ตอนที่ 374 ใบหน้าหมอกดํา
วินาทีที่เห็นหุ่นฟางทั้งเจ็ดตัวลุกขึ้น ผมยังไม่ทันเข้าใจอาจารย์ก็พูดออกมาแบบนั้น
พอเห็นท่าทางเคร่งขรึมของอาจารย์ และน้ําเสียงที่ร้อนรนแบบนั้น
ผมก็ใจเต้นแรง รีบขานรับทันที “ได้ ! ได้ !”
หลังจากพูดจบ ผมและเหล่าเฟิงก็พุ่งไปข้างหน้าเหยียบสะพานหินเล็กๆนั้นทันที
เจ้าของสิ่งนี้ก็เหมือนกับสะพาน แต่มันไม่ได้แข็งแรงแบบนั้นจริงๆ
ผมและเหล่าเฟิงเหยียบไปไม่กี่ครั้งเจ้านี่ก็ไม่เหลือซากแล้ว
ว่าไปแล้วก็แปลก หลังจากที่พวกเราทําลายสะพานเสร็จลมกระโชกแรงรอบๆ ก็หยุดพัดซะอย่างงั้น
ไม่ใช่แค่นั้น อาจารย์และท่านนักพรตต์ก็ถอนหายใจออกมา
อาจารย์ประสานมือเอาไว้ข้างหนึ่งจากนั้นก็เสียบเสาแขวนธงเรียกวิญญาณเอาไว้กับพื้น
หรือแม้แต่ถอนหายใจออกมายาวๆ “โอเคแล้วถือว่าแย่งวิญญาณทั้งเจ็ดดวงกลับมาหมดแล้วแต่เจ้านั้นก็ร้ายกาจใช้ได้เกือบโดนมันแย่งไปแล้วจริงๆ !”
อาจารย์พูดด้วยเสียงผ่อนคลาย ในที่สุดก็ทําท่าทางสบายใจออกมา
ท่านนักพรตต์กําลังทําพิธีอยู่ เขาไม่พูดมากแต่เปลี่ยนท่าประสานมือหลายรอบเพื่อเตรียมเรียกวิญญาณพวกนั้นออกมา
แต่ทันใดนั้นเอง เหตุการณ์แปลกๆก็เกิดขึ้น
จู่ๆธงเรียกวิญญาณหน้าโต๊ะบูชาที่เคยหยุดนิ่งไปแล้วก็กลับมาโบกสะบัดอีกครั้ง
ฉากนี้ดึงดูดความสนใจของพวกเราทันทียังไม่รอให้เราเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทันใดนั้นหมอกดําก็ปรากฎขึ้นกลางอากาศอย่างรวดเร็ว
แต่มันยังไม่จบเท่านั้น หลังจากหมอกดําปรากฎขึ้นมันก็เปลี่ยนรูปร่างเป็นหน้าคน
การปรากฏขึ้นของหมอกดําเร็วมากทุกคนยังไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ํา
ไม่ใช่แค่นี้ขณะที่ใบหน้านั้นปรากฏขึ้นพลังหยินที่ชั่วร้ายก็แพร่กระจายออกมาทันที
จู่ๆก็มีเรื่องแปลกๆเปิดขึ้น พวกเราเลยตกใจกันทันที
โดยเฉพาะหลังสัมผัสกับพลังชั่วร้าย สัญชาตญาณบอกเราว่ากําลังเจอกับอันตราย
แต่ละคนต่างถอยไปหนึ่งก้าวเว้นระยะห่างจากมันทันที
อาจารย์ระเบิดเสียงออกมาทันที “ไอ้ชั่วที่ไหนวะ ?”
เสียงของอาจารย์เพิ่งเงียบลงเสียงเย็นชาของใครบางคนก็ดังออกมาจากหมอกดํา “ฉันก็คิดว่าใครที่แท้พวกแกก็มาทําลายเรื่องดีๆของฉันอีกแล้ว !”
พอได้ยินเสียงนี้ ทุกคนก็เกร็งขึ้นมาทันที
เจ้านี้ น่าจะเป็นคนที่แย่งวิญญาณกับพวกเราซินะ
แม้จะได้ยินเสียงไม่ชัด ไม่รู้ว่าเจ้านี่เป็นใครแต่ความหมายของคําพูดของเขากลับชัดเจนเจ้านี่รู้จักพวกเรา
ทุกคนขมวดคิ้ว ทําหน้าสงสัย
ท่านนักพรตต์ถามต่อทันที “แกเป็นใคร ?”
เสียงเพิ่งเงียบ เจ้าหน้าหมอกดํานั้นก็ตอบกลับทันที “จางจีเทา !”
พอได้ยินสามคํานี้ หัวใจของผมก็มีเสียงดัง “ก็ก”
เจ้าตัวแสบ คิดไม่ถึงว่าเจ้าหมอนี่จะมาแย่งวิญญาณกับพวกเราเขาก็คือเพื่อนร่วมชั้นของผมที่เข้าร่วมกับองค์กรตาผี
หลังจากตกใจไปครู่หนึ่ง ผมก็ดึงหน้าลง
พูดกับหน้าหมอกดํานั้นว่า “จางจีเทาหลงผิดแล้วก็ยังแก้ได้ เลิกทําผิดซ้ําผิดซากเถอะไม่อย่างนั้นแกจะเจอกับจุดจบที่เลวร้ายนะ !”
“ฮ่าๆๆ ! ผิดซ้ําผิดซาก ติงฝาน แกจะเข้าใจกะผนะซิถ้าไม่ได้เป็นเพราะฉันเข้าองค์กรแล้งองค์กรให้พลังกับฉัน ฉันก็คงป่วยตายไปนานแล้วไหนเลยจะเป็นเหมือนตอนนี้ ใช้ชีวิตอยู่ดีมีสุข” จางจีเทาเถียงกลับเขาไม่เห็นว่าตัวเองทําผิดตรงไหน
พออาจารย์ได้ยินแบบนั้น ก็พูดต่อทันที “เกิดแก่เจ็บตายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอยึดติดเกินไปก็ถือเป็นการละเมิดวิถีแห่งสวรรค์ !”
“ตาแก่ ฉันฟังไม่ผิดซินะ แกก็เข้าใจวิถีแห่งสวรรค์อะไรคือสวรรค์ ?อะไรคือวิถี ? มีแค่เป็นอมตะเท่านั้นถึงจะได้สัมผัสกับวิถีแห่งสวรรค์ที่แท้จริง พวกแกทําลายเรื่องดีๆของฉันครั้งแล้วครั้งเล่าขัดขวางการฝึกวิชาของฉัน อีกไม่นานฉันจะไป เอาชีวิตพวกแกแน่ ! เอาเลือดของพวกแกมาบูชาดวงตาศักดิ์สิทธิ์”
หลังจากพูดจบ จางจีเทาก็ไม่อยู่ต่อให้พวกเราด่า “ตูม” หน้าหมอกดําอันนั้นระเบิด และจางหาย ไปในทันที
หลังจากหมอกดําจางหาย ธงเรียกวิญญาณก็หยุดสะบัดอีกครั้ง
แต่คราวนี้ ธงเรียกวิญญาณมีรอยฉีกจนไม่อาจนํากลับมาใช้ได้อีก
พอเห็นเจ้าจางจีเทาจากไปแล้วทุกคนก็อดขมวดคิ้วแน่นไม่ได้
ส่วนท่านนักพรตคู่ที่อยู่ตรงหน้าโต๊ะบูชากลับไม่ได้หยุดมือ
เขาคลายมือ จากนั้นก็ชี้ไปที่หุ่นฟางทั้งเจ็ดตัว“เพี้ยง !”
เสียงเพิ่งดังขึ้น ทันใดนั้นหมอกสีขาวก็ไหลออกมาจากตัวหุ่นฟางทั้งเจ็ด
ขณะที่หมอกขาวกําลังไหลออกมาผีชุดขาวเจ็ดตนก็ออกมาปรากฏตัวตรงหน้าพวกเรา
ผีเจ็ดตนนี้ไม่ใช่ใครอื่น พวกเขาก็คือครอบครัวสกุลเหยียนที่อยู่ในรถเมื่อวาน
หลังจากผีทั้งเจ็ดตนปรากฎตัว พวกเขาก็มองไปรอบๆอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ที่นี่คือที่ไหนกัน ?”
“ยมโลกงั้นเหรอ ?”
“พวกเรา พวกเราออกมาได้แล้วเหรอ ?”
พวกเขาบ่นพึมพํา ตอนเห็นหน้าผมทุกตนก็ตะลึงทันทีจากนั้นก็ทําท่าทางตื่นเต้น
“ท่านนักพรต ท่านนักพรต……”
“ดูซิ เป็นท่านนักพรต !”
“ท่านนักพรต คุณช่วยพวกเราไว้ !” ผีหนุ่มคนนั้นตื่นเต้นมากกว่าใครเพื่อน เขารีบเดินเข้ามาหาผมทันที
ผีตนอื่นๆ ก็เข้ามาล้อม ด้วยหน้าตาดีใจ
“ไม่ใช่ เป็นอาจารย์กับลุงตู้ต่างหาก ไม่อย่างงนพวกคุณก็ยังไม่มีทางออกมาจากที่นั้นได้หรอก
ผมพูดความจริง แล้วชี้ไปที่อาจารย์และท่านนักพรตต์
ผีพวกนั้นยังคงดีใจไม่หาย พอหันไปเห็นอาจารย์ผมกับท่านนักพรตต์พวกเขาก็ไม่คิดเลยสักนิดลงไปนั่งคุกเข่าแล้วคารวะทันที
“ขอบคุณ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้ท่านนักพรต !”
“ขอบคุณคุณปู่คุณลุงที่ช่วยชีวิต”
“ท่านนักพรต ถ้าไม่ได้พวกคุณช่วยป่านนี้พวกเราก็ยังต้องทรมานอยู่ในรถนั้น !”
ผีเจ็ดตนพูดพร้อมกัน ในขณะเดียวกันก็ขอบคุณพวกเราไม่หยุด
ในใจของพวกเรายังคิดถึงเรื่องของจางจีเทาเมื่อกี้ตอนนี้เมื่อเห็นพวกเขาขอบคุณพวกเราเองก็ดีใจเหมือนกัน
ต่อจากนั้น อาจารย์และท่านนักพรตต์ก็บอกให้พวกเขาลุกขึ้น
ผีไม่กี่ตนนี้รู้สึกซึ้งใจมาก หลังจากขอบคุณอีกหลายครั้งเสร็จพวกเขาถึงค่อยๆลุกขึ้นมา
พวกเขาเพิ่งลุกขึ้นยืนผมก็ได้ให้อาจารย์ถามว่า“เป็นเพราะขับไม่ดีรถของพวกคุณเลยตกน้ําและจมน้ําตายทั้งบ้านหรือยังมีเรื่องอื่นอีก”
พอผีไม่กี่ตนนี้ได้ยินอย่างงั้น ก็พยักหน้ามีเพียงผีหนุ่มตนเดียวที่ทําหน้าเศร้ากว่าเพื่อน
“ท่านนักพรต เป็นเพราะผมขับรถไม่ดีเองไม่ได้สังเกตสภาพถนนล่วงหน้า ดังนั้นเลยพาคนทั้งครอบครัวไปตาย !” ผีผู้ชายดูเศร้ามากหรือแม้แต่ร้องไห้ออกมากันเลยทีเดียว
ภรรยาของเขากลับเอามือมาจับมือผีผู้ชาย “พี่เรื่องนี้โทษพี่ไม่ได้ ถึงพวกเราจะตายแล้วแต่พวกเราก็ยังได้อยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอ ? ตอนนี้ท่านนักพรตก็จะช่วยให้พวกเราหลุดพ้นแล้วพอเราลงไปแล้วเราก็อาจยังได้อยู่ด้วยกันอีกก็ได้ !”
“ลูกเขย เธอไม่ต้องโทษตัวเอง นี่เป็นชะตาชีวิตของพวกเรา !” หญิงวัยกลางคนปลอบ
ส่วนท่านนักพรตต์กลับถามขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่พวกคุณตายแล้ว มีใครเคยทําอะไรใส่พวกคุณไหมเช่นใช้ยันต์กับพวกคุณ”
ผีไม่กี่ตนนี้ลังเลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัวไปมาบอกว่าไม่มี
พอเห็นถึงตรงนี้ อาจารย์ก็เงียบไปพักหนึ่ง จากนั้นก็พูดกับพวกเราและท่านนักพรตต์ว่า “ดูเหมือนการตายของพวกเขาจะเป็นอุบัติเหตุจริงๆ น่า จะเป็นหลังจากตายแล้วโดนหมอผีจ้องเล่นงานไม่อย่างงั้นก็คงไม่สัมผัสได้ว่าพวกนายกําลังทําพิธีเรียกแล้วก็เข้ามาแย่งวิญญาณกับพวกเราระหว่างทาง !”
“หมอผี ? แย่งวิญญาณ ? ท่านนักพรตแย่งวิญญาณอะไร ? แล้วหมอผีอะไรเหรอครับ ?” ผี หนุ่มถามด้วยความสงสัย
แต่อาจารย์กลับหัวเราะ “ฮ่าๆ” “เรื่องนี้ไม่สําคัญแล้วในเมื่อครอบครัวของพวกคุณมาครบแล้วงั้นตอนนี้ก็มาส่งพวกคุณออกเดินทางกันเถอะ !”
ผีไม่กี่ตนนี้ก็ไม่ได้ใส่ใจ พอได้ยินว่าจะส่งพวกเขาออกเดินทาง แต่ละตัวก็ดูดีใจขึ้นมาอีกครั้ง
เนื่องจากตายกันทั้งครอบครัว เรื่องทางโลกก็ไม่มีความหมายกับพวกเขาแล้ว
ต่อจากนั้น ผมและเหล่าเฟิงก็ได้อาจารย์และท่านนักพรตตู้คอยแนะนําเริ่มทําพิธีต่อทันที
แต่คราวนี้ไม่ใช่การเรียกวิญญาณแล้วแต่เป็นการส่งวิญญาณแทน……