Goblin Kingdom 57

ตอนที่ 57

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 8

[คลาส] ลอร์ด , หัวหน้ากลุ่ม

[ทักษะ] <<Ruler of the Horde>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B – >> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <<Third Impact>> <<สัญชาตญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย

[สัตว์ใต้บังคับบัญชา] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 20) ซินเธีย (เลเวล 20) บุย (Lv36)

◇◆◇

[ก็อบลิน] กิก้า

ก็อบลินที่อาศัยอยู่ผู้นำคนก่อนพ่ายแพ้ให้กับออร์ค แต่ปัจจุบันเขาเป็นก็อบลินที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของผม เขาเป็นผู้ใช้หอก

[ก็อบลิน] กิกูว

อดีตผู้นำหมู่บ้าน เขาถูกกดดันเพื่อสละตำแหน่งให้กับผม เขาใช้ดาบยาวและค่อนข้างฉลาดถ้าเทียบกับก็อบลินแรร์ทั่วไป

[ก็อบลิน] กิกิ

เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ฝึกสัตว์ เขาเลื่อนคลาสในหลังจากการล่ากวางเอเรล เป็นความสามารถที่ค่อนข้างหายากและเขาชอบที่จะใช้ขวาน

[ก็อบลิน] กิโก

ก็อบลินที่มีบาดแผลมากมายทั่วร่าง อาหารส่วนใหญ่มักถูกขโมยโดยเกรย์วูฟ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะติดตามผม เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดในหมู่พวกก็อบลินแรร์

[ก็อบลิน] กิซาร์

ดรูอิด (ก็อบลินแรร์) ผู้ใช้เวทย์ลม ที่เพิ่งเข้ากลุ่มมา

[ก็อบลิน] กิจิ

ก็อบลินแรร์ที่เลื่อนคลาส (ตอนที่ 37) จากการออกล่ากับกลุ่มของกิก้า

[ก็อบลิน] กิโด

ดรูอิดผู้ใช้เวทย์ลม

[ก็อบลิน] กิจี

ก็อบลินแรร์จากกลุ่มของกิกูว เขามีทักษะ <<ดวงตาที่เปิดกว้าง>> ซึ่งทำให้เขาสามารถเห็นจุดอ่อนของคู่ต่อสู้

[ก็อบลิน] กิด้า

ก็ก็อบลินแรร์จากกลุ่มของกิก้า เขามีทักษะที่โดดเด่นอย่าง <<ความรู้เกี่ยวกับหอก>> และ <<ดื้อรั้นอย่างไม่มีเหตุผล>>

[ก็อบลิน] กิซู

ก็อบลินแรร์ผู้ถูกเทพเจ้าผู้บ้าคลั่ง (ซู โอรุ) คุ้มครอง มีทักษะ<< Mad Dog >>

◇◆◇

มันเป็นภูเขาสูงพอที่จะแยกสวรรค์ ภายในความมืดของถ้ำสามารถมองเห็นเพียงปล่องสีดำสนิทที่ก็อบลินเผ่าเกิร์ดการ์อาศัยอยู่ เราใช้เวลาสามวันไปทางทิศตะวันออกของป่าลึกลับที่รู้จักหมู่บ้านกันระ และอีกสองวันไปทางทิศใต้เป็นที่ราบจากป่าที่หมู่บ้านพาราดัวตั้งอยู่

“นั่นคือบ้านของเผ่าเกิร์ดการ์”

เมื่อมองจากป่า เราจะเห็นโครงร่างขนาดใหญ่ของเผ่าเกิร์ดการ์ ที่มีก็อบลินเข้าจากออกจากถ้ำอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่เราสังเกตการณ์ ผมเห็นว่าพวกมันกำลังถืออะไรบางอย่างอยู่

“นั่นคือบิ๊กฮอร์น อาหารหลักของพวกมัน” กิลมิกล่าว

ผมขอบคุณกิลมิสำหรับคำอธิบาย

แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผมจริง ๆ คือรูขนาดใหญ่บนหน้าอกของบิ๊กฮอร์น การโจมตีที่สร้างรูโหว่นั้นได้ต้องรุนแรงถึงชีวิต แน่นอนว่ามันไม่ได้สร้างโดยพละกำลังของก็อบลินทั่วไป ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรูนั้นที่มีใหญ่พอ ๆ กับก็อบลินตัวเล็ก

หากการโจมตีนั้นถูกสร้างโดยใครบางคนจากเผ่าเกิร์ดการ์ ผมคงประเมินพวกเขาต่ำไปหน่อย

อาจกล่าวได้ว่าเหตุผลที่เราชนะมาจนถึงตอนนี้ เป็นเพราะก็อบลินตัวนั้นยังไม่ปรากฏตัว

“นั่นมาจากก็อบลินที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าเกิร์ดการ์รึเปล่า?” ผมถาม

“นั่น…ควรจะเป็นการกระทำของรัสกา แม้แต่ในบรรดาเผ่าทั้งสี่ ที่ดูแลพิธีกรรมของประตูนรก เขาก็น่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด”

ผมยิ้มโดยที่ไม่รู้ตัว

น่าสนใจ

รัสกาแห่งเผ่าเกิร์ดการ์

ถ้าเราสู้กันในศึกแห่งความแข็งแกร่ง ใครจะเป็นผู้ชนะ?

ขณะที่ผมคิดแบบนั้นกับตัวเอง ผมจึงส่งสัญญาณไปให้พวกก็อบลิน

แล้วเราก็เดินอย่างเงียบ ๆ เข้าไปใกล้ถ้ำสีดำนั้นเพื่อปิดล้อมพวกมัน

◆◆◇

ที่ชายแดนของป่า ที่นั่นคือหมู่บ้านของพาราดัว ไม่ยากที่จะเห็นว่าทำไมพวกเขาถึงเลือกสถานที่นี้เป็นบ้าน  พวกเขาเป็นก็อบลิน ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างบ้านของตัวเองในป่า แต่ด้วยการสร้างให้ใกล้กับชายแดนซึ่งเป็นที่ราบ พวกเขาจึงสามารถออกล่าได้ง่ายขึ้น

เมื่อเทียบกับถ้ำของเผ่าเกิร์ดการ์และป้อมปราการตามธรรมชาติของเผ่ากันระ หมู่บ้านเผ่าพาราดัวนั้นยังขาดแนวป้องกัน จริงอยู่ที่พวกเขาอาจมีรั้วรอบหมู่บ้าน แต่มันถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ที่อยู่ข้างในหลุดออกไป

เป็นการจัดการที่ไม่ได้คำนึงถึงศัตรู แต่นั่นก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย เมื่อนั่นเป็นหมู่บ้านของชนเผ่าพาราดัว เนื่องจากก็อบลินทุกตัวในเผ่าพาราดัวจะได้รับสัตว์อสูรซึ่งจะถูกขี่เมื่อพวกเขาโตขึ้นตั้งแต่เกิด 

การต่อสู้บนหลังสัตว์อสูรให้ความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม แต่มันเป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับแนวคิดของก็อบลิน

ด้วยเหตุนี้หมู่บ้านพาราดัวจึงไม่มีการป้องกันที่ดี

และเมื่อหมู่บ้านที่มีก็อบลินตัวใหญ่จากเกิร์ดการ์มาเยี่ยม

เขาสวมจี้ห้อยคอที่เห็นเป็นเครื่องรางหนามสีดำ มันไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเกิร์ดการ์ สร้อยคอแห่งความโกรธ (Choker of WrathVidol Amulet)

เครื่องรางที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้ใช้ มันเป็นทั้งสมบัติและบทพิสูจน์ถึงการเป็นหัวหน้า

ในมือของเขามีกระบองขนาดเท่ากับต้นไม้ มันถูกเหลาที่ปลายเหมือนหอก โดยถ้าไม่นับขนาดที่ผิดปกติของมัน ขากรรไกรที่แข็งแกร่งของเขาดูเหมือนจะสามารถกลืนกินก็อบลินทั้งหมดที่อยู่รอบตัวได้ เขาไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าและในดวงตาสามารถมองเห็นแสงสีดำที่ลุกไหม้

แววตาของเขามีเพียงจุดประสงค์เพียงการจ้องมองผู้ใต้บังคับบัญชาและศัตรู

เขาหนึ่งเดียวที่ชี้ไปถึงสวรรค์อยู่บนหน้าผากและด้วยผิวสีน้ำตาล เขาเป็นก็อบลินระดับดยุค ก็อบลินที่แข็งแกร่งที่สุดในสี่เผ่ากำลังอยู่ในจุดจบของความโกรธเกรี้ยวจากหัวหน้าเผ่าพาราดัว

“แล้ว? เจ้าจะทำยังไงต่อไป?”

สายตาของอลูฮาลิฮาลที่มีอายุมากกว่าแทงทะลุก็อบลินตัวใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า

อลูฮาลิฮาลไม่ได้เอะใจแม้แต่น้อย ก็อบลินตัวนี้ดูไม่ต่างจากก้อนหินที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้

ในความเป็นจริงเขาตัวใหญ่มากแม้ว่าจะล้มลง แต่อลูฮาลิฮาลยังต้องเงยหน้าขึ้นมอง ด้วยเหตุนี้อลูฮาลิฮาลจึงต้องขี่สัตว์เลี้ยง เพียงเพื่อพบกับการจ้องมองของก็อบลินยักษ์ตัวนี้

“ขอโทษ”

เสียงทุ้มต่ำพร้อมกับคำขอโทษดังขึ้นข้างหูของอลูฮาลิฮาล

เหตุผลที่พวกเขาโต้เถียงกัน เป็นเพราะความพ่ายแพ้จากการต่อสู้กับเผ่ากันระ

แม้ว่ารัสกาจะทิ้งทุกอย่างไว้กับอลูฮาลิฮาล แต่ก็อบลินเผ่าเกิร์ดการ์ส่วนหนึ่งยังคงเดินหน้าไปโจมตีหมู่บ้านเผ่ากันระ และก็ถูกขับไล่ออกมา ต่อมาเมื่อเผ่าพาราดัวไปเพื่อเรียกร้องให้เผ่ากันระยอมจำนน พวกเขาก็ถูกขับไล่ออกมาอีกครั้ง

“พิสูจน์มันสิ”

อลูฮาลิฮาลเพียงทำตามคำพูดของรัสกาและพาคนของเขาไปข่มขู่เท่านั้น ตอนนี้อลูฮาลิฮาลจึงต้องการให้รัสกามอบหัวของก็อบลินตัวนั้นมาให้เขา เพื่อเป็นการขอโทษ

“ข้าทำไม่ได้”

แต่นั่นเป็นไปไม่ได้สำหรับรัสกา เพราะก็อบลินที่รับผิดชอบ ริเวก้าตายไปแล้วและก็อบลินที่สามารถเอาชีวิตรอดได้ล้วนแต่มีก็อบลินระดับต่ำ พวกเขาไม่สามารถเข้ามาแทนที่ริเวก้าได้

“สารเลว เจ้าดูถูกข้าเหรอ?”

แน่นอนว่าอลูฮาลิฮาลไม่ปล่อยปัญหานี้ไป นอกจากนี้เขายังเป็นหัวหน้าเผ่า หากเขาปล่อยปัญหาไว้โดยที่ไม่ได้รับคำขอโทษ ภาพลักษณ์ของเขาก็จะแปดเปื้อน การตัดสินใจสร้างพันธมิตรกับเผ่าเกิร์ดการ์ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขา หากอลูฮาลิฮาลไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของมัน หัวหน้าคนถัดไปจะโดนดูถูก

“ข้าจะมอบบิ๊กฮอร์น 3 ตัวให้”

บิ๊กฮอร์นที่ก็อบลินเผ่าเกิร์ดการ์กินได้ลดลงในช่วงนี้

“…ได้ แต่ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก…”

“เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น”

อลูฮาลิฮาลผู้หยิ่งทะนงได้ก่อตั้งพันธมิตรกับเผ่าเกิร์ดการ์ เพื่อรักษาความอยู่รอดของเผ่า แหล่งอาหารและสัตว์อสูรของพวกเขามีแต่จะจำนวนลดน้อยลง … หากพวกเขายังเป็นแบบนี้ต่อไป เผ่าของพวกเขาก็จะอดตายอย่างแน่นอน เมื่อรู้เช่นนั้นอลูฮาลิฮาลจึงโยนความภาคภูมิใจทิ้งไป

เขายับยั้งหัวใจของตนและเหยียบย่ำศรัทธาเพื่อแลกกับอาหาร

แม้ว่าจะเป็นบิ๊กฮอร์นเพียง 3 ตัว แต่เมื่อพิจารณาจากสภาพของหมู่บ้านแล้ว มันยังคงเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญ

“พอแล้วสำหรับหัวข้อนี้ แล้วเจ้าจะทำอะไรต่อไป?”

อลูฮาลิฮาลที่อารมณ์ไม่ดีกำลังเปลี่ยนหัวข้อ

“เราจะโจมตีเผ่ากันระอีกครั้ง ข้ากำลังรวบรวมผู้ใต้บังคับบัญชาที่กระจัดกระจายกลับมา ข้าจะจบมันลงในการต่อสู้ครั้งนี้”

อลูฮาลิฮาลมองไปทางเผ่ากันระ

“การต่อสู้เพื่อทำลายล้าง?”

ในขณะที่อลูฮาลิฮาลพูดคำเหล่านั้น ก็อบลินตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นภายในใจเขา

ก็อบลินที่ยืนอยู่ข้างหลังเจ้าหญิงนาร์ซา ก็อบลินที่มีเขาสามเขา ผิวสีเทาและแม้กระทั่งหาง … รูปลักษณ์ที่สง่างามของเขาไม่เหมือนกับก็อบลินตัวอื่น ด้วยดาบใหญ่ที่เขาถือไว้ทำให้บรรยากาศของเขาอยู่ในระดับที่แตกต่างออกไป

ไม่ต้องพูดถึงความแหลมคมภายในสายตาที่แผดเผา… เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างคำพูดของก็อบลินตัวนั้นมีพลังพอที่จะกระตุ้นหัวใจของเขาได้

หากจะกล่าวถึงการดำรงอยู่ที่แยกออกจากกันจากก็อบลินปกติ มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ปรากฏขึ้นภายในใจ นั่นคือคำว่า…ราชา

เขาคือราชาที่อลูฮาลิฮาลและรัสการออยู่หรือไม่? หรือเขาเป็นเพียงคนที่แอบอ้าง? แต่มันยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน

“เจ้ารู้จักก็อบลินที่มาช่วยเผ่ากันระรึไม่?” อลูฮาลิฮาลถาม เขาอยากรู้ว่า…ก็อบลินที่เหมือนกับก้อนหินตัวนี้คิดอย่างไรกับเขา?

“เปล่า คนแบบนั้น –––”

“หัวหน้า!! “

ก็อบลินตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาหาพวกเขา

“เจ้ากำลังทำอะไรต่อหน้าแขก!?”

อลูฮาลิฮาลตะโกน แต่ในใจลึก ๆ แล้วเขารู้สึกสับสน สำหรับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาที่ตื่นตระหนกเช่นนี้ …มันไม่ใช่เรื่องปกติ

“หมู่บ้านเผ่าเกิร์ดการ์กำลังถูกโจมตี!”

ทั้งอลูฮาลิฮาลและรัสกาอดไม่ได้ที่จะตกใจ

“คุซานโจมตีมาเหรอ!?”

สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุด คือการเคลื่อนไหวของเผ่ากอร์ด็อบที่อยู่ทางเหนือ

แต่…

“ศัตรูคือเผ่ากันระ! และก็อบลินจากภายนอก!”

“อะไรนะ!? “

“การสนทนาของเราสิ้นสุดลงที่นี่ ข้าจะกลับไป”

แม้แต่น้ำเสียงที่สงบของรัสกาก็ไม่สามารถช่วยได้ที่จะแสดงถึงความตื่นตระหนก เมื่อได้ยินเช่นนั้น ริมฝีปากของอลูฮาลิฮาลก็เปิดขึ้น

“ศัตรูชื่ออะไร?”

“เขาไม่ได้กล่าวอะไรเป็นพิเศษ เขาแค่เรียกร้องให้เรายอมจำนนต่อราชา”

“ไร้สาระ”

รอยแตกปรากฏขึ้นที่กระบองอันคุ้นเคยของรัสกา

“ราชา? ตอนนี้น่ะนะ!?”

ด้วยความโกรธ รัสกาจึงฟาดกระบองลงไปบนพื้นทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ

“ข้าจะไปกับเจ้าด้วย” อลูฮาลิฮาลกล่าว “ไปเรียกคนอื่นมา พวกเรากำลังจะทำสงคราม!”

มันสายเกินไปแล้ว

เมื่อม่านแห่งสงครามถูกดึงออก มันจะไม่จบลงจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะถูกทำลาย

“เราจะโจมตีเผ่ากันระ!”

คำพูดขออลูฮาลิฮาลดังก้องไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ทันใดนั้นไรเดอร์ของเผ่าพาราดัวก็มารวมตัวกัน

หมายเหตุผู้แต่ง : มันคือสงครามชนเผ่าที่รอคอยมานาน!

◆◇◇◆◆◇◇◆

อ่านนิยายล่วงหน้าได้ในกลุ่ม ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล (ตอนนี้มี 360 ตอนแล้วนะครับ)

https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/

Options

not work with dark mode
Reset