Goblin Kingdom 54

ตอนที่ 54

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 8

[คลาส] ลอร์ด , หัวหน้ากลุ่ม

[ทักษะ] <<Ruler of the Horde>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B – >> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <<Third Impact>> <<สัญชาตญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย

[สัตว์ใต้บังคับบัญชา] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 20) ซินเธีย (เลเวล 20) บุย (Lv36)

◇◆◇

[ก็อบลิน] กิก้า

ก็อบลินที่อาศัยอยู่ผู้นำคนก่อนพ่ายแพ้ให้กับออร์ค แต่ปัจจุบันเขาเป็นก็อบลินที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของผม เขาเป็นผู้ใช้หอก

[ก็อบลิน] กิกูว

อดีตผู้นำหมู่บ้าน เขาถูกกดดันเพื่อสละตำแหน่งให้กับผม เขาใช้ดาบยาวและค่อนข้างฉลาดถ้าเทียบกับก็อบลินแรร์ทั่วไป

[ก็อบลิน] กิกิ

เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ฝึกสัตว์ เขาเลื่อนคลาสในหลังจากการล่ากวางเอเรล เป็นความสามารถที่ค่อนข้างหายากและเขาชอบที่จะใช้ขวาน

[ก็อบลิน] กิโก

ก็อบลินที่มีบาดแผลมากมายทั่วร่าง อาหารส่วนใหญ่มักถูกขโมยโดยเกรย์วูฟ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะติดตามผม เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดในหมู่พวกก็อบลินแรร์

[ก็อบลิน] กิซาร์

ดรูอิด (ก็อบลินแรร์) ผู้ใช้เวทย์ลม ที่เพิ่งเข้ากลุ่มมา

[ก็อบลิน] กิจิ

ก็อบลินแรร์ที่เลื่อนคลาส (ตอนที่ 37) จากการออกล่ากับกลุ่มของกิก้า

[ก็อบลิน] กิโด

ดรูอิดผู้ใช้เวทย์ลม

[ก็อบลิน] กิจี

ก็อบลินแรร์จากกลุ่มของกิกูว เขามีทักษะ <<ดวงตาที่เปิดกว้าง>> ซึ่งทำให้เขาสามารถเห็นจุดอ่อนของคู่ต่อสู้

[ก็อบลิน] กิด้า

ก็ก็อบลินแรร์จากกลุ่มของกิก้า เขามีทักษะที่โดดเด่นอย่าง <<ความรู้เกี่ยวกับหอก>> และ <<ดื้อรั้นอย่างไม่มีเหตุผล>>

[ก็อบลิน] กิซู

ก็อบลินแรร์ผู้ถูกเทพเจ้าผู้บ้าคลั่ง (ซู โอรุ) คุ้มครอง มีทักษะ<< Mad Dog >>

◇◆◇

ในค่ำคืนที่มืดมิดขณะที่ผมกำลังจะไปนอน ก็อบลินเผ่ากันระก็วิ่งมาหาผม

“ร-ราชา! ศัตรูมาแล้ว!” เขากล่าวด้วยความตื่นตระหนก

“นั่งลงก่อน” ผมตอบ

“แต่! “

ก็อบลินพยายามพูดต่อ แต่แรงกดดันของผมทำให้เขาไม่สามารถอดทนได้ เขาจึงนั่งต่อหน้าผม

เมื่อลมหายใจของเขาสงบลง ผมจึงถาม

“มีกี่คน? พวกเขามาจากไหน? ข้าคิดว่าข้าปล่อยให้กิซาร์รับผิดชอบ…”

“ช-ใช่ ศัตรูกำลังมาจากทิศตะวันตก เราไม่รู้ว่ามีกี่คน แต่พวกเขาคือไรเดอร์ของเผ่าพาราดัว!”

ทิศตะวันตกเหรอ?

“พวกเขามาเพื่อโจมตีเรา?”

“ม-ไม่ …พวกเขามารวมตัวกันที่เขตของหมู่บ้านและกำลังเฝ้าดูพวกเรา”

“ข้าเข้าใจแล้ว”

ก็อบลินพยายามจะพูดอีกครั้ง แต่ผมหยุดเขาไว้

“ข้าจะไปเอง”

แม้จะเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจอยู่ภายใต้เผ่าเกิร์ดการ์ และรอกำลังเสริมจากทิศทางอื่น แต่มันก็อาจเป็นไปได้เช่นกันที่จะเจรจากับก็อบลินเหล่านั้น

ผมควรหลีกเลี่ยงการส่งผู้ใต้บังคับบัญชาไปและสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น

เผ่ากันระรู้ว่าเผ่าเกิร์ดการ์จะโจมตีในอนาคต ดังนั้นพวกเขาจึงกังวล

“ห้ามต่อสู้จนกว่าข้าจะไปถึง แต่ถ้าพวกเขาโจมตีก่อนก็อย่าลังเลที่จะสู้กลับ เข้าใจมั้ย?”

“ข-ขอรับ”

เมื่อหางของผมกระทบกับพื้น ผมก็ลุกขึ้นยืน

หางของผมดูเหมือนจะอารมณ์ดี

ตอนนี้…ไรเดอร์ของเผ่าพาราดัว?

ในความมืดยามค่ำคืน ผมเดินไปหาพวกเขาอย่างช้าๆ

◆◇◆

ไม่เหมือนกับมนุษย์ ก็อบลินมีดวงตาที่ทำงานได้ดี ความมืดจึงไม่รบกวนพวกเรา

“โฮ่ …”

เผ่ากันระได้สร้างกำแพงล้อมหมู่บ้านโดยใช้รั้วและรากไม้ที่งอกขึ้นตามธรรมชาติในบริเวณใกล้เคียง หมู่บ้านของพวกเขาตั้งอยู่บนต้นไม้ เราจึงสามารถมองลงไปที่ศัตรูได้จากด้านบน

ดังนั้นผมจึงยืนดูศัตรูที่อยู่ด้านล่าง ความจริงมันไม่ใช่อะไรที่น่าตื่นเต้น

“นี่คือไรเดอร์ของเผ่าพาราดัว” ผมพึมพำกับตัวเอง

การขี่อยู่บนหลังของมอนสเตอร์ ก็อบลินที่ถือบังเหียนของสัตว์อสูรไว้ในมือ

มอนสเตอร์ที่พวกเขาขี่มีลักษณะเหมือนกับเสือที่มีขนยาวครอบคลุมแม้กระทั่งปากและเท้าของพวกมัน แววตาที่เห็นชวนให้นึกถึงดวงตาของแมวที่ส่องสว่างในตอนกลางคืน

ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าก็อบลินถึงสามเท่า มันสามารถยืนอยู่เหนือเจ้านายของพวกมันได้อย่างง่ายดาย

พวกเขาเรียงรายไปรอบ ๆ หมู่บ้านโดยปล่อยออร่าที่น่ากลัวออกมา มันเป็นภาพที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะทำให้คนที่ท้อแท้อยู่ในความหวาดกลัว แม้สิ่งที่แผดเผาภายในใจผมจะเป็นความยินดี!

––– ไรเดอร์เหล่านี้เป็นของผม!

ความปรารถนาอันเร่าร้อนราวกับนักผจญภัยที่มองเห็นขุมทรัพย์

สิ่งที่เรียกว่าไรเดอร์เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ไม่อาจต้านทานได้

“จริงเหรอ!? ที่ไรเดอร์ของเผ่าพาราดัวโจมตีพวกเรา!?”

เสียงดังนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากนาร์ซาที่ปีนกำแพงขึ้นมายังจุดที่ผมอยู่

“ยังไม่ใช่ตอนนี้” ผมตอบอย่างใจเย็น

“ทำไมเจ้าถึงทำตัวสบาย ๆ เช่นนี้!?” เธอบ่น “ถ้าเจ้าไม่โจมตีพวกมันจากระยะไกล เราจะโดนสัตว์อสูรของพวกมันโจมตี! แตกต่างจากเผ่าเกิร์ดการ์ พวกมันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว!”

ความวิตกกังวนสามารถมองเห็นได้จากสีหน้าของผู้คนในเผ่ากันระ เมื่อพวกเขาได้ยินการแลกเปลี่ยนระหว่างนาร์ซาและผม มันช่วยไม่ได้ เพราะพวกเขาเพิ่งถูกโจมตีไป เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

“ข้ากำลังรอการกลับมาของกิจิ” ผมพูด

กิจิสามารถใช้ทักษะในการซ่อนตัว ผมจึงส่งเขาไปสำรวจพื้นที่รอบข้าง ไม่มีเหตุผลที่เราจะโจมตีในตอนนี้ แม้จะเป็นการเล่นตลก แต่ถ้าเราโจมตีศัตรูในตอนนี้จะทำให้กิจิตกอยู่ในอันตราย

นาร์ซาจับศีรษะของเธออย่างขมขื่น

“ถ้ามันกลายเป็นการต่อสู้แล้ว ข้าจะใช้กองกำลังของเผ่ากันระเอง เจ้าแค่รอจนถึงเวลานั้น”

“… ข้าเข้าใจ”

เมื่อนาร์ซาถอยไปอย่างไม่เต็มใจ ผมก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าปวดหัว นี่คือสิ่งที่ผมต้องจัดการกับก็อบลินที่ผมไม่ได้ปกครอง

หรือผมควรจะจัดการกับเธอด้วยความเด็ดขาดกว่านี้

อืม…ไม่ว่ายังไง ผมจะต้องหาวิธีที่ดีกว่า

ไม่ช้าก็เร็วก็อบลินจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมหาศาล คงจะดีที่สุดหากผมมีก็อบลินที่สามารถแยกแยะสถานการณ์ที่ติดตามผมได้ แต่เรายังไปไม่ถึงจุดนั้น สำหรับตอนนี้ทุกอย่างต้องตัดสินใจด้วยระบบลำดับความแข็งแกร่งไปก่อน

ความคิดเห็นของก็อบลินที่อ่อนแอกว่ายังไม่จำเป็น

…ตามที่คาดไว้ กิลมิน่าจะเป็นคนนำเผ่ากันระ แต่ปัญหาคือ …

“ราชา ข้ากลับมาแล้ว”

เสียงของกิจิปลุกผมจากความคิด

“เป็นยังไงบ้าง?” ผมถาม

“มีก็อบลินเผ่าเกิร์ดการ์ประมาณ 30 ตัวอยู่ทางทิศใต้” เขาตอบ

“ข้าเข้าใจ”

ก็อบลินมีสายตาที่ดี แม้จะอยู่ในตอนกลางคืน

ดังนั้นแผนของพวกเขาคือให้เผ่าพาราดัวดึงดูดความสนใจ จากนั้นพวกเกิร์ดการ์ก็จะอ้อมไปโจมตีหมู่บ้านอีกทาง

“ไรเดอร์จากเผ่าพาราดัว!” ก็อบลินเผ่ากันระตะโกน

เมื่อมองไปตามทิศทางของเสียงนั้น ผมเห็นไรเดอร์หนึ่งคนที่เดินเข้ามาเจรจา

“นั่นคือ…ลอร์ดอลูฮาลิฮาล?”

นั่นเป็นคำพูดของเจ้าหญิงเผ่ากันระ

“ผู้ชายไร้ยางอายนั่นน่ะเหรอ?”

หากพวกเขาต้องการให้ผมเล่นเกม งั้นผมก็จะเล่นมัน

“ดี นาร์ซา ทำไมเราไม่ตอบแทนสิ่งที่พวกมันทำล่ะ/”

“เอ๊ะ? พวกเขาวางแผนที่จะโจมตีเราลับหลังเหรอ?”

“ใช่ แต่นั่นก็เป็นโอกาสที่จะสวนกลับเช่นกัน…ไปเรียกกิซาร์มา”

กิซาร์ได้ตัดสินใจเลือกก็อบลินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อพวกเขาเข้ามา ตรงกลางยังมีกิลมิจากเผ่ากันระ ผมจึงคาดหวังว่าพวกเขาจะเตรียมการได้ดีและรวดเร็ว

“ดูเหมือนเจ้าจะรู้ว่าต้องทำอะไร?”

กิซาร์พยักหน้า ราวกับบอกว่ารับทราบแล้ว

“เป้าหมายคือเผ่าเกิร์ดการ์ ไปจัดการพวกมันแล้วเผ่าพาราดัวน่าจะรู้สึกถึงภัยคุกคาม”

รอยยิ้มอันซุกซนปรากฏบนใบหน้าของกิซาร์และผมก็ยิ้มให้เขาเช่นกัน

เมื่อฝูงชนมารวมตัวกัน ผมจึงสั่งก็อบลิน

“กิโก อะมัทสึกิ กิกูว เวอร์เบนา น่าเสียดาย แต่พวกเจ้าต้องไปกับข้า มันคงไม่เหมาะนัก หากข้าออกไปคนเดียว”

“รับทราบ”

“ตามที่ท่านต้องการ”

ก็อบลินผู้ได้รับการคุ้มครองจากเทพดาบพยักหน้า พร้อมกับก็อบลินซึ่งเป็นอดีตผู้นำของหมู่บ้าน

“เผ่ากันระอยู่ที่นี่เพื่อป้องกันหมู่บ้าน พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องโจมตี แต่อย่าทำอะไรที่ให้ศัตรูรู้ว่าเรามีก็อบลินไม่มากนัก”

ก็อบลินหน้าซีดเมื่อพวกเขาพยักหน้า ในขณะที่ผมพยักหน้ากลับและมองไปยังกิซาร์

“กิจินำทางไป ส่วนที่เหลือทำตามคำสั่งของกิซาร์”

ภายในป่าลึกลับ ที่หมู่บ้านเผ่ากันระ ม่านของการต่อสู้ครั้งที่สองถูกยกขึ้น

◆◇◇

ไปพร้อมกับกิกูว กิโกและนาร์ซา ผมเดินออกไปพบกับเผ่าพาราดัว

สถานที่เจรจาเกิดขึ้น ณ จุดกึ่งกลางระหว่างหมู่บ้านและกองทัพเผ่าพาราดัว

นี่เป็นสถานที่ดีที่สุด เมื่อพิจารณาจากนักธนูเผ่ากันระและความคล่องตัวของไรเดอร์

แม้ว่าเราจะเจรจากัน แต่เราก็ยังคงมีอาวุธ

ผมจับดาบใหญ่ (ไอเอิร์นเซคั่น) พาดลงบนไหล่ กิโกมีดาบโค้งสองอันที่เอวของเขา กิกูวมีดาบยาวอยู่ที่หลังและขวานอยู่ที่เอว ส่วนนาร์ซาก็นำธนูดาวตกของเธอมาด้วย

ผู้ออกมาพบกับเราคือตัวแทนของเผ่าพาราดัวที่ขี่สัตว์อสูรขนาดยักษ์

สัตว์อสูรคล้ายเสือตัวนี้ที่มีแถบสีเหลืองดำ ดวงตาทั้งสองข้างส่องประกายเมื่อแสงจากดวงจันทร์ตกกระทบ เมื่อกรงเล็บของมันเหยียบลงบนพื้นดินอย่างมั่นคง มันก็เปล่งออร่าที่เหมาะสมกับคำว่าราชาแห่งป่า แม้ว่าหนวดของมันจะซ่อนใบหน้าบางส่วนไว้ แต่ก็สามารถมองเห็นเขี้ยวอันใหญ่โตที่โผล่ออกมา

คนที่ขี่มันคือก็อบลินผิวสีฟ้า

เขาเป็นก็อบลินชั้นสูง ก็อบลินชนเผ่าอาจจะแตกต่างกับพวกเราไปบ้าง แต่ยังคงมีสีผิวที่เหมือนกัน

รอยย่นที่สามารถเห็นได้บนใบหน้าแสดงถึงความมีอายุ แม้แต่ผมที่ยื่นออกมาจากศีรษะไปถึงด้านหลังก็เปลี่ยนเป็นสีขาว …ก็อบลินตัวนี้แก่แล้ว

เขาถือสายบังเหียนไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกมือวางลงบนดาบที่เอว ด้วยปากของเขาที่วาดเป็นเส้นตรง มันให้ความรู้สึกถึงความหยิ่งทะนง

“เด็กมาก…” ก็อบลินชั้นสูงพึมพำ

เสียงของเขาทุ้มต่ำ มันดังพอที่ทุกคนจะได้ยิน

“ลอร์ดอลูฮาลิฮาล เราไม่ได้พบกันเป็นเวลานานแล้ว” นาร์ซาทักทาย

ผมออกจากตำแหน่งของนาร์ซาและเฝ้าดูพวกเขาคุยกันอย่างเงียบ ๆ

“ราชา” กิกูวกระซิบข้างผม

มีผู้คุ้มกันสามคนใกล้กับก็อบลินที่ชื่อว่าอลูฮาลิฮาล

พวกเขาทุกคนขี่สัตว์อสูร การถอยไม่ใช่ทางเลือกของพวกเรา …มีทางเดียว

“ถ้าเช่นนั้น ไปปราบผู้คุ้มกันซะ” ผมพูด

กิกูวพยักหน้าอย่างเงียบๆ เขาถอยหลังไปเพื่อแจ้งคำสั่งของผมให้กับกิโก

“อะไรทำให้คุณมาที่นี่ ลอร์ดอลูฮาลิฮาล?”

อลูฮาลิฮาลขึ้นเสียงโดยไม่สนใจคำพูดของนาร์ซา

“หยุดการกระทำที่ไร้ประโยชน์นี่…” เขากล่าว

“ยอมแพ้ซะ ทำอย่างนั้นแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”

“เผ่าพาราดัวยอมจำนนต่อเผ่าเกิร์ดการแล้วเหรอ?” นาร์ซาถาม

สายตาวิงวอนของนาร์ซาพบกับสายตาดูถูกของอลูฮาลิฮาล มันเป็นเหมือนกับการเยาะเย้ยขณะที่เขาจ้องมองเธอ

“ฮึ่ม คนที่ขอความช่วยเหลือจากคนนอกเพื่อแทรกแซงปัญหาในชนเผ่า ไม่มีสิทธิ์มาวิจารณ์ข้า”

แสดงว่าเขายอมรับ

“เกิดอะไรขึ้นกับความภาคภูมิใจของเผ่าพาราดัวที่ท่านได้รับมาจากบรรพบุรุษ!?” นาร์ซาถาม

อลูฮาลิฮาลหัวเราะ

“ของพวกนั้น…เพื่อสิ่งที่ดีกว่า ข้าทิ้งพวกมันไปแล้ว!” เขาตะคอกและส่งแรงกดดันเพิ่มขึ้น

เมื่อนาร์ซาพูดไม่ออก ผมก็เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้

ก็อบลินตัวนี้ต้องการสู้

อืม…อย่างน้อยความตั้งใจของเขาก็ชัดเจน ปัญหาเดียวคือผมจะละทิ้งนาร์ซาไปดีหรือไม่

นาร์ซาคือสาเหตุที่เผ่ากันระไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผมได้

ในฐานะกองทัพ มันไม่ใช่เรื่องดีที่มีเจตจำนงมากกว่าหนึ่งอย่าง

นั่นหมายความว่าผมควรจะทิ้งเธอไปใช่มั้ย ถ้าผมจะถามตัวเองว่าการกระทำนั้นถูกต้องหรือไม่ … แต่มีคำตอบในใจผมที่ชัดเจนแล้ว

ผมคือราชา

ผู้ที่สูญเสียความภาคภูมิใจจะไม่ได้เป็นราชาอีกต่อไป แต่เป็นเพียงสัตว์ประหลาดที่มีอำนาจ

ดังนั้นผมจะช่วยเธอ

อลูฮาลิฮาลเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าผม เมื่อเขาจ้องมองมา

“เด็กน้อย ถ้าเจ้ามีอะไรจะพูดก็พูด”

“คนที่สูญเสียความภาคภูมิใจของตัวเองไม่ใช่ราชา”

คำพูดนั้นทำให้เขากัดฟันของตัวเอง

มีระยะห่างระหว่างเราอยู่บ้าง แต่เสียงฟันที่เสียดสีกันดังมาถึงหูของผมอย่างชัดเจน

“ไอ้สารเลว!” อลิฮาลูฮาลตะโกน

เมื่อความกระหายเลือดปะทุมาจากผู้คุ้มกันทั้งสามที่อยู่ข้างหลัง พวกเขาคว้าอาวุธของตัวเอง

ในขณะเดียวกันนาร์ซาก็ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ เนื่องจากความกระหายเลือดนั้นมากกว่าที่เธอจะรับไหว

กิกูวและกิโกก้าวมาข้างหน้า

ผมกวัดแกว่งดาบของตัวเอง

นิ้วก้อย … นิ้วนาง… นิ้วกลาง … เมื่อผมมั่นใจว่าพลังของตัวเองส่งผ่านไปยังดาบ ผมก็วัดระยะห่างระหว่างเรากับศัตรู

ความตึงเครียดเป็นเหมือนน้ำแข็งที่กำลงจะตกลงในบ่อน้ำ

พวกสัตว์อสูรได้รับผลกระทบจากความกระหายเลือดของผม พวกมันจึงร้องคำราม

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากที่ห่างไกล

อลูฮาลิฮาลอดไม่ได้ที่จะหันไปตามทิศทางของเสียง

“น่าเสียดายสำหรับแผนของเจ้า” ผมบอกเขา

“อะไรนะ? ” อลิฮาลูฮาถาม ในขณะที่เขาจ้องมองมาที่ผมด้วยความดุร้าย

“เจ้าวางแผนที่จะเรียกเรามาเจรจา ในขณะที่ส่งเผ่าเกิร์ดการ์เข้ายึดหมู่บ้านไม่ใช่เหรอ?”

อลูฮาลิฮาลหันมามองชั่วขณะเพื่อคิด

เสียงจากระยะไกลเริ่มใกล้เข้ามา

“…เรากำลังจะกลับ” อลูฮาลิฮาลกล่าว “การเจรจาล้มเหลว”

เขาดึงสายบังเหียนและจากไปพร้อมกับผู้คุ้มกัน

ผมเฝ้ามองแผ่นหลังของเขาที่จากไป ผมจึงถามกิโก

“กิโก…เจ้าคิดยังไงบ้าง?”

ผมอยากได้ยินความคิดเห็นของกิโก ผมจึงถามเขา

“ถ้าท่านสั่งให้ข้าสู้ ข้าก็จะทำ แต่…”

” แต่อะไร? “

“เขาค่อนข้างแข็งแกร่ง” กิโก อะมัทสึกิยิ้มอย่างดุร้าย

“แล้วเจ้าล่ะ กิกูว?” ผมถาม.

“ด้วยผู้คุ้มกันทั้งสามนี้ เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าหนักใจอย่างแน่นอน…เขาน่าจะเป็นปัญหาใหญ่กว่าเผ่าเกิร์ดการ์ซะอีก”

ความคิดส่วนใหญ่ของเราตรงกัน

ก็อบลินชราของเผ่าพาราดัว อลูฮาลิฮาล

ถึงเขาจะแก่ แต่เขาไม่ได้อ่อนแอ

“น่าสนใจ” ผมพึมพำ

มันจะน่าสนใจแค่ไหน…หากผมเพิ่มพวกเขาเข้ามาในกองทัพ แผนการสร้างอาณาจักรของผมก็จะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน

“เรากำลังจะกลับ นาร์ซา เจ้าเองก็เช่นกัน”

ผมเรียกนาร์ซาที่อยู่ในอาการมึนงง ก่อนจะเดินกลับไปที่หมู่บ้านเผ่ากันระ

◆◇◇◆◆◇◇◆

อ่านนิยายล่วงหน้าได้ในกลุ่ม ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล (ตอนนี้มี 300 กว่าตอนแล้วนะครับ)

https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/

Options

not work with dark mode
Reset