Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 3002 ฆ่าคนยามเคราะห์สลาย

ตอนที่ 3002 ฆ่าคนยามเคราะห์สลาย

ตอนที่ 3002 ฆ่าคนยามเคราะห์สลาย

สายตาของพวกเจียหนานกับเหวินไท่หลินทอดมองไปพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

ที่นั่นคือทางเข้าของแดนแรกเริ่ม ปกคลุมด้วยพลังระเบียบระดับเทพ

“พวกเราลงมือเต็มกำลังพร้อมกัน บางทีคงไม่อาจทำลายระเบียบระดับเทพของแดนแรกเริ่มได้ เพียงแต่สามารถสร้างรอยแยกได้ในหนึ่งชั่วยาม ขอแค่บุกเข้าไป ทุกคนทั้งลัทธิแรกกำเนิดก็ยากพ้นเคราะห์”

เจียหนานเอ่ยเสียงเบา

เดิมพวกเขาตั้งใจจะฆ่าหลินสวิน ไม่สนใจทำลายลัทธิแรกกำเนิดเท่าใดนัก

แต่ตอนนี้เมื่อเวลาข้ามด่านเคราะห์ของหลินสวินนานขึ้นเรื่อยๆ นี่ทำให้เหล่าระดับนิรันดร์ในที่นั้นต่างรู้สึกร้อนรนอยู่รางๆ

ถ้าไปโจมตีลัทธิแรกกำเนิดตอนนี้คงไม่อาจบุกเข้าไปได้ในเวลาอันสั้น แต่ถ้าใช้วิธีนี้คงสามารถสั่นคลอนสภาวะจิตของหลินสวินได้

ลองคิดดู เมื่อเห็นว่าลัทธิแรกกำเนิดถูกโจมตี หลินสวินจะข้ามด่านเคราะห์อย่างสงบใจเช่นนั้นอีกหรือ

ขอแค่สภาวะจิตของเขาเกิดข้อผิดพลาดเสี้ยวหนึ่งก็ยากพ้นเคราะห์แน่!

“ได้!”

ถานอู่พยักหน้า

“ตกลงตามนี้”

ระดับนิรันดร์เจ็ดคนที่มาจากน่านฟ้าที่เก้าอย่างพวกเหวินไท่หลินก็ตกปากรับคำ

จากนั้นจึงเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ ล้อมไปตรงทางเข้าแดนแรกเริ่มด้วยกัน

บทสนทนาระหว่างพวกเขาไม่มีปิดบัง ดังนั้นจึงถูกพวกเสวียนเฟยหลิงได้ยินอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง กระทั่งเห็นพวกเจียหนานบุกมาตรงทางเข้าแดนแรกเริ่ม พวกเสวียนเฟยหลิงแต่ละคนต่างสีหน้าไม่น่าดูเหมือนเจอศัตรูตัวฉกาจ

“ภายนอกพวกสารเลวนี่จะจัดการพวกเรา ความจริงจะสร้างผลกระทบต่อจิตมรรคของหลินสวิน!”

ฟางเต้าผิงหน้าคล้ำเขียว

ฆ่าคนบั่นจิต ที่แท้เป็นเช่นนี้

“มองออกแล้วอย่างไร นี่คือแผนร้ายเปิดเผย สิ่งที่พวกเราต้องทำตอนนี้ก็คือปกป้องแดนแรกเริ่ม ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าให้เฒ่าระยำพวกนี้บุกเข้ามา!”

ตู๋กูยงกล่าวเย็นชา

“เร็วเข้า โคจรระเบียบระดับเทพเต็มกำลัง!”

เสวียนเฟยหลิงออกคำสั่ง ในมือพวกเขามีสมบัติลับซึ่งควบคุมระเบียบระดับเทพของลัทธิแรกกำเนิด เวลานี้ต่างไม่กล้าประมาทและเริ่มลงมือแล้ว

ตูม!

ทางเข้าแดนแรกเริ่ม แสงศักดิ์สิทธิ์เจิดจรัส ระเบียบระดับเทพอัศจรรย์ม้วนซัดถูกโคจรเต็มกำลัง

เพียงพริบตาก็เห็นแสงม่วงหมื่นจั้ง แสงมงคลพวยพุ่ง งามตระการทั่วทิศ

“นี่ก็คือ ‘ระเบียบวัฏจักรฟ้า’ ของลัทธิแรกกำเนิด เล่าลือว่าบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดได้รับมหาศุภโชคหนึ่งโดยบังเอิญยามท่องยุคสมัยมากมาย เมื่อหยั่งรู้ระเบียบนี้ก็ควบคุมกฎระเบียบวัฏจักรฟ้าได้ มีประโยชน์อย่างมากต่อการฝึกปราณระดับนิรันดร์”

เจียหนานกล่าวอย่างผ่อนคลาย พวกเขาเข้ามาใกล้และเห็นการเปลี่ยนแปลงของพลังระเบียบระดับเทพตรงทางเข้าแดนแรกเริ่มแล้ว

“ระเบียบระดับเทพบนโลกนี้มีน้อยนัก หากไม่เป็นเช่นนั้นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันบุคคลที่ก้าวสู่ระดับนิรันดร์ได้คงไม่มีแค่หยิบมือแน่”

มีคนแววตาลุ่มลึก “ว่าไปแล้วในมือเจ้าหลินสวินนี่ก็มีระเบียบระดับเทพสายหนึ่ง ไม่รู้ว่าถูกเขาซ่อนไว้ที่ไหน”

“หึๆ วางใจเถอะ ครั้งนี้หลังจากลัทธิแรกกำเนิดพินาศย่อยยับ ไม่ว่าจะเป็นระเบียบระดับเทพในมือเขาหรือระเบียบวัฏจักรฟ้านี้ล้วนต้องตกเป็นของพวกเราแน่”

มีคนยิ้มน้อยๆ

“ทุกท่านอย่าล่าช้าอีก ลงมือพร้อมกันก็พอ”

ถานอู่สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง แสงมรรคนิรันดร์อบอวลทั่วร่าง ซัดหมัดหนึ่งออกไปกลางอากาศ

ตูม!

กฎระเบียบฟ้าดินล้วนปั่นป่วนสั่นสะเทือน พลังหมัดนั้นราวกับทะลวงพันธนาการเวลาได้ แข็งแกร่งถึงขั้นน่าเหลือเชื่อ ซัดจนระเบียบวัฏจักรฟ้าพลันพลิกตลบ เกิดเสียงกัมปนาทครั่นครืน ละอองแสงสาดกระจาย

สัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นเห็นดังนี้ก็ลงมือพร้อมกันโดยไม่ลังเลอีก

ระดับนิรันดร์เก้าคนร่วมมือกัน อานุภาพนั้นน่ากลัวเพียงใด

ก็เห็นปราณกระบี่ ประทับฝ่ามือ แสงสมบัติทยอยปรากฏ ละอองแสงตัดสลับสาดส่องท้องนภา จากนั้นกระแสนิรันดร์ยิ่งใหญ่ทรงพลังพุ่งไปตรงทางเข้าแดนแรกเริ่ม

ตูม… โครม…

ฟ้าพลิกดินตลบ สุริยันจันทราหม่นแสง พลังกฎเกณฑ์นิรันดร์อัดแน่นในวิชามรรคกับศาสตรามรรคถล่มลงมาพร้อมกันอย่างแน่นหนา คว่ำโลกใหญ่แห่งหนึ่งและทำลายที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตมากมายได้โดยง่าย!

ส่วนระเบียบระดับเทพตรงทางเข้าแดนแรกเริ่มก็ตกอยู่กลางคลื่นสะเทือนรุนแรง แสงม่วงสาดกระเซ็น ส่งเสียงครวญไม่หยุด…

แต่ถึงอย่างไรระเบียบระดับเทพก็เป็นระเบียบระดับเทพ ต่อให้ถูกโจมตีราวทำลายล้างเช่นนี้ก็ใช่ว่าจะถูกทำลายในเวลาอันสั้น

สำหรับเรื่องนี้พวกเจียหนานเตรียมใจมาแต่แรก ทั้งไม่รู้สึกเหนือความคาดหมาย

พวกเขาลงมือโจมตีเต็มกำลัง เรียกศาสตรามรรคนิรันดร์ของแต่ละคนออกมา สำแดงยอดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของตน ทำให้ฟ้าดินซึ่งมีทางเข้าแดนแรกเริ่มเป็นศูนย์กลางแถบนี้ถูกบดทลายเป็นจุณโดยตรง ทุกหนแห่งล้วนเปี่ยมกระแสพลังป่วนคลั่งน่าพรั่นพรึง

ในแดนแรกเริ่มพวกเสวียนเฟยหลิงหน้าเปลี่ยนสีไม่หยุด ต่อให้เค้นพลังระเบียบระดับเทพเต็มกำลัง แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่มีทางยืนหยัดได้นาน

หากเป็นไปดังคาด ภายในหนึ่งชั่วยามระเบียบวัฏจักรฟ้าต้องถูกทำลายแน่!

ระเบียบระดับเทพที่บกพร่อง ย่อมไม่มีทางปกป้องทั้งลัทธิแรกกำเนิดได้อีก!

เสวียนเฟยหลิงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วกัดฟันกล่าว “ไม่ว่าอย่างไร สามารถต้านนานเท่าไรก็ต้านนานเท่านั้น ต่อให้ตาย… ก็ไม่อาจถอย!”

ตายก็ไม่อาจถอย!

หากไม่ตกอยู่ในสภาพสิ้นหวัง มีหรือจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและน่าหดหู่เช่นนี้

พวกตู๋กูยงกับฟางเต้าผิงจิตใจปั่นป่วน ความกังวล ร้อนรน สิ้นหวังก่อนหน้านี้พลันหายไปสิ้น ทั้งหมดกลายเป็นความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวถึงขีดสุด

ก็แค่ตายเท่านั้น

แต่ก่อนตายพวกเขาจะทุ่มเทพลังทั้งหมดของตนไปต้านทาน!

บนเวิ้งฟ้ามหาเคราะห์นิรันดร์ที่เพ่งเล็งหลินสวินยังเปิดฉากต่อเนื่อง ไม่สัญญาณซ่านสลายสักนิด

ตามเวลาที่ล่วงเลยระเบียบวัฏจักรฟ้าถูกโจมตีมากขึ้นเรื่อยๆ นานเข้าก็ยิ่งรุนแรง

ระดับนิรันดร์เก้าคนเงยหน้ามองส่วนลึกของเวิ้งฟ้าเป็นครั้งคราว คล้ายอยากแน่ใจว่าสภาวะจิตของหลินสวินได้รับผลกระทบ ทั้งประสบเคราะห์ถึงตายแล้วหรือไม่

แต่ไม่นานพวกเขาก็จดจ่ออยู่กับการโจมตี

สีหน้าแต่ละคนต่างกันออกไป แต่ล้วนเจือกลิ่นอายเฉยชา

“ทุกท่าน อีกไม่นานจะทะลวงช่องโหว่ตรงนี้ได้ เพียงพอให้พวกเราบุกเข้าไปในนั้น!”

ทันใดนั้นสีหน้าเจียหนานเผยยิ้มน้อยๆ เอ่ยปากเสียงดัง

เขาไม่สนใจว่าจะถูกหลินสวินหรือพวกเสวียนเฟยหลิงในแดนแรกเริ่มได้ยิน

“เยี่ยม! เช่นนั้นก็บุกเข้าไปในลัทธิแรกกำเนิดก่อน ค่อยจัดการเจ้าเดรัจฉานหลินสวินนี่ เช่นนี้ย่อมตัดสินสถานการณ์ได้แน่!”

ถานอู่กระเหี้ยนกระหือรือ ไอรีนโนเวล

ตูม!

พวกเขายิ่งโจมตีหนักหน่วง

ในลัทธิแรกกำเนิดพวกเสวียนเฟยหลิงสีหน้าขาวซีด ใช้พลังไปเกือบหมดแล้ว ด้วยมรรควิถีของพวกเขา ยามใช้ระเบียบระดับเทพต้านศัตรูย่อมยืนหยัดได้ไม่นานนัก

“มหาเคราะห์ของหลินสวินยังไม่สิ้นสุด พวกเรา… พวกเราคงยืนหยัดได้ไม่นานแล้ว…”

มุมปากตู๋กูยงมีรอยเลือดสายหนึ่ง สีหน้าซีดเผือด

น้ำเสียงเจือความไม่ยินยอมและเดือดดาลอย่างเด่นชัด

เมื่อมองคนอื่นอีกครั้ง พลังขับเคลื่อนทั่วร่างต่างผลาญไปด้วยความเร็วชวนตะลึง สีหน้าแต่ละคนล้วนเจือความไม่ยินยอมและเคียดแค้น

ทำไมเป็นเช่นนี้

วันนี้ลัทธิแรกกำเนิดจะถูกลบชื่อไปจากโลกจริงหรือ

ปัง!

ทันใดนั้นสมบัติลับระเบียบในมือฟางเต้าผิงแตกละเอียด สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นซีดเผือดไม่น่าดูในชั่วขณะเดียว “จบเห่แล้ว…”

เกือบจะในเวลาเดียวกัน ระดับนิรันดร์เก้าคนที่โลกภายนอกสังเกตเห็นอย่างชัดเจน ว่าอานุภาพของพลังระเบียบระดับเทพที่ปกคลุมทางเข้าแดนแรกเริ่มลดฮวบลงช่วงใหญ่อย่างเห็นได้ชัด

“ตอนนี้แหละ!”

ถานอู่ตวาดลั่น นัยน์ตาวาววาบหาใดเปรียบ

สัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นต่างเผยสีหน้ายินดีเสี้ยวหนึ่ง พวกเขาคิดไม่ถึงว่าพลังระเบียบของแดนแรกเริ่มจะเกิดช่องโหว่เร็วกว่าการคาดเดาของพวกเขา

“ฆ่า!”

พวกเขาลงมือเต็มกำลังโดยไม่ลังเล

ในช่วงเวลาคับขันนี้เสียงกัมปนาทลุ่มลึกสะท้านฟ้าสะเทือนดินดังก้องในส่วนลึกของเวิ้งฟ้า

ตูม!!!

เสียงกัมปนาทนั้นราวกับจะสั่นคลอนเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ปั่นป่วนอยู่นอกเวิ้งฟ้า สะเทือนจนระดับนิรันดร์เก้าคนที่ตั้งท่าบุกเข้าไปในลัทธิแรกกำเนิดรวดเดียวตัวแข็งทื่อ ในใจสั่นสะท้าน

นี่คือ?

พวกเขาพลันเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่า…

แสงเคราะห์ชวนประหวั่นที่ปกคลุมส่วนลึกของเวิ้งฟ้าดั่งมหาสมุทรเวลานี้ถึงกับระเบิดออกทันที เมฆาเคราะห์แน่นหนาที่ปกคลุมเวิ้งฟ้านั้นระเบิดกระจุยเหมือนถูกโจมตีจนดับสลาย

จากนั้นเงาร่างสูงโปร่งหนึ่งหยัดตัวขึ้นในส่วนลึกของเวิ้งฟ้า

พริบตานั้นอานุภาพชวนประหวั่นที่ทำให้ทั่วหล้าสั่นสะเทือนแผ่กระจายออกมาจากร่างสูงโปร่งนั่น เวลานี้แสงเคราะห์และเมฆาเคราะห์ที่ถูกซัดแหลกทั่วทิศเหมือนถูกพายุม้วนกลืน ถาโถมไปทางร่างนั้นจากทั่วทิศอย่างบ้าคลั่ง

โครมครืน…

พลังของแสงเคราะห์กับเมฆาเคราะห์โหมกระหน่ำ ล้วนถูกเงาร่างนั้นกลืนกินดั่งพายุหอบเศษเมฆา แค่ไม่กี่ลมหายใจเท่านั้นฟ้าดินก็ปลอดโปร่งทั้งแถบ

ไม่มีทั้งแสงเคราะห์และเมฆาเคราะห์!

มหาเคราะห์นิรันดร์ราวกับวันสิ้นโลก เวลานี้ถึงกับถูกกลืนกินจนหมด!?

นัยน์ตาของพวกเจียหนาน ถานอู่พลันหดรัดในชั่วขณะ เผยสีหน้ายากจะเชื่อออกมา

หลินสวินนั่น… ถึงกับข้ามด่านเคราะห์สำเร็จแล้ว!

ในสายตาพวกเขา ที่ส่วนลึกของเวิ้งฟ้าตอนนี้ ทั่วร่างหลินสวินล้วนถูกกลิ่นอายนิรันดร์ยิ่งใหญ่ที่คลุมเครือเร้นลับอบอวล เปล่งประกายโชติช่วง อานุภาพของกลิ่นอายที่แผ่ออกมาทั่วร่างบีบกดจนฟ้าดินแถบนี้สั่นสะเทือน ส่งเสียงคร่ำครวญไม่หยุด

ทำให้พวกเขาระดับนิรันดร์เก้าคนรู้สึกถึงพลังกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง

แข็งแกร่งมาก!

เพิ่งข้ามด่านเคราะห์สำเร็จเท่านั้น ไม่เพียงไม่มีสัญญาณอ่อนแอใดๆ กลับเป็นว่าแข็งแกร่งจนทำให้เฒ่าชราที่แจ้งมรรคนิรันดร์มาไม่รู้กี่กาลเวลาอย่างพวกเขารู้สึกถึงภัยคุกคามอย่างเด่นชัด!

ในแดนแรกเริ่ม

พวกเสวียนเฟยหลิงที่เดิมเตรียมใจตายอึ้งงันไปก่อน จากนั้นก็ยินดีปรีดาไม่หยุด

หลินสวินข้ามด่านเคราะห์สำเร็จแล้ว!

นี่ทำให้พวกเขาเห็นความหวังเสี้ยวหนึ่ง ตื่นเต้นจนสั่นไปทั้งตัว

“วันนี้หากข้าคนแซ่หลินไม่สังหารพวกเจ้าจะไม่ขอเป็นคน!”

เสียงหลินสวินดังก้องจากส่วนลึกของเวิ้งฟ้า ในความเยียบเย็นเจือไอสังหารโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย เหมือนจักรพรรดิสวรรค์ออกคำสั่ง ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี

ก่อนหน้านี้แม้เขากำลังข้ามด่านเคราะห์ แต่ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงทางเข้าแดนแรกเริ่มถูกเขาเก็บไว้ในใจนานแล้ว

กล่าวได้ว่าหลินสวินแค้นระดับนิรันดร์ที่ต่ำช้าถึงขีดสุดพวกนี้เข้ากระดูก ไอสังหารพลุ่งพล่าน ไม่มีทางปล่อยพวกเขาจากไปแน่

พวกเจียหนานหรี่ตา จากนั้นก็ไม่วายยิ้มหยัน

ระดับนิรันดร์ที่เพิ่งข้ามด่านเคราะห์แจ้งมรรคคนหนึ่ง ยังพูดเพ้อเจ้อว่าจะฆ่าเฒ่าชราอย่างพวกเขา เรื่องนี้น่าขันเพียงใด

“สหายยุทธ์ถานอู่ เจ้ากับข้ามิสู้ลงมือพร้อมกันจัดการเจ้าหมอนี่ สหายยุทธ์อีกเจ็ดคนโจมตีลัทธิแรกกำเนิดต่อเป็นอย่างไร”

เจียหนานกล่าวสีหน้าราบเรียบ

“ได้”

ถานอู่พยักหน้า

พวกเหวินไท่หลิน เย่ซางคิดๆ แล้วก็เอ่ยตกลง

ทำสองสิ่งพร้อมกัน ไม่ว่าจัดการหลินสวินหรือจัดการลัทธิแรกกำเนิด ล้วนสร้างแรงโจมตีถึงชีวิตได้ทั้งสิ้น!

“ข้าเกรงว่าพวกเจ้าคงไม่มีโอกาส”

ในส่วนลึกของเวิ้งฟ้าสีหน้าหลินสวินเรียบเฉยเยียบเย็น ขณะกล่าวเขาก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่ง ก็พลันมาถึงหน้าสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับนิรันดร์พวกนั้นแล้ว

………………….

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 1100 อ่านนิยาย


ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์

ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง

หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้

แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

Options

not work with dark mode
Reset