Goblin Kingdom 52.33

ตอนที่ 52.33

[ชื่อ] กิก้า แรกซ์

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 87

[คลาส] ชั้นสูง,ผู้คุ้มกัน

[ทักษะ] <<ความชำนาญการใช้หอก C+>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<กินไม่เลือก>> <<ฆ่าโดยฉับพลัน>> <<พรรคพวกของราชา>> <<ขว้างหอก>> <<จิตวิญญาณของนักรบ>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] ไม่มี

[แอตทริบิวต์] ไม่มี

[สถานะผิดปกติ] เนื่องจากแขนขวาและขาซ้ายที่สูญเสียไป ทำให้พลังในการต่อสู้ลดลง 60%

◇◆◇

หลังจากราชาออกไป กิก้าก็ขอบคุณกิด้าที่ให้การสนับสนุนเขาในไม่กี่วันที่ผ่านมา

จากนั้นเขาก็ใช้หอกแทนไม้เท้า กิก้าเดินจากไปด้วยความยากลำบาก

เมื่อราชาหายไป เขาจึงกลายเป็นก็อบลินระดับสูงสุดในหมู่บ้าน

… แม้ว่าเขาจะไม่สามารถนับเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังได้

ด้วยแขนซ้ายที่เหลืออยู่ เขาถือหอกและเดินด้วยขาขวาเพียงข้างเดียว เขาต้องกระโดดจึงจะเคลื่อนไหวได้

ตอนนี้ทุกอย่างไม่สะดวกสบาย เวลากินอาหารเขาต้องวางหอกลงก่อนจึงจะเคี้ยว เมื่อพยายามถือบางสิ่งบางอย่าง เขาก็ต้องวางหอกลงไปที่พื้น

“กูววว …”

มันเป็นบาดแผลที่น่ายกย่องจากการปกป้องราชา …เขารู้เรื่องนั้น

เขาไม่เสียใจเลย

แต่การที่เขาและก็อบลินตัวอื่น ๆ สูญเสียแขนขาไปทำให้พวกเขาอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ในแต่ละวันปริมาณอาหารของพวกเขาก็ลดลง หากสิ่งต่าง ๆ ยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้ พวกเขาจะตายอย่างแน่นอน

ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถเดินไปกินข้าวได้ด้วยตัวเอง

มันน่ารำคาญ

เขาแค่สูญเสียแค่แขนและขาไม่ใช่เหรอ?

ทำไมเขาต้องตายเพราะเรื่องแบบนี้? การตายอย่างสงบนอกจากสนามรบ…มันเป็นเรื่องที่น่าอับอาย

แต่ราชาพูดว่า…

จงยืนหยัดและต่อสู้ร่วมกับเขาอีกครั้ง!

ถ้าอย่างนั้น…!

หน้าที่ของเขาคือการแสดงให้ราชาเห็นว่า เขาสามารถต่อสู้ได้ต่อให้มีแขนและขาเพียงข้างเดียว!

เขากัดฟันและถือหอกด้วยพละกำลัง

จากนั้นก็ย่อตัวลงเพื่อปลดปล่อยร่างกายชั่วครู่ ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ เขาก็จับหอกและขว้างมันออกไป

มันแรงพอที่จะแหวกสายลมได้

แต่นั่นคือทั้งหมด หลังจากการขว้างครั้งนั้น ร่างกายของเขาไม่สามารถรองรับแรงสะท้อนได้และล้มลงไปกับพื้น

เมื่อเขาทำเช่นนั้นเขาก็เอื้อมมือไปที่บาดแผลโดยไม่รู้ตัว

“กิ กี๊กี”

ไฟที่ลุกลามต่อหน้า

ความเจ็บปวดทำให้เขาเริ่มเห็นภาพหลอน

ความเจ็บปวดที่แล่นผ่านทำให้เขาหอบหายใจ

แค่ไม่มีขา ใครคิดว่ามันจะยุ่งยากขนาดนี้ ขาที่ขาดไปทำให้เขาไม่สามารถยืนบนพื้นดิน

ส่วนแขนที่ขาดไปทำให้เขาไม่สามารถทรงตัว

เขารอให้ความเจ็บปวดค่อย ๆ บรรเทา เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาจึงหยิบหอกขึ้นมาอีกครั้ง

คราวนี้เขาพยายามเอนหลังพิงต้นไม้แล้วขว้างมัน

แต่ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่สามารถออกแรงได้เต็มที่

เขาควรทำยังไง? เขาควรทำเช่นไร…

เขาพยายามและพยายามต่อไป แต่ทุกครั้งที่ทำ มันกลับล้มเหลว

ก่อนที่จะรู้ตัว เขานอนอยู่บนพื้นโดยกำลังมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

แขนและขาที่หายไป… แน่นอนมันทำให้แรงของเขาหายไปเช่นกัน …

กิก้าหลับตาลงอีกครั้ง

เขา…จะไม่ถูกทิ้งไปใช่มั้ย?

แต่เมื่อกิก้าตื่นขึ้น เขาจึงเหวี่ยงหอกอีกครั้ง

◇◆◇

ลิลลี่มีเวลาเหลือเฟือในปัจจุบัน เพราะเธอไม่ต้องดูแลผู้ลี้ภัยอีก เธอใช้ช่วงเวลาช่วงนี้ในการลาดตระเวนไปทั่วหมู่บ้าน เพราะหากพวกมนุษย์และก็อบลินทะเลาะกัน วันเวลาแห่งความหวาดกลัวจะกลับมาอีกครั้ง

เธอต้องทำมัน

แม้ว่ามันจะแตกต่างจากการพักผ่อนเล็กน้อย แต่ลิลลี่ก็มีความสุขในช่วงเวลานี้จริง ๆ

“ลอร์ดลิลลี่ มีอะไรรึเปล่า?”

คนที่เรียกเธอคือดรูอิดน้ำกิโซ ก็อบลินที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับมนุษย์ ร่างกายที่สูงใหญ่และผิวสีแดง การจ้องมองอันดุร้ายและเขี้ยวอันแหลมคมที่ยื่นออกมาจากปาก …ถ้าไม่นับสิ่งเหล่านี้ เขาคงสามารถเรียกตัวเองว่ามนุษย์ได้อย่างง่ายดาย

ด้วยเสื้อที่ปกคลุมร่างกายอยู่ เขาให้ความรู้สึกเหมือนนักวิชาการ

เมื่อลิลลี่คิดถึงสิ่งเหล่านั้น เธอก็ตอบเขา

“ไม่มีอะไร ฉันแค่ออกมาดูรอบ ๆ น่ะ เรามีจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ฉันเลยออกมาดูหากมีปัญหาเกิดขึ้น”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นกิโซก็หัวเราะ

จากมุมมองของลิลลี่ การหัวเราะนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเยาะเย้ย แต่ความจริงก็อบลินแค่หัวเราะเฉย ๆ  เท่านั้น ตามที่คาดไว้มีกำแพงระหว่างสองเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“ข้ารู้สึกขอบคุณ หลังจากราชาจากไป หมู่บ้านในปัจจุบันก็อ่อนแอลง แต่เรายังมีก็อบลินกลุ่มใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน ในเมื่อลอร์ดลิลลี่ออกลาดตระเวนในหมู่บ้าน เราจะสามารถมุ่งเน้นไปที่การล่าได้”

หากใครฟังแค่คำพูดของเขา ก็อบลินจะดูอ่อนโยนมากขึ้น

แต่มันเป็นตราบใดที่คุณไม่มองหน้าของเขา …

ลิลลี่จึงพยายามหลับตาและกอดอกเพื่อฟังที่กิโซพูด

“ใช่ ฉันเห็นว่าสิ่งต่าง ๆ คงยากเช่นกันสำหรับคุณ ขอบคุณสำหรับความพยายาม “

“โอ้ ไม่ ไม่เลย เมื่อเทียบกับลอร์ดลิลลี่ที่เป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์และก็อบลิน ความพยายามที่เราทุ่มเทลงไปนั้นไม่มีอะไรเลย”

กิโซพยายามทำในสิ่งที่เขาเชื่อว่ามันเป็นยิ้มหวานส่งไปยังลิลลี่

แต่สิ่งที่เธอเห็นคือรอยยิ้มอันน่ากลัว

“ถูกแล้ว งั้นฉันไปละนะ”

ขณะที่ลิลลี่กำลังจะจากไป กิโซก็เรียกเธอ

“อ่า…หากท่านไม่รังเกียจ ข้าอยากจะขอความช่วยเหลืออะไรบางอย่าง”

“ถ้าเป็นสิ่งที่ฉันทำได้นะ” ลิลลี่ตอบ

“มันเกี่ยวกับท่านกิก้า แรกซ์” กิโซกล่าวอย่างอ่อนแรง

“เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาเริ่มเหวี่ยงหอกที่มุมหนึ่งในหมู่บ้าน ทั้งตอนกลางวันและกลางคืน…เห็นเขาเป็นแบบนี้แล้ว…”

“อืม …”

ลิลลี่กอดอกราวกับยอมรับว่าการกระทำของกิก้านั้นแปลกประหลาด

จากนั้นกิโซก็เริ่มอธิบาย

ลิลลี่มีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับก็อบลินเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสังคมที่มีลำดับชั้นอย่างชัดเจน

คนที่สูงกว่านั้นไม่ผิดและคนที่ต่ำกว่าจะยอมทำตาม

บางครั้งความต่างนี้ก็ปรากฏในสังคมมนุษย์เช่นกัน แต่มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างวิธีคิดของพวกเขา

“ได้โปรดช่วยท่านกิก้าด้วย” กิโซกล่าว

“ฉันเข้าใจ ฉันต้องรับผิดชอบเรื่องนี้มากกว่าพวกคุณทุกคน” ลิลลี่ตอบ

“แสดงว่าท่านจะทำมัน!?”

จากความทุกข์สู่ความสุข อารมณ์ที่เปลี่ยนไปของกิโซทำให้ลิลลี่ยิ้มอย่างบิดเบี้ยว

เขาค่อนข้างเข้าใจได้ง่าย เพราะพวกเขาไม่เคยเรียนรู้ในการซ่อนอารมณ์ของตัวเองเหมือนที่มนุษย์กระทำ

พูดตรง ๆ ที่นี่เป็นดินแดนที่ป่าเถื่อน แต่เมื่อไม่นานมานี้ลิลลี่เริ่มคิดว่าสถานที่แบบนี้ไม่ได้เลวร้าย

“ได้โปรดดูแลมาสเตอร์กิก้าด้วย”

ขณะที่กิโซก้มศีรษะลง ลิลลี่พยักหน้าและออกไปที่ที่กิก้าอยู่

ระหว่างทางเธอพบกับกิด้าที่ถือหอกไว้บนไหล่

ดูเหมือนว่าเขาจะทุกข์ใจเช่นกัน ดังนั้นลิลลี่จึงเรียกเขา

“ลอร์ดกิด้า?” เธอพูด

“…อา มนุษย์…ลอร์ดหลี่?”

ก็อบลินแรร์ตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมอง เพื่อยืนยันว่าคนที่ตัวสูงกว่าคือลิลลี่

“ดูเหมือนคุณจะกังวลเกี่ยวกับบางสิ่ง มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?”

ต่างจากดรูอิด ก็อบลินแรร์นั้นแตกต่างจากมนุษย์อย่างชัดเจน

ใบหน้าอันเหี่ยวย่นและศีรษะที่ไร้ผม…ก็อบลินตัวนี้ไม่มีอะไรเหมือนกับกิโซ ยกเว้นสีผิวของพวกเขา มันเป็นความลึกลับอย่างแท้จริงว่าพวกเขามาจากเผ่าพันธุ์เดียวกันได้ยังไง

” ข้าควรทำอย่างไรดี? ” กิด้าถาม

เขารู้สึกหดหู่มากเหมือนกำลังจะล้มลง เมื่อเห็นกิด้าที่เป็นแบบนี้ ลิลลี่จึงวางมือลงบนไหล่ของเขาและพูดเบา ๆ

นี่เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคิดมาก่อน แต่เธอกำลังปลอบก็อบลิน

“อ่า…” กิด้าพูด “ตามคาด…ลอร์ดหลี่เป็นมนุษย์ที่ดี”

กิด้าพูดออกมาอย่างจริงจังขณะที่เขาถอนหายใจ

เขาพูดต่อ

“มัน…เกี่ยวกับ… มาสเตอร์ก้า” เขากล่าว

“ถ้าเป็นเรื่องนั้นลอร์ดกิโซบอกฉันมาแล้ว” เธอตอบ

“จริง ๆ !? ” กิด้าอุทาน

กิด้าลืมตาขึ้นในทันทีขณะที่เขาอุทาน ซึ่งมันมีผลกระทบกับลิลลี่เป็นอย่างมาก เธอรู้สึกตื่นตระหนกไปชั่วขณะแต่ก็รวบรวมสติกลับมาอย่างรวดเร็ว

“ใช่ เขาบอกให้ฉันหยุดกิก้าจากการฝึกซ้อม”

“นั่นมันผิด…สิ่งที่…มาสเตอร์ก้า…ต้องการนั้น…ถูกแล้ว แต่…คุณช่วยเขา…สร้างขาไม่ได้เหรอ?” กิด้าถาม

“สร้างขาเหรอ?” ลิลลี่ถามด้วยความประหลาดใจ เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินผิดหรือเปล่า

กิด้าพยักหน้า

“หอก .. ไม่ดี ถ้าไม่มีขา…” กิด้ากล่าว

ลิลลี่เข้าใจ เธอรู้ว่าการรวบรวมพลังนั้นมาจากขาทั้งสองข้างขณะเหยียบลงบนพื้นเช่นเดียวกับดาบ

ผู้เริ่มต้นบางคนพยายามอย่างหนักในการกวัดแกว่งดาบของเขา แต่นั่นมันผิด สิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้ดาบคือสายตาและการก้าวเดิน

ลิลลี่อาจไม่ใช่นักดาบที่ประสบความสำเร็จ แต่เธอเข้าใจดีว่าขามีความสำคัญเพียงใด

ก้าว…กระโดด…ยืน พลังที่ส่งผ่านมาจากขาถึงสะโพกไปยังแขน ลิลลี่รู้เรื่องนี้ด้วยประสบการณ์ เธอจึงพยักหน้ารับคำพูดของก็อบลิน

แม้ว่าก็อบลินและมนุษย์อาจแตกต่างกันในเรื่องเผ่าพันธุ์ แต่เทคนิคที่พวกเขาใช้นั้นเหมือนกัน

“ฉันรู้แต่…” ลิลลี่พูด

“แล้ว…ลอร์ดเรเชีย…”

ลิลลี่ทำได้เพียงส่ายหัวกับการจ้องมองของกิด้า ขณะที่เธอบอกว่าแม้แต่เรเชียก็ไม่สามารถสร้างแขนหรือขาได้

“น่าเสียดาย แต่เป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ” เธอกล่าว

“ข้าเข้าใจ ยังไงก็ขอบคุณลอร์ดหลี่”

ขณะที่กิด้าถอนหายใจ เขาก็เดินจากไป

“ขอบคุณ? …พวกเขาเรียบง่ายจังนะ”

แม้ว่าเธอจะรู้สึกดี แต่เธอก็รู้สึกปวดใจเช่นกันเมื่อได้ยินพวกก็อบลินขอบคุณเธอ ดังนั้นเธอจึงระบายความโกรธลงกับพื้น

ฉันควรจะหยุดเขาดีไหม หรือให้เขาทำต่อไป?

ไม่!! ถ้ากิก้ายังต้องการความเคารพจากพวกก็อบลินอยู่ เขาจะต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง

ขณะที่ลิลลี่คิดเรื่องเหล่านั้นอย่างไม่พอใจ เธอก็เดินต่อไปยังที่ที่กิก้าอยู่

หรือเธอจะไปปรึกษาท่านเรเชียก่อน

…แต่เธอส่ายหัวให้กับความคิดนั้น

“ตั้งสติไว้!” เธอตะโกนกับตัวเอง “ฉันทำอะไรโดยพึ่งพาท่านเรเชียตลอดเวลาไม่ได้”

เธอจับดาบยาวที่เอวและหลับตาเพื่อสงบสติ

“ใจเย็น ๆ ใจเย็น ๆ …ลิลลี่”

ความรู้สึกของการสัมผัสผ้าที่พันรอบดาบทำให้เธอสงบลง

เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าการเดินไปข้างหน้าเพียงก้าวเดียวจะน่ากลัวขนาดนี้

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็จะทำ

ถ้าเธอจะวิ่งหนี เธอก็จะทรยศต่อความไว้วางใจของก็อบลินและจะไม่กล้าเผชิญหน้ากับเรเชียอีก

◇◇◆

เธอควรอธิบายสิ่งที่เห็นยังไงดี?

ล้มไปเรื่อยๆ … ไม่มีทางอธิบายสิ่งที่เห็นเป็นอย่างอื่น ถึงจะเงอะงะ แต่เขากำลังทนกับความเจ็บปวด ไม่ว่าจะล้มลงมาสักกี่ครั้ง เขาก็ลุกกลับมายืนขึ้นทุกครั้ง เขามีจิตวิญญาณอันสูงส่งอยู่ภายในตัว ซึ่งจะไม่สะดุดแม้จะเผชิญกับความท้าทาย ความจริงนั้นแสดงให้ลิลลี่เห็นอย่างชัดเจน

หอกที่พุ่งออกมานั้นรุนแรงพอที่จะสามารถฆ่าศัตรูได้อย่างแน่นอน แต่เนื่องจากเขาที่ไม่มีขา ทุกครั้งที่เขาโจมตีเขาจะล้มลง

แต่เขาไม่ยอมแพ้ หลังจากล้มลงเขาจะไปนำหอกของตัวเองกลับมา เขาแทงมันลงไปที่พื้นเพื่อให้ตัวเองยืนอยู่ได้

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าตัวเองสูญเสียแขนและขาไป

สมดุลของเขาก็แย่เช่นกัน มันทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นไปอีก

เขาถูกปกคลุมไปด้วยสิ่งสกปรกและบาดแผลทั่วร่างกาย

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ล้มเลิก เมื่อเห็นเช่นนั้นลิลลี่ผู้เป็นนักผจญภัยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงอารมณ์ที่รุนแรงภายในตัว

สิ่งแรกที่เห็นคือความงุนงง จากนั้นมันค่อย ๆ …เปลี่ยนเป็นความสับสน เมื่อลิลลี่ตระหนักถึงอารมณ์ภายในตัว เธอก็เดินไปหากิก้า

“…เจ้า…กำลังทำอะไร?” กิก้าหายใจไม่ออกขณะมองไปที่เธอ

อีกด้านหนึ่งของการจ้องมองของกิก้า คือลิลลี่ที่ยกดาบของเธอ

“ฉันขอสาบานด้วยดาบของฉัน”

คำจำกัดความของอัศวิน เมื่ออัศวินสาบานต่อดาบของตัวเอง นั่นหมายความว่าจะไม่มีการโกหกใด ๆ เกิดขึ้น

ดาบเปลือยเปล่าเปล่งประกายท่ามกลางแสงแดด

“ทำไมคุณต้องทำขนาดนั้น? เพื่อราชา? หรือคุณต้องการฆ่าใครสักคนมากขนาดนั้น!?”

กิก้ายืนขึ้นด้วยแขนข้างเดียวและนั่งลง เขามองไปที่ลิลลี่

“เป็นเพราะคำสัญญา ราชาสัญญากับข้าไว้! ข้าจะสู้เคียงข้างเขาอีกครั้ง!”

ลิลลี่กัดฟันของเธอ

“…คุณต้องการขาใช่ไหม?”

“นั่นจะดีที่สุด แต่ถึงแม้จะไม่มีมัน ข้าก็ยังสามารถสู้ต่อไปได้!”

เขาเป็นคนจริงจัง การกระทำของเขาตลอดเวลานี้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว

เธอคิดว่าตัวเองพ่ายแพ้ พลังที่อยู่ในมือขณะถือดาบค่อยๆ อ่อนลงและปลายดาบของเธอแตะไปที่พื้น

“กิก้า ฉันขอท้าดวลกับคุณ”

.

.

.

.

“…ข้ายอมรับมัน”

“ในเวลาสามวัน”

“ได้! “

ราวกับว่าเธอต้องการหนีออกจากที่นั่น ลิลลี่ก็วิ่งกลับไปยังที่ที่เรเชียอยู่

◆◇◇◆◆◇◇◆

ผู้เขียนหมายเหตุ:

ผมจะเขียนสามบทเกี่ยวกับหมู่บ้าน

ผมต้องการวาดภาพใบหน้าของก็อบลินที่ไม่โดดเด่น

◆◇◇◆◆◇◇◆

อ่านนิยายล่วงหน้าได้ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล

https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/

Options

not work with dark mode
Reset