Black Tech Internet Cafe System 151

ตอนที่ 151

โดยที่ไม่รู้ตัวเลย เจ้าหญิงหันหน้ามาถาม “ท่านมู .. สุภาพบุรุษคนนี้คือ ..”

 

“นี่คือฟางฉี” ดูเผินๆ เหมือนว่ามูตงไลเองไม่ค่อยชอบเข้าร่วมกิจกรรมที่มีผู้คนมากมายนัก

 

“เขาเป็นเจ้าของร้านที่วิเศษที่สุด!” คนรอบๆ ตัวฟางฉีทำหน้างุนงง

 

ร้านค้า? จะวิเศษขนาดไหนกัน? เขาเป็นเพียงเจ้าของร้าน ..

 

หลังจากทักทายกันอย่างสุภาพ ผู้คนที่อยู่รอบๆ หันกลับไปมองที่สนามฝึกเช่นเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

[มีการต้อนรับเจ้าของร้านเล็กน้อย]

 

[ฮ่าๆ เจ้าของร้าน ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าข้าเองจะได้เห็นสิ่งนี้]

 

[เจ้าของ! ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะแสดงเทคนิคการควบคุมดาบ!]

 

[ฉันเห็นด้วย! ท่านแสดงเทคนิคการควบคุมดาบและบินขึ้นสู่ท้องฟ้าเลย แสดงให้พวกเขาได้เห็น ข้าละอยากจะเห็นจริงๆ ว่าพวกเขาจะทำหน้าแบบไหน]

 

หน้าของฟางฉีเปลี่ยนสี [นี่ข้ามาที่นี่เพื่อดูการสอบระดับชาติ ..]

 

เวลาเดียวกันคนเริ่มหลังไหลเข้ามาในคาเฟ่จำนวนมาก คนในร้านเกือบทั้งหมดต่างสวมหน้ากากเพื่อบดบังใบหน้า บางคนก็มองดูรอบๆ ด้วยความระมัดระวังและใช้น้ำเสียงพูดคุยอย่างแผ่วเบา พวกเขามาที่นี่พร้อมผู้สอน! ช่างเป็นสถานะการที่ไม่อาจจินตนาการได้

 

“การสอบระดับชาติเริ่มต้นขึ้นแล้ว!”

 

“เริ่มแล้ว!”

 

“ดูนั่น อาจารย์มู ข้าเห็นสาวกจากสำนักหลิงหยวนของเราบนหน้าจอ!” ซีเซียวหยุนกระซิบพร้อมชี้นิ้วไปที่หน้าจอ

 

“จริงหรอ? ไหนๆ” พวกเขาทั้งหมดหันมองไปทางเดียวกัน

 

กฏสำหรับการสอบระดับชาติครั้งนี้ค่อนข้างง่าย จากการทดสอบเมื่อวานนี้ สาวกทุกคนมีคะแนนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทุกคนสามารถท้าทายสาวกจากต่างสำนักได้ไม่เกินสามครั้ง แต่ละคนสามารถยอมรับการท้าทายได้ไม่เกินสามครั้งเช่นกัน ผู้ที่ต่อสู้ชนะจะได้รับคะแนนของอีกฝ่ายทั้งหมดคะแนนของผู้แพ้จะกลายเป็นศูนย์ทันที

 

แน่นอนว่ามีข้อจำกัดบางประการเกี่ยวกับความท้าทาย เราไม่สามารถท้าทายคนที่อ่อนแอกว่าได้ การจัดอันดับของบุคคลขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของพวกเขา เพื่อแสดงให้เห็นความเป็นธรรมและความยุติธรรมสำสำทุกคน

 

“เราจะทำยังไงกัน” อาจารย์เฉินจงจากกลุ่มเอบ้านซวนเรียกทุกคนมารวมตัวกัน

 

“นาหลันหมิงสื่อ เจ้ามีความเห็ฦนอย่างไร?” เฉินจงต้องการฟังความคิดเห็นจากสาวก

 

“เราต้องมีกลอุบาย” นาหลันหมิงสื่อทำหน้าครุ่นคิด “ท้าทายถึงสามครั้งและยอมรับคำท้าสามครั้ง หมายความว่าเราแต่ละคนมีโอกาสที่จะได้รับคะแนนจากผู้อื่น ดังนั้นเราจะต้องปกป้องคะแนนของเรา อย่่งไรก็ตามการที่เราได้คะแนนเยอะนั่นอาจเป็นที่ดึงดูดความสนใจของผู้อื่น จากการต่อสู้ทั้งสามครั้งหากแพ้จะต้องเสียคะแนนทั้งหมดไปและไม่สามารถเอาคืนได้เลย”

 

“กลยุทธ์ที่ดีคือการป้องกันตัวก่อนแล้วจึงโจมตี” เฉินจงกล่าว

 

านาหลันหมิงสื่อพยักหน้า “หลังจากยอมรับความท้าทายถึงสามครั้งแล้ว จากนั่นเราออกไปท้าทายพวกเขาบ้างแต่จะต้องไม่มีใครได้รับคะแนนจากพวกเราแม้แต่แต้มเดียว!”

 

เฉินจงรู้สึกสตั้น เขาแปลกใจเด็กผู้หญิงคนนี้กล้าแกร่งซะเหลือเกิน “เราจะทำตามกลยุทธ์นี้” เขากล่าว

 

ในช่วงเวลาที่พวกเขากำลังตัดสินใจเกี่ยวกับกลยุทธ์นั่น เสียงประกาศก็ดังขึ้น “หลิวหยุนสาวกอันดับหนึ่งของบ้านซวนจากสำนักซียี่ได้ขอท้าทายนาหลันหมิงสื่อจากสำนักหลิงหยวน!”

 

“หลิวหยุนจากซียี่ งั้นหรอ”

 

เสียงอุทานของผู้ชมดังขึ้น “มีคนกล่าวว่าหลิวหยุนจากซียี่เป็นลูกสาวนายพลหลิว เขาเป็นผู้พิทักษ์ทางทิศเหนือ ได้ยินมาว่าหลิวหยุนใช้เวลาผจญภัยและล่าสัตว์ด้วยตัวเองตั้งแต่อายุ 12!”

 

“เธออายุไม่าถึง 17 ปี แต่เดินทางมาถึงระดับสูงขนาดนี้ เธอไม่ธรรมดาจริงๆ”

 

“เป็นเวลาสิบปีแล้วที่ฉันไม่ได้เห็นคนวัยเท่านี้มีความสามารถมากมาย”

 

ซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ นิ่ง ก่อนที่จะหัวเราะกลบเกลื่อน “ฮ่าๆ ฮ่าๆ พวกเจ้าประเมินนาหลันของเราต่ำเกินไปแล้ว”

 

“นั่นอาจเพราะจุดเริ่มต้นของฉันสูงไปหรือเปล่า” นาหลันหมิงสื่อตอบเสียงแผ่ว ก่อนที่จะเดินออกไปที่สนามรบ

 

“ขอตรวจเช็ค!” เพื่อความเป็นธรรมสาวกทุกคนที่เข้ามาในสนามรบจะถูกตรวจสอบ สิ่งประดิษฐ์และอาวุธทางจิตวิญญาณของพวกเขาจะต้องเกิดขึ้นจากพลังการฝึกฝนของตัวเองไม่ใช่จากแหล่งอื่น

 

“นาหลันหมิงสื่อมีดาบสั้นธรรมดา ไม่มีอะไรอื่น” ชายหญิงที่ทำการตรวจสอบมีท่าทีที่ประหลาดใจ นาหลันหมิงสื่อทิ้งทุกอย่างเหลือไว้เพียงดาบสั้น ซึ่งแขวนอยู่บนเข็มขัดของเธอก่อนจะเดินออกไป

 

“นาหลันหมิงสื่อกำลังจะต่อสู้ในนัดแรกหรอ!?” สาวกจากสำนักหลิงหยวนรู้สึกตื่นเต้นเมื่อมองเหตุการณ์บนหน้าจอ

 

“จะสู้แล้วหรอ?” ซีฉีที่กำลังซื้อฮาเก้นดาสอยู่หันมาถามด้วยความตื่นเต้น

 

“ผู้หญิงคนนั้นที่ใส่เสื้อสีน้ำเงินเขาเป็นใครกัน!?”

 

“เจ้าไม่ได้ยินรึ? เธอคือหลิวหยุนศิษย์อันดับหนังของบ้านซวนจากสำนักซียี่!”

 

[ฉันชื่นชมเธอนะนาหลันหมิงสื่อ] ซีฉีส่งความเห็น

 

“น้องหญิง” เจ้าชายองค์ที่สองผู้หล่อเหลาเอ่ยถาม “ระหว่างเด็กสาวจากตระกูลนาหลันและอีกคนจากตระกูลหลิวทางตอนเหนือ ทั้งสองมีความอัจฉริยะล้ำเลิศ เธอทั้งสองอยู่ในระดับสูงทั้งคู่เจ้าคิดว่าใครจะชนะ?”

 

“หลิวหยุนเข้ามาศึกษาในสำนักซียี่ก่อนนาหลันหมิงสื่อหนึ่งปี ได้ยินมาว่าสำนักซียี่ฝึกสาวกโดยใช้กฏทางทหาร แต่ในทางกลับกันสำนักหลิงหยวนเองก็ใช้วิธีที่รุนแรงไม่แพ้กัน” เจ้าหญิงกล่าว

 

“น้องหญิง เจ้าคิดว่าหลิวจะชนะใช่มั้ย?”

 

เจ้าหญิงพยักหน้า

 

มูตงไลที่นั่งข้างๆ ฟางฉีก็ได้ถามคำถามเดียวกับเจ้าชายเช่นกัน “เจ้าของท่านคิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะ”

 

“อืม..” ฟางฉีนั่งลูบจมูกและตอบด้วยความงุ่มงาม “ข้าคงต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้หญิงที่ชื่อหลิวหยุนเป็นเวลาสามวิ”

 

[เจ้าของร้านพูดถูกใจข้า] ความเห็นเด้งขึ้น

 

ตอนนี้ความเห็นที่แซวหรือถูกใจคำพูดของเจ้าของร้านเด้งขึ้นอย่างไม่หวาดไม่ไหว

 

“ข้าว่ามีบางคนกำลังเห็นต่าง” เจ้าชายองค์ที่สองกล่าว

 

เห็นได้ชัดว่าผู้คนรอบๆ ข้างเลือกที่จะเพิกเฉยกับความคิดของฟางฉี

 

มีเพียงมูตงไลคนเดียวที่เห็นด้วยกับคำตอบ “ดูเหมือนว่านาหลันหมิงสื่อจะมีแววชนะ”

 

“นี่ท่านมู ท่านเห็นด้วยกับคำตัดสินของฟางฉีหรอ?” เจ้าหญิงมองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ น้ำเสียงของเธอไม่เห็นด้วยเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าคนรอบตัวค่อนข้างมีความเห็นไปในทางเดียวกัน มีแต่ฟางฉีนี่ละที่เห็นต่าง

 

“เจ้าหนูน้อย เจ้าต้องรีบผิดชอบกับคำพูดของเจ้า” ชายแก่ในชุดดำมองหน้าฟางฉี

 

“ข้าดูเหมือนคนที่พูดไม่คิดถึงผลที่ตามมาหรือ?” ฟางฉีตอบกลับ

 

นาหลันหมิงสื่อที่เดินเข้าไปในสนามรบพร้อมหันไปมองเด็กสาวในชุดน้ำเงินที่มีท่าทางดุร้าย “นี่เจ้าไม่คิดจะอดทนอะไรเลยหรอ? ไม่คิดจะต่อสู้กับคนในระดับเท่าๆ กันบ้างหรือไง?”

 

“ฉันน่ะ ฆ่าอสูรมามากกว่าอาหารที่เธอกินเข้าไปอีกละมั้ง” หลิวหยุนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา พลางดึงดาบยาวออกมา “โจมตีฉันสิ ฉันจะได้รู้ว่าฉันต้องใช้พลังงานมากแค่ไหนในการเอาชนะเจ้า”

 

เห็นได้ชัดว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการกับเธอ

 

สาวกมองไปที่หน้าจอยักษ์ ทุกคนต่างร่วมกันส่งความเห็น

 

[ฉันรู้สึกไม่โอเคกับคำพูดของยัยคนนี้สักเท่าไร]

 

[พูดขนาดนี้ต้องจัดให้สักหน่อยแล้วแหละ]

 

[แหม! เก่งเหลือเกินแม่สาวน้อย]

 

นี่พวกเจ้ากำลังโมโหแทนใช่มั้ย ฟางฉีอ่านความเห็นและรู้สึกวิงเวียน เอาน่าปล่อยเธอไปเถอะ!

 

“พวกเขากำลังจะโจมตีใช่มั้ย?” สาวกในสำนักต่างร้องอุทาน

 

ในสายตาของพวกเขาหลิวหยุนกำลังเดินช้าๆ ไปยังจุดที่ห่างจากนาหลันหมิงสื่อในระยะสามเมตร เป็นระยะที่กำลังเหมาะสมสำหรับการโจมตี

 

แขนของหลิวหยุนที่งอลงเล็กน้อยและจับดาบด้วยสองมือวางไว้ตรงกลาง ขณะนี้จิตของเธอกำลังจดจ่ออยู่ที่ดาบ แผ่รัศมีอันเยือกเย็น!

 

เธอดูเหมือนคันธนูที่ถูกชักออกจนสุด ที่พร้อมจะโจมตีได้ทุกเมื่อ!

 

“เตรียมตัวดี” ผู้ปลูกฝังที่นั่งอยู่ข้างหลังฟางฉีเอ่ยชม “เธอยังเด็กอยู่เลย แต่การทดสอบรอบนี้น่าสนใจจริงๆ หวังว่าเธอจะไม่พลาด”

 

อีกด้านหนึ่งของกลุ่มเมฆดำ ผู้อาวุโสนั่งก้มหน้า “ดูเธอแล้วหันมาดูตัวเอง พวกเจ้าต้องฝึกฝนให้หนักขึ้นกว่าเดิม!”

 

เวลาเดียวกันที่หลายคนกำลังพูดคุย หลิวหยุนเองก้าวขาออกไปข้างหน้าแล้วสะบัดดาบของเธอออก กระบี่พุ่งโจมตีด้วยความเร็ว!

 

“นั่นมันคือ เทคนิคลมของสำนักซียี่!”

 

“เธอปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ ชายชราที่นั่งชมพยักหน้าเล็กน้อย “เธอใช้เทคนิคได้ดีทีเดียว”

 

แต่ก่อนที่จะพูดอะไรต่อ .. จู่ๆ กำปั้นสีชมพูก็พุ่งเข้าที่ท้องของหลิวหยุน

 

หลิวหยุน .. ล้มกระแทกพื้นทันที

 

ฟางฉีปิดตาของตัวเอง “หิ้วเธอไปที!”

 

เจ้าหญิงและเจ้าชาย .. พร้อมทุกคนที่อยู่ที่นั่นรู้สึกสูญเสียคำพูด

Black Tech Internet Cafe System

Black Tech Internet Cafe System

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 430 อ่านนิยาย

( อ่านตอนต่อไปข้างล่าง )


เรามีระบบที่จะช่วย(พระเอก)หลอมยา ซึ่งขโมยวิชามาจากยอดฝีมือระดับตำนาน และมันยังสามารถใช้ได้จริง แล้วอะไรละที่จะทำให้ระบบเป็นจริงได้ อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ หรือร้านเกมทั้งหมด?

(พระเอก)เขาตื่นขึ้นในโลกใหม่ และยังสามารถตามหาตัวเองด้วยระบบที่น่าพิศวงนั่นยังทำให้ในพวกเขาดำเนินการด้วยตัวเองได้อย่างเต็มที่โดยอาศัยอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ อะไรกัน?? โลกแห่งผู้ฝึกตนมีการพัฒนามากขึ้น ระบบอินเตอร์เน็ตคาเฟ่? คุณสามารถท่องเที่ยวในอินเตอร์เน็ต ดูเรื่องดราม่า และเล่นวิดิโอเกม!?

หนึ่งในจักรพรรดิของนักรบในสงคราม ตะโกนขึ้นเมื่อได้ไปเยี่ยมเยียนร้าน(พระเอก) “ชิบหาย ชีวิตฉันเสร็จบลิซซาร์ด1แน่” ผู้ฝึกตนระดับหยวน อ้าปากค้างหลังจากดื่มสไปร์ท “แล้ววิชาเวทย์มนต์ละ?”

มีอะไรอีกที่(พระเอก)เขายังต้องฝึกตนมากขึ้น มาร่วมผจญภัยกัน!

Options

not work with dark mode
Reset