ราชาเหนือราชัน 63 : ลืมมันไปเสีย

ตอนที่ 63 : ลืมมันไปเสีย

“โปรดตอบรับคำข้าด้วย คุณชาย!” ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงกล่าวซ้ำ

ในจุดที่ ผู้คนโดยรอบต่างจ้องไปที่เซี่ยงเส้าหยุน สายตาที่เต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ทั้งอิจฉาริษยา และสงสัย

เซี่ยงเส้าหยุนกระแอม ก่อนจะตอบกลับในที่สุด “ก็ได้ ในมุมมองที่ท่านแสดงนั้น เกินพอแล้วที่จะติดตามเราในภายภาคหน้า สมรรถนะของท่านมิมีสิ่งใดที่พิเศษ แต่เราคิดว่าสิ่งนั้นสามารถปรับปรุงได้ หากได้รับคำแนะนำ การบรรลุจุดสูงสุดของระดับล่องนภานั้นมิใช่เรื่องยาก แต่แน่นอน ท่านต้องฝึกให้หนักขึ้น หากท่านต้องการบรรลุระดับที่สูงขึ้นไปอีก”

โครม!

คำพูดที่กระแทกใจผู้อื่นนั้น ทำให้พวกเขารู้สึกราวกับจะเป็นลมในไม่ช้า ผู้ฝึกยุทธ์ระดับดวงดาวตัวเล็กเพียงนี้จะมอบคำแนะนำให้แก่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับราชาคนใหม่หรือ? มิมีหนทางอื่นอีกแล้วหรือ? นี่มันไม่ต่างจากให้เด็กเหลือขอมาสอนสั่งผู้ใหญ่เลย มีบางสิ่งไม่ถูกต้อง

“ขอบคุณ คุณชาย!” ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงตอบกลับอย่างเลื่อนลอย

ผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึง พวกเขาเริ่มสงสัยด้วยซ้ำว่าผู้อาวุโสเจิ้นเผิงจะถูกสิงสู่หรือไม่ เหตุใดจึงฟังคำของเด็กคนนี้?

เซี่ยงเส้าหยุนมองฝูงชน และกล่าวพร้อมยักไหล่ “เอาล่ะ เอาล่ะ อย่ามองที่ข้าเช่นนั้น ทุกคน ท่านยังไร้สมรรถนะนัก ข้าจะไม่รับพวกเจ้ามาอยู่ใต้อาณัติแน่ ลืมมันไปได้เลย”

สีหน้าของผู้คนดำมืดลง

‘บ้าอะไรกันนี่? ไอ้เด็กเวรนี่!’ ผู้คนต่างก่นด่าอยู่ในใจ

พวกเขาล้วนเป็นผู้อาวุโสแห่งตำหนักยุทธ์ ยอดฝีมือระดับแปรสภาพ  และเจ้าเด็กนี่กล่าวดูถูกพวกเขาเช่นนี้หรือ? นั่นเป็นการดูถูกแน่นอน!

“ผู้อาวุโสเจิ้นเผิง…” หยางเกาฉวนมิรู้ว่าควรจะกล่าวสิ่งใดอีก

ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงผายมือ และกล่าว “แยกย้ายได้ พวกเจ้าทุกคน อย่าได้แพล่งพลายข่าวในการบรรลุขั้นของข้าเชียว จัดการกับผลพวงนี้ตามสมควรด้วย” เขาหยุดเพียงครู่ ก่อนจะกล่าวเสริม “นั่นสินะ เรื่องของตำหนักยุทธ์ก็ยังคงเป็นปัญหาสำหรับเราอยู่ดี”

เขาเพิ่มประโยคสุดท้ายเพื่อปิดปากผู้คนเหล่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาทุกคนจะโล่งใจเมื่อได้ยินคำรับรอง พวกเขากังวลสิ่งที่ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงจะอยู่ใต้อาณัติของเด็กหนุ่มผู้นี้ และเพิกเฉยต่อทุกสิ่งในตำหนักยุทธ์นับตั้งแต่นี้

หลังจากทั้งหมดที่ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงกล่าวมานั้น พวกเขาทำความเคารพก่อนจะจากไปทีละคน ในตอนนั้นเองที่เซี่ยงเส้าหยุนได้เข้าหาหยางเกาฉวน “ท่านเจ้าตำหนัก โปรดอยู่ก่อนเถิด”

“โอ้ เจ้าหนู….เอ่อ ต้องการสิ่งใดหรือ?” หยางเกาฉวนถาม เขาไม่กล้าพอจะเรียกเซี่ยงเส้าหยุนว่า “เจ้าหนู”

“รางวัลของข้าเล่า? ข้าผ่านห้องแห่งขีดจำกัดที่หกแล้ว! อย่าจากไปโดยไม่ทิ้งของรางวัลไว้ให้ข้าสิ!” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว ขณะก้าวไปด้านหน้า

“แน่นอน แน่นอน ข้าจะไปลืมรางวัลของเจ้าได้อย่างไรกัน เจ้าสามารถรับของที่เจ้าต้องการได้ที่โถงอาวุธ และโถงโอสถได้เลย ข้าจะให้ใครสักคนมอบหนึ่งแสนแต้มให้แก่เจ้าเป็นรางวัล” หยางเกาฉวนกล่าวอย่างเร่งรีบ

เซี่ยงเส้าหยุนได้รับการสนับสนุนจากผู้อาวุโสเจิ้นเผิงเช่นนี้ จะมีที่ใดในตำหนักยุทธ์ที่เขาไม่สามารถไปได้อีกหรือ? และสิ่งใดที่ทำให้เจ้าตำหนักดูหดหู่เช่นนี้?

“โอ้ ยอดเยี่ยม ก็ แค่นั้นแหละเนอะ” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวอย่างพอใจ เขาต้องกรทรัพยากรจำนวนมากในการฝึกยุทธ์ หากตำหนักยุทธ์สามารถเปิดใจต่อเขาได้อย่างเต็มที่ จะสามารถฝึกยุทธ์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นถึงสามเท่า ใกล้กันนั้น จื่อฉางเหอยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ ขณะมองดู เขาไม่รู้ว่าควรจะกล่าวสิ่งใดต่อสิ่งที่เซี่ยงเส้าหยุนกระทำ

แปลกประหลาดรึ?

ใช่แล้ว นั่นคือคำอธิบายที่สมเหตุสมผลที่สุดสำหรับเซี่ยงเส้าหยุนแล้ว จื่อฉางเหอยังคงจดจำได้ว่าเด็กหนุ่มคุยโวเกี่ยวกับอัจฉริยะผู้น่าเหลือเชื่อ และมากความสามารถในครั้งแรกที่พบเจอ สิ่งที่เขาพูดคือเรื่องจริง และมันชัดเจนมากหลังจากเซี่ยงเส้าหยุนได้บรรลุระดับดวงดาวขั้นสอง

และด้วยวิธีการเฉพาะตัว เซี่ยงเส้าหยุนยังใช้เล่ห์กลบางอย่างทำให้ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงอยู่ใต้อาณัติของตน แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็พิสูจน์ได้ว่าเซี่ยงเส้าหยุนนั้นพิเศษเหนือผู้อื่น เขาเริ่มรู้สึกราวกับว่าเซี่ยงเส้าหยุนไม่ต้องการศิษย์พี่เช่นเขาแล้ว

ในตอนนั้นเอง เซี่ยงเส้าหยุนเดินตรงไปหาจื่อฉางเหอ ก่อนจะกล่าว “หากไม่มีสิ่งใดแล้ว เราไปกันเถอะ ศิษย์พี่ ข้าจะสาธิตวิชาหอกอัสนีสักครั้งเมื่อเรากลับไป ข้าคิดว่าคงถึงระดับที่ท่านท้าทายข้าแล้ว”

จื่อฉางเหอตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาไม่คาดคิดว่าเซี่ยงเส้าหยุนจะยังเรียกตนว่าศิษย์พี่

“เหตุใดจึงต้องตกใจเช่นนี้เล่า? ท่านกังวลเพราะผู้เฒ่าเผิงอยู่ที่นี่หรือ? ไม่ต้องเป็นกังวล เพียงแสร้งว่าเขายังเป็นผู้อาวุโสธรรมดา” เซี่ยงเส้าหยุนปลอบขวัญ

จื่อฉางเหอเริ่มสบถ ‘เจ้าเด็กนี่ ถึงจะรู้ ก็ไม่ควรกล่าวออกมาเช่นนี้!”

ทันทีที่รู้ตัว เขาตะโกนออก “ไปแสดงให้ข้าได้ชม!”

“ฮ่า ฮ่า อย่าทำเช่นนี้เลย ศิษย์พี่ ข้าแค่ล้อเล่น ดูข้าสิ ข้ามีบาดแผลเต็มตัว! เราควรรอให้ข้ารักษาบาดแผลเสียก่อน ถูกไหม?” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว มีบาดแผลเต็มไปทั่วทั้งตัว

“นี่เจ้าไปได้แผลพวกนี้จากไหน? ห้องแห่งขีดจำกัดหรือ?” จื่อฉางเหอถาม

ในตอนนั้นเอง ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงได้เข้ามาสอด “คุณชาย นี่ท่านท้าทายห้องทั้งหมดก่อนจะเข้ามายังห้องที่หกแล้วหรือ? ข้าหมายถึง นี่ท่านผ่านการท้าทายทั้งหมดแล้วหรือ?”

เซี่ยงเส้าหยุนยิ้ม “แน่นอน ท่านว่าทำไมท่านเจ้าตำหนักจึงอนุญาตให้เข้าไปในห้องที่หกเล่า?”

ม่านตาของชายสูงวัยหกลง ขณะเผยใบหน้าปลื้มใจ “คุณชายจะต้องเป็นใหญ่อย่างแน่นอน สามารถบรรลุห้องแห่งขีดจำกัดที่หกได้ด้วยความแข็งแกร่งของระดับดวงดาวขั้นแรกเท่านั้น ข้าคิดว่าท่านแอบเข้าทางประตูหลักหรืออะไรเสียอีก ดูเหมือนข้าจะคิดไปเอง”

แม้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับราชา เช่นผู้อาวุโสเจิ้นเผิงนั้น จะยังตกตะลึงกับความสำเร็จของเด็กหนุ่ม ด้วยความแข็งแกร่งของระดับดวงดาวขั้นแรกนั้น เขากลับผ่านการท้าทายทั้งหมดของห้องแห่งขีดจำกัดที่หก ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของตำหนักยุทธ์

ในอดีต มีเพียงอันดับสี่ขึ้นไปเท่านั้นจึงจะไปได้ไกลเช่นนี้ ยิ่งเห็นได้ชัดว่าเซี่ยงเส้าหยุนโดดเด่นเพียงใด เมื่อจื่อฉางเหอได้ยินบทสนทนานั่น เขาตะลึงงันอีกครั้ง จู่ ๆ เขาก็เพิกเฉยต่อสีหน้าของศิษย์น้อง

ครั้งในอดีต เขายังเห็นเซี่ยงเส้าหยุนเป็นเพียงเพชรที่ยังไม่ถูกเจียระไน และต้องใช้เวลาในการปรับอารมณ์เข้าหา แต่เขากลับเติบใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว คงถึงเวลาที่ดีจะเลี้ยงดูเขาแล้ว ด้วยช่วยเหลือให้เด็กหนุ่มได้ก้าวสู้ระดับที่สูงขึ้นไปในอนาคต

แต่ตอนนี้ เซี่ยงเส้าหยุนกลับกลายเป็นตัวประหลาด เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่มีพรสวรรค์โดยที่จื่อฉางเหอยังมิได้สอนสิ่งใด

เซี่ยงเส้าหยุนไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไป ก่อนจะเริ่มตรงไปที่ที่พักของตน ก่อนที่จะไป เขามิได้ลืมที่จะเตือนผู้อาวุโสเจิ้นเผิงให้พูดคุยกับหยางเกาฉวนเกี่ยวกับเรื่องในวันนี้ เขาไม่ต้องการให้มีปัญหาหากไม่จำเป็น ด้วยต้องการฝึกฝนอย่างสงบ

คุณชายผู้นี้ช่างทรงพลังนัก ด้วยผายมืออย่างสง่างาม ‘ด้วยการเผยตัวอันน่าเคารพนี้ แม้แต่ผู้มีระดับราชาก็ได้ขอร้องให้มาอยู่ใต้อาณัติของเราในทันที! เสน่ห์ของเราไร้ซึ่งผู้ต้านทาน!’ เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวคำเบาอย่างหลงตัวเอง

ราชาเหนือราชัน

ราชาเหนือราชัน

Score 10
Status: Completed
~เกริ่นนำ~
จากสำนักอันยิ่งใหญ่ทรงอำนาจ สู่ความตกต่ำยังสำนักอันเล็กจ้อย เพราะมั่นใจในพรสวรรค์จึงกล่าวจะว่างเว้นฝึกฝนสิบปี กาลเวลาผันผ่าน ชีวิตพลิกกลับตาลปัตรอย่างไม่อาจหวนคืน ด้วยไร้ซึ่งกำลังจึงต้องเริ่มต้นใหม่ เพื่อทวงคืนเกียรติยศที่เคยมีกลับคืน แม้ฝืนชะตาฟ้าเขาก็ขอคิดทำให้สำเร็จ!

Options

not work with dark mode
Reset