ตอนที่ 395 ขอบคุณ
ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นในเวลาอันสั้น พวกเราไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ํา
หลังจากธงสองผืนนั้นหายไปพร้อมกับวิญญาณของจางจีเทาและยัยป้าคนสวยพวกเราถึงทําหน้าตกใจและสงสัยออกมา
หลงฉวนตัวจริงขมวดคิ้ว “สมควรตาย คิดไม่ถึงว่าเจ้าหมอผีนั้นจะมีของสิ่งนี้ !”
ส่วนตาลุงข้างๆผมกลับถอยหายใจออกมา ได้ยินเขาพูดกับหลงฉวนที่อยู่ห่างออกไปว่า “ใช่ !แต่ในเมื่อเจ้าสิ่งนี้ออกมางั้นก็แปลว่าเจ้าพวกนั้นไม่ได้หายไปตลอดกาล !”
พอหลงฉวนตัวจริงได้ยินคําพูดนี้ ก็พยักหน้าเบาๆ และไม่พูดอะไรออกมาอีก
เขาหยิบกระเป๋าออกมาแทน กระเป๋าใบนั้นเหมือนกับกระเป๋าเหอเปา ด้านบนมีลวดลายปากว้าเล็กมากๆปักเอาไว้
เขาเอากระเป๋าวางไว้บนฝ่ามือ จากนั้นก็กวาดสายตามองผีร้ายหลายสิบตัวที่อยู่รอบๆ
แต่พวกมันเสียพลังรบไปหมดแล้ว ภายใต้การปราบของหลงฉวนตัวจริงตอนนี้พวกมันกําลังตัวสั่น
ไม่มีตัวไหนหนีไปเลยสักตัว
ต่อจากนั้น หลงฉวนตัวจริงก็เปิดกระเป๋าออก พร้อมพูดออกมาเบาๆ “เก็บ !”
ทันใดนั้น ผีร้ายหลายสิบตัวที่อยู่รอบๆ ก็ถูกดูดเข้าไปในกระเป๋าทั้งหมด
เรื่องเก็บผี พวกเราทําได้ทุกคน
แต่ภายในชั่วอึดใจเดียว และยังเป็นการเก็บผีหลายสิบตัวในเวลาเดียวกัน พลังระดับนี้ไม่ใช่
เล่นๆ
มันแตกต่างหลายเท่าตัวถึงจะทําได้
แต่พวกเราด้านชาแล้ว หลงฉวนตัวจริงสร้างความน่าตกใจให้พวกเราเยอะมากแล้วพลังที่น่าเกรงขามจนเกินจะคาดคิด สามารถทําลายวิญญาณปุยซานหยวนด้วยมือเพียงข้างเดียว
ถึงตอนนี้หลงฉวนตัวจริงจะบอกผมว่าเขาไปเที่ยวในนรกมา ผมก็คงไม่รู้ว่ามันน่าแปลกตรงไหนแล้ว
หลังจากผีร้ายหลายสิบตัวโดนเก็บแล้ว ร่มดําที่พุ่งขึ้นฟ้าไปเมื่อกี้ ก็ค่อยๆล่วงลงมา ต่อจากนั้น มันก็โดนหลงฉวนตัวจริงรับเอาไว้ตรงๆ
หลังจากหลงฉวนตัวจริงถือร่มดําไว้ในมือแล้ว เขาก็เหมือนจะพูดอะไรกับร่มดําอีกนิดหน่อย
แต่เสียงเบามาก ผมไม่ได้ยิน……
ในเวลานี้ ผมรู้สึกสบายตัวขึ้นเยอะแล้ว ลุงวัยกลางคนคนนั้นช่วยประคองผมขึ้นมา
ผมรีบพูดขอบคุณ จากนั้นก็วิ่งไปหามู่หลงเหยียนทันที
ร่างจิตของมู่หลงเหยียนโดนปุยซานหยวนสะกดวิญญาณเอาไว้ ในเวลานี้ได้แต่อยู่ในสภาพเดิมไม่อาจสลายร่าง กลับไปหาร่างจริงของเธอได้ทันที
“น้องศพ น้องศพเธอเป็นยังไงบ้าง ?” ผมรีบถาม
ม่หลงเหยียนกลับฉีกยิ้มเล็กน้อย “ฉันไม่เป็นอะไร นายช่วยดึงหมุดกักวิญญาณที่หลังของฉันก็พอแล้ว !”
ผมรีบพยักหน้าแล้วหมุนตัวมู่หลงเหยียน หลังเธอมีหมุดสีดําอยู่อันหนึ่งจริงๆ
ผมไม่ลังเล รีบดึงมันออกทันที
หมดกักวิญญาณเพิ่งหลุดออก มู่หลงเหยียนก็เผยสีหน้าผ่อนคลาย ท่าทางเหมือนเธอจะสบายตัวขึ้นเยอะ
“ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง ?”
“ดีขึ้นเยอะแล้ว !”
หลังจากพูดจบ มู่หลงเหยียนก็จับมือผมลุกขึ้น จากนั้นก็ทํามือคารวะหลงฉวนตัวจริงและตาลงคนนั้น “ข้าน้อยขอขอบคุณพวกท่านนักพรตทั้งสองที่ช่วยชีวิตเราเอาไว้มากค่ะ !”
หลงฉวนตัวจริงและตาลุงอีกคนหันมามองหน้ากัน พวกเขาอดยิ้มออกมาไม่ได้
ต่อจากนั้นเราก็ได้ยินตาลุงหน้าหล่อคนนั้นพูดว่า “เธอโดนหมุดก๊กวิญญาณเข้าไป รีบสลายร่างเถอะ ! ไม่อย่างนั้นร่างจริงของเธอจะบาดเจ็บได้ !”
พอม่หลงเหยียนได้ยินถึงตรงนี้ก็พยักหน้าพูดขอบคุณออกมาอีกครั้งจากนั้นก็บอกลาพวกเขา
ตอนมู่หลงเหยียนจะจากไปเธอหันมามองผมบอกว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยบอกให้ผมรีบกลับไปเร็วๆ
ผมตอบรับ “อืม” สั้นๆ จากนั้นก็เห็นร่างจิตของมู่หลงเหยียนสลายหายไปจากที่นี่
พอมู่หลงเหยียนจากไปแล้วเหล่าเฟิงและพี่เฟิงก็ดูดีขึ้นหน่อยพวกเขารีบเดินมาทางนี้ทันที
ทั้งสองคนขอบคุณนักพรตทั้งสองท่านที่ช่วยชีวิตเอาไว้แบบซาบซึ้งใจสุดๆ ถ้าวันนี้ไม่ได้เจอกับพวกเขา พวกเราก็คงตายด้วยมือก่ยซานหยวนแล้ว
นักพรตทั้งสองท่านก็สุภาพมาก ไม่วางท่าเลยสักนิด
ตอนไม่แสดงพลัง พวกเขาไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดา
เพราะรู้ชื่อของหนึ่งในนั้นแล้ว หลงฉวนตัวจริงนักพรตเตผู้ชอบธรรม และมีวิชาสุดน่าทึ่ง
ส่วนอีกคนหนึ่ง ผมรู้แค่ว่าเสี่ยวม่านเรียกเขาว่าลงฉัน ส่วนเขาจะมีชื่ออะไรนั้นผมเองก็ยังไม่รู้
ดังนั้นผมเลยพูดกับลุงหน้าหล่อด้วยความเคารพ “ ท่านผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าท่านมีนามและฉายาว่าอะไร
ถ้าเป็นไปได้วันหน้าผมต้องไปขอบคุณถึงที่แน่นอนครับ”
เมื่อตาลุงโดนผมถามขนาดนั้น เขาก็หัวเราะฮ่าๆออกมาสั้นๆ “ฉายาไม่มีหรอกฉันแซ่ฉัน ชื่อเย่ เพียงตัวเดียว ฉันว่านายก็น่าจะเคยได้ยินแซ่ของฉันแล้วนะ ! เอาแบบนี้ก็แล้วกัน นายเรียกฉันว่านักพรตฉินก็พอและก็ไม่ต้องเรียกผู้อาวุโสหรือผู้น้อยอะไรนั่นอีก !”
ตอนพูดถึงตรงนี้ ท่านนักพรตฉันก็ส่งสายตามองผมแบบมีความนัยน์
พอเห็นสายตาของท่านพรตฉัน ในใจของผมก็มีเสียงดัง “บิ๊ก”
ผมเคยได้ยินจากที่ไหนละ มันชัดเจนสุดๆ ท่านนักพรตฉันกําลังบอกว่า ก็ตอนที่อยู่ในบ้านเสี่ยวม่าน
ตอนที่ผมซ่อนอยู่ในห้องครัวไงละ
ไม่อย่างงั้นเขาจะพูดแบบนี้ได้ยังไง ถึงจะไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน แต่ตอนนั้นผมก็รู้สึกเขินหน่อยๆ
เหล่าเฟิงที่อยู่ข้างๆกลับเริ่มครุ่นคิด เขาทวนคําว่า “ฉินเย” ซ้ํา ท่าทางเหมือนเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน
ผมเกาหัว “เอ่อ เอ่อคือตอนนั้นการเคารพมันเทียบไม่ได้กับการทําตามคําสั่งนะครับท่านนักพรตฉิน !”
ท่านนักพรตฉินก็ไม่พูดอะไรมากเพียงพยักหน้าให้เท่านั้น
แต่ในเวลานี้ พี่เพิ่งกลับถามนักพรตทั้งสองท่านด้วยความสงสัย “ท่านหลงฉวนท่านนักพรตฉินไม่ทราบว่าทําไมกุยซานหยวนถึงฆ่าไม่ตายแล้วธงสองผืนเมื่อกี้คืออะไร ?”
พอได้ยินพี่เฟิงถามแบบนั้น ผมและเหล่าเฟิงก็ทําหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
พวกเราเองก็สงสัยมาก ด้วยพลังของท่านหลงฉวน การฆ่าปุยซานหยวนเป็นเรื่องง่ายเพียงพล็กผ่ามือ
แต่มันกลับไม่ตาย และยังปล่อยให้ศัตรูใช้ธงแปลกๆหนีไปได้
และยังไม่หนีไปคนเดียวด้วยยังลากวิญญาณยัยป้าคนสวยและจางจีเทาไปด้วย
หลงฉวนตัวจริงไม่ได้ตอบกลับทันที กลับกันเขาหันไปมองทางท่านนักพรตฉินที่กําลังยืนเงียบอยู่ข้างๆ
ท่านนักพรตฉันถอนหายใจออกมา จากนั้นก็พูดว่า “ ปุยซานหยวนน่าจะเป็นศิษย์ของสํานักโลหิตเซียน
ฝึกวิชาแบบพวกโลหิตเซียน ”
“สํานักโลหิตเซียน วิชาโลหิตเซียน ?” พวกเราอยากรู้มาก ไม่รู้ว่าเจ้าสํานักนี่คืออะไร และไม่รู้ว่าเจ้าวิชานี้จะฝึกขึ้นมาได้ยังไง
ฟังจากชื่อแล้ว น่าจะเป็นสํานักชั่วท่าเรื่องต่ําทรามแน่ๆ
ท่านนักพรตฉันพยักหน้าเบาๆ “ ใช่ สําหนักโลหิตเซียน วิชาโลหิตเซียน คนที่ฝึกวิชามารแบบ
ไม่ใช่คนเป็น พวกเขาออกจากร่างของตัวเอง เพื่อฝึกฝนจิตวิญญาณของตัวเอง”
“ วิญญาณยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ ก็ยิ่งฆ่ายากเท่านั้น ถือเป็นพวกที่ไม่ใช่คน ไม่ใช่ผี และไม่ใช่ศพ
สํานักโลหิตเซียนยังมีอาวุธอยู่ชนิดหนึ่ง คือธงหว่างเหลี่ยงเอ้อร์ หรือก็คือธงสองผืนเมื่อกี้
ธงสองผืนนี้สามารถแย่งร่างของคนอื่นไปได้ หรือแม้แต่มีพลังของเลือดชั่วที่ทรงพลัง……”
เหมือนท่านนักพรตฉันจะรู้จักสานักโลหิตเซียนและเจ้าธงหว่างเหลี่ยงเอ้อร์เป็นอย่างดี ตอนนี้เขาเล่าให้พวกเราฟังอย่างละเอียด
ตอนพูดถึงตรงนี้ จ่ๆท่านนักพรตฉันก็ถอนหายใจออกมา “ โชคดีที่ตอนนี้ก่ยซานหยวนยังมีพลังไม่พอ
ไม่อาจควบคุมธงหว่างเหลี่ยงเอ้อร์ได้เต็มที่ ไม่งั้นผลที่ตามมาต้องเป็นหายนะแน่ๆ……”
พอได้ยินถึงตรงนี้ พวกเราถึงได้เข้าใจที่มาของปรมาจารย์ผีเพิ่มอีกหน่อย
ในปัจจุบัน ไม่มีใครรู้ที่มาของปรมาจารย์ผี รู้เพียงว่าเจ้าหมอนี่ชอบเลี้ยงผี และเป็นคนชั่วสุดๆ
แต่คิดไม่ถึงว่า เจ้าหมอนี่จะเป็นศิษย์ในสํานักชั่วสานักหนึ่ง
และเจ้าหมอนี่ยังไม่ใช่คนแต่เป็นไม่ใช่ทั้งคนและผี
หลังจากท่านนักพรตฉันอธิบายเสร็จพวกเราก็เงียบกริบเพราะกําลังย่อยข้อมูลที่ได้มา
แต่ทันใดนั้นหลงฉวนตัวจริงกลับพูดขึ้นว่า“โอเคแล้วพวกนายไม่ต้องคิดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ! เจ้าหมอนั้นโดนฉันเล่นงานไปไม่น้อยพวกนายจะไปทําอะไรก็ไปทําเถอะ !ฉันจะส่งคนมาจัดการเจ้าหมอนี่เอง
พวกนายก็ไม่ต้องเข้ามายุ่งแล้ว……”