Abe the Wizard 99 โจมตี

ตอนที่ 99 โจมตี

AtW ตอนที่ 99 โจมตี

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย

“โจมตีจุดอ่อนของศัตรูด้วยจุดแข็งที่ตัวเองมีซะ!”

ค่าพดของบรรพบรษค่านี้เป็นค่าที่มีหลากหลายความหมายมากมายอาเบลร์ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองเป็นอย่างดี พลังทางกายภาพที่เหนือกว่าผู้อื่นนั้นเป็นเหมือนกับจุดแข็งของตัวเขาส่วนจุดอ่อนของตัวเขานั้นก็คงจะหนีไม่พ้นการขาดประสบการณ์ในการฝึกฝนเป็นแบบอัศวินเหมือนกับคนอื่นๆทั่วไป

“นี่มันพลังลมปราณศักดิ์สิทธิ์” อัศวินทั้งสองคนได้เผลอร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ

ทหารคาวาลี่ทั่วไปนั้นไม่รู้ว่าพลังลมสีทองนั้นคืออะไร แต่เหล่าอัศวินที่รับใช้ราชวงศ์นั้นเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องพลังลมปราณนี้มาบ้างอัศวินทั้งสองคนจึงตัดสินใจที่จะใช้ทหารคาวาลี่ป้องกันการทุ่งโจมตีของอาเบลให้ได้อัศวินทั้งสองคนได้แต่มาใกล้ๆเพื่อที่จะมองดูเหตุการณ์อย่างรวดเร็ว

“เทคนิคพุ่งโจมตี!” อาเบลกู่ร้องออกมาอย่างเสียงดัง ตอนนี้พลังลมปราณได้โผล่พ้นออกมาจากร่างกายของตัวเขาเรื่อยๆ จนเข้าปกคลุมไปทั่วทั้งตัวม้าศึกความเร็วของม้าศึกที่อาเบลกําลังขี่ในตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทันทีเดิมที่แล้ว”เทคนิคพุ่งโจมตี”บนหลังม้านั้นจะสามารถเพิ่มความเร็วของม้าได้เพียง 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นแต่ตอนนี้อาเบลได้เร่งความเร็วของม้าจนไปถึง 100 เปอร์เซ็นต์ได้แล้ว

ในตอนนี้ม้าศึกที่อาเบลกาลังขอยู่นั้นเร็วขึ้นจนเกือบที่จะมองไม่เห็นไปแล้วในไม่ใช้อาเบลก็ได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทหารคาวาลี่ที่กําลังสวมชุดเกราะสีทองอาเบลไม่รอช้าใช้ดาบจังตัวเองกระแทกดาบของเขาไปใส่ร่างกายของศัตรูในทันทีไม่ว่าชุดเกราะสีทองจะสร้างมาจากอะไรแต่พลังกายรวมไปถึงดาบเวทย์นั้นก็ทําให้การโจมตีของอาเบลได้ผลในที่สุดร่างกายของทหารคาวารี่ผู้โชคร้ายถูกสังหารตายในทัน

หลังจากการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วนั้นทําให้บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยหมอกควันที่เกิดมาจากการเคลื่อนที่ของอาเบล ตอนนี้อาเบลได้ปรากฏตัวออกมาจากหมอกควันราวกับว่าตัวเขานั้นเป็นเทพเจ้าแห่งความตายไปแล้วด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นที่ตัวอาเบลมทําให้ตัวเขานั้นสามารถฟันทหารรอบๆตัวให้ตายได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวหลังจากที่โจมตีเสร็จอาเบลก็ได้ตั้งท่าโจมตีเป็นแนวนอนอีกครั้งทหารคาวาลี่อีก 2 คนได้ถูกดาบของอาเบลฟันเข้าอีกครั้ง ความเร็วและพลังโจมตีทําให้ทหารทั้ง 2 คนนั้นไม่สามารถที่จะต้านทานการโจมตีได้เลยพวกเขาได้จบชีวิตไปในทันที

เมื่อม้าศึกของอาเบลได้เหยียบย้ําศพของทหารทั้ง 2 คนไป ตอนนี้ทหารคาวารี่คนอื่นก็ได้ก้าวเข้ามาเผชิญหน้ากับอาเบลอีกครั้งแล้ว แต่ในครั้งนี้เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอีกต่อไปคาวาลี่คนนี้ตอบสนองกว่าเร็วกว่าคนที่ผ่านๆมาทหารคนนั้นได้ใช้หอกยาวของตัวเองแทงเข้าหาอาเบลพร้อมกับกู่ร้องอย่างเสียงดังอาเบอรู้ล่วง หน้าอยู่แล้วว่าทหารคนนี้จะโจมตีด้วยหอกยากผ่านพลังแห่งความมุ่งมั่นของตัวเองร่างกายของอาเบลได้ตอบสนองกับการโจมตีครั้งนี้ไปอย่างธรรมชาติอาเบลปล่อยให้ร่างกายของตัวเองหลบหอกยาวไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเขาใช้รักแร้ข้างซ้ายของตัวเองในการยึดมั่นหอกยาวอันนี้เอาไว้ทหารคาวาลี่คนนั้นไม่สามารถที่จะชักหอกกลับไปได้อาเบลได้ง่างดาบเวทย์ของตัวเองขึ้นก่อนที่จะพูดว่า”ตายซะ!”

ในขณะที่หัวของทหารผู้โชคร้ายคนนั้นได้ตกลงสู่พื้น อาเบลก็ได้ใช้ขาของตัวเองเตะร่างกายทไปารคนนั้นไปใส่ทหารอีกคนในทันทีทหารอีกคนได้ล้มลงจากม้าของตัวเองอาเบลได้เคลื่อนไหวต่อไปอย่างรวดเร็วม้าศึกที่ได้ก้าวผ่านทหารที่ตกม้า คนนั้นได้เหยียบเข้าไปที่อกทหารคนนั้นเข้าอย่างจัง กระดูกซี่โครงของชายคนนั้นถูกกีบเท้ามาเจาะทะลุเข้าไป

ในตอนที่อาเบลกาลังเคลื่อนที่ต่อไปนั้นเอง ตอนนี้เขาก็ได้ถูกล้อมโดยทหารคาวาลี่ที่กําลังสวมใส่ชุดเกราะสีทองมากขึ้นเรื่อยๆอาเบลได้ใช้พลังลมปราณของตัวเองใส่ไปที่ดาบอีกครั้งตอนนี้ดาบเวทย์ของอาเบลกําลังเปลี่ยนจากสีฟ้าไปเป็นสีทองตอนนี้อาเบลได้แต่เชื่อสัญชาตญาณของตัวเองและสู้ต่อไปเท่านั้นพลังแห่งความมุ่งมั่นของอาเบลเองยังสั่งให้เขาคอยใช้มือซ้ายในการปัดป้องการโจมตีต่อไปส่วนมือขวาของเขาเองก็ยังคงกวัดแกว่งดาบต่อไปเช่นกันไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะพยายามป้องกันหรือไม่แต่สุดท้ายผลก็ออกมาเป็นเช่นเดิม

อาเบลได้ป้องกันการโจมตีจากหอกยาวด้วยโล่ห์ที่อยู่ในมือซ้ายอีกครั้งในขณะเดียวกันเขาก็ได้ใช้ดาบเวทย์ที่มือขวาของตัวเองในการป้องกันหอกยาวอีกเล่มเช่นเดียวกันแสงสีฟ้าจากดาบของอาเบลได้ปะทะเข้ากับหอกยาวจากทหารคาวาลี่ด้วยพลังเวทย์แห่งน้ำแข็งนี้เองทําให้ผู้ใช้หอกคนนั้นถูกชะลอความเร็วให้ลดลงเมื่อศัตรูที่กําลังเผชิญหน้ากับอาเบลอยู่มีช่องโหว่เขาก็ได้ใช้ดาบปลิดชีพศัตรูคนนั้นทันทีแต่ไม่ ทันใดก็ได้มีหอกอีกเล่มพุ่งเข้าใส่ตัวเขาอีกแล้วอาเบลสังหารเหล่าทหารคาวาลีไปอย่างมากมายด้วยดาบเพียงเล่มเดียวแสงสีฟ้าจากดาบเวทย์ของอาเบลได้เข้าปกคลุมร่างกายที่ไร้ชีวิตของทหารคาวาล์ไปถึง 3 คนแล้วภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

เนื่องจากทหารคาวาลี่ทั้งหมดถูกทําให้ช้าลงดังนั้นแล้วตําแหน่งการโจมตีของพวกเขาในตอนนี้จึงยุ่งเหยิงไปหมด อาเบลใช้โอกาสนี้ในการทําลายแนวป้องกันของทหารเกราะทองทั้งหมดดูเหมือนว่าการทําลายแนวป้องกันนั้นจ่าสําเร็จด้วยดีเขารีบจัดการกับทหารกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าเพื่อที่จะไปหาลอเรนและพ่อบ้านทั้ง 2 คนให้ได้

“นายท่านอาเบล!” อัศวินทั้ง 20 คนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากเพื่อเห็นอาเบลกําลังพุ่งตรงมาเพื่อช่วยพวกเขาตอนนี้อาเบลใกล้ที่จะถึงแนวป้องกันของอัศวินรับใช้แล้วนั่งเอง

อาเบลไม่ได้ตอบโต้พวกอัศวินแต่อย่างใด ตอนนี้อาเบลยังคงฝ่าแนวป้องกันต่อไปเขาต้องการที่จะไปถึงที่เก็บอุปกรณ์ให้ได้นั่นเองสิ่งที่อาเบลต้องการจะใช้ในตอนนี้คือธนูแฮรี่ที่อยู่ในที่เก็บอุปกรณ์หลังจากที่คว้าธนูคันนี้มาได้อาเบลก็ไม่รอช้เขารีบง่างธนูก่อนที่จะยิงออกไปในทันทีอาเบลยังคงยิงธนูใส่เหล่าทหารคาวาลี่ต่อไปตอนนี้มีทหารคาวาลี่ถูกยิงไปมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ

“จัดทัพป้องกันซะ! อย่าให้ลูกธนูยิงมาโดนพวกเราได้” หลังจากมีเสียงร้องที่แสนเจ็บปวดดังขึ้นมาจากเหล่าทหารตอนนี้พวกทหารทั้งหมดก็ได้จัดรูปแบบกองทัพใหม่แล้วทหารที่ถือโล่ห์ทั้งหมดได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้าดูเหมือนว่าจะมีทหารที่เป็นหน่วยป้องกันนั้นล้อมอยู่ข้างหน้าไปทั่วทุกที่ส่วนศูนย์กลางของขบวนทัพเองเป็นอัศวินทั้ง 2 คนเช่นเคย

ในเวลานั้นเองลอร์ดมาแชลก็ได้เดินทางมาถึงพร้อมกับนักรบทั้ง 10 คนเมื่ออัศวินผู้นําทัพทั้ง 2 คนเห็นกําลังสนับสนุนจากลอร์ดมาแชลพวกเขาก็รีบหยิบอาวุธขึ้นมาถือในมืออย่างรวดเร็วก่อนที่จะขว้างอาวุธนั้นไปในอากาศ

“ทหารองค์รักษ์คาวาลี่ พวกนายกล้าดียังไงโจมตีขุนนางโดยไร้เหตุผลแบบนี้”ลอร์ดมาแชลได้ตะโกนออกมาด้วยความรู้สึกที่โกรธเป็นอย่างมาก

“ที่ฉันมาที่นี่เป็นเพราะว่าฉันถูกสั่งให้พาพวกเขากลับไปสอบสวน แน่นอนว่าถ้าหากใครขัดขืนแล้วละก็มันผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษโดยเหล่าราชวงศ์”อัศวินคนหนึ่งได้ตะโกนออกมา

อาเบลไม่ได้สนใจสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้อีกต่อไป เขาใช้โอกาสในตอนนั้นให้พ่อบ้านทั้งสองคน”ช่วยใส่ชุดเกราะให้ที่”

อาเบลสะบัดเลือดที่ติดอยู่ที่ร่างกายของเขาออกจนหมด เมื่อลอเรนเห็นเลือดบนร่างกายของอาเบลนั้นเธอก็ได้แต่ตกใจกลัวตอนนี้อาเบลได้แต่กระซิบบอกให้ลอเรนกลับไปรอที่รถม้าก่อน

ลอเรนมองไปที่อาเบลก่อนที่จะพยักหน้ายินดีท่าตามที่เขาขอแต่โดยดี

“ลมทมิฬ จับตาดูลอเรนเพื่อฉันทีนะ” อาเบลได้สั่งการลมทมิฬที่อยู่ไม่ไกลเท่าไรจากเขามากนัก

ในพริบตานั้นลมทมิฬก็ได้วิ่งไปหาลอเรนในทันที ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็ฐที่ขาของมันจะไม่ได้รุนแรงอะไรมากนัก

พ่อบ้านทั้งสองคนนั้นได้สวมใส่ชุดเกราะให้กับอาเบลอย่างรวดเร็ว ภายในไม่กี่วินาทีถัดมาตอนนี้ร่างกายของอาเบลก็เต็มไปด้วยชุดเกราะยกเซตแล้วจากนั้นอาเบลก็ได้หยิบหอกขนาด 300 ปอนด์ลงมาจากรถม้าของเขาก่อนที่จะขึ้นไปขี่ม้าศึกอีกครั้ง

“พ่อไม่ต้องไปพูดกับพวกมันหรอก ดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกราชวงศ์ตอนนี้พวกเขาจึงอยากจะจัดการคนนอกอย่างเราออก”

อาเบอรู้ว่าในเวลานี้กษัตริย์อาสเตอร์คงจะต้องตายไปแล้วไม่ผิดแน่ภายในเมืองเบกองนั้นปิดตัวลงจะต้องมีพลังอานาจอะไรที่ยิ่งใหญ่คอยบงการอยู่อย่างแน่นอนวิธีที่ดีที่สุดในการจะเพิ่มอานาจของตัวเองนั้นก็คือการจัดการกับภัยคุกคามทั้งหมดของคนคนนั้นนั่นเอง

อาเบลและพรรคพวกทั้งหมดเหมือนติดอยู่ในใจกลางมรสุมแล้ว ใครบางคนคงจะคิดว่าอาวุธที่อาเบลได้นํามาด้วยนั้นจะต้องเป็นภัยคุกคามนี่คงเป็นเหตุที่ทําให้สถานการณ์ในปัจจุบันเป็นแบบนี้ได้

“รอรับการโจมตีของฉันได้เลย!” ตอนนี้อาเบลตะโกนออกมาอย่างมีพลังเขาควบม้าของตัวเองตรงไปที่กองทหารคาวาลี่อีกครั้ง

เมื่ออาเบลสวมใส่ชุดเกราะของเขาเสร็จ ตัวเขานั้นก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการป้องกันตัวเองอีกต่อไปหอกยาวที่มีขนาดกว่า 5 เมตรเองก็ทรงพลังเป็นอย่างมากถ้าหากอาเบลใช้หอกยาวบนหลังม้านี้แล้วละก็ตัวเขาก็มั่นใจว่าจะไม่แพ้ใครอีก

พลังลมปราณสีทองของอาเบลนั้นได้ไหลออกจากร่างกายของเขาอีกครั้งตอนนี้พลังลมปราณสีทองเริ่มไหลเข้าใส่หอกยาวของเขาด้วยพลังลมปราณนี้เองทําให้หอกของอาเบลที่ยาวกว่า 5 เมตรนั้นกลายเป็นหอกสีทองไปในที่สุด
“ใช้พลังลมปราณป้องกันซะ!” อัศวินทั้งสองคนได้สั่งให้แนวป้องกันทั้งหมดใช้โล่ห์ของตัวเองป้องกันการโจมตีของอาเบลหลังจากที่ได้สั่งการไปทหารทั้งหมดก็ได้วิ่งเข้าไปหาอัศวินทั้งสองคนก่อนที่จะใช้โล่ห์ของตัวเองนั้นป้องกันอัศวินทั้ง 2 คนเอาไว้

ในเวลานี้อัศวินทั้งสองคนกําลังถูกล้อมไปด้วยพลังลมปราณสีขาวจากโล่ห์ทั้ง 4 ด้านที่กําลังล้อมรอบตัวเองอยู่ดูเหมือนว่าอัศวินทั้ง 2 คนนี้จะต้องการถ่วงเวลาเอาไว้จนกว่ากําลังเสริมของพวกเขาจะมาถึง

ตอนนี้ทหารคาวารทั้งหมดที่เหลือไม่ได้สนใจอีกต่อไปแล้วว่าพลังลมปราณของอาเบลจะมากมายสักแค่ไหนพวกเขาทั้งหมดในตอนนี้กําลังเพ่งสมาธิไปกับการป้องกันการโจมตีที่จะมาถึงโดยสร้างกลยุทธ์ในการป้องกันขึ้นมา

อาเบลได้เดินนําอัศวินรับใช้มาจนมาถึงด้านหน้าของเหล่าทหารคาวาลี่เป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้ถ้าหากอาเบลสามารถทะลวงแนวป้องกันนี้ไปได้อัศวินรับใช้ทั้งหมดก็จะเริ่มสลายแนวป้องกันของตัวเองก่อนที่จะลงมือจัดการกับพวกทหารที่เหลือทั้งหมด

อาเบลได้มองไปที่แนวการป้องกันอย่างเย็นชา ก่อนที่จะยกหอกยาวของตัวเองขึ้นมา

หลังจากนั้นตัวเขาก็ได้ใช้หอกยาวทะลวงแนวป้องกันอย่างรุนแรงในทันที

ผู้คนจํานวนมากที่กําลังตั้งแนวป้องกันเพื่อตั้งรับการโจมตีต่างก็ได้รับบาดเจ็บในทันทีตอนนี้พวกทหารเหล่านั้นต่างก็เริ่มกระอักเลือด แต่ถึงพวกเขาจะบาดเจ็บมากแค่ไหนตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่แตกพ่ายไปอยู่ดี

อาเบลรู้สึกประหลาดใจกับผลลัพธ์ที่ออกมาเช่นกัน ตอนนี้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่ตัวเขามีนั้นคงจะมีราวๆ ถึง 3000 ปอนด์ด้วยกัน และถ้าหากใช้พลังลมปราณด้วยแล้วเรี่ยวแรงของอาเบลก็จะเพิ่มขึ้นราวๆ 4 เท่าด้วยกันในการโจมตีครั้งสุดท้ายอาเบลไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดที่ตัวเขามีแต่พลังที่เขาใช้ก็มากพอที่จะจัดการกับศัตรูของเขาแล้ว

อาเบลได้ใช้กําลังของเขาอย่างเต็มที่ในการโจมตีต่อไปในครั้งที่ 2 เมื่อหอกยาว 5 เมตรพุ่งตรงมาใส่เหล่าทหารกลางอากาศทันใดนั้นเองโล่ห์ที่ป้องกันหอกเอาไว้ก็ถูกหอกอันนั้นแทงทะลุไปในทันทีการป้องกันทั้ง 4 ทิศนั้นได้ถูกทําลายโดยพลังเวทย์มนตร์จากหอกของอาเบลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โล่ห์มากมายหลายอันนั้นถูกหอกยาวฟาดกระเด็นไปไกลถึง 10 เมตรด้วยกัน

“ลุย!” อาเบลกู่ร้องออกมาอย่างเสียงดัง ทันใดนั้นเองอัศวินทั้ง 20 คนที่อยู่ด้านหลังเขาต่างก็วิ่งไปข้างหน้าในทันที ลอร์ดมาแชลที่มาพร้อมกับเหล่านักรบอีก 10 คนเองก็วิ่งมาจากด้านข้างเช่นกันตอนนี้กําลังพลทั้งหมดของฝ่ายอาเบลนั้นได้เข้าร่วมการต่อสู้แล้วนั่นเอง

ด้วยการโจมตีครั้งใหญ่ของอาเบลเมื่อครู่นี้ทําให้เหล่าทหารคาวาลี่หลายคนนั้นได้รับบาดเจ็บจากภายในไปความแข็งแกร่งทางด้านการทหารของพวกเขาในตอนนี้นั้นได้ลดลงอย่างมากแล้วต่อจากนี้ไปก็คงไม่ได้เรียกการต่อสู้นี้ว่าเป็นการต่อสู้อีกต่อไปดูเหมือนว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นการสังหารหมู่ซะมากกว่าไม่สําคัญเลยว่าจะมีอัศวินแค่ 20 คนหรือเหล่านักรบเพียงแค่ 10 คนเท่านั้นแต่ผู้คนทั้งหมดนี้ต่างก็ผ่านประสบการณ์การสู้รบมาแล้วนั่นเอง สายตาของเหล่านักรบทั้งหมดนั้นปราศจากความรู้สึกผิดแต่อย่างใด เหล่าอัศวินรวมไปถึงนักรบทุกๆคนต่างก็ใช้อาวุธที่ตัวเองนั้นเช่นฆ่าศัตรูและจบชีวิตพวกเขาอย่างไม่ลังเลวิธีการนี้คงจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดแล้วที่จะทําให้พวกเขานั้นประหยัดพลังของตัวเองเอาไว้ได้

Abe the Wizard

Abe the Wizard

Score 10
Status: Completed

บทนำ

ฉันได้กลับชาติมาเกิดในโลกใบใหม่นี้ ดูเหมือนว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่ติดตัวฉันมาที่โลกใบนี้ด้วย สิ่งนั้นคือ ฮอร์ราดริกคิวบ์ จากเกม Diablo II นั่นเอง

หนทางการเป็นอัศวินสุดเท่ห์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่ทำไมการเป็นจอมเวทย์ก็อยู่ในทางเลือกด้วยล่ะ?

แล้วฉันควรจะเลือกทางไหนกันแน่นะ?

Options

not work with dark mode
Reset