วิวาห์ 365วัน 6 กลิ่นที่คุ้นเคยบนตัวของเขา

ตอนที่ 6 กลิ่นที่คุ้นเคยบนตัวของเขา

มู่เฉี่ยนยิ้มตาใสแจ๋ว และมองเฉินซิงฉีอย่างไม่รังเกียจ แต่เฉินซิงฉีก็ยังคงระมัดระวังตัวจากมู่เฉี่ยนอยู่บ้าง และเมื่อเห็นว่าฮั่วจิ้นซีกำลังพูดคุยอยู่กับเฉินมู่เฉินโดยไม่ได้สนใจทางนี้เลยนั้น เขาจึงค่อย ๆ ละทิ้งความกล้าหาญชาญชัยต่อฮั่วจิ้นซีลง พลางรินเหล้าให้มู่เฉี่ยนไม่หยุด

แต่มู่เฉี่ยนไม่เกรงกลัวต่อศึกครั้งนี้ เธอดื่มกับเฉินซิงฉีแก้วต่อแก้ว จนเฉินซิงฉีเริ่มเมา แต่เธอก็ยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเดิม

เฉินซิงฉีรู้สึกเหมือนจะสู้มู่เฉี่ยนไม่ไหว จึงส่งสัญญาณให้คนอื่นมาชนแก้วกับเธอต่อ

พวกคนตระกูลเฉินทยอยกันเข้ามาชนแก้วกับมู่เฉี่ยนอย่างคึกคัก โดยที่เธอเองก็ไม่ปฏิเสธเลยซักคน

เมื่อมู่เฉี่ยนรู้สึกว่าเธอดื่มมากเกินพอแล้ว เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาหลินซู่ [พอจะช่วยส่งคนขับรถมารับฉันที่ฮัวจุ้ยทีได้รึเปล่าคะ?]

แล้วหลินซู่ก็ตอบข้อกลับในไม่กี่วินาทีถัดมา [ได้สิ]

มู่เฉี่ยนเท้าศีรษะของเธอพลางยิ้มให้กับข้อความล่าสุดของหลินซู่ เมื่อเงยหน้าขึ้นเธอก็สบตาเข้ากับดวงตาที่นิ่งเงียบของฮั่วจิ้นซี

ฮั่วจิ้นซีที่คุยกับเฉินมู่เฉินอยู่นานพอสมควร ในที่สุดเขาทั้งคู่ก็สิ้นสุดการสนทนากันเสียที จากนั้นฮั่วจิ้นซีก็จุดบุหรี่ แล้วเอาแต่นั่งจ้องมาที่มู่เฉี่ยนอย่างเงียบ ๆ

มู่เฉี่ยนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วชูแก้วเหล้าในมือขึ้น

“คุณฮั่วคะ ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีโอกาสได้นั่งร่วมโต๊ะอาหารกับคุณ เป็นเกียรติกับฉันมากจริง ๆ ค่ะ” เธอดื่มมากเกินไปจริง ๆ ด้วย มันทำให้ตอนนี้สายตาของเธอเริ่มพร่ามัว หูทั้งสองข้างของเธอเริ่มแดงจนเปล่งแสงแวววับ เหมือนดวงตาของเธอที่กำลังเยิ้มด้วยฤทธิ์เหล้า “ฉันขอดื่มให้คุณค่ะ”

ฮั่วจิ้นซียังไม่ทันจะเคลื่อนไหว แต่มู่เฉี่ยนก็กระดกเหล้าในแก้วจนหมดไปแล้วเรียบร้อย

เธอวางแก้วเหล้าลง แต่ฮั่วจิ้นซีก็ยังคงนั่งนิ่ง ไม่ยกแก้วขึ้นมา

มู่เฉี่ยนรู้สึกอับอายขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพูดกับเฉินซิงฉีที่ตอนนี้ปวกเปียกเหมือนเด็กทารกว่า “คุณฮั่วนี่ก็ยังไม่ไว้หน้ากันอีกเนอะ”

เมื่อเฉินซิงฉีได้ยินประโยคนี้เข้าก็หัวเราะด้วยความไร้สติ จนทำให้เฉินมู่เฉินหันไปจ้องมองมู่เฉี่ยนหนักกว่าเดิม

ส่วนฮั่วจิ้นซีนั้น ยังคงสูบบุหรี่นิ่งเงียบสีหน้าเย็นชา และไม่สนใจใคร

“ถึงคุณฮั่วจะไม่ไว้หน้าเธอ แต่ฉันเห็นแก่หน้าตาของเธอนะ!” เฉินซิงฉียื่นแขนไปโอบไหล่มู่เฉี่ยน และกระซิบใกล้หูมู่เฉี่ยนด้วยน้ำเสียงครุมเครือ “เธอให้ฉันดื่มอะไรฉันก็ดื่มหมด ถึงมันจะเป็นยาพิษก็ตาม”

มู่เฉี่ยนขยับออกด้วยความขนลุก แล้วหัวเราะขึ้นมา

……

เมื่อสิ้นสุดมื้อค่ำนี้ มู่เฉี่ยนก็เดินออกจากที่นั่งเป็นคนแรก

เพราะลึก ๆ เธอรู้ว่าตัวเองดื่มจนถึงขีดสุดแล้ว จึงรีบลุกขึ้นออกจากที่นั่งในตอนที่ตัวเองยังเดินไหวน่าจะดีกว่า ส่วนเฉินซิงฉีก็ตามเธอมาติด ๆ เพราะหวังจะตามเธอกลับบ้าน

มู่เฉี่ยนนั้นปฏิเสธท่าเดียว แต่เฉินซิงฉีก็ยังตอแยไม่เลิก จนทั้งคู่เดินมาได้ครึ่งทาง เฉินซิงฉีก็รวบตัวเธอเข้าไปกอดเอาไว้

“เธอจะวิ่งทำไมเนี่ยหื้ม?” เฉินซิงฉีมองมู่เฉี่ยนด้วยสายตาที่พร่ามัวเนื่องจากฤทธิ์เหล้า “เธอไม่ได้อยากรู้หรอกเหรอ ว่าฉันหิวมากกขนาดไหน?”

เมื่อพูดจบเขาก็หัวเราะขึ้นมาอย่างมีเลศนัย

มู่เฉี่ยนแสร้งหัวเราะไปด้วย “ฉันว่าแล้วเชียวว่าต้องมีศึกรอบที่ 2 ถ้าคุณยังหิวมากแล้วล่ะก็ ตามฉันมาสิคะ!”

หลังพูดจบเธอก็ปล่อยเฉินซิงฉีแล้วเดินต่อไปด้วยท่าทางยั่วยวน เฉินซิงฉีฮึกเหิมขึ้นมาและเกิดความรู้สึกอยากไล่ล่าต่อ แต่ก็โดนเฉินมู่เฉินขัดจังหวะอีกจนได้ เขาตะโกนเรียกเฉินซิงฉีเสียงดังมาจากด้านหลัง

เฉินมู่เฉินกับฮั่วจิ้นซีเดินตรงมาทางเฉินซิงฉี เมื่อเดินมาถึงตัวเขา ฮั่วจิ้นซีกลับเดินผ่านหน้าเขาไปอย่างหน้าตาเฉย ในขณะที่เฉินมู่เฉินเข้าไปประคองเฉินซิงฉีเอาไว้ ฮั่วจิ้นซีพูดขึ้นมาว่า “นายรอฉันตรงนี้ก่อนนะ!”

“คุณจะทำอะไรน่ะ?” เฉินซิงฉีถามขึ้นด้วยความหัวร้อน “ผู้หญิงคนนั้นคืนนี้ผมจองแล้ว!”

เฉินมู่เฉินหัวเราะเยาะออกมาก่อนจะพูดต่อว่า “ผู้หญิงที่มีความเกี่ยวของกับฮั่วจิ้นซี แกยังจะกล้าไปยุ่งกับเธออีกเหรอ?”

เฉินซิงฉีตัวแข็งทื่อ แล้วดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง

ตัดภาพมาที่มู่เฉี่ยน เธอรีบเดินไปที่ประตูร้านฮัวจุ้ย แล้วเธอก็เห็นรถลินคอล์นสีดำของหลินซู่ขับเข้ามาพอดี

ในระหว่างที่เฉินซิงฉียังตามมาไม่ทัน เธอก็รีบก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างไว

ตอนนี้เธอเริ่มจะต้านฤทธิ์แอลกอฮอล์ไว้ไม่ไหวแล้ว ก่อนหน้านี้ที่เธอฮึดเอาไว้ได้ ก็เพื่อที่จะหนีเฉินซิงฉีออกมา และสุดท้ายเธอก็สามารถสลัดเขาให้พ้นทางไปได้ แต่พอถึงตอนนี้เธอก็เริ่มจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ และในขณะที่เธอมาถึงประตูรถของหลินซู่ เธอก็รู้สึกวิงเวียนจนแทบจะล้มลงไป

เธอรวบรวมแรงที่ยังพอมีอยู่เฮือกสุดท้าย เปิดประตูแล้วกระโจนเข้าไปที่เบาะหลัง พร้อมบอกคนขับรถว่า “ถึงแล้วรบกวนปลุกฉันด้วยนะคะ” แล้วเธอก็หลับไปทันที

เมื่อฮั่วจิ้นซีมาถึงประตูร้านฮัวจุ้ย รถลินคอล์นสีดำคันนั้นก็ขับเข้ามาอย่างช้า ๆ

ผู้จัดการร้านอาหารฮัวจุ้ย นามว่า จี้เจ๋อ เดินมาส่งฮั่วจิ้นซีที่รถด้วยตัวเอง เขาเปิดประตูรถให้ฮั่วจิ้นซี แต่ก็ต้องรู้สึกสะดุดตากับอะไรบางอย่างขึ้นมา “เอ๊ะ ขามาคุณฮั่วไม่ได้นั่งรถคันนี้มานี่ครับ”

“ครับ” ฮั่วจิ้นซีตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ “เพิ่งเปลี่ยนรถน่ะ”

จี้เจ๋อยิ้มแล้วส่งฮั่วจิ้นซีขึ้นรถ ทันทีที่เขากำลังจะปิดประตูรถให้นั้น เขาก็เหลือบไปเห็นชายกระโปรงสีเขียวเข้มตรงเบาะหลัง แต่เขาก็ไม่กล้ามองไม่มากกว่านั้น

หลังจากนั้นไม่นาน เฉินมู่เฉินกับเฉินซิงฉีสองพี่น้องก็เดินออกมา โดยที่รถลินคอล์นสีดำนั้นขับหายเข้าไปในความมืดแล้ว

รถสีดำขับไปเรื่อย ๆ บนถนนใหญ่ในเมืองถงอย่างนิ่มนวล และกำลังมุ่งหน้าไปทางใต้

ในขณะที่มู่เฉี่ยนกำลังมึนอยู่กับความเมานั้น เธอก็ดันได้กลิ่นบางอย่างขึ้นมา

กลิ่นของยาสูบที่เคล้ากลิ่นมิ้นท์อ่อน ๆ นั้น รู้สึกคุ้นจมูกจัง

เหมือนกับ…

แต่นี่มันไม่ถูกต้องอะ

สำหรับเธอแล้ว มันไม่น่าจะใช่คนคนนั้น…

ในขณะที่มู่เฉี่ยนเมาหลับอยู่นั้น จู่ ๆ เธอก็ละเมอหัวเราะออกมา แล้วก็หลับต่อไปอย่างเงียบ ๆ เหมือนตอนแรก

……

มู่เฉี่ยนหลับใหลไม่ได้สติ เนื่องจากความฝันที่ไม่รู้จักจบจักสิ้นของเธอด้วย พอเธอตื่นขึ้นก็ลืมวันลืมคืนไปหมดแล้ว

เธอตื่นขึ้นและมองอะไรไม่เห็น เพราะว่าภายในห้องนี้มันมืดไปหมด เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน รู้เพียงแค่เตียงที่เธอนอนอยู่นั้นนุ่มมาก

มู่เฉี่ยนลุกขึ้นนั่งแล้วคลำไปรอบ ๆ เพื่อหาสวิตช์ไฟ

ห้องนอนห้องนี้ทาผนังด้วยสีเทา จึงทำให้บรรยกาศในห้องนั้นมืดและเย็นกว่าปกติ แม้แต่ชุดเครื่องนอนต่าง ๆ ก็เป็นสีเทาทั้งหมด ถึงแม้ว่าห้องนอนห้องนี้จะมีบริเวณที่กว้างมากพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมาย ทำให้เดาไม่ออกเลยว่าตัวตนของเจ้าของห้องนอนนี้เป็นคนยังไง

มู่เฉี่ยนลุกจากเตียงได้ก็ตัดสินใจเดินไปเปิดม่านหนาที่กำลังปิดอยู่แทน

ม่านถูกเปิดออก และในตอนนี้มันก็เป็นเวลาเที่ยงพอดี แสงอาทิตย์ส่องกระทบผิวน้ำในสระส่วนตัว จนเปล่งประกายระยิบระยับ

ดูก็รู้ว่าที่นี่น่าจะเป็นวิลล่าส่วนตัว

เมื่อเธอได้สติกลับมา เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็พุ่งเข้ามาในความคิดของเธอทันที จนทำให้หัวใจของมู่เฉี่ยนนั้นเต้นแรง หลินซู่เหรอ?

วิวาห์ 365วัน

วิวาห์ 365วัน

Score 10
Status: Completed
7ปีก่อน เธอเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่อยู่ในบ้านตระกูลฮั่ว เขาเป็นคุณชายรองของตระกูลฮั่วที่มีความรักอย่างลึกซึ้ง เธอตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ที่อายุมากกว่าตั้งแต่เธอยังอายุเพียง 8 ขวบ แต่เธอกลับกลายเป็นฆาตกรที่ผลักแฟนสาวอันเป็นที่รักของเขาตกจากตึก 7 ปี ต่อมา เธอกลายเป็นนักข่าวสาวสวยที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ และเขากลายเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลฮั่ว เขาและเธอได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เธอพยายามหลบหน้าเขา แต่เขากลับมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอตลอดเวลา รุกล้ำความรู้สึกของเธอเข้ามาทีละน้อย มู่เฉียนยกยิ้มจางๆที่ริมฝีปาก “คุณฮั่วอยากจะทำอะไร” ฮั่วจิ้นซีผู้ซึ่งสงบมาโดยตลอด ค่อยๆพ่นควันบุหรี่ลงบนใบหน้าของเธอ “อยากนอนกับเธอ” “นอนกับฉัน?” มู่เฉียนขมวดคิ้วและถามด้วยความตกใจ “ลูกชายวัยหกขวบของคุณอนุญาตแล้วเหรอ” * เจ็ดปีก่อน เขาบังคับให้เธอออกไปอย่างโหดเหี้ยมและเยือกเย็น เจ็ดปีต่อมาเขากลับมาวางตาข่ายเพื่อต้อนให้เธอกลับมา

Options

not work with dark mode
Reset