ศพ 118 เข้า ส.น.

ตอนที่ 118 เข้า ส.น.

ตอนที่ 118 เข้า ส.น.

ทันใดนั้นเมื่ออู่ฮุ่ยฮุ่ยได้ยินคำพูดของผม เธอก็ตกตะลึงทันที

แต่หลังจากนั้นเธอก็พูดว่า “ เมื่อ เมื่อกี้เจ้า เจ้าตัวนั้นมันเป็นคนรึเปล่า ”

อู่ฮุ่ยฮุ่ยได้เห็นร่างที่แท้จริงของจางจึเทาแล้ว ผมคิดจะปิดบัง แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร

ดังนั้นผมจึงพูดออกมาตรงๆ “ ไม่ใช่ นั่นมันปีศาจ ! ”

“ ปี ปีศาจ งั้น งั้นนายก็เป็น…… ” อู่ฮุ่ยฮุ่ยมองผมด้วยความตกใจ ใบหน้าเขียนคำว่าไม่อยากจะเชื่อเอาไว้

ผมจ้องอู่ฮุ่ยฮุ่ย จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังโครตๆ “ ฉันเป็นคนปราบสิ่งชั่วร้าย มีหน้าที่จัดการเจ้าตัวพวกนี้โดยเฉพาะ ”

 

เมื่ออู่ฮุ่ยฮุ่ยได้ยินผมพูดแบบนั้น ก็แสดงท่าทางหวาดกลัวและเคร่งเครียดมากๆ ดวงตาเบิกกว้าง อ้าปากเล็กน้อย

ผมไม่ได้อธิบายอะไรมาก เมื่อเห็นตำรวจกำลังเข้ามาแล้ว ก็พูดกับอู่ฮุ่ยฮุ่ยว่า “ อีกเดี๋ยวพูดว่าออกมาเดินเล่นนะ เธอเจอฉันระหว่างทาง ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่ต้องพูด เพราะบนโลกนี้ นอกจากคนแบบฉันแล้ว ก็ไม่มีใครเชื่อเรื่องที่เธอพูด ! ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องโดนสงสัยว่าเป็นคนบ้าไม่ก็พูดโกหกแน่ ”

ผมทำหน้าจริงจัง และเคร่งครึมมาก

อู่ฮุ่ยฮุ่ยก็ไม่ได้โง่ เธอเข้าใจความคิดของคนบนโลกนี้ดี

ถ้าไม่ได้เห็นกับตา แล้วพูดเรื่องแบบนี้ออกไป ก็คงไม่มีใครเชื่อเธอ

หลังจากฟังจบ เธอก็พยักหน้าให้ผมรัวๆ

 

ผ่านไปเพียงแค่แป๊บเดียว ตำรวจก็มาถึง ผู้นำเป็นตำรวจวัยกลางคน ดูแล้วเป็นคนที่แข็งแรงมาก

เมื่อเขามาถึงด้านหน้าของพวกเรา ก็ใช้ไฟฉายที่อยู่ในมือส่องมาที่พวกเราหนึ่งครั้ง จากนั้นก็พูดออกมาเบาๆ “ ดึกขนาดนี้ พวกคุณมาทำอะไรที่นี่ ”

“ ก็ไม่มีอะไรนิ แค่ออกมาเดินเล่นเฉยๆ ! ระหว่างทางได้เจอกับผู้หญิงคนนี้โดยบังเอิญ ! ” ผมพูดด้วยท่าทางสบายๆ แต่ในใจกำลังกังวลอย่างสุดขีด

“ งั้นเหรอ ” หลังจากพูดจบ ตำรวจคนนั้นก็หันไปมองอู่ฮุ่ยฮุ่ย

อู่ฮุ่ยฮุ่ยค่อนข้างตื่นเต้น แต่ก็พยักหน้าให้ “ ใช่ ใช่ค่ะ ! มาเดินเล่น แล้วก็เจอกับผู้ชายคนนี้โดยบังเอิญค่ะ ! ”

“ ในโรงแรมเกิดคดีฆาตกรรมขึ้น คงไม่เกี่ยวกับพวกคุณซินะ ” ตำรวจคนหนึ่งพูด

 

“ อ่อ ! เรื่องนั้นผมรู้ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับผมแน่นอน ! ก่อนหน้านี้ผมร้องเพลงอยู่ในห้องส่วนตัวของโรงแรมตลอด ! พวกเพื่อนของผมเป็นพยานให้ได้ ! ” ผมพูดออกมาตรงๆ

ส่วนอู่ฮุ่ยฮุ่ยก็ส่ายหัว “ ก่อนหน้านี้ฉันพูดคุยกับทีมงานในกองถ่ายเรื่องบทละครในห้องประชุมของโรงแรม ฉัน ฉันไม่ได้ฆ่าคนนะ ! ”

แต่ตำรวจวัยกลางคนกลับจ้องพวกเราด้วยสายตาที่เย็นชา “ คนร้ายที่ผมจับทุกคน ก่อนถูกจับก็บอกว่าตัวเองเป็นคนดี จะฆ่าคนรึเปล่า พากลับไปส.น.แล้วค่อยว่ากัน ! ”

หลังจากพูดจบ ตำรวจวัยกลางคนก็โบกมือ ทันใดนั้นลูกน้องที่อยู่ข้างๆสองสามคนก็เข้ามา

ไม่พูดพล่ามทำเพลง จับพวกเราใส่กุญแจมือ จากนั้นก็พาผมและอู่ฮุ่ยฮุ่ยออกจากป่าผืนนั้นไปพร้อมกัน

 

ที่จริงผมรู้สึกเศร้ามาก ถึงผมจะเป็นคนปราบสิ่งชั่วร้าย กำจัดภัยร้ายเพื่อประชาชน

แต่พอเจอเรื่องแบบนี้ ผมก็เศร้าจนพูดไม่ออก ทำได้เพียงบ่นพึมพำอยู่ในใจเท่านั้น

แต่ผมมีหลักฐานเพียงพอในการยืนยันตัวตน ดังนั้นคงถูกขังไว้มากที่สุดแค่ 24 ชั่วโมง จากนั้นพวกเขาก็ต้องปล่อยผมออกมาแน่

เรื่องก็เป็นแบบนี้ ผมและอู่ฮุ่ยฮุ่ยก็ถูกพาตัวออกจากที่นี่ทันที สุดท้ายก็ขึ้นรถตำรวจ และมาถึงสถานีตำรวจ

เมื่อมาถึงสถานีตำรวจ ก็ถูกพาตัวไปที่ห้องเล็กๆมืดๆห้องหนึ่ง ที่มือยังใส่กุญแจมืออยู่ นั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง

จากนั้น ตำรวจสองนายก็เข้ามาในห้อง

 

ตำรวจหนึ่งในนั้นพึ่งเข้ามา ก็นำแฟ้มที่อยู่ในมือฟาดลงกับโต๊ะทันที จากนั้นก็พูดเสียงดุๆ “ ชื่อแซ่ อายุ อาชีพ เคยเรียนที่ไหน…… ”

เขาถามยาวเป็นหางว่าว ผมเองก็พูดตามความจริง

แต่เมื่อถึงคำถามสุดท้าย ตำรวจคนนั้นกลับพูดในสิ่งที่ไม่ค่อยน่าฟัง “ สารภาพมาเถอะ ! ทำไมต้องฆ่าคน ! ”

ผมกลอกตาทันที พระเจ้าคงคิดว่าฉันเป็นฆาตกรจริงๆซินะ

“ ผมบริสุทธิ์ ผมไม่ได้ฆ่า ผมแค่ไปเดินเล่นในป่า คุณกลับพูดว่าผมฆ่าคนเนี่ยนะ ” ผมเถียงกลับ

แต่ตำรวจคนนั้นกลับพูดในสิ่งที่ไม่น่าฟังอีก “ ดูแล้วนายคงปากแข็ง สถานที่ที่เจอพวกนาย พวกเราพบร่องรอยการต่อสู้และท่อนไม้เปื้อนเลือด แล้วก็ กระดาษสีเหลืองที่อยู่ในตัวนายใช้ทำอะไร ในขวดแก้วนี่ใส่อะไรเอาไว้ เป็นยาพิษรึเปล่า ”

 

ขณะที่พูด ตำรวจคนนั้นก็หยิบยันต์และขวดน้ำตาวัวขึ้นมาดูเป็นพิเศษ

ผมโบกมือ “ บ้านผมทำกิจการเกี่ยวกับงานศพ ในตัวมีกระดาษเหลืองพวกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องปกติเหรอ ส่วนเจ้าขวดนั้น เป็นน้ำที่ใช้ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ! ถ้าคุณชอบ ผมให้ก็ได้ ! ส่วนเรื่องท่อนไม้ ผมไม่รู้เรื่อง…… ”

แม้ว่าตำรวจคนนั้นยังรู้สึกสงสัย แต่ก็หาหลักฐานที่ผมเป็นคนฆาตกรไม่เจอ

ตอนนี้ตำรวจจึงทำได้เพียงตั้งข้อสันนิฐาน ว่าผมกำลังวางแผนอะไรอยู่รึเปล่า

แต่หลังจากถามได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มีคนมาเคาะประตู

จากนั้นตำรวจหนึ่งคนก็ไปเปิดประตู คนด้านนอกคุยกับเขาสองสามประโยค จากนั้นเขาก็หันมาพูดกับตำรวจที่กำลังสอบปากคำผมอยู่ “ เสี่ยวจาง มีทนายมาประกันตัวเขาแล้ว ปล่อยเขาไป ! ”

 

ตำรวจที่สอบปากคำผมได้ยินแบบนั้น ก็เก็บเอกสารในมือทันที “ เจ้าเด็กน้อย โชคดีที่นายบริสุทธิ์ แต่ถ้าทำให้ฉันรู้ว่านายทำเรื่องเลวละก็ ฉันจับนายเข้าคุกแน่ ! ”

ตำรวจที่ชื่อเสี่ยวจางมีความเที่ยงธรรมมาก สำหรับตำรวจมืออาชีพแบบนี้ เป็นธรรมดาที่ผมต้องเคารพเขามาก

ผมพยักหน้าให้เขา และยิ้มออกมาเล็กน้อย

หลังจากนั้น ผมก็ถูกพาตัวออกมาจากห้องสอบปากคำ

แต่มันก็แปลก แล้วใครคือทนายที่มาประกันตัวผมละ แถมยังเร็วมากอีกด้วย

ต้องรู้ว่าจากตำบลชิงฉือมาถึงที่นี่ ต้องนั่งรถเข้ามา ถึงเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ

 

ไม่ว่าอาจารย์จะรีบมายังไง ก็ไม่น่าเร็วถึงขนาดนี้นิ

แถมอาจารย์ของผมยังเป็นคนแก่ไม่รู้หนังสือ จะมารู้เรื่องทนายความพวกนี้ได้ยังไง

ใจผมเต้นตุ้มๆต่อมๆ เมื่อเห็นทนายคนนั้น

ก็พบว่าเขากำลังใส่แว่นกรอบสีทอง ในมือถือกระเป๋าเอกสาร ท่าทางฉลาดและสุภาพ แต่งตัวชุดสูทเป็นทางการมากๆ

เมื่อเขาเห็นผมเดินออกมา ก็เอื้อมมือมาทางผม “ คุณติงฝาน คุณต้องลำบากแล้ว ! ผมจางเป่าเจี่ยนทนายของคุณครับ ”

 

ผมยิ้มให้และพูดว่า “ ไม่เป็นไรไม่เป็นไร ไม่ทราบว่าใครเชิญคุณมาเหรอครับ ใช่อาจารย์ของผมรึเปล่า ”

จางเป่าเจี่ยนกลับส่ายหัว “ ไม่ใช่ครับ เป็นคุณหนูใหญ่ ! ”

“ คุณหนูใหญ่ ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ผมก็สงสัยทันที

คุณหนูใหญ่อะไร ใครวะนั่น ในความทรงจำของฉัน นอกจากลูกค้ารวยๆแล้ว คนรอบตัวที่ฉันรู้จัก ก็ยากจนกันทั้งนั้น

แต่จางเป่าเจี่ยนกลับยิ้มออกมาเล็กน้อย “ คุณหนูใหญ่อยู่ข้างนอกครับ พวกเราออกไปกันเถอะ ! ”

 

หลังจากพูดจบ จางเป่าเจี่ยนก็ผายมือเชิญผม แสดงให้เห็นถึงความเคารพผมมากๆ แต่มันก็ทำให้ผมไม่ชินโครตๆ

ผมหัวเราะฮ่าๆและพยักหน้ารับ จากนั้นก็เดินตามจางเป่าเจี่ยนออกไปข้างนอก

แต่หลังจากที่พวกเราออกมาถึงข้างนอก ผมก็ช็อกทันที

เพราะผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างนอก ก็คือเสี่ยวม่าน

เมื่อเห็นเสี่ยวม่าน ผมก็พูดด้วยน้ำเสียงแปลกใจสุดๆ “ เสี่ยวม่าน เธอก็ถูกพวกเขาจับมาเหมือนกันเหรอ ”

แต่เสี่ยวม่านกลับกลอกตาใส่ผม “ ปัญญาอ่อน ฉันพาทนายจางมาช่วยนายต่างหาก ! ”

เสียงพึ่งเงียบไป จางเป่าเจี่ยนก็หัวเราะมาทางผม ในเวลาเดียวกันก็พูดว่า “ นี่ก็คือคุณหนูของผมครับ ! ”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ผมก็ตัวแข็งทื่อไปทันที

 

ดีนินางเพื่อน เดี๋ยวนี้เสี่ยวม่านกลายเป็นคนร้ายกาจขนาดนี้แล้วเหรอ แถมยังมีทนาย และเรียกเธอว่าคุณหนูอีกด้วย

เมื่อเสี่ยวม่านเห็นผมเงียบ เธอก็หัวเราะ “ ฮึฮึ ” “ นายเป็นอะไร มันน่าตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ ”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ผมก็ได้สติ แต่ก็ยังคงรู้สึกอึดอัดใจ

ผมลูบหัวของตัวเอง จากนั้นก็พูดว่า “ ก็มันแปลกมากนิ คิดไม่ถึงว่าเธอจะมาช่วยฉัน ! ”

เสี่ยวม่านกลับกลอกตาใส่ผม “ เห็นนายโดนตำรวจจับ ก็เลยมาช่วยนาย ชั่งเถอะ นี่ก็คงโดยทรมานมาทั้งคืนแล้วซิ คงเหนื่อยมากแล้ว บ้านฉันอยู่ใกล้ๆนี่เอง นายไปพักที่บ้านของฉันก่อนก็แล้วกัน ! ”

ศพ

ศพ

Score 10
Status: Completed

หมู่บ้านตั้งอยู่บนภูเขาที่แห้งแล้ง เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องที่รกร้าง พวกมันตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าที่เงียบสงัด มันคือสถานที่ต้องห้ามสำหรับ คนเป็น …..

Options

not work with dark mode
Reset