ศพ 391 สู้ไม่ได้

ตอนที่ 391 สู้ไม่ได้

ตอนที่ 391 สู้ไม่ได้

ในเวลานี้ พวกเราแทบไม่โอกาสชนะเลยสักนิด

แม้แต่มู่หลงเหยียนยังสู้ไม่ได้ ในหมู่พวกเราสามคน ยังจะมีใครสามารถสู้กับปุยซานหยวน และยัยป้าคนสวยหมอผีทั้งสองคนนี้ได้อีกละ

นอกจากหมอผีสองคนนี้แล้ว ยังมีจางจีเทาอีกคน ต่อด้วยผีเร่ร่อนที่เพิ่มจํานวนขึ้นไม่หยุด

เพียงลูกกระจ๊อกพวกนี้ ก็น่าจะรุมฆ่าพวกเราได้ซ้ําแล้วซ้ําเล่าแล้ว
สองมือยากจะเอาชนะสี่แขน เราไม่มีทางสู้ได้เลย

“น้องศพ เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม !” ผมทําหน้าเครียด โดยเฉพาะตอนที่เห็นน้องศพบาดเจ็บ ผมละอดรู้สึกหัวร้อนไม่ได้
แม้การที่ร่างจิตบาดเจ็บจะไม่ทําอันตรายถึงชีวิตมู่หลงเหยียน แต่มันก็ต้องทําให้ร่างจริงของเธอบาดเจ็บอย่างแน่นอน

แต่มู่หลงเหยียนกลับกัดฟัน พูดอย่างมุ่งมั่นมากๆ “ฉัน ฉันไม่เป็นอะไร เมื่อวานฝึกไม่สําเร็จ พลังเลยไม่ค่อยเสถียร ตอนนี้เลยสู้ได้ไม่เต็มที่ แต่แต่ฉันต้องคุ้มครองพวกนายออกไปจากที่นี่แน่นอน !”

หลังจากพูดจบ มู่หลงเหยียนก็กัดฟันพยายามลุกขึ้นยืน แล้วกลับไปสู้ต่อ

“วันนี้ข้าจะสั่งสอนคนทรยศอย่างเจ้าให้หลาบจํา !” ยัยแก่พูดอย่างเย็นชา

ในเวลาเดียวกันก็พุ่งมาทางพวกเรา ยัยแก่คนนี้ร้ายกาจมาก เธอมีพลังหยินที่ทรงพลัง

เคลื่อนไหวภายในชั่วพริบตา ไม่อาจจับทางได้เลย

แต่ตอนเธอปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง กลับอยู่ห่างพวกเราไม่ถึงห้าเมตร
ในเวลาเดียวกัน ไม้เท้าดําในมือของเธอก็ลอยออกมาจากมือแล้ว

มันพุ่งตรงมาที่พวกเรา เหมือนกับหอกเล่มหนึ่ง ถ้าโดนเข้าจะต้องแทงทะลุร่างอย่างแน่นอน

พอมู่หลงเหยียนเห็นแบบนั้น ก็ดึงหน้าลงแล้ว พลักผมออก ในขณะเดียวกันก็พูดกับผมว่า “ออกไป !”

ผมถูกมู่หลงเหยียนผลักออกไปแบบนั้นเลย ผงะถอยหลังไปหลายก้าวทันที

มู่หลงเหยียนเองก็เบี่ยงตัวหลบเช่นกัน “ปัง” ไม้เท้าดําอันนั้นปักลงตรงหน้าของพวกเรา

ต้องรู้ว่านี่คือถนนปูนซีเมนต์ ไม่ใช่ถนนดินลูกรังแต่อย่างใด

การโจมตีครั้งนี้รุนแรงขนาดไหน ต้องใช้พลังขนาดไหนถึงจะทําได้ มันถึงกับแทงทะลุถนนปูนซีเมนต์จนเป็นรู

ถ้าโดนที่ตัวคน ผลที่ตามมาคงไม่ต้องคิดเลย

ไม่รอให้ผมได้สติกลับมา จู่ๆร่างของใครคนหนึ่งก็พุ่งเข้ามา พอมองให้ดีๆแล้ว ถึงได้รู้ว่าเป็นจางจีเทา

จางจีเทากลายเป็นสัตว์ประหลาดแล้ว เขาเหมือนกับสัตว์ตัวนึ่งไม่มีผิด
ในเวลานี้กําลังง้างกรงเล็บขึ้น แล้วฟาดลงมาข่วนที่ใบหน้าของผมอย่างรวดเร็ว “ไปตายซะ

ผมตกใจ รีบถอยไปข้างหลัง ในเวลาเดียวกันก็เอาเก้าอี้มากันเอาไว้

แต่ผมก็ยังช้าไปก้าวหนึ่ง กรงเล็บที่คมกริบพวกนั้น

“ปัง” ฟาดเก้าอี้แตกเป็นเสี่ยงๆ และยังโดนตัวผมอีกด้วย

พลังมหาศาลผิดปกติ แม้ผมจะพยายามหลบอย่างสุดตัว และเคลื่อนพลังต้านทานอย่างสุดฤทธิ์ แต่สุดท้ายก็ยังหลบไม่พ้น

ผลลัพธ์ผมถูกกระแทกออกไปหลายก้าว ทันใดนั้นเองตัวผมก็เสียหลักเดินเซ เลยล้มกลิ้งไปกับพื้น
ผมคิดจะลุกขึ้นให้เร็วที่สุด ผลลัพธ์เพิ่งขยับตัว ผมก็รู้สึกร้อนที่หน้าอก

“อัก” ผมกระอักเลือดออกมาหนึ่งครั้ง

“ติงฝาน แกทําลายเรื่องดีๆของฉันหลายครั้ง วันนี้อย่ามาโทษว่าไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ของเพื่อนละ”

จางจีเทาตะคอกออกมา ดวงตาเต็มไปด้วยความดุร้าย

หลังจากพูดจบ เขาก็กระโดดขึ้นสูงมาก ตวัดกรงเล็บลงมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นภาพนี้ ผมก็อยากจะหลบตามสัญชาตญาณ

แต่ทันใดนั้น เหมือนพลังบางอย่างตรึงตัวผมเอาไว้ ผมไม่อาจขยับตัวได้เลย

หางตาของผมเหลือบเห็น กุยซานหยวนที่อยู่ไม่ไกล

เขายืนอยู่เดี่ยวๆ กําลังแอบเสกคาถาใส่ผม ควบคุมจุดเลือดลมบนตัวผม

“ปุยซานหยวน…..” ผมกัดฟันอย่างแรง แต่ก็ยังไม่อาจควบคุมตัวเองได้ หรือไม่อาจขยับ ใดๆได้เลย

ผมไม่อยากตาย ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่อยากตายเร็วขนาดนี้ และตายอยู่ที่นี่
แต่ภายใต้การสกัดจุดของปุยซานหยวน ผมพบว่าตัวเองไม่อาจหลุดพ้นได้ ทําได้เพียงมองดูกรงเล็บจางจีเทาที่กําลังเข้ามาใกล้หัวใจของผม

“เหล่าติง !” เพิ่งเฉวหานตะโกน ประสานมืออีกครั้ง เขาคิดจะใช้กระจกแปดทิศหยุดการโจมตีของจางจีเทาเอาไว้

แต่คราวนี้มันจะสําเร็จได้ยังไง เพราะเขาเหลือพลังไม่มากแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการเคลื่อนไหว หรือระดับพลัง ก็อยู่ในขั้นต่ําทั้งหมด

ยังไม่รอให้เขาลงมือ ผีร้ายตัวหนึ่งก็แทบจะกัดคอเขาแล้ว

ถ้าไม่ใช่พี่เฟิงลงมือทันเวลา เหล่าเฟิงก็คงได้รับบาดเจ็บจนเป็นอันตรายถึงชีวิตแล้ว

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมมองกรงเล็บที่กําลังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนตาแทบจะตาถลนออกมาแล้ว

ใจก็ล่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว

ลมหายใจแห่งความตาย โหมกระหน่ําเข้าสู่ตัวผมอย่างต่อเนื่อง
แต่ในช่วงเส้นเป็นเส้นตายนั้นเอง มู่หลงเหยียนก็เข้ามาช่วยผมจากอันตรายอีกครั้ง

เธอเห็นผมตกอยู่ในอันตราย เลยทิ้งการต่อสู้กับยัยป้าคนสวยมาดื้อๆ เธออกมาปรากฏตัวตรงหน้าของผมในชั่วพริบตา

เธอจ้องจางเทา แววตาเย็นชาดุจน้ําแข็ง เธอพูดออกมาอย่างโมโห “ไสหัวไป !”

เสียงเพิ่งเงียบลง มู่หลงเหยียนก็ระเบิดพลังหยินที่ทรงพลังออกมา

“ตูม” สายลมที่รุนแรง ซัดจางจีเทาที่กําลังเข้ามาฆ่าผม กระเด็นออกไปหลายเมตรทันที

และหลังจากที่เขากระแทกลงพื้น เขาก็มีเลือดไหลออกมาที่จมูก จะเห็นได้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว

เมื่อเห็นภาพนี้ ผมก็ดีใจขึ้นมาทันที

น้องศพยังทรงพลังเหมือนเดิม

แต่เสี้ยววินาทีต่อมา ผมกลับต้องทิ้งความคิดนี้

หลังจากการโจมตีที่ทรงพลังครั้งนี้ มู่หลงเหยียนก็ทรุดตัวลง คุกเข่าลงข้างหนึ่ง เธอใช้พลังวิญญาณไปมาก ตอนนี้แทบจะทนไม่ไหวแล้ว

“น้อง น้องศพ !” ผมทําหน้าร้อนรน พอเห็นร่างที่เดี๋ยวก็สว่างเดี่ยวมืดของมู่หลงเหยียน ผมก็คิดว่าไม่ดีแล้ว

แต่มู่หลงเหยียนยังหันมายิ้มให้ผม “เจ้ากาก นายต้องเชื่อในตัวฉันซิ ฉันเป็นเป็นหุ่นเชิดมามาร้อยกว่าปีเลยนะ กว่าจะ กว่าจะหนีออกมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ ตอนนี้ ตอนนี้ฉันไม่อยากกลับไปอีก…..”

หลังจากพูดจบ น้องศพก็เงยหน้าขึ้น แล้วพุ่ง ออกไปหากลุ่มผู้ที่กําลังจู่โจมเข้ามา และตัวกุย ซานหยวนและ

ยัยป้าคนสวยด้วย

ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง เหล่าเฟิงและพี่เฟิงยังคงสู้อย่างไม่คิดชีวิต แต่ทั้งสองคนโดนล้อมเอาไว้ในฝูงผีถึงสามชั้น

ในขณะที่ใช้พลัง พลังรบก็ลดลงเรื่อยๆ

ในเวลานี้ เกินขีดจํากัดของพวกเขาแล้ว และพวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บ

เพื่อปกป้องเหล่าเฟิง พี่เฟิงต้องทนรับการโจมตีหลายครั้ง……

ไม่ ไม่ได้ ฉันจะมานอนอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ฉันต้องไปช่วยพวกเขา ช่วยพวกเขา

ผมตัวสั่น อยากจะหลุดพ้นกุยซานหยวนจากคาถาสกัดจุดของนักพรตปุย

ผมไม่อยากให้คนอื่นมาคอยปกป้อง ผมไม่อยากเป็นตัวถ่วงของคนอื่น ผมอยากสู้ไปพร้อมกับทุกคน……

ผมไม่อยาก ไม่อยาก ผมบ่นพึมพํากับตัวเอง จู่ๆสถานการณ์ก็เข้าสู่ช่วงที่ “ระทึก” มาก

ภายใต้สถานการณ์นี้ ผมค่อยๆหลุดพ้นจากคาถาของปุยซานหยวนได้ที่ละนิดๆ…..

แต่ในเวลานั้นเอง จู่ๆเหล่าเฟิงก็กรีดร้องออกมา เขาโดนผีร้ายตนนึงทําร้ายจนล้มลง

จากนั้นเขาก็โดนสัตว์ประหลาดตัวนึงกดเอาไว้กับพื้น แล้วดูดพลังหยางของเหล่าเฟิงออกไปจํานวนมาก

ทําให้เขาไม่อาจขยับตัวได้ง่ายๆ

พี่เฟิงอยากจะเข้าไปช่วยเหล่าเฟิง แต่ตัวเขาก็โดนผีร้ายล้อมโจมตี และสู้ไม่ไหวเหมือนกัน

เขาโดนผีร้ายรุมจับเอาไว้หลายตัว สุดท้ายก็โดนสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งกดเอาไว้กับพื้น โดนดูดพลังวิญญาณเช่นกัน ร่างเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ไม่อาจสู้ได้อีกต่อไป

ไม่ใช่แค่นั้น แม้แต่มู่หลงเหยียนที่ออกไปสู้ ก็รับมือกุยซานหยวนและยัยป้าคนสวยที่ร่วมมือกันไม่ได้อีกครั้ง เธอโดนซัดกระเด็นออกมา
คราวนี้ตัวเธอล้มลงข้างๆผม แต่มู่หลงเหยียนอมาก

เธอหันมามองผมที่กําลังพยายางดิ้นรน ตัวสั่นไม่หยุด และยังกัดฟันอีก เธอเองก็พยายามลุกขึ้นอีกครั้ง

แต่นี่ไม่ใช่ร่างจริงของมู่หลงเหยียน เป็นเพียงร่างจิตที่ออกมาผ่านตราดบนข้อมือผมเท่านั้น

หลังจากโดนซัดจนล้มหลายครั้ง เธอจะยังมีแรงสู้อีกได้ยังไงละ

เธอพยายามหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ลุกขึ้นมาไม่ได้อีก

สู้มาถึงจุดนี้แล้ว มันก็แทบพูดได้ว่า เราแพ้แล้ว……

ศพ

ศพ

Score 10
Status: Completed

หมู่บ้านตั้งอยู่บนภูเขาที่แห้งแล้ง เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องที่รกร้าง พวกมันตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าที่เงียบสงัด มันคือสถานที่ต้องห้ามสำหรับ คนเป็น …..

Options

not work with dark mode
Reset