Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 3009 ความหยิ่งทะนงของเผ่าเทพนิรันดร์P

ตอนที่ 3009 ความหยิ่งทะนงของเผ่าเทพนิรันดร์P

ตอนที่ 3009 ความหยิ่งทะนงของเผ่าเทพนิรันดร์

“เจ้าคนชั้นต่ำ ดูสิว่าเจ้ายังหนีไปไหนพ้น!”

เสียงตะโกนหนึ่งดังขึ้น คนกลุ่มหนึ่งพุ่งตามมาติดๆ ผู้นำคือชายวัยกลางคนสวมเกราะศึกเก่าคร่ำ โครงร่างหยาบใหญ่ อานุภาพร้ายกาจเต็มเปี่ยม

“นำสมบัติที่เจ้าเพิ่งขุดได้ออกมา มิฉะนั้นข้าจะฆ่าเจ้าเสียตอนนี้!” ขณะกล่าวชายวัยกลางคนสาวเท้าก้าวใหญ่เข้ามาแล้ว

คนอื่นต่างปิดทางคับแคบสายนั้น นัยน์ตาล้วนเจือแววเย้ยหยันดุดัน

ในสายตาพวกเขาหญิงสาวนั่นเหมือนเนื้อบนเขียง หนีความตายไม่พ้น

“เจ้าอย่าเข้ามา ไม่อย่างนั้นข้าจะทำลายสมบัตินี้!”

หญิงสาวชูหินแร่สีเขียวก้อนหนึ่งขึ้นมา ร้องเสียงแหลมทันที

ฮูม…

แม้ว่าหินแร่สีเขียวนี้มีขนาดแค่กำปั้น แต่เมื่อชูขึ้นกลับเปล่งแสงเทพสีเขียวเจิดจรัสเป็นประกาย ส่องทางเหมืองมืดมนนี้จนสว่างไสว

จากนั้นคลื่นพลังมหามรรคยิ่งใหญ่สายหนึ่งแผ่ออกมาจากหินแร่สีเขียวนี้

ชายกลางคนหยุดเดินทันที มองหินแร่ก้อนนี้ด้วยแววตาละโมบ เขายื่นมือขวาออกมาพลางกล่าว “ส่งสมบัตินี้มา ข้ารับรองว่าจะไว้ชีวิตเจ้า!”

สีหน้าคนอื่นเจือแววละโมบเช่นกัน

หินแร่สีเขียวนั้นน่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว พวกเขาขุดแร่ที่นี่มาร้อยพันปี เพิ่งเคยเจอหินแร่อัศจรรย์เช่นนี้เป็นครั้งแรก

ไม่ต้องสงสัยว่านี่คือยอดสมบัติชิ้นหนึ่ง!

หญิงสาวกล่าวเสียงสั่น “นี่เป็นสิ่งที่ข้าขุดพบ หากเจ้าต้องการก็ได้ แต่ต้องเหลือไว้ให้ข้าส่วนหนึ่ง”

“เหอะๆ”

ชายกลางคนแค่นหัวเราะขึ้นมา “เหลือไว้ส่วนหนึ่ง? ละเมอเพ้อพก! หากข้ามองไม่ผิด ด้วยมรรควิถีของเจ้าคงทำลายสมบัตินี้ไม่ได้แต่แรก!”

เขาพูดพลางก้าวมาข้างหน้าอีกครั้ง ไอรีนโนเวล

“เช่นนั้นก็ลองดู!”

นัยน์ตาหญิงสาวเผยแววคลุ้มคลั่ง ใช้กำลังทั้งหมดกระแทกหินเทพสีเขียวในมือไปทางผนังหินที่ขวางอยู่ตรงหน้าเต็มแรงทันที

“เจ้ากล้า…!” พวกชายวัยกลางคนเดือดจัด ลงมือในทันที

ตูม!

เวลานี้เองเหตุไม่คาดฝันพลันปรากฏ ผนังหินตรงปลายทางพลิกตลบรุนแรงทันที จากนั้นเงาร่างหนึ่งก้าวออกมาจากผนังหินนั่น

หินแร่สีเขียวที่หญิงสาวเพิ่งซัดออกไปยังไม่กระทบผนังหินก็ถูกเงาร่างซึ่งโผล่มากะทันหันนี้รับไว้

หญิงสาวอึ้งงันแล้ว

พวกชายวัยกลางคนก็ล้วนตกใจ พากันเตรียมพร้อมป้องกัน

ที่นี่คือส่วนลึกของเขาผนึกดารา แต่เวลานี้กลับมีคนผู้หนึ่งทำลายกำแพงเข้ามา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ใครเล่าจะไม่ตกใจ

ขณะเดียวกันหลินสวินก็ตกตะลึง ก้มมองหินแร่สีเขียวในมือ ทั้งมองหญิงสาวคนนั้นรวมถึงพวกชายวัยกลางคนที่อยู่ห่างไปพลางกล่าว “ก่อนหน้านี้พวกเจ้ากำลังแย่งชิงหินแร่ก้อนนี้หรือ”

ก่อนหน้านี้เขาเดินอยู่ในอุโมงค์มิติ มองไปล้วนเป็นภาพขุ่นมัว เดิมใกล้จะถึง ‘ทางออก’ ที่อยู่ในส่วนลึกของเขาผนึกดารานี้แล้ว

แต่ใครจะคิดว่าเมื่อครู่เขาพลันได้ยินเสียงกระหน่ำโจมตีลุ่มลึกหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงตามเสียงนั้นมา จากนั้นก็มาถึงที่นี่และเห็นเหตุการณ์นี้

“หินแร่ก้อนนั้นข้าเป็นคนขุดออกมา”

หญิงสาวกล่าวเสียงสั่น “พวกเขาจะแย่งชิงไป ข้าจึงตัดสินใจทำลายมันทิ้ง”

หลินสวินเหลือบมองพวกชายวัยกลางคน “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ”

ชายวัยกลางคนถูกสายตาหลินสวินจ้องมองจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว ขวัญหนีดีฝ่อ รีบร้อนกล่าวว่า “เรียนผู้อาวุโส หินแร่ในเขาผนึกดารานี้ล้วนเป็นของเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยาง สาเหตุที่พวกเราลงมือแย่งชิง เป็นเพราะคนชั้นต่ำนี่คิดจะฮุบสมบัตินี้ไว้คนเดียว”

“พวกเจ้าก็คิดแย่งมาเป็นของตนไม่ใช่หรือ” หญิงสาวกล่าวเดือดดาล

หลินสวินก้มหน้าพิจารณาหินแร่สีเขียวในมือ เพียงพริบตาก็ระบุได้ว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ในหินแร่นี้คือแกนเทพวิญญาณเขียวซึ่งหาได้ยากยิ่ง มีประโยชน์ไม่อาจประเมินต่อการฝึกปราณระดับอมตะ

เมื่อมองพวกหญิงสาวกับชายวัยกลางคนอีกครั้ง แม้ว่าพลังปราณต่างกัน แต่ยังมีมรรควิถีระดับจักรพรรดิเท่านั้น ไม่แปลกที่จะมองของสิ่งนี้เป็นยอดสมบัติ ช่วงชิงกันราวกับเอาชีวิตเข้าแลก

แต่จะว่าไปตอนตัวเขายังมีพลังปราณระดับจักรพรรดิ เกรงว่าคงใจสั่นเพราะสมบัตินี้ไม่หยุดเช่นกัน

“หากข้าคืนหินแร่นี้ให้เจ้าของเดิม พวกเจ้าจะยอมหรือไม่” หลินสวินเล่นหินแร่สีเขียว สายตามองพวกชายวัยกลางคน

พวกชายวัยกลางคนรีบร้อนกล่าว “ล้วนแล้วแต่ผู้อาวุโสตัดสินใจ!”

แม้ว่ากลิ่นอายบนตัวหลินสวินจะราบเรียบ ทำให้พวกเขามองตื้นลึกไม่ออก แต่เมื่อถูกสายตาของหลินสวินกวาดมอง พวกเขาต่างรู้สึกว่าแทบหายใจไม่ออกราวตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง เหมือนมดปลวกเผชิญหน้ากับนายเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง!

“ดี ในเมื่อพวกเจ้ารับคำแล้ว ภายหน้าก็อย่าหาเรื่องแม่นางน้อยคนนี้อีก เข้าใจไหม” หลินสวินกล่าว

“เข้าใจขอรับ!” ชายวัยกลางคนมีหรือจะกล้าไม่ตกปากรับคำ หากถูกสายตาหลินสวินจับจ้องอีกพวกเขาคงคุกเข่าทันทีแน่

เวลานี้หญิงสาวอึ้งงันแล้ว ล้วนไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง เคราะห์สังหารคราหนึ่งถูกคลี่คลายด้วยคำพูดไม่กี่คำเช่นนี้หรือ

“เอาไปเถอะ”

หลินสวินมอบหินแร่สีเขียวให้

เขามองออกในปราดเดียว แม้ว่าหญิงสาวคนนี้ผมเผ้ารุงรัง เปื้อนฝุ่นโคลนเต็มตัว แต่ยังเยาว์วัยนัก ดูจากพลังชีวิตและแก่นกระดูกของนาง อย่างมากก็ไม่เกินสามสิบปี

ด้วยอายุเท่านี้กลับมีมรรควิถีระดับมกุฎจักรพรรดิด่านสาม หากอยู่ในน่านฟ้าอื่นคงเรียกได้ว่าเป็นบุคคลแห่งยุคชวนตะลึงยิ่งคนหนึ่งแล้ว

นี่ทำให้หลินสวินนึกถึงถังเจียงศิษย์ที่ตนรับไว้ขึ้นมาในชั่วขณะ แต่พูดเปรียบเทียบกันแล้ว โชคชะตาของถังเจียงยังดีกว่าหน่อย ถึงแจ้งมรรคระดับมกุฎจักรพรรดิได้ในเวลาอันสั้น

แต่หญิงสาวคนนี้…

เห็นชัดว่าสถานการณ์น่าอนาถนัก

“ขอบคุณผู้อาวุโส แต่… แต่ท่านช่วยชีวิตของข้า ข้าไม่อาจเก็บสมบัตินี้ไว้ได้อีก ท่านโปรดรับไว้เถิด ถือว่า… เฉียนเสวี่ยตอบแทนบุญคุณของท่าน” 艾琳小說

หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกๆ โค้งคำนับกล่าว

หลินสวินอดแปลกใจไม่ได้ เขายิ้มกล่าว “ของสิ่งนี้ไม่มีประโยชน์กับข้า เจ้าเอาไปเถอะ”

ขณะกล่าวหินแร่สีเขียวนั้นตกสู่มือหญิงสาวที่เรียกตัวเองว่า ‘เฉียนเสวี่ย’

“ผู้น้อยชื่อว่าชิงเฉียนเสวี่ย หากภายหน้าผู้น้อยรอดไปจากเขาผนึกดารานี้ได้ ย่อมตอบแทนบุญคุณของผู้อาวุโสในวันนี้”

ชิงเฉียนเสวี่ยกล่าวเสียงหนักแน่น

“ตกเป็นทาสมีแต่ตายสถานเดียว ปัญหาอยู่ที่ช้าหรือเร็วเท่านั้น ไหนเลยจะมีโอกาสจากไปอีก” กลับเห็นชายวัยกลางคนนั่นกล่าวทอดถอนใจ

คนอื่นล้วนเงียบไปอย่างอดไม่ได้

“พวกเจ้าทำผิดอะไร เหตุใดถึงถูกจับมาขุดแร่”

หลินสวินอดเอ่ยถามไม่ได้

ชิงเฉียนเสวี่ยเอ่ยสีหน้าเซื่องซึม “ด้วยบิดาข้าไม่ยอมส่งข้ามาเป็นบ่าวที่เผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยาง พวกเขาจึงสังหารบิดาข้า คนตระกูลชิงของข้าล้วนถูกจับตัวมาที่นี่ทั้งหมด”

พวกชายวัยกลางคนก็เอ่ยปาก ต่างบอกเหตุผลที่ถูกจับมา น้ำเสียงล้วนเจือแววโศกเศร้าและขมขื่น

เหตุผลที่ถูกจับตัวมาพวกนี้ทำให้หลินสวินเปิดโลกทัศน์เช่นกัน บ้างผูกพยาบาทกับทายาทของตระกูลหยางจึงถูกจับมา บ้างก็ถูกจับมาด้วยเรื่องขี้หมูขี้หมาบางอย่าง

หลินสวินอดรู้สึกยากจะเชื่ออยู่บ้างไม่ได้ “ตระกูลหยางเป็นเผ่าเทพนิรันดร์ ทำไมถึงเผด็จการเช่นนี้”

“เพราะเป็นเผ่าเทพนิรันดร์ ตระกูลหยางจึงกล้าไม่กลัวสิ่งใดเช่นนี้ ในน่านฟ้าที่เก้าตระกูลหยางยืนหยัดถึงตอนนี้มานานแล้ว ก็เหมือนเทพสูงส่งเหนือผู้อื่น ทำให้สรรพชีวิตนับหมื่นแสนได้แต่ยอมจำนน”

ชิงเฉียนเสวี่ยกล่าว “ตระกูลหยางผ่านช่วงชีวิตหลายหลากมาในกาลเวลาไร้สิ้นสุด คนในตระกูลมีมากมาย คนประเภทไหนก็ล้วนมี บางทีเหล่าบุคคลสำคัญนั้นอาจคร้านจะคิดเล็กคิดน้อยกับคนไร้ค่าอย่างพวกเรา แต่พญายมชอบหาเรื่อง ผีตัวจ้อยย่อมเซ้าซี้ สุดท้ายก็มีพวกคนเลวใช้อำนาจตระกูลทำทุกอย่างตามต้องการ”

พวกชายวัยกลางคนต่างพยักหน้าไม่ว่างเว้น

“ทำไมยามพวกเจ้าพูดถึงเรื่องนี้กลับดูไม่แค้นตระกูลหยางเท่าไร”

หลินสวินรู้สึกผิดคาดอยู่บ้าง

“แค้น? ไม่กล้าหรอก”

ชิงเฉียนเสวี่ยส่ายหัว “ได้แต่โทษตัวเองว่าชีวิตรันทดที่ไปล่วงเกินตระกูลหยาง”

ช่วงเวลาที่ตระกูลหยางคงอยู่บนโลกเนิ่นนานเกินไป อิทธิพลยิ่งใหญ่หยั่งรากลงในใจของสิ่งมีชีวิตทั่วหล้าอยู่ก่อนแล้ว อย่าว่าแต่ไปเคียดแค้น แม้แต่ความคิดแก้แค้นยังไม่อาจมี

หลินสวินเห็นดังนี้แล้วพลันทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้

มองเห็นจุดเล็กรับรู้ถึงภาพรวม ตระกูลหยางซึ่งมีฐานะเป็นเผ่าเทพนิรันดร์ ช่วงเวลาปกครองโลกนี้นานเกินไป ต่อให้ไปจับกุมสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้มาเป็นทาส ผู้คนก็ยังไม่กล้าไปเคียดแค้น!

นี่เห็นได้ว่าไร้สาระนัก

แต่กลับเกิดขึ้นจริงๆ

ทั้งหลินสวินยังกล้ายืนยันว่าสิ่งที่ตนเห็นวันนี้ไม่ใช่กรณีเดียวแน่นอน ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดและทุกหนแห่งทั่วหล้านี้ สถานการณ์เช่นนี้อาจเปิดฉากไม่รู้กี่ครั้ง

ผู้คนอาจเคยชินกับโชคชะตาที่ถูกมองเป็นทาสเช่นนี้นานแล้ว!

หลินสวินอดนึกไม่ได้ เหล่าผู้แข็งแกร่งนอกน่านฟ้าที่เก้าล้วนมุ่งหวังมาฝึกปราณในน่านฟ้าที่เก้า หากพวกเขารู้เรื่องพวกนี้จะยอมเป็นบริวารใต้อาณัติเผ่าเทพนิรันดร์ ถูกมองเป็นทาสตามใจหรือไม่

“หากข้าจะช่วยพวกเจ้าออกไปจากที่นี่ พวกเจ้ายินดีหรือไม่”

หลินสวินพลันเอ่ยถาม

พวกชายวัยกลางคนสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด แต่ไม่นานก็ส่ายหัวขมขื่น “ขอบคุณผู้อาวุโสที่หวังดี จากไปก็คงถูกจับกลับมา ซ้ำถึงตอนนั้นคงรักษาชีวิตไม่รอด”

แม้แต่ความช่วยเหลือจากคนอื่นก็ปฏิเสธ!

นี่ต้องหวาดกลัวเผ่าเทพนิรันดร์ถึงขั้นไหนจึงยอมจำนนเช่นนี้

หลินสวินเหลือบสายตามองชิงเฉียนเสวี่ยพลางกล่าว “เจ้าล่ะ”

ชิงเฉียนเสวี่ยเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นเงยหน้าขึ้นทันใด สายตามองหลินสวินแล้วกล่าว “หากผู้อาวุโสพาผู้น้อยออกไปจากที่นี่ได้ ต่อให้ภายหน้าประสบเคราะห์ข้าก็ยอม!”

บิดาของนางถูกฆ่าตายแล้ว คนในตระกูลล้วนตกเป็นทาสอยู่ที่นี่ ย่อมมีแต่ตายสถานเดียว

ทุกอย่างนี้กลับทำให้นางทุ่มสุดตัว

ถึงอย่างไรเป็นทาสอยู่ที่นี่ก็ต้องตาย ทำไมไม่ฮึดสู้เล่า

หลินสวินพยักหน้าน้อยๆ สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง

ฟุ่บ!

แสงมรรคไหลวนอาบไล้ทั่วร่างชิงเฉียนเสวี่ย เพียงชั่วขณะหนึ่งเศษฝุ่นโคลนทั้งตัวนางพลันหายไป รอยแส้ชุ่มเลือดชวนประหวั่นทั้งตัวนั้นหายลับ แม้แต่ร่างกายที่อ่อนแอยังเต็มไปด้วยพลังชีวิตเปี่ยมล้น

นางในตอนนี้นอกจากเสื้อผ้ามอมแมมแล้ว ก็เป็นยอดหญิงงามนัยน์ตากระจ่างฟันขาวคนหนึ่งชัดๆ รูปร่างหน้าตาพริ้มเพราเหมือนเด็กสาว

แค่ชั่วพริบตาทั้งตัวก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ทำให้ชิงเฉียนเสวี่ยอึ้งงันแล้ว

หัวใจนางเต้นรัวไม่เป็นส่ำ รู้ว่าผู้อาวุโสตรงหน้าคนนี้มีโอกาสสูงว่าเป็นยอดผู้สูงศักดิ์คนหนึ่ง!

พวกชายกลางคนเห็นดังนี้กลับไม่แยแส ถึงขั้นว่าสายตาที่มองชิงเฉียนเสวี่ยยังเจือแววซับซ้อนพิกล

คิดจริงหรือว่า… มีการช่วยเหลือจากผู้อาวุโสคนนี้แล้วจะรอดชีวิตจากไปได้

ที่นี่คือเขาผนึกดารา!

เป็นอาณาเขตของเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยาง!

ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดผู้ที่กล้าต่อต้านเผ่าเทพนิรันดร์บนโลกนี้ล้วนตายไปนานแล้ว!

พร้อมกันนี้เสียงฝีเท้าระลอกหนึ่งพลันดังมาจากทางมืดมิดที่ห่างไกล

พวกชายวัยกลางคนหน้าเปลี่ยนสีกล่าวว่า “ต้องเป็นเหล่าผู้คุ้มกันที่คอยลาดตระเวนแน่!”

ชิงเฉียนเสวี่ยใจกระตุกวูบ หนาวสั่นไปทั้งตัว ถ้าเหล่าผู้ลาดตระเวนตระกูลหยางพบว่าที่นี่ผิดปกติ พวกเขาล้วนอย่าหวังว่าจะรอดชีวิตจากไป!

…………………………

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 1100 อ่านนิยาย


ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์

ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง

หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้

แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

Options

not work with dark mode
Reset