อยากกินไหมล่ะ 756

ตอนที่ 756

จิตสำนึกของหยวนโจว

“ถ้านายไม่ยุ่งก็มารับฉันแล้วก็เถ้าแก่หยวนด้วย พวกเราพลัดหลงกันโดยบังเอิญน่ะ” อู๋ไห่กล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ

“ไม่มีปัญหา ตอนนี้นายอยู่ไหนล่ะ?” เจิ้งเจียเว่ยถามอย่างชัดเจน

ดังนั้นอู๋ไห่จึงบอกตำแหน่งของตัวเองให้เจิ้งเจียเว่ยทราบ แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ได้ละเลยโคมไฟที่มีภาพเขียนตัวเฟิ่งไป

“สถานที่แห่งนี้ใช่ว่าจะหาเจอกันได้ง่ายๆ ยังมีอย่างอื่นอีกไหมอย่างเช่นชื่อร้านในละแวกข้างเคียงน่ะ?” เจิ้งเจียเว่ยไม่รู้สึกแปลกใจกับคำอธิบายของอู๋ไห่เลยสักนิด ดูเหมือนว่าเขาจะคุ้นเคยกับเรื่องแบบนั้นอยู่แล้วจึงเพียงแค่ถามหาสิ่งนำทางเพิ่มเติม

“โอ้ ใช่ ฉันสามารถส่งโลเคชั่นเพื่อให้นายมาหาฉันก็ได้นี่นา” อู๋ไห่นึกถึงคำพูดของหยวนโจวขึ้นมาได้จึงตอบขึ้นมาทันที

“โอเค งั้นฉันจะสอนนายส่งโลเคชั่นของตัวเองนะ” เจิ้งเจียเว่ยกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติขณะที่กำลังออกไป

หลังจากเจิ้งเจียเว่ยต้องสอนถึงห้าครั้ง ในที่สุดอู๋ไห่ก็ส่งโลเคชั่นของตัวเองสำเร็จ ตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้คงได้แต่รอเจิ้งเจียเว่ยเท่านั้นแล้ว

ส่วนหยวนโจวนั้น เขาเพียงแค่ยืนรออยู่เงียบๆ เขาจะรออย่างอดทนจนกว่าอู๋ไห่จะโทรบอกให้เจิ้งเจียเว่ยมารับ มิฉะนั้นเขาก็คงออกไปไม่ได้หรอก

ถึงตอนนั้นก็ออกไปได้ไม่ยากแล้ว เขาค่อนข้างชัดเจนในเรื่องที่อยู่ของร้านตัวเองจึงทำให้สามารถขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้านได้

ก่อนหน้านี้เขามักจะไปธนาคาร กรมสรรพากรหรือแม้แต่ไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ด้วยรถแท็กซี่อยู่เสมอ มีตำแหน่งที่คนขับแท็กซี่ก็ยังหาไม่เจอ ถ้ามีทางเลือกเขาก็จะเปลี่ยนเป็นอีกคันหนึ่งแทน

เจิ้งเจียเว่ยมีประสบการณ์ในการตามหาตัวอู๋ไห่มานานหลายปี สำหรับเจ้าโง่จอมหลงทางขั้นรุนแรงอย่างอู๋ไห่อย่าได้ฟังเขาให้มากเกินไปเสียดีกว่า มิฉะนั้นก็คงจะไม่สามารถหาตัวเขาพบได้อีกถึงแม้ว่าเดิมทีน่าจะสามารถหาพบได้ก็ตาม

ไม่นานเจิ้งเจียเว่ยก็ไปรับตัวอู๋ไห่ จากนั้นอู๋ไห่ก็โทรหาหยวนโจวอีกครั้ง

“เจิ้งเจียเว่ยอยู่นี่แล้ว เถ้าแก่หยวน มากลับด้วยกันเถอะ” อู๋ไห่กล่าวราวกับเป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดอยู่แล้ว หยวนโจวจะหายไปไม่ได้เป็นอันขาด มิฉะนั้นใครจะไปเปิดร้านกันเล่า?

“โอเค ตอนนี้นายอยู่ไหน? ร้านค้าชื่อว่าอะไร?” คราวนี้หยวนโจวถามอย่างแยบยล เขาถามชื่อร้านค้าทันที

“หม้อไฟจางน้อยบนถนนอู๋หูตะวันตก ฝั่งตรงข้ามประตู 3 ของหมู่บ้านจัดสรรว่านหลี่ คุณอยู่ที่ไหนครับเถ้าแก่หยวน? จะให้ผมไปรับคุณไหมครับ?” เสียงของเจิ้งเจียเว่ยดังลอดผ่านปลายสายโทรศัพท์มาจากอีกด้านหนึ่ง เขาแสดงตำแหน่งปัจจุบันของตัวเองได้อย่างชัดเจนมาก

“ไม่ต้องหรอกครับ ผมไม่เหมือนกับอู๋ไห่ ผมสามารถหาตำแหน่งนี้ได้เดี๋ยวผมจะไปเองครับ ไม่ไกลนักหรอก” หยวรโจวปฏิเสธทันที

จากนั้นหยวนโจวก็วางสายไปทันทีก่อนที่เจิ้งเจียเว่ยจะทันได้พูดอะไรออกไป เขาเดินอยู่ประมาณห้านาทีก็เจอรถแท็กซี่

“คุณครับ ไปหม้อไฟจางน้อยบนถนนอู๋หูตะวันตก” หยวนโจวขึ้นรถแล้วบอกที่อยู่กับคนขับ

“หม้อไฟจางน้อยงั้นรึ?” คนขับแท็กซี่ขมวดคิ้ว ดูท่าเขาคงไม่ใช่นักชิมจึงไม่รู้จักร้าน

หยวนโจวกล่าวเสริมขึ้นมาอีกว่า “อยู่ฝั่งตรงข้ามประตู 3 ของหมู่บ้านจัดสรรว่านหลี่”

คนขับแท็กซี่มองหยวนโจวด้วยความประหลาดใจแล้วกล่าวว่า “น้องชาย ฉันไม่รู้หรอกว่าหม้อไฟจางน้อยอยู่ที่ไหน แต่ตอนนี้พวกเราอยู่บนถนนอู๋หูตะวันตกแล้ว เดินไปตามถนนสายนี้อีก 300 เมตรก็จะเห็นประตู 3 เองแหละ”

จริงๆแล้วคนขับแท็กซี่ยังมีอีกคำที่ไม่ได้พูดออกมาเพราะเกรงว่าจะทำลายความมั่นใจของหยวนโจวเข้าว่า “จริงๆแล้วบริเวณด้านหลังพวกเขาก็คือหมู่บ้านจัดสรรว่านหลี่”

หยวนโจวยังคงรักษาท่าทางสงบสำรวมเอาไว้แล้วกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติว่า “เพื่อนของผมรอนานมากแล้ว ผมจะเอากระดาษทิชชู่ไปให้เขา คุณก็รู้ใช่ไหมครับ?”

“โอ้ ใช่ ใช่ คุณต้องรีบจริงๆแล้วล่ะ” คนขับแท็กซี่แสดงสีหน้า “ฉันเข้าใจนะ” แล้วออกรถทันที

คนขับรถแท็กซี่ในเฉิงตูชอบการพูดคุยเอามากๆ ถึงแม้จะเป็นระยะทางที่สั้นมากๆ แต่พวกเขาก็ยังหาเรื่องมาคุยจนได้ ส่วนอู๋ไห่ที่กำลังรอกระดาษทิชชูอยู่นั้น เขาแค่รอให้หยวนโจวมาพร้อมกับเจิ้งเจียเว่ยโดยไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย

“ทางที่ดีคราวหน้าตอนออกไปข้างนอกก็พกกระดาษทิชชู่มาด้วยสิ ถ้าระยะทางสั้นมากๆคนขับแท็กซี่บางคนก็ไม่รับผู้โดยสารหรอกนะจะบอกให้” คนขับแท็กซี่กล่าวอย่างกระตือรือร้น

จากนั้นเขาก็บอกอีกว่าทุกวันนี้เพื่อนร่วมอาชีพของเขาหลายคนโดนลูกค้าพวกนั้นหลอกมาเยอะแล้ว เมื่อตอนที่การจราจรไม่ติดขัด พวกเขาจะคิดค่าบริการมากกว่า 30 หยวนส่วนระยะทางที่สั้นกว่านั้นก็จะคิดค่าบริการ 20 หยวน

หยวนโจวพยักหน้าเห็นด้วย ถังแม้ว่าเขาจะเป็นคนท้องถิ่น แต่เขาก็มีประสบการณ์โดนคนขับแท็กซี่เมินเฉยหรือหลอกมาเหมือนกัน

“ตอนผมไปสนามบินคราวที่แล้วเกือบไม่ทันเครื่องเลยล่ะ” หยวนโจวกล่าว

คนขับแท็กซี่กล่าวอย่างเป็นธรรมและตรงไปตรงมาทันทีว่า “คราวหน้าถ้าเจอเรื่องแบบนี้อีกให้ขอใบเสร็จรับเงินเอาไว้นะครับ ให้เงินเขาไปแล้วส่งเรื่องร้องเรียนเสียเลย ถ้าเขาไม่ยอมให้ใบเสร็จรับเงินกับคุณก็อย่าได้ให้เงินเข้าเป็นอันขาดเชียวล่ะ นี่เป็นกฏน่ะครับ พวกลูกค้าอย่างคุณต้องรู้จักปกป้องสิทธิ์ของตัวเองด้วยนะครับ”

เมื่อเห็นหยวนโจวพยักหน้าติดๆกัน คนขับแท็กซี่ก็หายขุ่นเคือง “คนขับแท็กซี่พวกนี้ก็ทำเกินไปจริงๆ ชื่อเสียงของวงการแท็กซี่ต้องโดนทำลายเพราะคนเลวพวกนี้ เป็นผลให้คนขับแท็กซี่ด้วยความซื่อสัตย์อย่างเราๆต้องเดือดร้อนเพราะจอมหลอกลวงพวกนั้น ทุกวันนี้ลูกค้าชอบเรียกแท็กซี่ผ่านสมาร์ทโฟนมากขึ้นเรื่อยๆ”

“จริงเหรอครับ? ผมยังไม่เคยเรียนรู้วิธีเรียกแท็กซี่ด้วยโทรศัพท์มาก่อนเลย” หยวนโจวไม่รู้วิธีตอบเขาจึงทำได้เพียงกล่าวเช่นนั้นเพื่อปลอบใจเขา และในตอนนี้เขามาถึงจุดหมายปลายทางของตัวเองแล้ว ระยะทางสั้นมากจริงๆ พูดง่ายๆก็คือเขาต้องข้ามไฟจราจรและถนนก่อนที่จะถึง

“นิสัยดีจัง พยายามเข้านะ” คนขับแท็กซี่กล่าวอย่างเอาจริงเอาจัง

คำชื่นชมของคนขับแท็กซี่เกือบทำให้หยวนโจวสะดุดขณะที่เขากำลังลงจากรถ หมายความว่าอะไรกัน?

หยวนโจวเห็นป้ายร้านหม้อไฟจางน้อยก่อนที่จะลงจากรถแล้ว นอกจากนี้เขาก็ยังสังเกตเห็นเจิ้งเจียเว่ยกับอู๋ไห่ยืนอยู่ที่รถอีกด้วย

หยวนโจวยังไม่ได้ลงจากรถเลยตอนที่เจิ้งเจียเว่ยและอู๋ไห่เข้ามาหา

“คุณมาแล้ว” เจิ้งเจียเว่ยทักทายหยวนโจวก่อน

“มันไม่ไกลจริงๆแหละ นายมาถึงไวมากเลย” อู๋ไห่เองก็อ้าปากพูดเช่นกัน

คนขับแท็กซี่ที่ยังไม่จากไปมองเจิ้งเจียเว่ยกับอู๋ไห่ด้วยสีหน้าสับสนแล้วขับรถจากไป

สายตาของคนขับแท็กซี่ชัดเจนเสียจนแม้แต่อู๋ไห่ก็ยังสังเกตได้ เขาอ้าปากถามขึ้นมาทันทีว่า “คนๆนี้เป็นอะไรงั้นเหรอ?”

“เขาน่าจะจำได้ว่านายเป็นจิตรกรผู้ยิ่งใหญ่ไงล่ะ” หยวนโจวกล่าวอย่างที่เตรียมพร้อมเอาไว้

“จริงด้วย ถึงยังไงฉันก็มีชื่อเสียงพอตัวนี่นะ” อู๋ไห่ลูบหนวดเครากระจุ๋มกระจิ๋มของตัวเองแล้วกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

ตอนนี้ทุกคนอยู่ที่นั่นและยังพอมีเวลาเหลือ หยวนโจวไม่อยากเสียเวลาไปเปล่าๆปลี้ๆจึงเสนอให้ค้นหาตลาดสดแห่งนั้นต่อไป

ถึงตอนนี้ อู๋ไห่อดไม่ได้ที่จะเห็นด้วยส่วนเจิ้งเจียเว่ยเพียงทำตามคำสั่งของอู๋ไห่เท่านั้น ดังนั้น ด้วยการนำทางของหยวนโจวและความช่วยเหลือของเจิ้งเจียเว่ย ในที่สุดพวกเขาก็เจอตลาดสดตามที่ชายชราขับรถลากบอก อย่างที่เขากล่าวเอาไว้ ตลาดสดไม่สะดุดตานักถึงแม้จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ก็ตามที ก่อนอื่นพวกเขาต้องเข้าไปในซอยก่อนถึงจะสามารถเห็นทางเข้าตลาดสดได้

รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปที่นั่นได้และพวกเขาก็ไม่สามารถไปถึงด้วยรถแท็กซี่ได้จริงๆ

“ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้ หาเจอได้ไม่ง่ายเลยจริงๆ” อู๋ไห่มองทางเข้าตลาดสดแล้วถอนหายใจ

“ไม่เลวนี่” หยวนโจวได้แต่รักษาท่าทีสงบนิ่งเอาไว้

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะพบสถานที่เหมาะสมแล้ว แต่กลับไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมและชายชราที่เชี่ยวชาญในการทำตับดิบก็ไม่ปรากฏตัวในตอนนี้ ดังนั้นพวกเขาทั้งสามจึงเตรียมตัวที่จะกลับบ้านแล้ว

“ไว้มาใหม่คราวหน้าเถอะ พวกเรามีเวลาไม่มากแล้ว” หยวนโจวตรวจสอบเวลาอย่างเป็นธรรมชาติ

“อืม นายพูดถูก ได้เวลาอาหารมื้อค่ำแล้ว” คำพูดของอู๋ไห่มักจะเกี่ยวข้องกับอาหารอยู่เสมอ

“ให้ผมขับรถไปส่งเถอะครับ” เจิ้งเจียเว่ยโบกมือ

“ขอบคุณมากครับ” หยวนโจวพยักหน้าแล้วกล่าวอย่างสุภาพ

“ด้วยความยินดี มาทานอาหารมื้อค่ำด้วยกันเถอะน่า” อู๋ไห่โบกมือเบาๆแล้วบอกกับเจิ้งเจียเว่ย

“โอเค งั้นวันนี้ไปทานอาหารมื้อค่ำที่บ้านเสี่ยวไห่กันเถอะ” เจิ้งเจียเว่ยพยักหน้าอย่างมีความสุข

“ผิดแล้ว พวกเราจะไปทานอาหารที่ร้านของเถ้าแก่หยวนต่างหากเล่า” อู๋ไห่แก้ไขความเข้าใจผิดให้เขาเสียใหม่

“ใช่ครับ ผมเลี้ยงเอง” หยวนโจวนึกถึงบทสนทนาระหว่างคนขับแท็กซี่ขึ้นมาได้จึงกล่าวขึ้นมาด้วยความถือดีในทันที

“การเดินทางครั้งนี้ช่างคุ้มค่าจริงๆ” อู๋ไห่พยักหน้าทันทีเพราะเกรงว่าหยวนโจวจะปฏิเสธคำพูดของเขา

“ขอบคุณมากครับ เถ้าแก่หยวน” เจิ้งเจียเว่ยกล่าวขอบคุณเขาทันที

“อย่าพูดแบบนั้นสิครับ” หยวนโจวยังคงเป็นเช่นเดิม เขาเพียงแค่มีท่าทีสงบสำรวมตามปกติและขึ้นรถอย่างเป็นธรรมชาติ

ระหว่างอาหารมื้อค่ำ แน่นอนว่าอู๋ไห่ย่อมโม้ให้ใครต่อใครในร้านหยวนโจวฟังเป็นวรรคเป็นเวร นับเป็นเรื่องยากกว่าถูกลอตเตอรี่เสียอีกที่ได้ไปตามหาอาหารอร่อยพร้อมกับเถ้าแก่หยวน ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องเลี้ยงอาหารมื้อคำเลย

และแน่นอนว่าเขาย่อมไปกระตุ้นต่อมอิจฉาของลูกค้าคนอื่นๆในร้านเข้า อู๋ไห่เป็นคนที่ฉลาดมาก หลังจากอาหารมื้อนี้ เขามักจะมาหาหยวนโจวแล้วออกไปพร้อมกันเพื่อตามหาชายชราผู้นั้น

หยวนโจวเองก็มักจะโชคดีอยู่เสมอ หลังจากไปที่นั่นแล้วคว้าน้ำเหลวได้ประมาณห้าครั้งหกครั้ง ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบเจอคนที่อยากจะพบเสียที

อาหารที่แม้แต่เจ้าระบบเองก็เชื่อว่าไม่มีทางทำได้กำลังจะอุบัติขึ้นในที่สุดแล้ว!

อยากกินไหมล่ะ

อยากกินไหมล่ะ

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 896 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )

ณ ประเทศตะวันออกที่ห่างไกลมีร้านอาหารเล็ก ๆ แปลก ๆ แห่งหนึ่งที่อาจหาญกล้า ‘ปฏิเสธการจัดอันดับสามดาว‘ โดย Michelin Guide อยู่หลายครั้ง อาหารที่นี่ราคาแพงมากข้าวผัดธรรมดาจานหนึ่งกับซุปหนึ่งชาม ราคาก็ปาเข้าไป 288 หยวนแล้ว (ประมาณ 1500 บาท) เคี่ยวขนาดนี้ก็ยังมีคนต่อคิวยาวเหยียดเพื่อจะรอกิน อ้อ… ที่นี่เขาไม่รับจองคิวด้วยนะ! แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนจำนวนมากนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาเพื่อจองคิวอีก! ทำไมต้องนั่งเครื่องบินน่ะเหรอ ก็เขาไม่มีที่จอดรถให้น่ะสิ ที่นี่บริการแย่ ลูกค้ากินแล้วต้องล้างจานเช็ดโต๊ะเอง ไม่รู้เจ้าของร้านคิดอะไรอยู่… สงสัยคงเป็นคนบ้าคนหนึ่ง

Options

not work with dark mode
Reset