สอนรักอดีตภรรยา 45 หลงกลเสน่ห์ผู้ชายหล่อ

ตอนที่ 45 หลงกลเสน่ห์ผู้ชายหล่อ

ฟู่ยวี่นั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วหมุนไปรอบๆ มองสำรวจห้องทำงานของหนานซ่ง จึงอดพูดไม่ได้ว่า

“ห้องทำงานของคุณ ดูเป็นผู้ใหญ่มาก เหมือนเป็นห้องทำงานของตาแก่อายุสี่สิบ”

ฟู่ยวี่เห็นว่ามีแต่ของตกแต่งสไตล์จีน แล้วยังมีภาพวาดต่างๆนานาอีก จึงทำหน้ารังเกียจ “ผมมีแฟนเก่าที่เป็นนักออกแบบภายใน เดี๋ยวจะแนะนำให้คุณ ตกแต่งใหม่ดีกว่า”

“ไม่จำเป็น”

หนานซ่งอ่านเอกสารที่กู้เหิงยื่นมาให้ พูดโดยที่ไม่เงยหน้า “หนึ่ง อย่าดูถูกรสนิยมของฉัน สอง ถ้าอายุสี่สิบก็เป็นตาแก่แล้ว งั้นตอนนี้คุณก็น่าจะถึงวัยกลางคนแล้ว สาม คุณน่ารำคาญมากแล้ว อย่าเอาพวกแฟนเก่าของคุณมาทำให้ฉันรำคาญอีก ฉันไม่ได้ว่างเหมือนคุณ”

ฟู่ยวี่แตะริมฝีปาก แล้วหันมองไปทางกู้เหิง “บอสของพวกคุณชอบพูดอะไรเคลียร์ๆเป็นลำดับแบบนี้เหรอ? เธอเป็นพวกที่บ้าตัวเลขใช่ไหม?”

กู้เหิงเห็นว่าหนานซ่งไม่เอ่ยพูดอะไร จึงตอบฟู่ยวี่ว่า “เปล่าครับ บอสหนานจะเป็นแบบนี้ก็แค่ตอนที่พูดประชดคุณ”

“เหรอ? ถ้าพูดอย่างนี้งั้นผมก็ถือว่าเป็นคนพิเศษสินะ?”

ฟู่ยวี่ไม่ละอายใจ แต่กลับรู้สึกภูมิใจ

กู้เหิงปิดปากเงียบ แล้วอดมองบนใส่เขาไม่ได้

“คุณพิเศษจริงค่ะ” หนานซ่งเก็บเอกสาร แล้วเงยหน้ามองฟู่ยวี่ “หน้าด้านเป็นพิเศษมาก”

ฟู่ยวี่ไม่สะทกสะท้านอะไรเลย “ผมจะหน้าด้าน ก็ต่อเมื่ออยู่หน้าผู้หญิงสวยๆ”

หนานซ่งขี้เกียจสนใจเขา เห็นว่าได้เวลาแล้ว จึงเปลี่ยนรองเท้าส้นสูงเป็นส้นธรรมดา แล้วพูดว่า “ไปเถอะค่ะ”

เพิ่งเดินออกประตู ก็เห็นเงาสีน้ำเงินเข้มเดินมาอย่างไม่บอกไม่กล่าว

วันนี้ยวี่จิ้นเหวินใส่ชุดสูทลายสีเข้ม ร่างสูงเข้ากับงานฝีมือที่ละเอียดอ่อนมาก

หนานซ่งรู้รสนิยมของเขาดี เขาไม่ชอบของแบรนด์เนมในห้าง เสื้อสูทของเขาต้องเย็บด้วยมือเท่านั้น

เนื้อผ้าก็ไม่ใช่ของแพงอะไร แถมยังล้าสมัยด้วย แต่ใส่แล้วกลับสบาย มีแต่เขาเท่านั้นที่สามารถใส่ชุดสูทธรรมดาให้เหมือนกับชุดสั่งตัดโอต์กูตูร์ได้

ดูดี สง่าผ่าเผย สามารถเห็นได้จากบนตัวผู้ชายคนนี้

เมื่อกี้ตอนอยู่ชั้นล่างหนานซ่งไม่ได้มองเขาเลย แต่ตอนนี้เขาโผล่มากะทันหัน จึงทำให้เธอตกอยู่ในภวังค์ชั่วครู่

“เอ๋ ทำไมแกขึ้นมาเองล่ะ? เรากำลังจะลงไปพอดี”

ฟู่ยวี่เอ่ยทักยวี่จิ้นเหวิน

แต่หนานซ่งกลับขมวดคิ้วแน่น “คุณขึ้นมาได้ยังไง?”

กู้เหิงก็ตกใจเหมือนกัน แล้วถามพนักงานว่าทำงานกันยังไง คนที่ไม่ได้นัดไว้ก็กล้าพาเข้ามา!

เหล่าผู้ช่วยของประธานรีบขอโทษ พนักงานต้อนรับอย่างฮวงยียีเห็นว่าตัวเองสร้างปัญหา จึงรีบเอ่ยอธิบาย “ขอโทษค่ะประธานหนาน ความผิดของฉันเอง ฉันคิดว่าสุดหล่อคนนี้……ไม่ค่ะ คุณผู้ชายคนนี้มีนัด ก็เลยพาเขาขึ้นมาเอง……คุณอย่าโทษพี่สาวฉันเลยนะคะ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเองค่ะ!”

ผู้ช่วยฝ่ายธุรการฮวงฉู่ฉู่เหงื่อตก อยากจะตบน้องสาวให้จำ

“ค่ะ! ขอโทษนะคะประธานหนาน ฉันดูแลไม่ดีเอง ฉันขอรับประกันค่ะว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก!” ฮวงฉู่ฉู่โค้งขอโทษ

ใบหน้าหนานซ่งไร้ความรู้สึก “ถ้าฉันจำไม่ผิด นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งก่อนเรื่องการโทรนัด ก็เป็นน้องสาวของคุณสินะ”

“……ค่ะ” ฮวงฉู่ฉู่อยากจะฆ่าตัวตาย

หนานซ่งพูดอย่างเรียบนิ่ง “รักน้องสาวเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ากระทบเรื่องงานก็ไม่ใช่เรื่องดี จ่ายเงินเดือนเพิ่มให้เธอหนึ่งเดือน แล้วส่งตัวไปที่ฝ่ายHR”

แล้วลากน้องสาวลงไป

ขอบตาฮวงยียีแดง แล้วรีบโค้งขอโทษ “ขอโทษนะคะ ขอโทษประธานหนานมากนะคะที่ฉันสร้างปัญหาให้คุณ!”

หนานซ่งเอ่ย “เด็กน้อยเพิ่งเข้าสังคมไม่นาน ครั้งนี้ถือว่าเป็นคำเตือน ชอบผู้ชายหน้าตาดี ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ผู้ชายที่หน้าตาดีอาจจะไม่ใช่คนดีก็ได้ เข้าใจไหม?”

“เข้าใจแล้วค่ะ” ฮวงยียีเห็นว่าจะโดนไล่ออกแล้ว จึงทนไม่ไหว เลยร้องไห้น้ำตาไหล

กำลังจะเดินไปข้างนอกพร้อมพี่สาว ยวี่จิ้นเหวินก็เอ่ยว่า “รอเดี๋ยว”

เขามองหนานซ่ง แล้วพูดว่า “ฉันเป็นคนให้เขาพาขึ้นมาเอง เขาเป็นแค่พนักงานต้อนรับ ไม่ต้องหาเรื่องเขาขนาดนั้นก็ได้ ไม่พอใจอะไร ก็ลงที่ฉัน”

ฟู่ยวี่พยายามส่งสายตาให้ยวี่จิ้นเหวิน : เวลาแบบนี้แกหุบปากดีกว่า ยังจะทำตัวเป็นฮีโร่อีก!

หนานซ่งมองยวี่จิ้นเหวิน แล้วหลุดขำออกมา

“คุณชายยวี่คะ คุณเป็นอะไรกับฮีโร่มากไหมคะ เห็นผู้หญิงอ่อนแอก็เลยอยากปกป้อง ทะนุถนอมขนาดนี้ คุณไม่ควรร่ายมนตร์เสน่ห์ใส่พนักงานของฉัน คนที่ทำให้เขาตกงานคือคุณ ไม่ใช่ฉัน”

ใบหน้าหนานซ่งเยือกเย็นมาก “บริษัทของเรามีกฎระเบียบ มีรางวัลแล้วก็บทลงโทษชัดเจน ไม่ใช่ว่าคุณพูดยังไงก็จะเป็นอย่างนั้น ถ้าคุณชอบ หรือว่าสงสารเธอ ก็รับเธอไปเป็นเลขาได้ ไม่มีใครห้ามคุณ”

ยวี่จิ้นเหวินขมวดคิ้วแน่น เขาแค่จะช่วยพนักงานต้อนรับคนนั้น ทำไมถึงกลายเป็นว่าเขาชอบเธอ?

นี่อะไรกับอะไรเนี่ย?

“กู้เหิง”

กู้เหิงก้าวเดินมาข้างหน้า “ครับ”

หนานซ่งสั่งเสียงเข้ม “ให้บอดี้การ์ดกับพนักงานต้อนรับจำใบหน้าประธานยวี่ไว้ให้ดี ถ้าปล่อยคนที่ไม่ควรปล่อยเข้ามาอีก ก็ไปหาฝ่ายHRให้หมด”

กู้เหิงหวั่นเกรง “ครับ! ผมจะรีบไปสั่งเดี๋ยวนี้เลยครับ!”

จากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว เชิญยวี่จิ้นเหวินออกไป “ประธานยวี่ ประธานหนานมีเรื่องต้องยุ่ง เชิญทางนี้ครับ”

ยวี่จิ้นเหวินก็ไม่ใช่คนที่จะมาก็มา จะให้ไปก็ไป ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับเลย

บรรยากาศจึงเริ่มอึดอัด

ฟู่ยวี่ก็รับบทคนกลาง แล้วช่วยเจรจาให้ “เอาล่ะ เรื่องแค่นี้เอง ไม่ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ก็ได้ครับ”

เขาเสียบอยู่ตรงกลาง มองซ้าย มองขวา แล้วตบบ่ายวี่จิ้นเหวินเบาๆ “ไม่ใช่ว่าฉันจะบ่นแก แกเก็บเสน่ห์ของตัวเองหน่อยได้ไหม เห็นไหมว่าหนานซ่งหึง?”

หึง?

ยวี่จิ้นเหวินกับหนานซ่งเงยหน้าขึ้นมา

หนานซ่งอึ้ง แล้วใบหน้าก็แดง จากนั้นจึงพูดเสียงเข้ม “ฟู่ยวี่!”

ใครหึง!

“ผมไม่ได้หูหนวก ไม่ต้องเรียกเสียงดังขนาดนั้น”

ฟู่ยวี่แคะหู แล้วพูดกับหนานซ่งว่า “โอเคโอเค อย่าโกรธเลยครับ คุณยังไม่รู้จักมันเหรอ ก็แค่ผู้ชายซื่อบื้อ ผู้หญิงโปรยเสน่ห์ใส่มันยังเป็นไปได้ คุณให้มันไปโปรยเสน่ห์ใส่ผู้หญิง คุณเอามีดมาขู่มันก็ไม่ทำหรอกครับ ผมก็รู้ คุณยังมีความรู้สึกกับมัน เพราะยังไงก็เคยเป็นสามีภรรยากันตั้งสามปี ยังไงก็ต้องใช้เวลาใช่ไหมครับ?”

เขาพูดพร่ำต่อ “เป็นสามีภรรยากันไม่ได้แต่ก็เป็นเพื่อนกันได้ ไม่ต้องโกรธแค้นกันขนาดนั้น ยังทำธุรกิจด้วยกันได้ พวกคุณว่าใช่ไหมครับ?”

หนานซ่งส่งสายตาที่เยือกเย็นไปให้ แล้วยิ้มอย่างเสียดสี “เป็นสามีภรรยากันไม่ได้ แต่ยังเป็นเพื่อนกันได้?”

ฟู่ยวี่พยักหน้า “ครับ”

“งั้นถ้าเป็นคนรักกันไม่ได้ล่ะ?”

Options

not work with dark mode
Reset