Abe the Wizard 66 ของขวัญวันเกิด

ตอนที่ 66 ของขวัญวันเกิด

AtW ตอนที่ 66 ของขวัญวันเกิด

 

“ไวเคานต์ดิ้กเคน ถ้าหากท่านต้องการดาบเวทย์ของผมแล้วละก็ ผมมีให้อยู่เล่มหนึ่ง” แต่ไม่ทันที่อาเบลจะได้พูดจบใบหน้าของเจ้าชายไวแอดต์ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที

 

เจ้าชายไวแอดต์ในตอนนี้ไม่ได้มีเงินมากมายอีกต่อไปแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นราชวงศ์อยู่ แต่ตอนนี้เจ้าชายไวแอดต์ก็ไม่สามารถใช้การ์ดเวทย์มนตร์ทองคําในการใช้จ่ายได้อย่างเพลิดเพลินอีกต่อไปแล้ว ถ้าหากเจ้าชายไวแอดต์ไม่ได้รับสิทธิ์สืบสิทธิ์มาจากดยุคคาร์เมล ตอนนี้สถานะในการเป็นเจ้าชายของเจ้าชายไวแอคด์นั้นไม่ได้มั่นคงอีกต่อไปแล้วนั่นเอง เจ้าชายไวแอดต์อาจจะเป็นสามัญชนได้ทุกเวลา

 

“อย่าเรียกฉันว่าแบบนั้นเลยอาเบล ถ้าหากนายยังไม่ได้สร้างดาบเวทย์ในตอนนี้ฉันจะรอจนกว่านายจะสร้างดาบเวทย์ครั้งหน้าเอง” ไวเคานต์ดิ้กเคนไม่ชอบให้คนเรียกเขาว่าไวเคานต์นั่นเอง ทุกคนในเมืองฮาเวสล้วนรู้ดี ตั้งแต่เจ้าชายไวแอดต์ทําให้ไวเคานต์ดิ้กเคนเสื่อมเสียชื่อเสียง ตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้มีความสุขอีกต่อไป แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นไวเคานต์ดิ้กเคนก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าชายไวแอดต์มีเงินไม่พออย่างแน่นอนในตอนนี้ ตอนนี้ไม่สําคัญอีกต่อไปแล้วว่าเจ้าชายคนนี้จะซื้อดาบเวทย์ได้ไหม แต่เขาจะต้องอับอายอย่างแน่นอน ถ้าหากซื้อดาบเวทย์เล่มนี้ไม่ได้ ไวเคานต์ดิ้กเคนได้หยิบการ์ดเวทย์มนตร์ทองคําออกมาจากกระเป๋าก่อนจะพูดขึ้นว่า “ฉันสามารถจ่ายเงินให้นายล่วงหน้าได้นะท่านปรมาจารย์อาเบล”

 

“ตอนนี้ผมมีอาวุธเวทย์ 2 ชิ้นพร้อมแล้ว ถ้าหากท่านเจ้าเมืองอยากได้ ผมก็ยินดีที่จะขายให้กับท่าน แต่ตอนนี้ผมยังเหลือดาบเวทย์อีก 1 เล่ม” อาเบลได้หันไปหาพ่อบ้านลินด์เซ่ก่อนที่จะขอให้เขานําอาวุธเวทย์อีกชิ้นเข้ามาในงานเลี้ยง

 

โรงตีเหล็กส่วนตัวของอาเบลนั้นไม่เคยเปิดให้ใครดูมาก่อน มีเพียงพ่อบ้านลินด์เซ่และลอร์ดมาแชลเท่านั้นที่จะสามารถเข้าและออกห้องทํางานส่วนตัวของอาเบลได้ นับตั้งแต่พ่อบ้านลินด์เซ่รู้มูลค่าของอาวุธอาเบลแล้วเขาจึงตัดสินใจที่จะเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยหน้าประตูโรงตีเหล็กของอาเบลในทันที

 

ลินด์เซ่ได้รีบไปนําดาบเวทย์ออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่กี่นาที่เท่านั้นดาบเวทย์อีกเล่มก็อยู่ในมือของไวเคานต์ดิ้กเคนแล้ว

 

ไวเคานต์ดิ้กเคนได้ทดลองโบกดาบเวทย์เล่มนี้อยู่หลายครั้ง ก่อนที่เขาจะมอบการ์ดเวทย์มนตร์ทองคําให้กับอาเบลที่ยืนอยู่ตรงหน้า ตอนนี้เงินในการ์ดของอาเบลได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 1750 เหรียญไปเป็น 51750 เหรียญ

 

จนถึงตอนนี้แล้วอาเบลไม่เคยมีเงินมากมายขนาดนี้มาก่อน แต่แน่นอนว่าตอนนี้เงินจํานวนกว่า 5 หมื่นเหรียญนั้นก็ยังไม่เพียงพอ ต่อน้ำยาเสริมพลังที่อาเบลจะต้องใช้อยู่ดี อาเบลจะต้องใช้เงินเป็นจํานวนกว่า 270,000 เหรียญทองเพื่อที่จะสามารถซื้อน้ำยาเสริมพลังสําหรับการฝึกฝนนี้ได้

 

ในวินาทีนั้นเองทุกสายตาก็ได้จับต้องไปที่เจ้าชายไวแอดต์ อาวุธเวทย์ที่ถูกประเมินราคาโดยอาจารย์โซรินนั้นได้ถูกซื้อโดยไวเคานต์ดิ้กเคนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เจ้าชายไวแอดต์ยังคงไม่เคลื่อนไหวและแสดงท่าที่ใดๆ ออกมา

 

“ท่านปรมาจารย์อาเบล ฉันขอพูดกับนายเป็นการส่วนตัวได้ไหม?” เจ้าชายไวแอดต์พูดกับอาเบลด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง

 

“ได้โปรดตามมาทางนี้” อาเบลพูดก่อนที่จะชี้ไปที่ห้องรับแขกห้องหนึ่ง

 

เมื่อาเบลและเจ้าชายมาถึงห้องรับแขกห้องนั้น ใบหน้าของทั้งคู่ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มทันที สําหรับอาเบลแล้วใบหน้าของเขาตอนนี้กําลังเผยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ออกมา แต่สําหรับเจ้าชายไวแอดต์แล้วใบหน้าของเขาในตอนนี้กําลังเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นอยู่นั่นเอง

 

ตอนนี้อาเบลได้มีอํานาจในการต่อลองที่เหนือกว่าเจ้าชายไวแอดต์มาครอบครองแล้ว

 

” ตอนนี้ดาบเวทย์เล่มนี้เป็นของคุณแล้วนะครับ” อาเบลได้พูดก่อนที่จะยื่นดาบเวทย์ให้กับเจ้าชายไวแอดต์

 

จนถึงตอนนี้ในงานเลี้ยงแห่งนี้ได้มีเรื่องราวที่น่าตกใจหลายครั้งแล้ว ครั้งแรกก็คือการที่เจ้าเมืองฮาเวสรวมไปถึงเจ้าชายลําดับที่ 4 ได้มาที่งานเลี้ยงแห่งนี้นี่เอง ส่วนเรื่องที่น่าตกใจอีกเรื่องนั้นก็คืออาเบลได้เปิดเผยอาวุธเวทย์ที่ตัวเขานั้นเป็นคนสร้างขึ้น มูลค่าของดาบเวทย์ที่อาเบลทํานั้นมีมูลค่าสูงถึง 50,000 เหรียญทอง

 

เมื่อแขกที่มางานเลี้ยงทุกคนออกจากปราสาทด้วยความพึงพอใจไป โซรินและเบธแฮมก็ยังคงยืนคุยกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในการตีเหล็กต่อไป

 

เมื่อแขกทั้งหมดได้จากไปแล้ว ลอร์ดมาแชลก็ได้ถามอาเบลด้วยความร้อนใจในทันที “เจ้าชายคนนั้นได้ใช้อะไรซื้อดาบเวทย์ของลูกกัน?”

 

“เจ้าชายไวแอดต์ได้ให้ที่ดินที่ระดับ 1000 บนถนนไทรอัมพ์อเวนิวในเมืองเบกองเพื่อแลกเปลี่ยนกับดาบเวทย์” อาเบลได้ตอบกลับไป

 

” ที่ดินบนถนนไทรอัมพ์?” ดวงตาของลอร์ดมาแชลเปล่งประกายออกมาก่อนจะหัวเราะและพูดต่อไปอีกว่า ” สถานที่ตรงนั้นเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสําหรับท่านดยุคแล้วล่ะ”

 

” ผมต้องการที่จะตั้งถิ่นฐานที่นั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ผมยอมรับข้อเสนอในครั้งนี้ครับ” อาเบลไม่ได้กลัวว่าเจ้าชายไวแอดต์จะแลกเปลี่ยนที่ดินถูกๆ กับดาบของเขาเลย การจะทําแบบนั้นได้อาจจะเสี่ยงทําให้สหพันธ์ช่างตีเหล็กโกรธได้นั้นเอง

 

“แล้วของขวัญวันเกิดของพ่อล่ะ?” ลอร์ดมาแชลได้อิจฉาที่อาเบลมีดาบเวทย์เล่มใหม่ ถ้าฟังจากคําแนะนําของโซรินแล้วดาบเวทย์เล่มใหม่ของอาเบลเป็นดาบเวทย์ที่ทรงพลังกว่าดาบเวทย์ที่อาเบลเคยสร้างนั้นเอง

 

“ผมจะไม่มีของขวัญวันเกิดให้กับพ่อได้ยังไงกัน… ผมเตรียมของขวัญเอาไว้แล้ว เราไปดูกันเถอะ”

 

อาเบลได้นําทางลอร์ดมาแชลออกไปที่ลานหน้าปราสาท ตอนนี้เองเบธแฮมได้รู้แล้วว่าอาเบลกําลังจะแสดงของขวัญวันเกิดให้กับลอร์ดมาแชลดูนั่นเอง เบธแฮมจึงพาโซรินที่อยู่กับเขาด้วยไปดูของขวัญวันเกิดด้วยเช่นกัน

 

“แค่นี้อย่างงั้นหรอ?” ลอร์ดมาแชลได้มองไปที่รถม้าด้วยสายตาที่ผิดหวัง รถม้าคันนี้ถูกลากด้วยวัวโลกันต์ 2 ตัว แน่นอนว่าวัวทั้ง 2 ตัวถูกจับได้จากสงครามระหว่างพวกออร์คและปราสาทแฮรี่นั่นเอง นอกเหนือจากวัว 2 ตัวนี้แล้วรถม้าที่อาเบลได้ให้เป็นของขวัญวันเกิดลอร์ดมาแชลนั้นเป็นรถม้าที่ดีที่สุดในเมืองฮาเวสอย่างไม่ต้องสงสัย ลอร์ดมาแชลไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่ารถมาคันนี้สามารถทําอะไรได้กันแน่

 

“อาเบลได้เปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่างในรถม้าคนนั้นไป” เบธแฮมได้เดินมาพูดกับลอร์ดมาแชลข้างๆ “ในตอนที่อาเบลได้ใช้ให้รถม้าคันนี้มารับฉัน ฉันก็รู้ได้ทันทีว่ารถม้าคนนี้มันดีแค่ไหน”

 

“ก็ไม่เลวเลยนะ” ลอร์ดมาแชลรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นร่างกายของอัศวินระดับกลางก็ไม่ได้รับผลกระทบจากการเดินทางด้วยรถม้าอยู่แล้ว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นรถม้าคนนี้ก็คงจะดีกว่ารถม้าธรรมดาอยู่ดี ถ้าเป็นรถม้าที่ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือของอาเบลแล้วจะต้องมีอะไรพิเศษอยู่ในรถม้าอย่างแน่นอน

 

อาเบลเห็นใบหน้าของลอร์ดมาแชลก็รู้ได้ทันทีว่าลอร์ดมาแชลคิดว่าตัวเขานั้นจะได้อาวุธเวทย์เล่มใหม่ อาเบลหัวเราะและพูดออกไปว่า “พ่อลองเข้ามาในรถม้าคันนี้สิ”

 

ตอนนี้พวกเขาทั้ง 4 คนได้เข้ารถม้าไปด้วยกันแล้ว พื้นที่ในรถม้ากว้างขวางไม่แออัดเลยแม้จะเข้ารถม้าไปถึง 4 คนพร้อมกัน ลอร์ดมาแซลมองไปที่อาเบลก่อนจะพูดว่า “เป็นความคิดที่ดีเลยนิ ตอนนี้พ่อสามารถวางน้ำผลไม้รวมไปถึงไวน์ที่โต๊ะอย่างสะดวกสบายแล้ว

 

อาเบลได้มองดูลอร์ดมาแชลที่กําลังพูดอยู่ก่อนจะตอบกลับไปว่า “ผมจะดัดแปลงรถม้าแค่นี้ได้ยังไงกัน?”

 

ลอร์ดมาแชลดูไม่ได้สนใจอะไรนัก ความสุขที่สุดของลอร์ดมาแชลคือการที่ได้อยู่กับภรรยาของเขานั่นเอง แต่ตอนนี้ภรรยาของเขาได้ตายจากไปแล้วดังนั้นความสุขที่เหลือเพียงอย่างเดียวของลอร์ดมาแชลคือการปกป้องปราสาทหลังนี้ที่ตัวเขาสร้างขึ้นมาพร้อมกับผู้ที่เป็นภรรยานั่นเอง งานอดิเรกเล็กๆ ของลอร์ดมาแชลที่เฝ้าใฝ่ฝันมาโดยตลอดนั้นคือการมองดูลูกชายของตัวเขานั้นเติบโตนั่นเอง

 

“นี่คือตัวควบคุม” อาเบลพูดพร้อมกับชี้ไปที่สวิตซ์ใกล้โต๊ะ “รถม้าคันนี้มีสวิตซ์ควบคุมอยู่ 10 สวิตซ์ด้วยกัน สวิตซ์ที่ควบคุมอยู่ทางด้านซ้ายเป็นสวิตซ์ใช้ควบคุมอากาศเย็น และสวิตซ์ที่อยู่ด้านขวาเองเป็นสวิตซ์ที่ใช้ควบคุมอากาศร้อน”

 

“อะไรนะ?” ลอร์ดมาแชลได้ถามอย่างสงสัยก่อนที่จะลองใช้สวิตซ์ที่อยู่ทางด้านซ้ายทันที

 

ตอนนี้โซรินและเบธแฮมรู้แล้วว่ารถม้าคันนี้สามารถควบคุมอุณภูมิได้ตามที่ต้องการ และทั้งสองคนก็ต้องประหลาดใจทันทีเมื่ออุปกรณ์สําหรับควบคุมอุณหภูมินั้นทํามาจากเวทย์มนตร์นั่นเอง

 

”รถม้าคันนี้จะต้องออกเดินทางก่อนถึงจะสามารถควบคุมอุณภูมิได้นั่นเอง” อาเบลได้อธิบายเสริม

 

” หยุดพูดได้แล้วล่ะอาเบล เราออกเดินทางกันเลยดีกว่า!” ลอร์ดมาแชลไม่อดทนอีกต่อไป เขารีบบอกให้คนขี่รถม้าออกเดินทางได้

 

เมื่อวัวทั้งสองตัวออกวิ่งอย่างเต็มกําลัง ลอร์ดมาแชลและโซรินก็ได้ตกใจทันทีเมื่อพบว่ารถมาคันนี้ออกเดินทางได้นุ่มนวลและเหนือกว่าจินตนาการของพวกเขาทั้ง 2 คนไว้มาก

 

เนื่องจากงานเลี้ยงที่ถูกจัดขึ้นนั้นได้เสร็จสิ้นไปแล้ว พวกเขาทั้ง 4 คนจึงรู้สึกร้อนนิดหน่อย ลอร์ดมาแชลได้กดสวิตซ์ที่เครื่องปรับอากาศที่เย็นที่สุดทันทีที่รถม้าออกเดินทางในทันที แม้ว่าพวกเขาทั้ง 3 คนจะไม่เข้าใจว่ากลไกทั้งหมดของรถคันนี้ทํางานยังไงบ้าง แต่ในตอนที่ล้อของรถม้าหมุนนี้เองสายพานที่ติดกลไกเอาไว้ก็ถูกเปิดใช้งานขึ้นมาทันที แผ่นโลหะเวทย์มนตร์ได้ปล่อยพลังเวทย์น้ำแข็งออกมาจากกล่องเข้าสู่รถม้าในเวลาต่อมา

 

“นี่มันช่างเหลือเชื่อ!” โซรินได้พูดออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

 

“นายทําได้ยังไงกัน?” เบธแฮมเอยถาม

 

“นี่มันเยี่ยมยอดมาก”

 

“ไม่ใช่เรื่องยากอะไรครับ” อาเบลได้เปิดประตูใต้โต๊ะเผยให้เห็นตู้เหล็กขนาดใหญ่ที่อยู่ในนั้น ทั้งสามคนที่เห็นก็ได้ตกใจในทันที

 

“นี่นี่มัน….ดาบเวทย์ใช่ไหม?” ลอร์ดมาแซลมั่นใจว่ากลไกทั้งหมดที่อาเบลใช้จะต้องเป็นดาบเวทย์อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ลอร์ดมาแชลยังคงไม่เห็นอะไรเพิ่มเติมนอกจากตู้เหล็กขนาดใหญ่ตู้หนึ่ง

 

“ความคิดของนายทําให้ฉันถึงกับพูดไม่ออกทันที” โซรินพูดออกมาในตอนที่เห็นแผ่นเหล็กทั้ง 10 แผ่นอยู่ในตู้เหล็กตู้นั้น

 

“ถ้าหากลอร์ดมาแชลใช้รถม้าคันนี้แล้วละก็จะต้องเป็นอะไรที่เสียเปล่าอย่างแน่นอน” เบธแฮมได้พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอิจฉา

 

” อะไรกันที่อยู่ทางขวามือนั้นน่ะ?” ลอร์ดมาแชลถามอาเบลด้วยความสงสัย

 

” ทางขวามือเป็นแผ่นโลหะที่ถูกสร้างมาจากอัญมณีแห่งเปลวเพลิงครับ” อาเบลได้อธิบายพร้อมกับเปิดตู้ปรับอากาศให้ดู

 

เมื่อเปิดกล่องทั้งสองด้าน อาจารย์โซรินก็ได้กลายเป็นคนโง่ที่ตามความคิดของอาเบลไม่ทันทันที ในขณะเดียวกันอาจารย์เบธแฮมได้พูดเบาๆ กับลอร์ดมาแชล คล้ายกับว่าเขาต้องการที่จะยืมรถม้าคันนี้นั่นเอง

 

Abe the Wizard

Abe the Wizard

Score 10
Status: Completed

บทนำ

ฉันได้กลับชาติมาเกิดในโลกใบใหม่นี้ ดูเหมือนว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่ติดตัวฉันมาที่โลกใบนี้ด้วย สิ่งนั้นคือ ฮอร์ราดริกคิวบ์ จากเกม Diablo II นั่นเอง

หนทางการเป็นอัศวินสุดเท่ห์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่ทำไมการเป็นจอมเวทย์ก็อยู่ในทางเลือกด้วยล่ะ?

แล้วฉันควรจะเลือกทางไหนกันแน่นะ?

Options

not work with dark mode
Reset