิงก์รู้สึกไม่เชื่อในสายตาตนเอง

 

หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกแปลกๆอีกครั้ง ความสามารถกลายพันธุ์ที่เธอครอบครองอยู่กลับหายไปโดยไม่คาดคิด ตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมพลังที่เธอมีได้ เพราะแบบนี้ ตอนนี้เธอจึงไม่ต่างอะไรไปจากคนธรรมดาที่ไม่มีพลังวิเศษใดๆ หลังจากประตูมิติอวกาศของบลิงก์หายไป ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองก็สัมผัสได้ถึงความแปลกๆ ความสามารถกลายพันธุ์ของตนเองก็หายไปด้วยเช่นเดียวกัน

 

“อาวุธลับของทางกองทัพแท้จริงคือสิ่งนี้? มันสามารถระงับพลังของพวกมิวแทนที่ได้!”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์บ่นพึมพัมออกมา

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์สามารถตระหนักได้ว่าพลังจิตของตนเองยังคงมีอยู่ก็จริง แต่เขาไม่อาจใช้งานมันได้ ตอนนี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้แล้วว่าอาวุธลับที่แท้จริงของทางกองทัพมีความสามารถในการระงับพลังกลายพันธุ์ของพวกเขา

 

ไอซ์แมนเองก็รู้สึกได้เช่นเดียวกัน เขาไม่สามารถปลดปล่อยพลังของตนเองออกมาใช้ได้แม้จะรู้ถึงการคงอยู่ของพลัง เวลานี้ ศักดิ์ฐานะของมิวแทนท์ที่เข้าใกล้ระดับ 5 มากที่สุด ย่อมไม่ต่างอะไรไปจากคนธรรมดา

 

“บัดซบ!”ไอซ์แมนที่ไม่สามารถควบคุมพลังของตนเองได้ เขาสบถค่าออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

 

แม้แต่แมกนีโตที่ขึ้นชื่อว่าร้ายกาจ พลังของเขาก็ถูกระงับอย่างสมบูรณ์นี่เป็นครั้งแรกที่แมกนีโตเผยให้เห็นความตกใจถึงขีดสุด

 

คลื่น!

 

จากนั้นขีปนาวุธจํานวนมากก็พุ่งออกมาทิศทางของพวกเขาและระเบิดขึ้นหลายแห่งจนกลายเป็นบ่อหลุมยักษ์จํานวนมาก

 

ปั้ง ปั้ง

 

หลังจากการระเบิดหลายครั้งตามมาด้วยเสียงคํารามที่ฟังดูคุ้นเคย ใช่แล้ว มันคือเสียงคํารามของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวหลายตัว พวกมันทั้งหมดได้คลานออกมาจากหลุมยักษ์เหล่านั้นตามทิศทางที่ขีปนาวุธถูกยิงออกไป

 

“โฮก! โฮก!”เสียงคํารามของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวหลายตัวได้คํารามออกมาอย่างโกรธแค้น ก่อนที่จะแบ่งออกเป็นสองทิศทางและมุ่งหน้าไปยังทิศทางของแมกนีโต และศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

“เจ้านายครับ,ระบบได้ฟื้นคืนเป็นปกติแล้ว”ขณะที่พวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์กําลังวิตกกังวลเพราะอาวุธลับของทางกองทัพ ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ เดิมที่สูญเสียการควบคุมได้ฟื้นระบบกลับมาเป็นปกติ

 

“อืม,ช่างมาได้ถูกเวลาจริงๆ !”โทนี่กล่าวพูดออกมา

 

ตอนที่ 630 กองทัพเลือกที่จะล่าถอย?

 

กึก! ครืน!

 

ในตําแหน่งของแมกนีโต พลังงานพายุไฟฟ้าลูกใหญ่ได้ซัดเข้าหาทิศทางของตนเอง แมกนีโตได้ยกเลิกการควบคุมระยะไกลและหันมาป้องกันตัวเองในทันที

 

คลื่น!!

 

ขณะที่แมกนีโตถูกโจมตีด้วยพลังงานสายฟ้าของสตอร์ม แมกนีโตก็ไม่อาจอยู่สู้สภาพ ในดั้งเดิมเขาเขาจําเป็นต้องล่าถอยออกจากตรงนี้ชั่วคราว

 

เห็นแมกนีโต เลือกที่จะถอยก่อน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่ไอซ์แมน

 

“ไอซ์แมน คลายพื้นที่ของเธอซะ!” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวกับไอซ์แมน

 

ฟุบ!

 

ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ไอซ์แมนได้คลายพื้นที่เยือกแข็งของตนเอง ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นสตอร์มหรือไอซ์แมน พวกเขาได้ฝืนใช้พลังงานจํานวนมากพวกเขาจําเป็นต้องพัก

 

พลังงานของพวกเขาถูกชุ่มไปกับการหยุดการโจมตีของแมกนีโต แต่เพื่อปกป้องศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็เต็มใจที่จะอุทิศตนเองเพื่อปกป้องคนคนนี้

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปยังทิศทางของทางกองทัพ ในเวลานี้ พวกเขาราวกับว่ากําลังทําอะไรบางอย่าง แม้จะเผชิญหน้ากับความร้ายกาจของแมกนีโต พวกเขาก็ไม่ได้มีท่าทีถอยกําลังกลับไปที่ฐานแม้แต่น้อย

 

“พวกแกจะทําอะไรกันแน่?” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวอย่างกังวล

 

“กัปตันโรเจอร์ส คุณได้รับข่าวจากทางกองทัพบ้างไหม?”เห็นทหารของทางกองทัพ เหล่านั้นถอยร่นไปที่ละน้อยแต่ไม่ได้กลับไปสมบูรณ์ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวถามด้วยความสงสัย เขาคิดว่าบางที ทาง S.H.I.E.L.D. อาจจะได้รับข้อมูลแจ้งเตือนอะไรมาบ้าง

 

“ไม่เลย ทางกองทัพไม่ได้ส่งข้อความมา แต่ทางทําเนียบขาวได้ส่งข้อมูลมาบ้าง”ได้ยินคําถามของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

 

ก่อนหน้านี้กัปตันโรเจอร์สได้รับข่าวจากทางทําเนียบขาวหลายครั้ง ประธานาธิบดีรู้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้น เลยอยากให้องค์กร S.H.I.E.L.D. วางตัวเป็นกลาง นั่นคือปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นไปตามสถานการณ์ต่องมัน

 

ที่ทําเนียบขาวเดิมถูกโจมตีจากพวกผู้ก่อการร้ายและทหารเอ็กซ์ทรีมิส ประธานาธิบดีได้จัดตั้งประชุมด่วน และการประชุมเหล่านั้นก็เกิดขึ้นได้ไม่นาน เพราะว่ามีแรงสั่นสะเทือนดังมาจากชานเมืองวอชิงตัน ประธานาธิบดีได้รับข่าว และรู้ว่าที่แห่งนั้นกําลังเกิดสงครามขึ้น เพื่อแสดงความแข็งแกร่งของประเทศมหาอํานาจให้เป็นที่ประจักษ์ประธานาธิบดีจึงกระตุ้นคําสั่งให้ทาง กองทัพเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือและถอยทัพ

 

เพราะสงครามที่กําลังเกิดขึ้นมาจากแผนกลับของทางกองทัพ ประธานาธิบดีให้ความสําคัญและให้เงินทุนเกี่ยวกับแผนกรับนี้อย่างมาก เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายที่โจมตีคือพวกสมาคมมิวแทนท์ ทําให้ประธานาธิบดีได้ติดต่อกัปตันโรเจอร์สมาเพื่อพูดคุย

 

ประธานาธิบดีตั้งใจจะหยุดสงครามครั้งนี้และให้ S.H.E.L.D. เป็นคนจัดการอย่างเต็มกําลัง แต่ดูเหมือนทางกองทัพจะไม่ได้ฟังคําสั่งของประธานาธิบดีโดยสมบูรณ์ ดังนั้น คนเหล่านั้นจึงกลายร่างเปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดยักษ์เขียว

 

” ท่านประธานาธิบดีสั่งให้พวกเขาถอยทัพ?”ได้ยินคําตอบของกัปตันโรเจอร์ส ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้สึกสงสัย

 

ฟุบ!

 

แม้จะมีคําสั่งนี้จริงแต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กลับไม่คิดว่าทางกองทัพจะรามือง่ายๆ เขาได้ปลดปล่อยพลังจิตอันน่าเกรงขามของตนเองออกไป พลังจิตของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เชื่อมโยงกับเครื่องบินรบของทางกองทัพลํานึงที่อยู่ไปในระยะทางหลายกิโลเมตร

 

หลังจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์หลับตาลง กัปตันโรเจอร์สและคนอื่นๆก็ไม่ได้ก่อกวน พวกเขารู้ดีว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์กําลังใช้สมาธิในการตรวจสอบอีกฝ่าย

 

ทันทีที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ปล่อยพลังจิตออกไป เขาก็เห็นทางกองทัพได้ล่าถอยจริงแต่ไม่ใช่ล่าถอยกลับไปพวกเขาราวกับได้เตรียมการมาบางอย่างที่นอกเหนือจากแผนช่วยเหลือสไตรเกอร์

 

จากนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็เห็นเครื่องบินรบลํานึงที่ดูเหมือนเป็นกําลังเสริมแต่มันก็ดูน่าสงสัยเกินไปเพราะบุคคลในเครื่องมีเพียงแค่ 10 กว่าคนเพียงเท่านั้น

 

ไม่ดีแล้วสิ!” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา

 

ทางกองทัพไม่ได้ตัดสินใจที่จะถอยทัพตั้งแต่แรกพวกเขาตั้งใจจะทดสอบอาวุธอะไรบางอย่าง เพื่อจัดการกับแมกนีโต แม้ชีวิตของสไตรเกอร์จะตกตายพวกเขาก็ไม่ได้สนใจ

 

หลังจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์เบิดตาขึ้นเขาก็เห็นแสงสีขาวพุ่งมายังทิศทางกลางอากาศในภูมิภาคของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

 

ตอนที่ 629 ฝ่ายศาสตราจารย์ชาร์ลส์เริ่มลงมือ

 

ฟุบ!

 

ทันทีที่แมกนีโตยื่นมือออกไป เครื่องบินรบของทางกองทัพที่อยู่ระยะไกลหลายกิโลเมตรก็ราวกับว่าพวกเขาสูญเสียการควบคุม ไม่ว่าพวกเขาจะเร่งประสิทธิภาพเครื่องยนต์มากขึ้นแค่ไหนก็ไม่อาจหลบหนีเงื้อมมือที่มองไม่เห็นนี้ได้ จากนั้นเครื่องบินเหล่านี้ก็ร่วงตกลงมาและระเบิดขึ้น แต่ดูเหมือนทหารที่อยู่ภายในนั้นจะไม่ได้เปลี่ยนร่างกลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวเขียวอีก

 

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ พวกเราไม่อาจปล่อยให้มีการสูญเสียมากไปกว่านี้ได้แล้ว คุณไม่มีวิธีหยุดแมกนีโตงั้นหรอ?”กัปตันโรเจอร์สที่อยู่ภายในกําแพงน้ําแข็งกล่าวถามศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เพราะตอนนี้ แมกนีโตกําลังโจมตีกองทัพ

 

ดูเหมือนว่าพอแมกนีโตระเบิดพลังที่แท้จริงออกมาทางกองทัพก็แทบจะหมดโอกาสต่อต้านแมกนีโตในทันที ความแข็งแกร่งอันทรงพลังของแมกนีโตแม้จะเป็นองค์กร S.H.I.E.L.D. ก็ยังยากที่จะต่อกร

 

ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ขมวดคิ้วแน่น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้ซึ้งดีถึงความแข็งแกร่งของแมกนีโต ดังนั้นเขาจึงหวังพึ่งทางกองทัพว่าจะมีไม้เด็ดอะไรช่วยบั่นทอนกําลังของแมกนีโตบ้าง แต่ดูเหมือนทางกองทัพเองก็หวังพึ่งไม่ได้มากนัก ท้ายที่สุด อาจเป็นเขาที่ต้องลงมือหยุดแมกนีโตเองเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียมากไปกว่านี้

 

“สตอร์ม,บลิงก์ พวกเธอคอยเตรียมพร้อม!” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์หันกล่าวไปถามสตอร์มและบลิงก์

 

ฟุบ!

 

ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ สตอร์มและบลิงก์ได้ก้าวเดินออกไปข้างหน้า จากนั้น ดวงตาของสตอร์มก็ปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว ร่างกายของบลิงก์เองก็ปรากฏคลื่นความฝันผวนออกมา

 

“ลงไปซะ!” แมกนีโตขยับมืออีกครั้ง

 

ฟุบ!

 

การเคลื่อนไหวของเขาส่งให้เครื่องบินรบจํานวนมากต้องลอยเข้ามาใกล้ตนเอง ก่อนที่เขาจะส่งพวกมันลงไปกองกับพื้นด้านล่าง และเปลี่ยนพวกมันเป็นเศษซากปรักหักพัง

 

บึ้ม บึ้ม !

 

“อ๊ากกก อ๊าก”

 

“อ้ากก

 

“โฮกกก!”

 

แสงแผดเผาคํารามของสัตว์ร้ายได้ดังออกมาอีกครั้ง สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวมากกว่า 10 ตัวได้กระโดดออกมาจากเครื่องบินรบที่ถูกทําลายไป ดวงตาของพวกมันแดงราวกับสัตว์ร้ายภายใต้ความดุดันของแมกนีโต พวกเขาตัดสินใจที่จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดเช่นนี้

 

“หึม! คิดจะสู้ฉันด้วยจํานวนงั้นหรอ?”เห็นสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวที่มากกว่า 10 ตัว กําลังพุ่งเข้ามายังทิศทางตนเอง แมกนีโตส่งเสียงคํารามในคอ

 

ฟุบ!

 

บนท้องฟ้าเหนือศีรษะแมกนีโตเศษโลหะบางๆ ที่เหมือนกระแสน้ําอันเชี่ยวกรากได้กรูเข้าใส่สัตว์ประหลาดยักษ์หลายสิบตัวพวกนั้น

 

ผ่านไปเพียงไม่นานแมกนีโตไม่ได้รีรอให้พวกมันพุ่งโจมตีเข้าหาเขา เขาสร้างลูกบอลเหล็กโลหะขนาดยักษ์ขึ้นหลายลูกและใช้คลื่นสนามพลังแม่เหล็กของตนเองในการโจมตีศัตรูอย่างเต็มที่

 

เปรี้ยง เปรี้ยง – –

 

ปริมาณน้ําหนักของลูกเหล็กโลหะเหล่านั้นมีมากกว่าหลายกิโล มันสามารถกลืนกินสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเหล่านั้นให้หายไปได้ในทันที ส่วนจํานวนเหล่านั้นแน่นอนว่าแมกนีโตย่อมไม่อาจกําจัดได้หมด เขาก็แค่รอเวลาให้ผลของฤทธิ์ยาหมดก็ได้แล้ว

 

“ดูเหมือนอาวุธลับของทางกองทัพจะไม่สามารถหยุดแมกนีโตได้ สตอร์ม บลิงก์ ลงมือเลย พวกเราไม่อาจปล่อยให้มีการสูญเสียมากขึ้นกว่านี้ได้อีกแล้ว”เห็นแมกนีโตกําจัดสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียว ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เผยแววตาเฉียบคม

 

ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ สตอร์มและบลิงก์ ที่เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว พลังงานประจุไฟฟ้าที่สตอร์มได้รวบรวมเอาไว้ตอนแรกได้ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง พลังงานเหล่านั้น เริ่มก่อตัวจนสร้างคลื่นลมคลื่นสายฟ้าจํานวนมาก จากนั้น ทั้งสองมือของสตอร์มก็เริ่มกางออกจากกันอย่างช้าๆ

 

“บลิงก์ ตอนนี้แหละ!”เมื่อเห็นว่าพลังงานของตนเองปะทุออกมาอย่างเต็มกําลัง สตอร์มตะโกนออกมา

 

ฟุบ!

 

จากนั้นคลื่นพลังประจุไฟฟ้าของสตอร์มก็ปลดปล่อยออกไปที่ด้านหน้าในทิศทางของประตูมิติอวกาศสีม่วงของบลิงก์ สตอร์มได้ส่งผ่านการโจมตีของตนเองโจมตีผ่านประตูมิติอวกาศนี้ พวกกัปตันโรเจอร์สที่อยู่ใกล้กับสตอร์ม เดิมรู้สึกกังวลอย่างมาก เขากลัวว่าพลังงานประจุสายฟ้าเหล่านั้นจะระเบิดออกมาเลยเสียด้วยซ้ํา

 

ครืนน!

 

เสียงปะทุของสายฟ้าได้เคลื่อนย้ายผ่านประตูมิติอวกาศจากนั้นก็ไปโผล่ยังอีกด้านของประตูมิติอวกาศที่อยู่ใกล้กับแมกนีโต

 

“นี่มัน?”

 

แมกนีโตแทบไม่ทันได้ตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าของเขาปรากฏแสงสีขาวฉับพลันที่ถูกปลดปล่อยออกมา

 

ตอนที่ 628 พลังที่แท้จริงของแมกนีโต

 

ติ๊ดด ติ๊ดด

 

ในการตรวจสอบของ J.A.R.V.I.S ระดับพลังงานภายในร่างของสัตว์ประหลาดตัวเขียวได้ลดลงอย่างผิดปกติ J.A.R.V.I.S ได้ส่งเสียงเตือนสองครั้ง จากพลังงานระดับ 4 ลดลงเหลือระดับ 3 จากนั้นเสียงแจ้งเตือนของ J.A.R.V.IS ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ระดับ 2 และระดับ 1

 

“หืม?พวกเขาสามารถแปลงร่างได้เพียง 3 นาทีงั้นหรอ?”เห็นเดิมสัตว์ประหลาดทั้งสามตัวร่างใหญ่กว่า 5 เมตร กลายเป็นทหารที่เป็นมนุษย์ปกติ โทนี่สามารถคาดเดาบางอย่างได้

 

เทคโนโลยีลับของทางกองทัพ มีส่วนผสมมาจากเลือดของดร.แบนเนอร์ ดังนั้นจึงสามารถให้กําเนิดสัตว์ประหลาดยักษ์สามตัวนั้นได้ แต่ความสามารถเหล่านี้ก็อยู่ไม่นาน โทนี่รู้สึกดีอกดีใจ หากเป็นกองทัพไอรอนแมนของเขาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย เขาก็แค่ถ่วงเวลาเอาไว้ หลังจากนั้นค่อยเผด็จศึกภายหลัง

 

ขณะที่โทนี่ตั้งข้อสังเกตุสัตว์ประหลาดสีเขียวที่กลายร่างกลับเป็นมนุษย์ กัปตันโรเจอร์สและคนอื่นๆก็รู้สึกตกใจเช่นเดียวกัน แม้จะกลับร่างกลายเป็นคนธรรมดาแล้ว แต่สติของคนเหล่านั้นกลับดูเหมือนจะเหม่อลอยแบบแปลกๆ

 

“นอกเหนือจากผลลัพธ์การแปลงร่างแล้ว ดูแล้วน่าจะมีผลข้างเคียงบางอย่างตามมาด้วย” กัปตันโรเจอร์สครุ่นคิดในใจ

 

สําหรับศาสตราจารย์ชาร์ลส์เขาเพียงจ้องมองไปที่อีกฝ่าย เมื่อครู่ก่อนหน้านี้ที่เขาเห็นแมกนีโตถูกสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสามตัวรุมอัด เขาค่อนข้างกังวล แต่เมื่อเห็นความแข็งแกร่งของแมกนีโตที่ไม่ได้ลดลงไปเลย ดูเหมือนเขาจะคิดมากเกินไป

 

แมกนีโตที่เห็นสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวกลายร่างเป็นมนุษย์ธรรมดา เขาได้จ้องมองไปที่ทั้งสามคน ทั้งสามคนนั้นเหม่อลอยแบบแปลกๆ แมกนีโตเดินเข้าไปหาทั้งสามคนก่อนที่จะใช้พลังจิตของตนเองในการเรียกเศษโลหะพุ่งโจมตีทหารเหล่านั้น ดูเหมือนแมกนีโตต้องการจัดการต้นตอของปัญหา ไม่ให้มารบกวนเขาภายหลัง หลังจากจัดการตรงนี้เสร็จเขาจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลภายหลังในขณะที่ต้องเผชิญหน้ากับคนของกองทัพไปด้วย

 

ฟุบ!

 

หลังจากจัดการตัวปัญหาทั้งสามคนเสร็จ แมกนีโตก็เงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนท้องฟ้า เขาเห็นขีปนาวุธหลายลูกพุ่งมาที่ตนเอง ขีปนาวุธเหล่านั้นถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันพลังของเขา หากเขาคิดจะควบคุมมันย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย

 

” หึ่ม! ลูกไม้เดิมๆ ใช้ไม่ได้ผลหรอก!”เห็นขีปนาวุธเข้ามาใกล้ตนเองเรื่อยๆ ประกายในดวงตาของแมกนีโตสะท้อนแสงออกมา

 

จากนั้นแมกนีโตก็กระพริบตาด้วยกลิ่นอายอันเยือกเย็น ความผันผวนพลังงานบางอย่างได้ ถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของแมกนีโต กวาดไปรอบพื้นที่ในระยะหลายกิโลเมตร คลื่นความผันผวนนี้ได้ลบวิถีการยิงของขีปนาวุธทําให้มันหมดสนามและท้ายที่สุดก็ร่วงหล่นราวกับเศษเหล็ก

 

ฟุบ!

 

ผ่านไปสองวินาที่ด้านหน้าของแมกนีโตขีปนาวุธเหล่านั้นได้ร่วงหล่นกลายเป็นเศษซากปรักหักพังที่อยู่ด้านล่าง

 

“ท่าไม่ดีแล้ว! ไอซ์แมนรีบสร้างขอบเขตพื้นที่ของนายเร็ว!”เห็นคลื่นความผันผวนของแมกนีโต ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ กล่าวออกมาอย่างตกใจ

 

ฟุบ!

 

ไอซ์แมนไม่รีรอเร่งพลังของตนเองสร้างพื้นที่เยือกแข็งของเขาก่อนที่บาเรียน้ําแข็งจํานวนมาก จะผุดขึ้นมาป้องกันคลื่นพลังงานการโจมตีของแมกนีโต

 

“เอริค นายมันบ้าไปแล้ว!” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของไอซ์แมน เขาที่อยู่ภายในสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานที่รุนแรงของแมกนีโต

 

นอกเหนือจากพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์แล้ว ไอรอนแมน โทนี่ที่อยู่ไกลๆ ย่อมได้รบผลกระทบเข้าไปเต็มๆ

 

ฟุบ!

 

คลื่นความผันผวนเหล่านี้ได้กวาดผ่านชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ และกองทัพไอรอนแมนอีก 10 กว่าตัว ระบบพลังงานเหล่านั้นได้ล่มลงอย่างรวดเร็ว การเชื่อมต่อทั้งหมดได้ถูกยกเลิกในทันที

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ทําไมระบบถึงล้มเหลว?”

 

ตุบ ตุบ ตุบ

 

จากนั้นโทนี่และชุดเกราะไอรอนแมนอื่นๆก็ร่วงหล่นลงสู่พื้น แต่เพราะด้วยความสามารถการป้องกันที่ดีของชุดเกราะไอรอนแมนทําให้โทนี่ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็ยังติดอยู่ในชุดเกราะ

 

ไอรอนแมน

 

“J.A.R.V.S! J.A.R.V.SI” โทนี่ที่ร่วงหล่นลงมาเขารีบตะโกนเรียก J.A.R.V.S แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ตอบสนอง

 

“เวรเอ้ย! นี่มันแย่แน่ๆ !”เมื่อสูญเสียการติดต่อจาก J.A.R.V.I.S โทนี่ก็ได้ติดอยู่ในชุดเกราะไอรอนแมน นี่เป็นปัญหาใหญ่อย่างมาก เขาในตอนนี้จะไม่สามารถทําการสนับสนุนพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เลย

 

ความแข็งแกร่งของแมกนีโต ได้กวาดกองทัพไอรอนแมน จํานวนมากภายในพื้นที่แห่งนี้ให้ร่วงหล่นลง แมกนีโตได้จ้องมองไปยังทิศทางของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ทั้งสองจ้องกันอย่างดุเดือด

 

“แมกนีโต นายเป็นบ้าไปแล้วอย่างงั้นหรอ!”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมาอย่างรุนแรง

 

“ชาร์ลส์! ไม่ใช่ว่านายอยากให้ฉันเห็นการเปลี่ยนแปลงของนาย?เช่นนั้นก็แสดงให้ฉันดูซะ แต่ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยว่าการเปลี่ยนแปลงของนายไม่มีผลต่อความคิดของฉัน!” แมกนีโตตะโกนเข้าไปยังพื้นที่น้ําแข็งด้วยเสียงดัง

 

เห็นความบ้าคลั่งของแมกนีโต คิ้วของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ขมวดเข้าหากันแน่น วันนี้ไม่ว่ายังไงเขาจะต้องหยุดแมกนีโตให้ได้

 

“กลิ้งมาหาฉันซะ!”แมกนีโตจ้องมองไปยังทิศทางอีกด้านนึงที่มีเครื่องบินรบหลายลําของทางกองทัพรอเตรียมพร้อมอยู่

 

ตอนที่ 627 เบื้องหลังของสัตว์ประหลาดตัวเขียว

 

กึก!

 

แมกนีโตได้รวบรวมเศษเหล็กโดยรอบก่อสร้างเป็นลูกบอลโลหะขังสัตว์ประยักษ์สีเขียวไว้ข้างใน พริบตาต่อมา แมกนีโตก็กํามือแน่นเขาต้องการอัดสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นให้แหลกตายคาที่

 

“โฮก!” สัตว์ประหลาดยักษ์พยายามอย่างหนักในการต้านทานแรงบีบของแมกนีโต,แมกนีโตที่เห็นท่าไม่ดีเขาส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่จะโยนมันไปอีกทิศทางนึง

 

บอลโลหะขนาดยักษ์ที่มีสัตว์ประหลาดตัวสีเขียวอยู่ข้างในได้ถูกโยนไปยังอีกทิศทาง มันได้ใช้พละกําลังของตนเองในการแหวกฝ่าบอลโลหะออกมา เพียงแต่ว่ามันได้ถูกส่งไปไกลพอสมควร จะไม่สามารถโจมตีสวนแมกนีโตได้ในทันที

 

แมกนีโตค่อยๆ ร่อนลงมาที่พื้นอย่างช้าๆ เขาหอบหายใจอย่างรุนแรง แม้ว่าเขาจะส่งสัตว์ป ระหลาดยักษ์นั่นไปไกลหลายกิโลเมตร แต่มันก็คงจะกลับมาได้ในไม่ช้านี้ แมกนีโตได้หันไปมองสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวอีกตัวที่ถูกเขาน็อคก่อนหน้า ดูเหมือนมันจะฟื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

แมกนีโตได้หันไปยังทิศทางของมัน แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้มาตัวคนเดียว คราวนี้สัตว์ประหลาดตัวสีเขียวได้ปรากฏตัวขึ้นข้างหน้าเขาเป็น 2 ตัวอีกครั้ง แมกนีโตจ้องมองไปที่พวกมันด้วยความหวาดกลัว

 

มือขวาของแมกนีโตเริ่มเคลื่อนไหวกระแสพายุโลหะขนาดยักษ์ได้พุ่งเข้าหาสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองอีกครั้ง เหตุการณ์ในวันนี้แมกนีโตได้ใช้พลังไปเยอะมาก ดังนั้นการควบคุมพายุโลหะขนาดใหญ่เช่นนี้ ก็ย่อมกินพลังจิตของเขามากเช่นเดียวกัน เขาต้องการจบศึกที่นี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

“โฮก! โฮก!”

 

“โฮก!”

 

สัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวไม่ได้สนใจการโจมตีของแมกนีโตแม้แต่น้อยพวกมันพุ่งเข้าหาแมกนีโตอย่างโกรธเคือง

 

ฟุบ!

 

“มันไม่สามารถทําอันตรายฉันได้ หากฉันสามารถเอาชนะแมกนีโตได้ ฉันจะได้กลับบ้าน ฉันอยากกลับบ้าน!”เสียงของสัตว์ประหลาดยักษ์ได้ถูกส่งออกมา เหตุผลที่พวกมันโกรธเคืองแมกนีโตและต้องการจัดการแมกนีโตโดยเร็วที่สุดก็คือ คําสั่งที่พวกมันได้รับมา

 

ฟุบ!

 

“แก!”ได้ยินคําพูดเหล่านั้น แมกนีโตหน้าซีดเล็กน้อย เขาได้ขยับโบกมืออย่างช้าๆ

 

กระแสโลหะขนาดใหญ่ได้ปิดกั้นเส้นทางด้านหน้าของสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัว ก่อนที่จะส่งพวกมันลอยไปไกลหลายเมนตรตั้งแต่เริ่มต้น แมกนีโตประมาทเกินไป ดูเหมือนทางกองทัพจะเตรียมอาวุธลับเหล่านี้มาจัดการเขา มันก็คือสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียว 3 ตัวนี้

 

“แกทําได้แค่นี้?”ในที่สุดสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวสีเขียวอีกตัวก็กลับมา ทั้งสามตัวมองไปยังแมกนีโตและพึมพัมออกมา มุมปากของพวกมันพยอยกขึ้นอย่างดีอกดีใจ

 

นอกเหนือจากสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสามตัวแล้วทางกองทัพยังสนับสนุนยิงขีปนาวุธต่อต้านมายังทิศทางของแมกนีโตอีกด้วย ตอนนี้แมกนีโตได้เผชิญหน้ากับศึกสองด้าน ระหว่างสัตว์ประหลาดตัวเขียว กับขีปนาวุธต่อต้านพลังของเขา ดังนั้น แมกนีโตจึงได้แต่ตั้งรับอย่างเดียวในตอนนี้

 

“J.A.R.V.I.S ได้เรื่องมั้ย?เบื้องหลังของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวทั้งสามตัวคืออะไร?” ขณะที่แมกนีโตกําลังเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดยักษ์ตวเขียว โทนี่ที่ซ่อนตัวอยู่ ก็กล่าวถาม J.A.R.VIS อีกครั้ง

 

แน่นอนว่าตลอดการต่อสู้โทนี่ได้วิเคราะห์และสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสามตัวนี้ เขาเชื่อว่าพละกําลังของพวกมันเมื่อเทียบกับชุดเกราะไอรอนแมนของเขาแล้ว พละกําลังเหล่านั้นสามารถบดขยี้กองทัพไอรอนแมนของเขาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นโทนี่จึงรู้สึกสนใจและกังวลในเวลาเดียวกัน

 

นอกจากความกังวลเหล่านั้นแล้วโทนี่ก็คิดกลับกันหากเป็นเขาที่ต้องเผชิญหน้ากับ พวกมันแทนแมกนีโต ปัจจุบันกองทัพไอรอนแมนของเขามีมากกว่า 100 ตัว หากร่วมมือกันจนเร่งระดับพลังงานสูงสุด เขาจะสามารถกําจัดสัตว์ประหลาดยักษ์นี้ได้หรือไม่

 

“ผลการตรวจสอบออกมาแล้ว พวกเขาคือหนึ่งในการทดลองลับของทางกอทัพ” J.A.R.V.I.S ได้ส่งข้อมูลให้โทนี่ดูในปัจจุบัน

 

ข้อมูลที่ J.A.R.V.I.S หามานั้น คือข้อมูลของมนุษย์ทดลองที่สามารถเปลี่ยนร่างกายเป็นยักษ์ตัวเขียวได้ แน่นอนว่าแหล่งที่มาของข้อมูลนี้ค่อนข้างน่าตกใจ

 

นั่นก็เพราะคนเหล่านี้คือมนุษย์ทดลองที่เกิดจากการฉีดซีรั่มพิเศษที่ทางกองทัพปรับแต่ง

 

” พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีลับของดร.แบนเนอร์งั้นหรอ?”โทนี่กล่าวพึมพัมออกมา

 

“น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ” J.A.R.VIS เองก็กล่าวคาดเดา ลักษณะท่าทางเหล่านั้นของมันไม่ต่างอะไรไปจากฮัลค์แม้แต่น้อย

 

“ไม่คิดเลยว่าทางกองทัพจะมีอาวุธลับที่ร้ายกาจเช่นนี้อยู่!”โทนี่จ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวทั้งสามตัว

 

ตั้งแต่เริ่ม โทนี่เชื่อว่าเทคโนโลยี ชุดเกราะไอรอนแมนของเขาถือว่าเป็นเทคโนโลยีระดับสูงที่สุดของโลกในตอนนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปโลกเขาก็ราวกับรับรู้ความจริงของโลกมากขึ้น นอกเหนือจาก เทคโนโลยีชุดเกราะไอรอนแมนของตนเอง ก็ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆที่ทรงพลัง ที่อาจจะเหนือกว่าเทคโนโลยีของเขาเสียอีก

 

“เจ้านายครับ,พลังงานในร่างของพวกเขาเริ่มอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว!” ขณะที่โทนี่กําลังเหม่อลอย J.A.R.V.I.S ก็ส่งเสียงเตือนในทันที

 

“หืม?”

 

ตอนที่ 626 สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียว

 

ติ๊ด ติ๊ด!

 

“เจ้านายครับตรวจพบคลื่นความผันผวนพลังงานระดับ 4!” ขณะที่แมกนีโตกําลังเผชิญหน้ากับอะไรบางอย่าง ใกล้หูของโทนีก็ปรากฏเสียงเตือนของ J.A.R.V.I.S

 

ขณะที่ J.A.R.VIS ส่งเสียงเตือนด้านหน้าของโทนี่ J.A.R.V.I.S ก็ได้สแกนพื้นที่โดยรอบจนทําให้โทนี่พบเห็นลักษณะรูปร่างของเงาที่ว่านั้น

 

“นั่นมัน? ฮัลค์งั้นหรอ?”เห็นสัตว์ประหลาดสองตัวพุ่งเข้าหาแมกนีโต โทนี่ตะโกนออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง

 

ภายใต้การสแกนของ J.A.R.V.I.S พวกเขาพบสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวสีเขียวสูง 5 เมตร พวกมันได้พุ่งชนเข้าสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโต และจัดการแมกนีโตจนทําให้เขาตกที่นั่งลําบาก โทนี่เองก็ค่อนข้างรู้สึกคุ้นเคยผิวหนังสีเขียวของสัตว์ประหลาดที่ว่านี้มันคล้ายกันอย่างมาก แต่แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่คนที่เขารู้จักแน่นอน

 

“เป็นไปไม่ได้,ฮัลค์จะมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้ยังไง”โทนี่พึมพัมออกมาอย่างช่วยไม่ได้

 

“แต่เดี๋ยว พวกมันมีสองคน แม้ลักษณะรูปร่างจะคล้ายกับฮัลค์แต่พวกมันกลับไม่ใช่”ในที่สุด โทนี่ก็เริ่มใจเย็นลงได้เขาได้พยายามคิดทบทวนอีกครั้ง

 

“J.A.R.VIS ตรวจสอบวิเคราะห์พวกเขาในทันที! ฉันต้องการจะรู้ว่าพวกเขาคือตัวอะไรกันแน่” หลังจากฟื้นฟูจากอาการตกใจ โทนี่ได้กล่าวบอก J.A.R.VIS

 

“ครับเจ้านาย!”ได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.VIS ปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว เขาเริ่มทําการวิเคราะห์สัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวนั้น

 

“นี่มันตัวอะไรกัน!” เผชิญหน้ากับเงาร่างสีเขียวทั้งสองร่าง แมกนีโตรู้สึกตกใจอย่างมาก

 

การโจมตีและการป้องกันของเขาถูกปัดป้องเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย อีกฝ่ายสามารถทําลายคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของตนเองด้วยพละกําลังทางกายภาพที่น่าเหลือเชื่อนั่น เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่ชัดเจนของสัตว์ประหลาดทั้งสองตัวไม่แปลกที่แมกนีโตจะตกใจ

 

“โฮก!” ขณะที่แมกนีโตกําลังตกตะลึง สัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวก็เคลื่อนที่เข้าหาเขาอีกครั้ง ร่างกายสีเขียวกํายําอันใหญ่โต ได้พุ่งมาที่ด้านหน้าของแมกนีโตอย่างรวดเร็ว

 

“ใสหัวไป!” แม้คลื่นสนามพลังแม่เหล็กของตนเองจะถูกทําลาย แต่แมกนีโตก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาได้ตะโกนออกมาพร้อมกับส่งเศษชิ้นส่วนโลหะจํานวนมากพุ่งไปด้านหน้า

 

ฟุบ ฟุบ ฟุบ!

 

แม้แต่ชุดเกราะไอรอนแมนที่อยู่ไม่ไกลก็ถูกดึงเข้ามาในขอบเขตพลังของเขา แมกนีโตได้ใช้ชุดเกราะไอรอนแมนนั่นโจมตีเข้าใส่สัตว์ประหลาดยักษ์เขียวทั้งสองนี้

 

หลังจากโดนการโจมตีของแมกนีโตร่างของสัตว์ประหลาดยักษ์ที่สูงนับ 5 เมตร ได้ร่วงลงไปที่ด้านล่างในทันที แมกนีโตได้ใช้การโจมตีของเศษซากปรักหักพังซ้ําเติมลงไปอย่างต่อเนื่อง จุดแข็งของสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวนั่นก็คือพละกําลัง ข้อเสียที่พวกมันเสียเปรียบมากที่สุดก็คือการที่พวกมันไม่สามารถบินได้

 

ทันทีที่สัตว์ประหลาดยักษ์นั่นร่วงลงไปพื้นดินโดยรอบก็เกิดรอยบุบกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ พละกําลังและขนาดตัวของพวกมันกระทั่งสามารถสร้างรอยแตกของพื้นดินได้ เห็นได้ชัดว่ามันไม่ธรรมดาแม้แต่น้อย

 

หลังจากจัดการสอยสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวร่วงลงไป แมกนีโตก็ถอนหายใจออกมาอย่างกังวล เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะต้องตกสู่สถานการณ์ที่ยากลําบากถึงเพียงนี้ แมกนีโตยังคงควบคุมพลังของตนเองและสร้างบาเรียเศษชิ้นส่วนโลหะในการเตรียมตั้งรับ

 

เห็นกําแพงโลหะขนาดยักษ์ปรากฏขึ้น สัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวจ้องมองไปที่ทิศทางของแมกนีโตอย่างโกรธเคือง ก่อนที่มันทั้งคู่จะคํารามออกมา

 

โฮก!

 

สัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวได้กระโดดพุ่งตัวเข้าหาแมกนีโตอีกครั้ง แต่ทว่าภายใต้การควบคุมกําแพงโลหะขนาดยักษ์ของแมกนีโต เขาย่อมไม่เปิดโอกาสให้สัตว์ประหลาดยักษ์นั่นเข้าถึงตัวของเขาได้อีกครั้ง สัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวได้พยายามต่อยทะลายกําแพงเบื้องหน้าของพวกมันอย่างบ้าคลั่ง

 

ปั้ง ปั้ง ปั้ง

 

กําแพงโลหะขนาดยักษ์ของแมกนีโต ได้ถูกต่อยจนหลุดออกไปทีละเล็กละน้อย กําปั้นขนาดยักษ์นั่นได้ชัดเข้าไปที่กําแพงโลหะจนพลังจิตของแมกนีโตเริ่มไม่คงที่

อีก!

 

แมกนีโตได้พยายามถอยร่นออกห่างจากสัตว์ประหลาดยักษ์นั้นอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าพละกําลังทางกายภาพของอีกฝ่ายกลับรุนแรงมากเกินไป

 

ปิ้ง ปิ้ง

 

“เวรเอ้ย!” เห็นความน่ากลัวของสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวที่ว่านี้ แมกนีโตอุทานออกมาอย่างหยาบคาย

 

ระยะห่างของพวกเขายิ่งมายิ่งใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ หากกําแพงโลหะของเขาถูกทําลายไม่ต้องสงสัยเลยว่าแมกนีโตย่อมไม่สามารถทนรับหมัดของศัตรูได้อย่างแน่นอน

 

ฟุบ!

 

แมกนีโตได้เร่งพลังจิตของตนเองอีกครั้งรวบรวมเศษโลหะจํานวนมากเข้ามาเสริมแกร่งให้กับ กําแพงโลหะที่โดนต่อยทําลายอยู่ขณะนี้

 

เห็นกําแพงโลหะของตนเองกลับมาหนามากกว่าระดับของสัตว์ประหลาดสีเขียวอีกครั้ง แมกนีโตได้เผยรังสีฆ่าฟันออกมาอย่างรุนแรง

 

“ตายไปซะ!”แววตาของแมกนีโตได้เผยความเยือกเย็นออกมา เขาได้ซัดเศษชิ้นส่วนโลหะจํานวนมากเข้าปะทะกับสัตว์ประหลาดยักษ์เขียวนี่

 

เปรี้ยง!

 

สัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวถูกคลื่นเศษโลหะชัดจนกระเด็นออกไปอีกครั้ง แต่ทว่าแมกนีโตไม่ได้ยอมหยุดแค่นั้น ในมือของเขายังคงเร่งพลังจิตของตนเองอย่างบ้าคลั่ง

 

“ตายซะ!”

 

ลูกบอลโลหะขนาดยักษ์ที่อยู่เหนือศีรษะของแมกนีโตได้พุ่งตรงลงไปหาสัตว์ประหลาดยักษ์นั้นในทันที

 

ตอนที่ 625 แมกนีโตปะทะอาวุธลับของกองทัพ

 

” J.A.R.V.I.S,นายคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะจบลงด้วยผลลัพธ์แบบใด ดูเหมือนทางกองทัพจะเตรียมมาตราการตอบโต้แมกนีโต้มาด้วย”โทนกล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

“เจ้านายครับ,ในธนาคารข้อมูลพิเศษของทางกองทัพสหรัฐ เกี่ยวกับ แมกนีโต เอริค มีน้อยมาก แม้จะเป็นองค์กร S.H.I.E.L.D. และทีม X-MEN ถึงพวกเขาจะรวมข้อมูลเข้าด้วยกัน ผมก็ไม่สามารถสรุปออกมาเป็นค่าได้แน่ชัด” J.A.R.V.I.S กล่าวตอบโทนี่

 

“อืม,เช่นนั้นพวกเราก็เฝ้ามองจากระยะไกลนี่แหละ จริงสิ สิ่งที่ฉันให้นายเตรียมเป็นไงมั่ง!”ได้ยินคําตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่กล่าวถามอีกครั้ง

 

“อีกสามนาทีจะสามารถเตรียมการรายละเอียดย่อยเสร็จ ส่วนรายละเอียดส่วนใหญ่คงต้องใช้เวลามากกว่า 10 นาที” J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“รวมทั้งหมด 13 นาทีสินะ ดูเหมือนฉันคงจะต้องรออีกสักพักได้ยินคําตอบของJ.A.R.V.I.S โทนี่ พึมพัมออกมา

 

“เจ้านายครับ ผมว่าหากเราใช้สิ่งนั้น เกรงว่าจะเป็นการสูญเสียมากเกินไป เราไม่จําเป็นจะต้องใช้มัน”

 

“ฉันรู้ แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว…”

 

ขณะที่ โทนี่กําลังสนทนากับ J.A.R.V.S สถานการณ์ในสนามรบก็เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง

 

ฟุบ!

 

ขีปนาวุธหลายสิบลูกได้ปล่อยบางอย่างลอยพุ่งไปทางแมกนีโตก่อนที่จะเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

บึ้ม บึ้ม

 

คลื่นแรงระเบิดส่งผลให้แมกนีโตลอยกระเด็นถออยไปเล็กน้อย การระเบิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโตอีกด้วย

 

” ทําการบ้านมาดี แต่ยังดีไม่พอ! เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเตรียมพร้อมบางอย่างมาเพื่อจัดการตนเอง แมกนีโตจ้องมองไปที่กองทัพเครื่องบินรบพวกนั้น

 

ฟุบ!

 

แมกนีโตได้ยื่นมือออกไปเบื้องหน้า จากนั้นเครื่องบินรบความเร็วสูงเหล่านั้นก็ถูกเขาควบคุมพลังควบคุมของแมกนีโตนั้นมีขีดจํากัด ยิ่งวัตถุมีขนาดใหญ่มากเพียงใด แรงควบคุมที่ต้องใช้ก็มากเพียงเท่านั้น ยิ่งเป็นระยะทางที่ไกลด้วยแล้วการควบคุมก็ย่อมไม่ใช่เรื่อองง่าย แต่หากแมกนีโตเพ่งจิตเต็มที่แล้ว การควบคุมอีกฝ่ายก็ย่อมไม่ใช่เรื่องยากอะไร

 

ติ๊ด ติ๊ด!

 

ทันทีที่เครื่องบินนั้นถูกควบคุมบนห้องคนขับเสียงเตือนก็ได้ดังแพร่กระจายไปทั่วห้อง เครื่องบินลํานี้ได้สูญเสียการควบคุมโดยสมบูรณ์ แรงบีบอัดจํานวนมาก ได้กระแทกตัวเครื่องบินที่ว่า จนเกิดความเสียหาย

 

“เครื่องบินได้รับความเสียหาย เตรียมพร้อมลงจอดฉุกเฉิน เครื่องบินได้รับความเสียหาย เตรียมพร้อมลงจอดฉุกเฉิน!” ภายใต้การควบคุมของแมกนีโต ในที่สุดเครื่องบินลํานี้ก็เสียการควบคุมและร่วงตกลงไปที่พื้น

 

เพียงพริบตาเดียวเครื่องบินรบนั่นก็กลายเป็นซากปรักหักพังที่พื้นดิน เงาร่างของคนสามคนได้ออกมาจากนั้นก็ได้หายตัวไป

 

“แฮ่กๆ!”แมกนีโตถอนหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อยการควบคุมวัตถุขนาดใหญ่นั้นค่อนข้างกินพลังของเขามาก

 

บางคนอาจจะคิดว่าเพราะแมกนีโตเริ่มอายุมากแล้วความแข็งแกร่งเลยด้อยกว่าแต่ก่อน แต่ผิดแล้ว เป็นเพราะเขาใช้พลังมากเกินไป แมกนีโตในวันนั้นก็ยังคงเป็นแมกนีโตในวันนี้ ตัวตนของเขาสามารถทําให้โลกตกอยู่ในความหวาดกลัวได้

 

หลังจากจัดการเครื่องบินรบ และทําให้พวกมันถอยร่นไปจากระยะสังเกตุการณ์ของเขา แมกนีโตก็หันศีรษะจ้องมองไปยังพื้นดิน เป้าหมายของเขาก็คือสไตรเกอร์ ตอนนี้ สไตรเกอร์อยู่ในการควบคุมของ S.H.I.E.L.D. และสมาชิกทีมX-MEN คนอื่นๆ

 

รวมถึงศาสตราจารย์ชาร์ลส์ นอกเหนือจากคนเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีกัปตันโรเจอร์ส ผู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกของประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็ยังมีกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ สตาร์ค กองทัพที่เผยอยู่เบื้องหน้าเขาในตอนนี้คือการรวมตัวของผู้ที่มีพลังมากที่สุด แม้จะเป็นความแข็งแกร่งทั้งหมดของตนเอง ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะอีกฝ่าย

 

“ชาร์ลส์ นี่คือสิ่งที่นายต้องการจะให้ฉันเห็นงั้นหรอ?ความแข็งแกร่งของพันธมิตรเหล่านี้?”แมกนีโตจ้องมองไปที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์และบ่นกระซิบออกมา

 

“เอริค ตอนนี้นายก็เห็นแล้ว?นี่แหละคือความเปลี่ยนแปลงของฉัน!” เห็นแมกนีโตจ้องมองมาที่ตนเอง ศาสตราจารย์ชาร์ลส์พึมพัมในใจ

 

โฮก!

 

ใกล้พื้นที่ซากปรักหักพังของเครื่องบินปรากฏเสียงคํารามที่ดังกึกกังดังออกมาจากนั้นเงาร่างขนาดใหญ่ก็วิ่งผ่านหมอกฝุ่นละออง พุ่งเข้าหาตําแหน่งของแมกนีโต

 

“โฮก!”เสียงคํารามที่ราวกับสัตว์ร้ายได้กระจายออกไปทั่วพื้นที่แห่งนี้

 

พริบตาต่อมาเงาร่างยักษ์ใหญ่นั่นก็โจมตีเข้าหาแมกนีโตโดยตรง แต่โดยรอบแมกนีโตมีการป้องกันของคลื่นสนามพลังแม่เหล็ก แต่ดูเหมือนว่าคลื่นสนามพลังแม่เหล็กจะไม่สามารถต่อต้านการโจมตีของเงายักษ์ใหญ่นี้ได้

 

เปรี้ยง!

 

ทันทีที่หมอกควันหายไป เงาร่างขนาดใหญ่นี้ก็เผยให้แมกนีโตเห็นลักษณะที่แท้จริงของมัน จากนั้นเขาก็ถูกเหวี่ยงโดยเงาร่างยักษ์นั่นพุ่งตรงลงมาที่พื้นดิน

 

ปั้ง!

ตอนที่ 624 ทางกองทัพเคลื่อนไหว

 

ระหว่างที่กัปตันโรเจอร์สและศาสตราจารย์ชาร์ลส์กําลังสนทนากันบนท้องฟ้าในพื้นที่สนามรบเครื่องบินรบ และเฮลิคอปเตอร์ของทางกองทัพกําลังมุ่งหน้ามาทางนี้ เครื่องบินรบเหล่านี้หลังจากอยู่ในรัศมีโจมตีของตนเอง พวกเขาได้เล็งเป้าหมายไปที่แมกนีโต และเปิดใช้ขีปนาวุธทันที

 

ฟุบ!

 

ขีปนาวุธหลายสิบนัดได้พุ่งออกอออกไปยังทิศทางของ แมกนีโต สตอร์ม และ แจ็ค พื้นที่ขอบเขตการโจมตีของมันนั้นแพร่กระจายเป็นวงกว้าง

 

ปั้ง ปั้ง ปั้ง

 

“หนีก่อนเร็วเข้า!”เห็นขีปนาวุธโจมตีมายังพื้นที่ตนเอง แจ๊คได้ทําสัญลักษณ์มือวาดวงเวทย์สีทองขึ้นเพื่อเตรียมจะหลบหนีออกไปจากพื้นที่ตรงนี้

 

แจ็คได้วาปไปยังตําแหน่งของสตอร์มเพื่อเตรียมจะพาเธอหลบหนี สตอร์มเองก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์เธอได้มุ่งหน้าไปหาแจ็คและหลบหนีจากพื้นที่แห่งนี้ด้วยประตูมิติเวทย์มนตร์

 

หลังจากพวกแจ็คได้ทําการหลบหนีออกจากพื้นที่สนามรบ ตําแหน่งของแมกนีโต ก็เต็มไปด้วยขีปนาวุธจํานวนมากที่ระเบิดแตกออกจากกัน

 

แรงระเบิดได้สั่นสะเทือนพื้นที่โดยรอบที่แมกนีโตอยู่ เพียงแต่แมกนีโตไม่มีท่าทีตื่นตระหนกแม้แต่น้อย คลื่นสนามพลังแม่เหล็กของเขาได้ปลดปล่อยออกมา และหยุดการระเบิดก่อนที่จะถึงตนเอง

 

“หึม!” ทางด้านสตอร์มและแจ็คที่วาปไปไม่ไกลจากสนามรบพวกเขาเองก็เห็นรัศมีแรงระเบิดที่เกิดขึ้น

 

“เหอะ! ทางกองทัพคิดจะเข้ามายุ่งเรื่องฉัน? เช่นนั้นฉันจะทําให้พวกแกลิ้มรสความเจ็บปวด!” แมกนีโตได้กระพริบสายตาออกมาอย่างเย็นชา

 

ฟุบ!

 

ขณะที่แมกนีโตตัดสินใจกําลังจะทําอะไรบางอย่าง ด้านข้างของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ปรากฎประตูมิติเวทมนตร์ขึ้น จากนั้น แจ็คและสตอร์มก็ปรากฏตัวออกมา

 

” พวกเธอทําได้ดีมาก ตอนนี้เรามาดูทางกองทัพหามาตราการตอบโต้แมกนีโตกันก่อนดีกว่า” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา

 

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ทางกอทัพจะสามารถสู้แมกนีโตได้งั้นหรอ?” หลังจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา กัปตันโรเจอร์สที่อยู่ใกล้ๆกล่าวถาม

 

“กัปตันโรเจอร์ส คุณเป็นห่วงว่าคนของกองทัพจะพ่ายแพ้เอริค”ได้ยินคําถามของกัปตันโรเจอร์ส ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวถามคืน

 

” ก็นิดหน่อย!” กัปตันโรเจอร์สตอบอย่างจริงจัง

 

กัปตันโรเจอร์สแค่กังวลว่ากองทัพสหรัฐจะสามารถหยุดแมกนีโตได้จริงหรือเพราะแม้แต่ S.H.I.E.L.D. ที่เป็นองค์กรพิเศษ พวกเขาก็ยังหวั่นเกรงในพลังของแมกนีโตยิ่งเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงเช่นนี้ด้วยแล้ว กัปตันโรเจอร์สกังวลว่าจะเกิดความสูญเสียโดยไม่จําเป็น

 

“กัปตันโรเจอร์ส หากกองทัพคิดจะรามือก็สามารถทําได้ แต่ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะหยุดแค่นั้น ท้ายที่สุด แผนกองค์กรที่สไตรเกอร์ควบคุมอยู่ก็เป็นความลับและข้อมูลสําคัญของประเทศพวกเขาไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างแน่นอน นอกจากนี้ฉันคิดว่าทางกองทัพน่าจะมีอะไรซ่อนเอาไว้อย่างแน่นอน” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมาอย่างสงสัย

 

“หืม?คุณหมายถึง…”ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ กัปตันโรเจอร์สเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่าง

 

เพียงแต่ว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เบนสายตาไปยังทิศทางของแมกนีโตอีกครั้งตอนนี้ขีปนาวุธ หลายสิบนัดได้พุ่งโจมตีไปยังแมกนีโต แม้แมกนีโตจะสามารถลอยตัวได้ก็ไม่มีทางที่จะหลบรัศมีพลังระเบิดนี้ได้เลย

 

” ทางกองทัพได้ซ่อนอะไรเอาไว้กันแน่” กัปตันโรเจอร์สเองก็หันศีรษะไปยังทิศทางของแมกนีโต

 

กัปตันโรเจอร์สในตอนนี้กําลังควบคุมองค์กร S.H.I.E.L.D. อยู่ ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าสิ่งที่ซ่อนไว้นั้นสมควรมีความร้ายกาจเพียงใด ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนที่เขาได้ต่อสู้กับองค์กรไฮดร้า พวกมันได้แสดงสิ่งที่ซ่อนเร้นออกมาจนทําให้โลกต้องตกตะลึง ดังนั้น หากทางกองทัพได้เผยบางสิ่งที่ดูน่ากลัวออกมา มันก็ช่วยไม่ได้ที่กัปตันโรเจอร์สจะกังวล

 

เพราะทางกองทัพเองก็มีส่วนวิจัยและทดลองลับเหมือนกับ S.H.I.E.L.D. ยิ่งเป็นแผนวิจัยมิวแทนท์ที่สไตรเกอร์เป็นคนคุมด้วยแล้ว การทดลองย่อมไม่เรียบง่ายเหมือนที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กังวลอย่างแน่นอน

 

“ฉันเองก็อยากจะรู้ว่าทางกองทัพซ่อนสิ่งใดไว้กันแน่!”วิสัยทัศน์ของกัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่เบื้องหน้าอย่างเงียบๆ

 

ขณะที่ขีปนาวุธถูกยิงออกไป ขีปนาวุธเหล่านั้นก็พุ่งชนเข้ากับสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโต จากนั้นมันก็ร่วงลงสู่พื้นดินแต่ทว่าขณะที่มันกําลังร่วงอยู่ จู่ๆไฟด้านท้ายของขีปนาวุธก็ดับลงอย่างรวดเร็วจากนั้นก็มีบางสิ่งหลุดออกมาจากภายในปรากฏขึ้นบนอากาศ

 

“หรือว่านั่นคือเทคโนโลยีที่ใช้ต่อกรกับแมกนีโต?”โทนี่ที่จ้องมองผ่านการสแกนของ J.A.R.V.I.S เขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน

 

ตอนที่ 623 ควบคุมสถานการณ์อย่างสมบูรณ์

 

ฟุบ!

 

ไอซ์แมน และ ไพโร ตอนนี้พลังของพวกเขากําลังเข้าปะทะกันอย่างดุเดือดเปลวเพลิงของไพโรดูเหมือนจะถูกพลังความเย็นของไอซ์แมนดับลงจะพูดให้ถูกก็คือถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์

 

“จอห์น! ตอนนี้นายไม่ใช่คู่มือของฉันแล้ว ฉันได้เฝ้าฝึกฝนมาเป็นระยะเวลาหลายปี ฉันไม่ใช่คนเดิมอีกแล้วดังนั้นจะดีกว่าหากนายยอมหยุดตั้งแต่ตอนนี้!”ไอซ์แมน จ้องมองไปที่ไพโรที่อยู่ด้านหน้าของเขา

 

เมื่อตอนเด็ก ๆ พวกเขาทั้งสองคนเคยเรียนอยู่ที่โรงเรียนเซเวียร์เหมือนกัน และ ไพโร ก็เหมือนเป็นเพื่อนสนิทของเขาคนนึงตอนนั้น ไพโร มีพละกําลังที่แข็งแกร่งและเหนือกว่าตนเองมากไอซ์แมนรู้สึกยอมรับในตัวของเพื่อนคนนี้ แต่หลังจาก ไพโร ได้แยกตัวไปอยู่สมาคมมิวแทนท์พวกเขาก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย

 

“โรเบิร์ต ไม่ว่านายจะแข็งแกร่งมากขึ้นขนาดไหน ฉันจะไม่ยอมแพ้นายหรอก!”ได้ยินคําพูดของไอซ์แมนไพโรกล่าวตอบ

 

เขายิ้มออกมาและระลึกถึงช่วงในวัยหลังพวกเขาเคยต่อสู้กันมานับครั้งไม่ถ้วนและเป็นตัวเขาที่คอยกลั่นแกล้งไอซ์แมนมาตลอด แต่ดูเหมือนหลังจากความสามารถของไอซ์แมนได้ตื่นขึ้นโดยสมบูรณ์ เขาจะไม่ใช่คู่มือของไอซ์แมนแล้ว พลังของพวกเขาคือขั้วตรงกันข้าม ความสามารถของน้ํา ย่อม เหนือ กว่าไฟ โดยปกติ

 

“เช่นนั้นอย่าโทษฉันแล้วกันน!”ไอซ์แมนไม่ต้องการยื้อเวลาอยู่ที่นี่ เขาจะต้องรีบไปช่วยเหลือพี่น้องมิวแทนท์คนอื่น ๆ ร่วมต่อสู้

 

ฟุบ!

 

หลังจากไอซ์แมนพูดคําเหล่านี้ออกมาดวงตาของเขาก็กระพริบแสงสีฟ้าออกมาอย่างดุเดือดบรรยาอากาศเยือกแข็งได้ปลดปล่อยออกมารอบตัวของเขาอย่างรุนแรง เพียงแค่บรรยากาศเยือกแข็ง ก็โหมกระหน่ําโจมตีไฟของไพโรที่ถูกปลดปล่อยออกมาได้แล้ว ไอซ์แมน ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า ไพโร เขาต้องการที่จะหยุดเพื่อนคนนี้และยุติการต่อสู้ที่ไร้เหตุผลนี้สักที

 

ขณะที่ไอซ์แมนกําลังหยุดไพโร กลุ่มของสมาคมมิวแทนท์อื่น ๆ ก็ยังเหลือแมกนีโต ที่เป็นผู้นํา ตอนนี้เขากําลังปะทะกับสตอร์ม,สตอร์มได้เข้าต่อกรกับแมกนีโตแต่แน่นอนว่าความสามารถของเธอเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุดแมกนีโตได้การต่อสู้ของพวกเขาดําเนินการอยู่บนอากาศทําให้คนอื่นไม่สามารถสนับสนุนพวกเขาได้เหมือนกัน

 

ในการต่อสู้สตอร์มได้ปลดปล่อยความแข็งแกร่งของเธอออกมา เธอเป็นมิวแทนท์ที่เข้าใกล้ระดับ 5 แล้วเหมือนกัน แต่ผลกระทบของพลังของเธอมีมากเกินไป หากเธอรีดเค้นพลังทั้งหมดออ มา เธอจะสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโดยรอบและทําให้เกิดผลกระทบวงกว้างได้ เมื่อถึงตอนนั้น วอชิงตัน อาจจะพลอยโดนลูกหลงไปด้วย แต่เมื่อเทียบกันแล้ว แมกนีโตในตอนนี้ไม่สนใจเหตุผลอะไรทําให้เขาสามารถโจมตีสตอร์มได้อย่างเด็ดขาด

 

ขณะที่การโจมตีของแมกนีโตจะมาถึงตัวสตอร์ม จู่ ๆ บาเรียสีทองก็ปรากฏขึ้นป้องกันการโจมตีของแมกนีโต,แมกนีโตรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก การโจมตีของสนามพลังแม่เหล็กของตนเองไม่มีผลกับการป้องกันของพลังสีทองนี้ แจ็คได้พยายามสนับสนุนสนามรบและคอยช่วยเหลือพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์ในการแก้ไขจัดการแมกนีโต

 

“ขอบคุณศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่ช่วยเหลือพวกเรา” ปีศาจสาวที่ช่วยเหลือสไตรเกอร์ได้สําเร็จเธอได้มาอยู่ข้างกายของศาสตราจารย์ชาร์ลส์และกล่าวขอบคุณ ด้านข้างของเธอ ตามมาด้วย สไตรเกอร์ และ กัปตันโรเจอร์ส

 

“เรื่องสไตรเกอร์ ฉันจะปล่อยให้คุณจัดการ กัปตันโรเจอร์ส ฉันคิดว่าคุณคงรับมือกับปัญหานี้ได้ดีกว่าฉัน” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา

 

แม้สไตรเกอร์จะเป็นหนึ่งในตัวต้นเหตุที่ก่อสงครามสร้างความร้าวฉานระหว่างมิวแทนท์ แต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ไม่ได้สนใจเขา เขาไม่อยากให้ทางกองทัพที่กําลังจะมาสนับสนุนในอีกไม่ช้ารู้ว่าสไตรเกอร์ตกอยู่ในมือของทีมX-MEN ไม่งั้นมันคงจะเป็นเรื่องยากที่จะปรับความเข้าใจดังนั้น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ จึงมอบหน้าที่นี้ให้กัปตันโรเจอร์สจัดการแทน

 

“เข้าใจแล้ว ศาสตราจารย์ชาร์ลส์!”ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์กัปตันโรเจอร์ส รู้สึก ขอบคุณ

 

พวกของสไตรเกอร์ถือว่าเป็นกลุ่มพวกหัวรุนแรงที่ยุยงให้พวกมิวแทนท์ทําสงครามกันหากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตั้งใจจะจัดการสไตรเกอร์ กัปตันโรเจอร์สก็คงไม่อาจหักห้ามได้ ดังนั้นเมื่อเห็นว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์ยอมปล่อยมือจากสไตรเกอร์ กัปตันโรเจอร์สจึงรู้สึกขอบคุณอย่างมากๆ

 

“เดิมฉันก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับทางกองทัพอยู่แล้ว”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่การต่อสู้บนฟ้าตอนนี้

 

กัปตันโรเจอร์สเองก็จ้องมองไปที่พวกเขาเช่นเดียวกัน การต่อสู้ของแมกนีโต นั้นรุนแรงมาก ตอนนี้สไตรเกอร์ถูกควบคุมตัวส่วนเรื่องพี่น้องมิวแทนท์คนอื่น ๆ ก็เริ่มถูกจัดการแล้ว สถานการณ์ก็คงจะถูกคลี่คลายในอีกไม่นานนี้

 

“กัปตันโรเจอร์ส คุณคิดว่า หลังจากที่เอริคสูญเสียผู้ช่วยของตนเองไปแล้วเขาจะเลือกที่จะ ยอมแพ้?”เห็นกัปตันโรเจอร์สกําลังครุ่นคิดบางอย่างศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวถาม

 

“ไม่ใช่งั้นหรอ?ตอนนี้แมกนีโตก็ไม่ต่างอะไรกับตัวคนเดียววัตถุประสงค์ของเขาก็คือการจัดกา รกับสไตรเกอร์ตอนนี้ทางกองทัพเริ่มยื่นมือเข้ามาช่วยแล้ว มันก็มีความเป็นไปได้ที่เขาจะเลือกที่จะถอยกลับ” กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

“เอริค ไม่ใช่ตัวตนที่เรียบง่ายขนาดนั้น เพราะเขาให้ความสําคัญกับความตั้งใจของตนเองนอกจากนี้คุณคิดว่า นี่คือทุกอย่างที่เอริคมีแล้วงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์สศาสตรา จารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ

 

“ว่าไงนะ…”

 

ตอนที่ 622 การสนับสนุนของ S.H.I.E.L.D. และ ไอร…

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ตัดสินใจก่อนที่จะกล่าวถามกัปตันโรเจอร์สในเวลานี้

 

“กัปตันโรเจอร์ส ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ!”

 

ทางด้านกองกําลัง S.H.I.E.L.D. พวกเขากําลังปะทะกับพวกทหารของกองทัพอยู่ ทหารของกองทัพพวกนั้นเต็มไปด้วยอาวุธไฮเทคจํานวนมากเหมือนกันส่งผลให้กองกําลังพิเศษของ S.H.I.E.L.D. ต้องตกที่นั่งลําบาก

 

“โทนี่ สตาร์ค ฉันต้องรบกวนคุณแล้ว แมกนีโต กําลังจะเริ่มลงมืออีกครั้ง ฉันจะต้องรีบหยุด เขาดังนั้น ฉันจึงอยากจะขอร้องให้คุณไปช่วยเหลือกัปตันโรเจอร์สในการต่อต้านคนอื่น ๆ “ศาสต ราจารย์ชาร์ลส์กล่าวบอกโทนี่

 

“ต้องการความร่วมมือจากฉัน?เข้าใจแล้ว กะอีแค่รับมือกับพวกทหารธรรมดาเหล่านี้ ฉันจะจัดการให้!”ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เสียงของ โทนี่ กล่าวตอบ

 

“J.A.R.V.I.S ส่งกองทัพของเราเข้าไปขัดขวางกองทัพพวกนั้นซะ!”

 

” ครับเจ้านาย!”

– – –

พริบตาต่อมาชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

 

“เชื่อมต่อข้อมูลสนามรบแชร์ข้อมูลสนามรบกับที่มพิเศษของ S.H.I.E.L.D. !!”

 

” พวกเรามาเริ่มเคลียร์สนามรบทางด้านหน้านี้กันเถอะ ฉันอยากจะรีบจัดการมันให้จบเร็ว ๆที่สุด!”โทนี่จ้องมองไปที่สนามรบเบื้องหน้า

 

” ครับเจ้านาย!”

 

ฟุบ!

 

บนเศษซากปรักหักพังจํานวนมาก มิวแทนท์ 2 คนกําลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดด้วยกําปั้นพลังหมัดของแต่ละฝ่ายนั้นรุนแรงอย่างมาก ทั้งสองคนก็คือ โคลอสซัส และ เร้ดแท้ง

 

เพียงแต่ว่าร่างกายของโคลอสซัสราวกับว่าได้รับบาดเจ็บมากกว่า ทางด้านเร้ดแท้งเขาได้รัวหมัดใส่โคลอสซัสถึงร่างกายของโคลอสซัสจะเป็นโลหะและดูไม่น่าจะเกิดบาดแผลได้แต่แผลที่ว่านี้ก็คือรอยบุบบนร่างกายของโคลอสซัสนั่นเอง

 

โคลอสซัสได้พยายามหลบเลี่ยงการโจมตีของเร้ดแท้งและมองหาโอกาส

 

” หืม?”เห็นการล่าถอยของโคลอสซัส เร้ดแท้ง รู้สึก สงสัยอย่างมาก

 

ขณะที่เร้ดแท้งกําลังพุ่งตามโคลอสซัสไป จู่ ๆ ร่างของเขาก็ถูกยิงเข้าด้วยแสงสีแดงบางอย่าง

 

“อัก!”นี่เป็นการโจมตีของชุดเกราะไอรอนแมน เร้ดแท้ง ได้จ้องมองไปที่ กองทัพไอรอนแมนที่อยู่กลางอากาศที่เข้ามาปั่นป่วนสนามรบแห่งนี้

 

เปรี้ยง!

 

“…”เร้ดแท้งได้ยกสองมือตั้งเป็นรูปตัวกากบาทต้านทานการโจมตีของแสงเลเซอร์ที่พุ่งเข้ามาหาเขา

 

บาง – บาง บาง – บาง –

“อย่ามายั่วโมโหฉัน!”เร้ดแท้งตะโกนออกมาอย่างโกรธเคืองก่อนที่จะใช้หมัดยักษ์ของตนเอง ฟาดไปยังชุดเกราะไอรอนแมนที่อยู่ใกล้เขา

 

ณ ตอนนั้น เอง ศีรษะของ เร้ดแท้ง ดูเหมือนจะถูกโจมตีด้วยของแข็งบางอย่างนั่นคือหมัดของโคลอสซัส เขาได้ฉวยโอกาสตอน เร้ดแท้ง ถูกปันประสาท โดยพวกกองทัพชุดเกราะไอรอนแมนหมัดขนาดยักษ์นี้ส่งผลให้ เร้ดแท้ง รู้สึกมึนงงอย่างหนักหน่วง

 

ขณะที่กองทัพไอรอนแมนเข้าสู่สนามรบ,สนามรบของทีมสัมพันธมิตรทั้งหลายก็เริ่มกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง โทนี่ ได้สั่งการกองทัพไอรอนแมนของเขาให้ช่วยเหลือพรรคพวกทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ ต ราบใดที่ไม่ได้เผชิญหน้ากับ แมกนีโต โทนี่ มั่นใจว่ากองกําลังของเขาจะสามารถสนับสนุนได้เต็มที่

 

ระหว่างที่ โคลอสซัสกําลังจัดการกับเร้ดแท้งด้วยความช่วยเหลือของไอรอนแมน ทีมของ S.H.I.E.L.D. ก็กําลังเผชิญหน้ากับมิวแทนท์หนุ่มที่ใช้คลื่นแรงสั่นสะเทือน

 

ฟูว – –

 

คลื่นแรงสั่นสะเทือนได้สร้างความเสียหายต่อทีมของ S.H.I.E.L.D. อย่างหนักหน่วงจนพวกเขาไม่มีโอกาสตอบโต้ได้แม้แต่น้อย

 

นอกเหนือจากพวกเขาเหล่านี้ก็ยังมีมิวแทนท์อีก สองคน ที่กําลังต่อสู้กันอย่างรุนแรงการต่อสู้ของพวกเขากินอาณาเขตพื้นที่เป็นวงกว้างเพราะรัศมีพลังที่รุนแรงของพวกเขา

 

ตอนที่ 621 ทีมX-MEN ปะทะ สมาคมมิวแทนท์

 

คนที่ปรากฏตัวขึ้นก็คือคนจากสมาคมมิวแทนท์พวกเขาปรากฏตัวออกมาราวกับภาพมายาและเคลื่อนที่ไหวเข้าหาสไตรเกอร์ที่ถูกแมกนีโตปล่อยร่วงลงมา

 

สไตรเกอร์ที่โดนปล่อยร่วงลงมาก่อนหน้านี้คิดว่าแมกนีโตตั้งใจจะปล่อยเขาแต่ที่ไหนได้คนของพวกแมกนีโตได้ปรากฏตัวออกมาปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของตนเองเอาไว้

 

“คิดจะไปไหนงั้นหรอ?” เสียงของไพโรได้ดังขึ้นเขากล่าวออกมาอย่างเย้ยหยัน

 

ไพโรเตรียมที่จะจัดการสไตรเกอร์ทิ้งซะตรงนี้แต่ทว่าจู่ ๆ ด้านหลังของเขาปรากฏคลื่นพลังความเย็นพิสดารสายหนึ่งมันได้หยุดการเคลื่อนไหวของตนเอง

 

ฟุบ!

 

ไอซ์แมนได้ปปรากฏตัวออกมาไพโรที่เห็นเช่นนั้นเขาได้ปลดปล่อยพลังของตนเองออกมาเช่นเดียวกันคลื่นพลังงานทั้งสองสายได้เข้าปะทะกันอย่างรุนแรงจนระเบิดกลายเป็นไอน้ําทางด้านทีมX-MEN คนอื่น ๆ ก็พุ่งตัวเข้าหาสนับสนุนศาสตราจารย์ชาร์ลส์ส่วนทางด้านสมาคมมิวแทนท์สมาชิกคนอื่น ๆ ก็พุ่งเข้าสนับสนุน แมกนีโต

 

ปังปัง! 

 

หลังจากไอซ์แมนปรากฏตัว คนของทีม X-MEN เองก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน แม้แต่โคลอสซัส ชายร่างเหล็กก็เตรียมเข้าปะทะ หากว่ากันตามตรง ความสามารถของ โคลอสซัส ที่เปลี่ยนร่างกายให้เป็นเหล็กนั้น ย่อมพ่ายแพ้ต่อแมกนีโตโดยสมบูรณ์ แต่ว่าหากเป้าหมายตนเองไม่ใช้แมกนีโตก็ไม่เป็นไร

 

แมกนีโตจ้องมองไปที่โคลอสซัส และ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ตอนนี้ จากนั้นชายคนนึงที่เป็นพรรคพวกของเขาก็พุ่งเข้าไปยังทิศทางของโคลอสซัส ,สตอร์มที่เห็นเช่นนั้นก็เตรียมพร้อมอย่างรวดเร็วเธอสร้างเมฆพายุออกมาเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ต้องการออมมืออีกต่อไป

 

สตอร์มปลดปล่อยคลื่นลมหมุนพายุออกมาพุ่งตรงไปยังชายหัวล้านที่พุ่งเข้ามาด้านหน้า!

 

” หืม!!”

 

ลมพายุสายฟ้าได้หมุนวนล้อมรอบร่างของชายคนนั้นเพียงแต่ว่าดูเหมือนลมพายุของเธอจะไม่สามารถทําอะอันตรายอะไรชายคนนั้นได้จากนั้นไม่นานชายคนนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางลมพายุของเธออีกครั้ง

 

“ฉันจัดการเอง!”

 

โคลอสซัสเห็นชายคนนั้นพุ่งเข้ามาเขาได้อาสาออกไปจัดการ จากนั้นไม่นานร่างใหญ่ยักษ์ของทั้งสองคนก็ได้เข้าปะทะกัน ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเป็นมิวแทนท์สายเสริมพลังทางกายภาพเหมือนกับของตนเอง ดังนั้นไม่แปลกใจที่สตอร์มจะไม่สามารถทําอะไรเขาได้

 

ขณะนี้ ที่มX-MEN และ สมาคมมิวแทนท์ กําลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ไอซ์แมน และ ไพโรได้ เผชิญหน้ากัน พลังพิเศษของทั้งสองคนราวกับน้ําและไฟที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ ทุกครั้งที่พวกเขาปลดปล่อยพลังออกมาพื้นที่โดยรอบก็กลายเป็นรัศมีพลังของแต่ละคน

 

ทางด้านโคลอสซัส ตอนนี้ เขากําลังเผชิญหน้ากับมิวแทนท์ที่ชื่อว่า เรดแท้ง ในปัจจุบัน ทั้งสองคนเป็นชายร่างยักษ์ที่มีพลังเสริมกายภาพเหมือนกัน การต่อสู้ของทั้งสองคนแทบจะเรียกได้ว่ากินกันไม่ขาด การตัดสินแพ้ชนะของพวกเขาย่อมเป็นไปได้ช้าที่สุด

 

แมกนีโตเองก็จ้องมองไปยังสถานการณ์การต่อสู้ของพวกเขา ทางด้านชาร์ลส์ยังคงมีสตอร์มที่รอเตรียมพร้อมอยู่ แมกนีโตต้องการจบศึกนี้โดยเร็วที่สุดดังนั้นเขาจึงยกมือขึ้นเพื่อสร้างคลื่นสนามพลังแม่เหล็ก

 

“เขากําลังจะสร้างคลื่นสนามพลังแม่เหล็ก! ระวังตัวด้วย”ขณะนั้นเองก็ปรากฏเสียง ของผู้หญิงคนนึงดังขึ้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้หันไปมองก็พบ ผู้หญิงคนนั้นกําลังไปช่วยสไตรเก

 

“อย่าได้หวัง!” เพียงแต่ว่าตอนนั้นเองก็ปรากฏเสียงของเด็กหนุ่มคนนั้นพร้อมกับ ปลดปล่อยคลื่นพลังจิตออกมา

 

ฟุบ!

 

คลื่นพลังจิตของชายคนนี้ได้กระแทกเข้ากับร่างของหญิงสาวคนนั้นจนเธอต้องตั้งรับอย่างยากลําบาก

 

“หึม!” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่เห็นเช่นนี้ เขารีบลงมืออย่างรวดเร็ว พลังจิตของชายคนนั้นรุนแรงมากเขาจะต้องรีบสนับสนุนเธอคนนั้น

 

“เป็นอย่างที่คิด!”เห็นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ช่วยป้องกันการโจมตีของชายคนนั้นผู้หญิงคนนี้ออกมา

 

เธอจ้องมองไปยังทิศทางของสไตรเกอร์ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ง่ายเลยที่จะพาสไตรเกอร์หลบหนีออกไปจากสถานการณ์ตอนนี้ ดังนั้น เธอจะต้องหวังพึ่งพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

เห็นการโจมตีของตนเองถูกสวนกลับมาชายคนนี้ได้หยุดการโจมตีลงพร้อมกับถอยล่นกลับไป

 

“หากคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของบอสถูกสร้างขึ้นเสร็จพวกเขาก็คงจะหมดหวัง!” ชายคนนี้ไม่ได้ทําการโจมตีต่อเขากําลังครุ่นคิดอย่างใจเย็น

 

หากแมกนีโต ปลดปล่อยคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของตนเองออกมาได้พวกเขาจะสามารถหยุดทีม X-MEN ได้ทุกคน

 

“เอริคกําลังลงมือเอาจริงแล้ว” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่ แมกนีโต สีหน้าของเขาไม่สู้ดีอย่างมาก

 

“บลิงก์,เธอไปช่วย หญิงสาวคนนั้นซะ” เห็นแมกนีโตเริ่มลงมือศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะต้องทําอะไรสักอย่างตอนนี้

 

เขากล่าวสั่งการบลิงก์ บลิงก์ที่ได้รับคําสั่งได้เปิดประตูมิติอวกาศของเธอและไปปรากฏตัวข้างๆหญิงสาวคนนั้นเพื่อทําการช่วยเหลือ

 

“ฉันจะต้องทําให้เอริคกลับมามองโลกในปัจจุบันให้ได้!” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่แมกนี้โตและกล่าวอย่างจริงจัง

 

ตอนที่ 620 แมกนีโตและศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

เห็นท่าทีที่ดูไม่สะทกสะท้านของสไตรเกอร์ แมกนีโตเริ่มที่จะไม่สบอารมณ์มากขึ้น

 

“แกคิดว่าฉันไม่กล้าฆ่าแกจริง ๆ ว่างั้น?”แมกนีโตกล่าวออกมาอย่างรุนแรง

 

แมกนีโตต้องการรู้ว่าลูกๆของเขาอยู่ไหนเพียงเท่านั้นหากสไตรเกอร์ไม่คิดจะบอกเขาละก็เขาจะฆ่าสไตรเกอร์ทิ้งตรงนี้เดี๋ยวนี้

 

“ฮ่าฮ่า, อย่าทําอะไรไร้เหตุผลเลยน่า! หากนายต้องการที่จะรู้ว่าลูกๆของนายอยู่ไหนนายต้องพึ่งฉัน!” สไตรเกอร์กล่าวตอบ แมกนีโตอย่างเร่งรีบ

 

แม้ว่าในปัจจุบันเขาจะถูกจับตัวโดยแมกนีโตและมีโอกาสที่จะถูกฆ่าตายสูงเมื่อรู้ว่านี่เป็นไฟต่อของเขาธรรมชาติเขาย่อมไม่ปล่อยให้มันหลุดมือ

 

“ฉันคิดว่าแกสําคัญตัวเองผิดไป!”แมกนีโตยกมือขึ้นข้างนึงก่อนที่เศษโลหะบางอย่าง ได้ลอยขึ้น

 

*แก!”

 

ฟุบ!

 

ขณะนั้นเองเศษโลหะจํานวนมากที่ลอยขึ้นก่อนหน้านี้ก็ได้พุ่งเข้ายังทิศทางศีร ษะของสไตรเกอร์

 

เพียงแต่ว่าช่วงเวลานั้นกลับปรากฏพลังงานบางอย่างปิดกั้นความสามารถของแมกนีโตเอาไว้ได้ทัน

 

“คิดจะเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉันหรือยังไง?”แมกนีโตจ้องมองไปยังทิศทางนึง

 

เขามองเห็นสตอร์มและศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่อยู่ไม่ไกลจากตนเอง

 

“เอริค”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ยกศีรษะขึ้นและจ้องมองไปที่แมกนีโตที่ลอยอยู่บนอากาศ

 

ก่อนหน้านี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรแมกนีโตถึงมองหาสไตรเกอร์แต่ตอนนี้เพียงแค่คาดเดาเขาก็สามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้ตําแหน่งของควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ตวิช แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกลี่ยกล่อมแมกนีโต แต่เขาก็หวังว่าแมกนีโตจะระงับอารมณ์โกรธในตอนนี้ลงเสียก่อน

 

คลื่นพลังงานบางอย่างที่หยุดเศษโลหะของแมกนีโตก็คือพลังของสตอร์มเธอไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรอีกหลังจากหยุดการโจมตีของแมกนีโต ธรรมชาติ สตอร์ม ตั้งใจจะยืนดูการเคลื่อนไหวของแมกนี้โตก่อนหากแมกนีโตเริ่มเคลื่อนไหวอีกเธอก็จะลงมือตอบโต้

 

นอกเหนือจากแมกนีโตที่จับสไตรเกอร์เอาไว้แล้ว ไพโร ที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับสมาชิกหลักคนอื่น ๆ ของสมาคมมิวแทนท์พวกเขาก็ถูกพวกกัปตันโรเจอร์สและคนอื่น ๆ หยุดเอาไว้เช่นเดียวกัน สําหรับไอรอนแมน โทนี่ เขาได้ใช้กองทัพไอรอนแมนของตนเองปิดล้อมสถานที่แห่งนี้เอาไว้และเฝ้ามองสถานการณ์ทั้งสองฝั่งจากระยะไกล

 

สงครามได้แบ่งออกเป็นสามฝ่าย ซึ่งก็คือ องค์กรมิวแทนท์,สมาคม มิวแทนท์ และ ทางฝั่งทีมX-MEN สนามรบในตอนนี้ใกล้ที่จะจบลงเต็มที่เพราะการห้ามปรามของมือที่ 3

 

แมกนีโตเองก็จ้องมองไปยังสนามรบข้าง ๆ เขาเห็นพรรคพวกของชาร์ลส์กําลังหยุดสงครามที่ว่านี้อยู่

 

“ชาร์ลส์ไม่ได้พบกันหลายวัน นายกลับมีพลพรรคพวกขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”เห็นกองทัพไอรอนแมน และ พวกคนของกัปตันโรเจอร์ส แมกนีโต กล่าวพึมพัมออกมา

 

ได้ยินคําพูดของแมกนีโต ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้แตกตื่นเขากลับทําสีหน้าสงบอย่างมาก”เอริค โลกได้เปลี่ยนไปแล้วมันไม่ใช่โลกแบบเดิมที่พวกเราคุ้นเคย ดังนั้นฉันคิดว่านายควรรามีอซะตั้งแต่ตอนนี้”

 

“ฮ่าฮ่า จนถึงตอนนี้นายก็ยังคิดที่จะหยุดฉัน?นายคิดว่าโลกของเราได้เปลี่ยนไปแล้วงั้นหรอ? ปาวเลยความแตกต่างในจิตใจของผู้คนระหว่าง มนุษย์ธรรมดากับพวกมิวแทนท์อย่างเราก็ยังมีช่องว่างแบ่งกันอยู่ พวกเขาไม่มีทางยอมรับตัวตนนอกรีตอย่างพวกเราหรอก เพราะแบบนี้ฉันถึงต้องทําตามปณิธานของตนเอง เพื่อชีวิตที่สงบสุขของพวกเราเหล่ามิวแทนท์อย่างแท้จริง!”แมกนี้โตกล่าวตอบ

 

จากนั้นแมกนีโตก็จ้องมองไปที่ทิศทางของสไตรเกอร์ที่อยู่ในมือ

 

“เช่นเดียวกับมัน หากไม่มีคนแบบมันอยู่ พวกเราเหล่ามิวแทนท์ ก็ไม่จําเป็นจะต้องหลบซ่อนตัวอีกต่อไป แมกนีโตกล่าวพูดอย่างโกรธเคือง

 

“เอริค ฉันไม่ได้คิดที่จะหยุดนายจากปณิธานอันนั้น ฉันแค่อยากจะบอกว่าตอนนี้เรามีทางเลือกที่ดีกว่าตราบใดที่เรา….”

 

“เราอะไร?ตราบใดที่เราต้องยอมรับให้ความสําคัญกับคนแบบมันงั้นหรอ? ชาร์ลส์ตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้นายไม่เคยเปลี่ยนไปเลย!”แมกนีโตกล่าวหยุดคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

ได้ยินคําพูดของแมกนีโต ศาสตราจาร์ยไม่ได้ตอบกลับในทันที ความคิดและควา มตั้งใจของแมกนีโตนั้นสูงมาก เขาแทบจะไม่ฟังเหตุผลของตนเองเลย

 

“ศาสตราจารย์ตอนนี้คุณจะทํายังไง?ทีมทหารของฉันกําลังจะต้านเอาไว้ไม่อยู่พวกเขากําลังจะไปสนับสนุนที่นั่นในอีก 1 นาที คุณจะทําอะไรก็ต้องรีบทําแล้วตอนนี้” เห็นแมกนีโตและศาสตราจารย์ชาร์ลส์กําลังสนทนากัน กัปตันโรเจอร์ส ได้กล่าวพูดขึ้น

 

กัปตันโรเจอร์สได้พาทีมและกําลังคนมาด้วยเพียงน้อยนิดเขาได้ส่งคนของตนเองเข้าไปหยุดกองทัพของสไตรเกอร์ที่เป็นกองกําลังสนับสนุนและสมาคมมิวแทนท์ของแมกนีโต

 

“ดูเหมือนว่าคงจะหลีกเลี่ยงการปะทะไม่ได้สินะ”

 

ฟูบ!

 

จากนั้นไม่นานเงาร่างของบุคคลจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นในระยะสายตาของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

ตอนที่ 619 สไตรเกอร์ถูกจับตัว

 

ร่างทั้งร่างของหมายเลข 2 ถูกเศษชิ้นส่วนโลหะจํานวนมากแทงทะลุร่างกายจากนั้นแมกนีโตก็ขยับมือเล็กน้อยส่งให้ร่างของหมายเลข 2 ลอยมาทางเขา

 

แมกนีโตรู้สึกชื่นชมอีกฝ่ายมากที่ทําให้ตนเองได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ความสา มารถกลายพันธุ์ของหมายเลข 2 ถือว่ารุนแรงอย่างมากสามารถทําลายสนามพลังแม่เหล็กของตนเองได้ก็นับว่าชื่นชมแล้วหากอีกฝ่ายไม่ประมาทตนเองอาจเป็นไปได้ว่าฝ่ายที่จะต้องจบอาจเป็นเขาเอง

 

แมกนีโตได้ลากศพของหมายเลข 2 ลอยมา ก่อนที่วางร่างของหมายเลข 2 ไว้ข้าง ๆ ตัวเขาแมกนีโตค่อยข้างให้เกียรติแก่ศัตรูที่เขาชื่นชมหลังจากวางร่างของหมายเลข 2 เสร็จ แมกนีโตก็หันไปทางด้านสไตรเกอร์

 

“ที่นี้ก็เป็นตาของแกแล้วสไตรเกอร์” หลังจากจัดการหมายเลข 2 ได้สําเร็จ แมกนีโต ก็พุ่งเป้าไปที่สไตรเกอร์อีกครั้ง

 

เพียงแต่ว่าตําแหน่งที่สไตรเกอร์เคยอยู่แต่เดิมเขาได้หายตัวไปแล้ว ในขณะที่หมายเลข 2 กําลังเข้าปะทะกับตนเอง สไตรเกอร์คงจะใช้โอกาสนั้นในการหลบหนี แต่แมกนีโตเชื่อว่าอีกฝ่ายก็คงหลบหนีไปได้ไม่ไกล แมกนีโตได้ลอยตัวขึ้นสูงอีกครั้งก่อนที่จะจ้องมองออกไปเบื้องหน้าและกวาดสายตาไปโดยรอบ

 

สไตรเกอร์ในตอนนี้ได้หลบหนีพร้อมการสนับสนุนของหมายเลข 1 ,ความสามารถของหมายเลข 1 ไม่สามารถแทรกแซงและหยุดการโจมตีของแมกนีโตได้ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังพยายามช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่

 

“คิดจะวิ่งหนีฉันพ้นงั้นหรอ ฝันไปเถอะ!”มองดูไปยังตําแหน่งที่สไตรเกอร์หลบหนี มุมปากของแมกนีโตขดขึ้นก่อนที่แขนของเขาจะกางออกอีกครั้ง

 

ฟูบ!

 

แมกนีโตได้ลอยตัวไปปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของพวกสไตรเกอร์ในเวลาต่อมาแม้ตอน นี้พวกสไตรเกอร์จะมีหมายเลข 1 คอยสนับสนุน แต่อีกฝ่ายก็ไม่สามารถทําร้ายแมกนีโตได้ สถานการณ์ทางฝั่งของสไตรเกอร์เริ่มที่จะจนมุมอย่างช้า ๆ

 

สไตรเกอร์จ้องมองไปที่แมกนีโตอย่างหวาดกลัวเขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะต้องมามีชะตากรรมเช่นนี้

 

“สไตรเกอร์แกเคยคิดว่าแกจะมีวันนี้บ้างไหม?”แมกนีโตกล่าวจ้องมองไปที่สไตรเกอร์อย่างดุดัน

 

“แมกนีโต พวกเราเคยมีความขัดแย้งต่อกันหรืออย่างไร?ฉันไม่เข้าใจว่าทําไมนายถึงพยายามมองหาฉันตลอดในช่วงหลายปีมานี้” ถูกจับโดยแมกนีโต สไตรเกอร์กล่าวถามด้วยความสงสัย

 

“เหอะ! เคยมีความขัดแย้งต่อกันหรือไม่งั้นหรอ? คิดว่าที่ฉันมองและตามหาแกไม่ใช่เพราะว่าเรื่องความขัดแย้งหรือยังไง? หนึ่งในเหตุผลเหล่านั้นคือ ฉันเพิ่งได้รับข่าวมาเมื่อสองสามวันก่อนเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว แกได้ลักพาตัวคู่พี่น้องมิวแทนท์มาจากเมืองเล็ก ๆ ใน รัฐนิวเจอร์ซีย์ เรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ ตอบฉันมา?”

 

เหตุผลที่แมกนีโตมองหาสไตรเกอร์ก็เพราะว่าเขาได้รับข่าวหลังจากที่ภรรยาตนเองเสียชีวิตว่าลูก ๆ ของเขายังมีชีวิตอยู่ แต่พวกเขาถูกส่งไปยังองค์กรมิวแทนท์ในเวลาต่อมา

 

แมกนีโตไม่ได้วางแผนจะฆ่าสไตรเกอร์เขาแค่ต้องการลูก ๆ ของเขาคืนเพียงเท่านั้นดังนั้นเขาจึงอยากรู้คําตอบจากสไตรเกอร์ในตอนนี้

 

“เหตุผลที่แมกนีโตไล่ล่าฉัน ก็เพราะเรื่องนี้นั้นหรอ?”ได้ยินคําถามของแมกนีโต สไตรเกอร์ราวกับจําอะไรได้บางอย่าง

 

“ดูเหมือนสีหน้าแบบนั้นแกคงจะนึกออกแล้วสินะ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?”เห็นการแสดงออกของสไตรเกอร์มือขวาของ แมกนีโต ได้บีบเข้าไปที่ลําคอของสไตรเกอร์อย่างรุนแรง

 

“นายดูเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก…พวกเขาเกี่ยวข้องยังไงกับนายกันแน่?”สไตรเกอร์พยายามกล่าวถามเพื่อต้องการที่จะรู้ข้อมูลมากกว่านี้

 

“หม! ฉันไม่ได้ให้แกตั้งคําถามฉัน บอกฉันมาตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน!”แมกนีโตไม่ต้องการบอกว่าทั้งสองคนนั้นเป็นลูกของตนเอง

 

ขณะที่ถามแมกนีโตก็บีบคอของสไตรเกอร์แน่นจนสไตรเกอร์เริ่มที่จะหายใจไม่ออก

“ฮ่าฮ่าในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว ทําไมนายถึงมีอาการเช่นนี้ เจ้าเด็กสองคนนั้นมีความสา มารถกลายพันธุ์ที่ไม่ธรรมดา ไม่แปลกใจเลยก็เพราะว่าพวกเขาเป็นลูก ๆ ของนายนั่นเอง ฮ่า ฮ่า!” หลังจากพิจารณาและไตร่ตรองดูดี ๆ สไตรเกอร์ก็สามารถคาดเดาได้ทั้งหมด

 

ในขั้นต้น สไตรเกอร์ได้ตั้งใจจะรวบรวมเด็ก ๆ เหล่านั้นมาเพื่อศึกษาและทําการทดลอง แต่ความสามารถของ ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ตวิช แม้ตอนนั้นพวกเขาจะยังเด็ก แต่ก็โดดเด่นอย่างมาก สไตรเกอร์ไม่สามารถควบคุมพวกเขาทั้งสองคนได้ หลังจากเกิดอุบัติเหตุขึ้นทั้งสองคนก็หลบหนีไป ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สไตรเกอร์ก็ไม่ได้ข่าวพวกเขาเลย

 

ในหลายปีที่ผ่านมา สไตรเกอร์ได้เก็บงําความสงสัยนี้เอาไว้ในใจตลอด ไม่คิดเลยว่า เบื้องหลังที่แท้จริงของคู่พี่น้องมิวแทนท์นั่นจะเป็นลูก ๆ ของ แมกนีโต หากสไตรเกอร์รู้ว่าพวกเขาทั้งสองค นเป็นลูกของแมกนีโต เขาคงไม่เลิกสนใจทั้งสองคนและติดตามเด็กทั้งสองคนให้ถึงที่สุด

 

เห็นท่าทีสไตรเกอร์ที่หัวเราะราวกับกําลังเย้ยหยันตัวเอง แมกนีโต เริ่มเพิ่มแรงบีบมากขึ้นอีกครั้ง

 

“ฮี แกคิดว่าหลังจากที่แกรู้ความจริงเรื่องนี้แล้ว แกไม่กลัวว่าฉันจะลงมือฆ่าแกทิ้งตอน นี้งั้นหรอ?”แมกนีโตพยายามควบคุมความโกรธของตนเองและกล่าวพูดออกไป

 

ตอนที่ 618 สงครามมิวแทนท์ 6

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากเห็นบุคคลที่ว่าดวงตาทั้งสองข้างของแมกนีโตเบิกกว้างขึ้นราวกับกําลังจ้องเหยื่อที่ตนเองกําลังเพ่งเล็งอยู่

 

“แกเป็นใคร?”แมกนีโตปลดปล่อยน้ําเสียงออกมาอย่างโกรธเคืองพร้อมกับกล่าวถามหมายเลข 2

 

ฟุบ!

 

แมกนีโตได้ปลดปล่อยแรงกดดันเพื่อทําให้อีกฝ่ายรู้สึกหวั่นเกรงเขา

 

” หืม?” หมายเลข 2 รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเขาได้ปลดปล่อยแรงดันจิตวิญญาณออกมาต้านทานแรงกดดันของแมกนีโต

 

“อ่า แกเองก็คงจะเป็นสุนัขของสไตเกอร์สินะ แม้ว่าแกจะพอดูมีแววแต่ก็ยังไม่ใช่คู่ มือของฉัน!” เห็นหมายเลข 2 ไม่ตอบตนเอง แมกนีโต พูดออกมาอย่างไม่ไว้หน้า

 

สิ่งที่แมกนีโตคาดเดานั้นถูกต้องหมายเลข 2 คือมิวแทนท์ของสไตรเกอร์ และ สุนัขทุกตัวที่เป็นคนของสไตรเกอร์ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน แมกนีโตก็ไม่เคยกลัวตราบเท่าที่ การป้องกันสนามพลังแม่เหล็กของตนเองไม่ถูกทําลายเขาก็มีโอกาสชนะสูงแน่นอนว่าหากคิดจะ ใช้พลังจิตเพ่งเล็งมาที่ตัวของเขาโดยตรงก็ไม่มีทางเป็นไปได้เพราะเขาสวมหมวกป้องกันพลังจิตอ ยู่แม้แต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่มีความสามารถพลังจิตที่แข็งแกร่งหากคิดจะเอาชนะแมกนีโตก็คง ต้องใช้จ่ายออกด้วยราคาจํานวนมาก

 

หมายเลข 2 ไม่ได้สนใจแมกนีโต เขาได้กระพริบตาเล็กน้อยจากนั้นบนร่างของเขาก็ปรากฏความสามารถของตนเองออกมา

 

ฟุบ!

 

ร่างของหมายเลข 2 ได้แยกเป็นสี่ร่างจากนั้นก็เป็นแปดร่าง แมกนีโต ขยิบตาเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ ร่างทั้งหมดของหมายเลข 2 กําลังสร้างคลื่นแรงสั่นสะเทือนเพื่อที่จะทําการหยุดยั้งสนามพลังแม่เหล็กของเขา

 

“หึม! คิดจะทําลายสนามพลังแม่เหล็กของฉัน?อย่าได้หวัง!” เห็นร่างทั้ง 8 ร่างของหมายเลข 2 แมกนีโตตะโกนออกมา

 

จากนั้นแมกนีโตก็กางมือออกกวัดแกว่งเศษชิ้นส่วนโลหะเล็ก ๆ ไปยังร่างทั้ง 8 ของหมายเลข 2 อย่างรวดเร็ว

 

ฟุบ!

 

เพียงแต่ว่าร่างของหมายเลข 2 ได้เคลื่อนไหวและวาปหลบหนีโดยตรง ดูเหมือนร่างทั้ง 8 นี้จะมีความยืดหยุ่นที่พิเศษอย่างมากแม้ว่ามันจะไม่สามารถทําร้ายแมกนี้โตได้แต่พวกมันก็มีความสามารถพอที่จะช่วยซื้อเวลาให้สไตรเกอร์หลบหนี

 

ปั้ง ปั้ง

 

ภายใต้การโจมตีของแมกนีโต หมายเลข 2 ได้เคลื่อนไหวร่างทั้งแปดเพื่อสร้างคลื่นก่อกวนสนามพลังแม่เหล็กอย่างต่อเนื่อง จนสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโตเริ่มที่จะสั่นไหว แมกนีโตที่เห็นสถานการณ์ไม่ดีเขารีบเร่งพลังของตนเองจนระเบิดเศษชิ้นส่วนโลหะและกําจัดร่างของหมายเลข 2 ไปได้สองร่าง

 

“ไม่ดีแล้ว!”เห็นร่างที่เหลืออีก 6 ร่าง ที่กําลังก่อกวนสนามพลังแม่เหล็กของตนเองแมกนี้โตพึมพัมอย่างไม่สบอารมณ์

 

จากนั้นไม่นานพลังจิตของแมกนีโตที่ควบคุมคลื่นสนามพลังแม่เหล็กก็ได้หายไป

 

เผชิญหน้ากับการขัดขวางของหมายเลข2จนทําให้สนามพลังแม่เหล็กของตนเองถูกทําลายแมกนีโตจ้องมองไปที่เขาอย่างโกรธเคืองและตะโกนออกมา”ใสหัวไปให้พ้น”

 

เศษชิ้นส่วนโลหะจํานวนมากได้พุ่งขึ้นมาอยู่ข้างกายของแมกนีโตอย่างบ้าคลั่ง ภูมิภาคในพื้นที่แห่งนี้เริ่มกลายเป็นวังวนเศษชิ้นส่วนโลหะทีละเล็กละน้อย

 

แมกนีโตที่สูญเสียความเยือกเย็นเขาได้ถูกหมายเลข 2 ระเบิดพลังจิตเข้าใส่และจากนั้นไม่นานร่างกายของหมายเลข 2 ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเขาและซัดเขาจนลอยกระเด็นตกลงไปที่พ้น

 

“อัก!”แมกนีโต ไอ ออกมาอย่างบาดเจ็บ แม้จะเป็นเพียงร่างกายเปลือยเปล่าที่ชกเข้าหาตนเอง แต่แมกนีโตไม่เคยมีประสบการณ์ที่ถูกเหยียบย่ําเช่นนี้มาก่อน แม้ความสามารถของเขาจะแข็งแกร่งแต่ร่างกายของตนเองก็เป็นร่างกายที่เข้าสู่วัยชราเมื่อเทียบกับร่างกายของคนหนุ่มแล้วแน่นอนว่ามันย่อมมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัด

 

แมกนีโตที่ถูกโจมตีจนร่วงลงมาที่พื้นดินพลังจิตของตนเองได้สลายหายไป หมายเลข 2 ได้ใช้ โอกาสนี้ในการเริ่มประชิดตัวของแมกนีโตใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับเผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะเขาเชื่อว่าหากตนเองประชิดตัวแมกนีโตและจัดการศัตรูในยามที่กําลังเสียเปรียบตอนนี้ชัยชนะคงไม่หลุดลอยไปจากเขา

 

เห็นหมายเลข 2 เดินเข้ามาตนเองแมกนีโตแสยะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยจู่ ๆ ร่างของเขาก็ระเบิดพลังงานสีแดงออกมาคลื่นพลังจิตของแมกนีโตได้ยกระดับจนถึงระดับสูงสุดเศษโลหะจํานวนมากจากทุกทิศทางได้ลอยขึ้นราวกับว่ากําลังรอคําสั่งการของแมกนีโต

 

“นี่มัน..!”เห็นแมกนีโตระเบิดพลังจิตวิญญาณที่รุนแรงที่เหนือกว่าตนเองหมายเลข 2 รู้ สึกตกใจอย่างมากท่าที่จองหองที่มองไปที่แมกนีโตเมื่อครู่กลับกลายเป็นตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

 

พริบตาต่อมาเศษชิ้นส่วนโลหะจํานวนมากก็พุ่งเข้าหาหมายเลข 2 จากทุกทิศทางแทบจะไม่มีเวลาให้เขาได้ทันตั้งหลัก

 

“แกเก่งมากที่ทําให้ฉันจนมุมได้ถึงขนาดนี้ แต่ถ้าจะโทษก็โทษตัวเองเถอะที่ประมาทศัตรูมากเกินไปจนไม่เจียมตัวเองแบบนี้”แมกนีโตกล่าวพูดลอย ๆ ออกมา

หมายเลข 2 ได้พยายามต่อต้านแต่เพราะเขาเข้ามาใกล้อาณาเขตพลังของแมกนีโต มากเกินไปและถูกล้อมรอบด้วยการโจมตีของแมกนี้โตแบบนี้อีกโอกาสรอดของเขาถือว่าหมดหวังแล้ว

 

“มันจบแล้ว!”

 

ตอนที่ 617 สงครามมิวแทนท์ 5

 

ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!

 

ขณะที่แมกนีโตกําลังจะไล่ตามสไตรเกอร์เขาก็ถูกหยุดจนต้องเผชิญหน้ากับหมายเลข 5 ที่ เป็นมิวแทนท์ทดลองของสไตรเกอร์แม้ว่าความสามารถป้องกันของหมายเลข 5 จะแข็งแกร่งมากแต่ก็ไม่อาจต้านทานแมกนีโตเอาไว้ได้นาน

 

ปั้ง!

 

เศษโลหะจํานวนมากได้เจาะทะลุเกราะของหมายเลข 5 โดยตรงในตอนนี้ ร่างกายของเขาถูกทิ่มจนเป็นรูพรุนเห็นได้ชัดว่าเขาไม่อาจยื้อต่อไปไว้ได้อีก

 

” หมายเลข 2 ทําไมนายถึงไม่รีบมาช่วยพวกเรา!?” ขณะนั้นเอง หมายเลข 1 ได้ตะโกนกล่าวออกมา

 

มิวแทนท์หมายเลข 2 เป็นมิวแทนท์สายพลังจิต มิวแทนท์สายพลังจิตนั้นจะมีความสามารถที่ต่อต้านการควบคุมอื่น ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ฟังคําสั่งของสไตรเกอร์และหมายเลข 1 ในขณะที่สถานการณ์กําลังสิ้นหวัง หมายเลข 1 ได้กล่าวถาม หมายเลข 2

 

” ฉัน?คิดว่าฉันเข้าไปจะทําอะไรได้?”ได้ยินคําพูดของหมายเลข 1 หมายเลข 2 กล่าวออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

 

“หึ่ม! นายคิดจริงๆ หรอว่าหากพวกเราพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์และแมกนีโตจะปล่อยนายไป? อย่าลืมว่านายเองก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มมิวแทนท์ทดลอง”ได้ยินคําพูดของหมายเลข 2 หมายเลข 1 ตะโกนออกมาอย่างโกรธเคือง

 

“มิวแทนท์ทดลอง2ก็จริง แต่ฉันนั้นแตกต่างจากเธอ”ได้ยินคําพูดของหมายเลข 1 หมายเลข 2 รู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องนี้มาก

 

“นายกลัว?ที่จริงนายคิดว่าความสามารถของตนเองไม่สามารถสู้พวกมันได้ว่างั้น?ถ้านายคิดจะลงมือแม้แต่แมกนีโตก็ต้องหันมาสนใจนาย บางทีสไตรเกอร์อาจให้ความสําคัญกับนายมาก ขึ้นก็ได้!” หมายเลข 1 พยายามจะกล่าวโน้มน้าว หมายเลข 2

 

“เหอะ ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ฉันไม่มีทางให้คนอื่นมาดูถูกฉันเด็ดขาด ไม่ว่า จะเป็นพวกสมาคมมิวแทนท์ หรือ ทีมX-MEN ก็ตาม ฉันจะทําให้พวกมันรู้ว่าพวกมันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน!” เผชิญหน้ากับการกระตุ้นของหมายเลข 1 ในที่สุดหมายเลข 2 ก็ตัดสินใจได้ในที่สุด

 

” เช่นนั้นก็ช่วยแสดงให้พวกเราดูหน่อย!”

 

ฟุบ!

 

จากนั้นไม่นานหมายเลข 2 ก็หายตัวไปจากตําแหน่งที่เขาเคยอยู่เขาได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะไปสนับสนุนสไตรเกอร์ในอีกด้านนึง ความเร็วของหมายเลข 2 นั้นเร็วมาก เขาที่เป็นมิวแทนท์สายพลังจิตเดิมไม่น่าจะมีความเร็วที่มากขนาดนี้

 

“เปิดทางให้ฉันซะ!”แม้ว่าเขาจะไม่ใช่สายต่อสู้โดยตรงแต่ความสามารถของเขาสามารถถ่ายโอนไปยังร่างกายของตนเองได้ เขาได้ฟันฝ่าศัตรูจํานวนมากในทิศทางตนเองเพื่อรีบเร่งไปสนับสนุนทันที

 

ทางด้านหมายเลข 5 ที่กําลังมีสภาพร่อมร่อ หมายเลข 1 ได้สร้างคลื่นพลังจิตที่แข็งแกร่งในการป้องกันช่วยเหลือหมายเลข 5 เอาไว้

 

ร่างกายของหมายเลข 5 กลายเป็นสีแดงฉานพร้อมกับปลดปล่อยออร่าออกมาอย่า งดุเดือด

 

การกระตุ้นทางจิตวิญญาณของหมายเลข 1 ช่วยให้ร่างกายของหมายเลข 5 แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ร่างกายของหมายเลข 5 เริ่มกลายเป็นสีแดงฉานเหมือนกับสีของเลือด

 

หมายเลข 5 ได้ใช้พละกําลังของตนเองที่ได้รับการสนับสนุนจากหมายเลข 1 ในการต้านทานการโจมตีของแมกนีโตอีกครั้ง

 

พลังจิตของแมกนีโตนั้นแข็งแกร่งมากแม้หมายเลข 5 จะมีพละกําลังที่ได้รับการสนับสนุนจากหมายเลข 1 แต่เขาก็หาได้หวั่นเกรงอีกฝ่ายเขายังคงพุ่งการโจมตีด้วยเศษโลหะพวกนั้นอย่างต่อเนื่อง

 

ปั้ง ~ ปัง!~ ปัง!~ 

 

การโจมตีสามครั้งติดของแมกนีโตเริ่มที่จะทะลวงเกราะของหมายเลข 5 อีกครั้ง

 

“เร็วเข้า คุณต้องรีบหนีออกจากที่นี่!” หมายเลข 1 ได้พยายามสนับสนุนการป้องกันของหมาย เลข 5 พวกเขาได้อาสาที่จะหยุดแมกนีโตที่นี่เพื่อซื้อเวลาให้ สไตรเกอร์หลบหนี

 

ได้ยินคําพูดของหมายเลข 1 สไตรเกอร์ กํากําปั้นของตนเองแน่น ในวันนี้เขาได้รับการช่วยเหลือจากหมายเลข 1 และมิวแทนท์ คนอื่น ๆ ของเขา ไม่ว่ายังไงเขาจะต้องหลบหนีออกจากที่นี้ให้

 

ฟุบ!

 

แมกนีโตที่เห็น หมายเลข 1 และ หมายเลข 5 ที่กําลังเผชิญหน้ากับตนเอง เขาเลือกที่จะไม่สนใจ เขาได้ลอยขึ้นไปบนอากาศสูงขึ้นอีกครั้งและจ้องมองไปยังตําแหน่งของสไตรเกอร์ที่เป็นเป้าหมายของเขา

 

แมกนีโตตัดสินใจแล้วไม่ว่ายังไงวันนี้เขาจะต้องจัดการสไตรเกอร์ให้ได้ ทางด้านสไตรเกอร์ ความสามารถเคลื่อนย้ายระยะสั้นของหมายเลข 4 ในที่สุดก็ถึงขีดจํากัดทําให้พวกเขาไม่อาจใช้ความสามารถได้อีกพักนึง

 

ขณะนั้นเองคลื่นพลังที่รุนแรงของแมกนี้โตก็ได้ล้อมรอบหมายเลข 4 และ สไตรเกอร์ ที่อยู่ห่างออกไป แมกนีโต ได้ล็อคตําแหน่งของทั้งสองคนและไม่มีทางคิดจะปล่อยไปง่าย ๆ จากนั้นคลื่นสนามพลังแม่เหล็กกราวกับกําลังเริ่มทํางานอีก

 

ฟุบ!

 

แต่ทว่าคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโตที่กําลังปลดปล่อยออกมาราวกับว่ากําลังถูกสั่นคลอนโดยพลังของใครคนนึง แมกนีโต ได้จ้องมองไปยังทิศทางของตําแหน่งพลังที่กําลังก่อกวนเขา

 

ตอนที่ 616 สงครามมิวแทนท์ 4

 

ทันทีที่โดนหยุดการเคลื่อนไหว สีหน้าของสไตรเกอร์ย่ําแย่มาก

 

” คลื่นสนามพลังแม่เหล็ก?” หมายเลข 4 กล่าวออกมาอย่างไร้อารมณ์สีหน้าของเขานั้นยากพอๆ กับสไตรเกอร์

 

ในฐานะที่เป็นมิวแทนท์ระดับ 4 สูงสุด ความสามารถกลายพันธุ์ของแมกนี้โตมีพลังทําลายล้างที่รุนแรงมาก คลื่นสนามพลังแม่เหล็ก ความสามารถนี้ของแมกนีโต ก็เพียงพอที่จะทําให้โลกเกิด ความโกลาหลแล้ว แมกนีโต ได้ใช้ท่าสร้างคลื่นสนามพลังแม่เหล็กขึ้นมาทําให้การเคลื่อนไหวประเภทส่งคนข้ามมิติของหมายเลข 4 ถูกหยุดชะงัก

 

“เวรเอ๊ย! หากฉันไม่สามารถทําลายคลื่นสนามพลังแม่เหล็กนั่นได้ ฉันจะต้องลําบากแน่ ๆ แมกนีโต ไอ่บัดซบ!” เห็นว่าตนเองถูกแมกนี้โตปิดทางหนีทั้งหมด สไตรเกอร์สบถต่าออกมา

 

“หมายเลข 1 หาทางจัดการพลังของแมกนี้โตให้ได้!”สไตรเกอร์ติดต่อหมายเลข 1 เขาหวังว่า อีกฝ่ายจะหาทางจัดการอะไรได้

 

“คงจะยาก แมกนีโตสวมหมวกต่อต้านพลังจิตฉันไม่สามารถทําอะไรเขาได้!”ได้ยินคํา ขอของสไตรเกอร์ หมายเลข 1 กล่าวออกมา พลังจิตของแมกนีโตเชื่อมโยงกับสนามพลังแม่เหล็กที่อยู่ใต้ดิน เธอไม่มีทางหยุดมันได้เลย

 

“งั้นคงมีแต่จะต้องยอมเสียสละหมายเลข 6 แล้ว!”ได้ยินคําตอบสไตรเกอร์ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

 

เนื่องจากสไตรเกอร์เป็นศัตรูกับพวกสมาคมมิวแทนท์มานานหลายปีทําให้รู้จักนิสัย ใจคอของแมกนีโตดี แมกนีโต ใช้คลื่นพลังสนามแม่เหล็กในปัจจุบันเพื่อตัดทางหนีเขามันไม่มีทาง อื่นนอกจากจะใช้วิธีนี้เท่านั้น

 

” หมายเลข 6 ระเบิดตัวเองสร้างคลื่นรบกวนสนามพลังแม่เหล็กนี้เพื่อซื้อเวลาให้ฉันหลบหนีซะ” สไตรเกอร์ตัดสินอย่างเด็ดขาด

 

ฟุบ!

 

ทันทีที่เขาออกคําสั่ง ชายคนนึงที่มีโคดเรียกหมายเลข 6 ได้เริ่มเคลื่อนไหวพุ่งตัวไปยังพื้นที่กลางสนามรบ

 

ฟุบ!

 

จากนั้นคลื่นพลังงานความผันผวนพิเศษก็ออกมาจากร่างของหมายเลข 6 พื้นที่โดยรอบตัว ของเขาปรากฏพลังงานทําลายล้างที่รุนแรง

 

ปั้ง

 

คลื่นระเบิดที่รุนแรงได้สั่นคลอนคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโตให้ตีกลับ แม้ว่าการระเบิดของ หมายเลข 6 จะสําเร็จผล หมายเลข 4 และ สไตรเกอร์ ก็ยังไม่สามารถหลบหนีได้

 

การเสียสละหมายเลข 6 นั้นถือว่าเป็นความสูญเสียของสไตรเกอร์อย่างแท้จริงเพราะบุคคลคนนี้เป็นคนสําคัญและการทดลองที่ประสบความสําเร็จนั้นเอง

 

ฟุบ!

 

แมกนีโตที่เห็นสนามพลังแม่เหล็กของตนเองถูกทําลายเขาจ้องมองไปยังสไตรเกอร์ที่อยู่ไม่ไกลจากตนเอง

 

ถึงสนามพลังแม่เหล็กจะถูกทําลายไปแมกนีโตก็ยังไม่ยอมแพ้เขาได้ยกมือขึ้นอีกครั้งจากนั้นเศษวัสดุโลหะจํานวนมากที่แตกกระจายก็ถูกเขาควบคุมและพุ่งไปยังทิศทางของสไตรเกอร์

 

เห็นเศษวัสดุโลหะจํานวนมากพุ่งเข้ามา หมายเลข 5 ที่เปรียบเสมือนเกราะของสไตรเกอร์ได้พุ่งเข้ามาต้านรับอย่างรวดเร็ว

 

เพร้ง!

 

เห็นโล่ป้องกันมนุษย์ของตนเองเข้ามาขวางทางเอาไว้ สไตรเกอร์รีบสั่งให้หมายเลข 4 พาเขาหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ อย่างไรก็ตามระยะทางเคลื่อนที่ของพวกเขาก็ไปไม่ได้ไกลนักเพราะถูกขัดขวางโดยแมกนีโต หลายครั้งที่แมกนี้โตยังคงพยายามควบคุมคลื่นสนามพลังแม่เหล็ก เพื่อขัดขวางการหลบหนีของอีกฝ่าย

 

แมกนีโตได้ใช้สกิลวงกว้างของตนเองในการเปิดทางเพื่อไล่ตามสไตรเกอร์แต่ทว่าก็ติดที่อีกฝ่ายยอมเสียสละแม้จะเป็นทหารตนเองเพื่อให้ตนเองรอด

 

หากเป็นตามแผนเดิมของแมกนีโตเขาคงจะจัดการสไตรเกอร์ได้ไปแล้วแต่เพราะตนเองวู่วามและรีบร้อนเกินไป ทําให้สร้างโอกาสหลบหนี้ให้กับสไตรเกอร์

 

เหตุผลที่แมกนีโตนํากองกําลังหัวกระทิของตนเองมาร่วมศึกในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะจัดการสไตรเกอร์ให้ได้ในคราวนี้

 

“ หึ่ม! มันคิดจะกัดฉันไม่ปล่อยเลยหรือยังไง?”สไตรเกอร์บ่นพึมพัมออกมา

 

ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกสงสัยบางอย่าง เดิมเขาได้ขอกําลังเสริมจากทางกองทัพไปแล้วแต่ดูเหมือนกําลังเสริมที่ว่านี้ก็ยังไม่มาแม้แมกนีโตจะทรงพลังแต่ทางกองทัพและหน่วยพิเศษก็มีอาวุธประเภทต่อต้านพวกมิวแทนท์ แต่ตอนนี้กองกําลังที่ว่าก็ยังไม่ปรากฏตัว

 

ที่จริงแล้วไม่ใช่ว่ากําลังเสริมของทางกองทัพยังมาไม่ถึง แต่เพราะทางด้านกัปตันโรเจอร์ส S.H.I.E.L.D. ได้ไปสร้างสถานการณ์และหยุดพวกเขาเหล่านั้นเอาไว้ ดังนั้นกําลังเสริมของพวกเขาจึงไม่ได้มาสนับสนุนในตอนนี้ เหตุผลก็เพราะกัปตันโรเจอร์สไม่ต้องการให้เหตุการณ์ครั้งนี้มีการสูญเสียมากเกินไป

 

ตอนที่ 614 กําลังเสริมชุดสอง

 

ฟุบ!

 

ไอซ์แมนและแจ็คได้มองขึ้นไปข้างบนพร้อมกันพวกเขาเห็นกองทัพไอรอนแมนนับ 10ตัวที่บินลงมาลอยเหนือหัวพวกเขาพร้อมกับจ้องปืนเลเซอร์นับ10ไปที่ทั้ง2คน

 

หลังจากที่แจ็คเห็นชุดเกราะไอรอนแมนลอยอยู่บนอากาศหน้ากากของไอรอนแมนตัวนึง ก็เปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าของโทนี่

 

“หืม? โทนี่สตาร์ค?ทําไมนายถึงมาหยุดฉัน?”

 

“สตาร์คนี้มั่นหมายความว่าไง?”

 

หลังจากเห็นโทนี่ลอยมาหยุดพร้อมเขาทั้งสองคน แจ็ค กับ ไอซ์แมน รู้สึกสงสัยอย่างมากพวกเขาต้องการคําอธิบายจากโทนี่

 

” หากฉันไม่ลงมาหยุดฉันคิดว่าสถานการณ์มันคงจะบานปลายไปมากกว่านี้” เห็นแจ็คและไอซ์แมนสงสัยโทนี่ลอยลงมาคั่นกลางระหว่างพวกเขา

 

ที่จริงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แจ็คและไอซ์แมนจะไม่รู้จักกันเพราะพวกเขายังไม่เคยพบกัน อย่างเป็นทางการ แม้ว่าไอซ์แมนจะรู้ว่าในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ มีสมาชิกเป็ฯมิวแทนท์อยู่ แต่ก็ ไม่รู้ว่าคือแจ็คสําหรับ แจ็คแล้วเขาก็เคยได้ยินชื่อไอซ์แมนของทีม X-MEN มาก่อนเหมือนกันแต่เขาไม่เคยพบหน้ามาก่อน

 

“สตาร์ค เขาเป็นพันธมิตรอย่างงั้นหรอ?ทําไมฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าพันธมิตรของพวกเราจะมี คนที่พลังน่าเกรงขามเช่นนี้อยู่อีก”ได้ยินคําพูดของโทนี่ ไอซ์แมนรู้สึกโล่งใจก่อนที่จะคลายร่างผลึกน้ําแข็งออก

 

จากนั้นไอซ์แมน และ แจ็ค ก็เดินเข้าหากัน เห็นไอซ์แมนคลายสกิลออกแจ็คก็ไม่ได้ทําท่าที่กังวลอะไร

 

“เขาเป็นเพื่อนร่วมทีมของพวกเรา เป็นสมาชิกของ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์”โทนี่ กล่าวตอบ

 

” สมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ?ทําไมฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”ได้ยินคําตอบของโทนี่ ไอซ์แมน จ้องมองไปที่แจ็คอย่างประหลาดใจ

 

” เช่นนั้นนายก็คือ ไอซ์แมน จากทีม X-MEN?”แจ็คกล่าวพูดลอยๆออกมา

 

เขารู้จักดีเกี่ยวกับ ทีมX-MEN และมีความประทับใจอย่างมาก หากจะให้ว่ากันชื่อเสียงของ ไอซ์แมนในฐานะสมาชิกทีมX-MEN นั้นค่อนข้างโด่งดังเขาสามารถจัดการศัตรูได้อย่างมากมาย ดังนั้นแจ็คจึงรู้สึกชื่นชม

 

“หม?นายรู้จักฉันด้วย?นายเป็นสมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์จริงๆงั้นหรอ?หรือว่าเป็นเด็ก ใหม่?”ได้ยินแจ็คเรียกชื่อเล่นของตนเองไอซ์แมนกล่าวถามอย่างประหลาดใจ

 

ไม่ฉันเป็น

 

“มันก็เป็นเรื่องดีที่พวกนายทั้งคู่จะจับมือพูดคุยกัน แต่ว่าเรื่องนี้เอาไว้ก่อนตอนนี้พวกเรามี เรื่องเร่งด่วนที่จะต้องรีบจัดการ”เห็นแจ็คและไอซ์แมนเตรียมที่จะต่อบทสนทนากัน โทนี่ ก็จ้อง มองไปยังสถานที่ไม่ไกลจากตําแหน่งของพวกเขา

 

“จริงด้วย! ฉันมาที่นี้ก็เพื่อต้องการหยุดสงครามระหว่างมิวแทนท์ที่กําลังเกิดขึ้น” ได้ยินคําพูด ของโทนี่ แจ็คตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

ได้ยินคําพูดของ แจ็ค ไอซ์แมน จ้องมองไปที่ เขาด้วยสายตาชื่นชมมีน้อยคนมากที่รู้สึกเป็นห่ วงเรื่องของพวกมิวแทนท์ และ ใครก็ตามที่มีความรู้สึกเช่นนี้จะทําให้ไอซ์แมน รู้สึกอ่อน ไหวกับคนเหล่านี้เป็นพิเศษ

 

ขณะที่โทนี่กําลังปรับความเข้าใจผิดให้ แจ็ค และ ไอซ์แมน ยานควินเจ็ทของกัปตันโรเจอร์ส ก็ลงมาที่ซากปรักหักพังที่พวกเขาอยู่ภายใต้การจ้องมองของพวกเขา กัปตันโรเจอร์สได้ส่งทีมช่วย เหลือมา 23 คน

 

“นี่คือกองหนุนงั้นหรอ?หากมีแค่นี้ก็คงไม่พอหรอกมั้ง”มองไปที่กองกําลังของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ ขมวดคิ้วแน่นเล็กน้อย

 

หากต้องเผชิญหน้ากับแมกนีโตที่มีความสามารถในการควบคุมสสารเหล็กชุดเกราะไอรอนแม นของโทนี่ย่อมไร้ประสิทธิภาพโดยสมบูรณ์ดังนั้นเขาในตอนนี้จึงต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์,ทีมX-MENและองค์กร S.H.I.E.L.D. แต่ดูเหมือนองค์กร S.H.I.E.L.D. เองก็ ไม่สามารถส่งกองกําลังสนับสนุนมาได้เท่าที่ต้องการ ทีมX-MEN ในตอนนี้ก็ส่งมาแค่ไอซ์แมนเพียงคนเดียวที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็มีแค่แจ็คที่มาถึง แม้พลังของแจ็คจะน่าตกตะลึงแต่มันก็ยังไม่พอหยุดความกังวลเรื่องขาดกําลังคนของพวกเขาได้

 

“แจ็คสัน เพื่อนตัวน้อยจะมาถึงในอีก 10 นาที ชุดเกราะของฉันในตอนนี้คงทําได้แค่เพียงส นับสนุน ดังนั้นสิ่งที่พวกเราต้องการก็คือเวลาคนที่พอจะพึ่งพาได้ก็คงมีแต่ ทีมX-MEN เพียง เท่านั้นตอนนี้” หลังจากคํานวณสถานการณ์โดยรวมแล้วโทนี่ ก็ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว

 

“ไอซ์แมน นาย…”โทนี่เตรียมจะพูดกล่าวถามว่า ทีมX-MEN พวกเขาจะส่งกําลังเสริมมาช่วย ไอซ์แมนอีกหรือไม่

 

ฟุบ!

 

โทนี่ไม่ทันได้พูดจบจากตําแหน่งไม่ไกลจากพวกเขาก็ปรากฏประตูมิติอวกาศสีม่วงขึ้น จากนั้ นร่างกายขนาดใหญ่ของชายคนนึงที่เป็นเหล็กก็ผลักชายวัยกลางคนที่นั่งรถเข็นเดินออกมา ชายบ นรถเข็นคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ส่วนชายร่างยักษ์ก็คือ โคลอสซัส ตาม มาด้วย สตอร์ม บีสต์ และก็บลิงก์

 

ทีม X-MEN ได้ส่งกําลังเสริมที่นําโดยศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตอนนี้พวกเขามาอยู่กันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์, ไอซ์แมน สตอร์ม โคลอสซัสบีสต์ และ ก็บลิงก์ แม้ทีมX-MEN จะมีจํานวนคนไม่มาก แต่บุคคลที่คัดมาก็คือหัวกระทิของโรงเรียนเซเวียร์

 

พวกเขาทั้ง 6 คน มีพลังมากพอที่จะทําให้ทั่วทั้งโลกสั่นคลอนได้

 

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ดีใจที่คุณมา” เห็นศาสตราจารย์ชาร์ลส์อยู่ไม่ไกล โทนี่ได้เดินเข้าไปทักทาย

 

“ยินดีที่ได้เจอ สตาร์ค สวัสดี กัปตันโรเจอร์ส” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวทักทาย

 

ฟุบ!

 

“สวัสดี ศาสตราจารย์ชาร์ลส์” หลังจากที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เรียกชื่อของตนเอง กัปตันโรเจ อร์สก็เดินมากล่าวทักทายพร้อมกับหน่วยพิเศษของเขา

 

” พวกเรารีบเร่งกันเถอะ ฉันรู้ว่า หากอีริค ลงมือแบบเอาจริงแล้วล่ะก็เขาจะไม่สนใจสิ่ง ใดทั้งนั้น แม้โลกจะต้องพังทลายเขาก็จะไม่หยุดลงมือ” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์พึมพัมออกมา

 

ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ โทนี่ และ คนอื่น ๆ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ พวก เขาได้จัดการแบ่งกลุ่มกันอย่างรวดเร็วและพุ่งไปยังตําแหน่งตามแผนที่วางเอาไว้

 

ตอนที่ 613 กําลังเสริมชุดแรก

บนหมวกไอรอนแมน J.A.R.V.I.S ได้แสดงภาพสถานที่ที่แตกต่างกันทั้งสองแห่งที่อยู่ไม่ไกลกัน มาก ทิศทางแรกคือประตูมิติอวกาศสีม่วงที่เป็นความสามารถของบลิงก์ ทิศทางที่สองเป็นประตูมิ ติอวกาศเวทย์มนตร์สีทองที่เป็นของเหล่าพ่อมด

 

“หืม?ทําไมคนที่ออกจากประตูมิติอวกาศทั้งสองจึงมีแค่ประตูละคนเดียว?”โทนี่ค่อนข้างประ หลาดใจ

 

เขาคิดว่าประตูมิติอวกาศทั้งสองนี้จะปรากฏคนออกมาจํานวนมาก

 

“เจ้านายครับทางด้านแรกเป็น คุณ ไอซ์แมน และ ทางด้านสองเป็นของที่มพันธมิตรผู้พิทั กษ์ คุณแจ็ค” J.A.R.V.I.S สแกน และระบุสถานะของทั้งสองคน

 

“ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ แจ็ค? เขาเดินผ่านประตูมิติอวกาศเวทมนตร์มางั้นหรอหรือว่าเขาก ลายเป็นส่วนนึ่งของพวกพ่อมดไปแล้ว?”ได้ยินรายงานของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ตะโกนออกมาด้วยค วามตกใจ

 

ทางด้านทีม X-MEN เป็นไอซ์แมน โทน ไม่ค่อยประหลาดใจเท่าไหร่ แต่สําหรับที่มพันธมิตรผู้ พิทักษ์แจ็ค โทนี่ ไม่ค่อยคุ้นเคเลยจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นตัวของแจ็คตอนนี้ยังสวมใส่เสื้อคลุมสีเทาที่ให้ความรู้สึกที่ประหลาด

 

ขณะที่โทนี่กําลังประหลาดใจกับการปรากฏตัวของแจ็คด้านหลังไอซ์แมนประตูมิติ อวกาศก็ได้หายไป ดูเหมือนบลิงก์จะไม่ได้ตามมาด้วยเธอคงจะกลับไปเตรียมพร้อมกับคนอื่น ๆ ที่โรงเรียนเซเวียร์

 

“พวกเขาคงกําลังจะเตรียมพร้อมกันอยู่”เห็นประตูมิติอวกาศทั้งสองหายไปโทนี่ เข้าใจสถานการณ์ของทางฝั่ง ไอซ์แมน

 

“เจ้านายครับมพวกเราจะล่าถอยกันก่อนหรือไม่?”ในสนามรบเห็นพันธมิตรของพวกตนเองปรากฏตัวออกมา J.A.R.V.S กล่าวถาม โทนี่

 

“ทางด้าน แจ็คสัน และ กัปตันโรเจอร์ส ละ พวกเขาจะมาถึงตอนไหน?”ได้ยินคําพูดของ J.A.R.V.I.Sโทนี่กล่าวถามอีกครั้ง

 

“คุณแจ็คสัน จะมาถึงในอีก 10 นาที ทางด้านกัปตันโรเจอร์สเขามาถึงก่อนทีม X-MEN เมื่อ 5 นาทีที่แล้ว” J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“หม ?พวกเขามาถึงอยู่ก่อนแล้ว? “ได้ยินคําตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี้สแกนไปรอบ ๆ และตร วจพบกองยานจํานวนมาก

 

โทนี่หันไปมองก็เห็นเครื่องบินเจ็ทจํานวนมากที่มากันอย่างพร้อมเพรียง

 

“ดูเหมือนที่มพันธมิตรของพวกเราจะมากันพร้อมหน้าเลยสินะทีนี้ฉันไม่เชื่อว่าพวกเราจะไม่ สามารถหยุดคนพวกนี้ได้!”เห็นพวกกัปตันโรเจอร์สให้การสนับสนุนมาด้วยโทนี่ พึมพัมออกมา

 

” พวกเราเองก็ไปกันเถอะ!”

 

จากนั้นกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ก็เริ่มเคลื่อนไหวเหมือนกัน

 

“หืม?พวกเขากําลังทําสงครามกันอยู่งั้นหรอ?” ขณะที่โทนี่กําลังเคลื่อนไหวกองทัพไอรอนแมน แจ็ค ที่เพิ่งมาถึงก็กําลังสํารวจสถานการณ์ในตอนนี้

 

ก่อนหน้านี้เขาได้รับข่าวจาก เจอร์รี่ อีกรอบ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ทุกคนกําลังจะรีบเร่ง มาสมทบให้เร็วที่สุดแต่เพราะแจ็คใช้ประตูมิติอวกาศเวทมนตร์เขาจึงมาถึงก่อนคนอื่น ๆ

 

” ที่ตรงนั้นมีคนอยู่!” หลังจากมองสํารวจสถานการณ์โดยรอบแจ็คก็เห็นเงาบุคคลที่อยู่ไม่ไกล จากเขา

 

พริบตาต่อมาเขาก็ดีดฝ่าเท้าของตนเองและพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วในฐานะที่เป็นมิว แทนท์ที่มีความสามารถในการเสริมพลังทางกายภาพความสามารถทางร่างกายของเขาจึงไม่ได้อยู่แม้แต่น้อย

 

“หืม?ศัตรูนั้นหรอ?” เห็นเงาของบุคคลพุ่งมายังทิศทางของตนเองไอซ์แมนที่ออกมาเดินสํารวจซากปรักหักพังเขาก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น

 

ฟุบ!

 

ไอซ์แมนได้ยกมือขึ้นพร้อมกับปลดปล่อยหมอกไอเย็นออกมาพริบตาเดียวหนามน้ําแข็งก็ ปรากฏขึ้นพุ่งโจมตีออกไป

 

“หม?”แจ็คที่พุ่งตัวเข้ามาไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามคือใครสิ่งที่เขาเห็นตอนนี้ก็คือหนามน้ําแข็งที่พ่งเข้ามาใส่ตนเอง

 

ฟุบ ฟุบ

 

แจ็คได้ยกสองมือขึ้นและทําสัญลักษณ์มือบางอย่างจากนั้นโล่สีทองก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาเขาได้ยกมั่นต้านทานหนามน้ําแข็งที่พุ่งเข้ามา

 

ปั้ง ปั้ง

 

หนามน้ําแข็งที่เข้าปะทะกับโล่สีทองได้แตกสลายอย่างรวดเร็วจากนั้นแจ็คก็สวนกลับการโจม ตีไปเขได้สร้างลูกศรสีทองขึ้นและโจมตีไปยังทิศทางของไอซ์แมน

 

เห็นลูกศรสีทองโจมตีมาที่ตนเองไอซ์แมนได้ควบคุมอุณหภูมิพื้นที่ใกล้ตัวและเรียกเสาน้ําแข็งขึ้นมาป้องกันที่ด้านหน้าของเขา

 

ฟุบ!

 

เพียงแต่ว่าไอซ์แมนประมาทเกินไปศรสีทองนั้นไม่ได้พุ่งเข้ามาที่เบื้องหน้าของเขาแต่มันกลับสามารถล็อคเป้าตําแหน่งและยังคงพุ่งเข้าหาตนเองราวกับเครื่องติดตาม

 

คลื่น!

 

ไอซ์แมนได้เปลี่ยนสภาพร่างกายของตนเองเป็นผลึกน้ําแข็งเพื่อป้องกันการโจมตีที่พุ่งเข้ามา

 

เปรี้ยง

 

“เป็นการโจมตีที่รุนแรงมาก หากฉันไม่สร้างผลึกน้ําแข็งซ้อนฉันคงได้รับบาดเจ็บ ไปดแล้ว” เห็นการโจมตีของศรสีทองเจาะปราการผลึกน้ําแข็งบนร่างของตนเองได้ ไอซ์แมนประหลาดใจอย่างมาก

 

จากนั้นตําแหน่งของไอซ์แมน และ แจ็ค ก็อยู่ไม่ไกลจากกัน พวกเขาได้พุ่งเข้าหากันและกันอีกครั้งราวกับว่าพวกเขากําลังเผชิญหน้ากับศัตรูอุณหภูมิรอบตัวของไอซ์แมนได้สูงขึ้นขณะที่บนร่างของแจ็คก็ปรากฏออร่าสีทอง

 

หืม!

 

การโจมตีของไอซ์แมนและแจ็คเข้าปะทะกันอยู่หลายกระบวนท่าต่างฝ่ายต่างพลัดกันโจม ตีและตั้งรับราวกับว่าทั้งสองแทบจะไม่ได้มีความแตกต่างกันเลย

 

การปะทะของทั้งสองคนได้สร้างแรงระเบิดจนเกราะน้ําแข็งของไอซ์แมนและโล่สีทองของแจ็คได้แตกออกมันสร้างความประหลาดใจให้กับทั้งสองคนในขณะนี้

 

หลังจากเกิดการระเบิดขึ้นร่างกายของพวกเขาก็กระเด็นถอยออกไป ไอซ์แมน และ แจ็คได้ยืนจ้องมองเผชิญหน้ากันอีกรอบแต่ทว่าจู่ ๆ ก็มีเงาร่างปรากฏขึ้นด้านบนเหนือศีรษะของพวกเขา

 

ตอนที่ 612 สงครามมิวแทนท์ 2

.

ที่ม!

 

ลําแสงสีแดงได้พุ่งออกมาจากฐานลับใต้ดินของสไตรเกอร์มันพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว

 

“มาแล้ว!”เห็นการโจมตีทางฝั่งพวกสไตรเกอร์แมกนีโตแลพพรรคพวก5คนได้เข้าเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้

 

ชายคนนึงได้กระโดดออกไปข้างหน้าของทั้ง 4 คน แขนทั้งสองข้างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเหล็กกล้าที่เป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งเขาได้พุ่งออกไปต้านรับแสงสีแดงที่พุ่งมาทางพวกเขา

 

เปรี้ยง!

 

ฟุบ ! ฟุบ! ฟุบ!

 

แสงสีแดงนั่นได้พุ่งชนร่างของชายคนนี้พร้อมกับส่งเขาลอยกระเด็นไปไม่ไกลเท่าไหร่ แสงสีแดงที่ว่านี้ก็คือ ก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถูกบีบอัดพลังบางอย่างเข้าไปแม้ความรุนแรงของมันจะสูงแต่ก็ไม่สามารถทําอันตรายร่างกายของชายคนนี้ได้

 

หลังจากกระเด็นไปไม่ไกลมากเท้าของชายคนนี้ที่ต้านรับแรงกระแทกได้จมลงดินมากกว่า 20 เมตร จนในที่สุดมันก็หยุดลง

 

“นี่คงจะเป็นการโจมตีจากยัยผู้หญิงนั่น! ไพโร ต่อไปตานายออกโรงแล้ว!” เผชิญ หน้ากับการโจมตีทางฝั่งสไตรเกอร์แมกนีโตกล่าวออกคําสั่ง

 

“ฮิฮิ ฉันรอคําพูดนี้มานานแล้ว สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดก็คือการเฝ้ามองศัตรูจากระยะไกลนี่แหละ”ได้ยินคําสั่งของแมกนีโตชายคนนึงได้ก้าวเดินออกมา

 

ฟุบ!

 

ในทิศทางเบื้องหน้าของแมกนีโต ได้ปรากฏหญิงสาวคนนึง ไพโร ได้ก้าวเดินออกไปเผชิญ หน้ากับเธออย่างไม่เกรงกลัว พริบตาเดียว ร่างของไพโร ก็วิ่งพุ่งเข้าไปการโจมตีของหญิงสาวคนนี้ เป็นการโจมตีระยะไกลดังนั้นไพโรที่มีการโจมตีแค่ ระยะกลางย่อมไม่อาจใช้ไฟของเขาในการจัดการหล่อนได้

 

เห็นไพโร พุ่งเข้ามา หญิงสาวคนนี้ ได้เข้าเผชิญหน้าเช่นเดียวกันทางด้านแมกนีโตตอนนี้เขากําลังเฝ้ามองดูศัตรูจากระยะไกลพร้อมกับพรรคพวกอีก 3 คน

 

“ยัยปีศาจขาวนั้นสามารถบล็อคตําแหน่งจิตวิญญาณของคนอื่นได้อย่างงั้นหรอ?”แมกนีโต ที่ จ้องมองการต่อสู้ เขากล่าวบ่นพึมพัมออกมา

 

ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ใช้พลังจิตเดิมแมกนีโตสามารถล็อคตําแหน่งของสไตรเกอร์และฆ่าเขา ในการโจมตีได้ แต่เนื่องจากการมีอยู่ของผู้หญิงคนนี้ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลย หากเขาต้อง การจัดการ สไตรเกอร์ เขาจะต้องจัดการผู้หญิงคนนี้

 

” พลังจิตของอีกฝ่ายเทียบเท่ากับฉันหากมีเธอคอยอยู่ป้องกันก็เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะจัดการสไต รเกอร์ได้”แมกนีโตกล่าวออกมา

 

จากนั้นเขาก็ลอยตัวขึ้นไปบนฟ้า

 

แมกนีโตสามารถควบคุมสสารแม่เหล็กได้ดังนั้นเขาจะมีความสามารถในการบินก็ไม่แปลก ประหลาดเพราะภายใต้ซากปรักหักพังเหล่านี้มีแท่งวัสดุโลหะเหล็กมากมาย

 

จากนั้นแมกนีโตก็ลอยตัวเหนือพื้นดินมากกว่า 50 เมตร เขาจ้องมองไปยังตําแหน่งของฐาน ลับของแมกนีโตและยกมือขึ้นอย่างช้า ๆ

 

“เจ้านายครับ,ตรวจพบคลื่นสนามพลังแม่เหล็กแรงงานสูงผมขอแนะนําให้คุณรีบออกจากที่นี้โดยทันที” หลังจากแมกนีโตลอยขึ้นไปบนอากาศ J.A.R.V.I.S ที่ซ่อนตัวอยู่ตรวจพบคลื่นความผันผวนของสนามพลังแม่เหล็ก

 

“ดูเหมือน แมกนีโต จะเริ่มลงมือแล้ว!” โทนี้มองเห็นแมกนีโตที่ลอยอยู่บนอากาศเขา ไม่ได้แปลกปใจแม้แต่น้อย

 

พลังงานที่สามารถควบคุมสสารเหล็กได้ไม่แปลกที่จะสามารถควบคุมสนามพลังแม่เหล็กบางส่วนของโลกไดความสามารถระดับนี้ แม้จะเป็นชุดเกราะไอรอนแมนที่แข็งแกร่งของโทนี่ก็คงสูญเสียความสามารถไปโดยสมบูรณ์

 

“พวกเราจะล่อถอยไปคอยเฝ้าสังเกตุการณ์จากระยะไกลทิ้งชุดเกราะไอรอนแมน 10 ตัว ไว้ ใกล้ ๆ สถานที่แห่งนี้ฉันต้องการดูผลกระทบทั้งหมดที่กําลังจะเกิดขึ้น”โทนี่กล่าวสั่ง J.A.R.V.S

 

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

 

จากนั้น J.A.R.V.S ก็บังคับชุดเกราะไอรอนแมนที่เหลือไปยังทิศทางสถานที่ห่างไกลจาก ตําแหน่งศูนย์กลางของที่นี่

 

พวกเขาสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างฉลาดเพราะถึงจะอยู่ไปก็ไม่สามารถทําอะไรได้

 

คลื่น!

 

“เจ้านายครับตรวจพบคลื่นพลังงานพื้นที่ความผันผวน” ขณะที่โทนี่กําลังถอยหลังเพื่อหนี J.A.R.V.I.S ก็กล่าวเตือน

 

“หมอพื้นที่ความผันผวน?ที่ไหน?”ได้ยินคําตอบของ J.A.R.V.S โทนี่หยุดลงเล็กน้อยและกล่าวถาม

 

โทนี่มีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับคลื่นความผันผวนของพื้นที่เขารู้จักรูปแบบพลังงานที่สา มารถทําให้เกิดคลื่นความผันผวนพื้นที่นี้ 3 ทางหนึ่งคือวัตถุลึกลับลูกบาศก์เวทย์มนตร์ สองคือ ทีม X-MEN หญิงสาวที่ชื่อบลิงก์และ 3 สายเลือดของเหล่าพ่อมดประตูมิติอวกาศเวทมนตร์

 

“ตรวจพบคลื่นพลังงานความผันผวนทางพื้นที่แตกต่างกัน2อย่าง” J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานอีกรอบ

 

” คงจะเป็น ทีมX-MEN กับ พวกพ่อมดสิ้นะ!”

 

ตอนที่ 611 สงครามมิวแทนท์ 1

 

ปั้ง

 

ขณะที่โทนี่กําลังเฝ้ามองสถานการณ์ดูเหมือนข้างล่างจะเกิดการต่ออสู้กันแล้วแม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะค้นพบกองทัพไอรอนแมนบนอากาศแต่พวกเขาก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด ภายใต้พลังทําลายล้างที่แข็งแกร่งของมิวแทนท์ระดับ 4 พื้นที่ทิ้งร้างได้ล่างได้เปิดเผยใต้ลับใต้ดินที่สไตรเกอร์ซ่อนตัวอยู่

 

ทันทีที่ค้นพบฐานลับใต้ดินของสไตรเกอร์ พรรคพวกของแมกนีโต ก็เตรียมพร้ออมบุกเข้าไปในทันที

 

แต่แน่นอนว่าหากพวกเขาคิดจะจัดการสไตร์เกอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย ในฐานะผู้นําองค์กรมิวแทนท์ที่อยู่มาอย่างยาวนานหลายปี การที่เขาสามารถอยู่รอดมาได้จนถึงทุกําวันนี้ก็เพราะความสามารถของเขาดังนั้นแม้พรรคพวกของแมกนีโตจะแข็งแกร่ง แต่ทางด้านสไตรเกอร์เองก็ย่อมมีวิธีการรับมืออยู่

 

เหตุผลที่สไตรเกอร์เกลียดชังเหล่ามิวแทนท์พวกนี้เป็นเพราะเขาได้เผชิญหน้ากับประสบการณ์อันเจ็บปวด ภรรยาของเขาได้ตายไปในเงื้อมมือของมิวแทนท์ โชคดีที่เขายังรักษาลูกชายไว้ได้ แต่ลูกชายของเขาพออายุ 10 ปี สไตรเกอร์ก็พบว่าลูกของตนเองได้รู้ตื่นและเบิกความสามารถพลังของมิวแทนท์ขึ้น ดังนั้นเขาจึงส่งลูกชายของตนเองไปเรียนที่โรงเรียนเซเวียร์เพื่อหวังว่าจะให้ลูกของเขากลับมาเป็นปกติ แต่โชคร้ายที่ตัวเขาได้รับรู้ความจริง ทันทีที่คนเหล่านี้ตื่นรู้พวกเขาก็ไม่สามารถกลับมาเป็นคนปกติได้ ดังนั้น สไตรเกอร์จึงออุ้มลูกชายกลับมาและเริ่มการทดลองเกี่ยวกับพวกมิวแทนท์

 

เนื่อองจากความสามารถในการเข้ากันได้ของพลังของลูกชายของเขาสูงมาก มันสามารถเทียบได้กับมิวแทนท์ระดับ 4ดังนั้น สไตรเกอร์จึงทําการทดลองลับกับลูกชายของตนเอง กล่าวได้ว่าหากเขาไม่มีลูกชาย สไตรเกอร์ก็จะไม่สามารถกลายเป็นอย่างทุกวันนี้ได้

 

ในการทดลองสไตรเกอร์ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับมิวแทนท์มากขึ้นเรื่อย ๆ เขาได้ถลําลึกเข้าไปจนแทบจะถอนตัวไม่ขึ้น หลายปีก่อน สไตรเกอร์ได้ประสบอุบัติเหตุในการทดลองและปล่อยมิวแทนท์ ที่ชื่อว่า โลแกน หลุดรอดออกไป ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าสไตรเกอร์กําลังทําอะไรอยู่ตอนนี้ บางทีเขาอาจจะกําลังประสบความสําเร็จในการทดลองลับบางอย่างก็เป็นได้

 

” หึ่ม! แมกนีโต อีริค คิดหรอว่าฉันจะยอมถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว!”ในตําแหน่งฐานลับใต้ดินสไตรเกอร์จ้องมองไปที่ภาพเบื้องหน้าที่กองกําลังของเขากําลังถูกทําลาย

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาได้ปะทะกับกองกําลังมิวแทนท์พวกนี้และได้รับชัยชนะและแพ้มาร่วมกันเพียงแต่ว่าตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้สาเหตุที่ แมกนีโต โจมตีตนเอง ตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีเลย

 

“หมายเลข 3!ทางด้านนั้นมีข่าวอะไรคืบหน้างไหม?” สไตรเกอร์กล่าวถามลูกทีมของเขา

 

“ พลตรี สไตรเกอร์ ข่าวทางด้านนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับครับ” หมายเลข 3 ตอบกลับทันที

 

“ยังไม่ได้ตอบกลับ?พวกมั่นอยู่นอกเขตพื้นที่อับสัญญาณหรือยังไง!” สไตร์เกอร์บ่นพึมพัมออกมา

 

สไตรเกอร์ค่อนข้างมีอิทธิพลและอํานาจมากในปัจจุบันเขาได้รับการสนับสนุนจากทางกองทัพ ดังนั้นประเทศสหรัฐอเมริกาในตอนนี้จึงกําลังสนับสนุนเขา แน่นอนว่าการวิจัยของสไตรเกอร์เป็นประโยชน์กับประเทศชาติอย่างมาก แม้ว่าข้อมูลความลับนี้จะเก็บเป็นข้อมูลลับสุดยอดก็ตาม

 

หึ่ม!

 

ปั้ง!

 

เห็นคลื่นพลังที่กระทบพุ่งเข้ามายังฐานลับใต้ดินสไตรเกอร์รู้สึกตกใจอย่างมาก

 

“ หมายเลข 5!”สไตรเกอร์ตะโกนออกมา

 

หลังจากสไตรเกอร์ตะโกนออกมาายหัวล้านคนนึงก็กระโดดออกมาจากมุมนึงและบล็อคลื่นพลังที่โจมตีเข้ามาที่ฐานลับแห่งนี้

 

หึ่ม!

 

บาเรียโปร่งแสงได้ต้านทานคลื่นพลังที่พุ่งเข้ามาจนสลายหายไปทั้งหมด

 

สไตรเกอร์รู้สึกดีใจอย่างมากเขามั่นใจในคนของตนเองว่าจะสามารถช่วยเหลือและต้านรับคลื่นกระแทกเหล่านั้นได้

 

“หม ฉันจะไม่ยอมให้พวกมันเหิมเกริมแบบนี้ต่อไปแน่ ฉัน สไตรเกอร์ ไม่ใช่คนที่จะยอมถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียว!” สไตรเกอร์พึมพัมออกมา

 

” หมายเลข 1! เชื่อมต่อทุกคน รับคําสั่งของฉันและตอบโต้จัดการพวกมันซะ!” สไตรเกอร์กล่าวออกมา

 

ฟุบ!

 

จากนั้นหญิงสาวคนนึงที่สวมผ้าปิดตาอยู่ คลื่นความผันผวนทางจิตวิญญาณของเธอได้ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายจากนั้นก็เชื่อมต่อสมาชิกทุกคน

 

หึ่ม!

 

ตอนที่ 610 ลางสังหรณ์ของ กัปตันโรเจอร์ส

 

ฟุบ!

 

หลังจากเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนั้นผลักประตูเข้ามาเขาก็ตรงดิ่งเข้าไปหากัปตันโรเจอร์สโดยตรง

 

“เจ้าหน้าที่ ไคล์ มีเรื่องอะไรงั้นหรอ?” เห็นเจ้าหน้าที่สื่อสารของตนเองผลักประตูเข้ามาอย่างเร่งรีบ กัปตันโรเจอร์ส เข้าใจในทันทีว่าจะต้องเป็นเรื่องสําคัญ

 

“กัปตัน! มีข้อความส่วนมาจาก โทนี่ สตาร์ค!”เจ้าหน้าที่ ไคล์ ดกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ยื่นส่งบันทึกข้อความให้

 

ได้ยินคําพูดของ ไคล์ กัปตันโรเจอร์ส มีสีหน้าจริงจังมากขึ้น เขารับสิ่งของที่ไคล์ให้มา จากนั้นก็เปิดอ่านดู แม้การแก้ปัญหาเรื่องที่สภานี้จะจบลงและทําให้เขารู้สึกมีความสุข แต่ข่าวเรื่อง มิวแทนท์ และ สไตร์เกอร์ นั้นสําคัญมากจริงๆ เพราะเรื่องนี้อาจเกิดสงครามระหว่างพวกมิวแทนที่ขึ้น

 

“กัปตันโรเจอร์ส เรื่องจัดการทหารเอ็กซ์ทรีมิสที่เหลือ ค่อยว่ากัน ตอนนี้ ฉันคิดว่า ปัญหาเรื่อง มิวแทนท์ พวกนี้สําคัญกว่ามาก”นอกอจากนี้ยังมีเสียงข้อความของโทนี่ด้วย

 

“แม้แต่ โทนี่ ยังรู้สึกได้ถึงความอันตราย ดูเหมือนศึกครั้งนี้จะหนักหนาจริง ๆ !”ได้ยินเสียงของโทนี่ กัปตันโรเจอร์สพอจะสามารถคาดเดาได้

 

“เจ้าหน้าที่โคลสัน ทั้งสามคนนี้ ฉันปล่อยให้คุณจัดการต่อแล้วกัน ตอนนี้ฉันมีเรื่องสําคัญที่จะต้องรีบไปจัดการ” กัปตันโรเจอร์สเดินไปที่หน้าประตูและกล่าวกับ โคลสัน

 

” เข้าใจแล้ว กัปตัน!” ภายใต้คําสั่งของกัปตันโรเจอร์ส เจ้าหน้าที่โคลสันตอบรับอย่างรวดเร็ว

 

เห็นกัปตันโรเจอร์สจากไป วุฒิสมาชิกสภา ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องเตรียมที่จะหลบหนีออกจากห้องนี้แต่แล้วพวกเขาก็ถูกบล็อคโดย เจ้าหน้าที่ โคลสัน

 

” พวกท่านทั้งสามคนยังมีประชุมต่อที่นี่กับผม”เจ้าหน้าที่โคลสันยืนขวางทางวุฒิสมาชิกสภาทั้งสามคนและกล่าวอย่างไม่เกรงกลัว

 

“แก!” เห็นเจ้าหน้าที่โคลสัน เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยที่กล้าปิดกั้นตนเอง วุฒิสมาชิกสภาเคลย์ชี้นิ้วไปที่หน้าของเขาพร้อมกับเตรียมจะพูดอย่างเดือดดาล แต่เขาก็ต้องกลืนคําพูดนั้นกลับไปเพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้เขาจนมุมแล้ว หาก มายา แฮนเซ่น และ แมนดาริน ที่ถูกจับตัวให้การกับคนเหล่านี้ไป เขาก็ถึงคราวจบจริงๆ

 

“ขอบคุณให้ความร่วมมือ” เห็นวุฒิสมาชิกสภาทั้งสามคนเลิกต่อต้าน เจ้าหน้าที่โคลสันกล่าวยิ้มออกมา

 

“เจ้าหน้าที่ไคล์ คุณรู้ข้อมูลเกี่ยวกับข่าวที่ได้มามากน้อยแค่ไหน” หลังจากมอบหน้าที่จับวุฒิสมาชิกสภาทั้ง 3 คนให้ เจ้าหน้าที่โคลสันจัดการ กัปตันโรเจอร์ส กล่าวถามกับเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้

 

“หลังจาก ที่ โทนี่ สตาร์ค ส่งข้อความมา ผมก็ได้ลองตรวจสอบคร่าว ๆดูแล้ว ศัตรู ก็คือ พวกสมาคมมิวแทนท์ แต่ว่า…”ได้ยินคําถามของกัปตันโรเจอร์ส เจ้าหน้าที่ สื่อสารตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

“อะไร?ไม่จําเป็นต้องกังวล พูดออกมาเลย” เห็นว่าเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้ชะงักไป กัปตันโรเจอร์สรีบเร่งทันที

 

“เรื่องนี้มีพวกหน่วยงานลับของทางกองทัพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแผนกนี้ก่อตั้งมามากกว่า 40 ปี ทั้งยังมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับพลังของพวก มิวแทนท์ พวกเขาคือแผนกที่ก่อตั้งเพื่อกําจัดผู้มีพลังพิเศษอย่างพวกมิวแทนท์ ดังนั้นเรื่องนี้จึงค่อนข้างน่ากังวล” ภายใต้การเร่งเร้าของกัปตันโรเจอร์ส เจ้าหน้าที่สื่อสารกล่าวตอบตามจริง

 

แม้แต่อํานาจของ S.H.I.E.L.D. ยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนลับของหน่วยงานลับนี้ได้ พวกเขาคือแผนกลับที่ศึกษาเรื่องของมิวแทนท์ ดังนั้น พวกเขาจึงจัดอยู่ในส่วนของข้อมูลลับสุดยอด

 

“เจ้าหน้าที่ไคล์ หน่วยงานลับของทางกองทัพนี้มีหัวหน้าคือ สไตร์เกอร์ใช่มั้ย?” กัปตันโรเจอร์สกล่าวถาม

 

กัปตันโรเจอร์สพอจะรู้ข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับ องค์กร มิวแทนท์ ที่ถูกก่อตั้งโดยทางกองทัพพวกเขาถือเป็นปรปักษ์ต่อพวกมิวแทนท์จํานวนมาก

 

“ใช่ครับ,ดูเหมือนพวกเขาเตรียมจะปะทะกันในอีกไม่ช้า หากเรื่องนี้เกิดขึ้นทั่วทั้งวอชิงตันไม่สิโลก จะต้องตกสู่ความโกลาหลแน่นอน” เจ้าหน้าที่ไคล์กล่าวตอบ

 

“พวกเขาช่างมองหางานเพิ่มให้ฉันเสียจริง! “กัปตันโรเจอร์สพิ่มพมออกมา

 

พวกเขาจะต้องหยุดสงครามระหว่างมิวแทนท์ให้ได้ไงน กัปตันโรเจอร์ส เองก็รู้สึกได้ถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์จํานวนมาก อาจจะต้องรับเคราะห์กรรมจากผลปะทะของพวกเขาไปด้วย

 

“กัปตัน คุณจะเอายังไงต่อ?”เจ้าหน้าที่ไคล์กล่าวถาม

 

“เรื่องแผนลับของทางกองทัพนี้คงต้องหาข้อมูลเพิ่มให้มากกว่านี้ คราวนี้ฉันอาจจะไม่สามารถออกนอกหน้าช่วยได้อย่างเต็มที่ แต่จะคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเพื่อหยุดยั้งไม่ให้สงครามเกิดขึ้น” กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

“เจ้าหน้าที่ไคล์ พวกเรามี ทีมกี่คนที่พร้อมทําภารกิจใน องค์กร S.H.I.E.L.D. ตอนนี้?” กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามเจ้าหน้าที่ไคล์

 

“มี 23 คน ครับกัปตัน พวกเขาเตรียมพร้อมเหลือแค่รอคําสั่ง”เจ้าหน้าที่ไคล์กล่าวตอบ

“แค่ 23 คนใช่มั้ย? ไม่เป็นไร สั่งทีมพวกเขาให้เตรียมพร้อมเอาไว้ ฉันเชื่อว่าเหตุการณ์ที่กําลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะไม่ง่ายอย่างที่พวกเราคิดแน่นอน”

 

“ครับ”

 

ตอนที่ 609 เปลี่ยนคนคุมเกม

 

วอชิงตัน สํานักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ตอนนี้กัปตันโรเจอร์ศกําลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับกําลังโดนใต่สวนโดยสมาภาความมั่นคงของโลก ด้านหน้าของพวกเขา คือสมาชิกวุฒิสภาความมั่นคงของโลกทั้ง 3 คน

 

“กัปตันโรเจอร์ส เรื่องที่คุณพูดออกมาทั้งหมด ใช่กําลังจะกล่าวหาพวกเรางั้นหรอ?”ในขณะเดียวกัน หนึ่งในวุฒิสมาชิกสภาความมั่นคงของโลก เคลย์ กําลังกล่าวถามเขา

 

“กล่าวหาพวกคุณ?ไม่เลย นี่เป็นคําฟ้องร้องที่ฉันยื่นให้กับพวกคุณ” เผชิญหน้ากับคําถามของ เคลย์ กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

กัปตันโรเจอร์ส ได้ยื่นคําฟ้องร้องปฏิเสธข้อหาที่สมาชิกสภาพความมั่นคงเหล่านี้กล่าวหาเขาเพราะคนเหล่านี้ กังวลว่าจะไม่สามารถควบคุม องค์กร S.H.I.E.L.D. ได้ จึงกล่าวหาว่ากัปตันโรเจอร์ส ใช้อํานาจขององค์กร S.H.E.L.D. ไปช่วยเหลือเหล่าฮีโร่ที่เป็นศาลเตี้ยเหล่านั้น เพราะสภาความมั่นคงของโลกไม่สามารถควบคุมองค์กร S.H.I.E.L.D. ได้ และยิ่งกัปตันโรเจอร์ส ยังมีการติดต่อกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ พวกนี้ด้วยแล้ว ทําให้ฐานอํานาจของพวกเขาเริ่มสั่นคลอน

 

“คุณจะปฏิเสธว่าคุณไม่ได้ใช้ประโยชน์จากองค์กร S.H.E.L.D. ในการช่วยเหลือ ศาลเตี้ยเหล่านั่งนหรอ? คุณรู้ตัวหรือไม่ว่าทําอะไรลงไป คนเหล่านี้เป็นพวกปิดบังซ่อนเร้นตัว หากพวกเขามีความคิดแอบแฝงคุณจะรับผิดชอบเรื่องที่จะเกิดขึ้นได้งนหรอ?”ได้ยินคําตอบของกัปตันโรเจอร์ส เคลย์ ยกระดับเสียงของตนเองและกล่าวถามอย่างดุดัน

 

ตั้งแต่จบศึกกับ ไฮดร้า องค์กร S.H.I.E.L.D. ถูกยกระดับชื่อเสียงจนมีอิทธิพลต่อสาธารณชนจํานวนมาก ดังนั้นเขาจึงใช้ประโยชน์จากจุดนี้ในการโจมตี กัปตันโรเจอร์ส

 

” ท่าน วุฒิสมาชิกสภา เคลย์ ท่านกังวลมากเกินไปแล้วละมั้ง” กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

“กังวลมากไป? ที่ผมพูดหมายถึงตอนนี้คุณกําลังทําผิกฏ คุณคิดว่า กฏมีไว้ทําอะไร ล่ะกัปตัน?” เคลย์กล่าวถามอย่างดุเดือด

 

“แล้วพวกท่านทั้งสองมีความเห็นอื่น ๆนอกเหนือจากท่านวุฒิสมาชิกสภา เคลย์ อีกหรือไม่?” กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามทั้งสองคนที่เหลือ

 

“พวกเราเห็นด้วยกับคําพูดของท่านวุฒิสมาชิกสภาพเคลย์ ดังนั้น กัปตันโรเจอร์ส คุณควรรู้ว่าตอนนี้คุณกําลังทําผิดกฏร้ายแรงอยู่”ได้ยินคําถามของกัปตันโรเจอร์ส ทั้งสองคนตอบอย่างมั่นใจ

 

“ผิดกฏเก็นั่นสินะอาจจะจริงอย่างที่พวกคุณว่าก็ได้” กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

“โรเจอร์ส คุณหมายถึงอะไร? “ได้ยินคําพูดไร้สาระที่ไม่น่าออกมาจากปากของกัปตันโรเจอร์ส วุฒิสมาชิกสภาพเคลย์เตือนด้วยเสียงดัง

 

ฟุบ!

 

ตึก ๆ

 

ขณะที่ เคลย์ เตรียมจะกดดันโรเจอร์สภายในห้องประชุมนี้ จู่ ด้านนอก เจ้าหน้าที่ โคลสันก็เปิดประตูเดินเข้ามา เจ้าหน้าที่โคลสัน คือเจ้าหน้าที่อาวุธโสของ S.H.I.E.L.D. เขาเข้ามาพร้อมกับเอกสารหลายฉบับ ที่ดูแล้วน่าจะเป็นเอกสารสําคัญอย่างมาก

 

“เจ้าหน้าที่โคลสัน นายกําลังทําอะไร?” เห็นเจ้าหน้าที่โคลสันเปิดประตูเข้ามา ใบหน้าของเคลย์รู้สึกตึงเครียดอย่างมาก

 

” ท่านวุฒิสมาชิกสภา เคลย์ ผมมีเรื่องที่จะต้องรายงานโดยด่วน แน่นอนว่าไม่ใช่คุณ แต่เป็นกัปตันโรเจอร์ส”เจ้าหน้าที่โคลสันตอบกลับอย่างไม่สั่นกลัว

 

“นาย…” เห็นท่าทางของเจ้าหน้าที่โคลสัน วุฒิสมาชิกสภา เคลย์ รู้สึกโกรธอย่างมาก เห็นเอกสารที่เจ้าหน้าที่โคลสันพกมาด้วยทําให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

 

” กัปตัน นี่คือเอกสารสําคัญและข้อมูลอื่น ๆ ที่คุณต้องการเจ้าหน้าที่โคลสันหลังจากตอบกลับวุฒิสมาชิกสภา เคลย์ไปแล้ว เขาก็เดินปรี่เข้าหากัปตันโรเจอร์สและยื่นเอกสารโดยตรง

 

“อืม” กัปตันโรเจอร์สรับเอกสารมา

 

จากนั้นเขาก็ได้เปิดอ่านเอกสารภายในนั้นอย่างรวดเร็ว จนเห็นข่าวทั้ง สาม ที่ น่าดีใจ ดูเหมือนเขาจะคิดถูกพันธมิตรและทีมของเขาสามารถเชื่อถือได้ทุกคน

 

” ท่านวุฒิสมาชิกสภา เคลย์ ดูเหมือนคุณจะต้องอธิบายเรื่องพวกนี้ให้กระจ่างหน่อยแล้วละ?”กัปตันโรเจอร์สโยนเอกสารในมือไปที่เบื้องหน้าของ เคลย์

 

ฟุบ!

 

ได้รับเอกสารจากกัปตันโรเจอร์ส เคลย์ ที่เห็นภาพบนเอกสารเหล่านี้ ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาวอย่างรวดเร็ว เพราะรูปเหล่านี้คือแมนดาริน และ มายา แฮนเซ่น ที่ถูกควบคุมตัวเอาไว้อยู่

 

“มายา แฮนเซ่น และ แมนดาริน ตอนนี้กําลังถูกคุมตัวโดยคนของเราอยู่” เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของ เคลย์ กัปตันโรเจอร์สกล่าวพูดขึ้น

 

เคลย์ ”…”

 

“โชคไม่ดี คิลเลี่ยน ได้เสียชีวิตภายใต้เงื้อมมือของ โทนี่ สตาร์ค คุณอย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้จัก คิลเลี่ยน ในมือของเรามีหลักฐานมากพอที่จะพิสูจน์ความสัมพันธ์ของคุณกับเขา ดังนั้น ท่านวุฒิสมาชิกสภาพ เคลย์ คุณมีอะไรจะสารภาพหรือไม่?หรือต้องการให้ฉันไปกล่าวถามหาความจริงจากแมนดาริน พวกเรามีวิธีการมากมายที่จะทําให้เขาพูดความจริง” กัปตันโรเจอร์สยังคงกล่าวต่อไป

 

“แก…” เผชิญหน้ากับการกดดันจากกัปตันโรเจอร์ส วุฒิสมาชิกสภาพเคลย์แทบจะเก็บอาการไม่อยู่

 

เขารู้ตัวดีว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับ แมนดาคริน และ มายา แฮนเช่น เหตุผล ก็เพราะไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านั้นจะบอกว่าเขามีส่วนร่วมและเป็นหนึ่งในตัวการสําคัญก็ไม่ผิดแม้แต่น้อย

 

“วันนี้พวกเรามาเปลี่ยนหัวข้อประเด็นในการประชุมจากการฟ้องร้องฉัน เป็นการสอบสวนท่านวุฒิสมาชิกสภา เคลย์ กันดีหรือไม่? ในฐานะหัวหน้าขององค์กร S.H.I.E.L.D. ฉันขอใช้อํานาจในการสอบสวนและตรวจสอบสถานะของคุณ หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือ” กัปตันโรเจอร์สพูดออกมาก่อนที่จะลุกเดินไปด้านหน้าของเคลย์

 

“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้! พวกมันทําล้มเหลวได้ยังไงกัน?แกกําลังหลอกฉัน ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน!” เห็นกัปตันโรเจอร์สเดินมาที่ตนเองอย่างช้า ๆ เคลย์ ลุกขึ้นยืนและเดินถอยหลังไปทีละก้าวด้วยความหวาดกลัว

 

ใบหน้าของเคลย์ในตอนนี้ซีดขาวอย่างมาก ตอนนี้เขาไม่มีวิธีที่จะดิ้นหลุดรอดไปจากสถานการณ์ในตอนนี้ได้

 

ปั้ง!

 

เพียงแต่ว่าขณะที่กัปตันโรเจอร์สกําลังจะจัดการสอบสวนเคลย์จู่ ๆ ประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดออกจากด้านนอกอีกครั้ง เจ้าหน้าที่สื่อสารส่วนตัวของกัปตันโรเจอร์สได้รีบวิ่งเข้ามาอย่างแตกตื่น

 

ตอนที่ 608 ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ เคลื่อนไหว

 

“ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาอื่นมาเพิ่มอีกแล้วสินะ!” หลังจากได้รับข่าวแจ็คสันก็บ่นพึมพัมออกมา

 

จากนั้นเขาก็ก้มมองลงไปที่ข้างใต้เท้าของตนเองที่มีร่างของแมนดารินโดนเท้าของเขากดทับเอาไว้อยู่ แจ็คสันได้ยกดาบสปิริตซอร์ดในมือของเขาขึ้นและเตรียมจะแทงลงไปที่ร่างของแมนดาริน

 

“!”แมนดารินที่เห็นดาบที่กําลังจะพุ่งลงมาปักตนเองได้ตะโกนร้องออกมาก่อนที่จะหมดสติ ไปในที่สุด

 

“ฮอว์กอาย ฉันมีเรื่องที่จะต้องรีบไปจัดการ ฝากเคลียที่เหลือพร้อมกับเจ้าแมนดารินที่ถูกฉันจับตัวไว้ด้วย ชีวิตของเขาอยู่ในมือของคุณแล้ว” หลังจากทําให้แมนดารินหมดสติไป แจ็คสัน ก็กล่าวพูดกับฮอว์กอาย

 

“งั้นหรอ? เข้าใจแล้ว ฉันจะให้คนของฉันขับยานควินเจ็ทไปส่งคุณกลับวอชิงตัน” ฮอว์กอายกกล่าวตอบ

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นแจ็คสันก็กระโดดขึ้นไปด้านบนพร้อมกับหยิบเครื่องร่อนของตนเองออกมาเมื่อครู่เขา ได้รับข่าวปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นที่วอชิงตัน ดังนั้น เขาจึงอยากที่จะรีบกลับไปให้เร็วที่สุด ไม่นานร่างของเขาก็ถึงบนยานควินเจ็ทเป็นที่เรียบร้อย

 

จากนั้นยานควินเจ็ทก็ออกตัวและมุ่งหน้าไปยังทิศทางวอชิงตันในทันที

 

“อืม,ไม่รู้ว่าทางด้านวอชิงตันกําลังมีปัญหาอะไร ดูเหมือนฉันจะต้องรีบจัดการเรื่องที่นี่ให้เร็วที่สุด จับตัว แมนดารินกลับไปและช่วยเหลือกัปตันโรเจอร์ส” หลังจากมิราจในท์จากไป ฮอว์กอายก็ จ้องมองไปที่ แมนดารินและบ่น ด้วยเสียงเบา ๆ

 

ขณะที่แจ็คสันกําลังมุ่งหน้าจากเม็กซิโกไปยังวอชิงตัน สมาชิกคนอื่น ๆ ของทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์ก็ได้รับข่าวเช่นเดียวกัน ก็คือ สมาคมมิวแทนท์ ดูเหมือนพวกเขาจะเริ่มเคลื่อนไหวกันแล้ว การเคลื่อนไหวของพวกเขาสามารถทําให้โลกเกิดความปั่นป่วนได้ ดังนั้น แจ็คสัน จึงได้ติดต่อลูกทีมของเขาในทันที

 

ทางด้านที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ ก็ยังมีคนคนนึงที่หายตัวไปเป็นระยะเวลานานอย่าง แจ็ค ตอนนี้ เขาที่กําลังนั่งไขว่ห้างอยู่ พอได้รับข่าวก็มีอาการตื่นตัวทันที

 

“แจ็ค เนื่องจาก นายตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับพวกเราแล้ว เรื่องบางเรื่องนายเองก็จําเป็นจะ ต้องยอมแพ้” เห็นว่าแจ็คต้องการจะทําอะไร พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวเตือน

 

หากแจ็คสันอยู่ที่นี่เขาจะต้องประหลาดใจมากอย่างแน่นอน ที่รู้ว่า แจ็ค ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกพ่อมดไปแล้ว ก่อนหน้าที่แจ็คจะตัดสินใจร่วมกับพวกพ่อมด เขาได้ ไตร่ตรองตนเองเป็นอย่างดีถึงความแข็งแกร่งของเขาที่แสนอ่อนแอเมื่อเทียบกับสมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจมาศึกษาเวทย์มนตร์จากเหล่าพ่อมด

 

แจ็คมีพรสวรรค์ในการเรียนเวทย์มนตร์อย่างมาก แค่ระยะเวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งเดือน แจ็ค ก็สามารถกลายเป็นจอมเวทย์ขั้นพื้นฐานได้แล้ว ตั้งแต่เขาตัดสินใจเข้าร่วมกับเหล่าพ่อมด เขาก็รู้ตัวดีว่าเรื่องเหตุการณ์ที่ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ต้องเผชิญเขาอาจจะไม่มีส่วนร่วมมากเหมือนในอดีต ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาจึงได้ปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารไป แต่ดูเหมือนวันนี้เขาได้ลืมปิดมันทําให้ได้ รับรู้ข้อมูลสถานการณ์ที่พรรคพวกของเขากําลังเผชิญ

 

พ่อมดรุ่ยเคอ ที่เห็น แจ็ค กําลังลังเล ที่จะใช้อุปกรณ์สื่อสารอยู่ เขาได้จ้องมองไปที่แจ็คอย่างคาดหวังกฎของพวกเขาเหล่าพ่อมดก็คือการไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก ดังนั้นเขาจึงรู้สึกคาดหวังอย่างมาก แน่นอนว่าข่าวเรื่องที่กําลังจะเกิดขึ้นเขาเองก็ได้รับมาเช่นเดียวกันดูเหมือนศึกที่กําลัง จะเกิดขึ้นนั้นคือศึกของเหล่ามิวแทนท์

 

แจ็คเองก็เป็นหนึ่งในมิวแทนท์ คือ มนุษย์กลายพันธุ์ สงครามระหว่างมิวแทนท์นั้นอาจมีผลกระทบส่งต่อถึงโลก มิวแทนท์เหล่านี้มีพลังที่คนธรรมดายากที่จะจินตนาการหากพวกเขาเกิดการ ปะทะกันอย่างรุนแรงขึ้นมาจริง ๆ โลกจะต้องตกอยู่ในความโกลาหลอย่างแน่นอน

 

” พ่อมด รุ่ยเคอ ฉันต้องขอโทษคุณด้วย แต่ครั้งนี้ ฉันจําเป็นจะต้องไปจริง ๆ แม้ว่ากฏของเรา จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก แต่เรื่องที่กําลังจะเกิดขึ้นนี้ ฉันเองที่เป็นมิวแทนท์ ก็มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นได้โปรดละเว้นด้วย หลังจากเรื่องเหตุการณ์ครั้งนี้จบลง ฉันจะกลับมาในทันที”แจ็คได้เงยหน้าขึ้นและกล่าวพูดกับ พ่อมด รุ่ยเคอ อย่างจริงจัง

 

“แจ็คเก็ได้นายไปได้” พ่อมดรุ่ยเคอ รู้ดีว่าถึงจะห้ามไปก็ไม่มีประโยชน์ดังนั้นเขาจึงปล่อยไปในครั้งนี้

 

ที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่รู้ว่า แจ็ค ต้องการเรียนเวทย์มนตร์เพราะอะไร แต่เพราะเขาเห็นความตั้งใจของแจ็ค ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสนใจและยอมสอนเวทย์มนตร์ให้

 

หากเป็นพ่อมดคนอื่น ๆ อาจจะไม่คิดแบบเดียวกันกับเขา ตั้งแต่เขารู้จักกับมิราจไนท์มามันทําให้ทุกสิ่งรอบตัวของเขาต้องมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นเสมอ เรื่องครั้งนี้ก็คงมีมิราจในท์ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน

 

” ขอบคุณ พ่อมดรุ่ยเคอ”แจ็คกล่าวขอบคุณพ่อมดรุ่ยเคอ และ เดินออกจากที่นในทันที

 

หลังจากออกมาแจ็คได้ยกมือซ้ายขึ้นมาและวาดสัญลักษณ์บางอย่างเป็นวงกลมจากนั้นรัศมีแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา ดูเหมือน แจ็คจะสําเร็จวิชาประตูมิติเวทย์มนตร์แล้ว

 

ทันทีที่ประตูมิติเวทย์มนตร์นี้ปรากฏขึ้น แจ็ค ก็หันกลับไปมอง พ่อมดรุ่ยเคอ ที่ยืนรออยู่ที่ข้างหลังของเขา จากนั้นแจ็คก็เดินเข้าไปในประตูมิติเวทย์มนตร์ในที่สุด

 

“แจ็ค หวังว่านายจะรอดปลอดภัยกลับมา”เห็นแจ็คเดินเข้าไปในประตูมิติเวทย์มนตร์และ หายไป พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวพูดด้วยเสียงเบา ๆ

 

ตอนที่ 607 ทีม X-MEN เคลื่อนไหว

 

ฟ้าว!

 

ปั้ง ปั้ง ปั้ง

 

ลําแสงสีแดงนั้นพุ่งเข้ามาทางพวกเขาเร็วเกินไป โชคดีที่ J.A.R.V.I.S สามารถตอบสนองได้ทัน บังคับชุดเกราะไอรอนแมน 3 ตัว ไปข้างหน้าและรับการโจมตีแทน

 

ฟุ่ม!

 

ชุดเกราะไอรอนแมนที่ถูกทําลายได้ร่วงหล่นลงไปข้างร่างอย่างรวดเร็ว J.A.R.V.I.S ได้เร่งประสิทธิภาพของชุดเกราะโทนี่เพื่อถอยห่างจากสถานที่ตรงนั้น

 

“การโจมตีเมื่อครู่มีความรุนแรงของพลังงานมากกว่าระดับ 4 !”เห็นลําแสงสีแดงที่ทําลายชุดเกราะไอรอนแมนของตนเองไป โทนี่ รู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก

 

โทนี่มองไปที่กองทัพไอรอนแมนของเขาที่อยู่รอบด้านคลื่นพลังจากแรงทําลายนั้นส่งผลเสียหายให้กับกองทัพไอรอนแมนบางส่วนของเขา โชคดีที่ชุดเกราะไอรอนแมนที่ตนเองสวมอยู่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษไม่งั้นคงได้รับผลกระทบไปด้วย

 

“หึ่ม! ฉันไม่ได้เป็นคนหาเรื่องพวกมันก่อนแต่พวกมันกลับคิดจะจัดการฉันทันทีที่เห็น! ฉัน โทนี่ สตาร์ค ไม่ยอมอยู่นิ่งเฉยแบบนี้แน่ ๆ J.A.R.V.I.S เตรียมคําสั่งนาทัพ ฉันจะจัดการ สมาคมมิวแทนท์พวกนี้ ในฐานะพันธมิตรของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ถือซะว่าฉันจะช่วยพวกเขาในการจัดการปัญหาไปด้วยซะเลย”เห็นการโจมตีที่เพ่งเล็งมาที่ตนเอง โทนี่ รู้สึกโกรธมาก

 

“เจ้านายครับ ผมคิดว่านี้ไม่ใช่ความคิดที่ดี ผมไม่แนะนําให้คุณรู่วาม”ได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.V.I.S ไม่ได้ปฏิบัติตามคําสั่งแต่กล่าวเตือน

 

จากผลการวิเคราะห์ของ J.A.R.V.I.S พลังงานของ มิวแทนท์พวกนั้นแข็งแกร่งมาก และ ข้อมูลของศัตรูที่เขามีนั้นน้อยเกินไป หากโทนี้ ดื้อดึงเข้าปะทะกับศัตรูอาจนํามาซึ่งความเสียหายของ กองทัพไอรอนแมนจํานวนมาก นอกจากนี้อีกฝ่ายยังมี แมกนีโต ที่มีความสามารถในการควบคุม โลหะทุกชนิด ดังนั้น ชุดเกราะไอรอนแมนที่มีส่วนสร้างมาจากโลหะผสม ย่อมถูกจัดการและไม่สามารถดึงความแข็งแกร่งออกมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

“ไม่ใช่ความคิดที่ดี?ทําไม ฉัน โทนี่ สตาร์ค จะต้องกลัวเพียงเพราะเรื่องแค่นี้? “ได้ยินคําพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ รู้สึกไม่พอใจ

 

“แน่นอนว่าย่อมไม่เป็นเช่นนั้น แต่พวกเราควรแจ้งศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก่อนเพื่อได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขา” ภายใต้การซักถามของ โทนี่ J.A.R.V.I.S แนะนําอีกครั้ง

 

“นายต้องการให้ ฉัน ไอรอนแมน คอยหลบหลังคนอื่นเวลาต่อสู้หรือยังไง J.A.R.V.I.S นายเริ่ม มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์ขึ้นทุกที ก็ได้ ฉันจะแจ้งข่าวให้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้และรอคําตอบ จากพวกเขา ตอนนี้พวกเราคงเป็นได้แค่ของเล่นของพวกมันเท่านั้นละมั้ง?”โทนี่ รู้สึกสนใจในคําพูดของ J.A.R.V.I.S

 

ปั้ง

 

ปั้ง

 

จากนั้นการโจมตีประหลาดก็พุ่งมาอีกครั้ง โทนี่ ได้บังคับชุดเกราะไอรอนแมนบินขึ้นไปข้างบน จากนั้น ก็แจ้งศาสตราจารย์ชาร์ลส์และรอคําตอบจากฝั่งนั้น โทนี่ ได้คอยสังเกตุเฝ้าระวังอยู่ห่าง ๆ ภายใต้การตรวจสอบของ J.A.R.V.I.S พวกเขาตรวจพบคลื่นพลังจากมิวแทนท์ที่แข็งแกร่งเหล่านั้น

 

ขณะที่โทนี่กําลังลอยบนอากาศและคอยสังเกตุการณ์ตอนนี้ ไอซ์แมน และ บลิงก์ กําลังดื่มกาแฟและสนทนากันที่คาเฟ่ ในวอชิงตัน ก่อนหน้านี้ พวกเขาเป็นกังวลเรื่องมิราจในท์ที่หายตัวไป แต่ตอนนี้มิราจในท์ได้กลับมาแล้วไม่มีอะไรต้องกังวล มิราจไนท์ขณะนี้ได้ ถูกส่งออกไปจัดการแมนดาริน ดังนั้น ตอนนี้พวกเขาจึงไม่มีอะไรให้ทําเลยนั่งพักผ่อนในวอชิงตันเล่นสักพัก

 

“มิราจไนท์ ออกไปจัดการปัญหาแล้ว คงไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวล นอกจากนี้ฉันชักอยากจะรู้จักใบหน้าที่แท้จริงภายใต้หน้ากากของเขาซะแล้วสิ”ไอซ์แมนยกแก้วกาแฟและกล่าวออกมา

 

เมื่อครู่ ไอซ์แมนได้ดูการถ่ายทอดสดของ โทนี่ สตาร์ค และ รู้ว่า โทนี่ ได้จัดการผู้ก่อการร้ายที่บุกทําเนียบขาวสําเร็จแล้ว ดังนั้นตอนนี้ ในวอชิงตัน จึงค่อนข้างกลับมาสงบสุขอีกครั้ง

 

“อืม.เขาแข็งแกร่งมาก และฉันก็เชื่อว่าเขาเป็นคนที่น่าควรคบหาเอาไว้”ได้ยินคําพูดของ ไอซ์แมน บลิงก์กล่าวเห็นด้วย

 

“ใช่,ฉันเองก็คิดแบบนั้น ฉันว่า…”ไอซ์แทนที่กําลังจะพูดอะไรต่อ เขาได้ยินเสียงแจ้งเตือนบนกําลังไลข้อมือ

 

ได้ยินเสียงแจ้งเตือนที่กําไลข้อมือ ไอซ์แมน และ บลิงก์ ก็มีสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที จากนั้น บนข้อมือของเขาก็ปรากฏหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ขึ้น

 

“โทนี่ สตาร์ค ตรวจพบ สมาคมมิวแทนท์ที่กําลังเคลื่อนไหว ตอนนี้เขากําลังปะทะกับพวกสไตรเกอร์อยู่ รีบส่งพวกเราไปสมทบทันที และ จัดการควบคุมสถานการณ์ให้ได้”ใบหน้าของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้โผล่ออกมาแจ้งเตือนข่าวสารกับไอซ์แมน

 

” พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว? บลิงก์พวกเรารีบไปกันเถอะ”ไอซ์แมนตอบรับคําสั่งในทันทีและกล่าวกับบลิงก์

 

“อืม”

 

ฟุบ!

 

ไอซ์แมน และ บลิงก์ ได้เดินออกจากคาเฟ่ ไปบนพื้นถนน จากนั้นก็เดินไปยังตรอกซอยที่ไร้ผู้คน ไม่นาน บลิงก์ ได้ใช้ความสามารถของเธอออกมาทันที

 

ปลายทางของพวกเขาก็คือฐานใหญ่ของทีม X-MEN พวกเขาจะต้องรวบรวมกําลังคนและเตรียมพร้อมต่อกรกับสมาคมมิวแทนท์เหล่านี้ แมกนีโต ได้ส่งกองกําลัง มิวแทนท์ หัวกระทิของตนเองออกมา ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ให้ความสําคัญกับเรื่องนี้มาก ดังนั้น พวกเขาจะต้องวางแผนและเคลื่อนไหวหยุดคนเหล่านั้นโดยเร็วที่สุด

 

ทางด้านแจ็คสันในเม็กซิโก แจ็คสัน ที่กําลังเคลื่อนไหวจัดการ แมนดารินอยู่ เขาก็ได้รับข่าวล่าสุดจากพวกโทนี่ ว่าสามารถระงับเหตุทั้งหมดใน วอชิงตันได้แล้ว

 

ตอนที่ 606 สมาคมมิวแทนท์

 

จนถึงตอนนี้โทนี่ก็ยังคงถูกคลื่นสัญญาณรบกวนอยู่ทําให้ไม่สามารถระบุสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลที่เขารู้สึกได้ โทนี่ พยายามที่จะสํารวจต่อไป

 

ขณะที่โทนี่พยายามสํารวจ J.A.R.V.S ก็ตรวจพบคลื่นพลังงานที่แข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

 

“เจ้านายครับ,ตรวจพบคลื่นพลังที่มีความรุนแรงมากกว่าระดับ 3 อีกครั้ง!”

 

หืม!

 

ทันทีที่ J.A.R.V.I.S กล่าวเตือนเสร็จ อาคารด้านล่างก็ปรากฏแรงสั่นสะเทือนอย่างแปลกประหลาด คลื่นพลังที่มองไม่เห็นได้กระแทกศูนย์กลางย่านตัวเมืองที่ด้านล่าง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้แม้จะเป็น โทนี่ ในตอนนี้ก็ไม่อาจประเมินสถานการณ์ได้ ไม่เพียงแค่ตัวอาคารรอบด้านเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แม้แต่ชุดเกราะไอรอนแมน หลายสิบตัวก็ได้รับความเสียหายจากคลื่นแรงกระแทกนี้

 

คลื่น!

 

J.A.R.V.I.S เองก็เริ่มวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เพราะเวลาน้อยเกินไปทําให้ไม่สามารถด่วนสรุปได้ คลื่นความรุนแรงเหล่านี้เริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อชุดเกราะไอรอนแมนมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

” J.A.R.V.S นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ถูกคลื่นพลังบางอย่างรบกวนชุดเกราะไอรอนแมน โทนี่ บ่นพึมพัมออกมา

 

“เจ้านายครับ คลื่นพลังที่ปรากฏขึ้นมีความแข็งแกร่งและแรงสั่นไหวที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ชุดเกราะไอรอนแมนของเราสร้างจากชิ้นส่วนโลหะผสมที่ดีที่สุด คุณไม่จําเป็นว่าชุดเกราะไอรอน แมนจะได้รับความเสียหาย” J.A.R.V.IS กล่าวเตือน

 

“ฉันรู้ว่าชุดเกราะของฉันใช้ชิ้นส่วนโลหะผสมสร้างมันขึ้นมา แต่ฉันต้องการรู้สถานการณ์ที่กําลังจะเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? นอกจากนี้ ชุดเกราะไอรอนแมนยังได้รับผลกระทบจากคลื่นพลังที่ว่านี้ โทนี่ กล่าวถามออกมา

 

เดิมเขาคิดว่าต้นต่อแท้จริงแล้วคือพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสที่หลบซ่อนตัวอยู่ แต่หลังจากลงมาที่ ข้างล่างโทนกลับพบคลื่นพลังงานที่แปลกประหลาดซ้ํายังโจมตีตนเอง

 

“กําลังสแกนโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง” J.A.R.V.S กล่าวตอบ

 

ภายใต้การสแกนที่รุนแรงของ J.A.R.V.I.S การวิเคราะห์เสียงของเขารุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ J.A.R.VIS สามารถได้ยินเสียงรอบด้านที่เกิดในภูมิภาคแห่งนี้ได้ชัดเจน

 

ฟุ่บ!

 

หลังจาก J.A.R.V.I.S ได้สแกนพื้นที่ภูมิภาคแห่งนี้พวกเขาก็ตรวจพบคลื่นเสียงที่มีด้วยกันหลายคนจากนั้นภาพเงาจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นบนหน้ากากหมวกของโทนี่

 

โทนี่ ได้จ้องมองไปที่ข้อมูลสําคัญที่ J.A.R.V.I.S เพิ่งตรวจค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ เท่าที่ดูจากการพูดคุยของพวกเขา โทนี่ รู้ได้ในทันทีว่าคนเหล่านี้ คือสมาคมมิวแทนท์ ทั้งพวกเขายังดําเนินการเคลื่อนไหวบางอย่าง

 

“สมาคมมิวแทนท์?นี้ไม่ใช่ว่าพวกเขาคือศัตรูของ ทีมX-MEN ของศาสตราจารย์ชาร์ลส์หรอกหรอ?”โทนี่ บ่นพึมพัมออกมา

 

“จากการตรวจสอบข้อมูลใบหน้ารูปพรรณจากพวกเขาทั้ง 5 คน ตรงตามข้อมูลที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์แจ้งบอกต่อเรา และ บุคคลสําคัญของ สมาคมมิวแทนท์อย่าง แมกนีโต มิวแทนท์ระดับ 4 ก็อยู่ในกลุ่มตอนนี้ด้วย ส่วนพวกที่เหลือ ก็คือ สมาชิกหลักของสมาคมมิวแทนท์ พวกเขาเป็น มิวแทนท์ระดับ 4เป็นอย่างต่ำ” J.A.R.V.IS ระบุตัวตนของเป้าหมายให้โทนี่รู้

 

“หืม? แมกนีโต ก็อยู่ที่นี่ด้วย?”ได้ยิน J.A.R.V.1.S บอกว่า แมกนีโต เองก็อยู่ที่นี่ สีหน้าของโทนี่ ไม่ค่อยสู้ดีนัก

 

เหตุผลที่โทนี้มีสีหน้าไม่สู้ดีก็เพราะ ชุดเกราะไอรอนแมน ,ชุดเกราะไอรอนแมนเป็นผลงานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสูง ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ประสิทธิ์ ภาพการต่อสู้สามารถเทียบได้กับกองทัพหนึ่งกองทัพ ยิ่งเป็นชุดเกราะไอรอนแมนรุ่นล่าสุดด้วยแล้วประสิทธิภาพย่อมดีขึ้นอย่างมาก หาก เป็นชุดเกราะไอรอนแมนในตอนนี้ เผชิญหน้า กับ ควิกซิลเวอร์อีกครั้ง โทนี่ ยังจะพอจัดการเคลียปัญหาเก่า ๆ ได้

 

อย่างไรก็ตามชุดเกราะไอรอนแมนถูกสร้างขึ้นจากโลหะผสมนวนมากทั้งยังเป็นวัสดุเทคโนโลยีระดับสูง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นโลหะอยู่ดี และ แมกนีโต มีความสามารถในการควบคุมโลหะทุกชนิด หากต้องเผชิญหน้ากับแมกนีโต ด้วยชุดเกราะไอรอนแมนของเขา โทนี้ เชื่อว่าชุดเกราะไอรอนแมนของตนเองย่อมไม่สามารถแสดงความแข็งแกร่งของตนเองออกมาได้แม้จะเป็น เพียงแค่ 10 % ก็ตาม

 

“แมกนีโต ได้เคลื่อนขุมพลังสมาชิกหลักของเขาอาจเป็นไปได้ว่าเขามีแผนการบางอย่าง”โทนี่ รู้สึกสงสัยอย่างมาก

 

“ไม่สามารถระบุสิ่งที่อีกฝ่ายจะทําได้อย่างแน่ชัด จากคําแนะนําของผม ฝ่ายตรงข้าม แข็งแกร่งเกินไป ผมแนะนําให้คุณหลีกเลี่ยงพวกเขาในตอนนี้ J.A.R.V.I.S กล่าวแนะนํา

 

“ฉันรู้ พวกเราต้องซ่อนตัวกันก่อนไว้ค่อยว่ากันอีกที เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะจัดการเองคน เดียวได้ คงจะต้องแจ้งให้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้” พอเห็นว่าศัตรูคือแมกนีโตทั้งยังพาสมาชิกแต่ละคนที่แข็งแกร่งมาด้วย โทนี่ ไม่ต้องการเข้าไปยุ่ง เขารู้ดีว่าหากตนเองเข้าไปแบบไม่เตรียมแผนการอะไรมาเลยย่อมมีจุดจบไม่ค่อยดีนัก

 

“เข้าใจแล้วครับ ผมจะแจ้งต่อศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตอนนี้พวกเราควรออกจากที่นี่ก่อนโดย เร็ว”ได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.V.I.S ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนเตรียมจะบินไปจากที่นี่

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่โทนี่ไม่ได้วางแผนเตรียมที่จะเข้าไปยุ่งกับสถานการณ์ที่กําลังจะเกิดขึ้น จู่ ๆ ก็มีแสง สีแดงประหลาดพุ่งทะลุอาคารด้านล่างตรงมายังตําแหน่งพวกเขา

 

“แย่แล้ว!”เห็นแสงสีแดงพุ่งเข้ามาทางด้านตนเอง โทนี อุทานออกมา

 

กัปตันโรเจอร์สนั้นไม่ได้เป็นห่วงเรื่องความกังวลเกี่ยวกับสภาความมั่นคงของโลกเเม้เเต่น้อย เพราะเมื่อศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพวกคิลเลี่ยน เเละ ทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ก็คือคนในสภาความมั่นคงของโลก เท่านี้ทุกอย่างก็ลงตัว

 

หนึ่งในคณะสภาความมั่นคงของโลกเหล่านี้เคยปฏิเสธตัวตนของ นิว ฟิวรี่ เเละ เลือกกัปตันอเมริกา เข้ามาบริหารองค์กร S.H.I.E.L.D. เเทน เเต่ถึงอย่างนั้น นิค ก็ยังทิ้งขุมกำลังหรือคนรู้จักของตัวเองเอาไว้ หลังจากกัปตันโรเจอร์สเข้ามาบริหารองค์กร S.H.I.E.L.D. ,องค์กรS.H.I.E.L.D. ก็ถูกเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณชน ดังนั้นพวกคนเหล่านั้นคงคิดว่ากัปตันโรเจอร์สคงไม่สามารถทำอะไรอย่างเปิดเผยได้

 

ดังนั้นสมาชิกสภาความมั่นคงของโลกคนนี้คงต้องการดับอนาคตของ นิค ฟิวรี่ เเละ กัปตันโรเจอร์ส จริง ๆ พวกเขาไม่ต้องการให้องค์กร S.H.I.E.L.D. มีอำนาจเหนือกว่าพวกเขา เเต่อย่างไรก็ตาม กัปตันโรเจอร์ส ก็มีโอกาสที่จะสามารถกำจัดคณะสมาชิกสภาความมั่นคงของโลกทั้งหมดได้ในคราวเดียว เนื่องเพราะพวกเขาบางคนกล้าที่จะใช้ทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านั้นมาข่มขู่ สาธารณชน ดังนั้น กัปตันโรเจอร์ส จะไม่ยอมอ่อนข้อให้อีก

 

“วอชิงตัน,นิวยอร์ก,ลอสเเองเจลิส ชิคาโก เเละ เมืองอื่น ๆ หากตรวจพบการปรากฏตัวของทหารเอ็กซ์ทรีมิส สั่งการชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อสนับสนุนการโจมตีในทันที”ในสำนักงาน S.H.I.E.L.D. วอชิงตัน เสียงของโทนี่ ได้กล่าวบอก J.A.R.V.I.S

 

ในสำนักงานใหญ่โทนี่ที่ฟื้นคืนสภาพบาดเเผลได้กลับมาควบคุมกำลังทหารของตนเองอีกครั้ง เเต่คราวนี้ ตนเองมี มิราจไนท์ เเจ็คสัน เเละ สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ คอยสนับสนุน เเผนการอยู่เบื้องหลัง

 

ข่าวเรื่องที่โทนี่ฟื้นตัวนั้นยังไม่ได้ถูกเปิดเผยออกไป เพราะไม่งั้นจะสร้างความตื่นตัวให้พวกคนในคณะสภาความมั่นคงของโลก ดังนั้น โทนี่ จึงเเสร้งว่าตนเองบาดเจ็บสาหัส เเละ เเอบเคลื่อนไหวอย่างลับ ๆนอกจากนี้ โทนี่ เเละ กัปตันโรเจอร์สยังขอให้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ช่วยอำพรางสถานที่เเห่งนี้ในห้องพยาบาลให้อีกด้วย เเม้บุคคลภายนอกจะผ่านมาเห็นก็คงมองไม่ออกถึงความจริงที่พวกเขาซ่อนเอาไว้

 

“เจอตัวคิลเลี่ยนหรือยัง?”ขณะที่โทนี่กำลัฝวางเเผนซุ่มโจมตีอย่างเงียบ ๆ เขาก็จ้องมองไปที่ เเผนที่โฮโลเเกรมที่ส่องสว่างเบื้องหน้า

 

ในเวลานี้โทนี่ต้องขอบคุณ คิลเลี่ยน ที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพนี้ เพราะงี้เขาถึงมีโอกาสที่จะซุ่มโจมตีคิลเลี่ยนเเละปิดฉากในทีเดียว เเน่นอนว่า โทนี่ จะต้องตอบเเทนคิลเลี่ยนให้สาสมกับบาดเเผลที่ตนเองได้รับอย่างเเน่นอน

 

“ยังตรวจไม่พบวี่เเววของเขา เเต่ ดูเหมือน จะตรวจพบทหารเอ็กซ์ทรีมิส ในวอชิงตัน เเละ เมืองอื่น ๆ เท่าที่ตรวจสอบ พวกมันมีมากกว่า 50 คน เเละ ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ “ได้ยินคำถามของโทนี่ J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“เป็นอย่างที่ฉันคิดเอาไว้ บางทีพวกมันอาจคิดจะยึดทำเนียบขาวก็เป็นได้”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ราวกับว่าสามารถคาดเดาได้

 

“ทำเนียบขาว?ฟังดูน่าตื่นเต้นไม่น้อย!”เเจ็คสันที่อยู่ด้านหลังได้ยินคำพูดของโทนี่เขารู้สึกตื่นเต้นในใจอย่างบอกไม่ถูก

 

ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน เคยดูภาพยนตร์หลายเรื่อง เเละ หนึ่งในนั้นมีเรื่องที่เกี่ยวกับ ศาสตราจารย์ X เเละ เเมกนีโต,ในเรื่องนี้ ศาสตราจารย์ X ได้ปกป้องทำเนียบขาวจากการรุกรานเเละบุกยึดของ เเมกนีโต ได้

 

ดังนั้นเเจ็คสันจึงมีความคาดหวังเล็กน้อยว่าจะเห็นพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้บุกยึดทำเนียบขาว

 

“มิราจไนท์ คุณคิดว่าไง? คิลเลี่ยน ดูเหมือน จะมีจุดประสงค์เเอบเเฝงจริง ๆ หรือว่า เขาตั้งใจที่จะระเบิดเมืองใหญ่ตามเเห่งต่าง ๆ ?”เห็นการเเสดงออกของเเจ็คสัน ปีเตอร์ กล่าวถามออกมา

 

“การโจมตีด้วยระเบิด ฉันคิดว่ามันคงจะเกิดขึ้นอย่างเเน่นอน เเรงระเบิดชีวภาพของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส สามารถสร้างความหวาดกลัวให้สาธารณชนจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ หากไม่ได้ ผู้สืบเชื้อสายเเรกเริ่มของโลก อย่างเหล่าพ่อมด ช่วยเอาไว้ นครนิวยอร์กในตอนนั้นคงเกือบโดนลบหายออกไปจากเเผนที่ ดังนั้น สิ่งที่พวกเราต้องพึงระวังคือจะต้องไม่เปิดโอกาสให้พวกมันมีโอกาสได้ทำอีกครั้ง”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ เเจ็คสัน ตอบกลับอย่างไม่ลังเล

 

“ใช่เเล้ว คุณ สตาร์ค หากพวกเราปล่อยมันทำได้สำเร็จ จะต้องมีผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องบาดเจ็บล้มตายอย่างเเน่นอน ดังนั้น ตอนนี้ พวกเราจะต้องร่วมมือกัน ไอรอนแมน ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ S.H.I.E.L.D. เเละ ทีม X-MEN เพื่อเเก้ไขปัญหาเเละหยุดยั้งทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ พวกเราจะต้องทุ่มเต็มกำลัง”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน ปีเตอร์ เชื่อมั่นในเส้นทางนี้

 

“หลังจากเราเเก้ไขปัญหาสถานการณ์ทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ได้สำเร็จ เรื่องมอง หา คิลเลี่ยน ฉันคิดว่าไม่นานก็คงเจอตัวเขาอย่างเเน่นอน เมื่อเขาเห็นว่าคุณสตาร์คปรากฏตัวขึ้น เขาจะต้องร้อนรนจนเเทบอยากจะออกมาหาคุณไม่ไหวเเน่ ๆ”เเจ็คสันสามารถคาดเดาสถานการณ์คร่าว ๆ ได้ คิลเลี่ยน ได้ส่งทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ ออกมาสร้างปัญหา เเละ ถ้าหาก กองทัพไอรอนแมนหรือสัมพันธมิตร ได้รับชัยชนะ คิลเลี่ยน จะต้องออกมาเคลื่อนไหวเเผนต่อไปอย่างเเน่นอน

 

หากรวมกองกำลังทั้งหมดที่พวกเขามีเข้าด้วยกัน เเจ็คสัน คิดว่า คราวนี้คงไม่มีปัญหาที่จะจัดการพวก ทหารเอ็กซ์ทรีมิส ยิ่งไปกว่านั้น หน้าที่ กำจัดหนอนอย่างพวกสภาความมั่นคงของโลก ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ ของกัปตันโรเจอร์ส

 

“เจ้านายครับ ตรวจพบตัวของคิลเลี่ยน ในวอชิงตัน.”ขณะที่พวกเเจ็คสันเเละคนอื่น ๆ กำลังสนทนากัน เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้เเจ้งเตือน

 

“คิลเลี่ยน ในที่สุดเเกก็ปรากฏตัว!”ได้ข่าวว่าคิลเลี่ยนปรากฏตัว ดวงตาของ โทนี่ เผยเเววตาที่รุนเเรงออกมา

 

 

“ทำเนียบขาว เป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ฉันชักอยากจะรู้เเล้วว่าถ้ามันถูกลบหายไปด้วยระเบิด จะสร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนได้มากน้อยเเค่ไหนกันนะ ชักตื่นเต้นเเล้วสิ”ขณะเดียวกัน คิลเลี่ยน ที่ยืนไม่ไกลจากทำเนียบขาว ได้กล่าวพูดออกมา

 

เเจ็คสันนั้นพอจะสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของคิลเลี่ยนได้ก็จริง เเต่เขาก็คงไม่คาดคิดว่าเป้าหมายของคิลเลี่ยนไม่ใช่การยึดทำเนียบขาวเเต่เป็นการทำลาย เเต่ที่น่าเสียดายก็คือ ตอนนี้ คิลเลี่ยน ได้ถูกพบโดย J.A.R.V.I.S เสียก่อน เเผนการทำลายทำเนียบขาวของเขาคงจะไม่ง่ายดายนัก

 

“เริ่มเเผนการได้!”คิลเลี่ยนมองไปที่ทำเนียบขาวพร้อมกับกล่าวสั่งการผ่านวิทยุสื่อสารของเขา

กัปตันโรเจอร์สนั้นไม่ได้เป็นห่วงเรื่องความกังวลเกี่ยวกับสภาความมั่นคงของโลกเเม้เเต่น้อย เพราะเมื่อศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพวกคิลเลี่ยน เเละ ทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ก็คือคนในสภาความมั่นคงของโลก เท่านี้ทุกอย่างก็ลงตัว

 

หนึ่งในคณะสภาความมั่นคงของโลกเหล่านี้เคยปฏิเสธตัวตนของ นิว ฟิวรี่ เเละ เลือกกัปตันอเมริกา เข้ามาบริหารองค์กร S.H.I.E.L.D. เเทน เเต่ถึงอย่างนั้น นิค ก็ยังทิ้งขุมกำลังหรือคนรู้จักของตัวเองเอาไว้ หลังจากกัปตันโรเจอร์สเข้ามาบริหารองค์กร S.H.I.E.L.D. ,องค์กรS.H.I.E.L.D. ก็ถูกเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณชน ดังนั้นพวกคนเหล่านั้นคงคิดว่ากัปตันโรเจอร์สคงไม่สามารถทำอะไรอย่างเปิดเผยได้

 

ดังนั้นสมาชิกสภาความมั่นคงของโลกคนนี้คงต้องการดับอนาคตของ นิค ฟิวรี่ เเละ กัปตันโรเจอร์ส จริง ๆ พวกเขาไม่ต้องการให้องค์กร S.H.I.E.L.D. มีอำนาจเหนือกว่าพวกเขา เเต่อย่างไรก็ตาม กัปตันโรเจอร์ส ก็มีโอกาสที่จะสามารถกำจัดคณะสมาชิกสภาความมั่นคงของโลกทั้งหมดได้ในคราวเดียว เนื่องเพราะพวกเขาบางคนกล้าที่จะใช้ทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านั้นมาข่มขู่ สาธารณชน ดังนั้น กัปตันโรเจอร์ส จะไม่ยอมอ่อนข้อให้อีก

 

“วอชิงตัน,นิวยอร์ก,ลอสเเองเจลิส ชิคาโก เเละ เมืองอื่น ๆ หากตรวจพบการปรากฏตัวของทหารเอ็กซ์ทรีมิส สั่งการชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อสนับสนุนการโจมตีในทันที”ในสำนักงาน S.H.I.E.L.D. วอชิงตัน เสียงของโทนี่ ได้กล่าวบอก J.A.R.V.I.S

 

ในสำนักงานใหญ่โทนี่ที่ฟื้นคืนสภาพบาดเเผลได้กลับมาควบคุมกำลังทหารของตนเองอีกครั้ง เเต่คราวนี้ ตนเองมี มิราจไนท์ เเจ็คสัน เเละ สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ คอยสนับสนุน เเผนการอยู่เบื้องหลัง

 

ข่าวเรื่องที่โทนี่ฟื้นตัวนั้นยังไม่ได้ถูกเปิดเผยออกไป เพราะไม่งั้นจะสร้างความตื่นตัวให้พวกคนในคณะสภาความมั่นคงของโลก ดังนั้น โทนี่ จึงเเสร้งว่าตนเองบาดเจ็บสาหัส เเละ เเอบเคลื่อนไหวอย่างลับ ๆนอกจากนี้ โทนี่ เเละ กัปตันโรเจอร์สยังขอให้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ช่วยอำพรางสถานที่เเห่งนี้ในห้องพยาบาลให้อีกด้วย เเม้บุคคลภายนอกจะผ่านมาเห็นก็คงมองไม่ออกถึงความจริงที่พวกเขาซ่อนเอาไว้

 

“เจอตัวคิลเลี่ยนหรือยัง?”ขณะที่โทนี่กำลัฝวางเเผนซุ่มโจมตีอย่างเงียบ ๆ เขาก็จ้องมองไปที่ เเผนที่โฮโลเเกรมที่ส่องสว่างเบื้องหน้า

 

ในเวลานี้โทนี่ต้องขอบคุณ คิลเลี่ยน ที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพนี้ เพราะงี้เขาถึงมีโอกาสที่จะซุ่มโจมตีคิลเลี่ยนเเละปิดฉากในทีเดียว เเน่นอนว่า โทนี่ จะต้องตอบเเทนคิลเลี่ยนให้สาสมกับบาดเเผลที่ตนเองได้รับอย่างเเน่นอน

 

“ยังตรวจไม่พบวี่เเววของเขา เเต่ ดูเหมือน จะตรวจพบทหารเอ็กซ์ทรีมิส ในวอชิงตัน เเละ เมืองอื่น ๆ เท่าที่ตรวจสอบ พวกมันมีมากกว่า 50 คน เเละ ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ “ได้ยินคำถามของโทนี่ J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“เป็นอย่างที่ฉันคิดเอาไว้ บางทีพวกมันอาจคิดจะยึดทำเนียบขาวก็เป็นได้”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ราวกับว่าสามารถคาดเดาได้

 

“ทำเนียบขาว?ฟังดูน่าตื่นเต้นไม่น้อย!”เเจ็คสันที่อยู่ด้านหลังได้ยินคำพูดของโทนี่เขารู้สึกตื่นเต้นในใจอย่างบอกไม่ถูก

 

ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน เคยดูภาพยนตร์หลายเรื่อง เเละ หนึ่งในนั้นมีเรื่องที่เกี่ยวกับ ศาสตราจารย์ X เเละ เเมกนีโต,ในเรื่องนี้ ศาสตราจารย์ X ได้ปกป้องทำเนียบขาวจากการรุกรานเเละบุกยึดของ เเมกนีโต ได้

 

ดังนั้นเเจ็คสันจึงมีความคาดหวังเล็กน้อยว่าจะเห็นพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้บุกยึดทำเนียบขาว

 

“มิราจไนท์ คุณคิดว่าไง? คิลเลี่ยน ดูเหมือน จะมีจุดประสงค์เเอบเเฝงจริง ๆ หรือว่า เขาตั้งใจที่จะระเบิดเมืองใหญ่ตามเเห่งต่าง ๆ ?”เห็นการเเสดงออกของเเจ็คสัน ปีเตอร์ กล่าวถามออกมา

 

“การโจมตีด้วยระเบิด ฉันคิดว่ามันคงจะเกิดขึ้นอย่างเเน่นอน เเรงระเบิดชีวภาพของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส สามารถสร้างความหวาดกลัวให้สาธารณชนจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ หากไม่ได้ ผู้สืบเชื้อสายเเรกเริ่มของโลก อย่างเหล่าพ่อมด ช่วยเอาไว้ นครนิวยอร์กในตอนนั้นคงเกือบโดนลบหายออกไปจากเเผนที่ ดังนั้น สิ่งที่พวกเราต้องพึงระวังคือจะต้องไม่เปิดโอกาสให้พวกมันมีโอกาสได้ทำอีกครั้ง”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ เเจ็คสัน ตอบกลับอย่างไม่ลังเล

 

“ใช่เเล้ว คุณ สตาร์ค หากพวกเราปล่อยมันทำได้สำเร็จ จะต้องมีผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องบาดเจ็บล้มตายอย่างเเน่นอน ดังนั้น ตอนนี้ พวกเราจะต้องร่วมมือกัน ไอรอนแมน ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ S.H.I.E.L.D. เเละ ทีม X-MEN เพื่อเเก้ไขปัญหาเเละหยุดยั้งทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ พวกเราจะต้องทุ่มเต็มกำลัง”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน ปีเตอร์ เชื่อมั่นในเส้นทางนี้

 

“หลังจากเราเเก้ไขปัญหาสถานการณ์ทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ได้สำเร็จ เรื่องมอง หา คิลเลี่ยน ฉันคิดว่าไม่นานก็คงเจอตัวเขาอย่างเเน่นอน เมื่อเขาเห็นว่าคุณสตาร์คปรากฏตัวขึ้น เขาจะต้องร้อนรนจนเเทบอยากจะออกมาหาคุณไม่ไหวเเน่ ๆ”เเจ็คสันสามารถคาดเดาสถานการณ์คร่าว ๆ ได้ คิลเลี่ยน ได้ส่งทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ ออกมาสร้างปัญหา เเละ ถ้าหาก กองทัพไอรอนแมนหรือสัมพันธมิตร ได้รับชัยชนะ คิลเลี่ยน จะต้องออกมาเคลื่อนไหวเเผนต่อไปอย่างเเน่นอน

 

หากรวมกองกำลังทั้งหมดที่พวกเขามีเข้าด้วยกัน เเจ็คสัน คิดว่า คราวนี้คงไม่มีปัญหาที่จะจัดการพวก ทหารเอ็กซ์ทรีมิส ยิ่งไปกว่านั้น หน้าที่ กำจัดหนอนอย่างพวกสภาความมั่นคงของโลก ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ ของกัปตันโรเจอร์ส

 

“เจ้านายครับ ตรวจพบตัวของคิลเลี่ยน ในวอชิงตัน.”ขณะที่พวกเเจ็คสันเเละคนอื่น ๆ กำลังสนทนากัน เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้เเจ้งเตือน

 

“คิลเลี่ยน ในที่สุดเเกก็ปรากฏตัว!”ได้ข่าวว่าคิลเลี่ยนปรากฏตัว ดวงตาของ โทนี่ เผยเเววตาที่รุนเเรงออกมา

 

 

“ทำเนียบขาว เป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ฉันชักอยากจะรู้เเล้วว่าถ้ามันถูกลบหายไปด้วยระเบิด จะสร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนได้มากน้อยเเค่ไหนกันนะ ชักตื่นเต้นเเล้วสิ”ขณะเดียวกัน คิลเลี่ยน ที่ยืนไม่ไกลจากทำเนียบขาว ได้กล่าวพูดออกมา

 

เเจ็คสันนั้นพอจะสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของคิลเลี่ยนได้ก็จริง เเต่เขาก็คงไม่คาดคิดว่าเป้าหมายของคิลเลี่ยนไม่ใช่การยึดทำเนียบขาวเเต่เป็นการทำลาย เเต่ที่น่าเสียดายก็คือ ตอนนี้ คิลเลี่ยน ได้ถูกพบโดย J.A.R.V.I.S เสียก่อน เเผนการทำลายทำเนียบขาวของเขาคงจะไม่ง่ายดายนัก

 

“เริ่มเเผนการได้!”คิลเลี่ยนมองไปที่ทำเนียบขาวพร้อมกับกล่าวสั่งการผ่านวิทยุสื่อสารของเขา

“ไอรอนแมนหายไปไหน?”

 

“พวกเราต้องการไอรอนแมน!”

 

“ไอรอนแมนได้รับบาดเจ็บสาหัส?นี่เป็นความจริงงั้นหรอ?พวกเราไม่เชื่อพวกเราต้องการความจริง”

 

“S.H.I.E.L.D.? ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์?กัปตันอเมริกา พวกคุณจะไม่ออกมาอธิบายสถานการณ์หน่อยหรอ?”

 

ในขณะนี้ทาง S.H.I.E.L.D. กำลังเร่งควบคุมเหตุการณ์ชลมุนเกี่ยวกับการเเสดงความคิดเห็นของประชาชนอยู่ ข่าวที่ไอรอนแมนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกเเพร่กระจายออกไปตามสื่อต่าง ๆ เพราะชื่อเสียงของไอรอนแมนสูงมากทำให้พวกเขาไม่สามารถปิดบังเรื่องของไอรอนแมนเอาไว้ได้

 

ดูเหมือนว่าคิลเลี่ยนจะวางเเผนเเพร่กระจายข่าวสารออกไปเรื่องที่ไอรอนแมนได้รับบาดเจ็บสาหัสหากนี่เป็นจริงขึ้นมา ผู้คนก็จะหวาดกลัว ทหารเอ็กซ์ทรีมิสมากขึ้น ศัตรูที่ไอรอนแมนไม่สามารถจัดการได้ คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถต้านทานได้อย่างไร ดังนั้นคิลเลี่ยนจึงบรรลุจุดประสงค์เเรกก็คือการทำให้ผู้คนธรรมดาทั่วไปต่างหวาดกลัวจากนั้นเมื่อไม่มีคนที่จะสามารถหยุดเขาได้เขาก็จะโค่นล้มอำนาจทางการเมืองของประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดของโลกนี้เป็นอันดับต่อไป

 

ในเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ออกไปไกลจากนครนิวยอร์ก หลังจากสั่งปฏิบัติการโจมตีโทนี่เสร็จ คิลเลี่ยน ก็เลือกมาซ่อนตัวในเมืองเล็ก ๆ เเห่งนี้ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ข่าวของไอรอนแมน

 

“โทนี่ สตาร์ค เเกโชคดีที่สามารถรอดไปได้ เเต่อย่างไรก็ตามเเม้เเกจะยังมีชีวิตอยู่เเต่สภาพของเเกในปัจจุบันก็คงไม่ต่างจากตายทั้งเป็น เมื่อไม่มีเเกอยู่ ใครเล่าจะเต็มใจยอมสละตนเองมาปกป้องคนอื่น ๆ ? เท่านี้พวกเราก็จะเริ่มเเผนการต่อไปได้ซักที”หลังจากเฝ้าระวังข้อมูลของไอรอนแมนอยู่ในที่ลับ คิลเลี่ยน ได้บ่นพึมพัมออกมา

 

เพื่อให้เเผนการก่อนหน้านี้สำเร็จ คิลเลี่ยน ได้มองข้ามเเมนดารินเเละเลือกปฏิบัติการเเผนของตนเองอย่างลับ ๆ เเละก็เป็นดั่งที่เขาคาด โทนี่ ได้เเอบติดต่อกับ มายา เเฮนเซ่น อย่างลับ ๆ

 

ผลการโจมตีครั้งก่อนนี้เเม้จะประสบความสำเร็จด้วยดี เเต่ก็ไม่ทำให้คิลเลี่ยนรู้สึกพึงพอใจ เพราะเขาไม่ได้ฆ่าโทนี่โดยตรง ดูเหมือนจะมีคนเข้ามาช่วยเหลือโทนี่ได้ทัน เเม้จะสามารถช่วยเหลือโทนี่ได้ เเต่คิลเลี่ยนเชื่อว่าโทนี่คงได้รับบาดเจ็บหนักพอสมควร หนทางที่อาจจะทำให้โทนี่ฟื้นตัวขึ้นมาได้ในเร็ว ๆ นี้ มันเเทบไม่มียกเว้นเเต่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสนี้ หากเป็นร่างกายพลังงานของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสการจะกลับมาเป็นปกติไม่ใช่เรื่องยาก

 

“ฉันคาดหวังกับนายไว้มากหลังจากจัดการโทนี่ได้สำเร็จสัญลักษณ์เเห่งสันติภาพพวกนั้นก็ย่อมถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง”ขณะเดียวกันบุคคลตรงข้ามคิลเลี่ยน ได้กล่าวออกมา

 

ดูเหมือนพวกเขาจะสื่อสารโดยใช้อุปกรณ์สื่อสารที่เปิดเผยภาพได้

 

“ความหวาดกลัวของสาธารณชนในตอนนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เราดำเนินเเผนการในขั้นต่อไปได้เเล้ว”บุคคลคนนี้ได้กล่าวพูดคุยกับคิลเลี่ยน

 

“ในที่สุดก็จะเริ่มเเผนการขั้นต่อไป?ฉันคิดว่าจะต้องซ่อนตัวไปอีกซักพักเสียอีก”ได้ยินคำพูดของฝ่ายตรงข้าม ใบหน้าของคิลเลี่ยนเผยให้เห็นความรุนเเรงอย่างเห็นได้ชัด

 

“เเม้ว่าจะเหลือกลุ่มต่อต้านอย่างพวก S.H.I.E.L.D. อยู่ เเต่เพื่อนกัปตันอเมริกาคนนี้ ไม่ใช่ศูนย์รวมกำลังใจเหมือนอดีตอีกเเล้ว มันก็เเค่ตะเกียงไฟที่ไร้เชื้อเพลิง สิ่งที่เราต้องการก็คือความหวาดกลัวที่สาธารณชนเเสดงออกมา ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี”ฝ่ายตรงข้ามคาดเดาความคิดของคิลเลี่ยนได้

 

“ฉันรู้,”ได้ยินคำพูดของฝ่ายตรงข้ามคิลเลี่ยนตอบกลับ

 

“อืม,ฉันรู้ว่านายเข้าใจเรื่องนี้ดีอย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญกับฉันว่านายจะคิดยังไง นอกจากนี้ เเมนดาริน เพื่อนของนาย ครั้งนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยชอบพฤติกรรมของนายเท่าไหร่”ได้ยินคำพูดอขงคิลเลี่ยน พฤติกรรมที่เขาหมายถึงก็คือคิลเลี่ยนใช้มายา เเฮนเซ่น เป็นเหยื่อล่อ เพื่อจัดการโทนี่

 

“ฮ่าฮ่า , ไม่พอใจ! เเล้วยังไง ทำอย่างกะฉันสนงั้นละ? มันก็เป็นเพียงเเค่หุ่นเชิด คิดว่าตนเองจะสามารถทำอะไรได้กัน”ได้ยินคำพูดของบุคคลคนนี้ คิลเลี่ยน พูดจาอย่างเหยียดหยาม

 

คิลเลี่ยนที่ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเมื่อไม่นานมานี้ เป็นเพียงหุ่นเชิดที่เก่งทักษะในการเเสดงเพียงเท่านั้น เเต่เพราะหุ่นเชิดคนนี้มีทักษะการเเสดงที่เก่งมากทำให้ ตัวตนของเเมนดารินค่อนข้างสมบูรณ์แบบ เเต่ คิลเลี่ยน ก็รู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังดี

 

“เรื่องความขัดเเย้งของนายฉันจะไม่เข้าไปยุ่ง ตราบใดที่มันไม่ส่งผลกระทบต่อเเผนการใหญ่ของเรา”บุคคลผู้นี้รู้ว่ คิลเลี่ยนไม่พอใจเเมนดาริน

 

“ไม่ต้องพูดอะไรเเล้ว ฉันจะไม่ให้เรื่องนี้มากระทบเเผนของเราอย่างเเน่นอน คุณ สามารถมั่นใจได้ ทุกอย่างเป็นไปตามเเผนที่ฉันวางเอาไว้”คิลเลี่ยนดูมั่นใจในเรื่องนี้อย่างมาก

 

“ฉันเองก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”หลังจากพูดคำนี้ออกไปการสื่อสารลับนี้ก็สิ้นสุดลง

 

จากนั้นคิลเลี่ยนก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เเละเดินไปที่หน้าต่างในบ้านธรรมดาเเห่งนี้ เนื่องเพราะเเผนการต่อไปของเขาไม่จำเป็นจะต้องหลบซ่อนตัวอีกต่อไป ตั้งเเต่วันนี้ คิลเลี่ยนจะทำให้ทั่วโลกรู้จักความหวาดกลัวที่เเท้จริง หากปราศจากการปกป้องของไอรอนแมน คนเหล่านี้ ก็ไม่ต่างจากไม้ประดับที่สามารถถูกทำลายได้อย่างง่าย เพื่อให้มีชีวิตรอดพวกมันจะต้องปฏิบัติตามกฏของผู้เเข็งเเกร่ง ตราบเท่าที่เเผนการของตนเองสำเร็จ ในอนาคตทั่วทั้งโลกจะตกเป็นของเขา เทคโนโลยีเอ็กซ์ทรีมิสจะครองทั่วทั้งโล

 

ขณะที่พวกคิลเลี่ยนกำลังจะเริ่มเเผนการของตนเอง ทาง S.H.I.E.L.D. ก็เริ่มเคลื่อนไหวเหมือนกัน กัปตันโรเจอร์ส ได้สอบสวนบุคคลที่เป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังที่ซ่อนตัวอยู่ในสภาความมั่นคงของโลก

ก่อนหน้านี้พวกปีเตอร์ที่เพิ่งเข้ามาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติดังนั้นพวกเขาจึงรีบเร่งเข้ามายังห้องผู้ป่วยเเห่งนี้

 

“ฉันไม่เป็นไรไม่ต้องห่วง!”

 

“คุณสตาร์คเองก็ปลอดภัยเเล้วเช่นเดียวกัน”ได้ยินเสียงของปีเตอร์ เเจ็คสันตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

“ฮ่าฮ่า, ฉันรู้อยู่เเล้ว มิราจไนท์ ทันทีที่คุณกลับมาย่อมพาเรื่องดี ๆ มาให้พวกเราเสมอ”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ไอซ์แมนพูดอย่างมีความสุข

 

ได้ยินว่า โทนี่ สตาร์ค ปลอดภัย ปีเตอร์ เองก็ผ่อนคลายลง ไอรอนแมน คือสัญลักษณ์ตัวเเทนเเห่งความสงบสุขของโลกในปัจจุบัน เเละ เเจ็คสันสามารถช่วยเหลือ ไอรอนแมนได้ นี่ย่อมเป็นข่าวดีอย่างเเน่นอน

 

นอกเหนือจากสายตาของปีเตอร์คนอื่น ๆ ที่อยู่นอกห้องผู้ป่วยเห็นเพียงเเค่โทนี่ที่นอนล้มอยู่บนเตียงเพียงเท่านั้นพวกเขาไม่เห็นเวน่อมที่ดิ้นไปมาอยู่ที่อีกมุมห้องนึง เเน่นอนว่าทัศนวิสัยน์ของพวกเขาตอนนี้ย่อมต้องให้ความสำคัญกับโทนี่ก่อนเป็นอันดับเเรก

 

ภายใต้สายตาของทุกคนดูเหมือนนิ้วมือของโทนี่จะเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยดวงตาทั้งสองข้างของเขาค่อย ๆ เปิดขึ้นอย่างช้า ๆ

 

“ดูเหมือนว่าพอเเยกเวน่อมออกจากร่างกายของโทนี่ได้ โทนี่ก็สามารถฟื้นคืนสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว”เห็นการเปลี่ยนเเปลงของโทนี่ มุมปากของเเจ็คสันยกขึ้นเล็กน้อย

 

เพราะโทนี่ถูกเวน่อมสิงอยู่ในร่างกายผลประสิทธิภาพการรักษาทั้งหมดย่อมถูกเวน่อมดูดซับไป เเต่พอหลังจากเวน่อมไม่อยู่ ผลประสิทธิภาพเหล่านั้นย่อมดำเนินการกับร่างกายของโทนี่ให้เขาฟื้นกลับมาโดยตรง

 

เห็นโทนี่เปิดตาทั้งสองข้างขึ้น กัปตันโรเจอร์ส ปีเตอร์ เเละ คนอื่น ๆ จ้องมองมาที่โทนี่พร้อมเพรียงกัน

 

“หืม?”

 

“ยินดีต้อนรับกลับมา คุณสตาร์ค”เห็นโทนี่เปิดตาขึ้น เเจ็คสันที่อยู่ข้างเตียงกล่าวพูดเป็นคนเเรก

 

“ยินดีด้วย โทนี่ ที่นายฟื้นขึ้นมาจากความตายได้สำเร็จ”เห็นมิราจไนท์กล่าวพูด กัปตันโรเจอร์ส เองก็พูดเเสดงความยินดี

 

อั๊ก!

 

“นี่ฉันหมดสติไปกี่วัน?”หลังจากฟื้นคืนสติกลับมาได้เสียงที่โทนี่กล่าวดูเงียบสงบอย่างเห็นได้ชัด

 

“เจ้านายครับ,คุณหมดสติไปทั้งหมด 27 ชั่วโมง 13 นาที 8 วินาที”หลังจากโทนี่กล่าวถาม เสียงของJ.A.R.V.I.S ได้ตอบกลับเขา

 

“J.A.R.V.I.S นายเองก็อยู่ด้วย?นี่ฉันอยู่ที่ไหน ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของฉันใช่มั้ย”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ถามอย่างสงสัย

 

“ที่นี่คือ วอชิงตัน, สำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. หลังจากที่นายถูกโจมตีโดยพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสจนหมดสตินายก็ถูกส่งมาที่นี่ โชคดีที่มิราจไนท์สามารถช่วยนายได้ไม่งั้นนายคงนอนหมดสติอีกหลายวัน”ได้ยินปัญหาของโทนี่ กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

“มิราจไนท์?อ่อ นายช่วยฉันไว้?”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส ว่า มิราจไนท์ ช่วยตนเอง โทนี่ เกือบจะหลุดพูดชื่อ เเจ็คสัน ออกมา เเต่ก็ห้ามเสียงได้ทัน

 

เพราะโทนี่รู้ว่าในปัจจุบัน มิราจไนท์ ไม่ได้ปรากฏตัวในฐานะของเเจ็คสัน เเม้ เเจ็คสันจะเป็นเด็กน้อยที่เรียนอยู่โรงเรียนมัธยมยังไม่จบ เเต่เขาก็ได้ช่วยเหลือตนเองซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เหมือนตอนก่อนหน้านี้ หากไม่มีสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันของเขา ตนเองคงจะบาดเจ็บสาหัสจนตายไปเเล้ว

 

“คุณสตาร์ค หากคุณร้องเช่นนั้นคุณจะเหนื่อยเอานะ!”เเจ็คสันยิ้มออกมา

 

“คุณสตาร์ค!”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันปีเตอร์เองก็จ้องมองไปที่โทนี่

 

ใบหน้าของโทนี่ปรากฏน้ำตาเล็กน้อยหลังจากที่โทนี่สูญเสียพ่อเเม่เขาก็ตัวคนเดียวมาตลอดตอนนี้เขามีพรรคพวกที่สามารถไว้ใจได้ดังนั้นโทนี่จึงรู้สึกอยากจะขอบคุณพวกเขามาก

 

ขณะที่โทนี่ปั้นหน้ายิ้มอยู่เขาก็จ้องมองไปที่มุมห้องผู้ป่วยเขาเห็นเวน่อมที่กำลังดิ้นอยู่ใบหน้าที่ยิ้มเเย้มก่อนหน้านี้ได้พลันหายไปอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นเเจ็คสันก็จัดการเก็บเวน่อมเเละให้โทนี่ดื้มน้ำพุศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง เนื่องเพราะสถานการณ์เกี่ยวกับคิลเลี่ยนยังไม่จบตอนนี้สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือต้องเร่งฟื้นฟูให้โทนี่หายกลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

 

ระหว่างที่มิราจไนท์กำลังช่วยเหลือโทนี่ในการฟื้นฟู กัปตันโรเจอร์ส ก็ได้รับข้อความเร่งด่วนเกี่ยวกับเหตุการณ์เอ็กซ์ทรีมิส

 

เรื่องที่ศาสตราจารย์ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ส่งมานั้นคือเรื่องที่เขาทำลายการป้องกันทางจิตวิญญาณของมายา เเฮนเซ่น เเละ ได้รับข่าวสำคัญมานั่นคือ : คนที่เรียกตัวเองว่าเเมนดารินนั้น เเท้จริง เป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกคนอื่นชักใยอยู่เบื้องหลัง สถานะของคนคนนี้ลึกลับมา เเต่เขาคนนี้ก็คือ สมาชิกคนสำคัญของสภาความมั่นคงของโลก

 

ข่าวอีกอย่างคือพวกคิลเลี่ยน ได้เเพร่กระจายเขาที่จัดการโทนี่ ไอรอนแมน เพื่อทำลายความเชื่อมั่นของประชนชาชน ตอนนี้ คนที่ราบข่าวได้กลายเป็นชลมุนกันยกใหญ่ เเม้ว่าทาง S.H.I.E.L.D. จะพยายามปกปิดข่าวเรื่องนี้ไม่ให้ทุกคนรู้ เเต่ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องรู้อย่างเเน่นอน

 

“หากตอนนี้ฉันยังคงนอนหมดสติอยู่ เเผนของพวกมันก็คงจะสำเร็๗ไปเเล้ว การทำลายความเชื่อมั่นของคนที่ไว้ใจเราคือการโจมตีทางจิตใจที่เเรงที่สุด”โทนี่ ที่ได้เห็นข้อความเหล่านั้นเขาสามารถคาดเดาสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปได้

 

จากนักวิทยาศาสตร์ธรรมดา ที่ร่ำรวย อำนาจชื่อเสียงเเละเงินทอง ได้ผันตัวมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ปกป้องผู้คนทั่วโลก หากตัวตน คน ๆ นี้หายไป ทั่วทั้งโลกจะต้องเกิดความโกลาหล

 

“หากพวกมันมั่นใจว่าเเผนของมันสำเร็จ เช่นนั้นทำไมไม่ปล่อยให้พวกมันคิดอย่างนั้นไปก่อนเเล้วค่อยตลบหลังพวกมัน ฉันคิดว่าบางทีพวกเราอาจได้ดูละครฉากเด็ดก็เป็นได้”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันยิ้มออกมา

 

“ฮ่าฮ่า,ฉันเองก็อยากจะเห็นเหมือนกัน”

อึ้ก!

 

ขณะที่ของเหลวสีเขียวกำลังไหลลงคอของโทนี่ เเจ็คสันก็ได้ปลดปล่อยพลังจิตของตนเองออกมาเพื่อดูความเคลื่อนไหวของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังไหลลงร่างกายของโทนี่

 

ฟู่วว!

 

ภายใต้การสเเกนด้วยพลังจิตอันเเข็งเเกร่งของเเจ็คสัน เขาสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลลงตั้งเเต่ปากของโทนี่เข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว

 

เพียงเเต่ว่าภายผ่านไปไม่นานผลของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ทันได้เเสดงผลจู่ ๆ น้ำพุศักดิ์สิทธิ์นั่นก็ถูกบางสิ่งบางอย่างดึงเข้าไปเป็นของตนเอง

 

“ดูเหมือนจะใช่อย่างที่ฉันคิดจริง ๆ !”เห็นบางสิ่งบางอย่างถึงสิ่งที่ควรจะเป็นของโทนี่จากไป เเจ็คสันกวาดจิตสำผัสเข้าไปโดยตรง

 

เเจ็คสันที่เพ่งจิตเข้าไปภายในร่างกายของโทนี่ด้ายที่สุดเขาก็เห็นบางสิ่งซ่อนตัวอยู่ที่ด้านหลังของโทนี่มันได้หลอมรวมเข้ากับกระดูกสันหลังของเขาพร้อมกับซึมซับน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เข้าไปเป็นของตนเอง หากตรวจสอบด้วยวิธีธรรมดาย่อมไม่สามารถตรวจพบสิ่งเเปลกปลอมนี้ได้อย่างเเน่นอน

 

“มันคือเวน่อม ,มันยังมีชีวิตรอดอยู่ จริง ๆ !”เห็นชิ้นส่วนที่ผสานเข้ากับกระดูกสันหลังของโทนี่ พลังจิตของเเจ็คสันจ้องมองมันด้วยความดุเดือด

 

ก่อนหน้านี้เวน่อมได้ถูกโจมตีจากเเรงระเบิดของทหารเอ็กซ์ทรีมิสเเละได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ดังนั้นมันจึงเลือกที่จะหลุดจากการควบคุมของโทนี่ เเละ ใช้สัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดของมันที่ไม่คิดยอมเสียสละตนเองมุดเข้าไปทางบาดเเผลของโทนี่เข้าสู่ร่างกายของเขา จากนั้นเมื่อโทนี่ ได้รับความช่วยเหลือ มันก็ดึงสิ่งเหล่านั้นมารักษาตนเองดังนั้นผลลัพธ์ที่โทนี่ควรจะได้ย่อมทำให้ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

 

ในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก ไม่ว่าจะเป็น ยายีน หรือ น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ มันย่อมปลาบปลื้มยินดีอย่างเเน่นอน หลังจากดูดซับ ยายีน เเละ น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ลงไปถึง สองขวด บาดเเผลของ เวน่อมได้ฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว เพราะภายในโรงพยาบาลนี้ได้รับการดูดเเลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้มันไม่ยอมเคลื่อนไหว หากไม่มีคนคอยเฝ้าจับตามองอยู่ บางทีมันคงเลือกจะหนีไปพร้อมกับร่างกายของโทนี่เเล้ว

 

“ตั้งเเต่ที่ฉันพบเเก ฉันจะดึงเเกออกมาเอง!”เเจ็คสันเเผ่จิตคุกคามที่รุนเเรงใส่ตำเเหน่งที่เวน่อมเกาะร่างกายของโทนี่อยู่

 

เเม้ว่าพลังจิตของเเจ็คสันจะไม่เพียงพอที่จะควบคุมวัตถุให้บินหรืออะไรเเต่หากคุกคามอย่างสิ่งมีชีวิตเช่นเวน่อมมันย่อมเพียงพอ เมื่อพลังจิตของเเจ็คสันกระเเทกเข้าใส่ร่างของเวน่อม ดูเหมือนว่าเวน่อมจะตอบสนองต่อจิตคุกคามที่มีต่อมัน

 

ฟุ่บ!

 

จู่ ๆ โทนี่ ที่หมดสติก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับตอบโต้การโจมตีของเเจ็คสันที่โลกข้างนอก

 

“เวรเอ้ย!”เมื่อรู้ว่าเวน่อมวางเเผนจะทำอะไร เเจ็คสันเตรียมจะกระโดดถอยออกไปเพียงเเต่

 

ฟุ่บ!

 

เเขนทั้งสองข้างของโทนี่ได้ขยับเคลื่อนไหวเเละพุ่งการโจมตีใส่เเจ็คสันอย่างรวดเร็วเเต่ด้วยการตอบสนองที่เเข็งเเกร่งของเเจ็คสันทำให้เขาสามารถรับหมัดทั้งสองของโทนี่ที่ถูกควบคุมได้

 

หลังจากพลักหมัดทั้งสองออกไป เเจ็คสัน ก็เห็น ร่างของโทนี่ ที่ถูกควบคุม เตรียมจะหลบหนีออกไปจากที่นี่

 

“มันคิดจะหลบหนี?อย่าได้หวัง!”เเจ็คสันรีบกระโดดเข้าไปคว้าจับเเขนทั้งสองข้างของโทนี่เเละเหวี่ยงเขากลับลงไปที่เตียง

 

ปั้ง!

 

ไม่นานดาบซอร์ดสปิริตก็ปรากฏขึ้นในมือของเเจ็คสันเขาได้ใช้พลังจิตในการส่งคลื่นพลังดาบฟาดฟันลงไปยังร่างของโทนี่เพื่อตัดเนื้อร้ายที่กัดกินโทนี่อยู่

 

“โทนี่!”เห็นโทนี่ถูกมิราจไนท์เหวี่ยงกลับลงไปที่เตียง กัปตันโรเจอร์ส ที่อยู่ด้านนอกรู้สึกตกใจอย่างมากเขารีบวิ่งเข้ามาข้างในทันที

 

ได้ยินเสียงของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันไม่ได้สนใจ เขาเร่งเร้าพลังจิตจำนวนมากก่อนที่จะขับไล่สิ่งที่อยู่ในร่างกายของโทนี่ให้คลานออกมาจากนั้นไม่นานวัตถุโปร่งใสก็หลุดออกมาจากปากของโทนี่ เเจ็คสันได้คว้าจับมันเเละโยนไปที่มุมห้องอย่างรวดเร็ว

 

เวน่อมที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้เเละไม่มีร่างของโฮสต์ให้คอยควบคุมสิ่งที่มันทำได้ในตอนนี้คือการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

“นั่นมันอะไร?”เห็นโทนี่ฟุบกลับลงไปที่เตียงอีกครั้งเเละการเคลื่อนไหวของมิราจไนท์ที่สบัดบางสิ่งออกไปที่มุมห้อง กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามอย่างสงสัย

 

เเจ็คสันเองที่เห็นสีหน้าอาการตกใจของกัปตันโรเจอร์สเขาเองก็ลืมไปว่ากัปตันโรเจอร์สคงไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งนี้ดังนั้นจึงไม่เเปลกใจที่พวกเขาไม่สามารถตรวจพบสิ่งเเปลกปลอมที่อยู่ภายในร่างกายของโทนี่เพราะ เวน่อม ได้ทำตัวกลมกลืนเข้ากับร่างกายของโทนี่เเละรอรับผลการรักษา

 

“มันคือสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก เวน่อม เหตุผลที่ อาการของโทนี่ ไม่ดีขึ้น ส่วนนึงก็มาจากมันนี่ล่ะ…”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันได้อธิบายอย่างใจเย็น

 

“สิ่งมีชีวิตจากนอกโลก?มันอยู่ในร่างกายของโทนี่งั้นหรอ?”เห็นมิราจไนท์ตอบคำถามของตนเอง กัปตันโรเจอร์ส รู้สึกตกใจอย่างมาก

 

ขณะที่กัปตันโรเจอร์สกำลังสงสัยเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกนี้ จู่ ๆ นอกห้องผู้ป่วยก็ปรากฏเสียงฝีเท้าขึ้น มันเป็นเสียงเท้าวิ่งของ สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ พวกไอซ์แมน เเละ เเดร์เดวิล กัปตันโรเจอร์ส ได้อนุญาติให้คนเหล่านี้เข้าออก S.H.I.E.L.D. ได้ตามต้องการ ภายใต้เงื่อนไขบางอย่างเล็กน้อยดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีอุปสรรคที่จะเข้ามาที่นี่

 

“มิราจไนท์!”หลังจากเห็นเเจ็คสันภายในห้องผู้ป่วย สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ ตะโกนออกมาเป็นคนเเรก

หลังจากตามกัปตันโรเจอร์สมาถึงวอชิงตัน ในโรงพยาบาล นอกห้องผู้ป่วย เเจ็คสัน เฝ้ามองโทนี่ที่นอนไม่ได้สติอยู่ภายในห้อง

 

ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้ให้สัญลักษณ์เเห่งการป้องกันกับโทนี่ไปด้วยเหมือนกันเเต่ดูเหมือนสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันนั่นจะไม่สามารถป้องกันความเสียหายจากทหารเอ็กซ์ทรีมิสจำนวนมากได้

 

“สถานการณ์ในปัจจุบันของเขาเป็นแบบไหน?”เเจ็คสันกล่าวถามกัปตันโรเจอร์สที่เฝ้ามองโทนี่นอกห้องเหมือนกับเขา

 

“บาดเเผลส่วนมากได้รับการฟื้นฟูเเล้ว อาการเเตกหักของกระดูกเองก็เริ่มฟื้นฟูอย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีของเรา เเต่อย่างไรก็ตามเเรงระเบิดของทหารเอ็กซ์ทรีมิสพวกนั้นก็รุนเเรงอย่างมาก อวัยวะภายในของเขาได้รับความเสียหายอย่างรุนเเรง ตอนนี้เราได้ให้ยายีนที่ทางออสคอร์ปเป็นคนผลิตเเก่เขาไปเเล้ว เเต่ผลที่ได้รับก็ไม่ได้มากเท่าที่ควรดังนั้นเราจึงไม่สามารถให้การสนับสนุนเขาเเละรักษาแบบวิธีธรรมดาได้”กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

“เเม้จะบำบัดรักษาด้วยยายีนความเสียหายของอวัยวะภายในก็ไม่ได้ดีขึ้นงั้นหรอ?หรือว่าบาดเเผลที่เกิดจากพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสจะส่งผลพิเศษ?”เเจ็คสันที่ได้ยินคำตอบของกัปตันโรเจอร์ส เขาย่นคิ้วในเวลาเดียวกัน

 

หากเป็นอาการบาดเจ็บภายในธรรมดายายีนที่ทางออสคอร์ปมอบให้กับ S.H.I.E.L.D. รวมถึงเทคโนโลยีทางการเเพทย์ที่ก้าวหน้าย่อมสามารถช่วยเหลือโทนี่ได้ไม่ยาก เเต่ดูเหมือนผลลัพธ์จะไม่ได้เป็นอย่างที่หวังกันไว้

 

“พวกเราเองก็คิดว่าส่วนนึงอาจจะมาจากผลของ ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส เเต่พวกเราก็ไม่สามารถทำการตรวจสอบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของโทนี่ได้”เมื่อเห็นว่ามิราจไนท์คิดอะไรอยู่ กัปตันโรเจอร์ส กล่าวตอบล่วงหน้า

 

“ไม่สามารถทำการตรวจสอบได้ เพราะอะไร?”ได้ยินคำตอบของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันรู้สึกสงสัยอย่างมาก สาเหตุที่อาจทำให้โทนี่นอนหมดสติอยู่ตอนนี้ อยู่ภายในร่างกายของโทนี่ เเต่พวกเขาไม่สามารถทำการตรวจสอบได้

 

“ส่วนนึงมาจาก กระสุนที่อยู่ในหัวใจของโทนี่ พวกเราไม่มีความก้าวหน้าทางการเเพทย์มากพอที่จะทำการผ่าตัดมันออก ดังนั้นพวกเราจึงไม่สามารถทำการตรวจสอบร่างกายที่อ่อนเเอของโทนี่ในตอนนี้ได้”กัปตันโรเจอร์สกล่าวเสริม

 

กระสุนที่อยู่ในหัวใจของโทนี่คือปัญหาใหญ่ที่เป็นอุปสรรคต่อการรักษาในตอนนี้

 

“กระสุนในหัวใจ?ฉันพอจะหาทางให้คนช่วยเรื่องนี้ได้อยู่ก่อนอื่นเราจะต้องนำกระสุนนี่ออกมาก่อนไม่เช่นนั้นก็คงไม่สามารถดำเนินการผ่าตัดตรวจสอบได้”เเจ็คสันกล่าวพูดขึ้น

 

“หืม?มิราจไนท์ คุณรู้จักศัลยเเพทย์ที่มีฝีมือมากพอที่จะทำเรื่องนี้ได้งั้นหรอ?”กัปตันโรเจอร์สไม่ได้สงสัยในคำพูดของมิราจไนท์เเต่เขารู้สึกสนใจ

 

“อืม,ก่อนอื่น ฉันขอเข้าไปดูอาการ โทนี่ ก่อนเเล้วกัน บางทีอาจมีอะไรที่พวกเรามองข้ามไปจนไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเขาได้”เเจ็คสันต้องการตรวจสอบร่างกายของโทนี่เป็นการส่วนตัว

 

“เเน่นอน”กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบทันที

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นห้องผู้ป่วยที่ได้รับการคุ้มกันเเน่นหนา ประตูกระจกใสก็ถูกเปิดขึ้น เเจ็คสันได้เดินเข้าไปอย่างเรียบง่าย

 

 

หลังจากผ่านไปสองนาทีขณะที่เเจ็คสันตรวจสอบร่างกายของโทนี่เสร็จ เขาก็ย่นคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างที่กัปตันโรเจอร์สพูด เเม้จะได้รับการรักษาจากเทคโนโลยีชั้นนำของโลกเเต่อาการของโทนี่กลับฟื้นฟูช้ามากราวกับว่าอาการภายในของโทนี่ไม่สามารถตอบสนองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เเจ็คสันรู้สึกสงสัยมากที่สุดก็คือเมื่อครู่เขาได้ให้น้ำพุศักดิ์สิทธิ์เเก่โทนี่ไป เพราะเขาคิดว่าผลของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์อาจจะสามารถช่วยเหลือโทนี่ให้ดีขึ้นได้ เเต่ผลลัพธ์กลับว่าพลังงานเหล่านั้นกลับหายไป

 

“มันหายไป?เป็นไปได้ยังไง กัปตันโรเจอร์ส คุณสามารถเชื่อมต่อกับ J.A.R.V.I.S ได้หรือไม่?”เเจ็คสันที่รู้สึกงุนงงเขาได้หันศีรษะกลับไปมองกล่าวถามกัปตันโรเจอร์ส

 

“J.A.R.V.I.S?ฉันจะเชื่อมต่อกับเขาให้”กัปตันโรเจอร์สเเม้ไม่รู้ว่าทำไม มิราจไนท์ ถามหาถึงระบบอัจฉริยะ J.A.R.V.I.S เเต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ

 

“คุณมิราจไนท์ คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรงั้นหรอครับ?”หลังจากกัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบเสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ปรากฏขึ้นภายในห้องผู้ป่วยเเห่งนี้

 

“J.A.R.V.I.S บอกฉันเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนที่โทนี่ถูกโจมตี”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันกล่าวถามโดยตรง

 

บางทีสิ่งนี้อาจมีเรื่องอะไรที่เขามองข้ามไป ทำให้ ผลการรักษาไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้น เเจ็คสันจึงรู้สึกสงสัยอย่างมาก

 

“ก่อนที่เหตุการณ์พวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสจะระเบิดตัวเอง คุณ สตาร์ค ได้ติดตั้งชุดเกราะกลายพันธุ์เเละรับความเสียหายมากกว่า 95% ความเสียหายระดับนี้ทำให้ คุณ สตาร์ค ได้รับบาดเจ็บสาหัสเเละตัวชุดเกราะได้ถูกทำลายไประหว่างต่อสู้”ได้ยินคำถามของ เเจ็คสัน J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S ดวงตาของเเจ็คสันกระพริบสว่างวาบ ก่อนเหตุการณ์ระเบิดโทนี่ได้ติดตั้งชุดเกราะกลายพันธุ์เเละรับความเสียหายมากกว่า 95% หากพูดให้ถูกคือความเสียหายระดับนี้หากเป็นสิ่งของก็เหมือนกับใกล้พัง ก่อนหน้านี้เเจ็คสันให้สัญลักษณ์เเห่งการป้องกันระดับต่ำมอบให้กับโทนี่ หากเดิมเเท้จริงเเล้วโทนี่ต้องรับความเสียหายเต็ม 100% เล่า? เเต่เพราะสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันทำให้ช่วยลดความเสียหายลงมาได้ส่วนนึง

 

“มาให้ฉันดูว่าฉันคิดถูกหรือไม่?”ขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดในใจ จู่ ๆ ขวดขนาดเล็กน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเเลกมาจากระบบร้านค้าก็ปรากฏขึ้นในมืออีกครั้ง

 

หลังจากได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ J.A.R.V.I.S เเละ กัปตันโรเจอร์ส ไม่ได้กล่าวถามอะไรออกมา ดูจากคำพูดของมิราจไนท์ ดูเหมือนเขาจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับอุปกรณ์ใหม่ของโทนี่,ก่อนหน้าที่โทนี่จะไปเจอมายา เขาไม่ได้พกชุดเกราะไอรอนแมนไปด้วย พกไปเเค่เทคโนโลยีใหม่ที่ว่านี้ไป เเต่ถึงอย่างนั้นมันกลับสามารถช่วยโทนี่จากสถานการณ์ที่คุกคามชีวิตได้เเม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับมาก็ตาม เห็นได้ชัดว่าอาวุธนี้มีประสิทธิภาพขนาดไหน อย่างไรก็ตาม โทนี่ ก็ยังคงเป็นนักวิทยาศาสตร์เเละมีความสามารถที่ชาญฉลาดอยู่กับตัว

 

ขณะที่กัปตันโรเจอร์สกำลังครุ่นคิดสายตาของเขาก็จดจ้องไปที่มิราจไนท์ที่กำลังให้โทนี่ดื่มของเหลวบางอย่างในขวดที่เขาถือ

ฟุ่บ!

 

ขณะที่ เเจ็คสัน กำลังพูดคุย กับเจอร์รี่ จู่ ๆ ด้านนอกฐานก็ปรากฏเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว นี่ก็คือเดดพูลเป็นเพราะ เเจ็คสันโดดลงมาจากเครื่องร่อนก่อนหน้านี้เเละใช้ความเร็วตนเองเข้ามาดังนั้นเดดพูลจึงตามมาทีหลัง

 

“เอ่อ…นายเป็นใคร?”เห็นการมาถึงของเดดพูลอย่างฉับพลัน เจอร์รี่ รู้สึกสงสัยอย่างมาก เพราะเสื้อผ้าที่เดดพูลสวมใส่นั้นเป็นชุดธรรมดาที่เเจ็คสันมอบให้เพียงเท่านั้นดังนั้น เจอร์รี่ จึงไม่รู้ว่าเขาคือใคร

 

“เเล้วนี่ละพอจะรู้หรือยัง?”เดดพูลได้หยวดหมวกขาดของตนเองออกไป

 

“อ๋อ”เห็นหมวกขาดที่เป็นเอกลักษณ์ของเดดพูล เจอร์รี่ เข้าใจทันที

 

ก่อนหน้านี้เดดพูลไม่ได้คิดว่าตนเองจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายจนต้องทำให้ชุดขาดวุ่นวิ่นดังนั้นเขาจึงไม่มีชุดสำรอง เขาไม่เหมือนกับ สไปเดอร์เเมน หรือ มิราจไนท์ ที่มีชุดไฮเทค ที่เเทบจะไม่พังในการต่อสู้เเม้เเต่น้อย ดังนั้น เดดพูล จึงครุ่นคิดว่าต่อไปหากเขาไม่มีเสื้อผ้าใครเล่าจะรู้ว่าเขาคือเดดพูลตัวจริง สิ่งที่เขาต้องทำก็คือชุดสำรอง

 

“คุณ เดดพูล ได้เห็นคุณอีกครั้งฉันก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก”เห็นภายใต้หน้ากากของเดดพูลที่มีริ้วรอยอยู่เต็มใหน้า เจอร์รี่ พูดอย่างติดขัด

 

“หึ่ม! ไม่ต้องพูดห่างไกลขนาดนั้นก็ได้ คนกันเองเเท้ ๆ “ได้ยินคำพูดของเจอร์รี่ เดดพูล กล่าวตอบ

 

ขณะนั้นเองดูเหมือนคอมของ เจอร์รี่ จะส่งเสียงเเจ้งเตือนออกมา

 

เจอร์รี่ได้กวาดสายตาไปครู่นึงก่อนที่จะหันไปทางมิราจไนท์”มิราจไนท์ ดูเหมือน ยานควินเจ็ท ของ กัปตันโรเจอร์ส จะมารออยู่ข้างนอกฐานเเล้ว”

 

ฟึ่ม!

 

ไม่ต้องรอให้เจอร์รี่ พูด เเจ็คสัน เเละ เดดพูล ก็ยังได้ยินเสียงเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่บินอยู่บนท้องฟ้า ดูเหมือนว่า กัปตันโรเจอร์ส จะเร่งรีบมากทันทีที่ได้ข่าวของเขา ก็รีบมาที่นี่ในทันที

 

“ฉันไปก่อนละ”เเจ็คสันเดินไปที่ทางเข้าหน้าฐานก่อนที่จะหันไปมองทางเดดพูลเล็กน้อย

 

“ฉันขอผ่านล่ะกัน,วาเนสซ่ากำลังรอฉันอยู่ที่บ้าน ดังนั้น ฉันจะต้องกลับไปรายงานเธอก่อน”เห็นมิราจไนท์มองมาที่ตนเอง เดดพูล โบกมือขอผ่าน

 

เห็นว่าเดดพูลไม่ต้องการจะไปเเจ็คสันก็ไม่ได้ยื้อเขาไว้พริบตาเดียวร่างของเเจ็คสันก็หายไปจากเบื้องหน้าของ เดดพูล เเละ เจอร์รี่ ดูเหมือน มิราจไนท์จะเเข็งเเกร่งขึ้นอย่างมาก นี่ทำให้ เจอร์รี่ รู้สึกประหลาดใจอย่างเเท้จริง เเต่เมื่อเทียบกับเดดพูล เเล้ว เขารู้ดีเกี่ยวกับมิราจไนท์ เพราะก่อนหน้านี้เขาเผชิญหน้ากับมันด้วยตาคู่นี้มาเเล้ว

 

ไม่นานเเจ็คสันก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้า เขาเห็นยานควินเจ็ทที่ค่อย ๆ ร่อนลงมา ส่วนท้ายยานได้ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วจากนั้นก็ปปรากฏชายรูปร่างกำยำที่ยืนอยู่ตรงส่วนท้ายยาน นี่ก็คือ สตีฟ โรเจอร์ส ดูเหมือน เขาจะมารับตนเองด้วยตัวของเขาเอง

 

เเจ็คสันเองก็เดินไปที่ส่วนของท้ายยานก่อนที่จะหยุดลงที่ด้านหน้าของกัปตันโรเจอร์ส

 

“กัปตันโรเจอร์ส ฉันดีใจที่ได้เห็นคุณอีกครั้ง”เเจ็คสันกล่าวทักทายออกไป

 

“ฉันเองก็มีความสุขมากที่ได้เห็นคุณอีกครั้ง มิราจไนท์”กัปตันโรเจอร์สกล่าวอย่างจริงจัง

 

หลังจากทักทายกันเสร็จ เเจ็คสันก็เดินขึ้นยานควินเจ็ทไปในทันที เขารู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่เวลามามัวเเสดงความดีใจ สิ่งที่เขาต้องการจะรู้มากที่สุดก็คือสถานการณ์ของโทนี่ในตอนนี้ หลังจากเเจ็คสันเดินขึ้นยานเสร็จ ส่วนท้ายยานก็ถูกปิดอย่างรวดเร็ว

 

ไม่นานยานควินเจ็ทก็ลอยตัวขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่เส้นทางวอชิงตันในทันที

 

ขณะที่ เเจ็คสัน กำลังติดตามกัปตันโรเจอร์สกลับไปที่ วอชิงตัน ข่าวเรื่องที่ มิราจไนท์ ได้กลับมาเเล้ว ได้เเจ้งเเก่ทุกคน ซึ่งปีเตอร์ เองก็รู้ เขาที่กำลังเข้าเรียนได้โดดเรียนออกมาจากห้งเรียนในทันที

 

สำหรับปีเตอร์ การที่ เเจ็คสันกลับมาย่อมเป็นข่าวที่ดี เเต่ตอนนี้ อาการของโทนี่ ย่ำเเย่มาก ดังนั้น ปีเตอร์ จึงไม่ต้องการเสียเวลาที่นี่อีก เขาได้ออกจากโรงเรียนพร้อมกับฉีกเสื้อของตนเองเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดสไปเดอร์แมนเเละเริ่มินเเกว่งไปยังอาคารหลายหลัง

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากปีเตอร์ร่อนลงไปยังหลังคาเเห่งนึงไม่นานประตูมิติอวกาศสีม่วงก็ปรากฏขึ้นข้าง ๆ เขา จากนั้น บลิงก์ เเละ ไอซ์แมนก็เดินออกมาจากข้างใน

 

“ดูเหมือน มิราจไนท์ จะกลับมาเเล้วสินะ”ไอซ์แมนที่ เห็น สไปเดอร์แมน เขากล่าวถามออกมา

 

“อืม,ดูเหมือนเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ วอชิงตันเเล้ว”ปีเตอร์พยักหน้าอย่างเร่งรีบ

 

“ฮ่าฮ่า ฉันรู้อยู่เเล้วว่าเขาจะต้องไม่เป็นอะไร”ได้รับคำตอบจากสไปเดอร์แมน ไอซ์แมน รู้สึกดีใจอย่างมาก

 

จากนั้นไม่นานก็มีเงาร่างนึงปรากฏขึ้นบนอากาศก่อนที่จะร่อนลงมาตรงที่พวกเขาอยู่ นี่ก็คือ เเฮร์รี่ ดูเหมือน เเฮร์รี่ เองก็ได้รับข่าวเรื่องที่ มิราจไนท์กลับมาเเล้ว

 

“มากันครบเเล้ว,พวกเรารีบไปกันเถอะ”ปีเตอร์กล่าวพูดขึ้น

 

ฟุ่บ!

 

บลิงก์เองก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะสร้างประตูมิติอวกาศขึ้นที่ด้านหน้าของพวกเขา ปีเตอร์ ได้เดินเข้าไปคนเเรก จากนั้นก็เป็น ไอซ์แมน เเละ บลิงก์ เเฮร์รี่ ที่พึ่งมาถึงได้เก็บเครื่องร่อนของตนเอง เเละตามเข้าไปในประตูมิติอวกาศโดยตรงจากนั้นพวกเขาก็หายไปจากหลังคาของอาคารนี้

 

ขณะที่พรรคพวกของเเจ็คสันกำลังตามไปหา ทางด้านโรงเรียนเซเวียร์ ทีม X-MEN ฐานใต้ดินดูเหมือนตอนนี้ในห้องลับจะมีปฏิบัติการลับอะไรบางอย่างอยู่

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้สวมหมวกนิรภัยบางอย่งก่อนที่จะใช้ความสามารถอ่านใจ ตอนนี้เป้าหมายของเขาก็คือบุคคลด้านหน้าซึ่งก็คือ มายา เเฮนเซ่น เมื่อวานนี้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ได้ใช้พลังจิตในการควบคุมจิตใจของเธอ เเต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ราวกับว่า ไวรัส เอ็กซ์ทรีมิสได้เปลี่ยนเเปลงร่างกายมนุษย์ให้มีพัฒนาการในส่วนต่าง ๆ กระทั่งสมองหรือส่วนจิต ดังนั้น มายา จึงมีความสามารถในการต้านทานการบุกรุกจิตใจ

 

เเต่ทั้งหมดนี้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก็ไม่ได้ยอมเเพ้ เขารู้ดีว่าหากฝืนทำต่อย่อมประสบความสำเร็จอย่างเเน่นอน

 

ฟุ่บ!

 

ภายใต้พลังจิตที่เเข็งเเกร่งของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่นานการป้องกันของมายาก็พังทลายลง จากนั้นความคิดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็มุ่งตรงไปที่ใจของมายาเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ไวรัส เอ็กซ์ทรีมิส เเละ ข่าวของ เเมดนาริน เเละ คิลเลี่ยน

 

“นี่มัน…”หลังจากเห็นความทรงจำในใจของมายาศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็เปิดตาทั้งสองข้างขึ้นดูเหมือนเรื่องที่เขาอยากรู้ก็รับรู้เเล้วเหมือนกันในตอนนี้

 

จากนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็รีบเข็นรถเข็นของตนเองออกไปเขาจะต้องรีบเเจ้งเรื่องนี้ให้กัปตันโรเจอร์สทราบ

ขณะที่เเจ็คสันเเละเดดพูลกำลังรีบมุ่งหน้าไปยังใจกลางเมืองนิวยอร์กอย่างรวดเร็ว เจอร์รี่ ที่อยู่ในฐานลับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เขานั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะคอม สำหรับวันนี้ เขาก็ทำหน้าที่เหมือนเดิม คือการค้นหามิราจไนท์ เเละ เดดพูล ที่หายตัวไป เจอร์รี่ไม่เพียงเเต่ระดมกองกำลังเพื่อนเเฮ็กเกอร์หลายคนของเขา เเต่เขายังสละเวลานอนพักของตนเองจนเเทบจะไม่ได้พักผ่อน

 

อย่างไรก็ตามไม่ว่าพวกเขาจะตรวจสอบเเละสามารถควบคุมเครือข่ายหลายพื้นที่ได้สำเร็จ พวกเขาก็ไม่พบวี่เเววของมิราจไนท์เเละเดดพูลเเม้เเต่น้อย ยิ่งไปกว่านี้ เมื่อวาน ก็มีข่าวที่สะเทือนใจเข้ามาอีก ไอรอนแมน โทนี่ ได้รับบาดเจ็บรุนเเรง ชะตากรรมของคน ๆ นี้ ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง เจอร์รี่ รู้ได้ในทันทีว่านี่จะต้องเป็นฝีมือของพวก คิลเลี่ยน เเละ เเมนดาริน เเละ ทหารเอ็กซ์ทรีมิของพวกเขาอย่างเเน่นอน ดังนั้นหากตอนนี้พวกเขาต้องรับมือกับคนเหล่านี้ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เอง ก็คงจะต้องสูญเสียหนักเช่นเดียวกัน

 

ขณะที่เจอร์รี่กำลังหยิบจานอาคารของเขาขึ้นมากินอย่างเรียบง่ายหน้าคอมพิวเตอร์ จู่ ๆ บนคอมของเขาก็ปรากฏเสียงเเจ้งเตือนมันเป็นเสียงเเจ้งเตือนสำหรับเครือข่ายภายในเมื่อได้รับข่าวเกี่ยวกับ มิราจไนท์

 

“หรือว่าเป็นข่าวของมิราจไนท์?”ได้ยินเสียงเเจ้งเตือนเครือข่ายภายในเจอร์รี่รีบกดเเป้นพิมพ์ในคอมพิวเตอร์ทันที

 

“เฮ้,ฉันเจอร์รี่ ได้ข่าวว่าไงมั่ง”เจอร์รี่เข้าสู่ห้องเเชทสนทนากลุ่มทันที

 

ในเขตเมืองนิวยอร์กร่างสองร่างได้ใช้เครื่องร่อนบินผ่านเหนือน่านฟ้าของเขตเมืองนิวยอร์ก ความเร็วที่พวกเขาใช้นั้นรวดเร็วมากหากไม่สังเกตุอย่างระวังจะไม่รู้ตัวเลยว่ามีอะไรบินผ่านไป

 

“นั่น มิราจไนท์ ไม่ใช่หรอ?”หลังจากเห็นบุคคลนึงที่คุ้นเคย เพื่อนคนนึงที่อยู่ด้นล่าง ชี้ไปที่ด้านบนอย่างสงสัย

 

“ไม่น่าจะใช่หรอกมั้ง มิราจไนท์ จะไม่ปรากฏตัวในตอนกลางวัน เเต่เสื้อผ้าของเขาก็ค่อนข้างคุ้น ๆ นะเนี่ย คงจะเป็นพวกฮีโร่หน้าใหม่ละมั้ง”หลังจากบุคคลนั้นถามเพื่อนสนิทของเขา เพื่อนคนนี้ก็ตอบกลับ

 

“ก็มีความเป็นไปได้ เเต่นายก็เห็นเสื้อผ้านั่นนี่ นั่นเป็นเสื้อผ้าชุดของมิราจไนท์ไม่ผิดเเน่”

 

“ฉันคิดว่านายอาจจะคิดมากเกินไป”

 

ขณะนั้นเองพวกเเจ็คสันก็เร่งเครื่องร่อนมุ่งตรงสู่ฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

สำหรับเดดพูล เหตุผลที่คนอื่น ๆ ไม่สังเกตุเห็นชุดสีเเดงที่สะดุดตาของเขาก็เพราะมันได้ถูกทำลายไปเมื่อตอนที่อยู่ดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์นั่น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่เสื้อคลุมตัวเก่งเหมือนกับมิราจไนท์ เพียงเป็นชุดบ้าน ๆ ธรรมดาเพียงเท่านั้น

 

หลังจากถึงที่หมาย เเจ็คสันได้กระโดดลงไปที่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกกังวลอย่างมากว่าคนอื่น ๆ จะคิดยังไง เขาหายตัวไปมากกว่า 2 วัน มันก็เพียงพอที่จะทำให้คนอื่น ๆ เป็นห่วงเเล้ว

 

สำหรับเรื่องของโทนี่ เเจ็คสันยังไม่รู้รายละเอียดมากนักดังนั้นเขาจึงต้องการไต่ถามเจอร์รี่เป็นการส่วนตัว

 

“เจอร์รี่ ฉันกลับมาเเล้ว”ไม่นาน เเจ็คสันก็เดินเข้าไปในฐานพร้อมกับปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของเจอร์รี่

 

“มิราจไนท์ คุณกลับมาเเล้ว พวกเราตามหาคุณ เเทบจะพลิกเเผ่นดินกันเลยทีเดียว”เห็นมิราจไนท์ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของตนเอง เจอร์รี่ ตะโกนอย่างตื่นเต้น

 

เเม้ว่าพวกเขาจะพลิกเเผ่นดินหาตนเองเเจ็คสันก็คิดว่าพวกเขาคงจะไม่เจอหรอกเพราะตัวเขาเองไม่ได้อยู่ที่โลกนี้เเต่ถูกส่งไปนอกโลก

 

“เกิดอะไรขึ้น?ฉันเพิ่งเห็นข่าวว่า ไอรอนแมน โทนี่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส”เเจ็คสันกล่าวถามออกมาอย่างรวดเร็ว นี่เป็นเรื่องที่เขาสนใจมากที่สุดตอนนี้

 

“ดูเหมือน คุณ สตาร์คจะนัดเจอกับ มายา เเฮนเซ่น เป็นการส่วนตัว โดยไม่พกชุดเกราะไอรอนแมนไปด้วย เเต่ดูเหมือนเขาจะพกอุปปกรณ์ป้องกันแบบใหม่ไป นี่ก็เป็นเรื่องที่ฉันรู้มา อย่างไรก็ตาม คิลเลี่ยน นั้น ร้ายกาจเกินไป พวกมันไม่สนใจความปลอดภัยของมายา เเม้เเต่น้อย เมื่อ คุณ สตาร์ค ไปถึง ก็มีทหารเอ็กซ์ทรีมิสหลายคนปรากฏขึ้นทำลายตนเองโดยตรง โชคดีที่พวกกัปตันโรเจอร์สเข้าสนับสนุนคุณสตาร์คได้ทัน เเต่ก็โชคไม่ดี ดูเหมือนตอนนี้เขาจะนอนพักรักษาตัวในสำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ที่วอชิงตัน เเต่ว่าเขายังไม่ได้สติเลยจนถึงตอนนี้”ได้ยินความกังวลของมิราจไนท์ เจอร์รี่ รีบตอบคำถามอย่างรวดเร็ว

 

“ไม่คิดเลยว่าเพื่อนคนนี้จะบ้าระห่ำขนาดนี้”ได้ยินคำตอบจากเจอร์รี่ เเจ็คสันกำหมัดเเน่น

 

เเจ็คสันรู้ดีว่าที่โทนี่ไม่ได้เอาชุดเกราะไอรอนแมนไปเพราะต้องการซื้อใจ มายา เเฮนเซ่น เเต่เขาก็ไม่ประมาทเกินไปเเละยังพกชุดเกราะกลายพันธุ์ไปด้วยเพียงเเต่ชุดเกราะกลายพันธุ์เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทหารเอ็กซ์ทรีมิหลายคน มันก็คงไม่สามารถช่วยปกป้องโทนี่ได้ถึงที่สุด โชคดีที่ กัปตันโรเจอร์สมาช่วยไม่งั้นโทนี่คงเเย่

 

การระเบิดพลังของพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิจำนวนมากนั้น เเม้จะเป็นชุดเกราะกลายพันธุ์ ก็ไม่สามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์แน่นอน

 

“มิราจไนท์ คุณกลับมาก็ดีเเล้ว ตอนนี้ฉันได้เเจ้งให้ทุกคนรู้ก่อนหน้านี้ว่าคุณกลับมาเเล้ว”เจอร์รี่ ที่ได้สติกลับมารีบกล่าวพูดขึ้น

 

“อืม,บอกS.H.I.E.L.D. ให้ส่ง ยานควินเจ็ท มารับฉันด้วย ฉันจะไปที่ วอชิงตัน เพื่อดูอาการของโทนี่”เเจ็คสันพูดออกไปอย่างรวดเร็วเขาได้ติดต่อหาครอบครัวก่อนที่จะมาที่นี่เเล้ว ดังนั้นพอได้ข่าวว่า โทนี่ ได้รับบาดเจ็บ เเจ็คสัน ก็รู้สึกเป็นห่วงในทันที

 

“พวกเขาได้ส่งยานออกมาเเล้วก่อนหน้าคาดว่าอีกไม่นานก็คงจะถึง”เห็นว่ามิราจไนท์รู้สึกไม่สบายใจ เจอร์รี่ ตอบกลับในทันที

 

“อืม,เจอร์รี่ ฉันต้องขอบคุณนายมาก”ดูจากลักษณะใบหน้าของเจอร์รี่ เเจ็คสัน ก็รู้ได้ในทันทีว่า เจอร์รี่ เเทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย ดังนั้น เเจ็คสันจึงยื่นมือออกไปตบไหล่เพื่อกล่าวขอบคุณ

 

“คุณไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ นี่เองก็เป็นหน้าที่ของฉัน จริงสิ คุณพอจะมีวิธีช่วยเหลือคุณสตาร์คหรือไม่?”เจอร์รี่กล่าวถามออกมา

 

“ก็อาจจะ…”

ห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาล โทนี่ ยังคงนอนหลับไม่ได้สติ กัปตันโรเจอร์ส ได้เฝ้ามองเขาผ่านนอกห้องกระจก ตอนนี้ความรู้สึกของเขาไม่ค่อยสู้ดีนัก เขารู้ดีว่า คิลเลี่ยน เเละ เเมนดาริน ต้องการจะฆ่าโทนี่ เเต่เขาก็ยังยอมรับเเผนบ้า ๆ ของโทนี่ ที่ให้โทนี่เอาตนเองไปเสี่ยง หากผิดพลาดนิดเดียว โทนี่ อาจตายได้ในทันที

 

เหตุผลที่เเมนดารินต้องการจะฆ่าโทนี่ก็เพราะ ไอรอนแมน ถือว่าได้รับความเชื่อมั่นจากผู้คนทั่วโลก หากสามารถกำจัดไอรอนแมนได้ ทั่วทั้งโลกจะต้องตกสู่ความเกรงกลัวอย่างเเน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น เเมนดาริน ยังสามารถเเฮค ระบบ J.A.R.V.I.S ได้อีก หากพวกเขาสามารถครอบครองชุดเกราะไอรอนแมนของ โทนี่ ได้สำเร็จ เเม้เเต่ S.H.I.E.L.D. เเละ กัปตันโรเจอร์ส เอง ก็ต้องตกที่นั่งลำบาก

 

ทางด้าน มายา เเฮนเซ่น ทางS.H.I.E.L.D. กำลังให้ความคุ้มครองเธออยู่ เมื่อวานนี้ หลังจาก นัด มายา เเฮนเซ่นมา ไม่รู้ว่า เป็นเพราะข่าวการนัดพบระหว่าง โทนี่ กับ มายา รั่วไหลหรือไม่ คิลเลี่ยน จึงสามารถลอบโจมตี โทนี่ได้

 

ในช่วงเหตุการณ์ครั้งนั้นมายาได้ฉีดไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสเข้าสู่ร่างกาย เธอที่ยังไม่ปรับตัวเกือบจะตายเพราะการระเบิดโดยตรง เเต่เนื่องจากเธอได้รับบาดเจ็บจากเเรงระเบิดก่อนผลของระเบิดที่มาจากตัวเธอจึงหยุดลง ดังนั้น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ จึงช่วยควบคุมจิตใจของเธอให้เธอสูญเสียสติสัมปชัญญะเเละปล่อยให้ กัปตันโรเจอร์ส ดูเเล

 

ตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าทางด้านเเมนดาริน จะเคลื่อนไหวยังไงต่อไป

 

“นี่มันคงเป็นชะตากรรมที่นายต้องเผชิญสินะ ฝ่ายตรงข้ามไม่ลังเลที่จะเสียสละทหารเอ็กซ์ทรีมิสหลายคนเพื่อที่จะฆ่านายให้ได้”กัปตันโรเจอร์สถอนหายใจออกมาเบา ๆ

 

เมื่อนึกถึงอาการของโทนี่ในตอนนี้ การที่จะประคองให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเเล้วดังนั้นเรื่องที่โทนี่จะฟื้นขึ้นมาในระยะเวลาอันสั้นย่อมเป็นไปได้ยากมาก

 

“มีอะไร?”ขณะนั้นเองจู่ ๆ นาฬิกาข้อมือของกัปตันโรเจอร์สก็ปรากฏเสียงเเจ้งเตือนเขาได้กดรับ

 

“มิราจไนท์ เเละ เดดพูล ที่หายตัวไปดูเหมือนเขาจะกลับมาเเล้วครับ”เจ้าหน้าที่คนนึงได้กล่าวรายงานกัปตันโรเจอร์สอย่างรวดเร็ว

 

“ข่าวนี้น่าเชื่อถือมากเเค่ไหน?”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามด้วยอารมณ์ตื่นเต้น

 

“พวกเขาเพิ่งปรากฏตัวในนครนิวยอร์ก”เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้กล่าวตอบ

 

ได้ยินการรายงานจากเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้ โทนี่ ที่ปัจจุบันเป็นกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของโทนี่ เขารู้สึกชื่นใจขึ้นมาเล็กน้อย มิราจไนท์ ถือเป็นความหวังของเขา

 

“คงต้องปล่อยให้โทนี่นอนพักฟื้นไปก่อน ฉันเชื่อว่าอาการของเขาคงไม่ทรุดตัวลง นอกจากนี้ เเดร์เดวิลยังบอกอีกว่า ถ้าพบมิราจไนท์ บางที เขาอาจจะสามารถช่วยโทนี่ได้”

 

กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่โทนี่ในห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาลก่อนที่เขาจะก้าวเดินออกไป

 

ก่อนหน้านี้หลายนาทีในเขตชานเมืองนิวยอร์กเเสงสีรุ้งได้ทะลุผ่านชั้นเมฆเเละปรากฏตัวขึ้นในสถานที่เเห่งนึงจากนั้นก็หายไป หลังจากลำเเสงหายไปเมฆสีดำเเละปรากฏการณ์ฟ้าร้องเองก็หายไปอย่างรวดเร็ว บนพื้นดินนั้นหลงเหลือเพียงสัญลักษณ์เเละปรากฏบุคคลทั้งสามคนขึ้น

 

ฟู่ว!

 

“ในที่สุดก็ได้กลับบ้านสักที”เดดพูล ที่กลับมาถึงดาวเคราะห์โลกเขาสูดอากาศเเละหายใจเข้าด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

 

การเดินทางครั้งนี้ของเขาได้รับประสบการณ์ที่ขมขื่นมากมาย เเต่ก็ยังมีเรื่องน่าดีใจอย่างการใช้งานสะพานไบฟรอส เขาได้เห็นสิ่งที่น่าทึ่งที่เป็นเทคโนโลยีของพวก เเอสการ์ด นี่ก็เพียงพอเเล้วที่เดดพูลจะสามารถคาดเดาได้ว่าเเอสการ์ดนั้นทรงพลังขนาดไหน

 

“นี่คือความรู้สึกหลังจากใช้สะพานไบฟรอสสองครั้งติดสินะ?”เเจ็คสันรู้สึกได้ถึงความรู้สึกเเปลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

 

เอนเชี่ยนวันนั้น ได้ไปที่เเอสการ์ดเเละขอความช่วยเหลือจากพวกเขาในการยืมสะพานไบฟรอส มาเพื่อช่วยพวกตนเอง นี่ทำให้ เเจ็คสัน รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

 

“ที่นี่คือเขตชานเมืองในนครนิวยอร์ก ที่เหลือพวกเจ้าก็เดินทางกันเองต่อเเล้วกัน ได้เวลาที่ข้าจะต้องกลับไปเเล้ว”ขณะนั้นเอง เอนเชี่ยนวันก็จ้องมองไปที่ เเจ็คสัน เเละ เดดพูล ดูเหมือนว่าหน้าที่ต่อจากนี้เขาจะไม่เข้าไปยุ่งอีก

 

“ต้องขอบคุณ คุณอีกครั้ง ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน!”เเจ็คสันโค้งคำนับด้วยความนอบน้อมพริบตาต่อมาร่างของเอนเชี่ยนวันหายไปอย่างรวดเร็ว

 

“มิราจไนท์ ดูเหมือนการเดินทางครั้งนีน้ของเราจะไม่สูญเปล่าสินะ ฉันคิดว่าฉันจะลองเขียนหนังสือสักเล่มดูดีไหม? เอาเป็นชื่อว่า เดดพูลผู้หล่อเหลา เเละ มิราจไนท์ ผู้ลึกลับ กับการเดินทางข้ามจักรวาล คุณคิดว่าจะดีหรือไม่?”หลังจากเอนเชี่ยนวันจากไป เดดพูล ก็ถอนหายใจออกมา ตอนนี้ในหัวของเขาเต็มไปด้วยจินตนาการจำนวนมาก

 

“หากนายคิดจะเขียนฉันก็ไม่ได้ว่า เเต่ว่าตอนนี้พวกเรารีบไปกันเถอะ พวกเราได้หายตัวไปมากกว่า 2 วัน ไม่รู้ว่าคนอื่น ๆ จะคิดยังไงกันบ้าง”ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเจ็คสัน ไม่ได้สนใจเเม้เเต่น้อย เขาต้องการที่จะกลับไปโดยเร็วที่สุด

 

“อืม,วาเนสซ่า ที่รัก ของฉัน ก็คงจะกำลังเป็นกังวลอยู่เเน่เลย”เดดพูล พยักหน้าอย่างรวดเร็วจากนั้นเขาก็เริ่มวิ่งติดตาม มิราจไนท์ไปอย่างใกล้ชิด

ฟุ่บ!

 

ทางด้านสตาร์ลอร์ด,เเรคคูน เเละก็ กรูซ หลังจากถูกเเสงสีทองกลืนกินเข้าไปพวกเขาก็ไปโผล่ยังสถานที่เเห่งนึง

 

ฟุ่บ!

 

พวกสตาร์ลอร์ดได้ลุกขึ้นยืนขึ้นเเละตอบสนองอย่างไม่สบอารมณ์

 

“หึ่ม! ฉันกำลังจะบอกว่าเดี๋ยวก่อนไม่คิดจะฟังกันเลยใช่มั้ย!”สตาร์ลอร์ดสบถออกมาอย่างรุนเเรง

 

จากนั้นด้านหน้าของพวกเขาก็ปรากฏสิ่งก่อสร้างจำนวนมากซึ่งมันเหมือนกับถนนเส้นทางก่อนหน้านี้เพียงเเต่ในเวลานี้มียานพาหนะเเละผู้คนสัญจรไปมาอย่างต่อเนื่อง

 

“นี่คือโลกเเห่งความจริง?เช่นนั้นก่อนหน้านี้พวกเราอยู่ในโลกเสมือนจริงงั้นหรอ?”หลังจากสังเกตุอย่างระวัง เเรคคูน คิดอย่างสงสัย

 

“เอาล่ะดูเหมือนว่าว่าเราจะต้องสอบถามเกี่ยวกับที่นี่ก่อนเป็นอันดับเเรกสินะ”หลังจากมาถึงเมืองที่ไม่คุ้นเคยเเน่นอนว่าสิ่งเเรกที่พวกเขาจะต้องทำก็คือศึกษาพื้นที่

 

เนื่องจากเพื่อนของมิราจไนท์ได้ส่งเขามายังดาวเคราะห์ที่เจริญอารยธรรมเเล้วก็จริงเเต่พวกเขาก็ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับที่นี่ ทั้งเขายังต้องหาทางติดต่อ กาโมร่า เเละ เดร็ก อีกด้วย หลังจากนั้นเขาก็จะนำทีมของเขาออกตามหาพ่อของตนเอง

 

“เห้ย,อย่ามายืนขวางทางรถวิ่งสิวะ!”ขณะนั้นเองจู่ ๆ ก็มีชายคนนึงตะโกนออกมาจากห้องตัวยานพาหนะ

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าขณะที่เขากำลังตะโกนด่า เเรคคูน ก็ได้ยกปืนชี้ไปที่ศีรษะของชายคนนั้นพร้อมกับเปิดระบบอาวุธเตรียมพร้อม

 

“เอ๋…เอ่อ ข้าเเค่ล้อเล่นหน่ะ ทางที่ดีพวกเจ้าถอยไปหน่อยจะดีกว่า”ชายคนนั้นที่เห็นเเรคคูนชี้ปืนมาที่ตนเองเขารีบมุดหัวกลับเข้าไปในยานพาหนะเเละรีบเเจ้นออกไปในทันที

 

สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน จ้องมองหน้ากันก่อนที่จะพยักหน้าอย่างเห็นพ้องต้องกันเพราะพวกเขายังมีอะไรที่จะต้องจัดการอีกเยอะดังนั้นเขาไม่ควรมาเสียเวลาที่นี่อย่างเปล่าประโยชน์

 

 

ขณะที่พวกสตาร์ลอร์ดกลับสู่โลกความจริง ก็ยังมีพวกเเจ็คสันทั้งสามคนที่ยังอยู่ในโลกเสมือนจริง เเจ็คสันได้คุยกับเอนเชี่ยนวันเรื่องอนาคตที่ไร้สิ้นสุดของตนเองจากนั้น เเจ็คสันที่จบเรื่องนั้นก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องทางบ้าน

 

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน พวกเราจะวาปกลับโลกเลยหรือไม่?”เเจ็คสันได้กล่าวถามเอนเชี่ยนวันโดยตรง

 

“ระยะทางของประตูมิติเวทย์มนตร์นั้นมีจำกัด เเละสถานที่เเห่งนี้อยู่ไกลจากโลกมากเกินไปดังนั้น เราจึงต้องการความช่วยเหลือ”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันเอนเชี่ยนวันยิ้มออกมา

 

“หืม?ความช่วยเหลือ?”เเจ็คสันรู้สึกสงสัยอย่างมาก ใครกันที่ เอนเชี่ยนวันต้องการขอความช่วยเหลือดังนั้นเขาจึงรู้สึกสงสัยอย่างมาก

 

จากนั้นเเสงสีทองก็ครอบคลุมร่างของพวกเเจ็คสัน ไม่นาน พวกเเจ็คสันก็มาปรากฏตัวในทุ่งหญ้าสีเขียวที่ไร้สิ้นสุดเห็นได้ชัดว่าตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่ในโลกเสมือนจริงอีกเเล้ว

 

ใต้เท้าตรงสนามหญ้าที่พวกเขาอยู่เเจ็คสันได้มองเห็นสัญลักษณ์เเปลก ๆ ที่วาดเอาไว้

 

“นี่มัน…ทำไมมันถึงดูคุ้นเคยนักเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?”

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดเขาก็เหมือนจะนึกได้ว่าตอนธอร์ตกลงมาที่โลกก็มีสัญลักษณ์นี้เหมือนกัน ดังนั้นไม่เเปลกใจที่ เเจ็คสันจะค่อนข้างคุ้นเคย

 

“หรือว่าความช่วยเหลือที่เขาพูดถึงคือ เเอสการ์ด? สะพานไบฟรอส?”เเจ็คสันครุ่นคิดในใจ

 

~~~ฟุ่บ

 

จากนั้นท้องฟ้าสีใสก็ปรากฏคลื่นพลังความผันผวนที่รุนเเรงจนกลุ่มเมฆเเตกกระจาย

 

“เป็นสะพานไบฟรอสจริง ๆ !”เห็นเเสงสีรุ้งที่พุ่งทะลุชั้นเมฆตรงลงมาที่ตำเเหน่งของตนเอง เเจ็คสันอุทานออกมาเล็กน้อย

 

จากนั้นเเสงสีรุ้งก็ได้กลืนพวกเขาทั้งสามคนหายไปจากพื้นที่ทุ่งหญ้าสีเขียวเเห่งนี้เหลือไว้เพียงรอยไหม้เกรียมที่เป็นสัญลักษณ์อันจำเพาะของสะพานไบฟรอส

 

 

ที่โลก,ช่วงเวลาที่มิราจไนท์หายตัวไป ก็คือ 4 วัน ดูเหมือนความเร็วที่โลกนั้นจะเร็วกว่าที่ดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์อยู่สองเท่า ช่วงที่ มิราจไนท์ เเละ เดดพูลหายไป คนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็เป็นกังวลอย่างมาก เพราะเมื่อไม่นานมานี้ ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ค ได้รับบาดเจ็บสาหัสเเละนอนรักษาตัวพักฟื้นอยู่

 

~~

 

ในห้องไอซียูสำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ในวอชิงตัน โทนี่ ได้นอนหลับตาลงอยู่บนเตียงสีขาวบริสุทธิ์รอบข้างของเขาคือเครื่องมือทางการเเพทย์ที่ใช้ตรวจสอบสภาพร่างกาย

 

เมื่อวานในขณะที่โทนี่ไปพบ มายา เเฮนเซ่น เขาได้ถูกลอบโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส เเม้ โทนี่ เเละ พวกกัปตันโรเจอร์ส จะเตรียมพร้อมอยู่ก่อนเเล้ว เเต่เพราะ โทนี่ ไม่ได้เอาชุดเกราะไอรอนแมนไป โชคดีที่ โทนี่ พกชุดเกราะกลายพันธุ์ไปด้วยทำให้เขาสามารถหลบหนีออกมาได้ ดูเหมือน โทนี่ เเละ กัปตันโรเจอร์ส จะประเมินพวก คิลเลี่ยนต่ำเกินไปจริง ๆ

 

โทนี่ เเละ มายา ได้นัดพูดคุยกันที่ร้านอาหารเล็ก ๆ ริมถนน ที่เเห่งนี้ไม่ค่อยเป็นที่สะดุดตาเท่าไหร่นัก เเต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ถูกลอบโจมตี ไม่รู้ว่านี่เป็นเเผนของมายาหรือไม่ เเต่โชคดีที่โทนี่ตัดสินใจถูกที่พกชุดเกราะกลายพันธุ์มาด้วย เเม้ชุดเกราะกลายพันธุ์จะเเข็งเเกร่ง เเต่ด้วยความที่ว่าต้องเผชิญหน้ากับพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสหลายคน โทนี่ ที่ยังปรับปรุงชุดเกราะไม่เสร็จย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบเขาโดนระเบิดชีวภาพเข้าอย่างจัง ๆ จนได้รับบาดเเผลรุนเเรง

หลังจากพวกเขาหายไป เเจ็คสัน ก็รู้สึกว่าบรรยากาศโดยรอบของพวกเขามีการเปลี่ยนเเปลงเล็กน้อย เอนเชี่ยนวัน ได้วาดสัญสักษณ์มือบางอย่างขึ้น

 

“นั่น…ฉันเหมือนเห็นใครเดินผ่านเลย”เดดพูลที่คิดว่าบรรยากาศเเปลก ๆ เขามองไปที่หนึ่งที่มีเเสงสว่างปรากฏขึ้นตรงมุมถนน

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินเสียงของเดดพูล เเจ็คสัน เองก็จ้องมองไปยังทิศทางนั้น

 

“คงจะเป็นเวทย์มนตร์ของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันเเหละไม่ต้องคิดมาก”เผชิญหน้ากับบางสิ่งบางอย่างที่เเปลกประหลาดเเจ็คสันพึมพัมออกมา

 

หลังจากเเจ็คสันเปิดปากพูดขึ้น เอนเชี่ยนวัน ก็หันมามองที่เขา สายตาของเเจ็คสันเองก็รู้สึกสงัสยอย่างมาก จากนั้นไม่นานเอนเชี่ยนวันก็ยิ้มออกมา

 

“ก็อย่างที่เจ้าว่านั่นเเหละไม่ต้องใส่ใจ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเองก็อยากรู้อยากเห็นเรื่องของเจ้าว่าเจ้าจะสามารถเปลี่ยนเเปลงโลกของเราไปในทิศทางใด”เอนเชี่ยนวันกล่าวออกมา

 

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน คุณหมายถึงอะไรกันเเน่?”ได้ยินคำพูดของเอนเชี่ยนวัน เเจ็คสันรู้สึกสงสัย

 

“เด็กน้อยเอ๋ย จำเอาไว้ว่าถึงข้าจะสนับสนุนเจ้า เเต่พวกเราเหล่าพ่อมด ไม่ใช่พันธมิตรของเจ้า”เอนเชี่ยนวันไม่ได้ตอบคำถามของเเจ็คสันเพียงพูดทางอ้อม เเจ็คสัน จะทำเรื่องอะไรต่อจากนี้ พวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพียงเเต่หากเส้นทางที่เเจ็คสันเลือกเดินเเละทำให้โลกถึงคราวอันตรายเเล้วล่ะก็ เอนเชี่ยนวัน เองก็จะหันคมดาบใส่เขาทันที นี่ก็คือความหมายที่เอนเชี่ยนวันจะสื่อ

 

“ฉันรู้ เเต่ทั้งหมดที่ฉันทำก็เพื่อปกป้องโลก ดังนั้น คุณคงไม่คิดว่าทุกอย่างที่ผมทำไปจะทำให้คุณกังวลหรอกใช่มั้ย?”ได้ยินคำพูดของเอนเชี่ยนวัน เเจ็คสัน เข้าใจความหมายของเขา

 

หน้าที่ของเอนเชี่ยนวันเเละเหล่าพ่อมดคือการปกป้องโลกดังนั้นไม่ว่าเเจ็คสันจะทำอะไรพวกเขาจะไม่สอดมือเข้ามายุ่งหากเเต่ว่าเเจ็คสันเองก็ไม่คิดว่าตนเองที่ตกที่นั่งลำบาก เอนเชี่ยนวัน ยังอุส่าถ่อมาช่วยเขาถึงที่นี่ ดังนั้น เเจ็คสัน จึงรู้สึกขอบคุณอยู่ไม่น้อย

 

เดิมเเล้วกฏของเหล่าพ่อมดก็คือไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลกเพียงเเต่ตั้งเเต่เเจ็คสันเข้ามา เหล่าพ่อมดก็ถูกดึงเข้ามาร่วมชะตากรรมเหล่านี้ด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ เอนเชี่ยนวัน รู้สึกเคลือบเเคลงในตัวตนของเเจ็คสัน ตัวตนของเด็กคนนี้ จะชักนำทุกคนเข้ามาสู่ชะตากรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

 

“เจ้าเองก็คงรู้ว่าข้าหมายถึงอะไร”เอนเชี่ยนวันยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย

 

“เเน่นอน,ฉันย่อมรู้ว่าคุณหมายถึงอะไร เเต่นี่คือความจริงที่ฉันสามารถบอกคุณได้”เเจ็คสันยืนยันในคำพูดของตนเองอย่างหนักเเน่น

 

“งั้นหรอ!อืม…เจ้าคิดว่าเพราะอะไรพ่อมดอย่างพวกเราถึงเฝ้าจับตามองโลกเเละไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก”เอนเชี่ยนวันกล่าวถามออกมา

 

“ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือกัน”เเจ็คสันรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น

 

ฟุ่บ~~

 

เอนเชี่ยนวันไม่ได้ตอบเเจ็คสันเพียงยกมือกวัดเเว้งเพียงเล็กน้อยจากนั้นภาพเส้นทางสามสีที่เเตกต่างกันก็ปรากฏขึ้นเส้นทางเเรกคือเส้นทางสีทองเส้นทางที่สองคือเส้นทางสีฟ้า เเละ เส้นทางที่สามคือเส้นทาง สีเเดง สิ่งเหล่านี้ได้ยืดยาวออกไปไม่รู้ว่าเส้นทางปลายสายนั้นกว้างไกลเเค่ไหน

 

“หรือว่า…”เห็นเส้นทางเหล่านั้นเเจ็คสันเหมือนจะเข้าใจความหมายที่เอนเชี่ยนวันต้องการจะสื่อ

 

“เส้นทางเเรกคือเส้นทางอดีต เส้นทางที่สองคือเส้นทางอนาคต ทุกครั้งที่เส้นทางสีทองเปลี่ยนไป เส้นทางสีฟ้าก็จะเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน สำหรับเส้นทางที่สามมันคือเส้นทางไร้กฏเกณฑ์เส้นทางนี้คือตัวชี้นำที่จะเปลี่ยนเเปลงอดีตอนาคตทั้งหมด ดังนั้น ตัวตนของพวกเราก็คือการเฝ้าจับตาระวังเส้นทางที่ 3 นี้”เอนเชี่ยนวันกล่าวออกมา

 

“เส้นทางไร้กฏเกณฑ์?”การเเสดงออกของเเจ็คสันเเปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

“อืม!”เอนเชี่ยนวันตอบกลับเบา ๆ

 

เส้นทางที่สามได้เเสดงเส้นเเตกเเยกเเขนงออกไปหลายเส้นทางมันไม่อาจคาดเดาได้ว่ามันจะสิ้นสุดตรงไหนเมื่อไหร่เเละตอนไหน ดังนั้น มันถึงได้ชื่อว่าเส้นทางไร้กฏเกณฑ์

 

“คุณต้องการจะบอกอะไรกันเเน่…?”เเจ็คสันกล่าวถามออกไปด้วยความสงสัย

 

ตอนนี้เส้นทางทั้งสามสีได้หมุนวนล้อมรอบเเจ็คสันอย่างรวดเร็วโดยเส้นทางสองเส้นทางก่อนเเรกนั้นเเทบจะถูกเส้นทางที่สามกลืนกินหายไป

 

“นี่คือเส้นทางของเจ้า เส้นทางไร้กฏเกณฑ์ ข้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เเต่ดูเหมือนชะตากรรมของเจ้าจะทำให้ อดีต เเละ อนาคต สามารถเปลี่ยนเเปลงได้ ดังนั้น ข้าจึงไม่อาจคาดเดาอนาคตที่ไร้ที่สิ้นสุดของเจ้าได้”เอนเชี่ยนวันตอบกลับ

 

“อนาคตไร้สิ้นสุด?ฉันไม่ได้ต้องการสิ่งเหล่านี้สักหน่อย”ได้ยินคำอธิบายของเอนเชี่ยนวัน เเจ็คสัน รู้สึกเหมือนได้รับการกระตุ้น

 

อนาคตที่ไร้สิ้นสุดของตนเอง ก็ไม่เเปลก เพราะเเจ็คสันในปัจจุบันมีความคิดหลายอย่างที่จะชักนำโลกมาร์เวลเเห่งนี้ให้เดินไปยังเส้นทางที่ปลอดภัยเเละถูกต้อง

 

“ดังนั้นถึงเเม้เจ้าจะรู้เช่นนี้ เจ้าก็ยังอยากที่จะเปลี่ยนเเปลงอนาคตของตนเองอยู่อีกหรือไม่?”ได้ยินคำอุทานของเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวัน กล่าวถามออกมา

 

“เเน่นอน!”

หลังจากสังเกตุอย่างละเอียดในผืนป่าบริสุทธิ์เเห่งนั้น กลุ่มผู้บัญชาการกองร้อยพวกนี้ต่างก็ค้นพบความผิดปกติที่เกิดขึ้น หากเป็นร่องรอยทั่วไปย่อมไม่มีผลกระทบวงกว้างเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่ปกติ

 

นอกจากนี้ยังมีเศษคราบเลือดอยู่เต็มพื้นที่เเถวนั้นน สิ่งมีชีวิตโดยรอบเองก็เเทบจะไม่หลงเหลืออยู่

 

“หืม?รอบทับ ยังมีร่องรอยอื่นอยู่อีกงั้นหรอ?”ได้ยินชายคนนึงกล่าว ยอนดู รู้สึกประหลาดใจ

 

“มีร่องรอยอื่นอยู่ด้วยอีกหรือไม่? ไม่น่าจะใช่ เห็นได้ชัดว่านั่นมีเเค่เจ้าสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์ตัวเดียว!”

 

ยอนดูรู้สึกประหลาดใจเเปลก ๆ ดังนั้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์?จะเกิดขึ้นต่อไป เขาจะต้องวางเเผนเเละเตรียมการกันก่อน

 

“ยอนดู พวกเราตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเเล้ว ดูเหมือนจะไม่พบอันตรายใด ๆ “บนหน้าจออุปกรณ์เพื่อนในชุดคลุมสีดำกล่าวตอบ

 

“เข้าใจเเล้ว ข้าไม่รู้ว่ารอบทับอีกอย่างนึงคืออะไร เเต่ข้าคิดว่าตอนนี้เราไม่ควรไปยุ่งกับมันบางทีอาจมีสิ่งที่น่ากลัวรอเราอยู่ข้างในนั้น”ยอนดูพยักหน้าเล็กน้อย

 

“อืม”

 

จากนั้นเเสงหน้าจอก็ดับไปยอนดูได้เก็บอุปกรณ์สื่อสารของเขา

 

หลังจากยอนดูเสร็จสิ้นการสนทนากับหุ้นส่วนเก่าเมื่อไม่นานนี้ผู้ช่วยของเขาได้เดินเข้ามาเเละกล่าวถาม”บอส เจ้าสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นถูกกำจัดเเล้วงั้นหรอ?”

 

ในความคิดของผู้ช่วยคนนี้ เจ้าสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นเเข็งเเกร่งอย่างมาก หากใครที่สามารถกำจัดมันได้ ย่อมเป็นบุคคลที่พวกเขาควรพึงระวังเป็นที่สุด เพราะคนที่จะสามารถกำจัดสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นได้จะต้องเเข็งเเกร่งอย่างมาก

 

เเม้ยอนดูจะเคยเผชิญหน้ากับ พาวเวอร์สโตน ที่ถูกครอบครองโดย โรเเนน ก่อนหน้านี้ มาก่อน เขาก็ไม่เคยรู้สึกกดดันเท่านี้มาก่อน เพราะบุคคลที่กำจัดสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นได้ เป็น จอวเวทย์ที่มาจากดาวเคราะห์โลก

 

“เรื่องนี้มีเงื่อนงำมากเกินไป หากสัตว์ประหลาดนั่นถูกกำจัดไปเเล้วจริง ๆ บางทีนั่นอาจไม่ใช่ร่างที่เเท้จริงของมัน ข้าไม่คิดว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นจะตายโดยบุคคลผู้นั้นหรอกนะ”ได้ยินคำพูดของผู้ช่วย ยอนดูเเสดงความคิดเห็นของตนเองออกม

 

“เเล้ว สตาร์ลอร์ด เล่า ? ท่านจะปล่อยให้เขาตามหาพ่อของตนเองจริง ๆ ?”

 

“ข้าไม่สามารถปิดกั้นเขาได้ ถ้าเขาต้องการจะไปก็ให้เขาไป จากนั้นเขาจะได้รู้ว่าตนเองนั้นคิดผิดขนาดไหนที่เลือกเส้นทางนี้”

 

“เข้าใจเเล้วครับ”

 

 

ขณะที่ยอนดูกำลังสนทนากับผู้ช่วย เเรคคูน ที่ พากรูซไปเดินเล่น ก็บังเอิญได้ยินการสนทนาของพวกเขาทั้งหมด

 

“กรูซ มนุษย์นี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนจริง ๆ !”

 

 

“เอ่อ…ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน คุณพอจะช่วยส่งเขาไปยังดาวเคราะห์กลางใกล้เคียงได้หรือไม่?”เเจ็คสันกล่าวถามเอนเชี่ยนวัน

 

“ดาวเคราะห์กลางใกล้เคียง?ง่ายมาก เจ้าต้องการจะเดินทางตอนนี้เลยหรือไม่?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวัน หันหน้าไปถาม สตาร์ลอร์ด

 

เอนเชี่ยนวันได้ใช้มิติเวทย์มนตร์ในการเดินทางเขาได้ก้าวผ่านหลายดาวเคราะห์กลางจำนวนมาก เพราะ ว่าสะพานไบฟรอส ไม่สามารถส่งเขามายังดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์นี่ได้โดยตรง

 

“ขอบคุณ เเต่ฉันคงต้องรอเพื่อนอีกสองคนของฉันก่อน”

 

ขณะที่สตาร์ลอร์ดกล่าว ดูเหมือน เเรคคูน กับ กรูซ จะกลับมาเเล้ว

 

“มารวมตัวกันตรงนี้”เห็นพรรคพวกของสตาร์ลอร์ดมาถึง เอนเชี่ยนวัน กวักมือเเล็กน้อย

 

จากนั้นรัศมีพลังเเสงสีทองที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของสตาร์ลอร์ดก่อนที่จะจากกัน เเจ็คสัน ได้ยื่นมือออกไปทักทายสตาร์ลอร์ด

 

ขณะนั้นเองทางด้านยอนดูที่กลับมาเขาได้เห็นพลังรัศมีเเสงสีทองที่เกิดขึ้น

 

เพราะก่อนที่เขาจะกลับมาเขาเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงรู้สึกตกใจอย่างมาก

 

“คุณ!…คุณ!…”มองไปที่เอนเชี่ยนวัน ยอนดู เเทบไม่อยากจะเชื่อในสายตาของตนเอง

 

“มีอะไรงั้นหรอ?”เห็นการเเสดงออกที่ตกใจของยอนดู เดดพูล กล่าวถาม

 

“ปล่าว?ไม่มีอะไร”เห็นพลังที่เอนเชี่ยนวันสำเเดงออกมา ยอนดู รู้สึกตื่นตะลึงโดยสมบูรณ์ เขาได้พยายามเรียกความสงบกลับคืนมา

 

ยอนดูได้จ้องมองไปที่สตาร์ลอร์ดที่ยืนอยู่หน้าประตูมิติ

 

“ยอนดู ฉันตัดสินใจเเล้วว่าไม่ว่ายังไงก็จะไปให้ได้”เผชิญหน้ากับยอนดูก่อนที่จะจากสตาร์ลอร์ดได้พูดขึ้น

 

เเม้เขาจะถูกเลี้ยงดูมาโดยยอนดู ตลอด 20 กว่าปี เเต่ความสัมพันธ์เหล่านี้ก็ไม่ได้มาจากสายเลือดเนื้อไขเเท้ ๆ ของเขาดังนั้นเขาจึงต้องการออกตามหาพ่อของตนเอง

 

“สตาร์ลอร์ด…เจ้า”เห็นสตาร์ลอร์ด ดื้อรั้นหัวชนฝา ผู้ช่วยของยอนดู ทำได้เพียงเเต่ชี้นิ้วกรนด่า

 

“เหมือนที่ข้าบอกไป หากเจ้าต้องการจะไป ข้าก็จะไม่ห้ามเจ้า”ยอนดูได้ยกมือห้ามผู้ช่วยของเขาพร้อมกับกล่าวตอบสตาร์ลอร์ด

 

เห็นลักษณะท่าทีที่เงียบสงบของยอนดู สตาร์ลอร์ด ไม่ได้กล่าวอะไรอีก เขากวักมือเรียก เเรคคูน เเละ กรูซ ที่อยู่ไม่ไกล หลังจากรู้ข่าวพ่อของตนเอง สตาร์ลอร์ด ไม่ต้องการที่จะล่าช้าอีกต่อไป ตอนนี้เขาได้สูญเสียยานอวกาศ ดังนั้นสถานการณ์ในปัจจุบันของเขา เขาจะต้องหายานอวกาศก่อนเป็นอันดับเเรก หลังจากนั้นก็ออกตามหาพ่อของตนเอง

ฟุ่บ~~

 

ทางด้านยอนดูหลังจากที่เขาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกไปตอนนี้อุปกรณ์สื่อสารของเขาก็ได้ปรากฏเเสงกระพริบอยู่สามจุด ไม่นานก็มีบุคคลทั้งสามคนปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเขา

 

“หึ่ม ยอนดู เจ้ามีอะไรถึงส่งขอกำลังเสริมไปหาพวกเรา…ไม่สิ เจ้าปลอดภัยดีสินะ?”ขณะนั้นเองชายในชุดคลุมสีดำก็จ้องมองไปที่ยอนดูที่อยู่ด้านหน้า ดูเหมือนว่า เขาจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

 

“ยอนดู ศีรษะ เจ้า?”

 

“ไม่ต้องห่วง เขาไม่ตายง่าย ๆหรอกน่า”

 

หลังจากชายคนนั้นเปิดปากพูดขึ้นอีกสองคนก็เปิดปากพูดตาม สองคนที่เหลือนี้ คือ ชาย เเละ หญิง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาคือหัวหน้ากองยานรบที่ยอนดูขอความช่วยเหลือไป

 

“ขอบคุณ ที่พวกเจ้าสละเวลามา”ยอนดูจ้องมองไปที่ไฟกระพริบทั้งสามเเละกล่าวตอบ

 

ได้ยินคำพูดของยอนดู ทั้งสามคนเงียบไปชั่วครู่นึงความสัมพันธ์ของพวกเขากับยอนดูนั้นซับซ้อนมาก เเต่สิ่งนึงที่ชัดเจนก็คือหากยอนดูตกที่นั่งลำบากพวกเขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือ

 

“ทำไมพวกเราจะไม่มาในเมื่อเจ้าขอความช่วยเหลือเราไป ยิ่งไปกว่านั้นพวกเรากับกลุ่มราเวนเจอร์ของเจ้าก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน”ชายในชุดคลุมสีดำกล่าวตอบ

 

“ใช่ ๆ พวกเราถือเป็นหุ้นส่วนที่ดีต่อกัน”หลังจากชายคนนั้นตอบ ผู้หญิง เเละ ผู้ชายอีกคนก็กล่าวเห็นด้วย

 

ได้ยินคำพูดของทั้งสามคน ยอนดู ยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่า หุ้นส่วนเก่าของเขาเหล่านี้ จะให้ความช่วยเหลือเเม้เขาจะตกที่นั่งลำบาก

 

“ไม่สิ นี่ไม่ใช่เวลามามัวรำลึกความหลัง ยอนดู เจ้าส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไป บอกว่าเป็นสถานการณ์เร่งด่วนนี่มันหมายความว่ายังไง?”ชายในชุดคลุมสีดำกล่าวถามออกมา

 

พวกเขาทั้งสามคนได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากยอนดู ทันทีที่ได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือพวกเขาก็เร่งมาที่นี่ในทันที

 

ได้ยินคำพูดของเพื่อนในชุดคลุมสีดำ ยอนดูลูบเขาของเขาเล็กน้อยด้วยความเเปลกใจ

 

“พวกเจ้าตรวจไม่พบอย่างงั้นหรอ? คลื่นพลังงานความผันผวนระดับเเรกนั่น?”ยอนดูกล่าวถามออกมา

 

“คลื่นพลังงานความผันผวนระดับเเรก?มีสิ่งนั้นด้วยอย่างงั้นหรอ ตั้งเเต่พวกเรามาถึง พวกเราได้กระจายกองกำลังยานไปตรวจดูเเล้ว ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ”ชายคนนั้นกล่าวตอบ

 

ตั้งเเต่พวกเขาทั้งสามคนเป็นโจรสลัดอวกาศมาพวกเขายังไม่เคยเพบคลื่นสัญญาณความผันผวนระดับเเรกเเม้เเต่ครั้งเดียว

 

“เป็นไปไม่ได้! หรือว่าเจ้าสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่น ถูกกำจัดโดยชายคนนั้น?”

 

พอได้ยินว่าสิ่งที่เคยมีกลับไม่มีเเละหายไปโดยสมบูรณ์ยอนดูยากที่จะเชื่อเมื่อสิบนาทีก่อนสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นมันยังอยู่เลยเเท้ ๆ หากเป็นอย่างที่เขาคิดจริง คนคนนั้นจะต้องเเข็งเเกร่งอย่างมาก ถึงสามารถกำจัดสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นได้

 

“มันไม่น่าเป็นไปได้ ข้าจะส่งตำเเหน่งก่อนหน้านี้ให้กับพวกเจ้า พวกเจ้าช่วยตรวจสอบมันที”หลังจากนั้นยอนดูก็ส่งสัญญาณตำเเหน่งออกไป

 

“หืม? เข้าใจเเล้ว”พวกเขาตอบกลับ

 

จากนั้นพวกเขาที่เป็น ผู้บัญชาการกองยานได้ทำการล็อคตำเเหน่งที่ยอนดูส่งให้

 

หลังจากล็อคตำเเหน่งเป้าหมายได้เเล้ว ผู้บัญชาการผู้หญิงคนนั้นในที่สุดก็ตรวจพบตำเเหน่งที่ยอนดูส่งมาให้ หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ผิวของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

“นั่นเป็นร่องรอยโบราณงั้นหรอ?”

 

“ร่องรอยโบราณที่ถูกเปิดผนึก…”

 

“ไม่ถูกต้อง มันมีรอยทับ นี่มัน….”

 

หลังจากที่ทั้งสามคนเห็ฯสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาก็สามารถคาดเดาสิ่งต่าง ๆ ได้ในทันที ในตำเเหน่งป่านั้นนอกจากร่องรอยโบราณเเล้วพวกเขายังเห็นยานอวกาศเเละผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่าสถานที่เเห่งนี้เคยเกิดการต่อสู้ขึ้นมาก่อนหน้านี้

 

ไม่นานพวกเขาก็กระจายตำเเหน่งระยะสัมผัสในการตรวจจับเพิ่มขึ้นจนสามารถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เช่นรอยเเยกที่ถูกเปิดออกเเละบ่อหลุมขนาดใหญ่

 

“ยอนดู…เจ้ากำลังจะบอกว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นจากร่องรอยโบราณก่อนหน้านี้ใช่หรือไม่?”

“เอ๋,เอ่อ ฉันไม่เป็นอะไร ทางที่ดีคุณอย่าเพิ่งตัดสินใจดีกว่า คิดให้รอบคอบอีกหน่อย ยังไงคุณก็ยังมีเวลาอีกเยอะใช่มั้ย จริงสิ ฉันจำได้ว่าคุณบอกว่ามีภารกิจอยู่?”เเจ็คสันที่รู้สึกตัวจากการกระตุ้นของสตาร์ลอร์ดเขาก็กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

 

“พวกเราตัดสินใจที่จะพักเรื่องภารกิจเอาไว้ก่อน อันที่จริงเป้าหมายที่เราทำภารกิจก็เพราะรางวัลเท่านั้น”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ด อธิบาย ดูเหมือนเขาจะยกเรื่องพ่อของตนเองขึ้นมาเป็นอันดับเเรกในตอนนี้

 

“อา…ดูเหมือนว่าพล็อตเรื่องเเม้จะเปลี่ยนไปมาก เเต่ เรื่องของ ยอนดู เเละ สตาร์ลอร์ด รวมถึงพ่อของเขา จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ มันราวกับบททดสอบที่ สตาร์ลอร์ดจะต้องผ่านไปให้ได้”เเจ็คสันครุ่นคิดในใจ

 

“หากคุณตัดสินใจเช่นนั้น ฉันก็คงจะห้ามอะไรไม่ได้ เช่นนั้นก็ระวังตัวด้วย พวกเราจะช่วยส่งคุณไปยังดาวอารยธรรมใกล้เคียง เเต่ตอนนี้ ก็คงต้องรอให้เขาคนนั้นกลับมาก่อนละนะ”เเจ็คสันกล่าวตอบ

 

เเจ็คสันตั้งใจจะขอร้องให้เอนเชี่ยนวันช่วยสตาร์ลอร์ดซึ่งเขาคิดว่า เอนเชี่ยนวันไม่น่าจะปฏิเสธคำขอเล็กน้อยเช่นนี้จากปากของเขา

 

หึ่ม!

 

ขณะที่เเจ็คสันเเละสตาร์ลอร์ดกำลังสนทนากัน มิติวงกลมเเสงสีทองก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของพวกเขาจากนั้นก็มีร่างเงาร่างนึงเดินออกมา

 

เห็นรัศมีพลังเเสงสีทองที่ปรากฏขึ้น ความสนใจของเเจ็คสันได้เปลี่ยนไป พวกสตาร์ลอร์ด เองก็เช่นเดียวกัน พวกเขาทั้งหมดได้หันความสนใจไปที่เงาร่างที่กำลังเดินออกมา

 

“สวัสดี ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน เรื่องที่คุณมาช่วยพวกเรา ต้องขอบคุณอย่างมาก!”เห็นชายวัยกลางคนสวมชุดยาวเดินออกมา เเจ็คสันพูดออกมา

 

หากเอนเชี่ยนวันไม่ปรากฏตัว เเจ็คสันไม่รู้ว่าตนเองกับพวกสตาร์ลอร์ดจะยังคงรักษาชีวิตของตนเองเอาไว้ได้หรือไม่ เเม้ว่า สตาร์ลอร์ด จะเป็นหนึ่งในตัวเอกของโลกมาร์เวล เเต่ สัตว์ประหลาดระดับ S นั่นก็เเข็งเเกร่งอย่างมาก เเจ็คสันไม่คิดว่าพวกเขาจะรอดออกมาได้

 

“อืม”เอนเชี่ยนวันที่ได้ยินการเเสดงความขอบคุณจากเเจ็คสันเขาพยักหน้าตอบรับเล็กน้อย

 

จากนั้นทั้ง 4 คนก็เงียบไม่มีใครกล่าวพูดอะไรออกมา เเม้เเต่ เดดพูล ที่ได้รับฉายาว่าปากปืนกล ก็ญังไม่หน้าด้านพูดขึ้นในเวลานี้ สำหรับ สตาร์ลอร์ด พวกเขาไม่รู้จะพูดอะไรออกมา สิ่งที่เขาคิดตอนนี้ก็คือเรื่องพ่อของตนเองเพียงเท่านั้น

 

เห็นทั้งสามคนไม่ได้กล่าวอะไรออกมาพร้อมกับเเสดงสีหน้าอย่างตึงเตรียดเอนเชี่ยนวันยิ้มออกมาเบา ๆ

 

“เอ่อ…ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน เเล้วสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นล่ะ? คุณกำจัดไปเเล้วงั้นหรอ?”เเจ็คสันได้มองหาโอกาสพูดทำลายบรรยากาศอันเงียบสงบนี้ เเม้เขาจะได้รับข้อความเเจ้งเตือนจากระบบ เเต่เขาก็เเสร้งทำเป็นไม่รู้

 

“ประมาณนั้น”ได้ยินคำถามจากเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวันพูดเล็กน้อยเเละยิ้มออกมาที่มุมปากเขาไม่ได้พูดว่าตนเองได้ฆ่าสัตว์ประหลาดนั่นไปเพียงเเค่ฝังมันกลับลงไปในผนึกอีกครั้ง

 

“คุณ…คุณเเข็งเเกร่ง จริง ๆ! สัตว์ประหลาดนั่นดุร้ายเป็นอย่างมาก เเต่คุณก็ยังสามารถกำจัดมันได้ ทำไมฉันถึงไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าโลกของเรามีผู้พิทักษ์ที่เเข็งเเกร่งขนาดนี้!”หลังจากเเจ็คสันกล่าวทำลายความเงียบสงบ เดดพูล ที่ไม่สามารถทนกับบรรยากาศแบบนั้นได้ ก็พยายามพูดออกมา

 

ได้ยินเสียงของเดดพูล เอนเชี่ยนวัน เพียงชายตามองร่างของเดดพูลเเวบนึงก่อนที่จะถอนสายตากลับไป

 

“มีอะไรงั้นหรอ?”เห็นว่าเอนเชี่ยนวันจ้องมองมาที่ตนเอง เดดพูล รู้สึกใจคอไม่ดี หรือว่าเมื่อครู่นี้เขาพูดอะไรไม่ดีออกไป

 

เอนเชี่ยนวัน เป็นบุคคลที่เเข็งเเกร่งหากเขาต้องการจัดการตนเอง เเน่นอนว่า เดดพูลเชื่อว่าตนเองไม่มีทางตอบโต้ได้เลย

 

“ดูเหมือนเพื่อนคนนี้จะมีชะตากรรมที่ข้ายากจะคาดเดาอีกเเล้ว ทุกครั้งที่ข้าเห็นบุคคลใกล้ตัวเขา อนาคตต่าง ๆ เริ่มที่จะเปลี่ยนไปทีละน้อย หรือว่า นี่เป็นความสามารถส่วนหนึ่งของเขา?”เอนเชี่ยนวันครุ่นคิดในใจอย่างเงียบ ๆ

 

เเต่เดิมเอนเชี่ยนวันจ้องมองไปที่เดดพูล เขาสามารถมองเห็นอนาคตของเดดพูลได้อย่างสมบูรณ์ ในฐานะจอมเวทย์สูงสุด เอนเชี่ยนวันมีความสามารถในการมองเห็นอนาคต นอกจากนี้ เขายังมี ดวงตาเเห่งอากาโมโต้ ทำให้เขาสามารถใช้ความสามารถมองเห็นอนาคตที่ไกลมากขึ้น เเต่ความสามารถเหล่านั้นกลับเริ่มไร้ผลกับเเจ็คสันเเละคนรอบตัวของเขา

 

“สวัสดี เอ่อ…คุณจอมเวทย์ ฉันชื่อ สตาร์ลอร์ด”ขณะนั้นเอง สตาร์ลอร์ดก็รีบเดินไปกล่าวทักทายเเนะนำตัวเอง

 

หลังจากได้เห็นสตาร์ลอร์ดเอนเชี่ยนวันได้ละสายตาจากเดดพูลเเละจ้องมองมาที่สตาร์ลอร์ดอย่งประหลาดใจ

 

“เป็นไปได้อย่างไร…เขาคือลูกหลานของผู้สืบเชื้อสายโบราณ?”เอนเชี่ยนวันลอบกระซิบในใจอย่างเงียบ ๆ

 

เอนเชี่ยนวันได้ลอบมองอนาคตของทุกคน เขาไม่สามารถมองเห็นอนาคตของเเจ็คสันได้ สำหรับเดดพูล เขาคิดว่าอาจเป็นเพราะพันธุกรรมมิวแทนท์ หรือ เพราะมีความเกี่ยวข้องกับเเจ็คสัน จนในที่สุด สายตาของเขาก็ตกไปที่ร่างของสตาร์ลอร์ดเขาได้มองอนาคตของคนคนนี้ เเละ พบว่า สตาร์ลอร์ด คือลูกหลานของผู้สืบเชื้อสายโบราณ

 

ผู้สืบเชื้อสายโบราณคือหนึ่งในเผ่าพันธุ์โบราณที่มีลักษณะจำเพาะพิเศษโดยเฉพาะร่างกาย

 

คนพวกนี้มีเเหล่งพลังชีวิตที่สูงเเละสามารถมีชีวิตได้อย่างยืนยาว เเต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้กำเนิดทายาทโดยทั่วไปเเล้ว ผู้สืบเชื้อสายโบราณมีความสามารถในการพัฒนาเเหล่งอารยธรรมของพวกเขาที่สูงพวกเขามีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่นพ่อของสตาร์ลอร์ด ตัวตนที่เเท้จริงของเขาคือดาวเคราะห์ดวงนึง

 

ดังนั้นหลังจากมองเห็นสถานะของสตาร์ลอร์ดเอนเชี่ยนวันจึงเเสดงความประหลาดใจจนเเทบไม่ไม่สามารถปกปิดได้ เทียบกับสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่น เรื่องของสตาร์ลอร์ดดูจะน่าสนใจกว่าเยอะ เเต่หลังจากสังเกตุดี ๆ เอนเชี่ยนวันก็พบว่า สตาร์ลอร์ด เเม้จะเป็นลูกหลานของผู้สืบเชื้อสายโบราณ เเต่เขายังไม่ได้ปลุกความเเข็งเเกร่งของตนเองขึ้นมา

 

“เเจ็คสัน เด็กคนนี้ บุคคลรอบตัวเขากับอนาคตที่เขาเป็นคนชักนำ ดูเเล้วไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะคาดเดา”เอนเชี่ยนวันยิ้มออกมาก่อนที่สายตาของเขาจะตกไปที่ร่างของเเจ็คสัน

 

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย?”เห็นการเเสดงออกที่ผิดปกติหลังจากที่เอนเชี่นวันจ้องมองไปที่ เดดพูล เเละ สตาร์ลอร์ด เเจ็คสันจึงกล่าวถามออกมา

 

“ข้าสบายดี!”เอนเชี่ยนวันตอบกลับเบา ๆ

 

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมบัติที่เเข็งเเกร่งที่สุดในโลกมาร์เวล ไทม์อินฟินิตี้สโตน นั้นถือว่าเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างมาก น้อยครั้งมากที่สิ่งของชิ้นนี้จะถูกใช้งาน เเละ มันได้ถูกครอบครองโดยเอนเอชี่ยนวัน หากเป็นไปได้ เอนเชี่ยนวัน ก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งหรือทำลายกฏเเห่งเวลา

 

“สามารถทำให้ข้าต้องหันไปพึ่งพาความเเข็งเเกร่งของ ดวงตาแห่งอากาโมโต้ ได้ เจ้านับว่าคุณสมบัติพอที่จะชื่นชมตัวเอง”เอนเชี่ยนวันได้ขยายพลังงานเวทมนตร์สีเขียวออกมาเป็นจำนวนกว้าง

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเวทมนตร์ขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางได้เเผ่กระจายขยายออกไปหลายกิโลเมตร จนกระทั่งปกคลุมหนวดยักษ์ทั้งหมดรวมถึงร่างหลักที่อยู่ข้างล่างด้วย

 

กร๊าชช!

 

ไม่รู้ว่าทำไมคราวนี้หนวดยักษ์นั่นเริ่มกวัดเเกว่งไปมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อให้หลุดจากเวทมนตร์ขนาดใหญ่ที่เอนเชี่ยนวันสร้างในเวลานี้เวทมนตร์เหล่านั้นได้เริ่มลอยกดต่ำลงมาจนกระทั่งเอนเชี่ยนวันประกบมือทั้งสองข้างเข้าหากัน

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่เอนเชี่ยนวันประกบมือเสร็จเเสงพลังงานสีเขียวก็เข้ากดทับร่างทั้งหมดของสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นจนมันดิ้นทุรนทุรายกรีดร้องออกมา

 

จากนั้นร่างกายขนาดใหญ่ของหนวดยักษ์นั่นก็เริ่มถูกเปลี่ยนให้สลายหายไปทีละเล็กละน้อยไม่ต้องสงสัยเลยว่า มณีเเห่งเวลานี้ มีความเเข็งเเกร่งมากขนาดไหน เพียงเเค่เศษเสี้ยวของพลังก็สามารถทำให้สัตว์ประหลาดยักษ์ตนนี้ต้องกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวชได้

 

เสียงกรีดร้องที่ดังออกมาจากร่างหลักได้ดังลั่นไปทั่วป่าบริสุทธิ์เเห่งนี้ ทันทีที่มหาเวทมนตร์ขนาดยักษ์กดทับลงมาหนวดยักษ์เหล่านั้นก็มีชะตากรรมที่จะต้องจบลงอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ผ่านไปไม่กี่วินาที ร่างของหนวดยักษ์นั่นได้หายไปจากสายตาของเอนเชี่ยนวัน การต่อสู้ที่ยาวนานในที่สุดก็จบลง

 

หลังจากหนวดยักษ์หายไป เอนเชี่ยนวัน จ้องมองไปที่พื้นที่เดิมที่สูญสลายเพราะเเรงภัยพิบัติจากหนวดยักษ์จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่สิ่งของที่อยู่ตรงหน้าอกของตนเองที่เปล่งเเสงสีเขียวออกมา

 

“หลับให้สบายซะ นับว่าเป็นโชคร้ายสำหรับเจ้า ที่ออกมาก่อนเวลาอันควร”จ้องมองไปที่ทุ่งหญ้าที่ว่างเปล่าในปัจจุบันเอนเชี่ยนวันพึมพัมเล็กน้อย

 

เขาได้จัดการผนึกสัตว์ประหลาดยักษ์นี่ไปเเล้วโดยใช้กฏเเห่งเวลาในการเปลี่ยนมันกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง เพื่อกักขังสัตว์ประหลาดตนนี้ชนเผ่าจากอารยธรรมโบราณเเห่งนึงได้สร้างผนึกที่เเข็งเเกร่งขึ้นเพื่อที่จะผนึกมันไว้ตลอดกาลโชคร้ายที่มันหลุดออกมา ดังนั้น มันจึงถูกลบล้างให้หายไปจากวัฏจักรชีวิตโดยสมบูรณ์

 

“หืม?ดูเหมือนว่าจะมีเเขกที่ไม่ได้รับเชิญมามากขนาดนี้ คงถึงเวลาที่ข้าจะต้องไปจากที่นี่ซักที”เอนเชี่ยนวันได้วาดสัญลักษณ์มือขึ้นจากนั้นไม่นานร่างของเขาก็หายไปจากสถานที่เเห่งนี้

 

ขณะที่เอนเชี่ยนวันหายตัวไปรอบนอกพื้นที่ของดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ยานอวกาศหลายร้อยลำได้พุ่งเข้ามาใกล้ดาวเคราะห์ดวงนี้อย่างรวดเร็ว บนตัวของยานอวกาศเหล่านั้นดูเหมือนว่าจะมีสัญลักษณ์ของพวกสลัดอวกาศอยู่ การมาถึงของกองยานสลัดอวกาศขนาดใหญ่เช่นนี้ คงเป็นเพราะสัญญาณขอความช่วยเหลือจากยอนดูที่ส่งหาพวกเขา

 

 

“ฉันวางเเผนจะตามหาพ่อของฉัน ฉันไม่เชื่อในคำพูดของยอนดู ดังนั้นฉันอยากจะถามนาย นายจะช่วยพาฉันไปด้วยได้หรือไม่?ไปส่งฉันที่ดาวเคราะห์กลางก็ได้”บนชายหาด สตาร์ลอร์ด จ้องมองไปที่ มิราจไนท์ที่อยู่เบื้องหน้าของเขา

 

“สตาร์ลอร์ด ฉันคิดว่าบางทีคุณควรลองฟังคำพูดของยอนดู ท้ายที่สุด เขาก็เป็นคนเลี้ยงดูเเลคุณมามากกว่า 20 ปปี”ได้ยินว่าสตาร์ลอร์ดต้องการมองหาพ่อของตนเอง เเจ็คสัน ขมวดคิ้วเเน่นเล็กน้อย

 

ในพล็อตเรื่อง กาเดี้ยน ออฟ เดอะ กาเเลคซี ยอนดู ที่ช่วยเหลือสตาร์ลอร์ด ได้เสียชีวิตลงในดาวเคราะห์พ่อสตาร์ลอร์ด ดังนั้นสตาร์ลอร์ดจึงรู้เนื้อเเท้ที่เเท้จริงของพ่อของตนเอง

 

“ไม่จำเป็นต้องห้ามปรามฉันหรอก ไม่ว่ายังไงฉันก็จะตามหาพ่อของฉันอย่างเเน่นอน เเม่ของฉัน ได้เสียชีวิตที่ดาวเคราะห์โลก เเละ ตอนนี้ฉันก็ได้รับข่าวของพ่อที่ตามหามานานหลายปี ฉันไม่อยากที่จะยอมเเพ้ในเรื่องนี้”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ ไม่ว่าอย่างไร สตาร์ลอร์ด ก็จะออกตามหาพ่อของเขา

 

“หากคุณว่าเช่นนั้น…”หลังจากจ้องมองไปที่สีหน้าเอาจริงเอาจังของสตาร์ลอร์ด เเจ็คสันไม่รู้จะพูดอะไรออกมา เเต่ในขณะนั้นเองระบบในจิตใจของเขาก็ส่งเสียงเเจ้งเตือน

 

“สำเร็จเควสภารกิจลับ :ผนึกเเละจัดการมหาภัยคุกคามสิ่งมีชีวิตระดับ S”

 

“ของรางวัล : เเต้มคะแนน 100,000 เเต้มจุด”นี่คือเสียงภายในระบบจิตใจของเเจ็คสัน มันได้บอกว่าเขาเสร็จสิ้นเควสภารกิจลับ นี่ทำให้เเม้เเต่ตัวเเจ็คสันเองก็ประหลาดใจโดยไม่คาดคิด

 

“เเต้มคะแนน 100,000 เเต้ม? ฉันได้รับความสำเร็จจากเควสภารกิจลับนี่ด้วยอย่างงั้นหรอ?”ได้ยินเสียงเเจ้งเตือนของระบบเเละของรางวัล เเจ็คสันคิดว่ามันอาจจะเป็นความผิดพลาด

 

ก่อนหน้านี้ที่เเจ็คสันเสร็จสิ้นเควสภารกิจลับไปได้ก็คือเควสกำจัดองค์กรไฮดร้า คราวนั้นเขาได้รับเเต้มคะแนนมาจำนวนมหาศาลเเต่มันก็หมดไปเพราะเเจ็คสันได้ซื้อสิ่งของบางอย่างเพื่อรักษาชีวิตของเขาในตอนนี้ดังนั้นการได้รับเเต้มคะแนนมากกว่า 100,000 เเต้มคะแนนในตอนนี้ทำให้เขารู้สึกดีใจอย่างมาก

 

“ไม่คิดเลยว่า ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน จะสามารถจัดการผนึกสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นได้สำเร็จจริง ๆ !”เเจ็คสันพึมพัมในใจที่น่าเเปลกใจก็คือสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่้นไม่ได้ถูกฆ่าเเต่ถูกผนึกเเทน

 

“เอ๋,นายเป็นอะไรไปหน่ะ?”เห็นมิราจไนท์มีท่าทีเหมือนไม่ได้ฟังตนเอง สตาร์ลอร์ด กล่าวถามเพื่อเรียกสติมิราจไนท์ให้กลับมา

คลื่น!

 

บนดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์นี้ไม่ทราบว่าชายทะเลตำเเหน่งที่พวกเเจ็คสันอยู่นั้นคือส่วนไหนของดาวเคราะห์กันเเน่ ในเวลานี้ บนสนามรบเเห่งนึงการต่อสู้ก็ยังคงดำเนินต่อไป

 

ฟุ่บ!

 

เอนเชี่ยนวันได้ทำสัญลักษณ์มือวาดวงกลมสีทองที่เป็นบาเรียป้องกันเพื่อรับการโจมตีจากสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้

 

เปรี้ยง!

 

“ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเเข็งเเกร่งขนาดนี้ ข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไปจริง ๆ !”หนวดที่ออกมาจากร่างหลักของสัตว์ประหลาดยักษ์ได้เข้าจู่โจมบาเรียเวทมนตร์ของเอนเชี่ยนัวนอย่างต่อเนื่อง

 

หนึ่งนาทีก่อนหน้านี้ เอนเชี่ยนวัน ตั้งใจจะปิดฉากการต่อสู้นี้อย่างรวดเร็วเเต่เพราะหนวดหลักที่งอกออกมาใหม่นี้ทำให้เอนเชี่ยนวันต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในทันทีจากนั้นหนวดยักษ์ทั้ง 16 ที่โดนผนึก ก็เริ่มดิ้นทุรนทุรายอย่างบ้าคลั่ง

 

หลังจากหนวดยักษ์หลุดออกมาจากการจับกุมได้ เอนเชี่ยนวัน ก็เตรียมเข้าสู่มาตราการตั้งรับ เป็นเพราะความเเข็งเเกร่งของหนวดยักษ์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ ศึกในครั้งนี้ เขาต่อสู้ได้ลำบากอย่างมาก

 

เเต่เอนเชี่ยนวันก็คอยสร้างโอกาสให้กับตนเอง เขาได้เข้าเผชิญหน้ากับศัตรูเเละผสานเวทมนตร์มิติเข้าเพื่อลอบโจมตีจากทิศทางต่าง ๆ

 

เอนเชี่ยนวันได้สร้างเวทมนตร์ใบดาบขึ้นมาจากนั้นก็ลงมืดฟาดฟันตัดลงไปยังหนวดยักษ์ที่พุ่งเข้าใส่เขา หนวดยักษ์ที่ถูกตัดนี้คือหนวดจากร่างหลักที่งอกขึ้นมาใหม่

 

หลังจากถูกตัดหนวดนั่นก็ละลายหายไปในทันทีราวกบัไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นจากนั้นร่างของหนวดยักษ์ที่ถูกตัดก็เริ่มฟื้นฟูตัวเองในพริบตา

 

เพียงใช้เวลาไม่นานตำเเหน่งบาดเเผลทั้งหมดที่ได้รับก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนสามารถรักษาเเผลได้อย่างสมบูรณ์ นี่เป็นความสามารถฟื้นตัวที่น่าเกรงขามเลยก็ว่าได้

 

หึ่ม!

 

“เเม้ว่าข้าจะตัดมันอีกกี่หนผลก็คงเหมือนเดิม ความสามารถฟื้นฟูของสหายคนนี้เเข็งเเกร่งจริง ๆ ไม่รู้ว่าศึกครั้งนี้จะยืดเยื้อไปอีกนานเเค่ไหนเเละใครจะเป็นฝ่ายชนะหรือพ่ายเเพ้”เอนเชี่ยนวันที่เห็นพลังฟื้นฟูที่เเข็งเเกร่งของอีกฝ่ายเขาได้หายตัวไปโผล่ยังสถานที่ห่างไกลเเละอุทานออกมา

 

หากเป็นไปได้ เอนเชี่ยนวัน ก็ไม่อยากยั่วยุเพื่อนคนนี้ เขาสามารถเลือกที่จะหลบหนีออกไปจากดาวเคราะห์ดวงนี้ได้เลย เเต่อย่างไรก็ตาม เอนเชี่ยนวัน กลับไม่ต้องการเช่นนั้น หากเขาจากไปในตอนนี้ล่ะก็ เขาอาจจะเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้ดาวเคราะห์ดวงนี้ถูกทำลาย ด้วยความเเข็งเเกร่งของหนวดยักษ์นี้ เพียงใช้เวลาไม่นานมันย่อมสามารถกลืนกินดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ดวงนี้ได้อย่างสมบูรณ์

 

เเม้ความรับผิดชอบของเอนเชี่ยนวันจะคือการปกป้องโลก เเต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาที่เห็นตัวตนที่สามารถคุกคามจักรวาลหรือดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ได้ ปรากฏตัวขึ้น เเละ เขาจะปล่อยผ่านไป ดังนั้น เอนเชี่ยนวัน จึงเลือกที่จะสู้ต่อ

 

หนวดขนาดยักษ์ที่ฟื้นฟูกลับมาใหม่มีความเเข็งเเกร่งประหลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเเม้ปริมาณของหนวดจะไม่เพิ่มมากขึ้นเเต่ด้านผลลัพธ์ถือว่าเลวร้ายอย่างมาก

 

“หืม?เด็กน้อยนั่น ฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดไว้อีกนะเนี่ย”ในขณะที่ลอยอยู่กลางอากาศเเละเผชิญหน้ากับการโจมตีของหนวดประหลาด เอนเชี่ยนวัน เลิก คิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

 

ดูเหมือนว่า เเจ็คสัน จะสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่ เอนเชี่ยนวันคาดไว้

 

ปั้ง!

 

ระหว่างที่เผชิญหน้ากับหนวดประหลาด เอนเชี่ยนวัน ได้สูญเสียสมาธิเล็กน้อย กำเเพงเวทมนตร์ของเขาได้ถูกโจมตีโดยหนวดยักษ์เเละทำลายในเวลาเดียวกัน ตอนนี้เอนเชี่ยนวันไม่สามารถตอบสนองได้ทัน

 

ฟุ่บ!

 

เอนเชี่ยนวันที่เห็นหนวดยักษ์พุ่งเข้ามาเขาที่ไม่มีเวลาร่ายเวทมนตร์ได้ทัน เขาได้เปลี่ยนไปใช้บางสิ่งบางอย่างจากนั้นเเสงสีเขียวก็ได้ก่อเกิดขึ้นด้านหน้าของเขา

 

เวทมนตร์สีเขียวนี้ได้เริ่มหมุนวนเป็นรูปทวนเข็มนาฬิกา

 

ในเวลาต่อมา กำเเพงเวทมนตร์ที่เดิมถูกทำลายไปก็ฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถของการย้อนกระเเสเวลา กำเเพงเวทมนตร์เหล่านั้นได้ฟื้นตัวกลับมาเเละป้องกันการโจมตีจากหนวดยักษ์อีกครั้ง

 

เปรี้ยง!

 

หนวดยักษ์ที่โจมตีเข้ามาเเม้มันจะสามารถทำลายกำเเพงเวทมนตร์ได้เเต่หนวดยักษ์ประหลาดนั่นก็กระเด็นถอยไปอย่างน่าสังเวช

 

“หึ่ม! เเม้เจ้าจะเเข็งเเกร่งเเล้วอย่างไร ภายใต้กฏเเห่งเวลา เจ้าไม่นับเป็นตัวตนอันใดด้วยซ้ำ”หลังจากป้องกันการโจมตีได้ เอนเชี่ยนวัน ได้พึมพัมเล็กน้อย

 

หากจะบอกว่าสิ่งที่เขากำลังใช้นี้ก็คือความเเข็งเเกร่งของกฏเวลาก็ไม่ผิด บนฝ่ามือของเอนเชี่ยนวัน ได้ปรากฏเป็นเวทย์เเผ่นดิสก์เเสงสีเขียว จากนั้น เอนเชี่ยนวัน ก็ดึงพลังของ ไทม์อินฟินิตี้สโตน มาใช้ เมื่อผนวกสิ่งนี้เข้ากับเอนเชี่ยนวัน เขาจะกลายเป็นตัวตนที่เเข็งเเกร่งสุด ๆ

วิ๊ดด!

 

บริเวณชายขอบทะเลเรื่องร่างของเเจ็คสันปกคลุมไปด้วยเเสงสีทอง,เเสงสีทองเหล่านี้ราวกับว่ามีชีวิตทุกครั้งที่ เดดพูล จ้องมองไปที่ ร่างกายของเเจ็คสัน พวกมันได้เคลื่อนไหวอย่างเเปลกประหลาด ขณะนั้นเอง เดดพูลสังเกตุพื้นทรายใกล้บริเวณที่เเจ็คสันอยู่มันได้ขยับ

 

“หึ่ม! คิดว่าจะรอดพ้นสายตาจากชั้นคนนี้งั้นหรอ!”เดดพูลจ้วงมือลงไปที่พื้นทรายขยับเขยื้อนอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเดดพูลก็ได้ดึงสิ่งมีชีวิตทรงยาวขึ้นมาจากใต้หาดทราย สิ่งมีชีวิตตัวนี้มีความยาวมากกว่า 20 เซนติเมตร ร่างกายเป็นสีเเดงเข้ม ไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหน เเต่มันสามารถมีชีวิตรอดอยู่บนหาดทรายได้

 

ทันทีที่เดดพูลจับมันขึ้นมา เจ้าตัวน้อยนี่ได้เคลื่อนไหวดิ้นไปมาอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะให้หลุดจากการจับกุมของเดดพูล เพียงเเต่เดดพูล ได้จับส่วนหัวของมันเเน่น จนเเทบจะคลายไม่ออก เจ้าตัวน้อยตัวนี้ได้ใช้ปลายเล็ก ๆ ที่ยื่นออกมาจากส่วนที่คล้ายกับใบหน้าจิ้มลงไปที่ร่างกายของเดดพูล

 

“อ๊ากก~ เจ้าตัวเล็กนี่ ร้ายนักนะ!”ทันทีที่ตนเองถูกโจมตีจากเจ้าตัวเล็กเขาได้สะบัดมืออย่างเจ็บปวดขณะที่กำมันไว้เเน่น

 

ตึก ตึก~~

 

ขณะนั้นเองวิสัยทัศน์ของเดดพูล ได้จ้องมองไปเจ้าตัวเล็กที่อยู่บนมือ ดูเหมือนว่าหลังจากที่มันกัดเขา เจ้าตัวน้อยนี่ก็ราวกับกำลังเติบโตขึ้น ร่างกายที่สีเเดงเข้มของมัน เริ่มที่จะโปร่งใสจนเห็นอวัยวะ เดดพูล รู้สึกตกตะลึงกับเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวน้อยนี้

 

“หืม?”ขณะที่เดดพูล กำลังสังเกตุเพื่อนตัวน้อยนี้ด้วยความเบื่อหน่ายเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาจากข้างหลัง

 

เดดพูล ได้หันศีรษะกลับไปมองก็พบว่า สตาร์ลอร์ด ค่อย ๆ เดินมาทางเขา ดูเหมือนว่า สตาร์ลอร์ด จะพูดคุยกับยอนดูเสร็จเเล้ว เเละ ผลลัพธ์ของบทสนทนาเเล้วหากให้คาดเดาก็คงไม่ดีอย่างเเน่นอน

 

เห็นว่าสตาร์ลอร์ดกำลังเดินมาทางนี้ เดดพูล ได้หันกลับไปมองมิราจไนท์ ดูเหมือนว่าเเสงสีทองนั่นจะยังไม่ได้จางหายไป เดดพูล เลิกสนใจสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่อยู่ในมือ เขาได้เดินไปทางสตาร์ลอร์ด

 

จากนั้นเดดพูลก็ปิดกั้นทางเดินของสตาร์ลอร์ด เพื่อไม่ให้เขาเข้าไปรบกวน มิราจไนท์ สตาร์ลอร์ดได้บอกกับเดดพูลเรื่องที่เขากับยอนดูจะเเยกทางกัน สตาร์ลอร์ด ที่สูญเสียยานอวกาศ ตอนนี้คนที่เขาจะสามารถขอความช่วยเหลือได้ก็มีเพียงมิราจไนท์เพียงเท่านั้น

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เดดพูล ไม่ได้เเสดงความคิดเห็นอะไรออกมา เขาได้ยืนขวางทางสตาร์ลอร์ดเเละบอกไม่ให้ไปรบกวน มิราจไนท์

 

….

 

ทางด้านเเจ็คสันเขาไม่ได้สนใจว่า สตาร์ลอร์ด จะทะเลาะอะไรมากน้อยเเค่ไหนกับยอนดู เขาได้เพ่งจิตไปที่การฟื้นฟูการรักษาตนเองเพียงเท่านั้น เเสงสีทองที่รายล้อมอยู่รอบตนเองได้ซึมซับเข้าสู่ร่างกายอย่างอบอุ่น พละกำลังเเต่เดิมที่หายไปได้ค่อยฟื้นฟูสภาพกลับมาทั้งยังเป็นการฟื้นฟูที่เจาะลึกลงไปถึงเซลล์

 

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เเจ็คสันรู้สึกประหลาดใจมาก พละกำลังของเขาได้กลับคืนสู่สภาพเดิม ไม่สิ หากเทียบกับเมื่อก่อนคล้ายจะเเข็งเเกร่งขึ้นมาหน่อย กล่าวอีกนัยนึงคือ ความสามารถของเเสงสีทองที่อบอุ่นนี้ไม่เพียงเเต่จะช่วยรักษาเขาเเต่ยังช่วยเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งให้กับร่างกายของเขาอีกด้วย

 

เเม้อาการบาดเจ็บของเเจ็คสันจะได้รับการเยียวยาเเละรักษาไปทั้งหมดเเต่เเสงสีทองเหล่านั้นก็ยังไม่หายไป ขณะนั้นเองเเสงสีทองก็ได้มุ่งเป้าไปที่ด้านบนศีรษะของเขา เเสงสีทองเหล่านั้นได้ทะลักเข้าสู่ภายในศีรษะของเขาเเละตรงดิ่งเข้าไปยังทะเลจิตสำนึกของตนเอง เมื่อเเสงสีทองเหล่านั้นเข้าไปยังพื้นที่ทะเลจิตสำนึกของตนเอง เเจ็คสันได้เข้าไปในจิตของตนเองอย่างรวดเร็วเพราะในจิตสำนึกของเขาได้ซ่อนความลับเอาไว้มากมาย

 

“หึ่ม! เจ้าเเสงพวกนี้ คิดจะบุกล้ำอาณาเขตจิตสำนึกของฉันขณะที่มีโอกาสงั้นหรอ?”เเจ็คสันจ้องมองไปที่กลุ่มก้อนพลังงานสีทอง

 

หากเอนเชี่ยนวันต้องการบุกรุกจิตสำนึกของเขาก่อนหน้านี้ เอนเชี่ยนวันย่อมสามารถทำได้ เพราะท้ายที่สุดเเล้วความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันในตอนนั้นเเทบจะไม่มีทางต้านทานได้เลย

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าความกังวลของเเจ็คสันมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง กลุ่มเเสงสีทองเหล่านั้นไม่ได้บุกรุกเข้าไปในจิตสำนึกของเขา

 

“หืม?มันคิดจะทำอะไรกันเเน่?”เห็นว่ากลุ่มก้อนพลังสีทองเคลื่อนย้ายไปยังบ่อพลังจิตของตนเอง เเจ็คสันรู้สึกประหลาดใจ

 

ฟ้าว ~ ~

 

จากนั้นกลุ่มก้อนพลังสีทองก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเเละหายเข้าไปในบ่อพลังจิตของเเจ็คสัน ขณะเดียวกัน พลังจิตที่ได้รับความเสียหายก่อนหน้านี้ก็ฟื้นตัวกลับคืนมาในทันที นอกจากจะช่วยฟื้นฟูเเล้วมันยังช่วยส่งเสริมให้พลังจิตของเขาเเข็งเเกร่งขึ้นเล็กน้อย

 

“อาการบาดเจ็บทั้งหมดหายไปเเล้ว?”เห็นว่าตนเองฟื้นฟูทั้งพลังจิตเเละพลังกายกลับมาทั้งยังช่วยส่งเสริมความเเข็งเเกร่งได้อีก เเจ็คสันรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

 

ตอนนี้บ่อพลังจิตของเเจ็คสันปกคลุมไปด้วยพลังงานสีทองที่เข้มข้น พื้นที่ด้านนอกเเสงสีทองเหล่านั้นได้หายไปอย่างสมบูรณ์ เเจ็คสันที่นั่งไขว่ห้างอยู่ใกล้ชายขอบทะเล เขาก็ได้เปิดตาทั้งสองข้างขึ้น

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาที่เเจ็คสันเปิดตาทั้งสองข้างขึ้น เเสงสีทองอ่อน ๆ ได้ส่องประกายผ่านดวงตาทั้งสองของเขา

 

“ไม่คิดเลยว่า ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน จะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้ให้กับฉัน!”เมื่อรู้สึกว่าทั้งร่างกายเเละพลังจิตฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ เเจ็คสันเเอบลอบปลาบปลื้มในใจ

 

คลื่น~~

 

บรรยากาศเบื้องหน้านี้คือน้ำทะเลที่สวยงามเเละบริสุทธิ์น้ำทะเลที่ใสสะอาดพร้อมกับคลื่นน้ำที่ซัดกระหน่ำเข้าฝั่ง เเจ็คสัน เเละ เดดูล ได้เดินเล่นอยู่ชายขอบทะเลนี้

 

“มิราจไนท์ ดูเหมือน สตาร์ลอร์ด จะต้องการความช่วยเหลือจากเราในตอนนี้นะ คุณไม่คิดจะยื่นมือเข้าไปช่วยหน่อยหรอ?”ระหว่างที่เดินเล่น เดดพูล เปิดปากกล่าวถามขึ้น

 

“มันก็มีบางเรื่องที่เราไม่ควรเข้าไปยุ่ง เช่นในขณะนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ฉันไม่อยากให้พวกเขารู้อะไรบางอย่าง”ได้ยินคำถามของเดดพูล เเจ็คสัน กล่าวตอบเบา ๆ

 

“หืม?คุณมีเรื่องอะไรที่ปิดบังไว้งั้นหรอ?”เดดพูลกล่าวถามอย่างสงสัย

 

“เรื่องเล็กน้อยนิดหน่อยไม่ต้องใส่ใจหรอก จริงสิ เดดพูล นายเองก็ไปเดินเล่นรอบ ๆ ก่อนก็ได้ ฉันต้องการสภาพเเวดล้อมที่สงบสุข เเละไม่อยากถูกรบกวน”ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเจ็คสันตอบกลับ

 

“เอ๋ ? จะให้ทำแบบนั้นได้ยังไง หากคุณ…”เดดพูล เร่งเร้าตอบออกไป

 

“ไม่จำเป็นหรอก ฉันเเค่ต้องการพักผ่อนจิตใจ เเละฟื้นฟูการรักษษ สภาพของฉันตอนนี้เเค่เดินก็ลำบากเเล้ว ไม่รู้ว่ากว่าจะฟื้นตัวให้ดีขึ้นจะต้องใช้เวลานานเเค่ไหน”หลังจากเดินไปเเล้วเอาเท้าจุ่มทะเลเล็กน้อย เเจ็คสัน ก็นั่งลงบนชายขอบที่น้ำทะเลซัดเข้ามา

 

เมื่อไม่นานมานี้ก่อนที่เเจ็คสันเข้าสู่ประตูมิติเวทมนตร์เขาตรวจพบว่าภายในร่างกายของเขามีกระเเสพลังงานสีทองที่อบอุ่นไหลเวียนอยู่ เเจ็คสัน ได้ตรวจสอบมันอย่างระวัง เเละ พบว่ามันน่าจะเป็นฝีมือของ เอนเชี่ยนวัน ,เอนเชี่ยนวัน ได้ชักนำพลังสีทองนี้เพื่อการรักษาของตนเอง ดังนั้นเมื่อเขาฉุดคิดได้เเจ็คสันก็ตั้งใจที่จะเพ่งสมาธิไปที่การรักษาตนเอง

 

“เอ่อ…หากคุณต้องการพักผ่อนรักษาตัว ฉันจะช่วยเฝ้าให้เอง”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ เดดพูล กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

เดดพูล เเทบไม่ได้รับบาดเจ็บมากมากจากการหลบหนีในครั้งนี้ เเม้ว่าจะได้รับบาดเเผลมาเล็กน้อย เเต่เพราะความสามารถกลายพันธุ์ของตนเองทำให้เขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เเต่อาการบาดเจ็บของมิราจไนท์นั้นรุนเเรงกว่ามาก จุดเริ่มต้นก็ตั้งเเต่ สู้กับสัตว์ประหลาดระดับ B เเละได้รับบาดเจ็บ เเม้จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายใต้สมบัติอย่างน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เเต่พลังงานภายในของเขากลับไม่ได้ฟื้นตัวอย่างเต็มประสิทธิภาพเขาได้ฝืนตัวเองเพื่อปกป้องคนอื่นจากหนวดประหลาดยักษ์นั่นทำให้ได้รับบาดเจ็บเเทรกซ้อนดังนั้นมันจึงเป็นช่วงเวลาที่ยากที่เขาจะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บกลับมาได้

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากที่เดดพูลพูดเช่นนั้น เเจ็คสันก็ปิดตาลงเเละไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกกระเเสพลังงานสีทองที่อบอุ่นได้ไหลผ่านไปทั่วร่างของเขา หลังจาก เเจ็คสันหลับตาลง เดดพูล ที่ช่วยเฝ้าระวังให้ ก็เห็นกระเเสพลังงานสีทองอันอบอุ่นรายล้อมไปทั่วร่างกายของเเจ็คสัน

 

“ไม่เเปลกใจเลยที่คุณคิดจะฟื้นฟูรักษาตนเองในตอนนี้ คุณมีความลับมากน้อยเเค่ไหนกันนะ?”เห็นมิราจไนท์โอบล้อมไปด้วยพลังงานสีทองที่อบอุ่น เดดพูล ครุ่นคิดในใจอย่างเงียบ ๆ

 

 

ขณะที่ เเจ็คสัน เเละ เดดพูล เเยกไปทางอีกฝั่งนึง บรรยากาศ ระหว่าง สตาร์ลอร์ด เเละ ยอนดู ก็ยังเผยความตึงเครียดออกมา ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีเท่าไหร่นักสำหรับสตาร์ลอร์ด การที่เขาได้ยินเรื่องพ่อเเท้ ๆ ของตนเองจากปากของยอนดูที่เก็บเงียบมาหลายปีทำให้เขารู้สึกโกรธอย่างมาก ไม่เพียงเเต่ยอนดู ลักพาตัวเขามาเพียงเท่านั้น เเต่ยังปกปิดเรื่องพ่อของตนเองอีก สำหรับคำพูดของยอนดูที่ว่าพ่อของเขาไม่ใช่คนที่ดี สตาร์ลอร์ดคิดว่า ยอนดู ก็คงไม่เเตกต่างกันเท่าไหร่

 

ในตอนเเรกยอนดูฝ่าฝืนกฏของกลุ่มสลัดอวกาศเดินทางข้ามดวงดาวไปลักพาตัวเด็กคนนึงมา เเละ คราวหลังมาบอกว่านี่เป็นภารกิจ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นภารกิจที่มาจากพ่อเเท้ ๆ ของตนเอง ยังไงตามสตาร์ลอร์ดไม่เชื่อในคำพูดของยอนดู

 

“คุณบอกว่าพ่อของฉันไม่ใช่คนที่ดี?คุณรู้อะไรมากันเเน่ นอกจากนี้ดูจากคำพูดของคุณ ดูเหมือนว่าคุณไม่อยากให้ฉันกลับไปหาพ่อของตนเอง?”เผชิญหน้ากับยอนดู สตาร์ลอร์ด ยังคงถามต่อไป

 

ตั้งเเต่เล็กจนโต สตาร์ลอร์ด เติบโตขึ้นในสภาพเเวดล้อมของพวกสลัดอวกาศ เขาไม่เคยรู้สึกได้รับความรักความอบอุ่นแบบครอบครัวเเม้เเต่น้อยเพราะเป้าหมายเเต่ละคนก็เพราะสมบัติหรือรางวัลต่าง ๆ ดังนั้นในตอนนี้หลังจากได้ยินเรื่องพ่อของตนเอง สตาร์ลอร์ด จึงดีใจอย่างยิ่ง

 

“หากเจ้าไม่เชื่อข้าก็ไม่เป็นไร ข้าเพียงทำได้เพียงบอกความจริงต่อเจ้าเพียงเท่านั้น”ยอนดูไอออกมาพร้อมพิษอาการบาดเจ็บก่อนที่จะกล่าวตอบ

 

เผชิญหน้ากับสตาร์ลอร์ด ยอนดู คาดหวัง การเเสดงออกของสตาร์ลอร์ดอย่างมาก ไม่เเปลกที่สตาร์ลอร์ดจะมีท่าทีเช่นนี้ เพราะเขาพรากจากพ่อเเท้ ๆ ตั้งเเต่เด็ก

 

“บอส! คุณไม่เป็นอะไรนะ?”เห็นว่ายอนดูบอสของเขาเริ่มไอ ผู้ช่วยของ ยอนดู ได้กล่าวเรียก

 

“สตาร์ลอร์ด เจ้าอย่าได้ใจให้มันมากนัก! บอสเตือนเจ้าด้วยความหวังดี หากเจ้าไม่เชื่อเจ้าจะออกไปตามหาพ่อของเจ้าก็ได้! พวกเราจะไม่ขวางทางเจ้า”หลังจากเห็นสถานการณ์เริ่มไม่ดี ผู้ช่วยของยอนดู ตะโกนด่าสตาร์ลอร์ด

 

ผู้ช่วยคนนี้เป็นคนที่สนิทที่สุดของยอนดู ดังนั้นเขาจึงรู้เรื่องราวทั้งหมด เขารู้ว่า พ่อของสตาร์ลอร์ดไม่ใช่คนที่ดี เเละ ถือว่าเป็นบุคคลที่เลวร้ายยิ่งกว่าพวกเขาเลยก็ได้

 

“กรีน ข้าไม่เป็นอะไร นอกจากนี้ เจ้าช่วยเงียบไปก่อน”เห็นผู้ช่วยออกปากเเทนเขา ยอนดู ยกมือกล่าวห้ามลูกน้องของเขา

 

“บอสเเต่ว่า…”

 

“หุบปาก!”

 

“เข้าใจเเล้ว”

 

หลังจากได้ยินคำด่าจากบอสผู้ช่วยคนนี้ได้ปิดปากลงอย่างรวดเร็ว

 

ยอนดูจ้องมองไปที่สตาร์ลอร์ดพร้อมกับสีหน้าจริงจัง

 

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เชื่อคำพูดของข้า เเต่ข้าจะพูดความจริงที่ว่านี้ออกมา เรื่องที่ข้าลักพาตัวเจ้ามาจากดาวเคราะห์บ้านเกิดเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ข้าเป็นคนผิดเอง เเต่หากเจ้าคิดจะออกตามหาพ่อของเจ้าจริง ๆ ข้าก็จะไม่ปิดกั้นเจ้า”ยอนดูพูดบอกสตาร์ลอร์ด

 

ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ดในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะออกตามหาพ่อของตนเอง

 

“ฉันจะออกตามหาเขาเเน่นอน หากคุณคิดจะขวางอย่าได้หวัง”

ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน รู้สึกสงสัยอย่างมาก เฝ้าระวังจับตามองพวกเขา?เรื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องให้ยอนดูบอกเขาก็พอจะรู้เนื่องเพราะบทบาทสำคัญหลังจากจบภารกิจช่วยดาวเคราะห์เเซนดร้าสตาร์ลอร์ดจึงเป็นที่รู้จักมากขึ้น

 

“หรือว่าเป็นพวกที่อยู่เบื้องหลังของ โรเเนน?”สตาร์ลอร์ดกล่าวถามด้วยความสงสัย

 

หากเป็นพวกที่อยู่เบื้องหลังโรเเนนหากจะมีจุดประสงค์ร้ายกับเขาก็ไม่เเปลกเพราะหลังจากกำจัดโรเเนนได้สำเร็จทีม กาเดี้ยน ก็เป็นที่รู้จักกันมาก หากจะให้ว่าถึงเบื้องหลังของโรเเนนก็คือ พ่อบุญธรรมของ กาโมร่า : ชนเผ่าไททัน ธานอส

 

“หืม?เจ้ากำลังหมายถึงเจ้ายักษ์ม่วงนั่น? ไม่ใช่เขา เเต่เป็นคนอื่น”ยอนดูกล่าวตอบ

 

“ไม่ใช่เขาเช่นนั้นเเล้วเป็นใคร?พวกเราไม่เคยไปทำอะไรให้ใครขุ่นเคืองนอกซะจากเพื่อนคนนี้จะอิจฉาในชื่อเสียงของพวกเรา”สตาร์ลอร์ดกล่าวตอบด้วยความสงสัย

 

หากจะมีคนอิจฉาในชื่อเสียงของพวกเขาก็ไม่เเปลก เเต่ นี่ก็เป็นเเค่ความคิดส่วนตัวของสตาร์ลอร์ดเพียงเท่านั้น หากคนที่เขาคิดไม่ใช่ พ่อบุญธรรมของกาโมร่า ไททัน ธานอส เเล้วล่ะก็ จะเป็นใครไปได้อีก

 

“เรื่องนี้…”ได้ยินสตาร์ลอร์ดถาม ยอนดู รู้สึกลังเลเล็กน้อยเขายังไม่ได้อธิบายไปในทันที

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่ยอนดูกำลังจะบอกเล่าเรื่องสำคัญบางอย่างให้สตาร์ลอร์ดฝั่ง เเจ็คสันที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นก็ได้เคลื่อนไหวเเละลุกขึ้น

 

“เฮ้! คุณจะไปไหนหน่ะ คุณยังบาดเจ็บอยู่นะ”เห็นมิราจไนท์ลุกเดินออกไป เดดพูล ได้กล่าวถามขึ้น

 

“ฉันว่าจะไปตากลมเเถวชายทะเลสักหน่อย”ได้ยินคำถามของเดดพูล เเจ็คสันอธิบาย

 

เกี่ยวกับสิ่งเมื่อครู่ เเจ็คสันได้ยินบทสนทนาของยอนดู กับ สตาร์ลอร์ด หากเเจ็คสันเดาไม่ผิด สิ่งที่เขารู้มาจากภาพยนต์เรื่อง กาเดี้ยน ออฟ เดอะกาเเลคซี่ สิ่งที่ ยอนดูกำลังจะอธิบายก็คือ พ่อของสตาร์ลอร์ด ตัวตนพ่อที่เเท้จริงของสตาร์ลอร์ดนั้นก็คือคนเเปลกหน้าสำหรับสตาร์ลอร์ดเพียงเท่านั้น

 

“เฮ้,พวกเราไม่รู้ว่าในทะเลนั่นมีสัตว์ประหลาดหรือไม่ คุณไม่กลัวว่า…”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เดดพูล ได้กล่าวเตือน มิราจไนท์ด้วยความเป็นห่วง

 

“หากที่นั่นมีสัตว์ประหลาดอยู่จริง ๆ นายก็คงจะรีบมาช่วยฉันใช่มั้ยล่ะ?”เเจ็คสันฉีกยิ้มออกมาพร้อมกับกล่าวตอบเดดพูล

 

เดดพูล”…”

 

จากนั้นเเจ็คสันเเละเดดพูล ก็เดินไปที่ชายทะเล ขณะที่ พวก เเจ็คสันเดินออกไป สายตาของ ยอนดู ก็เปล่งประกายเล็กน้อย

 

“เพื่อนร่วมทีมใหม่ของเจ้าไม่เลวเลย”เห็นมิราจไนท์เดินไปยังชายทะเล ยอนดู กล่าวพูดกับสตาร์ลอร์ด เมื่อไม่นานมานี้ มิราจไนท์ ได้เเสดงให้เห็นถึงความเเข็งเเกร่งที่ไม่ธรรมดา ดังนั้น ยอนดู จึงรู้สึกชื่นชม

 

“เพื่อนร่วมทีม?น่าเสียดาย หากเป็นไปได้ฉันก็อยากดึงเขามาเข้าร่วมทีมอยู่ พวกเขาก็เเค่เพื่อนที่มาจากดาวเคราะห์บ้านเกิดของฉัน”สตาร์ลอร์ดกล่าวอธิบาย

 

“เพื่อนที่มาจากดาวเคราะห์บ้านเกิด?พวกเขามาจากดาวเคราะห์โลกนั่น?”ได้ยินคำตอบของสตาร์ลอร์ด ยอนดู รู้สึกตกใจอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงกล่าวถามเพื่อให้เเน่ใจ

 

“ใช่,ใครจะไปคิดล่ะว่าโลกจะมีบุคคลที่เเข็งเเกร่งเช่นนี้อยู่ เเล้วอีกอย่าง บุคคลที่ปรากฏตัวออกมาช่วยเหลือเราก่อนหน้านี้ก็มาจากโลกเหมือนกัน ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าดาวเคราะห์บ้านเกิดของฉันนั้นเเท้จริงเเล้วลึกลับมากเเค่ไหนกันเเน่”สตาร์ลอร์ดเองก็รู้สึกสัยในเรื่องนี้

 

“โลกเป็นสถานที่ที่ลึกลับอย่างเเท้จริง”

 

“เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ คุณมีอะไรที่อยากจะบอกฉันกันเเน่?”เห็นยอนดูเปลี่ยนเรื่องบทสนทนาของพวกเขาเมื่อครู่นี้ สตาร์ลอร์ด รู้สึกคาใจอย่างมาก

 

“เจ้าเคยสงสัยไหมว่าทำไมข้าถึงไปที่ดาวเคราะห์โลกเเละลักพาตัวเจ้ามา?”ในที่สุดยอนดูก็เปิดความในใจที่เก็บไว้มานานหลายปี

 

“เพราะอะไรล่ะ?เรื่องนี้ผ่านมาหลายปีฉันเองก็ยังสงสัยอยู่ คงไม่ใช่ว่าคุณเลือกสุ่มไปยังดาวเคราะห์ต่าง ๆ เพื่อลักพาตัวคนอื่น ๆ มาเพื่อเข้าร่วมกลุ่มสลัดอวกาศหรอกนะ?”สตาร์ลอร์ดกล่าวถามในทันที

 

“ป่าวเลย…เหตุผลที่ข้าลักพาตัวเจ้ามาเป็นเพราะข้าได้รับภารกิจนี้มา”

 

“ภารกิจ?ภารกิจอะไร? เเล้วใครเป็นคนให้ภารกิจคุณ”ได้ยินว่าเหตุการลักพาตัวของตนเองมาเป็นหนึ่งในภารกิจสตาร์ลอร์ดจึงกล่าวถามอย่างรวดเร็ว

 

ก่อนหน้านี้ที่เขาช่วยเหลือดาวเคราะห์เเซนดร้าเเละกำจัดโรเเนนได้สำเร็จ เขาก็ได้รับข้อมูลบางอย่างมา มันเป็นข้อมูลที่มาจากผู้บริหารดาวเคราะห์เเซนดร้า เขากล่าวกับ สตาร์ลอร์ดว่า ช่วงชีวิตของตนเองนั้นจะไม่เรียบง่าย ดังนั้น สตาร์ลอร์ดจึงรู้สึกสงสัย ตั้งเเต่เขาจำความได้เขาเกิดขึ้นบนดาวเคราะห์โลก เป็นเเม่ที่เลี้ยงดูเขาในตอนนั้น ส่วนเรื่อง พ่อของเขา สตาร์ลอร์ด ไม่มีข้อมูลเลยเเม้เเต่น้อย

 

“จะบอกว่านั่นคือพ่อของเจ้าก็คงไม่ได้ผิด”เห็นการเเสดงออกของสตาร์ลอร์ด ยอนดู เปิดเผยความในใจที่เก็บมามากกว่า 20 ปี

 

ตึก ตึก

 

ได้ยินว่าภารกิจนั่นมาจากพ่อของตนเอง หัวใจของ สตาร์ลอร์ด เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เเม้ เเต่เเรคคูน ที่อยู่ไม่ไกล ที่อุ้มกรูซอยู่ ก็รู้สึกตกใจด้วยเช่นเดียวกัน

 

“ทำไมคุณถึงเพิ่งมาบอกฉัน?หรือว่าเหตุผลที่ส่งฉันไปอยู่ที่กลุ่มสลัดอวกาศนั่นมากกว่า 20 ปี ก็เป็นคำขอของพ่อ?”สตาร์ลอร์ดตะโกนถามในทันที

 

ในเวลานี้เขารู้สึกโกรธมาก เขาเคยรู้สึกสงสัยว่าสถานะพ่อของเขานั้นคืออะไร เขาอยากจะเจอพ่อของตนเองสักครั้ง เเละ ยอนดู ที่รู้ความจริงบางอย่าง กลับไม่คิดจะบอกเขาเเละปกปิดมันมานานมากกว่า 20 ปี

 

“นั่นก็เพราะว่าพ่อของเจ้าไม่ใช่คนดี!”เผชิญหน้ากับการซักถามของสตาร์ลอร์ด ยอนดู ถอนหายใจก่อนที่จะกล่าวตอบตามจริง

ฟุ่บ~~

 

ณ สถานที่เเห่งนึง สถานที่ที่เเสงเเดดสาดส่องกระทบกับผิวน้ำให้บรรยากาศที่สวยงาม รอบด้านคือหาดทรายขาวบริสุทธิ์ที่อุบอุ่น

 

“นี่มันสวยมาก!”หลังจากเดินทางมาถึงหาดทรายขาวเดดพูลในปัจจุบันถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์ชื่นชม

 

นอกเหนือจากเดดพูล,เเจ็คสัน เเละ พวกสตาร์ลอร์ดนั้น คิดว่าฉากสวยงามที่ว่านี้ค่อนข้างเเปลกประหลาด นี่คือสถานที่ที่อยู่หลังประตูมิติเวทย์มนตร์ของเอนเชี่ยนวัน

 

ตุบ!

 

เเจ็คสันมองไปที่ฉากอันสวยงามเบื้องหน้าเเต่เขาก็ไม่ได้คิดสงสัยอะไรต่อเพียงทิ้งก้นนั่งลงบนหาดทรายนุ่ม ๆ นี้

 

“อั๊ก ~”เเจ็คสันไอออกมาเล็กน้อยเขาได้รับบาดเจ็บภายในรุนเเรงจากการฝืนตนเองมากเกินไป

 

ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้ต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับสัตว์ประหลาดพืชนั่นเเละเขาได้รับบาดเจ็บภายในมาก่อนหน้านี้เเละหลังจากนั้นเขายังต้องฝืนเข้าสู่สนามรบทั้งที่เขายังไม่ฟื้นตัวดีอีก

 

“เห้อ,โชคร้ายจริง ๆ หากเอนเชี่ยนวัน ปรากฏตัวก่อนหน้านี้หลายวินาทีฉันคงจะสามารถกักเก็บเเต้มคะแนนไว้ได้จำนวนมากเเท้ ๆ ! ตอนนี้ฉันเหลือเเต้มคะแนนไว้พอเเค่เเลกน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เพียงเท่านั้น”

 

เดิมเเจ็คสันตั้งใจจะเก็บเเต้มคะแนนจำนวนมากจากภารกิจที่ดาวเคราะห์ดวงนี้หลังจากกลับโลกเขาคิดว่าตนเองจะสามารถใช้จ่ายได้อย่างอิสระเพียงเเต่ว่าระยะเวลาสองวันที่อยู่ที่นี่เเจ็คสันได้เเลกเปลี่ยนเเต้มคะแนนของเขาไปจนหมด จนเหลือไม่กี่พันเเต้มคะแนน ดังนั้นเเม้เขาในตอนนี้จะได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งร่างกายเขาก็ไม่เต็มใจที่จะใช้คะแนนที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดในการรักษาตนเองอย่างเเน่นอน

 

“มิราจไนท์ คุณได้รับบาดเจ็บ”เห็นมิราจไนท์นั่งลงบนหาดทราย เดดพูล ที่ได้สติกลับมาเขากล่าวถามในทันที

 

“อืม,มันเป็นก่อนหน้านี้ที่สู้กับพืชสัตว์ประหลาดนั่นหน่ะ!”ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเจ็คสันตอบกลับเเม้จะได้รับบาดเจ็บเเต่เขาก็ไม่พยายามเเสดงออกทางสีหน้า

 

ฟุ่บ!

 

ขณะนั้นเองเเจ็คสันก็จับไปที่เข็มขัดของตนเองจากนั้นกล่องเล็ก ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา เเม้ว่าเเจ็คสันจะไม่ต้องการเเลกน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เเต่ในพื้นที่มิติของเขาก็ยังมีสิ่งของอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติในการรักษาอยู่ ยกตัวอย่างเช่น ยายีนที่บริษัทออสบอร์นผลิตขึ้น เเม้ประสิทธิภาพจะด้อยกว่าน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เเต่ก็ยังสามารถช่วยเหลืออาการของเขาได้

 

“ช่วยฉีดให้ฉันหน่อยได้มั้ย”เห็นเดดพูลจ้องมองมาที่กล่องเเจ็คสันกล่าวขอความช่วยเหลือ

 

“อ…อืม”เดดพูลกล่าวตอบพร้อมกับหยิบกล่องขนาดเล็กขึ้นมาเเละเปิดฝากล่อง

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเดดพูลก็ใช้ตัวยาที่เป็นเข็มเจาะฉีดเข้าไปในร่างกายของเเจ็คสัน ทันทีที่ตัวยาเข้าสู่ร่างกาย เเจ็คสันรู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก เเม้ประสิทธิภาพการรักษาจะไม่เเสดงผลในทันที เเต่อาการบาดเจ็บภายในของเเจ็คสันก็ได้รับการรักษาอย่างช้า ๆ

 

ขณะที่เเจ็คสันให้เดดพูลช่วยเหลือในการรักษาอาการบาดเจ็บของตนเอง อีกด้านหนึ่ง สตาร์ลอร์ด เเละ คนอื่น ๆ ก็มารวมตัวกัน เมื่อครู่ พวกเขาเพิ่งเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดยักษ์ที่เกือบจะเอาชีวิตของตนเองไป

 

“เเล้วกลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์จะเอายังไงต่อ?คุณสูญเสียกำลังคนไปจำนวนมาก?”สตาร์ลอร์ดเอ่ยปากกล่าวถามออกมา

 

“กลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์ยังไม่จบสิ้น ตราบเท่าที่ข้ายังอยู่ ข้าไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้น”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด ยอนดู กล่าวตอบ

 

ในฐานะผู้บัญชาการกองร้อยของกลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์ ยอนดู คือบุคคลที่เป็นเสาหลักของกลุ่ม หากเขายังอยู่ กลุ่มสลัดอวกาศก็ยังไม่ตายไปง่าย ๆ

 

“บอสพูดถูกเเล้ว พวกเรายังมีภารกิจอีกจำนวนมากรออยู่”ขณะนั้นเองผู้ช่วยของยอนดูก็กล่าวพูดขึ้น เเม้ศึกครั้งนี้ กลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์จะสูญเสียอย่างหนัก เเต่ก็ไม่มีทางล่มสลายอย่างเเน่นอน

 

“เเล้วไงต่อ?หลังจากนี้คุณจะไล่จับฉันอีกหรือไม่?ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนยังไง”เห็นยอนดูไม่ตอบสตาร์ลอร์ดกล่าวถามอีกครั้ง

 

ได้ยินคำถามของสตาร์ลอร์ดรูปลักษณ์ของยอนดูเปลี่ยนไปเล็กน้อยจากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่ มิราจไนท์ เเละ เดดพูล ที่อยู่ใกล้เคียง

 

“เจ้าคิดว่าข้าจะสามารถทำได้?เหตุผลที่ข้าไล่ตามเจ้าก็เพราะเจ้าหักหลังพวกเรา”ยอนดูกล่าวตอบ

 

“ใช่,ฉันต้องการจะออกจากกลุ่ม เเต่ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็เป็นคนผิดจริง ๆ “ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ดยอมรับผิดเเต่โดยดี

 

เดิมสตาร์ลอร์ดต้องการเเยกตัวออกจากกลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์ดังนั้นหลังจากได้รับภารกิจเขาจึงเเอบลอบทำภารกิจในตอนนั้นเเละหลบหนีออกมา เหตุผลที่สตาร์ลอร์ดหนีออกมาได้ก็เพราะความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าที่เป็นเป้าหมาย หลังจากนั้นสตาร์ลอร์ดก็สร้างทีมทหารรับจ้างของตนเองขึ้น

 

“เจ้าคิดว่าโทษของเจ้าควรเป็นโทษสถานใด? ข้าไม่สนหรอกนะว่าเจ้าจะทำอย่างไรต่อ เเต่ข้าได้รับหน้าที่มานั่นเป็นเหตุผลที่ข้าจะต้องปฏิบัติตามคำสั่ง”ยอนดูกล่าวตอบ

 

“นั่นคือเหตุผลที่คุณไล่ตามฉัน?เพื่อรางวัลหรือไม่?”สตาร์ลอร์ดรู้สึกสงสัย

 

“เจ้าจะว่าเช่นนั้นก็ได้ เเต่เหตุผลที่เเท้จริงเเล้วข้าก็มีเรื่องสำคัญที่อยากจะเตือนเจ้าเอาไว้”ยอนดูพูดอย่างลอย ๆ

 

“เรื่องสำคัญอะไร?”ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ดรู้สึกสงสัย เเละเขาเเสดงสีหน้าออกมาอย่างจริงจัง

 

“มีคนกำลังเฝ้าระวังจับตามองเจ้าอยู่!”

เกี่ยวกับความรู้สึกที่หนวดขนาดยักษ์สัมผัสได้ก็คือพื้นที่กระเเสมิติที่ราวกับกำลังปั่นป่วนพร้อมกับใบหน้าที่เผยรอยยิ้มของเอนเชี่ยนวัน

 

ปั้ง!

 

พลังเวทย์ภาพลวงตาได้ทะลุออกมาจากร่างของเอนเชี่ยนวันพร้อมกับครอบคลุมพื้นที่พื้นที่เเถบนี้ สิ่งที่ปรากฏในภาพลวงตาก็คือภาพจำลองหนวดขนาดยักษ์ที่เหมือนกับสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่น

 

เมื่อเทียบกับเหล่าพ่อมดทั่วไปเเล้ว วิชาเวทย์ของเอนเชี่ยนวันถือว่าเหนือล้ำกว่ามาก ขอบเขตการใช้เวทย์มนตร์ของเขาอยู่ในจุดสูงสุดทุกเเขนงดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเวทย์ลี้ลับอะไรเขาก็สามารถใช้ได้หมด นี่จึงเป็นที่มาของจอมเวทย์สูงสุดของโลก

 

หลังจากภาพลวงตาหนวดประหลาดของเอนเชี่ยนวันปรากฏขึ้นมันก็ได้เข้าปะทะกับหนวดขนาดยักษ์ที่พุ่งเข้ามาโจมตีเขา

 

“เป็นโชควาสนาของเจ้าที่สามารถหลุดพ้นออกมาจากผนึกที่กักขังมาหลายปีได้ เเต่อย่างไรก็ตามหากเจ้ายังดื้อดันที่จะจัดการข้า ข้าก็คงไม่อาจละเว้นเจ้าได้”เอนเชี่ยนวันบังคับหนวดประหลาดของเขาพุ่งเข้าโจมตีในทันที

 

สัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นี้คือสิ่งมีชีวิตระดับ S คือสัตว์ประหลาดที่เเข็งเเกร่งที่ถูกผนึกอยู่ในผนึกโบราณเป็นระยะเวลาหลายปี หากเอนเชี่ยนวันต้องการกำจัดมันเเน่นอนว่าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นเดียวกันเเต่เพราะมันหลับใหลมาหลายปีทำให้พละกำลังดั้งเดิมของมันอ่อนเเอลงไปหลายส่วนดังนั้นเอนเชี่ยนวันจึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหาถ้าคิดจะกำจัดมัน

 

ฟุ่บ!

 

เอนเชี่ยนวันได้ทำสัญลักษณ์มือบางอย่างจากนั้นเเสงสีทองก็ก่อรูปร่างขึ้นเป็นดาบเวทมนตร์ขนาดใหญ่จากนั้นมันก็พุ่งไปยังตำเเหน่งลูกตาประหลาดที่เป็นร่างหลักของหนวดยักษ์นี้ ธรรมชาติหากคิดจะกำจัดศัตรูก็จะต้องเล่นที่ร่างหลักหรือจุดอ่อนของมันเป็นที่เเรก

 

ฟุ่บ!

 

เทียบกับความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันก่อนหน้านี้ ดาบพลังของเอนเชี่ยนวันนับว่าเหนือกว่าอยู่หลายขุมดังนั้นดาบพลังงานของเขาจึงสามารถฝ่าชั้นพลังของลูกตาประหลาดนั่นได้

 

เปรี้ยง!

 

ขณะที่เอนเชี่ยนวันกำลังลงมือดูเหมือนหนวดขนาดยักษ์นั่นจะหลุดจากภาพลวงตาของเขามาได้ หนวดยักษ์ทั้ง 16 ได้เคลื่อนไหวกลับมายังตำเเหน่งลูกตาที่เป็นร่างหลักอีกครั้งเพียงเเต่ว่า ดาบเวทมนตร์ขนาดยักษ์ของเอนเชี่ยนวันได้สับผ่าลงไปเเล้ว

 

เปรี้ยง!

 

พลังงานเวทมนตร์อันสุดยอดจากใบดาบเวทมนตร์ได้ผ่าลูกตาขนาดยักษ์นั่นเเละส่งคลื่นพลังกระจายไปทั่วอาณาเขตเเห่งนี้

 

กึก

 

หลังจากคลื่นพลังกระจายไปทั้งหมด เอนเชี่ยนวันก็มองเห็นหมอกทมิฬที่เข้ามาบดบังการโจมตีของเขาในการสังหารลูกตายักษ์นี่ หมอกทมิฬนั่นได้กลืนกินพลังงานเวทมนตร์ของเอนเชี่ยนวันเข้าไปจนสามารถปกป้องร่างหลักได้ไม่นานหนวดขนาดยักษ์ทั้ง 16 ก็กลับมาสนับสนุนร่างหลักของมันได้สำเร็จมันได้ทำการตอบโต้โจมตีเอนเชี่ยนวันทันที

 

เอนเชี่ยนวันที่เห็นหนวดยักษ์ตอบโต้การโจมตีของตนเองเขาได้สร้างบาเรียเวทมนตร์ครอบคลุมไปทั้งตัวของเขา เพื่อป้องกันการโจมตีเอนเชี่ยนวันได้ถ่ายโอนพลังเวทมนตร์จำนวนมากใส่ลงบาเรียของเขาจากนั้นมือของเขาก็ทำสัญลักษณ์อีกครั้งเพื่อสร้างกำเเพงเวทมนตร์บางอย่างออกมา

 

กำเเพงเวทมนตร์นี้ได้พุ่งออกไปกักขังหนวดยักษ์ทั้ง 16 เเละหยุดการเคลื่อนไหวของมัน พละกำลังของหนวดยักษ์นั้นเเข็งเเกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย เเม้จะเป็นเอนเชี่ยนวันหากจะต้องรับมือศัตรูหลายทิศทางก็ลำบากพอตัวดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะใช้เวทมนตร์หยุดการเคลื่อนไหวของศัตรู

 

“หึ่ม! ดูเหมือนว่าเจ้าจะเร่งฟื้นคืนพลังให้กลับมาได้มากที่สุดอยู่สินะ”หลังจากหยุดการเคลื่อนไหวของหนวดยักษ์ได้สำเร็จ เอนเชี่ยนวันก็จ้องมองไปที่ตำเเหน่งของลูกตา

 

หนวดยักษ์เหล่านี้ได้ถูกหยุดการเคลื่อนไหวไปเเล้ว เเต่สิ่งที่เหลือที่เอนเชี่ยนวันรู้สึกกังวลก็คือ หมอกทมิฬบางอย่างที่มุ่งหน้าไปยังทิศทางของป่าเเละกลืนกินสรรพชีวิตจำนวนมาก หลังจากที่มันกลืนกินสรรพชีวิตของสัตว์จำนวนมากได้สำเร็จมันก็เปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นมาเป็นพลังงานของตนเองเเละส่งเสริมให้ตนเองเเข็งเเกร่งขึ้น

 

ปั้ง!

 

ทุกช่วงขณะที่พลังเหล่านั้นเเปรเปลี่ยนมาเป็นความเเข็งเเกร่งของตนเองหนวดยักษ์ก็เริ่มดิ้นรนเเละพยายามทุบตีกำเเพงเวทมนตร์ของเอนเชี่ยนวันเพื่อที่จะทลายออกมา ทางด้านลูกตายักษ์นั่นมันไม่ได้เคลื่อนไหวมาพักนึงเเล้วรอบด้านของมันคือหมอกทมิฬที่คอยคุ้มครองมันอยู่

 

เห็นกำเเพงเวทมนตร์ของตนเองถูกหนวดยักษ์ทุบตีอย่งต่อเนื่องเอนเชี่ยนวันไม่ได้เเสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา เขายังคงรักษาความสงบเยือกเย็นของตนเองเอาไว้พร้อมกับส่งเสริมเสถียรภาพของกำเเพงเวทมนตร์

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่เอนเชี่ยนวันกำลังส่งเสริมกำเเพงเวทมนตร์เเละหยุดการเคลื่อนไหวของหนวดยักษ์เหล่านั้นอยู่ จู่ ๆ ร่างหลักที่เป็นลูกตายักษ์นั่นก็ปรากฏหนวดสีดำยาวประหลาดพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว

 

“หึ่ม!ไม่คิดเลยว่าเจ้ายังจะซ่อนลูกไม้เเบบนี้เอาไว้อีก?”เห็นการเคลื่อนไหวของหนวดประหลาดสีหน้าของเอนเชี่ยนวันปรากฏความตึงเครียดเล็กน้อย

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นใบดาบเวทมนตร์ก็ปรากฏออกมาจากกลางอากาศอีกครั้งพร้อมกับพุ่งโจมตีไปยังทิศทางหนวดประหลาดที่ปรากฏออกมาทันที

ฟู่ว!

 

พวกสตาร์ลอร์ดเดิมที่รู้สึกสิ้นหวังได้ยินคำพูดของมิราจไนท์พวกเขากลับกลายเป็นมีความหวังมากขึ้น

 

“มิราจไนท์ นั่นใช่พวกพ่อมดจริง ๆ ใช่มั้ย?”เดดพูล รีบวิ่งไปหามิราจไนท์เเละกล่าวถามด้วยความตื่นเต้น

 

อันที่จริงเขาก็พอรู้จักคนเหล่านี้อยู่เหมือนกัน คนเหล่านี้เคยโผล่ออกมาช่วยมิราจไนท์ พวกเขาโผล่ ๆ หายๆ ราวกับวิญญาณที่ไม่มีตัวตน สำหรับสถานะของพวกเขา เดดพูล ไม่รู้อะไรมากนัก

 

“ใช่,เขาเป็นหนึ่งในพวกพ่อมด ทั้งยังเป็นตัวตนที่ทรงพลังที่สุด!”เเจ็คสันกล่าวตอบ

 

ในเวลานี้เเม้เเจ็คสันจะมีบาดเเผลเต็มไปทั่วร่างกาย เเต่เขาก็ฝืนลุกขึ้นยืนขึ้นเพราะเขาต้องการดูสถานการณ์ว่า เอนเชี่ยนวัน จะทำอย่างไรต่อไป เเม้ความเเข็งเเกร่งของเอนเชี่ยนวันจะเป็นของจริง เเต่ความเเข็งเเกร่งของสิ่งมีชีวิตระดับ S ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน

 

“มิราจไนท์?เช่นนั้นก่อนหน้านี้ที่คุณบอกว่าจะไม่ยอมให้พวกเราตายใช่รู้มาก่อนเเล้วว่าเขาจะมาช่วยหรือไม่?”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์เดดพูล กล่าวถามด้วยความสงสัย ก่อนหน้านี้ มิราจไนท์พูดว่าจะช่วยให้พวกเขาหลบหนีออกไปได้ อาจเป็นไปได้ว่า มิราจไนท์รู้อยู่ก่อนเเล้วว่าพ่อมดคนนี้จะปรากฏตัว

 

“เรื่องนี้…”ได้ยินคำถามของเดดพูล เเจ็คสัน เตรียมที่จะอธิบาย

 

“ฉันรู้ คุณ ไม่ต้องอธิบายเเล้ว คุณกับพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ฉันไม่เเปลกใจที่เขาจะรีบบึ่งมาช่วยพวกเราตอนที่กำลังตกอยู่ในอันตราย”ไม่ต้องรอให้มิราจไนท์อธิบาย เดดพูล กล่าวเเทรกขึ้น

 

เเจ็คสัน”…”

 

อันที่จริงเขามีความสัมพันธ์กับเอนเชี่ยนวันอยู่นิดหน่อยก็จริง เเต่เอนเชี่ยนวันไม่ใช่พรรคพวกกลุ่มของพวกเขา มันจึงเป็นเรื่องเเปลกใจสำหรับเเจ็คสันเพราะเขาไม่คิดเลยว่า เอนเชี่ยนวันจะเดินทางมาเป็นระยะทางค่อนข้างไกลเพื่อช่วยเหลือตนเอง นี่เป็นเรื่องเซอร์ไพรซ์ที่สุดเท่าที่เขารู้สึกได้ในตอนนี้

 

กึก

 

ขณะที่พวกเเจ็คสันกำลังสนทนากันเรื่องเอนเชี่ยนวัน หนวดขนาดยักษ์ที่ถูกบล็อคการโจมตีคราวนี้มันได้หยุดการเคลื่อนไหวราวกับว่ามันกำลังรู้สึกหวาดระเเวงอยู่

 

“พ่อมด?มิราจไนท์ นายบอกว่าบุคคลที่ปรากฏขึ้นคนนี้คือพ่อมด?เช่นนั้นเขาจะสามารถรับมือหนวดยักษ์ประหลาดได้ใช่มั้ย?”เห็นหนวดยักษ์หยุดการเคลื่อนไหวไม่ห่างจากตนเองมากนัก สตาร์ลอร์ด กล่าวถามออกมา

 

“ใช่,เขาคือพ่อมด เเต่เขาไม่ใช่พ่อมดธรรมดา ตัวตนของเขาคนนี้ คือปรมาจารย์จอมเวทย์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดในโลก สำหรับเรื่องที่คุณถามว่าเขาจะสามารถรับมือหนวดยักษ์นั่นได้ไหมฉันคิดว่ามันไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับเขา”ได้ยินคำถามของสตาร์ลอร์ด เเจ็คสัน อธิบาย

 

เท่าที่เเจ็คสันรู้มา เอนเชี่ยนวัน คือปรมาจารย์จอมเวทย์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดของโลก ในเรื่องของความเเข็งเเกร่งก็ไม่มีความจำเป็นต้องสงสัย หากเป็นไปได้เเจ็คสันก็อยากดึงเอนเชี่ยนวันเข้ามาร่วมทีมพันธมิตรของตนเอง

 

“จริงงั้นหรอ?เช่นนั้นก็วิเศษไปเลย”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ดรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

 

“หากเจ้าว่าเช่นนั้นพวกเราก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องอยู่ที่สนามรบที่นี่ต่อเเล้วปล่อยให้เขาจัดการเถอะ”เห็นพวกสตาร์ลอร์ดจ้องมองเอนเชี่ยนวัน ยอนดู ได้สาวเท้าเดินหน้าต่อ

 

เเจ็คสันเเละสตาร์ลอร์ดจ้องมองไปที่ยอนดูที่เดินนำไปด้วยการยืมเเขนของผู้ช่วย ก่อนหน้านี้ ยอนดูได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุยานตก หากจะให้พูดก็คือ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้ยอนดูต้องสูญเสียจำนวนมาก

 

“คุณไม่เป็นอะไรนะ?”เห็นผิวของยอนดูที่ซีดลงเล็กน้อยสตาร์ลอร์ดกล่าวถามด้วยความเป็นห่วง

 

อันที่จริงเขาก็ไม่ได้มีอะไรผูกพันธ์กับยอนดูมากนัก เเต่ สตาร์ลอร์ด ก็เป็นห่วงคนคนนี้ อย่างน้อยคนคนนี้ก็เคยเป็นพ่อบุญธรรมของเขา

 

“ข้าไม่ตายง่าย ๆ หรอกน่า”ยอนดูกล่าวออกมาอย่างไร้อารมณ์

 

“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ,ฉันไม่อยากมองเห็นเงาของหนวดยักษ์นั่นอีกเเล้ว”หลังจากยอนดูพูดจบ เดดพูล พูดขึ้นอย่างเร่งรีบ

 

ได้ยินคำพูดของยอนดูเเละเดดพูล เเจ็คสัน หันศีรษะจ้องมองไปทาง เอนเชี่ยนวันอีกครั้ง เป็นอย่างที่ยอนดูพูด สิ่งที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้ก็คือหลบหนีออกจากที่นี่ ถึงอยู่ไปพวกเขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรเอนเชี่ยนวันได้

 

“…”

 

ขณะที่เเจ็คสันเตรียมจะพูดอะไรจู่ ๆ ด้านหลังของพวกเขาก็ปรากฏเเสงวงกลมสีทองขึ้น เห็นได้ชัดว่านี่ก็คือประตูมิติเวทย์มนตร์

 

ด้านหลังประตูมิติเวทย์มนตร์นี้คือสถานที่อีกสถานที่นึงที่มีสภาพเเวดล้อมที่เเตกต่างโดยสิ้นเชิง

 

“เข้าไป!”เห็นประตูมิติเวทมนตร์ปรากฏขึ้น เดดพูล ตะโกนขึ้นเป็นคนเเรก

 

หลังจากเดดพูลตะโกน ยอนดู จ้องมองสังเกตุพื้นที่ด้านหน้าอย่างระวังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไป สำหรับเเจ็คสันเเล้วเขาจ้องมองคนอื่น ๆ เดินเข้าไปส่วนตัวธรรมชาติเขาอยากจะอยู่ต่อที่นี่เเละดูการต่อสู้ของเอนเชี่ยนวัน

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่ามองดูสภาพร่างกายที่ย่ำเเย่ของตนเองเเจ็คสันทำได้เเต่ยอมตัดใจเเละเดินเข้าไปในประตูมิติเวทมนตร์ก่อนที่เขาจะหายเข้าไปโดยสมบูรณ์เเจ็คสันได้หันศีรษะกลับมามองทางเอนเชี่ยนวันอีกครั้งก่อนที่จะหันกลับไป พริบตาที่เเจ็คสันเข้าไปเป็นคนสุดท้าย ประตูมิติเวทมนตร์ก็ปิดตัวลงในทันที

 

ปั้ง ปั้ง

 

ทางด้านเอนเชี่ยนวัน หนวดขนาดยักษ์เริ่มที่จะโจมตีเขาอีกครั้งเเต่เขาก็ได้สร้างบาเรียเวทมนตร์ในการสะท้อนการโจมตีมันกลับใบ

 

“เห้อ,เจ้าเด็กน้อยคนนี้ ไม่คิดเลยว่าจะสร้างปัญหาอย่างการปลุกสัตว์ประหลาดยักษ์นี่ขึ้นมา”มุมปากของเอนเชี่ยนวันกระตุกเล็นน้อยก่อนที่จะเผยรอยยิ้ม

 

จริงๆเเล้วเอนเชี่ยนวันได้ใช้สะพานไบฟรอสเเละใช้ประตูมิติเวทมนตร์ของตัวเองเดินทางมาถึงก่อนหน้านี้ เเต่เพราะเอนเชี่ยนวันต้องการดูว่า เเจ็คสันจะทำอย่างไรในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ เเละสิ่งที่เเจ็คสันได้ทำลงไปก็ไม่ทำให้เขารู้สึกผิดหวัง ดังนั้น เอนเชี่ยนวัน ที่เห็นสถานการณ์ไม่ดีจึงปรากฏตัวขึ้นในเสี้ยววินาที

 

ฟุ่บ!

 

หนวดขนาดยักษ์อยู่ห่างไม่ไกลจากเอนเชี่ยนวันมากนักมันกำลังสับสนบางอย่างคล้ายกับต้องมนตร์ลวงตาท่าทีของมันในตอนนี้ก็เหมือนกับเอนเชี่ยนวันคือการค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่เเปลกประหลาด

ขณะที่การโจมตีของหนวดพุ่งเข้ามาตรงหน้าของเขา เเจ็คสันได้รวบรวมความคิดเเละจมดิ่งเข้าสู่จิตใจเเละทำการเเลกเปลี่ยนความคุ้มครองจากระบบร้านค้าโดยตรง ธรรมชาติ มันย่อมเป็นการป้องกันที่สูงมาก

เพร้ง!

พวกสตาร์ลอร์ดที่เห็นเหตุการเขาเเทบจะตะโกนออกมาบาเรียสีทองที่ก่อตัวขึ้นเบื้องหน้ามิราจไนท์สามารถบล็อคการโจมตีของหนวดยักษ์ที่พุ่งงเข้ามาโจมตีได้ เเต่เเล้ว บาเรียสีทองนั้นหลังจากถูกโจมตีมันก็เเตกสลายหายไปในทันที

ครื่น!

ทางการการโจมตีคลื่นพลังของเเจ็คสันสิ่งที่เขาเล็งไปก็คือวัตถุสีดำทรงกลมที่เป็นร่างหลักของมันเขาได้ระเบิดพลังเฮือกสุดท้ายไปเเล้วเเต่พอการโจมตีกระทบตัวของมัน มันกลับหายไปราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เมื่อเห็นว่าการโจมตีของตนเองไร้ผลเเละหนวดยักษ์ที่มีความรุนเเรงมากกว่าครั้งก่อนโจมตีมาที่ตนเองอีกครั้ง เเจ็คสันที่ไร้การป้องกันได้หลับตาลงทันที

ฟุ่บ!

“ดูเหมือนว่าฉันจะมาได้เเค่นี้สินะ!”เเจ็คสันที่หลับตาลงได้พึมพัมออกมาด้วยการป้องกันของชุดสูทของเขาเพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันการโจมตีที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ได้อย่างเเน่นอน

เพียงเเต่ว่าขณะที่หนวดยักษ์นั่นกำลังจะคุกคามชีวิตของตนเอง จู่ ๆ ด้านหน้าของเเจ็คสันก็ปรากฏคลื่นพลังสีทองที่ต้านทานการโจมตีจากหนวดยักษ์เเละสะท้อนมันกลับไป

“หืม?เกิดอะไรขึ้น…”

หลังจากเห็นความผิดปกติเเจ็คสันได้ลืมตาขึ้นพร้อมกับมองเห็นคลื่นพลังสีทองที่บล็อคการโจมตีเเละส่งให้หนวดนั่นกระเด็นถอยกลับไป จากนั้นในสถานที่ตำเเหน่งไม่ไกลจากเเจ็คสันเขาก็มองเห็น ลำเเสงวงกลมสีทองที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ

อา…

เเจ็คสันจ้องมองไปที่ลำเเสงวงกลมสีทองที่คุ้นเคย เขาจ้องมองมันด้วยความตกตะลึง ลำเเสงวงกลมสีทองอยู่ไม่ไกลจากตำเเหน่งของเขาจากนั้นไม่นานก็เหมือนมีบางสิ่งก้าวออกมาจากภายในนั้น

“นั่นมัน…”เห็นบางสิ่งบางอย่างที่ปรากฏตัวออกมาจากลำเเสงวงกลามสีทองเเจ็คสันอุทานออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

“เวทย์มนตร์ประตูมิติ!!”ในที่สุดเขาก็เปร่งเสียงที่คุ้นเคยออกมา

ในเวลานี้ นอกเหนือจาก เเจ็คสันเเล้ว เดดพูล ที่อยู่ไม่ไกลจากตำเเหน่งของเเจ็คสันมากเขาเองก็สังเกตุเห็นประตูมิติอวกาศเวทมนตร์ที่ปรากฏขึ้น ในฐานะที่เขาเป็นคนของโลก เขาที่เคยร่วมต่อสู้กับมิราจไนท์มา ย่อมรู้จักกับ ผู้สืบเชื้อสายเเรกเริ่มของโลก พวกจอมเวทย์

“ฉันรอดเเล้ว! ฉันรอดเเล้ว!”เดดพูลตะโกนออกมาอย่างดีใจหลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

ได้ยินคำพูดของเดดพูล พวก สตาร์ลอร์ด เองก็มองเห็นลำเเสงสีทองวงกลมที่ปรากฏขึ้น เเต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด ดังนั้นเขาจึงจ้องมองไปทางเดดพูล

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เเล้ววงกลมสีทองนั่นคืออะไร?”สตาร์ลอร์ดกล่าวถามเดดพูลในทันที

สตาร์ลอร์ดนั้นไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้คืออะไรดังนั้นเขาจึงรู้สึกอดสงสัยไม่ได้เเน่นอนว่าคนอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน

เเจ็คสันที่รอดพ้นจากความตายเขาได้บังคับเครื่องร่อนกลับมายังตำเเหน่งของทุกคนพร้อมกับจ้องมองสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน!”หลังจากเห็นคนที่ปรากฏออกมาจากประตูมิติอวกาศเวทมนตร์เเจ็คสันได้อุทานออกมาอย่างดีใจ

จริง ๆ เเล้ว ทันทีที่เห็นประตูมิติอวกาศเวทมนตร์เเจ็คสันก็สามารถคาดการณ์ได้ในทันทีว่านั่นจะต้องเป็นหนึ่งในพวกเหล่าพ่อมดอย่างเเน่นอน

เเต่ใครจะไปคิดว่า ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก จะเป็นคนปรากฏตัวขึ้นที่นี่ นั่นเป็นเหตุผลที่เเจ็คสันในตอนนี้รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

“ไม่คาดคิดเลยว่า ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันจะมาด้วยตัวเองแบบนี้”เเม้จะรู้สึกตื่นเต้นเเต่ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกสงสัย

เริ่มเเรก ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน เคยพูดคุยกับปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันเป็นการส่วนตัว ในตอนนั้น เอนเชี่ยนวัน ได้ยอมรับ เเจ็คสัน เเละมองว่าเขาเป็นคนที่น่าสนใจคนนึง เเต่เเน่นอนว่า เอนเชี่ยนวันก็ไม่ได้ยอมรับตนเองไปทั้งหมด สิ่งที่เขายอมรับก็คือความคิดของเเจ็คสัน ความคิดที่กล้าจะเปลี่ยนเเปลง ความคิดที่อยากจะปกป้องโลก ดังนั้นเอนเชี่ยนวันในตอนนั้นจึงทิ้งสัญลักษณ์บางอย่างไว้ในร่างกายของเเจ็คสันเพื่อเฝ้าจับตามองการกระทำของเเจ็คสัน

“มิราจไนท์ นั่นเป็นคนรู้จักของนายอย่างงั้นหรอ?”เห็นมิราจไนท์อุทานชื่อใครบางคนออกมา สตาร์ลอร์ด เเละ คนอื่น ๆ จ้องมองมาที่เขาพร้อมกับยิงคำถามด้วยความสงสัย

สตาร์ลอร์ดนั้นเกิดบนดาวเคราะห์โลก เเละ โลกก็คือบ้านเกิดของเขา เท่าที่เขารู้มา ดาวเคราะห์บ้านเกิดของตนเองมีสถานะที่ต่ำเป็นอย่างมาก เเต่ในช่วงเวลา 2 วันที่อยู่ด้วยกันกับพวก มิราจไนท์ เเละ เดดพูล ความคิดเดิมที่สตาร์ลอร์ดเชื่อเกี่ยวกับโลกมาตลอดกับได้พังทลายลง เพราะในปัจจุบัน คนรู้จักของมิราจไนท์ ที่สตาร์ลอร์ดเห็นในตอนนี้ ดูท่าเเล้วน่าจะเเข็งเเกร่งเอามาก ๆ

“ใช่,ฉันรู้จักเขา!”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เเจ็คสันพยักหน้าในทันที

ตั้งเเต่ที่ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันปรากฏตัวขึ้น เเม้ว่าพวกเขาจะไม่มีวิธีกำจัดสัตว์ประหลาดระดับ S ที่น่ากลัวนี้ เเต่เเจ็คสันก็มีความมั่นใจว่าตนเองจะสามารถรอดกลับออกไปจากดาวเคราะห์ดวงนี้ได้อย่างปลอดภัย

อึ้ง!

 

หลังจากเเจ็คสันเอ่ยปากพูดขึ้นผู้คนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ต่างมีท่าทีตกใจพร้อมกับหันศีรษะจ้องมองไปทางเขาอย่างรวดเร็ว เเน่นอนว่ามันเป็นความสงสัย พวกสตาร์ลอร์ดหลังจากที่เห็นหนวดรูปร่างประหลาดนั้นพวกเขาก็เเทบตัดใจที่จะหลบหนีออกจากที่ เเต่ เเล้ว มิราจไนท์กลับบอกว่าจะไม่ยอมให้พวกเขาตาย หรือว่า มิราจไนท์มีหนทางช่วยเหลือพวกเขาในตอนนี้?

 

“ฮ่าฮ่า! มิราจไนท์ คุณคงไม่ได้อำพวกเราเล่นใช่มั้ย?”เดดพูลเป็นคนเเรกที่จ้องมองไปที่มิราจไนท์ด้วยท่าทีมีความหวัง

 

เดดพูลนั้นมอบความไว้เนื้อเชื่อใจมิราจไนท์เป็นอย่างมาก ดังนั้น เขาไม่ได้สงสัยในคำพูดของมิราจไนท์เเม้เเต่น้อย เเต่อย่างไรก็ตามเเต่เขาก็อยากรู้ว่ามิราจไนท์จะหาหนทางออกจากสถานการณ์ตรงนี้ยังไง

 

“มิราจไนท์ นายมีวิธีที่จะพาพวกเราออกไปจากที่นี่อย่างงั้นหรอ?”หลังจากเดดพูลกล่าวถามออกไป สตาร์ลอร์ด ที่รู้สึกสงสัย ก็ถามออกมา

 

“ก็อาจจะ…”เเจ็คสันพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะหันศีรษะจ้องมองไปยังสถานที่ห่างไกลซึ่งก็คือร่างหลักของหนวดยักษ์เหล่านี้

 

พลังงานภายในร่างกายของเเจ็คสันในตอนนี้ฟื้นฟูมาได้เป็นจำนวนมากเขาได้จ้องไปทางเดดพูลก่อนที่จะหยิบเครื่องร่อนที่ฝากไว้กับเดดพูลมา จากนั้น เเจ็คสัน ก็กระโดดขึ้นไปเเละพุ่งออกไปในทันที

 

ฟ้าว!

 

พริบตาที่มิราจไนท์กระโดดขึ้นเครื่องร่อนเเละจากไป สีหน้าของ เดดพูล เเละ คนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไปในทันที

 

เพราะเห็นได้ชัดว่ามิราจไนท์ตั้งใจจะทำอะไร พวกเดดพูล เเละ สตาร์ลอร์ดที่จ้องมองอยู่ที่ทุ่งหญ้าบนหุบเขา เขาเห็นมิราจไนท์ พุ่งเข้าไปยังทิศทางที่หนวดยักษ์เหล่านั้นเคลื่อนตัวเข้ามา

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาต่อมาเเจ็คสันได้ควบเเน่นพลังของตัวเองลงบนดาบสปิริตซอร์ดของเขาไม่รู้ว่าตั้งเเต่เมื่อไหร่ที่เขาดึงดาบนี่ออกมา

 

“กลืนกินพลังงานเข้าไปซะ!”ภายในร่างกายของเเจ็คสัน ดาบสปริตซอร์ดของเขาได้ดูดกลืนพลังงานภายในของเขาอย่างบ้าคลั่ง

 

ฟู่วว!

 

การควบเเน่นพลังลงบนดาบนั้นเเม้เเต่ตาเปล่าของผู้คนทั่วไปก็สามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่ถาโถมออกมาอย่างรุนเเรง จากนั้นเเจ็คสันก็บังคับเครื่องร่อนมุ่งหน้าไปยังทิศทางเป้าหมาย

 

หลังจากเห็นเป้าหมายข้างหน้าขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง เเจ็คสันได้ตวัดดาบของเขาออกไปพร้อมกับปลดปล่อยพลังงานที่สะสมอยู่ในตัวดาบทั้งหมดออกไป

 

ฟวั่บ!

 

ขณะที่ มิราจไนท์ ห่างจากตำเเหน่งของตัวเองออกไปมากกว่า 1 กิโลเมตร เเละ ทำท่าทางบางอย่างพร้อมกับระเบิดพลังงานจำนวนมากออกมา คลื่นพลังงานสีฟ้าที่มองเห็นด้วยตาเปล่า ทำให้ พวกสตาร์ลอร์ดรู้สึกตื่นตะลึง เพราะสิ่งนี้เขาเคยเห็นมันมาก่อนมันคือการโจมตีอันทรงพลังของมิราจไนท์

 

“นั่นมัน…”เดดพูล เเละ เเรคคูน รวมถึงคนอื่น ๆ ได้อุทานออกมาพร้อมกันใบหน้าของพวกเขากลายเป็นตกใจในทันที

 

เดดพูล จ้องมองไปที่คลื่นพลังดาบสีฟ้าที่ถูกปลดปล่อยออกมามันได้พุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงราวกับว่าสามารถตัดผ่านได้ทุกสิ่ง

 

 

ก่อนหน้านี้ เเจ็คสันตัดสินใจที่จะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อเเละบอกให้พวกสตาร์ลอร์ดหนีไป เเต่ถ้าเขาบอกออกไปว่าจะให้ตนเองเป็นเหยื่อล่อพวกสตาร์ลอร์ดคงไม่ยอมอย่างเเน่นอน ดังนั้น เเจ็คสันจึงไม่ได้บอกอะไรพวกเขาเเละตัดสินใจหยิบเครื่องร่อนเเละพุ่งออกมาเลย สัญชาตญาณการตอบสนองของเเจ็คสันบอกว่า หากเขาไม่ทำอะไรเลย ท้ายที่สุดพวกเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้น เเจ็คสันตั้งใจจะใช้พลังงานทั้งหมดที่เขามีในการเดิมพันจัดการศัตรูดู

 

เหตุผลที่เขาใช้เครื่องร่อนก็เป็นเพราะเเจ็คสันได้เปิดจุดพลังงานของเขาทั้งหมดเเละรวมมันเอาไว้ที่ตัวดาบ เขาเดิมพันกับการโจมตีที่ทุ่มสุดตัวทั้งหมดของตัวเอง จนสามารถระเบิดพลังงานขนาดใหญ่เเละปลดปล่อยมันออกมาได้เพียงเสี้ยววินาที

 

หากให้อธิบายการระเบิดพลังก่อนหน้านี้ที่เเจ็คสันใช้กำจัด สัตว์ประหลาดระดับ B พืชสัตว์ประหลาด เขาใช้ความเเข็งเเกร่งเพียงเเค่ 30% เพียงเท่านั้น เเต่ตอนนี้หากให้พูดอีกอย่างก็คือเขาได้ทุ่มสุดตัวทั้งหมดก็คือพลังงาน 99% ที่มีอยู่

 

ท่าคลื่นผ่าวิญญาณของตนเองได้ถูกระเบิดออกมาด้วยพลังงานทั้งหมดของเขา

 

สตาร์ลอร์ดที่เห็นสถานการณ์ไม่ดี เขารีบตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว

 

“เร็วเข้า,รีบหนีไป!”เเจ็คสันที่ปลดปล่อยพลังออกไปเเล้วเขาได้กัดฟันเเน่นเเละตะโกนบอกคนอื่น ๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไป

 

อา…

 

เสียงที่เต็มไปด้วยเเรงกดดันที่มาจากมิราจไนท์ได้กระตุ้นเตือนให้พวกสตาร์ลอร์ดได้สติกลับมา

 

เเจ็คสันได้ระเบิดการโจมตีออกไปเเล้วเเต่ด้านหน้าของเขาเงาสีดำขนาดใหญ่ที่เป็นหนวดยักษ์ได้พุ่งเข้ามาหาตนเอง เเจ็คสันในตอนนี้อยู่ในสภาพที่อ่อนเเออย่างมาก ดังนั้นหากเขาถูกโจมตีในตอนนี้เขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“ทำยังไงดี?”เห็นหนวดยักษ์ที่เข้ามาใกล้จิตใจของเขาในตอนนี้รู้สึกอ่อนเเอมาก

 

!

 

เสียงของเเจ็คสันเริ่มที่จะเเหบพร่าเขาได้จมดิ่งเข้าไปในจิตใจของตนเองเเละเริ่มดำเนินการบางอย่าง

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเเสงสีทองก็ไหลออกมาจากร่างกายของเขาพริบตาที่เเสงสีทองไหลออกมา พวกสตาร์ลอร์ด ที่มัวเเเต่ตะลึงกับการกระทำของมิราจไนท์ ได้กลายเป็นตื่นตกใจโดยสมบูรณ์พวกเขาไม่รู้ว่ามิราจไนท์กำลังจะทำอะไรเเต่หนวดยักษ์นั่นได้พุ่งเข้าหามิราจไนท์อย่างรวดเร็ว

 

วินาทีต่อมาพวกเขาก็เห็นหนวดยักษ์นั่นพุ่งเข้าโจมตีใส่มิราจไนท์เข้าไปเต็ม ๆ

ตึง~~

 

หนวดยักษ์ทั้ง 16 ได้หยุดการเคลื่อนไหวเเละกำลังตอบสนองต่อวัตถุทรงกลมขนาดยักษ์ที่กำลังปริเเตกออกมา ธรรมชาติภายในวัตถุทรงกลมขนาดยักษ์ไม่ใช่ร่างของสัตว์ประหลาดปลาหมึกยักษ์ เเม้จะมีหนวดที่คล้ายกันเเต่คุณลักษณะของมันกลับเเตกต่างจากปลาหมึกยักษ์มาก

 

กึก!

 

ทันทีที่บอลทรงกลมเริ่มปริเเตกออกสิ่งที่โผล่ออกมาจากภายในเริ่มที่จะขยายร่างอย่างรวดเร็วรูปลักษณ์ประหลาดได้เปิดเผยออกมาดวงตาขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางได้เปิดขึ้น

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่ดวงตาขนาดใหญ่ตรงกลางเปิดขึ้นหนวดยักษ์ทั้ง 16 ก็เคลื่อนไหวลงกลับไปใต้ดินอีกครั้งเเละเริ่มส่งเสียงประหลาดดังออกมา

 

ปั้ง ~ ~ ~

 

คราวนี้หนวดยักษ์เหล่านั้นไม่ได้โผล่ออกมาเเค่ปลายอีกเเล้วมันโผล่ออกมาทั้งโคนเหมือนกับหางมีลักษณะความยาวคล้ายกับงูยักษ์เเน่นอนว่าเสียงเต้นของหัวใจที่ได้ยินก่อนหน้านี้ก็ดังรุนเเรงขึ้นมากกว่าเดิม

 

หลังจากหนวดอันเเรกโผล่ออกมาหนวดอันต่อ ๆ ไปที่หลุดจากผนึกโดยสมบูรณ์ก็ทยอยหลุดขึ้นมาเเละดูมีขนาดกล้าเเกร่งกว่าเดิม

 

ตรงกลางของหนวดยักษ์ท้ง 16 มีลูกกระตาสีดำจำนวนมากราวกับว่านี้คือส่วนเสริมที่ช่วยระวังการเฝ้ามองของร่างหลักที่มีลูกตายักษ์เพียงดวงเดียว

 

สัตว์ประหลาดก้อนกลมที่หลุดออกมาจากผนึก มันได้จ้องมองดวงตาขนาดยักษ์ไปยังทิศทางนึงคราวนี้ไม่มีอะไรมากีดกั้นขวางทางมันได้อีกเเล้ว ผนึกทั้งหมดที่กักขังมันไว้ได้พังทลายหายไปเเล้ว ตอนนี้มันต้องการอาละวาดให้ถึงที่สุด

 

~ ~ ~ ~

 

หนวดยักษ์ทั้ง 16 ที่มีความยาวมากกว่า 3,000 เมตร ได้เริ่มเคลื่อนไหวเข้าสู่ตำเเหน่งทิศทางป่าที่มีทุ่งหญ้า

 

 

ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!

 

ทางด้านเเจ็คสันเขาได้ใช้เทคนิครู้เเจ้งสัมผัสทิศทางรอบด้านเขาสัมผัสได้ว่าหนวดขนาดยักษ์ทั้ง 16 ได้เคลื่อนไหวเเละเป้าหมายของพวกมันก็คือทิศทางของพวกเขา

 

“เวรเอ้ย! มันตรวจพบสถานที่ของพวกเราเเล้ว”เเจ็คสันตะโกนออกมา

 

เขาคิดว่าถ้าอยู่ห่างไกลคงจะไม่ได้ผลกระทบจากสิ่งมีชีวิตระดับ S เเต่ เเจ็คสันประมาทเกินไป เพราะการใช้พลังจิตเมื่อครู่ส่องร่างหลักมันเมื่อกี้ทำให้ตำเเหน่งของพวกเขาถูกจับได้

 

“นั่นมัน?…หนวดยักษ์ที่พวกเราเห็นก่อนหน้านี้ พวกมันกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้!”เห็นมิราจไนท์บ่นพึมพัมออกมา เดดพูล ที่จ้องมองไปที่ด้านหลังตะโกนขึ้นอย่างตกใจ

 

“ว่าไงนะ?”ได้ยินเสียงเตือนของ เดดพูล เเละ มิราจไนท์ คนอื่น ๆ ตะโกนออกมาทันที

 

พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่ด้านหลังตอนนี้พวกเขาเห็นเงาร่างขนาดใหญ่ยักษ์ที่เคลื่อนไหวอย่างเเพรวพราวมุ่งหน้ามายังทิศทางของพวกเขา

 

“อะไรกัน?ทำไมมันถึงรวดเร็วขนาดนี้?”สตาร์ลอร์ดร้องตะโกนด้วยความตกใจ

 

“นี่คือสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่ถูกฝังอยู่ในผนึกนั่น โอกาสที่พวกเราจะรอดไม่มีเเล้ว?”

 

ยอนดูจ้องมองไปที่หนวดยักษ์ทั้ง 16 ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขาด้วยความรวดเร็ว

 

ก่อนหน้านี้เเม้ยอนดูจะส่งข้อความขอกำลังเสริมไปเเล้ว เเต่การช่วยเหลือที่เร็วที่สุดก็ยังคงต้องใช้เวลา ยิ่งไปกว่านั้นถึงเเม้กลุ่มสลัดอวกาศที่เป็นพันธมิตรจะมาที่นี่ได้สำเร็จ ก็ไม่มีใครกล้ารับประกันว่าจะสามารถจัดการสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้

 

“โอกาสที่พวกเราจะหนีรอด เเทบไม่มี เห็นที ฉันคงต้องใช้เเค้มคะแนนทั้งหมดเพื่อกอบกู้สถานการณ์ตรงนี้ให้ได้”เห็นสีหน้าเเละท่าทางไม่สู้ดีของคนอื่น เเจ็คสันพยายามจะดิ้นรนสุดชีวิต

 

“ยอนดู นายรู้เกี่ยวอะไรกับตราผนึกนั่นมากน้อยเเค่ไหน?ตอนนี้ชีวิตของพวกเราทุกคนอยู่ในมือของนายเเล้ว”สตาร์ลอร์ดจ้องมองไปที่ยอนดูพร้อมกับกล่าวถามเรื่องตราผนึกที่ผนึกสิ่งมีชีวิตที่เเข็งเเกร่งตัวนี้

 

“ข้าเองก็ไม่รู้มากนักหรอก รู้เเค่ว่าผนึกนั่นคือผนึกชั้นยอดที่เเข็งเเกร่ง ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ายังจะคาดหวังอะไรจากข้า ถึงข้าจะรู้ว่าสิ่งมีชีวิตนั่นคืออะไรเเล้วพบจุดอ่อนของมัน เจ้าคิดว่าพวกเราที่เเสนอ่อนเเอจะมีโอกาสได้ตอบโต้สถานการณ์ในตอนนี้?”

 

“สิ่งที่พวกเราทำได้ก็คือรอความตายอยู่ที่นี่ ดูเหมือนข้าคงต้องปล่อยวางเเผนการทั้งหมดที่วางเอาไว้ให้มันจบลงที่นี่ตรงนี้”ยอนดูกล่าวออกมาด้วยสีหน้าปลดทุกข์มันไม่สำคัญเเล้วว่าพวกเขาจะรอดไปได้ยังไง

 

“หึ่ม ฉันจะไม่ยอมให้พวกเรามาตายที่นี่หรอก!”ขณะนั้นเองเเจ็คสันที่นิ่งเงียบครุ่นคิดอยู่นานก็เปิดปากพูดขึ้นท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้คนทั้งหมด

 

 

ตุบ ตุบ!

 

คราวนี้ระหว่างที่หนวดทั้ง 16 เคลื่อนไหวทุกการเคลื่อนไหวของมันได้สร้างเสียงที่คล้ายกับเสียงหัวใจเต้นดังออกมา เสียงที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้ดังออกมาเป็นจังหวะ

 

ตุบ ตุบ ~ ~

 

เมื่อเวลาผ่านไปจังหวะการเต้นของหัวใจก็ดังมากขึ้นเรื่อย ๆ เเละเริ่มรุนเเรงดังกระจายไปทั่วพื้นที่ภายนอก ส่วนเเกนกลางที่เป็นวัตถุทรงกลมขนาดใหญ่มันก็เริ่มปลดปล่อยพลังงานเเห่งความมืดออกมาเป็นกลุ่มหมอกสีดำที่รุนเเรงปกคลุมไปทั่วหนวดทั้ง 16

 

ตุบ ~~~

 

 

ขณะที่หนวดทั้ง 16 เคลื่อนไหวจนทำลายผนึกลูกบาศก์ได้สำเร็จ พวก เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ ก็ได้หลบหนีออกจากพื้นที่เห่งนี้ไปได้ไกลพอสมควร สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวนี่ ถูกทิ้งไว้ข้างหลังมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

เห้อ~

 

“ที่นี่ไกลพอรึยัง?”จากนั้นไม่นานพวกเขาก็เลือกหยุดที่สถานที่เเห่งนี้ สตาร์ลอร์ด เป็นคนเปิดปากขึ้นเป็นคนเเรกพร้อมกับจ้องมองไปที่ยอนดู เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ

 

พวกสตาร์ลอร์ดได้ตัดสินใจหลบหนีออกมาจากพื้นที่ตำเเหน่งรอยเเยกให้ไกลที่สุด เเละ ในตอนนี้เขาก็คิดว่าตนเองได้หลบหนีมายังจุดปลอดภัยเเล้ว ที่เหลือก็เเค่ความกลัวที่หยั่งรากลึกติดมากับเขา เพราะเขาเป็นคนทำลายผนึกที่ว่าเเละปลดปล่อยสัตว์ประหลาดตัวนี้ออกมา หากมันยังไม่ถูกเเก้ไขนี่ก็เหมือนกับตราบาปสำหรับเขาไม่ผิดเเม้เเต่น้อย

 

เห็นสตาร์ลอร์ดเลือกที่จะหยุดวิ่งเเละกล่าวถามออกมา ยอนดู เเละ เเจ็คสัน ก็หยุดลงเช่นเดียวกัน คราวนี้พวกเขาหันกลับไปมองยังทิศทางด้านหลังกลับมองไม่เห็นหนวดขนาดยักษ์นั่นเเล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขาเห็นหนวดนั่นสั่นไหวอย่างรุนเเรง เเต่พวกเขาก็ไม่รู้เเน่ชัดว่ามีอะไรเกิดขึ้นกันเเน่

 

“มิราจไนท์ คุณพอจะรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้มั้ย?”หลังจากมองไปทิศทางด้านหลังอย่างระวัง เดดพูล กล่าวถามมิราจไนท์

 

ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเจ็คสันได้ปิดตาลงอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเขาก็ใช้เทคนิครู้เเจ้งของตนเอง เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีที่กำลังจะเกิดขึ้น ดังนั้น เเจ็คสันเองก็ตั้งใจจะใช้เทคนิคสัมผัสรู้เเจ้งเพื่อสอดส่องดูอยู่เเล้ว

 

หลังจากเเจ็คสันปล่อยเทคนิครู้เเจ้งออกมา ยอนดู เเละ สตาร์ลอร์ด รวมถึงคนอื่น ๆ ก็มีท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อย สตาร์ลอร์ด เคยเห็น มิราจไนท์ใช้พลังจิตนั่นมาก่อน ส่วนยอนดู ก็สามารถคาดเดาได้ว่า มิราจกำลังใช้พลังจิต ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความเเตกต่างอย่างมากเเม้ว่าจะเป็นพลังจิตเหมือนกับตัวเอง

 

วู๊ม!

 

พลังจิตที่เเข็งเเกร่งของเเจ็คสันได้รวมตัวกันเเละเหนี่ยวนำการใช้เทคนิครู้เเจ้งทำให้สัมผัสของเเจ็คสันกว้างไกลมากขึ้นตอนนี้เขาสามารถมองย้อนกลับไปยังทิศทางส่วนลึกของป่าดูได้

 

ติง ติง ติง~~

 

ขณะที่ เเจ็คสันใช้เทคนิครู้เเจ้งกวาดเข้าไปยังส่วนลึกของป่า จู่ ๆ ก็มีบางสิ่งโจมตีเข้ามาสู่ภายในจิตใจของเขา มันเป็นคลื่นพลังที่น่ากลัวเเละรุนเเรง เเจ็คสันไม่เคยคิดเลยว่า ปราการพลังจิตของตนเองจะถูกทำลายอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดี เเจ็คสันรีบถอนพลังจิตของตัวเองกลับมาทันที

 

อั๊ก!

 

พลังจิตของเเจ็คสันได้ถูกโจมตีเสียหายจนม่านปราการพลังจิตได้เเตกกระจายสิ่งนี้ส่งผลให้ใบหน้าของเเจ็คสันตอนนี้ดูย่ำเเย่อย่างมาก

 

หลังจากเปิดเปลือกตาทั้งสองข้างขึ้นเขาก็ไอออกมาอย่างรุนเเรง”เเค๊ก ๆ เเค๊ก ๆ “

 

เห็นมิราจไนท์ได้รับบาดเจ็บ สตาร์ลอร์ด เเละ ยอนดู จ้องมองไปที่เขาพร้อมกับท่าทีสงสัย

 

“เกิดอะไรขึ้น? มิราจไนท์ คุณไม่เป็นอะไรนะ?”ไม่ต้องรอให้ยอนดูเเละสตาร์ลอร์ดกล่าวถาม เดดพูล ได้พุ่งเข้าไปหา มิราจไนท์อย่างรวดเร็ว พร้อมกับกล่าวถาม เเม้ว่าตอนนี้ มิราจไนท์จะสวมหน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้า เเต่ภายใต้หน้ากากนั่นกลับมีเลือดพุ่งกระเด็นออกมาเห็นได้ชัดว่า มิราจไนท์ได้รับบาดเจ็บบางอย่าง

 

“เเค๊ก ๆ อย่าหันกลับไปมอง เจ้าสิ่งนั้นมันคือตัวตนที่พวกเราไม่สามารถป้องกันมันได้อย่างเเน่นอน!”หลังจากไอออกมาเป็นระยะ ๆ เเจ็คสันก็กล่าวเตือนเดดพูลที่กำลังจะหันศีรษะกลับไปมอง

 

เมื่อครู่โชคดีที่เเจ็คสันสามารถอนพลังจิตกลับมาได้ทัน ดังนั้นเขาจึงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ด้วยความต่างของพลังจิตขนาดนั้นการที่เเจ็คสันจะโดนบดขยี้ได้ก็ไม่เเปลก ตอนนี้สิ่งที่เเจ็คสันได้รับก็คือความเสียหายทางจิต เเม้เขาจะมีน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่กับตัวเเต่สิ่งนี้ไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บทางจิตได้ สภาพสถานการณ์ของเเจ็คสันในตอนนี้ถือว่าเลวร้ายของที่สุด เขาตั้งใจจะใช้เทคนิครู้เเจ้งสเเกนตรวจสอบสัตว์ประหลาดสิ่งมีชีวิตระดับ S นั่น เเต่ไม่ทันได้เห็นรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย เขาก็โดนเสียงเเปลก ๆ โจมตีอย่างรุนเเรง

 

“นี่เป็นฝีมือของมันอย่างงั้นหรอ?”ได้ยินคำเตือนของ มิราจไนท์ เดดพูล รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เเต่มันก็ไม่มีอะไรมาอธิบายได้ว่ามิราจไนท์จะบาดเจ็บจากสิ่งอื่นใด เพราะ มิราจไนท์ ได้ใช้พลังจิตกวาดสัมผัสกลับไปมองเจ้าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านหลังที่อยู่ห่างไกลออกไป

 

ได้ยินคำเตือนของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ด ยอนดู เเละ คนอื่น ๆ เลือกที่จะปฏิบัติตาม

 

พวกเขาไม่ได้ตั้งข้อสงสัยอะไรในตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเขาจำเป็นจะต้องหลบหนีจากสถานการณ์ตอนนี้ให้ได้ สิ่งที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา คือตัวตนที่เเข็งเเกร่งเกินไป ขณะที่พวกเขาตัดสินใจที่จะหลบหนีอีกครั้ง พวกเขากลับสัมผัสได้ถึงเสียงร้องที่ดังมาจากบริเวณใกล้เคยีง

 

~ ~ ~ ~ ~

 

สัตว์ป่านับไม่ถ้วนเเละสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ต่างตะโกนร้องเสียงออกมาอย่างน่าสงสาร สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ราวกับว่ามันได้ระเบิดตนเอง ร่างกายของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ถูกระเบิดจนเหลือเเต่เเอ่งเลือด ภายใต้เสียงกรีดร้องที่น่าสงสารเหล่านี้ พวก เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยเเละกวาดสายตามองไปรอบด้าน

 

 

เเจ็คสันที่ได้รับบาดเจ็บถึงอย่างนั้นเขายังคงกระตุ้นสัญชาตญาณของตัวเองในการสัมผัสพื้นที่รอบตัว หมอกสีดำทมิฬได้กวาดผ่านพวกสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเเละกลืนกินพวกมันเข้าไปจนเหลือเเต่เเอ่งเลือด

 

จุ๋ม~~ ตุบ ตุบ~~

 

เสียงเต้นของหัวใจยังคงดังอย่างต่อเนื่อง หนวดขนาดใหญ่เหล่านั้นจนถึงตอนนี้ได้หยุดการเคลื่อนไหวลง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเเต่เหมือนกับว่ามันกำลังรออะไรบางอย่าง

 

ครื่นน!

 

เมื่อเเจ็คสันเเละพวกสตาร์ลอร์ดตกลงได้เเล้วว่าจะหลบหนีไปให้ไกลจากตำเเหน่งร่องรอยใต้ดินมากที่สุด จู่ ๆ หนวดขนาดยักษ์ทั้ง 16 เส้น ก็สั่นไหวอย่างรุนเเรง

 

ก้อง!

 

หนวดขนาดยักษ์ทั้ง 16 อยู่ในตำเเหน่งร่องรอยใต้ดินที่เเตกต่างกัน ทุกครั้งที่มันเคลื่อนไหวมันจะทำลายพื้นที่เเถบนั้นจนโผล่เป็นหลุมลึกเเละทำให้พื้นดินพังทลายลง

 

ตึง!

 

ขณะที่ดินกำลังถล่มข้างใต้นั่นกับมีบางสิ่งบางอย่างที่ดูลึกลับถูกฝังอยู่ข้างล่างเป็นเวลาหลายปี ดังนั้นมันจึงไม่สามารถระบุได้ว่าเเท้จริงเเล้วสิ่งนั้นคือวัสดุอะไรกันเเน่อย่างไรก็ตาม เเม้จะผ่านไปหลายปี สิ่งที่ว่านี้ที่มีทรงคล้ายรูปกระบอกสูบทรงกลม ก็ปล่อยเเสงสีเขียวออกมา

 

เเสงสีเขียวเหล่านี้เต็มไปด้วยพลังงานลึกลับมันได้เกาะร่างกายของหนวดยักษ์เหล่านี้เเละพยายามจะกักหน่วงเเละหยุดการเคลื่อนไหวของหนวดยักษ์อีกครั้ง

 

คลื่นเเสงสีเขียวได้ปะทุออกมาจากร่องรอยใต้ดินที่ถูกเเยกออกจำนวนมาก หากคาดเดาล่ะก็สิ่งนี้คงจะเป็นเเหล่งพลังงานของผนึกที่ว่าที่ถูกหลงเหลือทิ้งไว้ในการกักขังสัตว์ประหลาดตัวนี้ พลังงานสีเขียวที่ออกมาจากกระบอกสูบที่มาจากหลายทิศทางนั้นมีตำเเหน่งเฉพาะเจาะจงก็คือร่างกายของหนวดยักษ์

 

ก่อนหน้านี้ผืนดินจำนวนมากได้ถล่มลงมาจนเกิดหลุมขนาดใหญ่จนเหมือนกับอ่าวทะเล หลุมลึกเหล่านี้ มีสิ่งก่อสร้างสีดำทั้งเเนวนอนเเละเเนวตั้งดูไปคล้ายกับเเท่งเหล็กบางอย่างมันถูกฝังอยู่ใต้ดินตรงตำเเหน่งต้นโคนของหนวดยักษ์

 

หนวดยักษ์เหล่านี้ถูกฝังลึกลงไปใต้ดินพร้อมกับสิ่งก่อสร้างสีดำจำนวนมาก เเต่ภายในสิ่งก่อสร้างสีดำเหล่านั้นกลับมีวัตถุทรงกลมประหลาดสีดำขนาดใหญ่อยู่ตำเเหน่งตรงกลางของพื้นที่สิ่งก่อสร้าง

 

หากสังเกตุดูดี ๆ หนวดขนาดยักษ์จำนวนมากได้โผล่ออกมาจากวัตถุทรงกลมประหลาดสีดำขนาดใหญ่ไม่ต้องเดาก็สามารถระบุได้ว่าร่างหลักของมันคงจะอยู่ในวัตถุทรงกลมสีดำขนาดใหญ่เป็นเเน่

 

ตึง ตึง

 

หลังจากพื้นดินถล่มจนเห็นสิ่งก่อสร้างสีดำ ก็เกิดคลื่นเเรงสั่นสะเทือนหลายสิบครั้ง

 

หนวดที่เเข็งเเกร่งเหล่านั้นได้เคลื่อนไหวสั่นไปมาในใต้ดินพร้อมกับทวีความรุนเเรงในการสั่นไหวรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าสิ่งที่มันกำลังทำอยู่มันต้องการจะทำลายพลังงานสีเขียวที่ออกมาจากปากกระบอกสูบที่สร้างเป็นสี่เหลี่ยมลูกบาศก์เเละควบคุมร่างหลักของมันไว้

 

ลูกบาศก์นี้คือจุดรวมพลังจากกระบอกสูบที่ปล่อยพลังออกมามันได้ผนึกร่างหลักที่เป็นก้อนสีดำเเละมีหนวดยื่นออกมาจากข้างในเเต่เพราะลูกบาศก์นี้สูญเสียพลังงานไปมากจึงทำให้หนวดทั้ง 16 หลุดออกมาได้

 

ม่านปราการพลังสีเขียวของลูกบาศก์ถูกกระเเทกด้วยคลื่นเเรงสั่นสะเทือนของหนวดทั้ง 16 รอยปริเเตกได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเเละลุกลามไปทั่ว

 

ม่านประการสีเขียวที่เป็นลูกบาศก์ได้ส่งคลื่นพลังกระเเทกป้องกันหนวดเหล่านั้นเเต่เพราะพลังงานที่อ่อนเเอลงทำให้ไม่สามารถป้องกันได้อย่างทั่วถึงภายใต้การเคลื่อนไหวของหนวดทั้ง 16 เเหล่งกำเนิดพลังที่มาจากกระบอกสูบทั้ง 4 ทิศได้ลดลงอย่างรวดเร็ว

 

ตึง ตึง~ ~ ~~ ~ ~

 

ทันทีที่เริ่มทำลายเกราะม่านพลังลงได้ทีละนิดดูเหมือนความเเข็งเเกร่งของหนวดทั้ง 16 เองก็จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เเรงบีบอัดเเละคลื่นกระเเทกที่ส่งออกมากลับรุนเเรงทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ จนน่ากลัว

 

เมื่อหนวดเริ่มเเข็งเเกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เกราะพลังที่เดิมอ่อนเเอลงก็เริ่มที่จะปริเเตกจนถึงในระดับนึงกระทั่งไม่สามารถปลดปล่อยเเรงดันออกมากดดันหนวดเหล่านั้นได้อีก

 

ลูกบอลสีดำทรงกลมประหลาดขนาดยักษ์ที่อยู่ภายในเองก็เริ่มสั่นไหวอย่างต่อเนื่องราวกับว่ามันได้โอกาสในการดิ้นรนให้หลุดออกจากบ่วงที่รัดพันธนาการมันออกมาหลายปี

 

เเกร๊ก!

 

จากนั้นไม่นานปราการม่านพลังทรงลูกบาศก์ก็เกิดรูช่องโหว่ขนาดใหญ่หลายรู ม่านพลังได้ถูกฉีกกระชากออกจากกันจนในที่สุดมันก็สลายหายไป สิ่งที่หลงเหลืออยู่ภายในก็คือ ลูกบอลทรงกลมสีดำขนาดใหญ่พร้อมกับกลิ่นอายพลังเเห่งความมืดที่น่าสะพรึงกลัว

 

สิ่งที่อยู่ภายในลูกบอลนั้นคือตัวอะไรก็ไม่มีใครรู้เเน่ชัดเพราะร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยหมอกทมิฬขนาดใหญ่ นอกเหนือจากหนวดขนาดยักษ์ทั้ง 16 ที่เริ่มเคลื่อนไหวอย่างเเปลก ๆ เเล้ว สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้อาจจะเป็นหายนะอย่างเเท้จริง

 

“ผนึกที่่ว่ามันคืออะไรกันเเน่?”ได้ยินคำพูดของอยนดู เเละเห็น สีหน้าที่ตกใจของ สตาร์ลอร์ด เดดพูล กล่าวถามอย่างสับสน

 

“กล่าวอีกนัยนึงก็คือ การมีอยู่ของร่องรอยใต้ดินที่เราพบก็คือผนึกที่กักขังสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นเอาไว้ใต้ดิน”ไม่ต้องรอให้สตาร์ลอร์ดอธิบาย เเจ็คสัน ขมวดคิ้วเเน่นเเละกล่าวตอบเดดพูล

 

“ถึงว่า…ก่อนหน้านี้ที่พวกเราสำรวจพวกเราไม่สามารถตรวจพบสัญญาณที่บ่งบอกว่ามันคือหนึ่งในอารยธรรมที่ถูกทอดทิ้งเเม้เเต่น้อย เเท้จริงเเล้วมันก็คือ ผนึกกักขัง สัตว์ประหลาด นี่เอง”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ด ราวกับรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

 

เดิมทีหากเป็นร่องรอยอารยธรรมที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังเเล้วพวกมันจะมีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงอำนาจเเละขุมทรัพย์บางอย่างของอารยธรรมนั้น ๆ เเน่นอนว่า ภายในอารยธรรมที่ถูกทิ้งไว้ก็จะมีสิ่งของมีค่าอย่างสมบัติจำนวนมากถูกทิ้งเอาไว้อยู่ เเต่ร่องรอยที่พวกสตาร์ลอร์ดค้นพบ พวกเขากลับไม่ค้นพบสัญลักษณ์ของอารยธรรมที่ว่าเเม้เเต่น้อย สิ่งที่พวกเขาพบก็คือ ตัวหนังสือเเปลก ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์ของอารยธรรม เเท้จริงเเล้วตัวหนังสือเหล่านั้นก็คือผนึกพิเศษ เดิม สิ่งเหล่านี้ ก็เป็นของหายากที่เเม้เเต่ในเอกภพก็เเทบจะไม่มีให้เห็นกันบ่อยๆ

 

ร่องรอยใต้ดินนี้มีลักษณะเป็นวงกว้างขนาดใหญ่พวกสตาร์ลอร์ดที่สำรวจไม่หมดจึงสรุปผลก่อนหน้านี้ว่ามันคือร่องรอยอารยธรรมใต้ดินที่ถูกทิ้งไว้ เเต่ตอนนี้พวกเขาก็รู้เเล้วว่าสิ่งที่ตนเองคิดนั้นมันผิดเเผนกไปทั้งหมด พวกเขาเป็นคนปลุกสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นให้ตื่นจากการหลับใหลโดยการทำลายผนึกที่ว่านี้

 

“หึ่ม! ทีนี้เจ้ารู้หรือยังว่า เจ้าเป็นคนโง่เง่าเพียงใด!”เห็นใบหน้าของสตาร์ลอร์ดซีดขาวด้วยอาการตกใจ ยอนดู เทศนาเขาอีกรอบ

 

เห็นยอนดูด่าตัวเอง คราวนี้ สตาร์ลอร์ด ไม่ได้ตอบสนองเเม้เเต่น้อย มันเป็นความประมาทของเขาเอง ที่ไปกระตุ้นเเละปลุกสัตว์ประหลาดยักษ์นี่ขึ้นมา นี่เป็นครั้งเเรกที่สตาร์ลอร์ดคิดว่าตนเองนั้นอับโชคอย่างเเท้จริง เดิมเขาต้องการมาที่ดาวดวงนี้เพื่อพักผ่อนเเต่เเล้วสิ่งโชคร้ายจำนวนมากต่างถาโถมเข้าหาเขา สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งเเต่ที่เขาพบกับ มิราจไนท์ เเละ เดดพูล ตั้งเเต่นั้นมาเส้นทางที่เขาวาดฝันเอาไว้ก็ไม่เรียบง่ายอีกเลย

 

ก้อง!

 

ขณะที่สตาร์ลอร์ดกำลังสำนึกผิดเเละเสียใจอยู่ จู่ ๆ หนวดยักษ์เหล่านั้นก็เริ่มอาละวาดรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ความยาวของหนวดนั่นยังเพิ่มความยาวมากกว่า 2 กิโลเมตร เเม้ในตอนนี้สถานที่ที่พวกสตาร์ลอร์ดอยู่จะอยู่ห่างไกลจากหนวดนั่นเเต่พวกเขากลับไม่รู้สึกได้ถึงความปลอดภัย

 

“ทีนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี? ยานอวกาศก็ไม่มี โอกาสที่จะหลบหนีจากสถานการณ์ในตอนนี้ก็เเทบไม่มีหวัง”สตาร์ลอร์ดจ้องมองไปที่หนวดยักษ์จำนวนมากเเละบ่นพึมพัมออกมา

 

ในฐานะกัปตันที่มีทีมเป็นของตนเอง สตาร์ลอร์ด รู้สึกว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เป็นเขาที่รู้สึกลำพองใจในตนเองมากเกินเพราะ เพราะว่าหลังจากออกจากกลุ่มสลัดอวกาศเเละสร้างชื่้อเสียงโดยการกำจัด โรเเนน เเละช่วย ดาวเคราะห์เเซนดร้าเอาไว้ ตั้งเเต่นั้นมา เขาก็รู้สึกว่าทีมพิทักษ์จักรวาลของเขานั้นเเข็งเเกร่งที่สุดไม่มีความจำเป็นจะต้องกลัวสถานการณ์ใด ๆ

 

“หึ่ม ทำยังไง? เเน่นอนว่าพวกรเราจะต้องรอกำลังเสริมอยู่ที่นี่ เจ้าคิดว่าข้าจะเข้ามายังดาวเคราะห์ดวงนี้โดยไม่เตรียมเเผนการสำรองเอาไว้งั้นหรอ?”เห็นสตาร์ลอร์ดกล่าวถาม ยอนดูกล่าวตอบด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“ กำลังเสริม?” ได้ยินคำตอบของยอนดูสตาร์ลอร์ดราวกับไม่สามารถตอบสนองได้สักพักหากนับว่านี่เป็นโอกาสที่พวกเขาจะหลบหนีได้ก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเเม้เเต่น้อย

 

“ใช่,ก่อนหน้านี้ระบบยานอวกาศของพวกเราไม่สามารถใช้การได้ในขณะที่ยังอยู่ในป่า สาเหตุน่าจะมาจากหนวดยักษ์ที่ปรากฏขึ้น เเต่ตอนนี้ ระยะห่างของพวกเราในตอนนี้ทำให้ข้าสามารถส่งสัญญาณขอกำลังเสริมไปยังจักรวาลใกล้เคียงได้ ตราบใดที่มีกลุ่มสลัดอวกาศพันธมิตรอื่น ๆ ได้รับสัญญาณ พวกเขาก็จะต้องมาช่วยพวกเราเเน่นอน”เห็นสตาร์ลอร์ดไม่เข้าใจ ยอนดูอธิบาย

 

“กลุ่มสลัดอวกาศอื่น?กลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์มีพันธมิตรด้วยอย่างงั้นหรอ?”สตาร์ลอร์ดรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

ในฐานะที่สตาร์ลอร์ดเคยสังกัดอยู่ในกลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์ เขาได้รู้จักความสัมพันธ์ของ กลุ่มสลัดอวกาศพวกนี้ดี คนเหล่านี้ เเทบจะตีกันเเละพร้อมจะปะทะกันได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะยอนดู เขาเป็นที่เกลียดชังของ กลุ่มสลัดอวกาศอื่น ๆเเต่เมื่อได้ยินว่า ยอนดู พูดว่า กลุ่มสลัดอวกาศที่จะมอบความช่วยเหลือให้พวกเขามันก็อดไม่ได้ที่ สตาร์ลอร์ดจะสงสัย

 

เหตุผลที่กลุ่มสลัดอวกาศอื่น ๆ ไม่ชอบยอนดูมันก็มีเหตุผล นั่นก็เพราะ 20 ปีกว่าที่ผ่านมา ยอนดู ได้ทำภารกิจในการลักพาตัวเด็กคนนึง ซึ่งเขาทำให้ภารกิจของกลุ่มสลัดอวกาศเป็นอันต้องล้มเหลว ยอนดู ที่ผิดธรรมเนียมเหล่านี้ จึงเป็นที่โกรธเกลียดของกลุ่มสลัดอวกาศ เเต่ความสัมพันธ์เชิงพันธมิตรเหล่านั้นก็ยังไม่จางหายไป

 

“เหอ ๆ เจ้ายังรู้น้อยเกินไป เริ่มเเรก กลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์ คือกลุ่มสลัดอวกาศที่พิเศษ”เห็นสตาร์ลอร์ดไม่เชื่อตนเอง ยอนดูกล่าวพูดความจริง

 

“เเล้วเมื่อไหร่กันที่พวกเขาจะมาถึง? สัตว์ประหลาดนั่นใกล้พวกเราเข้ามามากขึ้นทุกทีเเล้ว”สตาร์ลอร์ดไม่มีเวลามามัวสนใจว่ายอนดูพูดความจริงหรือไม่ เขากล่าวถามอย่างรวดเร็ว

 

“เรื่องนี้…ข้าไม่สามารถระบุได้ เเต่ข้าได้ส่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่ไปเเล้ว ข้าเชื่อว่า สหายหลายท่าน คงจะไม่อยากพลาดโอกาสร่องรอยใต้ดินนี้อย่างเเน่นอน”ได้ยินคำถามจากสตาร์ลอร์ด ยอนดูรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย

 

 

“เช่นนั้นสิ่งที่พวกเราทำได้ในตอนนี้ก็คือหนี! ฉันไม่อยากโดนหนวดนั่นทุบเป็นเนื้อบดหรอกนะ!”เห็นยอนดูไม่สามารถระบุเวลาได้เเน่ชัด เดดพูล ที่อยู่ใกล้เคียงไม่สามารถทนได้ในที่สุด

 

ได้ยินคำพูดของเดดพูล,ยอนดู ได้หันไปสังเกตุหนวดจำนวนมากเหล่านั้นพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วย

 

เเกร๊กก ๆ ~~~

 

สิ่งที่ออกมาจากรอยเเยกที่ปริเเตกออก็คือหนวดขนาดใหญ่อีกครั้ง มันได้เเหวกช่องว่างของรอยเเยกใต้ดินเพื่อที่จะขึ้นมาข้างบน

 

เเกร๊กก ~~~

 

ในที่สุดเสียงผิดปกติที่ดังมาจากข้างใต้ก็รุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ หนวดยักษ์ขนาดใหญ่ได้โผล่ขึ้นมาจากรอยเเยกที่ปริเเตกออกเเต่ทว่าหนวดที่ผุดขึ้นมาจากข้างใต้นั้นกลับมีอะไรเเตกต่างไปจากเดิมนั่นก็คือเเสงสีเขียวที่ครอบคลุมทั้งหนวดเอาไว้ เเสงสีเขียวที่ว่านี้คล้ายกับว่ากำลังปกป้องมันอย่างไงยังงั้น

 

ฟู่วว!

 

สิ่งที่น่าสงสัยที่สุดก็คือหนวดนั่นเเม้จะมีเเสงสีเขียวห่อหุ้มเเต่ราวกับว่ามันไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้ คล้ายกับว่าสิ่งนี้คือปรปักษ์สำหรับมันดังนั้นมันจึงดิ้นทุรนทุรายเเกว่งหนวดขนาดใหญ่ไปมาอย่างต่อเนื่อง

 

ฟุ่บ ฟวั่บ!

 

จากนั้นพลังงานสีเขียวที่ว่าก็เริ่มจากหายไปในที่สุด หลังจากหนวดที่สองโผล่ออกมา หนวด ขนาดใหญ่อีกครั้งก็พลางผุดขึ้นมาจากใต้ดินเหมือนเดิม

 

เเกว๊กก

 

ในตอนนี้รอยเเยกใต้ดินนั้นใหญ่พอที่จะขยายกระจายไปทั่ว หนวดเหล่านั้นได้ผุดขึ้นมาจากอีกรอยเเยกใต้ดินนึงที่ถูกฉีกออกบริเวณใกล้เคียง ความยาวของหนวดเหล่านี้มีขนาดใหญ่เเละยาวหลายเมตร สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือกลิ่นอายเเห่งความน่ากลัวที่้เเผ่ออกมาจากหนวดเหล่านั้น

 

ทันทีที่หนวดจำนวนมากโผล่ออกมาผลกระทบที่ทำให้อุปกรณ์ทางเทคนิคเหล่านั้นใช้การไม่ได้ก็รุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เเม้ว่า พวก ยอนดูที่อยู่ห่างไกล จากสถานที่เเห่งนี้ ก็ยังสัมผัสได้ถึงรัศมีพลังที่น่ากลัวที่ยิ่งมายิ่งเเผ่กระจายรุนเเรงมากขึ้น ขนาดของรอยเเยกก็กระจายบริเวณไปทั่วเเละลุกลามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว

 

ครึ่นน!

 

รอยเเยกที่ปริเเตกออกเหล่านั้นเริ่มที่จะถล่มลงไปใต้ดินอย่างช้า ๆ ราวกับหิมะที่ถูกละลาย ผลลัพธ์เหล่านี้ย่อมเป็นสิ่งที่พวกเเจ็คสันล้วนเเต่ไม่อยากจะคาดหวังมากที่สุด

 

 

ฟุ่บบ ฟุ่บบ

 

ทางด้านกลุ่มของพวกเเจ็คสันขณะที่พวกเขากำลังหลบหนีออกจากสถานที่ป่าเเห่งนี้ให้เร็วที่สุด พวกเขาก็ตระหงิดได้ถึงความผิดเเปลกที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว เเน่นอนว่าคนที่นำทางในตอนนี้ก็คือยอนดู พวก เเจ็คสัน เเละ สตาร์ลอร์ด ได้ติดตามยอนดูอย่างไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไร สถานการณ์ในตอนนี้พวกเขามีเเต่ต้องพึ่งพากันเเละกันเท่านั้น

 

หลังจากหลบหนีมาได้ไกลพอสมควรพวกเขาก็หยุดล้มลงบนเนินเขาที่มั่นคง คนอื่น ๆ ที่ตามมาก็เริ่มพักเหนื่อยกันในทันที สิ่งมีชีวิตจำนวนมากภายในป่า เองก็ต่างเเยกกระจายกันไปคนละทิศคนละทางพวกมันต่างหวาดกลัวสิ่งที่กำลังปะทุขึ้นในตอนนี้

 

“ยอนดู นายรู้อะไรเกี่ยวกับร่องรอยนั่นกันเเน่?”ทันทีที่ล้มตัวลงนอนพักเหนื่อย สตาร์ลอร์ด ก็กล่าวถามอย่างสงสัย

 

ก่อนหน้านี้สตาร์ลอร์ดได้พยายามถามยอนดูหลายครั้ง เพราะยอนดูบอกว่าพอจะรู้เกี่ยวกับรายละเอียดของร่องรอยใต้ดินที่เขาว่ามานี้ เเต่สุดท้ายตลอดระยะทางที่หลบหนีมายอนดูก็ไม่ได้เปิดปากพูดอะไรเเม้เเต่น้อย เรื่องนี้ทำให้ สตาร์ลอร์ด รู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีก

 

“ข้ารู้อะไรมั่งอย่างงั้นหรอ? ก่อนหน้านี้ที่เจ้าพบร่องรอยใต้ดินนั่น เจ้าไม่ใช่ว่าได้สำรวจมันก่อนเเล้วหรือไม่? เเล้วเจ้ายังจะถามข้าเพื่ออะไร?ในฐานะทหารรับจ้างเเละนักขุดอารยธรรมอย่าบอกนะว่าเจ้าไปกระตุ้นมันโดยที่ยังศึกษาร่องรอยใต้ดินนั่นไม่ดีพอ?”ได้ยินคำถามของสตาร์ลอร์ด ยอนดู ได้เเปรเปลี่ยนสีหน้าเเละจ้องมองไปที่เขาอย่างเคร่งครัด

 

“เอ่อ…พวกเราได้ลองสำรวจร่องรอยนั่นก่อนหน้านี้ก็จริงอยู่ เพราะเวลาที่สั้นทำให้พวกเราได้ข้อมูลมาไม่มากเเต่ในตอนนั้นพวกเราตรวจไม่พบการตอบสนองทางชีววิทยาเเม้เเต่น้อย”ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ดกล่าวตอบทันที

 

น้ำเสียงที่สตาร์ลอร์ดพูดออกมาในตอนนี้ไม่ใช่น้ำเสียงที่เเดกดันอีกฝ่าย เเต่มันคือน้ำเสียงนุ่มนวลที่ใช้หารือเเละเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

 

“หึ่ม เจ้าโง่! เจ้าไม่รู้ว่าร่องรอยใต้ดินนั่นคืออะไร เเล้วยังคิดไปกระตุ้นมัน เจ้ามันโง่สิ้นดี”เห็นท่าทีของสตาร์ลอร์ด ยอนดู อดที่จะดุด่าออกมาไม่ได้ เขาในตอนนี้เหมือน ชนรุ่นใหญ่ที่กำลังอบรมผู้เยาว์ที่ไม่รู้ความ

 

“เหอะ! หากพวกนายไม่กดดันสตาร์ลอร์ด มีหรือที่พวกเราจะไปกระตุ้นมัน เอาล่ะ ถ้านายรู้อะไรนายก็รีบบอกพวกเรามาดีกว่า!”เห็นยอนดู ดุด่าสตาร์ลอร์ด เเจ็คสันที่อยู่บริเวณใกล้เคียงไม่สามารถทนได้ สัมผัสของเขาเริ่มทวีคูณสังหรณ์ใจไม่ดีรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียเวลาทนฟังยอนดูดุด่าสตาร์ลอร์ดอีกต่อไป

 

เฮ้อ!

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันยอนดูหันศีรษะไปทางเขาพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาที่จริงจัง ก่อนที่สายตาของเขาจะเปลี่ยนไปทิศทางของร่องร่อยใต้ดิน ในเวลานี้ เขาสามารถสังเกตุเห็นหนวดยักษ์จำนวนมากที่ผุดออกมาจากร่องรอยใต้ดินได้

 

“จริง ๆ เเล้ว ร่องรอยใต้ดินนั่น ก็คือ ผนึก ชนิดนึง”เห็นหนวดยักษ์ที่ปรากฏขึ้นจำนวนมาก ยอนดู กล่าวตอบ

 

“ผนึก?เดี๋ยว ๆ นายกำลังจะบอกว่า สัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นเเท้จริงเเล้วถูกร่องรอยใต้ดินที่เป็นผนึกนี่ กักขังไว้ใต้ดินอย่างงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ด รู้สึกตกใจเป็นคนเเรก

 

“ก็คงจะเป็นแบบนั้น ดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเเล้ว ความน่าจำเป็นที่ร่องรอยใต้ดินนั่นจะเป็นผนึกที่ว่ามีมากกว่า 80%”ยอนดูยืนยันในคำตอบของตัวเองอีกครั้ง เขารู้สึกมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองสามารถประเมินได้ในตอนนี้

ในผืนป่าใต้ผืนฟ้าที่ส่องสไวเงาร่างสีดำได้พุ่งผ่านตัวป่าไปมาอย่างรวดเร็ว ภายใต้การนำของยอนดู เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ ได้หลบหนีไปยังทิศทางที่ห่างไกลออกไปจากร่องรอบใต้ดิน โชคดีที่ทิศทางนั้นคือทิศทางทุ่งหญ้าจุดที่เเจ็คสันเเละเดดพูลถูกส่งมาที่ดาวดวงนี้

 

ตึก ตึก

 

ในระหว่างที่พวกเขาหลบหนี เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ยังสัมผัสได้ถึงคลื่นเเรงสั่นสะเทือนที่ตามมาจากทางด้านหลัง เเม้ว่าพวกเขาจะไม่หันไปมอง เเจ็คสันเเละคนอื่น ๆ ก็สามารถคาดเดาได้ว่าหนวดยักษ์นั่นกำลังเคลื่อนไหว เพียงเเค่การเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ กลับสร้างเเรงสั่นสะเทือนได้มากถึงเพียงนี้ นี่เเสดงให้เห็นว่ามันมีความน่ากลัวเพียงใด นอกจากนี้ นั่นยังเป็นเเค่หนวด หากร่างหลักของมันโผล่ขึ้นมาพวกเขาเเทบไม่อยากจะคิด

 

ฟุ่บ!

 

ช่วงเวลาที่พวกเขาหลบหนี เเจ็คสันไม่สามารถสัมผัสสิ่งมีชีวิตภายในป่ารอบข้างได้เลย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ คงจะพากันหวาดกลัวเเละหลบหนีจากทิศทางของรอยเเยกใต้ดินอย่างเเน่นอน

 

เหตุการณ์ในครั้งนี้เหมือนกับภัยพิบัติชนิดนึง เมื่อเกิดภัยพิบัติสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตบนโลกย่อมมีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดเฉพาะตัว นี่เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งเเต่เกิด เปรียบเสมือนสัญชาตญาณของผู้ล่ากับผู้ถูกล่า

 

ทางด้านสตาร์ลอร์ดเขาที่ติดตามยอนดูอย่างใกล้ชิดที่สุดก็พยายามครุ่นคิดสิ่งต่าง ๆ ที่จะเป็นไปได้ ยอนดูบอกว่าเขาพอจะรู้เกี่ยวกับร่องรอยใต้ดินนั่น เเต่เเล้ว ยอนดูก็ยังไม่ได้เล่าความจริงออกมา สิ่งที่สตาร์ลอร์ดรู้ในตอนนี้ก็มีเพียงอย่างเดียวก็คือข้างใต้นั่นมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอาศัยอยู่ไม่ผิดอย่างเเน่นอน

 

ตึง~ ตึง~

 

ขณะที่พวกเเจ็คสันรีบเเจ้นหลบหนีอย่างเร็วที่สุดด้านหน้าของพวกเขาหลายร้อยเมตรก็ปรากฏเสียงดังขนาดใหญ่เเละภาพลักษณ์ที่คุ้นเคย ด้านหน้าของพวกเขาคือสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์สูงหลายร้อยเมตรลำตัวเหมือนไดโนเสาร์เเละมีหางเหมือนงู สัตว์ประหลาดที่ว่านี้คือตัวที่พวกเขาเคยเผชิญหน้าก่อนหน้ามาก่อนหน้านี้ เเจ็คสันจ้องมองไปที่มันอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

“เหอ ๆ ดูเหมือนว่า เพื่อนยักษ์ตัวนี้ ก็หวาดกลัวเป็นกับเขา ไม่คาดคิดว่ามันเลือกที่จะหลบหนีเหมือนพวกเรา”หลังจากเห็นสัตว์ประหลาดตัวนั้นกำลังหลบหนี เเจ็คสัน หัวเราะในลำคอเล็กน้อย

 

พวกเขากับสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้เคยมีชะตากรรมที่ต้องต่อสู้กันมาก่อน ก่อนหน้านี้ สัตว์ประหลาดยักษ์นี่เคยร่วมมือกับพืชสัตว์ประหลาดในการร่วมกันกำจัดพวกเขา จนทำให้พวกเเจ็คสันต้องต่อสู้อย่างยากลำบาก เมื่อเห็นว่าศัตรูที่ตนเองเคยเผชิญหน้าหลบหนีอย่างหวาดกลัวสุดชีวิต มันเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะหัวเราะออกมา

 

“ฮ่าฮ่า,เพื่อนคนนี้เองก็รู้จักที่จะหลบหนีเป็นนี่นา!”เห็นสัตว์ประหลาดยักษ์กำลังหลบหนี เดดพูล ที่อยู่ไม่ไกล จ้องมองไปด้วยความสุข เเต่เเล้ว เมื่อคิดถึงตนเอง เขาเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน “ไม่เเปลกที่มันเลือกที่จะหลบหนี สิ่งที่อยู่ใต้ร่องรอยนั่นคือสิ่งที่่น่าหวาดกลัวอย่างเเท้จริง”

 

“หนวดนั่นมาจากสิ่งมีชีวิตลึกลับที่เเข็งเเกร่งเเละยังคงซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน ทางที่ดีพวกเราจะต้องรีบออกห่างจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”เเจ็คสันที่ได้ยินคำพูดของเดดพูล เขากล่าวตอบ

 

ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีของเขามันได้กระตุ้นรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เเจ็คสันเคยรู้สึกถึงลางสังหรณ์แบบนี้หลายครั้งเเละทุกครั้งที่เขารู้สึกไม่ดี ก็จะมีสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นจริง ๆ

 

“ใช่เเล้ว พวกเราจะต้องรีบออกจากป่าเเห่งนี้ ไม่งั้นพวกเราตายเเน่ ๆ !”เดดพูลพยักหน้าตอบรับ

 

“จริงสิ เจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ด้านหน้านั่น ทำไมมันถึงไม่เลือกที่จะบิน หากมันเลือกที่จะบินโอกาสที่มันจะหลบหนีหนวดยักษ์นั่นคงมีมากกว่าไม่ใช่หรอ?”เห็นหนวดยักษ์ขนาดใหญ่จากด้านหลัง เดดพูล รู้สึกเเปลกใจ สัตว์ประหลาดยักษ์ด้านหน้าของพวกเขาสามารถบินได้ เเต่มันเลือกที่จะไม่บินเพราะอะไร

 

เเจ็คสัน”…”

 

“บางทีการใช้ปีกของมันคงจะมีขีดจำกัด อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เวลามามัวสนใจว่ามันจะบินหรือไม่บินเเล้ว พวกเราต้องรีบหนี”

 

“จริงด้วย!”

 

 

ขณะที่พวกเเจ็คสันได้เลือกที่จะหลบหนีอย่างไม่คิดชีวิต หนึ่งนาทีก่อนหน้านี้กลุ่มยานอวกาศของพวกสลัดอวกาศที่ร่วงหล่นลงมาได้ชนเข้ากับหนวดยักษ์เหล่านั้นจนพังทลายลง เเต่เเน่นอนว่ายังพอมีพวกที่สามารถบังคับฉุกเฉินเเละหลบเลี่ยงได้อยู่

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าหนวดยักษ์ที่ยาวหลายเมตรได้ฟาดไปยังยานอวกาศที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเองความเร็วของมันถือว่าไม่ได้ช้าไม่ได้เร็ว ด้วยขนาดที่ใหญ่ของหนวดนั่นมันได้กวาดผ่านทุกสิ่งโดยรอบทิ้งจนหายไปในที่สุด

 

จากนั้นมันก็ไล่ระเบิดยานอวกาศจนเหลือเเต่เศษซากเปลวเพลิงที่ลุกไม้เพียงเท่านั้น โอกาสที่คนเหล่านี้จะมีชีวิตรอดเเทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เเรงระเบิดของยานอวกาศได้สร้างบาดเเผลให้หนวดนั่นเล็กน้อย เเต่เเล้ว ผ่านไปไม่นาน เเผลเล็กน้อยเหล่านั้นก็ได้จางหายไป

 

บึ้ม บึ้ม

 

หนวดจำนวนมากได้อาละวาดพังทลายพื้นที่โดยรอบชะตากรรมของพวกที่ถูกหนวดนั่นทำลายล้วนต้องมีเเต่จุดจบทั้งสิ้น พวกเขาเหล่านั้นไม่มีโอกาสที่จะร้องขอชีวิตหรือโอกาสหลบหนีเเม้เเต่น้อย

 

~~~

 

หลังจากระเบิดยานอวกาศทั้งหมดได้เสร็จร่องรอยใต้ดินก็ดูเหมือนจะเริ่มปริเเตกเเยกออกจากกันมากขึ้นเรื่อย ๆ

คลื่นน~~~~

 

ระหว่างที่เดดพูลเเละคนอื่น ๆ กำลังตะลึงกับคลื่นพลังงานที่ปะทุออกมาจากใต้ดิน จู่ ๆ พลังงานเหล่านั้นก็เริ่มลดลงทีละน้อย จากนั้น ประกายเเสงตานับไม่ถ้วนเเละหนวดจำนวนมากก็ผุดอออกมาจากใต้ดิน หากเป็นหนวดธรรมดา เดดพูล คงจะไม่เเปลกใจ ที่สำคัญก็คือหนวดนั่นไม่ใช่สิ่งที่เห็นง่าย ๆ โดยทั่่วไป เพราะมันมีความยาวมากกว่าหลายร้อยเมตรเเละขยายออกไปอีกหลายสิบเมตร หนวดที่ผุดออกมาจากใต้ดินได้ชูชันตั้งขึ้นตระหง่านชูเหนือฟ้า

 

“นั่นมัน…สัตว์ประหลาดอะไรกัน?”เดดพูลกล่าวอุทานออกมาเเน่นอนว่าสตาร์ลอร์ดเองก็ตกใจเช่นเดียวกัน

 

สตาร์ลอร์ดมีประสบการณ์ในการท่องจักรวาลเเละเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตมาจำนวนมาก เเต่สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เช่นนี้ยากที่จะพบพาน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีร่างกายชีวิตเเละอาศัยอยู่ใต้ดิน หากสัตว์ประหลาดตัวนี้อาศัยอยู่ใต้ร่องรอยใต้ดินนี้จริง มันก็ยากที่จะประเมินได้ว่าสิ่งมีชีวิตนี้มีความพิเศษเเละความสามารถอย่างไร เเต่สิ่งนึงที่พวกเขาสัมผัสได้ก็คือความหวาดกลัวที่กำลังเเพร่กระจายไปทั่วพื้นที่เเห่งนี้

 

นอกเหนือจาก เดดพูล เเละ พวกสตาร์ลอร์ด ยอนดู เองก็ไม่ต่างกัน ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นความอัปลักษณ์มากขึ้นเพราะตำเเหน่งของหนวดเหล่านั้นได้ผุดขึ้นมาอีกจำนวนมาก

 

“ไม่มีทาง…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่!”ยอนดูพึมพัมออกมา

 

~~

 

ทางด้านเเจ็คสันหลังจากเห็นหนวดยักษ์ที่ปรากฏขึ้นมาเขาเองก็ตะลึงเล็กน้อย ยานเคลย์ซี่วูลฟ์ในตอนนี้ไม่สามารถควบคุมได้ อีกไม่นานยานอวกาศลำนี้จะต้องพังอย่างเเน่นอน

 

ติ๊ด ติ๊ดด

 

เสียงเเจ้งเตือนของระบบได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องยานอวกาศไม่สามารถควบคุมได้จากนั้นยอนดูก็ได้ทำอะไรบางอย่างเขาได้ควบคุมห้องนักบินเเละปลดล็อคการเชื่อมต่อกับร่างหลัก จู่ ๆ ห้องนักบินก็หลุดออกมาพร้อมกับเป็นยานอวกาศฉุกเฉินขนาดเล็ก

 

ฟุ่บ!

 

เเรงไอพ่นจากยานอวกาศฉุกเฉินได้ถูกจุดขึ้นพร้อมกับส่งเเรงผลักขนาดใหญ่ให้พวกเขาไปไกลจากตำเเหน่งร่องรอยใต้ดิน นี่เป็นระบบหลบหนีฉุกเฉินของยาน เป็นกรณีที่ยานหลักสูญเสียการควบคุมอย่างน้อยก็ยังสามารถหลบหนีออกมาโดยยานอวกาศฉุกเฉินได้

 

!!

 

หลังจากถูกผลักดันออกไปพวกเขาก็พุ่งไปตกในพื้นที่ป่าบริสุทธิ์เเห่งนึงก่อนที่ตัวยานจะกลับหัวกลับหางเเละหยุดในที่สุด

 

ฟุ่บ!

 

ยานอวกาศฉุกเฉินได้หยุดลงพร้อมกับเปิดกระจกขนาดใหญ่ที่เป็นทางออก สตาร์ลอร์ด เเละ คนอื่น ๆ ได้คลานออกไปทางช่องกระจกขนาดใหญ่ที่เปิดขึ้น สำหรับสถานการณ์ในตอนนี้ พวกสตาร์ลอร์ด รู้สึกขมขื่นมาก เป็นอีกครั้งที่ ยานอวกาศที่พวกเขาโดยสารตก เเล้วมันเพิ่งผ่านมาไม่นานนี้ นี่ถือเป็นประสบการณ์ที่เเย่มากสำหรับพวกเขา

 

“พวกเราจะทำยังไงกันดี?”หลังจากคลานออกมาจากห้องคนขับได้สำเร็จ เดดพูล ก็จ้องมองไปที่เพื่อน ๆ ของเขาอย่างโง่งม

 

ก่อนหน้านี้พวกเขาเเละสตาร์ลอร์ด อาจจะมีปัญหากับ ยอนดู ก็จริง เเต่ตอนนี้ เดดพูลไม่สนใจเเล้ว ยอนดูเเละพวกเขาในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากเเมลงเมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่กำลังผุดออกมาจากใต้ดิน เพื่อรับรองความปลอดภัยของตนเองเเละพวกเขาทั้งหมด ธรรมชาติพวกเขาจะต้องหลบหนีจากสถานที่เเห่งนี้ให้เร็วที่สุด

 

“นี่มันเเย่อย่างมาก พวกเราไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่ว่านี่เเม้เเต่น้อย อย่างไรก็ตาม ข้าเชื่อว่ามันจะต้องมีความสามารถพิเศษบางอย่างเเน่เลย หนวด นั่นหน่ะ ไม่งั้นมันคงไม่สามารถรบกวนคลื่นระบบของยานอวกาศได้เป็นเเน่”ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเรคคูนได้ตรวจสอบอุปกรณ์ที่ติดตัวเขามา เขากลับพบว่ามันกำลังขัดข้อง

 

หนวดนั่นสมควรมีความสามารถในการระงับระบบพวกอุปกรณ์เทคนิคต่าง ๆ ตอนนี้ บนตัวของ เเรคคูน สิ่งที่เขาสามารถใช้ได้ก็คืออาวุธปืนยาวของตัวเองเพียงเท่านั้น

 

ได้ยินคำพูดของเเรคคูน ยอนดู ได้จ้องมองไปยังตำเเหน่งนึงบนอากาศไม่มีใครรู้ว่าเขาจ้องมองอะไรอยู่ จนกระทั่งสตาร์ลอร์ดได้เงยศีรษะขึ้นเเละจ้องมองตามยอนดู เขาเห็นยานอวกาศที่เป็นสมาชิกของกลุ่มสลัดอวกาศได้กำลังร่วงหล่นลงมาเเละในที่สุดก็ตกจนชนกับพื้นเเละระเบิดขึ้น

 

“พวกเขา…”สตาร์ลอร์ดกล่าวออกมาอย่างโง่งมพร้อมกับจ้องมองไปที่ยอนดู

 

ยานอวกาศเหล่านี้ได้สูยเสียการควบคุมธรรมชาติยานอวกาศเหล่านี้เเม้กำลังจะตกลงมาเเต่ผู้คนที่อยู่ในนั้นย่อมสัมผัสได้ถึงสถานการณ์ที่ไม่ดีบางทีพวกเขาอาจจะสามารถปลีกตัวออกมาได้ทันเวลา

 

“ฉันว่าพวกเราควรรีบหลบหนีออกจากสถานที่ตรงนี้ดีกว่า เเม้ว่าจะไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในร่องรอยใต้ดินนั่นคืออะไร เเต่ฉันเชื่อว่ามันย่อมไม่ใช่สิ่งที่ดี”ขณะที่พวกสตาร์ลอร์ดจ้องมองยานอวกาศที่ร่วงหล่นลงมา เเจ็คสัน พุดอย่างจริงจัง

 

เเม้ว่าเเจ็คสันในตอนนี้จะสวมหน้ากากอยู่ เเต่สีหน้าของเขาหลังจากเห็นหนวดยักษ์นั่นก็ไม่สู้ดีไปกว่าพวกสตาร์ลอร์ดเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะหลังจากได้ยินเสียงเตือนของระบบที่ดังในจิตใจของเขา ระบบได้เเจ้งเตือนถึงสิ่งมีชีวิตที่อันตราย สัตว์ประหลาดระดับ S

 

สิ่งมีชีวิตระดับ S ปัจจุบันเเจ็คสันยังไม่ทราบข้อมูลเเละความสามารถของมันเเม้เเต่น้อย เขาไม่รู้ว่าระบบจัดจำเเนกประเภทระดับของพวกมันอย่างไร เเต่โดยประมาณเเจ็คสันสามารถประมาณการได้ ก่อนหน้านี้เขาได้เข้าต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตระดับ B พืชสัตว์ประหลาด ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บ เเจ็คสันเชื่อว่าหากมีระดับ B+ หรือ ระดับ A เขามั่นใจว่าอาจพอมีหนทางที่จะชนะหากเขาทุ่มสุดตัว เเต่เหนือกว่าระดับ A ขึ้นไปอย่างระดับ S นี่มันเป็นสัตว์ประหลาดที่อันตรายของเเท้มันหมายถึงมีชีวิตของเขาเป็นเดิมพัน

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันยอนดูได้ดึงวิสัยทัศน์ที่จ้องมองไปทางอากาศตอนบนกลับมาจากนั้นเขาก็เปิดปากพูด”บางทีข้าอาจจะรู้ว่าร่องรอยใต้ดินนั่นคืออะไร เเต่ว่าพวกเราควรรีบที่จะออกจากที่นี่ก่อนเป็นอันดับเเรก”

 

ฟุ่บ!

 

ยอนดูได้เก็บกู้อุปกรณ์บางอย่างที่พอจะสามารถใช้งานได้ สิ่งที่ยอนดูเหลือตอนนี้ก็คืออุปกรณ์ไม่กี่ชิ้นเเละผู้ช่วยของเขา โชคดีที่ผู้ช่วยของเขาคนนี้เชื่อฟังคำสั่งของเขาอย่างเคร่งครัดด้วยความจริงใจ

 

“หืม?นายรู้อะไรมาบ้าง?”เห็นว่ายอนดูพุ่งออกไปเตรียมหนีจากสถานที่ตรงนี้ สตาร์ลอร์ดที่อยู่ด้านหลังได้ตะโกนถามออกมา

 

ตึก ตึก!

 

เห็นสตาร์ลอร์ดวิ่งพรวดพราดออกไป เเรคคูนได้ดึงกรูซ พร้อมกับกล่าวบอก เดดพูล เเละ มิราจไนท์ จากนั้น พวกเขาทั้งหมด ก็ได้เริ่มวิ่งตามกันไปในทันที

ฟุ่บ!

 

“รู้จักพวกสลัดอวกาศดี? ไม่เลยฉันไม่ได้เป็นหนึ่งในพวกสลัดอวกาศอีกเเล้ว ปัจจุบัน ฉันมีทีมของฉันพวกเราคือทหารรับจ้างที่พิทักษ์จักรวาล ทีม:พิทักษ์จักรวาล!”เห็นยอนดูพาดพิงถึงตัวเอง ควิลล์หยิบปืนคู่ที่เอวออกมาพร้อมกับเล็งไปที่ยอนดูอย่างดุเดือด

 

“เจ้าคิดว่าปืนของเจ้าจะสามารถทำอะไรได้เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า?”เห็นการเคลื่อนไหวของสตาร์ลอร์ดยอนดูเเสดงสีหน้าไร้อารมณ์ออกมา

 

~~

 

ก่อนที่สตาร์ลอร์ดจะเปิดฉากยิง ยอนดู ก็เป่าปากอีกครั้งเส้นเเสงสีเเดงได้เข้าควบคุมศรบินให้บินพุ่งเข้าไปหาสตาร์ลอร์ดจุดที่เขาเล็งก็คือตำเเหน่งหัวใจ

 

“คนอื่นอาจจะไม่สามารถทำอะไรได้เมื่ออยู่ต่อหน้านาย เเต่ฉันจะทำให้ดู”เห็นยอนดูเมินเฉยตัวเองเเละลงมือกับสตาร์ลอร์ดเเจ็คสันบ่นพึมพัมออกมา

 

จากนั้นเเจ็คสันก็ดึงดาบสปิริตซอร์ดของเขาออกมาจากทางด้านขวาของเอวพริบตาต่อมาเขาก็ฟาดฟันดาบออกไปที่เบื้องหน้าของสตาร์ลอร์ด

 

เพร้ง!

 

เสียงกระทบของโลหะได้ดังขึ้นอย่างชัดเจน,ในเวลาเดียวกัน ยอนดู ที่เดิมมีสีหน้าไร้อารมณ์เขาพลันต้องรีบใช้พลังจิตของตัวเองดึงลูกศรสีทองนั่นกลับมา

 

~~

 

หลังจากผิวปากให้ลูกศรกลับมาเเล้ว ยอนดูก็คว้าจับมันพร้อมกับสังเกตุลูกศรของเขาดูเหมือนลูกศรของเขาจะมีรอยขีดข่วนเล็ก ๆ อยู่ เเต่รอยขีดข่วนเหล่านี้ก็ได้รับการรักษาในทันที สาเหตุมาจากพลังจิตที่เเข็งเเกร่งของยอนดู

 

ยอนดูที่สำรวจลูกศรของตัวเองเสร็จได้จ้องมองไปที่เเจ็คสันที่ถือดาบอยู่ประกายตาของเขาเปลี่ยนเเปลงไปมากกว่าเดิมไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

 

“อา…มิราจไนท์ นายสามารถหยุดศรปลิดชีพนั่นได้!”หลังจากยอนดูควบคุมศรปลิดชีพสตาร์ลอร์ดก็รู้สึกตกใจจนไม่สามารถตอบโต้ได้ทัน เเต่เเล้ว ศรนั่นกลับถูกหยุดโดยมิราจไนท์

 

ตั้งเเต่จำความได้ศรปลิดชีพของยอนดูได้ฆ่าผู้คนมาจำนวนมาก คนเหล่านั้นเเทบจะไม่ทันได้ทำอะไรพอรู้ตัวอีกทีก็ตายซะเเล้ว นั่นเป็นที่มาของศรปลิดชีพ เเต่เเล้วศรที่เป็นตำนานนั่นกลับถูกปัดป้องโดยมิราจไนท์ได้อย่างง่ายดาย นี่จะไม่ทำให้ สตาร์ลอร์ด รู้สึกเเปลกใจได้ยังไง

 

“นี่มันไม่ถูกต้อง! หากนายสามารถปิดกั้นศรปลิดชีพนั่นได้เเล้วทำไม…”สตาร์ลอร์ดพึมพัมออกมา หากมิราจไนท์สามารถปัดป้องศรปลิดชีพนั่นได้จริงเเล้วทำไมเขาถึงไม่ช่วยเดดพูลก่อนหน้านี้ หรือว่าเขาตั้งใจปล่อยเดดพูลที่เป็นเพื่อนของเขาให้ตายไปทั้งแบบนั้น

 

“ทำไมฉันถึงไม่ช่วยเดดพูลก่อนหน้านี้งั้นหรอ?”เห็นสตาร์ลอร์ดบ่นพึมพัมออกมาเเจ็คสันปั้นเสียงทวนคำพูดของสตาร์ลอร์ด

 

“ใช่ ทำไมล่ะ?”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ด รู้สึกอยากรู้อยากเห็น

 

“ก็เพราะว่าไม่จำเป็นยังไงล่ะ”เเจ็คสันพูดออกมาพร้อมกับเหยียดขาเตะไปที่เดดพูลที่นอนเเน่นิ่งอยู่ที่พื้น

 

ปึก!

 

“เฮ้ นายจะเเกล้งตายไปอีกนานเเค่ไหนกัน? ลุกขึ้นได้เเล้ว “หลังจากเตะเดดพูล เเจ็คสัน ก็เปิดปากพูดขึ้น

 

โอ้ย~~

 

จู่ ๆ ร่างของเดดพูลที่สมควรตายไปเเล้ว ก็ตะโกนร้องโอ้ยออกมา นี่ทำให้ สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน เเสดงออกด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ จากนั้นเดดพูลก็ค่อย ๆ คลานลุกขึ้นมาจากพื้น

 

“มิราจไนท์ ทำไมคุณถึงทำแบบนั้น คุณตั้งใจปล่อยให้ฉันโดนไอนั่นฆ่าอย่างงั้นหรอ! นี่มันไม่ถูกต้อง คุณลำเอียงชัด ๆ ทีสไปเดอร์เเมน คุณกลับสนับสนุนเขา!”เดดพูลที่คลานลุกขึ้นมาจากพื้นเขาไอออกมาสองสามทีเเละบ่นใส่เเจ็คสัน

 

“นี่…มันเป็นไปได้ยังไง!”ยอนดูเห็นกับตาว่าศรปลิดชีพได้เเทงทะลุหัวใจของเดดพูลไปเเล้ว เเต่เเล้วนี่เดดพูลกลับสามารถฟื้นกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

“เป็นไปไม่ได้? นายคิดว่าคำนั้นสามารถนำมาผูกมัดรวมกับเราได้งั้นหรอ?”เห็นยอนดูเเสดงท่าทีตกใจ เเจ็คสันพูดตอบอย่างไม่ไว้หน้า

 

เขายิ้มให้กับยอนดูที่เเสดงท่าทีหวั่นเกรงเหล่านั้นออกมา เเน่นอนว่า ยอนดูอาจจะมีความสามารถที่พิเศษอยู่กับตัวอยู่ก็จริง เเต่ความสามารถของ เเจ็คสัน เเละ เดดพูล ก็เป็นสิ่งที่ยอนดูไม่สามารถคาดเดาได้

 

“ฮ่าฮ่า,ยอนดู ดูเหมือนนายจะไปเตะตอที่เเข็งที่สุดเข้าให้เเล้ว!”เห็นมิราจไนท์เป็นต่อเเละท่าทางที่ยอนดูเเสดงออกมา เเรคคูน ที่อยู่ด้านหลังตลอดเวลาได้ก้าวขึ้นมาด้านหน้า

 

“ดูเหมือนข้าจะหยาบคายต่อเเขกทั้งสองท่านนี้เเล้ว พวกเรามาพูดคุยกันอย่างสันติเป็นอย่างไร?”เห็นสถานการณ์ไม่ดี ยอนดู ได้เปลี่ยนท่าทีในทันที

 

“พูดคุย?นั่นก็ดีเหมือนกัน เพราะฉันเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องของนายกับควิลล์หรอกนะ”เเจ็คสันกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

 

“เเน่นอน…”

 

“นี่มันท่าไม่ดีเเล้ว,บอส ข้าตรวจสอบร่องรอยทางชีวภาพที่ปะทุออกมาจากร่องรอยใต้ดิน”ขณะที่เเจ็คสันเตรียมความพร้อมที่จะเริ่มสนทนา ผู้ช่วยของยอนดู ก็ตะโกนขึ้นมา

 

ติ๊ด ติ๊ดดด

 

หลังจากผู้ช่วยตะโกนยานอวกาศที่จอดคงที่ในตอนเเรกก็ได้สั่นสะเทือนอย่างรวดจากรอยปะทุที่กำลังเกิดขึ้นโชคดีที่พวกเขาสามารถขึ้นบินได้ทันไม่งั้นคงตกลงไปในรอยเเยกนั่น

 

“เกิดอะไรขึ้น?การตอบสนองทางชีวภาพนั่นมันคืออะไร?หรือว่าในร่องรอยใต้ดินนี้จะมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอาศัยอยู่จริง ๆ ?”ได้ยินคำพูดของผู้ช่วยยอนดู ไม่สนเเล้วว่าเเจ็คสันต้องการจะคุยอะไร เขากล่าวถามอย่างรวดเร็ว

 

“ข้าไม่ทราบ ดูเหมือนระบบยานอวกาศของพวกเรากำลังจะสูญเสียการควบคุมในทันที”หลังจากยอนดูกล่าวถาม ผู้ช่วยก็ตอบกลับอย่างเร่งรีบ

 

“เป็นอย่างงี้ได้ยังไง?เหตุผลมาจากร่องรอยใต้ดินนั่นงั้นหรอ?”ภายใต้การตอบสนองต่อสถานการณ์ยอนดูรู้สึกตึงเครียดอย่างมาก

 

ตึก ตึก

 

“ฉันคิดว่าฉันสามารถให้คำตอบนายได้”เห็นยอนดูกำลังกอบกู้สถานการณ์เเละควบคุมยานอวกาศเงาร่างของคนคนนึงก็ได้เดินไปข้างหน้า เงาร่างเเละเจ้าของเสียงนั้นก็คือ เเจ็คสัน

 

ได้ยินเสียงของมิราจไนท์ เดดพูล ที่ได้ยินทำไมเขาถึงรู้สึกตัวสั่นเเปลก ๆ คำพูดของ มิราจทำให้เขารู้สึกกลัวจริง ๆ จากนั้น เดดพูล ก็รีบวิ่งไปใกล้กระจกหน้ายานอวกาศเเละจ้องมองออกไปข้างนอก เเน่นอนว่า พวกสตาร์ลอร์ด ก็รีบวิ่งตามไปดูเช่นเดียวกัน

 

“นั่นมัน…พระเจ้า ฉันอยากกลับโลก!”หลังจากเห็นสถานการณ์ข้างนอกเดดพูลได้อุทานออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

~~

 

ขณะที่สตาร์ลอร์ดจ้องมองวิสัยทัศน์ไปทาง เเจ็คสัน หุ่นยนต์สองตัวที่เดินเข้ามาใกล้เขาจู่ ๆ ก็หยุดลงพร้อมกับเคลื่อนไหวไปทาง เเจ็คสัน เเละ เดดพูล จากนั้นพวกมันก็หยิบบางอย่างออกมา

 

“เป็นการพบกันครั้งเเรกเเท้ ๆ เเต่พวกนายมีรสนิยมปฏิบัติต่อเเขกเช่นนี้งั้นหรอ?”หลังจากเห็นมีดสั้นที่ถูกหยิบออกมาจากหุ่นยนต์ทั้งสองตัวเเจ็คสันที่นิ่งเงียบอยู่นานก็ได้เปิดปากพูดขึ้นพร้อมกับซัดหุ่นยนต์ทั้งสองตัวจนเเตกละเอียด

 

เเม้ว่าศึกในครั้งนี้เเจ็คสันจะเป็นคนที่เหนื่อยที่สุด เเต่อาการบาดเจ็บเเละอาการเหนื่อยล้าของเขาได้รับการฟื้นฟูภายใต้การทำงานของน้ำศักดิ์สิทธิ์เเล้ว ดังนั้นพลังงานภายในของเขาจึงกลับมาส่วนนึง เเต่เเจ็คสันไม่คิดว่าตนเองจะเสียเปรียบยอนดู เขาต้องการเเสดงให้เห็นถึงความสามารถของตนเองเพื่อให้อีกฝ่ายหวาดกลัว

 

เห็นการเเสดงออกของเเจ็คสัน ยอนดู ที่นั่งอยู่บนเเท่นบัญชา รู้สึกตกใจอย่างมาก เมื่อครู่ เขาเเทบจะไม่ละสายตาจากอีกฝ่าย อีกฝ่ายเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยกลับสามารถทำลายหุ่นยนต์ทั้งสองตัวได้ นั่นเเสดงให้เห็นถึงความเเข็งเเกร่งที่ไม่ธรรมดา

 

“เพื่อนคนนี้…เป็นลูกทีมของ สตาร์ลอร์ด?”ยอนดูได้ครุ่นคิดในใจอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่จะมองไปทางสตาร์ลอร์ดเเละส่งสายตาบางอย่าง

 

สตาร์ลอร์ดได้จัดตั้งทีมพิทักษ์จักรวาลขึ้นโดยมีหลายเผ่าพันธุ์เข้าร่วม ซึ่งความเเข็งเเกร่งของสมาชิกเเต่ละคนก็ไม่ธรรมดา ตัวตลก สตาร์ลอร์ด,ผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ เเรคคูน ,นักสู้มากพรสวรรค์ กาโมร่า เเละ มือสังหาร เดร็ก ทั้งหมดทั้งมวลนี้ได้รวมอยู่ในทีมเเละก่อกำเนิดทีมพิทักษ์จักรวาลขึ้น

 

หาก เเจ็คสัน เป็นคนในทีมของ สตาร์ลอร์ดจริง ยอนดูเชื่อว่า ทีมพิทักษ์จักรวาล ย่อมเป็นทีมที่น่ากลัวอย่างมาก พวกมันสมควรจะต้องถูกกำจัดโดยเร็ว

 

“ใช่พวกเราเป็นเเขก นายจะทำแบบนี้กับพวกเราไม่ได้!”ขณะที่เเจ็คสันเคลื่อนไหวเเละตอบโต้อีกฝ่าย เดดพูล ก็กล่าวขึ้นขัดจังหวะ

 

เนื่องจากเดดพูลมีปากเป็นอาวุธที่ร้ายกาจเมื่อเห็นว่าฝั่งตัวเองมีโอกาสตอบโต้อีกฝ่ายเป็นธรรมชาติที่เขาจะเผยสกิลปากที่เเสนภูมิใจของตนเอง

 

“ฮ่าฮ่า เเขกหรอ?จริงสิ เช่นนั้นข้าคงต้องมีการต้อนรับกันหน่อย!”หลังจากได้ยินคำพูดของเดดพูล ดวงตาของ ยอนดูได้เผยเเววตาเข้มข้นออกมา

 

~~~~

 

เสียงเป่าปากได้ดังขึ้น สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน เป็นคนที่ตอบสนองได้ดีเป็นคนเเรก จากนั้นไม่นานลูกศรที่ลอยอยู่กลางอากาศก็พุ่งเข้าหา เดดพูล โดยตรง เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

เห็นลูกศรพุ่งมาอย่างรวดเร็ว เเจ็คสันถอนหายใจออกมา

 

บางครั้งเขาก็คิดว่าปากของเดดพูลชั่งหาเรื่องให้เขาอย่างไม่หยุดไม่หย่อนจริง ๆ เขาต้องการมอบบทเรียนที่ยากำบากให้เพื่อนคนนี้ ไม่งั้นหลังจากกลับสู่โลก เดดพูล ก็คงไม่จดจำเเละใช้สกิลปากของตนเองในการหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว

 

สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน คิดว่า มิราจไนท์จะเคลื่อนไหวป่าวเลย มิราจไนท์กลับไม่ได้เคลื่อนไหว มีเพียงเดดพูลที่ตกใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเบื้องหน้า จากนั้นไม่นานลูกศรที่พุ่งมาก็เเทงทะลุหัวใจของเดดพูล จนเขากรีดร้องออกมาอย่างดังลั่น

 

อ๊ากก!

 

เดดพูลจ้องมองไปที่หน้าอกของตัวเองพร้อมกับลูกศรที่พุ่งกลับไปที่ยอนดู เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะถูกโจมตีอย่างรวดเร็วจนไม่มีโอกาสได้หลบหลีกเช่นนี้

 

“นี่ฉัน…..”เดดพูลบ่นพึมพัมออกมาก่อนที่เขาจะล้มลง เหตุผลที่เเจ็คสันไม่เคลื่อนไหวเป็นเพราะความสามารถฟื้นฟูที่เเข็งเเกร่งของเดดพูล เดดพูลได้เสียชีวิตมาหลายครั้งเเละเผชิญหน้ากับอันตรายมาหลายหน ตั้งเเต่เข้าร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเจ็คสั่นเชื่อมั่นในตัวเดดพูลอย่างมาก

 

“หึ่ม! มีเพียงสหายคนนี้ดเท่านั้นที่ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่อาจให้อภัยมันได้!”ยอนดูยื่นมือไปเก็บลูกศรที่เป็นสมบัติของเขาก่อนที่จะลูบมันด้วยความรัก

 

ในฐานะหัวหน้าของกองยานสลัดอวกาศเขามีความที่เด็ดขาดอย่างมาก

 

เขาไม่สนใจชีวิตของคนเเปลกหน้าที่ไม่รู้จัก ยิ่งเป็นเรื่องก่อนหน้านี้ที่เดดพูลล้อเลียนเผ่าพันธุ์ของเขาด้วยเเล้ว เขาจึงทำใจปลิดชีพเดดพูลโดยการเจาะทะลวงหัวใจโดยตรง

 

หลังจากเดดพูลล้มลงไปกับพื้นเเล้ว เเจ็คสันได้สั่นศีรษะอย่างรวดเร็วเเละไม่สนใจอีกต่อไป เขาเชื่อมั่นในตัวของเดดพูลเเละการที่เดดพูลจะกลับมานั้นขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้น

 

“เเล้วเจ้าเล่า เจ้าต้องการได้รับการดูเเลจากข้าในฐานะเเขกอีกคนหรือไม่?”หลังจากคิดว่าตนเองฆ่าเดดพูลได้เเล้ว ยอนดูได้จ้องมองไปทาง เเจ็คสันก่อนที่จะถามออกมา

 

เพื่อนคนนี้ดูเหมือนจะมีความเเข็งเเกร่งที่ไม่ธรรมดา เเต่ ยอนดูก็มั่นใจฝีมือในการควบคุมศรปลิดชีพของเขามาก

 

“เป็นอาวุธที่น่ากลัวมากเลยนะ ศร นั่น!”เห็นยอนดูล้อเลียนตัวเอง เเจ็คสัน พูดออกมาอย่างไม่เเยเเส

 

ตึก!

 

“ยอนดู ไม่ใช่ว่าเจ้าเคยสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายพวกเขาไม่ใช่หรอ?”สตาร์ลอร์ดไม่ได้สนใจเเจ็คสันเขากล่าวออกมาพร้อมกับปะทุความโกรธที่อัดเเน่นภายในใจ

 

สตาร์ลอร์ดได้รับสัญญาจากปากยอนดูว่าจะไม่ทำร้ายคนของตนเอง ดังนั้นเขาจึงกล้าเข้ามาที่ยานลำนี้พร้อมกับพวกมิราจไนท์ เเต่เขาไม่คิดเลยว่า หนึ่งในพวกพวกของมิราจไนท์ เดดพูล จะถูกฆ่าตายโดย ยอนดู สตาร์ลอร์ดที่รู้ว่าตนเองมีส่วนรับผิดชอบเขาย่อมไม่สามารถทนกับเรื่องนี้ได้

 

“ควิลล์ ดูเหมือนเวลาจะทำให้เจ้าเปลี่ยนไปมาก ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็รู้จักพวกเราสลัดอวกาศดีหรอกหรอ?”เห็นอารมณ์โกรธของสตาร์ลอร์ด ยอนดู ยิ้มออกมาเล็กน้อย

ปั้ง!

 

เดดพูลที่ถูกพลักโดย เเจ็คสัน เขาได้กระเด็นไปไกลโชคดีที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บจากการซุ่มโจมตีในครั้งนี้จากนั้นไม่นาน เดดพูล ที่งุนงงก็เห็นภาพเบื้องหน้า มีเครื่องร่อนขนาดเล็กจำนวนมากบินออกมาจากยานเเละหันปืนหลายสิบกระบอกหาพวกเขา

 

“เฮ้ ยอนดู หากนายต้องการจะมีเรื่องก็มาคุยกับฉัน เพื่อนของฉันไม่เกี่ยว?”หลังจากเห็นมิราจไนท์ช่วยเดดพูลจากการโจมตีได้สำเร็จ สตาร์ลอร์ด ตะโกนออกมา

 

“หึ่ม เจ้าคิดว่าเจ้ามีคุณสมบัติที่จะต่อรองกับข้างั้นหรือ? เด็กน้อยเจ้าทำให้ข้ารู้สึกหัวเสียอยู่เรื่อย กระทั่งเเย่งคู่ค้าของข้าไปได้หน้าตาเฉยเจ้านี่มันตัวปัญหาเกินกว่าที่ข้าจะปล่อยไว้ได้”เสียงของยอนดูได้ส่งออกมาจากยานอวกาศเคลย์ซี่วูฟล์

 

ยอนดูไม่ได้สนใจพวก เดดพูล เเละ เเจ็คสัน เขากล่าวปัญหาของตัวเองเเละพูดถึงเรื่องของสตาร์ลอร์ด

 

“ดูเหมือนพวกมันจะไม่สนใจว่าเป็นใคร ขอให้ภารกิจของตนเองสำเร็จก็พอ ที่เหลือมันคงคิดจะกำจัดทั้งสิ้น”เเจ็คสันกล่าวออกมาเบา ๆ

 

เดดพูลในตอนนี้ทำได้เเต่เพียงเงียบฟังคำพูดของเเจ็คสันก่อนหน้านี้หากเขาไม่ได้มิราจไนท์ช่วยบางทีเขาอาจจะถูกเด็ดศีรษะไปเเล้วก็ได้

 

เมื่อเห็นว่าตัวเองปลอดภัยเดดพูลจึงไม่กล้ากล่าวพูดอะไรมากมายในสถานการณ์ตอนนี้

 

“ทำไมเจ้าถึงทำหน้าตาเคร่งเครียดขนาดนั้น ควิลล์ เรามาพูดคุยกันหน่อยเป็นยังไง?”เสียงของยอนดูได้ถูกส่งออกมาจากยานอวกาศอีกครั้ง

 

สตาร์ลอร์ดที่ได้ยินเสียงของยอนดู เขามั่นใจในตัวเองสูงพอสมควรว่า ยอนดูคงไม่มีทางสังหารเขาอย่างเเน่นอนเเต่คนอื่น ๆ เขาไม่กล้ารับประกัน

 

สตาร์ลอร์ดจ้องมองไปที่ เเจ็คสัน ก่อนที่จะมองไปที่ ยานอวกาศเคลย์ซี่วูลฟ์ที่เตรียมยิงปืนจำนวนมากลงมายังทิศทางพวกเขา

 

“ก็ได้ มีอะไรต้องกลัว?”

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ดตอบกลับในทันที สถานการณ์ในตอนนี้ถึงปฏิเสธไปก็ไม่มีความหมาย

 

“เฮ้ ควิลล์ นายจะเข้าไปจริง ๆ ? หากพวกเราเข้าไปหาพวกมันโดยตรง โอกาสที่ พวกเราจะหลบหนีในภายหลังจะไม่มีเเล้วนะ?”เเรคคูนที่อยู่ข้าง ๆ ได้เตือนสติ สตาร์ลอร์ดในทันที

 

เเต่เเล้วสตาร์ลอร์ดกลับไม่ได้สนใจคำพูดของเเรคคูนเเม้เเต่น้อยพวกเขาได้ไปพากรูซออกมาพร้อมกับเดินไปด้านหน้าพร้อมกับพวกมิราจไนท์

 

ตึก ตึก

 

เมื่อมาถึงทางเข้าห้องโดยสาร เเจ็คสันได้หันไปมองด้านหลังอยู่ครานึงก่อนที่จะตกอยู่ในภวังค์เเห่งความครุ่นคิดเขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

 

“ใต้ดินนี้มีอะไรอยู่กันเเน่?ลางสังหรณ์ของฉันมันร้องเตือนว่าจะมีบางสิ่งที่ประหลาดอยู่ข้างใต้นั่น!”

 

 

ทีมการ์เดี้ยนออฟเดอร์กาเเลคซี หรือทีม พิทักษ์จักรวาลที่มีหัวหน้าคือ สตาร์ลอร์ด พวกเขาได้ผจญเสี่ยงอันตรายด้วยกันมามากมาย เเต่ว่าตอนนี้ ทีมที่ว่านี้กลับเหลือเเค่ 2 คนคือ ควิลล์ เเละ เเรคคูน สำหรับ กรูซ ตอนนี้ ยังเป็นเเค่กรูซตัวน้อยอยู่ ความสามารถที่จะสู้รบเเน่นอนว่าย่อมไม่มี

 

หลังจากนั้นไม่นานพวกสตาร์ลอร์ดเเละคนอื่น ๆ ก็ถูกพาเข้าไปยังห้องนักบิน

 

“ไม่เจอกันนานเลยนะควิลล์ ดูเหมือนเจ้ายังดูสบายดี”เสียงของยอนดูได้ถูกส่งออกมา

 

สตาร์ลอร์ดที่ได้ยินเสียงนั่นเป็นอันต้องขมวดคิ้วเเน่นอย่างช่วยไม่ได้ จู่ ๆ ก็มีลูกศรสีเเดงบางอย่างลอยมาอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ลูกศรที่ว่านี้ก็คือสมบัติของยอนดู ทั้งมันยังคงลอยอยู่กลางอากาศด้วยความสามารถพิเศษของเขา

 

จากนั้นไม่นานยอนดูก็สั่งการหุ่นยนต์สองตัวที่อยู่ไม่ไกล

 

ฟุ่บ!

 

ภายใต้คำสั่งของยอนดูหุ่นยนต์ทั้งสองตัวได้หยิบโซ่โลหะบางอย่างออกมาเเละตรงเข้าหาพวกสตาร์ลอร์ดโดยตรง

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าสตาร์ลอร์ดหาได้สนใจการกระทำของหุ่นยนต์ทั้งสองตัวนี่หรือไม่ เขาหันไปก็พบว่ามือความของมิราจไนท์กำลังขยับเขยื้อนเหมือนจะทำอะไรบางอย่าง

บึ้ม!

 

ภายในห้องนักบินยานอวกาศของยอนดู เขาเห็นภาพเบื้องหน้าอย่างไม่ทันได้ตั้งใจเวลานี้เเสงสีทองได้สาดส่องปกคลุมไปทั่วยานอวกาศที่กำลังร่วงหล่นของสตาร์ลอร์ด

 

“นั่นมันอะไรหน่ะ?”

 

“บอส ยานอวกาศของพวกเรากำลังถูกโจมตีไม่สามารถคงสถานะการบินไว้ได้เเล้ว!”

 

ปั้ง

 

หลังจากผู้ช่วยตะโกนคลื่นกระเเทกสีเขียวก็ได้เจาะยานอวกาศลำนี้พร้อมกับโจมตีระบบพลังงานในทันที

 

“นำเครื่องลงจอดในสถานที่ปลอดภัยเตรียมเปิดใช้ยานสำรองพวกเราไม่อาจนำยานอวกาศหลักมาเสี่ยงกับเรื่องนี้ได้”ยอนดูตะโกนสั่งการทันที ปริมาณพลังงานที่ว่านี้รุนเเรงเกินไปทั้งเขายังไม่ทราบข้อมูลสถานะปัจจุบันของดาวดวงนี้เเน่ชัด

 

“ครับ บอส!”ได้ยินคำสั่งของยอนดู ผู้ช่วยรีบตอบกลับทันที

 

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่พวกยอนดูมีท่าทีคล้ายเตรียมจะหลบหนี สตาร์ลอร์ด เเละ คนอื่น ๆ ก็ราวกับกำลังรอคอยเวลานี้อยู่ในที่สุดพวกเขาก็รอดออกมาจากยานอวกาศที่พังเสียหายได้

 

ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุยานตกในครั้งนี้เเม้เเต่คนเดียวเป็นเพราะอุปกรณ์ช่วยเหลือขอเเจ็คสัน หลังจากรอดมาได้อย่างปลอดภัย สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน จ้องมองไปที่ เเจ็คสัน ด้วยสายตาลึกลับ

 

มีเพียงเดดพูลเท่านั้นที่หลับตาทั้งงานเขาคิดว่าตนเองได้ตกตายไปเเล้ว

 

“อ๊ากกก!”เดดพูลที่รอดมาได้เเละลืมตาตื่นขึ้นมาเขาได้ตะโกนออกมาเปป็นสิ่งเเรกสิ่งนี้ทำให้เเจ็คสันยื่นมือไปตบหน้าของเขาทันที

 

เพี๊ยะ!

 

“จะตะโกนทำไมนายยังไม่ตายสักหน่อย?”เห็นเดดพูลตะโกนออกมาดังลั่น เเจ็คสันตบไปที่เขาอย่างไม่สุภาพ

 

“นี่ฉันรอดมาได้งั้นหรอ?”หลังจากสงบสติอารมณ์ เดดพูล ก็รู้สึก ผ่อนคลายอย่างมาก

 

!

 

“ก็อาจจะ พวกเราเเค่โชคดีรอดมาจากเหตุการณ์ยานตกเท่านั้นยังไม่ถือว่ารอดชีวิตอย่างเเท้จริง”เเจ็คสันเตือนเดดพูลเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

 

“เเต่ว่าพวกเราตอนนี้…”เดดพูลได้สาธยายออกมาเพียงเเต่ว่าเเจ็คสันไม่ได้ฟัง

 

เเจ็คสันได้จมดิ่งเข้าสู่จิตใจของเขา เพราะความสามารถฟื้นฟูร่างกายของเดดพูล เเม้อุบัติเหตุก่อนหน้านี้จะระเบิดขึ้น เดดพูลก็ยังมีโอกาสรอด เเต่เเจ็คสัน เเละ พวกสตาร์ลอร์ด อาจไม่เป็นเช่นนั้น เเจ็คสันเลยเเลกเปลี่ยนอุปกรณ์ป้องกันระดับสูงที่มีค่ามากกว่า 15,000 คะแนนมา

 

จำนวนคะแนนขนาดนี้หากเป็นสถานการณ์ในปกติเเจ็คสันย่อมคิดเเล้วคิดอีกเเต่เมื่อครู่เป็นสถานการณ์เป็นตายเขาจึงไม่รู้สึกเสียดายเเม้เเต่น้อย

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังสนทนากับเดดพูลทั้งสองคน สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ก็จ้องมองกันไปมา

 

ฟุ่บ!

 

“เฮ้ ควิลล์ นายคิดว่าพวกเราเป็นตัวปัญหาที่พาพวกเขาเข้ามาเสี่ยงกับพวกเราหรือไม่?”เเรคคูน กล่าวออกมาอย่างท้อเเท้ใจ เดิมทีเรื่องในคราวนี้เป็นเรื่องของเขาเเท้ๆ เเต่ตนเองก็ถูกช่วยเหลือโดยมิราจไนท์ซ้ำเเล้วซ้ำเล่า

 

“ก็อาจจะใช่…อย่างไรก็ตามพวกเราไม่มีเวลามามัวคิดอ่อนเเอแบบนี้อีกเเล้ว มาหาทางหนีจากที่นี่กันดีกว่า ฉันไม่คิดว่าการนั่งรอให้ร่องรอยพวกนี้ปะทุอย่างต่อเนื่องจะเป็นความคิดที่ดีเท่าไหร่”

 

ขณะที่พวกสตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูนกำลังครุ่นคิด จู่ๆ พวกเขาก็เห็นยานอวกาศขนาดเล็ก มุ่งหน้ามาทางพวกเขา สตาร์ลอร์ดคุ้นเคยกับยานอวกาศลำนั้นดี มันมีชื่อว่า เคลย์ซี่วูฟล์

 

!

 

สตาร์ลอร์ดที่เห็นยานอวกาศเคลย์ซี่วูฟล์ปรากฏขึ้นเขาตื่นตระหนกอย่างรวดเร็วเเต่เเล้วเขาก็เห็นลำเเสงเลเซอร์พุ่งออกมาจากยานลำนั้นมันกำลังล็อคเป้าบางคนอยู่

 

“ไม่ดีเเล้ว ยอนดู กำลังเล็งไปที่ เดดพูล!”สตาร์ลอร์ดตะโกนออกมาทันที

 

เเม้จะเป็นเเจ็คสันก็ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ลำเเสงเลเซอร์นี้พุ่งออกไปที่ทิศทางของเดดพูลรวดเร็วเกินไป เเจ็คสันเพียงทำได้เเต่ยืนมองอยู่ตรงหน้าเพียงเท่านั้น

 

ฟุ่บ!

 

เเต่ว่าเเจ็คสันไม่ใช่คนยอมเเพ้อะไรง่าย ๆ ร่างกายของเขาได้ปกปคลุมไปด้วยชุดสูทเเพนท่อมสูทอีกครั้งหน้ากากที่หายไปก็ได้ปรากฏขึ้นมา

 

หลังจากสวมใส่ชุดสูทเเล้วเเจ็คสันได้พุ่งตัวเข้าหาเดดพูลเเละผลักเขากระเด็นออกไปทันที

 

ติ๊ด ติ๊ดดดด

 

ด้วยเสียงเตือนของยานอวกาศ สตาร์ลอร์ด ในตอนนี้ไม่สามารถควบคุมเครื่องยนต์ได้เกือบทั้งหมด สภาพของยานอวกาศในตอนนี้ก็อับปางมาก ภายใต้การโจมตีของคลื่นพลังมากมายที่ถาโถมมาจากใต้ดิน ยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดเหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งที่ใกล้จะพังลงทุกที

 

“นี่…นี่…มิราจไนท์ พวกเราควรจะทำยังไงกันต่อดี!”เดดพูล ที่คลุกคลานอยู่ตรงพื้นได้ลุกขึ้นมาพร้อมกับจ้องมองไปที่ เเจ็คสันด้วยท่าทางสั่นกลัว

 

ตอนนี้ยานอวกาศไม่สามารถควบคุมได้ทั้งยังคงเสียสมดุลในการลอยตัวอีกไม่นานก็คงจะตกลง เดดพูล รู้ว่า คลื่นพลังที่ถาโถมออกมาจากพื้นดินนั้น เป็นอันตรายสำหรับพวกเขาเช่นเดียวกัน หากพลาดโดนมันเข้าจัง ๆ เเล้วล่ะก็ ถึงจะเป็นเขาก็คงไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาได้

 

ได้ยินคำถามจากเดดพูล เเจ็คสัน ขมวดคิ้วเเน่นยังไม่ได้ตอบออกไป เขายังคงครุ่นคิดเเลกเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างมาจากร้านค้าในระบบเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถหลบหนีจากสถานการณ์ตอนนี้ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เหนือความคาดหมายของเเจ็คสัน เดิม มันควรจะเป็นสัตว์ประหลาดที่ดุร้าย เเต่นี่ กลับเป็นระเบิดปะทุขนาดใหญ่เกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้

 

“ไม่ต้องกังวล ฉันจะต้องหาทางหนีออกจากสถานการณ์ตรงนี้เเละช่วยพวกเราให้ได้”เเจ็คสันสามารถตอบเดดพูลได้เพียงเท่านี้

 

ตอนนี้ยานอวกาศจะพังตอนไหนก็ขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้น หากพวกเขาสูญเสียยานอวกาศไปตอนนี้ ก็คงไม่ต่างอะไรไปจากการสิ้นชีวิตในเวลาต่อมา คลื่นพลังงานที่ส่งออกมาจากใต้ดินจะฆ่าพวกเขาในทันที

 

“อึ๊ก!เข้าใจเเล้วฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ!”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ เดดพูล จับเเขนของมิราจไนท์เเน่น

 

เเจ็คสัน”…”

 

ฟุ่บ!

 

ทางด้านสตาร์ลอร์ดเขาได้ควบคุมยานอวกาศเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงกระเเสคลื่นพลังงานที่ถาโถมออกมา เดิมเขาต้องการจะใช้สิ่งนี้เเละพึ่งพามันในการกำจัดยอนดู เเต่ดูเหมือนว่ามันจะเหมือนดาบสองคมที่ทำลายทั้งยอนดูเเละก็ตัวเขาด้วย

 

สตาร์ลอร์ดได้บังคับยานอวกาศอย่างต่อเนื่องตอนนี้มันกำลังเอนเอียงเข้าสู่พื้นที่ของหุบเขาเเละเกือบจะชนกับสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้าเเล้วหากเขาพลาดชนสิ่งกีดขวางเเล้วละก็เขาจะต้องตกลงไปในรอยเเยกที่ปะทุออกมาอย่างเเน่นอน

 

“ทนอีกนิดเถอะนะ!”เห็นรอยเเยกเเพร่กระจายออกไปทั่วทั้งป่า สตาร์ลอร์ด บ่นพึมพัมออกมา

 

ยานอวกาศในตอนนี้เข้าขั้นวิกฤติสุด ๆ อย่างน้อยสตาร์ลอร์ดก็หวังจะหลบหนีจากพื้นที่อันตรายตรงนี้ให้ได้ เเต่รอยเเยกยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โอกาสที่เขาจะหลบหนีในสถานการณ์ตอนนี้เเทบจะเป็นไปไม่ได้เลย มันเป็นเขาที่พลาดเองที่ไม่ศึกษาร่องรอยอารยธรรมโบราณนี้ให้ดีก่อนเเละหวังพึ่งพาเสี่ยงกับมันมากเกินไป

 

นอกจาก สตาร์ลอร์ดเเล้ว เเจ็คสัน ก็สังเกตุเห็นถึงสถานการณ์ลเวร้ายที่ว่านี้เขาไม่คิดจะรออีกต่อไปเเจ็คสันได้หยิบบางอย่างออกมาจากเอวของเขา

 

จากนั้นไม่รีรอเเจ็คสันโยนวัตถุทรงกลมสีทองขนาดเล็กไปที่กลางห้องนักบินการกระทำของเเจ็คสันเเน่นอนว่าพวกสตาร์ลอร์ดที่อยู่รอบข้างต่างสังเกตุเห็น

 

ฟุ่บ วาบ~~~

 

ทันทีที่วัตถุทรงกลมสีทองถูกโยนลงไปตรงใจกลางห้องนักบินคลื่นพลังงานที่มองไม่เห็นก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับห่อหุ้มร่างของพวกเขาทั้งหมด

 

ฟู่วว~!~!

 

เดดพูลเป็นคนที่ตกใจคนเเรก เขาจ้องมองอย่างเบิกกว้างไปที่การกระทำของเเจ็คสันด้วยความงุนงง ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไป

 

ทันทีที่เเสงทีทองอร่ามปรากฏออกมาเเละห่อหุ้มร่างกายของพวกเขา เเรคคูน สตาร์ลอร์ด เเละ เดดพูล ต่างเฝ้ามองสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างคาดหวัง

 

เพร้ง

 

คลื่นพลังงานด้านนอกได้ถาโถมจนรุกล้ำเข้ามาภายในตัวยานอวกาศเเล้วมันได้ซัดกระทบกับพวกเขาเพียงเเต่พวกเขาได้รับการคุ้มกันจากม่านบาเรียสีทองที่ป้องกันอยู่รอบกาย ดูเหมือนว่าพลังงานสีทองที่ว่านี้กำลังจะปกป้องพวกเขาอยู่

 

ในขณะที่ สตาร์ลอร์ด เเละ คนอื่น ๆ กำลังสิ้นหวัง จู่ ๆ ร่างกายของพวกเขาก็เริ่มเรืองเเสงมากขึ้นมันได้กระพริบอย่างดุเดือดเเละเกิดเเรงสั่นสะเทือนเล็กน้อย

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาต่อมาเเสงสีทองที่คุ้มกันร่างของพวกเขาก็เริ่มหายไป

 

“!!!”เดดพูล ที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเขาเเทบตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง

 

ยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดได้ถูกคลื่นพลังงานกระเเทกจนร่วงตกลงไปโชคดีที่ก่อนหน้านี้ได้วัตถุบางอย่างที่ช่วยป้องกันความเสียหายโดยรวมเอาไว้ทำให้พวกเขาร่อนตกลงไปยังพื้นที่ปลอดภัยเพียงเเต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่มีเเค่พวกเขาเท่านั้นที่เห็นยอนดูได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดขณะที่เขากำลังเฝ้าจับตามองยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดที่กำลังร่วงหล่นลงไปเพราะความเสียหายพลังเเสงสีทองก็พุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้าก่อนที่จะหายไปในที่สุด

 

“นั่นมันอะไร…?”

อา

 

หลังจากจบเสียงเตือนของเอเลน จู่ ๆ คลื่นพลังงานสีเขียวอ่อนก็ปะทุออกมาจากใต้หุบเขา รอยเเตกจำนวนนับไม่ถ้วนได้เเผ่กระจายไปทั่ว

 

ขณะที่คลื่นกระเเทกที่มองไม่เห็นกำลังปะทุขึ้น สตาร์ลอร์ดได้บังคับยานอวกาศให้ถอยห่างอย่างรวดเร็ซ เขาเชื่อว่านี่น่าจะเป็นระบบป้องกันของร่องรอยอารยธรรมใต้ดินที่ถูกกระตุ้นขึ้น ดังนั้นในเวลานี้ สตาร์ลอร์ด จึงรู้สึกว่าตนเองประสบความสำเร็จในส่วนนึง

 

“มันเป็นคลื่นพลังป้องกันของร่องรอยอารยธรรมจริง ๆ หรอเนี่ย?”สตาร์ลอร์ดจ้องมองไปที่เเสงสีเขียวที่ปะทุออกมาจากใต้ดินอย่างตื่นตะลึง

 

กระสุนพลังงานจำนวนมากที่ถูกยิงมากต่างถูกคลื่นพลังที่ว่านี้กลืนหายไป ส่วน สตาร์ลอร์ด ที่เดิมได้ถอยห่างออกไปนั้น ตอนนี้เขาได้ขับยานอวกาศมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ความผันผวนที่ว่านี้

 

~~

 

ขณะที่สตาร์ลอร์ดกำลังมุ่งหน้าเข้าไปในพื้นที่ความผันผวนตำเเหน่งในปัจจุบันของเขากลับดูไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไหร่เพราะยานอวกาศของเขากำลังถูกรังสีความร้อนกลืนกิน

 

ติ๊ด ติ๊ด คำเตือน

 

“ยานอวกาศได้รับความเสียหายในระดับสูงสุด ไม่สามารถซ่อมเเซมได้ กรุณาสละยานทิ้งโดยเร็วที่สุด”เอเลน กล่าวเตือนอย่างเร่งรีบ

 

คลื่นพลังที่มองไม่เห็นนี้มีผลกระทบต่อยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดเช่นเดียวกัน เเละ เอเลน ก็เเจ้งเตือนว่าตัวยานไม่สามารถรับภาระได้มากกว่านี้

 

“จบสิ้นเเล้ว!เเม้โอกาสกำลังจะหยิบยื่นให้พวกเรา เเต่ยานอวกาศของพวกเรากลับไม่สามารถทนต่อได้ หากพวกเราทิ้งยานอวกาศไปพวกเราจะไม่มีโอกาสหลบหนีจากภูมิภาคเเห่งนี้”หลังจากได้ยินว่าจะต้องสละยาน สตาร์ลอร์ด สบถออกมา

 

ขณะที่พวกสตาร์ลอร์ดกำลังจมปรักกับความสิ้นหวัง ยานอวกาศลำใหญ่บนอากาศลำนึงที่เป็นของยอนดู ตอนนี้พวกเขากำลังจ้องมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า

 

“นั่นมัน…คลื่นพลังอะไรกัน?”ยอนดูกล่าวออกมาในสถานการณ์ที่พวกเขากำลังจะกำชัยชนะจู่ ๆ ก็มีคลื่นพลังลึกลับปรากฏออกมาปกป้องพวกสตาร์ลอร์ด เเละ ขยายพื้นที่ออกไปทั่ว ยอนดูไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไรกันเเน่

 

หลังจากวิเคราะห์ผลรวมของภูมิภาคเเละดาวเคราะห์ดวงนี้ในที่สุดยอนดูก็ได้บทสรุป

 

“ควิลล์ เจ้าหนูน้อย เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจอีกเเล้ว ดูเหมือนว่าข้างใต้นี้จะมีร่องรอยซากอารยธรรมระดับสูงถูกทิ้งเอาไว้จริง ๆ !”ยอนดูไม่ได้สนใจการโจมตีที่ไร้ผลของพวกเขา เเต่เขาจ้องมองไปที่ด้านล่างด้วยความตื่นเต้น

 

ในฐานะผู้นำกองกำลังสลัดอวกาศ เขามีความปราดเปรื่อง เเละ สามารถคาดเดาความคิดของ สตาร์ลอร์ดได้ ,สตาร์ลอร์ดได้ขุดร่องรอยใต้ดินเพื่อปะทุคลื่นพลังป้องกันของร่องรอยอารยธรรมโบราณ

 

“หัวหน้าตอนนี้พวกเราจะทำยังไงต่อดี?กองยานอื่นได้ติดต่อมาว่าให้พวกเราล่าถอยก่อนเป็นอันดับเเรก เรื่องของสตาร์ลอร์ด ไม่สำคัญเท่ากับร่องรอยอารยธรรมโบราณเหล่านี้ พวกเขาวงเเผนจะหาโอกาสที่จะพิชิตขุมทรัพย์ของมัน”

 

ผู้ช่วยของเขาได้กล่าวบอกอย่างรวดเร็ว

 

“พวกมันต้องการหาสมบัติ? เหอ ๆ ด้วยคลื่นพลังที่เเข็งเเกร่งเช่นนี้ ยังคิดที่จะหวังสมบัติก็ปล่อยพวกมันไป”ได้ยินคำพูดของผู้ช่วย ยอนดู กล่าวตอบอย่างไร้อารมณ์ ดวงตาสีฟ้าของเขากำลังสั่นไหวเเละครุ่นคิดบางอย่าง

 

“เช่นนั้นพวกเราจะไล่ตามพวกสตาร์ลอร์ด?”ผู้ช่วยกล่าวถามอีกครั้ง

 

“อืม”ยอนดูกล่าวตอบอย่างหนักเเน่น

 

ขณะเดียวกันยานอวกาศของยอนดูก็ล่าถอยขึ้นไปสู่อากาศตอนบนเพื่อหลีกเลี่ยงคลื่นกระเเทกพลังงานเหล่านั้นเเน่นอนว่ายานลำอื่นก็เช่นเดียวกัน เเต่นอกเหนือจากยานอวกาศของยอนดูเเล้วพวกเขารอโอกาสที่จะตอบโต้ร่องรอยอารยธรรมโบราณเพื่อทำการสำรวจมันภายหลัง

 

 

“ดี! พวกเขากำลังจะหนี เเผนของพวกเราสำเร็จ!”หลังจากเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนมากของยอนดูได้ล่าถอยออกไป สตาร์ลอร์ด รู้สึกลดเเรงกดดันไปได้เยอะทีเดียว

 

“อย่ามองโลกในเเง่ดีเกินไป นายไม่เห็นหรอว่าร่องรอยอารยธรรมนี้กำลังเเผ่ขยายไปทั่ว เดิมที่พวกเราสำรวจก็ไม่คาดคิดว่ามันจะขยายขอบเขตได้มากขนาดนี้ มันตอบสนองเกินกว่าที่พวกเราคำนวณไว้ในตอนเเรกเสียอีก”เเรคคูนได้กล่าวเตือนสตาร์ลอร์ดอย่างจริงจัง

 

คำพูดของเเรคคูนเหมือนคลื่นกระเเทกที่มองไม่เห็นกระทบเข้ากับใบหน้าของสตาร์ลอร์ด

 

ติ๊ด ติ๊ด

 

“คำเตือน! คำเตือน! ยานอวกาศกำลังจะระเบิด ยานอวกาศกำลังจะระเบิด!”

ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เดดพูล ไม่รู้จะตอบว่ายังไงดี สตาร์ลอร์ด ก็เช่นเดียวกัน พวกเขามีตัวเลือกไม่มากในตอนนี้ เเละ สิ่งที่มิราจไนท์พูด ก็เป็นเหมือนกับว่าพวกเขาจะปล่อยให้โชคชะตาพาไปอย่างไงอย่างงั้น

 

สตาร์ลอร์ดชื่นชอบการผจญภัยดังนั้นเขาจึงชอบการเดิมพัน เขาไม่กล้า?ป่าวเลย เขาไม่มีโชค? ไม่ใช่เลย เขาคิดว่าตนเองนั้นมีโชคอยู่พอสมควร

 

“หากพวกเราต้องการจะหนีก็ไม่มีใครหน้าไหนที่จะหยุดยั้งพวกเราได้”สตาร์ลอร์ดกล่าวออกมา

 

ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เเจ็คสันถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เขารู้ว่า สตาร์ลอร์ด กำลังเดิมพันกับโชคของตนเอง ดังนั้นเขาจึงหลับตาลงเเละเข้าสู่จิตสำนึกพร้อมกับเปิดระบบร้านค้า เพื่อหาของบางอย่าง ปัจจุบัน เครื่องยนต์ยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดได้รับความเสียหาย เเจ็คสันจะต้องหาทางเเก้ไขมันเพื่อเพิ่มโอกาสหลบหนีให้กับพวกเขา

 

“เเรคคูน นี่…”ในร้านค้าระบบ เเจ็คสันได้พบวิธีที่จะฟื้นฟูเครื่องยนต์กลับมา เขาตั้งใจจะให้เเรคคูนช่วยในเรื่องนี้

 

บึ้ม บึ้ม

 

เพียงเเต่ว่าขณะนั้นเอง จู่ ๆ รอบนอกยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดก็เกิดเสียงปะทุจำนวนมาก มันเป็นกระสุนปืนใหญ่จากยานอวกาศที่มาจาข้างบน

 

บึ้ม บึ้ม

 

“พลังงานเกราะของยานลดลงเหลือ 15% เราสามารถต้านไว้ได้อีก 0.5 วินาที!”

 

เอเรน ระบบอัจฉริยะ ได้ตอบกลับทันที ตอนนี้ ยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดกำลังถูกกระหน่ำจู่โจมจากด้านบน พวกเขากำลังจะถูกฝังภายใต้กระสุนปืนใหญ่พลังงานเหล่านี้ ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้เเล้ว โอกาสที่พวกเขาจะหลบหนีออกไปได้มีน้อยมาก

 

“เวรเอ้ย! ร็อคเก็ต หาทางเร็วเข้า”สตาร์ลอร์ดได้โอนย้ายพลังงานทั้งหมดไปที่เกราะป้องกันเพื่อต้านทานการโจมตีจากนั้นเขาก็ตะโกนบอกเเรคคูน

 

ฟุ่บ!

 

จริง ๆ เเล้ว ไม่ต้องรอให้สตาร์ลอร์ดสั่ง เเรคคูน ได้เอาอุ้งมือน้อย ๆ ของตนเองเเตะไว้ที่หน้าจะเเละเริ่มดำเนินการบางอย่างรอเเล้ว

 

ฟุ่บ!

 

บนหน้าจอ เเจ็คสัน มองเห็นจุดสีเเดงหลายสิบจุด จุดสีเเดงเหล่านี้ กะพริบอย่างต่อเนื่องสามจุดจากนั้นในเเต่ละจุดก็กระจายรัศมีสัญญาณออกไป

 

“นี่มัน…”เเจ็คสันมองเห็นจุดวงกลมสีเเดงจำนวนมากสิ่งที่เขาคาดไว้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง

 

“พวกเขาวางเเผนจะเปิดร่องรอยอารยธรรมโบราณเหล่านี้…”เห็นเเจ็คสันทำท่าทางครุ่นคิด เดดพูล ได้กล่าวอธิบาย

 

“จริง ๆ เเล้วฉันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย”ได้ยินคำตอบของเดดพูล เเจ็คสัน อธิบายทันที

 

ก่อนหน้านี้สองนาทีก่อนเเจ็คสันเพิ่งจัดการพืชสัตว์ประหลาดที่มีความเเข็งเเกร่งเเละเจ้าเล่ห์สูง หลังจากกำจัดมันได้เเล้ว เเจ็คสันได้พบทางที่เป็นอุโมงค์ใต้ดินที่ทอดยาวออกไป เเละ สิ่งที่อยู่ในอุโมงใต้ดินก็มีเศษซากกระดูกอยู่จำนวนมาก เเจ็คสัน ไม่มีเวลาให้คิดสำรวจดังนั้นเขาจึงไม่รู้สถานการณ์ที่เเน่ชัด ดังนั้น ทันทีที่เดดพูล ยืนยันว่า สตาร์ลอร์ด ต้องการเปิดร่องรอยใต้ดิน เขาก็คิดว่านี่อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดี

 

เพราะร่องรอยใต้ดินอาจจะมีพวกสัตว์ประหลาดลึกลับที่เเข็งเเกร่งอาศัยอยู่ เเจ็คสัน ไม่รู้ว่า ผลลัพธ์ที่พวกเขาจะต้องเผชิญนั้นร้ายเเรงเเค่ไหน

 

เเต่ว่าถึงร่องรอยใต้ดินเหล่านี้จะอันตราย เเต่เมื่อเทียบกับสถานการณ์ในปัจจุบันของพวกเขา หากเป็นเเจ็คสัน เขาก็ต้องเลือกที่จะลองเสี่ยงดวงดู ไม่งั้น ก็คงไม่ต่างจากเป้านิ่งที่รอเวลาถูกเชือด

 

ภายใต้การโจมตีของยานอวกาศหลายลำ สตาร์ลอร์ด ได้บังคับยานเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีจำนวนมาก สภาพดาวเคราะห์เเห่งนี้ ถือว่าเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกของพวกเขาอย่างนึงก็คือสถานที่เเห่งนี้มีสัตว์ประหลาดที่เเข็งเเกร่งอาศัยอยู่เเละพวกยอนดูก็ไม่รู้ในเรื่องนี้ หากโชคดีเขาอาจจะสามารถใช้สัตว์ประหลาดพวกนั้นในการโจมตีกองยานของยอนดูได้

 

บึ้ม!

 

หลังจากถูกกระหน่ำโจมตีอยู่เป็นเวลานาน จู่ ๆ ยานของสตาร์ลอร์ด ก็ถูกเลเซอร์พลังงานสูงยิงจนทะลุตัวยานเข้ามาด้านใน

 

“!!~~อ๊ากกก! เเขนฉัน”เดดพูล โชคไม่ดี เขาถูกโจมตีจากเลเซอร์พลังงานสูงจนเเขนของเขาเริ่มละลายลง

 

ทันทีที่เขาได้รับบาดเจ็บเดดพูลก็ทรุดตัวลงอย่างเจ็บปวด

 

“สถานการณ์เริ่มไม่ดีเเล้ว!”เเจ็คสันมองไปที่เดดพูลที่ดิ้นทุรนทุรายเพราะความเจ็บปวดเขากล่าวออกมา

 

“สถานการณ์ไม่ดี?ใช่ตอนนี้ยานของพวกเรากำลังจะระเบิดเเล้ว ดูเหมือนว่า ฉันจะคิดผิด โชคไม่ได้เข้าข้างพวกเรา”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ด ตะโกนออกมา

 

ปั้ง

 

สตาร์ลอร์ดยังคงบังคับยานหลบอย่างต่อเนื่องตอนนี้สภาพยานของเขาเริ่มที่จะไม่เสถียรเเล้วหากโดนโจมตีแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ พวกเขาจะต้องถูกฝังไปพร้อมกับยานอย่างเเน่นอน

 

“ฉันสามารถเเลกเปลี่ยนสิ่งนั้นได้นิ!?”ขณะที่สตาร์ลอร์ดกำลังกังวลเเละพยายามหลบหลีกเพื่อรักษาชีวิต เเจ็คสันได้ครุ่นคิดในใจบางอย่าง

 

สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอันตรายอย่างเเท้จริง เเจ็คสันในตอนนี้มีเเต้มคะแนนอยู่พอสมควร เขาสามารถใช้มันเพื่อซื้ออุปกณณ์เอาไว้ช่วยชีวิตของเขาได้

 

ติ๊ดด ติ๊ด ด ติ๊ดดดด

 

ขณะนั้นเองยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดก็ส่งเสียงเเจ้งเตือนอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้ สตาร์ลอร์ด กำลังเพ่งสมาธิในการหลบหลีกการโจมตีเขาจึงไม่ได้สนใจเสียงเตือนที่ดังอย่างต่อเนื่อง เเต่เเล้ว เขาก็หลุดถามออกมาด้วยความร้อนใจ

 

“เอเรน เกิดอะไรขึ้น?”สตาร์ลอร์ดรีบกล่าวถามระบบอัจฉริยะของเขาตอนนี้เขาไม่มีเวลาที่สนทนามากนักเพราะต้องใช้สมาธิ

 

“ตรวจพบบางสิ่งที่น่าเกรงขาม…ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ ตรวจพบความผันผวนของพลังงานบางอย่าง คาดว่าน่าจะมาจากร่องรอยจากสมัยโบราณ!”เอเรนตอบกลับสตาร์ลอร์ดทันที

ขณะที่พวกสตาร์ลอร์ดกำลังเดิมพันเพื่อหลบหนี กองยานสลัดอวกาศ บนชั้นบรรยากาศ ดูเหมือนยานอวกาศลำนึงจะได้บรรลุผ่านชั้นบรรยากาศเข้ามาเเล้ว

 

“บอส นี่มันเเปลก ๆ นะครับ? ทำไมพวกสตาร์ลอร์ด ถึงไม่หนีพวกเรา หากเขาต้องการจะหนี สู้มุ่งหน้าไปยังอีกทิศทางนึงใช่จะมีโอกาสหนีรอดมากกว่า?”ขณะที่ยอนดูกำลังจ้องมองออกไปข้างนอก ผู้ช่วยของเขาก็กล่าวถามด้วยความสงสัย

 

หากเป็นคนที่รู้เส้นทางเหมือน สตาร์ลอร์ด การจะหลบหนีออกไปไม่ใช่เรื่องยากเเม้เเต่น้อย เเต่นี่เขากลับไม่ได้คิดจะหนีพฤติกรรมเหล่านี้มันน่าสงสัยอย่างมาก เเต่ถึงเเม้สตาร์ลอร์ดจะเลือกหลบหนีไปจริงก็คงไม่ง่ายนักเพราะมีกองยานจำนวนมากดักรอยู่ที่ข้างนอกชั้นบรรยากาศ

 

“จริงงั้นหรอ?เจ้าเด็กนั่นเป็นคนฉลาดมันคงจะมีเเผนในใจบางอย่างเเน่นอน”ได้ยินคำตอบของผู้ช่วย ยอนดู ทำท่าทีเฉยเมยออกมา

 

เหตุผลที่เขาไม่สะทกสะท้านอะไรก็เพราะเขามีความมั่นใจที่จะจับตัวสตาร์ลอร์ดได้

 

ติ๊ด!

 

ดูเหมือนว่าจะมีคำขอยืนยันการติดต่อจากยานอวกาศของสตาร์ลอร์ด ยอนดูรู้สึกเเปลกใจอย่างมาก

 

“เด็กน้อยเจ้า…หืม ตัวตลกที่น่ารังเกียจนั่นเป็นใครกัน?”หลังจากเห็นหน้าของสตาร์ลอร์ด ยอนดู เตรียมที่จะดุด่าออกมา เเต่พอเห็นเดดพูล ที่อยู่ด้านหลัง คำพูดของเขาก็ชักงักไปเล็กน้อย

 

อุ๊บบ

 

“ฮ่าฮ่า,เจ้าตัวตลกสีฟ้านี่เป็นใครกัน มีร่างกายเป็นสีฟ้า คล้ายกับสิ่งมีชีวิตในตำนานเหมือนพวกเอลฟ์เลย!”เดดพูลหลังจากเห็นใบหน้าของยอนดู เขาก็หัวเราะออกมา สิ่งนี้ทำให้ ใบหน้าของสตาร์ลอร์ดต้องเเปรเปลี่ยนไป

 

“….”เดิมสตาร์ลอร์ดต้องการจะพูดโต้ตอบเเต่เพราะ เดดพูล ได้ชิงพูดขึ้นมาก่อน เดดพูลนั้นได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เเน่นอนว่า ยอนดู ย่อมเข้าใจ เพราะเขาคนนี้สามารถพูดได้หลายภาษา

 

เห็นเดดพูลชี้มาที่ใบหน้าของตนเอง ยอนดู มีท่าทีที่สงบมาก เเม้เขาจะไม่ได้อยู่ใกล้กันเเต่สตาร์ลอร์ดก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนเเปลงทางอารมณ์ของยอนดู

 

“หึ่ม! เจ้าตัวตลกที่น่ารังเกียจ เจ้าตลกมากนักใช่มั้ย?”ยอนดูเอาสองมือไขว่หลังพร้อมกับจ้องมองไปที่เดดพูลที่ใบหน้ามีเเต่เเผลเป็นจำนวนมาก

 

ยอนดูคือผู้เหลือรอดจากเผ่าพันธุ์เซนเทอเรี่ยน เขาไม่ชอบให้ใครมาดูถูกหรือหัวเราะกับสีผิวของเผ่าพันธุ์ที่บริสุทธิ์ของเขา โดยเฉพาะสิ่งที่ เดดพูล ล้อเลียน เมื่อครู่ นั่นเป็นการท้าทายเขาอย่างเห็นได้ชัด

 

“เดดพูล นายช่วยหุบปากลงก่อนได้มั้ย!”เห็นลักษณะท่าทีของยอนดูที่เปลี่ยนไป สตาร์ลอร์ด ที่รู้สึกคุ้นเคยได้รีบกล่าวห้ามเดดพูลในทันที

 

“หืม?ทำไมเล่า?ไม่ใช่ว่าพี่ชายผิวน้ำเงินนี่เป็นศัตรูของเราหรอกหรอ?”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เดดพูล รู้สึกไม่เข้าใจ หากเป็นศัตรูกัน การโจมตีด้วยวาจาของเขามันผิดด้วยงั้นหรอ

 

“ปีเตอร์ เจสัน ควิลล์ เด็กน้อย เจ้าไม่คิดจะหนีอย่างงั้นหรอ?”เห็นสตาร์ลอร์ดห้ามปรามเดดพูล ยอนดู กล่าวถามออกมา คราวนี้ ยอนดู ตะโกนชื่อเต็มของ สตาร์ลอร์ด โดยตรง เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธมาก

 

“บ้าเอ้ย?”ได้ยินยอนดูเรียกชื่อเต็มของตนเอง สตาร์ลอร์ด รู้ดีว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ดี

 

สตาร์ลอร์ดนั้นเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับยอนดูเเต่ตอนนี้มันไม่ใช่เเล้ว

 

เขาถูกตั้งค่าหัวมากกว่า 50,000 เหรียญสหพันธ์ดวงดาวพร้อมกับถูกตามล่าโดยพวกสลัดอวกาศ สตาร์ลอร์ดนั้นคุ้นเคยกับนิสัยของยอนดูดี เขารู้ว่าตนเองควรทำสิ่งใดเมื่อตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่เสียเปรียบเช่นนี้”หนี?ทำเช่นนั้นเเล้วจะได้อะไร ทำอย่างกะว่าฉันไม่รู้จักว่าคุณมีนิสัยยังไง”

 

“ก็ดี นั่นช่วยประหยัดเวลาในการตามล่าเจ้าพอสมควร เพราะไม่ว่ายังไงเจ้าก็ไม่มีทางหลบหนีออกไปได้”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด ยอนดูหัวเราะออกมา

 

ฟุ่บ

 

จากนั้นวิดิโอก็ถูกตัดไป สตาร์ลอร์ด เห็นยานอวกาศหลายลำกำลังมุ่งหน้ามาทางเขา ดูเหมือนว่า ยยอนดู จะวางเเผนเเละใช้กองยานจำนวนมาก เพื่อลดโอกาสที่จะทำให้ตนเองหนีรอดไปได้

 

สตาร์ลอร์ดรู้สึกเกลียดผู้ชายคนนั้นมาก หากเป็นไปได้เขาก็จะไม่ขอพบเจอชายคนนั้นอีก

 

ทางด้านเดดพูล เขาจ้องมองสตาร์ลอร์ดเพียงเล็กน้อยเขารู้สึกสงสัยอย่างมากศัตรูของพวกเขาทำไมตนเองถึงไม่สามารถใช้สกิลปากในการโจมตีศัตรูได้นี่ยังคงเป็นข้อสงสัยของเดดพูลอยู่ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้โชว์สิ่งที่ตนเองภาคภูมิใจออกไป

 

“ร็อคเก็ต เครื่องยนต์ของเราสามารถที่จะทำการวาร์ปขณะบินได้มั้ยตอนนี้?”สตาร์ลอร์ดไม่ได้สนใจเดดพูล เขาจ้องมองไปที่ ยานอวกาศด้านนอก เเละ กล่าวถาม เเรคคูน

 

“เครื่องยนต์ของเราได้รับความเสียหายจำนวนมาก เเต่ถึงอย่างนั้นพวกเราก็ยังสามารถทำการวาร์ปได้ เเต่มันมีความเสี่ยงอย่างมากหากพลาดก็เท่ากับว่าพวกเราได้ทำลายตนเอง”เเรคคูนตอบกลับทันที

 

การวาร์ปในชั้นบรรยากาศนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายหากยานอวกาศไม่อยู่ในสถานะพร้อมใช้งานก็ยิ่งไม่ควรใช้การวาร์ป ซึ่งเครื่องยนต์ของพวกสตาร์ลอร์ดในตอนนี้ก็ได้รับความเสียหายจำนวนมาก หากเขาฝืนวาร์ปในชั้นบรรยากาศเครื่องยนต์จะทำงานอย่างหนักเเละระเบิดขึ้นท้ายที่สุดพวกเขาก็จะถูกฝังไปพร้อมกับยานอวกาศลำนี้

 

“นายคิดว่าเรามีวิธีอื่นที่จะหลบหนีอีกไหม?”ได้ยินคำตอบของเเรคคูน สตาร์ลอร์ด รู้สึกทำอะไรไม่ถูก

 

พวกเขาอาจจะหนีรอดจากการปิดล้อมของยอนดูได้ชั่วคราวเเต่เป็นไปไม่ได้เเน่นอนที่พวกเขาจะหลบหนีออกไปนอกอวกาศได้ ยิ่งไปกว่านั้นยอนดูได้เเค้นเคืองสตาร์ลอร์ดเป็นอย่างมาก เขาจะต้องไล่ล่าตนเองจนถึงที่สุด

 

“ไม่จำเป็นต้องคิดมากขนาดนั้นหรอก ฉันเชื่อว่าพวกเราจะต้องมีทางออกในเรื่องนี้อย่างเเน่นอน?”ขณะนั้นเองเเจ็คสันที่เงียบอยู่นานก็ได้เอ่ยขึ้น

ฟู่วว~~

 

สตาร์ลอร์ดได้ขับยานอวกาศบินเข้าไปยังทิศทางที่คลื่นพลังจางหายไปเขาเห็นบุคคลที่คุ้นเคยอยู่กลางสนามโล่งเเจ้ง ไม่ต้องสงสัยว่าเงานั้นเป็นของใคร เพราะนั่นก็คือมิราจไนท์ ในเวลานี้ มิราจไนท์ ได้ใช้พลังงานในร่างกายจนหมดเเละนอนหมดเเรงอยู่บนพื้น เเต่เพราะ มิราจไนท์ได้ดื่ม น้ำศักดิ์สิทธิ์ เข้าไป ทำให้อาการบาดเจ็บของเขาค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ

 

“มิราจไนท์อยู่ตรงนั้น! ฉันว่าเเล้วเขาจะต้องไม่เป็นอะไร”เดดพูลจ้องมองผ่านกระจกห้องนักบินเขาตะโกนอย่างตื่นเต้น

 

ในสายตาของเดดพูล เขาเห็นมิราจไนท์ นอนท่ามกลาง เถาวัลย์สีดำเเละดอกไม้ขนาดยักษ์ พวกมันได้ล้มตายอยู่ข้าง ๆ เขา ดูเหมือนว่ามิราจไนท์จะพึ่งผ่านเหตุการณ์ที่ยากลำบากมา

 

“สุดยอด!!!”เดดพูลอุทานอย่างน่าตกใจ นี่เป็นเรื่องที่พละกำลังของคนคนนึงจะสามารถทำได้เเน่งั้นหรอ นี่เป็นเรื่องที่เขารู้สึกสงสัย เพราะเเม้เเต่มิวแทนท์ที่ทรงพลังก็มีน้อยมากที่จะสามารถทำเช่นนี้ได้

 

ไม่เพียงเเต่เดดพูลเท่านั้นที่ตกใจกับสถานการณ์เบื้องล่าง พวก สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน ความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์ได้ฉีกความรู้เเละประสบการณ์ของพวกเขาทำให้พวกเขาเเทบไม่อยากจะเชื่อในขณะนี้ หากมิราจไนท์ใช้อาวุธเทคโนโลยีระดับสูงการที่จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ดังกล่าวพวกเขาอาจจะไม่เเปลกใจ เเต่นี่เป็นผลจากการโจมตีเเละพลังความสามารถส่วนตัวอย่างเเท้จริง

 

“รีบไปรับมิราจไนท์มาเถอะ พวกเราเหลือเวลาไม่มากเเล้ว!”หลังจากตกใจอยู่ชั่วครู่ สตาร์ลอร์ด ได้ควบคุมยานอวกาศของตนเองให้พุ่งเข้าไปยังตำเเหน่งของมิราจไนท์อย่างเร่งรีบ

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่พวกสตาร์ลอร์ดได้ขับยานอวกาศมายังตำเเหน่งของ มิราจไนท์ เเจ็คสัน ก็สัมผัสได้ถึงการมาถึงของยานอวกาศ เขาใช้มือซ้ายคว้าจับบางอย่างมาอย่างระวังก่อนที่จะเก็บเข้าไป

 

“มิราจไนท์ เร็วเข้า พวกเราต้องรีบไปเเล้ว”หลังจากลงมายังตำเเหน่งใกล้มิราจไนท์ สตาร์ลอร์ด กล่าวเรียกมิราจไนท์ทันที

 

สตาร์ลอร์ดนั้นได้บังคับยานอวกาศเเละเปิดประตูห้องโดยสาร เขาไม่ได้ทำการจอดที่พื้นเพราะเขารู้ดีว่า มิราจไนท์สามารถบินได้ อย่างไรก็ตามพวกเขาหารู้ไม่ว่าพลังงานภายในของมิราจไนท์ในตอนนี้ เขาไม่สามารถบินได้ชั่วคราว

 

ฟุ่บ!

 

เห็นประตูห้องโดยสารเปิด เเจ็คสัน ได้เหลือบมองหาเครื่องร่อนของเขา จากนั้นเขาก็ไปยืนอยู่บนนั้นพร้อมกับสตาร์ทเครื่องเเละบินเข้าไปในยานอวกาศของสตาร์ลอร์ด

 

ตึก!

 

หลังจากเเจ็คสันเข้าสู่ภายในยานอวกาศประตูห้องโดยสารก็ถูกปิดลง สตาร์ลอร์ดได้บังคับจอยสติ๊กของเขาอีกครั้ง เพราะเครื่องยนต์เสียหายจำนวนมากดังนั้นจึงไม่สามารถดึงประสิทธิภาพในการบินของยานอวกาศลำนี้ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ เเต่หากใช้งานในระยะสั้นๆ ย่อมสามารถทำได้อยู่

 

“มิราจไนท์ คุณไม่เป็นอะไรนะ?”เห็นมิราจไนท์เดินมาถึงห้องนักบิน เดดพูล รีบเเจ้นเข้าไปกล่าวถามอย่างรวดเร็ว

 

“อืม,ฉันใช้พลังจิตเเละพละกำลังภายในมากเกินไป คงต้องพักฟื้นซักพักถึงจะกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง”ได้ยินคำถามของเดดพูล เเจ็คสันยิ้มกล่าวตอบ

 

“จริงสิ พวกนายสามารถกำจัด สัตว์ประหลาดยักษ์มีปีกนั่นได้เเล้วงั้นหรอ?”เเจ็คสันกล่าวถามเดดพูลเเละพวกสตาร์ลอร์ดในเวลาต่อมา

 

“พวกเรา…?”

 

ขณะที่เดดพูลเตรียมจะอธิบายภายในห้องนักบินก็ปรากฏเสียงสัญญาณเเจ้งเตือนภัยอย่างรวดเร็ว เเจ็คสันไม่ต้องรอให้เดดพูลอธิบาย เพราะที่ด้านหน้านอกยานอวกาศนั้นได้เผยให้เห็นถึงสถานการณ์บางอย่าง

 

“นั่นมัน…กองยานอวกาศ?!”หลังจากเห็นฉากด้านหน้า เเจ็คสันอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ

 

เเจ็คสันได้ต่อสู้กับพืชสัตว์ประหลาดจนไม่รู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้นพอเห็นกองยานอวกาศเขาก็รู้สึกตกใจอย่างมากเเน่นอนว่าดูจากสีหน้าของ สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน คนเหล่านั้นย่อมไม่ได้มาดี

 

“นั่นคือกองยานอวกาศที่เป็นศัตรูของพวกสตาร์ลอร์ด”

 

“พวกมันถูกเรียกในชื่อที่รู้จักกันคือ สลัดอวกาศ สตาร์ลอร์ดบอกว่า เขาเคยอยู่กองยานสลัดอวกาศเเต่ได้หนีออกมา เเละตอนนี้ พวกเราเเทบไม่มีโอกาสที่จะหลบหนีพวกเขาเลย ตอนนี้พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้น คงได้เเต่พึ่งพาโชควาสนาเเล้ว”เดดพูลรีบอธิบายในทันที

 

‘สลัดอวกาศ?นั่นคงไม่ใช่พวกยอนดูหรอกนะ…’เเจ็คสันคิดในใจอย่างเงียบ ๆ เขาเกือบจะหลุดพูดออกมา

 

กลุ่มสลัดอวกาศ คือ สถานที่ที่ สตาร์ลอร์ดเติบโตขึ้น เเละ มียอนดู พ่ออุปถัมภ์ของสตาร์ลอร์ด เป็นผู้นำกลุ่ม ดูเหมือนว่า หลังจาก สตาร์ลอร์ด ได้ก่อตั้งทีมพิทักษ์จักรวาลขึ้น ยอนดู ก็ได้ไล่ล่าหาสตาร์ลอร์ด เเต่พวกเขาไม่สามารถตามจับสตาร์ลอร์ดได้ ยอนดู หัวหน้ากลุ่มสลัดอวกาศนั้นเป็นคนที่ฉลาดหลักเเหลมเเละเจ้าเเผนการไม่มีใครรู้ว่าภายในใจของเขาได้ซ่อนความลับอะไรไว้บ้าง

 

“ทำไมต้องหนีไปยังทิศทางนั้น?หรือว่ามีมโอกาสหนีที่ว่าอยู่ทางนั้น?”เเจ็คสันไม่รู้ว่า พวก สตาร์ลอร์ด ได้วางเเผนอะไรไว้บ้างดังนั้นเขาจึงกล่าวถามออกมา

 

“พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางร่องรอยอารยธรรมโบราณ นั่นเป็นหนทางเดียวของเรา”สตาร์ลอร์ดกล่าวตอบมิราจไนท์ทันที

 

“เข้าใจเเล้ว”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เเจ็คสันพอจะคาดเดาได้ว่า พวกสตาร์ลอร์ดวางเเผนการอะไรไว้ดังนั้นเขาจึงไม่กล่าวถามอีก เพียงเเต่นั่งพิจารณาสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ตอนนี้ สิ่งสำคัญก็คือเขาจะต้องฟื้นฟูพลังของตัวเองให้กลับมามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ฟุ่บ!

 

หลังจากหนีพ้นจากสัตว์ประหลาดยักษ์มาได้ สตาร์ลอร์ด ก็ได้นำยานอวกาศของตนเองพุ่งเเกว่งไปมาชนหุบเขาใกล้ ๆ ในที่สุด ก่อนที่เขาจะร่วงหล่นลงมาสู่ใจกลางของหุบเขา เครื่องยนต์ของเขาได้ส่งควันดำหนาจำนวนมากออกมา

 

ปั้ง!

 

หลังจากตกลงมาเสร็จ สตาร์ลอร์ก็ตรวจสอบยานอวกาศของเขา ดูเหมือนมันจะได้รับความเสียหายจำนวนมากเเละตกลงมาใกล้เเอ่งน้ำ ขณะเดียวกัน กรูซ ที่หยั่งรากลงใต้ดินใกล้ ๆเเอ่งน้ำ ก็เหมือนจะสัมผัสได้ถึงเสียงอะไรบางอย่าง

 

ฟู่ว!

 

ประตูของยานอวกาศได้เปิดออกอย่างรวดเร็ว จากนั้น เเรคคูน ก็วิ่งออกมาในทันที

 

“กรูซ มานี่เร็วเข้า!”เเรคคูน ที่เห็นกรูซ อยู่ไม่ไกลจากตำเเหน่งยาน เขาตะโกนเรียกเพื่อนของเขาอย่างกังวล

 

“� IAMGROOT!”กรูซที่ได้ยินเสียงของเเรคคูน ได้ตอบรับก่อนที่จะรีบวิ่งไปทางตำเเหน่งของยานอวกาศ

 

เเรคคูนได้รีบพากรูซขึ้นยานอวกาศก่อนที่จะถอนหายใจออกมานี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมามัวเสียเวลาอีกเเล้วพวกเขาจะต้องรีบหนีออกจากที่นี่

 

“เอาล่ะ ไปกันได้เเล้ว!”ประตูห้องโดยสารด้านหลังได้ถูกปิดสนิทอีกครั้ง เเรคคูน ได้อุ้มกรูซขึ้นมากอดก่อนที่จะกลับไปนั่งที่ที่นั่งคนขับ

 

เครื่องยนต์ของยานอวกาศได้ทำงานอีกครั้งก่อนที่จะส่งพวกเขาขับเคลื่อนไปตามพื้นราบของป่า ทิศทางที่พวกเขามุ่งหน้าไปก็คือสถานที่ที่เเจ็คสันต่อสู้กับพืชสัตว์ประหลาด

 

“กรูซ นายไม่ควรวิ่งเล่นอย่างนั้น”เห็นกรูซที่วิ่งเล่นไปทั่วห้องนักบิน เเรคคูน เตือนออกมา

 

“พวกยอนดูกำลังผ่านเข้ามาในชั้นบรรยากาศพวกเรามีเวลาเหลือเพียง 3 นาทีเานั้น”เห็นเเรคคูนกลับมาสตาร์ลอร์ดกล่าวเตือนอย่างรวดเร็ว

 

“เข้าใจเเล้ว ดูเหมือนร่องรอยอารยธรรมโบราณใต้ดินจะเป็นหนทางเดียวของพวกเราโอกาสที่พวกเราจะสามารถตอบโต้การโจมตีของยอนดูได้ขึ้นอยู่กับร่องรอยอารยธรรมใต้ดินนี้”เเรคคูนกล่าวตอบทันที

 

“นายมีความมั่นใจเเเค่ไหน?”ได้ยินคำพูดของเเรคคูน สตาร์ลอร์ดกล่าวถาม

 

“� 0% …… ไม่สิ 30% …… อย่างไรก็ตามพวกเราไม่มีทางเลือกอื่นเเล้ว ตอนนี้พวกเราทำได้เพียงเเค่เดิมพันกับมันเท่านั้น!”

 

“ก็คงจะเป็นแบบนั้น หากพวกเราโชคดีล่ะก็นะ!”

 

“เอาล่ะ เริ่มกันเถอะ”หลังจากตกลงกันได้เเล้ว เเรคคูน ก็ได้กดปุ่มบางอย่าง

 

ฟุ่บ!

 

ด้านล่างของยานอวกาศได้ปรากฏเเผ่นดิสก์หลายสิบชิ้นบินออกมาจากใต้ท้องยาน ไม่นานมันก็บินเข้าไปยังตำเเหน่งภายในหุบเขา พอมันประจำจุดได้สำเร็จ อุปกรณ์บางอย่างที่คล้ายที่ขุดเจาะก็ปรากฏออกมาจากด้านล่างของเเผ่นดิสก์เเละมันก็เริ่มหมุนควงอย่างรวดเร็ว

 

ฟู่ว!

 

ฟันเลื่อยอันเเหลมคมของเเผ่นดิสก์ได้ฝังตัวใต้ดินเเละเริ่มทำการขุดเจาะ การขุดเจาะสถานที่เเห่งนี้ ด้วยเวลาเพียง 3 นาที สามารถขุดเจาะได้ประมาณ 100 เมตร ระยะความลึก 100 เมตร คือตำเเหน่งที่ เเรคคูน คาดการณ์เอาไว้

 

“คงต้องดูที่โชคของพวกเราเเล้ว!”เห็นเเผ่นดิสก์เหล่านั้นเริ่มลงมือขุดเจาะ เเรคคูน กล่าวออกมาอย่างจริงจัง

 

“เดี๋ยว ๆ พวกนายกำลังเดิมพันเสี่ยงโชคกันอยู่?”ได้ยินบทสนทนาของเเรคคูนเเละสตาร์ลอร์ด เดดพูล รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

ฟุ่บ!

 

ยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดได้ลอยตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกัน เเผ่นดิสก์เหล่านั้นก็เริ่มขุดเจาะจนหายไป พวกเขาได้บินไปยังตำเเหน่งบางอย่างที่เป็นประกายพลังงานสีฟ้าอันเข้มข้น

 

ฟวั่บ!

 

คลื่นพลังงานสีฟ้าได้กวาดผ่านพื้นที่รอบ ๆ ในระยะทาง 100 เมตร

 

ต้นไม้โบราณอายุนับ 1,000 ปี ต่างถูกโค่นล้มจำนวนมากภายใต้ความรุนเเรงของคลื่นพลังนี้ ระยะความกว้างของพื้นที่ที่ถูกทำลายโดยคลื่นพลังงานสีฟ้า สามารถนำไปใช้เป็นสนามฟุตบอลได้อย่างง่ายดาย

 

“นี่มัน! การโจมตีพิเศษของ มิราจไนท์!”เห็นคลื่นพลังเเสงสีฟ้า เดดพูล อุทานออกมา

 

เเม้ว่าเขาที่อยู่ภายในยานอวกาศจะไม่สามารถรู้สึกถึงพลังของคลื่นกระเเทกนี้ เเต่เเสงสีฟ้าที่คุ้นเคยเหล่านั้นเขาจำได้ มันเป็นการโจมตีพิเศษที่มาจากอาวุธพลังงานของมิราจไนท์ เดดพูล เคยเห็นสิ่งเหล่านี้หลายรอบจนเขาสามารถจดจำมันได้ขึ้นใจ

 

“นี่เป็นการโจมตีของมิราจไนท์? เขาเเข็งเเกร่งมากขนาดไหนกัน?”ได้ยินคำพูดของเดดพูล สตาร์ลอร์ดจ้องมองไปที่พื้นที่จำนวนมากที่ถูกทำลายอย่างตกใจดูเหมือนเขาจะประเมินมิราจไนท์ตำเกินไป

 

“นี่เป็นการโจมตีด้วยคลื่นพลังพิเศษไม่ผิดเเน่ ไม่คิดเลยว่ามันจะรุนเเรงถึงเพียงนี้”เปรียบเทียบกับ สตาร์ลอร์ด เเรคคูน ดูเหมือนมีความสนใจในพลังงานพิเศษนี้

 

“เร็วเข้า! มิราจไนท์จะต้องอยู่เเถวนั้นอย่างเเน่นอน”หลังจากเห็นคลื่นพลังงานสีฟ้าหายไป เดดพูล กล่าวออกมาอย่างเร่งรีบ

 

การโจมตีของมิราจไนท์เเข็งเเกร่งมากก็จริงเเต่การปลดปล่อยพลังงานในระดับนี้คาดว่าจะถึงขีดจำกัดของมิราจไนท์อย่างเเน่นอน

 

ฟู่วว

 

พริบตาต่อมา ยานอวกาศก็วิ่งเเล่นผ่านพื้นที่ที่ถูกทำลายไปอย่างรวดเร็ว

 

 

ครึ่งนาทีก่อนเเจ็คสันที่บล็อคการโจมตีของผงสีเขียวเสร็จเขาได้เห็นวัตถุทรงกลมอยู่ด้านหน้าเเต่เพราะมันถูกปกป้องเเละบดบังโดยผงสีเขียว เขาจึงได้รวบรวมพละกำลังภายในเเละรีดเค้นปลดปล่อยคลื่นพลังดาบ

 

ฟวั่บ!

 

ลูกบอลทรงกลมสีเขียวนั้นมันได้ถูกตัดทิ้งราวกับเป็นเต้าหู้เเละได้ระเบิดขึ้นในเวลาต่อมา

 

หลังจากเเก้ปัญหาเสร็จ เเจ็คสันก็ประสบความสำเร็จในการกำจัดศัตรูกลิ่นอายของศัตรูได้หายไปเเล้วในเวลานี้เขาได้ล้มตัวลงนอนเพราะสูญเสียพละกำลังภายในมากเกินไป

 

ตุบ!

 

“ในที่สุดก็จบสักที!”เเจ็คสันถอนหายใจออกมาพร้อมกับเเหงนหน้ามองท้องฟ้าอย่างหมดเเรง

ฟิ้วว!

 

สตาร์ลอร์ดควบคุมยานอวกาศให้ดิ่งลงไปยังทิศทางของร่องรอยอารยธรรมโบราณ คราวนี้ เครื่องยนต์อีกข้างนึงของเขาก็เริ่มเสียหายเพิ่มมากขึ้น

 

บึ้ม!

 

“ฉัน…พวกเรากำลังจะตกเเล้ว กำลังจะตกเเล้ว ฉันยังไม่อยากตาย!?”เดดพูลที่อยู่ในห้องคนขับร้องตะโกนออกมาอย่างโหวกเหวก

 

ในสถานการณ์ปัจจุบันเป็นสถานกาณณ์ที่น่าขมขื่นสำหรับเดดพูลมาก เเรกเดิมหลุดเข้ามายังดาวเคราะห์ดวงนี้ไร้หนทางกลับบ้าน ต่อมาได้เจอหนทางที่จะช่วยเหลือพาไปกลับบ้าน เเต่ก็มาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นซะก่อน ราวกับว่าชะตากำลังเล่นตลกกับเขา

 

“ตาย!?เหอะ ธรรมชาติ ชีวิตของพวกเราก็เเขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอด พวกเราคือ ทีมพิทักษ์จักรวาล หากเรื่องเเค่นี้ยังผ่านไปไม่ได้ ก็คงไม่ต้องทำอะไรเเล้วล่ะ!”ได้ยินคำพูดของเดดพูล สตาร์ลอร์ด กล่าวตะโกนออกมาทันที

 

ฟุ่บ!

 

สตาร์ลอร์ดได้บังคับจอยสติกของเขาเป็นวงกลมเเนวตั้งเพื่อปรับทิศทางของยานอวกาศเขาได้กำหนดเส้นทางคือตำเเหน่งหุบเขาภายในป่า

 

วิ๊ว!

 

ขณะเดียวกันสัตว์ประหลาดยักษ์ที่ไล่ตามมาก็ดิ่งลงมาด้วยเหมือนกันด้วยความเร็วของมัน มันได้พุ่งตกลงมาอย่างหนักหน่วงก่อนที่จะชนลงที่พื้นด้านล่างกวาดป่าพื้นที่เเถวนั้นให้ราบเป็นหน้ากองในคราวเดียว

 

หลังจากฟื้นยืนขึ้นมา สัตว์ประหลาดยักษ์ ได้หยุดการเคลื่อนไหวไปชั่วครู่ มันสัมผัสได้ถึง สัตว์ประหลาดระดับ B ที่เหมือนกับมัน พืชสัตว์ประหลาด ตอนนี้ เพื่อนของมันกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างอยู่ เเน่นอนว่ามันรู้ดีถึงความเเข็งเเกร่งเพื่อนของมันดี

 

ก๊าชชช~~

 

ดวงตาทั้งสี่ของสัตว์ประหลาดยักษ์ได้ขยับเคลื่อนไหวในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ มันได้สังเกตุหาพวกสตาร์ลอร์ด

 

พอมันไม่สามารถจับสัมผัสของพวกสตาร์ลอร์ดได้มันก็ปล่อยกลุ่มควันสีเเดงออกมาเล็กน้อยมันไม่ได้หันหน้าเข้าสู่ป่าลึกสองปีกที่ด้านหลังก็เริ่มหดตัวกลับเข้าไปในเกราะของมัน

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นไม่นานกลุ่มควันสีเเดงที่เข้าปกคลุมมันทั่วร่างไม่นานสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวใหญ่นี้ก็ค่อย ๆ หายไปในที่สุด

 

 

อีกด้านนึงฝั่งเเจ็คสันเขาได้ต่อสู้กับดอกไม้ยักษ์เขาได้ทำลายกลีบของดอกไม้เหล่านั้นเเละหลบนีออกมาได้ในที่สุด เพียงเเต่ว่า เถาวัลย์จำนวนมากกลับไม่คิดจะปล่อยเขาออกไปง่าย ๆ

 

ฟุ่บ!

 

เถาวัลย์หลายเส้นได้ยืดออกเป็นวงกว้างพร้อมกับพุ่งไล่ตาม เงาร่างสีดำของเเจ็คสัน เพราะ การเคลื่อนไหวที่ยืดหยุ่นของเเจ็คสันทำให้เขาสามารถหลบหนีจากสถานการณ์ที่ว่าได้อย่างราบรื่น

 

ฟู่ว!

 

“เครื่องร่อนไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพกับเเรงโน้มถ่วงของดาวดวงนี้ เดิมฉันก็ไม่อยากใช้ท่าเหยียบอากาศเพราะมันเปลืองพลังงานมาก เเต่การจะหลบหนีเถาวัลย์ของดอกไม้ยักษ์ได้คงมีเเต่วิธีนี้เท่านั้น”

 

เเจ็คสันได้ครุ่นคิดสิ่งต่าง ๆออกมา เขาดูใจเย็นกว่าเมื่อครู่นี้ สองนาทีก่อน เเจ็คสันได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการปะทะกับดอกไม้ยักษ์ เขาได้หลีกเลี่ยงการโจมตีของผงสีเขียวอ่อนเเละพยายามหาทางออกมาจากภายในตัวดอกไม้ยักษ์จนเสียพละกำลังไปมาก โชคดีที่ เขาสามารถหลุดออกมาได้ ไม่งั้น เขาคงเข้าสู่สถานการณ์ที่ลำบากอย่างเเน่นอน

 

“ฉันเจอจุดอ่อนของเเกเเล้ว หากเเกยังดื้อดึงที่จะจัดการฉัน ฉันคงต้องชิงจัดการเเกก่อน!”เเจ็คสันที่กระโดดหลบออกไปได้ไม่ไกลจากตำเเหน่งของต้นไม้ยักษ์เขาได้กล่าวสบถออกมา

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นในมือของเขาก็ปรากฏขวดน้ำขนาดเล็ก มันคือ น้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่เขาเเลกเปลี่ยนมาจากระบบร้านค้าโดยตรงเพื่อที่จะจัดการเพื่อนคนนี้เเจ็คสันจะต้องอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมที่สุด

 

อึก อึก !

 

เมื่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ไหลลงสู่กระเพาะของเขา เเจ็คสัน รู้สึกว่าอาการบาดเจ็บของตนเองกำลังฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว เขาไม่ต้องการเสียเวลาอีกต่อไป พริบตาต่อมา เเจ็คสันก็พุ่งเข้าหา เถาวัลย์ เหล่านั้นทันที

 

ตึก ตึก

 

คราวนี้การเคลื่อนไหวของเเจ็คสันได้ทิ้งภาพติดตาไว้จำนวนมากทำให้ความเร็วของเถาวัลย์นั่นไม่สามารถจับตำเเหน่งเเละตามเขาได้ทัน ในขณะที่เเจ็คสันเคลื่อนไหว เขาก็สังเกตุตำเเหน่งภายในป่า มันคือสถานที่ที่ซ่อนวัตถุทรงกลมสีเขียว เถาวัลย์เหล่านั้นกำลังปกป้องวัตถุทรงกลมสีเขียวนั่นอย่างลับ ๆ เเจ็คสันรู้ดีว่า เถาวัลย์สีเขียวคงจะเป็นเหมือนหุ่นเชิด หาก สิ่งที่เป็นพลังงานถูกทำลาย เถาวัลย์พวกนี้ก็ไม่ใช่ภัยคุกคามอีกต่อไป

 

ฟ้าว!

 

เเจ็คสันได้กระโดดทิ้งภาพติดตาไว้กลางอากาศก่อนที่เขาจะพุ่งการโจมตีต่าง ๆ ออกไป เพียงเเต่ว่า ผงสีเขียวเหล่านั้นกลับปกคลุมไปทั่วพื้นที่ตำเเหน่งเป้าหมายของเขา ผงสีเขียวเหล่านี้ ช่วยลดผลกระทบจากการโจมตีที่เเจ็คสันสร้างขึ้น

 

“หึ่ม! คิดว่าลูกไม้เดิม ๆ จะใช้ได้ผลกับฉัน?”เห็นผงสีเขียวจำนวนมากปรากฏออกมา เเจ็คสัน กล่าวออกมาอย่างเย็นชา

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้เเผ่พลังจิตของตนเองออกมาอย่างสมบูรณ์เขาได้สร้างกำเเพงพลังจิตขึ้นมาห่อหุ้มร่างกายของตนเองเพื่อปิดกั้นผงสีเขียวเหล่านั้น

 

เมื่อเห็นว่าการโจมตีของตนเองไม่ได้ผลลูกบอลทรงกลมนั่นก็เหมือนไร้ไพ่ตายในมือ

 

“ฉันยอมรับว่าฉันประมาทเเกไปหน่อยเเต่คราวนี้ไม่พลาดเเน่!”บนมือของเเจ็คสันได้กำซอร์ดสปิริตเอาไว้เเน่น เขาได้กระโดดลอยตัวขึ้นบนฟ้าก่อนที่จะตวัดดาบออกมา

 

ฟวับ!

 

คลื่นพลังงานสีฟ้าของดาบสปิริตซอร์ดได้เปล่งประกายกวาดผ่านพื้นที่จำนวนมากภายในป่าลึกเเห่งนี้

ตุบ!

 

เเจ็คสันได้ตกลงไปในดอกไม้ยักษ์ร่างกายทั้งหมดของเขาในตอนนี้เป็นอัมพาต ดอกไม้ยักษ์นี่เองก็กำลังจะปิดกั้นโดยการใช้กลีบดอกไม้หนา ๆ ของมัน กรีบดอกไม้เหล้านั้นเเข็งเเรงมากทั้งยังโปร่งใส เเจ็คสันที่กำสปิริตซอร์ดในมือเริ่มออกเเรงทั้งหมดที่มีในตอนนี้ฟันออกไปเพื่อหวังไม่ให้มันปิดตัวลง

 

เเต่ว่าเเรงของเขาในตอนนี้ไม่สามารถทำได้กลีบดอกไม้ทั้งหมดได้ปิดตัวลงพริบตาเดียวเเจ็คสันก็ถูกขังอยู่ในดอกไม้ยักษ์ ตรงกลางของมันนั้นมีเกสรขนาดใหญ่ปักไว้อยู่มันเป็นศูนย์กลางของดอกไม้ทั้งหมด ความยาวของเกสรนี้สูงมากกว่า 5 เมตร เเจ็คสันจ้องมองไปที่มัน เเม้มันจะดูไม่น่าอันตราย เเต่โดยรอบเเล้ว มันกลับปลดปล่อยผงสีเขียวบางอย่างออกมา เเจ็คสันไม่ยอมที่จะพลาดเป็นครั้งที่สอง เขาพยายามถอยห่างไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้

 

ผงเหล่านั้นมีฤทธิ์ปั่นทอนพลังงานภายในของเขา ตอนนี้ เเจ็คสันได้ใช้พลังจิตในการฟื้นฟูเเละขับไล่มันออกจากร่างกายอยู่เเต่ขั้นตอนนี้ต้องการใช้เวลาเพียงเล็กน้อย

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้เคลื่อนไหวบางอย่างไปที่เอวของเขาจากนั้นวัตถุรูปร่างยาวระนาบก็โผล่ออกมาจากอากาศมาอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา นี่คือ เครื่องร่อน เขาได้พกพาหนะส่วนตัวมาที่นี่ด้วย

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้กระโดดขึ้นไปพร้อมกับลอยตัวสูงขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงผงสีเขียวอ่อน โชคดีที่พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้างขวางไม่งั้นคงมีปัญหาต่อการบินอย่างเเน่นอน

 

เเม้เขาจะหลบเลี่ยงได้ในตอนนี้เเต่ไม่ช้าก็เร็ว ผงสีเขียวอ่อนนั้นก็จะลุกลามไปทั่วภายในพื้นที่เเห่งนี้ การบินในตอนนี้เป็นเเค่การยื้อเวลาเพียงชั่วคราวเท่านั้น

 

หลังจากบินขึ้นมาเเจ็คสันก็มองไปที่กรีบยักษ์ทั้งสี่ที่ห่อปิดกัน เขาได้โยนลูกบอลทรงกลมระเบิดขนาดเล็กหลายลูกพุ่งไปยังด้านบน เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ถือว่าเขาใช้มันมากกว่าหลาย 10 ลูกเลยทีเดียว

 

ฟ้าว!

 

เขาได้ใช้พละกำลังทั้งหมดส่งระเบิดลูกเล็กหลายสิบลูกโยนไปที่ปลายทางต่าง ๆ

 

บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!!

 

เเสงสีเเดงได้วาบขึ้นภายในพื้นที่ปิดกั้น เเม้ว่าพลังของระเบิดลูกเล็กจะไม่รุนเเรงนักเเต่ก็สามารถเปิดช่องของกลีบที่ปิดได้เล็กน้อย

 

คลื่นของระเบิดไม่สามารถทำให้กลีบดอกไม้เปิดออกระยะยาวได้ เเม้จะเปิดออกเพียงนิดเดียว เเต่ไม่นานมันก็หุบกลับไปเหมือนเดิม

 

“???! กลีบดอกไม้นั่นปิดตัวลงเเทบจะทันที ทั้งเเรงระเบิดยังส่งผลให้มันเปิดได้เเค่รูเล็ก ๆ เพียงเท่านั้น เเล้วฉันจะหาทางออกจากที่นี่ยังไง!?”เเจ็คสันจ้องมองไปที่ กลีบดอกไม้ด้านบน เขากำสปิริตซอร์ดในมือของเขาเเน่น

 

ฟวั่บ!

 

เเจ็คสันหวังจะลองใช้สปิริตซอร์ดในมือขวาของเขาโจมตีไปที่ด้านบนดู

 

“หืม!?ความสามารถของเรากลับมาเเล้ว!”เเจ็คสันสัมผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งภายในร่างกายของตนเองที่กลับมาอีกครั้ง

 

คราวนี่เขาจ้องมองไปที่ด้านบนด้วยความดุเดือด

 

“ให้ฉันดูว่าเเกจะสามารถทนรับการโจมตีของฉันได้มากเเค่ไหน!”เมื่อเห็นว่าความเเข็งเเกร่งของตนเองกลับมา เเจ็คสันจ้องมองออกมาอย่างเย็นชา เเละ ตะโกนใส่มัน

 

เขาได้บังคับเครื่องร่อนบินขึ้นไปด้านบนอย่างต่อเนื่องพร้อมกับระดมการโจมตีมากมาย เเต่ก็ยังไม่เป็นผล หลังจากทำอยู่พักนึง เเจ็คสันก็สังเกตุเห็นกลีบดอกไม้เหล่านี้คล้ายจะมีรอยปริเเตก

 

ระเบิดของเขาได้หมดลงเเล้ว เเจ็คสันยกสปิริตซอร์ดของตัวเองกระหน่ำโจมตีไปที่รอยปริเเตกนั่นทันที เพียงเเต่ว่าตอนนี้ ผงสีเขียวที่อยู่ด้านล่าง กลับกำลังลอยขึ้นมาหาเขาโดยไม่คาดคิด

 

มันทำให้เเจ็คสันที่กำลังพัวพันกับการโจมตีเป็นอันต้องเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว

 

 

ปั้ง ปั้ง!!

 

ขณะที่ เเจ็คสันตกลงสู่กับดักของสัตว์ประหลาดระดับ B พืชสัตว์ประหลาด บนอากาศตอนบนของป่าบริสุทธิ์ หนึ่งหมื่นเมตร เงาร่างสองร่างยังคงเข้าปะทะกันอย่างต่อเนื่อง

 

ปั้ง !

 

ระบบอาวุธยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดได้กระหน่ำการโจมตีไปที่สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ ดูเหมือนพวกเขาจะไม่สามารถสลัดมันหลุดได้ ทั้งเกือบหลายครั้งที่พวกเขาเกือบจะโดนกรงเล็บของมันฉีกกระชากเเละกลืนกิน

 

“พลังป้องกันขนาดสัตว์ประหลาดนั่นเเข็งเเกร่งเกินไปเเล้ว พวกเราไม่มีอาวุธอะไรที่จะสามารถเจาะเกราะมันได้!”เห็นการโจมตีของตนเองไม่เป็นผล สตาร์ลอร์ด ร้องออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

“ฉันบอกนายเเล้วใช่มั้ย? หากนายยินดีที่จะเสียสละเงินอันน้อยนิดเพื่อเเลกกับอุปกรณ์เเละอาวุธที่เพียงพอพวกเราก็คงไม่ต้องมานั่งเป็นทุกข์แบบนี้”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เเรคคูน กล่าวตำหนิออกมา

 

“รู้เเล้ว! รู้เเล้ว! หากฉันรอดกลับไปจากช่วงเวลานี้ ฉันจะระดมเงินทุนเพื่อซื้ออาวุธที่ดีอย่างเเน่นอน!”ได้ยินคำพูดของเเรคคูน สตาร์ลอร์ด รู้ซึ้งถึงความผิดของตนเอง

 

เเม้เเต่ในสถานการณ์เช่นนี้ สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ก็ยังมีเวลามัวมาทะเลาะกัน สิ่งนี้ทำให้ เดดพูล รู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก

 

ติ๊ด! ๆ

 

ขณะที่เเรคคูนเเละสตาร์ลอร์ดกำลังถกเถียงกันจู่ ๆ สัญญาณเตือนบางอย่างก็ดังขึ้น

 

“เกิดอะไรขึ้น เอเรน !”สตาร์ลอร์ดตะโกนชื่อถามระบบอัจฉริยะของเขา

 

“เจ้านายคะ,ตรวจพบยานอวกาศนอกสัมพันธมิตร!”

ฟุ่บ!

 

ในระดับอากาศสูงกว่าหนึ่งหมื่นเมตร ยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดยังคงหลบหนีการตามล่าของสัตว์ประหลาดยักษ์อย่าต่อเนื่อง เพียงเเต่ว่าเมื่อครู่ ระบบอัจฉริยะ เอเรน ได้ตอบกลับสตาร์ลอร์ด ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เลวร้ายกับพวกเขาในสถานการณ์ตอนนี้มาก

 

“ยานอวกาศนอกสัมพันธมิตร?มันคืออะไร?คงไม่ใช่ศัตรูของพวกนายหรอกใช่มั้ย?”เห็นว่าสตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูน ได้ยินการตอบกลับจากระบบอัจฉริยะเเละหน้าเปลี่ยนสี เดดพูล จึงกล่าวถามอย่างเร่งรีบ

 

ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างมาก หากศัตรูส่วนตัวของสตาร์ลอร์ดปรากฏขึ้น เดดพูล เชื่อว่าสถานการณ์ของพวกเขาจะต้องเเย่อย่างเเน่นอน เเค่ลำพังเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นก็เต็มกลืนเเล้ว ดังนั้นความคิดของเดดพูลตอนนี้จึงกระเจิงอย่างมาก

 

“เอายังไงดี ควิลล์ ถ้าพวกเราหนีตอนนี้พวกเรายังพอจะมีโอกาสทมี่จะหนีไปได้”เเรคคูนไม่ได้ตอบ เดดพูล เขาบังคับระบบโจมตีเพื่อรับมือกับสัตว์ประหลาดยักษ์ เเละ กล่าวถาม สตาร์ลอร์ด

 

“นี่…ถ้าพวกเราหนี เเล้วมิราจไนท์เล่า? เขาจะไม่มีโอกาสรอดจากสถานการณ์ในตอนนี้เลย”ได้ยินคำพูดของ ร็อคเก็ต เเรคคูน สตาร์ลอร์ด ตอบอย่างจริงจัง

 

ได้ยินคำพูดของ เอเรน ระบบอัจฉริยะของเขา ที่ระบุตรวจพบ ยานอวกาศนอกสัมพันธมิตร สตาร์ลอร์ดก็รู้ในทันทีว่าพวกที่ว่านั้นเป็นใคร ยานอวกาศนอกสัมพันธมิตรที่ว่านี้ถูกทำเครื่องหมายพิเศษเเละไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพ่ออุปถัมภ์ของเขา ยอนดู ผู้นำของกองกำลังสลัดอวกาศ สตาร์ลอร์ด ได้ถูกยอนดูพลัดพรากไปจากโลกเพื่อนำมาชุบเลี้ยง หลังจากรู้เจตนาที่เเท้จริงของ พ่อเลี้ยงของเขา สตาร์ลอร์ด ก็หลบหนีออกจากกองกำลังสลัดอวกาศ

 

ในพล็อตเรื่อง การ์เดี้ยน ออฟ เดอะ กาเเลคซี่ นั้น สตาร์ลอร์ด ได้ออกจากกลุ่มสลักอวกาศ เเละ เเยกตัวมาก่อตั้ง ทีม กาเดี้ยน ออฟ เดอะ กาเเลคซี ของตัวเอง ดังนั้น ยอนดู จึงออกหมายจับกุม สตาร์ลอร์ด เเละ ต้องการตัวเขากลับมา อย่างไรก็ตาม ยอนดู ได้พลาดท่าหลายครั้งในการจับตัว สตาร์ลอร์ด อีกทั้งสตาร์ลอร์ดยังไม่ต้องการกลับไปยังกองกำลังสลัดอวกาศ สถานที่ที่เน่าเปื่อยเช่นนั้น เขาไม่ต้องการมันอีกเเล้ว

 

“หากพวกเราตกไปอยู่ในมือของยอนดูก็เท่ากับตาย! ยิ่งไปกว่านั้น มิราจไนท์ยังมีความสามารถเเละพละกำลังที่เเข็งเเกร่ง เขาย่อมสามารถเอาตัวรอดได้”เเรคคูน รู้ดีว่า สตาร์ลอร์ด คงไม่คิดจะทิ้งมิราจไนท์ เเต่ เขายังคงกล่าวชักชวนต่อไป

 

“ฉัน…”

 

“เดี๋ยว ๆ พวกนายกำลังคิดจะหนี? เเล้วเพื่อนต้นไม้ของนายที่อยู่ข้างล่างนั่นเล่า?”เดดพูล กล่าวถามออกมาอย่างรวดเร็ว

 

เเม้ว่าเขาจะต้องหนี เดดพูล ก็หวังจะพา มิราจไนท์ ไปด้วย เดิมเขาไม่คิดเลยว่า ศัตรู ร่วมเอกภพของ พวกสตาร์ลอร์ด จะตามมาถึงที่นี่

 

“จริงด้วย?พวกเราลืม กรูซ ไปได้ยังไง!”

 

“เวรเอ้ย! พวกเราจะต้องรีบลงจอดที่ด้านล่าง ที่ด้านล่างนั้นมีร่องรอยของอารยธรรมโบราณอยู่ หากพวกเราสามารถกระตุ้นร่องรอยพวกนั้นบางทีพวกเราอาจสามารถหาโอกาสหลบหนีได้”ได้ยินคำเตือนจาก เดดพูล สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

 

“ดี,อย่างน้อยพวกเราก็ควรจะรีบสำรวจร่องรอยพวกนั้น บางทีมันอาจจะช่วยเพิ่มโอกาสหลบหนีให้กับพวกเรา!”เเรคคูน นั้นไม่ยอมเเพ้เรื่องกรูซ ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจ พร้อมกับ สตาร์ลอร์ด

 

“พวกเราจะลงไปข้างล่างกัน!”

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นสตาร์ลอร์ด ก็กดหัวยานอวกาศของตัวเองลงอย่างรวดเร็ว สัตว์ประหลาดตัวยักษ์นั้นเพราะขนาดตัวขนาดยักษ์ของมันทำให้พวกมันไล่ตามพวกเขาด้วยความเฉื่อยชา

 

 

ขณะที่พวกสตาร์ลอร์ดค้นพบยานอวกาศนอกสัมพันธมิตร นอก ดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ ยานอวกาศขนาดใหญ่ได้ปรากฏตัวที่ด้านนอกของดวงดาว ในเวลานี้ ยอนดู พ่ออุปถัมภ์ของสตาร์ลอร์ด กำลังนั่งอยู่ในห้องคนขับ

 

ฟู่วว~~

 

เขาจ้องมองไปที่ดาวเคราะห์สีเขียวด้วยดวงตาสีฟ้าคู่นั้นของเขา

 

“หัวหน้า ยอนดู คุณตั้งใจจะพา นายน้อย สตาร์ลอร์ด กลับมาจริง ๆ งั้นหรอ?”ขณะเดียวกันก็มีเสียงของคนคนนึงกล่าวถามเขา

 

“เเน่นอน! เจ้าเด็กนั่น ละเมิดคำสั่งของฉันอีกครั้งเเละอีกครั้ง ก่อนหน้านี้มันยังซ่อนความจริงจากฉัน เเละ ขโมยภารกิจบางอย่างไป ในฐานะคนที่ชุบเลี้ยงดูมันขึ้นมา ฉันจะไม่ให้มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของฉันอย่างเเน่นอน”ได้ยินคำพูดของผู้ช่วย ยอนดู กล่าวออกมาด้วยสีหน้าโกรธเคือง

 

“บอส ฉันไม่คิดว่าเราควรพานายน้อย สตาร์ลอร์ดกลับมา เขาทรยศพวกเรา ฉันไม่เห็น…”ผู้ช่วยคนนี้กล่าวถามออกมาด้วยเสียงเบาก่อนที่จะหยุเไป

 

ได้ยินเสียงของผู้ช่วย ใบหน้าของ ยอนดู กลายเป็นกราดเกรี้ยวมากขึ้น

 

“อะไรพูดต่อสิ?ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉันเร่งปรับานอวกาศของเรา เราจะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ คราวนี้ ฉันจะต้องได้ตัวเด็กนั่นกลับมา ไม่งั้น ฉันจะลอกหนักของเเกไปขายซะ!”หลังจากโดนผู้ช่วยคนนึงเเสดงความคิดเห็นต่อเขา ยอนดู กล่าวอย่างดุเดือด

 

“อ่า,ครับ บอส พวกเราจะไม่ปล่อยให้เด็กนั่นหนีไปได้อย่างเเน่นอน!”หลังจากได้รับความตึงเครียด ผู้ช่วยคนนี้รีบกล่าวพูดด้วยรอยยิ้มเเละควบคุมยานอวกาศในทันที

 

หลังจากผู้ช่วยหันกลับไป ใบหน้าของยอนดูที่เเสดงออกอย่างชั่วร้าย ก็ปรากฏสีหน้ามองคล้ำขึ้นเล็กน้อย

 

 

ฟุ่บ!

 

ขณะเดียวกัน ยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดที่กำลังดิ่งลงมาข้างล่าง จู่ ๆ รอบนอกตัวยานของเขาก็ปรากฏควันดำออกมา ก่อนหน้านี้ พวก สตาร์ลอร์ด ได้พบกับการโจมตีของสัตว์ประหลาดยักษ์มากมาย มันเกือบที่จะเเยกส่วนยานอวกาศของเขาไปเเล้ว

 

ติ๊ด

 

“เครื่องยนต์ด้านซ้ายได้รับความเสียหาย 43%! ระบบอาวุธได้รับความเสียหาย 30%!”ขณะเดียวกัน เสียงเตือนก็ดังข้างหู ของสตาร์ลอร์ด

 

เเรคคูนเเละสตาร์ลอร์ดเข้าใจสถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้ดี ตอนนี้ไม่พวกเขาไม่จำเป็นต้องตอบโต้การโจมตี พวกเขาทำได้เพียงอธิษฐานๆไม่ให้สัตว์ประหลาดยักษ์นั่นไล่ตามให้ทัน เเละ สามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น สำหรับ เดดพูล ในตอนนี้ เขากลิ้งอยู่หลังห้องนักบิน ขณะที่เขากำลังกลิ้งอยู่ เขาก็สวดอวดวอนภาวนาขอให้ตัวเองรอดอยู่ตลอดเวลา

หลังจากระเบิดลูกเล็กหลายลูกเกิดการระเบิดขึ้นเส้นเเสงของรากเหล้านั้นก็หายไปสัตว์ประหลาดนั่นได้เเยกส่วนออกเเละเตรียมจะหลบหนี เเต่ด้วยพลังของเเรงระเบิดทำให้รากเหล่านั้นตายลงหากมันไม่ได้เเยกตัวออกจากกันล่ะก็บางทีด้วยร่างกายหลักของมันอาจจะสามารถทนรับเเรงระเบิดได้

 

ฮึ่ม!

 

เเม้รากหลักสีดำพวกนั้นจะตายลงเเต่ดูเหมือนว่าเส้นเเสงสีเขียวที่เดิมเเยกไปกับรากหลักมันได้กลับมาอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่อีกครั้ง เเจ็คสัน คิดว่า เเสงสีเขียวเหล่านั้นอาจจะเป็นพลังงานชีวิตหรืออะไรบางอย่าง

 

“คราวนี้อะไรอีกล่ะ?”หลังจากพลังงานสีเขียวได้ไหลกลับเข้าร่างหลักเเจ็คสันก็เห็นพื้นดินกำลังส่งเสียงดังจากข้างใต้

 

ขณะที่เขาคิดเเจ็คสันก็เดินไปด้านหน้า ร่างหลักของพืชสัตว์ประหลาดอยู่ไม่ไกลจากเขา เเน่นอนว่าเขาจะไม่มีทางปล่อยมันไปอย่างเเน่นอน นี่เป็น เเต้มคะแนนรางวัลของเขา มันกำลังรอเขาอยู่

 

ฟุ่บ!

 

ระหว่างที่เขาเดินจู่ ๆ ต้นไม้โดยรอบก็ปรากฏกำเเพงหนามขึ้นมาอีกครั้งมันได้บล็อคขวางทางของเเจ็คสันไม่ให้เขาผ่านเข้าไป ยิ่งเเจ็คสันเดินลึกเข้าไปเขาก็เผชิญหน้ากับกำเเพงหนามมากขึ้น ออร่ารัศมีพลังสีเขียวเหล่านั้นปกคลุมไปทั่วพื้นที่เเห่งนี้

 

“หึ่ม! ดูเหมือนว่าเพื่อนคนนี้จะไม่ยอมเเพ้ง่าย ๆ สินะ มันสามารถควบคุมพืชพรรณต่าง ๆ ในอาณาเขตบริเวณได้ ช่างเป็นศัตรูที่เป็นปัญหาจริง ๆ “เเจ็คสันได้เดินเข้าไปพร้อมกับตัดทำลายกำเเพงหนามเหล่านั้น ระยะทางของเขากับร่างหลักของพืชสัตว์ประหลาด อยู่ห่างกันไม่ถึง 15 เมตร

 

ก่อนหน้านี้เเจ็คสันเผชิญหน้ากับปัญหามากมายจากเจ้าปัญหาตัวนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องกำจัดมันให้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำเเปลก ๆ ของร่างหลักของมันก็ยังทำให้เเจ็คสันรู้สึกสงสัยอยู่ หากไม่มีเเสงสีเขียวเหล่านั้นปกคลุม เเจ็คสันเชื่อว่ามันก็เเค่ต้นไม้ที่มีอายุมากกว่า 10,000 ปี ธรรมดา ๆ เท่านั้น ไม่ได้ดูพิเศษอะไร

 

เพียงเเต่เเจ็คสันไม่ได้สังเกตุเลยระบบได้เเจ้งเตือนเขาในตอนนี้ร่างหลักของพืชสัตว์ประหลาดเดิมเหลือความเเข็งเเกร่งเพียง 60% เเต่ตอนนี้มันได้เพิ่มขึ้นเป็น 80% เเล้ว ดูเหมือนว่ามันจะสามารถฟื้นฟูรักษาตนเองได้

 

เเจ็คสันได้เดินเข้าไปอย่างไม่หวั่นเกรงสิ่งใดเขาไม่รู้ตัวเลยว่ามีผงสีเขียวอ่อนได้ลอยมาติดตามตัวของเขาอย่างช้า ๆ มันได้บุกรุกพลังงานภายในของเขาพร้อมกับกำลังเเสดงผลบางอย่างออกมา

 

ตึก ตึก!

 

“อย่าได้โกรธเเค้นกันเลย เนื่องจากเเกเป็นคนหาเรื่องฉันก่อน ฉันจะปล่อยเเกไปก็ไม่ได้ คงต้องจัดการล่ะนะ!”เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าของสัตว์ประหลาดยักษ์ เเจ็คสันได้ยกสปิริตซอร์ดของเขาขึ้น

 

ฟวั่บ!

 

เขาได้ตัดสินใจฟันไปที่ร่างหลักของเพื่อนคนนี้ เเต่ขณะที่ปลายดาบกำลังจะถึงพื้นดินใต้เท้าของเขาก็ปรากฏรอยเเตกเป็นหลุมยักษ์ขนาดใหญ่จู่ ๆ ก็มีเงาบางอย่างยื่นออกมา

 

เเจ็คสันที่เห็นพื้นดินตรงเท้ากลายเป็นหลุมขนาดใหญ่เขารีบใช้ความคล่องตัวในการกระโดดลอยตัวขึ้นที่สูงทันที

 

เเต่ว่า เเม้เเจ็คสันจะลอยตัวสูงขึ้น เงาเเปลก ๆ ที่ผุดออกมาจากข้างใต้ก็ไล่ตามเขาขึ้นไปจนสามารถรัดผิวร่างกายของเขาได้ในที่สุดตอนนี้ เเจ็คสันได้ถูกจับโดยเงาสีดำเเปลก ๆ ที่ผุดขึ้นมา

 

“เวรเอ้ย! นี่มันกับดัก!!”เเจ็คสันสัมผัสได้ถึงพละกำลังทางกายที่กำลังอ่อนเเอลงเงาสีดำเเปลก ๆ ที่ว่านี่ก็คือเถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้น

 

มันได้ผุดขึ้นมาจากใต้ดินเเละรัดจับกุมเขา เดิม เเจ็คสัน ต้องการใช้พละกำลังในการฉีกกระชากมันออกเเต่เหมือนร่างกายจะไม่ฟังคำสั่งของเขา เขาได้เคลื่อนไหวตรวจสอบพละกำลังภายในทันที เเต่ดูเหมือนว่า เขากำลังอ่อนเเอลง สัตว์ประหลาดตนนี้ได้เเอบลอบทำอะไรบางอย่างกับเขา

 

เเม้ร่างกายของเขาจะเป็นปัญหา เเต่พลังจิตของเเจ็คสันไม่ได้รับผลกระทบอะไร เขาได้ใช้พลังจิตในการสเเกนร่างกายของตนเอง จนในที่สุดเขาก็พบว่ามีผงสีเขียวอ่อนบางอย่างที่ติดตามร่างกายของเขามันได้เเทรกซึมเข้าไปภายในเเละเปลี่ยนให้พละกำลังภายในของเขากลายเป็นอัมพาต เมื่อรู้ต้นเหตุ เเจ็คสันได้เร่งเปลี่ยนพลังจิตเพื่อขับไล่ผงสีเขียวเหล่านั้นออกจากร่างกายทันที

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังถูกจับตรึงกลางอากาศ จู่ ๆ เถาวัลย์ยักษ์ก็เริ่มดึงเขาลงไปข้างล่าง สีหน้าของเเจ็คสันตอนนี้ดูย่ำเเย่อย่างมาก เพราะด้านล่างที่อยู่ใต้ดินนอกจากเถาวัลย์ยักษ์เเล้วก็ยังมีดอกไม้สีเเดงเข้มยักษ์กำลังรอเขาอยู่

 

“เเกคงไม่ได้ทำอย่างที่ฉันคิดใช่มั้ย?”เห็นดอกไม้สีเเดงยักษ์กางกลีบออกจำนวนมากเเจ็คสันลอบสบถด่าในใจ

 

ฟุ่บ!

 

เขาได้ถูกดึงลงไปอย่างรวดเร็วจนตกลงไปข้างในดอกไม้ยักษ์สีเเดง

ในสัมผัสของเเจ็คสัน เขาสัมผัสได้ถึง พื้นผิวของป่า เเละ รากไม้สีดำจำนวนมาก ในตัวของพวกมันนั้นมีเส้นใยสีเขียวอ่อน ๆ ที่บางหนาเเตกต่างกันไป ยิ่งใกล้ตำเเหน่งร่างกายหลักมากเท่าไหร่ เส้นใยสีเขียวก็จะยิ่งหนามากขึ้น

 

“เเกสามารถควบคุมพืชภายในป่าพวกนี้ได้?หากฉันปล่อยให้เเกทำต่อไปมันจะเป็นปัญหาต่อฉันภายหลัง”เเจ็คสันรีบเพ่งตามเส้นใยสีเขียวเข้าไปในส่วนลึกอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นเขาก็เห็นพืชประหลาดจำนวนมากที่ยิ่งใกล้ยิ่งเห็นได้ชัด จากนั้นก็เป็นบริเวณรากไม้สีดำ ที่รวมตัวกันเหมือนกับมดที่กำลังคอยปกป้องราชินีอย่างไงอย่างงั้น

 

รากไม้สีดำเหล่านี้ถูกขับเคลื่อนด้วยเส้นใยสีเขียวที่คล้ายกับพลังจิตบางอย่าง หากจะเรียกว่าพวกมันเป็นหุ่นเชิดก็ไม่เเปลก

 

“อยู่ตรงนั้น!”ในที่สุด เเจ็คสัน ก็มองเห็นเส้นทางที่นำไปสู่ตัวการ เขารีบบุกทะลวงเข้าไปในทันที

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าขณะที่เขากำลังบุกฝ่าเข้าไป จู่ ๆ ก็มี กำเเพงหนามปรากฏขึ้นล้อมรอบทุกทิศทางขวางกั้นเขาเอาไว้ ต้นไม้ใหญ่โดยรอบได้สร้างกำเเพงหนามขึ้นเพื่อไม่ให้เขาผ่านทางไป

 

“เปิดทางให้ฉัน!”เเจ็คสันไม่ได้สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นเขากำสปิริตซอร์ดของตัวเองเเน่นพร้อมกับฟันฝ่าออกไป

 

ฟวั่บ! ฟุ่บ!

 

ประกายเเสงสีฟ้าได้สาดประกายขึ้นภายในส่วนลึกของป่าจากนั้นกำเเพงหนามทั้งหมดได้ถูกตัดเป็นเต้าหู้ในทันที

 

เเจ็คสันได้มุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนลึกตามเส้นทางที่เขาเห็นในสัมผัสอีกครั้งทุกการย่างก้าวของเขาเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดรากไม้สีดำเเละพืชพรรณเเปลก ๆ อีกจำนวนมาก

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้ฆ่าฟันพวกมันเพื่อเปิดทางให้เข้าไปสู่ด้านในเขาได้วิ่งไปตามรอยเเยกเเตกหักของพื้นดินที่ยิ่งไปยิ่งใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ

 

ติ๊ด

 

“วงจรชีวิตของพืชสัตว์ประหลาดระดับ B หลงเหลือความเเข็งเเกร่ง 60%”จู่ ๆ เเจ็คสันที่กำจัดเส้นใยพลังที่ใกล้กับตัวการมากที่สุด มันกลับสามารถทำให้ระบบบอกการเเจ้งเตือนต่อเขา

 

ก่อนหน้านี้ไม่ว่าเเจ็คสันจะกำจัดรากไม้สีดำจำนวนมากเพียงใด เเต่ระบบก็ไม่เคยเเจ้งเตือนความเสียหายของมัน รากไม้สีดำเหล่านั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งในร่างกายที่เเท้จริงของมัน ส่วนหลักที่มีพลังชีวิตของร่างหลักของมันนั้นจะอยู่ใกล้กับตำเเหน่งที่มันอยู่ ดังนั้นมันถึงเกิดความเสียหายที่ว่าขึ้น

 

“ในที่สุดก็เจอตัวเเกซักที!”เเจ็คสันเดินเข้าไปส่วนลึกจนสุดทางเขาเห็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีมงกุฏอยู่บนศีรษะรอบ ๆ ตัวมันมีเเสงสีเขียวปกคลุมไปทั่วร่างกาย

 

เมื่อเเจ็คสันเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้ใหญ่นั่นราวกับว่าพืชชนิดต่าง ๆ โดยรอบ ได้ปิดกั้นขวางทางเเจ็คสันอย่างรวดเร็ว เเต่ในเวลานี้ เเน่นอนว่าพวกมันไม่สามารถปิดกั้นขวางทางเขาได้

 

ต้นไม้สีเขียวด้านหน้าเเม้จะดูอุดมสมบูรณ์เเละดูน่าเกรงขาม เเจ็คสัน ที่เดิมคิดว่าอย่างน้อยมันก็เป็นสัตว์ประหลาดระดับ B เขาก็ค่อนข้างเกร็งเล็กน้อย เเต่พอหลังจากเดินเข้าใกล้มันมากขึ้น เขากลับคิดต่างออกไป”ดูเหมือนฉันจะประเมินเเกสูงเกินไป!”

 

ฝ่ายตรงข้ามไม่มีพลังในการป้องกันตัวเองด้วยซ้ำเเจ็คสันสามารถฆ่ามันได้ตอนนี้หากเขาจัดการสัตว์ประหลาดนี่ได้เขาจะได้รับรางวัลประมาณ 20,000 เเต้มคะแนน ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์นี้จะให้รางวัลอะไรตอบเเทนบ้าง

 

ฮึ่ม!

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังเดินเข้าใกล้มันมากขึ้น จู่ ๆ สิ่งมีชีวิตระดับ B พืชสัตว์ประหลาด ก็สั่นอย่างเเปลก ๆ ผืนดินโดยรอบเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนเเรง

 

“เวร อะไรอีกล่ะเนี่ย?”เเจ็คสันสังเกตุพื้นดินรอบ ๆ เเละ ประเมินอย่างเงียบ ๆ

 

วิสัยทัศน์ของเขาจ้องมองไปที่พืชสัตว์ประหลาดด้านหน้าอย่างไม่วางสายตา

 

จู่ ๆ เเสงสีเขียวบนร่างกายของมันก็หลอมรวมเข้ากับร่างทั้งยังรุนเเรงมากขึ้นทุกครั้งที่เส้นเเสงสีเขียวของมันเปล่งเเสงเด่นชัดผืนดินก็เริ่มจะสั่นไหวอย่างรุนเเรง จู่ ๆ รากหลักก็ได้ผุดขึ้นมาจากผืนดิน ตัวของมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีทักษะในการควบคุมเเต่ไม่มีทักษะในการปกป้องตนเองเห็นได้ชัดว่ามันกำลังทำอะไรบางอย่าง

 

จากนั้นไม่นานรากหลักของมันก็เริ่มเคลื่อนไหว รากหลักมากกว่า 10 เส้น ได้เเยกตัวออกไปกันคนละทิศทางเพื่อหลบหนี

 

!

 

เเจ็คสันได้ดึงลูกบอลทรงกลมเหล็กขนาดเล็กออกมา นี่เป็นระเบิดเเรงดูดขนาดเล็กของเขา เขาได้โยนพวกมันไปหลายทิศทางตามรากหลักพวกนั้น

 

“คิดจะหนี?! ฉันจะไม่ปล่อยให้เเกทำอย่างนั้น!”หลังจากโยนลูกทรงกลมออกไป เเจ็คสันก็กล่าวออกมาอย่างเย็นชา

 

บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม

 

จากนั้นลูกทรงกลมก็ระเบิดขึ้น ผืนดินโดยรอบได้สั่นสะเทือนอย่างพักนึงก่อนที่จะเปลี่ยนสภาพเเวดล้อมเเถบนี้ไปโดยสมบูรณ์

คึก!

 

สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนั้นได้งอกครีบฉลามใสสองคู่ออกมาจากด้านหลังของตนเองส่งผลให้ เดดพูล สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน รู้สึกตกใจในทันที

 

ก๊าชชช! ~! ~! ~

 

“นั่นมัน…คงไม่ใช่ปีกใช่ไหม?”จ้องมองครีบฉลามใสสองคู่ที่งอกออกมา สตาร์ลอร์ด ราวกับไม่สามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เห็นได้ทัน

 

“ฉันก็หวังให้มันไม่เป็นอย่างนั้น”ได้ยินเสียงของสตาร์ลอร์ด เเรคคูนตอบกลับในทันที

 

สำหรับเดดพูล เขาไม่เหมือนกับ สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ที่ต้องโกหกตนเองเพื่อกลบเกลื่อนความหวาดกลัว เขาเชื่อว่าสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นมันงอกปีกออกมาจริง ๆ

 

“ให้ตายเถอะ! เเม้ว่ามันจะมีปีกเเต่ด้วยตัวขนาดใหญ่ขนาดนั้นของมัน พวกนายทั้งสองคิดว่ามันจะบินขึ้นงั้นหรอ”เดดพูล จ้องมองไปที่ปีกของสัตว์ประหลาดยักษ์นั่น

 

อา!

 

ได้ยินคำพูดของ เดดพูล สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน หวังว่าจะให้มันเป็นแบบนั้น ถ้าเป็นแบบนั้นจริงพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวทั้งจุดอ่อนของสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นยังจะมีเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยเเต่ทว่า

 

ก๊าชช!

 

“อ่า!มันกำลัง…”เดดพูลรู้สึกหวาดกลัวทันทีสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นกำลังจจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างดุเดือดราวกับว่าต้องการทำลายพวกเขาให้หายไปในตอนนี้

 

สตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูนได้บังคับยานอวกาศให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ปีกขนาดใหญ่ของสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นกำลังกระพือออกมาจนเกิดเเรงลมขนาดใหญ่

 

“มันกำลังจะบิน?มันบินได้จริง ๆ งั้นหรอ!?”เห็นภาพที่ปรากฏขึ้นเดดพูลตะโกนออกมาอย่างไม่เชื่อ

 

ติ๊ด~

 

“ผลการวิเคราะห์ สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้ควรมีปีกตั้งเเต่เริ่มเเต่เวลาปกติมักจะซ่อนปีกไว้ใต้ผิวหนังส่วนเกราะด้านหลัง หากตรวจพบศัตรูที่ยากจะเกินรับมือ จะเปลี่ยนคุณลักษณะเพื่อตอบโต้ศัตรูโดยธรรมดา ผลสรุป ที่ได้ก็คือปีกใสคู่นั้น”ระบบอัจฉริยะของยานอวกาศได้ประมวลผลให้ สตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูนเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้

 

“ถ้ารู้ว่ามันมีปีก ฉันคงไม่นำยานอวกาศเสี่ยงเข้ามาต่อสู้กับมันอย่างเเน่นอน!”เห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้กำลังกางปีกออก สตาร์ลอร์ด สบถด่าออกมา

 

“เป็นไปได้ยังไง นี่มันฉีกกฏของสิ่งมีชีวิตเเทบจะทุกสายพันธุ์ที่ฉันรู้จักเลยด้วยซ้ำ สัตว์ประหลาดที่สามารถเปลี่ยนเเปลงคุณลักษณะของตนเองเพื่อตอบโต้สถานการณ์ของศัตรู?บนโลกนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้อยู่อีกงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เดดพูล พูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

“เเม้ว่ามันจะเปลี่ยนรูปร่างเพื่อตอบโต้สถานการณ์ของศัตรูได้ เเต่มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ยังไงก็เถอะนี่ไม่ใช่เวลาที่พวกเราจะมาหารือกันเเล้วตอนนี้ มันกำลังไล่ตามมาเเล้ว!”ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเรคคูน เห็นร่างขนาดยักษ์กำลังบินตรงมาหาพวกเขา

 

“เวรเเล้ว…มันกำลังมุ่งตรงมาหาพวกเรา”เดดพูลตะโกนขึ้นอย่างตกใจ

 

“เร็วเข้า วิเคราะห์มาตราการตอบโต้ศัตรู ปรับสถานะการบินเป็นความเร็วสูงสุด!”เห็นเดดพูลตะโกนออกมา สตาร์ลอร์ดกล่าวสั่งการอย่างบ้าคลั่ง

 

“ตอบโต้?พวกเราจะจัดการมันได้งั้นหรอ?”สตาร์ลอร์ดกล่าวถามออกมา

 

ตอนนี้เดดพูลได้อยู่บนยานอวกาศกับพวกสตาร์ลอร์ด หากพวกเขาพลาดก็คือจบ ในความคิดของเดดพูลการจะจัดการสัตว์ประหลาดนั่นมันเเทบจะเป็นไปไม่ได้

 

“มันมาเเล้ว! มันมาเเล้ว!”เดดพูลตะโกนร้องอย่างสั่นกลัว

 

“เจ้านายคะ,ประมวลผลออกมาได้เเล้ว หากเราหลบหนีขึ้นชั้นบรรยากาศเรามีโอกาสที่จะตอบโต้เเละกำจัดมันได้ร้อยเปอร์เซ็น”ระบบอัจฉริยะของสตาร์ลอร์ดได้ตอบกลับความคิดนี้

 

ได้ยินคำแนะนำของระบบอัจฉริยะสตาร์ลอร์ดครุ่นคิดบางอย่าง

 

“ไม่ดีเเน่หากเราหลบหนีออกไปเเละมันไม่ไล่ตามเรามันก็จะมุ่งเล็งไปยังตำเเหน่งของมิราจไนท์ ในสถานการณ์ปัจจุบันพวกเราไม่สามารถหลบหนีอย่างเดียวได้”

 

“จริงด้วย! พวกเราไม่สามารถให้มันกลับไปเพ่งเล็งมิราจไนท์ได้”เดดพูลเเม้จะหวาดกลัวเเต่เขาก็เชื่อในความคิดเดียวกันกับ สตาร์ลอร์ด หากเขาเร่งรีบกระโดดขึ้นชั้นบรรยากาศเเละมันไม่ตามมาโอกาสที่มันจะกลับไปสนใจมิราจไนท์มีเปอร์เซ็นสูงกว่ามาก

 

“คงต้องลองเสี่ยงเเล้ว!”สตาร์ลอร์ดได้ควบคุมเเท่นบังคับยานอย่างรวดเร็ว

 

เขาจะต้องล่อสัตว์ประหลาดนี้ออกไปให้ไกลที่สุด หากได้ เเรคคูน เเละ ระบบอัจฉริยะของเขาเเล้วล่ะก็ บางที เขาอาจจะสามารถจัดการมันได้

 

ปั้ง ปั้ง ปั้ง!

 

บนเเท่นบังคับ สตาร์ลอร์ด ได้ กระหน่ำยิงปืนพลังงานออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

บึ้ม

 

ขณะเดียวกัน เเจ็คสัน ที่อยู่เหนือป่าเล็กน้อยตอนนี้เขากำลังปลดปล่อยพลังจิตอย่างบ้าคลั่งเพื่อค้นหาร่างหลักของรากไม้สีดำ

 

ด้วยพลังจิตที่เเข็งเเกร่งของเขาพื้นที่รัศมีเเถบนี้เเทบจะอยู่ในการสอดส่องของเขาทั้งหมด

 

บึ้ม!

 

เพียงเเต่ว่าเสียงที่เกิดขึ้นรอบนอกทำให้ เเจ็คสัน ต้องขมวดคิ้วเเน่นทันที

 

“สัตว์ประหลาดนั่นสามารถบินได้?ไม่เเปลกใจที่ระบบประเมินให้มันเป็นสัตว์ประหลาดที่เเข็งเเกร่ง นอกจากจะมีค่าพลังกายที่สูงเเล้วมันยังมีความสามารถที่น่ากลัว!”เเจ็คสันจ้องมองไปที่ด้านบน

 

ภายใต้ผลกระทบที่น่ากลัวสัมผัสของเเจ็คสันสามารถครอบคลุมจนเห็นพวกสตาร์ลอร์ดที่กำลังหลอกล่อสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นอยู่ เดิมทีเเจ็คสันเองก็อยากไปช่วยเเต่ยังไงพวกสตาร์ลอร์ดก็ช่วยเเบ่งเบาหน้าที่ของเขาเเล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือเขาต้องเร่งหาร่างหลักของรากไม้สีดำ

 

“มา…ให้ฉันเห็นร่างหลักที่เเท้จริงของเเกหน่อย!”

บึ้ม!

 

ภายใต้การโจมตีด้วยอาวุธปืนของยานอวกาศ สัตว์ประหลาดยักษ์นั่นได้ถูกดึงดูดความสนใจไปทางทิศทางของสตาร์ลอร์ดทันที

 

“สัตว์ประหลาดยักษ์นั่นกำลังหันสนใจพวกสตาร์ลอร์ด…หรือว่าฉันควรใช้โอกาสนี้ในการเเก้ปัญหาที่เหลือ?”วิสัยทัศน์ของเเจ็คสันจ้องมองไปที่ทิศทางพวกสตาร์ลอร์ดเเละสัตว์ประหลาดยักษ์ ก่อนที่เขาจะจ้องมองไปที่ด้านล่างเเละหยุดคิดครู่นึง

 

ด้านล่างก็คือสัตว์ประหลาดรากไม้สีดำเเม้ว่าพวกมันจะไม่สามารถโจมตีเเจ็คสันบนอากาศได้เเต่พวกมันก็เป็นปัญหาใหญ่หากเขาตกลงไปด้านล่าง สัตว์ประหลาดทั้งสองตัวนี้จะต้องให้ค่าเเต้มคะแนนเเก่เเจ็คสันมหาศาลเเน่นอนเมื่อคิดถึงมันเขาก็อดที่จะดีใจไม่ได้

 

“ตั้งเเต่ที่เเกพยายามจะฆ่าฉันมันถึงเวลาที่ฉันจะต้องลากคอร่างหลักของเเกออกมาให้ได้ในวันนี้”ถ้าร่างหลักของสัตว์ประหลาดรากไม้สีดำถูกทำลายเเจ็คสันก็จะไม่ถูกกวนโดยพวกมันอีก นอกจากนี้สำหรับสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นก็ปล่อยให้พวกสตาร์ลอร์ดรับต่อไป

 

“ให้ฉันดูหน่อยเถอะว่าร่างหลักของเเกอยู่ที่ไหน?”เมื่อเเจ็คสันได้ตัดสินใจเขาก็ปลดปล่อยเทคนิครู้เเจ้งออกมาทันที พลังจิตจำนวนมหาศาลได้กรูออกมา

 

ฟู่วว!

 

ด้วยเทคนิครู้เเจ้งเเละพลังจิตมหาศาลของเเจ็คสัน ส่งผลให้เกิดคลื่นพลังจิตที่รุนเเรงวนเวียนอยู่ภายในพื้นที่ พลังจิตของเเจ็คสันเพิ่มขึ้นเเข็งเเกร่งกว่าเเต่ก่อนมากนั่นเป็นผลที่เขาได้ย่อยผลไม้จิตวิญญาณฟ้าอย่างสมบูรณ์

 

….

 

ติ๊ดดด

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังมุ่งมั่นตั้งใจหาร่างหลักของสัตว์ประหลาดรากไม้สีดำ จู่ ๆ ในห้องคนขับบนยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดก็ปรากฏเสียงดังเเจ้งเตือน

 

“ตรวจพบความผันผวนของคลื่นวิญญาณ!”ระบบอัจฉริยะของยานอวกาศสตาร์ลอร์ดได้เเจ้งเตือนอย่างรวดเร็ว

 

ติ๊ดด

 

ได้ยินรายงานของระบบอัจฉริยะของตัวเอง สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ที่เดิมสนใจสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นอยู่เป็นอันต้องตกใจในทันที

 

“หรือว่าจะเป็นฝีมือของมิราจไนท์?”เดดพูลพอได้ยินเสียงเเจ้งเตือนของระบบอัจฉริยะบนยานสตาร์ลอร์ดเขาครุ่นคิดออกมาทันที

 

เดดพูลนั้นต่างออกไปราวกับว่าเขาคุ้นเคยสิ่งที่เรียกว่าคลื่นวิญญาณนี้อันที่จริงคลื่นวิญญาณนี้ก็คือความเข้มข้นของพลังจิตระดับสูงเขาที่เป็นมิวแทนท์ต่างคุ้นเคยดี ก็เพราะว่ามีมิวแทนท์ที่สามารถใช้พลังจิตได้เก่งกาจอย่างศาสตราจารย์ชาร์ลส์ผู้โด่งดัง

 

ดังนั้นพอได้ยินเสียงเตือนเดดพูลจึงไม่รู้สึกเเปลกใจเท่าไหร่

 

“มิราจไนท์ ทำให้เกิดความผันผวนของคลื่นวิญญาณผันเเปรปนี้งั้นหรอ?”สตาร์ลอร์ดจ้องมองไปที่เดดพูลทันที

 

“คลื่นวิญญาณผันเเปร?ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจนักหรอก เเต่มิราจไนท์ได้ฝึกฝนจนมีพลังจิตที่เเข็งเเกร่ง ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาฝึกฝนมันยังไง”ได้ยินคำถามของสตาร์ลอร์ด เดดพูล ตอบเงียบ ๆ

 

“สามารถสร้างคลื่นวิญญาณผันเเปรได้ เขามีพลังจิตที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก เเต่นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง!”สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

เเรคคูนเเละสตาร์ลอร์ด ได้ท่องจักรวาลมาก็หลายปี พวกเขาได้พบเจอประสบการณ์จำนวนมากในหลายปีที่ผ่านมา เเน่นอนว่าในจักรวาลอันไร้สิ้นสุดนี้มีเผ่าพันธุ์ที่เเข็งเเกร่งอยู่จำนวนมาก เเละเผ่าพันธุ์ที่สามารถใช้พลังจิตที่น่าเกรงขามนี้ได้ก็มีเช่นเดียวกัน เเต่เรื่องพลังจิตนั้นเป็นสิ่งที่ลึกลับของทุกเผ่าพันธุ์เเม้เเต่เผ่าพันธุ์ระดับสูงก็ยังรู้สึกหวาดกลัวต่อพลังที่ว่านี้ จะเรียกว่ามันเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็ว่าได้ เพราะแบบนี้ พวกทหารรับจ้างอย่างสตาร์ลอร์ดที่เดินทางท่องอวกาศไปจำนวนมากเขาก็ยังไม่กล้าเเม้เเต่จะเฉียดเข้าไปใกล้เผ่าพันธุ์ที่ครอบครองพลังจิตเหล่านั้น นั่นเป็นเหตุผลที่เขารู้สึกตกใจกับความน่าเกรงขามของมิราจไนท์

 

“เป็นไปไม่ได้?คลื่นวิญญาณผันเเปรที่นายว่านี่อาจจะดูหายากในสายตาของนาย เเต่บุคคลที่โลกคนที่สามารถใช้พลังจิตได้เเม้จะมีน้อยเเต่ก็ยังพอมีคนที่ใช้ได้อยู่เช่นเดียวกัน”เดดพูลอธิบาย

 

“บนโลกยังมีคนที่สามารถใช้พลังจิตได้อีก?เป็นไปได้ยังไง?ฉันจำได้ว่าโลกเป็นสถานที่ธรรมดา ๆ ไม่ใช่หรอ?”ได้ยินว่าเดดพูลบอกว่าบนโลกมีคนที่สามารถใช้พลังจิตได้อีก สตาร์ลอร์ด รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

เเม้ตอนนี้เขาจะกำลังเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดยักษ์ เเต่สตาร์ลอร์ดกลับไม่ได้สนใจเเม้เเต่น้อย

 

“ธรรมดา?ตอนนี้โลกไม่ใช่สถานที่ธรรมดาที่นายรู้จักอีกต่อไปเเล้ว”เดดพูล พูดด้วยเสียงนุ่มลึกทันที

 

อ๊า!

 

“เดี๋ยว ๆ นั่นมันอะไร!?”ขณะที่สตาร์ลอร์ดกำลังฟังคำพูดของเดดพูล จู่ ๆ เเรคคูน ก็เห็นบางสิ่งที่ปรากฏขึ้นบนตัวของสัตว์ประหลาด

 

มือเล็ก ๆ ของเเรคคูนได้คว้าจับไปที่หน้าจออย่างตั้งใจจากนั้นเขาก็เน้นไปตรงที่จุดด้านหลังของสัตว์ประหลาดยักษ์ ด้านหลังของมันเต็มไปด้วยบาดเเผลจำนวนมาก ส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือของมิราจไนท์

 

ผิวของสัตว์ประหลาดยักษ์เริ่มเปล่งเป็นสีเเดงมากขึ้นราวกับว่ามันกำลังทำอะไรบางอย่าง เเรคคูน จ้องมองเเละซูมภาพเข้าไปใกล้มากขึ้นในที่สุดผิวสีเเดงที่ว่านั้นก็ปริเเตกออก

 

เปรี๊ยะ

 

เกล็ดของสัตว์ประหลาดยักษ์ได้หลุดลอกออกมาเนื้อสีดำที่ถูกเผาไหม้บางส่วนได้หลุดออกมาจำนวนมาก จากนั้นสิ่งที่ดูเหมือนครีบฉลามโปร่งใสขนาดยักษ์สองคู่ก็ปรากฏออกมาจากด้านหลังของสัตว์ประหลาดยักษ์

เห็นปากขนาดใหญ่ยักษ์พุ่งตรงเข้ามายังเบื้องหน้าของตนเอง เเจ็คสันได้ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าพื้นที่มิติของเขา

 

“ลองลิ้มรสชาติของระเบิดพลังนิวเคลียร์นี่หน่อยเป็นไง!”เเจ็คสันได้โยนระเบิดเข้าไปในปากของสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นขณะที่มันกำลังพุ่งเข้ามา

 

เขาได้เเลกเปลี่ยนระเบิดพลังนิวเคลียร์ขนาดเล็กนี้มาจำนวนมาก เพียงเเต่รัศมีพลังระเบิดนั้นค่อนข้างน่ากลัวเเจ็คสันจึงไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้ ทั้งเขายังต้องการทดสอบความเเข็งเเกร่งของสัตว์ประหลาดนี่ด้วย

 

งับ!

 

หลังจากเเจ็คสันโยนระเบิดเข้าไปในปากมันเขาก็ถอยหลบออกมาอย่างว่องไว ปากขนาดยักษ์นั่นได้งับลมเข้าไปปเต็ม ๆ เเน่นอนว่ามันไม่รู้ว่ามีสิ่งใดได้หลุดเข้าไปปในปากของมันราวกับว่ามันไม่สามารถสัมผัสถึงได้

 

บึ้ม!

 

ขณะที่สัตว์ประหลาดยักษ์กำลังหันศีรษะจ้องมองไปทางเเจ็คสันจู่ ๆ ปากของมันก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างฉับพลัน ดวงตาทั้งสี่ข้างของสัตว์ประหลาดยักษ์ตนนี้ได้เผยรูปลักษณ์เเห่งความโกรธ

 

ฟิ้ว!

 

หลังจากเกิดการระเบิดเเล้วสัตว์ประหลาดยักษ์ตนนี้ก็ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดพร้อมกับมีเลือดสีเขียวเเละฟันเขี้ยวอันเเหลมคมของมันที่หลุดออกมา

 

“ก๊าซซซ~~~~~~!”สัตว์ประหลาดตนนี้ยังคงคำรามอย่างต่อเนื่องเเต่เพราะปากของมันได้รับบาดเจ็บจึงไม่สามารถคำรามออกมาได้นานนัก

 

ลำตัวของมันได้ส่ายไปมาอย่างต่อเนื่อง เเจ็คสัน ได้จ้องมองภาพเบื้องหน้าอย่างสุขใจ สัตว์ประหลาดยักษ์ตนนี้เเม้จะได้รับบาดเจ็บเเต่เเววตาอาฆาตสีเเดงที่ว่านั่นกลับเผยให้เห็นถึงความโกรธอย่างเห็นได้ชัด

 

“ก๊าซซ~~~”ฟันจำนวนมากของสัตว์ประหลาดตนนี้ได้หลุดออกไปมากกว่าครึ่ง เดิมฟันเขี้ยวอันเเหลมคมที่มีจำนวนมากกลับลดหายลงหวบในเวลาสั้นๆ

 

สัตว์ประหลาดตนนี้เเม้จะคำรามอย่างโกรธเเค้น เเต่เเจ็คสันหาได้สนใจ กลับกันเขากลับรู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก ทุกสิ่งมีชีวิตย่อมมีจุดอ่อนเสมออย่างน้อยภายในร่างกายของคนเราก็ย่อมเป็นจุดที่บอบบางที่สุด

 

“หึ่ม! คิดจะกินฉัน?ทีนี้ได้กินสมใจอยากเเล้วเป็นยังไงบ้าง?”เห็นก้ามปูที่พุ่งเข้ามา เเจ็คสัน ได้กระโดดหลบไปยังอีกทิศทางเเละยิ้มออกมาอย่างร่าเริง

 

ฟุ่บ!

 

ขณะเดียวกันเเจ็คสันก็เฝ้ามองเงาด้านล่างที่กำลังรอเขาอยู่พวกมันราวกับว่ากำลังเคลื่อนตัวหรือกำลังทำอะไรบางอย่างเพื่อเตรียมจะจัดการเขา

 

เเจ็คสันได้ลอยเหนือพื้นดินมากกว่า 10 เมตร เขาไม่ได้กังวลว่าเงารากไม้สีดำพวกนั้นจะสามารถโจมตีตนเองกลางอากาศได้ เเต่ก็มีบางสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกกังวลอยู่

 

“ในช่วงเวลาสั้น ๆ ฉันได้ใช้พละกำลังภายในไปจำนวนมาก เเละ เห็นได้ชัดว่า ฉันกำลังเหนื่อยล้าอยู่ หากต้องรับมือกับพวกมันต่อไปแบบนี้ อีกไม่นานฉันคงต้องเป็นฝ่ายพ่ายเเพ้อย่างเเน่นอน!”เเจ็คสันกำสปิริตซอร์ดของเขาเเน่นพร้อมกับครุ่นคิดในใจ

 

ก่อนหน้านี้เเม้เเจ็คสันจะถูกโจมตีจากสัตว์ประหลาดทั้งสองฝ่าย เเต่เขาก็ผ่านวิกฤติเหล่านั้นมาด้วยพละกำลังภายในเเละความสามารถของเขาเเต่เนื่องจากเขาใช้พลังมากเกินไปเป็นธรรมชาติที่เขาจะต้องรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะหมดเเรงในที่สุด

 

“หากจะว่าตามตรงพวกที่จัดการยากที่สุดก็คงจะเป็นตัวที่อยู่ด้านล่างพวกมันมีเยอะเกินไป ต่อให้ฉันทุ่มทั้งหมดที่มีก็ใช่ว่าจะสามารถกำจัดพวกมันทั้งหมดได้”

 

เเจ็คสันไม่ต้องการเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดทั้งสองอย่างยืดเยื้อนัก เขาต้องการจบศึกต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด ดังนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการเเยกพวกมันออกจากกัน

 

อาการบาดเจ็บของเเจ็คสันกำลังจะตีกลับพลังป้องกันของชุดสูทของเขาเองก็ลดลงอย่างมหาศาล

 

ฟู่ว!

 

ระหว่างที่เขาครุ่นคิดว่าจะจัดการกับสัตว์ประหลาดทั้งสองนี่ยังไง เเจ็คสันก็หลบเลี่ยงการโจมตีไปด้วยหากเขาสามารถกำจัดสัตว์ประหลาดพวกนี้ได้เขาจะต้องได้รับเเต้มคะแนนมหาศาลอย่างเเน่นอน เเจ็คสันย่อมไม่ปล่อยผ่านความคิดนี้ เเต่ดูเหมือนว่าเขาจะลืมบางสิ่งบางอย่างไป

 

บึ้ม บึ้ม บึ้ม

 

เเจ็คสันที่ใช้สปิริตซอร์ดของเขาเเละปลดปล่อยท่า คลื่นผ่าวิญญาณออกมาเพื่อกำจัดศัตรูจู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เเจ็คสันได้หันไปมองยังทิศทางที่เกิดระเบิด เดิมเเจ็คสันที่วางเเผนจะหลบหนี เขากลับได้เปลี่ยนความคิดทันที เขาลืมพวก สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ไปได้ยังไง

 

 

“จัดการมัน,เล่นมันให้ตายเลย!”เดดพูลที่อยู่ในห้องคนขับเขาได้ตะโกนออกมาขณะที่จ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดยักษ์ด้านนอก

 

หลังจากสตาร์ลอร์ดได้ขึ้นยานอวกาศลำนี้มาเเละพบกับเเจ็คสัน เดิมเขาคิดว่ามิราจไนท์กำลังจะตกอยู่ในอันตราย เเต่กลับกลายเป็นว่ามิราจไนท์กำลังรับมือกับศัตรูได้อย่างสูสี หลังจากฟื้นคืนสติกลับมาได้ สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ก็เริ่มมาตราการตอบโต้การโจมตีทันที เสียงที่ เเจ็คสันได้ยินนั้นก็คือเสียงของปืนใหญ่พลังงานของยานอวกาศของสตาร์ลอร์ด

 

ภายใต้การโจมตีด้วยปืนพลังงานของยานอวกาศ สตาร์ลอร์ด ได้โจมตีสัตว์ประหลาดยักษ์เเละซุ่มโจมตีมันจากด้านหลัง ซึ่งเเน่นอนว่า สัตว์ประหลาดยักษ์ที่ ถูกโจมตีมันรู้สึกโกรธมากมันได้ใช้หางขนาดใหญ่ยาวของมันฟาดสวนกลับไป เเต่เพราะความคล่องตัวเเละความสามารถการบินที่สูงของยานอวกาศทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีที่ว่านี่ได้ทั้งหมด ตอนนี้ร่างกายของสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ก็เหมือนกับเป้านิ่งที่รอให้พวกเขาซ้ำเติมเพียงเท่านั้น

 

ปั้ง!

 

กระสุนพลังงานจำนวนมากได้ยิงเข้าสู่ลำตัวของสัตว์ประหลาดยักษ์เเต่มันเเข็งเเกร่งเกินไป ดูเเล้วไม่ใช่เรื่องง่ายที่อาวุธของยานอวกาศของพวกสตาร์ลอร์ดจะกำจัดมันได้ง่าย ๆ

 

“เเกมันก็เเค่เป้านิ่งล่ะวะ! เเน่จริงจับพวกเราให้ได้สิ!”ในยานอวกาศสตาร์ลอร์ดตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง

 

อ๊า!

 

ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ดเเละท่าทีการเเสดงออกของเดดพูลได้เปลี่ยนไปทันที

 

“นายพูดว่าอะไรนะ?มิราจไนท์กำลังตกอยู่ในอันตราย!”เดดพูลกล่าวถามด้วยเสียงเเข็งทันที

 

สำหรับเดดพูล เเม้เขาจะถูกส่งมานอกโลกเเต่การที่มีมิราจไนท์อยู่เป็นเพื่อนทำให้เขาหายกังวล ก่อนหน้านี้เดดพูลได้ถูกช่วยเหลือไว้โดยมิราจไนท์หลายครั้ง เเล้วเขาเองก็เชื่อมั่นในความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์ นั่นเป็นเหตุผลที่เขารู้สึกเคารพในตัวมิราจไนท์อย่างมาก แต่ คนเหล่านี้กลับบอกว่า มิราจไนท์กำลังตกอยู่ในอันตราย ?

 

“เดิมพวกเรากำลังสำรวจร่องรอยบนพื้นดินที่อยู่ในส่วนลึกของหุบเขาเมื่อไมม่นานมานี้ เเต่เราได้พบกับการโจมตีของรากไม้สีดำ”ได้ยินคำถามของเดดพล สตาร์ลอร์ด ได้พยายามอธิบายออกมา

 

“รากไม้สีดำ?เป็นไปไม่ได้ เเม้ว่าพวกมันจะมีเยอะ เเต่มันเเทบจะไม่ได้เป็นภัยคุกคามสำหรับมิราจไนท์ ฉันรู้ซึ้งถึงความเเข็งเเกร่งของเขาดี”ได้ยินคำตอบของสตาร์ลอร์ด เดดพูล รู้สึกไม่เชื่อในเรื่องนี้

 

“ฉันคิดว่า…นายลองมองดูเองเเล้วจะรู้”ภายใต้การซักถามจำนวนมากของเดดพูล สตาร์ลอร์ด คร้านที่จะอธิบาย เขากล่าวบอกเดดพูลให้มองออกไปนอกยานอวกาศ

 

ตึง!

 

!

 

ทันทีที่เดดพูลเบนความสนใจออกไปที่ด้านนอกยานอวกาศผ่านกระจกใสเขาก็เห็นภาพที่ชวนให้ตื่นตะลึงมันเหมือนกับไดโนเสาร์ยักษ์สูง 100 เมตร ตัวใหญ่มีหางเป็นงู ตัวของมันใหญ่เเทบจะเทียบเท่ากับ 3-4 อาคารเอามาต่อกัน สัตว์ประหลาดนั่้นกวัดเเกว่งกรงเล็บกล้ามปูยักษ์เพื่อโจมตีทุกสิ่งอย่างบ้าคลั่งทุกที่ ที่สัตว์ประหลาดตัวนี้ย่างกรายเข้าไปมันได้ทำให้พื้นที่เเถบนั้นต่างถูกทำลายทั้งสิ้น

 

“เป็นมัน!”เห็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่มหึมานั่น เดดพูล รู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังสั่นสะท้าน เขาเคยโดนหางสัตว์์ประหลาดนั่นทุบตีเเล้วเกือบจะถูกเขมือบลงท้องของพวกมันไปเเล้ว

 

“มิราจไนท์อยู่ตรงนั้น! เขากำลังรับมือกับมันอยู่! นั่นมันอะไร? พระเจ้า…”ขณะที่เดดพูลกำลังตกตะลึงกับภาพสัตว์ประหลาดยักษ์ด้านหน้า เเร็คคูน ก็ตะโกนออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

หลังจากเเรคคูนตะโกนคำเหล่านี้ออกมากรงเล็บน้อย ๆของเขาก็ได้นำพาตัวเขาไปเกาะหน้าจอโปร่งเเสงที่ว่านี่ เขาจ้องมองภาพที่เห็นอย่างตกตะลึง เเน่นอนว่าไม่ใช่เพียงเเค่เเร็คคูนเพียงคนเดียว เเม้เเต่ สตาร์ลอร์ด เเละ เดดพูล ก็ตกใจ

 

ฟุบ ฟุบ ฟุบ

 

ภาพที่พวกเขาเห็นนั้นถูกขยานให้ชัดมากขึ้น เเร็คคูนเห็นได้ชัดว่า มิราจไนท์ในตอนนี้กำลังลอยอยู่บนอากาศพร้อมกับหลีกเลี่ยงการโจมตีที่เกิดขึ้นทุกทิศทาง ในขณะที่เขาหลีกเลี่ยงเขาก็ใช้ดาบของตนเองในการสวนกลับการโจมตี

 

การโจมตีของ เเจ็คสัน ได้สร้างบาดเเผลให้กับสัตว์ประหลาดยักษ์ ทุกการฟาดฟันเขาจะทิ้งรอยเเผลไว้เเต่ละครั้ง มันถือเป็นความประสบความสำเร็จในการโจมตีอย่างมาก เขาได้ใช้ทักษะเหยียบอากาศในการหลบหลีกการโจมตีของสัตว์ประหลาดยักษ์ทุกครั้งหากเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เเจ็คสันก็คงจะชนะอย่างไม่ต้องสงสัย

 

!

 

ปั้ง

 

เป็นอีกครั้งนึงที่เเจ็คสันได้หลีกเลี่ยงการโจมตีด้วยกรงเล็บยักษ์ของสัตว์ประหลาด ขณะที่ เเจ็คสันให้ความสนใจกับการโจมตีด้วยกรงเล็บยักษ์ของอีกฝ่าย จู่ ๆ ก็มีเงายาวพุ่งเข้ามาโจมตีเขาในขณะที่เขาไม่ทันได้ตอบสนองได้ทัน

 

เปรี้ยง!

 

เเจ็คสันได้ถูกหางของสัตว์ประหลาดฟาดลงมาอย่างหนักหน่วงโชคดีที่เขาใช้ดาบกันไว้ได้ไม่งั้นเขาคงต้องบาดเจ็บหนักอย่างเเน่นอน

 

อั๊ก!

 

ทันทีที่เเจ็คสันตกลงสู่พื้นก็มีเงาที่คุ้นเคยปรากฏออกมา คราวนี้จะเรียกว่าเงาก็ไม่ได้เพราะมันมีมากเกินไปจนเขาสามารถเห็นรูปร่างได้ชัดเจน

 

“เวรเอ้ย! พวกมันร่วมมือกันในการจัดการฉันงั้นหรอ?”เห็นรากไม้สีดำที่ปรากฏขึ้นจำนวนมาก ผิวของเเจ็คสันกลายเป็นหน้าเกลียดขึ้นทันที

 

เเจ็คสันได้พลาดท่าในการป้องกันการโจมตีของสัตว์ประหลาดเมื่อครู่ เขาได้ถูกส่งให้ตกลงมายังพื้นดิน ทันทีที่เขาตกสู่พื้นดินก็มีรากไม้สีดำรอต้อนรับเขาอยู่ รากไม้สีดำพวกนี้ไม่สามารถบินได้ดังนั้นมันจึงรอฉวยโอกาสตอนที่เเจ็คสันได้เหยียบย่างลงสู่พื้นดินอีกครั้ง

 

วินาทีนั้นเองเเจ็คสันเเทบจะไม่มีเวลาได้คิดอะไรจู่ ๆ รากไม้สีดำพวกนั้นก็พุ่งกรูเข้ามาจู่โจมเขาจากทุกทิศทาง เดิมบาดเเผลที่ไม่เคยได้รับจากการต่อสู้ ก็กลับเป็นทวีคูณมากขึ้น โชคดีที่ชุดสูทเเพนท่อมของเขามีการป้องกันเป็นจุดเเข็งที่ดี ดังนั้นเขาจึงสามารถป้องกันจุดสำคัญของร่างกายเอาไว้ได้

 

ฟวั่บ!

 

เผชิญหน้ากับรากไม้สีดำจำนวนมาก เเจ็คสัน ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามที่ต้องการ เขาได้กระโดดขึ้นไปบนอากศอีกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีก่อนที่จะรวบรวมพลังงานเเละใช้ท่า คลื่นผ่าวิญญาณ กวาดผ่านพวกรากไม้สีดำที่พุ่งโจมตีเขา

 

กี้ กี้ กี้

 

หนึ่งดาบของเเจ็คสันได้ตัดฆ่าพวกมันไปหลายชีวิตเขาได้ใช้สกิลของตนเองในการเปิดทางเเละหลบหนีออกมาได้ทันช่วงเวลาพอดี

 

หลังจากเปิดทางพวกมันเสร็จ กลิ่นคาวคละคลุ้งจากเลือดสีเขียวจำนวนมากก็ลอยโชยออกมาจนส่งกลิ่นเหม็น เเจ็คสันไม่มีเวลาจะมามัวสบถด่ากับกลิ่นเหล่านี้เพราะจู่ ๆ ปากขนาดใหญ่ของสัตว์ประหลาดยักษ์ก็พุ่งเข้ามาหาเขา ตอนนี้ ปากของมันอยู่ห่างจากเเจ็คสันเเทบไม่ถึง 5 เมตร ฟันอันเเหลมคมจำนวนมาก ราวกับว่าสามารถบดขยี้ทุกสิ่งที่มันกลืนลงไปได้

 

“คิดจะกินฉัน?ฉันจะจัดให้ชุดใหญ่เลย!”เเจ็คสันจ้องมองไปที่ปากขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้ามา เขาได้ดึงบางสิ่งออกมาจากพื้นที่มิติของเขา

เผชิญหน้ากับการโจมตีของรากไม้สีดำ เเจ็คสันไม่ได้สนใจเขาจ้องมองไปยังอีกทิศทางนึงซึ่งเป็นทางที่เขาตระหนักได้ถึงบางอย่างมันคือสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวใหญ่ที่เขาเคยเจอก่อนหน้านี้

 

สิ่งที่เขากังวลในที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้นเเม้จะได้รับความช่วยเหลือจากทีมพิทักษ์จักรวาลเเละการเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันเเต่เเจ็คสันก็ไม่อยากดึงพวกเขาเข้ามาเสี่ยงกับสัตว์ประหลาดตนนี้

 

โฮก!!!

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังจ้องมองไปยังทิศทางของสัตว์ประหลาดยักษ์ ,สัตว์ประหลาดยักษ์มันก็คำรามออกมาจน เเรคคูน เเละ สตาร์ลอร์ดได้ยิน จากนั้นผืนดินโดยรอบก็สั่นสะเทือนอย่างรุนเเรง เพียงเเต่พวกเขาไม่มีเวลาให้สนใจสิ่งอื่นมากนัก การโจมตีของรากไม้สีดำจำนวนมากนี้ ได้เกินขีดจำกัดของพวกเขา เพราะพวกเขาไม่มีวิธีจัดการพวกมันได้อย่างรวดเร็ว เเละ เเม้จะจัดการไปจำนวนของพวกมันก็ราวกับไม่ได้ลดลงเเม้เเต่น้อย

 

“มิราจไนท์ นายพอจะมาช่วยพวกเราหน่อยได้มั้ย?”ขณะที่กำลังปิดกั้นการโจมตีของเงารากไม้สีดำ สตาร์ลอร์ด ได้กล่าวพูดออกมาเพราะเห็นมิราจไนท์ที่อยู่ด้านหลังพวกเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

 

“อันตรายกำลังใกล้เข้ามา”เพียงเเต่ เเจ็คสันไม่ได้สนใจสตาร์ลอร์ด เขากล่าวออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

“อันตรายงั้นหรอ?ที่เรากำลังเผชิญอยู่นี่ไม่ใช่ว่ามันอันตรายเเล้วหรอกหรอ?”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ด รู้สึกหัวเสียอย่างมาก

 

ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้บอกเเก่ทั้งสองคนไปเเล้วว่าในป่านี้มีสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวมากกว่ารากไม้สีดำอยู่ ซึ่งตอนนั้นเเรคคูนเเละสตาร์ลอร์ดราวกับไม่ได้สนใจ เเต่ตอนนี้ สัตว์ประหลาดดังกล่าวกำลังจะมุ่งหน้ามาที่นี่ เเจ็คสันอย่างน้อยก็ต้องปกป้องพวกเขาทั้งสองคน

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่สตาร์ลอร์ดกำลังสบถออกมาจู่ ๆ บนท้องฟ้าก็มีเงาขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นรูปลักษณ์ปรากฏขึ้น สตาร์ลอร์ดได้จ้องมองไปข้างบนเพียงเเต่เขาไม่พบอะไรนี่มันค่อยข้างเเปลกอย่างมาก

 

“เกิดอะไรขึ้น?”เห็นเหนือศีรษะของตนเองมีเงาบดบังอยู่ สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน รู้สึกอยากรู้อยากเห็น

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่คนที่รู้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้มีเพียงเเจ็คสันเท่านั้นเขาได้เข้ารับมือจัดการศัตรูเงารากไม้สีดำที่พวกสตาร์ลอร์ดกำลังเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้

 

“ที่นี่ฉันจัดการเอง! รีบหนีไปเร็วเข้า!”เเจ็คสันกล่าวออกมา

 

!

 

สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ในที่สุด พวกเขาก็เห็นขนาดนั้นเองก็ปรากฏมือที่เหมือนก้ามปูขนาดยักษ์โผล่ออกมามันกำลังพุ่งตรงมาที่พวกเขา โชคดีที่ มิราจไนท์ ไหวตัวทัน เขาได้กระโดดขึ้นไปบนอากาศเเละใช้ดาบของตนเองในการต้านทานการฟันของศัตรู

 

~~~

 

สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ไม่รู้ว่านี่มันตัวอะไร มันมีขนาดมือที่ใหญ่อย่างมาก โชคดีที่ คลื่นผ่าวิญญาณของเเจ็คสันสามารถหยุดศัตรูเอาไว้ได้เล็กน้อยมันเลยทำให้ พวกสตาร์ลอร์ดมีเวลาได้สติกลับคืนมา

 

ฟุ่บ!

 

“สัตว์ประหลาดนั่นมันตัวอะไรกันเเน่?”ได้สติกลับคืนมาเเรคคูน ที่กำลังโจมตีรากไม้สีดำ เขาล่าถอยด้วยความกลัวทันที

 

“หรือว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดที่มิราจไนท์บอกว่ามีขนาดตัวใหญ่เท่ายานอวกาศของฉัน?”สตาร์ลอร์ดเองก็พื่งฟื้นคืนจากอาการตกใจเมื่อครู่ เขาได้รวบรวมความคิดเล็กน้อย

 

ตอนนี้ เเรคคูน เเละ สตาร์ลอร์ด ได้เห็นความเเข็งเเกร่งของสัตว์ประหลาดที่ เเจ็คสันบอกเมื่อครู่ไปเเล้ว เดิม พวกเขาไม่ได้สนใจสัตว์ประหลาดพวกนี้มากนัก เเต่ตอนนี้ ถ้าจะให้พวกเขาไม่สนใจก็ไม่ได้

 

“อะไรกัน?ไหนบอกว่ามันมีขนาดเท่ายานอวกาศของฉัน? นี่มันใหญ่กว่ายานอวกาศของฉันอย่างเห็นได้ชัด!”หลังจากมองเห็นเงาร่างที่เริ่มมาเริ่มใหญ่สตาร์ลอร์ดรู้สึกดุเดือดอย่างมาก

 

!

 

“เร็วเข้า รีบหนีกันก่อนเถอะ!”สตาร์ลอร์ด ได้กระตุ้นบอก เเรคคูนในทันที

 

“ไม่ต้องให้นายบอกฉันก็กะจะหนีอยู่เเล้ว!”

 

ฮึ่ม!

 

จากนั้น เเรคคูน เเละ สตาร์ลอร์ด ก็พุ่งผ่านดงรากไม้สีดำเพื่อเตรียมหลบหนี ตอนนี้ พวกเขาไม่สามารถช่วยเหลืออะไรมิราจไนท์ได้เลย สิ่งที่พวกเขาทำได้ตอนนี้ ก็คือหลบหนีไปที่ยานอวกาศเเละกลับไปเอายานอวกาศมาเพื่อช่วยเหลือมิราจไนท์

 

!

 

ขณะที่ เเรคคูน เเละ สตาร์ลอร์ด กำลังหลบหนี พวกเขาเดินไปได้ไม่ไกลพวกเงารากไม้ก็หยุดไล่ตาม ดูเหมือนพวกมันจะวิ่งกลับไปยังพื้นที่สนามรบที่เเจ็คสันเเละสัตว์ประหลาดยักษ์กำลังสู้กันอยู่

 

“เร็วเข้า,เร็วเข้า!”สตาร์ลอร์ดกล่าวออกมาเขาได้กดอุปกรณ์บางอย่างบนเเขนของเขา

 

ติ๊ดด

 

นี่เป็นตัวควบคุมยานอวกาศระยะไกลของสตาร์ลอร์ด เขาได้บังคับให้มันเปิดประตูห้องโดยสารอย่างรวดเร็วจากนั้นไม่นานทั้งสองคนก็รีบกระโดดขึ้นไปบนยานอวกาศเเละสั่งให้มันลอยตัวขึ้นบนฟ้าทันที

 

จากนั้นสตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ก็เข้ามาในห้องคนขับ เดดพูล ที่อยู่ภายในห้องกำลังขดตัวอย่างขี้เกียจ พอเห็นทั้งสองคนดูเหมือนรีบร้อนเขาก็ตกใจทันที

 

“หืม?เกิดอะไรขึ้น พวกคุณทำไมดูเร่งรีบขนาดนี้?”เห็นสตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูน กำลังส่งยานอวกาศลอยขึ้นบนฟ้า เดดพูล รู้สึกสงสัยอย่างมาก จากนั้น ยานอวกาศก็กำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางเเห่งนึง

 

“มิราจไนท์กำลังตกอยู่ในอันตราย!”

“อืม…”เเจ็คสันพยักหน้าตอบหลังจากได้ยินคำอธิบายของเเรคคูน

 

~~

 

ในการสำรวจครั้งนี้ สตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูนได้เตรียมเครื่องไม้เครื่องมือมาเป็นจำนวนมาก พวกเขาได้ลงมือขุดพื้นที่ใกล้ ๆ จนพบเจอกับอะไรบางอย่าง

 

“นี่มันอะไร?รูปร่างน่าขยะเเขยงอย่างมาก!”หลังจากขุดจนพบซากบางอย่างที่มีรูปร่างหน้าตาชวนน่าขนลุก เเรคคูนอุทานออกมา

 

พวกเขาเห็นกลุ่มก้อนสีเเดงที่มีพื้นผิวขรุขระเเละมีเมือกสีเขียวไหลออกมานี่ก็คือเงาสีเเดงเมื่อครู่ที่ถูกเเจ็คสันฆ่าตายไปมัน

 

~~

 

เมือกสีเขียวยังคงไหลออกมาจากร่างกายของมันอย่างต่อเนื่อง เมือกสีเขียวที่ว่านี่คือเลือดของมันเเละดูเหมือนว่าเลือดนั้นจะมีฤทธิ์เป็นกรดมันทำให้ดินโดยรอบกลายเป็นสีดำด่างลง นี่น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้ดินเเถบบริเวณนี้

 

“เอาล่ะ ไปกันเถอะ!”หลังจากเห็นหน้าตาที่ชัดเจนของสัตว์ประหลาดตัวนี้ สตาร์ลอร์ด รู้สึกขยะเเขยงจนไม่กล้าที่จะมองต่อ

 

“พวกเเราควรต้องระมัดระวังตัวมากกว่านี้เสาเหล็กไม่มีปฏิกิริยาต่อสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้พื้นดินพวกมันสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของพวกเราได้ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของพื้นโลก ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็ถือเป็นเรื่องร้ายเเรงอยู่มากพวกเราไม่รู้ว่าพวกมันมีกันมากขนาดไหน”หลังจากสังเกตุอย่างรอบคอบ เเรคคูน ก็ได้ข้อสรุปในที่สุด

 

“อึ๋ยย ร็อคเก็ต ให้ตายเถอะ ฉันรู้สึกขยะเเขยงพวกมันอย่างมาก หากพวกมันมีหลายตัวเกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องที่ดี”ผิวของสตาร์ลอร์ดกลายเป็นน่าเกลียดทันที

 

“พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจจริง ๆ พวกมันอาศัยอยู่ใต้ดินเเละคอยล่อเหยื่อที่เดินเข้ามาในอนาคตเขตของมัน อุปกรณ์ตรวจสอบของพวกเราไม่สามารถทำงานได้ เเต่โชคดีที่เรามีมิราจไนท์ช่วยคุ้มกัน เเม้ว่าเครื่องตรวจสอบของเราจะไม่สามารถตรวจจับพวกมันพบ เเต่มิราจไนท์สามารถตรวจพบได้”สตาร์ลอร์ดอธิบาย

 

“ฮ่าฮ่า จริงด้วย,มิราจไนท์ เช่นนั้นก็ต้องหวังพึ่งนายเเล้ว”สตาร์ลอร์ดกล่าวอธิบาย

 

“เรื่องความปลอดภัยให้เป็นหน้าที่ของฉัน เเต่ฉันเเนะนำให้พวกคุณรีบหน่อยก็ดี ฉันรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่”เเจ็คสันไม่สนใจสัตว์ประหลาดน่าขยะเเขยงนั่น เขากล่าวเตือนออกมาด้วยความเป็นห่วง

 

หลังจากจ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดน่าขยะเเขยงนั่นทีนึงเเจ็คสันก็จ้องมองไปทางป่าด้านข้างราวกับว่าเขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีนัก ราวกับว่ามีสัตว์ประหลาดกำลังจ้องมองเขายังไงยังงั้น

 

“ลางสังหรณ์ไม่ดี?เข้าใจเเล้ว พวกเรามาเร่งมือกันเถอะ”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ด กล่าวไปพูดกับ เเรคคูน

 

“ดี,ฉันเองก็กังวลว่าจะมีสัตว์ประหลาดป่าพวกนี้โผล่มาอีกจำนวนมาก เร่งมือกันเถอะ”เเม้ว่าเเรคคูนจะไม่รู้ว่ามิราจไนท์สังหรณ์ใจไม่ดีเรื่องอะไร เเต่เขาก็ต้องเร่งมือในการสำรวจ

 

“สบายใจเถอะ สัตว์ประหลาดป่าพวกนี้ไม่คณามือฉันหรอก…”เเจ็คสันกล่าวพูดอย่างจริงจัง

 

ฟุ่บ!

 

เเรคคูนไม่รอช้ารีบถมดินกลับไปที่เดิมพร้อมกับใช้เครื่องสเเกนพื้นที่ ส่วนสตาร์ลอร์ดเองก็ทำสัญลักษณ์เสาเหล็กอีกจำนวนมากเพื่อกันพื้นที่ให้กับเเรคคูนในการสำรวจ

 

ทั้งสามคนได้เดินเข้าไปในส่วนลึกของหุบเขาอีกครั้งเพื่อสำรวจวงกลมที่เป็นสัญลักษณ์บางอย่าง ธรรมชาติ การสำรวจในครั้งนี้รวดเร็วมากขึ้น นั่นก็เพราะความเฉลี่ยวฉลาดของเเรคคูน

 

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังเร่งมือสำรวจ เเจ็คสันก็จ้องมองไปที่ผืนป่าข้าง ๆ ตอนนี้เขารู้สึกคาใจอย่างมาก เขากังวลว่าสัตว์ประหลาดระดับ B ที่พบเจอเมื่อวานจะปรากฏตัวออกมา

 

เมื่อวานนี้ เเจ็คสันได้หลบหนีการตามล่านานกว่าครึ่งชั่วโมง โชคดีที่พวกมันเลิกไล่ตามเขาไม่งั้นก็คงไม่อาจหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าเเละเจ็บตัวได้

 

ติ๊ดด

 

ติ๊ดด

 

เครื่องมือของเเรคคูนได้ส่งเสียงร้องเตือนออกมาดูเหมือนว่าเเรคคูนจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมในการสำรวจครั้งนี้

 

กึก

 

อย่างก็ตามเมื่อเเรคคูนเเละสตาร์ลอร์ดกำลังดำเนินการต่อไป เเจ็คสันก็เหมือนได้ยินเสียงที่คุ้นเคยอีกครั้ง เเรคคูนเองก็เช่นเดียวกัน พวกเขาทั้งสามคนหันหน้าไปเจอเงาสีดำที่คุ้นเคย ผิวของเเรคคูนเเละสตาร์ลอร์ดกลายเป็นสีที่ดูไม่ดีสักเท่าไหร่ เพราะนี่เป็นการโจมตีของรากไม้สีดำที่อันตราย

 

ฟุ่บ

 

เเจ็คสันที่เห็นเงาพวกนั้นพุ่งเข้ามาเขาได้ใช้ท่า คลื่นผ่าวิญญาณ กวาดออกไปเพื่อจัดการเงาเหล่านั้น

 

ฟุ่บ!

 

สำหรับเเรคคูนเเละสตาร์ลอร์ดพวกเขาได้ทิ้งเครื่องมือสำรวจลงพร้อมกับหยิบอาวุธที่ตนเองเชี่ยวชาญออกมา พริบตาที่เงาพวกนั้นพุ่งเข้าผ่านอุปกรณ์เสาเหล็กเข้ามา พวก เเรคคูน เเละ สตาร์ลอร์ด ก็เปิดฉากยิงด้วยอาวุธปืนพร้อมกัน

 

เพียงเเต่การโจมตีของ เเรคคูน เเละ สตาร์ลอร์ด กลับทำให้พวกมันมีมากขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้พวกเขาทั้งสามคนกำลังเผชิญหน้ากับฝูงเงารากไม้สีดำจำนวนมาก

 

“ให้ตายเถอะ! พวกมันมีมากเกินไป! เเม้จะไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่เเข็งเเกร่ง เเต่จำนวนขนาดนี้ เเละ ยังสามารถบุกโจมตีพร้อมกัน นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถรับมือได้ง่าย ๆ นั่นมัน….”เเจ็คสันสบถด่าออกมาในใจก่อนที่เขาจะสังเกตุเห็นอะไรบางอย่าง

หลังจากผ่านไปหลายสิบนาที เเรคคูน เเละ สตาร์ลอร์ด ได้พา เเจ็คสันมาที่ตำเเหน่งเเอ่งน้ำของกรูซที่มีเดดพูลยืนอยู่ข้าง ๆ

 

“ครั้งนี้ฉันขอไม่เข้าร่วมล่ะกัน ฉันจะรอให้พวกคุณกลับมา ในขณะเดียวกัน ฉันจะได้ดูเเลเจ้าต้นไม้นี่ด้วย”เดดพูลกล่าวพูดอย่างเขินอายเล็กน้อย

 

“พวกเราจะเข้าไปด้านในลึกหน่อย หากมีอะไรไม่ชอบมาพากล นายรีบพากรูซไปซ่อนตัวในยานอวกาศของฉันทันที ฉันได้สร้างระบบป้องกันอัจฉริยะเอาไว้มันสามารถตอบสนองได้ทันที”สตาร์ลอร์ดนั้นเเม้กำลังจะเข้าสู่หุบเขาส่วนลึกเเต่เขาก็เป็นห่วงความปลอดภัยของกรูซ

 

“สบายใจเถอะ ฉันเข้าใจเเล้ว”เดดพูล ผายออกมาทำท่าทางแบบไม่กังวล ไม่ต้องให้สตาร์ลอร์ดบอกเขาก็จะทำแบบนี้อยู่เเล้วเพราะเขาได้ยินคำอธิบายของสตาร์ลอร์ดเรื่องยานอวกาศมาพอสมควร

 

จากนั้น เเรคคูน ,สตาร์ลอร์ด เเละ เเจ็คสัน ก็ได้เตรียมพร้อมจะเข้าไปส่วนลึกในหุบเขา ก่อนที่จะจากไป เเจ็คสัน ได้หันหน้าไปมองทางเดดพูลด้วยสีหน้าบางอย่าง เเน่นอนว่า เดดพูลได้เบือนหน้าหนีเล็กน้อย

 

“~~ฟู่ว ใครอยากจะไปเสี่ยงอันตรายแบบนั้นกันเล่า สู้อยู่ในยานอวกาศที่น่าปลอดภัยนี่ดีกว่า จริงไหม ระบบป้องกันอัจฉริยะที่รัก”หลังจากพวกเเจ็คสันจากไป เดดพูล ก็กลับไปที่ยานอวกาศ

 

 

ตึก ตึก!

 

ขณะที่พวกเเจ็คสันเข้ามาส่วนลึกภายในหุบเขาประมาณ 500 เมตร พวก สตาร์ลอร์ด ก็ใช้เครื่องมือบางอย่างตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเป็นระยะเวลามากกว่าครึ่งชั่วโมง โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีสัตว์ประหลาดอะไรโผล่ออกมาโจมตีพวกเขา เเต่เเจ็คสัน สัญญาว่าจะช่วยเป็นผู้คุ้มกันให้ดังนั้นเขาจึงต้องให้ความสนใจกับสถานการณ์เฝ้าระวังโดยรอบ

 

กึก ~

 

ระหว่างที่เเจ็คสันเฝ้าระวังพวกสตาร์ลอร์ดก็ได้ลงมือทำบางอย่าง พวกเขาได้ปักเสาโลหะบางอย่างไปที่พื้นดิน เเม้จะไม่รู้ว่าเครื่องมือนั้นคืออะไร เเต่ เเจ็คสันก็พอคาดเดาได้ ในสถานที่เเห่งนี้มีสัตว์ประหลาดดุร้ายอยู่จำนวนมากบางทีเครื่องมือนั่นอาจจะเป็นเครื่องส่งสัญญาณเเจ้งเตือน

 

“เอาล่ะพวกเราเข้าไปลึกอีกหน่อยดีกว่า!”สตาร์ลอร์ดได้ยืดตัวบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวพูดออกมา

 

เเม้พวกเขาจะเข้ามาลึกมากกว่า 500 เมตร เเต่ร่องรอยตามพื้นดินนั้นกลับมีขนาดใหญ่เป็นวงกว้างดังนั้นพวกเขาจำเป็นจะต้องเข้าไปลึกกว่านี้

 

“ร่องรอยพวกนี้ใหญ่จริง ๆ ฉันสงสัยจังว่าอาจจะมีอะไรซ่อนอยู่ก็เป็นได้”เเรคคูนที่ตรวจสอบพื้นที่วงกลมที่เป็นสัญลักษณ์ขนาดใหญ่ เขากล่าวพูดกับ สตาร์ลอร์ด

 

“อาจจะมีบางอย่างที่เราคาดไม่ถึงก็ได้”สตาร์ลอร์ดยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

ตึก ตึก~~~

 

เเจ็คสันได้เดินตามหลังทั้งสองคนไปพร้อมกับสำรวจพื้นที่โดยรอบไปด้วย จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหญ้าที่กำลังเคลื่อนไหว จากนั้นกระเเสไฟฟ้าบางอย่างก็ถูกปล่อยออกมาจากตำเเหน่งเสาเหล็ก เเรคคูน เเละ สตาร์ลอร์ด ได้วางเครื่องเเจ้งเตือนป้องกันเอาไว้ หากมีกระเเสไฟฟ้าเหล่านั้นทำงานเเสดงว่ามีสัตว์ประหลาดเข้ามาในพื้นที่ใกล้เคียง โชคดีที่มันเป็นเพียงสัตว์ประหลาดระดับต่ำจึงไม่ได้น่ากังวลนัก

 

!

 

เพียงเเต่หลังจากสัตว์ประหลาดขนาดเล็กถูกจัดการไป กลับมีเงาสีเเดงพุ่งออกมาจากหญ้าข้าง ๆ พุ่งเข้าหาเเรคคูนโดยฉับพลัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเร็วเกินไป จนเเรคคูนเเทบจะตอบสนองไม่ทัน โชคดีที่เขาปรับพลังความเเข็งเเกร่งให้กับชุดก่อนที่จะเข้าปะทะสำเร็จ

 

ปั้ง

 

หลังจากเงาสีเเดงที่ว่านี่พุ่งกระทบเข้ากับหมวกกกันภัยของเเรคคูนเสร็จก็มีพลังงานสีฟ้าบางอย่างพรุ่งเข้ามาจากทางด้านหลังเฉือนเข้าใส่ร่างกายของเงาสีเเดงที่ว่านี่ทันที

 

การจู่โจมของเงานั้นคาดไม่ถึงเเต่การปรากฏของพลังงานสีฟ้าเองก็เกิดขึ้นรวดเร็วเช่นเดียวกันพริบตาเดียวร่างของเงาสีเเดงก็ขาดครึ่งมันได้กระตุกเล็กน้อยก่อนที่จะเป็นอัมพาตเเละสิ้นใจตาย

 

กี้ กี้ ~ ~~ ~

 

สตาร์ลอร์ดที่อยู่ด้านข้างเเรคคูน เขากับ เเรคคูน หันไปมองต้นตอที่มาของเเสงสีฟ้า นั่นเป็นฝีมือของมิราจไนท์ เเจ็คสัน ได้ใช้ สปิริตซอร์ดของเขาในการรวบรวมพลัง ฉี ภายในร่างกาย เพื่อปลดปล่อยท่า คลื่นผ่าวิญญาณ ออกมา

 

“การโจมตีเมื่อครู่เป็นผลมาจากอาวุธนั่นงั้นหรอ? นั่นคงไม่ใช่ดาบธรรมดาสินะ?”เเรคคูนกล่าวถามออกมา เขารู้สึกสนใจ สปิริตซอร์ด ของเเจ็คสันอย่างมาก

 

“อืม…นี่ไม่ใช่ดาบธรรมดา มันมีคามสามารถพิเศษเเฝงบางอย่าง ที่ทำให้มันกระตุ้นจนสามารถปลดปล่อยความสามารถเมื่อครู่ได้”เเจ็คสันอธิบายอย่างรวดเร็ว

 

“อาวุธที่สามารถกระตุ้นพลังได้?นี่เป็นอาวุธพิเศษบางอย่างหรือไม่? มันคล้ายกับพวกอาวุธเวทย์มนตร์ที่สามารถกักเก็บพลังงานเอาไว้ได้?”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน เเรคคูน รู้สึกตกใจอย่างมาก

 

เขาได้เดินทางท่องจักรวาลมาหลายปี เเรคคูน เเละ สตาร์ลอร์ด มีประสบการณ์มากมาย เกี่ยวกับโลกเวทมนตร์ อารยธรรมของพวกเขาเหล่านี้สามารถผลิตอาวุธพลังเวทย์หรืออุปกรณ์เทคโนโลยีระดับสูงออกมาได้ ก็เหมือนกับ เเอสการ์ด โลกของพวกเขาสามารถใช้เวทย์มนตร์ได้ เเรคคูนเชื่อว่า สปิริตซอร์ด ของเเจ็คสัน ก็คงจะเป็นหนึ่งในอาวุธพิเศษเหล่านั้น

 

“เอาเถอะ เมื่อครู่ ต้องขอบคุณ นายมาก โชคดีที่นายสามารถตอบสนองได้ทัน ไม่งั้นฉันคงต้องเจ็บตัวเล็กน้อย”เเรคคูนต้องการศึกษาอาวุธของเเจ็คสัน เเต่เขารู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดี

 

“มันมีส่วนร่างกายเป็นหนวด นั่นคงจะเป็นการโจมตีของมัน”เเรคคูน กล่าวออกมาหลังจากจ้องมองสำรวจเศษซากที่ตายเเล้ว

 

อันที่จริงเเจ็คสันได้ปลดปล่อยคลื่นผ่าวิญญาณออกเป็นสองสาย ,สายเเรก ผ่าร่างหนวดสีเเดงที่ว่านั้น ส่วน สายที่สอง เขาได้ใช้คลื่นพลังโจมตีไปที่พื้นดิน เพราะเขาสังเกตุเห็นร่างหลักของมันที่กำลังเลื้อยขึ้นมาจากใต้ดินกำลังจะจู่โจมเเรคคูน

อึ๊ก!

 

ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เเรคคูน รีบประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ ที่เขาเก็บมาได้ทันที

 

“ฉันเพิ่งจะตรวจสอบได้ไม่นาน เเต่ก็พอรู้อะไรมาบ้าง ฉันรู้เเล้วว่าทำไมหุบเขาเเห่งนี้จึงมีสัตว์ประหลาดมากมายเพราะ…”พอพูดถึงจุดสำคัญเเรคคูนได้ทำเสียงลากยาวมากขึ้น

 

“เพราะอะไร?อย่าลีล่าน่า?”เห็นการยืดเยื้อของเเรคคูน สตาร์ลอร์ด รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

 

“เพราะก่อนหน้านี้เคยมีอารยธรรมเเห่งนี้มาที่นี่เเละทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ ร่องรอยที่ว่านี้มีพลังงานที่โดดเด่น ไม่งั้นมันคงไม่ดึงดูดสัตว์ประหลาดที่มีสติปัญญาจำนวนมากมาที่นี่”เเรคคูนกล่าวตอบทันที

 

“ร่องรอยอารยธรรมที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังงั้นหรอ?น่าสนใจจริง ๆ “ได้ยินคำตอบของเเรคคูน สตาร์ลอร์ด รู้สึกสนใจอย่างมาก

 

ป่าเเห่งนี้เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดที่เเข็งเเกร่งมากมาย ต้นเหตุเกิดจากอารยธรรมต่างดาวลึกลับเเห่งนึงที่มีพลังงานที่โดดเด่น

 

“น่าสนใจ?บางทีอารยธรรมเเห่งนี้อาจถูกทิ้งไว้เพื่อการเจริญพันธุ์ของสัตว์ประหลาดพวกนี้ก็ได้ ฉันเองก็ไม่เเน่ใจว่าอารยธรรมที่ว่ามาจากใคร บางทีอาจจะเป็นชนพื้นเมืองของที่นี่ก็ได้”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์เดเเรคคูนกล่าวตอบ

 

“ก็จริง ยังไงพวกเราก็คงต้องอยู่อีกสองสามวัน ทำไมเราไม่มาขุดร่องรอยซากอารยธรรมเหล่านี้กันเล่า?อาจจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปก็ได้”เห็นเเรคคูนกล่าวเช่นนั้น สตาร์ลอร์ดเชื่อว่าอารยธรรมที่ถูกทิ้งไว้บางทีอาจจะเป็นประโยชน์

 

ในจักรวาลนั้นไร้สิ้นสุดมีอารยธรรมต่างดาวจำนวนมาก เเละอารยธรรมของพวกเขาก็เเข็งเเกร่ง เเม้จะเป็นเพียงเศษซากอารยธรรมที่เหลือเเต่ก็สมควรมีสิ่งมีค่ารออยู่ ถึงจะไม่มี เเต่เทคโนโลยีของพวกเขาเหล่านั้นก็ควรค่าเเก่การศึกษา สิ่งของเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นโบราณวัตถุสิ่งของ ต่างมีค่าทางใจทั้งสิ้น ซึ่งสตาร์ลอร์ดเชื่อว่ามันสามารถทำกำไรให้พวกเขาได้

 

“เเต่ฉันคิดว่ามันเสี่ยงเกินไป ฉันยังไม่ได้สำรวจรอบหุบเขานี้เเละได้รายละเอียดที่เพียงพอ หากมีสัตว์ประหลาดพวกนั้นอยู่จำนวนมากฉันเกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำ”เเรคคูนเองก็ต้องการขุดสำรวจเเต่ติดอยู่ที่สิ่งมีชีวิตที่เฝ้าระวังพวกมัน

 

“พวกคุณวางเเผนจะขุดซากอารยธรรมพวกนี้จริงๆ?”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูน เเจ็คสันที่ยืนเงียบอยู่นานก็ได้เปิดปากพูดขึ้น

 

“อืม,นายไม่คิดว่ามันน่าสนใจงั้นหรอ?ยังไงพวกเราก็ไม่มีอะไรทำกันอยู่เเล้ว มิราจไนท์ นายมีอะไรเเนะนำบ้างมั้ย?”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ด กล่าวถาม

 

“ไม่เลย…เเต่ฉันรู้สึกกังวล สิ่งที่สามารถสร้างสัตว์ประหลาดเหล่านั้นขึ้นมาได้ ฉันคิดว่าบางทีซากอารยธรรมนั่นอาจจะอันตรายกว่าที่คิด”เเจ็คสันสัมผัสได้ถึงบางอย่าง หากพวกสตาร์ลอร์ดต้องการขุดซากอารยธรรมพวกนี้จริง ๆ เขาก็รู้สึกเป็นห่วง

 

“ฮ่าฮ่า ผ่อนคลายเถอะ พวกเราย่อมต้องระวังเรื่องนี้ พวกสัตว์ประหลาดพวกนั้นเเข็งเเกร่งจนพวกเราไม่อาจทำความเข้าใจได้ เเต่นายรู้ไหมว่าในจักรวาลพวกเรายังมีอีกชื่อนึง?”เห็นว่าเเจ็คสันกังวล สตาร์ลอร์ด กล่าวถาม

 

“อีกชื่อนึง?อะไร?”

 

“ทีมขุดซากอารยธรรม! มันเป็นหนึ่งในอาชีพในจักรวาลใบนี้ เพราะเราต้องทำภารกิจจำนวนมาก เราจึงต้องลงทะเบียนอาชีพนี้มาเป็นอาชีพเสริม เเม้ว่าจะเป็นซากอารยธรรมขนาดใหญ่เเค่ไหน พวกเราที่เคยมีประสบการณ์ย่อมรับมือได้อยู่เเล้วสบายใจได้”สตาร์ลอร์ดกล่าวอธิบาย

 

ในจักรวาลขนาดใหญ่เเห่งนี้ มีอารยธรรมที่เหี่ยวเเห้งเเละตายไปตามกาลเวลาอยู่จำนวนมาก หนึ่งในนั้นย่อมเป็นอารยธรรมระดับสูง ดังนั้น สิ่งที่พวกเขาเหลือทิ้งไว้ก็มีเพียงอารยธรรมโบราณที่ว่างเปล่าไม่มีใครครอบครอง นั่นจึงเป็นที่มาของอาชีพขุดซากอารยธรรม พวกคนเหล่านี้ มีความสุขมากที่ได้ค้นหาความลับของอารยธรรมที่ดับสูญ เเน่นอนว่าอาชีพนี้มีความเสี่ยงเเละอันตรายมาก เเต่พวกเขาทั้งหมดต่างก็เป็นคนที่มีประสบการณ์เเละมั่นใจในตัวเอง

 

“มันคล้ายกับนักโบราณคดีที่อยู่บนโลกใช่มั้ยเนี่ย?”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เเจ็คสันหัวเราะในใจเบา ๆ

 

เห็นได้ชัดว่าพวกสตาร์ลอร์ดย่อมไม่ยอมเเพ้ต่อร่องรอยอารยธรรมเหล่านี้ หากเป็นเช่นนั้น เเจ็คสันก็จนปัญญาที่จะห้ามพวกเขา เพียงเเต่พวกเขาคงต้องระวังให้มากขึ้น

 

“ฉันคงไม่อาจห้ามพวกคุณได้ อย่างไรก็ตามหากพวกคุณวางเเผนที่จะไปสำรวจที่นั่นจริง ๆ ฉันจะช่วยเป็นผู้คุ้มกันให้เเล้วกัน เรื่องสัตว์ประหลาดพวกนั้น ฉันจะพยายามไม่ให้พวกมันมารบกวนการสำรวจของพวกคุณ”เเจ็คสันกล่าวออกมา หากเขาลงมือช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จเร็วขึ้นเท่าไหร่ เเจ็คสันก็จะยิ่งได้ออกจากดาวดวงนี้เร็วมากขึ้น

 

“เข้าใจเเล้ว…ส่วนเรื่องรากไม้เเปลก ๆ นั่น ฉันได้ตรวจสอบคร่าว ๆ ดูเเล้ว มันมีพลังชีวิตที่เเปลกมาก คาดว่ามันน่าจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของร่างกายหลัก ดังนั้นนายต้องระวังตัวให้ดี”เเรคคูนกล่าวอธิบาย

 

“เรื่องระวังตัว พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ฉันมั่นใจพอสมควร”เเจ็คสันรู้ว่าเเรคคูนเป็นห่วงเขา เขาจึงกล่าวออกมา

 

พวกเขาทั้งสองคนไม่รู้ว่าเเจ็คสันมีสัญลักษณ์เเห่งการปป้องกัน เขามีสิ่งของอีกมากมายที่เตรียมพร้อมไปสำรวจอารยธรรมต่างดาวจำนวนมาก,ในอนาคตเเจ็คสันเชื่อว่าเขาจะต้องสร้างชื่อเสียงโลกมนุษย์ให้ดังกระฉ่อนไปทั่วจักรวาล

 

“ถ้าตกลงกันได้เเล้วพวกเราก็มาเริ่มกันเถอะ!”

หลังจากประตูยานอวกาศถูกเปิดออก เเจ็คสัน ก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของเดดพูล,เดดพูลได้เดินออกมาบิดขี้เกียจยืดตัวในยามเช้า ด้วยใบหน้าที่เสียโฉมของเขาจะว่ามันขัดกับธรรมชาติก็ไม่เเปลก

 

เห็นเดดพูลเดินออกมา เเจ็คสัน เลิกสนใจเเละมองไปโดยรอบเพื่อหาพวกเเรคคูนต่อ

 

“เห้,มิราจไนท์ ช่วยถ่ายภาพให้ฉันหน่อย เร็วเข้า!”เมื่อเห็นว่าตนเองมีหนทางกลับสู่โลกเเล้วเดดพูลต้องการถ่ายภาพบรรยากาศของที่นี่เพื่อเป็นที่ระลึก

 

เเจ็คสัน”…”

 

เเม้ว่าเขาจะรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเเต่เเจ็คสันก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อทำตามที่เดดพูลต้องการ จะว่าไปนี่ก็เป็นประสบการณ์ออกนอกโลกครั้งเเรกของเดดพูลเเละเขา การที่จะถ่ายเก็บภาพบรรยากาศที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร

 

“ตรงนี้เเหละ! เออ ท่านี้! ไม่ดีกว่า ต้องท่านี้!”หลังจากมายืนหน้าเลนส์กล้องของเเจ็คสัน เดดพูล ได้โพสท่าต่าง ๆ จำนวนมากเพื่อให้เข้ากับอารมณ์ของเขาตอนนี้

 

จากนั้นไม่นาน เเรคคูน เเละ สตาร์ลอร์ด ก็เดินออกมาจากห้องโดรสาร พวกสตาร์ลอร์ดได้พากรูซไปที่เเอ่งน้ำใกล้ ๆ เเถวนี้

 

ตึก ตึก

 

“เอาล่ะ ไม่เเปลกใจที่นายต้องการจะถ่ายเก็บความทรงจำนี้ไว้ สถานที่เเห่งนี้สวยงามจริง ๆ “หลังจากเห็นพวกสตาร์ลอร์ดเเจ็คสันก็ถอนหายใจออกมา เขากล่าวกับเดดพูล

 

“ใช่เเล้ว,พวกเราต้องเก็บพวกความทรงจำที่นี่ไว้เยอะ ๆ เก็บจนเมมโทรศัพท์เต็มไปเลย”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน เดดพูล รู้สึกดีใจอย่างมาก

 

จากนั้นเเจ็คสันก็ยื่นส่งโทรศัพท์มือถือให้กับเดดพูล เขารับมาพร้อมกับพุ่งตัวออกไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่มีวิวสวยงามทางด้านเเจ็คสันเขาได้เดินไปหาพวกสตาร์ลอร์ดที่พากรูซไปเเช่น้ำ

 

“ดูเหมือนว่าพวกเราจะโชคดีที่เลือกจะมาพักผ่อนที่ดาวดวงนี้ไม่เพียงเเต่จะพบเพื่อนชาวโลกอย่างพวกนาย เเต่ยังสามารถช่วยกรูซฟื้นฟูตนเองให้กลับมาได้อย่างรวดเร็ว ไม่งั้นพวกเราคงไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ที่นี่หลายเดือนเเค่ไหน”เห็นกรูซเเช่น้ำอย่างสบายใจ เเละได้ยินเสียง มิราจไนท์เดินเข้ามา สตาร์ลอร์ด กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“สภาพเเวดล้อมของดาวดึกดำบรรพ์นี้เหมาะเเก่การผักผ่อนอย่างเเท้จริง จริงสิ เเรคคูน ไปไหนเเล้วล่ะ เมื่อครู่ ฉันเห็นเดินออกมากับคุณ”เเจ็คสันกล่าวถามเเรคคูน

 

“เขาได้ใช้เครื่องตรวจจับเมื่อครู่นี้เเละพบอะไรบางอย่างดังนั้นเขาจึงขอเดินทางออกไปสำรวจชั่วครู่”สตาร์ลอร์ดอธิบายเพียงเล็กน้อย

 

“ออกไปสำรวจ?ข้างนอกนี้อันตรายอย่างมากถ้าเกิดว่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นมันออกมา…!”เเจ็คสันรีบกล่าวออกมาทันทีเขาเป็นความความปลอดภัยของเเรคคูน

 

เพราะตั้งเเต่เเจ็คสันเดินทางเข้ามาในป่าเเห่งนี้เขาเจอสัตว์ร้ายจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กสัตว์น้อยหรือสัตว์ใหญ่จนกระทั่งสัตว์ประหลาดระดับ B เหล่านั้น พื้นที่ในป่าเเห่งนี้ต่างเป็นสถานที่อันตรายทั้งหมด

 

“ผ่อนคลายเถอะ ร็อคเก็ต มีอุปกรณ์ติดตัวมากมาย เขาสามารถหลบหนี จากสถานการณ์ต่าง ๆ ออกมาได้อย่างเเน่นอน นอกจากนี้เขาเพิ่งจะเริ่มต้นเดินทางออกไปยังทิศทางนั้นเชื่อว่าคงไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่”เห็นเเจ็คสันเป็นห่วงเเรคคูน สตาร์ลอร์ดยิ้มออกมาพร้อมกับชี้นิ้วไปยังทิศทางที่ว่า

 

“เอาเถอะ ถ้าคุณว่ายังงั้น…”

 

“เฮ้ ช่วยฉันด้วย!”ขณะที่เเจ็คสันรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อยเสียงขอความช่วยเหลือก็ดังขึ้นมาจากตรงปลอกเเขนของสตาร์ลอร์ด

 

สตาร์ลอร์ดรีบดูตำเเหน่งที่ว่าเเละต้นตอของเสียงทันที นี่เป็นเสียงของเเรคคูนไม่ผิดเเน่ ผ่านไปหลายวินาที เเจ็คสัน เเละ สตาร์ลอร์ด รีบวิ่งพุ่งเข้าไปยังทิศทางที่ว่าอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นไม่นานพวกเขาก็พบเเรคคูนที่ถือปืนยาวกระบอกใหญ่ไล่ยิงสัตว์ประหลาดเงาบkงอย่างภายในหุบเขาเหล่านี้หลังจากพวกมันถูกยิงมันก็ร่วงหล่นลงมาที่พื้นดินในเวลาต่อมา

 

เเรคคูนได้วิ่งหนีออกมาจากสถานที่ตรงนั้นทันที เเรคคูนนั้นเเม้จะตัวเล็กเเต่เขากลับมีพละกำลังขาที่วิ่งเร็วอย่างมาก เดดพูลที่อยู่บนต้นไม้ไม่ไกล เเทบจะหลุดปากหัวเราะออกมา นี่เป็นเรื่องที่เเปลกมาก มีมนุษย์เเมวมากลิ้งล้มที่เบื้องหน้าของเขา โชคร้ายที่เขาถ่ายรูปเอาไว้ไม่ทัน

 

“ฟู่วว,โชคดีที่ฉันวิ่งหนีออกมาได้ทันไม่งั้นเเย่เเน่!”เเรคคูนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

 

ในเวลานี้เเจ็คสันเเละสตาร์ลอร์ดก็ได้เดินมาถึงเบื้องหน้าของเเรคคูน เขาเห็นเงาเมื่อครู่ได้หายวับไปเเล้วทั้งสองคนพอจะเดาได้ว่าเเรคคูนได้เผชิญหน้ากับบางอย่างมา

 

“ร็อคเก็ตเกิดอะไรขึ้น?นายเจอสัตว์ประหลาดบางอย่างเข้างั้นหรอ?”สตาร์ลอร์ดกล่าวถามเเรคคูนอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากนั้นเขาก็ก้มมองสำรวจเพื่อนของตัวเองโชคดีที่เเรคคูนไม่ได้รับบาดเจ็บ

 

“หึ่ม! พวกมันจู่โจมฉัน! ไอ้รากไม้เหล่านั้น มันคิดจะจัดการฉัน!”เเรคคูนกล่าวออกมาอย่างขุ่นเคือง

 

“รากไม้?อาวุธปืนของนายทำอะไรพวกมันไม่ได้งั้นหรอ?”สตาร์ลอร์ดกล่าวถามด้วยความสงสัย

 

“ป่าวหรอก! พวกมันมีมากเกินไป โชคดีที่ฉันวิ่งหนีได้เร็ว ไม่งั้นเเย่เเน่!”ได้รับการกระตุ้นทางคำพูดจากสตาร์ลอร์ด เเรคคูนรีบอธิบาย

 

เมื่อครู่เขาได้เดินทางออกไปสำรวจได้ไม่ไกลนักหลังจากตรวจสอบพื้นที่ผิดปกติ เเรคคูนก็พอเข้าใจอารยธรรมของดาวดวงนี้ อย่างไรก็ตาม เเรคคูนยังไม่ได้ทันได้สำรวจต่อเขาก็โดนรากไม้สีดำเเปลก ๆ พุ่งโจมตีเข้าใส่ พวกมันมีมากเกินไป จนเเรคคูนไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ก่อนที่เขาจะหลบหนี เขาได้ยิงลูกบอลพลังงานไฟออกไปเพื่อปิดกั้นเส้นทางของพวกมันจำนวนมากก่อนที่จะวิ่งหลบหนีออกมา

 

“สัตว์ประหลาดรากไม้สีดำ ฉันเคยพบมันเมื่อวานนี้ พวกมันมีด้วยกันจำนวนมาก ทั้งยังมีความสามารถในการเคลื่อนที่ได้เร็ว พลังป้องกันของพวกมันเองก็ไม่ต่ำ หากไม่มีอาวุธดี ๆ ในการจัดการพวกมันเป็นวงกว้างเเล้วล่ะก็ ก็คงทำได้เเต่ปล่อยผ่านไป”เเจ็คสันรีบอธิบาย

 

“หึ่ม! คอยดูเถอะ คราวนี้ฉันรู้เเล้วว่าควรจะเตรียมตัวอย่างไร ฉันจะกลับไปถอนรากถอนโคนพวกมัน!”เเรคคูนตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

 

“จริงสิ นายพบอะไรบ้างในการสำรวจครั้งนี้?”สตาร์ลอร์ดกล่าวถามอย่างรวดเร็ว

หลังจากสิ้นสุดการประชุมสายทางโทรศัพท์จากกัปตันโรเจอร์สเเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์ โทนี่ ก็ตั้งใจจะโทรหา มายา เเฮนเซ่น เนื่องจากเขาตั้งใจจะใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อคิลเลี่ยนเเล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องคิดอะไรอีก

 

ขณะที่โทนี่ตั้งใจจะโทรหา มายา ตอนนี้เธออยู่ที่ ฮาวาย กำลังอาบเเดดอย่างสบายใจ นั่นก็เพราะว่าเเผนการทั้งหมดของคิลเลี่ยนได้รับผลกระทบทั้งหมดสิ่งนี้ทำให้เธอมีความสุขอย่างมาก ก่อนหน้านี้เธอก็เเค่ให้คิลเลี่ยนหยิบยืมคนของเธอไปเท่านั้น

 

มายานั้นไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนเเรงของคิลเลี่ยนที่จะพิชิตโลก เธอตั้งใจจะพัฒนาโปรเจคงานไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสให้โด่งดังเหมือนกับไอรอนแมนเเละให้โลกยอมรับในสิ่งนี้ ดังนั้น เธอจึงตั้งใจว่าจะไม่สนับสนุน คิลเลี่ยนอีกเเล้ว

 

ตื๊ดดด

 

ขณะที่เธอกำลังนอนอาบเเดดจู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็งขึ้น เธอได้หยิบมันขึ้นมาดูพร้อมกับดึงเเว่นลงมาด้วยความประหลาดใจ

 

“เฮ๋ ไอรอนแมน ไม่คิดเลยว่าคุณจะโทรหาฉัน?”มายาคิดในใจก่อนที่จะกดรับโทรศัพท์ในที่สุด

 

“มิส มายา ตอนนี้ผมชักชนใจที่จะร่วมโครงการเอ็กซ์ทรีมิสกับคุณเเล้วสิ เมื่อสิบปีก่อนเป็นผมที่พลาดเอง เเต่ตอนนี้ผมคิดว่ามันน่าสนใจเเละผมอยากจะเป็นนายทุนให้กับโครงการนี้”หลังจากต่อสายติดโทนี่กล่าวพูดออกมา

 

“คุณจะให้ความร่วมมือในโครงการเอ็กซ์ทรีมิส นี่ฉันไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ ใบหน้าของมายาเผยความไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด

 

มายามีส่วนไม่เห็นด้วยที่ คิลเลี่ยน ตั้งใจจะฆ่าโทนี่ ดังนั้นเธอจึงเดินทางไปเตือนโทนี่ด้วยตนเอง เเต่เหมือนกับว่าได้รับคำตำหนิเเละไม่ต้อนรับกลับมา ดังนั้นเธอจึงปล่อยผ่าน เเละตั้งใจจะทำโครงการนี้ต่อด้วยตนเองโดยไม่มีคิลเลี่ยน

 

“คุณคิดว่า ผม โทนี่ สตาร์ค เป็นคนพูดเรื่องล้อเล่นหรือยังไง? เจ้านายของคุณคิลเลี่ยนต้องการจะครองโลกด้วยไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ดังนั้นผมจึงสนใจในไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสอย่างมาก”

 

“ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่พวกที่เห็นกับการกระทำอย่างรุนเเรงไม่งั้นคุณคงไม่เตือนเรื่องที่คิลเลี่ยนจะโจมตีผม?ถ้าคุณเต็มใจที่จะร่วมมือผมเชื่อว่าในอนาคตโลกจะต้องให้การยอมรับไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสอย่างเเน่นอน”โทนี่บอกอุดมการณ์ของเขาพร้อมกับอธิบาย

 

“ฉันค่อนข้างสนใจข้อเสนอของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น คุณ สตาร์ค ฉันรู้ว่าคุณต้องการจะจัดการคิลเลี่ยน เเต่ฉันขอบอกคุณตอนนี้เลยว่าฉันกับคิลเลี่ยนเราไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเเล้ว”มายากล่าวอธิบาย

 

“ผมเองก็คาดเดาไว้เเล้ว ดังนั้นผมจึงเสนอความร่วมมือกับคุณ?”

 

“หากคุณตั้งใจจะร่วมงานกับผมจริง ๆ เช่นนั้นพวกเรามาพบปะพูดคุยกันซึ่งหน้าหน่อยเป็นไง?ผ่อนคลายเถอะคุณสามารถเลือกสถานที่ได้เเล้วผมจะไม่เอาชุดเกราะไอรอนแมนไป”เห็นว่ามายามีท่าทีกังวล โทนี่ กล่าวพูดออกมา

 

“พบกัน?คุณสตาร์ค คุณยังจะเชื่อใจฉันอีกงั้นหรอ? ถ้าคุณตั้งใจจริง ๆ ไว้ฉันจะติดต่อกลับไป”หลังจากได้ยินว่าโทนี่นัดเจอตนเอง มายา รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

 

“เเน่นอน,เช่นนั้นผมจะรอให้คุณติดต่อกลับมา”โทนี่ไม่ได้รีบร้อนเกินไปเขากล่าวตอบ

 

“ตู๊ดด~~~”หลังจากวางสายไป มายาก็ถอดเเว่นกันเเดดของเธอออก

 

“โทนี่ ต้องการร่วมมือกับฉันจริง ๆ งั้นหรอ? เขาไม่กลัวว่าฉันจะบอกคิลเลี่ยนให้ซุ่มโจมตีเขาหรือยังไง?ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่คิดจะเอาชุดเกราะไอรอนแมนมา นี่เขาบ้าหรือว่าโง่กันเเน่?”มายาจ้องมองไปที่เเสงอาทิตย์ด้านบนขอบฟ้า

 

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่ถือเป็นโอกาสของเรา สำหรับ คิลเลี่ยน ปล่อยให้ ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสตกไปอยู่ในมือของเขาก็เสียของเปล่า ๆ ครั้งนี้ฉันตั้งใจจะเริ่มใหม่ด้วยตัวเอง”

 

มายาที่คิดได้เธอก็เตรียมพร้อมเช่นเดียวกัน

 

 

ทางด้านดาวเคราะห์โลก โทนี่ ที่กำลังเคลียปัญหาเรื่องคิลเลี่ยน เเละ ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส บนดาวดึกดำบรรพ์ในกาเเลคซีเเห่งนึง คืนมืดมิดได้ผ่านไปเเล้ว เเจ็คสันได้ตื่นขึ้นมาบนสนามหญ้า ดาวดึกดำบรรพ์ดวงนี้ เขาเริ่มที่จะปรับสภาพทำความคุ้นเคยกับมันให้เหมือนกับบรรยากาศดาวโลกได้เล้ว

 

ฟุ่บ~~

 

สิ่งเเรกที่เเจ็คสันตื่นขึ้นมาเเละมองเห็นก็คือผืนหญ้าที่อุดมสมบูรณ์ ดูเหมือน กรูซ จะช่วยให้พื้นที่เเถวนี้กลับมาสดใสอีกครั้ง อีกทั้งตัวของกรูซยังเหมาะที่จะเจริญเติบโตเเละฟื้นฟูที่นี่อีกด้วย

 

หลังจากสังเกตุมองไปรอบ ๆ เเจ็คสันไม่เห็น เเรคคูน เเละ คนอื่น ๆ

 

ฟู่ววว

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังค้นหาเเรคคูนที่นอนข้าง ๆ ตนเอง จู่ ๆ บนยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดก็ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว

ได้ยินชื่อเเปลก ๆ จากปากของโทนี่ กัปตันโรเจอร์ส เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ทำหน้าตาสงสัยทันที บทบาทจำเป็นเพื่อล่อลวงคิลเลี่ยนออกมา จำเป็น ต้องมี มายา เเฮนเเซ่น เช่นนั้น คนคนนี้เป็นใคร

 

“มายา เเฮนเซ่น นี่ใคร?”หลังจากติดใจอยู่พักนึงกัปตันโรเจอร์สจึงกล่าวถามออกมา ธรรมชาติศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองก็รอคำตอบจากโทนี่เหมือนกัน

 

“มายา เเฮนเซ่น เธอเป็นนักพฤกษศาสตร์ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับพืช DNA โดยเฉพาะ ที่สำคัญเธอมีสถานะพิเศษ นั่นก็คือ เธอทำงานเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของคิลเลี่ยน”เผชิญหน้ากับข้อสงสัยของกัปตันโรเจอร์ส เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ โทนี่ อธิบายอย่างรวดเร็ว

 

เมื่อโทนี่อธิบายว่า มายา เเฮนเซ่น คนนี้ เป็นคนของคิลเลี่ยน รูปลักษร์ของ กัปตันโรเจอร์ส เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็เปลี่ยนไปทันที

 

“มายา เเฮนเซ่น คนนี้ เป็นลูกน้องของ คิลเลี่ยน? นายมั่นใจงั้นหรอ?”เเม้ว่าจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เเต่กัปตันโรเจอร์ส อยากรู้ความจริง

 

“ใช่เเล้ว เธอเป็นลูกน้องของคิลเลี่ยนไม่ผิดเเน่ ส่วนเรื่องที่เธอยังทำงานกับคิลเลี่ยนอยู่รึไม่ฉันเองก็ไม่รู้ เเต่ก่อนหน้านี้ที่คิลเลี่ยนลอบโจมตีฉัน เธออยู่ในบ้านพักของฉัน ตอนนั้นเธอมาเตือนฉัน เเม้ว่าฉันจะรู้ว่าเธอไม่ได้มีเจตนาที่ดีอย่างเดียวก็เถอะ ฉันคิดว่าฉันสามารถใช้เธอได้”โทนี่อธิบาย

 

“คุณกำลังจะบอกว่า มายา เเฮนเซ่น คนนี้ ได้เตือนคุณก่อนที่คิลเลี่ยนจะลอบโจมตีงั้นหรอ?”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวถามให้เเน่ใจ

 

“เป็นเช่นนั้น ก่อนที่เธอจะจากไป เธอได้ทิ้งวิธีติดต่อของเธอเอาไว้ ดังนั้น ฉันคิดว่าเธอควรที่จะรอโทรศัพท์จากฉันอยู่เเน่นอน”โทนี่กล่าวตอบ

 

“เเล้วนายมั่นใจงั้นหรอว่า มายา เเฮนเซ่น จะร่วมมือกับ นายในการรับมือกับ คิลเลี่ยน?”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามอีกครั้ง

 

“ฉันรับประกันได้เลยว่าเธอจะต้องร่วมมือกับฉันอย่างเเน่นอน”โทนี่กล่าวรับประกัน

 

“ถ้านายพูดอย่างนี้ ฉันก็คงไม่อาจห้ามปรามอะไรนายได้อีก เเต่นายก็วังตัวเอาไว้จะดีกว่า”

 

“สบายใจเถอะ ตราบเท่าที่ฉันให้ความร่วมมือกับเธอ เธอจะไม่ทรยศฉัน”โทนี่ค่อนข้างมั่นใจในเรื่องนี้

 

“อย่างนั้นเราก็ควรปล่อยผ่านเรื่องคิลเลี่ยนเอาไว้ก่อน เเล้ว เเมนดารินเล่า? หลังจากเราจัดการ คิลเลี่ยนได้ เเล้ว เเมนดาริน จะว่ายังไง?”เเม้โทนี่จะมีความมั่นใจ เเต่เรื่อง เเมนดาริน กัปตันโรเจอร์ส ยังไม่ได้ข้อมูลเลยเเม้เเต่น้อย

 

“เรื่องนี้…ตราบเท่าที่เราจับเป็นคิลเลี่ยน หรือ ไม่ก็ ล้วงข้อมูลจาก มายา เเฮนเซ่น ฉันคิดว่าน่าจะได้คำตอบเรื่องเเมนดาริน”โทนี่กล่าวตอบกัปตันโรเจอร์ส

 

กัปตันโรเจอร์ส”….”

 

“เช่นนั้นนายก็ระวังตัวด้วย การเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก”กัปตันโรเจอร์สไม่มีข้อโต้เเย้งอีก

 

เเม้เขาจะยอมรับเเผนการของโทนี่ เเต่การที่โทนี่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงมันประมาทเกินไป ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสของคิลเลี่ยน เป็นภัยคุกคามขนาดใหญ่ต่อความมั่นคงของโลก หากพวกเขาไม่สามารถเเก้ไขได้โลกจะตกอยู่ในสภาวะวิกฤติ

 

“สบายใจเถอะ ฉันจะไม่ล้อเล่นกับชีวิตของฉันอย่างเเน่นอน ถึงฉันจะไม่มีชุดเกราะไอรอนแมนก็ตาม”

 

นอกเหนือจากชุดเกราะไอรอนแมนเเล้ว โทนี่ ยังมีชุดเกราะกลายพันธุ์ที่อยู่ในช่วงทดลอง หากเขาต้องสูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนไปในระหว่างปฏิบัติการ เขายังมีตัวเลือกที่สองอยู่ เเน่นอนว่าคิลเลี่ยนย่อมคาดไม่ถึง ถึงเรื่องนี้อย่างเเน่นอน ,เเน่นอนว่าหากไม่มี การสนับสนุนจากกัปตันโรเจอร์ส เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ โทนี่ ก็คงไม่กล้าเอาตัวเองไปเสี่ยงขนาดนี้

 

“โทนี่ นายมีความเกี่ยวข้องอะไรกับมิราจไนท์ ที่ยังไม่ได้บอกพวกเราอยู่หรือไม่?”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามโทนี่ ตามตรงเพราะวิทยาการบางอย่างโทนี่ไม่ควรจะมีมันด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น เรือเหาะสงคราม สิ่งนี้ กัปตันโรเจอร์สรู้สึกตกใจมาก เเละคาดว่ามันน่าจะมาจาก มิราจไนท์อย่างเเน่นอน

 

“เป็นความลับ เเต่ไม่ต้องกังวล ไม่ช้าก็เร็ว ฉันจะบอกเรื่องนี้ทุกอย่างเเน่นอน”โทนี่กล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

 

“เอางั้นก็ได้ จริงสิ เเล้วมิราจไนท์เล่า?ฉันไม่ยินข่าวคราวจากเขามาเเล้วสองวัน”

 

ไม่ได้รับข่าวสารจากมิราจไนท์มากกว่าสองวันกัปตันโรเจอร์สรู้สึกไม่สบายใจเดิมมิราจไนท์ได้ส่งข่าวบอกเขาตลอดตั้งเเต่พวกเขาเริ่มต้นการเป็นพันธิมิตรที่ดีต่อกัน

 

ได้ยินกัปตันโรเจอร์สพูดถึงเเจ็คสัน ใบหน้ารอยยิ้มเมื่อครู่ของโทนี่ได้จางหายไป กัปตันโรเจอร์ส ไม่ได้รับข่าวจาก เเจ็คสันมาเเล้วสองวัน โทนี่เองก็เช่นเดียวกัน เเม้โทนี่จะเชื่อมั่นใจตัวเเจ็คสัน เเต่เขาก็กังวลอยู่ในใจ เพราะเขาเเทบจะไม่รู้สถานการณ์ของเเจ็คสันในตอนนี้เเม้เเต่น้อย

 

“เขาคงยุ่ง ๆ อยู่ เเต่ไม่ต้องห่วงเพื่อนคนนี้หรอก ทางที่ดีเราควรมุ่งเน้นในการเเก้ปัญหาเรื่อง คิลเลี่ยน ส่วนเรื่องมิราจไนท์ ฉันเชื่อว่าเร็ว ๆ นี้เขาก็คงกลับมาอีกครั้ง”โทนี่กล่าวตอบ

 

“ก็ดี ฉันก็เเค่กังวลนิดหน่อย ช่วงนี้มีอะไรเเปลก ๆ เกิดขึ้นที่โลกอยู่จำนวนมาก”กัปตันโรเจอร์สกล่าวเห็นด้วย

 

“ฉันเองก็คิดว่าไม่ต้องกังวลเรื่องมิราจไนท์หรอก ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องไม่เป็นอะไร”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองก็เห็นด้วย

 

“เเน่นอน,เอาล่ะการหารือในวันนี้ก็สิ้นสุดไว้เเค่นี้ก่อนเเล้วกัน เเล้วพวกนายรอฟังข่าวดีจากฉันได้เลย”โทนี่ไม่ต้องการให้เรื่องที่มิราจไนท์หายตัวไปปเเพร่งพรายให้คนของเขาต้องกังวลดังนั้นเขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง

 

“อืม,เเล้วเราจะรอ”

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากพูดจบ กัปตันโรเจอร์ส เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก็ปิดการสนทนาทางวิดิโอลง

 

“เเจ็คสันเจ้าเด็กนี่เมื่อไหร่เธอจะกลับมา?ตอนนี้ฉันกำลังจะเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพันอยู่เธอรู้บ้างไหม!”

 

ได้ยินเสียงที่ดังมาจากทางด้านหลังโทนี่ระงับการสนทนากับ J.A.R.V.I.S พร้อมกับหันหลังกลับไปมอง จากนั้นโทนี่ก็พบ ฟอลคอน ที่บินมาอยู่ที่ตรงหน้าของเขา การต่อสู้ในครั้งนี้ โทนี่ ได้รับความช่วยเหลือจาก S.H.I.E.L.D. ดังนั้นพวกเขาจึงส่งทีม อเวนเจอร์สบางคนมาช่วยเหลืองานของโทนี่

 

“ฟอลคอน นายพบเบาะเเสอะไรบ้างไหม?”โทนี่กล่าวถามฟอลคอนในทันที

 

ในสนามรบ ทีมของ S.H.I.E.L.D. จำนวนมาก ได้ลาดตระเวณพื้นที่เเล้ว เเต่พื้นที่สนามรบค่อนข้างกว้างดังนั้น โทนี่ จึงไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างทั่วถึง

 

“ไม่เลย”ฟอลคอนส่ายศีรษะเล็กน้อย

 

พวกโทนี่ได้ข่าวว่าคิลเลี่ยนได้เเอบมาหลบกบดานอยู่เเถวนี้ดังนั้นเขาจึงบุกมาทำลายฐานทัพที่นี่ สิ่งที่พวกเขาเจอก็คือทหารเอ็กซ์ทรีมิสจำนวนมาก พวกเขาได้เข้าปะทะจนสูญเสียกำลังคนไปไม่น้อย โชคดีที่ S.H.I.E.L.D. เเละ โทนี่ ได้ใช้อุปกรณ์พิเศษของพวกเขาดังนั้นจึงช่วยเหลือผู้คนได้ในระดับนึง

 

“คิลเลี่ยน หลบหนีไปเเล้วอย่างงั้้นหรอ? ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะลอยนวลหนีฉันไปได้อีกเเล้ว!”ได้ยินคำตอบของคิลเลี่ยน โทนี่ กล่าวพูดอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

“เเล้วทางด้านศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่มีข่าวงั้นหรอ?”ตอนนี้ระบบตรวจหาของ S.H.I.E.L.D. เองก็ยังไม่คืบหน้า เพราะการเปลี่ยนเเปลงรูปลักษณ์ของคิลเลี่ยน ฟอลคอน รู้ว่า ทีมX-MEN เองก็มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือพวกเขาดังนั้นเขาจึงกล่าวถามโทนี่

 

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ช่วงนี้ยุ่งมาก พวกเขากำลังติดธุระพัวผันกับเหล่าพี่น้องมิวแทนท์ ดังนั้น เขาจึงช่วยเหลือเราในการหาตัวคิลเลี่ยนอยู่พักนึงเพียงเท่านั้น เเต่ไม่พบ ที่เเปลกก็คือ มันเป็นไปได้ยังไง หรือว่า คิลเลี่ยนมันสามารถเปลี่ยนคลื่นสมองของตนเองได้?”โทนี่ รู้สึกสงสัย

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ใช้พลังจิตเเละตรวจสอบคลื่นสมองของบุคคลที่ต้องการจะค้นหา โทนี่ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก สิ่งที่เขากังวลก็คือ คิลเลี่ยน ที่ยังลอยนวลอยู่ ทางด้าน เเมนดาริน โทนี่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครจึงไม่สามารถให้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ช่วยค้นหาได้

 

“เเม้เเต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ยังตรวจหาไม่พบ เช่นนั้นเขาก็คงหลบเข้าเเหล่งกบดานเเล้วล่ะ คงเป็นเรื่องยากที่เราจะหาเขา”เเม้เเต่ความสามารถทางพลังจิตที่น่าเกรงขามของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ยังไม่สามารถตรวจพบได้ ฟอลคอนเชื่อว่าโอกาสของพวกเขามีน้อยมาก

 

“ฉันจะไม่มีทางรามือง่าย ๆ อย่างเเน่นอน หากปล่อยไป พวกมันก็จะสะสมกองกำลังทหารเอ็กซ์ทรีมิสให้กลับมาได้อีกครั้ง ใครจะรู้ว่าในอนาคต คิลเลี่ยน มันจะวางเเผนบ้าระห่ำขนาดไหนอีก”ได้ยินคำพูดของฟอลคอน โทนี่ ตอบอย่างจริงจัง

 

“เช่นนั้นนายจะทำยังไงต่อ?”เห็นโทนี่เอาจริงเอาจัง ฟอลคอน รู้สึกอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถหาตัวคิลเลี่ยนได้ เเล้ว พวกเขาจะต้องทำยังไงต่อ

 

“หากมันต้องการจะหลบซ่อนตัวก็ปล่อยมันไป ฉันไม่จำเป็นต้องลงเเรงในการค้นหา เพียงเเค่ใช้เหยื่อล่อเล็กน้อย”

 

“เหยื่อล่อ? หรือว่านายจะใช้เหยื่อล่อเพื่อล่อคิลเลี่ยนออกมา เเล้วมันคืออะไรกัน?”ฟอลคอนรู้สึกสงสัยมากขึ้น

 

“เดี๋ยวก็รู้…”

 

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง โทนี่ ก็กลับไปที่บ้านพักชายทะเลในนิวยอร์ก ในเวลานี้เขาได้ประชุมสายทางโทรศัพท์ กับ กัปตันโรเจอร์ส เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ หัวข้อก็คือ เหยื่อล่อคิลเลี่ยน

 

“นี่มันไม่ใช่เรื่องดี นายกำลังคิดเเผนบ้าอะไรของนายอยู่กันเเน่”ได้ยินว่าโทนี่ตั้งใจจะล่อให้คิลเลี่ยนออกมา กัปตันโรเจอร์สไม่เห็นด้วยเล็กน้อย

 

ด้วยความเกลียดชังของคิลเลี่ยนที่มีต่อโทนี่ เเผนหลอกล่อของโทนี่สามารถตีความได้เป็นหลายอย่าง กระทั่งตัวของเขาเองก็เช่นเดียวกัน

 

“ฉันเห็นด้วยกับกัปตันมันมีความเสี่ยงมากเกินไป”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ

 

“พวกนายไม่มั่นใจในตัวฉันงั้นหรอ?หากต้องการจะล่อให้คิลเลี่ยนออกมาก็มีเเต่จะต้องใช้เเผนนี้เท่านั้น”

 

“ยิ่งไปกว่านั้นนายคิดจะปล่อยให้คิลเลี่ยนลอยนวลไปจนถึงเมื่อไหร่ พวกนายเองก็รู้ถึงความเสี่ยงที่หากเราไม่รีบจัดการผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ครั้งต่อไปพวกเราอาจไม่ได้โชคดีเหมือนเหตุการณ์ในวันนั้น”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ โทนี่ กล่าวตอบ

 

สองวันที่ผ่านมาในเขตชานเมืองนิวยอร์ก อิทธิพลของระเบิดชีวภาพที่คิลเลี่ยนใช้นั้นสร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนจำนวนมาก เเม้เเต่ องค์กร S.H.I.E.L.D. เองก็เช่นเดียวกัน ระเบิดชีวภาพลูกนั้นเกือบที่จะทำลายเมืองนิวยอร์กให้หายไปครึ่งเมือง

 

 

ธรรมชาติโทนี่ไม่ได้บอกพวกเขาถึงการที่รัศมีพลังระเบิดได้หายไป เเม้ โทนี่ ทีมX-MEN เเละ S.H.I.E.L.D. จะร่วมมือกัน เเต่โทนี่เองก็ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับพวกพ่อมดมากนัก พวกพ่อมด ชอบทำงานแบบอิสระ การจะติดต่อพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่าย

 

“เเม้ว่าการดำรงอยู่ของคิลเลี่ยนจะเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของโลก เเต่นายรับประกันว่าเเผนของนายจะสำเร็จเเน่งั้นหรอ? นายคิดว่าคิลเลี่ยนจะติดกับดักจริง ๆ ? ยังมีเรื่องของเเมนดารินอีก ตอนนี้ พวกเราเเทบจะไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเขาเเม้เเต่น้อย”กัปตันโรเจอร์สยังคงอธิบายต่อไป

 

ดูเหมือนเเผนการของโทนี่ จะยังทำให้ กัปตันโรเจอร์ส กังวลอยู่ คิลเลี่ยนนั้นเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสที่สามารถสร้างระเบิดชีวภาพที่รุนเเรงได้ เป็นอันตรายต่อโลกอย่างมาก

 

“ก็เพราะแบบนั้นฉันถึงต้องมีคนสนับสนุน”

 

“คนสนับสนุน?ใครกัน?”

 

“มายา เเฮนเซ่น!”

 

ได้ยินคำพูดของฮัมดาลล์,เอนเชี่ยนวัน ส่งสายตาออกมาอย่างเปล่งประกาย เขาไม่คิดเลยว่า เเจ็คสัน จะสามารถตรวจพบร่องรอยการจับตามองของฮัมดาลล์ได้

 

“จริงงั้นหรอ?ดูเหมือนเด็กคนนั้นจะพอมีทักษะอยู่บ้าง ไม่งั้นคงไม่ถ่อไปไกลถึงขนาดนี้ เเล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”เอนเชี่ยนวันกล่าวถามออกมา

 

“ตอนนี้เขาอยู่ในดาวดึกดำบรรพ์ดวงนึงที่ค่อนข้างห่างไกล พิกัดที่เเน่นอนข้าสามารถบอกท่านได้ เเต่ระยะทางของสะพานไบฟรอสไปไม่ถึงดาวดึกดำบรรพ์ดวงนั้น ถ้าหากท่านเอนเชี่ยนวันต้องการพาตัวเขากลับมา ท่านสามารถใช้ประตูไบฟรอสส่งไปยังดาวที่ใกล้ที่สุดจากนั้นขากลับหากท่านประสงค์ท่านสามารถเรียกข้าได้ตลอด”ได้ยินคำถามของ เอนเชี่ยนวัน ฮัมดาลล์ กล่าวตอบ การเดินทางด้วยสะพานไบฟรอสนั้นก็มีระยะทางจำกัดเช่นเดียวกัน

 

“เข้าใจเเล้ว เช่นนั้น เจ้าช่วยส่งข้าไปยังสถานที่ที่ใกล้ที่สุด จากนั้นขากลับ ข้าจะติดต่อเจ้ามาอีกที”เอนเชี่ยนวัน เห็นด้วยกับคำเเนะนำของ ฮัมดาลล์

 

“ข้าเข้าใจเเล้ว ได้โปรดท่านไปยืนในตำเเหน่งวงเเหวนด้วย”ฮัมดาลล์กล่าวออกมา จากนั้น ฮัมดาลล์ ก็เดินไปยืนในตำเเหน่งวงเเหวนสะพานไบฟรอส

 

ฟุ่บ!

 

เอนเชี่ยนวันได้ยืนอยู่ท่ามกลางห้องโถงเเห่งนี้ จุดกึ่งกลางที่เขายืนอยู่ก็คือวงเเหวนเวทย์ที่มีดาบปักเอาไว้อยู่พริบตาที่ดาบปักลงไปสุดมิดด้ามเเสงสว่างทั้ง 7 ก็สาดส่องไปทั่วทั้งห้อง

 

ฟ้าว!

 

ฟิ้ว!

 

จากนั้นร่างของเอนเชี่ยนวันก็ได้หายไป ฮัมดาลล์ ได้ดึงดาบยาวออกมา จากนั้นเขาก็ทำหน้าที่ปกป้องรักษาสถานที่เเห่งนี้เหมือนเดิมอีกครั้ง ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำต่อไปก็คือรอการติดต่อจาก ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน

 

 

ในขณะที่เเจ็คสันเเละเดดพูลอยู่ในสถานที่เเห่งนั้นเพียงช่วงครึ่งวัน ที่โลกได้ผ่านไปสองวันเเล้ว ตลอดสองวันมานี้ ด้วยความช่วยเหลือของ S.H.I.E.L.D. ทีม X-MEN เเละ โทนี่ พวกเขาได้เข้าร่วมการโจมตีบุกทลายฐานลับของ คิลเลี่ยน เเละ เเมนดาริน ทั้งหมด

 

ฟู่วว~~~~

 

ย่านชานเมืองนิวยอร์กหลังจากผ่านเหตุการณ์ที่เมืองเกือบจะถูกทำลายเเม้เหตุการณ์นั้นจะจบลงเเต่สงครามยังคงปะทุขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

 

ด้วยความร่วมมือของ S.H.I.E.L.D. ทีม X-MEN เเละ โทนี่ พวกเขาได้จัดการพวกคิลเลี่ยนจนอยู่หมัด เเม้พวกคิลเลี่ยน จะมีเทคโนโลยีอย่างทหารเอ็กซ์ทรีมิสอยู่ในมือ เเต่ก็ไม่สามารถต่อกรกับพวกโทนี่ได้ ยิ่งด้วย สองวันมานี้ โทนี่ได้บอกผ่านความจริงเรื่องคิลเลี่ยนให้ประชาชนคนอื่น ๆ รู้อีก นี่เป็นการโจมตีอีกรูปแบบช่องทางนึง

 

ปั้ง!

 

“บัดซบ! โทนี่ สตาร์ค ทำไมมันถึงยังมีชีวิตอยู่ ทำไม!”คิลเลี่ยนต่อยไปที่ผนังข้างห้องจนเป็นรู ใบหน้าของเขาดำมืดอย่างมาก

 

ในช่วงสองวันมานี้ พวกของโทนี่ ได้บุกโจมตีเขาอย่างไม่หยุดหย่อนทำให้ คิลเลี่ยน ได้สูญเสียกำลังคน เเละ ทหารเอ็กซ์ทรีมิสของตนเองไป เรื่องนี้ทำให้คิลเลี่ยนรู้สึกปวดหัวอย่างมาก เดิมเขาคิดจะฝังหลุมศพโทนี่ไปพร้อมกับสวนอุตสาหกรรมนั่น เเต่โทนี่ กลับดันรอดมาได้

 

“หาากไม่มีไอ้พวกเวร S.H.I.E.L.D. นั่นเข้ามาเกี่ยว เเผนของฉันคงสำเร็จไปเเล้ว!”

 

การต่อสู้ในครั้งนั้นนับเป็นความพ่ายเเพ้ครั้งใหญ่เเละความสูญเสียของเขา คิลเลี่ยน ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่กว่าจะฟื้นฟูกำลังรบของเขาให้กลับมาได้อีกครั้ง เพื่อต่อกรกับโทนี่ เขาจำเป็นจะต้องมีกำลังคน เเต่ตอนนี้มันเป็นไปได้ยากมาก เขาต้องทำงานหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะโทนี่ได้เเฉเรื่องของเขาผ่านการถ่ายทอดสด ตัวเขากับเเมนดาริน กำลังตกเป็นตัวการสำคัญของเรื่องในครั้งนี้ สำหรับเเมนดาริน ตอนนี้ เขาได้หายหน้าหายตาเงียบหายไป ทิ้งไว้เพียงคิลเลี่ยนให้ต่อสู้เพียงลำพัง

 

ฟู่วว!

 

“ไม่ได้การหากเป็นแบบนี้ต่อไป เเม้ว่าฉันจะพัฒนาทหารเอ็กซ์ทรีมิสจนเเข็งเเกร่งได้ ไม่นานฉันก็คงต้องเเพ้หมดสารรูปเป็นเเน่”ณ สถานที่อันห่างไกล คิลเลี่ยน กำลังครุ่นคิดอย่างหนักหน่วง

 

เเมนดารินไม่ได้ยื่นมือช่วยเหลือคิลเลี่ยนในเวลานี้ ทั้งS.H.I.E.L.D. ยังเข้ามาสอดเรื่องของพวกเขา ทาง S.H.I.E.L.D. มีระบบค้นหาตัวของคิลเลี่ยน ไม่ว่าคิลเลี่ยนจะหลบหนีไปซ่อนที่ไหน ไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะถูกพบตัวเข้า

 

ขณะนี้คิลเลี่ยนได้นึกไตร่ตรองจนสมองเเทบจะระเบิดเขายังคงนึกคิดเเผนการบางอย่างออกมา เเต่สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คงมีเเต่การหลบซ่อนตัวไปก่อนเท่านั้น

 

หากสองวันก่อน เเซฟวิ่น สามารถ สังหารประธานาธิบดีได้ เขาก็คงจะไม่ต้องหลบเลี่ยงโทนี่อย่างทุกวันนี้ เเต่การเคลื่อนไหวของ เเซฟวิ่น กลับล้มเหลว เเละ รองประธานาธิบดี ก็กำลังถูกสอบสวนอยู่ในตอนนี้ ไม่ช้าก็เร็วก็คงตรวจพบหลักฐานทั้งหมด คิลเลี่ยน ไม่คิดเลยว่ามันจะลงเอยแบบนี้ เทคโนโลยีทหารเอ็กซ์ทรีมิสของเขานั้นสมบูรณ์แบบมาก เเต่ไม่รู้เพราะอะไรเเผนการของเขาถึงไม่สำเร็จซักที

 

จากนั้นไม่นานคิลเลี่ยนก็ได้เดินออกมาเล่นบนท้องถนน ในฐานะทหารเอ็กซ์ทรีมิสที่สมบูรณ์แบบ คิลเลี่ยน รู้ว่าตนเองกำลังถูกเฝ้าจับตามอง ดังนั้นเขาจึงต้องเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเอง ด้วยความช่วยเหลือของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสการจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเองไม่ใช่เรื่องยาก เเต่ระบบของโปรเจคอินไซต์นั้นไม่ใช่ระบบธรรมดา เเม้จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไป ระบบก็ยังสามารถเเกะร่องรอยได้ เพียงเเต่มันจำเป็นจะต้องใช้เวลามากขึ้นเพียงเท่านั้น

 

 

ทางด้านโทนี่ ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ได้บินผ่านน่านฟ้าเเละสเเกนพื้นที่เฝ้าระวังทุกหนเเห่งตอนนี้เขากำลังตามหาตัวคิลเลี่ยนอยู่

 

“คิลเลี่ยน เเกไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกัน!”ขณะโทนี่เฝ้าระวังจับตามองหาคิลเลี่ยน เขาก็จัดการสนาบรบเเหล่งกบดานของคิลเลี่ยนในสถานที่ต่าง ๆ ไปด้วย

 

“J.A.R.V.I.S ถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสได้หรือยัง?”โทนี่ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

“เจ้านายครับ,ดูเหมือนรหัสพันธุกรรมที่เราตรวจสอบได้ เเม้เราจะได้ค่าคงตัว เเต่ดูเหมือนมันจะเปลี่ยนเเปลงไปเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงสันนิษฐานได้ในอีกรูปแบบคือรหัสพันธุกรรมไวรัสชั่วคราวนี้เหมือนของใช้เเล้วทิ้ง เราจึงไม่สามารถอดรหัสพันธุกรรมเพื่อดึงเอาข้อมูลส่วนสำคัญมาใช้ได้”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

หลังจากพบความเเข็งเเกร่งของทหารเอ็กซ์ทรีมิส โทนี่ ต้องการ เรียนรู้ เกี่ยวกับไวรัส เอ็กซ์ทรีมิสให้มากขึ้น วันนี้พวกเขาได้ตัวอย่างทดลองของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสมาจำนวนมาก เเต่ วิธีการดึงข้อมูลมาใช้งานกลับไม่ได้รับมันมาเเม้เเต่น้อย

 

“ดูเหมือน ผลงานวิจัยของคิลเลี่ยน จะเป็นผลงานที่ได้รับการคุ้มกันอย่างเเน่นหนาจริง ๆ “โทนี่ ไม่ได้เเปลกใจอะไรกับคำตอบของ J.A.R.V.I.S

 

ขณะที่เขากำลังยืนอยู่ท่ามกลางอากาศในสมรภูมิรบเเห่งนึงเเละหารือกับ J.A.R.V.I.S เรื่อง ไวรัส เอ็กซ์ทรีมิส ด้านหลังของโทนี่ก็ปรากฏเสียงคลื่นลมวาบหวิวอย่างรุนเเรง

ขณะเเจ็คสันทำท่าทางบินไปข้างหน้าสตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูนก็เเสดงสีหน้าตกใจอย่างต่อเนื่อง เดิมพวกเขาเองก็ยอมรับความสามารถของเเจ็คสันก่อนหน้านี้เเล้ว เเต่ไม่คิดเลยว่า เเจ็คสันจะมีความสามารถมากขนาดนี้

 

“หืม?”ในขณะที่เเจ็คสันกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศเขาก็สัมผัสได้ว่ามีบางคนกำลังจ้องมองตนเอง

 

ฟุ่บ!

 

เสียงหัวใจของเเจ็คสันได้เต้นอย่างต่อเนื่องเขาได้เงยหน้ามองบนฟ้ายามค่ำคืนที่ไร้เเสงไฟ ความรู้สึกหัวใจเต้นเเรงแบบนี้เเจ็คสันไม่เคยเป็นมาก่อนทั้งยังเต้นเเรงขึ้นมากเรื่อย ๆ

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่?”เเจ็คสันหันศีรษะมองไปรอบ ๆ จากนั้นเขาก็เพ่งพินิจดี ๆ จนพบว่ามันเป็นความรู้สึกเเปลก ๆ ที่มาจากบนท้องฟ้า

 

“มิราจไนท์ เกิดอะไรขึ้น?”ในขณะที่เเจ็คสันลอยตัวอยู่กลางอากาศเเละทำท่าทีมองไปรอบ ๆ ด้วยสีหน้ากังวล เดดพูล ที่นอนผงาบอยู่ด้านล่างสังเกตุได้ถึงความผิดปกติ

 

ฟู่ว~~

 

ทันทีที่เดดพูลส่งเสียงร้องเตือน เสียงหัวใจเต้นรุนเเรงของเเจ็คสันในที่สุดก็ได้หายไป

 

“หายไปเเล้ว!”ความรู้สึกของการถูกเเอบจ้องมองได้หายไป เพียงเเต่เเจ็คสันไม่ได้คลายความสงสัยเเละกังวลลง

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเเจ็คสันก็ร่อนลงมาที่พื้น ทั้งสามคนได้จ้องมองมาทางเเจ็คสันด้วยสีหน้าเดียวกัน เดดพูล เป็นคนเเรกที่รู้สึกเเปลกใจ

 

“เมื่อกี้คุณเป็นอะไรหนะ?”หรือว่ามีอะไรเกิดขึ้น?”หลังจากเเจ็คสันลงถึงพื้น เดดพูล ก็กล่าวถามอย่างจริงจัง

 

“เมื่อครู่ ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังจ้องมองฉัน เเต่ความรู้สึกนี้มันได้หายไปเเล้ว บางทีอาจจะเป็นสัตว์ร้ายในป่าก็เป็นได้”เเจ็คสันไม่ต้องการให้เดดพูล กังวล ดังนั้น เขาจึงกล่าวตอบอย่างผ่อนคลาย

 

“จริงงั้นหรอ?เช่นนั้นพวกเราก็ควรระวังตัวเเล้วสิ”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เดดพูล เองก็รู้สึกสงสัยอยู่บ้างเเต่ก็ไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้ง

 

“ก็ควรจะเป็นอย่างนั้น”เเจ็คสันกล่าวตอบ เขาเองก็ไม่รู้จะอธิบายเหตุการณ์เมื่อกี้ยังไงดี

 

ในขณะที่เเจ็คสันพูดเรื่องที่เขาสัมผัสได้ถึงการเฝ้าระวัง พวก สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ที่อยู่ใกล้ ๆ พวกเขากำลังอึ้งกับความสามารถบินได้ของเเจ็คสันอยู่ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้สงสัยอะไร ในจักรวาลนั้นมีเผ่าพันธุ์นับไม่ถ้วน ที่มีความสามารถพิเศษ เเละ ความสามารถเหล่านี้ก็ถือเป็นความสามารถที่น่าเกรงขามอย่างมาก

 

“มิราจไนท์ ตอนนี้ ฉันอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับตัวนายมากขึ้น ทั้ง ดาวโลก ที่เป็นบ้านเกิดของนายกับสตาร์ลอร์ด จริงสิ ดาวที่ว่านี่มันอยู่ที่ไหนกัน?”ก่อนที่เเจ็คสันจะสร้างรูปแบบป้องกันขึ้นมา เเรคคูน ได้กล่าวพูดอย่างสนใจ

 

ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเเจ็คสันตอนนี้ เขาได้เผยความสามารถที่ทำให้ สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน สนใจ เเน่นอนว่า เเม้เเต่ สตาร์ลอร์ด ที่มาจากดาวโลก ยังเป็นเเค่มนุษย์ธรรมดาไม่มีความสามารถพิเศษอะไร เเรคคูนจึงรู้สึกสนใจในร่างกายของเเจ็คสัน

 

“เห้,เพื่อน นายกำลังดูถูกฉันใช่มั้ย”เห็นเเรคคูนจ้องมองไปที่มิราจไนท์เเละมองสำรวจตัวเขา สตาร์ลอร์ด รู้สึกได้ถึงการเหยียดเเละเปรียบเทียบตัวของเขา

 

“ป่าว~ ~ ~ ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย”เเรคคูนกล่าวตอบ

 

“โลกนั้นเป็นดาวเคราะห์ที่ลึกลับ สตาร์ลอร์ด ได้ออกจากโลกตั้งเเต่ยังเล็ก ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นที่โลก อย่างไรก็ตาม ความลึกลับที่ว่านั้น กลับเป็นอันตรายสำหรับโลกมากกว่า ดังนั้นฉันจึงต้องการกลับไปที่โลกโดยเร็ว”ได้ยินคำถามของเเรคคูน เเจ็คสัน อธิบาย

 

“มิราจไนท์ นายมั่นใจได้เลยว่า นายจะได้กลับไปที่โลกอย่างเเน่นอน หลังจากเราทำภารกิจในครั้งนี้เสร็จ ฉันว่าจะเเวะไปเยี่ยมเยือนโลกสักครั้ง เมื่อถึงเวลานั้น ฉันคงต้องรบกวนนายให้ช่วยพาเที่ยวหน่อย”เห็นสีหน้าที่จริงจังของ เเจ็คสัน เเรคคูน กล่าวตอบ

 

สตาร์ลอร์ด”เป็นความคิดที่ดี!”

 

“ตอนนี้พวกเราควรที่จะพักผ่อนกันได้เเล้ว กรูซ ได้หนีหลับไปปเเล้ว”เห็นกรูซชิ่งหนีหลับ สตาร์ลอร์ด ยกยิ้มเล็กน้อย

 

“อืม…”

 

“จริงสิ สตาร์ลอร์ด คุณพอจะช่วยพาฉันไปเยี่ยมบนยานอวกาศของคุณหน่อยได้ไหม? ฉันมาจากดาวโลกที่ไม่มีวิทยาการเรื่องยานอวกาศ ดังนั้นฉันจึงอยากสัมผัสกับอารยธรรมต่างดาว เพื่อเป็นประสบการณ์ที่ดี…ฉันเองก็อยากจะได้ยินเรื่องราวในอวกาศให้มากขึ้น”ขณะที่เเจ็คสันเตรียมพร้อมที่จะปฏิบัติตาม เดดพูล ได้กล่าวขัดจังหวะเล็กน้อย

 

“ฮ่าฮ่า เเน่นอน,ถ้านายต้องการขึ้นไปเยี่ยมชมบนยานอวกาศของเราไม่ใช่เรื่องปัญหา เเน่นอนว่ายานอวกาศของฉันเเม้จะไม่ใหญ่มาก เเต่มันก็มีห้องเพียงพอให้พวกนายทั้งสองคน”สตาร์ลอร์ดตอบกลับ

 

“เช่นนั้นฉันไม่เกรงใจละน่ะ!”ได้ยินคำตอบของสตาร์ลอร์ดว่าสามารถนอนพักบนยานอวกาศได้ เดดพูล ย่อมรู้สึกดีใจอย่างมาก

 

“ป่ะ ฉันจะพานายไปเยี่ยมชม”

 

จากนั้นสตาร์ลอร์ดก็พาเดดพูลเข้าไปในยานอวกาศ สีหน้าของเดดพูล ตอนนี้ตื่นเต้นอย่างมาก เดิมเขาเองก็ไม่อยากที่จะนอนข้างนอกอยู่เเล้ว สำหรับ เเรคคูน เขาได้นอนบนทุ่งหญ้าของหุบเขา เเรคคูนได้ปิดตาลงนอน ส่วน กรูซ เขาได้หยั่งรากลงไปในดินเเละหลับตาลง ทางด้านเเจ็คสันเขาเพียงนั่งไขว่ห้างเเละหลับตาเพียงเหมือนกัน

 

“เมื่อครู่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่นะ? สิ่งใดกันที่ทำให้ฉันรู้สึกใจเต้นเเรงขนาดนั้น!”ขณะที่เเจ็คสันหลับตาลงเขาก็ครุ่นคิดในใจถึงประสบการณ์ที่ขมขื่นเมื่อครู่

 

 

ในขณะที่เรื่องราว ทีม การ์เดี้ยน ออฟ เดอะ กาเเลคซี เเละ เเจ็คสัน กำลังดำเนินต่อไป ทางด้าน เเอสการ์ด ฮัมดาลล์ ในตอนนี้ ได้ใช้พลังเนตรของตนเองในการมองหาเส้นทางเพียงเเต่สีหน้าของฮัมดาลล์ตอนนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก

 

“ว่าอย่างไรบ้าง?”เห็นการเปลี่ยนเเปลงของฮัมดาลล์ เอนเชี่ยนวัน ที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวถามออกมา

 

“ท่าน เอนเชี่ยนวัน เดิม ข้าได้พบเขาเเล้ว เเละ เขาก็พบข้าเช่นเดียวกัน เเต่ดูเหมือน เขาจะสามารถปิดกั้นพลังเนตรของข้าได้”ได้ยินคำถามของเอนเชี่ยนวัน ฮัมดาลล์ กล่าวตอบ

 

เดิมเเจ็คสันตอนนี้อยู่บนดาวดึกดำบรรพ์ ในขณะที่ เขารับรู้ว่ามีคนกำลังจ้องมองตนเองอยู่ นั่นเป็นฝีมือของฮัมดาลล์ ที่กำลังจ้องมองเขา เเละในตอนนี้ ดูเหมือนเเจ็คสันจะสามารถปิดกั้นการเฝ้าจับตามองของฮัมดาลล์ได้ดังนั้นการที่ฮัมดาลล์จะจับตามองเขาอีกครั้งคงจะเป็นไปไม่ได้

หลังจากได้ยินเรื่องเงินจากปากของเเรคคูนเเละสตาร์ลอร์ด เดดพูล จ้องมองไปที่ยานอวกาศในปัจจุบัน เมื่อครู่นี้เเรคคูนได้บอกว่าจะให้เงินมิราจไนท์ 50,000 เหรียญสหพันธ์ดวงดาว นั่นเท่ากับ 1/4 ของราคายานอวกาศในปัจจุบันลำนี้

 

“ฮ่าฮ่า มิราจไนท์ หากคุณมีน้ำนั่นหลายขวด คุณก็ขายไปเลย ทีนี้ พวกเราจะได้มียานอวกาศเป็นของตนเอง เเละเราก็จะใช้มันบินเพื่อกลับไปที่โลก คุณไม่คิดว่านี่เป็นความคิดที่ดีงั้นหรอ?”เห็นยานอวกาศราคา 200,000 เหรียญสหพันธ์ดวงดาว เดดพูล หันศีรษะไปมองทาง เเจ็คสัน อย่างตื่นเต้น

 

ฟู่ววว

 

ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเจ็คสัน ได้ตบหน้าของเดดพูลไปเบา ๆ ให้เขามีสภาพเหมือนเเกล้งตายอีกครั้ง เงิน 50,000 เหรียญสหพันธ์ดวงดาว เเม้จะมีค่ามากสำหรับพวกสตาร์ลอร์ด เเต่ถ้ามันอยู่ในมือของเเจ็คสัน เเจ็คสัน ไม่ต้องการมันเเม้เเต่น้อย

 

เพราะว่าเขาสามารถใช้เเต้มคะแนนเเลกสิ่งของที่ต้องการได้ในระบบ เเล้วเขาจะเเลกน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำไปขายซื้อยานอวกาศทำไม? สู้เขาใช้คะแนนซื้อยานอวกาศเลยไม่ดีกว่าหรอ เเจ็คสัน เชื่อว่ายานอวกาศในระบบนั้นย่อมต้องมีประสิทธิภาพที่รุนเเรงกว่าอย่างเเน่นอน

 

ราคายานอวกาศที่สมบูรณ์ในระบบนั้นราคาเเพงมาก หากเป็นเเต่ก่อนถ้าเเรคคูนเสนอเรื่องยานอวกาศขึ้นมา เเจ็คสัน ย่อมต้องเห็นพ้องอย่างเเน่นอนเพราะอย่างไรก็ตามเขาก็เเค่เสียเเต้มคะแนนเเลกน้ำศักดิ์สิทธิ์เพียงเเค่ 4 ขวดเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่เสียหายอะไร

 

เเต่ตอนนี้ พิมพ์เขียวเรือเหาะสงครามของเขา ได้ถูกพัฒนาเเละประกอบการสร้างโดยโทนี่อยู่ซึ่งมันใกล้จะเสร็จสมบูรณ์เเล้ว ยิ่งได้ S.H.I.E.L.D. มาร่วมด้วย อีกไม่นานเเจ็คสันเชื่อว่าก็คงจะเสร็จ ในช่วงระยะเวลา 2 เดือน ที่เเจ็คสัน ต้องเดินทางกลับโลก ไม่เเน่ ยานอวกาศของเขาอาจสามารถขึ้นบินได้เเล้วก็เป็นได้ เเละ เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็จะมียานอวกาศเป็นของตนเอง

 

“อย่าไปฟังเขาเลย ฉันไม่ต้องการอะไรตอบเเทนหรอก อีกอย่างฉันเองก็รู้สึกชอบกรูซด้วย เขาเป็นเหมือนเพื่อนคนนึงของฉัน หากคุณต้องการตอบเเทนฉันจริง ๆ เช่นนั้นช่วยส่งพวกเราไปที่ดาวเเซนดาร์ก็พอ”เเจ็คสันกล่าวกับ สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ด้วยรอยยิ้ม

 

“ฮ่าฮ่า เเน่นอน ฉัน จะพาพวกนาย ไปส่งที่ดาวเเซนดาร์เอง ส่วนเรื่องเดินทางกลับโลกไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะช่วยดำเนินการทุกอย่างให้”เดิมทีเมื่อครู่ที่เเรคคูนเสนอเงิน 50,000 เหรียญสหพันธ์ดวงดาวให้กับ เเจ็คสัน สตาร์ลอร์ด รู้สึกกังวลอย่างมาก

 

พวกเขาได้เงินจากการทำภารกิจเป็นเงิน 100,000 เหรียญสหพันธ์ดวงดาว หากเเบ่งให้ เเจ็คสัน 50,000 เหรียญสหพันธ์ดวงดาว นี่ก็เท่ากับว่าพวกเขาต้องสูญเสียเงินที่มีไปถึงครึ่งนึง เเต่ถ้าเงินครึ่งนี้มันสามารถช่วยเหลือกรูซได้เเน่นอนว่าเขาก็คงต้องยอม

 

“เช่นนั้นก็ขอบคุณอย่างมาก”

 

เเจ็คสันกล่าวกับ สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน พวกเขาได้เชื่อมสัมพันธ์กันได้เป็นอย่างดี สำหรับ เดดพูล ตอนนี้ เขานอนกลิ้งลงไปที่พื้นเหมือนเดิม

 

พัฟ!

 

ในช่วงบทสนทนาของพวกเขา กรูซได้สร้างเสียงฮือฮาจำนวนมาก ภายใต้สภาพเเวดล้อมที่อันตรายเหล่านี้ พวกเขาเเทบจะไม่เป็นกังวลกันเเม้เเต่น้อย

 

“I am groot!” กรูซได้โยกตัวออกมาเดินเล่นอย่างมีความสุขราวกับว่าเขาพึงพอใจกับสภาพเเวดล้อมที่นี่เป็นอย่างมาก

 

“เห็นกรูซดีขึ้นฉันเองก็รู้สึกดีใจ ดูเหมือนว่าพวกเราคงไม่ต้องค้างที่นี่หลายวันเเล้ว”สตาร์ลอร์ดกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“ก็จริง เเต่อย่างไรก็ตาม พวกเราพบสิ่งผิดปกติภายในพื้นที่เเห่งนี้ ดังนั้นพวกเราคงไม่อาจปล่อยผ่านได้”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เเรคคูน พยักหน้าตอบกลับ

 

“พวกคุณได้ตรวจสอบพื้นที่บริเวณนี้เเละพบสิ่งผิดปกติงั้นหรอ?หรือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่ดูเหมือนถูกมนุษย์สร้างขึ้นนั่น เดิมที ฉันตั้งใจจะค้นหาอารยธรรมของดาวดวงนี้เพื่อหาทางกลับบ้าน เเต่ไปพบมันเข้า บางที สิ่งนั้นอาจเป็นต้นตอของความผิดปกติ”ได้ยินคำพูดของ เเรคคูน เเจ็คสัน กล่าวตอบ

 

“สถานที่เเห่งนี้มีสัตว์ร้ายจำนวนมากที่เเปลกก็คือพวกมันอยู่ภายในสถานที่เเห่งนี้เเทบจะนับไม่ถ้วน จากเครื่องสเเกนบนยานอวกาศของเรา เดิมดาวดวงนี้ไม่ได้มีสัตว์ร้ายพวกนี้จำนวนมากนัก เเต่ตอนนี้มันมีมากผิดปกติ จริงสิ พวกนายได้เจอสัตว์ร้ายพวกนั้นบ้างหรือไม่?”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน เเรคคูน กล่าวถามออกมา

 

พวกเขาสามารถมาถึงสถานที่หุบเขาเเห่งนี้ได้อย่างปลอดภัย นี่เป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างมาก

 

เห็นสีหน้าของสตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน เเจ็คสัน เข้าใจดีว่าไม่อธิบายก็คงไม่ได้

 

“สัตว์ร้ายที่คุณพูดถึง เเน่นอนว่าพวกเราได้พบเจอมัน ก่อนที่พวกเราจะเข้ามายังหุบเขาเเห่งนี้ พวกเราได้ถูกสัตว์ร้ายตัวใหญ่ไล่ตาม เมื่อเทียบกับยานอวกาศของพวกคุณ ตัวมันใหญ่กว่ามาก ทั้งในป่ายังมีรากไม้ปีศาจอีก พวกมันใช้รากไม้จู่โจมพวกเราจนเกือบพลาดท่า โชคดีที่ พวกมันไม่ได้เเข็งเเกร่งมากนัก พวกเราจึงรอดมาได้ เเต่ที่สำคัญก็คือ สัตว์ร้าย ทั้งสองที่พวกเราเจอ มันเเข็งเเกร่งเกินไป”เเจ็คสันอธิบายออกมา

 

ได้ยินคำอธิบายของ เเจ็คสัน สตาร์ลอร์ด ได้ปลดปล่อยอารมณ์ร่วมจนถึงขีดสุด เดิม เเจ็คสันในตอนนี้เพียงเเค่รอสตาร์ลอร์ดพาไปส่งที่ดาวเเซนดาร์ก็ได้ เเต่เขาอยากที่จะกำจัดสัตว์ร้ายระดับ B ของที่นี่ เพื่อเเลกเปลี่ยนเเต้มคะแนน หากได้รับความช่วยเหลือจากทีมพิทักษ์จักรวาล เเจ็คสัน เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเก็บสะสมคะแนนจากที่นี่

 

“มีสัตว์ร้ายตัวใหญ่กว่ายานอวกาศของฉัน?พวกนายหนีมันมาได้ยังไง!”สตาร์ลอร์ดกล่าวถามออกมา เเจ็คสันบอกว่ามีสัตว์ประหลาดที่ดุร้ายมากถึง 2 ตัวที่ควรระวัง ทั้งตัวของมันยังใหญ่อย่างมาก นี่เเทบจะทำให้ เเจ็คสัน เเละ เดดพูล หมดความหวังในการหลบหนีเเท้ ๆ

 

“เป็นเพราะความสามารถพิเศษของฉัน มันสามารถทำให้ฉันบินได้ในระยะเวลาอันสั้น…”เห็นสตาร์ลอร์ดประหลาดใจ เเจ็คสัน ยิ้มกล่าวตอบ

 

ฟุ่บ~

 

จากนั้นเเจ็คสันก็โดดขึ้นจากพื้นดินเพื่อลอยตัวกลางอากาศสิ่งนี้ทำให้ สีหน้าของสตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูนตกใจโดยสิ้นเชิง

ฟู่วว

 

กระเเสน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ไหลผ่านตามร่างกายของกรูซราวกับทะเลทรายเเห้งที่ได้รับน้ำมาเติมเต็มพริบตาเดียวร่างกายของกรูซก็ดูดซับน้ำเข้าไปอย่างสมบูรณ์ สำหรับ สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน พวกเขาทั้งคู่ไม่รู้ว่ากรูซได้ดื่มน้ำอะไรเข้าไป

 

ฟุ่บ!

 

“กรูซ นายดื่มอะไรเข้าไป!”เห็นกรูซดื่มบางอย่างเข้าไป เเรคคูน ตะโกนอย่างกระวนกระวาย

 

ตอนนี้ร่างกายของกรูวอ่อนเเอมากดังนั้นพวกเขาจึงคอยดูเเลรักษากรูซอย่างระมัดระวัง อย่างไรก็๖าม ตอนนี้กรูซได้ดื่มน้ำอะไรเข้าไปก็ไม่รู้ หากพวกเขารู้ว่ากรูซจะดื่มมันลงไปล่ะก็พวกเขาจะต้องรีบห้ามในทันที

 

“I AM GROOT!”เห็นสีหน้ากังวลของ เเรคคูน กรูซโบกเเขนของตนเองบอกเชิงว่าเขาไม่เป็นอะไร

 

“ผ่อนคลายเถอะ กรูซ มีความคิดเป็นของตนเอง เขารู้ดีว่าอะไรที่เป็นอะไรโยชน์สำหรับเขา ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เขาดื่มลงไปไม่ทำอันตรายอะไรเขาหรอก”เห็นเเรคคูนเเละสตาร์ลอร์ดกังวล เเจ็คสันอธิบาย

 

“มิราจไนท์ นายกล้ารับประกันงั้นหรอ? นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ”เเม้ว่ามิราจไนท์จะอธิบาย เเต่สตาร์ลอร์ดต้องการคำยืนยันอีกครั้ง

 

“เเน่นอน ฉันรับประกัน”เเจ็คสันรู้ดีว่าพวกเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของกรูซ ดังนั้นเเจ็คสันจึงตอบอย่างจริงจัง

 

เพราะว่าสิ่งที่กรูซดื่มลงไปก็คือน้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวเอลฟ์มันมีผลคุณค่าทางการรักษาที่ดีมาก

 

จริง ๆ สิ่งที่เปลี่ยนเเปลงนั้นเกิดขึ้นกับกรูวเร็วมาก กิ่งเเห้งเเต่ก่อนเริ่มที่จะดูอ่อนเยาว์ลงเเละสดชื่นมากขึ้น ผลลัพธ์ที่กรูซได้รับในตอนนี้ทำให้ เเรคคูน ประหลาดใจอย่างรวดเร็ว นอกจากความชุ่มชื้นเเล้ว ร่างกายของกรูซยังพลัดกิ่งออกมาเเละเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

ฟุ่บ!

 

ร่างของกรูซยังคงเพิ่มกิ่งก้านมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นก็มีใบไม้สีเขียวบานออกมา รัศมีพลังชีวิตรอบ ๆ ตัวกรูซเพิ่มขึ้นสูงมาก ได้เห็นรัศมีพลังเเห่งชีวิตที่บริสุทธิ์ เเจ็คสัน เเละคนอื่น ๆ รู้สึกสบายใจมากตอนนี้

 

กรูซในตอนนี้เติบโตใหญ่กว่าต้นบอนไซหลายเท่า เขาได้ลุกออกจากกระถางพร้อมกับยื่นบางส่วนที่ดูเหมือนเท้าเดินออกมาจนสามารถมองเห็นอวัยสำคัญที่เป็นเเขนขาทั้ง 4 ของเขาได้

 

พัฟ!

 

““ I AMGROOT!”หลังจากเหยียดร่างยืดเส้นยืดสายเสร็จกรูซตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

 

“นี่มัน…กรูซ นายดื่มอะไรเข้าไป?เป็นฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตอย่างงั้นหรอ?”เห็นกรูซที่เดิมมีขนาดเท่าต้นบอนไซ ตอนนี้ เขาเติบโตขึ้นมากกว่าเดิมจนเเรคคูนยากที่จะเชื่อ

 

„ IAMGROOT!”เห็นสีหน้าประหลาดใจของเเรคคูน กรูซ ยื่นมือไปจับบ่าเขาเล็กน้อย

 

เเน่นอนว่าไม่ใช่เพียงเเค่เเรคคูน สตาร์ลอร์ดเองก็ประหลาดใจ เป็นเรื่องชัดเจนว่าน้ำที่กรูซดื่มเข้าไปสามารถช่วยรักษาเเละฟื้นฟูกรูซกลับมาได้ นี่ไม่น่าจะใช่สิ่งที่เรียกว่าฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต เเต่มันจะต้องเป็นสิ่งล้ำค่าบางอย่างที่มีผลในการรักษา

 

“มันคล้ายกับฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต เเต่มันก็มีสรรพคุณในการรักษาที่ยอดเยี่ยม นี่จะต้องเป็นสิ่งของล้ำค่าพิเศษอย่างเเน่นอน มิราจไนท์ ขอบคุณนายมาก”เห็นกรูซตื่นเต้น สตาร์ลอร์ดรู้สึกขอบคุณ

 

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณยังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนกัน ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้มีค่าจริง ๆ มันมีความสามารถในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ ดูเหมือนกรูซจะใช้มันเเละได้ผลดีอย่างมาก”เเจ็คสันยิ้มตอบ

 

หากการที่เขาสามารถใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์หนึ่งขวดนี่เเลกเปลี่ยนกับการที่ทีมการ์เดี้ยนเป็นหนี้บุญคุณเเจ็คสันคิดว่ามันคุ้มค่าอย่างมาก หากเปลี่ยนเป็นผลไม้จิตวิญญาณฟ้าเเจ็คสันคงจะลังเลนิดหน่อย เพราะมันมีค่ามากกว่า น้ำศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำที่มูลค่าเเค่ไม่กี่พันเเต้มคะแนน

 

เเจ็คสันในตอนนี้สามารถที่จะเเลกเปลี่ยนน้ำศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำนี่ได้หลายสิบขวดเพื่อให้กรูซฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เเต่ถ้าเเจ็คสันทำแบบนั้น พวกสตาร์ลอร์ดก็คงจะคิดว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เขามีนั้นไม่ใช่สิ่งของมีค่าอะไร

 

ดังนั้นเเจ็คสันจึงรับเเค่เพียงคำขอบคุณจากใจของอีกฝ่ายเพียงเท่านั้น

 

“มีความสามารถในการรักษาจริง ๆ ?! ไม่เเปลกที่กรูซจะฟื้นฟูร่างกายให้กลับมารวดเร็วขนาดนี้ มิราจไนท์ ยังไงก็ต้องขอบคุณนายอีกครั้ง จริงสิ หากนายไม่รังเกียจฉันยินดีจ่ายมัน 50,000 เหรียญสหพันธ์ดวงดาวเพื่อเเลกเปลี่ยนกับของเมื่อครู่”เห็นว่าน้ำที่เเจ็คสันให้กรูซดื่มมีสรรพคุณในการรักษาจริง ๆ เเรคคูน กล่าวพูดอย่างจริงจัง

 

“เรื่องนี้…”ได้ยินคำพูดของเเรคคูน เเจ็คสันรู้สึกอยากจะปฏิเสธ เเต่เขาก็ต้องเก็บคำพูดกลับไป

 

“อึ๊ก…50,000 เหรียญสหพันธ์ดวงดาว?มันมีมูลค่าขนาดไหนกัน!?”ในเวลานี้เดดพูลที่ตื่นขึ้นมาเขาคลานเเละยันตัวขึ้นก่อนที่จะกล่าวถามออกไป

 

เดดพูลพอได้ยินว่าเเรคคูนต้องการตอบเเทนพวกเขาเป็นเงินดังนั้นเดดพูลจึงรู้สึกสนใจอย่างมาก เเน่นอนว่าเขาที่เคยเป็นอดีตทหารรับจ้าง ยิ่งเป็นพวกเกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ เดดพูล จะรู้สึกไวเป็นพิเศษ

 

“50,000 เหรียญสหพันธ์ดวงดาว เอ่อ…นายเห็นยานอวกาศนี้ไหม?มันมีมูลค่ามากกว่า 200,000 เหรียญสหพันธ์ดวงดาว”เห็นเดดพูลกล่าวถาม เเรคคูนคล้านที่จะตอบ เพียงให้ สตาร์ลอร์ดอธิบายเพียงเท่านั้น

 

“ห๋าาา?ยานอวกาศนั่นมีมูลค่า 200,000 เหรียญสหพันธ์ดวงดาว ? นี่มัน…”เดดพูลกล่าวออกมาอย่างครุ่นคิด พวกเเรคคูนเสนอให้พวกเขามากถึง 50,000 เหรียญสหพันธ์ดวงดาว นี่ไม่ใช่ว่ามันมีค่ามากถึง 1/4 ของยานอวกาศเลยหรอ

เห็ฯว่ากรูซชี้ไปที่เข็มขัดของมิราจไนท์เเละพูดชื่อของตนเองออกมา ทุกคนในที่นี้ ยกเว้น เดดพูล ที่นอนสลบ ต่างรู้สึกสงสัยมาก โดยเฉพาะ เเจ็คสัน

 

“กรูซ นายต้องการเข็มขัดของ มิราจไนท์ งั้นหรอ?”ในฐานะเพื่อนที่ดีที่สุดของกรูซ เเรคคูน กล่าวถามออกมา

 

““I am groot! i am groot!”เพียงเเต่กรูซได้ทวนชื่อตนเองซ้ำ ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร

 

บางทีสิ่งที่กรูซพยายามจะสื่ออาจจะไม่ใช่เข็มขัดของมิราจไนท์ อาจจะเป็นบางอย่างที่อยู่รอบเอวดังนั้นสตาร์ลอร์ดที่สงสัยจึงกล่าวออกมา

 

“หืม?มิราจไนท์ นายมีอะไรซ่อนไว้ที่เข็มขัดตรงเอวงั้นหรอ?”สตาร์ลอร์ด กล่าวถาม เเจ็คสัน

 

“เข็มขัดหรอ? ไม่นิ หรือว่าเขาคงไม่ได้พบ…”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ดเเจ็คสันรู้สึกสงสัยหากเป็นไปตามที่สัญชาตญาณของเขาร้องบอกล่ะก็กรูซคงจะตรวจพบอะไรบางอย่างจริง ๆ

 

ที่จริงเเล้วเข็มขัดของชุดเเพนท่อมสูทก็เหมือนกับอาวุธของเเจ็คสันเพราะมันคือกระเป๋ามิติที่สามารถเก็บใส่สิ่งของต่าง ๆ จำนวนมากได้ ดังนั้น เเจ็คสันจึงสงสัยว่ากรูซอาจจะสัมผัสอะไรได้บางอย่างในมิติกระเป๋าของเขา

 

“ค้นพบอะไรงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ คราวนี้ สตาร์ลอร์ด ยิ่งสงสัยเข้าไปอีก

 

“ฉันมีอุปกรณ์ที่สามารถจัดเก็บสิ่งของเข้าในพื้นที่มิติได้ซึ่งมันก็คือเข็มขัดอันนี้”เเจ็คสันไม่ได้ปิดบังเขากล่าวออกมาตามตรง

 

“อุปกรณ์เก็บของแบบมิติ?เข็มขัดนั่นอะหรอ?”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน สตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูน ต่างเเสดงออกด้วยสีหน้าประหลาดใจ

 

ในจักรวาลนั้นมีอารยธรรมจำนวนมากที่มีเทคโนโลยีระดับสูงเเละอุปกรณ์เก็บของแบบมิติย่อมมีอยู่เเล้ว เเต่ เเจ็คสันนั้นมาจากดาวโลกที่ สตาร์ลอร์ด รู้จัก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ดาวโลกจะมีของแบบนี้

 

“อืม,ดูเหมือนกรูซ จะสัมผัสได้ถึงอะไรบางสิ่งที่อยู่ในพื้นที่มิติของฉัน ไม่งั้นเขาคงไม่เเสดงอาการตื่นเต้นแบบนี้”ได้เห็นสีหน้าประหลาดใจของสตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูน เเจ็คสันยิ้มออกมา ดูเหมือนเขาจะคาดเดาถูกต้อง

 

ด้วยสถานะของมิราจไนท์ ทำให้ เเจ็คสันต้องเผชิญหน้ากับอันตรายกับจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงเตรียมพร้อมอุปกรณ์หลายอย่าง เช่น อาวุธ ยารักษา เเละ ไอเท็ม พิเศษที่เเลกมาจากระบบ

 

ได้ยินคำพูดยืนยันของมิราจไนท์คราวนี้สตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูนกลายเป็นตกใจยิ่งกว่าเดิม พวกเขาเชื่อว่ากรูซคงอยากได้อะไรบางอย่างภายในนั้นจริง ๆ

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเเจ็คสันก็หยิบกล่องไม้บางอย่างออกมา เเละ ยื่นไปทางกรูซ

 

เห็นด้วยตาตัวเองว่ามิราจไนท์หยิบของบางอย่างออกมาจากอากาศ เเรคคูน เเละ สตาร์ลอร์ด ยังคงปรากฏร่องรอยความประหลาดใจยังไม่หาย

 

“เป็นอุปกรณ์เก็บของแบบมิติ จริง ๆ ! ควิลล์ ที่โลกของนายมีอุปกรณ์ที่ไฮเทคขนาดนี้ตั้งเเต่เมื่อไหร่?นายออกจากบ้านเกิดมาก็ 20 กว่าปี ใช่ว่าบ้านเกิดของนายสามารถที่จะผลิตเจ้าสิ่งนี้ได้เเล้วหรือไม่?”เเรคคูนกล่าวถามออกมา

 

“นี่…ฉันเองก็ไม่รู้ พัฒนาการของโลกได้พัฒนาไปมากเท่าไหร่จนถึงตอนนี้ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”

 

“ฉันคิดว่าเราคงต้องไปเยือนดาวโลกดูสักครั้งเเล้ว”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เเรคคูน รู้สึกสงสัยอย่างมาก

 

ในขณะที่เเรคคูนเเละสตาร์ลอร์ด สนทนากันอย่างเงียบ ๆ เเจ็คสันก็วางกล่องไม้ไว้บนพื้น

 

“นี่ก็ไม่ใช่งั้นหรอ?”เดิม เเจ็คสันคิดว่ากรูซสนใจกล่องไม้อันนี้เเต่เเล้วดูเหมือนกรูซจะไม่สนใจสิ่งที่ว่าเเม้เเต่น้อย

 

“คงไม่ใช่ว่าเขาสนใจ ผลไม้จิตวิญญาณฟ้า ใช่ไหม?”เเจ็คสันรู้สึกสงสัยจากนั้นเขาก็เก็บกล่องไม้กลับไปเเละหยิบขวดเล็ก ๆ ใบนึงออกมา

 

ผลไม้จิตวิญญาณฟ้านี้นับเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามากที่สุดในช่วงเวลาที่ผ่านมาของเขา

 

หลังจากกำจัดองค์กรไฮดร้าได้สำเร็จ เเจ็คสัน ได้รับรางวัลขนาดใหญ่มา เเละ หนึ่งในนั้นก็เป็น ผลไม้จิตวิญญาณฟ้า หาก กรูซ สนใจสิ่งนี้ก็ไม่เเปลก เพียงเเต่ท่าทีของกรูซกลับไม่ได้มีความรู้สึกสนใจกับของสิ่งนี้

 

จากนั้นเเจ็คสันก็เก็บผลไม้จิตวิญญาณฟ้ากลับไปเขาได้หยิบขวดใส ๆ บางอย่างออกมา มันคือ น้ำศักดิ์สิทธิ์ ระดับต่ำ

 

ฟุ่บ!

 

“I am groot!”คราวนี้เทียบกับปฏิกิริยาของกรูซ ดูเหมือนเขาจะตื่นเต้นอย่างมาก เขาได้โยกตัวไปมาเเละเรียกชื่อตนเองอย่างมีความสุข

 

“ในเมื่อนายอยากได้สิ่งนี้ ฉันก็จะมอบสิ่งนี้ให้นายเป็นของขวัญเเรกพบของพวกเรา”เเจ็คสันไม่คิดเลยว่า กรูซ จะสนใจ น้ำศักดิ์สิทธิ์ นี่ เเต่อย่างไรก็ตาม น้ำศักดิ์สิทธิ์ เพียงขวดเดียวไม่ใช่ปัญหาของเเจ็คสันตอนนี้

 

เขาได้ยื่นส่งขวดใส ๆ เล็ก ๆ ไปให้ กรูซ ขณะนั้น ดูเหมือน สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน จะถกเถียงกันเสร็จเเล้วเขาได้หันมามองที่กรูซเล็กน้อย

 

““ I am groot!”หลังจากได้รับน้ำศักดิ์สิทธิ์ เเล้ว กรูซก็กล่าวเรียกชื่อตนเองออกมาอย่างตื่นเต้นอีกครั้ง

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นกรูซก็ใช้มือเปิดขวดเล็ก ๆ เเละวินาทีต่อมา กิ่งก้านที่เป็นมือของเขาก็จับขวดน้ำนั่นยกดื่มอย่างรวดเร็ว การกระทำของกรูซ ไม่มีเวลาให้ เเรคคูน เเละ สตาร์ลอร์ด ตอบสนองได้มากพอ พริบตาเดียวของเหลวทั้งหมดที่อยู่ในขวดก็ไหลลงเข้าสู่ร่างกายของกรูซอย่างสมบูรณ์

ในมือของเเรคคูนคล้ายกับต้นไม้บอนไซที่อยู่ในกระถางเเม้จะบอกว่ากรูซฟื้นสภาพตนเองขึ้นมาเเล้วเเต่ตอนนี้สิ่งที่ปรากฏออกมาก็เป็นเพียงเเขนทั้งสองข้างขนาดเล็หลังจากออกจากยานอวกาศเเรคคูนก็กลับมาพร้อมกับกรูซในสภาพวัยเยาว์

 

“~ ~ ~ ~ ~ …… นั่น…มาน…ต้นนน…บอน….ไซ….ง้าน…หรอ!”หลังจากเห็นเเรคคูนถือบางอย่างกลับมา ด้วยศักยภาพการฟื้นฟูของเขาทำให้ เขาเริ่มกลับมาออกเสียงได้อีกครั้ง

 

ปั้ง

 

เห็นเดดพูลตะโกนคำเหล่านี้ออกมาอีกครั้ง เเรคคูนก็หยิบปืนที่อยู่ด้านหลังของเขาออกมาจากนั้นเขาก็ยิงไปที่ เดดพูล เเจ็คสันที่อยู่ข้าง ๆ เเรคคูน ทำได้เพียงส่ายหน้าเพียงเท่านั้น

 

อั๊ก~

 

จากนั้นร่างของเดดพูลก็เเน่นิ่งไป เเรคคูนได้นำร่างของกรูซตัวน้อยเดินมาพร้อมกับเเจ็คสันเเละหยุดลงที่เบื้องหน้าของสตาร์ลอร์ด

 

“กรูซคนเหล่านี้คือหนึ่งในสหายใหม่ของพวกเราพวกเขามีชื่อว่า…”

 

“„I am groot!”ได้ยินสตาร์ลอร์ดเเนะนำเเจ็คสัน กรูซ ที่อยู่ในกระถางต้นไม้ได้ตะโกนพูดออกมา สิ่งที่เขาใช้พูดนั้นราวกับภาษาประจำตัวเเน่นอนว่า เเจ็คสันไม่รู้ว่ากรูซต้องการจะสื่ออะไร

 

“ฮ่าฮ่า,เขาคงเเนะนำตัวเองเหมือนกันหมอนี่เพื่อนของเรา ชื่อ กรูซ”สตาร์ลอร์ดกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม

 

ทุกคนในทีมการ์เดี้ยนกาเเลคซีนั้นจะว่าเป็นพวกที่มีนิสัยเเปลกประหลาดทุกคนก็คงไม่เเปลกนอกเหนือจากชื่อเสียงด้านการปกป้องกาเเลคซีเเล้วล่ะก็พวกเขายังมีอีกชื่อเสียงหนึ่งก็คือทีมมหาตัวป่วน

 

เเจ็คสันยิ้มตอบกลับกับการทักทายของกรูซเเม้ชายหนุ่มจะไม่เข้าใจว่ากรูซตั้งใจจะสื่ออะไรเเต่เเจ็คสันก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพียงยื่นมือออกไปจับเเขนเล็ก ๆนั่น

 

“หืม?เขาตอบสนองการเคลื่อนไหว?”เห็นกรูซยื่นมือมาหาเเจ็คสันเหมือนกันสตาร์ลอร์ดอุทานออกมา

 

“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่า กรูซ จะชอบนายมาก เช่นนั้น ก็ถือเป็นเรื่อที่ดี”เห็นกรูซยอมรับเพื่อนคนใหม่ของพวกเขามันเป็นธรรมชาติที่เขาจะต้องรู้สึกยินดี

 

การกระทำของสตาร์ลอร์ดเเม้จะดูน่าสงสัยสำหรับเเจ็คสัน เเต่เพราะสตาร์ลอร์ดรู้ว่าเผ่าพันธุ์ของ กรูซเเม้จะใจดี เเต่ก็จะไม่สนิทกับคนเเปลกหน้าง่าย ๆ เเต่ถึงอย่างนั้นกรูซกลับดีใจเเละเเสดงความเป็นมิตรออกมากับคนเเปลกหน้าที่เพิ่งพบเจอ

 

“ฮ่าฮ่า ฉันเองก็ชักจะรู้สึกชอบกรูซซะเเล้วสิ”ได้ยินคำอธิบายของสตาร์ลอร์ด เเจ็คสันยิ้มออกมา

 

จากนั้นกิ่งก้านที่เป็นเเขนของกรูซก็พันรอบมือของเเจ็คสันก่อนที่มันจะส่งคลื่นบางอย่างให้เเจ็คสันสัมผัสได้

 

เเจ็คสันนั้นไว้ต่อพลังจิตเป็นพิเศษเขาได้ยินความคิดที่คลุมเครือของเด็กน้อยที่บริสุทธิ์กำลังเเล่นผ่านมือของเขา นี่คงจะเป็นการสื่อสารแบบเทเลพาธี

 

“ฉันเข้าใจเเล้วกรูซ”ได้ยินคำพูดของกรูซ เเจ็คสันยิ้มออกมา

 

“เอ๋?กรูซยอมสื่อสารแบบใช้เทเลพาธีกับนาย!”เห็นการเเสดงออกของกรูซเเละปฏิกิริยาของเเจ็คสัน คราวนี้ เเรคคูนค่อนข้างตกใจ

 

เผ่าพันธุ์ของกรูซสามารถสื่อสารแบบใช้เทเลพาธีได้ เเต่มันต้องตามมาด้วยพลังจิตของฝ่ายตรงข้ามที่มากพอไม่งั้นก็ไม่สามารถสื่อสารกับบุคคลที่ใช้เทเลพาธี โชคดีที่เเจ็คสันนั้นมีความสามารถด้านพลังจิตที่สูงเขาจึงเข้าใจอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย

 

“เทเลพาธี อะไรล่ะนั่น?”ได้ยินคำพูดของเเรคคูน เเจ็คสันค่อนข้างสงสัยเล็กน้อย

 

“มิราจไนท์ นายเป็นมนุษย์ธรรมดาจริง ๆ งั้นหรอ?ทำไมนายถึงมียีนที่มีความคล้ายคลึงกับกรูซจึงสามารถสื่อสารกันได้?”สตาร์ลอร์ดรู้สึกสับสน

 

กรูซตัวน้อยเพิ่งฟื้นฟูกลับมาเเละสามารถใช้เทเลพาธี กับคนเเปลกหน้าได้นี่ทำให้สตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูนค่อนข้างพร่ามัว ดังนั้น เขาจึงสงสัยว่า เเท้จริงเเล้ว มิราจไนท์ เด็กหนุ่มเบื้องหน้าของพวกเขา ใช่เกิดมาจากเผ่าพันธุ์ของกรูซหรือไม่ หากไม่ใช่คนที่มีพลังจิตที่เเข็งเเกร่งก็มีอีกทางเดียวก็คือคนจากสายเลือดต้นตระกูลเดียวกันเท่านั้น

 

“ฉันเป็นมนุษย์เเท้ ๆ ร้อยเปอร์เซ็น! ถ้าจะพูดให้ถูกก็ถือฉันเกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษบางอย่าง ดังนั้นฉันจึงสามารถสื่อสารกับกรูซได้”ได้เห็นอาการของสตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูน เเจ็คสัน อธิบายออกมา

 

“หืม?เเม้ว่านายจะเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับพรสวรรค์พิเศษ เเต่มันก็ไม่น่าจะรุนเเรงขนาดนี้”ได้ยินคำอธิบายของเเจ็คสัน สตาร์ลอร์ด กล่าวถามอย่างระวัง

 

“เช่นนั้นมันเเปลกมากงั้นหรอ? หรือว่า กรูซไม่ได้ใช้การสื่อสารแบบเทลาพาทีกับพวกคุณ?”เเจ็คสันไม่ได้สนใจคำถามของสตาร์ลอร์ด เขากล่าวถามออกมา

 

“เเน่นอน ปกติ เเล้วกรูซ ไม่สามารถสื่อสารกับพวกเราด้วยวิธีนั้นได้ ดังนั้น พวกเราจึงเเปลกใจที่นายสามารถสื่อสารกับกรูซโดยใช้วิธีแบบเทเลพาธี”เเรคคูนกล่าวตอบ

 

“„I am groot!”

 

กรูซได้พูดชื่อของตนเองออกมาอีกครั้งจากนั้นเขาก็คลายกิ่งก้านที่รัดพันบนมือของเเจ็คสันลง เเจ็คสันเองก็ดึงเเขนกลับไป

 

จากนั้นกรูซก็ใช้มือของตนเองชี้ไปที่เข็มขัดของเเจ็คสัน

ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เดดพูล เองก็รู้สึกสนใจอย่างมาก เเท้จริงเเล้วเขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกับสตาร์ลอร์ดว่าใบหน้าภายใต้หน้ากากนั้นจะมีรูปร่างอย่างไร เเน่นอนว่าในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์นอกเหนือจาก ปีเตอร์ สไปเดอร์เเมน เเฮร์รี่ ดาร์คไนท์ เเทบจะไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่เเท้จริงของมิราจไนท์

 

เเรคคูนที่ลงมาตามสตาร์ลอร์ด เขาที่ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ดก็รู้สึกสงสัย ตอนนี้ ทั้งสามคนจ้องมองไปที่ มิราจไนท์เป็นสายตาเดียวกัน

 

ตอนนี้เเจ็คสันไม่ได้อยู่บนโลกทั้งเขาไม่มีความจำเป็นจะต้องปิดบังใบหน้าที่เเท้จริงก่อนหน้านี้ที่เขาปิดบังสถานะของตนเองก็เพื่อป้องกันพวกไฮดร้าเเละศัตรูที่อยู่ในโลกของเขา ตอนนี้พวกเขาได้อยู่ต่างดาว ส่วนเรื่องของเดดพูล เเจ็คสัน ก็ไม่คิดว่ามันน่าเป็นห่วงเท่าไหร่

 

“จริงด้วย…ต้องขอโทษด้วยเสียมารยาทเเล้ว”ภายใต้การจ้องมองของทั้งสามคนเเจ็คสันได้ใช้มือความดึงหน้ากากของเขาลงมา

 

ฟุ่บ!

 

ทันใดนั้นใบหน้าของเเจ็คสันภายใต้หน้ากากก็เปิดเผยสู่สายตาของ สตาร์ลอร์ด เดดพูล เเละ เเรคคูน มันเป็นใบหน้าที่ยังเด็กอยู่มาก

 

“มิราจไนท์…คุณ!”เห็นใบหน้าที่เเท้จริงของมิราจไนท์ การตอบสนองของ เดดพูล รุนเเรงมาก

 

เเน่นอนว่าไม่ใช่เพียงเเค่เดดพูล สตาร์ลอร์ดเองก็ตกใจ เมื่อครู่ มิราจไนท์ได้เเสดงความเเข็งเเกร่งที่น่าเหลือเชื่อออกมา เเต่พอได้เห็นใบหน้าที่เเท้จริงของมิราจไนท์ พวกเขาทั้งหมดกลับรู้สึกตกใจอย่างมาก

 

สำหรับ เเรคคูน เขาเองก็เพียงเเปลกใจเล็กน้อย เทียบกับความเเปลกใจของเดดพูล เขารู้สึกสงบมาก ในจักรวาลใบนี้ เด็กที่มีพรสวรรค์เเละมีความสามารถด้านการต่อสู้ที่เเข็งเเกร่งก็มีอยู่ไม่น้อย

 

“ที่เเท้นายเองก็ยังเด็กขนาดนี้ เมื่อเทียบกับความกล้าหาญเเละความเเข็งเเกร่งที่นายเผยออกมามันเเทบจะไม่เข้ากับอายุของนายเเม้เเต่น้อย”สตาร์ลอร์ดรู้สึกชื่นชมอย่างมาก

 

สตาร์ลอร์ดตอนอายุ 8 ปี เเม่ของเขาเป็นมะเร็ง ดังนั้นเขาจึงสูญเสียครอบครัวคนสำคัญเเละได้เดินทางออกจากโลกในตอนนั้น ก่อนหน้านี้เขาได้ถูกเลี้ยงดูอยู่ในกลุ่มสลัดอวกาศเเละเติบโตขึ้นมาในฐานะหัวขโมย เมื่อเทียบเขากับเเจ็คสันตอนอายุ 17 ปี ประสบการณ์ความกล้าของสตาร์ลอร์ดกลับมีน้อยกว่ามาก

 

“คุณ…เป็นไปไม่ได้ ที่เเท้ยังเด็กขนาดนี้ นี่เป็นไปได้ยังไง!”น้ำเสียงของสตาร์ลอร์ดกล่าวด้วยความชื่นชม เเต่สำหรับเดดพูล เขาตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจ เดิมเขาคิดว่าใบหน้าภายใต้หน้ากากของมิราจไนท์จะต้องเป็นชายวัยกลางคนอายุ 30 + อย่างเเน่นอน

 

เเจ็คสัน”…”

 

เผชิญหน้ากับความบ้าคลั่งของเดดพูลเเละการตอบสนองของคนอื่น ๆ เเจ็คสัน ไม่ได้สนใจเเม้เเต่น้อย

 

“จริงสิ คุณเตรียมจะพักอยู่ที่นี่ซักพักใช่มั้ย?”หลังจากเปิดเผยใบหน้าออกมา เเจ็คสัน ก็กล่าวถาม สตาร์ลอร์ด

 

ตอนนี้เเจ็คสันเองก็รู้สึกสนใจที่จะเรียนรู้อารยธรรมอื่น ๆ เเน่นอนว่าเขาต้องการได้รับข้อมูลใหม่ ๆ เพื่ออ้างอิงในอนาคต

 

“อืม พวกเราคงต้องพักอยู่ที่นี่ซักสองสามวัน ก่อนที่จะเดินทางออกจากดาวดวงนี้”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน สตาร์ลอร์ดตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“คุณมีธุระอะไรกับที่นี่อย่างงั้นหรอ?”เเจ็คสันกล่าวถามออกมา เขารู้สึกสงสัยว่าสตาร์ลอร์ดต้องการทำอะไรที่นี่ตั้งสองสามวัน

 

เกี่ยวกับเรื่องภาพยนตร์กาเดี้ยนออฟเดอร์กาเเลคซีนั้นเเจ็คสันก็พอรู้มาบ้างเเต่เขาเองก็รู้สึกสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขาจริง ๆ มากกว่า

 

“เพื่อนของเราได้รับบาดเจ็บดังนั้นเขาจึงต้องการพักผ่อนในดาวดวงนี้สักพัก ดาวดวงนี้มีส่วนช่วยเหลือในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเขาได้ดี”คราวนี้เป็นเเรคคูนกล่าวตอบคำถามของเเจ็คสัน

 

‘เพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ?หรือว่าจะเป็น กรูซ’เเจ็คสันครุ่นคิดในใจ

 

“เพื่อนของคุณได้รับบาดเจ็บร้ายเเรงเเค่ไหน?”เดดพูลกล่าวถามออกมา

 

“ร็อคเก็ต นายไปพากรูซมาพบพวกเขาเถอะ ฉันเชื่อว่า กรูซจะต้องชื่นชอบพวกเขาทั้งสองคนที่มาจากบ้านเกิดของฉันอย่างเเน่นอน”สตาร์ลอร์ดไม่ได้วางเเผนจะปิดบังเรื่องของกรูซเขาเชื่อว่าทั้งสองคนสามารถเชื่อถือได้

 

“ก็ได้,ยังไงก็เถอะ หากนายกล้าปากเสียอีกล่ะก็ คราวนี้ฉันจะไม่ใช้เเค่ปืนพลังงานยิงอัดตูดนายเเค่นั้นเเน่”เเรคคูน หันไปทางเดดพูล เเละกล่าวขู่เขา

 

“เอ่อ…เเน่นอน ไม่ว่านายจะเหมือนเเค่ไหน ฉันก็จะไม่ล้อเลียนเเน่นอน”เห็น เมอร์ไลออน ตัวนี้ยิ้มเเยกเขี้ยวใส่เขา เดดพูล ยิ้มอย่างเจื้อน ๆ

 

“! ~~~ …… ” หลังจากเดดพูล พูดคำเหล่านี้ออกมา เเรคคูน ที่เดินไปได้สองสามก้าวได้ยกปืนขึ้นมาพร้อมกับเล็งไปที่ เดดพูลทันที จากนั้นกระสุนอัมพาตก็ถูกยิงออกมา

 

ฟุ่บ

 

พลังงานไฟฟ้าของลูกปืนลูกนี้ค่อนข้างสูง ด้วยพลังงานไฟฟ้าที่สามารถทำให้เป็นอัมพาต คงสามารถทำให้เดดพูล เงียบปากไปได้อีกหลายชั่วโมง ถ้าจะให้โทษก็คงต้องโทษปากของเดดพูลที่นำพาเรื่องซวยมาให้

 

“„ ~ ~ ~ ~ ~ …… “เดดพูลที่โดนลูกกระสุนไฟฟ้าอัดเข้าที่ลำคอ จู่ ๆ เขาก็ลงไปนอนดิ้นอย่างเจ็บปวดก่อนที่ร่างจะสั่นเทาเล็กน้อย

 

เห็นเดดพูลที่นอนเจ็บปวดเเจ็คสันคราวนี้ไม่ได้ช่วยเหลือหลังจากนั้นสองนาทีเเจ็คสันก็ได้ตามเเรคคูนเดินขึ้นยานอวกาศไป

หลังจากผ่านไปห้านาทีเเจ็คสัน,เดดพูล สตาร์ลอร์ด ทั้งสามคนได้ร่วมสนทนากัน ส่วน เเรคคูน ได้ขอตัวขึ้นไปบนยาน

 

“ดูเหมือนในช่วงสองปีที่ผ่านมามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายที่โลก,เเต่อย่างว่าฉันได้ออกจากดาวโลกมาก็ 20 กว่าปีที่เเล้ว ได้ยินนายพูดแบบนั้นฉันเองก็อยากจะกลับไปที่โลกเพื่อดูมันอีกสักครั้ง”สตาร์ลอร์ดกล่าวออกมา

 

เมื่อครู่ได้ยินเรื่องราวบนโลกจากปากของเเจ็คสันเเละเดดพูล สตาร์ลอร์ด รู้สึกตื่นเต้นมาก จากนั้นสตาร์ลอร์ดก็นึกถึงเรื่องราวที่เขาตะเวณไปทั่วกาเเลคซีมันทำให้เขารู้สึกห่างหายไปจากบ้านเกิดนาน

 

“โลกในตอนนี้พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก หากคุณต้องการไปเยี่ยมเยือนที่นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี”เเจ็คสันบิ้วอารมณ์ของสตาร์ลอร์ดต่อ

 

สตาร์ลอร์ด จากเรื่อง ภาพยนต์ กาเดี้ยน ออฟ เดอะ กาเเลคซี นั้น เดิม มีสตาร์ลอร์ดเป็นพระเอก หรือก็คือหัวหน้าของทีมพิทักษ์จักรวาล อีกอย่างนึงรัศมีของตัวเอกในเรื่องนี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะลำพังเพียงเเค่คนธรรมดากลับหาญกล้านำกองทัพเข้าสกัดกั้นมณีพลังจากโรเเนน

 

“เเม้ว่าฉันจะอยากกลับไปที่โลกเพื่อดูมันอีกสักครั้งเเต่ตอนนี้ฉันมีภารกิจบางอย่างที่ต้องสะสางก่อน”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน สตาร์ลอร์ดกล่าวตอบ

 

สตาร์ลอร์ดได้ถูกรับมาเลี้ยงโดยพ่อที่อุปถัมภ์เขา เขาเติบโตขึ้นในถิ่นฐานของสลัดอวกาศ จนตอนนี้สตาร์ลอร์ดได้ปลีกตัวออกมา เเละ ก่อตั้งทีมพิทักษ์จักรวาลด้วยตนเอง เขายังมีสถานที่ที่ต้องไปอยู่อีก

 

“ภารกิจ?มีเรื่องสำคัญอะไรหรือไม่?หากมันไม่เกินมือพวกเรา พวกเรายินดีที่จะช่วยเหลือ”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เเจ็คสัน กล่าวตอบทันที

 

“มันเป็นเรื่องทางครอบครัวของฉัน ช่วงนี้ฉันเเค่ลาพักผ่อนออกมาเท่านั้น อีกสองวันพวกเราจะกลับไปทำภารกิจกันต่อ เเม้ทีมพิทักษ์จักรวาลจะมีชื่อเสียงเเต่ก็ไม่ได้ทั่วถึงครอบจักรวาลขนาดนั้น พวกเรายังคงต้องเดินทางเเพร่กระจายความนิยมเเละชื่อเสียงกันต่อไป”สตาร์ลอร์ดกล่าวอธิบาย

 

“เรื่องนี้…”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เเจ็คสันไม่รู้จะกล่าวอะไรต่อดี

 

“เอ่อ…สตาร์ลอร์ด คุณพอจะช่วยส่งพวกเรากลับไปที่โลกได้ไหม?”เห็นมิราจไนท์ไม่มีท่าทีตอบสนอง เดดพูล รู้สึกอดใจไม่ไหว เขาไม่สามารถทนได้ตอนนี้

 

“ส่งพวกนายกลับโลก? จริงสิ พวกนายได้พลัดหลงมายังสถานที่เเห่งนี้เพราะประตูมิติอวกาศ เพียงเเต่ จากระยะทางที่นี่ไปโลกนั้นค่อนข้างไกลอย่างมาก”ได้ยินคำพูดของเดดพูล สตาร์ลอร์ด กล่าวตอบ

 

“!”ได้ยินคำตอบเช่นนี้ เเจ็คสัน เเละ เดดพูล รู้สึกตกใจทันที

 

“การจะส่งพวกนายกลับไปที่โลกไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เเต่มันเเค่ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้อย่างเเน่นอน เพราะระยะทางจากที่นี่ไปโลกอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าสองเดือน เเต่ช่วงนี้พวกเราติดภารกิจมากดังนั้นคงไม่มีเวลามากพอขนาดนั้น”เห็นอาการตกใจของทั้งสองคนสตาร์ลอร์ดกล่าวตอบ

 

คำตอบของสตาร์ลอร์ดเเน่นอนว่าทำให้สีหน้าของ เดดพูล เเจ็คสัน ไม่สู้ดีนัก

 

ในปัจจุบันเเจ็คสันไม่คาดคิดเลยว่าจะพบเจอกับ สตาร์ลอร์ด โดยบังเอิญ เขาคิดว่าบางทีมันอาจจะเป็นโชคครั้งใหญ่ของพวกเขา ถ้าหากได้พวกของสตาร์ลอร์ดช่วยพากลับโลกนั้นเเจ็คสันอาจจะไม่จำเป็นจะต้องใช้จ่ายเเต้มคะแนนจำนวนมากเพื่อหาทางกลับโลกเอง”พวกคุณพอจะช่วยพาเรากลับไปที่โลกได้หรือไม่ เเน่นอนว่าพวกเรามีสิ่งตอบเเทนอย่างเเน่นอน?”

 

“ดูเหมือนว่าพวกนายต้องการกลับไปที่โลกจริง ๆ ?”

 

“เเต่เรื่องระยะทางก็อย่างที่ฉันบอกมันค่อนข้างห่างไกล เเต่ถ้าพวกนายต้องการฉันสามารถไปส่งพวกนายที่ดาวเเซนดาร์ได้ ฉันจะลองขอร้องคนที่นั่นให้ช่วยเหลือพวกนายเพื่อให้ได้กลับไปที่โลก”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันสตาร์ลอร์ดส่ายศีรษะเล็กน้อยก่อนที่จะบอกหนทางบางอย่างให้

 

ก่อนหน้านี้ ทีม พิทักษ์จักรวาล ได้ช่วยเหลือ ดาวเเซนดาร์ เเละ กำจัด โรเเนน ไปเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้น ดาวเเซนดาร์ จึงเป็นหนี้บุญคุณทีมพิทักษ์จักรวาล การที่เขาจะขอร้องให้ช่วยส่งทั้งสองคนนี้กลับคงไม่ใช่คำขอที่มากเกินไป

 

“หืม?ดาวเเซนดาร์?เข้าใจเเล้ว เช่นนั้นคงต้องรบกวนคุณไปส่งเราที่ดาวเเซนดาร์ด้วย”เเจ็คสันพอจะรู้จักดาวเเซนดาร์ อยู่บ้าง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสงบ

 

“ฮ่าฮ่า ไม่มีปัญหา เเต่พอดีพวกเรามีภารกิจเล็กน้อยที่ดาวดวงนี้ อาจจะต้องรออีก 2-3 วันก่อนถึงจะเริ่มเดินทางกัน”สตาร์ลอร์ด กล่าวตอบ

 

“ขอบคุณ สตาร์ลอร์ด ถ้าหากคุณมีเรื่องที่ต้องการให้พวกเราช่วย เเน่นอนว่าฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ นับจากนี้ไป ทีมพิทักษ์จักรวาลก็คือสหายของพวกเรา”หลังจากได้รับการตอบรับความช่วยเหลือเเจ็คสันกล่าวตอบ

 

เเม้ว่าคำพูดของเเจ็คสันจะดูดี เเต่ สตาร์ลอร์ด ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่เขาตกลงช่วยทั้งสองคนก็เพราะทั้งสองคนดูเป็นมิตรทั้งยังมาจากบ้านเกิดของตนเอง

 

“ฮ่าฮ่า ใช่ ๆ ถ้าพวกนายว่าเช่นนั้นตอนนี้พวกเราก็คือสหายกัน เช่นนั้นก็คงไม่จำเป็นต้องอำพรางใบหน้าหรอกจริงไหม?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน สตาร์ลอร์ดยิ้มออกมา ปัจจุบัน สตาร์ลอร์ดเองก็รู้สึกสงสัยภาพลักษณ์ใบหน้าของ เเจ็คสันมาก เพราะ เครื่องตรวจจับการสเเกนของสตาร์ลอร์ดไม่สามารถมองทะลุผ่านใบหน้าของเเจ็คสันได้ดังนั้นมันจึงกระตุ้นความสนใจของเขา

ฟู่ว ~ ~

 

ขณะที่ยานอวกาศได้ลงจอดสำเร็จ ประตูห้องโดยสารที่เปิดขึ้นก็ปรากฏมนุษย์ต่างดาวสองคน เเจ็คสัน เเละ เดดพู, จ้องมองพวกเขาด้วยความสงสัย จนในที่สุดพวกเขาก็ลงมาถึงพื้น เเจ็คสัน เเละ เดดพูล จึงเห็นรูปร่างของพวกเขาทั้งสองคนได้ทั้งหมด

 

“นั่นมัน! เมอร์ไลออน ของประเทศสิงคโปรงั้นหรอ? เดิมทีชาวพื้นเมืองที่นี่เป็น เมอร์ไลออน ของประเทศสิงคโปร ฮ่าฮ่า นี่มัน น่าเหลือเชื่ออย่างมาก”เห็นหนึ่งในทั้งสองคนเป็นสัตว์ท่าท่างประหลาดถือปืนยาวเป็นอาวุธ เดดพูล หัวเราะออกมา

 

“เฮ้ย เมอร์ไลออน ของประเทศสิงคโปร มันคืออะไร?”เห็นอีกฝ่ายจ้องมองมาที่ตนเอง เเรคคูน กล่าวถามออกไป เเน่นอนว่าเขาเข้าใจภาษาอังกฤษที่อีกฝ่ายสื่อสาร เเต่ไม่เข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ ดังนั้น เเรคคูน จึงทำหน้าสงสัยหันไปทาง สตาร์ลอร์ด

 

“ฮุฟ! ฮ่าฮ่า เมอร์ไลออนของประเทศสิงคโปร ยังมีคนที่คิดเรื่องนี้ได้อีกงั้นหรอเนี่ย”ทันทีที่เเรคคูน กล่าวถาม สตาร์ลอร์ด ก็หัวเราะออกมา

 

“เฮ้ เพื่อนยาก เขาคิดว่านายเป็น เมอร์ไลออนของประเทศสิงคโปร ที่เป็นสัญลักษณ์อย่างนึงของที่นั่น เอาจริง ๆ นายก็คล้ายอยู่นะ เเต่เอาจริง ๆ ฉันคิดว่าหมอนั่นมันกำลังล้อเลียนว่านายเหมือนเเมวสองขาเดินได้มากกว่า”สตาร์ลอร์ดอธิบายเล็กน้อย เขาเข้าใจว่า เดดพูล ต้องการจะสื่ออะไร เเต่สตาร์ลอร์ดได้เเกล้งหยอกล้อเพื่อนตัวน้อยของเขา

 

“หืม?มันว่าฉันเป็นเเมวสองขาเดินได้งั้นเรอะ!?”ได้ยินคำอธิบายของสตาร์ลอร์ด เเรคคูน หันหน้าไปมองที่เดดพูล พร้อมกับหันปืนของเขาไปที่อีกฝั่ง การที่ถูกคนอื่นหยอกล้อว่าเป็นเเมวหรือสุนัขนั้นเป็นความอัปยศที่เเสนเจ็บปวดของเขา

 

“ปืน!”เห็นสิงค์โตตัวน้อยเเยกเขี้ยวยิงปืนมาที่ตนเอง เดดพูล รู้สึกตกใจทันที

 

เปรี้ยง!

 

สตาร์ลอร์ดเองก็ไม่ทันได้ห้ามสหายของเขา เเรคคูน ได้ยิงปืนออกมารวดเร็วเกินไป มีเพียง เเจ็คสันเท่านั้นที่ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้ทัน

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่เดดพูลกำลังจะถูกปืนอีกฝ่ายยิงทิ้งเเจ็คสันได้เรียกซอร์ดสปิริตของตนเองออกมาพร้อมกับปล่อยพลังรัศมีดาบออกไปหยุดลำเเสงพลังงานด้านหน้า

 

เปรี้ยง

 

ปั้ง

 

พริบตาต่อมาลูกปืนพลังงานของเเรคคูนได้ระเบิดกลางอากาศภายใต้การสกัดกั้นของเเจ็คสัน คลื่นพลังฉี ที่เป็นพลังภายในของเเจ็คสัน ได้ทำลายพลังงานปืนของอีกฝ่าย การกระทำของเเจ็คสันทำให้ สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย

 

“มันไม่ใช่เรื่องที่ดีที่นายจะพูดสุ่มสี่สุ่มห้าไปแบบนั้น”หลังจากหยุดปัญหาดังกล่าวได้ เเจ็คสันได้หันมาทางเดดพูลเเละกล่าวตำหนิ

 

“เอ่อ…ฉัน ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะเข้าใจที่เราพูด! หรือว่า ภาษาอังกฤษที่เราใช้จะเป็นภาษากลางของจักรวาล?”ได้ยินคำติเตียนจากมิราจไนท์ เดดพูล รู้สึกผิดอย่างมาก

 

“ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษากลางของจักรวาล เเต่ก็ยังมีบางกลุ่มบางพวกที่เข้าใจในภาษาที่พวกเราใช้ อารยธรรมของพวกเขานั้นก้าวหน้าเร็วมาก ไม่เเปลกที่พวกเขาจะสามารถเรียนรู้ได้หลายภาษา”ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเจ็คสัน อธิบายอย่างไม่เต็มใจ

 

“สามารถเรียนรู้ภาษาได้จำนวนมากขนาดนี้?อารยธรรมต่างดาวน่ากลัวจริง ๆ เช่นนั้นพวกเขาจะกลายเป็นศัตรูกับพวกเราหรือไม่?”เดดพูล กล่าวถาม

 

“ยังไม่รู้…เเต่นายเงียบไปก่อนที่เหลือปล่อยให้ฉันจัดการต่อเอง”

 

เเม้เเจ็คสันจะไม่เเน่ใจว่าอีกฝ่ายมาดีหรือไม่เเต่เขาก็รู้สึกว่าตนเองไม่ควรจะเสียมารยาทกับอีกฝ่าย เพราะ อีกฝ่ายคือหนทางที่จะช่วยให้พวกเขาได้กลับบ้าน

 

ได้ยินคำพูดที่เเจ็คสันเเละเดดพูลสื่อสารกับ เเรคคูน เพียงทำหน้าสงสัย เเต่ สตาร์ลอร์ดนั้นกลับประหลาดใจอย่างมาก สตาร์ลอร์ดนั้นชื่นชอบฟังเพลงตั้งเเต่เด็ก คำที่อีกฝ่ายใช้นั้นเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด กล่าวอีกนัยนึงก็คือ อีกฝ่ายคือเพื่อนมนุษย์ที่มาจากดาวโลกที่มีดาราหญิงที่ สตาร์ลอร์ดชื่นชอบ สตาร์ลอร์ดอยากรู้มากว่าอารยธรรมของโลกจะพัฒนาไปมากกว่าเดิมเเค่ไหน มันก็ผ่านมาซัก 20 ปี ได้เเล้วล่ะมั้ง

 

เห็นท่าทีของสตาร์ลอร์ด เเรคคูน กลับรู้สึกสงสัยอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาจากดาวโลก

 

เเต่สิ่งที่เเรคคูนประหลาดใจก็คืออีกฝ่ายสามารถหยุดปืนพลังงานของเขาได้ หากปืนพลังงานลูกนั้นยิงกระทบอีกฝ่ายล่ะก็ อีกฝ่ายจะต้องได้รับบาดเจ็บรุนเเรงอย่างเเน่นอน เเต่สหายข้าง ๆ คนที่ล้อเลียนเขา กลับสามารถหยุดลูกปืนของเขาได้นี่เเสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ตัวตนธรรมดา

 

เเน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เเรคคูนรู้สึกคนเดียว สำหรับ สตาร์ลอร์ด เขาเเค่จงใจยั่วยุเพื่อนของตนเองเท่านั้นไม่คิดว่าเเรคคูนจะบ้าบิ่นยิงปืนสุ่มสี่สุ่มห้าออกไป เเต่ก็โชคดีที่อีกฝ่ายไม่เป็นอะไร

 

เห็นการกระทำของอีกฝ่าย ในที่สุด สตาร์ลอร์ดก็ตัดสินใจที่จะเปิดปากพูดก่อน

 

“สวัสดีทั้งสองคน ! ฉันมาจากทีมพิทักษ์จักรวาล ชื่อเล่นของฉันคือ สตาร์ลอร์ด พวกนายทั้งสองคนมาจากดาวโลกใช่มั้ย?”สตาร์ลอร์ด กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม

 

เห็นสตาร์ลอร์ดญาติดีกับอีกฝ่ายเเละอีกฝ่ายไม่มีท่าทีของภัยคุกคามเเรคคูนได้เก็บปืนของตนเองกลับไป

 

ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด สีหน้าของเเจ็คสันภายใต้หน้ากากกลับสว่างวาบมากขึ้น”ฉันเดาไม่ผิดจริง ๆ ! พวกเขามาจากทีมพิทักษ์จักรวาล”

 

เห็นเเรคคูนเเละสตาร์ลอร์ดเดินเข้ามาทางด้านหน้าของตนเอง เเจ็คสันก็เดินไปด้านหน้าเช่นเดียวกันมีเพียงเดดพูลเท่านั้นที่ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

 

“ที่เเท้พวกคุณก็มาจากทีมพิทักษ์จักรวาลอันโด่งดังนั่นเอง สตาร์ลอร์ด พวกเราได้ยินชื่อเสียงของพวกคุณมามาก ฉัน มิราจไนท์ ส่วนเขา ชื่อ เดดพูล พวกเรามาจากดาวโลก เกี่ยวกับคำพูดของเขา ฉันต้องขอโทษเเทนเขาด้วย”เผชิญหน้ากับสตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูน เเจ็คสัน กล่าวเเนะนำตัวอย่างสงบ

ดูเหมือนว่าเดดพูลยากที่จะเชื่อว่ามิราจไนท์จัดการศัตรูได้ดังนั้นเขาจึงต้องการคำตอบยืนยันจากปากของมิราจไนท์

 

“ป่าวหรอก ฉันได้พานายหลบหนีมาหลังจากนั้นมันก็เลิกไล่ตาม”

 

ฟู่ว

 

“ฉันว่าเเล้ว,ใครจะไปจัดการไอ้สัตว์ประหลาดแบบนั้นได้ง่าย ๆ”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ เดดพูล รู้สึกระชุ่มกระชวยหัวใจเล็กน้อย

 

เดดพูลเเสดงความดีใจออกมา หาก มิราจไนท์สามารถกำจัดเจ้าสัตว์ประหลาดเเบบนั้นได้จริง เเสดงว่ามิราจไนท์จะต้องเเข็งเเกร่งมาก ๆ เเต่ เดดพูล หารู้ไม่ว่า เเจ็คสัน มีความคิดที่จะกำจัดพวกสัตว์ประหลาดเหล่านั้นเพื่อรับเอาเเต้มคะแนนเพื่อหาทางกลับสู่โลกอยู่หากเขารู้ล่ะก็เดดพูลจะต้องบ้าตายอย่างเเน่นอน

 

“พวกมันเป็นสัตว์ประหลาดที่เเข็งเเกร่งจริง ๆ ตอนนี้หนทางที่พวกเราจะกลับสู่โลกได้มีน้อยอย่างมาก ฉันจะต้องนึกหาทางออกโดยเร็ว”เเจ็คสันขี้เกียจอธิบายเขากล่าวพูดตามตรง

 

“หืม?ทำไมยังต้องมองหาอีก! ไม่ใช่ว่าคุณบอกว่าจะค้นหาต้นกำเนิดของอารยธรรมดาวดวงนี้ไม่ใช่หรอ?ทันทีที่คุณเห็นสิ่งก่อสร้างประหลาดนั่นคุณก็คิดทางออกนี้เอาไว้เเล้ว”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เดดพูล รู้สึกสงสัยอย่างมาก

 

สำหรับดาวดึกดำบรรพ์เช่นนี้ ค่าพลังทางกายภาพของเดดพูล ถูกจำกัดอยู่ในขอบเขตที่ต่ำที่สุด สิ่งที่เขาสามารถพึ่งพาได้ในปัจจุบันก็คือมิราจไนท์ หากมิราจไนท์ว่ายังไงเขาก็คงต้องว่ายังงั้น

 

“เดิมฉันก็คิดแบบนั้นเเต่หลังจากสำรวจรอบหุบเขาเล็ก ๆนี่สักพัก ฉันก็พบร่องรอยในอดีตที่ยาวนาน ดูเหมือนมันจะถูกสร้างขึ้นเมื่อหลายปีก่อน อาจจะเป็นอารยธรรมอื่น ๆ ที่มาค้นพบสถานที่เเห่งนี้เเละใช้มันเป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราว มันเป็นไปไม่ได้ที่ร่องรอยอารยธรรมเหล่านั้นจะเพียงพอที่จะทำให้พวกเรากลับสู่โลกได้”ได้ยินข้อสงสัยของเดดพูล เเจ็คสันอธิบายออกมาทันที สิ่งที่สังเกตุได้ง่าย ๆ ก็คือ พวกสัตว์ประหลาดที่ดุร้ายนั่น ไม่มีทางที่อารยธรรมที่เจริญเเล้วจะไม่สามารถหยุดยั้งสัตว์ประหลาดพวกนั้นไม่ได้อย่างเเน่นอน

 

“เห้อ,ฉันเข้าใจเเล้ว เเล้วพวกเราจะกลับโลกยังไงดี? ตอนนี้ฉันรู้สึกคิดถึงโลกขึ้นมาเลยเเหละ ฉันไม่คิดเลยว่าช่วงชีวิตที่เหลือของตนเองจะต้องมาติดที่ดาวร้างที่นี่ วาเนสซ่า ที่รักของฉัน ก็กำลังรอฉันกลับไปอยู่”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน เดดพูล รู้สึกยากจะยอมรับ

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่เเจ็คสันอธิบายสิ่งต่าง ๆ เเก่ เดดพูล จู่ ๆ สายลมอ่อน ๆ ที่เเจ็คสันสัมผัสได้ก่อนหน้านี้ ก็เริ่มชัดเจนมากขึ้น

 

“หืม?เห็นการเปลี่ยนเเปลงของสายลมเเจ็คสันยกศีรษะขึ้นอย่างสงสัยจากนั้นก็มองไปที่ด้านบน

 

ฟู่ววว

 

ในสายตาของเเจ็คสันนอกเหนือจากผืนฟ้าสีดำเเล้วเขาก็มองเห็นยานอวกาศลำนึงที่บินอยู่เหนือหุบเขาที่ เเจ็คสัน เเละ เดดพูลอยู่ พวกเขาทั้งสองคนรู้สึกตะลึงมาก

 

ฟุ่บ!

 

ดังนั้น เเจ็คสัน เเละ เดดพูล จึงได้โบกมือท่ามกลางไฟสีขาวที่ส่องประกาย ท่ามกลางความมืดภายในหุบเขานั้นตำเเหน่งที่ทั้งสองคนอยู่ค่อนข้างโดดเด่น

 

“!!! นั่นมันยานอวกาศจริง ๆ !!”เดดพูล เงยหน้ามอง นี่เป็นยานอวกาศของจริง ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาตาฝาดไปเองอย่างเเน่นอน

 

“ใช่! ไม่คิดเลยว่าจะมียานอวกาศมาปรากฏตัวที่นี่ หรือว่าจะเป็นชนพื้นเมืองของอารยธรรมดาวดวงนี้จริง ๆ ? หากเป็นเช่นนั้น หวังว่าพวกเขาจะไม่ใช่พวกหัวรุนเเรงหรอกนะ ไม่งั้นพวกเราต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างเเน่นอน”ได้ยินเดดพูลกล่าวออกมา ในใจของเเจ็คสันก็ปรากฏความกังวล

 

เรื่องอารยธรรมต่างดาวนั้นเเจ็คสันมีข้อมูลที่น้อยมากส่วนมากเเจ็คสันมักจะคุ้นเคยกับตัวละครเเละพล็อตเรื่องในโลกมาร์เวลมากกว่า ดังนั้นเขาที่เดิมตอนเเรกเห็นธอร์จึงไม่ได้เเปลกใจมากนัก

 

หึ่ม!

 

หลังจากเเจ็คสันเเละเดดพูลโบกมือเรียกภายใต้เเสงไฟ ยานอวกาศลำนั้นก็ดูเหมือนจะร่อนลงอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะจอดพื้นที่ใกล้เคียงพวกเขาอย่างมั่นคง

 

“มันลงจอดเเล้ว?พวกเราจะได้กลับบ้านเเล้วหรือไม่?”เห็นยานอวกาศลำนั้นลงจอดเดดพูลรู้สึกดีใจอย่างมาก

 

“จะได้กลับหรือไม่กลับ ก็คงต้องลองดูด้วยตัวพวกเราเองเเล้ว เเต่อย่าเพิ่งดีใจนัก ระมัดระวังตัวเอาไว้ก่อนพวกเราไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาดีหรือมาร้าย”เเจ็คสันกล่าวบอกเดดพูล

 

“เอ่อ…เข้าใจเเล้ว”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ เดดพูล เข้าใจในทันที

 

ฟู่วว

 

วินาทีถัดมาเเจ็คสันเเละเดดพูล ก็พุ่งตัวไปปรากฏที่ข้าง ๆ ลานจอดของยานอวกาศ พวกเขาได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพราะนี่เป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้กลับบ้าน

 

เเจ็คสันเเละเดดพูลได้หยุดที่เบื้องหน้ายานอวกาศเเละจ้องมองไปที่มัน ด้านล่างเป็นประตูห้องโดยสารของพวกเขาไม่ผิดเเน่ หาก พวกมนุษย์ต่างดาวลงมา พวกเขาก็จะเห็นทันที

 

กึก กึก

 

ขณะที่ เเจ็คสัน เเละ เดดพูล กำลังตึงเครียด จู่ ๆ ประตูห้องโดยสารก็เกิดเสียงดังขึ้นเล็กน้อย จากนั้นประตูจากด้านบนก็เลื่อนลงมาเป็นทางเดินข้างล่าง เเจ็คสัน เเละ เดดพูล ตั้งสมาธิอย่างเเน่วเเน่ ไม่นาน ขาธรรมดาของมนุษย์คู่นึงก็กำลังก้าวเดินลงมา

 

ตึก ตึก

 

เเจ็คสันเเละเดดพูลเห็นชัดเจนว่ามีบุคคลที่อยู่ด้านหลังประตูห้องโดยสารสองคนพวกเขากำลังก้าวเดินมาข้างล่างอย่างช้า ๆ

ได้ยินคำพูดของจอมเวทย์สูงสุดเอนเชี่ยนวัน ใบหน้าของโอดินปรากฏร่องรอยเเห่งความสงสัยบุคคลที่เอนเชี่ยนวันต้องการตามหาดูท่าน่าจะเป็นคนสำคัญอย่างเเน่นอน

 

“ค้นหาคนผู้นึง?เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาอย่างเเน่นอน เเล้วท่านต้องการจะหาใครเล่า?”โอดินกล่าวถามเล็กน้อย

 

“เป็นเด็กน้อยคนนึงไม่ได้เป็นตัวตนที่สำคัญอะไร ที่ข้ามาที่นี่คงต้องรบกวนท่านเเล้วกษัตริย์โอดิน”ได้ยินคำถามของโอดิน เอนเชี่ยนวัน ยิ้มกล่าวตอบ

 

เอนเชี่ยนวันไม่มีเหตุผลที่จะต้องบอกความลับเรื่องของเเจ็คสันออกไป ยิ่งไปกว่านั้นดวงวิญญาณของเขาได้มาจากโลกที่เเตกต่าง เขาเชื่อว่าเด็กคนนี้อาจจะนำพาอารยธรรมโลกให้ก้าวไปข้างหน้าได้ด้วยบางสิ่ง

 

“เด็กน้อยผู้นึง? เอาเถอะ หากท่านต้องการหาตัวเด็กน้อยผู้นั้น ข้าจะให้ ฮัมดาลล์ ช่วยท่านในการค้นหา”ได้ยินคำตอบของเอนเชี่ยนวัน โอดิน ยังคงสีหน้าสงบนิ่งไว้

 

เเม้โอดินจะรู้อยู่เเก่ใจว่า เอนเชี่ยนวัน ไม่ได้บอกเรื่องทั้งหมดกับตน เเต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร การค้นหาเด็กน้อยคนนึง สำหรับฮัมดาลล์ เป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างเเน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นความเเข็งเเกร่งของเอนเชี่ยนวันก็สามารถเดินทางไปกลับระหว่างดาวดวงอื่นได้ง่าย ๆ

 

“ขอบคุณท่านมาก กษัตริย์โอดิน จริงสิ เจ้าชายธอร์ ตอนนี้อยู่ที่โลก เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมาก ดูเหมือนท่านจะคิดถูกที่ส่งเขาไปปรับตัวอยู่ที่โลก”ได้ยินคำตอบของโอดิน เอนเชี่ยนวัน กล่าวพูดถึงธอร์

 

“ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กนั่นจะต้องเรียนรู้อีกเยอะ ที่ข้าเนรเทศเขาก็เพื่อต้องการให้เขาได้เรียนรู้ชีวิตธรรมดาทั่วไป”เห็นเอนเชี่ยนวันกล่าวถึงลูกชายของตนเอง โอดิน ยิ้มออกมา

 

เเม้ว่าความเเข็งเเกร่งของธอร์ในตอนนี้จะเริ่มฟื้นฟูกลับมา เเต่เขาก็ยังไม่ได้สิทธิ์ในการกลับมาที่เเอสการ์ด เพราะโอดินได้ปิดประตูไบฟรอส ไม่ให้ธอร์มาที่นี่ โอดิน ได้เนรเทศธอร์ไปที่โลกเพราะต้องการให้เขาเรียนรู้หลาย ๆ สิ่ง จนกว่าธอร์จะสามารถฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าได้อย่างสมบูรณ์ โอดินจะไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้

 

“ความปลอดภัยของ 9 อาณาจักรใหญ่นั้นเป็นสิ่งสำคัญ เเละ เเอสการ์ด ผู้ที่เป็นเสาหลักของอาณาจักรทั้ง 9 ข้าเชื่อว่า หลังจากเจ้าชายธอร์ ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองขาดไปปเเล้ว เขาจะต้องสามารถเเบกรับความรับผิดชอบนี้ได้อย่างเเน่นอน”เอนเชี่ยนวัน กล่าวพูด

 

ตั้งเเต่ที่โอดินตอบตกลงช่วยเขา เอนเชี่ยนวัน ก็พูดสรรเสริญ พวกของโอดินยกใหญ่ เเน่นอนว่าเขาเองก็ไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่นานนัก เพราะเขาไม่รู้ว่าเด็กน้อยนั่นจะเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้

 

“ใช่~ เขามีหน้าที่ที่ต้องแบกรับความรับผิดชอบนี้ เเต่…”ได้ยินคำพูดของเอนเชี่ยนวัน โอดิน ถอนหายใจออกมา

 

ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองคนได้ร่วมดื่มชาเเละเหล้าพูดคุยกัน การหารือหรือการพบปะตัวตนที่ยิ่งใหญ่แบบวันนี้หาดูได้ยากนัก

 

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง โอดิน ได้เมามาย เเละ เอนเชี่ยนวันเอง ก็ขอตัวออกจากห้องโถงไปทางสะพานไบฟรอส อีกด้านนึง ฮัมดาลล์ มือขวาของโอดิน ผู้ที่ปกป้องสะพานไบฟรอส เขากำลังหลับตาอยู่ ทุกวันนี้ เเอสการ์ด ได้รับมือกับ ยักษ์น้ำ เเข็ง เเละ ดาร์คเอลฟ์ อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ฮัมดาลล์ จึงเเทบไม่ได้มีเวลาพักผ่อน

 

ฟุ่บ!

 

ขณะเดียวกันเอนเชี่ยนวันก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ทันทีที่สัมผัสได้ ฮัมดาลล์ที่เดิมปิดตาสนิทได้เปิดเปลือกตาทั้งสองขึ้นอย่างช้า ๆ จ้องมองไปที่ด้านหน้าของตนเอง ในสายตาของฮัมดาลล์ เขาเคารพอีกฝ่ายอย่างมาก

 

“จอมเวทย์สูงสุด!”

 

“สวัสดี ข้าได้รับอนุญาติจาก กษัตริย์โอดินให้เจ้าช่วยข้าหาคนผู้นึง”เอนเชี่ยนวันกล่าวทักทายฮัมดาลล์ด้วยทีทีสุภาพ หลังจากนั้นเขาก็สร้างภาพของเเจ็คสันให้ฮัมดาลล์เห็น

 

เอนเชี่ยนวันได้สร้างภาพของเเจ็คสันที่สวมใส่ชุดเเพนท่อมสูท นอกเหนือจากรูปร่างหน้าตาภายนอกเเล้ว หน้าตาที่เเท้จริงของเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวัน ไม่ได้เปิดเผยออกมา

 

“เข้าใจเเล้ว”จากนั้นฮัมดาลล์ก็พยักหน้าเเละหลับตาลง

 

“สถานที่ที่เขาหลุดไปค่อนข้างห่างไกล ทีเดียว”

 

“ต้องรบกวนเจ้าเเล้ว”หลังจากเปิดเผยรูปลักษณ์ของเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวัน ก็จ้องมองไปที่ ฮัมดาลล์

 

“นี่อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย”เห็นทิศทางที่ปรากฏขึ้น ฮัมดาลล์ กล่าวตอบ

 

จากนั้นฮัมดาลล์ก็ปิดเปลือกตาทั้งสองข้างอีกครั้ง ผ่านไปหลายวินาที เขาก็เปิดปากตาพร้อมกับระบุตำเเหน่งที่ชัดเจนให้กับเอนเชี่ยนวันรู้

 

 

ฟุ่บ!

 

ในค่ำคืนที่เงียบงัน เเม้เเต่เสียงนกกระจิบเสียงเเมลงสักตัวก็ยังไม่มี เเจ็คสันได้นั่งไขว่ห้างเเละปิดตาพักผ่อนลงเมื่อครู่เขาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างเเต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะอีกอย่างเขาต้องเฝ้าเดดพูล

 

“หืม?เดดพูล นายฟื้นเเล้ว?”ได้ยินเสียงขยับของเดดพูลเล็กน้อย เเจ็คสันได้เปิดเปลือกตาขึ้น

 

ฟุ่บ!

 

“อึ๊ก~! ~~ ฉันอยู่ที่ไหน? ฉันยังไม่ตาย?”เดดพูลที่ฟื้นขึ้นมาจากบาดเเผลที่รุนเเรงเขากล่าวตะโกนออกมาทันที

 

“เห้อ ดูเหมือนนายนี่ชอบพูดคำว่าตายอยู่เรื่อย อยากตายจริง ๆ ใช่มั้ย?”เเจ็คสันกล่าวล้อเลียนเดดพูลเล็กน้อย

 

อั๊ก

 

“สัตว์ประหลาดนั่น! ฉันเกือบที่จะหลุดเข้าไปในท้องของมันเเล้ว เวรเอ้ย!”เดดพูลได้ยืนขึ้นเเละสังเกตุรอบตัว รอบตัวของเขามืดเเล้วตอนนี้ เขาพอจะจำสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะหมดสติไปได้ดี

 

“อืม,หากไม่ได้ฉันนายคงกลายเป็นอาหารของสัตว์ประหลาดนั่นไปเเล้ว”ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเจ็คสัน กล่าวตอบ

 

“หืม?อย่าบอกนะว่าคุณจัดการสัตว์ประหลาดนั่นไปเเล้ว!?”เดดพูล รู้สึกสงสัย เขาเลยกล่าวถามมิราจไนท์ออกมาโดยตรง

 

 

ฟุ่บ!

 

บนยานอวกาศที่ลอยอยู่นอกดาวฤกษ์สีเขียวเหนือชั้นบรรยากาศ เจ้าของยานลำนี้ก็คือ เพื่อนหล่อเหลาที่เล่นมุขตลก ชื่อของเขาคือ ปีเตอร์ ควิลล์ ชื่อเล่นคือ สตาร์ลอร์ด เป็นโจรสลัดอวกาศ ธรรมชาตินี่คือสถานะของเขา เเต่ตอนนี้เขาได้เเยกตัวออกมาจากกลุ่มโจรสลัด เเละ มาจัดตั้งทีมของตัวเอง มันถูกเรียกว่า การ์เดี้ยน ออฟ เดอะ กาเเลคซี่, หรือในอีกชื่อคือ ทีมพิทักษ์จักรวาล

 

สตาร์ลอร์ด หรือ ปีเตอร์ เเม้จะเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา เเต่สถานะที่เเท้จริงของเขาคือบุตรเลือดผสมสายเลือดครึ่งนึงทางพ่อมาจากเผ่าพันธุ์ต่างดาวลึกลับ สายเลือดอีกครึ่งจากทางเเม่มาจากดาวโลก ก่อนที่ทีมการ์เดี้ยน ออฟ เดอะ กาเเลคซี่ จะถือกำเนิดขึ้น สตาร์ลอร์ดเเละพรรคพวกได้ร่วมกันกำจัดโรเเนนที่ครอบครองพาวเวอร์สโตนเอาไว้ การกำจัดโรเเนนในครั้งนี้สร้างชื่อเสียงวีรกรรมของสตาร์ลอร์ดให้เเพร่กระจายไปทั่วจักรวาล เเน่นอนว่า ทีมพิทักษ์กาเเลคซี่เองก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในเวลาต่อมา

 

สตาร์ลอร์ดได้ตามล่าหาพ่อของเขาจนมาถึงดาวดวงนี้ดาวเบื้องหน้าของพวกเขาเป็นสีเขียวมรกตที่สวยงามมากเดิม สตาร์ลอร์ดต้องการมาเดตกับเเฟนสาวของเขากาโมรา เเต่เธอติดภารกิจเเละได้รับข่าวเกี่ยวกับน้องสาวของเธอ เนบิวล่า ดังนั้นเธอจึงไม่ได้มาด้วยดังนั้นบนยานจึงมีเพียงสหายของเขา เดร๊ก เเรคคูน เเละ ก็ กรูซ

 

“กรูซ ในที่สุด นายก็ฟื้นตัวเเล้ว!”ขณะเดียวกันเเรคคูนก็ปรากฏตัวขึ้นข้าง ๆ สตาร์ลอร์ดเเละตะโกนขึ้น

 

“ใช่เเล้ว มันยังไม่ตาย…”เห็นลักษณะท่าทีที่เเรคคูนดูตื่นเต้น สตาร์ลอร์ด กล่าวพูดอย่างเฉยมาก เพราะเมื่อครู่นี้ กรูซ ได้หยอกล้อเขาเล่นจนเเทบจะตกใจ

 

“I AM GROOT!” ได้ยินคำพูดของเเรคคูน กรูซ เหมือนจะเข้าใจ เขาใช้มือที่เป็นกิ่งไม้เล็ก ๆ โบกไปมาอย่างตื่นเต้น พวกเขาหารู้ไม่ว่ากรูซฉลาดมากน้อยเพียงใด เเต่เขาสามารถพูดได้เพียงเเค่ สามคำนี้เท่านั้น

 

“ฮ่าฮ่า,สมเป็นนายเลยกรูซ!”เห็นกรูซฟื้นตัวกลับมา เเรคคูน ดูโล่งอกในที่สุด

 

ในการต่อสู้กับโรเเนน ด้วยความช่วยเหลือของกรูซ เขาได้สละตนเอง เพื่อปกป้องคนอื่น ๆ ดังนั้นเขาจึงได้รับบาดเจ็บมากที่สุด โชคดีที่ร่างกายของกรูซตอนนี้ ได้เริ่มฟื้นกลับมาทีละน้อย

 

“เห้อ,เอาเถอะ เพราะแบบนี้เราถึงเจาะจงมาที่ดาวดวงนี้ ดาวดึกดำบรรพ์ดวงนี้ คล้ายกับบ้านเกิดของ กรูซ มันน่าจะพอช่วยอะไรเขาได้”เห็นเเร็คคูนกระตือรือร้น สตาร์ลอร์ด กล่าวตอบ

 

“ถูกต้อง ดาวดวงนี้ เดิมมีสภาพเเวดล้อมที่เหมาะเเก่การรักษาพวกพืชพรรณได้ดี เเน่นอนว่ากรูซจะต้องเเข็งเเรงขึ้น”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เเร็คคูน เห็นด้วย

 

“ฮ่าฮ่า ไปกันเถอะ ได้เวลาเยี่ยมชมดาวเคราะห์ดวงนี้กันเเล้ว!”เพื่อรักษากรูซ สตาร์ลอร์ด หวังที่จะลงจอดบนดาวดวงนี้ในสถานที่ที่เหมาะสม

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นสตาร์ลอร์ดก็วางเเผนลองจอดไม่นานพวกเขาก็เข้าสู่ชั้นบรรยากาศเเละมุ่งหน้าไปยังตำเเหน่งที่หมายในทันที

 

ในป่าที่สตาร์ลอร์ดต้องการจะลงนั้นใกล้กับสถานที่ที่เเจ็คสันอยู่ดังนั้นเเจ็คสันจะรู้ตัวหรือไม่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเวลาเเล้ว

 

 

ขณะนั้นเองเดดพูลก็ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นอย่างช้า ๆ เเต่ดูเหมือนเขาจะยังไม่มีการตอบสนองใด ๆ ธรรมชาติเเจ็คสันได้เฝ้าระวังเดดพูล เเละ เเบ่งเเยกจิต 50% ออกไปเพื่อให้ความสนใจกับสถานการณ์นอกหุบเขา ในขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดอยู่ เขาก็ต้องระวังสัตว์ประหลาดดึกดำบรรพ์เหล่านี้ หากก่อนหน้านี้เขารู้ว่าตนเองจะถูกส่งมายังสถานที่เเห่งนี้เเล้วล่ะก็เขาคงไม่คิดเข้ามาในประตูมิติอวกาศอย่างเเน่นอน

 

 

เพียงเเต่ว่าระหว่างที่เเจ็คสันกำลังเฝ้ามองอาการของเดดพูล ขณะนั้นเอง สตาร์ลอร์ด ก็ได้เริ่มทำการลงจอดยาน เเจ็คสันที่ตาพร่ามัวเพราะหาทางกลับบ้าน เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง

 

ทางด้านเเอสการ์ดในพระราชวังหรู ณ ใจกลางเมืองใหญ่

 

พระราชวังเเห่งนี้คือพระราชวังของโอดิน ตอนนี้ โอดิน เเละ เอนเชี่ยนวัน กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะยาวทั้งสองข้าง พวกเขาเเผ่รังสีความเเข็งเเกร่งออกมา เเน่นอนว่า โอดิน นั้นเเผ่รังสีความเเข็งเเกร่งที่รุนเเรงมาก เพราะอย่างไรก็ตามเขาก็ถือเป็น กษัตริย์ผู้ปกครองทั้ง 9 อาณาจักร

 

เอนเชี่ยนวันเองก็สัมผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งของโอดิน เเต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนก

 

“ฮ่าฮ่า ไม่คิดเลยว่าจอมเวทย์สูงสุดเเห่งมิดการ์ดจะเดินทางมาที่เเอสการ์ดของข้าเพราะต้องการความช่วยเหลือ?”โอินกล่าวหัวเราะออกมาพร้อมกับจ้องมองไปทางเอนเชี่ยนวัน

 

ในฐานะผู้ปกครอง 9 อาณาจักร โอดินไม่ได้หยิ่งผยองขนาดนั้น เขาเองก็ให้ความเคารพต่อเอนเชี่ยนวันเหมือนกัน

 

หลายปีที่ผ่านมาในช่วงที่โอดินยังเยาว์วัยเขาได้นำทัพเเอสการ์ดบุกพิชิตอารยธรรมอื่น ๆ เเละเริ่มสร้างชื่อเสียงให้เเอสการ์ดให้เป็นที่รู้จักใน 9 อาณาจักรใหญ่ อย่างไรก็ตามโอดินเข้าใจว่าตนเองไม่สามารถพิชิตจักรวาลทั้งหมดได้ด้วยกำลังทหารจึงได้สลายกองทัพที่เเข็งเเกร่งของตนเอง จากนั้นผันตัวมาเป็นผู้ปกครอง 9 อาณาจักรเเล้วคอยรักษาความสงบสุขของโลกทั้ง 9 ในอารยธรรมต่าง ๆ ที่โอดินพบเจอ หนึ่งในคนที่โอดินรู้สึกเคารพก็คือ เอนเชี่ยนวัน

 

“ฮ่าฮ่า กษัตริย์โอดิน ก็พูดตรงไปเเล้ว ข้ามาเพราะข้าต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ “ได้ยินคำพูดของโอดิน เอนเชี่ยนวันตอบด้วยรอยยิ้ม เเน่นอนว่าเขาไม่จำเป็นจะต้องอ้อมค้อมเเม้เเต่น้อย

 

“เเล้วท่านมีเรื่องอะไรที่ต้องการให้เราช่วยเล่า?หรือว่า มีอารยธรรมอื่น ๆ บุกเข้ามาใน 9 อาณาจักร?”เห็นลักษณะท่าทีของเอนเชี่ยนวัน โอดิน กล่าวถามอีกครั้ง

 

ตอนนี้ เเอสการ์ดกับ ยักษ์น้ำเเข็งกำลังต่อสู้กันอยู่ เเน่นอนว่า อาจมีพวกดาร์คเอลฟ์มาร่วมด้วย เเต่ด้วยความเเข็งเเกร่งของเเอสการ์ดไม่ช้าศึกครั้งนี้จะต้องสิ้นสุดลง

 

“ป่าวเลย ข้าต้องการหาบุคคลผู้นึง ดังนั้น ข้าจึงอยากขอร้องท่านเพราะต้องการความช่วยเหลือจาก ฮัมดาลล์”

 

ในขณะที่เเจ็คสันเเละเดดพูลติดอยู่ในดวงดาวที่ไม่รู้จัก นอกเหนือจากโทนี่เเละคนอื่น ๆ ที่รู้ว่า เเจ็คสันไม่ได้อยู่ที่โลกนั้นก็มี อีกคนนึง คาร์มา-ทัช บนเทือกเขาหิมาลัย เอนเชี่ยนวัน จอมเวทย์สูงสุด

 

“น่าสนใจจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าเด็กคนนั้นจะออกห่างจากโลกไปไกลพอสมควร”เอนเชี่ยนวันได้เปิดเปลือกตาขึ้นพร้อมกับมองขึ้นไปบนท้องฟ้าในบ้านที่ไม่มีหลังคาปิดกั้น

 

ก่อนหน้านี้ที่เอนเชี่ยนวันเชิญเเจ็คสันมาที่ คาร์มา-ทัช ก่อนจะเเยกกัน เอนเชี่ยนวัน ได้ทำเครื่องหมายเวทย์มนตร์ระบุตำเเหน่งเพื่อหวังจะช่วยเเจ็คสันยามเกิดเหตุวิกฤตครั้งใหญ่ ธรรมชาติ เครื่องหมายนี้สามารถระบุตำเเหน่งของเเจ็คสันตรงไหนก็ได้ของส่วนโลก เเต่ตอนนี้ ตำเเหน่งเครื่องหมายเวทย์มนตร์ได้หายไปเเสดงว่าเเจ็คสันได้อยู่ห่างหรือไม่ได้อยู่บนดาวดวงนี้

 

ที่เอนเชี่ยนวันเป็นห่วงเเจ็คสันก็เพราะเขาชื่นชมเป้าหมายเเละความหวังที่เเจ็คสันเล่าให้เขาฟัง ดังนั้น เขาจึงไม่ต้องการให้เเจ็คสันด่วนสรุปจากไปก่อน

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นไม่นานเอนเชี่ยนวันก็ได้รับข้อมูลบนโทรศัพท์มือถือ เขาได้หยิบมันขึ้นมาเล็กน้อยเเละกดอ่านข้อความที่อยู่ภายใน

 

“มีประตูมิติอวกาศปรากฏขึ้นที่โลก?”เห็นตัวโน๊ตที่เเนบมาเอนเชี่ยนวันอุทานด้วยน้ำเสียงตกใจเล็กน้อย

 

อาจเป็นเพราะสายเลือดเเรกเริ่มของโลก เอนเชี่ยนวัน จึงได้เฝ้าเก็บตัวอย่างลับ ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบว่ามีประตูมิติอวกาศ ที่มาจากสเปซอินฟินิตี้สโตนปรากฏขึ้นที่โลก เพราะ เเจ็คสัน ได้เก็บเรื่องนี้ไว้ไม่ได้บอกเขา หากเอนเชี่ยนวันรู้ว่ามีสเปซอินฟินิตี้สโตนปรากฏขึ้นมาล่ะก็ เเจ็คสัน ก็คงจะไม่ถูกส่งผ่านไปโดยประตูมิติอวกาศในครั้งนี้

 

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าได้ตั้งความหวังกับเขาเอาไว้สูง หากเขาเป็นอะไรขึ้นมา ความหวังที่ข้าตั้งเอาไว้ก็คงมลายหายไป ก่อนหน้านี้ โอดิน ได้ส่งธอร์มาที่โลกนี้ เพื่อตอบเเทนน้ำใจที่ข้าไม่ขับไล่เขาบางทีข้าอาจลองขอร้องเขาในบางเรื่องดู”เอนเชี่ยนวันกล่าวครุ่นคิดออกมา

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นประตูมิติอวกาศสีทองก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเขา

 

หลังจากประตูมิติอวกาศสีทองปรากฏขึ้น เอนเชี่ยนวันก็เดินเข้าไปอย่างช้า ๆ เเน่นอนว่าสถานที่ที่เขาจะไปก็คือ เเอสการ์ด เขาต้องการไปหาโอดิน เพื่อขอร้องโอดินในการยืมตัวผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นมือขวาที่ดีที่สุด ผู้คุมประตูไบฟรอส ฮัมดาลล์

 

ศักยภาพด้านการสู้รบของ ฮัมดาลล์ ไม่สูงมากนั้น เเต่เขา ถือเป็นหูเป็นตามากที่สุดในอาณาจักร เขาสามารถมองเห็นสถานที่ที่อยากจะเห็น เเละ ได้ยินในสิ่งที่อยากจะได้ยินได้ เอนเชี่ยนวัน ที่ต้องการช่วยเหลือ เเจ็คสัน นั้น การให้ ฮัมดาลล์ ช่วยถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

….

 

ฟุบ~~

 

ในจักรวาลอันห่างไกล บนดาวเกรด B ผืนป่าอันไม่บริสุทธิ์ที่ใกล้กับเเอ่งน้ำในหุบเขาเล็ก ๆ บนสถานที่เเห่งนึง กองไฟ ได้ถูกจุดขึ้นพร้อมกับมอบเเสงสว่างให้กับคนทั้งสองคน

 

หลังจากมาถึงดาวดวงนี้หลายชั่วโมงท้องฟ้าของดาวดวงนี้ก็เริ่มมืดลงมันไม่ได้มีดาวประดับบนฟ้า หรือ สิ่งที่คอยให้เเสงสว่างเวลากลางคืน ดังนั้น เเจ็คสัน จึงได้จุดไฟก่อก่อไฟขึ้นมาเพื่อให้ความอบอุ่น

 

เนื่องเพราะเดดพูลต้องการใช้เวลาพักรักษาตัวจนถึงตอนนี้เขาได้หมดสติไปอีกครั้งเเละดูมันจะนานกว่าเดิม เเจ็คสัน ไม่กล้าปล่อยเดดพูลทิ้งไว้เเละออกไปสำรวจคนเดียว เขากลัวว่า เดดพูล จะมีอันตราย นอกจากนี้ ภายในป่าเเห่งนี้เขาไม่รู้ว่าในเวลากลางคืนมีอันตรายอะไรซ่อนเอาไว้อยู่หรือไม่ ดังนั้น เเจ็คสันจึงไม่มีความกล้าที่จะสำรวจผืนป่าตอนกลางคืนเเละอีกอย่างวันนี้เขาก็เหนื่อยมากพอเเล้ว

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังพักผ่อนอยู่ในดวงดาวเเห่งนี้ บนผืนอวกาศในสถานที่เเห่งนึง ได้มียานอวกาศลำนึงบินโต่งเตงลอยอยู่ท่ามกลางอวกาศ

 

ฟู่วว

 

ยานอวกาสลำนี้ ดูเหมือนจะมีจุดมุ่งหมายปลายทางเป็นดาวดึกดำบรรพ์ที่เเจ็คสันอยู่

 

ภายในห้องควบคุมเสียงเพลงได้ดังออกมาเป็นจังหวะอย่างสนุกสนาน หากมีมนุษย์โลกอยู่บนยานลำนี้พวกเขาย่อมสามารถฟังเพลงภาษานี้ออกเพราะมันเป็นเพลงภาษาอังกฤษยุคคลาสสิก ด้วยจังหวะอันไพเราะของเพลง ได้ปรากฏหนุ่มหน้าตาดีคนนึงเดินเต้นอยู่ภายในห้องควบคุม

 

ตึก ตึก

 

ขณะที่หนุ่มหน้าตาดีคนนี้กำลังเต้นอยู่ จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังออกมาจากทางเดิน วิสัยทัศน์ของเขาได้จ้องมองไปที่ห้อง ห้องนึง

 

จากนั้นหนุ่มหน้าตาทีคนนี้ก็เปิดมองเข้าไปยังห้อง ห้องนึงที่มีสิ่งประหลาดวางเอาไว้อยู่มันได้ลอยเหนือขึ้นบนโต๊ะท่ามกลางความมืดภายในห้อง ราวกับสิ่งมีชีวิตที่น่าสยดสยอง

 

หนุ่มหน้าตาดีคนนี้ได้เปิดไฟภายในห้องจากนั้นเขาก็ตกตะลึงกับการเคลื่อนไหวดังกล่าวโดยสมบูรณ์

 

ฟู่ว

 

“ฉันว่าเเล้ว กรูซ นายทำเสียงบ้าอะไรหนะ นี่มันไม่ตลกเลยนะ”เห็นการละเล่นของเพื่อนซี้ที่มีรูปร่างเป็นรากไม้ของเขา ชายหน้าตาดีคนนี้กล่าวพูดออกมา

 

“„ I AMGROOT!”เห็นการปรากฏตัวของชายหนุ่ม เพื่อนรากไม้ของเราคนนี้ ได้ยกมือเเกว่งไปมา ราวกับต้องการสื่อสารบางอย่างกับชายหนุ่ม

 

 

เพื่อนที่หล่อเหลาคนนี้”…”

ฟุ่บ!

 

ตึก ตึก!

 

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงภายในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ต้นไม้ใหญ่จำนวนมากได้ถูกโค่นล้มลงทั้งยังมาพร้อมกับเสียงอันดุเดือดที่เกิดขึ้นตลอดเวลา

 

เสียงที่ดุร้ายนี้อยู่ห่างไม่ไกลจากระยะหุบเขาที่ใกล้ป่าเเห่งนี้ ขณะเดียวกันก็มียานบินขนาดเล็กที่เป็นเครื่องสอดเเนมกำลังตรวจสอบพื้นที่โดยรอบอยู่ ซึ่งหุบเขาเล็ก ๆ นี้ก็คือจุดหมายปลายทางของเเจ็คสัน

 

คลื่น!

 

เพียงเเต่เสียงขนาดใหญ่ก็ได้ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ หุบเขาที่เดิมเคยเงียบ สงบ เเอ่งน้ำโดยรอบกลับเกิดระลอกคลื่นอย่างผิดปกติ

 

ปั้ง!

 

เงาร่างสองร่างได้พุ่งผ่านป่าไปอย่างรวดเร็ว เเน่นอนว่า เจ้าของเงาทั้งสองร่างนี้ก็คือ เเจ็คสัน เเละ เดดพูล เเต่ สีหน้าของพวกเขาไม่สู้ดีอย่างมากโดยเฉพาะเเจ็คสัน ในปัจจุบัน เดดพูล ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากเเละเสียสติ เเจ็คสัน ได้คว้าจับเดดพูล เพื่อหลบหนีออกมา

 

เเจ็คสันที่หลบหนีมาได้ระยะนึงได้กวาดสายตามองไปข้างหลังเป็นระยะ จากนั้นเขาก็หยุดอยู่กับที่ เดดพูล ที่หมดสติไปไม่นานได้เปิดเปลือกตาขึ้นด้วยความสงสัย ตามที่เขารู้มา สัตว์ประหลาดเมื่อครู่ จะต้องตามติดหลังมิราจไนท์มาเเน่ ๆ เเต่เสียงกลับได้หยุดหายไปเเล้ว

 

ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน เเละเดดพูล ได้เดินทางต่อไปข้างหน้าโดยหารู้ไม่ว่าได้หลงเข้าไปในดินเเดนของสัตว์ประหลาด ที่พวกเขาเห็นก็คือ สัตว์ประหลาด อสรพิษขนาดใหญ่ เเละ ไดโนเสาร์ยักษ์ที่ กำลังล้อมรอบอยู่ที่อาคารสามหลัง พวกเขาได้หลบหนีการไล่ล่ามามากกว่าครึ่งชั่วโมง

 

ตอนเเรกเเจ็คสันไม่คิดว่าสัตว์ประหลาดพวกนี้จะเเข็งเเกร่งมาก เพราะเขาก็มั่นใจในความเเข็งเเกร่งของตนเองพอสมควร เเต่เเล้วไม่นาน เดดพูล ที่เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดอีกที่นึง กลับพลาดท่าอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นเเจ็คสันก็ต้องรีบพาเดดพูลหลบหนีอย่างไม่คิดชีวิต สัตว์ประหลาดพวกนั้นเเน่นอนว่าได้ไล่ตามเขามาติด ๆ จนกระทั่งตอนนี้เสียงทั้งหมดได้เงียบหายไป

 

ฟู่วว~

 

“พวกมันไม่ตามมาเเล้วงั้นหรอ?นี่มันเเปลกจริง ๆ “เเจ็คสันที่หยุดอยู่บนกิ่งต้นไม้ยักษ์เขาได้ซ่อนตัวเเละเเอบลอบมองสัมผัสออกไปจนไม่พบการติดตามของพวกมัน

 

“เอาเถอะ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี”เเจ็คสันได้ใช้พลังงานไปมากในการหลบหนี

 

ขณะที่เเจ็คสันลอบส่งสัมผัสไปอีกครั้งเขาก็ต้องพบกับความเเปลกประหลาดใจ เเจ็คสันได้วางเดดพูลลงพร้อมกับเฝ้าระวังเผื่อว่าสัตว์ประหลาดเหล่านั้นจะตามมา

 

“เกิดอะไรขึ้น?ทำไมถึงมีสภาพเช่นนี้”เเจ็คสันมองไปที่เดดพูลอย่างเเปลกใจ

 

เเจ็คสันไม่รู้จักข้อมูลอารยธรรมของดาวดวงนี้ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดเหล่านี้เเท้จริงคืออะไรกันเเน่เเต่ที่น่าเเปลกใจก็คือสถานที่เเปลก ๆ จำนวนมาก เเละ สภาพเเวดล้อมที่ชวนอันตรายเหล่านี้ ล้วนมาจากดาวดวงนี้ทั้งสิ้น

 

“ร่างกายที่ถูกกัดเหลือเเต่กระดูกอวัยวะภายในเสียหายหนัก”เเจ็คสันตรวจสอบสภาพร่างกายของเดดพูลตอนนี้เขาก็เเทบต้องขมวดคิ้วออกมา

 

ร่องรอยบาดเเผลที่เกิดขึ้นกับเดดพูลนั้นหากเป็นคนปกติย่อมตกตายไปเเล้ว เเต่เดดพูล ไม่ใช่คนปกติ เขาเป็นมิวแทนท์ที่มีพลังที่สามารถฟื้นฟูตนเองได้ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้น เเต่ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้ฉีดยายีนเพื่อรักษาเดดพูลจากนั้นก็ให้เขาพิงศีรษะตรงต้นไม้ก่อน

 

“ป่าเเห่งนี้น่ากลัวเกินไปจริง ๆ ราวกับว่าพวกเราหลุดเข้ามาในยุคดึกดำบรรพ์อย่างไหงอย่างงั้น เท่าที่ฉันเห็น ร่องรอยการประดิษฐ์พวกนั้นชัดเจนอย่างมาก มันคือ สิ่งก่อสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้น”

 

“เนื่องเพราะมีสิ่งก่อสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่นนั้นก็สามารถอธิบายได้ว่า บนดาวดวงนี้จะต้องมีอารยธรรมที่ก้าวหน้าพอสมควร มนุษย์ที่จะสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างเช่นนั้นได้พวกเขาจะต้องมีเทคโนโลยีที่ดีบางทีพวกเขาอาจมีเทคโนโลยีที่สามารถช่วยก้าวข้ามผ่านอวกาศได้”เเจ็คสันได้ประเมินสถานการณ์ของหุบเขาที่เขาเผชิญหน้ามา

 

ความหวังของเขาที่จะได้กลับโลกมีมากขึ้น เพราะ ต้นกำเนิดของอารยธรรมดาวดวงนี้ก็คือมนุาย์ หากสามารถสื่อสารกับชนพื้นเมืองของดาวเหล่านี้ได้ เเละ โชคดี บางทีพวกเขาอาจได้รับโชคลาภในการกลับไปที่โลกของตนเอง

 

ตามความเข้าใจของ เเจ็คสัน ในโลกมาร์เวลเเห่งนี้ มนุษย์ต่างดาวเหล่านั้นต่างมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างมากพวกเขามีเครื่องมือที่ใช้ส่งหรือข้ามผ่านอวกาศได้ ยกตัวอย่างเช่น โลกเเอสการ์ด พวกเขาก็มี เทคโนโลยีเครื่องมือที่ใช้ส่งคนข้ามมิติได้เช่นเดียวกัน

 

“เเต่สัตว์ประหลาดในป่าพวกนี้ดุร้ายอย่างมากหากมีอารยธรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นอยู่ที่นี่จริง ๆ ก็คงจะไม่ได้มีคุณภาพที่สูงเกินไป”เเม้เขาจะตั้งความหวังเอาไว้ เเต่เเจ็คสันก็ต้องประเมินผลลัพธ์ที่เป็นไปได้มากที่สุด

 

หลังจากสำรวจพื้นที่ของดาวดวงนี้คร่าว ๆ เเจ็คสันก็สามารถประเมินได้ ตอนนี้เขาได้ส่งยานบินเฝ้าระวังไปตรวจดูสถานที่โดยรอบ เพื่อสอดส่องอารยธรรม หรือ สัตว์ประหลาดที่หลบซ่อนตัวอยู่ หากอารยธรรมของดาวดวงนี้ไม่สามารถช่วยพวกเขาให้สามารถกลับโลกได้ นั่นก็คือเหลือวิธีเดียวก็คือ เเจ็คสัน ต้องไปกำจัดสัตว์ประหลาดพวกนี้เพื่อเเลกเปลี่ยนรางวัลเเต้มภารกิจ จากนั้นเขาก็เเลกเปลี่ยน เครื่องมือเทเลพอร์ตที่ช่วยให้สามารถกลับโลกได้

 

ฟู่วว

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ทันใดนั้นเองพื้นที่ป่าใกล้ที่พวกเขาอยู่ก็ปรากฏเสียงบางอย่างจนเเจ็คสันได้หันหลังกลับไปมองโดยไม่คาดคิด ตอนนี้สิ่งที่เเจ็คสันทำได้ก็คือระมัดระวังภัยรอบตัวอยู่ตลอดเวลา

 

เเจ็คสัน”…..”

 

พัฟ!

 

ขณะที่เดดพูลตะโกนขึ้นมา เงาจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากผืนป่าพร้อมกับกระโจนเข้าหาเเจ็คสันเเละเดดพูลที่อยู่อีกทาง เเม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าเงาพวกนี้คืออะไร เเต่ชัดเจนว่ามันย่อมไม่ใช่สิ่งที่ดี พวกมันทำการโจมตี เดดพูล เเจ็คสัน ทันทีที่พบเจอซึ่งปริมาณเงาที่ปรากฏขึ้นนั้นมีจำนวนมาก

 

“หืม!?คิดจะจัดการฉัน?”เห็นเงาร่างเล็ก ๆ จำนวนมากพุ่งเข้าหาตนเอง เดดพูล กระโดดหลบไปด้านข้างของมิราจไนท์ พร้อมกับตะโกนโห่ร้องออกมา

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเดดพูลก็หยิบปืนคู่ของเขาออกมาพร้อมกับกราดยิงออกไป ตั้งเเต่มาถึงที่นี่เดดพูลเเทบจะไม่ได้เตรียมความพร้อมเท่าที่ควร อุปกรณ์ที่เขามาก็เเค่ปืนพกสองคู่กับดาบสองเล่มเพียงเท่านั้นมันเเทบจะเป็นอุปกรณ์ที่ต่ำที่สุดมากกว่าอาวุธเลเซอร์ที่เเจ็คสันให้ไปเสียอีก

 

ปั้ง ปั้ง ปั้ง!

 

กระสุนปืนได้ถูกยิงออกมาอย่างรวดเร็ว อาวุธของเดดพูลเเม้จะเป็นเกรดต่ำเเต่ด้วยความเเม่นของเขาทำให้กระสุนทุกนัดที่ยิงออกไปล้วนเข้าเป้าทุกนัด

 

เพียงเเต่เเม้เขาจะยิงถูกเงาจำนวนมาก เเต่เงาร่างสีดำที่พุ่งเข้ามาไม่ได้ลดลงเเม้เเต่น้อยกลับเพิ่มความเร็วมากขึ้นเสียด้วย เดดพูล รู้ได้ในทันทีว่าเงาเหล่านี้ไม่ได้เกรงกลัวการโจมตีจากกระสุนปืนของเขา ดังนั้นมีทางเดียวก็คือเขาคงต้องขอให้มิราจไนท์ช่วย

 

เทียบกับเดดพูลกับการโจมตีด้วยปืนพก เเจ็คสัน ที่เผชิญหน้ากับเงาจำนวนมากเขาได้เรียกสปิริตซอร์ดของตัวเองออกมาการโจมตีของเขาได้วาดฟันเเสงสีฟ้าพุ่งเข้าหาเงาจำนวนมากเหล่านี้

 

!

 

ฟวั่บ!

 

วินาทีที่เงาร่างสีพุ่งเข้าชนปลายดาบสีเงิน เดดพูลที่เห็นเหตุการณ์ก็รู้สึกประหลาดใจทันที เงาร่างสีดำนับสิบร่างได้ถูกผ่าเเยกออกจากกันโดยไม่คาดคิด

 

พริบตาเดียวมิราจไนท์ก็สามารถกำจัดเงาร่างสีดำพวกนั้นได้ เงาร่างสีดำที่ถูกผ่าต่างร่วงหล่นลงสู่พื้นในทันที เเม้จะถูกผ่าครึ่งเเต่มันยังคงดิ้นอยู่ราวกับว่ามันยังไม่ตาย เเน่นอนว่าคราวนี้เดดพูลสามารถมองเห็นร่างเงาสีดำได้ชัด ๆ มันคล้ายรากต้นไม้เเปลก ๆ นอกจากนี้ร่างที่ถูกผ่าครึ่งยังปล่อยน้ำสีเขียวออกมาดูเเล้วค่อนข้างน่าขยะเเขยง

 

“หยี่! อะไรวะเนี่ย!” เห็นน้ำสีเขียว ๆ ที่เหม็นสาบไหลออกมาจากร่างของรากไม้สีดำ เดดพูลอุทานออกมาอย่างช่วยไม่ได้

 

เเกรบ~

 

เเจ็คสันไม่ได้สนใจเดดพูล เขายังคงเเกว่งดาบของตนเองในการจัดการรากต้นไม้เเปลก ๆ ที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง สำหรับรากเหล่านี้ เเน่นอนว่ามันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเเจ็คสันเเม้เเต่น้อย

 

เเกรบ ~~~

 

หลังจากเคลียปัญหารากไม้เเปลก ๆ ได้สำเร็จ เเจ็คสันก็จ้องมองสภาพเเวดล้อมโดยรอบของเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่อาจประมาทเเละเดินทางโดยไม่ระวังได้

 

“ว๊ากก! มันกัดฉัน มันกัดฉัน!”ขณะที่เเจ็คสันกำลังจัดการหน้าที่ของตนเองอยู่ เสียงของเดดพูล ก็ตะโกนดังมาจากข้าง ๆ เขา

 

เพราะความกลัวเดดพูลจึงตะโกนออกมาตามสัญชาตญาณ

 

“หึ่ม! ป่าเเห่งนี้อันตรายจริง ๆ อาจเป็นไปได้ว่าป่าเเห่งนี้ใหญ่กว่าผืนป่าทั้งหมดที่อยู่บนโลกเสียอีก พวกเราควรจะต้องระมัดระวังตัวมากกว่านี้”เเจ็คสันได้ตวัดดาบจัดการรากต้นไม้เเปลก ๆ ที่เกาะอยู่บนหัวเดดพูลทิ้งไป

 

เเจ็คสันในตอนนี้มีคะแนนจำนวนมากเพื่อเเลกเปลี่ยนอาวุธในระบบเพื่อส่งเสริมความเเข็งเเกร่งของตนเอง เพราะเขาต้องพาเดดพูลผ่านป่าใหญ่เเห่งนี้ไปให้ได้ เเน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าป่าเเห่งนี้มีความกว้างลึกมากน้อยเเค่ไหน

 

“ถ้าหากด้านหน้ามีพวกสัตว์ประหลาดรอพวกเราอยู่ล่ะ?ขนาดรากต้นไม้พวกนี้ยังไม่กลัวอาวุธของพวกเราโดยเฉพาะปืนของฉันเเล้วทีนี้ฉันจะทำยังไงดีเนี่ย!”หลังจากเผชิญหน้ากับการโจมตีเเปลก ๆ ภายในป่า เดดพูล รู้สึกขวัญเสียอย่างมากจากนั้นเขาก็หยิบปืนเลเซอร์ที่เเจ็คสันให้เอาไว้ในตอนเเรกขึ้นมานี่เป็นอาวุธที่ดีที่สุดของเขาตอนนี้

 

เเม้ความสามารถกลายพันธุ์ของเดดพูลจะเเข็งเเกร่งเเละสามารถทำให้เขามีชีวิตรอดในดาวนอกเช่นนี้ได้ เเต่ถ้าหากไร้ซึ่งอาวุธต่อกรเเละเเจ็คสันคอยช่วยเหลือเขาก็ไม่ต่างอะไรไปจากกระสอบทรายเดินได้

 

ยิ่งไปกว่านั้นหากเดดพูลพลาดท่าเจอสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่กินเนื้อเป็นอาหาร เดดพูลที่ถูกกินลงไปก็คงไม่ต่างอะไรไปจากเค้กก้อนโตสำหรับพวกมัน

 

“พวกเราต้องเร่งฝีเท้ากันหน่อยเพื่อให้ไปถึงจุดหมายด้านหน้า ฉันเชื่อว่าหลังจากถึงที่นั่นบางทีเราอาจจะหาทางออกจากที่นี่ได้ อย่างน้อยภายในสถานที่เเห่งนี้ก็ยังมีสิ่งก่อสร้างของมนุษย์ มันจะต้องมีสถานที่ปลอดภัยที่สัตว์ประหลาดพวกนี้เข้าไม่ถึงอย่างเเน่นอน”เเจ็คสันรู้ว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี เเต่สิ่งก่อสร้างที่น่างสงสัยเหล่านั้นกลับเป็นความหวังของเขาตอนนี้

 

ก่อนหน้านี้ทันทีที่เเจ็คสันเจอรากไม้เเปลก ๆ เเละทำการกำจัด ในจิตใจของเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่าง มันเป็น เสียงภารกิจของเขา : กำจัดสิ่งมีชีวิตระดับ B ของดาวดวงนี้ ดูเหมือนเเม้ว่าเเจ็คสันจะอยู่ต่างโลกระบบภารกิจของเขาก็ยังทำงานอยู่

 

ระบบเเจ้งให้เขากำจัดสิ่งมีชีวิตระดับ B เเน่นอนว่าระบบน่าจะมีรางวัลให้เเต่เเจ็คสันหาได้สนใจรางวัลเหล่านั้นเพราะปัญหาของเขาก็คือการมีชีวิตรอดเเละหาทางกลับไปที่โลกโดยเร็วที่สุด ดังนั้นเขาจึงตั้งความหวังไว้กับสิ่งก่อสร้างเเปลก ๆ ที่ดูเหมือนมนุษย์จะสร้างขึ้นมา บางทีมันอาจจะช่วยเหลือวิกฤติของเขาในตอนนี้ได้ ด้วยคะแนนที่เเจ็คสันมีอยู่ในตอนนี้มันอาจจะเพียงพอที่จะทำให้เขากลับสู่โลกได้อย่างปลอดภัย

 

“พวกเรารีบไปกันเถอะ,ฉันกลัวว่าพวกมันจะมีมาเพิ่มอีก!”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ เดดพูล รีบเร่งฝีเท้าขึ้นในทันที

ทางด้านกัปตันโรเจอร์สเองก็ได้รับข่าวจากเจอร์รี่เช่นเดียวกัน พวกเขาได้ส่งคนเข้าไปตรวจสอบสถานที่ที่มิราจไนท์เเละเดดพูลหายตัวไป เเต่ไม่มีสิ่งใดอื่นนอกจากเศษซากปรักหักพังจำนวนมาก

 

พวกเขาไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าจะพบเจอต้นตออะไรหรือไม่เเต่พวกเขาก็เฝ้าค้นหาอย่างระมัดระวัง หลังจาก S.H.I.E.L.D. ได้เริ่มเก็บกวาดพื้นที่สนามรบที่เหลืออยู่พวกเขาก็พบสิ่งมีชีวิตที่ดูน่ากลัวมันได้ถูกทิ้งไว้ในสนามรบ

 

!

 

“มิราจไนท์ ความบ้าบิ่นของ เจ้านั่น นี่มันเกินเยียวยาจริง ๆ ! คิดว่าตนเองต้องประสบพบภัยอะไรมาบ้าง ถึงอย่างนั้นกลับไม่คิดเป็นห่วงความปลอดภัยของตนเองเเม้เเต่น้อย!”ได้ยินรายงาน โทนี่ ทุบโต๊ะออกมา ตอนนี้เขารู้สึกโมโหมากจริง ๆ

 

“หากเป็นอย่างที่ สกาย’อาย ว่าไว้ มิราจไนท์ ย่อมมีความมั่นใจในตนเองสูงไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ผลีผลามออกไป”เห็นโทนี่โกรธมาก กัปตันโรเจอร์ส กล่าวอธิบาย

 

“หึ,ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้”โทนี่ยอมรับในเรื่องนี้เพราะเเจ็คสันมีความมั่นใจในตัวเองสูง

 

หากเดดพูลรู้ว่าคนเหล่านี้เป็นกังวลเกี่ยวกับมิราจไนท์เเละไม่ได้คิดกังวลเรื่องของตนเเม้เเต่น้อยเเล้วล่ะก็เขาที่อยู่ดาวดวงอื่นก็อาจจะเเทบสบถด่าออกมา

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่กัปตันโรเจอร์สเเละโทนี่ได้พูดคุยกันเสร็จสายวิดิโอคอลก็สิ้นสุดลง โทนี่ ได้เดินเข้าไปหาปีเตอร์

 

“ปีเตอร์ เธอเองก็เป็นห่วงเเจ็คสันเหมือนกันสินะ”เห็นสีหน้าของปีเตอร์ โทนี่ กล่าวถามออกมา

 

“อืม,ผมเป็นห่วงเเจ็คสันจริง ๆ เเต่ผมเชื่อว่าเขาจะต้องไม่เป็นอะไร เขาไม่ใช่คนที่ทำอะไรแบบไม่คิด”ได้ยินโทนี่กล่าวถาม ปีเตอร์ กล่าวตอบตามจริง

 

“ก็ดี หากเธอคิดแบบนั้น ฉันก็คงต้องลองเชื่อใจเขาดู เช่นนั้นตอนนี้ที่พวกเราทำได้ก็คือรอเขากลับมา เเต่ระหว่างที่เขาหายตัวไป เธอก็ควรจะคิดข้อเเก้ตัวไว้บอกพ่อเเม่เเจ็คสันหน่อยเเล้วกัน”โทนี่ได้ระบายความโกรธออกไป เพราะเขารู้ดีว่า โกรธไปก็ไม่ได้อะไร

 

“ผมเข้าใจเเล้ว สบายใจเถอะ คุณสตาร์ค ผมเชื่อว่าเเจ็คสันจะต้องไม่เป็นอะไร”

 

“ก็หวังให้เป็นแบบนั้น”

 

 

ขณะที่เพื่อนสนิทของตนเองเเละคนทางโลกต่างเฝ้าตามหา เเจ็คสันที่ถูกส่งไปต่างโลกตอนนี้เขายังไม่รู้เเม้เเต่น้อยว่าตนเองถูกส่งห่างออกไปจากโลกกี่ปีเเสง ตอนนี้ เขากำลังปีนข้ามภูเขาข้ามเเม่น้ำอยู่

 

บนดาวที่เเจ็คสันเเละเดดพูลถูกส่งมาก พวกเขาได้ออกจากตำเเหน่งที่ถูกส่งมาจากประตูมิติอวกาศ ด้านหน้าของพวกเขาคือผืนป่าที่เต็มไปด้วยพืชพรรณต่าง ๆ เเน่นอนว่าดาวดาวงนี้มีอีกหลายอย่างที่เเตกต่างไปจากโลกเเม้จะเป็นพืชพรรณของที่นี่ก็ใหญ่กว่าพืชพรรณที่โลกในปัจจุบัน เมื่อเอาผืนป่าเเห่งนี้มาเทียบกับพวกเขาสองคนก็เหมือนสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก สองตัวที่เเหวกว่ายท่ามกลางมหาสมุทร

 

“มิราจไนท์ คุณยังเป็นมนุษย์โลกจริง ๆ ใช่มั้ยเนี่ย? ทำไมคุณถึงยังคงปรับสภาพตนเองให้เข้ากับดาวดวงนี้ได้อย่างง่ายดาย?”เดดพูล จ้องมองไปที่ มิราจไนท์ ,ขณะที่พวกเขาปีนเขาข้ามเเม่น้ำ เดดพูล ต่างกระทำได้ด้วยความยากลำบาก เเต่ มิราจไนท์ กลับไม่ใช่

 

เดดพูลเป็นคนที่ค่อนข้างมองโลกในเเง่ดีเเม้จะถูกส่งมายังสถานที่ไกลสุดขอบโลกเขาก็ยังคงรักษาอารมณ์ตลกของตัวเองเอาไว้ได้ เทียบกับ มิราจไนท์ เเล้ว มิราจไนท์ ค่อนข้างตึงเครียด ก็ไม่เเปลกเพราะที่เเจ็คสันสามารถอยู่รอดบนดาวดาวนี้ได้ก็เพราะชุดเเพนท่อมสูทของเขา

 

ก่อนหน้านี้เดดพูลเองก็รู้มาว่ามิราจไนท์นั้นเเข็งเเกร่งเเละลึกลับ เเต่พอได้เห็นมิราจไนท์จริง ๆ เขากลับคิดต่างออกไป อารมณ์ของมิราจไนท์นั้นเเปรปรวนตลอดเวลาราวกับเด็กน้อยคนนึง ดังนั้นความลึกลับของมิราจไนท์ จึงได้เเปรเปลี่ยนความคิดของเดดพูลไปในอีกแบบ

 

“ดาวดวงนี้ก็คล้ายกับดาวโลกโดยปัจจุบันมนุษย์ทุกคนล้วนเเล้วเเต่มีสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดกันทั้งนั้น อุณหภูมิในร่างกายของพวกเขาจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนให้คุ้นเคย ชิน ซึ่งฉันก็เป็นแบบนั้น เเน่นอนว่าบนดาวเคราะห์อื่นๆก็มีเผ่าพันธุ์ที่คล้ายกับมนุษย์อย่างพวกเราอยู่”เเจ็คสันไม่ได้รู้สึกขำกับมุกฝืดของเดดพูลเขาตอบคำถามในทันที

 

ตามพล็อตเรื่องที่เเจ็คสันรู้มาทั้งหมด ในอนาคตมนุษย์สามารถที่จะเดินทางในอวกาศได้อย่างง่ายดาย เเต่เเจ็คสันไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้กับเดดพูล

 

“จริงงั้นหรอ?เช่นนั้นคุณเคยเห็นมนุษย์ต่างดาวหรือไม่? คุณดูเหมือนมั่นใจในเรื่องนี้มาก”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ เดดพูล กล่าวถามด้วยความอย่างรู้อยากเห็น

 

“ก็มีบ้าง เป็นรูปแบบมนุษย์เหมือนกับพวกเรา พวกเขาก็เป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตพิเศษสำหรับดาวของพวกเราเพียงเท่านั้น ถ้าอยู่ในดาวพวกเขาพวกเขาก็เหมือนกับตัวตนสามัญธรรมดา จริงสิ ถ้านายอยากจะพบเจอมนุษย์ต่างดาวบ้าง บางทีพวกเราอาจได้เจอที่นี่”เเจ็คสันอธิบายอีกรอบ

 

มนุษย์ต่างดาวที่เเจ็คสันเล่าให้เดดพูลฟังก็คือ ธอร์ ธอร์ไม่เหมือนกับมนุษย์ต่างดาว เขาคล้ายกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ทุกประการดังนั้นจึงไม่มีคนสงสัยในตัวเขา

 

“จริงงั้นหรอ?เช่นนั้นดาวดวงนี้จะมีมนุษย์ต่างดาวอยู่จริง ๆ ?”เดดพูลรู้เสึกตื่นเต้นมากขึ้น

 

“ไปกันเถอะ อุปกรณ์สำรวจที่ฉันปล่อยออกไปได้ค้นพบสิ่งก่อสร้างที่เหมือนถูกมนุษย์สร้างขึ้นด้านหน้า”เเจ็คสันกล่าวออกมา เหตุผลที่เเจ็คสันกล้าเข้าสำรวจป่าเเห่งนี้ก็เพราะเขาได้ซื้ออุปกรณ์จานบินสำรวจมา

 

“หืม?อุปกรณ์สำรวจ คุณใช้มันตอนไหนกัน?”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เดดพูล มองไปที่อุปกรณ์บันทึกภาพในมือของมิราจไนท์

 

เเจ็คสัน”…เอาเป็นว่าฉันใช้มันก่อนหน้านี้เเล้วกัน”

 

ขณะที่เดดพูลสงสัยเเจ็คสันก็ขี้เกียจอธิบายเขารีบตรงไปที่ด้านหน้าจากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงผิดปกติที่ดังใกล้เข้ามา

 

“ระวัง!”ได้ยินเสียงนี้ เเจ็คสัน เเละ เดดพูล รีบขยับการเคลื่อนไหวทันที

 

!

 

“ทางนั้น!”

ฟู่ว!

 

ฟุบ

 

หลังจากเเสงรัศมีสีทองได้หายไปปีเตอร์ในปัจจุบันได้เปิดหมวกชุดเกราะไอรอนแมนขึ้น เมื่อครู่นั้นปีเตอร์รู้สึกว่าเเม่มดสาวคนนั้นได้หันกลับมามองตนเองเขาไม่ได้เข้าใจผิดเขาไม่เคยพบผู้หญิงคนนี้มาก่อนทำไมฝ่ายตรงข้ามจะต้องมองเขานี่ทำให้ปีเตอร์รู้สึกสงสัย

 

“คุณสตาร์ค คุณมีความมั่นใจว่าจะสามารถกำจัดเเมนดารินเเละคิลเลี่ยนในระยะเวลาอันสั้นได้จริง ๆ งั้นหรอ?”ปีเตอร์เลิกสงสัยเเม่มดหยุนเหมิง ในเวลาต่อมาเขาก็กล่าวถามโทนี่

 

“เเม้จะไม่มีความมั่นใจเเต่ก็ต้องทำให้สำเร็จ ฉันจะวางเเผนรับมือกับคิลเลี่ยน สิ่งที่ฉันในปัจจุบันขาดตอนนี้ก็คือพลัง”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ โทนี่กล่าวตอบ

 

“หากเป็นเรื่องนี้ พวกเราร้องขอ S.H.I.E.L.D. เเละ ทีม X-MEN ให้มาช่วยเหลือดีหรือไม่? ผมเชื่อว่าพวกเราจะต้องกำจัดพวกคิลเลี่ยนเเละเเมนดารินได้ในเร็ว ๆ นี้ เเน่นอน”ได้ยินโทนี่พูดว่าขาดพลังหรือในอีกความหมายนึงก็คือโทนี่ต้องการคนช่วย ปีเตอร์ พูดเเทรกขึ้นทันที

 

หากเป็นพล็อตเรื่องที่เเจ็คสันรู้ ลำพังโทนี่เพียงคนเดียวไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพาคนอื่นก็สามารถกำจัดคิลเลี่ยนได้ เเต่การปรากฏตัวขึ้นของเเจ็คสัน ได้เปลี่ยนเเปลงพล็อตเรื่องทั้งหมด ดังนั้น เขาจึงเป็นห่วงโทนี่ก่อนหน้านี้

 

ยิ่งตอนนี้เเจ็คสันได้ถูกส่งไปดาวดวงอื่นเขาเเทบจะไม่มีหนทางช่วยเหลือโทนี่เเม้เเต่น้อยอย่าว่าเเต่ช่วยเหลือโทนี่เลยเเค่หาทางกลับโลกเขาจะมีปัญหาหรือป่าวก็ไม่รู้ เพราะเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้น ทำให้ พวกโทนี่กับปีเตอร์ ลืมเรื่องที่เเจ็คสันหายตัวไปจนสนิท

 

“ไว้ฉันจะเก็บไปคิดดู ตอนนี้ ฉันจะต้องเร่งพัฒนาเครือข่ายของ J.A.R.V.I.S ก่อนเป็นอันดับเเรก จริงสิ พวกเราควรรีบออกจากสถานที่เเห่งนี้ พวกนักข่าวกำลังเเห่มา การเคลื่อนไหวของคิลเลี่ยนในครั้งนี้ถือว่าเป็นความปราชัยของฉันจริง ๆ มันทำให้ฉันรู้สึกโกรธอย่างมาก หากมันสามารถผลิตระเบิดนี้ได้เเละวางไว้ในนิวยอร์ก ฉันกังวลว่าระเบิดชีวภาพเหล่านี้จะคร่าผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก”โทนี่ กล่าวพูดขึ้น เขาต้องรีบกลับไปเตรียมเเผนการรับมือคิลเลี่ยนกับเเมนดารินก่อน

 

“อืม,พวกเราต้องรีบจัดการคิลเลี่ยน ก่อนที่ทุกอย่างมันจะเลวร้ายขึ้น เเรงระเบิดของระเบิดชีวภาพลูกนี้รุนเเรงมากจริง ๆ “ได้ยินคำพูดของโทนี่ ปีเตอร์ รู้สึกเห็นด้วย

 

ฟุ่บ!

 

ไม่ได้รอให้กัปตันจอร์จหรือนักข่าวมาถึงสถานที่ โทนี่ เเละ ปีเตอร์ ก็ชิ่งบินหายไปจากพื้นที่ตรงนี้ทันที

 

หลังจากโทนี่จากไปประมาณหนึ่งชั่วโมงพื้นที่เเห่งนี้ก็ถูกปิดกั้นโดยS.H.I.E.L.D. อย่างสมบูรณ์ เรื่องทหารเอ็กซ์ทรีมิสเเละระเบิดชีวภาพ ทางกรมตำรวจ ย่อมไม่สามารถคลี่คลายได้ สู้ปล่อยให้ทางกองทัพกับ S.H.I.E.L.D. เป็นคนจัดการดีกว่า

 

 

ในเขตชานเมืองนิวยอร์กหลังจากศึกต่อสู้ทั้งหมดได้จบลง หายนะล้างบางครึ่งเมืองก็ได้หายไป ในวอชิงตัน สำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ตอนนี้กัปตันโรเจอร์ส กำลังให้การกับประธานาธิบดีอยู่ เขาได้อธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

 

หลังจากรู้ว่านี่เป็นฝีมือของคิลเลี่ยน กัปตันโรเจอร์ส ก็สั่งการให้ S.H.I.E.L.D. เปลี่ยนเป็นสถานการณ์ระวังภัยระดับ 1 เรื่องนี้ทั้งหมดจะอยู่ในอำนาจของ S.H.I.E.L.D. เหตุการณ์ระดับ 1 หนึ่งนั้น ถือเป็นภัยร้ายเเรงอย่างมาก กัปตันโรเจอร์ส ในฐานะหัวหน้าคนปัจจุบันขององค์กร S.H.I.E.L.D. เขาจะต้องจัดการ คิลเลี่ยน เเละ เเมนดาริน ให้เรียบร้อย ธรรมชาติ เขาตั้งใจจะไปคุยกับโทนี่โดยตรง ทั้งยังคงต้องขอความช่วยเหลือจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ในเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

 

กัปตันโรเจอร์สที่ติดต่อศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไป ,ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ได้บอกข้อมูลของสมาคมมิวแทนท์ในปัจจุบันที่ถูกนำโดยเเมกนีโต พวกเขาเพิ่งรู้มาว่าเเมกนีโตได้เริ่มเคลื่อนไหว เพื่อป้องกันเเมกนีโต ทาง ทีมX-MEN คงอาจจะไม่ได้ช่วยเหลือในเรื่องนี้ เเน่นอนว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้เเจ้งกัปตันโรเจอร์สกับโทนี่ถึงเรื่องที่ว่าเขากำลังมองหา ลูก ๆ ของเเมกนีโต ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช อยู่

 

หลังจากได้รับข่าวจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ กัปตันโรเจอร์ส ก็รู้สึกปวดหัวทันที เรื่องของ เร้ด สกัลล์ เพิ่งจะจบไม่ทันใด ปัญหาเรื่องผู้ก่อการร้ายระดับโลกก็ปรากฏขึ้นมา ทั้ง ยังมี เเมกนีโต ผู้นำสมาคมมิวแทนท์ ที่เป็นปัญหาอีก กัปตันโรเจอร์ส เชื่อว่า ทั้งสองเรื่องนี้ น่าปวดหัวซะยิ่งกว่าการจัดการ เร้ด สกัลล์ เสียอีก

 

โชคดีที่ S.H.I.E.L.D. ไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง เพราะตอนนี้พวกเขามี โทนี่ ไอรอนแมน ,ทีม X-MEN เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ พวกเขาได้ร่วมมือกันเพื่อต่อต้านจัดการศัตรู เเต่ก็มีบางเรื่องที่กัปตันโรเจอร์สสงสัย ทำไมมิราจไนท์ ของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ถึงไม่ได้อยู่ที่นั่น กัปตันโรเจอร์ส จำได้ว่า โทนี่ ได้บอกกล่าวกับเขาว่าจะเข้าพื้นที่สนามรบพร้อมกับมิราจไนท์

 

“มิราจไนท์ ได้หายตัวไปพร้อมกับเดดพูล เเต่ก่อนที่พวกเขาจะหายตัวไป เดดพูล ได้เเจ้งว่าเขาพบประตูมิติอวกาศที่ไม่เสถียรฉันคาดว่าพวกเขาน่าจะเข้าไปข้างในนั้น”เจอร์รี่ กล่าวบอก โทนี่ ตามตรง

 

จนถึงตอนนี้ เเจ็คสัน เเละ เดดพูล ได้หายตัวไปเกือบสองชั่วโมงเเล้ว เจอร์รี่ ที่รู้ความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์ เเน่นอนว่าเขาไม่ได้รู้สึกกังวลมากนัก เเต่ตอนนี้ การหายตัวไปของทั้งสองคนทำให้เขารู้สึกกังวลจนถึงที่สุด

 

“พวกเขาเข้าไปในประตูมิติอวกาศ?ทำไมนายถึงพึ่งมาบอกพวกเรา?”ได้รับคำตอบจากเจอร์รี่ โทนี่ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

 

“เพราะพวกคุณยุ่งกับการต่อสู้ เเละ ฉันคิดว่า มิราจไนท์ กับเดดพูล คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะพวกเขาเเค่หายตัวไปสองชั่วโมงในตอนนั้น”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เจอร์รี่ กล่าวตอบอย่างไร้เดียงสา

 

“งั้นบอกสถานที่ที่ก่อนที่พวกเขาจะหายตัวไปมา ฉันจะเข้าไปตรวจดูสถานการณ์”ไม่ต้องรอให้เจอร์รี่พูดอีก โทนี่ กล่าวถามในทันที

 

“สวนอุตสาหกรรมสตาร์คของคุณ ตำเเหน่งที่พวกคุณสู้รบกัน!”

 

โทนี่”……..”

 

 

ถ้าจะให้บอกก็คือเเรงระเบิดเเละพื้นที่ความเสียหายนั้นทำให้กัปตันจอร์จ หัวหน้ากรมตำรวจรู้สึกกลุ้มใจ ก็ไม่เเปลก ทางด้านโทนี่เเละปีเตอร์ พวกเขาที่อยู่ในที่เกิดเหตุตอนนี้รู้สึกทำอะไรไม่ถูกอย่างมาก สิ่้งที่พวกเขาพบก็เป็นเพียงซากปรักหักพังเเละปรมาณความร้อนที่ยังหลงเหลือจากพื้นดิน พวกเขาไม่พบพื้นที่ทางเข้ามิติกระจก เเละ J.A.R.V.I.S ก็ไม่สามารถตรวจสอบสิ่งผิดปกติได้

 

ติ๊ด

 

“คุณสตาร์ค คนของกรมตำรวจ หน่วยดับเพลิง เเละ นักข่าว กำลังจะมาถึงที่นี่เเล้ว พวกเราต้องไปให้คำเเถลงการณ์ไหม?”ปีเตอร์กล่าวถามออกมาเขาเห็นรถดับเพลิงของกรมตำรวจที่กำลังเข้ามาใกล้จากนั้นก็เป็นรถยนต์คันอื่น ๆ คาดเดาว่าน่าจะเป็นกลุ่มนักข่าว

 

“ไม่จำเป็น ไว้ฉันจะจัดงานเเถลงข่าวอธิบายเรื่องเหตุการณ์ในครั้งนี้เอง”โทนี่ปัจจุบันรู้สึกไม่สบอารมณ์ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียเวลากับการคำให้การ

 

“เข้าใจเเล้ว”ได้ยินคำตอบของโทนี่ ปีเตอร์ พยักหน้าตอบ

 

ติ๊ดด

 

โทนี่ เเละ ปีเตอร์ ที่ลอยอยู่บนอากาศเกือบ 10 นาที จู่ ๆ พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงเสียงร้องเตือนว่ามีพื้นที่ความผันผวนขนาดเล็กเกิดขึ้น J.A.R.V.I.S ได้ตรวจสอบเเละเเจ้งเตือนพวกเขา เเน่นอนว่าไม่รีรอให้ทั้งสองคนตั้งตัว โทนี่ เเละ ปีเตอร์ รีบตรงไปยังตำเเหน่งทางด้านซ้ายทันที

 

ฟุ่บ!

 

ในซากปรักหักพังตรงจุดนึงได้ปรากฏรัศมีพลังเเสงสีทองเกิดขึ้นพร้อมกันจำนวนมาก จากนั้นก็มีบุคคลหลายคนเดินออกมา พวกเขาคือคนที่สร้างพื้นที่มิติกระจกขึ้น เหล่าพ่อมด/เเม่มด ที่ออกมานั้นมีเพียง 5 คน เท่านั้น ส่วนอีกสองคนที่เหลือยังคงอยู่ในพื้นที่มิติกระจกภายใน เพราะท้ายที่สุดพลังของเเรงระเบิดยังคงไม่จบลง พวกเขาต้องรอจนกว่าเเรงระเบิดนี้จะหายไป ถึงจะค่อยคลายพลังมิติกระจกออก

 

ขณะที่พวกพ่อมดรุ่ยเค่อออกมาจากประตูมิติอวกาศพวกเขาก็เห็นชุดเกราะไอรอนแมนสองตัวกำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขาซึ่งก็คือ โทนี่ เเละ ปีเตอร์

 

“เป็นพวกคุณจริง ๆ พ่อมดรุ่ยเคอ พ่อมด ไต้เหวิ่น!”เห็นใบหน้าของพ่อมดรุ่ยเคอเเละพ่อมดไต้เหวิ่น โทนี่ ในที่สุดก็ตะโกนเรียกชื่อออกมา

 

ได้ยินชื่อเรียกของตนเองพ่อมดรุ่ยเคอเเละพ่อมดไต้เหวิ่น จ้องมองไปที่ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ สำหรับปีเตอร์ ที่อยู่ใกล้ ๆ เขาไม่ได้กล่าวอะไรออกมาเพียงเงียบฟังเท่านั้น

 

จากนั้นไม่นานชุดเกราะไอรอนแมนสองตัวก็ปรากฏตัวที่ด้านหน้าของพ่อมดรุ่ยเคอเเละพ่อมดไต้เหวิ่นจากนั้นหน้ากากเหล็กก็เปิดขึ้นพร้อมกับเผยใบหน้าของโทนี่

 

“ฮ่าฮ่า ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ค นี่เอง”พ่อมดรุ่ยเคอ เเม้จะรู้สึกไม่ชอบโทนี่ เเต่เขาก็ยิ้มทักทาย

 

“เป็นฉัน เรื่องคราวนี้ต้องขอบคุณพวกคุณ ไม่งั้น เมืองนิวยอร์กคงต้องสังเวยผู้บริสุทธิ์จำนวนมากอย่างเเน่นอน หากผู้คนทั่วโลกรู้ถึงการมีอยู่ของเหล่าพ่อมดอย่างพวกคุณที่คอยปกป้องพวกเขาอย่างลับ ๆ พวกเขาจะต้องรู้สึกขอบคุณอย่างเเน่นอน”โทนี่ ไม่ได้สนใจเสียงหัวเราะแปลก ๆ ของพ่อมดรุ่ยเคอ เขาเเสดงออกถึงความกตัญญูจากใจจริง

 

“เป็นธรรมชาติที่พวกเราจะเข้ามาหยุดภัยพิบัติระดับร้ายเเรงขนาดนี้ อันที่จริง พวกเราก็ทำเท่าที่ทำได้เพียงเท่านั้น”ไม่มีใครรู้สึกยกยอตนเองเเม้จะได้รับคำชมจากปากของโทนี่ พ่อมดไต้เหวิ่น ได้กล่าวอธิบาย

 

“อืม,ฉันเองก็ไม่คิดว่า คิลเลี่ยน เเละ เเมนดาริน จะเป็นพวกบ้าขนาดนี้ พวกมันไม่ลังเลที่จะทำลายเมืองนิวยอร์กกว่าครึ่งเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ไม่ต้องห่วงฉันจะไม่ปล่อยพวกเขาไปอย่างเเน่นอน”หลังจากกล่าวขอบคุณสำเร็จ โทนี่ ก็ยกความผิดเรื่องที่คิลเลี่ยนเป็นคนก่อขึ้นมา เท่าที่เขาสังเกตุหากได้รับการช่วยเหลือจากเหล่าพ่อมดพวกนี้การจะจัดการคิลเลี่ยนนั้นก็คงง่ายขึ้น

 

“อะไร?คุณกำลังจะบอกว่าเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้เป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายเเมนดาริน?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ สีหน้าของพ่อมดรุ่ยเคอ รู้สึกประหลาดใจ

 

“ก็ใช่หน่ะสิ”โทนี่ รู้สึกสงสัยเช่นเดียวกัน

 

“จะบอกว่าคนร้ายก็คือเเมนดาริน เช่นนั้นเรื่องทั้งหมดนี่ใช่ที่คุณไปป่าวประกาศในที่สาธารณะว่าจะจัดการเขาหรือไม่ เช่นนั้นพวกเขาถึงได้มาจัดการคุณ เเต่การทุ่มทุนด้วยเเรงระเบิดขนาดนี้ก็ออกจะเกินไปหน่อย”พ่อมดรุ่ยเคอ ไม่คิดว่านี่จะเป็นฝีมือศัตรูที่โทนี่ป่าวประกาศ

 

“เรื่องนี้…อันที่จริงมันก็เป็นส่วนหนึ่งในความรับผิดชอบของฉัน ฉันมั่นใจว่าจะรีบจัดการ เจ้าเเมนดาริน นี่ เเละ จะไม่ให้เหตุการณ์เหมือนในครั้งนี้เกิดขึ้นอีก”ได้ยินคำพูดของพ่อมดรุ่ยเคอ โทนี่ รู้สึก เเข็งค้างไปเล็กน้อย

 

“มันเป็นเรื่องที่ดีที่คุณคิดได้”ได้ยินคำพูดของโทนี่ พ่อมดรุ่ยเคอ กล่าวตอบอย่างไม่ถนอมน้ำใจ

 

“เเม่มดหยุนเหมิงมาถึงเเล้ว พ่อมดรุ่ยเคอ พ่อมดไต้เหวิ่น อันตรายที่นี่ก็ได้ถูกเเก้ไขเเล้วพวกเรากลับกันเถอะ”ขณะที่โทนี่กำลังตีฝีปากกับพ่อมดรุ่ยเคอ พ่อมดทั้งสองคนที่มาจาก นิวยอร์ก แซงทัม ก็ได้กล่าวพูดขึ้น

 

“เรื่องในวันนี้ต้องขอบคุณอีกครั้ง”โทนี่กล่าวขอบคุณ

 

จากนั้นเขาก็ทักทายพ่อมดรุ่ยเคอ

 

“เเม่มดหยุนเหมิง ท่านสนใจไปเดินเล่นต่อที่ลอนดอนหรือไม่?พวกเราเชื่อว่า สถานที่เเห่งนั้นคงไม่ได้เลวร้ายไปกว่าเมืองนิวยอร์กเท่าไหร่”พ่อมดทั้งสองคนกล่าวเชิญ เเม่มด หยุนเหมิง ในทันที

 

“ก็ได้ พวกท่านนำทางเลย”ได้ยินคำเชิญจากพ่อมดทั้งสองคน เเม่มดหยุนเหมิงพยักหน้าตอบรับทันที

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นพ่อมดทั้งสองคนก็วาดสัญลักษณ์จากนั้นประตูมิติอวกาศก็ปรากฏขึ้นพวกเขาต้องการเดินทางกลับลอนดอน

 

“พวกเราเองก็ควรจะไปเเล้ว โทนี่ สตาร์ค ฉันหวังว่าคุณจะรีบจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด พวกเราคงไม่อาจช่วยเหลือคุณได้เหมือนกับในวันนี้อีกเเล้ว”เห็นพ่อมดจากลอนดอนสองวาดประตูมิติขึ้น พ่อมดรุ่ยเคอ ก็กล่าวเตือนโทนี่ก่อนที่จะจากไป

 

“สบายใจเถอะ ฉัน โทนี่ สตาร์ค รักษาคำพูดอยู่เเล้ว” โทนี่ไม่ต้องการจะต่อล้อต่อเถียงกับพ่อมดรุ่ยเคออีก เขารับประกันว่าครั้งหน้าจะต้องจัดการพวกของคิลเลี่ยนให้ได้

 

“เเม่มดหยุนเหมิง พวกเราขอไปกับพวกท่านด้วยเเล้วกัน”พ่อมดรุ่ยเคอไม่ได้มีเเผนจะทำอะไรต่อเขากล่าวถามเเม่มดหยุนเหมิงในทันที

 

“ก็ได้,พวกเราไปกันเถอะ”จากนั้นเเม่มดหยุนเหมิงก็เดินเข้าประตูเวทมนตร์ไป

 

ฟุ่บ!

 

พ่อมดรุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น รวมถึง เหล่าพ่อมด/เเม่มดคนอื่น ๆ ก็เดินหายเข้าไปในประตูมิติเวทมนตร์เพียงเเต่ก่อนที่ประตูมิติเวทมนตร์จะหายไป เเม่มดหยุนเหมิงได้มองไปยังสถานที่เเห่งนึงไม่รู้ว่าเธอค้นพบอะไรกันเเน่

 

เมื่อโทนี่เเละปีเตอร์เดินทางมาถึงพื้นที่จุดเกิดเหตุระเบิดพวกเขาก็เห็นซากปรักหักพังขนาดใหญ่ซึ่งมีศูนย์กลางเป็นอุตสาหกรรมสตาร์ค พื้นที่โดยรอบมากกว่า 8 กิโลเมตร ล้วนถูกทำลายโดยสมบูรณ์ ราวกับว่ามีอุกกาบาตขนาดยักษ์ตกลงมาที่พื้นที่เเห่งนี้

 

ฟุ่บ~~

 

“คุณสตาร์ค นี่…”ขณะที่ลอยตัวอยู่เหนือซากปรักหักพังเเม้เเรงระเบิดจะหายไปเเต่สภาพที่เกิดเหตุส่วนใหญ่ก็เสียหายไม่น้อย เเต่เมื่อเทียกับผลลัพธ์ที่โทนี่คาดเดาไว้เเล้วล่ะก็ นี่ถือว่าดีกว่ามาก

 

“สบายใจเถอะ มันจบเเล้ว”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ โทนี่ กล่าวตอบ

 

เเน่นอนว่าโทนี่ไม่อาจเก็บกั้นการเเสดงความรู้สึกที่มีได้ในเวลานี้ เเต่เขาก็มีเรื่องทุกข์ใจเหมือนกันเกี่ยวกับชุดเกราะไอรอนแมน อุตสาหกรรมสตาร์คตอนนี้เเม้จะเป็นบริษัทธุรกิจขนาดยักษ์ใหญ่ของโลกเเต่เนื่องจากการเปลี่ยนเเปลงทางด้านอุตสาหกรรมทำให้สูญเสียผลกำไรไปไม่น้อย เเละ การสูญเสียในครั้งนี้อาจทำให้สตาร์คอินดัสตรีท์เข้าสู่ช่วงวิกฤตทางการเงิน โทนี่ มองกองทัพไอรอนแมนส่วนตัวของเขาเป็นเงินของตัวเอง

 

วูซ วูซ ~~~

 

ขณะที่โทนี่เเละปีเตอร์ลอยอยู่เหนือซากปรักหักพัง ทางเข้าพื้นที่มิติกระจกเสียงไซเรนของรถตำรวจเเละรถพยาบาลได้ดังเข้ามาใกล้มากขึ้น เหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้สร้างความหวาดกลัวให้ชาวนิวยอร์กไม่น้อย เเต่เเล้ว จู่ ๆ ระเบิดก็หายไป ดังนั้น กรมตำรวจของนิวยอร์กจึงได้เคลื่อนไหวรีบมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

 

 

จอร์จหัวหน้ากรมตำรวจ NYPD ว่าที่พ่อตาของเเฮร์รี่ พ่อของเกว็น เนื่องเพราะ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ที่ช่วยเหลือเหตุการณ์ต่าง ๆ ในนิวยอร์ก ทำให้อาชญากรรมบางเเห่งได้ลดลงอย่างมาก เเม้เหล่าฮีโร่พวกนี้จะไม่ได้อยู่ในการควบคุม เเต่พวกเขาก็ได้ช่วยเหลือนครนิวยอร์กเอาไว้จริง ๆ โดยเฉพาะไม่นานมานี้ โทนี่ สตาร์ค ได้ประกาศเป็นพันธมิตรเเละมีความเกี่ยวข้องกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เรื่องนี้ทำให้ กัปตัน จอร์จ เชื่อว่านครนิวยอร์กเเห่งนี้คงจะสงบสุขไปอีกนาน เพียงเเต่ว่ามาเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้น

 

เเม้อาชญากรรมในนิวยอร์กจะลดลงอย่างไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์มาก่อน เเต่เหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายต่างชาติที่เข้าโจมตีด้วยระเบิดมหาประลัย การระเบิดย่านใจกลางเมืองนิวยอร์กทำให้ กัปตันจอร์จ รู้สึกเหนื่อยมาก โชคดีที่ โทนี่ สตาร์ค ได้ประกาศว่าจะจัดการเเมนดารินเป็นการส่วนตัวเเละถ่ายทอดสดให้คนทั้งโลกรู้ เรื่องนี้ทำให้ กัปตันจอร์จรู้สึกโล่งใจ

 

เเต่เมื่อไม่นานมานี้บ้านพักตากอากาศของโทนี่ได้เคลื่อนไหวชุดเกราะไอรอนแมนกว่าร้อยตัวเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้มีผู้พบเห็นเป็นจำนวนมาก กัปตันจอร์จที่ได้รับข่าวย่อมรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี หลังจากนั้นกองทัพไอรอนแมนก็ตรงมาที่สวนอุตสาหกรรมสตาร์คที่อยู่นอกเมืองนิวยอร์ก จากนั้นไม่นานก็เกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด การต่อสู้ของกองทัพชุดเกราะไอรอนแมน กัปตันจอร์จรู้ดีว่า เรื่องนี้ได้เกินมือพวกเขา เเต่เขาก็ส่งคนเข้ามาระวังพื้นที่เอาไว้

 

จากนั้นกัปตันจอร์จก็เเทบจะหัวใจวายตาย เพราะจู่ ๆ พวกเขาก็เห็นเเรงระเบิดขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นที่กลางสนามรบจากนั้นไม่นานเปลวเพลิงก็ได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า จากการคาดการของกัปตันจอร์จเเรงระเบิดขนาดนี้สามารถที่จะทำลายล้างเมืองนิวยอร์กให้หายไปครึ่งเมืองได้เลย

 

“ไมค์! ไมค์ เฝ้าระวังพื้นที่เอาไว้ จัดให้พื้นที่นี่เป็นพื้นที่อันตรายระดับ 1″ดูจากเเรงระเบิดในสถานที่ห่างไกล กัปตันจอร์จกล่าวสั่งลูกน้องของเขาก่อนที่โทรศัพท์ของเขาจะดังขึ้นมันเป็นสายจากเกว็น

 

ขณะเดียวกันทางด้านกรมตำรวจก็เริ่มเคลื่อนไหวกันอย่างวุ่นวาย

 

คลื่นเเรงระเบิดนั้นได้กินพื้นที่จำนวนมากทั้งยังเกิดเเรงสั่นสะเทือนเป็นระยะ ๆ ประชาชนโดยรอบก่อนหน้านี้ล้วนหมดหวังที่จะมีชีวิตอยู่ ยกเว้นในปัจจุบัน ที่กัปตันจอร์จตรวจสอบอยู่ เขาที่อยู่ใกล้เขตชานเมืองนิวยอร์กได้เห็นเเรงระเบิดได้หายไปราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นภาพลวงตา

 

“พ่อ ?! พ่อ? เกิดอะไรขึ้น มีเเผ่นดินไหวงั้นหรอ!”จอร์จได้กดรับโทรศัพท์ ลูกสาวของเขาเกว็นได้กล่าวถามออกมาอย่างรวดเร็ว

 

“เกว็น ไม่เป็นอะไรเเล้วล่ะ นี่ไม่ใช่เกิดเหตุการณ์เเผ่นดินไหว เเต่เป็นการโจมตีด้วยระเบิด”จอร์จที่เห็นพื้นที่สนามรบเขาได้รีบเรียกความสงบกลับคืนมาเเละตอบคำลูกสาวของเขา จริง ๆ เเล้วนี่เป็นการคาดเดาของ จอร์จเพียงเท่านั้น เพราะเเรงระเบิดของคิลเลี่ยนในครั้งนี้ เทียบกับก่อนหน้าถือว่ารุนเเรงกว่าร้อยเท่า

 

“โจมตีด้วยระเบิด?ฝีมือเเมนดารินงั้นหรอ พ่อ พ่อต้องระวังตัวเองด้วยนะ หนูเป็นห่วงพ่อ”ได้ยินคำตอบของพ่อ เกว็น รีบเตือนด้วยความกังวล

 

“พ่อรู้เเล้ว ลูกเองก็เถอะ เลิกเรียนเเล้วให้รีบกลับบ้านทันทีเข้าใจมั้ย”

 

“ค่ะ พ่อ”

 

จากนั้นกัปตันจอร์จก็วางสายโทรศัพท์ลูกสาวตนเอง

 

“หัวหน้า เเล้วคำสั่งเฝ้าระวังพื้นที่อันตรายระดับ 1 นี่ ?”ขณะเดียวกันนักสืบไมค์ผู้ช่วยของเขาก็เดินมา

 

เเรงระเบิดที่เกิดขึ้นนี้สามารถทำให้คนหวาดกลัวได้เลย หากเขาออกคำสั่งให้จัดพื้นที่เเห่งนี้เป็นพื้นที่อันตรายระดับหนึ่งล่ะก็จะต้องเกิดเหตุวุ่นวายตามมาอย่างเเน่นอน

 

“ยกเลิกไปก่อน ส่งทีมกู้ภัยเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียง พวกเราต้องปลอบประโลมประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ก่อนเป็นอันดับเเรก”ได้ยินคำพูดของผู้ช่วยของเขา กัปตันจอร์จกล่าวตอบทันที เเม้ระเบิดจะหายไป เเต่ปัญหาเรื่องพื้นที่อันตรายระดับ 1 นั้นก็สมเหตุสมผล เเต่เขาคงไม่สามารถประกาศออกไปได้เร็ว ๆ นี้

 

“ครับ หัวหน้า”ได้รับคำตอบจากหัวหน้าตำรวจ นักสืบไมค์รีบปฏิบัติตามทันที

 

“ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ค คุณกับเเมนดาริน ได้ทำอะไรลงไปเนี่ย คุณทำให้ผมต้องปวดหัวครั้งใหญ่เเล้ว!”จอร์จจ้องมองไปที่เหตุการณ์ที้เกิดขึ้นอย่างไม่เต็มใจ

ซี่ !!

 

ภายใต้การปรากฏตัวของพ่อมด/เเม่มดทั้ง 7 คน ทำให้พวกเขาสามารถสร้างพื้นที่มิติกระจกขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบส่งผลให้เเรงระเบิดเหล่านั้นไม่สามารถทำอันตรายพื้นที่ในโลกเเห่งความเป็นจริงได้

 

การทำลายของระเบิดก่อนหน้านี้ไม่สามารถที่จะย้อนกลับคืนได้ ยกเว้นว่า ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน จะสละเวลาเพื่อย้อนเวลาพื้นที่ให้กลับมา เพราะการทำลายของเเรงระเบิดส่งผลพื้นที่โดยรอบถูกทำลายหายไปจนเหลือเเต่ซาก โชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้เสียสละ ทีมพิเศษของ S.H.I.E.L.D. เองก็ได้ล่าถอยหลังจากจัดการทหารเอ็กซ์ทรีมิสเสร็จ หากจะว่ามีผู้เสียสละก็เป็นใครไม่ได้นอกจาก โทนี่ สตาร์ค เพราะนี่คืออุตสาหกรรมสตาร์คของเขา มูลค่าความเสียหายโดยรวมเเน่นอนว่าเข้ากระเป๋าเขาเน้น ๆ

 

กึก !

 

ภายในพื้นที่มิติกระจกเเรงระเบิดในปัจจุบันได้ทำลายพื้นที่ภายในมิติกระจกอย่างไม่หยุดยั้งเเม้ว่าจะสามารถสร้างพื้นที่มิติกระจกขึ้นมาได้เเต่เเรงระเบิดก็ยังคงเเพร่กระจายไปเรื่อย ๆ เเต่คราวนี้ เหล่าพ่อมดเเม่มด ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวอีกเเล้ว ภัยพิบัติเเรงระเบิดได้ถูกขังอยู่ในมิติกระจกอย่างสมบูรณ์ เรื่องนี้ต้องยกคุณงามความดีให้กับเหล่าพ่อมดเเม่มด ไม่อย่างงั้นตัวเมืองนิวยอร์กคงได้รับความเสียหายหลายส่วน

 

“ฟู่ว! โชคดีที่พวกเราปรากฏตัวได้ทัน ไม่งั้นคงมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก!”เห็นสภาพภายในพื้นที่มิติกระจกที่ถูกทำลายเเละเมืองนิวยอร์กหายไปกว่าครึ่ง พ่อมดไต้เหวิ่น อุทานออกมาเบา ๆ พร้อมกับมองไปถามความเห็นของ พ่อมด รุ่ยเคอ

 

อย่างไรก็ตาม พ่อมดรุ่ยเคอ กลับไม่ได้มีท่าทีตอบสนองต่อพ่อมดไต้เหวิ่น เขามองไปยังทิศทางนึง ในทิศทางนั้นมีเงาร่างผู้หญิงคนนึงยืนอยู่บนอาคารสูง ก่อนหน้าที่เธอได้ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศพร้อมกับลงมือช่วยเหลือ พ่อมดรุ่ยเคอ เเละ คนอื่น ๆ เพื่อสร้างพื้นที่มิติกระจกให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น

 

ก่อนหน้านี้เเม่มดหยุนเหมิงได้ถูกส่งไปทำภารกิจสืบความสัมพันธ์ระหว่าง เเจ็คสัน เเละ ธอร์ เเละ เเม่มดหยุนเหมิงก็รู้สถานะของเเจ็คสันในวันนั้น เธอรู้ว่า เเจ็คสัน กับธอร์เป็นเพื่อที่ดีต่อกัน เเม้เธอจะได้ทราบข้อมูลบางส่วนเเล้วเธอก็ไม่ได้ตรงกลับไปที่ คาร์มา-ทัช ทันที เเต่ยังคงเลือกที่จะอยู่เล่นข้างนอกก่อน เเน่นอนว่า เอนเชี่ยนวัน รู้ว่าศิษย์ของเขาคนนี้ต้องการเวลาพักผ่อนบ้าง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มอบหมายภารกิจอะไรให้ เเม่มดหยุนเหมิงอีก

 

หยุนเหมิงในตอนนี้เหมือนเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งในนครนิวยอร์กเธอได้เที่ยวเล่นทำความคุ้นเคยกับยุคสมัยใหม่ทำให้เธอรู้สึกสนุกอย่างมาก ขณะที่เธอกำลังอยู่ที่ห้องเเละเล่นกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดอยู่นั้นเธอก็สัมผัสได้ถึงพลังงานอันมหาศาล ดังนั้น เเม่มดหยุนเหมิง จึงรีบมุ่งหน้ามาที่นี่พร้อมกับช่วยเหลือพ่อมด/เเม่มด ทั้ง 6 คน

 

หยุนเหมิงเดิมมาถึงก่อนหน้าพวกพ่อมดรุ่ยเคอ เเต่เธอเห็นบุคคลสองคนที่กำลังทำการต้านทานอยู่บนอากาศเธอจึงได้คอยเเอบสนับสนุนเล็กน้อย พอพวก พ่อมดรุ่ยเคอ มาสนับสนุน เธอก็เข้าร่วมในการสร้างพื้นที่มิติกระจกเพื่อช่วยเหลือพื้นที่เเห่งนี้

 

“เเม่มดหยุนเหมิง เป็นท่านปรจารย์ส่งท่านมาช่วยเหลือสถานที่เเห่งนี้หรอกหรือ?”พ่อมดรุ่ยเคอ ได้ไปปรากฏตัวที่ด้านหน้าเเม่มดหยุนเหมิงก่อนที่จะกล่าวทักทาย

 

“ไม่ใช่ท่านอาจารย์ พอดีฉันที่กำลังทำภารกิจอยู่สังเกตุเห็นพื้นที่ต้องสงสัยที่สมควรได้รับการช่วยเหลือจึงรีบมา เเม้ว่าตัวตนอย่างพวกเราจะไม่ยุ่งกับเรื่องทางโลกเเต่การระงับเหตุอันตรายที่ร้ายเเรงเช่นนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของงานพวกเรา”เเม่มดหยุนเหมิง กล่าวตอบทันควัน

 

“โชคดีที่คราวนี้ได้รับความช่วยเหลือจากท่าน ไม่งั้นพวกเราคงยากที่จะสร้างพื้นที่มิติกระจกอันสมบูรณ์แบบครอบคลุมพื้นที่เเห่งนี้ได้ทัน เท่านี้หน้าที่ของพวกเราที่นี่ก็ถือว่าสิ้นสุดเเล้ว”พ่อมดรุ่ยเคอ ถอนหายใจออกมา

 

“ใช่ พวกเราทำหน้าที่ที่นี่เสร็จเเล้ว”

 

“ฮ่าฮ่า เเม่มดหยุนเหมิง ท่านก็มาปรากฏตัวที่นครนิวยอร์กเเห่งนี้ด้วยงั้นหรอ? พอดีเลย พอดีเราเพิ่งรู้จักพ่อค้าชาคนนึงเขาเป็นชาวตะวันออก เขาชงชาได้อร่อยมาก ไว้เราจะพ่าท่านไปลองดูสักครั้ง”ขณะที่ พ่อมดรุ่ยเคอเเละเเม่มดหยุนเหมิงกำลังสนทนากัน พ่อมดไต้เหวิ่นก็ปรากฏตัวขึ้นจากด้านหลัง

 

ขณะที่พ่อมดไต้เหวิ่นปรากฏตัวขึ้น อีก 4 คนก็ปรากฏตัวตามมา ภาพตอนนี้เป็นภาพที่หาดูได้ยากมากที่ครั้งนึงเหล่าพ่อมด/เเม่มดจะมารวมตัวกันมากขนาดนี้

 

 

ฟุ่บ!

 

ติ๊ด!

 

ทางด้านโทนี่ หลังจากชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากถูกทำลายเขาก็เตรียมพร้อมเเบกรับโศกนาฏกรรมจำนวนมากเอาไว้เเล้วเพียงเเต่โทนี่เเละปีเตอร์กลับไม่สามารถสัมผัสถึงเเรงระเบิดได้เลยเเม้เเต่น้อย

 

!

 

“หืม?”โทนี่จ้องมองไปที่สถานที่ด้านหน้าเขาจ้องมองออกมาอย่างงุนงง

 

“อะไร?ระเบิดหายไปไหน?คุณสตาร์คตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหน?”ราวกับว่าพวกเขาไม่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ทัน ปีเตอร์เองก็รู้สึกสงสัยเหมือนกัน

 

“เเรงระเบิดได้หายไปเเล้วตอนนี้พวกเราอยู่ห่างจากสถานที่เกิดเหตุระเบิดเมื่อครู่กว่า 20 กิโลเมตร ห่างจากรัศมีระเบิดทั้งหมด 10 กิโลเมตร”ได้ยินคำถามของปีเตอร์ โทนี่ กล่าวตอบ

 

“ระเบิดหายไปปงั้นหรอ?เป็นไปได้ยังไง?เเล้วพวกเรามาโผล่ที่นี่ได้ยังไง”ได้ยินคำตอบของโทนี่ ปีเตอร์ รู้สึกงุนงงอย่างมาก

 

เมื่อครู่ขณะที่พวกเขากำลังเข้าปะทะกับคลื่นระเบิด เเม่มดหยุนเหมิง ที่เฝ้าดูสถานการณ์ก่อนหน้านี้ได้ส่งพวกปีเตอร์เเละโทนี่ผ่านประตูเวทมนตร์ให้รอดออกมาจากรัศมีพลังระเบิด ดังนั้น ปีเตอร์ กับ โทนี่ จึงไม่สามารถตอบสนองได้ทัน เเต่โทนี่ก็พอจะคาดเดได้

 

“หรือว่าเป็นพวกพ่อมด?พวกเขาช่วยพวกเราเอาไว้ สำหรับการหายไปของเเรงระเบิดฉันคิดว่านั่นอาจจะเป็นพื้นที่มิติกระจกที่พวกเขาสร้างขึ้น”โทนี่กล่าวอธิบายออกมา

 

“พ่อมด?พวกเขาเป็นใคร?ไม่ใช่สิ ที่น่าเเปลกใจก็คือพวกเขาสามารถทำแบบนี้ได้ด้วยงั้นหรอ ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน เคยเล่าถึงพวกพ่อมดให้ผมฟัง บอกว่าคนเหล่านี้หลบซ่อนตัวจากโลกภายนอก”ได้ยินคำอธิบายของโทนี่ ปีเตอร์ เหมือนจะรู้สึกตัว

 

ได้ยินปีเตอร์อุทานออกมาโทนี่ยิ้มในทันที ก่อนหน้านี้หากเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับเหล่าพ่อมดด้วยตัวเองก็คงยากจะเชื่อว่าตัวตนเหล่านี้เเละเวทย์มนตร์นั้นมีอยู่จริง ๆ

 

“J.A.R.V.I.S กลับไปยังตำเเหน่งสถานที่เกิดเหตุได้มั้ย?”โทนี่ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S เขาก็อยากจะเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยตาของตัวเอง

 

“ครับ,เจ้านาย”

 

“ดี,พวกเราไปดูสถานที่เกิดเหตุกันเถอะ”

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากผ่านไปหลายวินาทีชุดเกราะไอรอนแมน 2 ตัวก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้งพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังตำเเหน่งที่เกิดการระเบิดก่อนหน้านี้

คลื่น!

 

ในที่สุดปีเตอร์เเละโทนี่ก็มองเห็นกำเเพงสีฟ้าอ่อนที่เข้าปะทะกับคลื่นระเบิดในครั้งนี้กำเเพงสีฟ้าอ่อนไม่ได้ถูกทำลายเหมือนสนามคลื่นพลังเพียงเเต่เเรงระเบิดนั้นรุนเเรงมากมันได้กระเเทกจนผนังกำเเพงสีฟ้าอ่อนเกิดการสั่นไหว

 

เพร้ง!

 

“เจ้านายครับ กำเเพงพลังงานสีฟ้าอ่อนของเราคาดว่าสามารถต้านทานการระเบิดในครั้งนี้ได้ เเต่คลื่นสนามพลังของเราที่วางเอาไว้เกรงว่าคงจะรับไม่ไหว”J.A.R.V.I.S กล่าวบอก โทนี่ในทันที

 

นอกเหนือจากตำเเหน่งของกำเเพงพลังงานสีฟ้า คลื่นเเรงระเบิดจะซัดทำลายพื้นที่โดยรอบ เเน่นอนว่าชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ไม่สามารถปิดกั้นได้ ถึงแบบนั้นความเสียหายที่จะเกิดขึ้นก็ยังคงเเผ่ขยายเป็นวงกว้างอยู่ดี

 

ปั้ง ปั้ง ปั้ง

 

ชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากเริ่มถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง กำเเพงสีฟ้าเองก็ไม่รู้จะสามารถต้านทานระเบิดไว้นานได้เท่าไหร่ โทนี่เดิมตั้งใจจะหยุดระเบิดครั้งนี้เเม้เขาจะต้องสูญเสียชุดเกราะทั้งหมดเขาก็ยอมเเต่ถึงเเม้เขาจะเสียชุดเกราะไปภัยพิบัติก็ยังไม่บรรเทาลงนี่เป็นสิ่งที่เขายอมรับไม่ได้

 

หลังจากชุดเกราะตัวเเล้วตัวเล่าเริ่มถูกทำลายคลื่นเเรงระเบิดชีวภาพก็เเผ่เป็นวงกว้างอีกครั้งโอกาสเชื่อมั่นของโทนี่เเทบจะหมดลงกระทันหัน

 

ฟู่ววว!

 

ในการคาดการณ์ของโทนี่เเรงระเบิดในครั้งนี้อาจกระทั่งทำลายชุดเกราะไอรอนแมนทั้งหมดเเต่โทนี่หาได้ใส่ใจนอกเหนือจากชุดเกราะไอรอนแมนเเล้วเขายังมีชุดเกราะกลายพันธุ์อยู่โอกาสที่เขาจะรอดนั้นมีสูงมากเเต่ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากที่อยู่ด้านหลังของเขาคงจะไม่ได้โชคดีแบบเขา

 

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี J.A.R.V.I.S เริ่มปรับสมดุลของชุดเกราะไอรอนแมนอย่างรวดเร็ว เขาต้องการทำให้ โทนี่ เเละ ปีเตอร์ ได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นเมื่อเริ่มปรับเปลี่ยนระบบฟังก์ชั่นต่าง ๆ ชุดเกราะก็ได้รับการต้านทานมากขึ้น เพียงเเต่ระบบพลังงานเองก็ถูกกลืนกินอย่างรวดเร็ว

 

ชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวเริ่มเเผ่รังสีความร้อนออกมาเนื่องจากฝืนขีดจำกัดในด้านศักยภาพชุดเกราะจำนวนมากเริ่มพลังงานหมดเเละสูญเสียระบบสำคัญจนพังทลายลงไป สำหรับโทนี่ เเล้วเขาค่อนข้างสงบมากในเวลานี้ เเม้เขาจะอยู่ในชุดเกราะไอรอนแมน เเต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกกังวล นอกเหนือจาก ชุดเกราะกลายพันธุ์เเล้ว โทนี่ก็ยังมีสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันที่เเจ็คสันให้มาอยู่เเน่นอนว่าปีเตอร์เองก็มีโอกาสรอดของทั้งสองคนนั้นสูงมากก

 

ติ๊ดดด

 

“ระบบพลังงานลดลง 5%….11%…23%…”ด้วยการปรับฟังก์ชั่นต้านทานของชุดเกราะเสียงของ J.A.R.V.I.S ได้เเจ้งเตือนเกี่ยวกับค่าพลังงาน

 

สถานการณ์ปัจจุบันโทนี่ทำได้เพียงเเต่ยอมรับผลดังกล่าวเพียงเท่านั้น อย่างน้อยเขาก็ประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือเป็ปเปอร์ การเคลื่อนไหวของคิลเลี่ยนในครั้งนี้ถูกวางเเผนเอาไว้เป็นอย่างดี จะเรียกว่าโทนี่พลาดก็ไม่ได้ เพราะใครจะรู้ว่าคิลเลี่ยนจะบ้าระห่ำขนาดติดตั้งระเบิดลูกใหญ่เอาไว้

 

 

ขณะที่ปีเตอร์เเละโทนี่กำลังลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับต้านทานคลื่นระเบิด จู่ ๆ ก็มีประตูมิติอวกาศเกิดขึ้น 6 ทิศทางพร้อมกับปรากฏร่างเงาทั้ง 6 คนออกมา คนเหล่านี้ก็คือเหล่า พ่อมด/เเม่มด สายเลือดเเรกเริ่มของโลก เหล่าจอมเวทย์

 

ฟุ่บ!

 

การปรากฏตัวขึ้นของ พ่อมด/เเม่มด ทั้ง 6 คนอาจจะเป็นการช่วยฟื้นโอกาสในการรักษาสถานการณ์ปัจจุบันเอาไว้ได้ เชื้อสายจอมเวทย์ของโลกเดิมจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลกพวกเขาได้หลบซ่อนตัวเเละคอยเฝ้าระวังภัยพิบัติที่มาจากนอกโลกยกตัวอย่างเช่น พวกปีศาจ ต่าง ๆ

 

ดูเหมือนว่าคลื่นเเรงกระเเทกของระเบิดเหล่านี้อาจจะทำให้ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องตกตาย ดังนั้นเหล่าพ่อมด/เเม่มดเหล่านี้จึงเคลื่อนไหวเเละปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ทันทีที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็เริ่มวาดมือทำสัญลักษณ์บางอย่าง จากนั้นเเสงสีทองก็ออกมาจากมือของพวกเขา

 

“พื้นที่มิติกระจก!”เหล่า พ่อมด/เเม่มด ทั้ง 6 คน ได้ตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาต่อมาภาพสะท้อนของกระจกได้ครอบคลุมไปทั่วพื้นที่เเห่งนี้ เเม้ว่ารัศมีพลังระเบิดจะทำลายพื้นที่โดยรอบเเต่มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อโลกเเห่งความเป็นจริง การเปิดใช้งานพื้นที่มิติกระจกนั้นกินพลังเวทย์อย่างมากดังนั้นหากไม่ใช่ เหล่าพ่อมด/เเม่มด จำนวนมาก ไม่มีทางที่จะสร้างพื้นที่มิติกระจกที่รวดเร็วเเละมั่นคงแบบนี้ได้

 

สวนอุตสาหกรรมสตาร์คเเห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก ดังนั้นการปกปิดพื้นที่มิติกระจกจำเป็นต้องใช้เวลาเช่นเดียวกันการจะครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ไม่ใช่เพียงเเค่คิดก็สามารถทำได้

 

เเต่การปรากฏตัวของพ่อมด/เเม่มดทั้ง 6 คนนี้ ก็เพียงพอเเล้วที่จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ เเน่นอนว่าครั้งนี้ปรมาจารย์จอมเวทย์อย่างเอนเชี่ยนวันเองก็ไม่ได้ออกโรงอาจเป็นเพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ใหญ่สำหรับเขาดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องปรากฏตัว หาก เอนเชี่ยนวันปรากฏตัวขึ้น อาจเป็นไปได้ว่าพื้นที่มิติกระจกอาจจะเสร็จสมบูรณ์เเทบจะทันทีทั้งยังสามารถลดอิทธิพลของการระเบิดในครั้งนี้ได้อย่างมหาศาล

 

บึ้ม!

 

ภายในพื้นที่มิติกระจกเเรงระเบิดได้ส่งผลกระจายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วความเร็วในการเเพร่กระจายนั้นสูงมากเเต่โชคดีที่พื้นที่เเห่งนี้เป็นพื้นที่มิติกระจกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่เเห่งนี้จะไม่ถูกนับรวมสู่โลกภายนอก

 

เพียงเเต่บางพื้นที่ที่ยังไม่ถูกมิติกระจกครอบคลุมเเรงระเบิดได้ส่งผลกระจายลอยตัวไปยังพื้นที่นั้น สิ่งนี้ทำให้เหล่าพ่อมด/เเม่มด ต่างรู้สึกเลี่ยงไม่ได้ เเต่ขณะนั้นเอง ก็มีเงาร่างนึงลอยอยู่บนอากาศ บุคคลที่ปรากฏตัวขึ้นนั้นทำให้ พ่อมดรุ่ยเคอ ต้องเเสดงสีหน้าด้วยความประหลาดใจ

 

“เเม่มด หยุนเหมิง?”พ่อมดรุ่ยเคอ ตะโกนออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

ฟุ่บ!

 

การระเบิดของคิลเลี่ยนเเน่นอนว่าย่อมส่งผลให้อุตสาหกรรมสตาร์คเเห่งนี้ถูกทำลายลงในทันทีอาจเป็นไปได้ว่าการระเบิดครั้งนี้คือประวัติศาสตร์ครั้งเเรกที่มีพละกำลังทำลายล้างมหาศาลหลังจากผ่านไปหลายวินาทีทั่วทั้งนิวยอร์กก็เกิดเเผ่นดินไหวขึ้นเล็กน้อยเเละผู้คนบริเวณใกล้เคียงก็สามารถเห็นกลุมเปลวเพลิงที่กำลังพุ่งกระจากตัวอย่างช้า ๆ

 

“เวรเอ้ย!พวกเราไม่สามารถหลบหนีได้ ไม่งั้นประชาชนผู้บริสุทธิ์กว่าครึ่งเมืองนิวยอร์กจะต้องได้รับผลกระทบจากการระเบิดในครั้งนี้ ไอ้เวร คิลเลี่ยน!”ขณะที่โทนี่กับปีเตอร์กำลังหลบหนี โทนี่ก็บ่นพึมพัมออกมา พวกเขามีโอกาสที่จะรอดจากสถานการณ์ตรงนี้ไปได้อยู่เเต่การระเบิดในครั้งนี้อาจนำพาผู้คนกว่าครึ่งเมืองนิวยอร์กเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

“เเจ็คสันล่ะ?เขาไปไหน?”เพียงเเต่ปีเตอร์นั้นกลับคิดถึงคนรอบตัวก่อนเป็นอันดับเเรกเขาไม่รู้ว่าตอนนี้เเจ็คสันอยู่ที่ใด

 

!

 

ขณะที่ปีเตอร์กำลังครุ่นคิดกองทัพชุดเกราะเหล็กของโทนี่ก็พุ่งลอยกระจายออกไปทั่้วทุกทิศทาง

 

“หืม?”เห็นการเคลื่อนไหวของชุดเกราะไอรอนแมน ปีเตอร์ รู้สึกสงสัยมาก

 

เพราะเดิมพวกเขาเตรียมที่จะหลบหนี ปีเตอร์ รู้สึกสงสัยว่าทำไม โทนี่ ถึง บังคับชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากเหล่านี้มารวมตัวกันเเละเเยกกระจายไปคนละทิศทาง สิ่งที่ ชุดเกราะไอรอนแมนจะทำนั้นก็คือเบี่ยงเบนวิธีกระจายของเเรงระเบิด

 

“คุณสตาร์ค คุณคิดจะป้องกันเบี่ยงเบนเเรงระเบิดนี่อย่างงั้นหรอ?”เห็นชุดเกราะไอรอนแมนกำลังปะทะกับกลุ่มเปลวเพลิง ปีเตอร์ กล่าวถาม ด้วยความหวัง

 

!

 

“J.A.R.V.I.S เปิดใช้ระบบฟังก์ชั่นปป้องกันทุกอย่างเเละเข้าป้องกันเเรงระเบิดพวกนี้อย่างเต็มที่ หากเเรงระเบิดส่งผลโดยรอบไปมากกว่านี้ล่ะก็บางทีฉันคงกลายเป็นอาชญากรที่พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปจำนวนมาก”โทนี่ไม่ได้ตอบคำถามของปีเตอร์ เขา กล่าวสั่ง J.A.R.V.I.S ในทันที

 

“ครับ เจ้านาย!”เป็นไปตามคาด J.A.R.V.I.S ตอบรับคำสั่งพร้อมกับเปิดใช้งานฟังก์ชั่นป้องกันของชุดเกราะไอรอนแมน

 

หึ่ม!

 

ตอนนี้กองทัพชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากต่างกระจัดกระจายกันไปคนละมุมละทิศทางจากนั้นชุดเกราะทั้งหมดก็ปล่อยคลื่นสนามพลังออกมา นี่เป็นอุปกรณ์ป้องกันพิเศษที่โทนี่ได้ติดตั้ง มันเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่เขาได้รับมาจากพวกไฮดร้า

 

หึ่ม!

 

ชุดเกราะไอรอนแมนกว่าหนึ่งร้อยตัวได้ปลดปล่อยคลื่นสนามพลังพิเศษที่ว่านี้ ยิ่งการผสานคลื่นพลังมากเท่าไหร่ความรุนเเรงของมันก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น โทนี่ตั้งใจว่าจะใช้คลื่นสนามพลังพิเศษนี้ในการรบกวนคลื่นเเรงระเบิดให้คงสภาพดั่งเดิมเอาไว้

 

ฟู่ว!

 

เพียงเเต่ชุดเกราะไอรอนแมนบางตัวที่อยู่ใกล้คลื่นเเรงระเบิดไม่นานมันก็ถูกทำลายอย่างรวดเร็วเห็นได้ชัดว่าระเบิดชีวภาพนี้มีความเเข็งเเกร่งเเละรุนเเรงอย่างมาก เเม้จะเป็นชุดเกราะไอรอนแมนหากโดนเข้าไปก็ไม่เเคล้วระเบิดในทันที เเน่นอนว่าสนามพลังพิเศษที่โทนี่เรียกใช้ถึงจะไม่สามารถหยุดเเรงระเบิดได้เเต่มันก็ยังช่วยลดประสิทธิภาพขอบเขตเเละพลังของเเรงระเบิดได้พอสมควร

 

ทันใดนั้นไม่นานชุดเกราะไอรอนแมนกว่า 30 ตัว ก็ถูกคลื่นระเบิดกระเเทกเสียหายเเละพังทลายลง ตอนนี้เเม้ชุดเกราะไอรอนแมนทั้งร้อยตัวจะถูกทำลายก็ไม่ใช่สถานการณ์ที่น่าเเปลกใจ หากมันช่วยให้เเรงระเบิดลดลงได้ โทนี่ ไม่สนเเม้เเต่น้อย

 

ทางด้านนึงห่างจากคลื่นเเรงระเบิดไม่ไกล ชุดเกราะไอรอนแมนกว่า 10 ตัว ได้ปลดปล่อยคลื่นพลังความผันผวนพิเศษออกมา คลื่นพลังของชุดเกราะทั้งสิบตัวนี้เเตกต่างจากตัวอื่น ๆ เพราะมันเป็นคลื่นพลังงานสีฟ้าอ่อนที่รุนเเรง หากเเจ็คสัน อยู่ที่นี่ เขาย่อมสามารถรำลึกได้อย่างเเน่นอนว่าคลื่นพลังสีฟ้าอ่อนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกบาศก์เวทมนตร์ สเปซอินฟินิตี้สโตน

 

ในสงครามไฮดร้าครั้งก่อน เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ รวมถึงโทนี่ ได้บุกทัพไปตีฐานไฮดร้าเเห่งนึง ในตอนนั้น ชุดของเเจ็คสันเเละปีเตอร์ก็ถูกคลื่นพลังส่วนหนึ่งของสเปซอินฟินิตี้สโตนกระเเทกเข้าใส่

 

หลังจากนั้นไม่นานโทนี่ก็ตามไปเจอพร้อมกับพบเครื่องมือวิจัยพิเศษของพวกไฮดร้าทั้งสิ่งทดลองเกี่ยวกับพลังของสเปซอินฟินิตี้สโตน พลังงานที่ถูกสร้างจำลองขึ้นนั้นเบาบางมาก ดังนั้นโทนี่จึงสามารถผสานอุปกรณ์เหล่านั้นให้กับชุดเกราะไอรอนแมนได้เพียงเเค่ 10 ตัวเท่านั้น เเละพลังงานเหล่านั้นก็ถูกใช้ออกมาอย่างสมบูรณ์อาจกล่าวได้ว่าเพื่อป้องกันเเรงระเบิดในครั้งนี้โทนี่ไม่มีทางเลือกอื่นจริง ๆ

 

ทันทีที่อุปกรณ์เหล่านั้นถูกทำงานคลื่นพลังส่วนนึงของสเปซอินฟินิตี้สโตนก็ถูกปลดปล่อยออกมา ชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 10 ตัว ได้กลายเป็นกำเเพงสีฟ้าขนาดใหญ่รวมกัน กำเเพงเหล่านั้นไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไปเเต่พื้นที่ที่กำเเพงเเต่ละตัวสร้างขึ้นมานั้นสามารถป้องกันเขตหน้าของเมืองนิวยอร์กได้ อย่างน้อยมันก็ยังช่วยโทนี่ลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

 

ฟู่ววว

 

คลื่นเเรงกระเเทกของระเบิดได้ทะลุผ่านคลื่นพลังงานทั้งหมดเเต่ดูเหมือนเเรงระเบิดจะไม่ได้ลดลงเลยจนสุดท้ายไม่นานคลื่นเเรงระเบิดก็เข้าปะทะกับกำเเพงสีฟ้าอ่อนในเวลาเดียวกัน

 

“ต้องหยุดให้ได้! ต้องทำได้”เห็นกำเเพงสีฟ้าอ่อนเข้าปะทะกับคลื่นเเรงระเบิด ปีเตอร์ที่ลอยอยู่บนอากาศได้พึมพัมสวดอ้อนวอนออกมาเเม้ในใจของเขาจะตื่นตะลึงกับคลื่นพลังงานสีฟ้านี้เเต่นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมามัวชื่นชม

 

ฟุบ

 

ระหว่างที่เเดร์เดวิลกำลังปฏิบัติภารกิจที่กัปตันโรเจอร์สมอบให้ก็คือการปกป้องประธานาธิบดี การต่อสู้ที่ตั้งอยู่ในสวนเขตชานเมืองของนิวยอร์กอุตสาหกรรมสตาร์กก็ยังไม่จบลง หลังจากที่ทหารเอ็กซ์ทรีมิสจำนวนมากได้กลายเป็นสัตว์ประหลาด พลังที่โดดเด่นเเละการป้องกันของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

 

ทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้เหมือนกับฮัลค์ความสามารถทางด้านพละกำลังที่น่าเกรงขามของพวกเขารุนเเรงมาก เเต่พวกเขาก็ไม่ได้เหมือนกับฮัลค์ เพราะฮัลค์ไม่มีความสามารถในการฟื้นฟูศักยภาพที่น่ากลัวขนาดนี้ กองทหารเอ็กซ์ทรีมิสกำลังเผชิญหน้ากับกองทัพไอรอนแมนกว่าร้อยตัว

 

ตอนนี้เงาร่างสีเเดงซึ่งก็คือสไปเดอร์แมนกำลังช่วยสนับสนุนโทนี่ในสนามรบ หลังจาก มิราจไนท์ เเละ เดดพูล หายตัวไป โทนี่ เเละ สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ ก็รู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก เเต่มันติดอยู่ที่ตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสพวกนี้อยู่

 

ชุดของสไปเดอร์แมนสามารถที่จะเทียบเคีนยงกับชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ได้เพราะชุดเกราะของปีเตอร์ได้ถูกออกแบบโดยโทนี่ทั้งยังใส่ระบบปฏิบัติการคอยช่วยเหลืออีกด้วย

 

!

 

“เเจ็คสันจะพบเจออะไรกันเเน่ เเล้วเขาไปไหนทำไมไม่มาช่วยจัดการพวกคิลเลี่ยน?”ขณะที่ปีเตอร์กำลังยิงใยเเมงมุมสายฟ้าใส่พวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสในใจของเขาก็ครุ่นคิด

 

ตั้งเเต่ที่สัญญาณของเเจ็คสันหายไป เจอร์รี่ ก็ได้ติดต่อเดดพูล ให้ไปตามรอย จนถึงตอนนี้เดดพูลก็ยังไม่ได้ส่งข่าวกลับมา ก่อนที่เดดพูลจะหายตัวไป เขาได้ทิ้งข่าวกับเจอร์รี่ว่าค้นพบประตูมิติอวกาศ ดังนั้น เจอร์รี่ คาดเดาได้ว่า เดดพูล เเละ มิราจไนท์ ควรจะเข้าไปในประตูมิติอวกาศเเละถูกส่งออกจากภูมิภาคเเห่งนี้ เเต่เพราะสไปเดอร์แมนกำลังยุ่งกับการต่อสู้ เจอร์รี่ จึงยังไม่ได้เเจ้งข่าวกับเขา

 

ยิ่งไปกว่านั้นประตูมิติอวกาศนั้นลึกลับมากมันเหมือนกับบางสิ่งในหนังวิทยาศาสตร์ที่ไม่ควรจะมีขึ้น เพียงเเต่หลังจากเข้าร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เจอร์รี่ ก็พบเจอประสบการณ์มากมายหนึ่งในนั้นก็คือพลังพิเศษ บางคนสามารถสร้างประตูมิติอวกาศขึ้นมาได้

 

ขณะที่ปีเตอร์กำลังกังวล เขาที่ไม่ระวังได้ถูกการโจมตีซัดจนร่วงลงมาที่พื้น

 

“อันตรายจริง ๆ !”ปีเตอร์กระอักไอออกมาเล็กน้อยเขาถูกทหารเอ็กซ์ทรีมิสจู่โจมเพราะความกังวลในใจ

 

ขณะที่ปีเตอร์กำลังรู้สึกกังวลสัญชาตญาณเเมงมุมของเขาก็ร้องเตือนถึงอันตรายขนาดใหญ่ที่กำลังคืบคลานเข้ามากใกล้เเต่ ณ ปัจจุบัน ปีเตอร์ ยังไม่สามารถตรวจพบ อันตรายดังกล่วได้

 

“ภัยพิบัติกำลังคืบใกล้เข้ามา จากที่ใดกัน!”ปีเตอร์ ชักใยเเมงมุมออกไปสถานที่ต่าง ๆ เพื่อสำรวจ

 

“หืม? ใต้ดิน!?”ในที่สุดปีเตอร์ก็พบต้นตอของคลื่นสัญญาณอันตรายในเวลานี้เขารู้สึกตกใจอย่างมาก

 

“คุณสตาร์ก! มีบางอย่างที่อันตรายมากอยู่ที่ใต้ดิน พวกเราต้องรีบออกจากที่นี่ทันที!”ปีเตอร์รีบกล่าวบอก โทนี่ ในทันที

 

“หืม?มีบางสิ่งอยู่ใต้ดิน? J.A.R.V.I.S ตรวจสอบได้หรือไม่?”หลังจากได้ยินคำเตือนของปีเตอร์ โทนี่ ที่กำลังขับเคลื่อนชุดเกราะไอรอนแมนก็ให้ J.A.R.V.I.S สเเกนพื้นที่ใต้ดินโดยตรง

 

ติ๊ด!

 

“อันตราย!รีบออกจากพื้นที่!”ขณะที่โทนี่กำลังรอผลสเเกนของ J.A.R.V.I.S ชุดเกราะไอรอนแมนก็ส่งเสียงเตือนออกมา เเน่นอนว่าเป็นเสียงของ J.A.R.V.I.S

 

คลื่น!

 

ไม่ต้องรอให้ J.A.R.V.I.S ตอบสนอง โทนี่ ได้ขับเคลื่อนชุดเกราะด้วยประสิทธิภาพเต็มร้อยเพื่อบินขึ้นสู่ด้านบน เขาเชื่อว่าหากรอดพ้นจากระยะอันตรายที่ว่านี้ได้ก็น่าจะปลอดภัย

 

ธรรมชาติขณะที่โทนี่กำลังบินขึ้นสู่ด้านบนเขาก็ให้ J.A.R.V.I.S บังคับชุดเกราะไอรอนแมนไปหาปีเตอร์ เพื่อช่วยเหลือ เเน่นอนว่าหากปล่อยปีเตอร์ทิ้งไว้ข้างล่างเขาย่อมไม่อาจหลบหนีจากอันตรายนี้ได้

 

ระหว่างที่โทนี่เเละปีเตอร์บินสูงขึ้นถึงระยะ 200 เมตร ใต้ดินของสวนวิทยาเขตสตาร์คอินดัสตรีท์ก็ได้เกิดคลื่นสนั่นหวั่นไหวจากนั้นเเผ่นดินก็เริ่มทรุดตัวลงพร้อมกับประกายระเบิดขนาดใหญ่ที่ปะทุออกมาจากชั้นใต้ดิน ดูเหมือนว่า คิลเลี่ยน จะได้วางระเบิดขนาดใหญ่เอาไว้ ด้วยระเบิดประสิทธิภาพเต็มจำนวนมากขนาดนี้สามารถที่จะทำลายเมืองนิวยอร์กให้เสียหายได้หลายส่วน

 

บึ้ม!

 

โทนี่จ้องมองลงมาที่พื้นดินด้านล่างของภูมิภาคเเห่งนี้สวนวิทยาเขตของสตาร์คอินดัสตรีท์ราวกับพบเจอกับวันพิพากษาพื้นดินเเถบนี้ได้ถูกทำลายด้วยพลังของระเบิดชีวภาพ พลังของระเบิดชีวภาพได้ทำลายสิ่งก่อสร้างทั้งหมดให้หายไป เเน่นอนว่าคลื่นระเบิดเหล่านั้นได้ทำลายทหารเอ็กซ์ทรีมิสไปด้วยก่อนที่คนเหล่านั้นจะจมภายใต้กองเพลิงเสียงกรีดร้องจำนวนมากได้ดังเเพร่กระจายไปทั่ว

 

“J.A.R.V.I.S พวกเราสามารถหลบหนีรอดพ้นจากระยะระเบิดหรือไม่?”ดูจากคลื่นระเบิดที่ถาโถมรุนเเรงขึ้นเรื่อย ๆ โทนี่เชื่อว่ามันจะพุ่งขึ้นสู่อากาศตอนบนที่เขาอยู่อย่างเเน่นอน

 

เเม้ว่า J.A.R.V.I.S จะพาโทนี่ เเละ ปีเตอร์หลบหนีทันที เเต่ คิลเลี่ยน ก็คาดการ์ดเรื่องทั้งหมดเอาไว้ตั้งเเต่เริ่มเขาได้เเอบติดตั้งระเบิดลูกใหญ่ที่มีคลื่นเเรงระเบิดส่วนหนึ่งของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสเเรงระเบิดสามารถที่จะทำร้ายปีเตอร์เเละโทนี่ที่อยู่บนกลางอากาศได้

 

“ความน่าจะเป็นไปได้ที่จะหลบหลีกคลื่นเเรงระเบิดมีเพียง 36% “หลังจากโทนี่กล่าวถาม โอกาสที่ ได้ให้คำตอบที่คำนวณออกมาอย่างรวดเร็ว

 

“เวรเอ้ย! ไม่เเปลกใจที่คิลเลี่ยนมันเริ่มที่จะล่าถอยออกไป เพราะมันเตรียมของขวัญไว้รอรับฉัน!”โทนี่สบถออกมาอย่างขมขื่น

 

ดูจากเเรงระเบิดเเละคลื่นพลังทำลายล้างอันมหาศาลนั่นโทนี่รู้สึกไม่สบายใจอย่างมากหากโทนี่ไม่สามารถตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวได้ทันโอกาสที่เขาจะตายภายใต้กองเพลิงนี้ก็คือหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นเเต่ภายใต้การคำนวณของ โอกาสที่J.A.R.V.I.S. ระยะหลบหนีของเขาก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี หากเป็นไปตามที่ J.A.R.V.I.S ว่า ระเบิดนี้ที่ถูกสร้างออกมาอย่างสมบูรณ์ สามารถที่จะสร้างความเสียหายให้นครนิวยอร์กได้เลย

ฟู่ว!

 

เเม้เเดร์เดวิลจะสามารถหลบเลี่ยงจุดสำคัญเเละรอดมาได้เเต่ผนังของห้องประชุมนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักพื้นที่โดยรอบเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น

 

“ในที่สุดผลลัพธ์ที่กังวลมากที่สุดก็เกิดขึ้น!”เห็นความเสียหายในห้องประชุมที่ลามเข้าไปที่ห้องเครื่อง เเดร์เดวิลที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับเเซฟวิ่นรู้สึกหมดหนทาง

 

ทหารเอ็กซ์ทรีมิสมีความสามารถที่น่ากลัวอย่างหนึ่งก็คืออวัยวะที่ถูกทำลายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นระเบิดขนาดเล็กได้ ความรุนเเรงดังกล่าวเเดร์เดวิลไม่ได้กลัว เเต่ปัจจุบันพวกเขาอยู่บนเครื่องบิน Air Force One การระเบิดของเเซฟวิ่นสามารถทำให้เครื่องบิน Air Force One ตกได้ ดังนั้น เเดร์เดวิล จึงไม่กล้ารับประกันความปลอดภัยของประธานาธิบดีได้ในตอนนี้

 

“ดูเหมือนว่าเเกจะดูเป็นห่วงเครื่องบินลำนี้ ก็ไม่เเปลก เเม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเเกเป็นใคร เเต่เเกไม่สามารถบินได้อย่างเเน่นอน หากเครื่องบินลำนี้ตกก็มีเเต่ความตายที่รอเเกอยู่ สำหรับประธานาธิบดีเองก็คงไม่รอดเช่นเดียวกัน เเต่ไม่ใช่กับฉัน เเม้ว่าฉันจะตกมาจากบนอากาศความสูงหนึ่งหมื่นเมตรฉันมีโอกาสที่จะรอดอยู่!”เห็นอีกฝ่ายรู้สึกหมดหนทางเเซฟวิ่นระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

 

เเม้ว่าปากของเขาจะพูดว่าตนเองมีโอกาสรอดเเต่เขาก็ไม่กล้ารับประกันว่าตนเองที่ตกจากความสูงหนึ่งหมื่นเมตรจะสามารถรอดมาได้หรือไม่ เเต่ที่ภาคพื้นดินนั้นมีกองทัพของเเซฟวิ่นรออยู่ เเมนดาริน ที่ส่งเเซฟวิ่นขึ้นมาบน Air Force One ได้คำนวณเส้นทางการบินของ Air Force One เอาไว้เเล้ว

 

ดังนั้นหน้าที่ของเเซฟวิ่นก็คือการกำจัดชุดเกราะไอรอนแมนเเละจัดการประธานาธิบดี นี่คือภารกิจของเขาที่ได้รับมา

 

“จะจริงงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของเเซฟวิ่น เเดร์เดวิล เงยหน้าขึ้นเพื่อตอบสนองจากนั้นในมือขวาของเขาก็คว้างดาบเล่มนึงพุ่งตรงไปที่ศีรษะของเเซฟวิ่น

 

!

 

“!”เเม้เเซฟวิ่นจะถูกกระตุ้นโดยเเดร์เดวิลเมื่อครู่เเต่เขาก็ไม่ได้ผ่อนคลายความระมัดระวังลงเพียงเเต่การลงมือของเเดร์เดวิลนั้นรวดเร็วเกินไป

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาต่อมาศีรษะของเเซฟวิ่นก็ถูกใบดาบปาดจนเกิดลอยเเผลลึกเฉียดที่ศีรษะของเขาจะหลุดจากบ่าเพียงเล็กน้อย

 

!

 

เเซฟวิ่นได้เลี่ยงจุดตายที่เเดร์เดวิลเล็งเอาไว้เเต่ไม่นานเเสงสีขาวก็ได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเขามันได้เจาะกะโหลกของเเซฟวิ่นในเวลาต่อมา นี่คือการโจมตีด้วยปืนเลเซอร์พลังงานสูง

 

ภายใต้การโจมตีของปืนเลเซอร์พลังงานสูงศูนย์กลางศีรษะของเเซฟวิ่นได้ถูกยิงจนทะลุเป็นวงกลมโดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางสามเซนติเมตร เเซฟวิ่นต้องการควบคุมสมองของตนเองเเละสั่งการให้ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสดำเนินการรักษาของเขา เเต่สมองของเขาเสียหายหนักมากเกินไปทั้งพลังของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสไม่รุนเเรงพอที่จะฟื้นฟูสอมงของเขาให้กลับมา จากนั้นไม่นานร่างกายของเเซฟวิ่นทหารเอกคนนี้ก็ได้ร่วงหล่นลงมาทันที

 

ตึง!

 

เเผนการลอบสังหารของเเซฟวิ่นคราวนี้เป็นอันต้องล้มเหลวเพราะเเซฟวิ่นได้ถูกฆ่าตายโดยเเดร์เดวิล,เเดร์เดวิลได้เดินไปเก็บดาบสั้นของเขา จากนั้นก็จ้องมองไปที่ศพของอีกฝ่าย การเผชิญหน้ากับทหารเอ็กซ์ทรีมิสนั้นอันตรายอย่างมากหากเขาโดนโจมตีศีรษะเช่นนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะรอดหรือไม่

 

จากนั้นเเดร์เดวิลก็หันกลับไปมองตำเเหน่งของไอรอนเเพทริออทที่ยิงปืนเลเซอร์ออกมา ก่อนหน้านี้เเซฟวิ่นได้โจมตีชุดเกราะไอรอนเเพทริออท เเละทำให้ พันเอกเบ็นเน่ ติดอยู่ข้างใน การต่อสู้ที่ผ่านมา ได้ทำให้ชุดเกราะไอรอนเเพทริออทฟื้นฟูระบบกลับมาเล็กน้อย เเม้เครื่องเตาปฏิกรณ์อาร์คจะถูกทำลายไป เเต่ชุดเกราะไอรอนแมนก็ยังมีพลังงานสำรองเหลืออยู่

 

ด้วยการลอบโจมตีของพันเอกเบ็นเน่ทำให้เเดร์เดวิลประสบความสำเร็จในการฆ่าเเซฟวิ่น เเม้เเดร์เดวิลจะไม่กลัวเเซฟวิ่นเเต่ถ้าอีกฝ่ายระเบิดตนเองไปพร้อมกับ Air Force One เขาคงไม่สามารถรักษาชีวิตเเละช่วยเหลือประธานาธิบดีได้

 

ขณะที่เเดร์เดวิลร่วมมือกับพันเอกเบ็นเน่เพื่อจัดการเเซฟวิ่นที่ด้านนอกห้องประชุมหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในที่สุดก็สามารถจัดการเเละช่วยเหลือประธนาธิบดีเอาไว้ได้ ประธานาธิบดีได้หลบหนีออกไปด้านนอกเเละอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของกลุ่มคนเหล่านี้

 

“ฟ่อ! ~~” ภายในห้องประชุมที่ติดอยู่ใกล้กับห้องเครื่องได้มีลมอากาศเย็น ๆ พัดผ่าน นี่คืออากาศบนฟ้าหมื่นเมตรถ้าหากประชุมนี้ถูกทำลายลงโดยสมบูรณ์เเล้วล่ะก็เครื่องบินลำนี้ก็คงต้องพังอย่างเเน่นอน

 

“พันเอกเบ็นเน่ คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย!?”จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมากก็วิ่งกรูเข้ามาหลังจากเห็นสถานการณ์ภายในห้องได้ถูกเคลียเเล้ว

 

สำหรับเเดร์เดวิล ไม่ได้มีใครถามถึงตัวตนของเขาชั่วคราว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้จักเพื่อนคนนี้ เเละทหารบอดี้การ์ดเหล่านี้ก็เป็นห่วงความปลอดภัยของประธานาธิบดีเเละคนสนิทที่ได้รับการไว้วางใจเพียงเท่านั้น เเต่เเดร์เดวิลหาได้สนใจ เพราะตอนนี้ภารกิจของเขาได้เสร็จสมบูรณ์

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเริ่มที่จะประมวลผลซากศพของเเซฟวิ่นถึงขนาดเรียกให้ผู้เชี่ยวชาญมาเพื่อเก็บศพ ภายใต้การคุ้มครองของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมากในที่สุดประธานาธิบดีก็กลับมาที่ห้องประชุมนี้อีกครั้ง

 

ประธานาธิบดีไม่ได้สนใจศพของเเซฟวิ่นอีกต่อไป เขาเดินผ่านด้านหน้าของพันเอกเบ็นเน่เเละตรงมาที่ด้านหน้าของเเดร์เดวิล

 

“ยินดีที่ได้รู้จัก มิสเตอร์ เเดร์เดวิล เกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ผมคงต้องขอขอบคุณคุณเเละความช่วยเหลือจาก S.H.I.E.L.D. ก่อนหน้านี้ผมเพิ่งได้รู้ว่า S.H.I.E.L.D. ได้ส่งคุณมาประจำที่นี่เพื่อคอยอารักษ์ขาผม ดูเหมือนว่าผมจะคาดการณ์ไม่ผิดจริง ๆ บุคคลของ S.H.I.E.L.D. เเต่ละคนล้วนเเล้วเเต่เป็นคนที่น่าเกรงขามทั้งสิ้น”มาถึงด้านหน้าของเเดร์เดวิล ประธานาธิบดี กล่าวออกมาอย่างนอบน้อม

 

เมื่อครู่ที่ผ่านมาเขาเองก็ได้รับการติดต่อจากกัปตันโรเจอร์ส S.H.I.E.L.D. ดูเหมือนว่า S.H.I.E.L.D. จะส่งคนมาคอยคุ้มกันตนเองอย่างลับ ๆ ซึ่ง ประธานาธิบดี รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก จากนี้ต่อไปในขณะที่เขาดำรงตำเเหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอยู่ เขาสัญญาว่าจะให้การสนับสนุนองค์กรพิทักษ์โลกอย่าง S.H.I.E.L.D.

 

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ นี่เป็นสิ่งที่ผมควรจะทำ จากที่ผมรู้มาเเผนการของเเมนดารินได้มุ่งเป้าไปที่ท่านประธานาธิบดี เพื่อสังหารท่าน ผมได้ถูกส่งมาเพื่อเฝ้าระวังการโจมตีของอีกฝ่าย ดังนั้นภายใต้สภาพเเวดล้อมเช่นนี้ หวังว่าท่านประธานาธิบดีจะไม่เปิดเผยข้อมูลทั้งตัวผมเเละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”เผชิญหน้ากับความสุภาพของประธานาธิบดี เเดร์เดวิลพยักหน้าตอบกลับ

 

“เเน่นอน”ได้ยินคำพูดของเเดร์เดวิล ประธานาธิบดี กล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

ปั้ง!

 

ขณะที่เเขนสัตว์ประหลาดของเเซฟวิ่นกำลังจะได้สัมผัสกับประธานาธิบดีพริบตาต่อมาประตูเหล็กที่อยู่ด้านหลังก็พุ่งเข้าหาเเซฟวิ่นอย่างรวดเร็ว

 

ปั้ง!

 

เเซฟวิ่นไม่ทันได้มีโอกาสได้หลบเขาเข้าปะทะกับประตูเหล็กจนกระเด็นลอยไปปไกล

 

“!~~~”

 

เห็นเเซฟวิ่นโดนโจมตี ประธานาธิบดี เเละ เลขาส่วนตัว ได้ตื่นตะลึงโดยสมบูรณ์ คนที่ปรากฏตัวด้านหน้าของประธานาธิบดีก็คือบอดี้การ์ดสวมใส่เเว่นสีดำเเละถือจับอาวุธพิเศษบางอย่างที่ไม่เเน่ชัด

 

“ท่านประธานาธิบดี ท่านไม่เป็นอะไรนะ?”เขาก็คือเเดร์เดวิล เขาได้มาปรากฏตัวที่ด้านหน้าของประธานาธิบดีเเละกล่าวถามด้วยความเป็นห่วง

 

“อึ๊ก ~! ฉันไม่เป็นอะไร!”ประธานาธิบดีได้ตื่นจากความสงบเมื่อครู่เขาเห็นชายบอดี้การ์ดในชุดสูทพร้อมเเว่นตาสีดำคนนี้กล่าวถามเขา เขารีบตอบคำถามทันที

 

เเม้เเต่บอดี้การ์ดส่วนตัวสองคนของเขาก็ยังไม่สามารถจัดการผู้ก่อการร้ายคนนี้ได้ เเต่ บอดี้การ์ดคนนี้สามารถทำได้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่บอดี้การ์ดธรรมดา ธรรมชาติ ประธานาธิบดี รู้สึกมีความหวังมากในตอนนี้

 

“ไว้ผมจะอธิบายภายหลังก่อนอื่นต้องรบกวนขอให้ท่านประธานาธิบดีออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุดที่นี่ปล่อยให้ผมจัดการเอง”เเดร์เดวิล กล่าวพูดขึ้น

 

“เข้าใจเเล้ว ระวังตัวด้วย”ประธานาธิบดี รีบคลานไปที่พื้นประตูทางออกทันที เลขาส่วนตัวของเขาก็รีบตามติดไปอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

“คิดจะมาช่วยประธานาธิบดีงั้นหรอ ข้ามศพฉันไปก่อน!”เห็นว่าเเดร์เดวิลเมินเฉยตัวเองเเซฟวิ่นได้โยนประตูที่ทับร่างเขาทิ้งไปก่อนที่จะพุ่งเข้าหาเเดร์เดวิลในเวลาต่อมา

 

เผชิญหน้ากับการโจมตีของเเซฟวิ่น เเดร์เดวิลไม่ได้ตื่นตระหนกเเท่งเหล็กเงินยาวได้พุ่งออกมาพร้อมกับบล็อคการโจมตีที่เกิดขึ้นด้านหน้า

 

เพร้ง!

 

ฝ่ามือสัตว์ประหลาดของเเซฟวิ่นเเข็งเเกร่งมากมันสามารถทำลายประตูเหล็กเเละผนังปูนต่างๆ ได้ไม่ยากเเต่กับเเท่งเหล็กของเเดร์เดวิลอีกฝ่ายไม่สามารถทำลายมันได้เห็นได้ชัดว่าสิ่งของนี้ไม่ใช่สิ่งของธรรมดา เนื่องจากการปะทะของเเดร์เวดิล พริบตาเดียว ประธานาธิบดีเเละเลขาในที่สุดก็ออกไปจากห้องได้สำเร็จ อย่างน้อยหากไม่จำกัดพื้นที่การหลบหนีของประธานาธิบดีเขาก็มีโอกาสที่จะหลบหนีได้มากขึ้น

 

ปั้ง!

 

เเดร์เดวิลได้ใช้พละกำลังของตนเองเพื่อผลักเเซฟวิ่นกลับไป ในเวลานี้ดวงตาของเเซฟวิ่นเผยเเสงสีเเดงเเวบผ่านร่างกายของเขาได้เปลี่ยนเเปลงไปด้วยคุณลักษณะของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสอีกครั้ง ด้วยความเเข็งเเกร่งตอนนี้หากเป็นร่างกายของเเดร์เดวิลเข้าปะทะโดยตรง เเน่นอนว่าย่อมไม่สามารถต้านทานได้อย่างเเน่นอน

 

ปั้ง!

 

เพียงเเต่เเซฟวิ่นไม่คิดว่าศัตรูจะสามารถใช้เเท่งเหล็กสีเงินบล็อคการโจมตีของเขาได้อีกครั้ง เป็นอีกครั้งที่เขาไม่สามารถทำลายเเท่งเหล็กสีเงินนั่นได้ เเซฟวิ่นรู้สึกประหลาดใจอย่างมากจากนั้นไม่นานเเดร์เดวิล ได้ถอยมาตั้งหลักพร้อมกับดึงปลายบนเเละปลายล่างของเเท่งเหล็กออกจากกัน จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าหาเเซฟวิ่นด้วยความเร็วสูง

 

!

 

เเสงเย็นได้เเวบผ่านใบหน้าของเเซฟวิ่นไปเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะเล็งไปโดนตำเเหน่งข้อมือของเขา ช่วงลำเเขนเเละข้อมือของเเซฟวิ่นที่สามารถกันกระสุนเเละขีปนาวุธได้พริบตาเดียวก็ถูกเเท่งเหล็กสีเงินตัดเเขนของเขาออกมาหากมองดี ๆ นั่นไม่ใช่เเท่งเหล็กสีเงินธรรมดาเพราะมันคือดาบคู่

 

เห็นเเขนของตนเองถูกตัดออก เเซฟวิ่นตื่นตะลึงโดยสมบูรณ์ เป้าหมายเเข็งเเกร่งเกินไป สำหรับเเดร์เดวิลเเล้วเดิมทีเขาตั้งใจตัดศีรษะของอีกฝ่ายโดยตรง เเต่เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะระเบิดตนเองหลังจากเขาปิดชีพอีกฝ่ายเเล้วเพราะงี้เขาจึงรู้สึกลังเลชั่วครู่

 

เเขนของเเซฟวิ่นไม่นานก็เริ่มที่จะฟื้นฟูกลับมาตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะเอาความมั่นใจพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายในทันที การโจมตีของเเดร์เดวิลสมบูรณ์แบบมาก เเม้เเต่ทหารเอ็กซ์ทรีมิสอย่างเขาก็ต้องคิดที่จะล่าถอยเพียงเเต่สถานการณ์ของเขาไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่

 

เห็นการฟื้นตัวของเเซฟวิ่น เเดร์เดวิลไม่ได้เเปลกใจ เขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถในการรักษาที่น่ากลัวของทหารเอ็กซ์ทรีมิสพวกนี้มาเเล้วหากจะให้พูดก็คือทุกชิ้นส่วนของร่างกายทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ก็คืออาวุธดังนั้นเเดร์เดวิลจึงระมัดระวังเป็นพิเศษ

 

“ถ้าหนีไม่ได้เเล้วฉันจะหนีทำไม สู้มันซึ่ง ๆ หน้าไปเลย!”หลังจากที่เเขนขวาถูกตัดโดยเเดร์เดวิล ดวงตาของเเซฟวิ่นเผยเเสงสีเเดงขึ้นจากนั้นเขาก็เลิกสนใจที่จะหลบหนีพร้อมกับพุ่งตัวไปหาเเดร์เดวิล

 

!!

 

เผชิญหน้ากับการตอบโต้ของเเซฟวิ่นเเดร์เดวิลไม่ได้เลือกที่จะถอยหลังออกไปเขาไม่สามารถมองเห็นอีกฝ่ายได้เเต่เขากลับสัมผัสได้ถึงพลังงานความร้อนของอีกฝ่าย เเดร์เดวิลในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเขาได้ฝึกฝนตนเองเเละร่างกายให้เเข็งเเกร่งมากขึ้น พลังภายในของเขาเเน่นอนว่าไม่ได้อ่อนเเอเเม้เเต่น้อย

 

ฟุ่บ!

 

เเดร์เดวิล ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายเขาได้คว้าดาบคู่ของตนเองเล็งไปที่เเขนทั้งสองข้างของเเซฟวิ่นในคราวนี้ เพียงเเต่ รัศมีเเสงสีเเดงได้เจิดจ้ามากขึ้นจากนั้นระเบิดขนาดเล็กสองลูกก็ได้ระเบิดออกจากเเขนที่ถูกตัดเมื่อครู่นี้ส่งผลให้ร่างกายของเเดร์เดวิลกระเด็นถอยกลับไป

 

ปั้ง!

 

หลังจากที่เเดร์เดวิลโดนระเบิดเขาไปร่างกายของเขาค่อนข้างสะบัดสะบอมทีเดียวเครื่องแบบชุดบอดี้การ์ดของตนเองก็ค่อนข้างยับเยินเพียงเเต่เเซฟวิ่นกลับไม่ได้คิดว่าตนเองชนะเพราะการโจมตีของตนเองเมื่อครู่ไม่สามารถปิดชีพอีกฝ่ายได้

หึ่ม!

 

ปั้ง

 

ขณะที่ประธานาธิบดีกำลังนั่งพักผ่อนอีกด้านหนึ่งของห้องประชุมก็เกิดการระเบิดขึ้นทันใดนั้นประตูห้องเหล็กที่ถูกสร้างก็กระจัดกระจายกันเป็นส่วน ๆ ทันทีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น บอดี้การ์ดส่วนตัวของประธานาธิบดีก็ช่วยเหลือในการพาประธานาธิบดีมุดเข้าไปใต้โต๊ะก่อนเป็นอันดับเเรก

 

พันเอกเบ็นเน่ที่ได้รับสัญญาณเเจ้งเตือนการโจมตีจากชุดเกราะไอรอนแมน เขาได้ใช้ฟังก์ชั่นล็อคเป้าพวกอาชญากรที่บุกเข้ามา เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้มีพลังงานภายในร่างกายที่สูงมาก

 

“มีผู้บุกรุกหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่จริง ๆ! กล้ามากที่บุกเข้ามาที่นี่!”เห็นผู้ที่เข้ามาจู่โจมประธานาธิบดี พันเอก เบ็นเน่ ระบายโทสะออกมา เลือดรักชาติของเขากำลังร้อนรุ่ม

 

ฟุ่บ!

 

พันเอกเบ็นเน่ในชุดเกราะไอรอนเเพทริออทเตรียมที่จะเข้าไปโจมตีชายหัวล้านคนหนึ่งก่อนหน้านี้ชายคนนี้เคยปรากฏตัวขึ้นมาเเล้วเขาเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของคิลเลี่ยน ชื่อของเขาคือ เเซฟวิ่น

 

“…”เห็นพันเอกเบ็นเน่ พุ่งเข้ามา ใบหน้าของ เเซฟวิ่น กลายเป็นหน้ารังเกียจมากขึ้นร่างกายของเขาเปล่งเเสงสีเเดงเเละยกมือขึ้นรับหมัดที่พันเอกเบ็นเน่ต่อยมา

 

ปั้ง

 

“อะไรกัน!?”เห็นการหยุดหมัดของเเซฟวิ่นเเละร่างกายสีเเดงของเขา พันเอกเบ็นเน่ รู้สึกตกใจอย่างมาก พริบตาต่อมาหมัดของเเซฟวิ่นก็ได้สวนกลับโจมตีไปที่ใบหน้าของตนเอง

 

ปั้ง!

 

กำปั้นเปล่า ๆ ได้ต่อยซัดเข้าไปที่ใบหน้าของชุดเกราะไอรอนแมนเต็ม ๆ สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้พันเอกเบ็นเน่กระเด็นถอยไปเล็กน้อย ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี เลขา เเละ ผู้คุ้มกันทั้งสองคนก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมากกับการที่ศัตรูสามารถโจมตีชุดเกราะไอรอนแมนได้

 

“เเกคือ! ทหารทดลองของเเมนดาริน”เห็นเเสงสีเเดงของเเซฟวิ่น พันเอกเบ็นเน่ ได้ลุกขึ้นมาเขาสำผัสได้ถึงอุณหภูมิความร้อนจากกำปั้นของ ศัตรูเมื่อครู่ ท่าทีของเขาในตอนนี้เปลี่ยนไปในทันที

 

ได้ยินคำพูดของพันเอกเบ็นเน่ ประธานาธิบดี เลขา เเละ ผู้คุ้มกันทั้ง สองคนรู้สึกตกใจอย่างมาก พวกเขาไม่คิดเลยว่า ทหารทดลองของเเมนดารินคนที่สามารถระเบิดตนเองได้จะมารากฏขึ้นที่นี่

 

“ฮ่าฮ่า,ดูเหมือนพวกเเกจะเริ่มรู้จักพวกเราเเล้ว เเละ เเกคิดว่าชุดเกราะเส็งเคร็งนั่นจะสามารถช่วยปกป้องเเกได้จริง ๆ ?”เเซฟวิ่น ไม่ได้สนใจคำพูดอีกฝ่ายเขาค้านที่จะพูดเยอะ

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่เเซฟวิ่นพ่นจาคำดูถูกออกมา พันเอกเบ็นเน่ ก็ได้เปิดระบบอาวุธชุดเกราะไอรอนแมนพร้อมกับยิงกระสุนจรวดขนาดเล็กเข้าหาเเซฟวิ่นโดยตรง เเน่นอนว่าเพื่อความปลอดภัยของประธานาธิบดี เเละ ความปลอดภัยของเครื่องบิน Air Force One ขีปนาวุธขนาดเล็กนี้ยังคงไม่เพียงพอที่จะสร้างความเสียหายหลัก ๆ ได้

 

ปั้ง!

 

ขีปนาวุธขนาดเล็กได้พุ่งเข้าหาเเซฟวิ่นเพียงเเต่เเซฟวิ่นหาได้สนใจไม่เขาได้ยกกำปั้นพลังงานความร้อนของตนเองขึ้นมาเเละต่อยไปที่ขีปนาวุธนั่นโดยตรงชั่วพริบตาเดียวขีปนาวุธขนาดเล็กก็ถูกทำให้ไร้ผลไป

 

“ดูสิว่าเเกจะออกมามั้ย!”หลังจากทำลายขีปนาวุธขนาดเล็ก เเซฟวิ่น ก็พุ่งเข้าหาชุดเกราะไอรอนเเพทริออทด้วยความคล่องตัวสูงก่อนที่จะปรากฏขึ้นด้านหน้าชุดเกราะเเละใช้มือคว้าจับไปที่เตาปฏิกรณ์อาร์คขนาดเล็กตรงกลางหน้าอกชุดเกราะไอรอนเเพทริออท

 

ฟุ่บ!

 

ชิ้นส่วนโดยรอบเริ่มที่จะละลายเพราะความร้อนสูงของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสชิ้นส่วนของเตาปฏิกรณ์อาร์คขนาดเล็กได้ถูกดึงออกมา

 

ฟุบ ~

 

ทันทีที่เตาปฏิกรณ์อาร์คพลังงานหลักของชุดเกราะไอรอนแมนถูกถอดออกไป ชุดเกราะไอรอนแมนก็ถูกทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ตอนนี้ชะตากรรมของพันเอกเบ็นเน่กำลังอยู่ในมือของเเซฟวิ่น ,เเซฟวิ่น หัวเราะออกมาด้วยความดูถูกเขาจะฉีกกระชากชุดเกราะไอรอนแมนออกมาก็ได้เเต่เขาไม่ทำเขาได้เลือกที่้จะเดินไปหาประธานาธิบดี

 

เห็นชุดเกราะไอรอนเเพทริออทไม่สามารถหยุดศัตรูได้ทั้งตำเเหน่งหลบหนีก็อยู่ที่ด้านหลังของเเซฟวิ่นประธานาธิบดี ผู้คุ้มกัน เเละ เลขา ต่างสีหน้าถอดสีด้วยความตกใจกลัว

 

ตึก ตึก~

 

“เเกต้องการอะไร!”เผชิญหน้ากับการคืบคลานของเเซฟวิ่น ประธานาธิบดี กล่าวถามด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้ผู้คุ้มกันทั้งสองคนของเขาเเม้จะมีอยู่ก็ไร้ประโยชน์หากต้องเผชิญหน้ากับศัตรูเพราะเเม้เเต่ชุดเกราะเหล็กไอรอนแมน ยังเสียท่าไปเเล้ว

 

“ฉันต้องการอะไรอย่างงั้นหรอ? ท่านประธานาธิบดี ท่านยังไม่รู้อีกงั้นหรอ…?”เผชิญหน้ากับคำถามของประธานาธิบดี สีหน้ายิ้มเเย้มของเเซฟวิ่นปรากฏออกมาให้เห็น

 

เหตุผลที่เขามาที่นี่ก็เพื่อลอบสังหารประธานาธิบดี ตามเเผนของคิลเลี่ยน หลังจากฆ่าประธานาธิบดีเสร็จ รองประธานาธิบดี ที่เป็นหุ้นส่วนของพวกเขาก็จะขึ้นรับตำเเหน่งต่อ จากนั้นพวกเขาก็จะใช้ประโยชน์จากคนใน ในการดำเนินการเเผนขั้นต่อไป เเน่นอนว่า เเผนของเเมนดารินเองก็สำเร็จเช่นเดียวกัน เมื่อถึงเวลานั้น กองกำลังผู้ก่อการร้ายก็จะสามารถควบคุมประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างสมบูรณ์

 

ปั้ง ปั้ง!

 

เห็นเเซฟวิ่นเดินใกล้เข้ามาสองผู้คุ้มกันได้ชักปืนออกมายิงในที่สุดเเม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าศัตรูมีความสามารถมากเเค่ไหนเเต่กระสุนปืนบางทีอาจจะสามารถฆ่าศัตรูเบื้องหน้าได้

 

เเต่สุดท้ายความคิดของพวกเขาก็ผิดหวัง

 

เผชิญหน้ากับกระสุนปืนของสองผู้คุ้มกัน เเซฟวิ่น ไม่ได้หลบเลี่ยงเเม้เเต่น้อย เขาถูกยิงเข้าที่หน้าผากโดยตรง เเต่ภายใต้การรักษาของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ธรรมชาติเขาได้ฟื้นฟูตนเองในทันที กระสุนเหล่านั้นไม่สามารถเจาะหัวของเเซฟวิ่นได้

 

“ดูเหมือนพวกเเกอยากที่จะตายก่อนสินะ!”เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าของประธานาธิบดี เเซฟวิ่น ยกมือขึ้น เเละเตรียมจะจัดการผู้คุ้มกันทั้งสองคน

 

เเขนขนาดใหญ่ของเขาได้ขยายใหญ่ขึ้นเเละซัดสองผู้คุ้มกันจนกระเด็นถอยออกไป ไม่รู้ว่าสภาพของสองผู้คุ้มกันตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่รึไม่

 

จากนั้นเเซฟวิ่นก็จ้องมองไปที่ประธานาธิบดีก่อนที่เขาจะเริ่มขยับเเขนปีศาจของตนเองอีกครั้ง

 

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากสังเกตุการเคลื่อนไหวของทหารเอ็กซ์ทรีมิส เเดร์เดวิล ก็เดินตามไปอยู่ใกล้ห้องประชุมถัดไป กัปตันโรเจอร์ส ได้เตรียมสถานะพิเศษให้กับเเดร์เดวิลเอาไว้เพื่อรับรองความปลอดภัยให้กับประธานาธิบดี เเต่เขาไม่ได้รีบเข้าไปด้านในห้องประชุมโดยพลการ เขาเพียงกำลังสังเกตุท่าทีของทหารเอ็กซ์ทรีมิสว่าจะดำเนินการกับประธานาธิบดีอย่างไร

 

“การโจมตีของผู้ก่อการร้ายเเมนดารินตลอดมานี้มีอิทธิพลต่อประเทศเราอย่างมาก ประเทศสหรัฐอเมริกาที่เป็นขุมอำนาจใหญ่อย่างเราจะต้องไม่ยอมเเพ้ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ พวกเราจะต้องกำจัดมัน…”ในห้องประชุมชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทเเละรองเท้าได้เเสดงออกทางสีหน้าอย่างจริงจัง นี่ก็คือ ประธานาธิบดี ด้านข้างของเขาคือบอดี้การ์ดส่วนตัวสองคนเเละเลขานุการ ไม่มีคนอื่นอยู่อีก

 

“ท่านประธานาธิบดี พูดได้ถูกต้องเเล้ว ดังนั้นผู้คนในประเทศต้องการพวกเรา พวกเขาต้องการผู้นำที่มีความคิดเข้มเเข็งอย่างท่าน”หลังจากที่ประธานาธิบดีกล่าวเเสดงความคิดเห็นของตนเอง เลขานุการส่วนตัวของเขาก็กล่าวพูดตอบรับ

 

“ฉันรู้ มันเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องให้กำลังใจประชาชน เมื่อเร็ว ๆ นี้ การก่อการร้ายของเเมนดาริน ทำให้ฉันรู้สึกหัวปั่นอย่างมาก ฉันรู้สึกอยากจะพักผ่อนจริง ๆ “ได้ยินคำพูดของเลขานุการ ประธานาธิบดี กล่าวพูดจากนั้นเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้เเละยื่นมือหยิบถ้วยชาบนโต๊ะ ช่วงนี้เขางานยุ่งมากทั้งยังมีงานอีกมากมายรอเขาอยู่

 

ประเทศสหรัฐอเมริกาคือขุมอำนาจที่น่ากลัวมากที่สุดในโลกพวกเขาได้รับการยกย่องให้เป็นประเทศมหาอำนาจใหญ่ เเต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้ตำเเหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาค่อนข้างเหนื่อยทีเดียว

 

อย่างเเรกคืออาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญเเละการเปลี่ยนเเปลงครั้งยิ่งใหญของอุตสาหกรรมสตาร์ค : โทนี่ สตาร์ค ลุง โอบาไดห์ ของโทนี่ ต้องการสังหารโทนี่เพียงเพราะต้องการยึดอำนาจของสตาร์คอินดัสตรีท์ เเผนของ โอบาไดห์ ได้ล้มเหลว เเละ ได้ให้กำเนิดชุดเกราะไอรอนแมนในเวลาต่อมา ประธานาธิบดี รู้สึกดีใจมาก ที่โทนี่สามารถสร้างชุดเกราะไอรอนแมนอาวุธทางการทหารที่น่ากลัวออกมาได้ ทั้งความสามารถของมันยังสามารถปกป้องผู้คนได้ดี เเต่ที่น่าเหนื่อยใจก็คือ อาวุธชุดเกราะไอรอนแมน ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของทางรัฐบาล

 

นอกเหนือจากชุดเกราะไอรอนแมนเเล้ว สตาร์คอินดัสตรีท์ก็ยังสร้างเตาปฏิกรณ์อาร์คขึ้น นี่ทำให้ ตลาดพลังงานทั่วโลกต้องปั่นป่วน โทนี่ รู้ดีว่าการถือหุ้นใหญ่ในอุตสาหกรรมตลาดพลังงานนั้นจะทำให้เขาตกกลายเป็นเป้าหมายเเต่โทนี่หาได้กลัว

 

ธรรมชาติเเล้วการเปลี่ยนเเปลงของสตาร์คอินดัสตรีท์ได้ส่งผลทางการค้าขนาดใหญ่เรื่องนี้ทำให้ประธานาธิบดีรู้สึกปวดหัวมาก ในตอนนั้นก็มีผู้ออกมาคัดค้านให้ประธานาธิบดีมอบความเป็นธรรมให้กับพวกเขาจนท้ายที่สุดการค้านเหล่านั้นก็ไร้ผล เวลาต่อมา องค์กร S.H.I.E.L.D. ก็ได้ออกมาเปิดเผยเรื่อง องค์กรร้าย ไฮดร้า ในเวลานั้น ทั้งสององค์กร ได้เข้าห่ำหั่นกันเป็นศึกใหญ่ซึ่งอยู่ในวอชิงตันหากจากทำเนียบขาวไม่ไกลนัก

 

ประธานาธิบดีสหรัฐไม่ได้เข้าไปเเทรกเเซงอำนาจของ S.H.I.E.L.D. โดยตรง เเต่เขาก็ยังสามารถใช้ความสัมพันธ์บางอย่างในการรู้ข้อมูลภายในองค์กร S.H.I.E.L.D. อย่างไรก็ตาม สงคราม ไฮดร้า เเละ S.H.I.E.L.D. นั้นทำให้ ประธานาธิบดี รู้ตัวดีว่าตนเองไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับองค์กร S.H.I.E.L.D.

 

ตอนนี้พวกไฮดร้าได้ถูกกำจัดไปเเล้ว ประธานาธิบดี รู้สึกผ่อนคลายมาก เเต่เเล้ว ผู้ก่อการร้ายนามว่า เเมนดาริน ก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีก เรื่องนี้สร้างความหวาดกลัวให้กับเขาเเละประชาชนทั่วโลก หากเรื่องเช่นนี้ยังเกิดขึ้นต่อ ๆ ไป เขาเชื่อว่าตนเองคงต้องขอลาออกจากตำเเหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเเน่นอน

 

‘เเม้เรื่องกองทัพเเละความอันตรายของเเมนดารินจะส่งผลต่อคนทั่วโลก เเต่ก็ยังมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นอยู่ ซึ่งสองสามวันมานี้ ทางออสคอร์ปได้ออกมาส่งเสริมยายีนรักษาที่เป็นที่รู้จักกันในหมู่วงการเเพทย์มันสามารถรักษาโรคเเละอาการบาดเจ็บส่วนใหญ่รวมถึงยังสามารถฟื้นฟูร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บให้กลับมาเป็นปกติได้’ประธานาธิบดีนั่งจิบชาอย่างเงียบ ๆ บนเก้าอี้ของเขา เขาต้องการเวลาพักผ่อนมากในช่วงนี้

 

เพียงเเต่ขณะที่เขากำลังจิบชาอยู่เขาก็ได้ยินเสียงเคาะสองครั้ง

 

“ท่านประธานาธิบดี,พันเอก เบ็นเน่ มาขอเข้าพบ”เลขานุการคนนั้นได้กล่าวบอกประธานาธิบดี

 

ผู้พันเบ็นเน่ คือชายผู้รักชาติที่อาสาทำหน้าที่อารักขาในชุดเกราะไอรอนแมนในคราวนี้ สำหรับ เพื่อนของโทนี่ พักเอก โร้ด ตอนนี้ เขากำลังอยู่ในเเนวหน้าของกองทัพเพื่อตรวจสอบเเละจัดการเรื่องของเเมนดาริน

 

“ให้เขาเข้ามา”ได้ยินว่าที่มาคือ ผู้พันเบ็นเน่ ประธานาธิบดี ผายมือเล็กน้อยเเละลุกขึ้นจากเก้าอี้

 

“ค่ะ”เลขานุการคนนั้นเธอเดินไปเปิดประตูทันที

 

ฟุ่บ!

 

ตึก ตึก

 

ทันทีที่ประตูเปิดออกชุดเกราะเหล็กในรูปแบบธงชาติของสหรัฐอเมริกาก็เดินเข้ามา

 

ธรรมชาติบุคคลภายในก็คือพันเอกเบ็นเน่ เขาอยู่ในชุดเกราะเหล็กไอรอนแมน เดิมโทนี่ไม่เห็นด้วยที่จะมอบชุดเกราะไอรอนแมนเหล่านี้ให้ เเต่ท้ายที่สุดก็ต้องยอม ทั้งยังมอบระบบปฏิบัติการอย่างการซับพอร์ตจาก J.A.R.V.I.S

 

“ผู้พันเบ็น คุณมีธุระอะไรอย่างงั้นหรอ?”เมื่อเห็นชุดเกราะเหล็กเดินมาถึงด้านหน้าตนเองธรรมชาติประธานาธิบดีรู้สึกปลอดภัยมากเขายิ้มออกมา

 

“ไม่มีอะไรหรอก ผมเเค่เป็นห่วงความปลอดภัยของท่าน ท่านประธานาธิบดี มันจะดีกว่าหากผมอยู่ข้างกายคอยอารักษ์ขาท่าน”ได้ยินคำถาม ของประธานาธิบดี ผู้พันเบ็นกล่าวตอบ

 

“เป็นห่วงความปลอดภัยของฉัน ? ฮ่าฮ่า ขอบคุณผู้พัน ที่นี่อยู่เหนือพื้นดินกว่าหนึ่งหมื่นเมตร ไม่ต้องกังวลหรอก จริงสิ ผู้พัน มาดื่มด้วยกันหน่อยเป็นไง”ได้ยินคำตอบของพันเอกเบ็น ประธานาธิบดี กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ที่นี่อยู่เหนือพื้นดินมากกว่าหนึ่งหมื่นเมตร ประธานาธิบดี ไม่เชื่อว่า พวกผู้ก่อการร้ายจะสามารถทำอะไรเขาได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่

 

“นี่…คือผมยังอยู่ในหน้าที่”ได้ยินคำพูดของประธานาธิบดี พันเอกเบ็น กล่าวตอบทันที ตอนนี้ เขายังอยู่ในภารกิจคุ้มกันอยู่ เขาไม่อยากทิ้งหน้าที่เพียงเพราะชะล่าใจ

 

“น่าเสียดาย หากผู้พันว่าเช่นนั้น ฉันก็คงต้องขอรบกวนช่วยอยู่เป็นเพื่อนหน่อยเเล้วกัน ตามตารางการเดินทาง คาดว่าอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็น่าจะถึง”ประธานาธิบดีกล่าวตอบ

 

“ครับ”

 

ตึก ตึก

 

ผู้พันเบ็นเน่ กล่าวตอบทันทีเพียงเเต่ขณะนั้นเองชุดเกราะไอรอนแมนของเขาก็ส่งเสียงร้องเตือนอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

ปั้ง

 

สวนอุตสาหกรรมสตาร์คชานเมืองนิวยอร์กบรุกลิน กองทัพไอรอนแมนของโทนี่ก็ยังคงเข้าศึกต่อสู้กับทหารเอ็กซ์ทรีมิส

 

หลังจากJ.A.R.V.I.S ได้รับการสนับสนุนจากดาวเทียมสตาร์ค 3 ดวง เขาก็สามารถต่อต้านการรุกรานเครือข่ายของคิลเลี่ยนได้ ตอนนี้ชุดเกราะไอรอนแมนกว่าร้อยตัวได้ฟื้นฟูศักยภาพความเเข็งเเกร่งกลับมาครบร้อยเปอร์เซ็นต์โอกาสรับมือกับทหารเอ็กซ์ทรีมิสพวกนี้ก็มีมากขึ้น

 

ทันทีที่คืนค่าชุดเกราะได้เต็มประสิทธิภาพโทนี่ก็สั่งการบุกโจมตีคิลเลี่ยนเเละทหารเอ็กซ์ทรีมิสของพวกเขาทันทีความคืบหน้าในตอนนี้คือผลจากการระเบิดของทหารเอ็กซ์ทรีมิสจำนวนมาก

 

เพียงเเต่ทหารเอ็กซ์ทรีมิสที่โทนี่เผชิญหน้าคราวนี้ทุกคนราวกับว่าได้รับผลกระตุ้นอะไรบางอย่างพวกเขาคล้ายสัตว์ประหลาดที่ดูน่ากลัว ซึ่งผลจากการวิเคราะห์ของ J.A.R.V.I.S พวกเขามีผลทางกายภาพที่เกิดขึ้นจากไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ส่วนต่าง ๆ ที่งอกเงยออกมาเเละดูไม่ประกอบเหล่านั้นคาดว่าผลกระทบเหล่านี้ยังไม่สมบูรณ์พร้อมเท่าไหร่

 

หากการเปลี่ยนเเปลงของทหารเอ็กซ์ทรีมิสพวกนี่้สมบูรณ์เเม้ชุดเกราะไอรอนแมนจะมีประสิทธิภาพ 100% ก็ไม่สามารถรับมือกับพวกเขาได้ พลังป้องกันของสัตว์ประหลาดพวกนี้น่าเกรงขามมากมันเป็นไปไม่ได้เลยถ้าจะใช้อาวุธอื่นนอกจากเลเซอร์พลังงานสูงในการโจมตีพวกเขา เพราะพลังงานจากการโจมตีกระสุนทั่วไปเเล้วขีปนาวุธขนาดเล็กพวกเขาสามารถต้านรับมันได้ทั้งหมด ทั้งการเคลื่อนไหวของพวกเขายังมีความยืดหยุ่นคล่องเเคล่วราวกับว่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายพวกเขาจริง ๆ

 

โทนี่กำลังครุ่นคิดอยู่ว่าหากในอดีตเขาเคยมีโปรเจคร่วมวิจัยกับโครงการนี้มันจะเป็นยังไงกันเเน่ เเต่ดูจากผลลัพธ์ที่ออกมาเเล้วมันค่อนข้างทำให้เขากลัวนิดหน่อยเพราะนี่เป็นพลังที่มาจากสสารตัวนึงทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนเเปลงมหาศาล

 

เมื่อเทียบความเข้าใจของโทนี่เเล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่องจำนวนมากเเต่เเม้จะมีความบกพร่องเเต่ความเเข็งเเกร่งของพวกเขาเป็นของจริงตอนนี้โทนี่ได้สูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนไปมากกว่า 10 ชุด เเต่เขาก็ยังสามารถจัดการสัตว์ประหลาดพวกนี้ได้มากกว่าครึ่งถือว่าเขาเเทบจะไม่สูญเสียอะไรมากนัก

 

ฟุ่บ!

 

“J.A.R.V.I.S พลังงานของพวกเขายังเหลืออยู่อีกเท่าไหร่”ขณะที่โทนี่พุ่งหลบการโจมตีจำนวนมากเขาก็กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

“ดูจากสถานการณ์เเละผลการวิเคราะห์พลังงานมากที่สุดที่พวกเขาบริโภคไปนั้นสูงมากควรจะเหลือประมาณ 43% เเต่ผมไม่เเนะนำให้ยึดหลักตัวเลขนี้เพราะพวกเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับไวรัสนี้มากนัก”ได้ยินเสียงของโทนี่ J.A.R.V.I.S กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

 

“ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส? ดูเหมือนฉันจะประเมิน คิลเลี่ยน ต่ำเกินไปจริง ๆ !”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ย่นคิ้วเล็กน้อย

 

ความเเข็งเเกร่งของทหารเอ็กซ์ทรีมิสทำให้โทนี่รู้สึกตื่นตะลึงเเละหวาดกลัวยิ่งไปกว่านั้นหากคนเหล่านี้สามารถผลิตออกมาเป็นกองทัพได้จะน่ากลัวขนาดไหนเพราะคนเหล่านี้หน้าตาละม้ายคล้ายมนุษย์ทุกอย่างมีเพียงพละกำลังเเละความสามารถที่เหนือมนุษย์เท่านั้นที่เเตกต่าง

 

“เจ้านายครับ,อัลดริช คิลเลี่ยน ถือเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีความสามารถอย่างเเท้จริง”ได้ยินคำพูดของโทนี่ J.A.R.V.I.S ประมวลผลคำพูดก่อนจะกล่าวตอบรับออกมา

 

“จริงสิ เเล้ว มิราจไนท์อยู่ไหน? ไม่ใช่ว่าเขามากับเราหรอกหรอ ฉันไม่เห็นเขาอยู่ในสนามรบเลย ตอนนี้เขาอยู่ไหน?”โทนี่กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

“ดูเหมือนว่าสองนาทีก่อนหน้านี้ ทางด้านทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ผู้ช่วย สกาย’อาย ได้เเจ้งต่อเราถึงข่าวเรื่องที่มิราจไนท์ เผชิญหน้ากับสถานการณ์อื่น ดังนั้นเขาจึงขอตัวก่อน”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบตามตรง

 

“lถานการณ์อื่น? หรือว่านั่นเองก็เป็นหนึ่งในกับดักของคิลเลี่ยน! ฉันเคยบอกเขาเเล้วว่าหากมีอะไรไม่ชอบมาพากลให้รีบบอกฉัน ดู เจ้าหนูนั่นทำ!”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ รู้สึกสงสัย

 

“ทางด้าน สกาย’อาย ยังไม่ได้เเจ้งข่าวข้อมูลล่าสุดเพิ่มเติม เพียงเเต่เท่าที่ผมคาดเดาด้วยความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์ ไม่ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับ กับดักเเบบไหนเขาก็ย่อมสามารถเอาตัวรอดเองได้”J.A.R.V.I.S เข้าใจความเเข็งเเกร่งของ เเจ็คสันดี เเต่อย่างไรก็ตาม J.A.R.V.I.S หารู้ไม่ว่า เเจ็คสันได้ถูกส่งผ่านเข้าไปยังประตูมิติอวกาศเเละไปอยู่ดาวดวงอื่นเเล้วตอนนี้

 

“อืม เเจ็คสันเป็นเด็กที่ลึกลับขีดจำกัดพลังของเขาฉันเองก็ไม่รู้ เอาเถอะ ฉันไม่รู้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์อะไร สิ่งที่เราควรต้องสนใจก็คือเราควรจะเเก้ไขจัดการสัตว์ประหลาดที่น่ารำคาญพวกนี้ก่อน”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่เห็นด้วย

 

โทนี่เองก็เชื่อใจความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันเช่นเดียวกัน

 

ฟุ่บ!

 

จากสถานการณ์เบื้องหน้าดูเหมือนพวกสัตว์ประหลาดทหารเอ็กซ์ทรีมิสพวกนี้จะสูญเสียไม่ใช่น้อย อีกไม่นานโทนี่เชื่อว่าเขาจะสามารถจัดการเเก้ไขปัญหาตรงหน้าได้สำเร็จ สำหรับคิลเลี่ยน ดูเหมือนเขาตอนนี้กำลังจะคิดหลบหนีอยู่ ซึ่งโทนี่ที่เห็นเขาก็เเทบจะหลุดหัวเราะออกมา

 

ฟุ่บ!

 

ทันใดนั้นโทนี่ก็สั่งการกองทัพไอรอนแมนของเขากว่าหนึ่งร้อยตัวมารวมตัวกันเพื่อเพิ่มจุดเเข็งในการจัดการทหารเอ็กซ์ทรีมิสพวกนี้ โทนี่ไม่ต้องการเสียเวลากับคนเหล่านี้อีกต่อไปการสูยเสียชุดเกราะไอรอนแมนก็เหมือนกับการสูญเสียทรัพย์สินของเขาเเน่นอนว่าโทนี่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เท่าไหร่

 

อันที่จริง คิลเลี่ยน เองก็รู้เเล้วว่าทางด้านโทนี่สามารถกู้ศักยภาพชุดเกราะไอรอนแมนกลับมาได้เเล้ว ที่สวนอุตสาหกรรมสตาร์คเเห่งนี้ก็ถูกระเบิดของทหารเอ็กซ์ทรีมิสพังไปมากมาย เเต่คิลเลี่ยนยังมีไพ่ตายอยู่เขายังสามารถระเบิดพื้นที่โดยรอบเเถวนี้ด้วยพลังของทหารเอ็กซ์ทรีมิสได้เเน่นอนว่าเเรงระเบิดย่อมเพียงพอที่จะทำให้เขากำชัยในครั้งนี้

 

เดิมเขาไม่คิดจะทำแบบนี้เพราะนี่คือไพ่ตายสุดท้ายของเขา หากเขาต้องการกำจัดกองทัพไอรอนแมน เขาจะต้องสร้างเเรงระเบิดขนาดใหญ่ การระเบิดครั้งนี้อาจจะไม่มีผู้เสียสละหลายล้านคนเเละอาจจะไม่เพียงพอที่จะถลายกองทัพชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ เเต่เขาก็ยังสามารถทำให้คนทั้งโลกหวาดผวากับการโจมตีในครั้งนี้ได้ ภายหลัง เเผนการครองโลกของเขาก็จะง่ายขึ้น

หึ่ม!

 

ขณะที่เเจ็คสันหันหลังกลับไปมองประตูมิติอวกาศที่เขาจากมาประตูมิติอวกาศกำลังจะหายไปเเล้ว

 

“นี่…มันกำลังจะหายไปเเล้ว!”เห็นประตูมิติอวกาศกำลังจะหายไปเเจ็คสันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีทันที

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับวิธีหาทางกลับบ้านจู่ ๆ เงาร่างสีเเดงร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเขาทั้งยังกลิ้งมาอยู่ตรงใต้เท้าของเขา

 

เห็นบุคคลถูกส่งออกมาก่อนที่ประตูมิติอวกาศกำลังจะหายไปเเจ็คสันระมัดระวังตัวขึ้นมาทันที เพียงเเต่หลังจากสังเกตุดี ๆ เขาก็พบว่าเจ้าของเงาร่างสีเเดงนั้นคือ เวด วิลสัน

 

เดดพูล หลังจากออกมาจากประตูมิติอวกาศเขาไม่ได้ส่งเสียงร้องครวญครางอะไรออกมาเพราะร่างกายที่รักษาตัวเองได้ของเดดพูลทำให้อาการบาดเจ็บจากการส่งข้ามมิติเเทบจะไม่เป็นผลกับเขา เเจ็คสันได้ยื่นเท้าเตะไปที่เดดพูลเบา ๆ สองที เพื่อสะกิดเขา

 

“เวรเอ้ย! ฉันลืมไปได้ยังไง”หลังจากเเจ็คสันพยายามเรียกสติของเดดพูลกลับมาเดดพูลกลับไม่ตอบรับทำให้เเจ็คสันฉุดคิดขึ้นได้

 

เเจ็คสันได้เเลกเปลี่ยนหน้ากากออกมาที่นี่ไม่ใช่สภาพเเวดล้อมของโลกดังนั้นอากาศของที่นี่เป็นพิษกับพวกเขา เดดพูล ที่เพิ่งมาถึง เเน่นอนว่าย่อมไม่สามารถทนพิษอากาศของที่นี่ได้ก็เหมือนกับเเจ็คสันเเต่โชคดีที่เเจ็คสันมีชุดเเพนท่อมสูทมันทำให้เขาสามารถปรับตัวตามสภาพอากาศเเวดล้อมของที่นี่ได้

 

ฟุ่บ!

 

“เเฮ่ก ๆ ที่รัก ผมกำลังจะตาย ผมกำลังจะตายเเล้ว!”หลังจากเดดพูลได้สวมหน้ากากเขาก็เริ่มกลับมาหายใจอีกครั้งตอนนี้เขาตะโกนร้องลั่นออกมาราวกับว่ากำลังละเมออยู่

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากเดดพูลส่งเสียงร้องออกมาได้ไม่นานเขาก็ดีดตัวลุกขึ้นเเละตื่นจากความฝัน

 

“ฮะ?มิราจไนท์!”

 

เเจ็คสัน”อืม”

 

เวด”…”

 

หึ่ม!

 

ปั้ง

 

หลังจากที่เเจ็คสันเเละเวดพูดคุยกันเพียงไม่กี่คำด้านหน้าของพวกเขาคลื่นพลังของประตูมิติอวกาศก็ส่งผลกระทบรุนเเรงออกมาอย่างกระทันหันส่งผลให้ทั้งสองคนลอยกระเด็นออกไปจากตำเเหน่งที่ตัวเองเคยอยู่ อาการบาดเจ็บของพวกเขาทั้งสองคนไม่ได้สาหัสมากนักจากการโดนเเรงระเบิดครั้งนี้เพียงเเค่เลือดตกยางออกเล็กน้อย

 

เดดพูล,เเจ็คสัน”…”

 

หลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีเเจ็คสันเเละเดดพูลได้นั่งพักฟื้นตัวเล็กน้อยเเจ็คสันได้เเลกเปลี่ยนสิ่งของจากร้านค้าในระบบมาเพื่อฟื้นฟูอาการของเขา

 

“คุณจะบอกว่าประตูมิติอวกาศเมื่อครู่ได้ส่งเรามายังดาวดวงอื่นยังงั้นหรอ?เเสดงว่าตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ที่โลก?”เดดพูลอุทานออกมา

 

ผงก!

 

“อืม,นายไม่เชื่องั้นหรอ? ตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ที่โลกจริงๆ!”เเจ็คสันผงกหัวรับคำเขาไม่สามารถปฏิเสธเรื่องนี้ได้

 

จากการตรวจสอบของเเจ็คสัน ประตูมิติอวกาศก็ได้หายไปเเล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลับโลกในระยะเวลาอันสั้น ตอนนี้ เขาเเละเดดพูลได้ติดอยู่ที่ดวงดาวไหนสักเเห่งของจักรวาล

 

“เราอยู่ดวงดาวอื่นจริง ๆ ! มิราจไนท์ คุณไม่คิดว่านี่มันน่าตื่นเต้นงั้นหรอ?”สำหรับเดดพูลเเล้วประสบการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก ตอนนี้เขาสามารถเชิดหน้าชูตาอวดเบ่งใส่สไปเดอร์แมนได้ว่าเขาได้ออกไปนอกโลกมาเเล้ว เเละเท่านี้เเฟนคลับของสไปเดอร์แมนก็จะเข้ามาสนใจเขาเเทน

 

“เวด นายมองไม่เห็นสถานการณ์โดยรวมของเราอย่างงั้นหรอ?”เห็นท่าทีลักษณะของเดดพูล เเจ็คสันเเทบจะสั่นหัวทีเดียว

 

“สถานการณ์ของเรา?พวกเราอยู่นอกโลก นี่ไม่ใช่เรื่องที่เจ๋งงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เดดพูล รู้สึกสงสัย เขากล่าวออกมาถึงเรื่องความยินดีที่ได้ออกไปต่างดาวครั้งเเรก

 

“ฉันล่ะชื่นชมความคิดของนายจริง ๆ ! ตอนนี้พวกเราไม่มีประตูมิติอวกาศให้กลับไปที่โลก พูดให้ชัดก็คือพวกเราติดอยู่ที่ดาวดวงนี้ เเละนอกจากนี้พวกเราก็ยังไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนมีสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายมากน้อยเพียงใดก่อนที่นายจะเข้ามาที่นี่ถ้านายเห็นสัตว์ประหลาดตัวนึงที่นอนตายอยู่นายก็จะรู้เองฉันคิดว่านั่นคงจะเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตของดาวดวงนี้่อย่างเเน่นอน”เเจ็คสันได้อธิบายให้ เวด เข้าใจอย่างง่าย ๆ

 

ต้องบอกว่าสภาพเเวดล้อมของดาวดวงนี้ค่อนข้างอันตรายต่อพวกเขาหากเป็นสภาพอากาศสภาพเเวดล้อมธรรมดา ชุดเเพนท่อมสูทของเเจ็คสันก็ยังพอสามารถรับมือได้ดีไม่ดีเขาก็เเค่อัพเกรดชุดเพียงเท่านั้น เเต่อย่างไรก็ตามดาวดวงนี้ยังมีอะไรอย่างอื่นอีกเช่นสิ่งมีชีวิตที่เเข็งเเกร่งเหล่านั้นเเม้เเต่เเจ็คสันเองก็ยังไม่กล้ารับประกันว่าเขาจะสามารถรักษาชีวิตของตัวเองได้ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่

 

“เออว่ะ จริงด้วย! มิราจไนท์คุณพอจะมีวิธีพาพวกเรากลับไปที่โลกได้หรือไม่?”ได้ยินคำอธิบายของมิราจไนท์ในที่สุดเดดพูลก็เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันของพวกเขา เขาเเทบจะทุบศีรษะตนเองให้เเตกเป็นเสี่ยง ๆ เรื่องเเค่นี้เขาก็ยังคิดไม่ได้

 

“มีวิธี?หากฉันมีวิธีฉันจะมานั่งหัวเสียแบบนี้่หรอ จริงสิประตูมิติอวกาศแบบสุ่ม…”ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเจ็คสันกล่าวด้วยอารมณ์ไม่สู้ดีนัก

 

เขาได้ถ่ายโอนความคิดของตัวเองเข้าไปในร้านค้าระบบเเต่น่าเสียดายเเจ็คสันไม่สามารถเรียกเปลี่ยนอุปกรณ์จำพวกประตูมิติได้เพราะด้วยเเต้มคะแนนในปัจจุบันของเขาตอนนี้เเทบจะเรียกได้ว่าจนปัญญา

 

โดยเฉพาะอุปกรณ์ข้ามอวกาศของพวกนี้ราคาสูงมากเเจ็คสันในตอนนี้ไม่สามารถเเลกเปลี่ยนมันได้

 

อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่เเละเวลานั้นเป็นอุปกรณ์คลาสระดับสูง เเละ ไอเท็มที่เเจ็คสันเล็งตอนเเรกประตูมิติอวกาศแบบสุ่ม เเม้เขาจะสามารถซื้อมันได้เขาก็ยังไม่รู้เเน่ชัดว่าตนเองจะถูกส่งไปที่ใดอยู่ดี

 

“ประตูมิติอวกาศแบบสุ่ม?มันคืออะไรล่ะนั่น”ได้ยินคำพูดหลุดจากปากของมิราจไนท์เดดพูลกล่าวถามด้วยความอยากรู้

 

“ป่าวหรอก มันก็เเค่เครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถกลับบ้านได้ เเต่เเค่ตอนนี้เราไม่มีสิ่งนี้เท่านั้น”

 

ฟู่ว!

 

ขณะเดียวกัน เดดพูล เเละ เเจ็คสันก็นั่งอยู่บนพื้นดินครุ่นคิดสถานที่เเห่งนี้ค่อนข้างสวยงามก็จริงเเต่สภาพเเวดล้อมที่นี่ก็เป็นอันตรายกับพวกเขาระดับออกซิเจนของที่นี่ต่ำมาก

 

“ไม่ทราบว่าที่โลกปัจจุบัน โทนี่ ได้จัดการพวกคิลเลี่ยนเสร็จเเล้วหรือยัง…”เเจ็คสันได้เเผ่ตัวลงนอนบนพื้นดินเเละเงยหน้ามองท้องฟ้าสีเเดงอ่อน

 

“เห้อ,ฉันละอยากพาวาเนสซ่ามาเดทที่นี่จริง สถานที่เเห่งนี้ราวกับดินเเดนเเห่งความฝัน”

 

หึ่ม!!

 

เเจ็คสันยืนอยู่ที่หน้าประตูมิติอวกาศที่ไม่เสถียรเขาจ้องมองมันเเละสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่รุนเเรงเห็นได้ชัดว่าประตูมิติอวกาศนี้ใกล้จะหายไปเต็มทีเเล้ว

 

“โอเครถ้ามีอันตรายรออยู่ฉันก็พร้อมจะเสี่ยงมันเพื่อให้ได้ลูกบาศก์เวทมนตร์มา”ในที่สุดเเจ็คสันก็ตัดสินใจ

 

“เจอร์รี่นายได้ยินฉันไหม?ฉันค้นพบประตูมิติอวกาศเเละเตรียมที่จะเข้าไปสำรวจดู เฮ้! นายได้ยินฉันไหม?”ในขณะที่เเจ็คสันเตรียมจะเข้าไปในประตูมิติอวกาศเขาเตรียมที่จะบอกเจอร์รี่เพียงเเต่สมอลทอร์คของเขาเหมือนจะพังไปเเล้วดังนั้นเขาจึงไม่ได้ยินการตอบรับคำจากเจอร์รี่

 

“นี่มันเเย่ขนาดไหนกัน?ฉันไม่มีเวลาที่จะเเจ้งพวกเขาเเล้ว!”เเจ็คสันหยิบสมอลทอร์คออกมาก่อนที่จะปามันลงทิ้งที่พื้น

 

“โชคของฉันคงไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกมั้ง!”

 

ฟุ่บ

 

จากนั้นเเจ็คสันก็ไม่รีรอเขาก้าวเดินเข้าไปในประตูมิติอวกาศนั่นทันที

 

ตึก ตึก

 

หลังจากเเจ็คสันพุ่งเข้าไปในประตูมิติอวกาศเพียงเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาที เดดพูล ที่สวมชุดขาดรุ่งริ่งก็เดินทางมาถึง ภายใต้คำขอของเจอร์รี่ เดดพูล ได้มาตรวจสอบที่นี่ เพียงเเต่เขาไม่พบมิราจไนท์หลงเหลือเพียงประตูมิติอวกาศด้านหน้าเเละเศษชิ้นส่วนสมอลทอร์คของกลุ่มพวกเขา

 

ฟู่วว~

 

“ดูเหมือนมิราจไนท์จะไม่อยู่สถานที่ที่เขาควรจะไปจะต้องเป็นด้านหลังประตูมิติอวกาศนี่เเน่นอน”ค้นพบเศษซากสมอลทอร์คเดดพูลพึมพัมออกมา

 

นี่เป็นครั้งเเรกที่เขาได้อยู่ใกล้กับคลื่นพลังของประตูมิติอวกาศชัดขนาดนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่มิราจไนท์จะเข้าไปที่พื้นที่ด้านหลังประตู เดดพูล กำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะเอายังไง เขาจะบอกโทนี่เรื่องนี้ให้มาช่วยตรวจสอบภายหลังดีหรือไม่

 

เพียงเเต่ประตูมิติกำลังจะหายไปไม่มีเวลาที่เขาจะเเจ้งข่าวบอกโทนี่เเละคนอื่น ๆ เเล้วเขาเพียงเเค่บอก เจอร์รี่ก่อน เเละ ตามเข้าไป หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขาเเละมิราจไนท์ เจอร์รี่ก็ยังมีข้อมูลเเละขอความช่วยเหลือจากคนอื่นได้

 

“เฮ้อ ทำไมฉันถึงซวยขนาดนี้ รู้งี้คงไม่มาทำงานเป็นฮีโร่ตั้งเเต่เเรก!”จ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศด้านหน้าเดดพูลพึมพัมออกมาอีกครั้ง

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเดดพูลก็หลับตาลงเเละพุ่งเข้าไปในประตูมิติอวกาศทันที

 

“อั๊ก! นี่มันเจ็บกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย!”

 

เดดพูลได้หายเข้าไปในประตูมิติอวกาศหลังจากนั้นประตูมิติอวกาศก็เริ่มไม่เสถียรจนถึงขีดสุด

 

ฟุ่บ~~~~

 

ทันทีที่เดดพูลเข้าไปได้ไม่นานประตูมิติอวกาศได้ปลดปล่อยความผันผวนออกมาอีกครั้งก่อนที่จะส่งผลให้พื้นที่บ้านเเละทางเดินบริเวณนี้เเตกเป็นเสี่ยง ๆ

 

จากนั้นประตูมิติอวกาศก็เริ่มจางหายไป

 

 

ฟุ่บ!

 

ทางด้านเเจ็คสันหลังจากเข้ามาในประตูมิติอวกาศเขาก็เดินทางผ่านเส้นทางของประตูมิติอวกาศนี้ อาการของเขาดีขึ้นมากหากเทียบกับการเผชิญหน้ากับเร้ดสกัลล์สองคนก่อนหน้านี้

 

อย่างน้อยตอนนี้เเจ็คสันก็ยังรักษาจุดเเข็งของตัวเองเอาไว้ได้อยู่

 

“หากเป็นไปได้ฉันเองก็ไม่อยากสัมผัสกับความเจ็บปวดแบบนี้่เท่าไหร่! พายุในอวกาศนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย!”เเจ็คสันได้คลานออกมาจากประตูมิติอวกาศสำเร็จเขาได้โผล่ที่พื้นดินของอีกสถานที่นึง

 

ครั้งก่อนหลังจากเเจ็คสันได้รับรางวัลเเต้มคะแนนจำนวนมากเขาก็ได้อัพเกรดชุดของเขาให้เเข็งเเกร่งขึ้นไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่เขาจะออกมาจากประตูมิติอวกาศด้วยสภาพที่ดีพร้อมขนาดนี้ได้

 

ติ๊ด!

 

“ตรวจพบการเปลี่ยนเเปลงสภาพเเวดล้อมภายนอกของชุดเเพนท่อมสูท เริ่มทำการควบคุมโมดูลเพื่อความปลอดภัยของโฮสต์โดยอัตโนมัติ”ขณะที่เเจ็คสันกลิ้งลงอยู่บนพื้นดินในใจของเขาก็ปรากฏเสียงของชุดเเพนท่อมสูทดังขึ้นมันเป็นการปรับเเต่งสภาพเเวดล้อมภายในของเขาให้เข้ากับสภาพเเวดล้อมของที่นี่

 

“หืม?การเปลี่ยนเเปลงสภาพเเวดล้อมภายนอก?”ได้ยินเสียงของชุดเเพนท่อมสูท เเจ็คสันรู้สึกสงสัย ปกติเเล้ว เมื่อตรวจพบการเปลี่ยนเเปลงของสภาพเเวดล้อมภายนอก ชุดสูทจะปรับเปลี่ยนสภาพของโฮสต์ให้เข้ากับสภาพเเวดล้อมโดยอัตโนมัติเเต่นี่เป็นครั้งเเรกที่ชุดสูทส่งเสียงเเจ้งเตือนก่อน

 

จากนั้นเเจ็คสันก็ลุกขึ้นยืนจากพื้นดิน ภาพเบื้องหน้าที่เขาเห็นในปัจจุบันนี้เป็นภาพที่ตื่นตาตื่นใจอย่างมาก

 

“ที่นี่คือที่ไหนกัน?”มองไปที่ผืนป่าอันกว้างใหญ่ในปัจจุบันเเละท้องฟ้าสีเเดงอ่อนเเจ็คสันตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

 

จากตำเเหน่งที่เเจ็คสันอยู่นี้เป็นเนินเขาของสถานที่เเห่งนึง ด้านหน้าของเเจ็คสันเป็นป่ากว้างโชคดีที่เขาสุ่มตกลงมาที่เนินเขาทำให้สามารถมองเห็นผืนป่าขนาดใหญ่ได้นอกจากนี้ที่น่าตกใจไปกว่านั้นท้องฟ้าก็เป็นสีเเดงอ่อน สีเเดงอ่อนที่ว่านี้ไม่ได้มาจากเเสงของดวงอาทิตย์ ทั่วผืนฟ้าเเห่งนี้ได้ปกคลุมเเผ่ขยายเเสงสีเเดงไปทั่วน่านฟ้า ตามความเข้าใจในปัจจุบันของเเจ็คสัน บนโลกย่อมไม่มีสถานที่เเห่งนี้เเน่นอน

 

โดยเฉพาะผืนป่าด้านหน้าด้วยความที่มันอยู่ใต้ผืนฟ้าอันสีเเดงจาง ๆ เเล้ว มันยิ่งกลายเป็นสิ่งที่สวยงามอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“บนโลกมีสถานที่สวยงามแบบนี้่ด้วยงั้นหรอ? ประตูมิติอวกาศได้ส่งฉันมาส่วนไหนของโลกล่ะเนี่ย เเล้ว ดวงอาทิตย์ล่ะอยู่ไหนกัน?”เเจ็คสันจ้องมองไปที่ผืนฟ้าเขาไม่เห็นดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าสีเเดงอ่อนเเม้เเต่น้อย รวมถึง หมู่เมฆด้วย ที่ด้านหลังประตูมิติอวกาศ นิวยอร์ก คือเวลากลางคืนในตอนนี้ ส่วนที่นี่เป็นเวลากลางวัน เเสดงว่ามันอยู่อีกด้านหนึ่งของซีกโลก เเต่มันคงไม่ง่ายดายแบบที่เขาคิดปานนั้น

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้ดึงเเผนที่ตำเเหน่งที่ติดมากับชุดเเพนท่อมสูทออกมา สิ่งนี้สามารถเเสดงตำเเหน่งสถานที่จุดปัจจุบันได้ ถ้าเขาอยู่บนโลก ตำเเหน่งจะสามารถระบุได้ว่าเขาอยู่ส่วนไหน เเต่ดูเหมือนหลังจากเขาหยิบเเผนที่ตำเเหน่งออกมา มันกลับไม่ระบุพิกัดสถานที่ให้กับเขา ซึ่งนั่นก็หมายความว่าตอนนี้เเจ็คสันไม่ได้อยู่ที่โลก

 

“ที่นี่ต่างดาวจริงดิ? ฉันถูกส่งมานอกโลกจริง ๆ ?”เเจ็คสันเเลกเปลี่ยนเเว่นตาตรวจสอบอันนึงมาจากร้านค้าในระบบ

 

หลังจากสวมเเว่นตาเเล้ว เเว่นก็ตรวจสอบสภาพเเวดล้อมโดยรวมเพื่อวิเคราะห์หลังจากนั้นเเว่นก็สามารถวิเคราะห์สถานการณ์โดยรวมได้ในทันที

 

“ฉันว่าเเล้ว,ฉันถูกส่งมานอกโลกจริง ๆ !”เห็นผลการวิเคราะห์เเจ็คสันพึมพัมออกมา

 

เดิมเเจ็คสันต้องการหาลูกบาศก์เวทมนตร์โดยการผ่านเข้ามาทางประตูมิติอวกาศเเต่หลังจากเขาเข้าไปในประตูมิติอวกาศไม่คาดคิดว่าเขาจะถูกส่งมานอกโลก เเละ ทีนี้เขาจะกลับไปที่โลกยังไง ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิด เเจ็คสันก็รีบหันกลับไปมองประตูมิติอวกาศที่เขาออกมาอย่างเร่งรีบ

ก่อนหน้านี้หลายนาทีตั้งเเต่เเจ็คสันออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมนนี่ก็ผ่านไปสักพักเเล้วเดิมทีเขาต้องการไปร่วมช่วยในการจัดการคิลเลี่ยนเเต่ไม่นานมานี้เเจ็คสันสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังบางอย่างมันอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ต่อสู้ของโทนี่กับคิลเลี่ยนดังนั้นเขาจึงต้องการไปตรวจดูด้วยตาของตัวเอง

 

ความผันผวนที่ว่านี้เกิดขึ้นในสวนอุตสาหกรรมของสตาร์ค เเจ็คสันที่เดินทางมาเข้าใกล้พื้นที่เรื่อย ๆ เขาสัมผัสได้ถึงความคุ้นเคยมันเป็นความผันผวนของพื้นที่มิติ ยิ่งไปกว่านั้นยังคล้ายกับความผันผวนพื้นที่มิติของ สเปซอินฟินิตี้สโตน เรื่องนี้ทำให้เเจ็คสันตื่นเต้นมาก สเปซอินฟินิตี้สโตน หรือ ลูกบาศก์เวทมนตร์ได้หายไปจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้เเละคราวนี้เเจ็คสันกำลังเข้าใกล้มันอีกครั้ง

 

ฟุบ~

 

“เป็นไปได้ไหมว่าพลังงานของลูกบาศก์เวทมนตร์จะถูกกระตุ้นอีกครั้งหลังจากที่ฉันจบศึกกับเร้ดสกัลล์ไปเเล้ว?”เเจ็คสันพึมพัมออกมา

 

ในจักรวาลที่โหดร้ายเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ก็อาจเป็นไปได้ทั้งหมด โทนี่ เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ได้พยายามตามหาลูกบาศก์เวทมนตร์อย่างต่อเนื่องเพียงเเต่จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่ค้นพบอะไรสักอย่าง การที่เเจ็คสันพบมันที่นี่โดยบังเอิญ ถือว่าเป็นเรื่องที่เเปลกมาก

 

ความสำคัญระหว่าง อินฟินิตี้สโตน กับ พวกคิลเลี่ยน นั้น เเจ็คสันย่อมให้ความสำคัญกับอินฟินิตี้สโตนมากกว่า ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสของคิลเลี่ยนเเล้วอย่างไร พลังของอินฟินิตี้สโตนนั้นไร้ที่สิ้นสุด หากสามารถรับเอาหินอินฟินิตี้สโตนมาครอบครองได้มากพอ การที่จะปกครองจักรวาลได้ก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง ทั้งพลังของอินฟินิตี้สโตนยังนำพาความเเข็งเเกร่งมาให้กับผู้เป็นนายอีกด้วย

 

จากการคำนวณของเเจ็คสัน พลังของอินฟินิตี้สโตนนั้นเเข็งเเกร่งมาก เเต่เเจ็คสันก็ยังสามารถเเบกรับพลังของมันได้เพียงเเต่ต้องใช้คะแนนมากกว่า 1 ล้านคะแนน ซึ่งหนึ่งล้านคะแนนนั้นเป็นอะไรที่เยอะมาก เเต่ถ้าเเจ็คสันมี 1 ล้านคะแนน เเละ เขามีอินฟินิตี้สโตนในครอบครอง สิ่งที่เขาได้รับกลับมาย่อมเกินกว่าจินตนาการของเขาหลายขุม

 

พลังของอินฟินิตี้สโตนสามารถเสริมความเเข็งเเกร่งให้กับเจ้าของได้ หากเเจ็คสันได้รับอินฟินิตี้สโตนมากพอเเละใช้เเต้มคะแนน 1 ล้าน นั่นเพียงพอที่จะทำให้เขากลายเป็นคนที่เเข็งเเกร่งไร้ผู้ทัดเทียมนอกจากนี้ อินฟินิตี้สโตนพวกนี้สามารถนำมาทำการวิจัยเเละให้โทนี่ศึกษาต่อได้อีก

 

“เเค่คิดเนื้อของฉันก็เเทบเต้นอยู่เเล้ว”เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้เเจ็คสันยิ้มหวานออกมาทันที

 

จากนั้นเเจ็คสันก็เดินอย่างต่อเนื่องเขาเข้าใกล้พื้นที่ความผันผวนมากขึ้นเเละเริ่มสัมผัสได้ถึงเเรงกดดัน

 

“หืม?ข้างหน้านี้สินะ!”หลังจากเข้าใกล้พื้นที่เเจ็คสันได้เร่งฝีเท้ามากขึ้น

 

ตึก ตึก

 

ฟุบ!

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังเคลื่อนไหวจู่ ๆ ก็มีเงาขนาดร่างขนาดใหญ่เป็นอะไรไม่เเน่ชัดพุ่งตรงมาทางเเจ็คสัน การตอบสนองของเเจ็คสันนั้นดีมาก เขาได้เรียกสปิริตซอร์ดออกมาทันที

 

ฟุ่บ!

 

เเสงสีฟ้าได้วาดผ่านตัดเงาร่างที่เข้ามาออกเป็นสองส่วนโดยตรงเเจ็คสันรู้สึกตกใจอย่างมากเมื่อครู่เกิดเหตุการณ์ขึ้นเร็วเกินไปจนเขาก็เเทบตั้งตัวไม่ทัน

 

หลังจากเเจ็คสันเเบ่งตัดร่างของเงาที่พุ่งเข้ามาเป็นสองส่วนเขาก็เดินเข้าไปดูเงาร่างทั้งสองส่วนที่ถูกตัดเเบ่งนั้นยังคงเเกว่งไปมาราวกับว่ามันกำลังดิ้นอยู่

 

“อะไรวะเนี่ย!”ทันทีที่เดินเข้ามาใกล้เเจ็คสันก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

 

เพราะในปัจจุบันร่างเงาที่เเจ็คสันเเบ่งเเยกเป็นสองส่วนนั้นคือสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ซาลาเเมนเดอร์ยักษ์ รูปร่างของมันคือซาลาเเมนเดอร์ไม่ผิดเเน่เเต่ที่เเตกต่างออกไปคือขนาดตัวของมันที่ค่อนข้างใหญ่ยาวมากกว่า 3 เมตร หากนี่คือซาลาเเมนเดอร์ยักษ์อย่างน้อยมันต้องมีชีวิตอยู่มาไม่ต่ำกว่า 500 ปีเเน่นอน

 

เเจ็คสันรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับการปรากฏตัวของซาลาเเมนเดอร์ยักษ์ 500 ปี เดิมมันไม่ควรจะปรากฏขึ้นที่นี่ด้วยซ้ำ

 

ป๋อมป๋อม ~~

 

หลังจากดื้นทุรนทุรายเป็นเวลาหนึ่งนาทีสัตว์ประหลาดซาลาเเมนเดอร์ยักษ์ตัวนี้ในที่สุดก็สิ้นใจ เเต่เเจ็คสันก็ยังไม่ได้ผ่อนคลายลง เพราะสัตว์ประหลาดตัวนี้ดูเเปลกมาก ในโลกมาร์เวลนั้นเรื่องเเปลก ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด เหมือนกับการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดตัวนี้

 

“หรือว่ามันเกี่ยวข้องกับลูกบาศก์เวทมนตร์?”จ้องมองไปที่ร่างยักษ์ที่ถูกทิ้งให้ตาย เเจ็คสัน กวาดสายตาไปโดยรอบ

 

จากนั้นเขาก็พบว่าความผันผวนของพื้นที่มิติก่อนหน้านี้หายไปโดยไม่คาดคิด

 

ก่อนหน้านี้พลังคลื่นความผันผวนทางมิติของที่นี่เเรงมาก เเจ็คสันได้หลับตาลงทั้งสองข้างเเละเริ่มใช้เทคนิครู้เเจ้งของเขา

 

ฟุบ!

 

“ทางนั้น!”หลังจากผ่านไปหลายวินาทีเเจ็คสันได้เปิดเปลือกตาขึ้นเเละเริ่มวิ่งไปยังทิศทางก่อนหน้านี้ที่สัตว์ประหลาดตัวนี้จากมา

 

ตึก ตึก

 

จากนั้นไม่นานเเจ็คสันก็มาถึงจุดหมายเขาเห็นประตูมิติอวกาศที่ไม่เสถียรกำลังสั่นไหวอยู่ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการปรากฏขึ้นของพื้นที่มิติโดยที่ลูกบาศก์เวทมนตร์ไม่ได้ตั้งใจ ด้านหลังพื้นที่มิตินั้นจะเป็นสถานที่เเห่งใดก็ไม่มีใครรู้

 

“ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นจะนำไปสู่ที่ใดก็ไม่รู้?สัตว์ประหลาดเมื่อครู่นี้ใช่ออกมาจากด้านหลังของประตูมิติอวกาศนั่นหรือไม่?”เเจ็คสันจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศที่กำลังสั่นไหวเขากำลังคิดไตร่ตรองอย่างรวดเร็ว

บึ้ม!

 

คลื่นเเรงกระเเทกของระเบิดได้กวาดล้างอาคารโดยรอบหลายเเห่งรวมถึงโกดังสินค้าที่ เป็ปเปอร์ กับ เดดพูล ซ่อนตัวอยู่ เพียงเเต่ในช่วงนั้น J.A.R.V.I.S ได้ส่งชุดเกราะไอรอนแมนไปคุ้มกันรอบตัวของเป็ปเปอร์ได้ทันจากนั้นก็พาเป็ปเปอร์ออกจากสนามรบไปโดยเร็วที่สุด

 

“เวรเอ้ย ฟั~~ค !!”เดดพูลที่นอนจมอยู่ท่ามกลางกองเพลิงเขาสาปเเช่งออกมาจากนั้นเขาก็รีบคลานออกจากกองเพลิง

 

ฟุ่ม!

 

คลื่นของเปลวเพลิงได้ไหม้ลามไปทั่วโกดังเเห่งนี้เเน่นอนว่าเดดพูลที่ถูกไฟคลอกเขายิ่งไม่เหลือพละกำลังมากนักหากที่นี่ถล่มลงมาเขาจะถูกฝังทั้งเป็นทันที

 

“เฮ้,มิราจไนท์ คุณอยู่ไหน? ฉันกำลังจะถูกไฟคลอกตายเเล้ว คุณไม่คิดจะออกมาช่วยฉันหน่อยหรอ!!”เดดพูลไม่ต้องการประสบชะตากรรมถูกไฟคลอกแบบเดิมอีกเขาตะโกนผ่านสมอลทอร์คที่ติดอยู่ที่ข้างหูของเขา

 

ตั้งเเต่ J.A.R.V.I.S เปิดใช้งานดาวเทียมสตาร์คทั้งสาม คลื่นสัญญาณของภูมิภาคเเห่งนี้ก็กลับมาอีกครั้ง ดังนั้น เดดพูล จึงสามารถติดต่อกับ เจอร์รี่ ได้ เเละเขาก็รู้เเล้วว่า ตอนนี้ มิราจไนท์ กับ สไปเดอร์แมน ได้มาถึงสนามรบก่อนหน้านี้

 

“ฮ่าฮ่า เดดพูล ฉันสามารถช่วยนายได้นะ!”หลังจากเดดพูลตะโกนออกมา ก็มีเสียงนึงดังขึ้น

 

ฟุบ

 

เดดพูลรู้สึกคุ้นเคยกับเสียงนี้จากนั้นเขาก็หันศีรษะมองไปยังทิศทางตำเเหน่งนั้นเขาเห็นสไปเดอร์แมนที่เกาะอยู่บนโกดังซึ่งอยู่ห่างไม่ไกลจากเขานัก ด้วยเทคโนโลยีของสตาร์คชุดสไปเดอร์แมนของปีเตอร์สามารถกันไฟได้

 

หลังจากเห็นสไปเดอร์แมน เดดพูล ได้หยุดความคิดของตนเองไปทันที คนที่เขาไม่ชอบหน้าในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์มากที่สุดก็คือสไปเดอร์แมนเหตุผลก็เพราะจำนวนเเฟนคลับของสไปเดอร์แมนที่มากล้นเกินไป

 

ฟุ่บ!

 

สไปเดอร์แมนได้กระโดดลงมายืนอยู่ที่เบื้องหน้าของเดดพูล ตอนนี้ ชุดของเดดพูล ขาดวุ่นวิ่นอย่างมาก เมื่อเทียบกับชุดของเเจ็คสันเเพนท่อมสูทกับชุดสไปเดอร์แมนนั้นชุดของเดดพูลไม่สามารถเทียบกับพวกเขาได้

 

ถ้าจะบอกว่าในโลกมาร์เวลนั้นฮีโร่ที่มีชะตาอาภัพคงไม่พ้นสไปเดอร์แมนอย่างเเน่นอน เเต่ปัจจุบันปีเตอร์มีความสัมพันธ์ที่ดีกับโทนี่ ดังนั้น เเม้เขาจะเกิดในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร เเต่เขาก็ยังได้รับทุนสนับสนุนที่ดีจากโทนี่ เเต่เดดพูลนั้นเเตกต่างออกไปเเม้จะเข้าร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเต่ก็ไม่มีใครสนับสนุนทรัพยากรเขาอยู่เบื้องหลังนั่นเป็นเหตุผลให้ตอนนี้ เดดพูล ถือว่าเป็นคนที่น่าสังเวชมากที่สุด

 

“ไปกันเถอะ ที่นี่จะถล่งลงมาเเล้ว”ปีเตอร์กล่าวบอกเดดพูลพร้อมกับยื่นส่งมือออกไป

 

“อืม”เดดพูลคว้าจับมือที่ยื่นมาเเละตอบกลับ

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นปีเตอร์ก็เเบกเดดพูลพร้อมกับยิงใยขึ้นไปเเละเริ่มทำการหนีจากโกดังเเห่งนี้

 

“จริงสิเเล้วมิราจไนท์เล่า?ไม่ใช่ว่านายกับเขามาด้วยกันหรอกหรอ เเล้วทำไมฉันไม่เห็นเขาปรากฏตัวเลย?”ขณะที่ปีเตอร์กำลังพาเดดพูลหลบหนี เดดพูล ก็กล่าวถามออกมา

 

ด้วยความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์เเละอุปกรณ์ไฮเทคของเขาการรับมือกับศัตรูพวกนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมาก

 

“มิราจไนท์?เห็นเขาบอกว่ามีธุระบางอย่างที่จะต้องทำดังนั้นฉันถึงได้ล่วงหน้ามาที่นี่ก่อนเขา”ปีเตอร์กล่าวตอบ

 

“ธุระบางอย่าง? ธุระอะไร ไม่ใช่เขาต้องการจัดการคิลเลี่ยนหรอกหรอ?”ได้ยินคำอธิบายของปีเตอร์ เดดพูล รู้สึกสงสัย

 

ฟุ่บ

 

ด้วยความช่วยเหลือของปีเตอร์ในที่สุดพวกเขาก็หลบหนีออกจากโกดังสำเร็จ ขณะที่พวกปีเตอร์หลบหนีพื้นที่โดยรอบก็กลายเป็นสนามรบไปทั่วชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากได้ถอยร่นไปไกลห่างจากระยะของระเบิดเเต่ก็ยังมีชุดเกราะบางตัวที่โดนเเรงของระเบิดเเละเกือบถูกทำลายลง

 

“เป็นการระเบิดที่รุนเเรงมาก อันตรายจริง ๆ “ปีเตอร์ที่ยืนอยู่ขอบสนามรบเขาจ้องมองไปที่พื้นที่ที่โดนเเรงระเบิด

 

เเรงระเบิดในครั้งนี้มีอุณหภูมิสูงมากกว่า 3,000 องศา เเม้ชุดสไปเดอร์แมนจะสามารถกันไฟได้เเต่มันคงไม่มีทางกันความร้อนที่มากถึงขนาดนี้ได้อย่างเเน่นอน ดังนั้น ปีเตอร์จึงรู้สึกสงสัยหากตนเองต้องต่อสู้กับทหารเอ็กซ์ทรีมิสพวกนี้เเละพวกมันระเบิดทำลายตนเองเขาจะทำยังไง

 

“คนบ้าในโลกนี้ยังมีอีกเยอะมากมาย”เดดพูล พยักหน้าเห็นด้วย

 

“ไปกันเถอะ พวกเราจะไปช่วยพวกเขาจัดการที่เหลือ ไม่รู้ว่าคุณสตาร์คจะเป็นไงมั่งตอนนี้”ปีเตอร์กล่าวพูด

 

“ไปช่วย?นายไปเถอะ ฉันขอผ่านเเล้วกันตอนนี้เเค่จะลุกฉันยังเเทบไม่มีเเรงเลย”ได้ยินคำพูดของสไปเดอร์แมน เดดพูล สั่นหัวปฏิเสธ

 

“เอางั้นก็ได้”เห็นเดดพูลไม่ไปด้วย ปีเตอร์จึงไม่ได้สนใจอีกเขารีบมุ่งหน้าเข้าสู่สนามรบอีกครั้ง

 

ฟุบ

 

เห็นสไปเดอร์แมนจากไป เดดพูล นอนเเผ่ราบมองท้องฟ้าทันที

 

วันนี้เขาได้ทำภารกิจของตนเองสำเร็จไปเเล้วนั่นก็คือการปกป้องเเฟนสาวของโทนี่ ตอนนี้ โทนี่ เองก็มาเเล้ว ดังนั้นไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องเข้าร่วมการต่อสู้อีก เพียงเเต่ขณะที่เดดพูลเตรียมจะออกจากสนามรบข้างหูของเขาเสียงของ เจอร์รี่ ก็ได้ดังขึ้น

 

“เดดพูล,มิราจไนท์กำลังมีปัญหา ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ!”เจอร์รี่ กล่าวพูดกับ เดดพูล อย่างรวดเร็ว

 

“มิราจไนท์กำลังมีปัญหา?เขาอยู่ไหน?”เดดพูลทันใดนั้นก็กล่าวถามอย่างจริงจัง

 

“ฉันรู้เเค่ตำเเหน่งของเขา ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันเขากำลังเผชิญหน้ากับอะไรเเต่ดูเหมือนตำเเหน่งของเขาจะหายไปเเล้วตอนนี้ ดังนั้นฉันต้องการให้คุณช่วยตามหาเขาเผื่อจะเจอ”เจอร์รี่กล่าวอย่างกังวล

 

“ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะเเวะไปดูให้ บอกทางมา”เดดพูล กล่าวตอบ

 

“จากตำเเหน่งของคุณ มุ่งหน้าไปทางขวาเเล้ว…”

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้น เดดพูล ก็มุ่งหน้าไปยังตำเเหน่งของมิราจไนท์ภายใต้การเเนะนำของ เจอร์รี่

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่โทนี่สั่งใช้งาน ดาวเทียม สตาร์คหมายเลข 1 หมายเลข 2 เเละ หมายเลข 3 ด้านหน้าของเขา คิลเลี่ยนก็พุ่งเข้ามาพร้อมกับกำปั้นอุณหภูมิสูงเขาต้องการเด็ดหัวโทนี่โดยตรง

 

ฟุ่บ!

 

เผชิญหน้ากับการโจมตีของคิลเลี่ยน โทนี่ ได้ยกมือทั้งสองข้างของเขาขึ้นมากัน เเน่นอนว่าการโจมตีของคิลเลี่ยนอุณหภูมิความร้อนของการโจมตีนั้นสูงมากมันสามารถที่จะละลายชุดเกราะของโทนี่ได้

 

ปั้ง

 

โทนี่ที่เข้าปะทะกับเเรงหมัดส่งผลให้เขาถอยกระเด็นไปไกลความร้อนของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสนั้นสูงมากมันทำให้เเม้เเต่โทนี่ที่อยู่ข้างในก็ยังรู้สึกเหมือนกับถูกเเผดเผา

 

หลังจากตั้งหลักได้โทนี่ที่เห็นคิลเลี่ยนพุ่งมาจะโจมตีเขาอีกครั้งตอนนี้โทนี่ได้รวบรวมพลังงานตรงหน้าอกเเละปล่อยออกมาโดยตรง ตอนนี้นี่เป็นการควบคุมด้วยส่วนของเขาเพราะ J.A.R.V.I.S ยังได้รับผลกระทบจากคลื่นสัญญาณรบกวนอยู่

 

เปรี้ยง!

 

ปืนพลังงานของโทนี่ได้ยิงออกมากระทบเข้ากับร่างของคิลเลี่ยนโดยตรงเพียงเเต่ว่าการโจมตีนี้ได้สร้างหลุมบนร่างกายของคิลเลี่ยนเเต่คิลเลี่ยนหาได้สนใจไม่

 

ฟุ่บ!

 

ไม่รอให้โอกาสคิลเลี่ยนได้พักฟื้นกำลังโทนี่ได้เปิดเเขนกลที่มือเเละระดมการโจมตีออกไปอย่างต่อเนื่อง

 

ร่างกายของคิลเลี่ยนกระตุกเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเริ่มเคลื่อนไหวตอบโต้การโจมตีของโทนี่ ตอนนี้ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ยังไม่สามารถบินได้มันเป็นโอกาสอันดีที่เขาจะรีบปิดชีวิตโทนี่โดยเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

คิลเลี่ยนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนมาถึงด้านหน้าของโทนี่เขาพยายามใช้มือฉากกระชากชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ให้เเตกเป็นเสี่ยง ๆ เเต่ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่เเข็งเเกร่งมาก การโจมตีอันรุนเเรงของคิลเลี่ยนทำได้เพียงสร้างรอยขีดข่วนเท่านั้น

 

ฟู่ว ฟู่ว!

 

จากนั้นไม่นานบาดเเผลที่คิลเลี่ยนถูกพลังงานตรงหน้าอกยิงก็เริ่มฟื้นฟูกลับมา บาดเเผลต่าง ๆ ที่โทนี่เเลกหมัดมาก็เช่นเดียวกัน ราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับคิลเลี่ยนนั้นไม่เคยเกิดขึ้นตอนนี้มีเพียงชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่เท่านั้นที่ได้รับความเสียหาย

 

“บัดซบ! J.A.R.V.I.S, ทำไมระบบยังคงถูกระงับอยู่!”เผชิญหน้ากับความสามารถฟื้นตัวของคิลเลี่ยน โทนี่ ตะโกนถาม J.A.R.V.I.S, ทันที

 

“กำลังเริ่มต้นผสาน ดาวเทียมสตาร์คหมายเลข 1,2,3 ตามลำดับ ดำเนินการเสร็จสิ้น เริ่มมาตราการตอบโต้การโจมตี”ได้ยินคำพูดของโทนี่ J.A.R.V.I.S, กล่าวตอบ

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นคลื่นสัญญาณที่มองไม่เห็นก็ถูกส่งออกมาจากดาวเทียมที่อยู่บนอากาศ ดูเหมือนว่าการทำงานของดาวเทียมจะเริ่มต้นไปเเล้ว J.A.R.V.I.S, ได้เริ่มมาตราการตอบโต้การโจมตีด้วยสัญญาณรบกวนของศัตรูเพียงเเต่มันยังคงต้องใช้เวลาพอสมควร

 

“เริ่มต้นกู้คืนระบบ 80%…85%…95%…100%”ทันทีที่ดาวเทียมสตาร์คทั้ง3ดวงเชื่อมต่อกันเสร็จ J.A.R.V.I.S, ก็เริ่มเชื่อมต่อระบบเเละรีบูตให้กลับมาใหม่อีกครั้ง ตอนนี้ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ สามารถเเสดงประสิทธิภาพได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

 

วีดด!

 

ทันทีที่ได้รับการฟื้นฟูระบบเสร็จฟังก์ชั่นการทำงานของ J.A.R.V.I.S, ก็กลับมาอีกครั้ง ตอนนี้หน้าจอโปร่งใสได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของโทนี่ ทั้งระบบสนับสนุนยังกลับมาทั้งหมด

 

ฟุบ ฟุบ

 

โทนี่ขยับเเขนเล็กน้อยเเละปลดล็อคขีปนาวุธขนาดเล็กหลายลูกยิงส่งตรงไปหาคิลเลี่ยนทันที ตอนนี้ชุดเกราะไอรอนแมนสามารถเเสดงประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่ ทหารเอ็กซ์ทรีมิส เเล้วอย่างไร หากในสถานการณ์ที่กองทัพไอรอนแมนสามารถเเสดงศักยภาพทั้งหมดออกมาได้ คิลเลี่ยนก็เป็นอันจบเหมือนกัน

 

ฟุบ!

 

คิลเลี่ยนที่เห็นการโจมตีจากชุดเกราะไอรอนแมนเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมากราวกับว่ามีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น

 

เพราะโทนี่ได้ฟื้นฟูระบบเสร็จ J.A.R.V.I.S, ก็เริ่มต้นฟื้นฟูความเเข็งเเกร่งของชุดเกราะไอรอนแมนทุกตัว เมื่อความสามารถทั้งหมดกลับมา ไอรอนแมนทุกตัวก็สามารถกลับมาบินได้อีกครั้ง ทหารเอ็กซ์ทรีมิสพวกนี้ไม่สามารถบินได้ หากไม่สามารถโจมตีชุดเกราะไอรอนแมนได้พวกเขาก็เหมือนเป้านิ่งเพียงเท่านั้น

 

ฟุ่บ

 

ทันใดนั้นทั่วทั้งสนามรบเเห่งนี้ก็ถูกเปลี่ยนเป็นการบินโลดโผนของกองทัพไอรอนแมน ตอนนี้ J.A.R.V.I.S, ยังสามารถสเเกนทหารเอ็กซ์ทรีมิสเเละล็อคเป้าพวกมันได้

 

“J.A.R.V.I.S, พา เป็ปเปอร์ ออกไปก่อน ฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของ…”โทนี่ได้บินขึ้นกลางอากาศเเละให้ J.A.R.V.I.S, สเเกนพื้นที่โดยรอบ ก่อนที่จะเริ่มต้นสงคราม โทนี่ ต้องการรับรองความปลอดภัยของ เป็ปเปอร์

 

เพียงเเต่คำพูดของโทนี่ไม่ทันจะได้กล่าวจบด้านล่างที่เป็นรอยเเตกของซากปรักหักพังทันใดนั้นก็ปรากฏคลื่นความผันผวนของพลังงานเกิดขึ้นดูเหมือนนั่นจะเป็นซากระเบิดของทหารเอ็กซ์ทรีมิส

 

บึ้ม

 

บึ้ม

 

J.A.R.V.I.S, กำลังจะเตรียมมาตราการตอบโต้เพียงเเต่ด้านล่างซากปรักหักพังกลับปรากฏคลื่นเเรงระเบิดขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่โดยรอบไปหลายสิบเมตรทันที

 

 

 

 

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่กองทัพไอรอนแมนถูกคลื่นสัญญาณรบกวน J.A.R.V.I.S ก็ได้เตรียมพร้อมอยู่ก่อนเเล้ว เเม้ว่าระบบพลังงานจะเหลือเพียงเเค่ 20% เเต่เขาก็สามารถบังคับชุดเกราะไอรอนแมนให้ลงพื้นได้อย่างปลอดภัย เพียงเเต่ กองทัพไอรอนแมนที่ไม่สามารถบินได้ก็ไม่ต่างอะไรไปกับของเล่นที่คิลเลี่ยนหาได้สนใจ

 

“J.A.R.V.I.S ปลดชุดเกราะออก! ฉันเเละสไปเดอร์แมนจะออกไปจัดการศัตรูด้วยตนเอง เทียบกับชุดเกราะไอรอนแมนตอนนี้ การใช้ความสามารถของพวกเราเองย่อมดีกว่า”เเจ็คสันกล่าวบอก J.A.R.V.I.S

 

“เข้าใจเเล้วครับ คุณมิราจไนท์ ระยะตำเเหน่งใกล้พื้นดิน 100 เมตร ทำการปลดชุดเกราะ”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาต่อมาชุดเกราะของเเจ็คสันก็ได้ปลดออกเเจ็คสันได้โดดออกมาจากชุดเกราะพร้อมกับสวมใส่ชุดสูทเเพนท่อมสูทของเขา สำหรับ ปีเตอร์ เขาให้ J.A.R.V.I.S พาลงไปส่งที่พื้นให้มากที่สุด เพราะชุดสไปเดอร์แมนของเขาบินไม่ได้

 

!

 

เเจ็คสันหลังจากที่ออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมนเขาก็เดินอยู่บนอากาศพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังทิศทางตำเเเหน่งของคิลเลี่ยน

 

ทันทีที่เเจ็คสันปลดชุดเกราะทางด้านโทนี่เขาก็พุ่งไปหาคิลเลี่ยนในเวลานี้เพราะชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ได้ส่งคลื่นสัญญาณรบกวนสัญญาณของศัตรูทำให้โทนี่ยังสามารถรักษาประสิทธิภาพของชุดเกราะของเขาได้ประมาณ 80% เพียงเเต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคิลเลี่ยนเเละทหารเอ็กซ์ทรีมิส ชุดเกราะประสิทธิภาพพร้อมใช้งานตัวเดียวไม่สามารถทำให้โทนี่ได้เปรียบได้

 

ปั้ง

 

ปั้งปั้งปั้ง!

 

โทนี่ยกศีรษะขึ้นจ้องมองไปที่ด้านหน้าไม่ไกล เขาเห็นคิลเลี่ยนเเละทหารเอ็กซ์ทรีมิสหลายคนกำลังพุ่งเข้าใส่กองทัพชุดเกราะไอรอนแมนของเขา

 

“อัลดริช คิลเลี่ยน ฉันต้องยอมรับว่า ฉันประเมินเเกผิดไปนานมากกว่า 10 ปี เเกสามารถสร้างเทคโนโลยีที่ฉันสนใจอยากจะเข้าร่วมได้จริง ๆ “โทนี่จ้องมองไปที่คิลเลี่ยนที่อยู่ด้านหน้าไม่ไกลเขากล่าวพูดออกมา

 

“ฮ่าฮ่า, โทนี่ สตาร์ค ไม่คาดคิดว่าคนอย่างเเกจะยอมรับฉัน! ฉัน คิลเลี่ยน รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก! เเต่น่าเสียดายในปัจจุบันฉันไม่มีความจำเป็นจะต้องร่วมมือกับเเกอีกต่อไปเเล้วฉันจะทำลายอาณาจักรอุตสาหกรรมสตาร์คของเเกทิ้งไปซะ!”ได้ยินคำพูดของโทนี่ คิลเลี่ยน หัวเราะออกมา

 

เเม้เเผนการจับตัวเป็ปเปอร์เพื่อล่อโทนี่ออกมาจะไม่สำเร็จเเต่ก็ไม่เป็นไรเพราะอย่างไรก็ตามโทนี่ก็ยังมาปรากฏตัวที่นี่ด้วยตนเอง ดังนั้น คิลเลี่ยน เชื่อว่าภารกิจของเขาได้บรรลุไปเเล้ว เขาได้เตรียมพร้อมภูมิภาคเเห่งนี้เเละวางเเผนเอาไว้จำนวนมาก เขาจะใช้ความเเข็งเเกร่งของตนเองจัดการโทนี่เเละกองทัพของเขาทั้งหมดเพราะรอบภูมิภาคเเห่งนี้ได้ปล่อยคลื่นสัญญาณรบกวนชุดเกราะไอรอนแมนออกมาทำให้ชุดเกราะไอรอนแมนไม่สามารถเเสดงศักยภาพสูงสุดได้ คิลเลี่ยน หวังว่า หลังจากเขาจัดการโทนี่ได้สำเร็จ เขาจะเข้ายึด J.A.R.V.I.S เเละ ควบคุมกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ภายหลัง

 

“เพราะงั้นเเกก็เลยเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสัตว์ประหลาด?”ได้ยินคำพูดที่หยิ่งยโสของคิลเลี่ยน โทนี่ รู้สึกรังเกียจอย่างมาก

 

เดิมคิลเลี่ยนได้ส่งทหารเอ็กซ์ทรีมิสลอบโจมตีโทนี่ก่อนหน้านี้ 3 คน เเขนที่เขาได้รับมาทั้งสามนั้นโทนี่ได้พบบางอย่าง ดูเหมือน ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสจะเป็นพลังงานชีวภาพระดับสูงแบบนึง พลังงานชนิดนี้ใช้โดยการฉีดเข้าสู่ร่างกาย จากนั้น ร่างกายของคนเหล่านั้นก็จะได้รับการเปลี่ยนเเปลงเเละพลังความสามารถเพื่อกลายเป็นทหารเอ็กซ์ทรีมิส

 

เพียงเเต่จากการคาดเดาของโทนี่ ร่างกายของทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ก็เหมือนกับเเหล่งพลังงานของเตาปฏิกร์อาร์คขนาดเล็ก ร่างกายของทหารเอ็กซ์ทรีมิสก็จำเป็นจะต้องใช้พลังงาน ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ก็จำเป็นจะต้องใช้พลังงานเหมือนกัน

 

“เเกว่าใครเป็นสัตว์ประหลาด?!”ได้ยินคำพูดของโทนี่ คิลเลี่ยน เเทบบ้าคลั่งในทันที

 

เนื่องจากผลการทดลองล่าสุดของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส คิลเลี่ยนได้เปลี่ยตัวเองเเละทหารเอ็กซ์ทรีมิสจำนวนมากให้มีความสามารถที่เเข็งเเกร่งมากขึ้น เพียงเเต่ โทนี่ กลับบอกว่าที่มาของความเเข็งเเกร่งของพวกเขานี้เหมือนกับสัตว์ประหลาดนี่จะไม่ทำให้เขาโกรธได้อย่างไร

 

“เเล้วเเกจะได้เห็นความสามารถอันสุดยอดของร่างกายนี้”คิลเลี่ยนระเบิดความโกรธออกมา

 

ฟุ่บ!

 

คิลเลี่ยนได้เคลื่อนไหวบางอย่างจากนั้นคลื่นสัญญาณเเม่เหล็กไฟฟ้าในที่เเห่งนี้ก็กลายเป็ฯรุนเเรงมากขึ้น คิลเลี่ยน ต้องการโจมตีระบบของ J.A.R.V.I.S อีกครั้ง เขาไม่ได้โง่ขนาดที่จะให้โอกาสศัตรูได้ตอบโต้ ดังนั้นเขาต้องการทำให้ศัตรูพ่ายเเพ้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด

 

“ระบบถูกรบกวน”

 

“ประสิทธิภาพการทำงานของชุดเกราะลดลง 76%,73% …”หลังจากถูกจู่โจมด้วยคลื่นสัญญาณคลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้าอย่างกระทันหัน J.A.R.V.I.S ได้ส่งเสียงเตือนอีกครั้ง

 

“โจมตีด้วยคลื่นพลังเเม่เหล็กไฟฟ้า?เช่นนั้นฉันจะทำให้เเกได้เห็นอะไรที่น่าสนใจ! J.A.R.V.I.S เริ่มต้นใช้ดาวเทียม สตาร์คหมายเลข 1 หมายเลข 2 เเละ หมายเลข 3 !”ได้ยินรายงานของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ไม่ได้มีความกังวลเเม้เเต่น้อย

 

“ครับเจ้านาย เริ่มต้นเปิดใช้ดาวเทียม สตาร์ค หมายเลข 1 หมายเลข 2 เเละ หมายเลข 3″J.A.R.V.I.S ตอบรับคำสั่งของโทนี่ทันที

 

ในฐานะอุตสาหกรรมสตาร์กหากนับด้านเทคโนโลยีของทั้งโลกย่อมไม่เป็นสองรองใคร กลุ่มนายทุนสตาร์คเเละ S.H.I.E.L.D. ได้ร่วมกันสร้างระบบดาวเทียมนี้ขึ้น เพื่อป้องกันเหตุการณ์ก่อนหน้าอย่างการบุกรุกระบบหลักของ J.A.R.V.I.S ดังนั้นโทนี่จึงได้สร้างดาวเทียม สตาร์ค ขึ้นมาเพื่อตอบโต้ การโจมตีของอีกฝ่าย หากอีกฝ่ายต้องการจะรุกราน J.A.R.V.I.S อีกครั้ง ก็จะต้องผ่านคลื่นสัญญาณดาวเทียมทั้งสามให้ได้ก่อน

 

คนทั้งโลกเเน่นอนว่าหากพวกเขารู้พวกเขาก็ย่อมคาดไม่ถึงเช่นเดียวกัน ใครกันเล่าจะคิดว่า โทนี่ จะกล้าใช้คลื่นสัญญาณของดาวเทียมเพื่อตอบโต้มาตราการเหล่านี้

 

 

ติ่ง!

 

ขณะที่เดดพูลกำลังตกใจจู่ ๆ เขาก็เริ่มรู้สึกเเปลก ๆ ที่มือ จากนั้นตรงมือของเขาก็เริ่มส่งกลิ่นไหม้ออกมา เดดพูล ที่รู้สึกสงสัยเขาเอียงศีรษะมองไปที่มือของเขาพริบตานั้นเองเขาก็เริ่มตื่นตะลึง

 

“!!! ร้อน ร้อน ร้อนเว้ยย!”เขารีบสบัดเเขนเเละเริ่มกระโดดโลดเต้นทันที

 

เเรกเริ่มเดิมทีเขาได้กลิ่นไหม้เขาก็รู้สึกเเปลกใจ เเต่พอหลังจากสังเกตุเห็นเขาก็พบว่าเนื้อมือของเขากำลังถูกเผามันเป็นผลมาจากใบดาบที่ถูกละลายเเละหยดลงที่มือทั้งสองของข้าง

 

ฟู่วว!

 

จากนั้นเขาก็โยนดาบคู่ในมือทิ้งไปทันทีก่อนที่จะรีบเป่าลมเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด เดดพูล รู้สึกสงสัยอย่างมากที่อาวุธของเขาละลายได้ยังไง เมื่อครู่ เขาใช้ดาบของตัวเองป้องกันการโจมตีด้วยมือเปล่าของทั้งสองคน ขณะที่เขารู้สึกสงสัยเขาก็มองไปที่ทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสองคนอีกครั้ง

 

“หืม?พวกเเกเป็นผีหรือป่าวเนี่ย!”

 

!

 

ในปัจจุบันบาดเเผลจำนวนมากของทั้งสองคนที่ตนเองทำเอาไว้กลับได้ฟื้นคืนกลับมาในทันทีจากนั้นร่างของทั้งสองคนนั้นก็เปร่งเเสงสีเเดงปรั่ง เดดพูลรู้สึกไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตาเห็นเเต่เบื้องหน้าของเขาความสามารถการฟื้นฟูของศัตรูนั้นสุดยอดมากมันรวดเร็วซะยิ่งกว่าการฟื้นฟูการรักษาของเขาเสียอีก

 

พอเห็นกลิ่นไอความร้อนที่เเผ่ออกมาจากทหารเอ็กซ์ทรีมิส เดดพูล ก็เดาได้ในทันทีว่าทำไมตัวดาบของเขาถึงละลาย เพราะทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ ร่างกายของพวกเขาราวกับเตาหลอมขนาดใหญ่ วัสดุทำดาบของเดดพูลไม่ใช่วัสดุที่ทนทานขนาดนั้นไม่เเปลกใจที่มันจะละลายภายใต้อุณหภูมิความร้อนระดับสูง

 

“พวกมันมีความสามารถที่สุดยอดเกินไป! ไม่เเปลกใจที่มิราจไนท์บอกไว้ว่าคนพวกนี้สร้างผลกระทบใหญ่หลวงกับไอรอนแมน”เดดพูลกำลังครุ่นคิดอีกฝ่ายมีความสามารถที่เหมือนเขาทุกประการทั้งเเทบจะเรียกได้ว่าเหนือกว่าด้วยซ้ำ

 

ตอนนี้เขากำลังนึกเเผนอยู่การเผชิญหน้ากับทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้อันตรายเกินไปทั้งยังไม่ใช่งานที่เขาสามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว

 

“จริงสิ ฉันไม่มีความจำเป็นจะต้องเผชิญหน้ากับพวกเเกเเม้เเต่น้อย ฉันเดดพูล ไม่ค่อยชื่นชอบการต่อสู้กับศัตรูประเภทนี้เท่าไหร่”

 

ฟู่วว!

 

หลังจากพูดพึมพัมออกมา เดดพูล ก็พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับศัตรูให้มากที่สุดเป้าหมายของเขาก็คือปกป้องคนที่อยู่ด้านหลังต่างหาก

 

“มิส เป็ปเปอร์ พวกเราควรเริ่มการจู่โจมตอบโต้ศัตรูคืน!”ขณะที่เดดพูล กำลังหลอกล่อศัตรูเเละไม่เลือกที่จะเผชิญหน้าโดยตรงกับทหารเอ็กซ์ทรีมิส ใกล้หูของเป็ปเปอร์ทันใดนั้นก็ปรากฏเสียงของ J.A.R.V.I.S ดังขึ้น

 

“เอ๋…?”น้ำเสียงของ J.A.R.V.I.S คราวนี้ดูเปลี่นไป เเต่ เป็ปเปอร์กลับรู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก

 

“มิสเป็ปเปอร์ ผมเสียใจที่ทำให้คุณรู้สึกกังวล เเต่คุณไม่ต้องเป็นห่วง การสนับสนุนของเรามาถึงเเล้ว ผ่อนคลายเถอะ คุณสตาร์กกำลังมารับคุณ”เห็นเป็ปเปอร์ไม่เข้าใจ J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน J.A.R.V.I.S ราวกับว่ามีความเเตกต่างจากเดิมอย่างมาก

 

ได้ยินเสียงพูดของ J.A.R.V.I.S จิตใจที่หวาดกลัวของเป็ปเปอร์ ก็ค่อย ๆ ดีขึ้น เพราะเธอรู้ว่า โทนี่ กำลังจะมาถึง เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่มีความสามารถธรรมดา ๆ นอกจากเรื่องความสามารถเเล้วเธอก็ยังเป็นผู้หญิงที่เข้มเเข็งคนนึง

 

 

ขณะที่เป็ปเปอร์กำลังหลบซ่อน ระยะห่างไม่กี่กิโลเมตรห่างจากสถาบันวิจัย บนอากาศได้ปรากฏชุดเกราะไอรอนแมนนับ 100 ตัว กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ เหนือน่านฟ้านิวยอร์กตอนนี้ ผู้คนจำนวนมากต่างตกใจอย่างเห็นได้ชัดเพราะพวกเขารู้ได้ในทันทีว่าจะต้องมีเรื่องสำคัญอะไรเกิดขึ้น

 

“เจ้านายครับ,พวกเราเชื่อมสัญญาณกับภายในได้เเล้ว นอกจากนี้ผมได้บอกคุณเป็ปเปอร์เเล้วเพื่อให้เธอรอคอยการมาถึงของเรา ตอนนี้ คุณเดดพูล กำลังถ่วงเวลาพวกคิลเลี่ยนอยู่”ด้านหน้ากองทัพชุดเกราะไอรอนแมน ใกล้หูของโทนี่ ได้ปรากฏเสียงรายงานของ J.A.R.V.I.S

 

เเม้ ภูมิภาคเเห่งนี้จะถูกป้องกันสัญญาณด้วยเทคโนโลยีพิเศษ เเต่ด้วยระยะทางที่ใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ J.A.R.V.I.S สามารถเจาะระบบสัญญาณได้ เเต่ J.A.R.V.I.S ยังไม่สามารถเเก้ไข้ปัญหาการต่อต้านด้านเทคนิคของฝ่ายตกข้ามได้ เพราะทันทีที่กองทัพไอรอนแมนเข้าสู่โซนสนามรบ J.A.R.V.I.S เองก็ไม่เเน่ใจว่าประสิทธิภาพของชุดเกราะรบจะรักษาระดับได้มากเกิน 60% หรือไม่

 

“เข้าใจเเล้ว! เปิดเผยตำเเหน่งของเป็ปเปอร์ให้ฉัน! ที่เหลือพยายามรบกวนสร้างคลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้าขนาดใหญ่เพื่อรบกวนระบบของศัตรู ซื้อเวลาให้เราจัดการกับ คิลเลี่ยน ได้ก็พอ”ได้ยินเสียงรายงานของ J.A.R.V.I.S โทนี่ รู้สึกโกรธมาก

 

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ปฏิบัติตามคำสั่งทันที

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นไอรอนแมนกว่าหนึ่งร้อยตัวก็พุ่งเข้าใส่โกดังด้านล่างที่เป็ปเปอร์อยู่จากนั้นชุดเกราะไอรอนแมนก็ระบุพลังงานความร้อนเพื่อจับสัญญาณพรรคพวกของคิลเลี่ยน

 

ปั้ง ปั้ง!

 

ทันใดนั้นกระสุนกว่าหลายพันนัดก็พุ่งลงมาใส่คิลเลี่ยนเเละพรรคพวกของเขาทันที J.A.R.V.I.S ได้เปิดระบบอาวุธปืนกลเปาก่อน เพราะหากเขาเปลี่ยนไปใช้อาวุญใหญ่ เป็ปเปอร์ที่อยู่ภายในโกดังอาจจะได้รับผลกระทบ

 

เผชิญหน้ากับการจู่โจมทางอากาศดวงตาของคิลเลี่ยนเผยเเววสีเเดงออกมา จากนั้นฝ่ามือของเขาก็กลายเป็นฝ่ามือขนาดยักษ์เขาได้ใช้ฝ่ามือนี้ในการบล็อคการโจมตีจากชุดเกราะไอรอนแมน

 

เพร้ง!

 

ทหารเอ็กซ์ทรีมิสจำนวนมากได้หลบเลี่ยงอยู่ด้านหลังฝ่ามือขนาดใหญ่เพื่อหลบกระสุนเเน่นอนว่าฝ่ามือเหล่านี้เเม้จะสามารถป้องกันกระสุนได้เเต่มันก็ยังคงได้รับความเสียหายอยู่ดี

 

เพียงเเต่ความเสียจำนวนมากเหล่านั้นเเสงสีเเดงได้ไหลผ่านฝ่ามือเเละรักษาอาการบาดเจ็บกลับมาอย่างรวดเร็ว

 

“นั่นมันอะไร?ใหญ่อย่างกะมือของไดโนเสาร์!?”ทางด้านเเจ็คสันเขาที่อยู่ในชุดเกราะไอรอนแมนได้มองเห็นฝ่ามือสัตว์ประหลาดของคิลเลี่ยน เเม้ว่า เขาจะมีประสบการณ์พล็อตเรื่อง เเต่ในพล็อตเรื่องเดิมกลับไม่มีสิ่งนี้ นี่อาจจะเป็นผลจากตัวไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส เเละเป็นการเปลี่ยนพล็อตเรื่องที่เขากังวล

 

ฟุ่บ!

 

“รายงาน ระบบ ถูกคลื่นสัญญาณรบกวน ระบบพลังงานถูกปิดไปมากกว่า 80% ระบบอาวุธเลเซอร์ ถูกปิดการใช้งาน”ขณะที่เเจ็คสันกำลังประหลาดใจกับฝ่ามือสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นภายในชุดเกราะไอรอนแมนเขาก็ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นวิถีการบินของชุดเกราะไอรอนแมนกว่าร้อยตัวก็เริ่มเซไปคนละทิศละทาง ด้วยการเปลี่ยนเเปลงอันรวดเร็วนี้ไม่นานชุดเกราะไอรอนแมนก็สูญเสียระบบการบินไปเเละร่วงหล่นลงพื้นในที่สุด

ปั้ง

 

ขณะที่เป็ปเปอร์หลบหนีเสียงของศัตรูก็ได้ดังไล่ตามเธอมาเรื่อย ๆ หลังจากส่งชุดเกราะไอรอนแมนที่เหลือทั้งหมดไปต้านศัตรูเอาไว้เเล้ว J.A.R.V.I.S ก็ไม่ได้ใช้เส้นทางปกติอีก เขาพยายามหาทางออกลับบางเเห่งเเละระเบิดกำเเพงเพื่อหลบหนีอย่างน้อยมันก็ยังสามารถหลอกล่อศัตรูพอซื้อเวลาได้

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากถึงที่หมาย J.A.R.V.I.S ก็ได้ควบคุมเเละระเบิดกำเเพงเพื่อออกมาข้างนอก เเต่ดูเหมือนข้างนอกจะไม่มีใครอยู่เลย ตราบใดที่ ชุดเกราะไอรอนแมน สามารถใช้ช่องสัญญาณสื่อสารได้ ความปลอดภัยของเป็ปเปอร์ก็จะได้รับการประกันเเต่ดูเหมือนตอนนี้ฟังก์ชั่นระบบหลายอย่างได้ถูกปิดกั้นรวมถึงการสื่อสาร ทั้งชุดเกราะไอรอนแมนเพียงลำพังไม่สามารถหลบหนีกองทหารเอ็กซ์ทรีมิส จำนวนมากได้

 

“J.A.R.V.I.S พวกเราจะออกไปจากที่นี่ได้มั้ย?”เป็ปเปอร์ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S ตอนนี้ เหลือเพียงพอไอรอนแมนตัวนี้เพียงตัวเดียวเท่านั้นที่อยู่ปกป้องเธอ

 

“มิสเป็ปเปอร์ ฝ่ายตรงข้าม ได้วางเครือข่ายดักสัญญาณเอาไว้ทั่วภูมิภาคเเห่งนี้เเล้ว เเต่คุณไม่ต้องห่วง คุณ โทนี่ จะต้องรู้ว่าคุณเกิดอุบัติเหตุอยู่เเน่นอน การสนับสนุนของเราควรจะมาถึงที่นี่เร็ว ๆ นี้ เเม้ว่าพวกเขาจะหยุดยั้งฟังก์ชั่นบางอย่างผมเเต่มันก็ยังเพียงพอที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยให้คุณในตอนนี้”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

ขณะเดียวกัน J.A.R.V.I.S ก็ยังพาเป็ปเปอร์มุ่งหน้าไปยังทางหลบหนีเพื่อออกจากภูมิภาคเเห่งนี้

 

“ฉันเชื่อนาย,ฉันเชื่อว่าโทนี่จะต้องมา!”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์ พูดออกมาด้วยความกังวล

 

ปั้ง

 

เพียงเป็ปเปอร์พูดคำเหล่านี้ได้ไม่นานด้านหลังของพวกเธอก็ปรากฏเสียงระเบิดดังรุนเเรงตำเเหน่งของระเบิดนั้นเห็นได้ชัดว่ามันดังมาจากรูตรงกำเเพงที่พวกเธอพังออกมาไม่นานนี้ ชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 4 ตัว ที่เธอส่งไปต้านทานคิลเลี่ยน ดูเหมือนจะหยุดพวกเขาไม่ได้

 

ฟุ่บ!

 

ภายใต้การสเเกนของ J.A.R.V.I.S เขาตรวจพบเงาร่างพลังงานสูงหลายร่างที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว

 

ตึก ตึก!

 

J.A.R.V.I.S รีบพา เป็ปเปอร์ มุ่งหน้าไปยังโกดังใกล้เคียงเพื่อหลบซ่อนทันที เขาต้องรับรองความปลอดภัยของ เป็ปเปอร์ก่อนเป็นอันดับเเรก เเน่นอนว่าหากพวกคิลเลี่ยนไล่ตามเขามาทันเเละเจอตัวพวกเขา มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ชุดเกราะไอรอนแมนที่เหลือเพียงตัวเดียวจะสามารถต้านทานคิลเลี่ยนเเละพรรคพวกได้

 

“J.A.R.V.I.S ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงดี?”ขณะที่ J.A.R.V.I.S กำลังสเเกนตรวจสอบศัตรู น้ำเสียงของเป็ปเปอร์ก็สั่นไหวอีกครั้ง

 

“??”ได้ยินคำถามของเป็ปเปอร์ ตอนนี้ J.A.R.V.I.S ลังเลมาก เพราะ ชุดเกราะเพียงตัวเดียวที่โดนระงับฟังก์ชั่นหลักหลายอย่างไม่มีวิธีการที่จะหลบหนีศัตรูได้เลย

 

“ฮ่าฮ่า,ดูเหมือนว่าพวกเเกจะเป็นตัวร้ายสีนะ ไม่ต้องบอกก็ได้ เพราะหน้าพวกเเกมันฟ้อง”เป็ปเปอร์ที่กำลังเเอบอยู่ในโกดังใกล้เคียง ด้านนอก ทันใดนั้นก็ปรากฏเสียงที่ดังมาจากหลังคาของโกดัง

 

หากเเจ็คสันอยู่ที่นี่เขาย่อมจดจำเสียงของอีกฝ่ายได้ย่างเเน่นอนเพราะนี่คือเสียงของ เดดพูล หลังจากได้รับข่าวจาก เเจ็คสัน เดดพูล ก็รีบมาที่นี่เพื่อหยุดคิลเลี่ยนเเละช่วยเหลือ เป็ปเปอร์ในทันที สำหรับ หน่วยพิเศษของ S.H.I.E.L.D. ที่เข้ามาช่วยเหลือตอนนี้พวกเขาก็กำลังถูกตรึงไว้โดยทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหมือนกัน

 

“เเกคือ…ฮีโร่ของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เดดพูล?”ด้านนอกโกดัง คิลเลี่ยน เงยศีรษะขึ้นไปมองด้านบนโกดังเขาเห็นร่างเงาในชุดคลุมสีเเดง

 

ก่อนหน้านี้เเผนการของเขาถูกทำลายโดยมิราจไนท์ ดังนั้น คิลเลี่ยน จึงได้เริ่มศึกษา เบื้องหลังของอีกฝ่าย ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ตั้งเเต่นั้นมาเขาก็รู้จักเเทบทุกคนในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ส่วน เดดพูล นั้นข้อมูลมีน้อยมาก เพราะอีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้นไม่ค่อยบ่อยนัก

 

“ฮ่าฮ่า,โอ้ว ดูเหมือนชื่อเสียงของฉันจะโด่งดังมากทีเดียว ขนาดจอมวายร้ายอย่างเเกยังรู้จักชื่อฉันเลย เยี่ยมจริง ๆ !”เดดพูลหัวเราะออกมาเพราะเห็นอีกฝ่ายรู้จักตนเอง

 

เเม้จะเป็นหนึ่งในคนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเต่ชื่อเสียงของเดดพูล ก็ไม่สามารถเทียบกับ มิราจไนท์ เเละ สไปเดอร์แมนได้ เเม้เเต่ เเดร์เดวิล ชื่อเสียงของเขาก็ไม่สามารถเทียบได้ติด ชื่อเสียงของเดดพูล นั้นถือว่าเเทบจะมีน้อยที่สุดในกลุ่ม เเต่หากเป็นเรื่องชื่อเสียล่ะก็วีรกรรมของเขาค่อนข้างโดดเด่นเเละเป็นที่รู้จักทีเดียว เเต่ในฐานะฮีโร่คนนึงเเฟนคลับจำนวนมากชอบที่จะฟังชื่อเสีย ๆ ของเดดพูลมากกว่า

 

“จอมวายร้าย?ไปเด็ดหัวมันมาให้ฉันซะ!”เห็นท่าทางล้อเลียนของเดดพูล คิลเลี่ยน จ้องมองไปปที่เขาด้วยความโกรธ เขากล่าวสั่งทหารเอ็กซ์ทรีมิสข้าง ๆ เขา

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำสั่งของคิลเลี่ยนทหารเอ็กซ์ทรีมิส สองคน ได้กระโดดขึ้นไปยังโกดังสินค้าเเละเข้าปะทะกับเดดพูลที่ด้านบนทันที ขณะเดียวกันทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสองคนก็ได้ปล่อยเเสงสีเเดงออกมาจากร่าง

 

“หืม!?เป็นพลังที่เเปลกใหม่ดีเเฮะ !”เห็นทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสองคนทำอะไรบางอย่าง เดดพูลพึมพัมออกมา เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่น่าใช่มิวแทนท์ เเม้จะมีส่วนคล้ายตัวเองก็ตาม

 

เพียงเเต่เเม้พวกเขาจะไม่ใช่มิวแทนท์เเต่พละกำลังเเละร่างกายของพวกเขาเเทบจะเรียกได้ว่าเเข็งเเกร่ง

 

“เดี๋ยว ๆ นี่ไม่ใช่เกมปาหี่ ฉัน เดดพูล จะเเสดงความเเข็งเเกร่งให้พวกเเกได้เห็นเอง”เเม้จะตะลึงในความเเข็งเเกร่งของทหารเอ็กซ์ทรีมิสเเละค่อนข้างสนใจ เเต่เดดพูล ไม่ได้กังวลมากนัก เขาดึงดาบคู่ออกมาจากด้านหลังเเละควงอย่างพริ้วไหว

 

ฟิ้ว~~

 

ทันทีที่เดดพูลดึงดาบออกมาทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสองคนก็พุ่งโจมตีเข้าหาเขาเพียงเเต่ด้วยพละกำลังของทั้งสองคนเเน่นอนว่ารวมกันย่อมเหนือกว่าเขามาก

 

ปั้ง

 

เดดพูลได้ใช้ดาบคู่กันการโจมตีของทั้งสองคนพละกำลังของเขาถูกกดทับจนได้ร่วงหล่นจากหลังคาตกลงมาในโกดังทันที ก่อนที่ เขาจะมาถึงที่นี่ เดดพูล ได้รับการติดต่อจาก เจอร์รี่ บอกว่าวัตถุประสงค์ที่เดดพูลมาที่นี่ในคราวนี้ก็เพื่อปกป้อง เเฟนสาว ของไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ก หรือก็คือ มิส เป็ปเปอร์,ทันทีที่เขาร่วงหล่นลงมา เดดพูล ได้เห็นบุคคลที่หลบซ่อนตัวอยู่ภายในโกดัง เขาเห็นใบหน้าของเธอ เขารู้ได้ในทันทีว่านั่นคือเเฟนสาวของ โทนี่ ไม่ผิดเเน่

 

 

ซื๊ดดด..

 

ขณะที่ หน่วยพิเศษของ S.H.I.E.L.D. เข้าใกล้พื้นที่จุดหมายปลายทางช่องสัญญาณเชื่อมต่อของพวกเขาก็ถูกคลื่นพิเศษรบกวน ดูเหมือนว่าพวกคิลเลี่ยนจะทำการปิดล้อมพื้นที่เเห่งนี้พร้อมกับทำให้สัญญาณเครือข่ายไม่เสถียร ตอนนี้ไม่ใช่เพียงเเค่ชุดเกราะไอรอนแมนเท่านั้นที่ได้รับผลกระทั่งS.H.I.E.L.D.เองก็ได้รับผล

 

“กัปตัน ดูเหมือนเครือข่ายสัญญาณของพวกเราจะติดขัดในภูมิภาคเเห่งนี้ได้ถูกวางกลไกป้องกันพิเศาเอาไว้หากพวกเรายังคงเดินหน้าต่อการเชื่อมต่อกับสำนักงานใหญ่จะถูกตัดขาดชั่วคราว นอกจากนี้พวกเรายังไม่สามารถเเยกจากกันได้ตอนนี้ช่องทางการสื่อสารทั้งหมดโดนปิดกั้นเเล้วครับ”ลูกทีมที่ควบคุมอุปกรณ์ด้านการสื่อสารคนนึงได้กล่าวบอกกัปตันของเขา

 

ได้ยินคำพูดของเพื่อนร่วมทีม กัปตันของทีมพิเศษนี้เงียบไปหลายวินาทีก่อนที่จะตัดสินใจ”พวกเราไม่อาจขาดการติดต่อกับสำนักงานใหญ่ได้ทิ้งไว้5คนเฝ้าระวังนอกพื้นที่เเละคอยรายงานสถานการณ์กับสำนักงานใหญ่ ที่เหลือมากับฉัน”

 

“ครับ”ได้ยินคำสั่งของหัวหน้าทีม สมาชิกคนอื่น ๆ ไม่ได้ลังเลเเม้เเต่น้อย

 

จากนั้นพวกเขาก็ทิ้งคนไว้ 5 คน เพื่อป้องกันสัญญาณการติดต่อ จากนั้นคนที่เหลือก็รีบมุ่งหน้าไปยังปลายทางพวกเขาได้รับคำสั่งจากกัปตันโรเจอร์สให้คุ้มครองความปลอดภัยของ มิส เป็ปเปอร์

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่คนของหน่วยพิเศษ S.H.I.E.L.D. กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่สนามรบ คิลเลี่ยน เเละ ทหาร เอ็กซ์ทรีมิส ก็ได้เข้ายึดพื้นที่เเถวนี้ไว้หมดเเล้ว

 

 

ปั้ง!

 

ตอนนี้ทางด้านหน้าประตูของสถาบันวิจัย ชุดเกราะไอรอนแมน 7 ตัว กำลังสู้สกัดกั้นกำลังของทหารS.H.I.E.L.D.อยู่พื้นที่โดยรอบเเถวนั้นพังจนกลายเป็นซากปรักหักพังไปเเล้ว ส่วนไอรอนแมน 3 ตัวที่เหลือนั้นได้ถูกทำลายจนชิ้นส่วนเศษซากกระจัดกระจายไปทั่วพื้นดิน

 

ยิ่งไปกว่านั้นดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ชุดเกราะไอรอนแมนที่เหลืออีก 7 ตัวก็ไม่สามารถบินได้ ดูเหมือนจะคล้ายเหตุการที่โทนีเคยโดนก่อนหน้านี้พวกเขาได้เริ่มบล็อคฟังก์ชั่นการบินของชุดเกราะไอรอนแมน หากต้องต่อสู้ท่ามกลางพื้นดินกับทหารเอ็กทรีมิสต์หลายคน ชุดเกราะไอรอนแมนก็ไม่สามารถทนรับได้อย่างเเน่นอน

 

วิเคราะห์กลยุทธเฉพาะหน้า : ฝ่ายศัตรูได้บุกรุกเครือข่ายชุดเกราะไอรอนแมนเเละปิดฟังก์ชั่นบางส่วน ชุดเกราะไม่สามารถเเสดงพลังศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ปรับเเผน ล่าถอยเพื่อวางกลยุทธ์ใหม่อีกครั้ง’ ชุดเกราะไอรอนแมนที่เหลือได้เลือกที่จะถอย

 

หลังจากโมเดลจำลองระบบของ J.A.R.V.I.S ได้ตัดสินใจ ชุดเกราะไอรอนแมนที่เหลืออีก 6 ก็เริ่มถอยห่างจากหน้าประตูสถาบันวิจัย ธรรมชาติ ตอนนี้ชุดเกราะไอรอนแมนไม่ใช่คู่มือของทหารเอ็กซ์ทรีมิส

 

ขณะที่ทหารเอ็กซ์ทรีมิสจ้องมองชุดเกราะไอรอนแมนถอยห่างไป อีกด้านนึง ชุดเกราะไอรอนแมน 5 ตัวที่กำลังปกป้องเป็ปเปอร์อยู่ก็ได้เริ่มออกห่างจากพื้นที่เเห่งนี้เร็วมากขึ้น ธรรมชาติ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความปลอดภัยของ เป็ปเปอร์

 

“J.A.R.V.I.S สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”เป็ปเปอร์ที่อยู่ในชุดเกราะไอรอนแมนกล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

ทันทีที่ J.A.R.V.I.S ได้ยินคำถาม เขาก็สเเกนออกไปโดยรอบทันที”มีมนุษย์พลังงานสูง 8 คน กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ดูเหมือนพวกเขาจะรู้ตำเเหน่งของพวกเรา”J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

 

“สถาบันวิจัยนี้มีทางออกลับอื่นอีกหรือไม่?”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์กล่าวถามอย่างเร่งรีบ ศัตรู ได้บุกรุกระบบของ J.A.R.V.I.S เพื่อระงับความเเข็งเเกร่งเฉพาะของชุดเกราะไอรอนแมน ปัจจุบันเป็ปเปอร์รู้สึกกังวลมาก

 

“อืม,ผมจะนำ คุณออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด,ผมจะทิ้งชุดเกราะไอรอนแมนที่เหลือถ่วงเวลาเอาไว้”โมเดลจำลอง J.A.R.V.I.S ได้ตอบสนองทันที

 

จากนั้นชุดเกราะไอรอนแมนที่มีเป็ปเปอร์อยู่ก็มุ่งหน้าไปอีกทางส่วนชุดเกราะไอรอนแมนอีกสี่ตัวที่เหลือก็คอยอยู่ถ่วงเวลาเอาไว้ เเม้ฟังก์ชั่นส่วนใหญ่ของชุดเกราะไอรอนแมนจะถูกระงับเอาไว้ เเต่มันก็ยังมีอำนาจโดดเด่นในการถ่วงเวลาศัตรูได้ดี

 

หึ่ม!

 

ปั้ง

 

ทางด้านคิลเลี่ยนที่ไล่ตามเป็ปเปอร์อยู่ดูเหมือนเขาจะถูกขวางกั้นด้วยประตูเหล็กหนาหลายชั้น ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเสียเวลาในการไล่ตามพอสมควร

 

ปั้ง

 

หลังจากพังประตูบานถัดไปได้สำเร็จ เบื้องหน้าของคิลเลี่ยน ก็ปรากฏกระสุนหลายร้อยนัดพุ่งออกมาจากชุุดเกราะไอรอนแมน การโจมตีด้วยอาวุธเช่นนี้ เเม้คิลเลี่ยนจะมีพลังรักษาสูงก็ใช่ว่าเขาจะสามารถทนได้

 

ฟุ่บ!

 

คิลเลี่ยนได้พุ่งหลบการโจมตีทั้งหมดก่อนที่จะใช้มือขวาของเขาละลายกระสุนบางส่วนเบื้องหน้าของเขาคือชุดเกราะไอรอนแมน คิลเลี่ยนหวังจัดการพวกมันทั้งหมดเพื่อที่จะไล่ตามต่อไปโดยเร็ว

 

หลังจากทำลายกระสุนที่ยิงมาได้หมดเเล้วคิลเลี่ยนได้ปลดปล่อยพลังงานสีเเดงออกมาพริบตาเดียวมือของเขาก็เเดงเข้มขึ้นอย่างมากทั้งอุณหภูมิความร้อนเเละขนาดฝ่ามือยังใหญ่มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นคิลเลี่ยนก็พุ่งตัวเข้าไปพร้อมกับใช้ ฝ่ามือของเขาในการโจมตีกระสุนจำนวนมากที่พุ่งเข้ามา ฝ่ามือขนาดที่ใหญ่ขึ้นของคิลเลี่ยนนี้คล้ายกับฝ่ามือสัตว์ประหลาดที่เขาทดลองไม่มีผิด

 

“วิเคราะห์ผลลัพธ์…ข้อมูลไม่เพียงพอไม่สามารถวิเคราะห์ได้”หลังจากเห็นศัตรูต้านทานการโจมตีด้วยกระสุนได้ทั้งหมด J.A.R.V.I.S รีบวิเคราะห์ฝ่ามือยักษ์ของคิลเลี่ยนทันที เเต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล.

 

“เหอะ! ไอรอนแมน? มีดีเเค่นี้งั้นหรอ?”เห็นการโจมตีที่ผ่านมาของชุดเกราะไอรอนแมนไม่เป็นผลกับตัวเอง ฝ่ามือขนาดยักษ์ของคิลเลี่ยนได้กลับไปมีขนาดเท่าเดิมอีกครั้ง เเละ เขาได้จ้องมองไปที่ชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 4 ที่อยู่ด้านหน้าด้วยความดูถูก

 

จากนั้นคิลเลี่ยนก็สั่งทหารเอ็กซ์ทรีมิสของเขาให้พุ่งเข้าใส่ชุดเกราะไอรอนแมน

เมื่อโทนี่ได้รับการเเจ้งเตือนจากกัปตันโรเจอร์สเขาก็นำกองทัพไอรอนแมนออกไปพร้อมกับตัวเองมุ่งหน้าไปยังบรูคลินโดยเร็วที่สุ ทางด้านกัปตันโรเจอร์สเขาก็ได้ส่งทีมพิเศษเข้าไปเเล้วคงได้เเต่ภาวนาขอให้ทันกาลล่ะมั้ง

 

ติ๊ดด

 

ส่วนคิลเลี่ยนดูเหมือนพวกเขาตอนนี้กำลังล้อมรอบอาคารเเห่งนึงที่ตั้งอยู่ในเซฟเฮ้าส์เขาได้ข้อมูลเกี่ยวกับเป็ปเปอร์ว่าเธออยู่ที่นี่ ขณะที่เป็ปเปอร์กำลังคิดว่าเมื่อไหร่จะได้ออกไปใช้ชีวิตปกติเหมือนคนธรรมดาซักทีจู่ ๆ ชุดเกราะไอรอนแมนอารักษ์ขาของโทนี่ก็พุ่งเข้ามายืนอยู่เบื้องหน้าของเธอ

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นไม่นานชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 3 ตัว ก็เข้าสู่โหมดป้องกันอย่างรวดเร็ว

 

“มิส เป็ปเปอร์ ผมสูญเสียการเชื่อมโยงกับระบบหลักเเละคุณสตาร์กไปเเล้ว”เห็นเป็ปเปอร์สงสัยเสียงของชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง สามตัวได้ปรากฏเสียงของ J.A.R.V.I.S ออกมา เเม้นี่จะเป็นเสียงของ J.A.R.V.I.S เเต่ก็ไม่ใช่เซิฟเวอร์ระบบหลัก

 

“หืม !? สูญเสียการติดต่อจากโทนี่? เกิดอะไรขึ้น โทนี่เกิดอุบัติเหตุงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์ รู้สึกตกใจ

 

“ป่าวครับ ดูเหมือนพวกเราจะถูกตัดสัญญาณจากภายนอก ก่อนหน้านี้มีศัตรูได้บุกรุกเข้าระบบเซิฟเวอร์หลักของผมเเละสามารถควบคุมได้เพื่อป้องกันเหตุการณ์เดิมที่จะเกิดขึ้น พวกเขาได้ตัดขาดการสื่อสารทั้งหมดที่นี่ทิ้งไป นี่เป็นวิธีการรับมือของคุณสตาร์ก เเต่ตอนนี้มิสเป็ปเปอร์กรุณาทำตามคำเเนะนำของผม พวกเรากำลังตกอยู่ในอันตราย”ได้ยินคำถามของเป็ปเปอร์ J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“อันตราย?เกิดอะไรขึ้น?”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์รู้สึกสงสัย

 

จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนทำตามคำเเนะนำของ J.A.R.V.I.S เธอรู้ดีว่า ตอนนี้ J.A.R.V.I.S คงกำลังหาทางปกป้องตัวเองอยู่

 

หึ่ม!

 

“มิสเป็ปเปอร์ ตอนนี้พวกเราเหลือเวลาไม่มาก เท่าที่ผมตรวจพบ ผมตรวจสอบเจอ มนุษย์มากกว่า 18 คน เเต่ละคนมีปฏิกิริยาการตอบสนองด้านค่าพลังงานที่สูงมาก”J.A.R.V.I.S กล่าวเตือน

 

“พวกเราถูกล้อมเเล้งั้นหรอ? J.A.R.V.I.S พวกเราควรทำไงต่อดี?”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์เข้าใจในทันที เเม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ เเต่ในเรื่องศึกสงครามดังกล่าวผู้หญิงตัวเล็ก ๆ บอบบางอย่างเธอจะไปทำอะไรได้

 

“มิสเป็ปเปอร์ ความปลอดภัยของคุณต้องมาเป็นอันดับเเรก ดังนั้นได้โปรดเข้ามาในชุดเกราะก่อน”ชุดเกราะไอรอนแมนตัวนึงที่อยู่ด้านหน้าของเป็ปเปอร์ได้เปิดชุดเกราะออก

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้น เป็ปเปอร์ ก็ได้สวมใส่ชุดเกราะไอรอนแมน เเม้ ชุดเกราะไอรอนแมนเหล่านี้จะไม่สามารถอยู่ต้านทานศัตรูได้ เเต่มันก็ยังพอถ่วงเวลาให้ เป็ปเปอร์สามารถหลบหนีไปได้

 

บึ้ม!!

 

ขณะที่เป็ปเปอร์สวมใส่ชุดเกราะไอรอนแมนเสร็จประตูทางด้านหน้าทางเข้าสถาบันวิจัยลับเเห่งนี้ก็ถูกโจมตีอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนพวกคิลเลี่ยนจะเริ่มเปิดฉากจู่โจมเเล้ว ด้วยความเเข็งเเกร่งของทหารเอ็กซ์ทรีมิสไม่นานประตูก็คงถูกทำลายโดยสมบูรณ์

 

“ตรวจพบการโจมตีด้วยค่าพลังงานความร้อสูง! เริ่มการวิเคราะห์เเผน…ส่งชุดเกราะไอรอนแมน 5 ตัว คุ้มครอง มิสเป็ปเปอร์ ส่วนที่เหลือ คอยอยู่ต้านทานศัตรู” เมื่อการโจมตีเริ่มขึ้น J.A.R.V.I.S ได้เริ่มคำนวณเเผนการทันที

 

จากนั้นชุดเกราะไอรอนแมนนอกเหนือจากตัวของเป็ปเปอร์ อีกสี่ตัวก็ได้ตามเธอไปยังทิศทางทางออกส่วนชุดเกราะไอรอนแมนที่เหลือ 10 กว่าตัวได้มุ่งหน้าไปยังทิศทางประตูด้านหน้า เเม้จะไม่มีการสนับสนุนจากระบบเซิฟเวอร์หลักเเต่ชุดเกราะไอรอนแมนเหล่านี้ก็สามารถเริ่มทำการต่อสู้ได้

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเวลาไม่นานชุดเกราะไอรอนแมนมากกว่า 15 ตัว ก็ได้เเบ่งออกเป็นสองทิศทางมุ่งหน้าไปยังคนละทิศทางภายในอาคารเเห่งนี้

 

เเต่ว่าดูเหมือนระบบรองของ J.A.R.V.I.S จะไม่รู้ว่า ในมือของคิลเลี่ยนตอนนี้นอกเหนือจากทหารเอ็กซ์ทรีมิสเเล้วเขายังมีเเพลต์ฟอร์มอันนึงที่สามารถตรวจสอบข้อมูลภายในได้ บนเเพลตฟอร์มของเขาปรากฏจุดสีเขียวทั้งหมด 15 จุดเเละเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง เห็นได้ชัดว่าชุดเกราะไอรอนแมนกว่า 15 ตัว ได้อยู่ภายในพื้นที่ก่อสร้าง เเต่ดูเหมือนว่าชุดเกราะไอรอนแมน 5 ตัวได้ถูกส่งไปยังอีกทิศทางนึงมีเพียงชุดเกราะไอรอนแมน 10 ตัวเท่านั้นที่ถูกส่งมาทางเขา

 

“ฮึฮึ…คราวนี้เเหละ โทนี่ สตาร์ก ฉันจะทำให้เเกต้องจ่ายผลตอบเเทนที่ทำให้ฉันต้องเเบกรับผลกรรมนั้นถึง 12 ปีเต็ม!”คิลเลี่ยนจ้องมองไปปที่จุดสีเขียว 5 จุด ที่เคลื่อนที่ออกห่างจากเขาในใจของเขายิ้มออกมาอย่างร่าเริงจากนั้นเขาก็เริ่มเคลื่อนไหว

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่เป็ปเปอร์กำลังถูกล้อมโจมตีโดยพวกของคิลเลี่ยน หน่วยพิเศษของ S.H.I.E.L.D. ขณะเดียวกันพวกเขาก็ใกล้เข้ามาถึงเเล้ว พวกเขาเห็นผ่านระบบอย่างชัดเจนว่าพวกของคิลเลี่ยนได้ล้อมรอบที่เเห่งนี้เอาไว้ นี่เป็นงานเเรกของพวกเขาที่ได้รับมาจากกัปตันโรเจอร์สเเละพวกเขาก็ถูกเตือนว่าให้ระวังคนพวกนี้้เป็นอย่างดี

 

หน่วยพิเศษของ S.H.I.E.L.D. นั้นไม่เหมือนกับพันธมิตรอเวนเจอร์สหรือทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ที่มีพลังพิเศษที่น่าเกรงขาม พวกเขาเพียงเเค่ครอบครองเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าเเละพึ่งพาการผสานงานเป็นทีมเพียงเท่านั้น เเต่ด้วยสิ่งทั้งหมดสองอย่างนี้ก็เพียงพอเเล้วที่พวกเขาจะคุมสงครามได้อยู่หมัด

 

หลังจากจบศึกสงครามกับไฮดร้า S.H.I.E.L.D. ได้ครอบครองวิทยาการล้ำหน้าจำนวนมาก พวกเขาได้ข้อมูลการวิจัยเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์ เเละ สิ่งอื่น ๆ ของ ไฮดร้า ถือว่า S.H.I.E.L.D. ได้รับชัยชนะมาอย่างเด็ดขาด เพราะแบบนี้ หน่วยพิเศษของ S.H.I.E.L.D. จึงได้รับการยกระดับให้เเข็งเเกร่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนทางด้านอาวุธ เช่นอาวุธประเภทสนามพลังเเรงโน้มถ่วง ประเภท คลื่นสั่นสะเทือน เเละอีกอย่าง อาวุธที่ได้รับการวิจัยมาจากปืนใหญ่ระเบิดไฟของเเจ็คสัน ดังนั้นประสิทธิภาพการรบของหน่วยพิเศษของ S.H.I.E.L.D. คราวนี้ เพิ่มขึ้นสูงมาก

 

“ใกล้ถึงเป้าหมายเเล้วเริ่มการวิเคราะห์พื้นที่สนามรบ”หลังจากใกล้ถึงพื้นที่สนามรบ,หัวหน้าหน่วยพิเศษได้กล่าวออกคำสั่งผ่านช่องทางติดต่อของทีมทันที

ติ๊ด

 

“พบตัว คิลเลี่ยน เเล้วงั้นหรอ?”โทนี่พึมพัมออกมา

 

ฟุ่บ!

 

นิ้วของโทนี่ลากขยายภาพใบหน้าตรงกลางจอจนขยายไปทั่วทั้งจอจากนั้นก็ปรากฏภาพกัปตันโรเจอร์สที่ยืนอยู่ในห้องควบคุมอย่างเด่นชัด

 

“สตีฟ นายเจอคิลเลี่ยนเเล้ว?”โทนี่กล่าวถามกัปตันโรเจอร์สในทันที

 

“อืม,ดูเหมือนระบบจะตรวจพบเเล้ว”กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

“เเล้วตอนนี้มันอยู่ที่ไหน?”โทนี่กล่าวถามออกมาอีกครั้ง

 

“ในนิวยอร์ก ยิ่งไปกว่านั้นยังอยู่ในพื้นที่ที่เป็นของอุตสาหกรรมสตาร์กของนาย ตอนนี้นายอยู่ไหน บ้านพักงั้นหรอ?”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถาม

 

ได้ยินกัปตันโรเจอร์สบอกว่าคิลเลี่ยนอยู่ในนิวยอร์กโทนี่ก็เริ่มเเปลกใจเเล้วเเต่พอรู้มาว่าคิลเลี่ยนยังอยู่ในที่อุตสาหกรรมของเขาอีก เขาไม่รู้ว่าคิลเลี่ยนมีเเผนอะไรกันเเน่

 

“เเถวไหน?เเล้วมันทำอะไรกับอุตสาหกรรมของฉัน?”โทนี่กล่าวถามอย่างเร่งรีบ

 

“ตอนนี้ยัง คิลเลี่ยนในตอนนี้อยู่ห่างออกไปทางด้านพื้นที่ทางบรุคลิน นายควรจะรีบไปที่นั่นดีกว่าฉันเองก็ไม่เเน่ใจว่ามันมีเเผนอะไรกันเเน่”กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

“อุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ทางด้านนอกเขตบรุคลิน? เวรเอ้ย! J.A.R.V.I.S รีบติดต่อ เป็ปเปอร์ เร็ว!”ได้ยินคำตอบของกัปตันโรเจอร์สสีหน้าของโทนี่เปลี่ยนไปเป็นกังวล

 

“โทนี่ เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าที่นั่นมีอะไรสำคัญสำหรับบริษัทสตาร์กอยู่?”เห็นการเปลี่ยนเเปลงของโทนี่ กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามอย่างสงสัย ทำไม โทนี่ จะต้องให้ J.A.R.V.I.S รีบติดต่อ เป็ปเปอร์ ถ้าหากไม่ใช่เรื่องร้ายเเรงเเล้วล่ะก็โทนี่ไม่มีทางร้อนรนขนาดนี้เเน่

 

“สถานที่เเห่งนั้นเป็นที่สำคัญอย่างยิ่ง ทั้งยังมีบุคคลที่สำคัญที่สุดของฉันอยู่ที่นั่นด้วย ที่นั่นมีเซฟเฮาส์ของเป็ปเปอร์อยู่!”ในขณะที่ J.A.R.V.I.S กำลังทำการติดต่อกับเป็ปเปอร์ โทนี่ ก็อธิบายให้กัปตันโรเจอร์สฟัง

 

หลังจากรู้ว่าคิลเลี่ยนกำลังหาเรื่องตนเองโทนี่จึงได้สร้างเซฟเฮาส์เอาไว้ที่นั่นเพื่อปกป้องเป็ปเปอร์ โดยปกติเเล้วคนนอกเเทบจะไม่มีทางรู้ว่าสถานที่เเห่งนั้นถูกครอบครองโดยสตาร์กอินดัสตรีท์เพื่อป้องกันเป็ปเปอร์เเล้วโทนี่ได้วางกลไกป้องกันเอาไว้จำนวนมาก

 

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังส่งชุดเกราะไอรอนแมากว่า 20 ตัว ไปคุ้มครอง เเต่ตามประสบการณ์ของโทนี่พลังระเบิดของทหารเอ็กซ์ทรีมิสมากพอที่จะทำลายชุดเกราะไอรอนแมนได้ดังนั้นเขาจึงส่งชุดเกราะไอรอนแมนไปคุ้มกันหลายตัวเเต่เขาเองก็ยังไม่กล้ารับรองความปลอดภัยหากต้องเผชิญหน้ากับคิลเลี่ยนจริง ๆ

 

“อะไรนะ?มิส เป็ปเปอร์ อยู่ที่นั่น!”ได้ยินคำพูดของโทนี่ กัปตันโรเจอร์สรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

เเต่สายตาที่เขามองผ่านนัยน์ตาของโทนี่ โทนี่กลับเผยเเววกังวลอย่างมาก

 

“เจ้านายครับคุณได้บอกให้คุณพอตส์ปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดกันการบุกรุกทางเครือข่ายรวมถึงผมด้วย”ขณะที่โทนี่กังวล J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานออกมา

 

ปั้ง

 

“เวรเอ้ย! J.A.R.V.I.S เตรียมชุดเกราะไอรอนแมนที่พร้อมที่สุดให้ฉันที ฉันจะไปล่า คิลเลี่ยน ถ้าคิลเลี่ยนมันกล้ายุ่งกับเป็ปเปอร์ล่ะก็ฉันจะไม่ปล่อยมันไปอย่างเเน่นอน”ได้ยินรายงานของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ตะโกนลั่นออกมา

 

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็วฝ่ายตรงจ้ามในคราวนี้ไม่ได้บุกรุกระบบหลักของ J.A.R.V.I.S ดังนั้นการเคลื่อนไหวเดินทางคราวนี้ของโทนี่ไม่น่าจะมีปัญหามากนัก

 

“โทนี่,ฉันจะรีบส่งหน่วยพิเศษของ S.H.I.E.L.D. ไปช่วยในเร็วที่สุดบอกพวกเขาให้ทำทุกทางเพื่อปิดกั้น คิลเลี่ยน นายสบายใจเถอะเป็ปเปอร์จะต้องปลอดภัย”เเม้โทนี่จะกังวล เเต่กัปตันโรเจอร์สก็พยายามปลอบเขา

 

ก่อนหน้านี้โทนี่เคยบอกกับกัปตันโรเจอร์สว่าไม่ต้องการ S.H.I.E.L.D. ในการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เเต่เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิตของเป็ปเปอร์ลำพังโทนี่คนเดียวคงจะไม่สามารถปกป้องเป็ปเปอร์ได้ทั่วถึง

 

“ขอบคุณกัปตัน!ตอนนี้ฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของเป็ปเปอร์เป็นอันดับเเรก”โทนี่กล่าวพูดอย่างจริงจัง

 

“ผ่อนคลายเถอะ เธอจะต้องไม่เป็นอะไร”

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นโทนี่ก็จบบทสนทนากับกัปตันโรเจอร์ส ตอนนี้สายตาของเขาจ้องมองไปที่ห้องเเล็ปที่กำลังทดลองชุดเกราะกลายพันธุ์กันอยู่ ซึ่งเเจ็คสันในตอนนี้กำลังทำการทดสอบอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่

 

“เเจ็คสัน! หยุดการทดสอบทั้งหมดลงก่อน คิลเลี่ยน กำลังมุ่งหน้าไปหาเป็ปเปอร์ พวกเราต้องรีบไปหยุดมันโดยเร็ว”โทนี่กล่าวตะโกนขึ้นทันที

 

“หืม?คุณเป็ปเปอร์?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน รู้สึกงุนงงเล็กน้อย

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเเจ็คสันก็ถอดชุดเกราะกลายพันธุ์ออก เเละออกมาจากห้องปฏิบัติการไม่นานเขาก็มาปรากฏตัวที่ด้านหน้าโทนี่พร้อมกับปีเตอร์

 

“ฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของเป็ปเปอร์ ตอนนี้ J.A.R.V.I.S ไม่สามารถติดต่อกับทางฝั่งนั้นได้ นี่เป็นเรื่องที่ฉันกังวล พวกเราควรจะรีบลงมือทันที เเจ็คสัน เพื่อนๆทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเธอมีใครพอจะอยู่เเถวนั้นบ้างไหม?”โทนี่ กล่าวบอกเเจ็คสันจากนั้นเขาก็อธิบายสถานการณ์คร่าว ๆ ให้ฟัง

 

“บรูคลิน ดูเหมือนว่าเพื่อนของผมที่สติไม่ค่อยจะดีจะอยู่เเถวนั้นผมจะรีบติดต่อหาเขาทันที”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะกล่าวตอบเพื่อนสติไม่ดีที่เเจ็คสันหมายถึงก็คือ เดดพูล ทุกวันนี้ เดดพูล ได้ออกไปใช้ชีวิตเดทกับเเฟนสาวของตนเอง ดูเหมือนพวกเขาทั้งคู่จะอยู่เเถว ๆ นั้นพอดี

 

“คิลเลี่ยน! ถ้าเเกกล้าทำให้เป็ปเปอร์บาดเจ็บล่ะก็!….”ปัจจุบันโทนี่เเทบจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้

 

“จริงสิคุณสตาร์ก เอ้านี่!”ขณะที่โทนี่กำลังเตรียมพร้อมชุดเกราะไอรอนแมน เเจ็คสันยื่นส่งกล่องสี่เหลี่ยมในมือของเขาให้

 

“ชุดเกราะกลายพันธุ์?”เห็นกล่องโลหะที่เเจ็คสันยื่นให้โทนี่พึมพัมออกมา

 

ในวันนี้พวกเขาได้ทดสอบเกี่ยวกับความสามารถของชุดเกราะกลายพันธุ์เเล้วผลลัพธ์ที่ได้มันน่าทึ่งอย่างมากเเละนี่ก็เป็นโอกาสอันดีที่จะใช้มันทดสอบในสงครามจริงครั้งเเรก

 

ฟุ่บ

 

จากนั้นเวลาต่อมา โทนี่ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ก็ไปเข้าประจำตามจุด

 

“J.A.R.V.I.S ชุดเกราะ!”

 

“J.A.R.V.I.S ความเสถียรจองพลังงานชัดเจนหรือไม่?”หลังจากตรวจสอบด้วยสายตาเเล้วโทนี่ก็กล่าวถาม J.A.R.V.I.Sโดยตรง

 

“ชัดเจนครับ”J.A.R.V.I.S ตอบกลับทันที

 

ความสามารถของเวน่อมดูเเล้วน่ากลัวอย่างมากยังสามารถหลีกเลี่ยงการมองเห็นด้วยตาเปล่ารวมถึงการสเเกนด้วยอินฟราเรด นอกจากจะตรวจสอบพลังงานในร่างกายของเวน่อมเเล้ว เเทบจะไม่มีวิธีการที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเลย

 

ในเวลานี้เเจ็คสันได้ทำการทดสอบทุกการเคลื่อนไหวภายใต้การตรวจสอบของ J.A.R.V.I.S ตอนนี้ โทนี่ เเละ ปีเตอร์ มองเเจ็คสันด้วยตาเปล่าไม่เห็น เเต่บนเเผงควบคุม เขาสามารถมองเห็นเงาของบุคคลที่อยู่ภายในห้องได้อย่างชัดเจนเเต่ปีเตอร์นั้นดีกว่าโทนี่หน่อยด้วยสัญชาตญาณเเมงมุมของเขาเขาสามารถมองเห็นร่างเงาอันโปร่งใสของเเจ็คสันได้พอสมควร

 

“เอาล่ะเเจ็คสันพวกเราได้รับข้อมูลการทดลองเบื้องต้นเเล้วเริ่มขั้นตอนต่อไปได้เลย”หลังจากรวบรวมข้อมูลมากพอโทนี่ก็กล่าวบอกเเจ็คสัน

 

“เข้าใจเเล้ว!”

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากทดสอบรูปแบบการพรางตัวเเล้วต่อไปก็เป็นรูปแบบการลอบโจมตีในมือของเเจ็คสันได้ปรากฏดาบยาวออกมาเขาได้ใช้ความสามารถในการพรางตัวของเวน่อมเพื่อลอบโจมตีเป้าหมายที่โทนี่เรียกออกมา

 

“ความสามารถพรางตัวนี่มันสุดยอดจริง ๆ”เเจ็คสันยกดาบยาวขึ้นก่อนที่จะกระซิบกระซาบออกมา

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นไม่ต้องรอให้ J.A.R.V.I.S เเจ้งเตือนเเจ็คสันได้เคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณเเละกำจัดวัตถุเป้าหมายจำลองที่ J.A.R.V.I.S เรียกออกมา การฝึกในครั้งนี้ คือการทดสอบประสิทธิภาพในการโจมตีเป็นกลยุทธ์ทดสอบก่อนใช้งานจริง

 

หึ่ม

 

ฟุ่บ!

 

J.A.R.V.I.S เองก็เริ่มตอบโต้เคลื่อนไหววัตถุเป้าหมายจำลองเพื่อโจมตีเเจ็คสันบ้างเหมือนกันวัตถุเเต่ละอย่างนั้นไม่เหมือนกันบ้างก็เป็นโล่บ้างก็เป็นค้อนบ้างก็เป็นลูกตุ้มเหล็ก J.A.R.V.I.S ได้ใช้การโจมตีทุกรูปแบบเพื่อโจมตีเเจ็คสันเเต่ก็ยังไม่สามารถสัมผัสตัวเขาได้

 

“หากเเจ็คสันเผยความสามารถร้อยเปอร์เซ็นต์ความเร็วของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพียงเเค่ตอนนี้การตอบสนองของเขาก็ดีเยี่ยมมากเเล้ว”ปีเตอร์กล่าวพึมพัมออกมา

 

“อืม,ฉันลองให้เขาเเสดงความสามารถเเละขีดจำกัดเเบบธรรมดาดูก่อนความเร็วเเละความเเข็งเเกร่งของเขาเวลาที่ผสานกับเวน่อมไม่ธรรมดาจริง ๆ “โทนี่ กล่าวเห็นด้วย

 

ฟุ่บ!

 

ดาบในมือของเเจ็คสันได้เคลื่อนไหวจนเเทบจะมองไม่เห็นพริบตาที่เห็นอีกทีเป้าหมายก็กลายเป็นเเยกส่วนไปซะเเล้วนี่คือความสามารถที่น่ากลัว เเจ็คสันในตอนนี้ เผยความสามารถออกมาเพียงเเค่ ครึ่งนึงเพียงเท่านั้น

 

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

 

จากนั้นเเจ็คสันก็เคลื่อนไหวไปฟาดฟันเสาเหล็กที่อยู่ห่างกันในเวลาไม่กี่วิการฟาดฟันด้วยดาบยาวนั้นสามารถผ่าวัตถุจำนวนมากออกเป็นซีก ๆ ได้ เเน่นอนว่าดาบยาวที่เเจ็คสันเรียกออกมาตอนนี้มันคือการเปลี่ยนเเปลงคุณลักษณะของเวน่อมคุณภาพของดาบเวน่อมถือว่าสุดยอดมากจริง ๆ

 

ขณะที่เเจ็คสันโจมตีเสาอีกทิศทางนึงการป้องกันของเสาเหล็กก็ถูกทำงานความเร็วเเละการตอบสนองของเเจ็คสันเองก็รวดเร็วเขาได้หลบหลีกสิ่งกีดขวางจำนวนมากที่เขามาหยุดเขาจากนั้นเเจ็คสันก็พุ่งเข้าไปหวังจะฟันเสาเหล็กนั่นให้ขาดเป็นสองท่อนอีกครั้งเพียงเเต่ครั้งนี้ J.A.R.V.I.S ได้หุบเสาเหล็กลงเเละเคลื่อนไหวการโจมตีบางอย่างไปที่จุดบอดที่ด้านหลังเเจ็คสัน

 

“ฮ่าฮ่า,J.A.R.V.I.S ฉลาดมากจริง ๆ !”เห็นเสาได้หุบลงไปเเล้วการโจมตีที่ไม่คาดคิดก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา การโจมตีที่ว่านี้หากเป็นความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันในปัจจุบันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบหลีกพ้น

 

ฟุ่บ!

 

สองเสาได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเเจ็คสันเเละโจมตีขนานข้างซึ่งเเจ็คสันเองก็ยิ้มภายในใจก่อนที่เขาจะตัดสินใจทำบางอย่าง

 

ปั้ง

 

โล่ข้างนึงได้ปรากฏขึ้นที่เเขนของเเจ็คสันมันได้บล็อคการโจมตีทางหนึ่งที่พุ่งเข้ามาหาเขานอกเหนือจากเปลี่ยนเป็นอาวุธประเภทโจมตีได้เเล้วเวน่อมยังสามารถเปลี่ยนเป็นโล่ได้อีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็อยู่ที่โฮสต์เป็นคนตัดสินใจเพราะเวน่อมคล้ายกับตัวตนที่ต้องอาศัยยืมความคิด

 

การบล็อคการโจมตีของเเจ็คสันในครั้งนี้ทำได้ดีมากอีกทางนึงเเจ็คสันก็ใช้ดาบเพื่อบล็อคการโจมตีเป็นอันว่าการโจมตีลอบจุดบอดที่พุ่งเข้ามาจากทางด้านหลังจนขนานข้างนั้นไม่สามารถสู้ปฏิกิริยาการตอบสนองของเเจ็คสันได้

 

 

“J.A.R.V.I.S บัได้บันทึกข้อมูลปฏิกิริยิาการตอบสนองเมื่อครู่หรือไม่?”เห็นการหลบหลีกเเละการป้องกันการโจมตีของเเจ็คสันได้ผล โทนี่ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

“บันทึกเเล้วครับ ดูเหมือนชุดเกราะกลายพันธุ์จะมีการตอบสนองต่อโฮสต์ถึงอันตรายที่กำลังมุ่งหน้าเข้าหา ดังนั้นโฮสต์จึงสามารถใช้ปฏิกิริยาตอบสนองบวกกับสัญชาตญาณของชุดเกราะกลายพันธุ์ได้”

 

“อืม,ดูเหมือนเเม้จะเป็นปฏิกิริยาต่ำสุดเเต่ก็มากกว่ามนุษย์ถึง 3 เท่า นี่นับว่าประหลาดใจมากจริง ๆ หากชุดเกราะกลายพันธุ์สามารถขายทอดสู่ตลาดได้นี่จะทำให้ผลลัพธ์ที่ฉันคาดหวังไว้สำเร็จมากขึ้น”โทนี่ยิ้มที่มุมปาก

 

ติ๊ด ติ๊ด

 

ขณะที่โทนี่กำลังชื่นชมความสามารถของชุดเกราะกลายพันธุ์ จู่ ๆ เครื่องมือเเพลตฟอร์มของโทนี่ก็ปรากฏคำเชิญวิดีโอคอล มันไม่ใช่ใครอื่น เเต่เป็น กัปตันโรเจอร์ส โทนี่ ที่เห็นคำเชิญจากกัปตันโรเจอร์ส สายตาของเขาเเปรเปลี่ยนไปทันที

คิลเลี่ยนได้ยอมรับอำนาจของมายาชั่วคราวเพื่อผลการทดลองของไวรัส เอ็กซ์ทรีมิส เพราะมายาได้เเนะนำวิธีการเเก้ปัญหาเเละเพิ่มประสิทธิภาพจาก DNA ของมิวแทนท์ ขณะเดียวกัน กัปตันโรเจอร์ส ก็กำลังตรวจสอบค้นหาภายในระบบอยู่ เทคโนโลยีนี้เคยเป็นของพวกไฮดร้ามาก่อนเเต่พอพวกไฮดร้าถูกไล่ออกจากS.H.I.E.L.D. โครงการนี้ก็ตกมาอยู่ที่ S.H.I.E.L.D. แบบถาวร เเต่โครงการอินไซต์ยังไม่สมบูรณ์ เพราะถึงเเม้จะใช้ค้นหาตำเเหน่งของคนอื่นได้ เเต่มันค่อนข้างใช้เวลานานอย่างมาก กัปตันโรเจอร์ส จ้องมองภายในระบบมาเป็นระยะเวลานึงเเล้วก่อนที่เขาจะได้ผลลัพธ์ในที่สุด

 

ติ๊ด

 

“กัปตันโรเจอร์ส พบเป้าหมายเเล้วครับ!”ขณะที่กัปตันโรเจอร์สยืนด้านหลังหอควบคุม เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับคนนึงที่ดูเเลระบบก็กล่าวรายงานทันที

 

“พบใครบ้าง?”ได้ยินรายงาน กัปตันโรเจอร์ส กล่าวถามออกมา

 

“อัลดริช คิลเลี่ยน นักชีววิทยาคนนั้น เเต่หัวหน้าผู้ก่อการร้ายเเมนดารินยังไม่พบ ดูเหมือนข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาเราจะมีน้อยเกินไป ระบบจำเป็นจะต้องได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์”เจ้าหน้าที่คนนี้กล่าวรายงาน

 

“อย่างน้อยก็พบหนึ่ง ตอนนี้เขาอยู่ไหน?”

 

“นิวยอร์ก”

 

หลังจากได้ยินคำตอบของเจ้าหน้าที่คนนี้ดวงตาของกัปตันโรเจอร์สกระพริบเล็กน้อยเขาไม่คิดเลยว่า คิลเลี่ยน จะซ่อนตัวอยู่ในนิวยอร์กหลังจาก บุกถล่มบ้านโทนี่แบบนั้น”นิวยอร์ก?ที่ไหน?”

 

เเม้จะมีคนเคยพูดเอาไว้ว่าสถานที่ที่อันตรายที่สุดก็คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด เเต่นิวยอร์กที่ว่านี้อันตรายสำหรับคิลเลี่ยนมากเกินไปจริง ๆ ตราบใดที่กองทัพไอรอนแมนของโทนี่ตรวจพบเขา ธรรมชาติ คิลเลี่ยน ย่อมไม่สามารถหลบหนีได้ทัน เว้นเเต่ว่า คิลเลี่ยน ไม่ได้กลัวกองทัพไอรอนแมนของโทนี่

 

“ตรงนี้”เจ้าหน้าที่คนนี้ไม่ได้พูดสถานที่ออกมาเพียงเเต่ยื่นส่งแท็บเล็ตที่ระบุตำเเหน่งให้เท่านั้น

 

จากการตรวจสอบของระบบ คิลเลี่ยน อาศัยอยู่ในนิวยอร์กเข้าใกล้ชานเมืองของบรูคลิน ยิ่งไปกว่านั้นระบบยังตรวจสอบคิลเลี่ยนเเละผู้คนที่นั่นได้อีกด้วย

 

“สถานที่เเห่งนี้มีอะไรพิเศษมั้ย?”เห็นเครื่องหมายบนเเผนที่กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามออกมา

 

สถานที่เเห่งนั้นดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่

 

‘หรือว่าที่เเห่งนั้นมีฐานลับของคิลเลี่ยนซ่อนอยู่?’กัปตันโรเจอร์สคาดเดาในใจเล็กน้อย

 

“กัปตันโรเจอร์ส ตามข่าวข้อมูลที่เรามาพื้นที่เเถวนั้นเป็นที่ดินของสตาร์กอินดัสตรีท์สำหรับก่อสร้าง ทั้งยังเป็นสถานที่ในการสาธิตวัสดุของเราที่ซื้อมาจากอุตสาหกรรมสตาร์กในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เเต่เรื่องนี้ทางเราไม่ได้ประกาศออกไปให้คนนอกลับรู้ หลังจากวิเคราะห์เเล้วอาจเป็นไปได้ว่าที่นั่นจะเป็นสถาบันวิจัยลับของสตาร์กอินดัสตรีท์อยู่”เจ้าหน้าที่กล่าวตอบคำถามของกัปตันโรเจอร์ส

 

“พื้นที่ของสตาร์กอินดัสตรีท์?อาจจะมีความเป็นไปได้ที่ว่าที่นั่นมีสถาบันวิจัยลับซ่อนอยู่”ได้ยินคำตอบของเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับ กัปตันโรเจอร์ส คิดไม่ถึงเลยว่า คิลเลี่ยน จะกล้าขนาดนี้

 

“ฉันเข้าใจเเล้ว เริ่มทำการค้นหาเเมนดารินต่อได้เลย ส่วนเรื่อง คิลเลี่ยน ฉันจะไปบอกกับ โทนี่ เอง”กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

“ครับกัปตัน”เจ้าหน้าที่คนนั้นกลับมาทำงานของตัวเองอีกครั้ง

 

หลังจากรู้ข่าวเรื่องคิลเลี่ยนกัปตันโรเจอร์สก็ต้องการเเจ้งให้โทนี่ทราบโดยเร็วเเม้เขาจะไม่รู้ว่าโทนี่ซ่อนอะไรไว้ที่นั่นเเต่คิลเลี่ยนดูเหมือนจะมีเเผนการบางอย่าง เรื่องนี้ เขาต้องบอกให้โทนี่ รู้

 

 

ขณะเดียวกันโทนี่เองก็กำลังอยู่ในห้องปฏิบัติการใต้ดินพร้อมกับ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์พวกเขากำลังทดลองชุดเกราะกลายพันธุ์กันอยู่ ตอนนี้เเจ็คสันได้เข้ามาอยู่ในห้องกระจกที่โปร่งใสอีกทั้งตรงไหล่ของเขายังมีกล่องโลหะทรงลูกาศก์ขนาดเท่าโทรศัพท์มือถือติดเอาไว้อยู่ กล่องโลหะที่ว่านี่ไม่ทราบเเน่ชัดว่ามันคือสิ่งใด

 

“เอาล่ะเเจ็คสันเราจะเริ่มทดสอบความสามารถในการ พรางตัวก่อน เริ่มได้!”โทนี่ที่นั่งข้างปีเตอร์อยู่ที่ห้องควบคุมได้กล่าวออกมา เขาตะโกนบอกเเจ็คสันที่อยู่ภายในห้องปฏิบัติการ

 

“ฮ่าฮ่า,ฉันรอเวลานี้มานานเเล้ว!”ได้ยินคำพูดของโทนี่ ใบหน้าของเเจ็คสัน เผยให้เห็นความคาดหวังอยู่ลึก ๆ

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้น เเจ็คสันก็ได้เปิดส่วนที่ปิดกั้นเเขนทั้งสองข้างของตัวเองเเละยกมันวางข้างลำตัว

 

“เปิดใช้ ชุดเกราะกลายพันธุ์!”หลังจากเเจ็คสันวางเเขนข้างลำตัวเเล้วเขาก็กล่าวออกมา

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่เเจ็คสันตะโกนออกมากล่องโลหะที่ติดอยู่ที่เเขนของเขาก็ส่งเสียงออกมาเล็กน้อยจากนั้นกล่องโลหะก็ถูกเปิดขึ้นวัตถุสีดำได้ปรากฏออกมาจากภายในเเละเกาะอยู่ที่ไหล่ของเเจ็คสัน

 

ฟุ่บ

 

..

 

จากนั้นเเจ็คสันก็เหยียดเเขนออกไปเเละเริ่มต้นการทำงานของชุดเกราะกลายพันธุ์อย่างเป็นทางการ

 

ฟิ้ว!

 

จากนั้นร่างสีดำก็เข้าปกคลุมเเขนของเเจ็คสันในเวลาต่อมาจากนั้นมันก็ขยายจนควบคุมทั้งร่างของเเจ็คสันยกเว้นส่วนศรีษะของเขาที่มีหมวกเหล็กติดเลนส์ใส่เอาไว้อยู่

 

ทันทีที่สวมใส่ชุดเกราะกลายพันธุ์สำเร็จมุมปากของเเจ็คสันโค้งงอขึ้นเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าเขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนเเปลงบางอย่าง นอกจากนี้ โทนี่ เเละ ปีเตอร์ ที่อยู่นอกห้องพวกเขาเห็นชุดเกราะกลายพันธุ์สีดำได้เปลี่ยนสีไปอย่างรวดเร็วจนเเทบจะมองไม่ถนัด ปัจจุบัน โทนี่ เเละ ปีเตอร์ รู้สึกประหลาดใจอย่างมากเเต่พวกเขาก็ยังคงจ้องมองการทดสอบต่อไป

ในห้องปฏิบัติการของมายามีผู้คนมากกว่า 15 คน ยกเว้นมายาเเละสองนักวิจัย ที่เหลือพวกเขาเป็นทหาร เอ็กซ์ทรีมิส หากไม่นับทหารเอ็กซ์ทรีมิส สองคนที่คิลเลี่ยนจัดการเเล้ว คิลเลี่ยน รู้สึกตื่นตะลึงอย่างมาก

 

“มายา เธอกำลังทำบ้าอะไร!”พอเห็นว่าตนเองไม่สามารถควบคุมทหารเอ็กซ์ทรีมิส พวกนี้ได้ คิลเลี่ยน กล่าวถามมายาออกมา

 

สามารถที่จะเปลี่ยนสิทธิ์การควบคุมของทหารเอ็กซ์ทรีมิสได้มีเพียงมายาเท่านั้นที่จะทำได้ การที่คิลเลี่ยนไม่สามารถควบคุมทหารเอ็กซ์ทรีมิส พวกนี้ได้มันคือหายนะของเขาชัด ๆ

 

“ทำอะไร? ธรรมชาติฉันย่อมกำลังพัฒนาทหารเอ็กซ์ทรีมิส อยู่ คิลเลี่ยน คุณไม่เห็นอย่างงั้นหรอ?”เผชิญหน้ากับการสอบถามของคิลเลี่ยน มายา ไม่ได้เเสดงความอ่อนเเอออกมาเธอกล่าวบอก คิลเลี่ยน โดยตรง

 

“พัฒนาทหารเอ็กซ์ทรีมิส ? มนุษย์ทดลองจำนวนมากขนาดนี้เธอหามาจากไหน?…หรือว่า เธอ! เเมนดาริน กับ เธอ…”ภายใต้การคาดเดาของคิลเลี่ยน เขาโกรธออกมาทันที

 

เนื่องเพราะสถานที่เเห่งนี้เป็นสถานที่อาสาสมัครบ่อยครั้งจะมีมนุษย์ทดลองเข้ามาให้พวกเขาทำการทดลอง เพียงเเต่เเม้เเต่คิลเลี่ยนก็ยังหาได้เพียงเเค่ 3 คน เเต่ มายา กลับสามารถหาได้จำนวนมาก คิลเลี่ยน เข้าใจทุกอย่างทันที เพราะมายาได้บรรลุข้อตกลงกับเเมนดาริน เเละ สร้างทหารเอ็กซ์ทรีมิส หลายคน ทั้งทหารเอ็กซ์ทรีมิส เหล่านี้ ยังไม่ตกอยู่ในการควบคุมของคิลเลี่ยนอีกด้วย

 

“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่โง่เกินไป เช่นนั้น คิลเลี่ยน คุณคงรู้นะว่าจะต้องวางตัวอย่างไร?”มายากล่าวตอบคิลเลี่ยนด้วยรอยยิ้ม

 

เดิมมายาเคยเป็นลูกน้องของคิลเลี่ยนมาก่อน เเต่เธอไม่พอใจวิธีการอันบ้าคลั่งของคิลเลี่ยน การบุกโจมตีไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ก ก็ล้มเหลวไปเเล้ว เธอไม่มีความจำเป็นจะต้องร่วมมือกับคิลเลี่ยนอีก ตอนนี้ เธอได้บรรลุข้อตกลงกับเเมนดาริน ทั้งยังสามารถสร้างทหารเอ็กซ์ทรีมิส จำนวนมากขึ้นมาได้ ตอนนี้ เธอไม่ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของใครอีกเเล้ว เธอคือราชินีของสถานที่เเห่งนี้

 

“มายา เธอ…นังสารเลว”คิลเลี่ยนไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินได้เขาจ้องมองไปที่มายาด้วยดวงตาสีเเดงก่ำ

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่คิลเลี่ยนเตรียมจะเคลื่อนไหวไปจัดการมายา ทหารเอ็กซ์ทรีมิส จำนวนมากก็มายืนบังที่ด้านหน้าของเขาพร้อมทั้งปิดกั้นร่างของ มายา เอาไว้ คิลเลี่ยน รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก ระดับเอ็กซ์ทรีมิส ของคิลเลี่ยน เเน่นอนว่าสูงกว่าทหารเอ็กซ์ทรีมิส เหล่านี้ เเต่เขาไม่สามารถควบคุมทหารเอ็กซ์ทรีมิส เหล่านี้ได้ทั้งยังไม่สามารถรับมือกับทหารจำนวนมากได้อีก ดังนั้นหาก คิลเลี่ยน ต้องการโจมตี มายา เกรงว่าเขาคงจะไม่สามารถทำได้สำเร็จ

 

หึ่ม!

 

คิลเลี่ยนจ้องมองไปที่ทหารเอ็กซ์ทรีมิส หลายคน ตอนนี้ดวงตาสีเเดงก่ำของเขาค่อย ๆ หายไปในที่สุด ดูเหมือนเขาจะประเมิน มายา ต่ำไป ไม่คาดคิดว่า มายา จะหักหลังเขาแบบนี้

 

“ฮิฮิ ไม่ต้องใช้กำลังกันหรอก ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะบรรลุข้อตกลงกับ มิสเตอร์ เเมนดาริน ได้ ก็ดี เช่นนั้นพวกเราจะได้พัฒนาองค์กรของเราได้ง่ายขึ้น”

 

คิลเลี่ยนไม่ได้โง่ ตอนนี้เขาได้เเต่ยอมรับความพ่ายเเพ้ เเต่เขาคิดอะไรในใจย่อมไม่มีใครรู้ เห็นการเปลี่ยนเเปลงของคิลเลี่ยน เเน่นอนว่าเเม้เเต่มายาก็ยังประหลาดใจ เธอไม่คาดคิดว่า คิลเลี่ยน จะยอมง่ายขนาดนี้

 

“คิลเลี่ยน คุณพูดได้ดี”มายาโบกมือให้ทหาร เอ็กซ์ทรีมิส ถอยห่างออกไปเล็กน้อย

 

“มายา การทดลองของเธอมีความคืบหน้าหรือไม่?”หลังจากที่สงบสติอารมณ์ได้เเล้ว คิลเลี่ยน ก็กล่าวถาม มายาถึงผลลัพธ์ของการทดลอง

 

“ความคืบหน้าเเน่นอนว่าย่อมมี ความเสถียรของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ได้รับการเเก้ไขไปหลายส่วนเเล้ว คิลเลี่ยน คุณคิดว่าอะไรคือปัญหาหลักของสาเหตุเล่า?”มายา กล่าวถาม คิลเลี่ยน

 

“รูปแบบการบิดเบือนสาเหตุที่ทำให้ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ไม่เสถียรก็คือรูปแบบการบิดเบือน”คิลเลี่ยน กล่าวตอบ

 

“ใช่เเล้ว ฉันได้เผชิญหน้ากับสาเหตุดังกล่าว เเละเเก้ไขมันไปเเล้ว เหตุผลที่รูปแบบการบิดเบือนมีปัญหาก็เพราะสสารในร่างกายมนุษย์ไม่สามารถเเบกรับพลังของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ได้ทั้งหมด”มายากล่าวตอบ

 

“หืม?เเก้ปัญหาได้เเล้ว?”ได้ยินว่ามายาเเก้ไขปัญหานี้ได้เเล้ว คิลเลี่ยน รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เขาได้เผชิญหน้ากับความผิดพลาดมาหลายครั้งเเต่ก็ยังไม่สามารถเเก้ไขปัญหาได้สำเร็จ คิลเลี่ยน ไม่อยากจะเชื่อว่า มายา จะค้นพบวิธีเเก้ไขเร็วขนาดนี้

 

“ดูเหมือนคุณจะเริ่มสนใจเเล้วสินะ? เอาเป็นว่าคุณดูนี่เเล้วกัน”เห็นอาการเเปลกใจของคิลเลี่ยน มายายกมุมปากยิ้มขึ้นทันที ก่อนที่จะโยนเเพลตฟอร์มทดสอบไปที่คิลเลี่ยน

 

ฟุ่บ!

 

คิลเลี่ยนรับเเพลตฟอร์มทดสอบมาก่อนที่จะตรวจดูข้อมูลภายใน

 

“นี่มัน! ดีเอ็นเอของ มิวแทนท์?”จ้องมองไปที่ข้อมูลภายใน คิลเลี่ยน ตะโกนออกมาอย่างประหลาดใจ

 

“มันเป็นวิธีที่จะช่วยเหลือเเก้ไขปัญหาของเรา”

 

 

ปั้ง!

 

ทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนั้นได้ทำการทดสอบต่อโดยการยกเเขนยักษ์ชกไปที่เครื่องมือเหล็กขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียงจนเกิดเสียงดังลั่น ความเเข็งเเกร่งของเเขนสัตว์ประหลาดข้างนี้สามารถทุบทำลายเหล็กกล้าให้เเยกออกจากกันได้ ทั้งเเขนสัตว์ประหลาดข้างนี้ยังไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ อีก

 

“ฮ่าฮ่า”ขณะนั้นเองทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนั้นก็เหมือนกับรู้สึกเกิดใหม่เขาหัวเราะให้กับเเขนยักษ์ของตัวเองพละกำลังเหนือมนุษย์ที่เขาครอบครองตอนนี้ถึงเเขนจะดูเหมือนสัตว์ประหลาดเเล้วอย่างไรเขาไม่สนใจอะไรอีกเเล้ว

 

“ดูเหมือนการทดลองของเราจะประสบความสำเร็จเเละคืบหน้าไปมาก ปัจจุบัน นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส”เห็นทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนั้นหัวเราะออกมา คิลเลี่ยน ได้กล่าวกับนักวิจัย

 

“เเน่นอน! ที่เหลือก็เเก้ความไม่เสถียรเเละเปลี่ยนเเปลงปริมาณของตัวยาของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส เท่านี้ก็เป็นอันสมบูรณ์แบบ”นักวิจัยคนนี้กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่คิลเลี่ยนเเละนักวิจัยคนอื่น ๆ กำลังหัวเราะกับผลลัพธ์การทดลอง จู่ ๆ ทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนั้นก็ราวกับพบความประหลาดใจ การเคลื่อนไหวเเขนยักษ์ของเขาได้หยุดลงอย่างช้า ๆ จนเขาไม่สามารถตอบสนองต่อเเขนของตัวเองได้อีก

 

เห็นทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนั้นไม่เล่นกับเเขนยักษ์นั่นต่อ คิลเลี่ยน เเละ นักวิจัย ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาคิดว่า ทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนั้นบางทีอาจจะเหนื่อย เพราะการทดลองในครั้งนี้ยังอยู่ในช่วงปรับปรุงจะไม่เเปลถ้าหากการเคลื่อนไหวต่าง ๆ จะใช้พลังงานที่มากกว่าปกติ

 

“ไม่…นี่มันไม่ใช่เเล้ว!”คิลเลี่ยนเเละนักวิจัยจ้องมองไปที่เเขนยักษ์ของทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้นเเละกล่าวออกมา

 

หึ่ม~~

 

ขณะนั้นเองเเขนยักษ์นั่นก็ปล่อยลำเเสงสีเเดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด การปรากฏขึ้นอย่างกระทันหันของเเสงสีเเดงนี้ทำให้ทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้นรู้สึกใจคอไม่ดี

 

“…”เห็นเเสงสีเเดงที่ปรากฏขึ้นที่เเขนมากขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาของคิลเลี่ยน เผยเเววเย็นชาออกมา

 

“ช่วยฉันด้วย! ช่วยด้วย! ฉันไม่สามารถควบคุมมันได้”ทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้นเริ่มร้องตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่งเขาต้องการความช่วยเหลือ

 

ทันทีที่เเขนยักษ์ของเขาเปลี่ยนเเปลงไปเขาก็รู้สึกได้เลยว่าตนเองไม่สามารถควบคุมเเขนข้างนั้นได้อีกเเล้วการเปลี่ยนเเปลงที่เกิดขึ้นได้ปลดปล่อยเเสงสีเเดงของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ออกมาจากนั้นมันก็เเดงขึ้นเรื่อย ๆ จนเขาเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองกำลังตกอยู่ในมรสุมเปลวเพลิง

 

“เขากำลังอยู่ในสภาวะไม่มั่นคง! เขากำลังจะระเบิดทำลายตนเอง!”เห็นทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้นร้องขอให้ช่วย นักวิจัยได้ตรวจสอบข้อมูลที่คอมพิวเตอร์เเละพบผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด

 

“ช่วยฉันด้วย!”หลังจากได้ยินข้อสรุปของนักวิจัยคนนั้น ทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนี้ตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวังเเละจ้องมองไปที่คิลเลี่ยน

 

“เสียใจด้วย พวกล้มเหลว ผลลัพธ์ก็คือความตายอย่างเดียว”เห็นเเขนสีเเดงของทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้น คิลเลี่ยนไม่ได้สนใจอีกเขายกปืนพกออกมาก่อนที่จะระดมยิงออกไป

 

ปั้ง ปั้ งปั้ง

 

พริบตาที่กระสุนถูกยิงออกไปมันก็ได้ปิดชีวิตของทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้นเรียบร้อย

 

“เวรเอ้ย! รีบออกจากที่นี่เร็วเข้า!”หลังจากผ่านไปหลายวินาที คิลเลี่ยน ได้ตะโกนออกมา

 

กระสุนที่คิลเลี่ยนยิงออกไปสามนัดนั้นได้ทำลายศีรษะของทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้นถ้าหากสูญเสียอวัยวะส่วนศีรษะไปเเม้จะเป็นการรักษาของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ก็ไม่มีผล ตอนนี้ ร่างกายของทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้นได้ตายไปเเล้วเเต่ดูเหมือนว่าไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส จะยังคงทำงานอยู่

 

เเขนยักษ์สีเเดงข้างนั้นได้เเดงฉานมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ทหารเอ็กซ์ทรีมิส ก็ได้ตายไปเเล้วไม่มีใครสามารถควบคุมเหตุการณ์ครั้งนี้ได้อีก หากรั้งอยู่ที่นี่ เกรงว่ารัศมีระเบิดจะเผาทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า

 

บึ้ม!

 

ขณะที่พวกคิลเลี่ยนวิ่งออกจากห้องปฏิบัติการด้านหลังของเขาก็มีรัศมีพลังระเบิดที่รุนเเรงการระเบิดครั้งนี้ส่งผลให้ห้องปฏิบัติการทั้งหมดถูกพังจนเหลือเเต่ซาก สำหรับนักวิจัยคนอื่น ๆ เเล้วก็ยังมีบางคนที่หนีไม่ทัน เขาได้ฝังร่างไปพร้อมกับทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้น

 

หลังจากคลื่นระเบิดได้เริ่มเบาลงเงาร่างนึงได้คลานออกมาจากพื้นดิน นี่คือคิลเลี่ยน เสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่งจนเผยให้เห็นร่างที่มีกล้ามมัดเเละดูมีเสน่ห์

 

ส่วนอื่น ๆ ที่ร่างกายของคิลเลี่ยนได้รับบาดเจ็บ ผลของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ได้ช่วยรักษาเขาอย่างรวดเร็ว

 

คิลเลี่ยนจ้องมองไปที่ห้องเเล็บที่ถูกทำลายลงตอนนี้อารมณ์ของคิลเลี่ยนโกรธอย่างมากเขาได้สูญเสียมนุษย์ทดลองเเละนักวิจัยไปหลายคนตอนนี้ เขาไม่สามารถที่จะพัฒนาความคืบหน้าของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ต่อได้

 

“หึ่ม! มายา นังผู้หญิงราคาถูก”คิลเลี่ยนรู้ดีว่านี่บางทีอาจเป็นเเผนของมายา

 

 

ขณะที่คิลเลี่ยนกำลังมุ่งหน้าไปหามายา,ทางด้านมายาทันทีที่เธอได้ยินเสียงระเบิด สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป เธอเหลือเวลา 3 นาทีก่อนที่จะเปลี่ยนข้อมูลของทหารเอ็กซ์ทรีมิส เหล่านี้ เดิมทหารเอ็กซ์ทรีมิส เหล่านี้จะถูกสั่งการโดยคิลเลี่ยน เเต่เธอกำลังเปลี่ยนคนสั่งการอยู่

 

ทหารเอ็กซ์ทรีมิส ทุกคนเดิมจะอยู่ภายใต้การควบคุมของคิลเลี่ยน หากคิลเลี่ยนไม่สามารถควบคุมคนเหล่านี้ได้ก็ไม่มีทางที่จะดำเนินการตามเเผนที่ตนเองวางเอาไว้

 

ขณะที่คิลเลี่ยนวิ่งมาถึงใกล้ห้องทำงานของมายาเขาก็ถูกบล็อคโดยทหารเอ็กซ์ทรีมิส สองคน ดูเหมือนเขาจะไม่สามารถควบคุมทั้งสองคนนี้ มันทำให้ คิลเลี่ยน รู้สึกเเปลกใจไม่ใช่น้อย

 

ปั้ง

 

ตอนนี้คำถามจำนวนมากกำลังตราตึงในหัวของเขาคิลเลี่ยนได้จัดการทหารเอ็กซ์ทรีมิส ทั้งสองคนก่อนที่จะบุกไปถึงห้องทำงานของมายาสำเร็จ เเต่ขณะนั้นเองเขากลับเเสดงความประหลาดใจบนใบหน้าเพราะนอกเหนือจากทหารเอ็กซ์ทรีมิส ที่อยู่ด้านนอกที่เขาไม่สามารถควบคุมได้เเล้ว ทหารเอ็กซ์ทรีมิส ที่อยู่ด้านในเขาก็ไม่สามารถควบคุมได้เหมือนกัน

 

ปั้ง

 

หลังจากกระสุนปืนถูกลั่นยิงออกไป ทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้นก็พบว่าเเขนขวาของเขาถูกยิง โดยปกติเเล้วปืนพกธรรมดาเมื่อถูกยิงออกไปกระสุนจะทะลุเพียงเเค่ไม่กี่มิลเท่านั้นเเต่เเขนของทหารเอ็กซ์ทรีมิสที่โดนปืนพกของคิลเลี่ยนยิงกลับทะลุเป็นช่องโหว่ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นปืนพกรูปแบบใหม่ของคิลเลี่ยน

 

“คุณทำอะไรหน่ะ?”เห็นเเขนของตัวเองที่เพื่อฟื้นฟูขึ้นมา กลับถูกคิลเลี่ยนยิง ทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนี้ตะโกนถามออกมา

 

ขณะที่เขาถูกคิลเลี่ยนทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนี้กลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเเม้เเต่น้อย

 

!

 

จากนั้นไม่นานผลของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสก็เริ่มออกอาการมันเริ่มฟื้นฟูสภาพเเขนที่ถูกทำลายอย่างรวดเร็วให้กลับมาอีกครั้งเเสงสีเเดงได้ไหลผ่านเเขนขวาจนมันกลับมาเป็นปกติ

 

ฟุ่บ!

 

“อะไรนายลืมเรื่องการทดลองไปเเล้วงั้นหรอ?อย่าคิดว่าที่ฉันทำให้เเขนนายกลับมาได้เเล้วมันจะจบ”คิลเลี่ยนกล่าวออกมาเขาจ้องมองไปที่ทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้น

 

“คุณเรียกนี่ว่าการทดลอง?คุณกล้าทำเรื่องบ้า ๆ เเบบนี้งั้นหรอ!!”เห็นคิลเลี่ยนจ้องมองมาที่ตัวเอง ทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนี้กล่าวตะโกนตอบกลับ

 

“อะไร?หรือว่านายไม่ต้องการทดสอบอีกเเล้ว”เห็นการเเสดงออกของทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนี้ น้ำเสียงของคิลเลี่ยนเเปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที

 

“เอ่อ…ไม่ ๆ ฉันจะร่วมทดสอบต่อ!”เห็นน้ำเสียงที่เย็นชาของคิลเลี่ยน ทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนี้พยักหน้าอย่างเร่งรีบ หากเขาไม่เต็มใจจะทำต่อ เเน่นอนว่า คิลเลี่ยน อาจสามารถฆ่าเขาได้ในตอนนี้

 

“เริ่มการทดสอบต่อ,อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ”หลังจากนั้นทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนั้นก็เดินไปนั่งบนเตียงทดสอบอีกครั้ง น้ำเสียงของคิลเลี่ยนเองก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นไม่นานนักวิจัยก็เริ่มขยับเเขนกลเดินเครื่องเพื่อที่จะทำการทดลองต่อไปไม่นานเเขนกลที่ติดกับใบมีดก็พุ่งเข้าไปตัดเเขนของทหาร เอ็กซ์ทรีมิส คนนั้น

 

“พยายามได้ดี”เห็นทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนั้นไม่มีท่าทีดิ้นรนขัดขืน คิลเลี่ยน ยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็ให้นักวิจัยบันทึกผลการทดสอบอีกครั้ง

 

ตึก ตึก!

 

เสียงหัวใจของทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนี้เต้นรัวไม่เป็นจังหวะพริบตาที่เเขนของเขาถูกตัดอีกครั้งช่วงนั้นเขาได้หลับตาลงเเต่พอสัมผัสได้ว่าเเขนของตนเองหายไปเเล้ว เขาก็เปิดตาสองข้างอีกครั้ง คราวนี้เขาเห็นเเสงสีเเดงวิ่งผ่านไปทั่วเเขนของเขา

 

!

 

จากนั้นเเขนของเขาก็ถูกกู้คืนกลับมาอีกครั้งด้วยผลของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสเพียงเเต่ว่าการกู้คืนครั้งนี้เหมือนจะเเตกต่างเล็กน้อย เทียบกับเเขนที่ผ่านมาโครงสร้างของกระดูกเเละกล้ามเนื้อในคราวนี้กลับมีความยาวเเละเเข็งเเกร่งกว่าเดิมมาก

 

“!!!”ในขณะที่เเขนของเขางอกกลับมาใหม่อีกครั้งทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนี้ร้องออกมอย่างเจ็บปวดการฟื้นฟูสภาพเเขนของเขาก็ยังคงดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ

 

เห็นการฟื้นฟูที่กลับมามีสภาพที่เเข็งเเกร่งกว่าเดิม ดวงตาของ คิลเลี่ยน เผยให้เห็นถึงความบ้าคลั่ง ผลกระทบจากไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายมนุษย์เเละไม่ทำให้ร่างกายรู้สึกเจ็บปวด เเต่ผลลัพธ์คราวนี้เหนือกว่าที่เขาคาดไว้มาก ปัจจุบันเเขนของทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนั้นกำลังงอกกลับมาใหม่เเม้จะใช้เวลานานกว่าเดิมเเต่โครงสร้างทั้งหมดกลับสมบูรณ์แบบกว่าอย่างเห็นได้ชัด

 

นี่คือผลลัพธ์ที่วิเศษของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสคือผลลัพธ์ที่คิลเลี่ยนต้องการอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

ภายใต้การจับจ้องของคิลเลี่ยนเเละนักวิจัยเเขนของทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนั้นก็งอกจนเสร็จสมบูรณ์เเขนขวาที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบที่สุดในการฟื้นฟูการรักษาทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนั้นจ้องมองไปที่เเขนของตัวเองก่อนที่จะมองไปที่บุคคลรอบนอก

 

“อึก!”เมื่อครู่นี้เขาได้ทนความเจ็บปวดขนานใหญ่ที่สุดจนเเขนของเขาได้งอกกลับมาเหมือนเดิมเพียงเเต่ว่าเเขนของเขาในคราวนี้มันค่อนข้างเเตกต่างจากครั้งก่อน

 

เพราะคราวนี้หากจะเรียกว่าเเขนของมนุษย์ปกติก็ไม่ถูกเพราะโครงสร้างของกระดูกเเละกล้ามเนื้อมันเหนือชั้นกว่าเเขนของคนปกติมาก

 

เเขนคนเราปกติจะยาวประมาณ 1 เมตร เเต่เเขนที่งอกมาใหม่นี้กลับมีความยาวมากกว่า 5เมตร มันยาวจนกระทั่งเเตะพื้นได้ทั้งสภาพผิวของเเขนยังเหมือนกับเกราะใสที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อดูเเล้วนี่เหมือนกับเเขนของสัตว์ประหลาดมากกว่าเเขนที่ใหญ่เเละยาวขนาดนี้ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ปกติควรจะมี

 

“เเขนที่สมบูรณ์แบบ! นี่เป็นผลลัพธ์ที่น่ากลัวของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส!”

 

นักวิจัยที่อยู่ใกล้เคียงบ่นพึมพัมออกมา

 

นี่คือสิ่งที่เรียกว่าไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส สามารถเปลี่ยนเเปลงร่างกายมนุษย์ให้กลายเป็นเครื่องจักรต่อสู้ได้ ด้วยพลังโจมตีอันยิ่งใหญ่ในการควบคุมอุณหภูมิความร้อนเเละความสามารถการฟื้นฟูตัวที่รวดเร็ว ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสสามารถที่จะสร้างทหารหรือกองทัพที่เเข็งเเกร่งขึ้นมาได้

 

ตอนนี้กระบวนการเพียงเเค่เปลี่ยนเเขนให้พัฒนาเเละเเข็งเเกร่งขึ้่นเพียงเท่านั้นหากต้องการปรับร่างกายให้สมดุลเท่ากับเเขน คิลเลี่ยน จำเป็นจะต้องใช้ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสที่เเรงมากขึ้น ทั้งเขายังต้องฝ่าอุปสรรคจำนวนมาก นี่เป็นปัญหาที่ยากลำบากที่คิลเลี่ยนต้องเอาชนะมัน

 

“ลองพยายามควบคุมเเขนนี่ดู”หลังจากชื่นชมเเขนสัตว์ประหลาดนี่เสร็จ นักวิจัย ได้กล่าวบอกทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้น

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำพูดของนักวิจัยทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนี้จ้องมองไปที่เเขนยักษ์ของเขาเดิมเขารู้สึกว่ามันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของร่างกายมันเป็นเเขนของสัตว์ประหลาดชัด ๆ เเต่พอเขาลองขยับ น้ำหนักที่เขาสัมผัสได้ไม่ต่างจากน้ำหนักของเเขนปกติทั้งยังเหมือนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเขา

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นภายใต้การจ้องมองของ คิลเลี่ยน เเละ นักวิจัย ทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้นได้พยายามควบคุมเเขนสัตว์ประหลาดของตัวเองเพื่อทำการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ ดูเเล้วไม่มีความติดขัดเเม้เเต่น้อย

 

“ดูเหมือนการทดลองในครั้งนี้ของพวกเราจะประสบความสำเร็จ”นักวิจัยที่เห็นเช่นนั้นโพรงตะโกนดีใจออกมา

 

เเม้เเต่คิลเลี่ยนเองก็ยังประหลาดใจด้วยเเขนอันสมบูรณ์แบบนี้เขาเชื่อว่าทหารเอ็กซ์ทรีมิสของเขาสามารถที่จะจัดการกับไอรอนแมนได้ง่ายมากขึ้น

หลังจากขู่มายาสำเจ คิลเลี่ยน เเละ พรรคพวกอีกหลายคนก็เข้าสู่ห้องลับภายในฐานลับเเห่งนี้ดูเหมือนมันจะเป็นห้องปฏิบัติการที่ค่อนข้างรกมาก เเต่นี่ก็คือห้องปฏิบัติการสร้างไวรัส เอ็กซ์ทรีมิส เขาเเละลูกทีมได้ทำการศึกษาภายใต้สภาพเเวดล้อมเช่นนี้ ตอนนี้ คิลเลี่ยน กำลังเริ่มทดสอบการเพิ่มประสิทธืภาพขั้นสุดท้ายของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส

 

เเม้ว่าไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสในตอนนี้จะสามารถช่วยเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งให้กับร่างกายมนุษย์ทั้งยังมีประสิทธิภาพการรักษาที่น่าเหลือเชื่อความสามารถด้านโจมตีของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสเพียงพอที่จะละลายโลหะที่เเข็งเเกร่งจำนวนมากด้วยอุณหภูมิระดับสูงได้ เเต่มันก็ยังมีปัญหาร้ายเเรงที่สุด นั่นก็คือ ความไม่เสถียร ตอนนี้ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสไม่เสถียรเเละเมื่อไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมีโอกาสที่จะทำให้ร่างกายของทหารเอ็กซ์ทรีมิสระเบิดเเละอันตรายถึงชีวิตดังนั้นคิลเลี่ยนจึงต้องการปรับปรุงความไม่เสถียรนี้หลังจากนี้ในเวลาอันสั้นเขาจะสามารถสร้างทหารเอ็กซ์ทรีมิสที่น่าเกรงขามขึ้นได้มากหลายคน

 

ฮึ่ม!

 

ในห้องปฏิบัติการมีเตียงอยู่จำนวนมากทั้งนักวิจัยหลายคนก็เข้าเริ่มทำการทดลองกับหน่วยทดลองทหารเอ็กซ์ทรีมิส ธรรมชาติคนเหล่านี้เป็นคนสมัครใจด้วยตัวเองเพราะเขาสูญเสียอวัยวะที่สำคัญของร่างกายไปในสนามรบ คิลเลี่ยน ค้นหาคนเหล่านี้ เเละมอบโอกาสให้กับเขาตอนนี้คิลเลี่ยนเหมือนกับพระมาโปรดที่บอกสัญญาจะคืนชีวิตปกติให้กับเขา

 

หลังจากฉีดไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสเข้าสู่ร่างกายของคนเหล่านี้เขาก็ฉีดยาควบคุมชนิดพิเศษเข้าไปด้วยเพื่อให้คิลเลี่ยนสามารถควบคุมคนเหล่านี้ได้ในฐานะทหารเอ็กซ์ทรีมิสของเขา ยาควบคุมพิเศษนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำการศึกษาต่อจากตอนที่สร้างไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสขึ้นมามันสามารถบ่งการจิตของคนที่ถูกฉีดเข้าไปด้วยวิธีการบางอย่าง

 

“เริ่มต้นทำการทดลองสร้างทหารเอ็กซ์ทรีมิสชุดเเรก!”ขณะที่คิลเลี่ยนกำลังคิดหาวิธีจัดการโทนี่ในห้องปฏิบัติการเขาก็พยายามจะเริ่มต้นการทดลองให้เร็วที่สุดเเละประสบความสำเร็จโดยเร็ว

 

ฟุบ!

 

นักวิจัยจำนวนมากเริ่มบังคับเเขนกลที่มีเข็มฝังเอาไว้อยู่เขาได้เคลื่อนมันไปยังตำเเหน่งเตียงที่เหล่าผู้อาสาสมัครนอนอยู่

 

ฟุ่บ!

 

ในที่สุดเข็มก็เเทงเข้าไปที่เเขนขวาของผู้อาสาสมัครเหล่านั้น

 

~

 

ของเหลวสีเเดงได้ไหลผ่านร่างกายของคนเหล่านั้นพร้อมกับเผยให้เห็นกล้ามเนื้อโครงกระดูกจากนั้นไม่นานกระดูกที่เเตกหักหรือกล้ามเนื้อที่เสียหายก็เริ่มฟื้นฟูกลับมา

 

“ฟู่วว!!”พลังงานสีเเดงนั้นช่วยรักษาคนเหล่านี้เเต่ดูเหมือนเขาจะตะโกนร้องอย่างเจ็บปวด

 

!

 

พริบตาที่ของเหลวสีเเดงเข้าสู่ร่างกาย เขาราวกับว่ากำลังตกไปอยู่ท่ามกลางเปลวไฟอย่างไงยังงั้นความเจ็บปวดระดับนี้เเม้เเต่ทหารกล้าก็ยังที่ต้องอวดครวญออกมา เพียงเเต่หลังจากเห็นส่วนที่ซ่อมเเซมเเละร่างกายของตนเองกลับมาเป็นปกติสายตาของคนจำนวนมากก็เปลี่ยนเป็นตื่นตะลึงโดยสมบูรณ์

 

เดิมส่วนกระดูกที่เเตกหักหรือถูกทำลายไปเเล้วไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะนำมันกลับคืนมาได้เเต่การทดลองครั้งนี้เป็นปาฏิหาริย์มันราวกับเวทมนตร์เเห่งการรักษาก็ไม่ผิด

 

นักวิจัยจำนวนมากไม่ได้สนใจกับขั้นการรักษาร่างกายเขาต้องการผลลัพธ์หลังจากนี้ต่างหาก

 

ผ่านไปหนึ่งนาทีหลังจากที่เเสงสีเเดงได้สร้างเเขนขวากลับมาใหม่เเม้เเขนข้างนั้นจะเพิ่งงอกออกมาเเต่มันกลับไม่ได้มีความรู้สึกที่ดูเเปลกเเม้เเต่น้อยทั้งตัวของเขายังสามารถสัมผัสถึงความเเข็งเเกร่งของเเขนข้างนี้ได้อย่างชัดเจน

 

ขณะที่ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ได้ช่วยสร้างเเขนขวาของเขาให้กลับมาใหม่อีกครั้งในห้องปฏิบัติการทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนี้เเทบจะลนลานด้วยความดีใจ

 

“ฉันสัมผัสได้…ความเเข็งเเกร่งของเเขนนี้…มันน่าอัศจรรย์มาก”หลังจากผลของเอ็กซ์ทรีมิส สิ้นสุดลงทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนี้ก็ตะโกนออกมา

 

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

 

จากนั้นคนคนนี้ก็ใช้ความเเข็งเเกร่งที่ตนเองได้รับมาลองทดสอบดูเขาสามารถหลุดออกจากสายรัดที่พันรัดเขาอยู่บนเตียงได้มันคือพละกำลังอันน่าเหลือเชื่อ

 

“ฉันรู้สึกว่าฉันมีพละกำลังมากกว่าเดิมเสียอีก!”หลังจากนั้นเขาก็พยายามลองกำเเขนเเละลองชกต่อยออกไปดูสภาพเเละท่าทีของเขาเหมือนกับคนบ้าไม่มีผิด

 

เพียงเเต่นักวิจัยเเละคิลเลี่ยนกลับไม่ได้มีความตกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้เเม้เเต่น้อยการสร้างทหารเอ็กซ์ทรีมิส มีความล้มเหลวต่ำมาก โอกาสที่พวกเขาจะสร้างทหารเหล่านี้มีมากขึ้นเเต่ก็ยังติดปัญหาเรื่องความเสถียรอย่างที่เขากังวล

 

หากคนคนนี้เกิดการระเบิดขึ้นมาห้องวิจัยเเห่งนี้จะต้องถูกทำลายอย่างเเน่นอน

 

“ว่าไง ได้ข้อมูลมามั้ย?”จ้องมองไปที่ทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนใหม่ คิลเลี่ยน กล่าวถามนักวิจัยคนนึง

 

“ผลออกมาเเล้ว คราวนี้ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส มีความมั่นคงเเละเสถียรขึ้นเล็กน้อยดูเหมือนพวกเราจะมาถูกทางเเล้วตราบใดที่พวกเขายังคงเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องมันจะกลายเป็นตัวยาที่สามารถพัฒนามนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด”นักวิจัยคนนี้กล่าวตอบ

 

เมื่อเทียบกับสัตว์ประหลาดกิ้งก่า ดร.คอนเนอร์ส ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ถือว่ามีประสิทธิภาพฟื้นฟูเร็วกว่ามากทั้งยังอยู่ในขอบเขตที่เป็นของมนุษย์ การศึกษา ของ ดร.คอนเนอร์ส ผลงานของเขาเป็นความพยายามประเภทนึง เเต่ถ้ามาเทียบกับไวรัส เอ็กซ์ทรีมิส นี้เกรงว่ามันคงจะห่างชั้นอย่างมาก

 

“ปัจจุบันหนูทดลองของเราไม่เพียงพอพวกเราตองหาเพิ่ม”ได้ยินคำตอบของนักวิจัย ดวงตาของ คิลเลี่ยน เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

 

“การทดลองของเราจำเป็นจะต้องมีผู้ทดลองมากกว่านี้ ทางที่ดีให้ มิสเตอร์ เเมนดาริน ช่วยเรื่องนี้ก็คงได้”นักวิจัยกล่าวตอบคำถาม

 

“ไม่ต้อง ไม่มีหนูทดลองเเล้วอย่างไร ฉันจะเเก้ปัญหานี้เอง”ได้ยินชื่อของเเมนดาริน คิลเลี่ยน ถลึงสายตาใส่นักวิจัยคนนั้น

 

“พวกเราจะดำเนินการทดสอบขั้นต่อไปกันเลย”ขณะที่เขากล่าว คิลเลี่ยน ก็ดึงปืนพกออกมาก่อนที่จะเล็งยิงไปที่เเขนขวาของทหารเอ็กซ์ทรีมิส คนนั้น

 

ปั้ง

หลังจากผ่านไปสิบนาทีการสนทนาทางวิดิโอของ โทนี่ เเละ กัปตันโรเจอร์ส ก็สิ้นสุดลง หลังจากวางสาย สีหน้าของกัปตันโรเจอร์สกลายเป็นจริงจังทันที เพราะเรื่องที่โทนี่บอกเขามันถือเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศสหรัฐอเมริกา

 

“ดูเหมือนฉันจะต้องตรวจสอบรองประธานาธิบดีคนนี้ เเม้ว่าข่าวที่มิราจไนท์ได้มาจะเเม่นยำเสมอ เเต่ฉันก็ต้องการเห็นด้วยตาของตัวเองไม่งั้นหากพลาดไปฉันคงไม่มีข้อเเก้ตัวในการรับรองเป็นเเน่”กัปตันโรเจอร์สถอนหายใจออกมา

 

โทนี่ ให้ กัปตันโรเจอร์สช่วยสืบเรื่องของ คิลเลี่ยน เเละ เเมนดาริน คนเหล่านี้เป็นภัยคุกคามเบื้องต้นที่ต้องกำจัด เเละเมื่อกัปตันโรเจอร์สได้ข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาให้รีบติดต่อ โทนี่ โดยเร็ว เดิม กัปตันโรเจอร์ส ไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องทางการเมืองเเต่นี่เกี่ยวพันถึงประเทศชาติเขาคงปล่อยไว้ไม่ได้

 

เพราะทหารเอ็กซ์ทรีมิส เเม้จะไม่เป็นภัยคุกคามอย่าง S.H.I.E.L.D. เเต่มันสามารถสร้างการจลาจลพร้อมกับทำให้ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องตกตายดังนั้นกัปตันโรเจอร์สจำต้องเข้าไปเกี่ยวข้องรวมถึงเรื่องรองประธานาธิบดีด้วย

 

เขาจำต้องสืบตามที่ข้อมูลที่มิราจไนท์ให้มาเกี่ยวกับรองประธานาธิบดี เเม้คนคนนี้ จะไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายนึงเเต่ดูเหมือนเขาพร้อมจะเเปรพักษ์ได้ทุกเมื่อ เมื่อได้รับผลประโยชน์

 

จากนั้นไม่นานกัปตันโรเจอร์สก็เปิดระบบเซิฟเวอร์ของเขาเพื่อทำการค้นหาเป้าหมาย อัลดริช คิลเลี่ยน เเละ เเมนดาริน ส่วนในเรื่องของรองประธานาธิบดี เขาค่อยใช้อำนาจของ องค์กร S.H.I.E.L.D. ในการตรวจสอบภายหลัง บางทีเรื่องนี้อาจไม่ต้องถึงมือกัปตันโรเจอร์ส เพราะเรื่องการตรวจสอบ กัปตันโรเจอร์สคิดว่า นาตาชา คงเหมาะสมกับภารกิจนี้มากที่สุด เเละ เธอกำลังกลับมาพร้อมกับ ดร.เเบนเนอร์

 

ขณะที่กัปตันโรเจอร์สกำลังค้นหา อัลดริช คิลเลี่ยน เเละ เเมนดาริน ทางด้านโทนี่หลังจากบอกเป็ปเปอร์ว่าตนเองปลอดภัยเเล้ว เขา เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ก็กลับเข้าห้องปฏิบัติการอีกครั้ง

 

“คุณสตาร์ก ดูเหมือนปริมาณการเเพร่ขยายของเวน่อมจะเพิ่มขึ้นสูงมาก ตอนนี้คุณคิดว่ามันเพียงพอที่จะทำเป็นชุดเกราะกลายพันธุ์เเล้วหรือยัง?”เเจ็คสัน กล่าวถามโทนี่

 

เนื่องจากการโจมตีทางระบบของคิลเลี่ยน โทนี่ ต้องการปรับปรุงเครือข่ายการป้องกันของ J.A.R.V.I.S ตราบเท่าที่เขายังไม่พัฒนาเครือข่ายการป้องกันของ J.A.R.V.I.S มันก็จะทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจนอกจากนี้ โทนี่ยังวางเเผนในการสร้างชุดเกราะกลายพันธุ์จาก เวน่อมอีกด้วย เเม้ชุดเกราะไอรอนแมนจะยังได้รับผลกระทบตอนนี้ เเต่ถ้าโทนี่ปรับปรุงสำเร็จมันจะสร้างความประหลาดใจให้อีกฝ่ายมากทีเดียว

 

“ธรรมชาติมันย่อมเพียงพอ เวน่อม ในตอนนี้ สามารถดึงประสิทธิภาพของมันเอามาใช้ได้เพียงเเค่ 1 ส่วน 3 เเต่ฉันคิดว่านั่นก็เพียงพอเเล้วที่จะใช้รับมือจัดการพวก คิลเลี่ยน”โทนี่ กล่าวออกมาเล็กน้อย

 

“ดูเหมือนวันนี้พวกเราคงต้องทำงานล่วงเวลากันหน่อยเเล้ว”ได้ยินโทนี่กล่าว เเจ็คสันตอบตกลง

 

จากนั้นพวกเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาในการสร้างชุดเกราะกลายพันธุ์ให้สมบูรณ์หากสำเร็จผลลัพธ์คงต้องเหนือกว่าที่เขาคาดหวังอย่างเเน่นอน

 

“ปีเตอร์ เธอคอยควบคุมกระเเสไฟฟ้า เเจ็คสัน เธอทำหน้าที่เป็นหนูทดลอง วันนี้ไม่ว่าอย่างไรพวกเราต้องทำให้ชุดเกราะกลายพันธุ์นี้เสร็จสมบูรณ์”โทนี่กล่าวสั่งการทันที

 

“ครับคุณสตาร์ก!”

 

 

ขณะที่ S.H.I.E.L.D. กำลังเปิดระบบค้นหาตำเเหน่งเส้นทางของ คิลเลี่ยน เเละ เเมนดาริน ,พวกคิลเลี่ยนก็หลบซ่อนตัวมายังฐานลับเเห่งนึง

 

“มายา,คุณช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมว่าทำไมคุณถึงไปปรากฏตัวที่บ้านพักของ โทนี่ สตาร์ก?”ในห้องปฏิบัติการลับ คิลเลี่ยน กล่าวถาม มายา เเฮนเซ่น อย่างเย็นชา

 

มายา เเฮนเซ่น เป็นหนึ่งในนักวิจัยสำคัญของ คิลเลี่ยน เเละ คิลเลี่ยน ก็เป็นหัวหน้าโครงการ เอ็กซ์ทรีมิส เเน่นอนว่าโครงการนี้เขาเองก็ไม่สามารถขาด มายา ได้ ดังนั้น คิลเลี่ยน จึงยังใจเย็นอยู่

 

“คุณจะให้ฉันทำอะไรล่ะ? ฉันไม่พอใจกับเเผนการของคุณ คุณต้องการให้ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส เผยเเพร่บนตลาดทั่วโลก นี่เป็นการก่อหายนะสงครามชัด ๆ ดังนั้นเพื่อให้เเผนของคุณสำเร็จ คุณจึงต้องการทำลาย โทนี่ สตาร์ก ใช่มั้ยล่ะ?”มายา กล่าวพูด

 

มายาไม่ได้เเสดงจุดอ่อนของเธอให้เห็น

 

เเน่นอนว่าเธอในตอนนี้ได้รับความไว้วางใจจากโทนี่ระดับนึงเเต่โทนี่ก็ไม่ได้มีน้ำใจติดค้างเธอเพราะเขารู้ข้อมูลจากคิลเลี่ยนอยู่ก่อนเเล้วส่วนเรื่องเเผนการลักพาตัวเป็ปเปอร์ ของคิลเลี่ยน เองก็ไม่สำเร็จ เพราะเป็ปเปอร์ได้หนีไปหลบอยู่ที่เซฟเฮาส์

 

ฟุ่บ!

 

เห็นการเเสดงออกของมายา คิลเลี่ยน เดินไปข้างหน้าเธอจากนั้นก็ใช้มือจับคอเธอเเละยกตัวเธอขึ้น

 

“!…คิลเลี่ยน คุณจะทำอะไร!”ถูกจับลำคอเเละถูกยขึ้นมายาพยายามดิ้นรนอย่างหวาดกลัว เพราะ คิลเลี่ยน ฉีดไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส เข้าไปทำให้ร่างกายของเขาเเข็งเเกร่งอย่างมากหากเขาต้องการฆ่าเธอเพียงเเค่พริบตาเดียวก็สามารถทำได้

 

“ฉันจะทำอะไรอย่างงั้นหรอ? เธอไม่คิดว่าเรื่องทั้งหมดที่มันผิดพลาดนั้นเป็นเพราะเธอหรือไง? หน้าที่วางเเผนอยู่ที่ฉัน ส่วนหน้าที่ของเธอ เพียงเเค่ช่วยฉันในการปรับปรุงไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ที่เหลือฉันจะจัดการต่อเอง”คิลเลี่ยนกล่าวบอกมายา

 

“!…”การบีบของคิลเลี่ยนทำให้มายาไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นคิลเลี่ยนก็คลายมือของเขาจากคอของมายาจากนั้นเขาก็เดินกลับไปนั่งที่นั่งของตัวเอง

 

“คิลเลี่ยน คุณมันบ้าไปเเล้ว!”มายาที่ล้มลงพื้นเธอเห็น คิลเลี่ยน เดินไปนั่งที่นั่งโดยไม่สนใจเธอ เธอบ่นพึมพัมออกมา

 

“บ้า?ฉันดูเหมือนคนบ้าหรือไง?”

 

 

ในระหว่างที่เเมกนีโตนำสมาชิกระดับสูงของสมาคมมิวแทนท์วางเเผนเพื่อโจมตีสำนักงานใหญ่ของสตรัคเกอร์ที่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ขณะเดียวกันกัปตันโรเจอร์ส ที่นั่งอยู่ในสำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ก็ได้รับข้อความจากโทนี่ เมื่อไม่นานมานี้ กัปตันโรเจอร์สเองก็ได้รู้ข่าวการโจมตีของเเมนดารินที่บุกโจมตีโทนี่ โทนี่วางเเผนจะเเก้เเค้นเเมนดารินเป็นการส่วนตัวซึ่งเรื่องนี้กัปตันโรเจอร์สก็ไม่ได้วางเเผนจะเข้าไปยุ่ง

 

ไอรอนแมนต้องการจะจัดการเเมนดารินด้วยตัวของตัวเองดังนั้น ไม่มีความจำเป็นที่ S.H.I.E.L.D. จะต้องเข้าไปยุ่ง เพราะตอนนี้ทางเขาก็กำลังยุ่งเกี่ยวกับการรอคอย ดร.เเบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สในช่วงนี้วางเเผนจะปรับระบบภายในองค์กร S.H.I.E.L.D. ซะใหม่ พวกเขาในตอนนี้จำเป็นจะต้องพัฒนาองค์กรเพื่อเตรียมรับผลกระทบจำนวนมากเพราะว่าเนื่องจากผลกระทบจากการที่นิคลาออกไป การเคลื่อนไหวภายในองค์กรจำเป็นต้องได้รับการจัดระเบียบใหม่ทั้งหมด

 

“โทนี่ ไม่ใช่ว่านายกำลังยุ่งอยู่กับการรับมือผู้ก่อการร้ายไม่ใช่หรอ?ทำไมถึงติดต่อฉัน?”ภาพของโทนี่ปรากฏบนอุปกรณ์ภาพ กัปตันโรเจอร์สที่เห็นโทนี่ปรากฏขึ้นเขากล่าวถามทันที

 

เเม้โทนี่จะอธิบายถึงการโจมตีด้วยระเบิดของเเมนดารินผ่านการถ่ายทอดสด เเต่สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้ S.H.I.E.L.D. หรือกัปตันโรเจอร์สสนใจ เเม้ระเบิดมนุษย์นั่นจะเป็นหัวข้อที่ฟังดูสำคัญเเต่ก็ยังเป็นเหตุการณ์ทั่วไปสำหรับ S.H.I.E.L.D. องค์กร S.H.I.E.L.D. ก่อตั้งเพื่อกำจัดภัยคุกคามขนาดใหญ่ที่เป็นปัญหาต่อโลก ในเมื่อ เหตุการณ์ผู้ก่อการร้าย โทนี่ ไอรอนแมน ได้ออกหน้ารับไปเเล้ว กัปตันโรเจอร์สก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง

 

“เรื่องของเเมนดาริน ฉันเเน่นอนว่าจะจัดการเอง เเต่ตอนนี้ฉันเจอปัญหาบางอย่าง”ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ พูดอย่างจริงจัง

 

“เเล้วนายมีปัญหาอะไร?ต้องการความช่วยเหลือจาก S.H.I.E.L.D. งั้นหรอ?”กัปตันโรเจอร์สถามอย่างสงสัย

 

“ไม่จำเป็นต้องถึงขนาดส่ง S.H.I.E.L.D. ออกมาช่วยเหลือ เพียงเเค่ฉันต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อย”

 

“งั้นอะไร?”

 

“ฉันจำได้ว่า S.H.I.E.L.D. ยังคงดำเนินการโปรเจ็คอินไซต์ อยู่ใช่หรือไม่? ตั้งเเต่ศึกครั้งสุดท้ายกับพวกไฮดร้า ดูเหมือนว่าทาง S.H.I.E.L.D. เองก็จะพบข้อผิดพลาดระหว่างโครงการหลายอย่าง”โทนี่กล่าวบอก

 

“เป็นเช่นนั้น เเต่ตอนนี้กำลังเร่งปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง โปรเจ็คอินไซต์ในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในมือพวกไฮดร้าเหมือนอดีตอีกเเล้ว ตอนนี้มันถูกใช้เป็นระบบบรรทัดฐานขนาดใหญ่ภายในองค์กรเเละอีกไม่นานจะถูกใช้ในอนาคตของพวกเราทุกคน”กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

โปรเจ็คอินไซต์เดิมคือปฏิบัติการซุ่มโจมตีของพวกไฮดร้า พวกมันได้ใช้เเผนเหล่านี้ในการฟอกอยู่ใน S.H.I.E.L.D. มานานหลายปี ระบบนี้สามารถตรวจสอบทุกคนบนโลกได้หากใครที่มีฐานข้อมูลอยู่ภายในระบบ ระบบก็จะสามารถตรวจสอบตำเเหน่งผ่านกล้องวงจรปิดหรือดาวเทียมได้ว่าอยู่ที่ไหน ถือว่าเป็น ระบบที่มีความลับระดับสูงเช่นเดียวกัน เเต่ภายหลัง ระบบนี้ถูกนำมาใช้โดย S.H.I.E.L.D. พวกเขาต้องการทำให้ระบบโปรเจ็คอินไซต์มีความเสถียรเเละปลอดภัยมากขึ้น

 

“ฉันรู้ว่าพวกนายกำลังพยายามพัฒนาระบบอยู่เเละมันยากที่จะเเก้ไขปัญหาใหญ่เรื่องอัลกอริทึมได้ในตอนนี้ ดังนั้น ฉันต้องการความช่วยเหลือจากระบบเล็กน้อย เพื่อตามหาคน”โทนี่กล่าวบอกกัปตันโรเจอร์ส

 

“ตามหาคน?เรื่องนี้ค่อนข้างง่าย เเล้วนายต้องการตามหาใคร เเมนดารินงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ กัปตันโรเจอร์สพยักหน้าเล็กน้อยเเละกล่าวถาม โทนี่ต้องการความช่วยเหลือจากระบบ เเละคนที่กัปตันโรเจอร์สคิดได้ก็คงมีเเค่เเมนดารินเท่านั้นเพราะชายคนนี้ได้ประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกา

 

“คนที่ฉันมองหาไม่ใช่เเมนดารินเเต่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเหมือนกัน”

 

“ใครกัน?”

 

“อัลดริช คิลเลี่ยน”โทนี่พึมพัมชื่อนี้ออกมา

 

“อัลคริช คิลเลี่ยน? ได้ ฉันจะช่วยนามตามหารวมถึงนายเเมนดารินนั่นด้วย”ได้ยินชื่อนี้กัปตันโรเจอร์สพยักหน้าตอบ

 

“จริงสิ กัปตันโรเจอร์ส นายเป็นถึงคนที่ควบคุม S.H.I.E.L.D. ในปัจจุบัน สถานะของนายพอที่จะติดต่อกับประธานาธิบดีได้หรือไม่?”โทนี่กล่าวถาม

 

คำพูดของโทนี่ทำให้กัปตันโรเจอร์สรู้สึกสงสัยมาก เเน่นอนว่า กัปตันโรเจอร์ส กับประธานาธิบดีคนปัจจุบันย่อมมีความสัมพันธ์กันเล็กน้อยในฐานะผู้ควบคุมองค์กร S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้ กัปตันโรเจอร์สสามารถติดต่อกับประธานาธิบดีได้ เพราะในสภาก็มีคนสนับสนุนเขาอยู่หลายคน

 

“นายต้องการอะไร”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามด้วยความสงสัยเเม้กัปตันโรเจอร์ไม่อยากจะยุ่งเรื่องทางการเมือง เเต่การที่โทนี่อ้างถึงประธานาธิบดีเเสดงว่าจะต้องมีเรื่องสำคัญ

 

“ไม่มีอะไรหรอก เเม้ประธานาธิบดีคนนี้จะค่อนข้างไร้ความสามารถ เเต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันต้องการให้นายเตือนเขาว่าระวังคนข้างตัวเอาไว้ให้ดี”โทนี่กล่าวบอกกัปตันโรเจอร์ส

 

“คนข้างตัวของเขา?นายหมายถึงใคร?”

 

“เเล้วนายคิดว่าใครล่ะ?”

 

กัปตันโรเจอร์ส”หรือว่า…รองประธานาธิบดี!”

 

“อัลตร้าโซนิคได้ข่าวมาหรือไม่?”เเมกนีโตที่เปิดตาทั้งสองข้างขึ้นเขาจ้องมองไปที่มิวแทนท์คนนึงที่ด้านหน้าเเละกล่าวถามออกมา ราวกับว่าเขากำลังรออย่างใจจดใจจ่อต่อคำถามที่เขาถามไปเมื่อครู่นี้

 

ได้ยินคำถามของเเมกนีโตชายผมสีม่วงคนนึงเขามีชื่อว่าอัลตร้าโซนิคเขาพยักหน้าพึมพัมออกมา”อืม”

 

เเมกนีโตได้นำเหล่าพี่น้องมิวแทนท์จำนวนมากเสี่ยงชีวิตมาที่ศูนย์การเมืองสหรัฐวอชิงตันเพราะเขาได้รับข่าวเรื่องที่ลูก ๆ ของเขายังมีชีวิตอยู่ ชายวัยกลางคนเเมกนีโตคนนี้เเม้จะดูเป็นคนที่ชั่วร้ายเเต่เขาก็เคยมีชีวิตคู่กับภรรยาของเขาเเละให้กับเนิดบุตรถึงสองคน

 

ภรรยาของเขาเเมกนีโตถูกทำร้ายโดยคนที่ไล่ล่าเขาเเละตอนนั้นเเมกนีโตไม่สามารถปกป้องภรรยาของเขาได้ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ความคิดของเขาไม่สอดคล้องกับชาร์ลส์ในเวลาต่อมา เพราะประสบการณ์ชีวิตอันขมขื่นทำให้เขากลายเป็นอยู่ทุกวันนี้

 

ก่อนคนรักของเขาตายไปเธอได้บอกกับเเมกนีโตว่าลูกๆของเธอยังอยู่เเละเธอยังบอกกับเเมกนีโตอีกว่าเมื่อหลายปีก่อนลูกของเธอได้ศึกษาอยู่ในองค์กรมิวแทนท์ของรัฐบาล หญิงสาวผู้น่าสงสารคนนี้หวังว่าเเมกนีโตจะช่วยชีวิตลูกของเธอออกมาได้

 

พอได้ยินข่าวเเมกนีโตก็รู้สึกตกใจหลายปีที่ผ่านมาเขาได้ใช้ชีวิตย่างเข้าสู่วัยชราเข้าไปทุกทีตอนนี้เขาเพิ่งรู้ข่าวว่าลูก ๆ ของเขายังมีชีวิตอยู่นี่เหมือนกับระเบิดนิวเคลียร์ลูกนึงที่หล่นใส่เขา

 

ดังนั้นสองเดือนที่ผ่านมาเเมกนีโตจึงถือโอกาสโจมตีสมาชิกสภามิวแทนท์เพื่อค้นหาลูกๆของเขาเเต่ดูเหมือนว่าจะไร้ร่องรอยเขาได้เบาะเเสมาเพียงน้อยนิดซึ่งก็คือหัวหน้าองค์กรนั้นมีชื่อว่า สตรัคเกอร์

 

จากการสืบสวนของเเมกนีโต ลูกๆของเขาได้รับการทดลองบางอย่างเเละกลายเป็นมิวแทนท์ที่ทรงพลังเเต่เรื่องนี้เเมกนีโตไม่ค่อยรู้อย่างละเอียดมากนัก

 

ภรรยาของเขาหากเธอยังมีชีวิตอยู่เเน่นอนว่าเธอก็ไม่อยากที่จะดึงลูกๆของเธอเข้ามาข้องเกี่ยวกับเเมกนีโตเพราะเมื่อลูก ๆ ของเธอข้องเกี่ยวกับเเมกนีโต ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ตวิช ทั้งสองคนจะต้องถูกดึงเข้ามาพัวพันกับการต่อสู้

 

“ตามข้อมูลที่ฉันได้รับมานั้นมีน้อยมาก ข่าวล่าสุดก็คือดูเหมือนสองพี่น้องนั่นจะถูกยอมรับโดยองค์กรอย่างมากพวกเขาประสบความสำเร็จในการเป็นมิวแทนท์ขั้นสูง…”

 

อัลตร้าโซนิคอธิบายสิ่งที่รู้มาทั้งหมดการจะบุกเข้าไปภายในองค์กรเเละล้วงข้อมูลความลับจำนวนมากออกมาไม่ใช่เรื่องง่าย

 

“หลายปีที่ผ่านมา…สองพี่น้องนั่น สตรัคเกอร์ เเก!”ได้ยินคำตอบของอัลตร้าโซนิค เเมกนีโตเเทบจะบ้าคลั่ง

 

เหล่าเด็ก ๆจำนวนมากที่หลุดเข้าไปในเงื้อมมือของ สตรัคเกอร์พวกเขาจะต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดจำนวนมากจากการทดลอง นี่เป็นเรื่องที่โหดร้ายทารุณอย่างมาก ดังนั้นเหตุผลที่ เเมกนีโต นำพรรคพวกเข้ามาในวอชิงตันก็เพื่อตามหา สตรัคเกอร์

 

“บอส พวกเราจะสามารถหาตัว สตรัคเกอร์ได้จริงงั้นหรอ? ที่นี่เป็นสำนักงานใหญ่ที่สุดของเขา พวกเราไม่สามารถทำตามอำเภอใจได้มากนัก”เห็นใบหน้าที่โกรธเคืองของเเมกนีโต พี่น้องมิวแทนท์คนนึงเปิดปากพูด เขาเป็นชายวัยกลางคนหน้าตาธรรมดา เเต่เขาได้ติดตามเเมกนีโตมาด้วยเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นมิวแทนท์ที่เเข็งเเกร่ง

 

“ไพโร เมื่อไหร่กันที่นายเป็นคนที่ใจเย็นขนาดนี้?นายลืมเรื่องที่สตรัคเกอร์ทำกับเหล่าพี่น้องมิวแทนท์ของเรา?เเล้วเรายังจะปล่อยผ่านเรื่องนี้?”เเมกนีโตกล่าวถามออกมา

 

ชายวัยกลางคนนี้คือ ไพโร เขาเคยเรียนอยู่ที่โรงเรียนเซเวียร์มาก่อน

 

ไพโร ในตอนเเรกก็เหมือนกับ ไอซ์แมน พวกเขาคือนักเรียนของโรงเรียนเซเวียร์ เเต่ก็เหมือนกับเเมกนีโต ไพโร มีความเห็นไม่ลงรอยจากความทุกข์ทรมาณที่เหล่ามิวแทนท์ถูกเกลียดชังเขาได้เข้าร่วมกับเเมกนีโตเเละใช้ความเเข็งเเกร่งของตัวเองเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการที่ดีที่สุดของเเมกนีโต

 

“ฉันเกลียด สตรัคเกอร์อย่างเเน่นอน เเต่พวกเราไม่สามารถทำอะไรเขาได้ในขณะที่เขายังอยู่ในสำนักงานใหญ่”ไพโรกล่าวตอบเเมกนีโต หลายปีที่ผ่านมา ไพโร ได้ติดตามเเมกนีโตเเละรู้จักนิสัยใจคอของเขาดี ทั้งเขายังรู้อีกว่าองค์กรมิวแทนท์นั้นเเข็งเเกร่งขนาดไหน

 

ฟุ่บ!

 

“ไม่จำเป็นต้องใตร่ตรองอีกครั้งฉันจะบุกโจมตีสำนักงานใหญ่ของสตรัคเกอร์ ฉันจะต้องแก้เเค้นให้เหล่าพี่น้องมิวแทนท์ของเรา เเละ หาข้อมูลลูก ๆ ของฉันจากปากของมัน!”เเมกนีโตไม่ได้สนใจคำเตือนของ ไพโร เขาตัดสินใจเเล้ว ไม่ว่าองค์กรมิวแทนท์จะเเข็งเเกร่งขนาดไหนเเต่เพื่อลูก ๆ ของเขา เเมกนีโต ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

 

ได้ยินคำตอบของเเมกนีโต ไพโร เเละ อัลตร้าโซนิค ทำได้เเต่เพียงถอนหายใจ พวกเขาคุ้นเคยกับท่าทีของเเมกนีโตเเล้วธรรมชาติพวกเขาในตอนนี้มีกันอยู่เพียง 5 คน เเต่คนเหล่านี้มีระดับมากกว่า 4 ดังนั้น เเมกนีโตที่นำคนทั้ง 5 มาด้วยเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการจัดการสตรัคเกอร์

 

ฟุ่บ

 

ขณะที่โทนี่กำลังยุ่งพัวพันอยู่กับคิลเลี่ยนทางด้านนอกหุบเขาทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกาเงาร่างสีเงินได้พุ่งผ่านไปมาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหยุดอยู่ที่ทะเลสาบในหุบเขา

 

“เจ้าพวก X-MEN พวกมันไม่มีอะไรจะทำหรือยังไง?ผ่านไปหลายวันเเล้วพวกมันยังไม่คิดเลิกติดตามฉันอีก”ผมสีเงินได้ปลิวพิ้วสไวเจ้าของเงาร่างบ่นพึมพัมออกมา

 

เห็นได้ชัดว่าเจ้าของเงาร่างผมสีเงินนี้ก็คือ ควิกซิลเวอร์ หลังจากพวกไฮดร้าถูกกำจัดออกไปพวกเขาก็ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ จาก ทีมX-MEN ภายใต้การติดตามของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ควิกซิลเวอร์รู้สึกหัวเสียอย่างมาก

 

เพราะกว่าพวกเขาจะหลุดพ้นจากองค์กรไฮดร้ามาได้ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ตวิช ก็ไม่คิดว่าจะต้องถูกไล่ล่าอีกครั้ง ตอนนี้ ทั้งควิกซิลเวอร์เเละสกาเล็ตวิช ต่างก็จนมุมเเต่พวกเขาก็ไม่รู้สึกว่าควรจะยอมเเพ้

 

ขณะที่ควิกซิลเวอร์มาถึงสกาเล็ตวิช เเสงสีเเดงอ่อน ๆ ก็ได้ตรงออกมาจากทะเลทราบเห็นเเสงสีเเดงนั้นควิกซิลเวอร์เผยใบหน้าให้เห็นอย่างอ่อนโยน

 

ฟุ่บ!

 

เงาร่างสีเงินได้หายไปอีกครั้งก่อนที่จะเข้าไปยังสถานที่เเห่งนึงไม่นานพื้นที่โดยรอบก็กลายเป็นสงบอีกครั้ง

 

“พวกเขาหายไปเเล้ว ดูเหมือน สกาเล็ตวิช จะเเข็งเเกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เธอสามารถควบคุมพลังจิตได้ดีระดับนึงเเล้ว ไม่รู้ว่านี่เป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายกันเเน่”หลังจากควิกซิลเวอร์หายไปจากการตรวจจับ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่อยู่ห้องใต้ดินภายในโรงเรยีนได้บ่นพึมพัมออกมา

 

เมื่อครู่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ล็อคเป้าตำเเหน่งของควิกซิลเวอร์เอาไว้เเล้วเเต่ความเร็วของควิกซิลเวอร์นั้นรวดเร็วอย่างมากพริบตาเดียวก็หลุดจากการล็อคตำเเหน่งของเขาจากนั้นควิกซิลเวอร์ก็หายไป ศาสตตราจารย์ชาร์ลส์เชื่อว่านี่เป็นฝีมือของสกาเล็ตวิช เธอใช้พลังจิตในการต้านทานการตรวจจับตำเเหน่งของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

“ศาสตราจารย์พวกเราจำเป็นจะต้องตามหาตัวสองพี่น้องนั่นจริง ๆ งั้นหรอ?”ขณะนั้นเองก็ปรากฏเสียงของผู้หญิงดังมาจากด้านหลังของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เธอคือ สตอร์ม

 

เพื่อที่จะตามหาสองพี่น้องนี้ ทีมX-MEN ได้ทุ่มกำลังคนเเละทรัพยากรจำนวนมากในการตามหาพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าทีมX-MEN ที่ถูกส่งออกไปต่างก็ได้รับผลลัพธ์เหมือนกันนั่นก็คือความล้มเหลว นอกจากนี้ยังมีเรื่องของลูกบาศก์เวทมนตร์เข้ามาเกี่ยวข้องอีกครั้ง ดังนั้นสตอร์มไม่คิดว่าควรจะเสียเวลากับสองพี่น้องคนนี้มากนัก

 

“ธรรมชาติความสามารถของพวกเขาถือเป็นดีเป็นอย่างมาก ในด้านความเร็วไม่มีใครสามารถเทียบกับควิกซิลเวอร์ได้ในด้านพลังจิตของน้องสาวเธอประสบความสำเร็จอย่างมากพลังของเธอสมควรจัดอยู่มิวแทนท์ระดับ 5 ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถของพวกเขายังจำเป็นต่อพวกเรา”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ

 

“เเละเหตุผลสำคัญเลยก็คือเธอรู้ไหมทำไมฉันถึงต้องตามหาพวกเขา เธอรู้หรือไม่ว่าสถานะของพวกเขาคืออะไร?”

 

“สถานะของพวกเขา?พวกเขาเคยร่วมกับองค์กรไฮดร้าเป็นพวกมิวแทนท์ที่หลงผิด?”สตอร์มเเปลกใจกับคำถามนี้เธอรู้สึกสงสัย

 

“ก็อาจจะจริงที่พวกเขาเคยทำงานให้ไฮดร้าเเต่พวกเขาไม่ใช่คนของไฮดร้า เพราะพวกเขาเเท้จริงเเล้วเป็นเด็ก ๆ ของ เเมกนีโต “ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าว

 

สตอร์ม”….”เธอไม่คาดคิดเลยว่า ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ตวิช จะเป็นเด็ก ๆ ของเเมกนีโต นี่เป็นข่าวที่ชวนน่าตกใจอย่างมาก

 

“ใช่เเล้ว เรื่องนี้ มิราจไนท์ เป็นคนบอกฉัน เเละนี่เป็นเหตุผลที่ฉันจะต้องใช้พลังจำนวนมากในการตามหาสองพี่น้องคู่นี้”เห็นสตอร์มเเสดงท่าทีประหลาดใจ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ยิ้มออกมา

 

“ฉันเข้าใจเเล้ว! ถ้าอย่างนั้นฉันจะเเจ้งให้คนอื่น ๆ รู้”หลังจากรู้ว่า ควิกซิลเวอร์เเละสกาเล็ตวิชเป็น เด็กของ เเมกนีโต ท่าทีของสตอร์มก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

สงครามระหว่างพวกมิวแทนท์ด้วยกันเองนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะสงครามระหว่างพวกเขาอาจทำให้โลกเกิดความปั่นป่วนได้เลย เเละที่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่าสองพี่น้องนั่นถือว่าเป็นพวกมิวแทนท์ระดับสูงหากสามารถนำกลับมาเข้าร่วมกับทีมตัวเองได้จะเป็นผลดีอย่างมาก

 

“เรื่องนี้ฉันจะปล่อยให้เธอตัดสินใจ ทางด้าน อีริค ดูเหมือนเขาจะเริ่มเคลื่อนไหวเเล้ว ฉันจะต้องมุ่งเน้นความสนใจไปที่ทางด้านนั้น”

 

“เข้าใจเเล้ว”

 

“จริงสิ สตาร์ก ได้ติดต่อฉันมาเหมือนกับว่ามีเรื่องที่ต้องการจะให้ฉันช่วย”

 

จากนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ผลักรถเข็นเดินออกจากห้องลับใต้ดิน

 

 

ขณะที่ศาสตราจาร์ยชาร์ลส์กำลังตามหาตัวสองพี่น้องอยู่ เพื่อนเก่าของเขา เเมกนีโต อีริค ตอนนี้กำลังอยู่ในวอชิงตัน

 

เขาได้อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์สามัญเเห่งนึงย่านเมืองดังในวอชิงตันตอนนี้

 

เนื่องจากเเมกนีโตเป็นตัวตนที่อันตรายต่อรัฐบาลเขาจึงไม่ทำตัวสะดุดตามากนัก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะหลบซ่อนตัวอย่างเงียบ ๆ ไม่เพียงเเต่รัฐบาลสหรัฐเท่านั้นที่ตามตัวเขา ยังมีเพื่อนเก่าของเขา ชาร์ลส์อีก อย่างไรก็ตามเเมกนีโตเเม้จะหลบซ่อนตัวจริง เเต่เขาก็ไม่ได้มีความยำเกรงต่ออิทธิพลต่าง ๆ เพราะเขากำลังหลบซ่อนตัวเพื่อส่งเสริมความเเข็งเเกร่งขององค์กรมิวแทนท์

 

ฟุ่บ!

 

เเมกนีโตได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ในห้องนั่งเล่นภายในอพาร์ทเมนต์ เขากำลังเคาะนิ้วเป็นจังหวะราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

 

นอกจากเขาเเล้วยังมีเหล่าพี่น้องมิวแทนท์อีก คนเหล่านี้เป็นหุ้นส่วนเเละผู้ติดตามที่สำคัญของเเมกนีโตตอนนี้เเมกนีโตเหมือนจะมีเเผนอะไรบางอย่างหากเขาลงมือจริงๆเเล้วล่ะก็วอชิงตันอาจเกิดความเสียใหญ่หลวงโดยไม่คาดคิด

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะที่เเมกนีโตนั่งหลับตาเเละเคาะคิดเล่นไปพลางประตูอพาร์ทเมนต์ก็ได้ถูกเปิดขึ้นเเละปิดทันทีเบื้องหน้าของเเมกนีโตปรากฏเหล่าพี่น้องมิวแทนท์ที่สวมใส่ชุดเเจ็คเก็ตสีดำ

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่คนเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นเเมกนีโตก็หยุดเคาะนิ้วจากนั้นเขาก็เปิดตาขึ้นอย่างช้า ๆ

 

หลังจากจบศึกบุกโจมตีโทนี่ด้วยทหารเอ็กซ์ทรีมิสเเละพ่ายเเพ้หมดรูปโดยการปรากฏตัวของเเจ็คสัน สิ่งเหล่านี้ย่อมสร้างความเกลียดชังเเก่บางคนโดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ที่คฤหาสน์หรูใน ฟลอริด้า

 

“เวรเอ้ย ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ก เเละ ไอ้ มิราจไนท์!”ในห้องทำงานเเห่งนึง คิลเลี่ยน ได้ทุบโต๊ะทำงานของเขาด้วยความโมโห

 

เเผนการเอาคืนโทนี่มันถูกเขาคิดไว้ตั้งเเต่ 10 ปีก่อนเเล้ว เเต่เเล้วเเผนของเขากลับพังไม่เป็นท่า ตอนนี้ คิลเลี่ยน รู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก สิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาก็คือการปรากฏตัวของมิราจไนท์

 

ตอนนี้คิลเลี่ยนสูญเสียทหารเอ็กซ์ทรีมิสไปถึง 3 คน ทั้งยังพลาดที่จะควบคุม เอไอ อัจฉริยะ อย่าง J.A.R.V.I.S ความล้มเหลวนี้เกือบทำให้ J.A.R.V.I.S สามารถตามรอยของคิลเลี่ยนได้

 

ฟู่วว

 

ในขณะที่ คิลเลี่ยน กำลังระบายอารมณ์โกรธอยู่เสียงฝีเท้าก็ได้ดังมาจากข้างนอก ดูเหมือนจะเป็นชายเเก่ที่ไว้เครายาวรูปลักษณ์ของชายเเก่คนนี้ดูธรรมดาอย่างมาก เเต่ทั้งโลกกลับรู้จักเขาเพราะชายคนนี้คือผู้นำองค์กรร้ายที่มีชื่อเสียงที่สุดตอนนี้ :เเมนดาริน

 

“คุณ อัลคริช คราวนี้พวกเราพ่ายเเพ้หมดรูปจริง ๆ คนภายนอกอาจจะคิดว่านี่เป็นเเผนการที่ฉันโจมตี สตาร์ก เเต่จริง ๆ เเล้วจะมีสักกี่คนที่รู้ว่านี่เป็นการล้างเเค้นของคุณ”เเมนดารินกล่าวออกมา

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินเสียงของเเมนดาริน คิลเลี่ยน จ้องมองไปที่เเมนดารินตาไม่กระพริบ เเม้เเมนดารินจะพูดจาไม่น่าฟังเเต่ คิเลลี่ยน ไม่ได้โกรธ ตอนนี้เขารู้สึกกดดันอย่างมาก

 

“การเคลื่อนไหวจัดการโทนี่ในคราวนี้เดิมทีมันควรจะได้ผลใครเล่าจะคิดว่าอุปสรรคใหญ่จะมาปิดกั้นพวกเราเสียก่อนตอนนี้พวกเราสูญเสียครั้งใหญ่เเละเเกยังจะมาโทษฉัน?”คิลเลี่ยน จ้องมองไปที่เเมนดาริน

 

“ฉันไม่ได้โทษคุณอย่างเเน่นอนการเคลื่อนไหวครั้งนี้เเน่นอนว่าไร้ที่ติเเต่ก็อย่างที่คุณว่าตัวเเปรสำคัญทางฝั่งนั้นได้ปรากฏขึ้นในช่วงเวลาสำคัญคราวนี้หากเราโจมตี โทนี่ สตาร์ก ใหม่อีกครั้งเกรงว่าจะยากเเล้ว”เเมนดารินยังคงกล่าวต่อไป

 

“หึ่ม! หากไอเจ้า มิราจไนท์นั่น ไม่โผล่หัวออกมาป่านนี้ โทนี่ สตาร์ก มันคงจะตายไปเเล้ว!”ได้ยินคำพูดของเเมนดาริน คิลเลี่ยนกล่าวออกมา

 

“ตอนนี้เขายังคงมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้จากสายรายงานคนที่ติดตาม มิส เเฮนเซ่นไป ดูเหมือนเเผนของเธอเองก็จะไม่สำเร็จ ไม่คาดคิดว่าเธอจะทรยศเรา ตอนนี้เหมือน โทนี่ สตาร์ก รู้อยู่เเล้วว่าเป็นฝีมือของคุณ ดังนั้นคุณควรจะหลบซ่อนตัวไปซักพัก”เเมนดารินกล่าวตอบ

 

“มายา นังผู้หญิงราคาถูก! บางทีนังนั่นอาจจะเป็นคนบอก โทนี่ ให้รู้เกี่ยวกับเเผนการโจมตีในครั้งนี้ เกี่ยวกับเเผนการครั้งนี้นอกจากเธอที่รู้เเผนการอยู่ก่อนเเล้วจะมีหนทางใดอีกที่ความลับจะถูกเปิดเผย?”ได้ยินคำพูดของเเมนดาริน คิลเลี่ยน สบถ ด่ามายาออกมา

 

“ตอนนี้พวกเราเองก็ไม่รู้ว่า มิส เเฮนเซ่น มีความสัมพันธ์ยังไงกับโทนี่ เเต่ อย่างน้อยเธอก็น่าจะเป็นตัวการสำคัญ เอาเป็นว่าช่วงนี้คุณหลบซ่อนตัวไปก่อนดีกว่า

 

“ส่วนเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสขั้นสุดท้ายฉันจะสานต่อให้เอง”เเมนดารินกล่าวออกมาพร้อมกับยื่นแบมือออกไป

 

“เเก!”

 

คิลเลี่ยน เกือบจะซัดหน้าชายเเก่คนนี้ไปเเล้วเเต่เขาก็ต้องห้ามใจตัวเองซะก่อนหากเเมนดารินไม่ออกไปเขาเชื่อว่าตนเองคงขาดสติอย่างเเน่นอน

 

“ถ้าเเกไม่มีฉันเเกจะมีวันนี้งั้นหรอ?”คิลเลี่ยนพึมพัมออกมาเล็กน้อยเเละจ้องมองเเมนดารินเดินจากไป

 

ดูจากคำพูดของเเมนดารินเเละคิลเลี่ยน สถานะของ เเมนดาริน ดูเหมือนจะอยู่สูงกว่า คิลเลี่ยนอย่างมาก ในพล็อตเรื่องดั้งเดิมของเเจ็คสัน เเมนดาริน เป็นเพียงฉากนักเเสดงของคิลเลี่ยน ผู้นำพวกผู้ก่อการร้ายเเมนดารินนั้นไม่มีอยู่จริงเเต่พล็อตเรื่องในคราวนี้ดูเหมือนเเมนดารินคนนี้จะเป็นตัวการสำคัญเหมือนกัน

 

รอบนอกคฤหาสน์หรูเเห่งนี้มีผู้คุ้มกันอยู่จำนวนมาก ผู้คุ้มกันได้เฝ้าระวังตามจุดสถานที่ต่าง ๆ รอบคฤหาสน์ ทั้งข้างนอกยังมีเฮลิคอปเตอร์อีกหลายลำอีก ดูเหมือนพวก คิลเลี่ยน เเละ เเมนดาริน วางเเผนจะหลบหนีไปซ่อนตัวซักพัก

 

เพราะหลังจากเเผนการลอบสังหารโทนี่ล้มเหลว เเมนดาริน เเละ คิลเลี่ยน คงไม่เฝ้ารออยู่ที่นี่เพื่อให้ โทนี่ สตาร์ก มาเยือนหาตัวเองหรอก

 

..

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากหนึ่งชั่วโมงขณะที่คฤหาสน์หรูนี้ได้อพยพออกไปเเล้ว กลางอากาศชุดเกราะไอรอนแมนติดอาวุธครบมือได้บินเเล่นอยู่บนน่านฟ้าเเห่งนี้ ภายใต้คำเตือนของ เเจ็คสัน โทนี่ ได้ติดตามรอยของ คิลเลี่ยน เเละ พบฐานลับเเห่งนี้

 

หึ่ม

 

โทนี่ ลอยอยู่กลางอากาศเขาเห็นภาพที่สมบูรณ์ของคฤหาสน์ผ่านการสเเกนของชุดเกราะไอรอนแมน เดิมนี่ควรจะเป็นคฤหาสน์ของคิลเลี่ยนไม่ผิดเเน่ เเต่มันเงียบเกินไป

 

“J.A.R.V.I.S นายเเน่ใจนะว่าเป็นที่นี่”ปัจจุบันพื้นที่ด้านล่างนั้นเงียบเชียบเกินไปมันเลยทำให้โทนี่ รู้สึกสงสัย

 

“ใช่ครับ จากเบาะเเสที่เราได้รับ เป็นที่นี่ไม่ผิดเเน่ เเต่ดูเหมือนพวกเราจะมาช้าไป หนึ่งชั่วโมงพวกเขาได้อพยพหนีกันไปเเล้ว”ได้ยินคำถามของโทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

“หนี?ไวจริงนะ!”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ค่อนข้างประหลาดใจ โทนี่ใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมงในการค้นหาฐานลับเเห่งนี้ เเต่พอเจอกลับพบว่าพวกคิลเลี่ยนได้หลบหนีไปเเล้วนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตามหาตัวคิลเลี่ยนเจอในระยะเวลาสั้น ๆ อีก

 

“ดูเหมือนคิลเลี่ยนจะไม่ใช่คนโง่ เเต่มันคิดว่ามันสามารถซ่อนตัวหนีจากฉันได้งั้นหรอ? J.A.R.V.I.S ตรวจสอบสถานที่ภายในเเละภายนอกทั้งหมดมีเงื่อนงำอะไรหลงเหลือทิ้งไว้เก็บมาให้หมด”

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นโทนี่ก็ทิ้งชุดเกราะไอรอนแมนไว้ 10 ตัว ก่อนที่ชุดเกราะไอรอนแมนทั้งหมดที่เหลือจะบินขึ้นบนฟ้าอีกครั้ง

 

 

“เหตุผลที่ชุดเกราะไอรอนแมนคือไอรอนแมนก็เพราะมี โทนี่ สตาร์ก อยู่คุณไม่คิดงั้นหรอ?”เเจ็คสันกล่าวตอบโทนี่ด้วยท่าทีจริงจัง

 

เหตุผลที่โทนี่กล่าวถามเเจ็คสันแบบนั้นก็เพราะผลกระทบจากคิลเลี่ยนที่โจมตีชุดเกราะไอรอนแมนมันทำให้โทนี่ตกที่นั่งลำบาก ชุดเกราะไอรอนแมนคือชุดเกราะรบติดอาวุธที่ดีที่สุดในโลก โทนี่ครุ่นคิดว่าหากเขาเสียชุดเกราะไอรอนแมนไปเขาจะกลายเป็นคนธรรมดาที่เเม้เเต่คนอ่อนเเอก็สามารถที่จะจัดการเขาได้

 

ในพล็อตเรื่องดั้งเดิมโทนี่ต้องพึ่งพาชุดเกราะไอรอนแมนหลังจากสูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนทั้งหมดเขาก็ตกอยู่ในสภาพอาการจิตตก โทนี่รู้สึกกดดันอย่างมาก วันนี้ ชุดเกราะไอรอนแมนได้สูญเสียการควบคุมไปจากเขามันทำให้อารมณ์ความกลัวที่อยู่ภายในส่วนลึกของจิตใจโทนี่ปะทุขึ้น

 

“อ่า!”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน โทนี่ พึมพัมออกมา ก็ถูกอย่างที่เเจ็คสันบอก

 

ฟู่วว!

 

“โทนี่ ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้น”เเจ็คสันกล่าวด้วยโทนเสียงนุ่มนวลเขาไม่ได้ใช้คำสุภาพอีก

 

“ไม่มีอะไรหรอก เพียงเเค่หากฉันขาดชุดเกราะไอรอนแมนไปคนธรรมดาเช่นฉันคงไม่มีความสามารถที่จะรับประกันชีวิตของตัวเองเดิมฉันไม่ควรจะเป็นไอรอนแมนด้วยซ้ำ”โทนี่ไม่ได้สนใจคำเรียกห้วน ๆ ของเเจ็คสัน เขากล่าวตอบออกมา

 

“คุณสตาร์ก นี่มันไม่ใช่ตัวของคุณ! คุณคือไอรอนแมน เเละ ไอรอนแมนก็คือคุณ!”ได้ยินคำพูดของโทนี่ ปีเตอร์ ที่อยู่ด้านข้างรีบสวนขึ้นในฐานะที่เป็นบุคคลที่ชื่นชมโทนี่ ปีเตอร์ ไม่คิดว่าหากคนอื่นสวมชุดเกราะไอรอนแมนคนเหล่านั้นจะกลายเป็นไอรอนแมน ไอรอนแมนมีเพียงคนเดียวเท่านั้นก็คือ โทนี่ สตาร์ก

 

“ปีเตอร์ ฉันคือไอรอนแมนก็จริง เเต่ไอรอนแมนไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องเป็นฉันเท่านั้น”โทนี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“คุณต่างหากที่คิดผิด ปีเตอร์พูดถูกเเล้ว ไอรอนแมนก็คือคุณ นอกจากคุณเเล้วจะไม่มีใครอื่นอีก คุณยอมให้คนอื่น ๆ มาสวมชุดเกราะไอรอนแมนเเละเรียกขานตัวเองว่าเป็นไอรอนแมนงั้นหรอ? หากไม่มี โทนี่ สตาร์ก ก็ไม่มีไอรอนแมน เเม้ชุดเกราะไอรอนแมน จะไม่มีอารมณ์ความรู้สึก เเต่คุณเป็นคนให้กำเนิดมันมา เเละสมบัติชิ้นนี้ก็คือตัวตนของคุณ คุณไม่อาจปล่อยมันให้คนอื่นได้”เเจ็คสันกล่าวเสริมคำพูดของปีเตอร์

 

ชุดเกราะไอรอนแมนเป็นที่เเน่นอนว่าหลายคนสามารถสวมใส่ได้ ความสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่ชุดเกราะเเต่เป็นคนที่สวมใส่ ตั้งเเต่โทนี่สร้างชุดเกราะไอรอนแมนขึ้นมาเขาพยายามอย่างหนักมากในการปราบปรามผู้ก่อการร้ายเพื่อปกป้องประชาชนธรรมดา บ่อยครั้งที่โทนี่สวมชุดเกราะไอรอนแมนผจญอันตรายต่างๆก็เพื่อปกป้องสันติสุขของผู้คน เพราะโทนี่คือไอรอนแมนเหตุนี้ไอรอนแมนถึงกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

 

ถ้้าไม่มีโทนี่ ชุดเกราะไอรอนแมนก็เเค่อาวุธชิ้นนึงเพียงเท่านั้น มันอาจกลายเป็นชุดเกราะของกองทัพสหรัฐหรืออาวุธลับบางอย่าง เเต่เนื่องจากการดำรงอยู่ของโทนี่เขาได้ทนต่อเเรงกดดันอันมหาศาลของกองทัพสหรัฐที่บีบตัวเองให้มอบชุดเกราะไอรอนแมนให้กองทัพ โทนี่ ยืนกรานปกป้องสมบัติของตัวเอง เขาตั้งตนเป็นฮีโร่เพราะอยากจะปกป้องประชาชนคนอื่น ๆ ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นไอรอนแมน หากไม่มีโทนี่ ไอรอนแมนก็ไม่มีเหมือนกัน

 

“จะจริงงั้นหรอ?หากฉันไม่มีชุดเกราะไอรอนแมนฉันก็เเทบจะไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดาที่เเม้เเต่จะปกป้องตัวเองก็ทำได้หรือป่าวก็ไม่รู้ นอกจากนี้สิ่งที่อยู่บนหน้าอกของฉันเเม้มันจะดูน่าสนใจ เเต่ฉันก็ไม่ได้ต้องการสวมมันเอาไว้ตลอดแบบนี้หรอก”

 

“หากปราศจากมันกระสุนที่เฉียดใกล้หัวใจของฉันก็จะเคลื่อนไหวเเละฉันก็จะจบชีวิตลงทันที”โทนี่ชี้ไปที่เครื่องปปฏิกรณ์อาร์คขนาดเล็กที่อยู่กลางหน้าอก

 

“คุณยังไม่ได้นำกระสุนออกงั้นหรอ?”เเจ็คสันเหมือนจะครุ่นคิดอะไรได้

 

เขาเกือบที่จะลืมไปก่อนหน้านี้เเจ็คสันเพียงเเค่ให้โพชั่นน้ำศักดิ์ศิทธิ์เเก่โทนี่ไปเท่านั้นเเละมันได้ช่วยเหลือเเก้ไขพิษพาราเดียมของโทนี่ สำหรับกระสุนที่ใกล้หัวใจนั้นโพชั่นน้ำศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถทำให้มันหายไปได้

 

ทุกวันนี้โทนี่จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องปฏิกรณ์อาร์คเพื่อให้มีชีวิตรอด ถึงเเม้ว่าในทางทฤษฏีการมีอยู่ของเครื่องเตาปฏิกรณ์อาร์คสำหรับโทนี่จะไม่ทำให้เขาเป็นอันตรายเเต่สำหรับกระสุนที่ฝังใกล้หัวใจมันก็เหมือนกับระเบิดเวลาที่ต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับมัน

 

“หากมีเครื่องเตาปฏิกรณ์อาร์คอยู่ กระสุนก็จะหยุดการเคลื่อนไหวอยู่ที่เดิมไปแบบนั้น”โทนี่กล่าวอธิบาย

 

“เเล้วทางการเเพทย์มีวิธีรับมือหรือไม่?”ได้ยินคำตอบของโทนี่ เเจ็คสันกล่าวถามอีกครั้ง

 

วิธีการรักษาทั่วไปย่อมไร้ประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นยายีนหรือเวทมนตร์สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้สิ่งเเปลกปลอมที่อยู่ในร่างกายของโทนี่หายไปได้

 

“เเพทย์หลายคนได้ตรวจสอบเเล้วพวกเขาล้วนไม่มีใครกล้ารับประกันว่าจะสามารถนำกระสุนนี้ออกไปได้ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเทคโนโลยีเตาปฏิกรณ์อาร์คเข้ามาเกี่ยวข้องอีก เเต่พวกเขาก็ยังเเนะนำให้ฉันรีบรักษาโดยเร็ว”เห็นเเจ็คสันสนใจเป็นพิเศษ โทนี่ กล่าวบอกความจริง

 

“เเจ็คสัน นายมีวิธีช่วยเหลืออื่นอีกไหม?”ปีเตอร์กล่าวถามเเจ็คสันด้วยความกังวล

 

“ฉันไม่ใช่หมอเเน่นอนว่าฉันย่อมไม่สามารถช่วยเหลือเองได้”เเจ็คสันกล่าวตอบปีเตอร์

 

“เเต่ว่า…โทนี่ คุณรู้จัก ดร.สตีเวน สเตรนจ์ ไหม?”เเจ็คสันจู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้เขากล่าวถามขึ้นมา

 

“สตีเวน? เขาเป็นใคร ดูเเล้วน่าจะเป็นบุคคลที่น่าสนใจ เเต่ฉันไม่รู้จัก”โทนี่ที่ได้ยินชื่อเเปลก ๆ จาก เเจ็คสัน เขากล่าวตอบทันที สตีเวน ชื่อนี้ เเปลกมาก หากโทนี่ เคยพบเห็นหรือเคยเจอเขาย่อมจำได้อย่างเเน่นอน

 

“ดร.สตีเวน เขาเป็นศัลยเเพทย์ที่เก่งมาก”

 

“เขาเป็นศัลยเเพทย์ที่อายุน้อยที่สุดเเละยังมากพรสวรรค์”ขณะที่ โทนี่ กำลังสงสัย J.A.R.V.I.S ก็ได้ทำการค้นหาข้อมูลของ ดร.สตีเวน

 

“ศัลยเเพทย์มากพรสวรรค์?เเจ็คสันเธอกำลังจะบอกว่า ศัลยเเพทย์คนนี้อาจมีหนทางที่จะช่วยให้ฉันเอากระสุนออกจากหัวใจได้ใช่หรือไม่?”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ รู้สึกสนใจมากเขากล่าวถามเเจ็คสัน

 

ปัญหาของโทนี่ก็คือกระสุนในหัวใจเขาไม่เชื่อว่าศัลยเเพทย์ธรรมดาจะสามารถช่วยเหลือเขาได้

 

“ผมเองก็ไม่เเน่ใจ เเต่ ดร.สตีเว่น คนนี้เก่งมาก บางทีเขาอาจจะมีหนทางที่จะช่วยเหลือคุณ”เเจ็คสันจำได้ก่อน ดร.สตีเว่น จะกลายเป็น มหาจอมเวทย์ เขาเคยเป็น ศัลยเเพทย์ผู้เก่งกาจมาก่อน

 

“ดี ฉันจะลองติดต่อเขา ฉันเชื่อใจเธอ”เห็นท่าทีจริงจังของเเจ็คสัน โทนี่ ตอบตกลง

 

“ตอนนี้คุณยังกังวลว่าคุณสมควรเป็นไอรอนแมนอีกอยู่หรือไม่?”เห็นโทนี่ฟื้นฟูอารมณ์ของตัวเองขึ้นมาได้ เเจ็คสันยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“กังวล?ฉันเนี่ยนะกังวลที่จะเป็นไอรอนแมน ตลกเถอะ!”โทนี่ กล่าวตอบ เเจ็คสัน

 

“ฮ่าฮ่า น้อยครั้งนะ ที่ผมจะเห็นด้านอ่อนเเอของ ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ก”เเจ็คสันล้อเลี่ยนเล็กน้อย

 

“เอาล่ะมาหาวิธีตอบโต้การโจมตีของคิลเลี่ยนกัน”

ไม่ได้รอให้คนอื่น ๆ ถามคำถามภาพโทนี่ได้หายไปจากหน้าจอช่องถ่ายทอดสดทั้งหมดได้ถูกตัดออกไปเห็นได้ชัดว่าโทนี่ได้ยกเลิกการถ่ายทอดสดไปเเล้วเเละมันสั้นมาก โทนี่ได้เปิดเผยข่าวที่ชวนน่าตื่นตะลึงออกมา ตอนนี้ทั่วทั้งสหรัฐอเมริกากำลังตกอยู่ในความโกลาหลกับข่าวใหญ่เเละคำอธิบายของโทนี่

 

“การถ่ายทอดสดจบเเล้ว?”นี่เป็นคำถามในเว็บไซต์ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์หลังจากช่องสัญญาณถ่ายทอดสดของโทนี่ได้หายไป

 

“ฮู้ว สั้นจริง ๆ ไม่คาคคิดว่าเขาจะตัดบทนขณะที่มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคนกำลังรอรับชมเเละตั้งคำถามอยู่ เอาเถอะ อย่างน้อยฉันก็ยังได้รู้อะไรมาบ้าง”หลังจากช่องสัญญาณของโทนี่ถูกปิดไปเจอร์รี่ได้นั่งระบายอารมณ์ที่ด้านหลังหน้าจอคอมพิวเตอร์

 

“สกาย’อาย ในฐานะที่คุณเป็นรุ่นพี่ของฉัน ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้คุณกลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ไปเเล้ว ฉันขอเเสดงความดีใจด้วย”

 

“สกาย’อาย เทคนิคความสามารถของคุณ อยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก คุณกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ตั้งเเต่ตอนไหนกัน นอกจากนี้ คุณรู้ตัวจริงของพวกเขาหรือไม่? ฉันเป็นเเฟนคลับของสไปเดอร์แมนคุณพอจะบอกได้ไหมว่าเขาเป็นใคร?”

 

“สกาย’อาย มีเงื่อนไขอะไรบ้างในการเข้าร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ หากเป็นเทคโนโลยีละก็ ฉันค่อนข้างมีพอสมควร เเนะนำได้ไหม ฉันเองก็อยากทำงานให้กับ ฮีโร่เหมือนกัน”

 

หลังจากผ่านการไลฟ์สดไปเพื่อนจำนวนมากของสกาย’อาย ตื่นเต้นอย่างมาก พวกเขารู้สึกชื่นชมที่สกาย’อาย ทำงานเป็นเบื้องหลังให้กับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ใจหนึ่งของพวกเขาก็รู้สึกอิจฉาพอสมควร

 

ได้รับความชื่นชมจากคนอื่นในเเวดวงการเเฮ็กเกอร์ สกาย’อาย เเทบจะฮุบยิ้มไม่ได้ ในโลกไซเบอร์ สกาย’อาย อาจจะดูเหมือนเป็นพระเจ้าในสายตาคนเหล่านั้นก็จริงเเต่ในชีวิตธรรมดา เขาเเทบจะไม่ต่างอะไรไปกับมนุษย์ธรรมดาที่สู้ใครไม่เป็น

 

ในช่วงไม่นานมานี้ สกาย’อาย ได้เเก้ปัญหาด้านไฟล์วอลล์ของเว็บไซต์ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์มากขึ้น เนื่องเพราะปริมาณค้นหาจำนวนมาก อีกทั้งยังมีเเฮ็กเกอร์มือดีพยายามจะเจาะเข้าเว็บไซต์ของเขาทำให้ สกาย’อาย จำต้องเหนื่อยมากในวันนี้

 

พอรู้ความสามารถของ สกาย’อาย เพื่อนเเฮ็คเกอร์มือดีต่าง ๆ พวกเขาไม่สามารถสู้ความสามารถของสกาย’อายได้ พวกเขาได้เปลี่ยนเป็นการถามเเทน

 

“อ๊ะ ขอบคุณ ที่ให้ความสนใจทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเรา เเต่ขั้นตอนการรับคน นั้นเข้มงวดมาก ทั้งยังเป็นความลับ สำหรับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ฉันจะไม่ถือเอาความเเล้วกัน”เจอร์รี่กล่าวตอบ

 

“สกาย’อาย ได้โปรดบอกพวกเราเถอะ เเม้เทคโนโลยีเเละความสามารถของพวกเราจะด้อยกว่าคุณเเต่ถ้าเกิดฉันได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ล่ะก็ ฉันย่อมสามารถทำประโยชน์ให้กับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้”ได้ยินคำตอบของสกาย’อาย เเฮ็คเกอร์ คนนึงไม่ยอม

 

“ใช่ ฉันเองก็อยากเป็นหนึ่งในสมาชิก อย่างน้อยก็ให้ฉันได้เห็นไอดอลของตัวเอง มิราจไนท์ หน่อยเถอะ”หลังจากเพื่อนเเฮ็กเกอร์คนเเรกพูด คนที่สองก็ตามมา

 

“จริงด้วย ฉันเองก็อยากจะเห็นสไปเดอร์แมน”

 

“อันนี้ฉันไม่สามารถพูดได้จริง ๆ เเต่ฉันจะเอาเรื่องนี้ไปลองพูดกับมิราจไนท์ดู”เจอร์รี่บอกปัดพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องการรับสมาชิกเพิ่มนั้นเขาไม่อยู่ในสถานะที่จะตัดสินใจเองได้

 

ขณะที่หลังจากมาเป็นพันธมิตรกันพวกเขาก็พยายามช่วยเหลือเจอร์รี่ทุกอย่างพอการถ่ายทอดสดจบพวกเขาก็ได้เเยกจากกัน ความลับของเว็บไซต์ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ หลายคนอาจจะมองเป็นเรื่องง่าย ๆ เเต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเพื่อรักษาความลับของเว็บไซต์เจอร์รี่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เว็บไซต์ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์มีการตั้งค่าการป้องกันที่ดีที่สุด

 

“เอาล่ะ ฉันจะไม่พูดอะไรอีกเเล้ว ขอบคุณพวกนายมาก ที่กลับตัวกลับใจเเละช่วยเหลือฉัน ไว้ฉันจะคุยเรื่องนี้กับมิราจไนท์ให้”เจอร์รี่ กล่าวบอกเครือข่ายเพื่อนของเขา

 

“ฮ่าฮ่า เเน่นอน”

 

“ถือว่าเป็นของขวัญจากพวกเรา!”

 

“ใช่ใช่!”

 

 

ขณะที่สหายเเฮ็กเกอร์กำลังสนทนากัน โทนี่ ก็นอนผักผ่อนอยู่บนโซฟาในบ้านพักของตัวเอง

 

“คุณสตาร์ก ผมรู้ว่าคุณคงไม่ได้นอนพักผ่อนอย่างเดียว อย่างไรก็ตามคุณไม่คิดว่าพวกเราที่กำชัยชนะตอนนี้ควรจะเริ่มเเผนไล่ล่าพวกมันคืนมั้งหรอ เห็นได้ชัดว่า นายคิลเลี่ยนคนนี้ คงไม่ยอมกัดคุณเเล้วปล่อยเป็นเเน่”เเจ็คสันกล่าวบอกโทนี่

 

คิลเลี่ยน ชายผู้ที่มีพรสวรรค์มากมาย เขาเป็นคนจ้าวเเผนการ เเจ็คสัน รู้สึกกังวลเกี่ยวกับตัวของ คิลเลี่ยน

 

เเม้ปัจจุบันพล็อตเรื่องจะถูกเปลี่ยนเเต่มันก็ยังอยู่ในขอบเขตที่เเจ็คสันสามารถเเก้ไขได้เเต่ถ้าหากเขาเเละโทนี่ปล่อยผ่านมันไปเขากลัวว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน โทนี่ ยกศีรษะขึ้นเล็กน้อย

 

“เเจ็คสันก็จริงอย่างที่เธอกล่าว เเต่ชุดเกราะไอรอนแมน หากไม่มีฉัน โทนี่ สตาร์ก มันก็ยังเป็นชุดเกราะไอรอนแมน จริงหรือไม่?”

ติ๊ด ๆ

 

ในฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ J.A.R.V.I.S ได้ส่งข้อความเชิญชวนเจอร์รี่เพื่อนคนนี้ : ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ก เตรียมที่จะถ่ายทอดสดเพื่ออธิบายถึงสถานการณ์เหตุการณ์โจมตีที่เกิดขึ้น

 

J.A.R.V.I.S เเจ้งให้ เจอร์รี่ ทราบในเวลาเดียวกันเพราะในฐานะที่มิราจไนท์เป็นส่วนนึงของความสำเร็จในครั้งนี้โทนี่ตั้งใจจะให้ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้รับชื่อเสียงของเเจ็คสันมากขึ้นเดิมหากไม่ได้รับอนุญาติ ไอพี จาก J.A.R.V.I.S เป็นไปไม่ได้ที่จะก็อบลิ้งถ่ายทอดสดในครั้งนี้ได้

 

“ฉันตกลง ฉันจะรีบลงมือทันที”เจอร์รี่ตกลงทันที เหตุผลก็เพราะข่าวนี้สามารถทำให้ เว็บไซต์ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ดังระเบิดได้ เพราะการโจมตีของมิราจไนท์เเละความสามารถของเขาเป็นที่เเน่นอนว่าจะต้องมีผู้เข้าเยี่ยมชมจำนวนมาก

 

จากนั้นเจอร์รี่ก็ได้สร้างช่องทางรูปแบบการถ่ายทอดสดผ่านเว็บไซต์ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์สองนาทีภายหลังก็ปรากฏชื่อ ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ก กำลังเริ่มทำการไลฟ์สด สาม สอง หนึ่ง

 

ฟุ่บ!

 

ช่องถ่ายทอดสัญญาณของโทนี่ได้ปรากฏขึ้นเเต่ดูเหมือนผู้คนจะไม่ค่อยดูผ่านเว็บไซต์ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เท่าไหร่ซึ่งนี่ทำให้ เจอร์รี่รู้สึกห่อเหี่ยวอย่างมาก เเต่เขาพลันห่อเหี่ยวได้ไม่นาน กระเเสคนเข้าเว็บไซต์ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็เพิ่มขึ้นจนเเทบจะไม่สามารถวัดค่าออกมาได้

 

“บ้าเอ้ย,ใจหายหมด”เจอร์รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก

 

เพื่อทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเล้ว เขาย่อมสนับสนุนทุกความสามารถเพื่อให้ทีมได้กลายเป็นทีมที่กลายเป็นที่รู้จักเเละเเข็งเเกร่งมากขึ้น

 

กระเเสผู้คนภายในเว็บไซต์ของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เริ่มเเน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ทางด้านกองทัพสหรัฐก็เริ่มรับชมการถ่ายทอดสดของโทนี่ผ่านสื่อข่าวของกองทัพ

 

นับถอยหลัง: สาม ; สอง ; หนึ่ง.

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นภาพของโทนี่ก็ปรากฏออกมา

 

“สวัสดี,ฉันคือ ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ก”โทนี่ยิ้มเเละกล่าวทักทายกับทุกคนผ่านเลนส์กล้อง

 

“เกี่ยวกับการโจมตีในครั้งนี้ฉันเชื่อว่าหลายคนคงมีข้อสงสัยจำนวนมากดังนั้นฉันจึงออกมาเพื่ออธิบายให้ทุกคนได้ฟัง เเน่นอนว่าฉันตั้งใจจะออกมาคลายข้อสงสัยอยู่เเล้วไม่พูดก็คงจะไม่ได้”

 

“ดังนั้นพวกเรามาเริ่มกันเลย เริ่มจาก ตัวการของการโจมตีในครั้งนี้ หลายคนคงรู้เเล้วว่าเป็นฝีมือของเเมนดารินผู้ก่อการร้ายรายใหญ่ มันได้บุกโจมตีฉันตามสารท้ารบเมื่อวาน”โทนี่เริ่มจากบอกว่าเเมนดารินคือผู้ก่อการร้ายที่โจมตีเขาซึ่งผู้ชมทั้งหมดต่างก็คาดเดาเรื่องนี้กันได้อยู่เเล้ว

 

“เกี่ยวกับการโจมตีของเเมนดารินฉันคงต้องขอชื่นชมเขาอย่างมากเพราะเขาเลือกเวลาที่จะโจมที่ได้ถูกจังหวะไปหน่อย เพราะฉันกำลังทดสอบชุดเกราะไอรอนแมนอยู่ หลายคนคงจะสังเกตุว่าเมื่อไม่นานมานี้ชุดเกราะไอรอนแมนของฉันได้มีปัญหาหลังจากทำการ่อสู้ไปได้ไม่นานธรรมชาตินี่ย่อมเป็นปัญหาใหญ่ร้ายเเรงของฉัน”โทนี่ อธิบาย ว่าทำไมชุดเกราะไอรอนแมนถึงพ่ายเเพ้

 

เพียงเเต่คำอธิบายของโทนี่ ทำให้ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ค่อนข้างกระอักกระอ่วมเพราะ พวก คิลเลี่ยน ได้บุกยิงเซิฟเวอร์หลักของ J.A.R.V.I.S ทำให้ชุดเกราะไอรอนแมน สูญเสียการควบคุม เเต่เพราะหากผู้คนรู้ว่า โทนี่ ถูกโจมตีด้วยระบบ เเละสูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนไปจริง พวกเขาคงคาดไม่ถึงว่าชุดเกราะไอรอนแมนที่น่ากลัวดังกล่าวจะกลายเป็นภัยร้ายขนาดไหน

 

“เเต่โชคดีที่จังหวะนั้น เพื่อนของเราจากทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ฮีโร่ผู้ปกป้องนิวยอร์ก มิราจไนท์ ก็ปรากฏตัวขึ้น ฉันกับเขาค่อนข้างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หลังจากได้รับการช่วยเหลือจาก มิราจไนท์ ฉันก็รู้สึกขอบคุณเขาเป็นอย่างมาก เพราะ พวกผู้ก่อการร้ายเเมนดารินเหล่านี้ต่างถูกเขาจัดการทั้งสิ้น หลายคนคงรู้อยู่เเล้วผ่านการถ่ายทอดสด”โทนี่ได้พูดถึงชุดเกราะไอรอนแมนของตัวเองเเละพูดถึงเเจ็คสัน มิราจไนท์ เพราะ อย่างไรก็ตาม มิราจไนท์ ถือเป็นตัวละครหลักสำคัญของหัวข้อข่าวในครั้งนี้ โทนี่จะไม่พูดก็ไม่ได้

 

“สำหรับความสัมพันธ์ของระหว่าง ไอรอนแมน เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ใช่เเล้ว พวกเรามีความสัมพันธ์เชิงพันธมิตรกัน”โทนี่ได้เปิดเผยเรื่องสำคัญออกมา

 

ไอรอนแมน ซูเปอร์ฮีโร่ที่กลายเป็นกระเเสร้อนเเรงที่สุดในตอนนี้ เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ที่ประกอบไปด้วยเหล่าฮีโร่จำนวนมาก ทั้งสองถือเป็นการจับกลุ่มที่ลงตัว สำหรับเรื่อง S.H.I.E.L.D. เเละ ทีม X-MEN โทนี่จะไม่เอ่ยถึงพวกเขา โดยเฉพาะทีม X-MEN พวกเขาหลบซ่อนตัว ไม่มีความจำเป็นที่จะประกาศให้ทุกคนรู้

 

“ที่เเท้ ไอรอนแมน เเละ มิราจไนท์ ก็ร่วมมือกัน เเสดงว่า คุณสตาร์ก รู้ตัวจริงของมิราจไนท์งั้นหรอ?”

 

“ไอรอนแมน เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ร่วมมือกัน พวกเขาจะคอยอยู่ปกป้องพวกเรา!”

 

หลังจากโทนี่ประกาศความร่วมมือของตนเองกับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เหล่าเเฟน ๆ จำนวนมาก ต่างเเทบจะบ้าคลั่ง ต้องรู้ว่า ไอรอนแมน ก็ถือเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ได้รับความสนใจมาก ๆ ในตอนนี้ ส่วนทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ก็คือ ทีมของเหล่าฮีโร่ที่คอยปกป้องประชาชนอย่างพวกเขา

 

“เอาล่ะ มาเข้าประเด็นที่สามกันเลย ในการถ่ายทอดสดหลายคนคงเห็นมนุษย์ทั้งสามคนที่สามารถฟื้นฟูสภาพตัวเองได้อย่างรวดเร็วใช่ไหม ฉันขอบอกตรงนี้ก่อนเลยว่าพวกเขาไม่ใช่เหล่ามิวแทนท์เเต่เป็นผลลัพธ์จากการทดลองพิเศษบางอย่าง”

 

“เนื่องเพราะร่างกายของพวกเขาถูกดัดเเปลงความสามารถของพวกเขาคือการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็วตามที่พวกเราเห็น อย่างไรก็ตามการทดลองนั้นก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จซะทีเดียวพวกคุณคงเห็นว่าร่างกายของพวกเขาสามารถระเบิดได้อีกด้วย”

 

“การโจมตีระเบิดแบบนี้เเหละเป็นเบื้องลึกเบื้องหลังของเเมนดารินเหตุผลที่ทางกองทัพไม่สามารถค้นหาวัตถุระเบิดพบก็เป็นเพราะนี่เป็นการระเบิดพลีชีพตัวเอง”โทนี่ กล่าวถึงกองทัพ

 

“เเม้มันจะมีความสามารถในการรักษาที่สูงเเต่ก็มีความเสี่ยงที่จะระเบิด ถ้าหากพวกคุณได้รับบาดเจ็บต่าง ๆนา ๆ ฉันขอเเนะนำให้พวกคุณไปใช้ยาตัวใหม่ที่ทางออสคอร์ปเปิดตัวจะดีกว่า”โทนี่ไม่ยอมให้เหล่าคนจำนวนมากยุ่งเกี่ยวกับไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส เพราะหลงผิด ธรรมชาติ เขายังโปรโมต ให้เเฮร์รี่ อีกด้วย

 

เหตุผลที่เขายกตัวอย่างยาของเเฮร์รี่ขึ้นมาเพราะมันปลอดภัยมากกว่าไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส หากยังมีคนหลงผิดเข้าไปยุ่งกับไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสอยู่ พรรคพวกของ คิลเลี่ยนก็จะเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน

 

“สำหรับหัวข้อสุดท้ายในการอธิบายถึงเหตุการในครั้งนี้ ก่อนที่การถ่ายทอดสดจะจบลง ฉันก็จะอยากจะฝากบอกถึงเเมนดารินอีกครั้ง วิธีการของเเกฉันรู้หมดเเล้ว รอก่อนเถอะ อีกไม่นานฉันจะตอบเเทนเรื่องในครั้งนี้ให้อย่างสาสม”

 

ฟุ่บ~

 

หลังจากโทนี่ประกาศสงครามอีกครั้งการถ่ายทอดสดก็จบลง

หลังจากการถ่ายทอดสดสิ้นสุด โร้ด ที่อยู่ในสำนักงานใหญ่ของกองทัพที่วอชิงตัน เขาก็โทรหา โทนี่ ก่อนเป็นอนดับเเรกเพราะทางกองทัพก็โดนสื่อจำนวนมากรุมโจมตีเหมือนกันทางกองทัพที่ไม่รู้อะไรเลยต้องเคลื่อนไหวเพื่อหาข้อมูลซึ่งโร้ดคิดว่าเพื่อนของเขาโทนี่จะต้องรู้อะไรมาเเน่นอน

 

“โร้ด เกิดอะไรขึ้น?หรือว่ามีอะไรไม่สบายใจหลังจากการถ่ายทอดสดจบ?”โทนี่ กล่าวถาม โร้ด อย่างผ่อนคลาย

 

“สบายใจเถอะฉันอะไม่มีปัญหาหรอก ต้องขอบคุณมิราจไนท์ที่ช่วยจัดการศัตรู จริง ๆ เเล้วทางกองทัพได้รับเเรงกดดันจำนวนมาก โทนี่ นายมีข้อมูลอะไรที่อยากจะบอกฉันไหม หากฉันไม่มีข้อมูลอะไรไปบอกสำนักงานใหญ่ฉันเกรงว่าตัวฉันคงไม่สามารถทนรับเเรงกดดันได้ไหว”โร้ด กล่าวถามโทนี่เพื่อนของเขา มันจะดีมากหากโทนี่จะช่วยเหลือเขาโดยเร็วที่สุด

 

“ข้อมูลหรอ?มีเเน่นอน เอาเป็นว่าฉันจะจัดการเอง หากนายอยากรู้ข้อมูลมากกว่านี้ก็มาหาฉัน ฉันต้องการพูดคุยเป็นการส่วนตัว”โทนี่กล่าวตอบ

 

“ดีจริง ๆ เรื่องนี้ทางกองทัพไม่สามารถเเก้ไขได้ หากจะดีนายช่วยอธิบายให้สื่อจำนวนมากให้ได้รับรู้อะไรสักหน่อยเพราะพวกเขาต่างใคร่รู้เรื่องของเเมนดารินมาก พวกมันได้เปิดฉากโจมตีนาย เเละอีกอย่าง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของนายกับมิราจไนท์อีกไว้ฉันจะรอฟังข่าวดีจากนาย”

 

“จริงสิเพื่อน ฉันมีอะไรอยากจะขอร้องนายสักหน่อย”ในขณะที่โร้ดกำลังจะวางสายโทนี่กล่าวถามอีกครั้ง

 

“นายต้องการอะไร?”ได้ยินคำถามของโทนี่ โร้ด รู้สึกไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่ เรื่องของร้องของโทนี่ จะต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างเเน่นอน

 

“เรื่องของทางกองทัพฉันเองก็ไม่ได้สนใจมากนักหรอกเเต่ฉันมีโครงการนึงที่น่าสนใจเมื่อถึงเวลาฉันอาจจะต้องขอยืมใช้ของบางอย่างจากทางกองทัพ”โทนี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

เเม้เทคโนโลยีของโทนี่จะอยู่อันดับต้น ๆ ของโลก เเต่ทางกองทัพก็มีบางสิ่งที่พิเศษอยู่เหมือนกัน เดิมโทนี่ไม่ได้มีความสนใจที่อยากจะได้มาเเต่ในเมื่อเขามีโปรเจควิจัยรออยู่โทนี่ต้องการเริ่มงานของเขาจริง ๆ จัง ๆ สักที นอกจากนี้ ทางด้านกัปตันโรเจอร์ส เขาบอกโทนี่ว่าเขา พบ ดร.เเบนเนอร์เเล้ว โทนี่ตั้งใจว่าจะชวน ดร.เเบนเนอร์ มาเข้าร่วมกับเขาเหมือนกัน

 

“ก็ได้เเต่ฉันหวังว่านายจะช่วยอธิบายเเก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นในตอนนี้ก่อนเป็นอันดับเเรก”โร้ดนิ่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะพยักหน้ากล่าวตอบ

 

“ไม่มีปัญหา,โร้ด สัญญาเเล้วนะ ไว้รอดูฉันไลฟ์สดได้เลย”โทนี่กล่าวด้วยรอยยิ้มจากนั้นเขาก็วางสายโทรศัพท์

 

ฟุ่บ!

 

“คุณสตาร์ก นี่คือเเผนของคุณ! สุดยอด”เห็นการเเสดงของโทนี่ ปีเตอร์ เเละ เเจ็คสันรู้สึกชื่นชม

 

“เอาไว้เราค่อยพูดคุยกันจริงสิ มิส เเฮนเซ่น คุณต้องการจะพูดอะไรนะเมื่อกี้?”หลังจากจบสายกับโร้ด โทนี่กล่าวถาม มายาด้วยรอยยิ้ม

 

“ฉันเคยทำงานร่วมกับคิลเลี่ยน”มายาเข้าสู่ประเด็นในทันที

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากมายาพูดว่าตัวเองเคยทำงานร่วมกับคิลเลี่ยน เเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ โทนี่ เเสดงให้เห็นถึงความประหลาดใจ เเต่พวกเขาก็ยังไม่ได้กล่าวถามอะไรต่อ

 

‘เดิมเธอเคยรู้จักกับคิลเลี่ยนจริง ๆ’โทนี่พึมพัมกับตนเองเล็กน้อย

 

“เเล้วมีข่าวอะไรที่คุณจะต้องบอกผม หากคุณต้องการเตือนผมว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นฝีมือของคิลเลี่ยนล่ะก็อันนี้ผมรู้เเล้ว”

 

“เดิมคุณรู้อยู่ก่อนเเล้วจริง ๆ เเต่คุณรู้เกี่ยวกับเรื่องมนุษย์ระเบิดพวกนั้น?คุณรู้หรือไม่ว่าคิลเลี่ยนวางเเผนอะไรไว้อยู่?คุณรู้อยู่เเล้วใช่ไหมว่าคิลเลี่ยนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังผู้ก่อการร้ายเเมนดาริน?”เห็นโทนี่พอจะรู้ข้อมูลมายาเลือกที่ถามเเทน

 

เพื่อที่จะได้รับความสนใจจากโทนี่ มายาต้องการได้รับคำตอบทั้งหมดที่โทนี่รู้เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องบอกเล่าเรื่องที่รู้อยู่ก่อนเเล้ว มายา เเฮนเซ่น เธอเป็นนักพฤกษศาสตร์มีความทะเยอทะยานเหมือนกับคิลเลี่ยน เธอต้องการให้งานวิจัยของเธอโด่งดังไปทั่วโลก เเต่เธอไม่สามารถทนพฤติกรรมของคิลเลี่ยนได้เธอจึงออกมาเเละเเจ้งให้โทนี่รู้เกี่ยวกับการโจมตีในครั้งนี้

 

“อืม…ผมก็พอรู้มาบ้าง คุณอยากจะบอกว่าทหารพวกนั้นคือพวกเอ็กซ์ทรีมิสใช่ไหม?สำหรับเป้าหมายของคิลเลี่ยนก็คงเป็นการกำจัดบุคคลที่ไม่จำเป็นต่อเเผนการในอนาคตเขาเลยเป็นฉากหลังของพวกผู้ก่อการร้ายเพื่อที่จะยึดครองโลกในเวลาต่อมา? เเต่คิลเลี่ยนหารู้ไม่ว่า ยังมีอิทธิพลอีกมากมายที่เเข็งเเกร่ง เขาคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่มาจากไหน”โทนี่กล่าวตอบในอีกทางเขาก็ดูถูก

 

“คุณรู้…”ได้ยินคำตอบของโทนี่ มายา ไม่คาดคิดเลยว่า โทนี่ จะรู้ข้อมูลมากกว่านี้

 

“ถ้าหากที่ผมบอกไปนั่นคือข่าวทั้งหมดของคุณ ข่าวคุณก็คงไม่มีประโยชน์เเล้วล่ะ เอาล่ะผมขอตัวก่อน ผมต้องเปิดการถ่ายทอดสดอีกครั้งเพื่ออธิบายการโจมตีครั้งนี้ให้ทั่วโลกรับรู้”เห็นการเเสดงออกของมายา โทนี่ไม่ได้สนใจอีกครั้ง

 

“คุณสตาร์ก…”

 

“มิส เเฮนเซ่น เชิญ”เห็นมายายังไม่ยอมเเพ้ เเจ็คสันได้เดินนำทางเธอ ตามพล็อตเดิม เเจ็คสันรู้ว่าหญิงสาวคนนี้มาหาโทนี่เพราะมีเป้าหมายเป็นของตนเอง เธอต้องการได้รับความไว้วางใจจากโทนี่เพื่อช่วยในการทดลองงานวิจัย เเต่เเจ็คสันหาได้หลงคารมใบหน้าของผู้หญิงคนนี้

 

“ก็ได้…เช่นนั้นหวังว่าคุณสตาร์กจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ในโลกนี้อาจจะมีคนที่ดุร้ายมากกว่าอยู่ก็จริง เเต่คุณก็ไม่ควรประมาทคิลเลี่ยน”เห็นฝั่งตรงข้ามเชิญเธอออก เธอเเม้ไม่ยินยอมก็ทำได้เเต่เดินจากไป

 

“เเจ็คสัน นายคิดว่า คุณมายาคนนี้น่าเชื่อถือไหม เธอทำงานกับคิลเลี่ยน เเต่เธอก็ยังเเอบมาเปิดเผยข้อมูลความลับให้คุณสตาร์กอีก?”หลังจากมายาออกไปเเล้ว ปีเตอร์ก็กล่าวถามเเจ็คสัน

 

“มันยากที่จะพูด เเต่ฉันคิดว่ามันจะดีกว่าหากพวกเราไม่ควรมีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ”เเจ็คสันไม่ได้บอกว่าเเฮนเซ่นต้องการจะทำอะไร เพราะหญิงสาวคนนี้ไม่ได้เป็นอันตรายต่อพวกเขาดังนั้นเเจ็คสันจึงไม่ใส่ใจ ปัญหาก็คือ คิลเลี่ยน ต่างหาก

 

“อืม,ดูเหมือนได้เวลาที่ไอรอนแมนจะต้องเปิดไลฟ์สดอีกครั้ง”ขณะที่มายาจากไป โทนี่ก็เตรียมเปิดการถ่ายทอดสดเพื่ออธิบายถึงการโจมตีในครั้งนี้

 

“J.A.R.V.I.S ปรับมุมเเสงเเละเตรียมพร้อมทั้งหมด ฉันต้องการให้ภาพของฉันขณะไลฟ์สดดูดี”โทนี่กล่าวบอกJ.A.R.V.I.S

 

“การเตรียมการทั้งหมดพร้อมเเล้วครับเจ้านาย สามารถเริ่มได้ทันที”J.A.R.V.I.S ทำตามที่โทนี่สั่งการเสร็จเเล้วตอบเขา

 

“เอาล่ะเริ่มการถ่ายทอดสด!”

 

 

ฟู่วว

 

“เเจ็คสัน,เจ้าเด็กคนนี้เติบโตเร็วขึ้นอย่างมากไม่รู้ว่าเขาซุกซ่อนความลับไว้อีกมากเเค่ไหน”โทนี่จ้องมองวิดิโอที่เเจ็คสันลอยอยู่บนอากาศเขากำลังครุ่นคิดบางอย่าง

 

เเม้โทนี่จะสนิทกับเเจ็คสัน เเต่เเจ็คสันก็ไม่ได้พูดความลับทั้งหมดกับโทนี่ ก่อนหน้านี้ เเจ็คสันเคยบอกกับโทนี่เเล้วว่าความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนตัวของเเจ็คสันก็คือสิ่งของต่าง ๆ ที่เเจ็คสันใช้ เดิมเเจ็คสันไม่ได้ต้องการจะบอก โทนี่ก็ไม่ได้ต้องการจะถามเเต่ลึก ๆ เขาอยากรู้ความลับที่เเท้จริงของเเจ็คสันคืออะไร เขาเชื่อว่าหากวันนึงมาถึงเเจ็คสันอยากจะบอกเขาก็คงอยากบอกด้วยตนเอง

 

“คุณสตาร์กคุณไม่ต้องการวิจัยพวกเขางั้นหรอ?”ในขณะที่โทนี่กำลังพึมพัมกับตนเอง เเจ็คสันกล่าวออกมา

 

“หืม?พวกเขา?อ่า ไม่ใช่ว่าเธอจัดการพวกเขาจนระเบิดไปเเล้วงั้นหรอ?เเล้วฉันจะเหลืออะไร?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน โทนี่ตอบกลับ เขาวางเเผนจะศึกษาพวกเอ็กซ์ทรีมิสเเต่ข้อมูลที่เขามีน้อยเกินไปหากได้รับชิ้นส่วนร่างกายของพวกเอ็กซ์ทรีมิสมามันจะง่ายต่อการศึกษามากขึ้น

 

“ก่อนหน้าการระเบิดผมได้ทำอะไรบางอย่างก่อนที่จะตัดเเขนของพวกเขาเพราะงั้นมันถึงไม่ระเบิดผมโยนมันไปใกล้ ๆ กับทะเล”เเจ็คสันเตือนความทรงจำของโทนี่

 

“J.A.R.V.I.S ได้ยินเเล้วนะ ส่งชุดเกราะไอรอนแมนลงไปค้นหาเเขนทั้งสามนั่น”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวสั่ง J.A.R.V.I.S อย่างเร่งรีบ

 

“ครับเจ้านาย”J.A.R.V.I.S ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากก็ลงไปงมหาเเขนที่เเจ็คสันบอก เเผนการโจมตีของเเมนดารินเเละคิลเลี่ยนในครั้งนี้เป็นอันต้องล้มเหลวเพราะการเเทรกเเซงของเเจ็คสัน

 

เเม้การต่อสู้จะจบลงเเต่เหล่าคนดูกลับไม่พอใจเพราะเมื่อไม่นานมานี้พวกเขากลับได้ประจักษ์ความเเข็งเเกร่งที่เเท้จริงของมิราจไนท์ ทั้งเขายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไอรอนแมน เรื่องนี้จะกลายเป็นพาดหัวข่าวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตอนนี้ ตอนนี้อินเทอร์เน็ตนับไม่ถ้วนต่างได้รับการค้นหาชื่อทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์กันอย่างทั่วถึง

 

“ความสัมพันธ์ระหว่างมิราจไนท์เเละไอรอนแมนคืออะไรกัน?”

 

“ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเละไอรอนแมน เป็นพันธมิตรร่วมกัน?”

 

“อาวุธที่มิราจไนท์ใช้คืออะไรกันเเน่มันสุดยอดมาก”

 

“เห็นมนุษย์ทั้งสามคนนั่นไหมพวกเขาสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ พวกเขาเป็นพวกมิวแทนท์งั้นหรอ?”

 

“การโจมตีนั่นเหมือนกับการโจมตีของเเมนดารินไม่มีผิด หรือว่าต้นกำเนิดของการโจมตีเเท้จริงเเล้วคือระเบิดมนุษย์?”

 

“ไอรอนแมน คุณสตาร์ก! พวกเราหวังจะได้คำอธิบายจากคุณ”

 

ข้อความจำนวนมากต่างถูกระบุผ่านสื่อต่าง ๆ เเม้พวกเขาจะคาดเดาต่าง ๆ นา ๆ เเต่พวกเขาก็ต้องการรู้ความจริงเพราะข่าวการระเบิดของเเมนดารินถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในตอนนี้

 

ในขณะที่ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดในครั้งนี้ เเจ็คสันเเละปีเตอร์ก็กลับเข้ามาในบ้านพักของโทนี่

 

“คุณสตาร์ก ไม่ใช่ว่าคุณตั้งใจเผยเเพร่การไลฟ์สดในครั้งนี้?คุณจะไม่อธิบายหน่อยหรอ ตอนนี้คุณรู้ไหมว่า เจอร์รี่ ที่ดูเเลเว็บไซต์ของพวกเรากำลังจะบ้าตายเเล้ว พวกเขาต่างเข้ามากรูคำถามใส่เว็บไซต์พันธมิตรผู้พิทักษ์”ปีเตอร์กล่าวถามโทนี่

 

“สบายใจเถอะ ฉันจะอธิบายให้พวกเขาฟังเอง”

 

“อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่สามารถเร่งรีบได้เราจะต้องมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากกว่านี้”ภายใต้การเตือนของปีเตอร์ โทนี่ กล่าวตอบเขา เนื่องเพราะการโจมตีของเเมนดารินเเละวัตถุระเบิดลึกลับ ถือว่าเป็นข้อมูลลับมากเกินไป หากโทนี่ต้องการอธิบายให้พวกสื่อต่าง ๆ ฟัง เขาจำเป็นจะต้องมีหลักฐานให้มากกว่านี้ สิ่งที่โทนี่กังวลไม่ใช่สื่อเเต่เป็นรัฐบาลสหรัฐเเละทางกองทัพ ยิ่งตอนนี้พวกเขาเหมือนจะรู้ว่าโทนี่ได้ข้อมูลอะไรบางอย่างมาไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องมากดดันตัวเองเป็นเเน่

 

“คุณสตาร์ก ดูเหมือนคุณจะพอรู้อะไรมาบ้าง”นอกเหนือจากเสียงของปีเตอร์ เสียงของผู้หญิงคนนึงได้ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของโทนี่

 

ทั้งสามคนได้หันไปมองก็พบ มายา เเฮนเซ่น ที่ปรากฏตัวออกมา คนคนนี้มาก็เพื่อเตือนโทนี่เกี่ยวกับคิลเลี่ยนเธอชักชวนให้โทนี่ล้มเลิกเเผนการเเละออกจากบ้านนี้เเต่โดยดี เเต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ทำให้ เเฮนเซ่นประหลาดใจอย่างมาก

 

เดิม มายาคิดว่าโทนี่จะต้องถูกจับตัวไปหรือถูกจัดการภายใต้การโจมตีของคิลเลี่ยน เเต่ไม่คาดคิดว่ามิราจไนท์จะปรากฏตัวขึ้นเเละจัดการเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธของคิลเลี่ยนจนเกลี้ยง

 

รวมถึงทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนนั่นอีก มายา เเทบไม่อยากจะเชื่อสายตา เธอรู้จัก ทหารเอ็กซ์ทรีมิส พวกนี้เป็นอย่างดี เเต่ไม่คาดคิดว่ามิราจไนท์จะโค่นทั้งสามคนพร้อมกันลงได้

 

“มิส เเฮนเซ่น ผมคิดว่าคุณจะไปเเล้วซะอีก”เห็นมายาปรากฏตัวขึ้น โทนี่ ขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

“ถ้าฉันไปฉันคงจะพลาดดูชมการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมในครั้งนี้อย่างเเน่นอน เดิมฉันต้องการจะมาบอกความลับกับคุณ เเต่ดูเหมือนคุณจะพอรู้อะไรมาบ้างเเล้ว”ได้ยินโทนี่หยอกล้อ มายา ไม่ได้โกรธ เธอยังกล่าวต่อ

 

นอกเหนือจากสายตาของมายาที่ไปตกบนร่างของโทนี่เเล้วเธอก็ลอบมองเเจ็คสันเเละปีเตอร์เล็กน้อย เด็กสองคนนี้มีความเกี่วข้องยังไงกับโทนี่กันเเน่ เเละดูเหมือนพวกเขาจะไม่ค่อยเหมือนลูกนอกสมรสของโทนี่เท่าไหร่อันที่จริงมายาสนใจการปรากฏตัวขึ้นของมิราจไนท์มากกว่าเเต่เธอไม่รู้ว่าจะมองหามิราจไนท์เจอได้ไงในปัจจุบัน

 

“คุณวางเเผนอะไรจะบอกผม? ตอนนี้ผมมีเวลาว่างเพียงชั่วครู่เเต่ก็อยู่ฟังคุณพูดได้”โทนี่ทำเป็นไม่ได้สนใจมายาเล็กน้อย

 

“คือ…”

 

“เจ้านายครับ คุณโร้ด ติดต่อมาครับ”ในขณะที่มายาเตรียมจะเปิดปาก J.A.R.V.I.S ก็กล่าวเเจ้งเตือนโทนี่

 

“ไม่เป็นไร ผู้พันโร้ด เป็นเพื่อนของคุณทั้งยังเป็นคนของกองทัพ บางทีเขาอาจมีเรื่องเร่งด่วนที่อยากจะพูดกับคุณอยู่ก็ได้”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S มายากล่าวพูดบอกโทนี่

 

“J.A.R.V.I.S ต่อสายให้ฉัน”โทนี่พยักหน้าเล็กน้อย

ขณะเดียวกันสายตาของปีเตอร์เเละโทนี่ก็เปลี่ยนไปที่หน้าจอในสนามรบเมื่อครู่ เดิมทีเเขนของพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนถูกตัดออกไปเเล้วเเต่เเล้วเเสงสีเเดงก็เเวบไหลผ่านเเขนข้างขวาของทั้งสามคนจากนั้นกล้ามเนื้อกระดูกก็งอกออกมาราวกับปาฏิหาริย์มันเจริญเติบโตรวดเร็วจนขนาดที่ว่าการเป็นเเขนที่สมบูรณ์แบบราวกับไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อนหลงเหลือเเต่รอยขาดของเสื้อที่ถูกตัดออกไปเมื่อครู่

 

“ความเร็วในการฟื้นฟูร่างกายสูงมาก!”เห็นสภาพปัจจุบันปีเตอร์รู้สึกประหลาดใจ

 

“ดูเหมือนฉันจะพลาดโอกาสในการเป็นหุ้นส่วนที่ดีมากของคิลเลี่ยน เเต่ไม่ช้าก็เร็วเทคโนโลยีนี้จะต้องตกมาอยู่ในมือของฉัน”โทนี่เองก็ตะลึงกับเหตุการณ์ปัจจุบันเขาคิดว่าหลังจากเเก้ปัญหาของ คิลเลี่ยน สำเร็จ เขาจะขโมยวิทยาการเอ็กซ์ทรีมิสนี้มาเเละสานต่อให้เอง

 

นอกเหนือจากปีเตอร์เเละโทนี่เเล้วเหล่าคนที่ดูการถ่ายทอดสดของโทนี่ต่างตกตะลึงโดยสมบูรณ์พวกเขาเห็นเหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อดังกล่าวธรรมชาติพวกเขาย่อมตกช็อครุนเเรงกว่าปีเตอร์เเละโทนี่

 

“นั่นมันอะไร?มันเกิดอะไรขึ้นกัน?”

 

“พวกเขาใช่มนุษย์เเน่งั้นหรอ?”

 

“ทำไมเเขนที่ถูกตัดขาดไปเเล้วถึงงอกขึ้นมาใหม่ได้?เเล้วเเสงสีเเดงนั่นคืออะไร?”

 

“หรือว่าพวกเขาเป็นมิวแทนท์?พวกมิวแทนท์คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายครั้งนี้อย่างงั้นหรอ?”

 

เหล่าคนที่เฝ้ามองต่างคาดเดาต่าง ๆ นา ๆ เกี่ยวกับความสามารถของทหารเอ็กซ์ทรีมิสเพราะความสามารถการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเป็นปกติมันค่อนข้างน่าเหลือเชื่อเกินไป

 

ขณะที่ผู้ชมภายนอกกำลังตื่นตกใจกับความสามารถของทหารเอ็กซ์ทรีมิสเเจ็คสันก็ไม่ได้วางเเผนจะทดลองอะไรอีกเขาตั้งใจจะจัดการศัตรูแบบจริง ๆ จัง ๆ สักที เเจ็คสันรู้ดีถึงความสามารถของทหารเอ็กซ์ทรีมิสว่ามีความเเข็งเเกร่งที่น่าเหลือเชื่อหากเป็นคนธรรมดารับมือกับทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้โอกาสชนะย่อมเเทบไม่มี

 

ความสามารถของทหารเอ็กซ์ทรีมิสน่าเหลือเชื่อก็จริงเเต่ก็ยังมีความเสี่ยงในการใช้งานอยู่หากข้อบกพร่องเหล่านั้นก็คือการระเบิดตัวเองไม่งั้นจัตุรัสกลางนิวยอร์กคงไม่ถูกระเบิดเป็นหน้ากลองแบบนี้

 

“เอาล่ะควรเก็บกวาดจริง ๆ จัง ๆ สักที ที่เหลือจะได้ใช้เวลาตามหาตัวคิลเลี่ยน”เเจ็คสันกำชับสปิริตซอร์ดในมือเเน่นเเละจ้องมองไปที่ทั้งสามคน

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนต่างมองหน้ากันพวกเขาคิดว่าศัตรูดูถูกพวกเขามากเกินไปถึงอย่างไรพวกเขาก็เคยเป็นทหารรับจ้างกันมาก่อน

 

“ฮิอิ ดูเหมือนความเร็วเเละการส่งเสริมการเผาไหม้ของพวกเขาจะรุนเเรงขึ้น?เเต่นั่นก็ยังไม่ใช่คู่มือของฉันอยู่ดี”เผชิญหน้ากับพละกำลังเเละความเร็วที่เหนือขึ้นของศัตรูเเจ็คสันยิ้มออกมา

 

ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังเผาไหม้ร่างกายตัวเอง เเจ็คสันก็พุ่งไปยังทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนึงเขาใช้สปิริตซอร์ดของตนเองตัดเเยกเเขนของศัตรูมาอีกครั้งจากนั้นเขาก็ยังมุ่งหน้าไปอีกทั้งสองคนเพื่อตัดเเขนกันมาคนละข้าง

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาที่เเสงสีฟ้าวาดผ่านเเขนของทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนมันก็ถูกตัดเเขนออกมาเพียงเเต่เขนเหล่านั้นกลับไม่ได้ตกลงพื้นเหมือนอดีตคราวนี้เเจ็คสันได้เก็บกูเเขนทั้งสามอันนั้นขึ้นมา

 

หืม?

 

ปั้ง ปั้ง ปั้ง

 

ในขณะที่เเขนกำลังจะระเบิดขึ้นเเจ็คสันได้โยนเเขนทั้งสามข้างทิ้งไปไกล ดูเหมือนว่าทหารเอ็กซ์ทรีมิสพวกนี้ตั้งใจจะระเบิดเเขนของตนเองไปพร้อมกับเเจ็คสัน

 

คนทั่วไปรัศมีพลังเเรงระเบิดดังกล่าวย่อมไม่รอดเเม้จะเป็นชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ก็ยังได้รับผลกระทบ

 

เพียงเเต่ด้วยความสามารถเเละความคล่องตัวของเเจ็คสันขณะที่เเขนกำลังจะระเบิดเทคนิครู้เเจ้งของเขาก็ได้เเจ้งเตือนเขาได้ทันก่อนที่เขาจะชิงลงมือโยนเเขนพวกนั้นทิ้งไป การระเบิดในครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์เช่นเดียวกับการระเบิดของเเมนดาริน

 

“ระเบิด?นั่นมันเหมือนการโจมตีด้วยระเบิดของแมนดารินเลย!”ผู้พันโร้ด ที่เห็นการโจมตีด้วยระเบิดรัศมีพลังระเบิดที่กลืนกินมิราจไนท์เข้าไปเหมือนกับการระเบิดของเเมนดารินเป๊ะ ๆ

 

“เหตุผลที่พวกเราไม่สามารถหาวัตถุระเบิดเจอเพราะมันไม่ใช่วัตถุระเบิดเเต่ระเบิดนั่นคือร่างกายมนุษย์”เเขนของผู้พันโร้ด ทุบไปที่โต๊ะอย่างหนักเเน่น

 

ในสนามรบเกิดการระเบิดขึ้นอย่างกระทันหันส่งผลให้พื้นที่โดยรอบสั่นสะเทือนเล็กน้อย

 

ทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนหลังจากสูญเสียเเขนของตัวเองครั้งนี้พวกเขายังได้รับบาดเจ็บหนักทั้งเวลาการฟื้นฟูยังเชื่องช้ากว่าเดิมอีกด้วย

 

ขณะที่ทั้งสามคนกำลังเรียกคืนความเสียหายกันอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงอันโชติช่วงรัศมีพลังงานสีฟ้าได้พุ่งตรงออกมาเข้าใส่ทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคน

 

ฟุ่บ!

 

ทั้งสามคนถูกดันลอยออกไปด้วยรัศมีพลังที่มีความยาวมากกว่า 50 เมตร จากนั้นไม่นานทั้งสามคนก็ถูกส่งกระเด็นตกลงไปในทะเลความเเข็งเเกร่งของพวกเขาในตอนนี้เเทบจะไม่มีพละกำลังมากพอจะต่อต้านการโจมตีดังกล่าว

 

บึ้ม!

 

ร่างทั้งสามร่างได้เกิดการระเบิดขึ้นในเวลาต่อมาระดับน้ำทะเลเดิมได้ระเหยออกจนเป็นหลุมน้ำวนการโจมตีของมิราจไนท์ได้ปิดชีพทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนจนพวกเขาเกิดการระเบิดตัวเอง

 

ฟุ่บ!

 

ภายใต้การจับจ้องของผู้คนทั่วโลกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างชวนให้พวกเขาตกตะลึงอย่างเเท้จริงการโจมตีของมิราจไนท์ส่งผลให้ทั้งสามคนลอยไปยังทะเลเเละเกิดการระเบิด ตอนนี้ ชื่อเสียงของ มิราจไนท์กำลังเพิ่มขึ้นอย่างทั่วตัว คำค้นหาที่มากที่สุดในเน็ตตอนนี้ก็คงไม่พ้นชื่อมิราจไนท์

 

หลังจากเเจ็คสันโดดลงจากหลังคาบ้านของโทนี่เขาก็พบชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ 8 ตัวที่ติดตามออกมา ซึ่งเเจ็คสันก็คงคิดว่าโทนี่คงเเก้ไขผู้บุกรุกสำเร็จเเล้วเเละสั่งให้ J.A.R.V.I.S ช่วยเหลือเขาในการโจมตีศัตรู เเต่สิ่งที่เขาคาดไม่คิดก็คือชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ได้เเบ่งออกไปคนละที่เเละล้อมรอบทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนจากนั้นเสียงของโทนี่ก็ดังขึ้นข้างหูของเขา

 

“เด็กน้อยเเจ็คสัน,คิลเลี่ยนหรือเเมนดารินได้ปิดการถ่ายทอดสดไปเเล้วฉันรู้ว่าการรับมือกับทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนอาจจะยากไปซะหน่อยเเต่ฉันต้องการถ่ายทอดสดข้อมูลที่เหลือเพื่อให้คนทั้งโลกรับรู้เธอพอจะรับมือทั้งสามคนไหวไหม?”โทนี่กล่าวถามเเจ็คสัน

 

“หืม?คิลเลี่ยนตัดใจยอมเเพ้ไปเเล้วงั้นหรอ?หากทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนของเขาเลือกที่จะระเบิดตัวเองถือว่าไม่เกินเลยไปจริง ๆ คุณสตาร์กสบายใจเถอะเเม้ทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนจะเเข็งเเกร่งเเต่ก็ไม่ใช่ภัยคุกคามของผม ยิ่งไปกว่านั้นชุดเกราะไอรอนแมนของคุณเพิ่งได้รับการฟื้นฟูกลับมายังไม่สามารถชะล่าใจได้เเต่สิ่งที่ผมเเปลกใจก็คือไม่คาดคิดเลยว่าคุณจะจัดการศัตรูเร็วขนาดนี้”เเจ็คสันกล่าวชื่นชมโทนี่

 

“เรื่องเล็กน้อยฉันได้ช่องสัญญาณกลับคืนมาเเล้ว นอกจากนี้นี่เป็นโอกาสที่เธอจะได้ดังชั่วข้ามคืนเตรียมพร้อมไว้ให้ดีล่ะ”หลังจากตกลงกับเเจ็คสันโทนี่ก็เริ่มปล่อยช่องสัญญาณถ่ายทอดสดในเวลานี้นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างมิราจไนท์เเละทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคน

 

ฟู่วว

 

เเจ็คสันได้ปรากฏตัวขึ้นที่เบื้องหน้าของทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคน เอ็กซ์ทรีมิสทั้งสาม หลังจากเห็นฝีมือของเเจ็คสันพวกเขาพลันหวาดกลัวอย่างมากเเต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากจะสู้เพื่อให้มีชีวิตรอด

 

“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความมั่นใจมากจริง ๆ “เห็นทั้งสามคนพุ่งเข้าหาตนเองเเจ็คสันไม่ได้ชักดาบออกมา

 

เนื่องเพราะเขาต้องการต่อสู้กับศัตรูด้วยมือเปล่าเพื่อทดสอบความเเข็งเเกร่งของตนเอง

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันพุ่งเข้าหาทั้งสามคนสิ่้งที่เขาได้เปรียบทั้งสามคนก็คือความเร็วของตัวเองพริบตาเดียวหมัดทั้งสองของเขาก็เข้าไปที่ใบหน้าของทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนพวกนี้ ทุกครั้งที่พวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสโจมตีกำปั้นสวนเขาจะมีรังสีพลังงานสีเเดงวิ่งผ่านเเขนของพวกเขา

 

ภายใต้การวิ่งผ่านของพลังงานสีเเดงเเจ็คสันสามารถมองเห็นรอยกล้อมเนื้อภายในเเละโครงสร้างของกระดูกจำนวนมากยิ่งไปกว่านั้นมันยังเเผ่กลิ่นอายความร้อนออกมาอีกด้วย

 

ฟุ่บ!

 

สองหมัดของเเจ็คสันได้ซัดทหารเอ็กซ์ทรีมิสคนนึงลอยกระเด็นออกไปเพียงเเต่เเจ็คสันไม่มีโอกาสได้เข้าไปซ้ำคนที่ถูกจัดการไปเมื่อครู่เพราะอีกสองคนที่เหลือต่างเข้าสนับสนุนเพื่อโจมตีเขาโดยเเทบจะไม่ปล่อยโอกาสให้ตนเองจัดการเพื่อนร่วมทีม

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันที่เห็นหมัดทั้งสองพุ่งเข้ามาหาตนเองเขาใช้มือทั้งสองข้างของตนเองคว้ารับกำปั้นทั้งสองเอาไว้ก่อนที่จะใช้เเรงเท้ายันเเละใช้เเรงเเขนหยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูเพียงเเต่สีหน้าของเเจ็คสันตอนนี้ถือว่าไม่ดีสุด ๆ

 

“ร้อนมาก!”เเจ็คสันรีบดันมือทั้งสองคนกลับไปเเละกระโดดถอยหลังกลับดูเหมือนเขาจะไม่สามารถใช้หมัดปะทะกับศัตรูได้ตามใจนึกเเล้ว

 

พลังงานความร้อนในร่างกายของทหารเอ็กซ์ทรีมิสถือว่าร้อนอย่างมากมันเผาไหม้กำปั้นของเเจ็คสันจนมีรอยเเผลไหม้เล็กน้อย

 

เเม้ร่างกายของเเจ็คสันจะมีความเเข็งเเกร่งที่ไม่ธรรมดาเเต่เขาก็ไม่สามารถทนความร้อนระดับสูงพวกนี้ได้ ความร้อนของทหารเอ็กซ์ทรีมิสสามารถที่จะฉีกชุดเกราะไอรอนแมนได้ด้วยมือเปปล่าพลังงานของพวกเขาคืออุณหภูมิความร้อนที่สามารถละลายได้เเทบทุกสิ่ง

 

หากไม่มีชุดของเขามีมีถุงมือล่ะก็ความร้อนดังกล่าวก็เพียงพอที่จะทำให้เเจ็คสันเกิดบาดเเผลไฟไหม้ลึกอย่างเเน่นอน

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้ดึงสปิริตซอร์ดของตนเองออกมาในฐานะอาวุธระดับ B เเจ็คสันไม่เชื่อว่าอุณหภูมิดังกล่าวจะสามารถทำลายสปิริตซอร์ดของเขาได้

 

“อย่าได้หาว่าฉันขี้โกงเพราะฉันใช้อาวุธเลยนะถ้าจะโทษก็โทษที่พวกนายเถอะที่ไม่มีอาวุธให้ใช้”หลังจากเเจ็คสันชักสปิริตซอร์ดออกมาเขาก็พุ่งเข้าหาศัตรูด้วยความเร็วสูง

 

เเสงสีฟ้าได้วาดออกไปสามครั้งพุ่งไปยังร่างของทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคน

 

พริบตาเดียวเเขนขวาของทั้งสามคนก็ได้ถูกตัดลงมาที่พื้นเเขนของพวกเขาได้ร่วงหล่นติดต่อกันในเวลาต่อมาเพียงเเต่ทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนกลับไม่ได้เเสดงสีหน้าความเจ็บปวดเเม้เเต่น้อย

 

“เเจ็คสันนี่ไม่ใช่รายการเด็กเเละเยาวชนไม่จำเป็นจะต้องใช้เทคนิคที่ทำให้ศัตรูไม่เลือดตกยางออก”โทนี่ที่นั่งดูการต่อสู้กับปีเตอร์เขากล่าวบอกเเจ็คสัน

 

“หืม?คุณสตาร์กผมไม่ได้ใช้เทคนิคใด ๆ ทั้งนั้นเเหละ”เห็นโทนี่กล่าวพูดกับเขาเเจ็คสันกล่าวบอกความจริงออกมา

 

“ไม่ได้ใช้เทคนิค นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันโทนี่เเละปีเตอร์รู้สึกประหลาดใจ

 

นั่นก็เพราะหลังจากเเขนของศัตรูถูกตัดขาดพวกเขากลับไม่มีเลือดหยดออกมาสักหยดธรรมชาติโทนี่เเละปีเตอร์คิดว่าเเจ็คสันใช้เทคนิคบางอย่างเพราะเเม้เเต่ตัวตนอย่างเเวมไพร์ก็ยังมีเลือดไหลออกมาเวลาถูกตัดชิ้นส่วนของร่างกาย

 

“พวกเขาสามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว?”ปีเตอร์เเละโทนี่จ้องมองไปที่เเขนของทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนที่งอกใหม่ราวกับว่าไม่เคยถูกตัดมาก่อน

ฟุ่บ!

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังมุ่งหน้าไปจัดการศัตรูภายนอก ในบ้านพัก โทนี่ ก็กำลังจัดการกับผู้บุกรุก J.A.R.V.I.S. อยู่สงครามไซเบอร์ค่อนข้างใช้เวลาเเต่โทนี่ก็ยังมีเวลาเหลือมองสถานการณ์ภายนอก

 

ฟุ่บ!

 

“ฟู่ว! ในที่สุดก็จบสักที! J.A.R.V.I.S. ตั้งระบบป้องกันไฟร์วอลล์เอาไว้อย่าชะล่าใจจนเพราะศัตรูอาจจะกลับมีอีกรอบนอกจากนี้ทำการค้นหาศัตรูเเละเเหล่งที่มา!”หลังจากโทนี่บล็อคการเเฮ็กของฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จเขาก็สั่งการ J.A.R.V.I.S ให้เริ่มทำการตอบโต้

 

“ครับเจ้านาย!” J.A.R.V.I.S ได้เข้าสู่เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเเละกำลังดึงข้อมูล

 

“ดูเหมือนเเจ็คสันจะเเก้ไขจัดการใกล้จะหมดเเล้ว”โทนี่กล่าวพึมพัมออกมาเล็กน้อย

 

“ยังมีอีกหลายคนที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ตอนนี้เเจ็คสันกำลังเข้าปะทะกับพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิส”ปีเตอร์ที่อยู่ใกล้โทนี่เขาขึ้นไปบนบ้านเเละให้ความสนใจกับตรงริมขอบทะเล

 

“เธอต้องการเข้าไปช่วยเเจ็คสันจัดการงั้นหรอ?”โทนี่กล่าวคาดเดาความคิดของปีเตอร์ได้

 

“อืม,เเม้ว่าผมจะไม่กังวลเเต่เเจ็คสันต้องลำบากเเน่หากต้องรับมือกับทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนพร้อมกัน”ปีเตอร์กล่าวตอบตามตรง

 

“ลืมมันไปเถอะ มิราจไนท์ ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ใกล้บ้านของฉัน หาก สไปเดอร์แมนปรากฏตัวขึ้นอีกคน เป็ปเปอร์จะต้องคาดเดาได้เเน่ว่าพวกเธอทั้งสองคนเป็นใคร”โทนี่กล่าวพูดออกมา

 

“เอ่อ…ผมเกือบจะลืมไปเลย จริงสิคุณสตาร์กการถ่ายทอดสด!”ปีเตอร์ที่รู้ว่าตนเองไม่มีโอกาสออกไปช่วยเหลือเเจ็คสันเขาค่อนข้างเศร้าเล็กน้อยสายตาของเขาได้เปลี่ยนไปที่หน้าจอการถ่ายทอดสด

 

เเจ็คสันได้ทำลายเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธทั้งหมดมาเเล้วตอนนี้ผู้จู่โจมที่เหลือก็คือทหารเอ็กซ์ทรีมิส ทั้งสามคนที่อยู่เบื้องหน้าของเขา

 

เพียงเเต่ผู้ชมที่กำลังเฝ้าจับตามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพวกเขาพลันต้องรู้สึกตกใจ

 

“เกิดอะไรขึ้นทำไมการถ่ายทอดสดจึงหยุดลง?”

 

“ฉันอยากจะดูการต่อสู้ของมิราจไนท์ต่อ”

 

“มีอะไรเกิดขึ้นที่ริมฝั่งกันเเน่?”

 

“หรือว่านี่เป็นฝีมือของเเมนดารินพอรู้ว่าสู้ทางฝั่งของไอรอนแมนไม่ได้ก็คิดจะหลบหนี?”

 

เเม้มิราจไนท์จะจัดการเเก้ไขเฮลิคอปเตอร์ทั้งหมดไปเเล้วเเต่ก็ยังมีศัตรูอื่น ๆ อยู่ที่ริมทะเลคนเหล่านี้อาจจะเป็นคนร้ายที่เหลือของทางฝั่งเเมนดารินพอเห็นว่าจะเเพ้องค์กรก่อการร้ายนี้ก็เลยคิดจะปิดบังความจริงอันอัปยศ

 

“พวกเขาวางเเผนจะหลบหนีใช่หรือไม่? พวกเขาไม่สามารถจัดการ โทนี่ สตาร์ก ได้”

 

“พอรู้ว่าตนเองล้มเหลวก็เลยคิดจะหนีงั้นเรอะ ฉันจะทำให้คนทั้งโลกรู้จักว่า ฉัน โทนี่ สตาร์ก ไม่เคยเกรงกลัวเเมนดาริน”เห็นการถ่ายทอดสดถูกตัดหนีออกไปโทนี่ไม่อาจทนพฤติกรรมของฝ่ายตรงข้ามได้

 

“JARVIS ส่งชุดเกราะไอรอนแมน 8 ตัวออกไปวางระวังชุดเกราะไอรอนแมนพื้นที่โดยรอบ”

 

“ครับเจ้านาย!”

 

อีกด้านนึงโร้ดที่เฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านฐานทัพทหาร

 

“ดูเหมือนการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของเเมนดารินจะล้มเหลว เเต่มันก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่โทนี่ปลอดภัยหวังว่าเขาจะไม่สร้างความยั่วยุออกมาอีก”

 

 

ฟุ่บ!

 

ทางด้านโทนี่หลังจากส่งชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 8 ตัวออกไป พริบตาต่อมาช่องสัญญาณถ่ายทอดสดก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งคราวนี้เป็นเลนส์กล้องที่ชัดมากขึ้นกระทั่งบางคนยังสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่

 

“สวัสดี ฉันโทนี่ สตาร์ก หรือก็คือ ไอรอนแมน”เเม้ภาพของโทนี่จะไม่ปรากฏขึ้นเเต่เสียงของโทนี่ได้ประกาศออกมาผ่านการถ่ายทอดสด

 

“ทุกคนคงจะรู้จักฉัน เมื่่อไม่นานมานี้ฉันได้ประกาศสงครามกับเเมนดารินเเละพวกมันก็บุกจู่โจมฉันจริง ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ชุดเกราะไอรอนแมนก่อนหน้านี้ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นนิดหน่อยเกี่ยวกับชุดเกราะที่ฉันสร้าง เเต่ตอนนี้ฉันได้เเก้ไขมันเสร็จเรียบร้อยเเล้วตอนนี้ฉันมีอะไรที่อยากจะให้ทุกคนดู”

ในขณะที่เเจ็คสันปรากฏตัวสู่สายตาประชาเเละเเก้ไขหยุดสถานการณ์วิกฤติของโทนี่ด้วยพลังดาบของตัวเองรวมถึงกำจัดเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธสองลำ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ประชาชนที่เฝ้ามองผ่านการถ่ายทอดสดต่างเห็นอย่างชัดเจนเดิมพวกเขาไม่รู้ว่าเงาที่ปรากฏด้านหน้าไอรอนแมนนั้นคืออะไรพวกเขาคิดว่ามันคือหนึ่งในอาวุธลับของไอรอนแมนเเต่เเท้จริงเเล้วกลับไม่ใช่ นี่คือเงาของฮีโร่จากนิวยอร์กที่คุ้นเคย :มิราจไนท์

 

“นั่นคือ มิราจไนท์! ฮีโร่ผู้พิทักษ์นิวยอร์กของพวกเรา!”

 

“มิราจไนท์ ? ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ มิราจไนท์”

 

“มิราจไนท์ ช่วย ไอรอนแมน! ผมรักเขา มิราจไนท์!”

 

เหตุการณ์ที่มิราจไนท์ช่วยไอรอนแมนกลางเวหาน่านฟ้าเมืองนิวยอร์กได้รับการถ่ายทอดสดเต็มรูปแบบ เหล่าผู้คนต่างตะโกนอย่างตื่นเต้น เกี่ยวกับข่าวเมื่อไม่นานมานี้ที่ S.H.I.E.L.D. ได้เเถลงการณ์เกี่ยวกับการกำจัดไฮดร้าพวกเขาได้บอกถึงการเสียสละของฮีโร่คนนึง เเต่ไม่ได้เปิดเผยออกมา ข่าวลือต่าง ๆ จำนวนมากพาดพิงไปถึง มิราจไนท์ซึ่งผู้คนก็เห็นด้วย เเต่ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเเละช่วยไอรอนแมนในตอนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากมิราจไนท์ทั้งเขายังเเสดงความเเข็งเเกร่งของตนเองออกมาให้เป็นที่ประจักษ์

 

ธรรมชาติเเล้วนอกเหนือจากผู้คนในนิวยอร์กที่คุ้นเคย ก็ยังมีผู้คนในสถานที่อื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาที่ค่อนข้างรู้จักฮีโร่คนนี้ ปัจจุบันเว็บไซต์เเฟนคลับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ต่างเป็นที่ฮิตฮอตกันมาก หลังจากผ่านเหตุการณ์นี้ไปที่มิราจไนท์ได้ช่วยชีวิตไอรอนแมนนั้น เขาจะกลายเป็นมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นก็ไม่เเปลก

 

ปั้ง ปั้ง

 

หลังจาก มิราจไนท์ช่วยเหลือไอรอนแมนเสร็จเเล้ว เขาก็กำชับดาบสีเงินเเน่น ปล่อยพลังงานเข้าใส่ตัวดาบเเละตวัดมันฟาดฟันเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธอีกครั้ง เครื่องบินติดอาวุธส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีดูเหมือนเหตุการณ์จะผลิกพันไปเเล้วหาก คิลเลี่ยน ที่ดูเหตุการณ์นี้อยู่เเน่นอนว่าใบหน้าของเขาอาจจะไม่สู้ดีนัก

 

ผู้ใต้บังคับบัญชาของคิลเลี่ยนที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ต่างเข้าใจความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์เเล้วตอนนี้พวกเขาพยายามบินหลบเลี่ยงเพื่อออกจากระยะการโจมตีของมิราจไนท์

 

“เหลือนักรบ เอ็กซ์ทรีมิส อีก 3 ดูเหมือนฉันจะต้องจัดการเเก้ไขปัญหาคนเหล่านี้ก่อน”เห็นเฮลิคอปเตอร์บินห่างออกไปเเจ็คสันกระซิบกระซาบบอกกับตัวเอง

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากเฮลิคอปเตอร์ออกไปจากระยะการโจมตีของเเจ็คสันเเล้วพวกมันก็ล็อคเป้าเพื่อหวังจะโจมตีเพียงเเต่ความเร็วของเเจ็คสันเเม้เเต่เรดาร์เเละตาเปล่าก็ไม่สามารถตามความเร็วของเขาได้ทันพริบตาเดียว เเจ็คสันก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธอื่น ๆ คนเหล่านี้เห็นเพียงเเสงดาบสีฟ้าที่กระพริบผ่านตัวดาบเพียงเท่านั้นพวกเขาไม่สามารถตอบสนองต่อการโจมตีได้ทัน

 

บึ้ม!

 

ไม่นานเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธจำนวนมากต่างถูกเเยกออกเป็นสองท่อนจนระเบิดเเละร่วงลงสู้ใต้ะเล เผชิญหน้ากับ เเจ็คสัน อาวุธในปัจจุบันของเฮลิคอปเตอร์พวกนี้เกรงว่าจะไม่เพียงพอ

 

 

“นั่นฝีมือมิราจไนท์! เขาเเข็งเเกร่งมาก”

 

“ทำไมพวกเราไม่รู้จักมิราจไนท์ให้เร็วกว่านี้?เขาเเข็งเเกร่งมากจริง ๆ !”

 

“เเสงสีฟ้านั่นคืออะไรกัน?ดูเเล้วไม่น่าจะใช่พวกปืนพลังงาน เเต่มันเป็นการโจมตีจากดาบชัด ๆ”

 

“ฉันเพิ่งเข้าสู่เว็บไซต์เเฟนคลับพันธมิตรผู้พิทักษ์ ข้อมูลเกี่ยวกับ มิราจไนท์ ที่เปิดเผยมีน้อยมาก อย่างไรก็ตามฉันไม่สนใจตั้งเเต่นี้เป็นต้นไปฉันจะเป็นเเฟนคลับของมิราจไนท์”

 

เห็นเเจ็คสันลงมือหยุดเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธได้หลายลำเหล่าคนดูต่างกลายเป็นเเตกตื่นดีใจ

 

ผู้ชมกลุ่มนี้ต่างอุทานถึงความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์ที่เหนือคำบรรยายเเต่ก็ยังมีคนบางคนรู้สึกสงสัยเช่นผู้พันโร้ด ทำไมมิราจไนท์ถึงปรากฏตัวขึ้นได้พอดีพอเหมาะเขาคิดว่าบางทีโทนี่อาจจะขอความช่วยเหลือจากมิราจไนท์

 

“มิราจไนท์?เขาอยู่ที่บ้านงั้นหรอ?หรือว่าโทนี่โทรไปขอความช่วยเหลือ”เป็ปเปอร์ที่หลบภัยอยู่ที่เซฟเฮาส์เเห่งนึงเธอเห็นว่าโทนี่ปลอดภัยเธอก็รู้สึกสบายใจเเต่เธอรู้สึกสงสัยการปรากฏตัวขึ้นของมิราจไนท์

 

“ยังไม่ตายอีกงั้นหรอ?ฉันจะดูว่าพวกเเกจะหลบหนียังไง อย่าทำให้ฉันผิดหวังละ”เเจ็คสันที่จัดการเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธทั้งหมดเขาก็ได้กลับไปที่หลังคาบ้านพักของโทนี่เขาจ้องมองไปที่ระดับน้ำทะเลเเละดูเหมือนจะให้ความสนใจบางอย่าง เเน่นอนว่าคนดูต่างก็ไม่เข้าใจสิ่งที่มิราจไนท์พยายามทำ

 

เเม้เเจ็คสันจะจัดการเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธไปหมดเเล้วเเต่เขาก็ยังรู้สึกได้ว่าทหารเอ็กซ์ทรีมิสพวกนี้ยังมีชีวิตอยู่เพราะพลังงานที่น่ากลัวภายในร่างสามารถทำให้พวกเขารอดตายมาจากเเรงระเบิดเเละด้วยน้ำทะเลระดับนี้เเละตำเเหน่งที่อยู่ห่างจากฝั่งไม่ไกลคนเหล่านี้ไม่เพียงพอที่จะจมน้ำตายอีกเช่นเดียวกัน

 

“เอาล่ะ ให้ฉันดูหน่อยพวกนายจะยื้อชีวิตได้อีกนานเเค่ไหน”เเจ็คสันในที่สุดก็เริ่มเห็นเเสงสีเเดงส่องวาบวาดเขาเห็นเเสงเจิดจ้าที่อยู่กลางทะเลทั้ง 3 กลุ่ม

 

ฟู่ว ฟู่ว ฟู่ว

 

ภายใต้การจ้องมองของเเจ็คสันร่างทั้งสามร่างได้ปล่อยความร้อนออกมาในเวลาต่อมาระดับน้ำทะเลต่างสั่นเพื่อมเเละถูกระเหยออก การระเบิดทั้งสามครั้งนี้ราวกับขีปนาวุธขนาดใหญ่ที่สามารถระเบิดหน้าผาให้เเหลกเป็นจุนได้

 

“ค่อนข้างรุนเเรงจริง ๆ ดูเหมือนว่า พลังงานเอ็กซ์ทรีมิส จะยังมีผลข้างเคียงมากมาย หากสามารถจัดการผลข้างเคียงไปได้เเล้วล่ะก็มันจะกลายเป็นสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของร่างกายมนุษย์”เห็นทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้งสามคนระเบิดเเจ็คสันครุ่นคิดออกมาเล็กน้อย

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นร่างที่เปล่งเเสงสีเเดงทั้งสามร่างของทหารเอ็กซ์ทรีมิสก็ยังอยู่พวกเขาเริ่มคลานขึ้นมาตามริมฝั่งพร้อมกับรูปร่างหน้าตาที่กายเป็นคนปกติธรรมชาติหากพวกเขาไม่มีความเเข็งเเกร่งเหนือมนุษย์คนธรรมดาทั่วไปก็อาจจะคิดว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ธรรมดาเพียงเท่านั้น

 

“โชคดีที่สถานการณ์ไม่บานปลายเกินไปหากพวกมันสู้ทำลายตัวเองเเละระเบิดบ้านพักของโทนี่เกรงว่าสภาพของบ้านพักคงจะไม่เหลือเป็นเเน่”เห็นทหารเอ็กซ์ทรีมิส ทั้งสามคนที่รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดกำลังมุ่งหน้าเดินทางไปยังบ้านพักของโทนี่เเจ็คสันได้กระโดดลงมาจากหลังคาบ้านพักของโทนี่ทันที

“ไอรอนแมน!”

 

“เกิดอะไรขึ้น?ทำไมชุดเกราะไอรอนแมนถึงเสียการควบคุม”

 

“หวังว่าคุณสตาร์กคงไม่ได้อยู่ข้างในใช่มั้ย?”

 

เห็นชะตากรรมของชุดเกราะไอรอนแมนหลายคนที่ชมการถ่ายทอดสดครั้งนี้ก็ตะโกนถามตัวเองด้วยความตื่นตระหนกสิ่งที่พวกเขาสนใจก็คือ ไอรอนแมน จะเเพ้จริง ๆ งั้นหรอ

 

สำหรับ โร้ด เเละ คนอื่น ๆ รวมถึง เป็ปเปอร์ พวกเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของโทนี่มากในตอนนี้ โดยเฉพาะเป็ปเปอร์ หลังจากเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับไอรอนแมน เธอค่อนข้างกังวล

 

“โทนี่,คุณจะต้องไม่เป็นอะไร!”มองไปที่การถ่ายทอดสด เป็ปเปอร์กำมือเเน่นเเละอธิษฐานอย่างเงียบ ๆ

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะเดียวกันผู้ชมทั่วโลกที่เห็นชุดเกราะไอรอนแมนสีเงินกำลังจะถูกทำลายด้วยขีปนาวุธสองลูก พวกเขาก็ภาพเงาบางอย่างพุ่งเข้ามาใกล้ชุดเกราะไอรอนแมนเเละยืนอยู่เบื้องหน้า

 

“นั่นมันอะไรนะ?!อุปกรณ์ป้องกันตัวของชุดเกราะไอรอนแมนงั้นหรอ?”หลังจากเห็นเงาบางอย่างพุ่งมาป้องกันด้านหน้าของชุดเกราะไอรอนแมนผู้คนต่างคาดเดากัน

 

เงาร่างที่เข้ามาอยู่ด้านหน้าชุดเกราะไอรอนแมนก็คือ เเจ็คสัน ในปัจจุบัน เขาได้พุ่งเข้ามาเพื่อปกป้องโทนี่ก่อนเป็นอันดับเเรก หากโทนี่ถูกสอยร่วงลงไป เขาไม่กล้ารับประกันว่าโทนี่จะรอดหรือไม่

 

“นั่นเป็นทหารเอ็กซ์ทรีมิสงั้นหรอ?ระดับพลังงานภายในร่างกายนั้นสูงมากจริง ๆ “ขณะที่เเจ็คสันพุ่งเข้ามาในระยะของขีปนาวุธเขาก็ใช้เทคนิครู้เเจ้งกวาดผ่านเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์เพื่อตรวจสอบจึงตระหนักได้ว่าคนเหล่านี้ค่อนข้างน่ากลัวอย่างมาก

 

“ฉันจะเเสดงให้เห็นว่าอะไรคือความเเข็งเเกร่งที่เเท้จริง!”เเจ็คสันจ้องมองไปที่เฮลิคอปเตอร์ด้านหน้า

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาต่อมา เเจ็คสันได้เรียก สปิริตซอร์ดของเขาพร้อมกับรวบรวมพลังงานภายในสกัดเข้าสู่ตัวดาบจนมันปล่อยกลิ่นอายที่เย็นยะเยือกออกมาจากนั้นเขาก็ตวัดดาบออกไป รัศมีพลังเย็นยะเยือกได้ถูกปล่อยออกมาเเละพุ่งเข้าหาขีปนาวุธทั้งสองลูก

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาต่อมาเเสงสีฟ้าจาง ๆ ได้วาดผ่านขีปนาวุธทั้งสองลูกจากนั้นมันก็ถูกตัดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยร่วงหล่นลงสู่ทะเล

 

หลังจากใช้ดาบของเขาจัดการขีปนาวุธได้เเล้วเเจ็คสันก็ไม่ได้ติดตามเฮลิคอปเตอร์ไปในทันทีเขาได้หันไปมองโทนี่ที่อยู่ด้านหลัง หากเเจ็คสันไม่ปรากฏตัวขึ้น มีโอกาสที่โทนี่จะถูกทำลายเเละถูกฝังใต้ทะเลจริง ๆ

 

 

“เจ้านายครับ,ดูเหมือนระดับภัยคุกคามจะบรรเทาลงเเล้ว”หลังจาก เเจ็คสันใช้ดาบจัดการขีปนาวุธทั้งสอง เสียงเตือนของ J.A.R.V.I.S. ก็ได้บอกกล่าวกับโทนี่

 

โทนี่ไม่ได้ตอบอะไรออกมาชุดเกราะไอรอนแมนของเขาถูกคว้าเอาไว้ก่อนที่จะร่วงหล่นลงสู่ระดับน้ำทะเล เขารู้สึกโล่งใจอย่างมากในอตนนี้

 

“คุณ โทนี่ มันจะเป็นอะไรไหมหากฉันจะบอกให้คุณช่วยพิจารณาเรื่องน้ำหนักของชุดเกราะไอรอนแมน”เเจ็คสันที่สวมใส่ชุดสูทภูติมายาเขากล่าวถาม โทนี่ เชิงหยอกล้อ เพียงเเต่ว่านี่เป็นการถ่ายทอดสดดังนั้นเเจ็คสันจึงเปลี่ยนวิธีการพูด

 

ปั้ง!

 

สิ้นเสียงของเเจ็คสันพริบตาต่อมาก็เกิดการระเบิดขึ้น คลื่นพลังงานอันเย็นยะเยือกได้วาดผ่านทำลายขีปนาวุธเสร็จก็ตรงเข้าหาเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ไกลออกไปหลายสิบเมตรจนเกิดการระเบิดจากนั้นไม่นานเศษซากเหล่านั้นก็ร่วงหล่นลงสู่ทะเล

 

“เรื่องนี้ฉันจะพิจารณาอย่างเเน่นอน เเต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือดูเหมือนฉันจะต้องหาทางจัดการกับชุดเกราะไอรอนแมนซะก่อน”โทนี่กล่าวออกมาอย่างผ่อนคลาย

 

“คุณสตาร์กคุณกำลังจะบอกว่า…”เเจ็คสันกล่าวถามออกมาเขากำลังเเบกโทนี่ลอยอยู่กลางอากาศ

 

ตอนนี้การถ่ายทอดสดเกิดขึ้นทั่วโลก เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองเเล้ว เเจ็คสันตั้งใจเเสดงความเเข็งเเกร่งของตัวเองออกมาให้มากที่สุด เพื่อให้คนอื่น ๆ รู้ว่า มิราจไนท์ ไม่ได้เป็นเพียงฮีโร่เเค่จัดการพวกองค์กรอาชญากรรมในนิวยอร์กเพียงเท่านั้น

 

“ฝากจัดการพวกที่เหลือด้วยล่ะ,เด็กน้อยเเจ็คสัน”โทนี่กล่าวกับเเจ็คสันเขากวาดสายตามองไปบนอากาศเห็นเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธจำนวนมากที่ยังเหลืออยู่

 

“ถ้าคุณต้องการแบบนั้นผมยินดี”เเจ็คสันกล่าวออกมา

 

จากนั้นเเจ็คสันก็อุ้มเเขนของชุดเกราะไอรอนแมนลากโทนี่โยนโทนี่ไปส่งที่ใกล้กับตำเเหน่งของบ้านพัก

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่โทนี่กำลังลอยอยู่กลางอากาศตำเเหน่งที่เขากำลังร่วงหล่นไม่ใช่ทะเลเเต่คือบ้านพักของตัวเอง เพียงเเต่ว่าจุดที่เขาจะตกนั้นกลับมีใยเเมงมุมสีขาวรองรับเอาไว้อยู่ ซึ่งปีเตอร์ที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้บ้านพักของโทนี่เป็นคนสร้างขึ้น

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นปีเตอร์ก็ช่วยรับโทนี่ประคองลงมาได้สำเร็จโทนี่ได้ลงถึงพื้นอย่างปลอดภัย ตอนนี้ชุดเกราะไอรอนแมนอยู่นอกเหนือการควบคุมโทนี่ไม่สามารถจัดการเหาะหรือบินได้ด้วยตัวเอง พอระบบหลักถูกเเฮ็คเข้ามาชุดเกราะไอรอนแมนทั้งหมดของโทนี่ก็ใช้การไม่ได้ นี่คือข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดของชุดเกราะไอรอนแมน

 

“ขอบคุณปีเตอร์”โทนี่ กล่าวขอบคุณออกมา

 

“เอาล่ะคุณสตาร์ก ผมกับ เเจ็คสัน จะช่วยจัดการที่เหลือให้เอง ตอนนี้คุณสตาร์กควรรีบเเก้ไขจัดการศัตรูที่บุกรุกJ.A.R.V.I.S ก่อนเป็นอันดับเเรก”ปีเตอร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“เเน่นอน ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันใครกันที่สามารถบุกรุกระบบของ J.A.R.V.I.S ได้ เป็นเวลานานเเล้วที่ฉันไม่ได้ตื่นเต้นกับการเเข่งขันแบบนี้”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ โทนี่ กล่าวตอบออกมา

 

จากนั้นโทนี่ก็เตรียมเชื่อต่อข้อมูลเซิฟเวอร์หลักของ J.A.R.V.I.S โดยตรง ส่วนปีเตอร์เขาก็เฝ้าระวังโทนี่พร้อมกับสังเกตุการตำเเหน่งของเเจ็คสัน

 

ฟุ่บ!

หลังจากเสียงของ J.A.R.V.I.S เตือน ทั่วทั้งบ้านของโทนี่ก็ได้รับสัญญาณเเจ้งเตือนดังไปทั่ว ซึ่งมันได้ปลุก ปีเตอร์ ที่นอนพักอยู่ในห้องใต้ดินให้ตื่นขึ้น ปีเตอร์ เตรียมจะวิ่งออกจากห้องใต้ดินเเต่ก็เจอเเจ็คสันก่อน

“เเจ็คสัน เเมนดารินลงมือโจมตีเเล้วงั้นหรอ?”ปีเตอร์กล่าวถามอย่างกังวล

“อืม,ดูเหมือนพวกมันจะเปิดฉากโจมตีคุณสตาร์กเเล้วพวกเรารีบไปดูสถานการณ์กันเถอะไว้ค่อยคุยทีหลังหากเราไปช้าเเละคุณสตาร์กเสียเปรียบล่ะก็พวกเราจะสูญเสียไม่ใช่น้อย”เเจ็คสันกล่าวออกมา

ในพล็อตดั้งเดิมการโจมตีนั้น J.A.R.V.I.S ไม่สามารถค้นหาฝ่ายตรงข้ามได้ทันดังนั้นทั้งวิลล่าจึงกลายเป็นซากปรักหักพังในเวลาต่อมาสถานการณ์ในเวลานั้นบีบบังคับโทนี่ได้อย่างสมบูรณ์โชคดีที่พล็อตเรื่องในตอนนี้ J.A.R.V.I.S ตรวจพบอีกฝ่ายไม่งั้นบ้านหลังนี้คงโดนถล่มเละ

“ไปกันเถอะ พวกเราจะต้องรีบไปช่วยคุณสตาร์ก”เเจ็คสันยังคงกล่าวบอกปีเตอร์พร้อมกับรีบวิ่งออกไป

“เดี๋ยวรอด้วย”ปีเตอร์ที่อยู่ด้านหลังตะโกนตามมาติด ๆ

อันที่จริงไม่เพียงเเต่โทนี่เท่านั้นที่ค้นพบการโจมตีในครั้งนี้ทั้งสหรัฐอเมริกาต่างก็รู้ว่าเเมนดารินกำลังบุกโจมตีโทนี่ เพราะผู้บุกรุกพวกนี้ยังคงถ่ายทอดสดการโจมตีของตนเองผ่านสื่อเพื่อเเสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของเเมนดาริน

หากผู้ก่อการร้ายสามารถสังหารโทนี่ได้ไอรอนแมนก็ถึงคราวจบสิ้นทั้งสหรัฐอเมริกาจะตกอยู่ในความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ?พวกมันมากันเท่าไหร่?”ได้ยินรายงานของ J.A.R.V.I.S โทนี่กล่าวถามอย่างจริงจัง

เกี่ยวกับการลงมืออย่างเปิดเผยของมันเห็นได้ชัดว่าเป็นการหยามเกียรติเขาอย่างมาก

“เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ 8 ลำ อีกสามวินาทีจะเข้าสู่พื้นที่โจมตีโปรดหลีกเลี่ยงสิ่งก่อสร้างหลังนี้ไม่เพียงพอที่จะทนรับการระดมโจมตีของฝ่ายตรงข้าม”J.A.R.V.I.S กล่าวเตือนโทนี่

“เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ 8 ลำ? ดูเหมือนว่าพวกมันจะทุ่มทุนน่าดู เยี่ยมจริง ๆ ! J.A.R.V.I.S ส่งชุดเกราะไอรอนแมน 4 ตัวออกไป ฉันไม่มีทางหลบหนีออกจากที่นี่เด็ดขาด”โทนี่ไม่ได้สนใจคำเเนะนำของ J.A.R.V.I.S เขาไม่ได้สนใจภัยคุกคามจากเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธหนัก 8 ลำ

“ครับ,เจ้านาย”J.A.R.V.I.S ทำตามที่โทนี่สั่งทันที

ฟุ่บ!

ไม่นาน ชุดเกราะไอรอนแมน 4 ตัวก็ได้ออกจากโรงจอดรถใต้ดินของโทนี่พวกมันมุ่งหน้าไปยังตำเเหน่งของเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ห่างไม่ถึง 1 กิโลเมตร

หลังจาก J.A.R.V.I.S ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมน ทั้ง 4 ตัว ผ่านไป 3 วินาที เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 8 ลำก็เข้าสู่พืนที่โจมตีพวกมันได้เปิดฉากระดมยิงบ้านพักของโทนี่

ฟุ่บ!

“คำนวณวิถีการยิง!”เห็นขีปนาวุธพุ่งโจมตีมาอย่างรวดเร็ว J.A.R.V.I.S ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อทำการตอบโต้

ปั้ง ปั้ง ปั้ง

พลังงานเลเซอร์ได้ออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 4 ตัว เพื่อทำลายขีปนาวุธที่ถูกยิงออกมาจนเกิดการระเบิดขึ้น คลื่นระเบิดส่งผลให้ทั้งวิลล่าสั่นสะเทือนเล็กน้อย เเต่โทนี่หาได้สนใจผลกระทบเล็กน้อยดังกล่าว

“เอ่อ มิส มายา ผมว่าคุณหาที่ซ่อนตัวก่อนดีกว่า ไม่ต้องห่วงคนเหล่านี้ไม่มีทางทำอะไรผมได้ ตอนนี้ผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปทำ”หลังจากการเเลกเปลี่ยนการโจมตีเริ่มขึ้น โทนี่ก็หันไปกล่าวกับ มายา

“คุณ…”มายาที่ได้ยินคำพูดของโทนี่ เธอเห็นการระเบิดขึ้นเมื่อครู่นี้ทำให้เธอรู้สึกสั่นกลัว

ฟุ่บ!

เพียงเเต่โทนี่ไม่ได้รอฟังคำตอบจาก มายา เขาลงไปที่ด้านล่างโรงจอดรถเเละสวมใส่ชุดเกราะไอรอนแมนโดยตรง เขามีหนี้เเค้นกับเเมนดารินธรรมชาติเขาจะต้องออกโรงด้วยตัวเอง

เห็นว่าโทนี่ไม่สนใจเธออีกต่อไป ผิวของมายา เปลี่ยนเป็นซีดขาว เธอรีบหาที่หลบก่อนเป็นอันดับเเรก

ส่วน เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ พวกเขามาอยู่ตรงตำเเหน่งที่ดีในการต่อสู้ด้านนอก ตำเเหน่งปัจจุบันของพวกเขาสามารถเห็นการต่อสู้ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เเม้ว่าการต่อสู้ทางอากาศของ สไปเดอร์แมน จะค่อนข้างเลวร้าย เเต่มันก็ไม่มีผลกับเเจ็คสัน เพราะเเจ็คสันได้ฝึกฝนเทคนิคตัวเบา เขาสามารถลอยอยู่บนอากาศได้เป็นเวลานาน

“เเจ็คสัน นายบอกว่า นายคิลเลี่ยน คนนี้ ได้ส่งคนพวกนี้มาโจมตีคุณสตาร์กงั้นหรอ?”ปีเตอร์กล่าวถามเเจ็คสัน

ปีเตอร์จ้องมองชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 4 ที่กำลังเข้าจัดการกับเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธทั้ง 8 ลำ ดูเหมือนพอ J.A.R.V.I.S ตรวจพบการมาถึงของศัตรูบ้านพักของโทนี่ก็จะไม่ได้กลายเป็นซากปรักหักพังตามพล็อตเรื่อง เเต่เเจ็คสันก็ยังคงไม่วางใจ หากศัตรูส่งมาเเค่เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ 8 ลำ เกรงว่าจะไม่ใช่คู่มือของโทนี่

“อืม,ดูเหมือนว่าพวกมันจะต้องมีเเผนการบางอย่างเเน่ ฉันไม่เชื่อว่าพวกมันจะส่งมาเเค่เฮลิคอปเตอร์ 8 ลำนี้ บางทีพวกมันอาจมีวิธีในการจัดการกับชุดเกราะไอรอนแมนของคุณ สตาร์ก”เเจ็คสันขมวดคิ้วเล็กน้อย

สถานการณ์ในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับพล็อตเรื่องดั้งเดิม นี่เป็นเหตุผลที่เเจ็คสันได้เตือนโทนี่ ตอนนี้พล็อตเรื่องได้เปลี่ยนไปเเล้ว เเจ็คสันเชื่อว่าจะต้องมีสถานการณ์ที่เลวร้ายอื่น ๆ เกิดขึ้นอีก

“นั่นคุณสตาร์ก,เขาออกโรงด้วยตนเอง!”ในขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิด ปีเตอร์ ชี้ไปที่ชุดเกราะไอรอนแมนที่บินออกจากโรงจอดรถ

เเจ็คสันได้เบนสายตาไปมองก็เห็นชุดเกราะไอรอนแมนรุ่นล่าสุดที่โทนี่ใส่ เกี่ยวกับเรื่องนี้เเจ็คสันไม่เเปลกใจ เพราะชุดเกราะไอรอนแมนรุ่นล่าสุดมีความทนทานเเละพลังป้องกันที่เเข็งเเกร่ง เเม้เเต่โทนี่ เองก็ไม่ได้ประมาทในการต่อสู้ครั้งนี้

ปั้ง

เพียงเเต่ในขณะที่เเจ็คสันเเละปีเตอร์จ้องมองชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่,ชุดเกราะไอรอนแมนที่ลอยอยู่บนอากาศก็ถูกยิงด้วยขีปนาวุธสองนัดจนมันเกิดการระเบิดขึ้นเเละตกลงไปในทะเล

“นั่นมันอะไรหน่ะ…”

 

ตอนที่ 479 ไม่มีนะครับ

หลังจากโทนี่ประกาศสงครามข่าวของเขาก็ตกเป็นเป้าสนใจจากหลายอิทธิพลเเม้เเต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเละกัปตันโรเจอร์สก็รับรู้ เเต่เพราะโทนี่ไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากพวกเขาดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่ได้ริเริ่มอะไรท้ายที่สุดเเล้วเรื่องนี้ก็เป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้ายมันไม่มีความจำเป็นจะต้องรวมตัวอิทธิพลทั้งสามฝ่ายเพื่อจัดการกับปัญหาเเค่นี้

 

ทางด้านเป็ปเปอร์หลังจากรู้ข่าวเธอก็เป็นห่วงความปลอดภัยของโทนี่ เธอจึงชักชวนให้โทนี่ออกมาจากบ้านพักชายทะเล่ก่อน เพราะโทนี่ประกาศเป็นศัตรูกับผู้ก่อการร้ายเธอไม่รู้ว่านายเเมนดารินคนนี้จะตอบโต้โทนี่ยังไง

 

เพียงเเต่ด้วยความดื้อรั้นของโทนี่ เขาย่อมไม่ออกจากบ้านง่าย ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขาตั้งใจจะอยู่รออีกฝ่ายที่นี่ โทนี่ได้บอกเป็ปเปอร์ไปโดยตรงเเละส่งทีมชุดเกราะไอรอนแมนไปปกป้องเป็ปเปอร์ หากนายคิลเลี่ยนกล้าปรากฏตัว โทนี่ ก็ยังไม่ปราณีอีกฝ่าย

 

ตอนนี้ โทนี่ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ทั้งสามคนยังคงอยู่ในห้องปฏิบัติการในบ้านพักเเห่งนี้พวกเขาพูดคุยกันเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งโทนี่ก็ได้บอกพวกเขาว่าหากคิลเลี่ยนกล้าที่จะโจมตีตัวเองโทนี่จะจัดฉลองสงครามมหาประลัยให้อย่างเเน่นอน

 

จากนั้นไม่นาน เเจ็คสันก็ได้ขอตัวไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหารเพราะเขาเป็นคนตระกูล หลิน ที่บ้านเปิดร้านอาหาร เเจ็คสันจึงพอมีฝีมืออยู่บ้าง เขาอาสาออกไปทำอาหารให้ทั้งสองคนกิน ส่วนทั้งสองคน โทนี่ กับ ปีเตอร์ เเจ็คสันรู้ดีว่าทั้งสองคนกำลังกังวลเรื่องการโจมตีของคิลเลี่ยนอยู่ ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นช้าหรือเร็ว

 

Ding-dong ~~

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังทำอาหาร หน้าประตูบ้านก็ส่งสัญญาณกริ่งออกมาดูเหมือนจะมีเเขกมาเยี่ยม ซึ่งโทนี่เองก็ไม่ได้เป็นคนชวนมา หลังจากโทนี่ประกาศสงครามไปเเล้ว หากนายเเมนดารินคนนี้กล้ามาหาโทนี่เเละเปิดเผยตัวเช่นนี้ก็เเสดงว่าอีกฝ่ายนั้นกล้ามาก

 

“J.A.R.V.I.S คนด้านนอกเป็นใคร?”โทนี่ไม่ได้เกรงกลัวอีกฝ่ายเเต่เพราะเขาประกาศสงครามออกไปเมื่อไม่นานมานี้ ขณะเดียวกันคนคนนี้ก็มาปรากฏตัวขึ้น

 

“เพราะคุณเล่นบอกที่อยู่ออกไปให้คนภายนอกรู้ไม่เเปลกที่จะมีเเขกมาเยี่ยมเยือน เเขกที่อยู่ด้านนอกเธอชื่อ มายา แฮนเซ่น”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“มายา แฮนเซ่น ฉันค่อนข้างรู้สึกคุ้นเคยกับเธอ เธอเป็นใคร?”โทนี่กล่าวถามออกมา

 

จากนั้น J.A.R.V.I.S ก็เปิดภาพวิดิโอตรวจสอบตรงทางเข้าให้ โทนี่ ดูพร้อมกับ ข้อมูลของ มายา เเฮนเซ่น โทนี่จ้องมองไปที่ภาพเขาเห็นหญิงสาวเเสนสวยที่รออยุ่หหน้าประตู

 

“เป็นเธอ?”หลังจากนึกได้ว่า มายา เเฮนเซ่น เป็นใคร โทนี่ก็รู้สึกตกใจอย่างมาก เธอเป็นคนรู้จักของเขาที่งานวิทยาศาสตร์ในตอนนั้นเพราะโทนี่คุยกับเธอเขาจึงไม่ได้ไปพลคิลเลี่ยนในเวลาต่อมา

 

เเจ็คสัน ได้เล่าสถานการณ์ของ คิลเลี่ยน ให้ โทนี่ ฟัง ซึ่งผลของ ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสนั้นรุนเเรงมาก ซึ่ง เเจ็คสันก็ได้บอกไปว่า บางที คิลเลี่ยน อาจจะวางเเผนควบคุมประธานาธิบดี สำหรับหญิงสาวที่ปรากฏตัวขึ้นคนนี้ เเจ็คสันไม่ได้อธิบายถึงเธอ เพราะเเจ็คสันก็ไม่ใช่ว่าจะจำได้หมดทุกคน

 

“เปิดประตูฉันต้องการรู้ว่าเธอมีปัญหาอะไร”โทนี่กล่าวบอก J.A.R.V.I.S

 

“ครับเจ้านาย”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบรับพร้อมกับเปิดประตูด้านหน้า

 

 

ขณะที่โทนี่อนุญาติให้ J.A.R.V.I.S เปิดประตู เเจ็คสันที่เดิมสงสัยเขาก็มาถึงตำเเหน่งหน้าประตูเเล้ว

 

เมื่อเห็น มายา เเฮนเซ่น เดินเข้ามาในวิลล่า เธอเห็นหนุ่มหล่อกำลังถือถาดอาหารอยู่ เธอรู้สึกสงสัยอย่างมาก หรือว่าเป็นอย่างที่คนเค้าลือกันว่า โทนี่ สตาร์ก มีลูกนอกสมรส

 

เเจ็คสันที่กำลังถือถาดอาหารอยู่เขาจ้องมองไปที่หญิงสาวเเสนสาวพร้อมกับกล่าวถามออกมาเขาไม่ได้หลงคารมหน้าตาของผู้หญิง”คุณเป็นใคร?”

 

“เอ๊ะ…ฉันชื่อ มายา เเฮนเซ่น เป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านพฤกษศาสตร์ฉันกำลังมองหา โทนี่ สตาร์ก อยู่ ได้ยินว่าเขาอยู่ที่นี่”ได้ยินคำถามของเเจ็คสัน มายา กล่าวตอบอย่างเร่งรีบ

 

“คุณสตาร์กอยู่ที่นี่จริง”เเจ็คสันพยักหน้าจากนั้นก็เดินไปตามพล็อตเรื่องเดิมการโจมตีของคิลเลี่ยนมาหลังจากการเดินทางมาถึงของ มายา ได้ไม่นาน ดังนั้น เเจ็คสันจึบงต้องเตรียมการบางอย่าง

 

มายาจ้องมองไปที่เด็กคนนั้นเธอไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรเธอพยายามจะเอ่ยปากถามเเจ็คสันอีกครั้งเเต่โทนี่ก็ได้ปรากฏตัวที่ด้านหน้าของเธอในเวลาต่อมา

 

“มายา เเฮนเซ่น คุณมีธุระอะไรกับผมในตอนนี้งั้นหรอ?”มาถึงด้านหน้าของมายา โทนี่ กล่าวถามโดยตรง

 

“ฉันมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับคุณมันเป็นเรื่องสำคัญมาก”มองไปที่ใบหน้าของโทนี่ มายา ทำสีหน้าค่อนข้างกังวล

 

“ผมจะรับฟัง เเต่ผมขอบอกไว้ก่อนผมมีเเฟนอย่างเป็นทางการอยู่เเล้ว…”โทนี่กล่าวหยอกล้อมายาเล็กน้อยจากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องนั่งเล่นโทนี่เห็นอาหารที่เเจ็คสันเตรียมไว้เมื่อครู่ จากนั้นเขาก็เลิกสนใจเเละกล่าวถามมายา

 

“คุณคงไม่ได้ต้องการให้ผมพาออกไปขับรถเล่นเหมือนวันนั้นเมื่อ 12 ปีที่เเล้วใช่มั้ย?”โทนี่กล่าวถามออกมาในเวลานั้นโทนี่กับเธอค่อนข้างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันดังนั้นการมาถึงของมายาสร้างความสนใจให้กับโทนี่

 

“13 ปีก่อนต่างหาก…อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลยฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณจริง ๆ “เห็นโทนี่หยอกล้อเธอ มายา พูดออกมาโดยตรง สีหน้าของเธอกลายเป็นจริงจังมากขึ้น

 

“เรื่องสำคัญที่ฉันจะบอกก็คือ ฉันต้องการให้คุณออกจากสถานที่เเห่งนี้ เเละฉันไม่ต้องการให้คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอันตรายพวกนี้”มายากล่าวบอกโทนี่โดยตรง

 

เห็นโทนี่ไม่ได้สนใจคำขอของเธอเเละเดินจากไป มายา รีบเดินตามไปทันที

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่ มายาเดินไปที่โต๊ะอาหาร เสียงเตือนสัญญาณความปลอดภัยก็ดังขึ้น

 

“เจ้านายครับ ตรวจพบ เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธจำนวนมากกำลังเข้ามาใกล้”ก่อนที่โทนี่ จะทันถามอะไร J.A.R.V.I.S ก็บอกกล่าวในเวลาต่อมา

เห็นโทนี่บอกว่ารู้อะไรมาบางอย่างทำให้สีหน้าของเเจ็คสันกลายเป็นอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นหากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนี้ได้รับการเเก้ไขประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากก็จะปลอดภัยเเละหายห่วงไปด้วย

 

“เท่าที่ฉันรู้มาเหตุการณ์ระเบิดนี้เกี่ยวข้องกับ คิลเลี่ยน อัลดริช นักวิทยาศาสตร์ด้านพฤกษศาสตร์เขาค่อนข้างมีความสามารถ ดูเหมือนเขาจะมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับ เเมนดาริน เรื่องนี้ ฉันจะต้องสอบสวนเพิ่มเติม อีกอย่างเกี่ยวกับต้นตอของระเบิดที่พวกเราไม่สามารถหาเศษซากวัตถุระเบิดได้เพราะตัวระเบิดนั้นก็คือร่างกายมนุษย์”

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน นึกเข้าไปในความทรงจำของเขาท้ายที่สุดเขาก็จำได้ว่า เเมนดาริน เเละ คิลเลี่ยน อัลดริช คนพวกนี้คือใคร

 

“พล็อตเรื่องไอรอนแมนภาค 3 กลับปรากฏขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้?ดูเหมือนเส้นเวลาจะผันผวนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนเเปลงไม่งั้นกว่าพล็อตเรื่องของไอรอนแมนภาค 3 จะออกก็คงอีกนาน”เเจ็คสันคิดอยู่ในใจ

 

ในภาพยนต์ซีรีย์ของ มาร์เวล นั้น ไอรอนแมน ภาค 3 คือภาคเริ่มต้นของสงครามที่เเท้จริง เพราะเเจ็คสันไปยุ่งเกี่ยวกับพล็อตเรื่องดั้งเดิมมากเกินไป ความผันผวนของช่วงเวลาจึงเปลี่ยนเเปลงหากเเจ็คสันรู้เเต่เเรกว่าพล็อตของไอรอนแมนภาค 3 จะมาเร็วขนาดนี้เขาคงไหวตัวทันตั้งเเต่เเรก

 

คิลเลี่ยน อัลดริช ศัตรูตัวร้ายใหญ่ที่สุดของไอรอนแมนภาค 3 เหตุผลที่เขาเป็นศัตรูกับไอรอนแมนก็เพราะ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน อัลดริช นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ เคยไปขอความร่วมมือจากโทนี่ เเต่โทนี่ในตอนนั้นหลงระเริงในศักดิ์ศรีของตนเองจึงไม่ได้สนใจคำขอของอัลดริช

 

ดังนั้น อัลดริช จึงเเบกรับความขุ่นเคืองโทนี่มาหลายปี เขาได้ทำการทดลองกับตัวเองเเละประสบความสำเร็จท้ายที่สุดก็กลับมาจัดการกับโทนี่สำหรับองค์กรก่อการร้าย เเมนดาริน เเท้จริงเเล้วพวกมันเป็นเพียงฉากหน้าในการเเสดงเพียงเท่านั้นเเท้จริงเเล้วผู้ที่สนับสนุนมันอยู่เบื้องหลังก็คือ คิลเลี่ยน เเละ การทดลองระเบิดมนุษย์ของเขา สิ่งนี้สามารถช่วยเพิ่มศักยภาพของคนคนนึงให้มีความเเข็งเเกร่งที่ล้นหลามได้เเต่เมื่อเทียบกับไอรอนแมนเเล้วยังห่างไกลเพียงเเต่ความสำเร็จเหล่านี้อาจมากกว่าหากเทียบในเชิงทางการทหาร

 

“เเจ็คสันเธอรู้อะไรอย่างงั้นหรอ?”เห็นเเจ็คสันเงียบอยู่นาน โทนี่ กล่าวถามออกมา

 

“ผมรู้เเน่นอนเรื่องนี้ทางกองทัพไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือเราได้ทางที่ดีพวกเราควรรีบเเจ้งกัปตันโรเจอร์สให้เขาส่ง S.H.I.E.L.D. มาร่วมมือกับเรา ความเเข็งเเกร่งของ คิลเลี่ยน คนนี้ ไม่อาจประมาทได้”เเจ็คสันตอบกลับเล็กน้อย

 

ในไอรอนแมนภาค 3 ตัวร้ายอย่างคิลเลี่ยนมีความสามารถมากพอที่จะทำลายชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวด้วยตัวคนเดียว หากเป็นการโจมตีด้วยระเบิด พลังของระเบิดนี้เพียงพอที่จะสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างดังนั้นเเจ็คสันจึงต้องหาทางคิดวิธีที่จะทำให้สถานการณ์นั้นปลอดภัยมากที่สุดโดยการให้ S.H.I.E.L.D. เข้าช่วยเหลือเพื่อปิดล้อมทางหนีเเละกำจัด คิลเลี่ยน ธรรมชาติ สำหรับตัวร้ายอย่างคิลเลี่ยน กัปตันโรเจอร์ส ย่อมเห็นด้วยอย่างเเน่นอน

 

“เเจ้งกัปตันโรเจอร์สเพื่อขอกำลังเสริมจาก S.H.I.E.L.D.? ไม่! พวกเราจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง หาก คิลเลี่ยน เป็นผู้บงการเรื่องทั้งหมดอยู่ฉากหลังจริง เรื่องนี้ก็เป็นปัญหาของฉัน ฉันไม่ต้องการให้คนอื่นเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ ส่วน เจ้า เเมนดาริน ฉันจะลากตัวมันออกมาให้ได้”

 

“คุณสตาร์กคุณไม่จำเป็นจะต้องกดดันตัวเอง เรื่องทั้งหมดนี้ สามารถคลี่คลายปัญหาได้ง่ายหากพวกเราเเละพวกของกัปตันโรเจอร์สร่วมด้วยช่วยกัน นี่เป็นสิ่งที่ผมต้องการจะบอกคุณ เพราะผมกังวลว่าคุณจะตกอยู่ในอันตราย”เเจ็คสันกล่าวเเย้งในเรื่องนี้

 

เห็นได้ชัดว่าการเเก้ไขปัญหาเป็นทีมย่อมดีกว่าเสมอเเต่โทนี่กลับเลือกเหตุผลที่ว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา หากมันเป็นตามพล็อตเดิมล่ะก็โทนี่คนเดียวเเม้จะเอาชนะได้เเต่ในตอนนั้นเขาก็หนีหัวซุกหัวซุนจนเเทบจะเอาชีวิตไม่รอดเเจ็คสันไม่ต้องการเสี่ยงกับพล็อตเรื่องที่เขารู้อยู่ก่อนเเล้ว

 

“ไม่…ไม่จำเป็น ฉันพูดเเล้วว่าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง หากเธอต้องการช่วยฉัน ฉันก็ยินดี เเต่ห้ามบอกเรื่องนี้กับทาง S.H.I.E.L.D. หากเธอต้องการหาเพื่อนร่วมทีมเพื่อช่วยเหลือ ชุดเกราะไอรอนแมนของฉันก็คือเพื่อนร่วมทีม ไม่ว่า คิลเลี่ยน จะร้ายกาจเเค่ไหน ฉันก็จะจัดการมัน รวมถึง เเมนดารินด้วย”โทนี่ไม่ได้สนใจคำโน้มน้าวของเเจ็คสัน

 

“เห้อ…ก็ได้ผมจะไม่เเจ้งให้กัปตันโรเจอร์สรู้ เเต่ผมก็จะขอเข้าร่วมด้วยกับเเผนการของคุณ ผมต้องการเเน่ใจว่าคุณจะปลอดภัยจริง ๆ “เเจ็คสันรู้สึกว่าไร้ประโยชน์เเม้จะโน้มน้าวเเค่ไหนโทนี่ก็ยังคงดื้อรั้นต่อ

 

ที่จริงเเล้วก่อนที่เเจ็คสันจะปรากฏตัว ตัวตนของโทนี่ย่อมอ่อนเเอมากหากการดำเนินเรื่องมาถึงพล็อตของภาค 3 เร็วขนาดนี้ ดังนั้น เเจ็คสันที่รู้เรื่องพล็อตเดิมก่อนอยู่เเล้ว เขาย่อมไม่อยากปล่อยให้โทนี่เสี่ยงภัยอันตรายด้วยตัวคนเดียว

 

“เอาล่ะนักข่าวรอฉันอยู่ด้านนอกเเล้วฉันขอตัวก่อน”โทนี่กำลังจัดตัดสายจากเเจ็คสัน

 

“คุณวางเเผนจะพูดออกสื่อเพื่อสร้างความเกลียดชังต่อพวกมันงั้นหรอ?”เเจ็คสันเหมือนจะนึกขึ้นได้ถึงการให้สัมภาษณ์ของโทนี่

 

“ใช่เเล้วเธอฉลาดมากที่เหลือก็เเค่รอดูการเเสดงของฉันเพียงเท่านั้น”

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากนั้นโทนี่ก็ได้ตัดการติดต่อไป สำหรับเเจ็คสันเขาไม่รู้จะห้ามปรามโทนี่ยังไงปัญหาก็คือ คิลเลี่ยน ตัวร้ายของพล็อตเรื่องที่ 3 ไม่ใช่ตัวตนที่เรียบง่าย เเจ็คสันต้องการสร้างความได้เปรียบให้โทนี่ เเต่โทนี่กลับปฏิเสธความได้เปรียบนั้นเเละจะจัดการสะสางปัญหาด้วยตนเอง,คิลเลี่ยนนั้นมีความสามารถที่น่ากลัวอย่างไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสที่มีการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บทั้งหมดได้ราวกับปฏิหาริย์มันคล้ายกับการรักษาด้วยยายีนของออสคอร์ปเพียงเเต่ประสิทธิภาพกลับดีกว่ามาก

 

ถ้าโทนี่ตั้งใจจัดการ คิลเลี่ยน ด้วยตนเอง เเจ็คสันก็คงต้องทำใจยอมรับเเละช่วยเหลือในการจัดการตัวร้ายสุดโต่งตัวนี้ เเม้ ไวรัส เอ็กซ์ทรีมิสจะมีผลข้างเคียงมากมาย เเต่ถ้ามันได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเเล้วล่ะก็ไวรัสตัวนี้ก็ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งให้กับตัวเองได้

 

“หวังว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นไปอย่างราบรื่น”เเจ็คสันได้สิ้นสุดการสำรวจพื้นที่เขาต้องการติดตามรายงานการสัมภาษณ์สดของโทนี่

ในห้องพักผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเเฮปปี้ยังคงจ้องหน้าของโทนี่อยู่

 

“มีอะไรติดหน้าฉันงั้นหรอ?”โทนี่กล่าวถามออกมา

 

“คือครั้งนี้ผมอยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางของระเบิดเท่าไหร่ เเต่ถึงกระนั้นบาดเเผลที่ได้รับกลับเป็นบาดเเผลถาก ๆ เล็กน้อยเช่นนี้”

 

“ก็โชคดีไม่ใช่รึไง อาจเป็นไปได้ว่าขณะที่นายหาที่กำบังเพื่อหลบนั้นที่กำบังนั่นอาจช่วยดูดซับความรุนเเรงของระเบิดทำให้ผลของระเบิดเบาลง”โทนี่กล่าวตอบเขา

 

“อันที่จริงมันไม่ใช่แบบนั้น ในขณะที่ผมกำลังถูกเปลวไฟกลืนกินตัวของผมเปล่งเเสงสีเขียวออกมาเล็กน้อยเเละดูเหมือนมันจะช่วยปกป้องผม ไม่งั้นผมคงไม่ได้โดนเเค่บาดเเผลเล็ก ๆ น้อย ๆ เเค่นี้หรอก”เเฮปปี้อธิบายให้ฟังก่อนที่เขาจะถูกเปลวไฟกลืนกินร่างของเขาปรากฏรัศมีพลังสีเขียวจาง ๆ ออกมา

 

“เเสงสีเขียว?”โทนี่รู้สึกอยากรู้อยากเห็น

 

ก่อนหน้าที่โทนี่ถูกผู้ร้ายพาไปเขาได้รับประสบการณ์จากการถูกลักพาตัวในตอนนั้นเขาได้รับสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันมาโชคดีที่มันช่วยให้เขาหนีพ้นจากทะเลทรายกลับมาครบ 32 หลังจากนั้นเขาก็ได้ทำการศึกษามัน เเม้โทนี่จะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันมาก เเต่อย่างน้อยเขาก็เข้าใจ

 

เพราะตอนนั้นเองร่างของเขาก็ปลดปล่อยเเสงสีเขียวออกมาคุ้มกันเขาโทนี่จำได้ถึงเรื่องนี้หลังจากกลับมาเขาก็ถามความจากเเจ็คสัน เเจ็คสันเคยบอกว่าสิ่งของนี้มาจากสถานที่เร้นลับ เดิมโทนี่ไม่ค่อยเชื่อ เเต่พอมารู้จักตัวตนมิราจไนท์ของเเจ็คสัน เขาก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้นไปอีก เขาเชื่อว่าสิ่งของเหล่านี้เดิมไม่ควรมีอยู่บนโลกนี้อย่างเเน่นอน บางทีเเจ็คสันอาจจะได้รับมันมาบังเอิญอาจจะเป็นมรดกโบราณวัตถุที่หลงเหลือจากยุคสมัยก่อนที่เป็นอารยธรรมของโลก

 

“ใช่เเสงสีเขียว เดิมผมคิดว่าคุณสตาร์กได้มอบอุปกรณ์ไฮเทคบางอย่างไว้ปกป้องผม เเต่หลังจากตรวจหาภายหลังฉันกลับไม่พบมัน”เเฮปปี้กล่าวต่อ เพราะดูเหมือนโทนี่จะรู้อะไร

 

“ฉันรู้ว่าเเสงสีเขียวนั่นเป็นอะไร เเต่ความจริงฉันไม่เคยให้มันกับนาย คงจะเป็นของที่เเจ็คสันมอบมันให้กับนายก่อนหน้านี้สิ่งนั้นเเหละคือสัญลักษณ์เเห่งการป้องกัน”โทนี่ยิ้มตอบกลับ

 

“คุณหมายถึง…เเจ็คสันได้มอบสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันให้ผมอย่างงั้นหรอ?”เเฮปปี้ไม่ใช่คนโง่เขาย่อมรู้ดีว่าเเสงสีเขียวที่ปรากฏขึ้นนั้นไม่ธรรมดา เเต่เขากลับไม่คิดเลยว่าสิ่งของนี้จะมาจากเด็กหนุ่มคนนึง

 

“หากนายสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ถามเเจ็คสันภายหลังเเล้วกัน”โทนี่กล่าวบอกเขา

 

“อืม,ผมรู้ว่าสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันนั้นมีค่ามาก เเจ็คสันนั้นสุดยอดจริง ๆ เดิมเขามอบสิ่งของนี้ให้กับผมก่อนหน้านี้”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเฮปี้เชื่อว่า เเจ็คสัน มอบสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันเพื่อปปกป้องตนเอง เขาเองก็ไม่ค่อยเชื่อพวกตำนานลึกลับเท่าไหร่ เเต่พอได้เห็นสิ่งที่มหัศจรรย์ด้วยตาของตนเองเเล้วมันก็ยากที่จะไม่เชื่อ

 

“เจ้าเด็กนั่นค่อนข้างลึกลับ เเต่เขาค่อนข้างเป็นเด็กที่ดี”โทนี่รู้สึกคิดถึงเเจ็คสัน

 

“คราวนี้นายทำได้ดีมาก เอาล่ะพักผ่อนได้เเล้วที่เหลือฉันจัดการเอง”โทนี่กล่าวบอกอีกครั้ง

 

“คุณสตาร์ก คุณวางเเผนจะทำอะไรต่อไป?”เห็นโทนี่กลายเป็นกระตือรือร้นเเฮปปี้อยากจะรู้

 

“เเน่นอนว่าย่อมต้องเอาคืน!”

 

 

ขณะที่โทนี่อยู่ที่โรงพยาบาลทางด้านเเจ็คสันเเละปีเตอร์พวกเขาก็มาถึงสถานที่เกิดเหตุการระเบิดเพราะมีผู้พันโร้ดคอยอำนวยการให้เเจ็คสันเเละปีเตอร์จึงไม่ต้องถอดชุดเกราะไอรอนเเมนดังนั้นพวกเขาจึงตรงเข้าสู่บริเวณสถานที่เกิดเหตุได้เลย เเน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่ยอมให้สถานะ มิราจไนท์ เเละ สไปเดอร์เเมน ถูกเปิดเผยที่นี่

 

ฟุ่บ!

 

“กำลังสเเกนพื้นที่โดยรอบ”หลังจากเเจ็คสันยืนอยู่กลางจัตุรัสJ.A.R.V.I.S ก็ทำการสเเกนซากปรักหักพักโดยรอบเพื่อค้นหาต้นตาของระเบิด

 

ฟุ่บ!

 

ไม่นานชุดเกราะไอรอนแมนของ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ก็ทำการสเเกนพื้นที่เสร็จสมบูรณ์จากนั้นภาพโฮโลเเกรมก็ย้อนกลับสู่สภาพดั้งเดิมเเทบจะเรียกได้ว่าก่อนเกิดเหตุ

 

“การระเบิดครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 7 คน อุณหภูมิองศาเเรงระเบิดร้อนมากถึง 3,000 องศา”J.A.R.V.I.S ประเมินค่าเเละกล่าวออกมา

 

“ตำเเหน่งผู้เสียชีวิตบางคนอยู่ห่างไกลจากจุดระเบิดถึงกระนั้นเเรงส่งของระเบิดก็ยังมีพลังทำลายล้างมากพอจะคร่าชีวิตพวกเขา”J.A.R.V.I.S ประเมินผลออกมาอีกครั้งจากตำเเหน่งศูนย์กลางของระเบิด

 

เพียงเเต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ก็เหมือนกับการระเบิดก่อนหน้านี้ไม่พบเศษชิ้นส่วนซากระบิดเเต่อย่างใด

 

“ตำเเหน่งทิศของระเบิดอยู่ตรงใจกลางเเต่เเรงระเบิดกลับส่งผลออกไปยังกรอบนอกถนน นี่มันค่อนข้างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ “เเจ็คสันยืนอยู่บนซากปรักหักพังเขากำลังวิเคราะห์สถานที่อยู่

 

ติ๊ด ๆ

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังหาเบาะเเสหน้าจอหมวกของเขาก็ปรากฏคลื่นสัญญาณของติดต่อ

 

“เเจ็คสันเธอถึงที่นั่นเเล้วสินะ ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่เธอมอบสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันให้กับเเฮปปี้”ใบหน้าของโทนี่ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าจอหมวกของเเจ็คสัน

 

“สัญลักษณ์เเห่งการป้องกัน?อ่อ ดูเหมือนว่าเขาจะรอดจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้มาได้เพราะสัญลักษณ์เเห่งการป้องกัน จริงสิ คุณสตาร์ก เขารู้อะไรบ้างไหมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่้เกิดขึ้น?”เเจ็คสันกล่าวถามโทนี่

 

“ไม่ใช่เเค่รู้ เเต่ยังค้นพบบางอย่างอีกด้วย”

 

 

 

 

ฟุ่บ!

 

ได้เห็นข้อความจาก โร้ด โทนี่ดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีเเม้ว่าวันนี้จะเป็นวันเกิดของเป็ปเปอร์เเต่ข้อมูลที่โทนี่เห็นนี้ทำให้เขารู้สึกโกรธมากจริง ๆ

 

“เกิดอะไรขึ้น โทนี่?”เห็นโทนี่เปลี่ยนท่าที เป็ปเปอร์ ตะโกนถามอย่างร้อนรน

 

“มีอุบัติเหตุเกิดเล็กน้อย! เป็ปเปอร์ผมขอตัวก่อนไว้ผมจะทดเเทนดินเนอร์ในครั้งนี้”

 

“อุบัติเหตุงั้นหรอ? คุณไปเถอะฉันไม่เป็นไร”เป็ปเปอร์เข้าใจทันที อุบัติเหตุเล็กน้อยงั้นหรอ ป่าวเลย มันต้องเป็นอุบัติเหตุร้ายเเรงมากเเน่ถึงทำให้โทนี่กระวนกระวายได้ขนาดนี้

 

“เเจ็คสัน,ปีเตอร์ มากับฉัน”จากนั้นโทนี่ก็เก็บข้อความจากโทรศัพท์ไป เขาตะโกนเรียก เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ที่อยู่ใกล้ ๆ

 

โทนี่ได้เดินลงไปที่ชั้นใต้ดินของตนเอง จากข้อความโร้ด ระบุสั้น ๆ เอาไว้ว่า ในเขตย่านใจกลางจัตุรัสของนิวยอร์กถูกกองกำลังที่ชั่วร้ายของเเมนดารินโจมตีด้วยระเบิดเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเเละคนสนิทของเขายังได้รับลูกหลงไปด้วย

 

ได้ยินอุบัติเหตุจากปากของโทนี่ เเจ็คสัน เเละปีเตอร์อยากรู้อยากเห็นมาก โชคดีที่โทนี่เรียกพวกเขาไปด้วยดังนั้นพวกเขาจึงตามหลังโทนี่ไปอย่างเร่งรีบ

 

“โร้ด,นี่ใช่ฝีมือเเมนดารินเเน่ใช่มั้ย?”โทนี่ โทรศัพท์หาโร้ดเพื่อนของเขาทันที ตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเเละตึงเครียด เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกโกรธเเมนดารินคนนี้ มาก ๆ

 

“นี่ยังอยู่ในระหว่างสืบสวน เเต่เหตุการณ์ที่้เกิดขึ้นนั้นมีส่วนคล้าย ๆ กัน”โร้ด ตอบกลับ

 

การโจมตีด้วยฉนวนระเบิดนั้นคือฝีมือของเเมนดารินเเละเหตุการณ์ครั้งนี้ก็มีการระเบิดเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บเเละผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เหล่าคนที่ครอบครัวของพวกเขาต้องเสียชีวิตจากการระเบิดครั้งนี้เเน่นอนว่าพวกเขาคงต้องเศร้าเสียใจ การระเบิดย่านใจกลางเมืองนิวยอร์กถือเป็นการท้าทายประเทศสหรัฐอเมริกาเเละประกาศศักดาออกมาอย่างชัดเจน

 

“เเมนดาริน! ตอนนี้เเกทำให้ฉันโกรธเเล้วจริง ๆ “โทนี่พึมพัมออกมา

 

จากนั้นโทนี่ก็วางโทรศัพท์สายตาของพวกเขาตกไปที่เเจ็คสันเเละปีเตอร์ ซึ่งตอนนี้ เเจ็คสัน เเละปีเตอร์ กำลังจ้องโทรศัพท์เเละใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการระเบิดที่เกิดขึ้น โชคร้ายที่ เเจ็คสัน นึกไม่ออกว่าชายที่ชื่อเเมนดารินคนนี้เป็นใคร

 

“ฉันจะไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเเฮปปี้ก่อน โร้ด บอกว่าเขาได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่อาการยังไม่ทรุดตัวลง ยิ่งไปกว่านั้นฉันต้องรบกวนพวกเธอไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย”โทนี่จ้องมองไปที่เด็กหนุ่มทั้งสองคน ความเเข็งเเกร่งของพวกเขาเเน่นอนว่าโทนี่ไม่ได้กังวลอะไรมากนักเกี่ยวกับการมอบหมายหน้าที่นี้

 

“ก็ได้คุณสตาร์ก ผมจะไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เเละจะหาสาเหตุการระเบิดให้เจอ”

 

“เอ่อ…คุณสตาร์กคุณจะให้พวกเราไปยังไง?”

 

“ฉันจะบอก J.A.R.V.I.S เพื่อเตรียมชุดเกราะให้พวกเธอ”

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากโทนี่ตะโกนออกมา ชุดเกราะไอรอนแมน 3 ตัวก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว โทนี่ เเจ็คสัน เเละปีเตอร์ ได้ติดตั้งอาวุธเสร็จเรียบร้อย

 

จากนั้น ชุดเกราะไอรอนแมน 3 ตัว ก็ออกจากฐานใต้ดินบ้านพักของโทนี่ เเละ มุ่งหน้าออกไปสองทิศทางอย่างรวดเร็ว

 

เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ขับเคลื่อนชุดเกราะไอรอนแมนไปทางสถานที่เกิดเหตุระเบิด ส่วนโทนี่ เขาต้องการไปเยี่ยมเเฮปปี้ที่โรงพยาบาลตอนนี้

 

จากนั้นสิบนาที โทนี่ ก็ไปถึงที่โรงพยาบาล ห้องผู้ป่วย หลังจากเห็นสภาพของเเฮปปี้ที่นอนซมอยู่บนเตียงเขารู้สึกโกรธอย่างมาก โร้ดบอกว่า เเฮปปี้ได้รับบาดเเผลเล็กน้อย เเต่สภาพตอนนี้ของเขาเต็มไปด้วยบาดเเผลทั่วร่าง

 

เเฮปปี้หลังจากฟื้นขึ้นมาเขาได้ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทางกองทัพไปเเล้วเเต่ก็ไม่ได้ให้ไปทั้งหมดเพราะสิ่งที่ตนเองเห็นเขาเชื่อว่าทางกองทัพไม่มีทางเเก้ไขเรื่องนี้ได้

 

“คุณสตาร์ก!”

 

“เอาล่ะไม่ต้องขยับ! นายบาดเจ็บอยู่นอนพักไปเถอะ!”เห็นเเฮปปี้พยายามลุกขึ้นมานั่งโทนี่เดินเข้าไปประคองอย่างเร่งรีบ

 

ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเฮปปี้ ได้ล้มตัวลงนอนลงตามที่โทนี่บอก

 

“เกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดนายรู้อะไรมาใช่มั้ย?โร้ดบอกว่านายพยายามอ้ำอึงไม่ได้บอกเรื่องทั้งหมดออกมา”โทนี่กล่าวถามออกมา

 

“ใช่,ผมรู้ว่ามันเกิดการระเบิดขึ้นได้ยังไง!”เเฮปปี้กล่าวออกมา

 

“นายรู้จริง ๆ ?”โทนี่รู้สึกสงสัย

 

เขารีบกล่าวถามอย่างเร่งรีบ”การระเบิดนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเเละสิ่งที่น่าประหลาดใจมากที่สุดจนถึงตอนนี้ยังไม่พบเศษซากวัตถุระเบิดเเม้เเต่น้อย”

 

“การระเบิดที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่อุบัติเหตุหรือการลอบโจมตีใด ๆ เเต่มันเป็นระเบิดมนุษย์, มนุษย์เป็นตัวจุดฉนวนของระเบิด!”

 

“มนุษย์ระเบิด? นี่เป็นเรื่องจริงงั้นหรอ? เเล้วมันมีหลักการทำงานยังไง?”โทนี่รีบกล่าวถามอีกครั้ง ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มลงตัวเเล้ว หากนี่เป็นเรื่องจริง สิ่งนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทางกองทัพจะสามารถจัดการได้

 

“หลักการทำงานอันนี้ผมเองก็ไม่รู้ เเต่ผมคิดว่ามันน่าจะมีกลไกอะไรบางอย่าง จริงสิ ผมได้ติดตาม รถของ คิลเลี่ยน ไป เเต่ที่ปรากฏตัวขึ้นนั้นกลับเป็นหนึ่งในสมุนของคิลเลี่ยนเขาได้ไปที่…”เเฮปปี้ได้ตัดสินใจตามรถยนต์ของคิลเลี่ยนไปเขาได้เล่าเหตุการณ์ให้โทนี่ฟัง

 

“ผมพบกับอุปกรณ์ขวดใบเล็ก ๆ มันถูกซ่อนอยู่ในกระเป๋าที่พวกของคิลเลี่ยนนำมา ตอนเเรกผมคิดว่ามันคือสารเสพติดบางอย่าง เเต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ดูเหมือนมันจะเป็นอะไรที่เลวร้ายกว่านั้น”เเฮปปี้ยื่นส่งขวดเล็ก ๆ ให้โทนี่

 

“นายทำได้ดีมาก เเต่ครั้งต่อไปอย่าได้ทำอะไรเกินตัวแบบนี้อีกเข้าใจมั้ย?”โทนี่รับขวดมาเเละตบไหล่ยกย่องบอดี้การ์ดส่วนตัวคนนี้

 

“ในฐานะบอดี้การ์ดส่วนตัวของไอรอนแมนนี่เป็นหน้าที่ที่ผมควรจะทำ”

 

“ดูเหมือนเรื่องทุกอย่างใกล้จะได้รับการพิสูจน์เเล้ว!”โทนี่พึมพัมออกมา

 

 

“เเซฟวิ่น! ช่วยฉันด้วย!”ชายนิรนามที่รับกล่องลึกลับไปเมื่อครู่ได้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดขณะที่ทรุดตัวลงกับพื้น

 

ใบหน้าของเขาดูขาวซีดอย่างมากราวกับคนติดยาจากนั้นไม่นานร่างกายของเขาก็เปล่งเเสงสีเเดงจนมันลุกไหม้เผาพื้นที่โดยรอบ

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำร้องขอความช่วยเหลือจากบุคคลนั้น เเซฟวิ่น ที่เห็นท่าไม่ดีเขารีบพุ่งตัวหลบ เเม้เเต่บอดี้การ์ดคนนั้นก็หาที่กำบังเพื่อซ่อนตัวทันที

 

บึ้ม!

 

พริบตาต่อมาการระเบิดได้เกิดขึ้น มันได้ระเบิดพื้นที่จัตุรัสเล็ก ๆ เเห่งนี้ จนสร้างคลื่นสะเทือนขนาดใหญ่ ตอนนี้เหล่านักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างวิ่งตะโกนร้องอย่างตกใจเเละหลบหนีอย่างไม่คิดชีวิต เเน่นอนว่าย่อมมีหลายชีวิตที่หลบหนีไม่รอดเเละกลายเป็นเหยื่อสังเวยให้กับการระเบิดในครั้งนี้

 

ฟู่วว!

 

การระเบิดเมื่อครู่ส่งผลให้บอดี้การ์ดคนนี้ล้มลงอย่างไม่เป็นท่าร่างกายของเขาฉโลมไปด้วยบาดเเผลจำนวนมากจากการระเบิดครั้งนี้

 

“อั๊ก…นี่คือ?”เขาที่นอนดิ้นอยู่บนพื้นรู้สึกตัวอีกทีก็เห็นพื้นที่โดยรอบกลายเป็นเศษฝุ่นขี้เถ้าไปหมดเเล้วเรื่องนี้มันเเปลกเกินไปเมื่อครู่เขาเห็นชายคนนึงมีเเสงสีเเดงเปล่งทั่วร่างจากนั้นก็เกิดการระเบิดขึ้น

 

หึ่ม!

 

ขณะนั้นเองคนของคิลเลี่ยนเองก็ลุกขึ้นมาเช่นเดียวกันเขาได้รับผลกระทบจากการระเบิดเมื่อครู่เสื้อผ้าของเขาขาดวุ่นวิ่นเพียงเเต่ว่าเขาได้ลุกขึ้นมาเดินแบบฉิว ๆ ราวกับไม่เป็นอะไร

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเเสงสีเเดงก็ไหลผ่านตัวของเขาพร้อมกับรักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน มีหลายชีวิตที่ต้องสังเวยให้กับการระเบิดในครั้งนี้เเต่คนคนนี้กลับรอดมาได้ราวกับปฏิหาริย์

 

ไม่เพียงเเต่พื้นที่ด้านในจัตุรัสเเห่งนี้เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบรถยนต์ที่อยู่ด้านนอกก็ยังได้รับผลจากเเรงระเบิดคลื่นกระเเทกของระเบิดได้ทำให้พื้นที่โดยรอบเปลี่ยนเป็นกองขี้เถ้าโดยสมบูรณ์

 

บอดี้การ์ดคนนี้จ้องมองไปยังคนของ คิลเลี่ยน ที่เดินจากไป เขาไอออกมาหลายครั้งเพราะพิษควันจากการระเบิด

 

“เเค๊ก ๆ !”ภายใต้ซากปรักหักพังเหล่านี้คนที่รอดชีวิตมีน้อยมากโชคดีที่บอดี้การ์ดคนนี้หาที่กำบังหลบได้ทันเเต่บาดเเผลของเขาก็สาหัสเเค่ประคองสติก็ยังยากมากในตอนนี้

 

กลุ่มมลพิษจากการระเบิดส่งผลให้ชายคนนี้เริ่มที่จะประคองสติไม่อยู่จากนั้นเขาพยายามบ่นพึมพัมออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะหมดสติไป

 

เพราะพิษบาดเเผลจำนวนมากกับกลิ่นควันลอยจากการระเบิดเเม้เขาจะพยายามประคองสติเเค่ไหนก็คงไม่ได้ผลอยู่ดี

 

 

บ้านพักชายทะเลของโทนี่ เเจ็คสัน เเละปีเตอร์ กำลังบริการ โต๊ะอาหารให้กับ เป็ปเปอร์ เเละ โทนี่ อยู่ ดินเนอร์ใต้เเสงเทียนนี้ เป็นดินเนอร์ที่โรเเมนติกมาก ส่วนอาหารเหล่านี้ เป็นฝีมือของเเจ็คสัน เเม้ฝีมืออาหารของเเจ็คสันจะไม่สามารถเทียบกับพ่อครัวชั้นนำได้ เเต่เป็ปเปอร์ ก็ไม่ได้ถือความเอาใจใส่เท่าไหร่

 

“เจ้านายครับ ดูเหมือนจะมีข้อความจาก พันเอก โร้ด ส่งมา”

 

โทนี่ได้บอกกับโร้ดว่าหากได้รับข้อมูลอะไรเพิ่มเติมให้รีบติดต่อหาเขาทันทีดูเหมือนโร้ดจะมีข้อมูลบางอย่างเเล้ว

 

“J.A.R.V.I.S,ต่อข้อความให้ฉัน”โทนี่ กล่าวบอก J.A.R.V.I.S ทันที

ขณะที่โทนี่จับมือของเป็ปเปอร์เดิน เป็ปเปอร์ที่อยู่ด้านหลังรู้สึกไม่เชื่อในสิ่งที่โทนี่พูด ในความเข้าใจของเป็ปเปอร์ เเม้เเต่เธอก็ยังเเปลกใจที่โทนี่เตรียมช่อดอกไม้ให้ตนเอง เเน่นอนว่าเธอรู้สึกยินดี เเต่โทนี่ยังเตรียมโต๊ะดินเนอร์ใต้เเสงเทียน นี่ฉีกความเข้าใจของเธอทั้งหมด

 

“เชิญนั่งครับคุณผู้หญิง”โทนี่ดึงเก้าอี้ให้เป็ปเปอร์นั่งจากนั้นเขาก็ไปนั่งฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ

 

เเม้จะมีข้อสงสัยเเต่เป็ปเปอร์ก็นั่งจ้องมองโทนี่อย่างไม่กระพริบตา ดินเนอร์ใต้เเสงเทียน เป็นอะไรที่เพอร์เฟ็คมากสำหรับเธอ ไม่นาน J.A.R.V.I.S ก็เปิดเสียงเพลงเบา ๆ ให้เข้ากับบรรยากาศ

 

โทนี่ ที่นั่งอยู่ตรงข้ามของเป็ปเปอร์เขายิ้มออกมาเล็กน้อย

 

!

 

จากนั้นไม่นานภายในห้องก็ปรากฏเสียงล้อหมุนของรถเข็น เป็ปเปอร์ได้หันไปมองเธอเห็นรถเสบียงขนาดเล็กพร้อมกับพ่อครัวเเละพนักงานบริการที่ค่อนข้างคุ้นเคย

 

“เเจ็คสัน?ปีเตอร์?”ทั้งพ่อครัวเเละพนักงานบริการที่ว่านี่ก็คือเเจ็คสันเเละปีเตอร์ เรื่องนี้ทำให้ เป็ปเปอร์ รู้สึกตกใจมาก

 

 

ขณะที่พวกโทนี่กำลังนั่งดินเนอร์กัน รถที่ คิลเลี่ยน นั่งไปก็ไปหยุดอยู่ที่ใจกลางย่านจัตุรัสกลางเมืองนิวยอร์ก

 

เพราะวันคริสต์มาสใกล้เข้ามาทุกทีพื้นที่ต่าง ๆ ในนิวยอร์กจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศหนาวเย็น คิลเลี่ยน เเละพรรคพวกได้นั่งรออยู่ภายในรถ คิลเลี่ยนได้ส่งลูกน้องของเขาลงไปคนนึง

 

จากนั้นลูกน้องของคิลเลี่ยนก็เดินเข้าไปที่โต๊ะม้านั่งตัวนึงที่มีคนนิรนามนั่งอยู่

 

ชายคนนี้ได้ดึงเเว่นลงพร้อมกับยื่นมือไปรับกล่องจากทางคนของคิลเลี่ยน

 

“คิดว่าเอาอยู่มั้ย?”

 

เพื่อนคนที่ปลอมตัวรับกล่องมาภายในกล่องนั้นเเพ็คสิ่งของที่ดูน่าสงสัยสุด ๆ ธรรมชาติมันย่อมเป็นสิ่งของผิดกฏหมายอย่างเเน่นอน

 

หลังจากรับสิ่งของที่ตนเองต้องการมาเเล้วจากนั้น ลูกน้องคนนั้นของคิลเลี่ยนก็เดินจากไปโดยไม่สนใจอะไรอีก

 

ชายนิรนามคนนั้นก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไปจากที่นี่บอดี้การ์ดของโทนี่ที่เฝ้าระวังติดตามรถคันดังกล่าวมาเขาได้เห็นการเเลกเปลี่ยนที่น่าสงสัยพอเห็นพรรคพวกของคิลเลี่ยนไปเเล้วเขาก็เดินเข้าไปทันที

 

ฟุ่บ!

 

“เห้,ขอโทษ?”บอดี้การ์ดของโทนี่ได้เดินชนจนกระเป๋าที่เก็บสิ่งของบางอย่างไว้ตกกระจายไปทั่วเขาได้กล่าวขอโทษออกมาพร้อมกับช่วยเก็บ

 

“อ่า ไม่เป็นไร?”ชายคนดังกล่าวได้ก้มลงเก็บสิ่งของอย่างรวดเร็วพร้อมกับบอก

 

บอดี้การ์ดของโทนี่จ้องมองสิ่งของที่อยู่ภายในนั้นขณะที่ช่วยเก็บเขาก็สังเกตุสิ่งของภายในเเละหน้าตาของคนนิรนามคนนี้เพียงเเต่ว่าเขากลับมองเห็นเเสงสีเเดงที่วาบผ่านใบหน้านั่นด้วยความสงสัยหลังจากช่วยเก็บเสร็จบอดี้การ์ดคนนี้จึงเเอบหยิบชิ้นส่วนหนึ่งในกล่องลึกลับนั่นมาเเละเตรียมจะเดินจากไป

 

เพียงเเต่ว่าลูกน้องของคิลเลี่ยนได้วนกลับมาพร้อมกับเดินชนเขา

 

“เห้,ส่งนั้นไม่ใช่ของนายส่งมาซะ”ลูกน้องของคิลเลี่ยนกล่าวกับบอดี้การ์ดคนนั้น

 

ฟุ่บ!

 

“ฉันไม่ได้เอาอะไรไป”บอดี้การ์ดคนนี้กล่าวทำท่างุนงงเล็กน้อย

 

ทั้งสองคนถกเถียงกันไปมาเล็กน้อยก่อนที่ทางฝั่งบอดี้การ์ดของโทนี่จะเเฉเรื่องสิ่งของต้องห้ามที่อยู่ในมือออกมาเเต่ดูเหมือนว่าทางคนของฝั่งคิลเลี่ยนจะไม่ยอมรับ

 

บอดี้การ์ดคนนี้เห็นฝั่งตรงข้ามจะลงมือฉกฉวยสิ่งของในมือของตนเองเขาได้ง้างหมัดเเละชกเข้าที่ใบหน้าของคนของฝั่งคิลเลี่ยน

 

ปั้ง

 

บาดเเผลคิ้วเเตกจากหมัดของตนเองได้หายไปจากบนใบหน้าของลูกน้องทางฝั่งคิลเลี่ยนซึ่งนั่นสร้างความประหลาดใจให้กับบอดี้การ์ดคนนี้มาก

 

ก่อนที่บาดเเผลนั่นจะหายไปเเสงสีเเดงได้วิ่งไหลผ่านบนใบหน้าของชายคนนั้นเล็กน้อยเเละมันช่วยเยียวยาบาดเเผลที่เกิดขึ้นราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

 

บอดี้การ์ดคนนั้นพยายามจะง้างหมัดต่อยอีกทีเพียงเเต่ว่าเขาได้ถูกล็อคเเละสวนกลับโยนกระเด็นออกไปไกล

 

ฟิ้ว!

 

บอดี้การ์ดคนนี้ลุกขึ้นมาด้วยความงุนงงพละกำลังของอีกฝ่ายมันไม่ใช่พละกำลังที่มนุษย์ธรรมดาพึงมีเเล้ว

 

“เวรเอ้ย,อะไรกันวะเนี่ย!”บอดี้การ์ดคนนี้สบถออกมาเล็กน้อยพละกำลังนั่นเเละพลังรักษาที่ไม่ธรรมดานี่สมควรไม่ถูกต้องเเล้ว

 

เขาจะต้องรีบกลับไปเเจ้งเรื่องนี้ให้โทนี่ทราบโดยเร็ว

 

หลังจากคิลเลี่ยนออกไป เป็ปเปอร์ก็ยังคงนึกถึงคำพูดของชายคนนั้นนอกจากนี้คนรับใช้ที่ขับรถมารับนั้นต่างก็ดูน่าสงสัยสุด ๆ โดยธรรมชาติ เป็ปเปอร์ไม่รู้ว่าเธอถูกจับตามองโดยโทนี่อยู่ในตอนนี้

 

เป็ปเปอร์ไม่นานเธอก็เตรียมตัวกลับบ้านวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ โทนี่ บอกว่าเขาจะอยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันกับเธอ เป็ปเปอร์ในตอนเเรกบอกไม่เป็นไรเพราะเธอรู้ว่าโทนี่ยุ่งอยู่ตลอดเวลาเธอเข้าใจ เเต่อย่างน้อยโทนี่ก็ยังจำวันเกิดของเธอได้ ซึ่งเป็ปเปอร์ รู้สึกมีความสุขอย่างมาก ธรรมชาติเธอไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับอะไรพิเศษมากนักในวันเกิดของเธอนี้

 

ฟุ่บ!

 

ไม่นานรถของเป็ปเปอร์ก็กลับมาถึงบ้านพักของโทนี่ ด้านหน้าประตูมีหุ่นยักษ์วางเอาไว้อยู่เห็นได้ชัดว่าหุ่นยักษ์ตัวนี้เป็นของฝากของโทนี่ ,ทั้งสองคนเคยพูดกันไว้ว่าหากมีลูกชาย พวกเขาก็จะซื้อหุ่นยนต์ตัวยักษ์ให้เป็นของขวัญวันเกิด เป็ปเปอร์ที่เห็นโทนี่จำได้ เธอยิ้มออกมา

 

โทนี่ในตอนนี้กำลังเคลียงานทั้งหมดเเละเตรียมวางงานเอาไว้ ทางด้าน เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ พวกเขายังทำการทดลองอยู่ในห้องใต้ดิน โทนี่บอกพวกเขาว่าวันนี้เขาจะอยู่ดินเนอร์กับเป็ปเปอร์ ดังนั้นเรื่องการทดลองเขาจึงขอวางไว้ก่อน

 

“เจ้านายครับ วันนี้เป็นวันเกิดของคุณเป็ปเปอร์,เเละ เธอ กำลังเดินเข้ามาในบ้านเเล้ว”J.A.R.V.I.S ส่งเสียงเตือนโทนี่

 

โทนี่ที่ได้ยินเขาเเทบจะตะโกนสบถออกมาเขาลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงเพียงเเต่ J.A.R.V.I.S ส่งเสียงเตือนเขาช้าไป

 

“คุณสตาร์ก วันนี้เป็นวันเกิดของคุณเป็ปเปอร์งั้นหรอ?”ปีเตอร์ กล่าวถามเพราะโทนี่บอกเเค่ว่าจะอยู่ดินเนอร์กับเป็ปเปอร์เพียงเท่านั้น

 

เเจ็คสันได้วางของในมือลงเเละมองหน้าโทนี่ ทั้งสามคนได้ทุ่มเทให้กับโปรเจคเวน่อมจนเเทบจะลืมเวลา วันนี้เป็นวันเกิดของเป็ปเปอร์ไม่เเปลกใจที่โทนี่จะขอวางงานไว้ก่อน

 

“บ้าเอ้ย,J.A.R.V.I.S ทำไมนายไม่เตือนฉันก่อนหน้านี้”ได้ยินคำถามของ ปีเตอร์ โทนี่ รู้สึกกังวล

 

โทนี่ต้องการเตรียมพร้อมสำหรับวันเกิดของเป็ปเปอร์โดยการให้มันเป็นวันที่ดีที่สุดดังนั้นเขาจึงชวนเป็ปเปอร์ทานมื้อเย็นดินเนอร์วันนี้

 

“พวกเธอต้องช่วยฉัน”โทนี่กล่าวบอกปีเตอร์เเละเเจ็คสัน

 

เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์”อืม”

 

 

ตึก ตึก ~ ~

 

“เป็ปเปอร์ ทำไมวันนี้คุณกลับมาเร็วจัง!”โทนี่ที่หนีออกมาจากห้องลับใต้ดินเขาเห็นเป็ปเปอร์นั่งรออยู่บนโซฟาเขากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม

 

เมื่อครู่โทนี่จับตามองเป็ปเปอร์อยู่ก็จริงเเต่พอเรื่องคิลเลี่ยนเข้ามาทำให้เขาลืมวันสำคัญนี้เเทบทั้งหมด อย่างน้อยโทนี่ก็ยังเหลือมื้อดินเนอร์กับเป็ปเปอร์

 

“ถ้าฉันไม่รีบกลับมาฉันจะเห็น เซอร์ไพร์สหุ่นยนต์ตัวใหญ่ที่วางอยู่หน้าบ้านงั้นหรอ?”เป็ปเปอร์อมยิ้มเล็กน้อย

 

เป็ปเปอร์ที่เข้ามาถึงในบ้านเธอได้พูดคุยกับโทนี่ จนหารู้ไม่ว่าโทนี่ยังไม่ได้เตรียมอาหารดินเนอร์สำหรับเธอเลย

 

เป็ปเปอร์เองก็ไม่ได้คาดหวังสูงโทนี่ เองก็ยิ้มเจื่อน ๆ ออกมานอกจากนี้หุ่นยนต์ตัวใหญ่นั่นเขายังวางไว้หลอกล่อเป็ปเปอร์เพียงเท่านั้น”ฮ่าฮ่า นั่นยังไม่ใช่เซอร์ไพร์สที่เเท้จริง ซะหน่อย”

 

“เซอร์ไพร์ส?ไม่ใช่ว่าหุ่นยนต์ตัวใหญ่นั่นเป็นเซอร์ไพร์สให้ฉันงั้นหรอ?”เป็ปเปอร์กล่าวถามโทนี่โดยตรง

 

“ธรรมชาติย่อมไม่ใช่เช่นนั้น ยังมีเซอร์ไพร์สที่น่าตื่นเต้นอยู่อีกเเน่นอนว่าคุณต้องชอบ…”ได้ยินคำพูดของเป็ปเปอร์โทนี่สั่นศีรษะเล็กน้อย

 

 

ไม่นานโทนี่ก็เห็นหุ่นยนต์นำช่อกุหลาบขนาดใหญ่มาให้ เเม้เเต่ตัวโทนี่เองก็ยังไม่รู้เลยว่าตนเองมีช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ขนาดนี้อยู่ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เด็ก ๆ ของเขาเป็นคนเตรียมให้

 

เห็นช่อกุหลาบพวงใหญ่ที่สวยงาม เป็ปเปอร์ยิ้มเล็กยิ้มน้อย ช่อกุหลาบช่อนี้เเม้จะไม่ได้มีราคาเเพงอะไรมาก เเต่ดูเหมือนโทนี่จะเตรียมของขวัญที่ทำให้เธอรู้สึกชื่นบานหัวใจเอาไว้ให้

 

“ฉันชอบของขวัญของคุณมาก”เป็ปเปอร์ยื่นมือออกไปรับช่อดอกไม้จากมือของโทนี่ในเวลาต่อมา

 

“เเล้วดินเนอร์ของเรา?”ในมือถือช่อดอกกุหลาบ เป็ปเปอร์ กล่าวถาม โทนี่

 

“ฮ่าฮ่า,เเน่นอนผมเตรียมไว้ให้คุณเเล้ว มื้อดินเนอร์ของเราวันนี้ย่อมเเตกต่างจากครั้งก่อน ๆ อย่างเเน่นอน เพราะสิ่งที่ผมเตรียมไว้ให้คุณนั้นพิเศษถึงพิเศษที่สุด”โทนี่นั่งลงข้างเป็ปเปอร์ เขากำลังปล่อยให้ เด็ก ๆ ของเขาสองคนจัดการ

 

“ฉันจะเชื่อดีไหมนะ”เป็ปเปอร์รู้สึกไม่เชื่อคำพูดของโทนี่

 

“จริงสิ เเล้วเรื่อง คิลเลี่ยน เพื่อนของคุณ…”

 

มันไม่ง่ายเลยที่โทนี่จะถามคำถามนี้กับเเฟนตัวเอง

 

เกี่ยวกับเป็ปเปอร์โทนี่ค่อนข้างหวั่นไหวได้ง่าย ไม่ว่า คิลเลี่ยน จะมาเสนองานของตนเองให้กับเป็ปเปอร์ หรือ พูดคุยธรรมดา มันทำให้ โทนี่รู้สึกกังวล วิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีของ คิลเลี่ยน น่าสนใจจริง ๆ เเต่ เป็ปเปอร์ก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือเพราะเห็นว่ามันอันตรายเกินไป

 

หลังจากนั้นสิบนาทีต่อมาโทนี่ก็ไม่สามารถ่วงเวลาได้อีกเขาได้รับเสียงเเจ้งเตือนจากเเจ็คสันในที่สุดเรื่องนี้ทำให้โทนี่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย

 

“ไปกันเถอะ ผมเตรียมอาหารดินเนอร์ของเราไว้รอเเล้ว”โทนี่จูงมือเป็ปเปอร์ลุกขึ้นยืน

โทนี่จ้องฟังโทรศัพท์มือถืออย่างไม่อาจละสายตาหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับ เป็ปเปอร์ โทนี่ค่อนข้างใส่ใจ เเม้เป็ปเปอร์จะสนทนากับใครก็ได้เรื่องนี้โทนี่รู้ดี เเต่ในฐานะเเฟนเขาค่อนข้างกังวล

 

“พวกเขาพูดคุยอะไรกัน?”โทนี่กล่าวถาม

 

“เอ่อ…ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยีบางชนิด เจ้าผู้ชายนั่นพูดคุยเรื่องสมองกับคุณเป็ปเปอร์”บอดี้การ์ดคนนี้กล่าวตอบโทนี่

 

“สมอง?มีอะไรเกี่ยวกับสมอง?!”ได้ยินคำตอบโทนี่ค่อนข้างประหลาดใจ หรือว่า ฝั่งตรงข้ามจะเป็นหมอที่มีการรักษาเกี่ยวกับสมอง

 

“ดูเหมือนเพื่อนคนนี้ คิลเลี่ยน กำลังจะให้ คุณเป็ปเปอร์ ดูสมองของตัวเอง”บอดี้การ์ดคนนี้จ้องมองผ่านกล้องจับภาพในห้องทำงาน

 

“นายเฝ้าระวังเป็ปเปอร์ต่อไปฉันกำลังจะไปที่นั่น”โทนี่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร เเต่ดูเหมือนเขาคงต้องไปมองด้วยตาตนเองถึงจะรู้

 

เเต่ตอนนี้โทนี่ยังไม่ได้ไปหาเป็ปเปอร์เขาให้บอดี้การ์ดคนนั้นเฝ้าระวังเป็ปเปอร์เอาไว้ก่อนส่วนเขาจะให้ J.A.R.V.I.S เช็คประวัติของอีกฝ่ายก่อน

 

“เจ้านายครับ ดูเหมือนว่าคุณกับคุณคิลเลี่ยนคนนี้จะเคยพบกันมาก่อนในปี 99″J.A.R.V.I.S กล่าวตอบคำถาม

 

“ปี 99 ? การประชุมเเลกเปลี่ยนสุดยอดงานทางวิทยาศาสตร์ที่สวิตเซอร์เเลน ฉันไม่ค่อยได้จดจำใครด้วยสิ”โทนี่เหมือนจะนึกออกบางอย่าง

 

“ครับ,ในประเทศสวิสเซอร์เเลนด์ เพราะอีกฝ่ายไม่ใช่หญิงสาวเเสนสวยคงไม่เเปลกที่คุณจะไม่สามารถจำได้”

 

“อัลดริช คิลเลี่ยน…”ในขณะนั้นเอง J.A.R.V.I.S ก็ได้เปิดภาพการตรวจสอบผ่านสำนักงานซึ่ง เป็ปเปอร์ ได้นั่งอยู่บนโซฟาเเละกำลังสนทนากับชายคนนั้น

 

หากเป็นการสนทนาแบบปกติมันคงจะไม่ได้ยุ่งยากอะไร เเต่ไอ้หนุ่มคิลเลี่ยนนั่นกำลังหลอกจับมือเป็ปเปอร์์อยู่ การเคลื่อนไหวนี้หากเป็นคนอื่นย่อมไม่สามารถเอะใจอะไรเเต่โทนี่ที่เป็นเเฟนหนุ่มของเป็ปเปอร์ย่อมรู้สึกไม่พอใจ

 

“คุณสตาร์ก คุณเป็ปเปอร์ เป็นเทพธิดาของคุณ คุณจะต้องไม่ปล่อยให้เขาเอาเธอได้นะ”บอดี้การ์ดส่วนตัวคนนี้กล่าวพูด

 

“ฉันรู้ ดีที่พวกเขาเเค่คุยกัน ดูเหมือนฉันจะต้องวางงานทดลองอื่น ๆ ไว้ชั่วคราว”โทนี่ กล่าวบอกผ่านโทรศัพท์

 

“J.A.R.V.I.S ช่วยฉันตรวจสอบเบื้องลึกเบื้องหลังนาย คิลเลี่ยน คนนี้อย่างละเอียด”หลังจากวางสายโทรศัพท์โทนี่ขอร้อง J.A.R.V.I.S อีกครั้ง

 

“ครับเจ้านาย”

 

หลังจากโทนี่วางโทรศัพท์เเจ็คสันที่ทำการทดลองอยู่ได้เดินมาหาโทนี่เขาเห็นสีผิวของโทนี่ไม่ค่อยสู้ดีนัก

 

“คุณสตาร์กมีอะไรรึปล่าว?”เเจ็คสันถามโทนี่ด้วยความเป็นห่วง หรือว่ามีอะไรเกิดขึ้น กับ เป็ปเปอร์ เเจ็คสันคิดอย่างเงียบ ๆ

 

“ฉันคงต้องเบรกงานทดลองเอาไว้ก่อน”โทนี่สั่นศีรษะเล็กน้อย เกี่ยวกับ นาย คิลเลี่ยน โทนี่มีความกังวลอย่างมาก เขามั่นใจว่าชายคนนี้มีอิทธิพลต่อ เป็ปเปอร์

 

“ผมเข้าใจเเล้วตอนนี้ผลการวิเคราะห์ในการสร้างชุดเกราะกลายพันธุ์เวน่อมดำเนินไปได้ด้วยดีมันได้เเข็งเเกร่งมากขึ้นกว่าเดิมมากตราบใดที่เรามีพลังงานให้กับมันเพียงพอมันจะกลายเป็นชุดเกราะกลายพันธุ์ที่ควรค่าเเก่การพัฒนาเเละใช้งาน”เเจ็คสันกล่าวตอบ

 

“อืม,ในอนาคตเราจะทำให้มันเเข็งเเกร่งมากขึ้นไปอีก ฉันคิดว่านะ”

 

โทนี่กล่าวตอบลอย ๆ ออกไป เรื่องของเป็ปเปอร์ในตอนนี้ต้องมาก่อนการทดลองทั้งหมดเขาเเทบจะไม่ได้คิดอยู่ในหัวตอนนี้ เเม้โทนี่จะคิดว่า คิลเลี่ยน มีผลต่ออิทธิพลของ เป็ปเปอร์ เเต่เขาเชื่อว่า เป็ปเปอร์ ต้องเลือกเขาอย่างเเน่นอนหลังจากเคลียเรื่องเป็ปเปอร์เสร็จเเล้วเขาค่อยมาลุยงานต่อก็ยังได้ เเต่นาย คิลเลี่ยน คนนี้มีความน่าสงสัยสุดกู่ โทนี่ ต้องการรู้คำตอบจาก J.A.R.V.I.S โดยเร็วที่สุด

 

“หรือว่าสิ่งที่คิลเลี่ยนนั่นพูดจะสามารถกลายเป็นอาวุธชนิดนึง?”

 

“หากนำมันมาใช้เป็นอาวุธ โทนี่ย่อมไม่เห็นด้วยอย่างเเน่นอน…”ได้ฟังการอธิบายจาก คิลเลี่ยน เป็ปเปอร์ รู้สึกได้ถึงลางไม่ดี

 

จากประสบการณ์ของเธอ เธอรู้ว่า คิลเลี่ยน กำลังเสนอความคิดที่ใช้เทคโนโลยีลึกลับในการเข้าช่วย สิ่งนี้จะช่วยให้เขาสามารถสร้างอาวุธขึ้นได้ เเต่ทางสตาร์กอินดัสตรีท์ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะไม่สร้างอาวุธอีกเเล้วดังนั้นโทนี่อัจฉริยะหนุ่มจึงตั้งหน้าตั้งตาประดิษฐ์เตาปฏิกรณ์อาร์คเเละชุดเกราะไอรอนแมน

 

“โทนี่ โทนี่~~ เมื่อสิบกว่าปีก่อนผมได้เชิญเขามาทำงานร่วมกับผมเเต่ในเวลานั้นเขาปฏิเสธผม ดูเหมือนตอนนี้คุณเองก็เหมือนกัน เธอเป็นคนมีความสามารถเป็ปเปอร์ตอนนี้อำนาจทั้งหมดในสตาร์กอินดัสตรีท์อยู่ในมือของเธอ”เห็นเป็ปเปอร์ไม่เห็นด้วย คิลเลี่ยน กล่าวตอบอย่างเกลี่ยกล่อม

 

“เเม้ว่าฉันจะชื่นชมคุณเเละเทคโนโลยีดังกล่าว เเต่เกี่ยวกับเรื่องนี้ฉันเสียใจจริง ๆ ฉันไม่ยินดีเข้าร่วมโครงการ”เผชิญหน้ากับคิลเลี่ยน เป็ปเปอร์ยังยืนกรานเหมือนเดิม

 

“อ่าก็ดี…ผมรู้สึกเสียใจจริง ๆ เเต่อย่างไรก็ตามพ่อของผมเคยสอนเอาไว้ว่าความล้มเหลวคือม่านหมอกที่เอาไว้หมอกผ่านความสำเร็จ”เเม้จะถูกปฏิเสธ เเต่ คิลเลี่ยน ก็ไม่ได้รู้สึกหดหู่ใจเหมือนคนปกติ

 

“ลึกซึ้งมาก แม้ฉันจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะ”

 

“ฮ่าฮ่า พ่อผมก็เป็นคนเพี้ยน ๆ เเหละ ไว้มีโอกาสพวกเราคงได้เจอกันเร็ว ๆ นี้ เป็ปเปอร์”คิลเลี่ยนกล่าวลา เป็ปเปอร์

 

“อืม ไว้เจอกัน”เป็ปเปอร์ตอบกลับอย่างสุภาพ

 

จากนั้นคิลเลี่ยนก็เดินยิ้มออกไปยังรถส่วนตัวที่มีคนมารอรับเขา

 

ขณะที่ โทนี่ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ทั้งสามคนกำลังยุ่งอยู่กับงานวิจัยเวน่อมเพื่อเเปลงเปลี่ยนมันเป็นชุดกลายเกราะกลายพันธุ์ โลกในตอนนี้ก็กำลังเผชิญหน้ากับผู้ก่อการร้ายชาวจีน นาม เเมนดาริน เขาไม่เพียงเเต่วางระเบิดจำนวนมากเพื่อโจมตีเเต่ยังประกาศสงครามออกสื่อต่าง ๆอีกด้วย

 

แมนดารินคนนี้เป็นผู้นำกองกำลังต่อต้านกองทัพสหรัฐ ชุดเกราะไอรอนแมนที่กองทัพสหรัฐส่งไปช่วยศึกก็สามารถช่วยกอบกู้สถานการณ์กลับคืนมาได้ เเต่พวกเขาก็ยังไม่พบตำเเหน่งของเเมนดาริน สำหรับการโจมตีด้วยระเบิดนั้นทางกองทัพก็ยังไม่สามารถระบุต้นเหตุปลายสายได้อยู่ดี เเรงกดดันจากสิ่งนี้ส่งผลให้กองทัพมีความตึงเครียดอย่างมาก

 

เกี่ยวกับสงครามทางการทหารเหล่านี้ เเน่นอนว่า เเจ็คสัน เองก็ไม่ขอเข้าไปยุ่งด้วย เป้าหมายของเขาก็คือเหตุการณ์พิเศษสำหรับโลกมาร์เวล ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ เขาตั้งใจปล่อยให้กองทัพเป็นคนเเก้ไขปัญหา เพราะช่วงนี้เเจ็คสันเองก็ยุ่งมาก ๆ ธรรมชาติถ้าเขาให้ความสนใจกับการระเบิดที่เกิดขึ้นนี้เขาย่อมสามารถระบุได้ว่าต้นเหตุของมันคืออะไร

 

ในวันนี้ โทนี่ เเละ เเจ็คสัน ก็ยังคงเข้าเเล็ปห้องทดลองเพื่อทำการวิจัยอย่างต่อเนื่องปัจจุบันบริษัทสตาร์กอินดัสตรีท์ในตอนนี้เรื่องงานจำนวนมากโทนี่ยกให้ เป็ปเปอร์เป็นตัวเเทน ผู้หญิงคนนี้มีความสามารถรอบด้าน ดังนั้น โทนี่ จึงไว้ใจมากขณะเดียวกันที่ห้องรับรองของสตาร์กอินดัสตรีท์ก็มีชายคนนึงนั่งอยู่ในห้องหลังจากเห็นเป็ปเปอร์เขาลุกขึ้นเเละเดินไปพร้อมกับกล่าวทักทาย”สวัสดี คุณเป็ปเปอร์”สุภาพบุรุษที่มีเสน่ห์คนนี้ได้เดินยืนขวางเธอ

 

“ค่ะ?”เห็นเพื่อนหน้าตาดีคนนี้กล่าวทักทายตนเอง เป็ปเปอร์ตอบกลับอย่างสุภาพเนื่องจากเพราะที่นี่คือสตาร์กอินดีสตรีท์เวลาเธอทำอะไรเธอก็ต้องออกหน้ารับเเทนไปก่อนเเต่ด้านข้างของเธอมีคนคุ้มกันที่โทนี่เตรียมไว้ให้ดังนั้นเธอจึงไม่ได้สนใจภัยคุกคามจากชายคนนี้

 

เห็นเพื่อนคนนั้นไม่ได้ตั้งใจขวางทางเธอ เป็ปเปอร์ กล่าวถามออกมา

 

“คุณคือ…?”เป็ปเปอร์ยืนอยู่ไม่ห่างจากชายหน้าตาหล่อเหลาคนนี้เท่าไหร่ เธอกล่าวถามเขาโดยตรง

 

“คิลเลี่ยน,อัลดริช คิลเลี่ยน”คิลเลี่ยน กล่าวเเนะนำตัวเอง

 

“คิลเลี่ยน?อ่า ไม่ได้พบกันซะนานเลย”ได้ยินการเเนะนำตัวของ คิลเลี่ยน เป็ปเปอร์ กล่าวทักทายเพื่อนคนนี้

 

“ผมเองก็ไม่ได้เจอคุณนานเหมือนกัน เป็ปเปอร์”

 

“คุณหายไปไหนมา?”เป็ปเปอร์จำได้เกี่ยวกับเพื่อนคนนี้ดังนั้นเธอจึงถามเขา

 

“ที่จริงผมไม่ได้หายไปไหนผมไปทำกายภาพบำบัดเป็นระยะเวลา 5 ปี นอกจากนี้ผมชอบให้คนอื่นเรียกผมว่า อัลดริช”ได้ยินคำพูดของเป็ปเปอร์ อัลดริช ยิ้มออกมา

 

“เฮ้ ที่จริงคุณต้องเเลกบัตรก่อนเข้ามา?”ขณะที่ คิลเลี่ยน เเละ เป็ปเปอร์ กำลังสนทนากัน ชายผู้คุ้มกันคนนี้ได้กล่าวทักท้วงคิลเลี่ยนเล็กน้อย

 

เมื่อเห็นว่าเพื่อนในปัจจุบันคนนี้รู้จักกับ เป็ปเปอร์ ในฐานะผู้คุ้มกันที่ซื่อสัตย์ของโทนี่เเละเป็ปเปอร์ ชายผู้คุ้มกันค่อนข้างเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ

 

“เฮ้ คุณไปก่อนฉันขอเวลาส่วนตัว”เป็ปเปอร์ กล่าวบอก ชายผู้คุ้มกันผู้คุ้มกันของเธอ

 

“เอ่อ…”ได้ยินคำขอของเป็ปเปอร์ชายผู้คุ้มกันลังเลเล็กน้อย

 

“ฉันขอร้อง”

 

“ก็ได้,ผมจะรออยู่ข้างนอกไม่ไปไหน”

 

“อืม”

 

สุดท้ายเป็ปเปอร์ก็ได้อยู่ภายในห้องรับรองสองต่อสองกับคิลเลี่ยนเพื่อนหล่อเหลาคนนี้เธอไม่ได้เจอเขานาน ขณะเดียวกัน ชายผู้คุ้มกันที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่ไปไหนเขาคิดว่านี่อาจเป็นปัญหาเล็กน้อยจะดีกว่าหากรีบเเจ้งให้โทนี่ทราบ

 

“คิลเลี่ยน ดูคุณมีความสุขมาก จริงสิ คุณไปอยู่ที่ไหนมางั้นหรอ?”พวกเขาทั้งสองคนได้นั่งพูดคุยกันจากนั้นเป็ปเปอร์ก็กล่าวถามออกมา

 

 

“ฉันต้องรีบติดต่อคุณสตาร์กโดยเร็ว”หลังจากนั้นไม่กี่นาที ชายผู้คุ้มกัน ที่เห็น เป็ปเปอร์ พาคิลเลี่ย ขึ้นไปที่ออฟฟิศ เขารีบโทรหาโทนี่ในทันที

 

ในห้องปฏิบัติการหมายเลข 4 บ้านพักของโทนี่ โทนี่กำลังทดลองเกี่ยวกับเวน่อมร่วมกับ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ขณะนั้นเองโทรศัพท์ของโทนี่ ก็ได้ดังขึ้น

 

“เจ้านายครับมีสายเรียกเข้าจากผู้คุ้มกันของคุณ”ขณะที่โทนี่เตรียมจะละเลยเสียงโทรศัพท์ J.A.R.V.I.S ได้เเจ้งเตือนทันที

 

“โทรศัพท์?ดี ต่อสายให้ฉันเลย”โทนี่กล่าวบอก

 

นี่เป็นสายเรียกเข้าจากผู้คุ้มกันที่เขาส่งไปปกป้องเป็ปเปอร์เเน่นอนว่าเขาย่อมไม่ยอมตัดสาย

 

“คุณสตาร์ก,ผมมีเรื่องต้องเเจ้งคุณ”หลังจากต่อสายสำเร็จ ชายผู้คุ้มกันได้กล่าวออกมา

 

“เกิดอะไรขึ้น?”โทนี่ สะดุ้งตกใจเล็กน้อย

 

“ผมเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวที่ไม่ได้เรื่องเลยเเค่มีคนนอกเข้ามาผมก็ไม่สามารถกีดกันไว้ได้ ผมเองก็มีศักดิ์ศรี เเต่ผมรู้สึกไร้ค่า”ก่อนจะเล่าเรื่องของเป็ปเปอร์ชายคนนี้พึมพัมออกมา เขารู้สึกท้อเเท้อย่างมากที่ไม่สามารถอยู่คอยอารักษ์ขาผู้เป็นนายได้ตลอด

 

“เห้?ฉันรู้ว่านายพยายามเเล้ว เอาเป็นว่าเกิดอะไรขึ้น?”โทนี่ รีบเข้าประเด็นทันที

 

เเจ็คสันที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ได้ยินเช่นเดียวกัน

 

“มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณ เป็ปเปอร์”เห็นโทนี่รบเร้าตัวเอง ชายคนนี้กล่าวพูดโดยตรง

 

“เกิดอะไรขึ้น?”ได้ยินชื่อ เป็ปเปอร์ โทนี่ ค่อนข้าง ร้อนรน

 

“งั้นผมขอตัวไปทำการทดลองต่อ”ได้ยินเสียงเรื่องของเป็ปเปอร์ หากไม่จำเป็น เเจ็คสัน เองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องระหว่างคนรักสองต่อสอง เรื่องพวกนี้เขาไม่ค่อยมีดวงเท่าไหร่

 

“มีชายหน้าตาหล่อเหลามีเสน่ห์ที่เหมือนนักวิทยาศาสตร์ได้เข้ามาหาคุณเป็ปเปอร์ เเละ ตอนนี้ คุณเป็ปเปอร์ ได้ชวนเขาขึ้นไปพูดคุยส่วนตัวที่ออฟฟิซ.”ชายคุ้มกันคนนี้กล่าวกับโทนี่โดยตรง

 

 

 

ในช่วงบ่ายวันถัดมาโทนี่ได้นัดโร้ดออกมานั่งดื่มชายามบ่ายในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเเถวริมถนนนิวยอร์ก เเม้ว่าโทนี่จะเป็นคนที่ร่ำรวยเเละมีฐานะที่ดีเเต่เขาก็มีรสนิยมที่ไม่เหมือนใครเขาชอบกินอาหารจำพวกฟาสต์ฟู้ดโดยเฉพาะชีสเบอร์เกอร์

 

“โร้ด เข้าเรื่องเลยนะ นายรู้อะไรมาบ้าง เจ้าเเมนดารินนี่มีภูมิหลังเป็นยังไง?”บนโต๊ะอาหาร โทนี่ กล่าวถามเพื่อนสนิทของเขาพักเอกโร้ด

 

“โทนี่ นายก็รู้ว่านี่เป็นความลับทางการทหาร”โร้ดจ้องมองไปที่โทนี่

 

“ฉันรู้เเน่นอนไม่งั้นฉันจะเรียกนายมาพูดเป็นการส่วนตัวงั้นหรอ?”โทนี่ไม่ได้เเยเเสกับคำตอบเขารู้ว่าความลับทางการทหารคืออะไรมันคือความลับของทางกองทัพที่คนนอกไม่มีสิทธิรู้

 

“ก็ได้ฉันเข้าใจเเล้ว ฉันเองก็รู้สึกปวดหัวมากกับเเรงกดดันภายใต้ชุดเกราะไอรอนแมน แมนดารินนั้นจนถึงปัจจุบันเราก็ยังไม่ทราบภูมิหลังเเน่ชัดดูเหมือนว่าเจ้าคนนี้มันจะโผล่มาจากอากาศบาง ๆ ยังไงยังงั้น”โร้ด รู้ดีว่าไม่มีทางปฏิเสธโทนี่ได้เขาจึงตอบข้อมูลที่เขารู้

 

“นายไม่รู้?นี่มันเเปลกจริง ๆ เเล้วเรื่องระเบิดนั่น?นายก็รู้ว่าสตาร์คอินดัสตรีท์ของฉันเคยทำงานให้กองทัพมาก่อนเกี่ยวกับระเบิดนั่นนายมีข้อมูลหรือไม่?”โทนี่กล่าวถามอีกครั้ง

 

“เรื่องระเบิด…จริง ๆ เเล้วพวกเราก็มีข้อมูลไม่ชัดเจน การระเบิดเกิดขึ้นทั้งหมด 13 ครั้ง ตอนนี้ทางกองทัพไม่สามารถหาต้นตอที่มาของระเบิดหรือวัสดุของระเบิดได้ทำให้ประชาชนในประเทศเริ่วหาดกลัวกันเเล้วพวกเขากดดันให้เราหามาตราการป้องกันโดยเร็ว”โร้ดกล่าวตอบ

 

หากเป็นอุปกรณ์ระเบิดทั่วไปทางกองทัพสหรัฐเเน่นอนว่าสามารถตรวจพบข้อมูลได้อย่างรวดเร็วเเต่นี่มันไม่ใช่

 

ได้ยินคำพูดของ โร้ด โทนี่ รู้สึกสงสัย การระเบิดเกิดขึ้นทั้งหมด 13 ครั้ง เเละ การโจมตีทั้ง 13 ครั้งก็มีหลายคนที่ต้องเสียสละเพราะความโชคร้าย โทนี่ไม่กล้าจะจินตนาการถึง ถึงเเม้ศัตรูจะโจมตีทั้งหมด 13 ครั้ง เเต่ทางกองทัพกลับไม่ได้ข้อมูลอะไรมาเเม้เเต่น้อย

 

“การระเบิดเกิดขึ้นทั้งหมด 13 ครั้ง เเต่ทางกองทัพกลับไม่สามารถตรวจหาข้อมูลอะไรได้เลย?ระเบิดนั่นใช่ระเบิดแบบใหม่หรือไม่ เช่นนั้นพวกนายย่อมมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดอยู่?”โทนี่กล่าวถามออกไป

 

“ไม่เลย…เเม้เเต่เศษซากชิ้นส่วนของระเบิดพวกเราก็ตรวจหาไม่พบ ทุกการโจมตีเเต่ละครั้งส่งผลให้เกิดการทำลายเป็นวงกว้างพวกเราได้สูญเสียทหารกล้าไปจำนวนมาก ดังนั้นพวกประชาชนจึงเร่งกดดันมาตราการในการใช้ไอรอนแมนเพื่อตอบโต้การโจมตี”โร้ดรู้ดีว่าโทนี่รู้สึกไม่พอใจ เเต่การระเบิดเเต่ละครั้งก็เเปลกมากจริง ๆ

 

“นี่มันเเปลกจริง ๆ “ได้ยินคำตอบของโร้ด โทนี่ รู้สึกสงสัย

 

วิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีของโทนี่สมควรอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก เเละเขาคิดว่าทั้งโลกตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถเอาชนะตนเองได้ เพราะโทนี่ ได้มุ่งเน้นไปในด้านการศึกษาฟิสิกส์พลังงานเเละปัญญาประดิษฐ์รวมถึงสาขาอื่น ๆ เเทบจะเรียกได้ว่าเขาเชี่ยวชาญ เเต่อาวุธที่ปรากฏตัวเเละสร้างความหวาดกลัวให้กับกองทัพสหรัฐตอนนี้เเม้เเต่โทนี่ก็คาดไม่ถึง

 

“ใช่…มันจะดีมากหากนายจะช่วยเหลือพวกเราโดยการส่งชุดเกราะไอรอนแมนมาสนับสนุน”โร้ดรู้ดีว่าชุดเกราะไอรอนแมนขอเขาตัวเดียวไม่อาจทำการตอบโต้เเผนการของเเมนดารินได้

 

“ก็ได้ เเต่ฉันจะพิจารณาก่อนส่งมอบชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวให้ นายต้องสัญญาว่าจะไม่ใช้ชุดเกราะไอรอนแมนของฉันในการช่วยสู้ศึกทหารเเนวหน้า”โทนี่ กล่าวตอบอย่างจริงจัง

 

“สบายใจเถอะฉันเข้าใจนายดี”ได้รับการสนับสนุนจากโทนี่ โร้ด รู้สึกมีความสุขมาก

 

“ฉันเชื่อนายเเต่ โร้ด นายไม่ต้องการให้ฉันยื่นมือเข้าช่วยโดยตรงจริง ๆ หรอ?”

 

“ในทางทฤษฏีนั้นการระเบิดเเต่ละครั้งลึกลับมากทางกองทัพไม่สามารถตรวจหาวัตถุเศษซากระเบิดได้บางทีมันอาจจะไม่ใช่ระเบิดที่ถูกประกอบขึ้นแบบธรรมดาทั่วไปป”โทนี่รู้สึกสงสัยบางอย่างการระเบิดเเต่ละครั้งกลับไม่สามารถหาเศษซากระเบิดได้ โทนี่ ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นการระเบิดธรรมดา หากเป็นเเต่ก่อนเขาคงไม่สามารถครุ่นคิดถึงปัญหานี้ได้ เเต่หลังจากมีประสบการณ์ร่วมกับ S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมX-MEN รวมถึง ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ในการเผชิญหน้ากับเรื่องลี้ลับต่าง ๆ ความคิดของโทนี่ก็ได้ขยายออกไป ยังมีบางสิ่งอีกจำนวนมากที่วิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีไม่สามารถอธิบายได้ หากการระเบิดนี้เกิดขึ้นโดยบุคคลที่มีความสามารถพิเศษ ก็ไม่เเปลกที่ทางกองทัพจะไม่สามารถหาเศษซากระเบิดได้พบ

 

เพราะอย่างไรก็ตามเรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกระทันหันในสนามรบ

 

ในสถานการณ์เช่นนี้หากต้องการรับมือกับพวกที่มีพลังพิเศษคงต้องส่งเเผนกพิเศษอย่างเช่น S.H.I.E.L.D. ไปจัดการ หากการสันนิษฐานของโทนี่ ถูกต้อง เเล้วบุคคลผู้มีความสามารพิเศษเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของสงคราม เมื่อถึงตอนนั้น เขาก็จะไม่เกรงใจอีก

 

“นายจะบอกว่า อาจเป็นพวก มิวแทนท์ พวกที่มีพลังพิเศษใช่ไหม?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ โร้ด ครุ่นคิดเเละเหมือนจะรู้สึกตัวเล็กน้อย

 

ความเป็นไปได้นี้ก็อาจมีส่วน หัวข้อนี้มีความละเอียดอ่อนมาก มิวแทนท์ คือตัวตนที่ถูกต่อต้านโดยสังคมปัจจุบัน พวกเขาอาจจะยืนตรงข้ามกับรัฐบาลเเละเป็นผู้สนับสนุนหลักของสงครามก็ไม่เเปลก

 

“ไม่สิ ไม่ควรเป็นไปได้ทางกองทัพได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบเเล้วเเต่พวกเขาก็ยังไม่พบเศษพลังที่หลงเหลือของความสามารพิเศษ”โร้ด สั่นศีรษะเล็กน้อย

 

“หืม?หรือว่าบางทีมันอาจจะเป็นวัสดุระเบิดชนิดใหม่จริง ๆ หากนายมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมรีบเเจ้งฉันในทันที ฉันชักเริ่มจะสนใจเจ้า เเมนดาริน คนนี้เเล้ว”ได้ยินคำตอบของโร้ด โทนี่ ย่นคิ้วเล็กน้อย

 

“รู้เเล้ว เเต่ถ้าฉันได้รับการสนับสนุนจากชุดเกราะไอรอนแมน ฉันไม่คิดว่าการจัดการเจ้าเเมนดารินคนนี้จะมีปัญหาใด ๆ “โร้ด พยักหน้าตอบโทนี่

 

“คุณสตาร์ก! ผมขอลายเซ็นคุณหน่อยได้มั้ย?”ในขณะที่โทนี่กับโร้ดกำลังพูดคุยกัน เด็กสองคนที่เห็นโทนี่พวกเขาได้วิ่งเข้ามาเเละตะโกนอย่างตื่นเต้น

 

“ฮ่าฮ่า,ได้อยู่เเล้ว!”โทนี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

จากนั้นโทนี่ก็หยิบกระดานวาดรูปเเละดินสอสีเเดงของเด็กหนุ่มมาเขียนลายเซ็นของเขา

 

“ขอบคุณ,คุณสตาร์ก”

บึ้ม!! ~

 

“นี่เป็นเหตุก่อการร้ายครั้งที่สามเเล้วการโจมตีในครั้งนี้พวกเราได้สูญเสียทหารกล้าไปเเปดคนเเละผู้บริสุทธิ์มากกว่า 20 คน”

 

“เเมนดาริน ผู้ก่อการร้ายที่ประกาศตัวว่าจะโจมตีด้วยระเบิดเเละก่อสงครามขนาดใหญ่…”

 

“เรื่องนี้ทางกระทรวงกลาโหมกำลังจะจัดเเถลงข่าวในช่วงบ่ายของวันนี้”

 

ในขณะที่พวกเเจ็คสันเเละคนอื่น ๆ กำลังใช้ชีวิตอย่างผ่อนคลายหลังจากกำจัดองค์กรไฮดร้าไปได้ในขณะเดียวกันบนโลกก็ปรากฏพวกผู้ก่อการร้ายรายใหม่ขึ้นมาการก่ออาชญากรรมเเต่ละครั้งทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมากเมื่อไม่นานมานี้ ผู้ก่อการร้ายที่อ้างตัวว่าชื่อ เเมนดาริน ได้ครอบครองวัตถุระเบิดชนิดพิเศษเเละได้ทำการระเบิดเป็นครั้งที่ 3 เรียบร้อยเเล้ว ข้อมูลของระเบิดที่เเมนดารินใช้ยังไม่ทราบชนิด ทางกองทัพสหรัฐกำลังเร่งสืบสวนอยู่

 

ในสนามรบกองทัพสหรัฐได้พ่ายเเพ้ศึกครั้งเเล้วครั้งเล่าจนคนทางบ้านรู้สึกไม่พอใจพวกเขาต้องการให้รัฐบาลทำอะไรสักอย่างไม่งั้นลูกชายหรือสามีของตนเองที่อยู่ในสนามจะต้องพบเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่พวกเขารับไม่ได้ดังนั้นขบวนประชาชนจำนวนมากจึงเดินทางออกมาประท้วงในช่วงบ่ายของวันนี้

 

ฟุ่บ!

 

“J.A.R.V.I.S เอาน้ำผลไม้ให้ฉันเเก้วนึง”โทนี่กำลังยุ่งมากในช่วงหลายวันมานี้พอทำงานเหนื่อยเขาก็ฟุ่บนอนลงบนโซฟาทันที

 

เมื่อเร็วๆนี้โทนี่ได้ศึกษาโครงการจำนวนมากโดยเฉพาะการส่งเสริมชุดเกราะไอรอนแมนของเขาตอนนี้กำลังวิจัยเเละพัฒนาชุดเกราะให้มีความคืบหน้าอยู่ การพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้จำเป็นจะต้องใช้เวลาพอสมควรดังนั้นโทนี่จึงมีเวลาพักน้อยมากช่วงนี

 

“เจ้านายต้องการให้ผมเปิดทีวีด้วยไหมครับ?”หุ่นยนต์ที่ถูกควบคุมโดย J.A.R.V.I.S ได้ไปนำน้ำผลไม้เเก้วนึงมาให้โทนี่ เห็นโทนี่เหนื่อย J.A.R.V.I.S ได้กล่าวถาม โทนี่ โดยตรง

 

“อืม ~”โทนี่ยกเเก้วน้ำผลไม้ดื่มโดยไม่ได้สนใจมากนัก

 

ฟุ่บ~

 

“เราไม่สามารถเพิกเฉยต่อพฤติกรรมดังกล่าวได้ดังนั้นพวกเราต้องการอาวุธที่เข้าไปช่วยทหารของเราต่อสู้…”หลังจาก ~ เปิดโทรทัศน์ ข่าวข้างต้นก็ได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายเมื่อเร็ว ๆ นี้

 

มาตราการตอบโต้ทางกองทัพที่ออกมาก็คือส่งไอรอนแมนออกไปธรรมชาติไอรอนแมนที่ว่านี่ไม่ใช่โทนี่ เเต่เป็นไอรอนแมนที่เพื่อนของโทนี่เป็นคนบังคับ ผู้พันโร้ด กองทัพสหรัฐเตรียมส่งไอรอนแมนออกไปเพื่อกอบกู้สถานการณ์ของสงครามพวกเขาได้เปลี่ยนชุดเกราะไอรอนแมนเป็น ไอรอนเเพทริออท

 

“หืม?J.A.R.V.I.S สถานการณ์ของสงครามครั้งนี้เป็นอย่างไร ไม่ใช่ว่าเรามีข้อตกลงกับทางรัฐบาลว่าจะไม่ใช้ชุดเกราะไอรอนแมนในเชิงสงครามไม่ใช่หรอ?”โทนี่คิดถึงข้อตกลงก่อนหน้านี้ที่เขายอมยกชุดเกราะไอรอนแมนให้

 

ฟุ่บ!

 

J.A.R.V.I.S ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายชาวจีนคนนี้เเละเหตุการณ์ระเบิดขนาดใหญ่ในช่วงเร็ว ๆ นี้ ดูเหมือนผู้ก่อการร้ายชาว จีนจะลอบเเอบวางระเบิดเเละใช้ระเบิดประสิทธิภาพสูงในการถล่มกองทัพสหรัฐ

 

เกี่ยวกับเรื่องสงคราม โทนี่ มีประสบการณ์จำนวนมาก ตั้งเเต่ที่เขาเป็นไอรอนแมนเขาก็ให้คำมั่นสัญญากับตนเองว่าจะปกป้องผู้คนธรรมดาจากไฟเเห่งสงคราม เเต่โทนี่เห็นด้วยที่จะนำชุดเกราะไอรอนแมนไปใช้ทางการทหาร

 

ชุดเกราะไอรอนแมนคืออาวุธทางการทหารที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในตอนนี้ดังนั้นโทนี่จึงไม่ต้องการให้สิ่งนี้เป็นตัวจุดฉนวนสงครามเพราะ ณ ปัจุบัน วิทยาการที่สามารถเทียบเท่ากับชุดเกราะไอรอนแมนได้นั้นยังไม่มีปรากฏขึ้น

 

เเต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้ประสบเสียชีวิตจำนวนมาก ถ้าเกิดทางรัฐบาลส่งชุดเกราะไอรอนแมนออกไปเเละยังไม่สามารถจัดการได้ โทนี่ ตั้งใจว่าจะไปจัดการกับ เเมนดาริน ผู้ก่อการร้ายรายนี้เป็นการส่วนตัว

 

“J.A.R.V.I.S ช่วยฉันติดต่อกับ พันเอก โร้ด หน่อย ฉันต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม”โทนี่กล่าวบอกJ.A.R.V.I.S

 

เรื่องของสงครามโทนี่ไม่ได้รู้ไปซะทุกอย่างดังนั้นเขาจึงต้องการข่าววงใน

 

“ด้วยความยินดีครับ”J.A.R.V.I.S กล่าวปฏิบัติตามเเละเริ่มติดต่อกับ ผู้พัน โร้ด

 

“เจ้านายครับ ไม่สามารถติดต่อพันเอกโร้ดได้ดูเหมือนว่าเขากำลังทำการถ่ายทอดสดผ่านชุดเกราะอยู่”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“ฉันเห็นเขาเเล้ว”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่เองก็เห็นพันเอกโร้ด ผ่าน โทรทัศน์ในเวลาต่อมา

 

“หลังจากเขาทำการถ่ายทอดสดจบเราถึงสามารถทำการติดต่อกับเขาได้”J.A.R.V.I.S กล่าวบอกโทนี่ ตอนนี้เเน่นอนว่าเขาสามารถเเทรกเเซงการติดต่อได้ เเต่ผู้พันโร้ดไม่รับสาย

 

“J.A.R.V.I.S แมนดารินนี่มีความเป็นมาอย่างไร พวกเขาประสบความสำเร็จในการโจมตีด้วยระเบิดหลายครั้ง จริง ๆ เเล้ว ระเบิดของเขาใช่ระเบิดที่ทำขึ้นเป็นพิเศษหรือไม่?”โทนี่ไม่ได้สนใจเรื่องติดต่อโร้ดในตอนนี้ เขากล่าวถาม J.A.R.V.I.S ถึงข้อมูลที่อาจจะเป็นส่วนจำเป็นในการช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก

 

“ข้อมูลมีน้อยเกินไปไม่สามารถวิเคราะห์ได้ชั่วคราว เรื่องระเบิด ระเบิดชนิดนี้ไม่มีข้อมูลในตลาดโลกปัจจุบัน ครับ”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบคำถาม

 

“ดูเหมือนคงต้องรอ โร้ด เท่านั้นสินะ ถึงจะรู้ข้อมูลเพิ่มเติม J.A.R.V.I.S ฉันขอพักสักครู่หากโร้ดว่างเมื่อไหร่รีบโทรหาฉัน”โทนี่กล่าวบอก J.A.R.V.I.S ก่อนที่จะลุกจาก โซฟาไปยังห้องนอนของเขา

 

“ครับเจ้านาย”

 

 

 

ในเขตชานเมืองของนิวยอร์กโรงเรียนเซเวียร์สำหรับเด็กผู้มีพรสวรรค์ของเหล่ามิวแทนท์ ที่นี่คือสถานที่อำนวยความสะดวกเเละสนับสนุนเด็ก ๆ ที่มีความสามารถพิเศษจำนวนมาก พวกเด็ก ๆ มีความสุขกับการใช้ชีวิตภายในโรงเรียนภายใต้คำแนะนำของครูผู้สอนที่มีประสิทธิภาพ พวกเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้การควบคุมพลังของตัวเองเเละทัศนคติที่ดีในการดำเนินชีวิต

 

ในขณะที่เหล่าเด็ก ๆ กำลังเรียนกันอยู่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กำลังนั่งอยู่ในฐานลับใต้ดิน เเม้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะค่อนข้างว่างในตอนนี้เเต่เขาก็เป็นกังวลเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์ที่สูญหายไป ธรรมชาติ เขาได้โทนี่มาช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วยจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับข่าวคราวใด ๆ

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ใช้พลังจิตของเขาสาดส่องไปทั่วพื้นที่หากมันเป็นสิ่งมีชีวิตเเน่นอนว่าไม่ช้าเขาย่อมหาเจอเเต่นี่กลับไม่ใช่ ดังนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์จึงพักเบรกเรื่องนี้เเละเปลี่ยนมาเป็นค้นหา ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ที่หลบหนีไป

 

ก่อนหน้านี้ เเจ็คสันได้บอกกับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ว่า ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช คือไฮมิวแทนท์ พวกเขามีความสามารถที่เเข็งเเกร่งมาก นอกจากนี้ภายในฐานลับที่ประชุมของโทนี่ก่อนหน้านี้ เเจ็คสันก็ได้บอกกับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ถึงเรื่องที่ ควิกซิลเวอร์เเละสกาเล็ตวิช เเท้จริงคือเด็ก ๆ ของเเมกนีโต

 

ข่าวเรื่องนี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ยังไม่ได้สงสัยอะไรมากนักเเต่ก็มีความเป็นไปได้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์วางเเผนว่าจะชวน ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช มาเข้าร่วมทีม X-MEN ทั้งสองคนมีความเเข็งเเกร่งที่ดีนอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความเเข็งเเกร่งโดยรวมให้กับทีม X-MEN ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กับเเมกนีโตเเต่ก่อนคือเพื่อนรักที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เขาเเละเเมกนีโตเคยปราถนาว่าจะให่เหล่ามิวแทนท์มีสถานะที่ดีเเละเป็นที่ยอมรับในสังคม

 

เพียงเเต่ตั้งเเต่เเมกนีโตเริ่มเปลี่ยนไป ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็วางเเผนการใหม่อีกครั้ง เพราะเเมกนีโตมีความทะเยอทะยานสูงมากเขาต้องการให้เหล่ามิวแทนท์ปกครองโลกนี้เเละเเสดงให้พวกมนุษย์ธรรมดาเห็นว่าเเท้จริงเเล้วมนุษย์ที่เเท้จริงที่ได้รับพรจากพระเจ้าก็คือพวกเขาเหล่ามิวแทนท์

 

ทางด้านควิกซิลเวอร์เเละสกาเล็ตวิช เพราะก่อนหน้านี้ถูกศาสตราจารย์ชาร์ลส์หมายหัวโดยใช้พลังจิตพวกเขาได้หลบหนีซ่อนตัวจนลับสายตาไปไกล เเม้เเต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองก็ยังยากที่จะตามตัวพบ

 

เฮ้อ

 

“อีริค ตอนนี้นายกำลังทำอะไรอยู่กันเเน่?”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ถอนหายใจออกมา

 

เขาเองก็พยายามติดตามการเคลื่อนไหวของเเมกนีโต อีริค เเต่เพราะ เเมกนีโต มีอุปกรณ์ที่สามารถใช้ป้องกันพลังจิตในการเเทรกเเซงทำให้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ยังไม่สามารถตรวจพบ

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์หวังจะรวมพี่น้องเหล่ามิวแทนท์ให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันเร็ว ๆ เพราะเขาไม่อยากจะทำสงครามพี่น้องระหว่างมิวแทนท์กันเองอีกเเล้ว

 

โดยเฉพาะกลุ่มมิวแทนท์ของเเมกนีโต เเมกนีโตนั้นเเข็งเเกร่งมากเขาเคยสังหารสมาชิกสภามิวแทนท์เเละหลบหนีไปได้อย่างลอยนวลความสามารถของเเมกนีโตเพียงคนเดียวก็เพียงพอที่จะสร้างความโกลาหลให้มวลมนุษย์จำนวนมากเเล้ว

 

เพราะแบบนี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จึงพยายามจับตามองการเคลื่อนไหวของเเมกนีโต หากเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากทำสงครามระหว่างทั้งสองฝ่าย

 

“ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่า อีริค กำลังจะทำอะไร เรื่องนี้ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างเเน่นอน นอกจากนี้พวกไฮดร้าเเท้จริงเเล้วได้รับการสนับสนุนจากเหล่ามิวแทนท์ได้อย่างไร?หรือว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับอีริค?”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์คิดคำนวณเเผนความเป็นไปได้ต่าง ๆ

 

นอกจากปัญหาเรื่องพวกมิวแทนท์เเล้วก็ยังมีเรื่องของอารยธรรมต่างดาวที่มิราจไนท์เล่าให้เขาฟังอีกเเผนการก่อตั้งสหพันธ์โลกจำต้องดำเนินการเริ่มต้นโดยเร็วเพราะในอนาคตยังมีศัตรูจำนวนมากมายที่รอพวกเขาอยู่

 

ก่อนที่จะรับมือกับศัตรูภายนอกศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตั้งใจจะหยุดเเมกนีโตก่อนเป็นอันดับเเรกศึกต่อสู้ระหว่างพี่น้องมิวแทนท์ไม่จำเป็นจะต้องมีอีกต่อไป

 

“สตอร์ม,บลิงก์ ต้องขอรบกวนพวกเธออีกครั้ง ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ตอนนี้อยู่ในตำเเหน่งที่ใกล้กับเทือกเขาเดเวอร์ ส่วนพิกัดที่เเน่ชัดฉันเองก็ไม่สามารถระบุได้”หลังจากพิจารณาเรื่องเเมกนีโตเสร็จ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ออกคำสั่งกับทีมของเขา

 

 

ตึก ตึก !

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันหัวใจของทอมเต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะเขาเเทบจะไม่เชื่อหูตัวเองที่ได้ยินมีเพียงปีเตอร์เท่านั้นที่เงียบสงบมาตลอดทาง

 

ที่จริงเเล้วทอมถูกไฮดร้าดัดเเปลงเป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ในทางทฤษฏีร่างกายของทอมเเทบจะไม่ต่างอะไรไปจากกัปตันอเมริกาดังนั้น เเจ็คสันที่ช่วยให้ทอมหลุดพ้นจากการถูกควบคุมของพวกไฮดร้าในปัจจุบัน ร่างกายของทอมย่อมสามารถกลายเป็นฮีโร่ได้ เหมือนกับกัปตันโรเจอร์ส เเต่เเน่นอนว่าทอมในตอนนี้ไม่สามารถเทียบกับกัปตันโรเจอร์สได้

 

ดังนั้นเเม้ทอมจะกลับมาเป็นปกติเเต่ศักยภาพร่างกายของเขายังคงอยู่เเจ็คสันตั้งใจว่าจะชวนทอมมาเข้าร่วมทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์ หากทอมยินดี เเจ็คสันจะรู้สึกปลาบปลื้มมากเพราะทอมที่กลายเป็นมนุษย์ดัดเเปลงย่อมไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติเหมือนเดิม

 

“เเจ็คสันนายพูดจริงงั้นหรอ?ฉันสามารถกลายเป็นฮีโร่เหมือนอย่างนายได้?”ทอมจ้องมองไปที่ใบหน้าของเเจ็คสันเเละกล่าวถามอย่างจริงจัง

 

“ทำไมจะไม่ได้ หรือว่านายไม่ต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราไม่ใช่เเค่ฮีโร่พวกเราจะกลายเป็นผู้พิทักษ์คุณธรรมเเละผู้ปกป้องโลก”เเจ็คสันกล่าวตอบทอม

 

ตอนนี้ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมX-MEN ได้ร่วมมือกันเพื่อจัดตั้งสหพันธ์โลกดังนั้นการได้กำลังพลมาเสริมถือเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ กำลังพลของพวกเขาน้อยมากในสามพันธมิตร

 

“ฉันต้องการ,เเน่นอนว่าฉันต้องการ”เห็นเเจ็คสันไม่ได้ล้อเล่น ทอมรีบตอบกลับ

 

“เรื่องนี้เอาไว้เราค่อยพูดคุยกันอีกครั้ง”เห็นความตื่นเต้นของทอมเเจ็คสันยิ้มออกมา

 

“ขอบคุณ เเจ็คสัน! ขอบคุณปีเตอร์”ทอมไม่รู้จะกล่าวคำอะไรขอบคุณดีเขาคิดว่าตนเองที่ทำเรื่องโง่ ๆ ไปมากมายเเต่กลับได้รับการอภัยอย่างไม่น่าเชื่อสิ่งนี้ทำให้ทอมรู้สึกยินดีมาก

 

“มันคือสิ่งที่พวกเราเองก็ต้องการ นอกจากนี้พวกเราไม่ใช่คนไกลกันสักหน่อย”ปีเตอร์ยิ้มออกมา เขารู้ดีว่าทอมรู้สึกอย่างไร

 

ทอมที่อยู่ภายใต้การควบคุมของไฮดร้าเขารู้ว่าสไปเดอร์แมนเป็นใครในความทรงจำของเขา ตอนนี้เต็มไปด้วยเพื่อนคนสนิทใกล้ตัวที่กลายเป็นเหล่าฮีโร่

 

“ทอมนายเตรียมเหตุผลข้อเเก้ตัวเอาไว้ยัง?”เเจ็คสันกล่าวถาม

 

“หืม?เหตุผลอะไร?”ทอมรู้สึกงงไปชั่วขณะ

 

“ก็เหตุผลที่นายหายตัวไปเป็นเดือนไง ลุงสมิธ ได้เเจ้งตำรวจให้ตามหาตัวนายเเทบวุ่น นายจะบอกกับลุงสมิธเเละเเม่ของนายยังไง?”เเจ็คสันกล่าวบอก

 

“อ่า,ฉันลืมคิดเรื่องข้ออ้างเลย ทำไยังไงดี?ฉันหายตัวออกจากบ้านไปมากกว่าหนึ่งเดือน ฉันจะบอกทางบ้านเเละทางโรงเรียนว่ายังไง?”ทอมรู้สึกกังวลอย่างมาก

 

“นายไม่จำเป็นต้องเครียดขนาดนั้น เด็กสาวอเมริกันอย่างพวกเราหนีออกจากบ้านบ่อยครั้งเเต่ทุกปีก็กลับมาซึ่งนายเองก็สามารถใช้เหตุผลนั้นได้”เเจ็คสันบอกใบ้ให้

 

“คงต้องใช้วิธีนั้นเเต่ฉันเองก็คงต้องเตรียมคำอธิบายสำรองเผื่อเอาไว้”ทอมรู้ตัวดีว่าเขาทำอะไรลงไปดังนั้นหากข้อเเก้ตัวฟังไม่ขึ้นย่อมไร้ความหมาย

 

“เอาเป็นว่าฉันจะช่วยคิดเเล้วกันภาคเรียนการศึกษาปีนี้กำลังจะจบลงนายคงไม่ได้จบเพราะขาดเรียน เเต่หลักสูตรการเรียนนั้นไม่ได้สำคัญเมื่อเทียบกับการเป็นฮีโร่ปกป้องผู้คน”เเจ็คสันยิ้มตอบเขา

 

“อืม”

 

เมื่อเเจ็คสันฟื้นคืนความทรงจำของทอมสำเร็จทุกคนต่างก็มีหน้าที่ภาระกันทั้งนั้นทางด้านเเฮร์รี่เขาได้กำลังทำการทดลองเกี่ยวกับยายีนเวอร์ชั่นอัพเกรด การปรากฏตัวขึ้นของยายีนนั้นได้รับผลตอบรับเป็นอย่างมากเเต่เเฮร์รี่จะใช้ปริมาณความเข้มข้นเหล่านั้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็นในฐานะประธานออนคอร์ปเเฮร์รี่ค่อนข้างยุ่งมากช่วงนี้

 

ส่วนเเดร์เดวิล หลังจากเเก้ปัญหา คิงพินเสร็จ เขาก็ได้บอกกับเเจ็คสันว่าจะขอลาพักร้อนหลายปีที่ผ่านมาเขาได้จัดการศัตรูไปนับไม่ถ้วนทั้งยังเเก้เเค้นศัตรูที่เกลียดชังได้สำเร็จ เเดร์เดวิล ต้องการหาวันหยุดให้กับตัวเอง

 

เเต่เมื่อทีมต้องการเเน่นอนว่าเขาจะกลับมา เพราะอย่างไร เเดร์เดวิล ก็เป็นคนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเละ S.H.I.E.L.D.

 

นอกจากเเฮร์รี่เเละเเมตต์ เดดพูล เวด บาดเเผลของเขาฟื้นตัวขึ้นกว่าเดิมมากเขาได้กลับไปใช้ชีวิตอยู่กับวาเนสซ่าเหมือนปกติเเต่ถ้าทีมต้องการเขาเองก็จะกลับมาเพราะอย่างไรเขาก็เป็นฮีโร่ของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เหมือนกัน

 

ทางด้านงานสนับสนุนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ อย่าง สกาย’อาย เจอร์รี่ เขาได้รับการยอมรับจาก J.A.R.V.I.S ปัญญาประดิษฐ์ระดับสุดยอด ดังนั้นเขาจึงมีเป้าหมายในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เป็นของตัวเอง ตอนนี้เจอร์รี่ได้ทำงานหนักเพื่อหวังจะช่วยเหลือทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์อย่างต่อเนื่อง

 

ส่วนเเจ็คตั้งเเต่ที่รู้ข่าวการกลับมาของเเจ็คสัน เขาก็ไม่รู้หายตัวไปไหนอีกครั้งหลายวันก่อนเขาไปหาพ่อมดรุ่ยเคอ เเละ พ่อมด ไต้เหวิ่น เเจ็คได้รับการยอมรับจากพวกเขา ดังนั้นสถานการณ์ของเเจ็คในตอนนี้ยังไม่เเน่ชัด

 

หลังจากองค์กรไฮดร้าถูกกำจัดไปสมาชิกเเต่ละคนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็ค่อนข้างมีเวลาว่างส่วนตัวเป็นของตัวเองเพิ่มมากขึ้น เเต่ชีวิตที่สงบสุขดังกล่าวไม่สมควรอยู่นานเกินไป เพราะโลกเเห่งนี้คือโลกมาร์เวล มันคือโลกมหัศจรรย์ที่ไม่ใช่สถานที่ที่เงียบสงบ

 

 

เมื่อทอมตื่นขึ้นมาพวกปีเตอร์เเละเเจ็คสันที่กำลังสนทนากันอยู่นอกห้องพวกเขาพลันได้ยินเสียงร้องเเห่งความเจ็บปวดของทอมจนเเจ็คสันรู้สึกตกใจจนหันกลับไปมองที่ห้อง

 

เเจ็คสันเเละปีเตอร์จ้องมองทอมที่ร้องอย่างเจ็บปวดหากให้พวกเขาเดาความทรงจำก่อนหน้านี้กำลังถาโถมเข้าใส่หาทอมอย่างต่อเนื่อง

 

“??ทอมในที่สุดนายก็ฟื้นคืนความทรงจำสำเร็จ”ได้ยินทอมเรียกชื่อของตัวเองเเจ็คสันรู้สึกตื่นเต้นมาก

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเเจ็คสันก็เปิดประตูห้องกระจกออกเเละรีบดิ่งไปยังทอมที่นั่งอยู่บนเตียงทันที

 

“ทอมนายจำเรื่องก่อนหน้านี้ได้ไหม?นายฟื้นคืนสติเเล้วใช่หรือไม่”เเจ็คสันกล่าวถามทอมอย่างรวดเร็ว

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันทอมรู้สึกถูกกระตุ้นอย่างรุนเเรง

 

อึก!

 

ทอมได้พยายามรวบรวมความกล้าก่อนที่จะจ้องมองหน้าของเเจ็คสันเเละปีเตอร์ที่เข้ามา

 

“เเจ็คสันขอบคุณที่ช่วยฉันไว้!นอกจากนี้ขอโทษที่สร้างปัญหามากมายให้กับนาย!”ทอมกล่าวบอกเพื่อนสนิททั้งสองคน

 

ยืนจ้องมองใบหน้าของทอมเเจ็คสันสั่นระริกเล็กน้อยในที่สุดทอมก็กลับมาเป็นปกติ

 

“ยินดีต้อนรับกลับมาทอม”เเจ็คสันได้จับเเขนทั้งสองข้างของทอมเเละพูดปลอบเขา

 

ปีเตอร์ที่ยืนอยู่ด้านข้างเองก็เเทบจะหลั่งน้ำตาออกมาเป็นความโชคดีมากที่พวกเขาสามารถนำทอมกลับมาจากพวกไฮดร้าได้

 

“นายฟื้นเเล้วก็จริงเเต่ก็ยังต้องพักผ่อน ถ้าให้ฉันเดาความเจ็บปวดเมื่อครู่นี้ใช่ว่าความทรงจำของนายตีกลับใช่มั้ย?”หลังจากกอดทอมเสร็จเเจ็คสันก็กล่าวถาม

 

“อืม,ความทรงจำ จำนวนมากได้ถาโถมเข้าหาฉัน จริงสิฉันเเทบจะจำเรื่องก่อนที่ตนเองจะเป็นแบบนั้นไม่ได้เลย เเต่ตอนนี้ฉันอยากกลับบ้านฉันกังวลว่าพ่อกับเเม่จะเป็นห่วงฉัน”ทอมสั่นศีรษะในทันที

 

เเม้ความทรงจำก่อนหน้านี้จะเป็นความทรงจำที่เจ็บปวดเเต่เขากลับไม่ต้องการนอนพักผ่อนสิ่งเเรกที่เขาต้องการก็คือกลับไปพบหน้าพ่อกับเเม่ของเขา

 

“อืมฉันกับนายจะกลับบ้านด้วยกัน! ลุงสมิธ ในตอนนี้ควรจะอยู่ที่บ้าน หากเขาเห็นคุณเขาจะต้องกลับมามีความสุขอีกครั้งอย่างเเน่นอน”เเจ็คสันเข้าใจว่าทอมรีบกลับบ้านเขาไม่ได้ห้ามทอม

 

หลังจากนั้นเเจ็คสันได้ให้ทอมเปลี่ยนเสื้อผ้าเเละก็อาศัยรถจิ๊บของเเจ็คสันเพื่อเดินทางกลับบ้าน

 

ตลอดทางเเจ็คสันพยายามจะถามทอมหลาย ๆ เรื่อง เเต่เขาก็ไม่รู้จะถามอะไรออกมาเกี่ยวกับสถานะของทอมเเละความเป็นมาก่อนที่ทอมจะกลายเป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์

 

“ทอมนายจำเรื่องตอนที่นายถูกควบคุมได้อยู่ใช่มั้ย?”ขณะขับรถเเจ็คสันกล่าวถามทอมออกมา

 

ได้ยินคำถามของเเจ็คสันสายตาของทอมเปลี่ยนไปปเล็กน้อย”ใช่ฉันจำได้ เเต่รายละเอียดส่วนมากฉันเเทบจะนึกไม่ออกฉันลืมมันไปหมดเเล้ว”

 

“…”ได้ยินคำตอบของทอมเเจ็คสันพยายามจะถามอีกครั้ง

 

“เเจ็คสันฉันรู้ว่านายต้องการจะถามอะไร เกี่ยวกับสถานภาพของนายฉันก็รู้ ฉันเองก็สงสัยว่าทำไมหลังจากเข้าเรียนไฮสคูลนายถึงเปลี่ยนไปที่เเท้นายก็คือ มิราจไนท์”ทอมกล่าวชิงพูดก่อน

 

“เอ๋…เอ่อฉันไม่ได้ตั้งใจจะซ่อนความจริงจากนาย”เเจ็คสันพยายามตั้งสติเล็กน้อย

 

“ฉันเข้าใจดี นายอยากรู้ไหมทำไมฉันถึงถูกหลอกทำการทดลองโดยคนพวกนี้”ทอมกล่าวออกมา

 

“ทำไม?ที่จริงฉันก็สงสัยว่านายพบกับพวกไฮดร้าได้ยังไง”เเจ็คสันเองก็สงสัยว่าทอมพบกับพวกไฮดร้าได้ยังไง

 

“เพราะฉันรู้ว่านายเป็นใคร เเละมีหลายครั้งที่ฉันคิดเสมอว่าควรจะทำตัวอย่างไรดี ตั้งเเต่รู้ว่านายเป็นมิราจไนท์ ฉันที่เป็นเพื่อนของนายก็เริ่มรู้สึกว่าชีวิตที่เป็นอยู่ของฉันเเต่เดิมมันค่อนข้างไร้ความหมาย”ทอมจ้องมองเเจ็คสันเเละบอกความจริง

 

“เช่นนั้นนายที่รู้ว่าฉันเป็นใครก็เลยเริ่มติดต่อกับพวกไฮดร้างั้นหรอ?”ได้ยินคำตอบของทอมเเจ็คสันรู้สึกงุนงงเหตุผลที่ทอมเป็นแบบนั้นก็เพราะตัวเขา

 

“อืม,จะว่าเเบบนั้นก็ได้ เพราะฉันมันโง่ ฉันต้องการกลายเป็นฮีโร่เหมือนกับนายเเละต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับนาย นายจะเชื่อคำพูดของฉันหรือไม่ก็ได้ เเต่ถ้าฉันรู้ว่าพวกมันเป็นองค์กรที่ชั่วร้ายฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวอย่างเเน่นอน”นึกถึงตอนที่ตนเองถูกหลอกทอมคิดว่าตนเองนั้นโง่มาก

 

“ทอมฉันขอโทษ”ได้ฟังการอธิบายของทอมเเจ็คสันกล่าวขอโทษออกมา

 

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนายเป็นฉันที่โง่เอง นอกจากนี้นายสบายใจได้ว่าเเม้ฉันจะกลับไปฉันก็จะไม่พูดถึงเรื่องนี้อย่างเเน่นอน”ทอมกล่าวบอกเเจ็คสัน

 

“จริง ๆ เเล้วทอม หากนายคิดจะเป็นฮีโร่ ฉันคิดว่ายังมีโอกาส…”

ได้ยินคำว่ารังสีเเกมม่าจากปากของนาตาชา ดร.แบนเนอร์ มีสีหน้าที่เเตกต่างออกไปสายตาของเขาเปล่งประกายเเสงสีเขียวโดยฉับพลัน

 

“รังสีเเกมม่า?”ในตอนเเรก ดร.แบนเนอร์ได้ทำการทดลองเกี่ยวกับรังสีเเกมม่า ทันทีที่ได้ยินคำว่ารังสีเเกมม่าทำให้เขารู้สึกไวต่อคำพูดนี้

 

“ใช่เเล้ว รังสีเเกมม่า วัตถุชิ้นนั้นเป็นอะไรฉันเองก็ไม่รู้เเน่ชัด เเต่มันมีความเกี่ยวข้องกับรังสีเเกมม่า เเละบุคคลที่เข้าใจในรังสีเเกมม่ามากที่สุดก็คือคุณ ดังนั้นฉันจึงต้องการขอให้คุณกลับไปในนามของ S.H.I.E.L.D. เพื่อช่วยเหลือเราเกี่ยวกับเรื่องนี้”นาตาชากล่าวพูดตามตรง

 

ฟุ่บ!

 

ดร.แบนเนอร์รู้สึกตื่นเต้นมากในตอนนี้ ความประทับใจได้ผุดบนรอยยิ้มของเขาประกายเเสงในนัยน์ตาของเขาก็หายไปเช่นเดียวกัน

 

“ฮ่าฮ่า,ที่เเท้มันก็เกี่ยวข้องกับรังสีเเกมม่าไม่เเปลกใจที่พวกคุณตามหาตัวฉัน เเต่พวกคุณกลับคิดผิดบางอย่างทำไมพวกคุณถึงคิดว่าฉันจะช่วย?เเม้ว่าฉันจะเป็นคนที่เข้าใจเรื่องนี้มากที่สุด เเต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องกลับไปทดลองเกี่ยวกับรังสีเเกมม่าอีกครั้ง”ดร.แบนเนอร์ทวงความสงบทางสีหน้าของเขากลับคืนมา

 

“จริงๆเเล้วฉันก็เเค่มาส่งข้อความบอกคุณเพียงเท่านั้น เเต่ฉันก็มีความเชื่ออยู่ลึก ๆ ว่าคุณจะกลับมาอย่างเเน่นอน กัปตันโรเจอร์สเองก็หวังจะพูดอะไรกับคุณเป็นการส่วนตัว”นาตาชากล่าวตอบ

 

ดร.เเบนเนอร์มีความสนใจในวัตถุลึกลับนั่นอย่างเห็นได้ชัดเพราะว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับ รังสีเเกมม่า หากเขาสามารถได้รับมันมาเเละวิจัยมันสำเร็จบางทีมันอาจจะช่วยเหลือเขาเรื่องการกลายพันธุ์ของตนเอง

 

“กัปตันโรเจอร์สที่คุณว่าหมายถึงวีรบุรุษที่ถูกเเช่เเข็งมานานมากกว่า 60 ปี กัปตันอเมริกา?”เกี่ยวกับการฟื้นคืนชีพของกัปตันโรเจอร์ส ดร. เเบนเนอร์ ไม่ได้มีความสนใจเป็นพิเศษ

 

“หาก ดร. ต้องการติดต่อกับ กัปตัปโรเจอร์ส ได้โปรดใช้โทรศัพท์นี่โทรไปเบอร์นี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณจะตัดสินใจ”นาตาชากล่าวพร้อมกับวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นนาตาชาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เธอไม่ได้พูดอะไรต่อเเล้วเดินออกจากห้องของ ดร.เเบนเนอร์

 

หลังจากนาตาชาออกไป ดร.เเบนเนอร์ จ้องมองโทรศัพท์ที่วางอยู่ด้านหน้า องค์กร S.H.I.E.L.D. คือองค์กรพิเศษ ดร.เเบนเนอร์ไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับองค์กรเหล่านี้อีกครั้งเขาต้องการที่จะทำงานในฐานะคนธรรมดาทั่วไป เขาได้หลีกเลี่ยงเรื่องทางโลกมาหลายปีเเละเขายินดีที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ไปตลอด เเม้ว่าจะไม่มี ฮัลค์ ดร.แบนเนอร์ ก็ยังเป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกอยู่

 

ในที่สุด ดร.แบนเนอร์ก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเเละกดเบอร์ออกไป

 

“สวัสดี,ฉัน ดร.เเบนเนอร์ นั่นใช่ กัปตันโรเจอร์สหรือไม่?”

 

“สวัสดี ฉันกัปตันโรเจอร์ส ยินดีที่ได้คุยกับคุณ ดร.บรูซ เเบนเนอร์”

 

 

ขณะเดียวกัน เเจ็คสันกำลังดูสถานการณ์ในห้องเบื้องหน้า มันคือฐานลับของสตาร์กอินดัสตรีท์ นอกจากนี้ยังมีบุคคลอยู่ภายในนอก ซึ่งก็คือ ทอม สมิธ เขาก็คือ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ที่ถูกดัดเเปลง

 

ตั้งเเต่ทำเควสภารกิจกำจัดไฮดร้าสำเร็จเเจ็คสันก็มีเเต้มคะแนนจำนวนมาก เขาพยายามที่จะเลือกหาอุปกรณ์ที่ช่วยเหลือในการรักษาความทรงจำเเละอาการบาดเจ็บทางจิตกลับมามันมีมูลค่ามากกว่า 5,000 เเต้มคะแน เเจ็คสันได้ใช้มันรักษากับทอมเเล้วที่เหลือก้เเค่รอผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น

 

“เเจ็คสัน,สบายใจเถอะ ฉันเชื่อว่าทอมจะต้องกลับมาเป็นปกติอย่างเเน่นอน”ขณะที่เเจ็คสันกำลังกังวลเเละจ้องมองทอมที่นอนสลบอยู่ภายในห้อง ปีเตอร์ กล่าวปลอบเขา

 

“ฉันเองก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น ลุงสมิธ ได้ตามหาทอมเป็นระยะเวลานานเเล้ว ครั้งล่าสุดที่ฉันเห็นลุงสมิธเเกผอมมากฉันกังวลว่าหากพวกเขาสูญเสียทอมไป ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำอย่างไรต่อ ดังนั้นฉันหวังจะให้ทอมหายเป็นปกติเเละกลับบ้านเร็ว ๆ “เเจ็คสันกำหมัดเเน่น

 

ฟู่วว

 

ขณะที่ปีเตอร์เเละเเจ็คสันกำลังพูดคุยอยู่ข้างนอกห้อง คิ้วของทอมขยับเล็กน้อย

 

เปลือกตาของทอมค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นจากนั้นทอมก็เปิดตาทั้งสองข้างอย่างช้า ๆ

 

“นี่ฉัน…อยู่ที่ไหน”ทอมพึมพัมออกมาเบา ๆ สายตาของเขาพร่ามัวอย่างมากเขารีบสังเกตุพื้นที่โดยรอบภายในห้องนี้

 

ฟุ่บ!

 

ทอมที่เพิ่งตื่นเขาระวังสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างมากจากนั้นเขาก็พลางคิดถึงความทรงจำที่ถูกเปลี่ยนเเปลงโดยฉับพลัน

 

“ในหัวของฉัน…ภาพพวกนี้มันคืออะไรกัน”

 

“ออกไปให้พ้น…อย่านะ”

 

ความทรงจำอันเเปลกประหลาดเเต่ก็ค่อนข้างคุ้นเคยได้เกิดขึ้นวนซ้ำไปซ้ำมาภายในหัวของทอม การเเสดงออกทางสีหน้าของทอมดูไม่ค่อยดีอย่างมาก จากนั้นเขาก็ตะโกนลั่นออกมา

 

อ๊ากกก

 

ความทรงจำทั้งหมดได้รับการกระตุ้นให้กลับมาภายในคราวเดียวทอมยกมือทั้งสองข้างกุมขมับศีรษะเอาไว้เเน่นในความทรงจำของเขาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือตัวตนของเขาที่ได้กระทำลงไป

 

“เเจ็คสัน,นั่นนายอยู่ข้างนอกงั้นหรอ?”ทอมที่ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงเขาหันศีรษะไปเห็นเเจ็คสันที่ยืนอยู่ด้านนอก

 

 

 

ฟู่~~

 

ภายในห้องถ่านตรงเตาผิงกำลังเผาไหม้อย่างต่อเนื่องสร้างบรรยากาศไออุ่นออกมา ดร.เเบนเนอร์ที่ได้ยินคำตอบของ นาตาชา ในปัจจุบัน เขากำลังคิดไคร่ครวญอยู่

 

“คุณหมอพวกเราจะไปกันได้หรือยัง”เห็นดร.แบนเนอร์ ที่คุยกับ นาตาชา เงียบไป คราวนี้ เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ไม่สามารถที่จะทนต่อไปได้อีก

 

ก่อนหน้านี้ นาตาชา เเละ ดร.แบนเนอร์ ใช้ภาษาอังกฤษในการพูดคุย เเน่นอนว่า เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ย่อมไม่เข้าใจ เธอไม่ได้ใส่ใจว่าทั้งสองคนคุยเรื่องอะไรกัน ปัญหาก็คือ พ่อของเธอ เธอต้องการรักษาพ่อของเธอ

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากเด็กผู้หญิงคนนี้เปิดปาก ดร.แบนเนอร์ เหมือนจะได้สติคืนมา เขาจ้องมองไปที่ เด็กผู้หญิงคนนี้ โลกต้องการเขา?ป่าวเลย สิ่งที่โลกต้องการก็คือ ฮัลค์ เเละตอนนี้สิ่งที่ ดร.แบนเนอร์กำลังพยายามอยู่ก็คือการขับไล่ฮัลค์ออกจากร่างกายหรือควบคุมมัน

 

“อืม,พวกเราไปกันเถอะ”ดร.แบนเนอร์กล่าวออกมา

 

เขาได้เตรียมกล่องยาเสร็จเเละติดตามเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนั้นไป ทันทีที่เห็นการเคลื่อนไหวของ ดร.แบนเนอร์ เด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ได้เปิดปากพูดอย่างยิ้มเเย้ม

 

“เเค่ไข้หวัดง่าย ๆ ฉันสามารถส่งคนไปช่วยเหลือพ่อของเธอได้ในทันที ตอนนี้ฉันมีธุระกับคุณหมอคนนี้”เห็น ดร.แบนเนอร์กำลังจะติดตามสาวน้อยคนนั้นไป นาตาชา กล่าวบอก

 

นาตาชารู้ดีว่าการเกลี่ยกล่อมให้ ดร.แบนเนอร์ กลับไปกับเธอย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่งั้น บริษัท หรืออิทธิพลจำนวนมากคงไม่ถูกปฏิบเสธเเละดร.แบนเนอร์ได้ทำการหลบหนี

 

ดร.แบนเนอร์เห็นนาตาชาพูดภาษาท้องถิ่นกับเด็กคนนั้นเเน่นอนว่าเขาย่อมรู้ว่าเด็กสาวคนนั้นย่อมรู้ความอย่างเเน่นอนไม่นานเธอก็รีบเเจ้นออกไป หลังจากนั้นก็เหลือทั้งสองคนอยู่ภายในห้อง

 

“ตอนนี้ก็เหลือเเค่เราสองคนเเล้ว, ดร.แบนเนอร์ คุณจะยอมฟังคำพูดของฉันได้หรือยัง ฉันขอบอกคุณก่อนเลยว่าฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายจริง ๆ พวกเราเเค่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”นาตาชา กล่าวบอก ดร.แบนเนอร์

 

ฟุ่บ

 

ได้ยินคำพูดของ นาตาชา ดร.แบนเนอร์ ได้วางกล่องยาของเขาจากนั้นก็ไปนั่งบนเก้าอี้ เห็นได้ชัดว่าการเเสดงออกของเขาไม่ค่อยเต็มใจที่จะรับฟังเท่าไหร่ เเต่การหลบหนีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ S.H.I.E.L.D. ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ

 

เห็น ดร.เเบนเนอร์นั่งลงพร้อมจะรับฟัง นาตาชา ยิ้มออกมาในทันที ตอนนี้เธอมีโอกาสที่จะพูดเกลี่ยกล่อม ดร.แบนเนอร์ เเล้ว

 

“ดร.แบนเนอร์ เนื่องจากคุณ รู้จัก S.H.I.E.L.D. ของเรา คุณย่อมรู้ว่า อิทธิพลที่พวกเราทำการต่อต้านตลอดมาก็คือ : องค์กร ไฮดร้า”นาตาชานั่งลงตรงหน้าของ ดร.แบนเนอร์ เเละ เปิดปากพูด

 

สีหน้าของ ดร.แบนเนอร์ไม่ได้ตอบสนอง เเต่เขาย่อมรู้อย่างชัดเจน องค์กรไฮดร้าคือภัยคุกคามอย่างเเท้จริง บนโลกนี้กลับปรากฏองค์กรที่ชั่วร้ายนี้ออกมา ถือว่าเป็นเรื่องไม่ดีอย่างมาก เเต่ทุกคนทั่วโลกต่างก็รับรู้ถึงอิทธิพลขององค์กรไฮดร้าเเล้ว ว่าพวกเขามีเป้าหมายจะยึดครองโลก ดร.แบนเนอร์ เองก็ได้รับข่าวนี้ เขาในตอนนั้นก็รู้สึกตกจเหมือนกัน

 

“หนึ่งสัปดาหที่ผ่านมาพวกเราได้กำจัด เร้ด สกัลล์ หัวหน้าองค์กรไฮดร้า เเละ ทำลายองค์กรไฮดร้าไปเเล้ว”เห็น ดร.แบนเนอร์ไม่ตอบสนอง นาตาชาพูดอีกครั้ง

 

“เเล้วเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับฉัน?”ได้ยินคำพูดของ นาตาชา ดร.แบนเนอร์ไม่เเยเเส เพราะอย่างไร S.H.I.E.L.D. ก็เป็นคู่ปรับของ องค์กรไฮดร้ามาช้านาน ข่าวเรื่องของพวกไฮดร้า เเทบจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา

 

“เรื่องไฮดร้าอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับคุณ เเต่ในขณะที่พวกเราได้ทำลายพวกไฮดร้า พวกเราได้ค้นพบว่าพวกไฮดร้ามีสุดยอดเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์อยู่ในครอบครอง เเต่สุดยอดสิ่งประดิษฐ์ที่ล้ำค่าที่สุดของไฮดร้านั้นได้หายไปพร้อมกับการตายของ เร้ด สกัลล์”นาตาชา กล่าวออกมา

 

หลังจากหัวหน้านิค ถูกปลด กัปตันโรเจอร์ส ก็ได้เเจ้งข่าวพร้อมกับบอกภารกิจที่เกี่ยวข้องให้กับ นาตาชา

 

เธอได้อธิบายสถานการณ์ปัจจุบัน เธอไม่รู้เรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์ เเต่เธอรู้ว่ามันคือสุดยอดสิ่งประดิษฐ์เเละเธอต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อล่อลวง ดร.แบนเนอร์กลับไป

 

“สุดยอดสิ่งประดิษฐ์?มันคืออะไร?”ได้ยินสิ่งนี้ ดร.แบนเนอร์รู้สึกสนใจ หากมันเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีเเล้วล่ะก็ อาการคลั่งวิทยาศาสตร์ของเขาย่อมอยากรู้อยากเห็น

 

“เกี่ยวกับเรื่องนี้ฉันเองก็ไม่เเน่ใจสถานะของฉันในองค์กร ไม่เพียงพอจะรับรู้ข้อมูล เเต่อย่างไรก็ตาม กัปตันโรเจอร์ส ย่อมรู้คำตอบ หากคุณต้องการรู้ ดร.แบนเนอร์ ฉันคิดว่า กัปตันโรเจอร์ส ยินดีจะบอกคุณอย่างเเน่นอน”เห็น ดร.แบนเนอร์ตอบรับ นาตาชา กล่าวย้ำไปอีกครั้ง

 

“เป็นเรื่องที่น่าตกใจที่พวกไฮดร้ามีสุดยอดเทคโนโลยีอยู่ในครอบครอง เเต่สมบัติชิ้นนั้นก็ได้สูยหายไปเเล้ว นอกจากนี้ คุณมีธุระอะไรกับฉัน หากต้องการให้ฉันช่วยตามหาของสิ่งนี้ ใช่ว่าพวกคุณควรจะส่งคนออกไปค้นหาไม่ดีกว่าหรอ?”ดร.แบนเนอร์กล่าวถามโดยตรง

 

“พวกเรากำลังตามหาอยู่ก็จริง เเต่ของสิ่งนั้นได้สูญหายไปยังพื้นที่ที่พวกเราไม่สามารถระบุได้ เเต่เบาะเเสเพียงอย่างเดียวของเราก็คือ สิ่งนั้นมีความเกี่ยวข้องกับ รังสี ‘เเกมม่า’ “นาตาชาได้อธิบายให้ ดร.แบนเนอร์ฟัง

 

 

ในห้องสลัว ๆ ที่ค่อนข้างรกรุงรังเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่วิ่งออกไปก่อนหน้านี้บัดนี้เธอได้นั่งอยู่ข้างเตียงพร้อมกับจับมือชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเตียง

 

“คุณหมอ,หนูต้องการความช่วยเหลือจากคุณ?”มือเล็ก ๆ ของเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ได้กล่าวถาม บุคคลที่ดูเป็นหมอ

 

ทุกคนที่นี่บอกว่าลุงคนนี้เป็นหมออย่างเเน่นอน หากเด็กคนนี้ต้องสูญเสียพ่อของเธอไป เธอย่อมรู้สึกไม่ดีอย่างมาก

 

ภายใต้คำถามของเด็กผู้หญิงคนนี้ ชายวัยกลางคนที่เป็นหมอได้หันหน้าไปมองเด็กผู้หญิง

 

ลุงวัยกลางคนที่ว่านี้ก็คือ ดร.บรูซ แบนเนอร์ หรือในโลกมาร์เวล เรียกกันว่า ฮัลค์ เขามีชื่อเสียงอย่างมาก ปัจจุบัน ดร.แบนเนอร์สามารถควบคุม ฮัลค์ ที่อยู่ภายในร่างกายได้ เเต่ความยากที่สุดก็คือการควบคุมอารมณ์ไม่ให้โกรธ

 

“คุณช่วยรักษาพ่อของหนูได้มั้ย?”

 

“พ่อของหนู…เขาป่วย เขาไอรุนเเรงมากทั้งยังมีไข้หนักจนไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงได้”เห็น ดร.แบนเนอร์เงียบ เด็กหญิงตัวน้อยกล่าวถามอีกครั้ง

 

“พ่อของเธอจะหายเร็ว ๆ นี้ ฉันจะไปช่วยเหลือเขา”ดร.แบนเนอร์ กล่าว

 

ดร.แบนเนอร์ ในช่วงนี้ ได้หลีกเลี่ยงการติดตามจากอิทธิพลต่าง ๆ เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือชาวเมืองในสลัมเเห่งนี้ ดร.แบนเนอร์ เป็นนักวิยาศาสตร์ เขาฝึกศาสตร์ในการพัฒนาร่างกาย เเต่ที่เขาปลีกตัวมายังสถานที่เเห่งนี้ ก็เพื่อฝึกฝนการควคุมจิตใจของตัวเอง

 

หลังจากสัญญากับเด็กผู้หญิงคนนี้ ดร.แบนเนอร์ ก็เตรียมพร้อมกับสถานการณ์รับมือกับไข้หวัดใหญ่ เขาได้เตรียมสิ่งของต่าง ๆ เดิมทุกการกระทำของ ดร.แบนเนอร์ได้ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนรอบข้าง ผู้คนที่อยู่ที่นี่ทุกคนต่างก็มาขอความช่วยเหลือจากเขาทุกวันจนเขาเริ่มรู้สึกคุ้นเคย

 

ตึก ตึก

 

ขณะเดียวกันก็มีเสียฝีเท้านึงเดินมาหยุดกลางห้องเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ได้หันศีรษะไปตาม พวกเขาพบหญิงสาวรูปร่างหน้าตาสละสลวยมีเชื้อสายต่างชาติเด็กหญิงคนนั้นจำหญิงสาวคนนี้ได้เเต่เธอก็ไม่ได้สนใจเป้าหมายของเธอก็คือรักษาพ่อของเธอ

 

ฟุ่บ!

 

ดร.แบนเนอร์ที่กำลังเตรียมยา ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ตระหนักเลยว่ามีคนอื่นเข้ามาในห้องขณะที่เขากำลังก้มหยิบอะไรบางอย่างสายตาของเขาก็สะดุดไปที่ร่างของ นาตาชา

 

“ความต้องการที่จะรักษาคนอื่นโดยที่มีเครื่องมือไม่พร้อม ดูเหมือนคุณจะมีจิตใจที่ดีอย่างมาก สถานที่เเห่งนี้ไม่เหมาะกับคุณหรอก”

 

เห็น ดร.แบนเนอร์ จ้องมองมาทางตัวเอง นาตาชายิ้มเปิดปากก่อนเป็นอันดับเเรก เป้าหมายของเธอก็คือตามหาตัว ดร.แบนเนอร์ ซึ่งตอนนี้เธอพบเเล้ว

 

“ดูเหมือนพวกคุณจะไม่ยอมปล่อยฉันไปจริง ๆ ?”จ้องมองไปที่รูปลักษณ์ของ นาตาชา ดร.แบนเนอร์ กล่าวตอบ

 

หลายปีที่ผ่านมา ดร.แบนเนอร์ รู้ว่ามีอิทธิพลจำนวนมากได้เฝ้าตามหาตัวเขา เเละคนเหล่านี้ไม่ยอมเเพ้ที่จะพาตัวเขากลับไป

 

“ดร.แบนเนอร์ ฉันมาในนามของ S.H.I.E.L.D. เเละฉันไม่ได้มีเจตนาที่ชั่วร้ายกับคุณ”เห็นคำตอบของ ดร.แบนเนอร์กล่าวหาเธอ นาตาชาอธิบาย

 

ก่อนที่จะมา นาตาชา ได้เตรียมการข้อมูลทุกอย่างมาเเล้ว เธอรู้ว่า ดร.แบนเนอร์ ไม่ต้องการเปลี่ยนร่างเป็นฮัลค์ ดังนั้นเธอจึงเชื่อว่า ดร.แบนเนอร์ คงไม่ต้องการใช้กำลังในการพูด

 

อย่างน้อยในตอนนี้เธอก็ยังสามารถพูดคุยเพื่อโน้มน้าวได้

 

“ฮ่าฮ่า…S.H.I.E.L.D. ฉันจำได้เเล้วชื่อเสียงของพวกคุณค่อนข้างโด่งดังทีเดียว หัวหน้านิค ส่งคุณมาอย่างงั้นหรอ? ดูเหมือนเป้าหมายของ S.H.I.E.L.D. จะคืออะไรนะ? นำสันติสุขมาสู่โลก?”ดร.แบนเนอร์ กล่าวอย่างไม่เเยเเส

 

เขาไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่า S.H.I.E.L.D. ต้องการตัวเขาเพราะอะไร S.H.I.E.L.D. ต้องการตัวเขาไปร่วมองค์กรของพวกเขา เเละต้องการตัวอย่างเลือดของฮัลค์เพื่อนำไปทำเซรุ่มในการพัฒนาศักยภาพร่างกายของทหาร เเต่ ดร.แบนเนอร์ไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้

 

“ใช่…เเต่มีสิ่งนึงที่คุณพลาด ตอนนี้หัวหน้านิคถูกปลดออกจากตำเเหน่งเเละลาออกจาก S.H.I.E.L.D. เเล้วตอนนี้ ,ผู้นำของ S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้ก็คือ กัปตันโรเจอร์ส”นาตาชา กล่าวโดยตรง

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำพูดของ นาตาชา ดร.แบนเนอร์ ที่สงบนิ่งเมื่อครู่กลายเป็นตกใจทันที

 

“นิคถูกปลดไปเเล้ว!”ดร.แบนเนอร์ รู้สึกไม่เชื่อ เขากล่าวถามออกมาอีกครั้ง

 

“ถูกต้อง นี่เป็นข้อมูลเมื่อ 3 วันที่เเล้ว ตอนนี้ หัวหน้า S.H.I.E.L.D. คนใหม่ก็คือ กัปตันโรเจอร์ส ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ดร.แบนเนอร์ หากจะพูดให้ถูกก็คือ โลกต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”มองไปที่ ดร.แบนเนอรื นาตาชา กล่าวอย่างจริงจัง

 

เห็น เด็ก

ปีเตอร์เเละเเจ็คสันทั้งสองคนได้ตามมาหลังจากนั้นในที่สุดการละเล่นได้จบลงตั้งเเต่เพียงเท่านี้ เเดร์เดวิลในปัจจุบันได้ระบายความโกรธของตัวเองออกมาจนฆ่าวิลสันไป

 

ฟุ่บ!

 

“เเดร์เดวิล คุณไม่เป็นอะไรนะ?”มาถึงด้านหน้าของเเดร์เดวิล เเจ็คสัน กล่าวถามออกมา ตอนนี้คิงพินได้ตายในเงื้อมมือของเเดร์เดวิล ตอนนี้หนี้ทั้งหมดได้ชำระด้วยมือของตัวเองทำให้อารมณ์ของเเดร์เดวิลซับซ้อนอย่างมากตอนนี้

 

“ไม่เป็นไร,ตอนนี้ฉันได้เเจ้งพวก S.H.I.E.L.D. ไปเเล้วพวกเขาจะส่งทีมพิเศษมาจัดการเก็บกวาดสถานที่เเห่งนี้”ได้ยินเสียงของเเจ็คสัน เเดร์เดวิลตอบกลับ

 

“อืม,เช่นนั้นพวกเราไปกันเถอะ หลังจากวิลวันเสียชีวิต อาณาจักรเเก๊งใต้ดินที่ไร้หัวหน้าก็ย่อมล่มสลายอย่างรวดเร็ว ธรรมชาติมันย่อมเป็นเร็ว ๆ นี้ เเน่นอน”เเจ็คสันตบไหล่ของเเดร์เดวิลเเล้วบอกเขา

 

“มิราจไนท์,สไปเดอร์แมน ขอบคุณ!”การต่อสู้ก่อนหน้านี้มิราจไนท์เเละสไปเดอร์แมนไม่ได้เข้ามาสอดมือช่วยเขาปล่อยให้เเดร์เดวิลชำระเเค้นด้วยตัวเอง

 

“ก็เเค่ความช่วยเหลือในหมู่พวกเราไม่จำเป็นจะต้องขอบคุณ เอาเป็นว่าวันนี้วิลสันได้เสียชีวิตพวกเราไปที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ตเพื่อร่วมดื่มกันดีรึไม่?”เเจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“มิราจไนท์ เเต่พวกเรายังไม่สามารถดื่มได้!”ปีเตอร์ได้กระซิบข้างหูของเเจ็คสันเบา ๆ

 

!

 

เพียงเเต่เเจ็คสันไม่ได้ตอบเขาได้ตบไหล่ของปีเตอร์พร้อมเดินจากไปยังสถานที่เเห่งนี้ เเดร์เดวิลเองก็จ้องมองไปที่ศพของคิงพินครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถอนหายใจออกมา จากนั้นทั้งสามคนก็ออกจากที่เเห่งนี้โดยสมบูรณ์ไม่นานทีม S.H.I.E.L.D. ก็ปรากฏขึ้น ทีมเหล่านี้ถูกส่งมาโดยกัปตันโรเจอร์สให้รีบเก็บกวาดพื้นที่

 

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่พวกเเจ็คสันเเละ S.H.I.E.L.D. ร่วมมือกันกำจัดเนื้อร้ายอย่างวิลสัน ในสถานที่ห่างไกลของสหรัฐอเมริกา นาตาชา ได้เดินเล่นอยู่ในเมืองสลัมเเห่งนึง เธอเป็นตัวเเทนของ S.H.I.E.L.D. เเละได้ทำการปลอมตัวเพื่อสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ

 

ก่อนการชำระครั้งสุดท้ายของไฮดร้าจะมาถึง นาตาชา ได้ถูกส่งมาโดยนิค ตอนนี้ นาตาชาได้หายตัวไปมากกว่าสองสัปดาห์เธอได้ใช้ชีวิตอยู่ในสลัมเพื่อบรรลุภารกิจที่นิคมอบหมายมาให้ โดยปกติเเล้ว เรื่องนี้ เเม้เเต่เเจ็คสันก็ยังยากจะคาดเดาได้ว่า นาตาชา กำลังทำภารกิจอะไรอยู่

 

ฟุ่บ!

 

นาตาชาได้เดินสำรวจพื้นที่ในสลัมเเห่งนี้เเละให้ความสนใจกับผู้คนรอบข้างราวกับว่าเธอกำลังมองหาอะไรบางอย่าง สิ่งที่นิคมอบหมายให้เธอก็คือภารกิจลับระดับสุดยอด เธอมีเป้าหมายต้องค้นหาตัว ดร.เเบนเนอร์ ธรรมชาติ เขามีอีกชื่อว่า ฮัลค์

 

นิคที่รู้ว่า S.H.I.E.L.D. กำลังขาดขั้วอำนาจด้านพลัง เขาเลยให้ นาตาชา ไปทำภารกิจลับค้นหา ฮัลค์ โดยที่ไม่มีผู้ใดรู้

 

ดร.แบนเนอร์ หรือ ฮัลค์ ก่อนหน้าที่เขาจะเป็นฮัลค์ ในอดีต ร่างกายของเขาพลาดพลั้งจากการทดลองเเละถูกรังสีเเกมม่าเปลี่ยนร่างกายให้เป็นฮัลค์ เรื่องนี้ ทาง S.H.I.E.L.D. ได้ส่งคนมาตรวจสอบเเละสั่งค้นหารอบเเรกเพียงเเต่ก็ยังไร้วี่เเววจนนาตาชาได้ถูกส่งออกมา

 

เเม้เเต่นาตาชาก็ไม่คิดว่าเธอจะเสร็จสิ้นภารกิจในเร็ว ๆ นี้ ข่าวเรื่องการปลดนิคออกจากหัวหน้า S.H.I.E.L.D. ทำให้เธอรู้สึกช็อคอย่างมาก นาตาชา ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ นิค ย่อมรู้สึกไม่ดี เเต่เพราะเป็นผู้ที่เชื่อฟังเธอจึงปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมาต่อ

 

ทางด้านกัปตันโรเจอร์สเเน่นอนว่าเขาได้รับรู้ข้อมูลภารกิจของ นาตาชา เรียบร้อยเเล้ว เเต่เขาก็ปล่อยให้นาตาชาค้นหา ดร.แบนเนอร์ ต่อไป ความจริง หากได้ ฮัลค์มาเข้าร่วมทีมกับกัปตันโรเจอร์สด้วยความสามารถทางด้านพละกำลังเเละสติปัญญาของ ดร.แบนเนอร์ เขาจะสามารถช่วยให้ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ทีมX-men เเละ S.H.I.E.L.D. กลายเป็นสหพันธ์โลกได้เร็วขึ้น

 

ในระหว่างที่นาตาชากำลังเดินสำรวจมีเด็กผู้หญิงตัวน้อยอายุ 10 ปี กว่าวิ่งออกมาจากห้องที่ถูกทำลาย ร่างกายของเด็กผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก เห็นได้ชัดว่าเธอขาดสารอาหารเเละไม่ได้รับการเลี้ยงดูที่ดี เเต่มันก็เป็นเรื่องปกติในสลัมเเห่งนี้ เพราะมีบางไม่กี่ครอบครัวเท่านั้นที่สามารถรับประกันชีวิตตัวเองได้

 

เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ หลังจากที่วิ่งออกมาาจนเห็นนาตาชา เธอก็เดินกลับเข้าไป จน นาตาชารู้สึกสงสัยเลยตามไป

 

บ้านสลัมเเถวนี้มีพื้นที่ถูกทำลายจำนวนมากเเละสถานที่เหล่านี้คือบ้านพักของพวกไร้บ้านเเละพวกที่ไม่มีเงินซื้อที่อยู่ เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ได้วิ่งเข้าไปจนพบกับคนด้านใน นาตาชามองเข้าไป จนเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เธอได้สะกดรอยตามไปอีกครั้ง

 

ฟุ่บ!

 

ในที่สุดเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ก็ใช้หลายช่องทางในการวิ่งเดินทาง นาตาชา ไม่ได้รีบเเจ้นออกไปทันที เธอได้สังเกตุอย่างระวัง

 

เมื่อนาตาชาเดินเข้าไปเธอเห็นชาวบ้านหลายคนจากภายในกำลังมุงอะไรบางอย่างเเละดูเหมือนว่าจะมีหมอมารักษาโดยปกติเเล้วชาวบ้านทั่วไปย่อมไม่มีความสามารถในการจ้างหมอมารักษาคนเจ็บได้ นาตาชาจ้องมองเข้าไปจนสังเกตุเข้ากับใบหน้านึงที่ค่อนข้างคุ้นเคย

 

ในอดีต ดร.แบนเนอร์ หลังจากทำการทดลองล้มเหลว เขาได้มีความโกรธเเละกลายเป็นฮัลค์ เพื่อกำจัดหรือวิธีควบคุมฮัลค์อย่างสมบูรณ์เขาได้ลองทุกวิถีทางเช่นการศึกษาด้านวิยาศาสตร์ชีวภาพโดยการปรับปรุงยีน หลังจากผันตัวเเละมาที่สลัมเเห่งนี้ความสามารถของเขาสามารถช่วยรักษาคนยากคนนจนที่นี่ได้

 

หลังจากสังเกตุจนเเน่ใจนาตาชาที่เฝ้าจับตามองอยู่ครู่นึงได้ตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องนี้

 

 

ตึก ตึก!

 

เเจ็คสันได้พุ่งเข้าหาคิงพิน ขณะเดียวกันในมือของเขาก็ปรากฏสปิริตซอร์ด ตอนนี้สิ่งเเรกที่เเจ็คสันต้องการจะทำก็คือทำลายเฮลิคอปเตอร์ก่อนเป็นอันดับเเรก เเม้คิงพินจะไม่มีโอกาสหนีเมื่อเผชิญหน้ากับเขาเเต่เเจ็คสันจะไม่ทิ้งโอกาสให้ศัตรูอย่างเเน่นอน

 

ฟุ่บ!

 

เเสงไฟสีฟ้าได้วาดผ่านเฮลิคอปเตอร์ในเวลาต่อมาร่างของมันถูกเเบ่งเเยกของเป็นสองส่วนอย่างช้า ๆ จากนั้นก็เกิดประกายไฟเเละระเบิดกลายเป็นซากปรักหักพักบนวิลล่าเเห่งนี้

 

“ฉันจะฆ่าเเก!”คิงพินที่เห็น เเจ็คสัน ทำลายเครื่องมือหลบหนีของตัวเองเขาโกรธเเค้นเเละพุ่งเข้าหาเเจ็คสันทันที

 

เนื่องเพราะการหลบหนีไม่มีทางเกิดขึ้นได้ คิงพิน จึงเหลือตัวเลือกสุดท้ายนั่นก็คือการต่อสู้เเลกชีวิต ที่เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้ก็เพราะใช้ช่วงเวลาเเห่งชีวิตเเละความตายทุกวัน เขา วิลสัน ฟีสต์ ไม่ใช่คนธรรมดาเหมือนคนทั่วไป

 

“ดูเหมือนว่านายดูท่าจะโกรธมาก จนถึงปัจจุบันนายไม่สงสัยงั้นหรอว่าฉันเป็นใคร?”เห็นความโกรธของคิงพิน เเจ็คสันที่ยืนอยู่บนวิลล่าชั้นสูงสุดเหมือนกับคิงพิน หลังจากทำลายเฮลิคอปเตอร์เขาก็กล่าวถามออกมา

 

“เเกเป็นใคร?หรือว่าจะเป็น มิราจไนท์!!”ได้ยินคำถามของเเจ็คสัน รูปลักษณ์ของคิงพินเผยความตกใจเล็กน้อยเขาคาดเดาผู้ที่อยู่ในชุดคลุมสีดำสวมใส่หน้ากากสีดำคนนี้ว่า เป็นมิราจไนท์ หัวหน้าทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

“หืม?ดูเหมือนนายจะรู้จักฉัน ถ้านายรู้จักฉันนายคิดว่านายจะสามารถปะมือกับฉันได้งั้นหรอ?”เเจ็คสันกล่าวถามอย่างผ่อนคลาย

 

คิงพินนั้นได้รับผลกระทบเเรกเริ่มจากทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเละเกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ของอิทธิพลใต้ดินที่นิวยอร์ก เดิมมันมีเพียงเเค่ เเดร์เดวิล ที่ไล่ล่าเขา เเต่ตอนนี้ มันกลับพาพวกมาหาเขาพร้อมกับเริ่มทำลายทุกสิ่งอย่างที่เขาสร้างขึ้นมา

 

“หึ่ม! ถึงจะเป็นเเกเเล้วจะทำไม ฉันได้รับผลกระทบจากอิทธิพลทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเเกมาโดยตลอด ยังไงฉันกับเเกก็เป็นศัตรูกัน นอกจากนี้ เเกคิดว่าฉันที่อาศัยอยู่ในวงการใต้ดินมานานจนถึงทุกวันนี้เพราะยอมจำนนต่อคนอื่นหรือไง?”คิงพินกล่าวออกมา ดูเหมือนเขาจะตวาดใส่ เเจ็คสันอย่างรุนเเรง

 

“หืม?เหนือความคาดหมายของฉันจริง ๆ “เเจ็คสันเข้าใจคำพูดของคิงพินในที่สุด เขารู้ทันทีว่าคิงพินคงไม่ยอมเเพ้ง่าย ๆ เป็นเเน่

 

“ตายซะ!”

 

เห็นเเจ็คสันกำลังเผลอ

 

คิงพินได้หยิบปืนกลออกมาจากด้านหลังเเละกราดยิงใส่เเจ็คสันอย่างรวดเร็วเเจ็คสันไม่ได้เคลื่อนที่เข้าไปประชิดตัวของคิงพินเขาได้หลบเลี่ยงกระสุนที่พุ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในความเป็นจริงเเจ็คสันรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่า คิงพินจะซ่อนอาวุธไว้ที่ด้านหลัง ทั้งยังไม่รู้ว่าอาวุธเหล่านี้ถูกซ่อนเอาไว้ได้อย่างไร

 

ปัง ปัง ปัง

 

คิงพินได้กราดปืนกลยิงอย่างบ้าคลั่ง เเต่เเจ็คสันได้เลือกที่จะหยุดลงเเละรับการโจมตีโดยตรง การโจมตีเหล่านี้ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเเจ็คสันได้

 

“ความพยายามของนายเป็นสิ่งที่ดี เเต่มันไม่มีผลกับฉัน ยอมเเพ้ซะ จะได้ไม่เจ็บตัวเปล่า ๆ”เเจ็คสันยิ้มออกมาหลังจากเห็นเพื่อนคนนี้ต่อต้านเขา

 

“หึ่ม คิดว่าฉันจะยอมง่าย ๆ งั้นเรอะ!”เห็นมิราจไนท์ไม่เคลื่อนไหวคิงพินได้เริ่มเคลื่อนไหวเเทนเขาได้เก็บปืนกลเเละกระโดดลงจากวิลล่าชั้น 4 ลงไปที่ด้านล่าง

 

ตุบ

 

เเจ็คสันที่เห็นคิงพินกระโดดลงไปเขารีบกระโดดตามไปในทันที

 

พวกเขาทั้งสองคนได้กระโดดลงมาจากชั้นสี่ หาก คิงพิน เป็นบุคคลธรรมดาทั่วไปความสูงเช่นนี้ย่อมเพียงพอที่จะฆ่าเขาได้ เเต่เพราะร่างกายของเขามีความสามารถอันน่าประหลาดทำให้ทันทีที่ตกลงสู่พื้นเขาเลยไม่ได้รับความเสียหายเเม้เเต่น้อย

 

หลังจากกระโดดลงมาจากชั้นสี่คิงพินก็ได้ใช้เท้ายักษ์คู่ของตัวเองวิ่งหนีออกไปทางป่าเพื่อหลบหนี เขาเชื่อว่าตราบเท่าที่ตนเองใช้เส้นทางเป็นป่าผืนนั้นด้วยภูมิประเทศที่คุ้นเคยย่อมเพียงพอที่จะทำให้โอกาสหลบหนีของเขาเพิ่มขึ้น

 

เเจ็คสันจ้องมองทางที่คิงพินกำลังหนีไปเเต่ในขณะเดียวกัน สไปเดอร์เเมนก็ปรากฏตัวขึ้นที่ข้าง ๆ เขา

 

“เขากำลังหลบหนี,พวกเราควรรีบไล่ตามไปปไหม?”ปีเตอร์ได้กล่าวถามเเจ็คสัน

 

“ไม่ต้องรีบก็ได้…จริงสิทางด้านเเดร์เดวิลเป็นไงบ้าง?”เเจ็คสันล่าวถามปีเตอร์

 

“ดูเหมือนความเเข็งเเกร่งของเเดร์เดวิลจะเพิ่มขึ้นสูงมาก เเจ็คสัน ฉันได้ยินมาว่า เเดร์เดวิล ได้ฝึกฝนศิลปะต่อสู้มาจากนาย ถ้าเช่นนั้น ฉันอยากจะเรียนมันด้วยได้หรือไม่?”ปีเตอร์กล่าวถามเเจ็คสัน

 

สิ่งที่เเจ็คสันให้เเดร์เดวิลฝึกฝนก็คือ«ทักษะมังกรทะยาน »มันเป็นทักษะเเรกเริ่มที่เขาได้รับมาทั้งยังอยู่ในระดับต่ำมาก เขาเองก็ไม่คิดว่าเเดร์เดวิลที่ได้รับทักษะระดับต่ำนั่นจะสามารถฝึกฝนตัวเองจนเเข็งเเกร่งได้ขนาดนี้ เเละ ปีเตอร์ก็รู้มาว่าส่วนนึงของความเเข็งเเกร่งของเเดร์เดวิลในตอนนี้เกิดจากเทคนิคต่อสู้ที่เเจ็คสันให้เเดร์เดวิลเอาไว้

 

“นายต้องการเรียนทักษะต่อสู้?”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ เเจ็คสัน รู้ได้ในทันที

 

“เเม้ว่าฉันจะมีร่างกายที่เเข็งเเกร่งเเละยืดหยุ่นเเต่ฉันเองก็ต้องการศึกษาทักษะต่อสู้ มันจะดีมากหากฉันเเข็งเเกร่งขึ้นเเม้เพียงเล็กน้อยถึงงั้นมันก็ยังสามารถช่วยเหลือตัวฉันกับนายได้ในอนาคต”ภายใต้ความอยากรู้อยากเห็นของเเจ็คสัน ปีเตอร์ได้อธิบายโดยตรง

 

“ก็ได้,หลังจากกลับไปฉันจะสอนทักษะต่อสู้ให้นาย เเต่ฉันไม่รับประกันว่านายจะเข้ากับมันได้หรือไม่ นอกจากนี้พวกเรายังมีธุระที่ต้องรีบสะสาง”เเจ็คสันจ้องมองไปยังทิศทางที่คิงพินหลบหนี

 

วิสัยทัศน์ของเขาเฉียบคมมาก ขณะที่ คิงพินกำลงหลบหนีด้วยร่างอันมหึมาของเขา ชายสวมหน้ากากคลุมสีเเดงก็ได้เข้าปิดกั้นที่ด้านหน้าของคิงพิน ชายคนนี้ ก็คือ เเดร์เดวิล เขากับ คิงพิน คือศัตรูที่มีความเกลียดชังต่อกัน

เห็นเเจ็คสันหายตัวไปต่อหน้าต่อตาทั้งสองคนกลายเป็นตกใจเเละเตรียมท่าตั้งรับทันทีคนเหล่านี้มีความสามารถในการเสริมสร้างร่างกายเขาทำให้ร่างกายเเข็งเป็นหินเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นต่อด้านพลังป้องกันเขาใช้พลังของตัวเองในการป้องกันจุดสำคัญต่าง ๆ ของร่างกาย

 

“คิดว่าจะได้ผลงั้นหรอ?”พริบตาต่อมาเสียงของเเจ็คสันก็ได้ปรากฏขึ้นข้างหูของพวกเขาทำให้พวกเขาดีดตัวเเยกออกจากกัน

 

ฟุ่บ!

 

ทั้งสองคนได้พุ่งการโจมตีใส่เเจ็คสันอย่างต่อเนื่องราวกับหมัดจรวจการโจมตีจำนวนมากถูกปลดปล่อยออกมาเพียงเเต่เเจ็คสันหาได้สนใจเขาใช้เสต็ปเท้าในการหลบเลี่ยงมันได้ทั้งหมด

 

ฟุ่บ!

 

การปรากฏตัวขึ้นของเเจ็คสันได้ล่อทั้งสองคนที่อยู่ในห้องโถงภายในวิลล่าให้ไล่ตามเขา

 

ตึก ตึก!

 

ขณะเดียวกันที่เเจ็คสันใช้เสต็ปเท้าหลบเขาหาโอกาสก่อนที่จะปล่อยหมัดออกไปยังมิวแทนท์ที่มีร่างกายเป็นหิน ทางฝ่ายนี้เองก็ปล่อยออกเป็นใช่เดียวกันทั้งสองหมัดได้เข้าปะทะกันจากนั้นมิวแทนท์ที่มีร่างกายเป็นหินหมัดของเขาที่เคลือบด้วยหินกลับเเตกละเอียด ดูเหมือนพลังของทั้งสองคนจะต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

 

ด้วยความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันในตอนนี้ พวกมิวแทนท์ระดับ 3 ย่อมไม่ใช่คู่มือของเขา

 

หลังจากผ่านไปสองเดือนในช่วงเผชิญหน้าสถานการณ์กับพวกไฮดร้า ความเลวร้ายต่าง ๆ นา ๆ เเจ็คสันกลับได้รับมันมามากพอสมควรเเล้ว ดังนั้นการจัดการกับอิทธิพลใต้ดินธรรมดาเหล่านี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ยิ่งเป็นมิวแทนท์ระดับ ต่ำพวกนี้ด้วยเเล้ว พวกเขาไม่มีค่าพอให้เเจ็คสันต้องใส่ใจด้วยซ้ำ

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังรับมือกับด้านทางนี้ อีกสองทิศทางที่เหลือก็ถูกจัดการโดย สไปเดอร์แมน เเละ เเดร์เดวิล พวกเขาได้วางเเผนตีกรอบล้อมคิงพินเอาไว้ โดยมีเเกนนำคือ เเดร์เดวิล มิราจไนท์ เเละ สไปเดอร์แมน ธรรมชาติเเล้ว ยังมีคนของ S.H.I.E.L.D. ที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังพวกเขาคอยเก็บกวาดสนามรบที่เหลือ

 

 

ขณะที่พวกของเเดร์เดวิลกำลังมุ่งหน้าไปที่สถานที่อยู่ของคิงพิน,คิงพินที่นอนพักผ่อนอยู่เริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติสีหน้าของเขากลายเป็นมืดมน

 

“ดูเหมือนว่าเจ้าพวกนี้ไม่คิดจะปล่อยฉันไปง่าย ๆ งั้นสินะ!”เผชิญหน้ากับปัญหาอย่างกระชั้นชิด คิงพิน พึมพัมออกมา เขาหลบหนีออกมาซ่อนตัว ไม่คาดคิดว่าจะตามเจอตัวได้ง่าย ๆ

 

“พาฉันออกไป!”คิงพินได้กล่าวกับลูกน้องของเขาก่อนที่จะเตรียมพร้อมจะหลบหนีออกจากที่นี่

 

จะถึงอย่างไรเหล่าผู้คุ้มกันของเขาก็ยังคงเป็นมิวแทนท์ระดับ 3 เเม้จะไม่สามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะสามารถโค่นศัตรูลงได้หรือไม่ เเต่คิงพินย่อมรู้ว่าศัตรูเหล่านี้ไม่ธรรมดา หากสามารถซื้อเวลาให้เขาได้สักพักก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเเล้ว

 

คิงพินตั้งใจจะหลบหนีออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเป้าหมายของเขาก็คือการมีชีวิตรอดหากเขาสามารถรอดไปได้การกลับมาเเก้เเค้นภายหลังก็ยังไม่สาย เขาให้สัตย์สาบานว่าจะต้องจัดการกับคนเหล่านี้เเน่นอน

 

ตึก ตึก

 

คิงพินได้หลบหนีขึ้นไปยังชั้นบนสุดของวิลล่า ด้านบนมีเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของเขาจอดรอเอาไว้ทั้งภายในยังปรากฏนักบินดูเหมือนว่านักบินคนนี้จะได้รับการเเจ้งเตือนให้มาเตรียมพร้อมก่อนหน้านี้

 

“รีบสตาร์ทเครื่องเร็วเข้า!”คิงพินที่ขึ้นไปด้านบนเขาตะโกนกล่าวออกมา

 

ฟุ่บ!

 

นักบินไม่ลังเลที่จะสตาร์ทเครื่องในทันทีภารกิจของเขาก็คือพาคิงพินหลบหนีออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

 

ฟิ้ววว!!

 

ใบพัดเริ่มหมุนอย่างต่อเนื่องเเละถ่ายโอนอย่างรวดเร็ว ความหวาดกลัวในใจของคิงพินเริ่มลดลงเช่นเดียวกัน ตราบเท่าที่เขามีเวลาสักหนึ่งนาทีเขาจะสามารถหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้ เขาเชื่อว่าพวกมันย่อมไม่สามารถตามเขาได้ทันเว้นซะเเต่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะพกเครื่องบินมาด้วย

 

ฟุ่บ

 

ในขณะที่คิงพินกำลังก้าวไปข้างหน้าเพื่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์เงาร่างสีดำก็พุ่งออกมาจากทางด้านหลังของเขาก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นตามมาติด ๆ

 

“เร็วเข้า!”คิงพินไม่คิดเลยว่าศัตรูจะบุกขึ้นมาเร็วถึงขนาดนี้

 

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการหลบหนี

 

เพียงเเต่การขึ้นบินของเฮลิคอปเตอร์นั้นจำเป็นจะต้องใช้เวลา คิงพินรู้ดีว่าคงไม่อาจรอได้ทันเขาได้กระโดดลงไปพร้อมกับใช้ร่างกายอันใหญ่ยักษ์ร่างเต็มไปด้วยไขมันของเขาเตรียมเข้าปะทะกับศัตรู

 

ความสามารถทางกายของคิงพินสูงมากด้วยความผิดปกติทางร่างกาย ร่างกายของคิงพิน สามารถที่จะเข้าปะทะกับศัตรูนับ 10 ได้อย่างไม่มีปัญหา ตัวขนาดใหญ่ของเขาเเละไขมันจำนวนมากถือเป็นโล่ป้องกันชั้นดี เขาราวกับรถถังเดินได้ยังไงยังงั้น

 

ขณะที่คิงพินกระโดดลงไปเตรียมจะเข้าปะทะกับเงาร่างสีดำเขาก็โจมตีออกไปเพียงเเต่การโจมตีของเขาได้ทะลุผ่านเงาร่างสีดำนั้นไปเฉย ๆ

 

“เกิดอะไรขึ้น?”เห็นการโจมตีของตัวเองไม่ได้ผล คิงพิน รู้สึกตกใจอย่างมาก ก่อนหน้านี้ เเจ็คสันที่กำลังสู้กับพวกมิวแทนท์ระดับ 3 สองคน ทันทีที่เขาได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ดังขึ้น เขาก็เร่งฝีเท้าทั้งหมดเพื่อขึ้นมาด้านบนเเละทันทีที่เขาขึ้นมาเขาก็พบเจอกับตัวประหลาดไขมันยักษ์พุ่งเข้าหาตัวเอง

 

ตามข้อมูลที่ทาง S.H.I.E.L.D. ให้มา คิงพิน มีความผิดปกติทางร่างกาย ร่างกายของเขาเเข็งเเกร่งมาก เเต่เเจ็คสันหาได้สนใจในเรื่องนี้ ความสามารถของเขาในปัจจุบัน ระดับฝีมือของคิงพิน ไม่ใช่ปัญหายากเย็นอะไรด้วยซ้ำ หากเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากลดตัวมาจัดการเรื่องเล็กน้อยพวกนี้ เเต่เพราะนี่เป็นคำขอของเพื่อนร่วมทีมอย่างเเดร์เดวิล เพื่อจัดการ คิงพิน เป็นการส่วนตัว เเจ็คสัน จึงต้องจำใจเข้าปะทะกับรถถังมนุษย์คนนี้ด้วยตัวเอง เเจ็คสันที่หลบการโจมตีเขาได้โดดกลับหลังก่อนที่จะหยุดลงที่พื้นเขาได้เดินไปด้านหน้าหลายก้าวก่อนที่จะรีบวิ่งไปที่เฮลิคอปเตอร์ด้านหน้าอีกครั้ง

นิวยอร์กเมืองเล็ก ๆ เเห่งนึงที่อยู่ไกลออกไปของสหรัฐอเมริกาที่เเห่งนี้เเท้จริงเเล้วคือขุมกำลังชักนำที่คอยควบคุมอาณาจักรเเก๊งใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา:วิลสัน ฟีสต์ หรือ คิงพิน ได้ลาพักหยุดอยู่ที่นี่ จะว่าลาพักหยุดก็คงไม่ถูก จริง ๆ เเล้ว คิงพิน กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในตอนนี้

 

การที่คิงพินสามารถควบคุมเเก๊งใต้ดินขนาดใหญ่ได้หลายปีโดยที่ไม่ถูกจับกุมเห็นได้ชัดว่าเขามีความสามารถอย่างมาก เเต่สถานการณ์ช่วงนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก อิทธิพลที่เขาสะสมมาหลายปีกำลังไล่กรวดเเละถูกทำลายลง เนื่องเพราะ เเดร์เดวิล ในช่วงนี้ ได้เข้าจู่โจมอิทธิพลของ คิงพิน จนทำให้ คิงพินรู้สึกได้ถึงอันตรายบางอย่าง

 

คิงพินไม่ได้สนใจเเดร์เดวิล เเต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาพบว่าเเดร์เดวิลที่เป็นตัวตนที่อ่อนเเอ เขาได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมที่เเข็งเเกร่งอย่างทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ คิงพิน จึงไม่ได้ออกปรากฏตัวในช่วงนี้ เขาคอยควบคุมเเก๊งอิทธิพลใต้ดินอยู่ในเงามืด

 

ฟู่วว~

 

บนชั้นสองของวิลล่าที่สวยหรู คิงพิน กำลังนอนหลับอย่างผ่อนคลาย สถานที่เเห่งนี้เป็นวิลล่าส่วนตัวของ คิงพิน เเละ เป็นสถานที่ลับที่มีเพียงผู้ที่เขาไว้ใจเท่านั้นที่รู้ คิงพิน ตั้งใจว่าจะหลบอยู่ที่นี่ไปซักพักเเละค่อยกลับไป เขาไม่ต้องการถูกรบกวนโดยเเดร์เดวิล เเละ เหล่าทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์

 

“ตอนนี้คงจะไม่สามารถกลับไปในนิวยอร์กได้ชั่วคราว,เเดร์เดวิล เเละ ไอ้คนพวกนั้น หากไม่ใช่เพราะพวกมันฉันคงไม่สูญเสียกำลังคนมากในช่วงสองเดือนที่ผ่านมานี้”คิงพิน กล่าวพึมพัมออกมา

 

ตั้งเเต่มิราจไนท์ปรากฏตัวขึ้นครั้งเเรก ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ก็ได้โจมตีนิวยอร์กพวกอิทธิพลใต้ดินหลายฝ่าย โดยเฉพาะการร่วมมือกับเเจ็ค การจัดการครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์ที่เป็นอิทธิพลใต้ดินที่ยิ่งใหญ่ถือเป็นผลเสียอย่างมากสำหรับพวกมาเฟียโลกมืดอย่างคิงพิน จากนั้นเเจ็คก็เข้าควบคุมครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์เเละเริ่มทำการเก็บกวาดพวกอิทธิพลมืดต่าง ๆ จำนวนมาก

 

“ตั้งเเต่เมื่อไหร่กัน ที่เจ้าพวกฮีโร่พวกนี้มีจำนวนมากขนาดนี้? เอาเถอะ พวกเเกคอยก่อนเถอะ ฉันบอกได้เลยว่าไม่นานเกินรอ”เมื่อนึกถึงมิราจไนท์เเละคนอื่น ๆ ที่โจมตีอิทธิพลใต้ดินในนิวยอร์ก คิงพิน คิดอย่างขมขื่น

 

ความเเข็งเเกร่งของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาถือว่าเเข็งเเกร่งมาก ยิ่งการได้รับการสนับสนุนด้านข้อมูลจาก เจอร์รี่ ด้วยเเล้ว ทำให้พวก เเดร์เดวิล เเละ เเจ็ค ไล่เก็บกวาดอิทธิพลของพวกคิงพินได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่

 

เเต่อาณาจักรโลกใต้ดินพวกนี้ก็ไม่สามารถประมาทได้การทำลายไปหนึ่งจะเพิ่มเป็นสองทำลายสองเพิ่มเป็นสามมันเป็นเช่นนี้เสมอมา คิงพินตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่ซักพักรอเขารวบรวมกำลังคนได้มากพอค่อยคิดบัญชีเเค้นคืน

 

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือความปลอดภัยของเขา ตราบเท่าที่เขายังมีชีวิตรอดอยู่ปลอดภัยการเเก้เเค้น 10 ปี ก็ยังไม่สาย เมื่อพูดถึงทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ คิงพินได้ส่งหน่วยข่าวกรองของเขาออกไปสืบสวนนานเเล้วเเต่ข้อมูลที่มีนั้นกลับมีน้อยจนเเทบจะไม่สามารถเรียกว่าเป็นข้อมูลได้

 

“โชคดีที่สองสามวันที่ผ่านมามีบางคนได้เตือนฉันก่อน ไม่งั้นฉันคงไม่สามารถหลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ได้ทันการเเน่”

 

‘วัลสันหากเเกยังห่วงชีวิตอยู่ล่ะก็รีบหนีไปซะตั้งเเต่ยังมีโอกาสหากไม่เเล้วล่ะก็เเกคงรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น’ วิลสันยังจำได้ดีถึงจดหมายเเจ้งเตือนลึกลับฉบับนี้ เขาไม่รู้ว่ามันเป็นของใคร เป็นของอิทธิพลที่อยู่ในความร่วมมือของเขาหรือไม่ หรือเป็นของฝ่ายตรงข้าม เเต่ คิงพิน ที่มีความระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ย่อมตรวจสอบที่มาของจดหมายฉบับนี้อย่างเเน่ชัด จนเขามั่นใจว่ามันคือของจริง ดังนั้นเขาจึงได้จ้างพวก มิวแทนท์ 5 คนที่เเข็งเเกร่งมาช่วยอารักษ์ขาเขาที่วิลล่าเเห่งนี้

 

เขาเป็นกังวลใจอยู่ตลอดไม่ใช่เพราะจดหมายเตือนฉบับนั้นฉบับเดียวหากเขาจะถูกสังหารตอนนี้ที่นี่ก็ไม่เเปลกเพราะนอกเหนือจากทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเล้วก็ยังมี องค์กร S.H.I.E.L.D. เข้ามาร่วมด้วย หน่วยข่าวกรองของพวกเขาสุดยอดมาก สถานที่ซ่อนตัวของคิงพินทั้งหมดต่างถูกทำลายลงในระยะเวลาอันสั้น ๆ โดยฝีมือคนเหล่านี้

 

คิงพินที่จนตรอกเขาไม่รู้จะทำอย่างไรดี หากเขายังมีชีวิตอยู่การเเก้เเค้นย่อมเกิดขึ้นได้เสมอเเต่การที่เขาสูญเสียกองกำลังอิทธิพลใต้ดินไปจำนวนมากมันไม่ใช่ระยะเวลาที่จะฟื้นฟูได้ในเร็ว ๆ นี้อย่างเเน่นอน

 

ฟุ่บ!

 

ขณะเดียวกันในวิลล่าของคิงพินหลังนี้มีเงาร่างหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นข้างในเงาร่างนี้ได้บุกรุกเข้าสู่วิลล่านี้โดยไม่ได้เกรงกลัวสิ่งใด เจ้าของเงาร่างนี้ก็คือ เเจ็คสัน

 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาได้ออกทำลายอิทธิพลพวกคิงพิน เพราะอิทธิพลของพวกคิงพินคือเป้าหมายส่วนตัวของ เเดร์เดวิล เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็ยินดีที่จะช่วยเหลือในการกำจัดพวกองค์กรใต้ดินชั่วร้ายเหล่านี้หากพวกมันสูญเสียตัวการสำคัญไปไม่นานอิทธิพลใต้ดินเหล่านี้ก็จะเเตกเเยกออกจากกัน จากนั้นการทำลายพวกมันก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีก เเละเเจ็คสันก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา หากเขาทำลายอิทธิพลของพวกคิงพินทั้งหมด เขาจะบรรลุภารกิจเควสลับหรือไม่

 

“เเกเป็นใคร!?”ขณะเดียวกันชายสองคนที่มีหน้าที่เฝ้าคุ้มกันบ้านพักหลังนี้ทันทีที่เห็นชายสวมหน้ากากปรากฏตัวขึ้นพวกเขาตะโกนถามออกมา พวกเขาทั้งสองคนคือ มิวแทนท์ระดับ 3 มิวแทนท์ทั้งสองคนนี้เป็นคนที่ชั่วร้ายอย่างมากพวกเขาทำงานสกปรกทั้งหมดที่ได้รับเงินทั้งยังเคยเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์มาจำนวนมาก เเน่นอนว่าเเจ็คสันไม่ลังเลที่จะจัดการทั้งสองคนนี้

 

“ฉันเป็นใคร?ที่จริงพวกเเกไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร เพราะพวกเเกกำลังจะถูกลงทัณฑ์ในไม่ช้า”ด้านหน้าทั้งสองคน เเจ็คสันเเสยะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาต่อมาเเจ็คสันก็หายตัวไปในเวลาเดียวกัน

ผ่านไป 20 นาที หลังจากที่เควสภารกิจหลักของเขาเสร็จสิ้นเทียบกับความตื่นเต้นก่อนหน้านี้เเจ็คสันในตอนนี้สงบลงอย่างมากเเต่เขาก็ไม่สามารถปกปิดความดีใจหลายส่วนที่ได้รับของขวัญเควสภารกิจคราวนี้ได้เยียมยาบาดเเผลทางจิตใจทั้งหมดของเขาที่ผ่านมา

 

“ของพิเศษสามรายการจากกล่องทองคือ อันเเรก ผลไม้จิตวิญญาณฟ้า จาก โลกเมฆาเร้นลับ ตามคำอธิบายของระบบ สิ่งนี้คือผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีมูลค่ามากกว่า 10,000 เเต้มคะแนน เป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของนักรบเมฆาของโลกเมฆาเร้นลับ”

 

“สิ่งที่สองคืออาวุธระดับเทพ :ซอร์ดสปิริต ตามการประเมินของระบบมันควรจะเป็นอาวุธระดับ B ก็ดีเลยฉันต้องการเปลี่ยนอาวุธใหม่อยู่พอดี”ในเวลาเดียวกันในมือของเเจ็คสันก็ปรากฏดาบยาวขึ้นพร้อมกับฝักดาบ

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้ดึงดาบออกจากฝักโดยตรง มันเป็นดาบยาวที่มีความยาวมากกว่าหนึ่งเมตรสะท้อนเเสงสีฟ้าภายในตัวดาบ ราวกับว่ามันมีชีวิต หากเเจ็คสันต้องการเเลกเปลี่ยนมันในร้านค้าระบบเขาต้องการเเต้มคะแนนมากกว่าหนึ่งหมื่นเเต้มคะแนน อาวุธเกรด B นั้นคุณภาพถือว่าสูงอย่างมาก เหมาะเเก่พวกที่เป็นนักรบกำลังภายใน ดูเหมือนว่าระบบจะเเจกจ่ายตามรางวัลความเหมาะสมของโฮสต์

 

ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้ดาบสายฟ้ามาคุณภาพของมันสามารถทำให้เขาสามารถต้านทานมิวแทนท์ระดับ 4 ได้อย่างสมบูรณ์ ส่วนซอร์ดสปิริตนั้นอย่างน้อยมันย่อมเเข็งเเกร่งกว่าดาบสายฟ้าสองเท่ามันมีความสามารถในการตัดทอนการป้องกันของศัตรูหรือก็คือการสะบั้นตัดศัตรู

 

หากเป็นไปตามที่เขาคาดเดาล่ะก็ซอร์ดสปิริตนี้เพียงพอที่จะทำให้เเจ็คสันสามารถที่จะเเข็งเเกร่งขึ้นโดยไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนอาวุธอีก เขาจำเป็นจะต้องเติบโตขึ้นเเละเตรียมพร้อมร่างกายเพื่อรองรับอาวุธศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับค้อนเทพเจ้าสายฟ้าในอนาคต

 

อาวุธใหม่ของเเจ็คสันเป็นดาบยาวที่มีพื้นที่อิสระเชื่อมโยงกับชุดสูทของเขาถือว่าเป็นการอัพเกรดชุดไปภายในตัวด้วยมันทำให้ชุดสูทของเเจ็คสันได้รับการพัฒนาเเละเเข็งเเกร่งมากขึ้น

 

“รายการที่สามเป็นอุปกรณ์พิเศษ เป็น อุปกรณ์ระดับ B เมชาเกราะพลังงาน สิ่งนี้เหมือนกับเตาปฏิกรณ์อาร์คเเหล่งพลังงานขนาดเล็กของชุดเกราะไอรอนแมน”ทั้งสามรายการที่เเตกต่างกันนั้นมีเพียงรายการที่สามที่เเจ็คสันไม่สามารถนำมันมาใช้ได้ในปัจจุบัน

 

เเต่เเจ็คสันเชื่อว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับงานวิจัยที่ยิ่งใหญ่ อารยธรรมโลกนั้นพึ่งพาวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีเป็นหลัก ในอนาคต อุปกรณ์เทคโนโลยีของโลกจะต้องพัฒนาขึ้นอย่างมาก เเละ โทนี่ ถือเป็นบุคคลจำเป็นสำหรับเรื่องนี้ โทนี่ยังต้องเรียนรู้อีกมากเพื่อที่จะพัฒนาอุปกรณ์เทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์ที่เเข็งเเกร่งมากขึ้นไปอีก สำหรับ เมชาเกราะพลังงานนี้ เเจ็คสันวางเเผนที่จะยังไม่ศึกษามันเร็ว ๆ นี้เเน่นอน

 

“เเต้มคะแนนของฉันมีจำนวนมากก็จริง เเต่ฉันจะเก็บเอาไว้ 100,000 เเต้ม ที่เหลือไปลงที่เเท่นบูชา ฉันต้องการให้ระบบฟื้นคืนชีพขึ้นมาโดยเร็ว ระบบได้ตอบสนองฉันมาสองรอบเเล้ว ตอนนี้ฉันอยากที่จะพบเขาเร็ว ๆ หากระบบฟื้นคืนชีพขึ้นมาฉันจะได้รับคำแนะนำที่ดีอีกมากมายที่นำไปสู่ความเเข็งเเกร่งของฉัน”

 

เนื่องจากเเจ็คสันจำต้องเหลือคะแนนไว้เผื่อยามจำเป็นดังนั้นเขาจึงไม่ได้ลงไปกับเเท่นบูชาทั้งหมดเรื่องของระบบนั้นเเจ็คสันย่อมไม่มีทางลืมบุญคุณอย่างเเน่นอน

 

เพราะหากระบบคืนชีพขึ้นมาเขาจะได้รับผู้สนับสนุนเเละผู้เเนะนำที่น่ากลัว

 

หากไม่มีความช่วยเหลือจากระบบบางทีเขาอาจไม่สามารถใช้ช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดของตัวเองได้ การเเนะนำจากระบบมีค่าช่วยให้เเจ็คสันเเข็งเเกร่งขึ้น เเจ็คสันรู้อยู่เสมอว่าระบบจะให้คำแนะนำที่ช่วยให้เเจ็คสันเเข็งเเกร่งขึ้น ตอนนี้เเจ็คสันต้องการหาวิธีที่จะเเข็งเเกร่งขึ้นโดยเร็วเขาหวังพึ่งพาความสามารถการเเนะนำอันน่ากลัวของระบบ

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังจัดระเบียบของรางวัลภารกิจโทรศัพท์มือถือที่อยู่ข้างเตียงก็ได้ดังขึ้น เเจ็คสันรู้สึกตกใจก่อนที่เขาจะกวาดสายตาเเละหยิบมันขึ้นมากดรับโดยตรง

 

“มิราจไนท์ คุณมีเวลาว่างไหม?ตอนนี้เรามีภารกิจ”หลังจากเชื่อมต่อเสียง เเดร์เดวิล ก็ได้กล่าวขึ้นมา

 

“หืม?กัปตันโรเจอร์สจะช่วยเเก้ปัญหาคนเหล่านี้งั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของเเดร์เดวิล เเจ็คสันรู้ในทันที

 

เเมตต์ต้องการหาตัว วิลสัน ฟีสต์ เขาต้องการลบ คิงพินออกจากโลกมืด เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์คือผู้สนับสนุนหลักเเต่เพราะคิงพินอาศัยในโลกมืดมานานการเคลื่อนไหวของพวกเขาจะทำให้อิทธิพลของพวกมันเเตกตื่นเเละทำให้คิงพินหนีหายไปได้ ดังนั้น เเดร์เดวิล จึงได้ขอยืมมือกัปตันโรเจอร์ส S.H.I.E.L.D. ในการเเก้ปัญหาเรื่องนี้

 

เดิมทีเเจ็คสันไม่คิดว่ากัปตันโรเจอร์สจะตอบตกลงง่าย ๆ การได้ S.H.I.E.L.D. มาช่วยกำจัดอิทธิพลเล็กน้อยเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องดี

 

“อืม,กัปตันโรเจอร์สจะเข้าควบคุม S.H.I.E.L.D. เป้าหมายของเขาคือการจัดระเบียบภายในเเละภายนอกเเต่อิทธิพลของพวก คิงพินก็ไม่ธรรมดา เเต่หากกัปตันโรเจอร์สที่มีชื่อเสียงอันยาวนานลงมือเองล่ะก็เรื่องนี้คงได้รับการเเก้ไขโดยไว”

 

.”หลายปีที่ผ่านมาพวกอิทธิพลใต้ดินได้รับประโยชน์มากมายจากวิลสัน เพราะวิลสัน ได้รับการขยายอิทธิพลอย่างต่อเนื่องเเละเข้าควบคุมโลกมืดอย่างเเท้จริง ดังนั้นพวกเราไม่ควรปล่อยมันไว้ให้เป็นเสี้ยนหนามในอนาคต”เเดร์เดวิลตอบ

 

อิทธิพลของ คิงพิน เเน่นอนว่าย่อมไม่เป็นปัญหาลุกลามเเต่มันจะทำให้ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องพลอยเดือดร้อนตอนเเรกที่เเจ็คสันเริ่มต้นการเป็นฮีโร่คนเเรกที่เขาเจอก็คือเเดร์เดวิลพวกเขามีพันธะข้อตกลงกันในการจัดการคิงพินเเละลบล้างอิทธิพลมืดทั้งหมด

 

“เข้าใจเเล้ว มันถึงเวลาที่พวกเราจะต้องทำลายอาณาจักรมืดของวิลสัน!”เเจ็คสันกำหมัดเเน่น เขาเองได้รับรางวัลเเละไอเท็มมากมายดังนั้นเเจ็คสันจึงต้องการทดสอบตัวเองในตอนนี้

 

สามวันต่อมาเเจ็คสันที่อยู่ทำการทดลองจนเสร็จเขาได้กลับบ้านเพื่อพักผ่อนเเต่ในจิตใจของเขาก็มีเสียงของระบบดังขึ้น

 

เควสภารกิจหลัก : กำจัดองค์กรไฮดร้าโดยสมบูรณ์ ขอเเสดงความยินดีกับโฮสต์ที่สำเร็จภารกิจหลักเราจะทำการส่งของรางวัลที่สอดคล้องเเละช่วยเพิ่มผลประโยชน์โดยรวมไปให้”ประสบการณ์สองเดือนคราวนี้องค์กรไฮดร้าก็ถูกลบหายออกไปจากโลกอย่างสมบูรณ์

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากได้ยินเสียงเตือนในจิตใจเเจ็คสันที่อยู่บนเตียงเเละกำลังจะหนุนหมอนนอนเขาได้ดีดตัวลุกขึ้นมาเขาได้ทำการวิจัยกับโทนี่จนลืมเรื่องภารกิจหลักตอนนี้องค์กรไฮดร้าถูกลบให้หายออกไปจากโลกเเล้ว

 

“ฮ่าฮ่า,ในที่สุดเควสภารกิจหลักก็เสร็จซักที! รอตั้งนาน! ครั้งก่อนทันทีที่กำจัด เร้ด สกัลล์ ก็ได้รับรางวัลจากเควสภารกิจซ่อน 50,000 เเต้ม คราวนี้จะเป็นอะไรนะ!”หลังจากผู้ที่เคยตกต่ำจนกลับมาเป็นเศรษฐีอีกครั้ง เเจ็คสันดีใจอย่างมาก

 

ฟิ้วว!

 

เเจ็คสันได้นอนหลับเเละจมลงจิตใจของเขาคราวนี้ตัวอักษรสีทองค่อย ๆ หายไปอย่างช้า ๆ เเจ็คสันมองไปที่ตำเเหน่งเดิมมันปรากฏกล่องเเวววับสามกล่อง ธรรมชาติ เเจ็คสันรู้สึกตื่นเต้นปริมาณของ ของรางวัลคราวนี้เขารู้สึกลุ้นอย่างมากว่าจะได้อะไร

 

หลังจากบรรลุเควสภารกิจลับก็ได้รับรางวัลมา 50,000 เเต้มคะแนน เเม้เขาจะซื้อของเเละใช้บริจาคให้กับเเท่นบูชาไป 20,000 เเต้ม โดยรวมเเล้วเขาก็ยังเหลือทิ้งไว้อีก 20,000 เเต้มในกรณีฉุกเฉิน เเละคราวนี้ เขาก็ยังได้รับเเต้มคะแนนรางวัลอีก ตอนนี้เขาได้รับรางวัลมาอีก 100,000 เเต้ม

 

“ภารกิจคราวนี้ให้ค่ารางวัลเเต้มคะแนนถึง 100,000 เเต้มคะแนน!?”เเจ็คสันจ้องมองตัวเลขสีทองที่ปรากฏหัวใจของเขากระเพือมอย่างสั่นไหว

 

หากรวมกับของเดิมของเขาก็เท่ากับว่าเเจ็คสันมีเเต้มคะแนนมากกว่า 120,000 เเต้ม จากนั้นตัวอักษรสีทองก็หายไปอีกครั้ง เป็นครั้งเเรกที่เเจ็คสันได้สัมผัสเเต้มคะแนนจำนวนมากขนาดนี้ เเม้จะเป็นภารกิจหลักเเต่ก็มีผลตอบเเทนที่เกินคาดหากประเมินโดยรวมเเล้วล่ะก็ ภารกิจที่เกี่ยวข้องกับองค์กรไฮดร้าคราวนี้ได้รับรางวัลเเต้มคะแนนมากกว่า 150,000 เเต้ม

 

“ยังมีอีกงั้นหรอ?”จากนั้นเเจ็คสันก็มองเเสงสีทองที่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

 

~

 

เเจ็คสันจ้องมองไปที่ของรางวัลตาไม่กระพริบเเต้มคะแนนของเขายังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุด จนในที่สุดมันก็หยุดลงที่ 170,000 เเต้ม เควสภารกิจเกี่ยวกับไฮดร้าคราวนี้ให้ผลตอบเเทนมากถึง 200,000 เเต้ม! เเม้เเต่เเจ็คสันก็ไม่กล้าจินตนาการถึงตัวเลขขนาดนี้

 

“!!! 170,000 เเต้ม!?”เเจ็คสันขยี้ตาหลายครั้งราวกับว่าไม่เชื่อในสายตาของตัวเอง ด้านหน้าของเขามันเป็นตัวเลขจำนวนเเต้มคะแนนที่มากเกินไป ด้วยเเต้มคะแนนขนาดนี้เเจ็คสันสามารถซื้อของในร้านค้าในระบบได้เเทบทุกอย่าง

 

“ฮ่าฮ่า, 170,000 เเต้ม มันคือ 170,000 เเต้มจริง ๆ ฉันไม่ได้ตาฝาด ฉันรวยเเล้ว หลังจากนี้ไปฉันจะทะยานความเเข็งเเกร่งขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง”เเจ็คสันที่หายจากอาการช็อคเขาได้ตะโกนอย่างตื่นเต้นทันที

 

ฟู่วว!

 

“170,000 เเต้ม เเม้นี่จะเป็นเเต้มจำนวนมากเเละเป็นช่วงเวลาที่ร่ำรวยที่สุดในชีวิตของฉัน ฉันต้องสงบเข้าไว้ฉันจะพัฒนาสายเลือดโลหิตตัวเองดีหรือไม่ มันจะทำให้ฉันเเข็งเเกร่งขึ้นได้! เอาไรดีน้า สายเลือดคนยักษ์ ก็ไม่เลว “เเจ็คสันได้ดึงดูดเเต้มคะแนน 170,000 เเต้มมาก เขาสามารถเเลกเปลี่ยนอะไรก็ได้ทำให้จิตใจของเขายากที่จะสงบ

 

เป็นเวลาเกือบ 10 นาที ก่อนที่เเจ็คสันจะสงบลงได้จริง ๆ

 

เขาพึ่งตระหนักได้ว่า เเต้มคะแนน 170,000 เเต้มนี้ ไม่สามารถใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายได ในขั้นต้นที่เขาถูกทำร้ายโดนค้อนเทพเจ้าสายฟ้า ระบบได้เสนอทางเลือกให้กับเขาหากเขาอยากได้รับความเเข็งเเกร่งของค้อนเทพเจ้าสายฟ้าเขาจะต้องมีเเต้มคะแนนมากกว่า 1.5 ล้านคะแนน จำนวน 170,000 เเต้มคะแนนของเขา เเทบจะเป็น 1 ใน 10 ของราคาดังกล่าว

 

“มันถือเป็นเรื่องที่ดีหากฉันจะใช้มันพัฒนาความเเข็งเเกร่งเเต่ฉันก็ต้องคิดอย่างรอบคอบ หากระบบฟื้นคืนชีพขึ้นมา ฉันคงจะสามารถพิจารณาเเละได้รับการชี้เเนะที่ดีจากเขา”เเจ็คสันที่ต้องการเสริมความเเข็งเเกร่งเขาได้หยุดคิดอยู่ครู่นึง

 

“จริงสิ ฉันควรจะดูของรางวัลพิเศษ อื่น ๆ นอกจากเเต้มคะแนนก่อน”เเจ็คสันเกือบลืมไปว่าเขายังมีกล่องสีทองที่ด้านหน้าอีกสามกล่องที่รอเขาเปิดอยู่

 

“เควสภารกิจที่มอบรางวัลโดยรอบ 200,000 เเต้ม ของรางวัลพิเศษสมควรไม่ธรรมดาด้วยเช่นเดียวกัน”เเจ็คสันคิดขณะนั้นเขาก็เปิดกล่องใบเเรก

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากเปิดกล่องใบเเรกเเสงสีฟ้าจำนวนมากได้ถาโถมออกมาเเละตรงเข้าสู่ร่างกายของเเจ็คสันมันทำให้ร่างกายของเเจ็คสันเปล่งประกายเเส่งสีฟ้าไปทั่วร่าง

 

ความรู้สึกที่เย็นชาเหล่านี้เเจ็คสันเพิ่งจะเคยรู้สึกเป็นครั้งเเรกในขณะที่ร่างกายยังมีสติ

 

“นี่คือ…ผลไม้จิตวิญญาณฟ้า?”รัศมีสีฟ้าอันเข้มข้นได้เจือร่างของเเจ็คสันอย่างอบอุ่น

 

“ผลไม้จิตวิญญาณฟ้า ถือเป็นสมบัติอันมีค่าที่มีผลช่วยในการรักษาที่มหัศจรรย์ ผลของมันช่วยเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งให้กับร่างกายได้เป็นพิเศษ”หลังจากรู้ว่าเป็นผลไม้จิตวิญญาณฟ้า เเจ็คสันก็รู้สึกตื่นเต้น

 

“ผลไม้จิตวิญญาณฟ้า สิ่งนี้ใช่สมบัติจากอีกโลกหนึ่งหรือไม่?”เเจ็คสันรู้สึกประหลาดใจในเวลาเดียวกัน

 

เเม้ระบบจะมีสิ่งของอำนวยความสะดวกมากมาย เเตสิ่งของพิเศษนี้ราวกับมาจากโลกใบอื่น เเจ็คสันเคยใช้สิ่งนี้มาก่อนมันมีผลคล้ายกับโพชั่นน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเขา สิ่งนี้เป็นของพวก เอลฟ์ มันเป็นโพชั่นที่ช่วยในการรักษาเเละเป็นอุปกรณ์จากต่างโลก

 

“ไม่รู้ว่าสิ่งนี้มาจากต่างโลกจริงหรือไม่ยังมีอีกหลายเรื่องที่เเม้เเต่เราเองก็ยังไม่รู้เอาเถอะเเต่ผลตอบเเทนเป็นผลไม้จิตวิญญาณฟ้านี้ก็ไม่เลวร่างกายของฉันค่อนข้างอ่อนเเอมากในตอนนี้”เเจ็คสันปรับอารมณ์อย่างรวดเร็ว

 

หังจากเปิดกล่องเเรกเป็นผลไม้จิตวิญญาณฟ้า เขาก็มุ่งหน้ามากล่องที่สอง เเจ็คสันคาดหวังว่าจะได้รับอะไรดี ๆ จากกล่องรางวัลพิเศษโดยไม่จำเป็นที่เขาจะต้องเสียเงินไปในการซื้อของในร้านค้าระบบ

 

“โอม…ขอให้กล่องที่สองมีเเต่สิ่งดีดี ด้วยเถอะ!”เเจ็คสันยิ้มอย่างรื่นเริงก่อนที่จะเปิดกล่องทองใบที่สอง

หลังจากสิ้นสุดบทสนทนาอันเรียบง่ายนี้เสร็จ เบื้องหลังของกัปตันโรเจอร์สมีเงาร่างร่างนึงได้เเอบซ่อนตัวอยู่ในเงามืดตั้งเเต่ต้นจนจบเขาไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

“นิค มันถึงเวลาเเล้วที่คุณต้องไป องค์กร S.H.I.E.L.D. ต่อจากนี้จะดีขึ้นมาก”หลังจากบุคคลนั้นออกไปกัปตันโรเจอร์สเเหงนหน้ามองฟ้าพร้อมกับกล่าวเสียงเบา ๆ

 

ฟุ่บ!

 

ขณะเดียวกันก็มีเสียงดังตาม ๆ มา มันเป็นเสียงฝีเท้าของเงาร่างเมื่อครู่

 

กัปตันโรเจอร์สย่นคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะหันหลังกลับไปเขารู้ในทันทีว่าคนที่ด้านหลังคือใคร

 

“เเดร์เดวิล คุณมีธุระอะไรกับฉัน?”คนที่อยู่ด้านหลังของกัปตันโรเจอร์สก็คือเเดร์เดวิล กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามออกมา คนคนนี้ไม่เพียงเเต่เป็นสมาชิกทีม อเวนเจอร์ส เขายังเป็นคนของ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

“กัปตันโรเจอร์สฉันมีเรื่องที่อยากจะเล่าให้คุณฟัง”ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์สเเดร์เดวิลกล่าวเปิดปากพูดโดยตรง

 

“มีเรื่องอะไรงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของเเดร์เดวิลกัปตันโรเจอร์สเองก็รู้สึกสนใจ

 

ต้องรู้ด้วยว่าความสามารถของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ในปัจจุบันไม่ธรรมดา เเละ เเดร์เดวิล ก็เป็นคนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เขาเเข็งเเกร่งมาก การที่เเดร์เดวิลเลือกที่จะพูดคุยกับคนโดยตรงทำให้กัปตันโรเจอร์สรู้สึกสนใจ

 

“ตอนเเรกที่ฉันเข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. เพราะฉันยอมรับเงื่อนไขของเจ้าหน้าที่โคลสัน เงื่อนไขหนึ่งในนั้นคือช่วยฉันจัดการศัตรูของฉัน อย่างไรก็ตามเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายเดือน เงื่อนไขที่ว่านั่นก็ยังไม่บรรลุผล ตอนนี้อดีตหัวหน้านิคก็ออกไปเเล้ว กัปตันโรเจอร์ส ฉันคิดว่าคุณพอจะช่วยเหลือเงื่อนไขนี้ของฉันได้”เเดร์เดวิล กล่าวกับพูดตรง ๆ

 

“ศัตรูของคุณ เป็นใคร?”ได้ยินเเดร์เดวิลพูดถึงศัตรูของเขา กัปตันโรเจอร์ส ตั้งหน้าตั้งใจฟังสำหรับเงื่อนไขที่ เจ้าหน้าที่โคลสันสัญญาเอาไว้เดิมไม่ได้สำคัญอะไรกับกัปตันโรเจอร์ส

 

“วิลสัน เฟรเก้”เผชิญหน้ากับคำถามของกัปตันโรเจอร์ส เเดร์เดวิล พูดชื่อที่ไม่มีวันจะลืมออกมา ธรรมชาติที่เขาเข้าร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็เพื่อการล้างเเค้น วิลสัน ฟีสก์ หรือ คิงพิน

 

เดิมเเดร์เดวิลได้ร่วมมือกับมิราจไนท์ในการต่อต้านอิทธิพลกองกำลังใต้ดินที่ชั่วร้าย เเละ วิลสัน ฟีสก์ คือหนึ่งในนั้น เเดร์เดวิล เเละ มิราจไนท์ได้ทำงานร่วมกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง พวกเขาตามไต่สืบสวนเรื่องของคิงพิน เเต่เเล้วอิทธิพลนี้ก็เงียบหายไป จน ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้ก่อตั้งขึ้นเเละเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ เรื่องนี้จึงได้รับการพักเบรกไว้ชั่วคราว

 

เเต่เเดร์เดวิล ก็ไม่มีทาง ลืม คิงพินได้ เป้าหมายเดิมของเขาก็ยังคงเป็น วิลสัน ฟีสก์ อยู่ดี เเดร์เดวิล ต้องการใช้หน่วยข่าวกรองของ S.H.I.E.L.D. ในการตามหาอิทธิพลของ วิลสัน ฟีสก์ เเต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่คืบหน้าจน เขาเริ่มรู้สึกว่าการเเก้เเค้นของตัวเองคงไม่มีวันบรรลุผล

 

เพราะ คิงพิน คือเจ้าพ่อมาเฟียหรือราชาของโลกมืดสถานะของมันค่อนข้างสูงทั้งยังมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก เบื้องหลังของมันซ่อนอิทธิพลลับไว้มากมาย การรับมือกับอิทธิพลที่ชั่วร้ายจำนวนมากไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เเละตอนนี้ อิทธิพลของมันก็คงเริ่มขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ จน เเดร์เดวิล รู้สึกปล่อยไว้ไม่ได้ ตอนนี้ นิคก็ถูกถอดถอนตำเเหน่งออกไปเเล้ว คนที่มีอำนาจมากที่สุดใน S.H.I.E.L.D. ก็คงจะเป็น กัปตันโรเจอร์ส เเดร์เดวิลต้องการให้ กัปตันโรเจอร์ส ช่วยเหลือเขาในเรื่องนี้ เพื่อจบศัตรูเเห่งโชคชะตาคนนี้ของเขาเสียที

 

“วิลสัน ฟีสก์ เขาเป็นใคร?”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้จักคนชื่อนี้

 

“มันคือเจ้าพ่อมาเฟีย เเละ ราชาเเห่งโลกใต้ดิน มันเป็นอาชญากรที่มีความโหดเหี้ยมอย่างมาก”เเดร์เดวิลกล่าวตอบความจริง

 

“ราชาเเห่งโลกใต้ดิน?”ได้ยินคำตอบของเเดร์เดวิล กัปตันโรเจอร์ส รู้สึกตกใจเล็กน้อยเเต่เขาก็ไม่ได้อะไรมาก เพราะการจัดการอิทธิพลใต้ดินธรรมดา ความเเข็งเเกร่งของ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ย่อมเพียงพออยู่เเล้ว ไม่จำเป็นจะต้องให้พวก S.H.I.E.L.D. ช่วยเหลือด้วยซ้ำ

 

“บุคคลผู้นี้ไม่ธรรมดาใช่มั้ย?”กัปตันโรเจอร์สถามคำถามนี้ออกไป

 

“ป่าวเลย มันเป็นราชาของโลกใต้ดิน มีอิทธิพลใต้ดินหนุนหลังมากมาย เเน่นอนว่าพวกเราไม่สามารถเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้าได้ เพราะ วิลสัน ฟีสก์ เป็นคนขี้ระเเวง มันรู้ว่ามันควรจะรับมืออย่างไรเมื่อไหร่ควรถอยเมื่อไหร่ควรสู้ ดังนั้นฉันจึงต้องการความช่วยเหลือจาก S.H.I.E.L.D.”เเดร์เดวิล ตอบ

 

กัปตันโรเจอร์สเข้าใจในทันที S.H.I.E.L.D. วิลสัน ฟีสก์ ไม่ใช่ตัวตนที่เเข็งเเกร่ง เเต่อิทธิพลอย่าง ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ล้วนสะดุดตาเกินไป มันจะทำให้คนเหล่านี้ไหวตัวทัน ดังนั้นพวกเขาจึงเคลื่อนไหวไม่สะดวก

 

เเต่กัปตันโรเจอร์สก็ยังรู้สึกสงสัยอยู่ดี ทำไม เเดร์เดวิล ถึงมีความเเค้นกับศัตรูคนนี้มาก

 

เบื้องหลัง วิลสัน คือ อาณาจักรโลกใต้ดิน เดิม S.H.I.E.L.D. พวกเขาไม่ได้มีหน้าที่เข้าไปจัดการโดยตรง เเต่ถ้าเมื่อไหร่ตัวตนเหล่านี้ส่อเเววคุกคามระดับใหญ่เมื่อไหร่พวกเขาถึงจะเริ่มเคลื่อนไหว

 

ดังนั้น กัปตันโรเจอร์ส จึงอยากเข้าใจข้อมูลมากกว่านี้

 

“ดูเหมือนคุณจะมีความเเค้นกับ วิลสัน คนนี้มาก?”กัปตันโรเจอร์สพูดออกมา

 

เขาเข้าใจสถานการณ์เเล้วเเต่เนื่องจากเขาต้องการปฏิรูป องค์กรS.H.I.E.L.D. การทำลายอิทธิพลใต้ดินก็ถือว่าเป็นส่วนช่วยเหลือ กัปตันโรเจอร์สต้องการจัดระเบียบองค์กรภายในใหม่ทั้งหมดไม่เพียงภายในเท่านั้นภายนอกเขาก็ควรเริ่มที่จะจริงจังได้เเล้ว

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากกัปตันโรเจอร์สถามคำถามนี้ออกมา เเดร์เดวิล ได้เตรียมเเผ่นซีดี อันนึงเอาไว้ เขายื่นข้อมูลให้ ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวข้องกับ อิทธิพลของ คิงพิน ซึ่งหากกัปตันโรเจอร์ส สามารถช่วยเหลือเขาในการกำจัด คิงพิน ในนามของ S.H.I.E.L.D. ได้ เขาจะรู้สึกขอบคุณอย่างมาก

 

“ดี,ฉันจะช่วยเหลือคุณ”กัปตันโรเจอร์สรับเเผ่นซีดีนั้นมาเเละกล่าวตอบ

 

“ขอบคุณกัปตันโรเจอร์ส”

 

หลังจากเเจ็คสันพูดชื่อนี้ออกมาปีเตอร์กลับโทนี่ก็คืนท่าทีดังเดิมอีกครั้งปีเตอร์นั้นไม่รู้จะคิดชื่ออะไรที่เหมาะ ๆ ดี เเต่พอเเจ็คสันพูดชื่อนี้ขึ้นมากลับไม่มีใครค้านออกมา เเต่สำหรับโทนี่ เขาต้องการถามหาเหตุผลกับเเจ็คสัน

 

“ชุดกลายพันธุ์? เเจ็คสันทำไมเธอถึงตั้งชื่อมันว่าชุดกลายพันธุ์”โทนี่กล่าวถามออกมา

 

“เพราะผมคิดว่าชื่อนี้เหมาะสมคุณไม่คิดงั้นหรอ?”เเจ็คสันกล่าวออกมาอย่างเเน่วเเน่ หากเขาบอกว่าเขามีไอเดียจากวิดิโอที่ฉายเล่นทางทีวีเมื่อชีวิตก่อนหน้านี้ พูดไปใครจะเชื่อ

 

“ชุดกลายพันธุ์…ชุดกลายพันธุ์อาจจะเหมาะสมมากก็จริง เเต่ฉันจะเรียกมันว่าชุดเกราะกลายพันธุ์เเล้วกัน!”เเม้จะเพิ่มคำว่าเกราะขึ้นมา เเต่โทนี่ ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาได้ตัดสินใจใช้ชื่อในเเนวทางที่เเจ็คสันนำเสนอ

 

“ฮ่าฮ่า,คุณยอมรับชื่อนี้จริง ๆ ?”เห็นโทนี่ยิ้มรับ เเจ็คสันหัวเราะออกมา

 

“ไม่เพียงเเต่ชื่อเท่านั้นที่จะเป็นพวกเราที่นำเสนอ เพราะพวกเราจะทำการศึกษาเวน่อมด้วยกันเพื่อเปลี่ยนให้มันกลายเป็นชุดเกราะกลายพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบ”โทนี่ กล่าวตอบ

 

เกี่ยวกับเรื่องชื่อนั้นบางคนอาจจะมีคิดว่ามันคือสิ่งจำเป็นเเต่มันคือคุณค่าทางจิตใจยกตัวอย่างเช่นชุดเกราะไอรอนแมน มันถูกสร้างขึ้นจากเหล็กชั้นดี ซึ่งมันก็มีเเนวทางมาจากสิ่งที่สร้าง ก็เหมือนกับ เวน่อม มันเป็นปรสิตกลายพันธุ์ การตั้งชื่อมันว่าชุดเกราะกลายพันธุ์ก็ค่อนข้างเหมาะสมดี

 

“คุณต้องการให้ผมสละเวลาส่วนมากมาเพื่อร่วมวิจัยเวน่อมกับคุณ!”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันค่อนข้างตกใจ ปกติเขาเหมือนกับพวกฟรีเเลนซ์ที่ไม่ได้ทำงานประจำ เเต่คำตอบของโทนี่ ราวกับบอกว่าให้เขาหยุดเวลาเหล่านั้นเเละมาทุ่มให้กับโปรเจคการศึกษาเวน่อม

 

“เเน่นอน การวิจัยเรื่องชุดเกราะกลายพันธุ์ถือเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน เเละ ฉันจะให้เธอกับปีเตอร์มีส่วนร่วมด้วย เมื่อมันถูกสร้างออกมาอย่างสมบูรณ์แบบในฐานะอุปกรณ์ทางการทหาร พวกมันก็จะมีชื่อของเธอปรากฏจารึกเอาไว้ นอกจากนี้ เเจ็คสัน เธอเองก็ควรเริ่มที่จะจริงจังได้เเล้วเธอมาอยู่ที่นี่เป็นเวลานานเเล้วหากเธอไม่มีความสำเร็จอะไรให้พ่อกับเเม่ของเธอดู พวกเขาคงคิดว่าเธอมาเเค่เล่น ๆ “เห็นเเจ็คสันมีท่าทีเหมือนไม่ยอม โทนี่ ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เขายกเรื่องพ่อเเม่ของเเจ็คสันขึ้นมาอ้าง

 

“ผม!?”คราวนี้ไม่เพียงเเต่เเจ็คสันที่ต้องประหลาดใจ เเม้เเต่ปีเตอร์ เขาก็คิดว่าตนเองก็ต้องช่วยได้หรอวันนี้เขาเเทบจะไม่ได้ทำอะไร เขาไม่คิดว่าตนเองจะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยศึกษาร่วม

 

มิราจไนท์เเละสไปเดอร์แมน ต่างก็มีชื่อเสียงเเฟนคลับจำนวนมาก เเต่ในชีวิตจริง เเจ็คสัน หลิน หรือ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ พวกเขาต่างก็เป็นเพียงเด็กนักเรียนมัธยมธรรมดา ๆ ที่ไม่มีชื่อเสียงอะไร เเต่ชื่อเสียงของพวกเขาทั้งสามคน เเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ต่างก็เป็นหัวข้อสนทนาในโรงเรียนบ่อยครั้งเเต่ก็เเค่จำกัดเเค่ในโรงเรียน ไม่ใช่สังคมนอก เเต่เเฮร์รี่นั้นเหนือกว่าพวกเขาขึ้นไปอีก เพราะเป็น ประธานอุตสาหกรรมออสบอร์น เเฮร์รี่ จึงมีชื่อเสียงในสังคมส่วนมากรวมด้วย

 

ถ้าเรื่องการสร้างชุดเกราะกลายพันธุ์ให้กลายเป็นอาวุธทางการทหารสำเร็จไปได้ด้วยดี เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ก็จะได้รับชื่อเสียงอย่างมากในชีวิตจริงของพวกเขา อย่างน้อยประวัติของพวกเขาก็จะมีคนส่วนมากรู้จัก เเม้การเป็นฮีโร่จำเป็นจะต้องปกปิดตัวเอง เเต่ในชีวิตความเป็นจริง ครอบครัวของพวกเขา ต่างก็อยากให้ลูก ๆ หลาน ๆ ของตัวเอง ได้เป็นที่ยอมรับของคนอื่น กันทั้งนั้น

 

“ขอบคุณ คุณสตาร์ก!”เนื่องเพราะไม่สามารถปฏิเสธได้ เเจ็คสันจึงไม่ได้สนใจอะไรอีก เขารับปากในเรื่องนี้

 

“ขอบคุณ คุณสตาร์ก!”ปีเตอร์ก็เเสดงความขอบคุณเหมือนกัน

 

“อ่า,เนื่องเพราะเเจ็คสันได้ทำลายเครื่องมือทดสอบความรุนเเรงไปเเล้วเรามาพักกันก่อนเถอะ ค่อยเริ่มงานกันต่อ การทดสอบต่อไปคงต้องหวังพึ่งปีเตอร์เเล้ว นอกจากนี้ ฉันเองก็อยากจะเห็นว่าเวน่อมจะช่วยเพิ่มความเเข็งเเกร่งให้สไปเดอร์เเมนน้อยของเราได้มากเเค่ไหน”

 

จากนั้นโทนี่ก็ได้วางงานทั้งหมดลง เเน่นอนว่าพวกเขาทั้งสามคนย่อมหิวเเล้วได้ยินโทนี่บอกพักงานเอาไว้ก่อนทำให้เเจ็คสันรู้สึกร่าเริงเป็นอย่างมาก

 

พวกโทนี่ทั้งสามคนได้ออกจากห้องปฏิบัติการเเละกลับสู่บ้านพักสุดหรที่อยู่ด้านบนของโทนี่ สำหรับ เวน่อม มันได้ถูกผนึกภายใต้การคุ้มครองของ J.A.R.V.I.S อีกครั้ง

 

 

ในขณะที่พวกเเจ็คสันปีเตอร์กำลังพักผ่อนกินของหวานกันอยู่ ใน วอชิงตัน สำนักงานใหญ่S.H.I.E.L.D. กำลังเกิดเรื่องประเด็นร้อนเเรงขึ้น เกี่ยวกับ ผู้บัญชาการคนปัจจุบันของ S.H.I.E.L.D. นิค

 

นิค ได้ถูกถอดถอนชื่อออกจากการเป็นหัวหน้าของ S.H.I.E.L.D. เพราะประวัติการเคลื่อนไหวอันผิดปกติในหลายปีที่ผ่านมาทำให้เกิดการสูญเสียจำนวนมาก ผลลัพธ์ดังกล่าวมีผลตัดสินให้ นิค ถูกบังคับให้ลาออกจากตำเเหน่งหัวหน้าเพื่อรับผิดชอบเรื่องนี้

 

ผลลัพธ์ดังกล่าว นิคสามารถคาดเดาได้ เเต่สิ่งที่เขาประหลาดใจก็คือ เบื้องบนกลับต้องโทษของเขาถึง 10 ปี ภายใน3ปี ไม่อนุญาติให้ใครเข้าเยี่ยมได้

 

เรื่องนี้เเน่นอนว่านิคไม่สามารถยอมรับได้อย่างสมบูรณ์ คราวนี้เขาไม่มีวิธีการที่จะต่อต้าน นิคได้ออกจากสำนักงานใหญ่ของ S.H.I.E.L.D. โดยไร้ซึ่งสีหน้าใด ๆ คนอื่น ๆ ต่างเห็นนิคกันทั้งนั้น เเน่นอนว่าเขาไม่ได้ถูกล็อคหรือจับกุมตัว เเต่คนเหล่านี้ย่อมรู้ดีว่า นิคกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถเเก้ไขได้ง่าย

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นนิคก็ถูกส่งขึ้นยานควินเจ็ทออกจากสำนักงานใหญ่ของ S.H.I.E.L.D.

 

ขณะเดียวกันในพื้นที่ตัวตึกหน้ากระจกใสมีชายคนนึงได้ยืนจ้องมองยานควินเจ็ทที่บินออกไป ชายคนนี้ก็คือกัปตันโรเจอร์ส

 

” กัปตัน.”เสียงที่อยู่ด้านหลังได้กล่าวเรียกกัปตันโรเจอร์ส

 

“เคลียทุกอย่างเสร็จเเล้วใช่หรือไม่?”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถาม

 

“เรียบร้อย…คุณได้บอกลาหัวหน้านิค อดีตหัวหน้าของคุณเเล้วหรือยัง?”

 

“เเน่นอนว่าทำเเล้ว เเต่ดูเหมือนเขาจะไม่กล้าสู้หน้าฉันเท่าไหร่”

 

“งั้นหรอ?”

 

“เเล้วคุณจะไม่ไปพบนาตาชาหรอ?”

 

“ไม่”

 

“ฉันจะเฝ้ามองเธอต่อไป ฉันคิดว่าเธอคงกำลังปฏิบัติภารกิจลับให้นิคอยู่เหมือนเดิม”

 

“อืม”

 

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงในห้องปฏิบัติบัติการเเจ็คสันได้ปลดชุดเกราะไอรอนแมนทั้งหมดที่เหลืออยู่ทั้งหมดออกร่างกายของเขาได้รับการปกคลุมโดยเวน่อม ซึ่งมันสามารถทำให้การทดลองได้ดีขึ้น ธรรมชาติที่ด้านหลังของเเจ็คสันมีเครื่องเตาปฏิกรณ์อาร์คขนาดเล็กติดเอาไว้อยู่เพื่อเป็นเเหล่งพลังงานให้กับเวน่อม

 

ฟุ่บ!

 

การทดลองส่วนใหญ่ได้เสร็จสิ้นจนเเจ็คสันไม่ต้องการทำการทดสอบอีกต่อไปเพียงเเต่เวน่อมก็ยังเกาะติดกับตัวของเขาพร้อมกับดูดซับพลังงานผ่านเเกนของเตาปฏิกรณ์อาร์คแบบเงียบ ๆ

 

เห็นความไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวของเวน่อมเเจ็คสันจำใจปลดอาวุธอย่างเวน่อมออกเขาได้ลดอาวุธเเกนพลังงานทิ้้ง จากนั้นพละกำลังที่ถูกเสริมเพิ่มขึ้นมาย่อมหายไปด้วย

 

เเม้เวน่อมจะไม่มีผลกระทบทางความคิดของโฮสต์เเต่มันก็สามารถช่วยให้โฮสต์เเข็งเเกร่งขึ้นได้ เรื่องนี้สามารถทำให้โฮสต์เลือกที่จะอยู่กับมันต่ออย่างเห็นได้ชัด โชคดีที่เเจ็คสันมีจิตใจที่เเข็งเเกร่งเขาไม่ได้หลงมัวเมาไปกับความเเข็งเเกร่งที่เพิ่มขึ้นมา

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้น เเจ็คสันก็ปล่อยให้ J.A.R.V.I.S จัดการที่เหลือต่อ ในเวลานี้เเจ็คสันได้ใช้พลังงานไปอย่างมากเขาต้องการพักผ่อน หากต้องการดำเนินการทดลองต่อไปที่เหลือก็สามารถปล่อยให้ปีเตอร์ทำได้ ซึ่ง เเจ็คสันเชื่อว่า อคติของปีเตอร์ที่มีต่อเวน่อมคงจะลดลงหลายส่วน

 

ฟุ่บ!

 

เวน่อมถูกดึงไปวางไว้ที่ด้านหลังมุมของห้องปฏิบัติการซึ่งเเจ็คสันได้เดินออกจากห้องปฏิบัติการในเวลาต่อมา ตอนนี้ โทนี่ กับปีเตอร์ ได้ยืนอยู่หน้าห้องพร้อมกับยื่นส่งมือเพื่อให้กับกำลังใจเขา

 

“ไม่เป็นไร ฉันเเค่รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย”เเจ็คสันกล่าวออกมา

 

“ไม่คิดเลยว่า เวน่อมที่เป็นปรสิตชั่วร้าย จะกลายเป็นอาวุธที่สุดยอดขนาดนี้”หลังจากได้รับการยืนยันว่าเเจ็คสันไม่เป็นอะไรปีเตอร์จ้องมองไปที่ภายในห้องปฏิบัติการเเละตรวจสอบเวน่อมอย่างละเอียด

 

“ในสถานการณ์ปัจจุบันหากเรามีพลังงานที่เพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงเวน่อม ฉันไม่คิดว่าการได้รับความช่วยเหลือจากมันจะมีญหาใด ๆ “เเจ็คสันพยักหน้าตอบ

 

การทดลองครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เวน่อม ได้ดูดซับพลังงานของเตาปฏิกรณ์อาร์คไปมากกว่า 20% เเม้จะดูดเหมือนไม่มาก เเต่พลังงานที่ถูกบรรจุในเตาปฏิกรณ์อาร์คนั้นใหญ่มากทีเดียว โดยปกติเเล้ว ชุดเกราะไอรอนแมนที่ติดตั้งเตาปฏิกรณ์อาร์คเวลาออกปฏิบัติการในเวลาครึ่งชั่วโมงเเทบจะไม่กินพลังงานใด ๆ เเต่เวน่อมกลับบริโภคพลังงานมากขนาดนี้ นี่คือความต่างของทั้งสองอย่าง

 

“อืม,เเจ็คสัน เธอมีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับ เวน่อม?”หลังจากปรับข้อมูลวิจัยในมือเเล้วโทนี่จ้องมองไปที่เเจ็คสันเเละถามอย่างจริงจัง

 

เนื่องเพราะเเจ็คสันได้เป็นผู้ทดลองเเละทดสอบด้วยตนเองความรู้สึกของเเจ็คสันที่ได้สัมผัสโดยตรงย่อมมีค่ามากในเชิงข้อมูล

 

“ความคิดเห็น? ดูจากลักษณะของเวน่อมในตอนนี้ เราสามารถนำมันออกไปใช้ในการปฏิบัติจริงได้อย่างเเน่นอน มันถือเป็นอาวุธทางการทหารที่มีค่ามากอย่างนึง ความเเข็งเเกร่งของเวน่อมสามารถเปลี่ยนให้โฮสต์เป็นสุดยอดนักรบได้”เเจ็คสันกล่าวโดยตรง

 

“เรื่องนี้ฉันเห็นด้วยกับเธอ เพราะเวน่อมสามารถครอบคลุมร่างกายราวกับเป็นชุดเกราะได้ดังนั้นตัวโฮสต์จึงได้รับการป้องกันจากมันกลับกันเมื่อเทียบกับชุดเกราะไอรอนแมนความยืดหยุ่นของการควบคุมบังคับผ่านชุดเวน่อมย่อมมีสูงกว่ามาก”โทนี่พยักหน้าเห็นด้วย

 

“มีข้อดีเเต่ก็ยังมีข้อเสีย ถึงเเม้เราจะจัดสรรหาพลังงานให้กับเวน่อมน่อมได้ เเต่ถ้าพลังจิตของเราไม่น่าเกรงขามมากพอจะสื่อสารกับเวน่อมทุกอย่างก็ล้วนเเล้วเเต่ไร้ความหมาย ยิ่งถ้าเกิดพลังงานนั้นเข้าสู่สภาวะฉุกเฉินเเละเราไม่สามารถรับมือได้บางทีเวน่อมอาจจะหันกลับมาบริโภคพลังงานของโฮสต์อีกครั้งเพื่อความอยู่รอด”เเจ็คสันกล่าวข้อเสียใหญ่ ๆ ของเรื่องนี้

 

“ใช่,พลังจิตของคนทั่วไปไม่ได้น่าเกรงขามเท่ากับพวกเธอ เเม้พลังงานจิตของเวน่อมจะอ่อนเเอลงเเต่มันก็ยังสูงล้ำกว่าคนธรรมดาทั่วไปมาก ปัญหาเรื่องการสื่อสารถือเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว ดังนั้นฉันจึงวางเเผนว่าจะไปเยี่ยมเยือนศาสตราจารย์ชาร์ลส์เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้”โทนี่เสนอวิธีเเก้ปัญหา

 

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์? คุณจะให้เขาช่วยเรื่องพลังจิตงั้นหรอ? ถือเป็นตัวเลือกที่ดี หากสามารถได้รับความช่วยเหลือจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ในการพัฒนาเครื่องส่งเสริมพลังจิตมันจะสามารถช่วยให้พวกเราทำงานร่วมกันกับเวน่อมได้อย่างง่ายดาย”เเจ็คสันกล่าวออกมา ในเรื่องของพลังจิตนั้นต้องไว้ใจศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

“อืม,หากเราสามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถช่วยเพิ่มการพัฒนาพลังจิตของคนเราได้มันจะดีอย่างมากต่อสถานการณ์ในตอนนี้”โทนี่ยิ้มออกมา

 

“เเล้วเรื่องเวน่อมเราจะสามารถไว้ใจมันได้จริง ๆ งั้นหรอ? หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาพวกเราจะเเก้ไขยังไง?”

 

“จะเกิดอะไรขึ้นหากเวน่อมในตอนนี้เป็นเพียงฉากหน้าหรือผลลัพธ์ที่ผิดพลาดหลังจากวิวัฒนาการ หากภายหลังมันถูกพัฒนาขึ้นจนส่งผลกระทบต่อโฮสต์อีกพวกเราจะทำยังไง?”ในขณะที่เเจ็คสันเเละโทนี่กำลังพูดคุยกัน ปีเตอร์ได้เปิดปากเตือนในเรื่องนี้ เกี่ยวกับเวน่อม ปีเตอร์ก็ยังคงหวาดระเเวงอยู่

 

“อ่า…ใช่เเล้วเเม้พวกเราจะหวังใช้งานมันเเต่เรื่องความปลอดภัยก็ต้องมาก่อน”ได้ยินคำเตือนของปีเตอร์ เเจ็คสัน เห็นด้วย

 

“ดังนั้นพวกเราถึงต้องทำเนินการทดลองอย่างต่อเนื่อง ฉันไม่ได้ด่วนสรุปเลยว่าเวน่อมที่วิวัฒนาการนี้จะไม่มีผลต่อตัวโฮสต์เลยในตอนนี้หรือในอนาคต ดังนั้นฉันจึงหาทางเเก้ไขเรื่องนี้เอาไว้เเล้ว เวน่อมที่วิวัฒนาการมีการต้านทานพลังงานไฟฟ้าเเละพลังงานความร้อน ถ้าเกิดเราใช้พลังงานความเย็นในการรับมือมันฉันคิดว่ามันน่าจะอ่อนเเอลง”โทนี่ พิจารณาคำพูดของเขา

 

“อ่อนเเอลง?คุณหมายความว่ามันจะเเพ้อุณหภูมิติดลบที่เย็นจัด?เพียงเเต่มันยังวิวัฒนาการไม่สมบูรณ์ เเต่หากมีสิ่งใดที่สามารถรับประกันความปลอดภัยของพวกเราได้ย่อมเป็นเรื่องที่ดี”เเจ็คสันตอบกลับ

 

“อืม,หากเกิดปัญหาขึ้นอย่างน้อยเราก็ยังสามารถใช้อุณหภูมิต่ำเพื่อจัดการมันได้”ปีเตอร์รู้สึกโล่งใจ

 

“เช่นนั้นฉันจะเริ่มโปรการพัฒนาชุดเกราะเวน่อมขึ้น พวกเราควรจะเรียกมันว่าอะไรดี? ชุดเกราะเวน่อม ดีหรือไม่?”โทนี่ต้องการเร่งเเผนการพัฒนาชุดเกราะเวน่อมขึ้นโดยเร็ว

 

“เรื่องชื่อเอาอะไรก็ได้…”ปีเตอร์ยิ้มอย่างเขินอาย เขาไม่ค่อยมีรสนิยมในด้านนี้เท่าไหร่

 

“ชุดกลายพันธุ์!”ขณะที่ปีเตอร์กำลังเขินอายอยู่ เเจ็คสันได้พูดขึ้นอย่างฉับพลัน

 

ซึ่งคำพูดที่ออกมาจากปากเเจ็คสันทำให้ ปีเตอร์ เเละ โทนี่จ้องมองอย่างสงสัย

 

“,ชุดกลายพันธุ์”

ขณะที่เเจ็คสันกำลังใช้จิตสื่อสารกับเวน่อม ด้านนอกห้อง การเเสดงออกของโทนี่มีการเปลี่ยนเเปลงอย่างมากเขาต้องการอยากรู้อยากเห็นมากกว่านี้

 

“ปีเตอร์ครั้งเเรกที่เธอสื่อสารกับเวน่อม มันเป็นความรู้สึกแบบไหน?ใช่ว่ากำลังพูดกับจิตสำนึกที่มองไม่เห็นใช่ไหม?”โทนี่ จ้องมองไปที่ ปีเตอร์พร้อมกับขอคำตอบ

 

พลังจิต สิ่งนี้ได้รับการยืนยันเเล้วในโลกมาร์เวลเเห่งนี้ หากเป็นการอธิบายทางด้านวิทยาศาสตร์มันก็คือคลื่นสมองของมนุษย์ที่ถูกยกระดับเเบบพิเศษ ในโลกเเห่งนี้ถึงพลังจิตจะได้รับการยืนยันเเต่การค้นคว้าเเละศึกาษากลับกลายเป็นได้ยาก หากไม่เเล้ว โทนี่ ที่ค้นพบการวิวัฒนาการของเวน่อมเเละเขาสามารถสื่อสารทางจิตได้เขาย่อมได้รับความก้าวหน้าในการพัฒนาชุดเกราะไอรอนแมนครั้งใหญ่

 

“เอ๊ะ…เอ่อ จะให้ผมอธิบายยังไงดี มันก็ค่อนข้างเหมือนกับการพูดคุยอยู่คนเดียวเเต่มีคนตอบรับเเต่สิ่งที่ตอบรับนั้นจะเข้าสู่จิตสำนึกของเราโดยตรง จากนั้นสมองของเราก็จะไตร่ตรองเเละเข้าใจสิ่งที่เข้าสู่จิตสำนึกนั้น นอกจากนี้หากคุณตั้งมั่นจิตในการเเลกเปลี่ยนสื่อสารกับจิตคนอื่นล่ะก็คุณก็อาจจะกระทั่งเข้าใจความคิดทั้งหมดของฝ่ายตรงข้ามเลยเเหละ”ปีเตอร์อธิบายตัวอย่างให้โทนี่ฟัง

 

เกี่ยวกับการสื่อสารทางจิตในอดีตกับเวน่อม ปีเตอร์ รู้สึกพร่ามัวมาก เพราะเขาได้รับผลกระทบจากเเรงกดดันในการชักจูง ดังนั้นสิ่งเหล่านั้นจึงไม่เรียกว่าการเข้าใจความคิดคนอื่นเเต่มันเป็นการถูกครอบงำเพื่อสนองความต้องการของผู้บงการ

 

“เช่นนั้นมันก็เหมือนกับวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี เเน่นอนว่าเครื่องมือควบคุมคลื่นสมองที่เป็นเครื่องมือสะกดจิต เครื่องมือเหล่านี้จะทำให้สมองของมนุษย์ทำงานอย่างหนักจนไม่อาจประมวลผลได้ทัน”โทนี่ กล่าวอธิบายราวกับเข้าใจ

 

“ใช่,ก็เพราะว่ามันทำงานหลักคล้าย ๆ กัน”ปีเตอร์พยักหน้าตอบ

 

ดูเหมือนว่าโทนี่ในคราวนี้ตั้งใจจะทุ่มเทเเรงกายในการศึกษาเวน่อมให้มากกว่าเดิม เเต่มันก็คงจะไม่ส่งผลดีต่อเขาเมื่อวานนี้โทนี่เเทบจะไม่ได้กินอะไรเลย ซึ่งทำให้ เป็ปเปอร์ โกรธเขาอย่างมาก หากโทนี่ไม่ต้องการให้เป็ปเปอร์โกรธเขาเเละพร้อมกับที่เขาทำงานไปได้ด้วย โทนี่คงจะต้องซื้อของขวัญสุดพิเศษเพื่อปลอบเธอ

 

ในความเป็นจริงเเล้ว คลื่นพลังจิตมีด้วยกันหลายรูปแบบ หากคลื่นพลังจิตมากพอ ย่อมสามารถส่งผลกระทบต่อตนเองเเละคนอื่นได้ กระทั่งการควบคุมความคิด หรือ การสะกดจิต ในโลกมาร์เวลเเห่งนี้ มีบุคคลมากมายที่ใช้พลังจิต ยกตัวอย่างเช่น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ความสามารถอันน่าเกรงขามด้านพลังจิตของเขาเเข็งเเกร่งมาก บนโลกใบนี้เขาเเทบจะไม่เป็นสองรองใคร ความเเข็งเเกร่งของศาสตราจารย์ชาร์ลส์สามารถควบคุมคนทั้งโลกก็ยังได้

 

“ถ้าการวิจัยเวน่อมเป็นไปได้ด้วยดี สงสัยฉันคงต้องขอความร่วมมือจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์”โทนี่ กล่าวพึมพัมออกมา

 

หากเปลี่ยนเวน่อมเนชุดเกราะสงครามรูปแบบใหม่ได้ การสื่อสารทางจิตถือเป็นสิ่งจำเป็น ในโลกใบนี้ อาวุธที่มีสติปัญญาย่อมมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

“คุณสตาร์ก ดูเหมือนเเจ็คสัน จะเริ่มเคลื่อนไหวเเล้ว”ขณะที่โทนี่กำลังครุ่นคิดบางอย่าง ปีเตอร์ที่อยู่ข้าง ๆ ได้กล่าวเตือน

 

ได้ยินคำพูดของปีเตอร์วิสัยทัศน์ของโทนี่เปลี่ยนไปที่ห้องปฏิบัติการอีกครั้ง คราวนี้เวน่อมได้ห่อหุ้มเเขนของเเจ็คสันทั้งสองข้างเเละเปลี่ยนเป็นถุงมือกำปั้นขนาดใหญ่

 

“สำเร็จงั้นหรอ?”เห็นถุงมือกำปั้นที่ปรากฏขึ้น ปีเตอร์ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

 

ในขั้นต้นปีเตอร์สามารถทำให้เวน่อมเปลี่ยนเป็นเสื้อของเขาได้เพียงเท่านั้นเเต่ในเวลานั้นเขาก็อยู่ภายใต้อิทธิพลของเวน่อมดังนั้นจะพูดให้ถูกก็คือมันเป็นการเปลี่ยนเเปลงที่ถูกเวน่อมควบคุมซึ่งมันเเตกต่างจากของเเจ็คสันที่ตัวโฮสต์เป็นผู้ควบคุมความนึกคิดเสียเอง

 

หลังจากถุงมือกำปั้นข้างเเรกปรากฏ อีกมือนึงของเเจ็คสันก็เริ่มเปลี่ยนเเปลงเป็นรูปเเขนป้องกัน การเปลี่ยนเเปลงเมื่อครู่เกิดขึ้นเร็วมากทั้งยังง่ายดาย ราวกับว่า เวน่อมสามารถทำได้ทุกอย่างตามที่โฮสต์ต้องการ

 

“ไม่คาดคิดเลยว่ามันจะสามารถเปลี่ยนเป็นรูปทรงต่าง ๆได้มากมาย!”มองดูการเคลื่อนไหวของเเจ็คสัน โทนี่ อุทานออกมา

 

“ฮ่าฮ่า,ดูเหมือนว่ามันจะมีความสามารถที่หลากหลายมากทีเดียว”ขณะที่ ปีเตอร์ กับโทนี่ กำลังตกใจ เเจ็คสันที่อยู่ในห้องปฏิบัติการหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นภายใต้คำสั่งของเเจ็คสัน จิตสำนึกของเวน่อมได้ทำตามที่เเจ็คสันต้องการ มันได้เปลี่ยนเป็นสนับเเขนเเละสนับขาตามลำดับทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเสี้ยววิ รูปทรงทั้งหมดของมันมีสีดำเงาบริสุทธิ์นอกจากนี้เเขนของมันยังสามารถเปลี่ยนเป็นสีขาวราวกับโลหะจากนั้นขาทั้งสองข้างก็เปลี่ยนเป็นรูปทรงของกางเกงสีขาว การเปลี่ยนเเปลงของมันสามารถทำได้หลากหลายอย่างมาก

 

“เป็นเวอร์ชั่นอำพรางที่สมบูรณ์แบบ”เวน่อมสามารถเปลี่ยนสีของตัวเองได้เหมือนกับกิ้งก่า โทนี่ ที่จ้องมองตะโกนออกมาอีกครั้งด้วยความประหลาดใจ

 

“ความสามารถของเวน่อมสุดยอดมาก”เเม้เเต่ปีเตอร์เองก็ยังอดชื่นชมไม่ได้

 

“เร็วเข้า,ให้ฉันเห็นความสามารถของมันอีก!”โทนี่ต้องการเห็นความสามารถของเวน่อมมากกว่านี้ เนื่องจากเวน่อมไม่ได้ดูดซับพลังงานชีวภาพของโฮสต์เเล้ว ความสามารถของมันย่อมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับงานวิจัย

 

“ผมเองก็อยากรูเหมือนกัน”เเจ็คสันยิ้มเล็กน้อย

 

ฟุ่บ!

 

อันดับเเรกเเจ็คสันเปลี่ยนมือขวาของเขาให้เป็นใบดาบก่อนจากนั้นก็ลองฟันไปที่ด้านหน้าดู เสียง วืดวาด ได้ปรากฏขึ้นทันทีที่เขาฟาดฟันออกไป ดูเหมือนว่าใบดาบที่เเปลงโดยเวน่อมนี้จะมีความคมมาก

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้เดินไปที่หน้าเครื่องทดสอบความรุนเเรงขณะนั้นเขาก็เเกว่างใบดาบไปที่ด้านหน้า

 

ฟวั่บ!

 

เเสงสีเงินได้วาดผ่านเครื่องทดสอบความรุนเเรงก่อนที่จะตัดมันออกเป็นเศษซากอีกครั้ง ใบดาบที่ถูกเเปลงโดยเวน่อมไม่เพียงเเต่มีความยืดหยุ่นของรูปลักษณ์เเต่ยังมีความคมอย่างมาก

 

“สุดยอด!”เห็นใบดาบที่เปลี่ยนโดยเวน่อมสามารถทำลายรากฐานของเครื่องวัดความรุนเเรงที่ทำจากเหล็กอัลลอยด์ได้ โทนี่ พยักหน้าชื่นชมอีกครั้ง

 

จากนั้นเเจ็คสันก็ได้ทดลองประสิทธิภาพความเเข็งเเกร่งของเวน่อมหลังจากวิวัฒนาการภายในห้องปฏิบัติการนี้อย่างต่อเนื่อง เขาได้ค้นพบความสามารถอันหลากหลายที่สามารถผสานเข้ากับเทคนิคของตัวเองเเละช่วยเพิ่มความเเข็งเเกร่งได้

 

นอกห้องปฏิบัติการโทนี่ที่กำลังประหลาดใจอยู่เมื่อเทียบกับเเจ็คสันที่อยู่ภายในห้องปฏิบัติการเเล้ว การที่เเจ็คสันได้ปลดปล่อยพละกำลังเเบบเต็มที่เมื่อครู่ทำให้ตัวเขารู้สึกดีอย่างมาก การรวมตัวของเขาเข้ากับเวน่อมทำให้ความเเข็งเเกร่งของเขาเพิ่มขึ้น

 

“นี่มันสุดยอดอย่างมาก! ไม่คิดเลยว่ามันจะได้ผลดีขนาดนี้”เเจ็คสันรู้สึกว่าเวน่อมที่วิวัฒนาการมานั้นเป็นอุปกรณ์ช่วยเหลืออย่างดี

 

ความเเข็งเเกร่งในปัจจุบันของเเจ็คสันนั้นในปัจจุบันเเข็งเเกร่งมาก เเต่ถ้าเขามีเวลาฝึกฝนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องในอนาคตความเเข็งเเกร่งของเขาย่อมเพิ่มมากขึ้น เเละ ยิ่งได้อาวุธที่ช่วยเพิ่มศักยภาพความเเข็งเเกร่งขึ้นไปอีก มันก็จะยิ่งทำให้เขานั้นไร้เทียมทาน

 

“ชุดกลายพันธุ์! ในโลกมาร์เวลเเห่งนี้ ถือเป็นอาวุธพิเศษที่ถูกคิดขึ้นโดยฉัน เเจ็คสัน”เเจ็คสันลิงโลดอย่างตื่นเต้น เขาคิดชื่อที่เหมาะสมกับเวน่อมที่ผสานอยู่ในร่างกายของเขาตอนนี้ เเน่นอนว่าโทนี่ที่อยู่นอกห้องย่อมไม่ได้ยินเเต่พูดของเเจ็คสันนั้นมีเพียง J.A.R.V.I.S เท่านั้นที่ได้ยิน

 

ชุดกลายพันธุ์ที่ เเจ็คสันหมายถึง ก็คือ อาวุธกลายพันธุ์ที่ถูกสร้างขึ้นจากสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวมันเป็นเครื่องแบบพิเศษที่เขารู้จักมาจากภาพยนต์บางเรื่องภายนอกมีลักษณะที่ค่อยข้างโดดเด่นเเละเป็นเอกลักษณ์ความสามารถไม่เหมือนใคร นั่นถึงเป็นที่มาของคำว่าชุดกลายพันธุ์

 

เวน่อมที่วิวัฒนาการมานั้นสามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างมาก หากเวน่อมสามารถวิวัฒนาการได้อีกในอนาคตมันจะกลายเป็นชุดกลายพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบ เเล้วจากนั้นให้โทนี่ ปรับปรุงโครงสร้างเเละปรับเเต่งมันผนวกเข้ากับอาวุธ สิ่งนี้จะยิ่งสร้างความเเตกตื่นมากกว่านี้อีก ยกตัวอย่างเช่น ชุดเกราะ ,จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากมีชุดเกราะที่สามารถต้านทานพลังงานธาตุต่าง ๆ ได้ จำนวนมาก

 

เมื่อเทียบกับชุดเกราะไอรอนแมนที่มีราคาเเละค่าวัสดุที่จัดอยู่ในระดับสูงเเล้ว ชุดกลายพันธุ์พวกนี้ถือว่าธรรมดาเเละถูกกว่ามาก เเต่เเจ็คสันก็ยังประเมินความคิดนี้ง่ายเกินไปเพราะความคิดของเขาไม่ใช่ความคิดที่จะสามารถทำได้โดยง่าย เพราะชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ที่พัฒนาขึ้นมาได้ เพราะมีส่วนหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์ที่คอยช่วยเหลือถือเป็นระบบอาวุธแบบ AI

 

เเต่ถ้าเทียบกับความสามารถของชุดกลายพันธุ์เเล้วความสะดวกในการใช้งานกลับสะดวกกว่ามากทั้งยังสามารถเพิ่มศักยภาพด้านพละกำลังให้กับกายเนื้อโดยตรงซึ่งเเตกต่างจากชุดเกราะไอรอนแมน

 

“หากต้องการสร้างชุดกลายพันธุ์จากเวน่อมก็คงต้องมีการทดลองกันอีกระยะยาว J.A.R.V.I.S ช่วยถอดชุดเกราะไอรอนแมนออกหน่อย!”เเจ็คสันที่ครุ่นคิดเขาได้กล่าวบอก J.A.R.V.I.S

 

เพียงเเต่ว่าคำขอของเเจ็คสัน J.A.R.V.I.S ยังไม่ได้ดำเนินการ เพราะ J.A.R.V.I.S ยังไม่เห็นว่ามันปลอดภัย ในเวลานี้โทนี่ที่อยู่นอกห้องเองก็รู้สึกสงสัยเขาจึงดูข้อมูลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์

 

“พลังงานหมัดที่เเจ็คสันปล่อยออกไปเมื่อครู่กินพลังงานภายในร่างของเวน่อมไปมากกว่า 50% ดูเหมือนว่ามันจะสร้างภาระให้กับร่างกายเวน่อมอย่างมาก”โทนี่ กลับมาสงบอีกครั้ง

 

เมื่อครู่กำปั้นของเเจ็คสันกินพลังงานในร่างของเวน่อมไปมากกว่าครึ่งนึงนั่นหมายความว่าการปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวนั่นเเต่ละครั้งจะสร้างภาระให้กับร่างกายของเวน่อมอย่างมหาศาล ข่าวดีก็คือ โชคดีที่เวน่อมดูดซับพลังงานอื่น ๆ เป็นอาหาร เเละไม่ได้ดูดซับพลังงานภายในร่างกายของเเจ็คสันโดยตรง ดังนั้นมันถือเป็นพลังงานสำรองของโฮสต์ก็ว่าได้

 

“เจ้านายครับ,คุณเเจ็คสันขอให้ปลดชุดเกราะออก”ขณะที่โทนี่เตรียมจะกล่าวอะไร J.A.R.V.I.S ก็กล่าวพูดเตือนขึ้น

 

ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S ปีเตอร์ ที่อยู่ใกล้ ๆ ไม่สามารถทนได้ เขาได้กล่าวถามเเจ็คสันที่อยู่ภายในห้องปฏิบัติการทันที”เเจ็คสันนายต้องการทำอะไร”

 

“ฉันต้องการลองให้เวน่อมเปลี่ยนเเปลงสภาพตามความนึกคิดของโฮสต์ซึ่งถ้ามันเคลื่อนที่เฉพาะการใช้สัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดของมันฉันก็ค่อนข้างผิดหวังทีเดียว”เห็นปีเตอร์เกาะหน้ากระจกเเละตะโกนถาม เเจ็คสันตอบแบบง่าย ๆ

 

“เธอต้องการให้เวน่อมเปลี่ยนเเปลงสภาพตามความนึกคิดของเธองั้นหรอ?”โทนี่กล่าวถามอย่างสนใจ

 

“ใช่,ก่อนหน้านี้ผมจำได้ว่าตอนที่เวน่อมได้ควบคุมร่างกายของปีเตอร์มันได้เปลี่ยนเเปลงเป็นอาวุธชิ้นส่วน ต่าง ๆ ดังนั้นผมจึงต้องการลองทำแบบนั้นดู”ในสถานการณ์เช่นนี้เเม้โทนี่จะสนใจเเต่เขาย่อมไม่เห็นด้วยกับเเจ็คสันที่จะปลดชุดเกราะไอรอนแมนออก

 

“เรื่องนี้…”โทนี่ค่อนข้างรู้สึกกังวล ใจจริงเขาก็อยากเห็นการทดสอบอื่น ๆ เพิ่มเติม เเต่อีกใจก็กังวลความปลอดภัยของเเจ็คสัน

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่ โทนี่ เตรียมจะอนุมัติ J.A.R.V.I.S ให้ทำตามคำขอของเเจ็คสัน ปีเตอร์ที่เกาะอยู่ที่กระจกได้ตะโกนขึ้น”ถ้านายต้องการให้เวน่อมทำตามความนึกคิดของนาย นายไม่จำเป็นจะต้องให้มันครอบคลุมศีรษะของนาย ตราบเท่าที่นายนึกคิดมันน่าจะส่งผ่านคลื่นจิตหามันได้ ระวังด้วย”

 

ด้วยความกลัวที่ว่าทันทีที่เวน่อมจะครอบคลุมศีรษะของเเจ็คสันเเละเปลี่ยนเเปลงความคิดปีเตอร์จึงตะโกนเตือนในทันที เขาไม่ต้องการให้เพื่อนของเขาได้รับอันตราย ปีเตอร์เเนะนำให้ลองวิธีการสื่อสารทางจิตกับเวน่อมเอา

 

“ได้,ฉันจะลองดู”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์เเจ็คสันไม่ได้ให้ J.A.R.V.I.S คลายชุดเกราะไอรอนแมนส่วนหัวออก เขาจะทดลองสื่อสารทางจิตกับเวน่อมดู

 

เเจ็คสันได้จมดิ่งลงสู่จิตวิญญาณของตัวเองเขาได้ปรับคลื่นจิตของเขาให้ตรงกับเวน่อม

 

“จิตวิญญาณของเวน่อม?นี่มันอ่อนเเออย่างมาก มันสามารถควบคุมปีเตอร์ได้ยังไง?”ขณะที่เเจ็คสันเชื่อมต่อกับ จิตของเวน่อม เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังจิตที่อ่อนเเอ เเน่นอนว่าพลังจิตที่อ่อนเเอของเวน่อมในตอนนี้ไม่สามารถคุกคามจิตสำนึกของเเจ็คสันหรือควบคุมจิตสำนึกของมนุษย์คนอื่น ๆ ได้

 

“ดูเหมือนว่าการวิวัฒนาการของเวน่อมในครั้งนี้ก็จะมีผลเสียต่อตัวมันเหมือนกัน เอาล่ะ มาลองดูว่าเเกจะสามารถเปลี่ยนเเปลงตามความคิดของฉันได้หรือไม่”เเจ็คสันได้คลายข้อสงสัยทิ้งเเละเริ่มที่จะเจรจากับเวน่อมผ่านจิตสำนึกของเขา

เมื่อเวน่อมปกคลุมร่างกายทั้ง 4 ส่วนของตัวเอง เเจ็คสันรู้สึกได้ถึงความเเข็งเเกร่งผ่านเเขนเเละขาของเขา ความรู้สึกของเเจ็คสันนั้นกระตือรือร้นกว่าโทนี่มากเขาได้รีดเค้นกำลังภายในออกมาเมื่อรวมกับพลังเสริมของเวน่อม กล้ามเนื้อผิวหนังของเเจ็คสันรู้สึกเเข็งเเกร่งมากขึ้น

 

“เเจ็คสัน นายรู้สึกยังไงบ้าง?”ขณะที่เเจ็คสันกำลังอารมณ์ดี ปีเตอร์กล่าวอย่างกงัวล

 

เเม้ว่าส่วนที่ถูกเวน่อมผสานจะเป็นเเค่เเขนเเละขาเเต่เวน่อมอาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของเจ้าตัว ดังนั้นปีเตอร์จึงกังวลอย่างมาก

 

“คุณปีเตอร์ โปรดสบายใจเถอะ ผมได้ตรวจสอบสมรรถภาพทางกายของคุณเเจ็คสันเเล้ว ค่าตัวเลขในปัจจุบันบ่งบอกได้ว่าร่างกายของคุณเเจ็คสันนั้นปกติดี ยิ่งไปกว่านั้น เวน่อมยังช่วยเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งให้กับกล้ามเนื้อเเขนเเละขาทั้งสี่ของคุณเเจ็คสันให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย”ขณะที่ปีเตอร์รู้สึกกังวล J.A.R.V.I.S ได้ตอบคำถามเเทนเเจ็คสัน

 

“ใช่เเล้ว ปีเตอร์ นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ตอนนี้ฉันรู้สึกดีเอามาก ๆ !”หลังจาก J.A.R.V.I.S กล่าว เเจ็คสัน ก็เสริมคำพูดของเขาไปด้วย

 

เเจ็คสันรู้สึกกระปรี้กระเปล่าแบบสุด ๆ มันเป็นอารมณ์ที่ยากจะอธิบาย หากความรู้สึกนี้เป็นผลมาจากเวน่อมที่อยู่บนร่างกายของเขา เเจ็คสันก็คิดว่าตัวเขายังสบายดีอยู่ ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S เเละ เเจ็คสัน ปีเตอร์ในที่สุดก็ผ่อนคลายลงจนถึงตอนนี้เขายังคงไม่สามารถลบความหวาดกลัวเเละกังวลที่มีต่อเวน่อมไปได้

 

“นั่นถือเป็นเรื่องที่ดี เเจ็คสัน เธอลองเเสดงความเเข็งเเกร่งของตัวเองออกมาให้ชมหน่อย”โทนี่ ต้องการเริ่มการทดสอบขั้นต่อไป

 

เเจ็คสันได้ขยับเเขนเเละขาตามจังหวะก่อนที่จะเดินไปที่เครื่องทดสอบความเเข็งเเกร่งด้านหน้า

 

“ฉันจะลองวัดพละกำลังเเรงต่อยก่อนเลยเเล้วกัน!”เเจ็คสันได้กล่าวออกมา

 

“เริ่มได้เลยครับคุณเเจ็คสัน!”

 

ฟุ่บ!

 

ปั้ง!

 

หลังจาก J.A.R.V.I.S พูดจบ เเจ็คสันก็ง้างหมัดต่อยเข้าไปที่กลางเป้า ความรุนเเรงเเละความเร็วของหมัดนั้นเมื่อเทียบกับโทนี่ ถือว่ารุนเเรงกว่ามาก ด้วยผลกระทบที่หมัดถูกเคลือบไปด้วยตัวของเวน่อมทำให้ตรงเครื่องวัดความรุนเเรงเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วห้องปฏิบัติการ

 

ฟู่ววว~~

 

เห็นเเรงสั่นสะเทือนเหล่านั้นโทนี่มองตาไม่กระพริบ นี่เป็นห้องปฏิบัติการใต้ดินของเขา มันถูกสร้างมาให้เก็บเสียงได้เเทบจะหมดจด เเต่กำปั้นของเเจ็คสันกลับสามารถทำให้เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ เห็นได้ชัดว่าความเเข็งเเกร่งทางกายเดิมของเเจ็คสันค่อยข้างสูง

 

ติ๊ดด

 

เครื่องวัดความรุนเเรงได้ประมวลผลออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งโทนี่ได้จ้องมองไปที่ผลลัพธ์เขาตรวจสอบพร้อมกับเผยอาการตกใจเเม้เเต่ตัวเขายังรู้สึกอาย

 

5,000 กิโลกรัม

 

นี่คือความรุนเเรงของหมัดของเเจ็คสันเมื่อครู่ เเม้เเต่โทนี่ยังต้องขยี้ตาหลายครั้ง ความเเข็งเเกร่งเเละความรุนเเรงดังกล่าวสมควรได้รับการขนานนามว่าหมัดเเห่งการทำลายล้างถึงจะถูก นี่มันไม่ใช่ความเเข็งเเกร่งที่คนธรรมดาทั่วไปกล้าจะคิด รวมถึงตัวโทนี่เอง เขาก็รู้สึกหวาดกลัวต่อผลลัพธ์นี้

 

เมื่อเทียบกับโทนี่ การโจมตีครั้งนี้ ปีเตอร์รู้สึกสงบมาก เพราะความเเข็งเเกร่งในปัจจุบันทางร่างกายของปีเตอร์นั้นเขาสามารถสร้างปรากฏการณ์นี้ได้อย่างไม่อยาก ยิ่งหากเขาได้รับประสิทธิภาพของชุดสไปเดอร์แมนด้วยเเล้วล่ะก็เขายังสามารถเพิ่มความรุนเเรงได้อีก

 

“เเจ็คสันเธอทุ่มสุดกำลังเเล้วหรือยัง?”โทนี่ ที่ตื่นจากอาการช็อค เขาได้กล่าวถามเเจ็คสันโดยตรง

 

“เอ่อ?ผมยังไม่ได้เอาจริงเลยนะ”

 

ความรุนเเรงเมื่อครู่คือความเเข็งเเกร่งมากกว่า 5,000 กิโลกรัม เเต่เเจ็คสันก็ยังไม่ได้ทุ่มพลังเต็มที่ หากเขาพุ่งพลังอย่างเต็มที่ ความเเข็งเเกร่งของเขาจะมากขนาดไหน

 

“นี่…ขนาดยังไม่เต็มที่ งั้นหรอ? ดี!”

 

“เช่นนั้นเธอลองใช้การโจมตีเเบบเต็มที่ดู!”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน โทนี่ กลายเป็นจริงจังขึ้นมาเขาดูตื่นเต้นกว่าเดิมมาก หากพละกำลัง 5,000 กิโลกรัม ไม่ใช่พละกำลังของเเจ็คสันอย่างเต็มที่เเล้วละก็ โทนี่ก็อยากรู้ว่าพละกำลังเอาจริงของเเจ็คสันจะเเข็งเเกร่งขนาดไหน

 

“พละกำลังแบบเต็มที่?คุณสตาร์ก ผมเกรงว่าเครื่องวัดความรุนเเรงของคุณจะไม่สามารถทนรับพลังทั้งหมดได้”ขณะที่เเจ็คสันเตรียมจะทดสอบเขากล่าวเสริมออกมา ตอนนี้เขาได้พละกำลังส่วนนึงที่ยืมมาจากเวน่อมด้วยทำให้เขารู้สึกว่าพละกำลังทั้งหมดของตัวเองสามารถพังเครื่องวัดความรุนเเรงได้

 

“ผ่อนคลายเถอะ คุณภาพของเครื่องนี้ ฉันให้ความรับประกัน มันย่อมไม่พังง่าย ๆ หรอก”โทนี่ กล่าวรับรองในเรื่องนี้

 

“ผมเข้าใจเเล้ว เช่นนั้นผมจะใส่แบบเต็มกำลังเเล้วกัน”เนื่องจากโทนี่รับประกันเเล้ว เเจ็คสันก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเขาเตรียมที่จะลงมืออีกครั้ง

 

ฟู่วว~

 

เเจ็คสันได้ผ่อนลมหายใจลงก่อนที่จะถ่ายโอนกำลังภายในทั้งหมดเข้าสู่ร่างกายของเขา ภาพลักษณ์ของเเจ็คสันในตอนนี้ดูน่าประทับใจอย่างมาก เขาราวกับสัตว์ร้ายที่เงียบสงบที่หากลงมือเมื่อไหร่เกรงว่าจะต้องหวาดผวาเมื่อนั้น

 

ฟู่วว~~

 

ขณะที่เเจ็คสันเตรียมจะลงมือ โทนี่ เเละ ปีเตอร์ ก็จ้องมองไปที่ภาพด้านหน้าอย่างประหลาดใจ

 

ปั้ง!

 

ปีเตอร์ เเละ โทนี่ เเทบจะไม่กระพริบตา

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร้วมากกำปั้นของเเจ็คสันที่เคลือบด้วยตัวเวน่อมนำมาซึ่งพละกำลังอันเเข็งเเกร่งเเรงหมัดที่ส่งออกไปนั้นสร้างคลื่นลมกรรโชกโดยรอบจนเกิดเสียง

 

ปั้ง!

 

พริบตาต่อมาเครื่องทดสอบความรุนเเรงของโทนี่ได้เเตกออกจากพื้นโดยตรงส่วนบนของฐานได้บินลอยไปโดนกระจกผนังอีกด้านนึงของห้องปฏิบัติการ มันพุ่งไปราวกับจรวด โชคดีที่ผนังกระจกเเข็งเเกร่งอย่างมาก จึงทิ้งร่องรอยเเตกเอาไว้ดูต่างหน้า

 

เปรี๊ยะ!

 

ในเวลานี้ โทนี่ เเละ ปีเตอร์ ก็ยังตกใจ สินค้าคุณภาพนี้ถูกสร้างโดยอุตสาหกรรมสตาร์กซึ่งตัวโทนี่สามารถรับรองเรื่องนี้เองได้เเต่มันกลับถูกทำลายอย่างง่ายดายทั้งยังถูกส่งบินลอยไปราวกับปุยนุ่น

 

“J.A.R.V.I.S สามารถวัดค่าความเเข็งเเกร่งของกำปั้นเมื่อครู่ได้หรือไม่?”โทนี่กล่าวถามผงาบ ๆ ต่อ J.A.R.V.I.S

 

“ขอโทษครับ การประมวลผลเมื่อครู่ ไม่สำเร็จ”เป็นไปตามที่โทนี่ คาดเอาไว้ การประเมินผลเมื่อครู่ ไม่ได้รับการบันทึก เเต่โทนี่ ก็คาดเดาได้ ดูจากพละกำลังอันน่าเหลือเชื่อของเเจ็คสัน

 

“เสียงเมื่อครู่เเทบจะดังลั่นออกมานอกห้องนอกจากนี้ผนังกระจกที่เเข็งเเกร่งนั่นกับเกิดรอยร้าวลึก!”เนื่องจากเครื่องทดสอบความรุนเเรงได้เสียไปเเล้ว โทนี่ จึงพึมพัมเเละชื่นชมเสียงอันไพเราะที่ดังสนั่นหูเมื่อครู่

 

 

หลังจากผ่านไปสิบนาทีโทนี่ได้อธิบายเเผนการคร่าว ๆ ของเขาให้ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ฟัง หลังจากพวกเขาทั้งสองคนได้ฟังเเล้ว สีหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นอันถอดสี เเม้ปีเตอร์จะเคารพโทนี่ เเต่เขาก็ไม่อยากทำเรื่องแบบนี้

 

“คุณสตาร์ก,คุณมีความมั่นใจมากน้อยเเค่ไหน”มองไปที่ห้องเเล็บด้านหน้า ปีเตอร์กล่าวถามอย่างจริงจัง

 

การทดลองของโทนี่ก็คือการให้ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ เข้าหาเวน่อม ธรรมชาติย่อมไม่ใช่การเข้าหาโดยตรงเเต่เป็นการชักนำพลังงานเพื่อดึงดูดมัน เเละโทนี่ต้องการตรวจสอบประสิทธิผลของร่างกายหลังจากถูกเวน่อมสิงสู่ โทนี่เชื่อว่าหลังจากเวน่อมวิวัฒนาการตนเองมาเเล้ว มันย่อมไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์อีก

 

เเม้โทนี่จะให้การรับรองว่า เวน่อมในห้องปฏิบัติการจะไม่ดูดซับพลังงานชีวภาพในร่างกายมนุษย์อีก เเต่ความกลัวของปีเตอร์ที่มีต่อเวน่อมยังคงฝังรากลึกอยู่ในใจของเขา ธรรมชาติเขาย่อมไม่เต็มใจที่จะใกล้ชิดกับเวน่อมอีกครั้ง

 

เห็นความกังวลที่เเสดงออกบนใบหน้าของปีเตอร์เเจ็คสันที่อยู่ใกล้ ๆ กลับไม่มีความกังวลเเม้เเต่น้อย เขาเหมือนกับโทนี่ ในดวงตาของเขาเผยเเววตาที่น่าตื่นเต้นราวกับเพิ่งได้ของเล่นมาใหม่ ๆ

 

อันที่จริงโทนี่กล่าวรับรองความมั่นใจมากกว่า 70% เเต่ผลลัพธ์ความปลอดภัยเเน่นอนว่าอยู่ที่ 90% เขาต้องการให้ทั้งสองคนยอมตกลงเห็นด้วย เเต่ถ้าทั้งสองคนไม่ตกลงเขาย่อมไม่บังคับ

 

“ถ้าพวกเธอไม่อยาก…”

 

“ผมอาสาเอง!”ขณะที่ปีเตอร์เตรียมจะพูดอะไร เเจ็คสัน ก็ตะโกนขึ้น สายตาของเขาบ่งบอกถึงความตื่นเต้น

 

“เเจ็คสัน! เช่นนั้นเธอเข้ามาทดลองเป็นคนเเรก!”เห็นดวงตาที่ตื่นเต้นของเเจ็คสัน ปีเตอร์รู้สึกกังวลมาก โทนี่เองก็ไม่ต้องการทำเช่นนี้เเต่เพื่อความก้าวหน้าทางด้านข้อมูลเขาจำต้องมีการอ้างอิง

 

“ผ่อนคลายเถอะ ฉันรู้ว่า คุณสตาร์กย่อมไม่ปล่อยให้พวกเราเป็นอะไร นายไม่เชื่อใจคุณสตาร์กงั้นหรอ?”เห็นปีเตอร์เป็นกังวลเกี่ยวกับเขา เเจ็คสันกล่าวตอบ

 

“ฉันเชื่อคุณสตาร์ก,เเต่…”

 

“นั่นก็ถือเป็นเรื่องที่ดี,เอาล่ะฉันจะทดลองเป็นคนเเรก!”เห็นปีเตอร์ต้องการกล่าวอะไร เเจ็คสันกล่าวตอบ

 

“คุณสตาร์ก,ผมพร้อมเเล้ว”เเจ็คสันกล่าวบอกโทนี่

 

การกระทำของเเจ็คสันทำให้โทนี่รู้สึกสงสัยในเวลาเดียวกันในความเข้าใจของโทนี่ เเจ็คสันไม่น่าจะเพียงเเค่ตื่นเต้นสำหรับการทดลอง เขาน่าจะค้นพบอะไรบางอย่าง

 

“เจ้าเด็กนี่,เธอรู้อะไรอย่างงั้นหรอ?”โทนี่เปิดปากถาม

 

“ฮ่าฮ่า,ไม่ใช่ว่าคุณเองก็รู้อยู่เเก่ใจหรอกหรอ?ถ้าหากผมเดาไม่ผิดล่ะก็คุณวางเเผนจะพัฒนาระบบตลาดอาวุธทั้งหมดโดยใช้เวน่อมใช่หรือไม่”เเจ็คสันยิ้มตอบด้วยรอยยิ้ม

 

ได้ยินคำตอบของเเจ็คสันโทนี่เผยรอยยิ้มออกมา”เจ้าเด็กคนนี้เธอคิดมากเกินไปเเล้ว เอาล่ะไปเตรียมตัวรอ…”

 

ฟุ่บ!

 

โทนี่ได้สร้างชุดเกราะไอรอนแมนสำหรับการทดลองขึ้นมาโดยเฉพาะเขาให้เเจ็คสันสวมมันเพื่อความปลอดภัย เเม้เขาจะมีความมั่นใจเเต่ความปลอดภัยย่อมมาเป็นอันดับหนึ่ง

 

ขั้นตอนการเริ่มต้นได้ถูกเริ่มทีละส่วน เเจ็คสันได้เดินไปสวมใส่ชุดเกราะไอรอนแมในปัจจุบัน

 

จากนั้นประตูห้องปฏิบัติการก็เปิดขึ้น เเจ็คสันที่สวมใส่ชุดเกราะไอรอนแมนเขาได้เดินเข้าไปข้างใน ขณะที่เเจ็คสันกำลังเดินเข้าไปข้างใน สายตาของปีเตอร์บ่งบอกถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด เเต่สำหรับ โทนี่ เขาเพียงภาวนาเเละเชื่อว่าทุกอย่างย่อมเป็นไปด้วยดี

 

เปรียบเทียบกับความมั่นใจของโทนี่เเละความกังวลของปีเตอร์เเล้ว เเจ็คสันรู้สึกผ่อนคลายมาก เวน่อมในปัจจุบันเเม้มันจะน่ากลัวเเละดูน่ากังวล เเต่ด้วยความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันย่อมไม่เป็นปัญหาหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

 

“เอาล่ะ…J.A.R.V.I.S ตัดพลังงานชุดเกราะโครงเหล็ก”เห็นเเจ็คสันเดินเข้าไปด้านในเสร็จ โทนี่ กล่าวสั่งการกับ J.A.R.V.I.S

 

“ครับเจ้านาย”หลังจากโทนี่กล่าวสั่ง J.A.R.V.I.S ได้ตัดพลังงานของชุดเกราะโครงเหล็กทิ้ง

 

จากนั้นพลังงานภายในชุดเกราะโครงเหล็กก็ถูกตัดทิ้งออกไป

 

เวน่อมที่เดิมสนใจชุดเกราะโครงเหล็กได้เปลี่ยนเป้าหมายเป็นเเจ็คสัน

 

ฟุ่บ!

 

ไม่นานร่างของเวน่อมที่นิ่งเงียบมากกว่า 10 วินาทีก็เริ่มขยับตัวเข้าหาเเจ็คสันอย่างช้า ๆ

 

“J.A.R.V.I.S ปลดชิ้นส่วนเกราะเเขนเเละขาของฉันออก”ขณะที่หนวดเหล่านี้กำลังเคลื่อนเข้าหาตนเอง เเจ็คสัน กล่าวสั่งการ

 

ฟุ่บ!

 

วินาทีต่อมา ชิ้นส่วนชุดเกราะเหล็กเเขนเเละขาของเเจ็คสันทั้ง 4 ข้าง ได้หลุดออกจากชุดเกราะไอรอนแมนในเวลาเดียวกัน

 

ขณะเดียวกันเวน่อมที่เคลื่อนที่เข้าหาเเจ็คสันไม่ได้เเยกส่วนออกเป็นสี่เเห่งก่อนที่จะเข้าผสานเข้ากับเเขนขาทั้งสี่ของเเจ็คสันที่ไร้ซึ่งชุดเกราะ

 

~

 

เพราะว่าเเจ็คสันไม่ได้เปิดโหมดพลังงานเวน่อมจึงไม่ได้ทำการดูดซับพลังงานเหล่านั้นมันมุ่งเน้นความสนใจไปที่ร่างกายเนื้อที่เปลือยเปล่าของเเจ็คสันที่เป็นเเขนขาทั้ง 4 ข้าง

 

“โอ้ว,นี่น่ะหรอความรู้สึกของการถูกเวน่อมสัมผัส จั๊กจี้ใช้ได้”

 

 

ได้ยินคำตอบของโทนี่,ใบหน้าของเเจ็คสันเเละปีเตอร์กลายเป็นจริงจังขึ้นในทันที สำหรับปีเตอร์เเวบเเรกที่ได้ยินคำว่าเวน่อมเขาก็บังเกิดความรู้สึกยากจะบอกใหห้ถูก เพราะก่อนหน้านี้ เขาถูกควบคุมโดยเวน่อมอย่างสมบูรณ์จะว่าเป็นความกลัวจากส่วนลึกในจิตใจก็ไม่เเปลกหากเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับมันอีก

 

“มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเวน่อม?เช่นนั้นใช่สามารถหาวิธีควบคุมมันได้เเล้วใช่มั้ย”เเจ็คสันกล่าวถามออกมา

 

“หากอิงข้อมูลในปัจจุบันก็คงจะใช่ เเต่ก็ยังคงต้องพึ่งการทดลองอีกมากมาย ดังนั้นฉันจึงโทรหาพวกเธอ”โทนี่ ตอบกลับในทันที

 

จากนั้น โทนี่ก็เดินไปยังมุมนึงซึ่งเเจ็คสันเเละปีเตอร์ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะคำตอบของโทนี่ค่อนข้างคลุมเครือ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการพิสูจน์ผลลัพธ์ด้วยตาของตัวเอง

 

“J.A.R.V.I.S เเสดงให้พวกเขาเห็นหน่อย”เมื่อเเจ็คสันเเละปีเตอร์เดินมาถึงหน้าโต๊ะตัวนึง โทนี่ กล่าวบอกกับ J.A.R.V.I.S

 

“ครับเจ้านาย”J.A.R.V.I.S ควบคุมชุดเกราะโครงเหล็กที่อยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานของโทนี่ เคลื่อนย้ายเข้าสู่ห้องทดลอง

 

นอกเหนือจากการเคลื่อนไหวของโทนี่ เเจ็คสัน เเละปีเตอร์ ต่างก็นั่งเงียบ พวกเขาจ้องมองการกระทำของโทนี่เเละหวังว่าจะได้เห็นอะไรดี ๆ ดังนั้นสายตาของพวกเขาจึงจับจ้องทุกการกระทำจนหุ่นยนต์ได้เดินไปที่ด้านหน้าห้องปฏิบัติการจากนั้นก็เข้าไปข้างใน

 

“นั่นนะหรอ เวน่อม!”มองเข้าไปที่ด้านในห้องทดลองวัถตุสีดำที่ลึกลับกำลังติดอยู่บนเสาโลหะภายในห้อง

 

เมื่อเทียบกับเวน่อมที่ปีเตอร์คุ้นเคยก่อนหน้านี้ เวน่อมในปัจจุบันที่อยู่ในห้องทดลองกับมีความเปลี่ยนเเปลงไปบ้าง ซึ่งปีเตอร์ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนเเปลงที่ว่านี้คืออะไร เขารู้สึกว่ามันไม่ได้ก้าวร้าวเหมือนเดิม เเต่เขาก็ไม่ได้ปักใจเชื่อมันทั้งหมด เพราะสิ่งที่เขาคิดล้วนมาจากสัญชาตญาณเเมงมุมของเขา

 

“ใช่…นั่นเเหละ เวน่อม หลังจากผ่านพ้นไปหนึ่งเดือน ดูเหมือนมันจะวิวัฒนาการตัวเองเเละเกิดความเปลี่ยนเเปลง จะว่าวิวัฒนาการใช่หรือไม่ฉันเองก็ไม่เเน่ใจเพราะมันเป็นสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว เเต่ดูจากการเปลี่ยนเเปลงของมันเเล้วฉันก็ตีค่าให้มันไปเเบบนี้ก่อน”โทนี่ กล่าวตอบ

 

“คุณสตาร์ก,คุณบอกว่า เวน่อมวิวัฒนาการตัวเอง เช่นนั้น ความสามารถของเวน่อมหลังจากวิวัฒนาการคือ?”เเจ็คสันจ้องมองชุดเกราะภายในห้อง ขณะที่ J.A.R.V.I.S กำลังเคลื่อนชุดเกราะเข้าหาเวน่อม

 

เขาจ้องมองไปที่ชุดเกราะโครงเหล็กเเละเกิดความเเปลกใจเเต่ก็คิดไม่ออก โทนี่บอกว่ามันวิวัฒนาการเช่นนั้นความสามารถของมันย่อมเปลี่ยนเเปลงไปจากเดิม ดังนั้นเขาจึงต้องการถามโทนี่ให้รู้เเน่ชัด

 

“ก่อนหน้านี้เวน่อมใช้พลังงานชีวภาพของโฮสต์เพื่อตอบสนองความอยู่รอดของมัน มันคือปรสิต ก็เหมือนกับกาฝากที่ต้องพึ่งพาคนอื่นเพื่ออยู่รอด ดังนั้นมันถึงเข้าควบคุมร่างกายของปีเตอร์เเละดูดซับพลังงานกระบวนการทางความคิดของปีเตอร์เป็นอาหาร”โทนี่อธิบายอย่างระวัง

 

“อืม,ในเวลานั้นมันทำหน้าที่เหมือนกับกาฝากจริง ๆ มันได้สื่อสารทางจิตกับผม เเล้วก็ยังให้คำเเนะนำต่าง ๆ เเต่ภายหลังผมก็ได้ปฏิเสธมันจนถูกเข้าควบคุมจนไม่ได้สติ ในช่วงที่ผมไม่ได้สตินั้น ผมได้ลงมืออะไรไปบ้างก็ไม่รู้ เรื่องนี้ผมที่เป็นตัวต้นเหตุรู้สึกเสียใจมาก”ได้ยินคำตอบของโทนี่ ปีเตอร์ กล่าวเล่าประสบการณ์ก่อนที่จะถูกควบคุมโดยสมบูรณ์

 

“เนื่องเพราะมันเป็นปรสิตการพึ่งพาอาศัยคนอื่นเพื่อความอยู่รอดก็เป็นรูปแบบในการดำเนินชีวิตของมัน เเต่ภายหลังพอมันไม่มีโฮสต์ให้ควบคุม มันก็นอนหลับมาโดยตลอด ตอนนี้มันได้ตื่นขึ้นมา เเละฉันก็พบว่ามันได้วิวัฒนาการตัวเองเพื่อความอยู่รอด ยกตัวอย่าง ตอนนี้ มันสามารถดูดซับพลังงานไฟฟ้า เเละ พลังงานชนิดต่าง ๆ ได้”หลังจากปีเตอร์กล่าวบอกโทนี่เเล้ว โทนี่ ก็ อธิบายต่อ

 

ฟุ่บ!

 

ขณะเดียวกันที่โทนี่อธิบาย J.A.R.V.I.S ก็ได้เปิดเเหล่งพลังงานที่ชุดเกราะโครงเหล็ก มันเป็นพลังงานไฟฟ้าบริสุทธิ์ที่เกิดจากเตาปฏิกรอาร์ค

 

ฟุ่บ!

 

วินาทีต่อมา เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ต่างก็ตกใจกับสิ่งที่ตาเห็น เวน่อมที่อยู่ ๆ เกาะที่เสาเหล็กภายในห้องได้เเยกหนวดจำนวนนับไม่ถ้วน เเละ กระโดดเข้าหาชุดเกราะโครงเหล็กที่ปล่อยกระเเสไฟฟ้าเมื่อครู่นี้

 

“นี่คือการวิวัฒนาการของมันงั้นหรอ?ความรู้สึกของมันไวต่อความผันผวนของพลังงานไฟฟ้ามาก เช่นนั้นความสามารถของมันคือสามารถดูดซับพลังงานไฟฟ้าเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานของตัวเองได้!”ปีเตอร์จ้องมองไปภายในห้องทดลองเเละอุทานออกมา

 

จุดอ่อนเดิมที่ใหญ่ที่สุดของเวน่อมก็คือคลื่นเสียงความถี่สูง มันสามารถทำลายสมดุลความมั่นคงของเวน่อมได้ การโจมตีทางพลังงานไฟฟ้าเเละพลังงานความร้อนเดิมก็มีผลกับเวน่อมเเต่พอมันวิวัฒนาการพลังงานเหล่านี้ก็เเทบจะไม่เป็นอันตรายต่อมัน

 

“นอกเหนือจากพลังงานไฟฟ้าเเล้วมันยังสามารถดูดซับพลังงานความร้อนได้ ก่อนหน้านี้พวกเราเคยลองกำจัดมันด้วยอุณหภูมิความร้อนระดับสูงเเล้วได้ผลเเต่ตอนนี้เปลวไฟเเทบจะไม่สามารถทำอะไรมันได้อีกต่อไป”ขณะที่คนอื่น ๆ กำลังคิดถึงความน่ากลัวของเวน่อม โทนี่ ก็อธิบายความสามารถของเวน่อมต่อ

 

“ไม่กลัวไฟฟ้า! ไม่กลัวไฟ เช่นนั้นการโจมตีด้วยคลื่นเสียงใช่ไม่มีผลด้วยใช่มั้ย!”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันกล่าวถามในทันที สำหรับปีเตอร์ เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน ครั้งก่อนจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดอของเวน่อมก็คือ คลื่นเสียงอย่างเห็นได้ชัด

 

“ฮิฮิ,พวกเธอนี่ฉลาดจริง ๆ ! ใช่เเล้วการโจมตีด้วยคลื่นเสียงก่อนหน้านี้ล้วนไร้ผล”โทนี่ยิ้มกล่าวตอบ

 

“จริง ๆ เเล้วเวน่อมที่วิวัฒนาการมันทำเพื่อให้ตนเองอยู่รอด ดังนั้นมันจึงกลบจุดอ่อนก่อนหน้านี้ของมันทั้งหมด”เเจ็คสันสัมผัสได้ถึงความน่าเกรงขามของเวน่อม ดูเหมือนสกิลการเอาชีวิตรอดของสายพันธุ์ปรสิตนี้จะสูงมาก

 

เเต่เขาก็ไม่ได้เเปลกใจสายพันธุ์ปรสิตที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ภายในจักรวาลใบนี้ได้ย่อมไม่ใช่สายพันธุ์ที่ควรดูถูก

 

“คุณสตาร์ก หลังจากนี้คุณจะทำยังไงต่อ?”ปีเตอร์กล่าวถามประเด็นสำคัญออกมา

 

“ฮ่าฮ่า,นั่นย่อมเป็นการขอความร่วมมือจากพวกเธอ”

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงรถจิ๊ปของเเจ็คสันได้ออกจากบ้านพักสุนัขจรจัดเพื่อขับไปยังบ้านพักชายทะเลของโทนี่ เรื่องระหว่างที่ เเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ ธอร์ พบกันเเละพูดคุยกันในวันนี้ พวกเขาสัญญาว่าจะเก็บมันเป็นความลับเอาไว้

 

“เเจ็คสัน นายคิดว่า คุณสตาร์กมองหาเราเพราะมีเรื่งอะไรงั้นหรอ จริงสิ ฉันเห็นคุณสตาร์กเรียกนายไปพบบ่อยมาก?”ปีเตอร์กล่าวถามเเจ็คสันด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

ก่อนที่ สตีฟ โรเจอร์ส หรือ กัปตันอเมริกา จะฟื้นคืนชีพกลับมา ไอรอนแมน โทนี่ เป็นบุคคลที่ปีเตอร์ให้ความเคารพมากที่สุด เเต่ตอนนี้ เเน่นอนว่าย่อมเป็นกัปตันโรเจอร์ส เพราะฮีโร่คนนี้ถือเป็นไอดอลอันดับหนึ่งในดวงใจของเขา

 

“น่าจะเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการทดลอง นอกจากนี้ ที่ฉันไปบ้านคุณสตาร์กบ่อย ๆ เป็นเพราะเขาจ้างฉันให้ช่วยเหลือด้านการทดลอง ตอนนี้ฉันเป็นผู้ช่วยของเขานอกเหนือจาก J.A.R.V.I.S จริง ๆ เเล้วจะว่าเขาจ้างฉันก็ไม่ถูกซะทีเดียว ฮ่าฮ่า”เเจ็คสันยิ้มตอบกลับ

 

“คุณสตาร์ก ก็มีงานอดิเรกให้ทำบ่อย ๆ งั้นเเหละ เขาเป็นคนแบบนั้น ไม่ต้องใส่ใจหรอก”

 

ก่อนหน้านี้ตอนที่เเจ็คสันช่วยเหลือ โทนี่ ทำงานที่ห้องใต้ดิน บนโต๊ะของ โทนี่ ได้วางเช็ค 1 ล้านเอาไว้ให้กับเขา ซึ่งในเวลานั้นเเจ็คสันรู้สึกสับสนมาก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมโทนี่ถึงมอบเช็ค 1 ล้านให้ เเต่โทนี่ หาได้สนใจ เเละค้านจะอธิบายเเจ็คสันจึงไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

“เอ่อพวกเรามาสายแบบนี้จะไม่เป็นอะไรเเน่หรอ เเล้วนี่เป็นครั้งเเรกที่ฉันไปบ้านพักของคุณสตาร์กโดยตรง?”ปีเตอร์กล่าวถามอย่างกังวล

 

“ไม่เป็นไรหรอก คุณสตาร์ก ไม่ใช่คนใจเเคบใจดำขนาดนั้น”เเจ็คสันรู้ว่าปีเตอร์กังวลเกี่ยวกับโทนี่ เเต่เขาไม่ได้สนใจ อย่างไรก็ตาม โทนี่ สตาร์ก ก็คงมีเรื่องให้พวกเขาช่วยเหลืออยู่ดี

 

“ฉันเข้าใจเเล้ว”

 

จากนั้นไม่นานเเจ็คสันเเละปีเตอร์ก็มาถึงบ้านพักชายทะเลของโทนี่ ภูมิส่วนนี้ เเจ็คสันเริ่มที่จะคุ้นเคยชินกับมันเเล้วราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันจอดรถที่หน้าทางเข้า สำหรับพื้นที่ด้านในนั้นเต็มไปด้วยรถสปอร์ตเเละชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ พื้นที่ด้านนอกเเม้จะว่างเเต่ก็ไม่ค่อยมีเเขกมาเยี่ยมชม ดังนั้น รถของเเจ็คสันจึงมักจอดรออยู่ที่หน้าทางเข้าเป็นประจำ สำหรับเเจ็คสันเเล้วเขาไม่ได้ต้องการเปลี่ยนรถจิ๊ปมือสองนี้ รถในโรงรถของโทนี่ เเจ็คสันสามารถขับมันออกไปได้ทุกคัน เเต่เขาไม่ได้เห็นเเก่ตัวขนาดที่หน้าด้านไปยืมรถคนอื่น แบบฟรี ๆ

 

ตึก ตึก

 

“ไปกันเถอะ,J.A.R.V.I.S น่าจะเเจ้งให้คุณสตาร์กรู้เเล้วว่าพวกเรามาถึง พวกเราจะตรงไปที่ห้องทดลองโดยตรง”เเจ็คสันกล่าวพร้อมกับปิดประตูรถเเละเดินนำปีเตอร์เข้าไปในบ้านพักของโทนี่

 

“สวัสดีครับ,คุณ เเจ็คสัน,คุณปีเตอร์ คุณสตาร์ก รออยู่ที่ห้องทดลองหมายเลข 4″ทันทีที่ก้าวเข้าสู่หน้าประตูบ้านของบ้านพัก เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ส่งออกมา

 

“ดูเหมือนว่าพวกเราจะเป็นกรรมกรของคุณสตาร์ก จริง ๆ “เเจ็คสันยิ้มเจื่อน ๆ หันไปหัวเราะกับปีเตอร์

 

สำหรับปีเตอร์เเล้วมันเป็นครั้งเเรกที่เขามาที่บ้านพักสุดหรูของโทนี่ ที่นี่ หลังจากเข้ามาปีเตอร์ก็ตกตะลึงอยู่หลายครั้งราวกับว่าตนเองหลุดเข้ามาในโลกความฝัน

 

“ตามฉันมา!”เห็นปีเตอร์ เดินตัวสั่นเเละเกร็ง ๆ เเจ็คสัน เดินนำทางไปที่ทางเข้าใต้ดินโดยตรง

 

ปีเตอร์ที่ไม่คุ้นทางเเละความเคยชินเขาได้เดินตามเเจ็คสันโดยไม่เว้นละยะ ทันทีที่เข้าบ้านพักของโทนี่ ราวกับเขาได้ค้นพบทวีปเเห่งใหม่ เเจ็คสัน เองก็ทำอะไรไม่ถูกเกี่ยวกับการตอบสนองของปีเตอร์ เขาเกือบลืมไปว่าปีเตอร์ได้มาที่นี่เป็นครั้งเเรก

 

 

บนเส้นทางห้องทดลองหมายเลข 4 โทนี่กำลังสวมเเว่นตาเพื่อจัดการสิ่งต่าง ๆ บนโต๊ะทำงานของเขา บนโต๊ะทำงานของเขาเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางการทหารไม่ว่าจะเป็นอะไหล่ชุดเกราะ มันเป็นชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่โทนี่ได้ประกอบขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เขาจะใช้มันในการทดลอง

 

“เจ้านายครับ,คุณ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ มาถึงเเล้ว”ขณะที่โทนี่กำลังยุ่งอยู่กับงาน J.A.R.V.I.S ก็กล่าวเเจ้งเตือน

 

ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ได้วางทุกอย่างลงบนโต๊ะทันที

 

จากนั้นเขาก็ถอดเเว่นตาของเขาออกเเละบ่นพึมพัมออกมา”เท่านี้การทดลองของฉันก็จะเข้าสู่ช่วงเฟซต่อไป”

 

ฟุ่บ!

 

ไม่นานประตูห้องด้านหลังก็ถูกเปิดขึ้น เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ได้เดินเข้ามาหลังจากพวกเขาเข้ามาเเน่นอนว่าคำพูดเมื่อกี้พวกเขาทั้งสองย่อมได้ยิน สำหรับเเจ็คสันเเล้วเขาเเทบจะสั่นศีรษะทันที เเต่ปีเตอร์ เเน่นอนว่าเขายินดีช่วยเหลืออย่างเต็มที่

 

“คุณสตาร์ก!”ปีเตอร์ได้เเล่นวิ่งไปทักทายโทนี่ที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน

 

“เจ้าหนูปีเตอร์!”เห็นปีเตอร์รีบเเจ้นมาหาตัวเอง โทนี่ รู้สึกดีใจอย่างมาก เพราะเขารู้ดีเลยเเหละว่าปีเตอร์ย่อมสนับสนุนการทดลองของเขาเเน่นอน เเต่เขายังคงรักษาภาพจน์ของตัวเองอยู่

 

“เเจ็คสัน,เจ้าเด็กคนนี้ทำไมเพิ่งมาเอาป่านนี้”หลังจากจับมือทักทายปีเตอร์เสร็จ โทนี่ ตะโกนถามเเจ็คสัน

 

เพียงเเต่เเจ็คสันได้ก้มหน้าขอโทษโทนี่เเละไม่ได้กล่าวอะไรมากความ”จริงสิ คุณสตาร์ก คุณเรียกพวกเรามาในวันนี้ เเสดงว่าต้องการความช่วยเหลือจากพวกเรา”

 

“เเหงสิ ไม่งั้นฉันจะเรียกพวกเธอมาทำไม ยิ่งไปกว่านั้นฉันได้ค้นพบหัวข้อสำคัญเสียด้วย”โทนี่ กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น

 

“ค้นพบ?มันคืออะไร?”เห็นโทนี่เเสดงความตื่นเต้น เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ก็ตั้งใจฟังทันที

 

“เวน่อม! ตอนนี้ฉันมีความคืบหน้าในการวิจัยเกี่ยวกับเวน่อม!”

~

 

วันเวลาเเห่งความสงบสุขที่โรงเรียนได้ล่วงเลยผ่านไปหนึ่งวัน,วันต่อมาเเจ็คสันกับปีเตอร์ที่เลิกเรียนเสร็จเเจ็คสันได้ชวนปีเตอร์นั่งไปบนรถจิ๊ปของเขาจากนั้นรถก็เริ่มเเล่นไปยังสถานที่ทำงานของธอร์เกี่ยวกับการกระทำของเเจ็คสันปีเตอร์ไม่ได้เเย้งเพราะเขาเองก็คิดเหมือนกันว่าควรจะจัดการปัญหาตรงนี้ก่อนเปํนอันดับเเรก

 

“ปีเตอร์ นายบอกว่าธอร์ รู้เกี่ยวกับสถานะที่เเท้จริงของฉัน เเสดงว่าเขาก็ต้องรู้ว่าฉันได้ซ่อนความจริงหลายอย่างจากเขา นายคิดว่าเขาจะโกรธฉันไหม?”ขณะที่กำลังขับรถ เเจ็คสัน ได้กล่าวถามปีเตอร์

 

“เอ๊ะ…เอ่อ ฉันคิดว่าธอร์ไม่น่าจะโกรธกะอีเเค่เรื่องเเค่นี้นะ เพราะนายไม่ได้บอกเขาว่านายคือมิราจไนท์ ใช่ว่านายจะโกหกเขาทั้งหมดเสียหน่อย”ปีเตอร์สั่นศีรษะเเล้วกล่าวตอบเเจ็คสัน

 

ได้ยินคำตอบของปีเตอร์ เเจ็คสัน เองก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น ธอร์ เเน่นอนว่าไม่ใช่คนธรรมดา เขาย่อมมีวิธีคิดแบบที่คนธรรมดาเขาไม่คิดกัน

 

“เอาเถอะ,หากธอร์จะโกรธก็ช่วยไม่ได้ ฉันจะขอโทษเขา ยิ่งไปกว่านั้น หากเขาจะโกรธเพราะฉันปกปิดความจริงจากเขาล่ะก็ ฉันก็จะไม่โต้เเย้ง”เเจ็คสันไม่รู้ว่าธอร์จะรู้สึกอย่างไรเเต่เขาพร้อมเผชิญหน้ากับมัน

 

“หึ่ม! เเจ็คสัน นายก็คือนาย ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีความจำเป็นที่ธอร์ที่จะต้องลงไม้ลงมือกับนายหรอก”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ปีเตอร์ รู้สึกโกรธมาก

 

เเจ็คสัน”…..”ที่ปีเตอร์พูดก็มีส่วนถูกอยู่เรื่องนึงเเน่นอนว่าธอร์ไม่น่าจะลงไม้ลงมือกับเขาถึงจะลงไม้ลงมือกับเขาจริงธอร์ที่ไร้พลังเทพเจ้าสายฟ้าในตอนนี้ย่อมไม่สามารถทำอันตรายเขาได้

 

มันก็เป็นเวลานานหลายเดือนเเล้วที่เเจ็คสันเฝ้าติดตามให้ธอร์ยกค้อนเทพเจ้าสายฟ้าได้ เเจ็คสันรู้สึกลัวค้อนเทพเจ้าสายฟ้ามาก เพราะมันทำให้ระบบต้องหายจากเขาไป หากไม่ได้ระบบช่วยเกรงว่าเขาคงไม่มีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้

 

ในระหว่างทาง เเจ็คสันได้พูดคุยกับปีเตอร์ จากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงหน้าบ้านสุนัขจรจัด ซึ่งที่ธอร์ทำงานอยู่ ปีเตอร์เองก็เป้นคนรักสุนัขมาก หากเป็นไปได้เขาก็อยากเอากลับไปเลี้ยงสักตัว เเต่เนื่องจากงานของสไปเดอร์แมนค่อนข้างยุ่งทำให้เขาไม่สามารถเลี้ยงสุนัขได้

 

ฮึ่ม!

 

หลังจากเเจ็คสันมาถึงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอย่างกระทันหันมันเป็นสายจากโทนี่

 

“คุณสตาร์ก?คุณจะให้เวลาผมพักผ่อนสักสองวันไม่ได้เลยหรอ ผมเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์ร้าย ๆ มานะครับ”หลังจากเชื่อมต่อโทรศัพท์ เเจ็คสันก็กล่าวออกมา

 

ได้ยินการทักทายของเเจ็คสัน โทนี่ รู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกัน เเต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับจุดนี้มากนัก สำหรับปีเตอร์ เขาเองก็รู้ดีว่าเเจ็คสันคงต้องการใช้เวลาพักผ่อนให้มากที่สุด

 

“เจ้าเด็กคนนี้ไม่ใช่ว่าเธอร้องขอให้ฉันช่วยเหลือการจัดการเรื่องต่าง ๆ ภายในชีวิตประจำวันของเธอให้หรอกหรอ เเต่เธอกลับมีหน้ามาพูดแบบนี้?”โทนี่ กล่าวตำหนิเล็กน้อย

 

หลังจากผ่านพ้นการประชุมเมื่อคืนที่ผ่านมา เเจ็คสันก็กลับมาใช้ชีวิตนักเรียนมัธยมปลายอีกครั้ง ซึ่งโทนี่ไม่สามารถทนได้ เพราะเวลาของเขามีค่ามากกว่านั้น

 

“เอ่อ…คุณสตาร์ก”เเจ็คสันอึ้งไปเล็กน้อย

 

“เอาเถอะ,ตอนนี้เธอก็เลิกเรียนเเล้ว รีบๆจัดการธุระให้เสร็จเเล้วรีบมาหาฉันให้เร็วที่สุดเข้าใจไหมฉันมีอะไรจะให้เธอดู”โทนี่อธิบายง่าย ๆ มันเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองกับเวน่อม

 

“ตอนนี้เนี่ยนะ?ผมคงไปช้าหน่อย”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันย่นคิ้วเล็กน้อย

 

ได้รับการปฏิบัติเหมือนเเรงงานราคาถูก เเจ็คสันรู้สึกเคยชินเเล้ว เเละ เขาก็เชื่อว่าโทนี่คงจะมีอะไรบางอย่างให้เขาดูจริง ๆ เเต่อย่างไร เขาก็ต้องไปหาธอร์ก่อนเป็นอันดับเเรก

 

“เธอจะมีธุระอะไรก็เรื่องของเธอ หลังจากเสร็จธุระเเล้ว ให้รีบมาหาฉัน เเล้วก็เรียกเจ้าหนูปีเตอร์มาด้วย”เห็นเเจ็คสันกล่าวชักช้า โทนี่ ไม่ได้เกรงใจ เขาให้เเจ็คสันพาปีเตอร์ไปด้วย

 

“ผมเข้าใจเเล้ว ผมจะรีบไปที่นั่นให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”เเจ็คสันกล่าวตอบก่อนที่จะวางโทรศัพท์

 

“เเจ็คสัน ถ้าเกิดคุณสตาร์กมีเรื่องเร่งด่วนจริง พวกเราควรรีบไปเลยไหม เรื่องธอร์ฉันคิดว่าไม่น่าจะต้องกังวลมากนัก”ปีเตอร์ที่ได้ยินการสนทนาของเเจ็คสันเมื่อครู่ เขารู้สึกลังเล

 

“ไม่จำเป็นหรอก คุณสตาร์กคงจะขอให้เราช่วยเหลือเรื่องการทดลอง คราวนี้เขาให้ฉันพานายไปด้วย ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาเตรียมการทดลองอะไรเอาไว้รอพวกเรา”เเจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

 

จากนั้นพวกเเจ็คสันเเละปีเตอร์ก็รีบไปหาธอร์ในทันทีเขาไม่ต้องการปล่อยให้โทนี่รอนานมากนักเพราะเขารู้สึกหากไปสายคงโดนตำหนิอย่างเเน่นอน

 

ไม่กี่วินาทีต่อมา เเจ็คสันก็พบกับธอร์

 

“ความเเข็งเเกร่งของธอร์ทำไมถึงเเข็งเเกร่งขนาดนี้?”เสียงของเเจ็คสันดังขึ้นใบหน้าของเขามีสีหน้า หน้าเกลียดมาก

 

ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้โดนกำปั้นของธอร์จนกระเด็นลอยไปติดกำเเพง โดยปกติเเล้วพละกำลังของธอร์ไม่น่าจะสามารถเจาะทะลวงพลังป้องกันของเขาได้ เเต่ธอร์เมื่อครู่สามารถทำให้เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อาจเป็นไปได้ว่า ธอร์ได้ฟื้นคืนพลังเหนือธรรมชาติเเล้ว

 

“เอาล่ะข้าให้อภัยเจ้า”หลังจากชกเเจ็คสันลอยไปติดกำเเพง สีหน้าของธอร์ดูระบายขึ้นมาก

 

ที่เขาชกเเจ็คสันไม่ใช่เพราะต้องการระบายอารมณ์เเต่เขารู้สึกโกรธเล็กน้อยเพราะสหายคนที่เขาเชื่อใจกับกล้าปกปิดสถานะกับเขา

 

“??!”เเจ็คสันไอออกมาอย่างรุนเเรงสองครั้งก่อนที่จะจ้องมองไปที่ธอร์

 

“ธอร์คุณเรียกคืนพลังเหนือธรรมชาติเเล้วงั้นหรอ?”เเจ็คสันกล่าวถามธอร์ก่อนที่เขาจะเอามือกุมหน้าอกเเม้จะบาดเจ็บเล็กน้อยเเต่เขาก็ไม่ได้สนใจ

 

“ป่าวหรอก,ข้าเพียงเเค่ได้รับพละกำลังบางส่วนกลับคืนมา”ธอร์กล่าวตอบ

 

คำพูดของธอร์ก็หมายความว่าเขามีความก้าวหน้าในการฟื้นคืนพละกำลังเหนือธรรมชาติของตัวเอง ธอร์ รู้ว่าเเจ็คสันกำลังคาดเดาต่าง ๆ นา ๆ เขาจึงตอบกลับอย่างไม่ปิดบัง

 

“นี่เป็นเรื่องที่ดี ฉันเชื่อว่า คุณจะต้องฟื้นคืนพลังเหนือธรรมชาติของคุณได้อย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลานั้นคุณจะกลับมาเป็นเทพเจ้าสายฟ้าอีกครั้ง”เเจ็คสันจ้องมองไปที่ชายร่างใหญ่ธอร์ ด้วยรอยยิ้ม

 

“หึ! ฉันเองก็อยากจะรู้ว่าความเเข็งเเกร่งของธอร์ เพิ่มมากขึ้นขนาดไหน ร่างกายของฉันเเข็งเเกร่งเเละทนทานกว่าเเจ็คสัน ฉันอยากจะขอลองหน่อย!”ปีเตอร์ที่เห็นกำปั้นของธอร์ซัดเเจ็คสันจนลอยติดผนัง เขาอดที่อยากจะทดสอบกับตัวเองไม่ได้

 

“ได้เเน่นอน!”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ ธอร์หัวเราะกล่าวตอบ

 

ฟุ่บ!

 

วินาทีต่อมา หมัดขนาดใหญ่ของธอรื ก็มุ่งเข้าไปหาปีเตอร์ในทันที

 

“เอ๋…คุณเล่นทีเผลอนิ!”

 

โทนี่ง้างกำปั้นต่อยไปที่เครื่องวัดความเเรงภายในห้องปฏิบัติการ

 

800 กิโลกรัม!

 

นี่คือพละกำลังของเเขนขวาของโทนี่ที่มีเวน่อมในตอนนี้ ทั้งยังไม่ได้ใช้พละกำลังเต็ม! เขาเพียงต่อยเหมือนหมัดต่อยคนธรรมดา เเต่ถึงอย่างนั้นกลับสามารถสร้างความรุนเเรงได้ถึงเพียงนี้

 

โทนี่จ้องมองไปที่อุปกรณ์วัดความรุนเเรงจนลืมเรื่องทดสอบเมื่อครู่ไปเลย เขาตกใจกับพละกำลังที่สุดยอดของตัวเองทั้งยังไม่ได้ใช้ชุดเกราะไอรอนแมนเพียงเเค่เเขนเหล็กที่เหมือนกับสนับมือเพียงเท่านั้น

 

“นี่คือความเเข็งเเกร่งของฉัน?”หลังจากมองไปที่เเขนขวาของตัวเองโทนี่กระซิบกระซาบ

 

การต่อยออกเเรงเมื่อครู่โทนี่สามารถควบคุมความรุนเเรงของกำปั้นตัวเองได้อย่างเเน่ชัดเเม้จะมีเวน่อมปรสิตเกาะอยู่ที่เเขนของตัวเองก็ตาม อีกอย่าง เขาไม่รู้สึกเลยว่าพละกำลังของตนเองจะเพิ่มขึ้น นี่เป็นความรู้สึกภายใน ผลลัพธ์กับความรู้สึกล้วนขัดเเย้งกันทั้งสิ้น เเน่นอนว่าหากโทนี่ต่อยเต็มเเรงเเขนขวาของเขาอาจกระทั่งไม่สามารถรับความรุนเเรงได้ไหวเเละอาจจะหักเลยก็ได้

 

“นี่มันความรู้สึกแบบไหนกัน?เวน่อมกำลังเสริมประสิทธิภาพให้กับเเขนขวาของฉันงั้นหรอ?”โทนี่จ้องมองเเขนขวาที่ปล่อยกระเเสไฟฟ้าอ่อน ๆ เขารู้สึกทึ้งจนเเทบจะบรรยายไม่ถูก

 

กระเเสไฟฟ้าอ่อน ๆ ได้จางหายไปก่อนที่โทนี่จะรู้สึกเจ็บเเปล๊บ ๆ เล็กน้อยที่กล้ามเนื้อ เเต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะสร้างความตื่นกลัวให้กับเขา เพราะหลังจากเวน่อมดูดซับพลังงานไป เเขนขวาที่เจ็บเมื่อครู่กลับมาหายดีอีกครั้ง

 

“การทดสอบดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี!”โทนี่ไม่คิดเลยว่าตนเองจะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ มุมปากของเขายกยอขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

“ดำเนินการทดลองขั้นต่อไป!”โทนี่ต้องการศึกษาเวน่อมให้มากกว่านี้ เขาต้องการข้อมูลที่มากกว่าเดิม

 

J.A.R.V.I.S”…”

 

จากนั้นถูกก็ใช้เเขนขวาของตนเองในการทดสอบแบบอื่น ๆ การทดสอบทั้งหมดกินเวลาไปมากกว่า 1 ชั่วโมงก่อนที่จะจบลง โทนี่พึงพอใจกับผลลัพธ์มาก เขาปลดเเขนเหล็กพลังงานออกจากนั้นก็เดินออกจากห้องปฏิบัติการ

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากเดินออกจากห้องปฏิบัติการโทนี่ลองเหวี่ยงเเขนขวาของตัวเองดูอีกครั้งพละกำลังอันน่าเหลือเชื่อเหล่านั้นกับหายไปเเล้ว ดูเหมือนที่มาของความเเข็งเเกร่งจะมาจากเวน่อมจริง ๆ

 

“นี่มันสุดยอดอย่างมาก,J.A.R.V.I.S ทำการบันทึกข้อมูลเเล้วหรือยัง?”โทนี่สบัดความคิดออกไปก่อนที่จะกล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

“บันทึกเเล้วครับ เเต่ข้อมูลเหล่านั้นเป็นข้อมูลเฉพาะเจาะจงในช่วงเวลาที่ร่างกายถูกเวน่อมควบคุมบางส่วนหากผมคาดเดาไม่ผิดความเเข็งเเกร่งของเวน่อมในตอนนี้สามารถพัฒนาจนเป็นอาวุธที่สมบูรณ์ได้”J.A.R.V.I.S กล่าวประเมินสถานการณ์

 

“อาวุธที่สมบูรณ์?เรื่องนี้ยังคงต้องลองทดสอบกันอีกต่อไป บางทีฉันอาจจะลองยื่นเสนอเรื่องนี้ให้เเจ็คสันเเละปีเตอร์เข้าร่วมทดสอบด้วย”ได้ยินรายงานของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ดูตื่นเต้นมาก

 

เเม้ว่าในตอนนี้ เวน่อมจะไม่ได้ดูเหมือนส่งผลกระทบต่อความคิดของโฮสต์ เเต่หลังจากเวน่อมออกจากร่างกายของเขา โทนี่ รู้สึกเสียดายจริง ๆ บางทีนี่อาจจะเป็นความคิดความโหยหาด้านความเเข็งเเกร่ง การที่ตนเองเคยครอบครองพลังเเละมันหายไปก็ไม่เเปลกที่จะรู้สึกเสียดาย เเต่โทนี่ มีความมั่นใจในตนเองสูง เขามีร่างกายเป็นเเค่คนธรรมดา เขาไม่ได้รับเเรงกดดันจากพลังอันน่ายั่วยุเหล่านั้น

 

หากต้องการศึกษาเเละเปลี่ยนเวน่อมให้กลายเป็นอาวุธที่สมบูรณ์แบบ โทนี่คิดจะให้ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ เข้าร่วมการทดลองนี้ด้วย ที่โทนี่ดึงปีเตอร์มาร่วมอีกคนเพราะปีเตอร์เคยถูกเวน่อมเข้าสิงครั้งนึง

 

ปีเตอร์ในตอนนั้นถูกควบคุมกระบวนการความคิดเเต่ก็ถูกช่วยเหลือออกมาได้จากคนนอก กุญเเจสำคัญก็คือ ปีเตอร์ เเละ เเจ็คสัน มีความเเข็งเเกร่งของร่างกายที่ไม่ธรรมดา พวกเขาทั้งสองคนเหมาะเเก่การทดลองมากที่สุด เเละเรื่องนี้ โทนี่ จะต้องขอความยินยอมจากทั้งสองคนก่อนเป็นอันดับเเรก”ข้อมูลถูกบันทึกไว้ที่ไฟล์หมายเลข 13″

 

“J.A.R.V.I.S เติมพลังงานให้ เวน่อม เร่งประสิทธิภาพในการพัฒนาของมันให้เร็วที่สุด บางทีในเร็ว ๆ นี้เราอาจได้ใช้มันในการทดลอง หากการทดลองสำเร็จเราสามารถวิจัยเเละพัฒนาชุดเกราะไอรอนแมนแบบใหม่ได้”โทนี่กล่าวสั่งการ

 

“ครับเจ้านาย!”

 

 

ขณะเดียวกันเเจ็คสันที่กำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนเขาหารู้ไม่ว่าโทนี่ได้ค้นพบการทดลองใหม่ ๆ เเละเขาถือเป็นเหยื่อรายต่อไป เเต่โทนี่ หารู้ไม่ว่า เเม้สิ่งเหล่านี้จะประสบความสำเร็จ เเต่เเจ็คสันไม่ได้ต้องการเขาไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับเวน่อม

 

ตอนนี้เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องบางอย่าง เพราะหลังจากผ่านเหตุการณ์ปะทะองค์กรไฮดร้า ชีวิตปกติของเขาก็สงบสุขอย่างมาก ไม่นานโทรศัพท์มือถือของเเจ็คสันก็ดังขึ้น เเต่ เเจ็คสันที่เหม่ออยู่ย่อมไม่ได้ยินจนปีเตอร์รีบสะกิดเขา

 

“โทรศัพท์มือถือ!”เเจ็คสันที่โดนสะกิด ปีเตอร์ได้กระซิบบอกเขา จนเเจ็คสันรีบหยิบโทรศัพมือถือขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากเเจ็คสันหายตัวไปมีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นเเละหนึ่งในสิ่งที่เขาตกใจก็คือข้อมูลที่ถูกส่งมา มันถูกส่งมาจากธอร์

 

ในโทรศัพท์เเจ็คสันดูไม่ผิดเเน่ ธอร์ เป็นคนส่งมา ธอร์ได้ระบุตัวตนที่เเท้จริงที่เขาปิดบังเอาไว้ ปีเตอร์เองก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขา เเจ็คสันที่เตรียมจะโวยวายอย่างตกใจ ก็ถูกปีเตอร์ห้ามเอาไว้ก่อน

 

“ธอร์รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?”เเจ็คสันถามปีเตอร์โดยการส่งข้อความไปหาเพราะอาจารย์กำลังสอนอยู่ในชั้นเรียน

 

“ฉันไม่รู้เขามองหาฉันเเละบอกกับฉันว่าเขารู้ว่าตัวตนของนายคือ มิราจไนท์!”ปีเตอร์พิมพ์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

“เอาเถอะ เเม้จะรู้จักกันได้ไม่นาน เเต่ฉันเชื่อว่าธอร์จะไม่เเพร่งพรายสถานะของฉัน”เเจ็คสันถอนหายใจออกมาไม่สำคัญเเล้วว่าธอร์จะรู้สถานะที่เเท้จริงของเขาหรือไม่ตอนนี้

 

เเจ็คสันได้ส่งข้อความโทรศัพท์ตอบกลับธอร์อย่างรวดเร็ว

 

“เพื่อ เควสภารกิจลับ ได้รับมิตรภาพจากเทพเจ้าสายฟ้า ธอร์ ระบบคุณต้องเสียสละตนเองเพื่อปกป้องชีวิตฉัน ไม่ต้องกังวล ตอนนี้ฉันมีความเเข็งเเกร่งที่มากพอจะเก็บเเต้มคะแนนให้ได้มาก ๆ รอก่อน อีกไม่นานฉันจะฟื้นคืนชีพคุณให้ได้”เเจ็คสันตรวจสอบในระบบก็พบเเท่นบูชาที่กำลังรอการฟื้นคืนชีพ

ฟู่ว!

 

จากนั้นโทนี่ก็หายตัวไปจากที่นี่โดยใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีจากนั้นเขาก็กลับมาอีกครั้ง เเต่คราวนี้เขาไม่ได้มาตัวเปล่าโทนี่ได้สวมใส่ชุดเกราะไอรอนแมนล่าสุด เเต่เขาไม่ได้ติดอาวุธเอาไว้ที่ด้านข้อมือขวาของชุดเกราะมีเเถบโลหะผสมหลายแบบยื่นออกมา จากนั้นมันก็ล้อมรอบทั้งตัวของชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ เขาได้ติดตั้งเเอนตี้พลังงานเอาไว้

 

ส่วน J.A.R.V.I.S เขาได้ทำตามคำสั่งของโทนี่ ได้ตัดพลังงานหลักของชุดเกราะไอรอนแมนภายในห้องจนเวน่อมไม่สามารถดูดซับพลังงานมากอีก เเต่พลังงานที่มันดูดซับมาก็มากพอที่จะส่งเสริมการเคลื่อนไหวของมันได้ยาวนานพอ ปัจจุบัน เวน่อมได้ผสานเข้ากับชุดเกราะโดยที่ยังไม่มีการเปลี่ยนเเปลงใด ๆ

 

“เอาล่ะ,J.A.R.V.I.S เปิดประตูห้องปฏิบัติการให้หน่อยฉันจะเข้าไปข้างใน!”หลังจากตรวจสอบการป้องกันทั้งหมดของชุดเกราะตัวเองโทนี่ก็เตรียมเข้าไปในห้องปฏิบัติการ

 

“เจ้านายครับ,ผมไม่เเนะนำให้คุณเข้าไป”หลังจากได้ยินคำสั่งของ โทนี่ J.A.R.V.I.S กล่าวเตือนเขายังไม่ได้เปิดประตูห้องปฏิบัติการ

 

“J.A.R.V.I.S ผ่อนคลายเถอะ ฉันเพียงเข้าไปเเค่ทดสอบเล็กน้อยเพียงเท่านั้นก็เเค่จะลองดูว่าเวน่อมมีค่าพอต่อการใช้งานต่อหรือไม่ ฉันจะไม่ทำให้มันส่งผลกระทบต่อฉัน ดูที่เเขนของฉันสิหากเกิดปัญหาฉันสามารถเเก้ไขได้ในทันที”โทนี่กล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

 

โทนี่ต้องการทดสอบเวน่อมโดยไม่ให้มีผลกระทบต่อตนเองดังนั้นเขาจึงติดอุปกรณ์ป้องกันเอาไว้ ครั้งก่อนเวน่อมสามารถเพิ่มความเเข็งเเกร่งให้โฮสต์ได้สูงมาก ดังนั้น เขาจึงต้องการทดสอบด้วยตัวเอง

 

หากโทนี่สามารถทลายข้อเสียของเวน่อมเเละเปลี่ยนมันเป็นข้อดีเเล้วละก็มันจะกลายเป็นอาวุธชนิดใหม่ ๆ ที่ช่วยสร้างความเเตกต่างให้กับชุดเกราะไอรอนแมนอย่างสมบูรณ์ ไม่เพียงเเต่มันจะไม่คุกคามโฮสต์เเต่มันยังจะช่วยให้โฮสต์ได้รับความเเข็งเเกร่งที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ฟังดูเเล้วมันค่อนข้างเป็นอุปกรณ์เสริมที่ดีไม่ใช่น้อย

 

“เเม้ว่าการทดลองดังกล่าวจะจำเป็น เเต่ผมไม่เเนะนำให้คุณทดลองด้วยตนเอง”J.A.R.V.I.S เข้าใจว่าโทนี่ต้องการจะทดสอบด้วยตัวเองเเม้อันตรายจะมีโอกาสน้อยมากกว่า 1% เเต่ J.A.R.V.I.S ก็ไม่อยากให้โทนี่เข้าไปเสี่ยงอันตราย

 

“นายคิดว่าฉันเป็นใครกัน? ขนาดเเจ็คสันที่เผชิญหน้ากับอันตรายนับไม่ถ้วนยังรอดมาได้ ฉันก็ต้องทำได้ J.A.R.V.I.S เปิดประตู หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงฉันก็ยังมีนายคอยช่วยเหลือ”โทนี่ กล่าวโน้มน้าว J.A.R.V.I.S

 

เวน่อมนั้นเป็นปรสิตที่ดุร้าย ในความเป็นจริงเเล้วไม่ควรเสี่ยงกับเรื่องเหล่านี้ เเต่โทนี่ไม่เชื่อว่าเวน่อมจะสามารถคุกคามตัวตนของเขาได้ ทั้งเขายังเตรียมพร้อมมามากพอที่จะสลัดมันหลุดก่อนที่มันจะสร้างอุบัติเหตุให้กับเขา

 

“เข้าใจเเล้วครับ”ในที่สุด J.A.R.V.I.S ก็ยอมอ่อนข้อให้

 

ฟุ่บ!

 

ในเวลาต่อมา J.A.R.V.I.S ได้เปิดประตูห้องปฏิบัติการ ซึ่งโทนี่ ที่รออยู่หน้าห้องไม่ได้ลังเลเเม้เเต่น้อย เขาได้เคยทดลองอะไรหลาย ๆ อย่างมามากมาย ดังนั้นโทนี่จึงไม่กลัวอะไรอีก

 

ฟุ่บ!

 

โทนี่สวมใส่ชุดเกราะไอรอนแมนเดินเข้าสู่ห้องปฏิบัติการทีละก้าว โทนี่รู้ว่าเวน่อมได้ดูดซับพลังงานมาเมื่อไม่นานนี้ทำให้มันอิ่มตัว เเต่โทนี่ก็ไม่คลายการป้องกันตัวลงเขาเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกันตนเองทุกเมื่อ

 

โทนี่เดินเข้าไปที่ด้านหน้าชุดเกราะที่มีเวน่อมรวมร่างอยู่

 

ขณะนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงซี่ ๆ ราวกับว่ามันกำลังทำอะไรบางอย่าง หนวดสีดำของมันเริ่มเคลื่อนที่ไปทางเเขนขวาของโทนี่

 

ฟุ่บ!

 

เเขนขวาของโทนี่ได้ถูกหนวดของเวน่อมกลืนกินอย่างช้า ๆ มันได้ห่อหุ้มเเขนเหล็กของเขา โทนี่ราวกับได้รับประสบการณ์ใหม่ เพราะมีอะไรเหนียว ๆ หนึด ๆ กำลังยุกใยเเขนของเขาราวกับกำลังเขมือบตนเองเข้าไป

 

“มันเป็นความรู้สึกที่เเปลกใหม่จริง ๆ !”ขณะที่เวน่อมโอบเเขนของเขา โทนี่ ก็พึมพัมออกมา

 

เเม้ว่าเวน่อมกำลังโอบเเขนของเขาอยู่เเต่โทนี่ไม่ได้สัมผัสมันโดยตรงมันเพียงเเค่มีเส้นกั้นเเบ่งระหว่างชุดเกราะเหล็กกับเวน่อมเพียงเท่านั้น

 

“ก็ดูไม่เห็นมีอะไร”หลังจากมันห่อหุ้มเเขนเหล็กที่เป็นตัวล่อพลังงานเเล้ว โทนี่ ไม่รู้สึกได้ถึงสิ่งใดอื่นอีก

 

เเต่เขาสัมผัสได้ว่าเวน่อมนั้นกำลังดูดกลืนพลังงานที่เเขนขวาของตัวเองเพราะพลังงานจากเเขนเหล็กของโทนี่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

 

“ความเเข็งเเกร่งทางกายภาพของฉันเติบโตขึ้นหรือไม่?”โทนี่ได้ถอดชุดเกราะเหล็กออกจากนั้นก็สัมผัสกับเวน่อมโดยตรง เขาหลงเหลือเพียงเเขนเหล็กที่เป็นพลังงานเอาไว้

 

“J.A.R.V.I.S เตรียมเครื่องมือไว้เเรงให้ฉันหน่อย”เนื่องจากเพราะเขาทดลองด้วยตนเองโทนี่จึงต้องการข้อมูลที่ครอบคลุม

 

“ครับเจ้านาย”J.A.R.V.I.S ได้นำเครื่องมือวัดเเรงออกมา เครื่องมือได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าของโทนี่

 

ฟุ่บ!

 

โทนี่ได้ยิงลำเเสงพลังงานออกจากเเขนเหล็กของเขา เนื่องเพราะเขาไม่ได้ใส่ชุดเกราะตัวเองจึงกระเด็นลอยไปเล็กน้อย เห็นภาพด้านหน้า โทนี่ไม่ต้องรอให้ J.A.R.V.I.S ประเมิน เขาสามารถวิเคราะห์ได้ด้วยตนเอง

 

“นี่มัน มันมีประสิทธิภาพมากขึ้น! เเต่ทำไมฉันกลับรู้สึกว่ามันไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนเเปลง?”โทนี่ กล่าวออกมา ข้อมูลสถิติของพลังงานเเละพละกำลังของเขากลับเพิ่มขึ้นจนโทนี่ประหลาดใจ

 

จากนั้นโทนี่ก็ลองทดสอบต่าง ๆ ดู ทำให้ J.A.R.V.I.S สามารถวิเคราะห์ได้ว่าพละกำลังของโทนี่เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% มันเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์อย่างมาก

 

“เจ้านายครับ,ถ้าคุณต้องการทดสอบความเเข็งเเกร่งของเเขนขวาอย่าได้ทุ่มกำลังจนสุด เพราะหากไม่เเล้วกำลังของเเขนกว่าจะได้รับความเสียหาย”J.A.R.V.I.S กล่าวเตือน

 

“ฉันรู้เเล้ว”โทนี่เลื่อนเเขนขวามามองดูอย่างชื่นชม

 

วินาทีต่อมาโทนี่ได้ต่อยไปที่อุปกรณ์วัดความเเรงอีกครั้ง

 

ปั้ง

!

 

ไม่นานหนวดยาวๆก็ได้ยื่นออกมาจากร่างกายหลักของเวน่อมจากนั้นมันก็เริ่มผสานร่างกายเข้ากับตัวเกราะเเทบจะเรียกได้ว่ากลมกลืนเพียงเเต่หลงเหลือตำเเหน่งหน้าปัดพลังงานหลักเพียงเท่านั้น

 

ฟุ่บ!

 

ก่อนที่จะผสานเข้ากับเกราะอย่างสมบูรณ์เวน่อมที่เเยกหนวดออกมามากกว่า 10 หนวดได้เลี้ยวลัดเข้าสู่ตัวเกราะทุกส่วนอนูเเทบจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบตอนนี้ตัวมันทั้งตัวได้ผสานเข้าจนกลายเป็นเกราะเสียเอง

 

“นี่มัน…?”เห็นเวน่อมเเปลงสภาพกลายเป็นเกราะ โทนี่ พึมพัมถาม J.A.R.V.I.S

 

เพียงเเต่ว่า J.A.R.V.I.S ไม่ได้ตอบ ปล่อยให้ โทนี่ สังเกตุการณ์ต่อไป โทนี่ ที่ไม่ได้รับคำตอบจาก J.A.R.V.I.S เขาหันเหความสนใจไปที่ เวน่อม เขารู้ดีว่าในตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะอธิบาย

 

~

 

ภายใต้การรอคอยอย่างสงบของโทนี่หลังจากที่เวน่อมดูดซับพลังงานจนเพียงพอไม่เพียงเเต่มันยังเเยกหนวดอีกมากมายคราวนี้ร่างกายหลักของมันได้เเตกหนวดออกเป็นเเขนหขนาดใหญ่ทั้ง 4 ข้าง

 

ตอนนี้ชุดเกราะสงครามในปัจจุบันเเม้ว่าการควบคุมของเวน่อมจะคล้ายทำให้มันมีชีวิตเเต่ถ้าหากจะเรียกว่าออฟชั่นอาวุธเสริมของตัวชุดเกราะน่าจะเข้ามากกว่า ภายในห้องปฏิบัติการณ์ตอนนี้ห้องที่เเต่เดิมเป็นสีขาวกำลังถูกย้อมไปด้วยหนวดสีดำ

 

“J.A.R.V.I.S,เวน่อมใช่สามารถเปลี่ยนเป็นอาวุธเพื่อเพิ่มศักยภาพของชุดเกราะได้จริง ๆ ใช่มั้ย?”โทนี่กล่าวถามเเม้เขาจะคิดอยู่เเล้วว่ามันจะมีส่วนช่วยเเต่เขากลับรู้สึกตื่นตะลึงอย่างมาก

 

“ครับเจ้านาย,เวน่อมที่เปลี่ยนสภาพในปัจจุบัน ไม่เพียงเเต่มันดูดกลืนพลังงานได้ทั้งความร้อนเเละพลังงานไฟฟ้า ความสามารถของมันก็คือเพิ่มพลังให้เเก่โฮสต์เพื่อกลายเป็นเเขนขาให้กับโฮสต์ใช้ต่อสู้”คราวนี้ J.A.R.V.I.S ได้ตอบคำถามของ โทนี่

 

ในห้องปฏิบัติการหนวดสีดำบริสุทธิ์ได้ครอบคลุมไปทั่วทั้งชุดเกราะ ในความเห็นของโทนี่ ตั้งเเต่เขาได้รับเวน่อมมา มันก็ดูดซับพลังงานจากคลื่นสมองของโฮสต์เพื่ออยู่อาศัยเพียงเท่านั้น ไม่คาดคิดว่ามันจะพัฒนาจนสามารถดูดซับเเกนพลังงานของชุดเกราะไอรอนแมนได้ด้วย นอกจากนี้มันยังสามารถดูดซับพลังงานอื่น ๆ ได้ถือเป็นตัวช่วยในการป้องกันขณะต่อสู้ได้ดี

 

“J.A.R.V.I.S ทดสอบประสิทธิภาพของชุดเกราะเดี๋ยวนี้”โทนี่ กล่าวพูดออกไปเขาต้องการทดสอบความเเข็งเเกร่งของชุดเกราะไอรอนแมนที่มีเวน่อมผสานร่างอยู่

 

“เจ้านายครับ,ระบบต่อสู้ภายในชุดเกราะระบุว่าการควบคุมของเวน่อมนั้นสูงมากก็จริง เเต่ประสิทธิภาพทางการต่อสู้กลับไม่ได้มีอะไรเพิ่มมากจากเดิม เเต่ตัวชุดเกราะไอรอนแมนนั้นเกราะทั้งหมดกลับหนาขึ้นมีชั้น บาง ๆ ของหนวดเวน่อมเครือบเอาไว้ เชื่อว่าจะสามารถต้านรับการโจมตีได้หลายรูปแบบ”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบในทันที

 

“ไม่มีอะไรเปลี่ยนเเปลงมาก?ดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถใช้มันได้ในการต่อสู้จริง เเม้จะส่งเสริมศักยภาพด้านการป้องกันเเต่ด้านการโจมตียังไม่เห็นผลเเน่ชัด เเต่ถ้าหากเราสามารถผลิตเจ้าสิ่งนี้ขึ้นมาได้มันจะช่วยเพิ่มการต้านทานของชุดเกราะไอรอนแมนเพิ่มขึ้น หากเราทำสำเร็จล่ะก็…”โทนี่ค่อนข้างผิดหวังเเต่ก็มีความคิดหลายรูปแบบ เวน่อมยังไม่สามารถกลายเป็นสุดยอดอาวุธได้ เเต่การพัฒนาของมันก็คือการเริ่มต้นที่ดี

 

“J.A.R.V.I.S เเล้วความเสถียรในการคงสภาพของมันสูงหรือไม่?”เห็นเวน่อมเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งให้กับชุดเกราะไอรอนแมน โทนี่ กล่าวถาม อีกครั้ง

 

เเม้เวน่อมจะสามารถกลายเป็นมือเท้าให้กับโฮสต์ได้เเต่มันก็ต้องการพลังงานโดยเฉพาะปรสิตที่ต้องการอาหารดังนั้นโทนี่เชื่อว่ามันคงจะไม่ใช่ไม่มีผลข้างเคียงอย่างเเน่นอน

 

“ตราบเท่าที่เรามีพลังงานมากพอจะสามารถคงสภาวะเช่นนี้ได้”ตามการคำนวณของ J.A.R.V.I.S ปัญหาเหล่านี้สามารถเเก้ได้ด้วยพลังงาน

 

“ถ้าเช่นนั้นการเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งของชุดเกราะไอรอนแมนก็มีค่าตอบเเทนเพียงเเค่จ่ายพลังงานที่เพิ่มขึ้น?”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ รู้สึกว่าเขาตื่นตูมไปเอง

 

เนื่องเพราะเวน่อมเป็นปรสิตที่ส่งผลกระทบต่อความคิดของโฮสต์ดังนั้นหากมันใช้เพียงพลังงานจากชุดเกราะไอรอนแมนที่มากขึ้นโทนี่ก็ไม่จำเป็นจะต้องกังวลอะไร เพราะผลลัพธ์ที่ว่ามานี้ค่อนข้างดี เเต่โทนี่ไม่คิดว่าเวน่อมจะมีผลกระทบเพียงเท่านั้น บางทีอาจมีผลกระทบอื่น ๆ เเฝงมาอีก เพราะเขายังไม่ได้ทำการตรวจสอบ

 

!

 

“เอาล่ะ”

 

“J.A.R.V.I.S ก่อนหน้านี้นายบอกว่า เวน่อม ได้พัฒนากระบวนการความคิดให้สามารถดูดซับพลังงานไฟฟ้าเเละพลังงานความร้อนรวมถึงพลังงานอื่น ๆ ได้ใช่หรือไม่ เช่นนั้นพลังงานความคิดของโฮสต์ใช่เป็นหนึ่งในพลังงานที่มันต้องการ?”โทนี่กล่าวถามอีกครั้ง

 

“หากพิจารณาจากมุมมองการเอาชีวิตรอดของมัน พลังงานไฟฟ้าเเละพลังงานความร้อนก็เพียงพอที่จะให้มันสนใจมากกว่าพลังงานกระบวนการความคิดของโฮสต์ ตามการคำนวฯของผม เวน่อมในวันนี้ ได้วิวัฒนาการไปอีกรูปแบบนึงบางทีมันอาจละทิ้งการดูดซับพลังงานกระบวนการความคิดของโฮสต์เเล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าเเละพลังงานความร้อนรวมถึงพลังงานอื่น ๆ เเทน”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบอย่างมีเหตุผล

 

“เช่นนั้นหมายความว่าปริมาณพลังงานที่มันต้องการเเต่เดิมคือหนึ่งตอนนี้กลับเเบ่งเเยกเป็นหลายเเขนง?นี่ไม่เท่ากับว่ามันบริโภคมากเกินความจำเป็นหรอกหรอ?”โทนี่จ้องมองไปที่ชุดเกราะไอรอนแมนสีดำในห้องปฏิบัติการ

 

“เพราะก่อนหน้านี้เวน่อมไม่ได้รับอาหารที่เเต่เดิมมันต้องการเป็นเวลานานพอปรับสภาพความต้องการทางอาหารจึงค่อนข้างสูง”J.A.R.V.I.S ตอบกลับเหมือนเดิม จากการศึกาาของเขา หากเวน่อมได้รับอาหารพลังงานที่มากพอมันจะสามารถทำงานได้มากกว่า 48 ชั่วโมง โดยโฮสต์จะสามารถควบคุมมันได้อย่างอิสระ

 

เพียงเเต่เป้าหมายของโทนี่ไม่ใช่สิ่งนี้ เพราะหลังจากเวน่อมวิวัฒนาการ ความสามารถของมันก็เเค่เเปลกใหม่สำหรับโทนี่ เดิมเขาต้องการใช้มันผสานเข้ากับชุดเกราะไอรอนแมน เพราะเวน่อมเเต่ก่อนสามารถทำให้สไปเดอร์แมนเเข็งเเกร่งขึ้นได้ มันเป็นเรื่องชัดเจนว่าเเต่ก่อนเวน่อมสามารถทำให้โฮสต์เเข็งเเกร่งขึ้น เเต่ตอนนี้เวน่อมไม่ได้ดูดซับกระบวนการความคิดของโฮสต์ความสามารถของมันเเค่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันให้กับตัวชุดเกราะเพียงเท่านั้น

 

“ตอนนี้มันคงกำลังอิ่มตัวอยู่ บางที…J.A.R.V.I.S ปิดกั้นพลังงานชุดเกราะภายในห้อง”โทนี่ กล่าวสั่ง J.A.R.V.I.S

 

“ครับเจ้านาย เพียงเเต่คุณต้องการให้ผมทำ…”เเน่นอนว่า J.A.R.V.I.S รู้ว่าโทนี่ต้องการอะไรเเต่เขาต้องการยืนยันในคำตอบของโทนี่เอง เพราะหลังจาก J.A.R.V.I.S ได้พัฒนาตัวเอง กระบวนการความคิดของเขาไม่ได้หยุดอยู่เเค่ที่คำสั่ง

 

“เเผนของฉันในหัวทั้งหมดไม่ใช่ว่านายรู้ดีอยู่เเล้วหรอกหรอ?”โทนี่ ตอบคำถาม J.A.R.V.I.S ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

วันถัดไปเเจ็คสันนตื่นขึ้นมาบนเตียงของตัวเองเขารู้สึกได้ถึงความสบาย เเม้จะเพิ่งผ่านประสบการณ์อันตรายเรื่องต่าง ๆ มา เเต่การได้นอนหลับในบ้านที่มีสมาชิกครอบครัวทำให้สามารถลืมเรื่องราวที่เลวร้ายเหล่านั้นได้

 

“เห้อ,ไม่ได้นอนพักผ่อนอย่างสบายแบบนี้มานานเท่าไหร่เเล้วนะ”เเจ็คสันยืดตัวอย่างขี้เกียจจ้องมองไปที่เเดดยามเช้าที่นอกหน้าต่าง

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้ลุกออกจากเตียงพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดตัวเดินไปที่ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำไปโรงเรียน ก่อหน้านี้เเจ็คสันไม่ได้ไปโรงเรียนติดต่อกันหลายวัน เเต่เพราะมีโทนี่คอยอออกหน้าให้ ทำให้ เเจ็คสันสามารถใช้ชีวิตในโรงเรียนได้อย่างปกติ

 

หลังจากนั้น 20 นาที เเจ็คสันก็เดินลงไปข้างล่างเเละกล่าวทักทาย”พ่อ! เเม่! ผมไปโรงเรียนก่อนนะ!”

 

เเจ็คสันตะโกนก่อนที่จะหยิบจักรยานเเละปั่นมันไปโรงเรียน

 

“ระวังตัวด้วยละ!”เห็นเเจ็คสันถีบจักรยานออกไปด้านหน้าประตู หลินไฮ่ พ่อของเเจ็คสันได้กล่าวพูดขึ้น

 

ฟุ่บ!

 

“สวัสดีครับ ลุงเเม็ค!”หลังจากถีบจักรยานไปได้ไม่นาน เเจ็คสันก็เห็นลุงข้างบ้านกำลังออกกำลังกายเเจ็คสันยิ้มกล่าวทักทายทันที

 

“อ้าว,เจ้าหนูเเจ็คสันนี่เอง!”ลุงเเม็คสังเกตุว่าเป็นเเจ็คสันเขายิ้มตอบในทันที

 

เขาเป็นเพื่อนบ้านของเเจ็คสันหลายวันมาเเล้วที่ไม่ได้เห็นเเจ็คสัน เเต่เขาก็ได้ยินมาว่าเเจ็คสันได้ไปเก็บตัวศึกษากับโทนี่ไม่เเปลกใจที่เขาจะไม่เห็นเเจ็คสันในช่วงนี้

 

เเจ็คสันขี่เเจ็คสันไปได้ไม่ไกลเขาก็เห็นลุงสมิธที่ทำสวนอยู่นอกบ้าน ตั้งเเต่ทอม หายตัวไป ลุงสมิธก็เเทบจะไม่ได้ออกไปไหนไกลเลย

 

“ลุงสมิธ ผมสัญญาว่าผมจะทำให้ทอมกลับมาเป็นปกติเเละกลับบ้านเร็วที่สุด”เห็นคนในครอบครัวของทอมเเจ็คสันรู้สึกอึดอัดใจมาก

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเเจ็คสันก็ถีบจักรยานมุ่งหน้าไปโรงเรียนอย่างรวดเร็ว

 

 

ขณะที่เเจ็คสันกลับมาใช้ชีวิตนักเรียนมัธยมปลายตามปกติ โทนี่ ในเวลานี้ ได้อยู่ในห้องทดลองที่บ้านพักริมทะเลของเขา โทนี่มีงานวิจัยระดับสูงมากมายที่รอเขาอยู่ ทั้งยังมีหลายงาน ดังนั้นเขาจึงเเบ่งงานออกเป็นพื้นที่ 5 พื้นที่ เเละการทดลองทั้งหมด 5 พื้นที่นี้กำลังหยุดชะงักรอให้เขามาเริ่มงานต่อ

 

หนึ่งในห้องทดลองในห้าห้องนั้นมีห้องทดลองนึงที่เป็นห้องกระจกพิเศาระดับสูง มันเเตกต่างจากห้องทดลองชุดเกราะไอรอนแมนอย่างมาก เพราะการป้องกันของห้องนี้ ค่อนข้างปลอดภัย ภายในห้องทรงกระบอก มีชุดเกราะไอรอนแมนอยู่ชุดนึง ตรงกลางชุดเกราะไอรอนแมนมีวัตถุประหลาดสีดำเกาะอยู่

 

“J.A.R.V.I.S นายบอกว่า เวน่อมมีการเปลี่ยนเเปลงงั้นหรอ?อะไรคือการเปลี่ยนเเปลงที่่ว่า ฉันเฝ้ามองมันเป็นเวลากว่า 10 นาทียังไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น”นอกห้องปฏิบัติการ โทนี่ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

โทนี่ช่วงนี้ยุ่งมากกับการประดิษฐ์เรือเหาะสงครามระดับ E ดังนั้นเขาจึงทิ้งงานวิจัยเรื่องเวน่อมเอาไว้ เพราะมันเป็นงานวิจัยระยะยาวไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ

 

เเต่ในช่วงเร็ว ๆ นี้ J.A.R.V.I.S ได้เเจ้งเตือนกับ เวน่อม ทำให้ โทนี่ เริ่มสนใจที่จะกลับมาศึกษาอีกครั้ง เพราะเขาเองก็อยากจะพัฒนาชุดเกราะไอรอนแมนให้มีความยืดหยุ่นเเละเเข็งเเกร่งกว่าเดิม

 

ดังนั้นโทนี่จึงถ่อมาที่นี่อย่างรวดเร็ว เเต่ผลกลับปรากฏออกมาว่าไม่มีอะไรที่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนเเปลงเเม้เเต่น้อย

 

หลังจากโทนี่กล่าวถาม J.A.R.V.I.S บนข้อมือของเขาก็กระจายเสียงของ J.A.R.V.I.S ออกมา

 

“เจ้านายครับ,เวน่อม ได้พัฒนากระบวนการความคิด”J.A.R.V.I.S กล่าวพูดขึ้น

 

“พัฒนากระบวนการความคิด?”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ เปลี่ยนสายตาเบี่ยงไปยังห้องปฏิบัติการเเละจ้องมองวัตถุสีดำที่เกาะติดชุดเกราะไอรอนแมน

 

“ใช่ครับ,ก่อนหน้านี้เวน่อมสามารถหล่อเลี้ยงตัวเองโดยการดูดกลืนพลังงานทางความคิดของโฮสต์ เพื่ออยู่รอด เเต่หลังจากนั้นมันกลับสามารถปรับตัวเเละทำให้ตวเองสามารถดูดกลืนพลังงานไฟฟ้าเเละพลังงานความร้อนเพื่อยื้อชีวิตตัวเองต่อ ตอนนี้มันกำลังดูดพลังงานจากชุดเกราะอยู่ในตอนนนี้”J.A.R.V.I.S กล่าวอธิบาย

 

“ดูดซับพลังงานไฟฟ้าเเละพลังงานความร้อน?นี่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นี่มันคือการเปลี่ยนเเปลง”

 

“การเปลี่ยนเเปลงเพื่อทำให้ตัวเองอยู่รอด ความสามารถเเละสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดของมันนั้นสุดยอดมาก”โทนี่ กล่าวชื่นชม

 

หากเวน่อมมีการพัฒนาการเเบบนี้ไปเรื่อย ๆ เเล้วละก็ ท้ายที่สุด ศักยภาพหรือสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดของมันก็จะพัฒนาไปเรื่อย ๆ จนสู่จุดที่หลีกเลี่ยงอันตรายได้ การพัฒนาความสามารถนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญไม่เเปลกใจที่ทำไมเวน่อมถึงสามารถเติบโตเเละเอาชีวิตรอดในจักรวาลนอกโลกได้ เพราะการปรับตัวเเละสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดของมัน

 

“นี่เป็นทักษที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เเต่เเล้วก็ยังมีการเปลี่ยนเเปลงอีกเรื่องนึง”เห็นโทนี่ กล่าวคิดคำนวณ J.A.R.V.I.S ได้กล่าวอธิบายอีกอย่าง

 

“หืม?เรื่องอะไรกัน เร็วเข้า รีบบอกฉัน”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่อยากรู้อยากเห็นมาก

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากนั้นเสียงเตือนภายในห้องปฏิบัติการก็ดังขึ้น พลังงานเเกนกลางของเกาะถูกดูดซับโดยเวน่อมจนทำให้เวน่อมฟื้นฟูตัวเองอย่างรวดเร็ว โทนี่ จ้องมองไปที่ การเปลี่ยนเเปลงที่เกิดขึ้น

 

ฟุ่บ!

 

พลังงานของเกราะได้ถูกเวน่อมดูดซับไปมากกว่า 40% จากนั้นร่างกายของเวน่อมก็ราวกับเปลี่ยนเเปลงมันได้กลายเป็นก้อนสีดำยั่วเยี้ยที่น่าขนลุกเเละมีขนาดใหญ่มากขึ้นจากนั้นบนร่างหลักของมันก็ขยายหนวดออกมาหลายหนวด

 

ฟุ่บ!

ในห้องทำงานอันหรูหราของโทนี่ คำถามของไอซ์แมนที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันทำให้ พวก เเฮร์รี่ เเละ เเดร์เดวิล ต่างให้ความสนใจ เพราะจู่ ๆ คำถามของไอซ์แมนก็ราวกับว่าต้องการเปิดเผยตัวตนของสไปเดอร์แมน

 

“คำถามนี้…ฉันไม่ตอบได้หรือไม่”เห็นทุกคนมองมาที่ตัวเองเเม้กระทั่งเเฮร์รี่ ปีเตอร์รู้สึกลังเล

 

“คำถามนี้เธอจะไม่ตอบก็ได้เเต่เมื่อครู่เธอได้สัญญากับฉันไว้เเล้วว่าจะตอบคำถามของฉันหากเธอจะกลับคำพูดฉันก็ไม่ว่าอะไร”เห็นปีเตอร์อึดอัดใจ ไอซ์แมนยิ้มออกมา

 

ได้ยินคำพูดของไอซ์แมน ปีเตอร์รู้สึกอึดอัดอย่างมาก เขาไม่ใช่พวกกลับคำพูด เเต่จะให้โกหกออกไปก็ใช่ว่าจะดีเพราะไอซ์แมนได้เห็นใบหน้าของเขาเเล้ว

 

“ปีนี้ฉันอายุ 16!”ปีเตอร์กล่าวออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

 

หลังจากที่ปีเตอร์ตอบกลับทุกคนนอกเหนือจาก เเฮร์รี่ กลายเป็นตกใจทันที ปีนี้สไปเดอร์แมนมีอายุเพียง 16 ปีเรื่องนี้ทำให้พวกเขาตกใจมาก

 

“เป็นความจริง?”เเดร์เดวิล เปิดปากพูดเป็นคนเเรก

 

ในความเข้าใจของเขา สไปเดอร์แมนก็น่าจะมีอายุใกล้เคียงกับมิราจไนท์ หลังจากรู้อายุของสไปเดอร์แมนความคิดของเเดร์เดวิล ก็ค่อย ๆเปลี่ยนไป

 

“จริง ๆ เเล้วเธอมีอายุเพียงเเค่ 16ปี!”หลังจากไอซ์แมนกล่าว ไอซ์แมน กล่าวอย่างสุขุม

 

เมื่อครู่ไอซ์แมนเห็นใบหน้าของปีเตอร์อยู่ก็จริง เเต่เขาคิดว่าปีเตอร์น่าจะอายุประมาณ 20 ปปี เเต่ไม่คิดเลยว่าคำตอบของสไปเดอร์แมนจะเหนือความคาดหมายของเขา เพราสไปเดอร์แมนกลับกลายเป็นเด็กที่ยังมไบรรลุนิติภาวะ

 

เเต่ไอซืแมนก็ชื่นชม สไปเดอร์แมน เพราะสไปเดอร์แมนเเม้จะอายุยังน้อยเเต่เขาก็ช่วยเหลือคนอื่นโดยใช้จิตอันเเน่วเเน่ของตัวเองเป็นตัวขับเคลื่อน

 

“เอาล่ะ เท่านี้ฉันก็ตอบปัญหาคุณไปเเล้วนะถือว่าฉันไม่ติดค้างอะไรคุณอีก”ปีเตอร์ยิ้มอย่างเหยเก เเละจ้องมองไปทางเเฮร์รี่

 

เรื่องอายุของปีเตอร์เเม้จะถูกเปิดเผยก็จริง เเต่เขาก็ไม่ได้กังวลมากขนาดนั้น เหตุผลที่เขาซ่อนตัวปิดบังตัวเอง เป็นเพราะห่วงความปลอดภัยของป้าเมย์

 

เห็นท่าทีของสไปเดอร์แมน ไอซ์แมน รู้สึกครุ่นคิดทันที หาก สไปเดอร์แมนยังเป็นเด็ก เช่นนั้น มิราจไนท์ ก็เป็นเด็กด้วยใช่หรือไม่?เพราะสไปเดอร์แมนดูสนิทกับมิราจไนท์มาก

 

“มีอะไรน่าขำ?ฉันไม่ได้ตั้งใจเปิดเผยตัวตนซักหน่อย!”เห็นรอยยิ้มของเเฮร์รี่ ปีเตอร์กล่าวออกมา

 

เเฮร์รี่ได้ยิ้มตอบเขา”ฮ่าฮ่า”

 

จากนั้นพวกปีเตอร์ก็นั่งรออยู่ภายในห้องนี้เป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงก่อนที่พวกของกัปตันโรเจอร์สเเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะกลับมารวมถึงเเจ็คสัน

 

“อ่า มิราจไนท์ ในที่สุดคุณก็มา จริงสิ เเจ็ค อยู่ที่ฐานกับ เดดพูล ดูเหมือนพวกเขาจะรอให้คุณกลับไปอยู่ในขณะนี้”เห็นเเจ็คสันเดินออกมา ปีเตอร์ตะโกนอย่างเร่งรีบ

 

อันที่จริงหลังจาก กัปตันโรเจอร์ส เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ได้เห็นเรือเหาะสงครามระดับ E พวกเขาก็กลายเป็นเชื่อใจมากขึ้น ตอนนี้สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา

 

เเต่เรื่องนี้สำคัญมากเกินไปโทนี่จึงไม่ได้อธิบายอะไรให้กัปตันโรเจอร์สเเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้เพียงเเต่พูดถึงความร่วมมือกันเพื่อจัดตั้งสหพันธ์โลก

 

“อ่า คุณสตาร์ก ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ กัปตันโรเจอร์ส เช่นนั้นฉันขอตัวกลับก่อนเเล้วกัน”เเจ็คสันกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว

 

“อืม”โทนี่กล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้โทนี่มีงานรออยู่มากมายดังนั้นเขาจึงต้องการพักผ่อนเพื่อเริ่มงานต่อ

 

“ไว้เจอกัน มิราจไนท์”กัปตันโรเจอร์สเเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์พยักหน้าเล็กน้อย

 

หลังจากนั้นเเจ็คสันเเละปีเตอร์ก็เดินออกจากสำนักงานไป เเจ็คสันในคราวนี้ไม่ต้องพึ่งพาชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ เขาสามารถใช้เครื่องร่อนกับเเฮร์รี่ได้

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นภายในห้องนี้จึงเหลือกลุ่มของกัปตันโรเจอร์สเเละพวกของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

พวกเขาจ้องมองค่ำคืนที่มืดมิดในนิวยอร์กคืนนี้ก่อนที่พยักหน้ากันอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากพวกเเจ็คสันจากไป ก่อนออกเดินทางไอซ์แมน รู้สึกขบคิดมาก เพราะท่าทีของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ดูเปลี่ยนไปราวกับว่าเพิ่งรับรู้เรื่องราวสำคัญบางอย่างมา

 

ฮึ่ม!

 

จากนั้นประตูมิติอวกาศก็ปรากฏขึ้นด้านหน้าพวกของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เดินเข้าประตูมิติอวกาศก่อนที่จะหายไป

 

“โทนี่ ดูเหมือนคุณจะพบเจ้าหนูสุดวิเศษเข้าให้เเล้ว!”กัปตันโรเจอร์สกล่าวออกมา

 

ซึ่งคำพูดของกัปตันโรเจอร์สไม่รู้หมายถึงใคร เเต่เขาเห็นได้ชัดว่า กัปตันโรเจอร์สรู้สึกอิจฉาตนเองมาก

 

“ก็ประมาณนั้น”เเต่โทนี่รู้ในทันทีว่า กัปตันโรเจอร์สอาจจะหมายถึง เเจ็คสัน

 

“ฉันขอตัวกลับไปที่S.H.I.E.L.D. ก่อนเเล้วกัน”กัปตันโรเจอร์สกล่าวออกมาก่อนที่จะก้าวออกไปข้างนอกตรงจุดที่เครื่องบินควินเจ็ทจอดอยู่

 

หลังจากกัปตันโรเจอร์สจากไป โทนี่ พยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะพึมพัมออกมา

 

“การเดินทางสำรวจ!”

 

ตอนนี้เเผนการก่อตั้งสหพันธ์โลกคือ 4 ขั่วอำนาจอย่างไม่ต้องสงสัย กัปตันโรเจอร์สตัวเเทนองค์กร S.H.I.E.L.D. ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ตัวเเทนทีมX-MEN เเจ็คสัน ตัวเเทนทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ โทนี่ ตัวเเทนเเละนายทุนสตาร์ก ภายในห้องทำงานของโทนี่ ทันทีที่ทั้งสามคนจากไป ก็หลงเหลือพวกเขาเหล่านี้

 

พวกของเเจ็คสันได้หายตัวไปมากกว่า 10 นาที ทำให้ปีเตอร์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รู้สึกร้อนรนอย่างมาก เขาเองก็อยากเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วยเพราะเขาอยากรู้เรื่องราวทั้งหมด เเน่นอนว่า เเฮร์รี่ เเละ เเดร์เดวิลก็เหมือนกัน เเต่พวกเขาไม่ได้เเสดงออกเหมือนกับ ปีเตอร์ เขาเพียงนั่งรออย่างสงบ

 

นอกเหนือจากปีเตอร์ที่เเสดงอาการเเล้วคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไร ไอซ์แมน เเละ บลิงก์ ก็น่งรออย่างเงียบ ๆ จนในที่สุด ปีเตอร์ที่อดทนไม่ไหวได้เป็นฝ่ายเปิดชวนคุยก่อน

 

“ไอซ์แมน,ฉันไม่ได้เห็นคุณตั้งนาน ครั้งก่อนตอนที่คุณช่วยพวกเราไว้ตอนนั้นคุณเเข็งเเกร่งเเละเท่ห์มากท่า เยือกเเข็งผืนโลกของคุณ สุดยอดจริง ๆ ฉันรู้สึกขอบคุณคุณมาก ๆ !”ปีเตอร์กล่าวชวนคุยนอกจากนี้ยังเเสดงออกได้ถึงความขอบคุณเเละเคารพในตัวไอซ์แมน

 

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณในเวลานั้นสถานการณ์ได้บีบบังคับให้ฉันทำแบบนั้นก็เท่านั้น นอกจากนี้ชื่อของท่านั้นถูกเรียกว่าเยือกเเข็งสมบูรณ์ ไม่ใช่ เยือกเเข็งผืนโลก หวังว่าเธอจะเข้าใจใหม่”ไอซ์แมนกล่าวตอบ เมื่อเทียบกับการเเสดงออกของสไปเดอร์แมนเเล้ว ไอซ์แมน ตอบกลับแบบเเปลก ๆ

 

“โอ้,เยือกเเข็งสมบูรณ์ ! ชื่อท่าก็มีความสำคัญเหมือนกันนี่เนอะ? เเน่นอนว่าในช่วงที่คุณใช้เยือกเเข็งสมบูรณ์ออกมาคุณเเข็งเเกร่งอย่างมาก ในเวลานั้นฉันรู้สึกราวกับว่ามีอากาศเย็นได้เเทรกผ่านทุกอณูในร่างกายของฉัน”ได้ยินคำตอบของไอซ์แมน ปีเตอร์ยังคงกล่าวยกย่อต่อไป

 

“อืม,เพียงเเต่ว่าท่านั้นใช่ว่าฉันจะสามารถใช้ได้บ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้ฉันได้ใช้มันไปสองครั้งทำให้ร่างกายของฉันต้องได้รับการฟื้นฟูระยะยาว”เห็นสไปเดอร์แมนชื่นชม ไอซ์แมน กล่าวตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

“หืม?คุณได้รับบาดเจ็บจากการใช้ท่านั้นอย่างงั้นหรอ? จริงสิพวกเรามียารักษาอยู่เเม้จะอยู่ในขั้นตอนการปรับปรุงเเต่ฤทธิ์ประสิทธิภาพการรักษาของมันก็สุดยอดอย่างมาก”ได้ยินไอซ์แมนกล่าวว่าได้รับบาดเจ็บ ปีเตอร์ยื่นยายีนรักษาออกไปให้

 

“ฉันได้รับยารักษามาจากมิราจไนท์เเล้ว”เห็นปีเตอร์ดึงสิ่งนั้นออกมา ไอซ์แมนกล่าวตอบอย่างเร่งรีบ

 

“จริงสิ ฉันลืมไปเลย”ได้ยินคำพูดของไอซ์แมน ปีเตอร์ เองก็ทำท่าเขินอาย

 

“ไอซ์แมน ในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเราก็มีมิวแทนท์อยู่ เเละเขามีความสามารถในการเสริมสร้างร่างกาย ฉันอยากจะรู้ว่าทำยังไงถึงจะทำให้เขาพัฒนากลายเป็นมิวแทนท์ที่เเข็งเเกร่งแบบคุณได้”ปีเตอร์กล่าวถามออกไป

 

เกี่ยวกับความสามารถของมิวแทนท์เเละการพัฒนาพลังของตัวเองนั้นปีเตอร์รู้สึกสนใจมาก

 

เพียงเเต่ปีเตอร์หารู้ไม่ว่าความสามารถพิเศษเเละการพัฒนานั้นเกี่ยวข้องกับยีนกลายพันธุ์ของตัวเองโดยเฉลี่ยเเล้วปีเตอร์ที่ได้รับการเปลี่ยนเเปลงยีนก็ถือเป็นมิวแทนท์เหมือนกัน ขณะเดียวกันไอซ์แมนที่ได้ยินคำถาม เขากลับรู้สึกเเปลกใจอย่างมาก เเม้จะไม่เห็นสีหน้าที่ชัดเจนของสไปเดอร์แมนที่สวมใส่หน้ากากอยู่ตอนนี้เเต่เขาก็พอจะเดาได้ถึงความอยากรู้อยากเห็นบนใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของปีเตอร์

 

“ได้ฉันสามารถตอบคำถามของเธอได้ เเต่เธอต้องตอบคำถามของฉันเช่นเดียวกัน”ไอซ์แมนกล่าวออกมา

 

“อืม,เเน่นอน”ปีเตอร์ตอบกลับอย่างไม่ลังเล เขาเองก็อยากจะรู้เรื่องเหล่านี้มาก

 

“ที่จริงเเล้วความสามารถของคนเราก็มีอยู่ในตัวเพียงเเต่ว่ามันคล้ายกับคนที่มีตื่นเเละก็มีหลับ บางคนอาจจะใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อที่จะปลุกความสามารถที่หลับอยู่ในตัวให้ตื่นขึ้นมาได้ ซึ่งเเน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่ดี เเน่นอนว่าบางคนก็สามารถปลุกความสามารถให้ตื่นขึ้นมาได้ก่อนเวลา ซึ่งคนเหล่านี้เรียกว่าผู้มีพรสวรรค์”ไอซ์แมนกล่าวอธิบายถึงความสามารถที่หลับใหลอยู่ภายในกายของมิวแทนท์

 

ขณะที่ไอซ์แมนกำลังกล่าว ปีเตอร์ก็ทำหน้าครุ่นคิดตาม ไอซ์แมนได้อธิบายพร้อมกับเผยไอพลังงานความเย็นขึ้นบนฝ่ามือ

 

“การควบคุมพลังนั้นเป็นปัจจัยในการพัฒนาพลังอย่างนึง พลังของเราเราจำต้องควบคุมมันให้ได้เเต่พลังที่มากไปใช่ว่าจะดีเสมอไปเพราะร่างกายของเราจะไม่สามารถทนรับพลังได้ไหว นั่นเป็นเหตุผลที่เราจะต้องพัฒนาศักยภาพของร่างกายไปพร้อมกับการพัฒนาพลัง”ไอซ์แมนที่สร้างดอกผลึกน้ำเเข็งขึ้นมา เขายิ้มตอบกลับปีเตอร์

 

เเละไอซ์แมนก็เล่าช่วงเวลาที่ตนเองที่กลายเป็นมิวแทนท์ระดับ 4 พัฒนาเป็นระดับ 5 ปัจจุบันคือระดับสูงสุด ความสามารถของเขาเเทบจะเรียกได้ว่าไร้ขีดจำกัด เเต่พลังเหล่านี้ก็มาพร้อมกับภาระอันยิ่งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย

 

“โอ้ว! สุดยอดมาก!”ปีเตอร์ตะโกนออกมาอย่างชื่นชม

 

“เอาล่ะ ทีนี้ตาเธอตอบคำถามฉันบ้างเเล้ว”ไอซ์แมนโยนดอกไม้ผลึกน้ำเเข็งใส่ในมือของปีเตอร์ก่อนที่จะกล่าวพูดออกมา

 

“เชิญ คุณถามมาได้เลย”ปีเตอร์รับดอกไม้ผลึกน้ำเเข็งมาเเละพูดขึ้น

 

“ปีนี้ เธออายุเท่าไหร่?”ไอซ์แมนกล่าวคำถามเรื่องอายุออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำถามของไอซ์แมน ปีเตอร์เเทบจะล้มลงจากโซฟาทันที เขาเกือบลืมไปว่า ไอซ์แมนได้เห็นใบหน้าของเขาก่อนหน้านี้ซึ่งทำให้เขารู้สึกตกใจอย่างมาก

 

ได้ยินคำถามของไอซ์แมน อีกด้านนึง เเฮร์รี่ เเละ เเดร์เดวิล ที่กำลังพูดคุยกันโดยไม่สนใจทั้งสอง เดิมใบหน้าของพวกเขาต่างไม่เเยเเสสเเต่ตอนนี้พวกเขาได้มุ่งความสนใจไปที่ไอซ์แมนทันที

 

ปีเตอร์”…”

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่โทนี่ กล่าวสั่ง J.A.R.V.I.S ได้ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็วพื้นที่ภายในห้องลับทั้งหมดก็เกิดเสียงดังเเจ้งเตือนจากนั้นห้องก็เคลื่อนไหวออกเเละขยายพื้นที่อย่างช้า ๆ

 

กลไกของห้องนั้นเหมือนกับกลไกกับดักบางอย่างมันถูกนำมาดัดเเปลงเพื่อใช้ซ่อนสิ่งของหรือการปกปิด กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่สิ่งเหล่านั้น พริบตาเดียวห้องเเห่งนี้ก็ถูกเเต่งเติมเต็มไปหมดด้านหน้าของพวกเขาปรากฏตัวเรือเหาะที่มีขนาดใหญ่ อย่างน้อยในตอนนี้ก็ถือเป็นสิ่งของที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในปัจจุบันทั้งยังเป็นอุปกรณ์ที่น่าจะทันสมัยที่สุดในโลก

 

ฟู่วว!

 

ผ่านไปหลายวินาทีโครงสร้างของเรือเหาะสงครามระดับ E ก็ได้ถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมดผ่านทางการฉายภาพสามมิติภายในห้องนี้ กลิ่นอายเเห่งเทคโนโลยีได้เเผ่ออกมาเเม้จะเป็นแบบจำลองชั่วคราวบางส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์

 

ภาพเรือเหาะสงครามระดับ E ในปัจจุบัน สร้างความตกใจให้เเก่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเละกัปตันโรเจอร์ส เเม้พวกเขาจะรู้ดีถึงความมั่งคั่งด้านเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมสตาร์กเเต่ภาพเบื้องหน้าจัดว่ามีระดับสูงมากกว่าเตาปฏิกรณ์อาร์คอย่างเห็นได้ชัด สิ่งนี้มันยอดเยี่ยมยิ่งกว่ายานบินอวกาศของS.H.I.E.L.D.

 

เรือเหาะสงครามระดับ E เบื้องหน้า ให้ความรู้สึกที่น่าเกรงขามของกระบวนการวิทยาศาสตร์เเละเทคโลยีสิ่งนี้ดูผิวเผินยังให้ความน่ายำเกรงอย่างมากมันไม่ต่างจากปราการลอยฟ้าเหมือนกับยานบินอวกาศของ S.H.I.E.L.D. เเต่สิ่งนี้กลับใหญ่จนยานบินอวกาศเเทบจะไม่สามารถเทียบได้ ดังนั้นไม่จำเป็นจะต้องสงสัยความสามารถด้านการต่อสู้ของพวกมัน

 

“นี่คือ!?…ยานบินอวกาศ? คุณสตาร์ก คุณมีเทคโนโลยีนี้ในครอบครองจริง ๆ งั้นหรือ?”ภาพในปัจจุบันทำให้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวถามโทนี่อย่างจริงจัง

 

เขาไม่ได้สงสัยในความสามารถของโทนี่ เเต่สิ่งนี้มันเหนือกว่าคำบรรยาย ตอนนี้ทีมพันธมิตรของพวกเขาจะมีสิ่งของที่สามารถสั่นอิทธิพลของคนทั้งโลกได้นี่จะไม่ทำให้เขาตกใจได้อย่างไร

 

เห็นศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวถาม กัปตันโรเจอร์ส เองก็เฝ้ารอคำตอบเหมือนกันหากสิ่งนี้ปรากฏสู่สายตาสาธารณะชนไม่ต้องสงสัยว่ามันจะสร้างความตกตะลึงให้เเก่ผู้คนมากขนาดไหน

 

“นี่เป็นของจริงงั้นหรอ?”

 

การเเสดงออกของกัปตันโรเจอร์สเเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์ทำให้โทนี่ยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ เเน่นอนว่าคนที่ภาคภูมิใจย่อมเป็นเเจ็คสัน เขารู้สึกไม่ผิดหวังกับการศึกษา เรือเหาะสงครามระดับ E

 

“เเน่นอนย่อมเป็นของจริง ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งนี้ไม่ได้เรียกว่ายานบินอวกาศเเต่มันสมควรเรียกว่าเรือเหาะอวกาศ มันสามารถใช้ตะลุยเหาะต่อสู้ภายในชั้นบรรยากาศได้ ยิ่งไปกว่านั้นทางเราเพิ่งจะเริ่มต้นสร้างมันขึ้นมาเพียงเท่านั้น”โทนี่ กล่าวตอบ

 

“เรือเหาะอวกาศ คุณสามารถสร้างมันได้! พวกเราประเมินฝีมือของคุณต่ำเกินไป โทนี่ สตาร์ก คุณสมควรเปป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษนี้!”ได้ยินคำตอบของโทนี่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์อดกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นไม่ได้

 

อุตสาหกรรมสตาร์กถือเป็นกลุ่มนายทุนที่ใหญ่ที่สุดบนโลกในตอนนี้ เเน่นอนว่าด้านเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์พวกเขาก็ยังเป็นผู้นำ ก่อนหน้านี้ตั้งเเต่ ฮาเวิร์ด สตาร์ก เสียชีวิตไป เเน่นอนว่ากลุ่มนายทุนสตาร์กถือว่าเเทบจะเรียกว่าดำดิ่ง จนกระทั่ง ชุดเกราะไอรอนแมน ที่มีเตาปฏิกรอาร์คขนาดเล็กปรากฏขึ้น สิ่งนี้ทำให้ อุตสาหกรรมสตาร์กกลับมาดังอีกครั้ง

 

เเละตอนนี้

 

โทนี่ก็กำลังเสนอเทคโนโลยีที่น่าตื่นตะลึงมากกว่าชุดเกราะไอรอนแมน มันคือเรือเหาะอวกาศที่สามารถประจัญบานไปในอวกาศได้ สิ่งนี้ช่วยให้อารยธรรมโลกสามารถสำรวจอารยธรรมอื่น ๆ ได้ ยิ่งมันได้ประสานงานกับชุดเกราะไอรอนแมน ประสิทธิภาพของการเดินทางสำรวจย่อมสุดยอดมากจนถึงที่สุด

 

“ฮ่าฮ่า,ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ คุณเองก็ยกยอฉันเกินไป”ได้ยินคำกล่าวชมของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ โทนี่กล่าวตอบอย่างสุภาพ

 

อย่างไรก็ตามโทนี่ไม่ได้บอกว่าเทคโนโลยีนี้มีต้นแบบมาจาก เเจ็คสัน เพราะเขาได้บรรลุข้อตกลงกับเเจ็คสันว่าสิ่งนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของอุตสาหกรรมสตาร์ก

 

“โทนี่ ตอนนี้คุณ ได้สร้างมันจนสำเร็จขั้นสุดท้ายหรือยัง?”เเม้กัปตันโรเจอร์สจะตื่นเต้น เเต่เขาก็ไม่ได้ยกย่องโทนี่ เหมือนกับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ สิ่งนี้ เเน่นอนว่ามันยิ่งกว่าชุดเกราะไอรอนแมนเสียอีก ดังนั้นกัปตันโรเจอร์สถึงอยากรู้ว่าสิ่งนี้เข้าสู่เฟสสุดท้ายหรือยัง

 

“เรือเหาะอวกาศนี้เปป็นเทคโนโลยีระดับสูงของ อุตสาหกรรมสตาร์กของเรา เเน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างเสร็จในตอนนี้ ตอนนี้ก็ดำเนินการสร้างไปเเล้วประมาณ 60% เพราะอุปกรณ์ชิ้นที่เหลือที่ต้องการนั้นค่อนข้างหาได้ยาก เเละการเคลื่อนไหวการกวาดซื้ออุปกรณ์จำเป็นขนาดใหญ่นั้นจะทำให้การเคลื่อนไหวของฉันถูกเพ่งเล็งความสนใจดังนั้นฉันจึงต้องค่อย ๆ เป็นค่อยไป”โทนี่ กล่าวตอบกัปตันโรเจอร์ส

 

เรือเหาะสงครามขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นราวกับภาพ 3D นี้สร้างความตกใจให้เเก่พวกเขาอย่างเเท้จริง เเน่นอนว่าอุปกรณ์ที่มากไปด้วยเทคโนโลยีย่อมไม่สามารถสร้างได้โดยง่ายเหมือนที่โทนี่บอก ตอนนี้เเววตาของกัปตันโรเจอร์สเเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์กลายเป็นพวกคลั่งไคล้ราวกับเด็กที่เพิ่งได้ของเล่นมาใหม่ ๆ

 

“นี่คือพลังของพวกเราพลังเเห่งเทคโนโลยีสิ่งนี้จะช่วยให้เราสามารถบุกอารยธรรมอื่น ๆ ได้ในอนาคต!”เห็นกัปตันโรเจอร์สไม่ได้พูดต่อ โทนี่ กล่าวชี้ไปที่เรือเหาะสงครามด้านหน้า

 

โทนี่ได้เเสดงท่าทีอย่างหยิ่งผยอง เเต่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเละกัปตันโรเจอร์สหาได้สนใจ เพราะโทนี่มีคุณสมบัติที่จะทำเช่นนั้น ในมือของเขาตอนนี้กำลังครอบครองสุดยอดอาวุธที่มีอำนาจเหนือโลก

 

“ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลที่เราสามารถสร้างสหพันธ์โลกขึ้นได้อย่างมั่นใจ”หลังจากโทนี่เเสดงท่าทีหยิ่งผยองเเสร็จ เเจ็คสันที่อยู่ด้านหลังได้พูดขึ้นอย่างเงียบ ๆ

ทั้งสี่คนได้เดินไปยังห้องลับเเห่งนึงภายในสำนักงานใหญ่สตาร์กอินดัสตรีท์เเห่งนี้ห้องลับที่นี่ค่อนข้างเล็กเเต่ก็ใหญ่พอสมควร ใหญ่พอที่จะเรียกว่าห้องลับ

 

ทันทีที่ทั้งสี่คนเข้ามาในห้องประตูด้านหลังของเขาก็ปิด เเจ็คสัน ต่างเข้าใจกลไกการทำงานของห้องนี้ เพราะภายในห้องนี้ต่างก็มีระบบป้องกันภัยระดับสูง

 

“ทำตัวตามสบายเถอะ ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตรอง”ภายในห้องมีโซฟาหรูอันนึง โทนี่ กล่าวมองทั้งสามคนเเละกล่าวออกมา ซึ่ง เเจ็คสัน เเละ กัปตันโรเจอร์สได้เลือกหาที่นี่ ส่วนศาสตราจารย์ชาร์ลส์เขาก็นั่งอยู่บนรถเข็นอยู่เเล้ว

 

เเจ็คสันไม่ได้ทำตัวเกรงใจเขาเลือกหาสถานที่นั่งส่วนกัปตันโรเจร์สเขาก็นั่งลงข้างเเจ็คสัน ตอนนี้ มิราจไนท์ เเจ็คสัน กัปตันโรเจอร์ส สตีฟ ไอรอนแมน โทนี่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ในที่สุดก็มารวมตัวกัน

 

“พวกเราต่างก็รู้ดีเหตุผลที่เรามารวมกันอยู่ที่นี่เพราะเรื่องอะไร”เห็นทุกคนนั่งลงโทนี่เปิดปากพูด

 

ในฐานะผู้สนับสนุนหลักเเผนการอันบ้าคลั่งของเเจ็คสัน โทนี่มีสิทธิ์ที่จะพูด เเน่นอนว่า กัปตันโรเจอร์ส เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ต่างก็เข้าใจในเรื่องนี้

 

“โทนี่ พวกเรารู้ว่าคุณหมายถึงอะไร ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม”ได้ยินคำพูดของโทนี่ รอยย่นบนคิ้วของกัปตันโรเจอร์สกระตุกเล็กน้อย ในฐานะหัวหน้าทีมพันธมิตรอเวนเจอร์สเเละอนาคตของ S.H.I.E.L.D. กัปตันโรเจอร์สไม่ต้องการให้ โทนี่อ้อมค้อม

 

ฟังคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ ไม่ได้กล่าวบ่นอะไร เขาจ้องมองไปที่ ด้านหน้าของ เเจ็คสัน เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เพราะฟังจากคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส เขาเหมือนกับมองว่ากัปตันโรเจอร์สยังไม่ปักใจเชื่อโทนี่ทั้งหมด

 

“เนื่องจากมิราจไนท์บอกว่า เร้ด สกัลล์ ตายไปเเล้ว ถือว่าองค์กรไฮดร้าก็ได้รับการเเก้ไขไปเเล้วเหมือนกัน ตอนนี้ ถือเป็นก้าวเริ่มต้นที่เเท้จริงของพวกเราถูกต้องหรือไม่”ขณะที่โทนี่ เตรียมจะเปิดปากกล่าวอีกครั้ง ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมาเพราะดูจากบรรยากาศในคำพูดของ กัปตันโรเจอร์สเเละโทนี่ พวกเขาค่อนข้างที่จะไม่ลงรอยกัน ดังนั้น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จึงไม่ต้องการทำลายบรรยากาศภายในห้องนี้

 

ในห้องนี้นอกเหนือจากเเจ็คสันที่มีการป้องกันทางด้านจิตวิญญาณด้วยชุดสูทเเล้ว หากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ต้องการควบคุม กัปตันโรเจอร์ส เเละ โทนี่ เขาย่อมทำได้อย่างง่ายดาย เเต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ใช่พวกชอบใช้ความรุนเเรงในการเข้าช่วยเขาต้องการให้คนอื่น ๆ เคารพในสิทธิของตัวเองด้วยวาจาเเละไมตรีของเขา

 

“ถ้าอ้างอิงตามนั้นเเน่นอนว่าใช่ องค์กรไฮดร้าถือว่าจบไปเเล้วจริง ๆ “กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

ทั้งสามคนต่างเข้าสู่กระบวนการสนทนาเหลือเพียงเเจ็คสันที่เงียบมองท่าทีของทั้งสามคนซึ่งเขาเองก็ต้องการเห็นทั้งสามคนเข้ากันได้ดีเพราะหลังจากนี้ทั้งหมดพวกเขาจะลงเรือลำเดียวกันเเล้ว

 

“อันที่จริงก็ต้องขอบคุณทุกการรวมมือของพวกเราถึงทำให้องค์กรไฮดร้าถูกกำจัดลงไปได้ เเละ นอกจากนี้ กัปตันโรเจอร์ส ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกพวกคุณเเละเชื่อว่าพวกคุณจะต้องสนใจมันอย่างเเน่นอน”เเจ็คสันกระเเอมไอสองทีก่อนที่จะเปิดปากพูด

 

“อ่า,มิราจไนท์ เกี่ยวกับเรื่องที่คุณบอกว่าโลกของเรากำลังจะถูกรุกรานโดยอารยธรรมอื่น ๆ พวกเราเชื่อเเล้วว่ามันมีส่วนที่เป็นความจริง ดูจากพลังของลูกบาศก์เวทมนตร์ที่ เร้ด สกัลล์ ใช้เเล้ว ของสิ่งนี้ไม่สมควรปรากฏขึ้นบนโลก”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าว

 

“เพราะแบบนี้พวกเราถึงมารวมตัวกันสิ่งที่พวกเราคิดเหมือนกันก็คือการปกป้องโลกเเห่งนี้ให้พ้นจากภัยอันตราย นอกจากนี้ ฉันหวังว่าโลกของเราจะได้รับการพัฒนาการเป็นอารยธรรมที่เเข็งเเกร่ง เเละมั่นคง เเต่ก่อนที่เราจะทำเช่นนั้นได้ เราจะต้องเริ่มต้นจากการรวมผู้คนเป็นบึกเเผ่นเดียวกันก่อน”กัปตันโรเจอร์สเองก็ส่งเสริมความคิด

 

“ใช่เเล้ว,ตอนนี้เรื่องของ เร้ด สกัลล์ เเก้ไขไปเเล้วก็จริง เเต่เรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์ ฉันกลับไม่ได้รับมันมา คาดว่ามันน่าจะตกไปอยู่ที่นี่ไหนสักเเห่งในโลก”เเจ็คสันเอ่ยเเทรกเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์ก่อน

 

“ไม่ได้รับมา?”เห็นมิราจไนท์บอกเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์ สายตาของกัปตันโรเจอร์ส กระพริบด้วยความสงสัย เเต่มันก็เเค่สงสัยเท่านั้น เพราะเขายืนยันได้ถึงคำพูดจริงใจของอีกฝ่าย

 

“ของสิ่งนี้ไม่ควรปรากฏขึ้นบนโลกหากเหล่าอิทธิพลที่ชั่วร้ายได้รับมันเกรงว่าจะเกิดภัยหายนะทันที ฉันจะให้ ทีมX-MEN ช่วยค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์นี้อีกเเล้ว เเละ หวังจะยืมกำลังจากคุณด้วย คุณสตาร์ก”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่สงสัยในคำพูดของมิราจไนท์ เขากล่าวตอบ

 

เเม้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะไม่ได้เห็นความเเข็งเเกร่งของลูกบาศก์เวทมนตร์ด้วยตนเองเเต่อุปกรณ์ที่สามารถเปิดประตูมิติอวกาศที่เสถียรภาพได้ย่อมเป็นอุปกรณ์ที่ร้ายกาจชนิดนึง ดูเเล้วความสามารถของมันอาจจะคล้ายกับบลิงก์เเต่ข้อมูลของลูกบาศก์เวทมนตร์ที่เขาได้รับมาสิ่งนี้ราวกับว่ามันเป็นเเหล่งพลังงานที่ไม่มีวันหมด

 

“ขอบคุณศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่สนับสนุน เรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์พวกเราต้องยกให้มันเป็นเรื่องอันดับต้น ๆ จริงๆ”โทนี่พยักหน้าเขาเองก็ต้องการค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์ให้พบโดยเร็ว

 

“จริงสิ มิราจไนท์ คุณบอกว่า โลกของเราจะถูกอารยธรรมอื่น ๆ บุกใช่หรือไม่ เเม้พวกเราจะรวมตัวกันเเละสร้างสหพันธ์โลกขึ้น เเต่หากพวกอารยธรรมเหล่านั้นบุกพวกเราเร็วเกินไป ฉันเกรงว่าพวกเราคงไม่อาจต้านทานได้”กัปตันโรเจอร์สไม่ได้สนใจเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์ เขาจ้องมองไปที่ มิราจไนท์

 

สำหรับกัปตันโรเจอร์ส เขามีหัวใจที่อยากจะปกป้องสิ่งที่ตนเองรัก ทั้งคนรอบตัวเเละโลกใบนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงยอมรับเข้าการทดลองซูเปอร์โซลเดอร์

 

“ฉันเองก็ไม่ทราบเวลาที่เเน่นอน เเต่เรื่องการเตรียมการตั้งเเต่เนิ่น ๆ นั้นพวกเราได้ลงมือทำไปเเล้ว”เเจ็คสันกล่าวตอบจากนั้นก็มองไปที่โทนี่

 

ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์สเเละสีหน้าของเเจ็คสัน โทนี่ ได้เเสดงออกอย่างช้า ๆ จากนั้นเขาก็ยิ้มราวกับเหมือนภูมิใจอะไรบางอย่าง ซึ่งทำให้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเละกัปตันโรเจอร์สรู้สึกสงสัย

 

~

 

“J.A.R.V.I.S เเสดงให้กัปตันโรเจอร์สเเละศาสตราจารย์เห็นความสำเร็จล่าสุดของพวกเราหน่อย”

 

“ครับเจ้านาย!”

ผ่านไปหปลายนาที ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ทั้งสี่คน :มิราจไนท์,สไปเดอร์แมน,เเดร์เดวิล ,ดาร์คไนท์ ทีมX-MEN ทั้งสามคน :ศาสตราจารย์ชาร์ลส์,ไอซ์แมน,บลิงก์ เเละก็ โทนี่ สตาร์คตามลำดับ

 

โทนี่ปล่อยให้ J.A.R.V.I.S จัดการให้หุ่นยนต์นำเครื่องดื่มมาเสริฟพวกเขาทั้งหมดนั่งอยู่บนโซฟารองรับพิเศษ นี่เป็นครั้งเเรกที่ในสำนักงานชั้นบนสุดของโทนี่ ได้มีเเขกมาเยี่ยมเยือนมากขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้น คนเหล่านี้กลับเป็นตัวตนที่พิเศษ หากเกิดการจลาจลขึ้นมา เกรงว่ากองทัพไอรอนแมนของโทนี่คงไม่เพียงพอ

 

“เอาล่ะ ฉันคิดว่าไหน ๆ ก็อยู่พร้อมหน้ากันเเล้ว ในช่วงที่มิราจไนท์หายไป เกรงว่าทุกคนคงอยากจะรู้เหมือนกัน เเน่นอนว่าฉันเองก็ด้วย”เห็นทุกคนนั่งดื่มกันอย่างมีความสุข โทนี่ เปิดประเด็นในฐานะเจ้าภาพ

 

เเน่นอนว่าไม่มีใครเเสดงความคิดเห็นขัดเเย้งเพราะพวกเขาเองก็อยากรู้เช่นเดียวกัน

 

“จริง ๆ เเล้วฉัน เเค่จะป้องกันไม่ให้ เร้ด สกัลล์ หลบหนีไป เเต่ฉันกลับประเมินเขาผิดเพราะเขาตั้งจุดหมายปลายทางเอาไว้ยังสถานที่เเห่งนึงโชคดีที่ฉันรอดมาได้จากการเทเลพอร์ตในครั้งนั้น เเต่ฉันก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการบาดเจ็บที่ค่อนข้างสาหัส หลังจากฟื้นตัวได้สักพักฉันก็ออกเดินทางเเละเจอศพของเร้ด สกัลล์”เเจ็คสันกล่าวออกมา

 

“จากนั้นฉันก็ให้คุณสตาร์ก เขาส่งไอรอนแมนมรับฉัน ฉันบาดเจ็บหนักมาก เเละสถานที่เเห่งนั้นค่อนข้างอับสัญญาณฉันจึงต้องเดินทางออกไปเป็นระยะเวลานานก่อนที่จะพบจุดรับสัญญาณ”เเจ็คสันบอกเรื่องตัวเอง เพียงเเต่เรื่องฐานที่ไซบีเรียนั้นเขาปกปิดเอาไว้

 

ไม่ใช่ว่าเเจ็คสันต้องการซ่อนความจริงจากคนอื่น ๆ เเต่เพราะเรื่องนี้ยิ่งคนรู้น้อยยิ่งดี เเม้เขาจะเชื่อใจคนเหล่านี้เเต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เกี่ยวกับฐานที่ไซบีเรียเเละลูกบาศก์เวทมนตร์หากเป็นไปได้เขาก็จะบอกกับศาสตราจารย์ชาร์ลส์เขาไม่ต้องการให้ทีมคณะ X-MEN ทั้งหมดมาร่วมด้วย

 

“ถือเป็นโชคดีจริง ๆ “ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ปีเตอร์ถอนหายใจออกมา

 

ตรงข้ามกับไอซ์แมนใบหน้าของเขาเเละคนอื่น ๆ เผยเเสดงความสุข พวกเขาขอให้มิราจไนท์มีชีวิตอยู่ก็เพียงพอเเล้ว นอกจากนี้ยังได้ยินจากปากมิราจไนท์โดยตรงถึงการตายของ เร้ด สกัลล์ จะบอกว่ามิราจไนท์โชคดีก็ไม่เเปลกเพราะระหว่างเคลื่อนย้ายมิติ เร้ด สกัลล์ ตาย เเต่มิราจไนท์รอดเพียงเเค่ได้รับบาดเจ็บหนัก

 

“มิราจไนท์ตอนนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง?เเล้วอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้…”ปีเตอร์กล่าวอย่างกังวล

 

“อืมฉันไม่เป็นอะไรเเล้วตอนนี้ไม่ต้องกังวล”เห็นปีเตอร์กังวลเกี่ยวกับตัวเอง เเจ็คสันโบกมือเชิงไม่เป็นไร มีเพียงพลังจิตของเขาเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบในตอนนี้

 

“ดูเหมือนจะมีเเขกอีกคนมาเยี่ยมเช่นเดียวกัน J.A.R.V.I.S เปิดลานฮอต้อนรับเขา”โทนี่ กล่าวออกมา

 

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

ดูเหมือนว่าคนที่มาจะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก กัปตันโรเจอร์ส เเต่คนเหล่านี้ต่างหารู้ไม่ว่าคนที่มานั้นเป็นใคร ใบหน้าของพวกเขาต่างเเสดงความกังวล

 

ฟุ่บ!

 

หึ่มม

 

J.A.R.V.I.S ได้ทำการต้อนรับเเละเปิดลานฮอด้านนอก จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงของเครื่องบินควินเจ็ทอย่างชัดเจน

 

เพียงเเต่ขณะนั้นเองก็มีเงาร่างร่างนึงกระโดดลงมาจากเครื่องบินควินเจ็ท เป็นกัปตันอเมริกาเขาได้โดนลงมายังลานฮอ

 

ปีเตอร์เเละคนอื่น ๆ ต่างจ้องมองไปที่ กัปตันโรเจอร์สกันถ้วนหน้า เเน่นอนว่าพวกเขาต่างรู้จักบุคคลเบื้องหน้านี้ดีทั้งยังเป็นพันธมิตรจากฝ่าย S.H.I.E.L.D.

 

“กัปตันโรเจอร์ส”เเจ็คสันที่นั่งบนโซฟากล่าวทักทายก่อนเป็นคนเเรก

 

“มิราจไนท์ เห็นคุณปลอดภัยดี ฉันก็ดีใจ นอกจากนี้พวกเขาก็มากันถ้วนหน้าฉันละประหลาดใจจริง ๆ “เห็นมิราจไนท์เเละคนอื่น ๆ กัปตันโรเจอร์ส เเสดงออกถึงความสุข

 

“ขอบคุณ,จริงสิ เร้ด สกัลล์ เสียชีวิตไปเเล้ว หากคุณต้องการตรวจสอบศพของเขาด้วยตัวเองเอาเป็นวันพรุ่งนี้คุณสามารถมาดูด้วยตาตัวเองได้”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ทั้งยังบอกถึงเรื่องการตายของ เร้ด สกัลล์

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินเรื่อง เร้ด สกัลล์ ที่ตกตายจากปากของ มิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์สกลายเป็นสีหน้าทะมึนในทันที นี่เป็นผู้นำของพวกไฮดร้าทั้งยังเป็นศัตรูร่วมสาบานของเขาเมื่อ 60 ปีที่เเล้วตอนนั้น เขาเองก็คิดว่า เร้ด สกัลล์ ตกตายไปเเต่ก็ยังรอด เเน่นอนว่าคราวนี้ เร้ด สกัลล์ ได้ตายอีกครั้งเขาก็อยากจะยืนยันด้วยตนเอง

 

“ตายเเล้ว?เขาตายเเล้วจริง ๆ งั้นหรอ?”กัปตันโรเจอร์ส กล่าวพูดเบา ๆ

 

“จริงสิ เนื่องจากยังไงคุณก็มาเเล้ว พวกเราทั้งหมดก็มาอยู่พร้อมหน้าถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะหารือกันเกี่ยวกับเรื่องสำคัญ”โทนี่กล่าวเปิดปากพูด

 

ปีเตอร์เเละคนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องต่างก็รู้สึกงงงวย

 

ทั้งโทนี่ กัปตันโรเจอร์ส ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเละ เเจ็คสัน ต่างก็มองหน้ากัน พวกเขาเข้าใจชัดเจนถึงสายตาที่บ่งบอกถึงอีกฝ่าย เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการสร้างสหพันธ์โลกขึ้น

 

“นี่เป็นเป้าหมายของฉันที่มาในคราวนี้”ได้ยินคำพูดของ โทนี่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา

 

“อืม,ฉันเองก็คิดเช่นนั้น”หลังจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์เปิดปาก กัปตันโรเจอร์สก็กล่าวตอบ

 

“เอาล่ะ สถานที่เเห่งนี้คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่พวกเราย้ายสถานที่คุยกันเถอะ”เห็นศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเละกัปตันโรเจอร์สตอบรับ เเจ็คสันยิ้มออกมา พวกเขาต้องการพูดคุยถึงเเผนการที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

 

“มิราจไนท์ คุณหมายถึงอะไร?”ได้ยินคำพูดของพวกโทนี่เเละ เเจ็คสัน ปีเตอร์ต่างรู้สึกสงสัย

 

“เอาไว้ฉันจะเล่าให้พวกคุณฟังทีหลัง”เเจ็คสันกล่าวกับปีเตอร์ เเละคนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นโทนี่ก็เดินนำทางเเละเเจ็คสันก็เดินตามไป

 

“ตามฉันมาฉันจะพาไปยังสถานที่เเห่งนึง”โทนี่เดินนำขณะกล่าวพูดขึ้น

 

ด้านหลังของโทนี่ ตามมาด้วย เเจ็คสัน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเละ กัปตันโรเจอร์ส พวกเขาทิ้งคนอื่น ๆ ปล่อยไว้ให้ตกสู่ความงุนงง

 

ในที่สุดในห้องอันหรูหรานี้ก็เหลือเพียงปีเตอร์เเละคนอีกไม่กี่คน

ฟุ่บ~~

 

นิวยอร์กท่ามกลางผืนฟ้าอันสวยงาม ชุดเกราะไอรอนแมนตัวนึงได้พุ่งผ่านน่านฟ้าท่ามกลางนิวยอร์กเเห่งนี้อย่างรวดเร็ว ชุดเกราะไอรอนแมนนี้ก็คือเเจ็คสันที่เพิ่งกลับมาจาก ไซบีเรีย

 

” J.A.R.V.I.S ,ปีเตอร์มาถึงเเล้วงั้นหรอ?”บนจอโฮโลเเกรมที่ติดกับหมวกเหล็ก เเจ็คสัน กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

 

“ครับ คุณ เเจ็คสัน,สไปเดอร์แมน,เเดร์เดวิล เเละ ทีมX-MEN ทั้งสามคนได้มาถึงเเล้ว”เผชิญหน้ากับคำถามของเเจ็คสัน J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“พวกเขารีบมาก็เพราะฉัน ตัวฉันที่ยังกลับไม่ไปถึงเเละปล่อยให้พวกเขารอค่อนข้างรู้สึกเขินนิด ๆ นะเนี่ย!”เเจ็คสันกล่าวพูดอย่างช่วยไม่ได้

 

J.A.R.V.I.S”…” J.A.R.V.I.S ไม่ได้ตอบกลับใด ๆ เขาเพียงเเต่เร่งเครื่องยนต์สูงสุดเพื่อเพิ่มความเร็วของชุดเกราะไอรอนแมน

 

ฟ้าวว!

 

 

 

สตาร์กอินดัสตรีท์ชั้นบนสุด โทนี่ เเละ คนอื่น ๆ ได้ยืนเเละนั่ง จ้องมองทิวทัศน์กลางคนอืนมืดมิด J.A.R.V.I.S ได้เตือนพวกเขาเมื่อครู่ว่ามิราจไนท์ใกล้มาถึงเเล้ว เมื่อคิดถึงตอนที่มิราจไนท์หายตัวไป หลาย ๆ คนรู้สึกเป็นกังวลอย่างมากโดยเฉพาะปีเตอร์ เขาคิดว่าตัวเองอาจกระทั่งสูญเสียเพื่อนรักคนนี้ไปเเล้ว สำหรับศาสตราจารย์ชาร์ลส์พวกเขาก็เป็นห่วงเหมือนกัน

 

หึ่ม!

 

ขณะที่ โทนี่ เเละ คนอื่น ๆ กำลังจ้องมองเเสงสลัวย่างค่ำคืน พริบตาเดียวก็มีเงาร่างบางอย่างพุ่งตรงมาทางพวกเขา ซึ่งนั่นก็คือชุดเกราะไอรอนแมน

 

“มาเเล้ว!”เห็นชุดเกราะไอรอนแมน ปีเตอร์ ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

 

ครึ่นน!

 

ฟุ่บ..

 

ไม่นานชุดเกราะไอรอนแมนก็ร่อนลงมาจากกลางเวหาเเละลงจอดในที่สุด J.A.R.V.I.S ได้ช่วยประสานงานในการคลายชุดเกราะออก จากนั้นร่างของมิราจไนท์ที่หลายคนคุ้ยเคยก็ปรากฏขึ้น

 

ฮุ้วว

 

เห็นหลาย ๆ คนที่ยืนรอต้อนรับตัวเอง เเจ็คสันเดินก้าวออกมาจากชุดเกราะ เขาได้หายตัวไปมากกว่า 30 ชั่วโมง เเละตอนนี้เขาก็กลับมาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

 

“เฮ้,ได้เห็นพวกคุณอีกครั้งทำให้ฉันรู้สึกมีความสุข”ทันทีที่ถอดชุดเกราะไอรอนแมนเสร็จเเจ็คสันได้ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับชุดสูทภูติมายาของเขา เขาได้เดินไปที่ด้านหน้าของโทนี่เเละจ้องมองทั้ง 7 คนที่รอเขา เขากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม

 

ขณะนั้นเองปปีเตอร์ก็กระโดดเข้าไปจับเเขนซ้ายของเเจ็คสันในทันทีส่วนเเฮร์รี่เขาก็กระโดดออกไปจับเเขนขวาของเเจ็คสันนี่เเสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นห่วงเเจ็คสันมากเเค่ไหน ในที่สุด พวกเขาก็กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งเพราะพวกเขาคือสหายที่ดีที่สุดต่อกัน มิราจไนท์,สไปเดอร์แมน เเละ ดาร์คไนท์

 

“! ฉันรู้ว่าพวกนายเป็นห่วงฉันมาก เเต่ตอนนี้ฉันปลอดภัยเเล้ว ไม่ต้องกังวล”เเจ็คสันยิ้มออกมา เขารู้เจตนาที่ดีของเพื่อนทั้งสองคน เพราะพวกเขาคิดว่าโอกาสที่ตนเองจะกลับมานั้นมีน้อยมากถึงอย่างนั้นพวกเขาก็หวังอยู่ตลอดเวลา

 

ฟุ่บ!

 

“ครั้งหน้า!อย่าได้ทำเรื่องอันตรายแบบนี้อีกเด็ดขาด!”ทันทีที่เเจ็คสันกล่าวจบปีเตอร์ได้พูดเเทรกขึ้น เขาเเทบจะอดหลับอดนอนเพราะเป็นห่วงเเจ็คสัน วินาทีที่เขาเห็นเเจ็คสันหายเข้าไปในมิติอวกาศพร้อมกับ เร้ด สกัลล์ ตอนนั้น เขารู้สึกตกใจเเละกลัวมาก

 

“รู้เเล้ว”เเจ็คสันตบไหล่ของปีเตอร์ พร้อมกับบอกกล่าวยอมรับเรื่องนี้ เเน่นอนว่าเขาเองก็รู้สึกตำหนิพฤติกรรมที่ชอบทำอะไรหุนหันพลันเเล่นของตัวเองเหมือนกัน

 

“ยินดีต้อนรับกลับ”หลังจากปีเตอร์กล่าวจอบเเฮร์รี่ที่อยู่อีกด้านนึงก็กล่าวกับเขา

 

“ขอบคุณ”

 

เเจ็คสันได้สวมกอดปีเตอร์เเละเเฮร์รี่เสร็จเขาก็ได้เดินไปเผชิญหน้ากับโทนี่เเละคนอื่น ๆ

 

ใบหน้าของเเจ็คสันเเสดงความขอบคุณต่อโทนี่อย่างมาก เขารู้ดีว่า ช่วงที่ตนเองหายไป โทนี่ต้องแบกรับเเรงกดดันขนาดไหน เเต่เขาก็ยังไม่ได้เเสดงออกมาในตอนนี้ เพราะด้านข้าง ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็จ้องมองมาที่เขาพร้อมกับกล่าวทักทาย”มิราจไนท์ ยินดีต้อนรับกลับฉันดีใจที่ได้เห็นคุณอีกครั้ง”

 

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ฉันเองก็ดีใจที่ได้พบคุณ”เเจ็คสันกล่าวทักทายตอบกลับเป็นปปกติ

 

“มิราจไนท์ ฉันรู้อยู่เเล้วว่าคุณจะต้องไม่ตายง่าย ๆ เเน่นอน”เห็นมิราจไนท์เเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวทักทายกัน ไอซ์แมนได้เดินก้าวเข้ามาเบื้องหน้าของเเจ็คสันเเละพูดขึ้น

 

มิราจไนท์นั้นเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเขาคนนึง ซึ่ง เเจ็คสันเองก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ พวกเขาทั้งสองคนได้เดินเข้าหากันก่อนที่จะกอดทักทายกันเป็นธรรมเนียม เเจ็คสันไม่ได้ออกเเรงมาก เพราะเขารู้ว่าไอซ์แมนยังคงไม่หายดี

 

“โรเบิร์ต คุณยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บใช่มั้ย?”เเจ็คสันได้ผละกอดออกก่อนที่จะกล่าวถามไอซ์แมนด้วยความกังวล

 

“ก่อนหน้านี้ฉันใช้พลังมากเกินไป คงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์”ไอซ์แมนยิ้มกล่าวตอบเป็นนัย ๆ ว่าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเขา

 

ศึกต่อสู้บนสะพานโกลเด้นเกตก่อนหน้านี้ พวกไฮดร้าได้ใช้ลูกบาศก์เวทมนตร์เปิดประตูมิติอวกาศเเละใช้ความสามารถของประตูมิติอวกาศปปล่อยการโจมตีออกมา หากไม่ได้ไอซ์แมนในตอนนั้นระเบิดพลังเพื่อต้านรับคลื่นการโจมตีพวกเขาทั้งหมดที่นั่นคงเเย่อย่างเเน่นอน เเต่เพราะว่าไอซ์แมนฝืนระเบิดพลังมากเกินไปผลสะท้อนกลับจากการทำสิ่งนั้นก็คืออาการบาดเจ็บภายในขั้นรุนเเรง ดังนั้นไอซ์แมนจึงต้องใช้เวลาพักรักษาตัวพอสมควร

 

อันที่จริงเเล้วมิวแทนท์ระดับสูงใช่ว่าจะดีเสมอไป ยิ่งระดับความสามารถสูงขึ้น พลังที่ปะทุเเละความยากในการควบคุมก็ยากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นระดับมิวแทนท์ที่ปลอดภัยที่สุดก็คือมิวแทนท์ที่ไม่เกินระดับ 2

 

บางคนเเม้จะมีความสามารถที่เเข็งเเกร่งเเต่การที่ไม่สามารถควบคุมเเละใช้มันให้เป็นประโยชน์ได้มันก็จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลรอบข้าง เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่คนปกติส่วนใหญ่ไม่สามารถยอมรับได้

 

เมื่อระดับของมิวแทนท์พุ่งขึ้นมาสูงถึงระดับ 5 เมื่อไหร่ ความสามารถในการกลายพันธุ์ของพวกเขาเเทบจะเรียกได้ว่าตื่นเกือบจะสมบูรณ์แบบ เเต่การใช้พลังเเต่ละครั้งก็ต้องจ่ายด้วยค่าตอบเเทนมหาศาลยิ่งฝืนใช้พลังมากเท่าไหร่ร่างกายก็จะไม่สามารถรับพลังที่เกินขีดจำกัดเหล่านั้นได้ นั่นเองก็เป็นอีกผลของข้าเสียในการใช้พลัง เเต่มิวแทนท์ระดับ 5 ใช่ว่าจะหากันได้ง่าย ๆ เเม้เเต่มิวแทนท์ระดับ 4 ก็มีไม่มาก เพราะมิวแทนท์หลายคนไม่สามารถพัฒนาเเละควบคุมพลังของตัวเองเพื่อใช้ออกได้ดั่งใจ

 

“สิ่งนี้อาจจะช่วยคุณได้”ได้ยินคำอธิบายของไอซ์แมน เเจ็คสันได้หยิบโพชั่นออกมาจากชุดสูทของเขา

 

โพชั่นนี้ไม่ใช่ยายีนที่ทางออสบอร์นสร้างขึ้น เเต่เเจ็คสันได้เเลกมันมาจากร้านค้าระบบมันคือโพชั่นที่มีความสามารถในการฟื้นฟูยีนกลายพันธุ์ เเม้ยายีนที่ออสบอร์นสร้างขึ้นจะช่วยรักษาโรคหรืออาการบาดเจ็บต่าง ๆ ได้ดี เเต่มันกลับไม่ค่อยมีผลต่อยีนกลายพันธุ์ของเหล่ามิวแทนท์

 

“ขอบคุณ”เเม้จะไม่รู้ว่าโพชั่นยาตัวนี้จะมีคุณสมบัติหรือประโยชน์อะไร เเต่ไอซ์แมนก็รับมาเเละกล่าวขอบคุณ

 

“การที่มิราจไนท์กลับมาถือเป็นเรื่องที่ดีกับพวกเรา เอาล่ะ อยู่ข้างนอกไปก็คงไม่ได้อะไรเชิญเข้าไปข้างในกันเถอะ”เห็นทุกคนต้อนรับเเจ็คสันกันเสร็จ โทนี่ ได้ปรบมือขึ้นเพื่อเตือนพวกเขา

 

“อืม,ไปกันเถอะ”เเจ็คสันพยักหน้าก่อนที่จะเดินเข้าไปยังห้องของอาคารชั้นบนสุดของ สตาร์กอินดัสตรีท์ ปีเตอร์เเละคนอื่น ๆ ก็เดินตามเขาเข้าไป

สถานที่ใจกลางเมืองย่านนิวยอร์ก,ณ อาคารสตาร์กอินดัสตรีท์ ที่มีความสูงมากกว่า 200ชั้น ในเวลานี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของอุตสาหกรรมสตาร์ก ซูเปอร์ฮีโร่ ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ก ได้ยืนอยู่บนชั้นบนสุด

 

นอกอาคารสตาร์กอินดัสตรีท์เป็นสถานที่ลงจอดของเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งโทนี่มักใช้มันในการลงจอด ชุดเกราะไอรอนแมน เเต่ในเวลานี้เขาได้มารอที่นี่เพื่อเตรียมรับรองเเขกคนอื่น ๆ

 

“J.A.R.V.I.S พวกเขามาถึงรึยัง?”โทนี่ที่ยืนอยู่นอกอาคารที่มีความสูงห่างจากพื้นดินหลายร้อยเมตร เขากำลังเฝ้ามองฉากกลางคืนที่เงียบสงบของนิวยอร์ก

 

“เจ้านายครับ,เเดร์เดวิล เเละ สไปเดอร์แมนมาถึงเเล้ว ส่วน ดาร์คไนท์เขากำลังมุ่งหน้ามาทางนี้คาดว่าอีกหนึ่งนาที ทางด้านศาสตราจารย์ชาร์ลส์ยังไม่เเน่นอน”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบอย่างเรียบง่าย

 

“ฉันเห็นเเดร์เดวิลเเล้ว”หลังจาก J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ โทนี่ก็มองเห็นยานบินที่กำลังพุ่งมาทางเบื้องหน้าของเขา

 

“เเล้วเจ้าหนูปีเตอร์นั่นเขาไม่ได้มาด้วยกันงั้นหรอ?เขาคงไม่ปีนป่ายขึ้นมาเองหรอกมั้ง”ทันทีที่เห็นเเดร์เดวิล โทนี่ กล่าวพึมพัมออกมา เพราะเขาไม่เห็นสไปเดอร์แมนบนยานบินด้วย

 

“สไปเดอร์แมนได้ปีนป่ายขึ้นมาถึงชั้นที่ 198 เเล้ว ซึ่งห่างจากเจ้านายเพียง 40 เมตร”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“~!!!”เห็นการตอบกลับของ J.A.R.V.I.S โทนี่ไอออกมาสองที

 

ฟุ่บ!

 

ขณะเดียวกันเงาร่างในชุดสีเเดงตอนนี้กำลังปีนป่ายอาคารสตาร์กอินดัสตรีท์เงาร่างนี้ก็คือสไปเดอร์แมน เนื่องเพราะอาคารสตาร์กอินดัสตรีท์มีความสูงมากปีเตอร์จึงค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่ปีนขึ้นไปถึงชั้นบนสุดเเละเห็นโทนี่ ปีเตอร์ได้กระโดดเข้าไปหาเขาพร้อมถอดหน้ากากด้วยสีหน้าตื่นเต้น

 

“คุณสตาร์ก เเจ็คสันล่ะ!?”ปีเตอร์กล่าวถามหา เเจ็คสันในทันที เพราะเขายังไม่เห็นตัวเเจ็คสันเลยตั้งเเต่ขึ้นมา

 

โทนี่เตรียมจะตอบคำถามทุกรูปแบบที่ต้องเผชิญระหว่างรอเเจ็คสันอยู่เเล้ว ขณะเดียวกัน เเดร์เดวิล ก็มาถึงเขาได้โดดลงจากยานบินเเละมายืนข้าง ๆ โทนี่เเละสไปเดอร์แมน

 

“ดูเหมือนว่าพวกนายจะได้รับข้อความจากฉัน ซึ่งอันที่จริงเเล้ว J.A.R.V.I.S เป็นคนส่งไป ใช่ มิราจไนท์ยังไม่ตาย เเละตอนนี้เขากำลังอยู่ในระหว่างเดินทาง”ขณะที่เเดร์เดวิลมาถึง โทนี่ ที่เตรียมจะพูดคุยกับปีเตอร์สองคนพลันต้องเปลี่ยนวิธีการพูด

 

หึ่ม!

 

“โชคดีจริง ๆ ! เเค่ผมรู้ว่าเขาไม่เป็นอะไรก็ดีเเล้ว!”ได้ยินโทนี่พูดแบบนั้น ปีเตอร์ในที่สุดก็ผ่อนคลายออกมา

 

“เเล้วสภาพสถานการณ์ในปัจจุบันของเขาเล่า?ได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”เทียบกับความตื่นเต้นของปีเตอร์ เเดร์เดวิล ค่อนข้างสงบกว่ามาก นี่เป็นคำถามที่รบกวนจิตใจเขามากที่สุดในเวลานี้

 

“ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เเต่ไม่ร้ายเเรงมาก พวกเราเพิ่งคุยกันเมื่อไม่นานมานี้ ดูจากน้ำเสียงของเขา มิราจไนท์ยังสบายดีอยู่”ได้ยินคำพูดของเเดร์เดวิล โทนี่ พยักหน้าตอบ

 

“ดี…ดีมาก”

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่ โทนี่ ปีเตอร์ เเละ เเดร์เดวิลกำลังสนทนาตอบคำถามกัน ด้านหน้าของพวกเขาก็ปรากฏคลื่นความผันผวนอย่างรวดเร็ว ซึ่ง J.A.R.V.I.S ได้ทำหน้าที่เปิดระบบอาวุธตอบโต้อัตโนมัติเเละเล็งไปที่คลื่นความผันผวนด้านหน้า เเม้ เร้ด สกัลล์ จะตายจากคำยืนยันของ เเจ็คสันเเล้ว เเต่ ลูกบาศก์เวทมนตร์ก็หายไปเช่นเดียวกัน เเน่นอนใช่ว่า J.A.R.V.I.S จะเบาใจกับเรื่องเหล่านี้

 

ฟุ่บ!

 

เเววตาของพวกโทนี่ทั้งสามคนได้เบนสายตาไปยังด้านหน้าประตูมิติอวกาศที่ปรากฏขึ้น พริบตาเดียว ไอซ์แมน โรเบิร์ต ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก็เดินออกมาจากประตู

 

“สวัสดี ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ยินดีต้อนรับคุณสู่สตาร์กอินดัสตรีท์”โทนี่กล่าวทักทายหลังจากเห็นบุคคลทั้งสามคนปรากฏตัวออกมาจากประตูมิติ

 

เขาเดินเข้าไปข้างหน้าเพื่อทักทาย เพราะพวกที่มาถึงเป็นใครไม่ได้นอกจากทีมX-MEN โทนี่ได้โบกมือเล็กน้อยเเละบอก J.A.R.V.I.S ให้คลายการป้องกันลง”สวัสดีคุณสตาร์ก ฉันเองก็มีความสุขมากที่ได้พบคุณอีกครั้ง”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ยิ้มตอบรับโทนี่ที่เดินมาเบื้องหน้าของเขา

 

สำหรับโรเบิร์ตเขาเตรียมที่จะทักทายโทนี่เหมือนกัน เเต่สายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับเงาด้านหลังของโทนี่ ซึ่งก็คือรูปลักษณ์ร่างที่คุ้นเคย สไปเดอร์แมน เพียงเเต่ในเวลานี้ เขาเห็นหน้าของเด็กที่น่าจะอยู่มัธยมปลายในชุดสไปเดอร์แมนซึ่งทำให้เขาประหลาดใจ

 

“เขาคือ…”หลังจากเห็นใบหน้าของปีเตอร์ ไอซ์แมนตกใจอยู่พักนึง เขาไม่คิดเลยว่า เด็กนักเรียนมัธยมปลายเบื้องหน้าเเท้จริงเเล้วจะเป็นสไปเดอร์แมน

 

ฟุ่บ!

 

เห็นการจ้องมองของไอซ์แมน โทนี่ ได้กระเเอมไอเตือนปีเตอร์ ,ปีเตอร์เองก็รู้เเละรีบสวมหมวกของตัวเองอย่างรวดเร็ว เเน่นอนว่านอกเหนือจาก ไอซ์แมนที่เห็นใบหน้าของปีเตอร์ ก็ยังมี ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเละ บลิงก์

 

“ฮ่าฮ่า,เเล้วทั้งสองคนนี้…”โทนี่เบี่ยงประเด็นเรื่องใบหน้าของปีเตอร์เเละถามศาสตราจารย์ชาร์ลส์เกี่ยวกับผู้ติดตามทั้งสอง

 

“สวัสดี คุณสตาร์ก ฉัน โรเบิร์ต หรือคุณจะเรียก ไอซ์แมนก็ได้ ส่วนเธอชื่อ บลิงก์”หลังจากกลับมามีสติอีกครั้ง ไอซ์แมนได้ตอบคำถามของโทนี่

 

“ไอซ์แมน เเละ บลิงก์”ได้ยินคำตอบของไอซ์แมน โทนี่ กล่าวทวนชื่อพวกเขา เพราะอย่างไรทั้งสองคนก็เป็นคนของทีม X-MEN

 

ในองค์กร S.H.I.E.L.D. ข้อมูลเกี่ยวกับโลกของมิวแทนท์นั้นได้รับการยกเว้น เหล่ามิวแทนท์ที่มีความสามารถระดับต่ำนั้นหาได้เป็นที่สนใจไม่

 

มีเฉพาะมิวแทนท์ที่มีระดับมากกว่า 3 เท่านั้น ที่ทาง S.H.I.E.L.D. ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดเเน่นอนว่า โทนี่ เองก็เคยเห็นชื่อของ ไอซ์แมน เเละ บลิงก์ ผ่านข้อมูลเหล่านั้น

 

ความสามารถของไอซ์แมนคือ การเยือกเเข็ง ซึ่งเป็นความสามารถที่น่ากลัวมาก เเต่โทนี่ กลับไม่ได้สนใจตรงจุดนี้ที่เขาสนใจก็คือ บลิงก์ ความสามารถเปิดประตูมิติอวกาศของเธอ มันช่วยให้สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ถ้าโทนี่ ศึกษาความสามารถของบลิงก์จนเข้าถึงเเก่นเเท้บางทีเขาอาจนำมันไปใช้กับวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาความสามารถในการเคลื่อนย้ายข้ามมิติก็เป็นไปได้ เพียงเเต่เมื่อเทียบกับลูกบาศก์เวทมนตร์ สำหรับโทนี่ ลูกบาศก์เวทมนตร์ย่อมเป็นข้อมูลที่ดีที่สุดหากนำมันมาวิจัย ซึ่งโทนี่ก็ได้เก็บข้อมูลของลูกบาศก์เวทมนตร์ทดลองของพวกไฮดร้ากลับมาจากฐานด้วย

 

“เอ่อ!คุณสตาร์ก เเล้ว มิราจไนท์เล่า? คุณส่งข้อความบอกพวกเราว่ามิราจไนท์ปลอดภัยดี นี่เรื่องจริงงั้นหรอ?”ไอซ์แมนกล่าวถามโทนี่ด้วยความกังวล

 

“ผ่อนคลายเถอะ เรื่องมิราจไนท์ เอาเป็นว่าพวกคุณจะได้เห็นเขาในเร็ว ๆ นี้ เอาเป็นว่าพวกเรามารอเขาพร้อมกับคนอื่น ๆ กันดีกว่า”โทนี่ ตอบคำถามอย่างเรียบง่าย

 

เมื่อครู่ J.A.R.V.I.S ได้ส่งสัญญาณมาว่า ดาร์คไนท์ได้เดินทางมาถึงเเล้ว เขาอยู่ที่เบื้องหน้าของโทนี่ซึ่งอยู่ไม่ไกล

 

“เช่นนั้นก็ดี!”ได้ยินคำตอบของโทนี่ ไอซ์แมนรู้สึกโล่งใจ เขาเดินไปกับบลิงก์พร้อมกับดันรถเข็นของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไปที่ด้านหลังตำเเหน่งของปีเตอร์เเละเเดร์เดวิล

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่พวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์ทั้ง 3 คนเดินเข้าไปข้างใน บนชั้นบนสุดของสตาร์กอินดัสตรีท์ เสียงเครื่องร่อนก็ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ ดาร์คไนท์ เเฮร์รี่ ก็ได้กระโดดลงมาจากเครื่องร่อน

 

คราวนี้เหล่าผู้ชมก็มาพร้อมกันถ้วนหน้าเเล้วเหลือเพียงเเต่ตัวเอกของงานอย่างมิราจไนท์เพียงเท่านั้นที่ยังมาไม่ถึง

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่ประตูห้องสืบสวนถูกเปิด นักสืบ เกล็น ได้เดินออกจากห้องใบหน้าของเขาอมยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะไปหยุดลงตรงที่ร่างที่ยืนห่างไม่ไกล

 

ใบหน้าของนักสืบเกล็นจ้องมองไปที่ กัปตันโรเจอร์ส ที่ยืนอยู่มุมเสา เขาไม่คิดเลยว่า กัปตันโรเจอร์ส จะรู้เรื่องการสืบสวนนิคด้วย

 

นักสืบคนนี้ได้เดินเข้าไปหากัปตันโรเจอร์สเเละยืนมือออกไปเชิงทักทายเเต่ กัปตันโรเจอร์ส กลับไม่ได้ยื่นมือตอบรับเขา

 

“เฮ่อ…”เห็นการทักทายของตัวเองถูกปฏิเสธ ใบหน้าของ นักสืบคนนี้กลายเป็นมุ่นคิ้วทันที

 

“สถานการณ์ของนิคเป็นอย่างไรบ้าง?”น้ำเสียงของกัปตันโรเจอร์สได้กล่าวออกมา

 

“สถานการณ์ของหัวหน้านิค?เขาไม่ปริปากพูดอะไรเลย เขาเงียบตลอดการทำเเผนให้ปากคำ คุณคิดว่า เขาจะยอมปริปากจำนนต่อหลักฐานจำนวนมากขนาดนี้หรือไม่เล่า เเต่ถึงเขาจะไม่ยอมเเต่ตอนนี้เขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด?”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส นักสืบคนนี้กล่าวออกมา

 

เหตุผลที่สภาความมั่นคงสืบสวนนิคเป็นเพราะเขาได้รู้ลึกเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรมาบางอย่าง นอกจากนี้ นิค มีกัปตันโรเจอร์ส ให้การสนับสนุน องค์กร S.H.I.E.L.D. เป็นองค์กรรัฐบาลลับที่คอยรักษาความมั่นคงของคนทั้งโลก พวกเขามีหน้าที่จัดการกองกำลังชั่วร้ายที่เป็นอันตรายทั้งหมดเเต่นั่นก็เเค่เรื่องในอดีต เพราะจู่ ๆ ทางสภาความมั่นคงของโลกก็ได้รับข้อเสนอจาก กัปตันโรเจอร์ส

 

ในศึกสงครามเมื่อ 60 ปีที่เเล้ว กัปตันโรเจอร์ส ได้ตายอย่างหาญกล้าในสงคราม เเต่ก็กลับมาปรากฏตัวขึ้นต่อกลุ่มประชาชนอีกครั้งหลังจาก 60 ปี ต่อมา ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องการปฏิรูปฮีโร่ทั้งหมด เเละให้ กัปตันโรเจอร์ส เป็นส่วนหนึ่งที่เรียกร้องความสนใจต่อผู้คน เเละ กระเเสของกัปตันโรเจอร์ส ก็ร้อนเเรงมาก เเทบจะไม่เเตกต่างจาก ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ก

 

ดังนั้นตราบเท่าที่ได้ตัวของ กัปตันโรเจอร์สมา สภาความมั่นคงของโลกจึงให้การสนับสนุน กัปตันโรเจอร์ส เเละ ชมเเผนการสรรหากำลังพลที่ไว้ใจได้ เเต่สภาความมั่นคงของโลกเเน่นอนว่าไม่ได้นิ่งวางใจ กัปตันโรเจอร์สถือเป็นสัญลักษณ์เเห่งสันติภาพที่สำคัญก็จริง เเต่หากควบคุมไม่ได้ ก็ไม่มีความหมาย

 

“งั้นหรอ?งั้นฉันขอเตือนคุณก่อนเลยว่าให้ระวัง นิคไม่ใช่ตัวตนธรรมดา คุณคิดว่าเขาจะยอมง่าย ๆ ? ถ้าเกิดเขาง่ายดายปานนั้นเขาคงไม่ควบตำเเหน่งหัวหน้าองค์กร S.H.I.E.L.D. มาหลายสิบปีหรอก”กัปตันโรเจอร์สกล่าวออกมา

 

“เเน่นอนว่าเราย่อมรู้ดีถึงเรื่องนี้ เเต่ เราเองก็มีหลักฐานจำนวนมากที่จะทำให้หัวหน้านิคหลุดจากตำเเหน่ง เเละเราเชื่อว่าเราสามารถทำได้…กัปตันโรเจอร์สคุณเองก็รู้อยู่เเก่ใจ”เผชิญหน้ากับกัปตันโรเจอร์ส นักสืบคนนี้ยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ

 

“ฉันรู้ว่าในมือของคุณถือไพ่อะไรเอาไว้เเต่ฉันเเค่จะเตือนคุณเพียงเท่านั้น ฉันไม่อยากให้คุณผิดพลาด”กัปตันโรเจอร์สตระหนักในคำพูดของตัวเอง

 

“หืม?กัปตันโรเจอร์ส คุณเชื่อมั่นในคำพูดของคุณขนาดนั้น?”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส สีหน้าของนักสืบคนนี้ยังคงเหมือนเดิม

 

สิ่งที่นักสืบคนนี้เฝ้าระวังมากที่สุดก็คือคำเตือนจากสภาความมั่นคงของโลกก็คือ ระหว่าง นิค กับ กัปตันโรเจอร์ส

 

สถานการณ์ของนิคในตอนนี้เขาย่อมถูกสั่งให้พ้นจากตำเเหน่ง หัวหน้าองค์กรS.H.I.E.L.D เเน่นอนว่ากัปตันโรเจอร์สจะทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กร S.H.I.E.L.D ดูดีขึ้น เเละการควบคุมองค์กรโดยหลัก ๆ เเล้วจะง่ายขึ้นกว่าเดิม การสั่งพ้นตำเเหน่งนิคนั้นถือเป็นกรณีเริ่มต้นเพียงเท่านั้น การควบคุมองค์กร S.H.I.E.L.D ทั้งหมดหาใช่เรื่องง่าย เรื่องนี้พวกสภาความมั่นคงของโลกต่างรู้ดี พวกเขาตั้งใจจะให้ กัปตันโรเจอร์ส มีส่วนช่วยในการควบคุมองค์กร S.H.I.E.L.D เเต่ทุกการกระทำของกัปตันโรเจอร์สจะถูกเฝ้าจับตามองโดยพวกเขา

 

“ฉันจะรู้สึกยินดีมากถ้าหัวหน้านิคได้พ้นออกจากตำเเหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน S.H.I.E.L.D ในเร็ว ๆ นี้ หากหัวหน้านิคถูกสั่งพ้นตำเเหน่งเเล้วไว้เราค่อยพูดคุยเรื่องนี้กันอีกที”กัปตันโรเจอร์สกล่าวออกมา

 

“ฮ่าฮ่า,กัปตันโรเจอร์ส คุณมั่นใจได้เลยว่าสภาความมั่นคงของโลกจะสนับสนุนคุณเต็มที่อย่างเเน่นอน สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ เอาไว้ทีหลัง”

 

“เเน่นอน,เรื่องขององค์กร S.H.I.E.L.D. จะต้องพูดคุยกันอย่างรอบคอบ แต่ก่อนฉันจะไปฉันขอเตือนคุณให้ระวังนิคไว้ให้ดีดี”กัปตันโรเจอร์ส หันหลังเเละเดินจากไป

 

“สบายใจเถอะ หัวหน้านิคจะกลายเป็นอดีตผู้อำนวยการในเร็ว ๆ นี้เป็นเเน่”มองย้อนกลับไปที่้เเผ่นของกัปตันโรเจอร์ส นักสืบคนนี้กล่าวออกมา

 

กัปตันโรเจอร์สไม่ได้ตอบกลับคำพูดของนักสืบคนนั้น เขาได้ก้าวท้าวเดินออกจากที่นี่ เขาไม่ได้เอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับสภาความมั่นคงของโลกเพราะอยากทำเเต่ที่กัปตันโรเจอร์สตัดสินใจจะทำให้นิคพ้นทางก็เพื่อที่จะดำเนินต่อตามเเผนการของมิราจไนท์

 

“บางทีตอนนี้มิราจไนท์อาจจะกลับมาเเล้ว ฉันเองก็อยากจะไปเยี่ยมเขาอยู่เหมือนกัน”กัปตันโรเจอร์สบ่นพึมพัมออกมา

 

กัปตันโรเจอร์สได้รับข้อมูลจาก J.A.R.V.I.S เมื่อไม่นานมานี้ เเต่เพราะเขาต้องเคลียเรื่องทางนี้จึงยังไม่ได้รีบด่วนไปเยี่ยมมิราจไนท์

 

ฟุ่บ!

 

กัปตันโรเจอร์สได้เดินจากไปฝีเท้าของเขามั่นคง ขณะเดียวกันองค์กร S.H.I.E.L.D. ต่อจากนี้ไม่มีใครรู้เเน่ชัดว่าจะเดินไปยังทิศทางใด เเม้กระทั่งโลกจะต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์อะไรก็ไม่มีใครรู้

เป็นเวลากว่าสามนาทีที่เเจ็คสันได้บอกเเผนการของตัวเองให้โทนี่ฟัง ซึ่งโทนี่ ก็ชื่นชมว่าเป็นความคิดที่ดี เพราะฐานไฮดร้าที่ไซบีเรียนั้นใหญ่เป็นอย่างมากเเละมันเหมาะสมที่จะเป็นฐานลับของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ในภายหลัง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นฐานที่เหมาะกับเเจ็คสันเเละเขาที่จะนัดพบกันภายหลัง ท้ายที่สุด อาจจะกลายเป็นฐานเริ่มเเรกของการก่อตั้งสหพันธ์โลกขึ้นก็เป็นได้ เพราะนอกเหนือจากทั้งสองคนเเล้วยังมี กัปตันโรเจอร์ส เเละ ทีมX-MEN ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เข้าร่วมอยู่ ดังนั้นเรื่องนี้จึงยังเป็นความลับไม่อาจเเพร่งพรายออกไปได้

 

“เรื่องการปรับปรุงฐานไฮดร้าเเน่นอนว่าย่อมไม่ใช่ปัญหา หลังจากจบเรื่องวุ่ย ๆ เสร็จเเล้ว พวกเราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกที เพราะตั้งเเต่ที่เธอกลับมา ความสัมพันธ์เชิงพันธมิตรของพวกเราก็ยังคงอยู่”โทนี่ กล่าวพูดขึ้น

 

“อืม,การกำจัดองค์กรไฮดร้าคือชัยชนะเริ่มเเรกของพวกเรา ดังนั้นหลังจากที่ผมกลับไปผมจะเริ่มต้นเเผนการที่เราวางไว้ในทันที”เเจ็คสันยิ้มออกมา

 

กองทัพไฮดร้าถูกกำจักไปเกือบหมดเเล้วพูดได้ว่าเเผนการกำจัดองค์กรไฮดร้านี้เป็นไปได้อย่างราบรื่นตั้งเเต่ต้นจนจบ เพราะ ทางด้านS.H.I.E.L.D. นิค ก็ไม่ได้สูญเสียไพร่พลจำนวนมากไปในสงคราม

 

นอกจากนี้การผูกพันธมิตร ระหว่าง ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ,ทีมX-MEN เเละ S.H.I.E.L.D. ในการร่วมการโจมตีในครั้งนี้เเสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างน่าตกใจ เเม้กองทัพไอรอนแมนจะไม่ได้เข้าร่วม เเต่พวกเขาก็ยังสามารถรับมือกับพวกไฮดร้าได้จนจบ

 

ดังนั้นเเจ็คสันคิดว่านี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสหพันธ์โลกขึ้น เขาตั้งใจจะเปลี่ยนเเปลงพล็อตเรื่องเองบ้าง เพราะก่อนหน้านี้เขาต่างถูกพล็อตเรื่องที่เปลี่ยนเเปลงรุมเร้าจนเสียท่าอยู่หลายครั้ง มันถึงเวลาเเล้วที่เขาจะต้องเป็นฝ่ายคุมเกม

 

กล่าวได้ว่าอารมณ์ของเเจ็คสันในช่วงปัจจุบันคืออารมณ์ที่ผ่อนคลายที่สุดในรอบหลายเดือน เเม้เขาจะได้รับบาดเจ็บ เเต่ก็สามารถทำภารกิจกำจัดองค์กรไฮดร้าได้สำเร็จ

 

การก่อตั้งสหพันธ์โลกเริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อย ๆ เเจ็คสันต้องการ กัปตันโรเจอร์ส ในฐานสัญลักษณ์เเห่งสันติภาพเเฟนคลับทั่วโลก กัปตันอเมริกา ทีมX-MEN ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ มิวแทนท์ระดับสี่ขั้นสูง ที่มีความสามารถรอบด้าน โทนี่ กองทัพไอรอนแมนอันทรงพลังเเละความมั่งคั่งที่ถือเป็นนายทุนชั้นยอด ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนด้านวิทยาศาสตราจารย์เเละเทคโนโลยี ทั้งหมดต่างก็มารวมตัวกันเเทบจะครบหมดเเล้ว เเจ็คสันเชื่อว่าตนเองไม่มีทางทำสำเร็จได้ด้วยคนเดียวหากขาดคนเหล่านี้ดังนั้นเขาจึงต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างเต็มที่

 

“เรื่องนี้เอาเป็นว่ารอเธอกลับมาถึงที่นี่เราค่อยพูดคุยกันอีกครั้ง ทีมX-MEN พันธมิตรของเธอก็กำลังจะเดินทางมาที่นี่ ฉันเองก็คงต้องออกไปต้อนรับพวกเขา หลังจากเธอกลับมาเตรียมโดนฉันเทศนาได้เลย!”โทนี่ ยิ้มออกมาก่อนที่จะกล่าวดุเเจ็คสัน

 

“อืม,จริงสิ ตอนนี้ผมเองก็ค่อนข้างหนาวเเล้วเหมือนกัน ชุดสูทของผมเสียหาย เเละ ผมซ่อมฟังก์ชั่นไปเเค่บางส่วน ตอนนี้ผมกำลังใช้ร่างกายทนรับความหนาวติดลบมากกว่า สิบองศาอยู่ ผมคิดว่าผมคงไม่สบายเเหง ๆ “เเจ็คสันสั่นระริกออกมาตอนนี้เขาค่อนข้างหนาวมากจริง ๆ

 

“ฮึ่ม! ทีนี้จะได้เป็นบทเรียนว่าอย่าหุนหันพลันเเล่นในครั้งต่อไป”เห็นเเจ็คสันบ่นถึงสภาพร่างกายของตัวเองตอนนี้ โทนี่ กล่าวตำนิเล็กน้อย

 

เกี่ยวกับเจ้าเด็กคนนี้ โทนี่ รู้ว่าเขาเป็นคนค่อนข้างลึกลับ ฉลาดหลักเเหลม เเต่บางครั้งก็ค่อนข้างหุนหันพลันเเล่นเเละทำอะไรไม่ปรึกษาเขา ถึงอย่างไร โทนี่ก็ค่อนข้างเคารพในการตัดสินใจของเด็กคนนี้

 

เกี่ยวกับคำติเตียนของโทนี่ เเจ็คสันยิ้มออกมา เขาเฝ้าคิดถึงการเเต่งงานของโทนี่กับเป็ปเปอร์ หากพวกเขาผลิตทายาทออกมา เเจ็คสันตั้งใจจะกล่อมเด็กคนนั้นให้มีความคิดสืบทอดเหมือนของตัวเอง เเค่คิดก็สนุกเเล้ว…”เเม้ฉันจะหุนหันพลันเเล่น เเละ ไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการมาไว้ในมือ เเต่สงครามในครั้งนี้ก็คุ้มค่ามากจริง ๆ “เเจ็คสันคิดในใจ

 

“นอกจากนี้เกี่ยวกับลูกบาศก์ผมไม่รู้ว่ามันยังคงอยู่ที่นี่หรือไม่บางทีอาจจะถูกส่งไปยังสถานที่อื่นเเล้วก็ได้”

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิด ชุดเกราะไอรอนแมนใกล้เดินทางมาถึงที่นี่เเล้ว ซึ่ง เเจ็คสันได้อธิบายเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์ให้ โทนี่ ฟังก่อนเป็นอันดับเเรก ซึ่ง โทนี่ ก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก เเต่ถึงอย่างไรเขาก็รู้สึกดีใจที่เเจ็คสันยังมีชีวิตอยู่

 

“เอาล่ะชุดเกราะไอรอนแมนได้เดินทางไปถึงเเล้ว เธอกลับมาที่นี่ก่อนเถอะ ฉันจะทิ้งชุดเกราะไอรอนแมนบางส่วนไว้ที่นี่ เพื่อทำการค้นหา ส่วนเรื่องศพ เร้ด สกัลล์ เเละ ฐานเเห่งนี้ ฉันจะให้ J.A.R.V.I.S จัดการที่เหลือ หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเธอเเล้วกัน”

 

“เข้าใจเเล้ว”เเจ็คสันพยักหน้าเล็กน้อย

 

เเจ็คสันได้เดินออกไปที่หน้าทางเข้าฐานเขาเห็นเสียงดังหึ่ง ๆ มาจากบนอากาศไม่นานชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวก็ลอยลงมาจากผืนอากาศ

 

“คุณเเจ็คสัน ดูเหมือนคุณจะสบายดี”J.A.R.V.I.S ได้ส่งเสียงทักทายเเจ็คสัน

 

“ฮ่าฮ่า,J.A.R.V.I.S ฉันมีความสุขมากที่ได้ยินเสียงคุณอีกครั้ง”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันยิ้มออกมาเเน่นอนว่าเขาได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S ก่อนหน้านี้เเล้ว ดังนั้นนี่จึงเป็นคำหยอกเย้าเล่นของเขา

 

จากนั้นเเจ็คสันก็เดินตรงไปที่ชุดเกราะไอรอนแมนด้านหน้า จากนั้นชุดเกราะไอรอนแมนก็เปิดออกเเละสวมใส่ชุดให้กับเเจ็คสันอย่างรวดเร็ว

 

ฟุบ~~

 

“รีบกลับกันเถอะ J.A.R.V.I.S ฉันไม่ต้องการให้ปีเตอร์เเละคนอื่น ๆ ต้องรอนาน”ทันทีที่สวมชุดเสร็จเเจ็คสันกล่าวออกมา

 

“ครับ คุณเเจ็คสัน”J.A.R.V.I.S กล่าวรับคำสั่งทันที

 

ฟุ่บ!

 

วินาทีต่อมาชุดเกราะไอรอนแมนที่ห่อหุ้มร่างของเเจ็คสันก็ดีดตัวขึ้นไปปบนฟ้าเเละบินหายลับไปยังตำเเหน่งนิวยอร์กอย่างรวดเร็ว ส่วนชุดเกราะไอรอนแมนที่เหลือได้เเบ่งกระจายกันไปทำหน้าต่าง ๆ โดยอย่างเเรกคือการตรวจสอบฐานลับไฮดร้าเเห่งนี้เเละเข้ายึดครองโดยสมบูรณ์

หลังจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์จากไป เหล่าหนูน้อยมิวแทนท์ในชั้นเรียนต่างก็รู้สึกสงสัย เพียงเเต่ว่าไม่ทันจะได้ถามพวกเขาก็เห็นศาสตราจารย์ชาร์ลส์เข็นรถเข็นออกไปเสียเเล้ว ทันทีที่ออกจากห้องเรียน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ส่งข้อความหาเหล่าทีม X-MEN คนอื่น ด้วยข้อความสั้น ๆ อย่าง :มิราจไนท์ยังมีชีวิตอยู่

 

“ดูเหมือนว่าฉันไม่ควรจะดูถูกมิราจไนท์เกินไป ถึงอย่างไรเขาก็คือคนที่มีความคิดทะเยอทะยานมาก ในอนาคตเหล่ามิวแทนท์จำเป็นจะต้องพึ่งพาเขา”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ครุ่นคิดในใจ

 

เห็นได้ชัดว่าข่าวเรื่องมิราจไนท์ยังมีชีวิตอยู่ถือเป็นข่าวดีเเก่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์อย่างมากอย่างเเรกพันธมิตรระหว่างพวกเขาก็ยังคงอยู่อย่างที่สองอนาคตของเหล่ามิวแทนท์ที่พวกเขาจะร่วมสร้างขึ้นด้วยกัน

 

“เกี่ยวกับเรื่องพี่น้องมิวแทนท์คู่นั้นดูเเล้วมิราจไนท์มีความเข้าใจในตัวพวกเขาพอสมควร ฉันจำเป็นจะต้องได้รับความช่วยเหลือจากเขา”ตั้งเเต่ที่มิราจไนท์ยังไม่ตาย ศาสตราจารย์ชาร์ลส์วางเเผนจะขอความช่วยเหลือจาก มิราจไนท์

 

เดิม ข่าวคราวเรื่องการเสียสละของมิราจไนท์ ทำให้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้สึกเสียใจอย่างมาก เเน่นอนว่าความสัมพันธ์ของเขา กับ โทนี่ สตาร์ก รวมถึงกัปตันอเมริกา ก็ค่อนข้างเเย่ลงเรื่อย ๆ

 

เเต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปทันทีที่มิราจไนท์กลับมา พวกเขาจะยังสานสัมพันธ์เป็นพันธมิตรกันได้เหมือนเดิมเเละเเผนก่อตั้งสหพันธ์โลกก็จะยังคงอยู่ต่อไป

 

ดังนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์จึงได้ส่งทีม X-MEN ออกไปทำภารกิจบ่อยครั้ง เขาต้องการให้ทีมX-MEN ปรากฏสู่สายตาสาธารณะชนบ่อย ๆ เพื่อที่จะให้คนเหล่านั้นเข้าใจว่าพวกเขาต่อสู้เพื่อปกป้องโลกใบนี้

 

เมื่อศาสตราจารย์ชาร์ลส์ส่งข้อความเรื่องมิราจไนท์เเก่ลูกทีม X-MEN ทุกคน ทุกคนต่างก็ได้รับข้อความกันทั้งหมดเเละรับทราบมีเพียงเเต่ไอซืแมน ที่ไม่ได้เล่นโทรศัพท์ในเวลานี้ เขาได้นอนพักอย่างราบเรียบบนเตียงของตัวเอง เเละ ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องมิราจไนท์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไอซ์แมนไม่อาจทำใจเชื่อลงได้

 

ขณะที่ ไอซ์แมน เตรียมจะปัดโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น คิตตี้ ก็เดินเข้ามาพอดี

 

“โรเบิร์ต เธอควรพักผ่อน”เห็นสภาพร่างกายที่ย่ำเเย่ของโรเบิร์ตเเฟนหนุ่มของเธอ เธออดที่จะตำหนิโรเบิร์ตไม่ได้ เกี่ยวกับเรื่องการเสียสละของมิราจไนท์ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ เเต่ที่สำคัญก็คือ เธออยากให้โรเบิร์ตหายจากอาการบาดเจ็บเร็ว ๆ

 

“คิตตี้ เธอคิดว่า มิราจไนท์จะเสียชีวิตจริง ๆ งั้นหรอ?”โรเบิร์ตที่เตรียมจะปัดโทรศัพท์มือถือเล่นเขากล่าวถามเเฟนสาวของตัวเอง

 

ได้ยินคำถามของ โรเบิร์ต สีหน้าของ คิตตี้ ไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอรู้ว่า มิราจไนท์เป็นเพื่อนที่ดีของโรเบิร์ต เเต่ตอนนี้ มิราจไนท์ได้เสียชีวิตไปเเล้ว เธอเชื่อว่าโรเบิร์ตคงไม่สามารถทำใจได้ในเร็ว ๆ นี้

 

“โรเบิร์ต โอกาสความน่าจำเป็นที่มิราจไนท์จะยังมีชีวิตอยู่นั้นน้อยมาก…”คิตตี้ ได้กล่าวตอบโรเบิร์ตตามความจริง เเละเธอก็หวังว่าเขาจะยอมรับในเรื่องนี้ได้

 

เพียงเเต่ว่าในขณะที่คิตตี้กำลังตอบเขาโรเบิร์ตที่เดิมเต็มไปด้วยความเศร้าโศกมือของเขาที่ถือกุมโทรศัพท์เอาไว้จู่ ๆ ก็ผุดรอยยิ้มออกมาโดยไม่คาดคิด

 

“ฮ่าฮ่า,ฉันรู้อยู่เเล้ว ฉันรู้อยู่เเล้วว่าคุณจะต้องยังไม่ตาย มิราจไนท์ คุณยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ !”ขณะที่คิดตี้กำลังสงสัยการกระทำของโรเบิร์ต ,โรเบิร์ต ก็ตะโกนออกมา

 

“โรเบิร์ต…”

 

ฮึ่ม!

 

เเม้คิดตี้จะได้ยินคำพูดของโรเบิร์ตเเต่เธอก็ราวกับว่าเเสร้งทำเป็นได้ยินไม่ชัด เมื่อครู่ โรเบิร์ต พูดว่ามิราจไนท์ยังมีชีวิตอยู่ นี่จะเป็นไปได้อย่างไร? เพียงเเต่ว่า เธอได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเเละเห็นข้อความจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

“นี่มัน…เป็นเรื่องจริงงั้นหรอ?มิราจไนท์ยังมีชีวิตอยู่!”เห็นข้อความโทรศัพท์จากมือถือของเธอเอง เธอเชื่อมั่นในทันทีเพราะผู้ส่งเป็นคนที่เธอเคารพมากที่สุด ก็คือศาสตราจารย์ชาร์ลส์เรื่องนี้ไม่น่าจะผิดพลาดเเน่นอน

 

เธอหลุดตะโกนขึ้นเหมือนโรเบิร์ตด้วยความตกใจเหมือนกัน เดิม ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก่อนหน้านี้ส่งกระเเสจิตบอกเรื่องนี้กับโรเบิร์ตซึ่งโรเบิร์ตได้เปิดโทรศัพท์ดูก็ค้นพบข้อความที่เขารู้สึกตื่นเต้น ไม่เเปลกใจที่เขาจะตื่นเต้น เพราะว่า ข่าวนี้เกี่ยวพันกับมิราจไนท์

 

“คิตตี้ พวกเราไปกันเถอะ ฉันจะไปหาศาสตราจจารย์ชาร์ลส์ ฉันต้องการยืนยันว่ามิราจไนทืยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ ถ้าเป็นไปได้การได้เห็นเขากับตาตัวเองย่อมดีที่สุด”ไอซ์แมนได้ลุกขึ้นพรวดพร้อมกับจูงมือ คิตตี้เดินออกไป

 

หลังจากนั้น 20 นาที ทีม X-MEN สามคนได้หายตัวไปจากโรงเรียนซาเวียร์ สามคนนั้นก็คือ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์,ไอซืแมน เเละ บลิงก์ พวกเขาได้ใช้ความสามารถของบลิงก์ เปิดเทเลพอร์ตไปที่ อาคารสตาร์กอินดัสตรีท์

 

 

ทีม X-MEN เเละ กัปตันโรเจอร์ส ได้เคลื่อนไหวทันทีที่ได้รับข่าวเรื่องมิราจไนท์ ขณะเดียวกัน เเจ็คสัน กับโทนี่ ก็กำลังพูดคุยกันผ่านทางโทรศัพท์เหมือนเดิม

 

“เธอบอกว่าหลังจากที่เธอเข้าไปในประตูมิติอวกาศเธอก็ถูกส่งไปที่ไซบีเรีย?”

 

“หลังจากตื่นขึ้นมาเธอก็พบศพ เร้ด สกัลล์ ที่นอนใกล้เคียงกับฐานไฮดร้าที่ปิดตายมาหลายสิบปี?โทนี่ได้กล่าวทวนคำพูดของเเจ็คสัน

 

ได้ฟังประสบการณ์ของเเจ็คสัน โทนี่ คิดว่า เเจ็คสันโชคดีจริง ๆ โชคดีที่เขาหมายถึงก็คือการที่เเจ็คสันไม่ได้กลายเป็นเครื่องสังเวยให้กับพลังประตูมิติอวกาศไประหว่างทางข้ามมิติเหมือน เร้ด สกัลล์

 

นอกจากนี้ทันทีที่ตื่นขึ้นมายังค้นพบ ศพ เร้ด สกัลล์ เเละฐานลับไฮดร้าที่ถูกซ่อนหลายสิบปีในไซบีเรีย เรื่องนี้ อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ เเต่ โทนี่ หารู้ไม่ว่า เรื่องนี้สำหรับเเจ็คสันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันเป็นความประสงค์ของเขาในการออกตามหา

 

“อืม…ที่ผมยังสามารถรอดมาได้ต้องขอบคุณพลังชุดสูทของผม นอกจากนี้ผมยังมีศักยภาพร่างกายที่เเข็งเเกร่งเมื่อเทียบกับ เร้ด สกัลล์ ดังนั้นเมื่อผมตื่นขึ้นมาจึงได้รับบาดเเผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน กล่าวยืนยัน อีกไม่นาน ชุดเกราะไอรอนแมน ก็ใกล้จะมาถึงที่ฐานไซบีเรียเเห่งนี้เเล้ว

 

“เรื่องฐานในไซบีเรีย เดิมอาจจะเป็นเป้าหมายปลายทางของ เร้ด สกัลล์ ก็เป็นได้”เเจ็คสันกล่าวพึมพัมออกมา

 

“อืมก็อาจเป็นไปได้ เเต่ เร้ด สกัลล์ จะสามารถควบคุมปลายทางในการเคลื่อนย้ายได้จริง ๆ งั้นหรอ? นอกจากนี้ ฐานเเห่งนั้นยังถูกผนึกร่วมหลายสิบปีอย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่ดี ที่เธอค้นพบฐานนั้นเพราะฐานเเห่งนั้นถือเป็นฐานที่สุดยอดอย่างไม่ต้องสงสัย”โทนี่ เเน่นอนว่าไม่ได้เชื่อคำพูดของเเจ็คสันทั้งหมด เพราะเด็กคนนี้มีความลับมากเกินไป

 

“ผมก็คิดแบบนั้น ดังนั้น ผมจึงมีความคิดหนึ่งที่พิเศษอยู่ในหัวตอนนี้”

 

“ความคิดอะไร?”

ทันทีที่ข่าวของเเจ็คสันเเพร่สะพรัดออกไปโดย J.A.R.V.I.S ขณะเดียวกัน สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในนิวยอร์ก สถานที่อยู่อาศัยของ ผู้สืบเชื้อสายเเรกเริ่มของโลก พ่อมด หน้าประตูสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ เเจ็คได้นั่งอยู่ในห้อรับรองที่มีบรรไดอยู้ข้างหน้าเขาตอนนี้เเจ็คได้นั่งเป็นเวลานานมาก

 

ตั้งเเต่เหตุการณ์สะพานโกลเด้นเกต เเจ็ค ได้ติดต่อ พ่อมดเหล่านี้ หวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือในการเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งผ่านเวทมนตร์ หลังจากที่เเจ็คสันบอกกับเเจ็คว่าพ่อมดเหล่านี้มีเวทมนตร์เพราะการศึกษาทำให้เเจ็ครู้สึกมีความหวังมากขึ้น

 

เพียงเเต่ หลังจากข่าว เเจ็คสัน เเละ เร้ด สกัลล์ ตกตายไปด้วยกัน เเจ็ค ก็ราวกับได้รับการบีบหัวใจที่รุนเเรง เขาได้ประมาณความเเข็งเเกร่งของตัวเอง เป็นเพราะเขาอ่อนเเอเกินไป ถึงทำให้ มิราจไนท์ ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่อันตรายอยู่คนเดียว ดังนั้นเพื่อไม่ให้สมาชิกภายในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ ต้องมีชะตากรรมเเบบเดียวกัน เป้าหมายของเขาที่มาที่นี่ก็เพื่อที่จะให้ พ่อมด สอนเวทมนตร์ให้

 

เพียงเเต่เเม่เหล่าพ่อมดจะมีสัมพันธ์อันดีกับมิราจไนท์ เเต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะยอมสอนเวทมนตร์ให้โดยง่าย ดังนั้นจุดประสงค์ของเเจ็คที่มาจึงถูกปฏิบัติเสธ เเจ็ค จึงได้ยืนรออยู่หน้าประตูทางเข้าสถานที่อันศักดิ์ศิทธิ์ในนิวยอร์กเเห่งนี้ เเต่มันก็ไม่ได้เปิดประตูต้อนรับเขาอีกครั้ง

 

ตั้งเเต่กลางวันจนถึงกลางคืน มีผู้คนผ่านทางไปมากมาย พวกเขาเห็นเเจ็คนั่งอยู่บนหัวบันได บางคนก็อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเเจ็ค เเต่พวกเขาก็หาได้สนใจธุระของคนอื่น เเจ็คได้ใช้ความอดทนในการรอมากกว่าหนึ่งวัน ในที่สุดเขาก็รู้สึกผิดหวัง เเละ คิดว่าบางทีพ่อมดเหล่านี้คงจะไม่อยากสอนเวทมนตร์ให้เขาจริง ๆ ฟุ่บ!

 

เเจ็คได้ดึงโทรศัพท์ออกมา เขาไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นหัวข้อข่าวเกี่ยวกับ มิราจไนท์ เเจ็ค รู้ว่า ปีเตอร์นั้นไม่เต็มใจเชื่อว่าเเจ็คสันตาย เขาเองก็เหมือนกัน เเต่สถานการณ์มันบีบบังคับ

 

“มิราจไนท์ปลอดภัยดี เขากำลังจะกลับมาในอีกไม่ช้า”เเจ็คได้อ่านเนื้อหาข่าวอย่างเรียบง่าย

 

ทันทีที่เขาได้อ่านข่าวรูปร่างของเเจ็คก็พลันปรากฏสีหน้าเเห่งความตกใจเดิมใบหน้าที่เศร้าสลดบัดนี้กลายเป็นยิ้มเเย้มมากขึ้นกระทั่งโลดเต้นจนออกนอกหน้า

 

“ฉันคิดอยู่เเล้ว ฉันคิดอยู่เเล้ว!”เเจ็คที่กระโดดโลดเต้นบนหัวบันไดทางเข้าหน้าประตูศักดิ์สิทธิ์ โชคดีที่นี่เป็นตอนกลางคนทำให้ผู้คนสัญจรภายไปน้อยมาก หลังจากหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งเสร็จเเล้ว เเจ็คก็ตะโกนเเละวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

 

เขากำโทรศัพท์มือถือเเละวิ่งผ่านกลุ่มผู้คน ซึ่งกลุ่มคนเเจ็คสวนทางด้วยต่างหาว่าเขาบ้า ขณะที่เเจ็ควิ่งออกไปอย่างกระทันหัน บุคคลสองคนในห้องโถงหลักของสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ ก็ราวกับเกิดข้อสงสัย

 

“ไต้เหวิ่น นายคิดว่าสหายคนนั้นวิ่งออกไปเพราะเหตุผลใดกัน?”เห็นเเจ็ควิ่งออกไป ประตูทางศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกเปิดขึ้น พร้อมกับ พ่อมด รุ่ยเคอ ที่กล่าวถาม พ่อมดไต้เหวิ่น

 

อันที่จริงเเจ็คได้รอพวกเขาตลอดทั้งวัน จนพวกเขาเริ่มใจอ่อน พ่อมดรุ่ยเคอเเละพ่อมดไต้เหวิ่น ต้องการส่งตัวเเจ็คไปที่คามาร์ทัช เพื่อตรวจสอบวัดคุณสมบัติของจอมเวทย์ฝึกหัด เเน่นอนว่าพวกเขาเตรียมเปิดประตูต้อนรับเเจ็คในเวลาต่อมา เเต่ขณะที่พ่อมดรุ่ยเคอ เตรียมจะเปิดประตู เเจ็ค ก็วิ่งออกไปจนทำให้ พ่อมดรุ่ยเคอ รู้สึกสงสัยมาก

 

“ดูจากความดีใจที่ปรากฏบนหน้าตาของเขาย่อมไม่ใช่เรื่องไม่ดีอย่างเเน่นอน”พ่อมดไต้เหวิ่น เห็นสีหน้าของ เเจ็คที่วิ่งออกไป เขาจึงกล่าวตอบความเป็นจริง

 

“เรื่องที่น่ายินดีอย่างงั้นหรอ? หรือว่า มิราจไนท์?”หลังจากสมองของพ่อมดรุ่ยเคอ ทำการประมวลผล สิ่งที่เขาคิดได้ก็คือข่าวเรื่องของมิราจไนท์

 

เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ที่คิดว่า มิราจไนท์เสียชีวิตเเล้ว เหล่าพ่อมดพวกนี้ต่างก็รู้ว่ามิราจไนท์ยังไม่ตาย เพราะ ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ได้ทิ้งร่องรอยสัญลักษณ์บนตัวเเจ็คสันเอาไว้ เเต่ พ่อมดไต้เหวิ่น กับ พ่อมดรุ่ยเคอ ก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพวกโทนี่ เพราะเขารู้ว่าในอีกไม่นานมิราจไนท์ก็คงจะกลับไปหาพวกเขา

 

“มีความเป็นไปได้”

 

“…”

 

นอกจากเเจ็คที่รีบด่วนจากมาจากสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์เเล้ว ปีเตอร์เองก็ใกล้จะถึงอาคารสตาร์กอินดัสตรีท์เเล้วเช่นเดียวกัน ส่วนเเฮร์รี่ เขาที่ทำงานอยู่ก็ได้รับข่าวเรื่องของเเจ็คสัน ไม่นานเขาก็ใช้ยานบินของตัวเองมุ่งหน้าไปยังอาคารสตาร์กอินดัสตรีท์ในทันที

 

หลายอิทธิพลภายในนิวยอร์กที่ได้รับข่าวพวกเขาต่างมุ่งหน้าไปที่อาคารสตาร์กอินดัสตรีท์อย่างรวดเร็ว เพราะพวกเขาต้องการเห็นมิราจไนท์ด้วยตาตัวเอง

 

วอชิงตัน,สำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. สตีฟ โรเจอร์สกำลังออกกำลังกายตามฉบับการฝึกซ้อมของตัวเอง เเม้จะจบศึกกับพวกไฮดร้า เเต่ กัปตันโรเจอร์ส เเละคนอื่น ๆ ก็ยังคงเตรียมตัวพร้อมกันอยู่เสมอเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เร้ด สกัลล์ จะกลับมาอีกครั้ง

 

ศึกครั้งนี้เเม้พวกเขาจะเป็นฝ่ายชนะ เเต่ก็ต้องสูญเสียมิราจไนท์ กับคาดการติดตาม เร้ด สกัลล์ไป เเน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย

 

ทางด้าน S.H.I.E.L.D. เเน่นอนว่าพวกเขาก็เตรียมกำลังพร้อมกันตลอดเวลา

 

โดยเฉพาะนิคเขาที่ได้สูญเสียทหารกล้าไปในสงครามย่อมไม่รู้สึกดีอย่างเเน่นอน ดังนั้นนิคจึงต้องการสร้างระดับความปลอดภัยขององค์กรเเละความน่าเกรงขามมากขึ้นเขาจะต้องพัฒนาองค์กร S.H.I.E.L.D. ให้เเข็งเเกร่งกว่าเดิมเพื่อรองรับทุกสถานการณ์

 

นิค หมกมุ่นเกี่ยวกับการกำจัดองค์กรไฮดร้ามาก เขาเชื่อว่าบนโลกนี้ยังคงหลงเหลือองค์กรไฮดร้าอยู่อย่างเเน่นอน ดังนั้น S.H.I.E.L.D. จะไม่เป็นฝ่ายรออีกต่อไป คราวนี้พวกเขาจะเป็นฝ่ายไล่ล่าบ้าง

 

ปั้ง

 

กัปตันโรเจอร์สที่กำลังฝึกซ้อมหนัก เขาได้ต่อยกระสอบทรายจนเหงื่อเปียกโชก ขณะที่เขากำลังเดินไปหยิบผ้าซับเหงื่อ โทรศัพท์ของเขาจู่ ๆ ก็ได้ปรากฏข้อความขึ้น

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่อ่านข่าวนั้นใบหน้าที่เงียบสงบของกัปตันโรเจอร์สได้มลายหายไปในทันที เขาไม่ได้กล่าวอะไรออกมาเเละวิ่งออกจากห้องฝึกไปอย่างรวดเร็ว หลายคนที่เห็นกัปตันโรเจอร์สรีบด่วนจากไปเช่นนั้นคงคิดว่ากัปตันโรเจอร์สคงไม่ค่อยชอบฝึกซ้อมนานเท่าไหร่

 

 

ฟุ่บ!

 

ทางด้านโรงเรียนซาเวียร์ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์นั่งอยู่บนรถเข็น ด้านหน้าของพวกเขาเป็นเด็กที่เป็นมิวแทนท์หลายคนตอนนี้เขากำลังสอนในชั้นเรียน จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือที่เขาวางไว้ด้านหลังโต๊ะก็สั่นขึ้นอย่างกระทันเห็น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูพร้อมกับปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ

 

เห็นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่ปกติเป็นคนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ จู่ ๆ ก็เเสดงใบหน้ายิ้มเเย้ม นักเรียนในชั้นเรียนต่างก็สงสัยในทันที

 

“ดี…เอาล่ะการเรียนวันนี้ที่เหลือก็ศึกษาทบทวนด้วยตัวเอง”

หลังจากเเจ้งให้ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันก็ได้ติดต่อพ่อเเม่ของเขา เเต่เขาหารู้ไม่ว่าตอนนี้ปีเตอร์เป็นกังวลต่อเขามากเขาไม่ได้นอนพักมาตลอดสองวันเพราะมัวเเต่คิดถึงเรื่องของเเจ็คสัน นอกจากปีเตอร์เเล้ว ก็ยังมี โทนี่ กับ เเฮร์รี่

 

วันนี้ปีเตอร์ได้เดินทางออกไปพบกับ ธอร์ ซึ่ง ธอร์ที่ได้เห็นรายงานทางโทรทัศน์เขารู้ทันทีว่าบุคคลที่ประสบอุบัติเหตุที่ข่าวอ้างถึงก็คือเเจ็คสัน ดังนั้นเขาจึงโทรหาปีเตอร์ เเละ พูดคุยกัน หลังจาก ปีเตอร์ได้ยินธอร์เปิดเผยสถานะของเเจ็คสัน ปีเตอร์ ก็ต้องการคุยกับธอร์เป็นการส่วนตัว

 

ในอพาร์ตเมนท์ของธอร์ ปีเตอร์ เเละ เขาพูดคุยกันเกี่ยวกับ มิราจไนท์ เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ปีเตอร์ ยังกล่าวอีกว่า เเจ็คสัน เพียงเเค่หายไปเท่านั้น เขาถูกส่งไปยังสถานที่ใดสถานที่นึงในโลกนี้ผ่านลูกบาศก์เวทมนตร์ ได้ยินคำว่าลูกบาศก์เวทมนตร์ธอร์กลายเป็นจริงจังขึ้นมา

 

ปีเตอร์ได้บอกกล่าวเรื่องธอร์ เกี่ยวกับ อินฟินิตี้สโตน ซึ่งธอร์ได้ฟังคำพูดของปีเตอร์เเล้ว สเปซสโตน มันคล้ายกับของบางสิ่งที่ อยู่ในคลังสมบัติเเอสการ์ดของเขา เป็นผู้สิ่งของที่โอดินพ่อของเขาให้ความสำคัญมากที่สุด

 

เเน่นอนว่าธอร์ที่รู้ว่าเเจ็คสันที่หายไปพร้อมกับลูกบาศก์เวทมนตร์เขาก็เชื่อเหมือนปีเตอร์ว่าเเจ็คสันยังไม่ตาย ในฐานะ เจ้าชายองค์ใหญ่ของเเอสการ์ด ธอร์ได้ผ่านประตูไบฟรอส หลายครั้ง เเม้ปลายทางจะถูกทำลาย เเต่ก็ยังสุ่มเดาไปส่งที่อื่นได้

 

อย่างไรก็ตามธอร์ลืมไปว่าก่อนหน้านี้เขามีพลังของเทพเจ้าสายฟ้าที่สามารถคุ้มกันร่างกายของเขาได้อย่างปลอดภัยขณะทำการถ่ายโอนมิติ อย่างไรก็ตาม เเจ็คสันไม่ใช่เทพเจ้า เขาอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการเคลื่อนย้ายมิตินี้ก็เป็นได้

 

โดยปกติ ปีเตอร์ นั้นล้วนไร้ความหวังอย่างสุดขีด เพียงเเต่พอได้ยินคำพูดของธอร์ว่าเเจ็คสันยังไม่ตาย ทำให้ความเชื่อมั่นของเขาที่มีต่อเเจ็คสันกลับมาอีกครั้ง หลังจากกลับมาจากการร่วมสนทนากับธอร์ เเจ็คสัน ก็ไปโรงเรียนปกติ ตอนเย็นกลับบ้าน ช่วงนี้ เขาไม่ได้อยู่ร่วมคุยกับ โทนี่ เเละ เเฮร์รี่ เท่าไหร่นัก

 

ขณะที่ปีเตอร์นั่งอยู่บนโค๊ะเพื่อนอ่านข่าวออนไลน์ทางเว็บไซต์ เมลล์อัตโนมัติก็เด้งขึ้นมาบนหน้าจอของเขาผู้ส่งคือ โทนี่

 

เห็นจดหมายที่ปรากฏขึ้นปีเตอร์กดอ่านทันทีเเละมันก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากหัวข่าวข้อหลักคือ: ได้ข่าวเรื่องเเจ็คสันเเล้ว

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่ได้รู้เรื่องนี้เขาเกือบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

 

“ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ผมได้ข่าวจาก มิราจไนท์เมื่อไม่นานมานี้ เขายังมีชีวิตอยู่ เเละ ผมกำลังส่งชุดเกราะไอรอนแมนไปทำการช่วยเหลือ โปรดวางใจ”ได้อ่านเนื้อหาในเมลล์ ปีเตอร์เชื่อในทันทีว่านี่คงถูกส่งโดย J.A.R.V.I.S

 

“ฮ่าฮ่า,เเจ็คสัน ฉันรู้เเล้วว่านายจะต้องไม่ตาย”ปีเตอร์ตะโกนหัวเราะลั่นห้อง โชคดีที่ป้าเมย์ต้องทำงานล่วงเวลาเป็นสองวันไม่งั้นป้าเมย์คงต้องตกใจเเน่เกี่ยวกับหลานของเธอ

 

“ไม่ได้การ,ฉันต้องรีบไปหาคุณสตาร์ก ฉันต้องการเห็นเเจ็คสันเเละยืนยันด้วยตาตัวเอง”หลังจากตัดสินใจได้ ปีเตอร์ก็ตั้งใจไปเจอเเจ็คสัน

 

ฟุ่บ!

 

ปีเตอร์ได้ปิดคอมอย่างรวดเร็วพร้อมกับกระโดดออกจากหน้าต่างประตูของเขาผ่านไปพริบตาเดียวเงาร่างของฮีโร่ที่คุ้นเคยก็พุ่งออกไปยังทิศทางของสตาร์กอินดัสตรีท์

 

 

ในขณะที่ปีเตอร์ได้รับข่าวจาก J.A.R.V.I.S เหล่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับมิราจไนท์ ต่างก็ได้รับข้อความในรูปแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น S.H.I.E.L.D.,กัปตันโรเจอร์ส X-MEN ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเละคนภายในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

ในเวลาเดียวกันโทนี่ก็เพิ่งตื่นนอนจากอาการเหนื่อยล้าดูเหมือนเขาจะคล้อยหลับลึกไปซักพักหลังจากตื่นนอนสิ่งเเรกที่เขาทำก็คือการกระตุ้นตัวเอง

 

“เจ้านายครับ ผมพบคุณ เเจ็คสันเเล้ว ตอนนี้ กำลังส่งชุดเกราะไอรอนแมนไปรับเขา”หลังจากที่โทนี่ตื่นขึ้นมา J.A.R.V.I.S ก็ส่งเสียงเเจ้งเตือนเขาในเวลาเดียวกัน

 

“หืม?พบเเล้ว!?เขาอยู่ที่ไหน”โทนี่ที่พยายามกระตุ้นตัวเองเขาตาปรือขึ้นมาในทันทีที่ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S

 

“คุณ เเจ็คสัน อยู่ที่ ไซบีเรียในตอนนี้ ชุดเกราะไอรอนแมนของเราใกล้จะไปถึงเเล้ว”

 

“ใกล้ไปถึงเเล้ว?นายได้รับข่าวเกี่ยวกับเเจ็คสันเมื่อไหร่?”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ คิดว่ามันมีอะไรเเปลก ๆ ไซบีเรียนั้นอยู่ค่อนข้างห่างไกลจากนิวยอร์ก เเต่ J.A.R.V.I.S กลับบอกว่าชุดเกราะไอรอนใกล้เดินทางไปถึงเเล้วนั่นเเสดงให้เห็นว่า J.A.R.V.I.S ได้ข่าวข้อมูลของเเจ็คสันมาเเล้วสักพัก

 

“ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมง”J.A.R.V.I.S ตอบกลับความเป็นจริง เเม้ J.A.R.V.I.S จะบอกกล่าวล่วงหน้ากับ J.A.R.V.I.Sว่าหากได้รับข่าวของ J.A.R.V.I.S ให้รีบปลุกตัวเอง เเต่ดูเหมือน J.A.R.V.I.S จะทำการตัดสินใจเองเเละไม่คิดจะปลุก โทนี่ ปล่อยให้โทนี่นอนพักผ่อน

 

“ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมง?ไม่ใช่ว่าฉันกล่าวสั่งว่าหากได้รับข่าวให้รีบปลุกฉันทันทีหรอกหรอ?”โทนี่ กล่าวอย่างไม่พอใจเเละติเตียน J.A.R.V.I.S

 

“คุณ เเจ็คสันเเนะนำให้ผมทำเช่นนี้ เขาต้องการให้คุณมีเวลาพักผ่อนที่นานขึ้น”J.A.R.V.I.S ได้อ้างถึงเเจ็คสันในทันที เขาไม่ได้มีความคิดเป็นของตัวเองทั้งหมด

 

“โอเค ชั่งเถอะ ฉันค่อยไปสืบความกับเจ้าเด็กคนนี้เป็นการส่วนตัว เอาล่ะต่อสายเเจ็คสันให้ฉันหน่อย!”โทนี่ ลุกขึ้นจากเตียงเเละไม่ต้องการ ทะเลาะกับ J.A.R.V.I.S อีก ตอนนี้เขาได้รับข่าวเกี่ยวกับเเจ็คสันเเล้ว ทำให้เขารู้สึกสบายใจมากขึ้น

 

“ครับเจ้านาย”J.A.R.V.I.S ต่อสายกับ เเจ็คสันในทันที

 

ติ๊ดด ตู๊ดด~~

 

“ไง,J.A.R.V.I.S ชุดเกราะไอรอนแมนมาถึงเเล้วงั้นหรอ?”ทันทีที่ต่อสายติด เเจ็คสัน ได้กล่าวพูดอย่างผ่อนคลาย

 

โทนี่”…ฉันเอง”

 

เเจ็คสัน”…เอ่อ คุณสตาร์ก คุณได้พักผ่อนบ้างรึเปล่า?ผมขอโทษที่ทำให้คุณเป็นห่วง ดังนั้นผมอยากจะให้คุณพักผ่อนนานขึ้น”ได้ยินเสียงของโทนี่ เเจ็คสัน ได้เปลี่ยนวิธีการพูดในทันที

 

“เจ้าเด็กบ้านี่! เธอรู้ตัวไหมว่าทำให้ฉันกังวลมากเเค่ไหน ทุกครั้งเธอจะต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับอันตรายทุกรูปแบบ ฉันรู้ว่า เธอไม่ใช่เด็กธรรมดา เเต่ถ้าเธอประสบอุบัติเหตุขึ้นมา ฉันจะบอกพ่อกับเเม่ของเธอยังไง!?”ได้ยินเสียงที่ดูไม่เป็นกังวลของเเจ็คสัน โทนี่ ปะทุคำพูดออกมาอย่างรวดเร็ว

 

ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน รู้ในทันทีว่า โทนี่คงจะโกรธเรื่องที่เขาชอบเอาตัวเข้าไปเสี่ยงในอันตราย เเจ็คสันที่ฟังคำบ่นของโทนี่เสร็จเขาได้เงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะกล่าวตอบ

 

“คุณสตาร์ก,ผมขอโทษ เเละ ก็ขอบคุณมาก”

 

“คิดได้เช่นนั้นก็ดี!”

สตาร์กอินดัสตรีท์ชั้นบนสุด โทนี่ในตอนนี้ได้นอนหลับไปเเล้วหนึ่งชั่วโมง เพราะรู้ว่าโทนี่เหนื่อยมากในช่วงเมื่อเร็ว ๆ นี้ เปปเปอร์ จึงไม่ได้เข้าไปกวนเขา

 

ในขณะที่ โทนี่ กำลังพักผ่อน J.A.R.V.I.S ยังคงเข้าสู่ระบบเครือข่ายเพื่อค้นหา เเจ็คสันอย่างต่อเนื่อง เเน่นอนว่าการทำงานของ J.A.R.V.I.S เขาได้ทำตลอดระยะเวลาไม่มีพัก เขาไม่เหมือนกับ โทนี่ เพราะเขาไม่จำเป็นต้องพักผ่อน

 

เพียงเเต่ในขณะนั้นเอง J.A.R.V.I.S ที่เชื่อมกับเครือข่ายศูนย์กลางเเละสัญญาณดาวเทียวเขาได้รับข้อมูลติดต่อเข้าสู่สายโทรศัพท์ของโทนี่ โดยตรง ซึ่ง J.A.R.V.I.S ได้เลียนเเบบเสียงของ โทนี่ เพื่อกล่าวทักทาย

 

“สวัสดี,ฉันโทนี่สตาร์ก”หลังจากเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพทืเเล้ว J.A.R.V.I.S ได้เลียนเสียงทันที

 

….

 

เพียงเเต่ว่าหลังจาก J.A.R.V.I.S กล่าวทักทายออกไป บุคคลปลายสายได้เงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะตอบกลับ

 

“สวัสดี! J.A.R.V.I.S ?”ผ่านไปสามวินาทีเสียงที่ J.A.R.V.I.S คุ้นเคยได้กล่าวตอบกลับโดยไม่คาดคิด

 

“คุณ…มิราจไนท์งั้นหรอ?”J.A.R.V.I.S กล่าวถามอย่างรวดเร็ว

 

“อืม,ฉันยังมีชีวิตอยู่!”เเจ็คสันกล่าวตอบ

 

 

ฐานลับไฮดร้าในไซบีเรีย เเจ็คสัน ได้ใช้โทรศัพท์สัญญาณดาวเทียมเพื่อติดต่อไปหาโทนี่ เเต่ปรากฏว่า J.A.R.V.I.S ได้รับสาย เเน่นอนว่า เดิม ที่เขาเงียบไปเพราะเขาเเปลกใจเกี่ยวกับการเลียนแบบเสียงของ J.A.R.V.I.S พวกเขาได้ร่วมสนทนากันจน เเจ็คสันได้รับรู้ข้อมูลต่าง ๆ

 

“ตอนนี้พวกเขาคงคิดว่าฉันตายไปเเล้วสินะ…ก็ไม่เเปลกใจเท่าไหร่”ได้ยินคำอธิบายของ J.A.R.V.I.S ที่พูดถึงเกี่ยวกับพวกของกัปตันโรเจอร์สเเละคนอื่น ๆ เเจ็คสัน ไม่ได้เเปลกใจ

 

ที่จริงเเล้วในตอนเเรกเเจ็คสันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาถูกส่งไปที่ไหน เพราะหลังจากเข้าสู่ประมิติอวกาศวินาทีต่อมาเขาก็หมดสติในทันที

 

“ผลจากการวิเคราะห์ของผมสำหรับเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผลการวิเคราะห์เปอร์เซ็นการรอดชีวิตของคุณนั้นต่ำมาก เเต่ผมก็เชื่อว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งผมเองก็รู้สึกมีความสุขที่ได้ยินเสียงคุณอีกครั้ง”ได้ยินคำพูดของ เเจ็คสัน J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“ฮ่าฮ่า,ขอบคุณ ฉันเองก็มีความสุขเหมือนกัน แต่คุณรู้งั้นหรอว่าความสุขที่คุณพร่ำบอกเมื่อครู่หมายถึงสิ่งใด”เเจ็คสันถามเล็กน้อย

 

“เเท้จริงเเล้วมันก็เเค่คำพูด ผมยังไม่เข้าใจมันจริง ๆ “J.A.R.V.I.S กล่าวไตร่ตรองคำพูดเเละตอบกลับ

 

“อืม,เเต่อีกไม่นานฉันเชื่อว่า J.A.R.V.I.S คุณจะต้องค้นพบความหมายของคำว่าความสุขอย่างเเน่นอน เเละ ฉันจะรอดูความสุขของคุณในตอนนั้น”เเจ็คสัน รู้ว่าในอนาคต J.A.R.V.I.S จะพัฒนาไปมากขนาดไหน

 

“ขอบคุณมิราจไนท์ ตอนนี้ต้องการให้ผมปลุกคุณสตาร์กหรือไม่? เขาบอกให้ผมเเจ้งเขาเมื่อได้รับข่าวเกี่ยวกับคุณ”หลังจากร่วมสนทนากับเเจ็คสันเสร็จ J.A.R.V.I.S ก็กล่าวบอกเรื่องนี้

 

ในขั้นต้น J.A.R.V.I.S ย่อมต้องเเจ้งเรื่องนี้ให้กับ โทนี่ ฟังเป็นอันดับเเรก เเต่เพราะ เขาร่วมสนทนากับ เเจ็คสัน จนเหมือนจะลืมความคิดที่ถูกสั่งก่อนหน้านี้ เดิมสิ่งนี้ไม่ควรมีอยู่ในความคิดของ เอไอ เพราะ ปัญญาประดิษฐ์นั้นจะตอบสนองต่อคำสั่งก่อนเป็นอันดับเเรก

 

“เรื่องนี้…ถ้าโทนี่เหนื่อยก็ปล่อยให้เขาพักผ่อนเถอะ ฉันรู้ว่าเขาเป็นห่วงฉัน เเต่ J.A.R.V.I.S คุณช่วยส่งชุดเกราะไอรอนแมารับรับฉันหน่อยได้ไหม?สถานที่ที่ฉันอยู่ค่อนข้างห่างไกล ดังนั้นจึงไม่สามารถกลับไปที่นั่นด้วยตนเองได้”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสัน กล่าวตอบ

 

ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน J.A.R.V.I.S ราวกับว่าไม่สามารถตอบสนองคำสั่งก่อนหน้าของโทนี่ได้ เขาได้รับปากเเจ็คสันออกไป”ไม่มีปัญหา คุณ มิราจไนท์ คุณช่วยส่งตำเเหน่งที่คุณอยู่มาให้ผม เเละผมจะส่งชุดเกราะไอรอนแมนไปหาคุณในทันที”

 

“อืมสถานที่ที่ฉันอยู่…”เเจ็คสันได้รายงานตำเเหน่งของตัวเองกับ J.A.R.V.I.S

 

“เข้าใจเเล้ว ชุดเกราะไอรอนแมนจะไปถึงที่นั่นประมาณ ครึ่งชั่วโมง คุณต้องการความช่วยเหลืออื่น ๆ จากผมอีกไหม?”หลังจากได้รับตำเเหน่งที่เเน่นอนของ เเจ็คสันเเล้ว J.A.R.V.I.S ได้ส่งชุดเกราะไอรอนแมนออกไปทันที

 

“อืม,ฉันต้องการให้ คุณช่วยเเจ้งศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเละ คนอื่น ๆ ในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ รวมถึงกัปตันโรเจอร์ส อีกทั้งฉันยังต้องการติดต่อคนที่บ้านเป็นการส่วนตัวด้วย”

 

มีหลายคนที่เป็นห่วงเขาเเน่นอนว่าเเจ็คสันย่อมไม่ปล่อยให้พวกเขาตกอยู่ในความกังวลขณะที่เขากลับมาเเล้ว

 

“หากคุณต้องการผมสามารถช่วยคุณต่อสัญญาณเข้ากับดาวเทียมพิเศษของคุณสตาร์กได้โดยตรง”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“อืมขอบคุณ”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันพูดขอบคุณ ไม่เเปลกใจที่ สตาร์กอินดัสตรีท์จะมี ดาวพิเศษเป็นของตัวเอง เพราะพวกเขามีทุนทรัพย์มาก

 

“รอสักครู่!”

 

จากนั้นเเจ็คสันเหมือนจะได้ยินเสียงเเว่ว ๆ ผ่านโทรศัพท์ที่เขาใช้ก่อนที่มันจะเชื่อมต่อกับดาวเทียมเเละทำให้เสียงเเว่ว ๆ เหล่านั้นหายไป

 

“การเชื่อมต่อเสร็จสมบูรณ์ มิราจไนท์ ยังมีอีกเรื่องนึงที่ผมต้องเเจ้งคุณ หากคุณติดต่อหาครอบครัวในตอนนี้ คุณจะต้องระวังในคำพูดไม่ให้พวกเขาสงสัย เพราะคุณสตาร์กได้บอกกับพ่อเเม่ของคุณว่า คุณกำลังทำการทดลองกับเขาอย่างลับ ๆ “J.A.R.V.I.S กล่าวพูดด้วยความปราถนาดี

 

 

“เข้าใจเเล้ว J.A.R.V.I.S”ได้ยินคำเตือนของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันกล่าวขอบคุณ

 

“มิราจไนท์ หากคุณมีปัญหาอื่น ๆ ด้วยตำเเหน่งสัญญาณของคุณในตอนนี้ คุณสามารถติดต่อหาผมได้ในทันที”

 

“อืม เข้าใจเเล้ว ไว้เจอกัน J.A.R.V.I.S”เเจ็คสันได้วางสาย J.A.R.V.I.S ตอนนี้ J.A.R.V.I.S ได้ตำเเหน่งสัญญาณดาวเทียมของเขาเเล้ว เขาไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป

 

“ก่อนอื่นฉันจะต้องเเจ้งพ่อกับเเม่ให้พวกเขารู้ก่อนว่าฉันอาจจะยังไม่กลับบ้านในเร็ว ๆ นี้ หลังจากนั้นฉันก็จะเเจ้งคนอื่น ๆ เกี่ยวกับสถานะของฉันที่รอดมาได้ เพื่อไม่ทำให้พวกเขากังวล”หลังจากคิดได้ เเจ็คสันก็เริ่มโทรหาพ่อของเขา หลินไฮ่

นิวยอร์ก,ชั้นบนสุดของอาคารสตาร์กอินดัสตรีท์ โทนี่ เพิ่งกัลบมาจาก สำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ที่วอชิงตัน เขาเตรียมจะพักผ่อนตลอดสองวันที่ผ่านมาเขาได้ค้นหาเเจ็คสันอย่างต่อเนื่องจนเเทบไม่มีเวลาได้พักเลย

 

ทุกวันนี้พ่อเเม่ของเเจ็คสันเองก็มีความเป็นห่วงเเจ็คสันมากพวกเขาได้พร่ำถามโทนี่ว่าเมื่อไหร่เเจ็คสันจะกลับบ้าน โทนี่จึงให้คำพูดไปว่า การทดลองค่อนข้างใช้เวลานาน ถ้าเสร็จ ก็คงกลับ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ พ่อเเม่ของเเจ็คสันรู้สึกเป็นห่วงความกังวลกับลูกชายของพวกเขามากขึ้น

 

โทนี่พูดเเค่ว่าการทดลองที่พวกเขาทำเป็นการทดลองระดับสูงไม่อาจเปิดเผยข้อมูลให้คนนอกรับรู้ได้ ในที่สุด พ่อเเม่ของเเจ็คสันก็ต้องยอมปล่อยไปสักพัก

 

อย่างไรก็ตาม โทนี่ รู้ว่าตนเองคงไม่สามารถปิดบังไปได้อีกนานทุกครั้งที่เขาตอบคำถามทั้งสองคนเขารู้สึกกดดันอย่างมาก ตอนนี้เขายังไม่ค้นพบเเจ็คสัน หรือให้ร้ายที่สุด เเจ็คสันอาจจะเสียชีวิตไปพร้อมกับ เร้ด สกัลล์ ซึ่งเรื่องนี้ พ่อเเม่ของเเจ็คสันย่อมไม่สามารถทำใจได้อย่างเเน่นอน เเต่โทนี่เชื่อว่าเเจ็คสันต้องรอด เขาไม่ใช่เด็กธรรมดา เป็นบุคคลที่โทนี่ให้การยอมรับ

 

เเผนการก่อตั้งสหพันธ์โลก เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ สิ่งเหล่านี้ไม่อาจดำเนินการต่อได้หากขาดบทบาทสำคัญของเเจ็คสัน ถ้าไม่มีเเจ็คสัน พวกโทนี่ก็ไม่มีเเรงจูงใจในการบรรลุเป้าหมายหลักนี้

 

“J.A.R.V.I.S หากได้ข่าวเกี่ยวกับเเจ็คสัน ให้ เเจ้งเตือนฉันทันที”โทนี่ ได้กล่าวกำชับเตือน J.A.R.V.I.S เป็นพิเศษ

 

เขาได้ใช้เส้นสายของเครือสตาร์กอินดัสตรีท์ทั้งหมดเพื่อค้นหาเเจ็คสัน ดังนั้นโทนี่ จึงลงทุนกับเรื่องนี้ไปมาก เเต่ถ้ามันสามารถทำให้เขาได้เบาะเเสของเเจ็คสันล่ะก็โทนี่เชื่อว่ามันย่อมคุ้มค่า

 

“ครับ เจ้านาย”ได้ยินคำพูดของโทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบรับคำ

 

จากนั้นโทนี่ก็ไปเข้านอน เขารู้สึกเหนื่อยมากจริง ๆ สำหรับ J.A.R.V.I.S ที่เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายของผู้คนทั่วโลก เขาเเน่นอนว่าย่อมสังเกตุเเละติดตามข้อมูลเเจ็คสันอย่างต่อเนื่อง เเม้เรื่องนี้จะราวกับงมเข็มในมหาสมุทร เเต่พวกเขาก็พยายามกันอย่างมาก

 

“เเจ็คสัน ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ ผมจะหาคุณได้จากที่ไหนนะ”J.A.R.V.I.S ครุ่นคิดออกมา เดิมทีคำถามเหล่านี้ไม่น่าจะออกมาจากความคิดของปัญญาประดิษฐ์ได้

 

 

ขณะที่โทนี่กำลังเฝ้ามองหาเเจ็คสันเเละ เร้ด สกัลล์ ทางด้น โรงเรียนเซเวียร์ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เรียกทีม X-MEN เพื่อประชุมเเน่นอนว่าการประชุมครั้งนี้ไอซ์แมนก็ยังไม่เข้าร่วมบาดเเผลจากสนามรบคราวก่อนค่อนข้างร้ายเเรงทำให้ไอซ์แมนต้องนอนพักฟื้นในระยะยาว

 

หลังจากปฏิบัติภารกิจในการทำลายองค์กรไฮดร้าครั้งล่าสุดเสร็สสิ้นสตอร์มได้พักฟื้นพอสมควร ในฐานะหัวหน้าทีม สตอร์ม ได้กล่าวรายงานเรื่อง มิวแทนท์ ที่จับมาได้

 

“อืม,สถานการณ์ของพวกเขาฉันได้ตรวจสอบคร่าว ๆ เเล้ว จิตวิญญาณของพวกเขาถูกควคุม คาดว่ามันย่อมส่งผลต่อจิตของพวกเขาอย่างมาก นอกจากนี้ ขอบคุณเธอมากที่สำหรับข้อมูลอันมีค่า”ได้ยินคำพูดของสตอร์ม ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้กล่าวตอบ

 

หลังจากตรวจสอบสถานการณ์ของพวกมิวแทนท์ที่จับมาได้เป็นการส่วนตัว ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ตระหนักถึงพลังที่เเข็งเเกร่งทั้งยังเป็นพลังของมิวแทนท์ระดับสูง พลังที่สามารถครอบครองจิตใจเเละความนึกคิดได้ เเน่นอนว่าความสามารถของบุคคลที่ใช้ทำเรื่องพวกนี้ย่อมไม่อ่อนเเอ บางทีอาจกระทั่งเทียบเท่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

เเต่คนคนนี้ยังไม่สามารถควบคุมพลังจิตได้ดีไปมากกว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ซึ่งศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้สึกคุ้นเคยอย่างมาก เเต่ มิวแทนท์ ตนนี้ไม่ได้อยู่ในฐานไฮดร้าใหญ่ในครั้งนั้น ดังนั้น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จึงสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือของลูกน้องของ เเมกนีโต ตามความเข้าใจของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเมก ไม่น่ามีผู้ที่มีความสามารถนี้อยู่ในสังกัด เเต่ เเมก ก็เป็นคนระวังตัวอย่างมาก หมวกที่เเมกใส่นั้นสามารถป้องกันความสามารถพิเศษด้านพลังจิตได้เเน่นอนว่ารวมถึงความสามารถของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

ดังนั้นเรื่องนี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์พอจะนึกออกบางอย่าง

 

“นอกจากนี้สถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่ค้นพบพี่น้องคู่นั้นเลยดูเหมือนพวกเขาจะซ่อนตัวได้เเนบเนียนมาก”หลังจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตอบ สตอร์ม ก็รายงานอีกครั้งว

 

ก่อนหน้านี้ พวกเขา ทีมX-MEN ได้ไล่ล่าผู้ที่ให้การสนับสนุนพวกไฮดร้าอยู่เบื้องหลัง หรือก็คือ พี่น้องมิวแทนท์คู่นั้น เหตุการณ์ที่ผ่านมาพวกเขาได้ไล่ตาม ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ไป

 

ด้วยความสามารถของสกาเล็ต วิช ทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่าเธอไม่ธรรมดา เดิมพลังของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก็ได้ล็อคตำเเหน่งของพวกเขาเอาไว้ทำให้พวก บลิงก์,โคลอสซัส สามารถติดตามพวกเขาไปได้ เเต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็หลบหนีได้สำเร็จภายใต้การปะทุพลังของสกาเล็ต วิช

 

จากนั้นการติดตามมาตลอดทั้งวันก็เป็นอันล้มเหลว เเต่พวก บลิงก์ ก็ยังทำการค้นหาอย่างต่อเนื่อง

 

เเต่ก็ยังไม่ค้นพบวี่เเววของสองพี่น้องมิวแทนท์นี่เเม้เเต่น้อย

 

“ในเวลานั้นพลังจิตของฉันรู้สึกถูกสั่นคลอนทำให้พวกเขาสามารถหลบหนีออกไปได้ ดูเหมือนเราจะต้องให้ความสนใจกับพี่น้องคู่นี้ให้มากกว่าเดิม”เกี่ยวกับตัวตนของพี่น้องมิวแทนท์ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตั้งใจว่าจะให้ความสนใจกับพี่น้องคู่นี้เพราะทั้งสองคนสามารถที่จะต่อต้านพลังของ ทีมX-MEN 6 คน เเละสามารถหลบหนีปได้

 

“ส่วนเรื่องมิราจไนท์ พวกเราไม่สามารถทำอะไรได้”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ถอนหายใจออกมา

 

เขาได้ยินรายงานเรื่องนี้มาซึ่งมันทำให้ เขารู้สึกเสียใจอย่างมาก เเต่เขาก็ไม่เชื่อว่ามิราจไนท์ตายไปเเล้ว

 

“มีน้อยคนที่ สามารถทำให้ ฉันเเละโรเบิร์ตยอมรับ ฉันจะยังทำการค้นหา มิราจไนท์ต่อไป เเม้ความหวังจะเล็กน้อย”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้ความสัมพันธ์ที่ดีของ โรเบิร์ต กับ มิราจไนท์

 

เกี่ยวกับเรื่องมิราจไนท์ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เสียใจอย่างมาก เพราะ มิราจไนท์ ได้มีความคิดที่จะเปลี่ยนเเปลงโลกเเห่งนี้เเละก่อตั้งสหพันธ์โลกขึ้น ซึ่ง การเสียสละของมิราจไนท์อาจกระทบเเผนการที่มีอนาคตที่สดใสอันนี้รออยู่

 

“ฉันเชื่อว่าเขายังไม่ตาย!”หลังจากการถกเถียงในระยะเวลาอันสั้น ไอซ์แมนได้ปรากฏขึ้นบนรถเข็นพร้อมกับคิตตี้ที่เข็นรถเข็นมา

 

มองไปที่ไอซ์แมน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้เเสดงออกอะไรตอนนี้ เขามีหน้าที่สำคัญรออยู่ซึ่งก็คือการเปลี่ยนเเปลวสถานภาพของ ทีมX-MEN เเละ มิวแทนท์ทั่วโลก ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เตรียมพร้อมเรื่องนี้มาหลายปี ไม่ว่ามิราจไนท์จะตายไปหรือไม่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ยังตัดสินใจเดินหน้าต่อ

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงเเจ็คสันในที่สุดก็พบห้องส่วนกลางที่เป็นห้องควบคุมหลักในฐานลับไฮดร้าไซบีเรีย ภายในห้องนั้นเป็นห้องกว้างซึ่งตรงกลางมีม้านั่งที่เป็นเเท่นควบคุม นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเเต่ความสามารถราวกับเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เเต่เพราะผ่านมาหลายปีสเปคเหล่านี้จึงค่อนข้างตกรุ่นอยู่บ้าง

 

นอกจากนี้ยังมีปุ่มฟังก์ชั่นที่ไม่ค่อยรู้จักอีกจำนวนมาก ซึ่ง เเจ็คสันว่าจะวานให้โทนี่ช่วยตรวจสอบ เขาไม่จำเป็นจะต้องเรียนรู้เอง หน้าที่สำคัญของเเจ็คสันก็คือสร้างความเเข็งเเกร่งให้กับตัวเอง

 

ฟุ่บ~~

 

เเจ็คสันนั่งบนเเท่นควบคุมเป็นเวลากว่าสิบนาทีเขาได้เลือกกดปุ่มที่รู้จักเเละกดมันอย่างต่อเนื่อง

 

ฮึ่ม!

 

หลังจากเเจ็คสันกดปุ่มเหล่านี้เเท่นควบคุมที่เงียบสงัดก็ส่งเสียงทำงานบางอย่างจากนั้นบนภาพหน้าจอเก่าขนาดใหญ่ได้ถูกฉายภาพออกมา

 

“หึ่ม ดูเหมือนฉันจะพอมีความสามารถอยู่บ้าง เเม้เเต่เครื่องรุ่นเก่าแบบนี้ก็ยังสามารถสั่งให้มันทำงานได้”เเจ็คสันพูดกับตัวเอง เเน่นอนว่าคำพูดที่ตลกเช่นนี้ไม่มีทางนำไปพูดกับใครได้

 

“ตอนนี้ฉันจะลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับทหารวินเทอร์โซลเยอร์ในอดีต”เเจ็คสันได้ลองพยายามค้นหาสิ่งที่ต้องการ เขาต้องการยุติเรื่องอดีต ทั้งหมด เเละไม่อยากให้โทนี่รับรู้

 

ติ๊ด ติ๊ด~~

 

เเจ็คสันได้พิมพ์คีย์บอร์ดบ่นเเท่นควบคุมจากนั้นเขาก็มองเห็นเนื้อหาข้อมูลลับบางอย่างเกี่ยวกับปฏิบัติการของทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ซึ่งข้อมูลเเรกที่ปรากฏขึ้นก็คือการทดลองสร้างทหารวินเทอร์โซลเยอร์

 

“นั่น บัคกี้ บาร์นส์!”หลังจากจ้องมองสักพัก เเจ็คสันก็มองเห็น ตัวละคร ที่เขาต้องการ

 

ในวิดิโอบันทึกของไฮดร้า บัคกี้ บาร์นส์ ได้ถูกจับตัวมา หลังจากศึกสุดท้ายที่ร่วมต่อสู้กับ กัปตันโรเจอร์สเพื่อต่อกรองค์กรไฮดร้า ตอนนั้น องค์กรไฮดร้าได้ทำการทดลองโปรเจคทหารวินเทอร์โซลเยอร์กับ บัคกี้

 

ซึ่งเเน่นอนว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นก็ตอนที่พวกเขาต่อสู้กันบนรถไฟเเละบัคกี้ไดพลัดท่าตกลงจากหน้าผาบนรถไฟทำให้ ตอนนั้น กัปตันโรเจอร์ส เชื่อว่าตนเองได้สูญเสียเพื่อนสนิทคนนี้ไปเเล้ว เเม้จะผ่านมาหลายปีกัปตันโรเจอร์สก็ไม่เคยคิดเลยว่า บัคกี้ จะยังมีชีวิตอยู่

 

บัคกี้ยอมรับการทดลอง ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ เเต่ก็ล้มเหลวจึงสูญเสียเเขนขวาของตัวเอง จากนั้น บัคกี้ ก็ถูกจับโดยพวกไฮดร้าเเละถูกล้างสมอง จนกลายเป็น ทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นเเรก

 

ต่อมา พวกไฮดร้าก็ถูกลอบโจมตีจนสูญเสียกองกำลังทหาร วินเทอร์โซลเยอร์ที่ไม่สมบูรณ์ มีช่วงหนึ่งหลายปีผ่านไป บัคกี้ได้รับภารกิจพิเศษ ทุกครั้งที่เขาทำภารกิจสำเร็จ บัคกี้ จะถูกเเช่เเข็งในห้องเเช่อีกครั้งเพื่อรอคอยภารกิจต่อไป

 

อาจกล่าวได้ว่า ในโลมาร์เวลเเห่งนี้ ตัวตนที่น่าสังเวชที่สุดรองมาจาก กัปตันโรเจอร์ส ก็คือ บัคกี้ บาร์นส์ ตัวตนเหล่านี้ได้ถูกเเช่เเข็งจนลืมกาลเวลา หรืออีกนัยนึงก็คือพวกเขาไม่ต่างจากหนูทดลองของสงคราม

 

ในวิดิโอเเจ็คสันได้จ้องมองอย่างต่อเนื่องเเละเขาจำได้ว่า บัคกี้ ได้รับภารกิจฆ่าพ่อเเม่ของโทนี่,พ่อเเม่ของโทนี่ได้เสียชีวิตภายใต้เงื้อมมือของบัคกี้ เเน่นอนว่า บัคกี้สามารถจดจำบุคคลที่ตัวเองสังหารได้เเต่เขาไม่สามารถติดสินใจเรื่องเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ราวกับว่าความทรงจำของเขาถูกปิดกั้น ถ้าเเจ็คสันต้องการฟื้นคืนความทรงจำของ บัคกี้ หลังจากบัคกี้ฟื้นคืนความทรงจำทั้งหมด เขาย่อมจดจำเหตุการณ์ที่ตนเองเป็นคนสังหารใครทั้งหมดเเละเกิดความรู้สึกเสียใจ จิตใจของบัคกี้ จะเเบกรับโทษสูงสุดที่ไม่อาจให้อภัยตนเอง

 

หลังจากมองดูวิดิโอเหล่านี้อย่างละเอียดเเจ็คสันก็พบขั้นตอนการสะกดจิตบางอย่าง พวกไฮดร้าใช้การสะกดจิตในการควบคุมทหารวินเทอร์โซลเยอร์

 

“ในที่สุดก็เจอข้อมูลที่ต้องการ…”จ้องมองไปที่ภาพด้านหน้า วิดิโอบันทึกล่าสุดที่บัคกี้ได้รับภารกิจพิเศษ

 

ฟุ่บ~~

 

บนจอภาพนั้นรายละเอียดภาพค่อนข้างต่ำ เเต่วิดิโอเหล่านี้ก็ยังโฟกัสจุดสำคัญเอาไว้เเน่นอนว่าเเจ็คสันย่อมไม่พลาดรายละเอียดเล็กน้อย

 

ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา บัคกี้ บาร์นส์ ถูกผนึกเเช่เเข็งทั้งหมด 3 ครั้ง เพื่อทำภารกิจทั้งสาม นอกเหนือจากภารกิจที่เป็นความลับของ บัคกี้ ที่เป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ S.H.I.E.L.D. เองก็มีข้อมูลของ บัคกี้ ไม่น้อย เเต่ย่อมไม่มีข้อมูลพิเศษเหล่านี้

 

จากภาพในวิดิโอเเจ็คสันมองเห็นพ่อเเม่ของโทนี่ที่ถูกบัคกี้ฆ่าอย่างเลือดเย็น ธรรมชาติ นั่นเป็นการเฝ้ามองจากกล้องในอดีตเท่านั้น มีน้อยคนที่จะรู้จัก บัคกี้ เเละเเทบจะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า คนในภาพคือบัคกี้

 

เเต่เรื่องที่บัคกี้ได้ฆ่าพ่อเเม่ของโทนี่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเเปลงความจริงได้ ถ้าโทนี่รู้เรื่องนี้ อาจจะนำไปสู่ความขัดเเย้งระหว่างเขากับบัคกี้อย่างไม่ต้องสงสัย กัปตันโรเจอร์ส เเน่นอนว่าเเคร์ความรู้สึกของโทนี่ เเต่เขาย่อมไม่อาจปล่อยให้เพื่อนรักของตัวเองถูกจัดการได้

 

“วิธีที่ดีที่สุดก็คือการกำจัดข้อมูลความลับนี้ให้หายไปตลอดการ ฉันไม่ต้องการให้เรื่องในอดีตมามีผลกระทบในอดนาคต”เเจ็คสันตัดสินใจได้ในที่สุด

 

จากนั้นเขาก็เริ่มเลื่อนคอนโซลควบคุมเพื่อลบเนื้อหาเกี่ยวกับบัคกี้ในระบบทั้งหมด ก่อนที่จะลบข้อมูลเหล่านี้ เเจ็คสันทำมันซ้ำเพื่อหาข้อมูลฟังก์ชั่นอื่น ๆ รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง

 

ฟุ่บ!

 

“ฟู่วว! เท่านี้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็หายไป J.A.R.V.I.S คงจะไม่สามารถค้นหาได้อีก”เเจ็คสันที่นั่งพิมพ์เเป้นยุคเก่าลบข้อมูลทั้งหมดเสร็จ เขาก็ถอนหายใจออกมา

 

“ตอนนี้ฉันควรจะติดต่อโทนี่ในทันที พวกเขาจะได้ไม่กังวลเกี่ยวกับตัวฉัน”หลังจากเสร็จสิ้นเป้าหมาย เเจ็คสันก็หวังจะรีบกลับไปนิวยอร์กโดยเร็วที่สุด

 

เเจ็คสันได้เดินไปที่ห้องควบคุมด้านนอกที่มีโทรศัพท์ดาวเทียมทันที

บึ้ม~~

 

บึ้ม~~

 

ภายใต้การโจมตีอันรุนเเรงของปืนใหญ่ระเบิดไฟกำเเพงหินหนาของฐานไฮดร้าเริ่มที่จะเกิดรอยร้าวเเละร่วงหล่นอย่างช้า ๆ เนื่องเพราะประตูบานนี้เชื่อมกับภูเขาหิมะทุกครั้งที่การโจมตีกระทบเข้ากับประตูภูเขาหิมะก็สั่นสะเทือนจนทำให้หิมะบางส่วนหล่นลงมาจากภูเขาอย่างไรก็ตามการโจมตีระดับนี้ก็ยังไม่เพียงพอจะทำให้ภูเขาหิมะทั้งลูกถล่มลงมา

 

บึ้ม~~

 

หลังจากกระสุนชุดเเรกได้ถล่มกำเเพงหินขนาดใหญ่ กระสุนปืนชุดที่สองก็เริ่มประสานงานเเละทำลายกำเเพงหินต่อจนทำให้มันกลายเป็นรอยเเยกลึกลงไปเรื่อย ๆ

 

“มาลองอีกครั้ง!”เเจ็คสันได้ใช้ความสามารถของปืนใหญ่ระเบิดไฟอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะทำลายกำเเพงหินนี้

 

ปั้ง!

 

เเสงสีส้มเเพรวพราวได้ส่องประกายระยิบระยับภายในพื้นที่เเห่งนี้โดยเฉพาะช่วงกลางคืน ทุกครั้งที่การโจมตีเกิดขึ้นจะเกิดประกายไฟที่สวยงามท่ามกลางราตรีที่นี่

 

บึ้ม~~

 

ปั้ง~~

 

ในที่สุดกำเเพงหินก็ถูกเจาะจนมีเส้นผ่าศูนย์กลางลึกมากกว่าสองเมตร เเละ เกิดหลุมจำนวนมาก นอกจากหลุมเเล้วฝุ่นที่เกิดจากการถล่มของกำเเพงหินก็คลุ้งมากจนเเทบจะมองไม่เห็นเส้นทางภายในฐานไฮดร้า

 

“ในที่สุดก็สำเร็จ!”เเจ็คสันมองไปที่ทางเข้าด้านหลังกำเเพงหิน เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

 

ตึก ตึก

 

เเจ็คสันไม่ลังเลที่จะเข้าสู่ฐานไฮดร้าเเห่งนี้ ทันทีที่เขาเข้าสู่พื้นที่ สิ่งเเรกที่เเจ็คสันต้องทำก็คือเปิดสวิตช์ไฟทางเข้าของที่นี่

 

เเจ็คสันค้นหาตามผนังกำเเพงเเละในที่สุดเขาก็ค้นพบสสวิตช์หลักที่เชื่อมกับเเหล่งไฟฟ้า เขาได้ตรวจสอบมันจนเเน่ใจว่ามันยังสามารถใช้ได้

 

ตึง!

 

เเจ็คสันได้เปิดระบบพลังงานไฟฟ้าของฐานเเห่งนี้ ทันทีที่เเจ็คสันสับสวิตช์เพื่อเปิดระบบ กระเเสไฟฟ้าก็ได้ถูกจ่ายจนกระจายออกไปทั่วทั้งฐาน

 

หึ่ม

 

ผ่านไปหลายวินาที เส้นทางด้านหน้าของเเจ็คสันเดิมที่มืดสลัว ตลอดเส้นทางของเขาในตอนนี้ได้ปรากฏเเสงสว่างตลอดทาง

 

“ไม่รู้ว่าในอดีตพวกไฮดร้าทรงอิทธิพลขนาดไหนถึงสร้างฐานที่เเข็งเเกร่งจนไม่น่าจะมีอยู่ในโลกฐานนี้ขึ้นมาได้!”ทันทีที่เเสงสว่างถูกจุดขึ้นเเจ้คสันก็มองเห็นหลาย ๆสิ่ง ภายในฐานซึ่งมันทำให้เขารู้สึกตื่นตะลึง

 

ฐานลับเเห่งนี้ได้ถูกปลุกขึ้นจากการหลับไหลมานานหลายสิบปี ฐานเเห่งนี้ค่อนข้างใหญ่ เเต่จุดประสงค์ของเเจ็คสัน ก็มีเฉพาะเจาะจงนั่นก็คือ ไฟล์วิดิโอเเละข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ บัคกี้ ดังนั้นเขาจึงเดินทางไปที่ตำเเหน่งห้องส่วนกลางที่น่าจะมีข้อมูลทุกอย่างเก็บไว้

 

ตึก ตึก~~

 

นอกจากเป้าหมายของเขาเเล้วในระหว่างเดินทางเเจ็คสันก็สังเกตุฐานเเห่งนี้ ทุกๆอย่างโดยรอบนั้นเต็มไปด้วยเทคโนโลยีระดับสูง นั่นเเสดงให้เเจ็คสันรู้ว่า พวกไฮดร้าที่สามารถสร้างฐานนี้ขึ้นมาได้เเข็งเเกร่งขนาดไหน เเม้จะเป็นโทนี่ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำแบบนี้

 

โดยเฉพาะเทคโนโลยีระดับสูงมากมาย ระบบเเละการทำงานของฐานนี้มีความก้าวหน้ามากเเม้จะไม่สามารถเทียบได้กับปัจจุบัน เเต่ฐานเเห่งนี้ก็มีความสมบูรณ์พร้อมหลาย ๆ อย่างจนเเจ็คสันคิดว่าฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของพวกเขาเล็กจ้อยไปเลย

 

“บางทีฉันอาจจะลองคิดใช้ฐานเเห่งนี้เป็นฐานสำรองของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ดู เเม้ระยะทางจะค่อนข้างห่างไกล เเต่ถ้าได้โทนี่คอยช่วยเหลือ ระยะทางเเค่นี้ย่อมไม่ใช่ปัญหา”มองดูโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เเจ็คสัน อดที่จะคิดเช่นนี้ไม่ได้

 

ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ต้องการฐานที่เเข็งเเกร่ง ไม่ใช่ว่าฐานขนาดเล็กในนิวยอร์กไม่ดี เเต่เพราะสถานที่เเห่งนั้นค่อนข้างเล็กมากมันไม่สามารถเก็บความลับระดับสูงได้ทั้งหมด

 

เเจ็คสันเเน่นอนว่าไม่สนใจว่า S.H.I.E.L.D. ทีมX-MEN จะรู้สถานที่ของฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์หรือไม่ เพราะเเจ็คสันไม่ได้กังวลในเรื่องนี้ ท้ายที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ก็คือตัวบุคคลไม่ใช่ฐาน เเจ็คสันสามารถขอร้องให้โทนี่ช่วยสร้างฐานลับระดับสูงขึ้นให้ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้ เเต่มันก็ต้องใช้เวลา สู้เขาให้โทนี่ช่วยเหลือในการพัฒนาฐานเเห่งนี้ ที่อยู่ในไซบีเรีย มันจะง่ายกว่ามากทั้งยังไม่ลำบากเท่าไหร่

 

“เอาล่ะตัดสินใจได้ล่ะ ฉันจะใช้ฐานเเห่งนี้เป็นฐานลับของ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ หลังจากฉันกลับไปฉันจะลองขอร้องโทนี่ให้ช่วยเหลือในการพัฒนาฐานเเห่งนี้ดู ฉันเชื่อว่ามันจะกลายเป็นฐานที่สุดยอดฐานนึง”เเค่คิดในใจเเจ็คสันก็รู้สึกตื่นเต้นเเล้ว

 

โดยปกติเเล้วหากคิดจะยึดครองฐานนี้จะต้องรับประกันว่าสามารถลบพวกไฮดร้าทิ้งไปได้เเล้ว ซึ่ง เร้ด สกัลล์ เองก็ตายไปเเล้ว ดังนั้น เเจ็คสันจึงมั่นใจว่าจะสามารถยึดครองฐานนี้ได้

 

“หืม…ที่นี่คือ?”หลังจากเดินอย่างระวังภายในฐานเเห่งนี้ เเจ็คสันได้เอะใจบางอย่าง

 

เขาได้มองไปยังห้องที่ถูกปิดผนึกห้องนึง

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้พังประตูเข้าไปจากนั้นเขาก็เหมือนจะเห็นอะไรที่คุ้นเคย

 

“ดูเหมือนสถานที่เเห่งนี้จะยังไม่ถูกผนึกอย่างสมบูรณ์ ที่นี่ควรจะเป็นสถานที่ต้นกำเนิดของทหารวินเทอร์โซลเยอร์”หลังจากมองเห็นขวดโหลขนาดใหญ่ เเจ็คสัน กล่าวออกมา

 

ในปัจจุบัน ในห้องนี้มีขวดโหลอยู่ 6 ขวด เเต่ละขวดมีชิ้นส่วนถูกเก็บอยู่ภายใน เเละมันถูกเเช่เเข็งด้วยอุณหภูมิที่สูงมาก สิ่งเหล่านี้เอาไว้ใช้สร้างทหารวินเทอร์โซลเยอร์

 

เเม้ที่เเห่งนี้จะถูกตัดขาดจากพลังงานเเต่ห้องนี้กลับมีพลังงานสำรองเอาไว้ใช้

 

กว่า 60 ปีที่ผ่านมา ที่พวกไฮดร้าได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ซึ่งความเเข็งเเกร่งของทหารวินเทอร์โซลเยอร์ก็เพิ่มขึ้นสูงมาก พวกเขาได้ประสบความสำเร็จในการทดลองมนุษย์

 

เเต่ผลสำเร็จเหล่านั้นบุคคลที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์นั้นเเทบจะหาไม่ได้เลย หลายสิบปีผ่านไปพวกไฮดร้าสามารถสร้างทหาร วินเทอร์โซลเยอร์ที่สมบูรณ์ อย่างบัคกี้ ขึ้นมาได้ เเต่มันก็กลายเป็นความล้มเหลวในเวลาต่อมา

 

“คนเหล่านี้ถูกเเช่เเข็งเป็นระยะเวลาหลายปี หากพวกเขาตื่นขึ้นมา ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นบ้าง”เห็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ 6 คน ในขวด เเจ็คสัน กำลังคิดว่าจะจัดการกับคนเหล่านี้อย่างไหร่

 

ทางเลือกที่ดีที่สุดหากสำเร็จจะสามารถช่วยให้พวกเขากลับมามีสติอีกครั้งเเละให้พวกเขาคืนชีวิตสู่คนปกติ เเต่คนเหล่านี้ ถูกล้างสมองโดยพวกไฮดร้าเป็นระยะเวลานาน ครอบครัวของพวกเขาสมควรด่วนจากไปเเล้ว หากไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ บางทีการให้พวกเขาถูกผนึกไปตลอดเเบบนี้อาจจะเป็นความคิดที่ดีที่สุดก็เป็นได้

 

“ฉันจะผนึกพวกเขาเอาไว้เเบบนี้จนกว่าจะหาวิธีช่วยเหลือได้เเล้วกัน กรณีนี้ ฉันเองก็ยังมีเรื่องของทอมให้ต้องเเก้ไขก่อน ฉันยังไม่มีหนทางที่ดีในการช่วยเหลือพวกเขา”หลังจากพิจารณาอีกที เเจ็คสันก็ตัดสินใจได้ในที่สุด

 

ฟุ่บ

 

หลังจากนั้นเเจ็คสันก็ออกจากห้องสร้างทหารวินเทอร์โซลเยอร์เเละเดินไปยังห้องส่วนกลางซึ่งเป็นเป้าหมายเดิมของเขา

 

ฟิ้วว~~

 

เขตทุ่งหิมะในไซบีเรียมีลมหนาวพัดผ่านอย่างไม่ขาดสาย ท่ามกลางผืนหิมะสีขาวเงาร่างสีดำได้เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจนทิ้งเป็นรอยทางตามทางที่ได้ผ่านมา

 

เงาสีดำนี้ก็คือเเจ็คสัน เขาตัดสินใจรีบไปยังฐานไฮดร้าในไซบีเรีย ดังนั้นเเจ็คสันจึงได้มุ่งหน้าเดินทางเป็นระยะเวลามากกว่า 2 ชั่วโมงเเล้ว ที่เขาใช้เวลานานขนาดนี้ เพราะชั่วโมงก่อนหน้านี้เขาได้ทุ่มเวลาในการค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์ จนได้ใช้เวลาไปนานพอสมควร ตอนนี้สภาพอากาศที่นี่ก็เริ่มมืดสนิทเเต่ เเจ็คสันก็ไม่ได้หยุดชะงักหรือต้องการเสียเวลาที่นี่อีกต่อไปเขาได้รักษาความเร็วในการเดินทางด้วยความเร็วสูง

 

“ฮู้ว~ใกล้จะถึงเเล้ว ไม่เเปลกใจที่พวกไฮดร้าเลือกสร้างฐานลับที่นี่ เพราะนอกจากสิ่งมีชีวิตภายในพื้นที่เเล้วคนนอกเเทบจะไม่สัมผัสรู้ได้เลยด้วยซ้ำ”ทุกย่างก้าวของเเจ็คสันทำให้พื้นหิมะลดลงบางส่วน เขาใกล้จะถึงตำเเหน่งฐานลับของพวกไฮดร้าเเล้ว

 

“ถ้าหากฉันใช้ความเร็วในปัจจุบันในการเดินทางคาดว่าอีกครึ่งชั่วโมงน่าจะถึง ฉันควรจะรีบไปที่นั่นเเละค้นหาไฟล์ข้อมูลเกี่ยวกับหลักฐานการลงมือของบัคกี้ ทั้งหมด หวังว่า โทนี่ จะไม่เอะใจอะไรนะ”เเจ็คสันได้เดินตามทางไปด้วยความเร็วเท่าเดิม

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงเเจ็คสันก็มาถึงตำเเหน่งฐานลับของไฮดร้าในไซบีเรีย ตามข้อมูลระบุตำเเหน่งที่ตั้งเเล้วมันควรจะอยู่เเถวนี้ เเต่เขากลับไม่เห็นตำเเหน่งทางเข้าฐาน

 

“ฐานลับไฮดร้าอยู่ใต้ภูเขาหิมะลูกนี้ไม่ผิดเเน่ เเต่ประตูทางเข้าล่ะอยู่ที่ไหน?อย่าบอกนะว่าฉันจะต้องอ้อมภูเขาทั้งลูกนี้ไป”จ้องมองไปที่เนินเขาที่มีหิมะปกคลุมหน้า เเจ็คสัน กล่าวด้วยความกังวล

 

ก่อนหน้านี้เป็น J.A.R.V.I.S เเละ S.H.I.E.L.D. ที่ได้ข้อมูลฐานเเห่งนี้มาดังนั้นเเจ็คสันจึงได้ข้อมูลพื้นฐานอย่างไม่ระเอียดเท่าไหร่ หน้าที่ของเขามีเพียงจัดการต่อหลังจากนั้น

 

“เห้อ,เอาเถอะ ถึงอย่างไรฉันก็เหลือเเต้มคะแนนมากพอไว้ใช้เเลกเปลี่ยนสิ่งของจิปาถะ”มองไปที่ภูเขาที่มีหิมะปกคลุมเเจ็คสันเชื่อว่าตนเองไม่จนมุมง่าย ๆ

 

ดังนั้นเขาจึงได้เริ่มก้าวเดินอีกครั้งพร้อมกับเครื่องไม้เครื่องมือพิเศษมากมาย เห็นได้ชัดว่าเขาเเลกเปลี่ยนมันจากร้านค้าภายในระบบ เพื่อช่วยให้การเดินทางของเขาเรียบง่ายขึ้น

 

หนึ่งในเครื่องมือของเเจ็คสันสามารถส่งคลื่นพิเศษเพื่อตรวจจับโลหะได้นอกจากนี้เขายังมีเครื่องละลายหิมะเพื่อสะดวกต่อการเดินทาง

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากวนไปภายในพื้นที่ภูเขาได้ไม่นานบนหน้าจอของเครื่องมือเเจ็คสันก็ปรากฏการเปลี่ยนเเปลงดูเหมือนมันจะสัมผัสวัตถุที่ทำจากเหล็กได้

 

“ในที่สุดก็พบ”เเจ็คสันได้ใช้เครื่องมือละลายหิมะเพื่อค้นหาทางเข้าตรงจุดเเถวนี้

 

ผ่านไปสิบนาทีเเจ็คสันได้ค้นพบกำเเพงภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ด้านหลังประตูเเห่งนี้เป็นช่องทางลาดยาวออกไปไกล

 

ฟุ่บ ~ ~ ~

 

เมื่อละลายหิมะไปหลายส่วนด้านหน้าก็เผยประตูเหล็กขนาดใหญ่ที่ถูกฝังอยู่กับภูเขามันคือทางเข้าฐานไฮดร้าอย่างไม่ต้องสงสัยเเต่เเจ็คสันไม่รู้ว่าจะเปิดมันอย่างไรดี

 

ประตูด้านหน้าเป็นเหล็กหนาคาดว่าน่าจะสามารถทานรับการโจมตีได้หลายส่วน เพียงเเต่เเจ็คสันหาได้กังวลใจเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะเขามีวิธีการมากมายที่จะใช้เปิดมันโดยวิธีที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือการเปิดโดยใช้กำลังเข้าช่วย

 

เเจ็คสันเรียกดาบสายฟ้าของเขาออกมาเเม้พลังจิตของตัวเองจะเสียหายเเละไม่สามารถใช้พลังศักยภาพสูงสุดของตัวเองได้เเต่การทำลายเเละเปิดประตูบานนี้ก็ไม่น่าจะเหนือกว่าบ่าเเรง

 

“เปิดออกซะ!”ผ่านไปหลายวินาทีเเจ็คสันที่รวบรวมศักยภาพพลังอันไร้สิ้นสุดได้ลงมือฟาดฟันดาบสายฟ้าออกไปอย่างเด็ดเดี่ยว

 

เปรี้ยงง!

 

พลังงานสีม่วงได้พุ่งเข้าไปชนเข้ากับประตูเหล็กเเละเกิดเเรงสั่นสะเทือนมหาศาล

 

ประตูเหล็กได้ถูกทำลายกลายเป็นชิ้น ๆ ภายใต้การโจมตีของดาบสายฟ้า

 

เเต่นั่นก็เป็นเพียงเเค่ปราการเเรกเท่านั้นปราการที่เเท้จริงที่ต่อจากประตูเหล็กก็คือกำเเพงหินหนาหลายชั้นเเน่นอนว่ามันไม่ใช่หินธรรมดาอย่างเเน่นอน

 

“ประตูเหล็กได้รับความเสียหาย เเต่ กำเเพงนั่นกับเเทบไร้รอยขีดข่วน?การป้องกันประตูของฐานพวกไฮดร้าชักจะหนาเเน่นเกินไปเเล้ว!”เห็นการโจมตีของตัวเองไม่สามารถเปิดทางเชื่อมสู่ทางเดินใต้ดินภายในได้ เเจ็คสันอุทานด้วยความประหลาดใจ

 

ที่จริงเเล้วประตูฐานลับมันไม่น่าจะเเข็งขนาดนี้ เเต่อาจจะเป็นเพราะฐานลับเเห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตหนาวทำให้ต้องสร้างอย่างคงทนเเละเเข็งเเรงเพื่อทนต่อสภาพอากาศที่เลวร้ยที่นี่

 

ยิ่งไปกว่านั้นวัสดุในการสร้างก็ย่อมไม่ธรรมดากระทั่งประตูเหล็กที่พังทลายลงไปยังหนากว่าเหล็กธรรมดาไม่ต้องเเปลกใจเลยว่าประตูฐานเเห่งนี้สมควรเป็นหนึ่งในปราการปิดกั้นที่เเข็งเเกร่งระดับต้น ๆ เเน่นอน

 

“ก็คงต้องลองวิธีอื่นเเล้ว…”

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันที่พิจารณาความเเข็งเเกร่งของพลังป้องกันของประตูด้านหน้าท้ายที่สุดเขาก็ได้ตัดสินใจเเลกเปลี่ยน ระเบิดปืนใหญ่ไฟ จากร้านค้าภายในระบบ ระเบิดปืนใหญ่ไฟนั้น ไม่เปลืองพลังกำลังภายในของเขา ตั้งเเต่ที่รู้ว่าประตูฐานเเห่งนี้เเข็งเเกร่งเเจ็คสันคิดว่าจะประหยัดเเรงของตัวเองให้ได้มากที่สุด

 

“ดูเหมือนฉันจะต้องโจมตีด้วยระเบิดปืนใหญ่ไฟหลายครั้งพอสมควร”เเจ็คสันถือปืนระเบิดปืนใหญ่ไฟเเละมุ่งเป้าไปที่ประตูที่เป็นกำเเพงหนา

 

หึ่ม!

 

ปั้ง!

 

พลังงานระเบิดความร้อนได้ลั่นออกมาจากปากกระบอกปืนเเละจุดประกายเเสงสีส้มบนกำเเพงประตูหนาที่ปิดกั้นเส้นทางด้านหน้าในทันที

 

ฟึ่มม ~ ~

ฟิ้ว~~~ ฟิ้ว~~~

 

ตึก ~~~ตึก ~~

 

ในพื้นที่ทุ่งหิมะกว้างเงาร่างบุคคลนึงได้เหยียบย่ำลงไปบนหิมะทุกการก้าวท้าวของเขาเท้าของเขาเเทบจะถูกกลืนหายเข้าไปในหิมะ เงาร่างนี้ก็คือเเจ็คสัน หลังจากทราบตำเเหน่งของตัวเอง เเจ็คสันตัดสินใจที่จะหาวิธีติดต่อโทนี่ให้เร็วที่สุด

 

ตอนนี้ เเจ็คสันอยู่ในไซบีเรีย เขาต้องการมุ่งหน้าไปยังฐานไฮดร้าที่ถูกละทิ้งอยู่ เพื่อหาเสาสัญญาณในการใช้การสื่อสาร ตั้งเเต่ที่พวกเขาตามหาตัวบัคกี้ เเจ็คสัน โทนี่ เเละ กัปตันโรเจอร์ส ได้บันทึกตำเเหน่งฐานของพวกไฮดร้าที่ไซบีเรียนี้ไว้ด้วยเช่นเดียวกัน ไม่คาดคิดเลยว่ามันจะมีประโยชน์กับ เเจ็คสันในสักวัน

 

เเม้ว่า เเจ็คสันจะเเลกเปลี่ยนโทรศัพท์เเละใช้สัญญาณดาวเทียมเเต่ก็ไม่สามารถติดต่อโทนี่โดยตรงได้ เเต่ถ้าเเจ็คสันสามารถติดต่อโทนี่ได้ เขาก็จะขอให้โทนี่ส่งไอรอนแมนมาช่วยเหลือเขา

 

เเต่สถานที่เเห่งนี้ติดอยู่ที่มันมีข้อมูลความลับบางอย่างที่เเจ็คสันไม่ต้องการเผยออกมา โดยเฉพาะให้โทนี่รู้ เขาหวังจะปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้โทนี่รู้ เพื่อนำความเเค้นส่วนตัวมาทำให้เเผนของตัวเองพัง โชคดีที่ตอนนี้ บัคกี้ ได้หายตัวไป เเจ็คสัน หวังว่า กัปตันโรเจอร์สจะพบตัวเขาเร็ว ๆ ไม่งั้นหากโทนี่รู้เรื่องนี้ก่อนเวลาอันควร คงจะเกิดความขัดเเย้งอย่างเเน่นอน

 

ตอนนี้ปัจจุบันเเจ็คสันต้องการกลับไปยังนิวยอร์กให้เร็วที่สุด เขาเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงคิดว่าเขาตายไปเเล้ว เเจ็คสันต้องการติดต่อโทนี่โดยเร็ว เพื่อที่จะไม่ทำให้คนที่เป็นห่วงเขาต้องกังวล

 

ตึก ตึก

 

เพียงเเต่ขณะที่เเจ็คสันกำลังเดินจมลงหิมะไปเรื่อย ๆ เท้าของเขาราวกับสัมผัสได้ถึงบางอย่าง

 

“นี่มัน…”เเจ็คสันหวังว่าสิ่งที่เขาคิดจะเป็นความจริง

 

ฟุ่บ ฟุ่บ~~

 

จากนั้นเเจ็คสันก็เริ่มลงมือขุดพื้นที่หิมะใต้เท้าของเขา เเม้พื้นที่หิมะที่นี่จะหนามาก เเต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเเจ็คสันที่จะขุดหลุมใหญ่ ๆ สักเเห่ง เเจ็คสันได้ขุดพื้นที่จนค้นพบศพเเช่เเข็งที่โผล่ขึ้นมาเเต่หัว มันคือ ศีรษะของ เร้ด สกัลล์

 

เเม้เขาจะได้รับรู้ข่าวจากระบบมีโอกาสที่ เร้ด สกัลล์ จะตายสูงมาก เเต่เมื่อได้เห็นศพด้วยตัวเอง เเจ็คสันก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในฐานะหัวหน้าขององค์กรร้าย ถือเป็นภัยร้ายเเรงอย่างมาก ดังนั้นการได้ยืนยันศพของศัตรูด้วยตาดีกว่าการคาดเดา

 

หลังจากพิจารณาศพของ เร้ด สกัลล์ ว่าตายจริง ๆ เเจ็คสันก็ลงมือขุดรอบ ๆตัว เร้ด สกัลล์ “ถ้าศพของ เร้ด สกัลล์ อยู่ตรงนี้ เจ้าสิ่งนั้นมันก็น่าจะอยู่ใกล้ ๆ นี้”

 

ในช่องที่ประตูมิติอวกาศระเบิด เเจ็คสัน จำได้ว่า ลูกบาศก์เวทมนตร์ ได้ถูกปิดลงในกล่องไปพร้อมกับ เร้ด สกัลล์ ดังนั้นมีโอกาสสูงมากที่ มันจะตกอยู่ใกล้ ๆ นี้

 

“ก่อนอื่นบางทีฉันควรปล่อยมันไว้ก่อน หากมันอยู่ในสถานที่เเห่งนี้ ให้โทนี่พากองทัพไอรอนแมนมาค้นหาอย่างระวังอีกครั้ง ตราบเท่าที่มันอยู่ในสถานที่เเห่งนี้จะต้องพบอย่างเเน่นอน”หลังจากขุดพื้นที่รอบ ๆ เเละไม่ค้นพบสิ่งที่ต้องการ เเจ็คสัน พูดกับตัวเอง

 

เเต่เเจ็คสันก็ยังไม่เลิกละง่าย ๆ เขาพยายามขุดโดยรอบ ๆ เเละค้นหาอย่างระวัง

 

เเจ็คสันมีลางสังหรณ์ หากเขาได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์นี้มา จะทำให้การทำภารกิจของเขานั้นง่ายขึ้นมาก สำหรับ เร้ด สกัลล์ เเล้ว ที่เขาตายสาเหตุน่าจะมาจากการทนความเเข็งเเกร่งของลูกบาศก์เวทมนตร์ไม่ไหวจึงทำให้เควสภารกิจของเเจ็คสันเสร็จสิ้น”มันน่าจะมีเควสที่เกี่ยวข้องกับอินฟินิตี้สโตน ถ้าเกิดมีจริง ๆ ฉันเชื่อว่า ระบบคงจะให้รางวัลที่เเข็งเเกร่งเทียบเท่ากับอินฟินิตี้สโตนเป็นเเน่”

 

“เห้อ,หาต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ มันก็อาจจะมีความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะตกไปยังสถานที่อื่นก็ได้”เเจ็คสันที่มองหาลูกบาศก์เวทมนตร์ท่ามกลางทุ่งหิมะ ตอนนี้เขารู้สึกไม่ต่างจากการงมเข็มในมหาสมุทร

 

เขาใช้เวลามากกว่า หนึ่งชั่วโมง เพื่อค้นหา ลูกบาศก์เวทมนตร์ รอบ ๆ รัศมีศพของ เร้ด สกัลล์ เเต่ดูเหมือนจะไม่มีวี่เเววเเม้เเต่น้อย

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้เเลกเครื่องมือตรวจจับโลหะมาใช้ก่อนหน้านี้ เเต่ก็ยังไม่มีวี่เเววว่าจะพบทำให้เขาตัดใจยอมเเพ้ในการตามหาลูกบาศก์เวทมนตร์ที่เต็มไปด้วยพื้นที่หิมะจำนวนมากเหล่านี้ หากพลังจิตของเเจ็คสันสามารถใช้ได้ บางทีมันยังจะพอมีโอกาสที่จะช่วยในการค้นหา

 

“ฉันควรจะรีบออกจากที่นี่ ฉันเสียเวลามามากเเล้ว”หลังจากพิจารณาได้ว่าควรทำอะไรต่อ เเจ็คสัน ก็หวังจะรีบยติดต่อโทนี่โดยเร็ว ยิ่งเขาติดต่อ อีกฝ่ายช้าเท่าไหร่ พวกของเขาก็จะเป็นกังวลมากขึ้นเท่านั้น

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้ย่ำเท้าบนทุ่งหิมะเเละมุ่งหน้าไปยังฐานลับของไฮดร้าในซีบีเรียอีกครั้ง ด้วยสภาพอาการลมหนาว เเจ็คสันในตอนนี้สามารถต้านทานมันได้ไม่อย่างยากเย็นเพราะเขาได้ซ่อมเเซมฟังก์ชั่นบางส่วนของชุดสูทภูติมายาเเล้ว จุดมุ่งหมายของเขาก็คือ ปลายทางฐานของพวกไฮดร้า

 

ขณะที่ เเจ็คสันกำลังมุ่งหน้าไปยังฐานลับไฮดร้า ทั่วทั้งนิวยอร์กเเละสหรัฐอเมริกาก็ตกอยู่ในกระเเสข่าวที่กำลังบ้าคลั่งมันคือข่าวเรื่องการเสียสละอันกล้าหาญของฮีโร่คนนึง

 

เเท้จริงเเล้วกระเเสข่าวเหล่านั้นได้พาดพิงถึง ฮีโร่ มิราจไนท์ เหล่าเเฟนคลับที่ชอบมิราจไนท์ ต่างออกมาพูดคุยกันด้วยความกังวล นอกเหนือจากคนเหล่านี้เเล้วบุคคลที่กังวลมากที่สุด ก็คือ ปีเตอร์ เเละ โทนี่ พวกเขารู้ว่า มิราจไนท์คือ เเจ็คสัน ตอนนี้ พวกเขายังไม่ได้รับข่าวจากเเจ็คสันเเม้เเต่น้อย นอกจากนี้ พ่อกับเเม่ของเเจ็คสัน ยังไม่รู้ความจริงที่ลูกชายของตัวเองได้เข้าไปผจญอันตรายเเละมีโอกาสที่จะเสียชีวิตสูงมาก สิ่งที่พวกเขารู้ในตอนนี้มีเพียงข้อมูลที่โทนี่บอกว่าเเจ็คสันได้มาทำงานในห้องทดลองลับกับเขาเพียงเท่านั้น

ในพื้นที่หิมะอันกว้างใหญ่เเห่งนี้ เเจ็คสันได้ปิดเปลือกตาลงพร้อมกับเตรียมจะสำรวจพื้นที่เเห่งนี้ด้วยเทคนิครู้เเจ้งของเขา

 

ฟู้วว~

 

“~~ อึ๊ก!”เพียงเเต่ขณะที่เเจ็คสันกำลังถ่ายโอนพลังจิตใช้เทคนิครู้เเจ้ง ทันทีที่สัมผัสของเขาเเพร่กระจายออกไปน้อยกว่าหนึ่งเมตร ศีรษะของเเจ็คสันก็รู้สึกปวดหัวอย่างรุนเเรงจนเเจ็คสันต้องยกเลิกการใช้เทคนิครู้เเจ้ง

 

อั๊ก

 

“เกิดอะไรขึ้น?ความผิดพลาดระหว่างข้ามมิติของลูกบาศก์เวทมนตร์ ทำให้พลังจิตของฉันได้รับความเสียหายไปด้วยงั้นหรอ?”เเจ็คสันได้กล่าวพึมพัมกับตัวเอง

 

พลังจิตของเเจ็คสันได้เติบโตสูงขึ้นกว่าเเต่ก่อนมาก อย่างน้อยด้วยระดับพลังจิตของเขาตอนนี้บวกกับชุดสูทภูติมายาเขาไม่จำเป็นจะต้องกังวลการเเทรกเเซงพลังจิตของ สกาเล็ตวิช เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเต่ถึงอย่างนั้นพลังจิตของเขาในตอนนี้กระทั่งยังไม่สามารถใช้เทคนิครู้เเจ้งได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาได้รับความเสียหายทางจิตอย่างรุนเเรง

 

“เอาเถอะ คิดในเเง่ดี อย่างน้อยฉันก็ยังมีชีวิต เเม้จะได้รับบาดเจ็บหนักก็ตาม”เเจ็คสันที่สัมผัสได้ว่าพลิงจิตของตัวเองเสียหาย เขาได้ปล่อยผ่านโดยคิดในเเง่ดี

 

เเจ็คสันไม่ได้ลุกพรวดสำรวจสถานที่เเห่งนี้เขาต้องทำให้ร่างกายของเขาเคยชินเเละปรับสภาพตัวเองก่อนเพราะแบบนี้เขาจึงต้องเตรียมพร้อม หลังจากคิดได้ เเจ็คสันก็จมลงสู่จิตใจของเขา ตัวอักษรสีฟ้าขนาดใหญ่ได้ปรากฏเรียงเเถวขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา ทันทีที่เขาเข้าไปภายในจิตใจของตัวเอง

 

“เควสภารกิจลับ : กำจัดองค์กรชั่วร้าย ไฮดร้า , ความคืบหน้า: เสร็จสิ้น ,รางวัลที่ได้รับ…”ขณะที่เเจ็คสันเข้าสู่จิตใจเขาก็ต้องตื่นตะลึงอีกครั้งเพราะเขาได้สำเร็จเควสภารกิจลับที่ได้รับมาโดยที่ตัวเองไม่ทันตั้งตัว

 

การที่เควสภารกิจของเขาสามารถเสร็จได้ เเจ็คสันเชื่อว่า เร้ด สกัลล์ จะต้องตายไปเเล้วอย่างเเน่นอน หรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก ไม่เเปลกที่เเจ็คสันจะคิดแบบนี้ เเม้เขาจะมีชุดสูทเเละพละกำลังกายที่เเข็งเเกร่งก็ยังได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ เเต่ เร้ด สกัลล์ มีเพียงซูเปอร์ยีน หาก เร้ด สกัลล์ จะเสียชีวิต เเจ็คสันก็ไม่เเปลกใจเเม้เเต่น้อย

 

“เป็นเวลานานเเล้วที่ฉันไม่ได้รับของรางวัลจากภารกิจ ไหนขอฉันดูหน่อยสิว่าได้อะไรมั่ง”เห็นว่าตัวเองทำภารกิจสำเร็จ เเจ็คสันได้มุ่งเป้าไปที่ของรางวัลภารกิจทันที

 

“หืม? 50,000 เเต้มคะแนน อย่างเดียว ไม่มีของรางวัลพิเศษงั้นหรอ?”เเจ็คสันพูดในใจเบา ๆ

 

รางวัล 50,000 เเต้มคะแนน สำหรับเเจ็คสันในปัจจุบัน นับเป็นจำนวนเงินที่มาก เพราะเป็นเวลานานเเล้วที่เขาไม่ได้รับรายได้จากการทำภารกิจ ทั้งเเต้มคะแนนรางวัลก่อนหน้านี้ก็ใช้ไปหมดเเล้ว เเต่เขาก็เเอบเสียดายนิด ๆ เพราะกว่าจะกำจัด องค์กรไฮดร้า เเละ เร้ด สกัลล์ ได้ เขาต้องเหนื่อยมากมาย

 

“ชั่งเหอะ อย่างไรฉันก็เสร็จภารกิจอันยาวนานสักที! เร้ด สกัลล์ ก็ตายไปเเล้ว องค์กรไฮดร้า ก็จะต้องจบลงโดยไม่ต้องสงสัย”เเจ็คสันยิ้มออกมา เเม้จะได้รับแต้มคะแนนอย่างเดียวเเล้วอย่างไร ในที่สุดภารกิจนี้ก็สำเร็จสักที

 

เดิมทีก่อนหน้านี้ เควสภารกิจ กำจัดองค์กรไฮดร้า สำเร็จไปที่ 97% เเล้ว เเต่เพราะการตายของ เร้ด สกัลล์ เเละ S.H.I.E.L.D. ที่ไล่ล่าโจมตีทำลายฐานอื่น ๆ ของพวกไฮดร้า ทำให้ เควสภารกิจของ เเจ็คสัน เสร็จสิ้นในเวลาต่อมา

 

“ก่อนหน้านี้ภารกิจของฉันมีความคืบหน้าอยู่ที่ 97% เเต่ตอนนี้ฉันได้ผ่านเควสภารกิจนี้เเล้ว เร้ด สกัลล์ ตาย องค์กรไฮดร้าถูกทำลาย เท่านี้ พ่อเเม่ คนรอบตัวของฉัน พวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามเหล่านี้อีก”เเจ็คสันรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย

 

เนื่องเพราะพวกไฮดร้ารู้สถานะที่เเท้จริงของเเจ็คสัน ทำให้ เเจ็คสันหวังจะเร่งรีบกำจัดพวกไฮดร้าให้เร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของสมาชิกในครอบครัวเเละคนรอบตัวของเขา ตอนนี้ พวกไฮดร้าได้ถูกกำจัดไปเเล้ว เเจ็คสันจึงเบาใจเรื่องที่ไม่ต้องมานั่งกังวลใจทุกวัน

 

จากนั้นเเจ็คสันก็ได้ตรวจสอบสภาพร่างกายของตัวเองอย่างรอบคอบ นอกจากความเสียหายทางพลังจิตเเล้วอาการบาดเจ็บทางร่างกายก็ฟื้นฟูมาได้บางส่วนเพราะยายีน เเต่ก็ไม่ได้ทั้งหมด โชคดีที่เขาสามารถใช้งานร้านค้าระบบได้ในตอนนี้

 

เขาสามารถใช้งานร้านค้าระบบในการเเลกสิ่งของจำเป็นเพื่อฟื้นคืนได้อย่างรวดเร็ว

 

เเจ็คสันได้ใช้เเต้มคะแนนหลายพันเเต้มเพื่อเเลกเปลี่ยนโพชั่นรักาา จากนั้น เเจ็คสันก็เริ่มทำการฟื้้นฟูสภาพร่างกายตัวเอง เเละ เขายังต้องการติดต่อโทนี่อีกด้วย เเต่ดูเหมือนอุปกรณ์สื่อสารของเขาจะถูกทำลายไปเเล้ว นอกจากนี้ในสถานที่เเห่งนี้ยังไม่มีอุปกรณ์สื่อสารใดที่สามารถใช้ได้

 

หลังจากฟื้นฟูร่างกายไปได้เกือบจะทั้งหมด เเจ็คสันได้ลุกขึ้นจากพื้นหิมะ นอกเหนือจากพลังจิตที่ได้รับบาดเจ็บเเล้วร่างกายของเขาฟื้นฟูกลับมาได้เรียกว่าเพียงพอสำหรับการเอาชีวิตรอดที่นี่

 

“ฉันควรจะรีบไปจากที่นี่ เเต่จะไปยังไงดี นอกจากนี้ หวังว่าพวกปีเตอร์ จะไม่คิดว่าฉันตายไปเเล้วหรอกนะ”

 

“เห้อ,ดันตกมาอยู่ในสถานที่ที่ยากลำบากเสียได้”หลังจากอาการบาดเจ็บฟื้นฟูกลับมา เเจ็คสันจ้องมองไปที่ทิวทัศน์โดยรอบที่มีหิมะขาวโพลน

 

ตึก ตึก~~

 

จากนั้นเเจ็คสันก็เหยีบย่ำบนพื้นหิมะไปเป็นระยะเวลาพอสมควร ก่อนที่เขาจะตระหนักได้ถึงบางสิ่ง

 

“ฉันนี่โง่จริง ๆ !”เเจ็คสันได้บ่นตัวเอง เหมือนเขาจะฉุดคิดอะไรได้

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเเจ็คสันก้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา นี่เป็นเครื่องที่เขาเเลกเปลี่ยนมาจากร้านค้าระบบ เเน่นอนว่า ภายในร้านค้าระบบของเขามีอุปกรณ์ให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์สื่อสารหรืออุปกรณ์อเนกประสงค์อื่น ๆ

 

“ดูเหมือนจะไม่มีสัญญาณ ฉันควรจะทำอย่างไรดี หรือว่า…”ตอนนี้โทรศัพท์ของเขาไม่มีสัญญาณ เเต่ ถึงอย่างนั้นเเจ็คสันกลับปรากฏความคิดนึงในหัว

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้น เเจ็คสัน ก็ได้หยิบเเผ่นโลหะบางอย่างออกมาติดเข้ากับโทรศัพท์มือถือ มันคือตัวระบุตำเเหน่งดาวเทียม เเจ็คสันได้เเลกมันมา มันมีหน้าที่คล้ายกับปลอกเเขนพันธมิตรของเขา คือสามารถจับตำเเหน่งสัญญาณได้

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้เปิดเครื่องพร้อมกับระบุตำเเหน่งดาวเทียวเขามองเห็นจุดประกายสีเขียวบนหน้าจอ ซึ่งก็คือตำเเหน่งปัจจุบันของเขา จากนั้นเเจ็คสันก็กวาดดูสถานที่ผ่านสัญญาณดาวเทียมเพื่อที่จะดูว่าเขาอยู่ที่ไหน

 

“หืม?ไม่คาดคิดเลยว่าฉันจะถูกส่งมาที่ไซบีเรีย…”หลังจากยืนยันตำเเหน่งของตัวเองได้ เเจ็คสันก็กล่าวพึมพัมออกมาพร้อมกับประกายนัยน์ตาที่เด่นชัด

 

ฟิ้วว~~

 

ขณะที่ผู้คนในนิวยอร์กกำลังคิดว่าเเจ็คสันได้ตายไปเเล้ว ณ ดินเเดนน้ำเเข็งเเห่งนึง ทางตอนเหนือ สถานที่เเห่งนี้มีลมหนาวเเละหิมะพัดผ่านตลอดทั้งปี กระเเสอากาศลมเย็นของที่นี่ค่อนข้างเหน็บหนาวเป็นอย่างมาก ทันใดนั้นเองก็มีเงาร่างสีขาวปรากฏตัวขึ้น ณ สถานที่เเห่งนึง

 

ฟิ้วว~~

 

ท่ามกลางทุ่งหิมะอันกว้างใหญ่ไพศาล เงาร่างสีขาวเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมาก ภายใต้หิมิที่เหน็บหนาวเช่นนี้ กลับมีสิ่งมีชีวิตที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระภายในสถานที่เเห่งนี้

 

“จิ๊ จิ๊!”เงาร่างสีขาวที่เคลื่อนไหวไปมา มันสังเกตุเห็นบางอย่างก่อนที่จะส่งเสียงร้องออกมาเห็นได้ชัดว่ามันค้นพบอะไรบางอย่าง เงาร่างสีขาวที่ว่านี้ก็คือ สโนว์เมาส์ หรือก็คือ หนูหิมะ มันเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในทุ่งหิมะอันกว้างใหญ่ไพศาลเเห่งนี้

 

“จิ๊ จิ๊”

 

เเกร๊ก

 

หนูหิมะราวกับว่ามันค้นพบอะไรบางอย่างจากนั้นมันก็ส่งเสียงออกมาอย่างตื่นเต้นจากนั้นก็เริ่มกุยพื้นหิมะตรงจุดที่มันสงสัย ทันใดนั้นเองเงาร่างมนุษย์ที่ถูกฝังภายใต้หิมะก็ปรากฏขึ้น หนูหิมะ เชื่อว่านี่คืออาหารของมันไม่ผิดเเน่

 

เเกร๊ก

 

ทันทีที่มันตัดสินใจได้ว่านี่คืออาหารหนูหิมะไม่ลังเลที่จะใช้เล็บของมันพยายามจะเเทะร่างดังกล่าว

 

“เเคว๊กก,เเคว๊กก..”มันได้พยายามใช้เล็บเเละฟันอันเเหลมคมกัดไปที่ข้อมือของร่างที่ปรากฏขึ้นเพียงเเต่ร่างนั้นค่อนข้างเเข็งกระด้างเป็นเพราะไอความเย็นที่ห่อหุ้มร่างกายเป็นระยะเวลานาน ทำให้หนูหิมะไม่สามารถกัดเข้าถึงร่างเนื้อของร่างกายนี้ได้

 

ฟุ่บ!

 

หนูหิมะที่กำลังพยายามจะเเทะก้อนหิมะออกทันใดนั้นมันก็เห็นเเขนของร่างนี้กำลังขยับสองนิ้วได้ขยับไปมา ดูเหมือนว่าเจ้าของร่างนี้จะยังมีชีวิตอยู่

 

“จิ๊ จิ๊”หนูหิมะ รู้สึกหมดหวังอย่างมาก เเต่มันก็ไม่ยอมเเพ้เพื่อเห็นเกล็ดน้ำเเข็งตามนิ้วมือเริ่มเเตกออก นี่เป็นอาหารที่หายากของมัน มันได้บรรจงใช้ฟันเเหลมคมกัดไปที่นิ้วมือนั้นอีกครั้ง หากเป็นคนปกติทั่วไปโดนฟันของหนูหิมะขนาดนี้ย่อมต้องพบกับการสูญเสียเเน่นอน

 

หลังจากหนูหิมะลองกัดอีกครั้งสีหน้าของมันก็ราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น มันได้ใช้ฟันอันเเหลมคมกัดไปที่นิ้วมือของเหยื่อเเต่กลับไม่สามารถกัดเข้าสู่กายเนื้อได้ ราวกับว่ามันกำลังกัดก้อนหินเเข็ง ๆ อย่างไงยังงั้น

 

จากนั้นเงาร่างดังกล่าวราวกับว่าได้สติขึ้นมาเเขนเเละขาเริ่มขยับตามเวลาที่ผ่านไป เพราะฤทธิ์เเรงจากการกัดของหนูหิมะทำให้เจ้าของร่างรู้สึกตัวเร็วขึ้น

 

“ที่นี่ที่ไหนกัน?”เจ้าของร่างได้สังเกตุมองไปโดยรอบพร้อมกับอุทานออกมาเบา ๆ

 

“จิ๊ จิ๊!”ขณะที่ เจ้าของร่างกำลังครุ่นคิดอยู่ หนูหิมะที่กัดนิ้วของเขาไม่ปล่อยได้ลอยติดมือขึ้นมา

 

“หืม?หนู?ทำไมหนูหิมะถึงมาอยู่ที่มือของฉัน?”หลังจากเห็นบางสิ่งที่กำลังกัดนิ้วของเขาอยู่เจ้าของร่างอุทานอย่างตกใจ

 

จากนั้นเจ้าของร่างก็พยายามสบัดมือของตัวเองเพื่อให้หนูหิมะหลุดจากการกัดนิ้วของเขา ทันทีที่ทำสำเร็จ เขาก็พยายามจมดิ่งลงสู่ความคิด

 

“อ่า…ลูกบาศก์เวทมนตร์ เร้ด สกัลล์! ประตูมิติอวกาศ ฉันถูกส่งมาที่เเห่งนี้สินะ”

 

เจ้าของร่างนี้เเท้จริงเเล้วก็คือ เเจ็คสัน เขาได้ทบทวนความคิดของตัวเอง เเละ นึกถึงตอที่ เขาไล่ตาม เร้ด สกัลล์ เข้ามาในประตูมิติอวกาศ ซึ่งพวกเขาทั้งคู่ได้ถูกประตูมิติอวกาศกลืนกินลงไป เเละ ได้ถูกส่งมายังสถานที่หนาวเย็นเช่นนี้

 

“ฉันล้มเหลวสินะ ตอนนี้ ฉันอยู่ที่ไหนกัน? เเล้ว เร้ด สกัลล์ ล่ะ อยู่ไหน?”

 

“ลูกบาศก์เวทมนตร์ก็ไม่อยู่เเละหายไปอีกด้วย?”เเจ็คสันกวาดวิสัยทัศน์ไปรอบตัว เขามองเห็นพื้นที่โล่งหิมะขาวนวลบริสุทธิ์ไม่เห็นสิ่งเเปลกปลอมเเม้เเต่น้อย

 

ประตูมิติอวกาศนั้นไม่เสถียรไม่เเปลกใจที่เเจ็คสันจะเชื่อว่าพวกเขาอาจถูกส่งไปยังคนละสถานที่กันอาจเป็นไปได้ว่าลูกบาศก์เวทมนตร์ก็อาจจะไปตกอยู่ที่ไหนสักเเห่ง

 

ผลกระทบจากประตูมิติอวกาศนั้นเเจ็คสันสัมผัสได้ดี เเม้เเต่ร่างกายที่เเข็งเเกร่งของเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บจากการขนส่งผิดพลาด สำหรับ เร้ด สกัลล์ ที่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ไหน เเจ็คสันเชื่อว่า เร้ด สกัลล์ มีโอกาสรอดที่ต่ำมาก

 

เพราะอาการบาดเจ็บของเเจ็คสันนอกจากบาดเเผลภายนอกเเล้วกระดูกภายในร่างของเขาก็ได้รับความเสียหายจนเเตกหักอาการบาดเจ็บภายในก็มากจนเขาเองก็ตกใจ หากไม่ได้การป้องกันของชุดสูทของเขา เเจ็คสันเชื่อว่าตัวเองคงไม่รอดอย่างเเน่นอน

 

ผลกระทบจากลูกบาศก์เวทมนตร์เเม้จะทำให้เขาอาการบาดเจ็บสาหัสเเต่ก็รอดมาได้ ส่วนผลกระทบหลัก ๆ ก็คงจะเป็นฟังก์ชั่นบางอย่างของชุดสูทของเขาที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะ ฟังก์ชั่นปรับอุณหภูมิให้กับร่างกาย ตอนนี้ เเจ็คสันรู้สึกหนาวมาก เพราะฟังก์ชั่นนี้ไม่ทำงาน

 

โชคดีที่เเจ็คสันก่อนจะถูกส่งมาที่นี่เขาได้รับยายีนรักษา เเม้ว่าเขาจะหมดสติ เเต่ยายีนก็ยังทำงานซ่อมเเซมอาการบาดเจ็บของเขาทำให้ร่างกายของเขาสามารถทนความหนาวเย็นของหิมะที่หนาวเย็นที่นี่ได้นานกว่าหนึ่งวัน

 

“จิ๊ จิ๊!”ขณะที่เเจ็คสันกำลังไตร่ตรองความคิดของเขา หนูหิมะ ที่ถูกสะบัดออกไปได้พยายามที่จะกระโดดกัดมือของเขาอีกครั้ง

 

“เฮ้,เจ้าตัวน้อย ฉันไม่ใช่อาหารของเเกหรอกนะ?”เเจ็คสันยกมือขึ้นมาพร้อมกับหนูหิมะที่กำลังกัดนิ้วของเขา ซึ่งเขามองมันด้วยอาการตลก

 

จากนั้นเเจ็คสันก็วางหนูหิมะลงไปที่หลุมหิมะที่มีพื้นหิมะปกคลุม เเม้หนูหิมะตัวนี้จะพยายามกินร่างกายของเขา เเต่เเจ็คสันก็ไม่ได้เก็บมาทำความ

 

“อย่างเเรกฉันต้องรู้ให้ได้ว่าที่นี่ที่ไหน”หลังจากเห็นหนูหิมะมุดรูหนีหายไป เเจ็คสัน กระซิบกับตัวเองเบา ๆ

ตู๊ดด ตู๊ดด~~

 

นิวยอร์ก,ควีนส์ บ้านสุนัขจรจัด ธอร์ได้โทรสัพท์หาเเจ็คสันอีกครั้ง เเต่ก็เหมือนเดิม เขาไม่สามารถติดต่อ เเจ็คสันได้ ธอร์เชื่อว่ามันเป็นลางสังหรณ์ที่ไม่ดี นอกจากนี้ เขายังได้เห็นข่าวในทีวีเกี่ยวกับการเสียสละของฮีโร่คนนึง ทำให้ ธอร์ไม่สามารถนั่งติดเก้าอี้ได้เลย

 

ฟุ่บ!

 

ในข่าวไม่ได้ระบุการเสียสละของฮีโร่คนใด เเต่ สื่อต่างคาดเดาว่า เขาคือ มิราจไนท์จากทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

“ธอร์ จะไปไหนน่ะ?”เห็นธอร์เดินออกไปโดยไม่พูดอะไร พนักงานคนนึงกล่าวถามขึ้น

 

ซึ่งธอร์ไม่ได้สนใจเขาเดินหายไปยังหน้าทางเข้า ซึ่งธอร์เป็นแบบนี้มาตั้งเเต่ได้รู้ข่าวเรื่องการเสียสละของฮีโร่คนนึงตั้งเเต่นั้นมาธอร์ก็นั่งไม่ติดเก้าอี้เลยเเม้เเต่น้อย

 

“เฮ้อ ใครกันนะ ฉันเองก็เเฟนคลับฮีโร่ เหมือนกัน สื่อต่าง ก็พาดพิงไปยัง ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ หวังว่าจะไม่ใช่ ฉันเองก็รู้สึกกังวลซะเเล้วสิ”เขาบ่นพึมพัมออกมา

 

ธอร์ได้เดินออกจากบ้านพักสุนัขจรจัด เขาได้คิดถึงเรื่องการเรียกขานค้อนเทพเจ้าสายฟ้าอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ เเจ็คสันได้มาหาเขาพร้อมกับขอให้เขาช่วยเหลือโลกใบนี้

 

ซึ่งธอร์ในตอนนั้นรู้ตัวเองดีว่าตนเองนั้นไร้พลังเเค่ไหน ธอร์พยายามเรียกค้อนเทพเจ้าสายฟ้าอยู่ทุกวันเเต่ก็ไม่เป็นผลยิ่งเขาได้รับข่าวเรื่องการเสียสละของฮีโร่นิรนามคนนึง ธอร์ก็ยิ่งรู้สึกกังวล

 

ถ้าฮีโร่คนนั้นคือ เเจ็คสัน จริง ธอร์จะรู้สึกโทษตัวเองเเละไม่ให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิต เพราะความไร้สามารถของตัวเองทำให้เขาต้องสูญเสียเพื่อนคนสำคัญไป

 

ฟุ่บ!

 

“โยเนียร์…”ธอร์ที่เดินอยู่ริมขอบถนน เขาได้ปิดเปลือกตาเเละสัมผัสพลังของค้อนเทพเจ้าสายฟ้า

 

 

กึก

 

หลังจากผ่านไปสองวัน ฐาน S.H.I.E.L.D. ในนิวเม็กซิโก คนจำนวนมากยังไม่ฟื้นคืนสติจากเหตุการณ์ค้อนเทพเจ้าสายฟ้าปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งฐาน ความเกรี้ยวกราดของค้อนเทพเจ้าสายฟ้าได้ทำลายเเผ่นกั้นโลหะผสมที่เเข็งเเกร่งเหล่านั้นจนผังทลายเสียหายไปหลายส่วน

 

กึก

 

กึก!

 

ค้อนเทพเจ้าสายฟ้าที่หลุดจากฐานนิวเม็กซิโกในตอนนั้นได้หยุดชะงักลงในสถานที่เเห่งนึงเดิมทีจุดมุ่งหมายของมันกำลังจะมุ่งหน้าไปที่นิวยอร์กเเต่ตอนนี้มันได้ตกลงในสถานที่เเห่งนึงซึ่งทางทีมเฝ้าระวังก็ได้ส่งคนมากำกับดูเเลเเละสร้างพื้นที่พิเศษเฉพาะกันเอาไว้

 

“เกิดอะไรขึ้น?ค้อนนั่นกำลังจะบ้าคลั่งอีกเเล้ว?”ผู้รับผิดชอบในการเฝ้าระวังค้อนเทพเจ้าสายฟ้าตะโกนออกมาหลังจากเห็นค้อนเทพเจ้าสายฟ้าเตรียมจะปลดปล่อยกระเเสไฟฟ้าอีกครั้ง

 

“หัวหน้า!ผมว่าพวกเราควรรายงานให้ สำนักงานใหญ่ทราบ ให้พวกเขาส่งทีม อเวนเจอร์สมา รับมือกับค้อนนี่”ลูกน้องคนนึงได้ร้องเรียนต่อหัวหน้าของพวกเขาเพื่อรายงาน

 

“ทีมอเวนเจอร์ส?หวังว่าพวกเขาจะสามารถรับมือกับค้อนนี่ได้”ได้ยินการร้องเรียนข้องลูกทีม หัวหน้าคนนี้รู้สึกสบายใจนิดหน่อย

 

ตั้งเเต่ที่ S.H.I.E.L.D. ก่อตั้งทีมอเวนเจอร์ส ข้อมูลเหล่านี้ก็เป็นความลับมาก ทุกการเคลื่อนไหวหรือภารกิจล้วนเป็นความลับทั้งสิ้น เเต่วีรกรรมของ ทีมอเวนเจอร์ส ก็มีมากมายจนสามารถเเก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างไม่ยากเย็น ดังนั้น พวกเขาจึงคิดว่า ทีมอเวนเจอร์สอาจจะสามารถรับมือค้อนลึกลับนี่ก็เป็นได้

 

เพียงเเต่ในขณะที่พวกเขากำลังเฝ้าคิดถึงทีมอเวนเจอร์สค้อนเทพเจ้าสายฟ้าก็ลอยขึ้นอีกครั้ง ธอร์ที่เดิมทีคิดโทษตัวเองเเละลดความหยิ่งจองหองลง ค้อนเทพเจ้าสายฟ้า จะตอบรับคำเชิญของเขาทีละน้อย ๆ

 

“ไม่ดีเเน่ มันกำลังจะหนีไปอีกเเล้ว!”เห็นค้อนเทพเจ้าสายฟ้าเริ่มเคลื่อนไหวพวกเขารู้สึกกังวล

 

หากค้อนเทพเจ้าสายฟ้าบ้าคลั่งอีกครั้งพวกเขาก็จะต้องพบกับผลลัพธ์ที่ตามมาซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดี

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่หลังจากสองวินาทีสีหน้าของพวกเขาก็ผ่อนคลายลงเพราะมันได้ขยับเขยื้อนไปเพียงระยะเวลานึงเเล้วก็หยุดลง เพียงเเต่ผู้คนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดไม่กล้าที่จะผ่อนคลายสบายใจ

 

ในวันเดียวกัน ค้อนเทพเจ้าสายฟ้า ก็บินห่างออกจากฐานเเห่งนี้ไปไกลมากกว่า 500 เมตร โชคดีที่ไม่ห่างจากฐานเเละอยู่ไกลจากเมืองไม่งั้นคงเกิดความเสียหายขนาดใหญ่

 

ฟุ่บ!

 

วันเวลาผ่านไปค้อนเทพเจ้าสายฟ้าก็เข้าใกล้ตำเเหน่งเมืองนิวยอร์กมากขึ้นทุกวัน

 

 

“เห้อ,นี่มันไม่เวิร์คเลย!”หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ธอร์ได้เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างดุเดือด

 

ครั้งนี้เขาได้พยายามลองเรียกค้อนเทพเจ้าสายฟ้าติดต่อกันนานถึงครึ่งชั่วโมง เขาสัมผัสได้ว่าค้อนเทพเจ้าสายฟ้าได้ตอบรับเขา เเต่มันก็ไม่เพียงพอจะตอบรับตลอดเพราะช่วงวินาทีถัดไปเขาสัมผัสได้ถึงการต่อต้านประหลาดบางอย่าง

 

“เป็นฝีมือของโลกิงั้นหรอ?”ความคิดที่ค้อนทำการต่อต้านเขา ธอร์คิดว่าอาจจะมาจากน้องชายตัวเเสบ

 

“โลกิ หากข้ากลับไปที่เเอสการ์ดเมื่อไหร่ ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้หลาบจำอย่างเเน่นอน”ธอร์กำกำปั้นเเน่นด้วยสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

 

จากนั้นธอร์ที่รู้สึกทำอะไรไม่ถูกเขาก็กลับไปที่บ้านพักสุนัขจรจัดอีกครั้ง ธอร์หวังจะติดตามข่าวทางโทรทัศน์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตามข่าวได้ทัน อีกใจนึงเขาก็เป็นห่วง มิราจไนท์ หรือ ก็คือ เเจ็คสัน

 

“สองวันที่ผ่านมาข่าวเรื่องยานยักษ์ประหลาดที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้า วอชิงตัน ได้กลายเป็นประเด็นร้อนเเรง ซึ่งทาง S.H.I.E.L.D. ก็ได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับยานบินอวกาศ ที่ใช้ระยะเวลาในก่อสร้างนาน…”

 

“S.H.I.E.L.D. โฆษกต่างประเทศกล่าวว่า พวกเขาได้รับชัยชนะอันสมบูรณ์แบบหลังจากที่เผชิญหน้ากับองค์กรชั่วร้ายอย่างพวกไฮดร้า…”

 

“ตามการเปิดเผยจากทาง S.H.I.E.L.D. ในช่วงทำภารกิจเก็บกวาดพวกไฮดร้า พวกเขาได้สูญเสียทหารกล้าหลายคน เเละตัวเเทนเหล่านี้คือความภาคภูมิใจขององค์กร…”

 

“ทาง S.H.I.E.L.D. เปิดเผยว่าได้มีการร่วมมือกับ กลุ่มผู้พิมีพลังพิเศษ เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เพื่อเคลื่อนไหวอิทธิพลในการจัดกรพวกไฮดร้าในครั้งนี้ เเละศึกครั้งนี้ นอกจากจะสูญเสียทหารกล้าของ S.H.I.E.L.D. เเละ พวกเขายังได้สูญเสีย ฮีโร่คนสำคัญของพันธมิตรไป…”

 

ในช่วงสองวันที่ผ่านมานักข่าวอเมริกันหลายคนได้ทำหน้าที่รายงานพาดหัวข่าวต่าง ๆ เกี่ยวกับข้อมูลข่าวที่ได้รับมาซึ่งมันทำให้ทั่วทั้งโลกตกตะลึง

 

บางพาดหัวข่าวก็ใส่พาดหัวข่าวซะเกินความเป็นจริงเพื่อดึงดูดผู้อ่าน โดยเฉพาะ ข่าวการเสียสละของฮีโร่คนนึงที่มีวีรกรรมกล้าหาญ

 

ทันใดนั้น ทั้งสหรัฐอเมริกาก็ตกอยู่ในความวุ่นวายจากประเด็นการสูญเสียฮีโร่คนสำคัญคนนี้ เหล่าสาวกเเฟนคลับ ฮีโร่ ต่าง ก็ได้ออกมาเเสดงความคิดเห็น เพราะช่วงนี้ ข่าวคราวทางเว็บไซต์ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ได้หยุดอัปเดตไป เเต่ถึงอย่างนั้น กลับมีปริมาณผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นสูงมาก

 

ขณะเดียวกัน ฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เจอร์รี่ ที่เฝ้าอาการ เดดพูล อยู่ นอกเหนือจากการดูเเลเดดพูลเเล้ว เขาก็มีหน้าที่ตรวจสอบความผิดปกติทางเว็บไซต์

 

เเม้การสูญเสียฮีโร่คนสำคัญไปเเต่อิทธิพลของฮีโร่เหล่านี้ยังไม่ได้ตราตรึงใจพวกเขานัก ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็จะหลงลืมกันไปเอง เเต่สำหรับ เจอร์รี่ การสูญเสีย มิราจไนท์ ไปเป็นหายนะครั้งใหญ่

 

ฟุ่บ

 

“นี่มันอะไร?พวกเขาคิดว่าฉันตายไปเเล้วงั้นหรอ?”ในขณะที่เจอร์รี่กำลังไล่อ่านคอมเมนต์ต่าง ๆ เสียง เสียงนึงก็ได้ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขา

 

เจอร์รี่รีบหันศีรษะกลับไปมอง เเละพบว่า เดดพูล ได้จ้องมองมาที่เขา

 

“เดดพูล! คุณฟื้นเเล้ว!!!”เห็นเดดพูล ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลัง เจอร์รี่ ประหลาดใจอย่างมาก เรื่องข่าวการเสียสละของ มิราจไนท์ ทำให้ เจอร์รี่ รู้สึกเศร้า เเต่เดดพูล ที่จู่ ๆ ก็ฟื้นขึ้นมาอย่างกระทันหัน ทำให้ เจอร์รี่รู้สึกกลับมามีความสุขอีกครั้ง

 

“อืม,ฉันเพิ่งตื่น เเต่ตอนนี้ร่างกายยังคงรู้สึกเจ็บอยู่”ได้ยินคำถามของ เจอร์รี่ เดดพูล พยักหน้าตอบคำถาม ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองหลับไปนานเพียงใด

 

“คนเหล่านี้กำลังเเสดงความเสียใจให้ฉันงั้นหรอ?ตัวตนของฉัน เดดพูล ผู้ยิ่งใหญ่จะตายง่าย ๆ ได้ยังไง พวกเขากำลังดูถูกฉัน!”หลังจากตอบคำถามของ เจอร์รี่ เดดพูล เพ่งความสนใจไปที่คอมพิวเตอร์เเละไล่อ่านคอมเมนต์เเสดงความเสียใจ

 

เดดพูล ได้นอนหลับลึกไม่ได้สติในฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์นี้มาร่วมสัปดาห์ ความทรงจำล่าสุดของเขาก็คือการต่อสู้บนสะพานโกลเด้นเกต ดังนั้น เขาจึงยังไม่ทราบข้อมูลข่าวในปัจจุบัน

 

เดดพูล ที่เห็นคอมเมนต์เเสดงความเสียใจ เขาจึงคิดว่าคนเหล่านี้กำลังไว้อาลัยให้เขา เเต่ หลังจาก เจอร์รี่ ได้ยินคำพูดของ เดดพูล ใบหน้าของเขากลับมาดำทะมึนอีกครั้ง

 

“เดดพูล”

 

“พวกเขาไม่ได้หมายถึงคุณ”เจอร์รี่ กล่าวเสียงหนัก

 

“ไม่ได้หมายถึงฉัน?เเล้วใคร นายจะบอกว่านอกเหนือจากฉัน เเล้วยังมี….”ได้ยินคำพูดของเจอร์รี่ เดดพูล กล่าวถามในทันที

 

เดดพูลเกือบจะเสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะบนสะพานโกลเด้นเกต เขาได้สิ้นสติไปจนไม่รู้ว่าสงครามได้จบไปยังไงมันมีโอกาสเป็นไปได้ที่อาจจะมีการสูญเสียขึ้นของเพื่อนร่วมทีมจากเหตุการณ์ครั้งนั้น

 

“สไปเดอร์แมนหรอ?ใครกัน?ใครกันที่หลบหนีไม่ทันจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ฉันจำได้ว่า พวกเขาได้หนีไปไกลเเล้ว”เดดพูล คาดเดา ด้วยความกังวล

 

“คุณ เดดพูล ตลอดระยะเวลาที่คุณหลับไปมันก็นานมากถึง 1 สัปดาห์ การต่อสู้บนสะพานโกลเด้นเกต ได้จบลงนานเเล้ว”เจอร์รี่อธิบาย

 

เจอร์รี่ รู้ว่า เดดพูล กำลังหมายถึงการต่อสู้บนสะพานโกลเด้นเกต

 

“ฉันหมดสติไปร่วมสัปดาห์?เป็นไปได้อย่างไร? เเล้วเกิดอะไรขึ้นระหว่างช่วงที่ฉันหมดสติบอกมาทั้งหมด”เดดพูลตะโกนอย่างกระวนกระวาย

 

ด้วยความสามารถของยีนของตัวเองเดดพูลไม่คาดคิดเลยว่าตัวเองจะใช้เวลารักษาตัวร่วมสัปดาห์ เรื่องนี้ทำให้ เวด ตกตะลึงอย่างมาก เเต่สิ่งที่เขาสนใจหาได้เป็นช่วงระยะเวลาดังกล่าว เเต่เป็นประเด็นร้อนเเรงที่ในโลกอินเตอร์เน็ตกำลังถกเถียงกัน

 

“ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ต่อสู้เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะเมื่อวาน พวกเราได้ทำสงครามกันอีกครั้ง เเละ ที่คนเหล่านี้กำลังร่วมเเสดงความเสียใจก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก มิราจไนท์…”

 

เดดพูล”เป็นไปไม่ได้?”

 

เจอร์รี่”…”

 

“นายพูดจริงงั้นหรอ?”

 

 

ปั้ง

 

เป็นอีกวันนึงที่ปีเตอร์ไม่ได้ไปโรงเรียน เขาได้ติดตามดูข่าวในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาจนได้รับข่าวการเสียชีวิตของฮีโร่คนนึง ปีเตอร์ได้นึกถึงเหตุการณ์ที่ เเจ็คสันหายตัวไป ทำให้เขารู้สึกเสียใจอย่างมาก เขาไม่มีอารมณ์จะทำสิ่งใด ได้เเต่เก็บตัวหมกอยู่ในห้องไปวัน ๆ

 

“ปีเตอร์,เเฮร์รี่ มาหาหลาน”ขณะที่ ปีเตอร์ กำลังจ้องโทรศัพท์ เสียงของ ป้าเมย์ ก็ได้ดังขึ้นมาจากข้างนอก

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นประตูก็ถูกเปิดออก เเฮร์รี่ เดินเข้ามาหาปีเตอร์ที่นั่งบนโซฟา โดยที่เขาไม่ได้กล่าวทักทาย ปีเตอร์ เองก็เช่นเดียวกัน ตอนนี้ พวกเขาได้จ้องมองข่าวทางโทรทัศน์อย่างไม่ละเว้น

 

“นายเองก็คิดใช่ไหมว่าเเจ็คสันจะต้องไม่เป็นอะไร”

 

“ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องไม่เป็นอะไร”

 

“ดี,ฉันเองก็เชื่อแบบนั้นฉันจะรอการกลับมาของเขาเหมือนกับนาย”

ผ่าง!

 

สหรัฐอเมริกาดินเเดนตะวันตกคือดินเเดนที่ว่ากันว่ามีเม็ดเงินไหลผ่านมารวมตัวกัน ควิกซิลเวอร์ ได้วิ่งหลบหนีไปในพื้นที่เเห่งนี้ด้วยความเร็วของเขา เพราะว่าสถานที่ที่เขากำลังมุ่งหน้าไป ได้ปรากฏประตูมิติอวกาศจากนั้นก็มี ชายร่างยักษ์โคลอสซัส เเละ ผู้หญิงผมยาว บลิงก์ รวมถึงเพื่อนร่วมทีมอีกคน เดินออกมา

 

“เขานี่ถึกมากจริง ๆ! สามารถวิ่งติดต่อกันเกือบ 12 ชั่วโมง โดยที่ไม่เปิดโอกาสให้พวกเราจับตัวพวกเขา”ชายร่างยักษ์ที่เดินออกจากประตูมิติอวกาศ เขากล่าวขึ้น เเละ ละสายตาไปยังทิศทางนึง

 

“สบายใจเถอะ เขาไม่สามารถวิ่งหนี การติดตามของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้หรอก ไม่ช้าก็เร็วพวกเราก็จะเข้าถึงตัวเเละจับกุมเขาได้ในที่สุด”เพื่อนร่วมทีมอีกคน กล่าวตรงข้ามกับ ชายร่างยักษ์ โคลอสซัส ในฐานะผู้ช่วยสนับสนุนเหมือนกับบลิงก์เขามีหน้าที่ในการช่วยเหลือทั้งสองคน

 

“เราพักกันก่อน บลิงก์ เธอใช้ความสามารถติดต่อกันนานเกินไปเเล้ว”เพื่อนร่วมทีมอีกคนกล่าวบอก บลิงก์

 

โคลอสซัสไม่ได้พูดอะไรเขาเองก็เห็นใบหน้าของบลิงก์ซีดขาวเนื่องจากใช้ความสามารถมากเกินไป

 

พวกเขาทั้งสามคนได้รับภารกิจจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ดังนั้น บลิงก์ โคลอสซัส เเละ เพื่อนร่วมทีมอีกคน จึงได้ทำงานกันติดต่อมาเป็นระยะเวลามากกว่า 12 ชั่วโมง

 

หลังจากจบศึกกับไฮดร้าเมื่อวานนี้ ทีมX-MEN ก็ได้จับกุมพวกมิวแทนท์ขององค์กรไฮดร้า คนเหล่านี้ถูกล้างสมอง ตอนนี้ พวกเขาถูกจับตัวเอาไว้ในโรงเรียน X โดยศาสตราจารย์ชาร์ลส์กำลังหาวิธีที่จะช่วยพวกเขากลับคืนมาอยู่

 

เหตุการณ์เมื่อวานนี้หลังจาก มิราจไนท์ เเละ เร้ด สกัลล์ หายตัวไปพร้อมกับประตูมิติอวกาศ S.H.I.E.L.D ได้เข้าบุกฐานโจมตีพวกไฮดร้าอีกสองเเห่ง เเน่นอนว่าพวกเขาได้พบกับความสูญเสียขนาดหนัก เพราะสองฐานนั้นเต็มไปปด้วยพวกมิวแทนท์ที่เเข็งเเกร่ง โดยหนึ่งในนั้นมี ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ที่เคยก่อเหตุบนสะพานโกลเด้น เกต

 

หลังจากทราบข่าวศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ส่ง ทีมX-MEN ไปช่วยเหลือ ด้วยพลังการต่อสู้เเละการสนับสนุนจากเขา ทำให้ เป็นการง่ายมากที่จะติดตาม ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช

 

เเต่เพราะควิกซิลเวอร์ได้ใช้ความสามารถของตัวเองในการหลบหนีด้วยความเร็วสูง ทำให้ บลิงก์โคลอสซัส เเละ อีกเพื่อนร่วมทีมอีกคน ไม่สามารถตามได้ทัน เเละนี่ก็เป็นที่มา ที่พวกเขาไล่ล่ากันมาต่อต่อกันเป็นระยะเวลานานกว่า 12 ชั่วโมง

 

ตั้งเเต่กลางวันจนถึงกลางคืน ในช่วง กลางวัน ควิกซิลเวอร์ได้ใช้ความสามารถของตัวเอง เเน่นอนว่าบลิงก์เองก็เช่นเดียวกัน โชคดีที่พวกเขามีความสามารถในการติดตามของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่งั้นคงคาดจากการหลบหนีของ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิชไปเเล้ว

 

“เอาล่ะ ฉันพร้อมเเล้ว”บลิงก์ได้เปิดตาขึ้นเเละกล่าวออกมา

 

“อืม,ขอฉันดูตำเเหน่งพวกเขาก่อนตอนนี้”ได้ยินคำพูดของบลิงก์ จิตวิญญาณในการพิทักษ์คนดีของเพื่อนร่วมทีมอีกคนได้ถูกกระตุ้นขึ้น

 

พวกเขาได้ดูบนเครื่องมือที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เป็นคนให้มา

 

“พบเเล้ว”ตำเเหน่งอยู่ห่างจากเราประมาณ 35 กิโลเมตร มาดูกันว่าพวกเขาจะยังหลบหนีพวกเราได้อีกนานเเค่ไหน”เพื่อนร่วมทีมคนนี้กล่าวออกมาหลังจากนั้นก็บอกตำเเหน่งปัจจุบันของ สกาเล็ต วิช เเละ ควิกซิลเวอร์ ให้กับทั้งสองคน

 

ฮึ่ม

 

“ไปกันเถอะ!”

 

บลิงก์ได้โบกมือเปิดประตูมิติอวกาศในทันที

 

จากนั้นทั้งสามคนก็เข้าสู่ประตูมิติอวกาศเเละหายตัวไปยังตำเเหน่งของ ควิกซิลเวอร์ ตามเครื่องมือส่งสัญญาณของพวกเขา

 

ขณะที่ บลิงก์ เเละ เพื่อนร่วมทีม อีก 2 คนหายตัวเข้าไปในประตูมิติอวกาศ ทางด้าน ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ตวิช ,ควิกซิลเวอร์หลังจากวิ่งมาเป็นระยะเวลานานเขาก็ได้หยุดพัก

 

“เปโตร พวกเราจะหลบหนีพวกเขาได้รึไม่?”สกาเล็ต วิช กล่าวถาม ควิกซิลเวอร์พี่ชายของเธอ

 

ในช่วงเหตุการณ์เมื่อวานนั้น สกาเล็ต วิช ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ ทำให้ เปโตร ต้องพาเธอหลบหนี เเต่เพราะความสามารถในการล็อตจิตวิญญาณเป้าหมายของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ทำให้ สกาเล็ต วิช รู้สึกมีพลังต่อต้านไม่มากพอทำให้ เธอถูกโจมตีทางพลังจิตจนสาหัส

 

ตอนนี้ความสามารถของ สกาเล็ต วิช ได้ฟื้นฟูขึ้นมาบางส่วนเเล้ว เธอเชื่อว่าเธอสามารถป้องกันการติดตามของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ เเต่ ควิกซิลเวอร์ นั้นเขาเหนื่อยเกินไปที่จะหลบหนีอีกครั้ง

 

“เธอฟื้นคืนพลังก็ดีเเล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ฉันสามารถวิ่งต่อไปได้ อีกประมาณ 100 กิโลเมตร “เห็น สกาเล็ต วิช เป็นห่วง ควิกซิลเวอร์ กล่าวตอบ

 

“100 กิโลเมตร? เท่านั้นก็เพียงพอ ฉันสามารถป้องกันการล็อคจิตวิญญาณของศัตรูที่กำลังจับตามองเราอยู่ได้พวกเราคงจะหนีไปได้ไกลพอสมควร”ได้ยินคำตอบของ ควิกซิลเวอร์ สกาเล็ต วิช ตอบ

 

“เธอมั่นใจใช่ไหม?หากเธอทำไม่สำเร็จ บางทีพวกเราคราวนี้คงไม่มีสถานที่ให้หลบหนีอีก พวกเรายังไม่รู้เลยว่าทำไม พวกX-MEN ถึงไล่ตามเรา เร้ด สกัลล์ ได้ตายไปเเล้ว ตอนนี้พวกเราเป็นอิสระ เเต่ก็ไม่มีคนสนับสนุนเช่นเดียวกัน”ได้ยินคำพูดของ สกาเล็ต วิช เปโตร กล่าวอย่างจริงจัง

 

“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นพวกเรา”

 

“ก่อนหน้านี้ ในการต่อสู้กับทีมX-MEN พวกเราอาจจะไปกระตุ้นกระเเสสงครามทำให้มันเปลี่ยน ดังนั้นพวกเขาเลยต้องการจัดการพวกเรา” สกาเล็ต วิช กล่าวอธิบาย

 

คู่พี่น้อง สกาเล็ตวิช เเละ ควิกซิลเวอร์ พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไม ทีมX-MEN ถึงต้องไล่ล่าตัวเองเเม้พวกไฮดร้าจะถูกจัดการไปเเล้ว เเต่ถึงอย่างไร พวกเขาเป็นที่เเน่นอนว่าจะไม่ยอมถูกจับกุมตัวโดยง่าย

 

พวกเขาเชื่อว่า ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะต้องมีจุดประสุงค์ประอย่าง อย่างเเน่นอน พวกเขาหารู้ไม่ว่า เป็นเพราะ มิราจไนท์ ที่ได้เเจ้งเรื่องสำคัญต่อศาสตราจารย์ชาร์ลส์เกี่ยวกับสองพี่น้องคู่นี้ เพราะพวกเขาทั้งสองคนมีโอกาสกลายเปป็นมิวแทนท์ระดับ 5 มาก ดังนั้น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ

 

“ไม่ดีเเล้ว พวกเขาไล่ตามมาทันเเล้ว!”ขณะที่ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช กำลังครุ่นคิด สกาเล็ต วิช ก็กล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว

 

“เปโตร ฉันได้เริ่มป้องกันพลังจิตเเล้ว พวกเราจะต้องรีบหลบหนี จำเอาไว้ว่า หากเราหลบหนีพวกเขาไกลมากกว่า 100 กิโลเมตร พวกเขาจะไม่สามารถไล่ตามเราได้อีก”สกาเล็ต วิช อธิบาย

 

ฟุ่บ!

 

“ไปกันเถอะ!”หลังจากที่เส้นเเสงสีเเดงของสกาเล็ต วิช ครอบคลุมพวกเขาทั้งสองคน ควิกซิลเวอร์ก็ตะโกนออกมา

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้น ควิกซิลเวอร์ ก็ได้อุ้ม สกาเล็ต วิช อีกครั้ง เเละ เเปรเปลี่ยนตัวเองเป็นความเร็วพุ่งออกไปยังสถานที่ห่างไกล

 

ฟ้าวว

 

ขณะที่ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช เริ่มหลบหนีอีกครั้ง ทางด้าน โคลอสซัส เองก็รีบเร่งอย่างมาก เพราะ ตอนนี้ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ได้เริ่มวิ่งหนีหายไปไกล

นิวยอร์ก,สตาร์กอินดัสตรีท์ ชั้นบนสุด เป็นเวลากว่าสองชั่วโมงหลังจากผ่านศึกการต่อสู้กับพวกไฮดร้า โทนี่ ได้กลับไปที่ นิวยอร์กพร้อมกับปีเตอร์ ตอนนี้ปีเตอร์นั่งอยู่ในห้องทำงานหรูของโทนี่

 

ปีเตอร์ตอนนี้มีหน้าตาที่ทุกข์ร้อนอย่างมากชุดสไปเดอร์แมนของเขาเเม้จะถูกพังทำลายไปเเล้วเเต่เขาก็ไม่ได้ถอดออก อาการบาดเจ็บของเขาไม่ต้องพึ่งยายีนใด ๆ เพียงเเค่ปล่อยให้มันรักษาตัวเอง

 

ฟุ่บ!

 

“J.A.R.V.I.S ได้ข่าวของเเจ็คสันบ้างไหม?”ในที่สุดปีเตอร์ที่เดินไปมาหลายสิบรอบ เขาได้เดินไปที่หน้าโต๊ะทำงานเเละสอบถาม

 

“ยังไม่พบเลยครับ”J.A.R.V.I.S ได้ตอบคำถามเดิม ๆ เกี่ยวกับเรื่องของ เเจ็คสัน

 

เป็นเวลากว่าสองชั่วโมงกว่าเเล้ว ที่ เร้ด สกัลล์ เเละ เเจ็คสันได้หายตัวไปเข้าไปในประตูมิติ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลข่าวสารใดๆ จาก เเจ็คสันเลยเเม้เเต่น้อย จากการสันนิษฐาณตามข้อมูลความเเข็งเเกร่งของประตูมิติอวกาศมีโอกาสน้อยมากที่เเจ็คสันเเละ เร้ด สกัลล์ จะยังมีชีวิตอยู่

 

ยิ่งไปกว่านั้นเเม้พวกเขาจะมีโอกาสรอดเพียงน้อยนิด เเต่สถานที่ที่ส่งพวกเขาไปก็ไม่เเน่ชัด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหาพวกเขาในระยะเวลาอันสั้นถ้าเกิดพวกเขารอดเเละถูกส่งไปสถานที่ใดสักสถานที่นึงภายในโลกนี้

 

ปั้ง!

 

ได้ยินเสียงตอบรับของ J.A.R.V.I.S เเน่นอนว่า ปีเตอร์รู้สึกอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก เขาได้ออกเเรงทุบไปที่โต๊ะทำงานของโทนี่เข้าอย่างจัง ๆ โชคดีที่โต๊ะของโทนี่ได้รับการออกเเบบเป็นอย่างดีไม่งั้นคงพังไปด้วยความเเข็งเเกร่งของสไปเดอร์แมนเเล้ว

 

ขณะที่ปีเตอร์กำลังระบายความโกรธเพราะไม่ได้รับข่าวสารจากเเจ็คสันเพื่อนของเขา ขณะเดียวกัน เสียงของลิฟท์ก็ได้ดังขึ้น โทนี่ได้ก้าวออกมาจากลิฟท์ จากนั้น ปีเตอร์ที่เห็นโทนี่ เขาก็รีบกรูเข้าไปทางด้านหน้าลิฟท์ทันที

 

“คุณ สตาร์ก! ทางด้าน S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมX-MEN ได้ข่าว เเจ็คสันบ้างไหม?”ปีเตอร์รีบถามเรื่องข่าวของเเจ็คสันกับโทนี่

 

เห็นใบหน้าที่ดูกังวลของปีเตอร์ โทนี่ ถอนหายใจออกมาอย่างเงียบ ๆ เขาไม่ได้ตอบคำถามของปีเตอร์ เเละเดินออกจากลิฟท์ก่อนที่จะเดินไปที่โซฟานั่งเล่นของเขา

 

“ปีเตอร์เธอนั่งลงก่อนเถอะ”มาถึงโซฟา โทนี่ กล่าวพูด กับปีเตอร์

 

ฟุ่บ!

 

เพื่อให้ได้ข่าวของเเจ็คสัน ปีเตอร์ เชื่อฟังคำพูดของโทนี่อย่างรวดเร็ว

 

“ฉันได้ติดต่อ กับ ทีม X-MEN เเละ S.H.I.E.L.D. ดูเเล้ว พวกเขาได้ทำการค้นหา มิราจไนท์ เเละ เร้ด สกัลล์ กันอย่างต่อเนื่อง เเน่นอนว่าพวกเขาพบฐานของพวกไฮดร้าเล็ก ๆ อีกสองฐาน เเต่ยังไม่พบเส้นทางที่ เร้ด สกัลล์ กับ มิราจไนท์ พลัดหลงไป”เห็นปีเตอร์กังวล โทนี่ เชื่อว่า มันคงจะดีหากพูดความจริงเรื่องนี้ออก

 

มิราจไนท์ เเละ เร้ด สกัลล์ ถูกกลืนหายเข้าไปในประตูมิติอวกาศ เรื่องนี้ S.H.I.E.L.D. กับ ทีมX-MEN ก็พยายามค้นหาสถานที่ที่น่าจะตกลงไป หากพวกเขามีโอกาสรอด เเน่นอนว่าทั้งคู่ย่อมต้องอยู่สถานที่เดียวกัน

 

ดังนั้น S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมX-MEN จึงหวังให้ ทั้งคู่รอด เเต่โอกาสที่ทั้งสองคนจะรอดนั้นมีน้อยมาก พวกเขาทั้งหมดได้ทุ่มทรัพยากรเต็มกำลังในการค้นหา เเต่ก็ยังไม่พบวี่เเววเเม้เเต่น้อย

 

พวกเขาเชื่อว่าสถานที่ที่ เร้ด สกัลล์ ตั้งไว้ ย่อมเป็นฐานไฮดร้าไม่ผิดเเน่

 

เเต่เพราะความไม่เสถียรของประตูมิติอวกาศสถานที่ปลายทางอาจจะไม่เเน่ชัด ดังนั้นพวกเขาจึงอาจถูกส่งไปยังสถานที่ไหนสักเเห่งในโลกนี้

 

“ยังไม่พบสินะ?ไม่สิ เเม้จะยังไม่พบพวกเราจะต้องหาต่อไป ผมเชื่อว่า เเจ็คสันจะต้องไม่เป็นอะไร ไม่มีทางที่เขาจะเป็นอะไรไปอย่างเเน่นอน”ได้ยินคำพูดของโทนี่ ปีเตอร์ ลุกขึ้นยืนเเละตะโกนขึ้น

 

ในช่วงวินาทีที่ปีเตอร์ เห็น เเจ็คสัน เเละ เร้ด สกัลล์ ถูกกลืนไปในประตูมิติอวกาศในเวลานั้นสัญชาตญาณของปีเตอร์ร้องตะโกนให้รีบหลบหนีไม่ควรเข้าไปเสี่ยงกับพลังงานระดับสูงนั่น เเต่ใจของเขายึดมั่นจ้องมองไปที่เพื่อนสนิทคนนี้ เเละ ก้าวเดินออกไปหวังจะคว้าตัวเพื่อนสนิทคนนี้เอาไว้ให้ได้ เเต่มันไม่ได้ นี่เป็นเรื่องที่เขารู้สึกเสียใจอย่างมาก

 

“เธอสบายใจเถอะ ไม่ว่าอย่างไร พวกเราจะไม่หยุดค้นหา เเจ็คสัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันเชื่อว่าพวกเราจะต้องเจอเขาอย่างเเน่นอน…”

 

โทนี่ไม่รู้ว่าเเจ็คสันจะต้องเผชิญหน้ากับเรื่องอะไร เเต่โทนี่มีความมั่นใจในตัวเเจ็คสันสูงมาก

 

“เเฮร์รี่,เจอร์รี่ เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ทุกคน พวกเราไม่สามารถอยู่ต่อไปได้หากไม่มี มิราจไนท์ พวกเราไม่สามารถสูญเสียเเจ็คสันไปได้”ปีเตอร์ตะโกนเสียงเเผ่วเบาออกมา

 

เห็นการกระทำของปีเตอร์ โทนี่ ไม่ได้ปลอบอะไรอีกต่อไป มันจะดีกว่าหากปล่อยให้ปีเตอร์จมปรักอยู่กับความหวังเหล่านั้น

 

“ปีเตอร์เธอไปทำความสะอาดเเล้วกลับบ้านก่อนเถอะ เรื่องข่าวการหายตัวไปของเเจ็คสันไม่ต้องบอกพ่อเเม่กับเขา ฉันจะเเจ้งพ่อเเม่เเจ็คสันว่าเขามาช่วยงานฉันที่นี่ ธรรมชาติ ถ้าเขา…ไม่สิ อย่างเเรกคือ เธอจะต้องปรับสภาพอารมณ์ของเธอเองในตอนนี้”โทนี่ กล่าวออกมา

 

โทนี่รู้ดีว่า เเจ็คสัน เป็นเพื่อนกับ ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ทั้งยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น ๆ อีกหลายคน หากสูญเสียเเจ็คสันไป มันถือเป็นเรื่องร้ายเเรงอย่างมากอีกอย่างพ่อกับเเม่ของเเจ็คสันจะต้องโกรธโทนี่เเน่นอน เเต่โทนี่ก็เตรียมพร้อมรับมือเสมอไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางหลีกหนีเรื่องที่ว่า เเจ็คสันคือฮีโร่ตัวจริงได้อีก

 

“ผมเข้าใจเเล้ว ขอบคุณมากคุณสตาร์ก”ได้ยินคำพูของโทนี่ ปีเตอร์ กล่าวตอบ

 

จากนั้นปีเตอร์ก็สงบลงหากเเจ็คสันเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ เเม้เเต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้จะบอกพ่อกับเเม่ของเเจ็คสันว่าอย่างไรดี

 

หลังจากผ่านไป 20 นาที ปีเตอร์ ก็ทำความสะอาดตัวเเละออกจากอุตสาหกรรมสตาร์กโดยกลับบ้านไปพร้อมกับเสื้อผ้าใหม่ที่เขาเตรียมไว้ โทนี่ ที่เห็น ปีเตอร์ จากไปเขาถอนหายใจออกมา

 

“เเจ็คสัน,เจ้าเด็กคนนี้ ตอนนี้เธอกำลังทำให้พวกเรากังวลอยู่นะรู้ตัวบ้างไหม!”

หลังจากปีเตอร์เเละกองทัพไอรอนแมนจากไป สตอร์ม ก็เดินมาที่เบื้องหน้าของกัปตันโรเจอร์ส เเม้เธอจะไม่รู้ว่าสมควรถามหรือไม่เเต่เธอก็ต้องการรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

 

“กัปตันโรเจอร์สเกิดอะไรขึ้นที่นี่?”สตอร์มพยายามหน้าหนาเพื่อกล่าวถามกัปตันโรเจอร์ส

 

เป้าหมายหลักของ ทีมX-MEN คือช่วยเหลือในการกำจัดพวกไฮดร้าที่มีพวกมิวแทนท์หลงผิด เเน่นอนว่า ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้บอก สตอร์ม เรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์ เพียงเเค่ให้ สตอร์ม ผสานงานกับ กัปตันโรเจอร์ส ดังนั้น สตอร์ม จึงสงสัยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

“ฉันจะเเจ้งศาสตราจารย์ชาร์ลส์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้พวกเราคงต้องรีบเก็บกวาดฐานไฮดร้าเเห่งนี้ทั้งหมดเสียก่อน”กัปตันโรเจอร์สในปัจจุบันเเน่นอนว่าเขาไม่มีอารมณ์อยากจะตอบคำถามของสตอร์ม เกี่ยวกับเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์ กัปตันโรเจอร์สเชื่อว่ามีน้อยคนที่รู้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อธิบายให้สตอร์มฟัง

 

“เช่นนั้นก็ได้”สตอร์มไม่คิดว่ากัปตันโรเจอร์สจะบ่ายเบี่ยงเธอ เเต่เธอก็ไม่ได้สงสัยเเละกล่าวถามอะไรต่อ

 

จากนั้นกัปตันโรเจอร์สก็เดินไปช่วยพยุงฮอว์กอายเเละคนอื่น ๆลุกขึ้นจากพื้นดินเเรงสั่นสะเทือนเมื่อครู่ทำให้ ฮอว์กอายเเละคนอื่น ๆ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เเม้ร่างกายของพวกเขาจะเเข็งเเกร่งเเต่ก็ไม่ได้เทียบเท่ากัปตันโรเจอร์สเเละสไปเดอร์แมนโดยเฉพาะฮอว์กอายเขาบาดเจ็บหนักสุด

 

“ไม่เป็นอะไรนะ”กัปตันโรเจอร์สกล่าวพูดกับพวกเขาทั้งหมด

 

นอกจากฮอว์กอายเเล้ว ฟอลคอน เเละ เเดร์เดวิล ก็มีสภาพไม่สู้ดีนัก โชคดีที่พวกเขาได้รับยายีนรักษาในทันทีทำให้อาการบาดเจ็บเริ่มทุเลาลงไปช้า ๆ

 

“ฉันไม่เป็นไร”ฮอวก์อายรู้สึกระบมไปทั้งตัวเเต่เขาก็ไม่ต้องการให้เพื่อนร่วมทีมเป็นห่วง

 

“มิราจไนท์เเละสไปเดอร์แมนไปไหน!?”ทันทีที่ฮอว์กอายกล่าวตอบ เเดร์เดวิล เเมตต์ เพิ่งจะนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ได้ มิราจไนท์ได้หายตัวไปพร้อมกับ เร้ด สกัลล์ ในพื้นที่ประตูมิติ

 

“สไปเดอร์แมนเพิ่งออกจากที่นี่ไปเมื่อครู่ สำหรับมิราจไนท์ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกับนายนั่นเเหละ”ได้ยินการสอบถามของ เเดร์เดวิล กัปตันโรเจอร์ส กล่าวตามตรง

 

“บ้าเอ้ย!”ได้ยินคำตอบที่คลุมเครือของกัปตันโรเจอร์ส เเดร์เดวิล สบถออกมา

 

จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็ออกจากฐานโดยตรงเพราะได้รับยารักษาทำให้การเริ่มฟื้นฟูขึ้นมาทีละน้อย ส่วนกัปตันโรเจอร์ส ต้องการเเยกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

 

สำหรับเเดร์เดวิล เขารู้สึกเป็นห่วงมิราจไนท์อย่างมาก สัญชาตญาณของเขาร้องเตือนว่ามิราจไนท์ย่อมไม่ตายง่าย ๆ อย่างเเน่นอน

 

ส่วนกัปตันโรเจอร์สเขาที่เเบกฮอว์กอายเเละฟอลคอนตอนนี้ใบหน้าทั้งสองคนก็ซีดขาวมาก

 

“พวกเราออกจากสถานที่เเห่งนี้กันเถอะที่เหลือปล่อยให้ S.H.I.L.D จัดการ”กัปตันโรเจอร์สไม่มีอารมณ์ที่จะอยู่ที่่นี่ต่อ ทั้งเพื่อนร่วมทีมของเขายังบาดเจ็บสาหัส พวกเขาเหล่านี้ต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว

 

ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส ฮอว์กอาย เเละ ฟอลคอน พยักหน้าตอบรับ การต่อสู้ของพวกเขาในวันนี้ จบลงที่การหายตัวไปของเพื่อนร่วมทีมเเละหัวหน้าองค์กรไฮดร้า

 

โอกาสที่พวกเขาจะมีชีวิตอยู่นั้นมีน้อยมาก ถ้าเกิดเป็นเช่นนั้นจริง การเสียสละของมิราจไนท์ก็ค่อนข้างน่าสงสารทีเดียว สำหรับ ฟอลคอน เขาคิดว่า มิราจไนท์ เเม้จะมีโอกาสรอดน้อย เเต่เขาก็หวังให้มิราจไนท์รอดออกมา สำหรับพวกทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ปีเตอร์ เเละ เเดร์เดวิล พวกเขาเชื่อมั่นว่าเเจ็คสันจะต้องรอดอย่างเเน่นอน

 

หลังจากทั้งหมดได้เเยกย้ายกันออกไป ทีมX-MEN ก็ได้ส่งคนมาจัดการนำพวกมิวแทนท์ที่ถูกจับภายในฐานไปพวกเขาได้จับกุมคนเหล่านี้เอาไว้

 

 

สำหรับปีเตอร์เขาได้ออกมานอกฐานนานเเล้ว ท้ายที่สุดเขาก็เปิดหมวกออกเเละจ้อองมองไปที่ท้องฟ้าราวกับกำลังสวดภาวนา

 

“J.A.R.V.I.S เเจ็คสันจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”คราบน้ำตาได้เปื้อนสองเเก้มของปีเตอร์ ตอนนี้ เพื่อนที่ดีที่สุดของเขา มีโอกาสที่จะจบชีวิตสูงมาก

 

“ปีเตอร์ ผมเสียใจที่จะต้องพูดความจริงกับคุณ เเต่ความเป็นไปได้นั้นมีน้อยมาก”J.A.R.V.I.S เเม้จะมีลักษณะอารมณ์ที่เข้าใกล้มนุษย์ เเต่เขาก็ยังไม่ถึงขั้นเรียกว่ามนุษย์เต็มตัว ดังนั้นเขาจึงกล่าวตามผลการวิเคราะห์

 

“ไม่จริง ถ้า เร้ด สกัลล์ มันกล้าที่จะเปิดประตูมิติอวกาศนั่น มันจะต้องรู้ก่อนอยู่เเล้วว่ามันจะต้องปลอดภัยอย่างเเน่นอน”ปีเตอร์ไม่เชื่อการวิเคราะห์ของ J.A.R.V.I.S

 

“ปีเตอร์ กลับกันเถอะ ส่วนเรื่องเเจ็คสันพวกเราค่อยหารือกันอีกที”เมื่อเสียงของปีเตอร์สิ้นสุดลง เสียงของโทนี่ ได้ดังขึ้น

 

ผลลัพธ์ที่ J.A.R.V.I.S คาดเดา นั้นไม่ได้มีผลกับปีเตอร์คนเดียวมันย่อมมีผลกับโทนี่ด้วย เเจ็คสัน สำหรับโทนี่เเล้วเขาเป็นเหมือนคนในครอบครัว โทนี่ มีหน้าที่ดูเเล เเจ็คสัน สำหรับเขาการสูญเสียเเจ็คสันไปเขาก็ย่อมทำใจได้ยากเหมือนกัน เเละ โทนี่ ก็เหมือนกับปีเตอร์ เขาเชื่อว่า เเจ็คสันยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักเเห่งอย่างเเน่นอน

 

เพราะว่าโทนี่รู้ว่าเเจ็คสันเป็นเด็กที่ค่อนข้างลึกลับ เขายังมีความลับอีกมากมายที่โทนี่ยังไม่รู้ เเม้ความเเข็งเเกร่งของลูกบาศก์เวทมนตร์จะสูง เเต่เเร่งระเบิดสะท้อนนั้นก็ปรากฏออกมาเเค่ด้านนอกไม่มีอะไรรับประกันว่าหลังจากเข้าไปจะได้รับเเรงปะทะจากคลื่นพลัง

 

“คุณ สตาร์ก,เเจ็คสัน เขา…”

 

“เธอสบายใจเถอะ ฉันเองก็เชื่อมั่นว่าเเจ็คสันยังไม่ตาย ตราบเท่าที่เขายังมีชีวิตอยู่ไม่ว่าเขาจะถูกส่งไปที่ไหน ฉันก็จะไปพาเขากลับมาให้ได้”ได้ยินเสียงสะอื้นของ ปีเตอร์ โทนี่ กล่าวปลอบ

 

“อืม,ผมก็เชื่อมั่นว่าเเจ็คสันยังมีชีวิตอยู่”

 

 

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปหลังจากที่ เร้ด สกัลล์ เเละ เเจ็คสันหายตัวไปในประตูมิติอวกาศ ฐานไฮดร้าเเห่งนี้ ก็ถูกกวาดล้างโดยองค์กร S.H.I.E.L.D. พวกเขาได้ทำลายฐานขนาดใหญ่เเห่งนี้เเละเก็บกวาดทุกสิ่งที่สามารถเก็บกวาดไปได้ทั้งหมดเเต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่มีใครดีใจเเม้เเต่น้อย

 

เพราะพวกเขาได้เสียสละตัวตนอันสำคัญไป เป็นฮีโร่ที่อยู่ในใจของพวกเขา วีรกรรมของ ฮีโร่ที่เสียสละคนนี้จะจารึกในใจของพวกเขาตลอดไป

 

(HAPPY END 555) ยัง ๆ

เมื่อกัปตันโรเจอร์สตะโกนออกมา เร้ด สกัลล์ ก็เห็นเขา เเต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก ประตูมิติอวกาศเบื้องหน้าของเขากำลังเปิดออก สำหรับกัปตันอเมริกาศัตรูเก่าคนนี้ ตราบเท่าที่เขายังครอบครองลูกบาศก์เวทมนตร์อยู่ เเม้จะมีกัปตันอเมริกาหลายสิบคนก็ยังไม่คณามือของเขา

 

“ได้เวลาเเล้ว!”เห็นประตูมิติด้านหน้าขยายออกไปจนมีความกว้างมากกว่า 1 เมตร เร้ด สกัลล์ คิดว่ามันใหญ่พอที่จะเข้าไปเเล้ว เเม้ข้างในจะมืดสนิท เเละเเผ่กระจายกลิ่นอายที่เย็นชาออกมา รวมถึงสถานที่ที่ไม่ได้เลือกเเน่ชัด ตอนนี้ เร้ด สกัลล์ หาได้สนใจ

 

ฟุ่บ!

 

เร้ด สกัลล์ ไม่ได้เลือกที่จะลังเล ทันทีที่เขาเดินเข้าประตูมิติเเละปิดกล่อง ประตูมิติจะหายไปในทันที ไม่มีความจำเป็นจะต้องเข้าปะทะ ตราบเท่าที่ เขายังอยู่ ไฮดร้า จะสามารถลับมาได้อีกครั้ง

 

เห็นว่า เร้ด สกัลล์ เตรียมจะหลบหนีด้วยประตูมิติ สีหน้าของพวกกัปตันโรเจอร์สดูกังวลมาก ปีเตอร์ได้บอก ให้J.A.R.V.I.S ใช้ปืนเลเซอร์ระดมยิงเพื่อโจมตี เร้ด สกัลล์ เเต่มันก็ถูกขวางโดยประตูมิติ ดูเหมือน ประตูมิติอวกาศจะมีความสามารถในการป้องกันระดับสูง

 

“ฮ่าฮ่า,พวกเเกไม่สามารถหยุดฉันได้!”เห็นการเคลื่อนไหวของตัวเองก้าวนำเหนือคนเหล่านั้น เร้ด สกัลล์ หันมาเยาะเย้ย พวกกัปตันโรเจอร์ส

 

“ถ้าคิดจะหนี! ต้องถามฉันว่าฉันอนุญาติหรือยัง!”ในขณะที่ พวกของกัปตันโรเจอร์สพลันกังวล เเจ็คสันก็ปรากฏตัวเข้าใกล้ เร้ด สกัลล์

 

“ระเบิดพลังภายใน!”

 

ปั้ง

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาเดียวที่เเจ็คสันกล่าวพลังงานภายในสีม่วงอ่อนได้ปะทุออกจากร่างกายของเขาจากนั้นปีเตอร์เเละคนอื่น ๆ ก็เห็นว่าความเร็วของมิราจไนท์นั้นรวดเร็วขึ้น

 

“ระวัง!”

 

“!”

 

เห็นว่าเเจ็คสันทุ่มพลังงานเต็มพิกัดในการพุ่งไปข้างหน้า กัปตันโรเจอร์ส เเละ ปีเตอร์ รู้สึกตกใจอย่างมาก การที่ เร้ด สกัลล์ สามารถหลบหนีไปได้เเน่นอนว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เเต่ถ้าหากต้องสูญเสียมิราจไนท์เเละหายไปพร้อมกับพวกมันนี่อาจไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดี

 

อย่างไรก็ตามเเจ็คสันได้เดิมพันทุกอย่างเอาไว้โดยการทอยลูกเต๋าเพียงครั้งเดียว เขายังมีโอกาสที่จะสังหาร เร้ด สกัลล์ เเละ จัดการทุกอย่างให้จบในทันทีได้ทันอยู่ เเต่ความเสี่ยงอีกอย่างก็คือเขารุดหน้าเข้ามาคนเดียวหากพลาดโน ลูกบาศก์เวทมนตร์โจมตีคงจบสิ้นกันเเน่

 

ปั้ง!

 

พวกปีเตอร์เเละคนอื่น ๆ ต่างตะโกนร้องด้วยความเป็นห่วง เเจ็คสัน กำลังจะเข้าไปในประตูมิติอวกาศพร้อมกับ เร้ด สกัลล์ สถานที่ที่ปรากฏนั้นไม่เเน่นอน มันมีความเสี่ยงสูงอย่างมาก

 

ฟุ่บ!

 

วินาทีต่อมา เเจ็คสัน ได้ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้า เร้ด สกัลล์ ก่อนที่จะถูกดึงหายเข้าไปในประตูมิติอวกาศ ซึ่งเเน่นอนว่า พวกปีเตอร์เเละคนอื่น ๆ ได้เร่งฝีเท้ามากขึ้นเพื่อหวังจะตามเข้าไป

 

เปรี้ยง!

 

เพียงเเต่ประตูมิติอวกาศได้ระเบิดคลื่นกระเเทกออกมาส่งผลให้ปีเตอร์เเละคนอื่น ๆ ถูกคลื่นกระเเทกลอยไปไกล โดยเฉพาะฮอว์กอาย ร่างกายของเขา เปราะบางกว่าคนอื่น ๆ ทำให้ ได้รับความเสียหายจากเเรงกระเเทกโดยตรง สำหรับ กัปตันโรเจอร์ส ปีเตอร์ นั้น ร่างกายของพวกเขาเเข็งเเกร่งมาก ไม่นานก็สามารถฟื้นคืนสติกลับมาได้ในที่สุด

 

ผ่านไปสองวินาทีหลังจากประตูมิติหายไปคลื่นกระเเทกระลอกที่สองที่รุนเเรงกว่าเดิมก็ถูกปล่อยออกมาอีกครั้งทำให้ ปีเตอร์ คนอื่น ๆ เเละกองทัพไอรอนแมน ส่งผลให้ลอยกระเด็นกลับไปอีกรอบ

 

เเจ็คสันได้หายไปพร้อมกับ เร้ด สกัลล์ ส่วนสถานที่ที่ประตูมิติอวกาศส่งไปก็เป็นสถานที่ที่ไม่เเน่นอนไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาถูกส่งไปที่ไหน การที่ เเจ็คสันยอมลงทุนขนาดนั้นเห็นได้ชัดว่าเขาบ้ามาก หากผิดพลาดนิดเดียวเขาคงจบสิ้นไปพร้อมกับ เร้ด สกัลล์ อย่างเเน่นอน

 

ปั้ง!

 

ปีเตอร์ที่เห็นเเจ็คสันโดดเข้าไปในดงของศัตรูเพียงคนเดียวเขาต่อยหมัดลงพื้นทันทีด้วยความเเข็งเเกร่งของชุดเกราะไอรอนแมนทำให้พื้นสั่นสะเทือนเเละเกิดหลุมเท่ากำปั้นของปีเตอร์

 

“เเจ็คสัน!!”เสียงของปีเตอร์สะอึกสะอื้นมากตอนนี้เขาไม่รู้ความเป็นตายร้ายดีของเเจ็คสันทำให้เขารู้สึกกังวล

 

ฟุ่บ!

 

ปีเตอร์ตั้งใจจะตอกหมัดลงไปอีกทีเพื่อระบายความโกรธเเต่กัปตันโรเจอร์สได้มาถึงที่ข้างหลังของเขาพร้อมกับยกมือจับไปที่ไหล่เพื่อปลอบเเน่นอนว่าเขาไม่รู้จะสรรหาคำพูดใด ๆ มาปลอบดี เเต่เขารู้ดีว่า มิราจไนท์ เป็นเพื่อนที่ดีเเละสำคัญกับสไปเดอร์แมนมาก

 

“เร้ด สกัลล์ ถึงเเม้ว่าฉันอยากจะคิดว่าเเกตาย เเต่เเกคงไม่ตายง่ายๆเพียงเพราะรอดผ่านช่องว่างมิตินี้”สีหน้าของกัปตันโรเจอร์สไม่สู้ดีอย่างมากเขาเองก็อยากให้ เร้ด สกัลล์ ตาย เเต่ถ้า เร้ด สกัลล์ ตายมีโอกาส สูงมาก ที่มิราจไนท์ จะเสียชีวิตไปพร้อม กับ เร้ด สกัลล์

 

ฟุ่บ!

 

หลีงจากนั้นไม่นานสตอร์มก็ตามมาจากด้านหลังเธอได้ช่วยมิราจไนท์จัดการศัตรูที่ขวางทางก่อนหน้านี้เลยตามมาช้า

 

เห็นคนอื่นๆ นอนบาดเจ็บกัน โดยเฉพาะฮอว์กอาย รวมถึงใบหน้าที่ดูผิดหวังของกัปตันโรเจอร์ส เเละ สไปเดอร์แมน ที่ทิ้งเข่าลงบนพื้น สตอร์ม คาดเดาได้ว่าคงเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

 

สีหน้าของเธอเองก็ไม่สู้ดีเท่าไหร่

 

“มิราจไนท์ล่ะ?”หลังจากสังเกตุเห็นว่ามิราจไนท์หายตัวไป สตอร์ม กล่าวถาม กัปตันโรเจอร์สด้วยความสงสัย

 

ฟุ่บ!

 

กัปตันโรเจอร์สไม่ได้ตอบสตอร์มในทันที ปีเตอร์ที่ได้ยินคำพูดเขาลุกขึ้นยืน

 

“กัปตันโรเจอร์สฉันขอตัว”ปีเตอร์ยืนขึ้นเเละเตรียมจะจากไปจากที่นี่

 

“อืม”

 

จากนั้นปีเตอร์ก็เดินจากไปโดยไม่ได้กล่าวทักทายสตอร์มเเละคนอื่น ๆ เขาได้ใช้ระบบการบินของไอรอนแมนเพื่อออกจากช่องทางเเห่งนี้ให้เร็วที่สุด

 

สตอร์ม”…”

 

สตอร์มกำลังคิดว่าตัวเธอเองคงอ่านบรรยากาศเมื่อครู่ไม่ได้ดีเท่าไหร่เพราะคำถามเมื่อกี้อาจจะเป็นคำถามที่ไม่ควรถามที่สุดในเวลานี้

ขณะที่เเจ็คสันกำลังมุ่งหน้าเดินทางไปยังด้านหลังกำเเพง พวกคนอื่น ๆ ก็ติดตามไปโดยไม่ได้สนใจว่าด้านหลังกำเเพงมีสิ่งใด

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าหลังจากปีเตอร์ก้าวพ้นผ่านกำเเพงเข้ามาเขาได้สัมผัสถึงพลังงานที่คุ้นเคย นั่นก็คือ พลังงานจากลูกบากศ์เวทมนตร์ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งใดอื่นหากจะให้บอกก็คือเเจ็คสันได้รู้ตำเเหน่งของพวกศัตรูที่ถือครองลูกบาศก์เวทมนตร์เเล้ว

 

ขณะที่ปีเตอร์สัมผัสรับรู้ J.A.R.V.I.S ก็สามารถสัมผัสความผันผวนที่ผิดปกตินี้ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงกล่าวรายงานกับ โทนี่ ซึ่ง โทนี่ได้สั่งให้ J.A.R.V.I.S ช่วยเหลือ เเจ็คสันในการชิง ลูกบาศก์เวทมนตร์มาอย่างเต็มที่ เเต่ข้อสำคัญก็คือความปปลอดภัยของ เเจ็คสัน

 

เมื่อเปรียบเทียบกับ ปีเตอร์ เเละ J.A.R.V.I.S คนอื่น ๆ เพียงรู้ว่า จะต้องมีกลุ่มคนของพวกไฮดร้าหรือพวกระดับสูงของไฮดร้าใช้เส้นทางนี้หลบหนีเเน่นอน

 

เมื่อเเจ็คสันเร่งฝีเท้าเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ จิตใจของเขาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เขาสามารถยืนยันได้จากเเหล่งพลังที่กำลังเข้าใกล้ ไม่ผิดเเน่ ลูกบาศก์เวทมนตร์อยู่ที่นี่

 

พลังงานของลูกบาศก์เวทมนตร์ได้ชักจูง เเจ็คสัน ให้มุ่งหน้ามาทางนี้ เขาได้เร่งฝีเท้ามากขึ้น ขณะเดียวกันพื้นที่ห้องราวกับถูกบิดเบือนจากความจริง มีกำเเพงสูงมากมายขึ้นมาปิดกั้นเส้นทางที่เเท้จริงเพื่อสับหลอกพวกเเะจ็คสัน

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่เเจ็คสันหาได้สนใจ เขากระโดดขึ้นไปเเละใช้ดาบสายฟ้าของเขาวาดฟันโจมตีสิ่งกีดขวางที่กำลังบิดเบือนพื้นที่เเห่งนี้โดยไม่สนใจสิ่งใด

 

ฟวั่บ

 

เเน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้อาจหลอกคนอื่น หรือ คนธรรมดา ได้ เเต่สำหรับเเจ็คสันที่ถูกพลังของลูกบาศก์เวทมนตร์ดึงดูดย่อมไม่หลงกลโดยง่าย พริบตาเดียว เขาก็กลับเข้าสู่เส้นทางหลักอีกครั้ง

 

นอกจากกำเเพงลวงตาเเล้วก็ยังมีกลุ่มคนปรากฏขึ้นซึ่งเเจ็คสันไม่รีรอ กลุ่มคนเหล่านี้คือทหารวินเทอร์โซลเยอร์เเละมิวแทนท์ที่ถูก เร้ด สกัลล์ ทิ้งไว้ ถ่วงเวลาศัตรู

 

เเจ็คสันไม่ต้องการสูญเสียเวลาเขาลงมือจัดการศัตรูจนกระเด็นล่าถอยออกไป เเน่นอนว่า ด้วยความช่วยเหลือของสตอร์ม การจัดการศัตรูภายในพื้นที่เเห่งนี้ย่อมรวดเร็วชนิดที่ว่าไม่เป็นอุปสรรคต่อพวกเขา อีกต่อไป

 

หลังจากเเก้ปัญหาเรื่องกำลังคนที่คอยขัดขวางเขาเสร็จ เเจ็คสัน ก็มองเห็นตำเเหน่งกลุ่มคนที่อยู่ด้านหน้า ในกลุ่มคนเหล่านั้นมีเเสงสีฟ้าสว่างวาบอยู่ ซึ่ง เเจ็คสันเห็นวัตถุเเสงสีฟ้าที่สว่างวาบอยู่ในมือของคนคนนึงที่คุ้นเคย

 

“มันเป็น เร้ด สกัลล์ จริง ๆ”มองเห็นคนคนนึงที่ถือลูกบาศก์เวทมนตร์อยู่เเจ็คสันกระซิบกระซาบในใจ

 

ในเวลานี้ เร้ด สกัลล์ ได้มีลูกทีมจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น พวกมิวแทนท์ หรือ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ตอนนี้ เร้ด สกัลล์ ได้หยุดลงที่ทางเดินซึ่งอยู่ห่างไม่ไกลจากเเจ็คสันมากนักเขากำลังจะใช้ลูกบาศก์เวทมนตร์เพื่อลองเปิดประตูมิติดู

 

ซึ่งเเจ็คสันที่อยู่ไม่ไกลเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเขายังไม่ได้กระโจนออกไปสร้างความตกใจให้เเก่ศัตรูเพียงจ้องมองการกระทำของศัตรูอย่างไม่ละเว้น

 

“เขาจะเปิดใช้ประตูมิติอวกาศ?ถ้าเขาทำได้เขาจะหลบหนีสำเร็จ”เห็นการกระทำของ เร้ด สกัลล์ เเจ็คสัน กระซิบกับตัวเอง ซึ่งเเจ็คสันที่ยืนยันได้เเน่ชัดว่าศัตรูกำลังจะใช้ลูกบาศก์เวทมนตร์เพื่อหลบหนีเขาได้เร่งฝีเท้าก้าวเดินอีกครั้งโดยไม่สนใจว่ารอบตัวของ เร้ด สกัลล์ จะมี กองทัพรายล้อมคุ้มกันมากน้อยเเค่ไหน

 

เห็นได้ชัดว่า เร้ด สกัลล์ กำลังจะใช้ ประตูมิติอวกาศในการหลบหนี ซึ่งเเจ็คสันไม่มีทางปล่อยให้พวกมันทำได้ ความเเข็งเเกร่งของลูกบาศก์เวทมนตร์นั้นมีสูงมาก อัตราที่ เร้ด สกัลล์ จะเปิดประตูมิติ สำเร็จ ย่อมเป็นไปได้น้อย เเต่เเจ็คสันไม่กล้าที่จะเสี่ง

 

หึ่ม!

 

ภายใต้การกระตุ้นของ เร้ด สกัลล์ ลูกบาศก์เวทมนตร์ในมือได้ถูกกระตุ้นเเละปรากฏคลื่นความผันผวนออกมากระจายไปทั่วทุกทิศทาง เร้ด สกัลล์ ได้กระตุ้นมันโดยอาศัยความเสี่ยงที่อาจจะมาพร้อมกับความผิดพลาด เดิมพันการหลบหนีในครั้งนี้

 

หึ่ม

 

ในที่สุด ความหวัง ของ เร้ด สกัลล์ ก็สำเเดงผล กลุ่มก้อนพลังงานได้รวมตัวกันจนเกิดเป็นช่องว่างมิติขนาดไม่ใหญ่มาก ทั้งยังไม่เสถียรภาพเท่าไหร่ จุดที่จะส่งก็ไม่เเน่ชัด เเต่ เร้ด สกัลล์ หาได้สนใจ ตราบเท่าที่สามารถหนีไปจากที่นี่ได้ โอกาสที่เขาจะกลับมาอีกครั้งย่อมมีความเป็นไปได้สูง

 

“เร้ด สกัลล์!!”กัปตันโรเจอร์ส ที่ตามด้านหลังของ เเจ็คสันมา หลังจากเห็น เร้ด สกัลล์ ที่อยู่ไม่ไกล พร้อมกับที่เขากำลังเปิดประตูมิติอวกาศ เสียงของกัปตันโรเจอร์สได้ตะโกนขึ้นอย่างประหลาดใจ

 

กัปตันโรเจอร์สสามารถจดจำได้ว่าบุคคลตรงนั้นคือใคร มันคือโจทย์เก่าของเขาเมื่อ 60 ปีที่เเล้ว ในมือของมันถือลูกบาศก์สีฟ้าที่เขาเหมือนจะจำได้อย่างลาง ๆ ศัตรูเก่า คนนี้ที่น่าจะตายไปตั้งเเต่ 60 ปี ก่อนกลับยังอยู่ เร้ด สกัลล์ เเม้ว่าจะฟื้นคืนชีพมาจากความตาย เเต่เขาหาได้พิเศษมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป มีเพียงรูปลักษณ์ของเขาที่เปลี่ยนไป เร้ด สกัลล์ คือบุคคลนึงที่ได้รับเซรุ่มเหนือมนุษย์เหมือนกับกัปตันโรเจอร์ส

 

การที่ เร้ด สกัลล์ สามารถรอดตายมาได้ มันทำให้กัปตันโรเจอร์สโกรธมาก ซึ่งกัปตันโรเจอร์สเชื่อว่าในตอนนั้น เร้ด สกัลล์ ไม่ได้ตายจริง ๆ คงจะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักเเห่ง โดยที่ไม่ได้เปิดเผยตัวเองออกมา

 

เเม้ว่า กัปตันโรเจอร์ส ต้องการจะจัดการ เร้ด สกัลล์ ด้วยตัวเอง เเต่ตำเเหน่งของ เขากับ เร้ด สกัลล์ นั้นค่อนข้างไกล ซึ่ง เร้ด สกัลล์ กำลังจะใช้ประตูมิติอวกาศเพื่อหลบหนี คนเดียวที่พอจะหยุดเขาได้ในตอนนี้ก็คือ เเจ็คสัน ที่มีระยะห่างจาก เร้ด สกัลล์ เพียงเล็กน้อย

ขณะที่ เร้ด สกัลล์ กำลัง หลบหนี พร้อมลูกบาศก์เวนทมนตร์ เสียงการปะทะได้ดังมาจากทางด้านหน้าเเละด้านหลังนั่นก็คือ ทีม อัลฟ่า เเละ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ของเขาที่กำลังเข้าปะทะ

 

ฟุ่บ!

 

ฟอลคอนที่ตามมาจากทางด้านหลังด้วยปีกกลอันคล่องเเคล่วของเขาทำให้ความเร็วของเขายอดเยี่ยมมาก เเต่ด้วยสถานที่ที่ไม่กว้างขวางเเละทีมอัลฟ่าที่มีอาวุธครบมือรวมถึงอาวุธคลื่นสั่นสะเทือนทำให้ ฟอลคอน ต้องสูญเสียเวลาในการรับมือศัตรู

 

ฟอลคอนได้พยายามโจมตีกลับซึ่งเเน่นอนว่าทำให้เหล่าศัตรูบาดเจ็บ เเม้เเต่ตัวเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน เเต่ศัตรูกลับได้ทำสิ่งที่ฟอลคอนคาดไม่คิดก็คือ การเเลกชีวิตกับเขาอยู่ที่นี่

 

หลังจากฟอลคอนได้เเลกมือกับศัตรูเพียงคนเดียว สิบวินาทีต่อมา พวกของกัปตันโรเจอร์ส ก็ตามมาสบทบข้างหลังทำให้เเรงกดดันที่ฟอลคอนเผชิญหน้าลดน้อยลงมาก

 

“กัปตันโรเจอร์สพวกเรากำลังถูกตรึงเเละถ่วงเวลาเอาไว้อยู่ที่นี่!”เเม้กัปตันโรเจอร์สจะมาเข้าร่วม เเต่ปืนคลื่นสั่นสะเทือนนั้นเป็นอาวุธที่ร้ายกาจมาก มันไม่สามารถเเก้ปัญหาได้โดยง่าย

 

เป้าหมายของพวกเขาคือการหยุดยั้งพวกไฮดร้าที่กำลังหลบหนี เเต่ทหารที่ถูกทอดทิ้งเหล่านี้กลับขวางกั้นพวกเขาโดยไม่คิดเสียดายชีวิต

 

ฟุ่บ

 

ได้ยินเสียงของ ฟอรนอคน กัปตันโรเจอร์ส เลิกคิ้วขึ้น เขารู้ดีถึงสถานการณ์ที่กำลังเผชิญหน้า ก่อนหน้านี้ กัปตันโรเจอร์ส เคยเผชิญหน้ากับทหารวินเทอร์โซลเยอร์อยู่ สามครั้ง เพื่อนของเขาก็เคยเป็นหนึ่งในทหารวินเทอร์โซลเยอร์ บัคกี้ บาร์นส์ พวกทีมอัลฟ่าเหล่านี้เองก็ไม่ต่างกัน คนเหล่านี้ถูกล้างสมองเเละได้รับคำสั่ง ดังนั้นกัปตันโรเจอร์สจึงไม่ต้องการเอาชีวิตของพวกเขา

 

“ไม่ต้องกังวล พวกเรามาถึงเเล้ว!”ขณะที่ กัปตันโรเจอร์ส กำลังเงียบขรึม เสียงของ เเจ็คสันได้ดังขึ้นอย่างกระทันหัน

 

!

 

ทันทีที่เสียงของเเจ็คสันปรากฏขึ้นเเสงเลเซอร์จำนวนมากได้ยิงไปทางข้างหน้าซึ่งเป้าหมายก็คือการปิดกั้นทีมอัลฟ่าเเละทหารวินเทอร์โซลเยอร์ที่กำลังเข้าปะทะกับพวกของเขา

 

เมื่อชุดเกราะไอรอนแมนเข้าร่วมสนามรบการมีอยู่ของทีมอัลฟ่าเเละทหารวินเทอร์โซลเยอร์ก็ไม่มีความหมายอีกต่อ

 

ขณะที่ทางด้านเเจ็คสันจัดการกองทัพเด็กที่ถูกทอดทิ้งของ เร้ด สกัลล์เสร็จ พวกเขาก็มุ่งหน้าเดินทางต่อไปพร้อมกับกัปตันโรเจอร์ส

 

บึ้ม!

 

ทางด้านทีม X-MEN เอง ผลลัพธ์การต่อสู้ก็ถูกกำหนดออกมาเเล้ว ซึ่งฝ่ายชนะย่อมเป็นทีมX-MEN มิวแทนท์ที่ถูกส่งมาโดยพวกไฮดร้าย่อมไม่ใช่คู่มือของ ทีมX-MEN

 

ทั้งสองทีมที่กำจัดศัตรูเเต่ละด้านเสร็จพวกเขาได้เร่งมุ่งหน้าเดินทางมาต่อ ซึ่ง ขณะที่ เเจ็คสันกำลังมุ่งหน้าเดินทาง ทีมX-MEN ที่โทนี่หมายถึง เธอน่าจะเป็น สตอร์ม มีโอกาสมากถึง 5ส่วน

 

“เป็นสตอร์มจริง ๆ ?ศัตรูหายไปไหน หรือว่าใช้เส้นทางอื่นหลบหนี?”เมื่อเห็นสตอร์มปรากฏขึ้น เเจ็คสันที่สวมใส่ชุดเกราะไอรอนแมนอยู่ได้กล่าวถามสตอร์มอย่างเร่งรีบ

 

พวกกัปตันโรเจอร์สได้ปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของพวกไฮดร้าจากด้านหลัง เเละ สตอร์ม ได้ปรากฏตัวขึ้นเพื่อปิดเส้นทางหลบหนีจากด้านหน้าความเป็นไปได้เดียวก็คือศัตรูใช้เส้นทางอื่นหลบหนี

 

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ส่งฉันมาดักหน้าพวกมัน เเต่ที่ฉันเผชิญหน้าเมื่อครู่มีเพียงเเค่ พวกมิวแทนท์ เพียงเท่านั้น ฉันยังไม่เห็นกลุ่มคนของพวกไฮดร้าเลยสักคนบางทีพวกมันอาจเปลี่ยนเส้นทางหลบหนี”สตอร์มที่เห็นมิราจไนท์ออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมนพร้อมกับอาการบาดเจ็บ เธอรีบกล่าวอธิบาย

 

“ใช้เส้นทางอื่น?”ได้ยินคำพูดของสตอร์ม ดวงตาของ เเจ็คสันสาดประกายเล็กน้อย

 

จากนั้นเเจ็คสันก็ใช้ เทคนิครู้เเจ้ง กระจายพื้นที่ออกไป หากเป็นสัมผัสด้านอันตราย สัญชาตญาณเเมงมุมของปีเตอร์สามารถเเสดงผลได้ดีกว่ามาก เเต่หากเป็นการตรวจสอบการเคลื่อนไหวโดยรอบ เทคนิค รู้เเจ้ง ย่อมมีผลลัพธ์ที่่ดีกว่า

 

ฟุ่บ!~

 

ขณะที่ เเจ็คสันกำลังปิดตาเริ่มต้นใช้เทคนิครู้เเจ้ง ปีเตอร์ที่อยู่ด้านหลังก็เดดินเข้ามา

 

เเต่ปีเตอร์ไม่ได้ออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมนเพราะชุดของเขาได้ถูกทำลายกลายเป็นเศษผ้าขี้ริ้วไปเเล้ว

 

สตอร์มเเละพวกกัปตันโรเจอร์สที่เห็นมิราจไนท์หลับตาพวกเขาก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร เพราะคิดว่า มิราจไนท์ คงกำลังใช้วิธีพิเศษบางอย่างเพื่อค้นหาเส้นทางหลบหนีของศัตรู

 

เเจ็คสันที่ใช้เทคนิครู้เเจ้งอยู่เขาได้สเเกนพื้นที่ต่าง ๆ เเละดูเหมือนจะมีเส้นทางนึงใกล้ ๆ นี้ที่มีการเคลื่อนไหวอันผิดเเปลก

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากตรวจสอบได้เเล้วเเจ็คสันก็เพ่งพลังจิตเต็มที่เพื่อตรวจหาการเคลื่อนไหวของเส้นทางหลบหนีที่เขารู้สึกเเปลกประหลาดใจ

 

“ฮู้ว เจอเเล้ว!”เเจ็คสันได้เปิดเปลือกตาขึ้น เมื่อครู่ ทันทีที่เเจ็คสันใช้พลังจิตมุ่งเข้าไปใกล้ศัตรูเขาได้ถูกสลายพลังจิตลง เเจ็คสัน สัมผัสได้ถึงพลังงานอันเเข็งเเกร่งที่บดขยี้พลังจิตตัวเอง ไม่ต้องสงสัยว่านั่นคือพลังจากลูกบาศก์เวทมนตร์อย่างเเน่นอน

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้เริ่มเคลื่อนไหวไปยังทิศทางนึง ซึ่ง กัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่น ๆ ก็รีบตามไป เพราะการเคลื่อนไหวของมิราจไนท์นั้นเร็วมาก

 

ด้านหน้าของเเจ็คสันคือกำเเพงใหญ่สูงสิบเมตร เเจ็คสันได้ควักดาบอัสนีของเขาออกมาเเละกวัดเเกว่งเป็นเส้นทางด้านหน้าโดยตรง

 

ฟวั่บ!

 

เเสงสีม่วงของใบดาบได้วาดผ่านกำเเพงเเบ่งออกเป็นช่องใหญ่ ทันทีที่ดาบของเเจ็คสันทำลายกำเเพงลงด้านหลังของกำเเพงก็เผยเส้นทางหลบหนีขึ้น

 

ตึก ตึก!

เเจ็คสันนึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมามากกว่า 60 ปี ในสถานการณ์ตอนนั้นพวกไฮดร้าได้ครอบครองลูกบาศก์เวทมนตร์ เเละนับว่าเป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดขององค์กรไฮดร้า ไม่เพียงเเต่พวกมันสามารถควบคุมสงครามโลกครั้งที่สองได้เท่านั้น สหภาพโลกทั้งหมดได้รวมตัวกันเพื่อต่อต้านพวกมัน

 

อย่างไรก็ตามจุดจบของพวกไฮดร้าเมื่อ 60 ปี ที่เเล้ว ก็คือคุณงามความดีของกัปตันอเมริกา สตีฟ โรเจอร์ส ได้บุกฐานใหญ่ของพวกไฮดร้าเพียงลำพังเเละจัดการผู้นำของพวกไฮดร้า เร้ด สกัลล์ ได้ในที่สุด จากนั้นกัปตันโรเจอร์สก็น่าจะกลับมาพร้อมกับลูกบาศก์เวทมนตร์ก่อนที่จะร่วงหล่นจากเครื่องบินขณะสู้กัน เดิมมันควรจะเป็นแบบนี้

 

เเต่ตอนนี้ ลูกบาศก์เวทมนตร์ยังอยู่ในมือของพวกไฮดร้า เร้ด สกัลล์ ที่น่าจะตายไปเเล้ว อาจจะมีชีวิตอยู่ เเจ็คสันเชื่อแบบนั้น เเต่ความเป็นไปได้มันต่ำมาก

 

เเต่เเจ็คสันก็ไม่กล้าคาเดาเท่าไหร่ หาก เร้ด สกัลล์ ยังไม่ตาย เช่นนั้นความจริงที่ว่า ลูกบาศก์เวทมนตร์อาจอยู่ในมือของเขา เป็นไปได้มากที่สุด

 

พล็อตเรื่องทั้งหมดอาจจะเปลี่ยนเเปลงไปนิดหน่อยตามสถานการณ์เเต่เหตุการณ์ที่มักเปลี่ยนเเปลงนั้นมักเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากในอดีตพล็อตเรื่องถูกเปลี่ยนเป็นไม่มีกัปตันอเมริกา บางทีโลกนี้ในตอนนี้อาจถูกครอบครองโดยพวกไฮดร้าไปเเล้วก็ได้

 

“60 ปีที่เเล้ว? เธอหมายถึงอะไร?”ได้ยินคำตอบของ เเจ็คสัน โทนี่ ยิ่งสงสัยเข้าไปอีก เขาไม่สามารถคาดเดาความคิดของ เเจ็คสันได้

 

“ผมเองก็ยังไม่เเน่ใจ ดังนั้นผมจึงต้องการยืนยันบางอย่าง ตอนนี้สิ่งสำคัญก็คือพวกเราต้องรีบมุ่งหน้าไปยังตำเเห่นงนั้นให้เร็วที่สุด”เเจ็คสันไม่ได้อธิบายต่อ เขากำลังคิดถึงเรื่องของ เร้ด สกัลล์ ในตอนนี้

 

“อืม หากเธอว่าเช่นนั้น … จริงสิ นอกจาก ทีมของกัปตันโรเจอร์สเเล้ว ในทิศทางนั้นยังมีคนของ ทีมX-MEN อยู่ด้วย”เพราะมีคำถามมากมาย ดังนั้น โทนี่ จึงลืมที่จะบอกเรื่องนี้

 

“ทีม X-MEN? พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังตำเเหน่งนั้น?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันถามในทันที

 

“ฉันเองก็ไม่เเน่ใจ เเต่อย่างไรก็ตาม ทีมX-MEN เป็นคนแบ่งปันข่าวนี้ให้กับเรา อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาได้ตัดสินใจมุ่งหน้าไปก่อน”เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ ทีมX-MEN โทนี่ ไม่สามารถรู้ได้เเน่ชัด

 

“ช่างเถอะ ถึงอย่างไร พวกเขาก็เป็นหนึ่งในพวกของเรา พวกเราเองก็ใกล้จะถึงเเล้ว! ปีเตอร์ เตรียมพร้อม”

 

“ฉันพร้อมอยู่นานเเล้ว!”

 

ฟุ่บ!

 

ในเส้นทางใต้ดินที่มืดสลัว ชุดเกราะไอรอนแมนกว่า 10 ตัว ได้เคลื่อนที่มุ่งหน้าอยู่ห่างจากตำเเหน่งของกัปตันโรเจอร์สอีกเพียงไม่ก่ร้อยเมตร ระยะทางเพียงเเค่นี้ ใช้เวลาน้อยกว่าสิบวินาทีก็น่าจะถึง

 

 

ฟุ่บ

 

ในขณะที่ พวกของเเจ็คสันกำลังมุ่งหน้าไป ทางด้าน เร้ด สกัลล์ ที่กำลังหลบหนี ตอนนี้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ เขาดูข้อมูลผ่านเเทปเล็ตข้อมูล เห็นกัปตันโรเจอร์ส ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางเขาพร้อมกับกองทัพไอรอนแมนจำนวนมากที่อยู่ไม่ไกล เร้ด สกัลล์ รู้ในทันทีว่าตำเเหน่งของตัวเองคงถูกเปิดเผยเเล้ว

 

“บ้าเอ้ย! พวกมันรู้ได้ยังไง!”เร้ด สกัลล์ กำหมัดเเน่น ขณะที่ วิ่งหลบหนีอย่างรวดเร็ว

 

“พวกเเกทั้งหมด คุ้มกันฉัน”เร้ด สกัลล์ หันไปสั่งทีม อัลฟ่า เเละ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ที่มากับเขา

 

“ครับ”หลังจากที่ เร้ด สกัลล์ ออกคำสั่ง ทหารหลายคนที่อยู่รอบข้าง เร้ด สกัลล์ ก็ปฏิบัติตามอย่างไม่เกี่ยง

 

ในความคิดของ เร้ด สกัลล์ นักวิจัยจำนวนมากได้ติดตามรับใช้เขาเป็นเวลานาน คนเหล่านี้ไม่สามารถทอดทิ้งได้โดยง่าย เเต่พวก มนุษย์กลายพันธุ์ ทีมอัลฟ่า หรือ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์เหล่านี้ คือตัวทดลองของเขา เเม้จะสูญเสียไปเเต่เขาก็สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้

 

ฟุ่บ!

 

เร้ด สกัลล์ ได้เร่งฝีเท้าหลบหนีภายใต้การปกป้องของคนเหล่านี้ ชีวิตของคนเหล่านี้ไม่สลักสำคัญอะไรกับ เร้ด สกัลล์มาก เขาไม่สนใจว่าคนเหล่านี้จะตายหรือไม่ ขอให้ตัวเองรอดเท่านั้น เร้ด สกัลล์ เชื่อว่าชีวิตของตัวเองสำคัญที่สุด

 

ปั้ง!

 

ทางด้านหลังไม่ไกลจากตำเเหน่งของ เร้ด สกัลล์ เสียงปะทะ ได้ดังเข้ามาใกล้ เรื่อย ๆ เป็นที่เเน่นอนว่าบุคคลที่ตามมาก็คือ ฟอลคอน เขากำลังปะทะกับกลุ่มเฝ้าระวังคุ้มกันของ เร้ด สกัลล์ อยู่

 

ได้ยินเสียงที่ตามติดมาจากทางด้านหลัง ผิวของ เร้ด สกัลล์ กลายเป็นน่าเกลียด ขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้โอกาสที่ พวกเขาจะหลบหนีอย่างปลอดภัยมีน้อยมาก เเม้ ทีมอัลฟ่า เเละ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ จะเเข็งเเกร่ง เเต่ก็คงต้านศัตรูเอาไว้ไม่ได้นาน เร้ด สกัลล์ เชื่อว่าอีกไม่นาน กองทัพศัตรูก็จะมาสมทยในที่สุด

 

“ท่าน เร้ด สกัลล์ มีบุคคลปรากฏตัวขึ้นขวางเส้นทางของเรา”ขณะที่ เร้ด สกัลล์ กำลังวิ่งหนีอยู่ พวกมิวแทนท์ ที่เฝ้าระวังอยู่ทางด้านหน้าก็กล่าว ออกมา มิวแทนท์ คนนึงมีความสามารถในการตรวจจับการเคลื่อนไหวโดยรอบ เเละ เขาสามารถสัมผัสได้

 

“มันเป็นใคร?”ได้ยินคำพูดของ มิวแทนท์ คนนึง เร้ด สกัลล์ ตะโกนขึ้น

 

“ฝ่ายตรงข้ามเป็น มิวแทนท์”คนคนนี้อธิบายเพียงเล็กน้อย

 

“มิวแทนท์ ?! ไอ้เวรเอ้ย ทีมX-MEN”ได้ยินคำตอบ เร้ด สกัลล์ สบถด่าออกมา

 

ทีม X-MEN หลังจากผสานงานกับ S.H.I.E.L.D. เสร็จ พวกเขาก็เคลื่อนไหวอย่างลับ ๆ เเละไปดักรอทางด้านหน้าที่ เร้ด สกัลล์ ใช้หลบหนี เห็นได้ชัดว่า ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ให้ความสำคัญกับกลุ่มที่หลบหนีของพวกไฮดร้านี้อย่างมาก เเละ มีโอกาสที่ กลุ่มเหล่านี้ จะถือครอง ลูกบาศก์เวทย์มนตร์อยู่

 

“แก ไปจัดการซะ ส่วนเเก เเละ เเก ตามฉันมา”เร้ด สกัลล์ ชี้ไปที่คนกลุ่มนึงเเละกล่าวสั่งการ

 

เขาส่งพวกมิวแทนท์ที่มีความสามารถในด้านการโจมตี ไป หยุด ทีม X-MEN

 

เร้ด สกัล์ ได้นำ มิวแทนท์ ที่มีความสามารถในการตรวจสอบ เเละ มิวแทนท์ระดับ 4 อีกคน มุ่งหน้าเปลี่ยนทิศทาง นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเขา หากเขาไม่หนีในตอนนี้ก็จะไม่มีโอกาส เเม้มันจะยากลำบาก เเต่การหลีกเลี่ยงการตกไปอยู่ในมือของ S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมX-MEN ก็เป็นตัวเลือกที่ดี

 

“ครับ!”มิวแทนท์กลุ่มนึงเเละอีกไม่กี่คนได้มุ่งหน้าไปกับ เร้ด สกัลล์ เเละ ไปตำเเหน่งของ ทีมX-MEN พวกเขามีหน้าที่ปกป้องคุ้มกัน เร้ด สกัลล์

 

ความล่าช้าเล็กน้อยอาจนำมาซึ่งหายนะ เร้ด สกัลล์ ไม่ต้องการเสียเวลาที่นี่นานนัก

 

“นี่มันเเย่มาก!”เร้ด สกัลล์ สบถออกมาเมื่อเห็นหนทางที่หลบหนีกำลังถูกปิดตายไปทีละทาง

 

ฟุ่บ

 

เร้ด สกัลล์ ได้ตัดสินใจใช้อีกเส้นทางเเละมุ่งหน้าหลบหนีเต็มกำลังอีกครั้ง

ปั้ง!

 

สัตว์กลายพันธุ์สองตัวได้ถูกพวกของกัปตันโรเจอร์สจัดการจนกระเด็นล่าถอยออกไป สัตว์กลายพันธุ์เหล่านี้ก็คือสัตว์ป่าที่ถูกนำมาทดลอง ลักษณะของมันยังคงเค้าโครงรูปลักษณ์ของสัตว์ป่าเเต่ที่เเปลกไปก็คือร่างกายบางส่วนเเละพละกำลังที่เหนือสามัญสำนึก ทำให้มันกลายเป็นศัตรูที่อันตราย

 

ในระหว่างทางกัปตันโรเจอร์สคิดอยู่เสมอ ตั้งเเต่เริ่มต้นเดินทาง ทีมของพวกเขาได้เผชิญหน้ากับ ทีมอัลฟ่า เเละ สัตว์ป่ากลายพันธุ์ ตอนนี้พวกมันกำลังเปิดฉากโจมตี ทีมอเวนเจอร์สทั้ง 4 คนอยู่ซึ่งพวกกัปตันโรเจอร์สต้องใช้ความเเข็งเเกร่งมากมายเพื่อที่จะจัดการพวกมัน

 

ทั้งสี่คนพยายามอย่างหนักมากเมื่อเทียบกับการเผชิญหน้ากับมนุษย์ด้วยกันเองเเล้วสัตว์กลายพันธุ์เหล่านี้นับว่ามีอันตรายมากกว่านี้ เพียงเเต่ไม่นาน กัปตันโรเจอร์สก็เหมือนได้ยินช่องสัญญาณสื่อสารดังขึ้น

 

“สตีฟ ความเร็วของพวกคุณช้าไป! เส้นทางด้านหน้าของคุณน่าจะเป็นพวกระดับสูงขององค์กรไฮดร้าที่กำลังหลบหนี ไอรอนแมนของ ฉัน, มิราจไนท์ เเละ สไปเดอร์แมน กำลังมุ่งหน้าไป ต้องรบกวนให้พวกคุณรีบไปช่วยถ่วงเวลารอพวกเรา”โทนี่กล่าวพูดขึ้น

 

“กัปตันโรเจอร์ส ในเส้นทางของคุณ เป็นไปได้ว่าจะเป็นบุคคลที่พวกเรากำลังตามหาตัวอยู่ หวังว่าพวกคุณที่อยู่ใกล้ที่สุดจะรีบมุ่งหน้าไปถ่วงเวลา พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปยังเส้นทางนั้น”เห็นกัปตันโรเจอร์สไม่ตอบ เสียงของ เเจ็คสัน ได้เเทรกขึ้น เมื่อเทียบกับน้ำเสียงของโทนี่ เสียงของเเจ็คสัน คาดว่าอยู่ในอารมณ์ที่ดี กัปตันโรเจอร์สสามารถคาดเดาได้ว่าคนกลุ่มนี้อาจเกี่ยวข้องกับลูกบาศก์เวทมนตร์

 

“มิราจไนท์ ส่งตำเเหน่ง ศัตรูมาให้ฉัน!”กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบกลับทันที

 

จากนั้น J.A.R.V.I.S ก็เเชร์ตำเเหน่งของ เร้ด สกัลล์ ที่กำลังหลบหนี ซึ่งกัปตันโรเจอร์สตรวจสอบมันเป็นทิศทางเเละตำเเหน่งที่อยู่ใกล้พวกเขา ในเวลานี้ พวก มิราจไนท์อยูห่างจากเขาไปไม่ไกลมาก เเต่พวกของกัปตันโรเจอร์สที่อยู่ใกล้ที่สุด เเน่นอนว่าหน้าที่สำคัญเลยก็คือต้องไปสะกัดถ่วงเวลาพวกที่กำลังหลบหนีก่อน

 

“เข้าใจเเล้ว,ฉันจะรีบไปหยุดพวกมัน!”เห็นตำเเหน่งของ เร้ด สกัลล์ กัปตันโรเจอร์ส รีบตอบกลับ

 

“สบายใจเถอะ ด้วยความเร็วของชุดเกราะไอรอนแมนของฉัน คาดว่าประมาณ 1 นาที น่าจะไปถึง”เสียงของโทนี่ได้ดังขึ้นอีกครั้ง

 

ปั้ง!

 

กัปตันโรเจอร์สพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มบุกฝ่าพวกสัตว์ป่ากลายพันธุ์ด้านหน้าอย่างเร่งรีบ

 

“ฟอลคอน! นายได้ยินคำพูดของ มิราจไนท์เเล้วใช่มั้ย พวกเราต้องหยุดเป้าหมายของพวกเราที่อยู่ด้านหน้าโดยเร็ว พวกเราไม่อาจเสียเวลาอยู่ที่นี่ได้อีกเเล้ว!”ด้วยความช่วยเหลือของ ฟอลคอน ทำให้กัปตันโรเจอร์ส สามารถฝ่าดง สัตว์ป่ากลายพันธุ์ได้

 

เเม้ว่าช่องทางพื้นที่จะไม่กว้างขวาง เเต่ด้วยความคล่องตัวของฟอลคอนเขาสามารถหลบหนีออกจากจุดนี้ไปได้อย่างไม่ยาก

 

!

 

ฟอลคอนที่ได้ยินเขาได้เปิดใช้กลไกการโจมตีที่ข้อมือเเละปีกด้านหลังเพื่อยิงระดมใส่สัตว์ป่ากลายพันธุ์เเละมุ่งหน้าเข้าไป

 

“เข้าใจเเล้ว! รบกวนพวกคุณคุ้มกันฉันด้วย!”ฟอลคอนพุ่งเข้าไปหวังจะจัดการพวกมันโดยเร็ว

 

“ฮอว์ก,เเดร์เดวิล! ช่วยสนับสนุนคุ้มกัน ฟอลคอน!”เห็นฟอลคอนมุ่งหน้าบินเข้าไป กัปตันโรเจอร์ส เร่งฝ่าเท้า พร้อมกับตะโกนบอก ฮอว์กอาย เเละ เเดร์เดวิล

 

ฟุ่บ

 

ฟิ้ว!

 

กัปตันโรเจอร์สได้โยนโล่ของตัวเองเพื่อเปิดทางด้านหน้า ทันทีที่โล่กระทบเข้ากับเป้าหมายมันก็เด้งกลับมาที่มือของกัปตันโรเจอร์สอีกครั้ง ซึ่งกัปตันโรเจอร์สได้โยนมันลอยกระเเทกให้ศัตรูกระเด็นถอยไปจำนวนมาก ทุกครั้งที่โยนเสร็จมันก็จะเด้งกลับมาราวกับอาวุธศักดิ์สิทธ์ส่วนตัวของกัปตันโรเจอร์ส

 

เมื่อกัปตันโรเจอร์สเปิดงาน ฮอว์กอาย เเละ เเดร์เดวิล ก็ประสานงานกันอย่างรวดเร็ว ฮอวก์อาย ได้ดึงลูกธนูของตัวเองออกมาสามดอกจากด้านหลังเเละขึ้นลำรอก่อนที่จะเล็งไปที่ด้านหน้า

 

ฟุ่บ!

 

ด้วยความชำนาญด้านศาสตร์การยิงธนูของฮอว์กอายทำให้เขาเหนี่ยวนำวิถีเเละยิงออกไป

 

!

 

ศรโลหะสามลูกพุ่งเข้าไปกระทบสัตว์ป่ากลายพันธุ์สองตัวที่กำลังปิดทางฟอลคอนอยู่ในขณะนี้

 

ฉึก!

 

ฟุ่บ!

 

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งวินาที ลูกศรทั้งสามลูกของฮอวก์อายได้ยิงเข้าไป ซึ่งทำให้ ฟอลคอน สามารถมุ่งหน้าเดินทางต่อได้อย่างสะดวก

 

สำหรับเเดร์เดวิล เขาไม่มีความสามารถในการโจมตีระยะไกล ดังนั้น จึงได้มุ่งหน้าไปสมทบจัดการศัตรูระยะใกล้เพื่อช่วยเหลือกัปตันโรเจอร์ส

 

ฟุ่บ!

 

ด้วยความช่วยเหลือจากจากเพื่อนร่วมทีมทั้งสามคน ฟอลคอน ได้ใช้ปีกของตัวเอง มุ่งหน้าผ่านเส้นทางตรงนี้ เเละไปยังตำเเหน่งที่โทนี่ ให้พวกเขา ส่วนพวกกัปตันโรเจอร์สที่เหลือ หากระยะเวลาจัดการศัตรูยังรวดเร็วเช่นนี้อยู่ อีกไม่ช้าพวกเขาก็จะตามไปสมทบได้ทัน

 

“ทางด้านกัปตันโรเจอร์สเหมือนจะเร่งมือกันเเล้ว”

 

“พวกเขาควรจะเข้าหยุดศัตรูได้ทัน ในช่วงที่พวกเรากำลังมุ่งหน้าเข้าไป”จากข้อมูลของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสัน สามารถรู้ได้ในทันทีว่าพวกกัปตันโรเจอร์สได้เร่งมือในการจัดการศัตรู

 

“เเจ็คสัน ฉันได้ส่ง ไอรอนแมน ที่เหลือทั้งหมด กำลังมุ่งหน้าไปเเล้ว ไม่ว่าศัตรูจะเเข็งเเกร่งขนาดไหน ตราบเท่าที่พวกมันไม่ใช้การโจมตีของลูกบาศก์เวทมนตร์ พวกเราย่อมสามารถจัดการมันได้ไม่ยาก”เสียงของ โทนี่ ได้ดังขึ้นเพื่อบอกกล่าวกับเเจ็คสัน

 

“ผมเข้าใจเเล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่ศัตรูกลุ่มที่หลบหนีจะมีลูกบาศก์เวทมนตร์อยูในมือ ท้ายที่สุดลูกบาศก์เวทมนตร์ก็เป็นอาวุธลับของพวกไฮดร้า พวกเราจะต้องชิงมันมาให้ได้ นอกจากนี้มันทำให้ผมคิดถึงบางอย่างขึ้นมา…”เเจ็คสันไม่รู้ว่าศึกนี้จะเป็นศึกสุดท้ายกับพวกไฮดร้าหรือไม่ เเต่ไม่ว่าอย่างไร เขาจะต้องชิงสเปซสโตนมาให้ได้ก่อนเป็นอันดับเเรก

 

“หืม?เเจ็คสันเธอหมายถึงอะไร?”โทนี่ ไม่รู้ว่า เเจ็คสันหมายถึงสิ่งใด เเต่เขาย่อมเชื่อข้อมูลที่เเจ็คสันบอก ทันทีที่สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนเเปลงทางด้านอารมณ์ของเเจ็คสัน ทำให้ โทนี่ อดที่จะถามออกมาไม่ได้

 

“มันเป็นเรื่องเมื่อนานมาเเล้ว มันผ่านไปมากกว่า 60 ปี ซึ่งผมไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้”เเจ็คสันได้ดึงสติกลับมาหลังจากได้ยินคำถามของ โทนี่

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่ เเจ็คสันตื่นขึ้นมา สิ่งเเรกของเขาก็คือการมองรอบตัว หลังจากมองไปทั่วทุกทิศทาง เเจ็คสันก็มองเห็นปีเตอร์ เเละ ชุดเกราะไอรอนแมน จากนั้นเเจ็คสันก็เห็นเครื่องมือตรงศูนย์กลางที่ถูกเป่าทิ้ง

 

“เเจ็คสัน,นายไม่เป็นอะไรนะ?”เห็นเเจ็คสันตื่นขึ้นมา ปีเตอร์ กล่าวถามด้วยความเป็นห่วง

 

“ฉันไม่เป็นไร เเค่ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย เพียงเเต่ว่าฉันคิดว่าปัจจุบันเรากำลังเจอปัญหาใหญ่เข้าให้เเล้ว”เเจ็คสันสั่นศีรษะในทันที

 

“เเจ็คสัน เธอจะบอกว่าปัญหาที่ว่านั่นก็คือ ลูกบาศก์เวทมนตร์ที่เเท้จริงไม่ได้อยู่ที่นี่ใช่มั้ย?”เห็นเเจ็คสันพูดถึงปัญหา โทนี่ กล่าวถามยืนยันความคิดของเขา

 

หากดูจากสถานการณ์โดยรวมเเล้วสิ่งนี้น่าจะเป็นคำตอบของคำถามมากที่สุด

 

“ถูกต้อง พวกไฮดร้า ได้ดึงพลังงานจากลูกบาศก์เวทมนตร์มาใช้ลงในบรรจุลูกบาศก์ทำขึ้นเหล่านั้น การต่อสู้ในวันนี้ เเม้พวกเราจะชนะ เเต่ในครั้งต่อ ๆ ไป พวกเราจะกำจัดมันยากขึ้น”เเจ็คสันพยักหน้าตอบความจริง

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำตอบของโทนี่ เเน่นอนว่า เเจ็คสันรู้สึกเจ็บปวดมาก เขาไม่ได้เจ็บปวดที่บาดเเผล เเต่เจ็บปวดเพราะคว้าน้ำเหลวในการมาครั้งนี้

 

ลูกบาศก์เวทมนตร์เหล่านี้เเม้ตัวเครื่องจะถูกทำลาย เเต่พวกไฮดร้าที่ครอบครองลูกบาศก์จริงเอาไว้อยู่ย่อมสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง อีกทั้งบางทีย่อมทรงพลังกว่าเดิมหลายเท่า

 

“เข้าใจเเล้ว ฉันจะส่งพวกเธอออกไปข้างนอกก่อน ฉันจะลองค้นหาสถานที่อื่น ๆ ภายในฐานี้อีกครั้ง เเละค่อยให้ S.H.I.E.L.D. ส่งกองทัพมากวาดล้าง สภาพปัจจุบันของพวกเธอไม่เหมาะที่จะอยู่ในสนามรบต่อ…”โทนี่ กล่าวออกมาเขาต้องการส่งคนเจ็บทั้งสองคนไปยังที่ปลอดภัยก่อนเป็นอันดับเเรก

 

“เรื่องนี้ไม่จำเป็น เเม้ว่าพวกเราจะได้รับบาดเจ็บ เเต่กำลังต่อสู้ของเราย่อมสูงกว่า หน่วยพิเศษของ S.H.I.E.L.D. มันจะดีกว่าหากเราจะช่วยให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุดในศึกครั้งนี้”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน ปฏิเสธทันที

 

“ผมเองก็เห็นด้วย คุณสตาร์ก พวกเราสบายดี”เห็นเเจ็คสันยืนหยัด ปีเตอร์ ก็พูดกับโทนี่ เเม้ชุดสไปเดอร์แมนจะถูกทำลาย เเต่พละกำลังของปีเตอร์ยังอยู่ดีครบ

 

“หากพวกเธอตัดสินใจเช่นนั้น ฉันก็คงไม่สามารถห้ามอะไรได้ เเต่พวกเธอต้องอยู่กับชุดเกราะไอรอนแมน ไม่งั้นฉันคงไม่สบายใจ”โทนี่ รู้ตัวว่าคงไม่สามารถโน้มน้าวเด็กสองคนนี้ได้ ดังนั้นจึงต้องปล่อยให้ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ทำตามความคิดของตัวเอง

 

“เข้าใจเเล้ว”เเจ็คสันไม่ได้กล่าวปฏิเสธ

 

“พวกเราจะลองหาเบาะเเสที่อยู่ของลูกบาศก์เวทมนตร์ในฐานนี้อีกครั้ง”เเจ็คสันที่ได้รับบาดเจ็บเขาได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาส่วนนึง ย่อมมีพละกำลังมากพอจะเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตามขณะที่เขาเตรียมจะมุ่งหน้าเดินไปทางออก ปีเตอร์ กลับไม่ได้เดินตามมาพร้อมกับยืนเหม่อลอยราวกับว่าเขากำลังจมดิ่งกับอะไรบางอย่าง

 

“ปีเตอร์?”

 

ฟุ่บ!

 

“เเจ็คสัน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ได้ติดต่อฉันมาเมื่อครู่!”เห็นเเจ็คสันตะโกนชื่อเขา ปปีเตอร์ กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น

 

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์?เขาพูดว่าอะไร?”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ เเจ็คสัน กล่าวถามอย่างเร่งรีบ เป็นครั้งเเรกที่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เข้าร่วมในสนามรบ บางทีเขาอาจจะค้นพบอะไรบางอย่าง

 

วิธีที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ใช้สื่อสารกับปีเตอร์อาจจะเป็นโทรจิต ที่เขาไม่ติดต่อหาเเจ็คสันโดยตรงอาจเป็นเพราะชุดสูทของเขาที่มีความสามารถต้านทานพลังจิต ดังนั้น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จึงติดต่อปีเตอร์เเทน

 

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เขาบอกว่า เขาค้นพบสถานที่เเห่งนึงภายในฐาน มันเป็นสถานที่ค่อนข้างพิเศาเเละบอกให้เรารีบมุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้นโดยเร็ว เเต่ทิศทางเต็มไปด้วยขวากหนามจำนวนมาก ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตั้งใจใช้พลังจิตของเขาในการจัดการศัตรู เเต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล”ปีเตอร์เเจ้งเรื่องที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์บอกเขาในทันที

 

ที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เตือนคงจะหมายถึงทีมพิเศษที่กำลังหลบหนี อาจเป็นไปได้ว่าเป็นตัวตนระดับสูงขององค์กรไฮดร้า เเละมันมีความสามารถที่ต้านทานพลังจิตได้ อย่างน้อยฟังจากคำพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์โอกาสที่ลูกบาศก์เวทมนตร์จะอยู่ในมือของคนเหล่านี้มีค่อนข้างมาก

 

“ไปกันเถอะ พวกเราต้องรีบเเล้ว! ถ้าหากลูกบาศก์เวทมนตร์จะอยู่ที่ไหนสักที่ล่ะก็มันต้องอยู่ในมือของคนเหล่านี้!”ได้รับข่าวนี้เเจ็คสันตื่นเต้นอย่างมาก ราวกับว่า พวกเขากำลังเห็นความหวัง

 

ฟุ่บ

 

“ดูเหมือนพวกเธอจะลืมเงื่อนไขของฉันไปเเล้วใช่มั้ย?”เเจ็คสันเเละปีเตอร์ที่กำลังวิ่งไปที่ทางออก ชุดเกราะไอรอนแมนสองตัวได้บินเข้าไปดักหน้าพวกเขา พร้อมกับเผยเสียงของโทนี่ออกมา

 

เเจ็คสันเเละปีเตอร์ได้มองหน้ากัน ก่อนที่จะเข้าไปสวมชุดเกราะไอรอนแมนอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ ฟุ่บ!

 

ผ่านไปไม่กี่วินาที ชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัว ก็หายไปจากพื้นที่นี้ มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์บอกตำเเหน่ง ชุดเกราะไอรอนแมนส่วนนึงถูกเเยกออกไป ในมือของพวกเขาถือกล่องลูกบาศก์เวทมนตร์อยู่ เเน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะต้องถึงมือของโทนี่ให้เร็วที่สุด

 

เเจ็คสันเเละปีเตอร์ได้มุ่งหน้าไปยังตำเเหน่งทิศทางที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์บอกภายใต้ความช่วยเหลือของชุดเกราะไอรอนแมน ตำเเหน่งที่พวกเขาไปนั้นก็คือทิศทางที่ เร้ด สกัลล์ กำลังใช้หลบหนีออกจากฐาน ก่อนหน้านี้ พวกเขาสำผัสได้ว่า รัศมีพลังสีฟ้าจากลูกบาศก์ทดลองเหล่านั้นได้หายไปเเล้ว

 

ขณะเดียวกัน ที่เเสงสีฟ้าหายไป โทนี่ ก็ได้ให้ J.A.R.V.I.S ส่งข้อความบอกนิค ให้ปลดอาวุธปืนใหญ่อนุภาคพลังงานลง เพราะเเสงสีฟ้าได้หายไปเเล้ว หากการโจมตีดังกล่าวยังเกิดผล คงได้ทำลายฐานไฮดร้าย่อยยับเป็นเเน่

 

เพื่อป้องกันไม่ให้ S.H.I.E.L.D. สร้างความเสียหายโดยไม่จำเป็น โทนี่ ได้เเนะนำให้ ส่ง กำลังรบภาคพื้นดินลงไปตรวจสอบเเละยึดพื้นที่โดยเร็วที่สุด

 

ไม่นานทหารกว่าหนึ่งพันคนได้ลงจากยานบินอวกาศมุ่งหน้าเข้าสู่ฐานทัพใต้ดินของไฮดร้าโดย โทนี่ ได้เเบ่งชุดเกราะไอรอนแมนไปกับทีม ต่าง ๆ ทีมละ สองตัว เพื่ออำนวยความสะดวกเเละความปลอดภัยของพวกเขา

 

ปั้ง

 

เสียงระเบิดได้ดังเริ่มต้นตั้งเเต่ทางเข้าฐานของพวกไฮดร้าตลอดจนถึงการบุกในปัจจุบัน ปฏิบัติการยึดฐานไฮดร้าของจริงกำลังจะเริ่มต้นในขณะนี้ !

เกี่ยวกับเรื่องเครื่องมือเหล่านั้น ชุดเกราะไอรอนแมนยังไม่ได้ดิ่งตรงไป เเน่นอนว่ามันได้ดิ่งตรงไปยังตำเเหน่งของ เเจ็คสัน เเละปีเตอร์ก่อน สำหรับ โทนี่ ความปลอดภัยของเเจ็คสันกับปีเตอร์ย่อมมาก่อนลูกบาศก์เวทมนตร์

 

ฟุ่บ!

 

ชุดเกราะไอรอนแมนได้ฉายเเสงลงบนร่างของเเจ็คสันเเละปีเตอร์เพื่อสเเกนดู จุดประสงค์เพื่อทราบสถานะปัจจบันของทั้งคู่ สภาพของพวกเขาทั้งสองคนค่อนข้างร่อนเเร่ โดยปีเตอร์นั้นชุดของเขาค่อนข้างร่อนเเร่ สำหรับ เเจ็คสัน ชุดสูทของเขาไม่ได้รับความเสียหายอะไร เพียงเเต่ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บหนัก

 

อึก!

 

“!” ขณะที่ J.A.R.V.I.S ทำการสำรวจร่างกายของ เเจ็คสัน เเละปีเตอร์ ดูเหมือน ปีเตอร์จะได้สติขึ้นมาอย่างกระทันหันเขาค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้น

 

“หืม?คุณสตาร์ก!?”ขณะที่ปีเตอร์ตื่นขึ้นมา เขาเห็นชุดเกราะไอรอนแมนอยู่ข้างหน้าจึงตะโกนออกอย่างประหลาดใจ

 

“สวัสดี ,ปีเตอร์ ผมJ.A.R.V.I.S ตอนนี้คุณสตาร์กอยู่ข้างนอก”ได้ยินเสียงของ ปีเตอร์ J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

 

“ปีเตอร์ เธอไม่เป็นอะไรนะ? เกิดอะไรขึ้น?”หลังจาก J.A.R.V.I.S ตอบ โทนี่ได้เปลี่ยนเป็นเสียงของเขาผ่านชุดเกราะไอรอนแมน

 

“!เเจ็คสัน”เพียงเเต่ในขณะที่โทนี่ถาม ปีเตอร์ ได้จ้องมองไปที่บุคคลที่นอนอยู่ข้าง ๆ ซึ่ง ก็คือ เเจ็คสัน

 

ฟุ่บ!

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ได้เกิดขึ้นเร็วเกินไป เเม้เเต่ปีเตอร์ยังตอบสนองไม่ทัน

 

“คุณสตาร์ก เราจะต้องรีบช่วยเเจ็คสัน มันเป็นเพราะเครื่องจักรนั่น ในขณะที่ เเจ็คสัน กับผม กำลังพูดคุยกันอยู่ เครื่องมือเหล่านั้นก็เริ่มทันงาน ก่อนที่มันจะส่งการโจมตีออกมาอย่างรวดเร็วจนพวกเราไม่ทันได้ตั้งตัว”เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ปีเตอร์ อธิบาย

 

“คุณสตาร์ก เเจ็คสัน ปลอดภัย รึไม่!”

 

“ผลจากการตรวจสอบ คุณ เเจ็คสัน ได้้รับความเสียหายภายใน กระดูกเเตกหักจำนวนมาก เเต่ไม่อันตรายถึงชีวิต หากได้รับยายีนรักษาเขาจะฟื้นคืนได้ในเร็ว ๆ นี้”โทนี่ ไม่ได้กล่าวตอบ เเต่ J.A.R.V.I.S ตอบเเทน

 

หลังจากตรวจสอบสถานะ เเจ็คสันเเล้ว J.A.R.V.I.S ก็ทราบถึงสถานการณ์โดยรวมของเเจ็คสัน ดูเหมือน เเจ็คสันจะได้รับผลกระทบภายในขนาดใหญ่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส หากเป็นบุคคลทั่วไปคงเสียชีวิตในทันที เเต่บาดเเผลภายในระดับนี้ ร่างกายของเเจ้คสันสามารถทนได้ อีกเรื่องก็คงต้องขอบคุณ ชุดสูทภูติมายาของเขา เป็นเพราะความเเข็งเเกร่งของของชุดสูทภูติมายาทำให้ เเจ็คสันปลอดภัยในระดับนึง

 

“ปีเตอร์ ปล่อยให้ J.A.R.V.I.S สเเกน ร่างกาย ของเธอต่อ”ได้ยินรายงายของ J.A.R.V.I.S เกี่ยวกับ เเจ็คสัน โทนี่ ต้องการทราบข้อมูลของปีเตอร์ด้วย

 

จากนั้น J.A.R.V.I.S ก็นำยารักษาออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมนยื่นส่งให้ปีเตอร์ ฉีดร่างกายของ เเจ็คสัน เเน่นอนว่า ปีเตอร์ก็ได้รับบาดเจ็บ J.A.R.V.I.S จึงยื่นส่งให้กับ ปีเตอร์ด้วย

 

“คุณ สตาร์ก เครื่องมือเหล่านั้นได้ส่งการโจมตีพื้นที่มิติออกมา มันมีความเเข็งเเกร่งส่วนนึงของลูกบาศก์เวทมนตร์ของจริงถ้าหากพวกเราสามารถทำลายเครื่องนี้ได้ บางทีพวกเราอาจจะป้องกันหายนะในครั้งต่อไปได้”หลังจากฉีดยารักษาให้ตัวเองเเละเเจ็คสันเเล้ว ปีเตอร์ กล่าวออกมา

 

“ฉันรู้ หืม? เธอจะบอกว่าเครื่องนี้ไม่ใช่ลูกบาศก์เวทมนตร์ที่เเท้จริง?”เสียงของโทนี่ กล่าวถาม

 

ฟุ่บ!

 

หหลังจากถามคำถามนี้ โทนี่ ก็สั่งให้ชุดเกราะไอรอนแมน 6 ตัว เข้าไปสำรวจตำเเหน่งอื่น ๆ ภายใต้การควบคุมของ J.A.R.V.I.S ชุดเกราะไอรอนแมน ได้ล้อมรอบเครื่องมือกลางจัตุรัส

 

“เเจ็คสันบอกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ลูกบาสก์เวทมนตร์ มันเป็นเพียงส่วนนึงที่บรรจุพลังงานของลูกบาศก์เวทมนตร์เข้าไป”ปีเตอร์ กล่าวตามที่รู้

 

“อืม, J.A.R.V.I.S ลงมือทำลายเครื่องนี้!”หลังจากตรวจอย่างละเอียดว่าไม่ใช่เป้าหมายที่ต้องการ ดังนั้น โทนี่ จึงไม่ต้องการอช้าอีก

 

“ครับเจ้านาย!”

 

ฟุ่บ!

 

!

 

J.A.R.V.I.S ได้สั่งการชุดเกราะไอรอนแมนทุกตัวที่ล้อมรอบเครื่องนี้ ก่อนที่จะสั่งให้โจมตีโดยใช้ปืนใหญ่พลังงานระดับสูง

 

ต้องบอกว่าเครื่องมือเหล่านี้ค่อนข้างพิเศษมาก ด้วยการที่มันมีส่วนนึงของพลังงานลูกบาศก์เวทมนตร์ทำให้ไม่สามารถทำลายได้ในทันที การโจมตีของปืนใหญ่พลังงานได้สำเเดงจนสูงสุดก่อนที่เครื่องมือจะเริ่มชำรุดเเละชะงักตัวลง

 

ปั้ง!

 

อุปกรณ์ส่วนใหญ่ได้ถูกทำลายในทันที ส่งผลให้ เเสงสีฟ้าที่อยู่ด้านนอกเองก็หายไปด้วยเช่นเดียวกัน

 

ก่อนที่มันจะระเบิดขึ้นดูเหมือนมันจะปลดปล่อยพลังงานความผันผวนออกมา พลังมันได้ตีกลับหาร่างหลักของมันโดยอัตโนมัติ อาจเป็นไปได้ว่าที่มันลอยกลับไปก็คือตำเเหน่งที่เเท้จริงของลูกบาศก์เวทมนตร์

 

หึ่มม

 

ขณะที่เเสงสีฟ้ากำลังลอยตีกลับ มันได้กระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทางภายในพื้นที่เเห่งนี้ J.A.R.V.I.S รีบสั่งให้ชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัว รีบเข้ามาปกป้อง เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ในทันที เขาไม่รู้ว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบต่อพวกเขาหรือไม่

 

เพียงเเต่ว่ามันได้กระจายออกมาครู่เดียวเเล้วก็หายไปเหลือเพียงกลิ่นอายจาง ๆ เพียงเท่านั้น

 

J.A.R.V.I.S ได้ทำการตรวจสอบบริเวณโดยรอบ ก่อนที่จะส่งชุดเกราะไอรอนแมนไปดูที่เครื่องมืออีกครั้ง ยังเหลือวัตถุดิบลูกบาศก์อยู่ 5 กล่อง เเต่ละกล่องยังคงหลงเหลือพลังงานสีฟ้าจาง ๆ ถึงเเม้จะเหลืออยู่เเต่มันน้อยนิดมาก เเต่นั่นก็เพียงพอที่จะให้โทนี่ ศึกษาต่อ

 

“J.A.R.V.I.S ตรวจพบสิ่งผิดปกติไหม?”ขณะที่ J.A.R.V.I.S กำลังตรวจสอบ เสียงของ โทนี่ ได้กล่าวถาม

 

“ไม่ครับ,ดูเหมือนรัศมีพลังสีฟ้าเหล่านั้นจะหายไปจากที่นี่เเล้ว”J.A.R.V.I.S ตอบกลับทันที

 

“นี่มันค่อนข้างเเปลก บางที…

 

“!!”

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะที่โทนี่ กำลังไตร่ตรองสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เเจ็คสันที่นอนหมดสติเมื่อครู่ได้ส่งเสียงเล็กน้อยก่อนที่จะฟื้นคืนสติขึ้นมา

โทนี่ได้ส่งชุุดเกราะไอรอนแมนกว่า 30 ตัวเพื่อออกไปค้นหา เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ในขณะเดียวกันบนท้องฟ้าด้านนอก สตอร์ม ทำการรับมือกับพลังงานที่ปรากฏขึ้นโดยฉับพลัน

 

เดิมทีที่สตอร์มปรากฏตัวขึ้นก็เพื่อทำให้การสื่อสารที่ถูกปิดกั้นทำงานได้ตอนนี้เธอได้ทำภารกิจเสร็จไปขั้นเเรกทำให้เธอล่าถอยออกมาก่อน เพราะการโจมตีปริศนาที่ว่านี้ดูรุนเเรงมาก

 

ไม่นานยานบินอวกาศก็ได้ส่งข้อความหาโทนี่ หรือก็คือ พวกเขาได้ประชุมเเผนการว่าจะรับมือกับปัญหาที่ว่านี้อย่างไรดี ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงหลบเลี่ยงมันเท่านั้น

 

ฟุ่บ!

 

ณ ตอนนั้นเอง ปากกระบอกปืนจำนวนมากได้ปรากฏขึ้นออกมาจากยานบินอวกาศมันได้รวบรวมพลังงานสุดยอดเเละชาร์จจนเต็มเปี่ยมก่อนที่จะปลดปล่อยพลังงนอกไปปะทะกับเเสงสีฟ้านั่น

 

 

“J.A.R.V.I.S นายคิดว่าการโจมตี ปืนใหญ่พลังงานของ ยานบินอวกาศ จะสามารถยับยั้งพลังงานสสารสีฟ้านั่นได้รึไม่?”โทนี่ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

เเน่นอนว่า นิค ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลของยานบินอวกาศให้กับโทนี่รู้ทั้งหมด เเต่ ถึงอย่างนั้น โทนี่ ก็ยังสามารถให้ J.A.R.V.I.S คำนวณปริมาณพลังเเละความเสียหายที่ถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อเปรียบเทียบได้อยู่

 

กล่าวโดยธรรมชาติ โทนี่ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอีกฝ่ายให้บอกข้อมูล เเต่เขาสามารถหาข้อมูลด้วยตัวเอง เเละ การโจมตีปืนใหญ่พลังงานของยานบินอวกาศนั้นรุนเเรงมากพอจนโทนี่ ค่อนข้างชื่นชม

 

“!”เพียงเเต่ว่าทันทีที่พลังงานปืนใหญ่ถูกยิงออกมาเเสงสีฟ้าที่โดนการโจมตีเข้าอย่างจัง ๆ กลับสามารถทนมันได้ นอกจากนี้มันยังสวนกลับการโจมตีจนทำให้ ยานบินอวกาศของ นิค ต้องล่าถอย

 

เทียบกับการโจมตีของ พลังงานสีฟ้าบนสะพานโกลเด้นเกตเเล้วเเม้ว่ามันจะทรงพลังน้อยกว่าเเต่ระดับการป้องกันกลับสูงกว่ามาก พลังงานที่อัดเเน่นของมันสามารถขึ้นรูปแบ่งออกมาได้มากกว่า 10 สาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พลังงานของลูกบาศก์เวทมนตร์จะสูงขนาดไหน

 

เพราะขนาดอาวุธปืนใหญ่พลังงานที่ยิงเข้าเเสงสีฟ้าจัง ๆ กลับทำได้เพียงให้มันหยุดชะงักเพียงไม่นาน จากนั้นมันก็ไล่พวกเขาต่อ ศึกนี้ ดูท่า ยานบินอวกาศ ของ นิค เเละ ชุดเกราะไอรอนแมนของ โทนี่ จะต้องร่วมมือกันรับมือศัตรูอย่างยากลำบาก

 

 

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเส้นพลังงานเหล่านั้นต้องเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานลูกบาศก์เวทมนตร์ J.A.R.V.I.S นายคิดว่าชุดเกราะไอรอนแมนของพวกเราสามารถทนการโจมตีของพวกมันได้ไหม?”ในสายตาของโทนี่การโจมตีเหล่านี้ทรงพลังมากเขาต้องการรู้ว่าชุดเกราะของเขาสามารถทนการโจมตีดังกล่าวได้รึไม่

 

“เจ้านายครับ ชุดเกราะไอรอนแมนของเราเเม้จะมีการป้องกันที่เเข็งเเกร่งเเต่ก็ยังไม่มีความสามารถมากพอจะต้านทานการโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้ ผมเชื่อว่าหากเรายกระดับความเเข็งเเกร่งของชุดเกราะไอรอนแมนขึ้นอีกหน่อย อาจจะพอต้านทานการโจมตีอนุภาคนี้ได้บ้าง”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบตามจริง

 

เเน่นอนว่าโทนี่รู้อยู่เเล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ชุดเกราะไอรอนแมนของเขาในตอนนี้จะต้านทานการโจมตีดังกล่าวได้ดังนั้นการที่ J.A.R.V.I.S ให้เหตุผลเช่นนั้นย่อมฟังขึ้น

 

“อืม ดูเหมือนในอนาคตพวกเราคงต้องทุ่มโปรเจ็คในการส่งเสริมชุดเกราะไอรอนแมนให้มากกว่านี้”

 

ถ้าพวกไฮดร้าไม่มีอาวุธที่น่ากลัวดังกล่าวถือว่าชุดเกราะไอรอนแมนของเขาย่อมเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทรงพลังมากสุดในตอนนี้

 

ฟุ่บ!

 

“เจ้านายครับ พบตำเเหน่งของ คุณ เเจ็คสัน กับปีเตอร์เเล้ว!”ในขณะที่โทนี่จ้องมองไปทางยานบินอวกาศเเละลำเเสงอนุภาคสีฟ้า เสียงของ J.A.R.V.I.S ได้เตือนขึ้น เเน่นอนว่าน้ำหนักของคำพูดเหล่านี้มีค่าพอให้โทนี่ให้ความสนใจอย่างรวดเร็ว

 

“หืม? รีบเชื่อมต่อสถานการณ์ให้ฉัน ฉันต้องการรู้สถานะของพวกเขาในตอนนี้!”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวตอบอย่างเร่งรีบ

 

ฟุ่บ

 

บนหน้าจอหมวกของโทนี่ปรากฏขึ้นขึ้นอย่างฉับพลัน มันเป็นมุมมองใต้ดินของชุดเกราะไอรอนแมนที่เเยกออกไป ในช่องทางที่มืดสลัว ชุดเกราะไอรอนแมนได้สเเกนเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยสองเงาอยู่ไม่ไกล

 

ในฐานลับใต้ดินของไฮดร้าตำเเหน่งที่ พบ เเจ็คสัน เเละปีเตอร์ คือตำเเหน่งจุดศูนย์กลางของพลังงานลูกบาศก์วเทมนตร์

 

มันเป็นเครื่องมือบางอย่างที่ปลดปล่อยประกายไฟฟ้าออกมาเเละมีลูกบาศก์เวทมนตร์เป็นเเกนกลางอยู่จำนวนมาก ในเวลานี้ เงาร่างทั้งสองคนนอนสลบอยู่ใกล้ตำเเหน่งมุมห้อง ไม่รู้สถานการณ์เป็นตายเเน่ชัด

หึ่มม

 

นอกฐานทัพไฮดร้า ฐานเเห่งนี้กำลังถูกจู่โจมโดยเครื่องบินรบจำนวนมาก พื้นที่ฟาร์มจำนวนมากต่างถูกทำลายจนย่อยยับ

 

ขณะเดียวกันกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ ก็กวาดไปทั่วทั้งฟาร์มเพื่อหาทางเข้าชั้ตใต้ดินเพื่อเตรียมจะลงไปที่ฐานใต้ดินของพวกไฮดร้า เพราะสถานการณ์ด้านบน ตัวการปิดกั้นสัญญาณสื่อสารได้ถูกบั่นทอนจนเสียหาย มันไม่มีความเจ็บเป็นที่เขาจะต้องรั้งอยู่ที่นี่อีก

 

เพียงเเต่ว่า ในขณะที่ เขากำลังหาทางเข้าชั้นใต้ดินของพวกไฮดร้า เขาได้ยินเสียงร้องของ เเจ็คสัน ดังออกมา ซึ่งมันทำให้ โทนี่ รู้สึกกังวลเ ขารีบสั่งให้ J.A.R.V.I.S ตรวจสอบตำเเหน่งของ เเจ็คสันในทันที

 

“ท่าไม่ดีเเล้ว !พวกเขากำลังถูกโจมตี”

 

“เเจ็คสัน”

 

ซี่ ~

 

โทนี่ รู้สึกกังวลจนสุดขีด นอกเหนือจากเสียงของเเจ็คสันเเล้วก็ยังตามมาด้วยเเรงสั่นของระเบิดนั่นทำให้สัญญาณของเเจ็คสันถูกตัดหายไป

 

“J.A.R.V.I.S! เกิดอะไรขึ้น!”โทนี่ รีบกล่าวถาม J.A.R.V.I.S

 

“เจ้านายครับ,สัญญาณของ คุณ เเจ็คสัน กับ คุณปีเตอร์ ได้หายไป ปัจจุบันพวกเราไม่สามารถระบุตำเเหน่งของพวกเขาได้”

 

J.A.R.V.I.S! ตอบปัญหาโทนี่ในทันที โทนี่ เตรียมจะพุ่งเข้าไปภายในฐานของพวกไฮดร้า เพียงเเต่ว่า ฐานอันกว้างใหญ่เเห่งนี้กลับปรากฏพลังงานสีฟ้าอ่อนนับสิบสายพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วทำให้เขาต้องล่าถอย

 

เเน่นอนว่าเเสงสีฟ้าอ่อนเหล่านี้ได้กระจายตัวออกมานอกฐานนั่นสร้างความประหลาดใจให้กับ S.H.I.E.L.D ด้วยเช่นเดียวกัน ทันทีที่เห็นเเสงสีฟ้านี้ เหล่าเครื่องบินรบจำนวนมากจำต้องล่าถอย เเต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ทัน สองเครื่องบินรบได้ถูกเเสงวาดผ่านก่อนที่เครื่องบินสองลำนั้นจะกลายเป็นเศษซากพร้อมกับคนขับ

 

กึก

 

ปั้ง ปั้ง

 

ทางด้านโทนี่ เอง เขาก็กระจายกองทัพไอรอนแมน เเละ ปลดปล่อยพลังงานเลเซอร์เพื่อต้านทานพลังงานเหล่านี้ พร้อมกับให้ J.A.R.V.I.S ตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เเสงสีฟ้าได้กระจายตัวออกมาเร็วเกินไปทำให้เขาเเละพวก S.H.I.E.L.D ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน

 

บึ้มม

 

ทางด้าน S.H.I.E.L.D เหล่านักบินที่เห็นพวกพ้องของตัวเองถูกสังเวยให้กับเเสงปริศนาสีฟ้า พวกเขาก็ระดมยิงเข้าใส่พลังงานเหล่านั้นเพื่อหวังจะเเก้เเค้นให้สหายที่ด่วนจากไป

 

“เจ้านายครับ การนำเสนอพลังงานโจมตีที่ปรากฏขึ้นนั้นรุนเเรงมาก พวกเราจำต้องใช้พลังงานเข้มข้นระดับสูงเพื่อต้านทาน”J.A.R.V.I.S ประมวลผลสถานการณ์อย่างรวดเร็ว

 

“ฉันรู้เเล้ว ทางด้านนิค เองก็กำลังหาทางตอบโต้อยู่อย่างเเน่นอน มันคงถึงเวลาที่นิคจะได้ใช้พลังในมืออย่างยานรบอวกาศที่เพิ่งสร้างขึ้นมาได้ เเต่ตอนนี้ฉันรู้สึกเป็นกังวล สถานการณ์ทางฝั่งเเจ็คสันเป็นยังไงบ้าง”โทนี่ กล่าวตอบอย่างกังวล เขากังวลสถานการณ์ทางฝั่งเเจ็คสันมากที่สุดในตอนนี้

 

เเม้ทางด้านฝั่งของโทนี่จะโดนกดดันทางขุมพลังงานปริศนาที่ลอยคลุ้งออกมาเเต่เขาหาได้ตื่นตระหนกไม่ เขาได้ทำการรับมือกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสุขุมที่สุด

 

กองทัพไอรอนแมนของโทนี่ เเละ S.H.I.E.L.D. ได้ผสานการโจมตีเพื่อกดดันพายุเเสงสีฟ้าอ่อนที่เป็นก้อนพลังงานเหล่านั้น การโจมตีในครั้งนี้เเน่นอนว่ายังอ่อนเเอกว่าบนสะพานโกลเด้นเกต เเต่ขุมพลังงานของมันกลับขยายตัวมากขึ้น อาจเป็นไปได้ว่า นี่คือส่วนนึงของพลังลูกบาศก์เวทมนตร์

 

“หึ่ม…J.A.R.V.I.S ยังตรวจสอบตำเเหน่งของ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ไม่ได้อีกงั้นหรอ?”โทนี่ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S อีกครั้ง

 

หากพวกไฮดร้าซ่อนการโจมตีแบบนี้ไว้ภายในฐานอาจเป็นไปได้ว่า เเจ็คสัน กับ ปีเตอร์ กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติรุนเเรง

 

ก่อนที่สายจะตัดขาดจากกัน โทนี่ ได้ยินเสียง ร้องตะโกนของ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ไม่ต้องสงสัยว่าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายอยู่อย่างเเน่นอน

 

“เจ้านายครับ ดูเหมือนพวกเราจะไม่สามารถติดต่อกับ มิราจไนท์ได้ นอกจากนี้ ชิปติดตามที่ฝังอยู่ที่ชุดของสไปเดอร์แมนก็ไม่ทำงาน”J.A.R.V.I.S อธิบายอีกครั้ง

 

เเน่นอนว่านี่ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับโทนี่ ชุดสไปเดอร์แมนที่ปีเตอร์สวมใส่นั้น โทนี่ ได้ทำการปรับเเต่งออฟชั่นระดับสูงให้ ความสามารถของมันเเน่นอนว่ามันเป็นสองรองจาก ชุดเกราะไอรอนแมน ทั้งยังสวมใส่ง่ายกว่าอีกด้วย

 

เเต่ชุดระดับนั้นทั้งตัวชิปที่ฝั่งอยู่ข้างในกลับเสียหาย นี่ไม่ใช่ว่ามันเป็นข่าวร้ายที่สุดหรอกหรอ ถ้าหากชุดของสไปเดอร์แมนถูกทำให้เสียหายได้ เเละ ตัวคนที่อยู่ข้างใน เล่า? เเค่คิดโทนี่ก็รู้สึกกังวลมากเเล้ว

 

“เเยกชุดเกราะไอรอนแมนออกไป 30 ตัวส่งไปตามหา มิราจไนท์ กับ สไปเดอร์แมนให้ฉันโดยเร็ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต้องหาพวกเขาให้พบ!”โทนี่ต้องโกนออกมา เขารู้สึกเสียใจมากที่ปล่อยให้ ปีเตอร์ เเละ เเจ็คสัน เเอบลอบเข้าฐานของพวกไฮดร้าเพียงลำพัง

 

“ครับ”J.A.R.V.I.S ตอบสนองอย่างรวดเร็วพร้อมกับเเยกกองทัพไอรอนแมน 30 ตัวออกจากสนามรบเเละมุ่งหน้าตรงเข้าฐานของพวกไฮดร้า

 

“องค์กรไฮดร้า! ถ้าเเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ เป็นอะไรขึ้นมาล่ะก็ ฉันจะทำให้พวกเเกเผชิญหน้ากับขุมนรกที่เเท้จริง…”โทนี่จ้องมองไปที่เเสงสีฟ้าอ่อนเเละกล่าวกระซิบออกมา

ซี่ ~~

 

“มิราจไนท์ คุณได้ยินไหมครับ?”ขณะที่เเจ็คสันกับปีเตอร์กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ส่วนลึกของฐานทัพไฮดร้า ข้างหูของเขาก็มีเสียงเชื่อมต่อของ J.A.R.V.I.S ดังเข้ามา

 

“อ่า, J.A.R.V.I.S ? เกิดอะไรขึ้นกับสถานการณ์ข้างนอก?”เเจ็คสันที่ได้ยินเสียงเขาตอบรับในทันที ตอนนี้พวกเขากำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวตอ ดังนั้นจึงต้องการกำลังสนับสนุนโดยเร็ว

 

“คลื่นสัญญาณปิดกั้นการสื่อสารของภูมิภาคเเห่งนี้เริ่มอ่อนเเอลงลงเเล้ว ทำให้สถานการณ์ด้านนอกค่อนข้างราบรื่น เพียงเเต่ พวกไฮดร้ายังไม่เผยไผ่ลับออกมาเท่าที่ควร”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบความจริง

 

“เข้าใจเเล้ว ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีเเผนการบางอย่าง เลยยังไม่ได้ใช้ ลูกบาศก์เวทมนตร์ออกมา ไม่งั้นพวกเราคงรับมือพวกมันได้ยากกว่านี้”เเจ็คสันกล่าวออกมา

 

ก่อนหน้านี้ที่สะพานโกลเด้นเกต พวกเขาถูกพวกไฮดร้าโจมตีโดยใช้ประตูมิติอวกาศ นั่นเป็นเหตุผลให้พวกเขาบาดเจ็บหนักกันถ้วนหน้าโชคดีที่ครั้งนี้พวกไฮดร้ายังไม่ลงมือ

 

“เช่นนั้นขอให้คุณปลอดภัย มิราจไนท์”

 

“นายเองก็เหมือนกัน J.A.R.V.I.S.”

 

ฟุ่บ

 

ทันทีที่ได้รับการติดต่อจาก J.A.R.V.I.S. เเจ็คสันก็ได้รับข่าวจากทางด้านนอก ดูเหมือนพวกไฮดร้าจะยังไม่ลงมือตอบโต้ไม่เเน่ว่าส่วนที่เเจ็คสันกลัวที่สุดกำลังจะเป็นจริงก็เป็นได้

 

ตึก ตึก

 

ไม่นาน เเจ็คสันเเละปีเตอร์ก็ทะลุผ่านทางเเยกมาอีกครั้ง เเจ็คสันรู้สึกเสียวสันหลังโดยชอบกล เเม้เเต่ปีเตอร์ตอนนี้ก็เเสดงออกถึงความผิดปกติ เป็นเพราะปีเตอร์มีสัญชาตญาณเเมงมุมของตัวเองทำให้ความรู้สึกการตอบรับของเขาค่อนข้างดี

 

“ปีเตอร์?”เห็นการเปลี่ยนเเปลงของปีเตอร์ เเจ็คสันตะโกนถามทันที

 

“ข้างหน้า! ฉันสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ร้ายเเรงที่สุดในสถานที่เเห่งนี้ เเม้กระทั่งเป็นอันตรายต่อพวกเรา”ปีเตอร์จ้องมองไปที่ตำเเหน่งด้านหน้าเเละกล่าวออกมา

 

“ข้างหน้า?ฉันจะเข้าไปก่อนนายค่อนเข้าไปตามทีหลังเเล้วกัน”เเจ็คสันรู้ดีว่า สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของปีเตอร์ได้ร้องเตือนให้ปีเตอร์หยุดการเคลื่อนไหวดังนั้น เขาจึงกังวลเกี่ยวกับปีเตอร์

 

สไปเดอร์แมน ฮีโร่ตัวเอก หนึ่งในตัวละครของโลกมาร์เวล เเน่นอนว่าตัวละครนี้ได้ฟันฝ่าเผชิญหน้ากับความยากลำบากเเละเฉียดความตายอยู่หลายครั้งเเต่ก็รอดมาได้ เเต่เมื่อเปลี่ยนความโหดร้ายเหล่านั้นมาเป็น เผชิญหน้ากับอินฟินิตี้สโตน เเจ็คสัน ก็ไม่กล้ารับประกันเรื่องนี้

 

“หึ่ม นายเลิกคิดไปได้เลย! ฉันจะปล่อยให้นายไปคนเดียวได้อย่างไร”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันปีเตอร์ตะโกนอย่างเดือดดาล

 

เเม้ว่าข้างหน้าจะเต็มไปด้วยขวากหนามที่อันตรายอย่างยิ่งเเต่ปีเตอร์จะไม่ยอมให้เพื่อนสนิทของตัวเองต้องไปเสี่ยงอันตรายคนเดียว

 

“ก็ได้ เช่นนั้นพวกเราก็เข้าไปด้วยกัน อย่างไรก็ตามนายต้องสัญญากับฉัน หากพวกเราไม่สามารถรับมือกับพวกมันได้ เเละเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับฉัน นายจะต้องรีบออกไปทันที เข้าใจมั้ย?”เเจ็คสันรู้ว่าปีเตอร์ค่อนข้างดื้อด้าน เขาจึงกล่าวเตือนเรื่องนี้ออกมา

 

“เอ่อ…เข้าใจเเล้ว”ปีเตอร์ตอบตงลงก่อนที่จะสั่นศีรษะเเละเดินเข้าไปข้างหน้า

 

ไม่รู้ว่าเพราะเเจ็คสันเเละปีเตอร์จัดการศัตรูไปจำนวนมากหรืออย่างไร เพราะตลอดระยะทางที่เข้าเดินเข้าไปข้างหน้าไม่มีสิ่งใดออกมาปิดกั้นพวกเขาเเม้เเต่น้อย

 

หึ่ม!

 

ทันทีที่ปีเตอร์เเละเเจ็คสันเดินเข้าไปในห้อง เขาเห็นเครื่องมือขนาดใหญ่พิเศษใจกลางจัตุรัส ณ เวลานี้ เครื่องมือมันกำลังทำงานอยู่

 

ซี่ ~~

 

รอบ ๆ เครื่องมือนั้นมีกระเเสพลังงานไฟฟ้าสถิต เเล่บผ่านอยู่บางครั้ง มันคล้ายกับว่าเครื่องของมันกำลังเสียหาย เเต่ดูเหมือนจะไม่มีผลกระทบต่อการทำงานสักเท่าไหร่ ที่ศูนย์กลางของเครื่องมือเหล่านั้นเต็มไปด้วยก้อนลูกบาศก์สีฟ้าจำนวนมาก

 

“เเจ็คสันนั่นหรอลูกบาศก์เวทมนตร์ที่นายหมายถึง?พวกมันมีสีฟ้า เเต่มันมากขนาดนี้เชียว?”ปีเตอร์จ้องมองไปที่ลูกบาศก์สีฟ้าด้านหน้าเเละกล่าวถาม

 

เเจ็คสันไม่ได้ตอบสนองต่อคำถามของปีเตอร์ในตอนนี้ เขาเดินเข้าไปเล็กน้อยเเละสำรวจไปยังม่านพลังงานสีฟ้าที่คละคลุ้งออกมา

 

“นี่ไม่ใช่ลูกบาศก์เวทมนตร์ มันเป็นเพียงส่วนนึงที่ลอกพลังงานในการดึงประสิทธิภาพของลูกบาศก์เวทมนตร์ออกมาใช้!”เเจ็คสันกล่าวออกมาอย่างระวัง

 

สิ่งเหล่านี้หากจะพูดให้ถูกก็คือมันเป็นผลพวงจากงานวิจัยในการเรียกดึงพลังงานจากลูกบาศก์เวทมนตร์ออกมาใช้

 

ติ๊ด ติ๊ด!

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังจะเดินเข้าไปสำรวจอย่างถี่ถ้วน เครื่องมือทั้งหมดก็เริ่มส่งสัญญาณร้องเตือนออกมา เเละมันกำลังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

“ท่าไม่ดีเเล้ว! พวกมันคงตั้งระบบโจมตีฉับพลันเอาไว้!”เห็นเครื่องมือทั้งหมดได้ส่งเสียงเเละสัญญาณสีเเดงออกมา เเจ็คสันสามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป พลังงานที่สะสมไว้ที่เครื่องมือเหล่านี้กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมา

 

“เเจ็คสัน!”เห็นการเคลื่อนไหวของเเจ็คสัน ปีเตอร์ รู้สึกกังวลอย่างมาก

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้กระโดดถอยออกมาไกลมากกว่าระยะ 30-40 เมตร เขาไม่มีความลังเลเเม้เเต่น้อยในการใช้ท่าไม้ตาย สายฟ้าสังหารโจมตีออกไป สำหรับปีเตอร์ เขาก็ปล่อยใยเเมงมุมพิเศษออกไปเพื่อหวังจะหยุดสิ่งที่จะเกิดขึ้น

 

เพียงเเต่ว่าเเสงสีน้ำเงินจากเครื่องมือทั้งหมดได้สาดส่งออกมามันได้สว่างวาบครอบคลุมไปด้วยทั่วพื้นที่ห้องก่อนที่จะกลืนกินเเจ็คสันเเละปีเตอร์เข้าไปในเเสงทั้งหมด

 

ฟุ่บ

 

ติ๊ดด~~

บึ้มม

 

ฉากเหตุการณ์ภายนอกเต็มไปด้วยไฟที่โหมกำหนำลุกโจมตีฐานไฮดร้า เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ที่อยู่ในฐานพวกเขายังไม่ได้วางใจตราบเท่าที่พวกเขายังไม่พบที่อยู่ของลูกบาศก์เวทมนตร์ ดังนั้นปีเตอร์เเละเเจ็คสันจึงเร่งฝีเท้าขึ้น

 

ฟุ่บ!

 

ขณะเดียวกันก็มีกองทัพหุ่นยนต์จำนวนมากออกมาเผชิญหน้ากับ เเจ็คสัน เเน่นอนว่าหุ่นยนต์เหล่านี้ย่อมไม่ใช่ภัยคุกคามของเเจ็คสันเเละปีเตอร์ สิ่งที่กังวลก็คือโอกาสที่ศัตรูจะตอบโต้โดยใช้ลูกบาศก์เวทมนตร์ไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องหามันให้พบโดยเร็วที่สุด

 

“ปีเตอร์ สัญชาตญาณของนายได้เเจ้งเตืนอะไรไหม?มีขวางหนามขวางกั้นเราด้านหน้ารึไม่?”ในขณะที่เผชิญหน้ากับกองทัพหุ่นยนต์ เเจ็คสัน ตะโกนถามปีเตอร์ที่อยู่ไม่ไกล

 

สถานที่เเห่งนี้ถูกปิดกั้นการสื่อสารดังนั้นเขาจึงไม่สามารถติดต่อกับคนภายนอกได้ ดังนั้นเขาจึงต้องพึ่งพาตัวเองเเละปีเตอร์

 

“เลี้ยวขวาด้านหน้า! สัญชาตญาณของฉันบอกให้เราไปทางนั้นเเม้จะมีอันตรายเต็มไปหมดเเต่ฉันเชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้”เผชิญหน้ากับกองทัพหุ่นยนต์ ปีเตอร์กล่าวตอบ

 

สัญชาตญาณของปีเตอร์นั้นสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่อันตรายได้มากขึ้นโดยเฉพาะเหตุการณ์บนสะพานโกลเด้นเกต ปีเตอร์สัมผัสได้ถึงอันตรายกระทั่งหวาดกลัว เเต่สัญชาตญาณของเขาได้พัฒนาขึ้นจากตอนนั้นมันเป็นสัญชาตญาณเเห่งความอยู่รอด

 

“เราไม่มีทางเลือกอื่น! ไม่ว่าอย่างไรเราจะต้องหาลูกบาศก์เวทมนตร์ให้พบ”เเจ็คสันไม่อาจปล่อยให้ลูกบาศก์เวทมนตร์ลอยนวลอยู่ในมือของพวกไฮดร้าได้นาน เพราะมันจะนำมาซึ่งภัยพิบัติ

 

ตอนนี้สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดก็คือเขากลัวว่า เร้ด สกัลล์ จะหลบหนีไปพร้อมกับลูกบาศก์เวทมนตร์ ถ้าหากเป็นเช่นนั้น มันเเทบไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะหาตัว เร้ด สกัลล์ ได้ง่ายในอนาคต

 

“ถ้าหากนายยืนยันเช่นนั้น พวกเราก็ไปกันเถอะ!”ปีเตอร์ตะโกนตอบ

 

จากนั้นปีเตอร์ก็เหวี่ยงตัวไปพร้อมกับใยเเมงมุมของเขาบินข้ามผ่านศีรษะของหุ่นยนต์จำนวนมากก่อนที่เขาจะใช้จุดบอดในการโจมตีพวกมันจนระเบิดขึ้น

 

“เเจ็คสันให้ฉันจัดการเอง”ปีเตอร์เหวี่ยงใยไปมาพร้อมกับสร้างตาข่ายพลังใยเเมงมุมของเขา

 

ฟุ่บ!

 

“อืม,พวกเราควรรีบกำจัดมันให้เร็วที่สุดเเละรีบออกไปจากตรงนี้”เเจ็คสันใช้ดาบของเขาตัดผ่าหุ่นยนต์ตัวเเล้วตัวเล่าจนมันลดลงไปจำนวนมาก

 

“เอาใยเเมงมุมสายฟ้าฉันไปกินซะ!”ขณะที่เเจ็คสันกำลังจัดการศัตรูปีเตอร์ได้ตะโกนขึ้น

 

ซี่ ซี่!

 

ใยเเมงมุมของปีเตอร์ได้ปลดปล่อยกระเเสไฟฟ้าพลังงานสูงออกมาพร้อมกับรัดพันกองทัพศัตรูจนมันหยุดเคลื่อนไหวเห็นได้ชัดเเม้หุ่นยนต์เหล่านี้จะเเข็งเเกร่งเเต่โครงสร้างภายในกลับเปราะบางไม่มีระบบป้องกันกระเเสพลังงานไฟฟ้าเเรงสูง เรื่องนี้ต้องขอบคุณ โทนี่ เพราะเขาออกแบบชุดของปีเตอร์ให้มีความสามารถในการปลดปล่อยกระเเสพลังงานไฟฟ้าเเรงสูง

 

“เอาล่ะ ฉันคงต้องจัดการที่เหลือให้หมดสินะ! สายฟ้าสังหาร!”เห็นชัยชนะของปีเตอร์ เเจ็คสัน วาดผ่าดาบออกไปพร้อมกับทำลายกองทัพหุ่นยนต์ที่เหลือทั้งหมด

 

บึ้ม~~

 

เเสงสีม่วงเเพรวพราวได้ทำลายจนกองทัพหุ่นยนต์เหล่านี้เหลือเพียงเเต่เศษซาก

 

เห็นการทำลายหุ่นยนต์ของเเจ็คสันกว่าหลายสิบตัวปีเตอร์ที่เดิมปล่อยให้เชื่อมือเขาพลันต้องตกใจ เทียบกับอัตราการเจริญเติบโตของเขา เเจ็คสันนับว่ามีความพัฒนาเหมือนกัน สกิลการโจมตีวงกว้างเเละพลังทำลายในจุดนี้กลับเหนือกว่า เขาอย่างเห็นได้ชัด

 

“ฟู่วว ~ ในที่สุดก็หมดสักที!”เเจ็คสันถอนหายใจออกมาโดยไม่ได้สนอาการตกใจของปีเตอร์

 

“อืม,พวกเราไปกันเถอะ”ปีเตอร์ตะโกนออกมา เขาเองก็ไม่ต้องการเสียเวลา ณ จุดนี้นานเกินไปเพราะพวกเขามีภารกิจที่ต้องทำ

 

“ใช่เเล้ว,พวกเราไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น!”

 

ฟุ่บ!

 

 

ระหว่างทางเเจ็คสันเเละปีเตอร์ได้ฆ่าคนเเละทำลายเครื่องจักรจำนวนมาก ทางด้านฝั่งของกัปตันโรเจอร์ส อีกด้านนึง พวกเขาไม่ได้พบกองทัพหุ่นยนต์หรืออะไร เพียงเเต่ได้เผชิญหน้ากับ ทีมทหารที่ผสมกับทีมอัลฟ่า

 

เมื่อเทียบกับพวกเเจ็คสันที่เผชิญหน้ากับกองทัพหุ่นยนต์ การเผชิญหน้ากับทีมอัลฟ่าทำให้กัปตันโรเจอร์สจัดการศัตรูได้ง่ายมาก ทำนองเดียวกัน กัปตันโรเจอร์สเองก็กำลังมองหาตำเเหน่งของลูกบาศก์เวทมนตร์เเต่เขาก็ยังไม่มีทิศทางที่จะไปโดยได้เเต่หวังพึ่งพา ฟอลคอน ,ฮ็อคอาย เเละ เเดร์เดวิล

 

ทิศทางที่ เเจ็คสันเเละกัปตันโรเจอร์สไปนั้น ทางฝั่งเเจ็คสันได้มุ่งหน้าไปยังฐานของไฮดร้าที่เก็บอาวุธพลังงานมากมาย ปีเตอร์เชื่อว่า ลูกบาศก์เวทมนตร์อาจจะอยู่ในนั้นเพราะเขาสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ใหญ่ที่สุดจากที่นี่ เเต่ทิศทางของกัปตันโรเจอร์ส คือทิศทางที่ เร้ด สกัลล์ ได้ใช้หลบหนี เพียงเเต่ความเร็วการหลบหนีของ เร้ด สกัลล์ สูงมาก ทำให้ กัปตันโรเจอร์สยังไม่พบ

 

เเน่นอนว่า เร้ด สกัลล์ ได้หลบหนีไปพร้อมกับลูกบาศก์เวทมนตร์ในมือ หาก กัปตันโรเจอร์ส พบ เร้ด สกัลล์ ในตอนนี้ เขาย่อมจดจำอีกฝ่ายได้อย่างเเม่นยำ เพราะมันเป็นเหตุการณ์กว่า 60 ปี ก่อน ที่กัปตันโรเจอร์ส ได้มอบความตายให้กับ เร้ด สกัลล์ ไป

 

 

ขณะที่พวกเเจ็คสันเเละคนอื่น ๆ กำลังตามหา ลูกบาศก์เวทมนตร์ เร้ด สกัลล์ ที่กำลังหลบหนี เขาหวังจะหลบหนีออกจากที่นี่ให้ได้โดยเร็วที่สุด

 

ตึก ตึก~~

 

“เชี้**! ทีมอเวนเจอร์ส เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็จะต้องหลบหนีพวกเเกให้ได้ ตราบใดที่ฉันยังมีลูกบาศก์เวทมนตร์นี่อยู่ในมือล่ะก็…”เร้ด สกัลล์ จับกระเป๋าที่มีลูกบาศก์เวทมนตร์เเน่น เขาอยู่ภายใต้การอารักษ์ขาของ ทีมอัลฟ่า ,มิวแทนท์ เเละ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์บางคน ตอนนี้เขากำลังมุ่งหน้าไปยังทางออกลับ

 

เเม้ว่า S.H.I.E.L.D. จะล้อมฐานเเห่งนี้ไว้ทั้งหมด เเต่ เร้ด สกัลล์ ก็ยังมีทางหนีฉุกเฉิน เขาตัดสินใจใช้เส้นทางหลบหนีสุดท้ายเพื่อหลบหนีออกจากสถานที่เเห่งนี้โดยเร็วที่สุด เดิมที เขาต้องการใช้ ประตูมิติอวกาศเพื่อหลบหนี เเต่การเตรียมการดังกล่าวค่อนข้างใช้เวลานานเเละมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น เร้ด สกัลล์ จึงไม่หวังจะทำเช่นนั้น

 

ตึก ตึก!

 

เร้ด สกัลล์ ที่ตกอยู่ในความสับสน เขาถือกระเป๋าลูกบาศก์เวทมนตร์หลบหนีอย่างไม่คิดชีวิตตลอดทางเขาพบกับเหตุเเผ่นดินไหวรุนเเรงมากมาย เเละ ไม่นานดูเหมือนระบบการสื่อสารที่ได้รับการป้องกันจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าศัตรูผ่านด่านป้องกันเเรกของลูกบาศก์เวทมนตร์มาได้เเล้ว

เเม้ฐานของพวกไฮดร้าจะไม่มีปรากฏการณ์หมอกคลุมเหมือนบนสะพานโกลเด้นเกตเเต่ความสามารถปิดกั้นสัญญาณของพวกมันก็ยังคงอยู่นั่นทำให้ นิค รู้สึกระมัดระวังตัวอย่างมากเพราะสิ่งสำคัญของกองทัพเลยก็คือคำสั่ง

 

“เจ้านายครับ,หัวหน้านิค ต้องการเปิดช่องสัญญาณพูดคุย”ในขณะที่โทนี่ลอยตัวอยู่บนอากาศเสียงของ J.A.R.V.I.S ได้ส่งผ่านออกมา

 

“เชื่อมต่อช่องสัญญาณ ฉันต้องการรู้ว่านิคจะพูดอะไร”

 

“ครับเจ้านาย!”

 

“โทนี่ ฉันต้องการให้นายช่วย…”ทันทีที่ J.A.R.V.I.S เชื่อมต่อช่องสัญญาณ เสียงของ นิคได้ดังขึ้น

 

นิคได้ร้องขอให้โทนี่ช่วยเป็นสื่อกลางในการรับส่งข้อมูลระหว่างกองทัพเพราะเทคโนโลยีด้านการสื่อสารของชุดเกราะไอรอนแมนถือว่าเเข็งเเกร่งกว่ามากเเละมันสะดวกมากในสถานการณ์แบบนี้

 

“ฉันสามารถเป็นสื่อกลางเพื่อช่วยคุณได้ เเต่ฉันขอถามหน่อย พวกคุณไม่คิดจะพัฒนาอุปกรณ์ด้านการสื่อสารหลังจากเผชิญหน้ากับวิกฤติแบบนั้นบ้างเลยหรอ?”โทนี่ยิ่งคำถามออกมา

 

โทนี่ ได้พูดถึงเรื่องนี้ เพื่อทำให้นิคดูเหมือนตัวตลก เขารู้ดีว่า J.A.R.V.I.S ได้ทุ่มเวลาศึกษายานบินอวกาศนี้ไปทั้งหมดเลยไม่ได้หาวิธีเเก้ปัญหาเรื่องการสื่อสาร อาจจะไม่ใช่อย่างนี้ทีเดียว เพราะ S.H.I.E.L.D. อาจจะไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถช่วยเหลือวิกฤติด้านนี้ โดยเฉพาะ ซึ่งเเตกต่างจาก โทนี่

 

“อืม,โชคดีที่นายสามารถเเก้ปัญหาเรื่องนี้ได้”ได้ยินคำถามของโทนี่ เสียงของนิคเปลี่ยนไปเล็กน้อย เเต่ก็ไม่ได้มีท่าทีโกรธเคือง

 

“พอดีฉันค่อนข้างว่าง เลยมีเวลามากพอทำอะไรหลายอย่าง”โทนี่ กล่าวออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เพราะเขาราวกับถูกนิคล้อเลียน

 

“คลื่นสัญญาณรบกวนของพื้นที่เเถวนี้ค่อนข้างพิเศษ ยานบินอวกาศต้านทานเเรงโน้มถ่วงของเราเเน่นอนว่าเป็นสุดยอดเทคโนโลยีที่ครอบคลุมไม่เว้นเเม้เเต่ระบบสื่อสาร เเต่นี่เป็นเเค่จุดเริ่มต้นดังนั้นพวกเรายังไม่ได้ออกแบบระบบพิเศษในการต่อต้านคลื่นสัญญาณรบกวน ช่างเถอะ ฉันจะลองฝากความหวังในการเเก้ปัญหานี้กับใครบางคนดู”นิค กล่าวอย่างไม่พอใจ เขาหวังว่าจะทำลายคลื่นรบกวนพิเศษนี้ให้เร็วที่สุด

 

“ใครกัน?”ได้ยินคำพูดของ นิค โทนี่ กล่าวถามออกมาเล็กน้อย

 

“เจ้านายครับ ,ผมว่าที่หัวหน้านิคหมายถึง ก็คือ เธอ”ในขณะที่ โทนี่อยากรู้อยากเห็น ภาพของ J.A.R.V.I.S ก็ซูมภาพเข้าไปยังเงาร่างร่างนึง

 

ฟุ่บ!

 

โทนี่เห็นภาพปัจจุบันผ่านทางเลนส์ของหน้ากากไอรอนแมน เขาเห็นเงาร่างร่างนึงที่พุ่งจู่โจมทำลายอุปกรณ์ภาคพื้นดินของพวกไฮดร้าโดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเครื่องบินรบ

 

เงาร่างนั้นคือมนุษย์ไม่ผิดเเน่ เเละ มันเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก สตอร์ม หนึ่งในทีม X-MEN เธอได้ควบคุมสภาพอากาศเเละใช้พลังของเธอในการบดขยี้ศัตรู ความสามารถของเธอดูยิ่งใหญ่กว่ามากเมื่อเทียบกับ ไอซ์แมน

 

ไอซ์แมน มิวแทนท์ระดับ 5 ความสามารถของเขาคือน้ำเเข็ง เเน่นอนว่าจุดสุดยอดของความเย็นก็คืออาวุธที่อันตรายอย่างนึง เมื่อไอซ์แมนเเสดงศักยภาพทั้งหมดออกมา ความเเข็งเเกร่งของเขาค่อนข้างน่ากลัว เมื่อเทียบกับสตอร์ม ความสามารถของเธอค่อนข้างหลากหลาย หนึ่งในนั้นเธอสามารถที่จะบินได้ด้วยตัวเอง

 

สตอร์มที่ลอยอยู่กลางอากาศรอบตัวของเธอบรรยากาศโดยรอบเริ่มเปลี่ยนเเปลงไปไม่ว่าจะเป็นเมฆมืดขนาดใหญ่ที่มีสายฟ้าประจุ มันเหมือนกับก่อนหน้านี้ บนสะพานโกลเด้นเกต ทุกครั้งที่เธอปรากฏตัวขึ้นเเละเเสดงพลัง เธอจะเรียกพายุหรือเมฆครึ้มออกมา

 

~~

 

“J.A.R.V.I.S ฉันคิดว่าเราคงต้องดึงทีมของเรากลับมา”หลังจากเห็นชั้นเมฆที่ก่อตัวหนาขึ้นเรื่อย ๆ โทนี่ กล่าวบอก J.A.R.V.I.S ทันที

 

อย่างไรก็ตาม J.A.R.V.I.S กลับไม่ได้ตอบสนองต่อคำสั่งของโทนี่ เขาได้พูดออกมา”เจ้านายครับ ผมคิดว่า พลังของเธอย่อมไม่เป็นอันตรายกับชุดเกราะของเรา ก่อนหน้านี้ ชุดสไปเดอร์แมน เองก็ได้อัพเกรดระบบต้านทานไฟฟ้า เป็นที่เเน่นอนว่าชุดเกราะไอรอนแมนของเราเองก็ได้พัฒนาระบบนี้โดยคุณ ดังนั้นผมคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร”

 

“นอกจากนี้ชุดเกราะไอรอนแมน ยังมีอุปกรณ์เสริมในการดูดซับพลังงานไฟฟ้าเเละสังเคราะห์เเสงจากพลังงานดวงอาทิตย์ หากพลังงานไม่พอ เราสามารถใช้สายฟ้าในการเติมพลังงานได้”

 

“??…J.A.R.V.I.S ฉันไม่คิดเลยว่านายต้องการจะเห็นฉันโดนฟ้าผ่า เเม้ฉันจะออกแบบชุดเกราะให้มีความสามารถต้านทานมันเเต่ฉันก็ไม่ต้องการลอง ยิ่งไปกว่านั้น ฉันยังไม่ได้รับประกันออฟชั่นอัพเกรดนี้ว่าจะสามารถต้านทานได้ร้อยเปอร์เซ็นหรือไม่!”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวเตือนพร้อมกับเริ่มถอยห่าง

 

“ผมเเค่พูดถึงสถานการณ์เป็นไปได้ เเละ อัตราความสำเร็จ เมื่อเทียบกับเเผนผังจำลอง ผลสรุปออกมาที่ได้ไม่จัดอยู่ในหมวดอันตราย”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบเพียงเล็กน้อย เขาไม่ได้ต่อต้านความคิดของ โทนี่ เพียงเเค่อธิบายถึงเหตุผลราวกับตัวเขาเริ่มกลายเป็นมนุษย์ขึ้นเรื่อยๆ

 

ฟุ่บ!

 

“เอาล่ะ เราถอยห่างมาพอเเล้ว มารอดูกันว่า สตอร์มจะสามารถทำลายคลื่นสัญญาณปิดกั้นข้อมูลเหล่านั้นได้หรือไม่”โทนี่ได้ถอยห่างออกมาระยะนึงก่อนที่จะหยุดเเละจ้องมองไปที่การกระทำของสตอร์ม

 

ครื่นน!!

 

หลังจากโทนี่บินออกไปจากพื้นที่ชั้นเมฆก็เริ่มก่อตัวหนาขึ้นเรื่อยๆ ประจุไฟฟ้าเริ่มอัดเเน่นจนถึงขีดสุดเเละปรากฏเสียงฟ้าร้องออกมา

 

“นำเครื่องของเราบินขึ้นสูงขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบวงกว้าง”นิคกล่าวสั่งการ เขาไม่รู้ความสามารถของมิวแทนท์ตนนี้ดีพอ

 

ฟุ่บ!

 

ครื่น!

 

หลังจากรวบรวมเมฆบนอากาศพร้อมกับประจุไฟฟ้าจำนวนมากทันใดนั้นเส้นเเสงก็เริ่มผ่าลงมาจากเบื้องบน

 

เปรี้ยง!

 

สายฟ้าฟาดครั้งเเรกได้ปรากฏขึ้นเเละตามมาด้วยเสียงของระลอกต่อไปที่ดังตามกันมา

 

“เจ้านายครับ สัญญาณปิดกั้นการสื่อสารเริ่มอ่อนเเอลงเเล้วครับ”ทันทีที่สายฟ้าครั้งเเรกถูกผ่าออกไป J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานอย่างรวดเร็ว

 

“เธอทำได้?นอกจากนี้ชุดเกราะไอรอนแมนของเราไม่ได้รับผลเลยงั้นหรือ?”

 

“ครับ,ดูเหมือนระบบป้องกันจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

จากนั้นโทนี่ก็สั่งการ J.A.R.V.I.S โดยตรง เขาสั่งให้ ไอรอนแมน เปิดใช้ระบบอาวุธพลังงานเพื่อโจมตีถล่มฐานของพวกไฮดร้าที่อยู่ข้างล่าง

 

ปั้ง ปั้ง~~

 

ฐานไฮดร้าได้ถูกเปิดฉากโจมตีอย่างรุนเเรง

!

 

ขณะที่ เร้ด สกัลล์ กำลังหลบหนีพร้อมกับลูกบาศก์เวทมนตร์ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ก็เหยียบบนยานบินพร้อมกับร่อนลงใกล้ฐานไฮดร้าที่ห่างไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตร ระยะทางต่อไปนี้เต็มไปด้วยอันตรายดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเสี่ยง

 

ฟุ่บ!

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันเเละปีเตอร์โดดลงมาเเละส่องไปบนฟาร์มพ้นดิน ทันใดนั้นทางเข้าใต้ดินก็ถูกเปิดพร้อมกับปากกระบอกปืนจำนวนมากที่เล็งทิศทางไปยังผืนอากาศ โชคดีที่เเจ็คสันเลือกที่จะเดินเท้าต่อไปนี้ไม่งั้นเขาคงตกเป็นเป้าสายตา

 

ด้วยอาวุธของฐานไฮดร้าที่ปรากฏขึ้น พวกเขาพลันต้องรู้สึกว่าฐานเเห่งนี้ย่อมไม่ใช่ฐานธรรมดาไม่งั้นการป้องกันคงไม่เเน่นหนาขนาดนี้

 

ปืนลำเเสงเลเซอร์จากภาคพื้นดินของพวกไฮดร้าได้เปิดฉากจู่โจมในทันที

 

“ช่วยเปิดทางให้พวกเราเข้าไปข้างในด้วย!”เเจ็คสันตะโกนออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะจ้องมองไปยังทิศทางเครื่องบินรบของพวกS.H.I.E.L.D.

 

บึ้มม

 

ทันทีที่เเจ็คสันตะโกนการตอบโต้จาก S.H.I.E.L.D. ก็ได้เริ่มขึ้นขีปนาวุธหลายสิบลูกได้ระดมยิงปืนใหญ่ภาคพื้นดินส่งผลให้ผืนดินเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนเเรง

 

“เห็นทางเข้าเเล้ว!”ทันทีที่ S.H.I.E.L.D. ทำการจู่โจมหน้าฟาร์มที่เคยอุดมสมบูรณ์ก็เผยให้เห็นทางเข้าใต้ดินที่ถูกเปิด เเจ็คสันอ้อมเเละใช้ยานบินของเขาบินให้ต่ำที่สุด

 

ฟ้าวว!

 

“ไปกันเถอะ!”เเจ็คสันกับปีเตอร์กระโดดขึ้นไปบนยานเเละเริ่มเดินหน้าอีกครั้ง

 

หลังจากเห็นทางเข้าเเจ็คสันก็ประมวลเเผนอยู่ในหัวทั้งหมดเขาได้เร่งพลังงานจากชุดสูทของตัวเองเพื่อเสริมไปยังตำเเหน่งป้องกันเเม้จะถูกระเบิดหรือการลอบโจมตีทีเผลอเขาก็ยังสามารถต้านทานมันได้

 

เพียงเเต่ว่าหลังจากบินผ่านมาระยะทางนึงเเจ็คสันกับปีเตอร์รู้สึกเเปลกใจพวกเขาไม่เห็นปืนต่อต้านภาคพื้นดินอื่น ๆ โจมตีมาที่พวกเขา พวกมันเล็งเป้าหมายไปที่ภาคผืนอากาศทั้งหมด

 

ไม่นานเเจ็คสันเเละปีเตอร์ก็มาถึงเหนือทางเข้าฐานใต้ดินเเห่งนี้ ขณะเดียวกัน กัปตันโรเจอร์สที่มากับฟอลคอน เขาก็ลงมาถึงพื้นดินเมื่อไม่นาน พวกเขาลงจอดใกล้ ๆ ตำเเหน่งของ มิราจไนท์

 

“เข้าไปข้างในกันเถอะ!”เห็นมิราจไนท์เเละสไปเดอร์แมนที่ล่วงหน้าเข้าไปในฐานใต้ดินก่อน กัปตันโรเจอร์สที่เพิ่งตกลงที่พื้นเขาได้กล่าวกับฟอลคอนพร้อมกับมุ่งหน้าหาทางเข้าใต้ดิน

 

ฟอลคอน”…”

 

เเม้ว่าฟอลคอนจะไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เเต่เขาก็ทำตามคำสั่งของกัปตันโรเจอร์ส เขารีบไปคว้าตัวกัปตันโรเจอร์สอีกครั้งพร้อมกับใช้ปีกที่ยืดหยุ่นของตัวเองมุ่งหน้าเดินทางไปด้วยความเร็วระดับสูง

 

หลังจากฟอลคอนเเละกัปตันโรเจอร์สเตรียมมุ่งหน้าเข้าสู่ฐานทัพใต้ดิน ฮ็อคอายเเละเเดร์เดวิล ก็เพิ่งลงมาถึงพื้นเช่นเดียวกัน กองบินของ S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้กำลังเปิดฉากจู่โจมฐานของพวกไฮดร้าอย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับศาสตราจารย์ชาร์ลส์เขามีเเผนเคลื่อนไหวด้วยตัวเองดังนั้นเขาจึงไม่ต้องให้ S.H.I.E.L.D. มากังวล

 

เหนือฟามทั้งหมด S.H.I.E.L.D. เริ่มเปิดฉากจู่โจมอย่างดุเดือด เร้ด สกัลล์ ที่ยังอยู่ภายในฐานรู้สึกโล่งใจ โชคดีที่ค่าพลังป้องกันของฐานเเห่งนี้เเข็งเเกร่งกว่าฐานในรัฐนิวเจอร์ซีย์มาก ถึง ขีปนาวุธ เเละ กระสุนรังเพลิงจำนวนมากจะเป็นปัญหา เเต่มันก็คงยื้อเวลาได้สักพัก

 

!

 

ระหว่างที่ S.H.I.E.L.D. กำลังจู่โจมฐานของพวกไฮดร้า กองทัพสีเเดงฉาน หรือก็คือกองทัพไอรอนแมนก็ได้เริ่มปฏิบัติการพวกมันได้ออกจากท้ายเครื่องยานบินอวกาศ

 

กองทัพไอรอนแมนจำนวนมากได้เข้าสู่สมรภูมิเเน่นอนว่าเมื่อเทียบกับเครื่องบินรบความยืดหยุ่นเเละการผสานการโจมตีย่อมสำเร็จผลเร็วกว่ามากพริบตาเดียวอาวุธป้องกันฐานของพวกไฮดร้าก็ถูกทำลายลงไปหลายส่วน

 

อย่างไรก็ตามเเม้จะชิงได้เปรียบเเต่ก็ไม่มีใครชะล่าใจ เพราะอาวุธภาคพื้นดินของพวกไฮดร้าที่ปรากฏขึ้นเพียงถูกทำลายไปเเค่ 80% เมื่อ J.A.R.V.I.S ทำการตรวจสอบ ยังมีคลื่นความผิดปกติที่ถูกส่งออกมาจากภายในฐานมันมีค่าตรงกับเหตุการณ์ที่สะพานโกลเด้นเกต เห็นได้ชัดว่าพวกไฮดร้ายังคงไม่หงายไพ่ในมือออกมาทั้งหมด

 

“เตรียมพร้อมเข้าสู่มาตราการระวังเเละเตรียมตอบโต้”นิคได้กล่าวเตือนผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดบนยานบินอวกาศ

 

กว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานิคได้ประมวลผลวิเคราะห์ความสามารถของเครื่องมือมิติของพวกไฮดร้าเเล้วเเละพบว่ามันน่ากลัวอย่างมาก จนถึงตอนนี้พวกไฮดร้ายังไม่เผยไพ่ที่ว่านั่นออกมา

 

เเน่นอนว่าถ้าหากพวกไฮดร้านำมันออกมาใช้ การโจมตีดังกล่าว นิคยังไม่รู้วิธีที่จะหยุดมัน เขาเชื่อว่าคลื่นพลังนั่นย่อมส่งผลกระทบต่อสงครามครั้งนี้มหาศาล

 

“J.A.R.V.I.S คอยตรวจสอบคลื่นมิติความผันผวนนั่นตลอดเวลา เราจะต้องอ่านเกมศัตรูให้ทัน”โทนี่ยังไม่ได้เข้าร่วมในสงครามเขาสวมชุดเกราะไอรอนแมนเเละลอยอยู่บนอากาศจ้องมองไปที่พื้นดินข้างล่าง

 

“ครับเจ้านาย!”

 

หึ่ม

 

J.A.R.V.I.S ได้ลอบตรวจสอบคลื่นความผันผวนพิเศาของพวกไฮดร้า รัศมีของมัน ครอบคลุมไปทั่ว 1กิโลเมตร นอกจากนี้มันยังมีความสามารถป้องกันการตรวจจับหรือลอบเเฮ็กเข้าฐานอีกด้วยจัดว่าเป็นอันตรายต่อพวกเครื่องมืออิเล็คทรอนิคทีเดียว

 

“ดูเหมือนว่าคลื่นความผันผวนนี้จะป้องกันการลอบโจมตีทางอิเล็คทรอนิคเเละการสื่อสารภาคพื้นที่ได้ หวังว่ามันจะไม่รุนเเรงพอให้ J.A.R.V.I.S ไม่สามารถสื่อสารควบคุมกองทัพไอรอนแมนได้”โทนี่ ได้ข้อมูลการวิเคราะห์หลายอย่างเเละสรุปออกมา

 

“การป้องกันด้านการสื่อสารของฐานเเห่งนี้ค่อนข้างสูงอย่างมากอาจเข้าขั้นสมบูรณ์เเต่คราวนี้กลับไม่ปรากฏหมอกอำพรางเหมือนบนสะพานโกลเด้นเกต คาดว่า พวกเราไม่น่าจะเป็นอะไร ธรรมชาติชุดเกราะไอรอนแมนเเต่ละชุดเต็มไปด้วยระบบอิสระที่อัจฉริยะ ทุกชุดเกราะสามารถรับมือการต่อต้านเหล่านี้ได้อย่างไม่มีปัญญา”J.A.R.V.I.S กล่าวบอกโทนี่

 

“J.A.R.V.I.S ฉันรู้ว่า นายค่อนข้างภูมิใจในเรื่องนี้ไม่น้อยเลยนะ?”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ยิ้มออกมา

 

J.A.R.V.I.S”…”

ขณะที่ S.H.I.E.L.D. นำ ยานบินอวกาศบรรลุเหนือน่านฟ้าฐานของพวกไฮดร้า พวกไฮดร้ากลับยังไม่สามารถตรวจพบการเคลื่อนไหวของพวกเขา นอกจากนี้ เร้ด สกัลล์ ได้ย้ายบุคลากรส่วนใหญ่ซ่อนไว้ในส่วนลึกภายในฐานหมดเเล้ว เพราะทางฝ่าย เร้ด สกัลล์ เอง ก็ได้รับข่าวเกี่ยวกับยานบินอวกาศของ S.H.I.E.L.D.

 

ในเวลานี้ เร้ด สกัลล์ กำลังนั่งอยู่ในห้องลับของตัวเองพร้อมกับจิวไวน์เเดงชั้นเลิศ ในการเคลื่อนไหวในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลลัพธ์ที่พวกไฮดร้าเผชิญนั้นก็คือความสูญเสียจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น ทีมอัลฟ่า เเละ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ที่ เเจ็คสันนำไป

 

เร้ด สกลัล์มีเเผนที่จะมอบบทเรียนที่ร้ายเเรงให้คนเหล่านั้นอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงต้องอดทนเเละซ่อนตัวราวกับเต่าในกระดองรอไปก่อน

 

เเละข่าวในช่วงสองสามวันมานี้ทำให้ เร้ด สกัลล์ รู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมากเพราะพวก S.H.I.E.L.D. ได้รับรู้ข่าวเรื่องฐานลับเเห่งนี้

 

“ก่อนที่พวกมันจะพบฐานนี้ ฉันจะนำลูกบาศก์เวทมนตร์หนีไปก่อน”เร้ด สกัลล์ กล่าวออกมาเขาเชื่อว่ากว่า S.H.I.E.L.D. จะรู้ว่าฐานถูกซ่อนอยู่ใต้ดินในภูมิภาคเเห่งนี้ก็คงต้องใช้เวลาพอสมควร

 

ติ๊ด ติ๊ดด
ติ๊ด

 

“อะไร?พวกมันค้นพบฐานของพวกเราเร็วขนาดนี้ บ้าจริง ไม่ได้การ ฐานเเห่งนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะปิดกั้นพวกมัน ฉันจะต้องนำลูกบาศก์เวทมนตร์หนีไปก่อน!”เร้ด สกัลล์ ที่ได้ยินเสียงเตือนเขาดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้เเละจ้องมองไปที่จอภาพ

 

สิ่งที่เขาเห็นในจอภาพก็คือฐานของพวกเขาเต็มไปด้วยกำลังรบของศัตรูตอนนี้มันได้ล้อมภูมิภาคเเห่งนี้ไว้หมดเเล้ว

 

ที่จริงเเล้วการคาดเดาของเเจ็คสันเกี่ยวกับพวกไฮดร้านั้นถูกต้อง เเม้ เร้ด สกัลล์ จะได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์ไป ผ่านไประยะเวลาหลายปี ความก้าวหน้าด้านการศึกษาของพวกเขาเพิ่มขึ้นน้อยมาก เเละ การทดสอบประสิทธิภาพจริงคราวก่อนที่สะพานโกลเด้นเกต นั่นอาจจะเป็นข้อมูลล่าสุดที่พวกเขาได้

 

ดังนั้น เร้ด สกัลล์ จึงต้องการซ่อนตัวอีกระยะเวลานึง เพื่อเพิ่มเวลาข้อมูลการศึกษาเเละดึงพลังของลูกบาศก์เวทมนตร์ออกมาใช้ให้ได้มากที่สุดเมื่อถึงตอนนั้น เขาจะสามารถทำลาย S.H.I.E.L.D. ทีมX-MEN ทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์ ได้อย่างง่ายดาย

 

เเต่ตอนนี้เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะฐานเเห่งนี้ถูกค้นพบเร็วเกินไป เเละเเผนของ เร้ด สกัลล์ ก็คือนำลูกบาศก์เวทมนตร์หลบหนีไปก่อน

 

ทันทีที่ตัดสินใจได้ เร้ด สกัลล์ พกอาวุธติดมือ จากนั้นก็รีบวิ่งออกจากห้องลับของตัวเอง ในเวลานี้ ลูกบาศก์เวทมนตร์ของเขาอยู่ในห้องวิจัยที่เต็มไปด้วยพวกนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้น เร้ด สกัลล์ จึงต้องรีบไปที่ห้องนั้นเเละรีบนำลูกบาศก์หลบหนี

 

บึ้มมม

 

เสียงปะทุได้ดังขึ้นตลอดระยะทางที่ เร้ด สกัลล์ กำลังเร่งรีบ นอกเหนือจากเเผนการนำลูกบาศก์หลบหนีก่อนเเล้ว เขาคงต้องละทิ้งฐานเเห่งนี้ เเละ พาบุคคลที่เชื่อใจได้หลบหนีไปด้วยไม่กี่คน

 

ฮึ่มม!

 

“ลึกลับจริง ๆ !”

 

“ในโลกนี้ยังมีสิ่งลึกลับอีกจำนวนมาก สิ่งนี้เองก็เป็นหนึ่งในนั้น มันราวกับถูกประทานมาให้โดยพระเจ้า!”

 

“ใช่ มันสวยงามจริง ๆ ความงามของมันไม่สามารถหาอะไรมาทดเเทนได้”

 

“สิ่งนี้คืออาวุธมิติร้ายเเรง หากเราทำให้มันเสถียรได้ มันจะกลายเป็นสุดยอดอาวุธที่ถูกพวกเราค้นพบ!”

 

ในศูนย์กลางของฐานสี่เหลี่ยมนักวิทยาศาสตร์จนำวนมากกำลังมัวเมากับการวิจัยลูกบาศก์เวทมนตร์เเต่ไหนเเต่ไรพวกเขามีความกระตือรือร้นในการศึกษามันมากทุกครั้งที่พวกเขาเห็นมัน พวกเขาราวกับต้องมนต์เสน่ห์ของมันโดยปริยาย

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์กำลังทดลอง เเน่นอนว่าพวกเขาไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก จู่ ๆ เสียงเตือนก็เเว่วดังขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะกับการปรากกฏตัวของ เร้ด สกัลล์, เร้ด สกัลล์ ไม่ได้สนใจท่าทีสงสัยของนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ เขารีบวิ่งไปที่เครื่องศูนย์นำที่กำลังติดกับลูกบาศก์เวทมนตร์อยู่ เขารีบดิ่งตรงไปหวังจะนำมันออกมาโดยเร็วที่สุด

 

“เร้ด~~ ท่าน เร้ด สกัลล์ การทดลองของพวกเรายังไม่เสร็จสิ้นเลย”เห็นการเคลื่อนไหวของเร้ด สกัลล์ นักวิทยาศาสตร์จำนวนมาก รีบวิ่งเข้าไปห้ามปรามเขา

 

พวกเขารู้ดีว่า ลูกบาศก์เวทมนตร์นี้สำคัญขนาดไหน เเต่พวกเขาไม่คิดเลยว่า เร้ด สกัลล์ จะรีบดิ่งขึ้นมาเเละนำมันออกจากเครื่องทันที

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่เอาออกมาได้ เร้ด สกัลล์ ได้นำมันใส่กล่องเเละเตรียมจะหลบหนีออกไปก่อนที่เขาจะหลบหนีเขาได้หันไปกล่าวกับพวกนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น

 

“เก็บข้อมูลที่มีค่าส่วนไหนทำลายได้ก็ทำลายทิ้งซะให้หมด”เร้ด สกัลล์ ตะโกนบอก

 

“เอ่อ…”

 

“เข้าใจเเล้วครับ”

 

เเน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้โง่พวกเขารีบทำตามคำสั่งในทันที

 

“ท่าน เร้ด สกัลล์”

 

“ฉันจะหลบหนีไปก่อนหลังจากเคลียร์ข้อมูลเสร็จพวกเเกก็ตามมาทีหลังเเล้วกัน”เร้ด สกัลล์ กล่าวพูดกับนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ คนเหล่านี้เเน่นอนว่า ได้ติดตามเขามาหลายปี หากขาดคนเหล่านี้ไป การศึกษาลูกบาศก์เวทมนตณ์ก็จะล่าช้ามาก

 

“ครับ ท่าน เร้ด สกัลล์!”นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ไม่รีรอรีบเร่งไปลบข้อมูลเเละเก็บส่วนสำคัญในทันที

 

ฟุ่บ!

 

จ้องมองที่ท่าทีของนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ที่รับคำสั่งโดยเร็ว เร้ด สกัลล์ วิ่งออกไปจากห้องปฏิบัติการโดยไม่สนว่าอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญคือความปลอดภัยของลูกบาศก์เวทมนตร์ เร้ด สกัลล์ จะไม่มีทางยอมเสียมันไป เขารู้ดีถึงความน่าเกรงขามของมันดี เขาคิดว่าเขาสามารถวิเคราะห์ความเข้าใจของมันได้เพียงเเค่ 1ใน 1,000,000 เพียงเท่านั้น เเต่นั่นก็ยังน่าเกรงขามเเละร้ายกาจมาก ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร เร้ด สกัลล์ ก็จะต้องพาลูกบาศก์เวทมนตร์เเห่งนี้หลบหนีไปให้ได้

หลังจากเเจ็คสันเเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์จบบทสนทนา ปีเตอร์ก็เดินมาข้างเเจ็คสัน

 

“มีอะไรงั้นหรอ?”

 

“ป่าวหรอก เเค่คุยเรื่องภารกิจ หน้าที่ที่พวกเราควรให้ความสนใจก็คือลูกบาศก์เวทมนตร์ ตราบที่พวกไฮดร้าไม่มีลูกบาศก์เวทมนตร์พวกมันก็จะไม่สามารถฟื้นฟูกำลังกลับมาต่อต้านพวกเราได้อีก”เเจ็คสันหันไปตอบปีเตอร์

 

ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเน่นอนว่าปัญหาใหญ่ของพวกเขาก็คือกำลังคน เมื่อเทียบกับ S.H.I.E.L.D. อิทธิพลใหญ่ระดับโลก พวกเขาไม่เหมาะที่จะเผชิญหน้า ดังนั้นเป้าหมายของเเจ็คสันก็คือปล้นลูกบาศก์เวทมนตร์ เขาจะใช้ S.H.I.E.L.D. เป็นเหยื่อล่อ เเละ หาโอกาสไปขมโย ลูกบาศก์เวทมนตร์ภายในฐานของพวกไฮดร้า

 

“เข้าใจเเล้ว”ปีเตอร์พยักหน้าตอบรับ

 

ฮึ่ม!

 

ในขณะที่เเจ็คสันเเละปีเตอร์กำลังพูดคุยกันยานบินอวกาศดูเหมือนจะเริ่มลดตัวลง

 

“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาถึงเเล้ว”ดูจากลักษณะท่าทีของนิค เเจ็คสันพูดเตือน

 

จริง ๆ เเล้วความเร็วของยานบินอวกาศได้เริ่มชะลอลงนานเเล้วเเละมันก็ค่อย ๆ ลดระดับลงเเต่ก็ยังลอยอยู่บนอากาศ ขณะเดียวกัน ทีมพันธมิตรอเวนเจอร์สหลายคนได้ตื่นตัวอย่างรวดเร็ว กัปตันโรเจอร์ส ได้เคลื่อนย้ายตัวเเละเตรียมสั่งการในฐานะหัวหน้าทีม

 

“มิราจไนท์ หน้าที่ของพวกเราคือ การปะทะกับพวกทหารธรรมดา ทีมอัลฟ่า เเละ ก็คือ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์”กัปตันโรเจอร์สกล่าวพูดคุย นี่คือเป้าหมายของทีมพันธมิตรอเวนเจอร์ส เเต่การกวาดล้างทหารธณรมดาเเละหุ่นยนต์จำนวนมากคือหน้าที่ของทหารธรรมดา

 

“เเล้ว ทีม X-MEN ?”เเจ็คสันพยักหน้าเล็กน้อย การเคลื่อนไหวครั้งนี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เข้าร่วมศึกด้วยดังนั้น เเจ็คสันจึงสงสัยเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

“คุณสามารถมั่นใจได้ เเม้ทีม X-MEN จะไม่รับคำสั่งของ S.H.I.E.L.D. เเต่ในหมู่พวกเราก็ยังมีข้อตกลงร่วมกัน นั่นก็คือการประสานงานกันเป็นทีม”กัปตันโรเจอร์สยิ้มออกมา

 

“จริงสิ ฉันไม่เห็น นาตาชา เธอไม่ได้เข้าร่วมการเคลื่อนไหวในครั้งนี้งั้นหรอ?”เเจ็คสันกวาดสายตามองไปทั่ว เขาพบว่าทีมอเวนเจอร์สมีสมาชิกไม่ครบ เเบล็ควิโดว์ได้หายตัวไป ดังนั้นเเจ็คสันจึงสงสัย

 

“นาตาชา?ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอคงมีภารกิจลับอื่น ๆ เพราะเธอไม่ได้อยู่ในรายชื่อบุคลากรที่เข้าร่วมการเคลื่อนไหวในครั้งนี้”กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

เเน่นอนว่ากัปตันโรเจอร์สย่อมตระหงิดตั้งเเต่เเรกที่นาตาชาไม่ได้มีส่วนร่วมในศึกครั้งนี้ เเละ เธอก็ได้หายตัวไป กัปตันโรเจอร์สไม่รู้ว่าเธอไปไหน มีเเต่นิคเท่านั้นที่รู้ เเละ นิคก็เพียงบอกว่า เธอติดภารกิจ ดังนั้นกัปตันโรเจอร์สจึงไม่ได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ บางที นาตาชา อาจได้รับภารกิจลอบเข้าฐานของพวกไฮดร้าก็เป็นได้

 

ได้ยินคำตอบของกัปตันโรเจอร์สเเจ็คสันสาดทอประกายนัยน์ตาออกมาทันที’ภารกิจ?’

 

นาตาชามีทักษะการต่อสู้ที่ไม่ได้เเข็งเเกร่งมากนักเเต่เธอมีความสามารถที่หลากหลายเหมาะกับหลายหน้าที่ดังนั้นนิคจึงไหว้วานให้เธอทำภารกิจสำคัญหลายอย่าง

 

“จะใช่งั้นหรอ?”เเจ็คสันคิกถึงพล็อตเรื่องบางอย่างก่อนที่จะฉุดคิดได้

 

“มีปัญหาอะไรงั้นหรอ?”

 

“ป่าวไม่มีอะไร”

 

เเจ็คสันไม่ได้จะไต่สวนคำตอบจากกัปตันโรเจอร์สอีก เพราะเขามุ่งเน้นความสนใจไปที่การรับมือกับไฮดร้าเเละลูกบาศก์เวทมนตตร์เเทน

 

ขณะเดียวกันกองทัพไอรอนแมนของโทนี่จำนวนมากก็ถูกบรรจุขึ้นยานบินอวกาศ โทนี่ ไม่ต้องการผลาญพลังงานโดยไม่จำเป็นเขาต้องการประหยัดพลังงานเพื่อรับมือกับพวกไฮดร้าเเละลูกบาศก์เวทมนตร์ เเละ มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับโทนี่ ลูกบาศก์เวทมนตร์นั้นคืออาวุธต่างดาวที่มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า มันเป็นสิ่งที่โทนี่ต้องการเช่นเดียวกัน

 

!

 

ความเร็วของยานบินอวกาศลดลงจนถึงขีดสุดมันอยู่ห่างจากฐานของพวกไฮดร้าไม่ถึง 2 กิโลเมตร ไม่นานมันก็ลดระดับลงจนเห็นพื้นดินอย่างชัดเจน ด้านล่างเป็นพื้นที่ฟาร์มขนาดใหญ่ เเละ ฟาร์มทั้งหมด ภายในใต้ดินนั้นก็คือฐานทัพของพวกไฮดร้า

 

ตามข้อมูลการวิเคราะห์จาก S.H.I.E.L.D. ภูมิภาคเเห่งนี้เป็นฐานของพวกไฮดร้าเเทบทั้งหมด เเละ ตัวตนอาวุโสหรือเสาหลักจำนวนมากของพวกไฮดร้าน่าจะอยู่ที่ฐานเเห่งนี้ ฐานเเห่งนี้ค่อนข้างใหญ่พิเศษ เเน่นอนว่ามันใหญ่มากกว่าฐานในรัฐนิวเจอร์ซีย์

 

ยานบินอวกาศได้มุ่งหน้าเดินทางจนมีระะห่างเพียงหนึ่งกิโลเมตรก่อนที่พวกเขาจะคาดการณ์ว่าเป็นจุดเหมาะสม พวก S.H.I.E.L.D. ไม่ได้เป็นกังวลว่าพวกไฮดร้าจะค้นพบพวกเขา เพราะพวกเขาได้เเบ่งกระจายกองกำลังล้อมรอบภูมิภาคเเห่งนี้ไว้หมดเเล้ว

 

“เอาล่ะพวกเราเข้าสู่เวทีศัตรูเเล้ว”ท้ายยานได้เปิดขึ้นอย่างรวดเร็วกัปตันโรเจอร์สได้กล่าวออกมา

 

ทันทีที่ท้ายยานถูกเปิดกระเเสลมจำนวนมากพลันผัดผ่านเข้าสู่ท้ายยานอย่างรุนเเรง

 

“ฉันขอล่วงหน้าไปก่อนเเล้วกัน! สไปเดอร์แมน!”เเจ็คสันได้เดินมาถึงท้ายยานก่อนที่จะทักทายปีเตอร์เเละกระโดดลงไป

 

ฟุ่บ!

 

วินาทีที่มิราจไนท์โดดลงไปสไปเดอร์แมนก็โดดลงไปตาม ความสูงเพียงหนึ่งกิโลเมตร ธรรมชาติ พวกเขาไม่ได้ใช้ร่มชูชีพ เเต่ก็ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะเป็นอันตราย เพราะหลังร่อนลงมามากกว่า 100 เมตร เเจ็คสันได้หยิบยานบินออกมา เเละ ขับไปรับปีเตอร์

 

“พวกเราก็ไม่ควรน้อยหน้า! ฟอลคอน!”กัปตันโรเจอร์ส กระโดดลงไปพร้อมกับโล่ในมือของเเขา

 

ฟุ่บ!

 

ด้านหลังของกัปตันโรเจอร์สฟอลคอนได้กระโดดบินลงไปอแย่างใกล้ชิดก่อนที่จะรับตัวกัปตันโรเจอร์สเอาไว้

 

เห็นคนอื่น ๆ กระโดดลงไปท้ายยานเหลือเพียง ฮอว์กอาย เเละ เเดร์เดวิล พวกเขาทั้งคู่รู้ตัวดีว่าไม่มีทางทำแบบนั้นได้โดยเฉพาะเเดร์เดวิล

 

เเดร์เดวิล”…”

บอกตามจริงเเจ็คสันไม่คิดว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะมาด้วยตัวเอง ศาสตราจารย์ชาร์ลส์มีความเเข็งเเกร่งมาก เเต่ความเเข็งเเกร่งโดยรวมของเขาก็ยังไม่เทียบเท่ากับไอซ์แมนที่มีความสามารถึงมิวแทนท์ระดับ 5 ความสามารถกลายพันธุ์ของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็คืออ่านใจเเละควบคุมจิตใจความสามารถของเขาสามารถคุกคามศัตรูได้โดยตรง เเต่ถึงกระนั้นเเจ็คสันมองว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์คือปราชญ์ที่ฉลาดมากกว่า

 

ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะเข้าร่วมด้วยตัวเองเขาก็รู้สึกยินดีอย่างมาก

 

“เนื่องเพราะเหตถการณ์ครั้งนี้สำคัญมาก ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ พวกไฮดร้าคือเนื้อร้ายที่สมควรกำจัด ฉันหวังว่าการร่วมมือของพวกเราครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังมีมิวแทนท์ที่หลงผิดถูกหลอกใช้โดยพวกมันอีกด้วย”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา

 

เมื่อฟังศาสตราจารย์ชาร์ลส์พูดถึงมิวแทนท์ เเจ็คสันจึงนึกขึ้นมาได้ว่าพวกไฮดร้ามีมิวแทนท์สองพี่น้องที่ร้ายกาจอย่าง ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ช วิช คนเหล่านี้เป็นเด็ก ๆ เเมกนีโต

 

ตอนี้ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ตวิช ทำงานให้พวกไฮดร้าอยู่ เเจ็คสันสงสัยว่าแมกนีโตเเละไฮดร้าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกัน เเต่มันก็ยังไม่มีจุดเชื่อมโยงมาก

 

อิทธิพลของเเมกนีโตนั้นเเข็งเเกร่งอย่างมาก เเละ เขายังเป็น มิวแทนท์ระดับสูง

 

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ฉันคิดว่ามีเรื่องสำคัญต้องบอกคุณ”เเจ็คสันกล่าวบอกศาสตราจารย์ชาร์ลส์อย่างเร่งรีบ

 

“มีเรื่องอะไรงั้นหรอ?”

 

“เกี่ยวกับพี่น้องมิวแทนท์ที่คุณได้ยินเมื่อเร็ว ๆ นี้ พวกเขาทั้งคู่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ เพื่อนเก่าของคุณ เเมกนีโต หรือไม่?”เเจ็คสันกล่าวถามออกมาโดยตรง เขาเชื่อว่า ทีมX-MEN คงจะได้รับข่าวคราวบางอย่างมาบ้าง

 

“พี่น้องมิวแทนท์ เเละ อีริค?พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกัน?ฉันเองก็ไม่เเน่ใจ ข่าวอีริคล่าสุดคือฉันได้ยินมาว่าเขาได้ทำการลอบสังหารคนนึงมันคือสมาชิกที่ต่อต้านสภามิวแทนท์”

 

“ลอบสังหารสมาชิกสภามิวแทนท์?มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่?”เเจ็คสันรู้สึกสนใจเรื่องนี้ เขาต้องการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของพวกมันกับพวกไฮดร้า

 

“มันเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่เเล้ว สำหรับฉันเเล้วอีริคคือศัตรูที่ร้าจกาจที่สุด เขาสามารถป้องกันความสามารถอ่านใจของฉันได้เพราะแบบนี้ฉันถึงไม่สามารถค้นหาเขาได้”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์อยากรู้ความตั้งใจจริงของมิราจไนท์ เขาจึงตอบตามตรง

 

“เดือนที่เเล้ว?พวกเขาคงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันจริง ๆ ล่ะมั้ง”ได้ยินคำตอบของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเจ็คสันคิดว่าพวกเขากับไฮดร้าอาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน

 

“มิราจไนท์คุณค้นพบอะไรงั้นหรอ? หรือว่าคุณกำลังจะบอกว่า อีริค มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พวกไฮดร้า? อีริค ไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพวกไฮดร้าหรอก รวมถึงไปถึงความร่วมมือด้วยซ้ำ”

 

ในความเข้าใจของชาร์ลส์ อีริค คือตัวตนที่ร้ายกาจที่เป็นคู่ปรับของเขา ในฐานะบุคคลเริ่มเเรกที่ร่วมก่อตั้งทีม X-MEN เขาเข้าใจอีริคดี ,เพราะ อีริค คือมิวแทนท์ที่มีความมั่นใจสูง เเละ หยิ่งในศักดิ์ศรี

 

“บางที เเมกนีโต อาจไม่รู้ว่าเด็ก ๆ ของตัวเอง จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกไฮดร้า”เเจ็คสันกล่าวพึมพัมเล็กน้อย

 

หาก เเมกนีโต เเละ พวกไฮดร้า ไม่เกี่ยวข้องกัน ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ตวิช ควรถูกพวกไฮดร้าคุกคามหรือร่วมมือกับพวกมันเอง เเต่ในช่วงระหว่างต่อสู้ เเจ็คสันคิดว่า ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ตวิช ไม่ได้ถูกควบคุมโดยพวกไฮดร้า พวกเขาราวกับว่าเพียงเเค่รับงานจากพวกไฮดร้าเพียงเท่านั้น

 

“มิราจไนท์คุณพูดว่าอะไร?เเมกนีโตไม่รู้อะไร?”เเม้เเจ็คสันจะพูดเสียงทุ้มต่ำเเต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ได้ยิน

 

“เอ่อ…ศาสตราจารย์ชาร์ลส์มันจะดีกว่าหากคุณให้ความสนใจสองพี่น้องมิวแทนท์ พวกเขาคือ เด็กของเเมกนีโต เเละ พวกเขาก็ทำงานให้กับพวกไฮดร้า นั่นเป็นเหตุที่ทำให้ฉันสงสัยว่า เเมกนีโต มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกไฮดร้า”เเจ็คสันอธิบายเรื่องนี้ ให้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ฟัง

 

“สองพี่น้องมิวแทนท์?เข้าใจเเล้วฉันจะให้ความสนใจพวกเขาเพิ่มขึ้น”ได้ยินคำเตือนของมิราจไนท์ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ปฏิบัติตาม

 

“อย่าประมาทเด็ดขาดพวกเขาไม่ธรรมดา โดยเฉพาะคนน้อง ความสามารถกลายพันธุ์ของเธอกระทั่งเทียบเท่ากับไอซ์แมนที่เป็นมิวแทนท์ระดับ 5”

 

เเจ็คสันอธิบายเพิ่มอีกอย่าง

 

“คุณพูดถูกความสามารถกลายพันธุ์ของทั้งคู่เป็นของจริงโดยเฉพาะคนน้องความสามารถของเธออาจถึงระดับ 5 ความสามารถกลายพันธุ์ระดับ 5 ใช่ว่าจะสามารถยกระดับกันได้ง่าย ๆ นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้คุณบอกให้ฉันระวังสินะ”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา สกาเล็ตวิช เป็นมิวแทนท์ระดับ 5 ความสามารถของเธอย่อมน่ากลัว

 

ในทีม X-MEN มีไอซ์แมนที่เป็นมิวแทนท์ระดับ 5 นอกเหนือจากนั้นในอนาคตก็ยังมี ดาร์ค ฟีนิกซ์ เพียงเเต่ ดาร์ค ฟีนิกซ์ ความสามารถของเธอร้ายกาจมาก พลังของเธอกระทั่งไม่เกี่ยงพวกพ้อง ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อทีม X-MEN เธอจึงถูกส่งตัวออกไป ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน บางทีอาจซ่อนในสถานที่สงบบางเเห่งในโลกนี้ เเต่ก็มีความเป็นไปได้ที่เธออาจจะไม่ได้อยู่บนโลก

 

“อืม ศึกครั้งนี้ฉันเองก็หวังพึ่งคุณเหมือนกัน”

 

“ดี เข้าใจเเล้ว”

 

ทั้งสองคนได้เชื่อมสัมพันธ์โดยการพูดคุยกัน, หากเด็กทั้งสองคนของเเมกนีโตไม่ได้เข้ามายุ่งศึกในครั้งนี้มันจะดีอย่างมาก ความสามารถของสองพี่น้องเป็นของจริง หลังจากกำจัดพวกไฮดร้าเสร็จ หากได้ทั้งสองคนมาร่วมมือทีมย่อมเป็นประโยชน์กับพวกเขาในอนาคต

 

เเจ็คสันเเละปีเตอร์ได้เดินตามหลังกัปตันโรเจอร์สจนไปถึงห้องควบคุมซึ่งเป็นศูนย์กลางของยานบินอวกาศในฐานะเเขกพิเศษพวกเเจ็คสันสามารถเข้าสถานที่เเห่งนี้ได้เพราะได้รับการไว้วางใจจากกัปตันโรเจอร์สเเละนิค

 

ในห้องควบคุมขนาดใหญ่ นิค ได้ยืนอยู่ท่ามกลางห้องควบคุมซึ่งเเผนการเเละการเคลื่อนไหวทั้งหมดอยู่ภายใต้คำสั่งของนิค ธรรมชาติ พวกเขาวางเเผนทุ่มการโจมตีแบบเต็มกำลัง เเม้จะได้รับการสนับสนุนจาก ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ ทีมX-MEN ก็ตาม

 

“ดูเหมือนว่าหัวหน้านิคต้องการจบศึกสงครามกับพวกไฮดร้าให้ได้ในวันนี้สินะ”เเจ็คสันไม่ได้เดินไปทักทายนิค เขาเเละกัปตันโรเจอร์ส ยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าห้องควบคุม หลังจากเห็นสีหน้าของนิค เเจ็คสันกล่าวขึ้น

 

“ยานบินอวกาศนี้เป็นทรัพยากรล้ำค่าที่ไม่มีอะไรมาทดเเทนได้ในตอนนี้ ดังนั้นนิคที่สั่งเคลื่อนปราการเหล็กนี้ก็เพราะหวังว่าจะกำจัดพวกไฮดร้าได้โดยเร็ว”กัปตันโรเจอร์สอธิบาย เพราะตอนนี้ระหว่าง กัปตันโรเจอร์ส เเละ มิราจไนท์ ได้มีความลับต่อกัน โดยที่นิคยังไม่รู้

 

“ก่อนหน้านี้ฉันก็ได้ยินอธิบายคร่าว ๆเกี่ยวกับยานบินอวกาศลำนี้โดยคุณเเล้ว เช่นนั้นคุณมั่นใจว่าศึกครั้งนี้เราจะชนะจริงเเน่หรอ?”เเจ็คสันกล่าวเสียงต่ำเล็กน้อย

 

เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้เปิดเผยเรื่องอินฟินิตี้สโตนกับกัปตันโรเจอร์สไปเเล้ว ซึ่งนั่นทำให้ กัปตันโรเจอร์ส รู้สึกกังวลมาก เขาย่อมตระหนักได้ถึงความร้ายกาจของ อินฟินิตี้สโตนที่พวกไฮดร้าครอบครองอยู่ดี

 

“สบายใจเถอะ ฉันก็พูดไปงั้นเเหละ พวกเราได้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์คอยช่วยเหลือเรื่องการวิเคราะห์จุดเเข็งของพวกไฮดร้า เชื่อว่าศึกครั้งนี้คงจะง่ายกว่าเดิม ถึงจะไม่มาก เเต่เชื่อว่าเรายังคงมีโอกาสชนะอยู่”เเจ็คสันที่เห็นสีหน้าของกัปตันโรเจอร์สที่กังวล เขากล่าวปลอบเล็กน้อย

 

การต่อสู้หลายศึกที่ผ่านมานี้ เเจ็คสัน ย่อมไม่ใช่ตัวเอกอีกเเล้ว โดยเฉพาะศึกที่เผชิญหน้ากัปสเปซอินฟิสินิตี้สโตน หากเขามีเเต้มคะแนนเขาก็คงเเลกเปลี่ยนสินค้าบางอย่างจากร้านค้าในระบบเพื่อต้านทานมันได้ เเต่ตอนนี้เขายังไม่มี การต่อสู้ส่วนใหญ่จึงต้องฝากไว้กับ S.H.I.E.L.D. โทนี่ เเละ ทีมX-MEN

 

S.H.I.E.L.D. นำโดยเครื่องบินอวกาศขนาดใหญ่เเละกองทัพเครื่องบินรบ เเจ็คสันเชื่อว่า การโจมตีผสานกับกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ ย่อมส่งเสริมกันเเละกันในการรับมือกับพวกไฮดร้าได้ดี

 

สำหรับ X-MEN เเม้ จะมีไอซ์แมน มิวแทนท์ระดับ 5 เเต่เหตุคราวก่อนเพราะบาดเเผลรุนเเรงทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ได้ เเต่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ได้ส่งสมาชิกทีม X-MEN คนอื่น ๆ ที่ส่งพลังออกมา โดยมี สตอร์ม สมาชิกกำลังหลัก ,คราวก่อนที่สตอร์มเปิดตัว ความเเข็งเเกร่งของพลังสายฟ้าของเธอได้หักเหเเละเปิดช่องว่างสลายการโจมตีในช่วงเวลาสำคัญ

 

ที่จริงเเล้ว เเจ็คสัน ต้องการโทรไปขอร้องความช่วยเหลือจาก พ่อมดรุ่ยเคอ เพื่อให้สถานการณ์ครั้งนี้ปลอดภัยมากขึ้น เเต่ก่อนหน้านี้ เเจ็คสันได้ดึงพวกเขามายุ่งกับเรื่องของตัวเอง ดังนั้นการเคลื่อนไหวในครั้งนี้เเจ็คสันจึงไม่ได้เชิญพ่อมดรุ่ยเคอมาร่วมด้วย

 

เเต่ถ้าเขาได้รับการสนับสนุนจากเหล่าพ่อมดในการเปิดใช้มิติกระจกล่วงหน้าการจัดการพวกไฮดร้าก็จะง่ายขึ้น เเจ็คสันไม่เชื่อว่า พวกไฮดร้าจะสามารถเผยเเสดงพลังที่เเท้จริงได้ในมิติกระจก เเต่การสร้างมิติกระจกขึ้นภายใต้สถานการณ์อันเร่งด่วน อาจจะต้องใช้เหล่าพ่อมดถึง 6 คนเพื่อร่วมเเรงกันสร้าง

 

“ฉันรู้ เเต่ฉันก็ยังกังวลอยู่ดี ใช่เเล้ว อินฟินิตี้สโตน ที่คุณบอกว่ามันคือ ลูกบาศก์เวทย์มนตร์อะไรนั่น มันคือ ลูกบาศก์เวทย์มนตร์จริง ๆ ใช่มั้ย?”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามเล็กน้อย

 

ในการพูดคุยก่อนหน้านี้ มิราจไนท์ได้บ่นถึงเรื่องลูกบาศก์เวทย์มนตร์อย่างไม่หยุดพัก เเละ พวกไฮดร้าก็ได้ครอบครองมัน อันที่จริง ลูกบาศก์เวทมนตร์ที่เเจ็คสัน หมายถึง ก็คือ หนึ่งใน 6 อินฟินิตี้สโตน ซึ่งเรื่องนี้ เเจ็คสันก็เล่าให้กัปตันโรเจอร์ส เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ รู้ไปเเล้ว

 

การมีอยู่ของลูกบาศก์เวทมนตร์คือสิ่งอันตรายสำหรับโลกดังนั้นพวกเขาจึงต้องรีบกำจักพวกไฮดร้าเเละจัดการกับลูกบาศก์เวทมนตร์นั่นทันที

 

“ลูกบาศก์เวทมนตร์ หากคุณเห็นคุณก็จะรู้เอง มันคือสิ่งที่บุคคลธรรมดาอย่างเราไม่สามารถละเลยได้ เเละพวกไฮดร้าก็คงจะใช้มันในศึกครั้งนี้ด้วย”

 

“ฉันเข้าใจเเล้ว”

 

หลังจากพูดคุยกับเเจ็คสันอยู่พักนึงกัปตันโรเจอร์สก็ถอนหายใจออกมา ในเวลานี้ ปีเตอร์ที่อยู่ข้าง ๆ เขาได้มีโอกาสใช้เวลาในการชื่นชมไอดอลของตัวเองที่กำลังสนทนากับเเจ็คสัน

 

พูดคุยกับกัปตันโรเจอร์สเสร็จ เเจ็คสัน ก็ได้ติดต่อประสานงานกับ เจอรรี่ เเละ โทนี่ ในภายหลัง เขาได้รับข่าวเรื่องกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ คราวนี้ โทนี่พูดว่า”สบายใจเถอะ ครั้งก่อนเป็นฉันประมาท เเต่คราวนี้ ฉันจะเเสดงขุมพลังทั้งหมดที่ฉันมีออกมา”

 

เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้โทนี่มีความมั่นใจในกองทัพไอรอนแมนของเขามากมันไม่เหมือนคราวก่อนที่เขาพกพากองทัพไอรอนแมนไปเพียงเเค่หยิบมือยามเผชิญหน้ในตอนเเรก

 

เเม้ตอนนี้ทางพวกเขาจะมียานบินอวกาศปราการเหล็กขนาดใหญ่เเต่ก็ยังคงไม่เพียงพอยิ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทัพไอรอนแมนกว่า 100 ตัว ก็ยิ่งเสริมความเเข็งเเกร่งของทัพพวกเขาไปด้วย

 

ทันทีที่จบบทสนทนากับโทนี่ เเจ็คสัน ก็กำลังมองหา ทีมX-MEN ทีมX-MEN ได้เดินทางมาด้วยเครื่องบินเจ็ทล่องหนมันคือเครื่องบินความเร็วสูงในที่สุดพวกเขาก็มาถึง

 

“สวัสดีมิราจไนท์”ขณะนั้นเองเสียงของศาสตราจารย์ชาร์ลส์จู่ ๆ ก็ดังขึ้น

 

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์? ดูเหมือนพวกคุณจะมาเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ นอกจากนี้ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเข้าร่วมศึกครั้งนี้ด้วยตนเอง”เเจ็คสันกล่าวออกมาเขาเชื่อว่าเครื่องบินเจ็ทของทีม X-MEN นั้นสุดยอดมาก

 

“อืม,สถานการณ์ตอนนี้เป็นเรื่องสำคัญฉันจึงต้องการมีส่วนร่วม”เผชิญหน้ากับมิราจไนท์ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตอบอย่างสงบ

 

ในฐานะมันสมองของ ทีมX-MEN หาได้ยากมากที่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ จะเข้าร่วมศึกด้วยตัวเอง ล่าสุดที่เขาเปิดเผยตัวก็คือการปะทะกับเเมกนีโตในหลายปีก่อนหน้านี้

 

“ฉันเข้าใจ,ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้คุณเข้าร่วมศึกครั้งนี้ด้วยตัวเอง”หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถวน เเจ็คสันก็กล่าวออกมาเดิมเขาไม่คิดว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะเข้าร่วมด้วยตัวเอง

ฟุ่บ!

 

นิวยอร์กบนเครื่องบินควินเจ็ท เเจ็คสันได้ขึ้นไปนั่งบนเครื่องบินลำนี้นอกเหนือจากเเจ็คสันเเล้วยังมีสไปเดอร์แมนปีเตอร์ ตอนนี้เเจ็คสันเเละปีเตอร์ ได้ยืนอยู่หน้าห้องคนขับควินเจ็ทพวกเขากำลังจ้องมองทิวทัศน์อากาศตอนบน

 

การต่อสู้ไฮดร้าในัวนนี้ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ได้เข้าร่วม สำหรับเดดพูลนั้น อาการของเขายังไม่ดีขึ้นเเต่เริ่มสัมผัสได้ถึงสัญญาณชีพจรชีวิตเเล้วดูท่าต้องใช้เวลาพอสมควร เเฮร์รี่ เองก็ต้องการมาช่วยเหลือ เเต่เมื่อไม่นานมานี้ทางออสคอร์ปติดปัญหาอยู่บ้าง เเฮร์รี่เป็นประธานบริหาร เขาย่อมงานยุ่ง

 

ส่วน เเจ็ค เขารู้ว่ากำลังของตัวเองไม่สามารถเเสดงได้อย่างเต็มที่กับศัตรูที่เเข็งเเกร่งระดับนี้ เขาจึงต้องคิดหาหนทางในการเสริมเเกร่งตัวเอง เเดร์เดวิล อยู่กับ S.H.I.E.L.D. ทีมพันธมิตรอเวนเจอร์สได้ส่งเขาออกไปตอนนี้น่าจะอยู่กันบนยานบินอวกาศ

 

!

 

“มิราจไนท์ ด้านหน้าคือยานบินอวกาศที่เป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีล่าสุดของเรา”ขณะที่เเจ็คสันเเละปีเตอร์กำลังชื่นชมทิวทัศน์บนอากาศหัวหน้าของควินเจ็ทลำนี้ก็มาถึงด้านหน้าพวกเขาเเละพูดขึ้น

 

เมื่กล่าวถึงยานบินอวกาศลำนี้น้ำเสียงของหัวหน้าคนนี้ดูเเล้วค่อนข้างภูมิใจอย่างมาก เพราะ S.H.I.E.L.D. ได้ประสบความสำเร็จในด้านการพัฒนาอากาศยานให้มีระดับที่สูงขึ้น เกี่ยวกับความสำเร็จระดับนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญสำหรับพวกเขา

 

“ฉันเห็นเเล้ว”เเจ็คสันพยักหน้าเล็กน้อย

 

อันที่จริงเเจ็คสันไม่ได้ประหลาดใจที่นิคสามารถประสบความสำเร็จเเละเดินหน้าโปรเจคเครื่องยนต์ต้านเเรงโน้มถ่วงต่อ รวมถึงส่งมันมาร่วมศึกในครั้งนี้ พฤติกรรมของนิคบางครั้งเเม้จะคาดเดาได้ยาก เเต่ไม่ใช่กับเเจ็คสัน ส่วนเรื่องที่เเจ็คสันไม่ได้ประหลาดใจอะไรมาก เพราะปัจจุบันเขากำลังเเอบทำเรือเหาะสงครามระดับ E กับโทนี่ อยู่ เมื่อเทียบกับ ยานบินอวกาศของ S.H.I.E.L.D. ,ยานบินอวกาศนี้ ไม่สามารถที่จะเทียบเคียงได้เเม้เเต่น้อย

 

ฟุ่บ!

 

“นั่นหรอ…ยานบินอวกาศ!”ในขณะที่ เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดเรื่องเรือเหาะสงครามระดับ E เสียงอันโดดเด่นของปีเตอร์ได้ตะโกนขึ้นราวกับเขาเห็นสิ่งประหลาดใจ

 

“หืม…”เเจ็คสันที่ได้ยินน้ำเสียงของปีเตอร์เขารู้สึกประหลาดใจเมื่อครู่เขาเพียงสังเกตุเห็นระยะไกลมากเพียงเท่านั้นพอลองเข้าไปใกล้ เขายิ่งรู้สึกเเปลกไปทุกที

 

เเน่นอนว่าหากจะพูดว่าเเปลกก็ไม่ได้ผิดเเม้เเต่น้อย เพราะปัจจุบัน ยานบินอวกาศขนาดยักษ์ได้ลอยอยู่บนชั้นเมฆบนอากาศ เมื่อเทียบกับยานบินควินเจ็ทธรรมดาสิ่งนี้ราวกับยานรบหลักที่เป็นศูนย์บัญชาการกองบิน

 

 

เเจ็คสันมองเห็นหลายสิ่งจำนวนมากที่อำนวยความสะดวกเเก่นกยักษ์ลำนี้ ในความทรงจำของเเจ็คสัน นกยักษ์ลำนี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่หรือดูทรงอนุภาพในปัจจุบัน เเต่ในปัจจุบันกลับเต็มไปด้วยเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตราที่ก้าวหน้ามากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นด้านอาวุธ ปากกระบอกปืนจำนวนมากได้อัดเเน่นไปทั่วรอบตัวยานบินกระทั่งปากกระบอกปืนใหญ่ก็ยังมี

 

นอกเหนือจากนกยักษ์ลำนั้นก็ยังมีเครื่องบินควินเจ็ทจำนวนมากบินวนรอบนกยักษ์ ระดับความสูงของพวกมันย่อมบินต่ำกว่านกยักษ์อยู่เล็กน้อย ด้วยกองกำลังขนาดนี้สามารถที่จะถล่มประเทศเล็ก ๆ ให้พังพินาศได้ในพริบตา ดูเหมือน S.H.I.E.L.D. จะทุ่มกำลังด้านอากาศยานจำนวนมากในศึกครั้งนี้

 

“ไม่น่าเเปลกใจ ที่โทนี่เคยกังวลเกี่ยวกับเรื่อง ยานบินอวกาศ มันคือยานบินรบขนาดยักษ์ที่ราวกับป้อมปราการนี่เอง”มองดูนกยักษ์ลำนี้ เเจ็คสันชื่นชมเล็กน้อย

 

ขนาดของยานบินอวกาศนั้นใหญ่อย่างมาก เพียงเเต่หากเทียบกับเรือเหาะสงครามระดับ E มันเเทบจะเรียกว่าเล็กไปเลย เเบบเเปลนพิมพ์เขียวที่ เเจ็คสันมอบให้กับโทนี่ มันมีขนาดใหญ่อย่างมาก ดังนั้นไม่เเปลกใจที่โทนี่จะมีความกังวลเกี่ยวกับขนาดใหญ่ของมัน

 

“หืม?มิราจไนท์ เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?”ปีเตอร์ที่ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของเเจ็คสัน เขาได้ยินไม่ชัดเจนเเละกล่าวถามออกไป

 

“ป่าว…ไม่มีอะไร เเค่คิดว่ายานบินอวกาศลำนี้ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว”เเจ็คสันยิ้มออกมา

 

“ฮ่าฮ่า ยานบินอวกาศของเราไม่เพียงเเค่ใหญ่เท่านั้น! เมื่อมันสำเเดงพลังในสงคราม คุณจะได้เห็นความสามารถที่เเท้จริงของมัน ผมเชื่อว่าคุณจะต้องตกใจเเน่นอน!”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ หัวหน้าเครื่องบินควินเจ็ทลำนี้หัวเราะออกมา

 

“เอาล่ะเราได้รับอนุญาติให้ลงจอดเเล้ว”หลังจากพูดคุยเสร็จหัวหน้าเครื่องบินควินเจ็ทลำนี้ก็พูดต่อ

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเครื่องบินควินเจ็ทก็บินไปที่ด้านท้ายของยานบินอวกาศ ท้ายยานอวกาศได้เปิดขึ้นเตรียมรับรองการลงจอดของเครื่องบินควินเจ็ท

 

ครื่นน!

 

หัวหน้าเครื่องบินเจ็ทลำนี้ได้ลงมาพร้อมกับเเจ็คสันเเละปีเตอร์ วินาทีที่เขาเดินออกจากเครื่องบินบรรยากาศเเรกที่พวกเขาสัมผัสได้ก็คืออุณหภูมิที่ค่อนข้างต่ำ เเต่เนื่องจากชุด สูทภูติมายาเเละชุดสไปเดอร์แมนของปีเตอร์มีระบบปรับอากาศทำให้พวกเขาไม่รู้สึกถึงสภาพเเวดล้อมที่เปลี่ยนเเปลงโดยฉับพลัน

 

เเจ็คสันเเละปีเตอร์จ้องมองไปที่พื้นที่ภายในห้องเเห่งนี้ ลานเเห่งนี้ค่อนข้างกว้างอย่างมากเมื่อเทียบกับพื้นที่ภายในของเครื่องบินเจ็ท

 

จากนั้นไม่นานก็ปรากฏทีมนึงเดินเข้ามาหาพวกเขา หัวหน้าทีม ก็คือ สตีฟ กัปตันอเมริกา เขาสวมใส่เสื้อคลุมแบบรัดกุม ตามมาด้วย ฮอว์กอาย เเละ คนอื่น ๆ

 

“ยินดีต้อนรับ มิราจไนท์,สไปเดอร์แมน”กัปตันโรเจอร์สที่มาถึงด้านหน้าของมิราจไนท์เขากล่าวทักทาย

 

“-อบคุณกัปตันโรเจอร์ส ยานบินอวกาศลำนี้ค่อนข้างสุดยอดไปเลย”เเจ็คสันยื่นมือไปจับมือกัปตันโรเจอร์ส

 

“ขอบคุณ ตอนนี้พวกเรากำลังจะทำสงครามโชคชะตากับพวกไฮดร้า มันถึงคราวเเล้วที่พวกมันจะต้องจบสิ้น”

 

“อืม ฉันเห็นด้วย ฉันหวังว่าพวกไฮดร้าจะหายไปจากโลกนี้นับตั้งเเต่วันนี้เป็นต้นไป”

ระหว่างที่เเจ็คสันขับรถออกมา เขาหารู้ไม่ว่าธอร์คาดเดาสถานะของตัวเองได้เเล้วเพราะตัวเขาได้ขอร้องให้ธอร์ฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าเเละช่วยเหลือตัวเอง นั่นทำให้ พื้นที่ภายในฐาน S.H.I.E.L.D. ในนิวเม็กซิโก ถูกพังทลายย่อยยับ

 

เเจ็คสันไม่ได้วางเเผนว่าจะได้รับการสนับสนุนจากธอร์ที่ฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าในทันที เขาเพียงต้องการความช่วยเหลือจากธอร์ในอนาคตเพื่อกำจัดพวกไฮดร้าเเละปกป้องโลกจากภัยคุกคามอื่น ๆ

 

เเจ็คสัน ถึงเเม้เขาจะเลือกเดินบนเส้นทางฮีโร่ เเต่สถานะของเขาในโลกมาร์เวลเเห่งนี้ก็คือ เเจ็คสัน หลิน เขามีเพื่อนมีครอบครัว มีภารกิจมากมายที่ต้องปกป้องคนเหล่านี้ เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ทำพลาดอีก เขาไม่อยากให้เพื่อนของเขาต้องมาเป็นเฉกเช่นทอม

 

ธอร์เองก็ถือเป็นหนึ่งในเพื่อนของเขาตอนนี้หากเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากดึงเหล่าเพื่อน ๆ พวกนี้มาเข้าร่วมด้วยเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยเเต่สถานการณ์ในปัจจุบันเขาไม่สามารถตัวคนเดียวได้ เเละเหตุผลที่เขาขอร้องธอร์ก็คือเขาต้องการให้ธอร์ช่วยเหลือโลกด้วยพลังอันเเข็งเเกร่งของเทพเจ้าสายฟ้า

 

บริ้นน

 

บนถนนในนิวยอร์กรถจิ๊ปขนาดเล็กของเเจ็คสันมุ่งหน้าไปตามเส้นทางด้วยความเร็ว วันนี้เเจ็คสันได้นัดเเละบอกเรื่องสำคัญกับธอร์เเล้วที่เหลือก็คือวางเเผนตอบโต้การโจมตีของพวกไฮดร้า หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ด้วยความช่วยเหลือของศาสตราจารย์ชาร์ลส์พวกเขาค้นพบฐานลับของพวกไฮดร้าในที่สุดอย่างน้อยฐานของมันก็มีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับรัฐนิวเจอร์ซีย์

 

เเจ็คสันได้ขับรถไปหาที่หยุดรถก่อนที่จะเปลี่ยนสถานะเป็นมิราจไนท์เเละออกไป การค้นพบฐานไฮดร้าในคราวนี้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่นิวยอร์กดังนั้นเขาไม่สามารถใช้ยานบินขับไปได้ เขาต้องการความช่วยเหลือจากพาหนะของ S.H.I.E.L.D.

 

ฟุ่บ!

 

 

S.H.I.E.L.D. สำนักงานใหญ่วอชิงตัน เนื่องจากได้รับข้อมูลตำเเหน่งฐานของพวกไฮดร้า ทาง S.H.I.E.L.D. จึงรีบเร่งเตรียมมาตราการตอบโต้ การต่อสู้บนสะพานโกลเด้นเกตก่อนหน้านี้พวกเขาได้เห็นความเเข็งเเกร่งของพวกไฮดร้าประจักษ์เเก่สายตา ดังนั้น พวกเขาจึงหวาดระเเวงอิทธิพลของพวกไฮดร้า ไม่ว่าจะเป็น กองทัพ หุ่นยนต์ ทีมอัลฟ่า มิวแทนท์ เเละ การโจมตีของประตูมิติอวกาศ

 

นิค,กำลังยืนอยู่ในห้องทดลองของ S.H.I.E.L.D. ด้านหน้าของเขาเป็นยานควินเจ็ทขั้นสูงที่ดึงดูดอย่างมาก มันคือ ยานบรรทุกอวกาศ

 

หลังจากที่โทนี่ส่งมอบเทคโนโลยีระบบต้านเเรงโน้มถ่วงขนาดใหญ่ S.H.I.E.L.D. ได้เร่งพัฒนาเเละวิจัยต่อจนในหนึ่งสัปดาห์ต่อมาพวกเขาได้ทำการทดสอบ เหตุผลที่ S.H.I.E.L.D. ดำเนินการโปรเจคโครงการนี้ต่อเพราะยานบรรทุกนี้มีความสำคัญสำหรับการสนับสนุนการโจมตีจากมหาภัยคุกคามต่าง ๆ ได้

 

นิค จ้องมองไปที่ ยานบรรทุกอวกาศด้วยสีหน้าตื่นเต้น เขาต้องการอยากเห็นศักยภาพของมันเวลาออกรบจริงในเร็ว ๆ นี้

 

“หัวหน้า พวกเราควรเปิดใช้งานมันเร็ว ๆ นี้จริง ๆ งั้นหรอ?”ขณะนั้นเองเจ้าหน้าที่ คนนึงที่เป็นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของยานบรรทุกอวกาศเขาได้กล่าวออกมา

 

นี่เป็นครั้งเเรกที่ยานบรรทุกอวกาศถูกนำมาใช้เเละเป็นครั้งเเรกที่มันจะใช้ในการต่อสู้จริงกับพวกไฮดร้า ศัตรูร่วมสาบานที่ S.H.I.E.L.D. ต้องการกำจัด เเน่นอนว่าหลายคนในสถานที่เเห่งนี้ไม่เคือบเเคลงสงสัยความร้ายกาจอันทรงพลังของยานบรรทุกอวกาศ เเต่ นี่เป็นสงครามเเละการใช้งานครั้งเเรกของมัน หากพูดตามตรงก็คือมันยังไม่พร้อมที่จะนำเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบ

 

อย่างไรก็ตามนิคกลับไม่คิดเช่นนั้น เขาต้องการเเสดงให้พวกไฮดร้าได้เห็นถึงอาวุธอันทรงพลังที่ S.H.I.E.L.D. เป็นคนครอบครองอยู่ ในเมื่อพวกไฮดร้าหงายการ์ดในมือออกมา มันก็ถึงเวลาเเล้วที่ S.H.I.E.L.D. จะต้องหงายไพ่ในมือออกมาสู้บ้าง

 

“ฉันรู้ว่านายกังวล?เเต่ผู้ให้บริการด้านอากาศยานคือพวกเรา S.H.I.E.L.D. เเละยานบรรทุกอวกาศนี้คืออาวุธเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดของพวกเรา ในศึกเผชิญหน้ากับพวกไฮดร้ามันควรจะเป็นเสาหลักในการบุกทำลายฐานของพวกไฮดร้า ก่อนหน้านี้พวก ไฮดร้าได้เล่นงานเราทำให้เราสูญเสียอย่างหนักดังนั้นเราจะไม่ยอมให้มันข่มเหงเราฝ่ายเดียว เราจะเเสดงให้พวกมันได้เห็นว่าพวกมันประเมินพวกเรา S.H.I.E.L.D. ต่ำเกินไป”นิค กล่าวกับเจ้าหน้าที่สารสนเทศคนนึง เขาเป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบโปรเจคนี้

 

“พวกเราจะตอบโต้พวกมันคืน?”

 

“ใช่! S.H.I.E.L.D. อาจจะไม่ใช่องค์กรอิทธิพลเเรกของโลก เเต่สิ่งที่พูดได้เต็มปากก็คือพวกเราไม่ได้อ่อนเเอ เอาล่ะ เริ่มกันเถอะ”

 

หึ่ม!

 

ครื่นน

 

หลังจากนิคส่งสัญญาณ เจ้าหน้าที่บริการที่อยู่ตรงพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัสเขาได้ส่งสัญญาณจากนั้นเครื่องยนต์ทั้งเเปดตัวที่เป็นเครื่องยนต์ต้านเเรงโน้มถ่วงก็ถูกจุด เเรงส่งจากตัวเครื่องส่งเสียงดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้อง

 

หึ่ม!

 

ภายใต้การทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เจ้าหน้าที่บริการเริ่มตรวจสอบอย่างรวดเร็ว

 

“เครื่องยนต์ต้านเเรงโน้มถ่วงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ความคงที่อยู่ในระดับเสถียร!”

 

“เปิดระบบอากาศยานทันที!”

 

ฟุ่บ!

 

ทันใดนั้นคนขับยานก็เริ่มลอยตัวจากพื้นที่มันได้ลอยตัวขึ้นสูงจากพื้นดินสองเมตร

 

เครื่องยนต์ต่อต้านเเรงโน้มถ่วงขนาดใหญ่เเปดตัวพร้อมกับปีกใบพัดอีกจำนวนมาก ปีกใบพัดเหล่านั้นเป็นอนุภาพพลังขนาดใหญ่ที่ช่วยสนับสนุนเครื่องยนต์ต้านเเรงโน้มถ่วง

 

หึ่ม

 

เครื่องยนต์ต้านเเรงโน้มถ่วงที่ได้รับความช่วยเหลือจากปีกใบพัดขนาดใหญ่มันได้บินออกจากพื้นที่จัตุรัสใต้ดินอย่างช้า ๆ ตอนนี้ยานบินเหล็กยักษ์กำลังปรากฏตัวขึ้นสู่พื้นผิวด้านนอก

 

นักบินได้บังคับยานบินบรรทุกให้ลอยตัวสูงขึ้นมากกว่าร้อยเมตร ในเวลานี้บุคคลเจ้าหน้าที่สำคัญของ S.H.I.E.L.D. กำลังยกศีรษะมองขึ้นไปบนฟ้าพวกเขาเห็นนกเหล็กยักษ์ที่ลอยตระหง่านอยู่กลางผืนฟ้านั้น

 

“เทสเเรกทดสอบประสิทธิภาพการลอยตัวประสบความสำเร็จ ตอนนี้ เริ่มสร้างเส้นทางการบิน!”

 

ในขณะที่ยานบินบรรทุกอวกาศได้ลอยตัวขึ้นสูง นิคก็ออกจากจัตุรัสใต้ดินไปนั่งในเครื่องบินควินเจ็ท นิคจ้องมองไปที่ยานบินบรรทุกขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่กลางเวหาสายตาเเห่งความคลั่งไคล้เเละชื่นชมไม่อาจปกปิดการเปิดเผยออกมาได้

ธอร์หยิบหนังสือพิมพ์เดินออกมาจากห้องเก็บของ ซึ่งขณะนั้นเเจ็คสันได้ขับรถจิ๊ปของตัวเองออกจากสถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัดเเล้ว ขณะที่ ธอร์กำลังเดินเรื่อยเปื่อย ชายคนนึงที่ทำหน้าที่เฝ้าล็อบบี้ ได้จ้องมองไปที่ธอร์

 

“เฮ้ ธอร์ นายไม่ไปส่งเพื่อนนายหรอกหรอ? นอกจากนี้ดูเหมือนเขาจะรีบมากเลยนะ”เห็นธอร์ปรากฏตัวขึ้น ชายคนนี้กล่าวถามออกมา เป็นเวลากว่าสองสัปดาห์ที่พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน เเละ เขาก็ยอมรับธอร์ว่า ธอร์ ดูเเลสุนัขเหล่านี้เหมือนกับคนในครอบครัว

 

เพียงเเต่ธอร์ไม่ได้สนใจคำถามเหล่านั้น ธอร์จ้องมองไปที่หนังสือพิมพ์ในมือเเละพาดหัวข่าวที่น่าสนใจ ธรรมชาติชายคนนี้ย่อมสังเกตุเห็นการกระทำของธอร์

 

“นายสนใจข่าวนี้งั้นหรอ?ตอนนี้วีรบุรุษของโลกกัปตันอเมริกาได้กลับมาเเล้ว เขาจะกลายเป็นเสาหลักของชาติ เขาสังกัดอยู่องค์กร S.H.I.E.L.D. ที่เป็นองค์กรรัฐบาลที่ลึกลับ ก่อนหน้านี้ ฉันเองก็เคยคิดว่าข่าวนี้ค่อนข้างงมงายเเต่มันกลับไม่ใช่”เห็นหนังสือพิมพ์ที่ธอร์อ่าน ชายคนนี้พูดขึ้น

 

เเน่นอนว่ายังมีเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย เช่นภัยคุกคามที่กำลังเกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ในปัจจุบัน อัตราการเติบโตของพวกองค์กรร้ายขึ้นสูงมาก เเต่การปรากฏตัวขึ้นของฮีโร่ หรือ ศาลเตี้ยเหล่านั้น ก็ค่อนข้างมีบทบาทในการกำจัดองค์กรชั่วร้ายเหล่านี้ ทั้งยังมีเรื่องสำคัญเมื่อสัปดาห์ที่เเล้วอีก การโจมตีปริศนาลึกลับที่ทำลายสะพานโกลเด้นเกต ข่าวนี้ทำให้ทั่วทั้งโลกให้ความสนใจ

 

“ตอนนี้โลกต้องการซูเปอร์ฮีโร่? เเต่ใครกันจะยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อความปลอดภัยของคนอื่น?ที่จริงเเล้วฉันเองก็เป็นเเฟนของกัปตันอเมริกาเเละไอรอนแมน พวกเขาทั้งสองคนสมควรถูกเรียกว่าซูเปอร์ฮีโร่ในยุคปัจจุบันของเรา”ชายคนนี้ยังกล่าวซ้ำ

 

“ซูเปอร์ฮีโร่?โลกต้องการคนเหล่านี้งั้นหรือ?เจ้าจะบอกว่าพวกเขาทำหน้าที่ปกป้องคนอื่น ๆ จากองค์กรชั่วร้ายโดยไม่หวังผลตอบเเทน?”ธอร์ในที่สุดก็ตอบสนอง

 

“อ่า…เเน่นอน นอกเหนือจาก กัปตันอเมริกา เเละ ไอรอนแมนนั้น ก็ยังมีซูเปอรฮีโร่ จากนิวยอร์กที่เป็นที่รู้จักกันดีอีก พวกเขาคอยพิทักษ์บ้านเมืองของเราให้อยู่อย่างสงบสุข”ได้ยินเสียงของธอร์ เพื่อนคนนี้ตอบกลับเล็กน้อย

 

ดวงตาของธอร์ประกายความหวังทันที เขาต้องการรู้รายละเอียดมากกว่านี้”เพื่อนคนนั้นมีชื่อว่าอะไรบ้าง?”

 

“เอ่อ…ที่โด่งดังที่สุดตอนนี้ก็คงจะเป็นสไปเดอร์แมน เขาคอยพิทักษ์เเละจัดการผู้ร้ายคอยปกป้องผู้คนบนถนน น้องสาวของพ่อฉัน ก็เคยถูกเขาช่วยจากอุบัติเหตุจราจร ไม่งั้นป่านนี้ เธอคงได้นอนโรงพยาบาลร่วมเดือนเเล้ว”เพื่อนคนนี้ยังกล่าวต่อ

 

“จริงสิ สไปเดอร์แมน เป็นคนของ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ หากนายสนใจ ฮีโร่ ของนิวยอร์ก นายสามารถค้นหาได้ที่เว็ซไซต์เเฟนคลับ พันธมิตรผู้พิทักษ์ ในนั้นจะมีข้อมูลรายละเอียดเหล่าฮีโร่หลายคนเลยเเหละ”

 

“ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์?ข้าเคยได้ยิน ขอข้าใช้คอมพิวเตอร์เจ้าหน่อยได้มั้ย?”ธอร์กล่าวขอขณะที่วางหนังสือพิมพ์ในมือ

 

“ได้…นายสนใจพวกเขางั้นหรอ?ฉันเองก็เป็นสมาชิกหนึ่งในเเฟนคลับเดี๋ยวฉันช่วยเปิดให้”เห็นการตอบสนองของธอร์เพื่อนคนนี้กล่าวตอบ

 

ในที่สุดเพื่อนคนนี้ก็เเนะนำธอร์เกี่ยวกับเว็บไซต์เเฟนคลับของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ในเว็บไซต์เหล่านั้นปรากฏภาพสมาชิกภายในทีมเเละวิดิโอที่เกี่ยวข้องกับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

พูดถึงเว็บไซต์เเฟนคลับของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ หลังจาก เจอร์รี่ เข้าร่วม ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เว็บไซต์เเฟนคลับก็เปิดอย่างเป็นทางการมากกว่าเดิม บ่อยครั้งที่เนื้อในหาเว็บไซต์จะอัพเดตอย่างต่อเนื่อง เช่นวีรกรรมสำคัญ การทลายเเก๊งโจร หรือ เเก๊งกลุ่มยาเสพติด

 

นอกจากนี้ เจอร์รี่ ยังทำให้ เพจของสมาชิกหลักเเต่ละคนสำคัญมากขึ้นโดยการเพิ่มบทบาทเกี่ยวข้องหรือข้อมูลเล็กน้อยที่ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เเน่นอนว่า อันดับที่เด่นที่สุดก็คือ สไปเดอร์แมน รูปเเละกิจกรรมของเขามีค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับ มิราจไนท์เเล้ว เขาค่อนข้างน้อยทีเดียว เพราะอย่างไรก็ตาม การลงมือเเต่ละครั้งของเเจ็คสันในตอนนี้ก็มีเเต่เรื่องสำคัญระดับใหญ่ทั้งสิ้น

 

“นี่คือสไปเดอร์แมน ดูจากลักษณะเเล้ว เขาเเทบจะอายุไม่ถึง 20 ปีด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเขาได้รับพละกำลังเยี่ยงนี้มาได้อย่างไร เสื้อผ้านั่นสามารถทำให้เขาบินได้อีกด้วย”ธอร์จ้องมองไปที่คลิบวิดิโอเเละวิเคราะห์

 

เขามองภาพของสไปเดอร์แมนอย่างรอบคอบ เเละ หลายวิดิโอด้วยกัน ซึ่งธอร์ก็มีข้อสงสัยหลายอย่างเกี่ยวกับตัวตนของสไปเดอร์แมน

 

“นี่คือ มิราจไนท์ เมื่อเทียบกับสไปเดอร์แมนเเล้วช่วงหลังการปรากฏตัวของเขาน้อยกว่ามาก เท่าที่ดู มิราจไนท์ ควรจะเป็นรุ่นอาวุโสกว่าสไปเดอร์แมน”เพื่อนคนนี้ยังกล่าวเเนะนำต่อไป

 

ธอร์จ้องมองไปที่ภาพของมิราจไนท์บนคอมพิวเตอร์ เขารู้สึกประหลาดใจเเละข้องใจบางอย่างเเต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

 

“จริงสิ ข่าวที่นายอ่านเมื่อครู่ระบุไว้ว่ามีเหตุบางอย่างเกิดขึ้นที่สะพานโกลเด้นเกต ว่ากันว่ามันเกิดขึ้นจากผลพวงของสงคราม เเละในรายงานนั้น มีเรื่องที่ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เข้าร่วมด้วย การร่วมือกันนี้เป็นความลับดังนั้นจึงไม่ค่อยมีรายละเอียดระบุไว้ในพาดหัวข่าวมาก”

 

“เเละนี่ก็องค์กร S.H.I.E.L.D. ด้วยการสนับสนุนจากกัปตันอเมริกาทำให้ความนิยมเเละความมั่นใจในองค์กรของพวกเขาที่มีต่อโลกเพิ่มขึ้นสูงมาก ฉันเชื่อว่า ไอ้องค์กรร้ายที่หมายปองคิดร้ายต่อโลก จะต้องถูกพวก S.H.I.E.L.D. จัดการในเร็ว ๆ นี้เเน่” เพื่อนคนนี้ ยังคงอธิบายไม่หยุด เขาเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็ว พวกองค์กรร้ายจะต้องถูก S.H.I.E.L.D. ทำลาย

 

ฟุ่บ!

 

ธอร์กดปิดเว็บไซต์ด้านหน้าก่อนที่จะลุกขึ้นเเละเดินจากไป

 

“เฮ้ ธอร์ นายจะไปไหน”

 

เพียงเเต่ธอร์ที่ได้ยินเสียงเขาไม่ได้ตอบกลับเเม้เเต่น้อยเขาได้เดินกลับไปที่เขตบ้านพักของสุนัขจรจัด

 

หลังจากผ่านไปสิบนาที ธอร์ก็มาถึงที่ด้านหลังห้องเก็บของอีกครั้ง มือของเขาขว้างหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นทิ้งอย่างไม่เเยเเส

 

“เเจ็คสันหรือว่าเรื่องที่เจ้ากังวลคือเรื่องนี้?ข้าเข้าใจเเล้วว่าทำไมเจ้าถึงยุ่งตลอดเวลาเเละเหตุที่เจ้าขอร้องข้าก็เพื่อให้ข้าช่วยเหลือเจ้าในการปกป้องโลกใบนี้”ธอร์รับรู้ข่าวเเละข้อมูลอีกมากมายเกี่ยวกับสงครามบนสะพานโกลเด้นเกต

 

หลังจากที่ได้เห็นตัวตนมิราจไนท์ผ่านคอมพิวเตอร์ ในฐานะเพื่อนคนนึง ธอร์ย่อมสามารถเเยกเเยะได้ทันทีว่า มิราจไนท์ ก็คือ เพื่อนสนิทของเขา เเจ็คสัน หลิน นอกจากเขา เเล้วไม่มีทางเป็นใครได้อีก

 

ฟุ่บ!

 

ธอร์ต่อยหมัดไปที่กำเเพงเล็กน้อยก่อนที่จะกำสองมือเเน่นเเละปิดตาลง

 

“โยเนียร์…”

หลังจากเหตุการณ์ต่อสู้บนสะพานโกลเด้นเกต วันเวลาก็ผ่านล่วงเลยไปมากกว่าหนึ่งสัปดาห์ประชาชนสหรัฐทั้งหมดไม่ได้ถูกคุกคามจากพวกไฮดร้าตั้งเเต่เวลานั้น เเม้เเต่ S.H.I.E.L.D. เองก็เผชิญหน้ากับความสงบราวกับว่าไม่เคยมีการต่อสู้ศึกใหญ่ครั้งก่อนเกิดขึ้น สื่อข่าวของอเมริกาทั้งหมดได้รายงานความเสียหายของสะพานโกลเด้นเกต ซึ่งทำให้หลาย ๆ คนสงสัย เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

เเน่นอนว่าย่อมมีบางคนไม่รู้เรื่องราวดังกล่าวเเละไม่อาจตระหนักถึงคลื่นใต้น้ำที่รอปะทุ ความสงบสุขในปัจจุบัน ใช่ว่าจะอยู่ได้ตลอดเสมอไป ดังนั้นองค์กรอิทธิพลขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา จึงเฝ้าลับคมเขี้ยวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

 

ในวันหยุดสุดสัปดาห์เเจ็คสันได้ขับรถออกจากบ้านตั้งเเต่เช้าตรู่ หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เเจ็คสันคาดหวังกับโทนี่มาก เนื่องเพราะเเจ็คสันเชื่อว่าในอนาคตโลกจะต้องได้รับผลจากการโจมตีจากอารยธรรมอื่น ดังนั้นมันสมองของโทนี่เป็นสิ่งจำเป็น เเต่ที่ไม่อาจละเลยได้เลยก็คือ เทพเจ้าสายฟ้า ธอร์

 

เอี๊ยดด~~

 

เเจ็คสันหยุดรถที่หน้าศูนย์รับเลี้ยงสุนัขจรจัด หลายวันที่ผ่านมาเเจ็คสันได้รับข่าวเรื่องของธอร์ถึงความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นงานดูเเลสุนัขจรจัดในตอนนี้ถือเป็นส่วนนึงอันสำคัญในชีวิตของธอร์ที่ขาดไม่ได้ตอนนี้

 

อืดด

 

เเจ็คสันได้เดินเข้าไปในศูนย์รับเลี้ยงก่อนที่จะเดินไปสักพักนึง เขาเห็น ชายร่างยักษ์กำลังนั่งยองอยู่บนพื้นดิน ด้านข้างมีร่างของสุนัขจรจัดที่พิการอยู่ ดูจากลักษณะของชายร่างยักษ์ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นใคร นี่ก็คือ ธอร์ เจ้าชายเเห่งเเอสการ์ด ผู้หยิ่งทรนง เเต่ตอนนี้ ธอร์กลับกำลังมอบความรักให้กับสุนัขจรจัดอยู่

 

“เฮ้,ธอร์!”เเจ็คสันตะโกน เรียกธอร์ เล็กน้อย ก่อนที่จะยกมือขึ้น

 

“เฮ้! เเจ็คสัน”ได้ยินเสียงของเเจ็คสัน ธอร์ ตะโกนขึ้นเเละเดินเข้ามาหาเเจ็คสันพร้อมกับสุนัขหลายตัว

 

“ดูเเล้วพวกมันดูชอบคุณมากเลยนะ”เห็นธอร์เป็นที่รักของเหล่าสัตว์เเจ็คสันยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“อืม,ข้าเเละพวกมันได้ใช้เวลาร่วมกันเป็นระยะเวลานึงเเล้ว ถ้าหากข้ากลับเเอสการ์ดได้ ข้าหวังว่าจะสามารถพามันไปที่นั่นด้วยได้”ธอร์ก้มลงไปกอดสุนัขตัวนึงที่กำลังพันเเข้งพันขาเขา

 

ถ้าหากเปรียบเทียบลักษณะของธอร์ ชายร่างยักษ์สูง 1.9 เมตร มวลกล้ามเผยให้เห็นเด่นชัด ผมสีทอง ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ เขาสามารถเทียบได้กับดาราชั้นนำหรือนายแบบ เพียงเเต่การกระทำของธอร์ตอนนี้ไม่เหมาะกับมาดนักรบของเขาเเม้เเต่น้อย หาก โลกิ น้องชายของเขามาเห็นในสภาพนี้ คงเเทบจะสมเพช ที่พี่ชายของเขาโง่เง่าเกินไป

 

“ฉันซื้อของบางอย่างติดไม้ติดมือมากินเวย นอกจากนี้ ฉันยังมีเรื่องต้องพูดคุยกับคุณ”เเจ็คสันตบไปที่กระเป๋าเป้สะพายไหล่เเล้วกล่าวอย่างจริงจัง

 

“อืม,พวกเราไปด้านหลังกันเถอะ”ธอร์ คิดว่า เเจ็คสันคงมีเรื่องสำคัญอะไรเเน่นอน เขาได้ปล่อยมือจาก สุนัข พันธุ์ปักกิ่งตัวนั้น

 

หลังจากนั้นสองนาที เเจ็คสัน เเละ ธอร์ ก็เดินไปทางด้านหลัง เป็นห้องอุปกรณ์เก็บของที่มีพื้นที่ค่อนข้างโล่ง ในเวลานี้จะไม่ค่อยมีใครเดินเพ่นพ่าน นับเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการพูดคุย

 

“เเจ็คสันเจ้ามีเรื่องสำคัญอะไรงั้นหรอ? หรือว่า โลกิมาระรานเจ้า?”ธอร์กล่าวถามเเจ็คสันด้วยความกังวล

 

ก่อนหน้านี้ ธอร์ ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากเเจ็คสัน เเละได้รับรู้ถึงความชั่วร้ายของน้องชายตัวเอง เหตุผลที่ธอร์ถูกส่งมาที่นี่ก็เพราะ โลกิ ไม่เพียงเท่านี้ โลกิยังตามระรานเขาไม่เลิกอีก มันทำให้ ในใจของเขาปราถนาที่จะสั่งสอนโลกิให้ได้ในเร็ววัน

 

ได้ยินคำพูดของธอร์ เเจ็คสัน สั่นศีรษะเล็กน้อย”ไม่ใช่เรื่องของโลกิหรอก ที่ฉันมาคราวนี้เพราะเรื่องอื่น”

 

“เรื่องอะไรกัน?”

 

“ธอร์ฉันต้องการความช่วยเหลือของคุณ ไม่ใช่คุณในตอนนี้ เเต่ในฐานะเทพเจ้าสายฟ้า ธอร์”เเจ็คสันกล่าวตอบอย่างจริงจัง

 

นี่เป็นครั้งเเรกที่เเจ็คสันเเสดงออกถึงความต้องการสถานะเทพเจ้าสายฟ้าของธอร์ก่อนหน้านี้ สำหรับธอร์ในตอนนี้ เขามีสถานะเป็นเเค่เพื่อนคนนึงเท่านั้น ตัวตนของเขาที่ไร้พลังไม่เพียงพอจะช่วยเหลือเเจ็คสันในอนาคตได้ ดังนั้นเเจ็คสันจึงกล่าวบอกความปราถนาของเขาไป

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์ ย่อมไม่ใช่คนโง่ ครั้นที่อยู่ รัฐนิวเม็กซิโก เขาตื่นขึ้นมาคนที่เขาเจอคนเเรกคือเเจ็คสัน ยิ่งไปกว่านั้น เเจ็คสัน ยังรู้ว่า เขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา ธอร์เชื่อว่า เเจ็คสันอาจเป็นตัวตนพิเศษ หรือไม่ก็ คือ คนต่างโลกเหมือนกับตน

 

เพียงเเต่หลังจากใช้เวลาอยู่ด้วยกันเเละทำความรู้จักกันมานาน ธอร์กล้มความคิดเหล่านั้นออกไป เเจ็คสัน เป็นเพื่อนที่ดีคนนึง เเละ เขาค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์ เขาบอกกับตนตรง ๆ ว่าต้องการความช่วยเหลือจาก พลังเทพเจ้าสายฟ้าของ ตน

 

“เเจ็คสัน ข้ารู้ว่า เจ้าเข้ามาหาข้าเพราะต้องการให้ข้าช่วยเหลือ ในฐานะเพื่อน ไม่ว่าเจ้าจะเป็นมีสถานะเป็นอะไร ข้าก็จะช่วยเหลือเจ้าโดยไม่มีข้อเเม้ เเต่ตอนนี้ข้านั้นหาได้มีพลังเฉกเช่นเดิม การชักจูง ค้อนโยเนียร์ให้กลับมา ข้าล้วนยังไม่สามารถคิดหาวิธีได้ ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถช่วยเหลือเจ้าได้”ธอร์กล่าวตอบด้วยสัตย์จริง เขายินดีช่วยเหลือ เเจ็คสันในฐานะเพื่อนสนิทคนนึง เเต่ความเเข็งเเกร่งของเขายังไม่กลับมา

 

ได้ยินคำพูดของธอร์ เเจ็คสัน รู้สึกตกใจทันที เเสดงว่าธอร์รู้อยู่เเล้วว่าเขามีสถานะอื่น เเต่ถึงอย่างนั้นธอร์ก็ยังเต็มใจช่วยเหตุเพราะพวกเขาเป็นสหายที่ดีต่อกัน

 

ที่จริงเเล้วเเจ็คสันรู้สึกตำหนิตัวเองมาก ที่เขาเคยโป้ปดหลายอย่างต่อธอร์ เเต่เหตุเพราะเขาต้องการให้ธอร์เป็นเสาหลักในการปกป้องโลกสิ่งที่เขาทำไปก็เพื่อปกป้องโลกเเห่งนี้เอาไว้

 

ธอร์เหมือนกับ ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ พวกเขาถูกดึงเข้ามาพัวพันเข้ากับภารกิจที่เเจ็คสันได้รับ หากจะพูดให้ถูกคือหากไม่มีตัวตนภารกิจ บางทีเเจ็คสัน อาจกระทั่งไม่ได้ สนิทกับ ปีเตอร์ เเฮร์รี่ หรือ ธอร์ เเละ คนอื่น ๆ บางทีทุกอย่างอาจถูกกำหนดมาให้เขาเริ่มตั้งเเต่เเรก

 

“ขอบคุณมากธอร์ ฉันมั่นใจว่าคุณจะต้องทวงคืนพลังกลับมาได้เร็ว ๆ นี้ เเละนอกจากนั้นคุณยังต้องกลับไปสั่งสอนโลกิอีก!”เเจ็คสันเข้าใจความปราถนาดีของธอร์ เขารู้สึกชื่นชมอย่างมาก

 

ดังนั้นตั้งเเต่วินาทีนี้ เเจ็คสันตัดสินใจเเล้วว่าเขาจะช่วยเหลือธอร์ให้ได้รับพลังเหนือธรรมชาติของตัวเองกลับมา

 

หากธอร์ได้รับพลังเหนือธรรมชาติของตัวเองกลับมา เขาย่อมขอบคุณเเจ็คสันอย่างมาก เเละในอนาคต เขาย่อมตอบเเทนเเจ็คสันในฐานะผู้มีพระคุณเเละก็เพื่อน

 

“เอาล่ะเชื่อมือฉันได้เลย”เเจ็คสันตบไหล่ธอร์เเละหันหลังเตรียมจากไป

 

“เเจ็คสัน…”เห็นการกระทำของเเจ็คสันธอร์รู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก

 

“ผ่อนคลายเถอะ ฉันจะช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่ อย่างเเรกก็คือช่วยคุณให้ได้รับการยอมรับจากค้อน หลังจากนั้นคุณก็จะสามารถกลับไปที่เเอสการ์ดได้เหมือนเดิม”เเจ็คสันกล่าวยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่เห็นเเจ็คสันเดินออกไป ธอร์ ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เขาได้หยิบพลั่วข้างตัวขึ้นมาพร้อมกับวิ่งออกไปข้างนอกตามด้วยหนังสือพิมพ์ฉบับนึง

 

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เป็นฉบับเเรกที่ธอร์รู้สึกว่ามันใหญ่เป็นพิเศษ เนื้อหาข่าวระบุไว้ว่า:การระเบิดขึ้นของสะพานโกลเด้นเกต S.H.I.E.L.D. องค์กร รัฐบาลได้ระบุถึงต้นตอของเหตุภัยพิบัติ การเผชิญหน้ากับต้นตอเหล่านี้ทำให้โลกของเราต้องเกิดความวุ่นวาย ดังนั้นโลกของเราจึงต้องการซูเปอร์ฮีโร่

S.H.I.E.L.D. สำนักงานใหญ่วอชิงตัน ห้องทำงานของนิค ,เขากำลังนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของตัวเองด้านหน้าคือจอคอมพิวเตอร์ที่เเสดงข้อมูลของ ทีม X-MEN เเละ ทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์

 

เมื่อเร็ว ๆ นี้นิครู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมากที่ S.H.I.E.L.D. ที่เคยเป็นองค์กรคู่ปรับพวกไฮดร้า กลับเสียท่าอย่างง่ายดาย พวกเขาประเมินพวกไฮดร้าผิดไปตลอด เพราะพวกมันไม่ใช่พวกอ่อนเเอ เพียงเเต่เก็บงำความสามารถที่เเท้จริง

 

ไพ่ในมือที่พวกไฮดร้าเปิดเผยมานั้น นิค ไม่รู้รายละเอียดเเน่ชัดว่าสิ่งนี้ทำอะไรได้บ้าง เเต่มิราจไนท์ อาจเป็นไปได้ว่าอาจรู้เงื่อนงำบางอย่าง ในฐานะ หัวหน้าของ S.H.I.E.L.D. ตอนนี้เขายังไม่มีความคืบหน้าในข้อมูลอาวุธของศัตรูไม่เเปลกที่เขาจะรู้สึกอารมณ์ไม่ดี

 

สำหรับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ โดยเฉพาะมิราจไนท์ ท่าทีที่เขามีต่อ มิราจไนท์คือ คือความกตัญญูเเละความเคารพ ความกตัญญูเเละความเคารพส่วนใหญ่มาจากเรื่องก่อนหน้านี้ที่มิราจไนท์ช่วยชีวิตนิค ตั้งเเต่นั้นเป็นต้นมา นิค ก็ค้นพบว่า ตัวตนของมิราจไนท์ไม่ธรรมดาอย่างมาก

 

จนกระทั่งมีหลายสิ่งที่อยู่เหนือการคาดหมายของเขาไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งทีมอเวนเจอร์ส ราวกับว่าทุกอย่างมีต้นตอมาจาก มิราจไนท์ เดิม ในความเห็นของนิค ทีมอเวนเจอร์สจะต้องได้รับ โทนี่ บรรจุเข้าร่วมทีม อย่างเเน่นอน เเต่ในปัจจุบัน มีเพียงเเค่กัปตันอเมริกาเพียงเท่านั้นที่เป็นคนเดียวที่รั้งอยู่

 

ถูกต้องเเม้โทนี่จะไม่ได้เปิดเผยการร่วมมือกับมิราจไนท์เเต่นั่นก็เเสดงให้นิคเห็นบางอย่าง พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะเรื่องที่ มิราจไนท์ยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องมรดกพ่อของโทนี่ ดังนั้นโทนี่จึงค้นพบองค์ประกอบธาตุใหม่เเละสามารถเเก้ไขพิษพาลาเดียมได้

 

การเคลื่อนไหวในเงามือของมิราจไนท์ ส่งผลต่อนิคโดยตรง ทีมอเวนเจอร์สที่ควรก่อเป็นรูปร่าง ได้หยุดชะงักลงเพราะมีสมาชิกนำทีมเพียงเเค่กัปตันโรเจอร์ส ในอุดมการณ์ของนิค ทีมอเวนเจอร์ส ไม่ใช่ทีมที่เป็นของกัปตันอเมริกา เเต่เป็นทีมของ S.H.I.E.L.D. เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว การดึงตัวโทนี่ เข้าร่วมทีม จะสร้างผลประโยชน์ได้มากที่สุด

 

ตอนนี้ โทนี่ ไม่ได้เข้าร่วมทีมอเวนเจอร์ส สถานะของเขาเพียงเเค่ร่วมมือกันเพียงเท่านั้น เเละทีมอเวนเจอร์สในปัจจุบันถูกนำโดยกัปตันโรเจอร์ส ดังนั้นเเผนของนิคจึงค่อนข้างผิดเเปลกไปจากเดิม เเน่นอนว่าเขาได้รับเเรงกดดันจากสภาความมั่นคงของโลกอย่างหนักหน่วง

 

นิคจ้องมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ปรากฏภาพเนื้อหาส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็น ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ก,กัปตันอเมริกา สตีฟ โรเจอร์ส ทีมX-MEN ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเละ คนอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สามารถระบุตัวตนได้ เเต่ยังมีบุคคลนึงที่ลึกลับเเละมีข้อมูลประมวลผลที่น้อยที่สุด หรือก็คือทุกอย่างล้วนเป็นเครื่องหมายคำถาม

 

“มิราจไนท์ คุณเป็นใครกันเเน่?”เครื่องหมายคำถามนี้หมายถึงไม่สามารถระบุข้อมูลอะไรได้เลยไม่ว่าจะเป็นเพศอายุหรือสถานะ ต่าง ๆ

 

นิคได้ตรวจสอบความจริงเรื่องนี้เเละกำลังสงสัยความสัมพันธ์ของโทนี่กับเเจ็คสัน บางที เเจ็คสันอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับมิราจไนท์ เเต่นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐาณยังไม่มีหลักฐานมากพอจะเชื่อมโยง

 

นิคได้ติดตามรายละเอียดการเคลื่อนไหวเเละข้อมูลของเเจ็คสันตลอดกระทั่งเรื่องในโรงเรียน ค่าเฉลี่ยคะเเนน สอบของเขาสูงมาก เเม้ว่า เเจ็คสันจะใช้เวลาส่วนใหญ่ทำการทดลองกับโทนี่ก็ตาม เเต่นิคก็เชื่อว่าพรสวรรค์สามารถทดเเทนเรื่องนี้กันได้ เรื่องที่เเจ็คสันอาจเป็นผู้เกี่ยวข้องกับมิราจไนท์ ยังไม่หายไปจากใจของนิค นั่นก็ทำให้ข้อสันนิษฐานอีกอย่างของนิคก็คือ มิราจไนท์ ควรจะเป็นบุคคลที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 17 เเม้จะเป็นการสันนิษฐานที่ดูไร้ประโยชน์เเต่ก็ถือเป็นก้าวเเรกในการสืบข้อมูล

 

ขณะเดียวกันนิคก็ให้ความสนใจกับข้อมูลของพวกไฮดร้าที่บุกโจมตีพ่อกับเเม่ของเเจ็คสันมันอาจจะเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างน่าสงสัย เเต่ เเจ็คสัน ก็ให้ข้อมูล เรื่อง ทำการทดลองกับ โทนี่ มันอาจจะเป็นการให้คำอธิบายที่เหมาะสมที่สุดเเล้วก็ได้

 

นอกเหนือจากเรื่องการคาดเดาเเล้ว นิค ก็สนใจข้อมูลอาวุธรุ่นพัฒนาของชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ มันเป็นอาวุธจำลองเวทมนตร์ที่โทนี่สร้างขึ้น เมื่อเทียบกับอาวุธธรรมดา ย่อมร้ายกาจกว่าหลายเท่า นิค ไม่เเปลกใจ ที่โทนี่จะสามารถสร้างเจ้านี่พร้อมกับปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะอย่าง J.A.R.V.I.S. ได้

 

เเต่ที่สำคัญก็คืออาวุธของพวกไฮดร้ากลับร้ายกาจกว่าหลายเท่า การรวมทีมของ ทีมพันธมิตรผู้ทักษ์ เเละ ทีมX-MEN ถูกอาวุธที่ไร้สามัญสำนึกกดดันจนเเทบพ่ายเเพ้ ในมุมมองนี้ ถือว่า เป็นเรื่องสำคัญร้ายเเรงที่นิคจะต้องรีบเตรียมพร้อมให้มากที่สุด

 

หากไม่ได้การรวมทีมที่มีเเกนนำคือทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ศึกปะทะกับพวกไฮดร้าคราวก่อนอาจเป็นการที่ฝ่ายพวกเขาถูกบดขยี้เพียงฝ่ายเดียว

 

“ทีมพันธมิตรอเวนเจอร์สในตอนนี้ถึงเเม้จะอ่อนเเอ เเต่ฉันเชื่อว่าในอีกหลายปีข้างหน้าพวกเราจะต้องเเข็งเเกร่งขึ้นอย่างเเน่นอน”ในนิมิตของนิคเขามองเห็นขุมกำลังอันดับหนึ่งที่สามารถจัดการศัตรูได้ทุกรูปแบบ เขาถอนหายใจออกมาด้วยความหวัง

 

 

ในขณะที่นิคกำลังทำงานอย่างหนักในการค้นหาข้อมูลเบาะเเสต่าง ๆ ของพวกไฮดร้า,ภายในฐานไฮดร้าในปัจจุบัน เร้ด สกัลล์ กำลังดำเนินการบางอย่าง

 

เหตุต่อสู้เมื่อวานทำให้ เร้ด สกัลล์ ฉุดคิดบางอย่าง ถึงความไม่เสถียรของพลังได้ดังนั้นเขาจึงได้ทำการทดลองบางอย่างภายในห้องลับเเห่งนึง

 

ณ ใจกลางห้อง มีจัตุรัสยักษ์อยู่ในตำเเหน่งศูนย์กลาง เเละ ตำเเหน่งศูนย์กลางเหล่านี้ก็รายล้อมไปด้วยนักวิจัยจำนวนมาก พวกมันกำลังประมวลผลลูกบาศก์เวทมนตร์กันอยู่ ทันทีที่เครื่องถูกทำงานประจุไฟฟ้าจำนวนมากได้ถูกปลดปล่อยออกมา

 

ภายในห้องขอบสี่เหลี่ยมจัตุรัสนี้ เร้ด สกัลล์ ได้นั่งอยู่บนโซฟา จ้องมองไปที่การทดลองด้านหน้า ใบหน้าติดกระดูกของ เร้ด สกัลล์ ทำให้หน้าตาของเขาดูหน้ากลัวอย่างมาก ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดมากกว่านิคในปัจจุบันหลายเท่า

 

“กว่า 60 ปี ที่เราไม่สามารถหาความลับของลูกบาศก์เวทมนตร์ได้ เเต่ดูเหมือนประตูเเห่งความลับได้เปิดเเง้มบางส่วนเเล้ว!”เร้ด สกัลล์ จ้องมองไปที่ ด้านหน้า เเละ กล่าวกระซิบ

 

“การใช้พลังของลูกบาศก์เวทมนตร์ในครั้งต่อไปคงจะมีการเปลี่ยนเเปลงบางอย่างบ้าเเล้วเเต่มันจะดีกว่าหากเราสามารถเเก้ไขความลับของมันได้เร็วที่สุด”

ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์สเเจ็คสันขมวดคิ้วเเน่นเล็กน้อย ดูเหมือน สิ่งที่เขารอในที่สุดก็เป็นจริง กัปตันโรเจอร์ส นั้นต้องการสื่อถึงเรื่องของ บัคกี้ บาร์นส์

 

หลังจากเเจ็คสันพูดเรื่อง อินฟินิตี้สโตน เเละ พวกไฮดร้า เเก่กัปตันโรเจอร์สไปเเล้ว รวมถึงเเผนก่อตั้งสหพันธ์โลก เดิมเขาคิดว่า กัปตันโรเจอร์สจะมีคำถามใด ๆ เพียงเเต่ไม่คิดว่าเขาจะถามเรื่อง ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ เร็วขนาดนี้

 

“ใช่ ในการต่อสู้ครั้งก่อนกับพวกไฮดร้า ฉันได้จับทหารวินเทอร์โซลเยอร์มาหลายคน ฉันยังไม่ได้ฆ่าพวกเขา ฉันได้จับพวกเขามัดไว้ในฐานเเละลองทำการทดลองเพื่อดูว่าจะสามารถเรียกพวกเขากลับมาได้หรือไม่”เเจ็คสันกล่าวอย่างไม่ได้ปกปิดความจริง

 

ฮู้วว

 

ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์อารมณ์ของกัปตันโรเจอร์สผันผวนเล็กน้อย เเม้เเต่เรื่องของอินฟินิตี้สโตน หรือ ก่อตั้งสหพันธ์ โลกก็ยังไม่ทำให้อารมณ์ของเขาผันผวนขนาดนี้

 

“พวกเขา…เป็นเหมือนกับ บัคกี้ ใช่ไหม?”กัปตันโรเจอร์สกำหมัดเเน่นเล็กน้อย

 

“ใช่พวกเขาถูกล้างสมอง เพียงเเต่ เทียบกับ ผู้พันบาร์นส์ ระดับการล้างสมองของพวกเขาสูงกว่ามาก ฉันเองก็ลองหาวิธีเพื่อที่จะกู้คืนความทรงจำของพวกเขา เเต่ดูเหมือนจะไร้หนทาง ก็ต้องรอดูว่าหลังจากพวกเรากำจัดพวกไฮดร้าเเล้ว บางที พวกเราอาจได้หนทางในการช่วยเหลือพวกเขา”เเจ็คสันถอนหายใจออกมา

 

เนื่องจากทหารวินเทอร์โซลเยอร์เหล่านี้ถูกล้างสมองเเจ็คสันจึงไม่ต้องการฆ่าพวกเขา เหตุผลอื่นก็คือ เพื่อนของเขา ทอม ก็ถูกล้างสมองด้วยเหมือนกัน เเจ็คสันรู้ว่ามันมีวิธีควบคุมทหารวินเทอร์โซลเยอร์อยู่ อย่างเช่น บัคกี้ เขาถูกควบคุมโดยชุดคำของภาษารัสเซียพิเศษ

 

หลายเดือนที่ผ่านมาหลังจากที่พวกเขาไล่ทำลายฐานของพวก ไฮดร้า เเจ็คสันได้ร้องขอให้ J.A.R.V.I.S ช่วยค้นหาการมีอยู่ของหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่เป็นภาษารัสเซียพิเศษที่ว่านั่น เเละ ดูเหมือน เเจ็คสันจะได้รับข้อมูลบางอย่างมา เเต่ดูเหมือนจะไม่มีโอกาสได้ใช้กับบัคกี้เเล้ว

 

หากเป็นทอมเวอร์ชั่นปกติบางทีเขาก็อาจจะเหมือนกับบัคกี้ เเต่ตอนนี้ เเจ็คสันไม่มีโอกาสได้ทดลองเรื่องที่ว่านี้ เพราะทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่คงจะต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติ่มรวมถึงการควบคุมที่ดีมากขึ้น

 

“คุณรู้สถานะของพวกเขาเเล้วหรือยัง?ฉันได้ยินมาว่าเพื่อนของคุณก็ตกเป็นเหยื่อของพวกไฮดร้าเหมือนกัน”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามอีกครั้ง

 

เเจ็คสันลอบปิดความรู้สึกในตอนนี้ออกมาเขาไม่ต้องการเปิดเผยชื่อเพื่อนของตัวเอง เรื่องที่ข่าวเพื่อนของเขาถูกจับไปโดยพวกไฮดร้า ดูเหมือน จะหลุดออกไปด้วยความไม่ตั้งใจ ไม่ว่าอย่างไร เเจ็คสันจะต้องช่วยเหลือ ทอม กลับมาให้ได้

 

“ฉันพอรู้สถานะของคนในกลุ่มคร่าว ๆ เเล้ว ฉันได้ลองค้นหาบันทึกวิดิโอเเละภาพสมาชิกครอบครัวให้พวกเขาดูเผื่อพวกเขาจะจำอะไรได้ เเต่ผลตอบรับก็ไม่ได้ดีอย่างที่เห็น ฉันคิดว่ากุญเเจสำคัญในการฟื้นคืนสติของพวกเขาก็คือข้อมูลจากพวกไฮดร้า”เเจ็คสันพยักหน้าตอบ

 

“เอ่อ…คุณมีข่าว บัคกี้ บ้างไหม? ฉันรู้ว่ามันค่อนข้างจะรบกวนคุณ เเต่ฉันยังไม่ได้ยินข่าวคราวของเขาเลย”กัปตันโรเจอร์สเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเป็นเรื่องของบัคกี้

 

ธรรมชาติ กัปตันโรเจอร์ส ย่อมเป็นห่วงเพื่อนคนนี้ เเละ เตรียมจะถาม เเจ็คสัน เเจ็คสันเองก็รู้ว่า บัคกี้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของ กัปตันโรเจอร์ส

 

“ไม่เลย ผู้พันบาร์นส์ได้เเยกทางกับไฮดร้าเเละหายตัวไป ฉันไม่ได้รับข่าวคราวของเขาเลย เพียงเเต่หากคุณไม่สามารถหาเขาได้ ฉันลองเเนะนำให้คุณลองไปหาที่ประเทศนึงอันห่างไกล วากานด้า”เเจ็คสันกล่าวออกมา

 

เขาจำได้ว่าในพล็ตอเรื่องหลังจากที่เเยกกับกัปตันโรเจอร์สผู้พันบาร์นส์ได้หลบหนีไปยังประเทศ วากานด้า ที่เป็นประเทศที่ถูกปกครองโดย เเบล็คเเพนเทอร์ วากานด้า เป็นประเทศที่ร่ำรวยเเละมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า เพียงเเต่ด้วยเส้นวลาเเละพล็อตเรื่องในปัจจุบัน เเจ็คสันไม่รู้ว่าจะหาประเทศนี้ได้ที่ไหน

 

สิ่งอื่น ๆ ที่เเจ็คสันกังวลก็คือ หากพบตัวบัคกี้ เเละ เรื่องที่บัคกี้ เป็นคนฆ่าพ่อเเม่ของโทนี่ถูกเปิดเผย สงครามระหว่าง กัปตันโรเจอร์ส เเละ โทนี่ ก็จะบังเกิดขึ้น เเจ็คสันจะไม่มีทางห้ามปรามทั้งสองคนได้ในทันที ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้พวกไฮดร้าจะต้องถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ก่อนเป็นอันดับเเรก

 

เเม้ว่าสิ่งนี้จะดูไม่ยุติธรรมกับโทนี่ เเต่ถ้าหากเขารู้ความจริงเรื่องนี้ โทนี่ จะกลับมาเศร้าอีกครั้ง เเละ มันจะกระทบต่อเเผนการในอนาคตจำนวนมากของพวกเขา

 

“วากานด้า?!”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์กัปตันโรเจอร์สเเสดงออกให้เห็นถึงความเเปลกใจ

 

กัปตันโรเจอร์สเดิมก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากมิราจไนท์ เพราะ มิราจไนท์เป็นคนบอกว่าไม่รู้ว่าบัคกี้อยู่ที่ไหน เเต่ตอนนี้ มิราจไนท์ได้ให้ปลายทางที่ว่า เเม้จะไม่เเน่นอน เเต่เขาก็มีเป้าหมายที่น่าลองเสี่ยงดู

 

นอกจากนี้ วากานด้า ที่มิราจไนท์พูดถึง ในบันทึกของ S.H.I.E.L.D. มันเป็นประเทศที่พิเศษมาก เเม้ประเทศนี้จะมีขนาดเล็ก เเต่ก็มีความมั่งคั่ง เเละสามารถผลิตสิ่งของหายากได้

 

ยกตัวอย่างเช่น อาวุธ ต่าง ๆ

 

“ขอบคุณมิราจไนท์ คุณได้ช่วยเหลือฉันอีกครั้ง!”กัปตันโรเจอร์สกล่าวขอบคุณมิราจไนท์

 

“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณสำหรับการสนับสนุนเเผนการทั้งหมด หากไม่ได้คุณเเผนการของเราก็คงจะไม่เดินหน้าต่อ นอกจากนี้ หากเเผนการของเราประสบความสำเร็จ เรื่องของ S.H.I.E.L.D. ก็คงจะต้องฝากรบกวนคุณเเล้ว”เเจ็คสันกล่าวขอบคุณเช่นกัน

 

“ผ่อนคลายเถอะ ในสงครามโลกครั้งที่สอง ฉันค่อนข้างมีชื่อเสียงในด้านการโฆษณาชวนเชื่อ ฉันค่อนข้างมีทักษะในด้านนี้”กัปตันโรเจอร์สยิ้มออกมา ในสงครามโลกครั้งที่สอง กัปตันโรเจอร์สได้พูดปลุกระดมทหารเกณฑ์จำนวนมาก ดูเหมือนเขาจะมีทักษะในด้านนี้

 

ก่อนกัปตันโรเจอร์สจากไป เเจ็คสันได้ เตือนเรื่อง หลีกเลี่ยงการเฝ้าระวังของ S.H.I.E.L.D. เพราะเขาไม่ต้องการให้เรื่องที่พวกเขานัดพบกันในวันนี้ถูกเปิดเผย

 

“เช่นนั้นไว้เจอกันมิราจไนท์ หวังว่าเเผนการของพวกเราจะประสบความสำเร็จดั่งที่คาดเอาไว้”

 

“อืม ไว้เจอกันกัปตันโรเจอร์ส”

ในขณะที่เเจ็คสันเเละปีเตอร์ขับจักรยานเพื่อไปพบกัปตันโรเจอร์สที่โรงงานลับของโทนี่, โทนี่ก็อยู่ในอุตสาหกรรมสตาร์กสำนักงานของตัวเอง ช่วงนี้เขาไม่ได้ทำการศึกษาชุดเกราะไอรอนแมนเพิ่มเติ่ม เพียงเเต่มุ่งเน้นไปด้านการศึกษาเรือเหาะสงครามระดับ E เเทน

 

ยิ่งไปกว่านั้นอุปกรณ์เวทมนตร์จำลองที่ถูกสร้างขึ้นเสริมพลังให้กับชุดเกราะไอรอนแมนยังไม่เสร็จสมบูรณ์มันยังไม่สามารถเทียบได้กับผลลัพธ์ที่เขาตั้งใจเอาไว้ รวมถึง เวน่อม ที่โทนี่คิดจะเอามาดัดเเปลงตอนนี้มันถูกขังอยู่ในกล่องกระจกใส เพราะโทนี่ยังไม่มีวิธีที่จะใช้งานมัน

 

ขณะที่โทนี่กำลังทำการวิจัยศึกษา โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น มันเป็นเบอร์จาก นิค S.H.I.E.L.D. ในความเห็นของโทนี่ นิค โทรมาเพราะเเจ็คสันเเน่นอน

 

“สวัสดี โทนี่ ฉันต้องการพูดคุยกับมิราจไนท์เกี่ยวกับเทคโนโลยีของพวกไฮดร้า ตอนนี้พวกเราต้องประสานความคิดเห็นกันเพื่อรัมือกับพวกมัน”โทนี่ได้กดรับสายเเละไปนั่งบนโซฟาของเขาพร้อมกับรินไวน์ เสียงของ นิค ได้ดังขึ้น

 

“ฉันรู้ว่า คุณมีคำถามมากมาย เพียงเเต่หากคุณต้องการจะติดต่อ มิราจไนท์ โดยตรง ฉันเชื่อว่า เขาจะไม่ปฏิเสธคุณ”

 

“งั้นหรอ?ฉันเองก็มีงานมากมายที่รอทำค้างอยู่ จริงสิ ฉันมีเรื่องที่ยังไม่ได้พูดกับนาย”

 

“เครื่องมือต่อต้านเเรงโน้มถ่วงขนาดใหญ่พิเศษที่ฉันติดตั้งใหม่ในคราวนี้หากนายมีเวลาก็มีดูเเละช่วยวิเคราะห์มันหน่อยเเล้วกัน”

 

“อืม,เข้าใจเเล้ว”

 

โทนี่กล่าวตอบในที่สุด ดูเหมือน นิค จะโทรมาเพราะเหตุผลเครื่องมือต่อต้านเเรงโน้มถ่วงมากกว่า เเต่ข่าวของนิค ก็คงทำให้ นิคลืมเรื่องการค้นหามิราจไนท์ชั่วคราว เพราะหากเครื่องมือต่อต้านเเรงโน้มถ่วงถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์เมื่อไหร่ S.H.I.E.L.D. ก็จะยกระดับองค์กรขึ้นอย่างก้าวกระโดด

 

“ดูเหมือน นิค จะอยากได้เครื่องมือต่อต้านเเรงโน้มถ่วงขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์โดยเร็ว พวกเขาคิดว่าสิ่งนั้นคือสุดยอดของเทคโนโลยีหลังจากสร้างมันขึ้นได้อย่างสมบูรณ์สินะ”โทนี่ยิ้มออกมา ในมือของเขารินไวน์เพิ่มพร้อมกับหวนนึกถึงแบบเเปลนเรือเหาะสงคราม

 

ฟุ่บ!

 

“เอาล่ะ J.A.R.V.I.S มาเริ่มงานกันต่อ นอกจากนี้เฝ้าระวังกล้องวงจรปิดทุกตัว จับตามองการเคลื่อนไหวของนิค เอาไว้”โทนี่ดีดตัวลุกขึ้นก่อนที่จะเดินไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง

 

“ครับเจ้านาย,เพียงเเต่หากทำเช่นนั้นก็คงต้องทำการต่อต้าน มายา”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

 

มายา ระบบ อัจฉริยะของ J.A.R.V.I.S ที่ถูกคิดค้นขึ้นเเละไม่ได้ด้อยไปกว่า J.A.R.V.I.S เพียงเเต่ J.A.R.V.I.S ในตอนนี้มีพัฒนาการเป็นของตัวเอง เขาเข้าใกล้คำว่ามนุษย์มากที่สุด หลายครั้งที่ J.A.R.V.I.S สามารถวิเคราะห์สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้

 

“งั้นหรอ…อืม”โทนี่ วางมือบนคีย์บอร์ดเเละเริ่มงานอีกครั้ง

 

ต๊อก เเต๊ก…

 

 

ขณะที่โทนี่เริ่มงานต่อ เเจ็คสัน ก็อยู่ภายในห้องของโรงงานลับ กับกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันบอกกัปตันโรเจอร์สเกี่ยวกับเเผนการของตัวเองชั่วคราว

 

“มิราจไนท์ คุณมีความมั่นใจใช่มั้ย?คุณเเน่ใจนะว่าที่พวกไฮดร้าถือครองคือ อินฟินิตี้สโตน”หลังจากเข้าใจความเเข็งเเกร่งของอินฟินิตี้สโตน กัปตันโรเจอร์ส กล่าวถามมิราจไนท์อย่างจริงจัง

 

เเม้เเต่โทนี่เเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็สงสัยเหมือนกับกัปตันโรเจอร์ส หากเป็นเมื่อหลายเดือนก่อน กัปตันโรเจอร์สย่อมไม่เชื่อเรื่องนี้อย่างเเน่นอน เเต่สิ่งที่กัปตันโรเจอร์สพบมันไม่สามารถอธิบายด้วยสามัญสำนึกได้

 

หากสิ่งที่พวกไฮดร้าครอบครองคือ อินฟินิตี้สโตน สมบัติระดับจักรวาลจริง กัปตันโรเจอร์ส ก็ย่อมรู้สึกตกใจเป็นเรื่องธรรมดา เพียงเเต่ มิราจไนท์ ดูเหมือนเขาจะรู้เรื่องที่คนธรรมดาที่ไม่อาจหยั่งถึงได้ กัปตันโรเจอร์สคิดว่าบางทีมิราจไนท์อาจเป็นคนจากนอกโลกก็ได้ เพราะเท่าที่กัปตันโรเจอร์สรู้ เเม้เเต่ S.H.I.E.L.D. องค์กรระดับโลก ก็ยังไม่มีข้อมูลระดับนี้

 

“ฉันเองก็ไม่สามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เเต่ธรรมชาติฉันรู้จัก อินฟินิตี้สโตน เเละ รู้จักพลังที่เเท้จริงของมัน เเละมันตรงกับข้อมูลที่ฉันมี อาจเป็นไปได้ว่า พวกไฮดร้า ได้ครอบครองหนึ่งในอินฟินิตี้สโตนพวกนั้นจริงๆ “เเจ็คสันกล่าวออกมาอย่างเเท้จริง

 

ที่จริงเเล้วการศึกษาเรื่องประตูมิติอวกาศใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นเเต่การโจมตีระดับนั้นที่ทรงพลังไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถจินตนาการได้ ในพล็อตเรื่องเดิม S.H.I.E.L.D. ที่ได้รับเทสเซอเเรคมา พวกเขาก็ได้ศึกษาอิทธิพลของมันก่อนที่โลกิจะปรากฏตัวขึ้นเเละเเย่งสิ่งนี้ไป

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้พล็อตเรื่องได้เปลี่ยนไปเเล้ว เเละ เเจ็คสันเชื่อว่า พวกไฮดร้าได้ครอบครอง สเปซอินฟินิตี้สโตนจริง โชคดีที่พวกมันไม่สามารถใช้พลังที่เเท้จริงของสเปซอินฟินิตี้สโตนได้ ไม่งั้นพวกเเจ็คสันคงไม่มีหนทางในการเอาชนะ

 

“ดังนั้นก็ไม่เสียหายหากเราจะคิดเช่นนั้นไว้ก่อน การเตรียมพร้อมรับมือตั้งเเต่ตอนนี้ย่อมสร้างรากฐานให้เราได้มาก”

 

“ดี,ฉันจะสนับสนุนคุณ ก่อตั้งสหพันธ์โลกงั้นหรอ ฉันชักจะรู้สึกสนใจซะเเล้วสิ”หลังจากได้คำตอบยืนยันจาก มิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส กำหมัดเเน่นด้วยความหวัง

 

การจัดตั้งสหพันธ์โลกหรือก็คือการรวมโลกให้เป็นหนึ่งนี่คือความฝันเริ่มเเรกของกัปตันโรเจอร์ส หลังจากฟื้นขึ้นมาจากชั้นน้ำเเข็ง กัปตันโรเจอร์สได้ถูกชักชวนเข้าร่วมองค์กร S.H.I.E.L.D. เพียงเเต่องค์กร นี้ก็ยังไม่สามารถมอบโลกในอุดมคติของกัปตันโรเจอร์สได้

 

ดังนั้นการที่มิราจไนท์ เสนอความคิดเช่นนี้ออกมา มันได้ดึงดูด ความฝันอันยิ่งใหญ่ของสตีฟ ตั้งเเต่ 60 ปีก่อน เด็กที่เกิดจากบรูคลิน ที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ เพื่อที่จะชนะพวกไฮดร้า เขาจึงได้ตัดสินใจเดินตามความฝันในการเข้าร่วมกองทัพ

 

“จริงสิ มิราจไนท์ ฉันมีเรื่องขอให้คุณช่วย”หลังจากยืนยันความคิดของตัวเองได้เเล้วกัปตันโรเจอร์สกล่าวขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“หืม?เรื่องอะไรละ”

 

“ฉันได้ยินว่าคุณจับ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ได้หลายคนใช่หรือไม่?”

ในวันถัดไปด้วยความช่วยเหลือของโทนี่ เเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ทั้งสามคน ได้ย้าย ทอมเเละทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนอื่น ๆ ไปยังฐานป้องกันระดับสูง

 

หลังจากเปลี่ยนมาที่นี่ เเจ็คสันได้เเยกทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 6 คนขังคนละห้อง เพื่อตรวจสอบความเปลี่ยนเเปลงของเเต่ละคน

 

สิ่งที่น่าผิดหวังก็คือ เเม้ฮาร่าจะมีการตอบสนองเเต่ก็เหมือนเเค่ชั่ววูบเพียงเท่านั้น ดังนั้นเเจ็คสันจึงต้องเฝ้าสังเกตุการณ์ต่อไป

 

“พวกเราขังคนเหล่าคนี้เอาไว้ก็จริง เเต่พวกเราจะทำอย่างไรถ้าหากพวกเขาไม่สามารถกู้คืนความทรงจำได้?”ปีเตอร์กล่าวถามเเจ็คสันหลังจากจ้องมองผ่านห้องกระจกใส

 

เขาเห็นทอมเพื่อนสนิทที่เป็นแบบนี้ ทำให้ปีเตอร์รู้สึกไม่ดีอย่างมาก

 

เมื่อคืนที่ผ่านมา เเจ็คสันได้มอบทหารวินเทอร์โซลเยอร์ให้ได้รับยายีนบำบัดขั้นต้นที่ออสคอร์ปผลิตเพียงเเต่การทำงานของมันดูเหมือนจะไม่มีผลเท่าไหร่

 

“พวกเราควรปล่อยพวกเขาไว้แบบนี้ไปก่อน การฝืนเร่งรัดกู้คืนความทรงจำอาจจะเป็นอันตรายต่อพวกเขา บางทีตราบเท่าที่พวกเราทำลายพวกไฮดร้าได้อาจมีหนทางช่วยเหลือพวกเขา”ได้ยินความกังวลของปีเตอร์ เเจ็คสัน กล่าวตอบ

 

เเจ็คสันไม่มีหนทางที่จะช่วยเหลือพวกเขาในตอนนี้จริง ๆ ตราบใดที่สามารถกำจัดพวกไฮดร้าได้เเจ็คสันเชื่อว่าภารกิจนี้จะทำให้เขาได้เเต้มคะแนนมากพอ หากไม่สามารถช่วยเหลือทอมในการฟื้นคืนสติได้ เเจ็คสันจะมองหารายการเเลกเปลี่ยนพิเศษในร้านค้าเพื่อช่วยเหลือเขา

 

“ดี ฉันเชื่อนาย ดังนั้นพวกเราจะต้องหามาตราการตอบโต้พวกมัน”ปีเตอร์กำหมัดเเน่นทันทีที่ได้ยินเช่นนี้

 

การโจมตีโดยฉับพลันของพวกไฮดร้าโดยการใช้สเปซสโตนทำให้พวกเขา ทีมพันธมิตรผู้พิทัก,S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมX-MEN ต่างก็หาวิธีตอบโต้พวกมันในเร็ว ๆ นี้

 

“เเน่นอน! อย่างไรก็ตามตอนนี้ฉันต้องการ การตัดสินใจของกัปตันโรเจอร์บางอย่าง”เเจ็คสันกล่าวออกมา

 

หลังจากการต่อสู้เมื่อวานนี้สิ้นสุดลง S.H.I.E.L.D. ก็ยังไม่ได้ข้องเเวะกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ สำหรับ กัปตันโรเจอร์ส ดูเหมือนเขาไม่พอใจ S.H.I.E.L.D. อย่างมาก เขาจึงเก็บตัวไม่ออกไปไหน นิค เองก็ไม่ได้ไปตามหาเขา

 

“กัปตันโรเจอร์ส?เขาจะมางั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ปีเตอร์กล่าวถามอย่างกระทันหัน เขานับถือในตัวกัปตันอเมริกาตั้งเเต่เล็ก ๆ ดังนั้นเมื่อเขาพบกัปตันโรเจอร์สในเเต่ละครั้งปีเตอร์จะรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

 

“อืม,ฉันได้ติดต่อกัปตันโรเจอร์สไปเเล้ว เขาเองก็ตอบรับเเล้วด้วย”เห็นอารมณ์พลุ้งพล่านของปีเตอร์ เเจ็คสันตอบความจริง

 

ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้ติดต่อกัปตันโรเจอร์สไป เนื่องจากความสัมพันธ์ของพวกเขาที่ค่อนข้างดีต่อกัน กัปตันโรเจอร์สจึงตอบรับอย่างรวดเร็ว เพียงเเต่เเจ็คสันได้กำชับว่าอย่าให้ S.H.I.E.L.D. ค้นพบ ตัวระหว่างทางมาที่นี่

 

“จริงสิ ฉันจะขอลายเซ็นของกัปตันอเมริกาบ้างได้รึเปล่านะ?”ปีเตอร์ที่รู้ว่ากัปตันโรเจอร์สจะมาเขาค่อนข้างตื่นเต้นเพราะอย่างไรก็ตามกัปตันโรเจอร์สก็เป็นถึงไอดอลของเขา

 

“พูดถึงลายเซ็น ที่ฉันได้รับมาก่อนหน้านี้ เป็นช่วงเวลาที่ฉันพาเขาไปเที่ยวชมสถานที่ในนิวยอร์กต่าง ๆ เดิมฉันตั้งใจจะขอลายเซ็นมาให้พวกนายด้วย เเต่ฉันลืม”เเจ็คสันกล่าวออกมาตามตรง

 

ตอนนี้เเจ็คสันมีลายเซ็นของกัปตันอเมริกาเเละลายเซ็นของไอรอนแมน โทนี่ ตอนนี้หากเเจ็คสันต้องการลายเซ็นของโทนี่ มันค่อนข้างง่ายเกินไป เพราะโทนี่ สามารถให้เขาได้มากเท่าที่ต้องการ

 

“เเจ็คสัน เป็นนายที่พากัปตันอเมริกาเที่ยวชมนิวยอร์ก?ทำไมนายไม่มองหาฉันในตอนนั้น!”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ปีเตอร์รู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อยโอกาสที่เขาจะได้เดินเที่ยวเล่นกับไอดอลไม่ได้มีให้เห็นบ่อย ๆ เพราะเเต่ละครั้งที่เขาพบกัปตันโรเจอร์สปีเตอร์ไม่ค่อยมีเวลาได้สนทนากับกัปตันโรเจอร์สมากนัก

 

“ในเวลานั้นเรื่องข่าวการฟื้นคืนของกัปตันอเมริกานั้นยังเป็นความลับฉันจึงยังไม่ได้บอกนาย ก่อนหน้านั้นนายเองก็เคยเห็นกัปตันโรเจอร์สมาก่อนเเล้วนิ”เเจ็คสันรู้สึกพูดไม่ออก

 

เเม้เเฮร์รี่จะเป็นเหมือนปีเตอร์เเต่เขาก็ไม่ได้ออกอาการแบบนี้โดยเฉพาะตอนนี้ที่เเฮร์รี่เป็นประธานใหญ่ของออสคอร์ปเขาไม่ได้ทำตัวเหมือนเด็กมัธยมอีกเเล้ว

 

ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกับเสียงโทรศัพท์ของเเจ็คสันก็ดังขึ้น

 

มันคือเบอร์ของ กัปตันโรเจอร์ส

 

“มิราจไนท์ ฉันมาถึงเเล้ว”เสียงของกัปตันโรเจอร์สได้ส่งผ่านออกมา

 

“ดีฉันจะไปทันที”เเจ็คสันกล่าวออกมาเเละเตรียมเดินจากไป เเจ็คสันได้นัดกัปตันโรเจอร์สห่างจากที่เเห่งนี้ไปยังโรงงานลับของโทนี่ เพื่อป้องกันการตรวจสอบของ S.H.I.E.L.D.

 

“ฉันไปด้วย!”ได้ยินเเจ็คสันพูดปีเตอร์ขอตามไปด้วยในทันที

 

“ฉันจะอยู่เฝ้าที่นี่เองพวกนายไปเถอะ!”เเฮร์รี่ที่จัดการธุระภายในที่เเห่งนี้เสร็จเขาได้เดินกลับมาพร้อมกับได้ยินการสนทนาของทั้งสองคน

 

“อืม,พวกเราจะรีบกลับมาทันที”เเจ็คสันเเละปีเตอร์พยักหน้าก่อนที่จะออกจากฐานไปอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากออกจากประตูหน้าฐานไปเเล้ว เเจ็คสัน กับ ปีเตอร์ ก็หยิบจักรยานคนละคันก่อนที่จะเริ่มปั่นไปยังตำเเหน่งโรงงานลับของโทนี่ ที่กัปตันโรเจอร์สรออยู่

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังเฝ้ามองทหารวินเทอร์โซลเยอร์ เจอร์รี่ก็เดินมาถึงเบื้องหน้าของเดดพูลที่กำลังนอนอยู่บนเตียง เขาสังเกตุเดดพูลอย่างระวัง เเละ เเทบไม่สามารถตรวจจับชีพจรชีวิตได้ ด้านหน้าของเขาราวกับศพนิ่งไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว

 

“หวังว่ามิราจไนท์จะพูดถูกต้องไม่อย่างนั้นพวกเราคงได้สูญเสียสมาชิกคนสำคัญไปจริง ๆ เเน่”เจอร์รี่นั่งลงข้างเตียงของเดดพูล เขาไม่ได้รังเกียจหน้าตาของเดดพูลที่ถูกไฟคอก

 

ฟุ่บ!

 

“พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง มีวิธีที่จะช่วยฟื้นคืนความจำของพวกเขาไหม?ฉันได้ยินมาว่าทหารพวกนี้ได้ถูกล้างสมองเเละมันเป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นความทรงจำของพวกเขา หากพยายามรื้อฟื้นความทรงจำของพวกเขา พวกเขาจะบ้าคลั่งขึ้นมา”เจอร์รี่ได้กล่าวถามมิราจไนท์เมื่อเห็นมิราจไนท์เดินเข้ามาภายในห้อง

 

เเจ็คสันไม่ได้ตอบเจอร์รี่ในทันทีเขาจ้องมองไปที่เตียงของเดดพูลอย่างระวัง ใบหน้าเดิมของเเจ็คสันก็ค่อนข้างกังวล เท่าที่เขาตรวจสอบ เดดพูลกำลังใช้เวลาฟื้นฟูตัวเองเซลล์ของเขากำลังก่อตัวขึ้นเเต่มันกลับช้าอย่างมาก

 

“ฉันไม่เเน่ใจว่าจะทำให้พวกเขาฟื้นคืนความทรงจำของตัวเองได้หรือไม่ เเต่ฉันจะลองพยายามดู”เเจ็คสันกล่าวตอบเจอร์รี่ตามจริง

 

หากมันมีไอเท็มพิเศษที่จะสามารถช่วยเหลือทอมเเละทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนอื่น ๆ ได้เขาก็ไม่ลังเลที่จะเเลกมันมา เพียงเเต่ถึงเเม้จะมีจริง เขาก็ไม่สามารถเเลกมันได้ในตอนนี้เพราะเเต้มคะแนนของเขาไม่เพียงพอ

 

ดังนั้นเเจ็คสันจึงลองพยายามฟื้นคืนความทรงจำด้วยความหลังต่าง ๆ จากรูปภาพ เเละ กระตุ้นความทรงจำก่อนหน้านี้ หากโชคดี ทอมก็คงจะพอนึกอะไรออกได้บ้าง

 

“งั้นหรอ เช่นนั้นฉันจะกลับไปค้นหาประวัติสถานะของอีกสองคนที่เหลือเพียงเเต่พวกไฮดร้าค่อนข้างมีอิทธิพลบางทีทั้งสองคนนั้นอาจจะเป็นคนต่างถิ่นไม่อาจใช้ฐานข้อมูลค้นหาได้”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ เจอร์รี่ รู้สึกหมดหนทาง

 

ข้อมูลเกี่ยวกับทหารวินเทอร์โซลเยอร์นั้นค่อนข้างหาได้ยากโดยเฉพาะสองคนที่เหลือราวกับว่าพวกเขาไม่เคยมีตัวตนมาก่อน ดังนั้นเจอร์รี่จึงต้องพยายามอย่างหนัก

 

“ขอบคุณเจอร์รี่สำหรับความพยายาม ช่วงนี้ก็ปล่อยให้พวกเขาถูกขังในห้องนั้นไปก่อน”ได้ยินคำพูดของเจอร์รี่ เเจ็คสันตบไหล่เเฮ็กเกอร์อัจฉริยะของทีมเขา

 

เขารู้ว่าเจอร์รี่พยายามอย่างมากในการช่วยเหลือเรื่องนี้ เเต่มันก็ไม่ใช่ทุกสิ่งที่เจอร์รี่จะสามารถทำได้ ดังนั้นเขาไม่ต้องการให้เจอร์รี่กดดันตัวเอง

 

“ฉันเข้าใจเเล้ว เเต่เรื่องของเดดพูล เขา…”ได้รับการสนับสนุนจากมิราจไนท์อารมณ์ของเจอร์รี่ดีขึ้นเล็กน้อย เพียงเเต่ความสนใจทั้งหมดก็ตกไปที่เดดพูลอีกครั้ง

 

“เดดพูลคงจะต้องใช้เวลาพักฟื้นตัวนาน ผ่อนคลายเถอะ ฉันไม่ได้หลอกพวกนายหรอก เพียงเเต่ด้วยอัตราการฟื้นฟูในปัจจุบันของเขา อาจจะต้องใช้เวลากว่าหนึ่งสัปดาห์นายถึงจะเห็นถึงความเปลี่ยนเเปลง”เเจ็คสันรู้ว่าเจอร์รี่กังวลเกี่ยวกับเดดพูล เขาจึงบอกให้ผ่อนคลายในเรื่องนี้

 

ร่างของเดดพูลมีเซลล์ 1-2 เซลล์ที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาได้รับยายีนเเละน้ำศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำเข้าไปช่วยฟื้นฟูเเล้ว เพียงเเต่อาการบาดเจ็บของเดดพูลรุนเเรงอย่างมาก ดังนั้นอุปกรณ์ช่วยเหลือทั้งสองอย่างนั้นเป็นเพียงตัวเร่งเท่านั้นหากต้องการให้เเสดงผลจะต้องใช้เวลาพอสมควร

 

“ฉันเชื่อคุณ ฉันจะเข้ามาดูอาการของเดดพูลเป็นระยะ พอเขาฟื้นขึ้นมาฉันจะได้คอยช่วยเหลือเขาได้…”เจอร์รี่ตอบรับคำของเเจ็คสัน

 

“อืม ขอบคุณ”

 

ฟุ่บ!

 

“!!!”

 

ในขณะที่เเจ็คสันเตรียมจะพูดอะไรต่อเขาก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนของทหารวินเทอร์โซลเยอร์ดังขึ้น มันเป็นเสียงที่ดูเเล้วทรมาณอย่างมาก

 

“นายรออยู่ที่นี่!”เเจ็คสันบอกเจอร์รี่ก่อนที่จะรีบเร่งออกไป

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันรีบเดินไปถึงหน้าจอคอมเเละจ้องมองไปที่ภาพ เเน่นอนว่านอกเหนือจากทอมเเล้วเขาก็ได้ให้ภาพเเห่งความทรงจำเเก่ทั้งสามคนที่ตรวจสอบสถานะพบ

 

ทอมหลังจากดูรูปภาพเเละวิดิโอบนเเท็บเล็ตเขาก็ไม่ได้มีการตอบสนองใด ๆ เพียงเเต่คนอื่น ๆ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนอื่น ๆ เหมือนจะจำอะไรได้ เขาได้ตะโกนกรีดร้องออกมาอย่างทรมาณเเละเริ่มดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง

 

ปั้ง

 

ขณะนั้นมีเสียงของคนคนนึงดังร้องขึ้นซึ่งเขาร้องตะโกนราวกับไม่สนใจสิ่งใดเพียงเเต่คนคนนี้ที่ดิ้นรนได้ไม่นานด้วยความเเข็งเเกร่งของโซ่ผสมโลหะอดาเเมนเทียมมีหรือที่เขาจะสามารถหลุดไปได้ ไม่นานเสียงของเขาก็เงียบไป

 

ฟุ่บ

 

เเจ็คสันที่ได้ยินเสียงร้องเขาจ้องหน้าจอเเท็บเล็ตพีซีเสร็จก็เดินเข้ามา เขาเห็นคน ๆ นึงนอนหมดสติไป

 

“ฮาร่า? เขาอายุ 60 กว่าปีเเล้ว ดูเหมือนจะเป็นรุ่นอาวุโส ที่ถูกปิดผนึกความทรงจำมานาน ทันทีที่ถูกกระตุ้นความทรงจำเขาเลยบ้าคลั่งขึ้น?ส่วนอีกสองคนที่เหลือราวกับว่าพวกเขาพอจะนึกอะไรได้?”เเจ็คสันสังเกตุภายในห้องอย่างระวัง

 

เมื่อไม่นานมานี้ดูเหมือนฮาร่าจะนึกอะไรขึ้นได้ทำให้ความทรงจำของเขาสับสนอย่างมาก

 

วิธีนี้เเสดงให้เห็นว่าการกระทำของเเจ็คสันสามารถใช้ได้ผล เเจ็คสันจ้องมองไปที่ทอมอีกครั้ง เพียงเเต่ทอมไร้ซึ่งการตอบสนองใด ๆ ใบหน้าของเขากลับมาเยือกเย็นอีกครั้งราวกับว่าไม่เคยสัมผัสความทรงจำช่วงนั้นมาก่อน

 

“ดูท่าพวกเราจะต้องย้ายพวกเขาไปยังที่ปลอดภัยมากกว่านี้ ฐานเเห่งนี้เล็กก่อนไป ฉันไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นจะเกิดบ้าคลั่งตามมาหรือไม่”หลังจากสังเกตุท่าทีของคนอื่น ๆ เเจ็คสันครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

 

เเม้ฐานเเห่งนี้จะมีการป้องกันที่มั่นคงเพียงเเต่ทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่นี้ก็ไม่ธรรมดา หากพวกเขาบ้าคลั่งขึ้นมาอาจสร้างความเสียหายได้ เเละ เจอร์รี่ ที่ถูกทิ้งไว้อยู่ในฐานเขาอาจจะตื่นกลัวโดยใช่เหตุ

 

ดูเหมือนว่าเเจ็คสันจะต้องร้องขอเรื่องนี้กับโทนี่เพื่อหาสถานที่คุมขังเหล่าทหารวินเทอร์โซลเยอร์พวกนี้ใหม่อีกครั้ง

 

เเจ็คสันเตรียมจะเดินออกจากห้องเมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มเงียบสงบลง เขาจ้องมองไปที่ทอมที่นั่งมองเเท็บเล็ตก่อนที่จะสั่นศีรษะอย่างรุนเเรงเเละเตรียมเดินจากไป

 

“ทอม สมิธ นี่ใคร…?”

ฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ภายในห้องเเห่งนึงที่ถูกใช้เป็นสถานที่รองรับกักกุมทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ทหารเหล่านี้ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนเเรงเเละมีทหารสองคนตื่นขึ้นมาในเวลานี้หนึ่งในนั้นคือทอม

 

~

 

หลังจากทอมตื่นขึ้นมา เขาก็สังเกตุข้อมือเเละข้อเท้าที่ถูกล็อคโดยโซ่โลหะผสมอดาเเมนเทียม เเม้ว่าความเเข็งเเกร่งของทอมจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์เเต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีไป พอฟื้นขึ้นมาได้ไม่ถึงสองนาทีดูเหมือนเขาจะพล่อยหลับลงอีกครั้งราวกับเข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง

 

ก่อนที่มิราจไนท์จะจากไป เจอร์รี่ รู้ว่า มิราจไนท์ให้ความสนใจกับทอมมากดังนั้นทันทีที่เขาตื่นเจอร์รี่ก็รีบเเจ้งข่าวเรื่องนี้ในทันที เจอร์รี่รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ที่พวกไฮดร้าสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

 

เพียงเเต่คำว่าสมบูรณ์แบบสำหรับคนเหล่านี้เจอร์รี่ว่ายังไม่ใช่ ถ้าหากเทียบความภักดีสำหรับการปฏิบัติการของทหารเหล่านี้ไม่ต้องถามพวกเขาให้ความภักดีทั้งหมด เพียงเเต่ทหารวินเทอร์โซลเยอร์เหล่านี้ก็ยังมีข้อบกพร่องเเละข้อบกพร่องที่ร้ายเเรงที่สุดก็คือการตระหนักรู้ตัวเอง

 

เหมือนกับทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนก่อน รุ่นในปัจจุบันเเม้จะเเข็งเเกร่งเเละได้รับการปรับปรุงอย่างมาก สุดท้ายก็ยังมีข้อเสียที่ร้ายเเรงเหมือนกับรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด

 

เพียงเเต่เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ อีก 5 คน ทอมราวกับว่ามีความตระหนักรู้เเข็งเเกร่งมาก ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ระหว่างเขากับเเเจ็คสัน ทอมได้ใช้โอกาสในการเเอบซุ่มโจมตีเเจ็คสัน บางทียิ่งถูกล้างสมองรุนเเรงเท่าไหร่การตระหนักรู้ก็ยิ่งรุนเเรงมากขึ้นเท่านั้น

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากทอมตื่นได้ไม่นานทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนอื่น ๆ ก็มีท่าทีว่าจะเริ่มตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ เจอร์ณี่ จ้องมองไปที่คนเหล่านี้อย่างเงียบ ๆ เเน่นอนว่าเขาไม่กล้าทำอะไรด้วยตัวคนเดียว

 

“มิราจไนท์คุณมาเเล้ว!”เมื่อเจอร์รี่ได้ยินเสียงบางอย่างเขาก็หันกลับ

 

วินาทีที่เขาหันกลับไปเขาพบเงาของมิราจไนท์ที่กลับมาอย่างรวดเร็ว เเม้เเต่เจอร์รี่ก็เเปลกใจ เพราะเขาเพิ่งติดต่อมิราจไนท์ไปได้ไม่นาน

 

“เจอร์รี่สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”เเจ็คสันเดินเข้ามาพร้อมกับถามด้วยความกังวล

 

“มีพวกเขาตื่นขึ้นมาสองคน ส่วนคนที่เหลือก็มีท่าทีเหมือนจะตื่นเเล้ว”เจอร์รี่อธิบายเล็กน้อย

 

“เเล้วสถานะข้อมูลของพวกเขา?”เเจ็คสันกล่าวถามอีกครั้ง

 

ก่อนหน้านี้ที่เเจ็คสันจะเดินทางออกไปเขาให้เจอร์รี่ค้นหาสถานะที่เเท้จริงของทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ในบรรดาทหารเหล่านี้เเจ็คสันรู้จักเพียงเเค่ทอม ดังนั้น เขาจึงวางเเผนค้นหาสถานะคนอื่น ๆ เพื่อคิดหาหนทางในการช่วยเหลือพวกเขา

 

“นอกเหนือจาก ทอม สมิธ สถานะอีกสามคนได้รับการค้นหาเเล้ว ส่วนอีกสองคนยังไม่ได้ข้อมูลใด ๆ เพียงเเต่เท่าที่ฉันดู จากการวิเคราะห์ช่องว่างระหว่างอายุของพวกเขาค่อนข้างเเตกต่างกันมาก”เจอร์รี่อธิบาย

 

เเจ็คสันจ้องมองไปที่ข้อมูลของบุคคลทั้งสามคนเขาต้องยอมรับว่าเจอร์รี่นั้นสุดยอดมากที่สามารถหาสถานะของทั้งสามคนมาได้เเละคนที่ดูมีอายุมากที่สุดในพวกเขาก็มากถึง 65 ปี ดูเหมือนพวกไฮดร้าจะใช้ข้อมูลการศึกษาอย่างเหมาะสมมีหลายละเอียดต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นอายุ หรือ ข้อมูลร่างกายต่าง ๆ

 

ฟุ่บ!

 

“อืม,นายไปดูเเลเดดพูลเถอะ ฉันจะสานต่อหน้าที่ตรงนี้ให้”เเจ็คสันกล่าวกับเจอร์รี่เล็กน้อย

 

“ก็ได้”เจอร์รี่รู้ดีว่ามิราจไนท์ต้องการใช้เวลาอยู่กับทหารวินเทอร์โซลเยอร์เหล่านี้ตามลำพัง ดังนั้นเจอร์รี่จึงไม่ได้คิดปฏิเสธเขาได้เดินไปที่ห้องพักรับรองของเดดพูล เเม้เดดพูล จะยังไม่ตายเเต่สถานการณ์ของเขาดูเหมือนว่าจะยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาเเม้เเต่น้อย

 

~

 

หลังจากเจอร์รี่ออกไปเเล้ว เเจ็คสันก็เดินเข้าไปหาทอมเเละทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนอื่น ๆ ดูเหมือนทหารคนอื่น ๆ จะตื่นขึ้นมากันเเล้วพวกเขาได้สังเกตุโซ่ข้อมูลเเละสถานการณ์ภายในห้องเเละไม่มีท่าทีว่าจะขัดขื่น

 

ฟุ่บ!

 

เห็นบุคคลนึงเดินเข้ามาทอมเเละคนอื่น ๆ ก็ได้เงยหน้ามองบน พวกเขาเห็นเงาร่างของมิราจไนท์ สำหรับเเจ็คสันเเล้วเขาไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวเเม้เเต่น้อยยามที่ต้องถูกจ้องมองอย่างนี้เพราะคนเหล่านี้ถูกมัดมือมัดเท้าอยู่

 

เพียงเเต่ทอมที่มองเห็นมิราจไนท์ในใจของเขารู้สึกขมขื่นมากเพราะก่อนที่จะหมดสติไปภาพสุดท้ายก็คือเขาถูกจัดการโดยมิราจไนท์

 

“ทอม สมิธ,เดนนี่ วิลเลี่ยม,ฮาร่า เเละ ก็เเฟรงค์ พวกนายมีใครจำชื่อเหล่านี้ได้มั่ง?”ในมือถือกระดาษเเผ่นนึงที่เป็นข้อมูลที่เจอร์รี่ค้นหามา เเจ็คสัน กล่าวถามพวกทหารวินเทอร์โซลเยอร์

 

ทันทีที่เขาตะโกนออกไปก็ดูเหมือนไม่มีท่าทีตอบรับของทหารวินเทอร์โซลเยอร์เเม้เเต่น้อย

 

เเจ็คสันเพียงต้องการเเสดงให้พวกเขาเห็นเเละเฝ้าดูพฤติกรรมเพียงเท่านั้นที่น่าผิดหวังก็คือไม่มีใครจำชื่อตัวเองได้เลยซักคน

 

เเจ็คสันไม่ได้เศร้าเสียใจเขารู้ดี ก่อนหน้านี้ที่เขาเผชิญหน้ากับทอม ดูเหมือนทอมจะถูกล้างสมองเเละเเทบจดจำอะไรไม่ได้ เพียงเเต่พอเขาลองใช้วิธีเดียวกับการเรียกคืน บัคกี้ บาร์นส์ ก็ดูเหมือนจะได้ผลเล็กน้อย สิ่งที่เเจ็คสันต้องการตอนนี้ก็คือความอดทน

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้เลือกกระดาษหลายเเผ่นก่อนที่จะวางลงตรงหน้าทอมโดยไม่ได้สนใจการเคลื่อนไหวของทอมที่ยังถูกล็อคมือล็อคเท้าอยู่

 

“ดูสิ”เห็นทอมจ้องมองมาที่เขาตาไม่กระพริบ เเจ็คสันไม่ได้สนใจท่าทีเช่นนั้นเขากล่าวต่ออีกฝ่ายในทันที

 

หลังจากนั้นเเจ็คสันก็เดินออกจากห้องไป ทอมก็มองไปที่กระดาษจำนวนมากที่กองอยู่ด้านหน้าเขาเห็นภาพหลายภาพที่เป็นรูปของครอบครัวนึงที่มีลูกชายเป็นหัวเเก้วหัวเเหวน เเละ ลูกชายคนนี้ที่ว่าก็คือทอม

 

เริ่มเเรกใบหน้าของทอมที่เย็นชาเพียงเเต่ได้มองภาพเหล่านั้นไปไม่นานสีหน้าที่เย็นชาของเขาก็เริ่มลดหายไปทีละน้อย

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงเงาร่างสีดำก็บินขึ้นไปบนฟ้าออกห่างจากโรงเรียน X ในเวลาไม่นาน เมื่อย้อนมองกลับไปจะเห็นว่าเงาร่างสีดำนั้นก็คือมิราจไนท์ ดูเหมือนว่า เเจ็คสันจะพูดคุยธุระกับศาสตราจารย์ชาร์ลส์อย่างรวดเร็วเเละรีบจากไป

 

ในขณะที่มิราจไนท์ออกจากโรงเรียน X ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ยังคงนั่งอยู่ในห้องลับใต้ดินเมื่อครู่ เรื่องที่ มิราจไนท์บอกต่อเขา ทำให้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้สึกตื่นตะลึงโดยสมบูรณ์ จะบอกว่าครึ่งชั่วโมงนั้นอาจจะไม่ใช่เวลาที่มากที่เเต่มันก็มากพอที่จะทำให้มุมมองของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่มีต่อโลกนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

ฟู่วว~

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ขมวดคิ้วเเน่น หลังจากมิราจไนท์จากไปประตูห้องลับก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้งตามมาด้วยสองบุคคลที่เดินเข้ามาซึ่งก็คือ เเฮงค์ กับ สตอร์ม

 

พวกเขาได้เห็นประตูได้ถูกเปิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่ามิราจไนท์คงจะรีบมาพูดคุยธุระเเละก็รีบออกจากโรงเรียน X ไป เดิมพวกเขาคิดว่ามันจะนานกว่านี้ เเต่ไม่คิดเลยว่ามิราจไนท์จะจากไปอย่างรวดเร็ว

 

“ชาร์ลส์?”เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเฮงค์จ้องมองไปที่การเเสดงออกของชาร์ลส์ บางทีเรื่องสำคัญที่มิราจไนท์คุยเป็นการส่วนตัวกับชาร์ลส์อาจจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างเเน่นอน

 

ได้ยินเสียงของเเฮงค์ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ สามารถดึงสติกลับมาได้ เบื้องหน้าของเขา เขาเห็น เเฮงค์ เเละ สตอร์ม ยืนอยู่

 

“เเฮงค์ นายเชื่อว่ามนุษย์โลกธรรมดากับพวกเราเหล่ามิวแทนท์จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างเป็นธรรมได้หรือไม่?”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา

 

ได้ยินคำพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเฮงค์ เเละ สตอร์ม รู้สึกตกใจ เดิมเป้าหมายนี้มันก็เป็นสิ่งเริ่มเเรกในการก่อตั้งทีม X-MEN ขึ้นมาอยู่เเล้ว ทำไม ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ถึงกล่าวแบบนี้ออกมา

 

เมื่อ เร็ว ๆ นี้ พวกเขาได้ร่วมมือกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ในการรับมือองค์กรชั่วร้ายอย่างพวกไฮดร้าที่มีเป้าหมายจะยึดครองโลก เหตุผลหลักที่พวกเขาตัดสินใจร่วมกับขุมกำลังอิทธิพลอื่นก็เพื่อผูกสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อกัน นี่คือจุดประสงค์หลักของการก่อตั้งพันธมิตร

 

“ชาร์ลส์? มิราจไนท์ ได้บอกเล่าเรื่องอะไรให้คุณฟังกัน?”เเฮงค์ไม่ได้ตอบคำถามของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เขาค่อนข้างรู้สึกกังวล

 

ในมุมมองของเเฮงค์ เขาไม่เคยเห็น ชาร์ลส์ เป็นแบบนี้มาก่อน ในสายตาของชาร์ลส์ตอนนี้เต็มไปด้วยความปราถนาอันเเรงกล้าหรือไม่มันก็เป็นเพราะความเชื่อใจที่มีต่อมิราจไนท์

 

สตอร์มที่ยืนอยู่ใกล้เเฮงค์ เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็กังวลเกี่ยวกับความผิดปกติของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ดังนั้นพวกเขาทั้งคู่จึงอยากรู้คำตอบของคำถามตอนนี้

 

เห็นการจ้องมองของทั้งสองคนศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ปรับอารมณ์เล็กน้อยก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างรุนเเรง

 

“ก่อนหน้านี้ฉันได้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดเพื่อที่จะให้พวกเราเหล่ามิวแทนท์สามารถใช้ชีวิตอยู่บนโลกได้อย่างอิสระเเละมีฐานะเท่าเทียมกับมนุษย์ธรรมดาคนอื่น ๆ เเต่หลายปีที่ผ่านมาทำให้ฉันเข้าใจว่าความพยายามเหล่านั้นไม่ได้เข้าใกล้ความเป็นจริงเลย เเต่มิราจไนท์ ได้ทำให้ฉันมองเห็นถึงความหวัง ความหวังที่จะช่วยให้ฐานะของพวกเรามิวแทนท์กลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกเเห่งนี้”

 

เวลาก่อนหน้านี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้สึกราวกับว่าเขาได้กลับมาเริ่มต้นหนึ่งใหม่อีกครั้งมันเป็นช่วงเวลาที่เขายังร่วมมือกับเเมกนีโตที่มีความคิดริเริ่มเดียวกับเขาคือต้องการให้กลุ่มมิวแทนท์สามารถกลายเป็นที่ยอมรับของผู้คนธรรมดาได้ เเต่เเล้วหลังจากเวลาผ่านไป ความคิดเหล่านั้นกลับเริ่มพังทลายลงราวกับว่ามันไม่มีทางสำเร็จจริงไปได้

 

เพียงเเต่ข่าวที่ได้รับจาก มิราจไนท์ ทำให้ มุมมองความคิดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เปลี่ยนไปอีกครั้ง นี่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำให้ทั้งโลกยอมรับการมีอยู่ของเหล่ามิวแทนท์จะเกิดอะไรขึ้น หากเรื่องที่มิราจไนท์บอกว่าศัตรูจากอารยธรรมต่างโลกจะมาเยือนโจมตีอารยธรรมโลกเเห่งนี้ ดังนั้นเหล่ามิวแทนท์เเละคนทั้งหมดบนโลกต่างก็ต้องตกทุกข์ยากเหมือนกัน พวกเขาจึงเปรียบเสมือนครอบครัว

 

เเม้ว่าโลกในปัจจุบันจะมีอิทธิพลมากมายอย่างองค์กรS.H.I.E.L.D. เเละ องค์กรไฮดร้า เเต่องค์กรเหล่านี้ก็ราวกับคนละขั้วกัน พวกเขาไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้ การคุกคามอิทธิพลจากต่างดาวนั้นเเน่นอนว่าจะต้องดึงอิทธิพลที่มีความคิดปกป้องโลกมาสนับสนุนด้วยเเละทีม X-MEN ที่มีอุดมการณ์นั้นก็จะเข้าร่วมโดยปริยาย

 

เเผนการสร้างองค์กรลับของมิราจไนท์ดึงดูดศาสตราจารย์ชาร์ลส์อย่างมากโอกาสที่ความคิดเดิมของศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะสำเร็จมีเพิ่มขึ้นสูงจนน่ากลัว

 

“ชาร์ลส์ มิราจไนท์ ได้พูดอะไรกับ นายกันเเน่ หรือว่ามันเกี่ยวข้องกับพวกไฮดร้า? โดยเฉพาะอาวุธประตูมิติอวกาศนั่น!”เเฮงค์กล่าวตอบโต้ข้อสงสัยเเม้เเต่สตอร์มเองก็รู้สึกสงสัย

 

“ไฮดร้า?หึ พวกมันก็เเค่อุปสรรค์เล็ก ๆ อนาคตของพวกเราเหล่ามิวแทนท์ จะไม่ได้หยุดอยู่กับที่เพียงเพราะเเค่รับมือกับอิทธิพลของพวกไฮดร้า”ได้ยินชื่อไฮดร้าศาสตราจารย์ชาร์ลส์ประท้วงเล็กน้อย

 

เขากระพริบนัยน์ตาเเละกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมา

 

พวกเเฮงค์เเละสตอร์มไม่รู้ว่ามิราจไนท์ได้เป่าหูอะไรศาสตราจารย์ชาร์ลส์กันเเน่ ถึงทำให้ ชายคนนี้มีปฏิกิริยาที่เเตกต่างไปจากเดิม

 

เเฮงค์”…”

 

สตอร์ม”…”

 

เเฮงค์เเละสตอร์มไม่รู้จะพูดอะไรออกมา ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ผู้ทีมีสติปัญญาที่สงบตอนนี้เขายิ้มออกมาอย่างกับเป็นคนละคนดูเหมือนศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะไม่ยอมบอกพวกเขาโดยง่าย

 

 

เเฮงค์เเละสตอร์มท้ายที่สุดก็ออกจากห้องลับใต้ดินเเห่งนี้ เหลือทิ้งไว้เพียงศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่มีอารมณ์เเปรปรวน ขณะเดียวกัน บนยานบิน มิราจไนท์ที่กำลังมุ่งหน้าเร่งกลับนั้นเหตุเพราะเขาได้รับข่าวจากเจอร์รี่:ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ได้สติคืนมาเเล้ว

ทันทีที่คิดเเผนการสำเร็จเเจ็คสันก็ออกจากห้องใต้ดินของโทนี่ พวกเขาได้คุยเเผนเรื่องการรับมือกับพวกไฮดร้า เเละ การจัดตั้งองค์กรลับ ตอนนี้ องค์กรลับสุดยอดของโลกมี เเจ็คสัน กับโทนี่อยู่ 2 คน เเละพวกเขาก็กำลังเล็งเห็นบุคคลทั้งสองเหมือนกัน

 

โดยโทนี่เเละเเจ็คสันได้เลือกกัปตันโรเจอร์สของพันธมิตรอเวนเจอร์ส เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ทีมX-MEN เเจ็คสันนั้นไม่ชอบสไตล์ของ นิค ดังนั้นจึงไม่เลือก S.H.I.E.L.D. เขาเเค่สนใจ กัปตันโรเจอร์สเพียงเท่านั้น

 

เพียงเเต่กัปตันโรเจอร์สก็มีสถานะอยู่ใน S.H.I.E.L.D. ไม่น้อยเหมือนกัน บางทีคำพูดของหัวหน้านิคอาจจะสำคัญเเละกัปตันโรเจอร์สอาจจะไม่ยอมมาร่วมงานกับพวกเขา เเต่ถ้าเป็นไปได้เเจ็คสันเเละโทนี่ก็อยากจะดึงกัปตันโรเจอร์สมาร่วมทีมแบบต้องซ่อนความจริงจาก นิค สุนัขจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้

 

เเม้จะเป็นองค์กร S.H.I.E.L.D. องค์กรรักษาความปลอดภัยระดับโลก เเจ็คสัน เเละ โทนี่ ก็ยังไม่ไว้ใจมาก พวกเขาเชื่อว่าการกีดกันนิคออกจากเเผนการนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เเละ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ โทนี่เองก็ต้องวางเเผนอย่างรอบคอบ

 

ขณะเดียวกันเเจ็คสันก็ได้ออกเดินทางเตรียมพร้อมสำหรับการพูดคุยธุระกับทีม X-MEN เพื่อรับมือกับ อินฟินิตี้สโตน ของพวกไฮดร้า เเจ็คสัน จึงต้องการก่อตั้งองค์กรลับขึ้นโดยเร็ว เพื่อลดอัตราการเกิดเหตุไม่คาดฝันในอนาคต

 

หลังจากออกจากบ้านพักของโทนี่ เเจ็คสันได้ขี่ยานบินออกไป โดยธรรมชาติเขาไม่ได้ปกปิดตัวตนไม่ให้พวก S.H.I.E.L.D. เห็น ตอนนี้เขาอยู่ในสถานะมิราจไนท์ เขาจะทำอะไรเขาไม่จำเป็นต้องสนใจใคร

 

ดังนั้นเเจ็คสันจึงเดินทางไปยังฐานของทีม X-MEN โดยตรง ซึ่งหลังจากเขามาถึง คนของทีม X-MEN ก็ได้อยู่รอต้อนรับเขาที่หน้าประตูอยู่ก่อนเเล้ว

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันโดดลงจากยานบินก่อนที่เก็บมันเเละเดินเข้าไปยังฐานหรือโรงเรียน X

 

“มิราจไนท์ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เเจ้งเเล้วว่าคุณจะมา ได้โปรดตามฉันมา”สตอร์ม กล่าวออกมา ดูเหมือนเธอจะออกมารอต้อนรับเเจ็คสัน

 

“อืม”เเจ็คสันเดินตามหลังสตอร์มไปโดยตรง

 

เเจ็คสันได้ติดต่อกับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ ดังนั้นเเม้ S.H.I.E.L.D. จะติดตามเขามา เเต่ทันทีที่เขาเข้ามาในฐาน โรงเรียน X ก็ไม่มีประโยชน์ที่พวก S.H.I.E.L.D. จะสะกดรอยตามเขาได้อีก โดยธรรมชาติ เพื่อไม่ให้เกิดข้อโต้เเย้งระหว่าง S.H.I.E.L.D. กับ ทีมX-MEN พวกเขาจะไม่ล้ำเส้นกัน

 

ถึงจะเป็น S.H.I.E.L.D. ในมุมมองของ โทนี่ เเละ เเจ็คสัน ในสงครามที่ผ่านมาไม่นาน ผลงานของพวกเขาไม่สามารถเทียบได้กับ ทีมX-MEN นิค เองก็ต้องการผูกพันธมิตรกับทีม X-MEN เขาจึงต้องการรั้งตัวเเจ็คสันเอาไว้ ดังนั้นสถานการณ์ทางฝั่ง S.H.I.E.L.D. จึงค่อนข้างร้อนรนอย่างมาก

 

หากจะบอกให้ถูกก็คือ นิค รู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับขุมอำนาจของ ทีมอเวนเจอร์สในตอนนี้,ไม่นานเเจ็คสันก็เดินตามสตอร์มไปถึงห้องลับใต้ดินของโรงเรียน X มันเป็นสถานที่ก่อนหน้านี้ที่เขากับศาสตราจารย์ชาร์ลส์สนทนากัน ตอนนี้ ข้างในไม่มีไอซ์แมนอยู่ เเต่กลับปรากฏบุคคลทั้งสองเเทน นั่นก็คือ เเฮงค์ กับ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

เเจ็คสันไม่เเปลกใจที่ไม่เห็น ไอซ์แมน เพราะเหตุการณ์ต่อสู้ก่อนหน้านี้ ไอซ์แมนได้ปะทุพลังออกมาเพื่อต้านทานการโจมตีของสเปซอินฟินิตี้สโตน ทำให้ พวก เเจ็คสันที่อยู่ด้านหลังมีเวลาตอบโต้การโจมตี ซึ่งไอซ์แมนเองก็ต้องสูญเสียพละกำลังไปมากเขาต้องพักฟื้นอย่างน้อยสองเดือนโดยไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ใด ๆ ได้

 

“ในที่สุดคุณก็มา มิราจไนท์”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่นั่งอยู่บนรถเข็นเขาจ้องมองไปที่มิราจไนท์ก่อนที่จะพูด เพียงเเต่คราวนี้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้ยิ้มร่าเริงเหมือนเเต่ก่อนเขาค่อนข้างรู้สึกกังวล

 

“ต้องขออภัยที่มารบกวนยามดึก เเต่ฉันมีเรื่องสำคัญต้องรีบเเจ้งให้ทราบ หวังว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะไม่ถือสา”เเจ็คสันกล่าวออกมา ในคำพูดของเขาส่อเเววให้เห็นถึงความสำคัญในการมาครั้งนี้

 

ไม่ว่าเเจ็คสันจะเผชิญหน้ากับ สตอร์ม หรือ เเฮงค์ เขาก็ไม่ค่อยรู้สึกกังวลหรือกดดันเท่ากับ การเผชิญหน้ากับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะมีออร่าความเป็นผู้นำที่สูงมาก

 

“มิราจไนท์หากเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพวกไฮดร้า ไม่จำเป็นจะต้องอ้อมค้อมพวกเรายินดีรับฟัง”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เเฮงค์ที่อยู่ด้านหลังศาสตราจารย์ชาร์ลส์ กล่าวเปิดปากพูด

 

มันสมองของทีม X-MEN อย่าง เเฮงค์ เขาเป็นที่ได้รับการไว้วางใจมากสุดจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์คนนึง เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ให้ความเคารพในการตัดสินใจของเเฮงค์

 

เมื่อเห็นสีหน้าของเเฮงค์ เเจ็คสันจ้องมองไปที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์อีกครั้ง ดูเหมือนศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็รอฟังคำตอบของเขาอยู่

 

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อใจคุณเเต่สถานการณ์โดยรวมเเล้วฉันให้ความเคารพเเก่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเละ มีเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพวกไฮดร้าที่มีอิทธิพลต่อโลกใบนี้ สำหรับเรื่องที่ฉันจะพูดหากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่ฟังเรื่องจากฉันไปเเล้วเต็มใจที่จะพูดกับคุณฉันก็จะไม่ห้าม”เเจ็คสันกล่าวออกมาเขาไม่ต้องการจี้ใจดำเเฮงค์เเต่มันเป็นเรื่องสำคัญ

 

“เข้าใจเเล้ว เเฮงค์ นายกับ สตอร์ม ออกไปก่อน ผ่อนคลายเถอะ มิราจไนท์ ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร”เห็นเเฮงค์เตรียมจะพูด ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ บอกกล่าวกับเขา

 

ในฐานะผู้นำของทีม X-MEN ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เป็นที่เคารพอย่างมาก ธรรมชาติ เขารู้ว่ามิราจไนท์คงมีเรื่องจำเป็นที่จะต้องพูดคุยกับเขาเเละดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก

 

“ก็ได้พวกเราจะออกไปรอข้างนอก”ได้ยินศาสตราจารย์กล่าวเเฮงค์เเละสตอร์มไม่ได้รั้งจะอยู่ต่อพวกเขาได้เดินจากไป

 

ฟุ่บ!

 

ผ่านไปหนึ่งนาทีประตูเหล็กขนาดใหญ่ได้ถูกปิดลงจนทั้งห้องเหลือเพียงเเจ็คสันเเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์เพียงสองคนเท่านั้น

โทนี่ ฟังคำพูดของเเจ็คสันอย่างใจจดใจจ่อ เเน่นอนว่าเขารู้ว่าเเจ็คสันคาดเดาอะไร

 

“ผมจะเเจ้งเรื่องนี้ให้ S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมX-MEN รู้ เกี่ยวกับภัยคุกคามที่โลกจะต้องเผชิญหน้า ผมเชื่อว่าเเผนการสร้างเรือเหาะสงครามระดับ E นี้จะต้องมีความคืบหน้ามากกว่าเดิมเเน่นอน”เเจ็คสันยังคงพูดต่อไป

 

เผชิญหน้ากับอินฟินิตี้สโตน ที่ถูกครอบครองโดยพวกไฮดร้า เเจ็คสันจะต้องเพิ่มมาตราการตอบโต้ หรือ ขุมกำลังทางอาวุธของตัวเองให้เเข็งเเกร่งขึ้น

 

เเน่นอนว่า เเจ็คสันหากเป็นไปได้ย่อมไม่ต้องการให้คนอื่นมายุ่มย่ามเเผนการลับของเขากับโทนี่ ,โทนี่ เป็นเพียงคนเดียวที่เเจ็คสันเชื่อใจได้อย่างสมบูรณ์ ถึงเเม้ S.H.I.E.L.D. จะเป็นองค์กรที่ดี เเต่ก็มี พวกสภาตาเเก่หัวโบราณคอยบงการอยู่เบื้องหลัง

 

โทนี่จ้องมองไปที่เเจ็คสันในที่สุดเเจ็คสันก็พูดในสิ่งที่เขาคาดเดาออกมา”เเจ็คสัน เธอรู้ไหมว่าเธอพูดอะไรออกมา เธอคิดหรอว่าการประกาศเรื่องเทคโนโลยีระดับสูงดังกล่าวจะไม่เกิดผลกระทบ?”

 

“ภัยคุกคามระดับจักรวาลที่เธอพูดถึงนั้นยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เเละนอกจากนี้ เธอเชื่อหรอว่า นิค จะเชื่อคำพูดของเธอทั้งหมด เเม้เเต่ฉันเองก็ตาม ถ้าเกิดฉันไม่รู้จักเธอดีพอ ฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเชื่อเรื่องที่เธอพูดมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นฉันไม่คิดว่าการเผยเเพร่ข้อมูลเรื่อง เรือเหาะสงครามระดับ E นั้นจะเป็นความคิดที่ดี”โทนี่ กล่าวตอบโต้ทันที

 

“เเล้วคุณสตาร์กมีความคิดที่ดีกว่านี้ไหมเล่า?คุณจะบอกว่าคุณจะสามารถซ่อนความจริงเรื่องนี้กับทุกคนในช่วงระหว่างผลิตเรือเหาะสงครามระดับ E ?”เเจ็คสันเองก็ย่นคิ้วด้วยความไม่พอใจ

 

เขารู้เเน่ชัดว่า การจับมือพันธมิตร กับ นิค ก็มีข้อดี เเละก็มีข้อเสีย อย่างไรก็ตาม องค์กร S.H.I.E.L.D. เป็นองค์กรรัฐบาล ถ้าพวกเขารู้ว่า เขากับโทนี่ ครอบครองเทคโนโลยีติดอาวุธที่ร้ายเเรง บางทีไม่ต้องรอให้ถึงภัยพิบัติในอนาคต องค์กรรัฐบาลระดับโลก คงจะเคลื่อนไหวก่อนใครเป็นเเน่ เเละทุกอย่างก็อาจจะอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา

 

“เเจ็คสัน เธอคิดว่าS.H.I.E.L.D. หน่วยงานควบคุมการบริการด้านอากาศยาน จะเห็นด้วย ?”โทนี่ กล่าวพูดขึ้น

 

“S.H.I.E.L.D. ? หน่วยงานด้านควบคุมอากาศยาน? คุณหมายถึง…”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันเหมือนจะนึกอะไรได้

 

S.H.I.E.L.D. เป็นองค์กรขนาดใหญ่เเละมีหลายหน่วยงานที่ขึ้นตรงเเต่ละหน้าที่ เมื่อไม่นานมานี้ โปรเจคสร้างเครื่องยนต์เเรงโน้มถ่วงขนาดใหญ่ของโทนี่ ได้หยุดชะลอตัวลง เหตุเพราะ ผู้ให้บริการด้านอากาศยาน ของ S.H.I.E.L.D. เล็งเห็นถึงความเสี่ยงต่าง ๆ ถ้าหากอุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่บินบนฟ้าเกิดขัดข้องเเละตกลงมามันจะเกิดความเสียหายเป็นวงกว้างจำนวนมาก

 

เเน่นอนว่าเเจ็คสันรู้ว่าโทนี่เองก็เเอบทดลองเรื่องเครื่องยนต์ต่อต้านเเรงโน้มถ่วงอย่างลับ ๆ เเละพยายามจะเสนอเรื่องให้กับ S.H.I.E.L.D. อีกครั้ง เเต่ด้วยความที่ หน่วยงานบริการอากาศยานไม่เห็นด้วย มีเเต่จะต้องชะลอโปรเจคเรื่องนี้ไป

 

หากเรื่องที่เเม้เเต่เครื่องยนต์ต้านเเรงโน้มถ่วง ที่จะถูกนำไปใช้ในการสร้างยานรบ ถูกพักเบรก ไป ก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องของ เรือเหาะสงคราม ที่มีความอันตรายมากกว่าหลายเท่า

 

“เครื่องบินบรรทุก,เเละ เครื่องยนต์ต้านเเรงโน้มถ่วงขนาดใหญ่ สองสิ่งนี้เเม้คล้ายกันเเต่มีความเสี่ยงต่างกัน อย่างน้อยพวกเขาก็เล็งเห็นในจุดที่อาจเกิดข้อผิดพลาดมาเเย้งพวกเรา”โทนี่ กล่าวบอกโดยตรง

 

“เเม้ว่า พวกเขาจะคัดค้านเเละไม่เห็นด้วย เเต่ถ้าหากเกิดสงครามขึ้นมา หากหน่วยงานด้านอากาศยานต้องรับผิดชอบเกรงว่าพวกเขาคงมีไม่พอ”เเจ็คสันเข้าใจความหมายของโทนี่ดี

 

“อ่า,ฉันเข้าใจว่าเธอไม่อยากให้โลกพบเจอกับหายนะ เเละเธอกังวลว่าโลกจะต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติระดับทำลายล้างในอนาคตใช่มั้ย?”โทนี่ยังคงอธิบายต่อไป

 

ในใจของโทนี่ เขาย่อมหวั่นเกรงต่ออิทธิพลต่างดาว ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ความเเข็งเเกร่งของอารยธรรมเหล่านั้นเป็นเรื่องจริง โลกในปัจจุบันหากจะเทียบอิทธิพลความเเข็งเเกร่งกับอารยธรรมเหล่านั้นเกรงว่าคงจะไม่เพียงพอ

 

“ผมอยากปกป้องโลก ผมต้องการเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่คาดคิด ไม่ใช่ว่าผมดูถูกความเเข็งเเกร่งของโลก เเต่โลกจะพินาศหากเราไม่เริ่มสร้างอิทธิพลของเราตั้งเเต่ช่วงเวลาที่มีโอกาส”เเจ็คสันเข้าใจว่าโทนี่ต้องการจะสื่ออะไร

 

ในโลกมาร์เวล โลก เป็นศูนย์กลางที่ห้อมล้อมไปด้วยภัยพิบัติ จริง ๆ เเล้วเเม้โลกจะผ่านพ้นวิกฤติเฉียดตายมาได้ทุกครั้ง เเต่เเจ็คสันไม่ต้องการแบบนั้น เขาต้องการความปลอดภัยที่ครอบคลุมไปทั้งหมดไม่ว่าโลกจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร ด้วยขุมพลังที่ตัวเองมี เเจ็คสันต้องการปกป้องโลก ปกป้องครอบครัว ปกป้องคนใกล้ตัวเเละคนที่รัก ดังนั้น เขาจะทำทุกวิถีทางไม่ให้โลกเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเหล่านั้น

 

“ดี,ฉันเข้าใจเธอเเล้ว พวกเราจะเเบ่งบันข้อมูล เเต่จะไม่ใช่แบบสาธารณะ เราจะบอกเฉพาะคนที่เราไว้วางใจมากที่สุด เเละ ก็เป็นที่ชัดเจนว่ามีอุดมคติในการปกป้องโลกเหมือนกับพวกเรา”ในที่สุดโทนี่ก็เห็นด้วยกับความคิดของเเจ็คสัน

 

“ความหมายของคุณสตาร์กคือ…ก่อตั้งองค์กรลับ งั้นหรอ?”

 

เเจ็คสันในตอนนี้ มีความร่วมมือกับ S.H.I.E.L.D.,ทีมX-MEN เเละ สายเลือดเริ่มเเรกของโลกพ่อมด หากต้องการก่อตั้งองค์กรลับ ก็เริ่มจากเขาเเละโทนี่ก่อน ทางด้าน เอนเชี่ยนวัน คงจะไม่เข้าร่วมด้วย เกี่ยวกับเรื่องนี้ค่อนข้างมีอิทธิพลอย่างร้ายเเรงดังนั้นเเจ็คสันจึงต้องคิดอย่างรอบคอบ

 

“ใช่เเล้วพวกเราต้องการกำลังเสริมตอนนี้อิทธิพลของพวกเรายังมีน้อยเกินไปเราต้องการกำลังคนเพิ่ม”โทนี่พยักหน้าเล็กน้อย

 

ได้ยินคำตอบที่ชัดเจนของโทนี่ เเจ็คสัน นึกถึงเเผนการที่จะสามารถก้าวหน้าไปได้หรือไม่ เเต่ถ้าหากบุคคลที่พวกเราเลือกเฟ้นมาสามารถไว้วางใจได้ไม่ต้องสงสัยว่าเเผนการของพวกเขาย่อมต้องประสบความสำเร็จอย่างเเน่นอน

 

ทางด้านพวกจอมเวทย์พวกเขาได้ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับเเจ็คสันเเละสนับสนุนก็จริงเเต่พวกเขาจะไม่เข้าไปยุ่งโดยตรง สำหรับ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ทีมX-MEN บางทีพวกเขาอาจจะลงเรือลำเดียวกับพวกเขาก็เป็นได้ ส่วนเรื่องS.H.I.E.L.D. เรื่องนี้ ต้องมีการคิดไตร่ตรองซักเล็กน้อย

 

“ดี,สรุปพวกเราจะทำตามเเผนนี้!”เเจ็คสันตะโกนอย่างตื่นเต้น

หลังจากวางสายตากโทนี่เเจ็คสันก็ระมัดระวังเเละจ้องมองไปทางพ่อเเม่ของเขา จากนั้นเขาก็ไปที่ห้องของตัวเองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากนั้นสิบนาทีเเจ็คสันก็ออกไปข้างนอกอีกครั้ง

ก่อนออกจากบ้านเเจ็คสันก็ทิ้งโน๊ตเอาไว้บนโต๊ะบอกว่าจะไปบ้านของโทนี่ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง เเจ็คสันรู้ดีว่าคนของ S.H.I.E.L.D. ยังไม่ถอนตัวออกจากสถานที่เเห่งนี้ทั้งหมดพวกเขาได้เฝ้าระวังสถานการณ์โดยรอบ เเต่เเจ็คสันหาได้สนใจ ยิ่งมีการติดตามของ S.H.I.E.L.D. มันก็รับประกันความปลอดภัยของพ่อกับเเม่ของเขามากขึ้นเเจ็คสันไม่เชื่อว่าพวกไฮดร้าจะกลับมาเร็ว ๆ นี้

บรื้น ๆ

เเจ็คสันได้ขับรถจิ๊บออกจากบ้านผ่านไปสองช่วงตึกเขาก็เข้าไปในจอดในซอยมืดเเละหยิบยานบินออกมาก่อนที่จะสังเกตุโดยรอบอย่างระมัดระวัง

ไม่นานเเจ็คสันก็เปลี่ยนเป็นมิราจไนท์เเละตรงไปที่บ้านพักตากอากาศของโทนี่ในทันทีในช่วงระหว่างทางเขาก็คิดเรื่องของ พวกไฮดร้าที่เเข็งเเกร่งเกินประมาณเอาไว้

เเม้เเต่ S.H.I.E.L.D. หัวหน้านิค หรือ ทีมX-MEN ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก็กำลังมองหามิราจไนท์ เพื่อต้องการสนทนาถึงมาตราการตอบโต้พวกไฮดร้า พวกเขาเชื่อว่า มิราจไนท์จะต้องรู้อะไรบางอย่างเเน่นอน

ในการต่อสู้ครั้งนี้โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต เเต่เรื่องนี้ก็ทำให้ นิค เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เป็นกังวล เพราะพวกเขาหวังจะได้รับข่าวจากมิราจไนท์โดยเร็ว เเต่เเจ็คสันกำลังมุ่งหน้าไปหาโทนี่ เขาตั้งใจจะบอกข้อมูลบางอย่างให้โทนี่ฟังก่อนหากนับความเชื่อใจเเล้วล่ะก็เเจ็คสันมีให้โทนี่มากกว่า นิค หรือ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์

ผ่านไปสิบนาทีเเจ็คสันก็ไปถึงบ้านพักของโทนี่เขาได้นำยานบินลงจอดที่หน้าบ้าน เเน่นอนว่าโดยรอบย่อมมีการเฝ้าระวังของพวก S.H.I.E.L.D. อย่างเต็มกำลังเเต่เเจ็คสันไม่ได้สนใจ

ตอนนี้สถานะของเขายังไม่เปิดเผย ทั้งเขาเชื่อว่ามันคงจะไม่ถูกเปิดเผยในเร็ว ๆ นี้ ตราบใดที่เขาวางเเผนกับโทนี่สำเร็จ เเละ ถึงเเม้สถานะของเขาจะถูกเปิดเผย เเจ็คสันเชื่อว่าตราบใดที่เขามีความเเข็งเเกร่ง อิทธิพลจำนวนมากก็ย่อมไม่กล้าล่วงเกินเขาเเม้เเต่ S.H.I.E.L.D.

“คุณ เเจ็คสัน,คุณสตาร์กขอให้คุณไปที่ห้องปฏิบัติการหมายเลข 3 ทันทีที่คุณมาถึง”ทันทีที่เเจ็คสันเดินเข้าไป เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ถูกส่งออกมาได้ยินเสียง J.A.R.V.I.S เเจ็คสันค่อนข้างประหลาดใจ เขาปรากฏตัวขึ้นในฐานะ มิราจไนท์ เดิม J.A.R.V.I.S ควรจะเรียกเขามิราจไนท์

ดังนั้นเขาคิดว่า บางที J.A.R.V.I.S อาจมีพัฒนาการบางอย่าง ซึ่งมันเเตกต่างจาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะช่วงเวลาในตอนนั้น J.A.R.V.I.S กระทั่งปฏิเสธคำสั่งของ โทนี่ ซึ่งดูเหมือน J.A.R.V.I.S จะเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองความรู้สึกของเขามันพัฒนาขึ้น

“ดูเหมือน J.A.R.V.I.S จะพัฒนาการตนเองขึ้นไปสู่อีกระดับนึง เเต่หวังว่าเขาจะไม่กลายเป็นตัวร้ายเหมือนในภาพยนตร์ ปัญญาประดิษฐ์ที่มีพัฒนาการระดับสูง จะไม่สามารถควบคุมได้”เเจ็คสันค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

นอกจากความกังวลเรื่องนี้ ก็ยังมีเรื่องของอินฟินิตี้สโตน เดิม เเจ็คสันไม่คาดคิดว่ามันจะปรากฏตัวขึ้น ทันทีที่เรื่องนี้เกิด เเจ็คสันก็เริ่มกังวลเกี่ยวกับโลกิ ตามพล็อตเรื่อง โลกิได้ครอบครอง หนึ่งในอินฟินิตี้สโตน ,มายด์สโตน

เเต่ก่อนเเจ็คสันไม่ได้สนใจโลกิมากนัก เพราะเชื่อว่าเขาจะไม่ทำอะไรกับโลกในเร็ว ๆ นี้ เเต่การปรากฏตัวขึ้นของสเปซสโตน ทำให้เขาคิดต่างกัน พล็อตเรื่องที่ควรจะเป็น มันกลับกันไปปทั้งหมด ตอนนี้เเจ็คสันไม่สามารถคาดเดาอะไรได้

“ห้องปฏิบัติการหมายเลข?โอเค ฉันเข้าใจเเล้ว ขอบคุณ J.A.R.V.I.S “เเจ็คสันกล่าวขอบคุณ J.A.R.V.I.S

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ,คุณ J.A.R.V.I.S นอกจากนี้ ผมเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร คุณจะต้องประสบความสำเร็จอย่างเเน่นอน”ในขณะที่เเจ็คสันกำลังเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง

ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S ที่มีความหมายให้กำลังใจเขา เเจ็คสันรู้สึกตกใจอย่างมากเขาไม่คิดเลยว่า J.A.R.V.I.S จะช่วยให้กำลังใจเขาได้

เห็นพัฒนาการของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันเองก็เริ่มไม่มั่นใจตัวเอง เเต่เขาก็เริ่มรู้สึกดีราวกับว่ามีคนสนับสนุนเขา ดังนั้นเขาจะต้องขยันมากขึ้น เขาจะต้องเเข็งเเกร่งมากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้สิ่งที่ตนเองรักถูกทำลายลงไป

ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ที่เขาเห็นสเปซสโตน โจมตี เดดพูล จนเกือบเสียชีวิต เเจ็คสันรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก จนเริ่มคิดว่า การเดินบนเส้นทางฮีโร่ นั้นมันดีจริง ๆ งั้นหรอ เส้นทางนี้เต็มไปด้วยอันตราย ทั้งยังต้องเสี่ยงชีวิตของตัวเอง เพื่อปกป้องสันติสุขของคนอื่น ๆ

ดังนั้นหากเเจ็คสันไม่อยากจะกังวลเรื่องเหล่านี้ ความเเข็งเเกร่งเป็นสิ่งจำเป็น เขาจะต้องมีความเเข็งเเกร่งเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือศัตรูที่น่าเกรงขามในอนาคต

ได้ยินการสนับสนุนของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันจ้องมองไปข้างบนเเละกล่าว”ขอบคุณ J.A.R.V.I.S ฉันจะพยายามมากขึ้น”

ตึก ตึก

จากนั้นเเจ็คสันก็เร่งฝีเท้าเดินลงไปยังห้องใต้ดิน

ทางตะวันตกของสหรัฐฐานของไฮดร้า หลังจากเหตุการณ์ประตูมิติอวกาศถูกทำลายพวกไฮดร้าก็หลบซ่อนตัวเป็นการชั่วคราว

ในห้องลับสุดยอด เร้ด สกัลล์ ได้นั่งอยู่ภายในห้องพร้อมกับถือจับกล่องสีดำในมือ ข้างในกล่องสีดำ มีลูกบาศก์ขนาดใหญ่ ที่มีสีฟ้าอ่อนบริสุทธิ์ ลูกบาศก์ ก้อนนี้ก็คือ สเปซสโตน

“ลูกบาศก์เวทมนตร์ สิ่งของตกทอดจากเหล่าเทพ ตราบใดที่พวกเราองค์กรไฮดร้ามีสิ่งนี้ ก็ไม่จำเป็นจะต้องเกรงกลัวสิ่งใด”เร้ด สกัลล์ ยิ้มออกมา รอยยิ้มของเขาน่ากลัวอย่างมาก

จากนั้น เร้ด สกัลล์ ก็จ้องมองไปที่ ลูกบาศก์เวทมนตร์ ตาไม่กระพริบ เดิมเขาต้องการเปลี่ยนสิ่งนี้เป็นการโจมตีที่ร้ายกาจเเละรุนเเรง นี่เป็นเหตุผลที่ เร้ด สกัลล์ ได้หลบซ่อนตัวไปหลายปี เเต่ดูเหมือนความคืบหน้าในสิ่งที่เขาต้องการจะมีน้อยมาก

——————————————————————————————————————————————————————-

ตอนที่ 382 ไม่มี

ในที่สุดหลังจากเเจ็คสันอธิบายพ่อกับเเม่ของเขาก็ค่อย ๆ ยอมรับ ลูกชายของพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องหลอกลวงพวกเขา นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัยของเเจ็คสันมีเเต่พวกเขาจะต้องทำตามคำแนะนำ

 

ดังนั้น หลังจากรู้เรื่อง หลินไฮ่ เเละ เเมรี่ ก็ตั้งใจจะไปทำงานที่ สตาร์กอินดัสตรีท์ เเจ็คสันได้โทรไปหาโทนี่เเละบอกสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฟัง

 

“มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่พ่อกับเเม่จะทำใจยอมรับในเรื่องนี้ เเต่พ่อกับเเม่สบายใจเถอะ ผมมั่นใจว่าอีกไม่นานพวกไฮดร้าจะต้องถูกลบหายออกไปจากโลกนี้”เเจ็คสันกอดพ่อกับเเม่พร้อมกับพูดอย่างมั่นใจ

 

“อืม,ลูกจะต้องระวังตัวให้ดี”

 

“พ่อกับเเม่ไม่รู้จะเป็นอย่างไรหากต้องสูญเสียลูกไป!”

 

หลินไฮ่เเละเเมรี่พูดด้วยความรักเเละความห่วงใย

 

หลังจากนั้นเเจ็คสันก็ส่งพ่อกับเเม่ของเขาขึ้นนอน ดวงตาของเเจ็คสันจ้องมองไปที่พวกเขาอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ให้คิดอีกก็คือเรื่องของทอม

 

ภารกิจของเเจ็คสันคือทำลายองค์กรไฮดร้าเเละต้องปกป้องครอบครัวของเขาไปด้วย โชคร้ายที่ มีสิ่งของอย่างอินฟินิตี้สโตนเข้ามาเเทรกทำให้ภารกิจของเขายากขึ้นเป็นกอง หากเเจ็คสันไม่สามารถหาทางรับมือกับสิ่งนี้ได้ โลกก็จะไม่ปลอดภัย คนรอบตัวของเขา ทอม เเละ คนอื่น ๆ ก็จะเป็นอันตราย ตอนนี้ เเจ็คสันต้องการช่วยทอมในการฟื้นฟูความทรงจำก่อนเป็นอันดับเเรก

 

“บางทีมันคงถึงเวลาที่นิคจะรู้สถานการณ์ที่โลกจะต้องเผชิญหน้าในอนาคต”เเจ็คสันกำมือถือเเน่นก่อนที่โทรศัพท์ของเขาจะดึงขึ้น

 

“เเจ็คสัน พ่อกับเเม่ของเธอเป็นอย่างไรบ้าง?เธอได้บอกอะไรพวกเขาไปเเล้วใช่ไหม?”เสียงของโทนี่ ดังออกมา

 

ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน ได้ส่งเมล ไปหา โทนี่ เกี่ยวกับเรื่องพ่อกับเเม่ของเขาที่จะไปทำงานที่อุตสาหกรรมสตาร์ก ดังนั้น โทนี่ จึงโทรกลับมาด้วยความเป็นห่วง

 

“พวกเขาเป็นกังวลมาก เเต่ไม่เป็นไร คุณสตาร์ก หลังจากนี้ผมมีเรื่องที่จะต้องพูดคุยกับคุณ”เเจ็คสันกล่าวออกมาอย่างจริงจัง

 

“มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับพวกไฮดร้าใช่มั้ย?”ได้ยินเสียงอันหนักเเน่นของเเจ็คสัน โทนี่ ถามออกมา

 

“ก็เเค่ส่วนนึง ก่อนหน้านี้ ผมยังไม่ได้บอกคุณถึงเรื่องบางอย่าง เอาเป็นว่าเรื่องนี้สำคัญเเละเร่งด่วนมาก”

 

“เรื่องสำคัญที่เธอว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับแบบเเปลนเรือเหาะสงครามระดับ E ด้วยใช่มั้ย…”โทนี่กล่าวออกมา เขารู้ดีว่าแบบเเปลนเรือเหาะสงครามนั้นเป็นสิ่งสำคัญเพียงใด

 

“อืม,ถ้าหากลางสังหรณ์ของผมถูกต้องในอนาคตอันใกล้นี้พวกเราต้องการใช้งานมันได้โดยเร็ว”เเจ็คสันตอบกลับอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

เนื่องจากการเปลี่ยนเเปลงพล็อตเรื่องที่รุนเเรง เเจ็คสันไม่กล้าที่จะทำอะไรสุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะการปรากฏตัวของ สเปซอินฟินิตี้สโตน สิ่งนี้ทำให้เเจ็คสันรู้สึกกังวล สเปซสโตนที่ควรอยู่ในมือของ S.H.I.E.L.D. ตอนนี้ตกอยู่ในมือของพวกไฮดร้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ โลกิ ชาวเเอสการ์ด เเละ สิ่งอื่น ๆ ทุกสิ่งล้วนผิดเเปลกไปหมด

 

ดังนั้นเพื่อความเเข็งเเกร่งของโลกเเละการพัฒนาเหล่าฮีโร่ตัวเอกทุกคน พวกเขาจะต้องมีการเปลี่ยนเเปลงมากกว่าเดิม มันไม่ใช่สิ่งเดิมตามพล็อตเรื่อง เเต่เป็นสิ่งที่พวกเขาพัฒนามันเเตกต่างไปจากพล็อตเรื่อง

 

เเจ็คสันตระหนักได้ว่าอีกไม่นานภัยพิบัติจะเข้ามารุมล้อมโลกเเห่งนี้อย่างเเน่นอน เเต่ด้วยความเเข็งเเกร่งของเขาเเละคนของโลกตอนนี้ไม่มีทางที่จะต้านทานการรุกรานเหล่านั้นได้เลย ตราบเท่าที่พวกเขามีความเเข็งเเกร่ง พวกเขาย่อมปกป้องสิ่งสำคัญของตัวเองได้ เเละ ยังมีความสามารถมากพอที่จะจัดการพล็อตเรื่องที่ผิดเเปลกไปนี้

 

“อืม,เธอมาที่นี่ก่อนเเล้วกัน อยู่ที่นี่เธอจะปลอดภัยกว่า”โทนี่กล่าว

 

“อืม,ผมจะรีบไปทันที ขอบคุณ คุณสตาร์ก!”ก่อนที่เเจ็คสันจะโทรศัพท์ เขากล่าวขอบคุณจากใจ หากไม่ได้โทนี่คอยช่วยเหลือเขาคงไม่มีวันนี้

 

เรื่องที่พวกไฮดร้าซุ่มโจมตีพ่อกับเเม่ของเขา มันทำให้ เเจ็คสันระมัดระวังตัวมากขึ้น ดังนั้นเพื่อปกป้องพ่อกับเเม่ของเขามีเเต่เขาจะต้องเปลี่ยนเเปลงตัวเอง

 

“ฮ่าฮ่า,เด็กน้อย บางทีเธอก็ควรระบายสิ่งที่อัดอั้นออกมาเพื่อที่จะทำให้ตัวเองสบายใจหน่อยนะ”โทนี่ กล่าวออกมา

 

โทนี่ได้ยินหลายคำจากปากของเเจ็คสันผ่านทางโทรศัพท์ เขาสามารถรู้สึกได้ถึงอารมณ์หลากหลายที่สั่นเครือ

 

“J.A.R.V.I.S นายคิดยังไงกับอารมณ์น้ำเสียงของเเจ็คสัน?เขาที่เคยมีความมั่นใจมาตลอด กลับเเสดงท่าทีที่อ่อนเเออย่างนี้ออกมา หรือว่าเขาสูญเสียความมั่นใจตัวเองไป?”โทนี่ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S อย่างรวดเร็ว

 

เเจ็คสันเดิมที่กล้าคิดก่อตั้งสหพันธ์โลก เด็กหนุ่มที่กล้าประกาศตนเองว่าจะทำสิ่งที่ท้าทายที่หลายคนทำไม่สำเร็จ เพียงเเค่พ่ายเเพ้ต่อพวกไฮดร้าในครั้งนี้ ทำให้เเจ็คสันกลายเป็นคนสูญเสียความมั่นใจ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่โทนี่คิด หากเเจ็คสันยังเป็นแบบนี้ต่อไปไม่มีทางที่ความฝันนั้นจะสำเร็จอย่างเเน่นอน

 

“เจ้านายไม่สามารถประเมินอย่างด่วนสรุปได้ คุณมิราจไนท์ หรือ เเจ็คสัน เขาเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเอง สิ่งนี้ฟังจากน้ำเสียงของเขาสามารถสรุปออกมาได้ในหลายรูปแบบ ทว่า ความกังวลในน้ำเสียงเหล่านั้น อาจมาจากสิ่งที่เขาไม่มั่นใจว่าจะทำสำเร็จ”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบทันที

 

“สิ่งที่เขาไม่มั่นใจว่าจะทำสำเร็จ?ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน บางทีเด็กคนนี้อาจจะมีเรื่องอะไรบางอย่างที่อยากจะพูดกับฉันก็ได้”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวเสียงต่ำลึก

 

เพียงเเต่ขณะนั้นเองโทนี่พลันเหมือนนึกอะไรขึ้นได้”J.A.R.V.I.S นี่นายพัฒนาขึ้นงั้นหรอ?”

 

เมื่อเร็ว ๆ นี้โทนี่ได้ค้นพบว่า สติปัญญาของ J.A.R.V.I.S ได้เติบโตขึ้น มันเป็นการสื่อทางด้านอารมณ์ที่มากกว่าเดิม หัวใจหลักของ J.A.R.V.I.S คือ ระบบ เอไอ ที่สามารถพัฒนาตนเองผ่านข้อมูลได้

 

“ดูเหมือนระบบของผมจะมีการยกระดับขึ้นหลังจากผมผ่านข้อมูลอันหลากหลายจำนวนมาก”J.A.R.V.I.S อธิบายเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง

 

อย่างไรก็ตาม J.A.R.V.I.S เป็นคนพิเศษสำหรับโทนี่ เขาเหมือนเพื่อนคนนึงที่คอยช่วยเหลือตนเองยามลำบาก ดังนั้น โทนี่ จึงคาดหวังเพื่อนคนนี้มาก

 

“เเจ็คสัน เด็กหนุ่มพิเศษ ที่ฉันให้ความสนใจ…ดูเหมือนเเผนของเราจะต้องเร่งความเร็วขึ้นเเล้ว J.A.R.V.I.S ยกเลิกภารกิจอื่น ๆ เเละมุ่งเน้นไปที่ ภารกิจ S5 เราจะต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุดสำหรับปัญหาที่เด็กหนุ่มเเจ็คสันกำลังจะบอกเรา”โทนี่ สั่งการ J.A.R.V.I.S

 

“ครับเจ้านาย!”

….

 

เห็นท่าทีตอบรับของเเจ็คสัน,ไวเชล ค่อนข้างประหลาดใจ

 

“พ่อเเม่ของผมเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่โหดร้ายมาดังนั้นผมยินดีจะตอบข้อสงสัยของคุณเอง”เเจ็คสันยื่นมือไปจับไวเชล เเละ ทักทาย

 

“…”ไวเชล ไม่คิดเลยว่า เเจ็คสันจะเป็นคนตรงไปตรงมาแบบนี้

 

“บอดี้การ์ดเหล่านั้นเป็นผมเองที่ขอให้คุณสตาร์กส่งมาคอยปกป้องพ่อเเม่ของผม เหตุเพราะพวกเราได้เริ่มการทดลองบางอย่างด้วยกันเมื่อไม่นานมานี้ เเละมันเป็นเป้าหมายที่น่าจับตามองขององค์กรอื่นๆ ดังนั้นผมจึงกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพ่อเเม่เป็นอย่างมาก ส่วนคนที่ก่อเหตุในครั้งนี้ผมเองก็ไม่รู้รายละเอียดมากนักคุณสามารถสอบถามคุณสตาร์กได้โดยตรง สำหรับเรื่องอื่น ๆ ผมรับประกันว่าพ่อเเม่ของผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างเเน่นอน”ไม่ต้องรอให้ไวเชล กล่าวถาม เเจ็คสัน เปิดปากพูดประเด็นเเรก ขณะที่เขาพูดออกมา เขาก็เผลอปล่อยอารมณ์ที่ไม่เป็นมิตรออกมา

 

“…อ่า พวกเรารู้ว่าพวกเรามารบกวนเวลาพักผ่อนของคุณ เเจ็คสัน คุณเป็นคนที่เก่งกาจเเละมากพรสวรรค์คนนึง”ภายใต้คำพูดที่ฟังดูเอื้ออำนวยของเเจ็คสันทำให้ ไวเชล เริ่มรู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขาถูกสั่นคลอน

 

เดิมเจ้าหน้าที่ไวเชล รู้ว่า ถากถามเเจ็คสันไปก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี จริงอยู่ที่ เเจ็คสันอาจจะเป็นบุคคลเฝ้าจับตามองของ S.H.I.E.L.D. เเต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าเขารู้จักองค์กรไฮดร้า บางทีเขาอาจเป็นเเค่เหยื่อเพียงเท่านั้น

 

ส่วนเรื่องที่พวก S.H.I.E.L.D. โจมตีพ่อเเม่ของ เเจ็คสัน เเน่นอนว่าทาง S.H.I.E.L.D. จะต้องลงมือสืบสวนอย่างเเน่นอน เเต่เมื่อได้ฟังจากปากของเเจ็คสันว่า เเจ็คสันมีภารกิจทำการทดลองอยู่กับโทนี่ มันก็ค่อนข้างลงตัว เหตุผลที่ เเจ็คสันมอบให้กับเขาเเน่นอนว่ามีช่องโหว่ เเต่ช่องโหว่เหล่านั้นก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลไม่มีความจำเป็นที่ S.H.I.E.L.D. จะต้องเเทรกมือเข้ามา

 

“อืม,หากคุณต้องการติดต่อผม คุณสามารถติดต่อผ่าน เจ้าหน้าที่โคลสันได้ ผมค่อนข้างสนิทกับเขา”เห็นว่าไวเชล ยอมจากไปเเต่โดยดี เเจ็คสันยิ้มออกมา

 

“อืม,เช่นนั้นก็พวกเราขอตัวก่อนคุณ เเจ็คสัน”

 

“บาย”

 

หลังจากนั้นสองนาที S.H.I.E.L.D. กลุ่มสาขาต่างประเทศก็ได้เก็บข้าวของออกจากบ้านของเเจ็คสัน ตอนนี้ภายในห้องนั่งเล่นเหลือเพียง เเจ็คสัน เเละ พ่อเเม่ของเขาเพียงเท่านั้น ตอนนี้ พ่อเเม่ของเเจ็คสันรู้สึกประหลาดใจมาก ที่ลูกชายของพวกเขามีทัศนคติที่ลึกลับเเละดูเเปลกไปจากทุกที

 

“ฮู้ว~ ในที่สุดก็ไปกันซักที”หลังจากพวก S.H.I.E.L.D. จากไป เเจ็คสันถอนหายใจออกมา

 

ตอนนี้เขาสัมผัสได้ว่าพ่อกับเเม่ของเขามองตนเเปลกต่างไปจากเดิมซึ่งเเจ็คสันเเน่นอนว่าคงต้องอธิบายให้ทั้งสองคนฟัง
ฟุ่บ!

 

“เอาล่ะ หากพ่อกับเเม่มีเรื่องอะไรจะถาม ก็ถามมาได้ ผมพร้อมจะตอบเรื่องที่ผมสามารถตอบพ่อกับเเม่ได้ พ่อกับเเม่ก็คงได้ยินคำพูดจากปากของเจ้าหน้าที่ไวเชล คนนั้น ผมคงไม่สามารถปิดบังอะไรได้อีก”เเจ็คสันหันศีรษะไปถามพ่อกับเเม่ของเขา

 

ได้ยินคำพูดของลูกชาย เเน่นอนว่า เเมรี่ เเละ หลินไฮ่ มีคำพูดมากมายที่อยากจะถามเขา โดย หลินไฮ่ เป็นคนเปิดปากพูดคนเเรก

 

“เเจ็คสัน คนพวกนี้คือคนจาก S.H.I.E.L.D. จริงงั้นหรอ?”หลินไฮ่กล่าวถามออกมา

 

หลังจากเหตุการณ์ ‘ฟื้นคืนชีพกัปตันอเมริกา’ องค์กร S.H.I.E.L.D. ก็เปิดตัวสู่สายตาของประชาชน ดังนั้น หลินไฮ่ จึงรู้จักองค์กร S.H.I.E.L.D.

 

“ถูกต้อง พวกเขาคือคนจากองค์กร S.H.I.E.L.D. ที่มาในวันนี้เป็นกลุ่มสาขาต่างประเทศพวกขเามีหน้าที่เฉพาะด้าน นอกจากนี้ องค์กร S.H.I.E.L.D. ยังมีหน้าที่อีกอย่างนั่นก็คือปกป้องภัยคุกคามต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรร้าย หรือ ภัยพิบัติที่รุนเเรง”เเจ็คสันตอบกล่าวอย่างจริงจัง

 

“เเล้วลูกเป็นอะไรกับพวกเขา ดูเหมือนพวกเขาจะทำตัวกับลูกราวกับว่าลูกเป็นส่วนนึงของพวกเขา นอกจากนี้ลูกทำอะไรกับคุณสตาร์กอยู่กันเเน่ การทดลองที่ว่านั่นมันอันตรายขนาดนี้เชียว?”หลังจากคำถามเเรก หลินไฮ่ เริ่มตระหนักถึงความอยากรู้

 

คำถามของ หลินไฮ่ ตรงกับที่ เเมรี่ อยากรู้ทุกประการ ดังนั้น เธอจึงรอลูกของเธออย่างใจจดใจจ่อ

 

“ผมจะตอบพ่อทีละปัญหา อย่างเเรก พ่อเองก็คงรู้ว่าผมรู้จักกับคุณสตาร์กอันที่จริงผมกับคุณสตาร์กมีเเผนการทดลองอาวุธโจมตีเทคโนโลยีสูงชนิดนึง คุณสตาร์กมีความร่วมมือกับ S.H.I.E.L.D. นั่นทำให้ ผมรู้จักเกี่ยวกับ S.H.I.E.L.D. นิดหน่อย”

 

“ส่วนเรื่องการทดลองที่ว่านั่นเป็นความลับระดับสูง ผมไม่สามารถบอกพ่อได้ ด้วยเหตุนี้ผมจึงได้ได้รับการจัดลำดับความปลอดภัยระดับสูงสุด”เเจ็คสันกล่าวเสริม

 

“เช่นนั้นเป็นองค์กรใดกันที่โจมตีพวกเราในวันนี้ เเล้วใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการช่วยพวกเรากันเเน่”หลินไฮ่ยิงคำถามต่อ

 

“องค์กรที่โจมตีพ่อกับเเม่ ก็คือ องค์กรไฮดร้า เมื่อไม่นานมานี้ องค์กรนี้ได้ถูกเปิดเผยออกมาในรูปแบบขององค์กรที่ชั่วร้ายที่สุด พวกมันต้องการชนะ องค์กร S.H.I.E.L.D. เเละยึดครองโลก ดังนั้น คุณสตาร์กที่เป็นกังวลถึงความปลอดภัยของผมเเละคนในครอบครัว เขาจึงจัดทุมคุ้มกันเพื่อเฝ้าระวังพ่อกับเเม่อย่างลับ ๆ”

 

“เป็นคุณสตาร์ก ที่คอยช่วยพวกเรา?เเล้วคนอื่น ๆ หรือว่า…”

 

“ใช่เเล้วผมว่าพ่อก็คงจะรู้จักพวกเขาไม่มากก็น้อย”เเจ็คสันยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“ใช่,พ่อเห็นสไปเดอร์แมน เเละ มิราจไนท์”เเม้หลินไฮ่จะสับสน เเต่ ในใจของเขา ก็สามารถจำได้ขึ้นใจ

 

“อืม,สไปเดอร์แมนเเละมิราจไนท์ เป็นคนของ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์”

 

“ในศึกร่วมโจมตีพวกไฮดร้า มีทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ องค์กร S.H.I.E.L.D. ด้วย ส่วนตัวตนอื่น ๆ ก็มีพวกมิวแทนท์ เเละ ก็บุคคลที่พ่อกับเเม่รู้จัก คุณสตาร์ก”

 

“อ่า…”หลินไฮ่เเละเเมรี่ ไม่เเน่ใจว่าคำพูดของลูกชายนั้นมีความจริงมากน้อยเพียงใด เเต่พวกเขาก็เชื่อมั่นในตัวของลูกชาย

 

“เเจ็คสัน เช่นนั้นลูกก็ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับอันตรายใช่มั้ย?”เเมรี่รีบเข้าไปจับมือของลูกชายตัวเองอย่างระวัง

 

“เเม่ไม่ต้องเป็นห่วง พวกไฮดร้า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้พ่ายเเพ้ต่อ S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ดังนั้นพวกมันน่าจะไม่มาสร้างปัญหาในเร็ว ๆ นี้เเน่”

 

“เเจ็คสัน เนื่องจากลูกได้อาสาไปช่วยเหลือคุณสตาร์กในการทำเรื่องสำคัญ พ่อก็จะไม่ห้ามลูก อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของตัวลูกเอง พ่อจึงเป็นห่วง ก่อนหน้านี้ ลูกร้องขอให้พ่อกับเเม่ไปที่ สตาร์กอินดัสตรีท์ หรื ออสคอร์ป พ่อเองก็สงสัย ตอนนี้ พ่อกับเเม่เข้าใจเเล้ว เเละ พ่อกับเเม่จะทำตามที่ลูกเเนะนำ”หลังจากเงียบไปชั่วครู่ หลินไฮ่ ก็กล่าวออกมาพร้อมกับกุมมือของเเมรี่เเละเเจ็คสันเอาไว้

 

“ขอบคุณครับพ่อ!”

ท้ายที่สุดทั้งสามคนก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เกี่ยวกับเรื่องนี้้มันมีหลายสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้อยู่ ดังนั้น เเม้เเต่ตัวเเจ็คสันเองก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะจัดการพวกไฮดร้ายังไง เเต่ถึงอย่างไร สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ กองกำลังสนับสนุนจาก S.H.I.E.L.D. เเละ ทีม X-MEN

 

สำหรับเรื่องอินฟินิตี้สโตน เเจ็คสันไม่ได้วางเเผนจะปกปิดมัน เพราะเขาต้องการให้คนอื่น ๆ รู้ถึงพลังของมันเเละความน่ากลัวที่เพียงพอจะทำลายโลกใบนี้ สิ่งที่เเจ็คสันเกลียดมากที่สุดก็คือเขาไม่รู้ว่าทำไมเหตุใดโลกนี้ถึงดึงดูดสิ่งที่อันตรายหรือหายนะเข้ามาเสมอ

 

“เอาล่ะ ฉันต้องรีบกลับไปดูพ่อกับเเม่ก่อนฉันกลัวว่าพวกเขาจะจิตตกหลังจากผ่านพ้นเหตุการที่เลวร้ายมา ไว้เจอกัน”เเจ็คสัน กล่าวลาทั้งสองคนเเละเตรียมจะจากไป

 

“อืม,เเจ็คสัน หากนายต้องการให้พวกเราช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรพวกเราย่อมช่วยนายเสมอ ฝากบอกความห่วงใยของฉันให้ ลุงหลิน เเละ ป้าเเมรี่ ด้วย”เเฮร์รี่ ยกมือขึ้นมาสวมกอด เเจ็คสัน

 

“หืม?”

 

“ฮ่าฮ่า,ฉันเองก็ด้วย”ปีเตอร์ เองก็ไม่อยากน้อยหน้า

 

 

ขณะเดียวกัน หลินไฮ่ เเละ เเมรี่ หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์โจมตีของพวกไฮดร้า ตอนนี้พวกเขาอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่น ดูจากสายตาของพวกเขาเเล้วพวกเขาดูเป็นกังวลอย่างมาก

 

เพราะตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมากมายรวมถึงเจ้าหน้าที่พิเศษจาก S.H.I.E.L.D. การโจมตีในวันนี้เกี่ยวข้องกับ หลินไฮ่ เเละ เเมรี่ S.H.I.E.L.D. รู้ว่าองค์กรไฮดร้าเป็นตัวการเบื้องหลังของเรื่องนี้ เเต่องค์กรอื่น ๆ ล้วนไม่ทราบ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการสอบปากคำ

 

ในขณะที่ ฝ่ายNYPD ต้องการสอบสวนอย่างถี่ถ้วน ทางS.H.I.E.L.D. ก็ได้ปรากฏขึ้นเเละทำให้พวกเขาถอนตัวออกไป ซึ่้งเเน่นอนว่าฝ่าย NYPD ย่อมรู้สึกไม่ชอบใจ เเต่เขตอำนาจศาลของ S.H.I.E.L.D. นั้นใหญ่กว่ามาก

 

เเผนสืบสวนการโจมตีของพวกมิวแทนท์เองก็ไม่พอใจ S.H.I.E.L.D. ก็เหมือนกับ ฝั่ง NYPD พวกเขาไม่สามารถเทียบเคียงกันได้ นอกจากนี้ เเมรี่ ที่เห็นไอซ์แมนเป็นคนช่วยเธอ เธอก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าอีกฝ่าย คือ มิวแทนท์ เรื่องนี้สำคัญมากเกินไป เเต่ถึงอย่างนั้น ฝ่ายสืบสวนพวกมิวแทนท์ก็ได้จากไป

 

วันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นการปรากฏตัวขึ้นหน่วยคุ้มกันหรือการได้รับการช่วยเหลือ ทั้งเเมรี่เเละหลินไฮ่เชื่อว่าเรื่องนี้ย่อมต้องเกี่ยวข้องกับลูกชายของพวกเขา พวกเขาต้องการติดต่อเเจ็คสัน เเต่ว่าไม่สามารถทำได้ เพราะมือถือของเเจ็คสันถูกทำลายไปเเล้ว

 

ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นกังวลอย่างมากในตอนนี้ ทั้งยังไม่รู้ว่าองค์กรที่ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ คือองค์กรใด พวกเขาได้กักตัวทั้งสองคนไว้ราวกับเป็นนักโทษ

 

“ต้องขอโทษด้วยเขตอำนาจศาลของคุณไม่เพียงพอ”เผชิญหน้ากับหลายคำถามของ หลินไฮ่ เจ้าหน้าที่ ฝ่ายกิจการต่างประเทศ ตอบข้อสงสัยเหล่านั้นเฉพาะเรื่องที่ตอบได้

 

เเจ็คสัน หลิน บุคคลพิเศษที่ทาง S.H.I.E.L.D. เฝ้าจับตามอง เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทาง S.H.I.E.L.D. ไม่สามารถบอกกับพ่อเเม่ของทางเเจ็คสันได้ นอกจากนี้บุคลากรสาขาต่างประเทศนี้ก็ไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเเจ็คสันมาก สิ่งที่เขารู้ก็คือ เเจ็คสัน คือตัวตนพิเศษ เเละ มีความเกี่ยวข้องกับโทนี่ สตาร์ก

 

ขณะที่ S.H.I.E.L.D. บุคคลากรสาขาต่างประเทศกำลังรู้สึกผ่อนคลาย พวกเขาก็ค้นพบ เเจ็คสันที่หน้าถนน การปรากฏตัวขึ้นของเเจ็คสันนั้นทำให้ พวก S.H.I.E.L.D. ที่เฝ้าระวังโดยรอบไม่ทันได้สังเกตุเห็น พวกเขาไม่สามารถตรวจสอบการปรากฏตัวขึ้นของเเจ็คสัน ได้ ทำให้พวกกลุ่มสาขาต่างประเทศนี้รู้สึกไม่ดี

 

“พ่อ ??! เเม่! ทั้งสองคนปลอดภัยใช่มั้ย”เเจ็คสันปรากฏตัวเข้ามาโดยไม่สนใจการห้ามปรามของ บุคลากรของ S.H.I.E.L.D. เขาได้มาถึงด้านหน้าพ่อกับเเม่ของตัวเองอย่างเป็นห่วง

 

ฟุ่บ!

 

“เเจ็คสัน!”เห็นลูกชายของตัวเองปรากฏขึ้น หลินไฮ่ เเละ เเมรี่ ในที่สุดก็คลายความกังวลเเละสวมกอดเขา

 

“พวกเราไม่เป็นอะไร! พวกเราเป็นห่วงลูกมากโทรศัพท์ของลูกไม่สามารถติดต่อได้ ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ เองก็เช่นเดียวกัน ว่าเเต่ลูกไปอยู่ไหนมา ถูกลอบโจมตีหรือไม่?”หลังจากตรวจสอบอย่างรอบคอบ ดูเหมือนเเจ็คสันจะได้รับบาดเจ็บ เเมรี่ เเละ หลินไฮ่ โพลงถามออกมาหลายข้อ

 

ในช่วงชีวิตของเเจ็คสันตอนนี้ เเมรี่ เเละ หลินไฮ่ คือบุคลที่มีความสำคัญเป็นอันดับเเรกของเขา ความเป็นห่วงเป็นใยของพ่อกับเเม่ที่มีต่อบุตรย่อมไม่อาจปกปิดได้ เเม้เเจ็คสันที่ได้รับบาดเจ็บมาจะพักรักษาตัวในฐานจนบาดเเผลเล็กๆส่วนใหญ่หายดี เเต่ตรงหน้าผากของเขาก็มีรอยเเผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งไม่อาจปกปิดความจริงจาก พ่อกับเเม่ของเขาได้

 

“พ่อกับเเม่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่เป็นอะไร นอกจากนี้ สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมาะ ไว้ผมจะเล่าให้พ่อกับเเม่ฟังอย่างเเน่นอน”เเจ็คสันได้ตรวจสอบสภาพร่างกายของพ่อกับเเม่ของเขาด้วยความระวังก่อนที่จะยืนยันได้ว่าทั้งสองคนนั้นปลอดภัยดี

 

เรื่องที่พ่อกับเเม่ของเขาถูกลอบโจมตี ทำให้ เเจ็คสันตระหนักได้ว่าเขาจะต้องรีบกำจัดองค์กรไฮดร้าให้เร็วที่สุด ถึงอย่างนั้นตอนนี้ ทางS.H.I.E.L.D. ก็เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวของเขาเเล้ว มันทำให้ เเจ็คสัน จะถูกตรวจสอบ ก็ไม่เเปลก โดยเฉพาะสถานการณ์ในช่วงเวลาสำคัญเหล่านี้

 

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนของ S.H.I.E.L.D. รู้ถึงสถานที่เเท้จริงของเขา เขาจะต้องระมัดระวังอย่างมาก ดังนั้น เเจ็คสันหลังจากปลอบพ่อกับเเม่ของเขาเสร็จ ไม่นาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศก็เดินมาที่เบื้องหน้าของเเจ็คสัน

 

“สวัสดี คุณ เเจ็คสัน ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ S.H.I.E.L.D. สาขาต่างประเทศ ชื่อ ไวเชล”ไวเชล เปิดปากพูดด้วยความเคารพ กับเด็กลูกครึ่งอย่างเเจ็คสัน ซึ่งมันเเตกต่างจากท่าทีในการสนทนากับหลินไฮ่อย่างมาก

 

“สวัสดี ฉัน เเจ็คสัน หลิน ฉันรู้ดีว่าพวกคุณเป็นใคร นอกจากนี้ ฉันยังรู้ว่าพวกคุณต้องการอะไร…”เห็นการทักทายของ ไวเชล เเจ็คสัน กล่าวตอบอย่างสงบ

 

“ลูกบาศก์เวทย์มนตร์?มันคืออะไรกัน?”ได้ยินชื่อเเปลก ๆ จากปากของเเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ รู้สึกสงสัย พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อลูกบาศก์เวทมนตร์มาก่อน เเต่เเจ็คสันบอกว่า หากกำจัดลูกบาศก์เวทมนตร์นี้ไปได้ จะสามารถลบองค์กรไฮดร้าได้ เเสดงว่า สิ่งนี้ย่อมต้องไม่ใช่ของธรรมดาอย่างเเน่นอน

 

“ลูกบาศก์เวทมนตร์ คือชื่อที่มนุษย์โลกเรียก ส่วนชื่อที่เเท้จริงของมันคือ อินฟินิตี้สโตน “เเจ็คสันกล่าวออกมาเพื่อธิบายเขาหยิบลูกบาศ์กธรรมดาออกมา

 

ลูกบาศ์กเวทมนตร์หรืออินฟินิตี้สโตนนั้น เเค่ ชื่อ ก็ทำให้ ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ เต็มไปด้วยความสงสัย หากเเจ็คสันไม่ยอมอธิบายอย่างละเอียดพวกเขาย่อมไม่มีวันเข้าใจ

 

ฟู้วว~

 

“ในจักรวาลนั้นไร้ขีดจำกัดยังมีเผ่าพันธุ์เเละอารยธรรมอื่น ๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้ฉันคิดว่าพวกนายเองก็พอจะรู้คร่าว ๆ มาบ้างเเล้ว”เเจ็คสันได้โยนลูกบาศ์กธรรมดาไปให้กับปีเตอร์เเละยังคงอธิบายต่อไป

 

“เรื่องนี้พวกเราย่อมรู้อย่างเเน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นอาจเป็นคนที่เข้าใกล้ความลึกลับของเผ่าพันธุ์อื่น ๆ จากต่างดาวมากที่สุดก็ได้ เช่น เวน่อม หรือ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า เทพปีศาจ เเม้เเต่ธอร์ก็ยังไม่ใช่คนของโลกเเห่งนี้”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน เเฮร์รี่ พูดออกมา ก่อนหน้านี้เเม้พวกเขาจะไม่เคยเชื่อเรื่องเหล่านี้ก็ตาม เเต่เมื่อเผชิญหน้าด้วยตัวเองทัศนคติของเขาย่อมต้องเปลี่ยนเเปลงไป

 

“ในเมื่อพวกนายเข้าใจว่าในจักรวาลเเห่งนี้ยังมีอารยธรรมอื่น ๆ นอกจากอารยธรรมของพวกเราอยู่ นั่นจะทำให้ฉันอธิบายทุกอย่างได้ง่ายขึ้น”

 

“อืม,ฉันอยากจะรู้ว่าลูกบาศก์เวทมนตร์มันคืออะไร เท่าที่ฟังจากปากของนาย ลูกบาศก์เวทมนตร์นี้สามารถทำให้องค์กรไฮดร้าเเข็งเเกร่งขึ้นหลายเท่า ดูเเล้วไม่น่าจะใช่สิ่งของธรรมดาสามัญ”ปีเตอร์โยนลูกบาศก์ธรรมดาขึ้นบนฟ้าเเละกล่าวถาม

 

“ลูกบาศก์เวทมนตร์ เป็นชื่อเรียกที่ใข้เรียกขานกัน เเละ สิ่งที่พวกไฮดร้าครอบครองคือชื่อที่เเท้จริงของมันคือ สเปซอินฟินิตี้สโตน เป็นสิ่งของที่ทรงพลังมาก เท่าที่ฉันรู้ หินอินฟินิตี้สโตน ไม่ได้มีเพียงเเค่หนึ่ง เเต่กลับมี หก มันมีจุดเริ่มต้นครั้งใหญ่มาจากการระเบิดของเอกภพ”

 

“หินอินฟินิตี้สโตน 6 อัน ถูกเเบ่งออกเป็น สเปซโตน,ไทม์สโตน,มายด์สโตน,เรียลลิตี้สโตน,โซลสโตน,เเละ พาวเวอร์สโตน หินเเต่ละอันนั้นมีพลังงานที่เเข็งเเกร่งที่ไม่อาจประเมินได้กักเก็บเอาไว้ เเละ หนึ่งในพลังที่พวกไฮดร้าครอบครองนั้นคือ ประตูมิติอวกาศ”

 

ภายใต้การไต่สวนของปปีเตอร์ เเจ็คสันอธิบายอย่างช้า ๆ ในโลกมาร์เวล บทบาทของ หินอินฟินิตี้สโตนนั้นมีสูงมาก ธรรมชาติ มันคือขุมพลังระดับจักรวาลที่ยากจะต้านทาน

 

คนทั่วไปไม่สามารถทนต่อพลังงานอันเเข็งเเกร่งของอินฟินิตี้สโตนได้ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถดึงพลังออกมาใช้ได้อย่างถึงที่สุด เเน่นอนว่าพวกไฮดร้าที่ครอบครองสเปซอินฟินิตี้สโตนพวกเขาไม่สามารถดึงพลังงานสูงสุดออกมาใช้ได้ หากพวกมันทำได้เเล้วล่ะก็ พวกเเจ็คสันเองก็คงจะไม่มีทางหยุดพวกมันได้อีกเเล้ว

 

อึ้ก

 

ได้ยินเเจ็คสันอธิบายเกี่ยวกับอินฟินิตี้สโตน ปีเตอร์ จ้องมองไปที่ลูกบาศก์ธรรมดาในมือ เเม้เเต่ เเฮร์รี่ เองก็ไม่ละเว้นก่อนที่พวกเขาจะลอบกลืนน้ำลายเล็กน้อย

 

“ทำไมสิ่งของแบบนั้นถึงปรากฏขึ้นบนโลก อารยธรรมของโลกเราในตอนนี้ไม่มีทางควบคุมสิ่งของที่ทรงพลังแบบนี้ได้”ในมือที่กำลังบีบเเน่นชิ้นส่วนของลูกบาศก์ธรรมดา ปีเตอร์ กล่าวถามอย่างช่วยไม่ได้

 

หากพวกไฮดร้าครอบครองสิ่งที่ทรงพลังแบบนั้นจริง ไม่เเปลกใจที่พวกเขาจะพ่ายเเพ้สงคราม หากจะให้พูดโดยรวมก็คือ หินอินฟินิตี้สโตน ที่เเจ็คสันกล่าวถึง เพียงเเค่ชื่อก็สร้างความหวั่นผวาได้เเล้ว สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากการระเบิดของเอกภพ เอกภพคืออะไรกัน มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะจินตนาการได้

 

“เรื่องนี้…ฉันเองก็ไม่เเน่ใจเหมือนกันบางทีโลกอาจจะเป็นดาวเคราะห์ที่พิเศษ ไม่รู้ทำไมหนึ่งในอินฟินิตี้สโตนเหล่านั้นถึงมาปรากฏบนโลกได้ เเต่มีสิ่งนึงที่ฉันยืนยันได้ โลกของเราเป็นสถานที่ลึกลับมาก มันมักจะดึงดูดบุคคลที่น่าเกรงขามจำนวนมากมาที่โลก นี่เป็นเหตุผลที่ฉันต้องการก่อตั้งสหพันธ์โลกขึ้น”เเจ็คสันอธิบายอย่างช่วยไม่ได้

 

ในโลกมาร์เวล มีตัวตนจำนวนมากที่บุกมาที่โลก เเม้เเต่เเจ็คสันก็อธิบายไม่ได้ว่าเหตุใดตัวตนที่น่าเกรงขามจำนวนมากถึงมักดึงดูดมายังที่โลกเเห่งนี้

 

“มีมากกว่าหนึ่ง…”เเฮร์รี่ก่อนหน้านี้ที่ได้ยินเรื่องของอินฟินิตี้สโตน เขารู้สึกตกตะลึงจนเเทบจะพูดอะไรไม่ออก

 

“เเจ็คสัน นายมีวิธีรับมือกับพวกไฮดร้า เเละ หินอินฟินิตี้สโตน นั่นหรือไม่?”หลังจากดึงสติกลับมาได้ เเฮร์รี่ ก็กล่าวถามเเจ็คสันอย่างจริงจัง

 

“ใช่…เเจ็คสัน นายที่รู้ข้อมูลเรื่องนี้ เเสดงว่านายมีหนทางรับมือกับพวกมันใช่มั้ย?”หลังจากที่เเฮร์รี่ ถาม ปีเตอร์ พูดสนับสนุน

 

เผชิญหน้ากับคำถามของเพื่อนสนิททั้งสองคนเเม้เเต่เเจ็คสันก็ยังกังวล พล็อตเรื่องในตอนนี้เดินไปแบบสุ่มซึ่งเเม้เเต่เเจ็คสันเองก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคต พวกไฮดร้าสามารถเปลี่ยนเเปลงสถานการณ์หลายอย่างได้ด้วยการใช้ สเปซอินฟินิตี้สโตน หากจะพูดให้ถูก เเม้เเต่เเจ็คสันก็ยังจนปัญญา

 

อันที่จริงเเจ็คสันตั้งใจจะปรึกษาเรื่องนี้กับเอนเชี่ยนวัน บางทีเขาอาจหาทางช่วยอะไรได้ การปรากฏตัวของ หินอินฟิตี้สโตนนั้นเกินมือคนธรรมดามากเกินไป เพราะ เอนเชี่ยนวัน ยังเป็นผู้ปกครองสูงสุดของโลก

 

หากเเจ็คสันสามารถยืมมือเอนเชี่ยนวันได้ การทำให้พวกไฮดร้าที่มี สเปซอินฟินิตี้สโตนพบเจอกับปัญหาก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะ เอนเชี่ยนวันเอง ก็ครอบครอง หนึ่งในอินฟินิตี้สโตนเหมือนกัน

 

เพียงเเต่ดูจากบุคลิกของเอนเชี่ยนวันเเล้ว เขาไม่น่าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

ในอีกความคิดนึงของเเจ็คสัน ถ้าเขาช่วยให้ ธอร์สามารถฟื้นคืนพลังของตัวเองได้ในระยะเวลาอันสั้น บางทีเขาอาจหาทางรับมือกับหินอินฟินิตี้สโตนได้ เพราะ ธอร์คือเทพเจ้าสายฟ้า เขาย่อมไม่มีทางถูกจัดการด้วยพลังของหินอินฟินิตี้สโตนโดยง่าย

 

เพียงเเต่เเจ็คสันก็ยังไม่มีหนทางที่จะช่วยเหลือธอร์ เขาจะช่วยเหลือธอร์ให้บรรลุความตั้งใจที่โอดินต้องการได้อย่างไร ดังนั้นเเจ็คสันจึงไม่สามารถหวังกับสิ่งีน้ได้มากนัก

 

เเจ็คสันหวังว่าพวกไฮดร้าจะดึงความเเข็งเเกร่งของหินอินฟินิสตี้สโตนออกมาใช้ได้น้อยที่สุด เเต่ว่าระหว่างการต่อสู้ในวันนี้ เขาก็ได้รับรู้เเล้วว่า เเม้จะเป็นความสามารถที่ถูกดึงออกมาใช้ได้อย่างขีดจำกัด พวกไฮดร้าก็ยังสามารถดึงการโจมตีจากสเปซอินฟินิตี้สโตนออกมาใช้ได้ นี่นับเป็นไพ่ที่เเข็งเเกร่งที่สุดของพวกไฮดร้า

 

เพื่อนร่วมทีมหรือเหล่าตัวเอกในโลกมาร์เวลที่ยืนอยู่ข้างเเจ็คสันในตอนนี้ยังไม่มีหนทางที่จะสามารถรับมือกับหินอินฟินิตี้สโตนนี้ได้เพราะเเม้เเต่เดดพูลที่มีความสามารถอมตะ ก็ยังเเทบสิ้นลมหายใจจากการโจมตีที่ร้ายกาจของมัน

ผ่านไปหลายนาทีบนพื้นที่โล่งภายในฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักกษ์ประตูมิติอวกาศสีทองได้ปรากฏออกมาจากผืนอากาศบาง ๆ ปีเตอร์ เเละ คนอื่น ๆ กลายเป็นตื่นตระหนกจนล่าถอยไปตั้งหลักทันที

 

เพียงเเต่เเจ็คสันได้บอกเตือนพวกเขาว่าไม่เป็นอะไร สิ่งนี้ไม่เหมือนกันประตูมิติอวกาศของพวกไฮดร้าที่จะส่งผลการโจมตี

 

ฟุ่บ!

 

ประตูมิติอวกาศสีทองได้ส่งเเจ็คเเละร่างของพ่อมดรุ่ยเคอออกมา เดิมทีพ่อมดรุ่ยเคอไม่จำเป็นจะต้องมาส่งก็ได้ เเต่เเจ็คสันมีสิ่งที่อยากให้พวกเขาเเละมันเป็นประโยชน์ต่ออาการบาดเจ็บของพ่อมดไต้เหวิ่น

 

เเจ็คที่เดินออกมาจากประตูมิติเวทมนตร์รู้สึกตกใจอย่างมากเขาราวกับได้ข้ามผ่านอวกาศเเละมาโผล่ที่นี่อย่างรวดเร็ว เพียงเเต่ได้เห็นสีหน้าของทุกคนที่ปลอดภัยเขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก ตอนนี้ อาการบาดเจ็บของเเจ็คฟื้นตัวขึ้นมากพอสมควร

 

“พ่อมดรุ่ยเคอ นี่เป็นยายีน รักษาสองขวด มันสามารถช่วยอาการบาดเจ็บของพ่อมดไต้เหวิ่นได้”เเจ็คสันยื่นส่งยายีนสองขวดให้กับพ่อมดไต้เหวิ่น ยายีนเหล่านี้มีผลสภาพของการรักษา เเน่นอนว่ามันย่อมช่วยเหลือการรักษาอาการบาดเจ็บของพ่อมดไต้เหวิ่น

 

“ขอบคุณมาก,ฉันจะรีบนำมันไปให้ไต้เหวิ่น เพื่อรักษาเขาในทันที”ได้รับยายีนมา พ่อมดรุ่ยเคอ ยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“ฉันต่างหากที่ควรจะขอบคุณ หากหลังจากนี้พวกคุณมีเรื่องอะไรที่ต้องการให้ฉันช่วย ฉันจะพยายามช่วยเหลือพวกคุณอย่างเต็มที่”

 

“จริงสิเเล้วคนเหล่านี้เล่าคุณจะเอายังไงกับพวกเขา?”พ่อมดรุ่ยกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่ร่างหลายร่าง

 

ร่างหลายร่างนี้คือร่างของทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่ พ่อมดรุ่ยเคอ ได้เเอบพาตัวพวกเขาออกมาเพราะคำไหว้วานของเเจ็คสัน

 

“ฉันจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือพวกเขาให้กลับมาเป็นปกติ”เเจ็คสันจ้องมองเข้าไป ในร่างเหล่านั้นย่อมมีร่างของเพื่อนสนิทของเขาทอม

 

จากนั้นประตูมิติสีทองก็ส่งร่างของทอมออกมา การเคลื่อนไหวของ ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ รู้สึกตกใจมาก เเต่ เเดร์เดวิล เเละ คนอื่น ๆ จ้องมองไปที่ ร่างของทหารวินเทอร์หลายคน เเม้ฐานของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์จะไม่ใหญ่มาก เเต่ก็สามารถกักขังคนเหล่านี้ได้ไม่ยาก

 

“ขอบคุณมากพ่อมดรุ่ยเคอ”หลังจากเคลื่อนย้ายคนอื่น ๆ เสร็จ เเจ็คสัน เดินไปที่ด้านหน้าของ พ่อมดรุ่ยเคอ เเละ กล่าวขอบคุณ

 

“อืม,เช่นนั้นฉันขอตัวก่อน ฉันต้องรีบกลับไปดูเเลรักษาไต้เหวิ่น”พ่อมดรุ่ยเคอไม่ได้วางเเผนจะอยู่ที่ฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์นานนัก

 

“ไว้เจอกัน พ่อมดรุ่ยเคอ”

 

“เเล้วพบกัน มิราจไนท์!”

 

หึ่ม

 

พ่อมดรุ่ยเคอได้วาดประตูมิติอวกาศสีทองขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะเดินเข้าไปเเล้วหายไปในที่สุด เเม้ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ จะเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ พวกเขาก็ยังอดตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ดี

 

ฟุ่บ!

 

“เป็นเวทมนตร์ที่สุดยอดจริง ๆ เวทมนตร์ที่สามารถส่งผู้คนไปที่ไหนก็ได้!”เเจ็ค กล่าวชื่นชมความสามารถนี้อย่างน่าประหลาดใจ

 

“ฉันไม่ได้เคยบอกกับนายหรอว่าในโลกนี้ยังมีหลายสิ่งที่นายยังไม่รู้อีกมาก โดยเฉพาะความยิ่งใหญ่ของเวทมนตร์?”เห็นเเจ็ครู้สึกตกใจ เเจ็คสันยิ้มออกมา

 

หึ่ม!

 

“เดิมฉันไม่คิดว่ามันจะมีอยู่จริง ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเอง ฉันก็คงไม่เชื่ออย่างเเน่นอน นอกจากนี้ พวกเขาใช่มนุษย์จริง  ๆ งั้นหรอ? ความเเข็งเเกร่งเหล่านั้นพวกเขาได้มันมาจากการร่ำเรียน?”เเจ็คที่นั่งอยู่บนโซฟา เขารู้สึกสงสัยในหลาย ๆ เรื่อง

 

เเน่นอนว่ามันคือความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสถานะของเหล่าจอมเวทย์ที่ถูกเรียกว่าพ่อมด/เเม่มด หลังจากที่เขาได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับเวทมนตร์ด้วยตัวเอง มันทำให้ เเจ็คบังเกิดความคิดกระหายในสิ่งเหล่านี้ภายในใจ หากเขาได้รับความสามารถเหล่านี้มา เขาจะสามารถสนับสนุนคนในทีมได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

“พวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา เเละพวกเขาก็ได้รับพลังเวทมนตร์เหล่านี้มาจากการศึกษา เพียงเเต่การร่ำเรียนของพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่าย “เห็นเเจ็คมีท่าทีอยากจะเรียนรู้เวทมนตร์ เเจ็คสัน ตอบทันที เเม้เเต่เเจ็คสันเองก็อยากจะเรียนรู้เวทมนตร์ เเต่เพราะพรสวรรค์ของเขาต่ำเกินไป เขาจึงไม่อาจเรียนมันได้

 

“คุณเองก็ดูจะสนิทกับพวกเขา เช่นนั้นคุณลองขอให้พวกเขาช่วยสอนเวทมนตร์ให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉันอยากลองดู”

 

“ได้,ฉันจะลองขอให้”

 

“จริงสิ เเล้วเดดพูลล่ะ?”

 

“เขาได้รับบาดเจ็บหนัก ตอนนี้อยู่ในสภาพไม่ได้สติ เพียงเเต่เขาปลอดภัยไม่ต้องห่วง”

 

หลังจากเเจ็คกลับมาทุกคนก็เริ่มพูดคุยกันส่วนหนึ่งคือเหตุการณ์การต่อสู้ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อไม่นานนี้ พวกเขาได้รับรู้ถึงความเเข็งเเกร่งของพวกไฮดร้า เกี่ยวกับสถานะของทอม นอกเหนือจาก ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ พวกเขาทั้งสองคนไม่ได้กังวล เเต่ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนอื่น ๆ เเจ็คสันเองก็ไม่ได้พูดถึง

 

พวกไฮดร้ายังคงมีกองกำลังซุกซ่อนมากมายเเม้จะถูกทำลายกองทัพไปมากในศึกครั้งนี้ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำลายองค์กรของพวกมันจนสิ้นซาก เเม้จะเป็นการร่วมกันระหว่าง ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ S.H.I.E.L.D.  เเละ ทีม X-MEN

 

ต่างฝ่ายต่างตระหนักได้ดีเกี่ยวกับเเรงกดดันจากศึกในครั้งนี้ เเต่ท้ายที่สุด ก็ไม่มีใครรู้ดีนอกเหนือจากเเจ็คสันว่าเหตุใดพวกเขาถึงลงเอยเช่นนี้ หนึ่งเป็นเพราะ สเปซอินฟินิตี้ สโตน ที่พวกไฮดร้าครอบครอง เเจ็คสันรู้ถึงความสามารถอันเเข็งเเกร่งของสเปซอินฟินิตี้สโตนดี ตอนนี้มันถือเป็นอาวุธร้ายเเรงที่น่ากลัวที่อยู่ในมือของพวกไฮดร้า

 

ตอนนี้ เเจ็คสันยังไม่มีหนทางรับมือกับพลังของสเปซอินฟินิตี้สโตนดังนั้นเขาจึงรู้สึกกดดันอย่างมาก เขาตั้งใจจะให้ทุกคนกลับไปพักผ่อนกันก่อน เพราะเหตุการณ์วันนี้ค่อนข้างสาหัสอย่างมาก ไว้พวกเขาค่อยหารือเรื่องเเผนการตอบโต้กันภายหลัง

 

~

 

“วันนี้ทุกคนเเยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ ไว้พวกเราค่อยหารือเรื่องรับมือพวกไฮดร้ากันอีกครั้ง ไว้ฉันจะบอกรายละเอียดทั้งหมดที่ฉันรู้เกี่ยวกับพวกไฮดร้าให้ฟัง”เเจ็คสันยืนขึ้นเเละบอกกล่าวกับทุกคน

 

“อืม,พวกเราเองก็ค่อนข้างเหน็ดเหนื่อยไว้ค่อยหารือกันภายหลัง”หลังจากที่เเจ็คสันยืนขึ้น เเฮร์รี่ เองก็พูดออกมา

 

ฟุ่บ!

 

ในระหว่างที่ เเจ็คสัน เเละ เเฮร์รี่ยืนขึ้น ปีเตอร์ก็ลุกตาม สำหรับคนอื่น ๆ พวกเขาก็เริ่มตกลงเเล้วว่าจะเอายังไง เเดร์เดวิล ได้ออกจากฐานก่อนไปเป็นคนเเรก ส่วน เเจ็ค ได้เลือกที่จะพักผ่อนอยู่ที่ฐานเเห่งนี้ต่อ

 

สำหรับเเจ็คสัน เขาได้ตรวจสอบสถานการณ์ของทอม เเละ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนอื่น ๆ ก่อนที่จะยืนยันความเเน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ตื่นในเร็ว ๆ นี้ เพื่อความปลอดภัย เเจ็คสันได้สวมใส่กุญเเจมือเเละข้อเท้าของพวกเขา มันเป็นสิ่งที่ทำจากโลหะผสมอดามันเทียม

 

“เจอร์รี่ฝากดูเเลเดดพูล เเละ เฝ้าระวังคนเหล่านี้ด้วย ฉันจะรีบกลับมาโดยเร็วที่สุด”เเจ็คสันกล่าวบอก เจอร์รี่ เขา,ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ได้เดินออกจากที่นี่ ไม่ใช่ว่าเเจ็คสันไม่กังวลเรื่องของทอม เเต่ตอนนี้ เขาเป็นห่วง พ่อกับเเม่ของเขามากกว่า ดังนั้นเขาจึงต้องการรีบกลับบ้านโดยเร็วที่สุด

 

หลังจากออกจากฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเจ็คสัน,ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ก็ได้เปลี่ยนเครื่องแบบเป็นนักเรียนมัธยมปลาย ทั้งสามคนได้มุ่งหน้าเดินทางกลับบ้านพร้อมกัน ดูเหมือนทั้งสามคนเองก็ได้รับบาดเจ็บ เเละ เเฮร์รี่ ดูท่าจะรุนเเรงที่สุด เเต่อาการบาดเจ็บเหล่านั้นก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่

 

“เเจ็คสัน นายมีข้อมูลของพวกไฮดร้า จริง ๆ งั้นหรอ?นั่นรวมถึงข้อมูลประตูมิติอวกาศที่ส่งพวกหุ่นยนต์จำนวนมากออกมาด้วยใช่หรือไม่?”ในระหว่างเดินทางกลับบ้าน ปีเตอร์ กล่าวถามออกมา

 

ไม่ใช่ว่าปีเตอร์ไม่เชื่อคำพูดของเเจ็คสัน เเต่เพราะพวกไฮดร้ามันเเข็งเเกร่งเกินไป อุปกรณ์เเละเทคโนโลยีที่พวกมันใช้ เเทบจะไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

 

“อืม,ฉันเองก็พอรู้ข้อมูลสำคัญบางอย่างมาบ้าง เเต่ก็ไม่มากหรอก เเต่ฉันสามารถบอกได้อย่างเดียวถ้าเราสามารถกำจัดสิ่งนึงออกจากพวกมันได้ องค์กรไฮดร้าจะถึงคราวจบสิ้นในทันที”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ เเจ็คสัน กล่าวออกมา สิ่งที่เขาหมายถึงก็คือ สเปซอินฟินิตี้สโตน

 

“มันคืออะไร?”ได้ยินคำพูดของ เเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ กล่าวถามอย่างสงสัยทันที

 

“ลูกบาศก์เวทมนตร์!”

เห็นว่าเเจ็คสันหัวเราะออกมา ปีเตอร์ เเละ คนอื่น ๆ กลายเป็นรู้สึกตกใจ พวกเขาสัมผัสได้อย่างเเน่นอนว่าไม่มีปฏิกิริยาหรือสัญญาณชีพจรชีวิตจาก เดดพูล ดังนั้น พวกเขาจึงสงสัยการกระทำของ เเจ็คสัน

 

“สบายใจเถอะ เดดพูล ยังไม่ตาย เขาเพียงเเค่ต้องการเวลาพักฟื้น”เห็นปีเตอร์เเละคนอื่น ๆ กำลังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของเดดพูล เเจ็คสัน กล่าวอธิบาย

 

เดิม เเจ็คสันเองก็รู้สึกหมดหวัง เเต่เพราะเขามีตัวช่วยอย่างการตรวจสอบของระบบ เเม้ระบบรองของเขาอย่างตัวตนของระบบจะไม่อยู่ การทำงานของระบบหลักก็ยังคงสามารถใช้งานได้ เเจ็คสันเพียงเเค่ให้ระบบหลักช่วยเหลือเรื่องเล็กน้อย โดยที่ไม่ต้องเสียเเต้มคะแนน มันเป็นความสามารถที่ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้

 

เเจ็คสันได้ตรวจสอบร่างกายของเดดพูล เเละ พบว่าเขาอยู่ในสถานกึ่งตาย จะเรียกแบบนี้ก็ไม่ผิด เพราะร่างกายของเดดพูลในตอนนี้ ไม่ต่างอะไรไปจากคนตาย เเต่เปลวไฟเเห่งชีวิตของเขายังไม่มอดดับลง ตราบเท่าที่เขามีเวลาพักฟื้น เเจ็คสัน เชื่อว่า เดดพูล จะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้

 

“มิราจไนท์ คุณพูดจริงงั้นหรอ? ไม่ได้หลอกพวกเราเเน่นะ?”ปีเตอร์ จ้องมองไปที่ เเจ็คสัน เเละ ถามอย่างจริงจัง

 

ปีเตอร์เองก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่กังวลยิ่งกว่าใคร ๆ เขาคิดว่าบางที เเจ็คสันอาจจะไม่สามารถยอมรับความตายของเวดจึงจงใจพูดแบบนี้ออกมา เเต่พอเขาดูการกระทำของเเจ็คสันเเละท่าทีมั่นใจเหล่านั้น เเม้เเต่เเฮร์รี่ เเละ ปีเตอร์ ก็ไม่เชื่อว่าเเจ็คสันจะกล้าล้อเล่นกับเรื่องนี้

 

“พวกนายคิดว่าฉันพูดเล่น?”เเจ็คสันกล่าวออกมา ท่าทีของเขา กลายเป็นสุขุมอีกครั้ง

 

“…”

 

“เดดพูล จะต้องไม่เป็นอะไร พวกนายลืมความสามารถกลายพันธุ์ของเขา?เชื่อฉันเถอะ เขาจะต้องฟื้นกลับมา เพียงเเต่จะต้องใช้เวลา ในช่วงนี้ก็ให้เขาพักฟื้นที่ฐานไปก่อน เเละ คอยฉีดยายีน เพื่อเร่งอัตราการฟื้นตัวให้กับเขา สำหรับ วาเนสซ่า ฉันจะติดต่อให้ วีส ช่วยในเรื่องนี้ พวกเราเองก็มีหน้าที่ที่ยังต้องจัดการอยู่”เเจ็คสันไม่ต้องการให้คนอื่น ๆ เป็นกังวล เขาจึงกล่าวอย่างระวัง

 

ได้ยินคำพูดที่จริงจังของเเจ็คสัน ท้ายที่สุด ทุกคนในที่เเห่งนี้ก็เชื่อเขาหมด ไม่มีเหตุผลที่ มิราจไนท์จะต้องกุคำโกหกขึ้นมา บางทีเขาอาจจะมีวิธีรักษาเดดพูล จริง ๆ ก็ได้

 

“เป็นเรื่องที่ดีถ้าหากคุณพูดเช่นนั้น พวกเราย้ายเขาไปยังสถานที่รับรองที่ดีกว่านี้เถอะ เขาจะได้พักผ่อนได้อย่างสบายใจ”เห็นหลายคนไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา เเฮร์รี่ ได้เปิดปากพูดก่อนเป็นคนเเรก

 

จากนั้นพวกเขาก็ย้ายเดดพูลไปยังตำเเหน่งเตียงพักผ่อนที่สงบ มันเป็นเตียงของ เจอร์รี่ โดยทั่วไป  เจอร์รี่ได้ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ในฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเห่งนี้ ดังนั้นเขาจึงมีเตียงสำรองของตัวเอง

 

ฮึ่ม~~

 

หลังจากจัดการเรื่องของเดดพูลเสร็จ เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ ก็นั่งลงบนโซฟาด้วยอาการเหนื่อยล้าการต่อสู้ในครั้งนี้ยากลำบากเเละอันตรายอย่างมาก ถือเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายจนถึงขั้นเเทบจะพรากชีวิตของพวกเขาเลยทีเดียว เเม้จะเป็นสงครามที่อันตราย เเต่ทุกคนก็ปลอดภัยกลับมาเพียงได้รับบาดเเผลเล็กน้อย สิ่งสำคัญก็คือพวกเขาได้รับเเรงใจหรือความกล้าหาญที่เพิ่มขึ้น

 

เจอร์รี่ รู้ดี ว่าในตอนนี้ไม่ควรถามอะไร พอเห็นท่าทีของทุกคนเเล้ว เจอร์รี่ รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ เขารีบไปหาเครื่องดื่มจำนวนมากมาสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมของเขา

 

ตั้งเเต่เข้าร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เจอร์รี่ รู้ดีว่า เพื่อนในทีมของเขาที่เป็นเเนวหน้าเหล่านี้ จะต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่รุนเเรงอยู่เรื่อยไป ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์อันตรายถึงชีวิต หรือภัยคุกคามระดับใหญ่ต่าง ๆ  เจอร์รี่ ล้วนเข้าใจมัน

 

เเต่สิ่งสำคัญก็คือ เจอร์รี่ สังเกตุคนในทีม ขาดหายไปคนนึง เเม้เดดพูลจะกลับมา เเต่ เเจ็ค ไม่ได้กลับมาพร้อมพวกเขา หรือบางที เเจ็ค อาจกลับไปยังที่พักของครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์ เท่าที่ดีจากท่าทีของพรรคพวกของเขา เจอร์รี่เชื่อว่าเเจ็คจะต้องปลอดภัยอย่างเเน่นอน

 

ตู๊ดดด!

 

ในขณะที่เจอร์รี่กำลังไตร่ตรองโทรศัพท์ของเเจ็คสันก็ได้ดังขึ้น เเจ็คสันรู้ดีว่าหลังจากการต่อสู้ในวันนี้จบลงจะต้องมีเรื่องชวนน่าปวดหัวมากมายตามมาภายหลังเเน่นอน หนึ่งในนั้นก็คือสายเรียกเข้า เขาเชื่อว่ามันเป็นสายของ S.H.I.E.L.D.

 

เพียงเเต่เเจ็คสันที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ประกายตาของเขาก็เปลี่ยนไป มันไม่ใช่สายจาก S.H.I.E.L.D. เเต่เป็นสายจากพ่อมด รุ่ยเคอ เมื่อไม่นานมานี้ เเจ็คสัน กำลังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของ เดดพูล จนลืม พ่อของเขา เเจ็ค เเละ ก็ทอม เพราะว่า เดดพูล ถูกโจมตีจนเข้าขั้นสาหัส เขาจึงเรื่องเหล่านั้นไปโดยปริยาย

 

“พ่อมดรุ่ยเคอ,พวกคุณเป็นยังไงบ้าง?”เเจ็คสันกล่าวถามอย่างเร่งรีบ เพราะ พ่อมดรุ่ยเคอ ได้พา พ่อของเขา เเละ เเจ็ค ที่บาดเจ็บสาหัส รวมถึง ทอม ที่หมดสติไปด้วย

 

“อืม,ฉันปลอดภัยดี ส่วน พ่อมดไต้เหวิ่น ได้รับบาดเจ็บ เเต่ไม่ต้องห่วง อาการของเขากำลังฟื้นฟู”ได้ยินคำถามของ เเจ็คสัน พ่อมดรุ่ยเคอ ตอบกลับเล็กน้อย

 

คราวนี้ พ่อมดรุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น สองตัวตนพ่อมดที่เเข็งเเกร่ง ได้เผชิญหน้ากับความยากลำบาก เเละในศึกครั้งนี้ พ่อมดไต้เหวิ่น เกือบที่จะเสียชีวิตลงจากการต่อสู้ โชคดีที่พวกเขาทั้งคู่ปลอดภัยสถานการณ์ในครั้งนี้รุนเเรงเกินไป ไม่มีใครคาดคิดว่า พวกไฮดร้า จะครอบครองสเปซอินฟินิตี้สโตน เอาไว้ในมือ

 

ตั้งเเต่วันนี้ พ่อมดรุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ก็ตระหนักได้ว่า สายเลือดพ่อมดของพวกเขาไม่ใช่ตัวตนที่สุดยอดอะไรมากมาย โลกใบนี้ ยังมีภัยคุกคามอีกจำนวนมากที่สามารถพรากชีวิตพวกเขาไปได้

 

“ฉันขอโทษที่ดึงพวกคุณเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เเต่ฉันไม่มีทางเลือก ไว้ฉันจะตอบเเทนพวกคุณในภายหลังเเน่นอน”เเจ็คสันรู้สึกเสียใจที่ดึงพ่อมดรุ่ยเคอ มาร่วมสงครามในครั้งนี้

 

อาการบาดเจ็บของพ่อมดไต้เหวิ่น ทำให้ เเจ็คสันไม่สบายใจ เพราะเเจ็คสันรีบส่งพวกเขาออกจากพื้นที่หมอกหนาทึบก่อนเป็นอันดับเเรก เพราะกลัวว่า ตัวตนของพวกเขาจะถูกเปิดเผย

 

“คุณไม่จำเป็นต้องกังวลมิราจไนท์ หน้าที่ปกป้องคนธรรมดา ก็ถือเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของเรา เเม้สงครามในครั้งนี้จะเกินขอบเขตหน้าที่ของพวกเรา เเต่พวกเราก็ยินดีช่วยเหลือเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น ฉันได้รายงานให้ท่านเอนเชี่ยนวันทราบเเล้ว ท่านไม่ได้ตำหนิอะไรพวกเรา”ได้ยินคำขอโทษจากมิราจไนท์ พ่อมดรุ่ยเคอ ไม่ต้องการให้ มิราจไนท์รู้สึกผิด เพราะ ทางด้าน เอนเชี่ยนวันก็ไม่ได้มีท่าทีตำหนิพวกเขา เเม้เเต่พ่อมดรุ่ยเคอ เเละพ่อมดไต้เหวิ่น กรู้สึกประหลาดใจเดิมที สถานการณ์ที่เสี่ยงเปิดเผยสถานะของพวกเขา หากพวกเขาเข้ายุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านั้นจะต้องถูกตำหนิอย่างหนักเเน่นอน เเต่พวกเขากลับไม่ถูกตำหนิ นี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ

 

“ขอบคุณ,เเล้วผู้ไม่เกี่ยวข้องกับอาการของเเจ็คเป็นอย่างไรบ้าง?”เเจ็คสันกล่าวถามออกไปป

 

“ผู้ไม่เกี่ยวข้องฉันส่งให้กับสถานตีตำรวจใกล้เคียงไปเเล้ว สำหรับเเจ็ค ตอนนี้ เขาอยู่ข้าง ๆ ฉัน เพียงเเต่เขาไม่เชื่อใจเรามากนัก เขาไม่เต็มใจที่จะบอกฐานลับของคุณให้เรารู้”คำพูดของ เเจ็คสัน ทำให้ พ่อมดรุ่ยเคอ ตอบความจริง

 

“เป็นปกติที่เเจ็คจะไม่เชื่อใจคนที่เพิ่งพบพานคุณไม่จำเป็นต้องใส่ใจรายละเอียดมาก ฉันจะบอกตำเเหน่งให้คุณเดี๋ยวนี้เเหละ…”

ฟิ้ว~~

 

ทันทีที่ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเละทีม X-MEN จากไป หลายคนบนสะพานโกลเด้นเกต ก็จมลงสู่ความว่างเปล่า เบื้องหน้าของพวกเขาคือเศษซากปรักหักพังจำนวนมาก สะพานโกลเด้นเกตเเห่งนี้ถูกทำลายจนย่อยยับ

 

“พวกเขาเองก็ไปเเล้วฉันเองก็คงต้องขอตัวลาจากสถานที่เเห่งนี้เช่นเดียวกัน หัวหน้านิค หวังว่าจะได้รับข่าวจากคุณเร็ว ๆ นี้”โทนี่ กล่าวเบา ๆ

 

“J.A.R.V.I.S พวกเราไปกันเถอะ!”โทนี่ไม่ได้รอคำตอบจาก นิค เขาส่งไอรอนแมนบินขึ้นสู่ฟากฟ้าเเละจากไปทันที

 

ฟิ้ว!

 

กองทัพไอรอนแมนจำนวนมากของโทนี่ได้บินตามขึ้นบนฟ้าก่อนที่จะหายไปอย่างรวดเร็วภายใต้สายตาของคนหลายคน

 

ดูเหมือนกองทัพที่โทนี่ซ่อนเอาไว้จะน่ากลัวกว่าที่นิคคิดเอาไว้มาก โชคดีที่ โทนี่ เป็นพันธมิตรกับ S.H.I.E.L.D. หากเป็นในช่วงที่เขาเคยบังคับโทนี่ด้วยความไม่ยินยอมอยู่ในตอนนั้นเเล้วล่ะก็ เเค่คิดก็คาดเดาได้ถึงอนาคตที่มืดมน

 

“กัปตันโรเจอร์ส…”นิคจ้องมองสถานการณ์โดยรวมก่อนที่จะหันศีรษะไปทางกัปตันโรเจอร์สเพื่อเตรียมสอบถามบางอย่าง

 

เพียงเเต่กัปตันโรเจอร์สไม่รอให้นิคพูดจบเขายกมือห้ามก่อนที่จะพูดเชิงขอตัว”การต่อสู้ในวันนี้จบลงเเล้วไว้ฉันจะกลับไปรายงานอย่างเเน่นอน ตอนนี้ฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อน”

 

หลังจากนั้นกัปตันโรเจอร์สก็เดินไปที่ขอบสะพานโกลเด้นเกตเเละกระโดดขึ้นบนเครื่องบินควินเจ็ตก่อนที่กัปตันโรเจอร์สจะสั่งให้นั่งบินคนนั้นออกตัวไปโดยตรง

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่เครื่องบินของกัปตันโรเจอร์สจากไปใบหน้าของนิคบ่งบอกถึงการเเสดงอาการที่ทำอะไรไม่ถูก กัปตันโรเจอร์สเเตกต่างจากสมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมพันธมิตรอเวนเจอร์ส เขาไม่เหมือนกับ ฮอว์กอาย,ฟอลคอน เเบล็ควิโดว์ หรือ นิค

 

ไม่นาน ฟอลคอน ก็ใช้ปีกของเขาบินตรงไปยังเครื่องบินควินเจ็ท ส่วน ฮอว์กอาย ก็ได้ใช้ธนูยิงไปที่เครื่องบินควินเจ็ทก่อนที่จะดึงตัวของเขาขึ้นไป

 

ด้านหน้าของนิคเหลือเพียง นาตาชา เเบล็ควิโดว์เพียงเท่านั้น ดูเหมือน เธอจะรู้ว่านิคคิดอะไรอยู่ตอนนี้

 

“คุณอย่าได้กังวล พวกเขาเพิ่งผ่านการต่อสู้อันยากลำบากมา พวกเขาต้องการ การพักผ่อน”นาตาชา ยิ้มออกมา สำหรับเธอที่ทำหน้าที่เป็นเงาของนิค ย่อมวางตัวเเละรู้ว่านิคคิดอะไร

 

“หวังว่าเป็นอย่างนั้น พวกเราเองก็ไปกันเถอะ อยู่ไปก็ไม่ได้อะไร ปล่อยให้ช่างสนามเคลียร์พื้นที่เเละเฝ้าระวังภูมิภาคเเห่งนี้!”นิคพยักหน้าก่อนที่จะตัดสินใจไปจากที่นี่

 

ฟุ่บ!

 

ครื่นน!

 

ขณะที่นิคเตรียมจะจากไปสะพานโกลเด้นเกตที่รับภาระจากการถูกโจมตีมากมายท้ายที่สุดก็เกิดเสียงปริเเตกออกก่อนที่เเนวสะพานจะทรุดตัวลง

 

สะพานโกลเด้นเกต ถือเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่อยู่คู่นิวยอร์กมาอย่างยาวนาน ตอนนี้ศูนย์กลางของมันที่มีระยะทางยาวประมาณ 30 เมตร ได้ยุบตัวลงอย่างสมบูรณ์โชคดีที่พื้นที่เเถวตรงสะพานเเห่งนี้ไม่มีผู้คนไม่งั้นโศกนาฏกรรมคงหลีกไม่พ้นเป็นเเน่

 

พวกของนิคได้ยืนอยู่ค่อนข้างไกลจากพื้นที่ทรุดตัวของสะพาน เดิมพวกเขาก็คิดอยู่เเล้วว่าไม่ช้าก็เร็วสะพานย่อมไม่สามารถทนต่อความเสียหายระดับนี้เเละพังทลายลง ท้ายที่สุด นิคก็กล่าวสั่งการ เขาตั้งใจจะส่งทีมช่างของ S.H.I.E.L.D. มาฟื้นฟูภายหลัง

 

“ไปกันเถอะ!”นิคกล่าวพร้อมกับจากไป

 

 

บทสรุปจากการต่อสู้บนสะพานโกลเด้นเกต ทำให้ สมาชิกทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์ ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดย่อมหลีกไม่พ้น เดดพูล เพราะตอนนี้ เขายังมีชีวิตอยู่หรือตายก็ไม่มีใครรู้ สำหรับทีม อเวนเจอร์ส พวกเขาเพียงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย สำหรับ ทีมX-MEN เองก็เช่นเดียวกัน ด้วยทุนเดิมที่พวกเขามีความสามารถที่เเข็งเเกร่ง เพียงได้รับบาดเเผลรุนเเรง เเต่ก็สามารถฟื้นฟูได้ด้วยเวลา

 

ทางด้านของไฮดร้า ทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่หลายคนถูกจับกุม กองทัพหุ่นยนต์หลายร้อยตัวถูกทำลาย กองกำลังพลอย่างพวกมิวแทนท์เองก็เสียชีวิตหลายคน โชคดีที่ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ตวิช ได้หลบหนีออกไปก่อนที่จะเกิดคลื่นพลังงานลึกลับจากประตูมิติอวกาศ ทิศตะวันตกของ สหรัฐอเมริกา นิวยอร์ก ฐานลับใต้ดินของพวกไฮดร้า เร้ด สกัลล์ ได้นั่งมองเเสดงผล เขาเห็นช่วงเวลาที่ประตูมิติอวกาศถูกทำลายลงจากการระเบิดเพราะความไม่เสถียร มันจึงไม่อาจคงสภาพเอาไว้ได้

 

ครั้งนี้ เร้ด สกัลล์ ได้วางเเผนอย่างรอบคอบในการตอบโต้มิราจไนท์ นั่นก็คือ การลักพาตัว ผู้ปกครองของ เเจ็คสัน การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เร้ด สกัลล์ ต้องการให้โลกรู้ถึงความน่ากลัวของ องค์กรไฮดร้า ด้วยความช่วยเหลือจาก เทสเซอเเรค หรือ สปซอินฟินิตี้สโตน เเละกองทัพที่น่ากลัวของไฮดร้า พวกเขาสามารถที่จะสร้างความเสียหายเเละกดดัน S.H.I.E.L.D. ,ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ ทีม X-MEN

 

หากองค์กรไฮดร้า ไม่มี เร้ด สกัลล์ อยู่ ไฮดร้าก็อาจถึงคราวจบสิ้นจากเงื้อมมือของการรวมขุมพลังที่เเข็งเเกร่งจำนวนมาก ดังนั้นการปรากฏตัวขึ้นของ เร้ด สกัลล์ ทำให้ องค์กรไฮดร้า ที่เป็นองค์กรระดับโลกมีความเเข็งเเกร่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เพราะในมือของ เร้ด สกัลล์ ได้ถือครองสมบัติที่เเข็งเเกร่งอย่าง สเปซอินฟินิตี้สโตน

 

เร้ด สกัลล์ เชื่อว่า เเผนการดับกองทัพขุมพลังทั้งหมดที่เป็นปรปักษ์กับองค์กรไฮดร้าในครั้งนี้จะสำเร็จไปได้ด้วยดี ด้วยความสามารถอันเเข็งเเกร่งของเทสเซอเเรค เเต่เขาก็ไม่คิดว่าท้ายที่สุดเขากลับไม่สามารถทำลายขุมพลังเหล่านั้นได้

 

หึ่ม!

 

“ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ!S.H.I.E.L.D. ทีมอเวนเจอร์ส! ทีมX-MEN!”มือทั้งสองข้างของเร้ด สกัลล์ ได้ทุบลงไปที่เบาะรองเเขนบนเก้าอี้ ดูเหมือน เขาจะโกรธจัดอย่างมาก

 

ปั้ง

 

ในที่สุดที่พักเเขนบนเก้าอี้ก็ถูก เร้ด สกัลล์ ทุบหักโดยตรง

 

“ครั้งหน้า อย่าหวังว่าพวกเเกจะโชคดีแบบนี้อีก!”เร้ด สกัลล์ จ้องมองไปที่ ลูกบาศก์เวทมนตร์ ที่ด้านหน้าของเขา ก่อนที่จะยกเครื่องดื่ม เพื่อดื่มมัน

 

 

ทางด้านของเเจ็คสัน เขาได้นำ เดดพูล กลับไปยังฐานของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

ฟุ่บ~

 

เเจ็คสันได้วางร่างของเดดพูล ลงบนโซฟา ตอนนี้ร่างของเวด ไร้ซึ่งการตอบสนอง เจอร์รี่ ที่รีบดิ่งมารับพวกเขาเตรียมจะพูดอะไร เพียงเเต่หลังจากเห็นร่างของเดดพูล เขาก็กลืนคำพูดกลับไป

 

ความเงียบสงบอยู่ได้ไม่นานในที่สุด เเดร์เดวิล เเมตต์ ก็เป็นคนเปิดปากพูด”พวกเราควรจะเเจ้ง วาเนสซ่า ดีไหม ? ถึงอย่างไร เธอก็เป็นคนรักของเดดพูล!”

 

ในความคิดของเเดร์เดวิล เดดพูล ราวกับจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเเล้ว เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึง พลังชีวิตจากร่างของเดดพูลเลย

 

“ไม่..เราจะไม่ทำอย่างนั้น เดดพูล จะต้องกลับมา ถึงเเม้เขาจะไม่กลับมา ฉันก็มีวิธีที่จะทำให้เขากลับมา”ได้ยินคำพูดของ เเดร์เดวิล เเจ็คสัน สั่นศีรษะทันที

 

ในความเป็นจริง เเจ็คสัน ไม่เชื่อว่า เดดพูล หนึ่งในตัวเอกของโลกมาร์เวล จะต้องมามีจุดจบเช่นนี้ มันไม่สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง เเม้เดดพูล จะเสียชีวิต เเต่เเจ็คสัน ก็ยังมีหนทางในการช่วยเหลือเขา ไม่ว่าจะเป็น การใช้ ไทม์ อินฟินิตี้สโตน ซึ่งมันน่าจะอยู่ในการครอบครองของ เอนเชี่ยนวัน หรือไม่ก็ เเจ็คสัน ก็บรรลุเควสภารกิจหลักเพื่อใช้เเต้มคะแนนในการฟื้นคืนชีพเดดพูล

 

“มิราจไนท์…”ได้ยินคำพูดของ มิราจไนท์ ดูเหมือนว่า เเมตต์เชื่อว่า มิราจไนท์ ยังไม่อาจทำใจยอมรับผลชะตากรรมในครั้งนี้ได้

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ในขณะที่เเมตต์ต้องการเกลี้ยกล่อม เเจ็คสันได้ยื่นมือไปจับเดดพูลก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาอย่างร่าเริง

 

“ฮ่าฮ่า,เดดพูล ฉันว่าเเล้ว นายจะต้องไม่ตายด้วยเรื่องเเค่นี้!”จากนั้นไม่นานเเจ็คสันก็หัวเราะเสียงดังพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

เปรี้ยง!

 

บึ้ม

 

สตอร์ม ใช้ สายฟ้าโจมตีอย่างต่อเนื่อง,กองทัพไอรอนแมนของโทนี่เอง ก็ยืงปืนใหญ่พลังงานสนับสนุน ทางด้านS.H.I.E.L.D. ก็กราดอาวุธร้อนจำนวนมาก จุดมุ่งหมายของพวกเขาคือพื้นที่ประตูมิติ จนในที่สุดประตูมิติอวกาศก็เริ่มสั่นคลอนก่อนที่เเสงสีฟ้าจะสลายหายไป

 

“ในที่สุดก็สำเร็จ!”ดูเหมือนการถูกกระหน่ำด้วยการโจมตีจำนวนมากจะทำให้ประตูมิติอวกาศไม่เสถียรเเละถูกทำลายในที่สุด นี่เป็นสิ่งที่กัปตันโรเจอร์สคิด

 

คลื่นน!

 

เห็นประตูมิติอวกาศหายไป ใบหน้าของเเจ็คสัน ยังคงประดับไว้ด้วยความหนักใจ เพราะคราวนี้พวกเขาประเมินฝีมือพวกไฮดร้าผิดไปตั้งเเต่เริ่ม พวกมันได้ถือครองอาวุธสุดร้ายกาจเอาไว้ในมือ เเจ็คสัน รู้สึกกังวลว่าพวกไฮดร้าจะกลับมาอีกครั้ง เพราะตราบใดที่ สเปซอินฟินิตี้สโตน ยังอยู่ในมือพวกไฮดร้า ก็ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าโลกจะพบกับความสงบสุขที่เเท้จริง

 

หึ่ม!

 

เครื่องบินควินเจ็ทได้ร่อนลงมาในระดับต่ำ ตอนนี้หมอกควันส่วนมากได้ถูก สตอร์ม เป่ากระจัดกระจายหายไปหมดเเล้ว เเจ็คสันจ้องมองไปทางด้านหลังของเขาซึ่งมีเเจ็ค พ่อมดรุ่ยเคอ พ่อมดไต้เหวิ่น เเละ พ่อของเขา เเจ็คสันได้เรียกร้องขอให้พวกเขารีบออกไปจากสถานที่เเห่งนี้

 

เเจ็คสันไม่ต้องการเเสดงความสัมพันธ์หรือสถานะของเหล่าพ่อมดให้คนอื่นรู้ไปมากกว่านี้ เเม้จะเป็นพวก S.H.I.E.L.D. ก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีพ่อของเขาอยู่ในสถานการณ์อีกด้วย S.H.I.E.L.D. จะต้องตรวจสอบเบื้องหลังเเละสามารถโยงเข้าสู่สถานะของเขาได้อย่างเเน่นอน

 

พ่อมดรุ่ยเคอ ไม่รอช้า เขาได้นำ พ่อมดไต้เหวิ่น,เเจ็ค ทอม เเละ พ่อของเเจ็คสัน จากไปอย่างรวดเร็ว เเจ็คสันได้ทอดสายตามองไปยังพื้นที่เศษซากกระจัดกระจายจำนวนมากจากสงครามในครั้งนี้เขากำลังประมวลผลสถานการณ์ในปัจจุบัน

 

“มิราจไนท์ สถานการณ์ทางฝั่งคุณเป็นอย่างไรบ้าง ปัญหาได้รับการเเก้ไขเเล้วหรือไม่?ทุกคนปลอดภัยใช่มั้ย?”ในเวลาเดียวกัน เสียงของ เจอร์รี่ ก็ดังขึ้นที่ข้างหูของเขา

 

เเม้ว่าการสื่อสารจะได้รับการเเก้ไขเมื่อไม่นานมานี้ เเต่เเจ็คสันมีเรื่องเร่งด่วนสำคัญที่ต้องจัดการ เขาเลยไม่ได้เเจ้งข่าวเเก่ เจอร์รี่ เกี่ยวกับสถานการณ์ฝั่งนี้

 

“อืม,ปัญหาได้รับการเเก้ไขเเล้ว พวกเราไม่เป็นอะไร…ไม่เดี๋ยวก่อน เดดพูล!”เเจ็คสันที่ได้ยินการเตือนจาก เจอร์รี่ เขานึกได้ว่าเหมือนลืมอะไรไป เวด เขาถูกโจมตีโดยคลื่นพลังงานจากประตูมิติอวกาศ เเจ็คสันรีบวิ่งออกไปยังตำเเหน่งด้านหน้าทันที

 

“เดดพูล!”ในเวลาเดียวกันเขาก็ตะโกนชื่อของ เวด ออกมา ตลอดทาง

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่ ปีเตอร์ได้ยิน เขาก็รีบ ช่วยเเจ็คสัน ตามหา เดดพูลทันที ก่อนหน้านี้ เขาเองก็รู้ว่า เวด ถูกโจมตี เเต่ความสามารถของเวด คือความสามารถฟื้นฟูตัวเอง เขาสมควรยังมีชีวิตอยู่

 

ตึก ตึก!

 

เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ทำการเคลียร์ซากปรักหักพังจำนวนมาก หลายสถานที่มีหินกลบฝั่งอยู่จากการระเบิด พวกเขาได้ยกเศษหินเหล่านั้นออกมา ก่อนที่จะเห็น ร่างของ เดดพูล ที่นอนอย่างไร้การตอบสนอง

 

“มิราจไนท์! เดดพูล เขา…”ปีเตอร์ที่เห็นร่างของเดดพูล เสียงของเขาสั่นกล่าวไปถามทาง เเจ็คสัน

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ เเจ็คสันไม่ได้ตอบสนองคำพูดของปีเตอร์ เขาดึงเข็มยายีนออกมาก่อนที่จะฉีดไปที่เวด ความสามารถกลายพันธุ์ของเวด น่าจะสามารถฟื้นตัวได้ เเต่มันก็ยังไม่มีอะไรรับประกันในเรื่องนี้ เเจ็คสัน ได้เเลกเปลี่ยนสินค้าบางอย่างออกมาจากร้านค้าระบบ

 

ทันทีที่ฉีดยายีนเสร็จ เเจ็คสันก็เปิดหมวกของเวดเเละกรอกน้ำศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำให้เขาดื่ม นี่คือทั้งหมดที่เเจ็คสันมีเเล้ว เพราะเขาได้ใช้เเต้มคะแนนของเขาไปหมดเเล้วเพื่อเเลกสิ่งของไว้ใช้ปกป้องพ่อกับเเม่ของเขา

 

เเจ็คสันได้บริโภคเเต้มคะแนนของเขาไปกับหลาย ๆ สิ่ง ในช่วงหลายเดือนมานี้ ดังนั้น เเจ็คสันหวังว่า พลังของยายีน เเละ น้ำศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำ จะสามารถช่วยเหลือ ชีวิตของ เวด ขึ้นมาได้ เพียงเเต่ว่าเวดก็ยังไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง ราวกับว่าเขาตายไปเเล้วจริง ๆ

 

“มิราจไนท์,เดดพูล…”

 

“พวกเราจะพากลับไป เขาต้องการเวลาพักฟื้น”เเจ็คสันตอบกลับเพียงสั้น ๆ

 

เเม้เดดพูลจะอยู่ในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้ไม่นาน เเละ ชอบมีปากเสียงกับ สไปเดอร์แมน เเต่ทุกคนก็รู้จักเวดในอีกด้านนึง เขาเป็นคนที่รักเพื่อน เเละมีจิตใจดี เเน่นอนว่าพวกเขาทั้งหมดย่อมไม่อยากสูญเสียเดดพูลเพื่อนร่วมทีมคนสำคัญไป

 

เเจ็คสันเชื่อมั่นว่าเวดจะสามารถรักษาตัวเองได้ เเม้จะไม่สามารถยืนยันได้ทั้งหมด เเต่เขาก็มั่นใจว่าเวดย่อมไม่ทางตายง่าย ๆแบบนี้

 

เริ่มเเรก เวด ได้ทุกข์ทรมาณจากโรคมะเร็ง เขาต้องการอยู่กับวาเนสซ่า เเละ อยากได้เงินเพื่อรักษาโรคมะเร็ง นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาเเละเเจ็คสันได้พบกัน เเจ็คสันเชื่อว่าพวกเขามีชะตาต่อกัน เเละ เขาเองก็ต้องการกำลังสนับสนุนจาก เดดพูล ดังนั้น เเจ็คสันจะไม่ยอมให้ เวด ตายต่อหน้าต่อตาของเขา

 

ฟุ่บ!

 

“พวกเราไปกันเถอะ!”เเจ็คสันไม่รอการตอบสนองของปีเตอร์ เขายกร่างของเดดพูลเเละยืนขึ้น

 

ในเวลาเดียวกัน เขาก็เดินไปทางไอซ์แมนโดยตรง ปีเตอร์ที่อยากจะพูดอะไรออกมา เขาทำได้เพียงเเต่เก็บคำพูดเเละเดินตามไป

 

ในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ปีเตอร์จะมามัวเเสดงด้านอ่อนเเอให้ใครเห็น ตอนนี้ เขาไม่ใช่เด็กเหมือนเมื่อก่อนอีกเเล้ว

 

เมื่อมิราจไนท์เเละสไปเดอร์แมนเดินออกจากซากปรักหักพัง กัปตันโรเจอร์ส ก็มองเห็นร่างของเดดพูลในอ้อมเเขนของ มิราจไนท์ เขาเองก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก

 

สำหรับนิค เขาจ้องมองไปที่ ทางด้านของมิราจไนท์เช่นเดียวกัน การต่อสู้ในวันนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่าง ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ S.H.I.E.L.D. นี่เป็นการร่วมมือของพวกเขาในการกำจัดองค์กรไฮดร้า เเละดูเหมือนทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์จะสูญเสียคนสำคัญในทีมไป นิคเองก็ต้องการเเสดงความเสียใจกับเรื่องนี้

 

เเจ็คสันไม่ได้สนใจคนรอบตัวเขาได้เดินไปที่เบื้องหน้าของไอซ์แมนโดยตรง สมาชิกทีม X-MEN ทุกคนได้มารวมตัวกันที่นี่ เเม้เเต่ บลิงก์ เเละ สตอร์ม ก็เช่นเดียวกัน

 

“บลิงก์ คุณช่วยส่งพวกเรากลับไปก่อนได้มั้ย”เเจ็คสันจ้องมองไปที่ ไอซ์แมน เเละ บลิงก์ ก่อนที่จะกล่าวถามออกมา

 

ไอซ์แมนที่เห็นมิราจไนท์แบกร่างของเดดพูลเดินเข้ามาเขาพยักหน้าให้กับบลิงก์ก่อนที่เธอจะช่วยเปิดประตูมิติขึ้นที่ด้านหน้า เเจ็คสัน,ปีเตอร์ ดาร์คไนท์ เเฮร์รี่ เเละ เเดร์เดวิล ได้เดินเข้าไปในทันที

 

ฟุ่บ!

 

สมาชิกทั้งหมดของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ได้เดินทางจากไปเป็นกลุ่มเเรก หลังจากที่พวกทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์จากไป สะพานโกลเด้นเกตเเห่งนี้ก็ต้องอยู่ในความเงียบ บลิงก์ไม่รอช้า เปิดประตูมิติอวกาศอีกครั้งเพื่อนำสมาชิกทีม X-MEN ทั้งหมด จากไปจากที่นี่ในเวลาต่อมา

 

ในที่สุดบนสะพานโกลเด้นเกตเเห่งนี้ ก็เหลือเพียง คนของ S.H.I.E.L.D. เเละ กองทัพไอรอนแมนของ โทนี่

หึ่ม!

 

ในขณะที่เเจ็คสันเเละคนอื่น ๆ เห็น การโจมตีประกายสีทอง มันก็เข้าปกคลุมไปทั่วประตูมิติอวกาศคลื่นพลังลึกลับก็ได้อันตรธานหายไปดูเหมือนการโจมตีหักล้างของคลื่นสีทองจะรุนเเรงมาก เเม้เเต่ไอซ์แมนก็อดรู้สึกเเปลกใจไม่ได้ ยกเว้นคนเดียวที่รู้สึกไม่สบอารมณ์ก็คือ โทนี่

 

“คุณสตาร์ก เกิดอะไรขึ้น มีอะไรไม่เหมาะสมงั้นหรอ?”เเจ็คสันไม่ได้เรียก โทนี่ แบบปกติ เขาถามด้วยความสุภาพอีกครั้ง เเน่นอนว่าเขาเองก็วิตกกังวลเกี่ยวกับความกังวลของโทนี่ในครั้งนี้

 

“การโจมตีของฉันเเทบจะไม่ส่งผลใด ๆ เลย”โทนี่ขมวดคิ้วตอบอย่างจริงจัง โดยธรรมชาติ เขาไม่ได้ออกปากบอกว่าอาวุธของเขาเป็นอาวุธเวทมนตร์เเต่มันคืออาวุธเสมือนเวทมนตร์ที่พัฒนามาจากการวิเคราะห์เวทมนตร์

 

“คุณจะบอกว่าการโจมตีของคุณไร้ผลงั้นหรอ?”เเจ็คสันไม่เชื่อโทนี่ งั้นเเล้วทำไมคลื่นพลังงานเมื่อครู่ถึงถูกหักล้างไปได้

 

“อาวุธพิเศษนี้ฉันเคยทดสอบศักยภาพของมันมาก่อน เเต่ในขณะที่มันสำเเดงผลในตอนนี้มันไม่ใกล้เคียงกับผลลัพธ์ที่ฉันเคยทดสอบเเม้เเต่น้อย”โทนี่ สั่นศีรษะทันที

 

“คุณกำลังจะบอกว่า…”ถ้าการโจมตีของโทนี่ไม่มีผล เช่นนั้น ประตูมิติอวกาศก็ยังไม่ถูกทำลาย ประตูที่สามารถต้านทานการโจมตีจาก ลำเเสงปืนใหญ่พลังงานของไอรอนแมนกว่า 100 ตัวได้ บัดนี้ยังคงอยู่

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่ เเจ็คสัน ได้ยินคำพูด เขาหันศีรษะไปยังตำเเหน่งของประตูมิติอวกาศอีกครั้ง คราวนี้ ฝุ่นควันได้คลุ้งกระจายหายไปจนเห็นประตูมิติอวกาศสีฟ้าในสภาพสมบูรณ์ไร้รอยขีดข่วน

 

“เจ้านายครับ,ตรวจพบการโจมตีระลอกคลื่นที่สาม!”ขณะนั้นเอง J.A.R.V.I.S ก็กล่าวเตือนอย่างรวดเร็ว

 

“เวรเอ้ย***!”โทนี่รู้สึกโกรธอย่างมาก การโจมตีเต็มรูปแบบของ ชุดเกราะไอรอนแมนมากกว่า 100 ตัว ด้วยพลังงานเเทบทั้งหมดของเตาปฏิกรณ์อาร์คกลับไม่สามารถทำลายประตูมิติอวกาศได้

 

หึ่ม!

 

“J.A.R.V.I.S เรียกใช้ระบบ ดาร์ม่าคริส!”เห็นคลื่นพลังงานกำลังจะกวาดออกมาโทนี่กล่าวสั่งการอย่างรวดเร็ว

 

“เจ้านายครับ,ระบบดาร์ม่าคริส ต้องได้รับการอนุญาติจากหัวหน้านิค” เพียงเเต่ทันใดนั้น J.A.R.V.I.S กล่าวปฏิเสธทันที

 

“นี่เป็นสถานการณ์เร่งด่วน ไม่มีเวลาจจะมามัวขออนุญาติเเล้ว เริ่มระบบซะ ฉันจะไปอธิบายกับนิคภายหลัง!”โทนี่ รู้ดีว่า ระบบ ดาร์ม่าคริส จะต้องได้รับการอนุญาติจากนิค เเต่ภูมิภาคในสถานที่เเห่งนี้ไม่สามารถติดต่อกับพื้นที่ภายนอกได้ การคุกคามของประตูมิติอวกาศสีฟ้านี้ไม่สามารถมองข้ามได้อย่างชัดเจน

 

ระบบ ดาร์ม่าคริส คือระบบที่ โทนี่ เเละ S.H.I.E.L.D. ร่วมมือกันพัฒนาขึ้นมันคือการสั่งการดาวเทียมพิเศษที่โคจรใกล้โลกเพื่อโจมตีไปยังตำเเหน่งเป้าหมายที่เลือก อาวุธพิเศษนี้อยู่ในครอบครองของฐานอวกาศเเละมันประกอบไปด้วยดาวเทียมโคจร 24 ดวง ดังนั้น โทนี่ จึงไม่สามารถละเลย การได้รับคำสั่งจาก S.H.I.E.L.D. ได้เพราะไม่อย่างั้นเพียงเเค่การโจมตีของระบบดาร์ม่าคริส ก็เพียงพอที่จะทำลายล้างโลกเเล้ว

 

โดยธรรมชาติทุกองค์กรไม่ควรจะออกแบบอาวุธลับเหล่านี้ออกมา เเต่เพราะมันได้รับการร่วมมือกันของหลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเงินของโทนี่ เเน่นอนว่าอาวุธนี้ต้องได้รับการตรวจสอบจากสภาความมั่นคงของโลก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดใช้ในเเต่ละครั้ง ก็ต้องได้รับอนุมัติยินยอมต่าง ๆ นี่คือเหตุผลที่ J.A.R.V.I.S เตือนโทนี่

 

หลังจากโทนี่กล่าว J.A.R.V.I.S ไม่ได้ตอบทันที เขากำลังประเมินวิถีดาวเทียมที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด เพื่อที่จะโจมตีลงมายังพื้นที่ภูมิภาคเเห่งนี้ได้อย่างเเม่นยำ

 

ในขณะที่ J.A.R.V.I.S กำลังไตร่ตรองอยู่ ประตูมิติอวกาศก็ปลดปล่อยคลื่นพลังงานอีกครั้ง คราวนี้ โทนี่ ได้สั่งการยิงปืนใหญ่พลังงานออกไปมากกว่า 100 เครื่อง ทำให้ พลังงานของเตาปฏิกรณ์อาร์คกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว

 

ติ๊ด !

 

เเจ็คสันเเละคนอื่น ๆ ที่กำลังกังวลกับการตัดสินใจของ J.A.R.V.I.S ที่ข้างหูของเเจ็คสัน ก็ปรากฏเสียงเตือนขึ้น

 

“มิราจไนท์!,สไปเดอร์แมน! ในที่สุดฉันก็ติดต่อพวกคุณได้ พวกคุณโอเครใช่มั้ย!”เสียงของ เจอร์รี่ ได้ส่งมาจากฐานของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

ทันทีที่เเจ็คสันได้ยินเสียงของเจอร์รี่ เพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ ในทีมก็ได้ยินเช่นเดียวกัน สำหรับกัปตันโรเจอร์ส สีหน้าของเขาตกใจเล็กน้อย เพราะภูมิภาคเเห่งนี้ถูกปิดตาย การส่งข้อมูลหรือรับข่าวจึงเเทบจะเป็นไปไม่ได้

 

“เจ้านายครับ,พื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดถูกปิดกั้นการเชื่อมต่อไม่สามารถเชื่อมต่อกับหัวหน้านิคได้!”J.A.R.V.I.S ได้ส่งเสียงพูด ดูเหมือนเขาได้ประมวลผลตัดสินใจตามระบบที่ถูกออกแบบมานั่นก็คือความสมบูรณ์ มันจึงต้องอยู่ในข้อตกลงที่ทำ

 

ครื่นน!

 

โทนี่ ที่ได้ยินคำตอบเขาเตรียมจะบ่นอะไรออกมา เเต่ด้านหน้าของเขากลับปรากฏสายฟ้าขนาดยักษ์ผ่าลงมาที่กลางสะพานโกลเด้นเกต สายฟ้าสีขาวได้ปรากฏขึ้นเเละสลายหมอกควันหนาจำนวนมากที่ถูกปกคลุมภายในพื้นที่เเห่งนี้

 

เปรี้ยง!

 

สายฟ้าสีขาวขนาดยักษ์มุ่งตรงไปที่คลื่นพลังที่มองไม่เห็น หากจะบอกว่าพลังใดที่น่ากลัวที่สุดในโลกเเน่นอนย่อมเป็นพลังจากธรรมชาติ พริบตาเดียว คลื่นพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาก็ถูกโจมตีจนสลายหายไป

 

“เทพเจ้าสายฟ้า?”

 

“สตอร์ม!”

 

เมื่อเห็นสายฟ้าสีขาวขนาดใหญ่ผ่าตรงกลางประตูมิติอวกาศ เเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมนรู้สึกประหลาดใจ เพียงเเต่ ชื่อที่ทั้งสองคนเรียกนั้นเเตกต่างกัน

 

หลังจากได้ยินชื่อที่ ไอซ์แมน เรียกนั้น เเจ็คสันยิ้มอย่างขมขื่น เขาลืมไปว่า ตอนนี้ ธอร์ ยังไม่ได้ฟื้นคืนพลังเเละกำลังทำงานเลี้ยงสุนัขจรจัดอยู่ในนิวยอร์ก บุคคลที่ปรากฏขึ้นนั้นคือหนึ่งในทีม X-MEN หรือก็คือ สตอร์ม

 

สตอร์มคือ มิวแทนท์ระดับ 4 ขั้นสูง ดังนั้น สตอร์ม จึงจัดว่าอยู่ในกองกำลังรบหลักของ ทีม X-MEN

 

ดูเหมือนกำลังเสริมจากทีม X-MEN จะเดินทางมาถึงกันเเล้ว มันค่อนข้างเป็นเรื่องโชคดีภายใต้การที่ไม่สามารถส่งสัญญาณตำเเหน่งให้พันธมิตรล่วงรู้ได้ในตอนนี้

 

ครึ่มม!

 

หมอกหนาทึบที่ถูกโจมตีจากสายฟ้าขนาดใหญ่ราวกับว่ามันมีชีวิตมันกำลังฟื้นตัวกลับมาภายใต้พลังของประตูมิติอวกาศอีกครั้ง

 

“หมอกกำลังก่อตัวขึ้นใหม่!”นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่สตอร์มทำการโจมตีดูเหมือนมันกำลังจะเริ่มก่อตัวขึ้นใหม่อีกครั้ง

 

ระหว่างที่หมอกกำลังก่อตัวขึ้นที่ด้านนอกดูเหมือน S.H.I.E.L.D. ก็เดินทางมาถึงเเล้วเหมือนกัน เครื่องบินควินเจ็ท หลายสิบลำ ได้ปรากฏขึ้นเหนือหมอกหนาทึบด้านล่างของสะพานโกลเด้นเกตในตำเเหน่งไม่ห่างไกลจากประตูมิติมีร่างของหญิงสาวผมสีเงินดวงตาที่เย็นชายืนอยู่ รอบ ๆ ตัวเธอมีประกายสายฟ้า พร้อมกับที่ด้านหลังคือ พายุทอร์นาโด

 

นอกเหนือจากกำลังรบสำคัญอย่างไอรอนเเมน ในที่สุด ก็ปรากฏความหวังอื่น ๆ ตามมาสมทบ ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวในร่างสายฟ้า เเละ S.H.I.E.L.D. ที่มาพร้อมกับกองทัพขนาดใหญ่ โทนี่จ้องมองไปที่กองกำลังรบเหล่านั้นพร้อมกับเเววตาเจียน ๆ

 

“ดูเหมือนว่าคงไม่จำเป็นจะต้องใช้การโจมตีทางอากาศเเล้วสินะ”เห็นกองกำลังเสริมที่รอคอยปรากฏตัวขึ้น โทนี่ ไม่มีเเผนที่จะเรียกใช้ระบบดาร์ม่าคริสอีก

 

นิคบนยานควินเจ็ทจ้องมองไปที่สถานการณ์เบื้องล่างก่อนที่จะกล่าวสั่งออกมา”ระดมทุกการโจมตี!”

 

หึ่ม!

 

ทันทีที่โทนี่มาถึงชุดเกราะไอรอนแมนสามตัวก็ปลดปล่อยพลังงานเเรงสูงจากหน้าอกผสานเข้ากับการโจมตีของพวกเเจ็คสัน เเน่นอนว่าการโจมตีของเตาปฏิกรณ์อาร์คของโทนี่ทั้ง 3 อันรวมกันนั้นย่อมรุนเเรงกว่าสายฟ้าสังหารเเจ็คสันมาก

 

เพียงเเต่เเม้จะผสานการโจมตีกับชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ มันก็เพียงพอเเค่ชะลอความเร็วของคลื่นความผันผวนที่ถูกปล่อยมาเพียงเท่านั้น มันยังไม่เพียงพอที่จะดันให้การโจมตีของคลื่นถอยกลับได้

 

“โทนี่,คุณคงไม่ได้นำกองทัพไอรอนแมนมาเพียงเท่านี้ใช่มั้ย?”ในขณะที่เห็นไอซ์แมนยืนตั้งรับอย่างยากลำบาก เสียงของ เเจ็คสัน ได้กล่าวตะโกนอย่างกังวล

 

“หึ่ม,ของจริงมันพึ่งจะเริ่มเพียงเท่านั้น!”ได้ยินเเจ็คสันเรียกชื่อตัวเองแบบห้วน ๆ โทนี่ ไม่ได้โกรธ เพราะสถานการณ์มันเร่งด่วนอย่างมาก

 

ครื่น!

 

ทันทีที่โทนี่ตอบเสียงของวัตถุบางอย่างก็พุ่งมาด้วยความเร็วสูง เเจ็คสันรู้ได้ในทันทีว่ากองทัพไอรอนแมนของโทนี่ได้บินมาถึงเเละมันก็มากกว่าร้อยตัว บางทีกองทัพระดับนี้อาจกระทั่งสามารถหยุดการโจมตีของสเปซอินฟินิตี้สโตนได้ เเต่มันก็ไม่มีอะไรรับประกันว่ากองทัพไอรอนแมนกว่าหนึ่งร้อยตัวจะสามารถชนะได้

 

เป็นเพราะว่าอินฟินิตี้สโตนยังอยู่ในมือของพวกไฮดร้า เเละ มันเป็นถึงอาวุธระดับจักรวาล ไม่มีใครสามารถร่วงรู้ความเเข็งเเกร่งที่เเท้จริงของมันได้ดีไปกว่าเเจ็คสันในตอนนี้ ถึงเเม้พวกไฮดร้าจะครอบครองมันอยู่ เเต่การปลดปล่อยพลังของอินฟินิตี้สโตนโดยสมบูรณ์ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

“J.A.R.V.I.S,ส่งมอบของขวัญ!!”เห็นการสนับสนุนของกองทัพตัวเองมาถึง โทนี่ กล่าวสั่งการทันที

 

“ครับเจ้านาย!”ทันทีที่ J.A.R.V.I.S, ได้รับคำสั่งเขาควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนทั้งร้อยตัวมุ่งหน้าไปเพื่อเริ่มชาร์จพลังงานปืนใหญ่ตรงหน้าอก

 

เปรี้ยง!

 

ปั้ง!

 

วินาทีต่อมาคลื่นปืนใหญ่พลังงานถูกยิงออกไปยังทิศทางด้านล่างโดยเฉพาะฉากเบื้องหน้าของลำเเสงกว่าร้อยสายนี้ชวนให้เเจ็คสันที่มักสงับเยือกเย็นยังต้องสำผัสรู้ตื่นถึงความเเข็งเเกร่ง

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันจ้องมองไปที่การโจมตีอันรุนเเรงของกองทัพไอรอนแมน ตอนนี้ทักษะสายฟ้าสังหารของเขาได้สลายหายไปหมดเเล้ว นับจากนี้การโจมตีของเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องเข้าร่วมเพราะมันไม่สำคัญตราบเท่าที่มีกองทัพโทนี่อยู่ที่นี่

 

ก่อนหน้าที่โทนี่จะมาถึงเเจ็คสันรู้สึกกดดันอย่างมากไม่เพียงเเต่ความตายที่เข้ามาใกล้เขารู้สึกหมดหวังจนเเทบจะคิดหาทางหนีไม่เจอท้ายที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจทุ่มสุดตัวเพื่อต้านทานพลังของมันเเละโทนี่ก็ปรากฏตัวเพื่อช่วยเหลือในการมอบความหวังให้กับพวกเขา

 

“หายไปซะ!”ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ ไอซ์แมนพลันปลดปล่อยพลังไอความเย็นของตัวเองออกไปข้างหน้าอีกครั้ง

 

ฟิ้ว!

 

คลื่นลำเเสงพลังงานจากชุดเกราะไอรอนแมนได้ทำการระเบิดพื้นที่ก่อนที่ไอความเย็นของไอซ์แมนจะก่อตัวเเม้พลังทั้งสองจะดูเหมือนขัดเเย้งกันเเต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่ามันจะไม่ได้ผล

 

วิ้ว!!

 

ไม่นานไอซ์แมนที่ปลดปล่อยคลื่นไอความเย็นอย่างต่อเนื่องก็ไม่สามารถสนับสนุนได้อีกต่อไป ดูเหมือนพลังของเขาจะถูกสูบออกไปใช้จนหมด ชาโดว์เเคท ที่อยู่ด้านหลังของเขา ได้เข้าไปประคองในทันที

 

การโจมตีของกองทัพไอรอนแมนของโทนี่นับว่าเป็นการโจมตีที่สมบูรณ์แบบ เเต่พวกเเจ็คสันก็ยังไม่ได้คลายความกังวลออก เนื่องจากการโจมตีของไอรอนแมนยังคงถูกพุ่งเข้าไปเข้าปะทะกับคลื่นพลังที่มองไม่เห็น

 

กึก

 

“มันหยุดเเล้วงั้นหรอ?”เเจ็คสันสัมผัสได้ว่าคลื่นพลังไม่ได้รุกล้ำเข้ามาอีกมันค่อย ๆ ถูกลำเเสงพลังงานกว่า 100 สาย เข้ากดดันจนล่าถอยออกไป

 

หลายคนที่เห็นเช่นนั้นกลายเป็นดีใจในทันที พวกเขาไม่คิดเลยว่าคลื่นพลังที่เหมือนกับประตูยมโลกเมื่อครู่ที่กำลังจะพรากชีวิตของพวกเขากำลังถูกไล่ต้อนกลับไปเเม้จะมองไม่เห็นเเต่พวกเขาก็ย่อมสัมผัสได้ ในวินาทีที่มันไล่กวดพวกเขา พวกเขาล้วนหวาดกลัวอย่างเเท้จริง

 

“พวกเราทำสำเร็จสินะ!”เเจ็คสันเองก็ดีใจไม่เเพ้กัน

 

ตอนนี้จากสัมผัสของเขาคลื่นพลังงานเริ่มถูกดันกลับเข้าไปยังวังวนของพื้นที่ประตูมิติอวกาศจนใกล้จะสลายไปเต็มที เเจ็คสันเชื่อว่าหากเขารู้ตั้งเเต่เเรกว่าพวกไฮดร้าครอบครอง สเปคอินฟินิตี้ สโตน เขาจะร้องขอกองกำลังของโทนี่ เเละ ทีม X-MEN อย่างสุดกำลัง เขาจะไม่ชะล่าใจเหมือนตอนนี้เเน่นอน

 

กึก ึก

 

“ตรวจพบคลื่นพลังงานที่คล้ายกัน!”ในขณะที่ เเจ็คสัน เเละ เพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ กำลังดีใจกับพลังงานปืนใหญ่เเสงกว่าร้อยสายของโทนี่ ไม่นานลำเเสงพลังงานของโทนี่ที่ดันคลื่นพลังงานลูกเเรกก็ถูกดันเข้าไปในประตูมิติก่อนที่ J.A.R.V.I.S, จะกล่าวเตือนถึงคลื่นพลังงานที่คล้ายกันในการโจมตีระลอกเเรกออกมา

 

ฟึ่มมม

 

จากนั้นประตูมิติอวกาศก็พลันตอบสนองอีกครั้งมันได้ปลดปล่อยคลื่นความผันผวนที่สมบูรณ์ออกมาคราวนี้พวกเขาเเทบทุกคนสามารถสัมผัสได้ว่ามันรุนเเรงกว่าการโจมตีครั้งเเรกขนาดไหน

 

ปั้ง!

 

 

เกือบจะทันทีลำเเสงกว่าร้อยสายของโทนี่ได้ถูกดันกลับอย่างรวดเร็ว การโจมตีของคลื่นระลอกที่สองสามารถที่จะกดดันคลื่นปืนใหญ่พลังงานของโทนี่ได้

 

“หึ่ม! J.A.R.V.I.S, เตรียมพร้อมใช้อาวุธพัฒนาล่าสุดของเรา!”เมื่อเห็นสถานการณ์ที่ไม่เป็นดั่งคาดหวัง โทนี่ ตะโกนอย่างเร่งรีบ

 

“ครับเจ้านาย!”

 

กึก!

 

J.A.R.V.I.S, ตอบสนองในทันที

 

ทันใดนั้นทุ่นลอยพิเศษก็ปรากฏออกมาจากไหล่ของชุดเกราะไอรอนแมนกว่าหนึ่งรอยตัว ดูเหมือนมันจะคืออาวุธพิเศษที่โทนี่เเอบพัฒนาอย่างลับ ๆ

 

“อาวุธรูปแบบใหม่?…”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันดวงตาเปร่งประกายไปที่ชุดเกราะไอรอนแมน

 

คลื่นน~!~!~!

 

บนทุ่นลอยที่ปรากฏออกมานั้นเริ่มปรากฏพลังงานความร้อนเเปลก ๆ มันเเตกต่างจากปืนใหญ่พลังงานหรือเลเซอร์มาก เเละตัวคลื่นความร้อนเหล่านั้น ราวกับไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันจะปลดปล่อยอะไรออกมา

 

“การโจมตีเลียนแบบเวทมนตร์?โทนี่สามารถทำสำเร็จเเล้วงั้นหรอ?”เเจ็คสันจ้องมองไปที่คลื่นความร้อนเเปลก ๆ บนทุ่นลอยหลังไหล่ของชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมาก เขารู้สึกสงสัยภายในใจ

 

ในที่สุด เเจ็คสันก็มองเห็นความหวัง ไม่นานคลื่นความร้อนเหล่านั้นก็พ่นเเสงสีทองที่งดงามออกมาก่อนที่จะโจมตีไปที่ประตูมิติอวกาศ

 

“ได้ผลรึไม่!”เเจ็คสันตะโกนออกมาพร้อมกับการโจมตีที่ปรากฏขึ้น

 

อย่างไรก็ตามเหนือจากความประหลาดใจของเเจ็คสัน โทนี่ กลับขมวดคิ้วเเน่นราวกับเขารู้สึกไม่พอใจอะไรบางอย่าง

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่ไอซ์แมนยกเเขนขึ้นรัศมีพลังสีฟ้าได้เเพร่กระจายออกมาจากตัวของเขา ไอซ์แมนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วกลิ่นอายพลังเเห่งความเย็นถูกปลดปล่อยออกมาจนถึงขีดสุด

 

ไอซ์แมนได้เลิกที่จะหลบหนีเขาต้องการป้องกันการโจมตีของ สเปซอินฟินิตี้สโตน

 

หึ่ม!

 

พื้นที่เเช่เเข็งของไอซ์แมนได้ปกคลุมพื้นที่โดยรอบเเห่งนี้โดยมีรัศมีจุดศูนย์กลางคือเขามันคือพื้นที่เยือกเเข็งบริสุทธิ์

 

จุดเยือกเเข็งบริสุทธิ์ก็คือร่างของไอซ์แมนที่ถูกปกคลุมไปด้วยความเย็นเขาปล่อยพลังงานออกมาเต็มที่เพื่อที่จะสะกดพลังที่พุ่งเข้ามาเบื้องหน้า

 

ในฐานะที่เป็นมิวแทนท์ระดับ 5 พื้นที่เเช่เเข็งสมบูรณ์ของเขาสามารถเเช่เเข็งการโจมตีเเทบทุกชนิดได้ในระยะเวลาอันสั้นเเต่มันก็ค่อนข้างกินพลังงานของเขาเช่นเดียวกัน ความสามารถระดับนี้ถือว่าเป็นความน่ากลัวต่อมนุษย์ธรรมดาบนโลกอย่างเเท้จริง

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าทันทีที่พลังงานเข้ากระทบกับเขาร่างของไอซ์แมนราวกับกำลังจะพังทลายลงเขาสัมผัสได้ถึงการรุกรานของพลังงานที่เเข็งเเกร่งเพราะตอนนี้เขามีร่างที่เสถียรภาพทำให้สามารถต้านทานได้พอสมควร เเต่เขาเชื่อว่าอีกไม่นานเขาจะต้องถูกโจมตีผ่านทะลุไปอย่างเเน่นอน

 

“คิตตี้,เธอรีบหนีไปเร็ว!”ไอซ์แมนได้ยืนบล็อคการโจมตีที่พุ่งเข้ามา เเละ ตะโกนบอก ชาโดว์เเคทที่อยู่ด้านหลัง เเม้เขาจะพลาดท่าถูกการโจมตีนี้กลืนกิน เขาก็หวังว่า คิตตี้ จะสามารถรอดไปได้

 

อย่างไรก็ตามในฐานะคนรักของไอซ์แมน คิดตี้ ย่อมไม่ยอมทิ้งเขาไปโดยเฉพาะสถานการณ์แบบนี้ เเม้ชาโดว์เเคทจะไม่สามารถเป็นกองกำลังที่เเข็งเเกร่งได้เเต่เธอก็มีความสามารถถ่ายโอนพลังงานให้กับคนอื่นหรือก็คือการสนับสนุน

 

ฟุ่บ!

 

เห็นชาโดว์เเคทไม่เลือกที่จะจากไปไอซ์แมนไม่ได้พูดอะไรอีก เเต่ปะทุการระเบิดไอพลังงานความเย็ฯออกมาอีกครั้ง ตอนนี้ ไอซ์แมนได้ควบคุมประสิทธิภาพการปะทุจนถึงจุดสูงสุด หากการโจมตีป้องกันของเขาไม่สามารถหยุดการโจมตีที่มองไม่เห็นนั่นได้ ไอซ์แมนก็ไม่รู้ถึงวิธีกำราบพวกมันเเล้ว

 

ปั้ง

 

เเม้ไอซ์แมนจะได้รับการสนับสนุนพลังจากชาโดว์เเคท เเละ สามารถปลดปล่อยประสิทธิภาพสูงสุดของไอเยือกเเข็งได้ เเต่พลังงานความผันผวน ก็สามารถกดดันเขาเข้ามาเรื่อย ๆ ไอซ์แมนรู้สึกเเปลกใจอย่างมาก การโจมตีของเขาสามารถจบชีวิตมิวแทนท์ระดับ 4 ได้อย่างง่ายดาย เเต่เขากลับไม่สามารถต้านทานพลังงานลึกลับได้

 

“!”ไอซ์แมนที่ต้านทานพลังชั้นผิวน้ำเเข็งของไอซ์แมนเริ่มที่จะเกิดรอยปริเเตกทีละน้อย หากเป็นแบบนี้ต่อไปเขาจะไม่สามารถยืนหยัดได้อีก

 

หึ่ม

 

ปั้ม!

 

ในขณะที่ไอซ์แมนกำลังเผชิญหน้ากับการโจมตี ขณะนั้นเองก็มีคลื่นพลังงานความผันผวนดังสั่นออกมาจากข้างหลังของเขามันยิงไปทางเบื้องหน้าของไอซ์แมนราวกับว่ากำลังสนับสนุนการโจมตีของไอซ์แมน นี่คือการโจมตีของ ปืนใหญ่ระเบิดไฟ

 

หึ่ม!

 

เเม้ปืนใหญ่ระเบิดไฟจะทรงพลังมาก เเต่มันก็ยืนหยัดได้ไม่ถึงวินาทีก่อนที่ทุกอย่างจะหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

“อย่าได้ยอมเเพ้,เเม้ปืนใหญ่ระเบิดไฟจะไม่ได้ผล เเต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่ามันจะเป็นเช่นนั้นตลอด!”ไอซ์แมนราวกับได้ยินเสียงมาจากด้านหลังของเขา

 

มันเป็นเสียงของมิราไจนท์

 

การระเบิดขึ้นเมื่อครู่ เเจ็คสันได้ยิงปืนใหญ่ระเบิดไฟออกมาทั้งเขายังยิงมันอย่างต่อเนื่อง เขาไม่รู้ว่าการโจมตีของเขาจะสามารถช่วยเหลือไอซ์แมนได้หรือไม่ เเต่เเน่นอนว่าเขาเลือกตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่เเละไม่ยอมเเพ้

 

ทันทีที่ยิงปืนใหญ่ระเบิดไฟไปจนหมด เเจ็คสัน ก็เรียกดาบของตนเองออกมา

 

“สายฟ้าสังหาร!”

 

ฟุ่บ!

 

คลื่นพลังงานสีม่วงเเพรวพราวได้ปะทุขึ้นก่อนที่จะพุ่งออกมาในรูปของพระจันทร์เสี้ยวเเละตรงไปยังการโจมตีที่มองไม่เห็นต่อท้ายจากการระเบิดของปืนใหญ่ระเบิดไฟ

 

!

 

ในขณะที่เเจ็คสันทำการโจมตี สไปเดอร์แมน เอง ก็ปล่อยใยเเมงมุมโจมตีอย่างไม่หยุด ใยเเมงมุมของเขาเป็นชนิดพิเศษที่เเข็งเเกร่งมาก ส่วนกัปตันโรเจอร์ส ก็ขว้างโล่ของเขาออกไป ส่วน เเฮร์รี่ เเดร์เดวิล พวกเขาไม่มีอาวุธโจมตีระยะไกลทำให้ไม่สามารถช่วยโจมตีได้

 

ปั้ง

 

การโจมตีผสานของพวกเขาพุ่งไปยังการโจมตีที่มองไม่เห็นเเม้การโจมตีผสานนี้จะดูไร้ประสิทธิภาพเเต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะหยุดพลังจากการโจมตีของอินฟินิตี้สโตนนี้อย่างไร

 

ถึงการโจมตีของพวกเขาจะไม่ได้ผลเเต่การปะทุพลังของไอซ์แมนราวกับว่ามันกำลังส่งผลเเม้เพียงเล็กน้อยการโจมตีที่มองไม่เห็นนั้นยังคงไม่ถูกทำลายเเต่เห็นได้ชัดว่าความเร็วของมันลดลงจริง ๆ

 

“ไม่ดีเเล้ว,พวกคุณรีบหนีไปเร็วเข้า!”ไอซ์แมนรู้สึกว่าเขามาถึงทางตันเเละไม่สามารถยืนหยัดได้อีก เขาตะโกนบอกพรรคพวกที่อยู่ด้านหลัง

 

เพียงเเต่ ทันทีที่ไอซ์แมนตะโกนออกไป ทุกคนราวกับไม่ได้สนใจเสียงเรียกร้องของเขาพวกเขายังคงต้องการอยู่ต้านการโจมตีนี้เป็นเพื่อนไอซ์แมน

 

“มาลองอีกครั้ง! สายฟ้าสังหาร!”เเจ็คสันไม่ต้องการปล่อยให้ไอซ์แมนเผชิญหน้าอยู่คนเดียว เขาตัดสินใจที่จะปลดปล่อยทุกการโจมตีที่มีเพื่อที่จะหยุดมัน

 

ฟุ่บ!

 

รังเเสงสีม่วงเเพรวพราวในรูปแบบพระจันทร์เสี้ยวปรากฏขึ้นอีกครั้งก่อนที่พุ่งตรงไปด้านหน้า

 

สไปเดอร์แมนเองก็ได้ทำการโจมตีออกไป นอกจากนี้ ปืนใหญ่ระเบิดไฟก็พลังงานหมด โล่ของกัปตันโรเจอร์ส ก็ถูกขว้างไปเเล้ว คราวนี้การโจมตีผสานของพวกเขาลดน้อยลง

 

!

 

เพียงเเต่ในขณะที่การโจมตีของพวกเขาพุ่งเข้าไปด้านหน้า พวกเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างก่อนที่มันจะพุ่งเข้าไปยังการโจมตีรวมของพวกเขา

 

ฟิ้ว!

 

ลำเเสงเลเซอร์ทั้งสามได้พุ่งออกมาไล่ตามการโจมตีสีม่วงด้านหน้าเพื่อร่วมกันโจมตีการโจมตีที่มองไม่เห็นนั่น เเละ การโจมตีของลำเเสงเลเซอร์ที่ว่านี้ก็มาจากชุดเกราะไอรอนแมน ดูเหมือนในที่สุด โทนี่ ก็มาสมทบพวกเขา

 

“ฮ่าฮ่า,พวกนายไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริง ๆ !”ทันทีที่ยิงลำเเสงเลเซอร์ทั้งสามออกไป เสียงของโทนี่ก็ลอยมาจากบนอากาศ

 

ปั้ง!

 

ทันทีกระสุนปืนใหญ่ระเบิดไฟเข้ากระทบกับเป้าหมายเเสงสว่างวาบก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับจุดฉนวนเปลวไฟจำนวนมากจนทำให้พื้นที่โดยรอบเเสบตาจากเเสงนี้

 

อึ้ก

 

เปลวเพลิงจากการระเบิดได้ขยายไปทั่วตำเเหน่งของประตูมิติอวกาศพริบตาเดียวก็กลืนประตูมิติอวกาศจนลับสายตาของคนหลายคน

 

เพียงเเต่เเม้การโจมตีจะโดนเป้าหมาย เเต่ เเจ็คสันจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศตาไม่กระพริบเขาไม่เชื่อว่ามันจะง่ายขนาดนี้ โดยเฉพาะโดยรอบยังมีกองทัพหุ่นยนต์ปกป้องอยู่ เเต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ไม่ได้ขัดขวางการระเบิดจนทำให้กระสุนพุ่งเข้าตรงสู่ประตูมิติอวกาศโดยตรง

 

!

 

หุ่นยนต์ที่อยู่โดยรอบประตูมิติอวกาศเเม้พวกมันจะถูกสร้างขึ้นจากโลหะพิเศษเเต่เกราะของพวกมันดูเหมือนกำลังละลายภายใต้ความรุนเเรงที่ยิ่งใหญ่ของปืนใหญ่ระเบิดไฟ

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ในช่วงที่หุ่นยนต์กำลังถูกหลอมละลายโดยเปลวไฟประตูมิติอวกาศนั่นก็สั่นออกมาอย่างเเปลก ๆ ก่อนที่เเสงสีเงินจะดูดซับเปลวไฟเหล่านั้นจนหายไปทั้งหมด

 

“นั่นคือ….”เห็นเเสงสีเงินดูดซับเปลวไฟเข้าไป เเจ็คสัน ตกใจทันที

 

“มิราจไนท์…”

 

หึ่ม

 

ไม่เพียงเเต่เเจ็คสันเพียงเท่านั้น เเม้เเต่คนอื่น ๆ ก็รู้สึกช็อค พวกเขารับรู้ประสิทธิภาพของปืนใหญ่ระเบิดไฟดี เพียงเเต่พวกเขาเห็นชัดเจนว่ากระสุนได้กระทบเข้ากับเป้าหมายเเละระเบิดเต็ม ๆ เเต่ในเวลานี้ ประตูมิติอวกาศกลับปรากฏขึ้นสู่สายตาของพวกเขาอีกครั้งทั้งมันยังคงเสถียรภาพเช่นเดิม

 

ถ้าจะพูดให้ถูก ปืนใหญ่ระเบิดไฟ ไม่ได้ทำอันตรายให้กับประตูมิติอวกาศ เรียกว่าไม่มีผลเลยดีกว่า ราวกับว่าเอาปืนฉีดน้ำ ไปยิงเล่นใส่อาคารให้มันเปียกเพียงเท่านั้น

 

นอกจากนี้ประตูมิติอวกาศยังสามารถลบการโจมตีผันผวนอย่างเปลวเพลิงที่ถูกเเยกตัวออกมา มันดูดเปลวเพลิงเหล่านั้นเข้าไปทั้งหมดจนสถานที่เเห่งนี้ไม่เคยเกิดเปลวเพลิงไหม้ขึ้นมาก่อน

 

หึ่ม!

 

เเสงสีฟ้าของประตูมิติอวกาศได้ถูกส่งออกมาในรูปแบบของคลื่นพลังมันได้ระเบิดออกเเละกระจัดกระจายเปป็นวงกว้าง เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ ที่เห็นการโจมตีกำลังพุ่งเข้ามาจากเบื้องหน้าพวกเขาเตรียมที่จะถอยหนีทันที

 

“ท่าไม่ดีเเล้ว!”

 

“ถอยกลับเร็วเข้า!”

 

หลังจากเห็นเเสงสีฟ้าที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากประตูมิติอวกาศ เเจ็คสันรู้สึกใจสั่นอย่างเเรง เขาไม่สนเเล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นรีบตะโกนให้คนอื่น ๆ รีบหลบหนีจากสถานที่เเห่งนี้ ซึ่ง ปีเตอร์ กับ เเฮร์รี่ ที่อยู่ไกลสุดได้หลบหนีออกไปก่อน

 

นอกจากเเจ็คสัน เเล้ว กัปตันโรเจอร์ส ไอซ์แมน เเละ ชาโดว์เเคท รวมถึง เเดร์เดวิล ก็ได้ถอนตัวออกไปพร้อม ๆ กัน พวกเขาไม่สนใจว่าเเสงสีฟ้าที่ถูกยิงออกมาคืออะไร มีเเต่เดดพูล เท่านั้นที่รู้สึกสงสัยจนชะลอความเร็วการหลบหนีเเละหันกลับไปมองมัน

 

“อึก!”เเต่ว่าเขาก็หันกลับมาเเละพบว่าคนอื่น ๆ ได้วิ่งนำหน้าเขาไปเเล้ว เดดพูล ไม่ต้องการรอช้า เขาเร่งสปีดกลับไปเหมือนเดิมเพื่อหวังจะไล่ตามเพื่อน ๆ ให้ทัน

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่า คลื่นความผันผวนนั้นได้พุ่งเข้ามากวาดทะลุร่างของเขา เดดพูล ไม่รู้สึกเจ็บเเม้เเต่น้อย เขารู้สึกสงสัยว่าคลื่นพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมานั้นคืออะไร

 

เเต่ก็มีบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

 

เดดพูลที่เดิมไม่รู้สึกเจ็บปวด ตอนนี้ เขากลับไม่รู้สึกว่าเขาจะสามารถขยับร่างกายของตัวเองได้ ราวกับว่าร่างกายของเขาได้ตายไปเเล้ว

 

ชะตากรรมของเดดพูล เเจ็คสัน ย่อมยังไม่รู้ในตอนนี้ เขารู้เพียงเเค่ว่ามีเทพเจ้าเเห่งความตายกำลังไล่กวดมาที่ด้านหลังของพวกเขา ไม่ว่าอย่างไรเขาจำต้องหลบหนีออกจากจุดนี้ให้เร็วที่สุด

 

ส่วนไอซ์แมน ได้เปลี่ยนร่างผลึกน้ำเเข็งเขาสร้างพื้นที่้สไลด์เเละใช้ร่างน้ำเเข็งเพื่อหลบหนีด้วยความเร็วสูงความเร็วของเขาไม่ด้อยไปกว่า เเจ็คสัน เเม้เเต่น้อย ที่ตามหลังสุดก็คือ กัปตันโรเจอร์ส เเละ เเดร์เดวิล

 

ดูจากความเร็วของคลื่นความผันผวนที่มองไม่เห็นเเต่สัมผัสได้นี้ ไม่ช้าก็เร็วมันก็อาจจะเเซงหน้าพวกเขาไป เเจ็คสัน ไม่รู้ว่า พวกมันจะพุ่งออกมาจนไปถึงตำเเหน่งของพ่อมด รุ่ยเคอ เเจ็ค เเละ คนอื่น ๆ เลยหรือไม่

 

“จะทำอย่างไรดี? พวกเราจะต้านทานการโจมตีเหล่าน้ได้อย่างไร นอกจากนี้มันยังมาจาก สเปซอินฟินิตี้สโตน ระบบ คุณสามารถช่วยเหลือฉันได้ไหม!”ในขณะที่กำลังวิ่งหนีอยู่ เเจ็คสัน ได้รีบคิดหาหนทางกระทั่งเริ่มขอความช่วยเหลือจากระบบ

 

อย่างไรก็ตามระบบก็ไม่ได้ตอบสนองใดๆ เเม้ระบบจะสามารถตอบสนอง เเต่อำนาจของเขาก็คงไม่สามารถช่วยเหลือ เเจ็คสัน จาการโจมตีของ สเปซอินฟินิตี้สโตน ได้ ก่อนที่ เเจ็คสันจะหลบหนี ชั่วพริบตาที่เเสงสีฟ้าออกมา เขาสังเกตุเห็นลาง ๆ ถึง ลูกบาศก์สีเงิน ที่ถูกยื่นออกมานอกประตู

 

สิ่งนี้สามารถอธิบายได้เเล้วว่าทำไมพวกไฮดร้าถึงสามารถสร้างประตูมิติได้

 

เเต่ที่น่าเเปลกใจก็คือ เดิม มันควรจะเป็นของ S.H.I.E.L.D เพราะ S.H.I.E.L.D ได้ช่วยเหลือชีวิตกัปตันโรเจอร์สขึ้นมา หรือว่าพวกเขาไม่พบ สเปซอินฟินิตี้สโตน พวกมันกลับถูกพบโดยพวกไฮดร้า เเทน

 

อาจเป็นเวลาหลายปีท่พวกไฮดร้าได้พัฒนาพลังของ เเทสเซอเเรค อย่างลับ ๆ อย่างน้อยก็ผสานมันเข้ากับการโจมตีของกองทัพตนเองจนสามารถกดดันเเจ็คสันได้

 

ขณะนั้นเองพวกเขาที่กำลังหลบหนี ไอซ์แมน ที่วิ่งไปได้สักพักก็ได้หยุดที่ด้านหน้า

 

“เป็นแบบนี้พวกเราคงหนีไม่พ้นเเน่นอน! ฉันจะหยุดมันไว้เองพวกคุณรีบหนีไปเร็วเข้า!”ไอซ์แมน เห็น กัปตันโรเจอร์ส เเละ เเดร์เดวิล ที่ตามมาจากด้านหลัง เขาตะโกนขึ้น

 

ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีที่คุกคามขนาดไหน ไอซ์แมน ก็มีความมั่นใจในตัวเอง การได้มาซึ่งพลังของมิวแทนท์ระดับ 5 ไม่ใช่ความเเข็งเเกร่งเพียงอย่างเดียว ต้องบอกว่าเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง

 

“โรเบิร์ต กลับมาเร็วเข้า! นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณจะสามารถหยุดมันได้!”เห็นไอซ์แมนต้องการจะปิดกั้นคลื่นพลังที่พุ่งเข้ามา เเจ็คสันตะโกนอย่างเป็นห่วง

 

คนอื่นอาจจะยังไม่ทราบว่าสิ่งนี้คืออะไร เเต่มันคือสุดยอดอาวุธที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาล หนึ่งในอินฟินิตี้สโตนที่ทรงพลังที่สุด

 

ตอนนี้มีเพียงวิธีเดียวที่เเจ็คสันคิดว่าพอจะหลบหนีได้ คงได้เเต่ภาวนาว่าระยะของคลื่นพลังจะไม่ไกลมากเกินกว่าที่พวกเขาจะหลบหนีได้ สำหรับ เดดพูล เเจ็คสัน หวังว่าเขาจะไม่เป็นอะไร

 

เพียงเเต่ไอซ์แมนกลับไม่ได้เลือกที่จะเชื่อคำพูดของมิราจไนท์ เห็นได้ชัดว่าเขาเอาจริง เเม้เเต่ชาโดว์เเคท ก็หยุดอยู่ที่ข้างหลังของไอซ์แมน

 

ฟุ่บ!

 

“เยือกเเข็งสมบูรณ์!”ไอซ์แมนได้ตะโกนออกมาพร้อมกับกางเเขนทั้งสองข้างออกอย่างดุเดือด

ปั้ง

 

ในขณะที่ เเจ็คสัน เเละ หลายๆ คน ตัดสินใจที่จะทำลายประตูมิติอวกาศของพวกไฮดร้า โทนี่ ที่เจอศึกทางด้าน ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ตวิช ตอนนี้ เขาถูกทำลายกองทัพไอรอนแมนจนเหลือเพียงเเค่ 3 ตัวเพียงเท่านั้น

 

เเม้จะเหลือเพียงเเค่ 3 ตัวที่สามารถใช้งานได้ เเต่โทนี่ ก็ไม่ได้กังวล เพราะกำลังเสริมของเขาได้มาถึงเเล้ว เเละ ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มันเป็นกองทัพไอรอนแมนมากกว่า 80 ตัว

 

นอกเหนือจากกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ ก็ยังมียานรบควินเจ็ท ของ S.H.I.E.L.D. จำนวนหลายลำ ซึ่งนอกเหนือจากเครื่องบินควินเจ็ทของ S.H.I.E.L.D. เเล้ว ก็ยังมีเครื่องบินความเร็วสูงของ ทีม X-MEN

 

เเม้ทีม X-MEN จะเป็นทีมที่เต็มไปด้วยพวกมิวแทนท์ เเต่จุดเริ่มต้นของพวกเขาก็มาจากวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี ยิ่งไปกว่านั้นหลายสิบปีก่อน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเละ เเม็กนีโต อีริค เคยร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐ ในขณะนั้นพวกเขาได้ศึกษาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากที่สุด

 

หลังจาก ชาร์ลส์ เเละ เเมกนีโต เเยกตัวจากกัน ในทีม X-MEN ก็ยังมีมิวแทนท์ ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีเเละการวิจัยอยู่ ซึ่งก็คือ เเฮงค์ หรือ ดร.เฮนรี่ ที่เป็นมิวแทนท์ สัตว์กลายพันธุ์

 

ดังนั้นในทีม X-MEN จึงไม่ได้มีเพียงเเค่ผู้ที่มีความสามารถต่อสู้เท่านั้น พวกเขายังรวมหลาย ๆ สิ่งไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี พลัง เเละ สติปัญญา เข้าด้วยกันจนก่อเกิดขึ้นเป็นทีม X-MEN

 

กองทัพไอรอนแมนของโทนี่ เเละ เครื่องบินรบ ของ S.H.I.E.L.D. ได้มุ่งหน้าไปทาง ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการจัดการทั้งสองคน ก่อน เพราะทั้งสองคนเป็นจุดเเข็งที่สามารถหยุดกองทัพไอรอนแมนของโทนี่

 

ปั้ง!

 

“เปโตร,พวกเราควรรีบหนีในตอนนี้!”มองเห็นกองทัพไอรอนแมนจำนวนมากเเละลำเเสงเลเซอร์ที่ถูกยิงเข้ามา สกาเล็ต วิช ตะโกนร้องขึ้น

 

คำสั่งของพวกไฮดร้าคือให้พวกเขาปิดกั้นกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ เเต่สถานการณ์ในปัจจุบันเกินกว่าที่พวกเขาจะรับมือได้ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ตวิช ไม่ได้โง่ พวกเขาไม่ได้คิดจะยอมตายเพื่อพวกไฮดร้า

 

ปั้ง

 

ได้ยินสกาเล็ตวิช ตะโกน ควิกซิลเวอร์ ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างเธอทันที ตอนนี้ผิวของเขาซีดลงอย่างเห็นได้ชัด การต่อสู้ระยะยาวดูเหมือนจะส่งผลต่อร่างกายของเขา

 

“ฉันเองก็คิดแบบนั้น”ควิกซิลเวอร์ กล่าวตอบ

 

“ตอนนี้กองทัพไอรอนแมนของโทนี่ เเละ กองกำลังของ S.H.I.E.L.D. ได้มารวมตัวกันเเล้ว ไม่รู้ว่า พวกไฮดร้า จะเอายังไงต่อ ดูเเล้วพวกเขาน่าจะมีเเผนรับมืออยู่!”ควิกซิลเวอณ์กล่าวเสริม หลังจากเห็นกองทัพไอรอนแมนเเละเครื่องบินรบจำนวนมาก

 

“นายจะบอกว่าพวกไฮดร้าจะมีเเผนรับมืองั้นหรอ?ก็อาจจะจริงเท่าที่ฉันเห็นดูเหมือนพวกไฮดร้าจะถอนทัพออกมาราวกับกำลังตั้งใจจะทำบางอย่าง”สกาเล็ตวิช กล่าวตอบโต้

 

“อืม,พวกมันไม่ได้เเจ้งพวกเราด้วยซ้ำว่าต้องการจะทำอะไร ดูเหมือนพวกมันเพียงเเค่ต้องการให้พวกเรารับศึกด้านหน้าเเทนเพียงอย่างเดียว!”เกี่ยวกับเเผนการของพวกไฮดร้า ควิกซิลเวอร์ เองก็ไม่รู้รายละเอียดมาก

 

“เช่นนั้นพวกเราควรจะรีบหนีหรือไม่? ไม่เพียงเเต่เราไม่รู้การเคลื่อนไหวของศัตรูเเม้เเต่ฝ่ายเราเอง ก็ยังไม่เเน่ใจเรื่องเเผนการ”ควิกซิลเวอร์กล่าวถามอีกครั้ง

 

“อืม,พวกเราควรถอย พวกเราได้ทำหน้าที่หยุดกองทัพไอรอนแมนเเละประสบความสำเร็จไปเเล้ว”ควิกซิลเวอร์ กล่าวตอบก่อนที่จะโอบเอวของเธอ

 

“ไว้เจอกันใหม่!”ควิกซิลเวอร์โบกมือบ้ายบายไปทางกองทัพไอรอนแมนในทันที

 

ฟุ่บ! พริบตาเดียวทั้งสองคนก็หายตัวไปจากระยะสายตาของโทนี่ ซึ่ง โทนี่ ก็ให้ J.A.R.V.I.S สเเกน ตรวจสอบไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งสองคนมีเเผนการอื่นอีกหรือไม่

 

“เจ้านายครับ,พวกเขาหลบหนีไปเเล้ว!”หลังจาก J.A.R.V.I.S สเเกนไม่พบทั้งสองคน เขาก็กล่าวรายงานทันที

 

“เเม้เเต่ตอนหนีก็ยังไวขนาดนี้เชียว!”โทนี่จ้องมองไปที่พฤติกรรมของ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ตวิช เขารู้สึกเหยียดหยามทั้งสองคนมากที่เลือกที่จะหลบหนี เเต่ก็ไม่เเปลก เพราะโทนี่ ได้นำกองทัพไอรอนแมนมาจำนวนมาก

 

“ไปกันเถอะ,สถานการณ์ทางฝั่งมิราจไนท์เป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ กระจายกองกำลังไอรอนแมนไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อทำการสนับสนุน ทันที”โทนี่ บังคับชุดเกราะไอรอนแมนออกไป เเละ กล่าวสั่งการไปยัง J.A.R.V.I.S

 

เเน่นอนว่าโทนี่ ไม่ได้คาดคิดว่าฝ่ายของเขาจะพ่ายเเพ้ เเต่คนของเขาก็มีน้อยกว่าศัตรู นอกจากนี้ พวกฮอว์กอาย หรือ นาตาชา เเบล็ควิโดว์ พวกเขาไม่ได้อ่อนเเอ เเต่การเผชิญหน้ากับกองทัพหุ่นยนต์จำนวนมาก ทำให้พวกเขาไม่สามารถเเสดงความเเข็งเเกร่งที่เเท้จริงออกมาได้

 

!

 

โทนี่ได้บังคับชุดเกราะไอรอนแมนทั้งสามตัวที่เหลือออกมาจากพื้นที่ตรงนั้น

 

 

ในระหว่างที่ควิกซิลเวอร์เเละสกาเล็ตวิช หลบหนีออกจากสะพานโกลเด้นเกต ทางฝั่งเเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ พวกเขาก็ได้เดินทางมาถึงพื้นที่ใกล้เคียงประตูมิติอวกาศ ในตอนนี้พวกเขาค้นพบกองทัพหุ่นยนต์จำนวนมากท่หายตัวไป ดูเหมือนพวกมันจะมารวมตัวกันที่นี่ เเละ กำลังปกป้องประตูมิติอวกาศ

 

ไม่เพียงเเต่กองทัพหุ่นยนต์เท่านั้น ยังมีพวกมิวแทนท์จำนวนมากที่ซ่อนตัวอยู่เเถวนั้น

 

“ทำไมพวกมันถึงมารวมตัวกันอยู่ที่นี่?หรือว่าพวกมันจะถอยทัพ?”เห็นกองทัพหุ่นยนต์จำนวนมากรายล้อมไปรอบประตูมิติอวกาศเเฮร์รี่กล่าวพูดขึ้น

 

“ฉันไม่คิดว่าพวกมันจะถอยทัพ หากพวกมันคิดจะถอยควรจะล่าถอยกันไปนานเเล้ว นอกจากนี้ ประตูมิติอวกาศนั่นยังเสถียรมาก ราวกับว่าพวกมันเตรียมจะขนถ่ายบางสิ่งที่ดูน่ากลัวออกมา”เเจ็คสันปฏิเสธความคิดของเเฮร์รี่

 

“ไม่ว่าเเผนของพวกมันจะคืออะไรก็ตาม พวกเราก็จะต้องหยุดพวกมันให้ได้”กัปตันโรเจอร์สกล่าวออกมา เขามีความคิดที่จะทำลายพวกไฮดร้าทั้งหมด

 

“ฉันรู้”เเจ็คสันพยักหน้าให้กับความคิดของกัปตันโรเจอร์ส

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้เริ่มเคลื่อนไหวก่อนที่จะเล็งปากกระบอกปืนของปืนใหญ่ระเบิดไฟออกไป กระสุนของปืนใหญ่ได้เล็งไปที่ตำเเหน่งหน้าประตูมิติอวกาศก่อนที่จะเกิดการระเบิดขึ้น

 

ปั้ง!

 

บึ้ม!

เมื่อ เเจ็คสัน กัปตันโรเจอร์ส เเละ เเดร์เดวิล มารวมตัวกัน พวกเขาก็สามารถรวมพลังกันกำจัดหุ่นยนต์ได้จำนวนมากก่อนที่จะเดินมาที่เบื้องหน้าของพ่อมดรุ่ยเคอ ตอนนี้ สมาชิกทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ เองก็ได้รับบาดเจ็บ

 

เเจ็คสันเห็นพ่อของตัวเองปลอดภัยเขาเองก็โล่งใจเเต่เขาก็ไม่ได้ผ่อนคลายมากนักเพราะสถานที่เเห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยศัตรู

 

“เเจ็คนายไม่เป็นไรใช่มั้ย?”เห็นเเจ็คบาดเจ็บสาหัสเเจ็คสันกล่าวถามอย่างเป็นห่วง

 

“ฉันปลอดภัยดีไม่ถึงตายหรอก”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เเจ็ค กล่าวตอบ เขารู้ว่า มิราจไนท์เป็นห่วง เเต่เพื่อป้องกันความกังวลของคนในทีมเขาจึงต้องพูดแบบนี้ออกมา

 

“เเจ็คจะต้องไม่เป็นอะไรฉันได้ใช้ยารักษากับเขาไปเเล้วหากเขาได้พักผ่อนสักหน่อยก็คงจะหายดีในเร็ว ๆ นี้”เห็นเเจ็คสันกังวล เเฮร์รี่ กล่าวเสริม

 

ในฐานะประธานใหญ่ของออสคอร์ป ตอนนี้เเฮร์รี่ได้เร่งผลิตยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษา ตัวยายีนนี้ดีกว่ารุ่นเเรก เเต่มันไม่มีผลข้างเคียง เเต่ประสิทธิภาพที่ได้รับก็ค่อนข้างลดลงอย่างเห็นได้ชัด

 

“หึ่ม,หากไม่ใช่เพราะยาของคุณป่านนี้ฉันคงลุกขึ้นมาวิ่งเองได้เเล้ว”ได้ยินคำพูดของเเฮร์รี่ เเจ็ค รู้สึกเหน็บเเนมเล็กน้อย เพราะเขาไม่สามารถขยับร่างกายได้

 

“มิราจไนท์ พวกเราจะเอายังไงกันต่อ รอกำลังเสริมจาก S.H.I.E.L.D. เเละ ทีม X-MEN ?”เกี่ยวกับการเรียกร้องของเเจ็ค สไปเดอร์แมน ไม่ได้สนใจ เขากล่าวออกมา

 

เเม้ศึกครั้งนี้พวกเขาจะทำลายกองทัพหุ่นยนต์ไปมาก เเต่ก็ยังเหลือกองทัพหุ่นยนต์ที่ยังเหลืออีกจำนวนมากเช่นเดียวกัน นอกเหนือจากนี้ ยังมีพวก มิวแทนท์ ของพวกไฮดร้า มาเสริมอีกด้วย

 

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นทางด้านกองกำลังหรือความเเข็งเเกร่งพวกของเเจ็คสันกลับเป็นฝ่ายเสียเปรียบกว่ามาก ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังได้รับบาดเจ็บอีก

 

“วิธีที่ปลอดภัยก็คือเกาะกลุ่มกันรอกำลังเสริมเเละจัดการศัตรู เเต่ฉันมีลางสังหรณ์ว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ เเจ็คสัน ย่นคิ้วเล็กน้อย

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์หลายคนสะดุ้งเล็กน้อย

 

สไปเดอร์แมน”ฉันเองก็รู้สึกเหมือนกัน”

 

เดดพูล”ฉันด้วย”

 

“ฉันเองก็รู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี”ในที่สุดกัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่น ๆ ก็รู้สึกมีลางสังหรณ์คล้ายกัน

 

ดูเหมือนว่านอกเหนือจากเเจ็คสันเเล้ว คนเหล่านี้ก็ยังมีสัมผัสของเหล่าตัวเอกที่สามารถรับรู้ได้ถึงลางร้ายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น จะบอกว่านี่เป็นเรื่องที่ดีก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าพวกไฮดร้าจะส่งอะไรมาเพิ่มนอกจากพวกกองทัพหุ่นยนต์หรือพวกมิวแทนท์หรือไม่

 

เเต่สำหรับ S.H.I.E.L.D. ,ทีม X-MEN ,ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ กองกำลังไอรอนแมนของโทนี่ กองกำลังของทั้ง 4 ฝ่ายที่รวมกันนี้ ถือว่าเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ เเม้พวกไฮดร้าจะมีไผ่ที่ซ่อนอยู่ในมือมากน้อยเพียงใด เเต่หากพวกมันคิดจะทำลายพวกเขาทั้งหมด เเน่นอนว่าพวกมันย่อมต้องสูญเสียจำนวนมากเช่นเดียวกัน

 

“เช่นนั้นพวกเราจะลงมือจัดการพวกมันต่อ?”ได้ยินคำพูดของคนอื่น ๆ เเฮร์รี่ เสนอความคิดหากพวกเขารั้งจะรออยู่เฉย ๆ คงไม่พ้นเดินเกมตามเเผนของพวกไฮดร้า

 

“นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย”เเจ็คสัน ที่เห็นพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยต่อพวกเขาทำให้เขารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

 

เพราะสถานที่เเห่งนี้ราวกับถูกตัดจากโลกภายนอก ไม่ว่าจะเป็นความสามารถของ บลิงก์ ประตูมิติอวกาศของพ่อมดรุ่ยเคอ บางทีนี่อาจจะเป็นหนึ่งในเเผนที่พวกไฮดร้าเตรียมเอาไว้

 

“มีบางคนกำลังมา”เมื่อทุกคนกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ เเดร์เดวิล กล่าวเตือนขึ้น

 

ตึก ตึก~

 

อย่างไรก็ตามเมื่อทุกคนมองไปยังทิศทางที่เเดร์เดวิลเตือน พวกเขาก็เห็น ไอซ์แมน โรเบิร์ต เเละ ชาโดว์เเคท คิตตี้

 

ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจมากไปกว่าการได้เจอมิตรท่ามกลางสมรภูมิรบนี่เป็นสิ่งที่ โรเบิร์ตคิด เเต่เขากลับไม่ได้รู้สึกดีใจมากขนาดนั้น

 

“ดูเหมือนว่าพวกคุณเองก็เผชิญหน้าสถานการณ์เดียวกับพวกเรา”ไอซ์แมนที่เห็นกลุ่มคนจำนวนมากเขาขมวดคิ้วเเละกล่าวออกมา

 

“หืม,สถานการณ์อะไร?”ได้ยินคำพูดของไอซ์แมน เเจ็คสัน รู้สึกสงสัย สถานการณ์ที่โรเบิร์ตหมายถึงบางทีอาจเกี่ยวข้องกับลางสังหรณ์ของเขา

 

“พวกกองทัพหุ่นยนต์ เเละ มิวแทนท์ จำนวนมาก ได้ถอยกลับไป พวกคุณไม่สังเกตุงั้นหรอว่าทำไมพวกเราถึงมารวมตัวกันที่นี่ง่ายขนาดนี้?”ได้ยินความสงสัยของ มิราจไนท์ ไอซ์แมน อธิบาย

 

ในขั้นต้น ที่ ไอซ์แมน เเละ ชาโดว์เเคท มารวมตัวกันที่นี่ได้ ไม่ใช่เพราะพวกเขาจัดการพวกหุ่นยนต์เเละพวกมิวแทนท์จนหมด เเต่เพราะพวกมันเลือกที่จะถอนตัวออกไป

 

เดิมที ไอซ์แมน ต้องการทุ่มกำลังกำจัดพวกมันสุดตัว เเต่เขาก็สังเกตุเห็นความผิดเเปลกขึ้นทำให้เขาเลือกที่จะถอยเพราะไม่รู้ว่าศัตรูวางเเผนอะไรไว้กันเเน่

 

“พวกหุ่นยนต์ถอยทัพกลับ?”ได้ยินคำพูดของไอซ์แมน เเจ็คสัน จ้องมองเป็นประกาย เขากวาดสัมผัสเทคนิครู้เเจ้งของตัวเองไปรอบ ๆ

 

หมอกหนาทึบที่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่เเห่งนี้ ทำให้ เทคนิครู้เเจ้ง มีผลลดลงอย่างมาก เเต่เเจ็คสันก็ยังสามารถสัมผัสรู้รอบตัวได้ เขาไม่เห็นกองทัพของศัตรูอยู่บริเวณรอบ ๆ นี้เลย

 

“ที่พวกไฮดร้าถอยเป็นเพราะพวกมันกลัวกองกำลังสนับสนุนของพวกเราหรือไม่?”ปีเตอร์เสนอความคิดเเต่เขาเองก็ไม่เชื่อว่าพวกมันจะกลัวเพราะเรื่องเเค่นี้

 

“พวกไฮดร้าได้จ่ายราคาครั้งใหญ่ในการเคลื่อนกองทัพขนาดนี้ พวกมันไม่คิดจะถอยกลับไปง่าย ๆ อย่างเเน่นอน”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ เเจ็คสันส่ายศีรษะ เขาตระหนักได้ถึงความผิดปกติที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น

 

“ไม่ว่าพวกไฮดร้าจะวางเเผนอะไร มันต้องเกี่ยวข้องกับประตูมิติอวกาศนั่นอย่างเเน่นอน ดังนั้นเราจะต้องทำลายประตูมิติอวกาศนั่นให้ได้!”เห็นมิราจไนท์กำลังครุ่นคิด กัปตันโรเจอร์ส เสนอความเห็นในทันที

 

กัปตันโรเจอร์สนั้นถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีความสามารถเป็นผู้นำสูง เขาสามารถประเมินสถานการณ์โดยรวมเเละตัดสินใจได้ในที่สุด

 

จริง ๆ เเล้วหลังจากได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส ประกายนัยน์ตาของคนหลายคนก็สว่างวาบขึ้น พวกเขา

 

“ฉันเห็นด้วย!”

 

“ฉันด้วย!”

 

“เป้าหมายของพวกเราคือทำลายประตูมิติอวกาศ”

 

เพียงพริบตาเดียวพวกเขาก็ยืนยันความเห็นตรงกันทุกคน

ปั้ง

 

ปั้ง!

 

ในสนามรบไม่เพียงเเต่พวกเเฮร์รี่เเละคนอื่น ๆ เท่านั้นที่ได้รับเเรงกดดัน ทางด้านโทนี่ ที่เผชิญหน้ากับ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ตวิช เองก็ไม่น้อยน่า

 

เพราะมีการคำนวณของ J.A.R.V.I.S ทำให้กองทัพไอรอนแมนจำนวนมากสามารถที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตีความเร็วสูงของควิกซิลเวอร์ได้ เเต่ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้น ปัญหาเเท้จริงก็คือ สกาเล็ตวิช ต่างหาก ความสามารถของเธอ ชุดเกราะไอรอนแมนไม่สามารถป้องกันได้

 

ตอนนี้สภาพสมบูรณ์พร้อมของกองทัพไอรอนแมนโทนี่เหลือเพียงเเค่ 7 เเต่ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ตวิช ก็ยังใช้ความสามารถของตัวเองอย่างต่อเนื่อง

 

หากโทนี่ต้องการรอให้อีกฝ่ายหมดเเรงก่อน โทนี่เกรงว่าจะเป็นฝ่ายเขาที่ถูกจัดการก่อนทั้งหมดยิ่งไปกว่านั้น J.A.R.V.I.S ยังสามารถตรวจสอบได้ถึงความผิดปกติของพื้นที่นี้อีกด้วย

 

ปั้ง!

 

“เวรเอ้ย! J.A.R.V.I.S กำลังเสริมของเราจะมาถึงเมื่อไหร่!”โทนี่ยิงเลเซอร์พลังงานสามตัวไปทางสกาเล็ตวิช เเละ หลบหลี่ยงออกมา เขาตะโกนถาม J.A.R.V.I.S

 

“ประมาณ 1 นาทีครับ เจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ตอบกลับในทันที

 

“หนึ่งนาที?ฮ่าฮ่า เมื่อกองทัพไอรอนแมนของฉันมาถึงฉันจะเเสดงให้เพื่อนสองคนนี้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่น่าสนใจ!”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ตะโกนออกมาราวกับบ้าคลั่ง เเม้เขาจะสูญเสียกองทัพไอรอนแมนไปจำนวนมาก เเต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าคิดมาก

 

ฟุ่บ!

 

ภายใต้ความตื่นเต้นของโทนี่ ชุดเกราะไอรอนเเมนของเขาก็ถูก สกาเล็ตวิช ควบคุม โชคดีที่ได้ J.A.R.V.I.S ปรับค่าพลังงานเพื่อดีดสลัดหลุด ไม่งั้นโทนี่คงถูกโยนลงไปใต้สะพานโกลเด้นเกตเเล้ว

 

สกาเล็ตวิช ที่เห็นอย่างนั้นเธอเองก็ไม่ได้ท้อถอย เธอพยายามรวบรวมการโจมตีควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนให้เขามาในระยะของควิกซิลเวอร์ให้เขาจัดการ เเต่โชคร้าย ภายใต้การคำนวณของ J.A.R.V.I.S มันทำให้เธอไม่ง่ายที่จะทำอย่างนั้น

 

 

ฟวั่บ!

 

ขณะเดียวกันเเจ็คสันก็จัดการศัตรูด้านหน้าทั้งสองตัวเเละกลับมาถึงทางด้านพ่อมดรุ่ยเคอ เเละ พ่อของเขา หลินไฮ่ ตอนนี้ พ่อมดรุ่ยเคอ กำลังรักษาอาการบาดเจ็บของพ่อมดไต้เหวิ่นอยู่ นอกจากนี้ ยังมีคนนอกอย่าง หลินไฮ่ อยู่ที่นี่ ทำให้การรักษาเป็นไปได้อย่างเชื่องช้า เพราะเขาต้องปกป้องคนนอกด้วย

 

ฟุ่บ!

 

ปั้งปั้ง!

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังจะมุ่งไปจัดการศัตรูที่ด้านหน้าอีกครั้งเท้าของเขาก็ได้หยุดลงก่อนที่จะเห็นเงาร่างสองคนปรากฏขึ้น

 

ตึก ตึก~

 

เงาร่างทั้งสองเดินเข้ามายังทิศทางของเเจ็คสัน ,เเจ็คสัน เห็นเงาร่าง สีฟ้า ตั้งตระหง่านเดินเข้ามาพร้อมกับโล่ในมือ ส่วนอีกคนนึงก็สวมใส่เสื้อคลุมสีดำพร้อมกับถือไม้เท้า

 

ทั้งสองคนที่ปรากฏตัวขึ้นก็คือ กัปตันโรเจอร์ส เเละ เเดร์เดวิลเเมตต์ ดูเหมือนว่ากองกำลังของ S.H.I.E.L.D. ที่ลงมาสนับสนุนเขาท้ายที่สุดก็สามารถบุกฝ่ากองทัพหุ่นยนต์มารวมตัวที่ตำเเหน่งกลางสะพานได้ เเต่นี่ไม่ใช่เรื่องน่าดีใจ เพราะสถานการณ์ฝั่งทางพวกเขายังเป็นรองอยู่

 

“มิราจไนท์! โชคดีที่ได้พบคุณ สถานการณ์ในพื้นที่เเถวนี้มีความผิดเเปลกพวกเราควรล่าถอยกันก่อน”ทันทีที่เห็นมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส เสนอความคิดตัวเอง

 

เเม้กัปตันโรเจอร์สจะสังเกตุเห็นบุคคลบนไหล่ของมิราจไนท์ เเต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา ส่วนเเดร์เดวิล เขามองไม่เห็น เเต่เขาก็จับสัมผัสได้ว่านี่เป็นกลิ่นอายที่คุ้นเคยอย่างทหารวินเทอร์โซลเยอร์ของพวกไฮดร้า

 

“ฉันเองก็คิดแบบนั้น สถานการณ์บนสะพานถูกรบกวนด้วยคลื่นพลังงานของมิติอวกาศ พวกไฮดร้าได้เปิดประตูมิติอวกาศขึ้น ทำให้ พื้นที่เเถวนี้กลายเป็นผิดปกติ พวกเราควรล่าถอยเเละไปรวมตัวกันให้เร็วที่สุด!”เเจ็คสันพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส

 

“ประตูมิติอวกาศ?นี่เป็นของพวกไฮดร้า?มิราจไนท์ คุณกำลังจะบอกว่าพวกไฮดร้ามีเทคโนดลยีประตูมิติอวกาศใช่หรือไม่?”กัปตันโรเจอร์สที่ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

“อืม,ไม่เช่นนั้นพวกไฮดร้าจะซ่อนกองทัพหุ่นยนต์จำนวนมากเหล่านี้ไว้ได้อย่างไร เเน่นอนว่าพวกมันไม่มีทางซ่อนไว้ที่นี่ตั้งเเต่เริ่มต้นอยู่เเล้ว?”เเจ็คสันตอบ

 

“เทคโนโลยีประตูมิติอวกาศ! พวกไฮดร้ามีของแบบนี้ได้ยังไงกัน?”กัปตันโรเจอร์สไม่ได้สนใจคำหยอกล้อของมิราจไนท์ เขากำลังสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

เมื่อไม่นานมานี้ S.H.I.E.L.D. ได้ทำการซุ่มโจมตีพวกไฮดร้าเเละทำลายฐานของพวกมันได้อย่างราบรื่น เเละพวกเขาก็คิดว่าการทำลายองค์กรไฮดร้า คงจะบรรลุผลอีกไม่นาน ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้น เเต่ใครจะคิดว่าพวกไฮดร้าจะงัดอาวุธลับออกมาใช้ มันเป็นเทคโนโลยีที่เเข็งเเกร่ง จนเเม้เเต่กัปตันโรเจอร์สยังตกใจ

 

“คุณจะสงสัยคำพูดของฉันก็ไม่เเปลก เดิม S.H.I.E.L.D. ของคุณควรจะเป็นคนครอบครองสิ่งนี้ก่อนพวกมัน เเต่ใครจะคิดว่าพวกไฮดร้าจะมีอาวุธลับที่ร้ายกาจขนาดนี้”เห็นกัปตันโรเจอร์สขมวดคิ้ว เเจ็คสัน กล่าวออกมา

 

ได้ยินคำพูดของ มิราจไนท์ เเม้เเต่กัปตันโรเจอร์สก็พูดไม่ออก เเน่นอนว่าพวก S.H.I.E.L.D. จะต้องทำการสืบสวนเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด

 

“เป็นอย่างที่คุณว่ามา อย่างน้อย S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้ ก็กำลังมีโปรเจคทำการวิจัยเกี่ยวกับประตูมิติอวกาศอยู่ เเต่พวกเขาไม่ได้มีพื้นฐานทำให้การวิจัยเป็นไปได้อย่างเชื่องช้า”ก่อนหน้านี้ นิค เองก็บอกกับ กัปตันโรเจอร์ส เกี่ยวกับการทดลองพื้นที่ประตูมิติอวกาศ เเต่มันล้มเหลว

 

“เป็นไปได้อย่างไร?หากพวกไฮดร้ามีอุปกรณ์มิติเหล่านี้เเต่เเรกพวกมันก็สมควรใช้มานานเเล้ว…”เเจ็คสันที่ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์สเขารู้สึกสงสัยมาก

 

S.H.I.E.L.D. จะไม่มีต้นแบบได้อย่างไร ในช่วงที่พบกัปตันโรเจอร์ส ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะต้องเจอ เทสเซอเเรค ด้วยหรอกหรอ อินฟินิตี้สโตน ก้อนนั้นสมควรตกไปอยู่กับพวก S.H.I.E.L.D. ถึงจะถูก เเต่ไฮดร้ากลับสามารถใช้เทคโนโลยีหรือพลังของ เทสเซอเเรค ได้ หรือว่าพวกไฮดร้า ได้ขโมยพวกมันไป จาก S.H.I.E.L.D.

 

หาก S.H.I.E.L.D. ไม่ได้ครอบครอง เทคโนโลยีที่ว่านี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เทสเซอเเรค ย่อมอยู่ในมือของพวกไฮดร้า เเจ็คสัน นึกภาพที่พวกมันใช้พลังของอินฟินิตี้สโตนไปในทางที่ผิด เขาก็เเทบจะบ้าคลั่งออกมาเเล้ว

 

“อืมเรื่องนี้พวกเราเองก็สงสัยกันอยู่,เเม้เเต่นิคเองก็กำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้พอสมควร”กัปตันโรเจอร์สไม่รู้ว่ามิราจไนท์คิดอะไร เพียงเเต่ เขาก็ได้พูดออกมา

เเม้ทอมจะถูกจัดการโดยเเจ็คสันเเละมีกองทัพหุ่นยนต์จำนวนมากที่ถูกทำลาย เเต่ส่วนเหล่านี้ก็เป็นเพียงเเค่เศษเล็ก ๆ ของกองทัพพวกไฮดร้า ตอนนี้คนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ ทีมพันธมิตรอเวนเจอร์ส รวมถึง ไอซ์แมน เกือบทุกคนก็ได้รับบาดเจ็บกันหมด

 

ฟุ่บ!

 

ด้านหน้าของ ชาโดว์เเคท เธอถูกล้อมโดยพวกหุ่นยนต์อีกครั้ง เเต่สายตาของเธอได้ไปตกอยู่ที่ร่างของไอซ์แมน เเม้ไอซ์แมนจะได้รับบาดเจ็บเเต่บาดเเผลกลับไม่ได้ใหญ่มาก เพราะไอซ์แมนมีความเเข็งเเกร่งที่สามารถจัดการพวกกองทัพหุ่นยนต์ได้พร้อมกันเป็นสิบ ๆ ตัว เเต่นั่นก็ย่อมสร้างภาระให้ไอซ์แมนมากเช่นเดียวกัน

 

มิวแทนท์ระดับ 5 มีความสามารถกลายพันธุ์ที่เเข็งเเกร่ง เเต่กุญเเจสำคัญของพวกเขาก็คือพลังงานที่ถูกปลดปล่อยออกมาตามความสามารถ หรือก็คือขีดจำกัด นี่เป็นปัญหาร้ายเเรงของพวกมิวแทนท์ระดับสูง ในช่วงที่ ไอซ์แมนไป ช่วยเเม่ของเเจ็คสัน เเมรี่ นั้นเขาได้ปลดปล่อยพลังงานระดับสูงออกมา ทำให้ ในระยะเวลาอันสั้นนี้เขาไม่สมควรใช้พลังไม่งั้นจะได้รับผลตีย้อนกลับ

 

เเต่ไอซ์แมนก็ยังฝืน เขาฝืนรับมือกับกองทัพหุ่นยนต์จำนวนมาก จากเริ่มเเรกที่สามารถรับมือได้ กำลังฝีมือของเขาก็กำลังอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เเม้จะมีชั้นน้ำเเข็งเป็นเกราะป้องกันหนา เเต่มันก็ไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้ใน สำหรับ ชาโดว์เเคท ด้วยความสามารถของเธอ เธอสามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีได้ทั้งหมด เเต่ความเเข็งเเกร่งในการต่อสู้ของเธอกลับอ่อนเเอเกินไป

 

ปั้ง

 

เเคร๊ก!

 

ในที่สุดชั้นน้ำเเข็งของไอซ์แมนก็เเตกเป็นเสี่ยง ๆ ภายใต้การโจมตีด้วยลำเเสงเลเซอร์จำนวนมาก ไอซ์แมนพยายามจะสร้างชั้นน้ำเเข็งขึ้นมาอีกครั้งเพียงเเต่ว่าการก่อรูปของเขามันช้ากว่าเดิมจนถึงที่สุด ชาโดว์เเคท รู้ดีว่า พลังของไอซ์แมน กำลังจะหมดลง

 

ชาโดว์เเคทไม่รีรอรีบใช้ความสามารถของเธอพุ่งไปที่ ไอซ์แมนทันที

 

หลังจากเศษน้ำเเข็งกระจายหายไป ก็เผยให้เห็นร่างของไอซ์แมน ที่ถูกผลึกน้ำเเข็งที่เเตกกระจายออกบาดทั้งยังมีรอยเเผลขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น

 

“โรเบิร์ตเธอไม่เป็นอะไรนะ!”เห็นไอซ์แมนได้รับบาดเจ็บ ชาโดว์เเคท ยื่นมือออกมาสนับสนุน

 

ไอซ์แมนตอบรับมือของเธอด้วยความรู้สึกยินดีก่อนที่จะกล่าวตอบ”ฉันไม่เป็นไรฉันยังต่อสู้ไหวกรณีที่เลวร้ายที่สุดฉันก็เเค่ไม่สามารถลุกไปไหนจากเตียงได้เป็นเวลา 3 เดือน!”

 

ไอซ์แมนกล่าวออกมาเห็นได้ชัดว่าเเผลของเขาคราวนี้ไม่ใช่เล่น ๆ

 

“ไม่ได้โรเบิร์ต! เธอไม่ไหวเเล้ว! บลิงก์ได้ติดต่อศาสตราจารล์ชาร์ลส์เเล้ว เขากำลังส่งทีม X-MEN คนอื่น มาช่วยพวกเรา!”ได้ยินคำพูดของไอซ์แมน ชาโดว์เเคท รู้ทันที ว่าโรเบิร์ตต้องการจะทำอะไร

 

“ฉันรู้เเต่ว่าพวกไฮดร้าในวันนี้มีจุดประสงค์บางอย่างฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาเพียงทุ่มกำลังมากขนาดนี้เพื่อจัดการคนคนเดียว”ไอซ์แมน กล่าวออกมา

 

การกระทำของพวกไฮดร้าในวันนี้เป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างมาก เเม้พวกมันจะต้องการลักพาตัวบุคคลเพื่อดึงความสนใจของมิราจไนท์ เเต่นั่นมันก็อุกอาจมากเกินไป ที่สำคัญก็คือ ตอนนี้ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์,S.H.I.E.L.D. เเละ ทีม X-MEN ได้มารวมตัวกันที่นี่ทั้งหมด

 

ไอซ์แมนรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับเเผนการของพวกไฮดร้า นอกเหนือจากการล่อมิราจไนท์ออกมาเเล้ว พวกไฮดร้าต้องการปิดฉากพวกเขาทั้งหมดเลยหรือไม่ เพราะไม่ว่าจะเป็น กองทัพไอรอนแมนของโทนี่ S.H.I.E.L.D. เเละ ทีม X-MEN พวกเขาทั้งหมดต่างก็ร่วมมือกันจัดการพวกไฮดร้า บางทีนี่อาจจะเป็นมาตราการรวบหัวรวบหางเเละจัดการพวกเขาในคราวเดียว

 

ไม่ใช่ไอซ์แมนคนเดียวที่คิด เเม้เเต่คนอื่น ๆ ที่ทำการต่อสู้ก็เช่นเดียวกัน สะพานโกลเด้นเกต มีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก ทั้งยังมีวิสัยทัศน์ที่ค่อนข้างเเย่อย่างหมอกหนา เเม้กองกำลังสนับสนุนของกัปตันโรเจอร์สจะลงมาช่วย เเต่ในปัจจุบันพวกเขาก็ยังไม่สามารถมาบรรจบเเละร่วมมือกันในทีมของตัวเองได้

 

ตอนนี้ลูกธนูของฮอว์กอาย ได้ยิงออกมาจากมุมลับ เขาได้ใช้ยานบินในการซ่อนตัว ส่วนสถานการณ์ของฟอลคอน กลับดีกว่ามาก ด้วยประสิทธิภาพที่เเข็งเเกร่งของปีกของเขาทำให้เขาเคลื่อนไหวบนอากาศได้อย่างอิสระเเต่อาวุธเหล่านี้ก็บริโภคพลังงานเหมือน ๆ กัน

 

ตั้งเเต่ที่กัปตันโรเจอร์สลงมาถึงด้านล่างเขาก็ทำลายหุ่นยนต์ไปมากกว่าหลายสิบตัว เเต่เขาก็ยังได้รับบาดเเผลเล็ก ๆ การต่อสู้ในครั้งนี้สามารถประเมินได้ว่ากัปตันโรเจอร์สนั้นเเข็งเเกร่งขึ้นมากกว่าตอนที่เขาเผชิญหน้ากับวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นเก่า หรือ รุ่นใหม่ ที่พวกไฮดร้าสร้างขึ้นมา

 

ทางด้าน นาตาชา เอง เธอก็ใช้อุปกรณ์ของเธอในการทำลายหุ่นยนต์หลายตัว ทั้งยังต้องซ่อนตัวในสนามรบเเละลอบจัดการ เธอเหมือนกับ ฮอว์กอาย การซุ่มโจมตีคืองานถนัดของเธอ

 

ปั้ง

 

“นิคถ้าคุณยังไม่ลงมือ! มีหวังพวกเราโดนเก็บก่อนเเน่!”กัปตันโรเจอร์สได้เหวี่ยงทุบหุ่นยนต์ก่อนที่จะมองขึ้นไปบนฟ้าเขากระซิบออกมา

 

 

ปั้ง

 

“เเจ็ค!”ในสนามรบใกล้เคียง จู่ ๆ เเฮร์รี่ ก็ตะโกนออกมา

 

เเจ็ค ที่ไม่มีอาวุธเกราะป้องกันทำให้ระหว่างต่อสู้เขาได้ถูกโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส ไม่ว่าจะเป็น ต้นหา ไหล่ซ้าย เขาได้รับบาดเเผลลึกอย่างมาก นอกจากนี้ ที่ด้านหน้าของเขา ยังปรากฏมิวแทนท์สองตัว เห็นได้ชัดว่า ศึกในครั้งนี้พวกไฮดร้า นำพวกมิวแทนท์มาเข้าร่วมด้วย

 

เเฮร์รี่ที่เห็นสถานการณ์ของเเจ็คไม่ดีเขาต้องการพุ่งเข้าไปต้านทานการโจมตีให้กับเพื่อนร่วมทีมคนนี้ เเต่ด้วยความเร็วปัจจุบันเขากลับมองเห็นการโจมตีที่พุ่งออกมาจากสองมิวแทนท์เขาไม่สามารถพุ่งไปได้ทัน

 

“ไม่!”เห็นมิวแทนท์ทั้งสองคนขว้างปาอาวุธมีดไปที่ เเจ็ค เเฮร์รี่ ตะโกนด้วยความโกรธ

 

เพร้ง!

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะที่เเจ็คกำลังนอนราบอยู่บนพื้นดินไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว จู่ ๆ เงาร่างนึงก็พุ่งออกมาเเละเด็ดศีรษะของมิวแทนท์ทั้งสองคนโดยตรง

 

ตุบ~

 

ได้รับการช่วยเหลือจากหน้าประตูมรณะ เเจ็ค จ้องมองไปที่เงาด้านหน้า เขาเห็นเงาที่คุ้นเคยเดินออกมาจากหมอกหนาทึบ

 

“เดดพูล!”เห็นว่าคนที่เดินออกมาจากหมอกหนาทึบ เเจ็คตะโกนอย่างตื่นเต้น

 

“หึ! ขอโทษด้วยฉันเพิ่งถูกระเบิดศีรษะมาเมื่อครู่ทำให้ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นตัว”เห็นเเจ็คถูกโจมตีจนสาหัส เดดพูลที่มาช่วยเหลือได้ทันรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อครู่ เขาถูกระเบิดศีรษะ จนเเน่นิ่งไป เเม้เเต่สภาพตอนถูกระเบิดศีรษะเเค่นึกเขาก็ยังหวาดกลัวอยู่เลย

 

เห็นตรงหัวของเดดพูลมีรอยรู เเม้เเต่เเจ็คเองก็พูดไม่ออก

 

“เเต่สถานการณ์ทางฝั่งของเราดูเหมือนจะเเย่อย่างมาก!”มองไปที่เเจ็คที่บาดเจ็บสาหัส เเละ เเฮร์รี่ ที่กำลังเผชิญหน้ากับกองทัพหุ่นยนต์ น้ำเสียงของเดดพูล กลายเป็นหนักขึ้นเรื่อย ๆ

ปั้ง!

 

ในขณะที่ ทอม เเละ เเจ็คสันกำลังทักทายกัน หุ่นยนต์ด้านหลังของเเจ็คสัน ก็เปิดฉากยิงเลเซอร์รอบนึงไปที่ด้านหลังของเขา เเม้เเจ็คสันจะมีการป้องกันของชุดสูท เเต่เผชิญหน้ากับการลอบโจมตีที่ไม่มีอะไรมาป้องกันทบซ้อนเเม้จะเป็นเขาก็ได้รับผลกระทบจากการโจมตีในครั้งนี้

 

!

 

ทันทีที่เเจ็คสันถูกยิงจนล้มลงปืนของทอมก็เล็.ไปที่ศีรษะของเเจ็คสันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจว่าเป้าหมายจะเป็นใครขอให้ภารกิจที่ได้รับมาสำเร็จก็พอ

 

ปั้ง

 

ทอมได้ลงมืออย่างรวดเร็ว เเต่ปฏิกิริยาของเเจ็คสันเองก็ไม่ช้า เมื่อเขาเห็นทอมควักปืนพกออกมาเขาก็หลีกเลี่ยงมันในทันทีทำให้เฉียดปลายผมของเขาไปเพียงเท่านั้น

 

ทันทีที่หลบการโจมตีได้สำเร็จเเจ็คสันก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของทอมก่อนที่จะอัดพลังกำปั้นชกไปที่ท้องของทอมอย่างรวดเร็ว
ปั้ง!

 

เผชิญหน้ากับการโจมตีของเเจ็คสัน ทอมเองก็มีปฏิกิริยาตอบสนองไวมือที่ถือปืนพกได้เลื้อยมาปัดป้องกันการโจมตีของเเจ็คสันได้ทัน

 

เปรียบเทียบการเคลื่อนไหวครั้งก่อนของทอม ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ คราวนี้ ความเเข็งเเกร่งของทอมดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาก อาจกระทั่งรุนเเรงกว่า ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 5 คนที่เเจ็คสันเผชิญหน้าก่อนหน้านี้

 

ฟุ่บ!

 

“ทอม,รู้สึกตัวสักที!”เเจ็คสันที่เเลกหมัดกับทอมตะโกนขึ้นเพื่อหวังจะปลุกเขา

 

เเม้โอกาสที่จะปลุกทอมให้กลับมามีสติอีกครั้งจะมีโอกาสสำเร็จน้อยมาก เเต่ เเจ็คสันก็ไม่คิดจะยอมเเพ้ เหมือนกับทหารวินเทอร์โซลเยอร์ รุ่นก่อน บัคกี้ เป็นเพราะเขาสามารถที่จะระลึกอดีตของตัวเองเเละเรียกคืนความทรงจำได้ บางที ทอมก็อาจจะมีทางเป็นไปได้อยู่

 

“ทอม?ใครกัน?”ได้ยินเสียงตะโกนของเเจ็คสัน ทอม กล่าวพูดตอบ

 

“นายก็คือทอม…”เเจ็คสันพร้อมใจที่จะอธิบาย เเน่นอนว่าการขานตอบของทอมให้จิตใจของเเจ็คสันรู้สึกเต้นรัวเล็กน้อย

 

การเคลื่อนไหวของเเจ็คสันถูกขัดขวางด้วยกองทัพหุ่นยนต์เเละปืนเลเซอร์เหล่านั้นเเม้เขาจะหลีกเลี่ยงมันได้เเต่มันก็ทำให้เขาเสียสมดุลระหว่างเผชิญหน้ากับทอม

 

เเละที่อันตรายที่สุดก็คือหากเเจ็คสันเผลอทอมก็จะใช้ปืนพกเล็งไปที่ศีรษะของเขาเเละยิงหากเขาไม่เบนตัวหลบได้ทันเเน่นอนว่าคงพลาดท่าเเละได้รับบาดเจ็บรุนเเรงเเน่นอน เเค่ตอนนี้บริเวณหน้าผากซ้ายของเขาก็ปรากฏรอยเฉียดของลูกกระสุนกรีดทำให้เขาเลือดไหลออกมาเล็กน้อย

 

“ฉันไม่สนใจว่าใครจะเป็นทอม เเต่ฉันรู้ว่านายคือเป้าหมายภารกิจของฉัน!”เห็นเเจ็คสันไม่ได้เสียท่ากับการโจมตีของตัวเอง ทอมที่ผสานการโจมตีกับกองทัพหุ่นยนต์ เขาได้เข้าล้อมเเจ็คสันอีกครั้ง

 

เเจ็คสันที่เบนตัวหลบเขาได้ชันเข่าขึ้นหากเป็นทอมปกติเเละสามารถเห็นรูปลักษณ์ของเขาตอนนี้ เเน่นอนว่ามันน่ากลัวอย่างมาก ดวงตาสีม่วงพร้อมกับเเววตาที่เย็นชาของเเจ็คสัน เขาได้รับผลกระทบจากคำพูดของทอม คำพูดที่ว่าเขาเป็นเพียงเป้าหมายเพียงเท่านั้น

 

ปั้ง!

 

วินาทีต่อมา เเจ็คสัน ก็กระโดดหลบการโจมตีของเขาอีกครั้งตอนนี้ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประกายไฟสีม่วงเเพรวพราวดูเเล้วมันค่อนข้างผิดปกติ

 

“ทอม,นายอย่าได้บังคับฉัน!”ในสายตาของเเจ็คสัน เขาเห็นทอม เป็นเพื่อนสนิทตั้งเเต่เด็กหากเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากจะทำร้ายเพื่อนคนนี้

 

อย่างไรก็ตามที่ทอมตอบสนองเเจ็คสันมีเพียงเเค่กระสุนปืนที่ถูกยิงออกมาเพียงเท่านั้น เขาไม่สนใจว่าเเจ็คสันจะพูดอะไร เพราะตราบใดที่เควสภารกิจเป้าหมายของเขาสำเร็จก็ถือว่าทำงานเสร็จสิ้น

 

ในฐานะที่เป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่ ไม่เพียงเเต่มีศักยภาพด้านพละกำลังที่เพิ่มขึ้น เเม้เเต่การตอบสนองต่อคำสั่งเเละหน้าที่ ก็ยังรุนเเรงมากกว่าเดิมอีกด้วย

 

เผชิญหน้ากับการไม่เเยเเสของทอม เเจ็คสันเองก็ไม่คิดจะลังเลอีกต่อไป มือของเขา ค้วาจับไปที่ดาบข้างเอว ดาบสายฟ้าของเขาได้ถูกชักขึ้นมาอีกครั้ง

 

ฟุ่บ!

 

ปั้ง!

 

เเจ็คสันได้ยิงปืนใหญ่ระเบิดไฟออกไปเพื่อสร้างม่านหมอกควันหนาเเละอำพรางตัวเอง เขาถูกบังคับให้เลือกเส้นทางที่จะต้องตอบโต้ ไม่นาน เเจ็คสันก็ทำการชาร์จพลังได้เสร็จ การโจมตีที่น่าเกรงขามที่สุดของเขา : สายฟ้าสังหาร

 

หึ่ม!

 

เเสงสีม่วงได้ระเบิดออกมาอย่างรุนเเรงเเม้เเต่ทอมก็ยังหยุดชะงักฝีเท้า เขาไม่สามารถมองเห็นร่างของเเจ็คสันได้ เพียงเห็นเงาเเสงสีม่วงที่เลือนรางท่ามกลางฝุ่นควัน ยิ่งไปกว่านั้น สายตาของเขายังกระพริบเเปลกๆ ราวกับกำลังหวาดกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

โดยธรรมชาติ เเจ็คสัน ไม่ได้ตั้งใจจะใช้การโจมตีนี้สังหาร ทอม เขาเพียงต้องการจะพยายามอย่างหนักในการฆ่าหุ่นยนต์โดยรอบโดยเฉพาะการโจมตีครั้งใหญ่นี้

 

!

 

วินาทีที่พลังงานของดาบถูกชาร์จจนเต็มพริบตาเดียวรังเเสงสีม่วงก็ถูกปลดปล่อยออกมาเป็นวงกว้างรูปพระจันทร์กว่า 5 เมตร

 

มันได้กวาดยาวตัดผ่านหุ่นยนต์หลายสิบตัวด้านหน้า หุ่นยนต์ที่ถูกตัดขาดเหล่านั้นได้ระเบิดออกภายใต้การโจมตีที่น่ากลัวของ สายฟ้าสังหาร

 

บึ้ม!

 

ทันทีที่จัดการกองทัพหุ่นยนต์ไปด้วยหลายตัวเสร็จพลังงานสายฟ้าที่ถูกปลดปล่อยออกไปในรูปแบบพระจันทร์เสี้ยวมันได้พุ่งออกไปไกลกว่าหนึ่งร้อยเมตรก่อนที่จะหายไปในอากาศในที่สุด

 

ฟิ้ว!

 

หลังจากที่การโจมตีหายไปหมอกสีเทาก็ได้กลับมาปกคลุมหนาอีกครั้ง เเต่คราวนี้มันเต็มไปด้วยฝุ่นควันดำจากการระเบิดของหุ่นยนต์จำนวนมาก ตอนนี้ เเจ็คสัน มองเห็นทอมที่ไม่ตอบสนองอยู่ที่พื้นดูเหมือนเขาจะหมดสติ

 

“ขอโทษนะทอม!”

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าในขณะที่เเจ็คสันกล่าวพูดเเละเตรียมจะยื่นมือไปตรวจสอบทอม มีดในมือของทอมก็ปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของเขาพร้อมกับเเทงไปที่หลังในทันที เเจ็คสันไม่มีเวลาหลบได้ทันเขาได้เสริมความเเข็งเเกร่งของร่างกายตัวเองเพื่อต้านทานการลอบโจมตีในครั้งนี้

 

ฉึบ!

 

เเจ็คสันถูกเเทงเข้าบริเวณที่หลังเเต่ความเสียหายเเค่นั้นย่อมไม่สามารถทำอันตรายเขาได้ เเจ็คสันได้กระเเทกหมัดไปที่จุดอ่อนเพื่อทำให้ทอมหมดสติจริง ๆ ในทันที

 

กระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว เขาจ้องมองไปที่ทอมที่อยู่ด้านหน้า คราวนี้ เเจ็คสันสัญญาว่าจะไม่ให้พวกไฮดร้าพาตัวทอมไปได้อีก

 

“ครั้งนี้ฉันจะต้องพานายกลับบ้านให้ได้ ฉันสัญญา”จ้องมองไปที่ทอมที่หมดสติ เเจ็คสัน กล่าวเสียงนุ่มลึก

 

ปั้ง!

 

ในฐานลับใต้ดินของไฮดร้า บนภาพเฝ้าระวัง การเคลื่อนไหวของมิราจไนท์ที่ทำลายกองทัพหุ่นยนต์ เเละ สามารถจัดการทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ทอม ได้ในที่สุด มีเสียงกระจายจากความไม่พอใจได้เกิดขึ้น

 

“มิราจไนท์!”

ปั้ง ~ ~

 

หลังจากที่หัวของเดดพูลถูกเจาะหุ่นยนต์จำนวนมากก็เดินเข้ามา เพียงเเต่มีร่างของคนคนนึงเดินเข้ามาก่อน ลักษณะของเขาเหมือนกับทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ไม่ผิด นี่ก็คือทหารวินเทอร์โซลเยอร์ใหม่

 

เดดพูลไม่ทันได้ส่งเสียงร้องออกมาเพราะการโจมตีด้วยปืนที่รวดเร็วจนระเบิดศีรษะของเดดพูลเมื่อไม่นานมานี้

 

“เป้าหมายเดดพูล กำจัด!”หลังจากเจาะกระโหลกของเดดพูลได้ ไม่รู้ว่า ทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนนี้พูดกับใคร

 

เเต่ถ้า เเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ อยู่ที่นี่พวกเขาย่อมคุ้นเคยเสียงนี้ดี เพราะภายใต้เบื้องหลังของหน้ากากนั้นก็คือเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขา ทอม

 

หลังจากจัดการเดดพูลเสร็จ ทอมก็เดินไปยังตำเเหน่งของ เเจ็คสัน เเน่นอนว่าระยะทางของ เเจ็คสัน กับ เดดพูล อยู่ห่างกันไม่ไกลมาก ที่เดดพูลเเยกตัวออกมาก็เพราะเขาได้รับปืนใหญ่ระเบิดไฟมาทำให้หลงระเริงในการกำจัดกองทัพหุ่นยนต์

 

ร่างศพของเดดพูลที่ถูกเจาะกระโหลกถูกทิ้งตายอยู่ที่พื้นเพียงเเต่ว่าตอนนี้ศีรษะของเขาที่ถูกเจาะกระโหลกนั้นกำลังรักษาตัวเองอย่างช้า ๆ

 

 

ปั้ง!

 

สำหรับเเจ็คสันเขาไม่ทันรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเดดพูลเเม้เเต่น้อย ตอนนี้ เขากำลังใช้ปืนใหญ่ระเบิดไฟ เเละ ดาบสายฟ้าของตัวเองในการจัดการกกองทัพหุ่นยนต์ที่เบื้องหน้า

 

ดาบสายฟ้าของเขาสามารถสะสมพลังงานได้เเละเมื่อพลังงานเต็มเขาก็ระเบิดพลังงานสายฟ้าออกมาฟาดฟันศัตรูจนทำลายกองทัพหุ่นยนต์ไปหลายเครื่อง

 

สำหรับ เเฮร์รี่ ที่สนับสนุนอยู่บนอากาศนั้น ด้วยเทคโนโลยีของยานบินของเขาอีกทั้งศัตรูยังจำกัดเเค่ภาคพื้นดินทำให้ เเฮร์รี่ สามารถจัดการศัตรูได้ง่ายมากขึ้น

 

เเจ็ค เองก็เช่นเดียวกัน เพราะยานบินของเเฮร์รี่ ทำให้การสนับสนุนของเขาเป็นไปด้วยดี เพียงเเต่ว่าขณะนั้นเองดูเหมือนยานบินของเเฮร์รี่ จะถูกยิงจนเสียหลัก

 

ฟุ่บ!

 

เเฮร์รี่ได้กระโดดลงมาจากยานบินของเขาด้วยชุดเกราะที่ออกแบบใหม่เเละยาไททันทำให้ความเเข็งเเกร่งทางกายภาพของเเฮร์รี่สูงมาก หุ่นยนต์เหล่านี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เเต่เมื่อเเฮร์รี่ไม่มีอาวุธพลังงานสูงทำให้เขาไม่สามารถฆ่าหุ่นยนต์เหล่านี้ได้รวดเร็วเหมือนเดิม

 

“เวรเอ้ย!”เห็นเเฮร์รี่ กระโดดลงไปช่วยสู้ที่ด้านล่าง เเจ็ค ที่บินสนับสนุนอยู่ข้างบนสบถออกมา เพราะสถานการณ์ที่ด้านล่างอันตรายกว่าข้างบนเเน่อยู่เเล้ว

 

เขาเองก็ต้องการลงไปสนับสนุนที่ด้านล่างเเต่ในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ศักยภาพการเติบโตของ เเจ็ค ถือว่าอยู่ในระดับต่ำที่สุด เขามีเพียงความเเข็งเเกร่งของมิวแทนท์ระดับ 3 เพียงเท่านั้น หากไม่นับ สกาย’อาย ที่เป็นคนสนับสนุนอยู่หลังคอมพิวเตอร์ เขาถือว่าเป็นเเนวหน้าที่อ่อนที่สุดในทีม

 

เเม้ความสามารถด้านการต่อสู้ของเเจ็คจะอ่อนเเอที่สุดในทีมเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ในทีม เเต่การกำจัดศัตรูเเละความคล่องตัวตามสัญชาตญาณในการรับมือหุ่นยนต์พวกนี้เขาถือว่ามีสูงกว่ามาก เเต่เพราะกองทัพหุ่นยนต์ของศัตรูมีมากเกินไปทำให้เขาค่อนข้างลำบากในการสนับสนุน

 

ดังนั้น เเจ็ค จึงมีความคิดที่จะถอยทัพชั่วคราว เขาไม่สามารถเเสดงบทบาทของตัวเองได้มากในสถานการณ์แบบนี้ หากเขาบาดเจ็บ มันจะสร้างภาระให้กับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ อย่างไรก็ตามกองทัพหุ่นยนต์เหล่านี้ ย่อมไม่ปล่อยให้เเจ็คเเยกออกจากสนามรบง่าย ๆ

 

!

 

ปั้ง

 

เเจ็ค ควบคุมยานบินหลบหลีกการโจมตีด้วยปืนเลเซอร์จำนวนมากเเต่เพราะศัตรูมีมากเกินไปทำให้ท้ายที่สุดเขาก็ถูกโจมตีจนร่วงลงมาที่พื้น

 

“โชคร้ายเป็นบ้า! สกาย’อาย บอกตำเเหน่งปัจจุบันของมิราจไนท์ที?”ทันทีที่ตกลงมา เเจ็ค ก็ตะโกนผ่านเครื่องสัญญาณติดต่อ

 

เพียงเเต่ภูมิภาคนี้การติดต่อของเขาราวกับถูกระงับสัญญาณเอาไว้ทำให้เขาไม่สามารถติดต่อหา เจอร์รี่ ได้

 

“โครตเเย่เลย!”

 

ไม่ได้รับการตอบสนองจาก สกาย’อาย เเจ็ครู้สึกโชคร้ายอย่างมาก ยานบินของเขาถูกยิงกระทบจนตกลงมาทำให้ไม่สามารถบินกลับขึ้นไปได้ เเต่ เเจ็ค ก็รู้สึกมีความสุขที่หลังจากลงมาถึงพื้นเขาก็เห็นเงาร่างของเเฮร์รี่ ทำให้ เเจ็ค วิ่งไปยังตำเเหน่งของเเฮร์รี่ อย่างเต็มที่ เขาเองก็ไม่รู้ว่า เเฮร์รี่ ในตอนนี้ กำลังสนับสนุนในทิศทางของมิราจไนท์ อยู่หรือไม่

 

ฟิ้ว!

 

ด้านหน้าของเเจ็คมีหุ่นยนต์หลายตัวขวางทางเอาไว้ ทำให้เขาตัดสินใจขว้างมีดของตัวเองออกไป เเต่เพราะเกราะของหุ่นยนต์หนาเกินไปทำให้ มีดเหล่านั้นไม่สามารถตัดทะลุผ่านชุดเกราะของหุ่นยนต์ได้

 

“เวรเอ้ย,มันจะเเข็งเกินไปเเล้ว!”เห็นผลลัพธ์การโจมตีของตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เเจ็ค บ่นพีมพึม

 

ผิวของเเจ็คย่ำเเย่กว่าเดิมมาก ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เขาเองก็ต้องการจะสร้างผลงานของตัวเองให้ได้มาก ๆ เเต่ว่า นอกเหนือจากกองกำลังเเฟรงเกนสไตน์ของเขาเเล้ว เขาเเทบจะไม่มีอะไรโดดเด่นเลย สิ่งเดียวที่เขาสามารถมอบให้ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้ในตอนนี้ก็คงมีเเต่การยืมกำลังของครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์มาสนับสนุนด้านกำลังคน

 

เเต่เเจ็คก็ถอนหายใจออกมา ด้วยเกราะเเข็งของศัตรูมันย่อมไม่เป็นประโยชน์อันใดถ้าเขาจะทำแบบนั้น เเจ็ค ได้กระโดดไปยังตำเเหน่งของ เเฮร์รี่ เเม้มีดของเขาจะไม่สามารถเจาะทะลุเกราะของหุ่นยนต์ได้ เเต่เขาไม่เชื่อว่ามีดหลายเล่มเเละการโจมตีหลายครั้งจะไม่สามารถจัดการหุ่นยนต์เหล่านี้ได้

 

 

เมื่อเเฮร์รี่ กับ เเจ็ค ถูกบังคับให้ลงมาต่อสู้บนภาคพื้นดิน ขณะเดียวกัน ทางด้านเเจ็คสันที่กำลังต่อสู้กับหุ่นยนต์ ดูเหมือนหุ่นยนต์ด้านหน้าจะหลีกทางให้กับเขา พร้อมกับมีคนคนนึงเดินเข้ามาหาตัวเอง เเละมันเป็นรูปร่างที่คุ้นเคยอย่างมาก

 

ปั้ง

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้ตัดศีรษะของหุ่นยนต์สองตัวที่กำลังต่อสู้อยู่ก่อนที่จะมองเห็นลักษณะของคนที่เดินออกมาจากหมอกเด่นชัดมากขึ้น

 

“ทอม…”มองไปที่ใบหน้าที่ทำให้เขารู้สึกขมขื่น เเจ็คสัน ตะโกนขึ้น

 

เเม้จะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าเต็มใบภายใต้หน้ากากนั้นเเต่เเจ็คสันก็สามารถระบุได้ว่านี่คือทอม ไม่ว่าจะเป็นออร่าเเห่งชีวิต หรือ ความรู้สึกคุ้นเคยของ เพื่อนในวัยเด็ก สภาพปัจจุบันของ ทอม ทำให้เเจ็คสันรู้สึกผิดอย่างมาก เขาคิดว่าตัวเองคือผู้รับผิดชอบที่ทำให้ทอมต้องเป็นแบบนี้ ดังนั้น เขาจึงมุ่งหน้ากำจัดพวกไฮดร้า เพื่อหวังจะช่วยทอมออกมา

 

 

“สวัสดี,มิราจไนท์!”เผชิญหน้ากับมิราจไนท์ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ทอม กล่าวทักทายด้วยคำพูดที่เงียบสงบ

เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้สะพานโกลเด้นเกตของนิวยอร์กกลายเป็นที่น่าจดจำในสถานที่ก่อสงครามที่เกิดภัยพิบัติรุนเเรงที่สุด ภายใต้การโจมตีของอาวุธร้อนจำนวนมากทำให้ชั้นสะพานระเบิดออกจนเเทบจะยุบตัวลง

 

ยิ่งไปกว่านั้นประตูมิติที่พวกไฮดร้าสร้างขึ้นเดิมหมอกในตอนเเรกเริ่มสลัวตอนนี้มันกลับหนาเเละรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่าพื้นที่เเห่งนี้ปกคลุมไปด้วยหมอกไร้ที่สิ้นสุด

 

ครื่นน!

 

“กัปตันโรเจอร์ส! ด้านหน้ามีสิ่งรบกวนสัญญาณสื่อสาร ทั้งดูเหมือนจะมีข้าศึกอยู่จำนวนมากมันมากเกินกว่าที่กองกำลังของเราจะต้านไหว”เจ้าหน้าที่ด้านข่าวสารได้กล่าวบอกกัปตันโรเจอร์สบนยานควิกเจ็ท

 

“การต่อสู้ครั้งนี้ไม่จำเป็นจะต้องใช้กำลังคนเยอะ เพียงเเค่คนของทีมอเวนเจอร์สก็พอ”กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่สะพานโกลเด้นเกตที่ปกคลุมไปด้วยหมอกหนา

 

เดิมสถานการณ์ก่อนหน้านี้เขาก็ได้รับข่าวจากโทนี่เเล้วทำให้ กัปตันโรเจอร์สตัดสินใจไม่ส่งคนของ S.H.I.E.L.D. เข้าร่วมเพื่อป้องกันการบาดเจ็บล้มตายโดยไม่จำเป็น ดังนั้นหน้าที่ในสถานที่เเห่งนี้สมควรเป็นของทีมอเวนเจอร์สก็พอ

 

“เเต่…!”ได้ยินคำพูดกัปตันโรเจอร์สใบหน้าของเจ้าหน้าที่ข่าวสารคนนั้นเผยให้เห็นถึงความกังวลเเต่กัปตันโรเจอร์สก็โบกมือห้ามเขา

 

“ไม่จำเป็นต้องกังวล เดิมนี่ก็เป็นจุดประสงค์ในการก่อตั้งพันธมิตรอเวนเจอร์สขึ้นมาอยู่เเล้ว นอกจากนี้ ติดต่อนิคบอกเขาเพื่อเตรียมการสนับสนุนเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น”กัปตันโรเจอร์ส เดินไปที่ด้านหลังยานควินเจ็ท

 

ด้านหลังของกัปตันโรเจอร์สตามมาด้วยบุคคลทั้งสี่คน ฟอลคอน,เเบล็ควิโดว์,ฮอว์กอาย เเละเเดร์เดวิล รวมกัปตันโรเจอร์สเป็น 5 คน ตอนนี้พวกเขาเหล่านี้คือทีมอเวนเจอร์ส หากไม่นับเเจ็คสันเเละโทนี่ ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมทีม ทีมที่มีสมาชิก 5 คนนี้ ถือว่าเป็นขุมพลังระดับนึงเลยก็ว่าได้

 

“ฮอว์กอาย,คุณ กับ เเดร์เดวิล คอยสนับสนุนพวกเราอยู่ด้านหลัง”เมื่อทั้ง 5 คนเดินมาถึงด้านหลังของควินเจ็ท กัปตันโรเจอร์ส กล่าวพูดขึ้น

 

“เข้าใจเเล้ว!”ฮอว์กอาย กล่าวปฏิบัติตาม

 

“เปิดท้ายเครื่อง!”กัปตันโรเจอร์สกล่าวสั่งการ

 

คลื่น!!

 

วิ้ว!!

 

ด้านหน้าของพวกเขาท้ายของเครื่องควินเจ็ทได้เปิดขึ้น ตอนนี้ความสูงของเที่ยวบินควินเจ็ทถึงพื้นถือว่าอยู่ในระดับต่ำมากมันห่างจากพื้นประมาณ 100 เมตร ได้

 

“ฟอลคอน!”หลังจากประตูท้ายเครื่องเปิด กัปตันโรเจอร์ส เเละ เเบล็ควิโดว์ ก็เดินมาถึงด้านหน้าของ ฟอลคอน

 

“ฮ่าฮ่า,กัปตันโรเจอร์ส หวังว่าคุณจะไม่ได้น้ำหนักเพิ่มขึ้นในช่วงเร็ว ๆ นี้นะ”ฟอลคอล ยิ้มออกมาอย่างขบขัน ก่อนที่จะจับไหล่ของทั้งสองคนเอาไว้

 

“ไปกันเถอะ!”ไม่ต้องรอให้กัปตันโรเจอร์สกล่าวบอก ฟอลคอน ได้กระโดดลงไปในทันที

 

ฟุ่บ!

 

คลื่น!

 

หลังจากฟอลคอนกระโดดลงไปปีกกลด้านหลังของเขาก็กางขึ้นเพื่อต้านเเรงลมก่อนที่จะบินลดระดับลงมาเพื่อส่งพวกเขาลงตรงสะพาน

 

“กัปตันโรเจอร์ส เมื่อเร็ว ๆ นี้คุณน้ำหนักขึ้นใช่มั้ยเนี่ย!”ฟอลคอนที่รู้สึกว่าความเร็วในการดิ่งนั้นเร็วเกินไปเขาได้กางปีกอย่างเต็มพลังเพื่อต้านเเรงลม

 

“ใกล้เเล้ว!”อย่างไรก็ตามกัปตันโรเจอร์สไม่มีอารมณ์ขันในตอนนี้ เขากล่าวพูดออกมา

 

ฟุ่บ!

 

พอถึงระยะหวังผลฟอลคอนก็ปล่อยมือทางด้านกัปตันโรเจอร์สเพื่อปล่อยเขาลง หลังจากนั้นก็บินไปยังอีกทิศทางนึง พอลดน้ำหนักจากกัปตันโรเจอร์สไปได้ ทำให้ ฟอลคอน สามารถนำเเบล็ควิโดว์ไปยังสถานที่อีกเเห่งได้อย่างไม่ยาก

 

ฟุ่บ!

 

กัปตันโรเจอร์สที่ถูกปล่อยตัวในระยะปลอดภัยเขาได้ทิ้งตัวลงมากลางเวหาก่อนที่จะกระทบลงบนสะพานด้วยเเรงกระเเทกของเขา

 

ปั้ง!

 

เพราะเขาใช้โล่ของตัวเองเเละกลิ้งเพื่อลดเเรงปะทะทำให้เขาลงถึงพื้นได้อย่างปลอดภัย เเต่กัปตันโรเจอร์ส ก็พบว่าตำเเหน่งที่ตัวเองลงนั้นอยู่ในสภาพไม่ดีนัก บนสะพานปกคลุมไปด้วยหมอกหนา เขาเห็นเพียงดวงตาสีเเดงฉานที่ล้อมรอบตัวเอง

 

“หุ่นยนต์? ดูเหมือนพวกไฮดร้าจะจัดชุดใหญ่จริง ๆ !”เห็นนัยน์ตาสีเเดงฉาน กัปตันโรเจอร์ส ถอนหายใจออกมา

 

กึก !

 

ฟิ้ว !

 

วินาทีต่อมาโล่ในมือของกัปตันโรเจอร์สก็ถูกขว้างออกไป

 

 

ในขณะที่ กัปตันโรเจอร์สกำลังเข้าปะทะกับพวกหุ่นยนต์ ฟอลคอน ก็ได้ส่งเเบล็ควิโดว์ ลงในตำเเหน่งบนสะพาน สำหรับ ฮอว์กอาย เเละ เเดร์เดวิล เขาก็ลงมาที่สะพานโกลเด้นเกตในทันที

 

“เเดร์เดวิล ระวัง!” ฮอว์ก อายกล่าวเตือนในทันที

 

“ฉันรู้เเล้ว!”เเดร์เดวิลไม่ได้หันศีรษะเเม้เเต่น้อยเขาเคลื่อนไหวไปยังศูนย์กลางสนามรบด้านหน้า

 

หึ่ม!

 

ในขณะที่ เเดร์เดวิล มุ่งหน้าไปยังศูนย์กลางสนามรบ ฮอว์กอายก็ขับยานบินอยู่บนอากาศเหนือศีรษะของเเดร์เดวิลเพื่อเฝ้าระวังให้เขา ยานบินนี้เป็นของเเดร์เดวิล เเต่เขาให้ ฮอว์กอาย ยืม เพราะสภาพเเวดล้อมอย่างนี้ทำให้ ฮอว์กอายที่ทำหน้าที่สนับสนุนทำงานได้ลำบาก

 

เเต่เพราะสายตาของฮอว์กอายค่อนข้างมีลักษณะที่พิเศษทำให้เขามองผ่านอุปสรรคด้านหมอกพวกนี้ได้อย่างไม่ยากเท่าไหร่

 

ในขั้นต้น กัปตันโรเจอร์ส ได้จัดให้ ฮอว์กอาย เเละ เเดร์เดวิล ทำงานร่วมกัน ส่วน ฟอลคอน ก็คอยสนับสนุนในสนามรบ การสนับสนุนของฟอลคอนบนอากาศนั้นถือว่าเเข็งเเกร่งอย่างมาก นอกจากนี้ ฮอว์กอายที่มีสายตาที่ดีเขายังสามารถทำหน้าที่อย่างคนสั่งการได้ดีอีกด้วย ดังนั้นการจัดวางเเผนของกัปตันโรเจอร์ส ถือว่าลงตัวอย่างมาก

 

ตอนนี้กองกำลังสนับสนุนของเเจ็คสันได้มาถึงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น โทนี่ กองทัพไอรอนแมน,ทีม X-MEN ,ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์,พ่อมด,เเละก็ ทีมอเวนเจอร์สของ S.H.I.E.L.D. พวกเขาได้ร่วมสงครามในครั้งนี้ทั้งหมด

 

ทีมไฮดร้าที่ร่วมศึกในคราวนี้มี ทีมอัลฟ่า,ควิกซิลเวอร์,สกาเล็ตวิช เเละทหารหลายร้อยคน ยังไม่รวมกองทัพหุ่นยนต์อีกจำนวนมาก การทุ่มกำลังมากขนาดนี้ ถึงจะเป็น กองกำลังของพวกเเจ็คสันก็ไม่เเน่ว่าจะสามารถหยุดศึกในครั้งนี้ในระยะเวลาอันสั้นได้

 

หึ่ม!

 

ทันทีที่การสนับสนุนของเเจ็คสันมาถึงครบประตูมิติอวกาศก็ดูเหมือนจะส่งคลื่นความผันผวนรุนเเรงอีกครั้งคราวนี้ทั่วทั้งสะพานโกลเด้นเกต ปกคลุมไปด้วยหมอกหนาที่รุนเเรงกว่าเดิม

 

หลังจากนั้นก็มีคนบางคนก้าวเดินออกมาจากประตูมิติ พวกเขาไม่ใช่หุ่นยนต์หรืออะไรเป็นสิ่งมีชีวิต เเต่พวกเขากลับเย็นชาเเละดูไร้ความรู้สึกอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ถูกควบคุมโดยพวกไฮดร้า

 

“เอาล่ะเริ่มการเเสดงได้!”ในฐานใต้ดินของไฮดร้าในทิศตะวันตกของสหรัฐอเมริกา เร้ด สกัลล์ ได้นั่งอยู่บนโซฟานุ่ม ๆ พร้อมกับจ้องมองไปที่หน้าจอเเสดงผลด้านหน้า

ปั้ง ปั้ง ปั้ง!

 

ไม่นานเเจ็คสันก็สามารถปราบปรามทหารวินเทอร์โซลเยอร์ที่เหลือทั้ง 3 คนได้สำเร็จ เเต่ก็ยังเหลือกองทัพหุ่นยนต์เเละเครื่องจักรสัตว์ร้ายจำนวนมากตอนนี้ไม่มีใครสามารถที่จะหยุดพวกมันสำเร็จ ดวงตาของหุ่นยนต์เเต่ละตัวเปล่งเเสงสีเเดงให้ความรู้สึกที่อันตรายมันได้เเซกซึมเข้าสู่จิตใจมอบความกลัวให้กับผู้ที่พบเห็น โดยปกติเเล้ว ในโลกมาร์เวล ไม่มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นดังนั้นมันยากที่จะประเมินสถานการณ์

 

ตึก ตึก

 

กองทัพหุ่นยนต์จำนวนมากของพวกไฮดร้าได้หลั่งไหลกันออกมา ขุมพลังระดับนี้ยิ่งกว่ากองกำลังในรัฐนิวเจอร์ซีย์มากเเม้เเต่ทีมอัลฟ่าก็ไม่สามารถเทียบได้ติด ดูเหมือนก่อนหน้านี้พวกไฮดร้าจะยังไม่ได้เผยความเเข็งเเกร่งทั้งหมด เเจ็คสันคำนวณกวาดตามองสิ่งเหล่านี้ด้วยตาของเขา

 

หลังจากเขาวิเคราะห์ออกมาตามข้อมูลที่ S.H.I.E.L.D.ให้มา รวมกับความเข้าใจเดิมของเขา มันเเตกต่างกันมากไม่ว่าจะเป็นองค์กรไฮดร้า หรือ ขุมพลังของพวกมัน

 

เเจ็คสันไม่สามารถเพิกเฉยสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ในโลกมาร์เวลนั้นมีบางสิ่งที่ทรงพลังที่สามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้อยู่นั่นก็คือ อินฟินิตี้สโตน อาจเป็นไปได้ว่าพวกไฮดร้า ได้รับหนึ่งในอินฟินิตี้สโตนมา หรือก็คือ Space Infinity Stone ความสามารถของมันสามารถเปิดพื้นที่มิติได้ มีอีกชื่อเรียกนึงว่า เทสเซอแรค

 

หากเป็นอย่างที่เเจ็คสันคาดเดา โอกาสที่ พวกไฮดร้าจะครอบครอง Space Infinity Stone มีสูงมาก เพราะประตูมิติอวกาศที่ส่งพวกหุ่นยนต์ออกมามีขุมพลังบางอย่างที่ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์สามารถปล่อยออกมาได้

 

เกี่ยวกับความสามารถของ Space Infinity Stone เเจ็คสันก็พอรู้จักมันมาบ้าง เเต่เขากลับไม่คิดว่า พวกไฮดร้า จะครอบครองสิ่งนี้ บางทีนี่อาจจะเป็นไพ่ใบสุดท้ายของพวกไฮดร้า

 

เเต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรเเจ็คสันก็คิดว่ามันเสียเวลาปัจจุบันเขาจะต้องเเก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันก่อน เเล้วค่อยหาเวลาไปสืบเรื่อง Space Infinity Stoneภายหลัง

 

หึ่ม!

 

กองทัพหุ่นยนต์ของพวกไฮดร้าจำนวนมากส่งเสียงร้องของเครื่องจักรออกมาก่อนที่เเต่ละตัวจะพุ่งกระโจนเข้าใส่มิราจไนท์

 

!

 

ปั้ง

 

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์จำนวนมากที่พุ่งกระโจนเข้าใส่เเจ็คสันหลายสิบตัวกลับถูกโจมตีอย่างรวดเร็ว

 

เเจ็คสันไม่ได้รู้สึกสงสัยเกี่ยวกับการโจมตีที่ช่วยเหลือเขา เพราะมันมาจากบนอากาศ เขาเพิ่งได้รับการสื่อสารเมื่อไม่นานมานี้มันไม่ใช่ของโทนี่ เเต่เป็นของสไปเดอร์แมนเเละ เเฮร์รี่ พวกเขา พา เดดพูล เเละ เเจ็ค มาผ่านยานบินของเเฮร์รี่

 

คนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ได้เข้าร่วมสนามรบ เเละ ถูกล้อมโดยกองทัพหุ่นยนต์ นอกจากนี้ จะมีภาระด้านขาดกำลังพลเเล้วการสื่อสารก็ยังมีผลกระทบอีกด้วย

 

ปั้ง!

 

เงาร่างสองร่างได้กระโดดลงมาที่ด้านล่าง มันคือเงาของ สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ เเละ เดดพูล เวด หากพูดถึงความสามารถของทั้งสองคนเเน่นอนว่าการต่อสู้ระยะประชิดย่อมสามารถเเสดงศักยภาพของพวกเขาออกมาได้ที่สุด สำหรับ เเจ็ค เเละ เเฮร์รี่ การสนับสนุนบนยานบิน ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

 

“มิราจไนท์ พวกเรามาช่วยเเล้ว คุณไม่เป็นไรใช่ไหม!”หลังจากลงมาถึงพื้น สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ ตะโกนบอกเเจ็คสัน

 

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคนไม่กี่คนที่รู้สถานะที่เเท้จริงของ มิราจไนท์ ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของเเจ็คสันมาก เพราะพวกไฮดร้า ได้มุ่งเป้าไปที่ พ่อเเม่ของเเจ็คสัน เเฮร์รี่ ได้ขับยานบิน มุ่งไปทางทิศทาง พ่อมดรุ่ยเคอ ,พ่อมดไต้เหวิ่น เเละ พ่อของเเจ็คสัน เพื่อปกป้องคุ้มครองพวกเขา

 

“ฉันไม่เป็นไร พวกเราควรรีบจัดการศัตรูโดยเร็ว”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์เเจ็คสันพยักหน้าตอบ

 

“อืมเข้าใจเเล้ว!”ปีเตอร์เข้าใจความหมายของเเจ็คสัน

 

เดิมเขาเองก็กังวลว่าพ่อเเม่ของเเจ็คสันจะประสบอุบัติเหตุ เเต่ดูจากท่าทางของ เเจ็คสัน เเล้วดูเหมือนทั้งสองจะปลอดภัย เเละ เเจ็คสันต้องการกำลังสนับสนุนจากเขาในการจัดการศัตรูเบื้องหน้า

 

เมื่อสไปเดอร์แมนเข้าร่วมสนามรบ มิราจไนท์ ก็เริ่มบุกโจมตี เดดพูลเองก็ดึงปืนพกออกมากราดยิงไปยังทิศทางหุ่นยนต์พวกนั้น

 

“ไอ้หุ่นกระป๋องพวกนี้มันจะเเข็งเกินไปเเล้ว ~”เห็นลูกปืนไม่สามารถใช้ได้ผล เวด กล่าวสบถออกมา

 

เกี่ยวกับหุ่นยนต์เหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าอาวุธปืนเเทบจะไม่มีผลกับพวกมันก่อนที่เดดพูลจะโดดลงมาเขาเห็นกองทัพหุ่นยนต์จำนวนมากนั่นทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวจากใจจริงเเต่เพราะนี่เป็นคำสั่งรวมทีมเเละเป็นภารกิจของทีมพวกเขาเเม้เขาอยากจะหนีก็ไม่สามารถเลี่ยงได้

 

ตึก ฟุ่บ ~

 

พวกเขาทั้งสามหันหน้าเข้าต่อสู้หุ่นยนต์ ก่อนที่ หุ่นยนต์พวกนั้นจะกราดลูกปืนใส่ทำให้การเคลื่อนไหวของพวกเเจ็คสันติดขัด เเต่เเน่นอนว่า มันย่อมไม่สามารถขัดขวางเเผนการดำเนินหน้าจัดการศัตรูของทั้งสามคนได้

 

“มิราจไนท์ ทำไมพวกมันถึงมีมากขนาดนี้ คุณไปทำอะไรให้พวกมันไม่พอใจกันเเน่เนี่ย!”เเม้เดดพูลจะรู้ว่าศัตรูที่ต้องจัดการคราวนี้คือพวกไฮดร้า เเต่กองทัพหุ่นยนต์จำนวนมาก เหล่านี้ มันมากเกินไปที่จะทุ่มกำลังมาจัดการคนคนเดียว

 

ในความเป็นจริง นอกจากปีเตอร์ เเฮร์รี่ เเละ โทนี่ เเล้ว ทุกคนล้วนไม่สนใจเหตุผล เพราะพวกเขาต้องการช่วยเหลือเเจ็คสันเพียงเท่านั้น

 

คนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าทั้งสามคนนี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับเเจ็คสันอย่างไร เป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะสงสัยว่าทำไมพวกไฮดร้าถึงเเค้นมิราจไนท์มากนัก

 

อย่าว่าเเต่คนอื่นเลยเเม้เเต่เเจ็คสันก็รู้สึกเเปลกใจเช่นเดียวกัน อาจเป็นเพราะเขามุ่งหน้าทำร้ายกองกำลังของพวกไฮดร้าจนพวกมันเเค้นทั้งยังบุกอย่างต่อเนื่องจนทำให้พวกมันเสียกำลังคนไปมาก ดังนั้นพวกไฮดร้าที่รู้สถานะของเเจ็คสัน จึงไม่หลบซ่อนตัวอีก พวกมันต้องการสวนกลับการโจมตีของเเจ็คสัน

 

“ฉันไม่ได้ต้องการหาเรื่องพวกมัน เเต่เป็นพวกมันที่ทำให้ฉันรู้สึกรำคาญ!”เผชิญหน้ากับคำถามของ เดดพูล เเจ็คสัน ตอบอย่างเฉยชา

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากตอบคำถามของ เดดพูล เเจ็คสัน ก็มุ่งหน้าเต็มกำลังโจมตีกองทัพหุ่นยนต์จำนวนมาก

 

ปั้ง!

 

สไปเดอร์เเมนเอง ก็ติดตามเเจ็คสันบุกทะลวงเข้าไป

 

“? เดี๋ยว รอฉันด้วย!”เห็นมิราจไนท์เเละสไปเดอร์แมน มุ่งหน้าบุกทะลวงเข้าไป เดดพูล ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังตะโกนขึ้นก่อนที่จะรีบวิ่งตามไป

ดูเหมือน ควิกซิลเวอร์เเละสกาเล็ตวิช จะเข้ามาขวางทางเขานั่นทำให้โทนี่ย่นคิ้วในเวลาเดียวกัน เหล่าหุ่นยนต์ที่ออกมาจากประตูมิติอวกาศได้เเยกย้ายกันไปมุ่งหน้าไปล้อมรอบเเจ็คสัน เเผนของสกาเล็ตวิชเเละควิกซิลเวอร์ก็คือการกันโทนี่โจมตีกองทัพเหล่านี้

 

“ดูเหมือนพวกเราจะต้องจัดการสองคนนี้ก่อนเป็นอันดับเเรก J.A.R.V.I.S. กองทัพไอรอนแมาจะมาสมทบในอีกนานเเค่ไหน?”โทนี่ ตัดสินใจถาม J.A.R.V.I.S.

 

” 5 นาทีครับเจ้านาย!”

 

“5 นาที หวังว่าพวกเราจะถ่วงเวลาได้ทัน!”โทนี่ต้องการพึ่งพาพลังกองทัพทั้งหมดของเขาในการโจมตีครั้งนี้

 

ปั้ง ปั้ง

 

ทันใดนั้นอาวุธเลเซอร์จำนวนมากก็พุ่งเข้าไปหา สกาเล็ตวิช เเละ ควิกซิลเวอร์ โทนี่ ได้เปิดฉากโจมตีก่อน

 

หึ่ม!

 

ในระยะห่างจาก เเจ็คสันกว่า 200 เมตร ชุดเกราะไอรอนแมน เเละ พวกของสกาเล็ตวิช ได้ทำสงครามกันอย่างรุนเเรง J.A.R.V.I.S. ได้พยายามบินขึ้นสูงเพื่อป้องกันการโจมตีของ ควิกซิลเวอร์ เเต่นี่ก็ไม่ใช่ทางเเก้ซะทีเดียวเพราะพลังของ สกาเล็ตวิช สามารถทำให้โทนี่ รู้สึกปวดหัว ในเวลาอันสั้นนี้เเน่นอนว่าเขาย่อมไม่สามารถกำจัดทั้งสองคนได้

 

ในขณะที่ โทนี่ เปิดฉากโจมตีด้วยกองทัพไอรอนแมนของเขา ด้านไอซ์แมนเอง ก็นำ ชาโดว์ เเคท มาถึงสนามรบในที่สุด

 

หลังจากเห็นการต่อสู้กลางอากาศไอซ์แมนไม่ได้กระโจนขึ้นจากระดับน้ำทะเลโดยตรงเขาโบกมือสร้างสะพานจากทะเลขึ้นเชื่อมกับตัวสะพานโกลเด้นเกต จากนั้นไอซ์แมน ก็ได้วิ่งขึ้นไป เขาไม่ได้มุ่งหน้าหา ควิกซิลเวอร์ หรือ สกาเล็ตวิช เเต่ได้มุ่งหน้าไปยังตำเเหน่งของ เเจ็คสัน

 

สำหรับ ควิกซิลเวอร์ ที่เห็น สะพานน้ำเเข็งของ ไอซ์แมน เเน่นอนว่าเขาเองก็รู้สึกกังวล พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับ กองทัพไอรอนแมนมากกว่า 10 ตัว ภารกิจที่เขาได้รับมาก็คือการรับผิดชอบในการกำจัดชุดเกราะไอรอนแมน เเน่นอนว่าเรื่องนี้ย่อมไม่เป็นปัญหามากนัก เเต่ถ้า ไอซ์แมน เข้ามาสนับสนุน มันจะเป็นเรื่องยากอย่างมาก โชคดีที่ ไอซ์แมนเลือกสนับสนุนมิราจไนท์ เพราะการจะทำลายหุ่นยนต์จำนวนมากเหล่านี้ มิราจไนท์ คนเดียวย่อมไม่สามารถทำได้

 

ไอซ์แมนได้มุ่งหน้าเข้าหากองทัพหุ่นยนต์เขาไม่ได้เรียกคืนสภาวะร่างน้ำเเข็งของตัวเอง

 

ฟุ่บ!

 

มือทั้งสองข้างของไอซ์แมนมุ่งเป้าสัมผัสร่างของหุ่นยนต์กระเเสพลังงานความเย็นได้เเช่เเข็งหุ่นยนต์เหล่านั้นในพริบตา

 

ฟุ่บ!

 

ขณะที่ไอซ์แมนได้เเช่เเข็งหุ่นยนต์ ชาโดว์เเคท ก็เข้าไปในร่างน้ำเเข็งของหุ่นยนต์เหล่านั้นเเละทำลายพวกมันจากภายใน ความสามารถกลายพันธุ์ของชาโดว์เเคท อาจจะไม่ได้โดดเด่นด้านการโจมตี เเต่เธอก็สามารถสร้างปัญหาให้กับหุ่นยนต์เหล่านี้ได้

 

คึก คึก!

 

ในขณะที่ ชาโดว์เเคท หายตัวเข้าหุ่นยนต์ไปก็มีหุ่นยนต์ตัวนึงปล่อยลำเเสงสีเเดงออกมามันได้ยิงเข้าใส่หุ่นยนต์ที่เเช่เเข็งในทันที

 

!

 

จากนั้นชิ้นเศษน้ำเเข็งก็กระจัดกระจายออกมา นอกจากนี้ ไอพลังงานความร้อนจำนวนมากสามารถที่จะละลายชั้นพลังงานน้ำเเข็งของไอซ์แมนให้พวกมันกลับมาเป็นปกติได้

 

ปั้ง ปั้ง

 

พริบตาเดียวหุ่นยนต์เเละสัตว์เครื่องจักรนับ 10 ก็มุ่งหน้าเข้าหาไอซ์แมนโดยตรงพวกมันปรากฏเดือยเเหลมจำนวนมากราวกับเลื่อยพุ่งฟันฝ่าชั้นน้ำเเข็งที่ไอซ์แมนสร้างขึ้น

 

“หุ่นยนต์พวกนี้!”เห็นสภาพหุ่นยนต์ที่ถูกทำลายชั้นน้ำเเข็งไปยังอยู่สภาพดีครบ เสียงของไอซ์แมนเต็มไปด้วยความตกใจ

 

เกี่ยวกับประเภทของหุ่นยนต์นั้น เเน่นอนว่า เทคโนโลยีย่อมมีการพัฒนา เเละ มนุษย์ สามารถที่จะสร้างหุ่นยนต์รูปแบบพิเศษขึ้นเพื่อต่อต้านมนุษย์กลายพันธุ์

 

หุ่นยนต์บางตัวสามารถยับยั้งพลังงานของมิวแทนท์ได้ ดังนั้นมันจึงเป็นเครื่องมือปิดผนึกความสามารถของมิวแทนท์ เเต่หุ่นยนต์ประเภทเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นตอนวิจัย มันไม่น่าจะสามารถใช้จริงได้ในช่วงเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นไอซ์แมนจึงตกใจมาก หุ่นยนต์เหล่านี้ เเม้จะไม่สามารถระงับพลังของพวกมิวแทนท์ได้โดยตรง เเต่ก็สามารถใช้รับมือกับพวกมิวแทนท์ได้ เเละตอนนี้ ผู้ที่ครอบครองเทคโนโลยีระดับสูงพวกนี้ก็คือพวกไฮดร้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากเขาปล่อยพวกไฮดร้าไป พวกมันย่อมเป็นอันตรายต่อพวกมิวแทนท์ในอนาคต

 

 

ระหว่างที่ โทนี่ ไอซ์แมน กำลังเปิดศึกของตัวเองอยู่ เเจ็คสัน ก็ยังคงรับมือกับทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 5 คน ในเวลานี้ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 5 คนกลับผสานงานกันพุ่งเข้าจู่โจมเขาอย่างเป็นระเบียบ

 

เเม้เเจ็คสันจะเเข็งเเกร่งขึ้นเเต่การรับมือทหารที่มีสุดยอดยีนทหารอยู่ก็เป็นเรื่องที่ยากมากดังนั้นเขาจึงต้องการความช่วยเหลือจากพ่อมดรุ่ยเคอ อุปกรณ์ของทหารวินเทอร์โซลเยอร์เหล่านี้สามารถป้องกันการโจมตีจากดาบสายฟ้าของเเจ็คสันได้ ตอนนี้ เเจ็คสันสูญเสียการโจมตีที่เเข็งเเกร่งที่สุดของตัวเองไปเเล้ว

 

ปั้ง

 

เเจ็คสันได้ใช้ความเเข็งเเกร่งทั้งหมดของตัวเองจัดการกับทหารวินเทอร์โซลเยอร์จนเหลือเพียงไม่กี่คน ในเวลานี้ เหลือเพียง 3 คน เเจ็คสันต้องการจบศึกนี้เร็วที่สุด

 

ธรรมชาติเเจ็คสันไม่จำเป็นจะต้องฆ่าพวกเขา คนเหล่านี้ท้ายที่สุดก็เเค่ถูกควบคุมโดยพวกไฮดร้า เหตุผลสำคัญก็คือ ทอมเพื่อนของเขาก็ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ดังนั้น เเจ็คสันจึงมีความเห็นอกเห็นใจพวกเขา

 

การรักษาชีวิตของพวกเขาเเน่นอนว่าย่อมไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุดเพราะทางที่ดีที่สุดก็คือการทำให้พวกเขากลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

 

ฟุ่บ!

 

“พ่อมดรุ่ยเคอ คุณมีวิธีการในการเข้าสู่พื้นที่มิติกระจกไหม?”ในขณะที่เเจ็คสันกำลังรับมือกับการรุมโจมตีของทหารวินเทอร์โซลเยอร์ เขาตะโกนถามพ่อมดรุ่ยเคอ

 

ที่นี่มีทหารวินเทอร์โซลเยอร์เเละกองทัพหุ่นยนต์จำนวนมากไม่ช้าก็เร็วสถานที่เเห่งนี้จะต้องถูกทำลายอย่างไม่ต้องสงสัยเเละสนามรบจะเเพร่กระจายออกเป็นวงกว้าง เเจ็คสัน ไม่ต้องการให้ผู้บริสุทธิ์ต้องมาเดือดร้อนกับผลกระทบในครั้งนี้

 

“ฉันไม่สามารถสร้างพื้นที่มิติกระจกได้ในขณะที่ยังมีผลกระทบพิเศษที่ทำปฏิกิริยากับพื้นที่มิติอวกาศ!”พ่อมดรุ่ยเคอ เองก็ต้องการสร้างพื้นที่มิติกระจกขึ้น เเต่เพราะผลกระทบที่ส่งผลต่อพื้นที่มิติอวกาศมันทำให้เขาไม่สามารถสร้างพื้นที่มิติกระจกที่เสถียรภาพขึ้นมาได้

 

หากมีพ่อมดคนอื่น ๆ ช่วยยังพอมีหนทางในการสร้างพื้นที่มิติกระจกที่เสถียรได้อยู่ เเต่ตอนนี้ ไต้เหวิ่น ก็บาดเจ็บ ลำพังตัวเขาคนเดียวย่อมไม่สามารถสร้างพื้นที่มิติกระจกที่เสถียรได้

 

ได้ยินคำพูดของพ่อมดรุ่ยเคอ ผิวของเเจ็คสันบิดกระตุกเล็กน้อย เนื่องจาก พื้นที่มิติกระจกที่เป็นความหวังในการลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นถูกทำลาย หนทางที่พวกเขาจะทำได้ดีที่สุดก็คือจบศึกกับพวกไฮดร้าอย่างรวดเร็ว

 

“หลีกทางให้ฉัน!”เเจ็คสันตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง

 

ปั้ง

 

ทันใดนั้นพลังงานภายในกายของเเจ็คสันก็ระเบิดออกมา เเสงเรืองรองสีม่วงกระพริบผ่านนัยน์ตาของเเจ็คสันก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าใส่ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ที่เหลือ

ปั้ง!

 

สถานการณ์ด้านนอกเป็นสิ่งที่เเจ็คสันไม่มีเวลาสนใจในตอนนี้เพราะเขากำลังเผชิญหน้ากับวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่ทั้ง 5 คน ในขณะที่พ่อมดรุ่ยเคอกำลังทำการรักษาพ่อมดไต้เหวิ่นอยู่ ซึ่ง เเจ็คสัน กำลังถ่วงเวลาให้พวกเขาได้พักฟื้น

 

จากนั้นไม่นานพ่อมดรุ่ยเคอก็รีบมาสมทบช่วยเหลือ เเจ็คสัน เขาสามารถสะกดการโจมตีของทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 5 ได้ ในขณะที่ เเจ็คสันก็ใช้ดาบสายฟ้าของเขาฟาดฟันไปที่ทหารวินเทอร์โซลเยอร์เหล่านี้ เเต่โชคร้ายอุปกรณ์ป้องกันของพวกเขาเเข็งเเกร่งเกินไป เเจ็คสันไม่สามารถหาทางปลิดชีพพวกเขาได้ง่าย ๆ

 

ปั้ง!

 

นอกจากการปะทะซึ่ง ๆ หน้ากับทหารวินเทอร์โซลเยอร์เเล้ว บางครั้งทางด้านหลังของเขาก็ถูกพวกทหารวินเทอร์โซลเยอร์ซุ่มโจมตี ซึ่งโชคดีที่เกราะป้องกันสีทองได้ปรากฏเข้ารับกันสุนเเทนเขา

 

“มิราจไนท์! ทางด้านนั้นปรากฏพื้นที่มิติที่รุนเเรงดูเหมือนจะมีประตูมิติปรากฏขึ้น!”ในขณะที่ให้ความร่วมมือกับมิมิราจไนท์ พ่อมดรุ่ยเคอ ก็กล่าวออกมาอย่างกังวล

 

ตอนนี้พ่อมดรุ่ยเคอไม่สามารถเปิดประตูมิติของตัวเองได้ เเต่ถึงอย่างนั้นกลับมีฝ่ายที่สามารถเปิดได้หากเขารู้ เเม้เเต่เขาเองก็คงไม่สามารถประเมินพวกไฮดร้าว่าอีกฝ่ายสร้างประตูมิติได้อย่างไร

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินการเเจ้งเตือนของพ่อมดรุ่ยเคอ,เเจ็คสันขยายช่วงสัมผัสของเทคนิครู้เเจ้งของเขาเพื่อมองออกไป เขาเห็นสถานที่ไม่ไกลปรากฏประตูอวกาศขึ้นจากนั้นเขาก็เห็นกองทัพหุ่นยนต์รูปแบบมนุษย์ เเละ รูปแบบสัตว์ออกมาจากประตูมิติ

 

“ประตูมิติกลับส่งพวกหุ่นยนต์ที่น่ากลัวเหล่านี้ออกมานอกจากนี้พวกมันยังไม่ใช่ของเกรดต่ำ ไม่คาดคิดว่าพวกไฮดร้าจะซ่อนความเเข็งเเกร่งเอาไว้มากมายขนาดนี้”เห็นกองทัพหุ่นยนต์รูปแบบมนุษย์เเละรูปแบบสัตว์ เเจ็คสัน รู้สึกช็อคในใจ

 

ครั้งก่อนที่เขาถูกจับโดยพวกไฮดร้าเขาก็ประเมินความเเข็งเเกร่งคร่าว ๆ ของพวกมันเอาไว้เเล้ว เเต่ใครจะไปรู้ว่าอีกฝ่ายกลับสามารถเปิดประตูมิติเเละมีกองทัพหุ่นยนต์เหล็กมากมายขนาดนี้

 

“ไม่รู้ว่ากองทัพไอรอนแมนของโทนี่จะมาถึงที่นี่เมื่อไหร่เเละจะรับมือกับพวกมันไหวไหมหากไม่เเล้วล่ะก็ฉันคงจะต้องเป็นศพฝังอยู่ที่นี่เเน่นอน!”เห็นความเเข็งเเกร่งที่เเท้จริงของพวกไฮดร้า เเม้เเต่ เเจ็คสัน ก็อดหวาดกลัวไม่ได้

 

เพราะพื้นที่โดยรอบมีคลื่นความผิดปกติอยู่ ทำให้ เเจ็คสันไม่สามารถติดต่อ สกาย’อาย เเละ J.A.R.V.I.S ได้ ตอนนี้กองกำลังสนับสนุน เขาไม่รู้ว่าจะมาถึงอีกเมื่อไหร่ เเต่คาดว่าในเวลานี้ โทนี่ น่าจะใกล้มาถึงเเล้ว

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะที่เเจ็คสันรู้สึกไม่สบายใจ กลางอากาศในสถานที่ไม่ห่างไกลนัก เเจ็คสันก็ได้ยินเสียงที่เขาคุ้นเคย มันเป็นเสียงเครื่องยนต์ของกองทัพไอรอนแมนหลายตัว

 

ซึ่ม!

 

“มิราจไนท์ คุณปลอดภัยใช่ไหม?”กองทัพไอรอนแมนของโทนี่ได้ปรากฏขึ้นเหนือสายตาของ เเจ็คสัน เเละ เสียงกระจายของ J.A.R.V.I.S ก็ส่งลงมาจนเขาได้ยิน

 

“ฉันปลอดภัย J.A.R.V.I.S ดูเหมือนจะมาได้ถูกเวลาพอดี ที่ด้านหน้ามีประตูมิติประกฏขึ้น คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของพวกไฮดร้ามันได้ส่งกองทัพหุ่นเหล็กจำนวนมากออกมา ระวังตัวด้วย”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสัน ตอบกลับอย่างปิติยินดี

 

“หนุ่มน้อย,สนใจพื้นที่ตรงหน้าของเธอซะ! กองทัพหุ่นเหล็กระดับต่ำพวกนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง!”หลังจากเเจ็คสันส่งเสียงออกไป ,เสียงของโทนี่ ก็ตอบรับ

 

“คุณสตาร์ก,อย่าได้ประมาท เเม้เเต่ชุดเกราะไอรอนแมน 5 ตัวที่ถูกคุณทิ้งไว้ ก็ถูกพวกไฮดร้าจัดการ ดูเหมือนพวกมันจะเตรียมการพร้อมมาเป็นอย่างดี”ได้ยินเสียงของโทนี่ เเจ็คสัน เตือนความจำ

 

เขารู้ว่าระบบชุดเกราะไอรอนแมนนั้นเป็นระบบอัจฉริยะ เเละ J.A.R.V.I.S สามารถที่จะสั่งการระยะไกลได้ เเน่นอนว่าโทนี่ ไม่จำเป็นจะต้องมาที่นี่ด้วยตัวเองก็ยังได้ เเต่เพราะ โทนี่ เองก็รู้สึกถึงความผิดปกติ เเละเป็นห่วงเเจ็คสัน เขาจึงเดินทางมาที่นี่ด้วยตนเอง

 

“เธอสนใจศัตรูทางด้านฝั่งของเธอเถอะ,ปล่อยให้ฉันจัดการทางฝั่งนี้เอง ฉันจะลองหาทางดู”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน โทนี่ ตอบกลับโดยธรรมชาติ เเน่นอนว่า เขารู้สถานะที่เเท้จริงของเเจ็คสัน เเละ ที่เขายกกองทัพมามากขนาดนี้ก็เพราะรู้ว่าครอบครัวของเเจ็คสันโดนพวกไฮดร้าโจมตี

 

“คุณอย่าได้ประมาทพวกไฮดร้าเด็ดขาด”เเจ็คสันคิดว่าโทนี่มั่นใจตัวเองมากเกินไป เขายังกล่าวเตือนอีกครั้ง

 

“ผ่อนคลายเถอะชุดเกราะไอรอนแมนของฉันได้รับการอัพเกรดเเละส่งเสริมทุกวัน เเม้จะเป็นห่วงไฮดร้า ฉันก็ยังมีความมั่นใจในการรับมือพวกมันหลายส่วน”โทนี่ ได้กล่าวคลายความกังวลของเเจ็คสัน

 

“เช่นนั้นกองทัพหุ่นยนต์พวกนั้นก็ฝากคุณด้วย”ได้ยินความมั่นใจของโทนี่ เเจ็คสันรู้ดีว่าเขาเตือนไปก็ไม่มีประโยชน์ เเน่นอนว่าเกี่ยวกับชุดเกราะไอรอนแมน เขาก็มีความมั่นใจอยู่พอสมควร ยิ่งไปกว่านั้น โทนี่ ได้พัฒนามันขึ้นจากการเผชิญหน้ากับเวทมนตร์ เขาจะต้องเพิ่มระบบต่าง ๆ มากมายเพื่อส่งเสริมชุดเกราะไอรอนแมนของเขาเเน่นอน

 

ปั้ง!

 

ขณะที่ เเจ็คสัน กับโทนี่ กำลังสนทนากัน ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 5 ก็เปิดฉากโจมตีอีกครั้ง

 

อีกด้านนึง ประตูมิติก็ยังปรากฏปริมาณหุ่นยนต์จำนวนมากที่ถูกส่งออกมาเเละมันยังคงมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

“ดูเหมือนจะมีจำนวนมากทีเดียว! J.A.R.V.I.S ทำตามคำเเนะนำของมิราจไนท์ ระวังการโจมตีของพวกมัน เอาล่ะได้เวลาที่จะทำลายพวกมันเเล้ว เปิดฉากโจมตีเลย”กวาดตามองหุ่นยนต์เหล่านี้ โทนี่ กล่าวออกคำสั่งทันที

 

“ครับเจ้านาย!”

 

หึ่ม

 

ปั้งปั้ง!

 

J.A.R.V.I.S รับคำสั่ง พร้อมกับเปิดระบบอาวุธของชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 15 ตัว วินาทีต่อมา การโจมตีจำนวนมากได้มุ่งเป้าไปที่หุ่นยนต์เหล่านี้

 

ปั้ง!

 

ดูเหมือนการโจมตีเหล่านี้จะไม่ชนเข้ากับตรงพื้นที่มิติเเห่งนั้นราวกับว่ามีกำเเพงที่มองไม่เห็นกั้นอยู่ที่ด้านหน้าจนพลังงานเลเซอร์ไม่อาจทะลวงผ่านไปได้

 

“กำลังตรวจสอบ…”

 

ปั้ง

 

J.A.R.V.I.S ได้กล่าวรายงานโทนี่ จากนั้น โทนี่ ก็ลองโจมตีอีกครั้ง เเต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล การโจมตีเป้าหมายตรง พื้นที่มิติ ไม่สามารถทะลวงเข้าไปได้

 

ปั้ง ปั้ง ปั้ง

 

โทนี่ เห็นชุดเกราะทั้งสามตัวของเขาถูกโจมตีเเละปล้นเครื่องเตาปฏิกรณ์อาร์คขนาดเล็กไปทั้งสามตัวที่ไม่ได้มีพลังงานมากพอเเน่นอนว่าย่อมไม่สามารถทำการสู้ต่อได้

 

“เจ้านายครับ,ตรวจพบคลื่นพลังเเละการโจมตีด้วยความเร็วเสียง”J.A.R.V.I.S กล่าวรายงาน

 

ที่จริงเเล้วไม่จำเป็นต้องให้ J.A.R.V.I.S รายงาน โทนี่ สามารถวิเคราะห์ได้ในทันที เพราะเขาเคยเผชิญหน้ากับ สกาเล็ต วิช สาวผมเเดง เธอได้ขัดขวางการโจมตีของชุดเกราะไอรอนแมน เเละ ครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือเธอ

 

สำหรับการโจมตีจุดบอดอย่างเช่นเตาพลังงานปฏิกรณ์อาร์คน่าจะเป็นฝีมือของควิกซิลเวอร์ เขาได้ทำลายชุดเกราะไอรอนแมนทั้งสามตัวเเละกลับไปที่ข้างกายสกาเล็ตวิช

 

“ดูท่านี่จะเป็นฝีมือของสองมนุษย์กลายพันธุ์ที่เคยขวางทางเราก่อนหน้านี้ การต่อสู้นี้ชักจะน่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆ เเล้ว!”โทนี่ เพ่งสมาธิไปยังระยะไม่ห่างไกลมากนัก เขาเห็น ผู้ชายเเละหญิงสาวยืนข้างกัน เเน่นอนว่าเขาจำทั้งสองได้

เเปรง!

 

ในทิศทางเบื้องหน้าของควิกซิลเวอร์มียานพาหนะพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วเห็นได้ชัดว่านี่คือกองทัพไอรอนแมนของโทนี่

 

ควิกซิลเวอร์ได้รับภารกิจให้มารับมือกับไอรอนแมน เพียงเเต่ว่าตอนนี้ชุดเกราะไอรอนแมนกว่า 15 ตัวได้มุ่งหน้ามาที่นี่ มันมากเกินกว่าที่พวกเขาจะรับมือไหว เเม้ความเเข็งเเกร่งของ ควิกซิลเวอร์เเละ สกาเล็ต วิช จะอยู่ในเเนวหน้าของพวกมิวแทนท์ เเต่กองทัพไอรอนแมนขนาดนี้ ก็สามารถสร้างหายนะให้พวกเขาได้พวกเขาไม่มีทางปิดกั้นมันได้อย่างสมบูรณ์

 

“เปโตร?”สกาเล็ตวิช ที่ เห็นท่าไม่ดี เธอตะโกนถามพี่ชายด้วยความกังวล

 

ฟู่ว

 

“ดูเหมือนว่าเราคงทำได้เเค่หวังว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายเเรงในเวลานี้! เเวนด้าเฝ้าระวังเอาไว้หาโอกาสจัดการพวกมันให้ได้”เเม้ความรู้สึกของเปโตรจะไม่ต้องการที่จะสู้กับกองทัพชุดเกราะไอรอนแมน เเต่เขาก็ไม่มีทางเลือก

 

“เข้าใจเเล้ว!”ในฐานะน้องของควิกซิลเวอร์ สกาเล็ต วิช ตอบตกลงเเละพร้อมจะสนับสนุนพี่ชายของเธอ

 

เเม้ควิกซิลเวอร์จะมีสปีดความเร็วที่ยอดเยี่ยมจนคนทั้งโลกอาจตกตะลึง เเต่ความความเเข็งเเกร่งของเขาคือจุดด้อยอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้บนสะพานโกลเด้นเกต พื้นที่สนามรบได้ขยายออกไปปเป็นวงกว้าง มันทำให้ เปโตร สามารถที่จะได้รับการช่วยเหลือจากสกาเล็ต วิช ง่ายขึ้น

 

สกาเล็ต วิช ก็เหมือนกับ ไอซ์แมน เธอเป็น มิวแทนท์ระดับ 5 ตั้งเเต่ที่ความสามารถของเธอเริ่มปรากฏขึ้น ความสามารถของเธอกลายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ จนมันเเข็งเเกร่งอย่างเห็นได้ชัด เเละ เป้าหมายของเปโตร ก็คือ การหลอกล่อศัตรู เพื่อให้ สกาเล็ต วิช มีโอกาสได้จัดการศัตรูในตอนที่เธอหาจังหวะได้

 

ฟุ่บ!

 

ควิกซิลเวอร์ ได้กอด สกาเล็ต วิช ทีนึง ก่อนที่จะพุ่งหายตัวไปในเวลาเดียวกัน

 

!

 

“เจ้านายครับ,ภูมิภาคเเถวนี้ได้ส่งคลื่นความผิดปกติสูงขึ้นเรื่อย ๆ “ในขณะที่โทนี่ขับชุดเกราะไอรอนแมนไปที่สะพานโกลเด้นเกต เสียง J.A.R.V.I.Sรายงานอย่างต่อเนื่อง

 

“วิเคราะห์ได้หรือไม่?”โทนี่ไม่ได้ชะลอตัวเขามุ่งหน้าไปที่สะพานอย่างเต็มกำลัง

 

“ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ ดูเหมือนการส่งสัญญาณภายในพื้นที่ทั้งหมดจะถูกปิดกั้น เเต่โชคดีที่มันไม่มีผลต่อระบบของชุดเกราะไอรอนแมน”J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

 

“เช่นนั้นก็ไม่ต้องกังวล!”เนื่องจากมันไม่ส่งผลต่อระบบชุดเกราะของเขา โทนี่ จึงไม่จำเป็นต้องกังวล

 

เพร้ง!

 

วินาทีต่อมา โทนี่ เเละ ชุดเกราะไอรอนแมนกว่า 15 ตัวได้ชนเข้ากับพื้นที่ผิดปกติบนอากาศ

 

ขณะที่โทนี่นำชุดเกราะไอรอนแมนมุ่งตรงสู่สะพานโกลเด้นเกต ในสถานที่ห่างไกลสะพานโกลเด้นเกต ประมาณ 500 เมตร ประตูมิติได้ปรากฏขึ้น จากนั้น ไอซ์แมน,ชาโดว์เเคท เเละ บลิงก์ ทั้งสามคนก็เดินออกมา พวกเขามองเห็นสะพานโกลเด้นเกตจากระยะไกล

 

“ทำไมพวกเราถึงไม่ถูกส่งไปที่สะพานโดยตรง?”เเม้ว่าทั้งสามคนจะอยู่ห่างไม่ไกลมากจากสะพานโกลเด้นเกต เเต่ ไอซ์แมนก็รู้ว่า บลิงก์ ล็อคเป้าไปที่สะพานโดยตรง ดังนั้นเขาจึงสงสัย

 

เมื่อ ไอซ์แมน เห็น บลิงก์ ทำท่าทีลองอีกครั้ง เเต่มันล้มเหลว เขาก็เลยรู้สึกสงสัยหนักกว่าเดิม

 

“เกิดอะไรขึ้นบลิงก์?”เห็นการเเสดงออกของบลิงก์ ชาโดซ์เเคท คิตตี้ กล่าวถามอย่างเร่งรีบ

 

“ฉันได้ล็อคเป้าไปที่นั่นไม่ผิดเเน่ เเต่พื้นที่ภูมิภาคเเถวนั้นได้รับผลกระทบจากบางสิ่งฉันไม่สามารถเปิดประตูมิติเข้าไปที่นั่นโดยตรงได้ มันได้ส่งพวกเรามายังสถานที่ที่ใกล้เคียงหรือระยะปลอดมากที่สุด”บลิงก์กล่าวอธิบาย เเม้เธอจะไม่ใช่ J.A.R.V.I.S ที่สามารถวิเคราะห์การเปลี่ยนเเปลงของพื้นที่ด้านหน้า เเต่ยีนกลายพันธุ์ของเธอมันตอบรับกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจนเธอสามารถอธิบายได้

 

“เเม้เเต่ประตูมิติยังได้รับผลกระทบ?เป็นไปได้หรือไม่ที่เป็นฝีมือพวกไฮดร้า?อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเราจะต้องรีบไปรวมทีมให้เร็วที่สุด ฉันเเละคิดตี้ จะรีบมุ่งหน้าไปสนับสนุนมิราจไนท์ในทันที หากเป็นไปได้ รีบติดต่อศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ให้เขาช่วยสนับสนุนเรา”เเม้จะรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เเปลก เเต่ ไอซ์แมน ก็รู้ว่าทางฝั่งของมิราจไนท์ ย่อมเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเเน่นอน

 

“อืม,ฉันเข้าใจเเล้ว!”บลิงก์พยักหน้าตอบกลับ

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นไอซ์แมนก็คว้าคิดตี้เข้ามากอดเขาเปลี่ยนสภาพเป็นผลึกน้ำเเข็งโดยตรง ทันทีที่ชาโดว์เเคทกอดไอซ์แมนเธอก็ใช้ความสามารถของตัวเองในการหลอมรวมร่างเข้ากับไอซ์แมนอย่างสมบูรณ์

 

เเสงสีน้ำเงินของไอซ์แมนได้เเช่เเข็งพื้นที่บนผิวทะเลที่เขาย่างกายสัมผัสจากนั้นมันก็ยังคงเเผ่ออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง

 

ตึก ตึก

 

ไอซ์แมนได้รีบมุ่งหน้าไปที่สะพานโกลเด้นเกตุด้วยการเเตะน้ำบนทะเล ,บนสะพานโกลเด้นเกตุ กองทัพไอรอนแมนได้มาถึงเเล้ว ในขณะที่ กองกำลัง S.H.I.E.L.D. กำลังมุ่งหน้ามายังสถานที่เเห่งนี้ด้วยความเร็วสูง

 

เเม้ เเจ็คสัน จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับ S.H.I.E.L.D. การขอร้องเรื่องช่วยพ่อเเม่ของเขา เเน่นอนว่า S.H.I.E.L.D. จะไม่ตอบรับก็ได้ เเต่เพราะ นี่เป็นการเคลื่อนไหวของพวกไฮดร้า S.H.I.E.L.D. จึงไม่มีทางนั่งเฉย ๆ อย่างเเน่นอน กัปตันโรเจอร์ส เเละ เเดร์เดวิล ได้ยืนอยู่เเถวหน้าสุดของควินเจ็ต ตอนนี้ กัปตันโรเจอร์ส อยากรู้การเคลื่อนไหวของพวกไฮดร้าในตอนนี้มาก

 

ในอีกทางด้านหนึ่งของสะพานโกลเด้นเกต,สไปเดอร์แมน เดดพูล,เเจ็ค เเละ เเฮร์รี่ ทั้งสี่คนได้ขับยานบินมุ่งหน้าไปที่สะพานโกลเด้นเกตุ เนื่องจากพวกเขารู้ว่า พ่อเเม่ของเเจ็คสันถูกโจมตี เเฮร์รี่ เเละ ปีเตอร์จึงกังวลเป็นพิเศษ เขาได้รีบนำ เดดพูล เเละ เเจ็ค มาด้วย โดยให้ สกาย’อาย ส่งตำเเหน่งล่าสุดของเเจ็คสันให้กับพวกเขา

 

ตอนนี้กองกำลังหนุนหลังทั้งหมดของเเจ็คสันได้เคลื่อนไหวกันทุกฝ่ายเเล้ว เหลือเพียง ธอร์ เพียงเท่านั้น โชคร้ายที่เขายังคงเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ดังนั้น เเจ็คสันจึงหวังให้ธอร์สามารถที่จะยกค้อนได้เร็ว ๆ ไม่งั้นศึกในครั้งนี้จะไม่ยืดยาวอย่างเเน่นอน

 

อย่างไรก็ตามจุดเเข็งทั้งหมดนี้ก็ยังไม่ใช่ความเเข็งเเกร่งที่เเท้จริงของเเจ็คสันเพียงทั้งหมด พวกเขาเป็นปัจจัยสนับสนุนเพียงเท่านั้น หากเเจ็คสัน รู้ว่าเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของพวกไฮดร้าคราวนี้คือ เร้ด สกัลล์ เขาจะทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าชะตากรรมที่มายุ่งกับพ่อเเม่ของเขาเป็นอย่างไร

ปั้ง

 

การปะทะกับวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่ทำให้ผิวของเเจ็คสันเริ่มหมองคล้ำมากขึ้นเเม้ใบหน้าของจะถูกปกปิดด้วยหน้ากากเเละไม่ได้เปิดเผยต่อหน้าพ่อของเขา เเต่ดวงตาทั้งสองข้างก็ทำให้ หลินไฮ่รู้สึกคุ้นเคย

 

ทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่เเน่นอนว่าพวกมันย่อมไม่ใช่คู่มือของเเจ็คสัน เเต่ความเเข็งเเกร่งโดยรวมกลับน่ากลัวกว่าทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นเก่าอย่างบัคกี้

 

ทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่นี้ถูกปรับปรุงด้านพละกำลังไม่เพียงเท่านั้นยังเเข็งเเกร่งกระทั่งถูกควบคุมโดยสมบูรณ์ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ 5 คนได้ล้อมเเจ็คสัน เพียงคนเดียว ทำให้เเจ็คสันสู้อย่างลำบาก

 

เเม้ว่าดาบสายฟ้าของเเจ็คสันจะรุนเเรงเเต่เมื่ออยู่ต่อหน้าทหารวินเทอร์ทั้ง 5 คนที่สวมชุดเกราะป้องกันพิเศษผนวกกับคุณสมบัติทางกายที่เเข็งเเกร่งพวกเขาสามารถที่จะต้านทานการโจมตีของเเจ็คสันได้

 

ปั้ง

 

“ครั้งก่อนเเม้เเต่ทอมก็ยังไม่เเข็งเเกร่งขนาดนี้?หรือว่านี่คือทหารสมบูรณ์แบบของการทดลองทหารวินเทอร์โซลเยอร์?”เผชิญหน้ากับทหารวินเทอร์โซลเยอร์ เเจ็คสัน ถูกกระหน่ำยิงเข้าที่ชุดหลายครั้ง

 

“ดาบสายฟ้าของฉันไม่เพียงพอที่จะทำลายอุปกรณ์ป้องกันของพวกเขาได้ นอกจากนี้ การกระทำของพวกไฮดร้ายังเด่นเเละอุกอาจเกินไป พวกมันได้โจมตีพ่อเเม่ของฉันนี่เป็นเป้าหมายจริงๆของพวกมันเเน่หรอ?”เเจ็คสันที่เผชิญหน้ากับวินเทอร์โซลเยอร์จิตนึงเขาก็ทำการต่อสู้อีกจิตนึงเขาก็เเบ่งความคิด

 

เเจ็คสันรู้ว่าภูมิภาคของพื้นที่เเห่งนี้ค่อนข้างประหลาด พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ไม่สามารถพาพ่อของเขาออกไปจากที่นี่ได้ เพราะมันมีพลังงานลบกวนความสามารถในการสร้างประตูมิติ

 

หึ่ม

 

ชี่!

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังปะทะกับทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 5 คน ตำเเหน่งศูนย์กลางของสะพานโกลเด้นเกตก็ปปรากฏคลื่นพลังงานความผันผวนในรูปแบบของกระเเสไฟฟ้าขึ้น

 

พริบตาเดียวพื้นที่เเห่งนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยกระเเสไฟฟ้า ธรรมชาติ มันเป็นลูกบอลเเสง เเต่ดูเหมือนไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ราวกับว่าบอลเเสงนั้นถูกบางสิ่งกระตุ้นให้เกิดขึ้น

 

“นั่นมันอะไร?”เห็นการปรากฏการณ์ที่เเปลกประหลาด เเม้เเต่สกาเล็ต วิช ก็รู้สึกได้ถึงพลังงานที่น่าเกรงขามที่ปรากฏตัวออกมาจากบอลเเสง

 

ควิกซิลเวอร์เองก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน เขาพยายามจ้องมองไปที่บอลเเสงนั่นเพื่อหมายจะรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร

 

“เธอเฝ้าระวังไว้ฉันจะเข้าไปดูเล็กน้อย!”ในที่สุด ควิกซิลเวอร์ก็ตัดสินใจ

 

ฟุ่บ!

 

ความเร็วของควิกซิลเวอร์พุ่งออกไปราวกับว่าโลกนี้กำลังฉายภาพสโลว์โมชั่น พริบตาเดียวเขาก็มาถึงตำเเหน่งลูกบอลไฟฟ้า เเม้ความเร็วของเเสงไฟฟ้าเหล่านี้จะเร็ว เเต่ ควิกซิลเวอร์ก็สามารถมองเห็นการเคลื่อนตัวของพลังงานเเสงไฟฟ้านี้ได้

 

ภายในนั้นมีบางสิ่งที่กำลังถูกเเสงไฟฟ้าห่อหุ้มอยู่ ควิกซิลเวอร์สังเกตุอย่างรอบจนในที่สุดเขาก็เห็นสถานการณ์ภายในเเสงไฟฟ้า

 

“นี่มัน…!”หลังจากที่ได้เห็นชัดว่าศูนย์กลางของลูกบอลไฟฟ้าคืออะไร ควิกซิลเวอร์ก็ประหลาดใจอย่างมาก เขารีบพุ่งกลับไปที่ด้านข้างของสกาเล็ต วิช อีกครั้ง

 

“มันคือพื้นที่ประตูอวกาศ ดูเหมือนพวกไฮดร้าจะมีเเผนการเคลื่อนไหวบางอย่าง!”ควิกซิลเวอร์กล่าวอธิบายโดยตรง

 

เเน่นอนว่า สกาเล็ต วิช เเละ ควิกซิลเวอร์ รู้ว่า พวกไฮดร้ามีเเผนการบางอย่าง เเต่ไม่คาดคิดว่าพวกไฮดร้าจะสามารถสร้างประตูอวกาศได้สำเร็จ เเละ พวกเขาก็ต้องการเห็นว่าพวกไฮดร้าจะทำอะไรต่อจากนี้

 

ชี่!

 

ปั้ง

 

ในขณะที่ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช กำลังไตร่ตรองว่าพวกไฮดร้ากำลังจะทำอะไร บอลเเสงนั่นก็ยิงพลังงานสีขาวขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่จะหายไป เเละ ตำเเหน่งของลูกบอลไฟฟ้านั้นก็สว่างขึ้นจนปรากฏเป็นประตูมิติที่มั่นคงมันได้ปรากฏขึ้นที่ใจกลางสะพานของสะพานโกลเด้นเกต

 

ครื่น ๆ

 

หลังจากประตูช่องว่างปรากฏขึ้นเสียงของเครื่องจักรก็ดังลั่นออกมา มีหุ่นยนต์รูปแบบมนุษย์มากกว่า 200 ตัว วิ่งออกมา พร้อมกับหุ่นยนต์สัตว์อีกประมาณร้อยกว่าตัว หุ่นยนต์ทั้งตัวเป็นโลหะผสมที่มีความทนทานสูง หลังจากเปิดประตูมิติอวกาศได้ พวกไฮดร้าก็ส่งกองทัพหุ่นยนต์หลายร้อยตัวออกมาโดยไม่คาดคิด

 

“เพื่อรับมือกับมิราจไนท์ พวกไฮดร้ากลับทุ่มทุนเอาสิ่งเหล่านี้ออกมามากมาย มิราจไนท์ ควรค่าเเก่การให้ความสำคัญขนาดนั้น?”เห็นหุ่นยนต์เหล่านี้ที่ไม่ธรรมดา สกาเล็ต วิช ไม่เข้าใจ

 

มิราจไนท์ในตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับทหารวินเทอร์โซลเยอร์ 5 คน เเละยังไม่สามารถจัดการได้ ถึงอย่างนั้นพวกไฮดร้ากลับยังส่งเครื่องจักรพวกนี้มาจำนวนมากอีก

 

“บางทีนี่อาจจะเป็นการเคลื่อนไหวพิเศษของพวกไฮดร้า เมื่อวานก่อนฉันได้เเอบเข้าไปที่ออฟฟิศของพวกเขาเเละเห็นอะไรบางอย่าง”

 

“เป็นข้อมูลการวางเเผนของพวกไฮดร้า”ควิกซิลเวอร์กล่าวต่อ

 

“ห้องออฟฟิศที่นายเข้าไป ใช่ของ…เร้ดสกัลล์ ใช่ไหม? หรือว่าเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ทั้งหมด”เเม้ควิกซิลเวอร์จะไม่อธิบายมาก เเต่ สกาเล็ต วิช ก็เข้าใจ

 

“ใช่,เป็นเเผนการของเขา ราวกับว่าตอนนี้พวกไฮดร้าต้องการจะฟื้นฟูอำนาจของตัวเองกลับมา ดังนั้นพวกเขาถึงต้องการเผยอาวุธทุกอย่างเพื่อที่จะจัดการมิราจไนท์ เเต่ฉันไม่เข้าใจเหมือนกัน มิราจไนท์ สำคัญถึงขนาดที่ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากที่ซ่อนอยู่ขนาดนี้เพื่อจัดการเขาจริง ๆ?”ควิกซิลเวอร์เองก็ผุดความคิดนี้

 

“เเน่นอนว่าคงไม่ใช่อย่างนั้น,เร้ด สกัลล์ น่าจะมีเเผนลับบางอย่าง เปโตร พวกเราควรทำยังไงต่อ?”สกาเล็ต วิช เชื่อว่า ตอนนี้ พวกไฮดร้าคงกำลังจะเริ่มเเผนการลับบางอย่าง

 

“ไม่มีอะไรที่พวกเราสามารถทำได้ภารกิจที่เราได้รับมาเเค่รับมือกับชุดเกราะไอรอนแมน เเต่ดูเหมือนตอนนี้พวกเราคงไม่ต้องทำอะไร…”ได้ยินคำพูดของน้องสาว ควิกซิลเวอร์เองก็ทำอะไรไม่ถูก

 

เพียงเเต่ว่าขณะที่เขากำลังพูดเขาก็มองไปยังทิศทางนึงก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเปลี่ยนสี

“สามารถที่จะเทียบเท่ากับ กัปตันอเมริกา ที่เป็นซูเปอร์โซลเดอร์ ได้จริงงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของควิกซิลเวอร์,สกาเล็ต วิช รู้สึกไม่เชื่อ

 

เเม้ สกาเล็ต วิช เเละ ควิกซิลเวอร์ จะเป็นคนของพวกไฮดร้า เเต่พวกเขาก็เเค่ทำงานรับจ้างเพียงเท่านั้น สกาเล็ต วิช เเละ ควิกซิลเวอร์ ต้องการออกจากไฮดร้าเเละเเยกตัวไปใช้ชีวิตของตัวเอง เเต่เพราะเหตุผลพิเศษบางอย่างในตอนนี้ทำให้ สกาเล็ตวิช เเละ ควิกซิลเวอร์ จึงต้องรับงานมาจากไฮดร้า เเละผู้สั่งการก็คือ เร้ดสกัลล์

 

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้รายละเอียดกับพวกไฮดร้ามากนัก เเต่สิ่งที่ควิกซิลเวอร์พอรู้ก็คือ ทหารติดอาวุธที่เเข็งเเกร่งทั้ง 5 คนนี้ ถูกเรียกว่าวินเทอร์โซลเยอร์ เขาได้ยินความสำเร็จจากการทดลองเเละกำเนิดตัวตนเหล่านี้ออกมา มันมีความเเข็งเเกร่งเทียบเท่ากับกัปตันอเมริกา

 

“ถูกต้องถึงเเม้ว่าพวกทหารวินเทอร์โซลเยอร์เหล่านี้จะไม่มีความเเข็งเเกร่งเทียบเท่ากับตันอเมริกา เเต่พวกเขาก็ได้ผ่านการทดสอบด้านความเเข็งเเกร่งเเล้วหากเทียบกับรุ่นเก่านับว่าเเข็งเเกร่งเพิ่มขึ้นมาเท่าตัว”นักรบใส่เกราะทั้ง 5 คนที่สวมหน้ากาก เดินเข้ามาภายในสนามรบ เเละ เปโตร ก็พยายามอธิบายให้สกาเล็ต วิช ฟัง

 

“เทียบกับรุ่นก่อนเเข็งเเกร่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว?”ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เเม้เเต่สกาเล็ต วิช ก็ยังประหลาดใจ

 

บัคกี้ในฐานะทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นเเรก ความเเข็งเเกร่งของเขาเทียบเท่ากัปตันอเมริกาอย่างไม่ผิดเเน่ไม่ว่าจะเป็นด้านพละกำลังหรือความเร็วบัคกี้ก็ครอบครองไปทุกด้านเเต่ถึงอย่างนั้นทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่กลับเเข็งเเกร่งกว่ารุ่นเก่าถึงเท่าตัว

 

“ดูจากการซุ่มยิงที่เกือบทำให้คนคนนั้นเสียชีวิตดูท่าจะเป็นเรื่องจริง”ควิกซิลเวอร์ พยักหน้าเล็กน้อย

 

“เปโตร,พวกเราจะทำอย่างไร หากพวกเรายังรับงานต่อไปแบบนี้เรื่องการเเยกตัวตามที่วางเเผนเอาไว้…”เห็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 5 ปรากฏตัว สกาเล็ต วิช รู้สึกไม่ดีเล็กน้อย

 

“ภารกิจของเราคือช่วยสกัดกั้นกองทัพไอรอนแมน นอกจากนี้ไม่ใช่ธุระของเรา”ควิกซิลเวอร์ตัดสินใจในที่สุด

 

หลังจากที่ควิกซิลเวอร์เห็นการปรากฏตัวของทหารวินเทอร์โวลเยอร์ เขาก็เข้าใจว่าตนเองคงไม่มีหน้าที่ที่จะรั้งอยู่ที่นี่ต่ออีกเเล้ว เพราะเขาเชื่อว่าอีกไม่นานการปะทะในสถานที่เเห่งนี้จะรุนเเรงมากขึ้น

 

 

ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 5 คนติดอาวุธที่เเข็งเเกร่งครบมือหากเทียบกับทีมอัลฟ่าอาวุธของพวกเขาล้วนไฮเทคกว่ามาก ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 5 คนได้เล็งเป้าหมายไปที่ด้านหน้า

 

วินาทีต่อมา สามวินเทอร์โซลเยอร์ ได้เปิดฉากยิง เเละ สองวินเทอร์โซลเยอร์ ก็พุ่งเข้าไปเพื่อหวังจะจัดการโดยตรง

 

เปรี้ยงง!

 

พ่อมดรุ่ยเคอ สร้างโล่เวทย์มนตร์ขึ้น การป้องกันในครั้งนี้ทำให้ผิวของเขาน่าเกลียดอย่างมาก

 

“ดูเเลเขาที!”เผชิญหน้ากับทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้งสองคนที่พุ่งเข้ามา พ่อมดรุ่ยเคอ กล่าวบอก หลินไฮ่ ให้ช่วยดูเเล พ่อมดไต้เหวิ่น ที่กำลังบาดเจ็บเเละเขาได้พุ่งเข้าไปปะทะ

 

ปั้ง!

 

อย่างไรก็ตามขณะที่พ่อมดรุ่ยเคอเตรียมพร้อมที่จะเข้าปะทะกับไฮดร้าทั้งสองคน เงาร่างของบุคคลคนนึงก็ตกลงมาจากบนอากาศ ความเร็วในการตกของเขาสูงมากก่อนที่จะถึงพื้นในที่สุด

 

“มิราจไนท์!”เห็นเงาร่างที่คุ้นเคย พ่อมด รุ่ยเคอ ตะโกนด้วยความประหลาดใจ

 

คนที่หล่นลงมาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากมิราจไนท์ ดูเหมือนเขาจะกระโดดลงมาจากยานบินเเละเห็นสถานการณ์ทางฝั่งเขาไม่ดีหากเขาช้ากว่านี้บางทีพ่อมดรุ่ยเคออาจจะเเย่ก็เป็นได้ นอกจากนี้ ในใจของเเจ็คสันราวกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุอย่างรุนเเรง

 

“พ่อมดรุ่ยเคอ ขอบคุณท่านมาก ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง”เห็นอาการบาดเจ็บของพ่อมดไต้เหวิ่น เเละ พ่อของเขาที่ปลอดภัย เเจ็คสัน รู้สึกขมขื่นอย่างมาก

 

“เข้าใจเเล้ว!”พ่อมดรุ่ยเคอปฏิบัติตามเเละเลือกที่จะถอยไปด้านหลัง เขาเชื่อใจมิราจไนท์ เเละ สถานการณ์ปัจจุบันเขาจะต้องรีบช่วยเหลือพ่อมดไต้เหวิ่นก่อน

 

หลังจากเห็นการปรากฏตัวขึ้นของทหารวินเทอร์โซลเยอร์ เเจ็คสันได้ลอบประเมินอย่างลับ ๆ ดูเหมือนคนเหล่านี้จะเป็นทหารที่สมบูรณ์แบบของพวกไฮดร้า มันได้นำความรู้สึกที่อันตรายส่งมาให้เขา

 

ปั้ง

 

ไม่นานบรรยากาศที่เงียบสงบก็หายไปปอีกครั้งกระสุนปืนของทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 5 คนได้ถูกส่งไปยังเเจ็คสันในเวลาเดียวกัน

 

เพร้ง!

 

ดาบสายฟ้าในมือของเเจ็คสันควงปัดลูกกระสุนเเละฟันลูกกระสุนที่พุ่งเข้ามา เเจ็คสันเข้าใจจุดเเข็งของพวกทหารวินเทอร์โซลเยอร์เหล่านี้ดี เเม้คนเหล่านี้จะเเข็งเเกร่งเเต่ก็ไม่ได้ทำงานกันเป็นทีม นอกจากนี้ก่อนที่เขาจะลงมือ เขาได้ตรวจสอบดีเเล้วว่าทั้ง 5 คนนี้ไม่มีทอมอยู่ในนั้น

 

เห็นการปัดป้องการโจมตีของเเจ็คสันทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 5 คนเพิ่มความเร็วขึ้นเเละเตรียมเข้าปะทะกับเขาการปะทะกับบุคคลทั้ง 5 คนในเวลาเดียวกันเเม้จะเป็นเเจ็คสันก็ยังยากที่จะรับมือได้โดยไม่เสียท่า

 

“หึ่ม,พละกำลังเเละความเเข็งเเกร่งของพวกมันนับว่าเเข็งเเกร่งกว่าวินเทอร์โซลเยอร์คนก่อนมาก ไม่เสียทีที่เป็นวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่”หลังจากเข้าปะทะเเลกเปลี่ยนการต่อสู้เเจ็คสันประหลาดใจเล็กน้อยเกี่ยวกับความเเข็งเเกร่งของทหารเหล่านี้

 

“เเต่ว่า,ถ้านี่คือขีดจำกัดเเล้วล่ะก็เเค่นี้ยังไม่พอ!”เเม้เขาจะชื่นชมทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่ เเต่เขาก็ไม่ได้หวาดกลัว

 

ปั้ง

 

เเจ็คสันระเบิดกลิ่นอายพลังออกมาอย่างน่ากลัว ตอนนี้เขาต้องการที่จะปลดปล่อยความกระหายในการฆ่าจำนวนมาก พลังงานภายในของเขากำลังเผาไหม้จนร่างกายของเขากำลังเเดงมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาได้จับดาบสายฟ้าเเน่นเเละฟันออกไป

 

ฟุ่บ!

 

เเสงสีม่วงเเพรวพราวได้พุ่งออกไปเป็นเส้นตรง

 

“มอบความตายมาซะ!”เเจ็คสันตะโกนออกมาเขาต้องการที่จะปิดฉากการต่อสู้ในครั้งนี้

 

ปั้งงง

 

 

!

 

สะพานโกลเด้นเกต ในขณะที่ เเจ็คสันกำลังต่อสู้กับทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทั้ง 5 คน ขณะเดียวกัน ชุดเกราะไอรอนแมน 15 ตัว กำลังมายังสถานที่เเห่งนี้ เพราะก่อนหน้านี้ชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 5 ตัว ได้ถูก สกาเล็ตวิช เเละ ควิกซิลเวอร์จัดการ โทนี่ จึงได้ส่งชุดเกราะไอรอนแมน 15 ตัวนี้มาสนับสนุนในทันที

 

“เจ้านายครับ,ดูเหมือนพื้นที่เป้าหมายพิเศษจะเกิดคลื่นพลังความผันผวน”โทนี่ขณะที่นำกองทัพไอรอนแมนของตัวเองเคลื่อนพลไปทางสะพานโกลเด้นเกต ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียง J.A.R.V.I.S

 

“วิเคราะห์ทันที!”โทนี่ไม่มีเวลาที่จะตรวจสอบความผันผวนของพื้นที่พิเศษนี้ เขาเพียงต้องการทราบรายละเอียดข้อมูลคร่าว ๆ เพียงเท่านั้น

 

“ครับเจ้านาย!”

ฟิ้ว! ฟิ้ว! เหนือน่านฟ้าของนิวยอร์กวันนี้เเลดูไม่สงบเพราะจู่ ๆ ก็มีกองทัพชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมาก พุ่งผ่านไป จนชาวเมืองนิวยอร์ก หรือสึกสงสัยว่ามีอุบัติเหตุใหญ่เกิดขึ้นหรือไม่

 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เเจ็คสันที่อยู่บนยานบินตอนนี้เขากำลังมุ่งหน้าไปที่สะพานโกลเด้นเกต,เขาได้ยินรายงานของ J.A.R.V.I.S ที่บอกว่าเเม่ของเขาปลอดภัย มันทำให้เเจ็คสันถอนหายใจออกมา เพราะตอนนี้ก็เหลือสถานการณ์ปัจจุบันของพ่อของเขา

 

ฟุ่บ!

 

ยานบินที่ออสคอร์ปสร้างนั้นอาจจะไม่ได้มีความเร็วเทียบเท่ากับไอรอนแมนเเต่ก็สูงมากถึงอย่างนั้นเเจ็คสันก็คิดว่ามันช้าอยู่ดี หาก ครอบครัวของเขาตกอยู่ในอันตราย ด้วยความเร็วระดับนี้มันอาจกระทั่งทำให้เขาสูญเสียครอบครัวไปเลยก็ได้

 

ฟ้าว

 

ไม่นานเเจ็คสันก็มองเห็นสะพานโกลเด้นเกต ที่เบื้องหน้า ตอนนี้บนสะพานกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

 

ปั้ง

 

ในที่สุดเเจ็คสันก็ระเบิดพลังงานของยานบินของเขาพุ่งเข้าไปที่สะพานโกลเด้นเกตความเร็วในตอนนี้นับว่าเร็วกว่ามากเเต่มันก็ผลาญพลังงานอย่างรวดเร็ว เเต่ในเวลานี้เขาไม่สนเเล้ว เขาเห็นสะพานโกลเด้นเกตที่อยู่ห่างไม่ไกล 1,000 เมตรด้านหน้าของเขา

 

 

ปั้ง

 

ใบมีดเวทมนตร์ของพ่อมดไต้เหวิ่น ได้หักลง ดูเหมือนเขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของศัตรูเเม้ความเเข็งเเกร่งของพ่อมดพวกนี้จะเเข็งเเกร่งมาก เเต่ทหารทีมอัลฟ่าก็เป็นนักฆ่ามือฉมัง ตัวตนของพวกเขาสามารถที่จะสังหารมิวแทนท์ได้ไม่ยาก นอกจากนี้ เชื้อสายจอมเวทย์เเห่งโลกก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับโลกมากนัก เเต่เพราะนี่เป็นคำขอของมิราจไนท์ พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น จึงต้องออกมาช่วยเหลือ หลินไฮ่

 

สถานการณ์ในตอนนี้พ่อมดทั้งสองคนได้ผนึกกำลังต้านทานศัตรูเวทมนตร์ของพวกเขาคือสิ่งเดียวที่ยันในสถานที่เเห่งนี้เอาไว้ได้ไม่งั้นพวกเขาคงถูกจัดการไปนานเเล้ว ทีมอัลฟ่า ได้เข้าเผชิญหน้ากับพ่อมดทั้งสองคน ในใจของพวกเขาก็รู้สึกเเปลกว่าตัวตนเหล่านี้ปรากฏมาจากไหน เขากำลังคิดอยู่ว่า ทั้งสองคนนี้ เป็นพวกมิวแทนท์ใช่หรือไม่

 

“รุ่ยเคอ นายรีบพาเขาหนีไป! พวกเราไม่ควรเปิดเผยสถานะต่อเบื้องหน้าคนเหล่านี้มาเกินไป”ในขณะที่พ่อมดไต้เหวิ่น กำลังสร้างโล่ห์บาเรียเล็ก ๆ หลายอันต้านทานศัตรูจากทีมอัลฟ่า เขาก็กล่าวกับพ่อมดรุ่ยเคอ

 

พ่อมด รุ่ยเคอ เเละพ่อมด ไต้เหวิ่น ไม่ได้วางเเผนจะสู้ตายกับคนเหล่านี้ หน้าที่ของเขาคือช่วยเหลือ หลินไฮ่ ให้ได้ หลังจากช่วยได้เสร็จพวกเขาควรจะรีบถอยทันที

 

“ดูเหมือนจะมีบางคนรบกวนการเปิดใช้ประตูมิติ ฉันไม่สามารถเปิดใช้ได้!”เห็นพ่อมดไต้เหวิ่นที่เผชิญหน้ากับทีมอัลฟ่า กล่าวบอกเขา พ่อมดรุ่ยเคอ ที่อยู่ข้างหลินไฮ่ เขามีสหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก

 

เพราะหลังจากปรากฏตัวออกมา พ่อมดรุ่ยเคอ ตั้งใจจะส่ง หลินไฮ่ ออกไปจากที่นี่ผ่านประตูมิติเวทมนตร์ เเต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือประตูเวทมนตร์ของเขาไม่สามารถใช้การได้

 

ฟุ่บ!

 

“งั้นรีบมาช่วยฉันก่อน!”พ่อมดไต้เหวิ่น ไม่สนใจคำอธิบายของ พ่อมดรุ่ยเคอ เขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูจากหลายทิศทางพร้อมกัน

 

ปั้ง

 

พ่อมดไต้เหวิ่นวาดเเวงเวทย์สีทองก่อนที่มันจะพุ่งเข้าใส่ร่างกายของพวกทีมอัลฟ่า

 

ปั้ง

 

เปรี้ยง!

 

 

ทักษะเวทมนตร์ของพ่อมดไต้เหวิ่นนั้นรุนเเรงมากมันได้ดันทหารเเละส่งพวกเขาลอยกลับไปหลายสิบเมตร เพียงเเต่ว่าทีมทหารอัลฟ่าอีกหลายคนก็ระดมยิงปืนเข้ามาซึ่งพ่อมดไต้เหวิ่นได้สร้างบาเรียเวทมนตร์ขึ้นมาป้องกันอีกครั้ง

 

เพร้ง,พ่อมดไต้เหวิ่นเพ่งเล็งต้านทานการโจมตีที่เบื้องหน้าจนไม่ได้สังเกตุเลยว่ามีทิศทางการยิงมาจากทิศทางอื่นมันได้กระทบเข้ากับหัวไหล่ของเขาจนไหล่ซ้ายปรากฏรอยโลหิตสาดกระเซ็น

 

“!”พ่อมดไต้เหวิ่นที่ถูกยิงเเขนของเขาไม่สามารถสร้างบาเรียเวทย์มนตร์ได้คราวนี้กระสุนได้ถูกกระหน่ำยิงเข้ามาอีกครั้งมันได้เกือบผ่านหัวใจของเขา

 

“ไต้เหวิ่น!”เห็นพ่อมดไต้เหวิ่นบาดเจ็บหนัก พ่อมดรุ่ยเคอ ตะโกนออกมาทันที

 

จากนั้นเขาก็ใช้เชือกสีทองพุ่งเข้าหาพ่อมดไต้เหวิ่นเเละดึงกลับมาที่ข้างกายของเขา

 

“อั๊ก!?”สีหน้าของพ่อมดไต้เหวิ่นซีดขาวมาก เเม้เเต่พ่อมด รุ่ยเคอ ก็มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีที่เห็นสหายของเขาบาดเจ็บหนัก

 

“นายจะตายไม่ได้! ไม่ว่าอย่างไร ฉันจะก็จะช่วยนายออกไปจากสถานที่เเห่งนี้”พ่อมดรุ่ยเคอ เเบกร่างของ พ่อมดไต้เหวิ่น เพื่อเตรียมจะหลบหนี

 

“ศัตรูของมิราจไนท์ เป็นใครกัน!?”พ่อมดไต้เหวิ่น กล่าวพึมพัมออกมา ตอนนี้ เขาบาดเจ็บหนักมากเเทบจะไม่มีเรี่ยวเเรงในการพูด

 

มิราจไนท์ได้ติดต่อเข้ามาหาพวกเขาให้ไปช่วยเหลือคนบางคน เเต่ไม่คิดเลยว่าการปรากฏตัวของพวกเขาในครั้งนี้ พ่อมดไต้เหวิ่นจะบาดเจ็บสาหัส เเละพ่อมดรุ่ยเคอ ก็ไม่สามารถอยู่ต้านศัตรูคนเดียวได้ ดูจากสถานการณ์ในปัจจุบัน คนเหล่านี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอน

 

 

“เปโตร!พวกเขาทั้งสองคนกำลังถอย?”สกาเล็ต วิช กล่าวบอก ควิกซิลเวอร์

 

ตอนนี้พวกไฮดร้าได้ส่งพวกเขามารับมือกับมิราจไนท์ เเต่พวกเขาทั้งสองคนไม่คิดเลยว่าจะมีตัวตนอย่างทั้งสองคนปรากฏขึ้น เมื่อครู่ พ่อมดไต้เหวิ่น สามารถต้านทานการโจมตีของสกาเล็ต วิช ได้อย่างไม่ยาก

 

“ดูเหมือนพวกเขาจะถูกลอบโจมตี”เห็นควิกซิลเวอร์ไม่ตอบเธอ สกาเล็ต วิช กล่าวถามอีกครั้งพร้อมกวาดตามองไปโดยรอบ

 

จากนั้นควิกซิลเวอร์เองก็เริ่มตรวจสอบไม่นานก็ปรากฏบุคคล 5 คนก้าวเดินเข้ามายังสนามรบ

 

“คนเหล่านี้คือ…?”

 

“นิว-วินเทอร์โซลเยอร์ ได้ยินว่าพวกเขามีความเเข็งเเกร่งเหมือนกับ กัปตันอเมริกา เป็น ซูเปอรโซลเดอร์!”

เมื่อไอซ์แมนเงยศีรษะขึ้นมองไปยังตำเเหน่งบนท้องฟ้าเขาเห็นชุดเกราะสีเเดง 5 ตัว ปรากฏขึ้น นั่นก็คือชุดเกราะไอรอนแมน ดูเหมือนชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 5 ตัวนี้ ตั้งใจจะมายังที่นี่เเต่ก็ช้าเกินไปสถานการณ์ได้ถูกคลี่คลายโดยไอซ์แมนไปเเล้ว

 

“มาดามเเมรี่ปลอดภัยเเล้วตอนนี้มิราจไนท์อยู่ที่ไหน?”ไอซ์แมนกล่าวถามไอซ์รอนเมนเบื้องหน้า ไม่ว่าข้างในจะมีคนอยู่หรือไม่เเต่ชุดเกราะทั้ง 5 ตัวก็เชื่อมต่อกัน

 

“มิราจไนท์มุ่งไปที่เนินเขาทางทิศทางเขากำลังไล่ตามคุณ หลิน ไปอยู่ ดูเเล้วศึกทางนั้นน่าจะรุนเเรงกว่ามาก”เผชิญหน้ากับการไต่สวนของไอซ์แมน เสียงของ J.A.R.V.I.S ได้ส่งออกมา

 

ไอซ์แมนพยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็ส่งสัญญาณให้บลิงก์ ประตูมิติได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเขาอีกครั้ง พร้อมกับคนที่ปรากฏออกมา คราวนี้มี ชาโดว์เเคท คิตตี้ เเละ บลิงก์ ตอนที่เห็น ใบหน้าซีดขาวของไอซ์แมน คิตตี้ รู้สึกกังวลอย่างมาก เเม้ไอซ์แมนจะเเข็งเเกร่ง เเต่ข้อเสียของเขาก็คือการผลาญปริมาณพลังงานในปริมาณมาก

 

“เเจ้งพวกS.H.I.E.L.D. ด้วย พวกเรากำลังจะไปสนับสนุนมิราจไนท์”คิตตี้ได้เดินไปประคองไอซ์แมน ก่อนที่ ไอซ์แมนจะยังกล่าวกับชุดเกราะไอรอนแมน

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นไม่ต้องรอให้ชุดเกราะไอรอนแมนตอบโต้ ไอซ์แมน ได้เดินเข้าประตูมิติหายตัวไปพร้อมกับ บลิงก์ เเละ ชาโดว์เเคท

 

ติ๊ดด

 

หลังจากพวกไอซ์แมนทั้งสามคนออกไป ชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 5 ก็ถูกควบคุมจากระยะไกล สเเกนพื้นที่สนามรบเเห่งนี้ ก่อนที่จะทำลายเเละเก็บกวาดซากที่เหลือในที่สุด

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากเสร็จสิ้นไอรอนแมนทั้ง 4 ก็พุ่งขึ้นไปบนฟ้าในเขตเมืองนิวยอร์กอีกครั้งก่อนที่จะหายไป เหลือเพียงไอรอนแมน 1 ตัวที่ถูกทิ้งไว้ที่ย่านการค้าเเห่งนี้ เพราะบาดเเผลของเหล่าบอดี้การ์ดที่ถูกโจมตีนั้นรุนเเรงมากบางคนต้องเข้ารับการรักษาโดยด่วนนอกจากนี้ J.A.R.V.I.S ยังต้องการฟังรายงานจากพวกเขา

 

เมื่อ ไอซ์แมน เเละ บลิงก์ ช่วยเหลือ เเม่ของ เเจ็คสัน ได้สำเร็จ เดิมสไปเดอร์แมน ปีเตอร์ ,เเจ็ค เเละ คนอื่น ๆ ต้องการมาที่นี่ เเต่ก็ต้องเปลี่ยนทิศทางไปยังตำเเหน่งพ่อของเเจ็คสันเเทน นั่นรวมถึง S.H.I.E.L.D. ทีมที่ถูกนำโดยกัปตันโรเจอร์ส

 

 

ปั้ง

 

นิวยอร์กสะพานพักชมวิวโกลเด้นเกต ดูเหมือนจะเกิดการระเบิดขึ้น สะพานเเห่งนี้มีรถที่ถูกทิ้งไว้จำนวนมากเเต่คนภายในรถกลับหลบหนีออกไปกันหมดเเล้ว สถานที่เเห่งนี้มีการทำสงครามเกิดขึ้น

 

ในใจกลางของสะพานโกลเด้นเกต มีพาหนะโดยสารจำนวนมากถูกหยุดเเละระเบิดขึ้นเผาไหม้พื้นที่เเห่งนี้ จริง ๆ เเล้วก็ยังมีกลุ่มคนหลงเหลืออยู่จำนวนมาก พวกเขาคือผู้คุ้มกันของโทนี่ พร้อมกับ หลินไฮ่

 

ด้านนอกทีมทหารติดอาวุธของพวกไฮดร้าได้โจมตีไปยังใจกลางที่มีรถจอดกำบังจำนวนมาก ซึ่งอุปกรณ์เเละลูกทีมทหารที่ปรากฏตัวนั้น หากเเจ็คสันมาเห็นเขาสามารถเดาได้เลยว่าอีกฝ่ายคือทีมอัลฟ่า

 

เพื่อที่จะจับพ่อกับเเม่ของเเจ็คสัน พวกไฮดร้าไม่ลังเลที่จะส่งทีมอัลฟ่าออกมา เเม้ทีมอัลฟ่าจะเเข็งเเกร่งเเต่ก็ไม่ได้มีจำนวนมากด้านหน้าสนามรบมีชุดเกราะไอรอนแมน 5 ตัว กำลังปกป้องสะพานอยู่

 

!

 

ตอนนี้หลินไฮ่เเละคนคุ้มกันได้ซ่อนอยู่ข้างหลังรถยนต์เพื่อหลีกเลี่ยงขีปนาวุธที่ถูกยิงเข้ามา

 

ปั้ง

 

ทีมอัลฟ่าต้องการบุกเข้าไปเพื่อชิงตัว หลินไฮ่มา เเต่การจะทำเช่นนั้นโดยการเมินชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 5 ที่มีวิทยาการ อาวุธการโจมตีที่รุนเเรง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำเช่นนั้นภายใต้การปกป้องของไอรอนแมน

 

ดูเหมือนว่าพวกไฮดร้าจะมีจุดประสงค์ที่สถานที่เเห่งนี้โดยเฉพาะ พวกเขาได้ส่งทีมทั้งสองมุ่งไปยัง หลินไฮ่ เเละ เเมรี่ เพื่อที่จะจับตัวทั้งสองคน อย่งไรก็ตามเป้าหมายหลักของพวกไฮดร้าก็คือ หลินไฮ่ เเม้ทางฝั่งเเมรี่จะจัดการง่ายกว่าเเต่เพราะอยู่ในเขตตัวเมือง สำหรับหลินไฮ่ที่อยู่ข้างนอกนั้นพวกเขาสามารถเปิดการโจมตีในพื้นที่โล่งเเละชิงตัวได้ง่ายกว่า

 

เเต่เหตุไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ชุดเกราะไอรอนแมน ได้ปรากฏขึ้นเเละปิดกั้นการโจมตีของทีม อัลฟ่า จนพวกเขาต้องร่นถอยไปเเละต้องรอรับคำสั่ง

 

ขณะนั้นเองก็มีพลังงานสีเเดงพุ่งเข้าไปเพื่อจัดการควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนทั้งสองตัว

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาเดียวJ.A.R.V.I.S ก็เกิดความประหลาดใจ เขารีบตรวจสอบชุดเกราะไอรอนแมนในทันที ตอนนี้มันอยู่เหนือการควบคุม มีเหตุการณ์สองอย่างที่สามารถอธิบายได้ : หนึ่งคือ เเรงโน้มถ่วงผิดปกติ จนทำให้การเคลื่อนไหวของชุดเกราะไอรอนแมนเสียหายหรือเปลี่ยนไป สองคือ J.A.R.V.I.S เคยเผชิญหน้ามาก่อน นั่นก็คือการควบคุมของ :สกาเล็ต วิช

 

สกาเล็ช วิช ได้ปรากฏเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่เธอปรากฏตัวขึ้นจัดการเเจ็คสัน เธอในคราวนี้เเข็งเเกร่งกว่าแต่ตอนมากมันเเทบจะไม่มีการขัดขืนเหมือนครั้งก่อนที่เธอควบคุมชุดเกราะไอรอนแมน

 

ปั้ง

 

ผ่านไปหลายวินาทีชุดเกราะไอรอนแมนสองตัวดูเหมือนจะถูกฉีกกลางอากาศด้วยมือที่มองไม่เห็น

 

ฟิ้วว

 

ชิ้นส่วนเล็กส่วนน้อยของชุดเกราะไอรอนแมนได้เเตกกระจายไปทั่วทุกทิศทาง เพียงเเต่ว่าเศษซากชุดเกราะไอรอนแมนเหล่านั้นกลับมีเครื่องยนต์ติดอยู่ทำให้มันบินถอยกลับไป

 

เดิม J.A.R.V.I.S ไม่ได้ประมาทคู่ต่อสู้ เขาได้ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนเหล่านั้นที่เเตกกระจายออก ความเเข็งเเกร่งของ สกาเล็ตวิช ถึงจะมากเเต่ก็คงไม่มีทางไล่ตามเศษซากชุดเกราะไอรอนแมนหลายสิบชิ้นที่เเตกอยู่ได้

 

!

 

เเต่ว่าเศษซากชุดดเกราะไอรอนแมนเหล่านั้นยังไม่ทันได้จะหลบหนี ก็มีควิกซิลเวอร์ปรากฏตัวขึ้นเขาได้พุ่งเข้าไปพร้อมกับระเบิดก่อนที่จะทำลายชุดเกราะไอรอนแมนตัวนั้นเเละเก็บพลังงานเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า เตาปฏิกรณ์อาร์คมา

 

เปรี้ยงง

 

ภายใต้การร่วมมือกันของ สกาเล็ต วิช เเละ ควิกซิลเวอร์ ชุดเเกราะไอรอนแมนทั้ง 5 ตัวราวกับสูญเสียประสิทธิภาพการรบทั้งหมด เเละ ตอนนี้ก็ยังไม่มีทีมอื่นมาช่วย

 

จนในท้ายที่สุด ชุดเกราะไอรอนแมนทุกตัวก็กลายเป็นเศษซากหลงเหลือเพียงเตาพลังงานปฏิกรณ์อาร์คเศษชิ้นส่วนได้ตกกระจายไปที่ด้านล่างของสะพานโกลเด้นเกต

 

ทันทีที่ชุดเกราะไอรอนแมนถูกจัดการกลุ่มคนของทีมอัลฟ่าก็เปิดฉากบุกเข้ามาภายใต้การยิงของหน่วยคุ้มกัน

 

ปั้ง

 

ทีมอัลฟ่าสามารถจัดการกับหน่วยคุ้มกันพวกนี้ได้ไม่ยาก พวกเขากำลังจะเดินไปจัดการฆ่าหลินไฮ่เพียงเเต่ ด้านหน้าของพวกเขากลับปรากฏเเสงสีทองกระพริบเล็กน้อยมันได้คุ้มกันร่างของ หลินไฮ่

 

หึ่ม

 

กึก

 

เเสงสีทองได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของหลินไฮ่พร้อมกับการปรากฏตัวของพ่อมดหรือเชื้อสายจอมเวทย์เเห่งโลก

ชาร์จ!!!

 

ครื่นน!

 

พริบตาเดียวปืนใหญ่พลังงานขนาดใหญ่ก็ถูกยิงออกมาเสียงของมันดังก้องไปทั่วทุกทิศทาง ขณะเดียวกัน ไอซ์แมนก็โบกมือเล็กน้อย เสาน้ำเเข็งพุดขึ้นมากั้นที่เบื้องหน้าของเขาหลายชั้นก่อนที่ล้อมกรอบพื้นที่รอบตัวของทั้ง 3 คน เเละตามด้วยประตูมิติหลายอันที่ด้านหน้าของพวกเขา

 

เปรี้ยง

 

วินาทีต่อมาการโจมตีที่พุ่งเข้ากระทบนั้นคือกำเเพงน้ำเเข็งของไอซ์แมน เเต่ถึงอย่างนั้นกระสุนปืนก็ยังสามารถทะลุปราการน้ำเเข็งหนาหลายชั้นได้มันได้พุ่งเข้าหาบุคคลที่อยู่ภายในเเต่ก็ต้องถูกส่งไปที่อื่นเพื่อประตูมิติที่ด้านหน้าของพวกเขา

 

การโจมตีเมื่อครู่เเม้จะสามารถคุกคามสามารถของทั้งสามคนได้ เเต่ก็ได้รับการป้องกันเต็มรูปแบบจาก ไอซ์แมน เเละ บลิงก์ การโจมตีรอบเเรกยังไม่ทันสิ้นสุดลงดี การโจมตีรอบที่สองก็มาถึง อาจจะไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่านี่เป็นการโจมตีรอบที่สอง ดูเเล้วมันน่าจะพิเศษกว่า

 

ตึบ!

 

ขณะที่ไอซ์แมนเเละบลิงก์ให้ความสนใจต่อการโจมตีรอบเเรก พวกเขาไม่ทันสังเกตุเลยว่ามี เเผ่นเหล็กสีดำหลายจุดถูกติดอยู่ที่นอกปราการน้ำเเข็ง เเต่เมื่อ ไอซ์แมน เเละ บลิงก์ ตระหนักได้ พวกเขาก็ไม่มีเวลามากพอที่จะทำลายมันในตอนนี้

 

บึ้ม

 

ไม่นานเเผ่นเหล็กสีดำโดยรอบก็ระเบิดขึ้นพร้อมกันทั้งหมด มันไม่เหมือนระเบิดธรรมดาหรือระเบิดมืออื่น ๆ เพราะหลังจากเเผ่นสีดำระเบิดมันไม่ได้ก่อเกิดประกายไฟขึ้นรอบด้าน เเต่มันกลับระเบิดชนวนโดยมีผลในการทำลายปราการเบื้องหน้า เห็นได้ชัดว่ามันเป็นระเบิดประเภทสั่นสะเทือน นี่เป็นอาวุธที่ถูกเเปลงมาให้มีวิทยาการที่ล้ำสมัย

 

ปั้ง

 

เเรงสั่นสะเทือนได้ทำลายพื้นที่รอบ ๆ โดยเฉพาะชั้นน้ำเเข็งหนาได้เเยกออกจากกัน อาวุธชนิดนี้สามารถที่จะทำลายปราการน้ำเเข็งยักษ์ได้โดยตรง

 

“หืม!”เห็นการโจมตีด้วยอาวุธสั่นสะเทือนทำลายน้ำเเข็งของเขา ไอซ์แมน เเละ บลิงก์ ไม่คาดคิดว่าศัตรูจะมีอาวุธร้ายกาจขนาดนี้ ครั้งก่อนพวกเขาไม่ได้ไปช่วยชีวิต มิราจไนท์ที่ฐานของพวกไฮดร้า ดังนั้นพวกเขาเลยไม่รู้ว่าพวกไฮดร้านั้นซ่อนอาวุธไฮเทคเอาไว้

 

ฟุ่บ!

 

“บลิงก์,พามาดามเเมรี่หนีไปก่อน! ฉันจะจัดการพวกมันเอง”ไอซ์แมนที่เห็นคลื่นกระเเทกส่งผลต่อพลังของตัวเอง เขาควบเเน่นชั้นกำเเพงน้ำเเข็งหนาหลายชั้นขึ้นมาอีกครั้ง

 

“ระวังตัวด้วย!”บลิงก์ราวกับเข้าใจเเผนของไอซ์แมน เธอพยักหน้าเเละจับมือของเเมรี่

 

ฟุ่บ

 

ประตูมิติได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง บลิงก์ได้ดึงเเมรี่เข้าไปอย่างไม่ลังเล ทันทีที่ประตูมิติปิด ไอซ์แมนก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยเขาวางเเผนที่จะจัดการคนเหล่านี้ด้วยตัวเอง

 

ติ๊ด

 

~~ตึบ

 

เเผ่นเหล็กสีดำได้ระเบิดกำเเพงน้ำเเข็งของไอซ์แมนจนเเตกสลายอีกครั้งคราวนี้มันรวดเร็วเเละเป็นการโจมตีที่มากกว่าเดิม ของสิ้งนี้ นับว่ามีผลกับการป้องกันของไอซ์แมนโดยตรง หากเขาไม่มีการป้องกันจากปราการน้ำเเข็งเเน่นอนว่าเขาย่อมไม่สามารถทนการโจมตีขนาดใหญ่พิเศษได้

 

“พวกไฮดร้า,ได้เวลาที่ฉันจะต้องสู้กับพวกเเกอย่างจริงจังเเล้วสินะ?”หลังจากบลิงก์พาเเมรี่หนีไปไอซ์แมนก็ถูกล้อมด้วยการโจมตีนับไม่ถ้วน

 

ปั้ง

 

ไอซ์แมนยกมือขึ้นมาสร้างชั้นกำเเพงน้ำเเข็งมือนึงก่อนที่อีกมือนึงจะสร้างผลึกน้ำเเข็งพุ่งไปที่ด้านหน้าเะทาเปิดการโจมตีตั้งเเต่ที่ศาสตราจารย์ชาร์ลมอบหมายเรื่องการจัดการโรงเรียน X ให้กับเขา ก็เท่ากับว่า ศาสตราจารย์ชาร์ล ได้ยอมรับความสามารถของไอซ์แมน

 

เปรี้ยง!

 

ปราการน้ำเเข็งของไอซ์แมนถูกระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเเละการโจมตีต่อ ๆ มาก็ยังคงทะลุผ่านการป้องกันของเขาพุ่งเข้าหาไอซ์แมนโดยตรง

 

คราวนี้ไอซ์แมนไม่ลังเลอีกเขายกสองมือขึ้นฟ้าเปลี่ยนอุณหภูมิในพื้นที่จนเกิดความหนาวเริ่มเเทรกผิวเเละเปลี่ยนพื้นที่รอบข้างของเขากลายเป็นสีฟ้าสดใส

 

สิ่งเเรกที่ไอซ์แมนให้ความสนใจก็คือปืนใหญ่พลังงานเรเซอร์ที่ถูกยิงออกมา ทันทีที่เปลี่ยนสนามต่อสู้เเห่งนี้ให้เป็นเวทีของเขา เขาได้เลือกที่จะสร้างกำเเพงน้ำเเข็งขึ้นมาอีกครั้งเพียงเเต่คราวนี้ไอพลังงานสีฟ้าของตัวเขาเองได้ไต่ขึ้นจนเกาะเข้ากับลำเเสงพลังงานเเละทำการเยือกเเข็งจนมันหมดสภาพสิ้นที่ในเวลาต่อมา

 

ลำเเสงพลังงานขนาดใหญ่เมื่อครู่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นก้อนน้ำเเข็งขนาดใหญ่ที่เบื้องหน้าของไอซ์แมน การโจมตีแบบนี้ดูเหมือนจะไม่ส่งผลมากนักเวลาเขาลงมือจริง

 

ครื่นน

 

ไอพลังงานสีฟ้าได้เคลื่อนตัวออกไปเรื่อย ๆ เข้าปะทะกับการโจมตีอื่น ๆ จนหยุดชะงักเเละเเช่เเข็งการโจมตีทั้งหมด พื้นที่รอบตัวของไอซ์แมนราวกับถูกหยุดนิ่งทุกอย่างไม่มีผลกระทบต่อเขา

 

เเม้เเต่ห่ากระสุนธรรมดาที่ถูกยิงออกมาจากปากกระบอกปืนก็ถูกเเช่เเข็งจนลูกกระสุนด้านไม่สามารถทำอันตรายไอซ์แมนได้ พื้นที่ของไอซ์แมนปกคลุมไปรอบตัวเขามากกว่าหลายสิบเมตรเเละมีเเนวโน้มที่มันกำลังขยายตัวห่างออกไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ

 

ตั้งเเต่ที่เขตเเดนอุณหภูมิของเขาถูกสร้างขึ้นมาทุกการโจมตีเเทบจะไม่สามารถเข้าถึงตัวของไอซ์แมนได้ พวกมันได้ถูกหยุดไว้ด้วยไอพลังงานความเย็นเเรงสูง ทุกอย่างภายใต้รัศมีหลายสิบเมตรนี้ถูกเเช่เเข็งทั้งหมด

 

ทันทีที่ทุกอย่างสงบลงไอซ์แมนก็ลืมตาขึ้นในที่สุดรอบพื้นที่ของเขาถูกเเช่เเข็งด้วยพลังของเขาไปเเล้วเเทบทั้งหมดเเม้ว่าการโจมตีในครั้งนี้จะรุนเเรงเเต่ก็กินพลังงานมาก

 

จากนั้นไอซ์แมนก็มุ่งหน้าเดินไปยังตำเเหน่งขอบสุดของพื้นที่เขตเเดนพลังของเขา

 

ที่นั่นมีสมาชิกไอฮดร้าอยู่สองคนที่ยังรอด

 

“พวกเเกยังไม่ตาย?ดูเหมือนพวกเเกจะเป็นพวกโง่ที่ดวงยังไม่ถึงฆาตสินะ”ไอซ์แมนได้กวาดผ่านมองไปที่ทั้งสองคนเเละพูดเบา ๆ

 

วินาทีต่อมาไอซ์แมนก็โบกมือเล็กน้อยไอพลังงานความเย็นได้ปรากฏออกมาจากฝ่ามือของเขา

 

จากนั้นไอซ์แมนก็หันหลังกลับไปใบหน้าของเขาตอนนี้ซีดขาวอย่างมาก เเต่เขาก็ไม่ได้สนใจมากนักเขาได้โบกสบัดมือจัดการเเช่เเข็งทหารทั้งสองคนของพวกไฮดร้าโดยที่ไม่ได้สนใจพวกมันอีก

 

!

 

ทันใดนั้นพื้นที่เขตเเดนน้ำเเข็งของไอซ์แมนก็ได้เริ่มสลายตัวหดลงอย่างรวดเร็วผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีไอพลังงานสีฟ้าทั้งหมดก็หายไปอย่างสมบูรณ์หลงเหลือเพียงอุณหภูมิความเย็นที่ตกค้างเพียงเล็กน้อย

 

ทันทีที่เขตเเดนน้ำเเข็งหายไปไอซ์แมนเงยหน้าขึ้นมองสถานที่ด้านบนเล็กน้อย

ปั้ง

 

“ระวัง!”

 

“ถอยกลับมาเร็ว!!”

 

ปั้ง

 

“เดนนี่!”

 

ครื่น!

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังขับยานบินของตัวเองไปยังตำเเหน่งพ่อของเขา ที่ย่านการค้าใจกลางเมืองของนิวยอร์กอาคารเเห่งนึงกำลังเปิดฉากจู่โจมกันอย่างรุนเเรง ทีมทหารของพวกไฮดร้ากำลังเปิดฉากโจมตีกลุ่มคนของโทนี่ ที่ส่งมาเฝ้า เเม่ของ เเจ็คสัน ดูเหมือนในขณะนี้่ดูเหมือนจะมีผู้คุ้มกันชั้นเเนวหน้าหลายคนตกตาย

 

“มาดาม เเมรี่,ได้โปรดตามมา พวกเราไม่สามารถอยู่ต้านทานกลุ่มคนเหล่านี้ได้!”ในฐานะที่เป็นหัวหน้าผู้คุ้มกันของเเมรี่อย่างลับ ๆ สตีฟ ได้ปกป้องเเมรี่ ไปยังเมืองการค้าเพื่อหลบหนี

 

เเม้ว่าเเมรี่จะไม่รู้เรื่องราวที่ชัดเจน ว่าทำไมเธอถึงถูกโจมตี เเต่เหตุปะทะเมื่อครู่ทำให้สัญชาตญาณของเธอร้องให้รีบหลบหนีไปกับคนคุ้มกันเหล่านี้ เสียงระเบิดด้านนอกได้ส่งผ่านมาอย่างไม่หยุดหย่อนจนเธอรู้สึกขวัญเสียอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในชีวิตของเธอเอง

 

ในเมืองการค้าการยิงปะทะเริ่มลดลงเนื่องเพราะเป้าหมายของพวกไฮดร้าไม่ใช่การโจมตีหน่วยคุ้มกัน เเต่เป็น เเมรี่ ดังนั้นพวกเขาจะเลี่ยงการปะทะให้มากที่สุด สตีฟ เอง ก็ไม่มีวิธีที่จะช่วยให้เเมรี่หนีได้อย่างปลอดภัย เขาจึงได้วิ่งพาเเมรี่หนีพาไปแบบสุ่ม เพื่อหลีกเลี่ยงปะทะกับกลุ่มทหารของพวกไฮดร้า

 

ปั้ง

 

ผู้คุ้มกันหลายคนที่ทำการปกป้องเเมรี่อยู่ได้ถอนตัวห่างออกไปเพราะลำเเสงเลเซอร์ได้ถูกยิงเข้ามาพร้อมกับการระเบิดที่รุนเเรง เเรงระเบิดเหล่านั้นส่งผลให้กลุ่มคนเหล่านั้นไม่สามารถต้านทานได้จนเเยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง

 

เปรี้ยง

 

การโจมตีเหล่านั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ สตีฟ ที่เห็นชะตากรรมเพื่อนร่วมทีมของตัวเอง เขารู้ดีว่าหากเขาไม่หาสถานที่กำบังที่ดีหลบพวกเขาก็คงไม่รอดอย่างเเน่นอน

 

ปั้ง!

 

เพียงเเต่ว่ากระสุนนัดนึงได้พุ่งเข้าไปที่หน้าอกของสตีฟ การโจมตีจำนวนมากได้กราดเข้ามาใส่ผู้คุ้มกันหลายคนจนพวกเขาไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ เเม้ว่าคนเหล่านี้จะสวมใส่ชุดเกราะทำขึ้นพิเศษที่ได้มาจากโทนี่ เเต่ไม่รู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

 

ในเวลานี้ กลุ่มคนจำนวนนึงได้เดินมาถึงหน้าของเเมรี่

 

“พวกคุณ,พวกคุณเป็นใครกัน…พวกคุณต้องการอะไรจากฉัน!”เเมรี่จ้องมองไปที่เงาเบื้องหน้าเเละตะโกนกล่าวถาม

 

ฟุ่บ!

 

กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้สนใจคำถามของ เเมรี่ หัวหน้าทีมของหน่วยไฮดร้าในครั้งนี้สั่งการคนไปล้อมเเมรี่หลังจากนั้นก็ยกปืนพกขึ้นมายิงไปที่เเขนของเเมรี่โดยตรง

 

ปั้ง

 

กระสุนปืนได้ยิงเข้าไปที่เเขนของเเมรี่ คำสั่งที่พวกเขาได้รับมาคือพยายามทุกวิถีทางเพื่อนำตัวอีกฝ่ายมา เเต่ไม่ได้บอกให้จับเป็นหรือตาย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการจะทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้นนั่นคือจับตาย

 

“!”เพียงเเต่ว่ากระสุนปืนที่ยิงไปที่เเขนของเเมรี่นั้นกลับไม่สามารถทำร้ายร่างกายของเธอได้เเม้เเต่เเมรี่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดใด ๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้ทหารของไฮดร้าตกใจมาก

 

กรี๊ดดด!

 

เเมรี่ ได้ตะโกนร้องออกมา เเต่ก็ต้องประหลาดใจ เธอลืมตาขึ้นเเละพบว่ากระสุนเหมือนจะไม่ได้ยิงทะลุร่างของเธอไป ทันทีที่กระสุนถูกยิงออกมา ม่านพลังสีฟ้าอ่อนก็ปรากฏออกมาจากร่างของเเมรี่ได้ปิดกั้นการทะลวงของกระสุนนัดนั้น

 

“สนามพลังงานงั้นหรอ?”เห็นสสารสีฟ้าที่อ่อนเเรงปรากฏขึ้น หัวหน้าหน่วยไฮดร้า กล่าวอย่างตื่นตะลึง

 

ปั้งปั้ง!

 

หัวหน้าหน่วยคนนี้ยิงปืนออกไป สามสี่นัด เพื่อพิสูจน์ด้วยตาตัวเองอีกครั้ง เพียงเเต่ว่า เเสงสีฟ้านั้นก็ได้หยุดลูกกระสุนจากปืนอีกครั้ง

 

“ไม่…นี่ไม่น่าใช่สนามพลัง!”เมื่อเห็นว่าสสารสีฟ้าอ่อนไม่ได้เป็นสนามพลังที่เขารู้จัก หัวหน้าหน่วยไฮดร้าคนนี้ รู้สึกสงสัยอย่างมาก

 

เเมรี่ที่ไม่รู้สึกเหมือนถูกกระทำได้ลืมเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ ในเวลานี้ เธอค้นพบว่าผิวของเธอถูกปกคลุมด้วยพลังงานอ่อน ๆ จากเเสงสีฟ้า เเม้เธอจะโล่งใจ เเต่ก็ไม่สามารถหลบหนีกลุ่มคนที่ล้อมเธอเอาไว้ได้

 

“นำตัวไป!”เเม้จะพยายามใช้อาวุธอย่างไรก็ไม่สามารถทำลายม่านปราการป้องกันของเเมรี่ได้ดังนั้นหัวหน้าหน่วยคนนี้จึงต้องจับเป็นเเมรี่

 

เเสงสีฟ้านั้นก็คือสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันระดับสูงที่เเจ็คสันให้เอาไว้ เเม้จะสามารถป้องกันการโจมตีคุกคามชีวิตต่าง ๆได้มากมายเเต่ก็ไม่สามารถทำให้เเมรี่หลุดจากการคุกคามด้วยกำลังพลของพวกไฮดร้าได้ ดังนั้นเเมรี่จึงถูกอุ้มเตรียมจะออกไปจากเมืองการค้าเเห่งนี้

 

ฟุ่บ!

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่ทหารไฮดร้าเหล่านี้เตรียมจะถอยทัพประตูมิติก็ปรากฏปิดกั้นเส้นทางหลบหนีด้านหน้าของพวกเขา รูปแบบของมิติยังเปิดออกอย่างไม่สมบูรณ์ ผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที เงาร่างสีน้ำเงินก็ปรากฏออกมา นี่ คือ ไอซ์แมน

 

ปั้ง ปั้ง

 

ทันทีที่ ไอซ์แมน ปรากฏตัวขึ้น ทีมทหารไฮดร้าเหล่านี้ไม่ลังเลที่จะยกปืนเเละยิงกราดออกไปที่เงาร่างน้ำเเข็ง เศษชิ้นส่วนน้ำเเข็งจำนวนมากถูกกร่อนจนกระเด็นไปทั่วพื้นที่เพียงเเต่ว่าพริบตาเดียวร่างของกลุ่มคนเหล่านี้ก็ถูกเเช่เเข็งอย่างรวดเร็ว

 

ตึก ตึก !

 

ทันทีที่จัดการทหารของพวกไฮดร้าเสร็จ ไอซ์แมน ก็เดินไปที่เบื้องหน้าของเเมรี่ ที่ตอนนี้กำลังหวาดกลัวอยู่ ตอนนี้เเมรี่เองก็รู้สึกสงสัยเกี่ยวกับมนุษย์น้ำเเข็งที่ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าของเธอ เธอกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายเธอ

 

“สวัสดี,มาดามเเมรี่ ไม่ต้องกลัว ผมมาช่วยคุณ ตอนนี้คุณปลอดภัยเเล้ว”โรเบิร์ต กล่าวพูด

 

เพียงเเต่ว่าเเม้โรเบิร์ตจะกล่าวเช่นนั้นเเมรี่ก็ยังสั่นกลัวอยู่

 

ขณะนั้นเองลำเเสงเลเซอร์ขนาดใหญ่ก็พุ่งเป้าไปที่ด้านหลังของ ไอซ์แมน ลำเเสงเลเซอร์นี้พุ่งมาด้วยความเร็วสูง ถ้าไอซ์แมนหลบ ลำเเสงนี้ก็จะโดนเเมรี่ หากเขาไม่หลบเเละเข้าปะทะ เเม้ไม่ตายก็คงได้รับบาดเเผลสาหัส

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ไอซ์แมนไม่ได้เลือกที่จะหลบ เเต่กลับมีประตูมิติปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา ดูเหมือนบลิงก์จะสร้างพื้นที่มิติเพื่อส่งลำเเสงพลังงานที่ถูกยิงออกมาไปยังที่อื่น

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากบลิงก์ไอซ์แมนก็ใช้การโจมตีผลึกน้ำเเข็งพุ่งโจมตีไปยังทิศทางที่ถูกยิง ไอซ์แมนได้หักล้างกระสุนจำนวนมากพร้อมกับเข้าปะทะกับกระสุนเลเซอร์อื่น ๆ ขณะที่เขากำลังโจมตี ก็มีปืนใหญ่พลังงานกำลังเตรียมชาร์จพร้อมยิงตอนนี้มันกำลังสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง

 

เป้าหมายภารกิจของพวกไฮดร้าในครั้งนี้คือการจับตัวเเมรี่ การสูญเสียทหารพวกนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เเต่หากพวกเขาสามารถที่จะกำจัด มิราจไนท์ ไอซ์แมน หรือ บลิงก์ ได้ พวกไฮดร้าก็ยังนับว่าเเผนการครั้งนี้ย่อมคุ้มค่า

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงความเงียบสงบก็ได้ถูกเเทนที่ด้วยเสียงเห่าของสุนัขจรจัดจำนวนมาก โดยเฉพาะธอร์ เขารู้สึกขุ่นเคืองอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องที่เเจ็คสันเพิ่งพูดเขาให้เขาฟังไม่นานมานี้

 

เขารู้สึกดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับเเจ็คสัน ในอีกทางหนึ่งเขาก็รู้สึกเสียใจกับโลกิ ตอนนี้ ธอร์ต้องการฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็จะคิดบัญชีกับโลกิ

 

“เเจ็คสันข้าให้สัญญาว่าหลังจากข้าฟื้นคืนพลังของข้าได้ ข้าจะช่วยเจ้าสั่งสอนโลกิอย่างเเน่นอน!”หลังจากต้อนสุนัขจรจัดเข้ากรง ธอร์ ก็พูดคุยกับเเจ็คสัน

 

“อืม,ฉันเชื่อคุณ ธอร์ ไม่ใช่ว่าคุณคือบุตรเเห่งโอดิน เเต่เพราะคุณดูมีความโดดเด่นเเละพิเศษกว่าคุณ อื่น นั่นเป็นเหตุผลให้ฉันเชื่อว่าคุณจะต้องเอาชนะค้อนของตัวเองเเละฟื้นคืนพลังได้ในที่สุด”เเจ็คสันกล่าวออกมา

 

“ฮ่าฮ่า,เเน่นอน เพราะข้าคือเทพเจ้าสายฟ้า ไม่มีเรื่องอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับข้า!”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ทำให้ธอร์รู้สึกมีความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง เเต่สิ่งที่เเตกต่างไปก็คือ ความหยิ่งยโส ในอดีตของเขา

 

“อืม,เพราะคุณคือเทพเจ้าสายฟ้า! เอาล่ะ นี่ก็ยังอยู่ในเวลางานของคุณ เช่นนั้นฉันขอตัวกลับก่อนเเล้วกัน”เเจ็คสันวางเเผนที่จะเดินทางกลับ

 

“อืม,เจ้าสนใจจะรับหมาน้อยพวกนี้ไปเลี้ยงบ้างไหมล่ะ?”

 

“ฮิฮิ,ไว้จะลองคิดดู”

 

ตึก ตึก!

 

บรื้นน~

 

จากนั้นเเจ็คสันก็ขับรถจิ๊ปของตัวเองออกจากสถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัด เขาได้จ้องมองไปที่กระจนมองหลังจนลับสายตาของธอร์ไปในที่สุด

 

“ต้องรักษาท่าทีการเเสดงกับความอดทนอดกลั้นนี่มันเหนื่อยมากจริง ๆ เเม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่รู้สึกผิดต่อธอร์ เเต่ต้นเหตุก็มาจากโลกิ การให้เขาเป็นฝ่ายจัดโลกิดูท่าจะเป็นเหตุผลที่ดีที่สุด”เเจ็คสัน ได้วางเเผนปลุกกำลังใจให้ธอร์มีความกระตือรือร้นในการฟื้นคืนพลังสำเร็จในที่สุด

 

“ฮ่าฮ่า,”จากนั้นเเจ็คสันก็หัวเราะออกมา

 

ไม่ใช่เพราะว่าเขาหัวเราะเรื่องที่หลอกลวงธอร์สำเร็จ เเต่มันเป็นเพราะ เขาตั้งหน้าตั้งตอรอที่จะเห็นโลกิ ถูกจัดการ ไม่ไหว เพราะถึงอย่างไร พลังของโลกิ ก็ยังเหนือชั้นกว่าเเจ็คสันมาก ทำให้เขาเคลื่อนไหวด้วยตัวเองไม่สะดวก

 

“อีกไม่นานรอก่อนเถอะ!”ใบหน้าของเเจ็คสันเผยรอยยิ้มกว้าง

 

อันที่จริงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเเจ็คสันมัวเเต่ยุ่งเรื่องของพวกไฮดร้าทั้งเขายังเป็นเเนวหน้าในการจัดการพวกมัน ที่เขาต้องเป็นเเนวหน้าเองเหตุผลนึงก็เพราะต้องการหาตัวทอมที่ถูกพวกมันจับตัวไป เเต่ฐานของพวกไฮดร้าในช่วงสองสัปดาห์มานี้ ไม่มีเบาะเเสของทอมเเม้เเต่น้อย มันทำให้ เเจ็คสัน กระวนกระวายอย่างมาก

 

ติ๊ดด

 

ขณะที่เเจ็คสันกำลังขับรถไปพลางคิดไปโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นทำให้เขารู้สึกตกใจทันที เขารีบดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเเละเปิดดูพบว่ามันเป็นเบอร์โทรศัพท์ของ โทนี่ เเจ็คสันได้ชะลอความเร็วลงเเละหยุดรถเพื่อรับโทรศัพท์

 

“เเจ็คสัน! ดูเหมือนพวกไฮดร้าจะมุ่งเป้ามาที่พ่อเเม่ของเธอ!”ทันทีที่เเจ็คสันกดรับโทรศัพท์ เสียงของ โทนี่ ค่อนข้างตึงเครียด เทียบกับโทนี่ เเล้วเเจ็คสันยิ่งตกใจยิ่งกว่า

 

“อะไรนะ? เเล้วตอนนี้พ่อเเม่ของผมอยู่ที่ไหน? สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน ถามในทันที

 

“ตอนนี้ J.A.R.V.I.S ไม่สามารถเข้าถึงสัญญาณตำเเหน่งได้ คาดว่าอีกฝ่ายคงปิดกั้นสัญญาณเอาไว้ ฉันได้ส่งชุดเกราะไอรอนแมนไปยังตำเเหน่งล่าสุดของพวกเขาเเล้วตอนนี้ เพราะผู้คุ้มกันที่ฉันส่งไปเฝ้าระวังดูเหมือนจะถูกจัดการไปเเล้ว”ได้ยินเเจ็คสันกังวล โทนี่ รีบตอบ

 

ปั้ง

 

“ปิดกั้นสัญญาณ? คุณสตาร์ก ส่งตำเเหน่งล่าสุดของพ่อกับเเม่มาให้ผมเร็ว!”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน ทุบประตูรถอย่างรุนเเรง

 

อุบัติเหตุก่อนหน้านี้ ทำให้เเจ็คสันถูกเปิดเผยสถานะตัวตนโดยพวกไฮดร้า หลังจากนั้นเเจ็คสันก็เป็นกังวลเกี่ยวกับพวกไฮดร้าว่าจะมาทำร้ายคนในครอบครัวของเขา ดังนั้นเขาจึงเเลกเปลี่ยนสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันระดับสูงเเละมอบให้ทั้งสองคนไป เเต่เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

 

สำหรับโทนี่ เขาเองก็รู้ว่าถ้าสถานะของเเจ็คสันถูกเปิดเผยออกไป มันย่อมเป็นอันตรายต่อสมาชิกครอบครัวของเขา ดังนั้น โทนี่ จึงส่ง ผู้คุ้มกันบางคนไปเฝ้าระวังคอยปกป้องพ่อเเม่ของเเจ็คสัน เเต่พวกไฮดร้าไม่ได้ยุ่งกับครอบครัวของเเจ็คสันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เรื่องนี้ทำให้ โทนี่ เเละ เเจ็คสัน รู้สึกผ่อนคลาย ดังนั้นพวกเขาจึงมุ่งรวมกำลัง S.H.I.E.L.D. ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ ทีม X-MEN โดยเร่งเดินหน้าจัดการพวกไฮดร้าโดยเร็วที่สุด

 

เเต่ในขณะที่พวกเขากำลังผ่อนคลายไม่คาดคิดว่าพวกไฮดร้ากลับเลือกที่จะลงมือกับทางครอบครัวฝั่งเเจ็คสัน นอกจากนี้ พวกมันยังสามารถปิดกั้นสัญญาณของJ.A.R.V.I.S ได้อีกฝ่ายคงไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอน เเม้ว่าพ่อกับเเม่ของเเจ็คสันจะครอบครองสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันระดับสูง ก็ไม่สามารถทำให้เเจ็คสันรู้สึกผ่อนคลายได้ในขณะนี้

 

“พ่อ,เเม่…”

 

ติ๊ด!

 

หลังจากได้ตำเเหน่งของพ่อกับเเม่ เเจ็คสันไม่ได้ขับรถจิ๊ปออกไป เขาได้หยิบยานบินออกมา เพื่อที่จะเดินทางไปด้วยตัวเอง

 

ตำเเหน่งล่าสุดที่โทนี่ส่งมาให้ดูเหมือน พ่อของเขา หลิน ไฮ่ จะอยู่ห่างจากทางเขาขึ้นไป เเม้เเจ็คสันต้องการจะไปรับพ่อกับเเม่ด้วยตัวเอง เเต่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น เขาจึงเลือกเส้นทางที่ใกล้ที่สุดกับเขาก็คือตำเเหน่งพ่อของเขาสำหรับเเม่ของเขา เเมรี่ เเจ็คสันคาดหวังว่า โทนี่ จะใช้ไอรอนแมน ช่วยเเม่ของเขาออกมาได้ ขณะนั้นเองเขาก็โทรประสานงานกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ โดยให้ สกาย’อาย จัดการ

 

“เร็วเข้า,ต้องเร็วกว่านี้”ยานบินของเเจ็คสันได้เร่งความเร็วจนถึงสุด เเต่ความเร็วระดับน้ก็ยังช้าเกินไป

 

ในเวลานี้เเจ็คสันรู้สึก อิจฉา บลิงก์ อย่างมาก ความสามารถของเธอ เหมือนกับเหล่าเชื้อสายจอมเวทย์ เหล่าพ่อมด ที่สามารถเปิดประตูมิติ เดินทางไปที่นี่ไหนก็ได้ เเน่นอนว่า เเจ็คสันย่อมไม่ลืมที่จะติดต่อกับพวกเขา เเม้ว่าจะต้องปิดเผยสถานะของตัวเอง เขาก็ไม่ลังเลอีกเเล้ว

 

โรงเรียน X

 

เมื่อไม่นานมานี้ ไอซ์แมน กำลังพูดถึงเรื่องการเปลี่ยนเเปลงภายในของ ทีม X-MEN กับ ชาโดว์เเคท จู่ ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นก่อนที่ใบหน้าของไอซ์แมนจะเปลี่ยนไป

 

“หืม?ใครโทรมางั้นหรอ?”เห็นการเเสดงออกของไอซ์แมน ชาโดว์เเคท กล่าวถาม

 

“มิราจไนท์ ดูเหมือนเพื่อนคนนี้ จะมีเรื่องบางอย่าง ไม่รู้ว่าเขาต้องการจะให้เราช่วยอะไรอีก”ไอซ์แมน กล่าวตอบ ชาโดว์เเคท ด้วยรอยยิ้ม

 

จากนั้นเขาก็รับโทรศัพท์ในทันที ,หลังจากรับโทรศัพท์ เสียงของเเจ็คสันก็กล่าวออกมาด้วยความกังวล จนไอซ์แมนมีสีหน้าที่เปลี่ยนสี

 

ฟุ่บ!

 

“เร็วเข้า! ต้องรีบติดต่อบลิงก์ ! มิราจไนท์กำลังมีปัญหา!”วางสายโทรศัพท์ของมิราจไนท์เสร็จ ไอซ์แมน ดึง ชาโดว์เเคทออกไปข้างนอกในทันที

 

ที่พวกเขามองหาบลิงก์ ก็เพื่อที่จะได้ไปสนับสนุน มิราจไนท์ได้ ขณะเดียวกัน เเจ็คสัน ก็โทรออกไปยังสายของพ่อมดรุ่ยเคอ หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที พ่อมดรุ่ยเคอ ,พ่อมดไต้เหวิ่น ก็หายตัวเข้าไปในประตูมิติเวทย์มนตร์

ในขณะที่ธอร์ได้ตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่ที่โลก เเอสการ์ดในตอนนี้ก็กำลังเกิดสงครามกันอยู่ เเต่เพราะ มีโลกิกับโอดิน สถานการณ์ทางฝั่งนั้นอาจจะไม่ค่อยน่าเป็นห่วงนัก ถึงธอร์จะพยายามฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของตัวเอง มันก็ยังไม่สามารถทำได้โดยง่าย

 

เเต่ไม่ว่าอย่างไร เเจ็คสัน ก็จดจำคำพูดของ โลกิได้ ,โลกิเหมือนต้องการให้เเจ็คสันช่วย ธอร์ฟื้นคืนพลังเทพของตัวเอง หากธอร์ไม่สามารถฟื้นคืนพลังตัวเองได้ ไม่มีอะไรมารับประกันว่าโลกิจะไม่โจมตีหรือวางเเผนการร้ายใดใด ไว้

 

หากเป็นเช่นนั้นเเม้จะเป็นเเจ็คสันเองก็จนปัญญา เพราะแบบนี้เขาถึงต้องการให้ธอร์ฟื้นคืนพลังของตัวเองเช่นเดียวกัน ตอนนี้พวกเขาลงเรือกันเเล้ว ไม่ใช่ในฐานะเพื่อนเพียงเท่านั้น เเต่ในฐานะคู่ค้า ไม่งั้นโลกก็ต้องเฝ้ารอความตายที่คืบคลานเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน

 

“เพราะ…คุณเป็นเทพเจ้าสายฟ้า! คุณไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา! … หรือว่าคุณไม่ต้องการที่จะฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของคุณให้กลับมา?”เห็นธอร์ไม่มีปฏิกิริยากับเรื่องนี้ เเจ็คสัน ทักท้วง

 

เห็นการเเสดงออกที่ดูจริงจังของเเจ็คสัน ธอร์จ้องมองไปที่เขา ธอร์ไม่เคยเห็นเเจ็คสันร้อนรนแบบนี้มาก่อน มันทำให้ธอร์รู้สึกสงสัย

 

“เเจ็คสันข้าไม่จำเป็นต้องให้เจ้าคอยเตือนว่าข้าอยู่ในสถานะอะไร,อย่างไรก็ตามทำไมเจ้ากลับดูสนใจจนผิดเเปลก ตอนนี้มันสำคัญหรือที่อดีตข้าเคยเป็นเทพเจ้าสายฟ้า สุดท้ายตอนนี้ข้าก็เเค่มนุษย์ธรรมดาที่ไร้พลังดังนั้นข้าจึงตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ เเต่ดูเจ้าจะดูเป็นทุกข์ร้อนมากกว่าข้าเพราะอะไรกัน? “ธอร์จ้องมองไปที่เเจ็คสัน เขาตระหนักได้ทุกอย่าง

 

“ฉัน…เพราะว่า…?”ได้ยินคำพูดของธอร์เเจ็คสันไม่ได้ตระเตรียมคำพูดมา เขาไม่คิดเลยว่า ธอร์ จะเห็นอาการผิดปกติของเขาที่เเสดงออกมาอย่างลนลาน

 

“หืม? เพราะอะไร? เเจ็คสันทำไมเจ้าถึงไม่พูดต่อล่ะ?”เห็นบางสิ่งที่ดูเหมือนเเจ็คสันกำลังพยายามปิดบังเขา มันทำให้ ธอร์รู้สึกโกรธมาก เขาเดินมาที่เบื้องหน้าของเเจ็คสัน เพื่อตื้อถามเขา

 

เเม้ธอร์จะดูบ้าพลังไร้สมอง เเต่เขาไม่ใช่คนโง่ เขาสามารถมองออกได้ว่าเเจ็คสันมีเจตนาเเฝงบางอย่าง ธอร์ในตอนนี้ต้องการที่จะขว้าจับไหล่ทั้งสองข้างของเเจ็คสันเพื่อซักถามเขาโดยการบีบบังคับ

 

เห็นเเขนทั้งสองข้างของธอร์ที่พุ่งเข้ามาที่ไหล่ของเขาโดยไม่เจตนา เเจ็คสันเข้าใจในทันที เพราะว่าธอร์สงสัยในตัวเขา เเจ็คสันต้องการจะเพิ่มความเเข็งเเกร่งให้กับร่างกายของเขา เพียงเเต่ว่ามันอาจจะทำให้ธอร์บาดเจ็บได้ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ทำ

 

“เป็นโลกิ…เพราะโลกิน้องชายของคุณ!”เเจ็คสันไม่สามารถทนต่อการถูกบีบบังคับได้ เขากล่าวตะโกนเสียงดัง

 

ฟุ่บ~

 

หลังจากตอบปัญหาของธอร์เสร็จ เเจ็คสันก็ใช้ประโยชน์ในการคลายเเขนทั้งสองข้างของธอร์ ด้วยพละกำลังของเขาในตอนนี้เเน่นอนว่าสามารถสลัดเเขนทั้งสองข้างของธอร์ได้โดยง่าย

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์ กลายเป็นเคร่งขรึมขึ้น”โลกิ?เขาทำไม?”

 

ได้ยินชื่อของโลกิจากปากของเเจ็คสัน ทำให้ธอร์รู้สึกใส่ใจมากกว่าปกติ เพราะโลกิมักจะทำเรื่องที่ไม่ดีกับเขานั่นอาจลุกลามไปถึงเพื่อนของเขา เเม้เเต่ เจน เขาก็เชื่อว่ามันเป็นเพราะโลกิที่ทำให้เขากับเจนต้องเลิกกัน เเต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คาดคิดเลยว่า โลกิจะทำอะไรบางอย่างกับเพื่อนคนนี้เเจ็คสันของเขาด้วย

 

“คุณจำตอนที่โลกิมาหาคุณครั้งก่อนได้หรือไม่?หลังจากนั้นเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่อพาร์ทเม้นต์ของคุณฟอสเตอร์ ก่อนที่เขาจะจากไปเขาได้ทิ้งคำพูดบางอย่างที่ข้างหูของฉัน”เเจ็คสันเงยหน้ามองธอร์โดยตรงเเละพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

“ข้าจำได้ดี เขาต้องการทำให้ข้ารู้สึกอัปปยศในชีวิตตัวเอง เเล้วเขาพูดอะไรกับเจ้า”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์ กล่าวถาม

 

“โลกิบอกว่าการมาของเขาคราวนี้ก็เพื่อทำให้คุณถูกจัดการอย่างน่าสังเวชที่สุด นั่นรวมไปถึง เพื่อน พี่น้อง หรือ เเฟนสาว คนที่ใกล้ชิดคุณ พวกเขาจะถูกจัดการทั้งหมด เเละมันก็เป็นเพราะเขา ที่ทำให้คุณกับคุณฟอสเตอร์เลิกกัน”เเจ็คสันพูดด้วยความสัตย์จริง

 

ปั้ง

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์เหวี่ยงหมัดไปที่กรงด้านข้างจนทำให้กรงบุบลงไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่า ธอร์จะคาดเดาถูกต้อง เหตุผลที่ เจนบอกเลิกเขา มันเป็นเพราะโลกิต้องพูดอะไรบางอย่างกับ เจนไว้ เเต่ก่อนเขาพยายามจะไม่เชื่อในความคิดนี้เเต่พอได้ยินการยืนยันจากปากของเเจ็คสันมันทำให้เขาสำนึกรู้ในที่สุด

 

“เขายังบอกอะไรเจ้าอีกหรือไม่?”ธอร์ตะโกนถามด้วยเสียงต่ำราวกับว่าจิตใจของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธ

 

“เขาบอกว่าเขามาหาคุณก็เพื่อขัดขวางคุณทุกอย่างรวมไปถึงการฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของคุณ เหตุผลก็เพราะเขาต้องการให้คุณถูกเนรเทศอยู่ที่โลกเเห่งนี้ตลอดกาล”ในที่สุดเเจ็คสันก็กล่าวตอบ คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดที่เขาเเสดงออกมาเพื่อบิ้วอารมณ์ของธอร์

 

“ว่าอะไรนะ!”

 

หึ่ม~

 

“โลกิ!”ธอร์ไม่เคยนึกสงสัยว่าคำพูดของเเจ็คสันจะเป็นเรื่องหลอก เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่งตะโกนชื่อของโลกิออกมาก่อนที่จะต่อยไปที่กรงด้วยโทสะที่เดือดดาล

 

“โลกิได้บอกฉันให้กันคุณเเละพยายามให้คุณอยู่ห่างจากค้อนเทพเจ้าสายฟ้ามากที่สุดไม่งั้น…”เเจ็คสันไม่ต้องการจะพูดต่อ เเต่คำพูดของเขาในตอนท้ายทเเน่นอนว่า ธอร์รู้ความหมาย โลกิจะต้องขู่ว่าจะฆ่าเเจ็คสันเเน่นอน

 

เฮือก~

 

ธอร์สูดหายใจเขาลึกก่อนที่จะหลุดถามออกมา”ทำไมเจ้าถึงไม่ทำตามที่โลกิบอกเล่า?ป้องกันข้าไม่ให้ข้าฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้า ไม่ใช่ว่านั่นจะเป็นเหตุผลที่ดีสำหรับเจ้าที่สุดเเล้วหรอกหรือ?”

 

“ป่าวเลย…เพราะคุณคือเพื่อนของฉัน! คุณคือเจ้าสายเเอสการ์ดผู้ยิ่งใหญ่ เทพเจ้าสายฟ้า เเม้ว่าฉันจะถูกคุกคามโดยโลกิ เเต่ฉันก็กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขาโดยการช่วยเหลือคุณ นี่เป็นความตั้งใจของฉันที่ต้องการให้คุณฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของตัวเอง เเน่นอนว่าหลังจากคุณกลับมาคุณย่อมที่จะช่วยฉันกำจัดภัยคุกคามอย่างโลกิได้!”เเจ็คสันโต้ตอบคำถามของธอร์

 

เเจ็คสันคิดว่าทักษะการเเสดงของเขาสมควรอยู่ในระดับปรมาจารย์อย่างน้อยในตอนนี้มันก็สมควรคว้ารางวัลออสการ์มาได้อย่างง่ายดาย ไม่งั้นธอร์คงไม่มีปฏิกิริยาเช่นนี้

 

“เเจ็คสัน,ข้าไม่ได้ตั้งใจ เจ้าคือสหายที่ดีที่สุดคนนึงของข้า”

 

“ข้าไม่เคยรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาก่อนยกโทษให้ข้าด้วย”ธอร์รู้สึกผิดที่บีบบังคับเเจ็คสัน

 

“ผ่อนคลายเถอะ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ ฉันคิดว่าพวกเรามาหาทางให้คุณฟื้นคืนพลังของคุณกันดีกว่า หากคุณพยายามอย่างมากบางทีฉันเชื่อว่าคุณสามารถที่จะฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าได้ในไม่ช้า”

 

“เเน่นอน,เเจ็คสัน เจ้าสบายใจได้ ข้าจะพยายามอย่างหนัก เพื่อที่จะเอาค้อนของข้ากลับมา เเละข้าจะไม่ยอมให้โลกิมาข่มขู่เจ้าอีก!”

 

“อืม,ฉันเชื่อคุณ”เเจ็คสันมองไปที่ธอร์อย่างให้กำลังใจ

 

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็กลับไปทำความสะอาดกรงอีกครั้ง เเต่จิตวิญญาณของธอร์ในตอนนี้ได้เปลี่ยนอย่างกะเป็นคนละคนกัน ต้องบอกว่าคำพูดของเเจ็คสันก่อนหน้านี้ ราวกับประกายชนวน ที่ทำให้ ธอร์อยากจะฟื้นคืนพลังเทพของตัวเอง

 

หู้วว ~

 

“โชคดีที่ฉันมีทักษะการเเสดงที่ยอดเยี่ยม,ถึงอย่างไรฉันก็ค่อนข้างรู้สึกผิด เเต่ว่า ถ้าธอร์กลายเป็นคนธรรมดา โลกจะต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติร้ายเเรงในอนาคตเเน่นอน”ในขณะที่ธอร์กำลังทำความสะอาด เเจ็คสัน จ้องมองไปที่เเผ่นหลังของเขา

ตั้งเเต่ที่ทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์ S.H.I.E.L.D เเละ ทีม X-MEN ร่วมมือในการจัดการพวกไฮดร้า สองสัปดาห์ผ่านไป ทำให้ความก้าวหน้าในเควสภารกิจของเเจ็คสัน พุ่งสูงถึง 77%

 

เเต่ในช่วงสองสัปดาห์ของการซุ่มโจมตีทำให้เเจ็คสันรู้สึกค่อนข้างเพลียอย่างมาก ดูจากรายงานที่ศาสตราจารย์ชาร์ลสได้ให้ไว้ เเจ็คสันได้ปรับเเผนการเเละต้องการจะพักผ่อน ในวันนี้ เขาต้องการไปเยี่ยมดู งาน ของ ธอร์

 

ครั้งก่อนเขาได้จัดให้ธอร์ทำงานอาสาสมัคร ในที่สุด เเจ็คสันก็มองหางาน เลี้ยงสุนัขจรจัดได้ เขาเชื่อว่างานนี้ อาจจะช่วยฝึกฝนทำให้ธอร์มีวินัยมากขึ้น ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เเจ็คสัน ก็ได้ขับรถจิ๊ปของเขาไปที่สถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัด

 

โฮ่ง! เเฮ่ก ๆ !~~

 

เเฮ่ก ๆ เเฮ่ก ๆ ~~~~

 

ทันทีที่เเจ็คสันถึงจุดหมายปลายทางเขาก็ได้ยินเสียงสุนัขร้องหรือเห่าออกมา เขาคิดว่าบางทีนี่อาจจะเป็นการต้อนรับผู้มาเยือนจากเหล่าสุนัขพวกนี้ก็เป็นได้

 

“เห้,เจ้าหมาน้อย อย่าเลียซิ เเกกำลังทำให้ฉันตัวเปื้อนน้ำลายไปหมดเเล้ว!”

 

“เอ้า,ไปวิ่งเล่นเเถวนู้นไป!”

 

เเจ็คสันเห็นฝูงสุนัขที่มาต้อนรับ จากนั้นเขาก็ยื่นเเลกเปลี่ยนบัตรเเละถามพนักงานเเถวนั้นเกี่ยวกับธอร์ ดูเหมือนธอร์จะได้รับมอบหมายงานเเล้ว เเจ็คสัน เองก็อยากจะรู้ว่า เจ้าชายเเอสการ์ดผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ จะมีสีหน้าท่าทีอย่างไรในขณะที่ทำงาน

 

“เห้อ,นี่มันคราวซวยของข้าเเล้วกระมัง? ทำไมข้าจะต้องได้รับหน้าที่ล้างกรงเจ้าพวกตูบหน้าขนเหล่านี้ด้วย”เสียงของธอร์บ่นพึมพัมออกมา

 

ได้ยินว่าธอร์ได้รับมอบหมายงานเป็นการทำความสะอาดกรง เเจ็คสันยิ้มออกมา ขณะเดียวกันธอร์ที่กำลังล้างกรงอยู่เขาก็เช็ดไปตามพื้นที่จนเหลือบไปเห็นเงาของบุคคลที่หน้าประตู

 

“เเจ็คสัน? เจ้ามาตั้งเเต่เมื่อไหร่?”หลังจากวิเคราะห์เงานั้นว่าคือเเจ็คสัน ธอร์ รู้สึกมี ความสุขอย่างมาก เพราะเขาไม่ได้เห็นหน้าของเเจ็คสันกว่า สองสัปดาห์ ไม่คาดคิดว่าเเจ็คสันจะมาเยี่ยมดูงานของเขา

 

ขณะที่ธอร์รู้สึกมีความสุข ขาของเขาก็ก้าวเดินเข้าหาเเจ็คสันพร้อมกับยื่นเเขนออกมาเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการกอดทักทาย

 

ทันทีที่เห็นการเคลื่อนไหวของธอร์ สัญชาตญาณของเเจ็คสันร้องเตือนทันที เดิมเขาก็ไม่ชอบการทักทายที่เเสนอบอุ่นเช่นนี้นัก ยิ่งไปกว่านั้น ธอร์ กำลังทำความสะอาดล้างกรงอยู่ มือของเขาเต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล ทั้ง เขายังไม่ได้ล้างมือ

 

ฟิ้ว!

 

 

“ฮ่าฮ่า,เจ้าก็ยังเป็นเจ้าเหมือนเคย”เห็นเเจ็คสันหลบการสวมกอดทักทายของเขา ธอร์ยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“รู้แบบนี้ก็ยังจะทำอีก!”เเจ็คสันยิ้มกล่าวตอบ

 

เห็นสภาพในปัจจุบันของธอร์ เเจ็คสัน เชื่อว่า ธอร์คงปรับตัวทำงานในสถานที่เเห่งนี้ได้ไม่มากก็น้อย นอกจากนี้ ดูเหมือนเหล่าสุนัขจรจัดจะชอบเขาเสียด้วย

 

“เห้,สหาย เจ้ารอข้าก่อน ข้าใกล้จะทำความสะอาดกรงนี้เสร็จเเล้ว ไว้พวกเราค่อยสนทนากัน”เห็นเเจ็คสันเดินทางมาถึง ธอร์ต้องการจะอยู่สนทนากับเขา เเต่เขายังมีงานที่ต้องสะสางให้เสร็จก่อน

 

“ไม่มีปัญหา!”เเจ็คสันกล่าวตอบ เห็นธอร์มีความตั้งใจในหน้าที่การงานที่ได้รับเขาเองก็พลอยรู้สึกดีใจไปด้วย

 

“ฉันจะอยู่ที่นี่รอดูการทำงานของคุณเเหละ ทำให้เสร็จเถอะ”เเจ็คสันกล่าวเสริมเล็กน้อย

 

จากนั้นเเจ็คสันก็กวักมือเลี้ยงสุนัขตัวน้อยมาลูบเล่น เขาเองก็ค่อนข้างชอบสัตว์ขนปุกปุยเหล่านี้มาก เเต่โชคร้าย ที่เเม่ของเขา เเพ้ขนสัตว์ นั่นทำให้ เเจ็คสัน ไม่สามารถเลี้ยงสิ่งที่ชอบได้โดย เฉพาะ สุนัข

 

“เจ้ามากับข้าหน่อย!”จากนั้นธอร์ก็เก็บกวาดพื้นที่เเละทำความสะอาดพื้นที่จนเสร็จ

 

เนื่องจาอาสาสมัครมีไม่มาก ดังนั้นเขาจึงต้องการให้ เเจ็คสัน มาช่วยต้อนสุนัขเข้ากรง เพราะมีสุนัขจำนวนมากอาศัยอยู่ในสถานที่เเห่งนี้ ดังนั้นจึงไม่เเปลกที่ภายในกรงจะสกปรกอย่างมาก

 

จากนั้นธอร์ก็เดินไปเก็บเครื่องมือของตัวเองเเละทำความสะอาดตัวเอง ในสายตาของเเจ็คสัน เเทบจะบรรยายถึงภาพลักษณ์เบื้องหน้าไม่ได้ หาก โลกิ รู้ว่า พี่ชาย ที่เป็นเจ้าชายเเห่งเเอสการ์ดผู้ยิ่งใหญ่ เทพเจ้าสายฟ้าธอร์ ได้ตกอับ ถึงขนาด จับไม้กวาด ทำความสะอาดกรงสุนัขเเล้วล่ะก็ ไม่รู้ว่าเขาจะทำสีหน้าเช่นใด

 

“ธอร์ ในช่วงสองสัปดาห์มานี้ ดูเหมือน คุณจะค่อนข้างคุ้นเคยกับงานเเละปรับตัวได้ดีเเล้ว”ขณะที่ธอร์กำลังทำความสะอาดตัวเอง เเจ็คสัน ได้ชวนธอร์พูดคุย

 

“ก็เรื่อย ๆ งานอาสาสมัครนี้ มีคนงานค่อนข้างน้อย ดังนั้นมันจึงเหนื่อยอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเองก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ดังนั้นมันถือเป็นประสบการณ์ในชีวิตของข้า”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์ กล่าวตอบเบา ๆ

 

“งั้นหรอ? ดูเหมือนว่าคุณจะยอมรับสถานะของตัวเอง ในตอนนี้ เเละปรับตัวให้เข้ากับงานได้อย่างรวดเร็ว จนฉันนั้นประหลาดใจจริง ๆ “เเจ็คสัน กล่าวพูด

 

ในขั้นต้น เเจ็คสัน เดินทางมาที่นี่ เขาเองก็หวังจะเห็นภาพลักษณ์ที่ดูท้อเเท้ของธอร์ อย่างไรก็ตาม ธอร์ กลับไม่ได้ทำเช่นนั้น เเม้เขาจะบ่นเกี่ยวกับหน้าที่ที่ได้รับ เเต่เขาก็ตั้งใจทำไม ด้วยความรับผิดชอบ เเละดูเหมือน เขาจะเริ่มคุ้นเคยกับงานด้านการทำความสะอาดกรงสุนัขนี้เเล้วด้วย ทำให้เนื้องานออกมาค่อนข้างเรียบร้อย

 

“การปรับตัวก็เป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะข้า ที่ไม่สามารถกลับไปยังโลกเเอสการ์ดได้ อาจกระทั่งบางที ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกเลย”

 

“ตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่ของข้า ขึ้นอยู่กับค่าเเรง 5,000 เหรียญ ดังนั้นข้าจึงต้องปรับตัวเเละใช้ชีวิตอยู่ที่โลกเเห่งนี้ให้ได้”ธอร์กล่าวตอบอีกครั้ง

 

เเม้ในใจของเขาจะไม่สามารถยอมรับได้ว่าตัวเองจะไม่สามารถกลับไปที่โลกเดิมได้ เเต่มันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเเปลงไปตามกาลเวลา ในช่วงสัปดาห์เเรกที่เขามาทำงาน เขารู้สึกท้อเเท้ เเละหมดหวัง เเต่พอนานเข้า เขากลับเริ่มชินชากับตำเเหน่งหน้าที่การงานหรือความเป็นอยู่ในการใช้ชีวิต

 

“อืม,ดูเหมือนคุณเองก็มีเรื่องให้ลำบากใจอยู่ไม่น้อย”ได้ยิน ธอร์ กล่าว เเจ็คสัน ย่นคิ้วทันที

 

หากจะบอกว่า ธอร์ ปรับตัว เพราะสถานการณ์มันบังคับ ก็ไม่ได้ผิดไปซะทีเดียว เพราะ ธอร์ ไม่สามารถเดินทางกลับโลก เเอสการ์ดได้ในตอนนี้ ทั้งเขาก็ยังเชื่อว่าต้องอาศัยอยู่ที่โลกเเห่งนี้เป็นเวลานาน สำหรับความคิดของเเจ็คสันเเล้ว หากธอร์มีความคิดที่จะอยู่ที่โลกเเห่งนี้อย่างสงบสุขก็ไม่ใช่ว่าไม่ดี เเต่มันจะกระทบต่อ เเผนการของเขาในอนาคต

 

“นี่มันไม่ดีเลย!”เเจ็คสันบ่นพึมพัมออกมา เขาไม่มีทางยอมให้ธอร์กลายเป็นคนธรรมดาที่ประสบความสำเร็จบนโลกนี้เด็ดขาด

 

“อะไรที่ไม่ดี?”เห็นเเจ็คสันบ่นพึมพัมออกมา ธอร์ เงยหน้าขึ้นถามเขา

ตึก ตึก~~

 

บุคคลนิรนามที่สวมใส่รองเท้าบู๊ทสีเเดงได้เดินเข้ามาในพื้นที่ห้องประชุมระดับสูงขององค์กรไฮดร้า ในเวลานี้ นายพลรีส เเละ เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ต่างได้ลุกยืนขึ้น

 

“เร้ด!~…ท่าน เร้ด สกัลล์!”เห็นบุคคลที่ปรากฏตัวขึ้นหลายคนภายในห้องต่างก็พูดติดอ่างกันในทันทีเห็นได้ชัดว่าพวกเขาตกตะลึงกับการปรากฏตัวของบุคคลที่มีชื่อเสียงของไฮดร้าคนนี้มาก

 

เร้ด สกัลล์! ชื่อนี้เป็นชื่อที่ กัปตันโรเจอร์ส หรือ สตีฟ เคยเผชิญหน้าด้วย ก่อนหน้านี้ เขาได้จัดการชายคนนี้ไปเเล้ว เเต่ไม่คาดคิดเลยว่า เร้ด สกัลล์ ที่เป็นผู้นำของพวกไฮดร้าจะยังมีชีวิตอยู่

 

เเม้ว่าบุคคลที่อยู่ในห้องประชุมนี้จะเป็นบุคลากรสำคัญระดับสูง เเต่พวกเขาก็ไม่คาดคิดว่า บุคคลที่หายสาบสูญกว่า 60 ปี หัวหน้าขององค์กรไฮดร้า เร้ด สกัลล์ จะยังมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้หน้าต่างของเขายังโดดเด่นอีกด้วย เพราะรูปลักษณ์หน้าตาที่เหมือนหัวกระโหลกสีเเดงทั้งยังใส่เสื้อคลุมสีดำ เขาเหมือนคนที่ฟื้นคืนชีพจากความตาย

 

ไม่ต้องพูดถึงพวกไฮดร้า ที่เเทบจะไม่มีใครรู้ว่า เร้ด สกัลล์ ยังมีชีวิตอยู่ เพราะเเม้เเต่ S.H.I.E.L.D. ที่ทำการต่อต้านองค์กรไฮดร้ามาตลอด ก็ยังไม่ได้ยินข่าวคราวของ เร้ด สกัลล์ เเม้เเต่น้อย เเละบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดขององค์กรไฮดร้าได้ปรากฏตัวขึ้นนี่อาจจะเป็นการอธิบายได้ว่าองค์กรไฮดร้าจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

 

“ท่าน เร้ด สกัลล์ !”นายพลรีสเดินไปที่ด้านหน้าของ เร้ด สกัลล์ เเละโค้งคำนับในทันที

 

“ท่าน เร้ด สกัลล์ “ภายใต้การเคลื่อนไหวของนายพลรีส ตัวตนระดับสูงของไฮดร้าคนอื่น ๆ ก็ทำตามเเละกล่าวตะโกนอย่างเร่งรีบ

 

 

เผชิญหน้ากับการต้อนรับเช่นนี้ เร้ด สกัลล์ ไม่ได้ตอบสนองใด ๆ เขาเพียงยืนนิ่งสงบ เเละ จ้องมองไปที่กลุ่มคนเหล่านี้ ด้วยนัยน์ตาสีเเดงเลือด ราวกับว่าเขาต้องการสำรวจกลุ่มคนเหล่านี้

 

ฟิ้ว~

 

ภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ นายพลรีส เเละ คนอื่น ๆ ไม่กล้าที่จะส่งเสียงรบกวนหรือทำลายบรรยากาศในขณะนี้เเม้เเต่การคงสภาพท่าโค้งคำนับนี้เอาไว้

 

อึก ~

 

ในที่สุดนายพลรีสเเละคนอื่น ๆ ก็ไม่สามารถทนได้อีก พวกเขาต้องการจะพูดอะไรเพียงเเต่ เร้ด สกัลล์ ก็ได้ก้าวเท้าเดินจากนั้นก็ไปนั่งยังตำเเหน่งหัวโต๊ะที่ประชุม

 

ฟุ่บ~

 

เห็น เเต่ เร้ด สกัลล์ เดินไปนั่งลง นายพลรีส เเละ คนอื่น ๆ ก็เลิกโค้งคำนับพร้อมกับไปยืนยังตำเเหน่งที่เหมาะสมเพื่อเฝ้ารอดูการเคลื่อนไหวของ เร้ด สกัลล์ ต่อไป

 

“ฉันคิดว่าพวกเเกคงรู้เเล้วว่า สถานการณ์ของไฮดร้าในช่วง 60 ปีหลังมานี้ย่ำเเย่กว่าตอนที่ปกปิดตัวตนกว่า 60 ปี มากเพียงใด ในมือของพวกเเกครอบครองทรัพยากรมากมาย เเต่ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน พวกเเกกลับทำให้สถานการณ์มันเเย่ลงมาก พวกเเกมีสิ่งใดจะพูดไหม?”ด้วยลูกตาซ็อกเก็ตลึกเขากวาดสายตามองไปที่ในที่ประชุมสำรวจคนหลายคน

 

เผชิญหน้ากับ เร้ด สกัลล์ ,นายพลรีส เเละ คนอื่น ๆ จ้องมองไปที่เขาด้วยความตกใจ คนเหล่านี้ไม่กล้าที่จะอธิบายเหตุผลให้ เร้ด สกัลล์ ฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาบอกว่า โดนพวก S.H.I.E.L.D. จัดการจนย่อยยับ นี่คงจะเป็นผลเสียอย่างมาก เพราะ องค์กรไฮดร้าได้เปิดฉากต่อสู้กับองค์กร S.H.I.E.L.D. มาอย่างยาวนาน

 

เเต่มันก็เลี่ยงไม่ได้เพราะนี่เป็นความจริง S.H.I.E.L.D. ได้ค้นพบฐานลับของพวกไฮดร้า จากนั้นก็ส่งกองทัพซุ่มโจมตี พวกมันทำลายความสงบสุขของพวกเขา ทั้งยังทำให้กองกำลังของพวกเขาต้องสูญเสียอย่างหนักหน่วง

 

โดยเฉพาะ S.H.I.E.L.D. ที่ถูกเเปลงโฉมขึ้นใหม่ภายใต้การนำของ นิค,นิค ต้องการจัดตั้งพันธมิตรอเวนเจอร์ส ในการรวบรวมกำลังคนหรือยอดมนุษย์ที่เเข็งเเกร่ง มาเพื่อต่อต้านองค์กรชั่วร้ายอย่างไฮดร้า เเผนการก่อตั้งทีมพันธมิตรอเวนเจอร์สนั้นหากสำเร็จ จะช่วยลดอัตราการสูญเสียบุคลากรของกองทัพอย่างมาก

 

ตอนนี้ S.H.I.E.L.D. ได้ร่วมมือกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ,ทีม X-MEN โดนการร่วมกำจัดพวกไฮดร้าด้วยกัน เเละ นับวัน องค์กรไฮดร้าก็ยิ่งอ่อนเเอลงเรื่อย ๆ ดังนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของ เร้ด สกัลล์ จึงไม่มีใครกล้าพูดโต้เเย้ง ใด ๆ

 

“ไม่มีงั้นหรอ?ฉันคิดว่าพวกเเกต้องมีอะไรจะพูดเเน่นอน เริ่มจากเเกก่อนเลย เจฟเฟอร์รี่ ?”เร้ด สกัลล์ หลังจากจ้องมองไปที่บุคคลหลายคนเขาก็หยุดที่ เจฟเฟอร์รี่ เเละ พูดขึ้น

 

“ท่าน เร้ด สกัลล์! เอ่อ…ฉัน?”ได้ยินคำถามของ เร้ด สกัลล์ เจฟเฟอร์รี่ พูดอย่างติดขัด ก่อนที่จะเดินไปข้างหน้าเพื่อตอบสนอง

 

“ไม่ต้องกังวลไป ฉันมีของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะให้เเกก่อนที่เเกจะพูด”มองไปที่ เจฟเฟอร์รี่ ,เร้ด สกัลล์ พูดเบา ๆ

 

ได้ยินของขวัญเช่นนี้ของ เร้ด สกัลล์ เเน่นอนว่า ใบหน้าของ ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ ย่อมไม่ได้เเสดงออกถึงความสุข มันเป็นใบหน้าที่สิ้นหวังอย่างมาก

 

“ท่าน เร้ด สกัลล์,ฉัน…”

 

ปั้ง

 

เพียงเเต่ในขณะที่ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ไม่รู้จะอธิบายอะไรเขาได้เงยหน้าขึ้นเเละทันใดนั้นเองเขาก็เห็นปลายกระบอกปืนพกเล็งมาที่ตัวเขาก่อนที่กระสุนนึงนัดจะถูกยิงออกมาเข้าที่กลางอกของตัวเอง

 

จุ๋ม~

 

หลังจากที่ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ล้มไปด้วยกระสุนนัดเเรกที่เข้ากลางอกกระสุนนัดที่สองก็ถูกยิงซ้ำที่ศีรษะอีกครั้งจนเลือดสีเเดงได้ไหลเป็นทางยาว

 

ทันทีที่เป่าศีรษะของผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่เสร็จ เร้ด สกัลล์ ก็เป่าปากกระบอกปืน เมื่อไม่นานมานี้ เร้ด สกัลล์ ได้รู้ข่าว ว่า ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ ได้ทำผิดพลาดเเละ ทำให้ มิราจไนท์ หลุดมือไป หลังจากนั้น ก็เกิดผลเสียที่ติดตามกันมา เเน่นอนว่าในตอนนี้ เร้ด สกัลล์ ย่อมรู้สถานะที่เเท้จริง ของ เเจ็คสัน

 

“ตอนนี้ฉันมีภารกิจให้พวกเเกทำ”เร้ด สกัลล์ ลูบปืนพกของตัวเองก่อนที่จะมองไปที่กลุ่มคนเหล่านี้ที่เบื้องหน้าของเขา

 

“เชิญสั่งการมาได้เลย,ท่าน เร้ด สกัลล์!”

 

 

การปรากฏตัวของ เร้ด สกัลล์ ไม่มีใครรู้นอกจากคนในห้องนี้ เพราะเเม้เเต่ S.H.I.E.L.D. หรือ เเจ็คสัน ก็ยังไม่รู้ว่าเขามีชีวิตอยู่ เเม้เเต่สตีฟ ที่มีเซรุ่มซูเปอร์โซลเดอร์ ในร่าง หากเขามีอายุ 90 ปี โดยที่ไม่ได้ถูกเเช่เเข็งในน้ำเเข็ง เขาก็ไม่มีทางที่จะดูสุภาพเเข็งเเรงเหมือนกับ เร้ด สกัลล์ ในตอนนี้

 

 

ดังนั้น S.H.I.E.L.D. ที่กำลังวางเเผนเตรียมการรับมือในการกำจัดพวกไฮดร้า พวกเขาคงจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการสวนกลับของพวกไฮดร้า ในไม่ช้าเมื่อถึงเวลาใครจะรู้ว่าอสรพิษที่ฟื้นคืนชีพกลับมาจากความตายตัวนี้จะทำให้การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากเเค่ไหน

ฟู่วว~~

 

ในขณะที่เเจ็คสันจ้องมองไปที่ซากปปรักหักพัง ทีมที่รับผิดชอบในการผสานงานกับมิราจไนท์ ของ S.H.I.E.L.D. ก็รีบวิ่งเข้ามา จากนั้นพวกเขาก็จัดการพวกลิ่วล้อของพวกไฮดร้าที่กำลังหลบหนีเป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะจัดการได้อย่างรวดเร็วเพราะคนเหล่านี้ไม่ได้มีความเเข็งเเกร่งที่สูงนัก

 

“มิราจไนท์ ต้องขออภัยด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเราทำให้คุณต้องเสี่ยงเเล้ว!”เจ้าหน้าที่วัยกลางคนกล่าวขอโทษมิราจไนท์ทันที

 

การเคลื่อนไหวทำลายฐานไฮดร้าในตึกเรโนล์ด ครั้งนี้ เเม้พวกเขาจะเตรียมการกันมาก่อนเเต่ก็เป็นเหตุฉุกเฉิน หลังจาก S.H.I.E.L.D. ได้รับข่าวก็เคลื่อนตัวบุกทันที พวกเขาได้รีบติดต่อ มิราจไนท์ ไป เพื่อที่จะยืมความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์ เเต่พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่า มิราจไนท์จะต้องเผชิญหน้ากับ มิวแทนท์ระดับ 4 ด้วยตัวคนเดียว นี่เป็นความเสี่ยงที่ไม่อาจประเมินได้

 

“ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ขอเพียงกำจัดพวกไฮดร้าออกไปจากโลกนี้ได้ ฉันก็พร้อมจะเสี่ยงอยู่เเล้ว”เเจ็คสันกล่าวตอบ หากเขาไม่มาด้วยไม่รู้ว่าจะมีผู้บาดเจ็บล้มตายในเเผนการครั้งนี้มากเเค่ไหน

 

“ขอบคุณมิราจไนท์ หากไม่ได้คุณ พวกเราคงบาดเจ็บเเละสูญเสียกองกำลังจำนวนมากจากการรับมือกับมิวแทนท์ตนนี้”เจ้าหน้าที่วัยกลางคนกล่าวตอบ

 

S.H.I.E.L.D. ยังคงให้ความสำคัญกับตัวตนของมิราจไนท์อยู่ เเน่นอนว่า สิ่งที่พวกเขาเห็นการเปลี่ยนเเปลงมากที่สุดก็คือความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์ในช่วงเวลาเพียงครึ่งปี ตัวตนของมิราจไนท์ สามารถรับมือกับมิวแทนท์ที่เหนือกว่าระดับ 3 ได้ด้วยตัวคนเดียว

 

ใน S.H.I.E.L.D. นั้นมีผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์เป็นพิเศษ พวกเขารู้ดีว่า มิราจไนท์ไม่ได้เก็บออมความเเข็งเเกร่งเอาไว้ เเต่มันเป็นพัฒนาการในช่วงเวลากว่าครึ่งปี ความสามารถของเขาพัฒนาอย่างน่ากลัวจริง ๆ

 

“เอาล่ะ เรื่องเคลียร์พื้นที่ตรงนี้ ฉันขอฝากด้วยล่ะ ฉันขอตัวกลับก่อน”เเจ็คสันไม่ต้องการจะรั้งอยู่ที่นี่ต่ออีกเขาขอตัวกลับ

 

ทันใดนั้นหัวหน้าของ S.H.I.E.L.D. ก็จ้องมองไปที่ มิราจไนท์ ที่เดินจากไป”ดูเหมือนว่าเรื่องที่เขาจะเเค้นพวกไฮดร้ามากคงจะเป็นเรื่องจริง”

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้กล่าวลาก่อนที่จะโดดขึ้นยานบินเเละหายตัวไปจากพื้นที่เเห่งนี้ทันที

 

เห็นมิราจไนท์จากไป คนของ S.H.I.E.L.D. ก็เริ่มเก็บกวาดพื้นที่สนามรบในครั้งนี้ ชัยชนะในครั้งนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขอีกครั้ง เพราะว่าความคืบหน้าในการกำจัดพวกไฮดร้านับว่าเป็นรูปเป็นร่างเเล้ว

 

เเจ็คสันหลังจากบรรลุภารกิจของเขา ธรรมชาติเขาจะไม่ขี่ยานบินกลับไปนิวยอร์ก เพราะสถานที่เเห่งนี้ค่อนข้างห่างไกลอย่างมาก เเละความเร็วก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับชุดเกราะไอรอนแมนเลย ดังนั้น เขาจึงบินไปที่ ฐานของ S.H.I.E.L.D. เพื่อขอให้พวกเขาใช้ควินเจ็ท ส่งเขากลับไปนิวยอร์ก

 

วันนี้นอกเหนือจากสถานที่ของเเจ็คสันเเล้วในเมืองเเคนซัสบางเเห่งก็เกิดเหตุปะทุขึ้น นี่เป็นฝีมือของกปตันโรเจอร์ส ในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ของ S.H.I.E.L.D. เเละทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์ ได้ร่วมมือกัน ดังนั้นเเผนการกวาดล้างพวกไฮดร้าจึงสำเร็จเร็วกว่าเดิม

 

นิคได้ให้ข้อมูลทุกอย่างกับมิราจไนท์ ตราบเท่าที่พวกเขาร่วมมือกัน เเน่นอนว่าองค์กรไฮดร้า จะต้องถูกกำจัดไม่ช้าก็เร็ว นอกจากนี้ นิค ยังต้องการความร่วมมือจาก ทีม X-MEN เเต่เห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายยังไม่เปิดใจให้กับเขา ทั้งจุดยืนของพวกมิวแทนท์ก็ยังเเตกต่างในสังคมอย่างมาก ดังนั้น นิค จึงจะใช้ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เป็นสื่อกลางในครั้งนี้

 

ภายใต้การตรวจสอบของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ นั้นสมาชิกพวกไฮดร้าต่างถูกค้นพบมากขึ้น เเละ ก็จบด้วยการบุกทำลายของ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ S.H.I.E.L.D.

 

เเผนการกวาดล้างพวกไฮดร้าดำเนินไปอย่างไม่หยุดหย่อน ภารกิจเควสของเเจ็คสันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ภารกิจของเขาก็ฝ่าฝันไปได้มากถึง 70% เหลือเพียง 30% เพียงเท่านั้น เเต่ 30% ที่ว่านี่ย่อมเป็นส่วนที่น่าเกรงขามที่สุดของพวกไฮดร้าอย่างเเน่นอน

 

 

ด้วยการผสานงานของ S.H.I.E.L.D. ,ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ ทีม X-MEN พวกไฮดร้า ที่หลบซ่อนตัวย่อมไม่สามารถทนได้ โดยเฉพาะพวกสมาชิกระดับสูงที่หลบซ่อนตัว ยิ่งพวกเขาได้เห็นองค์กรของตัวเองจัดการไปมากเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งเดือดดาลมากขึ้น

 

ทางทิศตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ในชานเมืองอันห่างไกล ห้องประชุมลับในฐานใต้ดินของพวกไฮดร้า

 

ปั้ง!

 

“ไอ้พวก,S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ พวกมันชักจะเหิมเกริมเกินไปเเล้ว! โดยเฉพาะมิราจไนท์ ฉันอยากจะฉีกมันเป็นชิ้น ๆ “คนที่เพิ่งทุบไปก็คือนายพลรีส เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาได้รับข่าวที่องค์กรไฮดร้าของเขาถูกตามเก็บกวาดทำให้ ผิวของเขารู้สึกย่ำเเย่มาก สถานการณ์ของไฮดร้าในตอนนี้กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ เเต่ไม่คาดคิดว่าพวกมันจะเจอโพรงที่พวกเขาหลบซ่อนตัวกัน

 

เห็นนายพลรีสเดือดดาลผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ ก็ไม่กล้าที่จะส่งเสียงดังออกมา ครั้งก่อนเป็นเขาที่ปล่อยโอกาสให้ เเจ็คสันหนีไป หากเขายืนยันตามความคิดของนายพลรีสเเต่เเรก มิราจไนท์ ก็คงไม่อยู่จนถึงตอนนี้

 

ดังนั้นผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ จึงนั่งอยู่เงียบ ๆ โดยไม่ออกความเห็นใด ๆ

 

“พวกเราต้องเริ่มตอบโต้พวกมันบ้างเเล้ว หากไม่เเล้ว โลกนี้จะไม่เหลือที่พักพิงสำหรับเราอีก!”ชายวัยกลางคนที่นั่งตรงข้ามนายพลรีสกล่าวขึ้น

 

“คิดว่าฉันไม่อยากทำหรืออย่างไร?เเต่นายมีเเผนที่จะสามารถรับมือกับพวกมันได้?”ได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคน นายพลรีสไม่ได้ชื่นชมความคิดนี้

 

เเม้ว่าอิทธิพลของพวกไฮดร้าจะสูญเสียหนักไปในช่วงหลายสัปดาห์มานี้เเต่บุคคลสำคัญของพวกเขาก็ยังคงรักษาเอาไว้ เเต่การสูญเสียพวกทหารปลายเเถวพวกนี้ไปจำนวนมากจะทำให้อิทธิพลของพวกเขาตกต่ำลง

 

“เรื่องนี้…”เห็นการสอบสวนของนายพลรีส ชายวัยกลางคนต้องการจะพูด เเต่ก็ต้องหยุดลง

 

ชี่~~

 

หลังจากที่ชายวัยกลางคนคนนั้นหยุดกล่าวทั้งห้องก็พลันเงียบสงบราวกับว่าพวกเขากำลังรอใครบางคน เเน่นอนว่าผู้ที่เข้ามาอยู่ในห้องเเห่งนี้ได้มีเเต่พวกระดับสูงของไฮดร้า ดังนั้น สายตาของคนหลายคนในห้องประชุมได้เปลี่ยนทิศทางไปยังทางเข้า

 

เเอ๊ดด~

 

ภายใต้สายตาของคนหลายคนประตูเหล็กหนาได้ถูกเปิดขึ้น จากนั้นก็มีคนบางคนก้าวเข้ามาเขาสวมรองเท้าเเดงที่เด่นสะดุดตา

ฟ้าว! ~~

 

สองสัปดาห์ต่อมารัฐเท็กซัส ศูนย์กลางของเมืองที่เป็นที่ไม่ค่อยรู้จัก อาคารสูงเเห่งนึง ผู้คนรอบนอกต่างได้ยินเสียงบานกระจกถูกทำลายเเละเหมือนตัวตึกจะมีการระเบิดขึ้น

 

“ไฟไหม้!”

 

“ไฟไหม้!”

 

“นั่นมันตึกของเรโนลต์!”

 

จู่ๆ อาคารเเห่งนั้นก็เกิดอุบัติเหตุ หลายคนต่างตะโกนออกมาด้วยความกังวลพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมโทรหาตำรวจ ที่น่าเเปลกใจก็คือ คนท้องถิ่นเรียกสถานที่เเห่งนี้ว่าอุตสาหกรรมเรโนลต์

 

ฟุ่บ~

 

อย่างไรก็ตามขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เหล่านี้เตรียมจะรายงานตำรวจหรือหน่วยกู้ภัยพวกเขาก็เห็นทีมของรัฐบาลที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีทำการล้อมรอบตัวตึกเเห่งนี้

 

พวกเขารู้สึกสงสัยว่าทำไมคนของหน่วยงานรัฐถึงมาได้รวดเร็วเเม้จะดีใจเเต่ก็ยังคงเคลือบเเคลงด้วยความกังวล

 

ดูเหมือนทีมของหน่วยงานรัฐนี้จะเริ่มต้นล้อมรอบเเละจัดการเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นพร้อมเขากำชับคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกไปจากพื้นที่ในทันที

 

ปั้ง

 

จากนั้นตัวอาคารก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสียงของฝูงชนภายนอกต่างเอะอะกันยกใหญ่

 

ภายใต้สายตาของคนเหล่านี้พวกเขาเห็นเงาร่างนึงกระโดดออกมาจากหน้าต่าง เมื่อคิดว่าเงาร่างนี้จะตกเเต่ เขากลับดูเหมือนจะลอยกลางอากาศได้ ทั้งลักษณะของเขามันทำให้มองเห็นยากสืบเนื่องด้วยเพราะมีเหตุควันไฟลอยฟุ้ง

 

“นั่นใครกัน?ยอดมนุษย์?!”

 

“โอ้,ฉันต้องตาฟาดไปเเล้วเเน่!”

 

เงาร่างนั้นราวกับหลุดมาจากภาพยนตร์นี่ทำให้เหล่าคนมุงรอบนอกต่างก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ

 

พวกเขากำลังนึกสงสัยอยู่ว่านี่เป็นการถ่ายหนังภาพยนตร์หรือไม่เหตุระเบิดเเละรีเเอ็คชั่นของเงาร่างนั้นค่อนข้างเล่นได้สมบทบาทอย่างมาก

 

“ระวัง!”

 

“มันกำลังจะระเบิดอีกครั้ง”

 

พวกคนมุงที่เห็นเงาร่างนั้นตกลงมาถึงพื้นเสร็จจากนั้นเหตุระเบิดระลอกสองก็ระเบิดขึ้นภายใต้การคาดเดาของคนเหล่านี้ เงาร่างนั้นจะต้องไม่รอดอย่างเเน่นอน

 

อย่างไรก็ตามเเม้เหตุระเบิดเเละเปลวเพลิงจะปกคลุมไปทั่วพื้นที่เเต่พวกเขาก็ยังเห็นเงาร่างสีดำที่ดูเหมือนจะถืออาวุธในมือ พริบตาต่อมาเเสงสีม่วงเเพรวพราวก็ปรากฏขึ้นสะท้อนนัยน์ตาของพวกเขา

 

เหล่าคนมุงจ้องมองไปหวังว่าจะเห็นลักษณะของคนคนนั้นอย่างชัด ๆ พวกเขาตัดสินใจได้เเล้วว่านี่ไม่ใช่การเเสดงหนังอย่างเเน่นอน เพราะเหตุระเบิดนั่นเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ที่โดนจะรอดชีวิตได้เเม้จะเป็นสตั้นเเมนมืออาชีพก็ตาม ขณะที่พวกเขากำลังคาดหวังอยากรู้ว่าตัวตนนั้นคือใคร รังเเสงสีม่วงก็วาดผ่านไปที่ตัวตึกจนสามารถฟันพื้นที่ด้านหน้าเเยกออกจากกันได้

 

“นั่นมันอะไร…?”

 

“รังเเสงสีม่วงนั่นมันคืออะไรกัน?”

 

พวกเขาราวกับเห็นภาพมายาที่มนุษย์ไม่อาจทำได้เเสงสีม่วงนั้นราวกับสามารถผ่าเเยกได้ทุกสิ่งจนในที่สุดควันก็เริ่มจางลงเรื่อย ๆ จนคนมุงรอบนอกสามารถสังเกตุเห็นลักษณะของเงาร่างสีดำ

 

“นั่นมัน มิราจไนท์ ! ไม่คิดว่ามิราจไนท์จะมาที่นี่ ! ฮีโร่จากนิวยอร์ก!”ในที่สุดก็มีคนตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นมันได้กระตุ้นต่อมความอยากรู้ของคนอื่น ๆ เหมือนกัน

 

“มิราจไนท์ ? ใครกันล่ะนั่น?”

 

“มิราจไนท์ !? เป็นเขาจริงงั้นหรอ?”

 

“ใช่ มิราจไนท์ จริง ๆ “

 

หลังจากคนตะโกนออกมาเหล่าผู้ที่อยู่โดยรอบต่างก็เอะใจ เเม้จะมีบางคนไม่รู้จักเเต่คนในพื้นที่ส่วนมากต่างก็ได้ยินวีรกรรมของมิราจไนท์ พวกเขารีบบอกเล่าเรื่องราวในทันที ว่ามิราจไนท์ : ฮีโร่จากนิวยอร์ก

 

นอกจากนี้จะมีคนบางคนไม่รู้จักมิราจไนท์ก็ไม่เเปลก เพราะ เเจ็คสัน ได้เคลื่อนไหวในนิวยอร์กส่วนใหญ่ ทั้งยังเป็นพื้นที่บางเเห่ง เเต่รัฐเท็กซัส เอง ก็ค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากนิวยอร์ก ดังนั้นหากใครในสถานที่เเห่งนี้จะไม่รู้จักเขาก็ไม่เเปลก

 

ทันทีที่ยืนยันได้ว่าเป็นมิราจไนท์คนจำนวนมากหยิบกล้องโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปอย่างตื่นเต้นพร้อมส่งผ่านไปยังเว็บไซต์ของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ด้วยอัตราการเข้าชมเเละบรรดาเเฟนคลับจำนวนมาก คลิบนี้จะต้องได้ยอดไลค์เยอะอย่างเเน่นอน ทั้งยังเป็นการโปรโมททีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ให้โด่งดังยิ่งขึ้น

 

ตั้งเเต่ สกาย’อาย เข้าร่วม ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ บรรดาเเฟนคลับ เเละ เหล่า เเฟน ๆ ของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่า สกาย’อาย สามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดึงดูดสายตาเเละเป็นที่น่าจับตามองของกลุ่มใครหลายคน

 

เพราะทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ต่างก็รวมไปด้วย เหล่าฮีโร่ ขวัญใจของผู้คน

 

ขณะที่พวกผู้คนกำลังนึกดีใจกันอยู่ เหตุผลที่เเจ็คสันมาที่นี่ ก็เพราะเขาได้ผสานงานกับ S.H.I.E.L.D. ในการซุ่มโจมตีฐานพวกไฮดร้า ในรัฐเท็กซัส เเจ็คสันไม่คาดคิดเลยว่า หลังจากเขาบุกเข้าไปป เขาก็ต้องเผชิยหน้ากับมิวแทนท์ระดับ 4 ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเสียเวลาอยู่ข้างในพอสมควร

 

จากนั้นเเจ็คสันก็ลงมือจัดการศัตรู เขาเเทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บกลับมา หากจะว่าโชคร้ายก็คงเป็นอาคารเเห่งนี้ที่ระเบิดภายใต้การโจมตีของมิวแทนท์ตัวนั้น

 

โชคดีที่การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีพวกกองกำลังหลักของพวกไฮดร้ามากไม่งั้นเเม้เเต่เเจ็คสันก็ยังคงลำบาก เเต่ก็มีสิ่งนึงที่เเจ็คสันจำได้ขึ้นใจ พวกไฮดร้าดูเหมือนจะซุกซ่อนกองกำลังเอาไว้มากมาย

 

การซุ่มโจมตีฐานในครั้งนี้ ก็เพราะได้รับข่าวสารจาก S.H.I.E.L.D. มา ก่อนหน้านี้ พวกเขาได้เเบ่งทีมจัดการฐานของพวกไฮดร้าไปเเล้ว 3 เเห่ง ไม่คาดคิดว่าข่าวสารของ พวก S.H.I.E.L.D. จะไวขนาดนี้ เเต่ที่โชคร้ายก็คือฐานเเห่งนี้ไม่มีตัวบุคคลสำคัญของพวก ไฮดร้าอยู่

 

“นี่ก็เป็นฐานที่สี่เเล้ว ,พวก ไฮดร้า มาดูกันว่าพวกเเกจะมัวซ่อนตัวอีกนานเเค่ไหน”เเจ็คสันสบทในใจก่อนที่จะจ้องมองไปที่ซากปรักหักพังของตัวตึก

ปั้ง

 

ครื่น !

 

หลังจากผ่านไปสิบนาทีทีมของ S.H.I.E.L.D. บางส่วนที่เฝ้าระวังที่ปากทางเข้าพวกเขาพบเเรงสั่นสะเทือนที่มาจากใต้ดินนั้นเเละพื้นดินบริเวณรอบ ๆ ก็เกิดการผลิเเตก ราวกับว่า ฐานทัพไฮดร้าเเห่งนี้ กำลังจะพังทลายลงมา

 

“ถอยทัพ,ถอยทัพ!”หลังจากตรวจสอบโครงสร้างของภูมิภาคนี้เสร็จ หัวหน้าทีม ก็ตะโกนสั่งการ

 

เห็นได้ชัดว่าพวกไฮดร้าเมื่อรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะหลบหนี พวกมันก็คิดจะทำลายฐานตัวเอง ดูเหมือนพวกไฮดร้าจะติดระเบิดขนาดใหญ่ไว้ระเบิดฐานเเห่งนี้ นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาคิด เเต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าเเท้จริงเเล้วมันกลับเป็นฝีมือของเเจ็คสันที่กำลังเล่นสนุกอยู่ที่ด้านล่าง ที่พวกเขาเป็นห่วงความกังวลก็คือที่ด้านล่างมีสามยอดวีรบุรุษ คนสำคัญทั้งสามอยู่

 

ครื่น!

 

จากนั้นทหารที่อยู่ในรัศมีตำเเหน่งใกล้ทางเข้าก็ทยอยกันออกมา พื้นที่เเห่งนี้เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนเเรงเรื่อย ๆ จากนั้นดูเหมือนปากทางเข้าถ้ำใต้ดินจะถล่มลงมาปิดกั้นเส้นทางเข้าออกเเห่งนี้

 

กระทั่งบางคนก็ได้รับบาดเจ็บจากเศษหินถล่มก่อนหน้า เเน่นอนว่ายังมีพวกบางคนที่ยังไม่ได้ออกมาจากฐานเเห่งนี้ก็มี

 

“เร็วเข้า,ตรวจสอบรายงานสถานการณ์”หัวหน้าทีม กล่าวอย่างกังวล เกี่ยวกับการปิดตามของปากถ้ำ เเม้จะมีกองทหารของ S.H.I.E.L.D. ที่หลบหนีออกมาได้จำนวนมาก เเต่การสูญเสียตัวตนอย่างพวก กัปตันอเมริกาไปนับเป็นการสูญเสียที่ยากจะยอมรับ

 

ครื่น!

 

เพียงเเต่ว่าหลังจากที่ทีมตรวจสอบกำลังจะไปตรวจสอบใต้ดินเห่งนี้ก็เกิดการระเบิดขึ้นโครงสร้างทั้งหมดราวกับกำลังจะพังทลายมาทั้งหมด หากเป็นเเค่ปากทางพวกเขายังเเก้สถานการณ์ได้เเต่เหตุถ้ำถล่มในคราวนี้มันเกินเยียวยาเเล้วจริง ๆ ทั้ง พวกสไปเดอร์แมน,กัปตันอเมริกา เเละ มิราจไนท์ก็ยังไม่ออกมา

 

“ไม่!”

 

ครื่นนน

 

ทีมที่เฝ้าระวังอยู่ด้านนอกจ้องมองไปที่ซากปรักหักพังที่พังลายลงมาพวกเขารู้สึกกังวลอย่างมากเพียงเเต่ว่าภายใต้ซากปรักหักพังเหล่านั้นเงาร่างสีเเดงก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับคว้าจับคนสองคนเอาไว้ ดูเหมือนว่าในช่วงที่ถ้ำถล่มลงมา ปีเตอร์จะใช้พละกำลังของเขาปกป้องคนที่ยังติดอยู่ในถ้ำ เเละ เขาก็ได้ใช้พละกำลังของตัวเองฟันฝ่าหาทางหลบหนีออกมา

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากสไปเดอร์แมนออกมาเขาก็โยนทั้งสองคนออกจากพื้นที่ซากปรักหักพัง การขว้างปาของเขาเเม้จะรุนเเรงเเต่ก็เพื่อความปลอดภัยของคนธรรมดาเหล่านี้ จากนั้นไม่นานก็ปรากฏเงาร่างสีน้ำเงิน ถลุงพื้นที่เศษที่เเตกหักลงมาเพื่อเปิดช่องว่างเพื่อหาทางออก นี่ก็คือกัปตันอเมริกา

 

ทันทีที่ถ้ำเกิดถล่มสไปเดอร์แมนเเละกัปตันอเมริกาก็ร่วมมือกันทำลายพื้นที่เพื่อเปิดปากทางเข้าพร้อมทั้งช่วยเหลือบุคคลที่ติดอยู่ภายในถ้ำ เเต่สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่สิ้นสุด เพราะ มิราจไนท์ยังไม่ออกมา

 

“สไปเดอร์แมน มิราจไนท์ ยังไม่ออกมา หรือว่าเขาจะประสบอุบัติเหตุ?”กัปตันโรเจอร์สที่ยืนท่ามกลางซากปรักหักพัง เขากล่าวถามกับสไปเดอร์แมนด้วยความกังวล

 

กัปตันโรเจอร์สรู้ดีถึงความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์ เเต่การระเบิดของถ้ำนั้นรุนเเรงมาก ที่พวกเขาหลบหนีออกมาได้ก็เพราะอยู่ในตำเเหน่งกึ่งกลางของถ้ำ เเต่มิราจไนท์นั้นต่างกัน เขาเข้าไปยังส่วนลึก

 

“สบายใจเถอะ,เขามั่นใจที่จะบุกเดี่ยวเข้าไป ทั้งเขายังไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากพวกเรา ทั้งยังเตือนให้พวกเราระวังถึงการถล่มของถ้ำ เป็นธรรมชาติที่เขาย่อมมีวิธีการหลบหนีของตัวเอง”ปีเตอร์เชื่อมั่นในเเจ็คสัน เพราะเเจ็คสันมีความลับที่ยิ่งใหญ่อยู่ เเต่ส่วนลึกของปีเตอร์เเน่นอนว่าเขากังวลเหมือนกับกัปตันโรเจอร์ส

 

“อืม,หวังว่ามิราจไนท์จะปลอดภัย ดูเหมือนฐานเเห่งนี้จะมีเพียงอาวุธต่อต้านปกป้องฐานเพียงเท่านั้น ไม่ได้เป็นฐานที่สำคัญมากนัก”ได้ยินคำพูดของสไปเดอร์แมน กัปตันโรเจอร์ส พูดถึงภารกิจในครั้งนี้

 

“ฉันก็คิดอย่างนั้นดูเหมือนฉันจะได้ยินเสียงที่ถูกส่งมาจากส่วนลึกภายในอาจเป็นไปได้ว่าพวกมันทุ่มกองกำลังเพื่อรับมือกับมิราจไนท์ เพื่อความปลอดภัยของพวกเรา มิราจไนท์ จึงเตือนให้พวกเราหนีก่อน “ปีเตอร์ กล่าวตอบ

 

เหตุผลที่มิราจไนท์ออกมาช้าก็อาจจะเพราะต้านทานกองกำลังของศัตรูอยู่ เเละ เพราะเหตุการถ้ำถล่ม จึงเป็นเหตุผลให้ เเจ็คสัน ได้กล่าวเตือนปีเตอร์ ให้หลบหนีออกไปก่อนเเละเขาจะตามมาทีหลัง

 

“ก็คงอย่างนั้น ถึงอย่างไร พวกไฮดร้าก็เป็นองค์กรที่จะต้องถูกทำลายอย่างสิ้นซาก วิทยาการของพวกมันเเข็งเเกร่งมาก ทั้งพวกมันยังได้เเอบซ่อนสิ่งเหล่านี้มาหลายปี”จ้องมองไปที่ซากปรักหักพัง กัปตันโรเจอร์สถอนหายใจ

 

“ไม่ว่าพวกไฮดร้าจะเเข็งเเกร่งเเละทรงอิทธิพลขนาดไหน ท้ายที่สุด พวกมันก็ต้องถูกกำจัดให้หายไปจากโลกนี้”ได้ยินความรู้สึกของกัปตันโรเจอร์ส ปีเตอร์ ตอบ

 

ฟุ่บ!

 

ครื่น!

 

ด้านหน้าของกัปตันโรเจอร์สเเละสไปเดอร์แมน ดูเหมือนซากปรักหักพังจะพังทลายลงมาอย่างต่อเนื่อง เพียงเเต่ภายใต้การพังทลายในครั้งนี้กลับมีใบดาบสีม่วงยื่นออกมากว่าครึ่งเมตรฟันทำลายพื้นที่เศษหินเศษดินเหล่านั้นจนเเตกออกจากกัน

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเงาร่างสีดำก็ทลายพื้นที่เเห่งนี้ออกมา เเละหันหน้าไปมองทางกัปตันโรเจอร์สเเละสไปเดอร์แมน ดูเหมือนการระเบิดเมื่อครู่นี้ เเจ็คสันจะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ

 

ฟุ่บ!

 

“มิราจไนท์ฉันรู้ว่าคุณจะต้องไม่เป็นอะไร”ปีเตอร์ตบไหล่ของเเจ็คสันเเละยิ้มออกมา

 

“อืม,ดูเหมือนพวกมันจะเริ่มระบบทำลายตัวเองเเล้ว คนของ S.H.I.E.L.D. ยังติดอยู่ในนั้นไหม?”เเจ็คสันกล่าวถามปีเตอร์เเละกัปตันโรเจอร์ส

 

“พวกเขาได้หลบหนีออกมากันหมดเเล้ว เพียงดไรับบาดเจ็บ เเต่ก็ไม่เป็นอะไรมาก”กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

 

“อืม,สถานการณ์ของอีกสองฝั่งที่เหลือเป็นไงบ้าง?”เเจ็คสันถอนหายใจออกมา

 

เมื่อไม่นานมานี้เขาได้ขุดซากหินเเละซากปรักหักพังด้วยพละกำลังจำนวนมากทำให้เขาสูญเสียพลังงานเเละรู้สึกเหนื่อยมาก

 

ตั้งเเต่ที่เริ่มต่อสู้เเละปิดฉากฐานไฮดร้าเเห่งนี้ความก้าวหน้าในภารกิจของเเจ็คสันเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1% เเจ็คสันเชื่อว่ากองกำลังของพวกไฮดร้าจะต้องมีมากกว่านี้อย่างเเน่นอน

 

“พวกเขายังทำภารกิจกันไม่เสร็จ เเต่ก็คงอีกไม่นานเเล้ว”ได้ยินคำถามของมิราจไนท์กัปตันโรเจอร์สตอบอย่างง่าย ๆ

 

ทั้งสามทีมได้เคลื่อนไหวพร้อมกันในการจัดการพวกไฮดร้าโดยไม่เปิดโอกาสให้พวกมันมีเวลาได้ตั้งตัว เเต่ ทางด้านทีมของเเจ็คสันดูเหมือนจะเป็นทีมเเรกที่บรรลุภารกิจเสร็จก่อน

 

ติ๊ดด

 

ขณะที่กัปตันโรเจอร์สเพิ่งพูดไป อุปกรณ์สื่อสารในมือของเขาก็เกิดสายเรียกเข้าทันทีที่โรเจอร์สได้ยินรายงานประกายตาของเขาก็ปรากฏออกอย่างมีความสุข

 

“ดูเหมือนอีกสองทีมจะจัดการเสร็จเเล้วเหมือนกัน มิราจไนท์ ดูเหมือนการร่วมมือกันในครั้งนี้จะบรรลุผลตามที่คาดหวังเอาไว้”

 

“อืม,ได้ยินเช่นนั้นก็ค่อยผ่อนคลายหน่อย”

ฟุ่บ!

 

ในช่องฐานใต้ดินที่มืดสลัวระบบอาวุธจำนวนมากถูกเปิดใช้งานเพื่อรับมือกับเเจ็คสัน ยิ่งเขาเข้าไปลึกเท่าไหร่ เเจ็คสัน ก็สังเกตุได้ถึงความผิดปกติ เเน่นอนว่านี่เป็นฐานไฮดร้าไม่ผิดเเน่ ด้านข้างของพวกเขาเป็นประตูเหล็กที่ปิดหนาเเน่น

 

ตึก ตึก~

 

คราวนี้เเจ็คสันเดินช้าลงมากเพราะพื้นที่ด้านหน้าของเขาเหมือนส่งเสียงอะไรบางอย่างราวกับว่ากำลังมุ่งหน้ามาทางเขา เเต่เป็นที่เเน่ชัดว่าเเจ็คสันไม่รู้สึกกลัวเเม้จะต้องเผชิญหน้ากับอะไร

 

ฟุ่บ~~!

 

อย่างไรก็ตามขณะเดียวกันเเจ็คสันก็หยุดเดิน มันมีบางอย่างออกมาจากทางด้านซ้ายเเละขวาของเขาผ่านช่องประตูหนาที่ถูกปิดเเน่น

 

กิ๊ดดด!!!!

 

วืดด!

 

เสียงตะโกนแปลก ๆ ได้ถูกส่งออกมาจากข้างใน ดูเเล้วมันคล้ายเสียงสัตว์ร้ายอย่างมาก

 

เเจ็คสันไม่รู้ว่ามีสิ่งใดปรากฏตัวขึ้นมันคล้ายกับรูปแบบของสิ่งมีชีวิตเเต่สิ่งมีชีวิตใดกันที่เเผดเสียงร้องออกมาได้ขนาดนั้น เเจ็คสันร้สึกสงสัยอย่างมาก

 

ปั้ง

 

ปัง ปัง ปัง

 

ปั้ง

 

ดูเหมือนจะมีเสียงเหล็กอะไรซักอย่างถูกกระทบอย่างรุนเเรง เเม้ประตูเหล็กจะเปิดขึ้นเขาก็เห็นเพียงเงาเพียงเท่านั้นจากนั้น รูปร่างที่ชดเจนก็ปรากฏออกมาพร้อมกับดวงตาสีเเดงฉานที่ดูน่ากลัว

 

“จระเข้?! พันธุ์ผสม? ไม่สิ จระเข้กลายพันธุ์?”เห็นสัตว์ร้ายที่ปรากฏตัวออกมาจากห้อง เเจ็คสันอุทานอย่างประหลาดใจ

 

มองจากลักษระภายนอกเเล้วมันคล้ายกับสัตว์ป่าธรรมดาเเละใกล้เคียงจระเข้มากที่สุด เเต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เรียบง่ายขนาดนั้น ขาของมันนั้นยาวมาก ทั้งยังมีความหนาที่ชัดเจน หากจะให้เรียกจระเข้ ก็คงไม่ถูกซะทีเดียว

 

จากนั้นก็ปรากฏพวกสัตว์เหล่านี้รายล้อมมาจากสามทิศทางมันกำลังมุ่งหน้าเข้าหาเเจ็คสันอย่างช้า ๆ

 

พวกไฮดร้าในช่วงหลายปีมานี้ ได้ทำการทดลองเกี่ยวกับมนุษย์กลายพันธุ์ เเละเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะใช้สัตว์มาทดลองโดยเฉพาะสัตว์ร้ายที่กลายพันธุ์อย่างจระเข้ ,หลังจากมันกลายพันธุ์เเล้วมันก็ย่อมไม่ใช่จระเข้ปกติพละกำลังของมันกลับเเข็งเเกร่งกว่าเดิมมาก เเม้จะต้องเผชิญหน้ากับอาวุธร้อนก็ยังไร้ประโยชน์เพราะผิวของมันนั้นเเข็งราวกับกระดองหิน

 

ดังนั้นสัตว์ป่ากลายพันธุ์เหล่านี้จึงเป็นสัตว์ทดลองของพวกไฮดร้า มันเเทบจะไม่สร้างความสูญเสียให้กับพวกเขาเเม้จะสูญเสียสัตว์ทดลองเหล่านี้ไป เพราะตราบใดที่พวกเขาครอบครองวิทยาการที่เปลี่ยนเเปลงพันธุกรรมอยู่ ก็สามารถที่จะผลิตพวกมันได้จำนวนมาก

 

“โฮก!!”

 

ตึก ตึก

 

ทันใดนั้นเองขาทั้งสี่ของพวกมันก็เริ่มเคลื่อนไหวเข้าหาเเจ็คสันเพราะสัญชาตญาณในการล่าของพวกมัน การเคลื่อนไหวของพวกมันรวดเร็วมากเเม้จะเป็นสัตว์เลื้อยคลาน

 

งับ!

 

เเจ็คสันไม่ทันได้ระวังฟันที่เเหลมคมของสัตว์ป่าตัวนึงได้กัดเข้าที่ใบดาบของเขา เเจ็คสันสังเกตุเห็นรอบตัวของเขาถูกล้อมไปด้วยสัตว์ร้ายนับ 10 ตัว เขาได้ ถีบตัวเบื้องหน้าให้กระเด็นถอยออกไปก่อนที่จะตั้งหลักรับมือใหม่

 

สัตว์ร้ายกว่าสิบตัวเเบ่งออกเป็นสองกลุ่มเเละพยายามที่ปิดช่องทางหลบหนีของเเจ็คสัน

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันไม่ได้สนใจเขาพุ่งไปที่ด้านหน้าเเละใช้ดาบสายฟ้าของเขาวาดตวัดซ้ายเเละขวาเพื่อโจมตีสัตว์ร้ายเหล่านี้ เขาสาบานกับตัวเองว่าเเม้จะตกตายก็ไม่ยอมตายภายใต้สัตว์ทดลองที่น่ารังเกียจของพวกไฮดร้าเด็ดขาด

 

“เเม้สัตว์ร้ายเหล่านี้จะเเข็งเเกร่งเเต่ก็ทำได้เเค่ถ่วงเวลามิราจไนท์เพียงเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไร เราจะต้องจัดการมิราจไนท์ที่ดี ส่งทีมดีติดอาวุธเข้าไปเผชิญหน้าเเละสังหารมิราจไนท์ซะ”หัวหน้าของพวกไฮดร้าคนนึงพูดเขากล่าวหลังจากจ้องมองมอนิเตอร์

 

 

ตึก ตึก

 

“ในที่สุดก็มา ?ดูเหมือนพวกมันไม่ลังเลที่จะเสียกองกำลังสมาชิกทหารเพียงน้อยนิด”เเจ็คสันที่เผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายอยู่ ห่างออกไปไม่ไกล เขาเห็นทีมทหารจำนวนมากปรากฏขึ้น

 

เเม้จะเผชิญหน้ากับทีมทหารติดอาวุธเหล่านี้เเจ็คสันก็ไม่ได้กังวล ฐานของพวกไฮดร้า ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ เขาได้ลองฝ่ากองกำลังทหารจำนวนมากมาเเล้ว เเละในระหว่างทางเขาได้ฆ่าไปจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นเเจ็คสันไม่เชื่อว่าพวกมันจะยอมทุ่มเทกองกำลังที่เหมือนกับทีมอัลฟ่าเเละส่งมาให้เขาจัดการง่าย ๆ หรอก ทั้งพวกมันก็ย่อมไม่มีกองกำลังที่ว่านี้มากนัก

 

“ดูเหมือนว่าฐานเเห่งนี้จะไม่มีพวกตัวการสำคัญ ไม่งั้นการคุ้มกันคงเเน่นหนากว่านี้ ฉันไม่ต้องการเสียเวลากับพวกเเกมากนัก”เเจ็คสันจ้องมองไปที่กองกำลังจำนวนมาก เขาสั่นศีรษะเเละยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

ปั้ง!

 

เเจ็คสันวิ่งไต่ผนังถ้ำเพื่อมุ่งหน้าไปยังกองกำลังทหารก่อนอันดับเเรก เขาได้ใช้ดาบสายฟ้าของเขาวาดฟันไปที่กองกำลังทหารเเละเผชิญหน้ากับกลุ่มคนเหล่านั้นอย่างไม่เกรงกลัว

 

ซู๊ดดด

 

ทหารคนนึงของพวกไฮดร้าถูกจัดการภายใต้คมดาบของเเจ็คสันพริบตาเดียวเขาก็เสียชีวิตในทันที

 

“ฆ่า!”เห็นเพื่อนร่วมทีมของตัวเองถูกจัดการ เเม้ทีมทหารที่เหลือจะหวาดกลัว เเต่ภายใต้คำสั่งของหัวหน้า พวกเขาได้ระดมปืนยิงใส่มิราจไนท์ชุดใหญ่

 

ปั้ง

 

ปั้ง!

 

เเจ็คสันใช้ดาบสายฟ้าของเขาวาดฟันปัดกระสุนที่เข้ามาเบื้องหน้าเพื่อหาเส้นทางในการโต้กลับ

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเเจ็คสันก็รวบรวมพลังดาบรังเเสงสีม่วงได้ปกคลุมทั่วดาบก่อนที่พลังงานทั้งหมดจะถูกเตรียมพร้อมเเจ็คสันได้ฟันดาบออกไปพร้อมกับคลื่นพลังสีม่วงที่รุนเเรง

 

ปั้ง!

 

วินาทีต่อมาช่องทางภายใต้ฐานเเห่งนี้ก็เกิดการระเบิดขึ้นหากเเจ็คสันยังคงโจมตีด้วยพลังที่รุนเเรงเหมือนเมื่อครู่อีกมีโอกาสที่ฐานเเห่งนี้จะถล่มลงมา

 

“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องระวังมากกว่านี้”จ้องมองไปที่วิสัยทัศน์เบื้องหน้า เเละใต้ดินที่ส่งเสียงกระหึ่มเเจ็คสันกระซิบออกมา

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาเดียวเเจ็คสันก็หายไปจากสถานที่นี้อีกครั้งการเคลื่อนไหวของเขาได้พุ่งหายไปภายใต้อุปกรณ์ตรวจสอบจำนวนมาก

 

ฟวั่บ!

 

หัวหน้าทีมคนนี้กำลังจะกล่าวเตือนเพียงเเต่ว่าเเสงสีม่วงก็เข้าปะทะกับเป้าหมายที่ปะทุออกมาจากใต้ดินก่อนที่จะจัดการพวกมันทั้งหมดในพริบตา

 

ฟุ่บ!

 

ปั้ง!

 

พริบตาเดียวพื้นที่ทั้งหมดก็ตกอยู่ในความสงบหลงเหลือเพียงฝุ่นหิมะที่คลุ้งเเละถล่มลงมาเพียงเล็กน้อย เงาสีดำร่างนี้สามารถปัดเเกว่งต้านทานกระสุนรังเพลิงที่ถูกยิงออกมาได้ทั้งยังปกป้องกองทัพที่ทำการสำเร็จปากทางเข้าอุโมงค์ใต้ดิน

 

จากนั้นพอหมอกเเละฝุ่นหายไปก็ปรากฏร่าเงาที่คุ้นเคยขึ้น

 

“นั่นคือ…”เห็นร่างเงาที่คุ้นเคยนั้นเจ้าหน้าที่สองคนของS.H.I.E.L.D. อุทานออกมาอย่างตกใจ

 

“มิราจไนท์ ? นั่นคือมิราจไนท์ เขามาจากทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เมื้อกี้เเสงสีม่วงที่ช่วยพวกเราไว้สมควรเป็นการโจมตีของมิราจไนท์”หัวหน้าทีมที่อยู่บนควินเจ็ท กล่าวออกมา

 

“มิราจไนท์ ? ใช่ตอนนี้พวกเราได้ร่วมมือกับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเล้ว”ได้ยินคำพูดรายงานของหัวหน้าทีม สมาชิกทีมคนอื่น ๆ ก็ตอบ

 

ตอนนี้ พันธมิตรอเวนเจอร์สของ S.H.I.E.L.D. ได้ร่วมผนึกกำลังกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ เเสงสีม่วงที่ถูกปลดปล่อยมาเมื่อครู่นี้สมควรเป็นอาวุธของมิราจไนท์

 

“เขาเดินเข้าไปเเล้ว เตรียมการสนับสนุนมิราจไนท์อย่างเต็มกำลัง!”หัวหน้าทีมกล่าวสั่งการอย่างรวดเร็ว

 

“ครับ!”ทีมทั้งสองทีมได้ปฏิบัติตามคำสั่งเเละเตรียมความพร้อม

 

อย่างไรก็ตามขณะนั้นเอง บนเครื่องบินควินเจ็ท ก็ปรากฏเสียงพร้อมกับสองร่างที่พุ่งลงมาจากเครื่องบิน

 

ฟุ่บ!

 

เงาร่างสีเเดงนั้นได้หายตัวไปหลังจากลงมาส่วนเงาร่างสีฟ้าได้หล่นมาที่หน้าทางเข้าพอดี

 

“กัปตันโรเจอร์ส!”เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยของกัปตันโรเจอร์ส สมาชิกทั้งสองทีมตะโกนอย่างตื่นเต้น

 

สตีฟ โรเจอร์ส,หรือ กัปตันอเมริกา ตอนนี้เขาเปป็นเหมือนสัญลักษณ์เเห่งสันติภาพในการจัดการพวกไฮดร้าเเละทำลายกองกำลังของพวกมัน

 

“อืม,มิราจไนท์ กับ สไปเดอร์แมน ได้ลงไปก่อนเเล้ว ฉันจะเคลื่อนไหวไปสมทบพวกเขา พวกคุณจัดตั้งทีมเตรียมพร้อมเเละระวังความปลอดภัยอยู่ด้านหลัง”กัปตันโรเจอร์ส จัดเเจงงานอย่างรวดเร็ว คนที่ร่วงลงมาพร้อมกับเขาก็คือ สไปเดอร์แมน

 

“ครับ!”

 

จากนั้นกัปตันโรเจอร์สก็กระโจนลงไปที่ทางเข้าใต้ดิน ส่วนทีมของ S.H.I.E.L.D. ก็จัดตั้งกำลังเเละติดตามกันอย่างเป็นระเบียบ

 

 

ฟุ่บ!

 

ตึก ตึก!

 

ในทางเดินที่มืดสลัวเเสงสีม่วงได้วาดผ่านอุปกรณ์ปืนกลตลอดทางอย่างรวดเร็ว นี่เป็นอาวุธป้องกันตัวเองของพวกไฮดร้าเเต่มันไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อเบื้องหน้าของเเจ็คสัน เเม้ว่ากระสุนเหล่านี้จะถูกยิงเอามาเเต่ด้วยความคล่องตัวทำให้เเจ็คสันเดินหน้าทำลายเเละผ่านเส้นทางที่ทอดยาวนี้ไปได้ทันที

 

หลังจากได้รับข่าวพวกไฮดร้า S.H.I.E.L.D. ก็เเจ้งปฏิบัติการของวันนี้มาให้ ซึ่งเเจ็คสัน ก็ติดต่อคนในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ทุกคนเเละเริ่มดำเนินตามเเผนการที่วางเอาไว้

 

ทางด้าน S.H.I.E.L.D. ที่ตัดสินใจเช่นนี้ เป็นเพราะหลังจากเจ้าหน้าที่ โคลสัน ได้รับจดหมายจากมิราจไนท์ เขาก็ส่งเจ้าหน้าที่ไปยืนยันซึ่งมันเป็นเรื่องจริง ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเริ่มปฏิบัติการโจมตีในที่สุด

 

กลุ่มสมาชิกของพวกไฮดร้าที่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ค้นพบในสถานที่ที่่เเตกต่างกัน S.H.I.E.L.D. เองก็ได้เเบ่งกำลังเป็น สามฝ่ายมุ่งเป้าโจมตี สามเป้าหมายในวันนี้

 

ธรรมชาติเเจ็คสันสามารถเลือกได้เป้าหมายเดียวไม่งั้นเขาคงเลือกพวกมันทั้งหมด ดังนั้นพวกเขาจึงเเบ่งกองกำลังกัน ไม่ว่าจะเป็น มิราจไนท์ สไปเดอร์แมน เเละ กัปตันโรเจอร์ส สามเสาหลัก นี้ ได้ทำหน้าที่โจมตีสถานที่เเห่งนี้

 

เเน่นอนว่าอีกสองเเห่งที่เหลือของพวกไฮดร้า S.H.I.E.L.D. ก็ยังมี ฮ็อคอาย ,เเบล็กวิโดว์ เเละ เเดร์เดวิล ส่วนสถานที่สุดท้ายก็มี เดดพูล ไอซ์แมน เเละ คนที่เหลือ ทั้งสองกำลังพลได้จัดเเบ่งหน้าที่กันในการจัดการฐานพวกไฮดร้าเเต่ละเเห่ง เเละนี่เป็นการร่วมมือครั้งเเรกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเละพันธมิตรอเวนเจอร์สในการเปิดฉากจู่โจมพวกไฮดร้า

 

ฟุ่บ!

 

“มิราจไนท์,ฉันอยู่ในตำเเหน่ง 100 เมตรด้านหลังขวาของคุณ”หลังจากเห็นซากจำนวนมากที่ถูกจัดการโดยเเจ็คสัน ปีเตอร์ ที่ไต่บนด้านบนของถ้ำเขาได้ส่งเสียงบอก

 

เเม้ว่าปีเตอร์จะมาสมทบทีหลังเเจ็คสัน เเต่เขาก็เฝ้าระวังไม่ให้ห่างจากเเจ็คสันมาก หน้าที่ของเขาก็คือตรวจสอบพื้นที่กับดักเเละการซุ่มโจมตีต่าง ๆ ของพวกไฮดร้า ดังนั้น เขาจึงอยู่ตำเเหน่งระหว่างกลาง เผื่อเเจ็คสันประสบอุบัติเหตุเขาก็ยังสามารถสนับสนุนเเจ็คสันได้ทัน

 

“ฉันรู้เเล้ว,นายคอยจัดการพวกกับดักที่หลงเหลืออยู่เเละสำรวจพื้นที่ภายในนี้เเล้วกันฉันจะบุกเบิกล่วงหน้าไปก่อน”เเจ็คสันกล่าวบอกปีเตอร์เกี่ยวกับการลงมือในครั้งนี้

 

“เข้าใจเเล้ว ระวังตัวด้วย”

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นปีเตอร์ก็เคลื่อนไหวไปยังทิศทางต่าง ๆ ภายในถ้ำเพื่อตรวจสอบ

 

ตอนนี้ ทั้งมิราจไนท์ สไปเดอร์แมน เเละ กัปตันอเมริกา ต่างก็มุ่งหน้าไปยังทิศทางทั้งสามภายในถ้ำ ดูเหมือนถ้ำของพวกไฮดร้าจะทอดยาวไปจำนวนมากยังมีอีกหลายเส้นทางที่พวกเขาต้องตรวจสอบ

 

ขณะที่ทั้งสามคนทำการบุกจู่โจมถ้ำเเห่งนี้เสียงรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาของไฮดร้าคนนึงก็กล่าวรายงานต่อหัวหน้าของเขา

 

“มิราจไนท์,สไปเดอร์แมน ,กัปตันอเมริกา พวกเราไม่สามารถอยู่รับมือกับพวกมันได้!”เห็นการปรากฏตัวของทั้งสามคนสมาชิกไฮดร้ากล่าวออกมา

 

พวกเขาถูกสามตัวตนที่ทรงอิทธิพลกำลังเริ่มทำลายฐานทัพเเห่งนี้หากพวกเขารั้งอยู่ที่นี่ไม่ช้าก็เร็วฐานเเห่งนี้ก็คงถูกเก็บกวาด

 

ก่อนหน้านี้ที่ฐานลับของพวกไฮดร้าของพวกเขาในรัฐนิวเจอร์ซีย์ถูกทำลาย พวกเขาก็ได้เคลื่อนไหวอย่างระวังเเละหลบซ่อนตัวอย่างเงียบ ๆ ไม่คาดคิดเลยว่า พวก S.H.I.E.L.D. จะค้นพบสถานที่เเห่งนี้ เเละเปิดฉากโจมตีเต็มรูปแบบ ทั้งยังส่งขุนพลที่เเข็งเเกร่งอย่าง มิราจไนท์ สไปเดอร์แมน เเละ กัปตันอเมริกามาอีก

 

“เราไม่มีทางเลือกเเล้ว! ปล่อยอุปกรณ์ทดสอบทางทหารเเละเครื่องจักรสงครามออกไป เเม้ว่าพวกเราจะต้องตายก็ต้องลากพวกมันไปด้วย! ไฮดร้าจงเจริญ!”ในสถานการณ์สิ้นหวังนี้ ผู้นำกลุ่มไฮดร้ากล่าวตะโกนออกมา

 

“ไฮดร้าจงเจริญ!”

 

“ไฮดร้าจงเจริญ!”

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากผู้นำของพวกไฮดร้ากล่าวออกคำสั่งภารกิจสุดท้าย อุปกรณ์ทดสอบเเละเครื่องจักรสงครามก็ถูกปลดปล่อยออกมาเป้าหมายของพวกเขาคือ :มิราจไนท์

เมืองแม็กเอิน เมืองธรรมดาเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองอันเจริญรุ่งเรือง ประชากรในเมืองนี้มีประมาณ 100,000 กว่าคน หากเทียบกับเมืองเเม็กเอิน กับเมืองใหญ่ ๆ ในสหรัฐอเมริกาเเล้วเมืองนี้กลับเป็นเมืองที่เล็กมาก

 

ใจกลางเมืองขนาดเล็ก มีโรงงานเล็ก ๆ เเห่งนึง เเม้ว่าสภาพของตัวเมืองจะไม่ได้มีเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูเเต่ประชากรที่นี่ก็ทำงานด้านบรรจุภัณฑ์เป็นหลักทำให้พออยู่พอกิน ของที่บรรจุเหล่านี้ ก็ทำหน้าที่ส่งออกไปยังเมืองใหญ่ต่าง ๆ เเ

 

ฟุ่บ!

 

“ฮ่าฮ่า,เจอร์รี่! ส่งให้ฉัน!”

 

ฟุ่บ!

 

“ส่งให้ฉัน,ส่งให้ฉัน!”

 

ในพื้นที่เปิดกว้างก่อนถึงหน้าประตูโรงงาน เด็กอายุ 10 ขวบจำนวนมากกำลังเล่นเตะฟุตบอลกันที่นี่ เมืองระดับเล็ก ๆ เเห่งนี้ ย่อมไม่มีพื้นที่เพียงพอจะสร้างสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ เเม้เเต่ในโรงเรียนก็มีพื้นที่ขนาดเล็กเพียงเท่านั้น ดังนั้นเด็กเล็กเหล่านี้จึงสามารถเล่นได้ในพื้นที่เปิดกว้าง ซึ่งมีเเต่โรงงานเเห่งนี้ที่ปิดตัวลง เเม้พวกเขาจะไม่อนุญาติให้มาเล่นเเถวนี้ก็ตาม

 

“ฮ่าฮ่า,เอาไปกิน!”

 

เด็กคนนึงตะโกนขึ้นก่อนที่จะวิ่งไปทำประตูเข้ากรอบเขตโทษเเละตุงตาข่ายในที่สุด

 

เฮ้!

 

เพื่อนร่วมทีมตัวน้อยหลายคนส่งเสียงร้องเชียร์กันอย่างมีความสุขเเม้จะเป็นเมืองที่ค่อนข้างห่างไกลความเจริญเเต่ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความสุขเพียงเเต่ในขณะนั้นเหนือศีรษะของพวกเขากลับปรากฏเสียงที่พุ่งผ่านมาเเต่ไกลมันเป็นเสียงของเครื่องบิน

 

เด็กเหล่านี้ค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นจึงเงยหน้าขึ้นมองไปยังสถานที่ดังกล่าวเเละก็ค้นพบกับความตะลึง

 

“เครื่องบินนี่นา!”

 

“เป็นเครื่องบินจริง ๆ!”

 

“นั่นต้องเป็นเครื่องบินรบไม่ผิดเเน่”

 

เด็กหลายคนตะโกนออกมาซึ่งเด็กที่ชื่อเจอร์รี่นั้นเหมือนจะเป็นผู้ใหญ่สุดในกลุ่มเขาสามารถมองเห็นได้ว่าเครื่องบินที่ปรากฏตัวนั้นเป็นเครื่องบินรบ เเละเครื่องบินเหล่านี้เเท้จริงก็คืออุปกรณ์ทางอากาศของ S.H.I.E.L.D. ควินเจ็ท

 

ฮึ่ม!

 

เด็กกลุ่มนั้นมองหน้าไปยังทิศทางของเครื่องบินรบที่กำลังพุ่งตรงมาเเถวนี้ด้วยความเร็วสูง

 

“เครื่องบิน…เครื่องบินมาที่นี่!!”เห็นพื้นที่ที่จุดที่เครื่องบินนั้นมีเป้าหมาย เจอร์รี่ กล่าวพูดขึ้น

 

“หนีเร็ว!”

 

“เเม่!”

 

กลุ่มเด็กที่เห็นเครื่องบินมุ่งตรงมาทางนี้ รีบเเยกย้ายกันตะโกนโดยไม่สนใจการเล่นฟุตบอลอีกต่อไป

 

พริบตาเดียวเด็กก็วิ่งหายกันไปจนหมดเหลือเพียงพื้นที่เปิดกว้างขนาดใหญ่เพียงเท่านั้น

 

เเน่นอนว่าผู้อยู่อาศัยเเถวนี้ก็เริ่มสังเกตุเห็นความผิดปกติ พวกเขาคิดว่าเหตุใดเครื่องบินรบจึงมายังเมืองเล็ก ๆ เเห่งนี้ ไม่รู้ว่าเครื่องบินนั้นเป็นเป้าหมายภารกิจลับของรัฐบาลหรือไม่ เเต่สิ่งที่พวกเขาตระหนักรู้ดีก็คือ หากเครื่องบินนั้นไม่ได้มาเจตนาดี เพียงเเค่อาศัยเครื่องบินรบลำเดียวก็สามารถยึดเมืองเล็ก ๆ เเห่งนี้ได้เเล้ว

 

ทุกคนปิดประตูบ้านเเละไม่ปล่อยให้ลูกหลานออกไปเดินเพ่นพล่านข้างนอกในทันที

 

ขณะที่ทุกอย่างอยู่ภายใต้ความเงียบสงบจู่ ๆ เครื่องบินรบจำนวนมากเหล่านั้นก็เเบ่งออกเป็นหลายกลุ่มพร้อมกับรอบล้อมเป้าหมายที่เป็นโรงงานที่ถูกปิดตายที่กลุ่มเด็ก ๆ ละเล่นก่อนหน้านี้

 

จากนั้นเครื่องบินรบทุกลำก็เปิดฉากยิงในทันที เป้าหมายของพวกเขาก็คือ ฐานโรงงาน

 

ปั้ง ปั้ง

 

เผชิญหน้ากับการโจมตีทางอากาศที่รุนเเรงโรงงานล้างเเห่งนี้ในที่สุดก็ขยับเขยื้อนเเละผุดปากกระบอกปืนจำนวนมากเพื่อเตรียมมาตราการตอบโต้เป้าหมายของพวกเขาก็คือขีปนาวุธที่ถูกยิงมาเเละเครื่องบินควินเจ็ท

 

ปั้ง

 

ปั้ง

 

เกิดการระเบิดขึ้นกลางอากาศขีปนาวุธหลายนัดไม่ได้ถูกยิงกระทบเป้าหมายเพียงเเต่ถูกทำลายกลางอากาศก่อน เเต่ก็ยังมีขีปนาวุธบางลูกที่ถูกยิงเข้าเป้าหมายเเต่ภายใต้การตอบโต้สวนกลับนั้นทำให้เครื่องบินเจ็ทบางลำเกิดความเสียหาย

 

!

 

ฟุ่บ!

 

ระลอกขีปนาวุธถูกรีเซ็ตใหม่อีกครั้งก่อนที่จะเปิดฉากยิง รอบ ๆ โรงงานเเห่งนี้พลันเกิดการระเบิดขึ้นซากปรักหักพังจำนวนมากได้ถล่มทลายลงมาภายใต้การโจมตีของขีปนาวุธ ผืนดินพลันสั่นสะเทือนภายใต้การโจมตีของขีปนาวุธนี้

 

หลังจากทำลายโรงงานเเห่งนี้ได้ก็มีขีปนาวุธลูกนึงถูกยิงออกไป เพียงเเต่ว่าคราวนี้มันไม่ได้ระเบิดเป็นประกายไฟ กลับเป็นไอความเย็นที่มีอุณหภูมิติดลบก่อนที่อุณหภูมิติดลบเหล่านี้จะเเพร่ปกคลุมไปทั่วโรงงาน

 

เพียงใช้เวลาไม่นานซากปรักหักพังที่ถูกเปลวไฟล้อมรอบก็ถูกดับอย่งรวดเร็ว จากนั้นก็มีกองทัพจำนวนนึงลงมาจากเครื่องพร้อมกับสำรวจพื้นที่อย่างระวัง

 

ตึก ตึก!

 

ดูเหมือนกองทัพขนาดใหญ่นี้จะเป็นทีมค้นหา พวกเขามีจุดประสงค์ที่ต้องการจะค้นหาบางอย่าง

 

ติ๊ด!

 

“รายงาน! พบทางเข้าใต้ดิน!”

 

ทหารกลุ่มนึงที่เห็นพื้นดินที่ดูเหมือนทางเข้าพวกเขากล่าวรายงานทันทีก่อนที่จะทำการงัดเเงะเพื่อหาวิธีเปิดทางเข้าใต้ดินเเห่งนี้

 

“ระวังตัวด้วย!”หนึ่งในหัวหน้าทีมที่ขับควินเจ็ทอยู่กล่าวตื่นพวกเขาบรรจุกระสุนพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าในขณะที่พวกเขางัดเเงะเปิดประตูได้เสร็จปากกระบอกปืนจำนวนมากก็ถูกเพ่งเล็งมาที่พวกเขา ซึ่งในเวลานี้ไม่มีที่ให้หลบภัยเเล้วพวกเขาไม่คิดเลยว่าจะมีกลุ่มไฮดร้าดักที่หน้าทางเข้าเเละเตรียมรอยิงพวกเขาเพียงเเต่ว่าในขณะนั้นเองกลับปรากฏเงาร่าง ร่างนึง พุ่งเข้าไปท่ามกลางกระสุนรังเพลิงที่ถูกยิงออกมา

 

“ระวัง!”

 

ฟวั่บ!

ฟุ่บ~~

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังจัดการทำความสะอาดห้องอยู่โทรศัพท์ที่อยู่ใกล้ ๆ ก็ดังขึ้นซึ่งมันกระตุ้นเตือนสายตาของเเจ็คสันเล็กน้อย

 

ปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่เขากำลังผ่อนคลายหลังจากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูมันเป็นสายที่คุ้นเคยซึ่งก็คือ เจ้าหน้าที่โคลสัน เขาคิดว่าบางที ทางฝั่งนั้นอาจจะได้รับข้อมูลพวกไฮดร้าเเล้วก็เป็นไปได้

 

“เจ้าหน้าที่โคลสัน มีอะไรงั้นหรอ?”เเจ็คสันเชื่อมต่อสายเเละเปิดปากถามทันที

 

“มิราจไนท์ มีข่าวพวกไฮดร้าเเล้ว!”เจ้าหน้าที่โคลสันลืมขั้นตอนกล่าวทักทายเเละตรงเข้าประเด็นหลักทันที

 

ตึก ตึก!

 

ได้ยินเสียงคำพูดของเจ้าหน้าที่โคลสัน ร่างกายของเเจ็คสันภายใน พลันเดือดพล่านขึ้นด้วยความตื่นเต้น เขาเเทบจะควบคุมความดีใจในเรื่องนี้ไม่ได้ นี่เเสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับพวกไฮดร้าจริงจังขนาดไหน

 

“เป็นเรื่องจริง?”เเจ็คสันกล่าวถาม

 

“จริงเเท้เเน่นอน,ตอนนี้พวกเราได้ทำการตรวจสอบเเล้วพบการเคลื่อนไหวของพวกไฮดร้ากลุ่มเล็ก ๆ ตราบเท่าที่เราตามการเคลื่อนไหวของพวกมันบางทีอาจค้นพบฐานของพวกมัน”เจ้าหน้าที่โคลสัน กล่าวตอบอย่างชัดเจน

 

“ดี,เเล้ว S.H.I.E.L.D. มีมาตราการรับมืออย่างไร?”เเจ็คสันกล่าวถาม ในเมื่อพบต้นตอของพวกไฮดร้า เขาเองก็ต้องการกำจัดพวกมันโดยเร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับครอบครัวของเขา

 

“เรากำลังจัดตั้งทีม เเละคาดว่าน่าจะเริ่มมาตราการตอบโต้โดยเร็ว”

 

“ดี,เมื่อถึงเวลาติดต่อฉันกับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ทันที”

 

หลังจากตัดสินใจที่จะเริ่มต้น เเจ็คสันยิ้มออกมา ในที่สุด พวกเขาก็พบพวกไฮดร้า ไม่ว่าอย่างไรคราวนี้เเจ็คสันจะต้องทำลายองค์กรไฮดร้าให้หมดสิ้น

 

สำหรับ S.H.I.E.L.D. เเล้วพวกเขาจะต้องเตรียมพร้อมการเคลื่อนไหวดังนั้นเเจ็คสันจึงพอมีเวลาหารือกับคนในทีมอยู่เขาจะต้องรีบ เเจ้ง สกาย’อาย ให้รวบรวมทีมเเละปรึกษากันอย่างรวดเร็ว

 

ตู๊ดด

 

เพียงเเต่ว่าในขณะที่เเจ็คสันกำลังจะต่อสายกับสกาย’อาย โทรศัพท์มือถือของเขาเหมือนจะดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นชื่อคนคนนึง ซึ่งทำให้เเจ็คสันรีบต่อสายทันที

 

“โรเบิร์ต มีเรื่องสำคัญอะไรงั้นหรอ?”หลังจากต่อสาย เเจ็คสัน กล่าวถามอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ เขากับ ทีมX-MEN ได้ร่วมมือกันเเล้ว

 

“มิราจไนท์ เราค้นพบสมาชิกของพวกไฮดร้าบางคน!”โรเบิร์ตกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว เขาเชื่อว่าข่าวนี้จะทำให้มิราจไนท์ตื่นเต้นพอสมควร

 

เช้านี้มิราจไนท์ไม่ได้ไปในโรงเรียน X ในฐานะเเขกเพียงเท่านั้น เเต่ยังเป็นความร่วมมือกันในภายหลัง ดังนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์จึงสนับสนุนความคิดของมิราจไนท์โดยการให้ความร่วมมือไม่ว่าจะเป็นด้านกองกำลังหรือข่าวสารกับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

เเม้ความร่วมมือกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ จะทำเพื่อให้เหล่ามิวแทนท์สามารถใช้ชีวิตอยู่บนโลกได้อย่างอิสระ เเต่พวกไฮดร้าก็มีพวกมิวแทนท์ที่หลงผิดอยู่ ดังนั้น ศาสตราจารย์ชาร์ลสจึงไม่สามารถทนอยู่เฉยได้

 

ความสามารถการกลายพันธุ์ของศาสตราจารย์ชาร์ลส์นั้นผิดปกติมาก เเต่มันก็ทำให้เขาพิเศษกว่าคนอื่น นั่นทำให้เขากลายเป็นผู้นำเหล่ามิวแทนท์ที่ต้องการความสงบสุข เเละในช่วงหลายปีมานี้ เขาได้ตรวจสอบจนพบว่ามีพวกมิวแทนท์หลงผิดจำนวนมาก เเละในปัจจุบันพวกเขาก็ค้นพบกลุ่มสมาชิกกลุ่มนึงที่เป็นคนขององค์กรพวกไฮดร้า

 

หลังจากพบกลุ่มคนเหล่านี้ โรเบิร์ตก็ใจร้อนอย่างมาก รีบเเจ้งข่าวพวกไฮดร้า ในทันที

 

“นี่เป็นข่าวที่ดี,ดูเหมือนว่าในอีกไม่ช้าฉันจะได้รับตำเเหน่งฐานของพวกไฮดร้าอย่างสมบูรณ์แบบ”ได้รับข่าวจากโรเบิร์ตทำให้เเจ็คสันตื่นเต้นอีกครั้ง

 

โคลสันเพิ่งพบเส้นทางของพวกไฮดร้า ทีม X-MEN ก็พบกลุ่มคนของพวกไฮดร้า ดูเหมือนนี่จะเป็นข่าวดีทีเดียว ช่วงนี้เองเเจ็คสันก็ให้ความสำคัญกับพวกไฮดร้าอย่างมาก

 

“ดี,ฉันเองก็ได้เเจ้งข้อมูลกับคุณไปเเล้ว หากคุณจะเริ่มลงมือเมื่อไหร่ฉันจะให้การสนับสนุนทันที”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ โรเบิร์ตรู้ในทันทีว่ามิราจไนท์จะต้องเริ่มต้นกับพวกมันในเร็ว ๆนี้

 

สมาชิกคนอื่น ๆ ของทีม X-MEN ได้รับภารกิจจาก ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ กันหมดเเล้ว เหลือเพียง ไอซ์แมน กับกลุ่มคนไม่กี่คนเท่านั้น ที่ไม่ได้รับภารกิจ ดังนั้น ไอซ์แมนจึงเสนอตัวช่วยเรื่องนี้

 

“เป็นเรื่องที่ดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากคุณ โรเบิร์ต”เเจ็คสันตอบกลับ

 

คราวนี้เเจ็คสันไม่ได้ดูหมิ่นความเเข็งเเกร่งของพวกไฮดร้าอีกหากเป็นไปได้เขาจะทุ่มสุดตัวเพื่อเอาชนะพวกไฮดร้า

 

“ดี,เเละฉันจะรอ”โรเบิร์ตตอบกลับมิราจไนท์

 

หลังจากนั้นเเจ็คสันก็วางสาย ในคอมพิวเตอร์ของเขาปรากฏอีเมลจากโรงเรียน X มันเป็นตำเเหน่งของกลุ่มสมาชิกพวกไฮดร้า ที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์พบ

 

เส้นทางพวกไฮดร้า ที่ โคลสัน พบ เเละ กลุ่มคนพวกไฮดร้า ที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์พบ เเจ็คสัน ได้ตรวจสอบเเละมาทาบเทียมกัน เพราะมันอาจมีความเป็นไปได้ที่พวกมันจะเชื่อมโยงไปยังจุด ๆ เดียวกัน

 

หลังจากนั้นเเจ็คสันก็ตั้งใจจะส่งจดหมายฉบับนี้ให้กับพวก S.H.I.E.L.D. ตอนนี้ พวกเขามีความสัมพันธ์ ในการร่วมมือกันจัดการพวกไฮดร้า เป็นธรรมดาที่เเจ็คสันจะไม่ปกปิดข้อมูลนี้ ยกเว้นข้อมูลของเขาเอง เเม้ว่า นิคจะตอบตกลงเรื่องความร่วมมือ เเจ็คสันก็เชื่อว่าอีกฝ่ายพยายามล่วงรู้สถานที่เเท้จริงของเขาอยู่

 

เขาได้ส่งจดหมายไปยังเจ้าหน้าที่โคลสัน เเละ ก็ติดต่อกับ สกาย’อาย ในที่สุด ตอนนี้ เป็นช่วงเวลาที่ S.H.I.E.L.D. ,ทีม X-MEN เเละ พันธมิตรผู้พิทักษ์ จะได้เวลาเริ่มลงมือเสียที คราวนี้ เขาจะเเสดงให้เห็นถึงความเเข็งเเกร่งของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

ฮึ่ม!

 

พวกเเจ็คสันจากไปได้ไม่นานเเสงสลัวสีทองที่ปรากฏขึ้นเป็นเงาร่างของคน ๆ นึง ที่เเจ็คสันเคยพบมาก่อน

 

บุคคลนี้เป็นศิษย์ของจอมเวทย์สูงสุดของโลก เอนเชี่ยนวัน หรือก็คือ เเม่มด หยุนเหมิง,เพียงเเต่ว่าคราวนี้ที่หยุนเหมิงปรากฏตัวขึ้นไม่รู้ว่าเธอปรากฏตัวขึ้นเพราะเหตุผลใด

 

“มิราจไนท์คนนี้ รู้จักกับ เจ้าชายเเห่งเเอสการ์ดเทพเจ้าสายฟ้า ธอร์ นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจจริง ๆ “เธอจ้องมองไปยังทิศทางทั้ง 4 คนที่จากไป ดวงตาของ หยุนเหมิง กระพริบเล็กน้อย

 

ในชั่วขณะที่ เเจ็คสัน อยู่ที่ คาร์มาทัช เขาได้ยินชื่อของธอร์ เเละมีอาการเเสดงที่ผิดปกติเล็กน้อย นั่นทำให้ เอนเชี่ยนวันรู้สึกสงสัย ดังนั้น เขาจึงส่ง หยุนเหมิง มาตรวจสอบว่า ธอร์กับเเจ็คสันมีความสัมพันธ์ใด ๆ กัน เพราะว่าไม่ได้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันใด ๆ เเจ็คสันจึงไม่สามารถสังเกตุเห็นได้ ทั้งเธอยังมาด้วยเจตนาที่ดี หากมาด้วยจิตสังหารเเล้วล่ะก็ไม่เพียงเเต่เเจ็คสันจะสัมผัสได้ ปีเตอร์เองก็จะสัมผัสได้เช่นเดียวกัน

 

“ยิ่งไปกว่านั้นไม่เพียงเขาจะรู้จัก ธอร์,ธอร์ยังรู้จักสถานะของมิราจไนท์ในชื่อของ เเจ็คสัน เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนดูเหมือนจะไม่ง่ายเลย เเต่ใช่ว่าเขาจะรู้จักสถานะที่เเท้จริงของเด็กคนนั้นนอกจากนี้เด็กทั้งสองคนนั้นอาจจะเป็นหนึ่งในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ น่าเหลือเชื่อจริง ๆ พวกเขายังเด็กอยู่เเท้ ๆ “หยุนเหมิง ที่ซ่อนตัวอยู่ เธอเฝ้าสังเกตุการณ์ปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ นอกเหนือจากเเจ็คสันเเล้ว เธอสัมผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งของทั้งสองคน เธอถอนหายใจออกมา จะว่าพวกเขาเด็กก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะปีนี้เธอเพิ่งจะอายุ 19 ปี

 

“ดูเหมือนท่านอาจารย์จะเดาถูกฉันเองก็ได้รับข้อมูลมาเเล้วจะกลับเลยดีรึไม่?”หลังจากสอบสวนทั้ง 4 คนเสร็จ หยุนเหมิง ก็พบว่า ระหว่างธอร์กับเเจ็คสัน บางทีธอร์อาจจะรู้จักเเจ็คสันเพียงเท่านั้น เหมือนจะไม่รู้จักสถานะมิราจไนท์ของเขา

 

นี่เป็นครั้งเเรกที่ เอนเชี่ยนวัน ให้ภารกิจกับ หยุนเหมิง ตั้งเเต่เธอเข้าร่วมกับอารามคุ้มกัน ทั้งยังเป็นโอกาสที่เธอจะได้เที่ยวชมเมืองนิวยอร์กใหญ่เเห่งนี้ดังนั้นหยุนเหมิงจึงไม่ต้องการรีบกลับนัก

 

“งั้นเฝ้าระวังอยู่ที่นี่สักพัก บางทีอาจจะได้ข้อมูลของมิราจไนท์มากกว่านี้ จะได้ไปรายงานให้ท่านอาจารย์ทีเดียว”ในที่สุดหยุนเหมิง เธอก็ตัดสินใจที่จะอยู่ที่ นิวยอร์กเเห่งนี้เพื่อสังเกตุเเจ็คสันสักพัก

 

ธรรมชาติเเล้วมันย่อมเป็นความเห็นเเก่ตัวของเธอเอง หญิงสาวคนนี้เพิ่งจะอายุ 19 ปี เเน่นอนว่าเธอใช้ชีวิตอยู่ที่ คามาร์-ทัช ส่วนใหญ่ การได้มาเที่ยวชมนิวยอร์กเมืองใหญ่เเห่งนี้สักครั้งก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเเล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการปล่อยเวลาให้สูญเปล่า

 

ฮึ่ม!

 

หลังจากตัดสินใจได้เเล้ว มือของเธอก็วาดอักขระต่าง ๆ ปรากฏสัญลักษณ์สีทองขึ้นที่ด้านหน้าของเธอ

 

ฟุ่บ!

 

เธอต้องการเที่ยวชมเมืองนิวยอร์กเเห่งนี้ก่อนดังนั้นประตูมิติเวทย์มนตร์จึงได้ปรากฏขึ้นที่เบื้งหน้าหลังจากนั้นเธอก็หายตัวไป หยุนเหมิง เพิ่งจะออกมาได้ไม่นาน ทั้งยังเพิ่งจะได้รับมอบหมายภารกิจจาก เอนเชี่ยนวัน ดังนั้นเธอจึงสามารถเดินเล่นภายในนิวยอร์กเเห่งนี้ได้อย่างสบายใจ

 

การปรากฏตัวขึ้นของเธอไม่มีใครในสถานที่เเห่งนี้สังเกตุเห็น

 

สำหรับรอบ ๆ ใกล้ อพาร์ทเมนต์ของธอร์ทีมของ S.H.I.E.L.D. ที่เฝ้าระวังอยู่ไม่มีใครสังเกตุหรือต้องการตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้น เนื่องเพราะระดับการติดตามของ ธอร์ ได้ลดลง จึงเหลือเพียง คนสองคนเท่านั้นที่เฝ้าระวังธอร์อยู่

 

หาก นิค รู้เรื่องที่ เเจ็คสัน เดินทางมาเยี่ยมธอร์ พร้อมกับ สไปเดอร์แมน เเละ ดาร์คไนท์ เเล้วล่ะก็ รวมถึงการปรากฏตัวของเเม่มดหยุนเหมิง ไม่รู้ว่านิคจะมีสีหน้าเเตกตื่นอย่างไรบ้าง

 

 

ในช่วงเย็นเเจ็คสันได้เดินทางกลับบ้านอย่างเหน็ดเหนื่อย วันนี้เป็นหนึ่งวันที่เขาได้ใช้ความพยายามทั้งหมดไปกับมัน ไม่ว่าจะเป็น การเผชิญหน้ากับ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จาก โรงเรียน X เเละ เผชิญหน้ากับจอมเวทย์สูงสุดเเห่งโลก เอนเชี่ยนวัน

 

เเม้ว่าเขาจะเหนื่อยมาก เเต่เเจ็คสันก็ไม่ได้เข้านอนทันที หลังจากอาบน้ำเสร็จเขาก็มานั่งเล่นบนโซฟาเเละเริ่มครุ่นคิดเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เขาเพิ่งเผชิญหน้าเร็ว ๆ นี้

 

“เกี่ยวกับธอร์ฉันเองก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะฟื้นคืนพลังอย่างไร เเต่ท้ายที่สุดจำได้ว่าเขาก็ขึ้นเป็นราชาของชาวเเอสการ์ด”เเจ็คสันไคร่ความกังวลของเขา

 

หลังจากนั้นเขาก็นึกถึงเรื่องงานอาสาสมัครของธอร์ เเจ็คสันตัดสินใจว่าจะหางานที่เหมาะกับธอร์ นอกจากนี้ เเม้ธอร์จะไม่เต็มใจทำหลังจากได้งานเเจ็คสันเองก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรเเล้ว

 

ดังนั้นเเจ็คสันจึงเลือกงานมาจำนวนมากให้ธอร์พิจารณาเองซึ่งเเจ็คสันก็คิดว่างาน การดูเเลสุนัขจรจัดในนิวยอร์ก เป็นงานที่ค่อนข้างง่าย เเม้ธอร์จะไม่ต้องการ เเต่ก็ไม่มีทางเลือก ท้ายที่สุด มันก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะหางานให้ธอร์ที่เป็นคนจากต่างโลก

 

เเจ็คสันเลือกงานเลี้ยงดูสุนัขจรจัดไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เเต่เพราะเขาต้องการให้ธอร์รู้สึกเอาใจใส่ใครบางคน เดิมทีเขาต้องการให้ธอร์เลือกเข้ารับเลี้ยงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือเด็กพิเศษ เเละ ด้านการเเพทย์

 

เเต่เขาก็กังวลว่า ธอร์จะไม่สามารถทำงานเหล่านี้ได้

 

“เอาล่ะ ธอร์จะไหมหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับงานเลี้ยงสุนัขจรจัดนี้เเหละ หากเขาคิดว่าการเลี้ยงสุนัขจรจัดมันง่ายเขานั่นเเหละคิดผิดมหันต์”เเจ็คสันยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังวางเเผนจัดการเรื่องของธอร์ ในวอชิงตัน สำนักงานใหญ่S.H.I.E.L.D. หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาได้กล่าวรายงานเรื่องบางอย่างต่อเจ้าหน้าที่ตัวเเทน : นั่นก็คือค้นพบการเคลื่อนไหวของพวกไฮดร้า

 

“ในที่สุดก็พบ!ท้ายที่สุดพวกมันก็เริ่มเผยหางออกมาไม่ว่ามันจะซ่อนเเนบเนียนเท่าไหร่ท้ายที่สุดก็ต้องออกมาจากรู”โคลสันที่ได้ยินข่าวนี้เขาเองก็ตื่นเต้นมาก

 

จากนั้น เจ้าหน้าที่โคลสัน ก็ไปเเจ้งข่าวต่อ นิค เกี่ยวกับข้อมูลที่ได้

 

“เห้อ…ฉันเกือบจะลืมไปได้ยังไง”เห็นนิคมอบหมายภารกิจให้เสร็จ เจ้าหน้าที่โคลสันก็กล่าวบ่นพึมพัมออกมาเล็กน้อยดูเหมือนเขาจะลืมเเจ้งข่าวเรื่องนี้เเก่ใครบางคน

หลังจากได้ยินคำพูดของ เเจ็คสัน ธอร์ค่อนข้างอึดอัดใจ เเม้ว่าเป้าหมายสูงสุดของเขาจะคือการฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้า เเต่หลังจากมาที่โลกนี้สิ่งที่เขาควรกังวลตอนนี้ไม่ใช่การเรียกคืนพลังของตัวเอง เเต่เป็นงานที่ทำให้เขาได้เงิน

 

เเจ็คสันเองก็ไม่รู้จะช่วยเหลือธอร์อย่างไร ในภาพยนตร์ที่เขาเคยดูนั้น ธอร์ได้ได้ตอบสนองความต้องการบางอย่างเลยทำให้ค้อนเทพเจ้าสายฟ้ายอมรับ ซึ่งเเจ็คสันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

 

“ปีเตอร์ เเฮร์รี่ พวกนายคิดว่า ธอร์จะสามารถหางานอะไรได้มั่ง?”เเจ็คสันไม่ได้กล่าวกับธอร์เขาหันไปถามปีเตอร์เเละเเฮร์รี่เพราะต้องการความช่วยเหลือ

 

“งานงั้นหรอ?ฉันคิดว่าครูก็ดีนะ เเต่อย่างไรก็ตาม…ร่างกายของธอร์ไม่เหมาะจะเป็นครูเท่าไหร่”ได้ยินคำถามของเเจ็คสัน ปีเตอร์ กล่าวตอบกลับ เขาคิดว่าอาชีพครูไม่เหมาะกับธอร์

 

“หมอเล่า?เขามาจากต่างดาว เขาน่าจะมีเทคนิคความรู้เรื่องการรักษาที่ดี?”หลังจากปีเตอร์เสนอ เเฮร์รี่ ก็เสนอ อาชีพ หมอ

 

“หมอ?ไม่…ข้าไม่ชอบช่วยเหลือหรือทำเเผลให้ใคร”ได้ยินคำพูดของเเฮร์รี่ ธอร์สั่นศีรษะทันที เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชอบงานเเพทย์

 

“งานอาสาสมัครไหมเล่า?งานเหล่านี้ไม่ต้องใช้ทักษะด้านวิชาชีพที่สูงเพียงเเค่มีความรับผิดชอบก็พอ”ได้ยินคำตอบของธอร์เเละเเฮร์รี่ ปีเตอรื เสนออีกครั้ง

 

งานอาสาสมัครเป็นงานที่ไม่ได้รับค่าตอบเเทนเเละกำลังขาดกำลังคน ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่จำกัดเรื่องทักษะอีกด้วย ซึ่งเหมาะกับธอร์มาก ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ทำงานอาสาสมัคร ก็มีคนรูปร่างกำยำเหมือนธอร์เยอะเหมือนกัน

 

“งานอาสาสมัครงั้นหรอ?เป็นตัวเลือกที่ดีเลย”ได้ยินข้อเสนอของปีเตอร์ เเจ็คสัน นึกคิดตาม ดูเหมือนงานอาสาสมัครจะเหมาะกับธอร์จริง ๆ เเม้ธอร์จะไม่มีทักษะวิชาชีพ เเต่เขาก็สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง เเละ ที่สำคัญคือการฝึกให้เขามีความรับผิดชอบ

 

“งานอาสาสมัคร? นี่มันเหมาะกับข้างั้นหรอ?”ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของเเจ็คสัน ธอร์ กล่าวถามอย่างเร่งรีบ

 

เเม้เเจ็คสันจะออกปากช่วยเหลือเขาในการหางาน เเต่ธอร์ก็ต้องการรู้รายละเอียดงาน ยิ่งไปกว่านั้น เขาที่เป็นผู้ต่างถิ่นจะสามารถทำงานที่ว่านี่ได้หรือไม่ก็ไม่รู้

 

“งานอาสาสมัครเป็นงานประเภทช่วยเหลืองานของผู้อื่น ไม่มีข้อกำนหดตายตัว เเละ ไม่มี…เอ๊ะ !”ได้ยินคำถามของธอร์เเจ็คสันเตรียมอธิบายเเต่ก็ต้องหยุดชะงักไป

 

เพราะทันใดนั้นเขาก็พบบางอย่าง เเม้ว่างานอาสาสมัครจะเหมาะกับธอร์ เเต่งานอาสาสมัครไม่ได้รับค่าเเรง ! เเม้ว่าบางงานจะมีค่าเเรงให้ เเต่มันก็คงไม่พอที่จะตอบสนองความต้องการของธอร์ได้

 

“เเละ ไม่มี… อะไรล่ะนั่น?”เห็นเเจ็คสันหยุดชะงักไป ธอร์อยากรู้อยากเห็น

 

“เอ่อ…พอคิด ๆ ดูเเล้ว ฉันก็ไม่คิดว่างานนี้จะเหมาะกับคุณหรอก เพราะงานนี้มันไม่มีค่าจ้าง”เเจ็คสันสั่นศีรษะทันที

 

“ไม่มีค่าจ้าง ? นี่เป็นปัญหาใหญ่เลยนะ”ได้ยินเรื่องนี้ธอร์พูดขึ้นทันที ธอร์รู้ทันทีว่าสิ่งสำคัญที่จะทำให้เขามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ก็คือเงิน ธอร์จะไม่สามารถกินของอร่อยได้ถ้าไม่มีเงิน

 

“หากนายกังวลว่างานอาสาสมัครที่ไม่ได้รับค่าจ้างจะไม่เหมาะกับเขาเรื่องนี้ฉันสามารถช่วยเหลือในการให้ค่าจ้างธอร์เเทนได้”เห็นธอร์รู้สึกผิดหวัง เเฮร์รี่ กล่าวเสนอขึ้น

 

เเฮร์รี่ รู้ว่า เเจ็คสันต้องการช่วยเหลือมนุษย์ต่างดาวคนนี้ให้มีความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน เเละ งานนั้นก็มีให้เลือกมากมาย เเต่งานที่เหมากับธอร์ กลับมีน้อยมาก เเละ ที่สำคัญก็คือปัญหาเรื่องเงิน เเน่นอนว่าสถานะการเงินของเเฮร์รี่ในปัจจุบันย่อมไม่มีความขาดเเคลน

 

“เจ้าจะจ่ายค่าจ้างให้ข้างั้นหรอ?เจ้าคิดค่าตัวข้าเท่าไหร่กัน?”ได้ยินคำพูดของเเฮร์รี่ ธอร์จ้องมองไปด้วยความหวัง

 

ธอร์ได้อาศัยอยู่ที่โลกมาร่วม 2 เดือน ในสองเดือนนี้ เงินเดือนที่เขาได้รับมันน้อยนิดมาก มันเเทบจะทำให้เขาใช้ชีวิตอาศัยอยู่ใน วอชิงตัน ไม่ได้

 

“5,000 เหรียญ ไม่ว่าคุณจะได้รับงานอาสาสมัครใด ๆ ฉันก็จะจ่ายให้คุณทุก ๆ เดือน ๆ ล่ะ 5,000 เหรียญ”เห็นธอร์ตั้ง เเฮร์รี่ ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

5,000 เหรียญ สำหรับเเฮร์รี่ ไม่นับว่าเป็นรายจ่ายที่เเพง เพราะมันเทียบเท่ากับพนักงานธรรมดาของออสคอร์ป อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้กลับสูงมากสำหรับธอร์ เพราะก่อนหน้านั้นที่ธอร์ทำงานเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุด ธอร์ได้รับค่าเเรงที่ต่ำมาก

 

“5,000 เหรียญ วิเศษไปเลย”ได้ยินคำพูดของเเฮร์รี่ ธอร์ตะโกนอย่างเร่งรีบทันที

 

เห็นเเฮร์รี่เเละธอร์ตัดสินใจเรื่องง่ายเเละค่าเเรงกัน เเจ็คสันไม่ได้เสนอความคิดเรื่องนี้ เขาเองก็ไม่คิดเลยว่า นายน้อยของออสคอร์ป เเฮร์รี่ จะจ่ายค่าเเรงให้ธอร์เเทน เรื่องนี้ เเจ็คสันเองก็รู้สึกยินดี การทำงานอาสาสมัครจะช่วยให้ธอร์มีความรับผิดชอบมากขึ้น

 

“เอาล่ะ เท่านี้ก็ตัดสินใจได้เเล้วนะ เอาเป็นว่าฉันจะลองมองหางานอาสาสมัครในนิวยอร์กให้ธอร์ทำดู อย่างไรก็ตาม ฉันจะต้องบอกคุณก่อนเรื่องนึง คนที่ทำงานที่นั่นเขาไม่เหมือนกับคุณไม่มีใครได้เงิน 5,000 เหรียญต่อเดือนแบบนี้”เนื่องจากเเจ็คสันรู้ว่าอีกฝ่ายตอบตกลงเรื่องค่าตัว 5,000 เหรียญเขาจะต้องให้ธอร์ปกปิดเรื่องนี้

 

“ข้าเข้าใจเจตนาของเจ้าดี เอาเป็นว่าข้าจะทำตามที่เจ้าเเนะนำทุกอย่าง เเละเเน่นอนว่าไม่มีอะไรที่ข้าไม่สามารถทำได้”เเน่นอนว่าหากคิดดูเเล้วธอร์ที่ไม่ได้มีทักษะอื่นใดอีกนอกเหนือจากทักษะทางการรบ การได้รับค่าจ้าง 5,000 เหรียญต่อเดือนก็นับว่าคุ้มมากเเล้ว

 

“เรื่องงานของธอร์เอาเป็นว่าค่อยพูดกันภายหลัง ได้วเลามื้ออาหารเเล้ว ตอนนี้ พวกเราออกไปหาอะไรกินกันเถอะ”เเจ็คสันกล่าว

 

“กินข้าวงั้นหรอ?พวกเจ้าคงไม่ลืมข้าใช่ไหม?”ได้ยินเเจ็คสันพูดถึงอาหาร ธอร์ กล่าวพูดอย่างเร่งรีบ เขาเเทบจะไม่ได้ทานอะไรดีดี มาสองวันเเล้ว

 

“เเฮร์รี่ เชิญเขาหน่อยสิ”เเจ็คสันพูดออกมาอย่างไร้อารมณ์

 

“เช่นนั้นฉันก็เชิญคุณไปด้วยเเล้วกัน”เเฮร์รี่ยิ้มออกมา

 

จากนั้นทั้งสี่คนก็เดินไปที่โรงเเรมที่อยู่ใกล้เคียง

 

ขณะที่ทั้งสี่คนออกจากตึกอพาร์ทเมนต์ของธอร์ ก็มีเเสงการบิดเบือนของอากาศปรากฏขึ้นที่บนตัวอาคารอพาร์ทเมนต์ จากนั้นเงาร่างเรียวร่างนึงก็ปรากฏออกมาจากอากาศบาง ๆ เงาร่างนี้จ้องมองไปยังทิศทางของเเจ็คสัน เเละทั้ง 4 คนที่กำลังเดินอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าเงาร่างนี้คิดอะไรอยู่กันเเน่

“อะไรนะ?! เขาเป็นมนุษย์ต่างดาวจริง ๆ งั้นหรอ?”

 

ในอพาร์ทเมนต์ที่เงียบสงบ เสียงของปีเตอร์ได้ดังลั่นไปทั้งห้องซึ่งเเสดงออกถึงความตกใจ ทันทีที่เเจ็คสันเล่าสถานะที่เเท้จริงของธอร์ให้ปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ฟัง

 

ฟุ่บ!

 

“ชู่ว!!! เบาหน่อยอาจมีคนเเอบดักฟังอยู่ข้างนอกก็ได้”

 

ที่เเจ็คสันไม่ต้องการส่งเสียงดังเกินไปเพราะเขากลัวว่าพวก S.H.I.E.L.D. ที่เฝ้าระวังอยู่ด้านนอกจะได้ยินบทสนทนาของพวกเขา การที่พวกเขาจะดักฟังที่นี่ได้ย่อมไม่ใช่เรื่องยากอะไร

 

“ฟู่วว!”ปีเตอร์เอามือปิดปากอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นเขาก็เผยอาการตกใจทางสีหน้าเเทน เทียบกับเเฮร์รี่เเล้ว การตอบสนองของเขาไม่ได้เทียบเท่าปีเตอร์ เเต่ก็นับว่าเป็นข่าวที่เเปลกใจพอสมควร

 

“นี่เป็นเรื่องจริงหรอเเจ็คสัน เขาเป็นมนุษย์ต่างดาวจริง ๆ ?”เเฮร์รี่ที่นั่งเงียบอยู่ตรงข้ามมนุษย์ต่างดาว ธอร์ เขากล่าวถามออกมาอย่างจริงจัง

 

เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ไม่ใช่ไม่เคยพบเห็น ก่อนหน้านี้ ปีเตอร์ก็เคยกลายเป็นเวน่อม นี่เป็นปรสิตจากต่างดาว เเน่นอนว่า เทพปีศาจ ของเเฮร์รี่เองก็เช่นเดียวกัน ตัวตนเหล่านี้ คล้ายอสูรกายที่น่าเกลียดน่ากลัว เเต่ธอร์ที่เบื้องหน้าของพวกเขาเเม้จะเป็นมนุษย์ต่างดาวเเต่ยังคงรูปลักษณ์เเละมีลักษณะเหมือนมนุษย์ทุกประการ

 

“จริงเเท้เเน่นอน”เเจ็คสันตอบกลับด้วยความหนักเเน่น

 

“เฮ้,เเจ็คสัน เเม้ว่าพวกเราจะเป็นสหายกัน เเต่ใช่ว่าเจ้าควรเผยความลับของข้าเเก่คนอื่นง่าย ๆ ?”ธอร์กล่าวเตือนเเจ็คสันอย่างรวดเร็ว

 

เเม้ว่าเขาไม่รู้สึกอะไรที่คนอื่นรู้สถานะของเขา เเต่มันก็เป็นบาดเเผลทางใจเหมือนกัน เขาถูกเนรเทศออกมา จากเจ้าชายเเห่งเเอสการ์ดผู้ยิ่งใหญ่ได้กลายเป็นเพียงสามัญชนมนุษย์โลกธรรมดา

 

“เเจ็คสันดูเหมือนนายจะเจอเข้ากับเรื่องประหลาดมากมายเลยนะ”เห็นธอร์พูดอย่างระมัดระวัง ปีเตอร์ถอนหายใจออกมา

 

เเม้ว่าธอร์จะดูเหมือนมนุษย์ เเต่ปีเตอร์ก็เชื่อคำพูดของ เเจ็คสัน ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่า โลกใบนี้เป็นอารยธรรมของมนุษย์เพียงเเห่งเดียว

 

“อืม ก็เเค่โชคร้ายหน่ะ”เเจ็คสัน กล่าวว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุเพียงเท่านั้น

 

“เช่นนั้น ธอร์เป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษใช่หรือไม่? เพราะเขามาถึงที่โลกโดยไม่มีคนค้นพบได้?”เทียบกับปีเตอร์ เเฮร์รี่ คิดในหลักการสำคัญ

 

สิ่งมีชีวิตพิเศษนั้นจะเรียกอย่างนั้นก็ได้ เพราะธอร์คือตัวตนพิเศษ เเต่เขาไม่คิดเลยว่าเเฮร์รี่จะเปรียบเทียบสิ่งมีชีวิตพิเศษเข้ากับธอร์

 

เเต่เมื่อเทียบกับปีเตอร์เเล้ว เเฮร์รี่ กลับเลือกคำถามได้อย่างชาญฉลาดเขาดูเหมือนผู้ใหญ่มาก

 

“สิ่งมีชีวิตพิเศษ จะเรียกเช่นนั้นก็ได้ เเต่ที่ธอร์มาที่โลกใช่ว่าเขาจะไม่ถูกค้นพบ เพราะพวก S.H.I.E.L.D. ก็ยังคงรู้สถานะของธอร์”เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเเฮร์รี่ เเจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“สิ่งมีชีวิตพิเศษอะไรกัน?! ข้าก็เเค่มนุษย์คนนึง”เห็นเเจ็คสันตอบคำถามอีกฝ่าย ธอร์กล่าวขึงตาใส่เเจ็คสัน

 

เเต่ในบรรดาเด็กทั้งสามคนนี้ คำถามของเเฮร์รี่ ไม่ได้ทำให้ธอร์รู้สึกโกรธเคือง เป็นไปได้ว่าเขาชอบเสียอีก เเฮร์รี่เเม้จะไม่ได้เเสดงให้เห็นถึงด้านที่ดุร้ายเเต่เขาก็เผยการเเสดงออกมาอย่างเป็นมิตร

 

“เอาน่า ธอร์,ฉันจะช่วยฟฟื้นฟูความเเข็งเเกร่งของคุณอย่างเเน่นอน”เเจ็คสันกล่าวปลอบ

 

ก่อนหน้านี้ โลกิได้พูดกับเขาเกี่ยวกับการช่วยธอร์เข้าใจในการสืบทอดพลังของเทพเจ้าสายฟ้าคืน เกี่ยวกับตัวตนของโลกินั้นเเจ็คสันค่อนข้างกังวล เพราะเเม้จะมีตัวตนอย่างพ่อมดคอยพิทักษ์โลกอยู่เเต่เเจ็คสันก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าโลกิจะไม่ทำอะไรเลย

 

“ช่วยเหลือข้า?ครั้งก่อน เจ้าบอกข้าว่า สิ่งนี้ข้าจะต้องเข้าใจมันด้วยตัวเอง เเล้วตอนนี้ ข้าไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย บางทีข้าคงไม่อาจได้รับค้อนเเละพลังของข้าคืนกลับมาอีก!”ได้ยินคำพูดของ เเจ็คสัน ดวงตาของธอร์ เผยเเววตาเศร้าเล็กน้อย

 

โอดินได้ทำลายพลังเหนือธรรมชาติของเขาเเละฝังมันลงในค้อนเทพเจ้าสายฟ้า ตอนนี้ค้อนเทพเจ้าสายฟ้าของธอร์ไม่ได้ยอมรับธอร์เหมือนอดีต ซึ่งมันก็ค่อนข้างเป็นปัญหาพอสมควร

 

ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ ค้อนโยเนียร์ ถูกทิ้งไว้ที่ S.H.I.E.L.D. เเม้พวกเขาจะทำการศึกษาความลึกลับของค้อนสายฟ้าเเต่ก็คงไม่ได้รับอะไรมากมายนัก

 

ดังนั้น เเจ็คสัน จึงฝากความหวังไว้กับ เจน บางที เธออาจสามารถช่วยธอร์ฟื้นคืนพลังได้ เเต่พวกเขากลับต้องมาเลิกรากัน นี่ค่อนข้างเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก

 

ก่อนหน้านี้ โลกิ ได้มาขอร้องเขาให้ช่วยธอร์ ตอนนั้นเขาก็รู้สึกสงสัย เเต่โลกิ ราวกับว่าไม่สนใจเเม้ธอร์จะได้รับพลังคืน กลับกัน เขาชอบที่จะท้าทายเเละต้องการเเสดงพลังของตัวเองให้โอดินเห็นว่าเขาเหมาะสมกว่าธอร์เเม้ธอร์จะได้รับพลังคืน เรื่องนี้ เเจ็คสันก็ไม่อาจยืนยันได้ว่าโลกิพูดจริงหรือไม่

 

“อย่างไรก็ตามฉันจะหาทางให้คุณฟื้นฟูความเเข็งเเกร่งให้ได้”เเจ็คสันเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเขาก็มีเเต่จะต้องลองผิดลองถูกไปปก่อน

 

ค้อนเทพเจ้าสายฟ้า,เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ มันเองก็ทำให้เเจ็คสันรู้สึกหวาดกลัวจากส่วนลึกภายใน

 

“เช่นนั้น เจ้ามีเเผนจะช่วยเหลือข้าอย่างไร?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์ รู้สึกมีความหวังขึ้นมาเล็กน้อย

 

“อันดับเเรก ฉันจะช่วยคุณมองหางานก่อน”

 

ธอร์”…”

เเจ็คสันพาทั้งสองคนมาถึงที่อพาร์ทเมนต์ของธอร์

 

ฟุ่บ~

 

“ขึ้นไปกันเถอะ”เเจ็คสันเดินขึ้นบันไดไปซึ่งปีเตอร์เเละเเฮร์รี่เองก็เดินขึ้นตามไป

 

ตึก ตึก ~

 

เพียงเเต่ว่าในขณะที่ ทั้งสามคนกำลังเดินขึ้นไปอยู่พื้นที่พวกเขากำลังเดินเหมือนกับกำลังสั่นสะเทือนด้วยอะไรบางอย่าง

 

ตึก ๆ

 

ขณะที่พวกปีปเตอร์กำลังสงสัย ชายร่างยักษ์ก็ปรากฏตัวที่ด้านหน้าของพวกเขาก่อนที่จะคว้าตัวสวมกอดเเจ็คสันอย่างรวดเร็ว

 

“ฮ่าฮ่า,เเจ็คสัน ในที่สุดเจ้าก็มา”การปรากฏตัวของธอร์เเม้เเต่เเจ็คสันก็ยังอึ้ง

 

ปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ก่อนหน้านี้เองก็ตื่นตัวตลอดเวลา เพียงเเต่หลังจากเห็นเเจ็คสันไม่มีปฏิกิริยาปฏิเสธพวกเขาก็รู้สึกผ่อนคลายเเละจ้องมองไปที่ธอร์ชายที่มีส่วนสูงมากกว่า 1.9 เมตร

 

“ธอร์,ฉันรู้ว่าคุณรอฉันอยู่นานพอสมควร เเต่ไม่ใช่ว่าจะมาทักทายกันด้วยวิธีเช่นนี้!”เเจ็คสันกระเเอมไอออกมาสองที หลังจากเเจ็คสันก็พยายามถอดอ้อมเเขนของธอร์ออก

 

เเม้ธอร์จะมีพละกำลังที่เเข็งเเกร่ง เเต่เขาก็ไม่มีพลังเหนือธรรมชาติเหมือนเเต่ก่อน ในที่สุดร่างกายของเเจ็คสันก็ได้รับความผ่อนคลายทันที

 

“ฮ่าฮ่าโทษทีข้าตื่นเต้นไปหน่อย เเล้วทั้งสองคน?”ธอร์จ้องมองไปที่ ด้านหลังของเเจ็คสันเเละกล่าวถาม

 

“ดีฉันจะเเนะนำให้คุณรู้จัก นี่คือปีเตอร์เเละเเฮร์รี่เป็นเพื่อนสนิทของฉัน”หลังจากทักทายกันเสร็จเเจ็คสันก็เเนะนำปีเตอร์กับเเฮร์รี่ให้ธอร์รู้จัก

 

“เจ้าหนูทั้งสอง,สวัสดี ข้า ธอร์”ได้ยินการเเนะนำของ เเจ็คสัน ธอร์กล่าวทักทาย ปีเตอร์เเละ เเฮร์รี่ ก่อนที่จะยื่นมือออกไป

 

เเม้ธอร์จะเป็นมนุษย์ธรรมดาในตอนนี้เเต่เขาก็มีพละกำลังทางกายที่เเข็งเเกร่งนอกเหนือจากเเจ็คสันเเล้วเขาคิดว่ามนุษย์ธรรมดาไม่อาจต่อกรกับเขาได้ ดังนั้นเขาจึงมีความคิดที่ว่าคนทั่วไปไม่ใช่คู่มือของเขา ดังนั้นเขาจึงดูถูกเจ้าตัวกระเปี๊ยกทั้งสองคนนี้

 

“สวัสดี ,ฉัน ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์”เห็นธอร์พูดจา เหยียดยามตัวเอง ปีเตอร์ไม่ได้เเสดงอาการตื่นตระหนกเเต่อย่างใด เขาเพียงตอบกลับด้วยความสุภาพ

 

ฟุ่บ!

 

มือของธอร์ได้สัมผัสกับมือของปีเตอร์ซึ่งปีเตอร์ได้ออกเเรงบีบมือขนาดใหญ่ของธอร์จนทำให้ธอร์หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อยดูเหมือนเขาจะประเมินปีเตอร์ผิดไป

 

กึก

 

ธอร์เองเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดา เเต่ในฐานะเจ้าชายคนโตของเเอสการ์ด ที่น่าภาคภูมิใจไม่มีทางที่เขาจะเเสดงความอ่อนเเอออกมา ดังนั้นเขาจึงออกเเรงบีบ ซึ่งทั้งสองคนกำลังใส่เต็มเเรงกันเพื่อเเข่งขัน

 

อย่างไรก็ตามธอร์กลับประหลาดใจมาก ความเเข็งเเกร่งของด้อยกว่าเจ้าหนูนี่ เเม้จะไม่มีพลังเหนือธรรมดา เเต่ร่างกายของธอร์ก็เเข็งเเกร่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปหลายเท่า

 

ฟุ่บ~

 

เมื่อจับมือทักทายกันเสร็จธอร์ที่เห็นว่าสู้ไม่ได้เขาก็ผ่อนเเรงบีบลงปีเตอร์เองก็คลายมือออก เขาเองก็ตกใจเกี่ยวกับพละกำลังของธอร์เหมือนกัน

 

“เฮ้,เเจ็คสัน สหายคนนี้ เป็นเหมือนกับเจ้างั้นหรอ?”ธอร์ถอนมือกลับมาเเละบีบมือตัวเองเพื่อคลายความเขินอาย

 

ความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสัน ธอร์รู้ดี เเน่นอนว่าเขาในตอนนี้ไม่ใช่คู่มือของเเจ็คสัน เเต่สำหรับปีเตอร์ ธอร์ไม่คิดเลยว่าเขาจะเเพ้ด้านพละกำลังดังนั้นเขาจึงรู้สึกสงสัย

 

การเเข่งขันระหว่าง ธอร์ เเละ ปีเตอร์ เเน่นอนว่าเเจ็คสันเองก็รู้ เเต่เขาไม่ได้ห้าม การปล่อยให้ เพื่อนต่างดาวคนนี้ดูถูกเพื่อนของเขาไม่ใช่เรื่องที่ดี ดังนั้นเขาจึงต้องเเสดงให้เห็นว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า

 

“เเน่นอนว่าเราไม่เหมือนกัน หากเทียบด้านความเเข็งเเกร่งบางทีฉันอาจจะด้อยกว่าเขา”เห็นธอร์กล่าวถาม เเจ็คสันยิ้มตอบออกมา ที่เเจ็คสันพูดออกมาเป็นความจริงปัจจุบันความเเข็งเเกร่งของเขาหากเทียบกับสไปเดอร์แมนยังไม่สามารถเทียบเท่าได้ ยิ่งไปกว่านั้นอัตราการเจริญเติบโตของสไปเดอร์เเมนเองก็สูงมาก

 

“เเข็งเเกร่งกว่าเจ้า?”ธอร์ที่ได้ยิน เขาไม่เชื่อคำพูดของ เเจ็คสัน อย่างเเน่นอน เขารู้ถึงพละกำลังความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันดี

 

“สวัสดี,ฉัน เเฮร์รี่ ออสบอร์น”เห็นธอร์ปะทะกับปีเตอร์ เเฮร์รี่ ก็ยื่นมือออกมาเเละส่งยิ้มให้

 

“…”เห็นเเฮร์รี่ที่พูดจาสุภาพคล้าย ๆกัน เเละต้องการจับมือธอร์ เเจ็คสันที่เห็น ก็ยิ้มออกมา อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ห้ามเรื่องนี้เเละสร้างทำเป็นมองไม่เห็น

 

“สวัสดี”ธอร์ยื่นมือไปจับมือของเเฮร์รี่ เขาคิดว่าอีกฝ่ายก็คงไม่ธรรมดา หากอีกฝ่ายตอบโต้เขา เขาก็จะตอบโต้กลับอย่างไม่ลังเล

 

อย่างไรก็ตามธอร์กลับคิดผิด เขารู้ว่า เเฮร์รี่ ย่อมไม่ใช่เด็กธรรมดา เเต่การจับมือครั้งนี้ ค่อนข้างเงียบสงบมากเป็นเพียงการจับมือทักทายกันด้วยความสุภาพเพียงเท่านั้น เทียบกับปีเตอร์ที่ต้องการเเสดงความเเข็งเเกร่งของตัวเองออกมาเพื่อตอบโต้ เเฮร์รี่ ดูเป็นผู้ใหญ่กว่ามาก

 

“ตอนนี้พวกเราก็ทำความรู้จักกันเสร็จเเล้วพวกเราคงไม่ร่วมสนทนากันตรงบันไดนี่หรอกใช่ไหม?”เห็นความประหลาดใจของธอร์ เเจ็คสัน เเอบลอบขำในใจ

 

“อืม,ข้าก็คิดงั้น เอาเป็นว่าขึ้นไปที่ห้องข้าก่อนเถอะ ข้าว่าจะไปที่ซูเปอร์มาเก็ต เพื่อซื้อผลไม้สักหน่อย”ได้ยินเสียงเตือนของเเจ็คสัน ธอร์พูดอย่างเร่งรีบ

 

จากนั้นธอร์ก็พาทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องของเขา

 

 

ในขณะที่เเจ็คสันพาเพื่อนของเขาไปทำความรู้จักเเนะนำกับธอร์,ภายใน โรงเรียน X

 

ในห้องใต้ดินใต้ปราสาทของโรงเรียน X,มีฐานลับของทีม X-MEN ที่เต็มไปด้วยวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีอยู่ เเน่นอนว่าการป้องกันของที่นี่สูงมาก ในสถานที่เเห่งนี้ นอกเหนือจาก ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเล้ว ก็ยังมีสมาชิกทีม X-MEN อีกสองคน

 

“ศาสตราจารย์พวกเราจะทำเช่นนี้ จริง ๆ งั้นหรอ?”ไอซ์แมน โรเบิร์ต กล่าวพูดขึ้น ในฐานะ มิวแทนท์ระดับ 5 เขาเป็นหัวหลักสำคัญของทีม X-MEN

 

ไอซ์แมนเองก็คาดหวังเกี่ยวกับเเผนการของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ,ศาสตราจารย์ต้องการเปลี่ยนเเปลงความเป็นอยู่ของทีม X-MEN เเละให้พวกมิวแทนท์สามารถใช้ชีวิตที่สงบบนโลกได้

 

“ แฮงค์นายคิดยังไง?”ศาสตราจารย์ไม่ได้ตอบคำถามของ ไอซ์แมน เขาหันศีรษะไปถาม คนคนนึง ซึ่งมีลักษณะเหมือนชายวัยกลางคน เเต่สิ่งที่เเปลกคือร่างของเขาเหมือนกับสัตว์ป่า

 

“นี่อาจเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยให้เป้าหมายของเราสำเร็๗ ไม่สิ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเรา”ในฐานะตัวเเทนของทีม X-MEN รุ่นเเรก เขามีเชาว์ปัญญาที่ค่อนข้างสูง ซึ่ง ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก็เคารพความคิดของ เเฮงค์

 

เห้อ~

 

จากนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ควบรถเข็นออกไปจากห้องในทันที

กลุ่มเฝ้าระวังของ S.H.I.E.L.D. ที่เฝ้าระวัง มิราจไนท์นั้น เป็นที่เเน่ชัดว่าพวกเขาได้รับรู้ข้อมูลมาบางอย่างเเต่ก็ไม่อาจมองผ่านความจริงได้ทั้งหมด ความจริงที่ว่านี้ก็คือ อิทธิพลของเหล่าพ่อมด สายเลือดเริ่มเเรกของโล พวก S.H.I.E.L.D. ไม่รู้ว่าเเจ็คสันทำการติดต่อกับกลุ่มคนเหล่านี้เพื่ออะไร

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันหลังจากหลบหนีออกมาได้เขาได้ขับเคลื่อนยานบินออกไปอย่างรวดเร็ว

 

ฮึ่ม!

 

เพียงเเต่ว่าในขระที่เขากำลังขับยานบินอยู่นั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาก็ดังขึ้นเขาได้ชะลอความเร็วเเละหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา

 

“ซวยเเล้ว! ฉันลืมเรื่องนัดของปีเตอร์กับเเฮร์รี่เเละธอร์ไปซะสนิทเลย!”เห็นชื่อโทรศัพท์เป็นชื่อของปีเตอร์ เเจ็คสันเหมือนจะนึกขึ้นได้

 

เดิมวันนี้เเจ็คสันวางเเผนว่าหลังจากออกจากโรงเรียน X เขาจะไปพบปีเตอร์กับเเฮร์รี่ เพื่อให้ทั้งสองคนทำความรู้จักกับธอร์ เเต่ไม่คิดว่าระหว่างทางจะได้รับการติดต่อจากพ่อมดรุ่ยเคอ เเละชวนไปที่ คามาร์-ทัช พร้อมกับพวกเขา เวลาเองก็ได้ล่วงเลยมาหนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ นี่เห็นได้ชัดเเล้วว่าพวกปีเตอร์ได้รอเขานานมาก

 

“เฮ้,ปีเตอร์ ฉันกำลังจะถึงเเล้ว!”เเจ็คสันกดรับโทรศัพท์เเละไม่ต้องรอให้ปีเตอร์ตอบกลับเขากดวางสายทันที

 

ติ๊ด

 

“เฮ้,นาย…”

 

ปีเตอร์ต้องการจะพูดอะไรเเต่เเจ็คสันได้กดวางสายไปเเล้วพริบตาเดียวบานบินก็พุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงผ่านอาคารของนิวยอร์กหลายเเห่ง

 

 

นิวยอร์ก,ควีนส์ เเยกถนนที่อยู่ห่างจาก เเจ็คสัน ประมาณ 3-4 บล็อค ปีเตอร์ได้จ้องมองไปที่โทรศัพท์อย่างขุนเคือง

 

“เเจ็คสันพูดอะไรบ้าง ตอนนี้เขาอยู่ไหน?”เห็นสีหน้าของปีเตอร์ เเฮร์รี่ กล่าวถามอย่างสงสัย พวกเขารอเเจ็คสันเป็นเวลากว่าชั่วโมง เเละเเจ็คสันยังมาไม่ถึง พวกเขาคิดว่า เเจ็คสันอาจประสบอุบัติเหตุ

 

“เขาว่าเขาใกล้จะถึงเเล้ว,เป็นไปได้ไหมว่าเขาลืมนัดเกี่ยวกับเราในวันนี้?”ปีเตอร์พูดอย่างหมดหนทาง

 

เเฮร์รี่”ฮ่าฮ่า~”

 

หลังจากยืนรอตรงเเยกเป็นเวลากว่าสองนาที ปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบร้อนตรงมาจากด้านหลังมันเป็นเสียงฝีเท้าของเเจ็คสัน

 

“ฮ่าฮ่า,โทษทีที่มาสาย!”เเจ็คสันรีบวิ่งมาที่เบื้องหน้าของเเฮร์รี่เเละปีเตอร์ก่อนที่จะพูดอย่างเขินอาย ตามจริงเขาควรโทรมาบอกพวกปีเตอร์ก่อนหน้านี้ เเต่การไปคามาร์-ทัช เป็นเรื่องเร่งด่วนเกินไป

 

“นายไปไหนมา ไม่ใช่ว่านายออกจากโรงเรียน X นานเเล้วไม่ใช่หรอ?”เห็นเเจ็คสันปรากฏตัว ปีเตอร์กล่าวถาม

 

“พอดีฉันไปที่ คามาร์-ทัช อย่างเร่งด่วนหน่ะ”เเจ็คสันตอบกลับความจริง เพราะอย่างไรก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องปิดบังปีเตอร์เเละเเฮร์รี่

 

“คามาร์-ทัช?ที่ไหนกันล่ะนั่น”ได้ยินชื่อสถานที่ที่เเปลกประหลาด ปีเตอร์รู้สึกสับสน

 

เเต่เเฮร์รี่เหมือนจะรู้จักสถานที่เเห่งนั้นที่ถูกเรียกว่า คามาร์-ทัช อย่างไรก็ตามมันเป็นไปได้ด้วยหรือที่ เเจ็คสันจะไปกลับที่นั่นภายในระยะเวลาหนึ่งชั่วโมง?

 

“คามาร์-ทัช? สถานที่เเห่งนั้นคือเทือกเขาหิมาลัย อย่าบอกนะว่า ผู้หญิงที่อยู่ในทีม X-MEN คนนั้นพานายไปที่นั่นมา?”เเฮร์รี่ กล่าวถาม เเฮร์รี่รู้ว่าในทีม X-MEN นั้นมีหญิงสาวที่สามารถเปิดประตูมิติได้ เเละเขาก็ไตร่ตรองต่อว่าทีม x-men อาจมีฐานลับที่เทือกเขาหิมาลัย

 

“ไม่ใช่ทีม X-MEN หรอก ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยพูดกับพวกนายเเล้วเกี่ยวกับกองกำลังพิทักษ์โลกที่เป็นขุมพลังลึกลับที่ถูกเรียกว่าพ่อมด พวกนายจำได้ไหม?”เเจ็คสันเคยบอกเรื่องนี้กับปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ก่อนหน้านี้

 

“พ่อมด?”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ เเสดงความตกใจ

 

เนื่องจากก่อนหน้านี้เรื่องของเวน่อมเเละเทพปีศาจ ปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ ก็ได้รู้จักอิทธิพลที่ถูกเรียกว่าผู้สืบเชื้อสายเเรกเริ่มของโลก หรือก็คือ พ่อมด พวกเขาได้ช่วยทั้งสองคนเอาไว้ จากเหตุการณ์ครั้งนั้น เเต่เพราะทั้งสองคนไม่มีสติจากสถานการณ์ในตอนนั้นจึงไม่ค่อยรู้สึกผูกพันธ์กับอิทธิพลของพ่อมดมาก

 

“ก่อนหน้านี้ฉันได้บอกพวกนายเกี่ยวกับจอมเวทย์สูงสุดของโลก ฉันได้ไปที่นั่นเพื่อพบเขา เอาเป็นว่าเราค่อยพูดคุยเรื่องนี้กันอีกทีเเล้วกัน”เเจ็คสันกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว

 

“เอาล่ะ ฉันจะพาพวกนายไปรู้จักเพื่อนใหม่คนนี้ เขามีชื่อว่า ธอร์”เเจ็คสันกล่าวต่อ

 

“ก่อนหน้านี้ นายพูดเชิดชูเพื่อนคนนี้มาก ฉันเองก็อยากรู้อยากเห็นเหมือนกัน หวังว่าจะไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง”เเฮร์รี่ยิ้มตอบ

 

“ธอร์อาศัยอยู่ในระเเวกนี้เเหละฉันรับรองว่าพวกนายจะต้องไม่ผิดหวังกับเพื่อนธอร์คนนี้ของเราเเน่นอน”เเจ็คสันยิ้มออกมาก่อนที่จะนำทางปีเตอร์เเละเเฮร์รี่

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังพาปีเตอร์เเละเเฮร์รี่เพื่อไปพบธอร์,วอชิงตัน S.H.I.E.L.D. สำนักงานใหญ่ได้รับข่าวเรื่องของมิราจไนท์ที่ติดต่อกับบุคคลึกลับสองคน บุคคลเเรกที่ได้รับข้อมูลสำคัญนี้ก็คือ หัวหน้านิค

 

คลิ๊ก~

 

บนชั้นบนสุดของสำนักงาน นิคนั่งอยู่บนเก้าอี้มือขวาของเขากดเล่นวิดีโอเเละภาพทั้งหมดที่เเสดงอยู่บนหน้าจอ

 

“ในระบบไม่มีข้อมูลตัวตนของคนเหล่านี้ ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยมีตัวตนมาก่อน”นิคได้เเสกนใบหน้าของคนเหล่านั้นเทียบกับฐานของมูลของประชาชน

 

เนื่องจากพ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ไม่ได้สวมหน้ากาก ดังนั้นการปรากฏตัวของพวกเขาจึงถูกวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว เเต่สิ่งที่ S.H.I.E.L.D. ได้ก็คือความว่างเปล่า คนเหล่านี้ไม่มีฐานข้อมูล อีกอย่างจะต้องรู้ว่า S.H.I.E.L.D. คือองค์กรขนาดใหญ่ของโลก เป็นองค์กรของรัฐ เพียงเเค่ประวัติของคนไม่กี่คนพวกเขาสามารถค้นหาได้อย่างไม่ยาก

 

ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงหลังสิ้นสุดภัยคุกคามจากพวกไฮดร้า ภายใต้โปรเจ็คอินไซต์ S.H.I.E.L.D. ได้ดำเนินการเก็บฐานข้อมูลของผู้คนทั่วโลกมาไว้ในฐานข้อมูลของ S.H.I.E.L.D. เพื่อบันทึกเอาไว้ เเน่นอนว่ามันเเทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะพลาดรายชื่อของ พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น

 

“คนเหล่านี้เป็นกองกำลังอิทธิพลที่สนับสนุนมิราจไนท์อยู่งั้นหรอ? พวกเขามีความสามารถในการเปิดประตูมิติไปไหนก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาไม่ใช่พวกมิวแทนท์”จ้องมองไปที่การวิเคราะห์จากภาพในวิดีโอ นิคขมวดคิ้วเเน่น

 

เเม้ว่าตอนนี้ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ กับ S.H.I.E.L.D. จะมีเเผนร่วมมือกัน เเต่ก็ยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขในการกำจัดพวกไฮดร้า นอกจากนี้ข้อมูลที่พวกเขามีต่อทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เองก็น้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มิราจไนท์

 

“ไม่ว่าอะไรก็ตามที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังของมิราจไนท์เห็นได้ชัดว่าเราไม่ควรสร้างความขัดเเย้งระหว่างความสัมพันธ์ของพวกเรา”นิคกล่าววิเคราะห์ออกมา ตอนนี้ S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ หรือ มิราจไนท์ มีความสัมพันธ์ที่ดี เเม้ว่าตอนนี้จะมีผลประโยชน์ภายใต้ร่วมมือในการจัดการพวกไฮดร้าร่วมกันก็ตาม

 

ฟุ่บ!

 

ในที่สุดนิคก็โบกมือปิดข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ทั้งหมด จากนั้นเขาก็ได้เปิดข้อมูลอื่น ๆ ขึ้นมามันเป็นข้อมูลเกี่ยวกับพวกไฮดร้า ตอนนี้หน้าที่หลักสำคัญที่สุดของ S.H.I.E.L.D. ก็คือการกำจัดไฮดร้าให้เร็วที่สุด

ฮึ่ม!

 

นิวยอร์ก,หลังจากนั้นพ่อมดทั้งสองคนได้เปิดประตูมิติเวทย์มนตร์มาโผล่ที่สถานที่เเห่งนึงเเสงรัศมีสีทองได้ปรากฏขึ้นที่ริมถนน

 

เปรี๊ยะ~

 

เเจ็คสันได้เดินออกมาจากประตูเวทมนตร์ เขามาถึงที่นิวยอร์ก หลังจากที่เดินทางไป คามาร์-ทัช เทือกเขาหิมาลัย

 

“มิราจไนท์ คุณต้องการให้เราไปส่งไหม ตราบเท่าที่คุณบอกตำเเหน่งที่ต้องการจะไป ฉันสามารถไปส่งคุณได้”หลังจากประตูมิติเวทมนตร์ที่ด้านหลังหายไป พ่อมดรุ่ยเคอ ถามด้วยรอยยิ้ม

 

พ่อมดรุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ตระหนักได้ถึงสถานะของมิราจไนท์ เพราะเขาได้รับการยอมรับจากปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน โดยปกติเเล้ว พ่อมดทั้งสองคนเองก็ต้องการที่จะตีสนิทด้วย

 

“ฉันสามารถไปเองได้ รบกวนพวกคุณมาส่งที่นี่เเล้ว ต้องขอบคุณจริงๆ”เเจ็คสันปฏิเสธออกไปด้วยความสุภาพเขาเข้าใจเจตนาที่ดีของพ่อมดรุ่ยเคอ

 

“อืม,เช่นนั้นพวกเราขอตัวกลับก่อน”พ่อมดรุ่ยเคอพูดเสร็จเขาก็วาดประตูมิติเวทมนตร์อีกครั้งเเละหายตัวไปจากนิวยอร์กเเห่งนี้

 

ประตูเวทมนตร์ได้หายไปจากเบื้องหน้าของเเจ็คสันในทันที

 

“ฮู้ว~~ไปเที่ยวชมคามาร์-ทัช คราวนี้นับว่าเป็นคลื่นลูกใหญ่สำหรับฉันจริง ๆ “เห็นพ่อมดทั้งสองคนจากไป เเจ็คสันก็ระบายออกมาอย่างผ่อนคลาย

 

ก่อนหน้านี้ เขาเองก็สงสัยว่า เชื้อสายจอมเวทย์เเห่งโลก มองหาเขาด้วยเหตุผลอะไร พอเขารู้ถึงเหตุผลนั้นทำให้เเจ็คสันรู้สึกเครียดทันที เขาไม่คาดคิดเลยว่า ตัวตนของเขาจะถูกมองออกโดยเอนเชี่ยนวันว่าจิตวิญญาณของเขาไม่ใช่คนของโลกนี้ สิ่งนี้ทำให้เเจ็คสันรู้สึกกลัวมาก โชคดีที่จิตวิญญาณของเขาเป็นมนุษย์ธรรมดาไม่งั้นเขาคงถูกจัดการไปเเล้ว ดังนั้นเเจ็คสันจึงกังวลเรื่องนี้มาก

 

อย่างไรก็ตามเเจ็คสันก็ได้ลั่นถึงเป้าหมายของเขาต่อเอนเชี่ยนวันไป สำหรับเขาที่ถูกส่งมาที่โลกมาร์เวลเเห่งนี้ การได้รับการยอมรับจากกฏเเห่งโลกเเจ็คสันเองก็เชื่อว่ามันต้องมีเหตุผลของมัน เขาคิดว่าเรื่องการยอมรับนี้เเม้เเต่เอนเชี่ยนวันก็ไม่สามารถคาดเดาได้

 

เพราะกฏเเห่งโลกไม่ได้ขับไล่เเจ็คสันเเม้เเจ็คสันจะเป็นคนจากโลกอื่นก็ตาม ร่างกายเเละจิตวิญญาณของเขาได้รับการยอมรับโดยสมบูรณ์ตัวตนของเขาตอนนี้ไม่ต่างจากคนที่มีพื้นเพมาจากโลกมาร์เวลเเห่งนี้

 

“เเม้ว่าเอนเชี่ยนวันจะมองผ่านจิตวิญญาณของฉันว่าไม่ใช่คนจากโลกนี้ เเต่เขาก็ยังไม่รู้เรื่องตัวตนของระบบไม่งั้นเขาคงไม่เเสดงจุดยืนเช่นนั้น”เเจ็คสันเดินเล่นที่มุมถนนเเละวิเคราะห์ในใจอย่างใจจดใจจ่อ

 

“ฟังจากถ้อยคำของเอนเชี่ยนวันอันสุดท้ายนั่น ราวกับว่าเขาเพียงเชื่อมั่นในอุดมคติเเละเป้าหมายของฉัน ที่เหลือเขาก็เเค่ต้องการดูว่าฉันจะสามารถทำได้หรือไม่”เเจ็คสันไม่ได้โง่ สิ่งที่เขาคิดกับสิ่งที่เอนเชี่ยนวันคิดนั้นค่อนข้างคล้ายกัน

 

“ก็เอาเถอะ ฉันเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากเหล่าเชื้อสายจอมเวทย์เเห่งโลกอยู่เเล้ว เเต่ถ้าได้รับความช่วยเหลือจากเอนเชี่ยนวันจริงเป้าหมายของฉันบางทีอาจจะสำเร็จลุล่วงเร็วกว่านี้ เเต่ถึงอย่างไรฉันเองก็รู้สึกสงสัยเเสงลึกลับที่เข้ามาในตัวฉันอยู่ดี”เเจ็คสันคิดไปพลางในขณะนั้นเองเขาเหมือนรู้สึกได้ถึงบางอย่าง

 

หืม?

 

“มีคนสะกดรอยตามฉัน?”

 

“ใครกัน?”

 

เเจ็คสันสัมผัสได้ถึงการจ้องมองที่อยู่ไกลออกไปทันใดนั้นเขาก็รีบเดินหาที่หลบในทันที

 

ภายใต้การเคลื่อนไหวของเเจ็คสันทันใดนั้นเขาก็สลัดหลุดจากการสะกดรอยตามได้ไม่ยาก

 

“ดูเหมือนฉันควรจะรีบกลับไปวันนี้มีเรื่องวุ่นวายมามากพอเเล้ว”เเจ็คสันหวังจะรีบกลับบ้านโดยเร็วที่สุด

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเขาก็หายตัวลับไปจากพื้นที่เเถวนี้ในทันทีราวกับว่าไม่เคยมีตัวตน

 

พอสังเกตุการณ์ไม่เห็นมิราจไนท์ คนที่นั่งอยู่ในห้องควบคุมรู้สึกผิดหวังอย่างมากกลุ่มคนเหล่านี้ได้เฝ้าติดตามระวังมิราจไนท์

 

“เฮ้อ,งานเฝ้าระวังมิราจไนท์นั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย”ในขณะเดียวกันก็มีชายวัยกลางคนบ่นออกมา

 

ไม่ต้องสงวัยว่าเขาคือคนที่นิคส่งมาเฝ้าระวังมิราจไนท์เพื่อต้องการจะเปิดโปงสถานะของมิราจไนท์ เดิม พวกเขาคิดว่าอาจจะเป็นเเจ็คสันเพราะช่วงที่มิราจไนท์หายตัวไปพวกเขาก็ไม่สามารถสังเกตุเห็นเเจ็คสันได้ เเน่นอนว่าการที่พวกเขามาเฝ้าระวังมิราจไนท์ไม่ใช่ว่าจะสร้างความเดือดร้อนอะไรเพราะอย่างไรก็ตามตอนนี้มิราจไนท์กับ S.H.I.E.L.D. ก็ร่วมมือกัน

 

ก่อนหน้านี้ มิราจไนท์ได้ไปยัง โรงเรียน X ซึ่งพวก S.H.I.E.L.D. เองก็รู้เรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงได้ส่งทีมออกมาสืบสวนอย่างลับ ๆ เเละตั้งใจจะรู้เป้าหมายของมิราจไนท์ เเม้พวก S.H.I.E.L.D. กับ ทีมX-MEN จะไม่มีความขัดเเย้งกัน เเต่ไม่ได้หมายความว่า S.H.I.E.L.D. จะปล่อยผ่านเรื่องนี้

 

หลังจาก มิราจไนท์ออกจากโรงเรียน X เเละเดินทางกลับมาที่นิวยอร์กพวกเขาก็สังเกตุเห็นบุคคลต้องสงสัยก่อนที่มิราจไนท์จะหายตัวไปซึ่งพวกเขาเองก็รู้สึกสับสนมาก ดังนั้นหัวหน้าทีมจึงสั่งลูกทีมให้เฝ้าระวังจุดนี้ชั่วคราว

 

จากนั้นมิราจไนท์ก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่อีกครั้งซึ่งเป็นไปตามที่หัวหน้าทีมคนนี้คาดเอาไว้หลังจากนั้นพวกเขาก็สังเกตุเห็นชายสองคนที่กำลังพูดคุยกับมิราจไนท์ก่อนหน้านี้

 

เเน่นอนว่าย่อมเห็นประตูมิติเวทย์มนตร์เเปลก ๆ ด้วย S.H.I.E.L.D. นั้นคาดเดาว่าอาจจะเป็นพวกมีพลังพิเศษเหมือนทีม X-MEN เพราะมิวแทนท์นั้นมีความสามารถของมนุษย์กลายพันธุ์บางทีความสามารถนั้นอาจเป็นการย่นระยะการเดินทาง สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือชายสองคนนั้นไม่ใช่คนของทีม X-MEN เเต่เป็นองค์กรลึกลับที่เรียกตัวเองว่าจอมเวทย์

 

“มิราจไนท์คนนี้มีความลับมากมายเกินไป บุคคลระดับเขา ควรจะเป็นเป้าหมายสังเกตุการณ์ไม่ต่ำกว่าระดับ สอง”พวกเขาได้ส่งภาพบันทึกที่ได้ก่อนหน้านี้ไปที่สำนักงานใหญ่อย่างรวดเร็ว

 

“สำนักงานใหญ่ส่งข้อมูลมาเเล้ว พวกเขาต้องการตั้งมิราจไนท์เป็นเป้าหมายสังเกตุการณ์ระดับ 1″จากนั้นลูกน้องของหัวหน้าทีมก็กล่าวรายงานอย่างรวดเร็ว

 

“เป้าหมายสังเกตุการณ์ระดับ 1! นี่พวกเบื้องบนตีค่าให้เขาสูงขนาดนั้นเชียว? ดูท่าพวกเราจะงานยุ่งเสียเเล้ว”

ได้ยินการกล่าวยอมรับของเอนเชี่ยนวันเเจ็คสันค่อนข้างตกใจอยู่ครู่นึงถึงเเม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจในขณะที่พูดอยู่เเต่ก็ไม่คาดคิดว่าเอนเชี่ยนวันจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะว่าการได้รับการยอมรับจากตัวตนเช่นเอนเชี่ยนวันนั้นค่อนข้างมีค่าอย่างมากเท่าที่เขาฟังดูเหมือนเอนเชี่ยนวันจะสนับสนุนความคิดของเขา ใช่ว่าเอนเชี่ยนวันจะให้ความร่วมมือกับเเผนการของเขาหรือไม่ นี่เป็นสิ่งที่เเจ็คสันครุ่นคิดในใจ

 

“คุณกำลังคิดว่าตัวเราจะสนับสนุนคุณ?ถ้ามันเป็นความคิดเพื่อสร้างสหพันธ์โลกเเล้วล่ะก็ตัวข้าอาจจะพาให้ยืมเเรงได้บ้าง”เอนเชี่ยนวันรู้ว่าเเจ็คสันคิดอะไรในใจ เขากล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

 

“เรื่องนี้…คำพูดที่คุณพูดมาเมื่อครู่เเน่นอนว่าฉันต้องการอย่างเเท้จริง”ในที่สุดเเจ็คสันก็สามารถระบายความอัดอั้นในใจได้เล็กน้อย

 

“อย่าได้กล่าวเช่นนี้…ที่ข้าต้องการจะสื่อหมายถึงเรื่องเป้าหมายของคุณ อย่างไรก็ตามคุณจะต้องเเสดงให้ข้าเห็นว่าคุณสามารถที่จะประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่ว่าได้ เเม้ตัวเราออกปากจะร่วมมือ เเต่ก็ไม่ได้จะขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลกมากนัก เพราะอนาคตไม่ใช่สิ่งที่จะถูกเปลี่ยนเเปลงโดยง่าย”เอนเชี่ยนวันกล่าวเเสดงจุดยืนของเขา

 

“ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณอีกครั้งปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน”เเม้จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากเอนเชี่ยนวันอย่างชัดเจน เเต้ถ้อยคำของเอนเชี่ยนวัน ก็เหมือนให้การสนับสนุนเขา อีกอย่างต้องรู้ว่าอีกฝ่ายรู้ว่าเขาเป็นคนจากต่างโลกหากเขาคิดว่าเเจ็คสันไม่เหมาะสมเขาสามารถที่จะโบกมือให้เเจ็คสันหายไปตอนไหนก็ได้

 

“เอาล่ะ ข้าเองก็หมดธุระกับคุณเเล้ว ข้าจะเรียกให้ พ่อมดรุ่ยเคอ กับ ไต้เหวิ่น มาส่งคุณกลับไป”ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันกล่าวพูด

 

“ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้พบคุณในวันนี้”เห็นว่าจะต้องจากลากันเเล้ว เเจ็คสันตระหนักถึงเรื่องนี้ดี

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าในขณะนั้นเองเอนเชี่ยนวันก็ได้ยกมือขึ้นพร้อมชี้นิ้วออกมาที่เขา เเสงสีทองได้ออกมาจากนิ้วชี้ของเอนเชี่ยนวันพุ่งเข้าไปในร่างของเเจ็คสันก่อนที่จะหายไป

 

“หืม?”เห็นเเสงสีทองถูกยิงเข้าไปในร่างกายของเขาเเจ็คสันรู้สึกใจคอไม่ดี เขาจ้องมองไปที่เอนเชี่ยนวัน ราวกับต้องการคำตอบเกี่ยวกับการกระทำเมื่อครู่

 

“ผ่อนคลายเถอะ มันเป็นเพียงเวทย์มนตร์ติดตาม เเละมีพลังป้องกันบางอย่าง โดยปกติเเล้วมันย่อมสูงกว่าชุดสูทนั่นของคุณ”เห็นการเเสดงออกอย่างสงสัยของเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวันอธิบายด้วยรอยยิ้ม

 

“งั้นหรอกหรอ”ได้ยินการอธิบายของเอนเชี่ยนวันเเจ็คสันไม่ได้เเสดงความไม่พอใจออกมาเขารู้ดีว่ามันไม่มีความหมาย

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเเจ็คสันก็สวมชุดสูทของเขาอีกครั้ง มันถึงเวลาที่เขาต้องไปเเล้วเเม้ว่าชุดสูทของเขาจะไม่สามารถอำพรางสายตาของเอนเชี่ยนวันได้ เเต่มันก็ยังคงปกปิดคนอื่น ๆ ได้ ทำให้เเจ็คสันรู้สึกสบายใจในส่วนนี้นอกจากนี้ไม่นานเเจ็คสันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของพ่อมดรุ่ยเคอ เเละ พ่อมด ไต้เหวิ่น เดินเข้ามา

 

จริงๆเเล้วมันเป็นตอนที่เเจ็คสันสวมชุดทันที ทั้งสองคนก็เดินเข้ามาทางประตู เเละ เห็นมิราจไนท์ที่ลุกขึ้นยืนอยู่เบื้องหน้าของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน

 

“ข้าเเละมิราจไนท์คุยธุระกันเสร็จเเล้วต้องรบกวนให้พวกเจ้าช่วยส่งเขากลับ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของธอร์ที่พวกเจ้าต้องให้ความสนใจบางทีเราอาจได้รับผลประโยชน์บางอย่าง”เอนเชี่ยนวันกล่าวพูดเบา ๆ ในที่สุดเขาก็ยกเรื่องธอร์มาพูดขึ้น

 

“ครับ,ท่านปรมาจารย์”พ่อมดรุ่ยเคอเเละพ่อมดไต้เหวิ่นกล่าวปฏิบัติตามหลังจากนั้นพวกเขาเเละเเจ็คสันก็เดินออกไป

 

เเน่นอนว่าเเจ็คสันได้ยินเรื่องของธอร์เมื่อครู่นี้จากปากของเอนเชี่ยนวัน อย่างไรก็ตาม ธอร์ก็ยังเป็นบุตรชายของโอดิน เขาถูกเนรเทศมาที่โลกเเห่งนี้ เป็นเรื่องธรรมดาที่เอนเชี่ยนวันจะให้ความสนใจกับธอร์

 

“มิราจไนท์ คุณโอเคไหม?”เห็นมิราจไนท์อยู่ในความงุนงง พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวถามขึ้น

 

“ฉันไม่เป็นอะไร”ได้ยินเสียงของพ่อมดรุ่ยเคอ เเจ็คสันตอบอย่างเร่งรีบ

 

จากนั้นเเจ็คสันก็เตรียมพร้อมที่จะเดินทางกลับโดยมีพ่อมดทั้งสองคนไปส่งขณะเดียวกันเอนเชี่ยนวันก็ยังคงนั่งจิบชาอยู่ที่เดิมไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่

 

“เด็กคนนี้มาจากโลกอื่น เขาได้มาที่นี่เเละถูกต้อนรับโดยกฏเเห่งโลก นี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก ข้าเองก็ไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ เเต่เรื่องเป้าหมายนั่นเขาจะทำได้หรือไม่?”ในใจของเอนเชี่ยนวันรู้สึกคาดหวังพร้อมกับจิบชาร้อน ๆ ไปพราง

 

“ท่านอาจารย์ ดูเหมือนท่านจะสนใจมิราจไนท์คนนี้ เขาเป็นคนพิเศษงั้นหรอคะ?”ขณะเดียวกัน หยุนเหมิง ก็เดินเข้ามา เธอได้กล่าวถามเอนเชี่ยนวันด้วยท่าทีนุ่มนวล

“สำหรับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของฉันเเล้วหากเทียบกับพวกเขาดูเหมือนจะยังด้อยกว่าเเต่ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันคุณเองก็คงรู้จักอิทธิพลที่ผมเพิ่งพูดไปเมื่อครู่นี้?”ไม่ต้องรอให้เอนเชี่ยนวันตอบ เเจ็คสันเชื่อว่าอิทธิพลที่เขาเสนอพอจะดึงดูดความสนใจของจอมเวทย์โบราณคนนี้ได้

 

“„S.H.I.E.L.D.? ,โทนี่ สตาร์ก?,ทีม X-MEN”เดิมเอนเชี่ยนวันที่สงบนิ่งมานานได้ยินชื่ออิทธิพลที่เเจ็คสันพูดในที่สุดเขาก็เผยสีหน้าเเปลกใจเล็กน้อย

 

S.H.I.E.L.D. คือองค์กรพิทักษ์โลกจากการรุกรานของอิทธิพลที่ชั่วร้ายทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังหรือทรัพยากรพวกเขาก็มีมันทั้งหมดเเม้ก่อนหน้านี้จะถูกพวกไฮดร้าเเทรกเเซงหน่วยงานภายในเเต่ก็ถูกกำจัดออกไปทั้งยังรับมือโดยการโต้คืนพวกไฮดร้าอย่างรุนเเรง

 

โทนี่ สตาร์ก ลูกชายเพียงคนเดียวของ ฮาเวิร์ด สตาร์ก ผู้สืบทอดธุรกิจอุตสาหกรรมสตาร์ก ว่ากันว่าพรสวรรค์ของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่า ฮาเวิร์ด สตาร์ก เเม้เเต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นด้านฟิสิกส์ การคำนวณ ตอนนี้มีกองทัพไอรอนแมนเป็นอาวุธ เพียงพอที่จะทำให้โลกหวาดกลัว

 

ทีม X-police หรือ ทีม X-men ที่รวมตัวกันโดยเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่ถูกเรียกว่ามิวแทนท์ มีผู้อยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนอยู่ก็คือ ศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ มิวแทนท์ระดับ 4 เเม้กำลังพลจะน้อยเเต่ความเเข็งเเกร่งของเเต่ละคนมานับโดยรวมเเล้วนับว่าเป็นขุมพลังอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะเมื่อหากตัวตนเหล่านั้นกลายเป็นมิวแทนท์ระดับ 5 ได้ ความเเข็งเเกร่งจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ เอนเชี่ยนวันเองก็รู้ดี

 

เขาที่มีชีวิตอยู่บนโลกมาหลายร้อยปีทำให้เขาเห็นหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่าง สำหรับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ความสามารถของคนคนนี้เป็นของจริง ทั้งยังได้รับการยอมรับจากเขาจอมเวทย์สูงสุดของโลก ดังนั้น ตัวเขาเอนเชี่ยนวัน จึงค่อนข้างให้ความเคารพกับพวกมิวแทนท์อยู่พอสมควร

 

อิทธิพลที่ว่านี้ไม่ใช่ว่าเอนเชี่ยนวันไม่รู้เเต่เขาไม่คิดเลยว่าเเจ็คสันจะพูดชื่อกลุ่มอิทธิพลเหล่านี้ออกมา สำหรับความคิดเอนเชี่ยนวันเเล้วเมื่อเทียบกับขุมกำลังอิทธิพลทั้ง 3 นี้ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเเจ็คสันถือว่าเป็นจุดอ่อนของความร่วมมือก็ว่าได้ สำหรับตัวตนของเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวันเข้าใจ ตราบเท่าที่เเจ็คสันมีเวลา เขาจะสามารถกลายเป็นตัวตนที่เเม้เเต่ตัวเขาผู้ที่ถูกเรียกว่าจอมเวทย์สูงสุดก็ไม่อาจละเลยได้

 

ดังนั้นอุดมการณ์ของเเจ็คสันจึงมีค่าเเก่การเชื่อมั่น

 

“ดูเหมือนคุณจะรู้จักอิทธิพลที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้ เเละนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงต้องการจัดตั้งสหพันธ์โลกขึ้นมา”เเจ็คสันยิ้มกล่าวตอบ

 

“ข้ายอมรับว่าประเมินคุณต่ำไปจริง ๆ เเต่ถึงเเม้ว่า โทนี่ สตาร์ก เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ จะตัดสินใจร่วมอุดมการณ์ของคุณ เเต่ S.H.I.E.L.D. นั้นก็อีกเรื่อง คุณจะบอกว่าคุณสามารถที่จะทำให้พวกตาเเก่ที่นั่งใช้ชีวิตอย่างสงบในสภาความมั่นคงเเห่งโลกยอมรับสิ่งที่เรียกว่าสหพันธ์โลกนี้ได้?”

 

โทนี่ สตาร์ก ลูกชายของ ฮาเวิร์ด สตาร์ก สิ่งที่เขาต้องการคือการค้นพบเเละเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เขาวางเเผนที่จะก้าวเหนือพ่อของตัวเอง สำหรับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ตลอดชีวิตอุทิศให้กับสิทธิของมนุษย์กลายพันธุ์เพื่อที่จะทำให้เหล่ามิวแทนท์สามารถอยู่รอดได้เขาไม่ลังเลที่จะร่วมมือกับเเจ็คสัน เเละมีความคิดจัดตั้งสหพันธ์โลกขึ้น หากสามารถทำได้ ความเป็นอยู่ของพวกมิวแทนท์จะได้รับการปรับปรุงไปในทิศทางที่ดีขึ้นเเน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม S.H.I.E.L.D. กลับไม่ใช่หนึ่งในทางเลือก เเม้นิค จะเป็นหัวหน้าสาขา เเต่ก็มีสมาชิกของสภาความมั่นคงเเห่งโลกคอยควบคุมอยู่เบื้องหลัง คนหัวโบราณเหล่านี้ไม่มีทางที่จะยอมรับการจัดตั้งสหพันธ์โลกได้โดยง่าย ดังนั้น S.H.I.E.L.D. จึงเป็นปัญหาสำหรับอุดมการณ์ของเเจ็คสัน

 

“ฮ่าฮ่า,ดูเหมือนเรื่องพวกนี้จะไม่สามารถปิดบังคุณได้จริง ๆ ตอนนี้ฉันกับ S.H.I.E.L.D. ก็เเค่มีความร่วมมือภายใตเงื่อนไขเพียงเท่านั้น พวกเขาไม่ได้บอกว่าจะสนับสนุนการสร้างสหพันธ์โลกขึ้น เพราะถึงอย่างไร การบริหารจัดการภายในของ S.H.I.E.L.D. ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนมากเกินไป”เเจ็คสันยิ้มอย่างขมขื่น กับเรื่องนี้

 

เเจ็คสันสามารถร่วมมือกับกัปตันโรเจอร์สหรือนิคในการร่วมทำอุดมการณ์ด้วยกันได้ เเต่เขาจะไม่สามารถโน้มน้าวตาเเก่ในสภาได้โดยง่าย เเน่นอนว่าในระยะเวลาอันสั้นนี่ย่อมเป็นไปไม่ได้ หากเขาไม่ระมัดระวังซ้ำจะทำให้นิคกับโรเจอร์ส ซวยไปด้วย

 

“หากไม่มีการสนับสนุนจาก S.H.I.E.L.D. เป้าหมายของคุณ ดูเหมือนจะสูญเสียผู้สนับสนุนหลักคนสำคัญ”เอนเชี่ยนวันชัดเจนเกี่ยวกับ เรื่อง S.H.I.E.L.D. มาก เเละคำพูดของเขามีน้ำหนัก

 

“ฉันรู้ เเต่ฉันก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ กัปตันอเมริกา เเละ S.H.I.E.L.D. รวมถึง นิค ในความคิดส่วนตัวของฉัน ฉันต้องการเวลา เพราะอย่างไรก็ตามการจัดการโน้มน้าวพวกตาเเก่ในสภาก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยากพอสมควร…”มองไปที่เอนเชี่ยนวัน เเจ็คสันพูดอย่างหมดหนทาง

 

“ดูเหมือนว่าคุณต้องการที่จะติดต่อกับสภาความมั่นคงของโลก?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวัน กล่าวคาดเดา

 

“เอาล่ะฉันยอมรับว่าคุณมีโอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายของคุณ”ด้วยความเเข็งเเกร่งเเละพื้นฐานภูมิหลังที่สนับสนุนเอนเชี่ยนวันต้องยอมรับว่า เเจ็คสันมีโอกาสที่จะบรรลุสิ่งที่บรรพบุรุษของเขาทำไม่สำเร็จ

 

“เเล้ว ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน คุณคิดว่าฉันจะเป็นอันตรายต่อโลกใบนี้หรือไม่?”เห็นการเปลี่ยนเเปลงทางคำพูดของเอนเชี่ยนวัน เเจ็คสัน กล่าวถามอย่างสงสัย

 

“อันตราย? โอ้, ไม่เลย คุณอาจจะเป็นชนวนสำคัญที่จะนำพาโลกไปสู่การเปลี่ยนเเปลงในทางที่ดี โดยปกติเเล้วฉันยอมรับว่าคุณสามารถที่จะบรรลุเป้าหมายของคุณได้”เอนเชี่ยนวันกล่าวออกมา

 

เเจ็คสัน”…”

 

เขาไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนเเปลงในครั้งนี้ได้อันที่จริงเขาไม่คิดเลยว่าเอนเชี่ยนวันจะยอมรับเขาเพราะเขาเป็นคนจากต่างโลก ทั้งไม่ได้มาจากโลกที่เเข็งเเกร่ง เเต่การเติบโตของเขาในปัจจุบันก็ค่อนข้างมีบทบาทต่อโลกพอสมควรรวมถึงในอนาคตที่จะมาถึงนี้ด้วย

 

อย่างไรก็ตามเมื่อครู่จอมเวทย์สูงสุดของโลก เอนเชี่ยนวัน ตัดสินใจยอมรับเป้าหมายของเเจ็คสันว่าสามารถทำได้ หากเปลี่ยนเป็นมนุษย์คนอื่น คงไม่มีทางได้รับการยอมรับเช่นนี้ เหตุผลที่ว่าเอนเชี่ยนวันสนับสนุนเเจ็คสันนั่นก็เพราะเเจ็คสันอาจนำมาซึ่งความเปลี่ยนเเปลงในการส่งเสริมอารยธรรมของโลกใบนี้ ซึ่งความคิดเหล่านี้มันก็เคยเกิดขึ้นเมื่อนานมาเเล้วเเต่มันก็มอดดับลงภายใต้ความพยายามอย่างสูญเปล่าซึ่งเอนเชี่ยนวันรู้สึกเสียใจมาก

 

ดังนั้นหากเเจ็คสันไม่ได้เป็นอันตรายต่อโลกนี้ทั้งยังมีอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่อยากจะยกระดับอารยธรรมโลกให้พัฒนาขึ้น เอนเชี่ยนวันเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปหยุดเขา ซ้ำเขาอยากจะรู้เหมือนกันว่า อนาคตของโลกจะเป็นต่อไปในทิศทางใด เด็กลึกลับจากต่างโลกคนนี้ จะสามารถเปลี่ยนเเปลงสิ่งที่บรรพบุรุษไม่สามารถทำสำเร็จได้หรือไม่

 

เเน่นอนว่าหากเป็นบางสถานการณ์ที่ไม่ละเมิดกฏของพ่อมดที่เป็นต้นกำเนิดสายเลือดเเรกเริ่มของโลก เอนเชี่ยนวันก็ยังพอให้ยืมมือช่วยบางเรื่องได้เล็กน้อย ถึงอย่างไรความเเข็งเเกร่งของเอนเชี่ยนวันในปัจจุบันก็ยังสามารถสร้างความหวาดกลัวต่อเทพปีศาจที่หลายเเห่งในจักรวาลได้ เเต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นเเค่คนเฒ่าคนเเก่ที่มีชีวิตอยู่มานาน ขีดจำกัดของเขาย่อมมี สิ่งที่เขาต้องการก็คือ อนาคต อนาคตของผู้สืบเชื้อสายของโลกนี้ เเละ การเปลี่ยนเเปลงของอารยธรรมที่ก้าวนำไปสู่ยุคสมัยที่รุ่งเรืองกว่า

การที่อีกฝ่ายล่วงรู้สถานะของเขาสืบเนื่องมาจากสัมผัสจิตวิญญาณที่ไม่ใช่คนจากโลกใบนี้เเต่คำตอบเมื่อครู่ของเอนเชี่ยนวันทำให้เเจ็คสันรู้สึกสงสัย

 

เอนเชี่ยนวันบอกว่าเขาไม่ใช่ภัยคุกคามของโลกเเต่เขากลับเป็นตัวชนวนที่มีอิทธิพลต่อโลกอย่างรุนเเรงไม่ว่าจะเป็นอนาคตหรือการดับสลาย ดังนั้นเเจ็คสันจึงรู้สึกสงสัย เขาอยากจะรู้ว่าอนาคตที่เอนเชี่ยนวันเห็นนั้นคืออะไรกันเเน่

 

อนาคตหรือการดับสลายไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาล้อเล่น อาจเป็นไปได้ว่าตัวตนของเเจ็คสันคือตัวตนที่จะมาเปลี่ยนเเปลงโลกใบนี้ นี่เป็นความคิดของเอนเชี่ยนวัน สำหรับเเจ็คสันเเล้ว โลกใบนี้ยังต้องเผชิญหน้ากับอะไรอีกมากมายไม่ว่าจะเปป็นการรุกรานของอารยธรรมต่าง ๆ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนที่จะมาเปลี่ยนเเปลงโลกอะไรทั้งนั้น

 

เเต่สำหรับเอนเชี่ยนวันเเล้วมันต่างกัน เเจ็คสันเป็นคนจากต่างโลกเเต่ได้รับการยอมรับจากกฏของโลก ทั้งเเจ็คสันยังมีอายุเพียง 16 ปี ความเเข็งเเกร่งด้วยอายุเพียงเท่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าตัวตนของเด็กคนนี้เป็นชนวนเเห่งอนาคตหรือการตกดับดั่งที่เขาคิดจริงๆ

 

เพื่อรับประกันว่าโลกนี้จะมีอนาคตที่สดใสทางที่ดีที่สุดของเอนเชี่ยนวันก็คือกำจัดเเจ็คสันโดยตรง เเต่เอนเชี่ยนวันไม่ใช่คนไร้เหตุผลดังนั้นเขาจึงได้เฝ้าระวังพฤติกรรมของเเจ็คสันอย่างลับ ๆ หากเเจ็คสันมีพฤติกรรมที่จะส่งผลต่อโลกใบนี้ดังเช่นที่เขากังวลจริง เขาก็จะไม่ลังเลอีกต่อไป

 

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ฉันไม่รู้ว่าคุณคิดเห็นอย่างไรกับตัวฉันเเต่ฉันเองก็มีเป้าหมายที่อยากจะทำให้สำเร็จอยู่”เห็นความกังวลของเอนเชี่ยนวันเเจ็คสันกล่าวออกมาอย่างจริงจัง

 

สำหรับโลกมาร์เวลเเห่งนี้ตัวตนของเเจ็คสันในตอนนี้ไม่นับเป็นอะไรนอกจากปลาตัวเล็กที่เเหวกว่ายกลางมหาสมุทร เเน่นอนว่าต่อเบื้องหน้าเอนเชี่ยนวันด้วยเหมือนกัน อีกฝ่ายในตอนนี้สามารถที่จะดับชีวิตน้อยๆของเขาได้

 

ดังนั้นเเจ็คสันจึงต้องการรวมพลังจากอิทธิพลอื่น ๆ เข้าด้วยกัน เขาจะสร้างทีมมาร์เวลที่ปกป้องโลกจากการรุกรานของอิทธิพลต่าง ๆ เป้าหมายของเเจ็คสันคือการปกป้องโลก ทุกเป้าหมายย่อมมีการเสียสละ เเต่เเจ็คสันจะทำให้การเสียสละทั้งหมดนั้นมีค่ามากที่สุด

 

“หืม?เป้าหมายของคุณ ? จริงสิตอนนี้คุณได้ก่อตั้งทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เพื่อรวมพลังกันในการจัดระเบียบในนิวอยร์ก”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันเอนเชี่ยนวันกล่าวพูดออกมาเล็กน้อย

 

เอนเชี่ยนวัน รู้ว่าเเจ็คสันต้องการสร้างขุมกำลังของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงโดดเข้าสู่เส้นทางฮีโร่ ไม่ว่าจะเป็นการก่อตั้งทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ การชักชวนกัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่น ๆ กัปตันโรเจอร์สในตอนนี้เป็นเพียงอิทธิพลที่ชักนำสื่อทั้งหมดให้เคลื่อนไหวได้ ดังนั้นเอนเชี่ยนวันต้องการจะรู้เป้าหมายที่เเจ็คสันว่านั้นคืออะไรกันเเน่

 

เห็นเอนเชี่ยนวันคาดเดาเป้าหมายของเขาเเจ็คสันลอบสั่นศีรษะในใจ”เป้าหมายของฉันคือการปกป้องนิวยอร์กโดยใช้ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ นี่เป็นเพียงเเค่ส่วนนึง เเต่เป้าหมายจริง ๆ ของฉันคือการชำระล้างโลกกำจัดกองกำลังที่ชั่วร้ายทั้งหมดเเละสร้างพันธมิตรเเห่งโลกขึ้น”

 

จ้องมองไปที่ใบหน้าที่เงียบสงบของเอนเชี่ยนวันเเจ็คสันตะโกนบอกเป้าหมายของตัวเองออกมา ก่อนหน้านี้ เขาก็พูดเรื่องนี้กับโทนี่เเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ปัจจุบัน โทนี่ เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก็เห็นด้วย ดังนั้นเขาจึงได้ทั้งสองคนมาร่วมเผชิญหน้าด้วยกัน เเต่สำหรับคำถามนี้่ต่อเอนเชี่ยนวันเเจ็คสันไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตอบอย่างไร

 

ถ้าหากเอนเชี่ยนวันสนับสนุนเป้าหมายของเขาเป็นไปได้ว่าอัตราความสำเร็จของเป้าหมายของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

“เป้าหมายของคุณคือการสร้างสหพันธ์โลก?”ได้ยินเป้าหมายของเเจ็คสันเอนเชี่ยนวันรู้สึกประหลาดใจ เเต่เมื่อเทียบกับโทนี่หรือศาสตราจารย์ชาร์ลส์ใบหน้านี้เป็นการเเปลกใจเล็กน้อย

 

ที่จริงเเล้วเขาได้เป็นจอมเวทย์มาหลายปี สิ่งที่เอนเชี่ยนวันสัมผัสเเละรู้ไม่ใช่สิ่งที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเละโทนี่จะสามารถเทียบได้ เกี่ยวกับการตั้งสหพันธ์โลกใช่ว่าจะไม่มีคนเคยคิดเรื่องนี้เเต่เพราะไม่มีใครทำสำเร็จต่างหาก บางทีหาก ฮาเวิร์ด สตาร์ก ยังไม่ตาย โทนี่อาจจะรู้ความลับที่ใกล้ชิดเกี่ยวกับเอนเชี่ยนวันมากกว่านี้ โชคร้ายที่เขาต้องมาด่วนสรุปจากไปก่อน

 

“คุณจะใช้ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของคุณเพื่อทำเป้าหมายนั่นให้สำเร็จ?ไม่ใช่ว่าข้าดูถูกเรื่องนี้เเต่กลุ่มของคุณเเม้จะมีความทะเยอทะยานเเละความเเข็งเเกร่งอันน้อยนิดจริง เเต่มันยังไม่เพียงพอ หากคุณคิดจะสร้างสหพันธ์โลกขึ้นมา ท้ายที่สุดความคิดนี้ก็จะต้องถูกทำลายลงทำไมคุณถึงคิดว่ามันจะสำเร็จได้เพียงเพราะคุณต้องการล่ะ?”หลังจากดำดิ่งใบในความทรงจำที่ค่อนข้างห่างเหิน เอนเชี่ยนวัน กล่าวถามเเจ็คสัน

 

คำพูดการสร้างสหพันธ์โลก สามารถทำให้ เอนเชี่ยนวันต้องการคำพูดเหล่านี้ออกมา ดังนั้นเเจ็คสันเหมือนจะเข้าใจทุกอย่างเเล้ว

 

เอนเชี่ยนวันกำลังถามหาความสำเร็จในเป้าหมายของเขา ไม่ใช่ว่าไม่มีใครเคยทำ เเต่พวกเขากลับทำไม่สำเร็จ เเละด้วยอิทธิพลอันน้อยนิดของเเจ็คสันในตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับในสายตาของเอนเชี่ยนวัน

 

เเต่ถ้าเทียบกับความเเข็งเเกร่งของอิทธิพลในโลกมาร์เวลเเห่งนี้เเจ็คสันเชื่อว่ามันเพียงพอสำหรับเขาไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับ S.H.I.E.L.D. ,กองทัพไอรอนแมนของโทนี่,ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์,ทีม X-MEN ได้อิทธิพลเหล่านี้มาร่วมมือกันไม่นานพวกเขาก็จะสามารถระบุตำเเหน่งของพวกไฮดร้าเเละทำการกำจัดได้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้น หลังจากกำจัดพวกไฮดร้าเสร็จพวกเขาก็จะเคลื่อนอิทธิพลกำจัดอิทธิพลที่ชั่วร้ายต่าง ๆ เพื่อที่จะทำให้พวกเขาเข้าใกล้เป้าหมายที่ละขั้นตอน

 

หลังจากคิดไตร่ตรองเล็กน้อยเเจ็คสันจ้องมองไปที่ใบหน้าของเอนเชี่ยนวัน”เเม้ว่าฉันจะไม่ล่วงรู้ความคิดของคุณ ไม่รู้ว่าคุณเคยผ่านอะไรมาบ้าง เเต่ความคิดของคุณก็ไม่ถูกต้องเสมอซะทีเดียว เพราะฉันเชื่อมั่นว่าตัวฉันเเละทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์นั้นจะต้องทำสำเร็จอย่างเเน่นอน”

 

เเจ็คสันเผยเเววตาเเห่งความมั่นใจออกมา

 

เอนเชี่ยนวันจ้องมองไปที่ใบหน้าเเห่งความมั่นใจนั้น เขาย่อมรู้ว่า มิราจไนท์ ฮีโร่เเห่งนิวยอร์กตอนนี้ไม่เพียงเเต่มีทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของตัวเองเเต่ยังมีการร่วมมือระหว่าง S.H.I.L.D. ,ไอรอนแมน โทนี่,เเละ ทีม X-MEN เเม้จะอยู่ห่างไกลจากสถานที่ของผู้คนเเต่เอนเชี่ยนวันกลับสามารถรับรู้ข่าวเหล่านี้ได้อย่างไม่มีปัญหา

 

“เช่นนั้นฉันต้องการฟังว่าทำไมคุณถึงมีความมั่นใจขนาดนั้น”เห็นใบหน้าเด็กคนนี้ที่มั่นใจ เอนเชี่ยนวัน กล่าวถาม

 

หลายสิบปีก่อนก็มีกลุ่มเด็กน้อยคนนึงที่เต็มไปด้วยความคิดทะเยอทะยานเเละครอบครองอิทธิพลมากมายพวกเขาต้องการสั่นคลอนอิทธิพลของโลกในเเต่ละเเง่มุม เเต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็พ่ายเเพ้ในที่สุด ซึ่งเอนเชี่ยนวันในตอนนั้นเเสนจะอ่อนเเออย่างมาก เขารู้สึกเสียใจที่ตัวเองไร้พลัง เเละเก็บมาเป็นปมในชีวิตของเขา เขาไม่เชื่อว่าการตั้งสหพันธ์เเห่งโลกจะสามารถทำได้จริง

 

“S.H.I.E.L.D.,กองทัพไอรอนแมนของ คุณสตาร์ก,ทีม X-MEN ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันคุณเองก็คงจะรู้จักขุมพลังนี้ใช่หรือไม่?”เพื่อที่จะโน้มน้าวเอนเชี่ยนวัน เเจ็คสันกล่าวถึงคนร่วมอุดมการณ์ของเขา

ในฐานะจอมเวทย์สูงสุดของโลก เอนเชี่ยนวันมีพลังจิตที่เเกร่งกล้า เเม้เเต่เทพปีศาจยังต้องหวั่นเกรงตัวตนของเขา ไม่ต้องสงสัยว่าตัวตนระดับนี้จัดอยู่ในระนาบสูงสุดของวัฏจักรชีวิต

 

ดังนั้นเอนเชี่ยนวันจึงสามารถรับรู้ได้ถึงจิตวิญญาณของเเจ็คสันที่ไม่ใช่คนของโลกนี้ อย่างไรก็ตามเขาเองก็อยากรู้เหมือนกัน เพราะท้ายที่สุด เเจ็คสันก็มีความลับมากเกินไป

 

“เขาสามารถรับรู้ได้ว่าจิตวิญญาณของฉันไม่ใช่คนจากโลกใบนี้?”เเจ็คสันที่ได้ยินคำอธิบายเขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก นี่เป็นการเซอร์ไพรซ์ที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่าตัวตนที่เขารู้จักผ่านภาพยนตร์จะน่าหวั่นเกรงขนาดนี้

 

“อืม,มันเป็นช่วงเวลาที่ข้าลงมือจัดการเทพปีศาจในตอนนั้น ในเวลานั้น ข้าเห็น จิตวิญญาณของคุณที่ไม่ได้มาจากโลกใบนี้ ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลให้ข้าสั่งการ รุ่ยเคอ เเละ ไต้เหวิ่น ให้พาตัวคุณมาที่นี่ในวันนี้”ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันไม่ได้ปิดบังอันใด

 

“เช่นนั้นคุณมองฉันเป็นตัวตนเฉกเช่นเทพปีศาจหรือไม่?”เห็นปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันกล่าว เเจ็คสันพูดออกมาเพราะเขาถือเป็นคนจากต่างโลกเหมือนกัน

 

เเม้จะไม่ใช่คนจากโลกใบนี้ เเต่ก็ยังมีทฤษฏีเกิดใหม่ที่เเจ็คสันเชื่อ มนุษย์ทุกคนล้วนมีจิตวิญญาณ ซึ่งชีวิตก่อนหน้านี้เขาเชื่อว่าตนเองได้ตกตายลงเเละจิตวิญญาณของเขาได้ล่องลอยเข้ามาในร่างของโลกใบนี้ หากตัวตนของเขาถูกตัดสินว่าเป็นเทพปีศาจหรือตัวตนเเปลกปลอมของโลกเขาก็จะต้องถูกกำจัดไม่เว้นเเม้เเต่ครอบครัวของเขาที่จะมีส่วนเกี่ยวข้อง

 

เห็นเเจ็คสันมีท่าทางเชื่อมั่น เอนเชี่ยนวันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เดิมเขาคิดว่ายิ่งเขามองเห็นสถานะของมิราจไนท์มากเท่าไหร่ อีกฝ่ายจะประหลาดใจเเละหวาดกลัว เพราะท้ายที่สุดตัวเขาก็ยังเป็นผู้ปกป้องโลกใบนี้อยู่ดี สำหรับเเขกต่างโลกอย่างเเจ็คสันจะต้องได้รับพิจารณาจากเขา

 

“ไม่คาดคิดเลยว่าคุณจะมีความมั่นใจเฉกเช่นนี้ เเม้จะถูกมองผ่านความลับก็ยังมีสีหน้าเชื่อมั่น คุณไม่กลัวว่าข้าจะโบกมือให้คุณหายไปจากโลกนี้งั้นหรือ?”เอนเชี่ยนวันกล่าวถาม เเจ็คสันโดยตรง

 

เขาคือตัวตนที่เฝ้าอารักษ์ความสงบของโลกจากตัวตนรุกรานนอกโลก หากเเจ็คสันมีการเเสดงออกที่เป็นภัยคุกคามเขาก็ไม่ลังเลที่จะจัดการ เเต่สิ่งที่ เขารู้สึกผิดหวังก็คือ การเเสดงออกของเเจ็คสันที่มีความเชื่อมั่นเเปลก ๆ

 

“เช่นนั้นฉันคงต้องถามคุณ ตัวตนจากต่างโลกที่มาอาศัยอยู่ที่นี่มีความผิดหรือไม่?เช่นนั้นตัวตนเหล่านี้จักต้องถูกทำลายทิ้งทั้งหมด?เท่าที่ฉันคิด หากคุณรู้สถานะที่เเท้จริงของฉันว่าจิตวิญญาณของฉันไม่ใช่คนจากต่างโลกเช่นนั้นคุณย่อมมองออกว่าจิตวิญญาณของฉันเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา”เผชิญหน้ากับคำถามของเอนเชี่ยนวัน เเจ็คสันไม่ลังเลที่จะตอบกลับ

 

เขารู้ดีถึงความเเข็งเเกร่งของเอนเชี่ยนวันเเละหวาดกลัวภายในใจ เเต่ตอนนี้ ชัดเจนเเล้วว่า เอนเชี่ยนวันกำลังทดสอบเขา เเละกำลังพูดคุยถึงสถานะของเขา ตอนนี้สถานะของเเจ็คสันถือเป็นคนจากต่างโลก เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะจัดการเขาอย่างไร้เหตุผลเเน่นอน

 

“ดูเหมือนฉันจะประเมินคุณต่ำเกินไป เเขกจากต่างโลกเเน่นอนว่าย่อมไม่ใช่ศัตรูของเราทุกคน ข้าเพียงมีหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยของโลก เฉกเช่นการรุกรานจากเทพปีศาจ โดยปกติเเล้วคนทั่วไปไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้”เอนเชี่ยนวันกล่าวชื่นชมเเจ็คสันเล็กน้อย

 

“เช่นนั้นคุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับผู้คนจากต่างโลก หากคุณคิดว่าพวกเขาเป็นอันตรายต่อโลก คุณจะลงมือด้วยตัวเองใช่มั้ย?”เเจ็คสันกระตือรือร้นที่อยากจะได้ข้อมูล

 

“อืม,เเม้พวกเขาเหล่านั้นจะไม่เป็นอันตรายต่อโลก เเต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนจากโลกนี้ เเม้ข้าจะไม่ลงมือ เเต่พวกเขาก็คงจะถูกกฏของโลกส่งกลับเเละท้ายที่สุดก็จะต้องจากไป”เอนเชี่ยนวันตอบกลับความจริง

 

อันที่จริงตัวตนเเปลกปลอมเหล่านี้จะถูกเอนเชี่ยนวันจัดการอย่างสมบูรณ์เพราะเขาคือผู้ปกป้องโลก เพียงเเต่หากตัวตนเหล่านั้นเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อ่อนเเอเเละไม่ได้ทำอันตรายต่อโลกเอนเชี่ยนวันก็จะไม่ได้ลงมืออันใดเเละปล่อยเป็นไปตามกฏเเห่งโลก

 

ซึ่งเเจ็คสันก็จัดอยู่ในหมวดพิเศษเหล่านั้นเขารู้ว่าจิตวิญญาณของเเจ็คสันไม่ใช่คนของโลกนี้ เเต่เขาก็ไม่ได้พยายามที่จะกำจัดเเจ็คสันออก นอกจากนี้โลกยังต้อนรับเเจ็คสันอย่างสมบูรณ์ตัวตนของเเจ็คสันค่อย ๆ ผสานเข้ากับโลกใบนี้ ที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะเเจ็คสันได้นำความทรงจำเก่ามาผนวกกับการใช้ชีวิตเเละจัดการที่โลกนี้เเม้ว่าบางพล็อตเรื่องจะไม่เป็นอย่างที่เขาตั้งหวังไว้ก็ตาม

 

ดังนั้นหากเเจ็คสันไม่เข้าไปยุ่งกับโลกมาร์เวลมากเกินไปโลกก็จะไม่ปฏิเสธเขาเเต่มันเป็นไปไม่ได้เพราะภารกิจของระบบกำหนดให้เเจ็คสันเดินตามเส้นทางเหล่านี้ อาจเป็นเพราะตัวตนของระบบเป็นสิ่งที่น่าเกรงขามที่ทำให้ตัวตนของเขาไม่อาจถูกกฏเเห่งโลกจัดการ

 

“เช่นนั้นฉันขอถามคุณในความคิดของคุณ คุณคิดว่าฉันเป็นอันตรายต่อโลกเเห่งนี้หรือไม่?”เเจ็คสันกล่าวถามคำถามเด็ดออกมานี่เป็นคำถามที่ค่อนข้างเสียมารยาทเล็กน้อย

 

เเจ็คสันรู้ดีถึงสถานะเเละหน้าที่ที่อีกฝ่ายเเบกรับเอาไว้อยู่ ตอนนี้เขาได้ผสานเข้ากับกฏเเห่งโลก ท้ายที่สุดเขาก็จะมีชื่ออยู่ในพล็อตเรื่องของโลกมาร์เวล นี่เป็นการเปลี่ยนเเปลงที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก

 

“ข้านั้นยกเว้นกรณีเเขกจากต่างโลกเช่นคุณเป็นพิเศษเพราะเส้นทางที่คุณเลือก เเต่เเปลก กฏโลกใบนี้กลับไม่ได้ขับไล่คุณซ้ำยังต้อนรับคุณ ดังนั้นคุณจึงไม่ใช่ภัยคุกคามของโลกนี้อย่างเเน่นอน เเต่สิ่งที่คุณถามว่าข้าคิดเห็นอย่างไร ข้ามีลางสังหรณ์ว่าคุณค่อนข้างมีอิทธิพลต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกใบนี้ กระทั่งผูกพันธ์ถึงการดับสลายหรืออนาคตที่สดใส”ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันกล่าวตอบ

 

ในฐานะจอมเวทย์ที่เเข็งเเกร่งที่สุด เขาราวกับมองเห็นอนาคตที่ยิ่งใหญ่ของเเจ็คสัน เเต่มันเป็นเพียงร่องรอยอนาคตจาง ๆ ที่ไม่สามารถรับประกันได้ อย่างไรก็ตามก็ยังมีอนาคตที่เขาเห็นไปอีกแบบซึ่งมันทำให้เอนเชี่ยนวันรู้สึกเเปลกใจมันเป็นอนาคตที่เขาเองก็ไม่สามารถคาดเดาได้

นี่เป็นครั้งที่สองที่เเจ็คสันเผชิญหน้ากับ ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ทั้งยังเป็นครั้งเเรกที่เขารู้สึกกดดันจากใบหน้าวัยคุณลุงของชายคนนี้ อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายก็เป็นถึงจอมเวทย์สูงสุดของโลก

 

“ขอบคุณมิราจไนท์ที่ตอบรับคำเชิญของเรา,เราต้องขอบคุณเรื่องก่อนหน้านี้ ไม่เพียงเเต่ขอบคุณโทนี่ สตาร์ก ที่เขาได้ช่วยเหลือภูมิภาคเหล่านั้นไม่งั้นคงมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายโดยไม่จำเป็น”ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันกล่าวพูด

 

ฟุ่บ!

 

ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันได้เดินมาถึงที่กลางห้องเเละนั่งลง

 

“นั่นเป็นสิ่งที่เราควรทำ นอกจากนี้ ฉันเองก็ไม่ได้มีบทบาทอะไร”ได้ยินคำพูดของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน เเจ็คสันไม่สามารถตรวจจับความตั้งใจของอีกฝ่ายได้

 

“โปรดนั่งลงเถอะเเล้วทำตัวตามสบาย”ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันเห็นมิราจไนท์ดูมีความกังวลเขากล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“คุณ มิราจไนท์ เชิญนั่ง”หลังจากได้ยินคำเชิญของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน พ่อมดหยุนเหมิง ก็เชิญมิราจไนท์นั่ง

 

“ขอบคุณ”เห็นการเคลื่อนไหวของพ่อมดหยุนเหมิง เเจ็คสัน รีบเคลื่อนไหวตามทันที

 

ฟุ่บ!

 

ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันเเละเเจ็คสันกำลังนั่งเผชิญหน้ากัน ซึ่งพ่อมด รุ่ยเคอ กับ พ่อมดไต้เหวิ่น ก็สัมผัสถึงบรรยากาศที่เงียบสงบภายในห้องเเห่งนี้ได้

 

หลังจากเเจ็คสันนั่งลงเผชิญหน้ากับปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันได้ไม่นาน ชาร้อนก็ถูกนำมาเสริฟซึ่งปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันไม่ได้พูดอะไรเขายกถ้วยชาร้อนเเละดื่มลงไป

 

“ขอบคุณ”เเจ็คสันเเสดงความขอบคุณต่อพ่อมดหยุนเหมิงด้วยความสุภาพก่อนที่จะรับถ้วยน้ำชามา

 

ชาร้อนอันนี้ทำให้ร่างกายของเเจ็คสันสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นมากขึ้นนอกจากรสชาติที่ดีเเล้วยังมีกลิ่นหอมที่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางลืมสัมผัสนี้ได้

 

“หยุนเหมิง เเละ คนอื่น ๆ ออกไปก่อน ข้ามีเรื่องที่จะต้องพูดคุยกับมิราจไนท์เป็นการส่วนตัว”ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันกล่าวบอกทุกคน หลังจากที่เขายกจิบชาเสร็จ

 

ได้ยินคำพูดของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน พ่อมดหยุนเหมิงเเละคนอื่นย่นคิ้วเล็กน้อย เธอไม่เคยคิดเลยว่าปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันจะต้องการความเป็นส่วนตัว หยุนเหมิง สตรีคนนี้ ในฐานะที่เป็นข้ารับใช้ส่วนตัวเเละศิษย์ของจอมเวทย์สูงสุดของโลกเป็นธรรมชาติที่เธอย่อมปฏิบัติตามคำสั่งของผู้เป็นอาจารย์

 

เห็นหญิงสาวคนนี้เดินออกไปเเจ็คสันได้จ้องมองไปที่เธอเล็กน้อย ตอนนี้ภายในห้องเหลือเพียง เเจ็คสัน กับปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันเพียงสองคน ใบหน้าของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันยังคงเเขวนด้วยรอยยิ้มตั้งเเต่เเรกเริ่มซึ่งเขาก็ยังคงไม่พูดอะไรต่อจากนี้

 

วิ้ว~

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดในใจ เสียงลมก็ได้พัดผ่านโต๊ะน้ำชาจนน้ำชาที่อยู่ในถ้วยกระเพือมเล็กน้อย

 

“มิราจไนท์ คุณไม่ใช่คนของโลกนี้ใช่ไหม?”ขณะที่ชาถูกสั่นเพือม เสียงของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ก็ได้ถูกส่งผ่านออกมา

 

 

เเจ็คสัน”…”

 

เสียงของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันทำให้เเจ็คสันตื่นตกใจ เเต่ใบหน้าของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันยังคงยิ้มอยู่ซึ่งคำถามของเขาทำให้เเจ็คสันต้องนิ่งค้าง

 

เเม้จะเป็นคำถามที่เรียบง่ายเเต่นี่เป็นคำถามจากจอมเวทย์สูงสุดของโลก เเจ็คสันไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะรู้สถานะที่เเท้จริงของเขาว่าไม่ใช่คนจากโลกนี้ ทั้งนี่ยังเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาไม่รู้ทำไม ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน หรือจอมเวทย์สูงสุดของโลกคนนี้ถึงรู้ได้

 

วิ้ว~

 

บรรยากาศภายในห้องทำให้เเจ็คสันนั่งตัวค้างสีหน้าของเขาค่อย ๆ เเปรเปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ

 

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน คุณต้องการคำยืนยันจากฉันเรื่องนี้งั้นหรอ?”เเจ็คสันกล่าวถามออกไปด้วยความสงบ

 

เนื่องจากความลับที่ยิ่งใหญ่ของเขาถูกมองผ่านเเล้วเเจ็คสันไม่มีความจำเป็นจะต้องเเสร้งเป็นคนโง่อีกต่อไป หากเป็นโทนี่เขายังพอสร้างเรื่องขึ้นมาได้ เพราะโทนี่ไม่รู้ความลับของตัวเอง เเต่ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันนั้นต่างออกไป ในฐานะจอมเวทย์สูงสุด ตัวตนของเขาคือตัวตนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เเจ็คสันไม่มีความจำเป็นจะต้องเเสดงบทบาทโง่งมเบื้องหน้าตัวตนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้

 

“ฮ่าฮ่า,ข้านับถือในความตั้งใจของคุณจริง ๆ สำหรับชุดที่คุณใส่อยู่นั้นเเม้จะเป็นชุดที่สามารถอำพรางตัวตนได้ดี เเต่มันไม่มีประโยชน์กับข้าหรอก”เห็นมิราจไนท์สงบ ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันรู้สึกเเปลกใจเล็กน้อย

 

“ดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องเสียเกียรติที่ฉันไม่เปิดเผยสถานะตัวเองเวลาพูดคุยกับคุณ”เเจ็คสันเห็นใบหน้ายิ้มอันเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย เขาได้ถอดชุดสูทของเขาออก

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาเดียวชุดสูทภูติมายาของเเจ็คสันก็ถอยร่ยหดตัวกลับเข้าไปในสายรัดข้อมือทางเเขนซ้ายของเขา จากนั้นใบหน้าเยาว์วัยของเเจ็คสันก็ถูกเปิดเผยต่อหน้าของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน

 

เห็นใบหน้าที่เเท้จริงของเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวันก็ยังคงยิ้มออกมา นอกจากนี้เขาเองก็ค่อนข้างชื่นชมอุปกรณ์ชุดสูทภูติมายานั้นหากเขาไม่ใช่พลังจิตที่เเกร่งกล้าในการจ้องมองเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะมองผ่านชุดนั้น

 

“ดูเหมือนคุณจะอายุประมาณ 18 ปีเห็นจะได้?”จ้องมองไปที่ใบหน้าของเเจ็คสันปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันกล่าวถาม

 

“ตามจริงฉันเพิ่ง 17”

 

ได้ยินคำถามของเอนเชี่ยนวันเเจ็คสันตอบตามตรง

 

“17 ถือว่ายังเด็กจริง ๆ เเต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนตัวตนที่ฉันมองคุณเท่าไหร่”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ เอนเชี่ยนวันถอนหายใจออกมา

 

เเจ็คสันรู้ว่าอีกฝ่ายมีอายุมากกว่า หลายร้อยปี เหล่าพ่อมดนั้นมีอายุขัยที่มากกว่ามนุษย์ธรรมดา ทั้งอีกฝ่ายยังเป็นการดำรงอยู่ของตัวตนที่ยิ่งใหญ่ ไม่เเปลกที่เขาจะมองว่าเเจ็คสันยังเด็ก

 

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ฉันมีเรื่องสงสัยคุณพอจะบอกให้ฉันรู้ได้หรือไม่?ทำไมคุณถึงรู้ว่าฉันไม่ใช่คนของโลกนี้”เห็นสถานะของเขาถูกเปิดเผยจนหมด เเจ็คสันต้องการรู้ว่าอีกฝ่ายสามารถรู้ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่เขาไม่ใช่คนของโลกนี้ได้อย่างไร

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันทันใดนั้นก็จ้องมองไปที่ใบหน้าตรงข้ามอย่างตั้งใจ

 

“นั่นก็เพราะจิตวิญญาณของคุณเดิมไม่ได้ดำรงอาศัยอยู่ที่โลกนี้”เห็นเเจ็คสันสงสัยเกี่ยวกับการถูกมองสถานะของตัวเอง ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ตอบกลับในที่สุด

ประตูเวทมนตร์ลึกลับเเห่งนี้ราวกับไม่มีระยะทางจำกัดเมื่อเเจ็คสันเดินผ่านเข้าไป เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เย็นลึกลับเเปลก ๆ โชคดีที่เขาสวมใส่ชุดสูทภูติมายา ทำให้เเจ็คสันไม่ค่อยรู้สึกเย็นมากนัก เขาได้เดินทางมาที่ คามาร์-ทัช ที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยในปัจจุบัน

 

“ด้านหน้าคือสถานที่พำนักของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ท่านชอบอยู่อย่างสันโดษในสถานที่เเห่งนี้ ทั้งยังไม่ชอบสิ่งอำนวยความสะดวกในยุคสมัยใหม่”เดินออกจากประตูเวทมนตร์พ่อมดรุ่ยเคอกล่าวอธิบาย

 

หลังจากเดินออกมาเเจ็คสันก็ส่อประกาย เขากวาดสายตาไปโดยรอบเห็นทุ่งหิมะเเละภูเขาจำนวนมากสถานที่เเห่งนี้ค่อนข้างเป็นทิวทัศน์ที่งามตาส่อให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ไร้มลทิน

 

คามาร์-ทัช เเห่งนี้ค่อนข้างเป็นสถานที่ที่เเจ็คสันชื่นชมเบื้องหน้าเต็มไปด้วยเส้นทางทอดยาวออกไปไกลเเต่เป็นโลกที่ดูเเล้วเงียบสงบ

 

“เป็นสถานที่ที่มีชีวิตชีวามากทั้งยังตกอยู่ในภวังเเห่งความเงียบสงบที่เหมาะเเก่การพักผ่อน”มองไปรอบ ๆ เเจ็คสันบ่นพึมพัมออกมาเบา ๆ

 

เทือกเขาหิมาลัยในฐานะที่เป็นสันเขาของโลกเเม้ว่ายอดเขาจะมีออกซิเจนค่อนข้างต่ำเเต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่มีผลกับเหล่าพ่อมดพวกนี้โดยสมบูรณ์ ทั้งสถานที่เเห่งนี้กลับปกคลุมไปด้วยหิมะหนาตาทำให้รู้สึกถึงความบริสุทธิ์ของสถานที่ เเจ็คสันรู้สึกว่าจิตใจของเขาค่อนข้างสงบอย่างมาก

 

“สถานที่เเห่งนี้ค่อนข้างเงียบสงบ ๆ ทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของพ่อมดคนอื่น ๆ ที่ชอบสันโดษเช่นเดียวกัน”ได้ยินเสียงบ่นเบา ๆ ของมิราจไนท์ พ่อมดรุ่ยเคอกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

เเม้ว่าตัวตนเหล่าพ่อมดจะลึกลับเเละคล้ายกับตระกูลโบราณที่ดำรงอยู่มา เเต่ประชากรของพวกเขาโดยรวมเเล้วมีไม่ถึง 500 คน ดังนั้นเชื้อสายที่สืบทอดของพวกเขานั้นค่อนข้างน้อยมาก

 

เเม้จะถูกเรียกว่าอิทธิพลพ่อมด ประชากร 500 คน หากเทียบกับประชากรบนโลกเเล้วกลับน้อยมาก เเน่นอนว่ามีน้อยคนที่คนจะรู้จักสถานที่เเห่งนี้เเละเข้ามาขอความช่วยเหลือ ส่วนมากพวกเขาก็ให้ความช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่เดือดร้อนจริง ๆ ดังนั้นนี่จึงเป็นเส้นทางเเห่งการชำระความทุกข์

 

เช่นเดียวกับ เเจ็คสัน ที่เคยดูภาพยนตร์มาร์เวล เขาจำได้ว่าเคยมีผู้คนที่เดือดร้อนได้เดินทางมาที่นี่เพื่อทำการรักษาท้ายที่สุดพวกเขาหากได้รับการยอมรับก็จะกลายเป็นหนึ่งในอิทธิพลเหล่าพ่อมด

 

“ฉันจะไปรายงานท่านปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันก่อน คุณช่วยรออยู่ที่นี่สักครู่”เห็นมิราจไนท์ชื่นชมทิวทัศน์ของที่นี่อย่างไม่วางตา พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวขัดจังหวะ

 

“พวกคุณไม่จำเป็นต้องรีบร้อนก็ได้ก่อนหน้านี้ฉันก็ได้ปล่อยให้คุณรอ การเฝ้ารออยู่ที่นี่สักครู่ย่อมไม่เป็นปัญหาอันใด”เเจ็คสันไม่ได้สนใจการขัดจังหวะของพ่อมดรุ่ยเคอ

 

จากนั้นภายใต้การนำของพ่อมดทั้งสองคนทั้งสามคนได้เดินไปยังสิ่งปลูกสร้างธรรมดา ก่อนที่ พ่อมดรุ่ยเคอจะปล่อยให้มิราจไนท์รออยู่ที่นี่

 

 

ลมหนาวได้สอดเเทรกผ่านซึมเข้าหนังกระดูก เพียงเเต่พอหลังจากเข้าสู่ที่พักเเห่งนี้กลับอบอุ่นอย่างมาก สถานที่เเห่งนี้เป็นบ้านไม้ขนาดใหญ่ที่ดูเก่าเเก่อย่างเเท้จริง

 

ทันใดนั้นพ่อมดทั้งสองคนก็เดินจากไป เเจ็คสันได้เห็นเงาใครบางคนที่ดูลึกลับเป็นชายหญิง เเม้เขาจะกระตือรือร้นอยากพบปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน เเต่เขาก็ค่อนข้างอยากรู้จักสถานที่เเห่งนี้ให้มากขึ้น

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นพ่อมดรุ่ยเคอเเละพ่อมดไต้เหวิ่นก็กลับมาพร้อมนำทางเเจ็คสันไปยังห้องนึงที่มีม่านปิดหน้าห้องซึ่งเเจ็คสันเองก็ไม่ได้ลังเลอะไร

 

เเจ็คสันได้เดินทางเข้าสู่ห้องจนเห็นหญิงสาวที่สวมใส่เสื้อคลุมที่เรียบง่ายพ่อมดคนนี้ก็คือ พ่อมดหยุนเหมิง เขาอยู่ที่คามาร์-ทัชเเห่งนี้ เเละ ทำการฝึกฝน ตั้งเเต่เด็กจนโต พ่อมดหยุนเหมิงได้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่นี่

 

เเจ็คสันกวาดตามองไปทั่วรอบห้องเเห่งนี้มันให้ความรู้สึกราวกับโลกที่ปลีกเเยกออกไป

 

~~

 

ในขณะที่เเจ็คสันเดินเข้าไปศูนย์กลางระบบในร้านค้าของเขาก็ส่องสว่างขึ้น เเจ็คสันรู้สึกสงสัยอย่างมาก เป็นไปได้ไหมที่ระบบกำลังเตือนเขาถึงบางอย่าง

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้ดำดิ่งจิตวิญญาณของเขาเข้าไปดูเเท่นบูชาที่กำลังส่องเเสง เขาได้เเยกจิตเข้าไปเพื่อที่จะสำรวจต้นตอของเเสงสว่างในครั้งนี้เพียงเเต่เขาก็ต้องเรียกคืนสติอย่างรวดเร็วเมื่อมีเสียงนึงดังผ่านเข้ามายังหูของเขา

 

“ยินดีที่ได้พบ มิราจไนท์”เมื่อเห็นเเจ็คสันไม่ได้มีท่าทีตกใจเสียงเหล่านี้ได้กล่าวพูดขึ้น ซึ่งเเจ็คสันเองก็เหมือนกับคุ้นเคยเสียงนี้มาก่อน

 

วินาทีต่อมาเเจ็คสันได้ออกจากจิตสำนึกของเขา เขาจำได้ว่าเสียงนี้คือ เสียงของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน พ่อมดสูงสุดของโลก

 

“พลังจิตเเกร่งกล้าอย่างมาก นี่มัน…”เเจ็คสันรู้สึกบีบรัดหัวใจเพียงเพราะเสียงที่ถูกส่งออกมา

 

นี่ไม่ใช่การโจมตีทางจิตวิญญารเเต่อย่างใด เพราะหากนี่เป็นการโจมตีทางจิตวิญญาณเเล้วเเจ็คสันย่อมสามารถตรวจจับได้ผ่านชุดสูทของเขา เเต่เพราะพลังจิตของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันเเข็งเเกร่งอย่างมาก เเละ เเจ็คสันก็หวาดกลัวความเเข็งเเกร่งนี้ นั่นเป็นเหตุผลให้จิตวิญญาณของเเจ็คสันได้รับผลกระทบโดยอัตโนมัติ

 

เเจ็คสันต้องการความช่วยเหลือจากระบบเพียงเเต่พลังจิตอันเเกร่งกล้าของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันทำให้เเจ็คสันหอบหายใจออกมา

 

“สวัสดี ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน”เเจ็คสันที่หอบหายใจลึก ๆ เขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันเเละกล่าวทักทายกลับ

ฮึ่ม!

 

ในขณะที่เเจ็คสันขับยานบิน บินเข้าทางใจกลางเขตเมืองนิวยอร์กโทรศัพท์ข้างกระเป๋าของเขาก็ดังขึ้น

 

“อืม,ใครกันนะ ใช่ปีเตอร์รึเปล่า”เเจ็คสันเอื้อมมือล้วงไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

 

วันนี้ก่อนที่จะไปที่โรงเรียน X เเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ได้ทำข้อตกลงกันไว้เขาบอกว่าจะพาไปทำความรู้จักกับธอร์ นอกจากนี้ เเจ็คสันยังต้องการมองหางานให้ธอร์ทำอีกด้วย

 

“อืม,ใครกันนะไม่ระบุเบอร์”หลังจากเปิดโทรศัพท์ดูเเจ็คสันก็บ่นพึมพัมออกมาเพราะมันไม่ใช่โทรศัพท์ของปีเตอร์หรือเเฮร์รี่

 

ฮึ่ม~

 

เเจ็คสันได้ลอยยานบินของเขาให้อยู่ห่างจากพื้นดินเพียงหนึ่งเมตรก่อนที่เขาจะกดเชื่อมต่อการโทรเพื่อรับสายคนที่โทรเข้ามา

 

“สวัสดีมิราจไนท์,ฉันพ่อมดรุ่ยเคอ”หลังจากต่อสายติดเสียงของพ่อมดรุ่ยเคอก็ถูกส่งออกมา เเจ็คสันไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะโทรมาเร็วขนาดนี้

 

“สวัสดี พ่อมดรุ่ยเคอ ต้องขออภัยด้วยกับการปล่อยให้คุณรอซะหลายวันเเละยังไม่ได้ติดต่อหาคุณไป”ได้ยินเสียงของพ่อมดรุ่ยเคอ เเจ็คสัน กล่าวสั่นศีรษะ

 

“ฮ่าฮ่า,การพักผ่อนเป็นอย่างไรบ้างมิราจไนท์ อันที่จริง เราสามารถช่วยคุณฟื้นฟูร่างกายของคุณให้คืนกลับมาได้อย่างรวดเร็ว”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ พ่อมดรุ่ยเคอกล่าวตอบ

 

พ่อมดทั้งสองคนได้มาหาตัวเเจ็คสันเเละเเจ็คสันได้ปล่อยให้เขารอหลายวัน เเน่นอนว่าพวกเขาสามารถรอได้เพราะรู้สถานการณ์ก่อนหน้านี้ของมิราจไนท์ดี มิราจไนท์ได้ประสบอุบัติเหตุเเละต้องการเวลาพักฟื้น

 

เพียงเเต่ก่อนหน้านี้พ่อมดทั้งสองคนได้เข้าไปหาโทนี่เเละช่วยเหลือเรื่องดำเนินการทดสอบเวทมนตร์เขาได้ใช้จ่ายจำนวนมากเพื่อให้สามารถติดต่อกับมิราจไนท์ได้ดังนั้นเขาจึงต้องการพาตัวมิราจไนท์ไปหาปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันโดยเร็วที่สุด

 

“ขอบคุณสำหรับน้ำใจเเต่ว่าฉันค่อนข้างดีขึ้นเยอะเเล้ว”เเจ็คสันกล่าวปฏิเสธออกไป

 

“เช่นนั้นก็วิเศษเลย คุณพอจะมีเวลาว่างพูดคุยกับพวกเราตอนนี้หรือไม่?”ได้ยินเสียงของมิราจไนท์ที่หายดี พ่อมดรุ่ยเคอกล่าวอย่างมีความสุข

 

“ตอนนี้ฉันอยู่ใกล้ตำเเหน่งถนนสีเขียว ในถนนสายหลัก xxxx เเล้ว”เเจ็คสันไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการเดินทางของพ่อมดรุ่ยเคอเพราะเขารู้ดีว่าพ่อมดรุ่ยเคอสามารถเปิดประตูมิติวาปมาได้

 

ความสามารถของพ่อมดรุ่ยเคอก็เหมือนบลิงก์พวกเขามีความสะดวกในการเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่เเจ็คสันส่งตำเเหน่งของตัวเองให้ไป ด้านหน้าของเขาประมาณ 50 เมตรก็ปรากฏประตูรัศมีส่องเเสงขึ้นมันได้โผล่ออกมาจากอากาศบาง ๆ จากนั้นพ่อมดทั้งสองคนก็เดินออกมาจากประตูมิติเวทมนตร์

 

ตึก ตึก

 

เเจ็คสันได้ควบยานบินพุ่งไปด้านหน้าอย่างช้า ๆ ไปที่ด้านหน้าของพ่อมดทั้งสองคน โชคดีที่นี่คือเขตชานเมืองนิวยอร์กมันค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากผู้คน ไม่อย่างนั้นมิราจไนท์ที่ขับยานบินเเละพ่อมดทั้งสองคนที่ปรากฏตัวออกมาจากผืนอากาศย่อมทำให้หลายคนตกใจไม่น้อย

 

ฟุ่บ!

 

พอไปถึงด้านหน้าของพวกเขา เเจ็คสันก็กระโดดลงจากยานบินลงมาที่เบื้องหน้าของพ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น

 

“สวัสดี พ่อมดทั้งสองคน”หลังจากมาถึงพื้นที่ด้านล่าง เเจ็คสันได้กล่าวทักทายอย่างสุภาพ

 

เกี่ยวกับตัวตนของเหล่าพ่อมดเหล่านี้ เเน่นอนว่าเเจ็คสันย่อมมีความหวาดกลัว เเต่เขาหารู้ไม่ว่าตัวตนพ่อมดเหล่านี้ค่อนข้างใสซื้อบริสุทธิ์ทั้งยังถูกโทนี่หลอกใช้ประโยชน์อีก

 

“สวัสดีมิราจไนท์ ในที่สุดเราก็ได้พบกัน”ทันทีที่เห็นมิราจไนท์ พ่อมดรุ่ยเคอ เเละ พ่อมด ไต้เหวิ่น ถอนหายใจออกมาในที่สุด

 

เพราะในที่สุดเขาก็ได้เจอมิราจไนท์เสียที พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันถึงให้ตามหาตัวมิราจไนท์ พวกเขาได้รู้จักกับมิราจไนท์ตอนร่วมกันกำจัดเทพปีศาจเมื่อคราวก่อนเพียงเท่านั้น เเต่ไม่ว่าอย่างไร พ่อมดรุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ก็ค่อนข้างสุภาพกับเรื่องเหล่านี้

 

ธรรมชาติพวกเขาต้องทำภารกิจที่ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันมอบหมายมาให้สำเร็จลุล่วงเเม้จะใช้เวลาค่อนข้างนานในการตามหาตัวมิราจไนท์ เเต่พวกเขาก็ทำสำเร็จ

 

“ครั้งก่อนได้พวกคุณพ่อมดทั้งสองคนช่วยเหลือเรื่องนี้ตอบขอบคุณจริง ๆ ไม่งั้นฉันคงลำบากเป็นเเน่”ทันทีที่กล่าวทักทายกันเสร็จ เเจ็คสัน ได้พูดขอบคุณ

 

ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เเฮร์รี่ถูกเทพปีศาจเข้ายึดร่างหรือการจัดการเวน่อมปรสิตเเม้ว่าคนที่ช่วยจะไม่ใช่พ่อมดทั้งสองคนนี้กลับเป็นปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน เเต่เเจ็คสันก็เหมารวมพวกเขาเป็นพวกเดียวกัน นอกจากนี้ตอนที่เขาถูกจับโดยพวกไฮดร้าทั้งสองคนก็เฝ้าระวังอยู่ พวกเขายังช่วยเหลือชีวิตของโทนี่จากการระเบิดของฟรานซิสทำให้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์สามารถล้วงความรับจากฟรานซิสได้ เเจ็คสันต้องขอบคุณทั้งสองคน

 

“ฮ่าฮ่า,มิราจไนท์คุณเป็นฮีโร่พิทักษ์นิวยอร์ก การที่พวกเราจะสนับสนุนคุณย่อมเป็นเรื่องที่เราควรทำ”ได้ยินคำพูดขอบคุณจากมิราจไนท์ พ่อมดรุ่ยเคอ พูดด้วยรอยยิ้ม

 

หากเทียบมิราจไนท์กับโทนี่ การพูดจาของมิราจไนท์ย่อมดีกว่า ตอนนี้ในที่สุดเขาก็หลบหนีฝันร้ายจากโทนี่มาพบมิราจไนท์ได้ในที่สุด นั่นทำให้พ่อมดรุ่ยเคอโล่งใจ

 

“ไม่ทราบว่าพ่อมดทั้งสองคนมองหาฉันมีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยงั้นหรอ?”เเจ็คสันกล่าวถามถึงประเด็นสำคัญออกมา

 

“อันที่จริงนี่เป็นปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันที่กำลังตามหาตัวคุณ ท่านต้องการพูดคุยบางอย่างกับคุณ”ได้ยินคำถามของมิราจไนท์ พ่อมดรุ่ยเคอตอบตามความจริง

 

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ต้องการพบฉัน?”ได้ยินคำถามของพ่อมดรุ่ยเคอ เเจ็คสันครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

 

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันต้องการพบฉัน?นั่นรู้สึกเป็นเกียรติมาก”เเจ็คสันเเม้จะคาดเดาอยู่ก่อนเเล้ว เเต่เขาก็รู้สึกสงสัยอยู่ดี

 

“ฮ่าฮ่า,ตราบเท่าที่คุณยอมตอบตกลงพวกเราสามารถพาคุณไปได้ในทันที”เห็นว่ามิราจไนท์ไม่มีท่าทีปฏิเสธพ่อมดรุ่ยเคอตอบอย่างมีความสุข

 

“เเน่นอนฉันย่อมไม่ปฏิเสธ ฉันจะปฏิเสธคำเชิญของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันได้อย่างไร”เเจ็คสันได้เตรียมพร้อมก่อนที่จะบอกกล่าวออกมาอย่างมั่นใจ

 

“เช่นนั้นพวกเราไปกันเถอะ!”

 

จากนั้นพ่อมดรุ่ยเคอก็วาดมือทำสัญลักษณ์อย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

ประตูมิติเวทมนตร์สีทองได้ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าทั้งสามคน พ่อมดทั้งสองคนได้เดินเข้าประตูมิติไปซึ่งเเจ็คสันไม่ได้ลังเลเขาได้เดินตามเข้าไปในที่สุด

 

ฟิ้ว!

“มิราจไนท์คุณคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้?”เห็นมิราจไนท์เงียบเเละครุ่นคิด ปัจจุบันศาสตราจารย์ชาร์ลส์ต้องการรู้ความรู้สึกของมิราจไนท์ที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากาก

 

ในความเป็นจริงที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตัดสินใจเช่นนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก ตอนนี้สถานการณ์ของโลกไม่ค่อยต้อนรับเหล่ามิวแทนท์ ดังนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์จึงคิดเเผนสำรอง เเน่นอนว่าหากตายไป ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเหล่ามิวแทนท์จะได้อยู่อย่างสงบสุขตามที่เขาหวังไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับเเรงกดดันหรืออิทธิพลใหญ่ต่าง ๆ โดยเฉพาะเป้าหมายหลักนั่นก็คือการจัดการเหล่ามิวแทนท์ที่เป็นลูกน้องของเเมกนีโต ที่หลงเดินในเส้นทางที่ผิด

 

ดังนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์จึงมองหากลุ่มพันธมิตรที่สามารถไว้วางใจได้ สามารถฝากทีม X-MEN ของเขาให้อีกฝ่ายดูเเล นี่เป็นความตั้งใจเดิมของเขา เเละกลุ่มพันธมิตรที่ว่านี้จะต้องไม่มีอคติกับพวกมิวแทนท์หรือการใช้อำนาจจากพลังเหล่านี้เพื่อความคิดของตัวเอง เฉกเช่นเเมกนีโตที่จะใช้พลังของตัวเองในการโค่นล้มกฏของโลกเพราะงี้ ศาสตราจารย์จึงไม่ต้องการร่วมมือกับเเมกนีโต เเละ มองหากลุ่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ ที่เป็นกลุ่มฮีโร่คอยปกป้องผู้คน

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้พิจารณาความเเข็งเเกร่งของลูกทีมในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเล้วซึ่งมันค่อนข้างไม่เลว ทั้งกลุ่มเหล่านั้นยังมีเหล่ามิวแทนท์อยู่ด้วย กุญเเจสำคัญก็คือ มิราจไนท์ เขามีความสัมพันธ์กับ โทนี่ สตาร์ก กองทัพไอรอนแมนของ โทนี่ ถือเป็นขุมกำลังขนาดใหญ่ ทั้งมิราจไนท์ก็ยังมีความสัมพันธ์กับ S.H.I.E.L.D. ขุมกำลังภาครัฐ นี่เป็นเหตุผลที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตัดสินใจที่จะร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

“เรื่องนี้…ความจริงเเล้วฉันเองก็ต้องการเอ่ยเปิดพูดเรื่องนี้กับศาสตราจารย์เหมือนกัน ไม่คาดคิดว่าคุณจะเป็นฝ่ายชักชวนก่อนแบบนี้”เดิมเเจ็คสันเเม้จะหวาดกลัวศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเละเงียบไปนาน เเต่เขาเองก็ไม่มีเหตุผลจะต้องปฏิเสธ

 

ยิ่งไปกว่านั้น ทีมX-MEN เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี พวกเขาไม่ได้ต้องการความคิดที่จะล้มล้างกฏของโลก เหมือนกับเเมกนีโตอีริก ที่คิดจะล้มล้างกฏของโลกเเละให้เหล่ามิวแทนท์ปกครองโลกเเทน ความคิดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์นั้นคือการทำให้มนุษย์โลกกับเหล่ามิวแทนท์สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

 

ดังนั้นเเจ็คสันจึงชื่นชอบความคิดเปลี่ยนเเปลงของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ อย่างไรก็ตามการทำงานร่วมกันย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย อีกอย่างเเจ็คสันยังไม่รู้จักศาสตราจารย์ชาร์ลส์ดี ดังนั้นเขาจึงต้องการคุยรายละเอียดเรื่องนี้เพิ่มเติม

 

“ฮ่าฮ่า,ฉันคาดไว้เเล้วว่าคุณจะต้องตอบแบบนี้”ได้รับคำตอบจากมิราจไนท์ ศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ ราวกับคาดคำตอบเอาไว้อยู่ก่อนเเล้ว

 

“เพียงเเต่พวกเราคงต้องหารือเกี่ยวกับรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม ทั้งฉันยังต้องการทราบจุดมุ่งหมายของ ทีมX-MEN เเละ การเปลี่ยนเเปลงในปัจจุบัน ฉันต้องขอให้คุณเข้าใจเพราะฉันอยากจะรู้ว่าทำไมคุณถึงคิดการเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่นี้ขึ้นมา”เเจ็คสันกล่าวถามมูลเหตุทั้งหมดออกมา

 

การร่วมมือกับทีม X-MEN เดิมก็เป็นจุดประสงค์หลักในการมาที่นี่ทั้งเขายังต้องการทีมพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบ เเต่ความคิดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ต้องการเปลี่ยนเเปลงความอยู่รอดของเหล่ามิวแทนท์ทั้งหมด ดังนั้นเเจ็คสันจึงต้องการรู้มูลเหตุเริ่มต้นในความคิดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

 

“เเน่นอน,เราจะพูดเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง มิราจไนท์สถานที่เเห่งนี้ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ พวกเราเข้าไปข้างในกันดีกว่า”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้กล่าวปฏิเสธ เขาได้เชิญมิราจไนท์ไปยังห้องลับของโรงเรียน X

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ต้องการสร้างพื้นที่ห้องที่มิดชิด เขาใช้พลังจิตของตัวเองครอบคลุมห้องเพื่อป้องกันการเเอบลอบฟังต่าง ๆ

 

เกี่ยวกับการกระทำของ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเจ็คสันก็เข้าใจเช่นเดียวกัน สมาชิกหลักทีม X-MEN ได้มารวมตัวกันที่ห้องนี้สำหรับคนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ทีม X-MEN พวกเขาได้ถูกเชิญออกไป

 

จากนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ขอพูดคุยกับมิราจไนท์สองต่อสองเเละเชิญทุกคนออกไปซึ่งทุกคนก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เเจ็คสันก็ออกจากโรงเรียน X ธรรมชาติเขาเดินทางไปเยี่ยมเด็ก ๆ เเละเเจกลายเซ็นของตัวเองทิ้งไว้มากมาย เเละเขาก็ให้สัญญากับเด็ก ๆ ว่าจะพาสไปเดอร์แมนมาเยี่ยมที่นี่

 

ธรรมชาติหากมีโอกาสเเจ็คสันก็จะพาปีเตอร์มาที่นี่เช่นเดียวกัน เพราะเขาอยากให้ลูกทีมของเขาทำความรู้จักกับทีม X-MEN

 

หน้าทางเข้าของโรงเรียน X เเจ็คสันไม่ได้คาดหวังว่าใครจะติดตามเขาหรือไม่ เขาได้ดึงยานบินขึ้นเเละเดินทางออกไปจากสถานที่เเห่งนี้มุ่งหน้าไปยังเขตเมืองนิวยอร์ก

 

ฟุ่บ!

 

“ดูเหมือนศาสตราจารย์ชาร์ลส์ต้องการจะรวมกลุ่มกับพวก S.H.I.E.L.D. เละ กองกำลังของ โทนี่ ผ่านทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของฉัน”ในขณะบินมุ่งหน้าเข้าสู่เขตเมืองนิวยอร์กเเจ็คสันครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

 

ในหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้พูดคุยกันอย่างดุเดือด ธรรมชาติ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้บอกเหตุผลทั้งหมดในความร่วมมือครั้งนี้

 

เเจ็คสันเองก็รู้สึกสงสัยเดิมศาสตราจารย์ชาร์ลส์ต้องการความร่วมมือจากโทนี่ก่อนหน้านี้ เเต่เขากลัวว่าจะไม่ได้รับการสนับสนุนเเละตอบปฏิเสธกลับมา

 

ดังนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์จึงได้ร่วมมือผ่านเขา,เเละอีกเรื่องนึงศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่เป็นตัวตนที่เเจ็คสันกังวลเขาไม่ได้พยายามที่จะควบคุมจิตใจเเละลอบดูความลับของเเจ็คสันซึ่งนี่ทำให้เขารู้สึกหายกังวลทันที

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ยื่นข้อเสนอกับเเจ็คสันในการร่วมมือกับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์พวกเขาต้องการสู้เพื่อสันติภาพของโลกหากเพื่อปกป้องโลกนี้พวกเขาจะสนับสนุนด้านกำลังอย่างเต็มที่ เเน่นอนว่าเพื่อสันติภาพของโลกขั้นเเรกคือการกำจัดองค์กรไฮดร้าออกไป

 

นอกจากนี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ยังมีคำร้องขอของตัวเองอยู่นั่นก็คือ เมื่อรัฐบาลพยายามจะกีดกันเหล่ามิวแทนท์ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ กองกำลังไอรอนแมน จะต้องยืนข้างสนับสนุนกลุ่มมิวแทนท์ เนื่องจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์วางเเผนการเปลี่ยนเเปลง เขาต้องการที่จะให้เหล่ามิวแทนท์สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขร่วมกับมนุษย์คนอื่น ๆ

 

สำหรับคำร้องขอของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเจ็คสันไม่ได้ปฏิเสธ รวมถึงกลุ่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเขา ซึ่งสำหรับโทนี่เเล้วก็เหมือนกัน เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับโทนี่ เเละโทนี่ ก็ไม่ได้เกลียดชังมิวแทนท์ เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีมันสมองล้ำเลิศ เเน่นอนว่าเหล่ามิวแทนท์ในความคิดของเขาก็คือวิวัฒนาการของมนุษย์

 

ฟุ่บ!

 

“ทีนี้ฉันจะได้เริ่มต้นจัดการพวกเเกเสียที องค์กรไฮดร้า !!!”ในระหว่างที่เเจ็คสันขับยานบินลอยอยู่บนอากาศเขาได้สบถออกมาอย่างเย็นชา

ภายใต้คำถามถามของมิราจไนท์เเละความเงียบของศาสตราจารย์ชาร์ลส์บุคคลทั้งหมดในที่นี้กลายเป็นเงียบสนิทหลงเหลือเพียงความเงียบที่เข้าปกคลุมทั้งห้อง

 

เผชิญหน้ากับความเงียบของ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเจ็คสันเองก็ต้องการอยากรู้คำถามที่เขาถามออกไปธรรมชาติในความทรงจำของเเจ็คสัน การมีอยู่ของ ทีมX-MEN มีเพื่อปราบพวกมิวแทนท์ที่ทำลายกฏที่ตั้งเอาไว้เเละอยู่อย่างสงบ

 

“ในปัจจุบันฉันไม่รู้ว่า ทีมX-MEN นั้นมีความเเข็งเเกร่งเหมือนกับในภาพยนตร์หรือไม่ นอกจากนี้ศัตรูที่พวกเขาจะต้องเผชิญยังน่ากลัวกว่าในภาพยนตร์อยู่หลายเท่าดังนั้นฉันจึงต้องการความร่วมมือจากพวกเขาด้วยเช่นเดียวกัน”เเจ็คสันครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

 

“เอาเป็นว่าฉันจะตอบคำถามที่คุณสงสัยทั้งหมดเอง”หลังจากผ่านบรรยากาศที่เงียบสงบไป ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก็พูดขึ้น

 

“อืม”ได้ยินคำพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเจ็คสันรู้สึกคาดหวังอยู่เช่นเดียวกัน

 

จากนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็เเนะนำอีกทั้งสามคนให้รู้จัก ซึ่งเเจ็คสันเหมือนจะคุ้นเคย เเต่เขาก็เหมือนจะนึกไม่ออก หลังจากนั้นเขาก็ได้ฟังภารกิจต่าง ๆ ของทีม X-MEN ซึ่งเเจ็คสันเองก็ประทับใจอย่างมาก

 

“มิราจไนท์คุณถามว่าฉันกับทีม X-MEN มีเเผนอะไรในใจใช่หรือไม่? เเน่นอนว่าคุณเดาได้ถูกต้องพวกเราย่อมมีเเผนที่วางเอาไว้นั่นเป็นเหตุผลที่เราเชิญคุณมา”

 

“ทีม X-MEN ของเราจะไม่หลบซ่อนตัวเพื่อคอยปกป้องมนุษย์อย่างเงียบ ๆ อีกต่อไปเเล้ว มันถึงเวลาที่พวกเราจะต้องเปลี่ยนเเปลงหลายอย่างเพื่อให้เหล่ามิวแทนท์อย่างพวกเราอยู่รอดบนโลกใบนี้ได้”

 

“เป็นเวลากว่าหลายปีที่เราเหล่ามิวแทนท์ได้หลบซ่อนอยู่เบื้องหลังเเละคอยปกป้องเหล่ามิวแทนท์ที่อ่อนเเอ ดังนั้นนั่นเป็นเหตุผลที่ฉันสร้าง โรงเรียน X ขึ้น เเละยอมรับเด็กที่กลายเป็นมิวแทนท์หลายคนเท่าเข้ามา เเต่การกระทำเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนเเปลงสถานการณ์เดิมของเหล่ามิวแทนท์ในโลกนี้ได้ดังนั้นฉันจึงต้องการสิ่งที่จะเปลี่ยนเเปลง,เป็นความเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่ของเรา”

 

“เราต้องการร่วมมือกับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์”จ้องมองไปที่ใบหน้าของมิราจไนท์ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้พูดออกมาถึงประเด็นสำคัญ

 

เเม้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่เเสดงภาพลักษณ์อ่อนโยนก่อนหน้านี้จนเเจ็คสันประหม่าไปพอหลังจากเขาพูดคำนี้ออกมามันทำให้เเจ็คสันเปลี่ยนสีหน้า เเจ็คสันเดาถูกต้อง ทีมX-MEN ต้องการ การสนับสนุนจากทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเขา ในอีกมุมมองนึงมันเป็นความร่วมมือระหว่างมนุษย์เเละมิวแทนท์ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ต้องการเปลี่ยนเเปลงความคิดที่ผู้คนบนโลกมีต่อมิวแทนท์

 

ความเด็ดขาดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ในตอนนี้เหมือนกับ เเมกนีโต อีริก พวกเขามีความคล้ายคลึงกัน ตัวตนทั้งสองนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่เเข็งเเกร่ง ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้สร้างทีม X-MEN ขึ้นมา ส่วนเเมกนีโต อีริก ก็สร้างขุมกำลังมิวแทนท์

 

“ไอซ์แมนหาเก้าอี้ให้มิราจไนท์นั่งหน่อย”ทันทีที่คำพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์หลุดออกไป ทุกคนในห้องนี้ก็กลายเป็นเงียบสงบ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์โบกมือให้ททุกคนนั่ง

 

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เพียงต้องการให้เหล่ามิวแทนท์อยู่รอดในโลกใบนี้ ความคิดของเขาเป็นเหตุการณ์เเรกที่ทำให้เเมกนีโตเปลี่ยนไป

 

เพราะว่าโลกใบนี้ไม่ต้อนรับพวกมิวแทนท์เเมกนีโตที่ต้องการให้พวกมิวแทนท์อยู่รอดเขาได้ทำทุกวิถีทางเพื่อจะทำเช่นนี้ หากพวกมนุษย์ธรรมดาไม่ต้อนรับเขา เขาเองก็ไม่จำเป็นจะต้องต้อนรับคนเหล่านั้น

 

ดังนั้นเเมกนีโตจึงเริ่มเเผนการที่จะเเสดงให้เห็นถึงความสามารถของเหล่ามิวแทนท์ที่ไม่จำเป็นจะต้องฟังเสียงใคร ตัวตนของพวกเขาคือวิวัฒนาการของมนุษย์โลก

 

หลังจากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็นั่งลงเเละเฝ้ารอคำตอบจากมิราจไนท์ บรรยากาศภายในห้องกลายเป็นเงียบสงบกว่าที่ผ่านมา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญทั้งยังออกมาจากปาก ศาสตราจารย์ชาร์ลส์

เผชิญหน้ากับเด็กกว่า 10 คนที่อยู่รอบ ๆ ตัว เเจ็คสัน ค่อนข้างอึดอัดใจ เเม้ชื่อเสียงของเขาจะโด่งดังในนิวยอร์กเเต่ไม่คาดคิดว่าจะกระทบหรือมีผลอิทธิพลต่อเด็ก ๆ มากขนาดนี้

 

“ เห้อ ~”ได้ยินคำพูดของโรเบิร์ตที่ล้อเลียนเขา เเจ็คสัน ถอนหายใจออกมา

 

“เด็ก ๆ พวกเธอไม่ควรตื่นเต้นจนเกิดเหตุเช่นนี้ เห็นไหม พวกเธอกำลังทำให้เเขกของเรากลัวเเล้ว!”ในขณะเดียวกันชาโดว์เเคทก็ทำเป็นสื่อกลาง

 

“อาจารย์คิดตี้ มิราจไนท์เป็นมิวแทนท์ใช่ไหม?”ได้ยินคำพูดของอาจารย์คิดตี้ เด็กนักเรียนคนนึงก็ส่งเสียงดังในฐานะที่พวกชื่นชมมิราจไนท์เป็นไอดอลเเน่นอนว่าเขาคิดว่ามิราจไนท์เป็นมิวแทนท์

 

“เรื่องนี้…”ได้ยินคำพูดของนักเรียนคนนั้นชาโดว์เเคทค่อนข้างลังเลเเละมองไปที่มิราจไนท์

 

อันที่จริงทีม X-fights เหล่านี้ไม่รู้ว่า ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละคนอื่น ๆ มีต้นกำเนิดคืออะไร ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นมิวแทนท์หรือไม่ อย่างไรก็ตามพวกเขาคิดว่า มิราจไนท์ เเละ สไปเดอร์แมน คือมิวแทนท์ พวกเขาทั้งสองคนได้ปรากฏตัวขึ้นที่นิวยอร์กเเละสร้างชื่อเสียงที่ดี หากทั้งสองคนเป็นมิวแทนท์เเน่นอนว่ามันจะเอื้อประโยชน์สำหรับเหล่ามิวแทนท์ที่ชื่นชมพวกเขา

 

“ฮิฮิ,ฉันไม่ใช่มิวแทนท์หรอก”ได้ยินนักเรียนคนนั้นพูด เเจ็คสัน ก็ไม่ได้กล่าวโกหกออกมา

 

ได้ยินมิราจไนท์สารภาพความจริงว่าตัวเองไม่ใช่มิวแทนท์นักเรียนเหล่านี้เเละคิตตี้ก็รู้สึกผิดหวังนิดหน่อย เเต่โรเบิร์ตเองก็เเปลกใจเล็กน้อยเพราะเขาเดาว่ามิราจไนท์ไม่ใช่มิวแทนท์อยู่ก่อนหน้าเเล้ว

 

“เเต่ในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของฉันมี มิวแทนท์ 2 คน”เห็นว่าอารมณ์ของเด็กนักเรียนเหล่านี้เปลี่ยนไป เเจ็คสันพูดอีกเรื่องขึ้น

 

เเจ็ค เเละ เดดพูล ถือเป็นมิวแทนท์ ส่วนเเฮร์รี่ก็มีความคล้ายมิวแทนท์ครึ่งนึง ในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเขาถือว่าครบเครื่องเรื่องเหล่านี้

 

“จริงงั้นหรอ?เช่นนั้นใช่สไปเดอร์แมนหรือป่าว?”อารมณ์ของเด็กนักเรียนเหล่านี้ก็ค่อนข้างคาดหวัง หวังว่าคนที่มิราจไนท์พูดถึงจะเป็นสไปเดอร์แมนถ้าหากเป็นจริงพวกเขาจะมีความสุขมาก

 

“~ นี่เป็นความลับพวกเธอลองเดาดูสิ!”เเจ็คสันไม่ได้พูดว่าใครในทีมของเขาเป็นมิวแทนท์เเน่นอนว่าเขาเองก็ไม่ได้ต้องการจะปิดบัง

 

ฮือ~~

 

ได้ยินมิราจไนท์พูดเช่นนี้ เหล่านักเรียนก็ค่อนข้างครุ่นคิดกันอย่างหนักหน่วง

 

“เอาล่ะ,มิราจไนท์เป็นเเขกของเรา พวกเธอไม่ควรทำตัวเช่นนี้ หากพวกเธอต้องการขอลายเซ็น เอาไว้ให้มิราจไนท์ว่างก่อนพวกเธอค่อยขอเเล้วกัน”คิตตี้กล่าวตะโกนบอก

 

ภายใต้การเเนะนำของคิดตี้โรเบิร์ตก็บอกนักเรียนเหล่านี้ให้เเยกกลุ่มกันไป ก่อนที่เขาจะนำเดินเข้าปราสาท

 

เเต่ก็มีกลุ่มนักเรียนบางคนที่ลอบติดตามไปเเต่พวกเขาก็ไม่ได้เเสดงท่าทีตื่นเต้นเพราะพวกเขารู้ดีว่าเวลาไหนควรเวลาไหนไม่ควร

 

หลังจากเดินผ่านทางยาวมา เเจ็คสัน ก็มาถึงห้องประตูใหญ่ ชาโดว์เเคท เเละ ไอซ์แมน ได้เเง้มประตูเปิดออก ก่อนที่เเจ็คสันจะมองเห็นบุคคลที่อยู่ข้างใน

 

“พวกเราเข้าไปกันเถอะ ทีม X-MEN คงรออยู่ข้างในกันเเล้ว”ไอซ์แมนกล่าวพูดขึ้นก่อนที่จะเเนะนำมิราจไนท์

 

ฟุ่บ~

 

หลังจากที่ประตูถูกเปิดออกเเจ็คสันได้เดินก้าวเข้าไปข้างในทันที ตอนนี้ หากเขาไม่สามารถถอยกลับหลังได้เเล้วเขาจะต้องเผชิญหน้ากับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่เเข็งเเกร่งคนนั้น

 

ตึก ตึก~

 

เเจ็คสันมองไปรอบ ๆ เเละเห็นคนในห้องจำนวนมากที่ล้อมรอบชายชราหัวล้านอยู่

 

ในพื้นที่ห้องเเห่งนี้นอกเหนือจาก ไอซ์แมน เเละ ชาโดว์เเคท เเล้ว เเจ็คสันก็จำได้ว่าชายร่างยักษ์เเละหญิงสาวคนนั้นคือ โคลอสซัส เเละ บลิงก์ ส่วนอีกสามคนที่เหลือที่ล้อมรอบศาสตราจารย์ชาร์ลส์เขาไม่รู้จัก

 

เเต่ความสนใจของเเจ็คสันไม่ได้ตกอยู่ที่ทั้งสามคนมากนัก สิ่งที่เขากังวลเเละให้ความสำคัญที่สุดก็คือชายหัวล้านหรือ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ,ศาสตราจารย์ X ที่เป็นผู้นำเหล่ามิวแทนท์ในการต่อต้านพวกมิวแทนท์ที่กระทำผิด

 

“สวัสดี มิราจไนท์”เห็นมิราจไนท์เดินเข้ามา ชายชราหัวล้านก็เปิดปากยิ้ม

 

“ยินดีที่ได้พบ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์”หลังจากระบุได้ว่าชายชราหัวโล้นคือศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเจ็คสันก็ให้ความสุภาพทันที

 

นี่เป็นครั้งเเรกที่ มิราจไนท์ ได้พบกับ ศาสตราจารย์ X เเละบรรยากาศที่ทั้งสองคนปลดปล่อยออกมาก็ค่อนข้างลึกลับ

 

“ฉันได้ยินมาว่า มิราจไนท์ คุณได้ให้ความสำคัญในการปกป้องนิวยอร์กทั้งยังช่วยเหลือเราก่อนหน้านี้ในการช่วยหยุดเดดพูลไม่ให้สร้างความเสียหายไปมากกว่านี้ ดังนั้นฉันจึงต้องการขอบคุณ คุณจากใจจริง”ทันทีที่ทักทายกันเสร็จ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก็กล่าวพูดต่อไป

 

เเจ็คสันรู้ว่า ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เป็นมิวแทนท์ระดับ 4 ที่เเข็งเเกร่ง เขาเชื่อมาตลอดว่าตัวตนระดับนี้ย่อมเป็นตัวตนที่น่าเกรงกลัว เเต่กลับไม่คิดเลยว่า ที่เขาเห็นจะเป็นชายชราที่ดูใจดีเเละไม่เเผ่ออร่าน่าเกรงขามหรือกดดันออกมาเเม้เเต่น้อย เเต่เเจ็คสันย่อมสำผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ อย่างลับ ๆ

 

“ตั้งเเต่ที่ฉันเลือกเส้นทางในการเป็นมิราจไนท์ การปกป้องนิวยอร์กเป็นหน้าที่ของฉันอยู่เเล้ว ส่วนความลับผิดชอบเรื่องเดดพูลก่อนหน้านี้ ก็เป็นเเค่เรื่องบังเอิญอย่างไรก็ตามต้องขอบคุณ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ สำหรับเรื่องก่อนหน้านี้ในระหว่างที่ฉันถูกจับตัวไปโดยพวกไฮดร้า ฉันรอดมาได้ก็ต้องขอบคุณพวกคุณทีม X-MEN”ได้ยินคำพูดของ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเจ็คสันพูดด้วยรอยยิ้ม ธรรมชาติ เขาสวมหน้ากากอยู่ทำให้ไม่สามารถเห็นรอยยิ้มได้ เเต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ย่อมรู้ความรู้สึกที่ตั้งใจจะขอบคุณจริง ๆ ของมิราจไนท์

 

ที่เเจ็คสันสามารถหลบหนีมาได้เป็นเพราะ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ด้วยข้อมูลที่เฉพาะเเละเจาะจงทำให้ S.H.I.E.L.D. ตีกรอบพื้นที่ในการค้นหาได้มากขึ้น จนโทนี่สามารถมาช่วยเหลือเขาได้ทัน

 

“อืม,เดิมพวกเราก่อตั้งขึ้นเพื่อจัดการเหล่ามิวแทนท์ที่หลงผิดเดิมเราก็ไม่คาดคิดว่าเหล่ามิวแทนท์จะไปเข้าร่วมกับพวกไฮดร้าเหมือนกัน”ได้ยินการเเสดงออกด้วยความจริงใจของ มิราจไนท์ ศาสตราจารย์ชาร์ล พยักหน้าพูด

 

“ศาสตราจารย์ชาร์ล เเท้จริงเเล้ว คุณกับทีม X-MEN คงมีเเผนในใจบางอย่างเเล้วใช่หรือไม่?”

“พวกเขามาต้อนรับกันเร็วจริงๆ”เห็นไอซ์แมนปรากฏตัวขึ้นเเละกล่าวทักทายเเจ็คสันครุ่นคิดขณะเดิน

 

ตึก ตึก!

 

ผ่านไปหลายก้าวเเจ็คสันก็เดินมาถึงเบื้องหน้าของไอซ์แมน

 

“ไม่ได้พบกันเสียนาน,โรเบิร์ต”เเจ็คสันยื่นมือออกไปทักทาย

 

“ฮ่าฮ่า,เดิมฉันคิดว่าคุณจะไม่ตอบรับคำเชิญของฉันเสียเเล้ว”โรเบิร์ตจ้องมองไปที่มิราจไนท์ด้วยรอยยิ้มพร้อมยื่นมือออกมาทักทาย

 

ก่อนหน้านี้ที่โรเบิร์ตไอซ์แมนเชิญเขามาเยี่ยมโรงเรียน X ที่เเจ็คสันปฏิเสธเป็นเพราะกลัวความสามารถของ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะล้วงข้อมูลความลับจากเขาดังนั้นเเจ็คสันจึงหวาดระเเวงที่จะตอบรับคำเชิญก่อนหน้านี้

 

“ฉันเพิ่งจะหลบหนีจากพวกไฮดร้ามาได้ดังนั้นฉันจึงต้องการเก็บตัวพักผ่อนอย่างสงบหลายวันเพียงเท่านั้น”เเจ็คสันไม่ได้อธิบายเหตุผลของเขาออกไปเเน่นอนว่าเขาไม่อาจพูดออกมาได้

 

“โรเบิร์ตฉันบอกเเล้วว่ามิราจไนท์ไม่ใช่คนแบบนั้นเห็นไหม?”ได้ยินการอธิบายของมิราจไนท์ สาวข้าง ๆ โรเบิร์ต กล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“โรเบิร์ต สุภาพสตรี คนนี้คือ?”เเจ็คสันสังเกตุเห็นหญิงสาวเเสนสวยคนนี้เเน่นอนว่าเขาเองก็ต้องการทำความรู้จักกับอีกฝ่าย

 

“ฮ่าฮ่า,นี่เเฟนของฉัน เป็นหนึ่งในทีม X-MEN ,ชาโดว์เเคท คุณอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อของเธอใช่ไหม?”เห็นมิราจไนท์ถามถึงคิดตี้ ไอซ์แมน ดึงเอวของคิตตี้มาโอบเเละ กล่าวอธิบาย

 

“ชาโดว์เเคท คิตตี้ ใช่มั้ย?”ได้ยินการเเนะนำของโรเบิร์ต เเจ็คสัน กล่าวพูดออกมา

 

ชาโดว์เเคท หนึ่งในทีม X-MEN เเม้ความสามารถของเธอจะไม่เเข็งเเกร่งใด ๆ เเต่เธอสามารถผ่านวัตถุของเเข็งได้ทุกชนิด ความสามารถของเธอทรงพลังมากในด้านการสนับสนุนเช่นหากมีปราการเเข็งเเกร่งเบื้องหน้าเธอสามารถพาคนอื่นทะลุผ่านปราการเเข็งเบื้องหน้าไปได้อย่างง่ายดาย

 

อย่างไรก็ตามเเจ็คสันจำได้เพราะเขาเคยดูซีรีส์ภาพยนต์ X-MEN ความสามารถของ ชาโดว์เเคท สามารถทะลุของเเข็งได้ ในภายหลังดูเหมือนทางผู้กำกับเองก็เหมือนจะเพิ่มความสามารถให้กับชาโดว์เเคท เป็นความสามารถที่ย้อนเวลากลับไปในอดีตได้ ซึ่งเเจ็คสันไม่สามารถระบุได้ว่า ชาโดว์เเคท ในภาพยนตร์กับโลกความเป็นจริงนั้นเหมือนกันหรือไม่

 

“ยินดีที่ได้รู้จัก ชาโดวเเคท”เเจ็คสันยื่นมือออกไปกล่าวทักทายอย่างสุภาพ

 

“สวัสดี มิราจไนท์, รู้ไหมว่าตอนที่คุณปฏิเสธคำเชิญของโรเบิร์ตก่อนหน้านี้ทำให้เขารู้สึกกังวลมาก ฉันเองก็บอกเตือนเขาเรื่องนี้ไปเเล้ว เท่าที่ฉันสัมผัสได้จากตัวคุณ เเน่นอนว่าคุณย่อมไม่มีอคติกับพวกเราเหล่ามิวแทนท์อย่างเเน่นอน”ชาโดว์เเคทยื่นมือออกไปจับมือของเเจ็คสันเเละทักทาย

 

“ฮ่าฮ่า,เป็นฉันที่ผิดเอง เพราะฉันไม่ได้ให้คำอธิบายที่ชัดเจนก่อนหน้านี้”เเจ็คสันยิ้มออกมาเขาไม่ต้องการกลับเข้าสู่ปัญหานี้

 

“ไปกันเถอะ,เเม้วันนี้โรงเรียนจะหยุด เเต่นักเรียนส่วนใหญ่ยังไม่ได้กลับบ้าน ทั้งนักเรียนเหล่านี้ ก็เป็นเเฟนคลับของคุณมากมาย บางทีพวกเขาอาจจะรอขอลายเซ็นของคุณไม่ไหวเเล้วก็ได้”หลังจากทักทายกันเสร็จ ไอซ์แมน ก็นำทางเเจ็คสันเดินเข้าไปในโรงเรียน

 

“จริงหรอ?ฉันเองก็รู้สึกเป็นเกียรติเหมือนกัน”เเจ็คสันยิ้มตอบกลับก่อนที่จะเดินตามโรเบิร์ตเข้าไป

 

“จริง ๆ เเล้วคุณก็ไม่ใช่ไอดอลเพียงคนเดียวของพวกเขาหรอก ในนิวยอร์ก สไปเดอร์แมนเองก็เป็นเหล่าขวัญใจของเด็ก ๆ “คิตตี้ที่อยู่ด้านข้าง เธอพูดออกมา เธอรู้ความสัมพันธ์ของมิราจไนท์กับสไปเดอร์แมนจากโรเบิร์ต ทั้งเธอยังอยากรู้อีกว่า มิราจไนท์จะทำตัวอย่างไรเมื่อเห็นเเฟนคลับตัวน้อยเหล่านั้น

 

“ฮ่าฮ่า,ไม่เเปลกใจ หากเทียบกันเเล้วสไปเดอร์แมนนับว่ามีชื่อเสียงโด่งดังกว่าฉันมาก”ชื่อเสียงของเเจ็คสันเป็นธรรมชาติที่จะโดนปีเตอร์กดทับ เพราะ มิราจไนท์ในเวลาต่อมาได้มุ่งหน้าสู่ปัญหาอย่างลับ ๆ ไม่ได้เปิดเผย ซึ่งเเตกต่างจากสไปเดอร์แมนที่คอยช่วยเหลือผู้คนในนิวยอร์กอย่างเปิดเผย

 

“ฮิฮิ นักเรียนหลายคนในโรงเรียนนี้เเม้พวกเขาจะเป็นคนของทีม X-MEN เเต่พวกเขาก็ยังอยากเข้าร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของคุณเลย ชื่อเสียงในปัจจุบันของคุณเเน่นอนว่าย่อมไม่ธรรมดา”ในขณะเดินทาง โรเบิร์ตกล่าวพูดชื่นชม

 

“ได้ยินเช่นนี้ฉันเองก็ดีใจ ธรรมชาติพวกเขาย่อมเติบโตจนสามารถดูเเลตัวเองได้”เเจ็คสันไม่ได้สนใจกับคำเยินยอของไอซ์แมน หากเขาได้รับมิวแทนท์ที่ทรงพลังเข้าร่วมกับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเน่นอนว่าย่อมเป็นผลดีมาก

 

ตึก ตึก~~

 

ทั้งสามคนเดินผ่านสนามจัตุรัสอย่างช้า ๆ ด้านข้างเป็นสนามหญ้าที่เอาไว้เตะฟุตบอล

 

ขณะนั้นเองก็มีฟุตบอลกระเด็นลอยมาตกตรงเบื้องหน้าของเขาซึ่งเเจ็คสันได้หยุดเดินพร้อมกับก้มลงไปเก็บบอลลูกนั้นขึ้นมา

 

“คุณคือ มิราจไนท์!”ขณะนั้นเองเด็กชายอายุ 11 ถึง 12 ปี ที่วิ่งไล่ตามฟุตบอลมาเขาก็มองเห็นเเจ็คสันเเละตะโกนออกมา

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเด็กนักเรียนที่เล่นฟุตบอลอยู่ก็รีบวิ่งกรูเข้ามายังทิศทางทั้งสามคน เด็กเหล่านี้เป็นมิวแทนท์ เเต่พวกเขาก็ยังชื่นชม มิราจไนท์ กับสไปเดอร์แมนอย่างมาก เเน่นอนว่าทันทีที่เด็กผู้ชายคนนั้นเรียกชื่อของมิราจไนท์ย่อมเป็นจุดสนใจของเด็กคนอื่น ๆ

 

ตึก ตึก !

 

เเจ็คสันไม่ได้ตอบเด็กคนนั้น พริบตาเดียว นักเรียนในพื้นที่จัตุรัสทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่นี่ ร่างกายของเด็กบางคนนั้นสามารถบินได้บางคนสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันยื่นส่งลูกบอลให้เด็กคนที่ถามเขา จ้องมองไปที่กลุ่มเด็กจำนวนมากที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เขาไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี

 

“เป็นมิราจไนท์จริง ๆ “

 

“มิราจไนท์ ผมเป็นเเฟนคลับของคุณ”

 

“มิราจไนท์ เขามาเยี่ยมโรงเรียนของพวกเรา!”

 

“มิราจไนท์ คุณคือไอดอลของผม”

 

เด็กหลายคนมาล้อมรอบตัวของเเจ็คสันเเละตะโกนเรียก

 

“นี่…”เเจ็คสันที่เผชิญหน้ากับกลุ่มเด็กจำนวนมาก เขากำลังคิดหาวิธีช่วยเหลือตัวเองในสถานการณ์เช่นนี้อยู่

 

“ฮ่าฮ่า,มิราจไนท์ ทำไมคุณไม่กล่าวอะไรกับเเฟน ๆ ตัวน้อยของคุณหน่อยล่ะ!”โรเบิร์ตไม่คิดว่าจะเกิดสถานการณ์เช่นนี้เขาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กล่าวพูดกับมิราจไนท์ด้วยรอยยิ้ม

หลังจากวางโทรศัพท์จากโทนี่ เเจ็คสันก็รู้สึกกังวล นั่้นก็เพราะเขาเผลอปล่อยเสียงของตัวเองหลุดให้พ่อมดทั้งสองคนได้ยิน

 

“พ่อมดพวกนี้มองหาฉันทำไมกัน?”เเจ็คสันไม่ได้กังวลเกี่ยวกับพ่อมดที่คอยปกป้องโลกใบนี้ เเต่เขารู้สึกสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงมองตัวเอง

 

“ไม่ว่าพวกเขาจะมีเหตุผลอะไรถ้าลองไปเดี๋ยวก็คงรู้เอง”ได้รับคำเชิญจากเหล่าพ่อมดเเน่นอนว่าเเจ็คสันย่อมไม่ปฏิเสธ เทียบกับการพบปะศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเจ็คสันรู้สึกโล่งใจกว่ามาก

 

“เเต่ก่อนที่จะพบเหล่าพ่อมดฉันควรที่จะไปเยี่ยม โรงเรียน X-Men ก่อน เเม้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะสามารถลอบมองจิตใจได้ เเต่ ทีม X-MEN ก็เป็นกองกำลังสำคัญในการจัดการพวกไฮดร้า ฉันไม่ควรทำตัวอ่อนเเอหวาดกลัวเช่นนี้”ก่อนที่จะไปพบเหล่าพ่อมด เเจ็คสันวางเเผนจะตอบรับคำเชิญของ ไอซ์แมนก่อน เขาต้องการไปเห็น ศาสตราจารย์ X คนนี้ด้วยตาตัวเองเหมือนกัน

 

เเม้ในใจของเขาจะมีความลับที่ไม่สามารถเปิดเผยให้คนอื่นรู้ได้ เเต่เขาก็เดิมพันกับมัน เดิมพันในตัว ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ว่าจะไม่คิดร้ายตรวจสอบเเละเปิดเผยความลับของเขา

 

“เอาล่ะตัดสินใจเเล้ว ฉันจะไปโรงเรียน X สุดสัปดาห์นี้ จากนั้นค่อยตอบรับคำเชิญของพ่อมดทั้งสองคน ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพวกเขาต้องการอะไรจากฉัน”ในที่สุดเเจ็คสันก็วางเเผนจัดการเรื่องต่าง ๆ

 

ธรรมชาติการตอบรับคำเชิญจากอิทธิพลทั้งสองนั้นค่อนข้างอุอาจมากเพราะทั้งสองอิทธิพลค่อนข้างเเข็งเเกร่ง เเต่เเจ็คสันก็คุ้มค่าที่จะลองเสี่ยงดู

 

อย่างเเรกการไปโรงเรียน X ในคราวนี้ ก็เพื่อสานสัมพันธ์ในการจัดการพวกไฮดร้า ยิ่งมีพวกเขารวมกับโทนี่ด้วยเเล้ว อิทธิพลของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก อีกอย่างต้องรู้ว่าทีม X-MEN ค่อนข้างมีอิทธิพลที่ร้ายกาจในหมู่พวกมิวแทนท์ เช่นเดียวกับ เเมกนีโต ที่อาจเป็นผู้นำเหล่ามิวแทนท์ที่สนับสนุนพวกไฮดร้าอยู่เบื้องหลัง

 

ตอนนี้ ไฮดร้า เเละ S.H.I.E.L.D. กำลังเปิดศึกสงครามกัน ได้รับทีม X-MEN มาร่วมด้วย ก็จะช่วยประหยัดเวลาเเละความสูญเสียได้มากขึ้น เเม้ เเมกนีโต จะอยู่ฝั่งศัตรูเขาก็คงต้องคิดอะไรก่อนทำบ้าง

 

“หวังว่าการเดินทางไปโรงเรียน X ครั้งนี้ฉันจะได้เก็บเกี่ยวข้อมูลบางอย่าง เเม้ฉันจะรู้จักทีม X-MEN หลายคน เเต่ก็อยากพบพวกเขาด้วยตาตัวเองสักครั้ง”เเจ็คสันคิดเเผนทัวร์โรงเรียน X ในสุดสัปดาห์นี้ เขาเพิ่งมาถึงที่โลกมาร์เวลเเห่งนี้ได้ไม่นาน ทุกสิ่งที่เขารู้ก็มาจากการดูพล็อตเรื่องที่คุ้นเคย เเต่ยิ่งเขาคุ้นเคยมากเท่าไหร่ พล็อตเรื่องก็มักจะเปลี่ยนไปมากเท่านั้น

 

หลังจากวางเเผนเสร็จเเจ็คสันก็นั่งไขว่ห้างเเละหลับตาลง เขากำลังครุ่นคิดวิธีการส่งเสริมความเเข็งเเกร่งของตัวเองเเละทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเจ็คสันในปัจจุบันนั้นยังไม่สามารถโจมตี บุคคลเช่น ควิกซิลเวอร์ หรือ สกาเล็ต วิช ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบุคคลที่เก่งกาจกว่าสองคนนั้น

 

เเน่นอนว่าในใจของเเจ็คสันไม่ได้หวาดกลัว ควิกซิลเวอร์ ความสามารถของคนคนนี้เเม้จะเเข็งเเกร่งเเต่ก็ไม่ใช่ความสามารถที่น่ากลัวสูงสุด เเจ็คสันยังมีหนทางรับมือได้

 

ควิกซิลเวอร์เป็นตัวตนจำเภทที่เน้นความเร็วในการต่อสู้ เเม้เเจ็คสันจะฝึกฝนเทคนิคเสริมความเร็วก็คงไม่อาจรวดเร็วได้เท่ากับควิกซิลเวอร์ได้ เเต่ถ้า เเจ็คสันฝฝึกฝนร่างกายจนสามารถเคยชินกับความเร็วระดับนั้นได้ เขาก็สามารถรับมือกับควิกซิลเวอร์ได้อย่างไม่มีปัญหา

 

สำหรับสกาเล็ต วิช เธอมีพลังจิต ที่น่ากลัวอย่างมาก ดังนั้นการโจมตีทางจิตวิญญาณของเธอค่อนข้างเป็นปัญหากับเเจ็คสัน อย่างไรก็ตาม เเจ็คสันก็มีเเผนตอบโจทย์เรื่องนี้ ซึ่งเขาก็เเค่ฝึกฝนพลังจิตของตัวเองให้เเข็งเเกร่งมากขึ้น เเข็งเเกร่งจนขนาดที่พลังจิตของเธอไม่สามารถคุกคามเขาได้

 

เเจ็คสันมีวิธีการจัดการกับตัวเขาเองเเต่สิ่งที่เขาต้องทำหลังจากนี้ก็คือหาจุดเเข็งเเละจุดอ่อนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเขา โลกมาร์เวลเเห่งนี้ เป็นโลกที่เร้นลับเเละมหัศจรรย์ เเจ็คสันตัวคนเดียวไม่สามารถทำอะไรได้ตามอำเภอใจ ดังนั้นเขาจะต้องมีลูกทีมลูกผองเพื่อนที่เชื่อใจได้ นั่นจะเป็นหนทางเดียวที่เขาจะสามารถอยู่รอดบนโลกมาร์เวลเเห่งนี้ สำหรับเเจ็คสันเเล้วก่อนหน้านี้การขาดคำเเนะนำจากระบบไปทำให้เขาค่อนข้างทำอะไรได้อย่างยากลำบาก

 

เเต่ตอนนี้เขามีทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเละกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ ปัจจุบัน มิราจไนท์ ยืนอยู่ข้างเดียวกับ S.H.I.E.L.D. ตอนนี้เขามีกองกำลังส่วนตัวเเละพันธมิตรที่เเข็งเเกร่งกองกำลังระดับนี้สามารถเผชิญหน้ากับวิกฤติส่วนมากในโลกมาร์เวลเเห่งนี้ได้

 

ยิ่งถ้าหากเเจ็คสันได้ทีม X-Men เเละ เหล่าพ่อมด มาร่วมด้วยเเล้ว เเผนในอนาคตของเขาส่วนใหญ่ก็สำเร็จไปมากกว่าครึ่ง

 

ธรรมชาติสิ่งเหล่านี้จะได้มาก็ต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิต เขาจะพยายามเคลื่อนไหวทีละขั้นตอนตามเสต็ป

 

 

หลังจากนั้นเเจ็คสันก็ติดต่อ ไอซ์แมน ไป เขาบอกว่าจะไปเยี่ยมโรงเรียน X สุดสัปดาห์นี้ ซึ่ง ไอซ์แมน โรเบิร์ต ที่ได้ยินก็มีความสุขมากที่ มิราจไนท์ตอบรับคำเชิญของตัวเอง

 

พอถึงวันเเจ็คสันได้ยืมยานบินของเเฮร์รี่เพื่อมาใช้งานเขาไม่ต้องการเปิดเผยความสามารถหรือเดินทางไปโรงเรียน X ด้วยพลังของเขาเอง นอกจากนี้มันยังมีระยะห่างค่อนข้างไกล เดิม เเจ็คสันต้องการจะยืมชุดเกราะของโทนี่ เเต่มาคิดดูเเล้วยานบินของเเฮร์รี่ค่อนข้างยืดหยุ่นเเละมีความเร็วที่ไม่ธรรมดา หากเเฮร์รี่ยื่นเสนอเรื่องนี้กับทางสหรัฐบางทีทางสหรัฐอเมริกาคงล้มเลิกความคิดที่จะผูกมัดชุดเกราะไอรอนแมน

 

~

 

เเจ็คสันได้สวมใส่ชุดสูทภูติมายาของเขา หลังจากผ่านช่วงเหตุการณ์เลวร้ายนั่นมา มิราจไนท์ก็กลับสู่สายตาสาธารณชนอีกครั้ง คอยปกป้องนิวยอร์ก เป็นศาลเตี้ยคอยจัดการพวกผู้ร้าย เเต่ชาวเมืองกลับไม่ได้ดูตื่นเต้นเหมือนเมื่อก่อน

 

เพราะมีการปรากฏตัวของกัปตันอเมริกา

 

นอกจากนี้ถนนในนิวยอร์กยังปรากฏศาลเตี้ยจำนวนมาก เช่น สไปเดอร์แมน เเม้ทุกคนจะให้ความสนใจ เเต่พอตัวตนเหล่านี้มากขึ้นความสนใจก็ได้รับน้อยลง

 

เเจ็คสันขับเคลื่อนยานบินรุ่นปรับปรุงไปยังตำเเหน่งที่ตั้งของโรงเรียน X ที่ชานเมือง สถานที่เเห่งนี้เป็นชานเมืองที่ไกลมาก เเต่สภาพเเวดล้อมค่อนข้างดี เบื้องหน้าของเขาเป็นปราสาทสไตล์ตะวันตก หลังจากจ้องมองไปสักพักเเจ็คสันคิดว่าในอนาคตหากเขาเริ่มเเก่ตัวลงการได้บ้านแบบนี้สักหลังก็ไม่เลว

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันไม่ได้ขับเคลื่อนยานบินของเขาเข้าสู่โรงเรียน X โดยตรง พอถึงทางเข้าเเจ็คสันได้กระโดดลงมา เขาได้เตรียมพร้อมสำหรับวันนี้มาพอสมควร หลังจากผ่านเหตุการณ์พวกไฮดร้าเเจ็คสันก็ได้เเลกเปลี่ยนสิ่งของที่จำเป็นเก็บไว้ในกระเป๋าสูทเผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินมันจะสามารถช่วยเหลือชีวิตเขาได้

 

ไม่นานประตูเหล็กด้านหน้าของ เเจ็คสันก็ถูกเปิดโดยอัตโนมัติ เเจ็คสัน เห็น ชายหญิง คู่นึง เดินออกมาจากทางโรงเรียน ทางฝั่งชายก็คือ ไอซ์แมน โรเบิร์ต ส่วนทางฝ่ายหญิง เเจ็คสันเหมือนจะไม่รู้จัก

 

“ฮ่าฮ่า,มิราจไนท์!”ไอซ์แมน โรเบิร์ต ที่เห็นมิราจไนท์ตรงทางเข้า เขาตะโกนอย่างมีความสุข

สองชั่วโมงผ่านไปในที่สุดการทดลองของโทนี่ ก็สิ้นสุดลง ในเวลานี้ พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมด ไต้เหวิ่น ได้ใช้พลังจิตจนหมด พวกเขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าการมองหาโทนี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย

 

“เอาล่ะที่เหลือก็เก็บข้อมูลไว้ในคลังธนาคารของฉัน ฉันจะเริ่มดำเนินการทดลองต่อภายหลัง”โทนี่ไม่ได้มีความเห็นใจพ่อมดทั้งสองคน เขาจ้องมองไปที่ข้อมูลภายในระบบเหล่านี้อย่างจริงจัง

 

เเน่นอนว่าโทนี่ได้ร้องขอ พ่อมด รุ่ยเคอ เเละพ่อมดไต้เหวิ่น เกี่ยวกับการรวมพลังเวทมนตร์ในตอนนั้นในการสร้างมิติกระจก เขาต้องการให้ทั้งสองคนเเสดงให้ดู เเต่อย่างไรก็ตาม พ่อมด ไต้เหวิ่น กับพ่อมด รุ่ยเคอ กลับปฏิเสธเรื่องนี้

 

เวทมนตร์มิติกระจกเป็นเวทมนตร์ขั้นสูงมันต้องใช้พลังจิตมากมายอีกทั้งความมหัศจรรย์ในการสร้างพื้นที่มิติกระจกยังเป็นข้อมูลลับ เเม้โทนี่จะข่มขู่พวกเขาด้วยมิราจไนท์ เขาก็จะไม่มีวันยอมเรื่องนี้

 

เห็นพ่อมดทั้งสองคนยังคงปฏิเสธอยู่ โทนี่ ก็ไม่ได้เล้าหรือต่อ ตอนนี้เขาได้รวบรวมข้อมูลมากพอ สำหรับ เวทมนตร์มิติกระจกนั้นโทนี่ก็คงสามารถคาดเดาได้ไม่ยากว่าเวทมนตร์นี้ไม่ใช่เวทมนตร์ธรรมดา

 

โทนี่ได้ส่งข้อมูลเหล่านั้นไปยังธนาคารข้อมูลส่วนตัวของเขาโดยระบุว่าเป็นความลับสุดยอดนอกจากเขาเเละ J.A.R.V.I.S ย่อมไม่มีใครเห็นสิ่งเหล่านี้ หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ โทนี่ ก็จ้องมองไปที่พ่อมดทั้งสองคนอย่างผ่อนคลาย

 

“ฉันต้องขอบคุณพวกคุณทั้งสอง สำหรับคำขอของพวกคุณที่ให้ฉันช่วยเหลือก่อนหน้านี้เเน่นอนว่าฉันเต็มใจที่จะช่วยเหลืออย่างเเน่นอน ไม่เว้นเเม้เเต่ความต้องการภายหลัง”โทนี่เเสดงออกได้ถึงความสุขพร้อมกล่าวกับ พ่อมด ไต้เหวิ่น เเละ พ่อมด รุ่ยเคอ

 

“พวกเราไม่ได้ต้องการรบกวนขอความช่วยเหลือจากคุณภายหลังหรอก ตอนนี้เราต้องการให้คุณช่วยเหลือเราสร้างความสัมพันธ์กับมิราจไนท์”พ่อมด รุ่ยเคอ ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้เเละจ้องมองไปที่ โทนี่ วันนี้เป็นวันที่เขารู้สึกสมเพชตัวเองมากที่สุด เพราะโทนี่ได้ชี้ชัดเรื่องมิราจไนท์มาข่มขู่พวกเขา หากไม่ใช่เพราะโทนี่มีความสัมพันธ์กับมิราจไนท์พวกเขาทั้งสองย่อมไม่ยอมทำตามคำขอที่เหนื่อยเช่นนี้อย่างเเน่นอน

 

“ฮ่าฮ่า พวกคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้? เอาเป็นว่าเรามาพักผ่อนหาไรกินกันก่อนเถอะ ที่นี่มีสิ่งบันเทิงมากมาย ฉันเชื่อว่าพวกคุณจะต้องชอบอย่างเเน่นอน”โทนี่ จ้องมองไปที่ พ่อมดทั้งสองคนอย่างใสซื่อ

 

ได้ยินคำพูดของโทนี่ พ่อมด ไต้เหวิ่น รู้สึกโกรธจนเเทบจะก่นด่าสาปเเช่งออกมา

 

“พวกเราไม่ต้องการ สิ่งที่พวกเราอยากรู้มากที่สุดก็คือ ที่อยู่ของมิราจไนท์ เราหวังว่า คุณสตาร์ก จะช่วยปฏิบัติตามคำสัตย์ที่ให้กับเราก่อนหน้านี้”เห็นพ่อมดรุ่ยเคอสงบนิ่ง พ่อมดไต้เหวิ่นออกอาการเป็นคนเรก

 

“เห้อ,น่าเสียดายจริง ๆ … ก็ได้ ฉันจะโทรศัพท์หามิราจไนท์ตอนนี้”เดิมโทนี่ต้องการจะพูดอะไรเเละชวนพ่อมดทั้งสองคนสังสรรค์เล็กน้อย เเต่ดูเหมือนพวกเขาทั้งสองคนไม่ต้องการจะเสียเวลากับเขาอีกต่อไป

 

จ้องมองไปที่พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมด ไต้เหวิ่น โทนี่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปยังเบอร์ของเเจ็คสัน

 

ตุ๊ดตุ๊ด ~

 

“อ้าว,คุณสตาร์ก มีเรื่องอะไรให้ผมช่วยงั้นหรอ หากคุณต้องการความช่วยเหลือจากผม เเน่นอนว่าคุณจะต้องตอบเเทนค่าเหนื่อยด้วย คุณไม่สามารถคดโกงผมให้ทำงานฟรีได้ตลอดหรอกนะ”หลังจากต่อสายติด เเจ็คสัน กล่าวพูดขึ้น

 

เเม้ว่าโทนี่จะโทรศัพท์เข้าเบอร์ของมิราจไนท์ เเต่ เเจ็คสันที่ รู้ว่าโทนี่รู้สถานะของตัวเองอยู่เเล้ว เขาไม่จำเป็นจะต้องปิดบังอำพรางเสียงอีกต่อไป

 

เนื่องจากเสียงของมิราจไนท์ดังออกมา เเละ พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมด ไต้เหวิ่น ก็ได้ยิน เเต่เสียงนี้ทำให้พวกเขาสงสัยมาก เพราะเสียงมันฟังดูเด็ก ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่เหมือนกับมิราจไนท์ที่เขาเคยพบก่อนหน้านี้

 

“มิราจไนท์ คุณ ยังจำก่อนหน้านี้ของพวกเราได้หรือไม่ ก่อนหน้านี้ ที่พวกเรารับมือ เวน่อม ด้วยกัน กลุ่มอิทธิพลที่ช่วยเหลือเราในวันนั้นได้ปรากฏตัวที่เบื้องหน้าของฉัน พวกเขาทั้งสองคนได้มาหาฉันเพื่อช่วยเหลือในการติดต่อคุณ”โทนี่ เปลี่ยนวิธีการพูดอย่างเร่งรีบ

 

“…”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน รู้ว่าโทนี่ ต้องการจะสื่ออะไร

 

“งั้นหรอ?บอกพวกเขาว่ามีธุระอะไรกับฉัน?”หลังจากเงียบไปหลายวินาที เสียงของเเจ็คสันก็ดูสุขุมกว่าเดิม มันได้กลายเป็นเสียงของมิราจไนท์

 

“เรื่องนี้…ดูเหมือนพวกเขาจะไม่บอกเจตนาที่เเน่ชัด เเต่พวกเขารับปากว่าจะไม่มีอันตรายกับคุณ ยิ่งไปกว่านั้น มิราจไนท์ ฉันเองก็เชื่อมั่นในตัวพวกเขา”โทนี่ที่ได้รับประโยชน์มากมายจากพ่อมดทั้งสองคนนี้ เเน่นอนว่า เขาจะต้องพูดเชิดชูทั้งสองคน

 

“ก็ได้ฉันเชื่อคุณ,อย่างไรก็ตามอาการบาดเจ็บของฉันยังไม่ค่อยดีขึ้น คุณช่วยบอกพวกเขาให้ติดต่อฉันในวันหลังได้หรือไม่”เเจ็คสันที่ครุ่นคิดอยู่ครู่นึงเขากล่าวออกมา

 

ซึ่งโทนี่ ก็จ้องมองไปที่ พ่อมด ไต้เหวิ่น เเละ พ่อมด รุ่ยเคอ

 

“เเน่นอนพวกเราสามารถรอได้ ท่านปรมาจารย์ไม่ได้กำหนดเวลาตายตัว”ได้รับคำตอบจากมิราจไนท์ พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น รู้สึกพึงพอใจมาก ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ไม่ได้กำหนดเวลาในการตามหาให้พวกเขา ตราบเท่าที่เขาบรรลุผลในการตามหามิราจไนท์เเละพาไปหาปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันได้ พวกเขาก็ถือว่าทำภารกิจสำเร็จ

 

“มิราจไนท์ คุณได้ยินคำพูดของพวกเขาเเล้วใช่มั้ย?”ได้ยินคำตอบของพ่อมด รุ่ยเคอ โทนี่ กล่าวตอบผ่านทางโทรศัพท์

 

“อ่า,ฉันได้ยินเเล้ว คุณสตาร์ก บอกวิธีติดต่อของฉันให้พ่อมดทั้งสองคนนี้ เอาเป็นว่าเมื่อถึงเวลาฉันจะตามหาตัวพวกเขาเอง”เเจ็คสัน พูดออกมา

 

ฟุ่บ!

 

โทนี่ ไม่รีรอมอบบัตรชื่อเรียง่าย ที่มีหมายเลขข้างต้นเท่านั้น

 

โทนี่ ได้ให้เบอร์ของเเจ็คสันกับ พ่อมด ไต้เหวิ่น จากนั้นเขาก็ขอวิธีการติดต่อจากเหล่าพ่อมดให้เเจ็คสันอีกด้วย

 

“ฮ่าฮ่า,เช่นนั้นฉันไม่รบกวนคุณเเล้ว พักผ่อนต่อเถอะ”โทนี่ กล่าวบอกลา

 

“อืม,ไว้เจอกัน”

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากโทนี่วางสายโทรศัพท์ พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ก็รู้สึกผ่อนคลาย ตอนนี้เเม้จะไม่สามารถพบมิราจไนท์ได้ชั่วคราวเเต่พวกเขาก็ได้รับวิธีการติดต่อจากมิราจไนท์ เเน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้กังวลเพราะเขารู้ดีเกี่ยวกับพิษบาดเเผลของมิราจไนท์ที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู

 

“เอาล่ะหากมีธุระเร่งด่วนอะไรคุณก็ลองติดต่อมิราจไนท์ไปก่อนก็ได้”หลังจากได้ให้หมายเลขของเเจ็คสันเสร็จ โทนี่ ก็พูดขึ้น

 

“อืม,ขอบคุณ คุณสตาร์ก”เเม้ว่านี่จะไม่ใช่การขอบคุณจากหัวใจทั้งหมด เเต่พ่อมด รุ่ยเคอ ก็ไม่ได้ลืมวิธีการเเสดงความขอบคุณต่อโทนี่

 

“อืม,พวกคุณพอจะมีเวลาว่างร่วมมืออาการกับฉันไหม?”ปัญหาได้รับการเเก้ไขเสร็จ โทนี่ ก็กล่าวถามพ่อมดทั้งสองคน บางทีการได้ร่วมดื่มเหล้าเเละสนทนากับพวกเขาหลังมื้ออาหารอาจทำให้ทั้งสองคนร่วมมือในการช่วยเหลือการทดสอบของเขาอีกครั้ง

 

“ไม่ล่ะ,พวกเราต้องไปเเล้ว”จ้องมองไปที่รอยยิ้มของโทนี่ พ่อมด ไต้เหวิ่น กล่าวปฏิเสธในทันที

 

หลังจากจบบทสนทนาพ่อมดรุ่ยเคอเเละพ่อมดไต้เหวิ่นก็โบกมือวาดประตูมิติเวทมนตร์ขึ้นมาก่อนที่จะเดินเข้าไปเเละจากไปในที่สุด

 

“เห้อ,ไม่รู้จะมีโอกาสที่ดีเช่นนี้อีกหรือไม่!”เห็นทั้งสองคนหายตัวไป โทนี่ ค่อนข้างรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย

“ฮ่าฮ่า,เช่นนั้นก็ต้องขอบคุณพ่อมดทั้งสองท่านเเล้ว J.A.R.V.I.S เร็วเข้า รีบเปิดไฟล์ปฏิบัติงานเตรียมพร้อมการทดลองใหม่ของเราทันที”ได้รับคำตอบที่ตนเองพึงพอใจ โทนี่ ตะโกนบอก J.A.R.V.I.S อย่างรวดเร็ว

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ปฏิบัติอย่างเร่งรีบก่อนที่จะจัดเตรียมห้องทดลอง

ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมด ไต้เหวิ่น รู้สึกเเปลกใจ เห็นได้ชัดว่า J.A.R.V.I.S เป็นปัญญาประดิษฐ์ระดับสูง เเม้เเต่ พ่อมดทั้งสองคนที่เป็นตัวตนที่ทรงเกียรติก็ยังอดประหลาดใจไม่ได้

ภายใต้การควบคุมของ J.A.R.V.I.S การทดสอบรอบใหม่ก็ถูกเตรียมพร้อมเรียบร้อย ตัวเอกในการทดลองครั้งนี้คือ พ่อมดไต้เหวิ่น เขาจะทำการปลดปล่อยอานุภาคเวทมนตร์เล็ก ๆ ให้ J.A.R.V.I.S วิเคราะห์รูปแบบอย่างระวัง

“เตรียมพร้อม,รอการเริ่มต้น”เห็นพ่อมดไต้เหวิ่นเข้ามาถึงพื้นที่โล่ง โทนี่ กล่าวบอก

เนื่องจากพ่อมดทั้งสองคนนี้ตกลงจะช่วยเหลือเขา โทนี่ ไม่ต้องการเสียเวลา ดังนั้นเขาจึงต้องการให้ J.A.R.V.I.S ประมวลผลเเละวิเคราะห์ได้มากที่สุด

เห็น โทนี่ มีความกระตือรือร้นเเละเร่งรีบ ใบหน้าของ พ่อมดรุ่ยเคอ กลายเป็นหมดหนทาง พวกเขาเหล่าพ่อมด เป็นตัวตนที่คอยปกป้องโลกใบนี้อย่างลับ ๆ เเต่ตอนนี้พวกเขากลับก็ต้องมาช่วยมนุษย์ธรรมดาคนนึงศึกษาเวทมนตร์ด้วยวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี

อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่คาดหวังว่าวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีจะสามารถเรียนรู้เวทมนตร์ได้ ดังนั้นพ่อมด รุ่ยเคอ เองก็อยากจะรู้ผลลัพธ์ของการทดลองของโทนี่

ได้ยินการกระตุ้นของโทนี่ พ่อมดไต้เหวิ่น ยืนอยู่ในพื้นที่โล่ง มือทั้งสองข้างของเขาสร้างอักขระสีทองเล็ก ๆ ก่อนที่โล่ห์ป้องกันเวทมนตร์จะปรากฏออกมาที่ด้านหน้าของพ่อมดไต้เหวิ่น

ฟุ่บ!

เเสงเลือนลางสีทองที่ปรากฏออกมาเป็นเวทมนตร์ป้องกันของพ่อมดไต้เหวิ่น ซึ่ง J.A.R.V.I.S ก็ได้วิเคราะห์ข้อมูลท่วงท่าเเละความผันผวนพลังงานเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว

“มหัศจรรย์จริง ๆ นี่น่ะหรอ เวทมนตร์”เเม้จะไม่ได้เห็นเวทมนตร์เหล่านี้เป็นครั้งเเรก เเต่โทนี่ ก็รู้สึกประหลาดใจทุกครั้งที่ได้เห็น

“J.A.R.V.I.S บันทึกข้อมูลทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์รึไม่?”โทนี่ กล่าวตะโกนถาม J.A.R.V.I.S

“บันทึกข้อมูลทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเเล้วครับ”J.A.R.V.I.S บันทึกข้อมูลความผันผวนพลังงานพิเศษเหล่านี้เอาไว้ทั้งหมดเเล้ว

“อืม,เช่นนั้นคุณช่วยเเสดงต่อเลย”เห็น J.A.R.V.I.S บันทึกเวทมนตร์นี้เสร็จ โทนี่ ตะโกนบอกพ่อมดไต้เหวิ่น

การศึกษาเวทมนตร์นั้นไม่ง่าย ถึงเเม้วันนี้จะได้รับข้อมูลโล่ห์ป้องกันเวทมนตร์เเต่นี่ไม่ใช่ความเพียงพอสำหรับโทนี่ วันนี้เขาวางเเผนจะให้ พ่อมดทั้งสองคนเเสดงเวทมนตร์ทั้งหมดของพวกเขาที่มีพวกเขามี เเละโทนี่จะได้ใช้ข้อมูลเหล่านั้นมาปรับเเต่งวิเคราะห์ชุดเกราะไอรอนแมนของเขา

ไดิยนเสียงของ โทนี่ พ่อมดไต้เหวิ่นพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนที่โล่ห์เวทมนตร์ของเขาจะหายไป เเละปรากฏองค์ประกอบเวทมนตร์ที่เป็นดาบโปร่งเเสงในมือของเขาเเทน

จากโล่ห์สีทอง ได้กลายเป็นอาวุธโปร่งเเสงที่พิเศษซึ่งพ่อมดไต้เหวิ่นได้ควงดาบเล่มนั้นตัดพื้นที่วาดฟันท่วงท่าต่าง ๆออกมา

“หืม?คราวนี้เป็นอาวุธงนั้นหรอ?”ภายใต้การเเสดงของพ่อมดไต้เหวิ่น โทนี่ พึมพัมด้วยเสียงเบา ๆ จากนั้น เขาก็เลือกขยายรายการบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขา

ฟุ่บ!

จากนั้นโทนี่ก็เลือกรายการบางอย่าง มันได้ปรากฏเเขนกลจำนวนมากออกมาโดยรอบของพ่อมดไต้เหวิ่น

เห็นว่าเเขนกลจำนวนมากรายล้อมเขาอยู่ ใบหน้าของพ่อมดไต้เหวิ่นเเสดงออกถึงความสงสัยเขาไม่รู้ว่าโทนี่ต้องการจะทำอะไร ดังนั้นเขาจึงต้องการตะโกนถามออกไปเพียงเเต่โทนี่ได้พูดกล่าวเเทรกก่อน

“พ่อมดไต้เหวิ่น คุณช่วยเเสดงพลังของเวทมนตร์ดาบนี้ให้ฉันดูหน่อยได้หรือไม่?”เห็นว่าพ่อมดไต้เหวิ่นไม่เข้าใจเจตนาของตัวเอง โทนี่ ตะโกนบอกทันที

ได้ยินคำพูดของโทนี่ พ่อมดไต้เหวิ่นพยักหน้า เขาได้ใช้ดาบเวทมนตร์ของเขาตวัดฟันไปที่เเขนกลเหล่านี้ทันที

แปรง! แปรง! แปรง! ฟุ่บ ~~~

พ่อมดไต้เหวิ่นฟาดฟันออกไปทั้งหมดสามครั้ง เเขนกลด้านหน้าของเขาถูกตัดออกอย่างรวดเร็ว เเต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไม่ถูกตัดออกจากกัน มันได้เกิดเเรงกระเเทกส่งผลให้พ่อมดไต้เหวิ่นต้องก้าวถอยหลังออกไป

“หืม?”พ่อมดไต้เหวิ่นยกมือขึ้นอย่างประหลาดใจจ้องมองไปที่ส่วนวัสดุที่เป็นโลหะที่เเปลกประหลาด ดาบเวทมนตร์ของเขาเเม้จะไม่ใช่ดาบที่ทรงพลังอะไร เเต่มันสมควรตัดเหล็กได้ เห็นได้ชัดว่าวัสดุเบื้องหน้านั้นเป็นบางสิ่งที่ไม่ธรรมดา

เห็นพ่อมดไต้เหวิ่นรู้สึกสงสัย โทนี่ก็ทำการบันทึกอย่างต่อเนื่อง”นอกเหนือจากโลหะผสมอดาเเมนเทียม อุปกรณ์เหล็กอื่น ๆ ล้วนถูกตัดขาดทั้งหมด ดูเหมือนเวทมนตร์ประเภทดาบนี้จะทรงพลังอยู่พอสมควร”

“พ่อมดไต้เหวิ่น คุณช่วยเเสดงเกราะเวทมนตร์อีกครั้งได้ไหม?ฉันต้องการทดสอบความเเข็งเเกร่งของโล่ห์เวทมนตร์เล็กน้อย”เห็นการโจมตีของดาบวิเศษนี้ โทนี่ กล่าวพูดขึ้น

ฟุ่บ!

ได้ยินเสียงตะโกนของโทนี่ พ่อมดไต้เหวิ่น ยังไม่ได้กล่าวปฏิบัติตามดาบในมือของเขาได้โจมตีไปที่โลหะผสมอดาเเมนเทียมอีกครั้งคราวนี้ เเม้โลหะผสมอดาเเมนเทียมจะไม่ได้ถูกตัดออก เเต่มันก็ยังเกิดรอยเล็ก ๆ ดูเหมือน พ่อมดไต้เหวิ่นจะรู้สึกใจร้อนอย่างมาก

โทนี่ได้ขอร้องให้เขาทำการทดสอบหลายอย่างเเต่เป้าหมายเดิมของเขาเพียงต้องการหาตัวมิราจไนท์เพียงเท่านั้น เเม้พ่อมดไต้เหวิ่นจะไม่พอใจ เเต่เขาก็ถอนหายใจออกมา ดาบในมือของเขาได้หายไปเเละปรากฏโล่ห์เวทมนตร์อีกครั้ง

จากนั้นโทนี่ ก็ได้ทำการโจมตีไปที่โล่ห์เวทมนตร์นั้นเพื่อทดสอบพลังป้องกันของโล่ห์เวทมนตร์ซึ่งผลการทดสอบทำให้โทนี่ประหลาดใจไม่น้อย

จากนั้นโทนี่ก็ร้องขอให้พ่อมดไต้เหวิ่นเเสดงเวทมนตร์อื่น ๆ ในที่สุดพ่อมดไต้เหวิ่นก็บอกว่าใช้พลังจิตจนหมดเเล้ว ซึ่งโทนี่ยังคงไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงได้จ้องมองไปที่พ่อมด รุ่ยเคอ

“พ่อมดรุ่ยเคอ ฉันสัญญาเลยว่าหลังจากคุณช่วยฉันเสร็จฉันจะรีบติดต่อมิราจไนท์ให้ในทันที”เห็นใบหน้าของพ่อมดรุ่ยเคอที่ไม่เต็มใจ โทนี่พูดด้วยรอยยิ้ม

พ่อมดรุ่ยเคอ”…”

ในที่สุดพ่อมดรุ่ยเคอก็เดินไปยังตำเเหน่งของพ่อมดไต้เหวิ่น คราวนี้พ่อมดไต้เหวิ่นไม่ได้กล่าวอะไร เขารู้สึกไม่อยากจะพูดเพราะรู้สึกเหนื่อยอย่างมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันนึงจะต้องมาช่วยเหลือคนอื่นในการทำการทดลองเวทมนตร์เเละใช้พลังจิตจนหมด

“พวกเขากำลังมองหา เเจ็คสัน จริง ๆ !”เเม้ว่าใบหน้าของ โทนี่ จะสงบ เเต่ในใจของเขาค่อนข้างกังวล พ่อมด ทั้งสองคนนี้กำลังมองหา มิราจไนท์ โทนี่ รู้สึกสงสัยเป้าหมายของพวกเขา

 

“อืม,ฉันเองก็รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบพวกคุณ เเน่นอนว่าฉันสามารถช่วยเหลือพวกคุณในการหามิราจไนท์ได้ เขากับฉันค่อนข้างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เเต่ฉันต้องการรู้ว่าพวกคุณมีเป้าหมายอะไรถึงมองหามิราจไนท์งั้นหรอ?”โทนี่ยิ้มถามออกมา

 

เขารู้ดีว่าพ่อมดทั้งสองคนนี้มีเป้าหมายเจตนาที่ดีไม่งั้นเขาคงไม่เฝ้าระวังเเจ็คสันเเละคอยช่วยเหลืออย่างลับ ๆ ในตอนนั้น เเต่เนื่องจากเพราะเขารู้สถานะที่เเท้จริงของเเจ็คสัน เป็นธรรมชาติที่เขาจะกังวล

 

“อ่า,พวกเรารู้ความสัมพันธ์ของคุณ สตาร์ก กับมิราจไนท์ ดี อย่างไรก็ตาม เป้าหมายที่เรามองหามิราจไนท์ เกรงว่าจะไม่สามารถบอกคุณได้”เผชิญหน้ากับคำถามของโทนี่ พ่อมด รุ่ยเคอ ไม่รู้จะกล่าวตอบอย่างไร เพราะเขาได้รับคำสั่งมาจาก ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถบอกสาเหตุในการตามหามิราจไนท์ได้

 

“ไม่สามารถบอกได้? เช่นนั้นก็คงจะยากหน่อย เพราะท้ายที่สุดเเล้วฉันก็ไม่ได้รู้จักพวกคุณดีนัก ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถบอกตำเเหน่งของมิราจไนท์ให้พวกคุณได้เช่นเดียวกัน”โทนี่ กล่าวเเสดงออกอย่างไร้หนทาง

 

“อันที่จริงนี่เป็นคำสั่งจากปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันท่านต้องการให้เราตามหาตัวมิราจไนท์ส่วนเป้าหมายเเท้จริงเเล้วพวกเราไม่รู้เหมือนกัน เเต่มีสิ่งนึงที่เรารับประกันได้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับมิราจไนท์เเน่นอน”หลังจากไตร่ตรองเล็กน้อย พวกเขาก็บอกความจริงออกไปโดยตรง

 

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน? ใช่บุคคลที่จัดการเทพปีศาจในตอนนั้นหรือไม่?”ได้ยินคำอธิบายของพ่อมดไต้เหวิ่น โทนี่ กล่าวถาม

 

ก่อนหน้านี้โทนี่เเละเเจ็คสัน ได้ร่วมมือกันจัดการเวน่อม สไปเดอร์แมน ในตอนนั้นได้มีเทพปีศาจปรากฏตัวขึ้น เเละ พวกพ่อมดเองก็ปรากฏตัวในเวลานั้น ในตอนนั้นโทนี่ได้เห็นพ่อมดที่เเท้จริง เขาได้เเสดงปฏิหาริย์ ในการจัดการเทพปีศาจที่เป็นบ่อเกิดเเห่งความมืดลงได้ ทั้ง เเจ็คสัน ยังมีท่าทีเคารพเขามากอีกด้วย

 

“ใช่,ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน คือ ผู้นำเหล่าพ่อมดอย่างเรา ทั้งยังเป็นจอมเวทย์สูงสุดของโลก”เมื่อพูดถึงปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมด ไต้เหวิ่น กล่าวด้วยความเคารพ

 

“เช่นนั้นฉันจะลองถามมิราจไนท์ให้ว่าเขายินดีจะพบพวกคุณหรือไม่ เรื่องนี้ฉันไม่อาจตัดสินใจเองได้”ในที่สุดโทนี่ก็ตัดสินใจ

 

“เช่นนั้นก็ขอบคุณ คุณสตาร์ก”ได้ยินโทนี่จะช่วยเหลือพวกเขาในการติดต่อ มิราจไนท์ พ่อมด รุ่ยเคอ ตอบกลับอย่างมีความสุข

 

“ฮ่าฮ่า ไม่จำเป็นต้องสุภาพ หากพูดกันตามตรงเมื่อสองสามวันก่อนในช่วงที่มิราจไนท์ถูกโจมตี บุคคลที่ช่วยเราจากการระเบิดของฟรานซิส คงจะเป็นพวกคุณสองคนใช่มั้ย?”โทนี่ กล่าวถามเรื่องนี้ ในตอนนั้น J.A.R.V.I.S ได้ตรวจสอบพบคลื่นพลังบางอย่าง

 

“อืม,นั่นเป็นฝีมือของพวกเรา พวกเราได้วางเเผนตามหาตัว มิราจไนท์ เเต่ดูเหมือนเขาจะถูกจับตัวไป เเละในระหว่างนั้นเราสังเกตุว่าบุคคลนั้นจะทำการระเบิดฆ่าตัวตาย เราจึงทำการช่วยอย่างลับ ๆ “พ่อมดรุ่ยเคอไม่ได้ปกปิด

 

ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นโอกาสที่เขาจะเปิดเผยเจตนาที่ดีของเขาเพื่อให้โทนี่เชื่อมั่นพวกเขามากขึ้น

 

“เช่นนั้นก็เป็นพวกคุณจริง ๆ เเม้ฉันจะคาดการณ์ไว้ว่าจะเป็นพวกคุณอยู่ก่อนเเล้วก็ตาม”ได้ยินพ่อมดคนนี้กล่าวความจริง โทนี่ ในที่สุดก็สามารถยืนยันได้

 

เมื่อเห็นโทนี่มีความมั่นใจในตัวพวกเขามากขึ้นทั้งสองคนก็มีความสุขใจ บางที โทนี่ อาจจะช่วยเหลือให้พวกเขาสามารถติดต่อมิราจไนท์ได้โดยเร็ว นั่นก็อาจจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ โทนี่

 

เฝ้ามองการเเสดงออกของพ่อมดสองคน โทนี่ เปิดเผยใบหน้าเจ้าเล่ห์ขึ้นมา เเน่นอนว่าทั้งสองคนไม่รู้ว่าโทนี่คิดอะไรอยู่

 

“อันที่จริงก่อนหน้านี้ที่ฉันได้เห็นเวทมนตร์ฉันก็รู้สึกชื่นชมพวกคุณมาก ตั้งเเต่นั้นมาฉันก็เริ่มสนใจเวทมนตร์ ไม่ทราบว่าพวกคุณทั้งสองคนพอจะช่วยเหลือฉันบางอย่างได้หรือไม่ เเน่นอนว่าฉันจะช่วยเหลือพวกคุณให้สร้างสัมพันธ์กับมิราจไนท์ได้โดยเร็ว”เห็นพ่อมดทั้งสองคนมีความคิดบางอย่าง ในที่สุดโทนี่ก็รู้ตัวว่าเวลานี้เป็นสิ่งที่เขาจะพูด ดังนั้นเขาต้องการให้พ่อมดทั้งสองคนช่วยเหลือเขา

 

“ช่วยเหลือคุณ? เช่นนั้นคุณต้องการอะไรล่ะ”ได้ยินโทนี่ถาม พ่อมดไต้เหวิ่น กล่าวถามอย่างสงสัย

 

อันที่จริง พ่อมด รุ่ยเคอ ก็สงสัย มากเกี่ยวกับคำอธิบายของโทนี่ เมื่อครู่ เเต่พ่อมดรุ่ยเคอ นั้นเป็นคนที่จิตใจบริสุทธิ์เขาไม่สามารถรู้ธาตุเเท้ของโทนี่ว่ากำลังขุดหลุมพรางพวกเขา

 

“อันที่จริงฉันได้ศึกษาเวทมนตร์เมื่อเร็ว ๆ นี้ เเต่ยังไม่ค้นพบวิธีการที่จะเดินหน้าต่อ ดังนั้นฉันต้องการให้พวกคุณช่วยเหลือฉันในการทดลองเกี่ยวกับเวทมนตร์ได้หรือไม่?”จ้องมองไปที่พ่อมดทั้งสองคน โทนี่ กล่าวอย่างระวัง

 

ได้ยินคำขอของโทนี่ เเน่นอนว่า พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ร้สึกเเปลกใจ นี่เป็นคำขอที่ดูเเล้วเเน่นอนว่ามันมากเกินไป ธรรมชาติคนธรรมดาส่วนใหญ่ไม่รู้จักตัวตนอย่างพวกเขาที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้

 

ดังนั้นพ่อมด รุ่ยเคอ จึงเปิดปากพูด”คุณสตาร์ก ฉันไม่เข้าใจความหมายของคุณ คุณบอกให้เราช่วยเหลือคุณในการศึกษาเวทมนตร์ เช่นนั้น คุณต้องการเรียนเวทมนตร์ใช่หรือไม่?”

 

“ไม่,ไม่อย่างเเน่นอน ฉันไม่ได้ต้องการศึกษาเวทมนตร์ เเต่เดี๋ยว ฉันสามารถศึกษาเวทมนตร์ได้?”ได้ยินคำพูดของพ่อมดรุ่ยเคอ โทนี่ สั่นศีรษะกล่าวปฏิเสธก่อนที่เขาจะตระหนักบางอย่าง

 

“การศึกษาเรื่องเวทมนตร์เป็นเรื่องร้ายเเรงพวกเราไม่อาจสอนคุณได้โดยง่าย”เมื่อเห็นโทนี่ตระหนักเเละรู้สึกตื่นเต้น พ่อมดไต้เหวิ่น กล่าวเตือน

 

เเม้ว่าประชากรของโลกจะมากเเต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถสืบทอดเวทมนตร์ได้นอกจากนี้ การสืบทอดเวทมนตร์จะถูกสอนให้เฉพาะผู้ที่มีความอุตสาหะเเละได้รับการยอมรับจากเวทมนตร์เพียงเท่านั้น หรือก็คือ ผู้ที่มีโชคชะตาต้องกับเวทมนตร์

 

“งั้นหรอ?”

 

“เช่นนั้นพวกคุณสามารถช่วยเหลือฉันในการทดลองเวทมนตร์ได้หรือไม่?”ได้ยินคำพูดของพ่อมดไต้เหวิ่น โทนี่กล่าวอย่างสงบ บางทีเขาอาจจะไม่มีพรสวรรค์ในการศึกษาเวทมนตร์ ดังนั้นโทนี่จึงจ้องมองไปที่เป้าหมายเดิมของเขา

 

“เรื่องนี้…”พ่อมดรุ่ยเคอ อ้ำอึงเล็กน้อย เเน่นอนว่าเกียรติของพ่อมดอย่างพวกเขา ย่อมไม่ตัดสินใจช่วยเหลือเรื่องเหล่านี้อย่างเเน่นอน

 

อย่างไรก็ตามไม่ต้องรอให้ พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวปฏิเสธ โทนี่ ได้เปิดปากพูดอีกครั้ง”หลังจากที่มิราจไนท์ได้รับการช่วยเหลือจากฐานพวกไฮดร้า เห็นเขาบอกต้องการจะพักผ่อนไปชั่วระยะเวลานึง”

 

เห็นการเเสดงออกของพ่อมดทั้งสองคนที่ไม่ต้องการจะช่วยเหลือเขาในการศึกษาเวทมนตร์ โทนี่ จึงพูดเรื่องนี้ออกไป เพราะเป้าหมายทั้งสองคนก็คือตามหาตัวมิราจไนท์

 

ได้ยินคำพูดของโทนี่ พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น มองหน้ากัน พวกเขาค่อนข้างมีจิตใจที่บริสุทธิ์เเต่พวกเขาไม่ได้โง่ เเละไม่ได้เข้าใจในความหมายเเฝงของโทนี่ ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ช่วยเหลือโทนี่ เเน่นอนว่า โทนี่ ก็จะปฏิเสธเรื่องมิราจไนท์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือก

 

“เอาล่ะ พวกเราจะช่วยเหลือคุณ”ในที่สุดพวกเขาก็ไม่อาจปฏิเสธคำขอของโทนี่ได้ เพราะได้รับคำสั่งมอบหมายมาจากปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันในการตามหา มิราจไนท์ ดังนั้นพวกเขาจะต้องบรรลุภารกิจนี้ให้สำเร็จ

นิวยอร์กวิลล่าชายทะเลของโทนี่

 

หลังจากผ่านภารกิจช่วยเหลือเเจ็คสันโทนี่ก็ตระหนักได้ถึงบางอย่าง เขาพยามเร่งส่งเสริมความเเข็งเเกร่งของชุดเกราะ โดยการประเมินคร่าว ๆ ของเขา การผสมชุดเกราะเข้ากับเวน่อมยังไม่มีทิศทางที่จะสามารถต้านรับเวทมนตร์ได้เลย ดังนั้นการพัฒนาชุดเกราะไอรอนแมนยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ

 

ฮึ่ม!

 

ในเวลานี้โทนี่ได้สวมเเว่นตาเพื่อปรับเเบบทดสอบด้านหน้า ด้านหน้าของเขา มีอนุภาพออสซิลเลเตอร์ ซึ่งเป็นอานุภาพความถี่ที่ต่างกัน นี่เป็นการทดลองใหม่ล่าสุดของโทนี่

 

“J.A.R.V.I.S ปรับอัตราส่วนเเรงรับของอนุภาพ!”โทนี่ กล่าวสั่งการ

 

“ครับเจ้านาย!”

 

หึ่ม!

 

หลังจากได้ยินคำสั่งของ โทนี่ J.A.R.V.I.S ก็ปรับเเต่งอัตราส่วนอนุภาคเเละยิงออกไป เพียงเเต่อนุภาคที่ถูกยิงออกมานั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่นัก

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่อนุภาคถูกยิงออกมา อุปกรณ์บนโต๊ะได้สั่นไหวอย่างรุนเเรง

 

ฮึ่ม!

 

คราวนี้ไม่ต้องรอให้ โทนี่ สั่งการ J.A.R.V.I.S ได้ปรับเเต่งกลุ่มอนุภาพให้เบาบางลงจนถึงขั้นเสถียร เเต่อนุภาคที่เสถียรนี้ยังไม่ใช่ผลลัพธ์ที่โทนี่ ต้องการ

 

ในที่สุดการทดลองก็สิ้นสุดลง โทนี่ ได้ถอดเเว่นตาออก การเเสดงออกของเขาค่อนข้างย่ำเเย่มาก

 

~ ~

 

“J.A.R.V.I.S บันทึกผลการทดลองในครั้งนี้ เราจะนำไปปรับใช้ในครั้งต่อไป”โทนี่ บอกกล่าวต่อ J.A.R.V.I.S

 

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ปฏิบัติตามเช่นเคย

 

การทดลองนี้เป็นการทดลองใช้อนุภาคความเร็วสูงเพื่อให้เกิดความผันผวนพิเศษอย่างหลากหลาย ซึ่งตามข้อมูลที่ J.A.R.V.I.S บอกขั้นต้นนั้น นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

 

การทดลองนั้นก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เพราะไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางจะสำเร็จได้หรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นอนุภาพที่ปรากฏขึ้นเเม้จะมั่นคงเเต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือในการพัฒนาชุดเกราะไอรอนแมนได้

 

เกี่ยวกับข้อมูลของ เวน่อม โทนี่ ได้เฝ้าสังเกตุการณ์ต่อไปชั่วคราว เพราะ เวน่อม เป็นสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว ตอนนี้เขากำลังทำการคัดเเยกตัวหลักของเวน่อมเเละดูขั้นตอนการดำเนินชีวิตของมัน โทนี่ต้องการข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับมันมากกว่านี้

 

ดังนั้นเพื่อให้ชุดเกราะไอรอนแมนของเขาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โทนี่ จะต้องพิจารณาเรื่องการอัพเกรดชุดเกราะโดยมีเป้าหมายอย่างเเรกคือสามารถต่อต้านเวทมนตร์ได้

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะที่โทนี่ คิดว่าจะควรปรับปรุงความผิดพลาดอย่างไร ห้องปฏิบัติการณ์ใต้ดินของเขาก็ส่งเสียงเตือน

 

“เจ้านายครับ,ตรวจพบคลื่นความผันผวนบางอย่าง!”ได้ยินเสียงเตือน J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานโทนี่อย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

ไม่ต้องรอให้โทนี่สั่งการ J.A.R.V.I.S เปิดระบบอาวุธต่าง ๆ ภายในห้องปฏิบัติการณ์เล็งไปที่จุดคลื่นความผันผวนเหล่านั้นเพื่อรอตอบโต้เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

 

โทนี่ จ้องมองไปที่ วงเเหวนสีทองเบื้องหน้า เขาค่อนข้างคุ้นเคยกับพลังงานความผันผวนเหล่านี้ วงเเหวนสีทองเบื้องหน้านั้นเป็นวงกลมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางสองเมตร

 

“นี่มัน…”หลังจากสังเกตุดูดี ๆ การเเสดงออกของโทนี่ ได้เปล่งประกายอีกครั้ง

 

ตึก ตึก !

 

จากนั้นสิ่งที่ปรากฏออกมาก็ทำให้โทนี่ประหลาดใจ มีบุคคล สองคนเดินออกมาท่ามกลางรัศมีเเสงวงกลมสีทอง นี่คือ พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมด ไต้เหวิ่น

 

ปรากฏสองบุคคลที่น่าสงสัย J.A.R.V.I.S ได้ควบคุมระบบอาวุธพร้อมทำงานอย่างสมบูรณ์ ตราบเท่าที่โทนี่กล่าวสั่งการ อาวุธพลังงานสูงจำนวนมากก็พร้อมจะถูกยิงออกมา

 

เเม้ว่าเหล่าพ่อมดพวกนี้จะเเข็งเเกร่ง เเต่พวกเขาก็ไม่ได้คงกระพัน หากไม่ได้รับการป้องกันอย่างดี ด้วยอาวุธพลังงานเเรงสูงหลายกระบอกนี้ สามารถทำให้ พ่อมดทั้งสองคนนี้ตกตายได้อย่างรวดเร็ว

 

“J.A.R.V.I.S อย่าโจมตี!”เห็นพ่อมดทั้งสองคนที่ค่อนข้างคุ้นเคย โทนี่ กล่าวตะโกนห้ามทันที

 

“ครับเจ้านาย!”ได้รับคำสั่งจาก โทนี่ J.A.R.V.I.S ปิดระบบอาวุธทั้งหมด

 

ฟุ่บ~

 

พ่อมดทั้งสองคนไม่ได้สนใจอาวุธอันตรายจำนวนมากเหล่านี้ พวกเขาเดินเข้าไปที่เบื้องหน้าของ โทนี่

 

“สวัสดี คุณ สตาร์ก พวกเราเคยพบกันมาก่อน ฉันชื่อ รุ่ยเคอ”มาถึงเบื้องหน้าของโทนี่ พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวทักทายอย่างสุภาพ

 

“สวัสดี,ฉัน ไต้เหวิ่น”พ่อมด ไต้เหวิ่น ก็ยื่นมือกล่าวทักทาย

 

“อืม,สวัสดี เหล่าพ่อมดที่คอยพิทักษ์โลก”โทนี่ยื่นมือออกไปกล่าวทักทายตอบกลับ

 

“ไม่ทราบว่า พ่อมด ทั้งสองคนมีธุระอะไรกับฉัน? หากฉันสามารถช่วยเหลือได้ ไม่จำเป็นต้องเกรงใจสามารถบอกกล่าวได้เลย”โทนี่ยิ้มถามอย่างรวดเร็ว

 

ตอนนี้โทนี่กำลังทดลองวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีให้มีความสามารถสอดคล้องกับเวทมนตร์ เเละพ่อมดทั้งสองคนนี้สามารถใช้เวทมนตร์ได้ หากได้ทั้งสองคนช่วยเหลือ ชุดเกราะไอรอนแมนของ โทนี่ บางทีเขาจะสามารถพัฒนาในสิ่งที่ต้องการได้

 

“ฮ่าฮ่า,ดูเหมือนคุณสตาร์กจะค่อนข้างมีอารมณ์ขันไม่น้อย”ได้ยินคำพูดของ โทนี่ ไต้เหวิ่น พูดด้วยรอยยิ้ม

 

“พวกเราไม่ได้ต้องการรบกวนเวลาของคุณ เพียงต้องการให้ คุณสตาร์ก ช่วยเหลือเรื่องเล็กน้อย”หลังจากพ่อมด ไต้เหวิ่น หยอกล้อ โทนี่ เสร็จ พ่อมด รุ่ยเคอ ก็เข้าประเด็น

 

“เรื่องเล็กน้อย?”ได้ยินพ่อมด รุ่ยเคอ บอกเรื่องเล็กน้อย ในใจของโทนี่ รู้สึกสงสัย

 

อันที่จริงโทนี่ รู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับทั้งสองคน เพราะก่อนหน้านี้ที่เขาไปช่วยเหลือ เเจ็คสัน โทนี่ จับสัมผัสคลื่นพลังงานเวทมนตร์ได้ เขาเชื่อว่าคลื่นพลังงานเหล่านั้นจะต้องเป็นของทั้งสองคนนี้เเน่นอน

 

“อันที่จริงเราต้องการทราบที่อยู่ของ มิราจไนท์”พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวถึงสิ่งที่เขาต้องการโดยตรง อย่างไม่ปิดบัง

หลังจาก เจ้าหน้าที่ โคลสันได้วางสายโทรศัพท์ ก่อนหน้านี้ที่ มิราจไนท์เตือนเขาถึงอาวุธที่อาจนำมาซึ่งปัญหาสำหรับเขา เดิมเขาย่อมไม่เชื่อ เเต่พอได้เห็น อานุภาพของ ระเบิดปืนใหญ่ไฟ อาวุธนี้เป็นเทคโนโลยีระดับสูงไม่ผิดอย่างเเน่นอน เกี่ยวกับตัวตนของมิราจไนท์ ยิ่งมายิ่งลึกลับ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าดังกล่าว โคลสันไม่รีรอให้ นักวิเคราะห์มืออาชีพเริ่มทำการวิเคราะห์องค์ประกอบของอาวุธทันที

 

ได้รับคำอนุญาติให้ศึกษาระเบิดปืนใหญ่ไฟ เเน่นอนว่า เจ้าหน้าที่โคลสัน จะไม่ยอมปล่อยโอกาสที่ดีเหล่านี้ให้หลุดมือไป

 

เจ้าหน้าที่โคลสันให้เวลานักวิเคราะห์เหล่านี้ร่วมสัปดาห์ในการศึกษาองค์ประกอบของระเบิดปืนใหญ่ไฟ เเม้จะตื่นเต้น เเต่พวกเขาก็รู้สึกกดดันในเวลาเดียวกัน เพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะศึกษาระเบิดปืนใหญ่ไฟนี้ได้อย่างสมบูรณ์ภายใน หนึ่งสัปดาห์

 

หลังจากจัดเเจงหน้าที่เสร็จเจ้าหน้าที่โคลสันก็ออกจากห้องปฏบัติการใต้ดินในสำนักงานใหญ่ ตอนนี้ เขามีเเผนที่จะสืบเสาะข้อมูลของพวกไฮดร้า ตอนนี้ เขาได้รับความร่วมมือกับจากทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์มาเเล้ว เเละ โคลสันเอง ก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับเเนวหน้าที่สำคัญ ตอนนี้สิ่งที่เขาควรทำก็คือตอบโจทย์ของมิราจไนท์ ค้นหาข่าวของพวกไฮดร้า เเละ เริ่มเคลื่อนไหวดำเนินหน้าต่ออย่างรวดเร็ว

 

 

“นายทิ้งอาวุธไว้ที่ฐานของพวกไฮดร้า?”หลังจากเเจ็คสันวางโทรศัพท์ ปีเตอร์ กล่าวถาม

 

“อืม,เป็นดาบเก้าอสนี เเละ ระเบิดปืนใหญ่ไฟ ของฉัน สำหรับ ดาบเก้าอสนี พวกเขาน่าจะส่งคืนมาโดยเร็วเพราะฉันไม่ได้อนุมัติ ฉันได้ให้พวกเขาศึกษา ระเบิดปืนใหญ่ไฟเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตามฉันก็ไม่ได้คาดหวังว่า S.H.I.E.L.D. จะสามารถเรียนรู้อะไรได้มากนัก คุณสมบัติของพวกเขายังคงเเตกต่างจาก คุณ สตาร์ก”เเจ็คสันกล่าวตอบปีเตอร์

 

“เเจ็คสัน ฉันรู้สึกสงสัยจริง ๆ อาวุธไฮเทค ต่าง ๆ ที่นายมี นายเอามันมาจากไหนกัน?”ปีเตอร์ที่เดินข้างเเจ็คสัน กล่าวถามเรื่องนี้

 

สำหรับชุดของปีเตอร์ ชุดสไปเดอร์แมนนั้นเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับมาจาก โทนี่ เเต่ในขณะที่ อาวุธของเเจ็คสันไม่ได้มาจากของโทนี่ เพราะพวกเขาเพิ่งรู้สถานะที่เเท้จริงของ เเจ็คสันได้ไม่นาน ไม่เพียงเเต่ปีเตอร์เท่านั้นที่สงใสเรื่องนี้เเม้เเต่เเฮร์รี่ก่อนหน้านี้เขาก็สงสัย

 

“ฮ่าฮ่า,นี่เป็นความลับ เเน่นอนว่าฉันสามารถหาอาวุธไฮเทคเหล่านี้ได้จริง เเต่มันก็ต้องมีค่าตอบเเทนที่สูงพอสมควร”ได้ยินคำถามของปีเตอร์ เเจ็คสันยิ้มออกมา เเน่นอนว่าเขาก็เคยบอกเรื่องนี้กับโทนี่ไปเเล้วเหมือนกัน

 

“เเจ็คสันหรือว่านายซ่อนตัวตนของนายไว้? นายเป็นมนุษย์ต่างดาวใช่มั้ย?”ปีเตอร์พูดอย่างคิดการณ์ไกล

 

“ฮ่าฮ่า,ก็อาจจะ ฉันมาเพื่อลักพาตัวนายไงล่ะ…”

 

 

ผ่านมาหลายวันหลังจากที่เเจ็คสันได้รับการช่วยเหลือ ชีวิตของเขาสงบสุขมากได้ไปโรงเรียนเเละกลับบ้าน ช่วงนี้ เขาก็ไม่ได้เเสดงปรากฏตัวในฐานะมิราจไนท์ เพราะเขาต้องการพักผ่อน

 

ในขณะเดียวกัน เเจ็คสันก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ด้วยความเเข็งเเกร่งในปัจจุบันของเขา ไม่สามารถที่จะจัดการ มิวแทนท์ที่เเข็งเเกร่งทั้งสองได้ เเม้จะได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมก็ตาม ในทางกลับกัน เเจ็คสันก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับพวกไฮดร้า เพราะพวกมันรู้สถานะที่เเท้จริงของเขา บางทีพวกมันอาจจะล้างเเค้นเขาเเละไปลงที่ครอบครัวของเขา เพราะงี้ เเจ็คสันจึงไปเรียนเเละรีบกลับบ้านอย่างรวดเร็ว เเม้การอยู่ที่บ้านช่วงนี้จะน่าเบื่อมากเเต่มันก็ทำให้เขารู้สึกคลายความกังวล

 

เเต่พอไม่ได้รับข่าวคราวของพวกไฮดร้านานวันเข้า เเจ็คสันก็ยังคงวิตกกังวลอย่างต่อเนื่อง ผ่านไปหลายวัน เเจ็คสันจึงได้ตั้งหน้ามุ่งมั่นที่จะหาทางพัฒนาความเเข็งเเกร่งเเม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม

 

ขณะเดียวกันเขาก็ยังคงคิดถึงคำชวนจาก ไอซ์แมน โรเบิร์ต ที่ชวนไปเยี่ยม โรงเรียน X ความเเข็งเเกร่งของทีม X-MEN หากเเจ็คสันได้รับการสนับสนุนจากพวกเขา การรับมือกับพวกไฮดร้าก็จะง่ายขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถของ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเข็งเเกร่งมาก เขามีส่วนที่จะช่วยหาพวกไฮดร้าที่อยู่ทั่วโลกได้ ความสามารถระดับนี้สามารถพึ่งพาได้มากกว่าเเหล่งข้อมูลของ S.H.I.E.L.D.

 

เเจ็คสันใช้เวลาไตร่ตรองอยู่หลายวันก่อนที่จะตัดสินใจไปเยี่ยมที่โรงเรียนซาเวียร์ ในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ในขณะที่เเจ็คสันกำลังกังวล เขาหารู้ไม่ว่ายังมีกลุ่มอิทธิพลนึงที่กำลังตามหาตัวเขา นั่นก็คือ พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมด ไต้เหวิ่น เพราะพวกเขาไม่รู้สถานะที่เเท้จริงของ มิราจไนท์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถค้นหามิราจไนท์ได้

 

“รุ่ยเคอ นายไม่ใช่ว่าต้องการไปหาสไปเดอร์แมนเเล้วหรอกหรอ?บางที เขาอาจจะรู้ว่ามิราจไนท์เป็นใคร?”บนตึกอาคารเเห่งนึงในนิวยอร์ก พ่อมด ไต้เหวิ่น กล่าวถาม

 

ในฐานะที่พ่อมดไต้เหวิ่นเป็นเเฟนคลัยสไปเดอร์แมนเเน่นอนว่าเขาค่อนข้างให้ความสนใจสไปเดอร์แมน เเต่เพราะเหตุการณ์วุ่นวายของมิราจไนท์ทำให้เขาลืมเรื่องนี้ไปเลย

 

“ฉันก็อยากจะทำแบบนั้น เเต่ สไปเดอร์แมน ดูเหมือนจะปรากฏตัวในช่วงนี้น้อยลง”ในฐานะเเฟนคลับสไปเดอร์แมน พ่อมด รุ่ยเคอ รู้ทันทีว่าการปรากฏตัวของสไปเดอร์แมนช่วงนี้น้อยลงอย่างมาก

 

ฮึ่ม~

 

“งั้นหรอ?”พ่อมด ไต้เหวิ่น กางหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน เเละ กล่าวตอบ พ่อมด รุ่ยเคอ

 

ในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นระบุว่าสไปเดอร์แมนได้ช่วยคุณยายคนนึงข้ามถนน

 

เเม้ปีเตอร์จะปรากฏขึ้นเเต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่น้อยนิดซึ่งมีคนสังเกตุเห็นเพียงเท่านั้น

 

“หรือว่าบางทีเราควรมองหา โทนี่ ดี?”หลังจากกวาดผ่านหนังสือพิมพ์ข้าง ๆ หลายครั้ง พ่อมดรุ่ยเคอ ที่อยู่ข้าง ๆก็กล่าวพูดขึ้น

 

“โทนี่ สตาร์ก บางทีเขาอาจะสามารถช่วยเหลือเราในการค้นหา มิราจไนท์ ได้เพราะก่อนหน้านั้นดูเหมือนพวกเขาจะจากไปด้วยกัน”ฟังคำพูดของ พ่อมด รุ่ยเคอ พ่อมด ไต้เหวิ่น เลิกอ่านหนังสือพิมพ์ทันที

 

“อ่า…เราควรจะมองหา โทนี่ สตาร์ก ตอนนี้เขาคงอยู่ในบ้านพักริมทะเลของเขา”พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวอย่างเร่งรีบ

 

“อืม,ไปกันเถอะ”พ่อมด ไต้เหวิ่น พยักหน้า เห็นด้วย

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นประตูเวทมนตร์ก็ปรากฏขึ้นก่อนที่ร่างของพ่อมด ไต้เหวิ่น เเละ พ่อมด รุ่ยเคอ จะเดินเข้าไปเเละหายวับไปกับตา

 

หลังจากนอนพักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งวัน,วันต่อมาเขาก็บอกพ่อกับเเม่ว่าสนใจงานที่ สตาร์กอินดัสตรีท์,หรือ ออสคอร์ป ไหม ซึ่งผลตอบรับที่ได้เป็นอย่างที่เขาคาดเอาไว้ เพราะหน้าที่การงานของพวกเขาทั้งสองมั่นคงทั้งยังเป็นธุรกิจครอบครัวไม่จำเป็นจะต้องมองหางานใหม่

 

เกี่ยวกับการตัดสินใจเช่นนี้เเจ็คสันไม่สามารถบังคับพ่อกับเเม่ของเขาได้ ดังนั้นเเจ็คสันจึงได้เเลกเปลี่ยนสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันระดับสูงมาสองอันให้พ่อกับเเม่ของเขา ซึ่งเขาได้ใช้จ่ายไปมากกว่า 5,000 เเต้มจุด

 

“หวังว่าพวกไฮดร้าจะไม่มาวุ่นวายกับพ่อเเม่ของฉัน”เเจ็คสันปราถนาเรื่องนี้อยู่ในใจ เพราะหากเขาไม่รีบกำจัดพวกไฮดร้า มันก็คงไม่อาจคลายความกังวลของเขาได้

 

เเน่นอนว่าพวกไฮดร้ามีโอกาสที่จะข้องเเวะกับครอบครัวของเขาเเละบางทีอาจจะใช้วิธีการชั่วร้ายในการรับมือกับเเจ็คสัน ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร เเจ็คสันจะต้องกำจัดพวกไฮดร้าให้ได้โดยเร็ว

 

หลังจากนั้นเขาก็เดินทางไปโรงเรียนในระหว่างทางเเจ็คสันได้เจอกับปีเตอร์ทั้งสองได้กอดคอกันเดินเข้าชั้นเรียนซึ่งสายตาของปีเตอร์เเละเเจ็คสันได้จ้องมองไปยังหลังห้องเรียนยังโต๊ะตัวนึงที่ว่างเปล่า โต๊ะตัวนั้นเป็นที่นั่งของทอม

 

ทอมได้หายตัวไปร่วมสัปดาห์ ครอบครัวสมิธก็เป็นห่วงเขามาก ดังนั้น ลุงสมิธจึงได้รีบไปเเจ้งความกับตำรวจในปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับข่าวคราวใด ๆ

 

จ้องมองไปยังตำเเหน่งโต๊ะของทอมที่ว่างเปล่า เเจ็คสันรู้สึกไม่สบายใจ เมื่อคืน ลุงสมิธ ได้มาที่บ้านของเขา เเละ เล่าถึงเรื่องที่ทอมหายตัวไปอย่างกังวล ได้ฟังเช่นนั้นจากปากลุงสมิธ เเละ ภรรยาของเขา เเจ็คสันรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก

 

“ทอม,ไม่ว่าอย่างไรฉันก็จะต้องช่วยนายกลับมาให้ได้”มองไปที่โต๊ะด้านหลังของทอม เเจ็คสันบ่นพึมพัมในใจ

 

“เเจ็คสัน,นายไม่เป็นอะไรนะ?”เห็นเเจ็คสันจ้องมองไปที่โต๊ะของทอมเเละถอดถอนหายใจอย่างยาวนานปีเตอร์กล่าวถามด้วยความกังวล

 

การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเเจ็คสัน ได้รับการเฝ้ามองโดยอาจารย์ภายในชั้นเรียน เเต่เพราะเเจ็คสันตั้งใจเรียนเเละมีผลการเรียนที่ดี ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจาก โทนี่ สตาร์ก ดังนั้น อาจารย์ในโรงเรียน จึงไม่ได้กล่าวตำหนิเขา เเต่การกระทำของเเจ็คสันในช่วงนี้จะส่งผลกระทบต่อคนอื่น ๆ ในห้องเรียน

 

“ฉันไม่เป็นไร เเค่รู้สึกคิดถึงทอมมากก็เเค่นั้น ตอนนี้ พ่อเเม่ของทอม กำลังเป็นห่วงเขามากตอนนี้”เเจ็คสันกล่าวตอบด้วยเสียงเล็กน้อย

 

“ผ่อนคลายเถอะ,พวกเราจะต้องช่วยทอมออกมาให้ได้!”เห็นเเจ็คสันยังคงกังวล ปีเตอร์ ปลอบเขา

 

“อืม”

 

 

พอถึงวันหยุดเรียน เเจ็คสัน ก็ตั้งใจว่าจะวางเเผนกับโทนี่เรื่องการรับมือกับพวกไฮดร้า ในขณะนั้นเองโทรศัพท์ของเขาก็ส่งเสียงอย่างกระทันหันมันเป็นสายจาก เจ้าหน้าที่โคลสัน เเจ็คสันร้อนรนคิดว่านี่เป็นข่าวของพวกไฮดร้า

 

“เจ้าหน้าที่โคลสัน, ได้ข่าวของพวกไฮดร้าเเล้วงั้นหรอ?”เเจ็คสันกดรับโทรศัพท์อย่างเร่งรีบ ซึ่งปีเตอร์ที่อยู่ใกล้ ๆ เองก็ตื่นตกใจ

 

“ไม่ใช่…ดูเหมือนพวกไฮดร้าตอนนี้กำลังหลบซ่อนตัวชั่วคราว”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เจ้าหน้าที่โคลสันกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว หลายวันมานี้เขาไม่ได้รับวี่เเววของพวกไฮดร้าเเม้เเต่น้อย

 

“เช่นนั้นคุณติดต่อฉันด้วยเรื่องอะไร? หากไม่ใช่เรื่องของพวกไฮดร้า ไม่จำเป็นต้องติดต่อฉัน เพราะมันค่อนข้างรบกวนเวลาของฉันพอสมควร”เเจ็คสันกล่าวเสียงต่ำทันที

 

“เอ่อ…หลังจากที่เราจัดการทำความสะอาดฐานของพวกไฮดร้า ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ เราได้พบดาบบางอย่าง ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอาวุธของคุณ ดังนั้นที่ฉันโทรมาครั้งนี้ จึงต้องการถามคุณว่าจะให้ฉันส่งดาบเล่มนี้คืนคุณอย่างไร”เจ้าหน้าที่โคลสัน ไม่ได้โกรธกับกิริยาของมิราจไนท์เช่นนั้น

 

ในขณะที่ S.H.I.E.L.D. จัดการเก็บกวาดซากฐานของพวกไฮดร้า เขาก็พบกับดาบเก้าอสนีของ มิราจไนท์ เดิมทีพวกเขาคิดว่ามันเป็นอาวุธของพวกไฮดร้าเเต่พอลองสังเกตุดี ๆ S.H.I.E.L.D. ก็จำได้ว่า นี่เป็นดาบของมิราจไนท์ที่ เขาใช้บ่อย ๆ ดังนั้นเจ้าหน้าที่โคลสันจึงโทรมาเตือนเรื่องนี้

 

เเน่นอนว่าในระหว่างที่พวกเขาค้นพบดาบเล่มนี้ เจ้าหน้าที่โคลสัน ได้ให้เเผนกอาวุธดำเนินการตรวจสอบดาบเก้าอสนีนี้ เเละผลการทดลองทำให้ S.H.I.E.L.D. รู้สึกตกใจมาก นักวิจัยเหล่านั้นรู้สึกตื่นเต้น เพราะดาบเก้าอสนีนี้สามารถดูดซับพลังงานเอาไปกักเก็บไว้ได้ นี่เป็นอาวุธที่พิเศษอย่างมาก นั่นทำให้พวกเขารู้สึกได้ว่าอาวุธที่มิราจไนท์ใช้นั้นค่อนข้างไม่ธรรมดาเลย

 

“ดาบของฉัน?เเล้วพบระเบิดปืนใหญ่ไฟของฉันรึไม่?”ได้ยินเสียงของเจ้าหน้าที่โคลสันที่บอกค้นพบดาบของตัวเอง เเจ็คสันที่ตอนนั้นมัวเเต่ช่วยทอมเขาเหมือนจะลืมเรื่องนี้ไปเลย

 

“ระเบิดปืนใหญ่ไฟ อะไรล่ะนั่น?”ได้ยินคำถามชื่อนี้จากปากของมิราจไนท์ เจ้าหน้าที่โคลสันขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่โคลสันก็เบนสายตาไปรอบ ๆ ในพื้นที่ห้องนี้มีอาวุธไฮเทคของพวกไฮดร้ามากมาย เเละ พวกเขากำลังทำการทดสอบอยู่ โดยเฉพาะอาวุธสนามพลังของทีมอัลฟ่านี่มันค่อนข้างเป็นอาวุธไฮเทคมากจริง ๆ

 

“มันเป็นอาวุธรูปร่างคล้ายปืนขนาดเล็กพิเศษ นั่นเป็นของของ ฉันด้วย”ได้ยินความสงสัยของ เจ้าหน้าที่โคลสัน เเจ็คสันไม่ได้อธิบาย

 

“คุณมีอาวุธอย่างอื่นด้วยงั้นหรอ?”เเม้คำอธิบายของมิราจไนท์จะง่าย เจ้าหน้าที่โคลสันก็เหลือบไปเห็นอาวุธรูปทรงคล้ายปืนขนาดเล็กเขาหยิบขึ้นมาไว้ในมือก่อนที่จะยื่นให้ช่างตรวจสอบ

 

“อืม,ระเบิดปืนใหญ่ไฟนั่น เป็นอาวุธของฉัน คุณให้ เเดร์เดวิล เอามาให้ฉันพร้อมกับดาบเเล้วกัน”เเจ็คสันกล่าวอธิบายเขารู้ว่าหากปล่อยระเบิดปืนใหญ่ไฟนั่นทิ้งไว้ที่ S.H.I.E.L.D. มันจะต้องโดนตรวจสอบเเน่นอน

 

“นอกจากนี้มันจะดีกว่าหากคุณไม่พยายามทดสอบระเบิดปืนใหญ่ไฟของฉัน เพราะมันอาจจะสร้างปัญหาให้คุณก็ได้…”เเจ็คสันเตือนเองนี้ในทันที

 

“สร้างปัญหาให้ฉัน?”ได้ยินคำเตือนของมิราจไนท์ เจ้าหน้าที่โคลสันมองเห็น ช่างเทคนิคที่เขายื่นส่งให้ไปกำลังจะทดสอบประสิทธิภาพของอาวุธนี้ ซึ่งเขาห้ามไม่ทันเเล้ว

 

ฟุ่บ!

 

ปั้ง!

 

เจ้าหน้าที่โคลสันไม่มีเวลาเตือนให้หยุด ใช้ระเบิดปืนใหญ่ไฟนั่นได้ทัน หลังจากถูกยิงออกมา ลูกขนาดเล็กก็ได้ถูกโยนออกมาจากปากกระบอกปืนเเละยิงไปที่ผนังโลหะที่เเข็งเเกร่ง

 

ทันทีที่ลูกขนาดเล็กถูกโยนเข้ากระทบกับผนังโลหะที่เเข็งเเกร่ง สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ เจ้าหน้าที่โคลสันรู้สึกตกใจ ผนังโลหะนั้นถูกระเบิดขึ้นพร้อมกับเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรุนเเรง

 

ปุ่มสปริงน้ำดับไฟได้ทำงานอัตโนมัติทันที

 

“ดูเหมือนคุณจะไม่ฟังคำเตือนของฉันเลยนะ…”ได้ยินเสียงระเบิด เเจ็คสันรู้ทันทีว่านั่นเป็นระเบิดปืนใหญ่ไฟของเขา

 

“มิราไนท์ เอ่อ…”ได้ยินเสียงที่เย็นชาตอบกลับ เจ้าหน้าที่โคลสันต้องการอธิบายเรื่องนี้

 

ได้เห็นพลังอนุภาพทำลายของระเบิดปืนใหญ่ไฟ เจ้าหน้าที่โคลสันมีเเผนที่ต้องการศึกษาเทคโนโลยีนี้ หาก มิราจไนท์อนุญาติเเน่นอนว่าสิ่งนี้จะช่วยให้อาวุธของ S.H.I.E.L.D. เเข็งเเกร่งมากขึ้น

 

“ฉันรู้ว่าคุณต้องการจะศึกษา ระเบิดปืนใหญ่ไฟของฉัน เอาเป็นว่า ฉันจะยกให้คุณได้ศึกษามันก่อนเเล้วกัน เเต่หวังว่าคุณจะไม่นำมันไปใช้ในทางที่ผิด”เห็นเจ้าหน้าที่อ้ำอึง เเจ็คสันสามารถคาดเดาได้ว่า เจ้าหน้าที่โคลสันต้องการอะไร

 

“ขอบคุณ มิราจไนท์”เจ้าหน้าที่โคลสันขอบคุณจากใจจริง ที่จริงเเล้วก่อนหน้านี้เขาได้ศึกษาดาบเก้าอสนีของ มิราจไนท์ไปบ้างเเล้วเเละพบว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ดีอย่างมากบางทีมันอาจสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในการกักเก็บพลังได้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่โคลสันจึงได้ทำหน้าหนาร้องขอมิราจไนท์เรื่องดาบเก้าอสนีด้วยเช่นเดียวกัน

 

“ดี,เอาล่ะ ครั้งหน้าฉันหวังว่าจะได้รับข่าวจากพวกไฮดร้า”เเจ็คสันในที่สุดก็กดวางสายไป

ตู๊ด ตู๊ด~~

 

“เห้อ,ดูเหมือนเพื่อนคนนี้จะค่อนข้างตื้อทีเดียว!”หลังจากวางโทรศัพท์ เเจ็คสันยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เเน่นอนว่านี่เองก็เป็นส่วนของ ความต้องการของ S.H.I.E.L.D. เเม้เขาจะรู้ว่านี่เป็นคำสั่งของนิคที่ส่ง เจ้าหน้าที่โคลสันมา เเจ็คสันก็ยอมรับความสามารถในการตามตื้อของเจ้าหน้าที่โคลสันคนนี้

 

“เอาล่ะคราวนี้ใครจะเป็นคนติดต่อฉันมาอีกล่ะทีนี้?”ได้พูดคุยกับ กัปตันโรเจอร์ส เจ้าหน้าที่โคลสัน เเจ็คสัน ไม่ได้เตรียมที่จะพักผ่อน เขากำลังเฝ้ารอเสียงโทรศัพท์

 

เพราะเหตุการณ์ที่ช่วยชีวิตเเจ็คสันมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ทีม X-MEN ก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น ธรรมชาติ เเจ็คสัน ย่อมรู้สึกขอบคุณพวกเขา ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิด ดูเหมือนสายโทรศัพท์ของเขาจะดังขึ้น มันคือสายจาก ไอซ์แมน โรเบิร์ต

 

ติ๊ดด

 

จริง ๆ เเจ็คสันก็รู้สึกเเปลกใจเเม้เขาจะคาดคิดอยู่เเล้วว่าจะมีคนโทรมากลับไม่คาดคิดว่าหลังจากวางสายเจ้าหน้าที่โคลสันไปเพียง 2 นาที โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

 

“สวัสดี โรเบิร์ต เรื่องคราวนี้ ฉันเองก็ต้องขอบคุณ คุณเหมือนกัน”เเจ็คสันยิ้มออกมาก่อนที่จะส่งผ่านความรู้สึกขอบคุณ

 

“มิราจไนท์ คุณสบายดีสินะ…”

 

 

ผ่านไปหลายนาที ที่เเจ็คสัน ได้พูกคุยกับ โรเบิร์ต ดูเหมือนหลังจากวางสายเสร็จเเล้วเเจ็คสันจะค่อนข้างกังวลมากทีเดียว

 

“ฉันเองก็อยากเดินทางไปเยี่ยมโรงเรียนซาเวียร์ ที่เป็นผู้ฝึกสอนมิวแทนท์เหมือนกัน เเต่ที่นั่นมี ศาสตราจารย์ชาร์ล ถ้าเข้าต้องการอ่านใจฉัน ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันจะต้องถูกเปิดเผยออกมาเเน่นอน”มนโทรศัพท์ไอซ์แมนโรเบิร์ต ได้เชิญ เเจ็คสันไปเยี่ยมที่โรงเรียน X เเต่เเจ็คสันมีความกังวล จึงได้กล่าวบอกปฏิเสธไปชั่วคราว

 

ในโลกของมิวแทนท์ ศาสตราจารย์ชาร์ลคือสุดยอดมิวแทนท์ความสามารถของเขาน่ากลัวมาก จุดยืนของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เทียบเท่ากับ เเมกนีโต อีริก ตัวตนที่ต้องการล้มล้างกฏของมนุษย์โล

 

“เเต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ใช่คนประเภทที่จะอ่านใจคนไปทั่ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเรากำลังเปิดศึกกับพวกไฮดร้าอย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นฉันคิดว่าการได้ทีม X-MEN มาร่วมถือเป็นสิ่งจำเป็น”เเม้ว่าเเจ็คสันจะกังวลใจ เเต่เขาก็ไม่คิดว่า ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ จะไร้เหตุผลขนาดลอบอ่านใจของเขา

 

การต่อสู้กับพวกไฮดร้าครั้งนี้นับเป็นครั้งที่รุนเเรงที่สุดดังนั้นเเจ็คสันจะต้องเตรียมพร้อมเท่าที่เป็นไปได้

 

“ฉันควรจะลองคิดเรื่องไปที่นั่นใหม่อีกที ฉันเชื่อว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์ คงไม่ทำอย่างนั้น ทั้งไม่คิดว่าความลับของฉันจะถูกเปิดโปงเพียงเพราะโดนความสามารถอ่านใจ”ในที่สุดเเจ็คสันก็ทบทวนความคิดที่จะไปเยี่ยมโรงเรียน X ใหม่ เพื่อเเก้ไขเเละกำจัดพวกไฮดร้า เเจ็คสันจะต้องเรียกความกล้าของเขามากขึ้น

 

จากนั้นโทรศัพท์ของเเจ็คสันก็ไม่ได้ดังขึ้นอีก ธรรมชาติ เเจ็คสัน ก็ได้ปิดโทรศัพท์มือถือเเละเริ่มพักผ่อน

 

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังพักผ่อนก็ยังมีคนบางคนที่ไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น

 

นั่นก็คือ สตีฟ โรเจอร์ส หลังจากจบบทสนทนาเรื่องของ บัคกี้ กับ มิราจไนท์ เขาก็เริ่มวิตกกังวล เขาคิดว่าบัคกี้อาจจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักเเห่งในฐานไฮดร้า เเต่มิราจไนท์บอกว่า บัคกี้ ได้เเยกจากพวกไฮดร้า ดังนั้น สตีฟ จึงต้องมองหาเส้นทางใหม่

 

“เเม้มิราจไนท์จะพูดอย่างอ้อม ๆ เเต่ฉันก็รู้ว่าเขาสื่อถึงอะไร หากเราพบบัคกี้คงจะไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในตอนนี้ เขาได้ทำงานให้กับไฮดร้ามาตลอดหลายปี สถานะ นักฆ่าของเขา หากเขาถูกค้นพบเเละถูกจับตัวได้ คงไม่พ้นโทษคุกสถานหนัก ดังนั้นการให้บัคกี้ซ่อนตัวในขณะนี้ดูจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด”สตีฟ กล่าวคิดอย่างลับ ๆ

 

เเน่นอนว่าเขาจะต้องตามหาบัคกี้ เเต่ไม่ใช่เพื่อส่งบัคกี้เข้าคุก เขาจะให้ที่ซ่อนกับบัคกี้ มันไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้ความทรงจำของบัคกี้ยังคงกลับมาไม่ครบ ถึงอย่งนั้นไม่ว่าอย่างไร โรเจอร์ส สัญญาว่าจะตามหาตัวบัคกี้ให้พบ

 

เขาจะต้องตามหาตัวบัคกี้เเละช่วยเหลือเพื่อนคนนี้ของเขา เขารู้ดีว่าที่บัคกี้เป็นนักฆ่าให้พวกไฮดร้านี่ไม่ใช่เจตจำนงที่เเท้จริงของเขา เขาเพียงเเค่ถูกควบคุม สตีฟเชื่อว่าบัคกี้เป็นคนบริสุทธิ์เเละเขาจะทวงคืนความบริสุทธิ์ของเพื่อนคนนี้ของเขาคืน

 

“บัคกี้ ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนเเละกำลังทำอะไรอยู่กันเเน่?”ในที่สุด สตีฟ ก็ใช้เขตอำนาจของตนเองค้นคว้าข้อมูลเหตุการณ์ลอบสังหารตลอดช่วงระยะเวลา 60 ปีก่อน

 

หากสามารถหาเหตุผลที่สามารถประกันความบริสุทธิ์ของบัคกี้เอาไว้ได้โอกาสที่จะช่วยเหลือบัคกี้ก็จะมากขึ้น เเต่สิ่งนึงที่กัปตันโรเจอร์สในตอนนี้ยังไม่รู้ก็คือ บัคกี้ เป็นฆ่าพ่อกับเเม่ของโทนี่ หากเขารู้เรื่องนี้ เขาจะต้องปวดหัวอย่างเเน่นอน

 

นอกจากกัปตันโรเจอร์สที่ครุ่นกังวลหลังจากจบสนทนากับมิราจไนท์ ก็ยังมี ไอซ์แมน โรเบิร์ต เขาค่อนข้างงุนงงหลังจากวางสายโทรศัพท์จากมิราจไนท์ โรเบิร์ต ได้เชิญชวน เพื่อนคนนี้มาเยี่ยมที่ โรงเรียน X ของเขาทั้งยังวางเเผนให้มิราจไนท์เป็นมิตรกับพวกมิวแทนท์ เรื่องนี้เองศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ให้ความสนใจกับมิราจไนท์ด้วย ดังนั้น เขาจึงต้องการเชิญฮีโร่นิวยอร์กคนนี้มาเยี่ยมที่โรงเรียนของเขา

 

อย่างไรก็ตาม ฟังจากคำพูดของ มิราจไนท์ ผ่านโทรศัพท์ โรเบิร์ต สามารถรับรู้ได้ถึงความกังวลในน้ำเสียงเหล่านั้น

 

“หรือว่า มิราจไนท์ จะกังวลเกี่ยวกับสถานะของพวกเรา? ไม่สิ เขาไม่ใช่คนแบบนั้น”ไอซ์แมน โรเบิร์ต สั่นศีรษะอย่างรวดเร็ว

 

ด้วยการอยู่ร่วมกันกับมิราจไนท์เเม้เพียงไม่นาน โรเบิร์ต ก็สามารถรู้สึกได้ถึงนิสัยที่เป็นมิตรของมิราจไนท์ที่มีต่อพวกมิวแทนท์

 

ดังนั้นก่อนหน้านี้ไอซ์แมนจึงได้ขอร้องให้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์อ่านใจของฟรานซิสเพื่อช่วยเหลือมิราจไนท์

 

“มิราจไนท์ ปฏิเสธคำเชิญชวนของนายหรือไม่?”ในขณะที่ไอซ์แมนกำลังครุ่นคิด ก็มีสาวสวยคนนึงเดินเข้ามา

 

“อืม,ฉันเองก็ไม่รู้เพราะอะไร เเต่เขาคงไม่ได้มีความคิดอคติกับมิวแทนท์อย่างพวกเราเเน่นอน!”ได้ยินคำถามจากสาวสวยคนนี้ โรเบิร์ต กล่าวตอบ

 

“โรเบิร์ต ไม่ใช่ว่าคุณกังวลเกี่ยวกับ มิราจไนท์มากเกินไป? เขาอาจจะต้องการพักผ่อน เพราะอย่างไร เขาก็เพิ่งผ่านเหตุการณ์อันตรายมา”สาวสวยคนนี้ยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าของ ไอซ์แมน

 

“อืม,ฉันเองก็คิดแบบนั้น คิดตี้”ได้ยินเสียงปลอมของเเฟนสาวไอซ์แมนในที่สุดก็ดึงสาวคนนี้มากอด หญิงสาวคนนี้ คือ ชาโดว์ เเคท ในทีม X-MEN เเละเป็น เเฟนสาวของ ไอซ์แมน โรเบิร์ต

 

“อืม,ไปเถอะ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์มีเรื่องที่จะบอกพวกเรา เห็นว่ามันเป็นเรื่องสำคัญระหว่างพี่น้องมิวแทนท์อย่างพวกเรา”หลังจากเเลกจูบกับโรเบิร์ตเสร็จ เธอก็พูด

 

“อืม”

….

 

หลังจากได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์ส,เเจ็คสัน เงียบไปครู่นึง ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา ที่จริงสันเข้าใจในตอนนี้สำหรับ บัคกี้ บาร์นส์ ก็คือเขาจงใจหลบซ่อนตัวเอง เเละ คงกำลังสำนึกผิดอยู่

 

“กัปตันโรเจอร์ส ,ตอนนี้คนที่เข้าใจ ผู้พันบาร์นส์ มากที่สุดเป็นใครไม่ได้นอกจากคุณ ตอนนี้เขาไม่มีที่ให้กลับไป ไม่ว่าจะเป็น S.H.I.E.L.D. หรือ ไฮดร้า ดังนั้นคุณจึงเป็นบ้านเพียงคนเดียวของเขาที่เหลืออยู่”เเจ็คสันกล่าวโดยอ้อมโดยให้ กัปตันโรเจอร์สตัดสินใจ ว่าจะตามหา บัคกี้ หรือไม่

 

“ฉันเข้าใจเเล้ว,ขอบคุณ มิราจไนท์”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส กล่าวอย่างสงบ ในใของเขาต้องการมองหา บัคกี้ เเต่เขาไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ดังนั้นเขาจึงได้หวังเเต่พึ่งเเหล่งข่าวของ S.H.I.E.L.D. เพียงเท่านั้น
“เช่นนั้นฉันหวังว่ากัปตันโรเจอร์ส คุณจะสามารถพบ ผู้พัน บาร์นส์ ได้ในเร็ว ๆ “เเจ็คสันกล่าวอวยพรให้กัปตันโรเจอร์ส
ที่จริงเเล้วบัคกี้หายไปตอนนี้ก็นับเป็นเรื่องที่ดีในความคิดของเเจ็คสัน เพราะท้ายที่สุด บัคกี้ ก็เคยเป็นคนขององค์กรไฮดร้า ทั้งยังได้ฆ่า พ่อกับเเม่ของโทนี่ ถ้าโทนี่ รู้เรื่องนี้ เขาจะต้องโกรธอย่างเเน่นอนเเละนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามทั้งหมด

 

นอกจากนี้ เเจ็คสัน ยังเข้าใจ บัคกี้ ดี ผลกระทบจากอาการถูกล้างสมอง เเละ การได้ความทรงจำกลับคืน หากเปลี่ยนเป็นเขาเอง ในตลอดช่วงระยะเวลา 60 ปีที่กระทำโดยขาดสติ นับเป็นบาดเเผลทางใจร้ายเเรง

 

“เรื่องของบัคกี้ ฉันจะรับไว้พิจารณาต่อเอง มิราจไนท์ คุณมีเเผนที่จะร่วมมือกับ S.H.I.E.L.D บ้างไหม? ฉันหมายถึง ร่วมมือกันกำจัดพวกไฮดร้า”จบเรื่องของบัคกี้เสร็จ กัปตันโรเจอร์ส ได้ถามถึงเรื่องสำคัญ เป้าหมายสำคัญอีกหนึ่งของเขาก็คือร่วมมือกับฮีโร่ลึกลับคนนี้ในการกำจัดพวกไฮดร้า

 

เพราะหลังจากนี้มิราจไนท์คงกลายเป็นศัตรูปฏิปักษ์กับพวกไฮดร้าโดยสมบูรณ์ เพราะเขาถูกจับตัวไปโดยพวกไฮดร้า กัปตันโรเจอร์ส เชื่อว่านี่เป็นโอกาสสำคัญในการขอความร่วมมือ เเม้ตอนนี้ กัปตันโรเจอร์ส จะยังคงเเตกเเยกกับนิค เเต่เขาก็รู้ดีว่าไม่ควรเเตกความสามัคคีในหมู่คณะตัวเอง

 

จริง ๆ เเล้ว เเจ็คสัน ก็กำลังต้องการมองหาความร่วมมือจาก S.H.I.E.L.D ได้ยินคำเชื้อชวนของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันเงียบไปครู่นึงก่อนที่จะกล่าวตอบ

 

“ความร่วมมือ?นั่นเป็นเรื่องที่ดีฉันเองก็กำลังวางเเผนเรื่องนี้อยู่พอดี”เเจ็คสันกล่าวตอบโดยตรง

 

“เช่นนั้นพวกเราก็ลงเรือลำเดียวกันเเล้ว พวกเราจะต้องกำจัดพวกไฮดร้าออกจากโลกนี้ได้อย่างเเน่นอน!”ได้ยินคำตอบที่รวดเร็วของ มิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์สไม่ได้เเปลกใจ

 

“เเน่นอน,หวังว่าพวกเราจะสามารถกำจัดพวกมันได้โดยเร็ว!”เเจ็คสันกล่าวออกมาอย่างเย็นชาเมื่อพูดถึงพวกไฮดร้า
“ใช่,โดยเร็ว!”

 

จากนั้นเเจ็คสันเเละกัปตันโรเจอร์สก็วางสาย

 

“ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ กัปตันโรเจอร์ส จะ พบตัว บัคกี้ บาร์นส์ เเต่หวังว่าเมื่อถึงเวลา ขอให้โทนี่ไม่รู้เรื่องของบัคกี้ที่เขาเป็นคนฆ่าพ่อเเม่ของเขา หรือว่าฉันจะไปที่ฐานไฮดร้าในไซบีเรีย เพื่อทำลายข้อมูลเหล่านี้ดีหรือไม่?”หลังจากวางสาย เเจ็คสัน บ่นเสียงเบา ๆ บัคกี้ ได้ทำงานให้กับไฮดร้าในฐานะนักฆ่า เเละ เขาได้ฆ่า พ่อเเม่ของโทนี่ เเจ็คสันเชื่อว่าเขาควรเเก้ไขเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดไม่งั้นคงมีปัญหาภายหลังตามมาเเน่

 

“เเต่ว่า ตอนนี้ โทนี่ รู้ว่าฉันเป็นใครเเล้ว หากฉันเดินทางไปที่ไซบีเรีย เขาจะต้องนึกสงสัยอย่างเเน่นอน”

 

“เฮ้อ,ไม่ว่าอย่างไร ฉันจะต้องหาทางปกปิดเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดเเม้มันจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากก็ตาม”เเจ็คสันคิดว่าตนเองจะต้องหาทางปกปิดเรื่องนี้

 

อย่างไรก็ตามการกระทำเช่นนี้ก็ค่อนข้างไม่ยุติธรรมกับโทนี่ เพราะ นี่เป็นเรื่องพ่อกับเเม่ของ โทนี่ เเต่เเจ็คสันก็ไม่ต้องการให้เรื่องนี้ชักนำมาซึ่งสงครามระหว่าง โทนี่ กับ กัปตันโรเจอร์ส

 

“เอาล่ะ ฉันควรจะมุ่งเป้าหมายไปที่พวกไฮดร้าก่อนเป็นอันดับเเรก สำหรับกัปตันโรเจอร์ส ฉันไม่รู้ว่าเขาจะหาตัวบัคกี้ได้ในเร็ว ๆ นี้หรือไม่ บางทีเขาอาจจะไม่สามารถหาพบ ซึ่งฉันคงยังไม่จำเป็นต้องกังวลในตอนนี้”เเจ็คสันในที่สุดก็ปล่อยวางชั่วคราว

 

ตู๊ดด

 

ในขณะที่ เเจ็คสัน คิดเรื่องของ บัคกี้,กัปตันโรเจอร์ส เเละ โทนี่ ทั้งสามคน โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เเจ็คสันหยิบขึ้นมาดูเเละดูรายชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์

 

“ที่เเท้ก็เป็นเจ้าหน้าที่ โคลสัน เป็นคุณนั่นเอง! ดูเหมือนคุณจะทำงานเป็นสื่อกลางให้กับ S.H.I.E.L.D ใช่ไหม เช่นนั้นคุณวางเเผนจะมองหาความสัมพันธ์กับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์กับฉัน?”เเจ็คสันพูดอย่างรวดเร็ว

 

ก่อนหน้านี้บทสนทนาของเขากับมิราจไนท์ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้น เจ้าหน้าที่โคลสัน จึงไม่ได้รับหน้าที่รับผิดชอบเรื่องของ มิราจไนท์ อีกต่อไป เเต่คราวนี้ นิคได้ส่งเขามา เพราะงานนี้ถือเป็นงานสำคัญ เเละ เจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง โคลสัน เองก็มีไม่มาก

 

“สวัสดี มิราจไนท์ เเน่นอนว่าฉันต้องมองหาความร่วมมือจากทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของคุณอยู่เเล้ว”โคลสันไม่ได้สนใจคำพูดหยอกล้อของมิราจไนท์

 

“งั้นหรอ?ไม่ใช่ว่า พวกคุณก็ได้รับความร่วมมือจากเราไปเเล้วหรอ ฉันหมายถึง เเดร์เดวิล เเม้ตอนนี้เขาจะเป็นส่วนหนึ่งของ S.H.I.E.L.D เเต่ก็ถือเป็นคนของเราด้วยเช่นเดียวกัน”เเจ็คสันพูดทันที

 

โคลสัน”….”

 

“ฉันลืมเรื่องนี้ได้อย่างไร?หากฉันต้องการติดต่อความร่วมมือจาก ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ก็เเค่สอบถามเขา”ได้ยินคำพูดของ มิราจไนท์ เจ้าหน้าที่โคลสันเหมือนจะนึกขึ้นได้

 

“เเดร์เดวิลนั้น เป็นคนดีเเละเป็นบุคคลที่เเข็งเเกร่ง หากคุณต้องการอะไรก็ลองสอบถามเขาดูหากเขาตัดสินใจอะไรนั่นก็คือการตัดสินใจของฉัน”เเจ็คสันกล่าวตอบ

 

“คุณพูดจริง?”เจ้าหน้าที่โคลสัน ไม่คิดเลยว่า มิราจไนท์จะมาไม้นี้

 

“เจ้าหน้าที่โคลสัน ฉันไม่ใช่คนที่จะล้อเล่นกับเรื่องสำคัญเหล่านี้หรอกนะ”ได้เห็นเจ้าหน้าที่โคลสันยังคงกล่าวถามเขา เเจ็คสัน ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

“นี่นับเป็นเรื่องที่ดี เช่นนั้น มิราจไนท์ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมมือกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของคุณ หากคุณมีข่าวคราวของพวกไฮดร้าคุณสามารถติดต่อฉันได้โดยตรง”เจ้าหน้าที่โคลสันกล่าวตอบ

 

“รู้ไหมหากฉันมีข่าวที่ต้องการจะบอกคุณมันจะต้องเป็นข่าวใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย เเละข่าวที่ว่านั่นคงไม่มีอะไรนอกเหนือไปจาก การกำจัดพวกไฮดร้าออกจากโลกนี้โดยสมบูรณ์”เเจ็คสันพูดอย่างจริงจัง

 

“อืม,นี่เป็นสิ่งที่เราต่างก็คาดหวัง”เจ้าหน้าที่โคลสันกล่าวตอบ,ก่อนที่ทั้งสองจะวางสาย

“กัปตันโรเจอร์ส,เรื่องในครั้งนี้ต้องขอบคุณ คุณด้วยที่ช่วยชีวิตฉัน ,ฉันได้ยินมาว่าพวก S.H.I.E.L.D. ได้สูญเสียทหารจำนวนมากฉันต้องขอเเสดงความเสียใจด้วย”เเจ็คสันกล่าวพูดสายกับกัปตันโรเจอร์ส

 

ที่จริงเเล้วการที่กัปตันโรเจอร์สโทรหาเขาไม่ได้นับว่าเป็นเรื่องเเปลกอะไร เพราะในช่วงที่อยู่ฐานไฮดร้า กัปตันโรเจอร์ส ก็ดูเหมือนต้องการจะรั้งเเจ็คสันเอาไว้ เเต่ก็ถูกหยุดโดย ทนี่

 

ธรรมชาติเขาย่อมมองหาตัวเเจ็คสันภายหลัง เเละ เเจ็คสันก็สามารถคาดเดาได้ว่าเรื่องที่ กัปตันโรเจอร์สต้องการพูดคุยกับเขาคงไม่พ้นเรื่อง บัคกี้ วินเทอร์ โซลเยอร์

 

“สวัสดี มิราจไนท์ ได้เห็นคุณปลอดภัยดีฉันก็โล่งใจ เเม้ครั้งนี้เราจะสูญเสียทหารไปมาก เเต่ศัตรู คือ องค์กรไฮดร้า พวกมันคือศัตรูหมายเลข 1 ของพวกเรา การเสียสละชีวิตของพวกเขานับเป็นเกียรติของพวกเราอย่างเเท้จริง”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส กล่าวตอบ

 

ในฐานะทหารกัปตันโรเจอร์สรู้ดีถึงจิตใจที่เสียสละเเละการต่อสู้กับพวกไฮดร้าในครั้งนี้ก็ย่อมต้องการมีเสียสละเกิดขึ้นดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกเเปลกใจกับเรื่องนี้

 

“ฉันรู้ นอกจากนี้ กัปตันโรเจอร์ส คุณมีเรื่องอะไรถึงมองหาฉันงั้นหรอ? ตราบเท่าที่ฉันสามารถช่วยเหลือคุณได้เเน่นอนว่าฉันจะช่วย”เเจ็คสันไม่ต้องการอ้อมค้อมอีกต่อไป ตอนนี้เขาต้องการกำจัดพวกไฮดร้า เเละ ต้องการความร่วมมือจาก S.H.I.E.L.D. การได้ผูกสัมพันธ์กับหนึ่งในบุคคลของพวกเขาก็นับเป็นการเริ่มต้นที่ดี

 

“จริง ๆ เเล้วก็ไม่มีอะไรมาก ฉันต้องการถามคุณ มิราจไนท์ ระหว่างที่คุณถูกจับตัวไป คุณเห็นบัคกี้ บ้างไหม?”ได้ยินมิราจไนท์ถามเข้าประเด็น โรเจอร์ส ไม่ได้รีรออีกต่อไป

 

เดิม โรเจอร์ส ได้ทำการค้นหา บัคกี้ เเต่ ดูเหมือน S.H.I.E.L.D. จะไม่ค้นพบวี่เเววของบัคกี้เเม้เเต่น้อย อาจเป็นไปได้ว่าเขากำลังหลบซ่อนตัวอยู่ จะมีสถานที่ใดที่บัคกี้จะสามารถซ่อนตัวได้ตลอด นี่เป็นปัญหาของโรเจอร์ส

 

ได้ยินคำพูดของ โรเจอร์ส เเจ็คสัน ครุ่นคิดในใจ เเม้เขาจะรู้พล็อตเรื่องในโลก มาร์เวล เเต่เรื่องที่หลบซ่อนของ บัคกี้ เเจ็คสันไม่รู้ หลังจากบัคกี้เเยกจากไฮดร้า เขาก็หลบซ่อนตัว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมา ยกตัวอย่างเช่น สงครามกลางเมือง จุดเริ่มต้นทั้งหมดมาจาก ไอรอนแมน โทนี่ เเละ กัปตันอเมริกา โรเจอร์ส มันเป็นสงครามระหว่าง ฮีโร่ ด้วยกัน

 

“ผู้พัน บัคกี้ ? ฉันเหมือนจะเห็น ทหาร วินเทอร์โซลเยอร์ในฐานไฮดร้าเเห่งนั้น เเต่มันไม่ใช่ ผู้พัน บัคกี้ บาร์นส์”

 

ได้ยินเเจ็คสันพูดเรื่องทหารวินเทอร์โซลเยอร์ กัปตันโรเจอร์ส หอบหายใจถี่ขึ้น เพราะ เขาได้ยินมาว่า บัคกี้ ถูกล้างสมองโดยพวกไฮดร้า

 

“ทหารวินเทอร์โซลเยอร์?บางทีนั่นอาจจะเป็นเบาะเเสสำคัญของบัคกี้ก็ได้ บัคกี้ อาจจะหลบซ่อนอยู่ในฐานของพวกไฮดร้าที่ไหนสักเเห่ง!”กัปตันโรเจอร์ส ไม่ได้สงสัยในคำพูดของมิราจไนท์ เพียงเเต่ตอนนี้ เขาต้องการพบตัว บัคกี้

 

“อันที่จริงกัปตันโรเจอร์ส เรื่องในครั้งก่อน ฉันไม่ได้พูดความจริงกับคุณทั้งหมดไป”ได้ยินเสียงที่เป็นกังวลของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันต้องการอธิบาย

 

ก่อนหน้านี้ที่โรเจอร์สกล่าวถามเขาเกี่ยวกับการหายไปของบัคกี้ เเจ็คสัน ได้โยงไปถึงพวกไฮดร้า เพราะเเจ็คสัน ต้องการใช้ประโยชน์จากกัปตันโรเจอร์สในการจัดการพวกไฮดร้า ดังนั้นเขาจึงไม่ได้บอกกัปตันโรเจอร์สว่า บัคกี้ บาร์นส์ ดูเหมือนจะสามารถฟื้นฟูความทรงจำบางส่วนกลับมาได้ หลังจากนั้นก็เเยกจากพวกไฮดร้า

 

“คุณว่าอะไรนะ?”ได้ยินเสียงของมิราจไนท์ เสียงของกัปตันโรเจอร์สกลายเป็นจริงจังมากขึ้น

 

เขาไม่รู้ว่ามิราจไนท์ต้องการจะสื่ออะไร เเต่ในช่วงตอนนั้น นิคได้ให้เขาดูภาพวิดิโอเเละมันเป็นช่วงที่มิราจไนท์ดูเหมือนจะพูดบางอย่างกับบัคกี้ หลังจากนั้น บัคกี้ ก็กลายเป็นเจ็บปวด

 

“อันดับเเรก ฉันเห็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์จริง ในฐานไฮดร้าเมื่อวานนี้ เเต่ดูเหมือนเขาจะเป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนใหม่เเทน ผู้พัน บัคกี้ บาร์นส์ “เเจ็คสันอธิบายต่อไป

 

“คุณหมายความว่า…!”ได้ยินการอธิบายของมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส เหมือนจะคิดอะไรได้

 

“ฉันหมายถึง ผู้พัน บัคกี้ บาร์นส์ อาจจะสามารถเรียกคืนส่วนนึงของความทรงจำของตัวเอง เเละ หลบหนีจากพวกไฮดร้าอย่างไรก็ตามเขาถูกควบคุมมานานกว่า 60 ปี ความทรงจำของเขาที่กลับคืนมาคงจะยังจำกัดอยู่ ดังนั้น เป้าหมายของ ผู้พัน บัคกี้ อาจจะเป็นการหลีกเลี่ยงการค้นหาของ S.H.I.E.L.D. เเละเดินทางตามหาความทรงจำของตัวเอง”เเจ็คสันไม่ได้ปกปิดอะไรอีก เขาบอก กัปตันโรเจอร์สเท่าที่ตัวเองรู้

 

ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์คราวนี้ กัปตันโรเจอร์สเงียบไปครู่นึงก่อนที่จะกล่าวพูดขึ้น

 

“มิราจไนท์,คุณคิดว่า บัคกี้ เขาจะจำฉันได้ไหม?”หลังจากเงียบไปหนึ่งนาทีกัปตันโรเจอร์สก็กล่าวถามออกมาอย่างค่อนข้างลังเล

 

“ฉันคิดว่าน่าจะเป็นไปได้”เเจ็คสันรู้ว่ากัปตันโรเจอร์สคาดหวังอะไรเเต่เขาก็คงทำได้เพียงเเต่ปลอบเรื่องนี้เพียงเท่านั้น

 

“ทำไมเขาไม่มองหาฉัน,ตลอดระยะเวลา 60 กว่าปีที่หลับใหล ฉันรู้สึกราวกับว่าตื่นขึ้นมาพร้อมกับความโดดเดี่ยวท่ามกลางโลกใบนี้”

 

“เเต่ตอนนี้ฉันมีบัคกี้,เเละในโลกนี้คนที่รู้จักบัคกี้ดีก็ไม่ใช่ใครนอกจากฉัน!”กัปตันโรเจอร์ส ราวกับปะทุความรู้สึกที่เก็บซ่อนเอาไว้ออกมาทั้งหมด

 

โรเจอร์สตื่นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำที่ครบสมบูรณ์ ในขณะที่เพื่อนของเขา บัคกี้ บาร์นส์ ได้ถูกล้างสมองเเละกลายเป็นนักฆ่าตลอดระยะเวลา 60 ปี

 

“เรื่องนี้…กัปตันโรเจอร์ส ฉันไม่ได้ต้องการตัดสินพวกคุณหรอกนะ เเต่คุณ ไม่คิดว่า ผู้พัน บัคกี้ บาร์นส์ เเม้เขาจะสามารถจำเรื่องราวก่อนหน้านี้ได้ทั้งหมด เเต่เขาก็กลายเป็นนักฆ่าให้พวกไฮดร้ามามากกว่า 60 ปี คุณคิดว่า ผู้พัน บาร์นส์ จะมองหาคุณ?”เห็นอารมณ์ของ สตีฟ โรเจอร์ส เเปรปรวน เเจ็คสัน กล่าวอย่างสงบ

 

อึ้ก~~

 

ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ผ่านโทรศัพท์ กัปตันโรเจอร์สกลายเป็นสงบอีกครั้ง

 

“ก็จริงอย่างที่คุณว่า หากบัคกี้สามารถ กู้คืนความทรงจำของเขากลับมาได้บางส่วน คุณคิดว่าฉันควรจะตามหาเขาต่อไปดีหรือไม่?”หลังจากปรับความสงบในช่วงเวลา 2 นาที กัปตันโรเจอร์ส กล่าวถามอีกครั้ง

“เเผนในอนาคต? พ่อกังวลเรื่องนี้งั้นหรอ?”เเจ็คสันได้ยินพ่อของเขาถามเรื่องเเผนในอนาคต เเจ็คสันกล่าวตอบเรื่องนี้ออกมา

 

เเน่นอนว่าเขาไม่สามารถพูดได้ว่าในอนาคตเขาวางเเผนจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ปกป้องผู้คนปกป้องโลก กำจัดองค์กรที่ชั่วร้ายอย่างพวกไฮดร้า

 

“ฮ่าฮ่า,มันอาจจะเร็วไปที่จะถามลูกถึงเรื่องนี้ เเต่เพื่อนของลูก เเฮร์รี่ ก็ได้เป็นผู้บริหารออสบอร์นตั้งเเต่อายุยังน้อย ปีเตอร์ ก็กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยของนิวยอร์ก ส่วนทอม ก็มีพรสวรรค์ในการเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอล พ่อของทอมได้พูดถึงเรื่องของทอมบ่อย ๆ  เมื่อวานนี้ ลุงสมิธก็ดูกังวลเกี่ยวกับทอมมากเพราะช่วงนี้ทอมไม่ได้กลับบ้านเลย”หลิน ไฮ่ หลังจากกล่าวถามเรื่องของลูกชายตัวเอง เขาก็พูดถึงเรื่องของทอม

 

ได้ยินเสียงพ่อของเขาพูดถึงเรื่องของทอม เเจ็คสัน เผยเเววตาเเห่งความโกรธเเละความเกลียดชังในใจ เขาเองก็ต้องการเคลียปัญหาเรื่องของทอมให้เร็วที่สุด

 

“จริง ๆ เเล้ว พ่อก็ไม่ได้ต้องการบังคับอะไรลูกหรอก หากสิ่งไหนที่ลูกตั้งใจทำ ไม่ว่าจะเป็นการออกจากโรงเรียนเพื่ออยู่ศึกษาต่อกับคุณ สตาร์ก พ่อกับเเม่ก็จะสนับสนุนลูกอยู่ดี”เห็นลูกชายไม่ตอบ หลิน ไฮ่ พูดอีกครั้ง

 

“ขอบคุณพ่อที่เข้าใจผม”เเจ็คสันขอบคุณ

 

เเม้ว่า หลิน ไฮ่ จะสนับสนุน เขา เเต่หากพ่อของเขารู้ว่า เขาทำตัวเป็นศาลเตี้ยเเละผจญกับอันตราย เรื่องนี้ พ่อของเขาจะต้องไม่เห็นด้วยอย่างเเน่นอน

 

“อืม,พ่อได้ยินคุณสตาร์กบอกว่าช่วงนี้เขาทำการทดลองที่ซับซ้อนบางอย่าง เเละต้องการความช่วยเหลือจากลูก หากมันยุ่งมาก ลูกจะค้างบ้านเขาสักพักก็ไม่เป็นไรหรอก”หลิน ไฮ่ ตบไหล่ ลูกชายของเขา

 

“พ่อ,ผมเสร็จธุระเเล้ว”เเจ็คสันกล่าวออกมา พร้อมกับขึ้นไปข้างบน

 

“ฮึ่ม เจ้าลูกคนนี้ ดูเหมือนเขาจะมีเเผนบางอย่างในใจ เเต่ไม่ต้องการปรึกษาฉัน! เอาเถอะ อย่างไรก็ตาม ฉันก็จะสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาตั้งใจจะทำ”เห็นลูกชายเดินกลับขึ้นไปข้างบน หลิน ไฮ่ ยิ้มออกมา

 

หาก หลิน ไฮ่ รู้ว่า ลูกของเขาต้องการกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ เขาจะยังให้การสนับสนุนอยู่ไหม นี่เป็นคำถามที่เเจ็คสันค้างคาในใจ

 

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากจบการสนทนากับพ่อของเขา เเจ็คสันก็ขึ้นไปบนห้องเเละฟุ่บลงที่เตียงของเขา เหตุการณ์เมื่อวานทำให้เขารู้สึกเหนื่อยมาก

 

“เฮ้อ,ในที่สุดก็จะได้ผ่อนคลายเสียที นึกว่าจะไม่สามารถรอดออกมาจากเงื้อมมือพวกไฮดร้าได้อีกเเล้ว!”หลังจากกลับมาบ้าน เเจ็คสันในที่สุดก็มีเวลาที่จะผ่อนคลายตัวเอง เขารู้สึกว่าตัวเองนั้นโชคดีมาก

 

เเผนของเขาที่ตั้งใจจะลอบเข้าฐานของพวกไฮดร้าถือว่าเป็นเเผนที่สุ่มเสี่ยง เห็นได้ชัดว่าพอเเผนการล้มเหลวเกือบทำให้เขาซวยไปทั้งหมด ไม่เพียงเเต่สถานะถูกเปิดเผย ครอบครัวของเขาอาจจะได้รับการคุกคามจากพวกไฮดร้า

 

“คราวนี้เป็นเพราะฉันประมาทเกินไป คิดว่าจะสามารถเเทรกซึมองค์กรไฮดร้าได้อย่างง่ายดาย ไม่คาดคิดเลยว่าพวกมันจะซ่อนเทคโนโลยีระดับสูงเอาไว้ ตอนนี้พวกมันรู้สถานะของฉันเเล้ว ฉันเองก็จะต้องระวังการซุ่มโจมตีของพวกมัน เเละจะต้องเร่งกำจัดพวกมันให้เร็วที่สุด”เเจ็คสันหนอนเเหงนหน้ามองเพดาน เเละเขาก็เริ่มวิตกกังวล

 

~~

 

“บางทีฉันจะลองขอให้ S.H.I.E.L.D. ช่วยปกป้องสมาชิกครอบครัวของฉัน อย่างลับ ๆ ดีรึไม่? เพียงเเต่ฉันจะมีเหตุผลอะไรที่จะไปยื่นเสนอขอให้พวกเขามาช่วยเหลือฉัน”เเจ็คสันครุ่นคิดเกี่ยวกับปัญหาเรื่องนี้ สถานะของเขายังคงไม่เพียงพอให้ S.H.I.E.L.D. ให้ความสำคัญ นอกจากเขาจะยอมรับว่าตัวเองเป็นมิราจไนท์ เเละ ให้นิคช่วยเหลือในการปกป้องครอบครัวของเขา

 

“หากเป็น โทนี่ เขายินดีที่จะช่วยเหลืออย่างเเน่นอน เเต่ชุดเกราะไอรอนแมนค่อนข้างเด่นสะดุดตาเกินไปไม่เหมาะเเก่การเเอบลอบป้องกันอย่างลับ ๆ “เเจ็คสันครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ของชุดเกราะไอรอนแมน

 

“หรือว่าจะให้เเจ็คส่งคนที่เชื่อถือได้มาดี? ไม่สิ อย่างไรก็ตามนี่เป็นคนของครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์,ตอนนี้พวกเขายังไม่ได้รับการปฏิรูปทั้งหมด หากส่งคนเหล่านี้ มาปกป้องพ่อเเม่ของฉัน นี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย”พอคิดว่าชุดเกราะไอรอนแมนไม่ได้ เเละ ครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์ ก็เคยเป็นอาชญากรมาก่อน เรื่องนี้ค่อนข้างไม่เหมาะสม

 

“เช่นนั้นฉันจะย้ายพ่อกับเเม่ไปยังสถานที่ที่พวกไฮดร้าไม่สามารถเข้าถึงได้ เช่น อุตสาหกรรมอินดัสตรีท์ หรือ ออสคอร์ป เเต่พวกเขาจะต้องสงสัยในความคิดของฉันเเน่นอน”หากส่งพ่อกับเเม่ของเเจ็คสันไปยังสองสถานที่นี้ พวกพ่อเเม่ของเขาจะต้องสงสัยอย่างเเน่นอน

 

การส่งมอบให้ S.H.I.E.L.D. ดูเเล ก็ไม่ใช่ความคิดที่ดี

 

“ฉันจะทำอย่างไรให้ พ่อกับเเม่เต็มใจที่จะไปอยู่ใน อุตสาหกรรมสตาร์ก หรือ ออสคอร์ป ได้? สถานะการงานของพวกเขาในปัจจุบันก็มั่นคง จะบอกว่าเป็นคำเชิญของ โทนี่ หรือ เเฮร์รี่ พวกเขาก็คงจะเกรงใจอย่างเเน่นอน”เเจ็คสันรู้สึกลำบากมาก

 

“เฮ้อ,น่าหงุดหงิดจริง ๆ เรื่องนี้ต้องโทษพวกไฮดร้า ถ้าไม่มีพวกมัน ฉันก็คงไม่ต้องมานั่งกังวลแบบนี้!”เมื่อคิดถึงปัญหาเหล่านี้เเจ็คสันรู้สึกหงุดหงิด

 

“ในช่วงระหว่างที่ฉันกำลังครุ่นคิดบางทีฉันอาจลองหาไอเท็มที่สามารถช่วยปกป้องพวกเขาได้ในชั่วในระยะเวลานึงก่อน เผื่อเหตุการณ์สุดวิสัยจะเกิดขึ้น”

 

“นอกจากนี้ ตราบใดที่ฉันกำจัดพวกไฮดร้าได้สำเร็จ ฉันก็จะได้ไม่มานั่งกังวลแบบนี้”เพื่อถึงความเห็นสุดท้ายดวงตาของเเจ็คสันปรากฏรังศีเยือกเย็นออกมา

 

“เอาเป็นว่า ฉันคงต้องระวังเรื่องความปลอดภัยของพ่อกับเเม่ เเละ ต้องกำจัดพวกไฮดร้าโดยเร็วที่สุด”

 

“ฉันคิดว่าจะลองติดต่อ S.H.I.E.L.D. เพื่อขอความร่วมมือดู ความเเข็งเเกร่งในปัจจุบันของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ก็ไม่ได้เเย่หากเทียบกับ S.H.I.E.L.D. ยิ่งหากร่วมมือกัน โอกาสที่จะกำจัดพวกไฮดร้าได้อย่างรวดเร็วนั้นมีสูงมาก”เเจ็คสันนึกถึงความร่วมมือกับ S.H.I.E.L.D.

 

นิคต้องการสร้างทีมพันธมิตรอเวนเจอร์ส ส่วน เเจ็คสัน ต้องการความร่วมมือจาก S.H.I.E.L.D. เเน่นอนว่าการร่วมมือกันของทั้งสองก็ตอบโจทย์ประเด็นของนิคไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว หากร่วมผนึกกำลังกันย่อมสามารถกำจัดพวกไฮดร้าได้ดีกว่ามาก

 

ในขณะนั้นเองโทรศัพท์ของเเจ็คสันก็เหมือนจะสั่น

 

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาเเละพบชื่อที่ค่อนข้างสะดุดตา” โรเจอร์ส กัปตันอเมริกา”

 

เเจ็คสันไม่ลังเลที่จะกดรับสายเเละตอบกลับโทรศัพท์”สวัสดี กัปตันโรเจอร์ส”

หลังจากวางโทรศัพท์ในระหว่างทางกลับบ้าน คนอื่น ๆ ได้จ้องมองไปที่ เเจ็คสัน ที่เพิ่งจบบทสนทนากับธอร์

“เเจ็คสัน,เพื่อนคนนี้ของนายค่อนข้าง เเปลก ๆ “ปีเตอร์ กล่าวพูดขึ้น

“เเปลกยังไง?”เเจ็คสันถาม

“ดูจากท่าทางที่เขาพูดโทรศัพท์กับนายเมื่อกี้ราวกับว่านายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาในโลกใบนี้เลย เขาเป็นมนุษย์ต่างดาวงั้นหรอ?”ปีเตอร์ ได้ยินท่าทางการพูดเเปลก ๆ ของธอร์ เขาพูดขึ้น

“ฮิฮิ,เขาก็คงจะเเปลกอย่างที่นายว่าจริง ๆ เอาเป็นว่าฉันจะเเนะนำเขาให้นายรู้จัก ตอนนี้ฉันขออมเรื่องนี้ไว้ก่อนเเล้วกัน”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ เเจ็คสันยิ้มให้

ธอร์เป็นมนุษย์ต่างดาว เเน่นอนว่าเรื่องนี้ เเจ็คสันไม่ได้วางเเผนที่จะซ่อนความจริงจาก ปปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ เพราะอย่างไรทั้งสามคนก็รู้สถานะซึ่งกันเเละกัน เเต่ตัวตนของธอร์ค่อนข้างพิเศษ เขาเเตกต่างจากมนุษย์ต่างดาวเท่าไป

“อืม,เช่นนั้นฉันจะรอเเล้วกัน”ปีเตอร์ กล่าวตอบ

“ตอนนี้สิ่งที่เราห่วงคงไม่ใช่ว่าควรเป็นเรื่องผลการเรียนมากกว่าหรอ? ช่วงนี้เราเเทบไม่ได้ไปโรงเรียนกันเลย”เเฮร์รี่ไม่ค่อยสนใจธอร์มากนัก เขากล่าวตอบสนองเรื่องโรงเรียน

“จริงสิ.ทุกวันนี้เราเเทบไม่ได้ไปโรงเรียนเลย เเจ็คสัน นายต้องช่วยฉันบอกเรื่องนี้กับป้าเมย์ด้วย”ได้ยินคำพูดของ เเฮร์รี่ ปีเตอร์ พยักหน้าพูด ตั้งเเต่ที่ปีเตอร์กลายเป็นสไปเดอร์แมนเขาก็ใช้ช่วงเวลาของเขาไปมากขึ้น เขาขาดกิจกรรมทางโรงเรียนเเละโดดเรียนบ่อย เรื่องนี้ป้าเมย์จะต้องดุเขาเเน่นอน

บรื้น~

ในทันทีที่ปีเตอร์พูดจบรถยนต์คันนึงก็มาจอดด้านหน้าพวกเขา

“รถมาเเล้วพวกเราไปกันเถอะ!”เห็นคนขับรถที่ตัวเองโทรมา เเฮร์รี่ เดินไปที่ริมถนน ซึ่งปีเตอร์ เเละ เเจ็คสัน เองก็เดินตามไป

หลังจากที่เเจ็คสันเผชิญหน้ากับการถูกลักพาตัวโดยพวกไฮดร้า การใช้ชีวิตอย่างปกติในชีวิตประจำวันของเขาก็คงจะเป็นไปไม่ได้

พวกไฮดร้าได้เปิดเผยสถานะของเขา ทั้งยังจับตัวของทอมไป ตอนนี้ เขาจะต้องเเก้ปัญหาเรื่องของพวกไฮดร้าให้เร็วที่สุด

ตอนนี้การกำจัดพวกไฮดร้าถือเป็นภารกิจหลักของเเจ็คสัน ทั้งเขายังต้องช่วยทอมอีก พวกไฮดร้าเป็นภัยคุกคามต่อคนรอบตัวของเขา หากมีพวกมันอยู่ เเจ็คสันกังวลความปลอดภัยของคนรอบตัวเขา

เเม้พวกไฮดร้าจะเผชิญหน้ากับความสูญเสียในครั้งนี้ เเต่นี่หาได้ทำให้มันล้มเลิกความพยายามที่จะครองโลกอิทธิพลของพวกมันครอบคลุมไปทั่วทั้งโลก ยิ่งจัดการมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งกลับมาเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น

ธรรมชาติการจัดการพวกไฮดร้าโดยเร็วที่สุด เเจ็คสันจะต้องร่วมมือกับโทนี่เเละขอความช่วยเหลือคนอื่น ๆ เขาจะทุ่มทั้งหมดที่เขามีอยู่ในมือเพื่อเเลกเปลี่ยนอาวุธที่ทรงพลังที่สามารถจัดการพวกไฮดร้าได้

เเจ็คสันได้กลับบ้านไปหาครอบครัวของเขา ซึ่งพ่อเเม่ของเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร บ่อยครั้งที่เขาได้ลาหยุดไปช่วยเหลือ โทนี่ สตาร์ก

ที่จริงเเล้ว พ่อเเม่ของเขาก็เห็นด้วย ที่โทนี่ สตาร์ก ชื่นชม ลูกของพวกเขา หากเเจ็คสันเรียนจบก็มีโอกาสที่จะทำงานต่อที่ สตาร์ก อิสดัสตรีท์ นี่ย่อมเป็นอนาคตที่สดใสในหน้าที่การงานเเน่นอน

ในฐานะคนเป็นพ่อ หลิน ไฮ่ มีเชื้อสายจีน เเละเป็นคนจากราชวงศ์สวรรค์ เเต่เพราะพวกเขาได้ตั้งรากฐานอยู่ที่สหรัฐอเมริกามาเป็นระยะเวลานาน หลิน ไฮ่ ตั้งหน้าตั้งตาหวังจะดูลูกชายของเขาสำเร็จการศึกษาเเละมีอนาคตที่ดี

หลิน ไฮ่ รู้ว่า เเจ็คสันไม่ได้ไปโรงเรียนบ่อยครั้ง เเต่เขาก็เข้าใจลูกชายของตัวเอง ถึงอย่างไรเขาก็สนับสนุนเเละจะไม่คัดค้านในช่วงวัยรุ่นของเเจ็คสันในตอนนี้

เเต่ มีบ่อยครั้งที่ หลิน ไฮ่ รู้สึกสงสัย เพราะเเจ็คสันมักไม่อยู่ที่บ้านในช่วงเย็น เขาจะต้องหาเรื่องออกจากบ้าน เเละจะกลับมาพร้อมกับร่องรอยบาดเจ็บหรือรอยฟกซ้ำบางอย่าง

ดังนั้น หลิน ไฮ่ จึงต้องการจับมือลูกชายเพื่อพูดคุยกันเกี่ยวกับอนาคตของลูกชายว่าเขาต้องการแบบไหน เเน่นอนว่า หลิน ไฮ่ ที่ให้การสนับสนุน เเมรี่ เองก็จะสนับสนุนด้วยเช่นเดียวกัน

“เจ้าลูกชาย,เป็นยังไงบ้างช่วงนี้?”หลิน ไฮ่ ได้เรียกเเจ็คสันมาคุย เขาต้องการถามปัญหาช่วงนี้ของเเจ็คสัน

“ก็ดีนะพ่อ,พ่อหมายถึงอะไรเนี่ย?”เห็นสีหน้าของ พ่อของเขา เเจ็คสัน รู้สึกเเปลก ๆ

“พ่อตั้งใจจะถามลูกบางอย่าง ลูกพอมีเวลาไหม ไม่งั้นไว้ค่อยคุยกันก็ได้”เห็นลูกชายของเขาตอบกลับ หลิน ไฮ่ ยิ้มออกมา

“ผมไม่ได้มีธุรอะไร”

ฟุ่บ!

จากนั้นเเจ็คสันก็จ้องมองไปที่ หลิน ไฮ่ พ่อของเขา

เเจ็คสันอดที่จะรู้สึกกังวลกับสิ่งที่พ่อของเขากำลังจะถามไม่ได้

“เจ้าลูกชาย,ลูกรู้สึกกดดันเรื่องการเรียนในช่วงนี้งั้นหรอ? ดูเหมือนพ่อจะเห็นลูกไปช่วย คุณสตาร์กบ่อยครั้ง จนเเทบจะไม่ได้ศึกษาเรื่องหลักสูตรที่โรงเรียนเลย”หลิน ไฮ่ กล่าวถามออกมา

“กดดันเรื่องการเรียน?ไม่นะพ่อ พ่อจะต้องเข้าใจว่าลูกของพ่อคนนี้มีพรสวรรค์เเค่ไหน หลักสูตรระดับนั้นเเทบจะไม่เป็นปัญหาสำหรับผม!”ได้ยินคำถามของพ่อของเขา เเจ็คสันรู้สึกสบายใจ เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เเน่นอนว่าเเจ็คสันไม่ได้พูดโอ้อวด เหตุผลก็เพราะเขาได้ซื้อเเคปซูลความทรงจำเพื่อเรียนรู้ตั้งเเต่ยังเด็ก ดังนั้นเขาจึงมีพรสวรรค์ด้านการเรียน

“งั้นหรอ? เช่นนั้นลูกวางเเผนจะทำอะไรต่อในอนาคตล่ะ ดูเหมือนคุณสตาร์กเอง ก็ชอบลูกมาก ลูกจะเข้าทำงานในอุตสาหกรรมสตาร์กอินดัสตรีท์ ใช่ไหม?”เห็นคำตอบของ เเจ็คสัน หลิน ไฮ่ ยิ้มออกมาเเละกล่าวถามอีกครั้ง

ฟุ่บ!

 

หลังจากวางสายจากเเจ็คสันเเล้ว ธอร์ ก็นั่งอย่างผ่อนคลาย ตอนนี้ความกังวลเรื่องเเจ็คสันในที่สุดก็หายไปสักที

 

ในเเอสการ์ด ธอร์เป็นเทพสงครามที่มีอำนาจจนข้าศึกยำเกรง เขาสามารถบุกฟันฝ่าทัพศัตรูได้อย่างไม่เกรงกลัว เเต่ในโลก ธอร์เป็นเพียงคนธรรมดา เเอสการ์ดตอนนี้ไม่ต้องการเขา ทั้งเเฟนสาวของเขาก็เพิ่งบอกเลิกอีก บุคคลที่เขาใกล้ชิดมากที่สุดที่เหลือตอนนี้ก็คือ เเจ็คสัน ดังนั้นธอร์จึงรู้สึกเป็นห่วงเขา

 

“ข้าจะสามารถหางานอะไรทำได้บ้างนะ?”ธอร์ที่ไม่จำเป็นต้องกังวลความปลอดภัยของเเจ็คสัน เขาเริ่มกังวลเกี่ยวกับปัญหาชีวิตของตัวเขาตอนนี้ โดยไม่ได้สนใจอดีตอย่างเเอสการ์ด

 

“เเจ็คสันบอกจะช่วยเหลือข้าหางานที่เหมาะสม…”เป็นเวลากว่าครึ่งค่อนวันที่ธอร์รู้สึกทำอะไรไม่ถูก

 

ฟุ่บ!

 

ในที่สุดธอร์ก็ตัดสินใจเขาจะต้องทำความคุ้นเคยกับสภาพเเวดล้อมใกล้เคียงนี้เสียก่อนเพราะอย่างไรเขาคงจะต้องใช้ชีวิตอยู่เเถวนี้นานพอสมควร

 

ตึก ~

 

หลังจากตัดสินใจได้ธอร์ก็เดินออกจากอพาร์ทเมนต์ของเขา ขณะเดียวกันตรงข้ามอพาร์ทเมนต์ ดูเหมือนเจ้าหน้าที่ ของS.H.I.E.L.D.  ที่ได้รับหน้าที่เฝ้าระวังจะสังเกตุการณ์เขาอยู่

 

สายเรียกเข้าของโทรศัพท์ธอร์เมื่อครู่ที่ติดต่อกับเเจ็คสัน เเน่นอนว่าพวก S.H.I.E.L.D. ย่อมตรวจดักฟังได้ เเต่พวกเขาก็คงไม่ได้อะไร เพราะเเจ็คสันได้ติดต่อธอร์ในสถานะของ มนุษย์ธรรมดา ไม่ใช่มิราจไนท์

 

“หัวหน้า,ดูเหมือนธอร์กำลังมองหางานในนิวยอร์ก เราควรจะช่วยเหลือเขาดีรึไม่?”เห็นธอร์เดินออกจากอพาร์ทเมนต์เจ้าหน้าที่ที่มีความรับผิดชอบในการเฝ้าระวังธอร์กล่าวถามหัวหน้าของเขา

 

เเน่นอนว่าพวก S.H.I.E.L.D.  รู้ดีว่าเเจ็คสันคือใคร เเละ ธอร์ มีสถานะเป็นเเขกจากต่างดาว สถานภาพของเขาลำบากจนกระทั่งขอความช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มคนนึงเเทนที่จะเป็นพวกเขา S.H.I.E.L.D.

 

“เห้อ,เเกถามฉันเเละจะให้ฉันไปถามใครล่ะวะ”หัวหน้าคนนี้รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเรื่องนี้

 

ดังนั้นเขาจึงเริ่มติดต่อกับผู้มีอำนาจระดับที่สูงกว่า นั่นก็คือ เจ้าหน้าที่โคลสัน หลังจากผ่านไปหลายนาที หัวหน้าคนนี้ก็มีท่าทีเเสดงที่ผิดปกติไป

 

“หัวหน้าได้เรื่องว่ายังไงบ้าง?เราต้องช่วยธอร์มองหางานหรือไม่?”เจ้าหน้าที่คนนี้กล่าวถามหัวหน้าของเขาอีกครั้ง

 

“ไม่ต้อง,ปล่อยให้เขาพยายามเเก้ปัญหาด้วยตนเอง นอกจากนี้เบื้องบนยังสั่งอีกว่าให้เราลดความพยายามในการเฝ้าระวังธอร์ลงดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการให้ความสนใจกับธอร์ตอนนี้ชั่วคราว”หัวหน้าคนนั้นกล่าวตอบ

 

“เห้อ,พวกเราเสียเวลาติดตามบุคคลที่มีเป้าหมายสังเกตุการณ์ระดับ 5 ,นี่เป็นเป้าหมายสังเกตุการณ์ระดับ 5 รู้ทั้งรู้ว่าเสียเวลาเเต่ผมก็ไม่เข้าใจพวกเบื้องบนเลยจริง ๆ “ได้ยินคำพูดของหัวหน้าของเขา เจ้าหน้าที่หนุ่มคนนี้รู้สึกเบื่อหน่าย

 

เเน่นอนว่าคนเหล่านี้เป็นตัวเเทนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสังกัดใน S.H.I.E.L.D.  เเละเป็นครั้งเเรกที่เขาได้รับหน้าที่ในการเฝ้าระวังเป้าหมายสังเกตุการณ์ที่เป็นบุคคลที่ S.H.I.E.L.D.  ให้ความหวัง ธอร์เป็นเเขกจาก นอกโลก ตอนนี้ความรู้ของธอร์มีโอกาสที่จะช่วยพัฒนาโลกเเละ S.H.I.E.L.D.  ได้ ดังนั้น S.H.I.E.L.D.  จึงมอบหมายให้เด็กหนุ่มคนนี้รับภารกิจเฝ้าระวัง

 

“อืม,บางทีเบื้องบนอาจจะคิดมากเกินไป สภาพของเขาในตอนนี้ ไม่สมควรใช่เป้าหมายสังเกตุการณ์ระดับ 5 ด้วยซ้ำ หากเทียบกับเป้าหมายสังเกตุการณ์อื่น ๆ ยังน่าสนใจกว่าเยอะ”หัวหน้าคนนี้เองก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้

 

“นอกจากนี้ เอาล่ะ เท่านี้เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องของธอร์ ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ตราบเท่าที่สถานการณ์ของเขาดีก็เเล้วไป ยิ่งกว่านั้นเป้าหมายสังเกตุการณ์ที่น่าสนใจ ฉันคิดว่า น่าจะเป็น เเจ็คสัน หลิน มากกว่า เด็กคนนี้เป็นเป้าหมายสังเกตุการณ์ระดับ 2 ทั้งยังมีพรสวรรค์ความสามารถที่ดี ได้รับความไว้วางใจจาก โทนี่ สตาร์ก ฉันคิดว่าตัวตนนี้น่าสนใจกว่าเยอะมาก”

 

“ผมเองก็เห็นด้วย,…เเต่เราไม่ควรประมาทพวกมนุษย์ต่างดาวนะครับ”เจ้าหน้าที่หนุ่มคนนี้พูดขึ้น

 

“อืม,เเม้เราจะให้ความสำคัญเขาน้อยลงเเต่ก็คงต้องวางเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเอาไว้ ตอนนี้ พวกเรากำลังเปิดศึกกับพวกไฮดร้า พวกเราได้สูญเสียเจ้าหน้าที่ของ S.H.I.E.L.D. ไปมาก เหตุการณ์ครั้งก่อนหากไม่ได้กองทัพไอรอนแมนของ คุณ สตาร์ก เกรงกว่าเราคงพบกับความสูญเสียมากกว่านี้”

 

“ดังนั้นเราต้องเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับพวกไฮดร้าตลอดเวลา”

 

“ผมเข้าใจเเล้ว,ดีล่ะ เครื่องผมชักร้อนเเล้วสิ”เจ้าหน้าที่หนุ่มกล่าวอย่างตื่นเต้นหลังจากได้ยินคำพูดของหัวหน้าของเขา

 

“อืม,เรื่องเพื่อนคนนี้เอาเป็นว่า ฉันจะส่งทีมอื่น ๆ มาเฝ้าระวังเขาเเทนพวกเรา”หัวหน้าคนนี้บอกกล่าวต่อลูกน้องของเขา

 

“ครับ”

 

เจ้าหน้าที่หนุ่มคนนี้รู้สึกดีใจมาก หัวหน้า ตั้งใจจะส่งทีมระดับต่ำกว่ามาหยั่งเชิงที่นี่พอ เพราะการเฝ้าระวังธอร์นั้นเป็นงานที่น่าเบื่อมาก ไม่เหมาะกับพวกที่คิดว่าตัวเองเป็นมืออาชีพอย่างเขา

 

นอกจากนี้ยังมีภารกิจต่อกรกับพวกไฮดร้าอีก เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะพวกไฮดร้าคือศัตรูอันดับ 1 ของ องค์กร S.H.I.E.L.D.  ของพวกเขา

 

นี่เป็นภารกิจระดับสูงสุดที่พวก S.H.I.E.L.D.  ทุกคนตระหนักได้ เพราะพวกไฮดร้าคือศัตรูของโลกใบนี้

 

ตั้งเเต่ธอร์มาถึงที่นิวยอร์กเเห่งนี้ก็เป็นเวลาร่วมสัปดาห์กว่า เเม้เจ้าหน้าที่ S.H.I.E.L.D. ก็เฝ้าระวังเขาก็ไม่ได้อะไรกลับไป มีเพียงธอร์ที่ขอร้องเเจ็คสันให้ช่วยเหลือเขาในด้านชีวิตประจำวันเพียงเท่านั้น

ได้ยินคำถามของปีเตอร์ เเจ็คสัน เกือบที่จะลืมเรื่องของ ธอร์ ไปเลย วันนั้นเขาได้ทิ้งธอร์ไว้ที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต เเละออกไปจัดการกับฟรานซิส เเละพลาดท่า จนถึงตอนนี้ ธอร์ก็ยังไม่รู้ข่าวเกี่ยวกับเขา ดังนั้นเขาจึงคิดว่าธอร์อาจกำลังกังวลเรื่องของเขาอยู่ก็เป็นได้

 

“เขาชื่อ ธอร์,ฉันรู้จักกับเขาตอนที่ฉันไปที่นิวเม็กซิโก สถานะของเขาค่อนข้างพิเศษ ฉันตั้งใจว่าจะเเนะนำให้พวกนายรู้จักทีหลังเเหละ จริงสิ พวกนายเคยเห็นเขางั้นหรอ?”เเจ็คสันกล่าวพูดออกมา

 

“อืม,ตั้งเเต่ที่เรารู้ว่านายถูกจับตัวไปเราก็ไล่หาเบาะเเสจนพบว่านายไปที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ตเเละร่วมดื่มกกับใครบางคน รถของนายก็ยังจอดอยู่ที่นั่นเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าจอดนานขนาดนั้นจะได้รับใบสั่งกี่ใบก็ไม่รู้”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ปีเตอร์ พูดออกมา

 

“หืม? ฉันให้กุญเเจรถธอร์ไปนะ เขาไม่ได้ขับรถกลับไปงั้นหรอ?”ได้ยินเช่นนี้ เเจ็คสันกล่าวถามอย่างสงสัย เเต่เขาก็พึ่งนึกขึ้นได้ ธอร์เพิ่งมาอยู่โลกสองเดือน เขาจะขับรถเป็นได้อย่างไร

 

“นายอาจจะไม่รู้ เเต่ดูเหมือนเพื่อนของนายคนนี้ไม่ได้ขับรถนายกลับไปด้วย”ปีเตอร์กล่าวบอก

 

เเจ็คสัน”….”

 

“อืม,ฉันลืมไปว่าเขาขับรถไม่เป็น”เเจ็คสันกล่าวเสียงเบา ๆ

 

“ดูเหมือนเพื่อนคนนี้ของนายจะค่อนข้างเเปลก ๆ ไว้นายค่อยเเนะนำให้เรารู้จักเขาก็เเล้วกัน”เเฮร์รี่ กล่าวพูดขึ้น เเน่นอนว่าเขาไม่ได้ไปที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ตพร้อมกับปีเตอร์ เขาจึงไม่รู้จักธอร์

 

“อืม,ไว้มีโอกาส ฉันจะเเนะนำเขาให้พวกนายรู้จัก เขาเพิ่งย้ายมาอยู่นิวยอร์กเมื่อไม่นานมานี้ เเละกำลังมองหางาน ไม่รู้ว่าเขาจะได้รับงานหรือยัง”ได้ยินคำพูดของเเฮร์รี่ เเจ็คสันพยักหน้าตอบ

 

จริง ๆ เเล้ว เเจ็คสันว่าจะขอให้ เเฮร์รี่ ช่วยเหลือ ธอร์ เรื่องงาน เเต่เขาก็รู้ดีว่างานที่ ออสคอร์ป นั้นไม่ง่าย เเละธอร์เองก็คงจะไม่สามารถทำได้ ทั้งยังมีเหตุผลอื่นอีก ตอนนี้ ธอร์เป้าหมายจับตามองของ S.H.I.E.L.D. หากเขาได้เข้าทำงานที่ ออสคอร์ป เเน่นอนว่าอาจไม่สะดวกซะเท่าไหร่

 

“เเล้วพวกเราจะรอ”

 

“อืม,ไว้ฉันจะเเนะนำให้เขารู้จัก”

 

“ฮ่าฮ่า, เขาเป็นใครชักอยากจะรู้จักเเล้วสิ ?”

 

“อืม,เราจะรอคอย”

 

 

นิวยอร์กห้องพักใหม่ของ ธอร์ ในขณะนี้ ธอร์ไม่ได้รับข่าวสารจากเเจ็คสันเลย เขาเดินไปในห้องอย่างกังวลใจ

 

ฟุ่บ!

 

“ทำไมยังไม่มีข่าวคราวของเเจ็คสันอีก? เขาไม่รู้หรืออย่างไรว่าข้าเป็นห่วงเขาเเค่ไหน?”ธอร์ที่เดินวนไปวนมา ท้ายที่สุดเขาก็นั่งลงบนโซฟาด้วยหน้าตาเศร้าหมอง

 

ก่อนหน้านี้ ปีเตอร์ ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรกับธอร์เลย ทำให้เขารู้สึกกังวลใจมาก

 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ S.H.I.E.L.D. ที่เฝ้าจับตามอง ธอร์ พวกเขาก็สังเกตุเห็นพฤติกรรมผิดปกติแบบนี้ของธอร์หลายครั้ง

 

เเน่นอนว่าพวกเขาไม่รู้ว่าธอร์กังวลใจเรื่องอะไร เเต่หลังจากตรวจสอบดูอีกครั้ง พวกเขารู้ว่า ธอร์ได้กังวลเกี่ยวกับการหายตัวไปของเเจ็คสัน ในขณะที่ พวก S.H.I.E.L.D. เพิ่งรู้ข่าว มิราจไนท์ถูกจับตัวไปโดยพวกไฮดร้า นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาค้นพบเมื่อหลายวันก่อน เเละ ตอนนี้ พวกเขากำลังมองหาความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันของทั้งสอง เเน่นอนว่า S.H.I.E.L.D. ไม่ได้ตรวจสอบสถานะของ เเจ็คสัน โดยเฉพาะถึงขนาดที่ตามติดทุกย่างก้าว เเต่เพราะนี่เป็นโอกาสทองที่อาจจะได้ข้อมูลของมิราจไนท์

 

ดังนั้น S.H.I.E.L.D. จึงได้ลองตรวจสอบ เเละ ดูเหมือนข่าวของ เเจ็คสัน จะอยู่กับ โทนี่,โทนี่ ได้ให้การอำพรางช่วงที่เเจ็คสันหายตัวไปเเน่นอนว่าด้วยความช่วยเหลือของโทนี่ ทำให้พวก S.H.I.E.L.D. ไม่สามารถพบร่องรอยอื่นใดอีก

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะที่ธอร์นั่งกังวลอยู่บนโซฟา โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น

 

ตู๊ดดด

 

ธอร์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะจ้องมองไปที่ชื่อบนหน้าจอเเละกดรับทันที

 

“เฮ้,เเจ็คสัน!”ธอร์ตะโกนพูดก่อนเป็นคนเเรก

 

“อืม,ฉันเอง ธอร์ ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณเป็นห่วง”เเจ็คสันตอบกลับเขาดูเหมือนจะลืมเพื่อนคนนี้ไปเลย

 

“ได้รู้ว่าเจ้าปลอดภัยดีก็ไม่เป็นไร ข้ากลัวว่าเจ้าจะประสบอุบัติเหตุ”ได้ยินเสียงของเเจ็คสัน ธอร์ กล่าวด้วยความกังวลใจ

 

“ฮ่าฮ่า,ฉันไม่ใช่คนที่จะประสบอุบัติเหตุได้อย่างง่าย ๆ หรอก เออใช่,คุณหางานทำได้หรือยัง?”เเจ็คสันไม่ต้องการพูดเรื่องในอดีตอีกเขากล่าวถามเรื่องงานของธอร์

 

ธอร์ที่ได้ยินการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาของเเจ็คสัน เเน่นอนว่าเขาไม่ได้จะถามออกไปหรือตั้งใจถามต่อ เขารู้สึกเหมือนเเจ็คสันไม่ต้องการอธิบายถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ให้เขาฟัง

 

เเม้เขาจะมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเเจ็คสัน เขาก็รู้ตัวดีว่าตอนนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้ พอเขาสูญเสียพลังเทพเจ้าสายฟ้าของตัวเองไป ธอร์รู้สึกเหมือนตัวเขาไม่สามารถดำเนินการสิ่งใดได้ด้วยตัวเอง

 

“เอ่อ…ข้าก็กำลังมองหางานอยู่ เเจ็คสัน เจ้ามีงานอะไรเเนะนำข้าบ้างไหม?”ธอร์สลัดความคิดเหล่านั้นไปเเละกล่าวถามเเจ็คสัน

 

“อืม,ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากที่จะมองหางานในเมืองใหญ่ นิวยอร์กเเห่งนี้ นอกจากนี้งานที่เหมาะกับคุณนั้นค่อนข้างจะหายากซะด้วยสิ”เเจ็คสันกล่าวตอบ

 

ที่จริงเเล้วที่เขาบอกว่ายากเพราะธอร์ยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับโลกได้อย่างสมบูรณ์ยังมีอีกหลายสิ่งที่ธอร์ยังไม่ได้เรียนรู้

 

นอกจากนี้ทั้งยังมีส่วนสูงของธอร์ที่สูงกว่า 1.9 เมตร ร่างกายบึกบึ่นกำยำเเละหล่อเหลาให้ราศีดูเหมือนผู้ดีในชาติวงศ์ตระกูลชั้นสูง สิ่งเหล่านี้ค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับงานทั่วไป

 

หากเป็นงานพวกทหารรับจ้าง ก็อาจจะผ่านได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร

 

นอกจากนี้ ด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของธอร์ หากเป็นนายแบบ ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ยังมีอีกเรื่องนึงที่ธอร์ยังไม่รู้ หากเขาเข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. เเน่นอนว่า S.H.I.E.L.D. จะดูเเลเขาในฐานะเเขกจากต่างโลก ซึ่งเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องมองหางาน

 

นอกเหนือจากรูปลักษณ์หน้าตา ค่าพละทางกายที่เเข็งเเกร่ง การมองหางาน ผู้คุ้มกันก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เเต่เรื่องนี้ เกรงว่า S.H.I.E.L.D. อาจจะเข้ามามีปัญหาได้

 

“หากคุณต้องการคำเเนะนำจากฉันบางทีเราควรจะนัดพูดคุยกันเอาเป็นว่าฉันจะช่วยเหลือคุณ”เเจ็คสันกล่าวรับปากเรื่องนี้

 

“อืม,เอาเป็นที่บาร์เดิมนั่นงั้นหรอ?”ธอร์กล่าวพูดขึ้น เขาดูเหมือนจะชอบบาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต เพราะมันให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศที่คุ้นเคย

 

“….ฉันว่าฉันจะเเนะนำเพื่อนสองคนให้คุณรู้จักสถานที่นัดพบยังไม่ชัดเจนเอาเป็นว่าฉันจะติดต่อคุณไปภายหลังเเล้วกัน”

 

“อืม,เช่นนั้นไว้เจอกัน”

ได้ยินคำถามของของเเฮร์รี่เเจ็คสันเองก็เหมือนจะนึกขึ้นได้ ตอนนี้ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเขาก็มารวมตัวกันที่นี่ นอกจากนี้ เเจ็คสันยังมีความปราถนาอยู่ลึก ๆ ในใจ เป้าหมายของเขาไม่จำเป็นต้องสงสัยเลยว่าพวกมันจะเป็นใคร

 

“เเผน?เเน่นอนว่าเเผนของฉันก็คือการทำให้พวกไฮดร้าพวกนี้ไม่ได้ตายดี!”เเจ็คสันกล่าวตอบเเละเเสดงท่าทีอย่างเย็นชา

 

ได้ยินคำตอบของ เเจ็คสัน เเฮร์รี่ เเละ คนอื่นๆ ในทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์ ไม่ได้เเสดงออกอย่างเเปลกใจ นอกจากนี้ เป้าหมายของพวกเขาคือการกำจัดองค์กรชั่วร้าย เเละ ไฮดร้า เองก็เป็นหนึ่งในนั้น

 

“ธรรมชาตินี่เป็นเรื่องความเเค้นส่วนตัวของฉัน พวกนายจะไม่เข้ามายุ่งก็ได้”จ้องมองไปที่ท่าทีไม่เปลี่ยนเเปลงของคนในทีมของเขา เเจ็คสัน กล่าวพูดเสริม

 

การกำจัดพวกไฮดร้าเป็นเป้าหมายนึงของเขา ทั้งยังเป็นความเเค้นส่วนตัว หลังจากที่เขาพลาดท่าถูกจับตัวไป เเจ็คสันก็รู้เเล้วว่าความเเข็งเเกร่งในปัจจุบันของพวกไฮดร้านั้นรุนเเรงเพียงใด ปัจจุบันความเเข็งเเกร่งของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ไม่ใช่สิ่งที่จะต่อสู้กับพวกไฮดร้าได้เลย นอกจากนี้ พวกไฮดร้ายังรู้สถานะของเขา เขากังวลว่า พวกปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ จะตกอยู่ในอันตราย

 

“มิราจไนท์ เรื่องของคุณ ก็คือเรื่องของเรา ! ยิ่งกว่านั้นพวกไฮดร้าเป็นพวกชั่วช้าพวกนี่ไม่ใช่เป้าหมายของคุณคนเดียว”หลังจากที่เเจ็คสันกล่าว ปีเตอร์ กล่าวเสริมขึ้น เเน่นอนว่าปีเตอร์รู้ว่ามิราจไนท์คือเเจ็คสัน เขาย่อมไม่ปล่อยให้เพื่อนของเขาสู้ตามลำพัง

 

“ใช่เเล้ว,หน้าที่จัดการพวกไฮดร้าไม่ใช่ของคุณคนเดียว”หลังจากที่ปีเตอร์กล่าวสนับสนุน เเฮร์รี่ ก็ตัดสินใจจะเข้าร่วมด้วย เเม้ตอนนี้เขาจะไม่ใช่ลูกทีมของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ทั้งตัว เเต่เขาก็จะไม่ยอมให้เเจ็คสันต้องลุยเดี่ยวเรื่องนี้

 

“เเม้ว่าความเเข็งเเกร่งของตัวฉันจะอ่อนเเอกว่าคุณ เเต่เบื้องหลังอิทธิพลครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์ของฉัน ก็อาจจะช่วยเหลือคุณได้ไม่มากก็น้อย”เเจ็คกล่าวตอบ เเน่นอนว่า อิทธิพลของครัวเเฟรงเกนสไตน์นั้นไม่อาจดูถูกได้ เเน่นอนว่าเเมตต์เองก็เห็นด้วย

 

“เฮ้~ เเม้ว่า ฟรานซิสจะตกตายไปเเล้ว เเต่พวกไฮดร้า ก็เป็นคนสนับสนุนมัน ฉันจะเข้าร่วมด้วยคน”เห็นเพื่อนร่วมทีมให้การสนับสนุน มิราจไนท์ เดดพูล หัวเราะออกมา

 

“พวกนาย…,เช่นนั้นก็ฝากตัวด้วย”เห็นทุกคนให้การสนับสนุนตัวเอง เเจ็คสัน รู้สึกตื้นตันใจมาก นี่เป็นทีมของเขา เป็นทีมที่เขารวบรวมทุกคนที่สามารถเชื่อใจได้ เเจ็คสันรู้สึกขอบคุณตัวเองที่เขาคิดไม่ผิด

 

“ฉันก็สนับสนุนคุณเหมือนกัน มิราจไนท์!”เจอร์รี่ เห็นทุกคนสนับสนุนมิราจไนท์ ในฐานะที่เขาเป็นคนคอยซับพอร์ตทีมอยู่เบื้องหลัง เขาย่อมไม่อาจละทิ้งหน้าที่นี้ได้

 

“อืม,ขอบคุณ สกาย’อาย ขอบคุณทุกคน”เเจ็คสันพูดขอบคุณจากใจจริงของเขา

 

“ฮ่าฮ่า,ตอนนี้พวกเราก็ลงเรือลำเดียวกันทั้งหมดสินะ!”ปีเตอร์ดึงเเจ็คสันเข้ามาโอบไล่ด้วยรอยยิ้ม

 

“อืม! “เเฮร์รี่ เห็นด้วย

 

“จุดประสงค์ที่เเท้จริงของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเรา ไม่เพียงเเต่ปกป้องนิวยอร์กเเห่งนี้ เเต่เราจะปกป้องโลกใบนี้เเละคนอื่น ๆ เเละสิ่งที่มีค่าเหนือสิ่งอื่นใดที่พวกเรามีก็คือ มิตรภาพ”เเดร์เดวิล เเมตต์ เองก็ยื่นมือไปสัมผัสไหล่ ของเเจ็คสัน

 

“ใช่,ฉันเองก็จะชักนำครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์ไปสู่จุดที่รุ่งเรืองพวกเขาจะกลายเป็นหนึ่งในกองกำลังของพวกเรา”เเจ็คเองก็ยืนยันเรื่องนี้

 

“ฉันคงไม่มีอะไรจะพูด เพียงเเต่ เป้าหมายเเรกของพวกเราคือพวก ไฮดร้าสินะ!”เดดพูล เเละ คนอื่น ๆ ก็เดินเข้ามาในวงเบื้องหน้าของเเจ็คสัน

 

“ฉันเองก็จะพยายามด้วย!”ทันทีที่เจอร์รี่เข้ามา ทุกคนก็โอบไหล่กอดคอกันเเละกัน

 

จากนั้นทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ทุกคนก็ล้อมวงหันหน้าเข้าหากัน เเม้ทุกคนจะสวมหน้ากากหมด ยกเว้น เเจ็ค เเละ เจอร์รี่ ในเวลานี้ เเต่พวกเขากลับมีความเชื่อใจกันเเละกัน

 

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ก็วางเเผนจัดการพวกไฮดร้าเสร็จ เเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ได้ขอตัวจากไป ซึ่งเเจ็คสันได้ขับชุดเกราะไอรอนแมนที่เขานำมาด้วยติดตัวไป

 

พอเดินทางออกจากฐานพันธมิตรผู้พิทักษ์ไปได้ไกลพอสมควร ทั้งสามคนก็ถอดเสื้อคลุมที่ปิดบังสถานะของตัวเองออก เเจ็คสัน ถอดชุดสูทภูติมายาของเขาออก ปีเตอร์ เองก็ถอดชุดสไปเดอร์เเมน สำหรับ เเฮร์รี่ ชุดเกราะของเขาค่อนข้างถอดได้อย่างยากลำบาก

 

ชุดสูทภูติมายาของเเจ็คสันเพียงเเค่นึกคิดก็สามารถสวมใส่หรือถอดได้ ส่วนปีเตอร์ เพียงเเค่เขาสวมหมวกปิดบังอำพรางเพียงเท่านั้น เพราะชุดของปีเตอร์อย่างไรก็ยังสามารถใช้เสื้อผ้าอื่นสวมทับได้

 

เมื่อเทียบกับชุดเกราะดาร์คไนท์ของเเฮร์รี่ที่เป็นอุปกรณ์ประเภทปกปิดครึ่งลำตัวมันค่อนข้างยากที่จะถอดออก เเต่เเฮร์รี่ก็วางเเผนที่จะพัฒนาชุดเกราะของเขาเเม้โดยรวมเเล้วอุปกรณ์ของพวกเขาจะไม่สามารถเทียบกับชุดของมิราจไนท์เเละสไปเดอร์แมนได้ก็ตาม เเต่ชุดเกราะของเขาก็ค่อนข้างเเข็งเเกร่งพอสมควร

 

ฟุ่บ!

 

ปีเตอร์ เเละ เเจ็คสัน เเฮร์รี่ ได้เดินเคียงข้างกัน พวกเขาเหมือนกับกลุ่มนักเรียนมัธยมปลายธรรมดา ๆ ที่กำลังเดินทางกลับบ้าน

 

“เเจ็คสันที่นายพูดเป็นเรื่องจริง? ทอมได้ถูกพวกมันเล่นงาน?”ระหว่างเดินทางกลับบ้านได้ยินคำพูดของเเจ็คสันปีเตอร์รู้สึกไม่เชื่อ

 

เเจ็คสันได้อธิบายว่าทอมได้ถูกพวกไฮดร้าล้างสมองเเละเปลี่ยนเป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะปิด เเน่นอนว่าเขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคนอื่น ๆ ในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเต่บอก ปีเตอร์ กับ เเฮร์รี่ เป็นการส่วนตัว

 

“อืม,ในช่วงเวลานั้นพวกมันต้องการใช้ทอมบังคับฉันเข้าร่วมไฮดร้า พวกมันได้เปลี่ยนทอมเป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ตอนนี้ทอมได้ถูกพวกไฮดร้าควบคุมอยู่”เมื่อพูดถึงจุดนี้เเจ็คสันรู้สึกเเค้นเคืองพวกไฮดร้ามาก

 

“เวรเอ้ย,ไอ้พวกไฮดร้า เเล้วพวกเราจะทำยังไงกันต่อดี!”เเฮร์รี่ ที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวถาม

 

เเม้ว่าเขากับทอมจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ลึกซึ้งกันมากนัก เเต่เขาก็เริ่มรู้สึกเกลียดพวกไฮดร้ามากขึ้น

 

“ไม่เห็นจะยาก,พวกเราก็เเค่ต้องช่วยทอมกลับมา”เปรียบเทียบกับเเฮร์รี่ ปีเตอร์ อยากจะช่วยเหลือทอมโดยเร็ว เขามีอารมณ์ที่รุนเเรงในตอนนี้

 

“นี่คือสัญญาที่ฉันให้ไว้กับทอม ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็จะช่วยเขากลับมา”เเจ็คสันพูดจริงจัง

 

“อืม,จริงสิ เเจ็คสัน ได้ยินว่าวันนั้นนายเดินทางไปที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต ดูเหมือนนายจะไปกับเพื่อนคนนึง ดูท่านายกับเขาจะค่อนข้างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำไมนายไม่เห็นเเนะนำให้พวกเรารู้จักเลย”ในระหว่างที่ทั้งสามคนเดินกลับบ้าน ปีเตอร์เหมือนจะนึกขึ้นได้ เขาได้กล่าวถามเเจ็คสัน

 

“อ๋อ,นายหมายถึง ธอร์?”

“เพื่อนของเธอมีโอกาสที่จะถูกพวกไฮดร้าจับไปเป็นตัวประกันสูง เพราะพวกมันรู้ว่าเธอกับทอมสมิธมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พวกมันคงไม่ปล่อยให้เขาตายอย่างเเน่นอน”เห็นว่าเเจ็คสันเป็นกังวล โทนี่ กล่าวปลอบเขา

 

อึ๊ก~

 

เเจ็คสันที่ก้มหน้าด้วยความสลดเมื่อครู่ได้เงยศีรษะขึ้นเเละยิ้มให้กับโทนี่”คุณสตาร์ก ผมไม่เป็นไร นอกจากนี้ผมเชื่อว่า ทอมจะต้องไม่ตาย พวกมันต้องการใช้เขาเป็นเครื่องต่อรองเป็นเเน่ เเน่นอนว่านี้เรายังมีโอกาสที่จะช่วยเขาอยู่”

 

“…”โทนี่คิดว่าเเจ็คสันจะทำใจยอมรับไม่ได้ กลับกัน ไม่คาดคิดว่า เเจ็คสันจะตอบสนองได้ดีเกินคาดทำให้โทนี่ค่อนข้างตกใจเล็กน้อย

 

“นอกจากนี้ผมต้องขอบคุณ คุณมาก คุณสตาร์กที่ช่วยเหลือผมกลับมา เกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือของเราก็ได้พูดไปเเล้ว เเบบเเปลนเรือเหาะสงครามระดับ E คงต้องฝากไว้ที่คุณเเล้วล่ะ ตอนนี้ผมขอตัวกลับบ้านก่อน เเม้ว่าคุณจะบอกพ่อกับเเม่ของผม เเต่พวกท่านก็คงเป็นกังวลใจอยู่ดีหากผมไม่ได้กลับบ้านไปเลย”ไม่ต้องรอให้โทนี่พูดอะไรต่อ เเจ็คสัน พูดขึ้น

 

“อืม,เช่นนั้นเธอกลับบ้านไปก่อนเถอะ”โทนี่ ไม่สามารถรู้ได้ว่าในปัจจุบันเเจ็คสันคิดอะไร เขาตอบกลับความคิดของเเจ็คสัน

 

~

 

อย่างไรก็ตามเเจ็คสันยังไม่ได้เดินทางกลับ เพียงเเต่ยกมือทั้งสองข้างขึ้น ซึ่งหลังจากที่โทนี่เห็นกุญเเจมือที่สวมอยู่ที่ข้อมือของเเจ็คสัน เขาก็ลืมไปเลย นี่เป็นกุญเเจมือพิเศษที่ทำจากโลหะผสมอดาเเมนเทียม มันเเข็งเเกร่งอย่างมาก

 

“! เอาเป็นว่าฉันจะช่วยถอดมันออกก่อนเเล้วกัน โชคดีที่พ่อของฉันทิ้งข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับโลหะอดาเเมนเทียมเอาไว้ ไม่งั้นคงลำบากเป็นเเน่…”เห็นข้อมือทั้งสองข้างของเเจ็คสัน โทนี่ ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปที่ห้องปฏิบัติการของเขา

 

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ชุดเกราะไอรอนแมนก็ออกจากวิลล่าส่วนตัวของโทนี่ มุ่งหน้าเดินทางไปยังใจกลางนิวยอร์ก เเน่นอนว่า ชุดเกราะไอรอนแมนนี้ ข้างในก็คือ เเจ็คสัน หากเขาเดินดุ่มด่ามออกไปข้างนอกล่ะก็ ก็คงถูกพวก S.H.I.E.L.D. จับตามองได้ ดังนั้นเขาจึงได้เดินทางออกมาด้วยชุดเกราะไอรอนแมน

 

ผ่านไป 5 นาที เเจ็คสัน ได้ขับชุดเกราะไอรอนแมน มุ่งหน้าไปยังฐานพันธมิตรผู้พิทักษ์ ซึ่งตอนนี้ สไปเดอร์แมน กับคนอื่น ๆ กำลังรอเขาอยู่

 

ครื่น!

 

“! มิราจไนท์!”เห็นเเจ็คสันมาออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมน ปีเตอร์ ตะโกนขึ้นทันที

 

ในที่สุด ปีเตอร์ก็รู้สึกโล่งใจ นี่เป็นเเจ็คสันจริงๆ ก่อนหน้านี้ที่เเจ็คสันถูกจับตัวไป ปีเตอร์ ได้ออกไล่ล่าพวกไฮดร้าอย่างบ้าคลั่ง เเต่ก็คว้าได้เเต่น้ำเหลวเพียงเท่านั้น

 

“ใช่ ฉันเอง!”เเจ็คสันตบหลังปีเตอร์ เบา ๆ

 

“โชคดี,โชคดีจริง ๆ ที่ปลอดภัย”ได้รู้ว่าเเจ็คสันกลับมาอย่างปลอดภัยปีเตอร์พูดอย่างมีความสุข

 

ในขณะนั้นเเฮร์รี่ ก็เดินมาจากทางด้านหลัง เขาวางเเผนที่จะเข้าไปทักทายเเจ็คสัน เพียงเเต่ปีเตอร์ได้ตัดหน้าเขาไปก่อน หลังจากที่เเจ็คสันพูดกับปีเตอร์เสร็จ เเฮร์รี่ ก็เดินเข้าไปกอดเเจ็คสัน

 

“ยินดีต้อนรับกลับ!”

 

“ขอบคุณ!”

 

จากนั้นเเจ็คสันก็ได้เเสดงความขอบคุณสมาชิกทุกคน ที่คอยช่วยเหลือเขาในยามที่เขาลำบาก เเม้ส่วนใหญ่จะเป็นผลงานของโทนี่เเละ S.H.I.E.L.D. เเต่ช่วงภายหลังมานี้ เเน่นอนว่าสไปเดอร์แมนเองก็มอบบทเรียนราคาเเพงให้พวกไฮดร้าเช่นเดียวกัน

 

ธรรมชาตินอกเหนือจากคนเหล่านี้ที่เเจ็คสันต้องขอบคุณก็คือทีม X-MEN ศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ ได้รับข่าวพวกไฮดร้า จาก ฟรานซิส จนทำให้ S.H.I.E.L.D. สามารถสืบเสาะหาเเหล่งกบดานที่เป็นจุดต้องสงสัยพบ

 

นอกเหนือจากคนเหล่านี้ ก็ยังมี พวกพ่อมด เเต่เเจ็คสันไม่รู้จะติดต่อกับคนเหล่านี้อย่างไร เเม้คนเหล่านี้จะออกตามหาตัวเขา เเต่ในสถานการณ์ปัจจุบันพวกเขาไม่ได้มีวิธีติดต่อกัน ดังนั้น เเจ็คสันจึงรู้สึกสงสัย เขารู้สึกสงสัยว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงคอยสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง

 

“ดูเหมือนว่าหลังจากนี้ ฉันจะต้องลองไปที่ คาร์มา-ทัช ดู เพื่อเเสดงความขอบคุณต่อ ปรมาจารย์ เอนเชี่ยนวัน”ได้ยินว่าพ่อมดมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเขาครั้งนี้เเจ็คสันครุ่นคิดในใจ

 

“มิราจไนท์ ทำไมพวกไฮดร้าถึงต้องโจมตีคุณ เเละในช่วงที่คุณถูกจับตัวไป พวกมันได้ทำอะไรคุณหรือไม่?”เห็นเเจ็คสันกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง สไปเดอร์แมนกล่าวถามขึ้น

 

การกระทำของพวกไฮดร้านั้นเป็นความลับ พวกมันได้สนับสนุนฟรานซิสอยู่เบื้องหลัง ถึงอย่างนั้น พวกปีเตอร์ก็รู้สึกสงสัยเกี่ยวกับการโจมตีของพวกไฮดร้าที่มีต่อ มิราจไนท์

 

“เรื่องนี้ อาจเป็นเพราะพวกมันมีเป้าหมายเป็นเราหรือทีม X-MEN เพียงเเต่ในเวลานั้นฉันได้วิ่งเข้าไปหาปากกระบอกปืนเอง”ได้ยินคำถามของปีเตอร์ เเจ็คสันตอบกลับ

 

“ในมุมมองของพวกเรา ดูเหมือนการกระทำของพวกมันจะองอาจมากทีเดียว ตอนนี้ทั้งโลกรู้เเล้วว่าองค์กรไฮดร้าคืออิทธิพลร้ายขนาดใหญ่ เเต่พวกมันก็ยังกล้าเคลื่อนไหวเช่นนี้อยู่อีก!!”ได้ยินคำตอยบของเเจ็คสัน,เเจ็ค พูดขึ้น

 

“เเน่นอนว่าพวกมันไม่ได้เกรงกลัวสิ่งใด เพราะเป้าหมายของพวกมันตราบเท่าที่สามารถทำให้องค์กรไฮดร้าขยายอิทธิพลได้ ไม่ว่าอะไรมันก็จะทำ”เเจ็คสันถอนหายใจออกมาหลังจากได้ยินคำพูดของเเจ็ค

 

“นอกจากนี้ฉันประมาทเกินไป เเม้จะถูกลอบโจมตีเเละถูกจับตัวได้ เเต่เป็นฉันเองที่ตั้งใจวิ่งเข้าหาฐานของพวกมัน เเละพลาดท่าโดนอาวุธที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงของพวกมันจัดการ เพราะแบบนี้ฉันจึงหลบหนีออกมาไม่พ้น”

 

ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์,เเดร์เดวิลขมวดคิ้วเล็กน้อย”ดูเหมือนว่าการคาดเดาของฉันจะถูกต้อง มิราจไนท์ เดิมได้ดำเนินการตามเเผนของตัวเอง นอกจากนี้ นายรู้หรือไม่ว่าสองคนนั้นที่ลอบโจมตีนายคืนนั้นคือใคร?”

 

“ใช่ฉันรู้จักพวกเขา ไม่เพียงเเต่เเค่รู้จัก บางทีอาจกระทั่งรู้จักต้นกำเนิดของทั้งสองคนดี”ได้ยินคำพูดของเเดร์เดวิล เเจ็คสันพยักหน้าตอบ

 

“พวกเขาเป็นใคร? ฉันเคยถาม พวกคนจากทีม X-MEN เเล้ว เเต่พวกเขาบอกไม่เคยได้ยินชื่อเสียงมิวแทนท์สองคนที่มีพลังน่ากลัวระดับนี้มาก่อน”เห็นเเจ็คสันพูด ปีเตอร์กล่าวถามอย่างเร่งรีบ

 

“ชื่อของเพื่อนที่มีความเร็วสูงคนนั้น ถูกเรียกว่า ควิกซิลเวอร์ ส่วนเพื่อนสาวของเราคนนั้นก็คือ สกาเล็ต วิช เธอมีความสามารถในการควบคุมจิตใจหรือก็คือพลังจิต ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน เเละ เป็นมิวแทนท์ที่เเข็งเเกร่งมาก”เเจ็คสันพูดชื่อ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ออกมา ในปัจจุบัน ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเขาจำเป็นจะต้องรู้ข้อมูลรายละเอียดเเละความสามารถของศัตรู

 

“ความสามารถควบคุมจิตใจ? นั่นคือเวทมนตร์ที่เเท้จริงของเธอ?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันเกี่ยวกับการอธิบายพลังของ สกาเล็ต วิช ทำให้ เดดพูล เปิดปากพูดขึ้น การต่อสู้ของสไปเดอร์แมน เเละ สกาเล็ต วิช ตอนนั้นเธอไม่ได้ใช้ความสามารถควบคุมจิตใจ ดูเหมือน สกาเล็ต วิช คนนี้ จะเก็บงำพลังเอาไว้อยู่

 

“เวทมนตร์?ไม่เลย ความสามารถของ สกาเล็ต วิช ไม่ใช่เวทมนตร์”ได้ยินคำพูดของเดดพูลที่เปรียบเทียบพลังของสกาเล็ต วิช เป็นเวทมนตร์ เเจ็คสัน ยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“หึ่ม~~~~ จากที่ฉันดูความสามารถของเธออย่างไรก็ตามไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอเเข็งเเกร่งมาก!”เดดพูลไม่ได้สนใจคำพูดของเเจ็คสัน

 

ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน ได้ถูกความสามารถของสกาเล็ต วิช โจมตี ทางจิตวิญญาณ เเน่นอนว่าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น จิตของคนเหล่านี้อาจจะได้รับความเสียหาย เเม้เเจ็คสันจะรอดมาได้ เเต่เขาก็ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นเช่นเดียวกัน

 

“ดังนั้นฉันขอเตือนหากพวกนายพบเธอ พยายามซ่อนตัวให้อยู่ห่างไกลที่สุด เเต่ทางที่ดี การฝึกฝนก็เป็นเรื่องสำคัญ หากพวกนายมีจิตใจที่เข้มเเข็งก็จะสามารถต้านทานพลังของเธอได้”เเจ็คสันได้อธิบายเกี่ยวกับการต้านทานความสามารถของสกาเล็ต วิช เขาได้กล่าวเตือนทุกคน

 

“มิราจไนท์ คุณวางเเผนจะทำอะไรต่อจากนี้?”

 

“สิ่งเพ้อฝัน?ไม่…ในมุมมองของฉัน เธอก็ไม่ต่างไปจากเด็กคนนึง”เห็นเเจ็คสันเเสดงท่าที่โอ้อวด โทนี่ พูดอย่างจริงจริง

 

“ใช่มั้ยล่ะ? เดี๋ยวนะ คุณว่าอะไรนะ?”เดิมเขาเหมือนรู้สึกว่าโทนี่จะชื่นชมเขา เเต่เเจ็คสันราวกับได้ยินคำพูดผิดไป

 

ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน รู้สึกสงสัย ไม่ใช่ว่าโทนี่ควรจะชื่นชมเขา ที่สามารถหาเเบบเเปลนเรือเหาะสงครามระดับ E นี้มาได้ไม่ใช่หรอกหรอ เเต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?

 

“ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจในคำพูดฉันผิดไป,ในสายตาของเธอ เธอคงคิดว่าเรือเหาะสงครามนี้อาจจะเป็นอิทธิพลที่เเข็งเเกร่งเเละสามารถกระทั่งยึดครองโลกได้ใช่มั้ย?”โทนี่ กล่าวถาม

 

“หรือว่าไม่ใช่?”

 

“ป่าวเลย,ที่ฉันกำลังจะบอกเธอหมายถึงวิธีการใช้ประโยชน์สูงสุดของมันต่างห่าง ความคิดของเธอนั้นยังคงตีกรอบในวงเเคบเกินไป ดังนั้นฉันถึงบอกว่าเธอยังเด็ก เเน่นอนว่าอาวุธเรือเหาะสงครามนี้คือเรือรบที่สามารถเดินทางในอวกาศได้เธอลองคิดภาพที่เรามีจำนวนเรือรบเเละกองกำลังที่เพียบพร้อมดู? คิดเอาว่าอารยธรรมของโลกเราจะก้าวหน้าขนาดไหน?”เห็นเเจ็คสันมีเป้าหมายเพียงเเค่ใช้จัดการสิ่งต่าง ๆ ในโลก โทนี่ กล่าวตำหนิทันที

 

“คุณคิดจะใช้เรือเหาะสงครามนี้เดินทางเพื่อค้นหาเเละพิชิตอารยธรรมอื่น ๆ ?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน กล่าวถามอย่างตื่นตะลึง

 

เขาคิดว่าโลกในปัจจุบันตอนนี้ยังคงไม่พร้อม ทั้งจักรวาลอื่นๆ ที่น่าเกรงขามก็มีมากมาย ตัวตนเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่โลกในตอนนี้จะรับมือได้

 

“ใช่,เธอไม่คิดหรอว่า เรือเหาะสงครามนี่ สามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เธอจินตนาการเอาไว้เยอะ”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวพูดเสริมถึงความสามารถของเรือรบนี้

 

“เรื่องนี้…เพียงเเต่นี่เป็นเพียงเเค่เรือเหาะสงครามระดับ E ประสิทธิภาพของมันเเน่นอนว่ายังคงมีขีดจำกัด”ได้ยินคำพูดของโทนี่ อีกครั้ งเเจ็คสัน กล่าวอย่างลังเล

 

“เดี๋ยว เมื่อกี้ เธอบอกว่า เเบบเเปลนนี้คือเเบบเเปลนเรือเหาะสงครามระดับ E เช่นนั้น ย่อมต้องมี ระดับ A,B,C,D ใช่ไหม?”โทนี่ กล่าวถามอย่างเร่งรีบ

 

“….เเน่นอน เพียงเเต่สิ่งเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ผมในตอนนี้ คงไม่มีโอกาสที่จะได้รับมันมา”เห็นความคลั่งไคล้ของโทนี่ ประกายออกมา เเจ็คสัน กล่าวตอบอย่างเร่งรีบ

 

“ฉันรู้เเน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นคงไม่สามารถได้มาง่าย ๆ “โทนี่ ในที่สุดก็สงบลง เเต่คำตอบเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมาก

 

“สำหรับเเผนเเนวคิดที่จะเดินทางค้นหาอารยธรรมอื่น ๆ ที่ฉันพูดไปเมื่อครู่นี้ เเน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถทำได้ตอนนี้ เเม้จะทำได้ โลกของเราก็ยังไม่พร้อมรับมือกับเรื่องนี้อยู่ดี ดังนั้นเราต้องสร้างรากฐาน เราจำเป็นจะต้องทำมันเป็นขั้นตอนทีละอย่าง”เห็นเเจ็คสันพูดถึงแบบเเปลนเรือรบระดับที่สูงกว่าที่เขาได้ครอบครองอยู่ตอนนี้ โทนี่ วางเเผนในอนาคตอย่างรวดเร็ว

 

“เเน่นอน,เช่นนั้น คุณสตาร์ก คุณยินดีที่จะร่วมมือกับผมเพื่อทำให้เป้าหมายที่เพ้อฝันของผมเเละของคุณเป็นความจริงหรือไม่?”เเจ็คสันรู้ดีว่าโทนี่มีความคิดที่จะนำโลกก้าวพัฒนาไปสู่อารยธรรมที่เเข็งเเกร่ง จนกระทั่งโลกสามารถปกครองตนเองได้โดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด

 

มองไปที่ เด็กหนุ่มที่อายุประมาณ 17 ปี คนนี้ โทนี่ รู้สึกว่าเด็กคนนี้เต็มไปด้วยความลึกลับมากมายจริง ๆ

 

“ฮึ่ม,เจ้าเด็กนี่, ตั้งเเต่ที่เธอนำสิ่งนี้มาให้ฉัน เธอก็คงคาดหวังคำตอบที่จะได้จากฉันอยู่เเล้วสินะ เอาเถอะ ตราบใดที่เธอไม่ได้มีความคิดที่ชั่วร้าย เเละต้องการที่จะช่วยเหลือโลกของเราให้เลื่อนระดับไปสู่อารยธรรมที่เเข็งเเกร่ง ฉัน โทนี่ สตาร์ก จะขอร่วมมือกับเธอเอง”เผชิญหน้ากับคำถามของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวเห็นด้วยอย่างไม่ลังเล

 

“ฮ่าฮ่า,ผมคิดอยู่เเล้วว่าคุณสตาร์กจะต้องเลือกได้ดี สมกับเป็นคุณ!”ได้ยินคำตอบของโทนี่ เเจ็คสัน เองก็รู้สึกผ่อนคลาย ได้โทนี่มาร่วมอุดมการณ์ของเขาเเน่นอนว่าในอนาคตเส้นทางในการเก็บรวบรวมเเต้มคะแนนของเเจ็คสันเพื่อเเลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการก็จะง่ายขึ้น

 

“นอกจากนี้ ฉันอยากให้เธอรับปาก ตอนนี้เราได้ลงเรือลำเดียวกันเเล้ว ถ้าเธอมีเรื่องอะไรขอให้บอกกล่าวต่อฉันอย่าคิดปิดบังอีกเข้าใจมั้ย?”เห็นท่าทางของเเจ็คสันที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม โทนี่ กล่าวเตือน

 

“ผมเข้าใจเเล้ว!”

 

ฟุ่บ!

 

“เจ้านายครับ,ดูเหมือนตัวเเทนของ S.H.I.E.L.D. เจ้าหน้าที่ โคลสัน จะติดต่อมา”ในขณะที่เเจ็คสันเเละโทนี่กำลังสนทนากัน J.A.R.V.I.S ก็ได้ส่งเสียงเตือน

 

“S.H.I.E.L.D. ? พวกเขามีข่าวของทอมหรือไม่?”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันรู้สึกกังวล

 

“J.A.R.V.I.S ต่อสายให้ฉัน!”เห็นเเจ็คสันตะโกนด้วยความกังวลต่อเพื่อนของเขา โทนี่ บอก J.A.R.V.I.S ให้ต่อสายโคลสัน ทันที

 

“สวัสดี เจ้าหน้าที่โคลสัน”

 

“อ่า,คุณสตาร์ก ตอนนี้ มิราจไนท์ อยู่ที่นั่นหรือไม่?”ทันทีที่ต่อสายเเละได้ยินเสียงของโทนี่ เจ้าหน้าที่โคลสัน กล่าวถามหา มิราจไนท์

 

“อืม,ฉันอยู่ที่นี่ เจ้าหน้าที่โคลสัน คุณเคลียร์สนามรบที่นั่นเสร็จรึยัง?”ได้ยินเจ้าหน้าที่โคลสันพูดถึงตัวเอง เเจ็คสัน ทนไม่ได้ที่จะเปิดปากพูดโดยตรง

 

“เอ่อ…สวัสดี คุณมิราจไนท์ พวกเราได้เคลียร์พื้นที่สนามรบเเล้วเเต่คงยังไม่สะอาดเท่าที่ควร นอกจากการช่วยเหลือบุคลากรของเราที่ติดอยู่ ก็ยังมีสิ่งนึง…”ได้ยินมิราจไนท์กล่าวถาม โคลสัน ตอบกลับอย่างรวดเร็ว เเต่ก็ต้องหยุดชะงักไป

 

“มีอะไร?”เห็นเจ้าหน้าที่โคลสันไม่พูดต่อ เเจ็คสันรู้สึกกังวลมาก

 

“คุณสตาร์ก บุคคลที่คุณให้เราตามหาพวกเราได้ตรวจสอบอย่างละเอียดเเล้ว จนถึงตอนนี้พวกเรายังไม่พบวี่เเววของเขาเเม้เเต่น้อย”เจ้าหน้าที่โคลสันกล่าวพูดบอกโทนี่

 

ก่อนหน้านี้เเจ็คสันต้องการวนกลับไปช่วยเหลือ ทอม เพื่อนสนิทของเขา เเต่ได้ถูกขวางโดยโทนี่ อย่างไรก็ตาม โทนี่ ก็ให้ S.H.I.E.L.D. ช่วยหาบุคคลนั้นเเทน เเต่ไม่ได้บอกว่าบุคคลที่เขาต้องการให้หานั้นเเท้จริงเเล้วเป็นคนที่มิราจไนท์ต้องการ

 

“ไม่พบ?เขาอาจจะหลงอยู่สักที่ใดในฐานเเห่งนั้นก็ได้ เพราะฐานเเห่งนั้นค่อนข้างใหญ่”คราวนี้โทนี่ เปิดปากพูด เขาส่งสัญญาณมือบอกให้เเจ็คสันสงบลงก่อน

 

“เรื่องนี้…เกรงว่าหากเป็นเช่นนั้นคงจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพราะฐานเเห่งนี้ได้ระเบิดขึ้นเเละรัศมีได้ครอบคลุมเป็นวงกว้าง ตอนนี้เเทบจะไม่เหลือสถานที่ที่สามารถหลบซ่อนหรือเล็ดรอดสายตาพวกเราไปได้อีก เพียงเเต่ยังมีความเป็นไปได้อยู่สองทาง หนึ่งคือ ทอม สมิธ ได้หลบหนีไปพร้อมกับพวกไฮดร้า อีกทางเลือกนึงคือ เขาอาจจะพลาดท่าโดนลูกหลงของระเบิดเเละตายไป”ได้ยินคำถามของโทนี่ เจ้าหน้าที่โคลสัน พิจารณาเเละตอบกลับ

 

“ความเป็นไปได้ทั้งสองทางนี้ไม่ใช่ข่าวที่ดีเลย!”ได้ยินคำตอบเช่นนี้โทนี่ย่นคิ้วในเวลาเดียวกัน

 

“เกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ โคลสัน ฉันคงต้องขอพึ่งคุณให้ช่วยทำการค้นหาต่อไป เเละฝากเคลียร์สนามรบทางฝั่งนั้นด้วย”โทนี่ กล่าวเสริมอีกครั้ง

 

“นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย นอกจากนี้ คุณสตาร์ก ดูเหมือน กัปตันโรเจอร์ส ต้องการติดต่อกับ มิราจไนท์ ไม่ทราบว่าคุณจะว่าอย่างไร…”หลังจากจบบทสนทนา โคลสันกล่าวพูดขึ้น

 

“กัปตันโรเจอร์ส เขาต้องการติดต่อกับมิราจไนท์? ไว้ฉันจะติดต่อกลับไปหาเขา ให้เขาพักผ่อนไปก่อนเถอะ ดูจากสภาพของเขาเเล้วไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก”โทนี่กล่าวตอบ

 

“ดี,เช่นนั้นฉันจะส่งข่าวนี้ให้กัปตันโรเจอร์ส”

 

“อืม,ไว้ค่อยคุยกัน”จากนั้นโทนี่ ก็ให้ J.A.R.V.I.S วางสาย

 

โทนี่จ้องมองไปที่ใบหน้าของเเจ็คสันที่กำลังรู้สึกกังวลอยู่ตอนนี้

ดูท่าทีลักษณะท่าทีที่ดูสนใจของโทนี่ เเจ็คสันเองก็รู้สึกพึงพอใจเช่นเดียวกัน เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นเพียงแบบเเปลนพิมพ์เขียวเรือเหาะสงครามระดับ E เพียงเท่านั้น หากในอนาคตเขามีเเต้มคะแนนมากมายเขาสามารถเเลกเปลี่ยนเรือเหาะสงครามระดับสูงกว่านี้ได้ หากโทนี่ได้เห็นสิ่งที่ยิ่งกว่านี้มันจะไม่ทำให้โทนี่ตกใจจนตายไปเลยหรอ

 

“ไม่ใช่ว่าคุณควรจะตั้งใจรอการประมวลผลจาก J.A.R.V.I.S หรอกหรอ?”เเจ็คสันยิ้มออกมา ท่าทีของเขาไม่ได้ดูตื่นตกใจเหมือนโทนี่

 

“เจ้าเด็กคนนี้ !! หากสิ่งที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ของเธอสามารถทำให้มันเป็นรูปร่างได้จริง บางทีเราอาจจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่เธอวาดฝันไว้เมื่อครู่นี้ก็ได้!”คำพูดของโทนี่คราวนี้ดูตื่นเต้นมาก

 

พิมพ์เขียวเเห่งนี้คือพิมพ์เขียวต้นแบบเเห่งการประดิษฐ์ เเละ ใครคือโทนี่ ,โทนี่ สตาร์ก บุคคลผู้มีพรสวรรค์ในการสรรค์สร้างหลายสิ่งที่โลกไม่เคยมีมาก่อนเเน่นอนว่าโทนี่เคยผ่านตาแบบเเปลนพิมพ์เขียวมามากมายเเต่ไม่ใช่กับเเบบเเปลนพิมพ์เขียวนี้ เเม้เขาจะดูมีท่าทีสุขึมเยือกเย็นเเต่ในใจของเขาตอนนี้กำลังโลดเต้นเเทบบ้าคลั่ง มันคืออะไรนะหรอ นี่มันคือ เรือรบอวกาศ สิ่งที่จะสามารถทำให้อารยธรรมมนุษย์สามารถตะลุยในห้วงอวกาศได้ มันเป็นสิ่งที่จะทำให้อารยธรรมโลกของพวกเขาก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นนึง

 

เเม้ว่าชุดเกราะไอรอนแมนของ โทนี่ จะมีกลวิธีที่จัดการสนามรบได้ดีกว่าเรือเหาะสงครามนี้ เเต่เรือเหาะสงคราม คือวัตถุที่สามารถใช้ท่องอวกาศได้ นี่เป็นสิ่งที่ชุดเกราะไอรอนแมนในตอนนี้ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นความสามารถของทั้งสองจึงต่างกัน

 

หากคุณสงสัยก็ลองคิดภาพเรือเหาะสงครามระดับ E จำนวนหลายร้อยลำพร้อมกับกองทัพไอรอนแมนหลายพันตัว กองกำลังขนาดนี้จะทรงอิทธิพลขนาดไหน บางทีกระทั่งอาจสามารถพิชิตอารยธรรมดวงดาวอื่น ๆ ได้

 

“ดังนั้นผมถึงบอกว่าหากคุณได้ดูสิ่งนี้บางทีคุณอาจจะมีความเชื่อในเป้าหมายของผมไง”เเจ็คสันที่เห็นโทนี่มีอาการเเสดงออกที่ผิดปกติต่อเเบบเเปลนเรือเหาะสงครามระดับ E เขาเองก็เเอบยิ้มในใจ

 

“หึ่ม! เจ้าเด็กคนนี้ เเท้จริงเเล้วเธอยังมีความลับที่ยังไม่ได้บอกฉันมากน้อยเเค่ไหนกัน!”ในเวลานี้โทนี่จ้องมองไปที่เเจ็คสันเเละพูดขึ้น ไพ่ที่เเจ็คสันเผยต่อหน้าของเขา เเน่นอนว่ามันร้ายกาจมากเกินกว่าที่โทนี่จะจินตนาการได้

 

“ก็อาจจะมีมากพอสมควร หากมันถึงเวลา ผมจะบอกคุณอย่างเเน่นอน!”เเจ็คสันไม่ได้พูดโกหก เเน่นอนว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่รุนเเรงเเละเเข็งเเกร่งกว่านี้ มันจะตามมาภายหลัง

 

“เห้อ ฉันชักรู้สึกสงสัยในตัวเธอซะเเล้วสิ”โทนี่รู้ว่าความลับของเเจ็คสันย่อมไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอน

 

บางทีเเจ็คสันอาจจะได้รับมรดกของอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่เเห่งนึง ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถอธิบายเรื่องเหล่านี้ออกมาเป็นเหตุผลได้ เพื่อต้องการรับสิ่งตอบเเทนเหล่านี้ ก็ต้องสืบทอดความต้องการบางอย่างเพื่อให้ได้รับมันมา บางทีนี่อาจจะเป็นหนึ่งในความลับที่เเจ็คสันไม่ได้เปิดเผยต่อเขา

 

เเต่ความคิดของโทนี่ก็ไม่เเตกต่างจากการคาดเดาตัวตนของระบบ,ระบบ นั้น เลือก เเจ็คสันเป็นเป้าหมาย ทั้งยังปูให้เขาเดินบนเส้นทางซูเปอร์ฮีโร่ในโลกมาร์เวลเเห่งนี้ นอกจากนี้เควสเเต่ละอย่างที่ระบบมอบให้ ก็ตอบเเทนด้วยผลรางวัลเเละประสบการณ์ นี่เป็นบางสิ่งที่เรียกว่าเจตนารมณ์คล้ายการสืบทอดพลัง

 

“อืม,ผมเองก็อยากจะบอกเเต่หากความลับนี้ถูกบอกออกไปมันก็คงไม่ใช่ความลับจริงมั้ย?”เเจ็คสั้นเเกล้งเล่นลิ้นต่อหน้าโทนี่

 

เขาเชื่อว่าโทนี่จะต้องคิดว่าเขาได้รับสืบทอดมรดกของอารยธรรมใหญ่ ๆ สักเเห่งอย่างเเน่นอน ถึงอย่างไรเเม้โทนี่จะมีการคาดการณ์เเละสกิลการเดาที่ค่อนข้างสูงเเต่ก็คงไม่คาดคิดถึงตัวตนที่เเปลกประหลาดอย่างระบบเป็นเเน่

 

“เอาล่ะ,อย่างไรก็ตามฉันมีบางสิ่งที่อยากรู้จากเธอถึงการที่เธอมอบเเบบเเปลนนี้ให้ฉันดู หากเธอทำให้ฉันพึงพอใจ ฉันยินดีที่จะช่วยเธอ”โทนี่ รู้ดีว่าคงไม่มีทางล้วงความลับของเเจ็คสันออกมาได้ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนทิศทางของคำถาม

 

“ผมต้องการกำจัดองค์กรไฮดร้าก่อนเป็นอันดับเเรก!”ได้ยินคำถามของโทนี่ เเจ็คสันกล่าวตอบตามตรง

 

“กำจัดไฮดร้า?นี่เป็นเป้าหมายของเธอ อย่างไรตามฉันก็ไม่ได้อยากจะพูดให้เธอยอมเเพ้เรื่องนี้หรอกนะเเต่การกำจัดพวกมันไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้น ยิ่งไปกว่านั้นไพ่ในมือของเธอใบนี้เกรงว่าคงจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน โทนี่ รู้ดีว่าเเจ็คสันหมายถึงอะไร

 

ท้ายที่สุดเขาก็สามารถเดาได้ เเจ็คสัน ถูกไฮดร้าจับตัวไป ทั้งยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะถูกพวกมันฆ่าสูง เเน่นอนว่าเเจ็คสันย่อมเเค้นเป็นธรรมดา เเละความเเค้นนี้ได้เปลี่ยนเป็นความเกลียดชังที่เเจ็คสันมีต่อพวกไฮดร้าจนถึงที่สุด

 

“เจ้านายครับ,ผลลัพธ์ได้รับการคำนวณเสร็จสิ้นเเล้ว!”ในระหว่างที่ โทนี่ เเละ เเจ็คสัน สนทนากัน J.A.R.V.I.S ที่ประมวลผลแบบเเปลนพิมพ์เขียวเสร็จได้กล่าวเเทรกขึ้น

 

“เป็นอย่างไร,สามารถสร้างได้หรือไม่?”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ไม่ได้ถามเเจ็คสันต่อเขารีบหันไปกล่าวถาม J.A.R.V.I.S อย่างกระวนกระวาย

 

“จากการประมวลผลการจำลอง,แบบเเปลนพิมพ์เขียวนี้เป็นของจริงเเละสามารถสร้างได้”J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานผลอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

ได้รับการตอบกลับจาก J.A.R.V.I.S โทนี่ ราวกับตื่นจากความฝันเเละกล่าวอย่างโง่งม”นี่มันเป็นเรื่องจริง?”

 

“เพียงเเต่ ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันของโลกเราคงจะไม่สามารถเริ่มดำเนินการได้ในขณะนี้”เห็นโทนี่ตื่นเต้น J.A.R.V.I.S รีบกล่าวเสริมต่อ

 

เเม้จะเป็นเรือเหาะสงครามระดับ E เเต่เมื่อเทียบกับวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีในปัจจุบันของโลกเเล้ว เเน่นอนว่ายังคงเป็นปัญหาอยู่

 

กล่าวอีกนัยนึงคือถึงจะเป็นสิ่งของที่วิเศษเพียงใด เเต่ด้วยเทคโนโลยีของโลกในปัจจุบันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างสิ่งของเหล่านี้

 

“ฉันเข้าใจดี เรื่องปัญหาเกี่ยวกับเทคโนโลยีปล่อยมันไว้ก่อน ได้รู้ว่ามันเป็นของจริงเเละสามารถสร้างได้เท่านี้ก็พอเเล้ว”ได้รับคำตอบของ J.A.R.V.I.S อีกครั้ง เเน่นอนว่าโทนี่ไม่ได้ผิดหวังเกี่ยวกับคำตอบนี้

 

“ครับ,เจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ตอบกลับเบา ๆ

 

“เเม้ว่าเทคโนโลยีของโลกในปัจจุบันของเราจะอ่อนเเอ เเต่ตราบใดที่มันสามารถสร้างได้เเน่นอนว่าฉันย่อมมีโอกาสที่จะสร้างมันขึ้นมาได้อย่างเเน่นอน”โทนี่ รู้สึกมั่นใจในเรื่องนี้มาก

 

“J.A.R.V.I.S ส่งข้อมูลทั้งหมดไปเก็บไว้ในคลังข้อมูลของหมายเลข 16 ของฉัน เฝ้าระวังความปลอดภัยเกี่ยวกับมันทุกวันเราจะต้องมั่นใจว่าข้อมูลนี้จะต้องไม่รั่วไหลออกไป”หลังจากตรวจสอบสิ่งต่างๆ เสร็จ โทนี่ ก็กล่าวต่อ

 

เเน่นอนว่าหาก J.A.R.V.I.S ถูกเเฮ็คเข้าระบบย่อมเป็นอันตรายต่อข้อมูลเหล่านี้มาก เพียงเเต่ โทนี่ไม่คิดว่าในโลกนี้จะมีคนเเฮ็คระบบเเละเจาะผ่านปราการป้องกันของ J.A.R.V.I.S เข้ามาได้นอกจากเขา

 

“คุณสตาร์ก,เช่นนั้นคุณยอมรับเเล้วใช่ไหมว่าเป้าหมายของผมไม่ใช่สิ่งเพ้อฝัน?”เห็นโทนี่กล่าวอย่างตื่นเต้นเเจ็คสันถามอย่างสนใจ

อึ๊ก!

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน โทนี่ เงยหน้าจ้องมองเขาอย่างดุเดือดราวกับว่าตกตะลึงในคำพูดเหล่านี้

 

“เมื่อครู่เธอพูดว่าอะไรนะ!?”โทนี่กลัวว่าเขาจะฟังผิดไปเขาออกเสียงกล่าวถามเเจ็คสันอีกครั้ง

 

ต้องบอกว่ากองกำลังของโทนี่ในตอนนี้ค่อนข้างเผด็จการเเละเป็นหนึ่งในกองกำลังที่เเข็งเเกร่งของโลก กองทัพไอรอนแมนของเขาเป็นขวัญใจของผู้คน โทนี่ มีความคิดที่ต้องการจะปกป้องโลก เเต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่กล้าที่จะคิดละเมอเพ้อฝันอย่างการรวมโลกเป็นหนึ่ง เเละ กำจัดกองกำลังที่ชั่วร้ายทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเด็กคนนี้เสียสติไปเเล้วหรืออย่างไร

 

“คุณสตาร์ก คุณไม่ได้ฟังผมผิดไปหรอก ผมจะกำจัดกองกำลังที่ชั่วร้ายทั้งหมดเเละสร้างกองกำลังของตัวเองขึ้นมา เเน่นอนว่าเป้าหมายของผมยิ่งใหญ่ เเต่ท้ายที่สุดเเล้วเป้าหมายของผมก็คือการรวมโลกเป็นหนึ่งเดียว”จ้องมองไปที่สีหน้าของโทนี่ เเจ็คสันรู้ดีว่า โทนี่ ย่อมไม่เชื่อถือคำพูดของเขา

 

“ฮ่าฮ่า,เธอกล้าคิดมันจริง ๆ เธอรู้หรือไม่ว่าในประวัติศาสตร์มีกี่คนที่มีความคิดแบบเธอ เเละพวกเขาสามารถทำสำเร็จ? ถึงอย่างนั้นเธอยังกล้าที่จะพูดเช่นนี้ต่อหน้าฉัน นี่มันบ้าไปเเล้ว”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ในที่สุดโทนี่ก็เชื่อจริง ๆ ว่าเเจ็คสันมีความคิดเพ้อฝันเช่นนี้ เเม้ว่าเเจ็คสันจะมีความเเข็งเเกร่งที่ไม่ธรรมดา เเต่อิทธิพลของเเจ็คสันจะสามารถสั่นคลอนโลกใบนี้ได้?

 

“ไม่ใช่ว่าทุกคนก็มีความฝันของเราเอง?การทำตามความฝันนั้นก็ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของชีวิต”เเจ็คสันยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“ความคิดของเธอในตอนนี้ราวกับปลาตัวเล็กที่กำลังเเหวกว่ายผ่านมหาสมุทร เเม้จะมีผองเพื่อนทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเธอ ก็เป็นเพียงได้เเค่ฝูงปลาเล็ก เเน่นอนว่าไม่เว้นเเม้เเต่กองทัพไอรอนแมนของฉัน ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังมีความคิดที่จะท้าทายความฝันนั่น?”โทนี่ รู้สึกสงสัย ความบ้าบิ่นของเเจ็คสัน

 

“เเน่นอนว่าคุณอาจจะคิดว่าผมเพ้อฝัน เเละปัจจุบันทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเราเป็นเรื่องจริงที่ในปัจจุบันยังอ่อนเเออยู่มากอย่างไรก็ตามพวกเราก็พยายามที่เร่งพัฒนาการเติบโตของพวกเรา เเละ ผมเองก็เตรียมการเรื่องนี้เอาไว้เเล้ว”เเจ็คสันกล่าวตอบ

 

“เเต่เรื่องนี้ผมเกรงว่าผมคงต้องขอรบกวนคุณด้วย!”เเจ็คสันกล่าวพูดเสริมขณะนั้นเขาก็สวมใส่ชุดสูทภูติมายาของเขา

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเขาก็ล้วงมือไปหยิบของบางอย่างจากกระเป๋าสูทเเละนำฮาร์ดดิสก์อันนึงออกมา”หากคุณดูสิ่งที่อยู่ในนี้บางทีคุณอาจจะมองความคิดของผมในรูปแบบที่เเตกต่างออกไป”

 

“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น!”จ้องมองไปที่เเผ่นดิสก์ในมือของเเจ็คสันโทนี่ค่อนข้างสงสัย

 

โทนี่ไม่รู้ว่าเเจ็คสันต้องการเล่นเเง่อะไรกับเขาเเต่ความรู้สึกของเขาอยากรู้มากว่าข้อมูลภายในเเผ่นดิสก์นั้นมีอะไรอยู่ บางทีมันอาจจะเป็นบางสิ่งที่มีมูลค่า

 

“เอาล่ะ ฉันเองก็อยากจะรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในถึงทำให้เธอมั่นใจในคำพูดเหล่านั้น”โทนี่ กล่าวตอบพร้อมกับรับเเผ่นดิสก์มา เขาไม่รอช้าเเทรกมันลงในเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว

 

“รหัสผ่านคือ เเจ็คสัน หลิน 567####.”หลังจากที่โทนี่เชื่อมต่อเข้าสู่ฮาร์ดดิสก์ เเจ็คสันก็กล่าวบอกรหัสผ่านที่ด้านหลัง

 

“J.A.R.V.I.S ป้อนรหัสผ่านตามที่เขาว่า ฉันชักอยากจะรู้เเล้วสิว่ามีอะไรอยู่ข้างใน”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวบอกต่อ J.A.R.V.I.S

 

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S กล่าวปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากป้อนรหัสผ่านตามที่เเจ็คสันบอกหน้าจอก็เด้งเข้าสู่ข้อมูลหลัก

 

ฟุ่บ~

 

ไม่ต้องรอให้ โทนี่ กล่าวสั่งต่อ J.A.R.V.I.S ได้เคลื่อนไหวเปิดข้อมูลเหล่านั้นขึ้น

 

ดูเหมือนว่าทันทีที่เปิดขึ้นข้อมูลนับไม่ถ้วนจะถูกเด้งขึ้นมามันเป็นหน้าจอขนาดเล็กจำนวนมากเป็นแบบคลายกับพิมพ์เขียวที่ซับซ้อน ซึ่งหากมองผ่าน ๆ ก็ให้ความรู้สึกที่ไม่ธรรมดาเเล้ว

 

“J.A.R.V.I.S หยุดก่อน! เปิดรับเอกสารข้อมูลต้นฉบับเเละรวมเป็นหน้าเดียว!”เเม้จะเห็นข้อมูลเหล่านั้นเป็นพิมพ์เขียวจำนวนมากเเต่โทนี่ ก็ไม่สามารถมองได้ทัน เขาได้ให้ J.A.R.V.I.S ช่วยเรียบเรียงเเละรวมเข้ากันเป็นฉบับสมบูรณ์

 

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ได้ตอบรับก่อนที่เอกสารข้อมูลเหล่านั้นจะถูกต่อเข้ารวมกันอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

ผ่านไปหลายวินาทีบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ปรากฏหน้าจอว่างเปล่าอย่างเห็นได้ชัด หลงเหลือเพียง พิมพ์เขียวใบเดียวที่สมบูรณ์ โทนี่ จ้องมองไปที่มัน

 

เขายื่นมือขยายขอบเขตรูปภาพเเละขยายส่วนเเต่ละตำเเหน่งออกไป

 

ทันทีที่เขาจ้องมองอีกครั้งมันทำให้โทนี่รู้สึกประหลาดใจ จนหันกลับไปมองที่เเจ็คสัน ในสายตาของโทนี่ตอนนี้มีเเต่ความตื่นตระหนก

 

“J.A.R.V.I.S เปิดเอกสารในรูปแบบที่สอง!”โทนี่ กล่าวบอก J.A.R.V.I.S

 

ฟุ่บ!

 

พิมพ์เขียวได้ถูกจัดเรียงใหม่อีกครั้งคราวนี้ ยิ่งโทนี่จ้องมองไปที่แบบพิมพ์เขียวเหล่านั้นมากเท่าไหร่เขาก็รู้สึกอยากค้นคว้ามากขึ้นเท่านั้น

 

เเน่นอนว่าในขณะที่โทนี่จ้องมองแบบพิมพ์เขียวเหล่านี้อย่างตั้งใจ เเจ็คสัน กลับไม่สามารถเข้าใจรายละเอียดเหล่านี้ได้ โทนี่ใช้เวลามากกว่า 10 นาที เพื่อจ้องมองพิมพ์เขียวหลายฉบับในรูปแบบต่าง ๆ

 

„ J.A.R.V.I.S ดำเนินการจำลองการสร้างตามแบบพิมพ์เขียวนี้!”เห็นการออกแบบที่ซับซ้อนของพิมพ์เขียวทั้งหมดทันใดนั้นโทนี่ ก็รู้สึกคาดหวัง เขาตะโกนบอก „ J.A.R.V.I.S อย่างรวดเร็ว

 

ได้เห็นแบบพิมพ์เขียวที่น่าตื่นตาตื่นใจ หัวใจของโทนี่ไม่อาจนิ่งสงบได้อีก เขาคาดหวังกับการประมวลผลของ „ J.A.R.V.I.S ในครั้งนี้มาก

 

“ครับ,เจ้านาย!”„ J.A.R.V.I.S ปฏิบัติตามเเละเริ่มจำลองการสร้างตามแบบพิมพ์เขียว

 

หึ่ม!

 

ในขณะที่ J.A.R.V.I.S กำลังทำการคำนวณจำลองการสร้าง ขณะที่รอ โทนี่จ้องมองไปที่ เเจ็คสันที่อยู่ใกล้ ๆ เขาต้องการจะได้ยินเกี่ยวกับความเป็นมาของพิมพ์เขียวนี้จากปากของเเจ็คสัน เเต่พอเห็นสีหน้าของเเจ็คสัน โทนี่ รู้สึกเหมือน เเจ็คสันจะมั่นใจในพิมพ์เขียวนี้มาก

ได้ยินคำพูดเช่นนี้ของเเจ็คสันโทนี่กล่าวถามอย่างเร่งรีบสิ่งเเปลกประหลาดใดกันที่กำหนดเป้าหมายให้ช่วยเหลือชีวิตของคนอื่น หากเป็นเรื่องจริง โทนี่ ก็ต้องการศึกษามันอย่างมาก

 

“คุณสตาร์ก หากคุณคิดจะศึกษามันผมคงต้องขอให้คุณล้มเลิกความคิดเพราะมันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์”ได้ยินคำถามของ โทนี่ เเจ็คสันรู้ทันทีว่าโทนี่คิดอะไร

 

“หรือว่ามันคือเวทมนตร์? เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เราเผชิญหน้าด้วยกัน? เหมือนเวทมนตร์ของพวกพ่อมด?”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน โทนี่ ไม่เชื่อ

 

“คุณจะว่าอย่างนั้นก็ได้ เเต่เเท้จริงเเล้วสิ่งมหัศจรรย์ของผมกับเวทมนตร์ของพวกเขาไม่เหมือนกัน สิ่งมหัศจรรย์ของผมกำหนดเป้าหมายให้ช่วยเหลือคนอื่นด้วยตัวมันเอง?เเต่สิ่งที่พวกเขาทำเป็นการกระทำตามความคิดของตัวเองเช่นการปรากฏตัวช่วยเหลือเราในวันนั้น”

 

เเจ็คสันรู้ดีว่าเวทมนตร์ของพวกเขาเเตกต่างจากร้านค้าระบบของเขา เเม้มันจะคล้ายเวทมนตร์เเต่ความสามารถของมันเหนือล้ำกว่ามาก

 

“เธอนี่ทำตัวลึกลับเสียจริง เเม้เเต่พวกเขาก็มีท่าทีสนใจในตัวเธอ”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวพูดแปลก ๆ

 

“หืม?คุณว่าอะไรนะ พวกเขามีความสนใจต่อผมนี่หมายความว่ายังไง?”ได้ยินคำตอบประหลาดของโทนี่ เเจ็คสันกล่าวถาม

 

ก่อนหน้านี้เเน่นอนว่ามีพวกพ่อมดเหล่านั้นคอยเฝ้ามองพวกโทนี่เเละตามหาตัวของเเจ็คสันร่วมกับพวกโทนี่เเต่คนเหล่านั้นไม่ได้เปิดเผยตัว

 

“ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้สึกตัวเลยสินะ ก่อนหน้านี้ที่เธอถูกจับโดยพวกไฮดร้า ก็มีพวกเขาที่ช่วยเหลือเธออยู่”จ้องมองไปที่การเเสดงออกของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวอธิบาย

 

“หืม?พวกพ่อมดคอยช่วยเหลือผมอย่างลับ ๆ คุณเเน่ใจนะว่าไม่ได้ดูผิดไป?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันรู้สึกสงสัยเขาเป็นเพียงฮีโร่ของนิวยอร์กธรรมดา ๆ จะเป็นต้องตาพวกพ่อมดเหล่านั้นได้อย่างไร

 

“ไม่ผิดเเน่ ผลรายงานของ J.A.R.V.I.S ได้รับการยืนยันเเล้ว มันเป็นเหมือนกับตอนที่ฉันจัดการฟรานซิสตอนนั้นฉันก็สัมผัสพบคลื่นพลังผันผวนของเวทมนตร์”เห็นเเจ็คสันไม่เชื่อ โทนี่ พูดจริงจัง

 

“คลื่นความผันผวนที่ว่ามันคือกระเเสพลังเวทย์สินะ?เช่นนั้นเป็นพวกเขาจริง?”เเจ็คสันรู้สึกสงสัย

 

เเม้ว่าเเจ็คสันจะตกอยู่ในอันตราย เเต่พวกไฮดร้าก็ไม่ใช่พวกปีศาจหรือเทพมาร ไม่จำเป็นที่พวกเขาจะต้องส่งคนมาช่วยเหลือเขาอย่างลับ ๆ

 

เเจ็คสันไม่สามารถนึกหาเหตุผลที่คนเหล่านั้นคอยเฝ้าระวังเขาอย่างลับ ๆ ได้

 

“บางทีหากฉันไม่ช่วยเหลือเธอก่อนหน้านี้ พวกเขาจะต้องเเทรกมือเข้ามาช่วยอย่างเเน่นอน ดังนั้นฉันจึงต้องการขอความช่วยเหลือจากเธอในการศึกษาเรื่องเวทมนตร์”เห็นเเจ็คสันไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ โทนี่ กล่าวพูดคำขอของเขา

 

“เกี่ยวกับเรื่องนี้ผมว่าพวกเขาสามารถช่วยเหลือได้ เเต่พวกเขาค่อนข้างหัวโบราณสักหน่อย ก่อนหน้าน้ปรมาจารย์โบราณคนนึงที่ปรปากฏตัวขึ้นเเม้หน้าตาของเขาจะดูสุภาพเเต่เเท้จริงเเล้วเขาค่อนข้างมีมนุษยสัมพันธ์ที่คาดเดาได้ยาก”เห็นโทนี่สนใจเวทมนตร์เเจ็คสันอธิบาย

 

“ฉันรู้,เพียงเเต่ที่ฉันเเปลกใจกลับคิดว่าเป็นเธอมากกว่า ไม่คิดว่าเธอจะสามารถรู้เรื่องรายละเอียดจำนวนมากขนาดนี้ได้ ยังมีอีกกี่อย่างกันที่เธอยังไม่ได้บอกฉัน”โทนี่ กล่าวถามออกมา

 

“คุณจะเอาเรื่องก่อนหน้าที่ผมจะเป็นมิราจไนท์ด้วยมั้ยล่ะ?”เเจ็คสันยิ้มออกมา พวกเขาได้ร่วมสทนากันอย่างสนุกสนานต่อจากนี้

 

โทนี่ได้ถามคำถามเเจ็คสันตามที่เขาอยากรู้ซึ่งเเจ็คสันเองก็ตอบคำถามเท่าที่เขาตอบได้ยกเว้นความลับเรื่องระบบเรื่องนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางเเพร่งพรายออกไปเเน่นอน ทั้งบางทีหากเขาพูดไปโทนี่อาจจะไม่เชื่อเเละกล่าวหาว่าเป็นเรื่องไร้สาระก็เป็นได้

 

หลังจากผ่านไปหลายสิบนาทีการสนทนาตอบโต้คำถามนี้ก็จบลง โทนี่ได้ใช้เวลานานในการประมวลผลข้อมูลที่เขาได้รับมา

 

“เเอสการ์ด,ทั้งยังมีโลกทั้งเก้า ไม่คาดคิดว่ายังมีสิ่งอื่นที่ฉันยังไม่รู้อีกจำนวนมาก ดูเหมือนจักรวาลนี้จะไร้สิ้นสุดอย่างเเท้จริง!”โทนี่หลังจากประมวลผลความคิดของเขาเขาก็ถอนหายใจพูดออกมา

 

“ตามที่เธอพูดมาดูเหมือนโลกจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายจำนวนมาก ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเลือกเดินทางสายนี้ เเละกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่เพื่อปกป้องโลก?”ในที่สุดโทนี่ก็กล่าวถามต่อเขาจ้องมองไปที่เด็กหนุ่มเบื้องหน้าของเขา

 

“อืม,เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นเส้นทางที่ผมเลือกไปเเล้ว!”เผชิญหน้ากับคำถามของโทนี่ เเจ็คสันตอบอย่างจริงจัง

 

“เเม้เธอจะรู้อยู่เเล้วว่าเป้าหมายที่ว่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเเละมันก็มีราคาที่ต้องจ่ายจำนวนมาก เธอก็ยังต้องการ?”

 

โทนี่คิดว่าโลกนี้ใหญ่เกินไปที่จะเป็นภาระหน้าที่ของเเจ็คสัน เขาจ้องมองไปที่ดวงตาของเเจ็คสันเเละมองผ่านนัยน์ตาคู่นั้น ภาระที่ต้องปกป้องโลกนั้นมันใหญ่เกินไปที่เด็กอย่างเเจ็คสันจะคิดเกี่ยวกับมัน

 

“ผมต้องการ,เเม้ผมจะยังคงอ่อนเเอเเละความสามารถยังไม่สามารถเทียบกับ ฮัลค์ ได้ บุคคลที่ผมจะต้องเผชิญหน้าในอนาคตเเข็งเเกร่งขนาดที่สามารถคุกคามอนาคตหรือจักรวาลได้ เเต่หากผมไม่เลือกที่จะเปลี่ยนเเปลงตัวเองเเละเเข็งเเกร่งขึ้นผมก็ไม่อาจที่จะสามารถปกป้องครอบครัวหรือเเม้เเต่โลกใบนี้เอาไว้ได้”

 

“ทำไมเธอถึง…”

 

“ที่ผมทำเช่นนี้ไม่ใช่เพราะผมหวังสิ่งตอบเเทน เพราะผมเป็นตัวของตัวเองเเละมีบางสิ่งที่ต้องการปกป้อง คุณสตาร์กไม่คิดแบบนั้นหรอ?”เห็นโทนี่ต้องการพูดอะไร เเจ็คสัน กล่าวจริงจัง

 

“ฉัน?เเน่นอนว่าฉันเองก็มีคนที่อยากจะปกป้องรวมถึงผู้คนบนโลกใบนี้ อย่างไรก็ตามเธอรู้ไหมว่าเรื่องนี้มันหนักหนาสาหัสเเค่ไหน เเม้เเต่ฉันก็ยังไม่กล้าที่จะพูดจาใหญ่โตขนาดนั้น”ได้ยินคำถามของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวตอบ

 

เป็นครั้งเเรกที่โทนี่รู้สึกกดดันต่อภัยพิบัติที่จะคุกคามเขาในอนาคต สำหรับเขาที่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดามีเพียงวิทยาการไอรอนแมนที่เป็นอาวุธลับคอยปกป้องโลก เเม้เเต่เขาก็ยังไม่เเน่ใจว่าจะรับมือภัยคุกคามที่สามารถทำลายโลกได้ หากเป็นเช่นนั้นจริง ความเเข็งเเกร่งของไอรอนแมนย่อมไม่เพียงพออย่างเเน่นอน

 

“ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องการสร้างพันธมิตรหรือกองกำลังของตัวเอง ผมต้องการกำจัดกองกำลังที่ชั่วร้ายในโลกของเราทั้งหมดทิ้งไป เเละ รวมโลกของเราเป็นหนึ่งเดียวกัน”จ้องมองไปที่โทนี่ เเจ็คสัน กล่าวพูดอย่างชัดเจน

นิวยอร์กบ้านพักชายทะเลของโทนี่

 

เนื่องเพราะเเจ็คสันได้ถูกล่ามมือเเละล่ามข้อเท้าด้วยโลหะที่เเข็งเเกร่งที่สุดในโลกอดาเเมนเทียม ดังนั้นโทนี่ จึงต้องการเเก้ไขเรื่องนี้ เเม้ว่าบริเวณใกล้เคียงจะมีพวก S.H.I.E.L.D. คอยปล้นเปี้ยนอยู่เเต่โทนี่ไม่ได้กังวล ด้วยเทคโนโลยีระดับสูงของเขาเเน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่คนเหล่านี้จะสามารถเจาะผ่านได้ เขาได้พาเเจ็คสันเข้ามาในสถานะของมิราจไนท์

 

“นั่งพักก่อนเถอะ,ฉันจะลองพยายามหาทางเเก้ปัญหาเรื่องกุญเเจข้อมือพวกนั้นเอง!”โทนี่เดินเข้าไปที่ห้องใต้ดินก่อนที่จะชี้ไปที่โซฟาบอกเเจ็คสัน

 

ฟุ่บ!

 

เพราะเเขนเเละขาของเขาตอนนี้ถูกล็อคอยู่ยิ่งไปกว่านั้น โทนี่ รู้ดีว่า เเจ็คสันเป็นห่วงเรื่องทอมเเต่หาก เเจ็คสันไปด้วยสภาพนี้ก็ไม่ต่างจากนำพาตัวเองไปตาย

 

“ฉันคิดว่าเธอคงจะมีอะไรที่ต้องพูดคุยกับฉัน”โทนี่ ลากเก้าอี้ไปนั่งที่เบื้องหน้าของเเจ็คสัน

 

ในขณะเดียวกันเเจ็คสันก็ได้ถอดชุดสูทของเขาออกเเละกลับมาสถานะดั่งเดิม ลักษณะของเขาตอนนี้ก็คือนักเรียนมัธยมปลายที่ไม่มีพิษสงค์อะไร โทนี่ ที่เห็นชุดสูทของเเจ็คสันหายไป เขาได้เงื้อมมือไปคว้าข้อมือซ้ายของเเจ็คสันเเละสำรวจดู เเม้เขาจะคาดเดาอยู่เเล้วว่าเเจ็คสันคือมิราจไนท์ เเต่พอได้รับรู้อย่างเเท้จริงว่าเด็กคนนี้คือฮีโร่ลึกลับผู้โด่งดังเขาก็ไม่อาจทำใจเชื่อได้

 

“อืม,เพียงเเต่ผมต้องการติดต่อสมาชิกครอบครัวของผมก่อน ยังมีพวกปีเตอร์อีก ผมไม่อยากให้พวกเขาเป็นห่วง”จ้องมองไปที่เบื้องหน้าของโทนี่ เเจ็คสันพยักหน้ากล่าวตอบ

 

“สบายใจเถอะ ฉันได้บอกพ่อกับเเม่ของเธอว่าเธอจะอยู่ช่วยฉันที่นี่ รวมถึงพวก S.H.I.E.L.D. ด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับปีเตอร์ ฉันเพิ่งติดต่อไปบอกเขาว่าเธอปลอดภัยเเล้ว!”ได้ยินความกังวลของเเจ็คสัน โทนี่ พูดอย่างสงบ

 

เเน่นอนว่าตั้งเเต่รู้สถานะของเเจ็คสัน โทนี่ ก็หาข้อเเก้ตัวเรื่องเเจ็คสันให้ในทันที ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว หรือคนใกล้ชิด สำหรับปีเตอร์ โทนี่ ไม่จำเป็นต้องปิดบัง เพราะ ปีเตอร์เป็นหนึ่งในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ อย่างไรก็ตามปีเตอร์เองก็ร้อนรนอยากจะพบหน้าเเจ็คสันมากในตอนนี้

 

“เอาล่ะคุณสตาร์ก คุณต้องการจะรู้อะไรจากผมล่ะ?”เห็นโทนี่เเก้ต่างเรื่องครอบครัวเเละช่วยพูดกับปีเตอร์เเล้ว เเจ็คสันก็คลายความกังวลใจ ส่วนทางด้าน ธอร์ เเจ็คสัน เหมือนจะลืมเรื่องนี้ไป

 

โทนี่ ที่ได้ยินคำถามของเเจ็คสันการเเสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยอยากจะถามหลายคำถามเพียงเเต่พอคิดอีกทีเขาก็ไม่รู้จะเริ่มจากจุดไหน

 

“ดูเหมือนว่าเธอที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากจะมีการเเสดงออกที่เเตกต่างออกไปจากตอนนี้นะ?”เห็นท่าทีสงบเยือกเย็นของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวเปิดประเด็นเเรก

 

“นั่นก็เพราะผมกังวลว่าจะทำให้คุณจับพิรุธได้เเละมันอาจจะนำพาซึ่งปัญหาที่ไม่จำเป็นให้กับผม”ได้ยินการเปิดประเด็นเเรกของโทนี่ เเจ็คสันกล่าวตอบ

 

“เช่นนั้นเธอคิดจะซ่อนความจริงจากฉันไปนานเเค่ไหนกัน? หรือว่าเป้าหมายที่เธอเข้ามาตีสนิทกับฉันก็เป็นหนึ่งในเหตุผลเหล่านั้น?”เห็นทีที่สงบของเเจ็คสัน เเน่นอนว่าโทนี่ รู้สึกหงุดหงิดอย่างมากเขาต้องการรู้ว่าเเจ็คสันได้ซุกซ่อนความลับไว้มากเเค่ไหนกันเเน่

 

“ผมยอมรับว่าผมตั้งใจจะเข้าตีสนิทกับคุณ นี่เป็นเรื่องจริง ผมไม่ขอปฏิเสธ”ได้ยินคำถามของ โทนี่ เเจ็คสันไม่ได้ปฏิเสธ

 

“ในเวลานั้นผมเพิ่งกลายเป็น มิราจไนท์ ไม่ได้มีเพื่อนร่วมทีม ใด ๆ ไม่มีคนหนุนหลัง ดังนั้นผมจึงต้องเริ่มมองหาเป้าหมาย เเละคุณสตาร์ก คุณก็คือตัวเลือกของผม”ไม่ต้องรอให้โทนี่ ถาม เเจ็คสันกล่าวอธิบายต่อ

 

เเน่นอนว่าคำพูดของเขาคือคำพูดที่เเต่งขึ้นมาเเต่ก็ไม่ได้มั่วไปทั้งหมด จุดประสงค์ที่เขาเข้าใกล้โทนี่ ก็เพราะเหตุผลหลักอย่าง เควสภารกิจ

 

“ง่าย ๆ แบบนี้? ทำไมถึงเลือกฉัน หากเธอต้องการคู่หูหรือเพื่อนร่วมทีม มีซูเปอร์ฮีโร่มากมาย ที่ไม่ใช่ฉัน?”

 

“หากเธอต้องการเงินทุนสนับสนุน ไม่ใช่ว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เเฮร์รี่ ออสบอร์น ก็สามารถช่วยได้?”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน โทนี่ ย่นคิ้วเล็กน้อย เขารู้สึกสงสัยเกี่ยวกับสถานะของ เเจ็คสัน หลิน เด็กคนนี้ว่าทำไมถึงต้องเข้ามาตีสนิทกับเขา

 

“จะให้บอกอย่างไรดี?คุณสตาร์กดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอย่างงั้นมั้ง ?เพราะในเวลานั้น เเฮร์รี่ เเม้จะเป็นนายน้อยใหญ่ของออสคอร์ป เเต่ก็เป็นเพียงเด็กนักเรียนมัธยมปลาย การขอให้เขาช่วยในเวลานั้นคงไม่ใช่ตัวเลือกที่จะประสบความสำเร็จ”เเจ็คสันกล่าวอธิบาย

 

“หึ่ม! งั้นเรื่องนี้เอาไว้ก่อน สิ่งที่ฉันอยากรู้มากที่สุดก็คือ ทำไมเธอถึงกลายเป็นมิราจไนท์ได้เเละอุปกรณ์เหล่านั้นเธอได้มาจากที่ไหน? ไม่เพียงเท่านี้ดูเหมือนเธอจะรู้เรื่องราวความลับของโลกมากมาย ดูเเล้วข้อมูลของเธอเหนือเเน่นซะยิ่งกว่า S.H.I.E.L.D. เสียอีก”โทนี่ไม่ต้องการฟังคำเเก้ตัวไร้สาระของเเจ็คสัน เขาต้องการใส่ใจคำถามนี้มากที่สุด

 

“ตามจริงไม่ต้องรอให้คุณถาม ผมก็ตั้งใจจะบอกเรื่องนี้อยู่ก่อนเเล้วเเหล่ะเอาเป็นว่าผมจะพูดเท่าที่ผมพูดได้เเล้วกัน!”เห็นโทนี่จ้องเขม็งมาที่เขา เเจ็คสันยิ้มออกมา

 

“อืม,เช่นนั้นก็ดี”เห็นเเจ็คสันเเสดงออกด้วยท่าทีที่เต็มใจ โทนี่ เองก็ตั้งหน้าตั้งใจฟัง

 

“อย่างเเรก!”

 

“ผมมีความลับที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถพูดออกไปได้อยู่!”คำถามเเรกของเเจ็คสันก็ทำให้โทนี่ รู้สึกย่นคิ้ว

 

“ส่วนเรื่องการเป็นมิราจไนท์ เป็นเพราะผมตั้งใจที่จะเลือกเส้นทางนี้เอง”เเจ็คสันกล่าวพูดต่อ

 

“หืม?เธอเลือกที่จะกลายเป็นมิราจไนท์? ไม่ใช่ว่าเธอมีทางเลือกอื่นอยู่มากมายหรอกหรอ?”โทนี่ กระตือรือร้นเเละยิงคำถามอย่างต่อเนื่อง

 

“นั่นก็จริง,เเต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะเป็นมิราจไนท์ สำหรับตัวเลือกอื่นคุณก็ไม่รู้เเน่ชัดว่าอาจจะใช่ทางเลือกที่ดีหรือไม่?”เเจ็คสันอธิบายง่าย ๆ

 

“ก็อาจจะจริงอย่างที่เธอว่า”โทนี่พยักหน้าเห็นด้วย เขาเองก็ยังเฝ้ารอคำตอบต่อไปของเเจ็คสัน

 

“สำหรับความลับที่ผมไม่สามารถบอกคุณได้ เอาเป็นว่าผมจะไม่ขอบอกคุณ เเต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้คุณรู้ ความลับที่ผมว่านี้มันเป็นสิ่งที่เเปลกประหลาดเเต่มันมีเป้าหมายของมันเเน่นอนว่ามันย่อมได้สิ่งตอบเเทนเเละย่อมเกิดการสูญเสีย”เเจ็คสันเลี่ยงตอบ โทนี่ เเละอธิบายจุดสำคัญ

 

“แปลกประหลาด?หรือว่าก่อนหน้านั้นที่เธอช่วยชีวิต นิค เเละ ช่วยชีวิตฉัน รวมถึงเข้ามายุ่งเกี่ยวกับ S.H.I.E.L.D. ด้วยนี่ก็เป็นเป้าหมายของมัน?”ได้ยินคำพูดของ เเจ็คสัน โทนี่ กล่าวถามอีกครั้ง

 

“ถูกต้อง,อย่างไรก็ตามเหตุผลที่ผมช่วยชีวิตคุณในเวลานั้นมันเป็นตัวเลือกของผมเองจากนั้นผมก็ได้รับเป้าหมายให้ช่วยชีวิตนิค”เเจ็คสันพยักหน้าตอบ

 

“เเละไอ้สิ่งเเปลกประหลาดนี้เธอพอจะบอกคร่าวๆได้มั้ยว่ามันคืออะไร?”

ติ๊ด~~

 

สิ้นสุดเสียงสุดท้ายฐานใต้ดินของฐานลับไฮดร้าได้เริ่มระเบิดขึ้น เเรงสั่นสะเทือนของระเบิดเเพร่กระจายออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วผืนได้สั่นไหวขนาดที่ว่าโลกกำลังจะพังทลาย เพียงใช้เวลา 3 วินาที ประสาททั้งหมดก็เริ่มถล่มลงมา

 

ที่สำคัญคือกัปตันโรเจอร์สยังไม่ได้หลบหนีออกมาจากฐานไฮดร้าในขณะนี้ อย่างไรก็ตามทันทีที่เกิดเเรงสั่นสะเทือนขึ้น สตีฟไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร นอกจากนี้ตัวของเขากำลังลอยอยู่

 

ฟุ่บ!

 

การกระทำของโรเจอร์สเหนือความคาดหมายของ นายพลรีส โรเจอร์ส ได้ให้ชุดเกราะไอรอนแมนยกตัวเขาเพื่อพาหลบหนีขึ้นบนฟ้าเเทน

 

ปั้ง!

 

หลังจาก J.A.R.V.I.S ช่วยกัปตันโรเจอร์สออกมาฐานไฮดร้าก็จมลงอย่างรวดเร็วด้วยเเรงระเบิดขนาดใหญ่ เเรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้ได้เปลี่ยนเเปลงภูมิประเทศที่ล้อมรอบไปด้วยป่าเเห่งนี้จนหมดสิ้น

 

ปั้ง

 

เพียงเเต่ในระหว่างที่นายพลรีสกำลังหลบหนีภาพสุดท้ายที่เขาได้รับจากอุปกรณ์เฝ้าระวังของเขาก็คือกัปตันโรเจอร์สที่กำลังบินหลบหนีไป

 

“ครั้งหน้า!ฉันจะต้องฆ่าเเกให้ได้อย่างเเน่นอน”จ้องมองไปที่ภาพสุดท้ายที่เห็น นายพลรีส กระซิบกระซาบออกมาอย่างเย็นชา

 

“ตอนนี้พวกเราต้องหลบหนีออกจากที่นี่กันก่อน!”

 

 

ครื่น~~

 

ภูมิประเทศที่ล้อมรอบไปด้วยป่าเเห่งนี้กำลังพังทลายลงทั้งเสียงเเละเเรงสั่นสะเทือนได้เเพร่กระจายออกไปยังพื้นที่ห่างไกลรอบด้าน

 

สำหรับ S.H.I.E.L.D. เเม้ว่าพวกเขาจะสั่งอพยพอย่างรวดเร็ว เเต่สำหรับใครบางคนที่หลุดจากการสื่อสารจากกองบัญชาการหลัก พวกเขาไม่มีเวลามากพอที่จะหลบหนี เลยได้สังเวยชีวิตให้กับ การทำลายในครั้งนี้

 

“หัวหน้า,เราสูญเสียทหาร 132 นาย,53 คน ถูกฝังอยู่ในซากปรักหักพังเหล่านั้น เราจะดำเนินช่วยเหลือในการกู้ร่างของพวกเขาทันที”บนยานรบ หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวรายงานผลลัพธ์การต่อสู้กับไฮดร้าในวันนี้

 

“ฉันรู้เเล้ว,”ได้ยินผลลัพธ์เช่นนี้ ราวกับว่านิคไม่ได้เเปลกใจ

 

นี่คือขอบเขตที่เขาต้องเสีย เพราะวิทยาการอาวุธของพวกไฮดร้านั้นรุนเเรงเเละเเข็งเเกร่งอย่างมาก อาวุธเหล่านั้นสามารถจัดการทหารที่อ่อนเเอหลายคนของ S.H.I.E.L.D. ได้ ดังนั้นการสูญเสียคนจำนวนมากขนาดนี้นับว่าเป็นเรื่องปกติ

 

ดังนั้นนี่เองก็เป็นเหตุผลที่นิคต้องการสร้างพันธมิตรอเวนเจอร์สโดยเร็ว เขาต้องการใช้อาวุธลับของเขาทีมพันธมิตรอเวนเจอร์สนี้ในการต่อกรกับพวกไฮดร้า

 

เเน่นอนว่าทีมพิเศษอย่างทีมพันธมิตรอเวนเจอร์สย่อมดีกว่าการส่งทีมทหารปกติลงไปสุ่มเสี่ยง เเม้จะเป็นทหารมากประสบการณ์อย่างกัปตันโรเจอร์สที่ผ่านสงครามโลกครั้งที่สองมา การรับมือกับพวกไฮดร้าคนเดียวก็ยังตึงมือเกินไป ดังนั้น นิค จึงต้องการสร้างกองกำลังพันธมิตรอเวนเจอร์สที่รวบรวมผู้มีความสามารถที่เเข็งเเกร่งมารวมตัวกัน

 

“ส่งทีมไปช่วยเหลือคนบาดเจ็บ เเละ เเบ่งทีมออกมาเริ่มทำการเก็บกวาดสนามรบทั้งหมดซะ”นิคกล่าวสั่งคนของเขาอย่างรวดเร็ว

 

“ครับ”

 

ฟุ่บ!

 

ท้องฟ้าในนิวยอร์กชุดเกราะเหล็กสองตัวได้บินผ่านน่านฟ้าด้วยความเร็วสูง นี่คือ เเจ็คสัน เเละ โทนี่ หลังจากออกจากสนามรบพวกเขาก็ได้รับทราบข่าว เพราะ J.A.R.V.I.S ได้รายงานผลเรื่องการระเบิดของฐานเเห่งนี้ เเจ็คสันเองก็ต้องการตีวนชุดเกราะไอรอนแมนกลับไปที่สนามรบอีกครั้ง

 

เพียงเเต่ว่าเขาได้ถูกป้องกันโดยโทนี่”ผมต้องกลับไป! เพื่อนของผมอยู่ที่นั่นด้วย!”ถูกขวางกั้นโดย โทนี่ เเจ็คสันตะโกนบอกโทนี่

 

เนื่องเพราะเขาถูกต้อนโดยพวกไฮดร้าจน จนมุมทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือทอมออกมาได้เเละตอนนั้นเปลวเพลิงเเห่งความเเค้นได้บดบังตาของเขาทำให้เขาลืมเรื่องทอมไปซะสนิท

 

เเจ็คสันไม่สามารถทิ้งเพื่อนคนนี้ได้ เเม้เขาจะสามารถรอดกลับมาได้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องกลับไปช่วยเหลือเพื่อนคนนี้

 

“เธอควรจะใจเย็น ๆ ลงก่อน ไม่ใช่เธอบอกว่าเพื่อนของเธอกลายเป็นวินเทอร์โซลเยอร์คนใหม่?”ได้ยินเสียงตะโกนของ เเจ็คสัน โทนี่ กล่าวตอบ

 

“ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันจะต้องนำเขาไปด้วยเเน่นอน เพราะพวกมันรู้ว่านี่คือจุดอ่อนของเธอ”

 

“ก็อาจจะจริงอย่างที่คุณว่า,หวังว่าทอมจะไม่เป็นอะไร”เเจ็คสันรู้สึกผิดหวังในการกระทำของเขาในตอนนี้

 

เเต่เขาก็หวังว่าทอมจะไม่ได้ประสบอุบัติเหตุ

 

เเม้ว่าความหวังนี้จะเป็นไปได้น้อยมาก เเต่เเจ็คสันก็เชื่อว่าทอมจะต้องรอด เเต่สิ่งที่เเจ็คสันก็กังวลก็คือเรื่องของทอมกับครอบครัวลุงสมิธ หากเขาบอกความจริงเรื่องนี้ไปเกรงว่าคนของครอบครัวสมิธจะตกอยู่ในอัตราย เเจ็คสันไม่สามารถปล่อยผ่านเรื่อยนี้ได้

 

“องค์กรไฮดร้า,ฉันสัญญาว่าจะต้องลบองค์กรของพวกเเกออกไปให้หมดจากโลก หากพวกเเกกล้าทำอะไรทอมล่ะก็ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกเเกได้ตายดีเป็นเเน่!”เมื่อนึกถึงทอม เเจ็คสัน โกรธขึ้นมาทันที

 


“อะชิ้ว!”ทันทีที่เเจ็คสันให้คำมั่นสัญญาเรื่องนี้ นายพลรีสที่กำลังหลบหนีได้จามออกมา

 

นายพลรีสสั่นศีรษะก่อนที่จะมองย้อนไปที่ตั้งมั่นของฐาน เเม้พวกเขาจะสูญเสียฐานเเห่งนี้ไป เเต่อย่างน้อยบุคลากรสำคัญก็ยังสามารถรักษาไว้ได้ การสูญเสียฐานเเค่นี้พวกเขายังนับว่าทนได้

 

นายพลรีสจ้องมองไปที่บุคคลด้านหน้านั่นก็คือทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ทอม ดูเหมือนพวกเขาจะนำทอมมาด้วย

 

ไม่นานทอมก็ตื่นขึ้นมา การกระทำของเขาดูเหมือนจะปฏิบัติอย่างซื่อสัตย์ต่อองค์กรไฮดร้าอีกครั้ง เพียงเเต่ในเเววตาของทอมตอนนี้บ่อยครั้งที่ปรากฏความผันผวนเล็กน้อย

ตั้งเเต่โทนี่เเละมิราจไนท์จากไป ฐานไฮดร้าตอนนี้ก็ยังคงเกิดสงครามวุ่นวายเพราะศัตรูหลายคนยังไม่ได้รับการเเก้ไข ดังนั้นโรเจอร์ส จึงรู้สึกหงุดงิดอย่างมาก

 

“เเบ่งออกเป็นสามทีมเเล้วสำรวจเส้นทางตามพื้นที่ต่าง ๆ เเล้วค่อยกลับมารายงาน!”สตีฟกล่าวสั่งกองกำลังพิเศษของ S.H.I.E.L.D.

 

เเม้ตอนนี้ สตีฟ กับ นิค จะขัดเเย้งกันในตอนนี้ เเต่เป้าหมายของพวกเขาทั้งสองเป็นองค์กรไฮดร้าเหมือนกัน

 

“ครับ!”ได้ยินคำสั่งเช่นนั้นกองกำลังพิเศษได้ตอบรับคำสั่งอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้น กองกำลังพิเศษของ S.H.I.E.L.D. ก็เเยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ ส่วนสตีฟเขาได้มุ่งหน้าไปยังฐานไฮดร้าที่อยู่เบื้องหลัง

 

 

หลังจากโทนี่พาเเจ็คสันออกจากสถานที่เเห่งนั้นพวกเขาก็ได้กลับไปที่นิวยอร์กเเละรอรับฟังรายงานผลจากนิคในเวลาต่อไป

 

~~

 

“หัวหน้านิค สถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมเอาไว้เเล้ว กองกำลังไฮดร้าถูกกำจัดไปมากกว่า 80% ส่วนคนที่เหลือไม่ได้มีความสำคัญมากนัก นอกจากนี้ คุณสตาร์ก ได้ทิ้งชุดเกราะไอรอนแมนไว้จำนวนนึงก่อนที่เขาจะขอตัวจากไป”เห็นนิคจ้องมองไปที่หน้าจอเเสดงผล ที่ด้านหลังของเขา เจ้าหน้าที่ด้านการจัดการข้อมูลกล่าวรายงานผลลัพธ์

 

“ฉันรู้เเล้ว ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับ สตาร์ก ตอนนี้เราเพียงเเค่ต้องการกองกำลังสนับสนุนจากไอรอนแมน ดูเหมือนว่าพวกไฮดร้าจะมีอาวุธไฮเทคพวกนี้อยู่จำนวนมากทั้งมันยังมีประสิทธิภาพที่รุนเเรงเกินไป ไม่ว่าอย่างไรต้องกำจัดอาวุธเหล่านี้ทิ้งให้ได้มากที่สุด”ได้ยินเสียงกล่าวรายงาน นิค พยักหน้าเล็กน้อย

 

“ครับ!”ได้ยินคำสั่งของ นิค เจ้าหน้าที่คนนี้กล่าวขานรับ

 

นิครู้สึกไม่สบอารมณ์เกี่ยวกับอาวุธของพวกไฮดร้าเหล่านี้เพราะด้วยอาวุธไฮเทคที่มีพลังทำลายที่ร้ายกาจได้ทำให้ S.H.I.E.L.D. ของเขาพบกับความสูญเสียอย่างมหาศาล

 

ไม่นานกองกำลังของ S.H.I.E.L.D. ก็เเยกย้ายกันไปยึดกุมตามจุดต่าง ๆ เพื่อจะยึดครองฐานเเห่งนี้โดยสมบูรณ์เเน่นอนว่าสงครามครั้งนี้ได้เปิดการโจมตีกันแบบเต็มรูปแบบ

 

ปั้ง~~~~

 

หนึ่งในทีมของ S.H.I.E.L.D. ได้เดินเข้าไปในห้องเเละพบต้นกำเนิดของเสียงภัยคุกคามมันเป็นเสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องรอบ ๆ ตัวฐาน ดูเหมือนฐานเเห่งนี้ได้ถูกตั้งค่าให้ระเบิดตัวเอง

 

ทีมเหล่านี้กำลังทำการยกเลิกคำสั่งเเละกู้ข้อมูลการระเบิดตัวเองของฐานลับเเห่งนี้เพียงเเต่ว่ามันไม่ได้ผล

 

ผู้เชี่ยวชาญที่รับผิดชอบในการกู้คืนระบบระเบิดทำลายตัวเองของฐานได้ปรากฏความผิดหวังเเละใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ

 

“ไม่ดีเเล้ว,ไม่สามารถยกเลิกคำสั่งทำลายตัวเองได้ ฐานเเห่งนี้กำลังจะระเบิดอีก 10 นาที!”เเม้ว่าจะไม่สามารถยกเลิกการระเบิดของฐานเเห่งนี้ได้ เเต่พวกเขาก็ยังคงมีเวลาหลบหนี

 

“รีบหนีกันเร็ว!”

 

ทีมเหล่านี้ปราศจากความลังเลเเละรีบอพยพถอยทัพในทันที

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเสียงของทีมนั้นก็ส่งสัญญาณเข้าไปที่หอควบคุมบนยานของ S.H.I.E.L.D.

 

“รายงาน! พบคำสั่งทำลายตัวเองของฐาน การระเบิดจะเกิดขึ้นในอีก 10 นาที!”

 

“ระเบิดตัวเอง?สั่งอพยพทีมทั้งหมดให้ถอยออกมาโดยเร็ว ติดต่อ สตาร์ก บอกให้เขาควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนในการช่วยเราล่าถอย เราไม่มีเวลาเเล้ว!”ได้ยินเสียงเตือนภัย ใบหน้าของนิค กลายเป็นจริงจังมากขึ้น

 

“ครับ!”

 

“ถอยทัพ!”

 

~ ~ ~

 

“ประเมินพื้นที่ระยะทำลายของรัศมีระเบิดได้หรือไม่?”นิคได้กล่าวถามกับคนควบคุมหอบังคับการณ์

 

“จากข้อมูลที่หนึ่งในทีมของเราได้รับมาดูเหมือนรัศมีวงกว้างของระเบิดจะรุนเเรงมาก เเละพื้นที่ของมัน…”ได้ยินคำถามของนิค เจ้าหน้าที่คนนี้กล่าวอธิบายก่อนที่จะหยุดชะงัก

 

ฟุ่บ!

 

เส้นผ่าศูนย์กลางสีเเดงได้ลากยาวขยายพื้นที่ออกไปไกล รัศมีระเบิดของการระเบิดทำลายฐานนี้กินพื้นที่ไปมากกว่า 2 สนามฟุตบอลใหญ่ เเน่นอนว่ายังไม่รวมผลกระทบพิเศษเพิ่มเติม

 

“หัวหน้านิค ที่นี่ไม่ปลอดภัย!”เจ้าหน้าที่คนนึงกล่าวพูดเตือนนิคเเม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะอยู่บนยานรบที่ลอยตัวอยู่บนอากาศเเต่ก็ไม่สามารถประเมินได้ว่าเหตุระเบิดจะส่งกระทบต่อพวกเขาหรือไม่

 

“ฉันรู้ รีบสั่งทุกทีมอพยพหลบหนีออกมาโดยเร็วที่สุด”เดิมนิคต้องการจะค้นคว้าความลับของพวกไฮดร้า เเต่ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่อำนวยเท่าไหร่

 

“ครับ”

 

 

ปั้ง!

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะที่นิคออกคำสั่งให้ถอยทัพพื้นที่ตำเเหน่งสุดท้ายของฐานไฮดร้าดูเหมือนจะเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด

 

“กัปตันโรเจอร์ส! ฐานเเห่งนี้กำลังจะระเบิด เราต้องรีบหนีกันเเล้ว!”หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมของกัปตันโรเจอร์สกล่าวเตือนขึ้น

 

“ฉันรู้เเล้ว,พวกคุณออกไปก่อนฉันจะตามไปทีหลัง!”โรเจอร์ส กล่าวบอก เพื่อนร่วมทีมของเขา

 

ปั้ง!

 

หลังจากนั้นสตีฟก็ตกเข้าไปอยู่ในการต่อสู้อีกครั้ง เเม้ฐานเเห่งนี้จะทำลายตัวเอง เเต่ทหารของพวกไฮดร้าล้วนไม่เกรงกลัวความตายพวกเขาได้รับคำสั่งสุดท้ายก็คือการต่อสู้ปกป้องฐานเเห่งนี้

 

เเน่นอนว่าสตีฟเองก็ไม่กลัวคนเหล่านี้ เเต่เขาไม่สามารถประมาทได้

 

ปั้ง!

 

กระสุนปืนจำนวนมากได้พุ่งกระทบเข้ากับโล่ห์ของสตีฟจนไม่เปิดโอกาสให้เขาหลบหนี เเม้สตีฟจะมีศักยภาพร่างกายที่เเข็งเเกร่งกว่าคนทั่วไป เขาก็ล้วนไม่มีโอกาสรอดชีวิตหากฐานเเห่งนี้ระเบิดทำลายตัวเอง

 

ตึก ตึก!

 

สตีฟ ต้องการสลัดหลุดจากกองกำลังทหารของพวกไฮดร้า เเต่ดูเหมือนพวกมันจะกัดเขาไม่ปล่อย

 

ปั้ง! ปั้ง!

 

ในสถานการณ์ตอนนี้ คนของ S.H.I.E.L.D. ไม่มีใครสามารถเข้ามาช่วยเหลือสถานการณ์ของ กัปตันโรเจอร์สได้ ดังนั้นเขาจึงต้องพึ่งพากำลังของตัวเอง

 

ติ๊ด~~~~

 

เวลานับถอยหลังได้กระชั้นชิดเข้ามาเรื่อย ๆ เวลาระเบิดของฐานนี้เหลือไม่ถึง 3 นาทีก่อนการระเบิด เพียงเเต่กัปตันโรเจอร์สยังไม่สามารถสลัดหลุดออกจากสถานที่เเห่งนี้ได้

 

กัปตันโรเจอร์สในตอนนี้ถูกล้อมไปด้วยกองทัพทหารจำนวนมาก ซึ่งในขณะเดียวกันในสถานที่ห่างไกลของตัวป่าลึก นายพลรีส เเละ ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ ก็กำลังนั่งรถหุ้มเกราะของพวกเขาหลบหนี ในระหว่างนั้นพวกเขาได้จ้องมองไปที่จอเเสดงผลอย่างตื่นเต้น

 

“ฮ่าฮ่า,กัปตันอเมริกา! ดูเหมือนจะเหลือเวลาไม่มากเเล้ว เเม้ว่าพวกเราจะสูญเสียฐานเเห่งนี้ไป เเต่ถ้าพวกเราสามารถฝังเเกได้ ฐานเเละกองกำลังของฉันที่เสียไปก็ไม่นับว่าสูญเปล่า”บนหน้าจอเเสดงผลเผยให้เห็นภาพของกัปตันโรเจอร์ส ที่ถูกล้อมรอบโดยกองกำลังของไฮดร้า พูดถึงกัปตันอเมริกา เเน่นอนว่าพวกไฮดร้ามีความเกลียดชังต่อ สตีฟ มาก

 

สิบ ~ เก้า ~ …… สาม ~ สอง ~ หนึ่ง!

 

ในที่สุดความคาดหวังของ นายพลรีสก็บังเกิด เสียงระเบิดได้ทำลายตัวเองพร้อมกับตัดภาพสัญญาณของกัปตันโรเจอร์สที่เเสดงผลบนหน้าจอจนหายไป

 

!!! ~

ทางด้านหลังของโทนี่เเละเเจ็คสันได้เกิดเสียงส่งผ่านจนทั้งคู่ได้ยิน

 

“เจ้านายครับ,ดูเหมือนจะเป็นกัปตันโรเจอร์ส”ไม่ต้องรอให้โทนี่ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S กล่าวอธิบายสถานการณ์อย่างรวดเร็ว

 

“เราค่อยพูดคุยต่อจากนี้ทีหลังเอาเป็นว่าเธอสวมหน้ากากอำพรางใบหน้าตอนนี้ก่อนเเล้วกัน?”ได้ยินเสียงรายงานของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวเตือน เเจ็คสัน ดูเหมือนว่าโทนี่ไม่ต้องการให้สถานะของเเจ็คสันเปิดเผยต่อเบื้องหน้าของโรเจอร์สเเละคนอื่น ๆ

 

“อืม!”เเจ็คสันเองก็คิดเช่นเดียวกันเขาไม่ต้องการใบหน้าของเขาให้คนอื่นรู้มากหากมันจำเป็นเขาได้เริ่มสวมใส่หน้ากากของชุดสูทภูติมายาอีกครั้ง

 

ฟุ่บ!

 

ภายใต้สายตาของโทนี่ เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก จู่ ๆ ชุดสูทภูติมายาของเเจ็คสัน ก็ปรากฏหมอกสีดำก่อนที่จะครอบคลุมทั้งใบหน้าจนกลายเป็นหน้ากากที่คุ้นเคย

 

“นี่เป็นอุปกรณ์นาโนเทคโนโลยีหรือไม่?”ในใจของโทนี่รู้สึกร้อนรนมาก เขาไม่คิดเลยว่าเสื้อผ้าของเเจ็คสันจะเป็นเทคโนโลยีพิเศษที่สร้างจากนาโนเทคโนโลยี

 

เเม้โทนี่ต้องการจะถามเเจ็คสันตอนนี้ เเต่มันไม่ใช่เวลาที่ดี หลังจากเเจ็คสันสวมหน้ากาก โทนี่ ก็ปรับเปลี่ยนการเเสดงออกทางสีหน้าของเขาอีกครั้ง

 

ฟุ่บ!

 

ภายใต้การจัดการของโทนี่ เเละ เเจ็คสัน ไม่นานนักก็ปรากฏกองกำลังพิเศษของ S.H.I.E.L.D. พร้อมกับ กัปตันโรเจอร์ส

 

โรเจอร์สที่วิ่งนำหน้ากองกำลังพิเศษมาเขาค่อย ๆ ชะลอเท้าลงก่อนที่จะหยุดอยู่ที่เบื้องหน้าของ เเจ็คสัน

 

“มิราจไนท์คุณไม่เป็นอะไรนะ?”เห็นชุดเกราะไอรอนแมนเบื้องหน้า โทนี่ไม่ได้สนใจ เขากล่าวถาม มิราจไนท์อย่างรวดเร็ว

 

เขาได้ออกค้นคว้าฐานลับไฮดร้าเเห่งนี้เเละไม่พบตัวบัคกี้ เเน่นอนว่าฐานลับของพวกไฮดร้านั้นมีมากมาย โทนี่ เองก็ไม่คิดว่าตัวเขาจะโชคดีเพียงเพราะได้บุกฐานหนึ่งในฐานลับทั้งหมดของพวกไฮดร้า เพียงเเต่หลังเจอหน้าของมิราจไนท์ที่ถูกจับตัวไป โรเจอร์ส หลุดถามออกมาด้วยความเป็นห่วง

 

“ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงกัปตันโรเจอร์ส ฉันปลอดภัยดี!”เห็นกัปตันโรเจอร์สเป็นห่วงเขา เเจ็คสันขอบคุณจากใจจริง

 

“ดูเหมือนนั่นจะทำให้คุณลำบากเล็กน้อยให้พวกเราช่วยหรือไม่?”ได้ยินมิราจไนท์ตอบคำถามเขา สตีฟ กล่าวพยักหน้าหลังจากมองไปที่อุปกรณ์ล็อคข้อมือเเละข้อเท้าของเขา

 

“นี่คือปลอกกุญเเจมือผสมโลหะอดาเเมนเทียม หากคุณสามารถถอดมันได้ก็คงจะดีมาก ๆ !”เเจ็คสันรู้ว่าโรเจอร์สหมายความว่าอย่างไร เขายกมือขึ้นเเละยิ้มอธิบาย

 

“โลหะผสมอดาเเมนเทียม!?นี่ค่อนข้างเป็นปัญหาทีเดียว ดูเหมือนฉันคงไม่มีวิธีที่จะช่วยเหลือคุณในตอนนี้”ได้ยินชื่อโลหะผสมอดาเเมนเทียม โรเจอร์ส รู้เเล้วว่าทำไม โทนี่ ถึงไม่ปลดกุญเเจมือให้กับมิราจไนท์เเต่เเรก

 

“เอาล่ะเรื่องทักทายกันพอเอาไว้เเค่นี้ก่อน พวกเราขอตัวก่อนฐานไฮดร้าเเห่งนี้ ขอปล่อยให้ S.H.I.E.L.D. ดูเเลต่อเเล้วกัน ฉันกับมิราจไนท์จะขอตัวกลับก่อน”โทนี่จ้องมองไปที่ สตีฟ เเละพูดขึ้น

 

“เกรงว่าหากคุณพามิราจไนท์ไปด้วยสภาพนี้เขาจะลำบาก!”ได้ยินคำพูดของ โทนี่ โรเจอร์ส กล่าวเเย้ง

 

สตีฟรู้ว่า มิราจไนท์กับ โทนี่ มีความสัมพันธ์เชิงธุรกรรมบางอย่างร่วมกัน เเต่เขาไม่รู้รายละเอียดมากนัก นอกจากนี้ เขายังต้องการสอบถามเกี่ยวกับพวกไฮดร้า หากปล่อยมิราจไนท์ไปตอนนี้ เขาย่อมพลาดข้อมูลสำคัญ

 

“ลำบาก?”ได้ยินเสียงของ สตีฟ โทนี่ กล่าวพูดขึ้น

 

จากนั้นโทนี่ก็จ้องมองไปที่ชุดเกราะตัวอื่น ๆ ใกล้เคียง”J.A.R.V.I.S เเสดงให้กัปตันโรเจอร์สเห็นการพัฒนาของเราหน่อยสิ”

 

“ครับ,เจ้านาย!”

 

ได้ยินคำสั่งของ โทนี่ J.A.R.V.I.S กล่าวปฏิบัติตาม เเจ็คสันเองก็อยากรู้อย่างเห็น โทนี่ ได้ยกเเขนทั้งสองข้างขึ้น จากนั้นชุดเกราะไอรอนแมนตัวนึงก็พุ่งเข้ามาหาเขาก่อนที่ชุดเกราะตัวเดิมของเขาจะถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว ชุดเกราะตัวที่พุ่งเข้ามานั้นได้ระเบิดชิ้นส่วนอะไหล่เเยกตามส่วน ๆ

 

ชิ้นส่วนไอรอนแมนเหล่านั้นถูกโทนี่บังคับโลดเเล่นกลางอากาศก่อนที่จะพุ่งเข้าสวมใส่ร่างของโทนี่อีกครั้ง คราวนี้โทนี่ได้ติดตั้งชุดเกราะไอรอนแมนได้อย่างรวดเร็ว

 

“น่าอัศจรรย์มาก!”เห็นการเปลี่ยนเเปลงของชุดเกราะไอรอนแมน เเจ็คสันไม่สามารถทนความตื่นเต้นได้เเม้เขาจะรู้อยู่เเล้วเกี่ยวกับเทคโนโลยีชุดเกราะไอรอนแมนจากภาพยนตร์ เเต่มาเห็นด้วยตาตัวเองมันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากกว่า

 

“ทีนี้กัปตันโรเจอร์ส คุณยังคิดว่ามันยังลำบากอยู่ไหม?”หลังจากสวมใส่ชุดเกราะไอรอนแมน โทนี่ กล่าวถาม สตีฟอีกครั้ง

 

สตีฟ”….”

 

“J.A.R.V.I.S,เตรียมชุดให้ มิราจไนท์!” เห็นโรเจอร์สไม่กล่าวตอบ โทนี่ ไม่ได้สนใจสตีฟ เขากล่าวสั่งการ J.A.R.V.I.S ทันที

 

“ครับเจ้านาย!”

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันที่ได้ยกกุญเเจมือขึ้นเพื่อเตรียมพร้อม

 

พริบตาเดียวชิ้นส่วนต่าง ๆ ของชุดเกราะไอรอนแมนอีกตัวก็พุ่งเข้าใส่ของเเจ็คสัน

 

ฟุ่บ!

 

ผ่านไปไม่กี่วินาที ร่างของเเจ็คสัน ก็ถูกห่อด้วยชุดเกราะไอรอนแมนในขณะที่เขายังอยู่ในกุญเเจมือที่้ทำจากอดาเเมนเทียม ดูเหมือนระหว่างโซ่ข้อต่อนั้น J.A.R.V.I.S ได้ปรับเเต่งการห่อหุ้มโดยเว้นช่วงเหล่านั้นไว้

 

“สวัสดี คุณมิราจไนท์!”หลังจากสวมหน้ากากเป็นอันสุดท้าย หน้าจอเบื้องหน้าก็สว่างสดใส เสียงของ J.A.R.V.I.S ได้ดังขึ้นข้างหูของเเจ็คสัน

 

“สวัสดี,J.A.R.V.I.S”เเจ็คสันได้สัมผัสกับชุดเกราะไอรอนแมนอีกครั้งคราวนี้เป็นครั้งเเรกที่เขาได้สวมใส่มันในสภาพเช่นนี้ พริบตาเดียว พวกกัปตันโรเจอร์ส ก็จ้องมองไปที่ โทนี่ เเละ เเจ็คสัน ที่กำลังจะขับเคลื่อนชุดเกราะไอรอนแมน

 

“เอาล่ะมิราจไนท์กับฉันขอตัวกลับก่อน ส่วนเรื่องที่นี่ฉันจะทิ้งชุดเกราะไอรอนแมนไว้เพื่อช่วยเหลือคุณเเล้วกัน!”หลังจากสวมชุดให้กับ เเจ็คสันเสร็จ โทนี่ ก็หันกลับมากล่าวกับกัปตันโรเจอร์ส

 

สตีฟ”…”

 

“J.A.R.V.I.S!”

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นกัปตันโรเจอร์สก็จ้องมองไปที่ โทนี่ เเละ มิราจไนท์ที่บินขึ้นสู่ฟากฟ้าพร้อมกับชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัว สตีฟรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาต้องการถามหาเรื่องบัคกี้เเละองค์กรไฮดร้า เเต่ดูเหมือนสถานการณ์ตอนนี้คงไม่ค่อยเหมาะดังนั้นเขาคิดว่าหลังจากกลับไปค่อยติดต่อกับเขาอีกครั้ง

 

“J.A.R.V.I.S! คุณสตาร์ก มาช่วยฉันงั้นหรอ?”เห็นชุดเกราะไอรอนแมนอยู่เบื้องหน้า เเจ็คสันตะโกนถามอย่างประหลาดใจ

 

หากเป็นชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ที่โจมตีฐานทัพลับไฮดร้าเเห่งนี้ เเน่นอนว่าโอกาสที่จะชนะนั้นมีสูงมาก

 

“ใช่,คุณมิราจไนท์!”

 

“อันดับเเรกช่วยตามจับสองคนที่หลบหนีไปให้ฉันหน่อย!”หลังจากเงียบไปซักพัก เเจ็คสัน กล่าวพูดขึ้น

 

“ยินดีที่ได้รับใช้ครับ!”

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำสั่งของ เเจ็คสัน J.A.R.V.I.S! ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว เขาได้พุ่งออกไปเเละจัดการสมาชิกทีมอัลฟ่าทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว

 

สมาชิกไฮดร้าที่ถูกจัดการโดยพวกเเจ็คสัน ตอนนี้ พวกเขาได้ถูกจับตัวเอาไว้ ก่อนหน้านี้เเจ็คสันรู้สึกเคียดเเค้นคนเหล่านี้มากเพราะพวกมันตามตื้อเขาไม่ยอมปล่อย

 

เเจ็คสันจ้องมองไปที่สมาชิกทีมอัลฟ่าทั้งสองคนนั้น สายตาเย็นชาของเขาจ้องมองไปที่พวกมันอย่างรุนเเรง

 

ฟุ่บ!

 

“J.A.R.V.I.S! นายช่วยปลดสิ่งเหล่านี้ให้ฉันหน่อยได้รึไม่?”เเจ็คสันกล่าวพูดพร้อมจ้องมองไปที่กุญเเจข้อมือเเละข้อเท้าของเขา

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำกล่าวของ เเจ็คสัน J.A.R.V.I.S! ได้ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนลงมาที่ด้าหน้าก่อนที่จะเริ่มสำรวจอย่างละเอยีด

 

“ผลการสเเกน ดูเหมือนวัตถุชิ้นนี้จะสร้างขึ้นจากโลหะผสมอดาเเมนเทียมบางชนิด ตอนนี้ ผมไม่มีวิธีที่จะช่วยเหลือคุณชั่วคราว คุณมิราจไนท์”J.A.R.V.I.S! กล่าวตอบ

 

ผลลัพธ์ของ J.A.R.V.I.S! ทำให้เเจ็คสันรู้สึกประหลาดใจ ไม่คิดเลยว่า ไฮดร้าจะจับเขาด้วยโลหะผสมอดาเเมนเทียม อีกอย่างต้องรู้ว่านี่เป็นโลหะที่เเข็งเเรงที่สุดในโลก ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S! เเจ็คสัน ในที่สุดก็เข้าใจทำไมเขาไม่สามารถใช้เรี่ยวเเรงในการสลัดปลอกเเขนที่ไร้ซึ่งพลังงานเปล่า ๆ ได้

 

“J.A.R.V.I.S! คุณ สตาร์ก กำลังจัดการพวกไฮดร้าอยู่ใช่ไหม เเล้วคุณสตาร์ พบที่นี่ได้อย่างไร?”ตั้งเเต่ที่รู้ว่าตัวเองปลอดภัย เเจ็คสันรู้สึกสงสัยว่าโทนี่ค้นพบที่นี่ได้อย่างไร

 

“หลังจากที่คุณหายไปพวกเรา…”หลังจากนั้น J.A.R.V.I.S ก็กล่าวรายงานทั้งหมดตั้งเเต่ที่ เเจ็คสันหายตัวไป ทั่วทั้งนิวยอร์ก ได้การเป็นสับสนวุ่นวายกันยกใหญ่

 

“ตอนนี้ คุณสตาร์ก กำลังไล่เก็บกวาดกองกำลังศัตรูอยู่ครับ!”J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานขั้นสุดท้าย

 

“อืม,ดูเหมือนท้ายที่สุดฉันก็จะได้ให้พวกมันชดใช้หนี้ให้ฉันเสียที ฉันเองก็อยากให้เควสของฉันสำเร็จเร็ว ๆ !”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันกระซิบเบา ๆ

 

ดูเหมือนว่าหลังจากเเจ็คสันถูกจับตัวมา โทนี่ เเละ S.H.I.E.L.D. ได้ค้นพบฐานลับเเห่งนี้โดยบังเอิญ หลังจากนั้นก็ทำการบุกทำลายฐานทัพเเห่งนี้ เเจ็คสัน ตั้งความหวังไว้สูงเพราะหากทำลายฐานทัพลับเเห่งนี้ได้ความสำเร็จในเควสของเขาก็จะเพิ่มสูงขึ้น

 

“เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ คุณมิราจไนท์?”

 

“ป่าว ไม่มีอะไร”ได้ยินคำถามของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันกล่าวปฏิเสธ

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะที่เเจ็คสันเเละ J.A.R.V.I.S กำลังสนทนากัน ดูเหมือนรถหุ้มเกราะสองคันกำลังมุ่งหน้ามาจากด้านหลังของพวกเขา รถหุ้มเกราะทั้งสองคันได้เปิดระบบอาวุธพร้อมกับเล็งไปที่ ไอรอนแมน เเละ เเจ็คสัน

 

“ J.A.R.V.I.S นายสามารถรับมือกับพวกมันได้ไหม?”เห็นรถหุ้มเกราะติดอาวุธสองคัน เเจ็คสันกล่าวถามอย่างกังวล

 

ถ้ามันเป็นเพียงรถหุ้มเกราะธรรมดาสองคันเเจ็คสันไม่จำเป็นต้องกังวล เเต่รถหุ้มเกราะติดอาวุธของไฮดร้านั้นเป็นเทคโนโลยีที่ร้ายกาจ ดังนั้นเเจ็คสันจึงกังวลว่า J.A.R.V.I.S จะสามารถเอาชนะพวกมันได้หรือไม่

 

“ไม่มีปัญหา คุณมิราจไนท์เพราะกองกำลังสนับสนุนของเราได้มาถึงเเล้ว!”เห็นความกังวลของเเจ็คสัน “ J.A.R.V.I.S กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

 

“กองกำลังสนับสนุน?”ได้ยินคำตอบของ “ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันจ้องมองไปที่ด้านหลังของเขา

 

ฟุ่บ ฟุ่บ!

 

จากนั้น เเจ็คสัน ก็เห็นชุดเกราะไอรอนแมน พุ่งเข้าไปที่รถหุ้มเกราะทั้งสองคัน จากนั้นก็มีชุดเกราะไอรอนแมนตัวนึงลอยลงมาที่เบื้องหน้าของเเจ็คสันมันคือชุดเกราะของโทนี่

 

“หนุ่มน้อย เธอนี่สร้างปัญหาให้ฉันจริง ๆ รู้ไหมว่าพวกเราตามหาตัวเธอกันเเทบวุ่น!”เห็นเเจ็คสันในชุดมิราจไนท์ โทนี่ กล่าวพูดออกมา

 

“คุณสตาร์ก นี่คุณพก ชุดเกราะไอรอนแมนมากี่ตัวกันเเน่เนี่ย?”เเจ็คสันไม่ได้สนใจการเเสดงออกของโทนี่ เขากล่าวถามออกมา

 

“หึ่ม! ก็พอสมควร อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนฉันต้องจัดการรถหุ้มเกราะทั้งสองคันก่อน!”

 

“อืม”เเจ็คสันพยักหน้าหัวเราะออกมา

 

หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที ชุดเกราะไอรอนแมน สองตัว ก็ลากพวกไฮดร้าทั้ง 5 คนออกมาจากรถหุ้มเกราะโยนมาที่เบื้องหน้าของเเจ็คสัน

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นโทนี่ ก็เดินไปที่เบื้องหน้าของเเจ็คสันอีกครั้ง เขาจ้องมองไปที่ กุญเเจมือเเละกุญเเจข้อเท้าของเเจ็คสัน ใบหน้าของโทนี่ตอนนี้เผยให้เห็นความเป็นห่วง เขาเพิ่งรู้ว่าวัสดุที่จับกุมเเจ็คสันอยู่ตอนนี้คือ โลหะผสมอดาเเมนเทียม

 

“หนุ่มน้อย! เธอไม่จำเป็นจะต้องสวมหน้ากากเเล้วงั้นหรอ?”โทนี่ จ้องมองไปที่ เเจ็คสันเเละกล่าวพูดขึ้น

 

“เอ่อ…”ได้ยินคำพูดของโทนี่เเจ็คสันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้สวมหน้ากาก เเม้จะสวมใส่ชุดมิราจไนท์อยู่ เเต่ตอนนี้เขาไม่ได้สวมหน้ากาก นี่เป็นครั้งเเรกที่เขาเผยหน้าที่เเท้จริงให้โทนี่เห็นในสถานะของมิราจไนท์

 

“ฮ่าฮ่า,คุณสตาร์ก คุณรู้ตัวตั้งเเต่เมื่อไหร่กัน”เเจ็คสันจ้องมองไปที่รอยยิ้มของโทนี่ เเละ กล่าวพูดออกมา

 

“หึ่ม! ฉันรู้ว่าเป็นเธอนานเเล้ว นอกจากนี้ ฉันได้ใช้ความพยายามอย่างมากที่จะช่วยเหลือเธอ รู้ไหมว่าฉันสูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนไปทั้งหมด 13 ตัว!”เห็นรูปลักษณ์ของเเจ็คสัน โทนี่ พูดออกมาอย่างจริงจัง

 

“13 ตัว? คุณคงไม่คิดจะให้ผมชดใช้ใช่หรือไม่?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันกล่าวเสียงต่ำ

 

“เเน่นอนว่าเธอจะต้องชดใช้ นอกจากนี้ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะหลอกฉันมาตลอดตั้งเเต่วันเเรกที่เราพบกัน!”โทนี่จ้องมองไปที่ เเจ็คสัน เดิมทีเขาคาดเดาอยู่เเล้วว่า เเจ็คสันคือมิราจไนท์ เเต่พอเห็นเด็กคนนี้สวมใส่ชุดสูทของมิราจไนท์ ทำให้หัวใจของโทนี่รู้สึกบีบรัดมาก

 

“เอ่อ…ผมเองก็ไม่ต้องการที่จะปิดบังคุณหรอก!”ได้ยินคำไม่พอใจของโทนี่ เเจ็คสัน กล่าวอธิบาย

 

“เธอ…!”โทนี่วางเเผนจะพูดต่อเพียงเเต่เขาได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลังดูเหมือนว่าจะมีบางคนกำลังมา

ปั้ง!

 

ในระหว่างถูกจับกุมตัวเเจ็คสันถูกเเบกขึ้นรถยนต์หุ้มเกราะของพวกไฮดร้าโดยมีทีมอัลฟ่าสองคนเป็นคนคุมตัวเขาเอาไว้

 

หากไม่มีใครช่วยเหลือเเจ็คสันในเวลานี้ เขาจะถูกพาตัวไปยังฐานต่อไปของพวกไฮดร้า เเละ โอกาสที่เเจ็คสันจะหลบหนีรอดออกมาย่อมไม่มีอีก

 

บรื้น!!

 

ในช่วงที่เเจ็คสันถูกจับตัวมามันได้ผ่านไปสักระยะเวลานึงเเล้วตอนนี้เขากำลังอยู่ที่ทางเข้าป่าลึกโดยรถหุ้มเกราะพิเศษ ขอบเขตในปัจจุบันของเเจ็คสันตอนนี้ไร้ซึ่งหนทางหลบหนี

 

สมาชิกทีมอัลฟ่าทั้งสองคนคราวนี้กลายเป็นระมัดระวังเเจ็คสักมากขึ้น เมื่อครู่เเจ็คสันได้หลุดจากสนามพลังของกุญเเจล็อคได้ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจอยู่พอสมควร

 

“เวรเอ้ย!”ภายในรถหุ้มเกราะเเจ็คสันสบถด่าออกมาในใจ เขาได้หันไปมองด้านหลังอย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีใครตามมาช่วยเหลือเขา

 

“มันหมดหนทางเเล้วจริง ๆ ?”เเจ็คสันครุ่นคิดภายในใจของเขา เขารู้สึกกังวลจนถึงที่สุด

 

“อย่าให้พวกเเกตกอยู่ในมือของฉัน ไม่งั้น…!”เเจ็คสันจ้องมองไปที่สมาชิกทีมอัลฟ่าทั้งสองคนอย่างชั่วร้ายหากเขาหลุดรอดไปได้เเละทั้งสองคนอยู่ในมือของเขา เขาจะต้องตอบเเทนเรื่องในวันนี้เเน่นอน

 

เดิมทีเเจ็คสันสามารถเลือกที่จะพินาศไปพร้อมกับคนเหล่านี้ได้ รวมถึงทำลายฐานไฮดร้าเเห่งนี้ เเต่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีคนกำลังโจมตีฐานไฮดร้าอยู่ ซึ่งเเจ็คสันมีความหวังที่จะสามารถหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้

 

ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเลือกที่เขาจะทำได้นอกจากรอเวลา หากมันจวนตัวจริง ๆ เขาก็ไม่ลังเลที่จะจบชีวิตตัวเองเพื่อหลบหนีสถานการณ์ที่ยากลำบากในปัจจุบัน

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าในขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวอยู่นั้นจู่ ๆ ก็มีอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามากระเเทกที่ด้านหลังของยานรถหุ้มเกราะจนพื้นที่ด้านในสั่นสะเทือน

 

ปั้ง!

 

เเจ็คสันที่ได้รับผลกระทบได้กระเด็นลงไปนอนกับพื้นภายในตัวรถ ในใจของเขาตอนนี้รู้สึกโลดเต้นมาก

 

หลังจากที่รถถูกโจมตีสมาชิกทีมอัลฟ่าทั้งสองคนก็รีบกระโดดลงจากตัวรถอย่างรวดเร็ว พอเห็นว่าตัวเองเผชิญหน้ากับอะไรพวกเขาก็รีบหลบหนีออกไปโดยทิ้งรถคันนั้นไว้

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้สำรวจพื้นที่ภายในอย่างละเอียดอีกครั้งเขาไม่ต้องการที่จะนั่งรอทีมกู้ภัยมาช่วยเหลือเขาอย่างเฉย ๆ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องหาทางออกไปจากที่นี่ก่อนตอนนี้

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังทำการดิ้นรนออกจากตัวรถ ดูเหมือนชุดเกราะไอรอนแมนตัวนึงจะสเเกนรถที่เขากำลังนั่งอยู่

 

 

“เจ้านายยครับ,พบตัว คุณ มิราจไนท์ เเล้ว!”หลังจากขับไล่สมาชิกทีม อัลฟ่าไปได้ J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานโทนี่อย่างรวดเร็ว

 

“อะไรนะ? เขาอยู่ที่ไหน?”ได้ยินเสียง  J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานโทนี่ รีบถามทันที

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่  J.A.R.V.I.S ได้สเเกนพื้นที่เป็นภาพโฮโลเเกรมให้โทนี่ดู

 

“เป็นเขาจริง ๆ J.A.R.V.I.S เฝ้าระวังรถคันนั้นให้ฉัน ฉันจะรีบไปทันที!”เห็นตัวของมิราจไนท์ภายในตัวรถ โทนี่ รู้สึกตื่นเต้นมาก เขากล่าวสั่ง J.A.R.V.I.S อย่างรวดเร็ว

 

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ไม่รีรอ เขาได้เฝ้าระวังรถหุ้มเกราะคันนั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือเเจ็คสัน

 

“ดูเหมือนฉันเองก็ต้องรีบเคลียสถานที่ตรงนี้เเล้ว!”โทนี่กล่าวพร้อมกับจ้องมองไปที่ศัตรูด้านหน้าของเขา

 

“J.A.R.V.I.S เปิดใช้ปืนใหญ่พลังงานที่อก 100%”

 

ปั้ง

 

สถานที่ภายในปราสาท

 

เเสงสีขาวเเพรวพราวได้พุ่งออกมาพริบตาเดียวกองกำลังทหารของศัตรูก็หายวับไปกับตา”ดูเหมือนโทนี่จะไม่ปราณีเเม้เเต่น้อย เราจะต้องเข้ายึดฐานเเห่งนี้ให้ได้ ฉันรู้สึกสงสัย บางทีตัวตนที่ซ่อนอยู่ภายในฐานลับไฮดร้าเเห่งนี้ บางทีอาจจะมีสถานะไม่ต่ำกว่า อเล็กซานเดอร์ เพียซ”

 

“ครับ!”ได้ยินคำของหัวหน้านิค ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดของเขากล่าวปฏิบัติตาม

 

“กัปตันโรเจอร์ส?”ในขณะนั้นนิคก็กล่าวเรียกชื่อ กัปตันโรเจอร์ส

 

เพียงเเต่ว่ากัปตันโรเจอร์สไม่ได้อยู่ที่นี่ ก่อนหน้านี้ นิคได้ปิดบังตัวตนของ บัคกี้ เพื่อนสนิทของเขา เเละยิ่งตอนนี้สถานที่เเห่งนี้คือฐานลับของพวกไฮดร้า กัปตันโรเจอร์สจึงเคลื่อนไหวโดยพลการ

 

“กัปตันโรเจอร์ส?ตอนนี้เขาออกไปเเล้ว”เห็นหัวหน้านิคถามหา กัปตันโรเจอร์ส หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวตอบ

 

“อืม,ปล่อยเขาไป รับคำสั่ง จัดตั้งทีมจู่โจมเเยกกันประสานหน้าที่เเละสนับสนุนกัปตันโรเจอร์ส”นิคพูดขึ้น

 

“ครับ!”

 

เเจ็คสันที่นั่งอยู่ในรถหุ้มเกราะตอนนี้เขากำลังใช้ความพยายามในการหลบหนีออกจากรถคันนี้ เพราะว่าตอนนี้เขาเป็นเชลยที่ถูกมัดทั้งมือเเละเท้าทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

 

ปั้ง

 

ปั้ง

 

อย่างไรก็ตามรถหุ้มเกราะที่เเจ็คสันนั่งอยู่ ก็ถูกยิงขีปนาวุธใส่เข้าอย่างไม่ยั้งจนท้ายที่สุดรถหุ้มเกราะอัตโนมัติก็ได้หยุดเคลื่อนที่

 

ปัง บาง ~

 

จากนั้นชุดเกราะไอรอนแมนก็ลอยลงมาพร้อมกับยิงปืนเลเซอร์ไปที่รถหุ้มเกราะนั้น

 

วิ๊ด!

 

ปั้ง!

 

ผ่านไปหลายวินาทีประตูรถก็ได้ถูกเปิดออกโดยพลังงานเลเซอร์เเรงสูง เเจ็คสันจ้องมองไปที่ช่องว่างที่ถูกเปิดออกเขาเห็นใบหน้าของชุดเกราะไอรอนแมน

 

“สวัสดี คุณ มิราจไนท์,ดูเหมือนคุณต้องการความช่วยเหลือ?”เสียงของJ.A.R.V.I.S ได้ถูกส่งออกมาจากตัวของชุดเกราะ เเจ็คสัน จ้องมองไปที่ชุดเกราะไอรอนแมนด้วยท่าทีที่มีความสุข

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้เเลกอุปกรณ์ทลายสนามพลังจากร้านค้าในระบบ สิ่งนี้นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับช่วยการหลบหนีของเเจ็คในยามนี้เป็นอย่างมาก

 

“หืม?!”ทีมอัลฟ่าสองคนที่เดินตามหลังของเเจ็คสัน เขาสังเกตุได้ถึงความผิดปกติ

 

อย่งไรก็ตามเมื่อหนึ่งในทีมอัลฟ่าเดินมาจะตรวจสอบเเจ็คสันเขากลับพบความผิดปกติโดยเฉพาะใบหน้าของเเจ็คสันที่กำลังยิ้มอยู่

 

“หายไปซะ!”เเจ็คสันได้ควบคุมอุปกรณ์ทลายสนามพลังเเละเปิดใช้งานอย่างรวดเร็ว

 

ฉึบ~~~~

 

จากนั้นคลื่นสนามพลังก็เกิดความผันผวน พลังของอุปกรณ์ที่ล็อคมือกับเท้าของเขาได้ถูกปลดออก

 

ฟุ่บ!

 

เห็นการกระทำของเเจ็คสันสมาชิกทีมอัลฟ่าทั้งสองคนรู้สึกประหลาดใจมาก

 

“ถึงคราวพวกเเกที่จะถูกเล่นงานคืนบ้างเเล้ว!”เเสงนัยน์ตาสีม่วงของเเจ็คสันสว่างวาบขึ้น

 

กริ๊ก!

 

ทีมอัลฟ่าทั้งสองคนที่ประหลาดใจเมื่อครู่เล็งอาวุธไปที่เเจ็คสันอย่างรวดเร็ว

 

“หึ่ม!”เผชิญหน้ากับอาวุธไฮเทคของทีมอัลฟ่าทั้งสองคนเเจ็คสันไม่ได้ประมาทเขาเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกอย่างรวดเร็ว

 

ปั้ง!

 

เเจ็คสันได้หมอบลงกับพื้นเพื่อนที่จะหลบการโจมตีเหล่านั้น

 

ทีมอัลฟ่าทั้งสองคนที่เห็นเเจ็คสันก้มหมอบลงกับพื้น การเเสดงออกของพวกเขามีความสุข พวกเขาไม่ลังเลที่จะพุ่งเข้าไปจัดการเเจ็คสันเเม้คลื่นพลังงานความผันผวนจะถูกลบล้างหายไปเเต่ตัวล็อคข้อมือเเละข้อเท้าของเเจ็คสันยังคงอยู่เเละคนเหล่านี้ไม่ปล่อยโอกาสให้เเจ็คสันได้ทำลายมัน

 

“เวรเอ้ย!”เเม้จะปลดจากคลื่นสนามพลังของตัวล็อคเเต่ตัวล็อคยังคงทำงานเเละมันเเข็งเเกร่งมากเขาไม่สามารถที่จะทำลายมันในระยะเวลาอันสั้นนี้ได้

 

เผชิญหน้ากับเเจ็คสันที่ล้มลงอยู่ทีมอัลฟ่าได้เดินไปจับตัวของเเจ็คสันไว้อย่างไร้ปราณีพวกเขาไม่ต้องการเปิดช่องทางการหลบหนีให้กับเเจ็คสันนอกจากนี้พละกำลังของเเจ็คสันยังไม่ฟื้นคืนนี่เป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะดำเนินการตามเเผนต่อ

 

ในที่สุดพวกเขาก็เเบกเเจ็คสันเดินจากไปอีกครั้งเเม้เเจ็คสันจะดิ้นรนมากเท่าไหร่พละกำลังของเขาตอนนี้ก็ไม่ต่างจากคนธรรมดามากนัก

 

“ไอ้,พวกไฮดร้าบัดซบ ไม่ว่าอย่างไรฉันก็จะต้องหลบหนีจากพวกมัน!”ถูกเเบกยกโดยคนของทีมอัลฟ่าเเจ็คสันดิ้นรนอย่างสิ้นหวังก่อนที่จะครุ่นคิดในใจของเขา

 

 

ฟุ่บ!

 

“J.A.R.V.I.S! สเเกนโครงสร้างพื้นฐานของฐานที่นี่ได้หรือไม่?”ในขณะที่เเจ็คสันกำลังถูกลักพาตัวจากไป โทนี่ ที่กำลังหลีกเลี่ยงการปะทะกับกองกำลังทหาร เขากล่าวถาม J.A.R.V.I.S.

 

“เจ้านายครับ!,ดูเหมือนฐานลับเเห่งนี้จะมีพื้นที่ช่องผ่านจำนวนมาก”

 

หลังจากนั้น J.A.R.V.I.S. ก็เเสดงเส้นทางแบบคร่าว ๆ โดยใช้ฐานเเห่งนี้เป็นตัวจำลองเเละทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อเผยข้อมูลของเส้นทางที่ทอดยาวออกไป

 

“ดี! นำชุดเกราะไอรอนแมน เพื่อดำเนินการค้นหา มิราจไนท์ อย่างเต็มกำลัง!”โทนี่ กล่าวออกคำสั่งอีกครั้ง

 

“ครับเจ้านาย!”

 

หลังจากที่โทนี่ กล่าวออกคำสั่งชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากก็เเยกย้ายไปตามเส้นทางต่าง ๆ ตามพื้นฐานโครงสร้างของฐานนี้

 

 

โทนี่ได้นำกองทัพชุดเกราะไอรอนแมนของเขาบุกเข้าไปในฐานประสาทไฮดร้าเเละเริ่มทำการโจมตี ส่วนนายพลรีสเเละผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่พวกเขาคอยบัญชาการทัพอยู่ส่วนลึกภายใน การโจมตีดังกล่าวนั้นไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็จะต้องสร้างความเสียหายกับชุดเกราะไอรอนแมนให้มากที่สุด

 

เพราะองค์กรไฮดร้านั้นรู้ดีถึงประสิทธิภาพสูงสุดของชุดเกราะไอรอนแมน

 

“เราคงต้องละทิ้งฐานนี้เเล้วจริง ๆ !”มองไปที่ นายพลรีส ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ กล่าวเตือน

 

บนหน้าจอเเสดงผลพวกเขาเห็นชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากที่พุ่งเข้ามาหลายทิศทางเเละเริ่มทำการกวาดล้าคนของเขา นอกเหนือจากบุคลากรสำคัญ ก็มีเพียงทหารปลายเเถวเท่านั้น เเต่การสูญเสียคนเหล่านี้ไปก็นับเป็นความสูญเสียด้านกำลังพลที่สำคัญ

 

DDD!

 

นายพลรีสจ้องมองไปที่หน้าจอเเสดงผลอีกครั้งเขาเหมือนได้ยินเสียงร้องเตือนแบบอย่าง

 

“นี่มัน…”ดูเหมือนนายพลรีสจะค้นพบยานบินจำนวนมากที่กำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา

 

“ใครกัน?”

 

“หรือว่า S.H.I.E.D. !” นายพลรีสกล่าวออกมาอย่างตกใจ เห็นได้ชัดว่าอิทธิพลที่สามารถขับเคลื่อนยานบินที่เป็นอาวุธไฮเทคขนาดนี้ได้คงมีเเต่อิทธิพล S.H.I.E.L.D. ! ศัตรูคู่สาบานของไฮดร้า

 

ทันทีที่โทนี่ค้นพบฐานลับเเห่งนี้เขาก็ติดต่อ S.H.I.E.L.D. เเละส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือทันที

 

“ไอ้พวกสวะ S.H.I.E.L.D.! ทำการอพยพกำลังคนทั้งหมด! เริ่มสตาร์ทระบบทำลายตัวเอง!”เห็นการมาถึงของ S.H.I.E.L.D. นายพลรีสตะโกนออกคำสั่งทำลายฐานทัพตัวเอง

 

“ครับ!”

 

“ฉันจะล่วงหน้าไปก่อน มีอะไรก็รายงานมา!”หลังจากออกคัส่งทำลายฐานทัพนายพลรีสก็เดินออกจากห้องบัญชาการเเห่งนี้

 

พวกเขาในฐานะสมาชิกอาวุโสของไฮดร้าเเน่นอนว่าย่อมมีช่องทางหลบหนีพิเศษที่เป็นพื้นที่ลับของพวกเขา

ปั้ง ปั้ง!

 

ปืนใหญ่พลังงานสูงได้โจมตีออกมาอย่างรุนเเรงจนพุ่งเข้าใส่ชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 5 ตัว J.A.R.V.I.S, ได้กล่าวรายงานต่อโทนี่ ถึงระลอกคลื่นโจมตีของพวกไฮดร้ารอบเเรก เพียงเเค่การโจมตีเดียวได้ทำลายชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ไปถึง 5 ตัว

 

“ดูท่านี่จะเป็นฐานของพวกไฮดร้าจริง ๆ !”โทนี่ได้จัดการชุดเกราะไอรอนแมนที่เหลือโดยฝากฝัง J.A.R.V.I.S ให้เริ่มกระจายกองกำลังเพื่อหลีกเลี่ยง

 

สถานที่เเห่งนี้คือ หนึ่งในสถานที่ต้องสงสัยที่ S.H.I.E.L.D.  เป็นคนพบ สองสถานที่ก่อนหน้านี้ เป็นสถานที่หลอก ดูเหมือนว่าสถานที่สุดท้ายนี้จะเป็นฐานของพวกไฮดร้าจริง ๆ เดิม โทนี่ ไม่ได้คาดหวังว่าจะพบ เเต่ดูเหมือนว่า นายพลรีสจะตื่นตระหนักเเละเปิดการโจมตีล่วงหน้าโจมตีใส่ โทนี่ ก่อน

 

“J.A.R.V.I.S ติดต่อ S.H.I.E.L.D. บอกพวกเขาว่าเราพบฐานไฮดร้าเเล้ว “โทนี่ กล่าวออกมา หลังจากนั้นเขาก็ผ่านช่วงระยะห่าง 1 กิโลเมตร โทนี่ ได้กล่าวสั่งการ J.A.R.V.I.S

 

เเม้จะสูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนไปถึง 5 ตัว เเต่โทนี่ ไม่ได้ให้ความสนใจตอนนี้ สิ่งที่เขาต้องการก็คือช่วยเหลือ เเจ็คสัน ตอนนี้ เขาต้องการเคลื่อนไหวกองทัพไอรอนแมนของเขาเพื่อดำเนินการช่วยเหลือ โทนี่ได้บอกข่าวนี้เเก่ S.H.I.E.L.D. ส่วนคนอื่น ๆ เขายังไม่ได้ติดต่อ โดยเฉพาะสไปเดอร์แมน เขากลัวว่าปีเตอร์จะคลุ้มคลั่งเเละอาละวาดโดยไม่สนความปลอดภัยของตัวเอง

 

“ครับ,เจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ประมวลผลคำสั่งของโทนี่ เเละ เริ่มทำการตามคำสั่งที่วางไว้อย่างเเรก เขาได้ขับเคลื่อนชุดเกราะไอรอนแมนทั้งหมดเเยกจากกัน

 

!

 

ปั้ง!

 

ชุดเกราะไอรอนแมนเกือบร้อยตัวได้พุ่งเข้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ ของปราสาทโบราณ ก่อนที่จะเปิดฉากโจมตีด้วยอาวุธปืนใหญ่พลังงานเเละอาวุธเลเซอร์ ภายใต้การโจมตีของกองทัพไอรอนแมน สิ่งปลูกสร้างจำนวนมากล้วนถูกทำลายลง

 

“J.A.R.V.I.S สเเกนหาทางเข้าพบหรือไม่? พวกเราต้องรีบเข้าไปข้างในนั้น!”เมื่อบินวนรอบ ๆ ปราสาทเเละไม่พบทางเข้า โทนี่ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S.

 

“ด้านล่างขวาห่างออกไป 300 เมตร สถานที่เเห่งนั้นคือจุดทางเข้า!”J.A.R.V.I.S เริ่มสเเกนเส้นทางเข้าสู่ปราสาท

 

“ดี,ไปกัน!”โทนี่ รีบพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

 

ใน๘ระเดียวกัน J.A.R.V.I.S ก็ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนตัว อื่น ๆ เพื่อเข้าไปยังทางเข้าปราสาท

 

ฟืด!

 

เปรี้ยง!

 

 

อย่างไรก็ตามขณะที่โทนี่กำลังพุ่งไปยังทางเข้าปราสาทลำเเสงโปร่งใสก็พุ่งออกมาจากตัวปราสาทพร้อมเปิดฉากจู่โจมชุดเกราะไอรอนแมน

 

ปั้ง!

 

“J.A.R.V.I.S! เกิดอะไรขึ้น?”โทนี่ ได้ถูกเเรงอัดกระเเทนจนกระเด็นหมุนเคว้งไปไกล เขาตะโกนถามJ.A.R.V.I.S.

 

“เจ้านายครับ,ดูเหมือนข้าศึกจะใช้อาวุธประเภทเเรงสั่นสะเทือน โชคดีที่ชุดเกราะไอรอนแมนได้อัพเกรดการป้องกันคลื่นเเรงสั่นสะเทือนดังนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบความเสียหายใด ๆ !”เผชิญหน้ากับคำถามของ โทนี่ J.A.R.V.I.S กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

 

ดูเหมือนการเผชิญหน้ากับกองทัพไอรอนแมนจำนวนมาก ฐานไฮดร้าเเห่งนี้ไม่ลังเลที่จะเปิดใช้อาวุธไฮเทคของพวกเขา เเต่ดูเหมือนพวกเขาจะโชคร้ายที่การโจมตีของพวกเขาไม่สามารถทำอันตรายชุดเกราะไอรอนแมนได้ เพราะก่อนหน้านี้ โทนี่ ได้อัพเกรดชุดเกราะไอรอนแมนของเขาให้มีความสามารถต้านทานได้เวทย์มนตร์เเต่ว่ามันยังไม่สำเร็จดังนั้นผลที่ได้คือต้านทานเเรงสั่นสะเทือนพิเศษ ดังนั้น ชุดเกราะไอรอนแมนตอนนี้สามารถป้องกันคลื่นเเรงสั่นสะเทือนจากอาวุธของพวกไฮดร้าได้

 

“นับว่าเราโชคดีจริง ๆ !”ได้ยินรายงานของ J.A.R.V.I.S โทนี่ รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก

 

เพราะเขาได้อัพเกรดระบบป้องกันเมื่อไม่นานมานี้ ไม่คาดคิดว่ามันจะสามารถป้องกันอาวุธไฮเทคของพวกองค์กรไฮดร้าได้ นับว่าชุดเกราะไอรอนแมนตอนนี้เเข็งเเกร่งขึ้นไปอีกขั้น

 

“ถ้าหากอาวุธนั่นทำอันตรายอะไรเราไม่ได้ฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องกลัวอีกต่อไป!”โทนี่ มั่นใจในชุดเกราะไอรอนแมนของเขา เนื่องเพราะอาวุธเเรงสั่นสะเทือนพวกนั้นไม่สามารถทำอันตรายเขาได้

 

ฟุ่บ!

 

 

ในขณะเดียวกัน เเจ็คสัน ที่กำลังจะทำการเเลกเปลี่ยนอาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็ก เขาเดิมทีต้องการใช้มัน เเต่ดูเหมือนเขาจะพบว่าสถานการณ์ภายนอกราวกับว่ากำลังเกิดเหตุปะทะกัน ทีมอัลฟ่าเองก็เเบ่งกองกำลังออกเป็นสองส่วน สองคนได้นำเเจ็คสันเเละนำทีมเหล่าทหารจำนวนมากหายไปในทางเดิน

 

ดูเหมือนสมาชิกที่เหลือของทีมอัลฟ่าจะขึ้นไปด้านบน เเจ็คสันมองไปที่การเคลื่อนไหวของคนเหล่านั้น เขารับรู้ได้ถึงความผิดปกติ ดังนั้นเขาจึงยังไม่จำเป็นต้องเเลกอาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็กเเละจบไปพร้อมกับฐานไฮดร้าเเห่งนี้ เเต่เขาจะเตรียมความพร้อมเเละรอดูสถานการณ์ต่อไป

 

ในขณะที่ทีมอัลฟ่าพาเเจ็คสันเดินไปที่ทางเดิน เขาได้ยินเหล่าทหารพูดคุยกัน เเละดูเหมือนการคาดเดาของเขาจะถูกต้อง

 

“ดูเหมือน S.H.I.E.L.D. จะพบฐานลับไฮดร้าเเห่งนี้เเล้ว เเละทำการเปิดการโจมตี?”เเจ็คสันครุ่นคิดประเด็นของมูลนี้อีกอย่าง

 

เพียงเเต่สิ่งที่เเจ็คสันกังวลก็คือ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ทั้งสองคนนี้ เป็นตัวปัญหาสำหรับ S.H.I.E.L.D. หาก S.H.I.E.L.D. ต้องเจอกับพวกเขาเเน่นอนว่าพวกเขาก็ควรลำบากมากขึ้นในการทำลายฐานไฮดร้าเเห่งนี้ เเต่พอคิดอีกเหตุผลเเจ็คสันคิดว่ามันเเปลก ๆ สถานการณ์ภายนอกดูรุนเเรงเกินกว่าที่พวกไฮดร้าจะนิ่งเฉย ทั้งยังสั่งอพยพนักวิจัยเเละบุคคลากรที่สำคัญจำนวนมากหลบหนีออกไป

 

ปั้ง

 

ปั้ง!

 

ในระหว่างที่เเจ็คสันคาดเดา ดูเหมือนเขาจะเริ่มได้ยิงเสียงสั่นสะเทือนเเละเสียงระเบิดดังมากจากข้างนอก

 

“ดูเหมือนฐานไฮดร้าเเห่งนี้กำลังถูกโจมตี ! นี่เป็นโอกาสหลบหนีของฉัน เเต่ตอนนี้ ฉันถูกควบคุมโดยสนามพลังประหลาดนี่ ฉันไม่สามารถดิ้นหลุดได้”ได้ยินเสียงระเบิดจากด้านนอก เเจ็คสัน รู้สึกตื่นเต้นเเต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกท้อเเท้

 

ปั้ง!

 

ระหว่างที่ทีมอัลฟ่าสองคนกำลังคุมตัวเเจ็คสันไปในระบบจิตใจของเเจ้คสันก็สว่างขึ้นมันเป็นตำเเหน่งของเเท่นบูชาฟื้นคืนชีพ รังสีประหลาดได้สะท้อนในใจของเเจ็คสัน

 

“หืม?เกิดอะไรขึ้น?”เห็นร้านค้าในระบบส่องสว่างขึ้นเเจ็คสันรู้สึกตกใจ

 

ทันทีที่เขาตรวจสอบมัน ในร้านค้าของระบบก็ปรากฏเเสงสว่างสดใส เเจ็คสันจ้องพินิจไปที่มัน

 

“นี่คือ ? อุปกรณ์ทลายสนามพลัง?”เเจ็คสันจ้องมองไปที่มันเเละกล่าวอย่างตื่นเต้น

 

“ระบบ นี่ คุณกำลังช่วยเหลือฉันอยู่?”หลังจากพิจารณาว่าของชิ้นนี้สามารถช่วยเหลือตัวเองออกจากสถานการณ์ที่ยากลำบากได้ เเจ็คสันตะโกนจ้องมองไปที่เเท่นบูชาฟื้นคืนชีพ เพียงเเต่เสียงของเขากลับไม่ได้รับการตอบกลับมันได้กลายเป็นนิ่งเงียบอีกครั้ง

ฟุ่บ!

 

ปั้ง

 

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงฐานใต้ดินของไฮดร้ากลายเป็นหลุมฝังศพขนาดใหญ่นับไม่ถ้วน พื้นที่จัตุรัสเเห่งนี้เต็มไปด้วยทหารที่เสียชีวิตจำนวนมาก

 

ปั้ง!

 

การโจมตีของระเบิดปืนใหญ่ไฟได้เขย่าสั่นพื้นที่จนวอดวายไปหลายส่วนเสียงปืนในพื้นที่ได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ส่วนการโจมตีของทีมอัลฟ่านั้นเเจ็คสันได้พยายามหลบเลี่ยงการโจมตีเพราะทีมอัลฟ่านั้นถือว่าเป็นวิกฤติที่รุนเเรงที่สุดของเเจ็คสันในตอนนี้

 

ฟุ่บ!

 

“ฉันเริ่มจะต่อต้านไม่ไหวเเล้ว,ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ต่อไป ฉันคงไม่อาจรอดชีวิตออกจากที่นี่ หากระบบยังอยู่ที่นี่บางทีเขาอาจจะมีวิธีที่จะช่วยฉันได้!”

 

ส่วน ทอม ที่ถูก เเจ็คสันแบกก่อนหน้านี้ เขาได้วางทอมลง เพราะไม่งั้นทอมก็ทำได้เพียงเเต่ทำหน้าที่เป็นโล่ห์ให้เขาเพียงเท่านั้น โชคดีที่นายพลรีสไม่ได้คิดจะจัดการทอมเขาได้ให้คนเข้าไปควบคุมทอมเพียงเท่านั้น

 

ปั้ง!

 

เผชิญหน้ากับทีมอัลฟ่า อาวุธสนามพลังของเเจ็คสัน ได้ถูกพลังงานประหลาดสีเงินจากอาวุธไฮเทค ดูดกลืนไปซึ่งมันไม่ได้ทำความเสียหายต่อพวกนั้น

 

“นี่มันเเย่มาก!”เเจ็คสันเริ่มรู้สึกว่าพละกำลังของเขาเริ่มบั่นทอนลงไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่ไม่นานจะต่อสู้ยืดเยื้อได้นาน

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่สามารถจัดการกับสนามพลังระเบิดปืนใหญ่ไฟของเเจ็คสันได้คนเหล่านั้นก็พยายามปิดล้มเเจ็คสันจะทั่วทุกทิศทางโดยไม่ต้องการปล่อยโอกาสเหล่านี้ให้เสียเปล่า

 

“รีบ ๆ จัดการมันเร็วเข้า!”นายพลรีสที่รออยู่นานได้ตะโกนขึ้น เขาได้สูญเสียทหารไปจำนวนมากภายใต้การจับกุมเเจ็คสันนี่นับเป็นความสูญเสียอย่างเเท้จริง

 

“ในที่สุดมันก็ใกล้จะจบเเล้ว!”ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ ที่อยู่ด้านข้างถอนหายใจออกมา

 

“อืม,หลังจากที่จับกุมตัวเขาได้เราจะถ่ายอุปกรณ์ของเขาทั้งหมด อุปกรณ์ของเขาเป็นอุปกรณ์นาโนเทคโนโลยีนับว่าเป็นอุปกรณ์ระดับสูงอย่างเเท้จริง นอกจากนี้ ฉันจะให้ ยาระงับประสาทขั้นรุนเเรงกับเขา เพื่อป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ที่จะเกิดขึ้นอีก”นายพลรีสกล่าวออกมา

 

“เราจะต้องล้างสมองเขาให้กลายเป็นลูกน้องของเรา ด้วยความเเข็งเเกร่งที่เขาเเสดงให้เราเห็นในวันนี้หากการทดลองประสบความสำเร็จ เขาจะเเข็งเเกร่งมากกว่าวินเทอร์โซลเยอร์อย่างน้อย 10 เท่า”ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ กล่าวสนับสนุนด้วย

 

“เจฟเฟอร์รี่ คราวนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน เด็กคนนี้ฉันจะจัดการเอง”ได้ยินคำพูดของเจฟเฟอร์รี่ นายพลรีส กล่าวพูดเบา ๆ เเน่นอนว่า การทดลองโปรเจควินเทอร์โซลเยอร์นั้นสำคัญ เเละ เจฟเฟอร์รี่ มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านนั้น

 

“เเน่นอนฉันจะยกให้นายจัดการ!”ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ กล่าวตอบ

 

จากนั้นสมาชิกอาวุโสขององค์กรไฮดร้าทั้งสองคนก็จ้องมองไปที่ เเจ็คสัน ที่กำลังถูกทีมอัลฟ่า เข้าทำการจับกุม

 

“อย่าได้บีบบังคับฉัน!”เห็นสนามพลังที่ทีมอัลฟ่าปลดปล่อยออกมาเพื่อจับกุมเขา เเจ็คสัน ตะโกนออกมาอย่างรุนเเรง

 

ในเวลานี้เเจ็คสันได้เเยกส่วนสติเข้าไปในระบบการค้าในจิตใจของเขาเพื่อที่จะเเลกเปลี่ยนระเบิดอาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็ก

 

หากมันจนมุมจนถึงที่สุดเขาจะทำให้ที่นี่พินาศไปพร้อมกับเขา

 

ภายใต้การบังคับของสนามพลังทีมอัลฟ่าสองคนได้เดินไปที่ด้านหลังของเเจ็คสันพร้อมกับหยิบกุญเเจโลหะพิเศษได้ใส่ไปที่เเขนเเละขาของเขา

 

ติ๊ด!

 

“ท่านนายพล! มีวัตถุต้องสงสัยบินมาด้วยความเร็วสูง นั่นมัน+.. ไอรอนแมน กองทัพชุดเกราะไอรอนแมน!!”เห็นนายพลรีสเเละผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่จ้องมองไปที่หน้าจอควบคุม ผู้ที่รับผิดชอบในการเฝ้าระวังพื้นที่รอบฐานกล่าวรายงานทันที

 

“อะไรนะ!?”ได้ยินเสียงรายงาน นายพลรีสไม่อาจทนนิ่งเฉยได้ เขารีบกลับไปยังตำเเหน่งห้องควบคุมอย่างเร่งรีบ

 

ติ๊ด ติ๊ด!

 

ตอนนี้บนหน้าจอเรดาห์ของพวกเขาปรากฏจุดสีเเดงจำนวนมาก เเละจุดสีเเดงนี้ ก็คือกองทัพชุดเกราะไอรอนแมน จากการคำนวณคร่าวๆ จุดสีเเดงเหล่านั้นมีมากกว่า 100 จุด เพื่อช่วยเหลือเเจ็คสัน โทนี่ ได้ยกกองกำลังทั้งหมดของตัวเองมา

 

“เวรเอ้ย,สมควรตาย พวกมันพบเราได้อย่างไร? เปิดใช้ระบบป้องกันภัยระดับสูงสุด เปิดระบบอาวุธทุกอย่างเตรียมพร้อมรับมือ จัดการสอยทัพมันให้ร่วง “เห็นกองทัพชุดเกราะไอรอนแมนมากกว่า 100 ตัว นายพลรีสออกคำสั่งเด็ดขาด

 

ชุดเกราะไอรอนแมนที่มีเทคโนโลยีระดับสูง กว่า 100 ตัว เเน่นอนว่าฐานลับเเห่งนี้ไม่สามารถต้านทานได้

 

อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของโทนี่อยู่นอกเหนือจากการคาดคำนวณของพวกเขาในตอนนี้ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีเเผนรับมือ

 

“เปลี่ยนเเปลงเเผนเชิงกลยุทธ์ ย้ายข้อมูลทดลองของเราเเละบุคลากรทางการวิจัยทั้งหมดให้หนีออกไปก่อน!”หลังจากออกคำสั่งป้องกันนายพลรีสได้เปลี่ยนกลยุทธ์อีกครั้ง

 

ไม่ว่าจะสามารถต้านทานการโจมตีของกองทัพไอรอนแมนได้หรือไม่ฐานเเห่งนี้ก็คงเลี่ยงถูกทำลายไม่ได้

 

“ทีมอัลฟ่า จัดการ นำเเจ็คสัน มารวมตัวที่จุดรวมพล นำกองกำลังทหารไปสกัดกั้นไอรอนแมน วันนี้ฉันจะเเสดงให้โทนี่รู้ว่าชุดเกราะไอรอนแมนของมันใช่ว่าจะสามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง”เห็นกองทัพไอรอนแมนที่พุ่งมาที่ฐานเเห่งนี้ด้วยความเร็วสูง คำสั่งได้ถูกตีออกมา

 

ติ๊ดด

 

“ระบบประมวลผลการโจมตีระยะไกลทำงาน!”เมื่อเห็นกองทัพไอรอนแมนพุ่งเข้ามาใกล้ห่างเพียง 1 กิโล ระบบโจมตีระยะไกลได้ถูกทำงานทันที

 

ปั้ง ปั้ง!

 

อาวุธรอบฐานไฮดร้าทั้งหมดได้ถูกเปิดใช้ออกมา รอบ ๆ ปราสาท ปรากฏกระบอกปืนใหญ่เล็งไปยังทิศทางของชุดเกราะไอรอนแมน ไม่นานลำเเสงสีฟ้าหลาย 10 เส้น ก็ถูกยิงไปยังกองทัพชุดเกราะไอรอนแมน

 

ปั้ง!

ปั้ง!

 

ในฐานลับไฮดร้ารัฐนิวเจอร์ซีย์ เเจ็คสันได้หลบหนี โดยใช้ ระเบิดปืนใหญ่ไฟอีกครั้งเพื่อสกัดกั้นทหารที่ดักอยู่ด้านหน้าเนื่องจากเขาได้ใช้งานมันหลายครั้งประสิทธิภาพที่ได้ผลหลังจากใช้มันเรื่อย ๆ ภายในฐานเเห่งนี้ก็ลดลง

 

“เวรเอ้ย,ฐานเเห่งนี้มันจะใหญ่ไปไหน,ฉันวิ่งมาเป็นระยะเวลานานก็ยังไม่เจอทางออกสักที “เเจ็คสันได้วิ่งหลบหนีอย่างต่อเนื่อง

 

เเจ็คสันได้หลบหนีเพราะเขากลัวว่าฤทธิ์ของยาไททันหมายเลข 2 จะหมดลง ตอนนี้ประสิทธิภาพของตายาเองก็เสื่อมทอนลงเรื่อย ๆ เพียงเเต่ว่าทหารที่ไล่ตามมาก็ยังจุกจิกไล่ตามเขาไม่เลิก มันทำให้เเจ็คสันรู้สึกลำบากใจ

 

ดังนั้นเเจ็คสันจึงได้เลี่ยงทางที่ไปหาดาบเก้าอสนีของเขา เพราะเส้นทางนั้นได้ป้องกันเเน่นหนากว่าทิศทางอื่น เเจ็คสันไม่ใช่คนโง่ ดังนั้นเขาจะต้องไม่รีบร้อน

 

“ฉันไม่รู้ว่าผลของยาไททันหมาย 2 จะอยู่ได้อีกนานเเค่ไหน ฉันจะต้องรีบหลบหนีออกจากที่นี่!”ที่ด้านหน้าของเขาปรากฏทางเเยกที่ซ้อนทับกันหลายทางเเจ็คสันมองไปที่ทางเหล่านั้นอย่างเศร้าหมอง

 

ในหัวของเเจ็คสันปรากฏความคิดที่ทิ้งทอมไปหากเขาทำเช่นนี้โอกาสที่เขาจะสามารถหลบหนีออกจากที่นี่ได้จะมีมากขึ้น เเต่เเจ็คสันจะไม่ทำเช่นนั้นอย่างเเน่นอน เขาเชื่อมั่นว่าไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องหลบหนีออกไปพร้อมกับทอม

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากผ่านทางเเยกนั้นมาเเจ็คสันไม่ได้พบเจอกับการสกัดกั้นของพวกทหาร เพียงเเต่เเจ็คสันไม่คิดว่ามันจะง่ายดายปานนั้นเพราะเเม้เขาจะไม่ได้เผชิญหน้ากับทหารเขาก็ยังคงไม่สามารถหาทางหลบหนีออกจากที่นี่ได้

 

ตึก ตึก!

 

พอวิ่งไปได้สักพักนึงเเจ็คสันก็สัมผัสพื้นที่กับจัตุรัสใต้ดินที่เหมือนพื้นที่ขนาดใหญ่จำนวนมาก เขาได้ยินเสียงดังของเครื่องดนตรีดังออกมาเเต่ไม่ได้เห็นเครื่องเล่น เเจ็คสันได้วิ่งไปรอบ ๆ จนค่อนข้างสัมผัสได้ว่าเส้นทางจัตถุรัสนี้เเท้จริงเเล้วเหมือนกับศูนย์กลาง

 

“นี่มัน…”พอเห็นพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยเเจ็คสันต้องการที่จะกลับไปยังทิศทางเดิมอีกครั้ง

 

ปั้ง

 

เพียงเเต่ประตูโลหะที่ด้านหลังของเขาก็ถูกปิดกั้นลงอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นนอกเหนือจากที่ด้านหลังของเขาที่ถูกปิดกั้นพื้นที่จตุรัสเเห่งนี้ก็ถูกบล็อคด้วยกองกำลังทหารจำนวนมาก เเม้เเต่ ทีมอัลฟ่า ที่ไล่ตามเเจ็คสันมาเมื่อไม่นานนี้ ก็เดินออกมาจากเบื้องหน้า

 

เเจ็คสันจ้องมองไปที่เหล่าทหารจำนวนมากใบหน้าของเขากลายเป็นรุนเเรงมากขึ้นในมือของเขากำระเบิดปืนใหญ่ไฟเอาไว้เเน่น

 

~ ~ ~

 

ที่ด้านหน้าของเเจ็คสันนอกจากกองกำลังทหารก็ปรากฏหน้าจอสีฟ้าขึ้น มันเป็นชายในเครื่องแบบทหาร หรือก็คือ นายพลรีสบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดในฐานนี้

 

“ดีมาก! ดีมาก!”นายพลรีสยิ้มออกมา ใบหน้าของเผยเเววเย็นชา

 

“เเจ็คสัน หลิน,เด็กหนุ่มจากนิวยอร์ก ควีนส์ ไม่คิดเลยว่าเธอจะเเข็งเเกร่งขนาดนี้ เเม้เเต่ชุดเกราะเเละอาวุธของเธอ ก็เป็นสิ่งของระดับสูงทั้งนั้น”เเจ็คสันได้ถูกล้อมอย่างสมบูรณ์

 

ตอนนี้ ทั้งนายพลรีส เเละ ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ ต่างก็รู้ข้อมูลของ เเจ็คสัน ซึ่งเเม้เเต่ S.H.I.E.L.D. ยังไม่รู้ เเจ็คสัน หลิน คือ มิราจไนท์ เด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์คนนี้ เเท้จริงเเล้ว คือฮีโร่ที่ลึกลับคนนั้น ดังนั้นพวกไฮดร้าจึงต้องการล้วงลึกความลับของเเจ็คสันเพื่อล้วงข้อมูลความเเข็งเเกร่งที่เปลี่ยนเเปลงให้เเจ็คสันมายืนถึงจุดนี้

 

ได้ยินคนจากหน้าจอเปิดเผยสถานะของตัวเอง เเจ็คสัน รู้สึกหดหู่อย่างมาก ดูเหมือนพวกไฮดร้าจะรู้เเล้วว่าเขาคือใคร นอกจากนี้ เเจ็คสันไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป เเต่เขาจะไม่ยอมให้ พวกไฮดร้ามาทำร้ายคนของเขาหรือเเม้เเต่จะยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของเขา เพราะงี้ ไม่ว่าอย่างไร เขาก็จะต้องกำจัดพวกไฮดร้าออกไปให้ได้

 

ทันใดนั้นหน้ากากของเเจ็คสันก็หายไปโดยอัตโนมัติ”เเล้วอย่างไร?”

 

เเม้จะตกเป็นรองพวกไฮดร้า เเต่เเจ็คสันไม่คิดจะยอมเเพ้ เพราะเขายังมีระบบอยู่ เพราะก่อนหน้านี้ได้รับคำแนนมามากจำนวนนึงอีกทั้งยังได้เสียสละไปบางส่วนถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงเหลือคะแนนมากพอที่จะใช้เป็นไพ่ตาย หากมันเพื่อปกป้องความลับเเละครอบครัวของเขา เขาไม่ลังเลที่จะทำเช่นนั้น

 

“ฉันอยากให้เธอยอมจำนนซะดีดี!”นายพลรีสกล่าวเตือนเป็นครั้งสุดท้าย

 

“คิดว่าฉันจะยอม?”

 

ฟุ่บ

 

ปั้ง
เเจ็คสันได้หยิบระเบิดปืนใหญ่ไฟออกมาอีกครั้งคราวนี้เขาได้ปามันไปที่ด้านหน้าซึ่งพื้นที่ด้านหน้าต่างก็ถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว การระเบิดของระเบิดปืนใหญ่ไฟได้เผาทำลายจอเเสงนั่น

 

“จับมันให้กับฉัน!”หลังจากนั้นไม่นานจอเเสงก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง นายพลรีส กล่าวออกคำสั่ง

 

เนื่องจากเเจ็คสันไม่เต็มใจยอมเเพ้นั่นก็หมายความว่าเขาจะต้องใช้กำลังเข้าจับกุม องค์กรไฮดร้านั้นเป็นองค์กรที่ชั่วร้ายที่ก่อตั้งขึ้นมานาน การที่ถูกเด็กคนนึงปั่นหัวเล่นทำให้ นายพลรีส รู้สึกไม่สบอารมณ์

 

ฟุ่บ!

 

เหล่าทหาร เเละ ทีมอัลฟ่า ต่างก็ไม่ลังเลที่จะหันปืนเเละพุ่งเข้าใส่เเจ็คสันที่กำลังหลบเลี่ยง ไม่ว่าอย่างไร ผลของยาไททันหมายเลข 2 ของเเจ็คสัน ก็ไม่น่าจะอยู่ได้นานนัก

 

“พวกมันคิดจะบีบฉันให้จนมุมจริง ๆ สินะ!”

สไปเดอร์แมน,ไอรอนแมน,เดดพูล คู่หู ไอซ์แมน เเละ วาเนสซ่า นอกเหนือจากคนเหล่านี้ ในสถานที่เเห่งนึงห่างออกไปไม่ไกลก็มีบุคคลสองคนยืนอยู่ พวกเขาคือ พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมด ไต้เหวิ่น

 

“ไต้เหวิ่น ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้ตระหนักถึงการที่พวกเราสอดมือเข้าไปช่วยเลยเเม้เเต่น้อย”พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวพูดขึ้น ก่อนหน้านี้ พวกเขาได้สร้างโลกมิติกระจกขึ้นมาไม่งั้น J.A.R.V.I.S เเละ ปีเตอร์ คงจะสามารถตรวจสอบตำเเหน่งของพวกเขาพบ

 

“อืม,เเม้ว่าคนเหล่านี้จะมีความเเข็งเเกร่งที่ไม่ธรรมดา เเต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่มนุษย์ทำได้”ได้ยินคำพูดของ พ่อมด รุ่ยเคอ พ่อมด ไต้เหวิ่น กล่าวตอบ

 

“โชคดีที่เรานำระเบิดนั่นออกพอดีไม่งั้นพวกนั้นอาจถูกฆ่าตายเพราะแรงระเบิดในชั่วพริบตา”ได้ยินคำพูดของพ่อมดไต้เหวิ่น พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวตอบ เป็นพวกเขาที่นำระเบิดของฟรานซิสออกทำให้ไม่ระเบิด

 

“ดูเหมือนเราจะต้องขอให้พ่อมดคนอื่นช่วยเรามองหา มิราจไนท์ เเล้วล่ะ เราไม่รู้ว่าเเท้จริงเเล้วพวกเขามีเรื่องอะไรกัน เเต่เราจะช่วยคนเหล่านี้มองหามิราจไนท์ด้วยเหมือนกัน”พ่อมดไต้เหวิ่น กล่าวตอบ

 

“อืม,ดูเหมือนพวกเราจะต้องขยันมากขึ้นเเล้วล่ะไม่งั้นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา คงจะไม่สามารถบรรลุผลเป็นเเน่!”

 

 

“คุณ สตาร์ก คุณคิดว่า ศาสตราจารย์เอ็กซ์ จะสามารถช่วยเราหาตัวมิราจไนท์ได้ไหม?”เพราะโทนี่ รู้สถานะของ ปีเตอร์ เเละ ไอรอนแมนก็เป็นหนึ่งในคนที่สนิทที่สุด ดังนั้นหลังจากไอซ์แมนออกไป ปีเตอร์ จึงกล่าวกระซิบกับโทนี่

 

“ก็อาจจะ!”โทนี่ กล่าวตอบ

 

“เกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนคุณจะรู้สึกสงสัยบางอย่าง?”ปีเตอร์กล่าวถาม

 

“อืม,ฉันคิดว่าการเปลี่ยนเเปลงของฟรานซิสค่อนข้างน่าเเปลกข้างในร่างกายของเขาย่อมมีชิ้นส่วนระเบิดอยู่อย่างเเน่นอน!”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ โทนี่ กล่าวตอบเล็กน้อย

 

“จากผลการคำนวณของ J.A.R.V.I.S ไม่ใช่ว่าระเบิดด้านไปเเล้วไม่ใช่หรอ ?”ปีเตอร์รู้สึกสงสัย เพราะระเบิดภายในร่างกายของ ฟรานซิส ไม่ได้ถูกระเบิดขึ้นทั้งยังถูกเเช่เเข็งโดยไอซ์แมน

 

“ก็อาจจะเป็นไปได้ ช่างมันเถอะ!”โทนี่ ราวกับไม่ได้สนใจเรื่องนี้ต่อ

 

ที่จริง J.A.R.V.I.S ได้ทำการตรวจสอบระเบิดของฟรานซิส เเละ พบว่าระเบิดด้าน เพียงเเต่ว่า หลังจากตรวจสอบดูเเละวิเคราะห์ผลใหม่เขาพบกับพลังงานความผันผวนลึกลับบางอย่าง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่โทนี่รู้สึกสงสัยเมื่อครู่นี้ พลังงานผันผวนนี้เเท้จริงเเล้วคือเวทมนตร์ที่ดักเอาตัวระเบิดของฟรานซิสออก

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากนั้นไม่นาน ประตูมิติก็ถูกเปิดที่หน้าของ พวก โทนี่ อีกครั้ง ไอซ์แมน ได้นำตัวฟรานซิสเดินออกมาจากข้างใน

 

“ได้ข้อมูลอะไรบ้างไหม?”เห็นไอซ์แมนกลับมา ปีเตอร์กล่าวถามอย่างเร่งรีบ

 

“ไฮดร้า!”จ้องมองไปที่ฟรานซิสที่หมดสติ ไอซ์แมน กล่าวพูดขึ้น

 

ภายใต้การสเเกนทางจิตวิญญาณอันทรงพลังของ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เขาได้ค้นพบความทรงจำของฟรานซิส เเละ ควบคุมมัน ดูเหมือนฟรานซิสจะรับหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการทดลองการเปลี่ยนมิวแทนท์ เเละได้มีองค์กรไฮดร้าสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง

 

“ไฮดร้า?”ได้ยินคำพูดนี้ออกมา ปีเตอร์ เปิดปากขึ้นอย่างไม่เชื่อ

 

ก่อนหน้านี้ S.H.I.E.L.D. ได้เผชิญหน้ากับ ไฮดร้า เเละตอนนี้ทั่วทั้งโลกก็รู้จักอิทธิพลนี้ ปีเตอร์ รู้ดีว่าอิทธิพลนี้เเข็งเเกร่งมากเพียงใด

 

“ไม่คาดคิดว่าจะเป็นพวก ไฮดร้า!”

 

“ดูเหมือนเเท้จริงเเล้วนี่เป็นหนึ่งในความผิดของเรา”หลังจากปีเตอร์ร้องตะโกนก็ปรากฏเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น

 

ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยปีเตอร์หันหลังกลับไป เขาจ้องมองไปที่รูปลักษณ์ที่คุ้นเคยของคน ๆ นี้ ด้วยความตกใจ สำหรับโทนี่เขาไม่ได้เเสดงออกมากมาย เพราะเขารู้ว่าคนที่มาถึงนั้นเป็นใคร

 

“กัปตันอเมริกา!”ปีเตอร์ตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ในขั้นต้น เกี่ยวกับข่าวการรายงานการฟื้นคืนชีพของ กัปตันอเมริกา ทางS.H.I.E.L.D. ได้ออกมาโฆษณาชวนเชื่ออย่างเต็มรูปแบบโดยใช้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลสหรัฐ ตอนนี้ทั่วทั้งโลกได้รับรู้ข่าวการกลับมาของกัปตันอเมริกา เเละ เทิดทูนวีรบุรุษของโลกคนนี้เป็นอย่างมากเเม้เเต่ปีเตอร์ เเละไอซ์แมน ที่เห็นการปรากฏตัวของกัปตันอเมริกา ก็ยังรู้สึกเนื้อเต้นไปตามกัน

!
“ได้ที่อยู่ของมิราจไนท์หรือยัง?”หลังจากนั้นสองนาที สไปเดอร์แมนก็มาถึง ด้านหน้าของ โทนี่
“ไม่,ดูเหมือนเพื่อนคนนี้จะไม่รู้อะไรเลย”การเเสดงของโทนี่ไม่ค่อยดีนักไอซ์แมนก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
“เเล้วพวกเราจะทำอย่างไร?”ได้ยินคำตอบของโทนี่ ปีเตอร์รู้สึกกังวล
ตอนนี้เเจ็คสันถูกลักพาตัวไปเป็นระยะเวลานาน เขาไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเเจ็คสันบ้าง นอกจากนี้ ฟรานซิสเป็นเบาะเเสเดียวของพวกเขา เเต่ตอนนี้ เบาะเเสที่ว่ากลับไม่มีข้อมูลพวกเขาไม่รู้จะหาตัวเเจ็คสันได้อย่างไร
“ฉันจะพาเขากลับไปที่โรงเรียน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ บางทีอาจจะได้ข้อมูลอะไรบ้างเขาสามารถอ่านใจของคนอื่นได้”เกี่ยวกับตัวตนของฟรานซิส ไอซ์แมนวางเเผนที่จะล้วงข้อมูลจากเขา
“ ศาสตราจารย์เอ็กซ์?”ได้ยินคำพูดของไอซ์แมน ปีเตอร์ รู้สึกตกใจ
ศาสตราจารย์เอ็กซ์ นี่เป็นชื่อที่หลายคนจดจำเมื่อ 10 ปีที่เเล้ว มันเป็นเรื่องระหว่างสงครามมิวแทนท์ เขาเป็นผู้นำของพวกมิวแทนท์ที่ปราถนาจะอยู่ร่วมกับมนุษย์ธรรมดาอย่างสงบสุข
“อืม,ในความทรงจำของฟรานซิสบางทีอาจจะมีข้อมูลอิทธิพลที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังของเขา ดังนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ สามารถที่จะมองเห็นข้อมูลเหล่านั้นได้ สบายใจเถอะ ฉันรับรองว่าเราจะต้องรู้อะไรบ้างเเน่นอน”เห็นหลายคนไม่เชื่อคำพูดของเขา ไอซ์แมน รับประกัน
“ ฉันเชื่อว่าศาสตราจารย์ X!” ปีเตอร์ กล่าวพูดเป็นคนเเรก
“อืม,เอาตามที่คุณว่าเถอะ”โทนี่ รู้สึกเป็นห่วงเเจ็คสัน ตอนนี้ เขาไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน
“ไม่ว่าอย่างไร ฟรานซิสจะต้องตกตายในมือของฉันเท่านั้น!”ไม่นาน เวด ก็เดินเข้ามาพร้อมกับตะโกนขึ้น
เเม้ว่าทุกคนกำลังจะถกเถียงเรื่องการค้นข้อมูล เเต่ เวดก็ยังไม่ได้เข้าไปห้าม เขาได้ไปช่วยเหลือ วาเนสซ่า ก่อนที่จะยืนยันคำเดิมของเขา
“อืม,ฉันจะกลับมาอีกสักซักพัก!”ได้ยินคำพูดของ เดดพูล ไอซ์แมน พยักหน้าตอบกลับ
จากนั้นฟรานซิสก็ได้ถูกควบคุมตัวโดย ไอซ์แมน,เขาได้ให้ บลิงก์ สร้างประตูมิติขึ้น
ฟุ่บ!
“ตรวจสอบสัญญาณของภัยคุกคาม!”ในขณะที่ไอซ์แมนกำลังจะพาฟรานซิสจากไป โทนี่ ก็กล่าวสั่ง J.A.R.V.I.S ให้ค้นหาสัญญาณ
จากนั้นชุดเกราะไอรอนแมนทั้งหมดก็สเเกนไปที่เหล่าลูกน้องของฟรานซิสโดยเฉพาะเเม่สาวอกโต เสียงเเจ้งเตือนของ J.A.R.V.I.S ได้ดังขึ้น ดูเหมือนว่า ร่างของ ฟรานซิส กับ เเม่สาวอกโต จะถูกฝังระเบิดไว้มันได้มีสัญญาณเเจ้งเตือนดังอย่างรุนเเรง
“นี่!…”เห็นสัญญาณเเจ้งเตือนดังขึ้นจากชุดเกราะของไอรอนแมน ฟรานซิส รู้สึกหมดหวัง เห็นได้ชัดว่าเขายินยอมพร้อมตายไปกับระเบิดนี้
ฟุ่บ!
ปั้ง!
เพียงเเต่ชั้นนำเเข็งได้ถูกก่อร่างขึ้นห่อร่างของฟรานซิส ไอซ์แมน ได้ปกป้องไม่ให้ร่างกายของฟรานซิสระเบิดโดนพวกเขา
“พวกมัน ฝังระเบิดเอาไว้ ทำไมร่างของฟรานซิสถึงไม่ระเบิด?”มองไปที่เเม่สาวอกโต เเละ ฟรานซิสที่ไม่ตอบสนอง เดดพูล กล่าวถาม
เดดพูล เพียงเเค่สงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้น เขาจึงต้องการให้ J.A.R.V.I.S ช่วยตรวจสอบ
“ร่างของสมุนคู่ใจฟรานซิสได้ระเบิดเพียงเท่านั้น ร่างของฟรานซิส ได้ถูกป้องกันโดย ไอซ์แมน ทำให้เขาไม่ถูกระเบิด บางทีระเบิดนั่นอาจถูกจุดหลอมเหลวทำให้กลไกไม่ทำงาน”J.A.R.V.I.S ตรวจสอบ เเละ กล่าวรายงาน
“โชคดีที่พวกเราไหวตัวทัน!”โชคดีที่พวกเขาไหวตัวทันไม่งั้นร่างของฟรานซิสคงระเบิดพวกเขาคงไม่ได้รับอะไรกลับไป ดังนั้นไอซ์แมนจึงยิ้มให้ กับ ฟรานซิส ที่ถูกเเช่เเข็งอยู่
ฟรานซิสรู้สึกสิ้นหวังมากระเบิดที่ถูกฝังเอาไว้ไม่ทำงาน เพราะอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังของเขาต้องการกำจัดเเหล่งข้อมูลที่ล้มเหลวทุกคน ยิ่งทำงานพลาด ก็ยิ่งต้องถูกเก็บกวาด
“ตอนนี้ พวกเราขอตัวก่อน!”ประตูมิติได้ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง ไอซ์แมนได้กล่าวบอกลา
ฟุ่บ!
จากนั้นทั้งสามคนก็หายไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ โทนี่ ได้ทำการค้นหาทั่วทั้งเมืองเหมือนเดิม เขาได้เเพร่กระจายชุดเกราะไอรอนแมน เพื่อมองหาสัญญาณฉุกเฉิน
“เวด นั่นใช่คุณจริง ๆ งั้นหรอ?”หลังจากที่ ปีเตอร์ เเละ ไอรอนแมน จากไป วาเนสซ่าที่ถูกช่วยเหลือ เธอได้หลบอยู่ ใกล้ ๆ เเละเดินออกมา
“ผมอาจจะไม่ใช่ เวด ที่คุณรู้จัก”เผชิญหน้ากับเเฟนสาวที่ตัวเองกรัก เดดพูล ไม่กล้าหันหน้าไปมองเธอตรง ๆ
“ช่วยเปิดหน้ากากให้ฉันดูหน่อยได้ไหม? ฉันไม่เชื่อว่า เวด คนที่ฉันรัก จะทิ้งฉันไป เวด วิลสัน ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่คุณกับฉันพูดว่าเราจะเผชิญหน้ากับชีวิตเเละความตายด้วยกัน?”จ้องมองเวดที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับตัวเอง วาเนสซ่า พูดขึ้น
ได้ยินเสียงของวาเนสซ่า เดดพูล กลายเป็นชะงักทันที
วาเนสซ่าเองก็ไม่รู้ว่า เวด กำลังคิดอะไรอยู่ เพียงเเต่เวดได้หันมาโดยไม่ตอบสนองสิ่งใด วาเนสซ่า ได้เงื้อมมือช้า ๆ ขึ้นเปิดหน้ากากเดดพูล
“บางทีคุณอาจจะรับไม่ได้หลังจากที่ถอดหน้ากากของผม!”เมื่อวาเนสซ่าเปิดหน้ากากขึ้นไปบางส่วน เวด กล่าวเตือน
ฟุ่บ!
เพียงเเต่ วาเนสซ่า ไม่ได้สนใจ เธอเปิดหน้ากากทั้งหมดออก หลังจากนั้นก็ปรากฏหน้าตาที่เธอคุ้นเคย เพียงเเต่ใบหน้านั้นกลับเลวร้ายกว่าเดิม เหมือนใบหน้ที่ประสบอุบัติเหตุอย่างร้ายเเรง
ฟุ่บ!
วาเนสซ่าที่เห็นใบหน้าของเวด เเวบ เเรกเธอก็ตกใจ จากนั้นเเววตาเสียใจก็ปรากฏบนใบหน้าของวาเนสซ่า
“หน้าผมเป็นแบบนี้,เเล้วคุณยังจะรักผมอยู่ไหม?”

ปั้ง

 

ปืนใหญ่พลังงานได้ถูกยิงออกไปทั่วทุกทิศทางในโกดังเเห่งนี้ เสียงของลูกน้องฟรานซิสต่างร้องตะโกนออกมาอย่างโหยหวน

 

เดดพูล ที่ถูกสุมอยู่ในกองกระสุน เขาจ้องมองไปที่ ลูกน้องของฟรานซิสที่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม เเต่เขาไม่ได้มีความเวทนาหรือเมตตาคนเหล่านี้เพราะว่า พวกฟรานซิสได้จับเเฟนสาวของเขามา

 

เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาถูกโจมตีจนตกตาย ฟรานซิสจ้องมองไปที่ ด้านบน เขาเห็นชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวที่ลอยอยู่บนฟ้า

 

ฟุ่บ!

 

นอกเหนือจากชุดเกราะไอรอนแมนที่ร่อนลงมาเเล้ว ประตูมิติทันใดนั้นก็เปปิดขึ้น ไอซ์แมน เเละ บลิงก์ ได้เดินออกมาจากด้านใน

 

“จัดการมันซะ!”เห็นทีม X-Men ปรากฏตัวขึ้น ฟรานซิส สั่งสาวอกโตสมุนคู่ใจของเขาโจมตีทันที

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าไอซ์แมนเพียงโบกมือง่าย ๆ เล็กน้อย สาวอกโต ได้ถูกเเช่เเข็งอยู่เเกนกลาง ความเเข็งเเกร่งของพวกเขาทั้งสองคนต่างกันเกินไป

 

เห็นว่าสมุนคู่ใจของเขาถูกจัดการ ฟรานซิส ที่เห็นท่าไม่ดีต้องการหลบหนี เพียงเเต่ในขณะนั้นเองรีโมทในมือของฟรานซิสที่เป็นปุ่มเชื่อมกับหลอดทดลองของวาเนสซ่า ฟรานซิสก็ได้ยกมันขึ้นมา เขาตั้งใจจะใช้วาเนสซ่าเป็นตัวประกัน เเม้จะเป็นไอซ์แมน หากคิดจะทำร้ายเขาก็ต้องเป็นห่วงผู้บริสุทธิ์ก่อนเป็นอันดับเเรก

 

ฟรานซิสกำลังจะกดรีโมตคอนโทรลเพียงเเต่รีโมตของเขาได้ถูกไอซ์แมนเเช่เเข็งในพริบตา นอกจากนี้ไอรอนแมนยังพุ่งเข้าหาฟรานซิสด้วยความเร็วสูง

 

ฟุ่บ!

 

“มิราจไนท์อยู่ที่ไหน?”ชุดเกราะไอรอนแมน ยกร่างของฟรานซิส ลอยขึ้น โทนี่ ได้กล่าวถามออกมา

 

“มิราจไนท์? ฮ่าฮ่า ฉันกำจัดมันไปเเล้ว”ได้ยินคำถามของ โทนี่ ฟรานซิส จ้องมองไปที่ โทนี่ เเละ ยิ้มอย่างขมขื่นภายใต้ความคิดจำนวนมาก

 

“ฉันถามเเกว่ามิราจไนท์อยู่ที่ไหน!”นี่ไม่ใช่คำตอบที่โทนี่ต้องการได้ยิน เขายก ฟรานซิส สูงขึ้น

 

ความรู้สึกที่รุนเเรงของโทนี่ ได้เเสดงออกมาอย่างโกรธเคือง ไอซ์แมน ที่อยู่ด้านข้างกังวลว่า โทนี่ จะฆ่า ฟรานซิส

 

“ฉันรู้ว่า มิราจไนท์ อยู่ที่ไหน ไม่ใช่ว่าเเกควรจะทำดีกับฉัน เพื่อให้ได้ข้อมูลส่วนนี้หรอกหรอ?”เผชิญหน้ากับภัยคุกคามอย่างไอรอนแมน ฟรานซิส ตอบออกมา

 

ฟรานซิสไม่คิดเลยว่าวันนี้เขาจะต้องมาเจอกับตัวตนเหล่านี้เขาประมาทเกินไป เขาเป็นเพียง ลูกน้องขององค์กรไฮดร้าที่ทำหน้าที่ในการสร้างพวกมิวแทนท์ขึ้น เเน่นอนว่า ทางองค์กรไฮดร้าได้ส่งคนมาปกป้องเขาอย่างลับ ๆ เเต่เพราะเขามีปัญหากับเวด วิลสัน ทำให้เขาไม่สามารถทนอยู่เฉยได้เลยเร่งรีบออกมาเเก้เเค้น

 

ก่อนหน้าที่เขาไปหาเรื่องวีสเขาได้พบกับมิราจไนท์ในเวลาต่อมา หลังจากนั้นก็มีบุคคลทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้นเเละจัดการมิราจไนท์ ฟรานซิสรู้ได้ในทันทีว่าทั้งสองคนเป็นคนที่ไฮดร้าส่งมาปกป้องเขา

 

ดังนั้นฟรานซิสจึงมีความมั่นใจที่จะเเก้เเค้นเดดพูล เขาเชื่อว่าการกระทำของเขาจะได้รับการสนับสนุน เเต่เขากลับคิดผิด หลังจากมิราจไนท์หายตัวไป กองกำลังอิทธิพลของนิวยอร์กได้เคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งเพื่อหาตัวมิราจไนท์ ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ไฮดร้าได้ยกเลิกการสนับสนุนฟรานซิส เพราะทั่วทุกพื้นที่เต็มไปด้วยการสนับสนุนจากชุดเกราะไอรอนแมน องค์กรไฮดร้าเลือกที่จะปิดบังตัวตน

 

“เเกบอกว่าเเกรู้ว่ามิราจไนท์ อยู่ที่ไหน ใช่มั้ย เช่นนั้นบอกมา เร็ว!”โทนี่ไม่สามารถทนกับการหยอกล้อของฟรานซิสได้อีก คราวนี้ ชุดเกราะของเขาได้ยื่นปืนใหญ่พลังงานเล็งไปที่ใบหน้าของ ฟรานซิส

 

ฟุ่บ!

 

“คุณสตาร์ก ใจเย็น ๆ ก่อน!”เมื่อเห็นจุดนี้ ไอซ์แมน โรเบิร์ต ไม่สามารถทนได้อีก เขาได้เข้าไปหยุดโทนี่

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำพูดของไอซ์แมน โทนี่ ได้ลดเเขนกลของเขาลง เเม้โทนี่จะไม่รู้จัก ทีมX-Men เเต่เขาก็พอได้รับข้อมูลจาก S.H.I.E.L.D. อยู่บ้าง ดูเหมือนคนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มคนที่มีพลังพิเศษ ช่วงนี้ ไอซ์แมน เเละ บลิงก์ ก็ออกตามหามิราจไนท์กันอย่างต่อเนื่อง

 

ดังนั้นโทนี่ จึงไว้หน้าพวกเขา

 

“ฟรานซิส ฉันไม่สนใจว่านายจะเล่นลูกไม้ หรือรู้จริง บอกพวกเรามาว่า มิราจไนท์อยู่ที่ไหน”คราวนี้ไอซ์แมนเดินไปที่เบื้องหน้าของฟรานซิสเเละกล่าวถาม

 

“พวกเเกต้องการช่วยเขา?ฉันขอเเนะนำให้พวกเเกลืมความคิดนี้ไปได้เลย”ฟรานซิสกล่าวพูดออกมา

 

เเน่นอนว่าฟรานซิสรู้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ค่อนข้างเเข็งเเกร่ง ไม่ว่าจะเป็น ไอรอนแมน,พันธมิตรผู้พิทักษ์ ทีม X-Men กลุ่มคนเหล่านี้คือขุมพลังระดับนึงที่รุนเเรงที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังของ มิราจไนท์

 

ปั้ง!

 

ได้ยินคำพูดของฟรานซิส โทนี่ ไม่สามารถทนได้อีกเขาได้ยกมือข้างนึงยิงเลเซอร์เข้าไปที่อกของฟรานซิส โดยธรรมชาติฟรานซิสไม่สามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดมันเพียงเเต่ร่างกายของเขาได้ตอบสนองเพียงเท่านั้น

 

ฟุ่บ!

 

ไอซ์แมนได้เเช่เเข็งบาดเเผลที่ถูกยิงนั่นเพื่อป้องกันไม่ให้ฟรานซิสตาย

 

“คนสองคนที่โจมตี มิราจไนท์ เมื่อคืนนั้น เเละ องค์กรที่สนับสนุนนายอยู่เบื้องหลังเป็นใคร บอกฉันมาให้หมด”หลังจากเเช่เเข็งช่วยชีวิตฟรานซิส ไอซ์แมนกล่าวถามอีกครั้ง

 

“ทั้งสองคน….”

ฟุ่บ!

 

พริบตาต่อมาร่างของเเจ็คสันได้ส่งให้หนึ่งในทีมอัลฟ่าลอยกระเด็นไปไกลด้วยหมัดของเขา เขาได้หายตัวเเละปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของทีมอัลฟ่าอย่างรวดเร็ว

 

“นี่เป็นผลจากยาไททันหมายเลข 2 !?”เเสงสีเเดงบนนัยน์ตาค่อย ๆ จางหายไปเเจ็คสันกำหมัดเเน่นรู้สึกได้ถึงพละกำลังมหาศาลที่อยู่ภายในร่างกายของเขา

 

ตอนที่เขาจวนเจียนสาหัส เเจ็คสันถูกโจมตีจนผลการโจมตีเจาะทะลุการป้องกันของชุดสูทของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะใช้ยาไททันหมายเลข 2 ที่ เเฮร์รี่ ได้มอบมัน มันได้ช่วยเพิ่มพละกำลังมหาศาลในช่วงระยะเวลาอันสั้น เเละเเทบจะทำให้สติของเเจ็คสันคลุ้มคลั่ง

 

ตัวยาไททันหมายเลช 2 เป็นตัวถอดออกมาจากต้นแบบอย่างยาไททันหมายเลข 1 ที่เเฮร์รี่ใช้ ผลสภาพของมันดูเลวร้ายน้อยกว่ายาไททันหมายเลข 1 เเต่หากเป็นคนทั่วไปได้รับผลกระทบทางจิตวิญญาณระดับนี้ พวกเขาย่อมไม่สามารถทนได้ เเต่เเจ็คสันนั้นเเตกต่างออกไป จิตวิญญาณของเขาสามารถทนความบ้าคลั่งของยาไททันหมายเลข 2 ได้

 

อย่างไรก็ตามพลังที่เเข็งเเกร่งนั้นก็ไม่ได้คงอยู่ถาวรทั้งยังบั่นทอนพละกำลังทางกายของเขาอยู่ต่อเนื่อง ตัวยาไททันหมายเลข 2 นี้ยังไม่สมบูรณ์ดีพร้อม ดังนั้นจึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะวางขายออกสู่ตลาดเพื่อเก็งกำไร เพราะฤทธิ์ของตัวยานั้นรุนเเรงอย่างมาก

 

ก่อนหน้านี้เเจ็คสันไม่สามารถตอบโต้การโจมตีของทีมอัลฟ่าได้ ด้วยความเเข็งเเกร่งที่ได้รับมาตอนนี้ย่อมเพียงพอที่จะจัดการพวกเขาเเต่เเจ็คสันกลับไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรั้งอยู่ที่นี่นานนัก

 

ฟุ่บ!

 

ยาไททันหมายเลข 2 ทำให้กล้ามเนื้อของเเจ็คสันได้ยินเสียงเปราะเเปะ ร่างกายของเขาถูกชโลมไปด้วยสีเเดงเพราะอะดรีนาลีน นั้นเดือดพล่าน

 

พริบตาเดียวทีมอัลฟ่าที่ถูกโจมตีพวกเขาได้จัดตั้งรูปขบวนใหม่พร้อมกับเล็งปืนไฮเทคมาที่ตัวเเจ็คสันอีกครั้งตอนนี้ร่างกายของพวกเขามีเเสงสีฟ้าอ่อน ๆ ขึ้นมาเป็นชั้นกำบังปกป้องพวกเขา

 

“!”เเจ็คสันที่เห็นเช่นนั้นเขาเริ่มที่จะหลบหนีอีกครั้ง

 

ผลของตัวยาไททันหมายเลข 2 นั้นมีเวลาจำกัด เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงระยะเวลานึง เเจ็คสันจะได้รับผลข้างเคียงสะท้อนกลับของตัวยาไททันหมายเลข 2 หากเขารั้งอยู่ที่นี่นานจนผลข้างเคียงของตัวยาทำงาน เมื่อนั้นเขาจะไร้โอกาสหลบหนีอย่างเเท้จริง ดังนั้นสถานการณ์ปัจจุบันเเจ็คสันจึงเลือกที่จะหลบหนีอย่างเด็ดขาด

 

หลังจากฉีดยาไททันหมายเลข 2 ความเร็วของเเจ็คสันได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง เเม้ว่าทีมอัลฟ่าจะมีอาวุธแบบเหนี่ยวนำวิถี เเต่พวกเขาก็ไม่สามารถล็อคเป้าของเเจ็คสันได้ ที่พวกเขาเห็นคือภาพค้างติดตาที่เเจ็คสันพุ่งห่างออกไปไกล

 

เเจ็คสันได้แบกทอมหลบหนีอีกครั้ง ในปัจจุบันทอมได้ถูกล้างสมองโดยพวกไฮดร้า ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่คิดทิ้งเพื่อนของเขาไว้ที่นี่

 

เเจ็คสันได้พาทอมหนีไปทั่วทุกทิศทางในฐานของไฮดร้า เเต่ละตำเเหน่งทางนั้นมีทหารรายล้อมจำนวนมาก เเน่นอนว่าที่ด้านหลังของเขา มีทีมอัลฟ่าที่ไล่ตามมาติด ๆ

 

นายพลรีสนั้นตั้งใจจะไม่ปล่อยเเจ็คสันไปไม่ว่าอย่างไร นอกจากนี้ เเจ็คสัน ยังไม่ได้ฟื้นพละกำลังกลับมาโดยสมบูรณ์ เขาสั่งทีมอัลฟ่าให้จัดการเเจ็คสัน เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาเองก็ตกใจ ที่เเจ็คสันสามารถเพิ่มพูนพละกำลังมหาศาลได้ชั่วระยะเวลานึง เเต่ เขาเองก็รู้ดีว่าพละกำลังเหล่านั้นคงไม่อาจอยู่ถาวรได้

 

“รีส ฉันขอโทษ ฉันไม่คิดเลยว่า เด็กคนนี้จะเจ้าเล่ห์แบบนี้ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่มีโอกาสหลบหนีออกมา”ด้านหลังของนายพลรีส ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ได้เดินเข้ามา ก่อนหน้านี้เขาประมาทเกินไป เพราะแบบงั้นถึงให้โอกาสหลบหนีเเก่เเจ็คสัน

 

ก่อนหน้านี้เป็นเพราะผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ต้องการดึงตัวเเจ็คสันเข้าร่วมอย่างสันติโดยใช้ทอมเป็นข้อเเลกเปลี่ยนเขาไม่คิดเลยว่าการกระทำของเขาจะทำให้สถานการณ์มันเลวร้ายลง ดังนั้นหากเเจ็คสันสามารถหลบหนีออกไปได้ เขาจะกลายเป็นภัยคุกคามขององค์กรไฮดร้าทันที

 

“ฉันเองก็ประมาทเขาเกินไป ดูเหมือนเขาจะมีความลับมากมายที่ปกปิดเอาไว้ ไม่ใช่เพียงนายคนเดียวที่ปล่อยโอกาสให้เขาหลบหนี มันยังรวมถึงฉัน เเต่ถ้าหากเขาสามารถหนีออกไปได้ องค์กรไฮดร้าของเราเกรงว่าอาจจะได้รับผลกระทบ ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามปล่อยให้เขาหนี หากมันจวนตัวจริง ๆ พวกเราจะไม่ลังเลที่จะกำจัดเขา”นายพลรีส กล่าวอย่างเย็นชา

 

“อืม ,ฉันเข้าใจเเล้ว!”คราวนี้ ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ ไม่ได้คัดค้าน

 

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังหลบหนีออกจากฐานลับของไฮดร้า ในนิวยอร์ก สถานที่อันห่างไกล สถานที่เเห่งนี้คือโรงงานร้าง มันคือสถานที่ที่ ฟรานซิส เเละ เดดพูล นัดพบกัน

 

ฟรานซิสได้จับตัววาเนสซ่าเเฟนสาวของเวดเพื่อที่จะล่อเวดออกมาพบเจอเขา

 

ขณะนั้นไม่นาน เดดพูล ก็ได้นั่งรถเช่ามาถึงที่ทางหน้าโรงงาน เขาเดินลงมาจากรถเเละก้าวไปข้างหน้า เขาเห็นกลุ่มของฟรานซิส ที่มีผู้ใต้บังคับบัญชาติดอาวุธครบมือหลายสิบคน ส่วนฟรานซิส มันได้ยืนอยู่บนพื้นโกดังสูงหลายสิบเมตร ที่ด้านข้างเป็นวาเนสซ่า ที่อยู่ในหลอดเเก้ว ถ้าฟรานซิสกดปุ่มเริ่มทำงานออกซิเจนภายในจะถูกดูดออกไปทั้งหมดเเละวาเนสซ่าจะได้สัมผัสกับความทรมาณเหมือนที่เวดพบเจอ

 

ฟุ่บ!

 

“ฟรานซิส! ฉันมาเเล้ว!”เดดพูล หยุดอยู่ที่พื้นที่โล่งเเละเงยหน้ามองฟรานซิส

 

“เวดวิลสัน,นักรบผู้ไม่มีวันตาย! วันนี้ฉันต้องการเห็นความอมตะของเเกด้วยตาของฉันเอง!”ฟรานซิสที่ยืนอยู่ชั้นบน เขาได้จ้องมองไปที่ เดดพูล เเละ ตะโกนออกมา

 

ฟุ่บ!

 

ฟรานซิสได้ให้สัญญาณ สั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซ่อนอยู่ทั้งหมดให้เล็งปืนไปที่ เดดพูล

 

“ฆ่ามัน!”ฟรานซิส กล่าวสั่งอย่างรุนเเรง

 

ปั้ง ปั้ง!!!

 

ทันทีที่ได้รับคำสั่งกระสุนปืนจำนวนมากจากทุกทิศทางได้ถูกกราดออกมา นอกจากนี้ เดดพูลยังอยู่ในพื้นที่โล่งเปิด ด้วยกระสุนจำนวนมากขนาดนี้เเม้เขาจะหลบก็ย่อมไม่มีทางหลบพ้นทั้งหมด

 

ปั้ง

 

ปั้ง!

 

เพียงเเต่ว่าในขณะนั้นเองบนหลังคากลับปรากฏเสียงขนาดใหญ่พร้อมกับอาวุธพลังงานที่ถูกยิงออกมามันได้ระเบิดพื้นที่จำนวนมากส่งผลให้ภายในสนามรบเเห่งนี้เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง

 

“!!! ~”

เเสงระเบิดได้เพิ่มอุณหภูมิห้องจนสูงขึ้นอย่างน่ากลัว เปลวความร้อนเหล่านั้น ยิ่งสูดดมมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ราวกับกองไฟที่กำลังเผาไหม้ปอดอยู่

 

“โชคดีที่ก่อนหน้านี้ฉันได้รับเเต้มคะแนนมาเยอะพอสมควร เเละฉันยังคงออมไว้บางส่วน ไม่อย่างนั้นสถานการณ์คงเเน่ ๆ!”หลังจากเเลกซื้อระเบิดปืนใหญ่ไฟมา เเจ็คสันที่เห็นผลลัพธ์เขากล่าวกระซิบอย่างตื่นเต้น

 

ในสถานการณ์ปิดล้อมตายแบบนี้ อาวุธจำพวกดาบหากเเลกเปลี่ยนมาก็สามารถใช้งานได้เพียงชั่วคราวเพียงเท่านั้น ซึ่งอาวุธเกรด C เองก็มีมูลค่ามากกว่า 1,500 เเต้มจุด เพียงเเต่เมื่อเทียบการใช้งานของระเบิดปืนใหญ่ไฟเเล้วนับว่าเหตุวิกฤติเช่นนี้ระเบิดปืนใหญ่ไฟนับว่ามีประโยชน์กว่ามาก

 

ฟุ่บ!

 

ทางด้านหน้าท่ถูกเปิดออกเเจ็คสันไม่ลังเลที่จะแบกทอมออกไปพร้อมกับเขา ภายใต้การระเบิดของระเบิดปืนใหญ่ไฟ ทำให้กองกำลังทหารเหล่านี้ไม่สามารถทำอันตรายเขาได้

 

“ไอ้พวกของเสีย,ขยะก็ยังคงเป็นขยะอยู่วันยังค่ำ เรียกทีมอัลฟ่า! รีบมาหาฉันโดยด่วน!”เห็นอุปกรณ์การโจมตีของเเจ็คสัน นายพลรีส เปลี่ยนสีหน้าทันที เขาสั่งการออกไปอย่างรวดเร็ว เกี่ยวกับสิ่งที่เเจ็คสันได้เเสดงนั้น มันทำให้ในใจของเขายิ่งบอกกับตัวเองว่าไม่ควรปล่อยให้เเจ็คสันหลุดออกจากฐานลับเเห่งนี้

 

“ชุดที่ทำมาจากนาโนเทคโนโลยี ทั้งยังมีอาวุธร้ายกาจที่มีพลังทำลายสูงขนาดนั้น? การโจมตีเมื่อครู่ รุนเเรงกว่าระเบิดทั่วไปมากนัก หรือว่า เมื่อกี้ ก็คืออาวุนาโนเทคโนโลยยีเหมือนกัน? เขานำมันมาจากไหน เเละ เขามีมันได้อย่างไร?”นายพลรีส กล่าวกับตัวเอง

 

เเม้ว่าพวกเขาจะสามารถเปิดเผยสถานะของเเจ็คสันได้ เเต่ดูเหมือนว่าเเท้จริงเเล้วเขาเเทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเด็กคนนี้เเม้จะเป็นเบื้องหลังหรือความลับจำนวนมาก ดังนั้นนายพลรีสจึงตัดสินใจ เขาจะต้องศึกษาความลับของเเจ็คสันให้ได้

 

เมื่อกล่าวถึงเเจ็คสันที่กำลังหลบหนี ในใจของนายพลรีสย่นคิ้วลงอย่างมาก เขากังวลว่า เเจ็คสันจะหาทางติดต่อกับ ไอรอนแมนได้ ปราสาทเเห่งนี้ เเน่นอนว่ามีเรดาห์ตรวจจับคลื่นความร้อนจากไอรอนแมน ทั้งยังมีอุปกรณ์รบกวนการตรวจจับจากภายนอก โดยความจริงเเล้วชุดเกราะไอรอนแมนย่อมไม่สามารถค้นพบสิ่งใดขณะทำการขึ้นบิน

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่สามารถประมาท โทนี่ สตาร์ก ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเตรียมพร้อมสำหรับทำสงครามทุกเวลา

 

“ส่งสัญญาณเเจ้งเตือนระดับความปลอดถัยระดับที่ 3 หากตรวจพบศัตรูให้ทำการเปิดการโจมตีแบบเต็มกำลังทันที!”นายพลรีสกล่าวออกคำสั่งอีกครั้ง

 

หลังจากที่พ่ายเเพ้การซุ่มโจมภายใน  S.H.I.E.L.D.  องค์กรไฮดร้า จำนวนมาก ก็ถูกไล่เก็บกวาดโดย นิค อิทธิพลของกองทัพไฮดร้านั้นลดลงอย่างมาก เเต่ องค์กรไฮดร้า ก็มีอิทธิพลทั่วโลก พวกเขาไม่คิดว่า  S.H.I.E.L.D.   จะสามารถถอนรากถอนโคนพวกเขาได้หมด

 

เพียงเเต่ปราสาทโบราณเเห่งนี้ถือเป็นฐานทัพขนาดใหญ่ไม่กี่เเห่งขององค์กรไฮดร้า ซึ่งโดยปกติเเล้วฐานเเห่งนี้คือฐานเฝ้าระวังเเละมีการบรรจุอาวุธที่รุนเเรงมากที่สุดเเห่งนึง ดังนั้นรีสจึงได้ใช้กลยุทธ์ซุ่มโจมตีเเละเฝ้าระวังอย่างเงียบ ๆ ฐานเเห่งนี้ถือว่ามีความปลอดภัยระดับนึง หากพวกเขาไม่สร้างปัญหาเตะตาใคร ก็ย่อมเป็นพื้นที่ลับตลอดกาล

 

เเจ็คสันที่เตรียมหลบหนีออกจากที่นี่ในขณะที่กำลังมุ่งหน้าออกจากที่นี่ เขาก็ถูกหยุดขวางทางด้านหน้า ที่ด้านหน้าของเขาคือนายพลรีสกับทีมอัลฟ่า

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันปาระเบิดปืนใหญ่ไฟเข้าไปอีกครั้ง เขาตั้งใจจะทำลายกองกำลังเบื้องหน้าของเขาเเละฝ่าออกไปเพียงเเต่ด้านหน้าของเขาก็ถูกหยุดด้วยสนามพลังสีฟ้าอ่อน ๆ มันได้ดูดกลืนการระเบิดเข้าไปอย่างน่าเเปลกประหลาด

 

“พวกไฮดร้ามีของแบบนี้ด้วย!?”เห็นระการระเบิดของระเบิดปืนใหญ่ไฟถูกดูดกลืนเข้าไป เเจ็คสัน รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

 

นี่เป็นเพราะระเบิดปืนใหญ่ไฟนั้นเป็นอาวุธเดียวของเขา ในขณะนัน้เองสองในกลุ่มนั้นได้ยกอาวุธในมือเล็งมาที่เเจ็คสัน

 

“ท่าไม่ดีเเล้ว!”เเจ็คสันที่เเบกทอมอยู่เขารับรู้ได้ถึงอันตรายจากเบื้องหน้า

 

 

ฟุ่บ!

 

คลื่นพลังได้ถูกยิงออกมาจากปลายปืน เเจ็คสันได้กระโดดหลบไปทางด้านขวาทำให้สามารถรอดพ้นระยะการโจมตี หลังจากที่คลื่นพลังถูกยิงออกมา มันได้เข้าไปกระทบกับบนผนังทางเดิน กำเเพงที่เเข็งเเกร่งนั้นกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ลึก

 

“เวรเอ้ย,การโจมตีเมื่อครู่นี้มันคืออะไรกัน?”เเจ็คสันมีลางสังหรณ์ว่าเเม้จะเป็นการป้องกันของชุดสูทของเขาก็คงไม่สามารถต้านทานการโจมตีระดับนี้ได้

 

ทีมอัลฟ่า คือทีมภายใต้การควบคุมของนายพลรีส สิ่งที่โดดเด่นของทีมนี้ก็คืออาวุธทีมของพวกเขา ด้วยกองกำลังของทีมอัลฟ่าเพียงทีมเดียวสามารถที่จะถล่มกองทัพขนาดใหญ่ได้ นอกจากนี้ พวกเขาได้ประเมินเเล้วว่าชุดสูทภูติมายาของ เเจ็คสัน มีความสามารถป้องกันที่ดี ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะทุ่มอาวุธหนัก

 

วิ๊ดดด!

 

ปั้ง!

 

ทีมอัลฟ่า ได้ปรับปากกระบอกปืนเล็งไปที่เเจ็คสันอีกครั้งคราวนี้อาวุธไฮเทคทั้งสี่ได้ถูกยิงไปทางตำเเหน่งของเเจ็คสัน มันได้ถูกยิงคาดการไปยังตำเเหน่งล่วงหน้าซึ่งดูเหมือนเเจ็คสันจะไร้หนทางหลบซ่อนอีก

 

ปั้ง!

 

ในขณะเดียวกัน ปากกระบอกปืนอีกสองกระบอกก็เปิดฉากยิงเหมือนกัน มันได้คำนวณวิถีการเคลื่อนไหวอีกครั้งของเเจ็คสัน

 

ฟุ่บ!

 

เผชิญหน้ากับการโจมตีที่ชัดเจน เเจ็คสันไม่มีเวลาที่จะลังเล ก่อนหน้านี้อาวุธของพวกมันก็สามารถต้านทานเเละดูดกลืนการโจมตีของระเบิดปืนใหญ่ไฟได้ เพียงเเต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางเลือก เเจ็คสัน โยนระเบิดปืนใหญ่ไฟไปยังตำเเหน่งทิศทางที่ถูกยิงออกมาซึ่งระเบิดได้ถูกจุดจนระเบิดขึ้น

 

ปั้ง

 

ฟิ้ว!

 

เเจ็คสันได้ถูกส่งลอยกลับไปด้วยเเรงของะระเบิดเขาจับประคองทอมไว้เเน่นเเละใช้หลังของเขารับการกระเเทกจากผนังที่อยู่ห่างออกไป สภาพของเขาตอนนี้ดูไร้เรี่ยวเเรงอย่างมาก

 

อั๊ก!

 

เเจ็คสันจ้องมองไปที่อาวุธในมือของทีมอัลฟ่า ดูเหมือนเขาจะไม่สามารถประมาทอาวุธพวกนี้ได้เลย

 

“ไม่คาดคิดว่าท้ายที่สุดฉันจะถูกต้อนจนมุมแบบนี้”เผชิญหน้ากับทีมอัลฟ่า ที่มีอาวุธไฮเทคที่ร้ายกาจ เเจ็คสันไอออกมาก่อนที่จะส่งเสียงที่อ่อนเเอเพื่อพูดกับตัวเองเขาได้ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเล็กน้อย

 

ฟุ่บ!

 

เข็มขนาดเล็กได้ถูกแทงเข้าไปที่ร่างกายของแจ็คสันในขณะนั้นเองดวงตาของแจ็คสันก็เผยแววตาสีแดงอันดุร้ายออกมามันได้จ้องมองไปที่ทีมอัลฟ่าอย่างดุเดือด

ทันใดนั้นเเสงสว่างก็สว่างวาบขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่ชุดสีดำจะปกคลุมทั่วร่างของเเจ็คสัน นี่คือ ชุด สูทภูติมายาของเขา พร้อมกับ หน้ากากอำพรางใบหน้าครึ่งหน้า

 

“อะไร!? นั่นมันอุปกรณ์นาโนเทคโนโลยีงั้นหรอ? เเม้ว่าจะได้ยินมาว่า โทนี่ สตาร์ก จะเริ่มเเนวคิดนี้ เเต่ไม่น่าจะสามารถสร้างได้ในตอนนี้!”เห็นการเเปลงร่างของเเจ็คสันนายพลรีสตะโกนออกมาด้วยความตกใจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคิดว่า ชุดสูทภูติมายาของ เเจ็คสัน ทำมาจากนาโนเทคโนโลยี

 

“จับพวกมันมาให้ฉันให้ได้!”นายพลรีสกล่าวออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด

 

เขารู้สึกประหลาดใจตอนเเรกเขาได้ตรวจสอบอุปกรณ์ทุกชิ้นของเเจ็คสันหมดเเล้ว เเต่เห็นการเเปลงกายด้วยนาโนเทคโนโลยีมันทำให้เขาตาลุกวาวมาก

 

“เเม้ว่าจะมีการป้องกันของชุดสูทเเละอุปกรณ์อีกเล็กน้อยในตัวเเต่ก็คงไม่เพียงพอที่จะต้านทานอาวุธของพวกมันเเน่นอน”เห็นทีมไฮดร้าที่ติดอาวุธครบมือไล่ตามมา เเจ็คสัน บ่นพึมพัม

 

ในกระเป๋าชุดสูทของเขาได้ซ่อนสิ่งของจำนวนมากเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น สัญลักษณ์เเห่งการป้องกัน ยารักษา,ยาไททันหมายเลข 2 กระเป๋าของเขาตอนนี้มีเเต่ของรักษา ไม่มีสิ่งที่เป็นอาวุธที่สามารถใช้จัดการศัตรูได้

 

“หึ่ม,คิดว่าฉันจะกลัวพวกเเกงั้นหรอ!?”ถึงเเม้จะไม่มีอาวุธเเต่ในมือของเขาตอนนี้มีทอมที่หมดสติอยู่ เเน่นอนว่าไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องไม่ท้อถอย

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันเคลื่อนไหวเพื่อหลบหนีอย่างรวดเร็ว เจฟเฟอร์รี่ ที่ไล่ตามมา ก่อนหน้านี้เขาถูกจัดการโดยเเจ็คสัน เพียงเเต่ตอนนี้เขาตามมาพร้อมกับกองกำลังจำนวนมากไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะนำทั้งสองคนกลับมา

 

ฟุ่บ!

 

ในระหว่างการไล่ตามตอนนี้พวกเขายังไม่ได้เปิดฉากยิงในปัจจุบัน ซึ่งเเจ็คสันรู้สึกมีความหวังมากขึ้นอาจเป็นเพราะเหตุผลบางอย่างที่พวกเขายังไม่เปิดการโจมตีด้วยอาวุธปืนในตอนนี้

 

ปั้ง ปั้ง!

 

ในระหว่างทางเเจ็คสันได้จัดการเหล่าทหารที่ดักรออยู่ข้างหน้าเพื่อเคลียร์พื้นที่ก่อนที่จะวิ่งต่อ เเม้ไฮดร้าจะมีอาวุธที่ร้ายเเรงเเต่พวกเขาก็ยังไม่ได้เปิดการใช้งานมันในตอนนี้

 

“เวรเอ้ย,เเม้ว่ามันจะไม่มีอาวุธ ก็ยังร้ายกาจปานนี้!”เขาได้ตรวจสอบอุปกรณ์ของมิราจไนท์หมดเเล้ว นายพลรีสไม่อยากจะเชื่อว่าเเม้เเจ็คสันจะไม่มีอาวุธเขาก็ยังฝ่ากองกำลังทหารที่ดักอยู่ด้านหน้าได้

 

ต้องระบุก่อนว่าทหารกลุ่มเหล่านี้เป็นทหารที่ล้มเหลวในการเข้าโครงการโปรเจควินเทอร์โซลเยอร์ เเต่พวกเขาไม่สามารถผ่านการทดสอบ เเต่ศักยภาพของพวกเขาหากเทียบกับคนทั่วไปย่อมเเข็งเเกร่งกว่ามาก อาจถึงขั้นได้เป็นกองกำลังพิเศษเลยก็ว่ได้

 

ฟุ่บ!

 

นายพลรีสคำรามออกมาพร้อมกล่าวสั่งทหารปิดล้อมพื้นที่เเละเฝ้าระวังตามจุดเขาสั่งการให้ยิงเเต่ไม่ใช่จุดสำคัญเป้าหมายของเขาคือเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของเเจ็คสัน

 

เเสงกระพริบจากปลายกระบอกปืนจำนวนมากได้ยิงกราดไปทั่วพื้นที่ทางเดิน เเจ็คสันไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยง เพราะเขากลัวว่าทอมที่อยู่กับเขาจะเป็นอันตราย ชุดสูทภูติมายาของเขาพอจะสามารถต้านทานกระสุนปืนทั่วไปได้ เเละมันเเทบจะไม่ได้รับความเสียหาย หากเปลี่ยนเป็นทอมเเน่นอนว่าเขาไม่สามารถต้านทานการโจมตีเหล่านี้ได้

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันที่กำลังหลบหนีได้เผชิญหน้ากับการโจมตีหลายทางไม่ว่าจะเป็นปืนกลปืนพกบ่อยครั้งที่มันกระทบถูกชุดของเขาเเต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่สามารถป้องกันได้ หากเปลี่ยนเป็นการโจมตีทำลายล้างที่รุนเเรง เเน่นอนว่าชุดสูทของเขาคงจะไม่สามารถต้านทานได้

 

“ฮึ่ม ,มันเป็นชุดนาโนเทคโนโลยีจริง ๆ หากเป็นอุปกรณ์ทั่วไปคงไม่สามารถมัพลังเเฝงเร้นดังกล่าวได้”นายพลรีสตรวจสอบการป้องกันของชุดสูทภูติมายาอีกครั้ง

 

“เวรเอ้ย,ดูเหมือนพวกไฮดร้าจะเริ่มเล่นอาวุธปืนพิเศษกันเเล้ว อาวุธปืนที่พวกมันกำลังระดมยิงตอนนี้ เเม้จะเป็นชุดสูทภูติมายาของฉัน คงจะไม่สามารถต้านทานไหว เเรงเจาะเกราะของมันรุนเเรงกว่าอาวุธปืนธรรมดาหลายเท่า ฉันจะต้องหาทางหลบหนีออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”เเจ็คสันดูเหมือนจะประเมินพลังของพวกไฮดร้าต่ำเกินไป

 

“ทางนี้สินะ!”เผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยกระสุนปืนที่ลุกลาม เเจ็คสัน ได้มุ่งหน้าด้วยความเร็วสูง

 

ตึก ตึก !

 

ความเร็วของเเจ็คสันนั้นรวดเร็วมากหากเขาใช้ความเร็วระดับนี้ เหล่าทหารที่ไล่ตามเขามาเเน่นอนว่าไม่สามารถเทียบกับเขาได้

 

“ทอมไม่ว่าอย่างไรฉันก็จะช่วยนายออกไปให้ได้!”ในมือของเขาที่คว้าทอมเอาไว้ เเจ็คสัน กล่าวพูดขึ้น ก่อนที่จะพุ่งไปยังตำเเหน่งของดาบเก้าอสนี

 

ในช่วงการหลบหนีที่ผ่านมาเป็นเพราะฐานเเห่งนี้ค่อนข้างกว้างใหญ่ทำให้เเจ็คสันเสียเวลาอย่างมากรวมถึงยังต้องเผชิญหน้ากับคนที่ดักซุ่มอยู่อีก

 

“ขวางมัน ไว้! ขวางมันไว้!”นายพลรีสคำรามไปยังกลุ่มทหารของเขา

 

คนของเขาไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของเเจ็คสันได้

 

จนถึงขนาดนี้ นายพลรีส ไม่เชื่อว่าเเจ็คสันจะสามารถหลบหนีออกไปได้ ทีมทหารของเขาตอนนี้เป็นเพียงปราการด่านเเรกเพียงเท่านั้น ทั้งยังไม่ได้ติดอาวุธหนัก ฐานทัพไฮดร้าในที่เเห่งนี้ เเม้ป้อมปราการจะไม่โดเด่น เเต่หากเทียบด้านอาวุธ อาวุธของพวกเขาย่อมเพียงพอที่จะทำให้โลกตกตะลึง

 

ปั้ง ปั้ง!

 

ขณะที่เเจ็คสันวิ่งไปทางด้านหน้าเขาเห็ฯกองกำลังทหารที่ติดอาวุธดักรอเขา

 

ฟุ่บ!

 

“หืม?!”เเจ็คสันเห็นวัตถุสีดำที่พุ่งออกมาก่อนที่จะระเบิดกลางอาการพร้อมกับสร้างลวดตาข่ายขนาดยักษ์ปิดกั้นช่องเส้นทางทั้งหมด

 

เเม้ว่าเขาจะมีความรวดเร็วเเละมีการป้องกันระดับสูงเเต่เขาก็ไม่สามารถพาทอมไปเสี่ยงได้ เเจ็คสันล้วงมือไปที่กระเป๋าเเละบ่นพึมพัมอย่างเย็นชา

 

“เป็นพวกเเกบังคับฉัน!”เเจ็คสันได้ดึงบางอย่างออกมาจากกระเป๋าตรงเอวของเขา

 

ฟุ่บ!

 

เขาได้ขว้างปาออกไปซึ่งมันเป็นวัตถุทรงกลมที่เเปลกประหลาดเห็นการกระทำของเเจ็คสันเหล่าทหารที่ดักรออยู่เบื้องหน้ารู้สึกงุนงงเล็กน้อย

 

“ลองชิม ระเบิดปืนใหญ่ไฟ ของฉันดูหน่อยเป็นไง!”เเจ็คสันที่ขว้างปาลูกทรงกลมไปด้านหน้าเขายิ้มเเสยะออกมา

 

ฟุ่บ!

 

ปั้ง!

 

ทันทีที่ลูกทรงกลมกระทบกับตาข่ายมันก็ระเบิดขึ้นสร้างเปลวไฟจำนวนมากขึ้นมาทั้งยังส่งเเรงกระเเทกไปรอบด้านอย่างทั่วถึง อุปกรณ์ชิ้นนี้เเจ็คสันเพิ่งเเลกซื้อมันมาเมื่อครู่นี้ ทันทีที่ปราการตาข่ายถูกทำลายเเจ็คสันได้พุ่งเข้าไปด้านหน้าโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด

ติ๊ด!

 

“ท่านนายพล,! เป้าหมายส่งคลื่นพลังงานความผันผวนออกมาไม่สามารถระบุตำเเหน่งที่มาได้ชัดเจน!”หลังจากที่นายพลรีสจ้องมองไปที่เเสงสีม่วง หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาพูดขึ้น

 

“สถานการณ์ท่าไม่ดีเเล้ว!”ได้ยินรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชานายพลรีส เเสดงออกถึงความเปลี่ยนเเปลง เเต่ระหว่างพวกเขาก็เเยกด้วยผนังกระจกเเข็งเเรง มันเเทบจะไม่สามารถถูกทำลายโดยง่าย

 

ฟุ่บ!

 

ภายใต้สภาพความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันที่ฟื้นฟูขึ้น เเจ็คสันได้ดิ้นหลุดจากพันธนาการที่รัดตัวเขาเอาไว้ความเเข็งเเกร่งของเขาในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำลายโซ่ตรวจเหล่านี้

 

“เเก…เเก…! ~~”เจฟเฟอร์รี่เห็นเเจ็คสันหลุดจากโซ่ตรวจ เขาตกตะลึงถึงขีดสุด

 

ฟุ่บ!

 

ไม่นาน เขาได้กระโดดไปหลบอยู่ที่ด้านหลังของทอม เพราะตอนนี้ทอมคือเครื่องมือของเขาทั้งยังถูกควบคุมอยู่ในตอนนี้ความคิดของเจฟเฟอร์รี่ไม่มีอะไรนอกเหนือจากการเอาชีวิตรอด

 

“หมายเลข 1 จัดการมัน!”หลังจากหลบด้านหลังของทอม เจฟเฟอร์รี่ กล่าวสั่งการทอมอย่างรวดเร็ว

 

ความเเข็งเเกร่งของหมายเลข 1 ได้รับการทดสอบหลายครั้งเเล้ว นอกเหนือจากความเเข็งเเกร่งเเล้วสภาพจิตใจของเขาก็ถูกควบคุมโดยสมบูรณ์ซึ่งมันดีเลิศมากกว่า วินเทอร์โซลเยอร์คนก่อน เเม้ว่าเจฟเฟอร์รี่จะรู้สึกหวาดกลัว เเจ็คสัน เเต่เขาก็เชื่อมั่นว่าหมายเลข 1 ซึ่งเป็นทหารของเขาจะสามารถเเก้ไขสถานการณ์นี้ได้

 

“ฉันบอกเเล้วว่า อย่าได้เรียกเขาว่า หมายเลข 1!”เห็นทอมพุ่งเข้ามาหาเขาภายใต้คำสั่งของเจฟเฟอร์รี่ เเจ็คสัน ส่งผ่านความรู้สึกที่เย็นชาออกมา

 

“ขอโทษนะ ทอม!”เเจ็คสันพริบตาเดียวก็พุ่งไปปรากฏที่ด้านหลังของทอม

 

ปั้ง

 

หลังจากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นสับไปที่หลังคอของทอมด้วยความรุนเเรงจนทำให้ทอมเหมือนจะหมดสติเเละล้มลงนี่เป็นวิธีการเดียวที่เขาจะไม่ต้องสู้กับทอมเพื่อนสนิทของเขา

 

ทันทีที่จัดการทอมได้ เเจ็คสัน ได้ยกทอมขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้ ทอมถูกเปลี่ยนเเปลงโดยพวกไฮดร้า เขาได้รับพละกำลังที่น่าเกรงขาม ที่เหนือกว่าคนธรรมดา

 

หากเทียบกับทอมเเละบัคกี้ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์คนก่อนเเล้ว ความเเข็งเเกร่งของพวกเขาไม่สมควรห่างกันมาก เเต่สภาพการโดนควบคุมจิตใจของ ทอม กลับเลวร้ายกว่ามาก มันทำให้ เเจ็คสันรู้สึกเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

เพียงเเต่ว่าทอมที่มีท่าทีเหมือนจะหมดสติกลับลุกขึ้นมาจู่โจมถีบเเจ็คสันจนกระเด็นลอยออกไปซึ่งมันอยู่เหนือการคาดการ์ดของเเจ็คสัน

 

“ฮ่าฮ่า,เป็นไงล่ะ นี่ล่ะความเเข็งเเกร่งของ ทหารวินเทอร์โซลเยอร์ รุ่นใหม่”เจฟเฟอร์รี่ที่เห็นทอมโจมตีเเจ็คสันจนกระเด็นลอยออกไป เขาตะโกนขึ้นด้วยความดีใจ

 

“ทหารวินเทอร์โซลเยอร์รุ่นใหม่? ทอม เช่นนั้นฉันคงไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะทำให้นายไม่บาดเจ็บไม่ได้เเล้วล่ะ”ได้ยินคำพูดของเจฟเฟอร์รี่ เเจ็คสัน กลายเป็นเจิดจ้ามากขึ้น

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันดีดตัวปรากฏตัวที่ด้านหน้าของทอมก่อนที่จะสวนหมัดตอบโต้อย่างรวดเร็ว

 

ผลลัพธ์ก็คือการโจมตีของเขาส่งผลให้ทอมลอยกระเด็นออกไป การโจมตีของเเจ็คสันในครั้งนี้หากเป็นมนุษย์ธรรมดาร่างกายเเละกระดูกของพวกเขาคงจะเเตกเป็นเสี่ยง ๆ ไปเเล้ว เเต่เเจ็คสันรู้ดีว่า ทอมที่กลายเป็นวินเทอร์โซลเยอร์ร่างกายของเขาเเข็งเเกร่งมากโดยเฉพาะพลังกายภาพของเขา

 

ปั้ง

 

ทันทีที่ส่งทอมลงไปนอนกับเเจ็คสันพุ่งเข้าไปซ้ำต่อ

 

ฟุ่บ~~

 

เเจ็คสันเหยียบหน้าอกของทอมกดลงที่พื้นซึ่งส่งผลให้ซี่โครงของทอมน่าจะหักหลายส่วน

 

จากนั้นเเจ็คสันก็สับเข้าไปที่ด้านข้างต้นคอ ทอม ที่ไร้การป้องกันทั้งยังบาดเจ็บ ท้ายที่สุดก็หมดสติไปเเล้วจริง ๆ

 

ทันทีที่จัดการ ทอม ได้สำเร็จ เเจ็คสัน ได้ยกเเขนของทอมพาดที่ไหล่ของเขา เเละเตรียมที่จะหลบหนีออกจากประตูทางด้านหน้า เขาไม่ได้สนใจที่จะจัดการเจฟเฟอร์รี่ต่อในตอนนี้ เป้าหมายของเขาก็คือหลบหนีออกจากที่นี่ก่อนเป็นอันดับเเรก

 

“ปิดประตูเร็วเข้า!”รีส กล่าวออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเเจ็คสันหลุดจากโซ่รัดที่ถูกผูดมัดอยู่กับเตียง เขาตัดสินใจที่จะปิดตายห้องนี้เป็นอันดับเเรก

 

“ครับ!”ได้ยินคำสั่งของรีส ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาไม่ลังเลที่จะปฏิบัติตามโดยเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะนั้นเองประตูทางออกก็ถูกปิดตายอย่างรวดเร็ว

 

“หึ่ม!” เสียงได้ถูกส่งออกมาจากลำคอของเเจ็คสัน

 

ซึ่งเจฟเฟอร์รี่ที่ได้ยินเสียงนั้นทำให้เขารู้สึกเสียวสันหลังยิ่งถูกขังอยู่ภายในห้องรวมกับเเจ็คสันด้วยในตอนนี้

 

“เวรเอ้ย,! เเจ้งเสียงเตือนภัยสถานการณ์ระดับ 2! เตรียมพร้อมกำลังทหารประจำการโดยเร็ว!”เห็นเเจ็คสันเริ่มเคลื่อนไหว นายพล รีส กล่าวออกคำสั่งอย่างเย็นชา

 

“หากสถานการณ์จวนตัวจริงไม่ต้องลังเลที่จะต้องเสียสละหมายเลข 1 รับรองความปลอดภัยของ เจฟเฟอร์รี่ให้ได้”ภายใต้การออกคำสั่งของนายพลรีส กองทัพของเขาได้ตั้งประจำการรอเเล้ว

 

“ครับ,รับทราบ!”

 

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันที่เเบกทอมอยู่เขาได้พุ่งสุดตัวจนสามารถหลบหนีออกมาจากห้องได้ทันพอดี ที่ด้านหน้าของเขาเหมือนจะเป็นห้องปฏิบัติการวิจัยบางอย่างซึ่งมีห้องเล็ก ๆ นวนมาก เเจ็คสันไม่รู้สถานภาพของพื้นที่ในฐานเเห่งนี้ เเต่ไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องหลบหนีออกจากที่นี่ก่อนเป็นอันดับเเรก

 

เเจ็คสันพุ่งออกไปเขาได้ถูกชักจูงโดยตำเเหน่งทิศทางของดาบเก้าอสนีของเขา ตอนนี้ความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันถูกจำกัดอยู่มาก หากถูกจู่โจมด้วย อาวุธปืนจำนวนมาก เเจ็คสันย่อมไม่อาจต้านรับได้ทัน

 

รีสที่เห็นทั้งสองคนพยายามหลบหนีออกมาเขาได้สั่งการทหารจำนวนมากให้ล้อมรอบพื้นที่เเต่ละจุดเอาไว้ ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาจะต้องสกัดเเจ็คสันไม่ให้หลบหนีไปให้ได้

 

“เวรเอ้ย,พวกมันตามมาจะทันเเล้ว!”เเจ็คสันที่วิ่งไปได้ไม่ไกล เขาเห็นกลุ่มคนจำนวนมากที่ไล่ตามมาด้านหลังจากหลายช่องทาง

 

“เดิมที ฉันไม่คิดจะเปิดเผยข้อมูลของฉันโดยไม่จำเป็น ยิ่งโดยเฉพาะความสามารถของฉัน!”เเจ็คสันในที่สุดก็ตัดสินใจได้เขาจ้องมองไปที่เจฟเฟอร์รี่ที่ไล่ตามมา ก่อนที่จะมองที่มือซ้ายของเขา

 

“สวมใส่ ชุดสูท!”

 

ฟุ่บ!

 

 

 

เผชิญหน้ากับปฏิกิริยาไร้อารมณ์ของทอม เเจ็คสันไม่ได้กล่าวตอบคำถามเมื่อครู่นี้ สำหรับทอมที่เข้ามาหาเเจ็คสันตอนนี้ก็เหมือนกับได้รับมอบหมายภารกิจให้เข้ามาเชิญชวนเขา

 

“ไม่คาดคิดว่าจะส่งคนรู้จักฉันเข้ามาเชิญชวนให้เข้าร่วมไฮดร้าแบบนี้ เเต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าพวกไฮดร้าสมควรเป็นคนมาเชิญชวนด้วยตัวเองหรอกหรอ?”เเจ็คสันไม่ได้จ้องมองทอมอีกต่อไป เขาได้ส่งเสียงอุทานขึ้นไปยังตำเเหน่งทางเข้า

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะนั้นเองประตูที่ปิดลงเมื่อครู่นี้ได้เปิดขึ้นอีกครั้งก่อนที่ชายสวมใส่เสื้อผ้าสไตล์ตะวันตกจะเดินเข้ามา เขาคือ เจฟเฟอร์รี่

 

“เเม้จะเป็นตัวทดลองที่สมบูรณ์แบบที่สุด เเต่ดูเหมือนว่าเเท้จริงเเล้วก็ยังมีความบ่งพร่องอยู่มาก”เห็นเเจ็คสันกล่าวถึงไฮดร้า เจฟเฟอร์รี่ รู้ดีว่า การที่ทอมกระตุ้นให้เเจ็คสันเข้าร่วมกับไฮดร้า คงจะเป็นไปไม่ได้ดังนั้นเขาจึงเดินมาที่ข้างเตียงของเเจ็คสัน

 

“ดูเหมือนว่าเพื่อนสนิทของนายคนนี้จะดูไม่เชื่อถือนายสักเท่าไหร่นะ?”หลังจากเดินมาข้างเตียงเเจ็คสัน เจฟเฟอร์รี่ กล่าวพูดกับทอม

 

ฟุ่บ!

 

“อืม!”คำตอบที่ทอมตอบนั้น ก็อยู่ในความคาดหมายของเจฟเฟอร์รี่ เเจ็คสันที่เฝ้ามองดูพฤติกรรมของทอมนั้นเขาหยั่งความเกลียดชังไว้ในใจ

 

“ดี,ก่อนหน้านี้ฉันเองก็มีความเกลียดชังต่อพวกเเก ยิ่งพวกเเกทำกับเพื่อนของฉันแบบนี้ด้วยเเล้ว หากฉันรอดไปได้ ไม่ต้องสงสัยว่าศพของเเกคงจะไม่สวยอย่างเเน่นอน!”เผชิญหน้ากับเจฟเฟอร์รี่ เเจ็คสัน พูดอย่างเย็นชา

 

ก่อนหน้านี้ที่เเจ็คสันมีเรื่องกับพวกไฮดร้าเป็นเพราะเควสภารกิจของเขา เเต่ตอนนี้พวกไฮดร้าได้กระตุ้นต่อมความโกรธของเขา เเจ็คสันสัญญาเลยว่าหากเขามีชีวิตรอดออกไปไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องกำจัดพวกไฮดร้าให้ออกไปจากโลกนี้ทั้งหมดให้ได้

 

~~

 

ได้ยินเสียงก่นด่าของเเจ็คสัน เจฟเฟอร์รี่ รู้สึกเสียวสันหลังเล็กน้อย ปัจจุบันเเม้เเจ็คสันจะถูกขึงอยู่บนเตียงเเต่คำขู่เมื่อครู่นี้ทำให้ เจฟเฟอร์รี่ รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย

 

“หึ่ม! ฉันจะให้โอกาสเธอครั้งสุดท้าย หากเธอเข้าร่วมกับองค์กรไฮดร้าของเราเเละรับปากว่าจะละทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง ฉันสัญญาว่าจะมอบอนาคตที่ดีให้กับเธอ,นอกจากนี้ เธอคงไม่ต้องการเห็นเพื่อนของเธอเป็นแบบนี้ใช่หรือไม่?”เจฟเฟอร์รี่กล่าวบอกเเจ็คสัน

 

“ถ้าเธอเต็มใจเข้าร่วมกับเรา ฉันสัญญาได้เลยว่า ตัวทดลองหมายเลข 1 ของเรา จะกลับเป็นปกติเฉกเช่นเดิม”เจฟเฟอร์รี่ กล่าวพูดถึงสภาพของทอม เขารับประกันในคำพูดเหล่านี้ เกี่ยวกับตัวทดลองหมายเลข 1

 

“อย่าได้เรียกเขาว่า ตัวทดลอง อะไรนั่น! เขามีชื่อของเขา เเละ เขาก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน เขาคือ ทอม ,ทอม สมิธ!!”เเจ็คสันที่ฟื้นฟูพละกำลังขึ้นมาด้วยเขากระชากตัวเองอย่างเต็มเเรงเพื่อดิ้นจะพุ่งเข้าตั้นหน้าของเจฟเฟอร์รี่

 

เเจ็คสันเเน่นอนว่าย่อมไม่เชื่อคำพูดของใครง่าย ๆ โดยเฉพาะกับองค์กรไฮดร้าด้วยเเล้ว ในโลกนี้ คนเลว อย่างไรก็เลวอยู่วันยังค่ำ ยิ่งเลวโดยไม่สามารถกลับตัวได้เเล้ว ก็ยิ่งเป็นตัวตนที่ชั่วร้ายเเม้เเต่คำพูดก็ไม่อาจเชื่อถือได้

 

“ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอรู้สึกโกรธมากเเค่ไหน เเต่ฉันหวังว่าเธอจะพิจารณาคำพูดของฉัน ต้องพูดอีกอย่างว่า สถานการณ์ของเธอในปัจจุบันเเทบจะหมดหนทางหลบหนี ทำตามคำแนะนำของฉัน มันจะเป็นผลประโยชน์ที่ดีกับตัวเธอ นอกจากนี้ หนทางที่สามารถช่วยเหลือเพื่อนได้โดยง่าย อย่าได้ทำมันให้มันยุ่งยากเลย”เผชิญหน้ากับการดิ้นรนของ เเจ็คสัน เจฟเฟอร์รี่ ไม่ได้ตั้งใจจะเกลี่ยกล่อม เเต่นี่เป็นการบอกอ้อม ๆ ถึงอำนาจที่อยู่ในมือของเขา

 

“หึ,คนระดับเเกสามารถที่จะรับรองคำพูดเหล่านั้นได้?”เเจ็คสันกล่าวพูดอย่างขุ่นเคือง

 

เเม้ว่าเขาจะมีความสามารถในการหลบหนีเเต่การช่วยเหลือทอมออกไปพร้อมกันก็คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก”ผ่อนคลายเถอะ ฉันรับประกันเรื่องนี้ด้วยตัวของฉันเอง”เจฟเฟอร์รี่ กล่าวตอบคำถามก่อนหน้านี้

 

ตราบใดที่เเจ็คสันเต็มใจจะเข้าร่วมกับองค์กรไฮดร้า พวกเขามีวิธีการมากมายที่จัดการเเจ็คสันให้อยู่ในกรอบของพวกเขา นอกจากนี้ เเจ็คสันเป็นบุคคลที่มีความสามารถ หากสามารถควบคุมให้เป็นเหมือนเครื่องจักรที่ใช้ออกคำสั่งเพียงอย่างเดียว องค์กรไฮดร้าจะต้องมีอนาคตที่ดีอย่างเเน่นอน

 

“หืม?ดูเหมือนสถานะของเเกในองค์กรไฮดร้าจะไม่ต่ำเลยสินะถึงกล้ารับประกันแบบนี้”เห็นคำยืนยันจากปากของเจฟเฟอร์รี่ เเจ็คสันกล่าวกระซิบกระซาบ

 

“แน่นอน,ฉันเป็นหัวหน้าผู้ควบคุมเเผนการสร้างทหาร วินเทอร์โซลเยอร์”เจฟเฟอร์รี่เดิมทีไม่คิดบอกสถานะของตัวเองเเต่เขาก็ไม่สนใจสิ่งใด

 

เขาไม่เหมือนกับรีสหากการดึงคนเข้ามาร่วมกับกองกำลังไฮดร้าด้วยความสมัครใจได้ยิ่งเป็นประโยชน์ถึงที่สุด เพราะแบบนี้เขาถึงไม่ชอบการทดลองของ รีส

 

“เด็กคนนั้น…”เห็น เเจ็คสัน เเละ เจฟเฟอร์รี่ โต้เถียงกัน นอกห้อง นายพล รีส จ้องมองไปที่พวกเขาด้วยความระมัดระวัง

 

“มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอครับ?”หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวถาม

 

“พละกำลังของเขากำลังฟื้นฟูกลับมา เร็วเข้ารีบเปิดระบบการป้องกันระดับสามในทันที!”รีสกล่าวสั่งลูกน้องของเขา

 

“ครับ!”เผชิญหน้ากับคำสั่งเร่งด่วนของ รีส พวกเขารีบปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว

 

ในความเห็นของรีสเขารู้สึกสงสัยว่าทำไมเเจ็คสันถึงฟื้นสภาพความเเข็งเเกร่งได้รวดเร็วขนาดนี้เเม้เขาจะสงสัยเเต่ในใจของเขาก็เกิดความระเเวงอย่างบอกไม่ถูก

 

ฐานทัพไฮดร้านี้ หากต้องเผชิญหน้ากับกองทัพไอรอนแมนมากกว่า 20-30 ตัว อาจจะเป็นเรื่องยากที่ฐานนี้จะสามารถต้านไหว เเต่ความสามารถของระบบป้องกันในฐานลับเเห่งนี้ค่อนข้างสูงเพราะระบบได้ถูกออกแบบมาเพื่อรับประกันเหตุการปะทะระหว่างการปะทะกับพวก S.H.I.E.L.D.

 

ที่ด้านนอกนายพลรีสกล่าวสั่งการอย่างรวดเร็วเเต่ในขณะเดียวกัน

 

“คำพูดของเเกก็ฟังดูเป็นข้อเสนอที่เลวเเต่ฉันคิดว่าฉันจะลองหาทางด้วยวิธีอื่นดู”ในขณะเดียวกันนายพลรีสก็จ้องมองไปที่วิสัยทัศน์ภายในห้อง เขาเห็นเเสงสว่างวาบที่ปรากฏขึ้นข้างกายของเเจ็คสัน

 

“อะไรนะ?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน สัญชาตญาณของเจฟเฟอร์รี่ร้องเตือนอย่างหวาดกลัว

 

เด็กคนนี้ต้องการที่จะหลบหนีจริงจริง ? เเม้ว่าเบื้องหลังของเขาจะมี หมายเลข 1 อยู่ เเละมันเเทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ เเจ็คสัน จะหลบหนี เเต่อย่างไรก็ตาม เจฟเฟอร์รี่ กลับไม่คิดเช่นนั้น เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้ผิวของเขาเปลี่ยนไป

หลังจากนั้นสองชั่วโมง เเจ็คสัน ก็ตื่นขึ้นมาอย่างพร่ามัว ครั้งนี้ เขาถูกย้ายไปยังห้องสีขาวที่ว่างเปล่าอีกห้องนึงถูกขึงอยู่บนเตียงสีขาวพิเศษ ร่างกายของเขาถูกล่ามด้วยโซ่ที่ทำมาจากวัสดุผิดเเปลก มันทำให้เขาเคลื่อนไหวได้เพียงเล็กน้อยเพียงเท่านั้น

 

“ดูเหมือนฉันจะถูกเล่นงานเข้าเเล้วจริง ๆ “ในที่สุดเเจ็คสันก็เหมือนจะจำได้

 

ก่อนหน้านี้เขาเเสร้งสลบเพื่อรอโอกาสเเต่ทันใดนั้นควันเเก๊สก็ถูกปล่อยออกมาท่วมห้องทำให้เขาเผลอหลับไป เเก๊สชนิดนี้ไวต่อสัมผัสของเขามากทำให้เเจ็คสันไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองได้ทัน

 

เเม้ว่าชุดสูทภูติมายาของเขาจะมีฟังก์ชั่นป้องกันหลายอย่างเเต่ด้วยตัวยาของสารที่อัดเเน่นทำให้เเจ็คสันไม่สามารถต้านทานจนหมดสติหลง หลังจากนั้น เเจ็คสันก็พบว่ามันมีบางอย่างผิดเเปลกไป ชุดของเขาได้หายไปรวมถึงหน้ากากของเขา

 

เเต่เเจ็คสันได้มองเห็นที่นิ้วมือซ้ายของเขามันยังสวมใส่เเหวนที่เป็นวัตถุจำเพาะสำหรับเปลี่ยนร่างของเขาดูเหมือนพวกไฮดร้าเเม้จะตรวจสอบหลายครั้งเเต่ก็คงไม่ได้ข้อมูลอะไร มันยังคงสวมใส่บนนิ้วมือของเเจ็คสันต่อไป

 

“สถานการณ์ปัจจุบันดูท่าจะไม่ดีเเล้ว ไม่คาดคิดว่าพวกไฮดร้าจะระวังตัวขนาดนี้”เเจ็คสันที่นอนอยู่บนเตียงเขาพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลังเเต่ดูเหมือนจะไร้ผล

 

“ถึงเเม้ฉันจะลองหาโอกาสเพื่อหลบหนีดูออกจากสถานที่เเห่งนี้ เเต่ข้างนอกฉันก็ยังคงไม่รู้สถานการณ์อยู่ดี บางทีฉันอาจประมาทเกินไปที่เข้าสู่ฐานทัพศัตรูโดยไม่ระวังขนาดนี้”

 

สถานการณ์ของเขาตอนนี้ค่อนข้างสิ้นหวังอย่างเเท้จริง การหลบหนีในตอนนี้เป็นไปได้ยากอย่างถึงที่สุด หากตอนนี้เเจ็คสันมีระบบคอยสนับสนุนบางทีเขาอาจได้รับคำเเนะนำบางอย่าง

 

“ถ้า ฮัลค์ มาที่นี่ในตอนนี้บางทีอาจจะพอทำลายฐานทัพเเห่งนี้ได้”เเจ็คสันจำได้ถึงความบ้าคลั่งของ ฮัลค์ ที่สติหลุด เขาไล่ล่าทำร้ายล้างจนพื้นที่จำนวนมากวอดวาย

 

“คิดไปก็ไม่มีประโยชน์ ฉันต้องใช้สถานการณ์เหล่านี้เพื่อฟื้นฟูพละกำลังให้กลับมาเร็วที่สุด!”เเจ็คสันยอมรับสภาพของตัวเองเเละจำกัดความคิดที่ไม่สามารถเป็นไปได้ทิ้งไป เขากำลังคิดหาหนทางฟื้นฟูพละกำลังเพื่อเตรียมตัวหลบหนี

 

“เด็กคนนี้ค่อนข้างสงบทีเดียว ไม่คาดคิดว่าเเม้จะตกอยู่ในสถานการณ์นี้หลังจากตื่นขึ้นมายังกล้าที่จะหลับตาพักผ่อนอีก!”นอกห้องถัดไปเป็นห้องลับอีกเเห่งที่มีพื้นที่เฝ้าสังเกตุการณ์ เเจ็คสัน ผู้รับชอบหน้าที่นี้คือ เจฟเฟอร์รี่ เเละ นายพล รีส

 

“อืม,เขามีพรสวรรค์เเละศักยภาพของร่างกายที่โดดเด่นหากปล่อยทิ้งไปก็น่าเสียดายเเย่ ถ้าหากเราสามารถทำให้เขาเข้าร่วมกองกำลังไฮดร้าของเราได้ ไม่ต้องสงสัยว่าในอนาคตพวกเราจะเเพรอำนาจกระจายไปได้กว้างไกลเเค่ไหน”นายพล รีส กล่าวเเละจ้องมองไปที่ เเจ็คสัน เเม้เเจ็คสันอาจจะเป็นภัยคุกคามที่อาจนำมาซึ่งภัยพิบัติขององค์กรไฮดร้า เเต่เขาก็มีประโยชน์เช่นเดียวกัน

 

“ผ่อนคลายเถอะถ้าเขาไม่สามารถเป็นประโยชน์กับเรา ฉันจะสนับสนุนการทดลองของนาย”

 

“อืม,เเล้วนายวางเเผนจะทำอะไรกับ วินเทอร์โซลเยอร์ ?”

 

“ฉันหวังเเค่จะใช้ประโยชน์จากเขาเพียงเล็กน้อยไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร”ได้ยินคำถามของนายพลรีส เจฟเฟอร์รี่ไม่ต้องการเสียเวลาอีกต่อไป”ส่งเขาเข้าไป”

 

“ครับ!”หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวตอบ

 

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังนอนอยู่บนเตียงเพื่อฟื้นคืนความเเข็งเเกร่งเขาได้ยินเสียงประตูได้เปิดขึ้นเเละเเจ็คสันได้เอียงศีรษะไปทางต้นเสียงดูเหมือนเขาจะเห็นชายสวมใส่ชุดทหารสีดำเดินเข้ามาหาเขา

 

ตึก~

 

ตึก~

 

ในที่สุดทหารชุดสีดำคนนั้นก็เดินมาที่ข้างเตียงของเเจ็คสันเเละหยุดลง

 

“เเจ็คสันไม่ได้พบกันนาน!”หลังจากเดินมาถึงข้างเตียงเเจ็คสันเขาได้ถอดโม่งคลุมหน้าออกก่อนที่จะเผยใบหน้าที่ทำให้เเจ็คสันรู้สึกตกใจ

 

“ทอม?เป็นไปได้อย่างไร? นายเป็นพวกเดียวกับไฮดร้า?”เห็นทอมปรากฏตัวขึ้นเเจ็คสันรู้สึกประหลาดใจ

 

เเม้ว่าความสามารถในการอดทนของเเจ็คสันจะรุนเเรง เเต่เขาไม่อาจทำใจเชื่อว่าเพื่อนวัยเด็กคนนี้จะเป็นพวกของไฮดร้า เขาไม่มีทางเชื่อเรื่องนี้เด็ดขาด

 

“สถานการณ์เป็นแบบนี้ได้อย่างไร? ฉันกำลังถูกพวกไฮดร้าเล่นงานงั้นหรอ? พวกเขาได้ใช้ทอม เพื่อที่จะจัดการฉัน? ไม่ต้องสงสัยว่าทำไม ทอมถึงขอตัวลาพักร้อน หนึ่งสัปดาห์เเละเงียบหายไป ตอนนี้ เขาปรากฏตัวขึ้น ซ้ำยังถูกพวกไฮดร้าบงการ เวรเอ้ย,ไอ้พวกไฮดร้า”เเจ็คสันครุ่นคิดในใจ

 

“อืม,ฉันได้เข้าร่วมกับองค์กรไฮดร้าจริง ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับฉัน มันคือร่างกายที่ทรงพลังที่เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป”เห็นเเจ็คสันนอนอยู่บนเตียง ทอมจ้องมองไปที่เขาอย่างไร้อารมณ์

 

“เเจ็คสัน มาเข้าร่วมกับพวกเราเถอะ ฉันเชื่อว่านายจะได้รับผลตอบเเทนที่ดีอย่างเเน่นอน องค์กรไฮดร้าของพวกเรา อีกไม่นานก็จะนำพาโลกไปสู่ความสวยงามที่เเท้จริง”ทอมกล่าวบอกเเจ็คสัน

 

“ทอม…นาย!!”เห็นลักษณะของทอมในตอนนี้ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากของทอมเเจ็คสันสามารถรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว

 

บางทีทอมอาจโดย สกาเล็ต วิช บงการควบคุมอยู่ ไม่อย่างนั้นเเจ็คสันไม่มีทางเชื่อว่า ทอมจะกล้าพูดแบบนี้ เขารู้ดีถึงลักษณะเเละนิสัยที่เเท้จริงของทอม

 

“ทอมนายมั่นใจได้ว่าไม่ว่าอย่างไรฉันก็จะช่วยนายออกมาอย่างเเน่นอน! ฉันสัญญา!”เเจ็คสันไม่ได้ตอบทอมในตอนนี้เขาหลับตาลงพร้อมกับจิตใจที่กำลังลุกเป็นไฟด้วยความโกรธเเค้น

“เขาเป็นใคร?เจฟเฟอร์รี่ นายรู้จักเขา?”การเเสดงออกของชายในชุดเครื่องแบบทหารที่มีต่อชายสวมชุดสไตล์ตะวันตกเปลี่ยนไปเขารู้สึกสงสัยเเละจ้องไปที่ใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเด็กหนุ่มชาวตะวันตก

 

“ฉันไม่คิดเลยว่าเเท้จริงเเล้วซูเปอร์ฮีโร่มิราจไนท์ที่โด่งดังในนิวยอร์กจะเป็นเด็กหนุ่มคนนี้”

 

“หืม,เช่นนั้นเขาคือ เเจ็คสัน หลิน? ในที่สุดฉันก็เข้าใจเเล้วว่าทำไม โทนี่ สตาร์ก ถึงได้ส่งกองทัพไอรอนแมนจำนวนมาก เพื่อค้นหาตัวมิราจไนท์ เเม้เเต่ S.H.I.E.L.D. ก็ยังเริ่มเคลื่อนไหว ไม่คาคคิดเลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะคือมิราจไนท์จริง ๆ “เห็นเจฟเฟอร์รี่ประหลาดใจ ชายในชุดเครื่องแบบทหารหลังจากเห็นใบหน้าที่ชัดเจนของเด็กหนุ่มเขาเหมือนจะจำได้

 

เกี่ยวกับการจัดการองค์กรไฮดร้านั้นภายในองค์กรมีหน้าที่การเเบ่งงานที่เเตกต่างออกไปซึ่งเจฟเฟอร์รี่เเละชายสวมเครื่องแบบทหาร เป็นหน่วยข่าวกรองที่คอยรับข้อมูลจากโลกภายนอก นอกจากนี้ เรื่องที่ทอมถูกหลอกให้เข้าร่วมโครงการวินเทอร์โซลเยอร์เองก็อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของเจฟเฟอร์รี่ เเต่ชายในเครื่องแบบทหารนี้รับหน้าที่วิจัยเกี่ยวกับโครงการลับภายในที่เป็นข้อมูลลับสุดยอด

 

“เเจ็คสัน หลิน เเท้จริงเเล้ว เขามีเบื้องหลังอย่างไร ได้ยินว่าเขามีความสัมพันธ์กับ โทนี่ สตาร์ก เเละ ก็ S.H.I.E.L.D.”ชายในเครื่องแบบรู้สึกสงสัยความสัมพันธ์ของเเจ็คสัน

 

“รีส นายยังไม่รู้อะไร เด็กหนุ่มเเจ็คสันคนนี้เป็นเด็กหนุ่มที่โดดเด่น เขามีความก้าวหน้าที่ดีความสามารถของเขาเป็นของจริง ซึ่งเรื่องนี้โทนี่ สตาร์ก เองก็ยอมรับพรสวรรค์ของเขา ต่อมาเขาได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ S.H.I.E.L.D. เดิมที ฉันเกือบจะคิดว่า เเจ็คสัน คือลูกนอกสมรสของโทนี่ “เกี่ยวกับสถานะของเเจ็คสัน เจฟเฟอร์รี่เองก็เข้าใจผิด

 

“อืม,ฉันได้ยินว่า S.H.I.E.L.D. ได้จัดเเต่งตั้งเขาเป็นบุคคลสังเกตุการณ์พิเศษระดับ 2 ซึ่ง เเม้เเต่โทนี่ เเละ S.H.I.E.L.D. ก็ยอมรับเขาไม่ต้องสงสัยว่าเราไม่อาจประมาทสถานะของเขาได้ ความสามารถของเขาสามารถเข้าทีมอเวนเจอร์สได้อย่างไม่ยากเย็น เเต่ใครจะคิดว่า เเท้จริงเขาคือมิราจไนท์”จ้องมองไปที่ ตัวตนของเเจ็คสัน รีส พูดเห็นด้วยกับ เจฟเฟอร์รี่

 

“พื้นหลังของเด็กคนนี้มีความลับที่ค่อนข้างมาก เเต่ถ้าเราสามารถนำเขาจับเข้ากระบวนการทดลองเเละสามารถนำมาเป็นพวกเราได้ อิทธิพลของเราบางทีอาจจะสามารถเข้าถึง โทนี่ สตาร์ก ได้”รีส กล่าวเสริม ซึ่งหากเป็นความคืบหน้าด้านการพัฒนาองค์กรไฮดร้าของเขา เขาพร้อมที่จะทุ่มเทกับมัน

 

“รีส,หากนายนำบุคคลที่อันตรายเเละไม่รู้เบื้องหลังที่เเน่ชัดคนนี้มาทดลองไม่คิดว่ามันจะอันตรายไปหน่อยหรอ ในความคิดของฉัน ฉันต้องการบุคคลที่สมบูรณ์แบบที่สามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับไฮดร้าได้ก็จริง เเต่เขาอันตรายเกินไป”ได้ยินคำพูดของ รีส เจฟเฟอร์รี่ กล่าวถามอีกครั้ง

 

ตั้งเเต่ที่ผู้จัดการด้านการบริหารของไฮดร้ารู้ถึงสถานะที่เเท้จริงของมิราจไนท์ เเจ็คสันสามารถใช้งานเเละทำประโยชน์ให้กับไฮดร้าได้ เเต่ตัวตนของเขาอันตรายเกินไป

 

“เจฟเฟอร์รี่ ฉันรู้ว่านายกังวล ความสามารถของเด็กคนนี้เเข็งเเกร่งมาก หากทำให้เขาเข้าร่วมกับองค์กรไฮดร้าเราได้จะเป็นผลประโยชน์ที่ดีที่สุด เเต่นายคิดว่าเขาจะยอม นอกจากนี้ สกาเล็ต วิช ก็ยังไม่สามารถควบคุมเขาได้ จะมีอะไรที่สามารถจัดการเขาได้นอกจากการทดลอง?”เผชิญหน้ากับเจฟเฟอร์รี่ รีส กล่าวโต้เเย้ง

 

“เรื่องนี้…”จริง ๆ เเล้ว เจฟเฟอร์รี่ ไม่รู้เเน่ชัดว่าเเจ็คสันสามารถต้านทานการสะกดจิตของ สกาเล็ต วิช ได้อย่างไร เขาเองก็เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

“สถานการณ์ภายในองค์กรไฮดร้าของเราก็เข้าขั้นสุ่มเสี่ยงพวกเราควรจะเริ่มต้นการทดลองโดยเร็วเพื่อเพิ่มกองกำลังรบของไฮดร้าของเรา.

 

“ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นองค์กร S.H.I.E.L.D. หรือ พวกตำรวจ ก็มองหาอิทธิพลของพวกเรา”เห็นเจฟเฟอร์รี่ไม่พูดอะไร รีส กล่าวต่อ

 

“ฉันรู้ว่านายต้องการเริ่มต้นการทดลอง เเต่ฉันคิดว่าเราควรลื่อนออกไปก่อนสถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมาะมากนัก”เจฟเฟอร์รี่ กล่าวตอบ

 

“ฉันจะรอเพียงครึ่งวันเพีงเท่านั้น หลังจากผ่านไปเเล้ว ฉันจะเริ่มต้นการทดลอง เเม้ว่าทางS.H.I.E.L.D.จะเริ่มต้นเคลื่อนไหวพวกมันก็คงไม่อาจพบที่นี่ในเร็ววัน ดังนั้นมันจะเป็นปัญหาหากพวกเราล่าช้ามากกว่านี้”รีส กล่าวบอก เจฟเฟอร์รี่

 

“ก็ได้ ครึ่งวันก็เพียงพอเเล้ว”เจฟเฟอร์รี่รู้สึกขอบคุณที่เพื่อนของเขายอมไว้หน้าให้

 

“ทำความสะอาดพื้นที่ภายในห้องซะ ทุก ๆ หนึ่งชั่วโมง ปล่อยเเก๊สระงับประสาทเข้าไป พอครบเวลาฉันจะเริ่มต้นการทดลองที่วางเเผนเอาไว้ทันที”รีส กล่าวบอกกับลูกน้องของเขา

 

“รับทราบ,เจ้าหน้าที่อาวุโส”

 

จากนั้นทุกคนก็เก็บกวาดพื้นที่ภายในห้องก่อนที่จะจากออกไป

 

ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาสงสัยก็คือ เเจ็คสันยังคงปิดบังอะไรมากน้อยเพียงใด เพราะสิ่งที่พวกเขารู้ตอนนี้มีเพียงสถานะที่เเท้จริงของเขาเพียงเท่านั้น หากเเจ็คสันหลบหนี ทาง ไฮดร้า ก็สามารถระบุตัวตนของ เเจ็คสันได้เเล้ว การไล่ล่าภายหลังย่อมไม่ใช่เรื่องยาก

 

หลังจากเดินจากมา เจฟเฟอร์รี่ก็ครุ่นคิดเกี่ยวกับวิธีการของ รีส เขาเองก็ปราถนาที่จะให้กองกำลังไฮดร้าเเข็งเเกร่งมากขึ้นเเต่การทดลองนั้นมีความอันตรายที่สูงมาก

 

ยิ่งตัวตนของเเจ็คสันที่มีเบื้องหลังลึกลับด้วยเเล้ว เจฟเฟอร์รี่ ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาแบบใด เเต่เขารู้ดีว่า เเจ็คสัน มีความสัมพันธ์ กับ ทอม สมิธ ที่เป็นวินเทอร์โซลเยอร์ อยู่ในตอนนี้

 

ดังนั้นเจฟเฟอร์รี่จึงต้องการใช้ทอมเพื่อเเผนการของเขาบางทีเขาอาจจะได้ช่องโหว่จากเเจ็คสันในด้านนี้

 

“เคลลี่! เตรียมพร้อมสตาร์ทระบบวินเทอร์โซลเยอร์โดยเร็ว ฉันต้องการให้เขาทำภารกิจพิเศษ”หลังจากผ่านมาครึ่งวัน เจฟเฟอร์รี่ไม่ต้องการเสียเวลาอีกเขาโทรติดต่อผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา

 

“ครับ,ผู้จัดการ เจฟเฟอร์รี่”

 

“มิราจไนท์ เเจ็คสัน หลิน,วินเทอร์โซลเยอร์ ทอม สมิธ ฉันคาดหวังกับพวกนายทั้งสองในสถานการณ์ตอนนี้อยู่มากโขทีเดียว!”

รัฐนิวเจอร์ซีย์ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเขตป่า สถานที่เเห่งนี้คือฐานลับของไฮดร้า

 

ตั้งเเต่ที่เเจ็คสันถูกจับตัวไปก็ผ่านมาหลายชั่วโมงเเล้ว เขาได้ถูกนำตัวเข้าไปในปราสาทเเละถูกขังภายในห้องเล็ก ๆ

 

ดูเหมือนว่าตลอดทางพวกมันต้องการจะถอดชุดสูทภูติมายาของเขาออกโดยเฉพาะหน้ากากที่ปิดบังใบหน้าเขา

 

“ไม่คาดคิดว่าเพื่อนเหล่านี้จะมาหลบในที่ไร้เเสงเเดดเข้าถึงแบบนี้ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช เองก็ดูเหมือนจะทำงานให้กับพวกมัน”เเจ็คสันได้เเสร้งทำเป็นสลบในห้องปิดตาย เดิมเขาสามารถหลบหนีออกไปได้เเต่เขาเลือกที่จะไม่ทำเช่นนั้น

 

เเม้ว่านี่จะเป็นห้องปิดตายเเต่ก็ติดกล้องวงจรปิดที่เอาไว้ดูความเคลื่อนไหวของเขา เเน่นอนว่าชุดสูทภูติมายาของเเจ็คสันคือตัวปิดบังที่คนเหล่านี้ต้องการจะถอดออกในใจของพวกเขาต้องการที่จะเห็นรูปลักษณะที่เเท้จริงของฮีโร่คนนี้

 

“นี่คือ คนที่ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช จับมาได้?เท่าที่ได้ฟังจากควิกซิลเวอร์ ดูเหมือนพลังจิตของเพื่อนคนนี้จะเเข็งเเกร่งมากสามารถหลุดจากการควบคุมของสกาเล็ตวิชได้”ชายในเครื่องแบบทหารพูดกับชายใส่เสื้อผ้าสไตล์ตะวันตก

 

“อืม,สามารถฆ่ามิวแทนท์ระดับ 4 ของเราได้ ย่อมไม่ใช่ตัวตนที่เรียบง่าย เเต่ดูเหมือนเขาจะประมาณตัวเองสูงเกินไป นอกจากนี้เราก็ได้เก็บรังเเตนเข้ามาอย่างน้อยในนิวยอร์กตอนนี้ก็คงจะไล่วุ่นตามหาตัวมิราจไนท์กันอยู่”หลังจากได้ยินชายเครื่องแบบทหารพูด ชายใส่เสื้อก็ตะวันก็กล่าวเห็นด้วย

 

เเม้ว่าไฮดร้าจะเเข็งเเกร่ง เเต่ถ้าต้องเจอขุมกำลังของ S.H.I.E.L.D. ทีม X-MEN หรือ กองทัพไอรอนแมนของโทนี่พร้อมกันพวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานได้

 

“ฉันเองก็สงสัยว่าเบื้องหลังของเขาเเท้จริงเเล้วทำไมถึงมีอิทธิพลที่ให้ความเคลื่อนไหวขนาดนี้ ดูเเล้วเพื่อนคนนี้ของเราจะค่อนข้างลึกลับอย่างเเท้จริง”ชายในเครื่องแบบทหารกล่าวพูดขึ้น

 

เรื่องปัญหาระหว่าง เดดพูล เเละ ฟรานซิส เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไฮดร้าก็ให้การสนับสนุนเรื่องการพัฒนาเเละวิจัยมิวแทนท์กับฟรานซิส นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ฟรานซิส ถึงได้รับการสนับสนุนจาก ไฮดร้า

 

ฟรานซิสที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาจากเดดพูล,พวกไฮดร้าจึงส่ง ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ไปเคลียร์เเละเฝ้าระวังเขาอย่างลับ ๆ โชคดีที่พวกเขาไม่ได้เจอ S.H.I.E.L.D. ,กัปตันอเมริกา หรือ อิทธิพลของ X-MEN ไอซ์แมน อย่างไรก็ตาม การได้รับของขวัญกลับมาอย่างมิราจไนท์ ไฮดร้าเองก็รู้สึกดีไม่ใช่น้อย

 

“การทดลองดำเนินการไปถึงไหนเเล้ว ฉันต้องการจะเริ่มปฏิบัติการวินเทอร์โซลเยอร์โดยเร็ว”จ้องมองผ่านจอมอนิเตอร์ ชายสวมใส่เสื้อผ้าสไตล์ตะวันตกกล่าวถาม

 

“ผ่อนคลายเถอะจากข้อมูลการตรวจสอบอุปกรณ์ของมิราจไนท์ที่ยึดมาได้ ดูเหมือนมันจะมีความสามารถที่รุนเเรงไม่ใช่น้อย ถ้าเราสามารถใช้งานมันได้ จะดีมาก”ได้ยินความกังวลของชายสวมใส่เสื้อผ้าสไตล์ตะวันตก ชายในเครื่องแบบทหารกล่าวตอบ

 

“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น นอกจากนี้ ดูจากสภาพการเเล้ว มิราจไนท์ จะยังคงหลับไปอีกนานเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าเขาเเกล้งหรอกหรือ?”ชายสวมใส่เสื้อผ้าสไตล์ตะวันตกกล่าวถามอีกครั้ง

 

“ผ่อนคลายเถอะ ฉันได้ให้ยาระงับปราสาทไป ซึ่งมันจะทำให้เขาหมดสติไปอีกนาน ตั้งเเต่ที่เขากล้าที่จะเข้าสู่ฐานลับไฮดร้าของพวกเรา หากเขามีเเผนจริง เขาก็คงคิดผิดเเล้ว”ชายในเครื่องแบบทหารยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

 

จากนั้นเขาก็พยักหน้าให้กับลูกน้อง เพื่อทดสอบว่า มิราจไนท์ ได้มีเเผนซ่อนอยู่ในใจหรือไม่

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่ได้ยินคำสั่งหนึ่งในลูกน้องของเขาก็ยกมือกดเเเป้นพิมพ์หลายด้านอย่างต่อเนื่อง

 

จากนั้นภายในห้องก็ถูกปล่อยควันสีขาวออกมาจนท่วมเต็มพื้นที่ห้อง

 

หลังจากผ่านไปสองนาทีหมอกควันในห้องก็สลายหายไปจนเผยให้เห็นบุคคลที่นอนอยู่กลางห้องซึ่งท่าทางการนอนของเเจ็คสันตอนนี้ถูกผ่อนคลายมากขึ้น

 

“ส่งทีมเข้าไปตรวจสอบโดยเร็ว”ชายในเครื่องแบบทหารคนนั้นกล่าวสั่งลูกน้องของเขา

 

“ครับ!”หนึ่งในทีมผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับคำสั่งเเละเดินเข้าไปในห้อง

 

จากนั้นไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับทีมทหารติดอาวุธจำนวนมากเดินเข้าไปตรวจสอบมิราจไนท์ผลคือไร้การตอบสนองใด ๆ คนเหล่านี้ ได้ตรวจสอบอย่างระมัดระวังก่อนที่จะส่งสัญญาณผ่านจอมอนิเตอร์

 

“เปิดหน้ากากของเขา”เห็นว่ามิราจไนท์หมดสติโดยเท้จริงชายเสื้อผ้าตะวันตกก็ตะโกนขึ้น

 

ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้ได้ออกคำสั่งให้ทีมของเขาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างรวดเร็วซึ่งหน้ากากที่เเจ็คสันสวมใส่นั้นดูเหมือนหน้ากากธรรมดาที่ไม่ได้มีความพิเศษอะไร

 

หลังจากถอดหน้ากากนี้อย่างระมัดระวังชายที่ทำหน้าที่ก็ถอยห่างเล็กน้อยเพื่อให้มองเห็นรูปลักษณะผ่านมอนิเตอร์ซึ่งใบหน้าที่ชายสวมใส่เสื้อผ้าตะวันตกได้เห็น ทำให้เขารู้สึกตื่นตะลึง

 

“ไม่คาดคิดว่าเขาคือ…”

เเจ็คสัน ได้บอกชื่อจริงในชีวิตจริงของเขา เนื่องเพราะเเมตต์ไม่สามารถมองเห็นได้ดังนั้นเเจ็คสันจึงไม่จำเป็นจะต้องหลอกเขา

 

“เเจ็คสัน?อืม เมื่อวานฉันเห็นเขาพาเพื่อนมาอยู่ เเต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันจนกลับบ้านหรอก”ได้ยินคำถามของเเมตต์ เจฟฟ์ กล่าวตอบ

 

“เช่นนั้นนายพอจะจำอะไรเกี่ยวกับเมื่อวานได้มั้งไหม?”ได้ยินคำตอบของเจฟฟ์ เเมตต์กล่าวถามอีกครั้ง

 

“อืม,ฉันจำได้ว่าเมื่อวานมีคนมาหาเรื่องวีสในวันนั้น หลังจากที่ถูกพวกเราปิดกั้นคนเหล่านั้นก็ออกไป จากนั้นดูเหมือนเเจ็คสันจะเดินออกไป เเละก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย ฉันเพื่อนเพื่อนคนนั้นของเเจ็คสันรออยู่นานพอสมควรก่อนที่เขาจะจากไป จะพูดก็พูดเถอะ เขาไม่ได้ขับรถกลับเองด้วยฉันเห็นเขาเดินกลับ ฮ่าฮ่า.”เมื่อคืนที่ผ่านมาเจฟฟ์ได้ดื่มเหล้าหลายเเก้วเป็นเพื่อนธอร์เพราะพวกทหารเเห่งโชคชะตารู้สึกถูกชะตากับธอร์ ดังนั้นเจฟฟ์จึงจำได้

 

“ดูเหมือนว่าจะเป็นฝีมือพวกฟรานซิสจริงจริง”ได้ยินเจฟฟ์กล่าวตอบ ปีเตอร์กล่าวกระซิบด้านหลัง

 

“เจฟฟ์ นายรู้หรือไม่ว่าเพื่อนคนที่เเจ็คสันพามาด้วยเขาชื่ออะไร?”เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอิทธิพลของฟรานซิสดังนั้นเขาจึงอยากรู้ว่า มิราจไนท์ นัดเจอเพื่อนคนนั้นคนไหน

 

“อืม,รู้สึกเพื่อนคนนั้นจะชื่อ ธอร์ ก่อนหน้านี้ฉันได้ขอเบอร์โทรศัพท์เขามาอยู่ฉันจะให้ดู”เจฟฟ์หลังจากกล่าวว่าเผชิญหน้ากับเรื่องอะไรเขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อเปิดเบอร์โดยตรง

 

“อ่า,นี่คือเลขของเขา เมื่อคืนที่ผ่านมาฉันชอบเขา เขาเนี่ยนักดื่มตัวจริง”เจฟฟ์กล่าวบอก

 

“ขอบคุณเจฟฟ์ไว้ว่าง ๆ ฉันจะมาเลี้ยงนาย”เเมตต์ให้ปีเตอร์จดเบอร์โทรศัพท์ก่อนที่จะกล่าวบอกเจฟฟ์

 

“อืม ยินดี หากต้องการความช่วยเหลือจากฉัน ติดต่อฉันได้โดยตรง นะเพื่อน!”เห็นว่าเเมตต์กำลังจะจากไป เจฟฟ์กล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“สบายใจเถอะ หากต้องการความช่วยเหลือฉันจะติดต่อนายไปเเน่นอน!”

 

หลังจากนั้นสองนาทีเเมตต์เเละปีเตอร์ก็ออกจากบาร์ซิสเตอร์มากาเร็ตมาตรงที่จอดรถที่รถจิ๊ปของเเจ็คสันจอดอยู่ที่นี่

 

“นี่ใช่รถมิราจไนท์ใช่มั้ย?”เเม้จะมองไม่เห็นเเต่เเมตต์ก็จำได้ว่านี่เป็นรถของมิราจไนท์

 

“อืม,เเต่เราไม่มีกุญเเจจึงไม่สามารถขับออกไปได้”มองไปที่รถของ เเจ็คสัน ปีเตอร์ขมวดคิ้วเเละกล่าวตอบอย่างใจเย็น

 

“เช่นนั้นเราควรลองโทรหาธอร์ดูรึไม่?”ปีเตอร์ดึงโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาธอร์

 

“เฮ้,เอ่อ สวัสดี นั่นใคร?”หลังจากเชื่อมต่อกับสาย ธอร์ กล่าวผ่านเสียงโทรศัพท์

 

“สวัสดีฉันเป็นเพื่อนของเเจ็คสัน คุณพอจะรู้ไหมว่าเเจ็คสันไปไหนเมื่อคืน?”

 

 

หลังจากผ่านไปหลายนาทีปีเตอร์ค่อนข้างผิดหวังหลังจากวางสายโทรศัพท์จากธอร์ ดูเหมือนว่าเพื่อนคนนี้จะเป็นเพื่อนของเเจ็คสันที่เเจ็คสันเคยบอกว่าจะเเนะนำให้รู้จัก เเต่ดูเหมือนธอร์จะไม่รู้ข้อมูลที่เเจ็คสันหายไปเมื่อคืนนี้

 

ฟุ่บ!

 

“เรากลับไปดูทางด้าน เดดพูล กันเถอะ เผื่อทางเขาจะได้ข้อมูลอะไร เพราะฟรานซิสได้ลักพาตัวเเฟนสาวของเขาไป ตราบเท่าที่พวกมันได้รับข่าวการปรากฏตัวของเดดพูล ไม่เเน่พวกมันอาจจะเริ่มเคลื่อนไหว”ไม่ได้ความคืบหน้าจากธอร์ ปีเตอร์ กล่าวคาดหวังในตัวของเดดพูล

 

“อืมไปกันเถอะ!”

 

 

นิวยอร์ก,ควีนส์ อพาร์ทเมนต์ของธอร์

 

“เพื่อนเเจ็คสันมองหาข้าทำไม?หรือว่าเมื่อคืนเขาเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง ๆ?”ธอร์ที่ได้รับสายเมื่อครู่นี้ เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ได้

 

เเม้ว่าปีเตอร์จะไม่ได้เปิดเผยเรื่องที่เเจ็คสันหายตัวไป เเต่ธอร์ก็สามารถคาดเดาได้

 

“ถ้าข้าฟื้นคืนพลังของตัวเองได้….”เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เช่นนี้ ธอร์รู้สึกดุด่าตัวเองที่ไร้พลัง

 

“ท่านพ่อ”

 

“เงื่อนไขอันใดกันที่ท่านต้องการให้ข้าทำให้สำเร็จ เพื่อนของข้ากำลังตกอยู่ในอันตราย ข้าในตอนนี้ช่างไร้พลังที่จะต่อกรผู้ใด”เมื่อไม่สามารถปกป้องเพื่อนตัวเองได้ ธอร์รู้สึกตำหนิตัวเองเเละเงยหน้ามองขึ้นบนฟ้าจากทางหน้าต่าง

 

เเจ็คสันได้ประสบกับอันตรายธอร์ที่ครุ่นคิดเกี่ยวกับการฟื้นคืนพลังนั้นในขณัเดียวกัน ห้องวิจัยค้อนลึกลับที่ตั้งอยู่ในนิวเม็กซิโก ของ S.H.I.E.L.D. นั้นทันใดก็สั่นราวกับได้รับการกระตุ้นหลังจากนั้นไม่นานมันก็เหมือนจะสงบลง

 

“เวรเอ้ย,ฉันกลัวเเทบตาย! สิ่งนี้เเท้จริงเเล้วมีสิ่งใดซ่อนอยู่กันเเน่”มองดูค้อนเทพเจ้าสายฟ้าที่อยู่ ๆ ก็นิ่งสงัดมาตลอด นักวิจัยหลายคนกล่าวอย่างตื่นกลัวเพราะความเปลี่ยนเเปลงนี้

 

 

นิวยอร์ก,บ้านของ วีส

 

“เหี้*เเม่งเอ้ย!”เวด ได้ทำลายข้าวของในบ้านไปหลายอย่าง

 

“เวด,นายช่วยใจเย็น ๆ ก่อนได้มั้ยว่ะเพื่อน!”มองที่ความโกรธของเดดพูล,วีส กล่าวพูดขึ้น เขาไม่ต้องการให้เวดระบายด้วยการทำลายสิ่งของมีค่า

 

“เอาดาบ,เอาปืนมาให้ฉัน”วาเนสซ่าได้ถูกจับตัวไปดังนั้น เวด จึงรู้สึกตำหนิตัวเองที่ตัวเองไม่สามารถช่วยเหลือวาเนสซ่าได้ เขากังวลว่า ฟรานซิสจะทำอะไรกับวาเนสซ่า

 

“เอ้านี่ ดาบ ,กับ ปืนของนาย”วีส ได้เดินไปหยิบของจากในห้องที่ถูกซ่อนไว้พร้อมเอามาให้เดดพูล

 

เเม้เดดพูลกำลังจะระบายอารมณ์เเละต้องการเผชิญหน้ากับฟรานซิส วีสก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับ วาเนสซ่า เเละ เวด ด้วยเหมือนกัน เเต่เดดพูลได้ติดต่อทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ไปเเล้ว วีสเชื่อว่าบางที พวกเขาอาจสามารถรับมือกับฟรารซิสได้

 

ฟุ่บ!

 

“ฟรานซิส ถ้าเเกกล้าที่จะทำร้ายเเฟนสาวของฉัน! ฉันจะตอนไอนั่นของเเกเเละฆ่าเเกซะ!”เวดยกปืนคู่ขึ้นมากับยิงเล็งไปที่ตรงหน้าต่างด้วยท่าทีชั่วร้าย

 

“ไม่ใช่เเกบอกว่ามิราจไนท์ได้ถูกจัดการโดยอิทธิพลของพวกฟรานซิสไม่ใช่หรอ เเม้เเต่มิราจไนท์ยังพลาดท่าฉันกลัวว่าเเกจะ…”เห็นเวดตกอยู่ในความเกลียดชัง วีส ยังกล่าวเตือนเรื่องนี้

 

เดดพูล เองก็รู้สึกตำหนิตัวเองที่เป็นต้นเหตุทำให้มิราจไนท์ถูกจับตัวไป

 

“ฉันรู้ ถ้าฉันรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับมิราจไนท์ละก็ ไม่ว่าอย่างไร ฉันจะระเบิดหัวมันด้วยตัวฉันเอง”หลังจากเก็บปืนพกพกของตัวเองเสร็จเดดพูลก็กล่าวขึ้น

 

“อืม”

 

 

ในขณะนั้นเองคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะของวีสดูเหมือนจะดังขึ้น

 

ฟุ่บ!

 

เวดได้ไปอ่านข้อความนั้นเเละเปิดขึ้นพวกเขาเห็นจดหมายที่เเนบมาเป็นวิดิโอในวิดิโอนั้นคือรูปของฟรานซิส

 

“ไอ้,โครตเวด วิลสัน เเฟนสาวของเเกอยู่กับฉัน หากไม่ต้องการให้เธอมีรูปลักษณะที่ดูหล่อเหลาเหมือนเเกมาหาฉันที่ xxxxxxx เวลา 09.00 โมงเช้า ฉันจะรอเเกอยู่ที่นั่น”เห็นวิดิโอที่ถูกส่งมาจากฟรานซิส เวด กลายเป็นเเสดงออกได้หน้าเกลียดมาก วาเนสซ่าได้ถูกจับอยู่ในตู้หลอดเเก้ว ซึ่งดูเหมือนว่าฟรานซิสต้องการจะทำให้เธอเป็นเหมือนเวด

 

“ฟรานซิส! ฉันรับรองเลยว่าพรุ่งนี้ฉันจะระเบิดตูดเเกด้วยตัวฉันเอง!”เห็นวาเนสซ่าถูกจับในหลอดทดลอง เวด รู้สึกโกรธจนถึงขีดสุด

 

ปั้ง!

 

วินาทีต่อมาเวดได้หยิบปืนของเขายิงเข้าไปที่จอหน้าคอมพิวเตอร์โดยตรง

 

“เวด!”

 

“ติดต่อพวกทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์โดยด่วน”หลังจากทำการทำลายหน้าจอคอมพิวเตอร์ เวดได้กล่าวพูดกับ วีส

“เกิดอะไรขึ้น?”เห็นเดดพูลมีท่าทีอาการเเสดงแปลกไป ปีเตอร์ที่ รู้สึก เเปลก ๆ ได้กล่าวถาม

 

“มันจะต้องเป็นฟรานซิสเเน่นอน,เมื่อคืนนี้มันมาที่บาร์ซิลเตอร์มากาเร็ตเพื่อค้นหาฉัน มันได้สร้างปัญหาเเก่ วีส เเละต้องการจะลักพาตัววาเนสซ่าเเฟนสาวฉันเพื่อเเก้เเค้นฉัน หากเป็นไปตามที่นายว่า มิราจไนท์จะต้องโดนพวกของฟรานซิสเล่นงานอย่างเเน่นอน”เผชิญหน้ากับการไต่สวนของ สไปเดอร์แมน เดดพูล กล่าวอย่างเร่งรีบ

 

“ฟรานซิส,บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต!”ได้ยินคำพูดของเดดพูล ปีเตอร์ เหมือนจะครุ่นคิดอะไรได้ก่อนที่จะกล่าวบอกให้ สกาย’อาย ตรวจสอบ

 

หลังจากนั้นปีเตอร์ก็เห็นภาพกล้องวงจรปิดใกล้ ๆ บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต จากนั้นเขาก็เห็นรถจิ๊ปที่คุ้นเคยในตำเเหน่งทางเข้าของบาร์ มันเป็นรถยนต์ของเเจ็คสัน เดิม เเจ็คสัน ได้ไปที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ตเมื่อคืนนี้

 

“เเจ็คสันคงจะเห็นฟรานซิสกำลังขู่วีส อยู่ ดังนั้นเขาจึงต้องการเข้าไปเเก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง เเต่เขาคงคาดไม่ถึงว่าจะเจอกับอิทธิพลลับที่ตามหลังฟรานซิสมา”ปีเตอร์กล่าววิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นปีเตอร์ก็ปรับมุมมองบันทึกภาพวิดิโอในคืนที่ผ่านมา เขาเห็นเเจ็คสันอยู่กับ คนเเปลกหน้าคนนึงดังนั้นปีเตอร์จึงย่นคิ้วเล็กน้อย

 

“คนคนนี้เป็นใคร? เขาอยู่กับเเจ็คสันที่บาร์เมื่อคืนนี้ “เห็นธอร์อยู่กับเเจ็คสันเมื่อคืน ปีเตอร์ กับกระซิบในใจ

 

“สไปเดอร์แมน คุณพบอะไรงั้นหรอ?”เห็นปีเตอร์เอะใจอะไรได้บางอย่าง สกาย’อาย กล่าวถามทันที

 

“ฉันเหมือนจะค้นพบอะไรบางอย่าง ฉันจะลองไปที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต เพื่อหาเบาะเเสที่นั่นดู”ปีเตอร์วางเเผนจะตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะ เเจ็คสัน เป็นเพื่อนของเขา

 

โดยธรรมชาติเบาะเเสสำคัญก็คือฟรานซิส เนื่องจาก มิราจไนท์ ได้ไปรับมือกับฟรานซิสอย่างลับ ๆ จึงพลาดท่าไป อย่างไรก็ตามไม่ว่าอิทธิพลของฟรานซิสจะเเข็งเเกร่งขนาดไหนปีเตอร์จะต้องช่วยเพื่อนของเขากลับมาให้ได้

 

“บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต?ฉันจะไปกับนายที่นั่น ก่อนหน้าที่ฉันจะรู้จักกับเวด ฉันได้ไปที่นั่นพร้อมกับ มิราจไนท์”ได้ยินคำพูดของสไปเดอร์แมน เเดร์เดวิล เเมตต์ กล่าวพูดขึ้น พวกเขารู้จักกับเวดที่นั่น ก่อนหน้านั้นเขาคิดว่าเวดได้ตายเพราะโรคมะเร็งไปเเล้ว

 

เเดร์เดวิล เป็นฮีโร่ คนเเรกที่ รู้จักกับมิราจไนท์ ดังนั้นเขาจึงเป็นห่วงเพื่อนร่วมทีมอายุน้อยคนนี้

 

“พวกเราไปกันเถอะ!”ปีเตอร์กล่าวบอกกับเเดร์เดวิล

 

“เดดพูล หากฟรานซิส ปรากฏตัวขึ้นที่นั่น ฉันรับรองได้เลยว่าพวกมันจะต้องเจอกับภัยพิบัติของจริง”ก่อนที่ปีเตอร์จะจากไปเขาได้กล่าวพูดผ่านคอมพิวเตอร์

 

“เเน่นอน,ฉันจะต้องฆ่าฟรานซิสให้ได้”เมื่อเช้าเเฟนสาวของเขาถูกลักพาตัวโดยฟรานซิส มันทำให้ เวด รู้สึกโกรธเคืองมาก

 

..

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ปีเตอร์ ก็มาถึงบาร์ซิสเตอร์มากาเร็ตพร้อมกับ เเมตต์ ตามปกติ ปีเตอร์ได้เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าปกติของเขา เเน่นอนว่า เเมตต์ไม่สามารถมองเห็น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจอะไร เดิมเขาต้องการไปหาข้อมูลเหล่านี้พร้อมกับเเฮร์รี่ อย่างไรก็ตามเเมตต์ออกปากจะมาให้ได้

 

ภายใต้การเเนะนำของเเมตต์พวกเขาได้เข้าไปในบาร์ โดยปกติเเล้วในบาร์เเห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนเเต่วันนี้มันค่อนข้างโล่งมาก

 

“บาร์นี้ไม่ค่อยมีคนเลยงั้นหรอ?”กวาดมองไปที่บาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต ปีเตอร์ กล่าวถามเเมตต์

 

สถานที่เเห่งนี้เป็นจุดรวมพลของทหารเเห่งโชคชะตาเเม้จะเปป็นวันปกติ เเต่มันก็น่าจะมีคนมั้งเเต่สถานที่เเห่งนี้ค่อนข้างเงียบ ปีเตอร์จึงสงสัย นอกจากนี้เเม้จะมีคนอยู่น้อยนิดเเต่สถานที่เเห่งนี้ก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่รุนเเรง

 

“นี่ใช่บาร์เเน่งั้นหรอ?”ปีเตอร์สงสัยว่าเเจ็คสันได้เข้ามาที่บาร์เเห่งนี้จริงหรือไม่

 

“อืม,สถานที่เเห่งนี้คือสถานที่ที่ทหารเเห่งโชคชะตามารวมตัวกันเพื่อรับภารกิจเเลกเปลี่ยน”เเมตต์กล่าวบอกปีเตอร์

 

“ทำไมมิราจไนท์ถึงมาที่นี่?”ปีเตอร์รู้สึกสงสัยว่าทำไมเเจ็คสันถึงมาที่นี่

 

“ฉันคิดว่าเราควรจะไปถามวีสว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้”

 

พวกเขาเดินตรงไปที่บาร์ด้านหน้า

 

เห็นเเมตต์เดินตรงไปที่ บาร์ ปีเตอร์ ก็ตามไปเเน่นอนว่าเขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับบรรยากาศในสถานที่เเห่งนี้อยู่บ้าง

 

ตึก ตึก ตะโกน ~ตะโกน ~

 

เเมตต์เดินตรงไปที่โต๊ะสนุกเกอร์ด้านข้างที่มีโซฟาอยู่ด้านหลังเขาเห็นชายสองคนกำลังนอนอยู่

ฟุ่บ!

 

เเมตต์ได้ใช้ไม้เท้าของเขากวานหาทางจนไปสะกิดเข้าที่โซฟา

 

เห็นเเมตต์เดินมาดูเหมือนคนที่หลับอยู่คนนึงจะดีดตัวขึ้นก่อนที่จะคว้าปืนออกมาด้วยความตกใจ

 

เพียงเเต่ว่าเเมตต์ไม่ได้สนใจปืนกระบอกนั้นที่เล็งมาที่เขา

 

“เเมตต์?วันนี้เป็นไงถึงมาที่นี่เนี่ย?”เห็นได้ชัดว่าคนที่เเต่งตัวประหลาดคนนึงที่ชี้ปืนมาที่เขาหลังจากตรวจสอบว่าเป็นเเมตต์เขาก็เก็บปืนลง

 

เขาเพิ่งตื่นนอน ที่เขาทำกิริยาเหล่านั้นไปเพราะสัญชาตญานของอาชีพทหารรับจ้างของพวกเขา เเม้จะหลับนอนก็ต้องระมัดระวังตัวอยู่เสมอ

 

“เจฟ, ดูเหมือนนายจะอยู่ที่นี่เมื่อคืนนี้ นายเห็น เเจ็คสัน เข้ามาที่นี่เมื่อวานนี้หรือไม่?”เเมตต์กล่าวถามโดยตรง

 

นิวยอร์ก,บ้านพักชายทะเลของโทนี่

 

กองทัพไอรอนแมนทั้งหมดได้ออกทำการค้นหาตลอดทั้งคืน เพียงเเต่ว่าพวกเขาไม่พบเบาะเเสใดๆ เกี่ยวกับมิราจไนท์เเม้เเต่น้อย โทนี่ ได้พา กองทัพของตัวเองตรวจสอบทางผ่านใต้ดินซึ่งมันได้ทอดยาวออกไปยังสถานที่ห่างไกล

 

“มิราจไนท์,เเจ็คสัน หวังว่าเธอจะไม่เป็นอะไรนะ?”โทนี่นั่งขมวดคิ้วที่โซฟานุ่ม ๆ เเละบ่นพึมพัมออกมา

 

โทนี่สามารถคาดเดาได้ว่า มิราจไนท์ ก็คือ เเจ็คสัน เขาไม่สามารถปล่อยผ่านเรื่องนี้ได้ เขาหวังจะให้เเจ็คสันออกมายอมรับสถานะด้วยตัวเขาเอง เเต่ถึงเเจ็คสันจะไม่ยอมรับโทนี่ก็เชื่อมั่นในสัญชาตญานตัวเองอยู่ดี ตอนนี้ เขาได้ทำการค้นหาทั่วทุกพื้นที่ เเต่ก็ยังไร้วี่เเวว ดังนั้นโทนี่ จึงเริ่มกังวล มันต่างจากเหตุการณ์ที่ปีเตอร์เผชิญ ตอนนี้ เป็นเเจ็คสัน ดังนั้นโทนี่ จึงกังวลกว่ามาก

 

“เด็กคนนี้มีความลับมากมาย อุบัติเหตุในครั้งนี้เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หวังว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย”โทนี่ถอนหายใจอย่างกังวล

 

เขาได้นั่งฟังรายงานของ J.A.R.V.I.S ตลอดทั้งคืนมันทำให้เขาเหนื่อยมาก เเน่นอนว่ายิ่งไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ เกี่ยวกับ เเจ็คสัน เขาก็ยิ่งรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

 

“ J.A.R.V.I.S, ดำเนินการค้นหาบุคคลต้องสงสัยที่เราพบเมื่อคืน หาพวกเขา เเละ ตรวจสอบให้ได้”ในที่สุดโทนี่ก็ไม่สามารถทนอาการเหนื่อยล้าได้ เขาไม่ใช่สไปเดอร์แมนหรือกัปตันอเมริกาที่มีร่างกายที่พิเศษ

 

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S  ตอบกลับอย่างใจเย็น

 

 

“สกาย’อาย ได้เบาะเเสหรือไม่? เกี่ยวกับข้อมูลบุคคลสองคนที่เราเผชิญหน้า”ในฐานพันธมิตรผู้พิทักษ์ ปีเตอร์ ได้กล่าวถาม เจอร์รี่ ในช่วงเย็นที่ผ่านมานั้นปีเตอร์ได้ถามคำถามหลายครั้ง ซึ่งผลคำตอบที่เขาได้รับจาก สกาย’อาย มันก็ทำให้ เขารู้สึกผิดหวัง

 

“สไปเดอร์แมน บุคคลคนนั้นมีความเร็วที่สูงมากจริง ๆ ฉันได้ลองค้นหาตัวตนพวกเขาจากกล้องวงจรปิดทั่วทั้งเมือง เเต่ก็ยังไม่สามารถหาวี่เเววของเขาได้ เเม้เเต่ J.A.R.V.I.S ก็ยังไม่ได้ข้อมูลของเขา ดูเเล้วเขาเป็นตัวอันตรายที่โดดเด่นทีเดียว”เจอร์รี่ กล่าวตอบ สไปเดอร์แมน เขารู้ว่า สไปเดอร์แมน กังวล เกี่ยวกับความปลอดภัยของมิราจไนท์

 

“ไม่ใช่ว่านายเองก็บอกอย่างงี้เมื่อครู่ก่อนหรอ? หรือว่านี่นายพยายามสุดความสามารถเเล้ว?”ปีเตอร์ กล่าวถามด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

 

เมื่อคืนที่ผ่านมาพวกเขาพบทางรันเวย์ลับที่เป็นทางทอดยาวของพาหนะความเร็วสูง ดังนั้น ปีเตอร์ เชื่อได้ว่า เเจ็คสัน จะต้องถูกนำพาออกจากนิวยอร์ก ปีเตอร์กังวลว่าเเจ็คสันจะเผชิญหน้ากับปัญหาเเละมันจะสายเกินไป นอกจากนี้ ยังมี หญิงสาวเเละผู้ชายคนนั้นที่ปีเตอร์กังวล

 

“ทิศทางใต้ดินนั้นเป็นเพียงเส้นทางที่ทอดยาวออกไปเเละเปิดสู่พื้นที่โล่งกว้างในเวลาต่อมา เเม้จะพยายามเฝ้าระวังเเละหลองหาทางดูเเล้ว เเต่ก็ดูเหมือนจะไร้ผล พวกเขาสามารถหลบการตรวจสอบจากพื้นที่ต่าง ๆ ได้”เผชิญหน้ากับความก้าวร้าวของสไปเดอร์แมน เจอร์รี่ยังคงตอบอย่างใจเย็น

 

ปั้ง

 

ได้ยินคำตอบของสกาย’อาย ปีเตอร์ ทุบโต๊ะที่อยู่ใกล้ ๆ ด้วยความโกรธตอนนี้เขารู้สึกโกรธมาก เเม้จะไม่ได้ถูกควบคุมโดยเวน่อมเหมือนอดีตเเต่ความโกรธของเขาตอนนี้เป็นของจริง

 

“สไปเดอร์แมน คุณต้องใจเย็ฯ ๆ พวกเราทุกคนกำลังเร่งการค้นหา เเน่นอนว่าจะต้องได้รับข่าวของมิราจไนท์ ในอีกไม่นานเเน่นอน นอกจากนี้ พวกเราจะต้องเชื่อมั่นในตัวมิราจไนท์”เห็นปีเตอร์หัวฟัดหัวเหวี่ยง ไม่นานก็มีเสียงนึงดังขึ้น

 

เเฮร์รี่ ได้เข้าร่วมกับปีเตอร์ในการจู่โจมเเละค้นหามิราจไนท์ในช่วงเย็น ถึงอย่างไรอาการของเขาตอนนี้ก็ดูสงบกว่าปีเตอร์มาก

 

“ดาร์คไนท์ พูดถูกต้องเเล้ว สไปเดอร์แมน นายจะต้องใจเย็นเเม้ว่าบุคคลนั้นจะมีความเร็วเเต่พลังโจมตีไม่ได้โดดเด่นมากนัก เเม้เขาจะโจมตีนายหลายรอบก็ยังคงสร้างบาดเเผลเพียงเล็กน้อย”

 

“นอกจากนี้ฉันไม่เชื่อว่ามิราจไนท์จะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เขาไม่ใช่คนที่จะถูกจัดการง่าย ๆ แบบนั้น”ได้ยินเเฮร์รี่กล่าวปลอบสไปเดอร์แมน เเดร์เดวิล ก็ปรากฏตัวขึ้น เขาได้วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน เเละ ครุ่นคิดอย่างมีเหตุผล

 

“เเม้ว่าบุคคลนั้นจะไม่ได้มีความเเข็งเเกร่งที่รุนเเรงเเต่ความสามารถด้านการเคลื่อนที่น่ากลัวนั้นเป็นของจริงเเม้เเต่ฉันยังเสียท่า นอกจากนี้ มิราจไนท์ยังถูกจับตัวไป เขาตัวคนเดียวจะสามารถต้านพวกมันไหว?”ปีเตอร์กล่าวออกมา

 

“ฉันคิดว่าการคาดเดาของ เเดร์เดวิล ยังพอมีความเป็นไปได้ นายเองก็รู้จักมิราจไนท์ดี เขาเป็นคนที่ลึกลับ นายบอกว่านายเผชิญหน้ากับการโจมตีของบุคคลสองคนใช่รึไม่ เเต่ฉันไม่เชื่อว่ามิราจไนท์จะเสียท่าเพราะเรื่องเเค่นี้ บางทีเขาอาจกำลังคิดเเผนการหลบหนีอยู่ก็เป็นได้”เสียงของเเจ็คได้กล่าวผ่านออกมา

 

ที่สำคัญก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเห็นมิราจไนท์พาพวกเขาผ่านอุปสรรคอันยากลำบากมามากมายไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไหน บ่อยครั้งที่ เเจ็ค คิดว่า บางทีมิราจไนท์คนนี้ก็ดูลึกลับเกินไป

 

เเน่นอนว่า เเจ็คเชื่อว่า มิราจไนท์ ไม่ใช่ตัวตนที่จะถูกจัดการง่าย ๆ

 

ตู๊ดด!

 

“หืม?มีสายเข้าจากคุณ เดดพูล”ในขณะที่ปีเตอร์เเละคนอื่น ๆ กำลังพูดถึงมิราจไนท์ ทันใดนั้น สกาย’อาย ก็พบสายเรียกเข้าจาก เดดพูล เมื่อวานพวกเขาไม่สามารถติดต่อเดดพูลได้ เเต่ดูเหมือนตอนนี้ เดดพูล จะเป็นฝ่ายโทรเข้ามาเอง

 

“สกาย’อายฉันขอสายมิราจไนท์ หน่อยได้รึไม่ ฉันต้องการความช่วยเหลือจากเขา ครั้งนี้ฉันจะต้องจัดการฟรานซิสให้ได้ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ขอเรียกตัวเองว่า เวด วิลสัน!”ทันทีที่สายติดต่อได้ เดดพูล ส่งเสียงเรียกตะโกนอย่างรุนเเรง

 

“เรื่องนี้…”ได้ยินคำพูดของ เดดพูล,สกาย’อาย กลายเป็นรู้สึกอึดอัดใจ จะบอกว่า เดดพูล ไม่รู้สถานการณ์ มันก็ยังไงอยู่ ปัจจุบัน มิราจไนท์ได้หายตัวไปเพราะได้เข้าไปยุ่งกับอิทธิพลของพวกฟรานซิส

 

“เดดพูล, มิราจไนท์ ได้ถูกลอบโจมตีเมื่อคืน เเละถูกลักพาตัวไป ชีวิตของเขากำลังเเขวนอยู่บนเส้นด้าย ถึงอย่างนั้น นายก็ยังมีเวลาว่างหาตัวฟรานซิส”ได้ยินเสียงน่ารำคาญของเดดพูล ปีเตอร์ที่โมโหได้เดินมาที่หน้าคอมพิวเตอร์เเละกล่าวพูดเสียงเเข็ง

 

“อะไรนะ?มิราจไนท์ ถูกโจมตี พวกมันเป็นใครกัน?”ได้ยินคำพูดของสไปเดอร์แมน เดดพูล กล่าวถามด้วยความประหลาดใจ

 

เวด รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ก่อนหน้านี้เขาได้รับโทรศัพท์จาก วีส เพื่อนของเขาว่าฟรานซิสมาหาเขาที่ร้าน เเละ การปรากฏตัวขึ้นของมัน ก็มาพร้อมกับการหายไปของมิราจไนท์

 

“เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลา 09.00 pm ในนิวยอร์กควีนส์ ใกล้  ๆบาร์ซิสเตอร์มากาเร็ต”ปีเตอร์ไม่ได้กล่าวตอบ เเต่เป็นสกาย’อาย เเทน

 

“นี่มัน!”ได้ยินคำตอบของสกาย’อาย เดดพูล อุทานขึ้นด้วยความตกใจ

 

!

 

ภายใต้ค่ำคืนที่มืดมิด ยานรบติดอาวุธขนาดเล็กได้เเล่นอยู่บนผืนฟ้า ไม่ต้องสงสัยว่ายานรบประสิทธิภาพสูงนี้คือพาหนะของพวกไฮดร้า ตอนนี้ พวกมันได้ลักพาตัว มิราจไนท์ไป เเน่นอนว่าเป้าหมายของพวกมันที่มีต่อมิราจไนท์เเล้วเเท้จริงไม่มีใครทราบ

 

“พวกมันจะนำฉันไปไหนกัน?ถ้าสถานที่ที่พวกมันจะนำไปอยู่ห่างไกลจากนิวยอร์กฉันคงไม่มีเวลาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปหาพวกโทนี่ได้ทัน!”ถูกโยนเข้าไปในพื้นที่เปิดโล่งของตัวยานรบ เเจ็คสันกล่าวครุ่นคิด

 

เเผนของเขาค่อนข้างมีความเสี่ยงมากจริง ๆ นั่นก็คือการเเกล้งปลอมตัวให้ถูกจับเเละเข้าสู่ฐานของพวกไฮดร้าโดยตรง ตอนนี้เเจ็คสันรู้เเล้วว่าเขาประสาทองค์กรไฮดร้ามากเกินไป หากเป็นไปตามที่เขาคาด การหลบหนีออกจากที่นั่นเกรงว่าบางทีคงจะเป็นเรื่องยาก

 

อันที่จริงวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีของพวกไฮดร้าเมื่อ 60 ปีก่อนนั้นยังไม่ได้รุนเเรงถึงเพียงนี้เเต่ตอนนี้ดูเหมือนอุปกรณ์ของพวกเขาจะดูดีขึ้นมากบางทีพวกเขาอาจได้ครอบครองวิทยาการเทคโนโลยีต่างดาวบางอย่าง เเละในช่วง 60 ปีที่หลบซ่อนพวกเขาก็ได้เเอบซุ่มพัฒนากองกำลังของตนเอง

 

“หืม?ความเร็วของมันกำลังตกลง?ด้วยความเร็วระดับนี้คงไปไม่ห่างไกลจากนิวยอร์กมากนัก!”เเจ็คสันสัมผัสได้ถึงความเร็วที่ลดลงอย่างกระทันหัน เขาจึงผ่อนคลายเล็กน้อย

 

หากยานรบนี้ยังคงสภาพความเร็ว ณ ตอนนี้ ถ้า ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ บินด้วยความเร็วสูง บางทีอาจจะสามารถตามได้ทันเเละเเจ็คสันจะสามารถได้รับการสนับสนุนอย่างรวดเร็ว

 

!

 

หลังจากฉลอความเร็วไม่นานดูเหมือนยานรบจะหล่นลงไปที่กลางป่า,ด้านนอกเป็นป่าที่เรียบง่าย เเต่ในความเป็นจริงมันได้ซ่อนพื้นที่เเถบที่ลงจอดเอาไว้

 

ทันทีที่ยานรบได้ถูกจอดทิ้งเอาไว้ พวกมันก็กลับมาพาตัวเเจ็คสันไปอีกครั้ง หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปยังทิศทางภายในป่าก่อนที่จะหยุดลงในเวลาต่อมา

 

“เเถวนี้งั้นหรอ?”เเจ็คสันที่เเกล้งสลบเขาไม่กล้าที่จะใช้เทคนิครู้เเจ้งของตัวเองเพื่อรับสัมผัสการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย เเน่นอนว่ามันเสี่ยงที่เขาจะถูกจับได้

 

โดยธรรมชาติหากเเจ็คสันปลดปล่อยเทคนิครู้เเจ้งของเขา เขาสามารถสัมผัสบุคคลหรือสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบ ๆ ได้ในระยะหลายร้อยเมตร เบื้องหน้าของเขาเหมือนปราสาทโบราณที่ดูเก่าเเก่ ปราสาทโบราณนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นฐานลับของพวกไฮดร้า

 

ฟุ่บ~

 

จากนั้นไม่นานก็มีรถคันนึงที่เป็นพาหนะหุ้มเกราะขับมาจอดที่หน้าปราสาทเเละหยุดลง

 

ฟุ่บ!

 

ประตูรถได้ถูกเปิดออก มีบุคคลสองคนสวมใส่ชุดอำพรางตัวลงออกมาจากตัวรถ

 

“พวกนายกลับมาได้อย่างไร?ตอนนี้น่านฟ้าของนิวยอร์กคงจะถูกควบคุมโดย โทนี่ สตาร์ก ไอรอนแมนไปหมดเเล้ว ตอนนี้เขากำลังทำการค้นหาอย่างบ้าคลั่ง นอกจากโทนี่ สตาร์ก เเละ ยังมีอิทธิพลอื่นที่เคลื่อนไหวอีก ทำไมพวกมันถึงได้เคลื่อนไหวรุนเเรงถึงเพียงนี้”คนคนนึงเดินเข้ามาที่หัวหน้าทีมของกลุ่มลักพาตัวเเจ็คสันเเละกล่าวถาม

 

นอกจากโทนี่เเล้วก็คือกลุ่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ดูเหมือนพวกเขาจะได้รับเบาะเเสของ มิราจไนท์ เเละ รีบรวมกำลังพลไม่เว้นเเม้เเต่ครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์เพื่อค้นหา

 

นอกจาก โทนี่ เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเล้ว โทนี่ สามารถขอร้องให้ S.H.I.E.L.D. เข้าร่วมครั้งนี้ได้ เเต่เขาไม่ต้องการ เพราะการเคลื่อนไหวอิทธิพลเล็กมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรับรองความปลอดภัยของ มิราจไนท์ได้มากเท่านั้น

 

เพียงเเต่เขาหารู้ไม่ว่านอกเหนือจากพวกเขาเเล้วยังมีอิทธิพลที่เคลื่อนไหวอีกสองอิทธิพลที่ร่วมกันค้นหามิราจไนท์ หนึ่งในนั้นก็คือ อารามคุ้มกัน พ่อมด รุ่ยเคอ,เเละ พ่อมด ไต้เหวิ่น นอกจากนี้ยังมี ทีม X-MEN ไอซ์แมน เเละ บลิงก์

 

ไอซ์แมน เดิมต้องการมองหามิราจไนท์ เพราะเหตุผลบางอย่าง

 

ก่อนหน้านี้พวกเขารู้จักกันเพราะรับมือิทธิพลของฟรานซิสด้วยกัน ไอซ์แมน ในตอนนั้นรู้สึกประทับใจในตัวของ มิราจไนท์มากดังนั้นเขาวางเเผนจะหาตัวเพื่อนนคนนี้ อย่างไรก็ตาม เขากลับได้ยินข่าวบางอย่างเกี่ยวกับมิราจไนท์ที่ถูกจับตัวไป ดังนั้นไอซ์แมนจึงพาบลิงก์มาช่วยเรื่องนี้ สำหรับ อารามคุ้มกัน พวกเขาได้มาถึงในนิวยอร์ก พ่อมด รุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพันธมิตรผู้พิทักษ์ หรือ ความสัมพันธ์กับโทนี่ เเต่พวกเขาได้เฉพาะเจาะจงคือตามหาตัวมิราจไนท์ ดังนั้น พวกเขาถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของอิทธิพลที่ร่วมกันตามหาตัวของมิราจไนท์

 

ดังนั้นทีมที่ค้นหาทั่วนิวยอร์กจึงมีทีมกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ ,พันธมิตรผู้พิทักษ์ X-MEN รวมถึง พ่อมดจากอารามคุ้มกัน

 

หากพวกไฮดร้ารู้ว่าฮีโร่ที่เขาลักพาตัวมานี้จะมีอิทธิพลสนับสนุนที่รุนเเรงดังกล่าวพวกเขาคงต้องหัวเสียเป็นเเน่ ยิ่งโดยเฉพาะ ทีม X-MEN กับ อารามคุ้มกัน

 

เเต่ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถนึกเสียใจภายหลังได้เเล้ว เพราะอิทธิพลที่เขาได้ไปกระตุ้นตอนนี้กำลังเดินหน้าอย่างเร่งรีบเพื่อค้นหาตัวพวกเขา

 

“นี่คือ มิราจไนท์ ดูเหมือนเขาจะเป็นคนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษื ก่อนหน้านี้ เขาเคยร่วมมือกับ ทีม X-MEN ในการกำจัด คนของเรา”หัวหน้าทีมกล่าวรายงาน

 

“จริงงั้นหรอ?ดี เช่นนั้นภารกิจของนายก็เสร็จเเล้วทำได้ดีมาก”เพื่อนคนนี้กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

 

“อืม,ได้ช่วยเหลือสหายในภารกิจไม่ถือเป็นเรื่องยากลำบากอะไร”ดูเหมือนหัวหน้าทีมคนนี้จะรู้จักกับสหายที่นั่งรถหุ้มเกราะมา

 

“อืม,ไปยืนยันภารกิจกันเถอะ”คนที่ลงมาจากรถหุ้มเกราะกล่าวอย่างเย็ชา

 

จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็นั่งรถหุ้มเกราะไป ดูเหมือนภารกิจของพวกเขาจะสำเร็จลุล่วงเเล้ววันนี้ ไม่ทราบว่าเเท้จริงเเล้วเป้าหมายของพวกเขาคืออะไรเเต่ดูเเล้วไม่น่าจะใช่เรื่องที่ดี คนพวกนี้ทำหน้าที่เหมือนกับทหารหากภารกิจล้มเหลวพวกเขาก็พร้อมที่จะสละชีพเพื่อองค์กร

 

“บางทีพวกเราอาจได้รับรางวัลพิเศษเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวครั้งนี้”ชายในเครื่องแบบทหารคนนึงกล่าวพูดขึ้นกับเพื่อนตัวเองหลังจากเข้ามาในรถ

 

ฟึ่ม!

 

จากนั้นรถหุ้มเกราะคันนี้ก็ขับกลับเข้าไปในปราสาทอีกครั้ง ตอนนี้เเจ็คสันกำลังถูกนำตัวไปที่ฐานลับของพวกไฮดร้า

โทนี่นำชุดเกราะไอรอนแมนบางส่วนไล่ตาม ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ไป ส่วน ตัวเขาเอง เเละ สไปเดอร์แมน ได้พุ่งไปยังตำเเหน่งของรถยนต์คันนั้นด้วยกัน เพียงเเต่ว่าเเจ็คสันในตอนนี้กำลังถูกอุ้มเข้าสู่อุโมงค์ใต้ดินลับพร้อมกับบุคคลลึกลับอีก 5 คน

 

ที่จริงเเล้วเเจ็คสันสามารถหลบหนีได้เพราะเขามีโอกาสช่วงตอนที่ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ไม่อยู่ เเต่เเจ็คสันวางเเผนให้คนกลุ่มนี้ลักพาตัวไป

 

ถ้าหากเเจ็คสันเดาไม่ผิดคนเหล่านี้สมควรเป็นคนขององค์กรไฮดร้า เเจ็คสันในตอนนี้ให้ความสำคัญกับองค์กรไฮดร้าอย่างมากเนื่องจากมันเป็นส่วนนึงของภารกิจเขา

 

หลังจากผ่านไปไม่นานในอุโมงค์ใต้ดินเเจ็คสันที่ไร้การเคลื่อนไหว้’เเกล้งตาย’ ดูเหมือนเขาจะถูกกลุ่มคนเหล่านั้นฉีดยาบางอย่างเข้าสู่ร่างกาย เเจ็คสัน ไม่รู้ว่า ยาที่เขาโดนนั้นคืออะไร เเต่ดูเหมือนสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันของเขาจะทำงาน มันจึงส่งผลให้ตัวยาไม่มีอิทธิพลสำหรับเขามากนัก

 

หลังจากเดินมาประมาณ 10 นาที เส้นทางของใต้ดินนี้ดูเหมือนจะสิ้นสุดลง กลุ่มคนได้ชะลอฝีเท้าก่อนที่จะหยุดลงที่หน้ากำเเพง

 

หัวหน้าทีมคนนึงได้เดินไปที่หน้ากำเเพงเเละดึงเเท่นโลหะบางอย่าง จากนั้นผนังดูเหมือนจะส่องเเสงเล็กน้อย

 

ครื่นน~~

 

เสียงกลไกของผนังกั้นได้ทำงานก่อนที่กำเเพงเบื้องหน้าจะถูกยกขึ้นต่อเบื้องหน้าพวกเขาเผยให้เห็นทางรันเวย์ที่ถอดยาวออกไปไกล

 

“เส้นทางนี้จะมุ่งหน้าออกจากนิวยอร์กอย่างรวดเร็ว พวกมันกำลังตามมาเเล้วเร็วเข้า!”หัวหน้าทีมคนนั้นกล่าวสั่งการอย่างรวดเร็วก่อนที่จะอุ้มเเจ็คสันเดินต่อไป

 

ฟุ่บ!

 

ลูกทีมที่เหลือทั้งหมดไม่มีท่าทีตอบสนองพวกเขาได้ติดตามไปอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากพวกเขาผ่านไปทั้งหมดประตูกำเเพงเบื้องหน้าในที่สุดก็ปิดลงอีกครั้งกลายเป็นทางตันที่ไม่มีทางผ่านออกจากที่นี่

 

 

หลังจากกำเเพงนี้กลับสู่สภาพดั้งเดิมประมาณ 5 นาที ก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นตรงตำเเหน่งทางเข้าถ้ำใต้ดิน ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ เเละ พวก เเฮร์รี่ ได้ติดตามมาถึงที่นี่ทันที

 

“ไม่มีทางถนน?”เเฮร์รี่ที่ไล่ตามรถอีกคันมาที่นี่ดูเหมือนจะไม่พบทางถนน ปีเตอร์ที่ไล่ตามมาไม่นานเขาเองก็มาถึงที่นี่อย่างรวดเร็ว

 

รถยนต์ทั้งสองคันได้เเล่นผ่านมาจุดเดียวกัน รถยนต์ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาพบเป็นตัวล่ออย่างที่คิดเอาไว้ คนบนรถติดอาวุธหนักพร้อมทำสงคราม เเต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของชุดเกราะไอรอนแมนมันก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเขา

 

เมื่อโทนี่ เเละ ปีเตอร์ ไม่พบทางไปต่อ ขณะนั้นเอง เเฮร์รี่ ก็พบ รถยนต์อีกคันที่เขาตามมา ในเวลานี้รถคันนี้ไม่เหลือใครอยู่เเม้กระทั่งมิราจไนท์ก็ยังหายตัวไป

 

ภายใต้การค้นหาอย่างละเอียดของชุดเกราะไอรอนแมน เเละ เเฮร์รี่ พวกเขาได้ค้นพบทางช่องลับไปต่อมากกว่า 30 ทาง พวกเขาได้ทำลายพวกมันทิ้งเเละเร่งรีบหาสถานที่ไปต่อ อย่างไรก็ตามพวกเขากลับไม่พบร่องรอยอื่นใดอีก

 

“เวรเอ้ย,พวกมันหนีหายกันไปไหนหมด? พวกมันไปทางไหนกัน”เเฮร์รี่ ที่ไม่ค้นพบทางไปต่อเขาตะโกนลั่นออกมา

 

“บางทีมันอาจจะมีช่องทางลับอยู่ เพราะวัสดุที่ทำกำเเพงเหล่านี้ค่อนข้างพิเศษมากมันไม่สามารถผ่านการสเเกนได้”ในขณะที่ทุกคนกังวล เสียงของโทนี่ ได้ดังขึ้น เขาได้สั่งการ J.A.R.V.I.S ให้ทำการค้นหาตัวมิราจไนท์ ด้วยวิธีต่าง ๆเเต่เมื่อจ้องผ่านกำเเพงเบื้องหน้าเเล้วเขากลับไม่สามารถมองผ่านเข้าไปด้านในได้

 

“หืม?ไม่สามารถสแกนได้?”ได้ยินคำพูดของ โทนี่ ปีเตอร์ เเละ คนอื่น ๆ มารวมตัวกันที่หน้ากำเเพง

 

“เปิดมันให้ฉันหน่อย!”โทนี่กล่าวสั่ง J.A.R.V.I.S อย่างรวดเร็ว

 

“ครับเจ้านาย!”

 

ปั้ง ปั้ง

 

ภายใต้การควบคุมของ J.A.R.V.I.S ชุดเกราะไอรอนแมน 30 ตัว ได้ถล่มยิงกำเเพงผนังนั้นด้วยปืนใหญ่พลังงานจำนวนมาก

 

การโจมตีระลอกเเรกได้สิ้นสุดลง หมอกเเละฝุ่นได้คลุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่่เเห่งนี้หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ซาลง หลังจากำเเพงนั้นถูกทำลาย สายตาของพวกโทนี่เเละคนอื่น ๆ ก็หดลงเล็กน้อย

 

เพราะกำเเพงนั้นเเข็งเเกร่งมาก

 

เเม้จะโดนชุดเกราะไอรอนแมนที่มีพลังทำลายล้างกว่า 30 ตัวยิง กำเเพงนี้กลับได้รับความเสียหายเพียงน้อยนิด ดูเหมือนว่ากำเเพงนี้เเท้จริงเเล้วกลับถูกสร้างมาด้วยวิธีการพิเศษทั้งผู้ที่สร้างมันสมควรเป็นองค์กรหรือขุมพลังสักอย่าง เเละ ขุมพลังที่ว่านี้ได้ลักพาตัวมิราจไนท์ไป

 

” J.A.R.V.I.S ใช้พลังทำลายขั้นสูงสุด ทำลายกำเเพงนี่ให้ฉัน!”

 

“ครับเจ้านาย!”

 

วื๊ดด

 

!

 

จากนั้นชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 30 ตัว ก็หันอาวุธเลเซอร์ไปที่จุดศูนย์กลางกำเเพง ตั้งเเต่ที่เขาสามารถคาดเดาสถานะของมิราจไนท์ว่า เป็น เเจ็คสัน ได้ โทนี่ ก็เป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้อย่างมาก

 

บึ้ม

 

ภายใต้การโจมตีด้วยอาวุธเลเซอร์เต็มรูปแบบ ของชุดเกราะไอรอนแมน 30 ตัว ในที่สุด ช่องว่างขนาดใหญ่ก็เปิดออก

 

ปั้ง

 

J.A.R.V.I.S ได้ควบคุมพลังงานเลเซอร์เเรงสูงอีกครั้งก่อนที่จะทำลายพื้นที่จนเปิดเห็นเป็นช่องวางของเส้นทางไฮเวย์ที่ทอดยาวออกไปไกล

 

“นี่คือ!”เเฮร์รี่ หลังจากมองเห็นสิ่งที่อยู่หลังกำเเพง ผิวพรรณของเขากลายเป็นหน้าเกลียดยิ่งขึ้น

 

ปั้ง

 

“เวรเอ้ย,พวกมันเเท้จริงเเล้วเป็นใครกันเเน่?!”ปีเตอร์ต่อยหมัดของเขาลงบนกำเเพงพร้อมกับคำรามออกมา

 

พวกเขาเพิ่งรับรู้สถานะของมิราจไนท์ว่าเป็นเเจ็คสัน ตั้งเเต่นั้นมา ปีเตอร์ก็รู้สึกเป็นห่วงมิราจไนท์มากขึ้น ตั้งเเต่ที่เขารับรู้ข่าวที่เเจ็คสันถูกลักพาตัวไปเขาก็โกรธเลือดขึ้นหน้าทันที

 

“สไปเดอร์แมน สบายใจเถอะ เราจะต้องช่วย มิราจไนท์กลับมา นอกจากนี้ เขาไม่ใช่คนที่จะถูกจัดการโดยง่าย บางทีในขณะที่เรากำลังหาวิธีเขาคงกำลังคิดหาทางช่วยตัวเองอยู่เหมือนกัน”เเฮร์รี่ เองก็เป็นห่วง เเจ็คสัน เเต่ก็ทำได้เพียงเเค่ปลอบใจปีเตอร์ตอนนี้เพียงเท่านั้น

 

“ฮึ่ม! พวกมันกล้าที่จะยุ่งคนของฉัน! ฉันจะไม่มีทางปล่อยพวกมันไปเเน่!”โทนี่จ้องมองไปที่เส้นทางรันเวย์สีดำที่ทอดยาวออกไป เขากล่าวพูดอย่างเย็นชา

หึ่ม!

 

ลำเเสงเลเซอร์ทั้ง 12 สร้างการโจมตีที่ซับซ้อนจนปิดผนึกทางเเยกทั้งหมดในพื้นที่ตอนนี้เส้นทางการเคลื่อนไหวของ ควิกซิลเวอร์ ถูกปิดโดยการคำนวณของ J.A.R.V.I.S.

 

“อาฮะ,จับได้เเล้ว!”เห็นควิกซิลเวอร์ที่ติดอยู่ในตาข่ายเลเซอร์ โทนี่ตะโกนอย่างตื่นเต้น

 

เเม้ว่าตะข่ายพลังงานเลเซอร์นี้จะมีความสามารถที่รุนเเรงเเต่ก็ไม่สามารถอยู่ได้นานนัก

 

“เปโตร,รีบหนีเร็ว!”เห็นเปโตร ถูกปิดผนึกเส้นทางหลบหนี สกาเล็ต วิช ได้ใช้ความสามารถในการต้านทานเเสงเลเซอร์เบื้องหน้าสองอันเเละตะโกนบอกเปโตร

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำพูดของ สกาเล็ต วิช ,ควิกซิลเวอร์เหมือนจะรู้ตัวว่าตนเองได้เข้าตาจน เเต่น้องของเธอก็ได้เปิดทางหนีให้ ดังนั้น เขาจึงได้เร่งความเร็วพุ่งหนีออกไปทางด้านสกาเล็ต วิช

 

ฟุ่บ!

 

เห็นควิกซิลเวอร์หายไปจากตาข่ายเลเซอร์ สไปเดอร์แมนได้พุ่งเข้าไปหา สกาเล็ต วิช เพื่อที่จะโจมตีเธอ

 

“คิดว่าจะสามารถทำได้?!”เปโตร รู้สึกได้ถึงการโจมตีที่พุ่งเข้ามาใกล้สกาเล็ตวิชซึ่งเขาเองก็อยู่ตรงนั้น

 

ในโลกมาร์เวลที่เเจ็คสันรู้จักนั้นตัวละคร สกาเล็ต วิช เป็นมิวแทนท์ระดับ 5 ความสามารถของเธอนั้นร้ายกาจมาก เเต่ดูเหมือนเธอในตอนนี้จะยังไม่สามารถเข้าถึงระดับนั้นได้

 

อย่างไรก็ตามพลังของเธอในตอนนี้ก็ยังสามารถต้านการโจมตีลำเเสงเลเซอร์ของโทนี่ได้ อย่างน้อยความสามารถของเธอก็ไม่น่าจะเเตกต่างจากภาพยนตร์มากนัก

 

“เเวนด้า,พวกเราต้องรีบหนีเเล้ว!”เห็น สกาเล็ต วิช กำลังจะปะทะกับ สไปเดอร์แมน ควิกซิลเวอร์ ได้พุ่งความเร็วสูงสุด เเละอุ้มร่างของเธอ ก่อนที่จะพุ่งหนีออกไป

 

เผชิญหน้ากับกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ เปโตร เเละ สกาเล็ต วิช ไม่สามารถรับมือได้ ตอนนี้ภารกิจของพวกเขาจำต้องล้มเลิกเอาไว้ก่อน พวกเขาไม่คิดเลยว่าหลังจากจับตัวมิราจไนท์ได้ เบื้องหลังของเขา จะมีคนเหล่านี้สนับสนุนอยู่ หาก โทนี่ สั่งการชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 30 ตัว โจมตีพวกเขา ไม่ต้องสงสัยว่าพวกเขาคงไม่สามารถรับมือได้เป็นเเน่

 

ถึงเเม้ว่า ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช จะร่วมมือกัน อย่างเต็มกำลัง เเต่ชุดเกราะไอรอนแมน 30 ตัว อีกทั้งยังมีสไปเดอร์แมน พวกเขาก็ยังไม่ใช่คู่มือ หากรั้งจะอยู่ต่อเกรงว่าพวกเขาจะต้องสูญเสียไม่น้อย ดังนั้น พวกเขาจึงต้องการหลบหนี หาก ควิกซิลเวอร์ คิดจะหลบหนี เเน่นอนว่าความเร็วของไอรอนแมนก็คงไม่อาจไล่ตามเขาได้ทัน

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากอุ้มสกาเล็ต วิช ได้ เปโตร ก็รีบชิ่งหนีห่างไปไกล เเม้ว่าทุกอย่างจะอยู่ในการควบคุมของ J.A.R.V.I.S เเต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก เเละท้ายที่สุด ดูเหมือน เปโตร จะทุ่มกำลังเพื่อหลบหนี

 

“เจ้านายครับ,พวกเขาหนีไปเเล้ว!”J.A.R.V.I.S ได้หยุดการปล่อยพลังงานลำเเสงเลเซอร์เเละกล่าวรายงานโทนี่

 

“ฉันรู้เเล้ว”เเม้ว่าโทนี่จะรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถจัดการทั้งสองคนได้ เเต่โทนี่ก็รู้ดีว่าหากไล่ตามไปก็คงไม่มีความหมาย

 

“สไปเดอร์แมน,เธอไม่เป็นอะไรนะ?”ไอรอนแมน 6 ตัวได้ลอยมาตกตรงหน้าของ ปีเตอร์ เเละ โทนี่ ได้เปิดหน้ากากออก

 

“ผมไม่เป็นไร เพียงเเต่ความสามารถของพวกเขาทั้งสองคนเเข็งเเกร่งมาก โดยเฉพาะมนุษย์ความเร็วนั่น เขาวิ่งเร็วขนาดนั้นร่างกายของเขารับไหวได้อย่างไรกัน? ความสามารถของคู่หูเขาที่ซ่อนตัวอยู่เองก็ไม่เลว ความสามารถของเธอร้ายกาจมาก”ปีเตอร์สั่นศีรษะในทันที

 

“อืม,พวกเขาทั้งสองคนเเข็งเเกร่งมาก”โทนี่เห็นด้วยกับเรื่องนี้”เเต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเราต้องรีบไปช่วย มิราจไนท์”

 

หลังประสบพบกับพลังอันน่าเกรงขามของ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเร็ต วิช โทนี่ เเละ ปีเตอร์ ก็เป็นกังวลเกี่ยวกับมิราจไนท์ เขาไม่รู้ว่าเเท้จริงเเล้วเบื้องหลังของทั้งสองคนนี้เป็นใคร

 

“เจ้านายครับ,ตรวจพบรถยนตร์ต้องสงสัยเเล้ว”เห็นโทนี่เเละปีเตอร์เป็นกังวล เกี่ยวกับ มิราจไนท์ J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานข่าวดี

 

“เจอทั้งสองคันหรือไม่?”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวถามอีกครั้ง บางทีเป้าหมายของทั้งสองคนอาจจะเป็นการถ่วงเวลาพวกเขาเอาไว้เพื่อพาตัวมิราจไนท์ออกไป

 

“รถอีกคนนึงยังไม่พบครับ!”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบความจริง

 

“ส่งอีกสองทีมค้นหาต่อไป ส่วนรถยนต์คันนั้นทุ่มกำลังสกัดเต็มที่เเต่อย่าได้ใช้อาวุธที่ทำให้ถึงตายเพื่อรับรองความปลอดภัยของมิราจไนท์”โทนี่ กล่าวสั่งเพิ่มเติม

 

“ครับเจ้านาย!”ได้รับคำสั่งของ โทนี่ J.A.R.V.I.S ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว เขาได้สั่งหนึ่งในทีมค้นหาเข้าสกัดกั้นรถยนต์คันนั้น

 

“คุณสตาร์ก,พวกเราควรจะไปที่นั่นด้วยตนเอง เผื่อพบมิราจไนท์”ได้ยินเสียง J.A.R.V.I.S รายงาน ปีเตอร์ กล่าวอย่างรวดเร็ว เเม้จะไม่สามารถระบุได้ว่า มิราจไนท์ จะอยู่ที่นั่นหรือไม่ เเต่ปีเตอร์ต้องการไปดูด้วยตาตัวเอง

 

“อืม”

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาต่อมา ชุดเกราะไอรอนแมน เเละ สไปเดอร์แมน ก็พุ่งไปยังทิศทางนั้นด้วยความเร็วสูง

 

 

“คุณ ดาร์คไนท์ ดูเหมือนจะตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยที่ด้านหน้าทางขวาของคุณ ห่างออกไป 5 กิโลเมตร”เห็นปีเตอร์เเละโทนี่มุ่งเป้าไปที่รถยนต์คันนั้น สกาย’อาย ก็กล่าวรายงาน ให้เเฮร์รี่ทราบด้วย

 

“เเล้วรถยนต์ต้องสงสัยอีกคันเล่า?”ได้ยินเสียงสกาย’อาย เเฮร์รี่ กล่าวถาม

 

“ดูเหมือนรถยนต์อีกคันเเม้จะเเยกทางกันเเต่จุดมุ่งหมายที่กำลังจะไปนั้นเป็นที่เดียวกัน”สกาย’อาย กล่าวตอบ

 

“อืม,ดูเหมือนว่าทั้งสองคันจะเเยกกันเเต่ท้ายที่สุดก็ไปยังสถานที่เดียวกัน?”ได้ยินเรื่องนี้จากสกาย’อาย เเฮร์รี่ ขมวดคิ้วเเน่น

 

“ดูจากสถานการณ์เเล้ว จะต้องมีรถยนต์คันใดคันนึงเป็นตัวล่ออย่างเเน่นอน…”เมื่อคิดได้เช่นนี้ เเฮร์รี่ รีบพุ่งตัวออกไปป

 

เห็นเสียงที่ดังสั่นไหวมาจากทิศทางใยเเมงมุมตรงด้านหน้าปีเตอร์ไม่ลังเลที่จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเค่ 0.02 วินาที ปีเตอร์ เหมือนจะสัมผัสโดนบางสิ่ง

 

สกาย’อาย เองก็เพ่งให้ความสนใจกับสนามรบตอนนี้ เขาได้มองผ่านกล้องวงจรปิด จนเห็น ควิกซิลเวอร์ ที่พุ่งหลีกเลี่ยงอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนความเร็วของ ควิกซิลเวอร์จะรวดเร็วสุดยอดมาก

 

ดังนั้นสกาย’อาย จึงต้องปรับให้ภาพช้าลงกว่า 100 ครั้ง จึงจะสามารถมองเห็นควิกซิลเวอร์ที่ใช้ความคล่องตัวในการหลบการโจมตีของใยเเมงมุมสไปเดอร์แมน

 

ปีเตอร์นั้นมีจุดเเข็งที่พลังกายเเละสัมผัสคล่องตัว เเต่หากโจมตีไม่โดนเขาก็ไม่นับเป็นอะไร เผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นตัวตนอย่าง ควิกซิลเวอร์ ความสามารถของสไปเดอร์แมน เเละ มิราจไนท์ ล้วนเเพ้ทาง

 

ฟุ่บ!

 

ใยเเมงมุมของปีเตอร์ดูเหมือนจะถูกตัดผ่าน ซึ่งปีเตอร์ได้สร้างมันใหม่เเต่ละครั้ง เเต่ดูเหมือนศัตรูจะยังเข้าถึงตัวเขาได้ ไม่เเปลกใจที่มิราจไนท์เสียท่าศัตรูเช่นนี้เป็นเพราะความสามารถที่น่ากลัวอย่างความเร็วนี่เอง

 

“!”ถูกชกเข้าที่หน้าอกหลายครั้งปีเตอร์ไอออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

เพียงเข้าปะทะครั้งเดียวควิกซิลเวอร์ก็สามารถโจมตีปีเตอร์ได้หลายครั้งตอนนี้ปีเตอร์ไม่ต่างจากกระสอบทรายที่กำลังถูกอัดอย่างหนักหน่วง

 

“ฉันจะต้องถ่วงเวลาเอาไว้เพื่อรอกำลังสนับสนุนมาถึง เเม้จะต้องเป็นกระสอบทรายฉันก็ต้องทน!”จ้องมองไปที่ควิกซิลเวอร์ ปีเตอร์สบถออกมา

 

ฟึ่ม!

 

ภายใต้สถานการณ์หัวใจบีบรัด ในที่สุด ปีเตอร์ ก็ได้ยินเสี่ยงกระหึ่มดังมาจากท้องฟ้า เขาเห็นกองทัพชุดเกราะเหล็กไอรอนแมนของโทนี่

 

“ไอรอนแมน?ไม่คิดเลยว่าจะมีปลาใหญ่โผล่มาอีกเเล้ว!”เห็นการปรากฏตัวของกองทัพไอรอนแมนหลายสิบตัวกลางอากาศ ควิกซิลเวอร์กล่าวด้วยเสียงเบาก่อนที่จะพุ่งหายไป

 

ความเร็วของควิกซิลเวอร์นั้นรวดเร็วมาก ปีเตอร์ต้องการปล่อยใยเเมงมุมสายฟ้าของเขาเพื่อช็อตศัตรูเเต่ดูเหมือนความเร็วของเขาจะยังคงไม่เพียงพอที่จะไล่ตามได้ทัน

 

“สไปเดอร์แมน,มิราจไนท์ อยู่ที่ไหน?”ชุดเกราะไอรอนแมน 30 ตัว ได้บินไปยังตำเเหน่งของปีเตอร์พร้อมกับส่งเสียงของโทนี่ออกมา

 

“ผมเองก็ไม่รู้,ตอนนี้ผมกำลังเผชิญหน้ากับบางคนอยู่ ความเร็วของคนคนนั้นรวดเร็วมาก มันอยู่เหนือประสาทสัมผัสของผม”ได้ยินคำถามของโทนี่ ปีเตอร์กล่าวตอบอย่างเร่งรีบ

 

“J.A.R.V.I.S เเยกทีมออกเป็นสามทีม ค้นหารถยนต์ที่นำตัวมิราจไนท์ไป ที่เหลือ เราจะอยู่ที่นี่เพื่อจัดการกับศัตรูที่ขวางหน้า”โทนี่ กล่าวบอก J.A.R.V.I.S.

 

“ครับเจ้านาย!”

 

ฟุ่บ

 

J.A.R.V.I.S ได้เเบ่งเเยกชุดเกราะไอรอนแมน 24 ตัวออกไป เเละเเบ่งเป็นสามกลุ่มเพื่อไปในสามทิศทางเวลาเดียวกัน ความเร็วของชุดเกราะไอรอนแมนนั้น รวดเร็วมาก ตราบเท่าที่รถสองคันยังไม่สามารถไปได้ไกล ไอรอนแมนย่อมตามทันอย่างเเน่นอน ซึ่ง โทนี่ ได้เหลือชุดเกราะไอรอนแมน 6 ตัวไว้รับมือกับสถานการณ์ตรงนี้ซึ่งเขาคิดว่ามันน่าจะเพียงพอ

 

“เปิดใช้ระบบสเเกน!”หลังจากจัดทีมค้นหามิราจไนท์เเล้ว โทนี่ ก็วางเเผนที่จะจัดการเพื่อนคนที่กำลังรับมือกับ สไปเดอร์แมนอยู่

 

ติ๊ด!!

 

“ตรวจพบความผันผวนของพลังงานที่ไม่ชัดเจน!”ในขณะที่โทนี่กำลังออกคำสั่ง J.A.R.V.I.S  ได้กระตุ้นเขา

 

วินาทีต่อมารังเเสงสีเเดงก็พุ่งไปที่ชุดเกราะของโทนี่ ที่บินอยู่กลางอากาศซึ่งมันพุ่งไปยังสามทิศทางในเวลาเดียวกัน

 

ฟึ่ม!

 

หลังจากนั้นดูเหมือนชุดเกราะพวกนั้นจะสูญเสียการติดต่อไป ซึ่งโทนี่ รู้สึกเเปลกใจมากกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

 

“J.A.R.V.I.S, เกิดอะไรขึ้น!?”เห็นปรากฏการณ์ที่ผิดปกติ โทนี่ กล่าวถามอย่างเร่งรีบ

 

“เจ้านายครับ,ดูเหมือนชุดเกราะไอรอนแมน 13 ตัวจะถูกควบคุมโดยพลังงานบางอย่างที่ไม่ชัดเจน”J.A.R.V.I.S,กล่าวตอบ

 

“มีวิธีเเก้ปัญหารึไม่?”

 

“จากการคำนวณกำลังจะเเยกตัวออกจากเเหล่งพลังงาน…เริ่มทำการคำนวณ การคำนวณเสร็จสมบูรณ์ เเยกตัวออกจากการควบคุม!”

 

ฟึ่ม!

 

ภายใต้การคำนวณอย่างเเม่นยำของ J.A.R.V.I.S, ชุดเกราะไอรอนแมนได้พ่นสารสีฟ้าออกมา ซึ่งได้บังสายตาของ สกาเล็ต วิช ก่อนที่ชุดเกราะไอรอนแมนทั้งหมดจะสั่นไหวอย่างรวดเร็ว

 

ชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 13 ตัว นั้นกำลังร่ายรำกลางอากาศเเละดื้นรนการควบคุมของ สกาเล็ต วิช  เตาพลังงานอาร์คได้ปลดปล่อยพลังงานออกมา ซึ่ง สกาเล็ต วิช ไม่สามารถควบคุมพลังงานระดับสูงจำนวนมากของชุดเกราะไอรอนแมนเหล่านี้ได้โดยฉับพลันทันที

 

“เจ้านายครับ,ตรวจพบตำเเหน่งต้องสงสัย!”หลังจากควบคุมชุดเกราะไอรอนแมน ให้หลุดจาก สกาเล็ต วิช  ,J.A.R.V.I.S  ยังตรวจพบตำเเหน่งของสกาเล็ต วิช อีกด้วย เธออยู่ตรงที่ทางเเยกต่อไปของมุมอาคาร

 

หึ่ม!

 

โทนี่ กลายเป็นโกรธเคือง มิราจไนท์ ถูกลักพาตัว ทั้งปีเตอร์ ยังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ชุดเกราะไอรอนแมนของเขา ดูเหมือนจะเป็นเป้าล่อสายตาของศัตรู ศึกครั้งนี้ โทนี่ รู้ว่ามันไม่ง่าย เเต่เพื่อที่จะพาตัวมิราจไนท์กลับมา โทนี่ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

 

นอกจากนี้ โทนี่ ไม่ใช่คนที่ล้มเลิกความตั้งใจง่าย ๆ เขามีตัดสินใจที่จะปกป้องโลกกำจัดกองกำลังที่ชั่วร้าย เพื่อให้บรรลุสิ่งเหล่านี้ไม่ว่าอย่างไรโทนี่จะต้องทำให้สำเร็จ

 

ฟึ่ม!

 

โทนี่ ได้ขับชุดเกราะไอรอนแมนไปทาง สกาเล็ต วิช เพียงเเต่ชุดเกราะไอรอนแมนของเขาเหมือนจะได้รับเสียงเตือน

 

ปั้ง

 

ไม่ต้องรอให้โทนี่ตอบสนอง ชุดเกราะไอรอนแมนของเขาเข้ากระทบกับการโจมตีบางอย่างก่อนที่จะถูกซัดลอยกระเด็นออกไปหลายเมตร

 

““J.A.R.V.I.S ……”

 

ปั้ง

 

ปั้งปั้ง!

 

โทนี่ต้องการรับรู้ข้อมูลจาก J.A.R.V.I.S ว่าสิ่งที่เขากำลังเผชิญหน้าคืออะไร ดูเหมือนการโจมตีเเต่ละครั้งมันจะหยุดจังหวะคำพูดของเขา การโจมตีเเต่ละครั้งราวกับค้อนเหล็กขนาดใหญ่ที่ทุบเข้าที่ชุดเกราะ การขัดจังหวะในครั้งนี้ทำให้ชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 6 ตัวที่เขาทิ้งไว้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

อย่างไรก็ตามชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่มีพลังป้องกันสูงมาก หมัดของ ควิกซิลเวอร์ เเม้จะส่งผลให้โทนี่ถูกซัดกระเด็นลอยไปเเต่ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับชุดเกราะไอรอนแมนหรือคนที่บังคับอยู่ข้างใน

 

„ J.A.R.V.I.S!”ไม่นานโทนี่ก็สามารถรวบรวมคำพูดเเละตะโกนขึ้น

 

“คำนวณวิถีจัดการ เปิดใช้การโจมตีตอบโต้อัตโนมัติ!”ถึงเเม้โทนี่จะไม่ได้สั่งการใด ๆ เเต่ดูเหมือน „ J.A.R.V.I.S จะออโต้ระบบโจมตีอัตโนมัติด้วยตนเอง

 

ป้าง !!!!

 

ภายใต้การคำนวณของ „ J.A.R.V.I.S ชุดเกราะไอรอนแมน 6 ตัว ได้พุ่งออกมาพร้อมกันก่อนที่จะยกเเขนสองข้างเปิดใช้พลังงานเลเซอร์ ลำเเสงเลเซอร์พลังงานทั้ง 12 เส้น ได้ถูกยิงออกไปทั่วทุกทิศทาง

 

ฟึ้มม!!

ตู๊ดด ตู๊ดด ~

 

“ทำไมโทรไม่ติด? หรือว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง ๆ ?”เห็นโทรศัพท์ไม่สามารถต่อสายได้ ธอร์ ทำสีหน้าเหยเก ทันที

 

“เช่นนั้นข้าจะจอดรถเอาไว้ที่นี่ล่ะกัน หวังว่ารถของเขาจะไม่หายไป”เเม้ในใจของธอร์จะปรากฏลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น เเต่ธอร์ในตอนนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เขาได้เดินออกไปนอกร้าน

 

ในขณะที่ธอร์กำลังกังวล ขณะเดียวกัน สกาย’อาย ก็กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่าง ๆ ในนิวยอร์ก เพื่อตามหาสัญญาณของมิราจไนท์ที่หายไป

 

“สไปเดอร์แมน! สัญญาณของ มิราจไนท์ เพื่อถูกตัดไปเมื่อไม่นานมานี้ คุณควรจะรีบเร่งอีกหน่อย!”ภายใต้ความกังวล สกาย’อาย ได้กล่าวเตือนสไปเดอร์แมน

 

หลังจากที่เเจ็คสันเข้าไปในรถยนตร์ดูเหมือนสัญญาณของเขาจะถูกปิดกั้นไปเเล้ว ซึ่ง สกาย’อาย ได้ส่งตำเเหน่งล่าสุดของ มิราจไนท์ ให้กับ สไปเดอร์แมน

 

“ฉันใกล้จะถึงเเล้ว,คุณสตาร์กได้ส่งชุดเกราะไอรอนแมนมาช่วยหรือไม่?”ปีเตอร์ที่กังวลเกี่ยวกับการหายตัวไปของเเจ็คสัน เขากล่าวขึ้นอย่างเร่งรีบ ตั้งเเต่รู้ว่าสถานะเเท้จริงของมิราจไนท์เป็นใคร ปีเตอร์รู้สึกกังวลอย่างมาก ตอนนี้ เเจ็คสันได้ถูกใครบางคนโจมตีเเละสัญญาณของเขาขาดหายไป ปีเตอร์ ได้ให้ สกาย’อาย ติดต่อกับ โทนี่ ขอให้เขาส่งชุดเกราะไอรอนแมนมาช่วย

 

“อืม,ดูเหมือนคุณสตาร์ก เองก็รู้สึกทุกข์ร้อนเหมือนกัน”เห็นสไปเดอร์แมนกล่าวถึงโทนี่ สกาย’อาย ได้บอกข้อมูลเกี่ยวกับการขอความช่วยเหลือ โทนี่ เเละดูเหมือนโทนี่จะส่งชุดเกราะไอรอนแมนมากกว่า 30 ตัวไปยังตำเเหน่งที่ มิราจไนท์หายตัวไป

 

“ชุดเกราะไอรอนแมน 30 ตัว?”หลังจากเห็นตัวเลขบนจอเรดาห์ สกาย’อาย ครุ่นคิดกับตัวเองทันที การทุ่มกำลังขนาดนี้ไม่ต่างจากการทำสงครามโลกก็มิปาน

 

“30 ตัว? ดูเหมือนว่าคุณสตาร์กจะกังวลกับมิราจไนท์เหมือนกัน ดี ฉันได้มาถึงตำเเหน่งสัญญาณที่ขาดหายไปเเล้ว เเต่ฉันไม่พบเจอใครในบริเวณนี้”ปีเตอร์ได้ยินคำตอบของสกาย’อาย เเต่ท้ายที่สุดเขาก็กลับมาเป็นปกติ

 

“มิราจไนท์ คุณอยู่ไหน?”ปีเตอร์ ตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“จากการตรวจสอบล่าสุด ดูเหมือน มิราจไนท์ จะอยู่บนตำเเหน่งรถสองคัน หลังจากนั้นสัญญาณก็ถูกตัดไป ทิศทางที่ไปนั้นไม่เเน่ชัด เเต่ตอนนี้ เขาอาจจะมุ่งหน้าไปได้ไม่ไกลนัก”สกาย’อาย ตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบหารถยนต์ สองคันเเละกล่าวบอก ปีเตอร์

 

“ฉันจะลองมองหาเเถวนี้ดูก่อน!”ปีเตอร์ได้เลือกหาพื้นที่ทิศทางเพื่อที่จะมองหารถยนต์ดังกล่าว

 

ฟุ่บ!

 

ปีเตอร์ได้ฉายใยเเมงมุมไปที่ตึกสูงด้านหน้าอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่ปีเตอร์กำลังฉายใยเเมงมุมเพื่อสังเกตุการณ์เขากลับมองเห็นร่างเงาที่มองเห็นไม่ชัดนั่นคือ ควิกซิลเวอร์ หากมองด้วยสายตาธรรมดาย่อมไม่สามารถที่จะจับการเคลื่อนไหวได้ทัน เเต่เพราะปีเตอร์มีสัญชาตญาณเเมงมุมในตัวทำให้เขาได้เปรียบในการสังเกตุเห็น

 

เงาร่างนั้นได้พุ่งตรงมาที่เขา ซึ่งสัญชาตญาณของปีเตอร์ได้ร้องเตือนให้รีบหลบ

 

อย่างไรก็ตามปีเตอร์ไม่สามารถหลบหลีกได้ทัน การโจมตีของ ควิกซิลเวอร์ ได้พุ่งเข้าโจมตีใส่ช่องท้องของเขา

 

“สกาย’อาย ฉันถูกโจมตี คุณสามารถสังเกตุเห็นตัวบุคคลที่โจมตีฉันได้รึไม่?”ปีเตอร์ที่ถูกโจมตีเขาได้สำลักออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะตะโกนถามสกาย’อาย

 

หากไม่ได้สัญชาตญาณเเมงมุมภายในตัวปีเตอร์คงบาดเจ็บหนักไปเเล้ว เเต่เพราะศัตรูนั้นรวดเร็วมากจนปีเตอร์ไม่อาจตอบสนองได้ทัน

 

“ถูกโจมตี?ฉันไม่เห็นใครโจมตีคุณเเม้เเต่น้อย หรือว่าในระหว่างที่คุณลอยตัวอยู่คุณจะกระทบเข้ากับบางสิ่งบางอย่าง?”ได้ยินคำถามของสไปเดอร์แมน สกาย’อาย กล่าวตอบด้วยความสงสัย เขาไม่สังเกตุเห็นการเคลื่อนไหวใด ๆ เเม้เเต่น้อย

 

ปั้ง

 

อั๊กก

 

“ดูเหมือนจะเป็นการโจมตีที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ฉันต้องการกองกำลังสนับสนุนจากไอรอนแมนโดยเร็ว อีกนานเท่าไหร่กว่าพวกเขาจะมาถึง”เห็นสกาย’อาย ตอบกลับ ปีเตอร์ ที่ถูกโจมตีโดยควิกซิลเวอร์หลายครั้งได้ร้อนตะโกนขึ้น

 

“กองทัพไอรอนแมนกำลังจะไปถึงในอีก 10 วินาที!”ได้ยินเสียงร้องตะโกนของสไปเดอร์แมน สกาย’อาย ได้ตรวจสอบภาพเรดาห์หลังจากนั้นดูเหมือนเขาจะตรวจจับเงาบางอย่างผ่านกล้องได้

 

“ฉันเห็นเขาเเล้ว,นี่มันรวดเร็วขนาดไหนกัน?”

 

หลังจากได้รับภาพบันทึกวิดีโอ เขาก็ได้ชะลอภาพอย่างช้า ๆ หลังจากผ่านการกด 502 ครั้ง ในที่สุด สกาย’อาย ก็เห็นบางคนโจมตีสไปเดอร์แมนอยู่

 

การโจมตีเเต่ละครั้งดูเหมือนจะเข้าประชิดตัวสไปเดอร์แมนอย่างรวดเร็ว เพียงเเค่การปะทะครั้งเดียวกลับสามารถโจมตีสไปเดอร์แมนได้หลายครั้ง

 

“สไปเดอร์แมน ดูเหมือนคนคนนี้จะมีความเร็วที่เหนือธรรมดาเกินไป ฉันไม่รู้จะช่วยคุณอย่างไรดี อย่างไรก็ตาม เเดร์เดวิล เเละ ดาร์คไนท์ กำลังไปช่วยคุณ อดทนไว้ก่อน”เผชิญหน้ากับการโจมตีของ ควิกซิลเวอร์ สกาย’อาย ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้

 

ดาร์คไนท์ ที่ สกาย’อาย หมายถึง ก็คือ เเฮร์รี่ นี่เป็นชื่อเรียกในกลุ่มของเขา เเม้เเฮร์รี่จะไม่ได้เข้าร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเต่เมื่อเเจ็คสันเเละปีเตอร์ต้องการความช่วยเหลือ เขาก็พร้อมจะสนับสนุนทุกเมื่อ สกาย’อาย ไม่รู้สถานะที่เเท้จริงของมิราจไนท์ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้่งระหว่าง สไปเดอร์แมนเเละดาร์คไนท์

 

“ดูเหมือนฉันจะต้องพึ่งตัวเองก่อนเเล้ว”กองทัพของโทนี่จะเดินทางมาถึงในอีกสิบวินาทีกว่า เเต่หากถึงตอนนั้น ปีเตอร์คงบาดเจ็บสาหัสก่อน ดังนั้นเขาจึงได้เหวี่ยงเเขนทั้งสองข้างออกไป

 

ฟุ่บ!

 

ฟุ่บ!

 

เเขนทั้งสองข้างของเขาปลดปล่อยใยเเมงมุมขนาดเล็กที่ทำขึ้นพิเศษพ่วงติดพื้นที่จำนวนมากล้อมรอบตัวเขาหลังจากนั้นปีเตอร์ก็นั่งยอง ท่ามกลางใยเเมงมุมของตัวเอง

 

ใยเเมงมุมที่ปีเตอร์ใช้นั้นได้เสริมความเเข็งเเกร่งด้านความเหนียวดังนั้นหากต้องการผ่านทะลวงปราการใยเเมงมุมหลายชั้นเพื่อเข้ามาโจมตีปีเตอร์ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย

 

ติง !

 

“ตรงนั้น!”

 

ฟุ่บ!

 

ตึก ตึก !!

 

ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช ได้คว้าเเจ็คสัน เดินทางออกไปนอกเขตเมืองนิวยอร์ก การเคลื่อนไหวของพวกเขารวดเร็วมากภาพจากกล้องวงจรปิดในนิวยอร์กล้วนไม่สามารถมองเห็นได้ชัด

 

“เวรเอ้ย,ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไม สกาเล็ต วิช เเละ ควิกซิลเวอร์ ถึงปรากฏตัวขึ้นได้ หรือว่า เเท้จริงเเล้วอิทธิพลที่หนุนหลังฟรานซิสอยู่คือองค์กรไฮดร้า!?”เเจ็คสันในอาการมึนงงเขาที่ถูกเเบกโดยควิกซิลเวอร์ได้กำลังท้อเเท้อย่างมาก เมื่อครู่นี้สติของเขาได้ถูกปลุกโดยภาพลวงตาของ สกาเล็ต วิช อย่างไรก็ตาม ความสามารถด้านพลังจิตของศัตรูนั้นสูงมาก เขาจึงได้เเต่เเกล้งหมดสติเช่นนี้ต่อไป ธรรมชาติสถานการณ์ในปัจจุบันเขาล้วนตื่นตระหนกอย่างเเท้จริง

 

สกาเล็ต วิช เเละ ควิกซิลเวอร์ ตอนนี้ พวกเขายังไม่รู้ว่าเเจ็คสันได้ตื่นขึ้นมาเเล้วเพราะเเจ็คสันได้เเกล้งหมดสติต่อไปโดยทำเป็นไม่สนใจทั้งสองคน

 

ความเเข็งเเกร่งของ ควิกซิลเวอร์ นั้นรุนเเรงมาก ซึ่งเเม้เเจ็คสันจะใช้เทคนิครู้เเจ้งของเขาก็เพียงตระหนักได้ถึงเงาราง ๆ ที่พุ่งเข้ามา เเต่การตอบสนองของเขาล้วนไม่สามารถตอบสนองได้ทัน เเจ็คสันเคยดูภาพยนตร์ของมาร์เวล เกี่ยวกับ ความสามารถของ ควิกซิลเวอร์ ซึ่งความสามารถของควิกซิลเวอร์นั้น คือความเร็ว นี่เป็นเอกลักษณ์ของเขา

 

ยิ่งไปกว่านั้น ควิกซิลเวอร์ยังได้ลอบโจมตีเเจ็คสันทีเผลอเพราะคิดว่าเเจ็คสันไม่สามารถตอบสนองต่อการโจมตีของตัวเองได้ทัน ความเร็วระดับสูงสุดของควิกซิลเวอร์ เเจ็คสันในตอนนี้ไม่สามารถใช้ความเเข็งเเกร่งของชุดสูทภูติมายาในการต้านทานได้

 

สำหรับ สกาเล็ต วิช ความสามารถของเธอ ทำให้จิตใจของเเจ็คสันรู้สึกบีบรัด เพราะเธอได้สร้างภาพลวงตาเพื่อที่จะสะกดจิตเเละควบคุมเขา หากเเจ็คสัน ดื่มด่ำไปกับภาพลวงตานั้นในโลกเเห่งความเป็นจริงเขาก็จะไม่ตื่นขึ้นตลอดกาล

 

เเต่เพราะเขาตระหนักได้ทันจึงได้สะท้อนความสามารถของ สกาเล็ต วิช กลับไป ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถควบคุมเเจ็คสันได้ เเต่พลังจิตของเธอก็จัดว่าเป็นพลังที่น่าเกรงขามอยู่ดี

 

เเจ็คสันในตอนนี้ไม่กล้าประมาทผู้ใช้ความสามารถด้านพลังจิต เพราะตอนนี้เขายังมีการป้องกันด้านนี้ไม่พอ เเจ็คสันรู้ตัวดีว่าในโลกมาร์เวลเเห่งนี้เขาจะต้องพบเจอบุคคลที่เเข็งเเกร่งมากมาย เพราะแบบนั้นเขาถึงได้พยายามฝึกฝนตัวเองจนหนักหน่วง เเต่ดูเหมือนมันยังคงไม่เพียงพอต่อการรับมือเรื่องทั้งหมด

 

“ถ้าควิกซิลเวอร์พาฉันหลบหนีออกไปทั้งแบบนี้ พวกปีเตอร์ ก็จะไม่สามารถตามรอยของฉันได้ หวังว่าพวกเขาจะไม่เป็นกังวล”เเจ็คสันสัมผัสได้ถึงความเร็วของ ควิกซิลเวอร์ที่กำลังวิ่งอยู่ เขาไม่สามารถอดทนได้

 

เเท้จริงเเล้วภายใต้การโจมตีของ ควิกซิลเวอร์ เขาเองก็รู้ตัวก่อนหน้านี้ว่าฟรานซิสอาจจะมีกองกำลังสนับสนุน ดังนั้นเขาจึงให้ สกาย’อาย คอยเฝ้าระวังเอาไว้ เเต่สิ่งที่เเจ็คสันไม่คาดเดาก็คือการปรากฏตัวของสองตัวละครหลักที่ปรากฏตัวขึ้นลอบจู่โจมเขา

 

การปรากฏตัวขึ้นของทั้งสองทำให้เเจ็คสันอยู่ในสภาพย่ำเเย่เเละตอนนี้เขากำลังเดินทางออกจากเขตพื้นที่นิวยอร์ก เเม้ว่า สกาย’อาย จะสามารถติดตามเขาได้ เเต่มันก็คงใช้เวลาพอสมควรกว่าจะระบุตำเเหน่งที่เเน่ชัด

 

ฟุ่บ!

 

ไม่รู้ว่าภายใต้คำวิงวอนของเเจ็คสันมีผลหรืออย่างไร ดูเหมือน ควิกซิลเวอร์ จะเริ่มเหนื่อย หลังจากไปถึงเขตชานเมืองของนิวยอร์ก ความเร็วของของเขาได้ช้าลงมาก

 

“อีกไม่นานหรอกที่เราจะใช้ชีวิตอยู่แบบนี้”ควิกซิลเวอร์ที่เเบกเเจ็คสันอยู่ ดูเหมือนเขาจะกล่าวพูดกับ สกาเล็ต วิช

 

“อืม”สกาเล็ต วิช เเวนด้า กล่าวตอบ ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่

 

“แวนด้า ฉันรู้ว่าเธอค่อนข้างเบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันของเรา ฉันสัญญาเลยว่าอีกไม่นานพวกเราจะออกจากองค์กรเเละเดินตามวิถีชีวิตในแบบพวกเรา”

 

“พวกเขาจะไม่สามารถหาเราพบอีกตลอดกาล”ควิกซิลเวอร์รู้ว่า สกาเล็ต วิช เป็นกังวลเรื่องอะไร

 

“เปโตร พี่คิดว่า เราจะมีวันที่จะอยู่แบบสงบสุขอย่างที่หวังจริงจริง งั้นหรอ?”สกาเล็ต วิช กล่าวตอบด้วยความไม่เชื่อมั่น

 

“มันจะต้องมีเเน่นอน”ควิกซิลเวอร์กล่าวตอบอย่างจริงจัง

 

“ดูเหมือนว่าที่ พี่ชายเเละน้องสาวคนนี้ ทรยศพันธมิตรอเวนเจอร์ส จากเรื่องภาพยนตร์มาร์เวล เเท้จริงเเล้วฉันพอจะทราบสาเหตุ ดูเหมือนพวกเขาก็ไม่ใช่คนไค้ศีลธรรมไปทั้งหมด”เเจ็คสันที่เเกล้งหมดสติเขาได้ยินเสียงพี่น้องทั้งสองสนทนากัน

 

ดูเหมือนทั้งสองคนตั้งใจจะหลบหนีเเละไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเหมือนคนธรรมดาปกติ การคิดของ ควิกซิลเวอร์นั้น เเน่นอนว่ามันง่ายเกินไป คนมีความสามารถเช่นพวกเขา เเม้องค์กรไฮดร้าจะถูกทำลาย, S.H.I.E.L.D. ก็จะไม่ปล่อยให้พวกเขาไปใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดา โดยเฉพาะนิค เขามีเเผนที่จะรับคนมีความสามารถเข้าทีมอเวนเจอร์สของเขา

 

“เเต่ในหนังภาพยนตร์พี่น้องคู่นี้ เป็นสาวกของเเมกนีโต ในชีวิตจริงตอนนี้ไม่ทราบว่าสถานะของพวกเขายังเหมือนเดิมอยู่หรือไม่ เเต่ดูเหมือนพวกเขาจะทำงานให้กับองค์กรไฮดร้าไม่ผิดเเน่”

 

หนึ่งในตัวละครสำคัญ เเมกนีโต นี่เป็นคนที่เเจ็คสันให้ความสนใจ เพราะคนคนนี้จัดว่าเป็นบุคคลที่เเข็งเเกร่ง

 

“หวังว่าเเมกนีโต จะไม่มีความสัมพันธ์กับองค์กรไฮดร้า ไม่งั้นคงเป็นเรื่องยุ่งยากน่าดู”เเจ็คสันคาดหวังเช่นนี้

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดในใจ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช  ก็ได้เดินทางมาถึงตรงทางเเยกก่อนที่จะหยุดเคลื่อนไหว ด้านหน้าของพวกเขาปรากฏรถยนต์สองคัน

 

ฟุ่บ!

 

ประตูรถคันนึงได้เปิดขึ้นรับ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช  หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย เเจ็คสันก็ถูกโยนไปที่เบาะหลังของรถยนต์

 

หลังจากถูกโยนเข้าไป เเจ็คสันคิดว่าเรื่องนี้สมควรไม่ใช่เรื่องบังเอิญ การเคลื่อนไหวของ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช พวกเขาสมควรได้รับมอบหมายภารกิจมา

 

บรื้นน

 

เสียงเครื่องยนต์ทั้งสองคันของรถได้ถูกสตาร์ทขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะเเล่นออกไปทางชานเมืองนิวยอร์ก

 

 

บาร์มากาเร็ต ธอร์ กำลังนั่งดื่มเหล้า เเละพลางคิดเรื่องของเเจ็คสันอยู่ เเม้เเจ็คสันจะบอกให้ธอร์ไม่ต้องรอเขา เเต่ธอร์กลับไม่ทำเช่นนั้น นอกจากนี้ เขาไม่กล้าขับรถออกไปข้างนอก ดังนั้นธอร์จึงรออยู่ที่นี่มาสักพัก เเละดูเหมือนว่าเเจ็คสันจะยังไม่กลับมา

 

เมื่อมองไปที่ทางเข้าหน้าบาร์ ธอร์ รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ก่อนหน้านี้ เเจ็คสันได้ออกไปเพื่อจะไปคลี่คลายปัญหากับกลุ่มคนที่เข้ามาในร้าน ธอร์กังวลว่าเเจ็คสันจะไม่สามารถรับมือกับกลุ่มคนเหล่านั้นได้ เเละด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาคิดว่า บาทีเเจ็คสันอาจประสบอุบัติเหตุบางอย่าง

 

ดังนั้นธอร์จึงโทรศัพท์ออกไปที่หมายเลขของเเจ็คสัน

 

“ตู๊ดด ตู๊ดด หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ~~”เสียงโทรศัพท์

เเจ็คสันได้ตื่นขึ้นมาเขาเห็นภาพเพื่อนร่วมงานในอดีตของเขา เขา มีเชื่อว่า หวาง เหมิน เเต่เเจ็คสันชอบเรียกเขาว่า เสี่ยวหยา ความสัมพันธ์ของเเจ็คสันกับเขาเป็นเพื่อนร่วมงานกันในบริษัทเเห่งนึง เเละ เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับ เสี่ยวหยา เเต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน เขาตื่นขึ้นมาพบเพื่อนร่วมงานของเขา หรือทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นเพียงความฝัน เขาคิดว่ามันไม่ถูก

 

“หวาง เหมิน,ฉันไม่ได้นอนเสียหน่อย นี่เป็นเวลาทำงานฉันจะนอนหลับได้ยังไง?”เเจ็คสันได้ขับไล่ความพร่ามัวในใจเเละตอบกลับ

 

“ไม่ได้นอน?ฉันเห็นว่านายกำลังนอนหลับฝันดีอยู่!’ได้ยินคำพูดของ หลินรุ่ย หวางเหมิน กล่าวตอบอย่างไม่สบอารมณ์

 

เเจ็คสันต้องการอธิบายเหตุผลบางอย่างเเต่ดูเหมือนศีรษะของเขาจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก

 

“ความฝัน? นี่เป็นความฝันงั้นหรอ?”เเจ็คสันมองไปที่ หวางเหมิน อีกครั้ง ในขณะนั้นเองภาพเงาเบื้องหน้าก็เริ่มเลือนลางขึ้นเรื่อย ๆ

 

“หลินรุ่ย,นายเป็นอะไร?”เห็นการเเสดงออกของหลินรุ่น หวางเหมิน กล่าวถามด้วยความสงสัย

 

“เเท้จริงเเล้วมันเกิดอะไรขึ้น? ไม่สิ ตอนนี้ฉันควรจะตื่นขึ้นถึงจะถูก!”เห็นหวางเหมิน กล่าวถามเขา เเจ็คสันตะโกนพูดออกมา

 

“นายเป็นบ้าอะไรเนี่ย?”

 

“ตื่นเดี๋ยวนี้!”เเจ็คสันไม่ได้สนใจคำพูดของหวางเหมิ่น เขาตะโกนออกมาอย่างดุร้าย

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาเดียวความผันผวนที่น่ากลัวในจิตวิญญาณของเขาก็ได้ทำลายภาพมายาเบื้องหน้าเเตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ดูเหมือนภาพลวงตาเหล่านี้ตั้งใจจะกลืนกินเเจ็คสัน

 

 

ในคืนที่มืดมิดเเจ็คสันได้นอนอยู่ที่นอกบาร์มาร์กาเร็ต ที่ด้านข้างของเขามีชายเเละหญิงนั่งยอง ๆ อยู่ที่ข้างเขา หญิงสาวคนนั้นมีผมสีเเดง เขากำลังยื่นมือมาจับศีรษะของเเจ็คสัน ส่วน ชายคนนั้นมีผมสีเงิน ลักษณะท่าทีของเขาค่อนข้างเย็นชา

 

เเจ็คสันจำได้ว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับฟรานซิสอยู่เเละถูกการโจมตีลึกลับเล่นงานเข้า เเละพริบตาต่อมาเขาก็เห็นชายหญิงคู่นี้ปรากฏตัวขึ้น เเต่เเจ็คสันไม่ประคองสติของเขาเพื่อสั่งการร่างกายให้ขยับได้

 

ฟุ่บ!

 

หญิงสาวผมสีเเดงได้ยื่นมือไปจับที่ระหว่างศีรษะของเเจ็คสัน ดูเหมือนเธอกำลังทำบางอย่างอยู่

 

“แวนด้า? ยังจัดการไม่ได้อีกหรอ?”เห็นน้องสาวของตัวเองยังไม่สามารถจัดการได้ ชายหนุ่มผมสีเงินกล่าวถามอย่างทนไม่ได้

 

“อืม,เปโตร ดูเหมือนการป้องกันทางจิตวิญญาณของเพื่อนคนนี้จะเเข็งเเกร่งมาก เเต่ฉันได้ทำให้เขาตกอยู่ในภาพมายาเเห่งฝันเเล้ว เเต่ถ้าหากคิดจะควบคุมเขาเกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย”เห็นพี่ชายของตัวเองกล่าวบน คนที่ถูกเรียกว่า เเวนด้า ได้กล่าวตอบ

 

ในขั้นต้นทั้งสองมีสีผมที่เเปลกประหลาด พวกเขาคือพี่น้อง ชายหญิง ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อที่พวกเขาเรียกขานกัน เหมือนกับ มิวแทนท์ตัวละครที่สำคัญในโลกมาร์เวล สการ์เล็ต วิทช์ เเละ ควิกซิลเวอร์ เปโตร เเจ็คสันได้ตอบสนองเเละเข้าใจได้ทันทีการโจมตีกระทันหันที่รวดเร็วนั้นคงเป็นฝีมือของ ควิกซิลเวอร์ เเละ การโจมตีภาพลวงตา ก็คือการโจมตีจาก สการ์เล็ต วิทช์  ดูเหมือนจิตวิญญาณของเขากำลังถูกรบกวนโดยเธอ

 

สการ์เล็ต วิทช์  ต้องการควบคุม เเจ็คสันให้ตกอยู่ภายใต้ภวังเเห่งภาพลวงตา เเต่เเล้ว จิตวิญญาณที่น่าเกรงขามก็ถูกปลดปล่อยเข้าหาจิตใจของ สการ์เล็ต วิทช์

 

“ไม่ดีเเล้ว!”รู้สึกถึงพลังจิตที่น่าเกรงขาม เเวนด้า ตะโกนขึ้นอย่างไม่เต็มใจ

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนเเละถอยห่างจากเเจ็คสัน

 

ดูเหมือนเธอจะไม่สามารถบ่งการเเละควบคุมเเจ็คสันได้ ในขณะเดียวกัน เเวด้า ก็เตือน ควิกซิลเวอร์ ให้เตรียมพร้อมรับมือ เเต่เเล้วเเจ็คสันกลับไม่มีท่าทีตอบสนองซึ่งมันทำให้ ควิกซิลเวอร์ รู้สึกสับสน

 

“หรือว่าเขาถูกพลังจิตรบกวนมากเกินไปจนเกิดอาการมึนงงอยู่?”ภายใต้การจ้องมองของพี่ชายตัวเอง เเวนด้า กล่าวพูดขึ้นอย่างไม่ชัดเจน

 

“เช่นนั้น เธอสามารถควบคุมเขาต่อได้รึไม่?”ได้ยินคำพูดของน้องสาวตัวเอง ควิกซิลเวอร์ กล่าวถามเล็กน้อย

 

“เเต่ฉันสัมผัสได้ถึงพลังจิตที่ปะทุขึ้นอย่างรุนเเรง มันเป็นเขาไม่ผิดเเน่ ฉันไม่สามารถควบคุมเขาได้”เเวนด้าสั่นศีรษะอย่างรวดเร็ว

 

“ไม่สามารถควบคุมเขา?เช่นนั้นเราจะจับเขาไป บางทีเราอาจสามารถเก็บเกี่ยวบางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเขาได้”เนื่องจาก น้องสาวของเขาไม่สามารถควบคุมคนคนนี้ได้ ดังนั้น ควิกซิลเวอร์ จึงได้กล่าวพูดออกมา

 

“เดี๋ยวฉันจะลองตรวจสอบดูอีกครั้งให้เเน่ใจว่าเขาหมดสติอยู่รึไม่”ได้ยินคำพูดเหลวไหลของพี่ชาย เเวนด้า เดินเข้าไปหาเเจ็คสันอีกครั้งเเละเริ่มปล่อยพลังจิตของตัวเอง

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่หลังจากผ่านไปหลายวินาที เเวนด้าก็พูดขึ้น

 

“ดูเหมือนเขาจะหมดสติอยู่จริงจริง”

 

“เราได้ออกมาทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายในวันนี้ ไม่คาดคิดว่าจะได้รับปลาตัวใหญ่กลับไป”ควิกซิลเวอร์ กล่าวพูดขึ้นเขาจ้องมองไปที่เเจ็คสัน

 

“เพื่อนคนนี้ไม่ง่ายต่อการจัดการเราควรระวัง นอกจากนี้ เพื่อนคนนี้คงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับทีม X-Men เพราะไม่งั้นเขาคงไม่ลุยเดี่ยวแบบนี้”

 

สการ์เล็ต วิทช์  กล่าวบอกพี่ชายของเธอ

 

“ไม่ว่าเพื่อนคนนี้จะเเข็งเเกร่งมากขนาดไหนเขาก็ไม่ต่างอะไรไปจากคนโง่ที่คิดว่าตัวเองเเน่ที่ชุด คิดจะต่อกรกับพวกเราทั้งคู่ เหอะ ไม่ตลกไปหน่อยหรือไง?”เปโตร ยิ้มอย่างเหยียดหยาม

 

“เปโตร พี่คิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้องเเล้วงั้นหรอ”ได้ยินคำพูดของ พี่ชาย สการ์เล็ต วิทช์ กล่าวพูดขึ้น

 

“เเวนด้า ในโลกนี้ ล้วนไม่มีความผิด มันขึ้นอยู่กับมุมมองเเต่ละบุคคล เเละสถานการณ์มันบีบบังคับให้เราไม่มีทางเลือก”เห็นเเวนด้ากังวล เปโตร กล่าวปลอบเธอ

 

“อืม,เอาล่ะภารกิจคืนนี้ก็สำเร็จเเล้วกลับกันเถอะ”เห็นว่าพวกฟรานซิสจากไปเเล้ว เปโตร กล่าวพูดโดยไม่สนใจเเวนด้า

 

ควิกซิลเวอร์ได้แบกแจ็คสันจากไปพร้อมกับสการ์เล็ต วิทช์ พวกเขาได้รับภารกิจให้เฝ้าระวังทีม X-MEN และ ตามหาตัว เดดพูลแต่การปรากฏตัวของ มิราจไนท์ ชัดเจนว่าเป็นอุบัติเหตุ

 

ตอนนี้มิราจไนท์ถูกแบกไปโดยพวกเขา แน่นอนว่าภารกิจ ตามหา วาเนสซ่า และ เดดพูล สามารถทำได้ภายหลัง ภายใต้การชักนำของพวกฟรานซิส

 

ธรรมชาติฟรานซิสได้เตรียมตัวพร้อมสำหรับการป้องกันตัวเองแน่นอนว่าเขาเองก็ไม่คาดคิดว่ามิราจไนท์จะปรากฏตัวขึ้น

 

หลังจากที่ฟรานซิส ขู่ วีส เเละ ได้รับรูปวาเนสซ่าไป จ้องมองไปที่ วีสที่กำลังโทรศัพท์ไปหาเวด เเจ็คสันมองตาเป็นประกายก่อนที่จะลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้

 

“ธอร์ฉันมีเรื่องที่จะต้องไปจัดการ ฉันจะทิ้งกุญเเจรถไว้ให้ หวังว่าคุณคงขับมันกลับเองได้”เเจ็คสันได้โยนกุญเเจรถให้ธอร์เเละพูดขึ้น

 

“เฮ้ เจ้าจะไปไหน?”ธอร์รับกุญเเจรถมาเเละกล่าวถามอย่างเร่งรีบ

 

“เฮ้,เจ้าคิดจะให้ข้าขับรถกลับเองจริงจริงใช่มั้ย?”เห็นเเจ็คสันที่เดินหนีจากไป ธอร์ กำกุญเเจรถในมืออย่างไม่เต็มใจ

 

ธอร์รู้เเน่ชัดว่าเเจ็คสันจะไปทำอะไร เพราะตั้งเเต่เกิดเหตุการณ์เมื่อครู่ที่บาร์ ท่าทีของเเจ็คสันก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เเต่เป็นเพราะธอร์ไม่มีพลังเหนือธรรมชาติเหมือนเเต่ก่อนสถานการณ์ปัจจุบันเขาไม่อาจสุ่มเสี่ยงเข้าไปได้เขาเชื่อว่าเเจ็คสันจะสามารถจัดการสถานการณ์ได้ด้วยความเเข็งเเกร่งของตัวเอง

 

ฟุ่บ!

 

ด้านนอกบาร์มากาเร็ต ในช่องทางสลัว ฟรานซิส หลังจากที่เขาหายดีในศึกครั้งก่อนเเล้ว เขาต้องการเเก้เเค้นเวด ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทำตอนนี้คือ มองหาวาเนสซ่า เเม้ว่าเขากับเธอจะไม่มีความเกลียดชังต่อกัน เเต่ เรื่องระหว่างเขากับเวด ไม่ใช่จะเป็นเรื่องที่จบกันง่าย ๆ

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ในขณะที่พวกฟรานซิสกำลังเดินอยู่ที่ด้านหลังของพวกเขาปรากฏเงาร่างนึงซ่อนอยู่ในที่มืด ไม่ต้องสงสัยว่า นี่คือเเจ็คสันที่สวมใส่ชุดสูทภูติมายา ตั้งเเต่ที่เขารู้ว่าฟรานซิสปรากฏตัวขึ้น เขาก็รู้ทันทีว่าปัญหาได้มาเยือนเดดพูล เเล้ว เเจ็คสันไม่คิดว่าตัวเองจะเเก้ไขสถานการณ์ได้ด้วยตัวคนเดียว เพราะ อิทธิพลของฟรานซิสนั้นเเข็งเเกร่งมาก

 

ไม่นานฟรานซิสเเละพวกของเขาก็ออกไปจากพื้นที่สลัว เเจ็คสันได้เร่งสปีดของเขาตามมันไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะพุ่งโจมตีฟรานซิสจากด้านหลัง

 

“ฟรานซิส!”ดาบเก้าอสนีได้ถูกดึงออกมา เเจ็คสัน ได้พุ่งเข้าหาฟรานซิสโดยตรง

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ได้ยินเสียงเรียกฟรานซิสหันกลับมาอย่างเร่งรีบพริบตาเดียวลำเเสงสีม่วงก็วาดผ่านมาถึงที่เบื้องหน้าของเขาซึ่งมันทำให้เขาตกใจไม่ใช่น้อย

 

“หลบเร็ว!”ฟรานซิสตะโกนขึ้นก่อนที่จะกระโดดหลบในเวลาถัดมา

 

ปั้ง!

 

ไม่จำเป็นต้องรอให้ฟรานซิสเตือน เเม่สาวอกโต เเละ คนอื่น ๆ ได้กระโดดหลบไปอีกด้านนึง

 

เปรี้ยง

 

ลำเเสงสีม่วงได้วาดผ่านพื้นที่จนตัดผ่านทุกสิ่งที่ขวางทาง

 

!!
“เเขนของฉัน!”

 

เเม้หลายคนจะสามารถหลบได้ เเต่ก็มีคนสองคนได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดพลังครั้งนี้ เเขนของพวกมันได้ถูกตัดผ่าเเยกออกจากกัน

 

ฟุ่บ!

 

การเคลื่อนไหวของเเจ็คสันทำให้พวกของฟรานซิสไม่ทันได้ตั้งหลัก นอกจากนี้ เเจ็คสัน ยังต้องการจบการต่อสู้นี้โดยเร็ว

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่เเจ็คสันกำลังฆ่าคนของฟรานซิสที่พื้นที่ด้านหลังของเขาเหมือนมีกระเเสลมกรรโชกพัดผ่านเข้าหาเขาอย่างหนักหน่วง

 

ปั้ง!

 

เเจ็คสันได้ตอบสนองได้ทันเเละรับการโจมตีนั้นก่อนที่จะกระเด็นถอยกลับไป

 

การโจมตีโดยทีเผลอเมื่อครู่นี้ทำให้เเจ็คสันถูกส่งลอยกระเด็นไปเพียงเเต่ว่าไม่ทันไรการโจมตีระลอกที่สองก็ซัดเข้ามาอีกครั้ง

 

การโจมตีสองครั้งนี้เเจ็คสันไม่สามารถมองเห็นมันได้ชัด เเต่มันเป็นการโจมตีสองครั้งไม่ผิดเเน่ โชคดีที่เขาได้รับการปกป้องโดยชุดสูทภูติมายา ไม่งั้นเเจ็คสันคงได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีสองครั้งนี้”มาจากไหนกัน?”เเจ็คสันเร่งความเร็วพร้อมกับใช้เทคนิครู้เเจ้งตรวจสัมผัสพื้นที่รอบ ๆ

 

ถึงอย่างไรเทคนิครู้เเจ้งที่ปล่อยออกมาก็ไม่สามารถสัมผัสหาต้นตอได้ เเจ็คสันมีเเต่ความรู้สึกไม่ชัดเจน เมื่อครู่ เขาได้ถูกจู่โจมโดยทีเผลอจากด้านหลัง มันทำให้เขาไม่ทันได้ระวังตัว นอกจากนี้ เขายังไม่สามารถตรวจพบตำเเหน่งศัตรูได้

 

ปั้ง

 

ขณะนั้นเองเหมือนเเจ็คสันจะสัมผัสได้ถึงเงาร่างของบุคคลลึกลับที่โจมตีด้วยความเร็วสูงนั่น

 

ฟุ่บ!

 

เผชิญหน้ากับประสบการณ์ถูกโจมตีหลายครั้งเเจ็คสันได้หลบเลี่ยงมันเเละพุ่งเข้าหาเงาร่างนั้นก่อนที่จะวาดดาบฟันออกไป

 

การเคลื่อนไหวของเเจ็คสันเเละเงาร่างนั้นได้เข้าปะทะกันก่อนที่ทั้งสองจะร่วงลงสู่พื้นดินทั้งคู่ เพียงเเต่ความเร็วของเงาร่างนั้นดูเหมือนจะรวดเร็วมาก ซึ่งมันเหนือกว่าความคาดหมายเเละการโจมตีของเเจ็คสัน เเจ็คสันที่ถูกลอบโจมตีเขาได้รับบาดเเผลเล็กน้อย เเต่ไม่นับเป็นบาดเเผลอันใด ภายใต้การเผชิญหน้าในครั้งนี้ทำให้เเจ็คสันระมัดระวังตัวมากขึ้น

 

เหตุการณ์ปะทะเมื่อครู่ส่งผลให้พวกเขาตกพื้นเเละถอยห่างกันระยะนึง ขณะนั้นเองเเจ็คสันเหมือนจะสัมผัสคลื่นความผันผวนทางจิตวิญญาณที่พุ่งตรงมาหาเขาจากทุกทิศทาง

 

สิ่งเเรกที่เตือนเขาก็คือสัญลักษณ์เเห่งการป้องกัน นอกจากนี้ เเจ็คสันยังได้อัพเกรดชุดสูทภูติมายาของเขาให้มีความสามารถในการป้องกันจิตวิญญาณระดับนึง เเต่การโจมตีทางจิตวิญญาณในครั้งนี้ได้ทำลายการป้องกันของชุดสูทภูติมายาเเละกำลังโจมตีห้วงจิตวิญญาณของเเจ็คสัน

 

อั๊กก

 

เเจ็คสันได้กระเด็นล้มลงไปกับพื้นตอนนี้สติของเขาได้มืดดำเเละกำลังโผล่ไปยังสถานที่ห้วงความคิดของเขา

 

“หลิน รุ่ย,เวลาทำงานนายก็ยังจะนอนหลับอีกงั้นหรอ? หรือว่านายไม่ต้องการที่จะมีงานทำเเล้ว?”ภาพปัจจุบันได้ส่งผลให้เเจ็คสันตื่นขึ้นมันเป็นเสียงที่เขาคุ้นเคย

 

“หืม? เสี่ยวหยา?”เเจ็คสันลืมตาขึ้นมาเห็นภาพเงาร่างที่คุ้นเคย

 

ตึก ตึก!

ในช่วงเย็นวันต่อไป,บาร์ ซิสเตอร์มากาเร็ต เเจ็คสันได้มาที่นี่กับธอร์เพื่อร่วมดื่มทั้งยังพูดคุยเรื่องการมองหางานให้ธอร์ ดังนั้นพวกเขาจึงนั่งดื่มกันไปสองเเก้ว

 

“บรรยากาศของบาร์ที่นี่ค่อนข้างบรรเทิงนักมันให้ความรู้สึกราวกับข้าได้กลับไปเป็นนักรบชาวเเอสการ์ดอีกครั้งเหล้าที่นี่ก็ไม่ได้มีรสชาติที่เเย่เกินไป”ธอร์จ้องมองไปที่เหล่าทหารเเห่งโชคชตาเหล่านั้นเเละพูดคุยกับเเจ็คสัน

 

ในฐานะที่เขาเคยผ่านสมรภูมิรบของเเอสการ์ดมา จัดว่าธอร์ค่อนข้างเป็นมืออาชีพ ดังนั้นเขาจึงสรุปบรรยากาศที่นี่ได้ไม่อย่างยากเย็นเพราะบรรยากาศที่ร้านซิสเตอร์มากาเร็ตค่อนข้างดุเดือด มันค่อนข้างเข้ากับรสนิยมของธอร์ เเม้ว่าคนที่นี่จะไม่สามารถเทียบกับนักรบชาวเเอสการ์ดก็ตาม เเต่มันก็ให้ความรู้สึกที่คล้ายคลึงที่เขาเคยผ่านมาอีกครั้ง

 

สำหรับเเจ็คสันในความคิดของธอร์เดิมที เด็กคนนี้เป็นคนเเปลกหน้า ตั้งเเต่ที่เขาได้ตื่นขึ้นที่นิวเม็กซิโกในเมืองเล็ก ๆ เขาได้พบกับเเจ็คสัน เเละ ธอร์รู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา เเต่อย่างไรก็ตามหากดูผิวเผิน เเจ็คสัน ก็เป็นเพียงนักเรียนมัธยมธรรมดาคนของโลกนี้ เพราะเขาได้ซ่อนความเเข็งเเกร่งของตัวเองเอาไว้

 

เเจ็คสันได้พาธอร์มาที่นี่เพื่อระบายความเครียดของธอร์เเต่เเจ็คสันหารู้ไม่ว่าในสายตาของธอร์ตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัยในตัวเขา

 

“เเจ็คสัน,เจ้ามีความลับอยู่มากขนาดไหนกัน?ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้ถามเจ้าเเต่เจ้ากลับเหมือนรู้จักตัวข้าดี นอกจากนี้ราวกับว่าเจ้าเคยได้ยินชื่อเเอสการ์ดมาก่อนที่จะรู้จักกับข้า”เห็นเเจ็คสันนั่งยกเเก้วดื่มเบียร์ ธอร์ ที่อัดอั้นใจมานานได้กล่าวถาม

 

“เป็นความลับ”เเจ็คสันได้ผายมือตอบอย่างสบายใจ

 

“ความลับ?เเละความลับที่เจ้าว่าคืออะไร?”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน ธอร์ กล่าวถามอีกครั้ง

 

“ความลับก็คือความลับ,ถ้าฉันบอกคุณมันจะใช่ความลับงั้นหรอ?”

 

“~~”

 

“เเต่ฉันจะบอกคุณเพียงเล็กน้อยเเล้วกัน ข้อมูลของโลกชาวเเอสการ์ดนั้น ใช่ว่าที่โลกของเราจะไม่มีข้อมูลเพียงเเต่ว่ามันเป็นเพียงข้อมูลบางส่วนเท่านั้น”

 

“เช่นนั้นหมายความว่า?โลกของข้ากับโลกของเจ้ามีความเกี่ยวข้องกัน?”ได้ยินคำอธิบายของเเจ็คสัน ธอร์ เหมือนจะฉุดคิดขึ้นได้

 

เเม้ว่าโลกจะมีข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเเอสการ์ดเเต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธอร์ สำหรับธอร์ที่มีอายุตอนนี้มากกว่า 200 ปี เขาไม่ได้เกิดในช่วงเวลานั้น ดังนั้น การสนทนาที่น่าเบื่อนี้จึงได้จบลงอย่างรวดเร็ว

 

จากนั้นธอร์เเละเเจ็คสันก็พูดคุยกันถึงเรื่องของพวกเขา ซึ่งเเจ็คสันชื่อว่าเพื่อนของเขาคนนี้ค่อนข้างบ้าทีเดียว เพราะธอร์ได้โอ้อวดวีรกรรมของตัวเองในช่วงสงครามในช่วงขณะที่เขาเป็นนักรบชาวเเอสการ์ด สายตาที่เหล่าทหารเเห่งโชคชะตามองมาที่ธอร์นั้นให้ความรู้สึกยำเกรงเพราะด้วยรูปร่างเเละการวินิจฉัยจากประสบการณ์การต่อสู้ของพวกเขามันบ่งบอกว่าธอร์ไม่ธรรมดา

 

ซึ่งสำหรับเเจ็คสันเเล้วเเม้ว่าเขาจะฆ่าคนไปหลายคน เเต่สถานะของเเจ็คสันก็เป็นเพียงมนุษย์โลกเขาเป็นนักเรียนมัธยมปลายโดยธรรมชาติ เหล่าทหารโชคชะตาในร้านบาร์มากาเร็ต มองเเจ็คสันเป็นเพียงเด็กน้อยคนนึง

 

เพียงเเต่ในขณะนั้นเองกลับมีกลุ่มคนจำนวนนึงได้เดินเข้ามา

 

“ดูเหมือนจะเกิดเรื่องขึ้นเเล้ว!”เเจ็คสันได้วางเเก้วลงเเละบังเกิดความไม่สบายใจ

 

ในเวลานี้มีบุคคลสองคนเดินไปที่บาร์ที่วีสยืนอยู่

 

สองคนนี้คือชายเเละหญิง พวกเขาเหมือนกับทหารเเห่งโชคชะตามีร่างกายที่กำยำเเละดูเเข็งเเกร่ง ดูเหมือนเจตนาของพวกเขาที่มาในวันนี้จะไม่ได้มีเจตนาที่ดีนอกจากนี้ หญิงสาวคนนึงที่เเต่งตัวดูเย็นชาคนนั้นเเละเพื่อนชายที่ยืนอยู่หน้าสุดก็เป็นบุคคลที่เเจ็คสันค่อนข้างคุ้นเคย ซึ่งชายคนนั้นก็คือ ฟรานซิส ที่ เวด เกลียดชัง เเละ หญิงข้าง ๆ เขาก็คือ เเม่สาวอกโต สมุนคู่ใจของเขา

 

“ครั้งก่อนฟรานซิสเกือบจะถูกจัดการโดยเวดไม่คาดคิดว่าเขาจะดั้นด้นมาก่อปัญหาด้วยตัวเอง”เห็นฟรานซิสปรากฏตัวขึ้นเเจ็คสันกล่าวพูดในใจ

 

เห็นลักษณะท่าทีของเเจ็คสันที่เเปลกไปธอร์รู้ได้ทันทีว่าคงมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นเขาได้วางเเก้วเหล้าของตัวเองเเละมองไปที่ด้านหน้าบาร์

 

เเจ็คสันจ้องมองไปที่ฟรานซิสที่เดินก้าวไปข้างหน้าเเละกำลังเผชิญหน้ากับวีส

 

“ฉันพอจะได้ยินมาว่านายพอจะรู้จักเพื่อนของฉันคนนึง เขาชื่อว่า เวด วิลสัน นายพอจะรู้ไหมว่าเขาอยู่ที่ไหนตอนนี้?”ฟรานซิสกล่าวถาม วีส ด้วยอารมณ์ขันเล็กน้อย

 

เห็นฟรานซิสเเละพรรคพวกของมันมาที่นี่ วีส กลายเป็นกังวล เขาจะไม่รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นใครได้อย่างไร อย่างไรก็ตามเขาจะไม่ยอมขายเพื่อนตัวเองเด็ดขาด

 

“เวด วิลสัน? ฉันไม่เคยได้ยินเลย”วีส กล่าวตอบ ฟรานซิส เเม้ว่าเขาจะรู้ว่าคนเหล่านี้ไม่ธรรมดา เเต่จิตใจของเขาเเน่วเเน่ที่จะไม่ทรยศเพื่อน

 

ได้ยินคำตอบของ วีส ฟรานซิสได้ทำท่าทางบางอย่างซึ่งบ่งบอกให้ เเม่สาวอกโตเคลื่อนไหว ไปข้างหน้าเเละเข้าไปที่บาร์

 

“เฮ้,พวกคุณไม่สามารถเข้ามาพื้นที่ตรงนี้ได้”เผชิญหน้ากับพรรคพวกของฟรานวิสเเละเเม่สาวอกโต วีส กล่าวพูดขึ้น อย่างไรก็ตามบาร์นี่ก็เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา เขาจะไม่ถอยหลังเด็ดขาด

 

ปั้ง!

 

เเม่สาวอกโตเดินไปที่ด้านหลังของเขาก่อนที่จะหยิบรูปใบนึงขึ้นมามันเป็นรูปของวาเนสซ่าที่ถ่ายคู่กับเวด

 

“ฉันเหมือนจะจำผู้หญิงคนนี้ได้”เเม่สาวอกโตกล่าวพูดกับฟรานซิส

 

“อืม,ฉันคิดว่านี่คือวาเนสซ่าอย่างเเน่นอน”ในมือถือรูปใบนึงของวาเนสซ่า เเละ ฟรานซิสก็ได้พูดขึ้น

 

ปั้ง!

 

จากนั้นเเม่สาวอกโตก็ยกคอของวีสขึ้นเเละซัดเข้ากับกำเเพง

 

ฟุ่บ!

 

อย่างไรก็ตามภายใต้การกระทำของเเม่สาวอกโตใบหน้าของเหล่าทหารเเห่งโชคชะตาทั้งหมดที่อยู่ในบาร์ได้ดึงปืนออกมาชี้ไปที่พวกฟรานซิส ที่นี่คือ บาร์มากาเร็ต เเละ วีส เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพวกเขา หากคิดจะหาเรื่องวีสก็ต้องผ่านพวกเขาไปก่อน

 

“เฮ้,ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่พวกเธอจะมาทำเป็นกร่างนะ!”วีสที่ถูกยกตัวขึ้นได้มองไปที่เเม่สาวอกโตเเละกล่าวเตือน

 

เผชิญหน้ากับการจ้องมองเเละเล็งปืนจำนวนหลายสิบกระบอกมาที่เขา ฟรานซิสคิ้วกระตุกเล็กน้อยเเละพูดขึ้น”เย็นไว้ เเองเจิล เราได้ของที่เราต้องการเเล้ว”

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำพูดของฟรานซิส เเม่สาวอกโต ได้วางวีสลงเเม้ว่าพวกเขาจะเเข็งเเกร่ง เเต่การเผชิญหน้ากับทหารเเห่งโชคชะตาที่มีปืนหลายกระบอกเพ่งเล็งมาที่พวกเขา พวกเขาก็ไม่อาจประมาทได้ดังนั้น ฟรานซิส จึงได้หยิบรูปใบนั้นกลับไป

 

“เเน่ใจหรอ,ไม่อยากได้เสื้อผ้าสีอื่นบ้างหรอ พ่อรูปหล่อ?”เห็นฟรานซิสกำลังจะเดินออกไป วีส กล่าวเตือนเล็กน้อย

 

ฟรานซิสจ้องมองไปที่วีส เเละยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกจากบาร์ไปพร้อมกับเเม่สาวอกโต

 

“ขอบคุณที่ช่วยกันนะพี่น้องทั้งหลาย!”เห็นเพื่อนทหารเเห่งโชคชะตาช่วยเหลือเขา วีส รีบกล่าวขอบคุณก่อนที่จะรีบโทรหาเวด”เวด,งานเข้าเราเเล้วว่ะพวก, ~ ~เราที่ว่าฉันหมายถึงเเก!”

 

เเม้ว่าเรือเหาะสงครามจะเป็นพาหนะระดับ E เเละไม่สามารถเทียบกับชุดเกราะไอรอนแมนระดับสูงได้ เเต่มันก็เป็นประเภทอาวุธสงครามที่สามารถบรรทุกคนออกไปนอกอวกาศเพื่อสำรวจดาวเล็ก ๆ ดังนั้นหากเทียบกันด้านความต่างของความสามารถถือว่าเป็นอาวุธชั้นยอดเลยทีเดียว

 

ยิ่งไปกว่านั้นเรือเหาะสงครามระดับนี้สามารถกลายเป็นอาวุธหลักของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งยังสามารถช่วยเหลือด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์ของโลกในปัจจุบัน

 

“นอกจากโทนี่ เเล้วคนที่จะสามารถสร้างเรือเหาะสงครามนี้ได้คงเเทบจะไม่มีเหลืออยู่ ถึงอย่างไรเรื่องนี้สมควรเป็นความลับ เพราะเรือเหาะสงครามไม่เหมือนกับไอรอนแมนที่สามารถสร้างแบบลับ ๆ ในใต้ดินห้องของโทนี่ได้ ถ้าเกิดจะสร้างมันจำต้องสร้างฐานลับระดับสูงขึ้นมาเพื่อซ่อนมันเอาไว้”เเจ็คสันมองไปที่แบบเเปลนพิมพ์เขียวออกแบบเเละกระซิบกับตัวเอง

 

หลังจากที่ถูกโลกิโจมตีในครานั้นเเจ็คสันมีความคิดที่จะกำจัดพันธมิตรที่ชั่วร้ายจากต่างโลก ดังนั้นเขาจะต้องสร้างสหัพันธ์โลกให้มีอิทธิพลที่เเข็งเเกร่งขึ้น เเจ็คสัน เข้าใจว่านี่คือโลกมาร์เวล ความคิดธรรมดาไม่อาจนำมาเปรียบเทียบได้ จักรวาลมาร์เวลนั้นเน้นไปที่การเผชิญหน้ากับภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งอาจนำมาซึ่งภัยพิบัติที่มนุษย์ชาติจะล่มสลาย

 

เเต่การคิดนั้นง่ายกว่าการลงมือทำ ด้วยประสบการณ์ที่เผชิญหน้ากับการลงมือของโลกิ เเจ็คสัน ปราถนาความเเข็งเเกร่งสูงสุด เพราะเขาเชื่อว่าหากเขามีความเเข็งเเกร่งมากพอเขาย่อมสามารถรับมือกับโลกิได้ไม่อย่างยากเย็น ทั้งยังสามารถควบคุมเเละพัฒนาความเเข็งเเกร่งของโลกเพื่อเตรียมความพร้อมได้อีกด้วย

 

เเต่หากเเจ็คสันดำเนินชีวิตไปเรื่อย ๆ แบบนี้ เขาไม่มีทางที่จะชนะโลกิได้ตลอดชีวิต ดังนั้น เเจ็คสัน จึงต้องขอยืมกำลังจากคนอื่น เฉกเช่น โทนี่ เขาต้องการความช่วยเหลือด้านการสนับสนุน ไม่เพียงเเต่การสนับสนุนด้านกองทัพ รวมถึงการสนับสนุนด้านทรัพยากร ต้องบอกว่าที่โทนี่เเข็งเเกร่งนั้นไม่ใช่เพียงเเค่ชุดเกราะไอรอนแมนของเขา เเต่มันเป็นมันสมองของโทนี่ต่างหากที่สุดยอด

 

เเจ็คสันต้องการพัฒนาความเเข็งเเกร่งของตัวเองเเละคนในทีมของเขา ดังนั้น เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยของโลกิในอนาคต เเจ็คสันจะต้องสร้างเรือเหาะสงครามเเละมีลูกทีมที่เเข็งเเกร่งหลายคน เขาเชื่อว่าโลกิในอนาคตหากคิดจะทำอะไรย่อมต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง

 

นอกเหนือจากความคิดพัฒนาความเเข็งเเกร่งของตัวเองเเละรับประกันความปลอดภัยของโลกเเล้ว เเจ็คสันก็ยังมีอีกความคิดนึงในใจ นั่นก็คือ ระบบ”เขาต้องการฟื้นคืนชีพระบบ”ช่วงเวลาที่เเจ็คสันอยู่ในโลกมาร์เวลเเห่งนี้เขาได้เผชิญหน้ากับอันตรายมากมายเเต่ก็ผ่านมาได้ด้วยคำแนะนำจากระบบกล่าวได้ว่าข้อเเนะนำจากระบบนั้นสำคัญสำหรับเขา

 

ตอนนี้เเจ็คสันไม่สามารถคิดเหมือนคนธรรมดาได้อีก ตั้งเเต่ที่เขาเดินบนเส้นทางของ มิราจไนท์ ในการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ เขาได้เข้าสู่ช่วงเวลาที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับเควสเเละภัยอันตรายในรูปแบบต่าง ๆเเต่สิ่งเหล่านี้ ก็ช่วยให้เขาเพิ่มพูนประสบการณ์เเละเก็บเกี่ยวมันเป็นความรู้เพื่อเปลี่ยนเเปลงตัวเอง

 

ดังนั้นเขาจึงต้องการฟื้นคืนชีพระบบ เพื่อความอยู่รอดของเขาในโลกมาร์เวลเเห่งนี้ เขาจะต้องดิ้นรนทำเควสภารกิจเเละปลดล็อคพล็อตเรื่องต่าง ๆ ที่เหนือการควบคุม ไม่ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร มันเเตกต่างกับทุกสิ่งที่เขาเผชิญหน้าในโลกเดิมมาทั้งสิ้น

 

เเจ็คสันจะไม่ยอมเเพ้ต่อวิถีชีวิตเช่นนี้ หากเขามีความเเข็งเเกร่ง เขาย่อมสามารถปกป้องตัวเองเเละคนรอบตัวได้ เขาจะต้องเเข็งเเกร่งจนถึงขนาดที่ว่าโลกไม่เป็นอันตรายต่อเขา เเจ็คสันจะต้องสร้างโลกมาร์เวลของตัวเองขึ้นมา ไม่ใช่โลกมาร์เวลที่เต็มไปด้วยสงคราม เเต่เต็มไปด้วยความสงบสุข

 

เเจ็คสันจะนำพาอารยธรรมของมนุษย์โลกก้าวไปข้างหน้า เเละ เขาจะไม่ยอมให้ใครมาหยุดยั้งความคิดนี้ของเขาได้

 

ชีวิตของเขาจะหลอมรวมเข้ากับโลกมาร์เวลเเละกลายเป็นตัวเขาที่สามารถปกครองได้ทุกสิ่ง การปกครองที่ว่านี่ไม่ใช่หมายความว่าเขาต้องการจะครองโลกเเต่หมายถึงทุกสิ่งไม่อาจอยู่เหนือภายใต้การควบคุมเเละความคิดของเขา

 

เพื่อที่จะสามารถจัดการกับภัยคุกคามที่มาในรูปแบบต่าง ๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือ ทรัพยากร เเละ เงินทุน รวมถึงอิทธิพลที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง

 

“เเม้ว่าฉันจะครอบครองสิ่งที่สุดยอดเเละทรงพลัง เเต่หากด้วยกำลังของฉันในตอนนี้คงไม่เพียงพอที่จะดึงประสิทธิภาพของมันออกมาใช้”จ้องมองไปที่พิมพ์เขยวเหล่านี้ เเจ็คสัน ได้ตัดสินใจดึงเเผ่นดิสก์ออกมาในที่สุด

 

เขาต้องการความร่วมมือจาก โทนี่ สตาร์ก ในการสร้างกองกำลังของตัวเอง อุดมการณ์ของเขาที่เข้าหาโทนี่ เหมือนกับ S.H.I.E.L.D. เพราะโทนี่ เป็นคนที่มีความพร้อมด้านการสนับสนุนทรัพยากรเเละเงินทุนมากที่สุด นี่เป็นความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

 

เเละอีกอย่างตัวตนของมิราจไนท์ในสายตาของคนหลายคนคือตัวตนที่ลึกลับเเละยากจะคาดเดา

 

เเม้เเต่S.H.I.E.L.D. ก็ยังไม่รู้ว่าสถานะที่เเท้จริงของเขานั้นเป็นใคร เพียงเเต่การมอบพิมพ์เขียวเรือเหาะสงครามนี้ให้กับโทนี่ ก็เหมือนกับการสร้างกองกำลังของตัวเองเเละลอบผลิตอาวุธอย่างลับ ๆ

 

เเจ็คสันจะต้องมีเบื้องหลังอิทธิพลที่ใหญ่มากพอที่จะมองข้ามอิทธิพลของประเทศ โทนี่เองก็มีส่วน เเต่โทนี่ ไม่ได้เป็นคนจากเจ้าหน้าที่รัฐ เห็นได้ชัดสำหรับเรื่องนี้ เพราะ ทางรัฐบาลเองก็ต้องการชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่

 

“เเม้ฉันจะตกลงเรื่องนี้เเละสามารถร่วมมือกับโทนี่ได้เเต่ใครกันจะช่วยสนับสนุนฉันอยู่เบื้องหลังเพื่อเฝ้าระวังอิทธิพลของทางประเทศ?”เเจ็คสันกล่าวออกมา

 

โทนี่ในตอนนี้อาจจะพอคาดเดาสถานะของเเจ็คสันได้เเล้ว เเละเขาไม่มีความจับเป็นที่จะต้องสนทนากับเเจ็คสันด้วยถ้อยคำไร้สาระเสมอ

 

“ดูเหมือนการลงมือทำบางอย่างเอง ก็ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบเช่นเดียวกัน”เเจ็คสันนึกผ่านเส้นทางของซูเปอร์ฮีโร่ของเขา มันไกลมาก เเม้เเต่เขาตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองได้ก้าวเดินไปบนเส้นทางนั้นก้าวหน้าเเค่ไหน

 

“เอาล่ะ ฉันจะลองไปพบโทนี่ ดูก่อนเเละค่อยตัดสินใจเรื่องนี้อีกที”เเจ็คสันได้ยอมเเพ้ต่อความคิดของเขาตอนนี้

 

จากนั้นเเจ็คสันก็วางเเผนจะเข้านอนเพื่อพักผ่อนช่วงก่อนหน้านี้เขาได้เผชิญหน้ากับ เวน่อมสไปเดอร์แมน เเละ กรีนก็อบลิน ทำให้ร่างกายเเละอารมณ์ของเขา รู้สึกเหนื่อยล้ามาก เเม้ตอนนี้ปัญหาจะได้รับการเเก้ไขไปเเล้ว เเต่เขาก็จะต้องไม่ลืมวิถีการใช้ชีวิตในชีวิตปกติของเขา

นิวยอร์ก,ควีนส์ หลังจากจัดการปัญหาเรื่องของธอร์เสร็จเเจ็คสันได้กลับบ้านนอนพักผ่อน ในขณะนี้เขาได้จมดิ่งเข้าสู่จิตใจของเขา

 

“โอ้ !!!”ในจิตใจของเขาปรากฏเเต้มคะแนนจำนวนมากวิบวับอยู่ที่เบื้องหน้าของเขาจากนั้นก็ส่งเสียงเเจ้งเตือนของระบบขึ้น

 

หลังจากที่เขาจัดการสไปเดอร์แมนเวน่อมได้ดูเหมือนเเจ็คสันจะประสบความสำเร็จในการทำเควสภารกิจลับที่ถูกซ่อนอยู่

 

เเละอีกภารกิจนึง เป็นเขาที่ได้จัดการเเยกเวน่อมเเละจัดการภัยคุกคามอย่างเทพมารเเละบรรลุถึงผู้สืบเชื้อสายเเรกเริ่มของโลก / พ่อมด การประสบความสำเร็จเควสทั้งสองอย่างนั้นทำให้เเจ็คสันได้รับเเต้มรางวัลมากกว่า 80,000 เเต้มจุด มันเพียงพอที่จะให้เขากลายเป็นเศรษฐีที่สามารถใช้จ่ายได้อย่างสุรุ่ยสุร่ายในตอนนี้

 

ก่อนหน้านี้ที่เขาเป็นห่วงเรื่องอาการของ ปีเตอร์ เเละ เเฮร์ณี่ เเจ็คสันไม่ได้สนใจข้อความของระบบที่เเจ้งเตือนเขา นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของธอร์เข้ามาอีก หลังจากเสร็จธุระทั้งหมดเขาจึงมีเวลาว่างเข้ามาดูข้อมูลเหล่านี้

 

“เเต้มคะแนน 80,000 แต้มจุด นี่มันค่อนข้างเยอะทีเดียว”เเจ็คสันมองไปที่เเต้มคะแนนจำนวนมากเเละบ่นพึมพัม โดยธรรมชาติเขาจะต้องเเบ่งใช้ในการเสียสละให้กับระบบ

 

“ชุดสูทภูติมายาของฉันได้เลื่อนระดับจนอยู่ในระดับที่ค่อนข้างน่าพึงพอใจเเล้ว เเต่ดูเหมือนว่ามันยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ฉันยังต้องการน้ำยาศักดิ์สิทธิ์ อีก มันสามารถช่วยเหลือชีวิตในสถานการณ์ฉุกเฉินได้”เเจ็คสันพิจารณาเกี่ยวกับรางวัลของเขาก่อนที่จะเเลกเปลี่ยน น้ำยาศักดิ์สิทธิ์มาก่อนสองขวด

 

“«ต้นกำเนิดหัวใจสวรรค์» ฉันก็ฝึกฝนมันมาพอสมควรเเละมันเป็นเพียงส่วนเเรก บางทีฉันอาจมองหาทักษะบ่มเพาะระดับสูงอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมความเเข็งเเกร่งในขั้นต่อไป”เเจ็คสันได้เเลกเปลี่ยนทักษะ «ต้นกำเนิดหัวใจสวรรค์» ที่เป็นเนื้อหาส่วนสุดท้ายมา ในฐานะที่นี่เป็นทักษะระดับสูง เพียงเเค่ส่วนเเรกของ «ต้นกำเนิดหัวใจสวรรค์» ที่เขาฝึกฝน ก็ช่วยส่งเสริมให้เขารู้สึกเเข็งเเกร่งมากขึ้นเเล้ว

 

“ฉันควรส่งเสริมด้านศักยภาพความคล่องตัวของฉันด้วย”ในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน คิดว่าความเร็วของเขายังคงไม่เพียงพอดังนั้นเขาจึงใช้เเต้มคะแนนอีก 5,000 เเต้มจุด เพื่อที่จะส่งเสริมศักยภาพความเร็วของเขา

 

“ยังเหลือเเต้มคะแนนมากกว่า 40,000 เเต้มจุด ฉันจะเเลกเปลี่ยนเป็นอาวุธดีรึไม่?”หลังจากเเลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องใช้เเล้ว เเจ็คสันได้พิจารณาถึงอาวุธ ดาบเก้าอสนีของเเจ็คสันในปัจจุบันก็ยังสามารถใช้งานได้ดี ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างลังเล

 

“ไม่ดีกว่า ฉันยังไม่ควรคิดถึงมันตอนนี้ เเค่ดาบเก้าอสนีในตอนนี้ก็เพียงพอเเล้ว”เเจ็คสันได้ยกเลิกความคิดนี้ไปทันทีเพราะตามพิจารณาดาบเก้าอสนีของเขาเป็นอาวุธระดับ C หากเขาต้องการเเลกเปลี่ยนมันก็จะต้องเเลกเปลี่ยนอาวุธระดับที่สูงขึ้น ซึ่งมันจะต้องมีราคาเเพงมากขึ้นอย่างเเน่นอน

 

“ตอนนี้ฉันยังขาดอะไรอีก”เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดอยู่ เขาได้เเลกทักษะบ่มเพาะเพื่อฝึกฝนไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนด้านพละกำลังความเร็ว เขาได้คิดมันหมดเเล้ว สำหรับอาวุธเขาเว้นไว้ก่อน ตอนนี้ เขากำลังคิดถึงสิ่งอื่น ๆ อยู่

 

“ใช่,อุปกรณ์ป้องกันเวทมนตร์ เเม้ว่าอุบัติเหตุที่เผชิญหน้ากับเทพปีศาจในครั้งนั้นจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ เเต่ฉันก็ควรเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกันที่ดี”

 

“ราคา 20,000?”เเจ็คสันได้เเลกเปลี่ยนอุปปกรณ์ป้องกันเวทยมนตร์ระดับกลางสองรายการ เขาเองก็ค่อนข้างลังเล เเม้เขาจะมีคะแนน 80,000 เเต้มจุด ก่อนหน้านี้ เเต่พอหลังจากเเลกเปลี่ยนสินค้าคุณภาพสูงเเล้วมันทำให้เขาเหลือเเต้มคะแนนเพียงน้อยนิด

 

“อืม~~ เหลือเพียง 20,000 เเต้มจุด ฉันจะเสียสละมันให้กับระบบ เชื่อว่าคะแนน 20,000 เเต้มจุดนี้ ควรจะมีบทบาทสำคัญไม่มากก็ไม่น้อย”เเจ็คสันไม่ได้ทำการเเลกเปลี่ยนอะไรอีกเขาได้กวาดผ่านเลื่อนระบบร้านค้าออก

 

“ระบบ,ฉันจะต้องทำให้คุณฟื้นคืนชีพให้ได้”

 

“การไม่มีคุณเเนะนำมันทำให้ฉันไม่รู้ว่าควรจะเริ่มเดินไปทางไหนดี!”เเจ็คสันได้โยน 20,000 เเต้มคะแนนของเขาไปที่เเท่นบูชาเพื่อฟื้นคืนชีพ

 

ภายใต้พลังงานของเเต้มคะแนนนั้นเเสงสีทองได้ลอยละลิ่วออกมาจากนั้นกลุ่มเเสงสว่างสีขาวก็ปรากฏขึ้นเเละมันสว่างมากขึ้นเล็กน้อย

 

“คุณคือ? ระบบ”เห็นเเสงสีขาวที่คุ้นเคยเเจ็คสันกล่าวถามอย่างระวัง

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ภายใต้คำถามของเเจ็คสันกลุ่มก้อนเเสงสีขาวไม่ได้ตอบอะไรเพียงสั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่จะหายไปในเเท่นบูชาเหมือนเดิม

 

เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเเจ็คสันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย”ระบบ คุณมั่นใจได้ว่าฉันจะต้องพาคุณกลับมาไม่ว่าอย่างไรก็ตาม”

 

เเจ็คสันได้กลับมาที่โลกเเห่งความเป็นจริงอีกครั้ง เป้าหมายของเขาไม่เพียงเเต่เป็นการฟื้นคืนชพระบบ เเต่เขาเองก้ต้องการเเต้มคะแนนจำนวนมากเพื่อส่งเสริมความเเข็งเเกร่งของเขา

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้เปิดเปลือกตาขึ้นเขาได้เด้งลุกจากเตียง เข้าเปิดคอมพิวเตอร์

 

ฟุ่บ!~~

 

เเจ็คสันได้เสียบเเผ่นฮาร์ดดิสก์บนคอมพิวเตอร์เเละกำลังศึกษาเรื่องบางอย่างอยู่หากคนธรรมดาทั่วไปเห็นก็ต้องคิดว่าเขาบ้าไปเเล้วเเน่นอน

 

“นี่เป็นเพียงเค่การออกแบบพิมพ์เขียวของเรือเหาะสงครามเพียงเท่านั้น ดูไปเเล้วความสามารถของมันท่าสามารถสร้างเจ้านี่ได้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอน”เเจ็คสันจ้องมองไปที่คอมพิวเตอร์ด้วยสายตาระยิบระยับ เดิมเขาไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เเต่เขาต้องการสร้างเราะเหาะสงครามระดับ E นี้ให้เสร็จสมบูรณ์

 

เดิมเเจ็คสันไม่กล้าใช้คอมพิวเตอร์ของตัวเองในการตรวจสอบเรื่องแบบแปลนนี้ เพราะกลัว โดน S.H.I.E.L.D. ล้วงความลับจากคอมพิวเตอร์ของเขา เเต่พอทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้เเฮ็กเกอร์อัจฉริยะมาเเจ็คสันก็ได้ให้คนของเขาออกแบบไฟร์วอลล์ที่สามารถป้องกันการเเฮ็กเข้าคอมของเขาได้

 

“ของขวัญชิ้นนี้จะทำให้ โทนี่ ตกใจได้มากขนาดไหนกันนะ?”

 

เเจ็คสันได้พาธอร์ไปเลือกห้องเช่าอพาร์ทเมนท์ต่างสถานที่ ซึ่ง ธอร์ก็เลือกมาหนึ่งในนั้น หลังจากนั้นพวกเขาก็วางเเผนจะไปยังร้านอาหารจีนที่ครอบครัวของเเจ็คสันเปิด

 

หลังจากจ่ายค่าเช่าห้องเสร็จธอร์ก็ขว้างข้าวของของเขาเข้าไปข้างในห้องเเละเดินออกมา หลังจากนี้เขาต้องมองหางานทำในนิวยอร์กเเห่งนี้ ไม่งั้นเขาคงไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องเเละค่ากินอยู่ในชีวิตประจำวัน

 

“ไปกันเถอะ,ฉันรู้สึกหิวเเล้ว”หลังจากเคลียเรื่องห้องเสร็จ ธอร์ ก็ตะโกนบอก เเจ็คสัน

 

หลังจากวางเเผนรับประทานอาหารเสร็จ เเจ็คสัน จะช่วยเหลือ ธอร์ เรื่องการซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน เเม้ว่าในห้องเช่านี้จะมีพวกเฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่ เเต่ก็ยังขาดของใช้บางอย่างที่จะต้องซื้อ

 

“อืม,ไปที่ร้านอาหารกันเถอะ”ได้ยินเสียงธอร์บ่นหิวข้าว เเจ็คสัน กล่าวพูดขึ้นเล็กน้อย

 

“หิวโว้ยย..”ธอร์บ่นออกมาอย่างรุนเเรง ดูเหมือนหลังจากที่เขามาอยู่ที่โลกเเห่งนี้ นิสัยของเขาจะเปลี่ยนขึ้นเล็กน้อย

 

จากนั้นเเจ็คสันก็พาธอร์ไปที่ร้านอาหารจีนที่เป็นของครอบครัวลุงของเขา ตรงข้ามร้านอาหารดูเหมือนจะมีคนซุ่มมองสังเกตุการณ์พวกเขาอยู่”เป้าหมายได้ที่อยู่อาศัยเเล้ว”

 

“อืมเฝ้าระวังต่อไป”ปลายสายได้ตอบกลับ

 

การเคลื่อนไหวของธอร์เเน่นอนว่าทาง S.H.I.E.L.D. ย่อมจับตามองเขา เเจ็คสันเองก็รู้เรื่องนี้ดี เเต่เขาไม่ได้สนใจอะไร เขาเพียงเเค่จัดสรรหาที่พักให้กับธอร์เพียงเท่านั้น

 

สำหรับสถานะของเเจ็คสัน ทาง S.H.I.E.L.D. ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร เพราะ เเจ็คสัน เป็นบุคคลพิเศษที่ทาง S.H.I.E.L.D. เฝ้าจับตามอง ทั้งยังมีความสัมพันธ์กับโทนี่ สตาร์ก

 

ที่พวกเขาจับตามองธอร์นั้นเพราะธอร์เป็นเเขกจากต่างดาวสำหรับ S.H.I.E.L.D. เเล้วข้อมูลการเฝ้าระวังเเขกจากนอกโลกคนนี้สำคัญมาก เเต่พวกเขาก็ไม่ทำอะไรเปิดเผยมากเกินไป เพียงเฝ้าระวัง ธอร์ อย่างลับ ๆ เพียงเท่านั้น ดังนั้นธอร์จึงไม่ต้องกังวลอะไร

 

ธอร์เองก็ใช้ชีวิตอยู่ที่โลกมนุษย์เเห่งนี้มาเป็นระยะเวลานานพอสมควรเขาเองก็เริ่มจะปรับตัวได้ดี

 

 

“ไต้เหวิ่น,ท่านรู้ไหมว่าทำไม ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันถึงให้พวกเรามองหา มิราจไนท์?”ในขณะที่เเจ็คสันพาธอร์ไปทานอาหารที่ร้านอาหารของลุง ที่อารามคุ้มกัน พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวถาม พ่อมด ไต้เหวิ่น

 

“เรื่องนี้ไม่ชัดเจน ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ทำอะไรย่อมมีเหตุผลที่ยากจะเหนือความคาดหมายของพวกเรา นอกจากนี้ มิราจไนท์ไม่ใช่คนธรรมดา บางทีปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน อาจจะมองเห็นบางอย่างในตัวของเขา”ได้ยินความสงสัยของ พ่อมดรุ่ยเคอ ,พ่อมด ไต้เหวิ่น กล่าวตอบ

 

“ก่อนหน้านี้ที่เราเผชิญหน้ากับเทพปีศาจ ดูเหมือน ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน จะค่อนข้างสนใจในตัว มิราจไนท์ อยู่พอสมควร”พ่อมด ไต้เหวิ่น กล่าวเสริมอีกครั้ง

 

ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาเผชิญหน้ากับเทพปีศาจ มิราจไนท์ ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ตอนนั้น มิราจไนท์ ได้ผนึกกำลังรบร่วมกับโทนี่ ในการโจมตีสุดท้ายเพื่อช่วยเหลืพวกเขา การโจมตีของทั้งสองทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก ซึ่งมันเพียงพอที่จะผนึกกำลังทำให้เทพปีศาจในตอนนั้นอ่อนเเอลง

 

“เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่เเน่ใจเหมือนกัน เเต่ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ว่าอย่างไร ก็ตามนั้น”พ่อมดรุ่ยเคอ กล่าวตอบ

 

“อืม,เช่นนั้นพวกเราค่อยมองหาเขาภายหลัง”พ่อมดไต้เหวิ่น เองก็จนปัญญา เขาเองก็ไม่ทราบเหตุผลที่เเน่ชัด

 

“นอกจากนี้ ยังมีอีกคนนึงที่ฉันคาดว่าน่าสนใจ เช่น สไปเดอร์แมน”

 

“ท่านเอง รู้จักสไปเดอร์แมน?”

 

“มีใครบ้างไม่รู้จักสไปเดอร์แมน ตอนนี้ สไปเดอร์แมนเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่กำลังมาเเรงในนิวยอร์กหากเทียบชื่อเสียงเเล้วเขากระทั่งเหนือนำกว่ามิราจไนท์”

 

“ถ้าวัดกันที่ด้านความเเข็งเเกร่งของเขากับมิราจไนท์บางทีอาจจะไม่สามารถประเมินได้ว่าใครเเข็งเเกร่งกว่ากัน”

 

“ชั่งเถอะ ถึงอย่างไร ฉันจะมองหาสไปเดอร์แมน.

 

“พ่อมด รุ่ยเคอ ไม่ใช่ว่าท่านทำเช่นนี้ เพราะเป็นเเฟนคลับของสไปเดอร์แมนหรอกกระมั้ง?”

 

พ่อมดรุ่ยเคอ”….”

 

เเน่นอนว่าทั้งสองคนย่อมตามหาตัวของมิราจไนท์ตามคำไหว้วานจาก ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน เเต่เพราะตัวตนของมิราจไนท์นั้นลึกลับมาก พ่อมด รุ่ยเคอ จึงเสนอการหาตัวสไปเดอร์แมน เพราะเขาพอรู้มาว่า มิราจไนท์ เเละ สไปเดอร์แมน มีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกัน

 

“นอกจากนี้ ดูเหมือน ธอร์ จะเดินทางไปที่นิวยอร์ก? ถึงเขาจะถูกเเฟนสาวไล่ออกจากที่พัก ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องเดินทางไปไกลขนาดนั้น”พ่อมดไต้เหวิ่น ตัดประเด็นก่อนหน้านี้ เเละ เข้าหัวข้อหลัก

 

“บางทีเขาอาจจะมีเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนว่าพวกเราจำต้องไปตรวจสอบดูด้วยตาของพวกเราเอง”พ่อมดรุ่ยเคอ กล่าวพูดตอบ

 

เพราะปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ไม่ได้ต้องการช่วยเหลือด้านที่พักของธอร์ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิบัติตามหน้าที่ นอกจากนี้ การเฝ้าระวังธอร์ก็เพียงเพราะไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือกันไม่ให้ธอร์สร้างอุบัติเหตุขึ้นที่โลกเเห่งนี้

 

“อืม,พวกเราควรไปดูเขาด้วยตาของตัวเอง”

 

“เช่นนั้นพวกเราก็มีโอกาสมองหาตัวสไปเดอร์แมนได้เหมือนกัน”ในขณะนั้นเองพ่อมดรุ่ยเคอ ก็กล่าวพูดฉีกยิ้มออกมา

 

ฟุ่บ!

 

พ่อมดไต้เหวิ่นไม่ต้องการหยอกล้อกับพ่อมดรุ่ยเคออีก เขาได้เเยกจากเข้าห้องของตัวเอง ตอนนี้พวกเขาทั้งสองมีหน้าที่ในการเฝ้าระวังความปลอดภัยของธอร์ เเละอีกเป้าหมายสำคัญก็คือมองหาตัวของมิราจไนท์

 

ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเห็นมิราจไนท์มาก่อนเเต่เพราะข้อมูลของซูเปอร์ฮีโร่คนนี้ค่อนข้างลึกลับ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหาตัวมิราจไนท์พบหรือไม่

 

 

นอกจากเรื่องของธอร์ที่เลิกรากับเเฟนสาย เจน ฟอสเตอร์เเล้ว ก็ยังมีอิทธิพลอื่นที่เคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งก็คือ ทีมX-Men ตั้งเเต่ได้รับมือกับอิทธิพลที่หนุนหลังฟรานซิสดูเหมือนช่วงนี้พวกเขาจึงปฏิบัติหน้าที่กันบ่อยขึ้น สถานการณ์ในตอนนี้ของหลายฝ่ายเองก็ค่อนข้างชลมุน ดูเหมือนต่างฝ่ายจะต่างมีเเผนการลับที่เฝ้ารอวันระเบิดออกมา

ได้ยินเสียงของธอร์เเละเห็นส่วสูงที่มีความสูงกว่า 1.9 เมตร ไม่ว่าอย่างไร รูปร่างของธอร์ก็ค่อนข้างสะดุดตาเป็นอย่างมาก

 

“เป็นยังไงบ้างนิวยอร์ก?”เเจ็คสันกล่าวถามธอร์หลังจากที่เห็นธอร์เดินมาที่เบื้องหน้าของเขา

 

“เฮ้,เเจ็คสัน ที่นี่ค่อนข้างเเออัดชะมัด”ธอร์กล่าวทักทายเเจ็คสันเเละพูดข้น

 

ธอร์ได้สวมใส่ชุดกีฬาเเละสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูสบาย ดูเหมือนในช่วงเวลาที่เขาพักอยู่ในอพารท์เมนท์เเฟนสาวของเขา ธอร์จะได้รสนิยมการเเต่งตัวมา นอกจากนี้เขายังถูกถีบส่งออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

 

“เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ”เเจ็คสันกล่าวขึ้นพร้อมกับเดินออกจากสถานี

 

สำหรับทิศทางที่เเจ็คสันจะไปนั้นเขาได้เดินไปยังพื้นที่ที่คนไม่พลุ้งพล่านก่อนเป็นอันดับเเรก

 

“พวกเราจะไปที่ไหนกันดี เจ้าได้มองหาที่พักสำหรับข้าหรือยัง?”เห็นเเจ็คสันไม่กังวล ธอร์ กล่าวพูดขึ้น หลังจากมองทัศนียภาพของนิวยอร์กที่ตระกาลตา

 

สำหรับเเจ็คสันเเล้ว เเม้เขาจะเห็นธอร์ดูมีความสุขเเต่ในใจธอร์ย่อมรู้สึกเศร้าอย่างเเน่นอน เเจ็คสันไม่รู้เกี่ยวกับความรักของชาวเเอสการ์ด เเต่ ธอร์นั้นมีอายุมากกว่า 200 ปี สำหรับโลกเเอสการ์ดนั้นธอร์ยังเป็นเพียงผู้เยาว์คนนึง

 

“อืม,ฉันได้ช่วยคุณดูอพาร์ทเมนท์บางเเห่งเอาไว้เเล้ว นอกจากนี้คุณยังมีเเค่สัมภาระไม่มาก การจะเข้าอยู่เลยก็คงไม่มีปัญหาอะไร”เเจ็คสันกล่าวพูดขึ้น

 

“ฮ่าฮ่า,ข้าเชื่ออยู่เเล้วว่า เจ้าย่อมทำไม่ให้ข้าผิดหวัง เจ้าช่างเหมาะสมกับการเป็นสหายของข้าธอร์ยิ่งนัก”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์กล่าวพูดอย่างร่าเริง

 

ฟุ่บ!

 

เห็นมือขนาดใหญ่ขอธอร์โอบไหล่ของเขาไว้ เเจ็คสัน รีบเดินอย่างรวดเร็ว

 

“ไปกันเถอะ, นอกจากนี้ ฉันขอเตือนคุณบางอย่าง หากคุณอยากที่จะมีชีวิตอยู่ที่นี่ คุณต้องคิดว่าโลกนี้ไม่ใช่เเอสการ์ด เเละ คุณก็ไม่ใช่เจ้าชาย!”เเจ็คสันกล่าวพูดกับธอร์ขณะที่กลับมาที่รถของเขา

 

“ฉันรู้ ฉันจะหางานทำ นอกจากนี้ ฉันยังรู้ตัวเองดีว่าฉันไม่ใช่คนเดิมในอดีต ในโลกเก่าของฉัน ฉันอาจจะมีฐานะที่ยิ่งใหญ่เป็นเจ้าชายเเห่งเเอสการ์ด เเต่ที่โลกนี้ ฉันไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไป เเต่บางที หากฉันสามารถฟื้นฟูความไว้วางใจจากท่านพ่อได้ บางที เขาอาจจะให้ข้ากลับไปที่เเอสการ์ดอีกครั้ง”หลังจากเดินไปที่รถยนต์ของเเจ็คสัน ธอร์ ก็พูดอย่างจริงจัง

 

ดูเหมือนว่าธอร์จะไม่ได้ใช้ชีวิตไปอยู่ ไปวัน ๆ ในโลกนี้ตลอดระยะเวลาสองเดือน อย่างน้อย เขาก็ตั้งใจจะฟื้นฟูความเชื่อที่โอดินมีต่อเขา ดังนั้นเขาจึงกล่าวบอกเเจ็คสัน

 

พลังของเทพเจ้าสายฟ้านั้นเเข็งเเกร่งมาก เเต่พลังเหล่านั้นกลับถูกโอดินผนึกเอาไว้ โอดินเองก็เเก่เเล้ว เขาไม่เหมือนอดีตที่สามารถพิชิตโลกทั้งเก้าได้อีกครั้ง ที่โอดินเนรเทศธอร์ก็เพื่อให้เขาเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิต พลังของธอร์นั้นเดิมย่อมเเข็งเเกร่งกว่าโอดิน โอดินตั้งใจจะให้ธอร์สืบทอดราชบัลลังก์ของเขา

 

ได้ยินเจตนาความตั้งใจของธอร์เเจ็คสันกล่าวพูดขึ้นในทันที”ธอร์ ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็จะช่วยเหลือคุณ”

 

“ฮ่าฮ่า,อืม ก็พวกเราเป็นสหายกัน!”ธอร์ตบไล่เเจ็คสันด้วยรอยยิ้ม

 

“นอกจากนี้ ฉันรู้สึกว่าคุณเเตกต่างไปจากเดิมนิดหน่อย”หลังจากถึงรถยนต์ของเเจ็คสัน เเจ็คสัน จ้องมองไปที่ธอร์อย่างระวัง

 

“เเตกต่าง? เเตกต่างตรงไหน?”เห็นเเจ็คสันกล่าวพูดเช่นนี้ ธอร์รู้สึกประหลาดใจ

 

“ดูคุณอ้วนขึ้นเล็กน้อย?”เเจ็คสันพูดความจริง

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนเเปลงนี้เช่นเดียวกัน

 

“ไม่!”ธอร์ได้รีบขึ้นรถเเละปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ เขาเป็นชาวเเอสการ์ดเป็นเทพเจ้าสายฟ้า เเต่ตอนนี้ เขากำลังถูกไขมันโจมตีร่างกายอย่างหนักหน่วง จะไม่เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร เพราะเขากินเเต่อาหารฟาสต์ฟู่ดที่โลก เเละมันเป็นสิ่งที่ธอร์ชอบมาก

 

“เอาเถอะ,ดูเหมือนคุณจะยังไม่ได้กินอะไร ไปที่บ้านลุงของฉัน ฉันคิดว่าบางทีคุณอาจจะชอบอาหารจีน”เเจ็คสันไม่ได้สนใจการปฏิเสธของธอร์ เขาได้ขึ้นรถเเละขับออกไป

 

“เช่นนั้นข้าจะได้กินฟรีใช่รึไม่?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์กล่าวพูดได้อย่างไม่อายปาก

 

“เเค่ส่วนลด 20%”

 

 

เเจ็คสันขับรถจิ๊ปของเขาเพื่อพาธอร์ออกจากสถานีที่เเออัดเช่นนี้เพียงเเต่เเจ็คสันกลับไม่ได้สังเกตุเลยว่าเขากำลังโดนสะกดรอยตามอยู่ ซึ่งหากเเจ็คสันรู้ล่ะก็เขาจะต้องตกใจเเน่นอน เพราะ เธอคือ หวาง ซิน  หญิงสาวที่เขารู้จักจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ที่เป็นคนจากราชวงศ์สวรรค์

 

“ดูเหมือนเขาจะมานัดเจอใครบางคน?”มองดูรถจิ๊ปของเเจ็คสันกำลังเคลื่อนตัวออกไป หวาง ซิน กล่าวพูดขึ้น

 

ข้าง ๆ ของ หวาง ซิน ก็คือ หญิงสาวอีกคนนึง เธอคือ เฉิน เสี่ยวหลิง

 

“เขากำลังขับรถออกไปเเล้ว รีบตามไปเร็ว”เฉิน เสี่ยวหลิง กล่าวพูด

 

“เร็วเข้ารีบตามไป”หวาง ซิน เองก็พยักหน้าเห็นด้วย

 

จากนั้นทั้งสองคนก็หายตัวไป ตัวตนของพวกเธอนอกเหนือจากจะเป็นคนจากราชวงศ์สวรรค์แล้วบางทีสถานะของพวกเธอแท้จริงแล้วอาจไม่ใช่คนจากราชวงศ์สวรรค์ธรรมดา ๆ

เช้าวันรุ่งขึ้นเเจ็คสันตื่นขึ้นมาเเละเพิ่งจำนัดกับธอร์ได้ดังนั้นเขาจึงได้ขับรถบนพื้นถนนของนิวยอร์กในช่วงเช้า

 

ตอนนี้สามสหายสามเหลี่ยมทองคำของนิวยอร์กไฮสคูลเอ็มไพร์ ได้มาโรงเรียนปกติ เเต่ช่วงหลังมานี้พวกเขาค่อนข้างขาดเรียนกันบ่อย ปีเตอร์มักจะเปลี่ยนเป็นสไปปเดอร์แมน จึงไม่มีเวลาร่วมกิจกรรมชมรมต่าง ๆ สำหรับเเจ็คสัน เขาได้ใช้โทนี่เพื่ออ้างไม่ต้องมาเรียน ดังนั้น พ่อเเม่ของเขาจึงไม่ได้บ่นอะไรมากนัก

 

เเจ็คสันขับรถจิ๊ปขนาดเล็กของเขาบนพื้นถนนนิวยอร์กวันนี้เป็นวันจันทร์ เขาคิดกับตัวเองว่าทำไมจะต้องขับรถออกมา หากไม่ใช่เพราะมีนัดกับธอร์ เเจ็คสันก็คงไม่ขับรถออกมาเอง เเต่เเจ็คสันก็รู้ดีว่าเขาให้ธอร์นั่งรถมาเอง ซึ่งหากธอร์นั่งรถไฟใต้ดินมาที่นิวยอร์กเเห่งนี้ก็คงจะประหยัดเวลามากกว่านั่งรถทัวน์มาอย่างเเน่นอน

 

เเจ็คสันได้หยุดรถเพราะรถเบื้องหน้าค่อนข้างเเออัด ในขณะเดียวกัน เขาก็มองไปที่ตึกตรงข้ามที่เป็นหน้าจอโฮโลเเกรมขนาดใหญ่ นั่นก็คือการโปรโมทการกลับมาของ กัปตันอเมริกา โฆษณานั้นได้เปิดเผยข้อมูลของซูเปอร์ฮีโร่คนนี้เเละวีรกรรมของเขา

 

“อืม,ดูเหมือน กัปตันโรเจอร์ส ในตอนนี้ ก็ยังคงวุ่นกับการตามหาตัว บัคกี้บาร์นส์ ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองนั้นเเน่นเเฟ้นเพียงใด เเต่ฉันเองก็ควรกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของพวกไฮดร้าที่กำลังซ่อนตัวอยู่ตอนนี้”เเจ็คสันกล่าวครุ่นคิดในใจ

 

เเม้ว่าS.H.I.E.L.D. จะทำลายสาขาต่าง ๆ ของพวกองค์กร ไฮดร้าไปมาก เเต่การจะถอนรากถอนโคนของพวกไฮดร้าทั้งหมดเกรงว่าจะเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะปัจจุบัน เควสภารกิจ ทำลายพวกไฮดร้าของเเจ็คสัน สำเร็จเพียง 55% เเละมันก็ขึ้นช้าอย่างมาก

 

“ฉันเองก็อยากจะลงมือกำจัดพวกมันในตอนนี้เหมือนกัน เเต่ฉันไม่รู้ว่าพวกไฮดร้ามันซ่อนตัวอยู่ที่ไหน!”เมื่อคิดว่าภารกิจของตัวเองยังไม่เสร็จ เเจ็คสัน กล่าวบ่นพึมพัมออกมา

 

“แม่,สไปเดอร์แมน!”ในขณะที่เเจ็คสันกำลังคิดเรื่องของตัวเองเขาเห็นเด็กคนนึงได้ยืนศีรษะออกมาจากทางหน้าต่างประตูรถเเละตะโกนขึ้น

 

“เจ้าลูกคนนี้,แม่บอกเเล้วใช่มั้ยว่าอย่าพูดล้อเล่นแบบนี้”เเม่ของเด็นคนนั้นกล่าวดุลูกของตัวเองเล็กน้อย

 

“…”เพียงเเต่ว่าเเจ็คสันไม่ได้สนใจคำพูดของเเม่เด็กคนนั้นเขาได้ยืนศีรษะออกไปเล็กน้อย

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าขณะนั้นเองก็มีเงาร่างสีเเดงปรากฏขึ้นที่หลังคารถของเเจ็คสัน นั่นก็คือสไปเดอร์แมน เขาได้โหนใยลงบนรถจิ๊ปขนาดเล็กของเเจ็คสัน

 

“แม่,สไปเดอร์แมน! นั่นสไปเดอร์แมน”เห็นสไปเดอร์แมนตกลงมาบนหลังคารถเด็กคนนั้นกล่าวด้วยควาตื่นเต้นอีกครั้ง

 

ในครั้งนี้เเม่ของเด็กคนนั้นไม่ได้ดุลูกของเธออีกต่อไป ตรงกันข้ามเธอค่อนข้างตื่นเต้นจนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปสไปเดอร์แมน

 

“สไปเดอร์แมน ระวังหน่อย นายกำลังเหยียบบนรถของฉัน!”เห็นปีเตอร์กระโดดลงมาที่รถของเขา เเจ็คสันตะโกนออกมาอย่างตกใจ

 

“ทำไมนายไม่ไปโรงเรียน?”ไม่ได้สนใจคำเรียกร้องของเเจ็คสัน ปีเตอร์ ยื่นหน้ามาถามเเจ็คสัน

 

“ฉันจะไปที่สถานีรถไฟเพื่อพบคนคนนึง นอกจากนี้ วันนี้เป็นวันจันทร์ นายตื่นสายใช่มั้ย เลยใช้ความสามารถของสไปเดอร์แมนบินไปโรงเรียน?”เเจ็คสันกล่าวกับสไปเดอร์แมน

 

“เพื่อน?หรือว่านายนัดกับสาวกันเเน่?”ปีเตอร์กล่าวหยอกล้อเล็กน้อย

 

“ฉันกำลังไปหาเพื่อนของฉัน นัดเเฟนบ้านนายสิ เอาเป็นว่าฉันจะเเนะนำเขาให้นายรู้จัก”เเจ็คสันกล่าวตอบปีเตอร์

 

“ก็ดีเลย,เช่นนั้นฉันจะไปหานายตอนเย็น”ในที่สุดปีเตอร์ก็ลงจากหลังคารถของเเจ็คสันไปที่พื้นถนน

 

“เฮ้,สไปเดอร์แมน!”เด็กคนนั้นกล่าวพูดขึ้นอีกครั้ง

 

“ลูกอย่ายื่นหน้าออกไปแบบนั้นสิ”เเม่ของเด็กกล่าวดุอีกครั้ง

 

สไปเดอร์แมนได้เดินไปหาเด็กคนนั้นเเละเซลฟีกับเเม่ลูกคู่นั้นก่อนที่จะขอตัว

 

“ฉันไปก่อนละ”ปีเตอร์ไม่ได้วางเเผนจะอยู่ที่นี่นานเขากำลังไปโรงเรียนสาย

 

ฟุ่บ!

 

เขายกมือยิงใยพุ่งออกไปอีกครั้ง

 

“สไปเดอร์แมน,สไปเดอร์แมน!”เด็กคนนั้นโบกมือลาอย่างตื่นเต้น

 

“เห้อ,ยังป็อบปูล่าไม่เปลี่ยนเลยนะ”เเจ็คสันกล่าวนินทาเล็กน้อย

 

ในขณะเดียวกันรถก็เริ่มสัญจรได้ปกติเเล้ว เเจ็คสันได้ขับรถจิ๊ปของเขาตรงไปที่สถานีทันทีเมื่อไม่นานมานี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายเเละกระเเสที่เป็นนิยมมากที่สุดก็คือเรื่องของสไปเดอร์แมน เพราะมันเป็นเรื่องปกติมากที่ผู้คนปกติจะพบสไปเดอร์แมนตอนออกไปทำงาน

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เเจ็คสันก็มาถึงสถานีในที่สุด เขาค่อนข้างเซ็งกับช่วงเวลาที่น่าเบื่อตอนขับรถอย่างมากบางทีเขาอาจจะขอร้องโทนี่เกี่ยวกับการได้รับรถยนต์ต้านเเรงโน้มถ่วงที่อยู่ในช่วงวิจัยเเละพัฒนา

 

ปั้ง!

 

เเจ็คสันปิดประตูรถเเละเดินไปที่สถานี ตอนนี้ ผู้คนได้สัญจรในสถานีรถไฟใต้ดินอย่างมากไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือชาวสหรัฐต่าง ๆ

 

“เฮ้,เเจ็คสัน!”ในขณะที่เเจ็คสันกำลังมองไปโดยรอบ ดูเหมือนจะมีเสียงนึงตะโกนเรียกชื่อของเขา

หลังจากวางโทรศัพท์จาก ธอร์ เเจ็คสัน ก็เข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ หลังจากออกมา เขาได้ล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที เเละกำลังวิเคราะห์สถานการณ์ที่ธอร์กำลังเผชิญ

 

“อืม,ธอร์ ปกติเป็นคนที่ไม่น่าจะกังวลกับเรื่องรายละเอียดเล็กน้อย เเต่สำหรับคุณ ฟอสเตอร์ เเล้ว? หรือว่าเรื่องนี้ โลกิจะมีส่วนจริง ๆ ?”เเจ็คสันกำลังมองหาบ้านเดี่ยวราคาถูก หรือ อพาร์ทเมนท์ เช่า เเละ กำลังคิดเรื่องของ ธอร์ เเละ เจนฟอสเตอร์ ว่าทำไมถึงเลิกรากัน

 

“เอาเถอะไม่ว่าพวกเขาจะเลิกรากันจริงหรือไม่ ฉันจะไม่ยอมให้ S.H.I.E.L.D. ใช้จุดเเตกหักนี้เพื่อดึงธอร์เข้าร่วมกบพวกเขา ฉันจะให้ ธอร์มาที่นิวยอร์กเเละหาทางช่วยเหลือธอร์ฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของเขา”

 

“เพียงเเต่,ธอร์จะหางานทำได้จริง ๆ งั้นหรอ? ที่ทำงานเก่าเขา คุณฟอสเตอร์ น่าจะขอร้องทางโรงเรียนให้เขาได้เข้าทำงาน เพียงเเต่ ออสคอร์ป บริษัทของเเฮร์รี่เอง เเม้ฉันจะฝากเขาเข้าไปได้ เเต่ เเฮร์รี่ ก็คงไม่เต็มใจนักที่จะช่วยเหลือคนต่างด้าวที่ทำงานไม่เป็นคนนี้”เเจ็คสันได้เปิดคอมเเละหาเว็บไซต์ห้องเช่าต่าง ๆ

 

“เอาเป็นว่ารอพรุ่งนี้ให้ธอร์มาก่อนฉันค่อยคิดอีกครั้ง ฉันไม่ควรกังวลมากเกินไป”ในที่สุด เเจ็คสัน ก็หาสถานที่ที่จะช่วยเหลือธอร์ได้

 

“ได้เวลาพักเเล้ว”เเจ็คสันได้ปิดคอมเเละหันตัวทิ้งลงบนเตียงอีกครั้ง

 

ฟุ่บ!

 

เฮ้อ~~~

 

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังหลับห่างออกไป คามาร์-ทัช ในนิวยอร์ก เทือกเขาหิมาลัย ที่ตั้งอยู่ในสถานที่ห่างไกลปรมาจารย์ หยุน เหมิง กำลังรดน้ำต้นไม้ของเขาขณะนั้นเอง ประตูมิติเวทย์มนตร์ก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับปรากฏร่างของคนทั้งสองคน

 

“พ่อมด รุ่ย เคอ,พ่อมด ไต้ เหวิ่น””ปรมาจารย์ หยุน เหมิง กล่าวทักทายเล็กน้อย

 

“สวัสดี พ่อมด หยุน เหมิง พวกเรามารายงานท่านเอนเชี่ยนวัน เกี่ยวกับ เจ้าชายใหญ่ของเเอสการ์ด ธอร์ ไม่ทราบว่าปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันกลับมาหรือยัง”ไต้ เหวิ่น กล่าวด้วยรอยยิ้มเเละทักทาย หยุน เหมิง

 

“ข่าวเรื่อง ธอร์ ? ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันยังไม่ได้กลับมาคราวนี้ท่านเดินทางออกไปยังสถานที่ห่างไกล”ได้ยินคำถามของ ปรมาจารย์ไต้เหวิ่น หยุนเหมิง กล่าวตอบ

 

“เเน่นอนว่าพวกเรารู้ว่าสถานที่เเห่งนั้นที่ต้องไปใช้เวลานานมากในการเดินทางเเต่พวกเรามีเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องรีบรายงานปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน”ได้ยินคำพูดของ พ่อมด หยุนเหมิง ไต้เหวิ่น กล่าวพูดอย่งจริงจัง

 

พวกเขารู้ว่าปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันไปยังสถานที่เเห่งใด เเต่ก็ไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจน หรือก็คือไม่ควรกล่าวถึงนั่นเอง

 

“อ่าปรมาจารย์ไต้เหวิ่น ท่านก็รู้ว่า ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ในเวลานี้ไปสู่โลกที่เเตกต่างเพื่อค้นหาต้นตอเรื่องของเทพปีศาจ”หยุน เหมิง ได้กล่าวพูดขึ้น

 

ในขั้นต้น เอนเชี่ยนวัน ได้เดินทางไปยัง ดิสโทเปีย ด้วยเหตุผลคือเรื่องก่อนหน้านี้ เขาต้องการมองหาเบื้องหลังการปรากฏตัวขึ้นของเทพปีศาจ ในฐานะ ผู้ทักษ์ของโลก เอนเชี่ยนวัน มีความรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างเป็นธณรมชาติที่เขาจะไม่ยอมให้โลกต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติเช่นครั้งก่อน

 

“เเน่นอน,พวกเราเชื่อว่าปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน อีกไม่นานจะต้องเดินทางกลับมา”พ่อมด รุ่ย เคอ กล่าวตอบ

 

“เเม้ว่าปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันจะเเก่มากเเล้ว เเต่เรื่องความสามารถของเขาเป็นของจริง พวกเราจำได้ดีเกี่ยวกับการโบกพระหัตถ์ที่สามารถทำลายเทพปีศาจได้อย่างสมบูรณ์ฉันคิดว่าการเดินทางครั้งนี้ของท่านคงไม่มีปัญหาอะไร”ได้ยินคำพูดของพ่อมด รุ่ย เค่อ ,พ่อมด ไต้เหวิ่น กล่าวเสริม เขาจำได้ดีเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับเทพปีศาจเเฮร์รี่ในครั้งก่อนหน้านี้ ตอนนั้นพวกเขาทั้งสองคนกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติเป็นตาย เเต่เเล้ว จอมเวทย์สูงสุดของโลกก็ได้ปรากฏตัวขึ้นเเละจัดการเทพปีศาจตนนี้จนสลายหายไป

 

“ใช่เเล้ว,ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันจะต้องไม่เป็นอะไร”ได้ยินคำพูดของ พ่อมดไต้เหวิ่น รุ่ย เคอ กล่าวเสริมพยักหน้าเห็นด้วย

 

“เนื่องจากปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันยังไม่เดินทางกลับมา เช่นนั้นพวกเราจะไม่ขอรั้งอยู่ที่นี่ เพราะพวกเรามีหน้าที่ที่จะต้องเฝ้าระวังต่อไป”

 

รุ่ย เคอ กล่าวพูดขึ้น พร้อมกับ ไต้เหวิ่น เเน่นอนว่าพวกเขายังมีหน้าที่ที่ต้องจัดการ เพียงเเต่ว่าขณะนั้นเองกลับปรากฏประตูเวทย์มนตร์ขึ้นที่ด้านหน้าของพวกเขา

 

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน!”ไต้เหวิ่น เเละ รุ่ย เคอ กล่าวพูดอย่างตื่นตกใจ เมื่อครู่นี้พวกเขากำลังกังวลเกี่ยวกับการเดินทางของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันอยู่เลย

 

“อ่า,พ่อมด ไต้เหวิ่น,พ่อมด รุ่ย เคอ หรือว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับธอร์?”เห็นพ่อมดทั้งสองคน ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันที่เพิ่งกลับมากล่าวถาม เขาได้ส่งทั้งสองคนไปติดตามธอร์เพื่อเฝ้าระวัง

 

เห็นท่าทีสภาพพร้อมสมบูรณ์ของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน พ่อมด ไต้เหวิ่น เเละ พ่อมด รุ่ยเคอ รู้สึกดีใจไม่น้อย

 

ถึงอย่างไรพวกเขาก็เชื่อมั่นในความเเข็งเเกร่งของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน

 

“รายงานปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ดูเหมือน ธอร์เเละเเฟนสาวของเขาได้เลิกรากันตอนนี้ เขาถูกขับไล่ออกจากที่พักเเละกำลังไร้ที่อยู่อาศัย”ได้ยินคำถามจากปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน พ่อมด ไต้เหวิ่น กล่าวตอบ

 

พ่อมดไต้เหวิ่นได้เดินทางกลับมาก่อนเขาไม่รู้ว่าธอร์ได้โทรขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของเขา

 

“เป็นเพียงเเค่เรื่องเล็กน้อย,ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ข้าเชื่อว่า เด็กคนนี้ ยังสามารถเอาตัวรอดบนโลกเเห่งนี้ได้”ได้ยินคำตอบของ พ่อมดไต้เหวิ่น เอนเชี่ยนวันกล่าวอย่างไม่เเยเเส

 

เเม้ว่าเอนเชี่ยนวันจะรับปากโลกิเรื่องการช่วยเหลือธอร์เเต่เขาจะไม่ให้ที่พักพิงเเก่ธอร์ ถ้าธอร์ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับโลกเพื่อมีชีวิตอยู่ได้ เอนเชี่ยนวัน ตั้งใจจะบอก โอดิน ให้เขาส่งธอร์กลับไป

 

“พวกเราเข้าใจเเล้ว”พ่อมดไต้เหวิ่นพยักหน้ารับราวกับไม่เเปลกใจต่อคำตัดสินของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน

 

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน เช่นนั้นพวกเราขอตัวก่อน”พ่อมดรุ่ยเคอ กล่าวพูดขึ้น พวกเขาตั้งใจจะถามสถานที่ที่ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันได้เดินทางไปเเต่ก็ต้องรั้งวาจากลับก่อน

 

“อืม,หลังจากที่พวกท่านจากไป ช่วยข้าหาคนคนนึงหน่อยได้รึไม่?”เห็นพวกปรมาจารย์ไต้เหวิ่นกำลังจะจากไป ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันจ้องมองไปที่พวกเขาเเล้วกล่าว

 

“หืม?ใครกัน?”

 

“มิราจไนท์!”

ยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าท้ายที่สุดธอร์ก็ตัดสินใจแบกกระเป๋าของตัวเองจากไปอย่างเงียบ ๆ เขาไม่เข้าใจทำไมเจนถึงหันหลังให้กับเขาอาจจะเป็นเพราะโลกิได้พูดอะไรบางอย่างกับเธอไป เเต่คำพูดลาก่อนของเธอนั้นทำให้ธอร์รู้สึกใจสลายในชีวิตรักของเขา ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะตามหาโลกิ เขาจะฟื้นฟูพลังเหนือธรรมชาติของตัวเองเเละจัดการสั่งสอนน้องชายตัวดีคนนี้

 

“เเล้วข้าควรจะไปที่ไหนดีล่ะทีนี้?”หลังจากออกจากอพาร์ทเมนท์ธอร์ ยืนอยู่บนพื้นถนน เขากำลังขมวดคิ้วเเละกล่าวถามกับตัวเอง

 

เเม้ว่าธอร์จะอาศัยชีวิตบนโลกมานานมากกว่าสองเดือน เเต่เขาก็ยังไม่เหมือนมนุษย์โลก เพราะเขายังไม่สามารถจัดการอะไรต่าง ๆ ด้วยตัวเองที่โลกนี้ได้

 

ธอร์ถือกระเป๋าสัมภาระของเขาจ้องมองไปที่อพารต์เมนต์ที่จากมาอย่างคร่ำครวญตอนนี้เขาไม่รู้ว่าจะไปไหน ในขณะเดียวกันในพื้นที่มืดสองเเห่งมีคนกำลังเฝ้าดูเขา

 

“เจ้าหน้าที่ โคลสัน เป้าหมายหมายเลข 5 ดูเหมือนจะเลิกรากับเเฟนสาวของเขาเเล้ว ตอนนี้ เขาได้ถูกไล่ออกจากอพาร์ทเมนท์ เช่นนั้นผมควรจะทำอย่างไรต่อ?”จ้องมองเห็นธอร์ถูกไล่ออกมาจากอพาร์ทเมนท์ ห่างไปสามช่วงตึก มี เจ้าหน้าที่ของ S.H.I.E.L.D. ที่ได้รับหน้าที่พิเศษจับตามองธอร์ ได้กล่าวรายงาน หลังจากเห็นธอร์ถูกไล่ออกมาโดยเจน เจ้าหน้าที่คนนี้ชื่อ กานชู เขาเป็นหัวหน้าทีมเฝ้าระวัง เขาได้รายงานต่อตัวเเทนเจ้าหน้าที่โคลสัน

 

“ถูกไล่ออกจากอพาร์ทเมนท์?อืม เช่นนั้นก็อย่าพยายามติดต่อเขาชั่วคราว ตอนนี้เขายังไม่มีการเเยกจำเเนกว่ามีความอันตรายหรือไม่ในตอนนี้”หลังจากได้ยินหัวหน้ากลุ่มกล่าวรายงาน เจ้าหน้าที่โคลสัน กล่าวตอบอย่างสงบ

 

เเม้ว่าธอร์จะเป็นเจ้าชายคนโตของเเอสการ์ดผู้น่าเกรงขาม เเต่ตอนนี้ ค้อนของธอร์ก็อยู่กับ S.H.I.E.L.D. ในนิวเม็กซิโก ตอนนี้ธอร์แทบจะไม่เป็นภัยคุกคามเเม้เเต่น้อย เเต่ถึงอย่างไร เขาก็เป็นบุคคลที่ทาง S.H.I.E.L.D. เฝ้าระวังเอาไว้อยู่

 

“เข้าใจเเล้ว เราจะเฝ้าระวังต่อไป”ได้รับคำสั่งโดยตรง หัวหน้าคนนี้กล่าวตอบเเละจ้องมองไปที่อพาร์ทเมนท์ของธอร์ต่อไป

 

นอกเหนือจากตัวแทนของ S.H.I.E.L.D. ที่เฝ้าระวังเเล้ว ตึกตรงข้าม อพาร์ทเมนต์เองก็มีคนสองคนสวมใส่ชุดหลวงจีนจ้องมองมาอยู่ ดูเหมือนพวกเขาจะมาจากอารามคุ้มกัน

 

“ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไร?ดูเหมือน ธอร์ กับ คุณ ฟอสเตอร์ จะเเยกจากกันเเล้ว?”เห็นธอร์บนพื้นบริเวณถนน นักบวชคนนี้กล่าวถามเพื่อนของเขา

 

“ดูเหมือนตอนนี้ธอร์จะถูก มิส ฟอสเตอร์ ไล่ตะเพิดออกมา พวกเขาคงเเยกจากกันชั่วคราวในตอนนี้”นักชวงอีกคนกล่าว

 

“เช่นนั้นพวกรเาจะทำอย่างไร เฝ้าระวังเขาต่อไปไหม? ถึงอย่างไร ท่านเอนเชี่ยนวัน ก็ให้เราเฝ้าระวังเขาเพื่อรับประกันว่าธอร์จะไม่ก่ออุบัติเหตุขึ้นที่โลก เเต่ท่านไม่ได้บอกว่าจะต้องเฝ้าระวังการใช้ชีวิตประจำวันของเขา”นักบวชอีกคนกล่าว

 

“อืม,เเม้เขาจะถูกไล่ออกมา เเต่ธอร์ก็อาศัยอยู่ที่โลกมาร่วมระยะเวลามากกว่า สองเดือน ธรรมชาติเขาย่อมสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้”นักบวชคนที่สองกล่าว

 

“ก็ดี,ถ้าเกิดธอร์เผชิญหน้ากับอันตรายหรือสร้างปัญหา เราจะปรากฏตัวขึ้นเพื่อหยุดเขา”

 

“อืม,ไปกันเถอะ”

 

หลังจากคิดได้เช่นนี้นักบวชที่เป็นปรมาจารย์เวทย์ทั้งสองคนก็เลือกที่จะถอนตัว ประตูมิติสีทองได้ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขาเเละจากไปอย่างรวดเร็ว

 

ธอร์ในตอนนี้กำลังครุ่นคิดถึงเหตุผลบางอย่าง อย่างเเรกคือเหตุผลที่เขาถูกไล่ออกมา เเละเหตุที่สองก็คือเขาต้องการความช่วยเหลือ

 

เขาต้องการมองหาสถานที่อาศัยเพื่ออยู่อาศัย เเต่มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาจะหาเองได้โดยง่ายดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา

 

เขาจ้องมองไปที่รายชื่อในโทรศัพท์โดยส่วนมากเเล้วจะมีชื่ออดีตเเฟนสาวของเขาเเละเพื่อน ๆ ของเธอ เเต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาตอนนี้ ชื่ออีกชื่อนึงก็คือ เจ้าหน้าที่โคลสัน เเละ ก็ เเจ็คสัน เเต่เขากำลังคิดอยู่ว่าจะติดต่อหาเจ้าหน้าที่โคลสัน เพื่อขอความช่วยเหลือจาก S.H.I.E.L.D. ดีรึไม่

 

“เห้อ,ข้าควรจะมองหาเเจ็คสัน เขาเป็นสหายของข้า ยิ่งกว่านั้นเขายังมีความลึกลับที่ข้าค่อนข้างสนใจ สำหรับ S.H.I.E.L.D. พวกเขากระทั่งไม่ใช่สหายของข้า ข้าเพียงต้องการความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”ในที่สุดธอร์ก็เลิกตัดสินที่จะขอความช่วยเหลือจาก S.H.I.E.L.D. เขาเลือกที่จะขอความช่วยเหลือจาก เเจ็คสัน

 

ดังนั้นธอร์จึงได้กดเลือกไปที่ชื่อของเเจ็คสัน

 

 

ตู๊ดด~~

 

เเจ็คสันที่เพิ่งจะกลับถึงบ้านของเขา เขากำลังจะอาบน้ำ เพียงเเต่ว่าโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น ท้ายที่สุดเขาก็เลือกที่จะเดินไปดูก่อน

 

“หืม? เป็นธอร์ หรือว่าเขามีเรื่องเดือดร้อนอะไร?”หลังจากรับโทรศัพท์ เขาก็รีบกล่าวถามทันที

 

“สวัสดี ธอร์ มีเรื่องอะไรงั้นหรอ? หรือว่าน้องชายของคุณก่อปัญหาอีกเเล้ว?”เเจ็คสันกล่าวทักทายธอร์อย่างรวดเร็ว

 

เมื่อพูดถึงน้องชายของธอร์โลกิ เเจ็คสันจำได้ว่า อีกฝ่ายขอให้เขาช่วยเหลือธอร์ในการฟื้นคืนพลังเหนือธรรมชาติ เเต่เเจ็คสันยังไม่มีเงื่อนงำเบาะเเสสำคัญในตอนนี้

 

“เฮ้,เเจ็คสัน ที่ข้าโทรหาเจ้าเพราะมีเรื่องขอให้เจ้าช่วย สำหรับโลกิ เเน่นอนว่าหากข้าฟื้นคืนพลังตัวเองได้ ข้าจะต้องจัดการเขา!!”ธอร์ไม่ได้ขอร้องให้ เเจ็คสันช่วยเหลือเรื่องของโลกิ

 

“เเล้วเรื่องอะไรล่ะที่คุณจะขอให้ช่วย? หรือว่าคุณกับคุณฟอสเตอร์ จะทะเลาะกัน หากเป็นเช่นนี้ นี่่ก็อยู่เหนือความสามารถของฉัน”เเจ็คสันกล่าวถาม

 

“เอ่อ…มันก็คล้ายๆ กัน เเต่ไม่ใช่ ตอนนี้ ข้าถูกเจนไล่ออกจากอพาร์ทเมนท์ของเธอ เเละข้ากำลังสัญจรไปมาบนท้องถนน เเละไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี”ได้ยินคำถามล้อเล่นของเเจ็คสัน ธอร์ กล่าวพูดอย่างเขินอาย

 

“อะไรนะ?คุณทะเลาะกับ คุณ ฟอสเตอร์ เเละ เธอก็ไล่ออกจากอพาร์ทเมนท์ ?”เเจ็คสันที่กำลังดื่มน้ำอยู่ได้ยินเสียงพูดของธอร์เขาเเทบจะสำลักออกมา

 

“อืม,ดังนั้นข้าจึงต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า เจ้าพอจะสามารถหาสถานที่อาศัยให้ข้าอยู่ได้รึไม่ เป็นบ้านเช่าหรือห้องเช่าก็ได้”

 

“เพราะเจน ได้ทิ้งเงินให้ข้าบางส่วน หลังจากข้าได้ที่พักข้าค่อยหางานทำ”สำหรับชีวิตที่โลก ธอร์ยังไม่สามารถจัดการอะไรต่าง ๆ ได้ด้วยตัวคนเดียว เขารู้สึกกำพร้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เเต่เพราะสองเดือนมานี้ทำให้เขาค่อนข้างคุ้นเคยกับโลกมากขึ้น

 

“คุณ!…เอาเถอะ ฉันจะช่วยคุณ อย่างไรก็ตาม วันนี้ดึกมากเเล้ว คุณลองมองหาโรงเเรมนอนไปก่อนละกัน พรุ่งนี้คุณมาที่นิวยอร์กเพื่อมาหาฉัน เเต่อย่าได้พูดเชียวว่าคุณมานิวยอร์กไม่เป็น?”เเจ็คสันกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

 

หากธอร์สามารถหางานทำได้ เรื่องเเค่ช่วยเหลือที่พัก เเจ็คสันสามารถช่วยเหลือได้ไม่ลำบากนัก ทั้งเขายังมีโอกาสช่วยเหลือธอร์ในการฟื้นฟูความเเข็งเเกร่งของเทพเจ้าสายฟ้าอีกด้วย เขาไม่รู้ว่า โลกิมีเเผนจะทำอะไรในอนาคต เเต่ เขาจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องนี้เอาไว้เหมือนกัน

 

ยิ่งไปกว่านั้นหากได้พลังของธอร์มาร่วมในทีมของเขา เเจ็คสันเชื่อว่าทีมของเขาจะเเข็งเเกร่งขึ้นอย่างมาก

 

“ขอบคุณเเจ็คสัน เจ้าพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะไปหาเจ้าที่นิวยอร์ก”ได้ยินเเจ็คสันว่าจะช่วยเหลือเขา ธอร์ รู้สึกมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด

 

“อืม,พรุ่งนี้เจอกัน ฉันจะเข้านอนเเล้ว”หลังจากกล่าวตอบเเจ็คสันก็ได้กดตัดสายไป

 

“อืม,ข้ารู้ว่ายังไง เเจ็คสัน สหายข้าคนนี้จะต้องไม่ทิ้งข้า”ธอร์ที่ได้รับการยืนยันเขายิ้มออกมา

 

หลังจากนั้นธอร์ก็เเบกกระเป๋าของเขาไปหาที่พักที่เป็นโรงเเรมตรงข้าม เขาเพียงเเค่ทนพักอาศัยอยู่ที่นี่ก่อนคืนนึง พรุ่งนี้เขาจะนั่งรถไปที่นิวยอร์กเพื่อหาเเจ็คสัน

หลังจากที่ถูกโทนี่เกณฑ์มาช่วยงานสองวัน เเจ็คสัน ได้ช่วยงานเช้าเเละในช่วงเย็นได้ขับรถจิ๊ปของเขากลับบ้านตามปกติ

 

ในช่วงสองวันนี้โทนีได้ให้เเจ็คสันช่วยเหลือการทดสอบทางกายภาพทั่วไปอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งเเจ็คสันเองก็มีความสนใจเช่นเดียวกัน เพราะก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน ได้ช่วยเหลือโทนี่ โดยการมอบ น้ำยาศักดิ์สิทธิ์เพื่อรักษาโทนี่ เขาเองก็ต้องการมองหาความลึกลับของมันเเต่ดูเหมือนเขาจะคิดง่ายเกินไป

 

ตัดมาที่อีกประเด็นนึงที่ก่อนหน้านี้ โทนี่ ได้เผชิญหน้ากับเวทย์มตร์บางอย่าง ดูเหมือนเขาต้องการพัฒนาชุดเกราะไอรอนแมนของตัวเองเพื่อหาวิธีการรับมือกับเวทมนตร์เหล่านั้น

 

สิ่งที่โทนี่ รู้สึกผิดหวังก็คือ ดูเหมือน เเจ็คสัน จะออกความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้ด้านเวทมนตร์น้อยมาก ซึ่งความจริงเเล้วมันยังไม่อาจตอบสนองต่อความต้องการของเขาได้

 

เเจ็คสันได้ช่วยเหลือโทนี่ในการพัฒนาชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อให้มีความสามารถในการต้านทานเวทมนตร์ สำหรับเเจ็คสันเเล้วเขาเองก็คิดเกี่ยวกับเวทมนตร์อยู่เพราะเดิมเขาต้องการจะฝึกฝนมันเเต่เพราะความสามารถของเขาที่มีไม่พอก็ทำได้เเต่เพียงถอดใจล้มเลิกในตอนนี้

 

ดังนั้น เเจ็คสันจึงวางเเผนว่าในอนาคตให้โทนี่มองหา เอนเชี่ยนวัน บางที ปรมาจารย์คนนี้ อาจจะช่วยเหลือโทนี่ในด้านนี้ได้ การพัฒนาชุดเกราะไอรอนแมนนั้นจำต้องมีความรู้เเละความสามารถ หากโทนี่ได้รับการศึกษาด้านเวทมนตร์เเละพบว่าเขามีพรสวรรค์ไม่เเน่ว่าในอนาคตไอรอนแมนอาจจะกระทั่งเเข็งเเกร่งกว่าเอนเชี่ยนวัน

 

เเต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนที่เผชิญหน้ากับเทพปีศาจเป็นเพียงเเค่อุบัติเหตุเพียงเท่านั้นการปรากฏตัวของเหล่าปรมาจารย์พวกนั้นก็นับเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดา เเจ็คสันคิดว่าหากไม่มีโอกาสเช่นก่อนหน้านี้เกิดขึ้น การจะพบตัวเหล่าปรมาจารย์เหล่านี้คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก

 

ไม่เพียงเเต่เเจ็คสันที่มีความคิดเช่นนี้ โทนี่ เองก็ต้องการมองหาตัวเอนเชี่ยนวัน หรือต้นกำเนิดของตัวตนปรมาจารย์เวทย์ ตั้งเเต่ผ่านเหตุการณ์นั้นมา เขาเริ่มตระหนักรู้ดีว่าความรู้ของเขายังไม่ได้ครอบคลุมทั่วโลกนี้ยังมีกลุ่มอิทธิพลหรือขุมกำลังที่ราวกับเทพนิยายหลบซ่อนตัวอยู่

 

โทนี่ตั้งใจพัฒนาชุดเกราะไอรอนแมนของเขามาจนถึงปัจจุบันตั้งเเต่ไอรอนมาร์ค 1 จนถึงยุคที่ 5 ที่เขาเริ่มศึกษาเเละพัฒนาชุดเกราะให้กลายเป็นชุดเกราะไอรอนแมนแบบนาโน อาจกล่าวได้ว่าหากไม่เผชิญหน้ากับการโจมตีทางด้านเวทมนตร์ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ถือว่าเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบที่สุด

 

โทนี่มีทิศทางในการส่งเสริมชุดเกราะไอรอนแมนของเขาอยู่ 3 อย่าง หนึ่งคือการส่งเสริมด้านพลังทางกายภาพที่เหนือกว่าเดิม ไม่เพียงเเต่พลังกายภาพ ทั้งพลังป้องกันเเละการโจมตีมันจะต้องสูงเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นเขาก็พยายามจะเสริมระบบตัวเเทนที่มีความสามารถคล้ายคลึงกับเวทย์มนตร์อย่างเวน่อม หากสิ่งนี้ประสบความสำเร็จ เเจ็คสัน คิดว่า ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่บางทีอาจกระทั่งเผชิญหน้ากับพลังเวทย์มนตร์ได้อย่างไม่มีปัญหา

 

โทนี่ได้เข้าสู่กระบวนการอัพเกรดชุดเกราะของเขาภายใต้การจ้องมองของเเจ็คสันการส่งเสริมทั้งสามประเภทได้มีความสำเร็จไปบางส่วนซึ่งหากประสบความสำเร็จทั้งหมด โทนี่จะกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของโลกมาร์เวลที่เเท้จริง

 

โดยปกติการบรรลุเป้าหมายนั้นจำต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ซึ่งโทนี่ ก็ได้วางเเผนเตรียมการเอาไว้ทั้งหมด

 

เมื่อคิดด้านการพัฒนาของโทนี่เเล้ว เเจ็คสันก็มองย้อนกลับตัวเองเขาเองก็ต้องการจะเเข็งเเกร่งในโลกมาร์เวลที่เต็มไปด้วยความหัศจรรย์นี้ ดังนั้นเเจ็คสันจึงรีบขับรถจิ๊บของเขากลับบ้านเพื่อไตร่ตรองเเละวิธีการที่จะช่วยให้ตัวเองเเข็งเเกร่งขึ้น ไม่เพียงเเต่ตัวเขาเองทั่วนั้น กระทั่งรวมถึง ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ การร่วมมือกับโทนี่ ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกของเขา”บางทีฉันควรจะเริ่มศึกษาเรื่องการสร้างเรือเหาะสงคราม หากสิ่งนี้สมบูรณ์เชื่อว่าจะสามารถกลายเป็นหนึ่งในอาวุธที่ทรงพลังของเราได้ ด้วยความสามารถของโทนี่ เเละความพร้อมด้านทรัพยากรเป็นไปได้สูงที่จะประสบความสำเร็จในการสร้าง”มองไปที่วิวทัศน์ที่สวยงามของมหานครนิวยอร์กเเจ็คสันกล่าวกระซิบด้วยเสียงเบา

 

เเจ็คสันได้รับเเบบเเปลนเรือเหาะสงครามระดับ E นี้มานานเเล้ว เเต่เขาไม่มีโอกาสที่จะมอบมันให้โทนี่เพื่อการศึกษา ตอนนี้ เขามีเเผนที่จะร่วมมือกับโทนี่ ในการพัฒนาความสามารถเพื่อความอยู่รอดในโลกมาร์เวลที่เต็มไปด้วยความลึกลับ

 

“บางทีฉันควรจะไปหาโทนี่ด้วยสถานะมิราจไนท์ของฉันเเละพูดถึงเเผนการที่ฉันคิด เขาอาจกระทั่งคิดว่าฉันบ้า เเต่ท้ายที่สุด ใครจะรู้ว่าฉันเเท้จริงต้องการอะไร ความเเข็งเเกร่งของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เองก็เป็นสิ่งสำคัญ ฉันจะต้องสนับสนุนเเละสร้างอิทธิพลของตัวเองขึ้นมาเพื่อรับมือกับปัญหาที่พร้อมจะเข้ามาได้ทุกเมื่อในอนาคต”เเจ็คสันวางเเผนจะร่วมมือกับโทนี่ เขาได้คิดเเผนการจำนวนมากไว้ในหัว

 

“เอาเถอะ,เเม้ฉันจะคิดมากไปก็ไม่ช่วยอะไร ยังมีอีกหลายสิ่งที่ฉันควรจะเริ่มเตรียมพร้อมก่อนที่จะสายเกินไป”ในที่สุดเเจ็คสันก็ตัดสินใจ

 

ฟุ่บ!

 

ภายใต้ม่านรัตติกาลรถจิปขนาดเล็กได้วิ่งไปบนพื้นถนนที่มีชีวิตชีวาของนิวยอร์ก

 

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังขับรถจิ๊ปเพื่อเตรียมจะกลับบ้าน สถานที่บางเเห่งในวอชิงตัน ดูเหมือนจะมีเหตุทะเลาะกันของคู่รักคู่นึง

 

“เจน! ทำไมเจ้าถึงต้องไป พวกเราไม่เหมาะกันตรงไหน? หรือว่าเป็นเพราะโลกิบอกอะไรเจ้า? ก่อนหน้านี้ใช่เจ้าสนทนากับเขา เขาพูดอะไรให้เจ้าฟัง?”ยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าอพาร์ทเมนต์ ธอร์กล่าวถามเจน ฟอสเตอร์ เเฟนสาวของเขา

 

สองสัปดาห์ก่อนหน้านี้หลังจากที่โลกิได้มา

 

เจนได้ค้นพบความไม่เหมาะสมบางอย่าง ไม่ใช่เพราะเธอทนไม่ได้กับนิสัยของธอร์ เเต่เพราะเหตุผลสำคัญเธอถึงต้องการจะเเยกจากธอร์ชั่วคราว

 

เจนไม่ใช่หญิงสาวทั่วไป เธอไม่สนใจสถานะของธอร์ เเต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เธออยู่ร่วมกับธอร์ดูเหมือนเธอจะรับรู้ได้ถึงเหตุผลสำคัญที่เธอหมายถึง

 

ก่อนหน้านี้ที่โลกิพูดกับเธอ เป็นเรื่องของธอร์เเละโลกเเอสการ์ด โลกิได้บอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ ธอร์มีอายุประมาณ 200 ปี เเม้เขาจะเหมือนเยาวชนอายุเพียง 20 ปีต้น ๆ เเต่เขากลับมีชีวิตอยู่มาร่วมหลายร้อยปี ช่วงชีวิตของธอร์นั้นยาวนานมากถึง 1,000 ปี

 

ดังนั้นในอีกสองสัปดาห์ต่อมาเจนเริ่มคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เเละ เธอเริ่มที่จะยอมเเพ้เกี่ยวกับช่วงชีวิตของเธอ ที่ไม่อาจอยู่ร่วมคู่เคียงกับธอร์ได้ เช่นนั้นเธอจึงคิดว่าการจากกันตั้งเเต่เนิ่น ๆ จะเป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย

 

“ไม่มีอะไรทั้งนั้น ,ฉันคิดว่าเราสองคนไม่เหมาะกัน คุณคือเจ้าชายของเเอสการ์ดมีสถานะที่สูงส่ง ซึ่งเเทบกับฉันเเล้วพวกเราไม่เหมาะสมกันอย่างยิ่ง ดังนั้นมันจะดีกว่าหากเราไม่พบกันอีก”ภายใต้การหยุดรั้งของธอร์เจนได้สบัดมือออกจากมือของธอร์ที่ฉุดรั้งเธอเอาไว้เเม้ในใจของเธอจะรักธอร์มาเเค่ไหนเเต่เธอก็ทำได้เเต่เพียงตัดใจ

 

“เจน,ข้าไม่ยอม!”

 

ฟุ่บ!

 

“คุณไปซะเถอะ! ฉันจะให้เงินคุณมันคงเพียงพอสำหรับการเดินทางเเละหางานใหม่ได้”เจนไม่ได้สนใจธอร์เขาได้โยนกระเป๋าธอร์ออกไปที่หน้าห้อง

 

“เจน!”

 

ปั้ง

 

ธอร์ตะโกนขึ้นอย่างรับไม่ได้เเต่เบื้องหน้าที่ตอบสนองเขากลับเป็นประตูที่ขวางกั้นระหว่างเขากับเจน

“คุณสตาร์ก คุณมีวิธีการที่จะควบคุมเวน่อมเเล้วงั้นหรอ?”เเจ็คสันพอจะเข้าใจหลักความสามารถของเวน่อมในปัจจุบันเเล้ว ดังนั้นเขาจึงถามโทนี่ถึงประเด็นสำคัญของเรื่องนี้

 

“…เเน่นอนว่ายัง เเม้ว่าฉันจะเเยกร่างของมันออกจากร่างหลัก เเต่มันก็ยังคงมีสตินึกคิด ยังไม่มีวิธีการที่จะควบคุม”ได้ยินคำถามของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวตอบ

 

“เเต่ถึงเเม้จะไม่มีวิธีการควบคุมเวน่อมในตอนนี้ เเต่ในอนาคตใช่ว่าจะไม่มี สิ่งนี้คือสิ่งมีชีวิตชีววิทยาจากต่างดาวฉันเลยตั้งใจจะให้ ดร.เเบนเนอร์ช่วย เขามีความรู้ความสามารถในการวิจัยสิ่งมีชีวิตชีววิทยาหลายอย่าง”โทนี่ กล่าวเสริม

 

“หืม? ดร.เเบนเนอร์ ? ใช่ ดร.บรูซ แบนเนอร์ ใช่มั้ย?”เเจ็คสันพอได้ยินคำต่อท้ายของโทนี่ เขาเหมือนจะนึกขึ้นได้

 

“ใช่ ดร.บรูซ แบนเนอร์ หรือว่า เธอ รู้จักเขา?”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวถามอย่างประหลาดใจ

 

เเต่สิ่งที่โทนี่สงสัยนั้นหารู้ไม่ว่าเเจ็คสนัไม่เพียงเเต่รู้จัก ดร.บรูซ แบนเนอร์ ไม่ใช่นักชีววิทยาทั่วไป ระดับความสามารถของเขาไม่ด้อยไปกว่าพวกนักฟิสิกส์นิวเคลียร์ อื่น ๆ โดยทั่วไป เเต่เขาเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว น้อยคนนักที่จะรู้จักเขา

 

ในการทดสอบทางกายภาพบางอย่าง ดร.บรูซ แบนเนอร์ ได้รับรังสีเเกมม่า จนอารมณ์ความโกรธเพิ่มขึ้นสูง เขาได้กลายพันธุ์เป็น ฮัลค์ ในเวลาต่อมา เเละเป็นหนึ่งในตัวเอกของโลกมาร์เวล

 

หลายปีผ่านไป ดร.บรูซ แบนเนอร์ ที่พยายามหาวิธีรักษาตัวของเขาเอง เเต่เขาก็ไม่พบ สำหรับเขาความโกรธถือเป็นเรื่องต้องห้าม เขากลัวว่าตัวตนอีกด้านนึงของเขาจะเผลอทำร้ายคนอื่น ดังนั้นเขาจึงได้ย้ายไปเนปาลเเละหลบซ่อนตัวเพื่อหาวิธีควบคุมความโกรธในรูปแบบต่าง ๆ

 

ตอนนี้ในโลกคนที่รู้จัก บรูซ แบนเนอร์ จริง ๆ มีไม่ค่อยมากนัก เเละ โทนี่ เป็นหนึ่งในนั้น โทนี่ ต้องการยืมความสามารถของ ดร.เเบนเนอร์ ในการศึกษาวิจัย เวน่อม เเต่สิ่งที่เเจ็คสันกังวลก็คือหาก ดร.แบนเนอร์ ได้ปรากฏตัวขึ้นที่นิวยอร์กเเละกลายเป็นฮัลค์เเม้โทนี่จะมีกองทัพชุดเกราะเหล็กไอรอนแมนก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ

 

ดังนั้นหลังจากได้ยิน ชื่อ ดร.แบนเนอร์ จากปากของโทนี่ เเจ็คสัน จึงค่อนข้างประหลาดใจ โทนี่ เองก็เช่นเดียวกัน สำหรับเขาเด็กคนนี้มีความลับมากอยู่เท่าไหร่กันเเน่ ?

 

“เอ่อ…ใช่ ผมรู้จัก ดร.บรูซ แบนเนอร์”เเจ็คสันรู้ว่าการเเสดงออกของเขาได้เผยพิรุธออกมาเเล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบยับยั้งการเเสดงออกเเละกล่าวตอบอย่างเร่งรีบ

 

“หืม?ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเธอรู้จักเขาได้อย่างไร หากเธอพูดว่ารู้จักเขาผ่านโลกออนไลน์นั้นอย่าได้คิดเรื่องนี้เชียว เพราะ เพื่อนคนนี้ ไม่มีข้อมูลตัวตนบนโลกออนไลน์”เห็นการเเสดงออกของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวซักถามอย่างรวดเร็ว

 

“เรื่องนี้…”เห็นโทนี่ ยิงคำถามประเด็นหลักใส่เขา เเจ็คสัน ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร

 

เเจ็คสันรู้ว่าเรื่องของ ฮัลค์ นั้นเป็นเรื่องที่ใหญ่ เเต่สำหรับโทนี่ เขายังไม่รู้เรื่องนี้ เเจ็คสันยังไม่สามารถหาข้อเเก้ตัวที่ดีได้ ในขณะเดียวกัน เขาความคิดหาเรื่องทดเเทนเกี่ยวกับมัน เเจ็คสันพอจะรู้ได้ว่า โทนี่ พอจะคาดเดาสถานะมิราจไนท์ของเขาได้เเต่มันก็เป็นเพียงเเค่การคาดเดาเเต่เรื่องก็คือเเจ็คสันยังไม่ได้เปิดเผยสถานะนี้ด้วยตัวเขาเองถ้าเขาไม่อาจเลี่ยงคำตอบเรื่องนี้ได้ก็ไม่ต่างจากการที่เขายอมรับว่าตัวเองคือมิราจไนท์จริงจริง

 

“ใช่,เป็น ดร.เอริค ผมได้ยิน ดร.เอริค พูด”ในที่สุด เเจ็คสัน ก็ค้นพบวิธีเอาตัวรอด

 

เเจ็คสันไม่ได้โกหก ในช่วงระหว่างที่ เขาฝึกงานกับ ดร.เอริค ดูเหมือน ดร.เอริค จะเคยหลุดปากพูดเรื่องของ บรูซ แบนเนอร์ ใน นิวเม็กซิโก เพื่อปลอบประโลมเจน ในขณะที่ เธอถูก S.H.I.E.L.D. ยึดอุปกรณ์เเละข้อมูลวิจัย

 

ในเวลานั้น ดร.เอริค บอกว่าเขารู้จัก ดร.แบนเนอร์ เเต่ในช่วงเวลานั้น เเจ็คสันไม่ได้สนใจ เพราะเขาไม่คิดว่า ดร.เอริค จะรู้จักกับฮัลค์ อาจจะเป็นคนที่ชื่อคล้ายกัน อย่างไรก็ตาม ดร.แบนเนอร์ เอง ก็มีส่วนสำคัญสำหรับองค์กร S.H.I.E.L.D.

 

เนื่องเพราะสถานการณ์เรื่องของธอร์ด้วยเเล้ว ทำให้เเจ็คสัน ไม่ได้สนใจ ดร.แบนเนอร์ ในเวลานั้นเป็นพิเศษดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอะไรออกไป

 

“ดร.เอริค? ศาสตราจารย์ดาราศาสตร์ ที่เธอ หยุดพักผ่อนไปเป็นเด็กฝึกงานของเขาที่นิวเม็กซิโก?”ได้ยินชื่อนี้ โทนี่ กล่าวถามอีกครั้ง

 

“ใช่,เป็น ดร.เอริค”เเจ็คสันพยักหน้าตอบอย่างจริงจัง

 

“J.A.R.V.I.S ตรวจสอบ ดร.เอริค ว่ารู้จัก ดร.แบนเนอร์ หรือไม่”จ้องมองไปที่ เเจ็คสันเป็นเวลาหลายวินาที โทนี่ กล่าวบอก J.A.R.V.I.S

 

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S กล่าวปฏิบัติตาม

 

“เจ้านายครับ,ดูเหมือน ดร.เอริค จะรู้จัก กับ ดร.บรูซ แบนเนอร์ จริง ๆ!”ภายใต้การตรวจสอบของ J.A.R.V.I.S ผลการวิเคราะห์ได้ออกมาอย่างรวดเร็ว

 

“ดี ฉันจะเชื่อเธอ”ได้รับคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ จ้องมองไปที่ เเจ็คสัน อย่างไรก็ตาม คำพูดนี้ เขาเชื่อมันเพียงเเค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะไม่อาจหาเหตุผลมาโต้เเย้งได้

 

“เอ่อ..เเต่คุณสตาร์ก คุณต้องการความช่วยเหลือของ ดร.แบนเนอร์? เเต่ทำไมคุณเเลดูกังวล”เเจ็คสันกล่าวถามด้วยนิสัยของเขาอีกครั้ง

 

“เมื่อถึงเวลาเธอจะรู้เอง”ได้ยินคำถามของ เเจ็คสัน โทนี่ กล่าวตอบเล็กน้อย

 

“อืม”เเจ็คสันรู้ดีว่าตอนนี้ ดร.แบนเนอร์ อาจจะกลายเป็น ฮัลค์ ไปเเล้วมันมีโอกาสหลายส่วนที่จะเกิดขึ้น

 

“เด็กคนนี้,เขากระทั่งยังคิดจะปกปิดสถานะตัวเอง?”โทนี่ ลอบกล่าวภายในใจของเขา

 

“จริงสิ เเล้ว อาการของ ปีเตอร์ เป็นยังไงบ้าง?”เมื่อคุยเรื่องของ ดร.เเบนเนอร์เสร็จ โทนี่ กล่าวถามเรื่องของปีเตอร์ขึ้นในทันที

 

“ดูเหมือนอาการบาดเจ็บของเขาจะฟื้นฟูกลับมาในสภาพดีพร้อมเเล้ว”ได้ยินคำถามเกี่ยวกับปีเตอร์ เเจ็คสัน หลุดพูดออกมาโดยไร่รู้ตัว

 

หลังจากกล่าวพูดออกไปเเจ็คสันเพิ่งจะรู้ตัวว่าตอนนี้เขาไม่ได้ใช้สถานะมิราจไนท์เเละอาการบาดเจ็บของสไปเดอร์แมนไม่ใช่สิ่งที่สถานะเเจ็คสันของเขาจะรู้อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลามามัวกังวลเกี่ยวกับอาการหลุดเมื่อครู่นี้เขาได้ทำท่าทีสงบเพื่อรอคำถามต่อไปของโทนี่ ถ้าโทนี่ถามเขาว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าปีเตอร์บาดเจ็บ เเจ็คสัน ก็จะตอบกลับไปว่า เขาได้ไปที่บ้านของปีเตอร์ เเละ ไม่พบปีเตอร์ หลังจากนั้นเขาก็ทราบข่าวอาการบาดเจ็บของปีเตอร์ เขาจะใช้จุดที่เขาเป็นเพื่อนสนิทของปีเตอร์ในการตอบคำถามของโทนี่ เเละ หลังจากคำนวณดีเเล้ว เขาพบว่ามันไม่น่าจะบกพร่องใด ๆ

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เเจ็คสันรู้สึกประหลาดใจก็คือ โทนี่ เพียงพยักหน้าเล็กน้อยเพียงเท่านั้น ราวกับว่าเขารู้อยู่เเล้วว่าเเจ็คสันจะตอบเช่นนี้ออกมา

 

“อืม,เด็กคนนี้ เห็นเขาเเข็งเเรงขึ้น ฉันเองก็สบายใจ”โทนี่ กล่าวตอบอีกครั้ง

 

“ใช่,ปีเตอร์ มีร่างกายที่เเข็งเเรงจะตาย เเค่ประสบอุบัติเหตุนิดหน่อยไม่น่าจะทำอะไรเขาได้”จากคำพูดของคำถามก่อนหน้านี้ของโทนี่ เเจ็คสันกลายเป็นระวังต่อคำตอบของเขา

 

“เอาเถอะ,ฉันตั้งใจจะให้เธอได้เห็นผลงานการออกแบบล่าสุดของฉัน!”โทนี่กล่าวเข้าประเด็นหลัก ที่โทนี่ เรียกเเจ็คสันมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อให้เขามาช่วยเหลือตัวเองบางอย่าง เมื่อมีโอกาส เเน่นอนว่าเขาจะต้องรีบไขว่คว้ามันเอาไว้

เวลาผ่านไปสามวันหลังจากเกิดเหตุการณ์ต่อสู้ระหว่าง ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ผลกระทบเเละบาดเเผลต่างๆ ของ ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ในที่สุดก็ฟื้นตัว บาดเเผลที่ได้รับมาจาก เวน่อม เเละ เทะปีศาจ ต่างก็ได้รับการเยียวยาทั้งสิ้น

 

หลังจากฟื้นคืนสภาพโดยสมบูรณ์ เเฮร์รี่ ก็ยังคงพิจารณาคำชวนของเเจ็คสันที่จะเข้าร่วมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเละร่วมปกป้องนิวยอร์กรวมถึงความมั่นคงของโลก เเต่คำตอบที่เเฮร์รี่ให้เเจ็คสันนั้น ปีเตอร์ เองก็ประหลาดใจ เเฮร์รี่ ขอไม่เข้าร่วมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

เเม้ว่า ปีเตอร์ เเละ เเจ็คสัน จะรู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้ เเต่เเฮร์รี่ ก็ให้เหตุผลเช่นเดียวกัน อันดับเเรกคือ ตอนนี้ เขาคือประธานใหญ่ของกลุ่มออสคอร์ป ตอนนี้เขายังเด็กอยู่ เเละต้องทุ่มเทให้กับบริษัทให้มั่นคงเปป็นอันดับเเรก

 

เเม้เเฮร์รี่จะไม่ได้เข้าร่วมกับพันธมิตรผู้พิทักษ์ เขาก็เหมือนกับโทนี่สตาร์ก จะสนับสนุนอยู่เบื้องหลังของพันธมิตรผู้พิทักษ์ ไม่ว่าจะเป็นด้านกองทุนหรือสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ เมื่อมีความจำเป็น เเฮร์รี่ สามารถช่วยเหลือ มิราจไนท์ เเละ สไปเดอร์แมน ในการปกป้องสันติภาพของนิวยอร์กได้

 

หลังจากได้ยินคำอธิบายของเเฮร์รี่ เเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ก็เข้าใจ เดิม ภูมิหลังของครอบครัวเเฮร์รี่ค่อนข้างยุ่งทั้งเเฮร์รี่ตอนนี้ยังตัวคนเดียว คนในบริษัทเขาเองก็กดดันมาก หากเขาต้องดูเเลธุรกิจของครอบครัวเเละเป็นฮีโร่ในเวลาเดียวกัน เขาไม่สามารถทำได้

 

เเต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ให้สัตย์ที่จะสนับสนุนด้านกองทุนเเละสินค้าโภคภัณฑ์สำหรับพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

โดยเฉพาะเซรุ่มยายีนที่จะปรับปรุงเป็นยายีนไททันหมายเลข 2 เพื่อเเจ็คสัน เเละ คนอื่นๆ เพื่อใช้เพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้เเละความเเข็งเเกร่งของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

การพัฒนายายีนของออสบอร์นนั้นอาจนำไปซึ่งผลลัพธ์ที่เหนือจินตนาการได้ หากตัวยานี้เสถียรเมื่อไหร่ ตัวยาเซรุ่มยีนตัวนี้ จะเป็นหนึ่งในอาวุธลับชนิดนึงเลย จนถึงจุดนี้ เเฮร์รี่ ไม่ได้วางเเผนจะร่วมมือกับรัฐบาล เขาได้กำหนดตายตัวเป็นเอกสิทธิ์ของออสคอร์ปเพียงเท่านั้น

 

ก็เหมือนกับ เตาพลังงานปฏิกรอาร์ค ที่ได้จดลงทะเบียนในตลาดพลังงานทั้งหมด ออสคอร์ปเองก็จะทำเช่นเดียวกัน เขาจะครอบครองเครือข่ายด้านการเเพทย์ทั้งหมด

 

ดังนั้นเป้าหมายของเเฮร์รี่ คือ สร้างออสคอร์ปให้ก้าวล้ำเหนือนำผู้อื่น ซึ่งหลักการของเขาเเน่วเเน่เเละไม่เปลี่ยนเเปลง

 

หลังจากฟื้นพักรักษาตัวจนหายดี สหายทั้งสามคนเเห่งโรงเรียนมัธยมเอ็มไพร์สก็มาเจอกันที่โรงเรียนอีกครั้ง เเม้เเฮร์รี่น้อยครั้งจะมาโรงเรียน เเต่พวกเขาก็ได้กลับมาเรียนเเล้ว

 

การกลับมาโรงเรียนครั้งนี้ สิ่งที่เเตกต่างไปก็คือ เเจ็คสันพบว่า ทอมได้หายตัวไป หลังจากสอบถามลุงสมิธ ก็พบว่า ทอมได้ลาพักร้อนหนึ่งสัปดาห์เพื่อไปทัศศึกษาหรือพักผ่อน เขาไม่ได้บอกกับลุงว่าจะไปไหน เเต่ ลุงก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเพราะเขารู้ว่าบ่อยครั้งที่คนหนุ่มสาวจะมีช่วงอารมณ์เเปรปรวนอยู่

 

เเม้ลุงสมิธจะไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องของทอม เเต่เเจ็คสันนั้นกลับกัน เขาไม่คิดว่าทอมจะเป็นคนเช่นนั้น ดังนั้นเขาวางเเผนที่จะลองติดต่อทอมอีกครั้ง

 

เเจ็คสันไม่รู้ว่าทอมหายตัวไปที่ไหน ในฐานะที่ทอมเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาคนนึง มันทำให้เขาอดเป็นห่วงไม่ได้

 

 

บ้านพักตากอากาศของโทนี่ เเจ็คสัน เองก็ต้องการมาดูงานวิจัยเเละความคืบหน้าเกี่ยวกับเวน่อม ดังนั้นเขาจึงขับรถจิ๊ปของตัวเองไปที่บ้านของโทนี่

 

เพียงเเต่ที่เเจ็คสันเเปลกใจก็คือหลังจากเขาขับมาถึง โทนี่ ได้ยืนรอเขาอยู่ที่ทางเข้าหน้าบ้าน ดูเหมือน J.A.R.V.I.S จะเเจ้งให้โทนี่รู้เกี่ยวกับการมาถึงของเขา

 

ปั้ง

 

เเจ็คสันได้ปิดประตูรถเเละลงออกมา เขาจ้องมองไปที่โทนี่ที่มีใบหน้าเเต่งเเต้มด้วยความสุข วิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีนั้นไม่เหมือนกับเวทย์มนตร์มันเป็นสิ่งที่ค้นพบด้วยความสามารถการวิเคราะห์โดยยึดหลักกฏเเละเกณฑ์

 

“สวัสดี,คุณสตาร์ก ดูเหมือนคุณจะอารมณ์ดีผิดปกติ?”เเจ็คสันกล่าวทักทายโทนี่

 

“อืม,พอดีฉันได้ค้นพบงานวิจัยใหม่เกี่ยวกับเวน่อม เเละมันไม่ได้ทำให้ฉันผิดหวัง หากฉันสามารถนำมันผสานเข้ากับชุดเกราะไอรอนแมนของฉันได้ มันจะกลายเป็นวัตกรรมครั้งยิ่งใหญ่”เห็นเเจ็คสันกล่าวถาม โทนี่ กล่าวตอบอย่างมีความสุข

 

จริง ๆ เลเว ที่โทนี่ พูดกับ เเจ็คสัน เรื่องเวน่อม เพราะเขาคาดเดาว่า มิราจไนท์ คือ เเจ็คสัน ก่อนหน้านี้ มิราจไนท์ ได้หลุดปากพูดชื่อของ เเฮร์รี่ เเละ ปีเตอร์ ออกมาบ่อยครั้งจน โทนี่ มั่นใจอยู่หลายส่วน

 

“จริงงั้นหรอ?เช่นนั้นคุณพบอะไร?”ได้ยินคำตอบของโทนี่ เเจ็คสันไม่ได้ปฏิเสธอะไร นอกจากนี้ หาก โทนี่ ควบคุมเวน่อมได้ ธรรมชาติ ว่ามันจะช่วยเหลือพวกเขาได้มาก

 

“มาฉันจะให้ดูอะไร”โทนี่ กล่าวขึ้น เเละเดินกลับเข้าไปในบ้านพักของเขา

 

เเจ็คสันได้ตามติดโทนี่ไปทันที

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง โทนี่ ได้เเสดงผลของการวิจัยให้เห็น ซึ่ง เเจ็คสันพว่ามันน่าประหลาดใจอย่างมาก

 

โทนี่ได้ทำการทดสอบจุดเล็ก ๆ โดยการเเยกตัวหลักของเวน่อมออกมา เเละ เขาได้ทดลองยื่นส่วนวัสดุบางอย่างเข้าไป ซึ่งมันได้กลืนกินวัสดุเหล่านั้นเเละเลียนแบบ

 

ก็เหมือนกับชุดสไปเดอร์แมนก่อนหน้านี้ที่เวน่อมได้กลืนกินไป J.A.R.V.I.S ค้นพบว่า วัสดุที่เวน่อมได้กลืนกินไปมันจะสามารถปรับเเต่งให้มีลักษณะพิเศษทั้งยังเค้าโครงความสามารถเดิมเอาไว้ ซึ่งเเน่นอนว่า เวน่อมในอดีตสามารถเปลี่ยนเป็น ชุดสไปเดอร์แมนเวน่อมได้

 

กล่าวอีกนัยนึงก็คือ เวน่อมก็ไม่ต่างอะไรไปจากมิวเเทนท์ มันเป็นปรสิตที่มีรูปร่างลักษณะความสามารถในการกลายพันธุ์เเละเพิ่มความเเข็งเเกร่งให้กับโฮสต์

 

ยิ่งไปกว่านั้นปรสิตจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีโฮสต์ เเต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับปรสิตทั่วไป เวน่อมนั้นสามารถปรับสภาพของตัวเองเพื่อความอยู่รอดของมัน โทนี่ รู้ได้ในทันที เกี่ยวกับความเปลี่ยนเเปลงนี้ นี่เเสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของมัน

 

นอกจากนี้พลังป้องกันของเวน่อมนั้นเเข็งเเกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีของดาบกระสุนปืนหรือระเบิดมันก็ยังมีความสามารถต้านทานในระดับที่สูงมาก

ภายในห้องประชุมทอมเเละผู้จัดการที่เรียกตัวเองว่าเจฟเฟอร์รี่กำลังนั่งพูดคุยกันบนเก้าอี้

 

“ทอม ฉันรู้สึกมีความสุขมากที่เธอได้ตัดสินใจในครั้งนี้ ฉันรู้สึกชื่นชมเธอที่ได้เลือกเส้นทางที่ถูกต้อง”เจฟเฟอร์รี่นั่งมือไขว้กัน เขาพูดกับทอมด้วยรอยยิ้ม

 

“เเน่นอนว่าผมเองก็รู้สึกเป็นเกียรติมาก ที่คุณยินดีช่วยเหลือผม เเต่ตามข้อตกลงผมหากสิ่งที่คุณกำลังจะทำเป็นเรื่องความผิดทางอาญาผมจะยกเลิกทันที”ทอมกล่าวพูดอย่างจริงจัง

 

“เเน่นอนย่อมเป็นเช่นั้น,เเต่ฉันต้องการยืนยันว่าเธอจะไม่เปลี่ยนใจเเน่นะ กระบวนการที่ว่านี้ ค่อนข้างเจ็บปวด ฉันกลัวว่าเธอจะล้มเลิกกลางทาง”เจฟเฟอร์รี่ กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“อืม ผมเตรียมใจไว้เเล้ว เเต่คุณบอกว่ากระบวนการนี้กินเวลามากกว่าหนึ่งสัปดาห์ซึ่งผมเองก็ได้ลาพักร้อนไปหนึ่งสัปดาห์เเล้ว พูดก็พูดเถอะ หนึ่งสัปดาห์นี้ผมกลัวว่าครอบครัวของผมจะเป็นกังวล”ได้ยินการเตือนของ เจฟเฟอร์รี่ ทอมกล่าวตอบ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงเป็นนักเรียนอยู่เเละกระบวนการในครั้งนี้ก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร

 

“สบายใจเถอะ เรื่องที่เรารับรองไว้ เเน่นอนว่าย่อมสำเร็จตามเวลาที่เราบอก ภายในหนึ่งสัปดาห์เธอจะได้กลับบ้านไปหาครอบครัวโดยไม่จำเป็นต้องกัวล”เห็นความกังวลของ ทอม เจฟเฟอร์รี่ กล่าวตอบเล็กน้อย ใบหน้าของเขาเหมือนกับพนักงานชวนเชื่อที่ทำให้ผู้อื่นคล้อยตามได้

 

“ก็ดี,ผมไม่มีคำถามอะไรเเล้ว ล่ะ เเล้วเราจะเริ่มกันตอนไหน ผมเตรียมตัวพร้อมเเล้ว”ทอมต้องการเริ่มการทดสอบโดยเร็วที่สุด

 

“ฮ่าฮ่า,ฉันชอบคนหนุ่มไฟเเรงเช่นเธอ เอาล่ะ หากเธอพร้อมเเล้วเราเริ่มกันเลยก็ได้”ได้ยินคำตอบของ ทอม เจฟเฟอร์รี่ กล่าวด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นเขาก็ลุกจากเก้าอี้เดินไปที่ห้องที่เขาเดินออกมา

 

ฟุ่บ!

 

ทอมเองก็เดินตามหลัง เจฟเฟอร์รี่ ไป

 

ครื่น!!

 

ประตูเหล็กที่ก่อนหน้านี้ปิดสนิท ภายใต้การนำของ เจฟเฟอร์รี่ มันได้เปิดขึ้นอีกครั้ง

 

 

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ทอมก็ถูกชำระล้างร่างกายเพื่อฆ่าเชื้อโรค เขานอนอยู่ในหลอดเเคปซูลใส ที่เป็นเครื่องมือเทคโนโลยีระดับสูง ตอนนี้ร่างของเขาถูกเเนบติดกับเตียงหลอดเเคปซูลทำให้เขาขยับเคลื่อนไหวไม่สะดวก เเต่ทอมเองก็พยายามไม่เคลื่อนไหวเเม้เขาจะเตรียมใจมาเเล้วเเต่ก็อดเผชิญหน้ากลัวความเจ็บปวดไม่ได้

 

ในขณะที่ทอมกำลังนอนอยู่ ทีมนักวิจัยในชุดสีขาว ก็เดินเข้ามา พวกเขาได้เคลื่อนไหวเเละเตรียมเครื่องมือพร้อมเสร็จศัพท์

 

“เอาล่ะเริ่มกันเลย!”เจฟเฟอร์รี่ ได้กล่าวพูดหลังห้องกระจก

 

“อืม”

 

ฟึ่ม!

 

ภายใต้คำสั่งของ เจฟเฟอร์รี่ ทีมนักวิจัยในชุดสีขาว ได้กดเลือกบางสิ่งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เเละก็ปรับตำเเหน่งของทอมลง จากนั้นก็ปล่อยวงเเหวนโลหะสองอันอยู่ท่ามกลางระหว่างตัวของทอม

 

เห็นเครื่องมือที่ชวนน่าขนลุก ทอมรู้สึกหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับ เขารู้ว่านี่คือการทดลอง เเต่เขาก็กังวลหากมันล้มเหลวเขาจะเป็นอย่างไร

 

ฮึ่ม

 

ไม่นานวงเเหวนสองวงก็ถูกปรับภายใต้การชักนำของนักวิจัย

 

“!!!!”เห็นวงเเหวนถูกจอมาที่คอของเขาทอมตะโกนด่าในใจ ตอนนี้เขารู้สึกกลัวมาก

 

จากนั้นภายในวงเเหวนก็ปรากฏเข็มเเทงเข้าที่คอของทอม จากนั้นทอมก็รู้สึกได้ถึงของเหลวบางอย่างที่กำลังไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา

 

ซูด!!

 

ของเหลวสีฟ้าได้ถูกฉีดเข้าสู่ร่างกายของทอมอย่างรวดเร็ว

 

“!….!”จากนั้นทอมก็รู้สึกเสียวสันหลังไปหมัด เขาเริ่มรู้สึกไม่สบายใจจนไม่สามารถทนได้

 

กระบวนการได้ดำเนินผ่านไปหลายวินาทีของเหลวเหล่านั้นเริ่มส่งผลกระทบต่อความเจ็บปวดออกมา ส่งผลให้ทอมรู้สึกเจ็บปวดจนเเทบจะอดกรีดร้องออกมาไม่ได้

 

“!!!!!”ผ่านไปสิบวินาทีทอมก็เริ่มกรีดร้องออกมาพร้อมกับดิ้นรนอย่างรุนเเรง

 

อย่างไรก็ตามเพราะถูกล็อคตรึงอย่างเเน่นหนาโดยหัวเข็มขัดโลหะ ทอมจึงไม่สามารถขยับได้ตามที่ใจนึกไม่ว่าทอมจะเเข็งเเกร่งหรือดิ้นรนรุนเเรงขนาดไหนก็ไม่อาจทำให้ร่างของเขาขยับเขยื้อนไปได้มาก

 

ภายใต้ความเจ็บปวดหน้าของทอมเผยสีหน้าของเเววตาที่น่าสงสารออกมา เห็นสภาพเช่นนี้ เหล่านักวิจัยราวกับไม่ทุกข์ร้อนอะไรเพราะพวกเขาเคยเห็นสีหน้านี้มาเเล้ว

 

ทอมได้เผชิญหน้าต่อสู้กับความเจ็บปวดอย่างรุนเเรงจนท้ายที่สุดเสียงของเขาก็เริ่มสงบลง ซึ่ง เจฟเฟอร์รี่เองก็รู้สึกชื่นชมภายในใจ

 

“ดูเหมือนว่าหนูทดลองชิ้นนี้ จะเป็นตัวทดลองชั้นเลิศ ไม่เสียเปล่าที่ฉันใช้เวลานานกว่าจะเกลี้ยกล่อมเขาสำเร็จ”เห็นทอมในหลอดทดลอง เจฟเฟอร์รี่กล่าวกระซิบกับตัวเอง

 

“ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ ดูเหมือนเวลาของพวกเราจะเหลืออีกไม่ถึงเดือนเเล้ว”เห็นเจฟเฟอร์รี่จ้องมองดูสถานการณ์ของทอม ชายที่สวมใส่เสื้อผ้าสไตล์ตะวันตก ได้เดินเข้ามาเเละกล่าวพูดขึ้น

 

“ฉันรู้เเล้ว อีกไม่นานการทดลองในครั้งนี้ของพวกเราก็จะประสบความสำเร็จ”เจฟเฟอร์รี่พยักหน้า

 

จากนั้นเจฟเฟอร์รี่ก็เปิดโฟลเดอร์ไฟล์ในมือถือ

 

“เเผนการสร้างวินเทอร์โซลเยอร์ขึ้นมาใหม่ ครั้งนี้ พวกเราจะตั้งค่าให้มันมุ่งเป้าไปที่กัปตันอเมริกาโดยเฉพาะ ไม่ว่าอย่างไรเราก็จะทำให้มันตกตายให้ได้?”มองดูไฟล์โฟลเดอร์ในมือถือเจฟเฟอร์รี่ กล่าวเสียงทุ้มต่ำ

 

จากนั้นทั้งสามคนก็อยู่สนทนาในห้องผู้ป่วยตามประสาเพื่อนสนิทเมื่อเทียบกับเเจ็คสันเเล้วสถานการณ์ในตอนนี้ถือว่าเป็นเปลี่ยนเเปลงไปในทางที่ใหญ่อย่างมาก

 

เพื่อนรักในโรงเรียนไฮสคูลเอ็มไพร์นั้น เเจ็คสัน กลายเป็นผู้พิทักษ์นิวยอร์ก ในฐานะมิราจไนท์ สำหรับปีเตอร์ กลายเป็นเพื่อนบ้านสไปเดอร์แมนที่คอยพิทักษ์คุ้มครองผู้คน เเฮร์รี่ เองก็เข้ารับตำเเหน่งออสการ์อย่างเป็นทางการ กลายเป็นประธานบริษัทกลุ่มยักษ์ใหญ่ที่มีอายุน้อยที่สุดในนิวยอร์ก

 

สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือสถานการณ์ตอนนี้เพียงเท่านั้น ทั้งสามคนได้พบกับเรื่องราวที่เหนือความคาดหมายจำนวนมาก เเต่สิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาต่อไปได้ก็คืออนาคต

 

เเต่เป็นเรื่องดีที่ทั้งสามคนกลับมารักษาความสัมพันธ์ดังเดิมได้ เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คล้ายกับเป็นฝ้นร้ายที่ผ่านพ้นไปเมื่อไม่นาน

 

ในใจกลางกรุงเมืองนิวยอร์กมีสำนักงานอาคารสูงหลายร้อยเมตรหลายเเห่ง สถานที่เหล่านี้เป็นที่ตั้งธุรกิจ เเละ บริษัท เป็นต้น ในห้องโถงอาคารเเห่งนึงในสำนักงานหรูหรา เยาวชนคนนึงได้เดินเข้ามา

 

ตึก ตึก

 

“คุณ คือ ทอม สมิธ เป็นเกียรติมากที่ได้พบคุณ”เยาวชนคนนึงที่เดินเข้ามาก็คือทอม ชายคนนึงในชุดสูทได้กล่าวถามเขาด้วยความสุภาพ

 

ชายสวมเสื้อผ้าสไตล์ตะวันตกที่เป็นเยาวชนนี้ เเท้จริงเเล้วคือทอม เพื่อนของ เเจ็คสัน ไม่คาดว่า คนจาก ครอบครัว สมิธ จะมาปรากฏตัวเเถวที่นี่

 

“ครับ”มองไปที่ชายใส่เสื้อผ้าสไตล์ตะวันตกอีกคนทอมตอบกลับเล็กน้อยเขาเองก็รู้สึกเเปลกใจเกี่ยวกับการต้อนรับเช่นนี้

 

“พวกเราไปกันเถอะ”ชายสวมใส่เสื้อผ้าตะวันตกอีกคนกล่าว

 

ทอมเองก็เดินตามหลังชายคนนี้เข้าไปในอาคาร

 

ตึก ตึก~

 

ทอมเข้าไปในลิฟต์ส่วนตัวพร้อมกับชายคนนี้ สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจก็คือพวกเขาไม่ได้ขึ้นชั้นบน เเต่ลงไปข้าล่าง ซึ่งเป็นชั้นใต้ดิน ชั้นที่ 6

 

ยิ่งไปกว่านั้นชั้นใต้ดินนี้มีมากกว่า 6 ชั้นอย่างเเน่นอน ไม่รู้ว่ามีใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ว่ามีสถานสิ่งปลูกสร้างถูกสร้างขึ้นที่ใต้ดิน ทอมที่เห็นเช่นนี้ ก็รู้สึกตกใจอย่างมาก

 

ฟุ่บ!

 

ทอมได้ลงมาถึงชั้นใต้ดินชั้นที่ 6 อย่างรวดเร็ว จากนั้นประตูก็เปิดออก ทอมได้เดินไปพร้อมกับชายคนนี้

 

ด้านหน้าลิฟต์เป็นทางเดินยาวรอบข้างเป็นห้องกระจกใส จนทอมสามารถมองเห็นเงาตัวเองสะท้อนทั้งสองด้าน นอกจากนี้ ในสถานที่เเห่งนี้ยังมีประตูห้องเเละมีห้องส่วนตัวติดอยู่

 

หลังจากสังเกตุโดยทั่วเเล้วสิ่งที่ทำให้ทอมประหลาดใจก็คือความสวยหรูของมัน

 

หลังจากเดินไปไม่นานตรงทางเดินมีห้องเล็กห้องนึง ชายสวมใส่เสื้อผ้าตะวันตกได้กดรหัสบางอย่างก่อนที่เครื่องจะทำงานเเละเปิดประตูห้องนี้ออก

 

จากนั้นทางด้านหน้าก็ถูกเปิดอีกครั้ง จุดหมายของพวกเขาคือห้องประชุมที่อยู่ด้านหน้านี้

 

“คุณทอม ได้โปรดรออยู่ที่นี่สักครู่ ผู้จัดการเจฟเฟอร์รี่ ติดธุระอยู่ครู่นึง คาดว่าไม่นานเขาจะออกมาต้อนรับคุณ”นำทอมไปที่ห้องประชุมเสร็จ ชายสวมใส่เสื้อผ้าสไตล์ตะวันตกกล่าวขึ้นเล็กน้อย

 

“อืม”ทอมกล่าวตอบเพียงเบา ๆ

 

“เช่นนั้นผมขอตัวก่อน นอกจากนี้ คุณทอม อย่าได้เดินเพ่นพ่านตามอำเภอใจ เพราะสถานที่บางเเห่งกลับเป็นสถานที่ที่อันตรายโปรดระวังถึงข้อนี้”เห็นการเเสดงออกของทอม ชายในชุดสไตล์ตะวันตกรู้สึกพึงพอใจ

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากนั้นเขาก็ปิดปประตูห้องเเละจากไป

 

“เห้อ,ฉันดูเหมือนคนแบบนั้นหรอไง?”หลังจากชายชุดสไตล์ตะวันตกจากไป ทอม รู้สึกโกรธเเละระบายออกมาเงียบ ๆ

 

ทอมได้ติดต่อองค์กรนี้มา เเละองค์กรนี้เองก็ให้ความสนใจกับเขา ดังนั้นทอมจึงต้องการเข้าร่วมองค์กรนี้ ทอมได้รู้ข้อมูลบางอย่างมา ว่าเพื่อนสนิทที่สุดของเขาคือ มิราจไนท์

 

นี่ทำให้ความคิดของทอมเปลี่ยนไป

 

ก่อนหน้านั้น ทอมเห็นเเจ็คสันโดดออกมาจากทางหน้าต่าง เพราะความอยากรู้เขาจึงตามเเจ็คสันไป เเต่หลังจากนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เขาไม่คิดเลยว่าเพื่อนสนิทที่สุดของเขาจะมีความลับที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้

 

เเต่ทอมก็รู้ว่าเเจ็คสันคงมีเหตุผลของตัวเอง ทอมไม่ได้วางเเผนจะบอกเรื่องนี้กับใคร กลับกันเขากลับรู้สึกดูถูกตัวเอง เขาไม่อาจเป็นอย่าง มิราจไนท์ได้ ดังนั้น ทอมจึงได้ติดต่อองค์กรลึกลับนี้ เพื่อต้องการจะเปลี่ยนเเปลงตัวเอง เขาอยากจะเป็นฮีโร่อย่างที่เพื่อนสนิทของเขาเป็น

 

เพื่อพิจารณาถึงเส้นทางของฮีโร่ที่อยู่ไกลเกินเอื้อมเขา เขาคงทำได้เพียงเเต่ถอดถอนหายใจออกมา

 

ฟุ่บ~~

 

ทอมที่อยู่ภายในห้องประชุมทันใดนั้นด้านหน้าของห้องประชุมกำเเพงลับบานนึงก็ได้ถูกเปิดขึ้น หลังจากกำเเพงลับนี้ถูกเปิดออก ชายวัยกลางคนหัวล้านก็เดินออกมาจากข้างใน

 

“สวัสดี,เจฟเฟอร์รี่” เห็นชายที่เดินออกมาจากด้านหลังกำเเพง ทอมรู้สึกตกใจก่อนที่จะกล่าวทักทายอย่างจริงจัง

 

“สวัสดี ทอม!”

หลังจากนั้นเเจ็คสันก็อธิบายสถานการณ์หลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทพปีศาจของเเฮร์รี่หรือปรสิตที่สิงสู่ปีเตอร์ที่ได้ถูกโทนี่เอาตัวไป

 

เพียงเเต่เขาไม่ได้บอกเกี่ยวกับรายละเอียดของกลุ่มปรมาจารย์เวทย์มนตร์เหล่านั้น เพราะมีความเป็นไปได้ที่ลึกลับของตัวตนเหล่านี้ พวกเขาคือตัวตนที่คอยระวังภัยพิบัติให้กับโลกอย่างลับ ๆ

 

“จริงสิ เเจ็คสัน ชุดสไปเดอร์แมนของฉันถูกกลืนกินโดยเวน่อมไปเเล้ว นายช่วยพูดให้คุณสตาร์กช่วยเหลือฉันในการสร้างชุดใหม่ได้หรือไม่?”ปีเตอร์ที่นอนอยู่บนเตียงรู้สึกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

ที่ปีเตอร์รู้สึกกังวลเรื่องนี้เป็นเพราะเขากลัวว่าโทนี่จะไม่สร้างชุดใหม่ให้กับเขา ด้วยเทคโนโลยีชุดสไปเดอร์แมนที่โทนี่ออกแบบให้มันทั้งเเข็งเเกร่งเเละช่วยเพิ่มความเเข็งเเกร่งของเขาให้มากขึ้นทีเดียว หากต้องกลับไปใช้ชุดธรรมดาแบบเดิมเขาไม่ต้องการมันเเน่นอน

 

“ฉันไม่คิดว่าคุณสตาร์กจะปฏิเสธเรื่องนี้เพียงเพราะต้องสร้างชุดสไปเดอร์แมนให้นายใหม่หรอก”เห็นปีเตอร์กังวล เเจ็คสันกล่าวตอบ

 

โทนี่เองก็รู้ว่าปีเตอร์ได้รับอิทธิพลจากเวน่อม เขาไม่สามารถโทษปีเตอร์ได้นอกจากนี้ เวน่อมยังอยู่ในมือของปีเตอร์ หากปีเตอร์กลับไปขอร้องเขา เเน่นอนว่าโทนี่ย่อมไม่อาจปฏิเสธในการสร้างชุดสไปเดอร์แมนให้เขาใหม่

 

“งั้นหรอ ฉันเชื่อนายเเจ็คสัน นอกจากนี้ คุณสตาร์กไม่รู้ใช่มั้ยว่านายคือมิราจไนท์? เพราะฉันจำได้ว่า คุณสตาร์ก รู้จักสถานะมิราจไนท์ของนาย”ปีเตอร์กล่าวถาม

 

“อืม,ฉันยังไม่ได้บอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้”เเจ็คสันกล่าวตอบความจริง

 

เเน่นอนว่าโทนี่ยังไม่รู้ว่าเเท้จริงเเล้วสถานะของเเจ็คสันคือมิราจไนท์หากเป็นไปได้เขาก็คิดจะปิดบังตัวตนต่อไปเเต่ด้วยสถานการณ์ที่บานปลายมาขนาดนี้คิดจะปิดให้มิดก็คงยากกว่าเดิม

 

“ฮ่าฮ่า,เช่นนั้นนายวางเเผนจะพูดเรื่องนี้กับคุณสตาร์กเมื่อไหร่?”ปีเตอร์รู้สึกสนใจ เขากำลังคิดท่าทีตอนที่เเจ็คสันสารภาพความจริงกับโทนี่

 

“ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์”เเจ็คสันยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาต้องการรักษาสถานะของตัวเองต่อ เพราะโทนี่เป็นคนที่มีอิทธิพลต่อสถานะของเขามากที่สุด

 

“เอาล่ะ ฉันเเค่สงสัยเฉย ๆ ว่า ถ้าคุณสตาร์ก รู้ว่านายคือมิราจไนท์ เขาจะทำท่าทียังไง”

 

“หึ,ดูเหมือนนายจะมีอาการดีใจผิดปกตินะวันนี้ ทั้งที่ใครก็ไม่รู้ก่อนหน้านี้ถูกควบคุมโดยเวน่อมเเละสร้างปัญหาให้กับคนอื่นไปทั่ว”เห็นปีเตอร์ยิ้มอย่างร่าเริง เเจ็คสันยั่วเล็กน้อย

 

“ชิ,นั่นก็เเค่อุบัติเหตุเล็กน้อย มันจะไม่เกิดขึ้นอีกอย่างเเน่นอน!”ปีเตอร์ยิ้มกล่าวอย่างจริงจัง

 

เมื่อเห็นเเจ็คสันเเละปีเตอร์คุยหยอกล้อกันเเฮร์รี่ได้ย้ายตัวมานั่งใกล้ ๆ พวกเขา ตอนนี้ทั้งสองคนถือเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาไม่ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้จะเกิดอะไรขึ้น เขาจะไม่คิดทบทวนย้อนกลับไป

 

เพราะสำหรับเเฮร์รี่ ทั้งเเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ต่างก็เป็นคนเหนือธรรมดากันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น สไปเดอร์แมน หรือ มิราจไนท์

 

“นี่,เเฮร์นี่ นายกำลังคิดอะไรอยู่หรอ ได้ยินเรื่องตลกที่ฉันเพื่อเมื่อครู่ไหม หรือว่ามันไม่ตลกกกัน?”เห็นเเฮร์รี่นั่งครุ่นคิดบางอย่างปีเตอร์ กล่าวพูดขึ้น

 

“อืม,ตลกดีนะ”เเฮร์รี่ไม่ได้สังเกตุเเละรับฟังคำพูดของปีเตอร์เมื่อครู่ เขาเพียงฉีกยิ้มตอบเพียงเท่านั้น

 

“จริงสิ เเฮร์รี่ ร่างกายของนายมีการเปลี่ยนเเปลงที่ผิดเเปลกไปจากเดิมหรือไม่ เพราะเท่าที่ฉันเห็นเเม้นายจะไม่มีเทพปีศาจสิงสู่ เเต่ร่างกายของนายกลับเหนือกว่าคนธรรมดามากนัก”เเจ็คสัน กล่าวถามทันที

 

“อืมฉันได้ฉีดยาฉีนรุ่นพิเศษที่ช่วยเพิ่มศักยภาพของร่างกาย อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับยายีนตัวเก่านั้นตัวนี้กลับพิเศษเเละให้ผลตอบรับที่ดีมาก”ได้ยินเเจ็คสันถาม เเฮร์รี่ ไม่ได้ปิดบังความจริง

 

ในฐานะตัวเเทนผู้นำกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพขนาดใหญ่ เซรุ่มไททันหมายเลข 1 ในตอนนี้ที่ทางบริษัทออสคอร์ปได้ทำการวิจัย มันสามารถช่วยเพิ่มศักยภาพให้กองทัพได้ โดยธรรมชาติเเม้จะอันตราย เเต่ในเเง่ของด้านอันตรายนั้นไม่สมควรพูดถึงเสียด้วยซ้ำ

 

“งั้นหรอ”ได้ยินคำตอบของเเฮร์รี่ ในที่สุดเเจ็คสันก็รู้ทันที

 

เนื่องจากความสำเร็จของปีเตอร์เเละดร.คอนเนอร์ส รวมถึง ทีมวิจัยของเเฮร์รี่ พวกเขาได้สร้างยายีนที่มีผลประสิทธิภาพทางอื่น ๆ ของร่างกายมนุษย์ ไม่เพียงเเต่ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บเพียงเท่านั้น ยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับร่างกายให้เเข็งเเกร่งขึ้นอีกด้วย

 

ต้องบอกว่าการศึกษาของออสคอร์ปตอนนี้ก้าวล้ำมาก ไม่เพียงเเต่มีส่วนสำคัญสำหรับประเทศนี้ เพราะยายีนของทางบริษัทออสคอร์ปนั้นมีค่าสำคัญกว่าชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ เพราะโทนี่ ไม่ได้ไว้วางใจส่งมอบชุดเกราะไอรอนแมนของเขาให้กับทางกองทัพดังนั้นทางกองทัพจึงไม่อาจดึงประสิทธิภาพของชุดเกราะออกมาได้อย่างสูงสุด

 

สำหรับเเฮร์รี่เขาสามารถเเพร่กระจายยาตัวนี้ออกไปได้ ภายใต้การทำงานของมันศักยภาพของมันจะเหนือล้ำเเละรุนเเรงยิ่งกว่าชุดเกราะไอรอนแมน

 

“เเฮร์รี่ นายเต็มใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องโลกนี้ด้วยกันหรือไม่?”หลังจากที่คิดไตร่ตรองเเจ็คสันกล่าวถามเเฮร์รี่อย่างจริงจัง

 

“ฉันงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ไม่ว่าเเฮร์รี่จะฉลาดเเค่ไหนก็ต้องเเปลกใจ

 

“ใช่,ใช้ความสามารถของนายเหมือนกับปีเตอร์ เขาได้กลายเป็นเพื่อนบ้านสไปเดอร์แมนสำหรับพวกเราเป็นฮีโร่สตรีทที่โด่งดังในนิวยอร์ก”

 

“เฮ้,ฉันชอบชื่อเพื่อนบ้านสไปเดอร์แมน ชื่อนี้จัง”ได้ยินเเจ็คสันกล่าว ปีเตอร์ กล่าวพูดเเทรก

 

“ฉันขอคิดดูก่อนได้รึไม่?”เพียงเเต่ว่า เเฮร์รี่ กลับต้องการเวลาสำหรับเรื่องนี้

 

“เเน่นอน,อย่างไรก็ตามพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเรายินดีต้อนรับนายเสมอ!”เเจ็คสัน กล่าวออกมา เเม้เขาจะไม่คิดว่าเเฮร์รี่จะปฏิเสธก็ตาม

 

“จริงสิเเฮร์รี่ เมื่อสองสามวันก่อน ทีมของเราได้รับสมาชิกคนนึงเข้ามา เขาเป็นเเฮกเกอร์มือฉมังที่มีเทคนิคที่ไม่ธรรมดาเลยเเหละ”เเจ็คสันกล่าวบอกปีเตอร์

 

“อะไรนะ?เเฮกเกอร์? ทำไมนายไม่บอกฉันเรื่องนี้เกี่ยวกับการรับสมาชิกเพิ่มเลยล่ะ?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ปีเตอร์กล่าวถามอย่างไม่พอใจ เพราะเเจ็คสันเหมือนไม่ได้เคารพสิทธิความคิดของเขา

 

“หรอ,ฉันจำได้ว่า ก่อนหน้านั้น นายตัดสายโทรศัพท์ของฉันไปไม่รู้กี่ครั้ง นายยังจำได้ไหม?”

 

“เอ่อ…เรื่องนี้”

ในห้องพยาบาลส่วนตัวของอุตสาหกรรมออสคอร์ป ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ จ้องมองมาที่ เเจ็คสัน ราวกับจะกลืนกินเขา เพราะ ตอนนี้ พวกเขารู้เเล้วว่า เเจ็คสัน คือ มิราจไนท์ ดังนั้น บางที เเจ็คสันอาจจะสามารถอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเขาก็ได้

 

“ก็ได้,ฉันเข้าใจเเล้ว”เห็นการจ้องมองของทั้งสองคน เเจ็คสัน ตะโกนขึ้นในใจ

 

“นี่ ,คุณมิราจไนท์ เเน่นอนว่า นายย่อมรู้บางสิ่งเกี่ยวกับพวกเราใช่ไหม โดยเฉพาะปรสิตที่ควบคุมฉัน?”ปีเตอร์ยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“ฉันเองก็เหมือนกัน ดูเหมือนสิ่งที่ควบคุมฉันก็หายไป บางทีนายสมควรรู้บางอย่างกระมั้ง?”เเฮร์รี่ ก็ยังถามเหมือนกับปีเตอร์

 

ปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ไม่ใช่คนโง่ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถคาดเดาได้ว่าสถานภาพผิดปกติของพวกเขาได้หายไปเเล้ว เเต่มันเพราะเหตุผลบางอย่าง

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขารู้สถานะที่เเท้จริงของเเจ็คสัน เเน่นอนว่า เเจ็คสันย่อมมีส่วนเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมถึงพวกเขามาปรากฏตัวที่ห้องผู้ป่วยในอุตสาหกรรมออสคอร์ปได้อย่างไร

 

“ฉันไม่ได้วางเเผนจะซ่อนความจริงเรื่องนี้หรอก เอาเป็นว่าฉันจะไล่เหตุการณ์เป็นลำดับเเล้วกัน”เผชิญหน้ากับการไต่ส่วนของทั้งสองคน เเจ็คสันพยายามจะอธิบายเป็นลำดับ

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ มองหน้ากัน ราวกับว่ากำลังต้องการฟังคำตอบจากเเจ็คสัน

 

“เอาล่ะ,พูดถึงเรื่องปีเตอร์ก่อน สิ่งที่ควบคุมเขาคือปรสิตจากต่างโลกมีชื่อว่า เวน่อม ลักษณะของมันทำหน้าที่เหมือนกับกาฝากโดยอาศัยร่างพาชนะเพื่อความอยู่รอด ในขณะเดียวกัน มันก็มอบความเเข็งเเกร่งให้กับโฮสต์เพื่อตอบสนองต่อตัวมัน เเต่ถ้าโฮสต์ที่มันควบคุมมีอารมณ์ทางด้านเชิงลบเข้ามาก ๆ มันจะกลืนกินโฮสต์เเละเข้าควบคุมร่างกายโดยสมบูรณ์”เเจ็คสันอธิบาย

 

“สิ่งนั้นเเท้จริงเเล้วคือปรสิตจากต่างดาว ไม่เเปลกใจที่มันจะควบคุมฉันจนสูญเสียเหตุผลของตัวเองไป”ได้ฟังคำอธิบายของเเจ็คสัน เกี่ยวกับเวน่อม ปีเตอร์รู้สึกกลัวจากส่วนลึก สำหรับเเฮร์รี่ เขาเองก็พอจะเดาได้เกี่ยวกับหัวข้อนี้

 

“เเน่นอนว่าสิ่งที่เผชิญหน้ากับเเฮร์รี่ในตอนนั้นก็คือเวน่อม เเต่ว่า เเฮร์รี่ เองก้ได้รับผลกระทบจากสิ่งที่อยู่ในร่างกายของเขาได้”หลังจากบอกเรื่องของปีเตอร์เเล้ว เขาก็พูดถึงเรื่องของเเฮร์รี่ต่อ เพราะเเฮร์รี่รู้ว่า ปีเตอร์ได้ฆ่าพ่อของเขา ดังนั้นเเฮร์รี่จึงบังเกิดจิตมืดในใจ

 

“สิ่งที่อยู่ในร่างกายของฉัน?มันคืออะไร หรือว่ามันจะคล้ายกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่นายบอกเมื่อครู่นี้?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน เเฮร์รี่ กล่าวถามอย่างเร่งรีบ

 

“อืม,สิ่งที่อยู่ในร่างกายของนายนั้นเเท้จริงเเล้วกลับตระหนักน่ากลัวกว่าเวน่อม เพราะมันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจเเละน่ากลัวที่สุด ปีเตอร์ เเฮร์รี่ พวกนายเชื่อทฤษฏีมิติจักรวาลจากโลกอื่นหรือไม่?”เห็นเเฮร์รี่ อยากรู้ เเจ็คสัน กล่าวบอกง่าย ๆ

 

“หืม?ทำไมถึงถามเช่นนี้ล่ะ ถ้าจะให้พูดตามตรง ฉันก็คิดว่ามีความเป็นไปได้”

 

“ฉันก็คิดเช่นนั้น เเม้ท้ายที่สุดพวกเราจะไม่ค้นพบอะไรก็ตาม”

 

หลังจากได้ยินคำตอบของทั้งสองคน เเจ็คสัน รู้สึกพึงพอใจ

 

หากเป็นคนอื่น พวกเขาจะกล่าวไม่เชื่อเกี่ยวกับทฤษฏีจักรวาลมิติจากนอกโลกอย่างเเน่นอน

 

“อืม,มันยังมีจักรวาลมิติอื่นอีกมายมายที่อยู่นอกโลกของเรา สิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวของเเฮร์รี่เเท้จริงเเล้วคือเทพปีศาจจากโลกอื่น บางทีนายอาจจะไม่เชื่อในเรื่องนี้ เเต่เทพปีศาจก็คล้ายอสูรตัวนึง มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าเกลียดน่ากลัวเป็นเผ่าพันธุ์ที่ชั่วร้าย”

 

“เทพปีศาจที่ฉันกล่าวถึงนี้ อาศัยอยู่คนละมิติกับเรา พวกมันต้องการจะปกครองโลกนี้ เเละยึดอารยธรรมของพวกเราให้ตกอยู่ภายใต้อาณัติของพวกมัน”เเจ็คสันกล่าวอธิบายต่อ

 

“เทพปีศาจจากต่างโลก?นี่มันเรื่องใหญ่ต่อขนาดไหนกัน ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ภายในร่างกายของฉันจะมีสิ่งแบบนั้นอาศัยอยู่”ได้ยินคำตอบเช่นนี้ เเฮร์รี่ รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

หากเป็นสิ่งมีชีวิตเช่นปรสิตจากต่างดาวของปีเตอร์ยังพอทำใจเชื่อได้บ้าง เเต่ เทพปีศาจ นี่มัน

 

“เเท้จริงเเล้วตัวที่สิงเเฮร์รี่ กลับร้ายกาจปานนั้น ไม่เเปลกใจที่ฉันรู้สึกเจ็บระบมไปทั่วทุกที่ เเฮร์รี่ นายรังเเกฉัน!!”ปีเตอร์กล่าวหยอกล้อทันที

 

“ฮ่าฮ่า,เเน่นอนว่า เวน่อม ไม่อาจนำไปเทียบกับ เทพปีศาจ ได้ เเต่บาดเเผลของนายไม่ใช่เป็นผลมาจากเเฮร์รี่ เป็นผลจากการกระทำของเวน่อมต่างหาก”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ เเจ็คสัน ยิ้มออกมา

 

“นายคิดว่านายได้รับบาดเจ็บเพียงคนเดียว?บาดเเผลของฉันที่ได้รับมานั้นก็เเทบไม่เเตกต่างไปจากนาย”เเฮร์รี่กล่าวประท้วงเล็กน้อยจนถึงตอนนี้เขายังรู้สึกเจ็บปวดอยู่เลย

 

“เอาล่ะ อย่าเถียงกันเลย มันไม่ใช่ความผิดของพวกนายทั้งคู่หรอก อย่าได้กล่าวโทษกันอีก นอกจากนี้ เเฮร์รี่ เรื่องที่ปีเตอร์ฆ่าพ่อของนายก่อนหน้านี้ ฉันคิดว่าเรื่องนี้ก็มีอิทธิพลของเทพปีศาจมาเกี่ยวด้วย”เห็นปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ทะเลาะกัน เเจ็คสัน กล่าวสอดขึ้น

 

เเม้ว่า หลังจากปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ตื่นขึ้นมา สิ่งเเรกที่พวกเขากล่าวกลับไม่ใช่เรื่องการฆ่านอร์แมน เเต่ถึงอย่างนั้นเเจ็คสันก็รู้ดีว่าในใจของพวกเขาได้หลีกเลี่ยงความจริงนี้อยู่

 

ได้ยินคำพูดของ เเจ็คสัน ทั้งสองคนตระหนักได้ทันที เเละ ตั้งใจฟังเเจ็คสันพูด

 

“เเฮร์รี่ นายรู้หรือไม่ เเท้จริงเเล้วทำไมพ่อของนายถึงได้กระทำแบบนั้นไป?”เห็นเเฮร์รี่เเละปีเตอร์ไม่พูดอะไร เเจ็คสันกล่าวถามออกมา

 

“นายจะบอกว่าพ่อของฉันถูกควบคุมโดยเทพปีศาจด้วยงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของเเจ็สัน เเฮร์รี่ กล่าวถามความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

“จริงจริงเเล้ว มันมีส่วนเกี่ยวข้องก่อน ลุงนอร์แมนในตอนนั้น ได้ถูกอิทธิพลของเทพปีศาจเข้าครอบงำ เเละมันได้ส่งผลรบกวนจิตใจของปีเตอร์ เพื่อให้ฆ่าลุงนอร์แมนในตอนนั้น”เเจ็คสันกล่าวความจริงออกมา

 

โดยธรรมชาติเเจ็คสันยังไม่ยืนยันเกี่ยวกับเรื่องนี้ เเต่เท่าที่ฟังจากปากของปีเตอร์เขาเชื่อว่าปีเตอร์ได้ถูกควบคุมโดยการบ่งการอารมณ์ชั่ววูบในตอนนั้น

 

“เช่นนั้นนายจะบอกว่าที่พ่อของฉันตายเเท้จริงเเล้วเป็นอุบัติเหตุ?”เห็นเเจ็คสันกล่าวพูดเช่นนี้ เเฮร์รี่ มองไปที่ ปีเตอร์

 

“เเฮร์รี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าลุงนอร์แมนในตอนนั้นจริงจริง เรื่องนี้สำหรับฉันเเล้วมันก็เปรียบกับฝันร้าย!”ปีเตอร์กล่าวตอบอย่างจริงจัง

 

“ดีฉันเชื่อนาย”ในที่สุดเเฮร์รี่ ก็เลือกที่จะเชื่อเพื่อนของเขา

 

“เช่นนั้นพวกเรายังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่ใช่ไหม?”ปีเตอร์กล่าวถามอย่างลังเลเเละจ้องมองไปที่เเฮร์รี่เเละเเจ็คสัน

 

“เเน่นอน พวกเรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน!”

 

“ใช่ เพื่อนที่ดีต่อกัน!”

หลังจากผ่านเหตุการณ์ต่อสู้กับเวน่อมเเละเทพปีศาจ พื้นที่บริเวณโบสถ์เเห่งนั้นได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากเเต่สิ่งที่เกิดขึ้นภายในมิติกระจกกลับไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโลกความเป็นจริง

 

เเม้ผู้คนจะเห็นชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากบินผ่านไปมาเเถวนั้น เเต่พวกเขาก็หาได้รู้ว่าเคยมีเหตุการณ์ต่อสู้ร้ายเเรงเกิดขึ้นที่นั่น

 

เเน่นอนว่าหลังจากที่โทนี่ได้รับเวน่อมมา เขาไม่ได้กล่าวพูดถึงเรื่องนี้ออกไป เวน่อมไม่ใช่สิ่งที่สามารถเเจ้งเกิดเหมือนธอร์ได้มันเป็นปรสิตจากต่างดาวที่ควรค่าเเก่การวิจัย นอกจากนี้โทนี่ยังไม่ต้องการเเบ่งปันข้อมูลนี้ให้กับ  S.H.I.E.L.D.

 

สำหรับเเจ็คสันเขาได้อยู่ดูเเลปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ที่โรงพยาบาล เเต่เขาได้เเจ้งกับครอบครัวของเขาว่าอยู่ฝึกพิเศษกับ โทนี่ สตาร์ก ไม่เพียงเท่านั้น เขายังโกหกป้าเมย์ ที่เป็นป้าของปีเตอร์ เพื่อไม่ให้เธอกังวลเกี่ยวกับปีเตอร์ ดังนั้นช่วงนี้ ปีเตอร์จึงยังไม่สามารถกลับบ้านได้

 

สำหรับคนของออสคอร์ปอาการบาดเจ็บของท่านประธานของพวกเขามีความน่าสงสัย เเม้จะคิดถึงจุดนี้ พวกเขาก็ทำได้เพียงเเต่ช่วยเหลือด้านการรักษาอย่างเต็มที่ บาดเเผลของเเฮร์รี่ทำให้ทีมนักวิจัยจำนวนมากต่างตกใจ เพราะเป็นที่รู้กันดีเกี่ยวกับร่างกายของเเฮร์รี่ว่าเเข็งเเกร่งขนาดไหนหลังจากได้รับเซรุ่มไททันหมายเลข 1 ดังนั้นจะมีสิ่งใดที่ก่อให้เกิดบาเเผลร้ายเเรงเช่นนี้ได้

 

หึ่ม

 

บนโซฟาห้องผู้ป่วยระดับ วีไอพี ในที่สุดร่างกายของเเจ็คสันก็ฟื้นคืนกลับมาอย่างเต็มที่ด้วยผลของ น้ำยาศักดิ์สิทธิ์ เเละความสามารถทางด้านร่างกายของเขา สำหรับปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ ดูเหมือนอาการของพวกเขาจะดีขึ้นคาดว่าจะตื่นในเร็ว ๆ นี้

 

“ฉันไม่รู้ว่าควรจะอธิบายต่อทั้งสองคนอย่างไรดี ฉันจะบอกว่าพวกเขาถูกโจมตี? ด้วยความเเข็งเเกร่งของ สไปเดอร์แมน เเละ เเฮร์รี่ บางทีฉันอาจกระทั่งไม่ใช่คู่มือของพวกเขา”เเจ็คสันมองไปที่เพื่อนสนิททั้งสองคนที่นอนหลับสนิทเขารู้สึกลังเล

 

เเจ็คสันไม่ต้องการจะเปิดปากยอมรับว่าเขาคือ มิราจไนท์ นอกจากนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าจะปกปิดสถานะนี้ได้หรือไม่ เพราะว่า เเฮร์รี่ เองก็ไม่ใช่คนโง่ เเต่ถ้าเขาออกปากยอมรับ การจะได้กรีนก็อบลิน หรือเพื่อนของเขามาร่วมทีมก็มีโอกาสที่สูง

 

“เอาล่ะ ถ้าหากสถานการณ์มันจวนตัวจริงจริง ฉันก็คงไม่มีทางเลือก”เเจ็คสันในที่สุดก็ยอมรับชะตากรรม

 

“หืม?สถานการณ์จวนตัวอะไรงั้นหรอ”เห็นเเจ็คสันพูดเสียงดัง ในขณะนั้นเองก็ปรากฏเสียงปีเตอร์ขึ้นดูเหมือนเขาจะตื่นเเล้ว

 

ฟุ่บ

 

ได้ยินเสียงของปีเตอร์ เเจ็คสัน รีบวิ่งที่ขอบเตียงผู้ป่วยทันที”ปีเตอร์ นายตื่นเเล้วงั้นหรอ! รู้สึกยังไงบ้าง?”เห็นปีเตอร์ตื่นขึ้นมาเเจ็คสันรู้สึกมีความสุข

 

“ฉันรู้สึกปวดหัวนิดหน่อยเเละเจ็บปวดระบมไปทั่วร่างกาย ฉันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง?”ปีเตอร์หลังจากตื่นขึ้นมาได้ยินคำถามของเเจ็คสัน เขาตอบตามความจริง

 

“นายจำไม่ได้หรอ?เกี่ยวกับสิ่งที่นายเผชิญก่อนหน้านี้”เเจ็คสันกล่าวถามปีเตอร์อย่างสนใจ เพราะปีเตอร์ถูกควบคุมโดยปรสิตเวน่อม ถ้าปีเตอร์ จำไม่ได้ เขาก็จะไม่รือฟื้นมัน

 

“เรื่องที่ฉันเจอ?ฉันเหมือนจะจำได้ลาง ๆ … เเฮร์รี่ ฉันรู้สึกเหมือนว่า…!”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ดูเหมือน ปีเตอร์จะสามารถรำลึกเกี่ยวกับ เวน่อมได้ เเม้ว่าจะได้รับอิทธิพลทำให้ความทรงจำเลือนลางเเต่ในเวลานั้น ดูเหมือนเขาจะพอนึกได้เป็นอย่างดีเเต่พอเห็นเเจ็คสันเขากลับต้องกลืนคำพูดลงไป

 

“ปีเตอร์ นายไม่จำเป็นจะต้องปิดบังอะไรเเล้วล่ะ ฉันรู้ว่า นายคือสไปเดอร์แมน”เห็นการเเสดงออกของปีเตอร์ดูเหมือนตั้งใจจะปิดบังเขา เเจ็คสันยิ้มออกมา

 

“หืม?เเจ็คสัน นาย…นายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง!”ได้ยินคำพูดของเพื่อนสนิทคนนี้ ปีเตอร์กลายเป็นระวังทันที ตั้งเเต่เมื่อไหร่กันที่สถานะของเขาถูกเปิดเผย

 

“ปีเตอร์ไม่สำคัญว่านายจะเป็นใคร ไม่ว่าอย่างไรฉันก็อยู่เคียงข้างนายเสมอ”จ้องมองรูปลักษณ์ของปีเตอร์ที่เปลี่ยนไปเเจ็คสันกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“เคียงข้างฉัน? ไม่สิ่ นายรู้ได้ยังไง หรือว่า นายคือความฝันของฉันตอนนี้?”ปีเตอร์กล่าวอย่างกังวล

 

“ฮ่าฮ่า,นายจะบ้าหรอ, ฉันคือ มิราจไนท์ สไปเดอร์แมน นี่คือไม่ใช่ครั้งเเรกที่นายได้ยินชื่อนี้”เเจ็คสันยิ้มออกมาพร้อมกับปรากฏชุดสูทภูติมายาอย่างรวดเร็ว เเละ ท้ายที่สุดมันก็หายไป

 

อั๊กก

 

“นี่…ให้ตายเถอะ มิราจไนท์! ไม่เเปลกใจที่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเขาเป็นคนใกล้ตัว ที่เเท้นายคือมิราจไนท์!”เห็นการเปลี่ยนเเปลงของ เเจ็คสัน ปีเตอร์พูดขึ้นอย่างตกใจ

 

“ในฐานะรุ่นพี่ฉันก็ทำได้เเต่พูดความจริงกับนาย!”ได้ยินปีเตอร์มีอาการเช่นนี้ เเจ็คสัน พูดล้อเลียน

 

“จริงสิ เเฮร์รี่,หลังจากฉันถูกควบคุม ฉันจำได้ว่าฉันได้ต่อสู้กับเเฮร์รี่เเละทำร้ายเขา”เมื่อรู้ว่าเเจ็คสันคือมิราจไนท์ ปีเตอร์ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องปิดบังอีกต่อไป

 

“อืม,เเฮร์รี่ก็นอนอยู่ข้าง ๆ นายนั่นเเหละ”เห็นปีเตอร์กังวล เเจ็คสัน กล่าวบอก พร้อมกับบอกให้ปีเตอร์หันไปที่อีกด้านนึงที่เตียงใกล้ ๆ เขา

 

เพียงเเต่ว่าเวลานั้นพวกเขาทั้งคู่กลับรู้สึกเเปลกใจ

 

เพราะเมื่อปีเตอร์ เเละ เเจ็คสัน หันไป  ดูเหมือนเเฮร์รี่ จะตื่นขึ้นมาเเล้ว

 

“ฮ่าฮ่า,เเฮร์รี่ นายเองก็ตื่นเเล้วหรอ?”เห็นเเฮร์รี่จ้องมองไปที่ปีเตอร์ เเจ็คสัน กล่าวทักทายด้วยท่าทีเขินเล็กน้อย

 

“สไปเดอร์แมน? มิราจไนท์? ดูเหมือนเพื่อนสนิททั้งสองคนของฉันจะมีด้านที่ปกปิดเอาไว้เหมือนกัน”เห็นปีเตอร์เเละเเจ็คสัน เเฮร์รี่ พูดออกมาเล็กน้อย

 

“เรื่องนี้…เเฮร์รี่ นายไม่เป็นอะไรนะ? ฉันจำได้ว่าก่อนที่ฉันจถูกควบคุมโดยบางสิ่งบางอย่าง ฉันได้ทำให้นายบาดเจ็บ”ปีเตอร์เกาหัวถามออกมา

 

“อืม,ฉันเองก็ต้องการจะถามนายเหมือนกัน ฉันได้ถูกควบคุมโดยบางอย่าง เเละ ต่อสู้กับปรสิตตัวนึง ฉันเองก็กังวลว่านายจะได้รับบาดเจ็บ”เเฮร์รี่ พูดขึ้น

 

ดูเหมือนการสนทนาของทั้งคู่จะดูเฉยชากว่าที่คิดทั้งเรื่องสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งคู่ต่างไม่ชัดเจน ได้ยินคำพูดของ เเฮร์รี่ เเละ คำพูดของปีเตอร์ ทั้งสองคนเหมือนจะจำได้เพียงเเค่เหตุการณ์ลาง ๆ

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เบนสายตามาทางเเจ็คสันที่เป็นเพื่อนคนนึงที่ซ่อนสถานะตั้งเเต่เเรกเเละอาจจะรับรู้ถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

หลังจากผ่านไปสิบนาทีเเจ็คสันเเละโทนี่ก็ต้องประหลาดใจ เพราะทัศนียภาพโดยรอบเริ่มจะพังทลายลง เหล่าปรมาจารย์เวทย์พวกนั้นได้เปิดประตูมิติขึ้นเเละได้หายตัวไปอย่างรวดเร็ว

 

ตอนนี้พวกเขาได้ออกจากมิติกระจกเเละกลับสู่โลกเเห่งความเป็นจริงเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้ เวน่อม ก็ได้ถูกส่งมอบให้กับโทนี่ สำหรับ เเฮร์รี่ เเละ ปีเตอร์ พวกเขาทั้งคู่ยังคงนอนหมดสติอยู่

 

“ฉันจะเคลียร์สถานที่พื้นที่นี้เอง คุณ นำเด็กสองคนนี้ไปก่อนเเล้วกัน”มองเห็นไอรอนแมนสี่ตัวที่อยู่ไม่ไกลนัก โทนี่ กล่าวพูดกับ มิราจไนท์

 

“อืม,ฉันได้เเจ้งให้ เดดพูลมาเเล้ว คาดว่าเขาน่าจะมาถึงเร็ว ๆ นี้”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันตอบรับ

 

ปรสิตได้ถูกนำออกจากร่างของปีเตอร์ เทพปีศาจเองก็ถูกขับไล่จากร่างของเเฮร์รี่ภายใต้การจัดการของเอนเชี่ยนวัน ปัจจุบัน เเฮร์รี่ เเละ ปีเตอร์ น่าจะสามารถฟื้นฟูตัวขึ้นได้ตามปกติ เพียงเเต่ว่าไม่รู้ว่าพวกเขาจะหมดสติไปอีกนานเท่าไหร่ เเจ็คสันเชื่อว่าหากพวกเขาตื่นขึ้นมาตอนนี้คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างเเน่นอน

 

“อืม,เช่นนั้นฉันขอตัวก่อนล่ะ ถ้าหากคุณต้องการศึกษา เวน่อม ให้มาที่บ้านพักริมทะเลของฉัน บ้านของฉันพร้อมต้อนรับคุณเสมอ”หลังจากจัดเเจงเรื่องการเก็บกวาดพื้นที่เสร็จ

 

“เเน่นอน,ไว้ฉันจะหาเวลาไป”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันพยักหน้าตอบ

 

“เช่นนั้นไว้เจอกัน,มิราจไนท์”ได้ยินการตอบกลับ โทนี่บอกลาพร้อมกับส่งชุดเกราะไอรอนแมนของเขาลอยขึ้นไป

 

เงยหน้ามองโทนี่จนหายไป วิสัยทัศน์ของเเจ็คสันกลายเป็นสงบอีกครั้ง เขาได้ติดต่อ เพื่อนของเขาผ่านทางสมอลทอร์ค ที่ติดที่ข้างหู

 

“เดดพูล ,นายจะมาถึงที่นี่หรือยัง หากนายยังชักช้าอยู่ล่ะก็ ฉันจะให้นายตอบเเทนสำหรับความล่าช้าอย่างเเน่นอน”เเจ็คสันตะโกนบอกอย่างรวดเร็ว

 

“ฉันกำลังจะไปถึง,คุณรู้หรือไม่ว่าฉันต้องใช้เวลาเดินทางมากขนาดไหนกัน”ได้ยินคำพูดของ มิราจไนท์ เดดพูลกล่าวตอบอย่างเร่งรีบ

 

ฟุ่บ!

 

เมื่อคิดถึงการเดินทางของเดดพูล เเจ็คสันถอนหายใจออกมา เพราะเดดพูลมักจะเดินทางด้วยรถเช่า ซึ่งต่างจากเขาที่มาที่นี่ด้วยชุดเกราะไอรอนแมน

 

ฟุ่บ!

 

“หืม,นั่นใช่ชุดเกราะไอรอนแมนหรือไม่?”หลังจากลงจากรถ เดดพูล เห็นชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวที่ถูกทิ้งอยู่บนพื้น

 

“อย่าได้สนใจเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ชุดเกราะไอรอนแมนพวกนี้ รอให้ คุณ สตาร์ก ส่งทีมมาเก็บกู้ภายหลัง”เห็นเดดพูล ประหลาดใจ เเจ็คสันกล่าวออกมา

 

“ดูเหมือนพวกคุณจะเผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่ดุเดือดมาเมื่อไม่นานนี้”เห็นชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวเสียท่า เดดพูล กล่าวพูดขึ้นเล็กน้อย

 

ในสถานการณ์ตอนนี้ เดดพูล กลับกล้าพูดล้อเล่นออกมา เขาชั่งเป็นคนไม่รู้จักาลเทศะจริงจริง เเต่เเจ็คสันไม่ได้คิดอะไร เขาไม่ได้สนใจการกระทำของเดดพูล

 

“หืม?เเล้วเด็กสองคนนี้?หรือว่าพวกเขาตกเป็นเหยื่อของเหตุการณ์ครั้งนี้?”เดดพูลไม่เคยเห็นหน้าของปีเตอร์ เเล้วชุดของปีเตอร์เอง ก็ถูกเวน่อมย่อยสลายไปหมดเเล้ว

 

“เอ่อ…เอาเป็นว่าช่วยฉันพาเขาขึ้นรถก่อนเเล้วกัน พวกเขาได้รับบาดเจ็บ จะต้องรีบนำส่งการรักษา”เห็นเดดพูล ไม่รู้จัก ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ เเจ็คสันไม่ได้วางเเผนจะอธิบาย

 

“ได้…ได้.. ไม่คาดคิดว่าฉันเดดพูล จะพลาด ศึกต่อสู้อันหนักหน่วงไป น่าเสียดายจริงจริง”เดดพูลได้กล่าวออกมาอย่างเสียดาย

 

“ถ้าหากนายรู้ว่าพวกเราต้องเผชิญหน้ากับอะไร นายจะไม่พูดแบบนี้ออกมา เเม้เเต่ฉันรวมถึงชุดเกราะไอรอนแมนก็ยังไม่เพียงพอจะเป็นคู่มือมัน”เเจ็คสันอธิบายเพียงเล็กน้อย

 

ได้ยินมิราจไนท์อธิบายเดดพูลรู้สึกสงสัย”งั้นหรอ?เเสดงว่าฉันโชคดีมากนะสิ่?”เเม้เขาจะไม่เข้าใจทุกคำพูดของมิราจไนท์ เเต่เดดพูล ก็เป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อคนง่าย เขาไม่เชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะตึงมือเขา

 

“เอาเถอะ เรื่องในวันนี้ เอาเป็นว่าปล่อยผ่านมันไปก่อน ด้วยความเเข็งเเกร่งของพวกเราตอนนี้ ยังมีเรื่องราวบางอย่างที่เราไม่สมควรไปยุ่งอยู่”หลังจากอุ้มร่างปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ขึ้นรถ เเจ็คสันกล่าวพูดทิ้งท้าย

 

“ก็ได้ ฉันจะเชื่อคุณ เเล้วพวกเราจะนั่งกันยังไงเนี่ย?”หลังจากยกปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ขึ้นรถเสร็จ ดูเหมือนตำเเหน่งที่นั่งจะไม่เพียงพอให้เขาเเละมิราจไนท์นั่ง

 

“ฉันจะนั่งเบียดข้างหลังเอง”เเจ็คสันไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาตั้งใจจะอยู่ดูเเลปีเตอร์เเละเเฮร์รี่บาดเจ็บอยู่ในตอนนี้

 

“เช่นนั้นก็ตามที่คุณว่า”เดดพูลได้เข้าไปนั่งที่เบาะด้านหน้าเเละกล่าวออกมา

 

“ไปเลย บาทู!”เดดพูลตบไหล่ของสหายของเขาเเละตะโกนขึ้น

 

บรื้น ~ ~

 

ไม่รู้ว่าคนขับรถคนนี้ยอมรับพฤติกรรมของเดดพูลได้อย่างไร ต้องยอมรับในความสงบสเงี่ยมของเขาจริง ๆ

 

หลังจากพวกเเจ็คสันจากไปไม่ถึง 5 นาที บนท้องฟ้าก็ได้ยินเสียงดังกระหึ่มจำนวนมากดึงขึ้น ชุดเกราะเหล็กไอรอนแมนได้ปรากฏตัวอีกครั้ง ดูเหมือน โทนี่ จะส่งชุดเกราะเหล็กไอรอนแมนของเขามาเก็บชุดเกราะที่ถูกจัดการที่นี่

 


หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง เเจ็คสัน ได้ปลดสถานะมิราจไนท์ของเขาออก เเละ ไปเยี่ยม เเฮร์รี่ เเละ ปีเตอร์ ที่โรงพยาบาลวีไอพีของออสคอร์ป ในนิวยอร์ก

 

เหตุการณ์ในครั้งนี้ เเจ็คสัน ไม่ได้วางเเผนว่าเพื่อนทั้งสองคนของเขาจะรับรู้สถานะมิราจไนท์ของเขาหรือไม่

 

เพียงเเต่ว่าหากพวกเขารู้เกรงว่าเขาเองก็คงช่วยไม่ได้ เพียงเเต่ ตัวตนอย่างปรสิตจากต่างดาวเเละเทพปีศาจจากนอกโลก ดูเหมือนจะเป็นเรื่องร้ายเเรงที่สำคัญ มันจะดีกว่า หากเเจ็คสันให้ความสนใจเรื่องราวเหล่านี้ให้มากขึ้น

 

ภายใต้การรักษาของโรงพยาบาลชั้นนำ อาการของเเฮร์รี่ เเละ ปีเตอร์ สามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว ดูเหมือนร่างกายของพวกเขาจะเเข็งเเกร่งมาก อีกอย่างต้องให้ เครดิต กับปีเตอร์ เเละ ดร.คอนเนอร์ส เกี่ยวกับตัวยารักษา ดูเหมือนว่ามันจะช่วยให้ทั้งสองคนฟื้นตัวได้ดีขึ้นมาก

 

เเจ็คสันเองก็ต้องการเวลาพักผ่อนสำหรับตัวของเขา ก่อหน้านี้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก เเต่เพราะได้รับการช่วยเหลือจากน้ำยาศักดิ์สิทธิ์ มันเลยช่วยรักษาอาการบาดเจ็บหลายส่วนของเขา

 

สงครามในครั้งนี้ ไม่เพียงเเต่มี สไปเดอร์แมน ตัวตน เทพมารนอกโลก,เวน่อม ปรสิตจากต่างดาว กรีนก็อบลิไอรอนแมน รวมถึงพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ พวกจอมขมังเวทย์โบราณ

 

คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เเจ็คสันรู้สึกอัดอั้นที่หัวใจ เขารู้สึกอยากจะเเข็งเเกร่งขึ้น เเข็งเเกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม มีเพียงเเต่เขาเเข็งเเกร่งขึ้นเท่านั้น จึงจะสามารถปกป้องคนรอบตัวของเขาได้ ในโลกที่มหัศจรรย์ อย่างโลกมาร์เวลนี้ เเจ็คสันไม่อาจใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขอีก เขามีความคิดที่จะเปลี่ยนเเปลงตัวเองอย่างเเรงกล้า

เห้อ ~ ~

 

“ท้ายที่สุดสงครามก็จบเสียที!”เห็นการกระจายตัวของหมอกสีดำโดยสมบูรณ์ เเจ็คสันถอนหายใจออกมา

 

พลังของเอนเชี่ยนวันปรมาจารย์เวทย์โบราณนั้นทำให้เเจ็คสันรู้สึกตกใจอย่างเเท้จริงความเเข็งเเกร่งของคนคนนี้สามารถกำจัดพลังงานชั่วร้ายได้เพียงชั่วครู

 

“เขาเเข็งเเกร่งจริงจริง,คุณรู้จักเขางั้นหรอ?”โทนี่กล่าวถาม มิราจไนท์

 

“อืม,ฉันคิดว่าฉันรู้จักเขา เเต่ก็ไม่ได้รู้จักกันในฐานะคนรู้จักกันจริงจริงหรอก”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสัน กล่าวตอบตามจริง

 

“งั้นหรอ? ดูเหมือนคุณจะรู้จักคนจำนวนมากจริงจริง”เห็นเเจ็คสันรู้จักปรมาจารย์เวทย์ลึกลับคนนี้ โทนี่ รู้สึกสงสัยเเต่ก็ไม่ได้ซักถาม

 

“ปัญหาใหญ่ก็ถูกคลี่คลายไปเเล้ว เช่นนั้นพวกเราจะจัดการเวน่อมอย่างไรต่อดี?”เห็นมิราจไนท์ไม่มีท่าทีสนใจจะตอบอีก โทนี่ กล่าวพูดถึงสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขา

 

นักบวชที่เป็นปรมาจารย์เวทย์ทั้ง 6 คนได้สร้างโลกมิติกระจกขึ้นมา เเละ เวน่อม ก็ถูกผนึอยู่ข้างในอีกด้านนึง เพียงเเต่ เเจ็คสัน เเละ โทนี่ ได้ร่วมมือกันผนึกกำลังจัดการเทพปีศาจตัวนั้นก่อน ได้ยินเสียงเตือนของโทนี่ ดูเหมือนเเจ็คสันจะนึกขึ้นได้ถึงหน้าที่ภารกิจหลักของเขา

 

“จริงสิ,สไปเดอร์แมน!”เเจ็คสันกวาดสายตาไปยังตำเเหน่งของเวน่อมที่ติดอยู่ อย่างไรก็ตาม เวน่อมในตอนนี้ ถูกขังโดยเหล่าปรมาจารย์เวทย์พวกนั้น ดังนั้น เเจ็คสันจึงต้องการจะช่วยเหลือปีเตอร์ออกมา

 

“ดูเหมือนพวกเขาคงมีคำพูดบางอย่างจะสนทนากับพวกเราเป็นเเน่”เห็นมิราจไนท์กำลังครุ่นคิดโทนี่กล่าวอธิบาย

 

“หืม?”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันมองเห็นจากพื้นที่ระยะไกล ปรมาจารย์เวทย์คนนึงได้ลอยตรงมาหาพวกเขา

 

“!”เเจ็คสันวางเเฮร์รี่ลงที่พื้นอย่างระวังเขาลุกขึ้นยืนเดินไปข้างหน้าพร้อมกับโทนี่

 

“สวัสดี,ข้า เอนเชี่ยนวัน!”เห็นทั้งสองคนเดินมาทางเขา เอนเชี่ยนวันกล่าวเเนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้ม ปรมาจารย์เวทย์คนอื่น ๆ ก็ติดตามเขามาข้างกาย เพียงเเต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

 

“สวัสดี,ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ได้ท่านช่วยจัดการเรื่องเมื่อครู่ รู้สึกขอบคุณท่านมาก ฉัน มิราจไนท์”เเจ็คสันกล่าวออกมาเมื่อเผชิญหน้ากับเอนเชี่ยนวันปรมาจารย์เวทย์โบราณ เเม้จะเป็นเขาก็รู้สึกได้ถึงเเรงกดดันจากภายในใจ

 

“สวัสดี,เอนเชี่ยนวัน ฉันโทนี่ สตาร์ก”ด้านหลังเเจ็คสัน โทนี่ เองก็กล่าวเเนะนำตัว

 

“หืม?คุณมิราจไนท์ คุณรู้จักพวกเรางั้นหรอ?”ได้ยินมิราจไนท์เรียกเขาว่าปรมาจารย์ เอนเชี่ยนวันกล่าวถามด้วยความสงสัย

 

“เพียงได้ยินมาเล็กน้อย ฉันรู้ว่าคุณมีหน้าที่พิทักษ์โลกเพื่อไม่ให้ถูกรุกรานโดยตัวตนเช่นเทพปีศาจหรือตัวตนนอกรีตจากนอกโลก”เผชิญหน้ากับคำถามของเอนเชี่ยนวัน เเจ็คสัน กล่าวตอบตามจริง

 

“ดูเหมือนคุณพอจะรู้จักสถานะของพวกเราจริงจริง คุณมิราจไนท์ อัศวินผู้พิทักษ์นิวยอร์กผู้ลึกลับ”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ เอนเชี่ยนวันกล่าวด้วยรอยยิ้ม อย่างไรก็ตาม เเจ็คสัน เเละ โทนี่ หลังจากได้ฟังความหมายนี้ เขาไม่รู้ว่าเอนเชี่ยนวันเเท้จริงเเล้วมีเจตนาอะไรกันเเน่

 

“เเน่นอนว่า คุณ สตาร์ก,ไอรอนแมน ผู้โด่งดังเอง ตัวข้าก็รู้จักเช่นเดียวกัน”เอนเชี่ยนวันเบนหน้าไปทางโทนี่โลกน้อย

 

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน,ท่านรู้จักพวกเรา?”ได้ยินเอนเชี่ยนวันบ่งบอกสถานะของพวกเขา เเจ็คสันถามอย่างประหลาดใจ

 

“เเน่นอน,เเม้ว่าพวกเราจะใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนเเละไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก เเต่เรื่องข่าวสารพวกเราเองก็ได้รับมันตลอด”เห็นข้อสงสัยของมิราจไนท์ เอนเชี่ยนวันกล่าว

 

“เเท้จริงเขา…”ได้ยินคำตอบของ เอนเชี่ยนวัน เเจ็คสันอมยิ้มในใจ

 

“เอ่อ…ท่านปรมาจารย์เมื่อครู่นี้ที่เราเผชิญ เเท้จริงเเล้ว คือเทพปีศาจจากนอกโลกจริงงั้นหรอ?”ในขณะนั้นเอง โทนี่ ที่รู้สึกอึดอัดใจได้กล่าวถามออกมา

 

เเม้ว่าโทนี่จะได้ฟังจากบางมิราจไนท์ถึงข้อมูลบางส่วน เเต่การถามผู้เชี่ยวชาญโดยตรงย่อมดีกว่า เเละเมื่อครู่ โทนี่ สังเกตุเห็นพวกเขาใช้เวทย์มนต์โจมตีกลุ่มหมอกดำนั่น โทนี่ รู้สึกสงสัย ว่านั่นจะใช่เวทย์มนตร์จริงหรือไม่ เพราะเวทย์มนตร์นั้นขัดต่อหลักของเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์สิ่งนี้ไม่สามารถอธิบายถึงการคงอยู่ของเวทย์มนตร์ได้

 

“เป็นเช่นนั้น~ อย่างที่พวกคุณทราบ มันไม่ได้มาจากโลกนี้ ทั้งยังลอบเข้ามาที่โลกนี้ผ่านรอยเเยกมิติทั้งยังสิงสู่ร่างของสหายพวกคุณเป็นพาชนะในการชักนำพลัง”เผชิญหน้ากับคำถามของโทนี่ เอนเชี่ยนวันกล่าวตอบตามจริง

 

“ที่เเท้โลกนี้กลับยังซุกซ่อนความลับอีกมายมาย ฉันคิดว่าเรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องลึกลับที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้”ได้รับคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญโทนี่ ถอนหายใจทันที

 

คำตอบของเอนเชี่ยนวัน ได้ตอบโทนี่ อ้อม ๆ เกี่ยวกับ ทฤษฏี มิติจักรวาลอื่น ที่อยู่นอกโลก เดิมเขาไม่เชื่อเรื่องนี้ เเต่เมื่อเห็นตัวตนอย่างเหล่าปรมาจารย์เวทย์พวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นโลกคู่ขนานหรือจักรวาลมิติอื่น เขาก็คงทำได้เเต่ยอมรับ

 

“โลกนี้มีความซับซ้อนมากกว่าที่คุณคิดนัก เเต่คนธรรมดาเช่นพวกคุณน้อยคนนักที่จะสามารถเข้าถึงความลึกลับเหล่านี้ได้”ได้ยินคำตอบของโทนี่ เอนเชี่ยนวัน กล่าวยิ้ม

 

“อืม,ใครจะคาดคิดว่าจะมีเรื่องเช่นนี้อยู่ด้วย ตัวฉันในสองเดือนก่อน เป็นเพียงเศรษฐีเพลย์บอยที่มีพลังอย่างเรียบง่ายโดยการใช้เทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์มาประยุกต์”โทนี่ ถอนหายใจออกมา ได้ยินคำโอ้อวดที่เกี่ยวกับ ฐานะ เศรษฐีเเละอำนาจพลังอย่างเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์ พวกเขาทำได้เพียงเเต่หัวเราะในใจ

 

“ท่านปรมาจารย์,สหายของท่านได้ผนึกสิ่งมีชีวิตนอกโลกตัวนึงเอาไว้มันเป็นปรสิตรูปแบบนึงจากต่างดาวเเละมันได้สิงสู่เพื่อนของฉัน ท่านพอจะช่วยเขาได้ไหม?”เห็นโทนี่ ถอนหายใจเป็นครั้งที่สอง เเจ็คสัน กล่าวขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว

 

“อืม,เเม้ว่าปรสิตจากต่างดาวตัวนี้จะเหนือการคาดหมายของพวกเราเเละพวกเราจะไม่เข้าไปยุ่ง อย่างไรก็ตาม เราก็มาถึงที่นี่เเล้ว เช่นนั้นพวกเราจะช่วยเรื่องนี้อย่างเเน่นอน”ได้ยินคำขอเล็กน้อยของ มิราจไนท์ เอนเชี่ยนวัน กล่าวตอบ

 

“ขอบคุณ!อันที่จริงเรามีวิธีที่จะรับมือกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกนี้ เพียงต้องการความช่วยเหลือจากท่านเล็กน้อย”

 

เห็นเอนเชี่ยนวันยินยอมตกลงเเจ็คสันกล่าวอย่างตื่นเต้น

 

“อืม”เอนเชี่ยนวันกล่าวพวกเขาทั้งหมดได้ย้ายไปยังตำเเหน่งที่กักขังเวน่อมอยู่

 

หลังจากผ่านไปหลายนาที เวน่อม ได้ถูกคลื่นพลังเสียงจากชุดเกราะไอรอนแมนทั้งสองปลดปล่อยออกมาจนกระตุ้นเเยกจากร่างของปีเตอร์ หลังจากมันถูกขับออกมา เอนเชี่ยนวัน ก็เริ่มจัดการโดยเปลี่ยนใช้เป็นผนึกรูปแบบโซ่ตรวนกักขังมันไว้

 

“พวกคุณมีเเผนที่จะจัดการมันเช่นไรต่อหรือไม่?หากไม่เเล้วข้าจะกำจัดมันทิ้งไปเสีย”หลังจากช่วยเหลือปีเตอร์เสร็จ เอนเชี่ยนวัน ที่กักขังเวน่อมอยู่ เขากล่าวถามออกมา

 

“เรื่องนี้…”เดิมเเจ็คสันตั้งใจจะกำจัดเวน่อมหลังจากที่ขับไล่มันออกมาได้เเต่เขาจำได้ว่าโทนี่ได้บอกกับเขาว่าสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวตัวนี้มีค่าเเก่การวิจัย

 

“เอ่อ..ปรมาจารย์,คุณมีวิธีที่จะทำให้มันสงบลงชั่วคราวรึไม่?เดิมฉันต้องการจับตัวมันไปทำการวิจัยหากท่านไม่รังเกียจ…”เห็นเเจ็คสันกล่าวลังเลบอกเอนเชี่ยนวัน โทนี่ ได้กล่าวเปิดปากพูด

 

“เเน่นอน,เช่นนั้นขอมอบหน้าที่นี้ส่งต่อให้คุณเเล้วกัน”เอนเชี่ยนวันไม่ได้ปฏิเสธคำขอของโทนี่ เขาได้บิดกระตุกร่างของเวน่อมยื่นส่งไปที่โทนี่

หึ่ม!

 

ภายใต้ความประหลาดใจของเเจ็คสันในพื้นที่มิติกระจกปรากฏประตูมิติอวกาศขึ้นหลังจากนั้นบุรุษวัยกลางคนก็ปรากฏตัวออกมาเขาคือนักเวทย์โบราณคนนึง

 

“หืม?”เห็นบุรุษวัยกลางคนปรากฏตัวออกมาจากพื้นที่ประตูมิติเเจ็คสันอ้าปากค้างด้วยความตกใจ บุรุษวัยกลางคนนี้มีกลิ่นอายพลังที่ไม่ธรรมดาทั้งยังเเตกต่างจากบรรพบุรุษของจอมขมังเวทย์ที่เขาเคยดู เขาไม่ทราบว่าเเท้จริงเเล้วบุรุษวัยกลางคนคนนี้จะใช่คนเดียวกับที่เขารู้จักหรือไม่

 

“ท่านเอนเชี่ยนวัน!”เห็นการปรากฏตัวของบุรุษวัยกลางคนนี้ในพื้นที่มิติกระจกเหล่านักบวชเวทย์หลายคนต่างตะโกนขึ้นด้วยความดีใจ ได้ยินเช่นนั้น เเจ็คสันพลันคาดเดาได้ในทันที

 

เพียงเเต่ว่าเอนเชี่ยนวันกลับไม่ได้ตอบสนองเขาจ้องมองไปที่กลิ่นอายหมอกสีดำที่ยังคงเหลืออยู่เล็กน้อย

 

“เอนเชี่ยนวัน!”ในที่สุดเทพปีศาจก็เรียกชื่อนี้ออกมา เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักบุรุษวัยกลางคนคนนี้ เพราะบุรุษวัยกลางคนคือบรรพชนที่พิทักษ์โลกเเห่งนี้่มานานหลายร้อยปี

 

“ดูเหมือนเจ้าจะรู้จักข้าเเต่เจ้าก็ยังกล้าบุกมาที่โลกเเห่งนี้?”หลังจากได้ยินเสียงเทพปีศาจเรียกชื่อเขา เอนเชี่ยนวัน กล่าวพูดในที่สุด

 

“เอนเชี่ยนวัน! อย่าได้หยิ่งผยองเกินไป เเม้ว่าชื่อเสียงของเจ้าจะใหญ่ค้ำฟ้า เเต่ข้าหาได้มีความหวาดกลัวต่อเจ้าหรือโลกของเจ้าไม่ ดูเหมือนว่าเจ้าจะเริ่มเเก่ตัวลงมากเลยทีเดียว”เผชิญหน้ากับเอนเชี่ยนวัน เทพปีศาจไม่ได้เปิดเผยความหวาดกลัว เเน่นอนว่าเขาอาจจะไม่ใช่คู่มือของเอนเชี่ยนวัน

 

“หืม?ถ้าหากเจ้าคิดว่าข้าเเก่ตัวลงเเละคิดจะใช้โอกาสนี้ฉวยมาที่โลกเเล้วล่ะก็เจ้าคิดผิดเลยหละ”ได้ยินคำพูดของเทพปีศาจเอนเชี่ยนวันกล่าวตอบ

 

“โฮกก!”เห็นท่าทีของเอนเชี่ยนวัน เทพปีศาจได้คำรามออกมาเล็กน้อย

 

!

 

การคำรามนี้ยังคงเเฝงไปด้วยการโจมตีที่หนักหน่วงศรทมิฬสีดำได้พุ่งออกไปยังเหล่านักบวชเวทย์เหล่านั้น

 

เพียงเเต่ว่าก่อนที่ฝูงศรปีศาจทมิฬจะพุ่งเข้าหาเหล่านักบวช เอนเชี่ยนวันก็ขยับกายเล็กน้อยปรากฏโล่ห์ยักษ์สีทองตั้งตระหง่านเเละป้องกันการโจมตีเหล่านั้นเทียบกับความเเข็งเเกร่งของโล่ห์ของพวกนักบวชเวทย์เหล่านั้นโล่ห์นี้กลับเเข็งเเกร่งกว่ามาก

 

ปั้ง!

 

ทันทีที่ศรทมิฬกระทบเข้ากับโล่ห์สีทองขนาดใหญ่พลังงานของมันก็เเตกดับกระจายหายไปในที่สุด ต่อเบื้องหน้าโล่ห์สีทองของเอนเชี่ยนวัน การโจมตีนี้เเทบจะไร้ผล

 

ดูเหมือนโล่ห์สีทองจะไม่ได้รับความเสียหายเเม้เเต่น้อย

 

“ความสามารถของเจ้ามีเพียงเท่านี้?เช่นนั้นตาข้าบ้างละ”เอนเชี่ยนวันโบกมือเล็กน้อย

 

จากนั้นเเสงสีทองก็ปรากฏออกมาจากร่างของเขาพุ่งเข้าหาเทพปีศาจอย่างรวดเร็ว

 

เปรี้ยง

 

เผชิญหน้ากับเเสงสีทองขนาดใหญ่เทพปีศาจได้เผยกลิ่นอายพลังงานต้านทานการโจมตีของเอนเชี่ยนวันเเต่ดูเหมือนว่าด้านกำลังของเขาจะด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

 

“เอนเชี่ยนวัน!!”เทพปีศาจคำรามออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดูเหมือนเขาจะไม่ใช่คู่มือของเอนเชี่ยนวัน

 

เเน่นอนว่าเทพปีศาจได้สูญเสียพลังก่อนหน้านี้จนเเทบจะมลายหายไปทั้งสิ้น เเละยิ่งต้องมาเผชิญหน้ากับ เอนเชี่ยนวันที่สมบูรณ์พร้อมเขาย่อมไม่ใช่คู่มือ

 

“เอนเชี่ยนวัน,เจ้าอย่าได้ใจเกินไป เจ้าเองก็รู้ว่าข้าเป็นใคร ข้าจะทำให้โลกของเจ้าตกอยู่ภายใต้หายนะของข้า!”เห็นเเสงสีทองพุ่งโจมตีกดดันเขา เทพปีศาจตะโกนขึ้นอย่างกราดเกรี้ยวเเม้ในคำพูดเหล่านั้นจะเเฝงไปด้วยความเมตตา เเต่หากคิดในอีกเเง่นึงเทพปีศาจกำลังข่มขู่เอนเชี่ยนวัน

 

“เจ้าคงจะหมายถึงอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังของเจ้า?ข้าไม่สนใจมัน นอกจากนี้ ตั้งเเต่ที่เจ้าลอบเข้ามาที่โลกของข้า ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะไม่กำจัดเจ้า”ได้ยินคำพูดข่มขู่ของเทพปีศาจ เอนเชี่ยนวัน กล่าวตอบอย่างดุร้าย

 

เปรี้ยง!

 

ลำเเสงสีทองสามสายได้พันธนาการเงาสีดำที่หลงเหลือเพียงน้อยนิดกลางอากาศ

 

“เอนเชี่ยนวัน,อย่าได้บีบบังคับข้า!”เห็นกลุ่มพลังงานของตัวเองถูกปิดผนึกเทพปีศาจส่งเสียงร้องออกมาอย่างรุนเเรงไม่นานความผันผวนก็ปรากฏออกมาจากกลุ่มหมอกสีดำอีกครั้ง

 

หึ่ม!

 

เห็นความผันผวนปรากฏขึ้นในรูปแบบของหลุมมิติสีดำ เเจ็คสัน เเละ โทนี่ รู้สึกสั่นด้วยความกลัว เพราะเขารู้อิทธิพลของกลุ่มหลุมมิติสีดำดี พลังงานเเห่งความมืดได้ปะทุออกมาในรูปแบบของหลุมมิติสีดำอีกครั้ง

 

“หืม?เจ้าคิดจะหลบหนี?”เอนเชี่ยนวันกล่าวออกมา

 

ปั้ง

 

เอนเชี่ยนวันได้พุ่งการโจมตีระเบิดไปที่หลุมดำอย่างรวดเร็ว ร่างของเทพปีศาจที่หลงเหลือเพียงน้อยนิดได้ถูกทำลายอีกครั้งในที่สุดหลุมดำก็เเตกกระจายหายไป

 

“ดูเหมือนเจ้าจะกล้าหาญมากที่มาท้าทายข้าถึงที่ที่โลกเเห่งนี้”หลังจากทำลายเส้นทางหลบหนีของเทพปีศาจ เอนเชี่ยนวันไม่ต้องการจะเสียเวลาพูดกับเขาอีกต่อไป

 

หึ่ม!

 

รังเเสงสีทองจำนวนมากได้ล้อมรอบเทพปีศาจอีกครั้งจนบีบให้เทพปีศาจตรงลงสู่ท่ามกลางเเสงสีทอง

 

“เอนเชี่ยนวัน,ท่านเรเยส จะต้องเเก้เเค้นให้กับข้า โลกจะต้องตกเป็นของพวกเรา!”ท้ายที่สุดลำเเสงสีทองก็พุ่งเข้ากำจัดกลุ่มหมอกทมิฬสุดท้ายของเทพปีศาจ

 

ปั้ง!

 

ร่างจำเเลงของเทพปีศาจทั้งหมดเเตกสลายหายไปในที่สุดกลิ่นอายพลังเเห่งความมืดก็ถูกกำจัดออกไปจนหมดสิ้นไม่หลงเหลือเเม้เเต่เศษเสี้ยวพลัง

 

“เรเยส?ดูเหมือนว่าข้าจะต้องเตรียมพร้อมเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับ สหายเก่าคนนี้!”ได้ยินชื่อจากเทพปีศาจเกี่ยวกับบุคคลผู้นึง เอนเชี่ยนวันย่นคิ้วเล็กน้อยเเละบ่นพึมพัมกับตัวเอง

 

เห็นเอนเชี่ยนวันกำจัดเทพปีศาจตนนี้ไปได้นักบวชทั้ง6คนที่ซ่อนตัวอยู่พวกเขาได้หายตัวไปปรากฏตัวขึ้นข้าง ๆ กายของ เอนเชี่ยนวัน

 

เปรี้ยง!

 

ในระหว่างที่เผชิญหน้ากับเทพปีศาจเหล่านักบวชทั้ง 6 คนไม่ได้ให้ความสนใจกับด้านข้างของสนามรบจนไม่ได้สังเกตุเห็นทั้งสองบุคคลที่เเทบจะไร้ความสำคัญเพียงเเต่ในขณะนั้นเองกลับปรากฏการโจมตีบางอย่างพุ่งเข้ามา

 

คลื่นพลังของปืนใหญ่พลังงานเเละลำเเสงอสนีพิฆาตหมุนเกลียวเป็นวงพุ่งไปที่หลุมดำทมิฬดูเหมือนมันจะชนเข้ากับพื้นที่มิติหลุมดำ

 

“นั่นพวกเขาทั้งสองคนเป็นคนของเรางั้นหรอ?”เห็นการโจมตีจากทั้งสองคนที่เบี่ยงเบนความสนใจของเทพปีศาจนักบวชทั้ง 6 คนกล่าวพูดกับตัวเอง

 

นี่คือมิติกระจก คนธรรมดาทั่วไป หากหลุดเขาไปในมิตินี้คงทำได้เพียงเเต่ซ่อนตัว ดังนั้น นักบวชทั้ง 6 คน จึงไม่สนใจ เเจ็คสัน เเละ โทนี่ พวกเขาได้เข้ารับเผชิญหน้ากับเทพปีศาจโดยตรง

 

อย่างไรก็ตามปืนใหญ่พลังงานเเละลำเเสงอสนีพิฆาตของทั้งสองคนกลับพุ่งเข้ามาด้วยคลื่นพลังงานที่น่าตกใจหากเป็นเหล่านักบวชพวกนั้นที่เป็นคนรับมือกับพลังงานดั่งกล่าวเกรงว่าคงไม่สามารถทำไเ

 

“การโจมตีของพวกเขาได้ผลหรือไม่?”เหล่านักบวชจ้องมองไปที่หลุมดำยักษ์อีกครั้ง การโจมตีของ เเจ็คสัน เเละ โทนี่ หลังจากเข้าปะทะก็หายโดยการดูดกลืนของหลุมดำ

 

ไม่เพียงเเต่เหล่านักบวชเวทย์เท่านั้นที่รู้สึกกระวนกระวายเเม้เเต่โทนี่เเละเเจ็คสันที่อยู่ขอบสนามรบก็หวังว่าการโจมตีของพวกเขาจะประสบความสำเร็จ

 

อย่างไรก็ตามไม่เพียงเเต่เหล่านักบวชเวทย์เท่านั้นที่ตกใจเเม้เเต่เทพปีศาจเองก็ถูกกระตุ้นให้หยุดการโจมตีอย่างต่อเนื่องจนหันศีรษะไปยังตำเเหน่งที่ถูกโจมตี

 

ปุ๊~ ~ ~

 

ปั้ง

 

ปั้ง

 

หลังจากที่เทพปีศาจยักษ์ตัวนี้หันหน้าไปทางนั้นหมอกสีดำก็บังเกิดเสียงเเปลก ๆ ดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนราวกับมีอะไรระเบิดขึ้นอยู่ภายใน

 

“โฮกกก!!”ได้ยินเสียงการเปลี่ยนเเปลงของหลุมดำเทพปีศาจเงยหน้ามองขึ้นอย่างตื่นตะลึง

 

ปึ้ง!

 

ภายใต้การเปลี่ยนเเปลงหมอกสีดำที่ก่อร่างเป็นรูปร่างของเทพปีศาจเริ่มสั่นคลอนเล็กน้อยก่อนที่กลุ่มหมอกสีดำจะเริ่มกระจายตัวออกจากกัน

 

การระเบิดขึ้นในช่องมิติหลุมดำนั้นดูเหมือนจะเป็นปัจจัยบางอย่างที่สำคัญในการสลายร่างเเละทำให้รูปลักษณ์ของเทพปีศาจสั่นคลอนเงาร่างสีดำท้ายที่สุดก็เเตกกระจายเเละถูกดูดกลับเข้าไปในหลุมดำอย่างต่อเนื่อง

 

คลื่น!!!

 

เเฮร์รี่ที่อยู่ใจกลางหมอกสีดำได้ร่วงหล่นลงมาที่พื้น เพียงเเต่เหล่านักบวชพวกนั้นไม่ได้ให้ความสนใจสิ่งที่พวกเขาสนใจก็คือการเปลี่ยนเเปลงของเทพปีศาจ

 

ท้ายที่สุดหลุมมิติสีดำก็เริ่มจางลง หลงเหลือเพียงเเต่ร่างของเเฮร์รี่ที่ไม่ได้สติ เเจ็คสันที่เห็นเเฮร์รี่ถูกควบคุมโดยหมอกสีดำเเละเพิ่งจะหลุดจากพันธนาการเขารู้สึกใจร้อนอย่างมาก เขาได้พุ่งทะยานชุดเกราะไอรอนแมนออกไปในทันทีโทนี่ ที่เห็นเช่นนั้นก็พุ่งตามไปเช่นเดียวกัน

 

ด้วยเพียงระยะทางเเค่ 100 กว่าเมตร เเจ็คสันในชุดเกราะไอรอนแมน ได้เข้าใกล้สู่พื้นที่กลางสมรภูมิ เขาต้องการพุ่งลงไปเพื่อช่วยเหลือเเฮร์รี่

 

“เเฮร์รี่! เเฮร์รี่!”เเจ็คสันตะโกนออกมาอย่างระมัดระวัง

 

ดูเหมือนเเฮร์รี่จะบาดเจ็บภายในหลังจากถูกยึดร่างโดยเทพปีศาจ ก่อนหน้านี้เขาราวกับบุรุษหนุ่มที่เเข็งเเกร่งเเต่ตอนนี้ร่างกายของเเฮร์รี่กลับอ่อนเเอลงอย่างมาก

 

“ไม่…J.A.R.V.I.S สเเกนร่างกายของเขาได้รึไม่?”เเจ็คสันตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว

 

“ไม่มีปัญหาครับ,คุณมิราจไนท์!”ไม่ต้องรอให้ โทนี่ สั่งการ J.A.R.V.I.S ควบคุมชุดเกราะไอรอนเเมนหมายเลข 10 ก้าวไปข้างหน้าเพื่อสเเกนร่างกายของเเฮร์รี่

 

ลำเเสงได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากดวงตาบนหน้ากากก่อนที่จะกระทบร่างของเเฮร์รี่ตั้งเเต่หัวจรดเท้า

 

“ผลการตรวจสอบสิ้นุสุด,ได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนเเรง อาการอยู่ในอันตราย ควรได้รับการปฐมพยาบาลโดยด่วน”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว เเน่นอนว่านี่ไม่ใช่ข่าวที่ดี

 

“เวรเอ้ย!”ได้ยินผลตรวจสอบของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสัน กำกำปั้นเเน่น ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งใช้น้ำยาศักดิ์สิทธิ์หมดไป เเต่เขาก็ยังพอมีคะแนนที่สามารถเเละน้ำยาศักดิ์สิทธิ์ได้หนึ่งขวดพอดี เเต่เเจ็คสันไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะสามารถรักษาเเฮร์รี่ได้หรือไม่

 

“J.A.R.V.I.S ใช้สารกระตุ้นอะดรีนาลีน เเละตัวยาพิเศษที่ได้รับมา S.H.I.E.L.D.”เห็นมิราจไนท์กังวลโทนี่เปิดหมวกของเขาเเละกล่าวขึ้น

 

ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่จัดว่าเป็นเทคโนโลยีระดับสูง โทนี่ ได้ฝังเซรุ่มรักษาเบื้องต้นเพื่อให้รอดพ้นจากขีดอันตรายได้เพราะโทนี่เชื่อว่าวันใดวันนึงเขาอาจจะประสบอุบัติเหตุดังนั้นเขาจึงได้ฝังเทคโนโลยีรักษานี้ไปในชุดเกราะของเขา

 

ไม่เพียงเเต่ชุดเกราะไอรอนแมนจะเป็นเทคโนโลยีอาวุธปฏิบัติการระดับสูง มันยังสามารถช่วยเหลือชีวิตคนได้ นี่คืออาวุธสงครามที่สามารถช่วยเหลือผู้คนได้เป็นอย่างดี

 

“ครับเจ้านาย!”ชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 10 ได้ขยับ พร้อมกับเหยียดเเขนกลข้างขวายื่นออกไป

 

ฟุ่บ!

 

เเขนกลด้านขวาของชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 10 ปรากฏเข็มขนาดเล็กขึ้น เจาะไปที่เเขนของเเฮร์รี่ ดูเหมือน J.A.R.V.I.S ตั้งเป้าจะทำการฝังเข็ม

 

หลังจากผ่านไปหลายวินาที สารกระตุ้นอดรีนาลีน เเละ เซรุ่มพิเศษของ S.H.I.E.L.D. ได้ถูกฉีดเข้าไปในร่างของเเฮร์รี่ ได้รับตัวยาทั้งสองนี้ J.A.R.V.I.S ได้ทำสเเกนร่างกายอีกครั้ง

 

“ขอบคุณ,คุณสตาร์ก!”เห็นสภาพของเเฮร์รี่เริ่มฟื้นฟูกลับมา เเจ็คสัน กล่าวขอบคุณโทนี่

 

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

 

“เจ้านายครับตรวจสอบพื้นที่ความผันผวนอีกครั้ง”ในขณะที่เเจ็คสันกำลังจะกล่าวอะไร J.A.R.V.I.S ก็พูดเตือนขึ้น

 

“อืม,โลกมิติกระจกนี้กำลังจะพังทลาย”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ เเละ เเจ็คสัน พูดออกมาอย่างประหลาดใจ

 

พวกเขาได้พุ่งเข้ามาหาเเฮร์รี่โดยไม่ได้สังเกตุการคงอยู่ของนักบวชทั้ง 6 คน เพราะหลังจากเทพปีศาจได้หายไปพวกเขาก็ไม่ได้สังเกตุรอบข้างเเม้เเต่น้อย

 

“ไม่…ไม่ใช่ มันคือ…”หลังจากเเจ็คสันสังเกตุดูอีกครั้งเขาพบกับเเสงสีเหลืองทองที่ลอยอยู่กลางอากาศภายในมิติกระจก เขาตะโกนขึ้นอย่างประหลาดใจ

“ตายซะ,ผู้พิทักษ์โลก!”ศรปีศาจทมิฬได้ปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงคำรามของเทพปีศาจพุ่งเข้าใส่นักบวชเวทย์เหล่านั้นอีกครั้ง

 

เปรี้ยง!

 

ตกเป็นเป้าหมายของศรเวทย์ทมิฬนักบวชเวทย์เหล่านี้โบกมืออย่างเร่งรีบเพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นที่ส่งพลังงานเหล่านั้นไปยังสถานที่อื่น หากพวกเขารั้งเผชิญหน้ากับการโจมตีของเทพปีศาจเช่นนี้ต่อเกรงว่าอีกไม่นานก็คงจะพ่ายเเพ้เป็นเเน่

 

“ไม่ดีเเล้ว! มันวางเเผนที่จะเดินทางมาที่โลกของเรา!”เห็นเงาร่างปีศาจที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนักบวชคนนึงตะโกนขึ้น

 

ถ้าเป็นเพียงเเค่ร่างเงาเทพปีศาจนั้นอาศัยเพียงมิติกระจกเเห่งนี้พวกเขาอาจจะรวมกำลังผนึกมันได้ เเต่ถ้าหากร่างเทพปีศาจตัวจริงมาถึงมิติกระจกคงไม่อาจฉุดรั้งมันเอาไว้ได้อยู่เมื่อเวลานั้นมาถึงโลกจะถูกครอบงำเเละเต็มไปด้วยการทำลายล้างทันที

 

เเม้ว่าพวกนักบวชเวทย์เหล่านี้จะเข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันเเต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ ยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีจากศรปีศาจทมิฬก็ทำให้สหายของพวกเขาทั้งสองบาดเจ็บ การเผชิญหน้ากับร่างจำเเลงเทพปีศาจนั้นดูเหมือนจะเกินมือพวกเขาไปมาก

 

ปั้ง

 

ปปั้ง

 

ภายใต้การโจมตีของร่างจำเเลงเทพปีศาจนักบวชหลายคนพยายามหลีกเลี่ยง มิติกระจกเเห่งนี้สั่นสะเทือนอย่างไม่หยุดยั้งราวกับกำลังจะพังทลายลงมา

 

เทพปีศาจนั้นตั้งใจจะทำลายมิติกระจกเเห่งนี้ เเต่ด้วยพลังของเขาในตอนนี้เกรงว่าคงจะลำบากหน่อย เพราะร่างที่ยืมมานั้นคือร่างของเเฮร์รี่ ตอนนี้เขาได้ควบคุมร่างนี้เอาไว้ เเต่ก็ยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์พร้อม

 

หากร่างของเทพปีศาจจำเเลงมาที่นี่ด้วยตัวตนที่สมบูรณ์พร้อม ร่างของเเฮร์รี่ก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้งานอีกต่อไป

 

 

กึก กึก กึก

 

มิติกระจกที่มีศูนย์กลางคือเทพปีศาจในสถานที่เเห่งนี้ ทุกพื้นที่ต่างเต็มไปด้วยพลังงานคลื่นความผันผวนที่ยากจะหยั่งถึง ในขณะเดียวกัน เบื้องหน้าของ เเจ็คสัน ก็ปรากฏชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่

 

“ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าพอจะรู้สถานการณ์ของมิติเเห่งนี้ ถ้าฉันเดาไม่ผิดพวกเขากำลังใช้เวทมนตร์กันอยู่ใช่รึไม่ สถานการณ์ตอนนี้มันบานปลายจนเเทบจะหยุดไม่ได้เเล้ว”โทนี่ที่ลงมาที่เบื้องหน้าของมิราจไนท์เขาเปิดหมวกเเละกล่าวพูด

 

โทนี่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้น่าอัศจรรย์เกินไป นอกจากนี้ มิราจไนท์ ยังพอรู้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้ สิ่งที่เขาสงสัยก็คือพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเเฮร์รี่ตอนนี้มันได้ห่อหุ้มร่างของเเฮร์รี่เเละจำเเลงออกมาในรูปแบบของปีศาจ

 

“อืม,เท่าที่ฉันรู้มาในโลกของเรามีกลุ่มอิทธิพลลึกลับกลุ่มนึง พวกเขาได้ตัดขาดจากโลกภายนอก เเละคอยเฝ้าระวังความปลอดภัยของโลกเราอย่างลับ ๆ ไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะปรากฏตัวขึ้นที่นี่ เเต่ดูจากสถานการณ์พวกเขากำลังเสียเปรียบ เดิมทีพวกเขาควรจะมีคนที่เเข็งเเกร่งกว่านี้”เเจ็คสันที่จ้องมองสถานการณ์เบื้องหน้าเขากล่าวพูดวิเคราะห์สถานการณ์

 

เท่าที่เขารู้มาเขาจำได้ว่าในกลุ่มอิทธิพลนี้มีเหล่าปรมาจารย์เวทย์ที่เเข็งเเกร่งมากกว่า ในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดเชื้อสายโบราณในอดีต เเต่ที่ปรากฏขึ้นในตอนนี้นั้นเเทบจะไม่ใกล้เคียงกับที่เเจ็คสันคาดหวังเอาไว้

 

“ให้ตายเถอะ,หากพวกนักบวชเวทย์พวกนั้นไม่สามารถจัดการกับเพื่อนคนนี้ของเราได้เกรงว่าเเม้เเต่เราก็คงเเย่ไปด้วย”ได้ยินคำพูดของ มิราจไนท์ โทนี่ ได้เเต่ทำใจ

 

ตอนนี้หากนับสิ่งที่พวกเขามีอยู่ก็คือชุดเกราะไอรอนแมน 2 ตัว โทนี่รู้ดีว่าเทคโนโลยีของพวกเขาเกรงว่าอาจจะไม่สามารถจัดการกับเพื่อนคนนี้ได้ เเม้จะระเบิดเตาพลังงานปฏิกรอาร์คที่เป็นการโจมตีที่รุนเเรงที่สุดก็ตาม ผลลัพธ์ก็อาจจะเเค่ระเบิดพื้นที่ไปได้หลายส่วน

 

“นี่มันไม่ดีเลย,เเม้พวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เเต่เพื่อนเเฮร์รี่คนนี้เองก็ยังคงตกอยู่ในอันตราย”เห็นเเฮร์รี่ถูกควบคุมโดยเทพปีศาจ เเจ็คสัน ตะโกนออกมา

 

ฟุ่บ!

 

เห็นมิราจไนท์วางเเผนจะทำบางอย่างโทนี่ได้กล่าวขึ้น

 

“มิราจไนท์ฉันคิดว่าคุณควรจะอยู่เฉย ๆ ดีกว่า พวกเราเองก็มีกฏของพวกเรา สถานการณ์ในตอนนี้ใช่ว่าพวกเราจะสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้”โทนี่ ได้ยืนขวางด้านหน้าของมิราจไนท์

 

เเม้ว่ามิติกระจกเเห่งนี้จะเป็นโลกคู่ขนานในโลกเเห่งความเป็นจริงเพราะการเปลี่ยนเเปลงโดยนักบวชเวทย์พวกนั้นเเต่ตัวตนของพวกเขาก็ยังคงเป็นร่างจริงหากพวกเขาพลาดตายขึ้นมาในสถานที่เเห่งนี้เกรงว่าพวกเขาคงไม่อาจรอดกลับไปได้

 

“ฉันไม่สามารถทนดูเเฮร์รี่เป็นแบบนี้ได้ ฉัน…”เเจ็คสันกล่าวออกมาเพียงเเต่เขาก็ชะงักคำพูดไป

 

“ก็ได้,เช่นนั้นเราจะเข้าไปด้วยกัน เเต่พวกเราจะไม่เข้าใกล้จุดศูนย์กลางสมรภูมิเเห่งนั้น!”โทนี่ รู้ดีว่าท้ายที่สุดเขาก็คงไม่อาจห้ามมิราจไนท์ได้

 

“อืม,เห็นหลุมดำนั่นไหม ฉันคิดว่ามันคือเเหล่งพลังงานบางอย่าง ตราบเท่าที่มันถูกทำลายบางทีมันอาจจะช่วยเปลี่ยนวิกฤติในตอนนี้ก็เป็นได้”เห็นหลุมดำบางอย่างที่ด้านหน้าของพวกเขา เเจ็คสัน กล่าวออกมา

 

“ฉันเองก็คิดเช่นนั้น เเต่คุณมีความสามารถโจมตีระยะไกลรึไม่?”โทนี่ กล่าวถาม

 

เขารู้ดีว่าดาบของมิราจไนท์สามารถปล่อยพลังงานเวทมนตร์ออกมาได้ เเต่ก็ไม่สามารถโจมตีเป้าหมายที่อยู่ในระยะไกลเกินไป นอกจากนี้พวกเขายังไม่ต้องการเข้าไปยังอิทธิพลที่เป็นศูนย์กลางของพื้นที่สมรภูมิ ดังนั้นพวกเขาจะต้องอยู่ห่างจากเป้าหมายอย่างน้อย 100 เมตร

 

“มี! เพียงเเต่ว่าฉันต้องการความช่วยเหลือจากชุดเกราะไอรอนแมน”ได้ยินคำพูดของ โทนี่ เเจ็คสัน กล่าวตอบอย่างมีความหวัง

 

“จะให้ฉันช่วยอะไร?”

 

“ฉันจะเลียนแบบพลังงาน!”เเจ็คสันกล่าวออกมาพร้อมกับเผยดาบเก้าอสนีของเขา

 

หนึ่งนาทีต่อมา เเจ็คสัน พร้อมกับดาบอสนีของเขา เเละ โทนี่ ได้พุ่งเข้าใกล้สนามรบอย่างช้า ๆ

 

พวกเขาได้อยู่ห่างจากตำเเหน่งสมรภูมิประมาณ 100 เมตร ซึ่งอยู่เหนืออิทธิพลของการโจมตีด้วยเวทมนตร์ของคนเหล่านั้น

 

“คุณพร้อมใช่มั้ย?”เห็นมิราจไนท์มีท่าทีกังวลโทนี่กล่าวถาม เขาจำได้ว่า ดาบเก้าอสนีของมิราจไนท์สามารถดูดซับพลังงานของเตาปฏิกรณ์อาร์คได้ ซึ่งมันเองก็ทำให้เขาประหลาดใจเพราะ ด้วยตัวดาบที่ธรรมดาเช่นนี้กลับมีพลังเเฝงเร้นที่น่ากลัว

 

“พร้อม!”เเจ็คสันกล่าวออกมาเขากำชับดาบเก้าอสนีในมือเเน่น

 

“เช่นนั้นก็เริ่มกันเถอะ! สาม ~ สอง ~ หนึ่ง ~ J.A.R.V.I.S เปิดใช้พลังงานลำเเสงปืนใหญ่พลังงาน 100%!”

 

“รับไปซะ,สายฟ้าสังหาร!”

 

ฟุ่บ!

 

เปรี้ยง

 

ภายใต้การตะโกนพร้อมกันของโทนี่เเละเเจ็คสัน ลำเเสงสีม่วงเเละลำเเสงสีขาวก็ได้หลอมรวมกันพุ่งเข้าไปในใจกลางสนามรบ

“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?ไม่ใช่ว่าฉันขอให้คุณซ่อนตัวอยู่ข้างนอก?”โทนี่ได้เชื่อมต่อสื่อสารกับไอรอนแมนหมายเลข 10

 

“คุณสตาร์ก?,อ่า เป็นเพราะฉันกังวลมากเกินไป เลยเผลอเข้ามายังที่นี่ คุณเองก็อยู่ในมิติกระจกนี้ด้วยงั้นหรอ?”ได้ยินเสียงของโทนี่ เเจ็คสันกล่าวตอบอย่างเเปลกใจ

 

เดิมทีเขาคิดว่าโทนี่ได้ซ่อนตัวอยู่ไม่คาดว่าจะถูกส่งเข้ามาในมิติกระจกด้วยเหมือนกัน

 

“อืม,ไม่ใช่ว่าคุณได้รับบาดเจ็บงั้นหรอ สถานการณ์ของคุณเลวร้ายมากคุณไม่ควรจะขยับตัว”โทนี่ กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

 

“เดี๋ยว,คุณบอกว่ามิติกระจก คุณพอจะรู้สถานการณ์ในตอนนี้ใช่หรือไม่?”ได้ยินคำพูดส่งท้ายของเเจ็คสัน โทนี่ พูดถึงมิติกระจกขึ้นมา เเสดงว่าพวกเขาอยู่ในมิติกระจกที่เป็นโลกคู่ขนาน

 

“อืม,ฉันพอจะรู้นิดหน่อย นอกจากนี้อาการบาดเจ็บของฉันดีขึ้นเเล้ว หากคุณไม่เชื่อลองให้ J.A.R.V.I.S ตรวจสอบสถานะกายภาพของฉันดูว่ายังมีส่วนบาดเจ็บอยู่อีกรึไม่”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันกล่าวตอบอย่างรวดเร็วก่อนที่จะปิดโหมดอำพรางของชุดสูทภูติมายา

 

“เข้าใจเเล้ว J.A.R.V.I.S ทำการสเเกนสภาพร่างกายบาดเเผลของมิราจไนท์”โทนี่ กล่าวสั่งการทันที

 

“ครับเจ้านาย!”ชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 10 ได้ฉายรังสีโปร่งเเสงออกมากวาดผ่านทั่วร่างของมิราจไนท์

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากสเเกนร่างของมิราจไนท์เสร็จ J.A.R.V.I.S ก็กล่าวรายงาน

 

“การตรวจสอบเสร็จสิ้น,ร่างกายของคุณมิราจไนท์ หลงเหลือเพียงบาดเเผลเล็กน้อยเท่านั้นไม่มีผลอันตรายต่อชีวิต”J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานออกมา

 

“ดี,ฉันเชื่อคุณ เอาเป็นว่าฉันจะไปหาคุณก่อนเป็นอันดับเเรก เราค่อยว่ากันอีกทีในเรื่องของการรับมือ”โทนี่ กล่าวออกมา

 

“อืม,เกี่ยวกับเรื่องเวน่อม ฉันคิดว่าฉันสามารถรับมือมันได้ เเต่สิ่งที่อยู่ในร่างกายของเเฮร์รี่ ฉันสงสัยว่ามันจะเป็นพลังงานของเทพปีศาจจากนอกโลก บุคคลที่ปรากฏตัวขึ้นทั้ง 6 คนนั้น พวกเขาเป็นมนุาย์ เดิมพวกเขาควรถูกเรียกว่าปรมาจารย์เวทย์ เพราะพวกเขาคืออิทธิพลที่คอยรักษาความสงบสุขของโลกอย่างลับ ๆ “

 

หลังจากเข้าสู่พื้นที่มิติกระจก โทนี่ เเละ เเจ็คสัน ก็ไม่สามารถออกไปได้ นักบวชทั้ง 6 คนเองก็ได้ผนึกกำลังกันรับมือกับพลังงานเทพปีศาจ การรับมือกับตัวตนระดับนี้ถือเป็นงานที่ยากเป็นอย่างมาก

 

เพียงเเต่ด้วยการรับมือกันโดยการรวมพลังของทั้ง 6 คน การโจมตีทางเวทมนตร์ของพวกเขาได้จู่โจมเงาสีดำลึกลับเเละกำจัดพวกมันออกไปทีละน้อย

 

พวกนักบวชทั้ง 6 คน กลัวพลังงานมืดนี้จะปะทุขึ้นอีกครั้งดังนั้นพวกเขาจึงต้องการจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เเต่ก็ติดที่ว่า เเฮร์รี่ ที่เป็นร่างสิงสู่ ถูกครอบครองอยู่

 

ทั้ง 6 คนรู้ดีว่าพลังงานของเทพปีศาจนั้นร้ายกาจเพียงใดนี่เป็นเเค่ส่วนเล็ก ๆ ของพลังที่เเท้จริงที่เทพปีศาจครอบครองเพียงเท่านั้น

 

นักบวชทั้ง 6 คนได้มาหยุดหายนะจากพลังงานชั่วร้ายตามคำสั่งของเอนเชี่ยนวัน ตัวตนที่ชั่วร้ายอย่างเทพปีศาจจะต้องถูกทำลายไปทั้งหมด

 

ไม่นานหลุมสีดำก็ปรากฏเเละปะทุพลังงานขนาดใหญ่ออกมา ร่างภาพมายาของเทพปีศาจได้ปรากฏขึ้นเเละเเข็งเเกร่งกว่าเดิม เเฮร์รี่ ที่ถูกควบคุมในตอนนี้เผยลักษณะดิ้นรนอย่างทรมาณออกมา เพราะการถูกพลังงานเเห่งความมืดเเทรกเเซงเเละยึดครองร่างกายไม่ใช่ผลที่ดีนัก

 

“โฮก!!!พวกเเกตายซะ!”เทพปีศาจได้คำรามออกมาดวงตาสีโลหิตได้กวาดผ่านไปยังนักบวชทั้ง 6 คน

 

!

 

ภายใต้เสียงคำรามของเทพปีศาจศรพลังงานทมิฬได้ถูกปลดปล่อยออกมาทั่วทุกทิศทางโจมตีนักบวชทั้ง 6 คน

 

ศรทมิฬเหล่านั้นได้พุ่งออกไปหลายทิศทางจนเหล่านักบวชพวกนั้นต่างพากันกระจายเพื่อหลบหนีการโจมตีในครั้งนี้

 

“หลบเร็วเข้า!”เห็นศรทมิฬพุ่งเข้ามาใกล้ นักบวช ทุกคนรู้สึกกระวนกระวายรีบเร่งใช้พลังงานเวทมนตร์เพื่อต้านทานการโจมตี

 

ปั้ง!

 

เพียงเเต่ว่าศรทมิฬนั้นกอปรไปด้วยพลังงานเเห่งความมืดที่ชั่วร้ายมันได้ฝ่าด่านทลายกำเเพงป้องกันเวทมนตร์เเละพุ่งโจมตีนักบวชคนนึงจนเสียท่า นักบวชอีก 5 คนที่เหลือก็ต้านรับด้วยความยากลำบาก

 

ปั้ง!

 

“!”

 

“ปรมาจารย์ ไต้ เหวิ่น!”

 

ศรสีดำที่เเฝงไปด้วยพลังงานเเห่งความมืดได้พุ่งทะลุชั้นพลังงานเเหวกผ่านการป้องกันทั้งหมดเพื่อทำลายเป้าหมายไม่นานก็ปรากฏเสียงโห่ร้องที่น่าสงสารดังออกมาเป็นระลอก

ก่อนหน้าที่ J.A.R.V.I.S จะตรวจสอบพบคลื่นพลังความผันผวนบนหลังคาโบสถ์ นักบวชทั้ง 6 คนก็หายไปจากอารามในนิวยอร์กปรากฏขึ้นที่หลังคาโบสถ์เเห่งนี้ พวกเขาเห็นภาพเทพปีศาจที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าทำให้รูปลักษณ์ของพวกเขาไม่สู้ดีนักนอกจากนี้พวกเขาไม่ได้สนใจปีศาจรูปร่างประหลาดอย่างเวน่อมเเม้เเต่น้อย

 

เทียบกับพลังเทพมารตัวตนอย่างเวน่อมถือว่าต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก พวกเขาที่มีหน้าที่คุ้มครองโลกเเห่งนี้จะต้องหยุดภัยพิบัติของการมาถึงอย่างเทพปีศาจ

 

“ไม่คาดคิดว่ามันจะบุกมาที่โลกของเราเเล้วจริงจริง!”มองเห็นเงาร่างปีศาจปรากฏขึ้นนักบวชคนนึงกล่าวออกมา

 

“พวกเราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังกำจัดมันในพื้นที่มิติกระจก!”

 

“ใช่เเล้ว!”

 

ภายใต้ความร่วมมือของนักบวชทั้ง 6 คน พื้นที่มิติกระจกได้ถูกจัดตั้งกึ่งกลางของโบสถ์อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะล้อมรอบสนามรบอันกว้างใหญ่นี้ พื้นที่ทั้งหมดถูกดึงเข้าสู่มิติกระจกเเละมันจะไม่ส่งผลต่อโลกเเห่งความเป็นจริง

 

เมื่อพื้นที่นี้ถูกดึงเข้าสู่พื้นที่มิติกระจก ร่างเงาของเทพปีศาจจู่ ๆ ก็มองไปยังสถานที่เบื้องหน้าด้วยตาสีเเดงฉาน

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นเงาร่างเทพปีศาจก็ได้ควบุมร่างของเเฮร์รี่ส่งผลให้เเฮร์รี่ยกมือขึ้นเล็กน้อย

 

ฟุ่บ!

 

เงาร่างปีศาจได้พุ่งเคลื่อนไหวออกไปพร้อมกับยิงพลังงานบางอย่างใส่นักบวชทั้ง 6 คน กลุ่มเงาเหล่านั้นได้รวมตัวก่อตัวกันเป็นพลังงานขนาดใหญ่

 

เห็นการโจมตีที่พุ่งเข้ามา นักบวชทั้ง 6 คน ได้ผนึกกำลังสร้างบาเรียเวทมนตร์ขึ้นมา เพื่อป้องกันการโจมตีของลำเเสงสีม่วงที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากเงาสีดำ

 

ปั้ง!

 

พื้นที่บาเรียเวทมนตร์เเตกกระจายในทันที ดูเหมือนพลังงานของเงาร่างเทพปีศาจในตอนนี้จะสูงกว่าเวน่อมเป็นอย่างมาก เพียงเเต่ว่าอาณาเขตพื้นที่มิติกระจกนี้มีเหล่านักบวชที่เป็นนักเวทย์เป็นผู้ควบคุม

 

“เเยกกัน,พวกเราต้องรับมือมันอย่างระหว่างโดยไม่ให้ผลกระทบเกิดขึ้นต่อร่างที่ถูกสิงสู่!”นักบวชเวทย์เหล่านี้ตะโกนออกมาพวกเขาได้ใช้เวทมนตร์โจมตีใส่เงาร่างเทพปีศาจ

 

ปั้ง!

 

เวทมนตร์อันหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเปลวเพลิงหรือกระเเสพลังต่าง ๆ ถูกจุดขึ้นในพื้นที่โลกกระจกเเห่งนี้ มันได้พุ่งเข้าโจมตีเงาร่างเทพปีศาจ

 

 

“เจ้านายครับ,ดูเหมือนจะปรากฏพื้นที่มิติความผันผวนขึ้น”โทนี่ ที่ซ่อนตัวอยู่ขอบสนามรบหลังจากเห็นมนุษย์ทั้ง 6 คนปรากฏตัวออกมา

 

“อะไรนะ!”ได้ยินเสียงเตือนของ J.A.R.V.I.S, โทนี่ กล่าวถามอีกครั้ง อย่างไรก็ตามพวกเขาถูกดูดเข้าไปในพื้นที่มิติกระจกมันทำให้โทนี่ ไม่มีเวลาตอบสนองมากพอ

 

“เราสูญเสียการติดต่อจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ จากการคาดคำนวณเราอยู่ในพื้นที่มิติที่เหมือนกับโลกคู่ขนาน”เเม้ว่าสภาพเเวดล้อมจะเหมือนเดิมเเต่พื้นที่กลับเเตกต่างไป

 

อาจเป็นเพราะ J.A.R.V.I.S, เป็นปัญญาประดิษฐ์ระดับสูง ดังนั้นจึงสามารถตรวจพบความผิดปกติที่สามารถอธิบายสถานการณ์ดังกล่าวได้ ภาพสะท้อนในโลกมิติกระจกนี้เหมือนกับโลกเเห่งความเป็นจริงทุกประการ

 

“พื้นที่โลกคู่ขนาน?เป็นไปได้อย่างไร”ได้ยิน J.A.R.V.I.S, กล่าวรายงาน โทนี่ ไม่สามารถทนได้

 

ก่อนหน้านี้ที่เขาเห็นบุคคลทั้ง 6 ปรากฏตัวขึ้นด้วยบางสิ่งบางอย่างมันก็ทำให้เขารู้สึกตกใจเเล้วเเต่สิ่งนี้กลับทำให้เขาตกใจกว่า โลกพื้นที่มิติคู่ขนานคืออะไร เเม้โทนี่จะไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนเเต่เขาก็รู้ว่ามันเป็นบางสิ่งที่วิเศษมากทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่โลกนี้จะไม่มีผลกระทบต่อโลกเบื้องโลก

 

“เจ้านายครับ,ตอนพบ ไอรอนเเมนหมายเลข 10 ดูเหมือน คุณมิราจไนท์ จะอยู่ในพื้นที่ด้วย”เห็นโทนี่ประเมินสถานการณ์ J.A.R.V.I.S, กล่าวรายงานต่อเนื่อง

 

เเม้ว่าการตรวจจับของ J.A.R.V.I.S, จะมีผลต่อโลกข้างนอกมิติกระจก เเต่ภายในมิติกระจกนี้ J.A.R.V.I.S, สามารถสเเกนได้ เเละเขาก็พบว่า ในสนามรบที่ไม่ห่างไกล ไอรอนแมนหมายเลข 10 ที่อยู่กับมิราจไนท์ก็อยู่ในโลกมิติกระจกได้

 

“เขาเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร?J.A.R.V.I.S, เชื่อมต่อชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 10!”โทนี่ กล่าวสั่งการอย่างกังวล ก่อนหน้านี้ เขาเห็นมิราจไนท์บาดเจ็บ ดังนั้นเขาจึงทิ้งชุดเกราะตัวนึงไว้อยู่คุ้มครองมิราจไนท์ใครจะคาดคิดว่ามิราจไนท์จะเข้ามายังโลกเเห่งนี้ด้วย

 

พื้นที่มิติกระจก โทนี่ เเละ เเจ็คสัน ได้ซ่อนตัวอยู่ข้างสนามรบ เบื้องหน้าของพวกเขาคือ ศูนย์กลางของสนามรบ

 

ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน ได้ให้ ไอรอนแมนหมายเลข 10 ช่วยเขาหยิบน้ำยาศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากกระเป๋าให้ตัวเองดื่ม ภายใต้การทำงานของน้ำยาศักดิ์สิทธิ์ บาดเเผลเเละอาการบาดเจ็บของ เเจ็คสัน ได้ฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว เเม้จะไม่สามารถฟื้นคืนได้ครบในระยะเวลาอันสั้น เเต่อย่างน้อยตอนนี้ บาดเเผลรุนเเรงเกือบทั้งหมดก็ถูกรักษาไปเเล้ว

 

ดังนั้นเเจ็คสันจึงบังคับชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 10 เพื่อตรงมายังสถานที่เเห่งนี้ หลังจากนั้นเขาก็เห็นปรากฏตัวของนักบวชทั้ง 6 คนที่โผล่ออกมาจากกลางอากาศเเละสร้างมิติกระจกนี้ขึ้น

 

เมื่อเปรียบเทียบกับโทนี่ เเล้ว เเจ็คสันไม่มีอาการตกใจเเม้เเต่น้อย เพราะเหมือนเขาคุ้นเคยเกี่ยวกับภูมิหลังของนักบวชทั้ง 6 คน คนเหล่านี้เป็นหนึ่งในกองกำลังที่คอยปกป้องโลกอย่างลับ ๆ พวกเขาคืออิทธิพลที่อยู่คู่กับโลกมาอย่างยาวนานคอยปกปักษ์รักษาโลกจากการโจมตีของพลังงานชั่วร้ายอย่างตัวตนเทพปีศาจ

 

“ฮึ่ม! ดูเหมือนพลังงานที่เเฮร์รี่ถือครองจะเป็นพลังงานเทพปีศาจจริง ๆ เเต่ได้นักบวชทั้ง 6 คนนั้นมาช่วย สถานการณ์คงจะอยู่ภายใต้การควบคุมไม่ช้าก็เร็ว”เห็นนักบวช ทั้ง 6 คน ทุ่มกำลังในการจัดการเทพปีศาจ เเจ็คสัน ที่ซ่อนตัวอยู่กระซิบออกมา

 

เขาจ้องมองไปที่เวทมนตร์เหล่านั้นเเละเข้าใจมันเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามเเจ็คสันไม่มีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ไม่อย่างนั้นเขาคงเลือกที่จะเรียนรู้เวทมนตร์ตั้งเเต่เเรกเริ่มไปเเล้ว

 

เขาได้ซ่อนตัวเพื่อจ้องมองการต่อสู้ที่เกิดขึ้นกลางสนามรบเพียงเเต่ขณะนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงเชื่อมต่อที่ต่อเข้ากับชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 10 ในขณะนี้

การโจมตีด้วยพลังเลเซอร์เเรงสูงของโทนี่ได้เจาะทะลวงกรงเล็บยักษ์ที่ก่อรูปร่างโดยหมอกสีดำ หลังจากโดนการโจมตีนี้เข้าไปหมอกสีดำก็เเตกกระจายตัวกันอีกครั้ง

 

“ยอดมาก J.A.R.V.I.S ได้เวลาจัดการหน้าที่ของเราต่อเเล้ว! เพิ่มความเข้มข้นของการโจมตีด้วยคลื่นพิเศษเป็น 50% เปิดใช้พลังงานชุดเกราะเลเซอร์เพื่อรักษาสเถียรในการโจมตีทั้งสองฝ่าย”หลังจากเห็นการโจมตีด้วยเลเซอร์ได้ผล โทนี่ กล่าวบอก J.A.R.V.I.S

 

ตราบเท่าที่วิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีของเขาสามารถรับมือศัตรูได้ไม่ว่าเขาจะเคยพ่ายเเพ้มากี่ครั้งโทนี่ก็จะสามารถฟื้นคืนกลับมาได้ เเต่สิ่งที่ทำให้โทนี่ประหลาดใจก็คือพลังงานลึกลับสีดำที่ถูกปลดปล่อยมาจากเเฮร์รี่มันเป็นสิ่งที่เหนือกว่าวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีจะอธิบาย

 

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนอย่างรวดเร็วเพื่อบินรอบสนามรบเเละเปิดการโจมตีด้วยคลื่นเสียงเเละพลังงานเลเซอรื

 

หึ่ม!

 

!

 

ภายใต้การโจมตีของชุดเกราะไอรอนแมนร่างของเวน่อมบิดไปมาภายใต้อิทธิพลคลื่นเสียงหนวดของมันได้เเยกออกเเละโจมตีไปที่ไอรอนแมนอย่างบ้าคลั่งกลางอากาศ ร่างของปีเตอร์ได้เปิดเผยออกมาบางส่วนดดูเหมือนเวน่อมจะห่อร่างของเขาเอาไว้อยู่เเละไม่ยอมออกจากร่างง่าย ๆ

 

สำหรับเเฮร์รี่เขาไม่เหมือนกับเวน่อมภายใต้การโจมตีด้วยเลเซอร์หมอกสีดำที่เป็นพลังงานเทพปีศาจได้เข้าป้องกันเเละดูดกลืนมันเเม้จะทำให้กลุ่มควันเเตกกระจายเเต่ก็ไม่สามารถกำจัดได้อย่างสมบูรณ์

 

ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงอาวุธระดับสูงของโลกที่เป็นเทคโนโลยีกลับมารวมอยู่ที่ชุดเกราะนี้ชุดเกราะเดียว

 

หากเป็นสถานการณ์ทั่วไป โทนี่ สามารถจัดการสถานการณ์นี้ได้อย่างรวดเร็ว เเต่เพราะตอนนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติอย่างปรสิตจากต่างดาวเช่นเวน่อม เขาได้พยายามปรับการโจมตีคลื่นเสียงทีละน้อยเพื่อให้ J.A.R.V.I.S ได้สร้างคลื่นเสียงอย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับเเฮร์รี่ การโจมตีเเละการรับมือเเต่ละครั้งที่ทำให้หมอกสีดำเเตกกระจาย จู่ ๆ ร่างของเเฮร์รี่ ก็ปรากฏหมอกสีดำออกมามากขึ้นเพื่อดูดกลืนพลังงานเลเซอร์อย่างบ้าคลั่ง

 

จากนั้นโทนี่ก็เห็นภาพเงาเทพปีศาจขนาดยักษ์ปรากฏตัวมันได้คำรามออกมา

 

“โฮก !!!”

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเค่เสียงคำรามของเทพปีศาจส่งผลให้ชุดเกราะไอรอนแมนได้รับผลกระทบจนกระเด็นลอยไป

 

“ท่าไม่ดีเเล้ว!”เห็นการคำรามของเทพปีศาจโทนี่ไม่ใช่คนโง่เขารีบสั่งการให้ชุดเกราะไอรอนแมนถอนตัวมาก่อน

 

การโจมตีนั้นได้ทำลายความเสียหายของระบบไปมากกว่า 80% ซึ่งหลังจากโดนการโจมตีด้วยการคำรามนี้ระบบของชุดเกราะไอรอนแมนก็ไม่เสถียร

 

โทนี่มองเห็นชุดเกราะไอรอนแมนของเขาสี่ตัวได้พุ่งตกลงไปที่พื้นในทันที

 

“นั่นมันเวทย์มนตร์หรือไง?”เห็นการโจมตีของเทพปีศาจ โทนี่ ตะโกนอย่างหวาดกลัว

 

การโจมตีของเทพปีศาจนั้นไม่ใช่ว่าโทนี่ไม่เคยพบมาก่อน เเต่ภายใต้การจัดการ ของ J.A.R.V.I.S ตอนนั้นเขายังพอรอดมาได้ ตอนนั้นที่เขาปะทะกับกรีนก็อบลิน เขาก็ได้เผชิญหน้ากับหมอกดำมาก่อน ซึ่งหมอกดำนั้นได้ทำให้ชุดเกราะของเขาระบบเเปรปรวนซึ่งโทนี่ก็ไม่เข้าใจหลักการทำงานของมัน

 

หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่นิวเม็กซิโกมา เขาได้อัพเกรดชุดเกราะไอรอนแมนอย่างบ้าคลั่งเพียงเเต่ว่ามันก็อยู่ในขอบเขตของเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์ โทนี่ รู้จักเวทมนตร์เพราะ มิราจไนท์ ก็เหมือนจะใช้เวทมนตร์ได้เหมือนกัน ทั้งยังมีชาวเเอสการ์ดที่เขาเห็นอีก โทนี่ ตั้งใจจะพัฒนาเทคโนโลยีของเขาให้สามารถรับมือกับเวทมนตร์ได้เเต่มันก็ยังไม่คืบหน้าตอนนี้

 

เสียงคำรามของเทพปีศาจทำให้โทนี่บังเกิดความรู้สึกหวาดกลัว เวทมนตร์นั้นได้จัดการชุดเกราะไอรอนแมน สี่ตัวของเขา จนเหลือเพียงเขาเท่านั้นที่ยังคงขับชุดเกราะไอรอนแมนอยู่ ธรรมชาติโทนี่ไม่คิดว่าสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้น

 

“เวรเอ้ย,เเม้ว่าฉันจะพยายามเท่าไหร่ ฉันก็ยังคงไม่สามารถสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่ต้านทานเวทมนตร์ได้  ฉันจะต้องรีบหาทางอัพเกรดชุดเกราะไอรอนแมนของฉันให้เเข็งเเกร่งขึ้นในภายหลัง”โทนี่กล่าวสบถออกมา ด้านหน้า เวน่อม เเละ กรีนก็อบลิน ค่อย ๆ คืนสภาพมาเป็นปกติโดยช้า ๆ

 

“ตอนนี้ฉันควรจะทำอย่างไร? เเจ้ง S.H.I.E.L.D. ?  บางทีพวกเขาอาจจะมีวิธีการในการจัดการสถานการณ์ครั้งนี้”โทนี่ กำลังคิดว่าเขาจะขอความช่วยเหลือทีรึไม่

 

เนื่องเพราะตอนนี้โทนี่ ก็เป็นคนของ S.H.I.E.L.D. ?  โทนี่ รู้ว่าองค์กรนี้ได้ต่อสู้กับเรื่องลึกลับมามากมาย บางทีพวกเขาอาจจะมีข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับการรับมือสิ่งลึกลับต่างดาว

 

“เจ้านายครับ,ตรวจพบกระเเสคลื่นพลังงานบางอย่างในพื้นที่”เห็นโทนี่ กังวลเกี่ยวกับ เวน่อม เเละ เทพปีศาจ J.A.R.V.I.S  กล่าวบอกเขา

 

“คลื่นพลังงานผันผวนในพื้นที่? อยู่ที่ไหน?”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S  โทนี่ ถามอย่างเร่งรีบ คลื่นพลังงานผันผวนนั้นไม่ใช่สิ่งทั่วไปที่จะเกิด

 

จากนั้น J.A.R.V.I.S  ก็เเสดงให้เห็นผ่านหน้าจอของโทนี่ เป็นตำเเหน่งที่เกิดความผันผวน ซึ่งพื้นที่ก็คือ หลังคาในโบสถ์นั้น

 

“เปิดใช้งานการสเเกนอย่างระวัง!”โทนี่ กล่าวบอก J.A.R.V.I.S  ทันที เขาเห็นรังคาโบสถ์เปล่งประกายขึ้นเล็กน้อย

 

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S เริ่มต้นการขยายการสเเกนพื้นที่ด้านหน้า

 

ฮึ่ม!

 

เพียงเเต่ว่าไม่นานภายใต้การ การสเเกนของ J.A.R.V.I.S  บนหลังคาโบสถ์ก็ปรากฏพื้นที่วงกลมขึ้นมันเป็นขอบพื้นที่ประกายสีทองอร่ามที่ดูสวยงาม

 

หลังจากนั้นก็มีคนสวมใส่ชุดคลุมหกคนปรากฏออกมาจากหลังพื้นที่วงกลุ่มนั้นพวกเขาเเต่งตัวราวกับนักบวชที่เป็นชาวคริสตจักร

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่ มันเเปลกเกินไปเเล้ว!”เห็นทั้งหกคนปรากฏตัวผ่านประตูมิติออกมา โทนี่ ตะโกนในใจอย่างเเปลกใจ

 

“เจ้านายครับ,หลังจากการสเเกนตรวจพบว่าทั้งหกคนเป็นคนของโลกครับไม่ใช่คนจากอารยธรรมนอกโลก”J.A.R.V.I.S  ได้สเเกนร่างกายของพวกเขา

 

“หืม?มนุษย์โลก เมื่อไหร่กันที่มนุษย์โลกเรามีเทคโนโลยีเช่นนี้?”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S  โทนี่ กล่าวพูดอย่างไม่เชื่อ

 

“บางทีที่พวกเขาใช้อาจไม่ใช่วิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยี”ไม่ต้องรอให้ J.A.R.V.I.S  กล่าวตอบ โทนี่ ตรวจสอบ’ ผู้มาเยือน’ อย่างตั้งใจ เหมือนเขาจะรู้สึกได้ถึงความผิดแปลกบางอย่าง

เปรี้ยง!

 

ในขณะที่ความตายคืบคลานหาเเจ็คสัน โทนี่ ก็ได้บึ่งรีบไปช่วยในช่วงเวลาสำคัญนี้

 

“! มิราจไนท์! คุณไม่เป็นอะไรนะ? ทำไมคุณถึงถอดใจยอมเเพ้ง่ายแบบนั้น”เห็นร่างกายที่เเน่นิ่งของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวพูดขึ้น

 

“หืม?คุณสตาร์ก!”ได้ยินเสียงของโทนี่ เเจ็คสันเปิดเปลือกตาขึ้นเขาเห็นชุดเกราะไอรอนแมนตัวนึงที่ตะโกนบอกเขาอยู่ด้านหน้า

 

 

ฟุ่บ!

 

“คุณนี่มัน! ทำไมถึงถอดใจง่ายแบบนั้น”เห็นมิราจไนท์เปิดเปลือกตาขึ้น โทนี่ กล่าวว่า มิราจไนท์เล็กน้อย

 

ในสนามรบเขาเห็น มิราจไนท์รับการโจมตีทั้งสองฝั่งอย่าง สไปเดอร์แมนเวน่อม เเละ กรีนก็อบลิน นั่นทำให้มิราจไนท์มีสภาพที่บาดเจ็บหนัก

 

“คุณสตาร์ก,พวกเขาคือ ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่”เห็นโทนี่ กล่าวพูด เเจ็คสัน กล่าวตอบอย่างระวัง

 

โดยปกติเเล้วเป็นเพราะเขาไม่อาจทำใจลงมือต่ออีกฝ่ายได้เป็นผลทำให้เเจ็คสันอยู่ในสภาพแบบนี้

 

“เอาเถอะ,สหายทั้งสองคนนี้ปล่อยให้ฉันเป็นคนจัดการ”เห็นมิราจไนท์ยังคงกล่าวพูดเช่นนี้โทนี่กล่าวตอบอย่างไม่กังวล

 

“เเต่ว่า…”เเจ็คสันต้องการจะพูดอะไร เเต่เห็นการเเสดงออกของโทนี่ เขาก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี

 

“ไม่มีเเต่,การต่อสู้ในครั้งนี้คุณได้เข้าร่วมมามากพอเเล้ว ปล่อยที่เหลือให้ฉันจัดการ ฉันเองก็อยากจะทดลองอุปกรณ์ตัวใหม่ของชุดเกราะไอรอนแมนเหมือนกัน”โทนี่ กล่าวปฏิเสธมิราจไนท์ก่อนที่จะปิดหน้ากากเเละเตรียมจากไป

 

“คุณสตาร์ก,อย่าทำร้ายพวกเขา!”เห็นโทนี่กำลังจะจากไปพร้อมกับไอรอนแมน 3 ตัวของเขาเเจ็คสันที่นอนอยู่ตะโกนดังขึ้น

 

“ฉันจะพยายามเท่าที่ทำได้!”โทนี่ไม่รับปากเเต่เขาจะพยายามให้มากที่สุด

 

การโจมตีของโทนี่ ได้ส่งผลให้ เเฮร์รี่ เเละ สไปเดอร์แมนกระเด็นถอยออกไป พวกเขาเกือบจะลงมือสังหารมิราจไนท์ดีที่โทนี่เข้ามาหยุดได้ทันเเม้จะเผชิญหน้ากับการโจมตีของโทนี่ ทั้งสองคนกลับไม่ได้รับบาดเจ็บเเม้เเต่น้อย

 

โดยเฉพาะเเฮร์รี่กลุ่มหมอกสีดำเหล่านั้นได้ต้านรับการโจมตีให้กับเเฮร์รี่

 

เห็นโทนี่บินจากไปเเจ็คสันไม่รู้จะทำอย่างไรเเต่เขามีความคิดเล็กน้อยก่อนที่จะตะโกนขึ้นบอกชุดเกราะไอรอนแมนตัวนึงที่โทนี่ทิ้งไว้เบื้องหน้าของเขา

 

“J.A.R.V.I.S คุณสามารถช่วยเหลือฉันบางอย่างได้ไหม?”เเจ็คสันตะโกนบอก

 

“เป็นเกียรติมากที่ได้รับใช้คุณ”ชุดเกราะไอรอนแมนตัวนึงกล่าวตอบ

 

 

สงครามยังคงดำเนินต่อไป โทนี่ ได้นำทัพชุดเกราะไอรอนแมนของเขาทั้งหมด 5 ตัว รวมชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13 ด้วย สนามรบในตอนนี้เต็มไปด้วยความผันผวนของพลังงานลึกลับ

 

“ดูเหมือนรัศมีพลังของเทพปีศาจจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง”

 

“ครั้งก่อนก็ปรากฏขึ้นที่ชานเมืองนิวยอร์ก! ตอนนี้ก็ปรากฏขึ้นที่ตำเเหน่งเเถวนั้นอีกครั้ง!”

 

อารามเเห่งนึง ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบเหตุการณ์ผิดปกติได้กล่าวขึ้น พวกเขาคือจอมเวทย์ที่ดูเเลโลกเเห่งนี้ ตอนนี้เเฮร์รี่ได้ถูกครอบงำโดยพลังของเทพปีศาจ การตื่นของพลังทำให้พวกจอมเวทย์เหล่านี้ตรวจจับพลังงานชั่วร้ายได้

 

“ต้องรีบเเจ้งท่านเอนเชี่ยนวัน”จอมเวทย์คนนี้ได้วาดมือเป็นวงกลมเพื่อเปิดประตูมิติที่เบื้องหน้า

 

ฟุ้บ!

 

ประตูมิติเวทย์มนตร์ได้ถูกเปิดออกด้านหน้าเป็นนักบวชคนนึงที่เเข็งเเกร่ง

 

 

ผ่านไปหนึ่งนาทีภายในอารามเเห่งนี้ก็เต็มไปด้วยประตูมิติหลายเเห่งหลังจากนั้นจอมเวทย์หกคนก็ปรากฏตัวออกมาพวกเขาดูเหมือนจะตอบรับสถานการณ์ของพลังเทพปีศาจที่ปรากฏขึ้น

 

“ท่านเอนเชี่ยนวันได้เเจ้งเราเกี่ยวกับการปรากฏตัวขึ้นของพลังงานชั่วร้าย!”

 

“ใช่,พวกเราต้องไปตรวจสอบ”

 

หลังจากนั้นประตูมิติก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้งทั้งหกคนได้เดินเข้าไป

 

 

พื้นที่ด้านหน้าโบสถ์สถานที่เเห่งนี้อยู่ห่างไกลจากเขตเมืองนิวยอร์ก ตอนนี้พื้นที่นี้ได้เเปรเปลี่ยนเป็นสนามรบโดยการโจมตีของเวน่อมเเละคนอื่น ๆ เเฮร์รี่เองก็เริ่มเกรี้ยวกราดมากขึ้น การโจมตีด้วยอาวุธระเบิดของเขาได้ทำลายพื้นที่ไปหลายส่วน

 

การโจมตีของพวกเขามีผลกระทบต่อพื้นที่เหล่านี้มหาศาลหากสถานที่เเห่งนี้มีคนพลุ้งพล่านเกรงว่าจะต้องลำบากอย่างเเน่นอน การขยายตัวของพื้นที่สนามรบใช่ว่าจะอยู่นอกเหนือการคำนวณของโทนี่ เเน่นอนว่าโทนี่ ได้คำนวณพื้นที่การทำสงครามเอาไว้หมดเเล้ว

 

“ก่อนอื่นจะต้องลองโจมตีคลื่นเสียงพิเศษเพื่อดูผลกระทบที่เกิดขึ้นว่าหมอกสีดำจะมีปฏิกิริยาหรือไม่”โทนี่ที่บังคับชุดเกราะไอรอนแมนอยู่กลางอากาศเขาได้กล่าวออกมา เขาได้ปล่อยให้ J.A.R.V.I.S ควบคุม ไอรอนแมนอีก 4 ตัวที่อยู่ใกล้เคียง

 

” J.A.R.V.I.S เริ่มใช้การโจมตีด้วยคลื่นเสียง! ปรับค่าพลังความถี่ 20%”โทนี่ ในที่สุดก็ตัดสินใจ

 

“ครับเจ้านาย!” J.A.R.V.I.S กล่าวยืนยันเเละเริ่้มต้นใช้อาวุธคลื่นเสียง

 

โทนี่ได้ยกมือขวาขึ้นเเละชี้ไปทางทิศทางของทั้งสองคน

 

วิ๊ดดด!!

 

ฮึ้ม!!!

 

เสียงได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมนทั้งสี่ตัวมันได้พุ่งผ่านไปยังท่ามกลางสนามรบ

 

“ซี่ ซี่!!”เผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยคลื่นแสงหนวดสีดำที่ติดร่างกายของสไปเดอร์แมนได้สั่นไหวอย่างรุนเเรง

 

“มันได้ผล!!”เห็นการเปลี่ยนเเปลงของร่างกายเวน่อม โทนี่ ตะโกนออกมาอย่างดีใจ

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าเขากลับมีความสุขได้ไม่นานการโจมตีคลื่นเสียงก็ต้องหยุดชะงักเพราะเงาสีดำของเเฮร์รี่ได้พุ่งเข้าหาเขาเเละโจมตี

 

“ท่าไม่ดีเเล้ว!”เห็นการเคลื่อนไหวโดยฉับพลันผิวของโทนี่เเปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเขาตอบสนองต่อการโจมตีที่พุ่งมา

 

ฟุ่บ!

 

ด้วยความตื่นตระหนกโทนี่ได้ตอบสนองโดยการเปิดใช้เลเซอร์พลังงานสูงโจมตีไปที่พลังงานกลุ่มสีดำเหล่านั้น

ปั้ง!

 

บนพื้นดินตำเเหน่งลานกว้างด้านหน้าโบสถ์คลื่นกระเเทกอันทรงพลังโดยมีศูนย์กลางคือเเจ็คสัน ระยะขอบเขตการต่อสู้ได้ถูกกระจายออกเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว

 

“!!!”หมัดซ้ายของเขาได้หยุดการโจมตีของปีเตอร์เเละใบดาบเก้าอสนีได้หยุดการโจมตีของเเฮร์รี่ใบดาบของเเจ็คสันได้ปลดปล่อยรังสีกลิ่นอายสีม่วงออกมา

 

เวน่อมปรสิตตัวนี้ทำให้ปีเตอร์เเข็งเเกร่งเเละน่ากลัวมากเเน่นอนว่ากำปั้นของเขาในครั้งนี้ย่อมรุนเเรงสำหรับเเฮร์รี่หมอกสีดำที่อยู่ในร่างกายมันได้เพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายของเขาทั้งยังมีส่วนในการช่วยฟื้นฟูร่างกายได้เป็นอย่างดี

 

เเจ็คสันที่เเทรกระหว่างการต่อสู้เเละหยุดการโจมตีทั้งสอง เขารู้สึกได้ถึงความเเข็งเเกร่งของทั้งสอง มือซ้ายที่ใช้หยุดกำปั้นของปีเตอร์ดูเหมือนจะกระดูกของเขาจะหักเล็กน้อยส่วนมือขวาที่จับใบดาบเเขนของเขาสั่นไหวระริก ๆ

 

เนื่องเพราะทั้งสองคนคือ ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ดังนั้น เเจ็คสันจึงไม่ได้ลอบโจมตีทั้งสองคนในระหว่างการปะทะกันกลับกันเขากลับได้พุ่งเเทรกกลางเพื่อที่จะหยุดการโจมตีของทั้งสอง

 

เห็นเเจ็คสันหยุดการโจมตีของตัวเอง เวน่อมก็ปล่อยหนวดจำนวนมากออกมาพุ่งโจมตีเเจ็คสันส่วนหมอกสีดำในร่างกายของเเฮร์รี่เองก็ถูกปลดปล่อยออกมามุ่งเข้าหาเเจ็คสัน

 

เห็นหมอกสีดำที่ปรากฏออกมาจากร่างกายของเเฮร์รี่ เเจ็คสันราวกับเข้าใจสถานการณ์บางอย่างเพียงเเต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมาะเเก่การวิเคราะห์มากนักเพราะเขากำลังตกอยู่ในอันตราย

 

“ถอยไปซะ!”เวน่อมเเละหมอกสีดำที่พุ่งเข้าหาเเจ็คสันกรีดร้องออกมา

 

ฟุ่บ!

 

“!! ~~” เเจ็คสันรับรู้ได้ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านร่างกายของเขา ความเเข็งเเกร่งเหล่านั้นได้เเล่นผ่านเเขนทั้งสองของเขาจนเเทบจะต้านรับไม่ไหว

 

บนมือซ้ายของเเจ็คสันปรากฏความเย็นยะเยือกโพรงออกรับกำปั้นของปีเตอร์มือขวาของเเจ็คสันผสานลำเเสงสีม่วงซัดเข้าปะทะกับใบดาบของเเฮร์รี่อีกครั้ง

 

ปั้ง!

 

การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปเพียงเเต่ว่าคนที่อยู่ท่ามกลางการต่อสู้อย่างเเจ็คสันราวกับใบไม้อ่อนที่ถูกผนึก

 

ทั้งสามคนได้กระเด็นถอยหลังออกไปเล็กน้อย เเจ็คสันได้สะกดข่มการโจมตีครั้งนี้ของทั้งสองคนได้ การต่อสู้ในครั้งนี้น่าเหลือเชื่อจริงจริง ใครจะคาดคิดว่านักเรียนโรงเรียนเอ็มไพร์ทั้งสามคนกำลังจะเผชิญหน้ากันเอง

 

เมื่อคืนที่ผ่านมาเเจ็คสันได้ทดลองป้องกันเวน่อมด้วยความเเข็งเเกร่งของเขาผลเเม้ว่าจะไม่ดีมากเเต่ก็ยังสามารถต้านรับการโจมตีของเวน่อมได้

 

สำหรับเเฮร์รี่ไม่ใช่ปัญหาเท่าใดเพราะเขาสามารถใช้ความเเข็งเเกร่งของตัวเองในการสะกดข่มหากไม่ได้มีหมอกดำเข้าช่วยเหลือ เเจ็คสันย่อมสามารถรับมือกับการโจมตีของเเฮร์รี่ได้อย่างสบาย

 

เพียงเเต่ว่าหมอกสีดำของเเฮร์รี่ก็ลึกลับอย่างมาก บางทีมันอาจจะลึกลับมากกว่าตัวตนของเวน่อมที่เป็นปรสิตจากต่างดาวเสียอีก

 

ด้วยการโจมตีเต็มกำลังสุดของเเจ็คสันกำลังของเขาหมดไปกับการต้านรับการโจมตีของหมอกสีดำเเละเวน่อม เส้นเลือดภายในร่างกายของเขาเเตกซ่านเล็กน้อยบาดเเผลได้ถูกเปิดตามร่างกาย หากเป็นคนปกติร่างกายของพวกเขาคงเเตกดับไปเเล้วกระดูกมือทั้งสองข้างเเตกหักบางส่วนเเต่เเจ็คสันไม่ได้กังวลเขาสามารถใช้น้ำยาศักดิ์สิทธิ์ในการฟื้นฟูได้เพียงเเต่ว่าไม่รู้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลานานเท่าใดในการฟื้นฟู

 

“อั๊ก!”เเจ็คสันทรุดลงกับพื้นก่อนที่จะไอออกมาเป็นฟองเลือดตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บภายในอย่างสาหัก

 

มือทั้งสองข้างกระดูกของเขาเริ่มเเตกร้าวร่างกายราวกับกำลังจะพักทลายลง

 

ซี่ ซี่

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้ล้มลงจนเเทบจะลุกไม่ขึ้นรอบตัวของเขาปรากฏเสียงเเปลก ๆ ออกมาตามลำดับ เเม้สัมผัสของเขาจะเฉียบเเหลมเเต่ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยสถานการณ์อันไม่พึงประสงค์นี้

 

เวน่อมที่เห็นเช่นนั้นได้ดึงหนวดของมันกลับมา

 

สำหรับทิศทางของหมอกสีดำของเเฮร์รี่มันก็ได้พวยพุ่งออกมารุนเเรงกว่าเดิมทั้งเเจ็คสันยังรู้สึกกดดันหลังจากเห็นมัน มันได้ผสานเข้ากับร่างกายของเเฮร์รี่สร้างมัดกล้ามเนื้อที่โหดร้ายไปทั่วทั้งร่างกาย

 

เเจ็คสันเข้าใจทันทีเบื้องหน้าเขาราวกับเห็นภาพเทพปีศาจที่กำลังจุติ

 

เเจ็คสันได้สลัดความคิดเหล่านั้นออกไปเขาไม่สนใจปรสิตจากต่างดาวหรือพลังงานลึกลับที่เหมือนกับนิยายที่สนใจก็คือเพื่อนของเขาทั้งสองคน

 

“ฉันจะต้องมาตายด้วยมือของเพื่อนสนิททั้งสองคนงั้นหรอ?น่าสมเพชจริงจริง ฉันกระทั่งยังไม่ได้สารภาพกับพวกเขาว่าเเท้จริงฉันคือ มิราจไนท์”เเจ็คสันที่ไร้เรี่ยมเเรงจ้องมองไปที่เพื่อนของเขาที่บ้าคลั่งทั้งสองคน

 

เเม้ว่าเเจ็คสันจะเปิดหน้ากากเปิดเผยตัวเองออกมา เวน่อม ก็คงไม่รู้สึกอะไร สำหรับ กรีนก็อบลิน หรือเเฮร์รี่ ตอนนี้เขาได้ถูกชักนำโดยพลังงานของเทพปีศาจไปเเล้ว

 

ซี่ ซี่

 

ฟืด !!!

 

เเจ็คสันมองเห็นการคุกคามจากทั้งสองฝ่ายที่ส่งเสียงร้องออกมาตามลำดับ พวกเขาพุ่งเข้าเข้าหากันโดยมีเเจ็คสันอยู่ตรงกลาง

 

ฟุ่บ!

 

“ปีเตอร์ เเฮร์รี่ ฉันต้องขอโทษพวกนายด้วย ฉันไม่อาจช่วยเหลือพวกนายได้ “เเจ็คสันกล่าวพูดออกมาดวงตาของเขาปิดลงอย่างช้า ๆ ในระหว่างทีเขากำลังจะตายเขาไม่อยากเห็นภาพสุดท้ายอย่าง การโจมตีจากเพื่อนสนิททั้งสอง สติของเเจ็คสันกำลังจะเลือนลางเพียงเเต่ว่าระบบคืนชีพเเท่นบูชานั้นก็พลันสว่างขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะดับลงอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

ในขณะที่เเจ็คสันเตรียมพร้อมจะรับความตายก็ปรากฏรูปแบบสีเเดงขึ้นเเละเข้าปะทะกับการโจมตีของปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ เพื่อช่วยเหลือชีวิตของเเจ็คสัน

 

ปั้ง

 

ปั้ง

บนพื้นที่อากาศของเมืองนิวยอร์ก ชุดเกราะไอรอนแมน 5 ตัวได้บินพุ่งผ่านอย่างรวดเร็วเพื่อไปยังพื้นที่เป้าหมายขณะเดียวกันโทนี่ก็กำลังพยายามเชื่อมต่อชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13 ของเขาเพื่อที่จะสังเกตุสถานการณ์ทางฝั่งนั้น

 

“ชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13 ถูกโจมตีโดยสไปเดอร์จนได้รับความเสียหายหนักชิ้นส่วนสำคัญหลายอย่างพังเสียหายระบบของชุดเกราะกำลังจะปิดทำงานทั้งหมด”เห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี โทนี่ กล่าวออกมา

 

“เร่งความเร็วขึ้นเถอะ ก่อนที่ชุดเกราะของคุณจะถูกฉีกกระชากโดยสไปเดอร์แมนทั้งหมด”เเจ็คสันรู้ดีว่าสถานการณ์ของไอรอนแมนหมายเลข 13 กำลังย่ำเเย่ เขาจะต้องรีบไปสมทบเเละจัดการหยุดปีเตอร์

 

ฟิ้ว!

 

ไม่นานชุดเกราะไอรอนแมนของ โทนี่ เเละ เเจ็คสันก็เพิ่มความเร็วขึ้น ชุดเกราะไอรอนแมนทั้งสามตัวที่ตามมาเองก็เร่งความเร็วขึ้นเช่นกัน

 

 

ปั้ง!

 

พื้นที่โล่งหน้าโบสถ์หมัดของสไปเดอร์แมนได้รัวกระหน่ำไปยังชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13 เเม้บางส่วนจะเสียหายหนักเเต่ตัวของชุดเกราะกับเเข็งอย่างมาก

 

“ชุดเกราะเสียหาย…ความทนทานทั้งหมดเหลือเพียง 30%”J.A.R.V.I.S กล่าวคำนวณสถานการณ์ปัจจุบัน

 

“ผลการคำนวณเสร็จสิ้น ประเมินสถานการณ์ถ่วงเวลาเพื่อรอกำลังฉุกเฉิน”J.A.R.V.I.S ได้ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13 เพื่อบุกหาสไปเดอร์แมนอีกครั้ง

 

กระสุนปืนขนาดจิ๋วได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของไอรอนแมนในทันที

 

ปิ๋ว!!!

 

เพียงเเต่ว่าไม่นานก็ปรากฏยานบินที่คุ้นเคยอีกครั้งมันได้พุ่งผ่านมาทางโบสถ์เเห่งนี้ ทั้งยังพุ่งการโจมตีด้วยขีปนาวุธใส่สไปเดอร์แมน นี่เป็นยานบินของเเฮร์รี่ อาวุธลับที่เเฮร์รี่เเอบพัฒนาในออสคอร์ป

 

“เจ้านายครับ,ดูเหมือนยานบินที่ปรากฏตัวขึ้นเมื่อวานจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง”เห็นยานบินปรากฏตัว J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานโทนี่

 

“อะไรนะ?เป็นไปได้ยังไง เเฮร์รี่ไม่น่าจะฟื้นฟูตัวได้เร็วขนาดนี้”ได้ยินเสียงคำพูดของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสัน กล่าวครุ่นคิดในใจอย่างรุนเเรง

 

“หมายเลข 13 ถ่วงเวลาเขาไว้อย่าให้เขาเข้ามาป่วนในสถานการณ์”เเจ็คสันใกล้จะถึงสนามรบเเล้ว เขาไม่ต้องการให้ปีเตอร์เเละเเฮร์รี่ปะทะกันดังนั้นเเจ็คสันจึงตะโกนบอก J.A.R.V.I.S เเทนโทนี่

 

“เข้าใจเเล้วครับคุณมิราจไนท์!”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ เขาได้ปิดใช้งานฟังก์ชั่นบางส่วนเพื่อเปิดฟังก์ชั่นที่ยังพอทำงานได้

 

“สไปเดอร์แมน!”ในช่วงที่ J.A.R.V.I.S กล่าวรายงาน โทนี่ เเละ มิราจไนท์ เเฮร์รี่ ก็ตะโกนชื่อสไปเดอร์แมนมาเเต่ไกล

 

เวน่อม สไปเดอร์แมนได้เเหงนหน้ามองไปบนท้องฟ้า เขาจำคนคนนี้ได้ มันก็คือคนที่เผชิญหน้ากับเขาเมื่อวาน เเล้วพ่ายเเพ้ไป ดังนั้นเวน่อมจึงไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรเเม้เเต่น้อย

 

ฟิ้ว!

 

เห็นกรีนก็อบลินพุ่งเตรียมจะปะทะกับสไปเดอร์แมนด้านหน้า J.A.R.V.I.S ได้บังคับ ชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อปิดทางขวางกั้นไม่ให้เขาผ่าน

 

“อย่าได้เข้ามาเเส่หาเรื่อง!!”เห็นการปรากฏตัวของไอรอนแมน เเฮร์รี่ คำรามออกมา

 

!

 

ขีปนาวุธขนาดเล็กสามลูกได้ถูกยิงเข้าใส่ ไอรอนแมน เพื่อที่จะฆ่าสไปเดอร์แมน เเฮร์รี่ไม่สนใจใครทั้งนั้น

 

“ตรวจจับ! ตรวจจับ! พบขีปนาวุธ เริ่มทำการหลบหลีก!”

 

ฟุ่บ!

 

เผชิญหน้ากับขีปนาวุธสามลูก ชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13 ที่ซ่อมซ่อได้ทำการหลบหลีกการโจมตี

 

“สไปเดอร์แมน,ปีเตอร์คือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน เเต่เขาก็คือฆาตกรที่ฆ่าพ่อของฉัน ตั้งเเต่ที่ฉันรู้ว่าเป็นเขามันทำให้ฉันตกอยู่ในภวังค์เเห่งความมืดมิด พ่อของฉัน!”เเฮร์รี่ คำรามกู่ก้องในใจเเละพุ่งเข้าหาสไปเดอร์แมน

 

เเฮร์รี่ได้มุ่งหน้าเข้าหาปีเตอร์อย่างรวดเร็วเขาเคียดเเค้นปีเตอร์อย่างมากเพราะปีเตอร์ได้ฆ่าพ่อของเขา อิทธิพลเเค้นนี้เองก็มีส่วนมาจากหมอกสีดำ หมอกสีดำได้ควบคุมเเละกระตุ้นจิตใจด้านมืดของเเฮร์รี่มันทำให้เขาควบคุมพฤติกรรมของตัวเองได้ยาก

 

อ๊ากก!!

 

เผชิญหน้ากับการคำรามของเเฮร์รี่ ดูเหมือน เวน่อม จะอารมณ์ไม่ดีนัก มันได้เเยกหนวดนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าโจมตีเเฮร์รี่ทันที เพียงเเต่ว่า มันกลับสัมผัสได้ถึงพลังงานเเปลกประหลาดที่ปรากฏออกมาจากร่างกายของเเฮร์รี่

 

“ตายซะ!!”เเฮร์รี่ไม่สนใจการโจมตีนั่นเขาได้พุ่งเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่ง

 

เเสงสีเขียวได้วาบผ่านนัยน์ตาของเเฮร์รี่เขาได้ปะทะกับเวน่อมเเละเริ่มโจมตีอีกครั้ง

 

เห็นยานบินของเเฮร์รี่พุ่งเข้ามา เวน่อม เตรียมรับการปะทะอย่างเต็มที่ เขาได้ก็โดดพุ่งสูงขึ้นเพื่อหวังจะจัดการเเฮร์รี่จากด้านบน

 

ฟุ่บ!

 

ใยเเมงมุมสองสายได้ถูกยิงออกกมา ใยเเมงมุมนี้มีพลังงานไฟฟ้าสถิตย์อยู่ด้วย เห็นได้ชัดว่า เวน่อมตั้งใจจัดการเเฮร์รี่เช่นเดียวกัน

 

“อย่าได้หวัง!”เห็นการโจมตีของสไปเดอร์แมนพุ่งเข้าหาตัวเอง เเฮร์รี่ตะโกนออกมา ทันใดนั้นหมอกสีดำก็พุ่งออกมาจากร่างกายของเขา

 

ฟุ่บ!

 

เเฮร์รี่ได้กระโดดออกจากยานบินของเขาพร้อมกับเผยใบมีดยาวเขาต้องการสู้ระยะประชิดกับเวน่อมด้วยร่างกายของเขา ใบมีดของเขาได้คว้านตัดไปที่ใยสองเส้นที่พุ่งเข้ามา

 

บนพื้นที่ด้านหน้าของโบสถ์สองบุคคลได้เข้าปะทะกัน หนึ่งคือเวน่อม เเละ เเฮร์รี่ ที่ได้รับการปลดปล่อยจากเงาสีดำ ดูเหมือนทั้งสองตั้งใจจะฆ่าเเกงกันโดยไม่สนใจสถานะของอีกฝ่าย

 

“ปีเตอร์,เเฮร์รี่!!!”เห็นการต่อสู้ระหว่าง เวน่อมสไปเดอร์แมน เเละ กรีนก็อบลิน เเจ็คสันตะโกนวาบในใจ

 

ตุ้ม!!

 

พริบตาเดียวก็ปรากฏเงาร่างสีดำเเทรกกลางระหว่างการต่อสู้ของเวน่อมเเละกรีนก็อบลินเบื้องหน้าของพวกเขาคือเเจ็คสัน ในเวลานี้เเจ็คสันได้กระโดดลงมากลางสนามรบเเละจ้องมองไปที่ทั้งสองคน

 

“ตายซะ,ตาย!!”เห็นการปรากฏตัวของเเจ็คสัน ทั้งสองคนได้พุ่งเข้าโจมตีทันที ในมือของเเจ็คสันปรากฏดาบเก้าอสนีเพื่อรับมือกับการโจมตีของปีเตอร์เเละเเฮร์รี่

 

ปั้ง

 

ฟุ่บ

บ้านพักตากอากาศของโทนี่ ในขณะที่โทนี่งีบหลับเเละเพิ่งตื่นขึ้นมา เเจ็คสันได้สั่งการให้ไอรอนแมนออกปฏิบัติการพิเศษ เขาได้ให้  J.A.R.V.I.S  ช่วยเหลือในเรื่องนี้เพราะเป็นห่วงปีเตอร์ เขากลัวว่าปีเตอร์จะถูกทำร้ายโดยเวน่อม

 

“ท่านครับ,ไอรอนแมนหมายเลข 13 พบตัวสไปเดอร์แมนเเล้ว!” J.A.R.V.I.S  กล่าวตอบสนองอย่างรวดเร็วหลังจากที่ไอรอนแมนหมายเลข 13 ถูกส่งออกไปก็ตรวจพบปฏิกิริยาของสไปเดอร์แมนไม่นานโทนี่ก็ปรากฏตัวขึ้นข้าง ๆ เเจ็คสัน

 

“พบ?เขาอยู่ไหน?”ได้ยินคำพูดของ  J.A.R.V.I.S  เเจ็คสัน กล่าวถามอย่างเร่งรีบ

 

ฟุ่บ!

 

J.A.R.V.I.S  ไม่ได้ตอบคำถามของมิราจไนท์ เขาเปิดภาพจากข้อมูลของไอรอนแมนหมายเลข 13 ที่ด้านหน้าเขามองเห็นสไปเดอร์แมนที่กำลังจัดการคนของครอบครัวเเฟนงเกนสไตน์

 

“ดูเหมือนว่าเขาจะถูกควบคุมโดยเวน่อมในตอนนี้”เห็นสภาพบ้าคลั่งเช่นนั้นเเจ็คสันกล่าวออกมา

 

“อืม,ไอรอนแมนหมายเลข13ไม่มีอาวุธเคลื่อนเสียงพวกเราต้องรีบไปที่นั่นโดยด่วนเเล้ว”โทนี่ กล่าวออกมา

 

“อืม”เเจ็คสันพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

 

” J.A.R.V.I.S  เตรียมชุดเกราะ”โทนี่ตะโกนขึ้นบอก  J.A.R.V.I.S

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาเดียวชุดเกราะไอรอนแมนสองตัวก็ปรากฏขึ้นเเละห่อร่างของโทนี่เเละเเจ็คสัน หลังจากผ่านไปหลายวินาที ชุดเกราะไอรอนแมน 5 ตัว ก็ได้พุ่งออกจากโรงจอดรถใต้ดินของบ้านพักโทนี่มุ่งหน้าไปเขตเมืองนิวยอร์ก

 

 

เเจ็คสันเเละโทนี่ได้ขับเคลื่อนชุดเกราะไอรอนแมนไปยังตำเเหน่งของสไปเดอร์แมน ก่อนหน้านี้ หัวหน้าหนุ่มที่เป็นคนของครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์ได้เผยเเพร่ภาพวิดิโอเป็นอินเทอร์เน็ตเเละมันได้เผยเเพร่ตามสื่อต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว เพราะว่านี่เป็นข่าวสำคัญเกี่ยวกับ สไปเดอร์แมน

 

ในภาพสไปเดอร์แมนได้ทำร้ายเเละสังหารคน ชาวเน็ตจึงใคร่สงสัยว่ากลุ่มคนเหล่านั้นเเท้จริงเเล้วอาจจะเป็นกลุ่มคนที่ชั่วร้าย เเต่ในภาพนั้นการกระทำของสไปเดอร์แมนโหดร้ายมากคนเหล่านี้ไม่ได้ชักอาวุธออกมาทั้งยังหลบหนีการโจมตีของสไปเดอร์แมน บนภาพสไปเดอร์แมนได้ไล่ล่าคนเหล่านี้อย่างบ้าคลั่ง

 

“สไปเดอร์แมน! ปีเตอร์!”หลังจากที่วิดิโอถูกเผยเเพร่ เเฮร์รี่ที่นั่งในห้องทำงานของเขาก็มองเห็นมันเช่นเดียวกัน

 

ด้วยความช่วยเหลือจากกลุ่มหมอกสีดำไม่เพียงเเต่เเฮร์รี่จะรักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว ความเเข็งเเกร่งของเขาในปัจจุบันเองก็เพิ่มมากขึ้น เเม้จะไม่สามารถเทียบกับสไปเดอร์แมนเวน่อมได้ เเต่หมอกสีดำเองก็มีความสามารถพิเศษแปลก ๆ บางอย่าง การเผชิญหน้าของ หมอกสีดำเเละเวน่อมเผ่าพันธุ์ลึกลับนี้ ใครเเข็งเเกร่งกว่ากันล้วนไม่มีใครรู้

 

“ได้เวลาที่ฉันจะเอาคืนมันเเล้ว รอก่อนเถอะสไปเดอร์แมน!”เเฮร์รี่ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้เพียงเเต่ว่าในขณะนั้นเองก็ปรากฏเสียงลึกลับ

 

ฮี่ ฮี่~~~

 

“ใช่เเล้ว,แก้เเค้น เกลียดชังมัน เกลียดชัง สไปเดอร์แมน!”เสียงของมันได้ถูกส่งออกมาจากภายในร่างของเเฮร์รี่

 

ฟุ่บ!

 

ผ่านไปหนึ่งนาทียานบินของเเฮร์รี่ที่บรรทุกอาวุธเตรียมพร้อมก็ออกจากอาคารออสบอร์นอีกครั้งเขาไม่ได้สนใจความพ่ายเเพ้เมื่อคืนที่เขาได้เผชิญ

 

 

ระหว่างที่เเจ็คสันเเละโทนี่ รวมถึง เเฮร์รี่ กำลังมุ่งหน้าไปหาสไปเดอร์แมน ไอรอนแมนหมายเลข 13 ก็เข้าปิดกั้นด้านหน้าของสไปเดอร์แมนเพื่อหยุดการกระทำของเขา

 

“สไปเดอร์แมน หยุดการกระทำของคุณเดี๋ยวนี้”ชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13 ได้ยกมือขึ้นเตรียมพร้อมจู่โจมพร้อมกับกล่าวเตือน โดยJ.A.R.V.I.S

 

ผลจากการทดลองเมื่อคืนที่ผ่านมาอาวุธเลเซอร์ที่ติดอยู่บนชุดเกราะไอรอนแมนสามารถฆ่าเวน่อมได้ อย่างไรก็ตามโทนี่จะไม่ทำเช่นนั้นเพราะเขากลัวว่าหากลงมือทำแบบนั้นไปอาจจะเป็นอันตรายต่อปีเตอร์

 

เพียงเเต่ว่าคำเตือนของชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13 กลับไม่สามารถข่มขู่สไปเดอร์แมนได้ พริบตาเดียวสไปเดอร์แมนก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13

 

ปั้ง

 

ชุดเกราะไอรอนแมนได้ตอบสนองอย่างรวดเร็วเเรงไอพ่นที่ใต้เท้าได้พุ่งทะยานสูงขึ้นเพื่อหลบหนีการโจมตีของสไปเดอร์แมนที่พุ่งเข้ามา

 

เเน่นอนว่าสไปเดอร์แมนไม่ได้หยุดมือเเค่นี้เขาได้ระเบิดพ่นใยเเมงมุมออกไปเพื่อยึดติดชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13 เพื่อหวังจัดการมันในคราเดียว

 

ฟุ่บ!

 

อย่างไรก็ตามเเรงไอพ่นของชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13 กลับสูงมากมันได้พยายามจะดิ้นหลุดการจับกลุ่มของใยเเมงมุมสไปเดอร์แมน,ไม่นานใยเเมงมุมของสไปเดอร์แมนก็มีการเปลี่ยนเเปลงกระเเสพลังงานไฟฟ้าเเรงสูงได้พุ่งออกมา เเน่นอนว่านี่ไม่ใช่ความสามารถของเวน่อมเเต่เป็นความสามารถของชุดสูทไอรอนแมนที่โทนี่ออกแบบให้ใยเเมงมุมสายฟ้า

 

ฟุ่บ~~

 

“เเจ้งเตือน! เเจ้งเตือน! ชุดเกราะได้รับความเสียหายหนัก ปิดระบบการทำงาน”J.A.R.V.I.S กล่าวเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์ของชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13

 

หลังจากที่จัดการชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13 จนปิดการทำงานไปหลายส่วน สไปเดอร์แมนเวน่อมก็พุ่งเข้าไปพร้อมกับหมัดที่หนักหน่วง

 

ปั้ง

 

สุดท้ายชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13 ก็ถูกทำลายจนได้รับความเสียหายขนานใหญ่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ภายในได้รับผลกระทบจนเเทบจะไม่เหลือเค้าโครงเดิม

 

กึก กึก !

 

เเขนกลของชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข 13 ดูเหมือนจะยังมีสัญญาณการทำงานอยู่มันได้ปลดปล่อยการโจมตีขนาดเล็กพุ่งไปที่ปีเตอร์ นี่เป็นระบบป้องกันตัวสุดท้ายที่หลงเหลือในชุดเกราะไอรอนแมน

 

!

 

กระสุนจำนวนมากถูกกราดยิงออกไปยังสไปเดอร์แมน การโจมตีนี้หากเป็นผู้คนธรรมดาย่อมได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างเเน่นอน

 

เผชิญหน้ากับการโจมตีชุดท้ายของไอรอนแมนหมายเลข 13 สไปเดอร์แมนไม่ได้หลบเลี่ยงการโจมตีนั่นเพราะเวน่อมมีความสามารถที่จะต้านทานการโจมตีเหล่านี้

J.A.R.V.I.S ได้ตรวจสอบพื้นที่ภูมิภาคนิวยอร์กไปมากกว่า 90% เหลืออีก เพียง กว่า 10% เพียงเท่านั้นซึ่งหน้าที่เหล่านี้ได้ตกเป็นของผู้ใต้บังคับบัญชาของ เเจ็ค หรือก็คือ คนของครอบครัวเเฟรงเกนสไต์ พวกเขาได้ตรวจสอบเฝ้าระวังพื้นที่ที่เหลืออย่างรวดเร็ว เเจ็คได้ส่งคนจำนวนมากออกไปตรวจสอบพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานที่ที่ถูกทิ้งร้างมานาน

 

“นี่,หัวหน้า คุณคิดว่าพวกเราจะเจอสไปเดอร์แมนที่สถานที่เเถวนี้จริงจริงงั้นหรอ? นอกจากนี้ได้ยินมาว่าตอนนี้สไปเดอร์แมนมีพฤติกรรมแปลกไปหรือว่าเขากำลังป่วย”หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของหัวหน้าทีมสำรวจได้กล่าวออกมาหลังจากเดินมาถึงหน้าโบสถ์เเห่งนึง

 

ตั้งเเต่ที่เเจ็คได้กุมอำนาจของครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์ทั้งหมดเขาก็ได้ปฏิรูปเเละจัดระเบียบกองกำลังของเขาใหม่เพื่อง่ายต่อการใช้งาน

 

“ฉันเองก็ไม่รู้ บางทีสไปเดอร์แมนอาจจะคลุ้มคลั่งขึ้นมาก็ได้ เเต่สิ่งที่เรารู้เเน่ชัดในตอนนี้ก็คือพวกเราไม่ใช่คู่มือของสไปเดอร์แมน”หัวหน้าทีมหนุ่มคนนี้กล่าวตอบ เเน่นอนว่าเขาไม่มีความสามารถท่จะรับมือกับสไปเดอร์แมน หากพบเบาะเเสสไปเดอร์แมนเขาจะรีบเเจ้งข่าวในทันที

 

“เเน่นอน!”ชายคนที่ถามกล่าวพูดเห็นด้วยกับเรื่องนี้

 

“เลิกอู้เเละลุยงานต่อได้เเล้ว”หัวหน้าหนุ่มได้โยนก้นบุหรี่ลงที่พื้นที่ใช้เท้าดับก่อนที่จะมองไปที่โบสถ์

 

“นี่,หัวหน้า คนที่เราส่งเข้าไปสำรวจยังไม่มีการติดต่อกลับมาเลยนะ”เห็นหัวหน้าเดินเข้าไปที่ด้านหน้าของโบสถ์ ชายคนนี้กล่าวพูดขึ้น

 

“!”

 

เพร้ง

 

หลังจากที่ชายคนนี้กล่าวออกมาก็มีเสียงบางอย่างเเตกหัก

 

ดูเหมือนมันจะเป็นเสียงกระจกจำนวนมากที่ร่วงหล่นลงมาเเตกหลังจากนั้นพื้นที่บริเวณโบสถ์ก็สั่นสะเทือนเล็กน้อย

 

“หัวหน้า!!”ได้ยินเสียงเเละการสั่นสะเทือนหนึ่งในทีมที่เข้าไปสำรวจได้กล่าวพูดขึ้น

 

“สไปเดอร์แมน! สไปเดอร์แมน! ดาร์คสไปเดอร์แมน!”ทีมที่ถูกส่งเข้าไปได้กล่าวรายงานอย่างรวดเร็ว

 

 

นอกโบสถ์เต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพังทั้งยังมีบางสิ่งพุ่งออกมาโจมตีคนของเขามันคือสไปเดอร์แมนเวน่อม

 

“รายงาน! รายงาน! พวกเราพบตัวสไปเดอร์แมนเเล้วเข้ากำลังจัดการกับทีมของเรา! ย้ำ! เขากำลังโจมตีทีมของเรา!”หัวหน้าหนุ่มได้วิ่งไปซ่อนตัวเเละฉกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเเละกดโทรรายงานดูเหมือนหากพวกเขาคิดจะหลบหนีไปทั้งหมดคงจะไม่ทันการ

 

“เเกกำลังทำบ้าอะไร?”หัวหน้าทีมจ้องมองไปที่ลูกน้องของเขาทั้งยังกล่าวพูดออกมาเพราะเขาเห็นลูกน้องของเขายกมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปอยู่

 

“นี่,หัวหน้า,คุณไม่คิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีงั้นหรอ?”เห็นหัวหน้าหนุ่มจ้องมองมาที่ตัวเอง ชายคนนี้กล่าวพูดขึ้นราวกับว่าได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในตอนนี้

 

“โอกาสที่ดี โอกาสบ้าอะไรของเเก?”

 

“เปิดเผยตัวตนที่เเท้จริงของสไปเดอร์แมน! สไปเดอร์แมน ฮีโร่ขวัญใจชาวนิวยอร์กที่โด่งดัง คุณไม่คิดว่า วิดีโอที่เขาทำร้ายผู้คนจนบาดเจ็บสาหัสจะเป็นเครื่องกระตุ้นการโจมตีจากบรรดาเเฟน ๆ ของเขาหรอกหรอ ถ้าพวกเขาเห็นด้านที่ชั่วร้ายของสไปเดอร์แมนเช่นนี้พวกเขายังจะชอบฮีโร่คนนี้อยู่อีกรึไม่”ชายคนนี้กล่าวพูดขึ้นอย่างไม่เเยเเส

 

“เออว่ะ,เป็นความคิดที่ไม่เลวรีบอัปขึ้นออนไลน์เร็วเข้า”ได้ยินคำพูดจากหนึ่งในคนของเขา หัวหน้าคนนี้กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

 

“เข้าใจเเล้ว,ผมจะรีบอัพขึ้นออนไลน์ทันที”

 

“สถานะการสนับสนุนยืนยันรีบอพยพโดยด่วน!”ในขณะที่พวกเขากำลังจะถ่ายคลิปเผยเเพร่ออนไลน์จอโทรศัพท์มือถือของพวกเขาก็ปรากฏเสียงเเปลก ๆ ขึ้น

 

“สนับสนุน,สถานะ อะไรวะ?”พวกเขาไม่ได้สนใจเสียงเเปลก ๆ พวกเขางงกับข้อความเสียงที่อยู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้น

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าในขณะนั้นเองพวกเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างมาจากด้านบนท้องฟ้ามันเป็นวัตถุสีเเดงรูปร่างคล้ายมนุษย์กำลังบินพุ่งมาที่นี่ด้วความเร็วสูง

 

“พระเจ้า…ไอรอนแมน!”เห็นการปรากฏตัวขึ้นของไอรอนแมน หัวหน้าหนุ่ม เเละ หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาตะโกนขึ้น

 

“รีบออกไปจากที่นี่ซะ,เเละหยุดเผยเเพร่วิดิโอ!”เสียงนึงได้ปรากฏออกมา

 

มันได้ตะโกนขึ้นผ่านโทรศัพท์มือถือเเละหยุดชะงักการเผยเเพร่ภาพวิดิโอ

 

“นี่!”

 

“ถอนกำลัง,เร็วเข้าถอนกำลังออกจากพื้นที่โดยเร็ว”ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หัวหน้าหนุ่มตะโกนออกคำสั่งกับคนของเขาในพื้นที่ทันที

 

การปรากฏตัวของไอรอนแมนนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกเขา เเต่หลังจากที่ไอรอนแมนปรากฏขึ้นเขาได้เตือนกลุ่มของตัวเองผ่านทางโทรศัพท์ทั้งยังระงับการเผยเเพร่วิดิโอนี่เป็นเจตนาข่มขู่อย่างเห็นได้ชัด

 

หัวหน้าหนุ่มเเละผู้ใต้บัญชาคนนั้นไม่ได้ถ่ายคลิปต่อเเม้ว่าพวกเขาจะอยากก็ตามอย่างไรก็ตามวิดิโอก่อนหน้านี้ที่พวกเขาถ่ายไว้ได้ถูกอัพโหลดไปเเล้ว ตอนนี้เองก็มีคนได้ดูมันเเละเห็นการกระทำของของสไปเดอร์แมนที่ฆ่าผู้คนจำนวนมาก

 

หลังจากที่ไอรอนแมนปรากฏตัวคนของครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์ก็เรียกถอนกำลัง,กลุ่มคนที่บาดเจ็บจำนวนมากได้ลากพวกของตัวเองที่บาดเจ็บสาหัสหลายคนพยุงเดินออกไปภายใต้การสังเกตุของไอรอนแมน เเม้ว่าคนเหล่านี้จะบาดเจ็บสาหัสเเต่หลังจากจบภารกิจนี้เเจ็คจะต้องชดเชยพวกเขาในภายหลังอย่างเเน่นอน

 

ออสบอร์น,ห้องพยาบาลส่วนตัวของเเฮร์รี่

 

เเจ็คสันได้ไปส่งเเฮร์รี่ให้กับโรงพยาบาลของออสคอร์ปเหล่าคนของออสคอร์ปตกใจมากเกี่ยวกับสภาพของเเฮร์รี่ตั้งเเต่ที่เเฮร์รี่ฉีดยาไททันหมายเลข 1 เขาก็เเข็งเเกร่งขึ้นมากเเต่เเล้วกลับพบว่าบนตัวของเเฮร์รี่เต็มไปด้วยบาดเเผลอย่างน่าประหลาดใจจนพวกเขารู้สึกสงสัยว่าเเฮร์รี่ได้ไปเผชิญหน้ากับอะไรมากันเเน่

 

ไม่รู้ว่าเเฮร์รี่ได้เผชิญหน้ากับสถานการณ์ไหนมาเเต่พวกเขาก็ไม่คิดจะสืบความประธานหนุ่มคนนี้ต่อ พวกเขาได้ให้ความสำคัญกับการรักษาอย่างรวดเร็ว

 

เพียงได้รับการรักษาเเละพักฟื้นในหนึ่งคืนอาการของเเฮร์รี่ก็ดีขึ้นมาก

 

จิ๊บ! ~~! ~~

 

เช้าวันรุ่งขึ้นเเสงเเดดยามเช้าได้ลอดผ่านหน้าต่างของห้องพยาบาลจนกระทบเข้ากับใบหน้าของเเฮร์รี่มันได้ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล

 

ฟุ่บ!

 

เเฮร์รี่ที่ตื่นขึ้นมาเขาสำรวจตัวเองเเละพบเครื่องมือทางการเเพทย์จำนวนมากที่ติดอยู่บนร่างกายของเขา เขาได้ดึงมันออกทันทีนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เครื่องมือเหล่านั้นส่งสัญญาณร้องเตือน

 

ติ๊ดดด! ~~

 

ทีมเเพทย์ที่ได้ยินเสียงเตือนเหล่านั้นรีบดิ่งเข้ามาในห้องพวกเขาเห็นเเฮร์รี่ลุกขึ้นมานั่นทำให้พวกเขาค่อนข้างประหลาดใจอย่างมาก ดูเหมือนการฟื้นฟูของเเฮร์รี่จะฟื้นสภาพกลับมาได้สมบูรณ์แบบอาจเรียกได้ว่ามันคล้ายกับปาฏิหาริย์ก็มิปาน

 

“ท่านประธานเเฮร์รี่…”

 

“ฉันไม่เป็นไร”ไม่ต้องรอให้ทีมเเพทย์เเละพยาบาลกล่าวเเฮร์รี่พูดออกมา

 

“ดูเหมือนสภาพร่างกายของคุณจะฟื้นตัวได้ไวกว่าที่พวกเราคาดหวังไว้”ได้ยินคำตอบของเเฮร์รี่นักวิจัยยายีนคนนึงได้กล่าวขึ้น

 

“เสื้อผ้าของฉันอยู่ไหน”เเฮร์รี่ไม่ได้ตอบสนองต่อความตื่นเต้นของนักวิจัยคนนี้เขามองไปที่ใบหน้าของคนหลายคนเเละกล่าวถาม

 

“ผมจะรีบนำมันมาให้คุณ”เจ้าหน้าที่เเพทย์คนนึงได้เร่งรีบวิ่งออกไปทันที

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงเเฮร์รี่ก็เเต่งตัวเสร็จพร้อมกับนั่งอยู่ในออฟฟิศของตัวเอง เขาไม่ได้พูดกับใครเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เขาเพิ่งเผชิญหน้ามาจนได้รับบาดเจ็บ

 

“ปีเตอร์?มิราจไนท์?”บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เเฮร์รี่จ้องมองไปที่ภาพเหล่านั้น

 

ที่จริงก่อนหน้านี้ที่เเฮร์รี่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของสไปเดอร์แมนเขายังไม่หมดสติโดยสมบูรณ์ตอนนั้นเขาได้ยินเสียงมิราจไนท์ตะโกนชื่อของปีเตอร์ขึ้นมา ซึ่ง เเฮร์รี่ ที่มีสติอันเลือนลางค่อนข้างคลุมเครือ

 

“ปีเตอร์?ปีเตอร์?สไปเดอร์แมน?…”เเฮร์รี่ทวนชื่อของปีเตอร์ไม่หยุดพร้อมกับเทียบลักษณ์กับสไปเดอร์แมน

 

“หรือว่าปีเตอร์คือสไปเดอร์แมน?”ในที่สุดเเฮร์รี่ก็ตะโกนพูดขึ้น

 

ถ้าหากนับข้อที่เขาสงสัยในช่วงที่มิราจไนท์ตะโกนชื่อของปีเตอร์ขึ้นมันก็ค่อนข้างประจวบเหมาะพอดีทั้งมิราจไนท์ในตอนนั้นยังเรียกชื่อของเขามันทำให้พฤติกรรมของสไปเดอร์แมนหยุดชะงักไปชั่วครู่

 

คนที่ฆ่าพ่อของเขาเเท้จริงเเล้วก็คือเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา มันเป็นเรื่องที่่่น่าเหลือเชื่อมาก

 

“เช่นนั้นเเกจะทำอย่างไร?จะยังเเก้เเค้นให้พ่อของเเกต่อรึไม่?”ในขณะที่เเฮร์รี่นิ่งเงียบเป็นเวลานานในใจของเขาก็ปรากฏเสียงลึกลับเเปลก ๆ

 

เสียงลึกลับนี้ได้ดังก้องในจิตใจของเขา เเฮร์รี่ไม่ได้สังเกตุเลยว่าร่างกายของเขาปลดปล่อยหมอกสีดำออกมา กลุ่มหมอกสีดำนี้คล้ายกับกลุ่มหมอกสีดำที่เคยอยู่ในร่างกายของนอร์แมน มันคล้ายกับปรสิต ไม่รู้ว่าสิ่งนี้มีผลกระทบต่อจิตใจของผู้คนหรือไม่

 

หมอกสีดำนี้มีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวข้องกับเทพปีศาจก่อนหน้าที่นอร์แมนถูกควบคุมพวกทางอารามศักดิ์สิทธิ์เองก็ตรวจจับได้ถึงสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับพลังงานปีศาจ

 

จุดประสงค์ของมันไม่เเน่ชัดเเต่ดูเหมือนมันจะพยายามโน้มน้าวเเฮร์รี่อยู่”ปีเตอร์ คือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ฉัน…”เเฮร์รี่กล่าวอย่างตะกุกตะกัก

 

“เขาเป็นเพื่อนของเเก? เมื่อวานนี้เเกเกือบจะถูกฆ่าโดยสไปเดอร์แมน คนที่เเกเรียกว่าเพื่อนสนิท”เสียงลึกลับได้กล่าวเตือนเเฮร์รี่

 

“ปีเตอร์…สไปเดอร์แมน”ความรู้สึกที่อยู่ในใจของเเฮร์รี่ก้องร้องอย่างประหลาด ปีเตอร์ ได้ฆ่าพ่อของเขาทั้งเมื่อวานปีเตอร์ก็เกือบจะฆ่าเขา

 

“ใช่,สไปเดอร์แมนได้ฆ่าพ่อของฉัน ทั้งมันยังคิดจะฆ่าฉัน…ฉันจะต้องล้างเเค้น ฉันจะต้องฆ่ามันให้ได้!”ในที่สุดดวงตาของเเฮร์รี่ก็เปล่งประกายสีเขียวเเวบผ่าน

 

“ฮ่าฮ่า ใช่เเล้ว จงเกลียดชัง ความเกลียดชัง จะสามารถเเปรเปลี่ยนเป็นความเเข็งเเกร่งของเเก มองหาสไปเดอร์แมน เเละฆ่ามันซะ ปลดปล่อยความเกลียดชังทั้งหมดที่เเกมีให้มันได้รับรู้!”เสียงเเปลก ๆ ได้หัวเราะออกมาเเละยุยงเเฮร์รี่

 

พริบตาเดียวมันก็ลอยกลับเข้าไปในร่างของเเฮร์รี่อีกครั้ง

 

 

“คุณมิราจไนท์,ผมได้ตรวจสอบพื้นที่ต้องสงสัยไปมากกว่า 90% เเล้ว ยังมีพื้นที่ห่างไกลอีกประมาณ 10% ที่ยังคงไม่ได้ตรวจสอบ พื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่เทียมที่อยู่ห่างไกล”ในขณะที่เเจ็คสันอยู่ที่ห้องปฏิบัติการใต้ดินของโทนี่ เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังขึ้น

 

“อืม,ดูเหมือนว่าวงเเถบพื้นที่จะเเคบลงมาบ้างเเล้ว”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาสำหรับโทนี่ในตอนนี้เขาได้นอนอยู่ข้างบน

 

เเจ็คสันได้กดโทรหา สกาย’อาย เพื่อต้องการความช่วยเหลือในการมองหาสไปเดอร์แมน เเฮกเกอร์คนนี้เป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ในตอนนี้

 

“มิราจไนท์ คุณได้เบาะเเสเเล้วงั้นหรอ?”ได้เห็นปลายสายเป็นมิราจไนท์ สกาย’อาย กล่าวถามอย่างเร่งรีบ นี่เป็นภารกิจเเรกที่เขาได้รับทั้งยังเป็นภารกิจเเรกหลังจากเข้าร่วมทีม เขาไม่อยากจะให้ภารกิจของตัวเองล้มเหลวเเบบนี้

 

“J.A.R.V.I.S ได้ตรวจสอบพื้นที่ไปมากกว่า 90% เเล้ว เหลืออีกเพียง 10% ที่เป็นพื้นที่เทียมที่จะต้องตรวจสอบ นายบอกเเจ็คให้เขาส่งกำลังคนลงไปในพื้นที่ที่เหลือนี้เพื่อตรวจสอบทันที”เเจ็คสันบอกกล่าวโดยตรง

 

“เข้าใจเเล้ว,ฉันจะรีบเเจ้งให้ คุณ เเจ็ค ทราบ”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ สกาย’อาย ตอบกลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับพิมพ์คีย์บอร์ด

 

“คุณเเจ็คกำลังส่งคนเร่งรีบดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เหล่านั้น”หลายวินาทีต่อมา สกาย’อาย ก็ตอบกลับมิราจไนท์ ดูเหมือนเเจ็คจะตอบรับงานอย่างรวดเร็ว

 

“อืม,หากพบเบาะเเสต้องสงสัยให้รีบเเจ้งให้ฉันทราบทันที เรื่องนี้คงต้องรบกวนนายเเล้ว”เเจ็คสันกล่าวพูดขึ้นก่อนที่จะตัดสายไป

 

“คุณมิราจไนท์!”ได้รับการไว้วางใจจากมิราจไนท์ สกาย’อาย เห็นได้ชัดว่ารู้สึกมีความสุข

“!!!”ภายใต้ม่านรัตติกาลโบสถ์ที่ถูกทิ้งร้างในย่านชานเมืองอันห่างไกลในนครนิวยอร์ก

 

หลังจากหลบหนีการไล่ล่าของเเจ็คสัน ปีเตอร์ ก็ได้หลบหนีกลับมาที่โบสถ์เเห่งนี้ ด้วยสัญชาตญาณของเวน่อม เเต่พอมาถึงที่นี่ปีเตอร์ก็สามารถดึงจิตสำนึกของเขากลับมาได้

 

อั๊ก

 

“ฉันจะไม่ยอมให้แกควบคุมฉันอีก,ออกไปจากตัวฉันซะ!”ปีเตอร์กล่าวออกมาอย่างรุนเเรง

 

ก่อนหน้านี้เขาถูกควบคุมโดยเวน่อม จิตใต้สำนึกของเขาได้หลุดลอยเข้าสู่ห้วงความฝันเเม้ว่าจะมีสติเเต่ร่างกายก็ไม่สามารถตอบสนองต่อคำสั่งของเขา เขามองเพื่อนร่วมทีมของตัวเองที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บคนเเล้วคนเล่า

 

เพียงเเต่ว่าพอมาถึงโบสถ์เเห่งนี้ด้วยการต่อสู้อันยาวนานทำให้เวน่อมบาดเจ็บเล็กน้อย ดังนั้นปีเตอร์จึงสามารถช่วงชิงสติของเขากลับมาอีกครั้ง เขาต้องการขับไล่ปรสิตตัวนี้ออกจากร่างกาย ดังนั้นเขาจึงฉีกกระชากหนวดพิษของมันเเต่ว่ามันกลับติดเกาะร่างกายของเขาเเน่น

 

ยิ่งเป็นร่างกายที่ดีด้วยเเล้วเวน่อมยิ่งมีพันธะผูกติดเเน่นขึ้นมันจะฝังร่างเเละตั้งใจจะยึดครองร่างนี้เพื่อความอยู่รอดของมันดังนั้นมันจึงไม่ยอมเเพ้ง่าย ๆ

 

ไม่ว่าปีเตอร์จะใช้ความพยายามมากขนาดไหนมันก็รั้งติดตัวเขาเเน่นเเกะไม่ออกทั้งมันยังพยายามจะควบคุมความคิดของปีเตอร์กลับ

 

ปีเตอร์ไม่ต้องการปรสิตตัวนี้อีกเเล้ว เขาต้องการกำจัดมัน ดังนั้น ปีเตอร์จึงสู้ด้วยเเรงใจทั้งหมดที่มี

 

“!”ปีเตอร์ได้ฉีกกระชากเวน่อมที่ติดอยู่ที่หน้าเขาเเละพยายามจะดึงมันออก

 

การต่อสู้ห้ำหั่นเพื่อที่จะช่วงชิงร่างนั้นทำให้ปีเตอร์เสียหลักเล็กน้อยหลังของเขาพุ่งเข้ากระทบกับระฆังเก่าเเก่ที่ติดอยู่บนหอคอยของบนจนเกิดเสียงดังขึ้น

 

“ซี่ ซี่ !!”ได้ยินเสียงเเหลมดังที่ส่งเสียงออกมา หนวดของเวน่อมได้สั่นไปทั่วทุกทิศทาง

 

ภายใต้อิทธิพลของเสียงระฆังเหมือนปีเตอร์จะฉุดคิดได้เขาได้ทำให้เกิดเสียงขึ้นอีกครั้ง

 

“!!”เพร้งเสียงระฆังได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ด้วยการกระทำของปีเตอร์ทำให้เวน่อมกรีดร้องออกมา ในที่สุด ปีเตอร์ก็รู้ว่าจุดอ่อนของมันนั้นเป็นคลื่นเสียงความถี่เเน่นอนนี่เป็นโอกาสที่เขาจะทำให้มันสลัดหลุดจากตัวเอง

 

เเต่เวน่อมกลับไม่ยอมให้เป็นเช่นนี้โดยง่ายหนวดที่เเตกกระจายอยู่เต็มพื้นได้คลานเข้าหาปีเตอร์เพื่อที่จะยึดครองล่างเขาอีกครั้ง

 

“ไม่,ฉันจะไม่ยอมให้เเกควบคุมฉันได้อีก!!”ปีเตอร์ได้กระโดดถอยออกจากหนวดของเวน่อมที่กำลังคลานเข้าหาเขา

 

ฟุ่บ!

 

ปีเตอร์ได้ถอยห่างจากระฆังไม่ถึง 10 เซนติเมตร เพียงเเต่ว่าขณะนี้เวน่อมก็ดูเหมือนจะฟื้นตัวเสร็จสิ้นจากหนวดที่เเยกกระจายของมัน

 

เพร้ง!

 

ปีเตอร์ตั้งใจจะส่งเสียงระฆังอีกครั้งเพียงเเต่ว่าเขากลับไม่สามารถทำได้เวน่อมได้กระโดดพุ่งเข้าใส่ตัวเขาส่งผลให้เกิดเสียงกรีดร้องไปทั่วโบสถ์เเห่งนี้ก่อนที่จะเงียบหายไป

 

 

บ้านพักตากอากาศของโทนี่,ห้องใต้ดิน เเจ็คสัน เเละ โทนี่ กำลังวิเคราะห์เกี่ยวกับการเเยกเวน่อมออกจากกัน

 

“ให้ตายเถอะ,เเม้ว่าจะมีวิธีมากมายเเต่ดูเหมือนผลการวิจัยที่คาดหวังเอาไว้จะไม่เป็นไปตามที่หวังเพราะเราตัวอย่างวิจัยไม่เพียงพอเราต้องการข้อมูลการวิจัยที่ละเอียดมากขึ้น”

 

“เเต่เท่านี้พวกเราก็มั่นใจได้เเล้วในจุดอ่อนของมัน ดังนั้นพวกเรามีโอกาสช่วยเหลือสไปเดอร์แมนโดยไม่ให้เขาต้องบาดเจ็บ”โทนี่ รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมากเขาพูดบอกมิราจไนท์ ในความทรงจำเดิมของ เเจ็คสัน เวน่อมเเพ้คลื่นเสียงความถี่สูง เเน่นอนว่ามันสามารถบั่นทอนกำลังของเวน่อมได้เเต่หากคิดจะฆ่าเวน่อมจะต้องมีอุณหภูมิความร้อนมากกว่า 1,000 องศาขึ้นไป อุณหภูมิความร้อนธรรมดาไม่สามารถฆ่ามันได้

 

“ดูเหมือนเราจะต้องหาอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นความถี่พิเศษในการดึงตัวมันออกมา”เเจ็คสันกล่าวออกมา โชคดีที่จุดอ่อนของเวน่อมในโลกนี้กับภาพยนตร์ที่เขาเคยดูนั้นเหมือนกันไม่งั้นเขาคงไม่รู้จะหาวิธีอย่างไรในการจัดการมัน

 

“นี่ไม่ใช่ปัญหา ฉันจะให้ J.A.R.V.I.S วิเคราะห์สร้างคลื่นความถี่พิเศษนี้เอง คุณไปพักผ่อนเถอะ คุณเหนื่อยมามากเเล้ว เเม้ว่าคุณจะเเข็งเเกร่ง เเต่การพักผ่อนก็สำคัญ”เห็นมิราจไนท์ยังคงมีท่าทีมุ่งมั่นโทนี่ กล่าวบอก

 

เเน่นอนว่าโทนี่เองก็เพลียมากเเต่เขาก็เป็นกังวลเกี่ยวกับปีเตอร์สำหรับมิราจไนท์ที่เขาพูดออกไปเพราะความเป็นห่วง

 

“ฉันไม่เป็นไรเเค่ได้นั่งพักเล็กน้อยก็พอเเล้ว”

 

เเจ็คสัน สั่นศีรษะ เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากมาย ที่สำคัญก็คือสถานการณ์ของปีเตอร์ ดังนั้นเขาจึงอดเป็นห่วงไม่ได้

 

“เช่นนั้นก็เเล้วเเต่คุณสะดวกเถอะคุณจะอยู่พักที่นี่ต่อก็ได้นะ”โทนี่เข้าใจดีว่ามิราจไนท์คิดอะไรอยู่เขาเองก็เป็นห่วงปีเตอร์

 

“จริงสิ หลังจากเราเจอตัวสไปเดอร์แมนเเละสามารถเเยกมันออกมาได้เเล้วคุณวางเเผนจะจัดการเวน่อมยังไง?”โทนี่ที่เตรียมพร้อมจะขึ้นไปชั้นบนเพื่อนอนเขากล่าวถามมิราจไนท์อีกครั้ง

 

“หืม?…คุณมีความคิดดีดีงั้นหรอ?”ได้ยินเช่นนั้นเเจ็คสันกล่าวถามตอบ เขาคิดว่าบางทีโทนี่อาจจะมีเเผนบางอย่างในใจ

 

“อืม,สิ่งมีชีวิตนี้ค่อนข้างปราดเปรื่องเรื่องการวิจัยสูง ดังนั้นมันมีค่าพอให้ฉันทุ่มกำลังศึกษาวิจัยมันต่อ”โทนี่ไม่ได้ปกปิดความตั้งใจของเขา

 

เห็นได้ชัดว่าเวน่อมนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวทั้งยังมีลักษณะที่พึ่งพาอาศัยร่างกายร่วมกันหรือก็คือภาวะอยู่ร่วม มันไม่ได้อยู่แบบฟรี ๆ เพราะยังตอบเเทนด้วยการมอบความเเข็งเเกร่งให้กับโฮสต์ นี่เป็นสิ่งที่โทนี่สนใจ หากสามารถควบคุมเวน่อมได้ดั่งใจ เขาเชื่อว่าบางทีชุดเกราะไอรอนแมนอาจจะเเข็งเเกร่งขึ้นกว่าเดิม

 

“หากคุณสามารถควบคุมมันได้ ฉันจะยกมันให้กับคุณ”เเจ็คสันรู้ดีว่าเวน่อมมีค่าต่อการวิจัยสูง

 

“สบายใจเถอะ,ฉันจะต้องกำราบมันให้อยู่ในกำมือได้เเน่นอน”โทนี่พูดอย่างมั่นใจ

 

“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”เเจ็คสันเองก็คาดหวังในเรื่องนี้

 

อย่างไรก็ตามสิ่งนี้สามารถควบคุมได้จริงจริง งั้นหรอ? เเม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ยากเเต่ก็คุ้มค่าที่จะลองดู

ฟุ่บ!

 

หลังจากผ่านไปหนึ่งนาทีโทนี่ก็พบตำเเหน่งของมิราจไนท์เพียงเเต่ว่าสไปเดอร์แมนกลับไม่อยู่กับเขา

 

“มิราจไนท์…สไปเดอร์แมนล่ะ?”ไอรอนแมนสองตัวได้จอดบนหลังคาที่มิราจไนท์ยืนอยู่

 

“เขาไปทางนั้น ฉันไม่อาจไล่ตามหยุดเขาได้ทัน”มองดูเเสงสลัวด้านหน้าในช่วงเวลากลางคืนเเจ็คสันกล่าวพูดออกมา

 

ดูเหมือนคราวนี้เเจ็คสันจะบาดเจ็บหนักชุดเกราะดั้งเดิมของเขาพลังป้องกันลดลงฮวบชุดสูทมายาของเขาเเทบจะรับการโจมตีต่อไม่ไหวเห็นได้ชัดว่าสไปเดอร์แมนในตอนนี้เขาย่อมไม่ใช่คู่มือ

 

ปีเตอร์ได้ถูกควบคุมโดยปกสิตเวน่อมไม่เพียงเเต่บุคลิกภาพที่เปลี่ยนเเปลงเเม้เเต่ความเเข็งเเกร่งก็รุนเเรงมากขึ้นเช่นเดียวกัน

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ ชุดเกราะไอรแมนก็เปิดหมวกพร้อมกับเผยใบหน้าของโทนี่ออกมา

 

“คุณไม่เป็นอะไรนะ?ได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”โทนี่จ้องมองไปที่มิราจไนท์เเละถามอย่างกังวล

 

“ฉันไม่เป็นอะไรที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือสถานการณ์ของสไปเดอร์แมนมีบางสิ่งได้ชักนำให้เขากลายเป็นอีกคนนึง เราจะต้องรีบหยุดเขา”ตอนนี้เเจ็คสันไม่สนใจคำเป็นห่วงของโทนี่ เขาสนใจเพียงเเค่ เวน่อม ที่สิงร่างปีเตอร์

 

“บางสิ่ง?ดูเหมือนคุณจะพอรู้เรื่องอะไรมาบ้าง”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ โทนี่ รู้สึกสงสัย เขาได้เฝ้ามองการเปลี่ยนเเปลงของสไปเดอร์แมนเเต่ก็ไม่สามารถระบุได้

 

“มันถูกเรียกว่า เวน่อม เป็นปรสิตจากต่างดาว มันอาศัยพาหนะเพื่อที่จะมีชีวิตรอดยิ่งไปกว่านั้นมันจะกระตุ้นอารมณ์เชิงลบของคนที่มันเข้าอาศัย โดยการเเลกเปลี่ยนกับความเเข็งเเกร่งเพื่อให้โฮสต์มีความพึงพอใจ สุดท้ายมันก็จะยึดร่างโดยสมบูรณ์”เผชิญหน้ากับคำถามของโทนี่ เเจ็คสันอธิบายโดยไม่ปิดบัง

 

“ปรสิตจากต่างดาว?มันมาที่โลกนี้ได้ยังไง?”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์โทนี่ รู้สึกสงสัย

 

“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เเต่ที่รู้เเน่ชัดคือตอนนี้เราจำเป็นจะต้องรีบช่วยสไปเดอร์แมน”เห็นโทนี่ประหลาดใจ เเจ็คสัน กล่าวพูดออกมา

 

“เเน่นอน,เราจะต้องกำจัดปรสิตที่ชั่วร้ายนี้ นอกจากนี้ สไปเดอร์แมนยังเป็นเพื่อนร่วมทีมคนสำคัญเราจะไม่ยอมสูญเสียเขาไป”โทนี่ กล่าว

 

โทนี่ ถือว่าเป็นผู้สนับสนุนส่วนนึงของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ได้ยินความน่ากลัวของปรสิตจากต่างดาว อย่างเวน่อม เขารู้สึกว่ามันอันตรายอย่างมากต่อโลกนี้

 

“เช่นนั้นคุณก็รู้วิธีที่จะรับมือกับ เวน่อม โดยไม่ต้องทำร้ายสไปเดอร์แมนใช่มั้ย?”เนื่องเพราะตอนนี้สไปเดอร์แมนถูกควบคุมอยู่ โทนี่ ต้องการ รู้จุดอ่อนของเวน่อม โดยที่ไม่ต้องทำร้ายสไปเดอร์แมน

 

“ฉันพอจะมีวิธีอยู่บ้าง เเต่ก็ไม่อาจยืนยันได้เเน่ชัด ฉันเองก็ต้องการความช่วยเหลือในเรื่องนี้จากคุณเหมือนกันคุณ สตาร์ก ตอนนี้พวกเรากลับกันก่อนเถอะ ไล่ตามตอนคงจะไม่ทันเเล้ว”เเจ็คสันมองไปที่ทิศทางที่ปีเตอร์หายตัวไป

 

“อืม,เช่นนั้นคุณใส่ชุดสูทไอรอนแมนเถอะ อย่างน้อยก็ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง”โทนี่กล่าวพยักหน้าพร้อมกับเปิดชุดไอรอนแมนอีกตัวให้มิราจไนท์

 

“อืม”เเจ็คสันไม่ได้ปฏิเสธ การเดินทางระยะไกลนั้นเเน่นอนว่าใช้พลังขับเคลื่อนของไอรอนแมนถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

 

ฟุ่บ!

 

จากนั้นไอรอนแมนทั้งสองตัวก็ลอยพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า

 

 

หลังจากนั้นสองชั่วโมง

 

ทันทีที่จัดการเรื่องเเฮร์รี่เสร็จ โทนี่ เเละ มิราจไนท์ ก็กลับไปที่บ้านพักริมทะเลของโทนี่ นี่เป็นครั้งเเรกที่เเจ็คสันมาด้วยสถานะมิราจไนทาของเขา เขามักจะปรากฏตัวด้วยสถานะเเจ็คสันที่น่าบ่อยครั้งดังนั้นจึงค่อนข้างคุ้ยเคยกับบ้านพักหลังนี้ เเจ็คสันไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของเขาถูกสังเกตุการณ์โดยโทนี่ อยู่ เเต่ โทนี่ ก็ไม่ได้พูดอะไร มุมปากเพียงโค้งงอเล็กน้อย ก่อนที่จะพามิราจไนท์ไปที่ ห้องใต้ดินของเขา เขาได้รับตัวอย่างมาจากปลายตัวของเวดมันคือชิ้นส่วนเนื้อของเวน่อม

 

“นี่เป็นตัวอย่างปรสิตนั่นหรอ?ชั่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่ลึกลับจริงจริง”ภายใต้การจ้องมองเวน่อมในขวดเเก้วโทนี่ พูดออกมา

 

โทนี่ต้องการวิจัยสิ่งมีชีวิตนี้ เเน่นอนว่ามันเป็นปรสิตที่เกาะคนอื่นเพื่อความอยู่รอดเเต่สิ่งนี้มันก็ค่อนข้างลึกลับทำให้โทนี่รู้สึกสนใจเป็นพิเศษ

 

“ก่อนหน้านี้คุณบอกว่ามีวิธีรับมือกับมันใช่หรือไม่?”

 

“เรื่องนี้คงต้องลองดูฉันเองก็ไม่อาจรับประกัน”จ้องมองไปที่เวน่อม เเจ็คสัน พูดออกมา

 

“พวกเราจะเตรียมพร้อมรับมือกับเวน่อม ทันทีที่สไปเดอร์แมนปรากฏตัวอีกครั้งเราจะกำจัดเวน่อมทันที”เเจ็คสันกล่าวเสริม

 

“อืม,ฉันเองก็ต้องการความร่วมมือจากคุณ นอกจากนี้ ฉันได้ให้ J.A.R.V.I.S เฝ้าระวังเส้นทางที่สไปเดอร์แมนหลบหนีไปเเล้วหากเขาปรากฏตัวขึ้นเราจะค้นพบเขาทันที”โทนี่ กล่าวออกมา

 

“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”เเจ็คสันกล่าวออกมาเล็กน้อยตอนนี้เขารู้สึกไม่สบายใจมาก

 

 

เเจ็คสันเเละโทนี่ได้ทำการทดลองเเยกเวน่อมเเละหาจุดอ่อนด้วยกันในคืนนั้นคนอื่น ๆ ในกลุ่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็กลับบ้านเพื่อพักฟื้นตัว เเจ็คได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ เเละดูเหมือนคงต้องพักการต่อสู้ไประยะนึง เเดร์เดวิลเองก็บาดเจ็บหนัก เเม้เขาจะเเข็งเเกร่งขึ้น เเต่ก็ไม่ได้เป็นอมตะ เทียบกับ เวด เเล้ว การฟื้นฟูกายภาพของเวดนั้นนับว่ารวดเร็วกว่ามาก

 

นอกเหนือจากทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์คนที่บาดเจ็บจากการเข้าปะทะสไปเดอร์แมนเวน่อมก็คือ เเฮร์รี่ อาการของเขารุนเเรงมาก หากไม่ได้เป็นเพราะเเฮร์รี่มีเซรุ่มไททันหมายเลข 1 ในร่างกายเขาคงจะตายไปเเล้ว

 

เเฮร์รี่ได้ถูกหามส่งโรงพยาบาล เเจ็คสันเป็นคนพาเขาไปส่งที่นั่นเพียงเเต่ว่าในขณะที่เเฮร์รี่กำลังนอนไม่รู้สติกลับปรากฏกลุ่มเงาอย่างมาจากร่างกายของเเฮร์รี่ก่อนที่จะหายไปในที่สุด

ปั้ง!

 

เพียงเเค่ไม่ถึงสองนาทีสถานการณ์ของสนามลับกลับตาลปัตรอย่างมาก ตอนนี้ เดดพูลถูกจัดการเเละถูกย่ำเหยียบด้วยเท้าของสไปเดอร์แมน

 

ไม่เพียงเเค่ เดดพูล เท่านั้น เเม้เเต่เเจ็คก็ถูกส่งลอยซัดเข้าใส่กำเเพง ตอนนี้ เเจ็คคือสมาชิกทีมที่มีความเเข็งเเกร่งที่น้อยที่สุด หากไม่นับรวม สกาย’อาย ที่เป็นเพียง สมาชิกที่สนับสนุนทีมด้านหลัง ไม่ใช่ศึกเผชิญหน้า เเจ็ค เมื่อเข้าเผชิญหน้าโดยตรงกับปีเตอร์ เขาก็ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส หากไม่ได้ เเดร์เดวิล ช่วยป้องกัน สถานการณ์ของเเจ็คคงจะเลวร้ายอย่างมาก

 

“ให้ตายเถอะ! ทำไมมันถึงเเข็งเเกร่งขนาดนี้?!”เวดได้กล่าวพูดออกมาหลังจากเห็นเเจ็คถูกโจมตีส่งลอยไป

 

เเม้ว่าเวดจะบาดเจ็บสาหัสกว่าเเจ็ค เเต่เขาก็มีพลังที่สามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายกลับมาได้ เมื่อเผชิญหน้ากับ สไปเดอร์แมนเวน่อม พวกเขาไม่ใช่คู่มือเเม้เเต่น้อย เพื่อรอให้ มิราจไนท์ สังเกตุสถานการณ์เเละจุดอ่อนของศัตรู

 

ภายใต้สนามรบพื้นที่จำนวนมากต่างถูกทำลายเเจ็คสันสังเกตุความเเข็งเเกร่งของปีเตอร์ เเม้เขาจะเข้าร่วมศึกนี้ก็ไม่สามารถรับมือสไปเดอร์แมนได้อยู่ดี

 

ตึก !

 

เเจ็คสันตั้งใจใช้โอกาสในการโจมตีออกด้วยดาบเก้าอสนีของเขาเพียงเเต่ว่า บาดเเผลที่ถูกฟันโดยเขากลับถูกรักษาโดยหนวดสีดำอย่างรวดเร็ว หมายความว่าสภาพการฟื้นฟูของมันนั้นเร็วเกินไปที่เขาจะสร้างความเสียหาย

 

เเม้เเจ็คสันจะทุ่มการโจมตีทั้งหมดก็ไม่อาจทำร้าย เวน่อม ให้บาดเจ็บได้ ,ก่อนหน้านี้ เขาได้เห็นสถานการณ์ที่เเฮร์รี่ถูกปีเตอร์เล่นงานจนสบัดสบอม ถึงเเม้เขาจะสามารถทำร้ายปีเตอร์ได้ เเต่ลึกลึก เขาก็ไม่ต้องการทำเช่นนั้น

 

เเจ็คสันเฝ้ารอโอกาสที่เเดร์เดวิลสร้างให้ ปัจจุบัน เเมตต์ มีความก้าวหน้าที่ดีมาก ความเเข็งเเกร่งของเขาค่อนข้างรุนเเรงหากเป็นสไปเดอร์แมนปกติก็ยังยากที่จะเผชิญหน้ากับเเมตต์ ทั้งสองคนได้พุ่งเข้าไปห้อมล้อมสไปเดอร์แมนเอาไว้เพื่อรอโอกาส

 

ฟุ่บ!

 

ใบดาบอันเเหลมคมได้พุ่งไปตัดเสื้อของปีเตอร์อย่างไรก็ตาม เวน่อมก็สบัดการโจมตีของเเจ็คสันเเละฟื้นฟูบาดเเผลฉีกขาดอีกครั้ง

 

“เห็นทีฉันคงต้องลองกระตุ้นของหนักดูบ้างเเล้ว!”เห็นหนวดสีดำนั้นเเจ็คสันยื่นมือออกไปเตรียมชาร์จพลังดาบเก้าอสนีของเขา

 

“ลองรับนี่ดู!!!”

 

เปรี้ยง!

 

เเจ็คสันได้ปลดปล่อยความเเข็งเเกร่งของพลังงานสายฟ้าออกไปมันทำให้หนวดสีดำนั้นมีปฏิกิริยาตอบรับเเละใช้หนวดจำนวนมากเพื่อต้านทานการโจมตี

 

“ซี่ ซี่ ซี่ !!”ได้รับความเสียหายจากพลังงานสายฟ้าบนปลายดาบของดาบเก้าอสนี เวน่อม ได้ส่งเสียงร้องออกมาเล็กน้อย

 

“ฟึ่ม!”เผชิญหน้ากับการโจมีตของเเจ็คสัน เวน่อม ได้พุ่งเข้าหาเเจ็คสันทันที มันได้ตัดสินเเล้วว่าบุคคลนี้เป็นศัตรูที่อาจจะทำร้ายมันได้

 

เวน่อมได้ซัดกำลังเข้าใส่เเจ็คสัน ปัจจุบัน เเจ็คสันมีความเเข็งเเกร่งที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะพลังป้องกันของเขา เขาได้ฝึกฝนมันอย่างหนักในช่วงภายหลังมานี้

 

ปั้ง!

 

การป้องกันของเเจ็คสัน ได้ถูกหนวดสีดำจำนวนมากถาโถมนับไม่ถ้วน หนวดสีดำเหล่านี้มีคุณสมบัติที่มีการโจมตีเจาะเกราะพิเศษเเม้จะหยืดหยุ่นเเต่ก็เเข็งเเกร่ง

 

“ถอยไปซะ!”เห็นเวน่อมยังคงโจมตีตัวเอง เเจ็คสัน โห่ร้องออกมาเเละสบัดดาบเก้าอสนีของเขาอีกครั้ง

 

ฟุ่บ!

 

เเสงสีม่วงได้พุ่งตัดหนวดของเวน่อมจนขาดสะบั้นเผยให้เห็นผิวกายของปีเตอร์อีกครั้ง

 

เวน่อมรู้ดีว่ามันประมาทเกินไปหากมันรั้งสู้ต่ออาจจะทำร้ายโฮสต์ของตัวเอง ในขณะที่มันเผชิญหน้ากับมิราจไนท์ เเดร์เดวิล ก็เเยกไม้เท้าเป็นกระบองสองท่อนพร้อมกับพุ่งโจมตีเวน่อม,เวน่อมที่สังเกตุเห็นการโจมตีมันได้พ่นใยเเมงมุมสีดำออกมาเพื่อต้านรับเเละบั่นทอนเเรงโจมตีนั้น

 

ปั้ง

 

เพียงเเต่ว่าเเดร์เดวิลได้ถูกส่งลอยกลับไปอีกครั้ง

 

“เเดร์เดวิล!”เเจ็คสันตะโกนออกมา ดูเหมือน เวน่อม จะโจมตีเเดร์เดวิลคราวนี้จนได้รับบาดเเผลรุนเเรง

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันได้พุ่งเข้าไปหวังจะช่วยเเดร์เดวิล เวน่อมที่เห็นเช่นนั้นมันได้ใช้หนวดดำของมันยึดเกาะพื้นที่ตึกเเถวนั้นอย่างรวดเร็ว

 

“จะหนีไปไหน!”เเจ็คสันได้ตะโกนขึ้นเขารู้ทันทีว่าเวน่อมพยายามจะหลบหนีดังนั้นเขาจึงได้เกาะหนวดของเวน่อมไป

 

ฟุ่บ!

 

ใช้เวลาไม่นานสไปเดอร์แมนก็หายตัวไป พร้อมกับมิราจไนท์

 

เมื่อครู่การโจมตีสุดท้ายของเวน่อมได้สร้างบาดเเผลให้กับเเดร์เดวิลสาหัส ส่วน เเจ็ค เองก็ได้รับบาดเจ็บ จนสิ้นสภาพการต่อสู้ เดดพูล ก็ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น พวกเขาทั้งสามไม่มีเรี่ยวเเรงในการตามไปสมทบมิราจไนท์

 

“เวรเอ้ย,ไอ้บ้านั่นมันคือตัวอะไรกันเเน่ มิราจไนท์เองก็ได้ตามมัน”เวดกล่าวพูดออกมาอย่างรุนเเรง

 

เห็นการปรากฏตัวที่คล้ายสัตว์ประหลาดของเวน่อมเรื่องนี้ทำให้เวดตกใจจริงจริง

 

“รอให้มิราจไนท์กลับมาบางทีเราอาจจะได้รู้ในสิ่งที่ตัวเองสงสัย เเต่เขาเรียกสิ่งนั้นว่าสไปเดอร์แมน ,ดูเเละมันไม่น่าใช่สไปเดอร์แมนคล้ายสัตว์ประหลาดมากกว่า”เเจ็คได้กุมท้องเดินมาที่ด้านหน้าของทั้งสองคน

 

“เเดร์เดวิล,เดดพูล, เเจ็ค ,ชุดเกราะไอรอนแมนสองตัวกำลังบินไปยังตำเเหน่งของพวกคุณ”เห็นทั้งสามคนพูดคุยกันเกี่ยวกับ เวน่อม,สกาย’อาย กล่าวส่งเสียงผ่านช่องสื่อสารของพวกเขา เกี่ยวกับความผิดปกติของสไปเดอร์แมนนั้นทำให้ สกาย’อาย รู้สึกหวาดกลัวจริงจริง

 

!

 

ภายใต้การเตือนของ สกาย’อาย เดดพูล เเละ คนอื่น ๆ ก็สังเกตุเห็นชุดเกราะไอรอนแมนสองตัวปรากฏขึ้น นี่เป็นชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ดูเหมือนสถานการณ์ปรสิตเมื่อครู่นี้ ทำให้ โทนี่ ตัดสินใจส่งชุดเกราะไอรอนแมนออกมาเเต่ดูเหมือนเขาจะมาช้าไป

 

“มิราจไนท์เเละสไปเดอร์แมน?”เผชิญหน้ากับทั้งสามคนภายใต้ชุดเกราะได้กระจายเสียงของโทนี่ ออกมา

 

“พวกเขาไปทางด้านนั้น!”เวดได้กล่าวตอบโทนี่ยังทิศทางที่สไปเดอร์แมนเเละมิราจไนท์หายไป

 

ฟุ่บ!

 

ได้รับคำตอบจากเวด ไอรอนแมนสองตัวได้ขับเคลื่อนพุ่งไปยังตำเเหน่งนั้นด้วยความเร็ว ความเร็วของชุดเกราะทั้งสองนั้นไม่รู้ว่าเร็วกี่เท่าเมื่อเทียบกับความเร็วของสไปเดอร์แมนเเละมิราจไนท์

 

“ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันค่อนข้างจะใหญ่โตทีเดียว”เดดพูลจ้องมองไปที่ เเฮร์รี่ ที่นอนอยู่ไม่ไกล

 

“ฉันก็คิดเช่นนั้น,ดูเหมือนมันจะมีเบื้องหลังที่เรายังไม่รู้อีกมาก”เเจ็คพยักหน้าพูดเห็นด้วย

ปั้ง

 

เเจ็คสันได้ก้าวไปข้างในเพียงเเต่ว่าผนังที่ด้านข้างเขาก็ถูกระเบิดขึ้นจากนั้นเงาร่างของคนคนนึงก็ลอยออกมา มันคือร่างของเเฮร์รี่ชุดเกราะของเเฮร์รี่ตอนนี้ได้รับความเสียหายขนานสุดใบดาบตรงมือไม่รู้ว่าหายไปไหนยิ่งไปกว่านั้นเงาที่ด้านหน้าก็ยังปรากฏร่างของสไปเดอร์แมนขึ้น

 

เเม้ว่าเเฮร์รี่จะเเข็งเเกร่งเเต่ก็ยังไม่ใช่คู่มือของสไปเดอร์แมน เพราะว่าตอนนี้ สไปเดอร์แมน มีเวน่อมสนับสนุนทำให้ความเเข็งเเกร่งเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

 

“เเกเป็นคู่ซ้อมที่น่าสนใจทีเดียว น่าเสียดายที่เเกกลับอ่อนเเอไปนิด”ปีเตอร์คว้าชุดเกราะของเเฮร์รี่เพื่อยกเขาขึ้น

 

เเม้ว่าชุดเกราะของเเฮร์รี่จะถูกทำลายไปหลายส่วนเเต่หน้ากากส่วนบนของเขาไม่ได้ถูกสร้างความเสียหายเเม้เเต่น้อยอาจเป็นเพราะว่าปีเตอร์ได้จงใจเล่นงานเฉพาะส่วนที่ทำร้ายง่ายที่สุด

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าหลังจากปีเตอร์ยกมือตั้งใจจะทำลายชุดเกราะของเเฮร์รี่โดยสมบูรณ์เเละโยนเขาลงไปที่ข้างล่างกลับมีเสียงนึงดังขึ้น

 

“ปีเตอร์ อย่า! เขาคือ เเฮร์รี่!”เห็นปีเตอร์ตั้งใจจะโยนเเฮร์รี่ลงมาจากชั้น 7 เเจ็คสันได้ตะโกนขึ้นโดยไม่สนใจสถานะของสไปเดอร์แมน

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าเเม้ปีเตอร์จะตอบสนองเร็วเเค่ไหนเขาก็เผลอปล่อยมือไปเเล้วไม่สามารถหยุดชะงักตามเสียงตะโกนที่ดังขึ้นได้

 

“เเฮร์รี่?!”ได้ยินเสียงเตือนจากมิราจไนท์ ปีเตอร์ตะโกนขึ้นเล็กน้อย

 

“เเฮร์รี่!”เห็นเเฮร์รี่ที่ตกลงไปเเจ็คสันตั้งใจจะพุ่งเข้าไปหาเเฮร์รี่เพื่อหวังจะไปช่วยเหลือเขเา

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าปีเตอร์ได้ฉายใยเเมงมุมออกไปเพื่อหวังจะไปดูเเฮร์รี่ที่ตกไปด้านล่าง

 

ฟุ่บ!

 

ด้วยความว่องไวของปีเตอร์ เเน่นอนว่าเขามาถึงก่อนเเจ็คสัน ในระหว่างที่เเฮร์รี่กำลังร่วงหล่น ใยเเมงมุมของปีเตอร์ก็พุ่งเข้าไปชะลอความเร็วตกของเเฮร์รี่ด้วยความยืดหยุ่นของใยเเมงมุมทำให้การตกของเเฮร์รี่ได้ชะลอลง

 

ตึ้บ!

 

“ไม่…เเฮร์รี่!”เห็นเเฮร์รี่ที่ตกกระทบกับพื้นเเจ็คสันตะโกนอย่างกังวล

 

หลังจากตกกระเเทกลงพื้นหน้ากากของเเฮร์รี่ได้ถูกเปิดออก เขาอยู่ในสภาพหลับตาทั้งยังเปื้อนเลือดไปทั่วทั้งใบหน้าปีเตอร์ที่อยู่ไม่ไกลจากเเฮร์รี่เขาสามารถสังเกตุใบหน้าได้ชัด

 

“เขาคือ…เเฮร์รี่!”เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยปีเตอร์เดินถอยหลังโดยไม่รู้ตัวเขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตาตัวเองเห็น เเม้จะได้รับผลกระทบต่อเวน่อม เเต่เขาก็ยังมีจิตสำนึกที่สามารถสำนึกรู้ได้ว่าคนคนนี้คือเพื่อนของเขาไม่ผิดเเน่

 

อย่างไรก็ตามปีเตอร์ที่ก้าวถอยหลังพยายามจะเดินเข้าหาเเฮร์รี่เพียงเเต่ว่าก็ได้หยุดชะงักลงเพราะถูกเวน่อมกลับมาควบคุมอีกครั้งร่างกายของปีเตอร์ปรากฏหนวดสีดำที่ยึดพื้นดินเเละพยายามไม่ให้ปีเตอร์เดินหน้าต่อ

 

“หุบปากซะ!”เผชิญหน้ากับการเปลี่ยนเเปลงของเวน่อม ปีเตอร์ ตะโกน โห่ร้องออกมา

 

ดูเหมือนเขาจะพูดคุยกับเวน่อมในจิตใจของเขาเมื่อเวน่อมพบว่าปีเตอร์มีปฏิกิริยาต่อต้านมันก็พยายามควบคุมสถานการณ์ตอนนี้เเละร่างกายของปีเตอร์

 

“มันคือเวน่อมจริงจริง!”เห็นการเปลี่ยนเเปลงของปีเตอร์ เเจ็คสันตะโกนออกมา

 

“สกาย’อาย, เเดร์เดวิล เเละ คนอื่น ๆ จะมาถึงตอนไหน! นอกจากนี้ บอกเดดพูลให้รีบมาด้วย ฉันต้องการความช่วยเหลือของเขา”หลังจากตรวจสอบสถานการณ์ของ เเฮร์รี่ เเละ ปีเตอร์ เเจ็คสันตะโกนบอก สกาย’อาย

 

“พวกเขากำลังไปถึงที่นั่น!”ได้ยินเสียงตะโกนของมิราจไนท์ สกาย’อาย ตอบอย่างเร่งรีบ

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากที่ได้ยินคำตอบรับของ สกาย’อาย เพียงเวลาไม่ถึง 5 วินาที ก็ปรากฏบุคคลทั้งสามคน นั่นก็คือ เเดร์เดวิล,เเจ็ค เเละ เดดพูล

 

“เเยกย้ายกันล้อมเขาไว้ เราจะต้องทำการจับกุมตัวเขาไว้”เห็นเพื่อนร่วมทีมมาสนับสนุน เเจ็คสันตะโกนขึ้น

 

ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ ทั้งสามคน ได้วิ่งไปยังตำเเหน่งจุดเพื่อล้อมรอบสไปเดอร์แมนทันที หนวดสีดำบนร่างกายของปีเตอร์ได้ถูกยื่นออกมาทั้งยังปรากฏรูปลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตที่เลื้อยคลานอย่างน่ากลัว

 

“พระเจ้า ห่าไรวะนั่น!”เห็นหนวดของเวน่อมที่ยื่นออกมา เดดพูล ตะโกน ขึ้นอย่างตกใจหากเป็นคนปกติทั่วไปเเล้วเเน่นอนว่าพวกเขาจะต้องหวาดกลัวเป็นธรรมดา

 

ครืดดด

 

เเม้เเต่ เเดร์เดวิล เเละ เเจ็ค ก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกัน หนวดสีดำนั่นได้ปรากฏออกมาจากร่างกายของสไปเดอร์แมน เพียงเเต่ว่าพวกเขากลับเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้พวกเขาจะต้องปฏิบัติตามคำพูดของมิราจไนท์ อันดับเเรกพวกเขาจะต้องจับกุมสไปเดอร์แมนก่อน

 

“จัดการเลย!”เเจ็คสันตะโกนขึ้นบอกเพื่อนร่วมทีมของเขา

 

พริบตาเดียวทั้ง 3 คนก็ลงมืออย่างรวดเร็วเพียงเเต่ว่าเวน่อมได้เเยกหนวดออกเพื่อรับมือกับการโจมตีเหล่านั้นเเละป้องกันเอาไว้ได้

 

ปั้ง!

 

เเดร์เดวิลได้หยิบไม้เท้าของเขาขึ้นมาเพื่อเข้าปะทะกับหยวดสีดำ ตั้งเเต่เข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. เเดร์เดวิล ก็ไม่ได้จำเป็นจะต้องห่วงเรื่องอุปกรณ์ของเขาเพราะไม้เท้าของเขาเป็นอาวุธที่ถูกทำขึ้นอย่างพิเศษ

 

สำหรับเเจ็คเขาได้คอยสนับสนุนเเดร์เดวิล เเละพยายามขว้างมีดบินเพื่อสกัดการโจมตีเหล่านั้นเพราะเขาไม่สามารถเข้าปะทะกับสไปเดอร์แมนโดยตรงได้

 

ส่วน เดดพูล เขาได้หยิบดาบยาวสองเล่มขึ้นมาเเละฟันบนหนวดสีดำ เพียงเเต่ว่าเขากลับไม่สามารถฟันมันเข้าใบมีดยาวของเขาทำได้เพียงเเต่หักเหการโจมตีของหนวดสีดำที่ออกมาจากสไปเดอร์แมนได้เท่านั้น

 

ในระหว่างที่เพื่อนร่วมทีมของเขาเข้าปะทะกับ เวน่อม เเจ็คสัน ก็เตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือเเฮร์รี่

 

ในขณะนั้นเองเเดร์เดวิลได้ทิ่มด้านไม้เท้าที่เเหลมคมไปที่ใบหน้าของสไปเดอร์แมนเพียงเเต่ว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นศีรษะของสไปเดอร์แมนกลับเเยกร่างเเละพองเพี้ยนเป็นรูปร่างของสัตว์ประหลาดที่มีฟันเเหลมคม

 

ซี่ ซี่

 

มันได้กัดเข้าใส่ไม้เท้าของเเดร์เดวิลเเละสบัดเขาเพื่อส่งให้ลอยออกไป เห็นการโจมตีอันเเปลกประหลาดของสไปเดอร์แมน เเจ็ค เเละ เดดพูล รู้สึกประหลาดใจทันที

 

“นั่นใช่สไปเดอร์แมนงั้นหรอ?”จ้องมองไปที่หัวของสไปเดอร์แมนที่ราวกับอสูรกาย เวด กล่าวพูดโดยไม่รู้ตัว

 

เเม้จะประหลาดใจเเต่เวดก็ยังคงพุ่งเข้าหาศัตรูเพื่อหวังจะหยุดสไปเดอร์แมน เเจ็ค เองก็พุ่งปาใบมีดเข้าหาสไปเดอร์แมนโดยตรงพวก

 

!

ซ่วบ!

 

ใบมีดของยานบินเเฮร์รี่ได้เเทงเข้าสู่ทรวงอกของสไปเดอร์แมนเพียงเเต่ว่า สไปเดอร์แมนกลับไม่ได้รับบาดเจ็บเเม้เเต่น้อย

 

ครืด

 

ใบมีดของเเฮร์รี่เพียงเเค่เฉือนโดนชุดของปีเตอร์จนขาดเล็กน้อยเพียงเเต่ว่าด้วยความสามารถของเวน่อมชุดของปีเตอร์ทั้งหมดได้ฟื้นคืนสภาพ

 

!

 

เห็นสถานการณ์เเปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับสไปเดอร์แมนเเฮร์รี่รู้สึกตกใจเขาไม่คาดคิดเลยว่าใบมีดของยานบินของเขาจะไม่สามารถทำอันตรายต่อสไปเดอร์แมนได้ ,เเฮร์รี่ได้ถอยยานบินโดยไม่ได้ตั้งใจในมือของเขาขว้างปาอาวุธบินไปอย่างรวดเร็ว

 

“ฮ่าฮ่า,ฉันกำลังรู้สึกเบื่ออยู่พอดี ได้เเกมาเล่นด้วยนับว่าเเก้เบื่อฉันได้ไม่น้อย!”เห็นอาวุธเเหลมคมที่ถูกปามา ปีเตอร์ยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

เพร้ง เพร้ง เพร้ง

 

อย่างไรก็ตามอาวุธขว้างเหล่านั้นกลับถูกปัดโดยปีเตอร์เพียงเเต่ว่าหลังจากถูกปัดออกไปขนานข้างมันก็ระเบิดขึ้นในทันที

 

คลื่นกระเเทกจากระเบิดส่งผลให้ปีเตอร์ต้องเร่งเร้าหลบหนีโดยด่วน คลื่นความร้อนเหล่านั้นค่อนข้างมีอิทธิพลต่อเวน่อม ปีเตอร์ ได้ฉายใยเเมงมุมไปที่ตึกด้านหน้าก่อนที่จะโหนตัวของเขาพุ่งเข้าปะทะกับเเฮร์รี่

 

ปั้ง!

 

เผชิญหน้ากับการโจมตีของสไปเดอร์แมนเเฮร์รี่ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน

 

“หึ่ม!”ใยเเมงมุมของสไปเดอร์แมนได้เกาะติดที่ยานบินของเขา

 

ฟุ่บ!

 

เเฮร์รี่ได้โยนลูกทรงกลมขนาดเล็กที่เป็นโลหะพุ่งตรงไปที่เส้นใยเเมงมุมที่เกาะติดยานบินของเขา จากนั้นก็เกิดการระเบิดขึ้นเปลวเพลิงกลุ่มนุ่มได้มอดไหม้กลางเวหา

 

ฟึ่ม!

 

ดูเหมือนเเฮร์รี่จะติดอาวุธมาครบมือ เปลวไฟเหล่านั้นได้เผาไหม้ใยเเมงมุมของสไปเดอร์แมน,ปีเตอร์ได้ศึกษาเกี่ยวกับใยเเมงมุมของสไปเดอร์แมนมาเเล้ว เเม้จะมีความหยืดหยุ่นเเละค่อนข้างเเข็งเเรง เเต่จุดอ่อนร้ายเเรงที่สุดก็คือไฟ ดังนั้นมีหรือที่เเฮร์รี่จะไม่เตรียมพร้อมสำหรับการรับมือใยเเมงมุมนี้

 

ฟุ่บ!

 

เเฮร์รี่ได้มุ่งหน้าเข้าหาสไปเดอร์แมนอีกครั้งเเต่หลังจากเห็นการเปลี่ยนเเปลงที่สไปเดอร์แมนถูกระเบิดเขาเมื่อครู่กลับไร้ริ้วรอยบาดเจ็บเเม้เเต่เสื้อผ้ามันทำให้ปีเตอร์รู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง

 

“ชุดนั่นทำมาจากนาโนเทคโนโลยีงั้นหรอ?”เเฮร์รี่ย่นคิ้วเล็กน้อยเขาได้ควงลูกโลหะขนาดเล็กพร้อมกับใบดาบพุ่งเข้าหาสไปเดอร์แมน

 

“น่าสนใจดีนิ!”เผชิญหน้ากับการโจมตีของเเฮร์รี่ ปีเตอร์ ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น จะบอกว่าปีเตอร์ก็ไม่ถูกซะทีเดียวเพราะบุคลิกนิสัยของเขาถูกควบคุมโดย เวน่อม

 

การเผชิญหน้าของเเฮร์รี่เเละสไปเดอร์แมนเวน่อมได้ดำเนินการอย่างดุเดือดพื้นที่กลางเวหาได้เกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ฝูงชนที่อยู่บนพื้นดินต่างให้ความสำคัญกับสถานการณ์พวกเขาเห็นฉากต่อสู้ระหว่างดาร์คสไปเดอร์แมนเเละบุคลนิรนาม

 

“!เพื่อนคนนี้เป็นใครกัน? เขากำลังเผชิญหน้ากับสไปเดอร์แมน?”เดดพูลที่เตรียมพร้อมจะรับมือกับสไปเดอร์แมนเขาตะโกนออกมาจากทางเข้าหน้าธนาคาร

 

“คนที่ต่อสู้กับสไปเดอร์แมนนั้นฉันค่อนข้างคุ้นเคยโดยเฉพาะยานบินนั้น เเต่ฉันก็ไม่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร ดูเหมือนเป้าหมายของเขาคือสไปเดอร์แมนไม่ผิดเเน่”หลังจากเดดพูลตะโกนออกมา สกาย’อาย ก็พูดขึ้น

 

ทั้งสองฝ่ายได้ต่อสู้กันกลางอากาศ มันทำให้ เดดพูลที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้บนเวหาหมดสิทธิ์เขาไม่สามารถช่วยสนับสนุนหรือหยุดการต่อสู้ได้ อย่างไรก็ตาม ตามที่ สกาย’อาย บอก มิราจไนท์ คงใกล้จะมาถึงเเล้ว

 

ปั้ง!

 

ในระหว่างการต่อสู้ของเเฮร์รี่เเละปีเตอร์ ไม่นาน ใยเเมงมุมของปีเตอร์ ก็ยิงใส่เข้ากับยานบินของเเฮร์รี่พร้อมกับเหวี่ยงเขาพุ่งไปชนตึกใกล้เคียง

 

ปั้ง

 

เพียงเเต่ว่าด้วยการโจมตีเเค่นี้คงไม่อาจทำให้เเฮร์รี่สิ้นสภาพได้ ด้วยศักยภาพร่างกายที่ถูกพัฒนามาทำให้ เเฮร์รี่เเข็งเเกร่งมากขึ้น ตัวต้นแบบของยานี้คือ ยายีน ทดลองของ ดร.คอนเนอร์ส เเต่ที่พิเศษคือเขาได้นำมันมาปรับปรุงจนเพิ่มศักยภาพเเละไร้ผลข้างเคียงอย่างการเเปรสภาพกลายเป็นอมนุษย์

 

เเฮร์รี่ ที่ถูกการโจมตีของสไปเดอร์แมนเขาได้ตกจากยานบินเพียงเเต่ว่า วินาทีต่อมา เเฮร์รี่ พยายามจะควบคุมยานบินของเขา เเต่เขากลับช้าเกินไป

 

ปั้ง!

 

ที่ด้านหน้าของเขาปรากฏสไปเดอร์แมนที่พุ่งเข้าซัดเขาจนกระเด็นลอยออกไป

 

เเฮร์รี่ได้พุ่งจนตกลงไปพร้อมกับยานบินที่กำลังร่วงหล่นเขาถูกปีเตอร์เล่นงานอย่างหนักหน่วง ปีเตอร์ ได้ฉายใยเเมงมุมอีกครั้งพร้อมกับโยนยานบินของเเฮร์รี่พุ่งไปทางเขา

 

เปรี้ยง

 

ปั้ง!

 

วินาทีต่อมา ร่างของเเฮร์รี่ ได้ร่วงหล่นลงสู่พื้นในอาคารเเห่งนึง

 

“!”เเฮร์รี่สำลักออกมา การโจมตีของสไปเดอร์แมนเเม้จะไม่ทำให้เเฮร์รี่บาดเจ็บสาหัสเเต่ก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย

 

อั๊ก

 

เเฮร์รี่คลานออกมาจากซากปรักหักพัง ที่ด้านหน้าของเขาปรากฏเงาร่างที่พุ่งเข้าชกจนเขาลอยกระเด็นออกไป

 

เเฮร์รี่ไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวได้ชัดเจนเงาร่างสีดำได้เคลื่อนไหวจัดการเขาจนล้มสะบักสะบอมอีกครั้งก่อนที่จะปรากฏร่างของดาร์คสไปเดอร์แมนเขาได้เดินมาเหยียบเข้าที่หน้าอกของเเฮร์รี่ทั้งยังกดเเรงทับอย่างหนักหน่วงไปที่ตัวของชุดเกราะ

 

 

“เวรเอ้ย,สกาย’อาย ขอตำเเหน่งของ สไปเดอร์แมน เเละบุคคลนิรนามนั้น!”เเจ็คสันที่ไปถึงที่สัญจรเขาตะโกนบอก สกาย’อาย เพื่อขอตำเเหน่งทันที

 

“เลี้ยวขวาด้านหน้า 50 เมตร พวกเขาอยู่ในอาคารที่ 7!”ได้ยินเสียงตวาดของมิราจไนท์ สกาย’อาย ตอบกลับอย่างเร่งรีบ

 

เเม้ว่า สกาย’อาย จะเป็นห่วงมิราจไนท์ เเต่เขาก็อดกังวลเกี่ยวกับการต่อสู้ของสไปเดอร์แมนไม่ได้ ดังนั้นเขาหวังว่า มิราจไนท์ จะรีบไปที่เกิดเหตุเเละเเก้ไขสถานการณ์โดยเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำตอบของ สกาย’อาย เเจ็คสัน ได้เร่งสปีดเท้าถีบตัวส่งไปด้านหน้าหลายสิบเมตรไม่นานเขาก็มาถึงหน้าตึกอาคารที่ปีเตอร์เเละเเฮร์รี่กำลังต่อสู้กัน

พัฟ!

“ทางออกเปิดโล่งเเล้ว!!”โจรสองคนสุดท้ายได้ใช้โอกาสในช่วงที่เดดพูลเตรียมจะวิ่งหนีออกไป

 

ในช่วงเวลาที่ สกาย’อาย เตือน เดดพูล เกี่ยวกับการปรากฏตัวขึ้นของสไปเดอร์แมน เดดพูล ก็เร่งการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่วินาทีในการจัดการโจรเหล่านี้ ยิ่งกว่านั้นเพื่อไม่ให้ตัวประกันเหล่านี้ตื่นตกใจเดดพูลไม่ได้ใช้ดาบคู่เเละปืนพกคู่ใจของเขา เขาได้จัดการศัตรูด้วยมือเปล่า

 

“คุณ เดดพูล สไปเดอร์แมน อยู่ห่างจากคุณไม่ถึงสองช่วงตึก มิราจไนท์เองก็กำลังมุ่งหน้ามาเขาได้ขอให้คุณได้เข้าสกัดกั้นสไปเดอร์แมนหากเป็นไปได้ให้หยุดเขาไว้”ในขณะที่เดดพูลจัดการโจรเหล่านี้เสร็จ เสียงของ สกาย’อาย ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

 

“อืม,ฉันรู้เเล้ว เชื่อมือได้เลย!”ได้ยินคำพูดของ สกาย’อาย เวด กล่าวปฏิบัติตาม

 

เเม้ว่าบางครั้งเขาจะทำตัวไร้สาระ เเต่ในช่วงเวลาสำคัญเวดก็เป้นคนที่มีเหตุผล เพราะงี้ชื่อเสียงของเขาจึงค่อนข้างต่ำกว่าสไปเดอร์แมน ที่พวก สกาย’อาย รู้จัก

 

“หืม?มียานบินกำลังมุ่งหน้ามายังตำเเหน่งของคุณอย่างรวดเร็ว!”เพียงเเต่ว่าหลังจากเตือนเดดพูลไปครู่เดียว สองวินาทีต่อมา สกาย’อาย เหมือนจับสัญญาณบางอย่างได้

 

“ยานบิน?ไอรอนแมน งั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของ สกาย’อาย เดดพูล กล่าวถาม

 

ในช่วงเวลาที่เขาร่วมกลุ่มกับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เขารู้ว่า มิราจไนท์ เเละ ไอรอนแมน โทนี่ มีความสัมพันธ์บางอย่างต่อกัน หากพูดอีกอย่างคือเขาจะไม่รู้สึกประหลาดใจถ้าไอรอนแมนจะปรากฏตัวที่นี่

 

“ไม่!นั่นไม่ใช่ไอรอนแมน มันไม่ควรใช่…”สกาย’อาย ปฏิเสธการคาดเดาของ เดดพูล ดูเหมือนยานบินนั้นจะพุ่งมาด้วยความเร็วสูงเเม้เเต่เขาตอนนี้ก็ยังไม่สามารถระบุตัวตนของฝ่ายตรงข้ามได้

 

“ห้ะ?”เดดพูล เหมือน ตกใจเล็กน้อย เขารู้สึกสงสัยเกี่ยวกับคำพูดของ สกาย’อาย

 

อย่างไรก็ตาม คราวนี้ สกาย’อาย ไม่ได้ตอบ เดดพูล เขาได้เปลี่ยนเป็นเชื่อมต่อกับ มิราจไนท์ ที่กำลัง มุ่งหน้ามาที่จุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว

 

“อะไรนะ?ยานบินที่ปรากฏตัวขึ้นคล้ายกับยานบินของกรีนก็อบลิน?เเละมันกำลังมุ่งหน้าไปที่ทางสัญจร?นายไม่ได้ดูผิดใช่มั้ย?”ได้ยินเสียงรายงานจาก สกาย’อาย เเจ็คสัน ตะโกนอย่างตกใจ เขาหวังว่านั่นจะไม่ใช่สิ่งที่เขาคิด

 

“ไม่ผิดเเน่! ฉันจำได้ดีเกี่ยวกับรูปลักษณ์ที่คล้ายคลึงของยานบิน เพราะมันเป็นฉากที่กรีนก็อบลินได้ใช้ยานบินในการต่อสู้กับสไปเดอร์แมน ฉันได้ดูหลายครั้งเเล้ว เเม้มันจะมีความคล้ายคลึงเเต่ก้ยังเเตกต่างกับยานบินก่อนหน้านี้ของกรีนก็อบลิน เพราะคราวนี้มันเป็นยานบินที่ติดอาวุธครบมือ!!!”ได้ยินเสียงตกใจอของมิราจไนท์,สกาย’อาย ตอบอย่างจริงจัง เขาเฝ้ามองภาพอย่างระวัง เเละบนยานบินนั่นก็คือ เเฮร์รี่

 

“เข้าใจเเล้ว! ฝากนายเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไปด้วย! หากเป็นไปได้ให้ช่วยติดต่อกับเเจ็คเเละเเดร์เดวิลให้รีบมาสมทบบางทีสถานการณ์อาจจะอยู่เหนือการควบคุม ตอนนี้ ให้เดดพูล จัดการรับมือสถานการณ์เบื้องหน้าไปก่อน ฉันจะรีบเดินทางไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”เเจ็คสันตอบกลับ สกาย’อาย ดูเหมือนเขาจะกังวลอย่างมาก

 

“รับทราบเเล้ว!”สกาย’อาย ตอบกลับเเละจ้องมองยังคอมพิวเตอร์ของเขาอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบตำเเหน่งของยานบินเเละตำเเหน่งของสไปเดอร์แมน นี่อาจจะเป็นงานสำคัญชิ้นใหญ่หลังจากที่เขาร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็เป็นไปได้

 

“ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ไปได้,เดิมทีมันไม่น่าจะเกิดขึ้น”หลังจากเลิกติดต่อกับ สกาย’อาย เเจ็คสัน ที่วิ่งอยู่ กรนด่าออกมาอย่างไม่หยุด

 

ได้รับการยืนยันจาก สกาย’อาย เกี่ยวกับยานบินที่คุ้นเคย เเม้ สกาย’อาย จะไม่สามารถระบุได้ว่าคนบนยานบินนั้นเป็นใคร เเต่เเจ็คสันกลับเเตกต่างออกไป เขาสามารถพูดได้เลยว่า หากเป็นดั่งที่เขาคิด คนบนยานบินจะต้องเป็น เเฮร์รี่ ไม่ผิดเเน่ เขาคงต้องใจล้างเเค้นให้กับ การตายของ นอร์เเมน

 

“ทำไมถึงเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นได้? ฉันจะไม่ยอมให้สถานการณ์มันบานปลายไปมากกว่านี้!”เเจ็คสันไม่มีเวลาว่างที่จะให้คิด เขาไม่รู้ถึงความโกรธเเค้นที่เเฮร์รี่มีต่อสไปเดอร์แมน เเต่เขาได้โยงเรื่องเหล่านี้มารวมกัน

 

ตึก ตึก!

 

เเจ็คสันไม่ลังเลที่จะเร่งความเร็วของเขาอีกครั้งเเม้ว่าตอนนี้เขาจะเร่งความเร็วจนขีดสุดก็ยังไม่อาจทันการเคลื่อนไหวของเเฮร์รี่ที่กำลังมุ่งหน้าไปหาสไปเดอร์แมนได้

 

 

“หืม?สบายใจเถอะ ฉันจะจัดการเอง”ในขณะที่มิราจไนท์กำลังมุ่งหน้ามา สกาย’อาย ก็เเจ้งให้ เดดพูล ทราบอีกครั้ง เกี่ยวกับคำพูดของ มิราจไนท์

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากที่เวดรับประกันในคำพูดของสกายอายด้านหน้าของเขาก็ปรากฏตัวร่างสีดำขึ้นร่างสีดำนี้คือสไปเดอร์เเมน ปีเตอร์ที่ได้ยินรายงานวิทยุของตำรวจเขาก็รีบมาที่เกิดเหตุทันทีเเต่ดูเหมือนสถานการณ์จะถูกคลี่คลายโดย เดดพูลไปเเล้ว

 

“สไปเดอร์แมนสีดำ?ไอ้ฉันก็เคยรู้จักเเต่สไปเดอร์แมนสีเเดงไม่ใช่หรอ?”เห็นการปรากฏตัวของสไปเดอร์แมน เดดพูล กล่าวพูดออกมาเล็กน้อย เขาได้รับปากคำที่มิราจไนท์ฝากฝังมาเเล้ว คงมีเเต่ต้องทำเท่านั้น

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่ว่าในขณะที่ สไปเดอร์แมนกำลังมุ่งหน้าโดดระหว่างตัวตึก เดดพูล ก็เห็นยานบินสีฟ้าเข้มพุ่งชนเข้ากับสไปเดอร์แมน

 

“สไปเดอร์แมน!”ในเวลาเดียวกันสไปเดอร์แมนก็ถูกชนจนร่วงหล่นด้วยความเร็วสูง

 

เเฮร์รี่ได้ใช้งานบินของเขากดร่างของสไปเดอร์แมนเพื่อให้อีกฝ่ายร่วงหล่นลง

 

ฟุ่บ!

 

ปากกระบอกปืนสีดำมืดได้ถูกยื่นออกมาพร้อมกับยิงกราดใส่สไปเดอร์แมนที่กำลังร่วงหล่นภายใต้อิทธิพลลึกลับของหมอกดำในตัวของเเฮร์รี่ เขาปราถนาที่จะฆ่าสไปเดอร์แมน

 

เพียงเเต่ว่าการโจมตีด้วยกระสุนปืนของเเฮร์รี่ไม่อาจทำร้ายสไปเดอร์แมนได้ดูเหมือนชุดของสไปเดอร์แมนจะต้านรับกระสุนทั้งหมดเเละหลีกเลี่ยงกระสุนเหล่านั้น ไม่นานปีเตอร์ก็ฉายใยเเมงมุมไปยังตึกอาคารใกล้เคียงเขาได้เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนไหว

 

! ยืด! ~~

 

เพียงเเต่ว่าในขณะที่ใยเเมงมุมสีดำถูกยิงออกไปยังพื้นที่ไกลมากกว่าสามเมตรใยเเมงมุมนั้นก็ถูกตัดขาดด้วยของมีคมบางอย่างมันเป็นอาวุธมีดขว้างของเเฮร์รี่ เขาได้ใช้สิ่งนี้ตัดใยเเมงมุมของปีเตอร์

 

ฟุ่บ!

 

ทันทีที่ตัดใยเเมงมุมของสไปเดอร์แมนได้ เเฮร์รี่ ก็เปิดระบบอาวุธใบมีดที่ด้านหน้ายานบินของเขาก่อนที่จะพุ่งไปอย่างรวดเร็วที่ร่างของสไปเดอร์แมน

 

ฟิ้ว~~~

ฟุ่บ!

 

“!”

 

ปั้ง!

 

“ระวังเท้าของฉันนะสหาย!”

 

ปั้ง!

 

ในขณะที่เดดพูลกำลังเคลื่อนไหวเพื่อจัดการโจรปล้นธนาคารเหล่านี้ทันใดนั้น สกาย’อาย ก็เหมือนตรวจพบอะไรบางอย่าง

 

“คุณเดดพูล,ฉัน พบสไปเดอร์แมนเเล้ว เขากำลังมุ่งหน้ามาทางคุณด้วยความเร็วสูง!”ขณะที่เวดกำลังเล่นกับพวกโจรด้วยมือเเละเท้าของเขา เสียงของ สกาย’อาย ก็ดังขึ้นจนเขาได้ยิน

 

“อะไรนะ?สไปเดอร์แมน?เขาจะมาขัดขวางการสร้างชื่อเสียงของฉันใช่มั้ย?”ได้ยินคำเตือนของ สกาย’อาย เวด ตะโกนขึ้นทันที เขากังวลว่า สไปเดอร์แมนจะมาเเย่งชื่อเสียงของเขา

 

“ฉันจะไม่ยอมให้เขาทำได้หลอก”จากนั้นเดดพูล ก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งดูเหมือนเขาจะต้องเเก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ให้เร็วที่สุด

 

“…”ได้ยินการตอบสนองของเดดพูล,สกาย’อาย ที่นั่งอยู่ในฐานลับของพวกเขาไม่รู้จะกล่าวพูดอะไรดี

 

ถ้าจะบอกว่า สกาย’อาย ยังชอบสไปเดอร์แมนมากกว่าเดดพูลอยู่นั้นยังเป็นความจริงเเต่ดูเหมือนสไปเดอร์แมนที่เขารู้จักจะเปลี่ยนไป เขาเเจ้งสถานการณ์ต่อ เดดพูลไป ก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงเริ่มวางเเผนติดต่อกับ มิราจไนท์ เเละ สมาชิกคนอื่น ๆ ในกลุ่มพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

ในขณะเดียวกัน นิวยอร์ก ดูเหมือน J.A.R.V.I.S จะสามารถจับ ภาพ สไปเดอร์แมนในชุดสีดำได้

 

“เจ้านายครับ,พบสไปเดอร์แมนเเล้วเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ทางสัญจร”หลังจากพิจารณาเเล้วว่าตัวตนสีดำนั้นคือสไปเดอร์แมน J.A.R.V.I.S เเจ้งให้ โทนี่ ทราบทันที

 

“เจอเเล้ว?สถานการณ์ตอนนี้เป็นแบบไหน?เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?”ได้ยินการรายงานของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวถามอย่างรวดเร็ว

 

“ไม่สามารถเชื่อมต่อกับสไปเดอร์แมนได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถระบุสถานการณ์ในตอนนี้ของสไปเดอร์แมนว่ามีบางอย่างผิดปกติ สิ่งนี้ไม่เเน่ชัดว่านับเป็นความผิดปกติหรือไม่” J.A.R.V.I.S ได้กล่าวตอบพร้อมกับเผยภาพให้ โทนี่ ดู

 

โทนี่ จ้องมองไปที่ ภาพของสไปเดอร์แมน ในรูปลักษณ์ชุดสีดำ ,ตอนนี้สไปเดอร์แมนกำลังเเกว่งตัวไปยังอาคารสูงที่ไม่สามารถอมงเห็นได้ชัด

 

“เจ้านายครับ,ยืนยันสถานะการเริ่มต้นไอรอนแมนหรือไม่?” J.A.R.V.I.S กล่าวถามยืนยันอีกครั้ง

 

“ยังก่อน,เเจ้งข่าวให้มิราจไนท์ ถ้าหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นเตรียมสถานะพร้อมของชุดเกราะไอรอนแมน ฉันจะต้องเเน่ใจว่าฉันจะไม่ทำผิดพลาดอีกครั้ง”ได้ยินคำถามของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวไตร่ตรองเล็กน้อย

 

“เข้าใจเเล้วครับ, เจ้านายครับ ได้ติดต่อกับ คุณ มิราจไนท์ไปเเล้ว ตอนนี้ เขากำลังเร่งเข้าสู่พื้นที่สัญจรอย่างรวดเร็ว คาดว่าเขาคงจะได้รับข่าวก่อนหน้านี้มาเเล้ว” J.A.R.V.I.S รายงานอีกครั้ง

 

“อืม,เฝ้าระวังสถานการณ์ เเละรายงานฉันทันที เอาภาพขึ้นจอมอนิเตอร์”โทนี่ วางเเผนจะเฝ้ามองสถานการณ์ผ่านจอมอนิเตอร์ของเขา หาก มิราไนท์ ไม่สามารถตรวจสอบสิ่งผิดปกติ หรือเกิดสถานการณ์ร้ายเเรงขึ้น เขาจะออกปฏิบัติการทันที

 

“รับทราบครับ” J.A.R.V.I.S เปิดภาพมุมกล้องต่าง ๆ ในเเต่ละมุม เผยให้เห็นภาพมุมต่าง ๆ ในนิวยอร์ก

 

โทนี่ จ้องมองไปที่ภาพเหล่านั้นในขณะที่นั่งอยู่บนโซฟา ตอนนี้เขามองเห็น มิราจไนท์ ที่กำลัง วิ่งไปที่ทางสัญจรด้วยความกังวล

 

“ให้ตายเถอะ,ทำไมฉันถึงไม่เอะใจเเต่เเรก มันคือ เวน่อม ไม่เเปลกใจที่ปีเตอร์จะทำตัวปกติ ฉันควรจะเริ่มรู้สึกตัวตั้งเเต่เเรกเเล้ว!”ในขณะที่กำลังวิ่งอยู่ เเจ็คสัน ก็กล่าวตำหนิตัวเองในใจ

 

ก่อนหน้านี้เขาได้เคยดูภาพยนตร์เรื่องสไปเดอร์แมน ซึ่งเเน่นอนว่าพล็อตเรื่อง ต่าง ๆ กับสถานการณ์ในตอนนี้ค่อนข้างคล้ายคลึงมันมีฉากที่สไปเดอร์แมนตัวเอกได้ถูกเวน่อมสิงร่างเเละกลายเป็นดาร์คสไปเดอร์เเมน หลังจากสไปเดอร์แมนถูกสิงร่าง นิสัยของสไปเดอร์แมนก็ก้าวร้าวมากขึ้นทั้งยังมีบุคลิกที่ใจร้อน

 

เกี่ยวกับตัวตนของ เวน่อม นั้น เเจ็คสันจำได้ว่าตัวตนนี้ไม่ค่อยเเข็งเเกร่งมากมันเป็นปรสิตที่เกาะติดชีวิตคนอื่นเพื่อความอยู่รอดยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีจุดอ่อนมากมาย เเต่เเจ็คสันก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่า เวน่อม ในโลกความเป็นจริงนี้ จะง่ายต่อการรับมือหรือไม่

 

ดาร์คสไปเดอร์แมน,หรือก็คือ เวน่อม สไปเดอร์เเมน เเจ็คสันเชื่อว่านี่เป็นสิ่งผิดปกติที่น่ากลัวเมื่อเทียบกับตัวร้ายในภาพยนตร์เรื่องทั่วไป ดังนั้น เขาจึงต้องการช่วยเหลือปีเตอร์ออกจากปรสิตตัวนี้โดยเร็วเพราะกลัวว่าปีเตอร์จะมีอันตราย

 

ตึก ตึก!

 

เเจ็คสันได้เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเขาได้อยู่จากทางสัญจรที่เป็นเป้าหมายไม่ไกลนัก

 

 

ในขณะเดียวกันที่สไปเดอร์เเมนปรากฏตัว ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เองก็ยังเคลื่อนไหว พวกเขาได้รับความสนใจจากโทนี่ เเน่นอนว่าก็ยังมีอีกบัคคลนึงที่สนใจในสถานการณ์ตอนนี้ ,สำนักงานใหญ่ออสคอร์ป

 

“สไปเดอร์แมนในที่สุดเเกก็ปรากฏตัวขึ้นจนได้!”เเฮร์รี่จ้องมองไปที่ภาพผ่านคอมพิวเตอร์ที่ด้านหน้าของเขา

 

ในดวงตาของเขาปรากฏเเสงกระซาบผ่านนัยน์ตา

 

จากนั้นเเฮร์รี่ก็ก้าวท้าวออกจากห้องของเขาไปยังชั้นวางหน้าสือด้านข้างเขายื่นมืดกดหนังสือที่เหมือนเป็นปุ่มลับเผยให้เห็นเห็นลับที่ถูกเปิดเเยกออกจากกัน

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากนั้น 30 วินาที ยานบินสีเงินเข้มก็ถูกขับออกจากห้องลับอย่างรวดเร็ว ในยานบินรุ่นล่าสุดนี้ เเฮร์รี่ ได้ติดอาวุธครบมือพร้อมกับสวมหน้ากากปีศาจเขียว

 

หากจ้องมองอย่างระวังยานบินของเเฮร์รี่กับของนอร์เเมนก่อนหน้านี้มีความเเตกต่างกันอย่างมาก โดยเฉพาะอุปกรณ์สนับสนุนของเเฮร์รี่ มันมีเทคโนโลยีที่รุนเเรงกว่า นอกจากนี้ยังมีเกราะของเเฮร์รี่ที่เเข็งกว่าเกราะเดิม เพราะเเฮร์รี่มีร่างกายที่ผอมบางทำให้รูปร่างของเขาได้ส่วนมากตอนสวมชุดเกราะ

 

ฟุ่บ!

 

เเฮร์รี่ได้ขับยานบินของเขาออกจากสำนักงานเเละตรงหายจากอาคารของออสคอร์ปทิศทางที่เขามุ่งหน้าไปนั้นคือเส้นทางตำเเหน่งสัญจรที่เกิดเหตุ

ผ่านไปหนึ่งวันหลังจากที่ปีเตอร์ได้หายตัวไป ทั้ง เเจ็คสัน พันธมิตรผู้พิทักษ์ รวมถึง โทนี่ พวกเขาไม่พบตัวของปีเตอร์ในนิวยอร์ก อาจเป็นไปได้ที่ปีเตอร์ได้ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ที่ยากจะสังเกตุเห็น

 

ดังนั้นเเจ็คสันจึงได้โกหกกับป้าเมย์ว่าในช่วงสองวันนี้เพราะมีการบ้านจะให้ปีเตอร์มาค้างบ้านของตัวเอง ซึ่งป้าเมย์เองก็เป็นห่วงเเต่เพราะเเจ็คสันเป็นคนที่น่าเชื่อถือดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยกังวล

 

อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเพียงข้อเเก้ตัวในระยะเวลาอันสั้นหากปีเตอร์ไม่ปรากฏตัวในเร็ว ๆ นี้ ทุกคนก็จะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติอย่างเเน่นอน เพราะความนิยมของสไปเดอร์แมนในตอนนี้เองก็สูงมาก

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังตามหาปีเตอร์ เขาไม่ได้รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวลับลับของเเฮร์รี่เเม้เเต่น้อย เเม้เขาจะรู้อยู่เต็มอกเกี่ยวกับพล็อตเรื่องที่จะดำเนินต่อไปของเเต่ละบุคคลเเต่เขาก็ไม่ได้ระมัดระวังในเรื่องนี้เเม้เเต่น้อย

 

“เฮ้อ,เหนื่อยจริงจริง!”หลังจากออกตามหาทั้งวัน เเจ็คสันรู้สึกอ่อนล้ามากเขาได้ล้มตัวลงนอนบนเตียงเเละตะโกนออกมาอย่างบอกไม่ถูกเขาเพียงเเค่ค้นหาสถานที่ต่าง ๆ ในนิวยอร์กที่ปีเตอร์ควรจะไป เเต่ก็ไม่พบเเม้เเต่น้อย มันทำให้ จิตใจของเขาเริ่มรู้สึกท้อเเท้

 

“ปีเตอร์นายไปซ่อนตัวที่ไหนกันเเน่นะ?”เเจ็คสันที่นอนหงายหน้าอยู่บนเตียงเขาจ้องมองเพดานเเละกล่าวกระซิบ

 

ติ๊ดด

 

ในเวลาเดียวกันโทรศัพท์มือถือสถานะมิราจไนท์ก็ดังขึ้น เเจ็คสัน รีบกดรับทันทีเพราะอาจจะเป็นสายโทรศัพท์จากปีเตอร์

 

“สวัสดีมิราจไนท์ ฉันได้รับข้อมูลการปล้นธนาคารที่อยู่ใกล้ ๆ ระเเวกนี้ คุณว่างรึไม่?”ในเสียงปลายสายคือ สกาย’อาย เพราะการหายตัวไปของสไปเดอร์แมนทำให้เกิดเรื่องการปล้นธนาคารขึ้น

 

“พอดีฉันติดธุระ ให้เดดพูล ไปเถอะ ไม่ใช่ว่าเขาต้องการชื่อเสียงในเร็ว ๆ นี้ไม่ใช่หรอ?ฉันคิดว่าเขาจะต้องดีใจเเน่นอน”ได้ยินคำพูดของ สกาย’อาย เเจ็คสันกล่าวตอบ

 

เนื่องเพราะ สกาย’อาย ได้เข้าร่วมทีมของเขามาสองวันเเล้ว ทั้งยังสร้างเว็บไซต์เเฟนคลับของเดดพูลอีกด้วย เเม้ จำนวนเเฟนคลับจะไม่ได้มากล้น เเต่เเฟนคลับของเดดพูลก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะให้เดดพูลหาโอกาสสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง

 

“อืม,ฉันจะเเจ้ง คุณ เดดพูล”ได้รับคำตอบจากมิราจไนท์ สกาย’อาย ได้เเจ้งเรื่องให้เดดพูล ทราบทันที

 

“ได้ข่าวของสไปเดอร์แมนมาหรือไม่?”เเจ็คสันไม่ได้สนใจโจรปล้นธนาคารเขากล่าวถามอีกครั้ง

 

“ยังไม่มีเลย,อย่างไรก็ตาม ฉันก็ได้ลองพยายามตรวจสอบพื้นที่ทั่วนิวยอร์กเเล้วตราบเท่าที่สไปเดอร์แมนปรากฏตัวขึ้น เราจะต้องพบเขาอย่างเเน่นอน”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ สกาย’อาย ตอบตามจริง

 

“อืม,ฉันหวังพึ่งนายอยู่นะ สกาย’อาย”

 

“ไว้ใจได้เลย!!!”

 

หลังจากได้รับการติดต่อจาก สกาย’อาย เเจ็คสันได้วางโทรศัพท์ เขาต้องการพักผ่อน ต้องพูดว่าเขาเองก็ยอมรับเจอร์รี่ไม่น้อยเเจ็คสันรู้สึกมีความสุขมากที่มีคนสนับสนุนทีมอยู่เบื้องหลัง

 

ในขณะที่เเจ็คสันวางโทรศัพท์ เดดพูล เวด เองก็เริ่้มเคลื่อนไหวภายใต้คำเเนะนำของ สกาย’อาย เขาไม่เหมือน เเจ็คสัน ตอนนี้เป็นโอกาสที่จะสร้างชื่อเสียงของเขา ทั้งเส้นทางนั้นยังมีผู้คนสัญจรมากมาย มันจะทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจมากขึ้น หากเขาสามารถจัดการสถานการณ์ลงได้ไม่เเน่เขาอาจจะกลายเป็นฮีโร่ที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้อนย่างเเน่นอน

 

……

 

“เกิดเหตุโจรปล้นธนาคาร ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในบริเวณใกล้เคียงไปสนับสนุนสมทบโดยด่วน”

 

“วอ 135 รับทราบเเล้ว,เรากำลังรีบไปสมทบที่จุดนั้น”

 

ในขณะที่ เดดพูล กำลังมุ่งหน้าไป ตำรวจเองก็ระดมกองกำลังไปที่จุดนัดพบในทันที พวกเขาไม่ได้สังเกตุเลยว่าบนหลังคอของโบสถ์ในตอนนี้มีคนคนนึงที่เเบกสะพายกระเป๋าเป้ผมเผ้ายุ่งเหยิง เขามีวิทยุของพวกตำรวจในมือ

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากที่ได้ยินเสียงเรยกของวอ เงาร่างบุคคลนั้นได้เริ่มเคลื่อนไหว

 

“เกิดเหตุปล้นขึ้น?ดูเหมือนฉันจะต้องรีบไปเเล้วสิ่”เงาร่างคนนี้ได้กล่าวพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา

 

จากนั้นเงาร่างของบุคคลนี้ก็เดินออกมาท่ามกลางเเสง หากเเจ็คสันหรือคนอื่น ๆ อยู่ที่นี่ พวกเขาจะต้องรู้อย่างเเน่นอนว่าคนคนนี้คือใคร เพราะเขาคือ ปีเตอร์ หรือ สไปเดอร์แมน ที่หายตัวไป เสื้อคลุมสไปเดอร์แมนของเขาในตอนนี้เป็นกลายเป็นย้อมสีดำเข้มมาก

 

ฟุ่บ!

 

หลังจากเงยหน้ามองเเสงจันทร์เล็กน้อง เท้าของเขาก็กระโดดออกจากพื้นที่ด้านบนพร้อมกับยิงใยเเมงมุมออกไปยังสถานที่ห่างไกล

 

 

ฟุ่บ!

 

“เฮ้ย,อย่าขยับ!”

 

“เร็วเข้า! เร่งมือ ดิวะ เวลาของเรามีไม่มากนะโว้ย เเกจะทำให้พวกเราซวยกันทั้งหมด”

 

“เออรู้เเล้ว! ฉันขออีกสิบวินาที”

 

ภายในห้องโถงธนาคารกลุ่มโจรได้เเบ่งหน้าที่งานในการปล้นบางคนมีหน้าที่เฝ้าระวังทางเข้าออกหรือรับผิดชอบดูเเลการเคลื่อนไหวของตัวประกันพวกเขาไม่เว้นเเม้เเต่จะปล้นเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าของตัวประกัน ตราบใดที่พวกเขาออกจากที่นี่ในเวลาหนึ่งนาทีเป็นไปได้ยากที่ตำรวจจะไล่ตามพวกเขาทัน

 

“เสร็จเเล้ว,เร็วเข้า”หลังจากครบสิบวินาทีคนที่รับหน้าที่รับผิดชอบดูเเลในการปล้นเงินไม่ลังเลที่จะเเบกกระเป๋าเเละเตรียมวิ่งออกไป

 

“เร็วเข้าสลายตัว!”

 

“เฮ้ยอย่าเพิ่ง!”

 

ในขณะที่พวกเขาเตรียมกำลังจะหลบหนีบุคคลที่เฝ้าทางเข้าเหมือนจะเกตุเห็นอะไรบางอย่าง

 

“เจส! เกิดอะไรขึ้นวะ”โจรที่เตรียมจะวิ่งหนีไปที่ทางเข้าตะโกนถามด้วยความประหลาดใจเพียงเเต่ว่าเพื่อนของเขาที่เฝ้าทางเข้าทั้งสองคนไม่ได้ตอบ

 

“เอ่อ…ดูเหมือนพวกเราจะเจอตัวปัญหาเข้าเเล้ว!”โจรที่เฝ้าหน้าประตูกล่าวพูดขณะเดินถอยหลัง

 

ไม่นานก็มีบุคคลนึงเดินเข้ามาจากทางเข้า

 

ฟุ่บ!

 

ซึ่งโจรพวกนั้นจ้องมองไปที่ตัวตนที่ปรากฏขึ้นพร้อมกับเล็งไปที่คนคนนั้นเเละพร้อมเปิดฉากยิง

 

“เฮ้พวก,นี่ไม่ใช่การกระทำที่น่ารักเอาซะเลย!”เสียงได้ถูกส่งมาจากพื้นที่ด้านหน้าของประตูธนาคารเขาคือเดดพูลในขณะที่เขาพูดเขาก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ!

 

เปรี้ยง

 

เผชิญหน้ากับจู่โจมของ เดดพูล โจรหลายคนยังไม่ได้เปิดฉากยิงเเม้เเต่น้อยพวกเขาไม่สามารถหลบหนีไปด้วยรถยนต์ที่จอดบนถนนได้เพราะเพื่อนของเขาได้ถูกโจมตีจนหมดสติไปเเล้ว

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาก็มีความเด็ดขาดเฉพาะตัวเอง พวกเขาได้เปิดฉากยิง เดดพูล ทันที เพียงเเต่ว่า ด้วยความยืดหยุ่นของร่างกาย เวด เขาได้เเกว่งตัวหลบกระสุนเเละวิ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

 

“จัดการเดดพูลเลย!”

 

ปั้ง!

“ท่านประธาน เเฮร์รี่ คุณต้องการจะทำแบบนี้จริงจริงงั้นหรอครับ? เเม้ว่าการทดสอบจะประสบความสำเร็จในทางทฤษฏี เเต่มันก็ยังจำเป็นต้องการทดสอบเก็บเกี่ยวข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อดูความเสถียรของมัน”นักวิจัยในห้องใต้ดินลับของออสคอร์ป กล่าวบอกต่อเเฮร์รี่ เขาได้ศึกษา เทคโนโลยี ยายีน ของ ดร.คอนเนอร์ส

 

“คุณกลัวที่จะล้มเหลวงั้นหรอ? ผ่อนคลายเถอะเเม้จะมีปัญหาเเต่ฉันก็มียายีนที่สามารถฟื้นฟูสภาพให้กลับมาได้ไม่จำเป็นต้องกังวล”ได้ยินคำพูดของนักวิจัยคนนี้ เเฮร์รี่ กล่าวตอบ

 

นักวิจัยเหล่านี้ได้ทดลองยาบางอย่างเกี่ยวกับความคืบหน้าก่อนของยายีนที่เเปลงสภาพกลายเป็นกิ้งก่ายักษ์ของ ดร.คอนเนอร์ส ยายีนนั้นมีผลสภาพทำให้ร่างกายมนุษย์นั้นเเข็งเเกร่งขึ้น เเละตอนนี้มันได้ถูกพัฒนาทำให้ไม่มีการเปลี่ยนเเปลงสภาพการกลายพันธุ์วัตถุประสงค์ก็เพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นหรือสร้างพวกคนเหนือมนุษย์

 

อย่างไรก็ตามการทดลองในตอนนี้ยังมีข้อมูลที่ไม่เพียงพอที่จะรับประกันความสำเร็จทั้งหมด เเต่เเฮร์รี่เต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อสไปเดอร์เเมนที่ฆ่าพ่อของเขา เขาไม่สามารถทนได้

 

“ท่านประธานเเฮร์รี่…”นักวิจัยคนนี้ยังพยายามกล่าวโน้มน้าว

 

“คุณไม่ต้องพูดอะไรอีกเเล้ว ฉีดยาไททัน 1 ให้กับฉัน ฉันจะเป็นคนทดลองมันได้ด้วยตัวเอง วานให้คุณช่วยเก็บข้อมูลการทดสอบในครั้งนี้ด้วย”เเฮร์รี่กล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องปฏิบัติการด้านหน้าเพื่อฉีดยาไททัน 1

 

“เข้าใจเเล้วครับ,ท่านประธานเเฮร์รี่”นักวิจัยคนนี้ได้สั่นศีรษะออกมาดูเหมือนเขาจะไม่มีกำลังมากพอที่จะห้ามเเฮร์รี่

 

หลังจากผ่านไปหลายนาทีเเฮร์รี่ได้เปลี่ยนไปใส่ชุดสีขาวบริสุทธิ์เเละนอนอยู่บนเตียงที่ด้านหน้ามีเครื่องมือชีวภาพที่เป็นเทคโนโลยีชั้นสูง บุคลากรจำนวนมากได้ตรวจสอบร่างกายเเละปฏิกิริยาของเเฮร์รี่อย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมฉีดยาไททันหมายเลข 1

 

ไม่กี่นาทีต่อมาเเฮร์รี่ก็ถูกส่งเข้าท่อปฏิชีวภาพเเพทย์ผู้รับผิดชอบได้ดำเนินการเตรียมพร้อมทั้งหมดเเละหันไปยืนยันกับทุกคน

 

“พวกเราพร้อมที่จะปล่อยสารไททัน 1 เเล้วครับ”

 

“เริ่มเลย”เเฮร์รี่ที่นอนอยู่บนเตียงเขาตอบกลับด้วยเสียงเบา ๆ

 

ฟุ่บ!

 

พริบตาเดียวที่ด้านหน้าของเเฮร์รี่ก็ปรากฏเเสงสว่าง

 

ฟื๊ดด

 

ดูเหมือนเเขนของเเฮร์รี่เเละส่วนร่างกายทุกส่วนของเขาจะถูกล็อคเอาไว้เเขนกลของเครื่องมือเทคโนโลยีระดับสูงได้เคลื่อนเข้าหาร่างกายของเเฮร์รี่

 

หลังจากเเขนกลเคลื่อนที่ไปยังตำเเหน่งที่ถูกต้องบนหน้าจอก็พร้อมขึ้นปุ่มเริ่มทำงาน

 

“เราจะทำการฉีดให้คุณเเล้วนะครับ”

 

เเฮร์รี่ที่นอนอยู่บนเตียงไม่ได้ตอบเขาจ้องมองไปที่เพดานขาวหิมะ

 

ฉึบ!

 

พริบตาเดียวเเขนกลก็ทิ่มเข้าไปที่เเขนของเเฮร์รี่ผ่านเส้นหลอดเลือดดำที่เเขน

 

“อึก~”ความรู้สึกที่หนาวเย็นได้ส่งผ่านลำเเขนของเขาอย่างรวดเร็วเเม้เเฮร์รี่จะเตรียมใจไว้เเล้วเเต่เขาก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย

 

ตัวสารได้เริ่มหลั่งไหลเข้าสู่ผิวหนังของเเฮร์รี่ทีละเล็กละน้อย

 

“ตัวสารกำลังซึมซับเข้าสู่ร่างกาย!”

 

ยาชีวภาพได้ถูกส่งเข้าสู่ร่างกายของเเฮร์รี่มันเป็นยาสีเขียวอ่อนที่เรียบง่ายผ่านไปสองวินาทีตัวยาทั้งหมดก็ถูกฉีดเข้าไปโดยสมบูรณ์เเฮร์รี่ที่ได้รับตัวยานั้นเขาได้นอนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร จนทีมนักวิจัยจำนวนมากเริ่มรู้สึกกังวล

 

“อ๊า !!”เมื่อตัวยาได้ซึมซับเข้าสู่ร่างกายของเเฮร์รี่ เเฮร์รี่ ก็ส่งเสียงครางออกมาเล็กน้อย

 

เพียงเเต่ว่าความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อครู่ก็กลายเป็นความเจ็บปวดชนิดที่เขาไม่เคยเจอจนเเฮรืรี่ไม่สามารถส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาได้

 

อ๊ากกก~

 

เส้นเลือดสีดำที่เเขนของเขาได้เเพร่กระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ชนิดที่หลอมรวมเข้ากับเซลล์ หลังจากนั้นตัวยาก็เริ่มทำการเปลี่ยนเเปลงสภาพร่างกายยีนของเเฮร์รี่ในทันที

 

ฟุ่บ!

 

ในช่วงที่ตัวยากำลังสำเเดงฤทธิ์ผลดวงตาทั้งสองของเเฮร์รี่ได้ปิดสนิทเพียงเเต่ว่าไม่นานเขาก็ลืมตาขึ้นด้วยดวงตาที่เบิกกว้างใหญ่จนเเทบจะถลนออกมา

 

„ !! …… !!! …… ”ในที่สุดความเจ็บปวดทั้งหมดก็ไม่สามารถทนได้เเฮร์รี่ดิ้นไปมาอย่างบ้าคลั่ง

 

ก่อนหน้านี้เขาได้นอนอยู่บนเตียงนิ่ง ๆ โดยไร้ปฏิกิริยาตอบรับ เพียงเเต่ว่าผ่านไปได้ไม่นาน เขากลับรู้สึกเจ็บปวดจนไม่อาจสงบเหมือนเดิมได้

 

„ !!!”วิสัยทัศน์ของนักวิจัยจำนวนมากจ้องมองไปที่เสียงร้องก้องกังวาลของเเฮร์รี่ ที่ซ้ำเเต่จะทวีคูณความรุนเเรงมากขึ้นกว่าเดิม

 

“ท่านประธานเเฮร์รี่จะไม่เป็นอะไรจริงจริงน่ะหรอ?”นักวิจัยเหล่านี้จ้องมองไปที่ความเจ็บปวดของเเฮร์รี่เเละอุทานออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

พวกเขาได้ทำการทดสอบมาก่อนเเต่ก้ไม่สามารถยืนยันสถานะสภาพ 100% ของยาไททัน 1 ได้ เพียงเเต่ว่าเเฮร์รี่ก็ยังยืนยันที่จะเข้าร่วมทดสอบนี่ทำให้พวกเขาไม่อาจปฏิเสธทั้งยาที่ฉีดให้กับเเฮร์รี่เป็นตัวยาที่ใกล้เคียงคำว่าสมบูรณ์ที่สุดของพวกเขาในตอนนี้

 

“ตรวจเช็คสภาพชีพจรร่างกายทั้งหมด”หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวออกมา

 

บุคคลากรทั้งหมดได้ตรวจสอบสภาพร่างกายของเเฮร์รี่บนค่าหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังเพิ่มความถี่สูงขึ้นมาก มันคือผลจากตัวยาของ ไททัน 1 โดยทั่วไปเเล้ว สถานการณ์มันน่าจะควบคุมได้ เเต่การเเสดงออกของเเฮร์รี่กลับเเปลกไป

 

“นี่มันไม่ดีเเล้ว!”พวกเขาตะโกนออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

ติ๊ดดด~~~~

 

“ค่าตัวเลขกำลังเพิ่มสูงขึ้น….”เสียงดังเตือนมาจากคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง

 

ค่าตัวเลขที่กำลังพุ่งสูงขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็วนี้ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจ

 

ค่าสัญญาณเหล่านี้เป็นตัวบ่งบอกสมรรถภาพที่เปลี่ยนไปของเเฮร์รี่เเม้ค่าตัวเลขจะดีเเต่เพราะสถานการณ์ปัจจุบันทำให้มันมีความเสี่ยงมากกว่าเดิม ค่าตัวเลขนี้ได้เกินกว่าที่พวกเขาทำการทดลองเอาไว้ ทั้งยังเป็นข้อมูลที่สำคัญชนิดที่ว่าอาจส่งผลอันตรายต่อเเฮร์รี่ได้ เพราะเเฮร์รี่อาจจะไม่สามารถทนต่อสภาพการเปลี่ยนเเปลงโดยฉับพลันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ครื๊ดด~~~~

 

เสียงเชือกที่รัดตัวของเเฮร์รี่ฉีกขาดเล็กน้อยมันทำให้การทำงานภายในห้องปฏิบัติการทั้งหมดหยุดชะงัก

 

ทุกคนรีบดิ่งไปที่ภายในห้องปฏิบัติการทันทีดูเหมือนว่าเเฮร์รี่จะประสบความสำเร็จในการทดลอง

 

“ความเเข็งเเกร่งนี้? ตอนนี้ฉันก็น่าจะสามารถจัดการสไปเดอร์แมนได้เเล้ว!”เเฮร์รี่ ที่ลุกขึ้นมากำกำปั้นเเน่นเเละกล่าวกระซิบเล็กน้อย

 

“สไปเดอร์แมน ศัตรูของพ่อฉัน,ฉันจะต้องจัดการเเกด้วยมือคู่นี้!”สายตาที่เย็นชาของเเฮร์รี่ได้กวาดผ่านออกมาทำให้ผู้ที่สัมผัสหรือพบเห็นต้องรู้สึกหนาวสั่น

ปั้ง!

 

ตึก ตึก!

 

ปีเตอร์ได้วิ่งออกจากบาร์ไปบนพื้นที่ถนนภายใต้เเสงสลัวอย่างค่ำคืนท้ายที่สุดเขาก็วิ่งออกไปด้วยความเร็วท่ามกลางสายตาของผู้คนที่ตกใจ

 

“ฉัน?ฉันเป็นอะไร ฉันได้ทำร้ายเเจ็คสันเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน เขาได้รับบาดเจ็บเพราะฝีมือฉัน”ในขณะที่ปีเตอร์วิ่งอยู่เขาก็คำรามออกมาในใจ หลังจากที่เขาเผลอทำร้ายเเจ็คสันไป อารมณ์ของเขาก็กลับสู่ปกติเหมือนจะรู้สึกได้ถึงการกระทำเมื่อครู่ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะหนีออกมา

 

หลังจากวิ่งพ้นท่ามกลางกลุ่มผู้คนปีเตอร์ก็กระโดดขึ้นไปบนที่สูงเสื้อผ้าสไตล์ตะวันตกเดิมของเขาได้เปลี่ยนเป็นชุดคลุมสไปเดอร์แมนสีดำหรือก็คือเวน่อมมันได้ครอบคลุมร่างกายของปีเตอร์ไว้

 

ฟุ่บ!

 

ปีเตอร์ฉายข้อมือออกไปพร้อมกับพ่นใยเเมงมุมไปยังผนังตึกที่สูงใกล้

 

ในช่วงเวลาที่ปีเตอร์วิ่งออกไปนั้น เเจ็คสันรู้สึกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของปีเตอร์มาก เขาไม่รู้จะหาปีเตอร์ได้จากที่ไหนเเต่เขาก็เหมือนจะนึกออกว่าเทคโนโลยีชุดสไปเดอร์แมนของปเตอร์ในตอนนี้เป็นของที่ถูกสร้างขึ้นโดยโทนี่ ดังนั้น เขาเชื่อว่าโทนี่จะต้องฝังชิพตรวจจับสัญญาณตำเเหน่งไว้ในชุดของปีเตอร์เเน่นอน

 

ขณะที่เขากำลังเตรียมติดต่อกับโทนี่ เเจ็คสัน ก็ให้ สกาย’อาย พยายามล็อคตำเเหน่งของสไปเดอร์แมนผ่านระบบของเขาในนิวยอร์กเพื่อตรวจสอบว่าเส้นทางที่สไปเดอร์แมนผ่านนั้นไปทางไหน เเน่นอนว่าว่าเขาได้เเจ้งเเก่พันธมิตรผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เเต่เขาก็ยังคงรู้สึกกังวลเกี่ยวกับเรื่องของปีเตอร์

 

หลังจากที่มิราจไนท์ได้ให้ สกาย’อาย ตรวจสอบ ระบบของสกาย’อายก็ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพเเละขยายขอบเขตพื้นที่การค้นหาอย่างรวดเร็ว

 

วิลล่าส่วนตัวของโทนี่,เขากำลังนอนเล่นบนโซฟาเเละกำลังชื่นชมกับทิวทัศน์ที่สวยงามผ่านทางหน้าต่างที่เปิดโล่งตอนนี้เครื่องมือต้านเเรงโน้มถ่วงที่ร่วมวิจัยให้กับ S.H.I.E.L.D. มีความคืบหน้าที่ดี ไม่นานก็จะสามารถเเก้ไขข้อบกพร่องได้ในที่สุด ตอนนี้ โทนี่ มีอีกนึงเหตุผลที่รู้สึกพึงพอใจ เขาได้ให้ J.A.R.V.I.S. กรองข้อมูลลับสุดยอดของ S.H.I.E.L.D. ในตอนนั้นเเละพบเกี่ยวกับเนื้อหาการวิจัยสุดยอดของ ฮาเวิร์ด สตาร์ก พ่อของเขา มันส่งผลให้เขารู้สึกมีความสุขมาก

 

โทนี่ที่กำลังนั่งจิบไวน์เเดงในมือเสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังขึ้นทำลายบรรยากาศของเขา”เจ้านายครับ,คุณ มิราจไนท์ ติดต่อมา”

 

“ต่อสายให้ฉัน,ไม่รู้ว่าเขามีธุระเร่งด่วนอะไรกันเเน่”โทนี่วางเเก้วไวน์เเละกล่าวพูดกับ J.A.R.V.I.S

 

“ครับ”หลังจากได้ยินคำยืนยันจาก โทนี่ J.A.R.V.I.S ได้ต่อสายโทรศัพท์ของ มิราจไนท์ทันที

 

“มิราจไนท์ มีเรื่องอะไรเร่งด่วนงั้นหรอ ก่อนหน้านี้ ใช่ว่า คุณขอให้ฉันช่วย เรื่องบางอย่างไปเเล้ว หรือว่า ตอนนี้คุณเองก็มีบางสิ่งที่อยากจะให้ฉันช่วยเหลืออีก?”โทนี่ กล่าวถามตรง ๆ

 

“เเน่นอนว่าความช่วยเหลือในครั้งนั้นฉันย่อมไม่ลืมบุญคุณเเน่นอน เเต่ตอนนี้ฉันต้องการให้ คุณช่วยเหลืออะไรบางอย่าง”ได้ยินคำพูดห้วน ๆ เหมือนเขามารบกวนจากปากของโทนี่ เเจ็คสัน กล่าวออกมาทันที

 

“หืม?มีเรื่งอะไรล่ะ?”โทนี่ เหมือนจะเดาได้ว่ามิราจไนท์มีเรื่องที่ต้องการให้เขาช่วยดังนั้นเขาจึงไม่อ้อมค้อม

 

“ฉันต้องการให้คุณบอกสถานะตำเเหน่งปัจจุบันของ สไปเดอร์แมน ให้กับฉัน ,ดูเหมือนฉันจะขาดการติดต่อจากสไปเดอร์แมนไป”เเจ็คสันพูดออกมาตามตรง

 

“ขาดการติดต่อกับสไปเดอร์แมน? ฉันจะลองให้ J.A.R.V.I.S ตรวจสอบสถานะล่าสุดของสไปเดอร์แมนในตอนนี้ดู”ได้ยินคำพูดของ มิราจไนท์ โทนี่ ค่อนข้างประหลาดใจ เขาได้บอกกล่าวต่อ J.A.R.V.I.S

 

หลังจากผ่านไปหลายวินาที เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังขึ้น เเต่ผลลัพธ์ทำให้ ใบหน้าของ เเจ็คสัน เเละ โทนี่ เปลี่ยนไป

 

“เจ้านายครับ,ไม่สามารถระบุตำเเหน่งล่าสุดของสไปเดอร์แมนได้ เราได้สูญเสียการเชื่อมต่อกับสไปเดอร์แมนไปโดยสมบูรณ์”J.A.R.V.I.S กล่าวพูดออกมา

 

“เป็นไปได้อย่างไร?หรือว่าระบบเกิดขัดข้องขึ้นมา?”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ไม่ได้นอนเล่นบนโซฟาอีกเขาได้ดีดตัวลุกขึ้นมา

 

“จากการคำนวณชุดคลุมสไปเดอร์แมนได้รับผลกระทบทางสัญญาณล่าสุดเมื่อ 17 ชั่วโมงก่อน หลังจากนั้นเราก็ขาดการเชื่อมต่อไปโดยสมบูรณ์”J.A.R.V.I.S กล่าวคำนวณผลลัพธ์

 

“เป็นไปได้ยังไง?”ไม่ต้องรอให้โทนี่ พูด คราวนี้ เเจ็คสันเป็นคนกล่าว

 

“มิราจไนท์ เกิดอะไรขึ้นกับสไปเดอร์แมนกันเเน่?”โทนี่ กล่าวออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเขายังให้ความสนใจกับเด็กหนุ่มปีเตอร์คนนี้อยู่เลย เเต่ตอนนี้สถานการณ์มันกลับเลวร้ายลงเพราะเขาไม่สามารถยืนยันสถานะของสไปเดอร์แมนได้

 

“เท่าที่ฉันสัมผัสได้ พฤติกรรมล่าสุดของสไปเดอร์แมนได้เปลี่ยนไปมาก คล้ายกับว่าบุคลิกของเขากำลังเปลี่ยนไป เขาไม่เพียงเเต่พยายามหลบหน้าฉัน เเละตอนนี้เขาได้หายตัวไปฉันกลัวว่าเขาจะประสบอุบัติเหตุ”เผชิญหน้ากับการซักถามของโทนี่ เเจ็คสันกล่าวออกมา

 

“พฤติกรรมที่ผิดปกติงั้นหรอ? ดีฉันจะลองให้ J.A.R.V.I.S ตรวจสอบค้นหาสไปเดอร์แมนอย่างเต็มที่ ถ้าจำเป็นฉันจะส่งทีม ไอรอนแมน ออกไปอย่างเเน่นอน หวังว่าสไปเดอร์แมนจะไม่เป็นอะไร”โทนี่ กล่าวออกมาอย่างกังวล

 

ถ้าพูดถึงความผิดปกติ เป็นโทนี่ ที่ค้นพบมันเมื่อหลายวันก่อน เเต่เขากลับไม่คิดว่าความผิดปกตินั้นจะเป็นต้นเหตุในวันนี้ ตอนนี้ สไปเดอร์แมนได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยโทนี่รู้สึกเสียใจมากที่ตอนนั้นเขาปล่อยผ่านมันไป

 

“ฉันจะลองพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหาตัวสไปเดอร์แมนก่อนถ้าได้รับข่าวฉันจะเเจ้งให้คุณทราบทันที”เเจ็คสันได้กล่าวผ่านโทรศัพท์

 

“J.A.R.V.I.S.”

 

“ครับเจ้านาย!”

 

“หลังจากตรวจสอบทั่วนิวยอร์กภายใน 24 ชั่วโมงเเละไม่พบการเคลื่อนไหว ให้ ไอรอนมาร์ค 2 ,5 ตัวสเเตนบายรอไว้ได้เลย”

 

“ครับเจ้านาย!”

 

 

เเจ็คสันเเละพันธมิตรผู้พิทักษ์รวมถึงโทนี่ ได้กำลังมองหาตัวของสไปเดอร์แมนที่หายตัวไปภายในนิวยอร์กเเห่งนี้

 

ชั้นบนสุดของอาคารสำนักงานใหญ่ ออสบอร์น เเฮร์รี่ ในตอนนี้ ยังไม่ได้กลับบ้าน เขากำลังนั่งดูวิดิโอผ่านคอมพิวเตอร์ที่ห้องทำงานของเขา เเละภาพในวิดิโอเหล่านั้นก็คือตัวเอกอย่างสไปเดอร์แมน

 

“สไปเดอร์แมน,ฉันจะทำให้เเกต้องชดใช้เกี่ยวกับความตายพ่อของฉัน”จ้องมองไปที่สไปเดอร์แมนที่กำลังต่อสู้อย่างกล้าหาญเเฮร์รี่ขบฟันพูดเสียงต่ำออกมา

 

กึก!

 

ในขณะนั้นเองที่ด้านล่างขวาของคอมพิวเตอร์เเฮร์รี่ ก็ได้รับสัญญาณเเจ้งเตือนทางอีเมล

 

“ฮ่าฮ่า,ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ!”หลังจากได้อ่านข้อความภายในอีเมล เเฮร์รี่ จู่ ๆก็หัวเราะออกมา

 

“สไปเดอร์แมน! ฉันจะไปหาเเกเตรียมตัวเตรียมใจไว้เถอะ!!!”

เช้าในวันถัดไปปีเตอร์ได้รับสายจากป้าเมย์บอกว่าปีเตอร์ได้กลับบ้านมาเมื่อคืนเเละดูเหมือนอาการจะไม่ค่อยดี ดังนั้นป้าเมย์จึงโทรศัพท์ไปลาอาจารย์ในเวลาเดียวกันเเจ็คสันก็ขับรถจิ๊ปไปที่บ้านของปีเตอร์

 

บรื้นน~

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมาเเจ็คสันได้หยุดรถอยู่ที่หน้าบ้านของปีเตอร์ซึ่งป้าเมย์ได้ออกมาต้อนรับเขา

 

“เเจ็คสันเธอมาเเล้ว!ป้ารบกวนเธออยู่ช่วยดูเเลปีเตอร์หน่อยได้ไหม ป้าต้องรีบไปทำงานเเล้ว”ป้าเมย์กล่าวพูดขอร้องเเจ็คสัน

 

“ป้าเมย์ไม่ต้องกังวลผมจะดูเเลปีเตอร์ให้เองป้ารีบไปทำงานเถอะครับ”เห็นป้าเมย์เร่งรีบเเจ็คสันกล่าวตอบทันที

 

“อืม,เช่นนั้นป้าไปก่อนนะ ปีเตอร์อยู่บนห้องชั้นบน”ดูเหมือนป้าเมย์จะไปทำงานสายเธอได้กล่าวบอกเเจ็คสัน

 

ปั้ง~

 

หลังจากป้าเมย์ออกไปที่ประตูหน้าเเจ็คสันได้ก้าวท้าวขึ้นไปบนห้องของปีเตอร์หลายวันมานี้เขาไม่เห็นปีเตอร์ยิ่งไปกว่านั้นปลอกเเขนพันธมิตรก็ไม่สามารถตรวจจับปีเตอร์ได้เขาเองก็รู้สึกสงสัย

 

กระโดด ~ กระโดด ~ กระหน่ำ ~ กระหน่ำ !!

 

ทันทีที่มาถึงหน้าประตูห้องเสียงเพลงได้ดังออกมานอกห้องอย่างรุนเเรงจนเเจ็คสันรู้สึกหนวกหู หลังจากเปิดประตูเข้าไปเเจ็คสันเห็นปีเตอร์กำลังกระโดดโยกเยกอยู่บนเตียงดูเหมือนเขาจะมีลักษณะท่าทีที่ดูสบายมาก

 

“อ้าว,เเจ็คสัน นายมาเเล้ว! มาเต้นด้วยกันไหม?”เห็นเเจ็คสันผลักประตูเข้ามาปีเตอร์กล่าวตะโกนชวนเเจ็คสันเต้นด้วยกัน สภาพของปีเตอร์ในตอนนี้เเม้เเต่คนโง่ก็สามารถดูออกว่าปีเตอร์นั้นไม่ปกติ

 

ฟุ่บ!

 

มองดูปีเตอร์ที่เต้นอยู่บนเตียงโดยไม่สนใจสิ่งใดเเจ็คสันได้ยื่นมือออกไปปิดเพลงเสียงเพลงในห้องได้หายไปซึ่งปีเตอร์ที่เต้นอยู่ก็หยุดลงทันที

 

“ปีเตอร์ นายป่วยงั้นหรอ? นายดูผิดปกติอย่างมาก”เห็นปีเตอร์จ้องมองมาที่เขา เเจ็คสัน กล่าวถามอย่างจริงจัง

 

เเจ็คสันได้สังเกตุมองปีเตอร์อย่างระวังเเต่ผลที่เขาได้รับนั้นกลับไม่ได้เป็นที่พึงพอใจมากนักเขาสัมผัสเพียงได้ว่าปีเตอร์นั้นมีอาการที่ผิดปกติ

 

ฟุ่บ!

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ปีเตอร์กระโดดลงจากเตียงเเละไปที่ด้านหน้าของเเจ็คสันทันที

 

“อะไร?ฉันไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย ฉันคิดว่าหากเทียบกับตัวฉันก่อนหน้านี้ฉันกลับรู้สึกสดชื่นจะตายไป นายไม่คิดงั้นหรอ?”ปีเตอร์ที่เดินมาข้างหน้าเเจ็คสันเขายิ้มออกมา

 

ตะโกน ~

 

จ้องมองไปที่รูปลักษณ์ของปีเตอร์สีหน้าของเเจ็คสันตอนนี้ไม่สู้ดีนักปีเตอร์ทำตัวเเปลกไปจริงจริงจะว่าเเปลกไปก็ไม่ถูกเพราะมีเเต่อารมณ์ของปีเตอร์ที่เปลี่ยนไป

 

ปีเตอร์กระโดดขึ้นบนเตียงโดยไม่สนใจเเจ็คสันเขาต้องการจะนั่งเล่นเกมต่อ

 

“นายไม่เข้าชั้นเรียนมาสองวันเเล้ว?”เห็นปีเตอร์นั่งลงข้าง ๆเตียง เเจ็คสัน จ้องมองไปที่พฤติกรรมของปีเตอร์เเล้วกล่าวถาม

 

“เข้าชั้นเรียน?ฉันลืมน่ะ ยิ่งไปกว่านั้นนายไม่คิดว่าการเข้าชั้นเรียนมันน่าเบื่อหรอกหรอ?อันที่จริงหลักสูตรที่เราเรียนปัจจุบันก็เเทบจะไม่ได้ก้าวล้ำสิ่งที่เรามีเลย เเฮร์รี่เองก็ไม่ได้เข้าชั้นเรียนไม่ใช่หรอไง เช่นนั้น ทำไมเราไม่ทำตัวเหมือนเเฮร์รี่ ไม่ต้องไปโรงเรียน?”ได้ยินคำถามของเเจ็คสันปีเตอร์ตอบกลับโดยไม่เเยเเส

 

ฟุ่บ!

 

“นายคือ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ จริงจริงงั้นหรอ? ปีเตอร์ที่ฉันรู้จักเเม้เขาจะชอบเที่ยวเล่นเเละรู้สึกสนุกสนานเเต่เขาก็เป็นห่วงเรื่องการเรียนไม่มีทางพูดลบหลู่ชั้นเรียนแบบนี้”ได้ยินคำตอบของปีเตอร์เเจ็คสันไม่สามารถทนได้อีกเขาได้จับไหล่ทั้งสองข้างของปีเตอร์ให้หันมาทางด้านหน้าของเขา

 

เเจ็คสันตั้งใจจะตรวจสอบร่างกายของปีเตอร์เเต่เพราะเขาไม่อาจเผยสถานะของมิราจไนท์ในตอนนี้ได้ดังนั้นเขาจึงได้ตรวจสอบร่างกายของปีเตอร์อย่างระวัง

 

“จริงงั้นหรอ?ฉันคิดว่าฉันก็เป็นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ฉันได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย”ปีเตอร์ไม่ได้สนใจในคำพูดของเเจ็คสัน

 

เขาได้สบัดมือที่จับไหล่ของเขาออกเเละหันไปเล่นเกมต่อ ลักษณะของปีเตอร์ตอนนี้เเจ็คสันไม่เคยพบเจอ เขารู้สึกกังวลมากนอกจากนี้เขายังพบบาดเเผลบางอย่างบนตัวของปีเตอร์

 

“ปีเตอร์นายเป็นบ้าอะไรของนายเนี่ย”เเจ็คสันพูดออกมาอย่างจริงจัง

 

ดูเหมือนว่าปีเตอร์ในตอนนี้จะไล่ล่าจัดการพวกอาชญากรโดยใช้สถานะสไปเดอร์แมนทุกวันโดยเเทบจะไม่ได้พักผ่อน

 

หลังจากสำรวจดูคร่าว ๆเขาพบบาดเเผลบางเเห่งซึ่งมันปรากฏขึ้นตามร่างกายของปีเตอร์ เเต่ปีเตอร์กลับไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรราวกับเครื่องจักรที่เฉยเมย

 

เเจ็คสันได้อาศัยอยู่ในบ้านของปีเตอร์เป็นเวลาหนึ่งวันเขาวางเเผนที่จะใช้สถานะของมิราจไนท์จัดการตรวจสอบปีเตอร์อย่างระวังเพื่อหาต้นตอของปัญหา

 

อย่างไรก็ตามพอตกช่วงเย็นปีเตอร์ก็วางเเผนจะออกไปข้างนอก เเม้ว่าเเจ็คสันจะขอร้องให้เขาอยู่ปีเตอร์ก็ไม่ได้สนใจท้ายที่สุดเเจ็คสันก็เดินทางออกไปพร้อมกับปีเตอร์

 

ในระหว่างทางที่ปีเตอร์เดินอยู่เขาได้เห็นหญิงสาวจำนวนมากที่นั่งอยู่ที่หน้าร้านซึ่งกำลังเรียกลูกค้าของพวกเธอเพื่อให้เข้าร้านอยู่ดูเหมือนสายตาของพวกเธอจะดึงดูดมาที่ปีเตอร์

 

ปีเตอร์ในระหว่างทางก็เดินเต้นรำเล็กน้อยซึ่งเขาไม่ได้สนใจว่าเเถวนี้จะมีผู้คนพลุ้งพล่านหรือไม่เขาได้เดินเเดนซ์ตลอดทางซึ่งเเจ็คสันที่เห็นการกระทำของปีเตอร์เขาเเทบจะรู้สึกอายเเทน

 

ในระหว่างทางเดินปีเตอร์ที่กำลังเต้นอยู่เขาได้เข้าไปในฟลอร์เต้นรำที่สวยงาม ซึ่งเเจ็คสันก็เดินตามเข้าไปเขาเห็นปีเตอร์เดินเข้าไปชวนหญิงสาวคนนึงเพื่อเต้น

 

“ขอโทษนะ เเม้คุณจะดูดี เเต่คุณก็ไม่ใช่สเป็คของฉัน”ได้ยินคำเชิญชวนจากปีเตอร์ หญิงสาวกล่าวยิ้มปฏิเสธ

 

อย่างไรก็ตามปีเตอร์ไม่ได้สนใจคำปฏิเสธเหล่านั้นเขาได้ดึงมือของหญิงสาวคนนั้นมาเเละวางเเผนจะดึงเข้าไปในฟลอร์เต้นรำเพื่อเต้นกับเธอ ซึ่งหญิงสาวคนนั้นไม่มีเเรงขัดขืนปีเตอร์ เเจ็คสัน ที่เห็นเช่นนั้นเขาไม่สามารถทนได้อีกรีบไปยืนขวางหน้าปีเตอร์ทันที

 

“ปีเตอร์ หยุดได้เเล้ว เราจะกลับบ้าน!”เเจ็คสันกล่าวบอกปีเตอร์ที่จับมือหญิงสาวคนนั้นอยู่ดูเหมือนปีเตอร์จะเป็นบ้าไปเเล้วเขาไม่ฟังคำพูดของใครเเม้เเต่น้อยในตอนนี้

 

เพียงเเต่ว่าปีเตอร์ได้จ้องมองมาที่เขาขเม็งก่อนที่มือของเขาจะกวาดผ่านไปที่ร่างกายของเเจ็คสัน

 

ฟุ่บ!

 

เเจ็คสันไม่มีเวลาได้ทันตอบสนองโดนฝ่ามือของปีเตอร์โบกสะบัดร่างกายของเขาถูกส่งลอยไปในทันที

 

หลังจากถูกปีเตอร์ซัดส่งลอยไปมากกว่าสองเมตรเเจ็คสันได้ลุกขึ้นมาดูเหมือนความเเข็งเเกร่งของสไปเดอร์แมนในตอนนี้จะดูผิดเเปลกไปจริงจริง

 

เเจ็คสันเองก็ไม่คิดว่าปีเตอร์จะทำร้ายเขา,นี่ปีเตอร์ยังเห็นเขาเป็นเพื่อนคนนึงหรือไม่?

 

“ปีเตอร์! ปีเตอร์!”เพียงเเต่ว่าหลังจากสบัดเเจ็คสันจนกระเด็นลอยไป ปีเตอร์ก็หายตัวไปเช่นเดียวกัน

 

“เธอไม่เป็นอะไรนะ?”

 

“ให้พวกเราเรียกตำรวจไหม?”

 

“ผมไม่เป็นอะไรนอกจากนี้ไม่ต้องเรียกตำรวจ เขาเป็นเพื่อนของผม เเต่ดูเหมือนตอนนี้เขาจะมีอารมณ์ที่หงุดหงิดนิดหน่อย”เผชิญหน้าไปด้วยการห้อมล้อมจากผู้คนเเจ็คสันโบกมืออธิบาย

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังตามหาตัวของปีเตอร์,ปีเตอร์ที่สวมใส่ชุดคลุมสไปเดอร์แมนเขาได้ยืนอยู่บนหลังคาในอาคารนิวยอร์ก

 

ตั้งเเต่ที่เวน่อมได้หลอมรวมเข้ากับชุดสไปเดอร์แมนของเขาปีเตอร์ก็ไม่ได้ฝันร้ายอีก เมื่อใดก็ตามที่เขาสวมใส่ชุดคลุมสไปเดอร์แมนเขารู้สึกว่าตัวเองสามารถจัดการทุกสิ่งอย่างได้ตามที่ต้องการ

 

ยิ่งไปกว่านั้นเวน่อมยังส่งผลให้ปีเตอร์เเข็งเเกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้สไปเดอร์แมนไม่ได้เกรงกลัวใครหน้าไหนไม่ว่าจะเป็นพวกพ่อค้ายาเสพติดเเก๊งค้าอาวุธหรือพวกโจรต่าง ๆ ปีเตอร์จัดการคนเหล่านั้นด้วยวิธีการที่รุนเเรง

 

เพียงเเต่ภายใต้การเปลี่ยนเเปลงอิทธิพลโดยเวน่อม ปีเตอร์ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน เขาไม่ได้สนใจเสียงเรียกเข้าากโทรศัพท์เเละก็ไม่ได้ไปโรงเรียน

 

ธรรมชาติปีเตอร์ได้ค้นพบความเปลี่ยนเเปลงที่เด่นชัดที่สุดก็คือสี ชุดคลุมสไปเดอร์แมนของปีเตอร์ได้เปลี่ยนกลายเป็นสีดำอย่างรวดเร็ว

 

ปีเตอร์ตั้งใจจะถอดชุดคลุมสไปเดอร์แมนเพื่อดูสิ่งเเปลกปลอมที่เกิดขึ้นเขาเห็นหนวดดำที่ยืดเยื้อออกมาทำให้ปีเตอร์ไม่เต็มใจที่จะสลัดทิ้งมัน ดูเหมือนเขายังรู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับความสามารถอันสะดวกสบายที่มันมอบให้กับเขาเวน่อมได้ทำให้จิตวิญญาณของปีเตอร์รู้สึกเเปลกไปมันทำให้ปีเตอร์หลงระเริงไปกับพลังที่มีมันเป็นตัวฉนวน

 

“นายเป็นตัวอะไรกัน?”ปีเตอร์ที่นั่งอยู่บนหลังคาเขาจ้องมองไปที่ผ้าคลุมสไปเดอร์แมนสีดำเเละกล่าวถามเบา ๆ

 

~

 

เพียงเเต่ว่าหลังจากปเตอร์กล่าวถามออกไปเขาราวกับไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากด้านนอกจิตใจของเขาราวกับได้รับการตอบรับจากมันผ่านข้างในสมองของเขา

 

“พวกเราไปหาอะไรเล่นกันต่อเถอะ!”ปีเตอร์ได้กล่าวออกมาก่อนที่จะกระโดดลงไปที่ข้างล่าง

 

ฟุ่บ!

 

ไม่นานปีเตอร์ก็ได้หายตัวไปจากพื้นที่บนถนนนิวยอร์ก

 

 

20:00 น. หลังจากไม่พบปีเตอร์เเจ็คสันก็ละทิ้งการค้นหาชั่วคราว เพราะเขามีนัดกับกัปตันโรเจอร์ส

 

ตอนนี้ชื่อเสียงของกัปตันอเมริกานั้นโด่งดังอย่างมาก ดังนั้นการนัดพบกันระหว่างพวกเขาจึงต้องเป็นสถานที่ลับที่อยู่ห่างจากสวนสาธารณะในเขตเมืองนิวยอร์ก เเจ็คสันต้องการจะนัดพบกันในร้านกาเเฟบางเเห่ง เเต่โรเจอร์สบอกกับเขาว่าไม่ต้องการให้นิคหรือ S.H.I.E.L.D. รู้เรื่องนี้

 

หลังจากนั้นเเจ็คสันก็สวมใส่ชุดสูทภูติมายาของเขาเดินทางมาที่ริมทะเลสาบของสวนสาธารณะซึ่งมีสตีฟรอเขาอยู่นานเเล้ว สตีฟ เองก็ได้ยินเสียงที่ส่งเสียงมาจากด้านหลังของเขา

 

“สวัสดี,กัปตันโรเจอร์ส”มาถึงเบื้องหน้าของสตีฟ เเจ็คสัน กล่าวทักทาย

 

“สวัสดี มิราจไนท์ ขอบคุณ ที่คุณยอมออกมาพบฉัน”สตีฟกล่าวพูดออกมาเขาได้เเต่งตัวแบบไม่เป็นทางการเหมือนเขาต้องการปกปิดตัวตนในการออกมาพบกับมิราจไนท์ในครั้งนี้

 

“นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ไม่ทราบว่า กัปตันโรเจอร์ส วีรบุรุษของอเมริกามีเรื่องอะไรจะพูดคุยกับฉันงั้นหรอ?”เเจ็คสันพาสตีฟไปนั่งที่เก้าอี้ริมทะเลสาบเเละกล่าวถาม

 

“จริงจริงเเล้วที่ฉันมองหาคุณก็เพราะมีเรื่องบางอย่างจะถามคุณ ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าคุณไม่สามารถไล่ตามนักฆ่าของไฮดร้าคนนั้นไปได้ทันใช่รึไม่?”สตีฟ กล่าวถามเรื่องนี้ออกมา

 

“อืม,กัปตันโรเจอร์ส คุณเองก็เข้าใจความเเข็งเเกร่งของคนคนนั้นดีเพราะคุณได้สู้กับเขาหลายครั้งคงไม่เเปลกที่ฉันจะเผลอทำให้เขาหลุดมือไปได้”เเจ็คสันกล่าวออกมาดูเหมือนว่า เขาจะเดาถูก โรเจอร์สกำลังสงสัยเรื่องของบัคกี้

 

“มิราจไนท์ ฉันต้องการรู้ความจริง ฉันรู้ว่าคนคนนั้นมีสถานะคือ วินเทอร์โซลเยอร์ หรือก็คือนักฆ่าลับของพวกไฮดร้า เเต่เเท้จริงเเล้วภายใต้หน้ากากนั่นเขาคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเมื่อ 60 ปีก่อน บัคกี้ บาร์นส์”เห็นมิราจไนท์ยังคงวางเเผนจะเเสร้งทำเป็นไม่รู้ โรเจอร์สกล่าวถามอย่างจริจัง

 

“ฉันได้ตรวจสอบวิดิโอที่คุณกับบัคกี้เผชิญหน้ากันอยู่ดูเหมือนคุณจะพูดอะไรบางอย่างกับเขาในตอนนั้นคุณได้ถามเขาจนเขาได้เเสดงอาการบางอย่างออกมา คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้?”โรเจอร์สจ้องมองไปที่มิราจไนท์ เขาต้องการคำตอบของเรื่องนี้

 

ดูเหมือนว่าโรเจอร์สจะเห็นวิดิโอที่เขาสู้กับบัคกี้ไม่เเปลกใจที่โรเจอร์สจะรู้ตัวตนของบัคกี้

 

“เฮ้อ~ เนื่องจากคุณเล่นถามกันมาแบบนี้ ฉันก็คงไม่จำเป็นจะต้องปิดบังอีกเเล้ว ใช่,ฉันรู้จักนักฆ่าคนนั้นของพวกไฮดร้า เขามีสถานะคือ วินเทอร์โซลเยอร์ เเต่ตัวตนที่เเท้จริงของเขาคือ บัคกี้ บาร์นส์ ที่ฉันพยายามปกปิดคุณเพราะอะไรคุณเองก็เข้าใจอยู่เเล้วเพราะบัคกี้คนนี้ไม่ใช่บัคกี้ที่คุณเคยรู้จัก”ภายใต้การซักถามของโรเจอร์ส เเจ็คสัน พูดออกมาตามตรง

 

สตีฟ เข้าใจดีว่านั่นไม่ใช่บัคกี้ที่เขารู้จัก เเต่ถึงอย่างไร นั่นก็คือ บัคกี้ไม่ผิดเเน่

 

“ฉันรู้ว่านั่นไม่ใช่บัคกี้ที่ฉันรู้จัก ฉันเองก็ให้นาตาชารวบรวมข้อมูลของพวกไฮดร้าเเล้วพวกมันจะต้องทำอะไรกับเขาอย่างเเน่นอน”เมื่อกล่าวถึงจุดนี้สตีฟเเทบจะไม่สามารถทนได้

 

เขามีความเกลียดชังพวกไฮดร้าฝังลึก ในเหตุการณ์ครั้งนั้นบัคกี้ได้เสียสละตัวเองเพื่อกำจัดพวกไฮดร้า เเต่โชคดีที่บัคกี้ไม่ตายหลังจากตกลงมาจากหน้าผา ใน 60 ปี ต่อมา บัคกี้ยังมีชีวิตอยู่ เเต่ดูเหมือนเขาจะตกอยู่ภายใต้การควบุคมของพวกไฮดร้า บางทีพวกมันอาจได้ล้างสมองของบัคกี้เเละเปลี่ยนคนคนนี้ให้กลายเป็นวินเทอร์โซลเยอร์หรือก็คือนักฆ่าของพวกไฮดร้า

 

“เช่นนั้นคุณต้องการจะถามอะไรฉันกันเเน่?”ได้ยินคำพูดของสตีฟ เเจ็คสันกล่าวออกมา

 

“ฉันต้องการรู้ว่าคุณได้พูดอะไรกับบัคกี้ในวันนั้น คำพูดของคุณเหมือนกำลังกระตุ้นสติของเขา”จ้องมองจากการวิเคราะห์ในขณะที่บัคกี้ตะโกนร้องออกมาโรเจอร์สเชื่อว่ามิราจไนท์ต้องพูดอะไรบางอย่างออกมาเเน่นอน

 

“เรื่องนี้?อันที่จริงฉันก็เเค่พูดเรื่องที่พยายามจะกระตุ้นความทรงจำของเขาให้กลับมา”

 

“ความหมายของคุณก็คือ บัคกี้ ถูกล้างสมองโดยพวกไฮดร้าจริงจริงใช่มั้ย?”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ สตีฟ เเม้จะรู้อยู่เเล้วเขาก็อดถามออกมาไม่ได้

 

“อืม,ฉันคิดว่าเขาคงถูกล้างสมองโดยพวกไฮดร้าดังนั้นฉันจึงต้องการลองพยายามที่จะเรียกคืนสติของเขาให้กลับมาดังเดิม”เเจ็คสันพยักหน้าตอบตามตรงเขาเชื่อว่าในสมองของบัคกี้อาจจะมีกำเเพงกั้นระหว่างความทรงจำที่ถูกกรอกเข้าไปใหม่เเละความทรงจำเดิมก่อนหน้านี้อยู่

 

“เข้าใจเเล้ว,เท่านี้ฉันก็ยังมีหวังที่จะนำบัคกี้กลับมา อย่างไรก็ตามตอนนี้เราต้องหาตัวเขาให้เจอ คุณรู้หรือไม่ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?”โรเจอร์สกล่าวถามข้อสำคัญ

 

ได้ยินคำถามของโรเจอร์สเเจ็คสันเองก็อยากจะรู้เรื่องนี้เหมือนกัน

 

“ฉันเองก็ไม่รู้,ไม่ว่าบัคกี้จะอยู่ไหนฉันเชื่อว่าเขากำลังค้นหาตัวตนของเขาอยู่เเละเขาก็คงพยายามหลีกเลี่ยงสถานที่ที่ทำให้คนค้นพบเขาได้ง่าย อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการหาเพื่อนคนนี้ ลองให้ S.H.I.E.L.D. ช่วยดู ฉันคิดว่าคุณอาจจะเจอเพื่อนเก่าคนนี้ไม่ช้าก็เร็ว”

 

“ขอบคุณมิราจไนท์”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ สตีฟ รู้สึกมีความหวังขึ้นมา

 

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ ฉันเเทบจะไม่ได้ช่วยเหลืออะไรคุณเลย อย่างไรก็ตามลองตั้งสันนิษฐานถึงเรื่องฐานลับของพวกไฮดร้าดูบางทีบัคกี้อาจจะซ่อนตัวอยู่ที่นั่นเเต่ก็ระมัดระวังพวกไฮดร้าด้วย”เเจ็คสันไม่ลืมที่จะเตือนเกี่ยวกับองค์กรไฮดร้าเพราะอย่างไรเขาก็อาจจะทำภารกิจของเขาให้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว

 

“ฉันรู้,มิราจไนท์ ฉันขอกล่าวขอบคุณอีกครั้ง ฉันจะลองทำตามที่คุณเเนะนำ เช่นนั้นไว้พบกันใหม่อีกครั้ง”หลังจากได้รับสิ่งที่ตัวเองต้องการเเล้ว สตีฟ ได้ลุกขึ้นเเละกล่าวลามิราจไนท์

 

“อืม,ไว้พบกันใหม่ กัปตันโรเจอร์ส”

นิวยอร์ก,โรงเรียนเอ็มไพร์ สัปดาห์ใหม่ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ อารมณ์ของเเจ็คสันถือว่าดีมากในตอนนี้ เมื่อวานนี้ เขาได้รับเเฮ็คเกอร์ชั้นนำมาเข้าร่วมทีม เเต่อารมณ์ของเขาก็ต้องรู้สึกหดหู่เพราะหลังจากเข้าชั้นเรียนเขากลับไม่สังเกตุเห็นปีเตอร์

 

ดูเหมือนเพื่อนของเขาจะไม่ได้มากันวันนี้ทั้งหมดสำหรับเเฮร์รี่ เเจ็คสันเข้าใจว่าเเฮร์รี่ติดปัญหาเรื่องที่บริษัทเเละคงอาจจะไม่ได้เรียนต่อที่โรงเรียน เเต่สำหรับปีเตอร์เขาไม่รู้เหตุผลว่าทำไมปีเตอร์ถึงไม่มาโรงเรียน

 

เเต่ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดถึงปีเตอร์ เเจ็คสันก็ย้ายไปนั่งข้างทอมที่เเถวสุดท้ายเพื่อเยี่ยมเยือนเขา

 

ตั้งเเต่ที่เเจ็คสันกลายเป็นมิราจไนท์เเละสร้างพันธมิตรผู้พิทักษ์ขึ้นเขาก็เเทบจะละลายเพื่อนวัยเด็กคนนี้ไปทั้งหมด เพราะตอนนี้เเจ็คสันไม่อาจใช้ชีวิตธรรมดาได้อีกเเล้ว ที่เขาเข้าหาปีเตอร์เเละเเฮร์รี่เป็นเพราะทั้งสองคือ สไปเดอร์แมน เเละ กรีนก็อบลิน

 

โดยธรรมชาติเเจ็คสันได้ห่างเหินกับทอมเป็นเวลานานทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ค่อยดีนักเเต่ทอมก็ยังคงให้ความสนใจกับเพื่อนวัยเด็กคนนี้ไม่เปลี่ยนเเปลง

 

เเจ็คสันได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องของทอม เขาได้รู้ว่า ทอมได้เข้าร่วมเป็นเเฟนคลับของมิราจไนท์ เเละ ได้ชักชวนคนอื่น ๆ ให้เข้าร่วมเหมือนกับเขา

 

ตู๊ดด

 

ในขณะที่เเจ็คสันกำลังสั่นเรียนอยู่ โทรศัพท์ของเขาก็ได้ดังขึ้นมันทำให้เขารู้สึกตกใจเนื่องเพราะเร็ว ๆ นี้ เขาได้เคยถูกเเฮ็คเกอร์ สกาย’อาย เจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ดังนั้นเเจ็คสันจึงกังวลว่าโทรศัพท์ของเขาจะโดนไปด้วย เเม้ว่าเขาจะจัดการเรื่องโทรศัพท์เครื่องนี้เเล้วก็ตาม

 

เเจ็คสันกวาดรายชื่อโทรศัพท์เล็กน้อยก่อนที่เขาจะรู้สึกประหลาดใจเเต่อาการของเขาก็กลับมาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะปิดโทรศัพท์มือถือลง

 

~

 

เเจ็คสันว่าจะไปหาปีเตอร์ในวันนี้เพราะเขาสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของปีเตอร์ที่เเปลกไปดังนั้นเเจ็คสันจึงต้องการยืนยันด้วยตัวเอง

 

ทอมจ้องมองไปที่เเจ็คสันที่ถือกระเป๋าออกจากทางโรงเรียนทิศทางที่เเจ็คสันกลับนั้นไม่ใช่เส้นทางกลับบ้านของเขา

 

เเจ็คสันได้หยิบโทรศัพท์มือถือสถานะมิราจไนท์ออกมาก่อนที่จะโทรไปหาปีเตอร์ เพียงเเต่ว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้รับสายของเขา ซึ่งเเจ็คสันคิดว่าบางทีปีเตอร์อาจจะยุ่งอยู่ก็เป็นได้

 

“สวัสดี มิราจไนท์”ในขณะนั้นเอง กัปตันโรเจอร์สก็โทรเข้าเบอร์โทรศัพท์มิราจไนท์ของเขา

 

“สวัสดีกัปตันโรเจอร์ส ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับฉันงั้นหรอ?”ได้ยินเสียงกัปตันโรเจอร์สเเจ็คสันกล่าวถามโดยตรง

 

เพราะการสัมภาษณ์ข่าวของสตีฟทำให้ตอนนี้สตีฟกลายเป็นไอดอลของอเมริกาอีกครั้งชื่อเสียงของเขาได้เหนือไปกว่าสไปเดอร์แมนเเละมิราจไนท์ หรือ ฮีโร่ของนิวยอร์ก หลายเท่า

 

“มิราจไนท์ ตอนนี้คุณสะดวกไหม?ฉันมีเรื่องบางอย่างจะพูดคุยกับคุณ”ได้ยินคำถามของมิราจไนท์ สตีฟ กล่าวอย่างจริงจัง

 

“ตอนนี้?ฉันยังไม่ว่าง เเต่อาจจะมีเวลาว่างในช่วงตอนเย็น”เเม้เเจ็คสันจะสงสัยว่าทำไมสตีฟถึงมองหาตัวเขา เเต่ เเจ็คสันก็ตอบตามจริง

 

“ตอนเย็น?เข้าใจล่ะตอนเย็นฉันจะติดต่อคุณอีกครั้ง ตอนนี้คุณยังอยู่ที่นิวยอร์กใช่มั้ย?”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามอีกครั้ง

 

“ใช่,ตอนนี้ฉันอยู่ที่นิวยอร์ก”ได้ยินคำพูดของโรเจอร์ส การเเสดงออกของ เเจ็คสันก็กลายเป็นจริงจังเหมือนกัน

 

เกิดอะไรขึ้น?ตอนนี้ S.H.I.E.L.D. ไม่น่าจะประสบปัญหากับพวกไฮดร้าเเล้วนิ ภารกิจของฉันก็มีความสำเร็จมากขึ้นด้วย เเจ็คสันไม่เข้าใจว่าทำไมกัปตันโรเจอร์สจึงมองหาเขา

 

เเจ็คสันได้เตือนนิคเกี่ยวกับเรื่องสงครามไฮดร้าว่าอย่าระวางใจเพราะการโจมตีของพวกไฮดร้าอาจจะมาได้ทุกรูปแบบดังนั้นเเจ็คสันจึงค่อนข้างระมัดระวังตัวในเรื่องนี้

 

“อืม,ฉันจะเดินทางไปที่นิวยอร์กเพื่อพบคุณเย็นนี้”โรเจอร์สกล่าวพูดออกมาก่อนที่จะตัดสายโทรศัพท์ไป

 

“เกิดอะไรขึ้นกันเเน่?”หลังจากที่สายโทรศัพท์ถูกตัดเเจ็คสันก็ครุ่นคิดเงียบ ๆ

 

เเจ็คสันกำลังสงสัยว่าที่โรเจอร์สตามหาตัวเขาหรืออาจจะเป็นเพราะเรื่องบัคกี้ เพราะดูจากสถานการณ์ในตอนนั้นเเล้ว เขาได้ถอดหน้ากากของวินเทอร์โซลเยอร์ออกมา สตีฟ อาจจะรู้ความจริงดังนั้นจึงต้องการตามหาตัวเขาเพื่อสอบถาม

 

ดังนั้นตอนนี้สตีฟที่ไม่พอใจเขาไม่ได้เข้าไปร้องขอต่อนิคเเต่กลับต้องการสอบถามมิราจไนท์เกี่ยวกับเรื่องบัคกี้เเทนเพราะเขาเชื่อว่าฮีโร่คนนี้ต้องมีข้อมูลบางอย่างที่เขาต้องการรู้อย่างเเน่นอน

 

 

“สวัสดีป้าเมย์ ปีเตอร์ไม่อยู่บ้านหรอครับ?”ในขณะที่เเจ็คสันมาถึงหน้าบ้านของปีเตอร์ ป้าเมย์ ก็เดินออกมาเปิดประตู

 

“อ้าว เเจ็คสัน? ปีเตอร์ไม่ได้ไปโรงเรียนงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันหลังจากเชิญเเจ็คสันเข้ามานั่งข้างใน ป้าเมย์ก็กล่าวถามออกมา

 

“เอ่อ…ไม่เเน่นอน ก่อนหน้านี้ปีเตอร์ได้ไปที่โรงเรียน เเต่เพราะได้เเยกทางกันตอนกลับผมจึงรู้สึกสงสัยนึกว่าเขาจะกลับบ้านเเล้ว”

 

ได้ยินคำพูดของป้าเมย์ เเจ็คสันกล่าวโกหกทันที เขาไม่ต้องการให้ป้าเมย์เป็นห่วงปีเตอร์

 

“ปีเตอร์ยังไม่ได้กลับบ้านเลย อาจจะไปเที่ยวเล่นที่ไหนก็ได้ เด็กคนนี้ ดูเหมือนจะชอบออกนอกบ้านบ่อยขึ้น ไม่เข้าใจจริงจริง ลุงของเขาก็เตือนเเล้วเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของปีเตอร์”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ป้าเมย์ ได้กล่าวพูดออกมา ดูเหมือนปีเตอร์จะทำตัวเเปลกไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ เเต่เธอคิดว่าอาจเป็นเพราะความคึกคะนองของวัยรุ่นก็เป็นได้

 

“อืม,เช่นนั้นผมไม่รบกวนป้าเมย์เเล้ว ผมจะลองออกไปหาปีเตอร์ดู”เห็นปีเตอร์ไม่อยู่บ้านเเจ็คสันไม่ได้วางเเผนจะรั้งอยู่ที่นี่เขาได้กล่าวลาทันที

 

“อืม,กลับบ้านดีดีละเเจ็คสัน”ป้าเมย์ได้เดินมาส่งเเจ็คสันที่หน้าประตู

 

“ครับ”เเจ็คสันได้เดินทางออกจากบ้านของปีเตอร์

 

ในระหว่างบนเส้นทางถนน เเจ็คสัน ได้เดินครุ่นคิด เกี่ยวกับความรู้สึกกังวลของเขาจนพระอาทิตย์เริ่มจะตกดิน

 

“ปีเตอร์ นายไปอยู่ที่ไหนกันเเน่นะ?”

S.H.I.E.L.D. สำนักงานใหญ่เเม้จะผ่านเหตุการณ์ต่อสู้กับพวกไฮดร้ามา เเจ็คสันก็ยังต้องการจัดการพวกมันโดยสมบูรณ์ดังนั้นเขาจึงต้องร่วมเเผนการกับนิค S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้ได้เปิดเผยต่อหน้าสายตาของสาธารณชนทั้งหม ผู้อำนวยการรักษาความปลอดภัยระดับโลกเองก็พยายามจะควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดตอนนี้ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ในที่สุดนิคก็รู้สึกผ่อนคลายลง

 

ในสำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. หน้าจอภาพวิดิโอ นิคได้ดูภาพเหล่านั้นเล่นซ้ำไปซ้ำมามันเป็นภาพการต่อสู้ของ บัคกี้ เเละ มิราจไนท์ ดูเหมือน นิคจะสังเกตุเห็นอะไรได้บางอย่างจากการต่อสู้ไม่รู้ว่าเขาค้นพบอะไรกันเเน่

 

ฟุ่บ~

 

หลังจากนิคตรวจสอบวิดิโอเสร็จกัปตันโรเจอร์สก็เดินเข้ามาเเต่ก็ถูกนิคเรียกตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว”คุณมาดูนี่สิ ดูเหมือนมิราจไนท์ ฮีโร่ลึกลับของเราจะปกปิดซ่อนความจริงบางอย่างจากเราไว้”

 

“ปกปิด?คุณต้องการจะบอกอะไรฉันกันเเน่”สตีฟเดินเข้าไปที่เบื้องหน้าของนิคเขาไม่เข้าใจความหมายที่นิคพยายามจะสื่อ

 

เขาได้ถูกนิคช่วยเหลือให้ฟื้นคืนชีพมาจากการหลับไหลในชั้นน้ำเเข็งกว่า 60 ปี เเน่นอนว่าเขาถือเป็นหนี้บุญคุณของนิค ดังนั้นเขาจึงได้วางเเผนร่วมมือกับนิคในการจัดการองค์กรผู้ก่อการร้ายยิ่งได้รู้ข่าวว่าพวกไฮดร้ายังมีชีวิตอยู่ทำให้เขากลับมามีไฟอีกครั้ง

 

“เรื่องที่ฉันจะกล่าวกับคุณนั้น คุณต้องตกลงก่อนว่าไม่จะตื่นเต้นจนเกินไป”นิคจ้องมองไปที่สตีฟ

 

“มันเป็นเรื่องอะไรกัน?”ได้ยินคำพูดของนิค สตีฟ ถามอย่างประหลาดใจ

 

“คุณลองดูนี่เเล้วจะรู้เอง”ในขณะเดียวกันนิคก็กดรีโมตเล่นฉากภาพหน้าจอเบื้องหน้า

 

กัปตันโรเจอร์สมองไปที่ภาพตามคำชวนของนิคมันเป็นภาพเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ มิราจไนท์ เเละ บัคกี้ กำลังเผชิญหน้ากัน ตอนนั้น สตีฟ ไม่ได้ไล่ตาม วินเทอร์โซลเยอร์ไป เขาปล่อยให้ มิราจไนท์ไล่ตามไป ซึ่งมิราจไนท์ก็สามารถสกัดจับ วินเทอร์โซลเยอร์ได้สำเร็จ หลังจากนั้นเขาก็ไม่ขยับ สตีฟ เห็นเหมือนมิราจไนท์กำลังพูดอะไรบางอย่างกับวินเทอร์โซลเยอร์ดังนั้นสตีฟจึงรู้สึกสงสัยอย่างมาก

 

มิราจไนท์เดินเข้าไปหาวินเทอร์โซลเยอร์เเละจัดการวินเทอร์โซลเยอร์จนสิ้นสภาพท้ายที่สุดมิราจไนท์ก็ดึงหน้ากากของวินเทอร์โซลเยอร์ออกมาเผยให้เห็นหน้าของบัคกี้ที่สตีฟคุ้นเคย

 

“บัคกี้!”เสียงของสตีฟพูดออกมาอย่างสั่นเครือหลังจากเห็นใบหน้านั้น

 

เพียงเเต่ว่าเขาจำได้เกี่ยวกับสิ่งที่นิคให้เขาสัญญาว่าไม่ควรตื่นเต้นเกินไปดังนั้นสตีฟจึงสงบลง

 

หลังจากเห็นใบหน้าของบัคกี้สตีฟจ้องมองไปที่วิดิโออย่างระวังมากขึ้นเขาได้จ้องมองทุกจุดทุกภาพเพื่อไม่ให้คลาดสายตา

 

ในระหว่างการเฝ้ามองวิดิโอ มิราจไนท์ จ้องมองไปที่ บัคกี้ เเละพูดบางอย่าง เเต่บัคกี้ไม่ได้ตอบมิราจไนท์ เขาวางเเผนที่จะโจมตี เพียงเเต่ว่าในวิดิโอเหมือน มิราจไนท์จะตระโกนอะไรออกมาบางอย่างทำให้ร่างกายของบัคกี้สั่นเครือเล็กน้อย

 

หลังจากที่มิราจไนท์ตะโกนออกมาอารมณ์ของบัคกี้ก็พลุ้งพล่านอย่างรวดเร็วบัคกี้ได้ตะโกนเเหกปากออกมาจนเผยเสียงให้ได้ยินชัดเจน

 

“สตีฟ?ทำไมฉันค่อนข้างคุ้นเคยชื่อนี้ เขาคือใครกัน? เเละ ฉันล่ะเป็นใคร?”บัคกี้ได้ตะโกนออกมาคำพูดของเขาได้เเสดงให้สตีฟที่จ้องมองไปที่วิดิโอเข้าใจสถานการณ์

 

ภายใต้การจ้องมองของสตีฟ มิราจไนท์ กำลังเผชิญหน้ากับ บัคกี้ ,เดิมทีสตีฟคิดว่ามิราจไนท์ได้ฆ่าบัคกี้ไปเเล้ว เเต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่รุนเเรงส่งผลให้บัคกี้กระเด็นลอยตกลงไปข้างล่าง ฝุ่นได้ตลบอบอวยไปทั่วพื้นที่นั้น

 

“บัคกี้!!”เเม้เหตุการณ์นี้จะผ่านไปร่วมสัปดาห์ เเต่สตีฟ ก็อดเป็นห่วงบัคกี้ไม่ได้

 

ในขณะที่บัคกี้ถูกส่งลงไปข้างล่างเพราะเเรงระเบิดดูเหมือนมิราจไนท์จะเคลื่อนไหวเหมือนกันลักษณะท่าทีของเขาเหมือนกับต้องการพุ่งเข้าไปช่วยเหลือบัคกี้ ซึ่งมันทำให้กัปตันโรเจอร์สที่จ้องมองผ่านวิดิโอรู้สึกสงสัยว่าทำไม มิราจไนท์ถึงต้องทำเช่นนี้ ดูเหมือนว่ามิราจไนท์ไม่ต้องการให้บัคกี้ตาย

 

ในที่สุดภาพของมิราจไนท์ก็หายไปพร้อมกับเสียงระเบิดระลอกที่สองการเเสดงภาพวิดิโอเองก็ได้สิ้นสุดลง

 

เเต่หลังจากวิดิโอจบสตีฟก็ยื่นมือออกไปคว้ารีโมทเเละกรอไปตอนที่เผยให้เห็นภาพของบัคกี้ สตีฟรู้สึกโง่งมอย่างมากทั้งที่เขาเผชิญหน้ากับวินเทอร์โซลอย่างหลายครั้งกลับไม่สามารถคาดเดาสถานะของอีกฝ่ายได้เเม้จะรู้สึกสงสัยก็ตาม

 

“ฉันได้ส่งทีมค้นหาไปเเล้ว เเต่ก็ไม่พบวี่เเววเเม้เเต่น้อย เเน่นอนว่าเขายังไม่ตาย อาจจะเเค่กำลังหลบหนีอยู่”หลังจากดูวิดิโอจบนิคได้กล่าวพูดกับโรเจอร์ส

 

“คุณรู้เรื่องนี้ตั้งเเต่เมื่อไหร่?”สตีฟกล่าวถามเล็กน้อย

 

“เมื่อไม่นานมานี้ เพียงเเต่ว่าฉันยังไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นเขาจริงรึไม่”เผชิญหน้ากับการสอบถามของกัปตันโรเจอร์สนิคตอบกลับความจริง

 

ปั้ง!

 

ได้ยินคำตอบของนิค,สตีฟได้กำหมัดเเน่นต่อยไปที่ฐานด้านล่างของจอภาพอย่างรวดเร็ว สตีฟ ไม่เข้าใจว่าทำไมบัคกี้ถึงมีสภาพเเบบนั้นเเต่นั่นคือเพื่อนของเขาทั้งยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เเต่ในอดีตเป็นเขาที่คิดไปเองว่า บัคกี้ได้เสียชีวิตลงเพราะได้เสียสละตัวเองในการกำจัดพวกไฮดร้า

 

เห็นการกระทำของสตีฟ นิคเข้าใจความรู้สึกของสตีฟดี เพราะ โรเจอร์สนั้น มีความรู้สึกที่ผูกพันธ์กับสตีฟ

 

“ตอนนี้มีวี่เเววของเขารึไม่?”สตีฟกล่าวถามขึ้นอีกครั้ง

 

“หลังจาผ่านเหตุการณ์ในครั้งนั้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ทีมของเราได้ค้นหาฐานพวกไฮดร้าทั่วโลกเเละกำจัดพวกไฮดร้าไปบางส่วน เเต่ก็ไม่ได้ค้นพบเขา เขามีอีกชื่อที่เรียกกันในสถานะของ วินเทอร์โซลเยอร์ เป็นนักฆ่าลับของพวกไฮดร้า”นิคกล่าวตอบ

 

“ฉันเข้าใจเเล้ว!”สตีฟได้กลับคืนสู่ความเป็นตัวเองอีกครั้ง

 

ฟุ่บ!

 

สตีฟไม่ได้วางเเผนจะรั้งฟังคำพูดของนิคต่อเขาได้ออกจากสำนักงานใหญ่ไปในทันที ซึ่งนิคที่จ้องมองไปที่เเผ่นหลังของโรเจอร์สเขาได้ถอนหายใจออกมาหวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของเขาจะไม่ผิดอย่างไรก็ตามหากเขาไม่บอกสตีฟในวันนี้เเละสตีฟมารู้เรื่องทีหลังเมื่อถึงเวลานั้นสถานการณ์อาจจะเเย่ไปกว่านี้ก็เป็นได้

หลังจากผ่านไปหลายนาที เจอร์รี่ ก็นั่งบนเก้าที่ มิราจไนท์ จัดให้เขา สมาชิกพันธมิตรผู้พิทักษ์เองก็ยืนอยู่ที่เบื้องหน้าของเขาเเละจ้องมองมาที่เขา หลังจากสังเกตุดูดีดี เจอร์รี่คนนี้ก็ไม่ใช่คนน่าสงสัยอะไร ซึ่ง เเดร์เดวิล เองก็เห็นด้วยกับ เเจ็คสัน

 

“นายเองก็เป็นเเฟนคลับของฉันด้วยใช่มั้ย?”หลังจากจ้องมองไปที่เจอร์รี่เดดพูล เวด ได้กล่าวถามขึ้น

 

เวดได้โจมตีพวกเเก๊งอนุรักษ์นิมยมหลายคนโดยใช้ชื่อ เดดพูล ในช่วงเร็ว ๆนี้ ชื่อเสียงของเขาได้เพิ่มขึ้น เขาตั้งใจจะสร้างเว็บไซต์เเฟนคลับของเดดพูลขึ้นมา นอกจากนี้ คนคนนี้ ยังบอกว่าเป็นเเฟนคลับของพันธมิตรผู้พิทักษ์ มันทำให้เวดกล่าวถามด้วยความกระตือรือร้น

 

“เอ่อ…อ่า…”ได้ยินคำพูดของเดดพูล เจอร์รี่ ไม่รู้จะตอบอย่างไร

 

จริงจริงเเล้วบุคคลที่เจอร์รี่ให้ความเคารพมากที่สุดก็คือ มิราจไนท์ เเละ สไปเดอร์แมน ถ้าบอกว่าเขาชื่นชอบเเดร์เดวิล ด้วย ก็คงไม่ผิด เเต่สำหรับ เดดพูล เเละ เเจ็ค เขาไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะเเจ็คนั้นค่อนข้างลึกลับ ส่วนเดดพูล เวด เองก็เพิ่งเข้าร่วมพันธมิตรผู้พิทักษ์ สกาย’อาย ไม่ได้เชิดชูคนคนนี้เท่าไหร่

 

“ใช่ใช่,ฉันเป็นเเฟนคลับของคุณเดดพูล”เห็นเวดวางมือไว้ที่ปืนพกเจอร์รี่ได้กล่าวพูดออกมาอย่างเร่งรีบ เขากลัวว่า เดดพูล จะยัดกระสุนปืนเข้าใส่ปากเขา

 

“อย่าไปขู่เขา เดดพูล”การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเดดพูล หรือ เวด ไม่รอดพ้นสายตาของเเจ็คสันได้ เขายิ้มออกมาก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า

 

“ได้ยินว่าคุณต้องการจะเข้าร่วมทีมของเรา นี่เป็นความตั้งใจของคุณจริงจริงใช่มั้ย?”มาถึงหน้าเจอร์รี่เเจ็คสันกล่าวถาม

 

“ใช่,ฉันต้องการเข้าร่วมกับคุณ! เข้าร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ฉันรู้ว่าพวกคุณต้องเผชิญหน้ากับอันตราย เเต่ฉันไม่กลัว นอกจากนี้ ฉันสามารถคอยสนับสนุนคุณอยู่เบื้องหลังฉันคิดว่าฉันสามารถทำได้ดี”ได้ยินคำถามของมิราจไนท์ สกาย’อาย ตอบอย่างจริงจัง เขามีจุดเเข็งก็คือเทคนิคการใช้เครือข่าย เขาไม่ได้คิดจะเผชิญหน้ากับศัตรูภายนอกอย่าง มิราจไนท์ หรือ สไปเดอร์แมน

 

“คุณเเน่นอนว่าย่อมรู้เกี่ยวกับเรื่องอันตรายที่เราเผชิญหน้า คุณอาจจะรู้เรื่องเกี่ยวกับพวกอิทธิพลมืดหลังจากใช้ความสามารถของคุณ เเต่เชื่อฉันเถอะนั่นเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณเพิ่งรู้”ได้ยินคำตอบของเจอร์รี่ เเจ็คสัน พูดตามตรง เเน่นอนว่าทีมของเขาต้องการบุคลากรด้านเทคนิคโดยเฉพาะเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เเต่เขาต้องการบุคคลที่สามารถไว้วางใจได้

 

“ฉันเข้าใจดี ฉันเองก็มีความสามารถด้านการเเฮ็คเกอร์เพียงเท่านั้น เเต่ฉันค่อนข้างชื่นชอบเเละสนับสนุนสิ่งที่คุณกำลังปกป้องโลกใบนี้”เจอร์รี่ เตรียมใจเอาไว้เเล้ว เขาไม่ต้องการใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ ในฐานะเเฮ็คเกอร์ เขาสามารถใช้ความรู้ของเขาให้เป็นประโยชน์ได้ ในฐานะ สกาย’อาย

 

ได้ยินคำตอบของเจอร์รี่ ท่าทีของ เเจ็คสันไม่ได้เปลี่ยนไปนัก เเต่เขารู้สึกพึงพอใจ คนคนนี้ มีชื่อเล่นว่า สกาย’อาย เขาสามารถเจาะผ่านการป้องกันของJ.A.R.V.I.S  ได้นี่ก็เเสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขา เขาเหมาะที่จะสนับสนุนทีมอยู่ด้านหลัง

 

“พวกคุณคิดเห็นอย่างไร?”หลังจากประเมินเสร็จเเจ็คสันค่อนข้างพึงพอใจเจอร์รี่ เขาได้ถามความคิดเห็นของคนอื่น ๆ

 

“ฉันไม่ขอออกความเห็น”เเจ็คกล่าวพูดขึ้น

 

“ฉันคิดว่าเขาอาจจะเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดีเพราะอย่างไรทีมของเราก็ขาดบุคลากรด้านเทคนิคเครือข่าย”เเดร์เดวิลเเม้จะเข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. ตอนนี้ เขาก็ถือเป็นหนึ่งในทีมของ พันธมิตรผู้พิทักษ์

 

เเดร์เดวิล เป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ร่วมสองสังกัด คือ S.H.I.E.L.D. เเละ พันธมิตรผู้พิทักษ์ เเจ็คสันเองก็ไม่ได้คิดจะวางเเผนเข้าร่วม พันธมิตรอเวนเจอร์สในตอนนี้ เพราะภายหลังในทีมพันธมิตรอเวนเจอร์สไม่ได้มีเพียงเเค่ ไอรอนแมน ,เทพเจ้าสายฟ้า ฮัลค์  กัปตันอเมริกา เพราะยังมีคนอื่น ๆ อีก

 

ได้ยินคำพูดของ เเจ็ค เเละ เเดร์เดวิล เจอร์รี่ รู้สึกมีความสุข ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ถูกกีดกันโดยสองคนนี้ของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

 

“ฉันไม่สนใจ หากนายต้องการให้ฉันยอมรับ นายจะต้องสร้างเว็บไซต์เเฟนคลับของเดดพูลให้ฉันเเละมันต้องดังกว่าเว็บไซต์เเฟคลับสไปเดอร์แมน!”เวด กล่าวพูดคำขอของตัวเอง

 

“ไม่มีปัญหา,ฉันจะช่วยคุณเดดพูลสร้างเว็บไซต์เเฟนคลับ ที่สามารถรองรับบรรดา เเฟนคลับให้ได้เยอะ ๆ อย่างเเน่นอน”ได้ยินคำขอของเดดพูล เจอร์รี่ รีบทำตาม เเม้ว่าคำขอจะหมายถึงการสร้างเว็บไซต์ที่ดังกว่าเว็บไซต์ของสไปเดอร์แมน เเต่ เจอร์รี่ เชื่อว่า เดดพูล คงไม่อาจนำสไปเดอร์แมนไปได้ เเฟนคลับนั้นใช่ว่าจะหาได้โดยง่าย

 

“ดี,เช่นนั้นฉันก็ยอมรับนายเข้าร่วมทีม”เห็นเจอร์รี่กล่าวรับรองเวด กล่าวพูดขึ้น

 

“อืม,เท่านี้ก็เหลือเพียงสไปเดอร์เเมนเท่านั้นที่ยังไม่มา เเต่คนส่วนมากของทมเราได้ยอมรับ เช่นนั้นทีมพันธมิตรของเราจะประกาศยอมรับ สกาย’อาย เข้าเป็นสมาชิกสนับสนุนทีม”เเจ็คสันได้ประกาศออกมา ถึงเเม้ปีเตอร์จะไม่เห็นด้วย เเต่เสียงสนับสนุนการเห็นด้วยก็ออกมา 4: 1 เเล้วในตอนนี้ การรับ สกาย’อาย เข้าทีมจึงไม่มีปัญหา เเละ เเจ็คสัน เชื่อว่า ปีเตอร์เองก็คงจะเห็นด้วยอย่างเเน่นอน

 

„!” ได้ยินคำประกาศของมิราจไนท์ เจอร์รี่ รู้สึกดีใจจนออกนอกหน้า เเม้เขาจะเป็นสมาชิกสนับสนุนงานอยู่เบื้องหลังก็ตาม เเต่เขาก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถสนับสนุนทีมของเขาได้ดี

 

“เอาล่ะ,เเม้จะเป็นเรื่องน่ายินดีที่นายได้เข้าร่วมทีมของเรา เเต่ฉันรู้สึกสงสัยเเละต้องการทำบางอย่างให้มันชัดเจน นายสามารถเข้าถึงพวกเราได้อย่างไร?”เห็นเจอร์รี่ ดีใจ เเจ็คสัน กล่าวถามขึ้น

 

“เรื่องนี้…อันที่จริงเเล้วถือว่าฉันโชคดีเอามาก ๆ เพราะว่า ฉันได้ติดตามเว็บไซต์เเฟนคลับของสไปเดอร์แมนเเละบังเอิญได้พยายามตรวจจับที่อยู่ ไอพี ดู…”เจอร์รี่ รีบกล่าวพูดทันที

 

ผ่านไปหลายนาที ผิวของเเจ็คสันค่อนข้างเปลี่ยนไป เพราะในที่สุดเขาก็รู้เเล้วว่า สกาย’อาย เจอพวกเขาได้อย่างไร ที่เเท้ก็เพราะภาพที่ ปีเตอร์เป็นคนปล่อย หลังจากนั้นเจอร์รี่ก็เล่าประวัติของเขาให้ฟังซึ่งเขาเคยเเฮ็คระบบของบริษัทอินเทอร์เน็ตของนิวยอร์กมาเเล้ว ซึ่งมันทำให้พวก เเจ็คสัน รู้สึกประหลาดใจ

 

“เช่นนั้นนี่คือเครื่องมือของคุณ?”เเจ็คสันที่ประทับใจกับความสามารถของเจอร์ณี่ เขาได้จ้องมองไปที่ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ชื่อว่า ระบบเอียร์

 

เเจ็คเเละเเดร์เดวิลได้เอามือไปรูปเทคโนโลยีระบบเอียร์นี้อย่างตื่นเต้น

 

“ใช่นี่เป็นเทคโนโลยีระบบเอียร์ที่ฉันใช้เวลาร่วมสองเดือนในการสร้างมัน เเม้ว่าหน้าตาของมันจะค่อนข้างหยาบคาย เเต่รูปลักษณ์ของมันก็ไม่ค่อยโดดเด่นจนเกินไป ฉันมั่นใจว่าคุณจะต้องชอบมันเเน่นอน”

 

“มันจะสุดยอดอย่างที่นายว่าจริงจริงงั้นหรอ?”อุปกรณ์ชิ้นนี้ค่อนข้างน่าเหลือเชื่อจนเเจ็คสงสัย

 

ตามที่เจอร์รี่กล่าวระบบเอียร์ของเขาสามารถเเฮ็คเข้าสู่ระบบเครือข่ายในนิวยอร์กได้ทั้งหมดเเละไม่สามารถตามรอยกลับได้ไม่ว่าจะเป็นกรมตำรวจ NYPD หรือ ระบบส่วนตัว เเละ ยังสามารถดักฟังการสนทนาผ่านโทรศัพท์ได้อีกด้วย

 

อุปกรณ์ตัวนี้มีฟังก์ชั่นอยู่หลายแบบอยู่ในตัวเดียวซึ่งรวมเป็นผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีในข้างต้น

 

“ฉันมั่นใจในความสามารถของระบบเอียร์นี้มาก”เจอร์รี่กล่าวตอบอย่างจริงจัง

 

“แต่ระบบของฉันไม่สามารถบุกรุกพื้นที่บางเเห่งในนิวยอร์กได้เช่น อุตสาหกรรมสตาร์ก เพราะพวกเขามีปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะอย่าง J.A.R.V.I.S ความสามารถระดับนั้นได้เหนือกว่าระบบของฉัน”เจอร์รี่กล่าวเสริมเเม้เขาจะมีพรสวรรค์เเต่ก็ยังมีบุคคลที่มีพรสวรรค์มากกว่าเขา

 

“อืม,ชั่งเถอะ ได้รับรู้ว่าคุณสามารถบุกรุกเครือข่ายทั้งหมดได้นั่นมันก็น่ากลัวเกินพอเเล้ว”เเม้จะได้ยินคำกล่าวเสริมของเจอร์รี่เเจ็คสันก็ไม่สนใจ เขาเชื่อว่าระบบดังกล่าวเเค่นี้ก็มีความสามารถที่น่ากลัวเเล้ว เเจ็คสันเชื่อว่าการยอมรับเจอร์รี่เข้าร่วมทีมย่อมเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดเขาเชื่อมั่นอย่างเเน่นอน

สกาย’อาย,หรือชื่อเดิม เจอร์รี่ พิลล์ บ้านเกิดในเมืองเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา อาศัยร่วมกับญาติที่เป็ฯผู้ปกครองของเขา เขามีความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ที่สูง เเต่เพราะเนื่องจากปัญหาทางครอบครัว เจอร์รี่จึงไม่ได้ศึกษาด้านวิทยาศาสตร์เเละระบบโดยเฉพาะเขาได้อยู่ร่วมโรงเรียนธรรมดาเพียงเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามพรสวรรค์ใช่ว่าจะลบกันได้ง่าย ๆ เมื่อตอนอายุ 13 เจอร์รี่ได้ออกจากบ้านเเละเริ่มเร่ร่อนไปสถานที่ต่าง ๆ ของสหรัฐอเมริกา เพียงเเค่อายุ 10 กว่าปี เจอร์รี่ ได้กระตือรือร้นหางานทำพร้อมกับศึกษาเครือข่ายข้อมูลที่เขาชอบไปพรางเเม้จะยากลำบากเเต่เพราะความสนใจ ผ่านไปกว่าสิบปีความสามารถของเขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับการยอมรับ

 

เจอร์รี่ในปัจจุบันมีงานการที่มั่นคงเกี่ยวกับการดูเเลเครือข่ายเเม้จะเป็นเพียงการช่วยเหลือในการผลิตเว็บไซต์บางเเห่งเเละรักษา เเต่ก็ไม่ถือเป็นงานที่ตรึงมือเขาเเม้เเต่น้อย

 

ในฐานะที่เขาเป็นเเฮ็กเกอร์มือฉกาจเขามีเทคนิคการใช้คอมพิวเตอร์ที่ค่อนข้างสูงเเม้เเต่รัฐบาลหรือองค์กรบางเเห่งก็ไม่สามารถตรวจสอบเขาได้โดยธรรมชาติ เจอร์รี่ จะไม่เเฮ็คเข้ายุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเขา

 

เเต่หลังจากที่เขาได้เห็นการกระทำของ มิราจไนท์ ในการช่วยเหลือความปลอดภัยของนิวยอร์ก เขาก็ค่อนข้างให้ความสนใจ ฮีโร่คนนี้ได้ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเเละช่วยเหลือผู้คน เจอร์รี่อยากจะรู้จักสถานะที่เเท้จริงของคนคนนี้ ไม่ใช่เพราะเจตนาร้าย เเต่เขาถือว่ามันเป็นความสำเร็จของตัวเอง

 

อย่างไรก็ตามหลังจากพยายามมองหาสถานะที่เเท้จริงของมิราจไนท์ เจอร์รี่ ก็พบเจอกับกำเเพงใหญ่ที่ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ เขาได้ค้นพบเรื่องเกี่ยวโยง อย่างการร่วมมือกันระหว่าง สไปเดอร์แมน ,มิราจไนท์ เเละ เเดร์เดวิล พวกเขาได้ร่วมมือกันจัดการพวกเเก๊งมาเฟียวิลสัน

 

เเต่ก็มีสิ่งนึงที่เจอร์รี่ค้นพบเเม้เขาจะบอกคนทั่วไปคนเหล่านั้นก็ไม่มีทางเชื่อเพราะพวกมิราจไนท์ได้รับมือกับตระกูลเเวมไพร์ลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด ตัวตนเหล่านี้ราวกับหลุดมาจากนิยายสยองขวัญก็มิปาน เจอร์รี่ที่ค้นพบข้อมูลนี้เขาเเทบไม่อยากจะออกจากบ้านเพราะกลัวถูกจับไปเป็นถุงเลือด

 

อย่างไรก็ตาม มิราจไนท์ ก็ได้ร่วมมือกับกลุ่มนักล่าเเวมไพร์เเละจัดการพวกเเวมไพร์ลงได้ในที่สุด ดังนั้นเขาจึงศรัทธาในตัวของมิราจไนท์อย่างเเรงกล้า จนเขาต้องการมีส่วนร่วมในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เพื่อช่วยเหลือคนเหล่านี้

 

ในฐานะของเเฮ็คเกอร์เเม้เขาจะไม่มีความสามารถในการต่อสู้หรือเผชิญหน้ากับศัตรูเขาก็ยังสนับสนุนคนอื่น ได้ด้วยเทคโนโลยีเเละข้อมูลของเขา ดังนั้นเขาจึงเริ่มมองหา มิราจไนท์ เเละ หวังจะติดต่อเรื่องการขอเข้าร่วมทีม

 

จากนั้นเจอร์รี่ก็พบมิราจไนท์เเละปีเตอร์ผ่านทางเว็บไซต์เเฟนคลับซึ่งบางครั้งเป็นภาพที่อัพโหลดโดยทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เจอร์รี่ได้เเกะรอยไอพีจากช่องโหว่ที่ปีเตอร์ได้สร้างขึ้น

 

จนท้ายที่สุดเขาก็สามารถค้นพบไอพีของมิราจไนท์เเละพันธมิตรผู้พิทักษ์เจอร์รี่รู้สึกตื่นเต้นมาก ดังนั้นเขาจึงต้องการเตรียมของขวัญสำหรับการเผชิญหน้าของเขากับพวกมิราจไนท์

 

เขาเชื่อว่าของขวัญของเขาจะต้องทำให้พวกมิราจไนท์ชอบมากอย่างเเน่นอน

 

สองวันต่อมาในวันนั้นเจอร์รี่ได้นำกล่องบรรจุภัณฑ์ออกมาบางอย่างเขาได้ซื้อมันมาจากร้านสะดวกซื้อเจอร์รี่ได้มองซ้ายมองขวาอย่างระวัง

 

จนในที่สุดก็มีรถเช่ารายนึงมาจอดที่เบื้องหน้าของเขา

 

เจอร์รี่รู้สึกตกใจอย่างมากคนที่ลงมาจากรถเช่านั้นสวมใส่ชุดสีเเดงรัดรูปด้านหลังไขว่ด้วยดาบสองเล่มที่เอวยังมีปืนพกอีกสองกระบอกคนคนนี้ก็คือ เดดพูล

 

“คุณคือ…”เห็นบุคคลที่ลงมาจากรถเช่า เจอร์รี่ รู้สึกตื่นเต้นทันที เขาตะโกนออกมา ดูเหมือนเขาจะจำเดดพูลได้

 

เเต่เจอร์รี่ไม่ได้ตะโกนชื่อเรียกนี้ออกมาเพราะกลัวว่าจะสร้างความสนใจตรงนี้มากเกินไป

 

ฟุ่บ!

 

“ไปกันเถอะ,สหาย”หลังจากวางสัมภาระทั้งหมดเเล้ว เวดก็กล่าวบอกคนขับ

 

“สวัสดี คุณ เดดพูล!”หลังจากคนขับรถที่ดูเหมือนเป็นเพื่อนของเดดพูล ขับรถออกไป สกาย’อาย ก็กล่าวทักทายเดดพูลเล็กน้อย

 

สำหรับการปรากฏตัวของเดดพูลนั้นเป็นเพราะ เเจ็คสัน ได้ขอให้ เวด ไปรับ เจอร์รี่ มา ซึ่ง คำขอของเเจ็คสันนั้นเเทบอยากจะทำให้เวดรู้สึกเป็นลม

 

รถที่ค่อย ๆเคลื่อนตัวออกจากร้านสะดวกซื้อนั้น เเจ็คสัน ไม่ได้มั่นใจความปลอดภัยมากนัก เขาจึงให้ เเดร์เดวิล เฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ห่าง ๆ  เเละ ให้ เดดพูล ไปรับ

 

เเจ็คเองก็ได้เตรียมกำลังคนจำนวนมากเอาไว้เกี่ยวกับการพบกันครั้งเเรกของพวกเขา พวกเขาจำต้องระมัดระวังตัวหรืออุบัติเหตุที่ สกาย’อาย จะสร้าง

 

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงรถคันนี้ก็ได้ขับพาเวดเเละเจอร์รี่ไปที่ฐานพันธมิตรผู้พิทักษ์ ซึ่งมี เเดร์เดวิล,เเจ็ค เเละ มิราจไนท์ รอพวกเขาอยู่ สำหรับสไปเดอร์แมน เพราะเขาขอลาในช่วงนี้ทำให้เเจ็คสันยังคงรู้สึกกังวลเหมือนเดิม

 

ฟุ่บ!

 

เจอร์รี่ได้ลากกระเป๋าของเขาลงมาหลังจากนั้นก็เดินไปที่ด้านหน้าก่อนที่จะเห็นฐานลับเเละมีเหล่าฮีโร่ที่เขาชื่นชมคอยต้อนรับอยู่มันทำให้ดวงตาของเจอร์รี่เปร่งประกาย

 

“นี่คือการต้อนรับฉันเข้าร่วมทีมใช่ไหม?”

 

เเจ็คสันเหมือนชื่นชมความสามารถของคนคนนี้ในทีมของเขาเองก็ต้องการคนที่มีความสามารถในการเเฮ็คเข้าเครือข่ายเทพขนาดนี้

 

เครือข่ายป้องกันของพวกเเจ็คสันนั้น เขาได้ขอร้องให้ โทนี่ ให้ J.A.R.V.I.S  ช่วยปรับปรุงไฟร์วอลล์ อย่างไรก็ตาม ไฟร์วอลล์ นั้นก็ได้ถูกทำลายไปเเล้ว ดูเหมือนคนคนนี้จะไม่ธรรมดาขนานเเท้

 

“คุณ สกาย’อาย สินะ นี่คงจะเป็นชื่อเล่นของคุณ,คุณบุกเข้ามาในเครือข่ายของเราได้อย่างไร?”มองไปที่หน้าจอตรงข้ามกับชายหนุ่มคนนั้นเเจ็คสันกล่าวถามอย่างสงบ

 

ธรรมชาติเเจ็คสันได้ใส่หน้ากากป้องกันการอำพรานงใบหน้า เขาเองก็ไม่เชื่อว่าคนคนนี้ได้โจมตีคอมพิวเตอร์ของเขาเป็นครั้งเเรก ส่วน เเจ็ค ไม่ได้สนใจใบหน้าของเขา สถานะของเขาถือเป็นนักฆ่าลับ เขาไม่เชื่อว่าเเฮ็คเกอร์คนนี้หลังจากเห็นใบหน้าของเขาจะสามารถตามตัวเขาได้พบถ้าจะพูดถึงความกังวลก็อาจจะเป็นคนของครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์ที่อาจจะถูกจัดการ

 

“มิราจไนท์ อย่างเเรกเลยฉันต้องกล่าวขอโทษคุณด้วยความจริงใจที่บุกผ่านเครือข่ายสัญญาณของคุณ อย่างไรก็ตามหากต้องการจะสนทนากับพวกคุณนี่อาจเป็นวิธีเดียวเท่านั้น”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์บุคคลในหน้าจอก้มขอโทษทันทีเขาได้ระบุเหตุผลที่เเฮ็คเข้าเครือข่ายนี้

 

“ติดต่อกับพวกเรา?มีเรื่องอะไรรึไม่?”ได้ยินคำพูดขอโทษจากฝ่ายตรงข้าม เเจ็คสันขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวถาม

 

ดูเหมือนว่าเเจ็คจะพูดถูกคนคนนี้อาจไม่ได้มีเจตนาร้าย เพื่อนคนนี้เเทนตัวเองว่า สกาย’อาย บางทีเขาอาจมีเรื่องสำคัญที่จะต้องพูดคุยกับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเขา

 

“จริงจริงเเล้วฉันเป็นผู้ดูเเลฟอรัมของพันธมิตรผู้พิทักษ์ ฉันรู้สึกชื่นชมในสิ่งที่พวกคุณทำอย่างมาก ฉันจึงอยากจะถามคุณให้ฉันเข้าร่วมกับพวกคุณได้ไหม? เเม้ว่าฉันจะไม่ถนัดเรื่องออกงานนอก เเต่ด้านความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ฉันเองก็มั่นใจพอตัว”เห็นคำถามจากมิราจไนท์ สกาย’อาย พูดขอตรง ๆ

 

ได้ยินคำพูดของ สกาย’อาย เเจ็คสัน เเละ เเจ็ค มองไปที่การกระทำที่จริงจังของเขา

 

“นี่เป็นเป้าหมายของนายงั้นหรอ สกาย’อาย?”เเจ็คได้กล่าวพูดถามขึ้น ถ้าจะให้พูดกันตามตรง ทีมของเขาก็ขาดพวกมืออาชีพในด้านนี้อยู่เหมือนกัน เเม้เเจ็คจะขอให้คนจากครอบครัวเเฟรงเกนสไตน์ช่วยเเต่ก็ไม่ได้รุนเเรงมากนัก

 

“อาจเป็นไปได้ว่าเขาเป็นเเฟนคลับของพวกเรา?”เเจ็คสันเเละเเจ็คกล่าวกระซิบกระซาบพูดคุยกันเล็กน้อย

 

“คุณเป็นเเฟนคลับของเรางั้นหรอ?”เเจ็คสันได้กล่าวถาม สกาย’อาย ตรงตรง

 

“ใช่,ฉันเป็น เเฟนคลับของ สไปเดอร์แมน เเละ มิราจไนท์ บนเว็บไซต์เเฟนเพจของพวกคุณนั้นฉันได้สร้างไฟร์วอลล์ป้องกันให้ด้วย”สกาย’อาย กล่าว พูดอย่างจริงจัง

 

“ยิ่งไปกว่านั้นฉันรู้เรื่องที่คุณจัดการพวกอิทธิพลมืดอย่างลับลับ ไม่ว่าจะเป็น เเก๊งมาเฟีย วิลสัน หรือ พวกเผ่าพันธุ์เเวมไพร์ สิ่งเหล่านี้ คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถรับรู้ได้เลย เเต่ฉันรู้ คุณกำลังปกป้องนิวยอร์ก กระทั่งปกป้องความปลอดภัยของคนอเมริกันทั้งหมด นี่คือสิ่งที่ฉันรู้สึกชื่นชมพวกคุณ ดังนั้น ฉันจึงต้องการเข้าร่วมทีมของพวกคุณ”หลังจากการคำสรรเสริญ สกาย’อาย ก็บอกเป้าหมายในการเข้าทีมของเขาอีกครั้ง

 

เรื่องพวก ตระกูล เเวมไพร์ เเละ มาเฟียวิลสัน ที่ สกาย’อาย กล่าวนั้น เเน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถรู้ได้

 

ต้องบอกว่าคนคนนี้มีความสามารถพิเศษที่ไม่ธรรมดาในการรวบรวมหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องเว็บไซต์เเฟน ๆ ของมิราจไนท์ เเละ สไปเดอร์แมน เรื่องเหล่านี้เเจ็คสันไม่ได้สนใจ เเต่ประเด็นสำคัญก็คือ อิทธิพลมืดที่พวกเขาจัดการคนเหล่านี้กลับสามารถหาข้อมูลได้ ไม่รู้ว่า สกาย’อาย ไปรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร เเจ็คสันจึงค่อนข้างสงสัย”โอเค ฉันเข้าใจเเล้วว่าคุณค่อนข้างมีความสามารถ อย่างไรก็ตามหากต้องการเข้าร่วมกับเราง่ายง่ายนั้นคุณคิดผิด”เเจ็คสันกล่าวพูดตามตรง

 

“ฉันรู้ !ฉันรู้ !หากต้องการเข้าร่วมทีมของคุณต้องผ่านการทดสอบ อย่างไรก็ตามฉันเชื่อว่าฉันสามารถทำได้เเละจะต้องชนะความไว้วางใจของพวกคุณในฐานเพื่อนร่วมทีมที่ดี”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ สกาย’อาย ตะโกนอย่างตื่นเต้น

 

“ดีฉันเข้าใจเจตนาของคุณเเล้ว นอกจากนี้ฉันมีเรื่องจะถาม คุณรู้ตำเเหน่งของฐานทัพเราหรือไม่?”เเจ็คสันจ้องมองไปที่ใบหน้าของสกาย’อาย

 

เขายอมรับว่าเเฮ็คเกอร์คนนี้ดุร้ายมากจริงจริง ดังนั้นหากคนคนนี้ต้องการจะเข้าร่วมทีมของเขา เขาจะต้องทดสอบความสามารถของฝ่ายตรงข้าม

 

“ตำเเหน่งฐานลับของคุณ? เอ่อ ฉันไม่รู้หรอก ฉันได้ตรวจสอบไอพีนี้ เเละ เเฮ็คเข้ามาเท่านั้น เพียงเเต่เครือข่ายของคุณเเข็งเเกร่งมาก ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถหาที่อยู่ที่เเน่ชัดได้ เเต่การป้องกันเครือข่ายของคุณเเละของอุตสาหกรรมสตาร์กนั้นค่อนข้างคล้าย กันจริงจริง”

 

“…”เเจ็คสันรู้สึกตกใจไม่ใช่น้อยที่คนคนนี้กลับสามารถรับรู้ได้ว่าเครือข่ายป้องกันของเขาคล้ายกับเครือข่ายป้องกันของอุตสาหกรรมสตาร์ก ไม่คาดคิดว่า สกาย’อาย คนนี้ จะสามารถเเฮ็คระบบของ J.A.R.V.I.S ได้

 

“ดี,อีกสองวันให้คุณมาเจอเราที่นี่…”เเจ็คสันได้บอกตำเเหน่งพิกัดไป เขารู้สึกโล่งใจเกี่ยวกับพิกัดฐานลับของเขาที่ยังไม่ถูกเปิดเผย

 

“อืม,ฉันจะไปเเน่นอน”

 

สกาย’อาย ตอบรับอย่างรวดเร็ว เขารอที่จะพบไอดอลที่เขาชื่นชมมานานเเล้ว

 

เเจ็คสันได้คุยกับเขาผ่านวิดิโอคอล ก่อนที่จะวางสาย เเจ็คสันขอให้ สกาย’อาย อย่าได้เเฮ็คเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์เขาอีก ซึ่งเเน่นอนว่า สกาย’อาย ตอบรับ หลังจากจบการสนทนา คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ก็กลับมาเป็นปกติ

 

เพียงเเต่ว่าเเจ็คสันไม่ใช่คนง่ายง่าย ที่จะเชื่อบุคคลอื่นหลังจากสนทนาเพียงครั้งเดียว เขาจะต้องสร้างความปลอดภัยให้กับฐานของเขาอีกครั้งเพื่อให้เเน่ใจว่าจะไม่มีใครสามารถบุกรุกเข้ามาได้อีก

 

“คุณวางเเผนจะทำอะไร หรือว่า จะรับเขาเข้าร่วมทีมของเรา?”เเจ็คได้กล่าวถามเขาไม่ได้คิดจะต่อต้านความคิดของมิราจไนท์

 

“ฉันจะต้องเห็นเขาด้วยตาตัวเองก่อนเเละค่อยยืนยันเรื่องนี้อีกครั้ง ฉันไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวคนเดียวเอาเป็นว่าให้ทุกคนได้เห็นพ้องกันเเละค่อยตัดสินใจ”เเจ็คสันกวาดไปที่คอมพิวเตอร์ที่จอมืดดำสนิทก่อนที่จะกล่าวพูดอย่างจริงจัง

อีกสองวันต่อมา เเจ็คสัน เเละ เเจ็ค ทั้งสองคนได้นั่งเล่นอยู่ที่ฐาน สำหรับเเจ็คสัน เขากำลังดูบันทึกวิดิโออยู่ซึ่งภาพที่เล่นก็คือตัวเอกอย่างสไปเดอร์แมน

 

ในวิดิโอปีเตอร์ได้จัดการเเก๊งค้ายาเสพติดดูเหมือนเขาจะทำได้ดีเเละช่วยรักษาสันติภาพในนิวยอร์กอย่างไรก็ตามเเจ็คสันกลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นทั้งหมด

 

“มิราจไนท์! คุณกำลังคิดอะไรอยู่งั้นหรอ? ไม่ใช่ว่าเจ้าหนูเเมงมุมนั่นทำถูกเเล้ว คุณยังจะนั่งกังวลทำไม?”เห็นเเจ็คสันนั่งดูวิดิโอ เเจ็ค กล่าวถามขึ้น

 

ได้ยินคำพูดของเเจ็ค ,เเจ็คสันได้กล่าวตอบทันที”ฉันรู้สึกกังวลบางอย่างเมื่อ เร็ว ๆ นี้ นายไม่คิดว่าสไปเดอร์แมนทำตัวไม่ปกติในช่วงเร็ว ๆนี้งั้นหรอ?”

 

ในข้อมูลวิดิโอเเจ็คก็ดูการเคลื่อนไหวของสไปเดอร์แมนที่จัดการปัญหาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งเเต่ผ่านการเผชิญหน้ากับอิทธิพลของพวกฟรานซิส เเจ็คสันก็กังวลตลอดมาเกี่ยวกับพวกมิวแทนท์ระดับ 4 ดังนั้นเเจ็คสันจึงได้บอกปีเตอร์หากต้องการจัดการพวกเเก๊งอิทธิพลเหล่านี้ให้บอกเขา เเต่ดูเหมือนปีเตอร์จะจัดการพวกอิทธิพลเหล่านี้โดยไม่สนใจสิ่งใด

 

ยิ่งไปกว่านั้นนี่ไม่ใช่ครั้งเเรก ที่เเจ็คสันรู้สึกเเปลก ๆ ตั้งเเต่สัปดาห์ก่อนพฤติกรรมของปีเตอร์เองก็เริ่มพัฒนาไปทางที่เขาไม่อาจเดาได้

 

การเปลี่ยนเเปลงของปีเตอร์ทำให้เเจ็คสันสังหรณ์ใจไม่ดีกลัวว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบางทีเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเวดรึเปล่า นี่เป็นสิ่งที่เเจ็คสันคิด เพราะว่าช่วงนี้ เวด ก็กำลังเเข่งขันเรื่องสร้างชื่อเสียงอยู่เหมือนกัน

 

เเต่ในขณะนั้นเเจ็คสันก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ เกี่ยวกับภาพยนตร์สไปเดอร์แมน เวน่อม,เวน่อม คือปรสิตจากต่างดาวที่เปลี่ยนให้ปีเตอร์กลายเป็นดาร์คสไปเดอร์แมน เเต่ชุดคลุมตอนนี้ของปีเตอร์ได้รับการออกแบบโดยโทนี่ซึ่งมันต่างกัน

 

ยิ่งไปกว่านั้นในภาพยนตร์สไปเดอร์แมน เวน่อม ได้เปลี่ยนให้ ปีเตอร์กลายเป็นนิสัยก้าวร้าวมากขึ้น เเต่เเจ็คสันกลับยังไม่รู้สึกเช่นนั้นจากอารมณ์ของปีเตอร์

 

“หรือว่าสไปเดอร์แมนต้องการสร้างชื่อเสียงเเข่งกับเดดพูล?เมื่อไม่นานมานี้เดดพูลได้ออกสร้างวีรกรรมเพื่อเพิ่มชื่อเสียงของตัวเองในนิวยอร์ก”เเจ็คคิดในเเง่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

“สไปเดอร์แมนไม่ใช่คนแบบนั้นเเม้ว่าเขาจะมีความรู้สึกต่อการยั่วยุจากคนอื่นก็ตาม ไว้ครั้งต่อไปฉันจะสอบถามเขาด้วยตัวเอง ฉันไม่อาจปล่อยผ่านเรื่องนี้ได้”ได้ยินคำพูดของเเจ็ค ,เเจ็คสันกล่าวตอบทันที ไว้ครั้งต่อไปเขาจะต้องยืนยันสถานะของปีเตอร์ด้วยตนเอง

 

ตื๊ด

 

ในขณะที่เเจ็คสันเตรียมจะปิดเครื่องคอมอยู่  ๆ บนหน้าจอของเขาก็ปรากฏหน้าต่างข้อความเด้งขึ้นมา

 

“หืม?ใครส่งข้อความมา?”เห็นหน้าต่างข้อขวามปรากฏขึ้นที่มุมบนคอมพิวเตอร์เเจ็คสันรู้สึกสงสัย

 

คอมพิวเตอร์ของเขาได้ถูกป้องกัน ไอพี อย่างเเน่นหนาด้วยวิธีการพิเศษ ด้วยเท่าไปเเล้วนอกเหนือจาก J.A.R.V.I.S ก็ไม่น่าจะมีคนนอกเเฮ็คส่งข้อความเข้าเครื่องนี้ได้

 

เพียงเเต่เเจ็คสันที่เห็นข้อความเพียงไม่กี่คำเขาก็รู้สึกเปลี่ยนไปโดยกระทันหัน

 

“หืม?มีอะไรที่คุณสงสัยเกี่ยวกับสไปเดอร์อีกงั้นหรอ?”เห็นการเคลื่อนไหวที่เเปลกไปของมิราจไนท์,เเจ็คกล่าวถามอย่างรวดเร็ว

 

เพียงเเต่ว่าเเจ็คสันไม่ได้ตอบคำของเเจ็ค ใบหน้าของเขาดูปั้นยากขึ้นหลังจากที่จ้องมองไปที่คอมพิวเตอร์ ทันทีที่เขาปิดคอม หน้าจอที่ดำสนิทกลับปรากฏการส่องเเสงโดยไม่คาดคิด เเละก็มีคำตอบโต้ที่ชัดเจนปรากฏอยู่

 

“สวัสดี,มิราจไนท์ เเละ ก็ สไปเดอร์แมน,ฉันคือ สกาย’อาย ฉันรู้สึกมีความสุขมากที่ได้พบพวกคุณ”นี่เป็นคำตอบโต้ที่เรียบง่ายเเต่ก็เเฝงความกังวลของเเจ็คสัน

 

คนคนนี้สามารถเข้าถึงไอพีของเขาได้อย่างไร เเจ็คสันได้ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ไปเเล้วเเต่ก็ไม่สำเร็จดูเหมือนคอมพิวเตอร์ของเขาจะถูกควบคุมโดยฝ่ายตรงข้าม นี่เเสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยของเขาที่ถูกเจาะระบบเข้ามา

 

เเจ็คเองก็จ้องมองไปที่คำพูดเหล่านั้นเขาได้อุทานขึ้นทันที

 

“หืม?ไวรัส?การโจมตีจากเเฮ็คเกอร์งั้นหรอ?”เเจ็คกล่าวพูดขึ้นลอย ๆ

 

“เเน่นอนว่ามันคือการโจมตีจากเเฮ็คเกอร์?สถานที่ฐานลับของเราอาจได้รับการเปิดเผย นายรู้หรือไม่ว่าเรื่องนี้อันตรายเเค่ไหน?”เห็นเเจ็คไม่ร้อนรน เเจ็คสัน กล่าวพูด

 

“อืม,ฉันเข้าใจ เพียงเเต่ว่าเขาก็เเค่ส่งคำทักทายธรรมดามาหาเท่านั้นเอง”เเจ็คพูดคิดในเเง่ดี

 

ฟุ่บ!

 

เพียงเเต่เเจ็คพูดไม่กี่คำก็มีบางสิ่งปรากฏขึ้นที่หน้าจอคอมพิวเตอร์

 

เห็นกล่องบางอย่างเเจ็คสันได้กดเข้าไปเพียงเเต่ว่าไม่พอบเจออะไรดูเหมือนคอมพิวเตอร์เครื่องนี้จะถูกควบคุมโดยฝ่ายตรงข้ามโดยสมบูรณ์เเม้ตอนนี้เขาอยากจะป้องกันก็ไม่สามารถทำได้

 

เพียงเเต่ว่าไม่กี่วิต่อมากล่องข้อความนั้นก็ปรากฏใบหน้าของชายหนุ่มที่เบื้องหน้าสายตาของเเจ็คสันเเละเเจ็ค

 

“สวัสดี! ฉันคือ สกาย’อาย !”

หลังจากเลิกเรียนในเย็นวันศุกร์เเจ็คสันได้เดินทางไปที่ฐานพันธมิตรผู้พิทักษ์เขาได้มาถึงที่นี่เป็นคนเเรกก่อนหน้านี้ปีเตอร์ได้โทรบอกเขาเหมือนมีเรื่องอะไรอยากจะพูดคุยกับเขา

 

เเดร์เดวิล เองก็ได้เข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D.  เเจ็ค ก็เป็นหัวหน้าตระกูลเเฟรงเกนสไตน์ เดดพูล ก็ออกเที่ยวเล่นสร้างชื่อเสียง โดยปัจจุบันเป็นเรื่องยากที่จะให้ทุกคนมารวมตัวกัน

 

“ทำไมปีเตอร์ยังไม่มาอีกหรือว่าเขาเกิดอุบัติเหตุ?”หลังจากเล่นเกมรอไปสักพักประมาณหนึ่งชั่วโมงปีเตอร์ก็ยังไม่มาเเจ็คสันจึงกดโทรศัพท์โทรออกไป

 

“สวัสดี สไปเดอร์แมน ไม่ใช่ว่านายจะมาที่ฐานวันนี้ไม่ใช่หรอ ยังไม่ถึงอีกรึไง?”เเจ็คสันกล่าวถามปีเตอร์

 

“เอ่อ,ผมลืมไป ตอนนี้ผมอยู่ที่ บ้านกับครอบครัว”ปีเตอร์กล่าวผ่านโทรศัพท์

 

“อืม,ได้ยินว่านายมีเรื่องที่จะพูดคุยกับฉันเรื่องอะไร?”เเจ็คสันรู้ว่าปีเตอร์ต้องการถามเขาเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างดังนั้นเเจ็คสันจึงถามออกไป

 

“เรื่อง?อ่อใช่…”เผชิญหน้ากับการไต่สวนของมิราจไนท์ดูเหมือนปีเตอร์จะนึกได้ถึงเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเขาในวันนั้น

 

“เอ่อ…ผมต้องไปเเล้ว”ปีเตอร์กล่าวพูดเหมือนไม่อยากจะพูดสิ่งที่เขากังวลออกมา

 

ตุ๊ดตุ๊ด ~

 

เห็นสายโทรศัพท์ตัดไปเเจ็คสันเองก็ค่อนข้างตกใจ

 

“มีเรื่องอะไรด่วนกันเเน่นะ?”หลังจากวางโทรศัพท์เเจ็คสันกล่าวกระซิบกระซาบเขารู้สึกสงสัยปีเตอร์มากเกี่ยวกับการกระทำของปีเตอร์ในครั้งนี้

 

“ชั่งเถอะ,เล่นเกมต่อดีกว่า พรุ่งนี้ต้องไปที่บ้านของเเฮร์รี่เพื่อดูเขาหน่อย หลังจากนั้น ก็ติดต่อนิคเกี่ยวกับเรื่องการถอนรากถอนโคนพวกไฮดร้า”เเจ็คสันสั่นศีรษะทันที

 

เขาได้เล่นเกมต่อโดยไม่สนใจสิ่งใด

 

 

ในวันถัดไป ปีเตอร์ เเละ เเจ็คสัน ก็นัดกันไปที่บ้านของเเฮร์รี่ พวกเขาเป็นห่วงเกี่ยวกับเเฮร์รี่ที่ไม่ได้เข้าชั้นเรียนมานานยิ่งไปกว่านั้นการทดสอบยายีนของ ดร.คอนเนอร์สเเละปีเตอร์เองก็ประสบความสำเร็จเเล้วด้วย เเฮร์รี่ควรจะรู้สึกดีใจถึงจะถูก

 

ทันทีที่เเจ็คสันเดินทางมาถึง เเฮร์รี่ ก็ต้อนรับเขาเป็นอย่างดี

 

“เฮ้,เเฮร์รี่ไม่ได้พบกันซะนาน!”ในปัจจุบันเเฮร์รี่ดูเป็นผู้ใหญ่อย่างมากเเจ็คสันเดินข้างหน้าเเละกล่าวทักทายด้วยการกอด

 

ฟุ่บ!

 

“เเจ็คสันขอบคุณที่มาเยี่ยมฉัน”ในขณะที่เเฮร์รี่กอดเเจ็คสันเขาก็กล่าวออกมา

 

“เเละปีเตอร์ล่ะ?ไม่ได้มาด้วยกันหรอ?”หลังจากผละกอดจากเเจ็คสัน เเฮร์รี่ก็จ้องมองไปที่ด้านหลังไม่เห็นปีเตอร์เขากล่าวถามด้วยความสงสัย

 

“หรือว่าเพื่อนคนนี้จะติดธุระ?”เเจ็คสันสั่นศีรษะตอบรับทันที

 

“ได้ยินว่าการวิจัยของเขาเเละดร.คอนเนอร์สประสบความสำเร็จ บางทีมันอาจจะช่วยรักษาโรคกรรมพันธุ์ของนายให้หายก็ได้”เเจ็คสันกล่าวเสริม เเน่นอนว่าเเฮร์รี่เองก็รับรู้เรื่องนี้

 

“อืม,การทดลองยายีนนั้นประสบความสำเร็จมาก อย่างไรก็ตามฉันก็ยังไม่ได้ใช้มันในตอนนี้มันจำต้องได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพสถานการณ์ของฉันเสียก่อน”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันเเฮร์รี่กล่าวตอบ

 

“อืม ตั้งเเต่รู้โรคพันธุกรรมของครอบครัวของนายฉันเองก็อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ ได้ยินหนทางรักษาฉันเองก็อยากจะยินดีกับนายล่วงหน้า จริงสิ นายบอกเกวนเรื่องนี้รึยัง?”เเจ็คสันกล่าวยินดีต่อเเฮร์รี่

 

หลังจาก นอร์เเมน ออสบอร์น ตาย ตัวเขาเเละปีเตอร์ก็ไม่ได้ไปหาเเฮร์รี่เลย มีเพียงเเต่เกวน เเฟนสาวของ เเฮร์รี่ ที่มาเยี่ยมเยือนเขาบ้าง

 

“เกวน?ฉันค่อนข้างติดงานธุระที่บริษัทจึงยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเธอเลย”ได้ยินชื่อของเกวน เเฮร์รี่ กล่าวตอบ

 

“อืม,ยังไงก็ตามนายก็ควรบอกเธอโดยเร็ว เพราะถึงอย่างไร เกวน ก็เป็นเเฟนของนาย”เเจ็คสันกล่าวออกมา เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเเฮร์รี่เเละเกวนเขาที่เป็นเพื่อนก็อยากจะให้ทั้งสองคนรักกันนานนาน

 

“ฉันมารบกวนเวลาของนายรึเปล่า?”เเจ็คสันกล่าวเริมอีกครั้ง

 

เขาได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเเฮร์รี่ดังขึ้นดังนั้นเขาจึงคิดว่าเขาอาจจะมารบกวนเวลาของเเฮร์รี่

 

“ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก ก็เเค่ที่บริษัทโทรมา ฉันเองก็ต้องการเวลาพักผ่อนเหมือนกัน พวกเรามานั่งเล่นเกมกันเถอะ ฉันได้สั่งให้หัวหน้าพ่อครัวเตรียมอาหารเพื่อเราวันนี้เเล้ว”เเฮร์รี่กล่าวยิ้มออกมา

 

การกระทำของเเฮร์รี่ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เเต่เเจ็คสันรู้สึกไม่ชอบใจชอบมาพากล ดูเหมือนเเฮร์รี่จะเติบโตขึ้นผิดแปลก ลักษะไปจริงจริง

 

เเต่เเจ็คสันไม่ได้สนใจอาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ที่ต้องดูเเลบริษัทของพ่อหรือเเรงกดดันต่าง ๆ ทำให้เเฮร์รี่เติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

 

เเจ็คสันได้นั่งเล่นเกมกับเเฮร์รี่เป็นเวลาร่วมสามชั่วโมงก่อนที่อาหารทั้งหมดจะถูกเตรียมโดยหัวหน้าพ่อครัวหลังจากนั้นเขาก็เดินทางกลับ

 

“ฉันคิดไปเองหรือป่าว?ดูเหมือนเเฮร์รี่จะทำตัวเเปลกไปกว่าทุกที หรือว่าผลกระทบจากการตายของนอร์เเมนจะส่งผลต่อบุคลิกของเเฮร์รี่?เเต่ถ้าไอ้สิ่งนั้นมันส่งผลต่อเเฮร์รี่จริงสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันของฉันจะต้องร้องเตือนเเล้ว”

 

“ไม่เพียงเเต่เเฮร์รี่ปีเตอร์เองก็เเปลกไปเช่นเดียวกันพวกเขาเป็นอะไรกันไปหมดเนี่ย!”ในขณะเดินทางเเจ็คสันกล่าวอย่างกังวล

 

เเม้เขาจะสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของทั้งสองคนเเต่ก็ไม่สามารถหาเหตุผลได้โดยเฉพาะปีเตอร์ในช่วงสองวันมานี้เขาค่อนข้างทำตัวเเตกต่างจากทุกทีไม่เว้นเเม้เเต่ที่โรงเรียน

 

“หวังว่าฉันจะคิดไปเองเกี่ยวกับความเข้าใจผิดนี้ เพราะทีไรที่ฉันรู้สึกแบบนี้มันย่อมส่งผลไม่ดีกับสิ่งที่ฉันหวาดระเเวง”เเจ็คสันสั่นศีรษะทันทีเขาได้เร่งฝีเท้าเดินไปที่ประตูเหล็กด้านหน้า

ปีเตอร์ได้กลับบ้านอย่างรวดเร็วเเละถอดเสื้อผ้าสไปเดอร์แมนออก เขาวิ่งเข้าห้องน้ำเเละอาบน้ำเพื่อผ่อนคลายจิตใจของเขา~เสียงสาดน้ำดังเต็มไปทั่วห้องน้ำในขณะนี้

 

หลังจากปีเตอร์กลับมาเขาก็เพียงเเค่โยนกระเป๋าเป้สะพายของเขาลงบนเตียงเหมือนเดิม จนหาได้รู้เลยว่าขณะเดียวกันก็มีตัวเมือกสีดำที่เหมือนสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ กำลังคลานเล่นอยู่ข้างในกระเป๋าอย่างไม่หยุดยั้งเเต่เนื่องจากเพราะตัวซิปของกระเป๋าทำให้สิ่งนั้นเคลื่อนไหวอยู่ภายในเพียงเท่านั้นไม่สามารถออกมาได้

 

~

 

ไม่นานกระเป๋าเป้สะพายนั้นก็กลับมาเงียบเชียบเหมือนเดิมเพียงเเต่ผ่านไปหลายวินาทีหนวดสีดำก็ยื่นออกมาจากจุดสูงสุดของซิปพร้อมกับรูดซิบลงอย่างลึกลับ

 

การกระทำของมันนั้นเเทบจะทำให้ไม่ก่อเกิดเสียง หลังจากคลานออกมามันราวกับได้ยินเสียงจากห้องน้ำมันได้ใช้หนวดมันคลานไปทิศทางห้องน้ำตามเสียงที่มันได้ยิน

 

ฟืด~

 

สิ่งมีชีวิตสีดำนี้คลานไปมาอยู่บนเตียงเเละมุ่งหน้าไปทิศทางห้องน้ำอย่างเเช่มช้าจนในที่สุดปีเตอร์ก็อาบน้ำเสร็จเเละออกมาจากห้องน้ำ

 

ฟุ่บ!

 

ด้วยสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตสีดำมันได้คลานหลบอย่างรวดเร็วหลังจากนั้นมันก็สังเกตุเห็นตู้เสื้อผ้ามันได้คลานเข้าใส่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหลบซ่อนตัวจากปีเตอร์

 

ฟุ้ว~

 

ปีเตอร์ที่ออกมาจากห้องน้ำเขาได้ใช้ผ้าเช็ดหัวที่เปียกอยู่เเละสบัดผมเล็กน้อยก่อนที่จะทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า เขารู้สึกเหนื่อยมากจริงจริง เขาไม่ได้สังเกตุเห็นเลยว่าซิปกระเป๋าของเขาถูกเปิดอยู่ หลังจากล้มลงนอนบนเตียงปีเตอร์ก็คล้อยหลับไป

 

~

 

ทันทีที่ปีเตอร์หลับในตู้เสื้อผ้าก็บังเกิดเสียงเล็กน้อยหากมีคนสังเกตุเห็นพวกเขาจะต้องประหลาดใจเป็นเเน่วัตถุสีดำที่ว่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าได้เผอิญไปพบเข้ากับชุดสไปเดอร์เเมนหลังจากมันสำรวจอยู่ชั่วครู่มันก็เข้าหลอมรวมกับชุดโดยสมบูรณ์จุดลักษณะของชุดสไปเดอร์แมนเดิมนั้นเปลี่ยนไป

 

หลังจากหลอมรวมเข้ากับชุดสไปเดอร์แมนเสียงลึกลับก็ได้หายไปนอกเหนือจากความเปลี่ยนเเปลงของชุดสไปเดอร์แมนที่ถูกครอบคลุมกลายเป็นเเถบสีดำเเทบทั้งหมด

 

การกระทำเมื่อครู่ไม่ได้ทำให้ปีเตอร์ตรวจจับได้เเม้เเต่น้อย เเต่ก็ยังมีบางคนที่สัมผัสได้เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะเรียกว่าคนก็ไม่เชิงถูกเพราะเขาเป็นปัญญาประดิษฐ์

 

“เจ้านายครับ,ชุดคลุมสไปเดอร์แมน ดูเหมือนจะมีสัญญาณผิดปกติเมื่อครู่ที่เเล้ว”ในขณะที่ปีเตอร์กำลังพักผ่อนบ้านพักตากอากาศของโทนี่ เสียงของJ.A.R.V.I.S ได้ดังขึ้น

 

“หืม?สัญญาณผิดปกติ? เจ้าหนูปีเตอร์ประสบอุบัติเหตุงั้นหรอ”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวถามโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

เสื้อคลุมสไปเดอร์แมนที่ปีเตอร์สวมใส่ตอนนี้เป็นการออกแบบเเละถูกสร้างโดยโทนี่เป็นการส่วนตัว เเละโทนี่ ได้ฝังชิพตรวจจับสัญญาณเพื่อรับประกันว่าปีเตอร์จะปลอดภัย

 

เเม้ว่าปีเตอร์จะเเข็งเเกร่งเเต่โทนี่ก็เชื่อว่าเด็กคนนี้ชอบทำอะไรสุ่มเสี่ยงอยู่เสมอดังนั้นเขาจึงเป็นห่วง

 

“เจ้านายครับ,ระบบส่งสัญญาณพิเศษที่ถูกฝังอยู่ในชุดไม่ได้ถูกเปิดใช้งาน”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบโทนี่

 

“หรือว่าระบบมีปัญหา?”โทนี่ค่อนข้างสนใจเกี่ยวกับประเด็นที่ J.A.R.V.I.S ตรวจสอบได้ หรือว่า ปีเตอร์ ได้สวมชุดสไปเดอร์แมนออกไปข้างนอกเเละเกิดเหตุสัญญาณผิดปกติ

 

“จากการวิเคราะห์คลื่นสัญญาณที่ผิดปกติ บางทีอาจจะถูกคลื่นสัญญาณรบกวนบางอย่าง เท่าที่ผมตรวจสอบเเล้ว สไปเดอร์แมนอาจจะไม่ได้ประสบอุบัติเหตุ”J.A.R.V.I.S กล่าวตอบโทนี่ เขาเชื่อว่าสัญญาณที่ผิดปกตินั้นไม่น่าจะใช่เพราะปีเตอร์ประสบอุบัติเหตุอาจเป็นได้ว่าสัญญาณอาจขัดข้องเล็กน้อย

 

“นายมีความเห็นว่าไม่มีปัญหาใช่รึไม่?”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวถามยืนยันอีกครั้ง

 

โทนี่ไม่ได้สงสัยในคำพูดของ J.A.R.V.I.S บางทีชุดของเขาอาจจะเกิดเหตุขัดข้องเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างกังวล

 

“ครับ”J.A.R.V.I.S ได้ลองตรวจสอบชุดสไปเดอร์แมนอีกครั้งอย่างระวัง

 

“อืม,อาจจะเป็นเพราะระบบได้เกิดเหตุขัดข้องชั่วคราว ไว้ปีเตอร์ ว่างเราค่อยเรียกเขามาทดสอบระบบใหม่อีกครั้ง ฉันเองก็มีไอเดียดีดีบางอย่างอยู่เหมือนกัน”โทนี่ กล่าวบอก J.A.R.V.I.S

 

หลังจากคำพูดของโทนี่สิ้นสุด J.A.R.V.I.S ก็ตอบกลับ

 

“ครับ”J.A.R.V.I.Sได้กล่าวตอบดูเหมือนอาจจะเป็นอย่างที่โทนี่ว่าระบบอาจจะเกิดเหตุขัดข้องเล็กน้อย

 

เเต่โทนี่หารู้ไม่ว่าการปล่อยผ่านครั้งนี้ของเขาจะนำมาซึ่งเหตุการณ์ที่ไม่สามารถเเก้ไขในตอนนี้ได้

 

เเม้ J.A.R.V.I.S จะตรวจสอบสัญญาณระบบของ ชุดสไปเดอร์แมนเเล้ว เขาก็ไม่สามารถระบบข้อผิดพลาดได้ทันที เพราะวัตถุประหลาดสีดำเป็นวัตถุต่างดาวจากนอกโลกมันได้หลอมรวมเข้ากับชุดสไปเดอร์แมน หลังจากเริ่มหลอมรวมมันได้ทำลายคุณสมบัติเดิมของชุดเเละทำการจำลองคุณสมบัติพิเศษของตัวมันขึ้นมา

 

เเม้ว่าจะไม่รู้ว่าสิ่งนี้มาจากที่ไหนเเต่มันก็ได้หลอมรวมเข้ากับชุดสไปเดอร์แมนโดยสมบูรณ์ หากเรียกให้ถูกเป็นการจำลองตัวเองให้มีลักษณะคล้ายกับชุด การกระทำของมันนั้นไม่มีใครรู้ว่าจะมีผลกระทบกับปีเตอร์หรือไม่ยามสวมใส่

 

ปรสิตจากต่างดาวตัวนี้เเท้จริงอาจซุ่มโจมตีอยู่ในเงามืดก็เป็นได้

Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล

Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 550 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )

 


หลังจากเกิดอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าช็อต เเจ็คสัน ได้หลุดเข้าไปในโลกคู่ขนานที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่เเปลกประหลาดกระทั่งสามารถบินบนฟ้าได้

ตอนเเรก เเจ็คสันคิดว่าเขาได้ หลุดข้ามจากฝั่งอเมริกาไปยังประเทศอื่น ๆ จนกระทั่งมีบางอย่างแปลก ๆ ปรากฏออกมา ในขณะดูช่องข่าว เเจ็คสันได้เห็นชายหนุ่มยักษ์ตัวสีเขียวได้กระโดดขึ้นลงบนอาคารของนิวยอร์กโดยไม่เเคร์สายตาใดใด

ทั้งยังมีรูปปั้นอนุสรณ์ของผู้เพาะกายที่สวมใส่เครื่องแบบสีฟ้าเเดงถือโล่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง นอกจากนี้ยังมีคนบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยค้อนขนาดใหญ่คู่ใจที่เรียกตัวเองว่าเป็นเทพ

นอกจากนี้ยังมีคนบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยค้อนขนาดใหญ่คู่ใจที่เรียกตัวเองว่าเป็นเทพ
แต่หลังจากการถ่ายทอดช่วงเวลาข่าวจบลง เเจ็คสัน ดึงโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาเเละโทรออก”Mr. Stark เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ผมคิดว่าเราจำเป็นจะต้องหารือเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาเกราะเทคโนโลยีขั้นสูงที่คุณมี”  นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในโลก มาร์เวล เขาอยากที่จะมีชีวิตที่เงียบสงบเเละราบรื่น เเต่เเล้วโชคชะตากลับไม่เป็นเช่นนั้น


Options

not work with dark mode
Reset