Crazy Leveling System 270

ตอนที่ 270

CLS ตอนที่ 270: อัจฉริยะ!

 

สถานการณ์ที่อี้เทียนหยุนรู้คร่าวๆ ก็เป็นอย่างที่ผู้อาวุโสใหญ่พูด นิกายเทียนเฉวียนนี้เป็นสำนักที่ราชาวิญญาณเซวียนเทียนสร้าง เป็นสายเลือดเดียวกับวังเทียนจี๋ ยังไงก็ตาม นี่ก็ไม่อาจบอกว่าเป็นสำนักเดียวกัน ถึงยังไงทุกอย่างก็เหมือนกับคนละสำนักอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาเป็นประมุข นี่จึงต่างออกไป

 

แม้ว่าวังเทียนจี๋จะตกต่ำ แต่ก็พอจะมีพื้นหลังอยู่บ้าง อย่างเช่นสถานที่ฝึกฝน วังเทียนจี๋เมื่อเทียบกับซากโบราณสถานเทียนเฉินแล้วแข็งแกร่งกว่ามาก ดังนั้น ถ้าสามารถรวมกันได้ก็เป็นเรื่องดี เพราะจะช่วยทำให้นิกายเทียนเฉวียนแข็งแกร่งขึ้นอย่างใหญ่หลวงในทันทีทันใด

 

จากนั้น อี้เทียนหยุนก็จัดการเรื่องของตนในช่วงสองสามวันนี้ ไม่ว่าจะเรื่องที่เขาเป็นประมุขของวังเทียนจี๋ เรื่องนี้เขายังต้องมีการพูดกับพวกชิเสวี่ยอวิ๋น

 

“ตอนนี้ข้าเป็นประมุขของวังเทียนจี๋ ซึ่งมีสายเลือดเดียวกันนิกายเทียนเฉวียน แต่นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องสำคัญคือเราจะรวมสองสำนักเข้าด้วยกัน แต่ข้าไม่คิดที่จะรวมเข้าด้วยกันโดยมสมบูรณ์ นี่คือสิ่งที่ข้าคิด” อี้เทียนหยุนหยุดคิดแล้วพูดขึ้นว่า “วังเทียนจี๋จะยังคงรับศิษย์ตามเดิม แต่จะเน้นหนักไปทางศิษย์ผู้หญิง ไม่ทราบว่าทุกคนมีความคิดยังไงกันบ้าง?”

 

ในห้องโถง ผู้อาวุโสและผู้จัดการทั้งหลายล้วนอยู่ที่นี่ เมื่อได้ยินคำพูดของอี้เทียนหยุน พวกเธอก็พากันตกใจ ไม่คิดว่าแค่ไม่ได้เจอกันสักพัก อี้เทียนหยุนจะกลายเป็นประมุขของขุมอำนาจชั้น 3 แล้ว นี่ทำให้พวกเธอรู้สึกตกใจจริงๆ

 

“ความคิดนี้ ถ้าจะให้รวมเข้าด้วยกันเลย ข้าย่อมไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน” คนที่พูดนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นอี้อวี่เหว่ย เธอคิดสักพักแล้วพูดขึ้นมาว่า “เหตุผลก็ง่ายมาก แม้ว่าผู้อาวุโสอี้จะเป็นประมุขของทางฝั่งนั้น แต่มากคนก็ยิ่งมากความ ไม่ดีที่จะทำอย่างนี้ โดยเฉพาะตอนนี้ยิ่งง่ายที่จะเกิดความวุ่นวาย ยังไงก็ตาม ประโยคที่ว่าแยกกันนั้นถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะสามารถแยกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ ฝึกวิชาที่พิเศษเฉพาะของตนไป”

 

“อืม ข้าเห็นด้วยกับความคิดของผู้อาวุโสห้า ถ้าจะให้รวมกันจริงๆ ข้าก็จะเชื่อฟังคำสั่งของผู้อาวุโสอี้ แต่ยังไงก็ตาม สำนักทั้งสองก็ถือว่าเป็นสำนักเดียวกันอยู่แล้ว ในเมื่อแยกกันแล้วก็ไม่เห็นจะต้องรวมกันใหม่ จัดการสำนักใครสำนักมัน” ผู้อาวุโสโม่อวี่พูด

 

อี้เทียนหยุนมองไปที่ชิเสวี่ยอวิ๋น ไม่รู้ว่าชิเสวี่ยอวิ๋นจะคิดยังไง?

 

“ข้าก็คิดแบบนี้เช่นกัน ต่อให้ทางนั้นจะเป็นสำนักของท่านบรรพชนก็ตาม แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว พวกเรามีก้าวเดินของพวกเรา ข้าเชื่อมั่นว่าพวกเราจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่ง!” ชิเสวี่ยอวิ๋นพูดสรุปออกมา “พวกเราจะแบกรับชื่อเทียนเฉวียนนี้ เพื่อประกาศให้โลกหล้าได้รู้!”

 

อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่มันแน่นอนอยู่แล้ว นี่ก็เหมือนกับการพัฒนาสองสำนักร่วมกัน ไม่ถือว่าเป็นอะไร ถึงยังไงก็ทั้งสองสำนักก็แบ่งปันทรัพยากรร่วมกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จะรวมหรือไม่รวมก็ไม่ใช่ปัญหา”

 

ที่พวกเธอสนใจคือกลัวว่าชื่อนิกายเทียนเฉวียนจะหายไป พวกเธอเป็นคนของนิกายเทียนเฉวียน ไม่ใช่วังเทียนจี๋! ต่อให้วังเทียนจี๋จะเป็นสำนักของท่านบรรพชน แต่ก็เป็นเรื่องแต่เก่าก่อน ตอนนี้มันต่างไปแล้ว ไม่มีใครต้องการเปลี่ยนชื่อ แม้จะรู้ความจริงแล้วก็ตาม

 

“งั้นก็ตกลงตามนี้ เราจะแบ่งสำนักเป็นสอง หนึ่งคือวังเทียนจี๋ อีกหนึ่งคือนิกายเทียนจี๋ เรียกรวมกันว่าวังชวงหลง(มังกรคู่) เป็นยังไง?” อี้เทียนหยุนคิดชื่อประหลาดๆ ขึ้นมา วังชวงหลง มีความหมายว่าสำนักทั้งสองล้วนแต่เป็นมังกร หนึ่งมังกรที่เขย่าคลอนพิภพ อีกหนึ่งมังกรที่เขย่าคลอนนภา!

 

“ไม่มีปัญหา!”

 

พวกเธอพากันพยักหน้ารับ ที่พวกเธอต้องการก็คืออิสระ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นเรื่องที่น่าพึงพอใจมาก สามารถรักษาชื่อเทียนเฉวียนสองตัวนี้ไว้ได้ เรื่องอื่นพวกเธอล้วนไม่มีปัญหา

 

“ดี งั้นเรื่องนี้ถือเป็นสิ้นสุด” อี้เทียนพยุนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “แต่ว่าตอนนี้คงยังคงเคลื่อนย้ายไม่ได้ รอให้ซากโบราณสถานเทียนเฉินฟื้นคืนสภาพเหมือนอย่างเก่าก่อนก่อน จากนั้นถึงจะมีเคลื่อนย้ายอย่างเป็นทางการ! เมื่อถึงตอนนั้น ที่นี่จะไม่ใช่ซากโบราณสถานอีก แต่จะเป็นวิหาร วิหารเทียนเฉวียนของพวกเรา!”

 

“ซากโบราณสถานเทียนเฉินสามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยเหรอ?” พวกเธอพากันตกใจ สิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตขนาดนี้สามารถเคลื่อนย้ายได้จริงๆ?

 

“แน่นอน ไว้ถึงเวลาพวกท่านจะรู้เอง” อี้เทียนหยุนยิ้ม แต่ไม่บอกรายละเอียดออกไป

 

ตอนนี้ยังไม่มีหนทางที่จะฟื้นคืนค่ายกลบิน แต่หนทางก็อีกไม่ไกลแล้ว แต่ถึงจะฟื้นฟูได้ เขาก็ไม่คิดที่จะเคลื่อนย้ายในทันที สถานการณ์ในตอนนี้ค่อนข้างวุ่นวาย อยู่ที่นี่ยังปลอดภัยซะกว่า ไว้ระดับของเขาสูงกว่านี้ แข็งแกร่งพอเมื่อไหร่ ตอนนี้ค่อยเคลื่อนย้ายก็ยังไม่สาย!

 

หลังจากพูดคุยกันแล้วเสร็จ อี้เทียนหยุนเริ่มจัดการซากโบราณสถานเทียนเฉิน สร้างสิ่งสำคัญ นั่นก็คือสร้างค่ายกลในหอคอยเทียนหลิง เขาคิดว่านี่จะเป็นตัวช่วยฝึกฝนสำคัญสำหรับศิษย์ ดังนั้นจึงเริ่มจัดการในทันที

 

 

ขณะที่เขากำลังสร้างค่ายกลอยู่นั้น เขาก็สังเกตเห็นว่ามีคนเดินเข้ามา และเมื่อหันไปดู เขาก็พบว่าเป็นจิ่วหลิงจวิน เขาจึงส่งยิ้มให้เธอแล้วพูดขึ้นว่า “น้องสาวจิ่ว สบายดี?”

 

จิ่วหลิงจวินตอบกลับด้วยรอยยิ้มอายๆ “พี่ใหญ่อี้….. ขอโทษที่ข้ามารบกวน ข้าเห็นท่านกำลังสร้างค่ายกลที่นี่ ข้าคงไม่ได้มารบกวนท่านใช่ไหม?”

 

“รบกวนที่ไหนกัน ถ้าอยากจะดูก็มา คอยดูและจดจำไว้” อี้เทียนหยุนบอกให้เธอเข้ามาดูใกล้ๆ ได้ จากนั้นก็อธิบายว่า “ตอนนี้ข้ากำลังสร้างค่ายกลวิญญาณ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังวิญญาณ สามารถเพิ่มความเร็วการฝึกฝน ช่วยให้ศิษย์ที่ฝึกฝนด้านการสร้างค่ายกลให้ฝึกฝนได้ดีขึ้น!”

 

“นี่มันยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยเหรอ!?” จิ่วหลิงจวินตื่นเต้น “ก่อนหน้านี้ข้าเคยพยายามแต่ก็ล้มเหลวอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็สามารถสร้างส่วนเล็กๆ ออกมาได้…. พี่ใหญ่อี้จะช่วยข้าดูได้หรือเปล่า?”

 

“เรื่องนี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” อี้เทียนหยุนคิดอย่างประหลาดใจ

 

อย่างรวดเร็ว จิ่วหลิงจวินก็พาเขาเข้าไปในห้อง ที่นี่ได้มีค่ายกลสลักไว้เรียบร้อยแล้ว ดูแล้วเป็นธรรมชาติมาก อย่างรวดเร็ว จิ่วหลิงจวินก็เปิดใช้งานค่ายกล ค่ายกลส่งแรงกดดันออกมา ช่วยเพิ่มความเร็วในการดูดซับพลังวิญญาณ เทียบกันแล้วคล้ายกับของเขามาก เพียงแต่ผลลัพธ์ออกจะด้อยกว่ากันอยู่หลายขั้น เพราะมันไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้

 

ยังไงก็ตาม นี่ก็ทำให้อี้เทียนหยุนตกใจอย่างมาก นี่เป็นสิ่งที่เธอฝึกฝนด้วยตัวเอง! อัจฉริยะ อัจฉริยะอย่างไม่ต้องสงสัย!

 

“น้องสาวจิ่ว เจ้านี่ช่างร้ายกาจจริงๆ!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างตกใจ “เจ้าสามารถลองจนพบผลลัพธ์แบบนี้ได้ ยอดเยี่ยมมาก!”

 

“จริงเหรอ!” จิ่วหลิงจวินที่ได้รับคำชมก็พลันหน้าแดง พูดอย่างอายๆ ว่า “ข้าก็กลัวว่าพี่ใหญ่อี้จะคิดว่าน่าตลก…..”

 

“กลัวอะไรกัน เจ้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์แข็งแกร่งมาก!” อี้เทียนหยุนคิดแล้วพูดขึ้นมาว่า “มา ข้าจะสอนเรื่องนี้ให้ อย่างเช่นตรงนี้ต้องปรับปรุง แต่ตรงนี้ไม่ต้อง….”

 

เขาเริ่มสอน ขณะที่จิ่วหลิงจวินก็มองดูอย่างตั้งใจ ตั้งใจมาก

 

“ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง พี่ใหญ่อี้ ขอบคุณ!” จิ่วหลิงจวินยิ้มสดใส บนใบหน้าที่ดูแล้วธรรมดา กลับมีรอยยิ้มที่น่าดึงดูดประดับอยู่

 

อี้เทียนหยุนที่ได้เห็นก็ตกใจ รอยยิ้มที่มาจากใจ ช่างเป็นรอยยิ้มที่งดงามและเจิดจ้าอย่างแท้จริง

 

“ติ๊ง ท่านสำเร็จภารกิจลับ “ฝึกฝนนักบุญหญิงให้แข็งแกร่ง” สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 1 ล้าน, ค่าความคลั่ง 50,000, ค่าความดี 100, ความชำนาญในการสลักอาคม 1,000!”

 

อี้เทียนหยุนตกใจ ภารกิจลับอยู่ๆ ก็เด้งขึ้นมา ดูเหมือนว่าการสอนเธอให้แข็งแกร่งขึ้น จะทำให้เขาสำเร็จภารกิจนี้

Crazy Leveling System

Crazy Leveling System

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 536 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


บ่มเพาะไม่ได้เพราะเส้นลมปราณพิการอย่างงั้นเหรอ? ไม่ใช่ปัญหา! เพราะมีระบบเพิ่มเลเวลแสนบ้าคลั่งอยู่ เจ้าแค่ทำภารกิจ สังหารสัตว์อสูร ดูดกลืนพลังวิญญาณของคนอื่น หลอมยา หรือสลักอาคม แค่นี้เจ้าก็ได้ค่าประสบการณ์แล้ว!

อะไรนะ! ค่าประสบการณ์ที่ได้มันต่ำไปอย่างงั้นเหรอ? อย่าได้กลัว เพราะข้ามีบัตรประสบการณ์ x2 หรือแม้กระทั่งบัตรประสบการณ์ x10 แค่นี้ค่าประสบการณ์ของเจ้าก็จะพุ่งทะยานราวกับพลุระเบิดแล้ว!

น่าขัน อัจฉริยะ นายน้อยตระกูลใหญ่ จักรพรรดิผู้ครองอาณาจักร หรือกระทั่งอัจฉริยะที่พันปีจะมีสักครั้งอย่างงั้นเหรอ? เมื่ออยู่ต่อหน้าระบบเพิ่มเลเวลแสนบ้าคลั่งนี้ พวกมันล้วนถูกทิ้งห่างไปไกล!

“เฮ้ย นี่ข้าเลเวลอัพอีกแล้วเหรอ?” อี้เทียนหยุนที่ตื่นขึ้นมาและพบว่าเลเวลของเขาได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง……


Options

not work with dark mode
Reset