ในวันนั้น สมาชิกเกือบทั้งหมดของหน่วย Hound Dog ได้ถูกทำลายล้างไป มีเพียงไม่กี่คนที่รอดชีวิตไปได้ คิฮาระที่โดนมิสไซล์ไปลูกหนึ่งก็หนีรอดไปได้เช่นกัน ดังนั้น ณ ตอนนี้หน่วย Hound Dog จึงแทบจะเหลือแต่ชื่ออยู่แล้วด้วยสมาชิกไม่กี่คน
แน่นอนว่าถ้าให้เวลาสักหน่อย คิฮาระก็สามารถสร้างหน่วย Hound Dog ขึ้นมาใหม่ได้ แต่กว่าจะถึงตอนนั้น วู่หยานก็คงจะช่วยเหล่าน้องสาวได้เกือบหมดทุกคนแล้ว………
ส่วนทางฝั่งITEMนั้นมีผู้บาดเจ็บ1และไร้รอบขีดข่วน3 ถึงแม้ความเสียที่ได้รับจะไม่เยอะ เรียกว่าน้อยยังได้เลย ถึงกระนั่น พวกเธอก็ยังรีบถอยกันอย่างตาลีตาเหลือก
ครั้งนี้ เนื่องจากโดนสองสาวผู้ลึกลับมาขัดขวาง…ไม่สิ มาล้างบาง ทำให้ภารกิจของ Hound Dog และ ITEM ล้มเหลว…..
ที่เจ็บแสบยิ่งไปกว่านี้ก็คือ พวกโคลนที่ถูกรวบรวมมาที่สถาบันวิจัยโดยมีคนคุ้มกันอย่างแน่นหนา ได้ถูกผู้บุกรุกขโมยไปจนหมด!
ดังนั้นตอนนี้เหล่าน้องสาวมิซากะเกือบทั้งหมดจึงได้สูญหายไปแล้ว!
แม้แต่ เหล่าน้องสาวที่ได้เข้ารวมแผนการวิจัยเลเวล6 และโดนแอคเซลาเรเตอร์ฆ่าไป ก็ยังโดนขโมยไปจนหมดเช่นกัน!
สุดท้าย จึงเหลือเหล่าน้องสาวเพียงไม่กี่ร้อยคนที่ต่างกระจัดกระจายไปตามสถาบันวิจัยแต่ละที่ ส่วนที่เหลือนั้นหายเกลี้ยง……
นี่ทำให้เหล่านักวิจัยของโปรเจคเลเวล6ต่างกลายเป็นบ้าคลั่งกันหมด พวกเขาแทบทุกคนเริ่มที่จะปาข้าวของในบ้านกันด้วยความหัวเสียอย่างถึงที่สุด ส่วนหัวหน้าของโปรเจคนี้ อามาอิ อาโอะ เมื่อได้รับข่าวเขาก็เป็นลมล้มพับลงไปทันที…..
ด้วยเหล่าน้องสาวที่เหลือไม่กี่ร้อยคนทำให้โปรเจคเลเวล6ไม่อาจดำเนินการต่อไปได้ ทำได้แค่หยุดมันไว้ด้วยความหวังที่ว่าซักวันจะสามารถนำเหล่าซิสเตอร์ที่หายไปกลับคืนมาได้ หรือไม่ก็ได้รับDNAของร่างต้นมา
ส่วน อามาอิ อาโอะ ผู้ที่ได้ลงทุนไปกับโปรเจคนี้ด้วยเงินมหาศาล ตอนนี้จึงมีหนี้สินท่วมหัว ในเวลาต่อมาเขาก็ได้หายสาบสูญไปโดยไม่รู้ว่าหลบหนีไปที่ไหนแล้ว…….
ด้วยเหตุนี้ อีเว้นท์ครั้งนี้จึงได้มาถึงบทสรุป………
แน่นอนว่าพวกคนระดับสูงที่เกี่ยวข้อง ย่อมทราบดีว่านี่ก็แค่ชั่วคราว ตอนนี้เป้าหมายได้เปลี่ยนไปเป็นการ ‘ตามหาผู้ที่สูญหาย’
ผู้คนธรรมดาที่อาศัยอย่างสงบสุขในเมืองนี้ไม่ได้รู้เลยว่าภายใต้ฉากหน้าที่สงบสุขนี่ยังมีเบื้องหลังที่แสนดำมืดและวุ่นวายอยู่ เพียงแค่คุณเข้าไปเกี่ยวข้องกับมันเพียงเล็กน้อยก็จะโดนมันกลืนกินไป……..
เมืองแห่งการศึกษา โรงเรียนเขต7 ภายในตึกที่ไร้หน้าต่าง
“นายมีแผนอะไรต่อไป?”
เสียงที่ดูศักดิ์สิทธิ์มาพร้อมกับเสียงรบกวนมากมายดังขึ้น ทำให้สถานที่นี่ที่แต่เดิมเงียบสงบ เมื่อเสียงพูดนี่ดังขึ้นก็ทำให้อากาศที่อยู่รอบๆราวกับแข็งตัวขึ้น กลายเป็นหนักหน่วงมาก!
อเลสเตอร์ที่ยังลอยตัวอยู่ในแทงค์น้ำอันเดิมไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับเสียงนี่ เขายังคงเงียบ
หลังจากได้รับหลายบทเรียน อเลสเตอร์ก็กลายเป็นรอบคอบขึ้น เขารู้แล้วว่าตัวรวบรวมข้อมูลของตน อันเดอร์ไลน์ นั้นไร้ประโยชน์กับสถานการณ์ในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ตรวจสอบภาพของสถานที่เกิดเหตุอีกต่อไป หลังจากดูรายงาน เขาก็คงสภาพนี้มาจนถึงตอนนี้
“จะยอมแพ้?”
เสียงที่บิดเบี้ยวดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้อเลสเอตร์ได้มีการตอบสนองแล้ว ไม่ใช่คำพูด แต่เป็นการกระทำ
ภาพๆหนึ่งปรากฏขึ้นมาตรงหน้า อเลสเตอร์ไม่พูดอะไร เขารู้ดีว่าเจ้าของเสียงนี้เข้าใจว่าตนจะสื่อถึงอะไร
ส่วนภาพที่ปรากฏออกมานั่นก็คือภาพของ มิโคโตะ!!
“เดินหมากแบบนี้ มันไม่ใช่สไตล์ของนายเลยนะ……”
เสียงอันไร้อารมณ์ดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าถึงจะพูดแบบนี้แต่เจ้าตัวก็ไม่แคร์เหมือนกัน
อเลสเตอร์ได้ยินปิดภาพไป จากนั้นหลับตาลง ผ่านไปสักพักหนึ่งเขาก็พูดขึ้นมาว่า…..
“หยุดตอนนี้ก็ไม่ใช่สไตล์ของฉันเหมือนกัน……”
…………..
ขณะเดียวกัน ทางฝั่งบ้านวู่หยาน…….
อะแฮ่ม แน่นอนว่านี่ไม่ใช่บ้านเก่าเขาที่ตอนนี้เละเป็นโจ๊กไปแล้ว แต่เป็นบ้านใหม่ที่วู่หยานซื้อมา!
วู่หยานกำลังนั่งอยู่ที่พื้นโดยที่มือมีโน๊ตบุ๊คอันเล็กอยู่ มือเขาไม่ได้เคลื่อนไหวแต่ภาพหน้าจอกลับเปลี่ยนไปมาไม่หยุด มีเพียงแค่เส้นกระแสไฟฟ้าที่ออกมาจากมือวู่หยานเข้าไปในเครื่องอย่างช้าๆ…..
หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนสุดท้าย ไฟฟ้าจากมือเขาก็หยุด จากนั้นเก็บโน๊ตบุ๊คเข้าไปแล้วลุกขึ้นยืนบิดตัวด้วยสีหน้าพึงพอใจสุดๆ
นี่จะไม่ให้พอใจได้ยังไงล่ะ?
ก็ครั้งนี้น่ะนอกจากจะได้ปั่นหัวพวก Hound Dogที่น่ารังเกียจแล้วยังทำให้พวกมันเสียหายอย่างร้ายแรงด้วย แถมยังสามารถช่วยเหล่าน้องสาวมาได้เกือบหมดด้วย!
ตอนนี้ภายใน อุปกรณ์มิติแห่งชีวิต ของเขามีเหล่าน้องสาวอยู่ถึง19,000คนแล้ว!
ตราบใดที่ช่วย(ปล้น)พวกเธอที่เหลืออีกไม่กี่ร้อย ไม่เพียงแต่จะทำให้ความปรารถนาของมิโคโตะเป็นจริง แต่ยังทำให้เควสอันแรกของเขาสำเร็จอีกด้วย!
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พวกเธอเกือบทั้งหมดก็ได้มาอยู่มือเขาแล้ว ดังนั้นโปรเจคเลเวล6ก็ไม่มีทางที่จะทำเดินการต่อได้ หลังจากนี้ก็คงไม่มีซิสเตอร์คนไหนตายอีก……
ถึงแม้จะตายไปเขาก็สามารถชุบชีวิตขึ้นมาได้ แต่วู่หยานไม่อยากให้พวกเธอพบกับประสบการณ์ตายไปหนึ่งครั้ง……
ดังนั้น ไม่มีใครเป็นอะไร นับว่าดีที่สุดล่ะ!
วู่หยานรู้ว่าหลังจากนี้เขาคงไม่สามารถช่วยพวกเธอออกมาได้ง่ายๆแบบนี้อีกแล้ว เพราะด้วยจำนวนที่เหลือน้อยนิดนี่พวกนักวิจัยก็สามารถกระจายคนป้องกันได้มากขึ้น
ก้าวต่อจากนี้คงต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น……
มองดูโน๊ตบุ๊คอันเล็กที่มือ วู่หยานก็ยิ้มออกมา “พลังของมิโคโตะนี่มีประโยชน์ดีจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะมันฉันคงไม่สามารถลบข้อมูลของตัวเองที่อยู่บ้านเก่าง่อยๆนั่นได้ คงได้แต่หันไปพึ่งอิคารอส……”
เขาได้ทำให้แน่ใจว่าได้ลบร่องรอยของตัวเองจนหมด วู่หยานยอมรับว่าตัวเองไม่มีทางเทียบอเลสเตอร์ได้ในด้านปัญญา แต่กับพวกนักวิทยาศาสตร์ที่เสียเหตุผล(คลั่ง)ไปแล้วเขาสามารถจัดการได้……
ด้วยความสามารถของ มิโคโตะ กะไอ้แค่ลบข้อมูลตัวเองมันเป็นอะไรที่ง่ายดายมาก นี่ช่วยวู่หยานเซฟเรื่องไม่จำเป็นไปได้มากจริงๆ
ลูบกำไลที่มีเหล่าซิสเตอร์จำศีลอยู่ วู่หยานอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา นึกพวกเธอที่อยู่ข้างใน เขาก็แทบจะอดใจไหวที่จะเอาพวกเธอออกมาพูดคุยกัน
แต่น่าเสียดายถ้าเอาออกมาจริง บ้านของวู่หยานคงระเบิดด้วยจำนวนอันมากมายของพวกเธอ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เหล่าซิสเตอร์ที่ใช้ ‘น้ำยาฟื้นสภาพ’ ไปก็กำลังอยู่ในขั้นตอนรักษา มันต่างจาก ‘น้ำยาแห่งชีวิต’ ที่สามารถฟื้นฟูทุกอย่างได้ในพริบตา น้ำยาฟื้นสภาพต้องใช้เวลาในการรักษา
“เอาเถอะ ขอให้หลับฝันดีนะ…..” วู่หยานมองกำไรแล้วหัวเราะ คำพูดดูราวกับส่งตรงถึงซิสเตอร์ที่อยู่ข้างใน
“มิโคโตะเองก็ดูเหมือนว่าจะมีความสุขมากๆเหมือนกัน!” จู่ๆก็มีเสียงดังจากทางด้านหลังทำวู่หยานสะดุ้งโหยง พอเขาหันไปดูก็ต้องถอนหายใจแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจ
“ไม่รู้เหรอไงว่านี่ทำให้คนอื่นเค้ากลัวน่ะ? ฮินางิคุ!”
ฮินางิคุลูบผมสีชมพูตัวเองโดยไม่แคร์ จากนั้นไปนั่งตรงหน้าวู่หยาน “เมื่อกี้ฉันเพิ่งคุยกับมิโคโตะทางโทรศัพท์มา เธอรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วและมีความสุขมากที่น้องสาวของเธอถูกช่วยออกมาแล้วหลายคน……”
ได้ยินแบบนี้ วู่หยานก็กรอกตามองฮินางิคุ “นี่เธอไม่กลัวที่จะโดนดังฟังเลยหรือไง?”
ฮินางิคุมีสีหน้าไม่ชอบใจ “นายรู้ดีถึงความเป็นไปได้นี้อยู่แล้วนี่ ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่านายจะไม่ได้คิดไว้นะ ใช่ไหมล่ะ…..”
วู่หยานแบมือทั้งสองด้วยสีหน้าพึงพอใจ ทำให้ฮินางิคุหมั่นใส้อยากเข้าไปกัดใส่ จากนั้นไม่รู้ว่าเธอคิดถึงอะไร ฮินางิคุก็ได้ถอนหายใจ
“ไม่คิดเลยจริงๆนะว่าจะมีคนที่รูปร่างหน้าตาเหมือนมิโคโตะทุกอย่างอยู่เยอะขนาดนี้น่ะ….”
วู่หยานพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าให้พวกน้องสาวรู้ว่าเธอเรียกพวกเธอว่า ‘คน’ล่ะก็คงจะมีความสุขกันน่าดูเลยล่ะนะ!”
ฮินางิคุหัวเราะ “ใช่ มีความสุขกับเรื่องแบบนี่นี้ช่างน่ารักจริงๆเลยน่าพวกเธอเนี่ย ฉันเองก็อยากมีน้องสาวบ้างจัง…..”
ได้ยินคำพูดเธอ วู่หยานก็จ้องฮินางิคุเขม็ง จ้องแรงถึงขนาดทำเธออึดอัด ก่อนที่เขาจะพูดด้วยรอยยิ้มปีศาจเต็มหน้า “แหม่ ถ้าเธอต้องการน้องสาวล่ะก็ฉันก็คงช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ……”
วู่หยานสไลด์ตัวไปข้างๆฮินางิคุ แล้วกอดตัวเธอไว้โดยเมินเสียงกรีดร้องของฮินางิคุ “แต่ว่า….ถ้าเธอต้องการลูกสาวล่ะก็ ฉันช่วยได้นะ!!”
ใบหน้าฮินางิคุแดงแปร๊ดทันที
“นายพะ..พูดเรื่องอะไร ฉันไม่ได้อยากได้…อึก…อือ..อือ…”