ตอนที่ 389 สู้ตาย
การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว ขณะมองผีร้ายที่กําลังพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง พวกเราก็ไม่มีทางหนีแล้ว
ผมยกกระดิ่งขึ้น แล้วสั่นใส่ผีร้ายที่กําลังพุ่งเข้ามาทันที
แม้เหล่าเฟิงจะมองไม่เห็นมู่หลงเหยียนแต่ตอนนี้เขาก็ไม่มีอารมณ์มาสนใจเรื่องนี้มากนัก
พอเห็นผีร้ายพุ่งเข้ามา เขาก็เอากระจกแปดทิศออกมาถือแล้วส่องไปที่ผีร้ายพวกนั้นทันที
ระหว่างนั้น เสียงกระดิ่ง “กริงกริ้งกริ้ง” ก็ดังขึ้นไม่หยุดเสียงนั้นเหมือนกับเสียงกระดิ่งของหงจง
แต่สําหรับผู้ร้ายพวกนั้น มันกลับดูจะไม่น่าฟังสุดๆ
แต่ละตัวทําท่าทางทรมานเอามืออุดหูกันถ้วนหน้า
แต่ผีที่อยู่รอบๆมีเยอะเกินไป ถ้าสู้กับผีตัวสองตัวยังพอว่าเสียงกระดิ่งจะสยบอีกฝ่ายได้อยู่หมัด
แต่ตอนนี้ ผีร้ายมีจํานวนเยอะเกินไปและยังมีพวกสัตว์ประหลาดนั้นด้วย
ตอนนี้พวกมันกําลังพุ่งมาทางพวกเราอย่างไม่คิดชีวิตผมพบว่ากระดิ่งในมือ ไม่สามารถทําอะไรมันได้เลย
สําหรับเหล่าเฟิง เขาใช้กระจกในมือสองอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องปากก็ตะโกนออกมาไม่หยุด
กระจกแปดทิศอันนั้นเป็นอาวุธที่ร้ายกาจมากตอนที่ยิงลําแสงสีเหลืองทอง ไปที่ผีร้ายที่เข้ามาโจมตีอย่างต่อเนื่อง
ผีร้ายพวกนี้เป็นแค่ผีชุดเหลืองเท่านั้นภายใต้กระจกแปดทิศที่ทรงพลัง พวกมันไม่อาจต้านทานได้เลย
หากโดนเข้าไป แต่ละตัวก็จะแยกย้ายกันกรีดร้องจากนั้นก็จะลงไปกลิ้งกับพื้นทันที
แม้กระจกแปดทิศของเหล่าเฟิงจะร้ายกาจหรือกระดิ่งของผมจะชะลอความเร็วของอีกฝ่ายเอาไว้ได้
แต่ต่อหน้าจํานวนมหาศาลแบบนี้ ผลลัพธ์มันไม่ออกมาชัดเจนเท่าไหร่
ทางเหล่าเฟิงโจมตีผีร้ายไปสองตัวก็โดนผีอีกตัวพุ่งเข้าใส่แล้ว
“โฮก” จู่ๆผีร้ายตัวนึงก็กระโดดขึ้นกลางอากาศแล้วพุ่งลงมาใส่ผมและเหล่าเฟิง
กรงเล็กบแหลมคม และใบหน้าดุร้ายนั่นหากโดนเข้าไปผลที่ตามมาต้องเป็นหายนะแน่ๆ
แต่ยังไม่รอให้ผีร้ายตนนั้นพุ่งลงมาถึงพื้นมู่หลงเหยียนก็โบกมือคลื่นพลังถูกปล่อยออกมาจากแขนทันที
ได้ยินเพียงเสียงระเบิดดัง “ปัง”ผีร้ายที่ดูเหมือนจะโหดหินตัวนั้นระเบิดกลางอากาศเหมือนมันโดนมนต์บางอย่างเข้าไปไม่มีผิด
เพราะพลังมหาศาลมาก ผีร้ายตัวนั้นยังไม่ทันได้ร้องออกมาวิญญาณก็แตกสลายกลางอากาศและหายไปจากสายตาพวกเราทันที
หลังจากมู่หลงเหยียนโจมตีเสร็จ มันก็ไม่ได้จบเพียงเท่านั้น
ถึงจะไม่สามารถจินตนาการถึงพลังของมู่หลงเหยียนได้แต่นั่นจะเป็นสิ่งที่เจ้าผีชุดขาวพวกนี้จะรับมือไหวเหรอ
มู่หลงเหยียนสบัดแขนเสื้อ ทันใดนั้นคลื่นพลังมหาศาลก็ปรากฏขึ้น เหมือนกับใบมีดแห่งสายลมที่พุ่งเข้าหาศัตรู
ผีร้ายในระยะสามเมตร โดนกระแทกออกไปตั้งแต่วินาทีแรก หรือไม่ก็โดนฆ่าทันที
การโจมตีครั้งนี้ แทบจะทําให้ผีร้ายส่วนใหญ่เสียพลังรบไปในทันที
พลังระดับนี้ ฝีมือแบบนี้ เป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมสําหรับผมสุดๆ
แต่ มู่หลงเหยียนเพิ่งออกโรง ปุยซานหยวนที่อยู่ห่างออกไปกลับเค้นเสียงดัง ฮี พร้อมเผยแววตาเย็นชา
“แม่นางมู่หลง ข้าจะสู้กับเจ้าเอง !”
หลังจากพูดจบ ปุยซานหยวนก็พุ่งเข้ามาแบบเร็วสุดๆ
อีกทางด้านหนึ่ง ยัยแก่ก็ตะโกนออกมาหนึ่งครั้งและกระแทกไม้เท้าอีกครั้ง
ต่อจากนั้น ตัวเธอก็กลายเป็นหมอกดําและหายไปจากตรงนั้นทันที
พอปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง เธอก็มาอยู่ข้างหลังมู่หลงเหยียนแล้ว
เธอยกไม้เท้าหัวกะโหลกดําในมือขึ้นคิดจะฟาดไปที่หัวของมู่หลงเหยียน
ฉากนี้อยู่ในสายตาของผมพอดี ผมทําหน้า ตกใจ รีบตะโกนออกมาทันที “ระวัง !”
เสียงเพิ่งเงียบลง มู่หลงเหยียนก็หายไปจากตําแหน่งเดิมเธอปรากฏตัวขึ้นด้านข้างจากนั้นก็เริ่มสู้กับยัยแก่แล้ว
ส่วนปุยซานหยวน ก็เข้ามาร่วมด้วยในวินาทีต่อมา
มู่หลงเหยียนกําลังสู้หนึ่งต่อสองแต่ก็สู้ได้อย่างคู่คี่สูสี
ในเวลาเดียวกัน จางจีเทาก็ประสานมือ
ขณะที่เสียงท่องคาถาของเขาดังขึ้นร่างกายของเขาก็ค่อยๆผิดแปลกไป
เมื่อตาที่สามปรากฏขึ้นตัวจางจีเทาก็เปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดอย่างสมบูรณ์ผิวนอกมีขนยาวเหมือนสัตว์ตัวเขาเองก็เปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดที่ มีรูปร่างคล้ายคน
“ติงฝาน เอาชีวิตของแกมา !” ขณะพูด แขนขาติดดินจางจีเทาพุ่งเข้ามาเหมือนสัตว์
ผมไม่ได้เห็นภาพนี้เป็นครั้งแรกดังนั้นเลยไม่ได้รู้สึกแปลกใจ
แต่เถ้าแก่ร้านปิ้งย่าง กลับหน้าถอดสี
เขาเริ่มกลัวแล้ว แม้เขาจะมองไม่เห็นผีร้ายพวก
นั้น
แต่เขาก็เห็นจางจีเทา และได้ยินคําพูด “แปลกๆ”ของพวกเรา
เมื่อกี้ยังคิดว่าผมและเหล่าเพิ่งเมาเหล้าได้ดูละครอย่างสนุกสนานแต่ต่อจากนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกว่ามันผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะในตอนนี้ หลังเห็นจางจีเทากลายเป็นสัตว์ประหลาดแล้วเขาก็นั่งไม่ติดอีกต่อไป
เขาเห็นบนหน้าผากของคนมีตาที่สามออ กมาด้วยตาตัวเองหลังจากนั้นทั้งตัวยังมีขนงอกออกมาอีก
ภากเหตุการณ์แบบนี้ ทําให้เถ้าแก่ร้านปิ้งย่างตกใจจนร้องตะโกนออกมา “ปี ปีศาจ !
หลังจากพูดจบ เถ้าแก่ร้านปิ้งย่างก็ติดเกียร์หมาหรือแม้แต่วิ่งจนล้มด้วยครั้งนึง
แต่นอกจากไฟถนนที่มืดสลัวบนถนนด้านหลังเส้นนี้แล้วก็ไม่มีใครอีกเสียงของเขาเลยไม่ดึงดูดความสนใจของคนอื่น
แต่ปลายตาของผมดันเหลือบมอง ผู้ชายสองคนที่นั่งอยู่ใต้ร่มไม้พวกเขายังคงพูดคุยดื่มเหล้าไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากําลังมีอะไรเกิดขึ้น…..
พวกเรากําลังอยู่บนความเป็นความตายเลยไม่มีอารมณ์มาสนใจเรื่องพวกนี้
ถ้าไม่ได้มู่หลงเหยียนลงมือเมื่อกี้ผมและเหล่าเฟิงก็คงโดนผีร้ายรอบๆรุมจนตายไปนานแล้ว
เมื่อกี้เพิ่งได้พักหายใจคู่หนึ่งเจ้าจางจีเทาก็พุ่งเข้ามาอีกแล้ว
ผมสองคนไม่มีอาวุธถ้าเผชิญหน้ากับจางจีเทาที่แปลงเป็นสัตว์แล้วเราจะลําบากมาก
ทันใดนั้น ผมก็ดันไปเห็นเก้าอี้ร้านปิ้งย่างที่อยู่ข้างๆพอดี
ผมขมวดคิ้ว ถอยหลังไปทางนั้นทันทีเพราะอยู่ห่างไม่มากนัก ดังนั้นผมเลยสามารถยกเก้าอี้ขึ้นมาแล้วโยนไปหาเหล่าเฟิงได้เร็วมาก“รับไว้ !”
เหล่าเฟิงเองก็ไม่ลังเลรับเอาไว้ทันที
ในเวลาเดียวกัน ผมก็ยกเก้าอี้พุ่งเข้าไปฟาดเจ้าจางจีเทา
ไม่รอให้จางจีเทามาถึง ผีร้ายสองตัวก็พุ่งเข้ามาก่อนเจ้าผีร้ายสองตัวนี้ไม่แกร่งมากเป็นแค่เต้าฉือขั้นกลางเท่านั้น
พอผมเห็นพวกมันโผล่ออกมา ก็ไม่ลังเลสั่นกระดิ่งใส่พวกมันทันที
“กริ้งกริ้งกริ้ง” ผีร้ายสองตัวนั้น จะทนเสียงกระดิ่งในระยะใกล้ได้ยังไง
พวกมันรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีไม่มีแรงสู้อีกต่อไป
แต่ผมไม่คิดจะให้พวกมันปรับตัวทันผมเคลื่อนพลังคว้าโอกาสนี้ยกเก้าอี้ฟาดพวกมันทันที
“ปักๆ” ผีร้ายสองตัวโดนผมฟาดไปนอนกลิ้งกับพื้น
เพราะเกี่ยวกับการเคลื่อนพลัง แม้จะเป็นเก้าอี้ธรรมดาๆ ไม่มีฤทธิ์ในการปราบวิญญาณร้ายแต่ก็เพราะมีพลังเข้ามาเกี่ยวข้องมันก็เลยทําให้พวกมันบาดเจ็บได้
เพิ่งฟาดผีสองตัวล้ม เจ้าจางจีเทาก็พุ่งเข้ามาต่อ
แต่ไม่รอให้เข้ามาใกล้ผมได้ เหล่าเฟิงก็เข้าไปปะทะกับเขาแล้ว
แต่ในสภาพนี้ จางจีเทามีพละกําลังไม่จํากัดเพียงยื่นมือฟาดเพียงครั้งเดียว ขาเก้าอี้ก็งอกันเลยทีเดียว
เหล่าเฟิงเองก็โดนจางจีเทาจู่โจมตีจนต้องถอยไปหลายก้าวในเวลาเดียวจางจีเทายังคิดจะโจมตีใส่เหล่าเฟิง
เมื่อเห็นภาพนี้ผมก็กัดฟันอย่างแรงและพุ่งเข้าไปทันที
“จางจีเทา !”ผมตะโกนในเวลาเดียวกันก็ใช้เก้าอี้ฟาดไปที่หัวของเขา
จางจีเทาเงยหน้ามองใช้มือข้างหนึ่งกันเอาไว้ตามสัญชาตญาณ
“ปัก” เก้าอี้โดนแขนของเขาเต็มๆแต่หลังเป็นสัตว์ประหลาดแล้วจางจีเทาก็ไม่เป็นอะไรเลยสักอย่าง
หลังจากใช้แขนกันเอาไว้แล้วเขาก็ใช้กรงเล็บอีกข้างหนึ่งพุ่งมาที่หน้าอกของผม
การเคลื่อนไหวของเขาเร็วมากผมรู้สึกเหมือนเสี้ยววินาทีต่อไปตัวเองจะโดนควักหัวใจออกมาแล้ว
แต่ถึงจะเร็วก็เร็วไม่สู้กระจกแปดทิศของเหล่าเฟิงเหล่าเฟิงยืนได้ที่แล้ว และยกกระจกขึ้นตั้งแต่วินาทีแรกเขาตะโกนออกมาทันที“ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้งเพี้ยง !”
เสียงเพิ่งดังขึ้น ประจกก็ส่องแสง ยิ่งลําแสงไปที่กรงเล็บของจางจีเทาทันที
กรงเล็บที่โดนลําแสง เหมือนโดนไฟเผา
จางจีเทากรีดร้องออกมาทันทีเขาถึงมือกลับอย่างรวดเร็วจากนั้นก็กระโดดไปข้างหลังหลายก้าว
พอมองมือของตัวเองอีกครั้งเขาก็พบว่าผิวด้านนอกโดนลําแสงพวกนั้นเผาทําลายนี่เพิ่งผ่านไปแค่พริบตาเดียวเขาก็ได้เลือดแล้ว……