“ศิษย์พี่หลิวตอนนี้เราควรทำอะไรกันดี?” หลิงหนิงหยุนนั่งกับพื้นพร้อมกับเหล่าสาวกที่คอยติดสอยห้อยถามเธอยังยังคาเฟ่ทุกวัน วันนี้พวกเขาพบเจอชะตากรรมที่คล้ายคลึงกันคืออดไปทั้งแก๊ง!
“สิ่งของในร้านนั้นทุกสนุกและมีประสิทธิภาพมาทำไมเราไม่ไปที่นั่น?” สาวกหญิงคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ใช่ ข้ารู้สึกเหมือนกันฝึกฝนของข้าพัฒนาขึ้นมาก” อีกคนหนึ่งเอ่ยความเห็น
“ปัญหาก็คือเราไม่มีข้อพิสูจน์” หลิวหนิงหยุนกล่าว “นอกจากนี้หากเราอธิบายให้อาจารย์ฟัง เขาอาจคิดว่าเราเสียสติไปแล้วก็ได้จากการฝึกฝนด้วยสิ่งอื่นแทนที่จะฝึกฝนในที่ของเรา”
“งั้นเราควรทำอะไรตอนนี้?” ทั้งหมดถามด้วยเสียงเศร้า
“ข้าไม่รู้ ..” หลิวหนิงหยุนตอบด้วยสีหน้าหมอง
…
ความจริงแล้วสิ่งต่างๆ ไม่ได้ดูกลมกลืนอย่างที่ตาเห็นเช่นคนกลุ่มใหญ่นี้ ไม่กี่คนนักที่รู้ว่าหลิวหนิงหยุนกำลังทำอะไรเพราะเหตุผลใด ซึ่งนั่นเป็นคำถามที่คนกลุ่มย่อยในสำนักเดียวกันอย่างรู้อยากเห็น
“ข้าได้ยินข่าวลือจากภายนอกว่านางฟ้าหลิวหนิงหนุนพ่ายแพ้โดยชายหนุ่มที่ปรากฎตัวออกมาจากที่ไหนไม่รู้”
“เป็นเรื่องจริงพี่อาวุโส” ผู้หญิงที่ยืนข้างๆ เธอมีท่าทางดูแก่กว่าหลิวหนิงหยุนเล็กน้อย “จากข่าวลือที่แพร่กระจายอยู่นอกกลุ่มของเรานั้น คาถาควบคุมสายฟ้าดูดุดันและน่ากลัวมีอำนาจราวกับเทพเจ้าแม้แต่แสงสวรรค์หนานหัวของเราก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้”
“ไร้สาระ!” หญิงสาวเยาะเย้ย “คาถาควบคุมสายฟ้า? มันมาจากไหน? ข้าไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน มันจะมาทำอะไรแสงสวรรค์ของเราได้อย่างไร”
“ข้าคิดว่าน้องหลิวคงยังไม่เข้าใจในแสงสวรรค์ของเราอย่างลึกซึ้งซึ่งนั้นนำพาความอับอายมาสู่เทคนิคขั้นสูงสุดของฝ่ายเรา .. อาจารย์กล่าวว่าเธอเป็นอิจฉริยะที่หายากในช่วงพันปีที่ผ่านมาของกลุ่มหนานหัว ข้าคิดว่าเธอไม่คู่ควรเท่าพี่อาวุโส ชื่อนางฟ้าควรเป็นของท่าน”
“ใช่! พี่อาวุโสท่านควรได้รับการชื่นชม ข้าไม่เข้าใจทำไมเขาถึงให้ฉายานางฟ้าแก่หลิวหนิงหยุน”
“หึ!” กลุ่มหญิงสาวเย้ยเยาะอวยรุ่นพี่ไม่หยุด “ตอนนี้น้องหลิวได้รับการฝึกฝนอย่างหนักจากอาจารย์และข้าคิดว่าตอนนี้อาจเป็นโอกาสทองของท่านะพี่อาวุโส”
“โอกาส?”
“ใช่! หากเราสามารถเอาชนะชายหนุ่มที่เอาชนะน้องหลิวน้อยอาจารย์อาจเห็นข้อดีในตัวท่านที่แตกต่างจากเดิมและอาจมองว่าน้องหลิวไม่สมควรได้รับตำแหน่งนางฟ้าแห่งหนานหัวอีกต่อไป เธออาจหันมาให้ความสำคัญกับพี่มากขึ้น!”
“ดูเหมือนว่ามันจะไม่ยุติธรรมกับน้องหลิว” พี่อาวุโสดูกังวล
“พี่อาวุโส! ท่านจะใจดีเกินไปแล้ว”
“ในความคิดข้า มีเพียงท่านเท่านั้นที่สมควรได้รับตำแหน่งนี้!”
พี่อาวุโสคิดตามสิ่งที่พวกเธอพูดและตอบว่า “ข้าไม่สามารถปฏิเสธคำแนะนำของพวกเจ้าได้ เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปยังเมืองครึ่งเราจะค้นหาว่าเจ้าเด็กคนนั้นอยู่ไหนและมอบบทเรียนอันหนักหน่วงให้แก่เขาเพื่อแลกกับเรียกเกียรติยศของหนานหัวคืนมา!”
“ใช่แล้ว! การฝึกฝนของท่านแข่งแกร่งและสูงกว่าหลิวหนิงหยุนมากสำหรับท่านการจับเด็กนั่นมันต้องง่ายมากแน่!”
…
“หัวหน้าสมาคม น้องซีและข้ากำลังจะไปสุสานหินเจ้าจะไปด้วยมั้ย?” ฟางฉีแนะนำที่ใหม่ให้กับรวนหนิงเพื่อให้เธอได้เพิ่มค่าประสบการและสนุกกับเกมมากขึ้น
“พวกเจ้านำไปก่อน ข้าวางแผนจะไปวัดซูมะกับเสี่ยวหยู .. เอ้ะ”
QQ ของฟางฉีดังขึ้นพร้อมกับภารกิจใหม่
ภารกิจใหม่ : คลื่นใหม่ในยุคเกมออนไลน์
คำอธิบาย : เพิ่มจำนวนผู้เล่นเกมย่อยในคิวโซนถึง 200 คน
รางวัลภารกิจ : ภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่พอร์ตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ พร้อมเข้าใจห้องอบรบเกมหนึ่งวัน
หมายเหตุ : นี่คือการฝึกฝนเวทย์มนตร์ขั้นพื้นฐาน
แม้ว่าเจ้ากระบี่ขั้นเทพจะได้รับความนิยมมากขึ้นในแต่ละวันและผู้เล่นยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่นั้นเป็นเกมสำหรับผู้เล่นอิสระที่รักการสำรวจโดยไร้วัตถุประสงค์เฉพาะ
สำหรับผู้เล่นใหม่พวกเขาอาจเข้าร่วมกับกองกำลังหรือพัฒนาตนไปเรื่อยๆ แต่ในที่สุดแล้วบางคนอาจชินกับการถูกฆ่า ผู้เล่นบางคนไม่ชอบการต่อสู้ตัวอย่างเช่น ซูเทียนจิเธอทักจะอยู่ในเขตคิวโซนของเธอเพื่อเล่นกู่เจิงและปลูกผักกับสาวก
สำหรับเจ้ากระบี่ขั้นเทพเธอก็อยู่กับกองกำลังหลักของสมาคมหลิวหยุนเพื่อรับค่าประสบการณ์บางอย่างในเกม เธอเองได้ชื่อว่าเป็นภาระอันยิ่งใหญ่สำหรับทีม
ด้วยเหตุผลเดียวกันหลิวหนิงหยุนจึงมีเวลาเล่นเกมต่อยหมวยและดื่มชาในสวนของฟางฉี
ซูเทียนจิชอบที่จะดูแลสวนและกำจัดศัตรูพืนวัชพืชอย่างใกล้ชิด ฟางฉีจึงไม่มีโอกาสที่จะขโมยผักจากเธอดังนั้นตอนนี้เธอจึงมีรายได้ค่อนข้างดีจากการปลูกผัก แม้แต่หัวผักกาดของเธอในตอนนี้ก็มีขนาดใหญ่กว่าของคนอื่นๆ ที่สำคัญกว่านั้นเธอสามารถปลูกพืชจิตวิฐญญาณระดับสูงพร้อมทั้งที่ดินของเธอได้ขยายออกเพิ่มเป็นสองเท่า
ฟางฉีมองดูข้อความใน QQ จากซูเทียนจิ
[อะไร? ข้ากำลังเล่นเจ้ากระบี่ขั้นเทพ] ฟางฉีพิมพ์ตอบกลับด้วยความหงุดหงิด ทุกครั้งที่เขาเห็นผักผลไม้ของเธอสมบูรณ์ดี เขามักเกิดกิเลสในใจเสมออยากจะขโมยทีไรเธอก็เฝ้าสวนอย่างใกล้ชิดตลอด ทำให้เขางอแงอย่างมาก
[ข้ามีบางอย่างอยากถามเจ้า] ซูเทียนจิส่งข้อความถึงเขา [ทำไมข้าถึงปลดล็อคพืชจิตวิญญาณระดับสูงกว่านี้ไม่ได้? ข้ามีประสบการณ์และทัฏษะเพียงพอในการดูแลแต่มันบอกว่าข้าต้องปลดล็อคพวกมันผ่านพืชปะทะซอมบี้]
(ผู้แปล : Plant vs Zombies)
“ฟู่ว!” ฟางฉีถอนหายใจ [ท่านต้องปลดล็อคอะไรบ้าง?]
[แพลนท์เวอร์ซัสซอมบี้!] ซูเทียนจิตอบ [พืชจะสู้กับซอมบี้อะไรนี่ละ มันคืออะไร?]
“เดี๋ยว!” ฟางฉีเข้าไปในเขตคิวโซนของซูเทียนจิ สวนของเธอตอนนี้สวยงามมากภายใต้การจัดเรียงของเธอต้นไม้สีเขียวและป่าไผ่ทำให้วิวทิวทัศน์นั่นดูสดชื่นรื่นรมย์ยิ่งขึ้น รั้วไม้ไผ่รอบๆ ลานบ้านของเธอมีดอกไม้เล็กๆ ประดับอยู่ พืชผักทุกชนิดมีสีสันสวยสดสะดุดตา
กระท่อมหลักเล็ๆ ดั่งเดิมตอนนี้เปลี่ยนเป็นบ้านที่สวยพร้อมหลังคามุงกระเบื้อง พื้นผนังเป็นสีขาวหิมะคลานไม้เลื้อยสีเขียวตัดกับวิวเขียวขจีซึ่งเป็นภาพที่ชวนพักผ่อน
ด้านข้างเป็นห้องผลิตน้ำอมฤษที่ส่งกลิ่นไม้จันทร์หอมอ่อนๆ โชยมาตามสายลม ข้างพื้นบ้านเป็นลำห้วยเล็กๆ ข้างบ้านเป็นลานกว้างๆ ไว้แสดงการเล่นกู่เจิงเครื่องดนตรีอันโปรดปรานของเธอ มันให้เสียงก้องกังวานไปทั่วพื้นป่าเมื่อเธอบรรเลง ภาพที่ปรากฎเป็นสิ่งหาได้ยากนักบนโลกมนุษย์
มันเป็นสถานที่ที่สวยงามชวนพักผ่อนหย่อนใจและเพลิดเพลินกับตัวเองหรือกลุ่มเพื่อน
แน่นอนว่าบรรยากาศนี้จะไม่ถูกรบกวนเลยหากเธอไม่ทักทวงมาถามอีกครั้งว่า “พืชปะทะซอมบี้คืออะไร? มาแสดงให้ข้าดูที!”
![เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]](https://i2.wp.com/www.xn--q3cmiag1gmn.com/wp-content/uploads/2022/08/bmn54u2yvhx9x9it.jpeg?resize=60,85 "เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]")
