Abe the Wizard 3 เสือดำ

ตอนที่ 3 เสือดำ

AtW ตอนที่ 3 เสือดำ

 

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย

 

ภายใต้รุ่งอรุณของเช้าวันใหม่ แสงแดดยามเช้าได้ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในปราสาทเบ็นเน็ตต์แห่งนี้ แสงที่ส่องผ่านเผยให้เห็นความยิ่งใหญ่อีกครั้งของโลกใบนี้

 

เมื่อเปรียบเทียบปราสาทเบ็นเน็ตต์กับปราสาทของอัศวินคนอื่นๆ ปราสาทเบ็นเน็ตต์นั้นมีสถาปัยตยกรรมที่หรูหรากว่ามาก หากจะเรียกว่าเป็น ‘ผลงานแห่งยุค‘ คงจะไม่ได้กล่าวเกินไปแต่อย่างใด ปราสาทแห่งนี้ใช้เวลากว่าสิบปีในสมัยที่ลอร์ดเบ็นเน็ตต์คนแรกนั้นสร้างมันขึ้นมา และถ้าหากไม่ได้การบำรุงรักษามาอย่างต่อเนื่องคงไม่มีสถานที่อันสำคัญและสวยงามยืนหยัดจนถึงทุกวันนี้

 

ในยุคของผู้สืบทอดตระกูลเบ็นเน็ตต์กว่าสองชั่วอายุคนนั้น ตระกูเบ็นเน็ตต์ก็กำลังตกอยู่ในยุคที่ถดถอยลงเรื่อยๆ ตำแหน่งขุนนางผู้มีเกียติจากเดิมถูกลดลงเหลือแค่ตำแหน่งอัศวินธรรมดา นี้คือความผิดพลาด เป็นตราบาปที่ทำให้เบ็นเน็ตต์ละอายใจทุกครั้งเมื่อพูดถึงมัน

 

ในฐานะผู้ที่เป็นเจ้าของปราสาทในปัจจุบัน อัศวินเบ็นเน็ตต์รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เขาทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนักในสงครามครั้งที่ผ่านมา เขาต้องสู้อย่างกล้าหาญกับเหล่าออร์คทั้งหลาย แต่ความสำเร็จในครั้งนั้นไม่ยิ่งใหญ่พอที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตระกูลเบ็นเน็ตต์ไปได้

 

นี่คือสาเหตุที่เขากระตือรือร้นที่จะสอนทุกอย่างให้กับลูกๆ ของเขา โดยเฉพาะซัคเองที่เป็นเหมือนกับความหวังพิเศษ หากซัคเป็นอัศวินก่อนอายุ 30 ตระกูลเบ็นเน็ตต์จะไม่ต้องกังวลว่าจะถูกตัดออกจากตระกูลอัศวินแต่อย่างใด หลังจากนั้นชื่อเสียงและความยิ่งใหญ่ของตระกูลก็จะขึ้นอยู่กับความสามารถของซัคแล้ว

 

แม้ว่าอาเบลจะไม่ได้มีส่วนร่วมที่จะต้องรับผิดชอบงานดังกล่าว แต่เขาก็ยังสนใจในเส้นทางอัศวิน ถ้าหากเขาไม่ต้องการที่จะเป็นอัศวิน พ่อของเขาอัศวินเบ็นเน็ตต์คงจะสอนให้เขาเป็นนักคณิตศาสตร์แทน อาเบลควรจะหางานในเมืองทำเมื่อเขาโตขึ้น

 

อัศวินเบ็นเน็ตต์เป็นกังวลอนาคตของลูกชายคนเล็กคนนี้เป็นอย่างมาก อาเบลจะไม่มีปราสาทเป็นของตัวเอง ไม่มีทั้งม้าศึกหรือแม้กระทั่งชุดเกราะของตัวเอง เมื่ออาเบลโตขึ้นเขาจะกลายเป็นอัศวินพเนจร เขาจะไม่ได้รับการยอมรับจากเหล่าขุนนางของประเทศนี้ หากเขาต้องการที่จะเป็นอัศวิน เขาจะต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่จำเป็นพวกนี้มา หากเขามีชีวิตที่มั่นคงก่อนอายุสี่สิบได้ นั่นก็ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของลูกชายคนเล็กคนนี้แล้ว

 

“ลูกเลื่อนระดับแล้วหรอ?” อัศวินเบ็นเน็ตต์ถามอาเบล

 

อาเบลใช้เวลาฝึกฝนตนเองเพียงสองเดือนก่อนที่จะเป็นอัศวินฝึกหัด ผู้เป็นพ่อของอาเบลใช้เวลาฝึกฝนกว่าสี่เดือนเพื่อที่จะเป็นอัศวินฝึกหัดเหมือนกับอาเบล พี่ชายของเขาใช้เวลาไปกว่าสี่เดือนครึ่ง และอาเบลเองไม่เคยได้ต้นทุนจากผู้เป็นพ่อแต่อย่างใด อาเบลถือว่าเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็วในฐานะอัศวิน

 

“ใช่ครับท่านพ่อ ผมเพิ่งจะเลื่อนระดับเมื่อวานนี้เอง” อาเบลตอบกลับไป ซัครีบวิ่งมาชื่นชมก่อนที่จะกอดเขาในทันที

 

“น้องพี่มันอัจฉริยะจริงๆ” ซัคชมน้องชายของเขาก่อนที่เขาจะอุ้มอาเบลขึ้น

 

“นายมีพรสวรรค์จริงๆ” ซัคเอ่ยชมอีกครั้งก่อนที่จะวางอาเบลลงกับพื้น

 

“ไม่เลวเลยนะ” อัศวินเบ็นเน็ตต์มองดูใบหน้าผู้เป็นลูกพร้อมกับเอ่ยชมเขา ในตอนนั้นเบ็นเน็ตต์รู้สึกมีความสุขแต่ก็เศร้าในเวลาเดียวกัน หากอาเบลเป็นลูกชายคนโต เขาตงจะสามารถไปได้ไกลกว่าซัคอย่างแน่นอน ในความเป็นจริงแล้วครอบครัวเบ็นเน็ตต์ที่ได้ส่งซัคไปฝึกในเมืองทำให้สถานะทางการเงินของครอบครัวนี้ไม่สู้ดีนัก

 

เมื่อวานอาเบลพึ่งจะได้ฮอร์ราดริกคิวบ์ ภายในคิวบ์นี้เองมีคัมภีร์แห่งการวาร์ปอยู่ แต่เขาไม่สามารถใช้การมันได้ ในความจริงแล้วทันทีที่อาเบลตื่นในเช้าวันนี้ เขารีบคิดวิธีการสร้างไอเท็มจากคิวบ์อันนี้ แม้ว่าสูตรการสร้างไอเทมที่เขาคิดออกจะมีไม่มากนัก แต่มันต้องเป็นประโยชน์สำหรับเขาอย่างแน่นอน

 

“ท่านพ่อ ผมขอไปเมืองฟอร์ทลีในวันนี้ได้ไหม” อาเบลขออนุญาติจากผู้เป็นพ่อ อาเบลได้เอ่ยคำขออย่างตรงไปตรงมา เขาไม่เคยขอเช่นนี้มาก่อน อาเบลคอยมองท่าทีของผู้เป็นพ่อ

 

อัศวินเบ็นเน็ตต์ผู้เป็นพ่อได้พยักหน้าก่อนจะตอบกลับไปว่า “แน่นอน ลูกพึ่งเลื่อนระดับเป็นอัศวินเมื่อคืน ดังนั้นการที่ลูกจะพักการฝึกในวันนี้คงจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า”

 

“พี่จะไปส่งนายที่ม้าเอง” ซัคพูดก่อนที่จะวิ่งไปที่คอกม้า หลังจากที่ช่วยอาเบลขึ้นม้าแล้ว เขาก็ให้เงินไว้ในกระเป๋าของอาเบล

แน่นอนว่าอัศวินเบ็นเน็ตต์ผู้เป็นพ่อได้เห็นแล้ว แต่เขาไม่ได้พูดอะไร แม้ว่าเขาจะมีความสุขมากที่ได้เห็นภาพเหล่านี้ ท้ายที่สุดสายสัมพันธ์ของพี่น้องที่รักกันเป็นสิ่งที่หาได้ยากในครอบครัวอัศวันแบบนี้

 

ม้าทุกตัวในคอกม้าแห่งนี้ไม่ใช่ม้าศึกแต่อย่างใด พวกมันเป็นม้าที่ด้อยกว่าม้าศึก โดยทั่วไปแล้วม้าศึกจะต้องเลี้ยงด้วยข้าวสาลีและถั่ว อาหารที่มีคุณภาพเหล่านี้ล้วนมีราคาแพง การเลี้ยงม้า 1 ตัวอาจจะทำให้เสียค่ายใช้จ่ายเป็นเงิน 10 เหรียญทองต่อเดือน หากม้าศึกไม่ได้รับการดูแลและให้อาหารเป็นอย่างดี พวกมันจะกลายเป็นม้าที่ด้อยกว่าไปในทันที

 

ในตอนนี้อาเบลกำลังขี่ม้าที่ด้อยกว่าม้าศึก มันเป็นม้าอายุราวสองปี ม้าตัวนี้เกิดจากม้าศึกที่เป็นของตระกูลเบ็นเน็ตต์ หากตระกูลเบ็นเน็ตต์เลี้ยงดูมันอย่างดี ให้อาหารที่มีคุณภาพกับมัน ม้าตัวนี้ก็สามารถกลายเป็นม้าศึกได้เช่นกัน

 

ในตอนที่อาเบลขึ้นขี่ม้านั่นเอง เขามีผู้คุ้มกันนามว่านอร์แมน คอยให้ความช่วยเหลืออาเบลจากทางด้านหลัง นอร์แมนสวมชุดเกราะหนังทั้งตัว เขาพกดาบยาวอยู่ที่ด้านหลัง แต่คนคุ้มกันคนนี้กลับไม่มีม้า เนื่องจากม้าที่ผู้เป็นนายกำลังขี่อยู่เป็นม้าที่เขาใช้ขี่ประจำจึงทำให้เขาในตอนนี้ไม่มีม้า แต่นั่นก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้คุ้มกันคนนี้ เขาจะติดตามอาเบลด้วยสองขาของเขาที่มีอยู่

 

นอร์แมนเป็นทหารเกษียณที่กลับมาพร้อมสงครามกับอัศวินเบ็นเน็ตต์ ในฐานะที่เขาเคยเป็นลูกน้องของเบ็นเน็ตต์ เขาจึงอาศัยอยู่กับครอบครัวเบ็นเน็ตต์ในชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา การกระทำเช่นนี้เองเป็นเหมือนกับการตอบแทนความกตัญญูและความจงรักภักดีต่อผู้เป็นนาย

 

นอร์แมนเป็นทหารที่มีทักษะดาบที่ดีมาก เขาเป็นนักรบระดับหกภายใต้การฝึกฝนของอัศวินเบ็นเน็ตต์ นอร์แมนไม่มีความสามารถอื่นนอกจากทักษะดาบของเขา แต่ทักษะดาบเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับการเป็นผู้คุ้มกันให้กับอาเบล

 

“กรุณารอก่อนนายน้อย” นอร์แมนชักดาบจากด้านหลังของเขาเองฟันไปที่ต้นไม้ที่อยู่ข้างถนน การเดินทางจากปราสาทเบ็นเน็ตต์ไปยังเมืองฟอร์ทลีคงใช้เวลาราวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หากมีอะไรเกิดขึ้นกับอาเบล มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถติดต่อกลับมาได้

 

“เจออะไรอย่างงั้นหรอ?” อาเบลดึงบังเหียนม้าให้หยุดเดิน ก่อนที่จะดึงกริชเล่มใหม่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา

 

ในตอนนี้อาเบลอยู่สูงกว่านอร์แมนจึงทำให้เขาไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ในต้นไม้ต้นนี้  ตอนนี้อาเบลได้ยินเสียงอะไรบางอย่างคำรามมาจากระยะไกล

 

มีเงาอะไรบางอย่างปรากฎตัวขึ้น อาเบลมองเห็นในทันที มันเป็นเสือดำที่กำลังพุ่งมาที่ม้า เสือตัวนี้มันเล็งไปที่คอม้า แต่ม้าตัวนี้กลับไม่มีท่าทีที่จะกลัวมันเลย ในฐานะที่ม้าตัวนี้เป็นเชื้อสายของม้าศึกอันกล้าหาญที่รอดพ้นมาจากสงคราม ทำให้มันไม่เกรงกลัวต่อเสือตัวนี้แม้แต่อย่างใด มันทำท่าพร้อมที่จะป้องกันการโจมตีของเสือตัวนี้

 

ในวินาทีที่เสือตัวนี้กำลังจะตะครุบ มันถูกนอร์แมนใช้วิชาดาบอะไรบางอย่างสกัดไว้ เสื้อตัวนี้จึงกระโดดหนีกลับไปในที่สุด

 

โดยปกติแล้วเสือดำจะไม่ออกหากินในเวลากลางวันแบบนี้ มันชอบอยู่ในที่มืดและซุ่มโจมตีเหยื่อของมันมากกว่าออกไล่ลาเหยื่อตามถนน การเผชิญหน้ากับเสือดำในครั้งนี้มีอะไรบางอย่างที่แปลกไป เสือดำตัวนี้อาจจะหิวโหยและกำลังหนีออกมาจากป่า

 

นอร์แมนตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะโจมตีต่อไป แม้ว่าเสือดำจะเป็นสัตว์ในตระกูลแมวแต่พลังการกัดของมันนั้นไม่ธรรมดาเลย เสือดำสามารถหลบวิชาดาบของนอร์แมนได้อย่างสบายๆ

 

อาเบลกระโดดลงจากอานม้าเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ แต่เสือดำตัวนี้ไม่ได้สนใจอาเบลแต่อย่างใด สัญชาตญาณของมันบอกกับมันไว้ว่าหากจัดการกับมนุษย์ตัวโตเต็มวัยได้ ที่เหลือก็จะเป็นแค่เหยื่ออันโอชะของมัน

 

เสือดำตัวนี้คิดถูกเพียงบางส่วนเท่านั้น อาเบลไม่ได้เข้าหาเสือตัวนี้โดยตรง เขาวนไปรอบๆ มันเพื่อที่จะหาโอกาสโจมตี เขาไม่ต้องการที่จะไปขวางการโจมตีของนอร์แมน หากเขาทำเช่นนั้นจะทำให้อันตรายมากกว่า

 

นอร์แมนใช้เวลาก่อนที่จะโจมตีครั้งต่อไป เขาเล็งไปที่คอของเสือดำตัวนี้ แต่เสือตัวนี้เร็วเกินไป ดาบของนอร์แมนพลาดเป้าโดนหลังของมันแทน ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์ร้ายตัวนี้ยังสามารถโจมตีสวนกลับนอร์แมนมาได้ ในตอนที่นอร์แมนไม่ทันได้ระวังตัว มันใช้หางโจมตีทีเผลอไปที่ขาของเขา

 

ในตอนนี้นอร์แมนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ ความเจ็บปวดเริ่มแสดงบนใบหน้าของเขา ขาของเขาที่ได้รับความเสียหายทำให้นอร์แมนเคลื่อนที่ได้ช้าลง ในตอนนี้เขาพยายามที่จะจัดตำแหน่งในการต่อสู้ใหม่ ในขณะที่อาเบลมองอยู่ด้านหลังเขารู้ได้ทันทีว่าในตอนนี้เขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไป

 

อาเบลรีบสูดหายใจเข้าไปลึกๆ เขาต้องการที่จะรวบรวมสมาธิและพลังลมปราณ เขาจะใช้พลังทั้งหมดในการเพียงโจมตีเพียงครั้งเดียว หากเขาสามารถโจมตีโดนที่เสือดำ การต่อสู้จะจบลงในทันที

 

แต่เขาจะต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก เทคนิคการโจมตีนี้จะทำให้อัศวินฝึกหัดแบบอาเบลอ่อนแรงในทันทีที่ใช้ หากเขาพลาดและพยายามที่จะใช้เทคนิคนี้อีก บางทีมันอาจจะทำลายเมอร์ริเดียนของเขาจนทำให้เขาไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้

 

ในตอนนั้นเองเสือดำพุ่งโจมตีเข้าใส่นอร์แมนในทันที มันต้องการจะปิดฉากด้วยการโจมตีในครั้งนี้ เนื่องจากตอนที่เสือดำกำลังพุ่งไปโจมตี จะทำให้มันมีช่วงเวลาหนึ่งที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศ อาเบลจะเดิมพันการโจมตีในจังหวะนี้นั้นเอง เขาวิ่งไปที่ด้านหลังของเสือดำในทันที อาเบลปักกริซไปที่เสือดำอย่างรุนแรง

 

เสือดำคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด มันรับรู้ตลอดเวลาว่าอาเบลอยู่ข้างหลังมันและรอเวลานี้อยู่ แต่การบาดเจ็บของนอร์แมนยังคงทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวได้ มันเป็นโอกาสที่เสือดำตัวนี้จะปิดฉากการโจมตีนอร์แมนได้ หากอาเบลไม่เข้ามาในตอนนี้ ผลลัพธ์จากการต่อสู้ที่เกิดขึ้นอาจจะแตกต่างจากตอนนี้เป็นอย่างมาก

 

เมื่ออาเบลใช้กริชของเขาแทงเข้าไปในตัวของเสือดำ เขารีบปล่อยมือออกจากริชในทันทีและถอยหลังกลับมา เสือดำตัวนี้ดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น เสือตัวนี้ไม่มีพลังพอที่จะต่อสู้ต่อไป แต่ความกระหายเลือดด้วยสัญชาตญาณของมันยังคงไม่ให้มันยอมแพ้

 

เสือดำตัวนี้ยังต้องทรมานต่อไปจนกว่ามันจะตาย เสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดของมันยังคงดังต่อไป เมื่อเสือดำตัวนี้หยุดส่งเสียงคำรามออกมาเมื่อนั้นแสดงว่าเสือดำตัวนี้ได้ตายแล้วนั่นเอง

 

อาเบลต้องการยืนยันให้แน่ใจว่าเสือดำตัวนี้ตายแล้ว แต่นอร์แมนดึงเขาไว้ก่อนที่จะพูดกับอาเบลว่า “ระวังตัวด้วย” นอร์แมนพูดก่อนที่จะขว้างฝักดาบของเขาใส่เสือเสือดำ

 

ในตอนที่อาเบลคิดว่าเสือดำตัวนี้ได้ตายไปแล้ว มันยังคงใช้กรงเล็บของมันตัดปลอกดาบในทันที แม้แต่ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย เสือตัวนี้ก็ยังคงมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ไวกว่ามนุษย์อยู่ดี

 

ในตอนนี้เสือดำคงจะตายไปแล้วอย่างแน่นอน แต่นอร์แมนยังคงไม่ปล่อยให้อาเบลไปใกล้กับมัน เขากลับไปหยิบฝักดาบที่เขาโยนก่อนหน้านี้

 

“นายน้อย” เขาชี้ไปที่ฝักดาบที่มีลอยกรงเล็บของเสือตัวนี้ในขณะที่เขาหยิบฝักดาบขึ้นมา “เห็นไหมนายน้อย พวกสัตว์ป่าพวกนี้จะสังหารเหยื่อทันทีที่มีโอกาส”

 

นอร์แมนหยิบซากเสือดำตัวนี้ขึ้นมาจากพื้น เขาดึงกริชออกพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เขาส่งกริชคืนให้กับอาเบล

 

“จะเอายังไงกับซากเสือตัวนี้ดีนายน้อย?” นอร์แมนถามความเห็นของอาเบล ผลงานในการจัดการเสือดำตัวนี้เป็นของอาเบล

 

“เราจะขนมันไปขายในเมือง” อาเบลพูดในขณะที่เขาเห็นแผลที่ขาของนอร์แมน

 

“คุณใช้ม้าตัวนี้แทนผมจะดีกว่านะ”

 

แม้ว่าบทบาทของนอร์แมนจะเป็นเพียงข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ และอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้เป็นนายเสมอแต่เขาไม่ลังเลที่จะยกเสือดำไว้บนม้าที่แต่เดิมอาเบลขี่มา นอร์แมนคนนี้ยินดีที่จะสละชีวิตของเขาหากนั้นจะเป็นการทำเพื่อคนในตระกูลเบ็นเน็ตต์ แต่ตอนนี้เขาเป็นเพียงคนที่ได้รับบาดเจ็บ สิ่งที่เขาทำได้มากที่สุดในตอนนี้คือการไม่เป็นตัวถ่วงให้กับอาเบล เนื่องจากม้ามีเพียงตัวเดียว วิธีที่จะเดินทางที่เร็วที่สุดคือจะต้องให้เขาหยุดเดินนั้นเอง

Abe the Wizard

Abe the Wizard

Score 10
Status: Completed

บทนำ

ฉันได้กลับชาติมาเกิดในโลกใบใหม่นี้ ดูเหมือนว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่ติดตัวฉันมาที่โลกใบนี้ด้วย สิ่งนั้นคือ ฮอร์ราดริกคิวบ์ จากเกม Diablo II นั่นเอง

หนทางการเป็นอัศวินสุดเท่ห์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่ทำไมการเป็นจอมเวทย์ก็อยู่ในทางเลือกด้วยล่ะ?

แล้วฉันควรจะเลือกทางไหนกันแน่นะ?

Options

not work with dark mode
Reset