Carefree Path of Dreams 30: นกวิญญาณ

ตอนที่ 30: นกวิญญาณ

ฟางหยวนมองไปเบื้องหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความหลงใหล

แม้จะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำที่สุดก็ยังเป็นสมบัติชั้นเลิศ และแน่นอนว่า ของดีย่อมมาพร้อมอันตรายเช่นกัน

หญ้าและดอกไม้วิญญาณเหล่านี้นั้นมีสัตว์วิญญาณมากมายคอยดูแลปกปัก ยกตัวอย่างเช่นการปะทะกันก่อนหน้านี้กับงูจูเหว่ยซึ่งคุ้มครองหญ้าพิษมังกร ย่อมจะมีสัตว์ร้ายมากมายอยู่รอบ ๆ พืชวิญญาณเหล่านั้นเช่นกัน

“ไม่เข้าถ้ำเสือ ไหนเลยจะได้ลูกเสือ ถูกไหม?”

ฟางหยวนกัดฟัน มีท่าทีตัดสินใจแน่แล้ว  “ฮวาหูเตียว นำทาง!”

ฮวาหูเตียวเข้ามาที่นี่บ่อยครั้ง และก่อนหน้านี้หลายครั้งที่เข้ามาที่นี่ก็ปลอดภัยดี ตราบเท่าที่ฟางหยวนคอยระวังหมอกพิษนี่ เขาก็ย่อมปลอดภัยดีเช่นกัน

“กิกี๊!”

ฮวาหูเตียวนั้นฉลาดนัก สามารถนำทางอยู่ด้านหน้าขณะที่ฟางหยวนตามหลังมา เพ่งพลังภายในของตนไปที่หูทั้งสองข้างเพื่อคอยฟังสัญญาณอันตรายที่อาจจะมีจากรอบด้าน

หมอกพิษนั้นไม่มีผลกระทบเช่นก่อนหน้าอีกต่อไปแล้วตั้งแต่ฟางหยวนระลึกได้ถึงคำสอนของท่านอาจารย์และใช้สมาธิเดียวกับการทำพิธีชงชา

ไม่นานนัก หมอกภูเขาเหล่านี้ก็จางหายไป ทิวทัศน์เบื้องหน้าปรากฏให้เห็น

“นั่นมัน…”

ฟางหยวนมองภาพเบื้องหน้าแล้วได้แต่อึ้งไป

ในครรลองสายตา เขามองเห็นเนินเขาเตี้ย ๆ เขียวชอุ่มปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว ราวกับท้องฟ้ามีม่านปกคลุมไว้ และเมื่อเขาเข้ามาด้านในแล้ว ท้องฟ้ากลับเป็นสีแดงเลือด และภาพพระอาทิตย์อัสดงช่างงดงามจับตา

“กำแพงหมอกนั่นสามารถปกคลุมทั่วทั้งยอดเขาได้เลยหรือ?”

ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจ และถ้าไม่เพราะฮวาหูเตียวที่นำทางเขามาตลอด เขาคงจะถูกลวง หลงทางไปก่อนแล้ว

สถานที่นี้ช่างลึกลับกว่ามากเมื่อเทียบกับหุบเขาสันโดษของเขา

“ฮู่…”

“เดี๋ยวนะ!”

ฟางหยวนสูดลมหายใจลึกแล้วรู้สึกแปลก ๆ

“ขนาดอากาศที่นี่ยังสดชื่นกว่าและยังเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังชีวิต… มนุษย์สามารถมีชีวิตยืนยาวขึ้นได้อีกถ้าอาศัยอยู่ที่นี่ และถ้าฝึกวิชายุทธ์ที่นี่ ก็น่าจะมีความก้าวหน้าอย่างน่ามหัศจรรย์เลย!”

ฟางหยวนตาเป็นประกาย “วัดจากพลังเวทย์ที่สัมผัสได้ ที่นี่ย่อมเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!”

ฟางหยวนรู้สึกราวกับตนได้ชนะรางวัลสูงสุด

แต่ ณ ตอนนี้ เขายังคงใจเย็น ตามฮวาหูเตียวตรงไปที่ยอดเขาเขียวขจี

ที่ด้านหลังยอดเขาเขียวเป็นสันเขาแห้งระแหง มีจุดสีดำ ๆ มากมาย ขณะที่ท้องฟ้าก็มืดลง ก็ยิ่งมองเห็นได้ยากขึ้น

ฮวาหูเตียวตื่นตัวขึ้นกว่าเดิม โบกเท้าหน้าไปมาและเงียบไม่ส่งเสียง

ฟางหยวนหายใจลึกและตามมันไปที่ตีนหน้าผา

“เอ๋? นี่คือ..”

ที่ใต้หน้าผาเป็นทะเลสาบเล็ก ๆ น้ำในทะเลสาบเป็นสีเขียวราวหยก รอบ ๆ ทะเลสาบเป็นทรายสีขาวล้วน

ที่ตีนหน้าผา กลิ่นของปุ๋ยวิญญาณลอยอวลตลบ และเขาก็ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อมองเห็นหาดทรายเบื้องหน้า

“ ‘หาดทราย’ นี่… มันคือปุ๋ยวิญญาณทั้งหมดเลย เยอะมาก… ปุ๋ยวิญญาณเยอะถึงเพียงนี้!”

เขาพึมพำกับตัวเอง และรู้สึกยินดีเกินบรรยายออกมาเป็นคำพูด

เขารู้แล้วว่าปุ๋ยวิญญาณนั้นเป็นเช่นไร มันเป็นเกล็ดใส และอยู่ทั่วไปบนหาดทราย มีร่องรอยหลุมที่ถูกขุดโดยสัตว์บางชนิด และเกล็ดพวกนี้ก็ยิ่งใสกระจ่างมากขึ้นที่ชั้นลึกลงไปในหาดทราย ชั้นบนสุดนั้นเป็นสีขาวบริสุทธิ์

“ดูเหมือนว่าปุ๋ยวิญญาณยิ่งใสกระจ่างยิ่งให้ผลดี… ข้าไม่รู้ว่าหาดทรายนี่เกิดขึ้นจากอะไร แต่ข้าเจอบ่อทองแล้ว!”

ดวงตาของฟางหยวนเป็นประกาย เขายกตะกร้าไม้ไผ่ออกมา ม้วนแขนเสื้อ และเตรียมเก็บปุ๋ยวิญญาณ

“แคว๊กกก!”

ในตอนนั้นเอง นกสีขาวตัวเท่ากำปั้น มีดวงตาสีแดง พุ่งลงมาเกาะที่ต้นไม้ใกล้ ๆ ก่อนจะเริ่มส่งเสียงร้องโกรธเกรี้ยว

เสียงร้องของมันก่อกวนนกตัวใหญ่ที่ด้านข้าง ที่มีขนาดตัวใหญ่กว่ามันประมาณ 10 เท่า คล้ายนกอินทรีตัวใหญ่ มันบินตรงมาทางฟางหยวน

“หืม? นกวิญญาณอีกชนิด ที่นี่ชักนำให้เกิดสิ่งพิเศษเต็มไปหมด!”

ฟางหยวนยังคงใจเย็น มือขวายกขึ้นมาเป็นกรงเล็บ และด้วยความเร็วราวสายฟ้าแลบ “กรงเล็บอินทรี!”

“ฟุ่บ!”

ท่ามกลางเสียงร้องสั้น ๆ ขนนกสีขาวจำนวนมากกระจายออกไปรอบ ๆ

นกตัวใหญ่นี่น่าจะเป็นสัตว์กลายพันธุ์เท่านั้น กึ่งสัตว์วิญญาณ ไม่ใช่สัตว์วิญญาณจริง ๆ เสียทีเดียว ดังนั้นจะเป็นคู่มือฟางหยวนได้อย่างไร?

เพียงแค่ตวัดมือทีเดียว กรงเล็บอินทรีของฟางหยวนก็ตัดคอมันขาด

“ฮ่า ฮ่า… ฮวาหูเตียว พวกเรามีกับข้าวมื้อเย็นเพิ่มอีกอย่างแล้ว!”

ฟางหยวนโยนนกวิญญาณนั่นเข้าไปในตะกร้าไม้ไผ่ก่อนจะยิ้มให้ฮวาหูเตียว

แต่ถึงตรงนี้ ฮวาหูเตียวกลับกระโดดเข้าใส่ฟางหยวน และดึงเสื้อเขา ขณะที่มันออกวิ่งไม่คิดชีวิต

“นี่..”

เห็นท่าทางของมัน คงต้องเป็นเพราะมันสามารถสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่อันตรายเป็นที่สุดกำลังจะมาถึง ขนของมันลุกชัน

ฟางหยวนตัดสินใจไม่สนใจปุ๋ยวิญญาณแล้วในตอนนี้ ยกตะกร้าไม้ไผ่ขึ้นแล้วหายตัวไปราวกับสายลม

“แกว๊ก!”

ที่ด้านหลัง เสียงร้องของนกสีขาวตัวจิ๋วดังมากขึ้น

“แกว๊ก!”

“แกว๊ก!”

นกทั้งหมดที่อยู่รอบ ๆ บริเวณนั้นเริ่มกรีดร้อง แต่ละตัวกระพือปีกและโฉบลงมา เป็นนกสีขาวตาสีแดงแบบเดียวกับที่ปะทะกันก่อนหน้านี้

“ฟ่อ…”

ฟางหยวนรู้สึกสยองกับความแสนรู้ของพวกมัน และเปลี่ยนเป็นส่งพลังภายในไปที่ขา วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต

เขาต้องเผ่นแล้ว!

ที่ด้านหลังนั่น นกสีขาวตาสีแดงพวกนั้นบินเกาะกลุ่มกันเต็มท้องฟ้าไปหมด!

ด้วยจำนวนของพวกมันแล้ว ต่อให้พวกมันเป็นแค่นกกึ่งสัตว์วิญญาณ สัตว์วิญญาณจริง ๆ ก็ยังสู้พวกมันไม่ได้!

ฮวาหูเตียวก็เผ่นป่าราบเช่นกัน

“ในที่สุดข้าก็รู้แล้วว่าทำไมฮวาหูเตียวถึงไม่อยากให้ข้ามาที่นี่!”

ฟางหยวนวิ่งพลาง ความคิดในหัวแล่นเร็วจี๋ “ด้วยจำนวนของพวกมัน คนธรรมดา ๆ คนหนึ่งคงไม่สามารถวิ่งหนีได้ทัน แล้วก็คงถูกจิกจนตาย!”

“เข้าไปในหมอก!”

เขาเป็นคนที่ตัดสินใจได้เร็ว และเลือกที่จะวิ่งเข้าไปในกำแพงหมอก

นกพวกนั้นไล่หลังมาจากทางด้านบน และแม้ว่าฟางหยวนจะเริ่มออกตัวก่อนและยังมีพลังภายในคอยช่วย เขาก็ยังไม่สามารถหนีได้ทัน และความหวังเดียวก็คือเข้าไปซ่อนในป่าทึบหรือในหมอกเพื่อสลัดนกพวกนั้นทิ้ง

“ฟุ่บ!”

ฮวาหูเตียวไม่ได้โกหกฟางหยวน

ด้วยความเร็วปัจจุบันของเขา เขาหายตัวเข้าไปในหมอกทันทีที่นกขาวตาแดงพวกนั้นรวมตัวกับเป็นกลุ่มใหญ่ก่อนจะเริ่มต้นไล่ตามมา

“แกว๊ก!”

เมื่อหาตัวฟางหยวนผู้เป็นฆาตกรฆ่าเพื่อนของพวกมันไม่เจอ นกกลุ่มใหญ่ก็ทำได้แค่บินวนรอบภูเขาและกรีดร้องด้วยความเศร้าโศก… ซึ่งเสียงนั่นก็น่าจะได้ยินไปทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์นี่

หลังจากระบายความโกรธแล้ว นกพวกนั้นก็กลับไปที่รังที่อยู่บนยอดหน้าผา และค่อย ๆ เงียบเสียงลง

“ฟู่…”

ฟางหยวนถอนหายใจอย่างโล่งอกและไม่กล้าแม้แต่จะไปกระตุ้นนกพวกนั้นสักนิดอีกครั้ง เขาค่อย ๆ ถอยออกจากที่นั่น

 

ที่ด้านนอก

หลังจากได้สัมผัสกับไอวิญญาณที่ด้านในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว ฟางหยวนก็รู้สึกว่าโลกภายนอกนั้นช่างเหลือทน ทั้งฟ้าและดินล้วนสกปรก

ทั้งที่จริงแล้วสภาพแวดล้อมที่รอบ ๆ เทือกเขาชิงหลิงนั้นค่อนข้างดีมาก แต่เขาก็ยังคงรู้สึกเช่นนั้นเมื่อเทียบกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี่

“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์!”

ฟางหยวนกวาดตามองผืนดินที่ถูกปกคลุมด้วยหมอก และรู้สึกตื้นตัน “ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดนี่เป็นของข้า!”

เขาไม่มีเหตุผลให้ไม่รู้สึกเช่นนี้!

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินั้น โดยตัวมันเองก็เป็นขุมสมบัติกองมหึมา ใครเลยจะรู้ว่าพืชวิญญาณอื่น ๆ ตั้งมากอาจจะถูกซ่อนอยู่บนเทือกเขาขจีนั่น แล้วยังปุ๋ยวิญญาณ ทั้งหมดนี่ก็เพียงพอให้ฟางหยวนน้ำลายหกแล้ว

“แล้วยังนกวิญญาณ… ช่างตัวใหญ่นัก ราชาของนกพวกนั้นคงต้องเป็นสัตว์วิญญาณตัวหนึ่งแน่ ๆ และอาจจะมีระดับสูงกว่าฮวาหูเตียวด้วย!”

ความปรารถนายิ่งใหญ่ของฟางหยวนก็คือจับจองเทือกเขาขจีนั่นมาเป็นของเขา จากนั้นก็ย้ายต้นชาวิญญาณและข้าววิญญาณมาที่นี่

ไม่มีอะไรในหุบเขาสันโดษจะเทียบดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี่ได้เลย!

“น่าเสียดาย… ข้ายังไม่แข็งแกร่งพอ…”

ฟางหยวนย่นคิ้ว “กับนกจำนวนมหาศาลพวกนั้น ข้าเกรงว่าแม้แต่อู่จงเองก็คงสู้ไม่ไหว?”

เมื่อคิดถึงจุดนี้ เขาก็มองไปที่ตะกร้าไม้ไผ่

นอกจากปุ๋ยวิญญาณนิดหน่อยแล้ว ก็ยังมีรางวัลจากการต่อสู้ของเขา!

“ฮ่าฮ่า.. ฮวาหูเตียว มิใช่ว่าเจ้าบ่นว่าไก่ขอทานนั่นไม่ดีพอหรอกหรือ? คืนนี้พวกเรามีของอร่อยแล้วแหละ!”

ฟางหยวนตรวจสอบนกวิญญาณที่ในมืออย่างระมัดระวัง

ขนของมันขาวราวกับหิมะ แต่ดวงตามีสีแดงเลือด และยังมีกรงเล็บที่เป็นประกายราวกับโลหะล้ำค่า และที่เหนือกว่านั้น จะงอยปากคมกริบ ดูราวกับเป็นอินทรีตัวจิ๋วเลย

หลังจากรับมือกับนกวิญญาณนี่ ฟางหยวนก็รู้ว่ามันค่อนข้างแข็งแกร่ง

แม้ว่ามันเหมือนจะไม่สามารถรับมือกระบวนท่าเดียวของฟางหยวนได้ แต่ว่าฟางหยวนนั้นเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับประตูทองที่ 5 เทียบเท่ากับผู้ดูแลสำนักที่โลกด้านนอกนั่น

เมื่อคิดถึงความเร็วที่นกสีขาวตาแดงนี่ใช้จู่โจม ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไป จะงอยปากและกรงเล็บคงจะควักเอาลูกตาออกมาเป็นแน่!

“นกกลายพันธุ์นี่คือนกประเภทไหนกันนะ? ทำไมข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน? มันเรียกว่าอะไร? หงเอี่ยนอิง (เหยี่ยวตาแดง)? ป๋ายอี่อูยา (อีกาขาว)? หงเอี่ยนป๋ายเหนี่ยว (นกขาวตาแดง)?”

ฟางหยวนรู้สึกอยากตั้งชื่อให้มัน และก็ตัดสินใจ “อืม… นกหงเอี่ยนป๋ายฟังดูดีที่สุด ฮ่าฮ่า… ข้านี่มีพรสวรรค์ในการตั้งชื่อเสียจริง…”

โดยที่ไม่รู้เลยว่า หนูเตียวขาว ที่ถูกบังคับให้รับชื่อ ฮวาหูเตียว รู้สึกหมดคำพูดและได้แต่กลอกตามอง

แน่นอนว่า มันก็รู้สึกไม่ยุติธรรมเพียงแค่ครู่เดียว

ฮวาหูเตียวโยนความภาคภูมิใจทั้งหมดที่มีทิ้งไปเมื่อมันเห็นฟางหยวนทำไก่ขอทานโดยใช้นกนั่น มันเดินวนรอบฟางหยวนเหมือนสุนัขพยายามทำให้เจ้าของพอใจ

“นี่มันเกินไปแล้ว เจ้าเป็นหนูเตียว ไม่ใช่สุนัข ทำท่าให้เหมือนกับเป็นหนูเตียวแล้วก็มีศักดิ์ศรีของหนูเตียวบ้างสิ!”

ฟางหยวนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีกับเหตุการณ์ตรงหน้า ได้แต่ฉีกนกขอทานออกครึ่งหนึ่งโยนให้ฮวาหูเตียว

“กิกี๊!”

ฮวาหูเตียวกระโจนเข้าใส่ กัดกร้วมลงไป ก่อนจะส่งเสียงคำรามด้วยความพอใจ

สำหรับมันแล้ว ศักดิ์ศรีเล็ก ๆ น้อย ๆ จะมีค่าเท่าไรเชียวเมื่อเทียบกับอาหารดี ๆ?

“อืม? อร่อยขนาดนั้นเชียวหรือ?”

มองฮวาหูเตียวแล้ว ฟางหยวนก็เริ่มกินนกในมือ ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนไป

“เนื้อนกนี่เหนียวนุ่มกว่าเนื้อไก่ แล้วยังหอมและอร่อย อร่อยกว่า! อร่อยมาก!”

เขาเขมือบนกย่างลงไป ลูบท้องด้วยความพอใจและรู้สึกถึงความอบอุ่นเพิ่มขึ้นในร่างกายเขา สีหน้าเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง “ระดับคุณค่าทางอาหารน่าจะเทียบได้กับเมื่อกินข้าวหยกแดงเลยใช่ไหมนี่? ก็เป็นสิ่งที่นกวิญญาณควรคู่แหละนะ!”

 

Carefree Path of Dreams

Carefree Path of Dreams

Score 10
Status: Completed

บทนำ

นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตสันโดษอยู่บนภูเขา ปลูกพืช เลี้ยงปลา และฝันถึงความฝันของเขา

เอ๋?

จู่ ๆ ข้าก็ออกไปพิชิตทั่วหล้าและกลายเป็นผู้ครองโลกเหรอ?

หรือว่าข้ายังอยู่ในความฝันกันแน่?

Options

not work with dark mode
Reset