Goblin Kingdom 50

ตอนที่ 50

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 5

[คลาส] ลอร์ด , หัวหน้ากลุ่ม

[ทักษะ] <> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B – >> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <> <<สัญชาตญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย

[สัตว์ใต้บังคับบัญชา] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 20) ซินเธีย (เลเวล 20) บุย (Lv36)

◇◆◇

[ก็อบลิน] กิก้า

ก็อบลินที่อาศัยอยู่ผู้นำคนก่อนพ่ายแพ้ให้กับออร์ค แต่ปัจจุบันเขาเป็นก็อบลินที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของผม เขาเป็นผู้ใช้หอก

[ก็อบลิน] กิกูว

อดีตผู้นำหมู่บ้าน เขาถูกกดดันเพื่อสละตำแหน่งให้กับผม เขาใช้ดาบยาวและค่อนข้างฉลาดถ้าเทียบกับก็อบลินแรร์ทั่วไป

[ก็อบลิน] กิกิ

เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ฝึกสัตว์ เขาเลื่อนคลาสในหลังจากการล่ากวางเอเรล เป็นความสามารถที่ค่อนข้างหายากและเขาชอบที่จะใช้ขวาน

[ก็อบลิน] กิโก

ก็อบลินที่มีบาดแผลมากมายทั่วร่าง อาหารส่วนใหญ่มักถูกขโมยโดยเกรย์วูฟ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะติดตามผม เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดในหมู่พวกก็อบลินแรร์

[ก็อบลิน] กิซาร์

ดรูอิด (ก็อบลินแรร์) ผู้ใช้เวทย์ลม ที่เพิ่งเข้ากลุ่มมา

[ก็อบลิน] กิจิ

ก็อบลินแรร์ที่เลื่อนคลาส (ตอนที่ 37) จากการออกล่ากับกลุ่มของกิก้า

[ก็อบลิน] กิโด

ดรูอิดผู้ใช้เวทย์ลม

[ก็อบลิน] กิจี

ก็อบลินแรร์จากกลุ่มของกิกูว เขามีทักษะ <<ดวงตาที่เปิดกว้าง>> ซึ่งทำให้เขาสามารถเห็นจุดอ่อนของคู่ต่อสู้

[ก็อบลิน] กิด้า

ก็ก็อบลินแรร์จากกลุ่มของกิก้า เขามีทักษะที่โดดเด่นอย่าง <<ความรู้เกี่ยวกับหอก>> และ <<ดื้อรั้นอย่างไม่มีเหตุผล>>

[ก็อบลิน] กิซู

ก็อบลินแรร์ผู้ถูกเทพเจ้าผู้บ้าคลั่ง (ซู โอรุ) คุ้มครอง มีทักษะ<< Mad Dog >>

◇◆◇

ในวันเดินทาง คนที่นำหน้าคือคนเดียวกับผู้ส่งสาร รา กิลมิ เขาปรากฏตัวขึ้นและแต่งตัวเหมือนมนุษย์โดยที่มีคันธนูเล็กๆ อยู่ในมือ ทำให้สภาพของเขาไม่แตกต่างจากนักล่าที่เป็นมนุษย์

ที่เดินพร้อมกับผู้ส่งสารจากกันระคือผู้ฝึกสัตว์กิกิและกิจิผู้ลอบเร้น

หน้าที่ของพวกเขาคือสอดแนมศัตรูที่อยู่ข้างหน้า

ความยากของการต่อสู้ที่จะมาถึง จะถูกตัดสินจากพวกเขา ว่าจะสามารถสอดแนมศัตรูข้างหน้าได้หรือไม่

กองกำลังหลักได้แก่กิซู ผู้ที่ได้รับการคุ้มครองจากเทพผู้บ้าคลั่ง กิซาร์ หัวหน้าดรูอิด กิโก อะมัทสึกิผู้ได้รับการคุ้มครองจากเทพดาบและกิโด ดรูอิดแห่งสายลม

นี่เป็นกองกำลังหลักในการกำจัดศัตรูที่มองเห็น

การเฝ้าระวังด้านหลังคือกิกูว เวอร์เบนาและผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากิจี ผู้มีดวงตาเปิดกว้าง

ก็อบลินทั้งสองตัวได้รับมอบหมายให้จำเส้นทางจากหมู่บ้านของพวกชนเผ่าไปยังหมู่บ้านกิ

ในกรณีที่มีคนพยายามขัดขวาง มันก็จะเป็นหน้าที่ของพวกเขา…

สำหรับก็อบลินที่ถูกทิ้งไว้ในหมู่บ้านมีกิก้า แรกซ์ ดรูอิดน้ำ กิโซและผู้ใช้หอก กิด้า เดิมทีผมไม่ต้องการละทิ้งความแข็งแกร่งที่มีอยู่ของเรา แต่ร่างกายของกิก้าได้รับบาดเจ็บเกินกว่าจะต่อสู้ เพื่อที่จะสนับสนุนเขา ผมต้องทิ้งกิโซและกิด้าไว้ข้างหลัง รวมถึงผู้ฝึกสัตว์กิเดะเพื่อให้สามารถสื่อสารกับโคโบลได้

ผมทิ้งก็อบลินธรรมดาไว้อีกอย่างละสองชุด

จากนั้นผมก็พาพวกก็อบลินไปทั้งหมด 48 ตัว

ในวันที่ผ่านมา ผมตัดสินใจหาทรัพยากรเพื่อซ่อมแซมหมู่บ้านและอาหารที่จะถนอมมัน

ถ้าเราออกล่าระหว่างทาง เราคงไม่ก้าวไปไหนภายในหนึ่งวัน แต่ถ้าเรามุ่งเน้นเวลาไปที่การเดินทางเพียงอย่างเดียว เราก็น่าจะไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น

“กิก้า ข้าฝากทุกอย่างให้เจ้าดูแลด้วย”

กิก้าถือหอกแทนไม้เท้า เขามาเพื่อส่งผม

“ราชาก็เช่นกัน…ข้าขอให้ท่านปลอดภัย”

คำจากลานั้นไม่มีอะไรมากมาย ผมจึงหันหลังออกจากหมู่บ้านไป

มันจะจบลงด้วยคำพูดที่ไม่จำเป็น หากผมอยู่นานกว่านั้น

“เดินทาง! ” ผมสั่งด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ป่าต้องสั่นสะเทือน

◇◆◆

เป็นเวลาสามวันแล้วที่เราเดินผ่านจากที่อยู่ของออร์ค

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มอนสเตอร์ที่เราเผชิญหน้าก็เปลี่ยนไป

ในทุ่งหญ้าที่แกว่งไปมา มีมอนสเตอร์หลายตัวปรากฏขึ้น หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะเป็นม้าลายสวมชุดเกราะ “อาร์เมอสตริป” เสือที่มีเขี้ยวดาบ “เซเบอร์ไทเกอร์” หรือหนูที่เดินสองขาและถือหอกในมือ “แรทแมน”

เราปราบมอนสเตอร์เหล่านั้น ก่อนจะเดินทางต่อไป

คนแรกที่พบศัตรูมักจะเป็นสัตว์เลี้ยงของกิกิ มันเป็นเพราะเขาขี่ดับเบิ้ลเฮดและสุนัขป่า ที่มีจมูกดีกว่าก็อบลินมาก

ทันทีที่เราพบมอนสเตอร์ ลูกศรของรา กิลมิจะถูกปล่อยไปทันที

ด้วยนิ้วที่ว่องไว เขาจะดึงสายธนูรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวแล้วปล่อย ราวกับเขาสามารถทำนายเหยื่อที่จะปรากฏตัวขึ้น

แต่สัตว์อสูรบางตัวไม่สามารถโค่นได้ด้วยลูกศรของกิลมิเพียงอย่างเดียว

จากนั้นสัตว์อสูรจะโจมตีด้วยความโกรธแค้น แต่กิจิที่ซ่อนอยู่ในเงามืดจะปรากฏตัวขึ้นพร้อมเพื่อกำจัดสัตว์อสูรด้วยดาบยาวของเขา

สัตว์อสูรส่วนใหญ่จะตายลงทันที แต่ก็ยังมีสัตว์บางตัวที่รอดชีวิต

ดังนั้นกิโดจะร่ายเวทย์ลมเพื่อขัดขวางการเคลื่อนไหวของมัน

เมื่อสัตว์อสูรไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ก็อบลินปกติจะโจมตีอย่างอิสระแก่สัตว์อสูรที่ทำอะไรไม่ถูก

รูปแบบการต่อสู้นี้ เป็นสิ่งที่เราฝึกฝนกันมาอย่างต่อเนื่อง

ก็อบลินจะวิวัฒนาการจากก็อบลินปกติไปเป็นก็อบลินแรร์ แล้วจากก็อบลินแรร์ไปสู่ก็อบลินชั้นสูง

ยิ่งผมใช้ก็อบลินที่อ่อนแอมากเท่าไหร่ ประสบการณ์ที่ได้รับจะมากขึ้นเท่านั้น

ผมสามารถบอกได้ว่าทั้งสี่เผ่าแข็งแกร่งแค่ไหนผ่านผู้ส่งสารของกันระ

แต่ตอนนี้ชนเผ่ากันระกำลังถูกครอบงำ

โดยเผ่าเกิร์ดการ์ที่มีความแข็งแกร่งในระดับสัตว์ประหลาด

หากพวกเขาเป็นศัตรูที่น่าหนักใจยิ่งกว่าออร์ค ผมจะต้องเสริมกำลังในกองทัพของเรา

เมื่อเราเดินทางผ่านทุ่งหญ้าไปได้สามวัน เราก็เข้าสู่ป่าทึบอีกครั้ง

“ต่อจากนี้ไปคือดินแดนของเรา แม้แต่ออร์คก็ไม่สามารถผ่านจุดนี้ได้” รา กิลมิกล่าวพร้อมกับผายมือออก

รา กิลมิเดินต่อไป แต่คนข้างหน้าเขาหยุดลง

กิลมิยกนิ้วขึ้นเพื่อถามกับความเงียบ กิจิผู้ลอบเร้นเตรียมพร้อมจู่โจม กิกิสั่งให้สัตว์เลี้ยงของเขาเงียบและผมสั่งให้กองกำลังหลักกระจายตัวในแนวข้าง

บางสิ่งบางอย่างกำลังจะมา

เสียงกรอบแกรบ …ดังออกมาจากส่วนลึกเข้าไปในป่า

กิลมิรั้งตัวเองไว้

จากนั้นในชั่วพริบตาต่อมาเขาก็ถอนลมหายใจ เมื่อเห็นก็อบลินออกมาจากทางเดิน

“หัวหน้า!?” เขาอุทาน

“กิลมิ!?” ก็อบลินตัวนั้นอุทานกลับ

นั่นเป็นก็อบลินอีกตัวที่ถือคันธนู ตอนนั้นเองที่กิจิฟาดดาบยาวของเขาออกมา พวกเขาแลกเปลี่ยนการโจมตีซึ่งกันและกัน … กองกำลังของผมและก็อบลินที่ไม่รู้จัก

ไม่ พวกเขารู้จักกันและรา กิลมิเรียกก็อบลินตัวนั้นว่า ‘หัวหน้า’

“ถอนดาบของเจ้าออก กิจิ” ผมสั่ง “สงบสัตว์อสูรของเจ้าด้วย กิกิ”

พวกเขาน่าจะเป็นคนจากเผ่ากันระ

จากนั้นหัวหน้าที่กิลมิเรียกก็สั่ง

“วางคันธนูลง พวกเขาไม่ใช่ศัตรูของเรา” ก็อบลินพูด

“โอ้? ผู้หญิงที่เป็นก็อบลินแรร์ …มันช่างน่าแปลกใจ” กิซาร์พึมพำและเฝ้าดูอย่างใจเย็น

จากคำพูดของกิซาร์ ผมมองไปที่ก็อบลินอีกครั้งด้วยความอยากรู้อยากเห็น

นั่นเป็นสิ่งที่หมู่บ้านของผมไม่มี ไม่คิดเลยว่านั่นจะเป็นก็อบลินตัวเมียจริง ๆ

ไม่มีความแตกต่างกันมากนักระหว่างก็อบลินชายปกติกับก็อบลินตัวเมียทั่วไป แม้ผมจะตัดสินพวกเขาจากมุมมองของมนุษย์

แต่ก็อบลินแรร์ตรงหน้าต่างออกไป เธอดูเหมือนมนุษย์

ผิวหนังสีแดง เขาโดดเดี่ยวที่งอกออกมาจากหน้าผากและผมสีเขียวที่ดูเหมือนจะบอกได้ว่าเธอเป็นพันธมิตรกับป่า เธอสูงกว่าก็อบลินทั่วไปและสามารถเรียกเธอว่าสวยงามได้เมื่อเทียบกับมนุษย์

แต่ถึงอย่างนั้น … เธอก็ยังคงดูเป็นเด็กสาว

ใบหน้าของเธอดูแข็งกร้าวสำหรับมนุษย์ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเธอไม่งดงาม ด้วยผ้าขาวพันรอบหน้าอกและเอว ทำให้ภาพลักษณ์ของเธอดูคล้ายกับนักล่าอยู่บ้าง

“มีเรื่องอะไรเกิดรึเปล่า? ท่านไม่ได้วางแผนที่จะรอในหมู่บ้านเหรอ?” กิลมิถาม

คำถามของกิลมิทำให้ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยว

“เป็นเพราะพวกสารเลวจากเกิร์ดการ์ พวกมันโจมตีเราทั้งหมดในคราเดียว แม้พวกเราจะหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ตอนนี้หมู่บ้านไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว” หัวหน้าเผ่าดูเหมือนจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่ออดทนต่อความเจ็บปวด

จากนั้นเธอก็ส่งสายตามาที่ผม

“…แล้วนี่คือ? ” เธอถาม

“นี่คือผู้นำก็อบลินจากฝั่งตะวันออก ข้าขอให้เขานำกำลังมาเพื่อช่วยเหลือกันระ” กิมลิตอบอย่างภาคภูมิใจ

หัวหน้าเผ่ากันระมองมาที่ผม

“ข้าเป็นบุตรของกิแลน รา นาร์ซา ข้าเป็นหัวหน้าเผ่ากันระ”

เต็มไปด้วยศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจ การปรากฏตัวของเธอดูเหมือนกับผู้นำอย่างแท้จริง

“ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องมาที่นี่ แต่ข้าต้องขอให้เจ้าออกไป ตอนนี้ไม่มีหมู่บ้านให้ปกป้องอีกต่อไปแล้ว”

ในขณะที่เธอพูดคำเหล่านั้น เธอพยายามที่จะเดินผ่านผมไป แต่กิโกก็ดึงดาบของเขาออกมา ดาบโค้งที่สวมอยู่ที่เอวเมื่อครู่ไหลวนเหมือนกับสายน้ำไปยังคอของนาร์ซา

“ความหมายของสิ่งนี้คืออะไร!?” เธอถาม

ก็อบลินของกันระเตรียมพร้อมที่จะโจมตีและดวงตาของกิโกก็หรี่ลง

“การดูหมิ่นราชาจะไม่ได้รับการให้อภัย” กิโกกล่าว

“ท่านอะมัทสึกิโปรดรอสักครู่” กิลมิพูด

แต่ใบมีดโค้งของกิโกไม่แม้แต่จะสั่นตามคำร้องขอของกิลมิ

อย่างไรก็ตาม นาร์ซาดูจะไม่ได้ใส่ใจกับดาบที่คอ ในความเป็นจริงเธอดูเหมือนจะยั่วโมโหกิโกด้วยซ้ำ

ผู้หญิงก้าวร้าวงั้นเหรอ?

“ถ้าเจ้าพูดอย่างนั้น ลอร์ดกิลมิ หากเรากลับไปตอนนี้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับรางวัลที่ตกลงไว้” กิซาร์ถามขณะที่เขายิ้มอย่างซุกซน

“…นั่นสินะ…”

กิลมิไม่สามารถตอบได้ในทันที

ท้ายที่สุดเขาจะไม่จ่ายมันอย่างแน่นอน

“ถ้าเป็นเช่นนั้น มันคงเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ ท้ายที่สุดเราได้ระดมคนของเรามาแล้ว” กิซาร์กล่าว

กิซาร์ส่งสายตามาที่ผมอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนมันกำลังบอกว่าให้ฝากงานนี้ไว้กับเขาเอง

“แต่นั่นคือ –––”

“ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของท่าน ว่าท่านต้องการความช่วยเหลือของเราหรือไม่ แต่ถ้าเราไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการมาที่นี่แล้ว ท่านคงเข้าใจสิ่งที่ข้าพูดหรือไม่ ลอร์ดกิลมิ?”

ผมเฝ้าดูการแลกเปลี่ยนของพวกเขาอย่างใจเย็นพร้อมกับกอดอก

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในท้ายที่สุดทั้งสี่เผ่าก็จะต้องจำนนจ่อผม

ถ้าเป็นเช่นนั้นผมอาจใช้โอกาสนี้เพื่อดูว่ากิซาร์จะทำอย่างไรในการต่อรอง นอกจากนั้น …เขายังสนุกกับมันด้วยไม่ใช่เหรอ?

“คุณสัญญาอะไรกิลมิ?” นาร์ซาถามอย่างประหม่า

“เจ้าหญิงเอลฟ์” กิลมิตอบ

“เจ้าบ้า!” นาร์ซาถ่มน้ำลายลงพื้น

กิลมิเริ่มโต้ตอบกับเธอ

“แต่…” กิลมิพยายามพูด แต่นาร์ซาตัดบทสนทนา

“ที่นี่ไม่มีอะไรให้พวกเจ้าทำอีกต่อไป” นาร์ซาพูดใส่ผม

“ถ้าเป็นเช่นนั้น พวกข้าคงรู้สึกลำบากใจ” กิซาร์กล่าว

“เจ้าหญิง…” กิลมิพยายามทำให้นาร์ซาสงบลง

“แสดงความเคารพซะ! ” กิโกตะโกนอีกครั้ง

เธอลืมไปแล้วว่าดาบของกิโกกำลังพาดอยู่ที่คอของเธอหรือเปล่า?

ดูเหมือนว่าอารมณ์ของหัวหน้าเผ่ากันระจะไม่ได้ดีขึ้นในเร็ว ๆ นี้

“การสนทนาในตอนนี้ไม่มีอะไรเลย อย่างไรก็ตามลอร์ดกิลมิ ไม่ใช่ว่าเราสนใจเจ้าหญิงของท่านมากขนาดนั้น แต่ด้วยข้อตกลงนี้ ท่านคิดว่าลอร์ดนาร์ซาจะเป็นยังไง?” กิซาร์แนะนำ

ดูเหมือนเขาจะชินกับการเล่นบทคนเลว

เดี๋ยวก่อน…ผมไม่ได้เห็นฉากคล้าย ๆ กันมาก่อนเหรอ?

“นั่น…ยอมรับไม่ได้!” กิลมิตอบทันที

“เชอะ …เป็นดังคาด ก็อบลินนอกเผ่าต่างเป็นเหมือนสัตว์ร้ายจริง ๆ …” นาร์ซาพูด แต่ในตอนนั้นเอง

กิซาร์จ้องมองไปที่กิโก เขาจึงดันดาบเข้าไปที่คอของนาร์ซามากขึ้น จนคำพูดที่เธอพึมพำดูเหมือนจะไม่มีพลังอีกต่อไป

ผมอยากสนุกกับเหตุการณ์ที่ตึงเครียดมากกว่านี้สักหน่อย แต่ดูเหมือนสุนัขป่าของกิกิจะร้องขึ้น ในตอนนี้เองผมจึงต้องเคลื่อนไหว

“…หมดเวลาเล่นแล้วกิซาร์” ผมพูด

ขณะที่กิซาร์ยักไหล่ ผมเดินผ่านเขาไปและถือไอเอิร์นเซคั่น

“โปรดรอสักครู่ผู้นำแห่งตะวันออก!”

กิลมิยืนอยู่ตรงหน้านาร์ซาเพื่อขวางผม แต่ผมไม่มีเวลามายุ่งกับเขา

“กิกิ มีกี่คน?”

“ประมาณยี่สิบขอรับ” เขาตอบทันที

ดี ต่างจากกิซาร์ที่เล่นอยู่รอบ ๆ เขาคอยเฝ้าดูสภาพแวดล้อมอย่างใจเย็น

“กิโก ข้าจะปล่อยให้เจ้าโจมตี!”

“ขอรับ”

ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ กิโกจึงไม่มีทางเลือกอื่น ก็อบลินด้านหลังเขาจึงหยิบดาบออกมา

“กิโดสนับสนุนแนวหน้า กิซาร์จะโจมตีทางขวา!”

“นี่พวกท่านจะ…! “

ผู้ใต้บังคับบัญชาของผมกระจัดกระจายไปในพริบตาตามคำสั่ง

ในขณะที่พวกเขาพาก็อบลินไปด้วย พวกเขาก็วิ่งผ่านป่าไปอย่างรวดเร็ว

“กิกิ กิจิ กิซู ดูแลด้านซ้าย”

“ทราบ”

ก็อบลินแรร์สามตัวจากเข้าไปในป่าลึก

“กิกูว กิจิ พวกเจ้าทั้งสองคนเตรียมพร้อม”

หลังจากที่ผมออกคำสั่งเสร็จแล้ว ผมก็มองกลับไปที่กิลมิ

“ผู้ส่งสารของเผ่ากันระ อย่างที่เราคุยกันไว้ ข้าจะช่วยหมู่บ้านของเจ้า!” ผมประกาศ

“ข – ขอบคุณ!” เขาอุทานหลังจากหยุดลงชั่วขณะ

“แต่ …เงื่อนไขจากนี้ไปคือ เผ่ากันระจะต้องต่อสู้ภายใต้คำสั่งของข้า”

นาร์ซามองกิลมิอย่างตกตะลึง

ผมไม่สนใจความโกรธของเธอ ตอนนี้ผมมองไปที่กิลมิเท่านั้น

“…ได้ ข้าจะไปชักชวนคนอื่น ๆ ” เขาตอบ

“กิลมิ!” นาร์ซาตะโกนอย่างไม่อยากเชื่อ

“…งั้นก็ตัดสินใจแล้ว” ผมพูด

ผมจับดาบใหญ่พาดไว้เหนือไหล่ของตัวเอง

ด้วยเหตุนี้ …เผ่าหนึ่งจึงล่มสลาย

ทีนี้ …เผ่าไหนจะเป็นรายต่อไป

◆◇◇◆◆◇◇◆

หมายเหตุผู้แต่ง:

ในที่สุดก็อบลินแรร์หญิงที่ขอมานานได้ปรากฏตัวแล้ว

◆◇◇◆◆◇◇◆

อ่านนิยายล่วงหน้าได้ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล

https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/

Options

not work with dark mode
Reset