Goblin Kingdom 70

ตอนที่ 70

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 15

[คลาส] ลอร์ด , หัวหน้ากลุ่ม

[ทักษะ] <<Ruler of the Horde>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B – >> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <<Third Impact>> <<สัญชาตญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย

[สัตว์ใต้บังคับบัญชา] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 20) ซินเธีย (เลเวล 20) บุย (เลเวล 36)

◇◆◇

“อลูฮาลิฮาล ข้ามีคำขอบางอย่าง”

ก่อนที่เราจะเข้ายึดป้อมปราการ ผมมีเรื่องหนึ่งที่ต้องให้อลูฮาลิฮาลช่วย

“ท่านไม่จำเป็นเป็นต้องร้องขอ ตราบใดที่ท่านสั่ง ข้าจะทำทุกอย่างตามที่ท่านต้องการ”

อลูฮาลิฮาลหัวเราะอย่างเต็มที่ ขณะที่ผมก็ยิ้มตอบ

“ข้าอยากจะขอไรเดอร์บีสต์สักตัว ข้าต้องการมอบมันให้กับก็อบลินที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านกิทางทิศตะวันออก”

คิ้วของอลูฮาลิฮาลกระตุกขึ้นทันที เมื่อเขาได้ยินคำขอของผม

มันเป็นคำขอที่ยาก ผมเข้าใจ

ท้ายที่สุดสำหรับก็อบลินเผ่าพาราดัว พวกเขาจะได้รับสัตว์ขี่มาตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งเขาตาย สัตว์เหล่านั้นเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขา แน่นอนว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะรู้สึกต่อต้าน

“ก็อบลินตัวนั้นที่ท่านพูดถึง เป็นคนแบบไหน?”

“เป็นก็อบลินที่สูญเสียแขนและขาไปเพราะข้า ข้าอยากจะตอบแทนเขา”

“ในบรรดาลูกน้องของข้า ไม่มีก็อบลินตัวใดที่ภักดีไปกว่าเขาอีกแล้ว ดังนั้นนี่จึงเป็นคำขอส่วนตัวของข้าเอง”

“ถ้าเป็นคำขอของราชา ข้าก็จะทำตามเช่นนั้น”

หลังจากที่อลูฮาลิฮาลโค้งคำนับและถอนตัวจากไป ผมก็คิดถึงฝั่งตะวันออก

กิก้า เรเชีย ผมจะกลับไปที่นั่นเร็ว ๆ นี้!

◇◆◇

ในป่าที่เขียวชอุ่มของมนุษย์ ครึ่งเอลฟ์หูสั้น ผู้สวมปลอกคอที่บังคับให้พวกเขาต้องทำตามคำสั่ง ในฐานะทาสที่ถูกซื้อมา เธอจึงไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง

“…เซเลน่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สุภาพบุรุษท่านนี้จะเป็นเจ้านายของเจ้า เจ้าทำอะไรอยู่? ทำไมไม่แสดงความเคารพต่อเขาล่ะ!?”

ด้วยเสียงของพ่อค้าทาส เซเลน่าจึงรับใช้เจ้านายคนใหม่ด้วยความหวาดกลัว

“มาสเตอร์ ข้าชื่อเซเลน่า” เธอพูด “ขอบคุณที่ซื้อข้ามา”

เสียงของเซเลน่าสั่นขณะที่เธอพูด แต่ยีนเพียงแค่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ

ใบหน้าของเขาสวยงามเมื่อเทียบกับมนุษย์และความดุร้ายในดวงตาที่ไม่สามารถซ่อนไว้แม้เขาจะปรารถนา ในความเป็นจริงแม้แต่รอยยิ้มของเขาก็ยังดูชั่วร้าย

“ข้าน่าจะซื้อของดีมาแล้ว เซเลน่า! ทำไมเจ้าไม่แสดงความสามารถให้ข้าดูล่ะ!” ยีนตะโกน

ร่างกายของเซเลน่าสั่น จากนั้นเธอก็เพ่งสมาธิไปที่หูของเธอ

“สายลมและคำอวยพรจากป่า เซเรเนด”

เธอหลับตาและกอดอกราวกับว่าเธอกำลังอธิษฐาน

“3 กิโลเมตรจากที่นี่มีรถม้าและนักผจญภัยบางคนที่กำลังทะเลาะกัน”

โอ้? ริมฝีปากของยีนเหยียดยิ้ม “เจ้ายืนยันได้ไหม?”

“แน่นอนครับท่าน” พ่อค้าทาสตอบขณะที่เขาถูมือของตัวเองอย่างเขินอาย

เห็นได้ชัดว่าพ่อค้าพยายามจะดูดเงินของเขา แต่ยีนไม่ได้มองเขาแม้แต่แวบเดียว สายตาของเขาจับจ้องไปที่เซเลน่าอย่างสมบูรณ์

“ถ้ามันเป็นเรื่องจริง ข้าจะซื้อทาสคนอื่นด้วย”

“ขอบคุณขอรับท่าน!”

ทันใดนั้นพ่อค้าทาสก็ก้มลงตามคำพูดของยีนก็พยักหน้าอย่างพอใจ

ในที่สุดยีนก็ซื้อทาสทั้งหมด 3 คน

เซเลน่าที่ได้รับการคุ้มครองจากสายลมและทาสที่มีไว้สำหรับการต่อสู้สองคน – โยชุ และ ชูเมอา

ด้วยเหตุนี้ยีน มาร์ลอนก็สามารถหาเบี้ยของเขาได้สำเร็จ

◇◆◇

ในอาณาจักรของกษัตริย์แอชทัล เมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดก็ไม่ใช่ที่อื่นนอกจากเมืองหลวง การค้าและสินค้าเป็นเศรษกิจหลักของประเทศ ดังนั้นด้วยความมั่งคั่ง ผู้คนจึงพลุกพล่าน แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดการทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง

เป็นผลให้ผู้ที่รับผิดชอบในการรักษาความสงบของประชาชนคือทหารองครักษ์ ซึ่งอยู่ภายใต้กษัตริย์โดยตรง องครักษ์ของจักรวรรดิเป็นกองพันแนวหน้าที่ก่อตั้งขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อปกป้องกษัตริย์และพื้นที่โดยรอบ นอกจากนี้ยังมีภาคีอัศวินที่รับผิดชอบในการสำรวจประเทศต่าง ๆ

ยูซ่า หนึ่งในสมาชิกองครักษ์กำลังสาปแช่งโชคชะตาของเขา

ตรงหน้าเขามีรถม้าอันงดงามล้มอยู่ข้างทาง ที่ถูกล้อมด้วยกลุ่มคนที่ดุร้าย พวกเขาทุกคนสวมชุดเกราะสำหรับการต่อสู้ สังเกตจากบรรยากาศรอบตัวและร่องรอยผ่านชุดเกราะ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ใช่ไก่อ่อน

ท้ายรถคือขุนนางที่ยืนอยู่หน้ารถม้า เขากำลังส่งเสียงดังและมีผู้คุ้มกันที่รวมตัวกันเพื่อปกป้องเขา

มันเป็นการทะเลาะกันระหว่างขุนนางและนักผจญภัย

ฝูงชนใช้เวลาไม่นานในการมารวมตัวกันรอบ ๆ เพื่อดูสถานการณ์ที่น่าขบขันเช่นนี้

“มาสเตอร์ยูซ่า ท่านเป็นอะไรไป?”

ทหารที่มียศน้อยกว่าถามยูซ่า

“มันชัดเจนไม่ใช่เหรอ? ข้าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น!” เขาตะคอก

“อ่า ในกรณีนั้นข้าสามารถอธิบายได้ ข้าเห็นทุกอย่างตั้งแต่เริ่ม มีนักผจญภัยคนหนึ่งจากกลุ่มกระโดดไปหน้ารถม้าเพื่อช่วยเด็ก”

ภรรยาของสามัญชนอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น

ยูซ่าจ้องมองไปที่เธอ

เขาไม่ได้ต้องการความปรารถนาดีของเธอ แต่การเข้ามาแทรกแซงในตอนนี้อาจสายเกินไปแล้ว ท้ายที่สุดแล้วมันจะกลายเป็นความวุ่นวายครั้งใหญ่ ขุนนางต้องการรักษาหน้าของตัวเองและนักผจญภัยที่หาเลี้ยงชีพจากชื่อเสียง ไม่มีทางที่ทั้งสองฝ่ายจะยอมลดตัวลง

“บ้าเอ๊ย! ทำไมเรื่องนี้ถึงต้องเกิดขึ้น ในขณะที่ข้าลาดตระเวน!?”

เขาถอนหายใจและสาปแช่งโชคชะตาของตัวเอง แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงจากกลุ่มฝูงชน

“กล้าสร้างความวุ่นวายในเมืองหลวง พวกเจ้าท้าทายอำนาจของกษัตริย์แอชทัลเหรอ!?”

ชายที่เดินผ่านฝูงชนนำผู้ใต้บังคับบัญชาไปยังที่เกิดเหตุ

ไม่ว่าในกรณีใด สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือการสลายฝูงชน

สำหรับทหารองครักษ์ที่จะมาในช่วงเวลานี้ ไม่ต้องพูดถึงทหารองครักษ์ขที่มีตำแหน่งสูงพอที่จะเป็นผู้นำคนอื่น

ยูซ่าอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เมื่อเห็นหัวหน้าของตน แต่เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ เขาก็แสดงท่าทีอย่างเหมาะสม

“แยกย้ายไปให้หมด! นี่ไม่ใช่การแสดง!”

สำหรับคนอื่น ความระมัดระวังของเขาดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ทหารองครักษ์ควรจะมี แต่ความจริงแล้วเขากำลังปวดหัวมาก ถึงกระนั้นเขาก็สลายฝูงชนที่บ่นและกลับไปหากลุ่มคนที่มีปัญหา

“พอแล้ว พวกเจ้ามาต้องมากับเราที่สำนักงาน! ข้าต้องได้ยินทุกอย่างที่เกิดขึ้น พวกเจ้าทุกคนมานี่!”

ขุนนางที่โกรธแค้นและนักผจญภัยที่ค่อนข้างสงบต่างพากันไปที่สำนักงาน

คำถามแต่ละคำล้วนถูกผลักเข้าไปในสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งขึ้น

“ยูซ่า ดูเหมือนเจ้าจะนำปัญหากลับมาทุกครั้งที่เจ้าออกไปนะ”

เพื่อนองครักษ์แกล้งเขา แต่ยูซ่ามุ่งเน้นไปที่การยืนยันตัวตนของทุกคนที่เกี่ยวข้อง

“ลอร์ดเวย์น บารอนจากทางเหนือ? ไอบ้าขุนนางจากสติกส์มาทำอะไรที่นี่? แถมเขายังทำให้ข้าเดือดร้อนอีก!”

อารมณ์ที่พลุ่งพล่านของยูซ่าเอ่อล้นออกมา ขณะที่กัดขนมปังแข็ง ๆ ในมือ

“สำหรับนักผจญภัย เผ่าบลัดโอทธ์สวอนโล่ว …ล้อเล่นใช่มั้ย?”

เผ่าบลัดโอทธ์สวอนโล่ว เป็นกลุ่มหนึ่งในหมู่นักผจญภัยที่รวมตัวกันเพื่อตอบสนองต่อคำขอบางอย่าง ถ้าหากเป็นกลุ่มที่สร้างขึ้นชั่วคราวมันจะเรียกว่าปาตี้เท่านั้น แต่เผ่าคือกลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจ ที่จะดำรงอยู่เป็นเวลานาน สำหรับกิลด์นั้นเป็นเพียงศูนย์กลางสำหรับการหางานเท่านั้น

จากเผ่าจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีอยู่ กลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาจะกลายเป็นเผ่าชั้นยอดและเผ่าบลัดโอทธ์สวอนโล่วเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ทรงพลังเหล่านั้น

“เฮอร์คิวเลียน ไวแอตต์ ไม้กายสิทธิ์แห่งการทำลายล้าง เบลแลนและนักฆ่าจอมเวทย์ มิลล์…พวกเขาล้วนแต่มีชื่อเสียง”

หลังจากยืนยันตัวตนของทุกคนแล้ว ยูซ่าก็ถอนหายใจ

นักผจญภัยเป็นอาชีพที่คล้ายกับการแสดง นักผจญภัยไต่อันดับขึ้นมาด้วยความสามารถเมื่อเขามีชื่อเสียงมากขึ้น อย่างเช่นในกรณีของคนเหล่านี้ พวกเขาจะได้รับฉายาที่สอง

สำหรับการได้รับฉายานั้นไม่ใช่เรื่องปกติ ถึงกระนั้นการที่นักผจญภัยสามคนมีฉายา นั่นแสดงให้เห็นว่าคำเผ่าบลัดโอทธ์สวอนโล่วมีอำนาจมากเพียงใด

เผ่าเหล่านี้ไม่ได้ดำเนินการภายในประเทศประเทศเดียว ในความเป็นจริงเขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนด้วยซ้ำ ว่าพวกเขามีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อื่น

“ฮ-เฮ้ ยูซ่า!”

ยูซ่าที่ขบคิดอยู่ก็ตกใจเมื่อเพื่อนองครักษ์ทักจากข้างหลัง

“อ- อะไรอีก!? แกจะส่งเสียงดังทำไม!”

“อัศวินวายุ!”

“แกกำลังตื่นตระหนกเรื่องอะไร? นั่นเป็นวิธีที่องครักษ์ของจักรวรรดิควรปฏิบัติเหรอ!?”

“อัศวินพายุกัลแลนด์อยู่หน้าสำนักงาน!”

” เจ้าพูดอะไรนะ!? “

ฮีโร่นักผจญภัยกัลแลนด์ ใครจะคิดว่าตัวอันตรายแบบนั้นจะมาที่นี่?

“เขามาที่นี่เพื่ออะไร!?”

ด้วยความตื่นตระหนก ยูซ่าออกจากห้องทำงานทันที กัลแลนด์พบเขาข้างนอกด้วยท่าทางอันสง่างาม

“ข้าได้ยินมา แขกของข้าทำให้เจ้ามีปัญหา”

“ท่านกำลังพูดถึงเผ่าบลัดสวอลโล่?”

“ถูกต้อง ข้าเพิ่งให้กิลด์ติดต่อพวกเขาไป แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะปัญหาบางอย่าง ดังนั้นข้าจึงมาที่นี่เพื่อรับพวกเขา”

เมื่อเห็นท่าทีของกัลแลนด์ขณะที่เขาพูดอย่างสุภาพ มันทำให้ยูซ่าปวดหัว

“เรายังทำเอกสารไม่เสร็จ ดังนั้นท่านอาจฃต้องรออีกสักพัก”

“โอ้? เจ้าวางแผนจะทำให้ข้ารอที่นี่?”

ยูซ่ากัดฟันและเดินหันหลังกลับเข้าไปในสำนักงาน

“ไอ้บ้า! รอดูเถอะ ข้าจะทำให้เขารอจนถึงวินาทีสุดท้าย”

สำหรับผู้ที่รักษาความสงบแล้ว นักผจญภัยที่ก่อปัญหาไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเจอเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในวันนี้ อาจเป็นเพราะทักษะที่ยอดเยี่ยมของนักผจญภัยและความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักของขุนนาง

แม้ว่าโดยทั่วไปจะคิดว่าทั้งสองฝ่ายจะมีความสัมพันธ์ที่ดี แต่การมีส่วนร่วมซึ่งกันและกันก็ส่งผลให้เกิดข้อดีและข้อเสียขึ้นเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วขุนนางเป็นกลุ่มคนที่ไม่สามารถรับมือกับความผิดพลาดของตัวเองได้ ในขณะที่นักผจญภัยที่เสี่ยงชีวิตเพื่อทำมาหากินอาจกลายเป็นภัยคุกคามได้อย่างง่ายดาย

“…เกิดอะไรขึ้น? ” ผู้คุ้มกันเพื่อนของยูซ่าที่ยื่นเอกสารให้ถามเขา

แต่ยูซ่าก็ไม่สนใจและทำเอกสารอีกครั้ง ในช่วงเวลานั้นมีคนเรียกหา มันเป็นหัวหน้าหัวหน้าองครักษ์ของเขา

“เอกสารทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์แล้ว รีบพาพวกเขากลับบ้านไปซะ”

“ฮะ? แต่…”

“แต่อะไร!? “

หัวหน้าของเขาคว้าคอเสื้อยูซ่า ในขณะที่ตะโกนใส่เขา

“ปล่อยพวกเขาไปเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง”

” ได้…”

การต่อต้านคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยให้นักผจญภัยจากไป

“กัลแลนด์แห่งวายุ เจ้าทำอะไร?” เฮอคิวเลียน ไวแอตต์ถาม

“ก็ข้าเองนี่แหละ ที่ส่งคำขอให้พวกเจ้ามา มันคงโหดร้ายเกินไปหากข้าไม่ช่วยเจ้า?”

“ดูเหมือนว่าเราจะทำให้ท่านมีปัญหา” ไม้กายสิทธิ์แห่งการทำลายล้าง เบลแลนกล่าว

“…นี่” นักฆ่าจอมเวทย์ มิลล์กระซิบเบา ๆ

เมื่อได้ตัวช่วยที่ทรงพลังมา กัลแลนด์ก็หัวเราะอย่างเต็มที่

◆◆◇◇◆◆◇◇

ค่าสถานะ

[ชื่อ] เซเลน่า

[เผ่าพันธุ์] เอลฟ์

[เลเวล] 32

[อาชีพ] ทาส

[ทักษะ] <<ความชำนาญการใช้ธนู C+>> <<เสียงของพงไพร>><< การจัดการเวทมนตร์ >><<เสียงกระซิบของสายลม>> << ลมหายใจของเทพเจ้าแห่งวายุ >><<ผู้อาศัยในผืนป่า>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพเจ้าลม

[แอตทริบิวต์] ลม

[สถานะผิดปกติ] เนื่องจากปลอกคอทาส ความสามารถทางกายภาพลดลง 30%

 

ค่าสถานะ

[ชื่อ] โยชู

[เผ่าพันธุ์] มนุษย์

[เลเวล] 46

[อาชีพ] ทาสนักรบ

[ทักษะ] <<ความชำนาญการใช้ดาบ C+>> <<Provoke>> <<โล่ลวงตา>> <<Skill of Experience >> <<Shield Rush>> <<Flame Blade>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพเจ้าแห่งไฟ

[แอตทริบิวต์] ไฟ

[สถานะผิดปกติ] เนื่องจากปลอกคอทาส ความสามารถลดลง 30%

 

ค่าสถานะ

[ชื่อ] ชูเมอา

[เผ่าพันธุ์] มนุษย์

[เลเวล] 67

[อาชีพ] ทาสนักรบ

[ทักษะ] <<ความชำนาญการใช้ดาบ C+>> <<Giant Swing>><< Triple Thrust >> << แทงเร็ว>><<ปัดป้อง>> <<Pinwheel>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพเจ้าแห่งไฟ

[แอตทริบิวต์] ไฟ

[สถานะผิดปกติ] เนื่องจากปลอกคอทาส ความสามารถลดลง 30%

◆◇◇◆◆◇◇◆

อ่านนิยายล่วงหน้าได้ในกลุ่ม ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล (ตอนนี้แปลถึงตอน 400 กว่าแล้วนะครับ)

https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/

Options

not work with dark mode
Reset