Elixir Supplier 540

ตอนที่ 540

540 กงเกวียนกงกรรม

 

“ไม่ ฉันขอร้องนายล่ะ เราอยู่หมู่บ้านเดียวกัน นายต้องช่วยฉันนะ!” หวังเจ๋อเชิงร่ำร้องออกมา

 

“ก็อย่างที่ผมบอกไป ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับตัวพี่เอง พี่ต้องคิดให้ดีดี” หวังเย้าพูด

 

หวังเจ๋อเชิงคิดทบทวนถึงสิ่งไม่ดีที่เขาได้ทำลงไป ย้อนไปจนถึงเรื่องที่เขาทำในตอนเด็ก เช่น ขโมยชุดชั้นในหรือแอบดูผู้หญิงอาบน้ำ

 

“เดี๋ยวนะ!” หวังเจ๋อเชิงนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ แล้วสีหน้าของเขาก็ดูแย่ลง “หรือจะเป็นเพราะเรื่องพ่อของฉัน?”

 

“ลุงยี่หลง? แล้วพี่คิดว่ายังไงล่ะครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ฉันจะเปลี่ยน กลับไปแล้วฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง” หวังเจ๋อเชิงพูดออกมาด้วยท่าทีลำบากใจ

 

“โอเค  งันก็กลับไปได้แล้วครับ” หวังเย้าไม่สนใจว่าเขาจะเข้าใจจริงๆหรือไม่

 

“ได้โปรดเถอะ เอายาให้ฉันทีนะ” หวังเจ๋อเชิงพูด

 

“ผมให้ไม่ได้หรอกครับ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พี่ก็ควรกลับไปได้แล้วนะครับ” หวังเย้าส่งแขก

 

หวังเจ๋อเชิงก้มหน้าลงและเงียบไปพักหนึ่ง “ที่ฉันป่วย ก็เพราะฉันมันอกตัญญูสินะ!”

 

เฉินหยิงที่นั่งอยู่ใกล้ๆได้ยินคำพูดของเขา ก็เข้าใจในทันที เธอหันไปมองหน้าของหวังเย้า

 

เธอไม่รู้ว่ามีเรื่องกงเกวียนกงกรรมของฟ้าดินอยู่จริงไหม อย่างน้อยๆตัวเธอเองก็ไม่เคยได้เจอกับตัวเลยสักครั้ง แต่หวังเย้ากลับสามารถทำให้คนสำนึกผิดได้ด้วยความสามารถที่เขามี

 

เพราะความอกตัญญูที่เขาได้ทำลงไป มันควรจะทำให้เขารู้สึกอับอายต่อพฤติกรรมของตนเอง

 

หวังเจ๋อเชิงก้มหน้าเดินจากไป ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มเชื่อและกลัวมากจริงๆ

 

“เซียนเชิงคะ เรื่องกรรมมันมีอยู่จริงๆเหรอคะ” เฉินหยิงถาม

 

“ผมยินดีเชื่อว่ามันมีอยู่ครับ” หวังเย้าพูด

 

ผู้คนมักจะพูดว่า กงกรรมกงเกวียนนั้นมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ ถ้าหากมันไม่เกิดขึ้น ก็เป็นเพราะว่าเวลายังมาไม่ถึงเท่านั้นเอง ในความเป็นจริงนั้น โลกใบนี้เป็นโลกที่คนทำดีไม่ได้ดี แต่คนทำชั่วกลับอยู่อย่างอิสรเสรี

 

“พี่ขับรถมาที่นี่เหรอครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ใช่ค่ะ” เฉินหยิงพูด

 

“แล้วพี่พักที่ไหนเหรอครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ในตัวเมืองเหลียนชานค่ะ” เฉินหยิงพูด

 

หวังเจ๋อเชิงกลับไปที่บ้าน เขาดูราวกับร่างไร้วิญญาณ

 

“เป็นยังไงบ้าง?” ภรรยาของเขาถาม

 

“ไม่ได้เป็นอะไร ฉันไปนอนก่อนนะ” เขาเดินเข้าไปในห้องและขดตัวอยู่บนเตียงนอน เขาเงยหน้ามองเพดานและคิดถึงเรื่องบางอย่าง

 

โอ๊ะ! เขาปวดท้องขึ้นมาอีกครั้ง เขาเดินไปเข้าห้องน้ำและพบว่าตัวเองถ่ายออกมาเป็นเลือด เมื่อออกมาจากห้องน้ำ เขาก็เดินไปที่ห้องที่พ่อของเขาอยู่

 

ชายชรานอนอยู่บนเตียง สภาพของเขาดูแย่มากเพราะอาการป่วยที่เป็นอยู่ ภายในห้องเล็กๆแห่งนี้ เขาไม่รู้เลยว่ามันนานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ทำความสะอาด ภายในห้องมีไฟหนึ่งดวง, กลิ่นเหม็นเปรี้ยว, และผ้าปูเตียงกับผ้าห่มที่ชำรุดทรุดโทรม พวกมันไม่ได้ซักมานานมากแล้ว

 

หวังเจ๋อเชิงยืนอยู่ข้างเตียงนอน

 

“พ่อ” เขาพูดเสียงเบา

 

“หืม มีอะไรเหรอ? แล้วหายดีรึยัง?” ชายชรารีบถามในทันทีที่เห็นว่าเป็นลูกชายของเขา

 

“ผมดีขึ้นแล้ว” หวังเจ๋อเชิงอยากจะร้องไห้ออกมา

 

แล้วเขาก็คุกเข่าลงไปที่พื้น

 

“พ่อ ผมผิดไปแล้ว” หวังเจ๋อเชิงพูด

 

“ไอ้หนู แกกำลังทำอะไร?” ชายชราที่นอนอยู่บนเตียงรีบลุกขึ้นมาทันที

 

“ผมมันอกตัญญู!” หวังเจ๋อเชิงตบหน้าและด่าทอตัวเอง “ผมผิดไปแล้ว”

 

“ได้ ได้” ชายชรารู้สึกสับสน เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของเขา ทำไมอยู่ๆเขาถึงได้ทำตัวแบบนี้กัน?

 

“ตั้งแต่นี้ไป ผมจะเป็นลูกที่ดีของพ่อนะ” หวังเจ๋อเชิงพูด

 

“ดี ดี” ชายชรารีบพูด

 

อยู่ๆเขาก็คิดได้ขึ้นมา ลูกชายที่เหลวแหลกกลับกลายเป็นคนดีขึ้นมา เพราะรู้สึกกลัวในบาปกรรม แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปนานแค่ไหน

 

ตอนกลางวัน หวังเย้าปิดคลินิกเร็วกว่าปกติ และได้บอกกับที่บ้านว่าเขาจะออกไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับเฉินหยิง

 

พวกเขาสั่งอาหารมาหลายจานมา มันไม่ได้พิเศษอะไร แต่ทั้งหมดล้วนมาจากธรรมชาติ ในเมื่อพวกเขาขับรถมา จึงไม่มีใครดื่มไวน์ และพูดคุยกับหลายๆเรื่อง

 

หลังจากเฉินหยิงขับรถจากไปแล้ว เจ้าของร้านก็เดินเข้ามาตบไหล่ของหวังเย้า

 

“แฟนของนายสวยดีนะ” เขาพูด

 

หวังเย้ายิ้ม “ไม่ใช่หรอกครับ เธอไม่ใช่แฟนผม”

 

ในคืนนั้น หวังยี่หลงไม่สามารถข่มตาหลับได้ ลูกชายของเขาทำตัวแปลกไป และเขาก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร

 

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เขาคิดอยู่แบบนั้นไปตลอดทั้งคืน

 

ส่วนหวังเจ๋อเชิงก็นอนไม่หลับเพราะรู้สึกไม่สบายท้อง เมื่อไปเข้าห้องน้ำ เขาก็ยังคงถ่ายออกมาเป็นเลือด แต่เขาก็ไม่ได้ก่นด่าอะไรออกมาเหมือนก่อนหน้านี้อีก เขารู้สึกกลัวและเสียใจ

 

เมื่อมองไปที่พ่อของเขา เขาก็รู้สึกว่า ในอดีตเขาได้ทำตัวไม่ดีต่อพ่อของเขาหลายอย่าง

 

คืนนั้นบนเนินเขาหนานชาน ฟืนที่เก็บจากบนเขากำลังลุกไหม้ หม้อต้มยามีน้ำแร่โบราณกำลังเดือดอยู่ภายใน ตานเซิน, หวูเว่ยจือ, ฟู่หลิง, เฉาเย้า, กานเฉา…ทั้งสมุนไพรถูกใส่ลงไปทีละตัว

 

กลิ่นของตัวยาลอยออกไปถึงแปลงสมุนไพร ซานเซียนผงกศีรษะขึ้นมองจากในบ้านสุนัขของมัน ต้าเซี่ยยืนนิ่งอยู่บนกิ่งไม้ราวกับรูปปั้น ค่ำคืนก็ผ่านพ้นไปเช่นนี้

 

ตอนเช้าตรู่ ท้องฟ้ามีสีเทาเล็กน้อย ราวกับถูกปกคลุมด้วยเส้นด้าย เฉินหยิงเดินทางมาที่คลินิกในตอนเช้า

 

“ขอบคุณนะคะ เซียนเชิง” เธอพูด

 

“ยินดีครับ” หวังเย้าพูด “พอเอากลับไปแล้ว ก็ให้เขากินยาเหมือนทุกทีนะครับ แล้วอีกไม่นาน ผมก็จะไปปักกิ่ง”

 

“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” เฉินหยิงพูด

 

เวลา 9 โมงเช้า ภายในหมู่บ้านที่เงียบสงบก็มีเสียงประกาศตามสายดังขึ้น มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับตึกอพาร์ทเมนต์ที่กำลังก่อสร้างขึ้นในตัวเมือง ชาวบ้านจึงพากันเดินไปที่ห้องประชุมเพื่อรับฟังข่าว

 

ในตัวเมืองตอนนี้ บริษัทของซุนเจิ้งหรงได้เริ่มการก่อสร้างอพาร์ทเมนต์แล้ว และชาวบ้านหลายคนต่างก็รู้ดี และมีหลายคนที่เดินทางไปดูสถานที่จริงมาแล้วมากกว่าหนึ่งครั้ง อพาร์ทเมนต์ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี และดำเนินการก่อสร้างโดยคนกลุ่มใหญ่ ราคาบ้านในตัวเมืองนั้นมีแต่จะสูงขึ้น ไม่มีลดลง ทุกคนจึงต่างพากันกังวล ดังนั้น เมื่อมีการประกาศเสียงตามสาย ทุกบ้านที่ได้ยินล้วนพากันออกมาฟัง

 

ในตอนนี้ ห้องประชุมได้อัดแน่นไปด้วยผู้คน

 

“เงียบหน่อย!” หวังเจียนหลี่พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

 

เดิมทีเรื่องนี้ควรจะวางไว้ก่อน เพราะน้องชายของเขาเพิ่งจะเสียชีวิตไป เขาจึงไม่อยากจะยุ่งกับงานนี้ แต่เมื่อได้รับสายจากซุนหยุนเชิง เขาก็จำเป็นต้องออกมาจัดการ

 

ชาวบ้านต่างพากันตั้งคำถาม บางคนก็ยินดีที่จะกรอกข้อมูลในทันที ส่วนบางคนก้ต้องการกลับไปคิดดูก่อน มันใช้เวลาหมดไปถึงหนึ่งวัน ดูเหมือนว่า หมู่บ้านจะไม่ได้ดูวั่นวายแบบนี้มานานมากแล้ว

 

แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ไปที่นั่น เช่น หวังเจ๋อเชิง เขาให้บอกภรรยาว่าเขาจะพาพ่อของเขาไปตรวจที่โรงพยาบาล หวังยี่หลงไม่ยอมไป แต่เมื่อลูกชายของเขาดึงดัน เขาจึงยอมไปโรงพยาบาล

 

มันมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น ทางแพทย์ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชายชรา แต่เลือกที่จะอธิบายสถานการณ์ของชายชราให้หวังเจ๋อเชิงฟังแทน

 

“มันไม่มีวิธีการที่ดีที่จะรักษาพ่อของคุณได้เลย” หมอพูด “ผมแนะนำให้พาเขากลับไปที่บ้าน ให้เขาได้กิน ดื่ม และรอ”

 

หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของหมอแล้ว หวังเจ๋อเชิงก็อึ้งไป มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? ฉันเพิ่งจะสำนึกได้ แต่กลับมาได้ยินเรื่องแบบนี้

 

พ่อของเขาอยู่ในระยะสุดท้าย ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เขาได้สติแล้ว แต่พระเจ้ากลับไม่ยอมให้โอกาสเขาได้แก้ตัว เขายืนร้องไห้เงียบๆอยู่ที่มุมๆหนึ่ง

 

หมอถอนหายใจออกมา “อย่าร้องเลยครับ ถ้าคุณลุงออกมาแล้วเห็นแบบนี้ เขาอาจจะสงสัยได้”

 

“ครับ ได้” หวังเจ๋อเชิงเช็ดน้ำตา

 

“เป็นยังไงบ้าง?” หลังจากออกมาแล้ว ชายชราก็ถามลูกชายของเขา

 

“มันไม่มีปัญหาอะไร แค่ตับของพ่อติดเชื้อเท่านั้น แล้วหมอก็ให้ยามาแล้วด้วย” หวังเจ๋อเชิงพูดในสิ่งที่เขาได้เตรียมเอาไว้

 

“อ้อ งั้นก็กลับบ้านกันเถอะ” พ่อของเขาพูด

 

หวังเจ๋อเชิงขับรถพาพ่อของเขากลับบ้าน ระหว่างทางเขาได้บอกให้ภรรยาทำของอร่อยๆเตรียมเอาไว้ ในตอนเย็น เขาอยู่คุยเป็นเพื่อนพ่อของเขาก่อนที่จะกลับไปที่ห้องของตัวเอง

 

ชายชราที่นอนอยู่บนเตียงนอนพร้อมกับผ้าคลุมเตียงผืนใหม่ เขายิ่งรู้สึกสับสนมากขึ้นไปอีก อยู่ๆลูกชายของเขาก็กลายเป็นคนดีขึ้นมา เขาพาฉันไปโรงพยาบาล แล้วยังทำอาหารให้ฉันกินด้วย เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ

 

ภรรยาของหวังเจ๋อเชิงไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆสามีของเธอถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้

 

“สองวันนี้เป็นอะไรไปเหรอ?” เมื่อนอนอยู่ด้วยกันในห้องสองคน ภรรยาของเขาก็ถามขึ้นมา

 

“อะไรเหรอ?” หวังเจ๋อเชิงถาม

 

“ฉันรู้สึกว่า สองวันนี้มานี้พี่ดูแปลกไปน่ะสิ” ภรรยาของเขาพูด

 

“เธอหมายถึง เรื่องที่อยู่ดีๆฉันก็ทำตัวดีกับพ่อขึ้นมาน่ะเหรอ?” หวังเจ๋อเชิงถาม

 

ภรรยาของเขาตอบด้วยท่าทีลังเล “เอ่อ ใช่”

 

“ฉันเคยทำตัวไม่ดีมาก่อน และไม่เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง ตอนนี้ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว แต่มันก็สายเกินไป” หวังเจ๋อเชิงพูด

 

“ทำไมถึงคิดว่ามันสายเกินไปล่ะ?” ภรรยาของเขาถาม

 

“พ่อป่วยระยะสุดท้ายแล้ว” หวังเจ๋อเชิงพูด

 

ภรรยาของเขาตกใจ “รักษาไม่ได้แล้วเหรอ?”

 

“รักษาไม่ได้แล้ว” หวังเจ๋อเชิงพูด

 

“พี่คิดจะพาพ่อไปรักษาที่ตัวจังหวัดไหม?” ภรรยาของเขาถาม

 

“ฉันขอคิดดูก่อน พรุ่งนี้ฉันจะลองเข้าตัวจังหวัดดู แล้วจะเอาผลตรวจของพ่อไปด้วย ถ้าพวกเขามีทาง ฉันก็จะพาพ่อไปที่นั่น!”

Elixir Supplier

Elixir Supplier

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1-742 คลิกเพื่ออ่าน


ในหมู่บ้านที่ห่างไกล มีบ้านอยู่บนเนินเขาเพียงไม่กี่หลัง กลับดึงดูดผู้คนจากที่ห่างไกลพร้อมรถหรูราคาแพงให้เดินทางมาที่นี้ เพราะในเมืองมีชายหนุ่มที่สามารถรักษาได้ทุกโรคด้วยความสามารถทางการแพทย์อันน่าเหลือเชื่อ

Options

not work with dark mode
Reset