หลังจากจัดการเรื่องงานเรียบร้อยก็ถึงเวลาพาพิรุณรักกลับบ้านตามที่รับปากกับหญิงสาวเอาไว้ การเดินทางมาของแกริคทำให้ทางฝ่ายพ่อแม่ของพิรุณรักรู้สึกเกร็งๆ ถึงคนตรงหน้าจะเป็นลูกเขยก็เถอะ พวกท่านก็อดรู้สึกเกร็งไม่ได้ แกริคเป็นคนที่มีบุคลิกน่าเกรงขามอยู่ตลอดเวลา ถ้าคนไม่สนิทจริงจะไม่กล้าพูดเล่นกับเขา
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่” สำเนียงภาษาไทยแปร่งๆ เอ่ยขึ้น ถึงจะไม่ชัดแต่ก็ถือว่าดีกว่าแซคมาก
“พ่อค่ะ แม่ค่ะ ไม่ต้องเกร็งหรอกค่ะ” พิรุณรักเห็นท่าทีของพ่อกับแม่ก็รู้สึกหนักใจ
“ทำตัวตามสบายเถอะครับ เป็นผมซะอีกที่ต้องกราบขอขมาคุณพ่อกับคุณแม่ที่ทำอะไรล่าช้า ปล่อยให้ทุกอย่างเลยเทิดมาจนถึงทุกวันนี้” แกริคนั่งลงกับพื้นแล้วก้มกราบท่านทั้งสอง พิรุณรักอ้าปากค้างตกใจกับการกระทำของเขา ฝ่ายพ่อแม่ของพิรุณรักก็เช่นกัน ไม่คิดว่าฝ่ายชายจะทำถึงขนาดนี้
สายพิณและองอาจมองหน้ากัน
“พรุ่งนี้แด๊ดกับพี่ชายผมจะเดินทางมาที่นี่นะครับ ผมอยากทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามประเพณีไทย เขาเรียกว่าการสู่ขอใช่ไหมครับ”
“ใช่จ้ะ” สายพิณตอบเสียงเบา
พิรุณรักรู้สึกตื้นตันแล้วตื้นตันอีกกับการกระทำของเขา อดไม่ได้ที่จะน้ำตาซึม
“ลุกเถอะคุณ ดูสินั้นยัยปลายร้องไห้แล้ว” องอาจบอกหันไปทางลูกสาว แกริครีบลุกขึ้นไปดูหญิงสาว
“ร้องไห้ทำไม” เข้าไปนั่งชิดและเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
“หนูซึ้งค่ะ หนูไม่คิดว่าคุณจะทำขนาดนี้” พิรุณรักยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม แกริคดึงหญิงสาวเข้ามากอดลูบแผ่นหลังเบาๆ
“ฉันบอกแล้วไงว่าอยากทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ฉันไม่อยากให้ใครมาว่าเธอทีหลัง” องอาจและสายพิณแน่ใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้รักลูกสาวของพวกท่านจริงๆ ไม่สนใจคนที่ฐานะชาติตระกลู
“ปลายขอโทษพ่อกับแม่อีกครั้งนะคะ ที่ทำให้ผิดหวัง” พิรุณรักพยักหน้าแล้วเป็นฝ่ายนั่งลงไปกราบเท้าพ่อกับแม่แทน
“เอาเถอะ ทุกอย่างมันผ่านมาแล้วและพ่อแกริคเขาก็ไม่ได้ทิ้งขว้างเราไปไหน มาแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ อีกอย่างทั้งสองคนก็รักกัน พ่อกับแม่ดีใจซะอีกที่จะได้อุ้มหลาน” พิรุณรักลุกขึ้นไปกอดท่านทั้งสอง
“ขอบคุณครับ คุณพ่อคุณแม่เรียกผมว่าริคก็ได้ครับ” แกริคยกมือไหว้ขอบคุณอย่างนอบน้อม เขานึกว่าจะเจอพ่อตาใจร้ายซะอีก แต่ก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด
“ขอบคุณนะคะ”
“เลิกร้องไห้ได้แล้วเดี๋ยวหลานแม่ก็กลายเป็นคนขี้แยหรอก” พิรุณรักพยักหน้ายิ้มทั้งน้ำตา เธอดีใจที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
“แล้วนี่จะคลอดที่ไหน” ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ พิรุณรักมองหน้าแกริค
“แล้วแต่ปลายเขาเลยครับ” แกริคตามใจหญิงสาว เขารู้ว่าสถานการณ์แบบนี้เธอคงอยากมีครอบครัวอยู่ใกล้ๆ ส่วนเขานั้นอยู่กับเธอได้ทุกที่อยู่แล้ว
“ปลายอยากคลอดที่นี่ค่ะ ปลายกลัวทำอะไรไม่ถูกอยากให้แม่ช่วยสอนด้วย” สายพิณพยักหน้า
“เอาล่ะ เดินทางมาเหนื่อยๆ เขาไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวแม่จะเข้าครัว เสร็จแล้วจะเรียกออกมาทานข้าวกัน”
“ค่ะแม่ เดี๋ยวปลายออกมาช่วยนะคะ”
“ไม่ต้องหรอก ดูแลพ่อริคไปเถอะ ส่วนห้องของคุณแซคทางนั้นเลยนะอาจจะคับแคบหน่อย”
“ผมอยู่ได้ครับ” แซคถือกระเป๋าของเจ้านายเข้าไปในห้องของพิรุณรัก แล้วตัวเองก็เข้าห้องพักไป
“อยู่ได้ไหมคะ” พิรุณรักถามคนที่ยืนอยู่กลางห้อง แกริคเป็นคนตัวใหญ่พอมาอยู่ในห้องของเธอยิ่งทำให้ห้องดูเล็กลงไปอีก
“ได้ มีเธออยู่ที่ไหนฉันก็อยู่ได้ทั้งนั้นแหละ” พิรุณรักฉีกยิ้มกว้างให้คนปากหวาน
“จะอาบน้ำไหมคะ”
“เธออาบไหม”
“หนูให้คุณอาบก่อนค่ะ” แกริคเดินเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่บนเตียง
“อาบพร้อมกัน ฉันอยากบริการเธอ” พิรุณรักหน้าแดงระรื่นขึ้นทันที ปากบางเม้มเข้าหากัน
“ไม่เอาค่ะ”
“ไม่ได้จะเอา ฉันแค่อยากดูแลเธอ”
“พูดอะไรคะเนี่ย” พิรุณรักตีแขนแกร่งเบาๆ
“คิดลึกไปแล้ว ไปเถอะอาบพร้อมกันจะได้เสร็จไวๆ”
สุดท้ายเธอก็โดนแกริคลากเข้าห้องน้ำ
“ห้องน้ำมันแคบนะคะ ให้หนูออกไปก่อนไหม” ห้องน้ำในห้องเธอมันเล็กนิดเดียวพอเขาเข้ามาก็ยิ่งดูคับแคบไปอีก
“ไม่เป็นไรฉันถนัด” แกริคไม่สนใจคนที่ขัดขืนจัดการถอดเสื้อผ้าออกให้ทั้งเขาและเธอจนหมด จับร่างอวบอิ่มไปยืนใต้ฝักบัว เปิดน้ำและบีบสบู่เหลว ซึ่งเป็นแม่ของหญิงสาวที่เตรียมทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อย
มือใหญ่นวดคลึงอยู่ที่หน้าอกอวบใหญ่ ลากไล้มาที่หน้าท้องที่นูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“อือ ลูกดิ้นค่ะ” ทันทีที่มือใหญ่ลูบวนไปมารวมถึงน้ำเย็นไหลผ่าน เหมือนสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่อยู่ในท้องของเธอจะรับรู้ได้
“ว่าไงครับตัวเล็กของแด๊ด อิจฉามามี๊เหรอที่แด๊ดอาบน้ำให้” แกริคนั่งลงไปคุยกับลูก ลูบวนอยู่ที่หน้าท้องเบาๆ พร้อมกับจูบซับไปมา
“ลูกไม่รู้เรื่องซะหน่อย” พิรุณรักแก้ตัวให้ลูกด้วยความเขินอาย
“ลูกรู้สิ ลูกอยากให้ฉันทักทายนะ เห็นไหม”
“อุ๊ย จริงด้วยค่ะ” เพียงแค่แกริคพูดลูกตัวน้อยของทั้งคู่ก็ดิ้นแตะท้องแม่จนพิรุณรักสะดุ้ง
“อยากให้แด๊ดเข้าไปทักทายข้างไหนไหมครับ”
“ไม่เอานะคะคุณริค” พิรุณรักถอยหลังหนีทันทีที่ได้ยินแบบนั้น แต่ก็หนีได้ไม่ใกล้ เขาไว้ใจไม่เคยได้ รู้ว่าห้ามตัวเองไม่ได้ยังอยากจะทรมานตัวเอง
“แต่ลูกอยากเจอแด๊ดดี๊นะเธอจะใจร้ายเหรอ” ปากบางเม้มเข้าหากัน มองคนที่ส่งสายตาอ้อนๆ มาให้ ลูกหรือพ่อกันแน่ที่อยากเจอ
“คุณน่ะ หนูบอกแล้วว่าไม่อาบด้วยกันก็ไม่เชื่อ” แกริคหัวเราะเบาๆ
“อาบน้ำเถอะ ฉันไม่ทำอะไรในห้องน้ำหรอกน่า ถ้าเธอลื่นขึ้นมาจะทำยังไง ฉันไม่ได้อยากจนขาดสตินะ” คนตัวโตเห็นหน้าหงอยๆ ของเมียก็เข้าใจ แต่ความต้องการมันห้ามได้ที่ไหนยิ่งคนที่มีความต้องการสูงแบบเขาแล้วด้วย
หลังจากที่เขาหายเป็นปกติเขากับเธอก็มีอะไรนับครั้งได้ เพราะเขาเห็นว่าเธอท้องเลยไม่อยากทำอะไร แต่วันนี้คิดบ้าอะไรก็ไม่รู้ที่หาเรื่องทรมานตัวเอง สุดท้ายก็เป็นแบบนี้
แกริคพาคนท้องออกมาจากห้องน้ำโดยห่มผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ส่วนตัวเขานั้นไม่ใส่อะไรเลย จับใบหน้าที่อวบอิ่มขึ้นมาจูบ ค่อยพาเธอนอนลงบนที่นอน
“อือ เดี๋ยวพ่อกับแม่ได้ยินนะคะ”
“ฉันจะทำเบาๆ นะ” ปากบางเม้มเข้าหากันหันหลังให้เขา แกริคไม่รอช้าที่จะเข้าไปซ้อนทางด้านหลัง ลูบไล้ไปทั่วร่างบางแล้วมาหยุดอยู่ที่ส่วนเบาะบางกรีดนิ้วไปตามรอยแยก สอดนิ้วเข้าไปเตรียมความพร้อมให้เธอ
“อือ”
“อย่าร้องดังล่ะ” พิรุณรักกันปากตัวเองแน่น
“คุณมันบ้า” ถึงอยากจะห้ามเขา แต่เธอก็ห้ามความต้องการของตัวเองไม่ได้เช่นกัน เธอเป็นอะไรไม่รู้ ยิ่งท้องก็ยิ่งมีความต้องการอยากกอดอยากจูบลูบคลำเขาอยู่ร่ำไป แต่ที่ผ่านมาก็ต้องอดทนไว้เพราะห่วงความปลอดภัยของลูก
แต่ก็มีบางครั้งที่แกริคต้องการเธอก็ยอมเขา เพราะเขาก็ไม่ได้รุนแรงอะไร แต่ตอนนี้เวลานี้เราอยู่ที่บ้านของพ่อแม่เธอ แล้วบ้านก็ไม่ได้ใหญ่มาก แถมยังไม่เก็บเสียงเธอกลัวว่าตัวเองจะส่งเสียงน่าอายออกไปแล้วพวกท่านจะได้ยิน
“ฉันจะทำเร็วๆ กัดแขนฉันก็ได้ถ้าทนไม่ไหว” แกริคสอดแขนเข้าไปรองที่หัวทุย ไว้ให้เธอรองรับอารมณ์
“อือ รีบทำเถอะค่ะ เผื่อแม่มาตาม” พิรุณรักมุดหน้าลงกับที่นอน แกริคเมื่อได้ยินคำอนุญาตเขาก็จัดการสอดแทรกความเป็นชายเข้าไปในร่องบางอย่างช้าๆ ความคับแน่นทำให้เขาต้องกัดกรามแน่น มือใหญ่ลูบไล้อยู่ที่หน้าท้องนูน ซบหน้าลงที่ซอกคอจูบเบาๆ ไล้มาถึงใบหู