ระบบใช้จ่าย 42 : รางวัลที่ไม่คาดฝัน

ตอนที่ 42 : รางวัลที่ไม่คาดฝัน

ระบบใช้จ่ายตอนที่ 42

นิยาย ระบบใช้จ่าย ระบบใช้จ่ายตอนที่ 42

บทที่ 42: รางวัลที่ไม่คาดฝัน

บทสนทนาชุมชนรอบๆ เย่ไหลเซียง

” เฮ้ คุณได้ยินมาบ้างรึเปล่า? ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้มีคนมาขอซื้อบ้านที่นี่ ได้ยินมาว่ามีนายน้อยจากตระกูลที่ร่ํารวยกําลังหาซื้อบ้านเพื่อใช้เลี้ยงสุนัข ฉันไปถามมาเมื่อเช้านี้ บ้านแถวนี้ขายเกือบหมดแล้ว ไม่มีแม้แต่บ้านให้เช่าเลย !!”

” โลกของคนรวย เราไม่สามารถเข้าใจพวกเขาได้หรอก ซื้อบ้านมากมาย เพื่อใช้เลี้ยงสุนัขเบี้ยนะ เฮ้ เฮ้ เขามีเงินมากมายขนาดที่สามารถผลาญเงินได้มากขนาดนี้เลยเรอะ ”

“ทําไมเขาทําแบบนั้นกันล่ะ? ใช้เงินหลายล้านหยวนเพื่อใช้เลี้ยงสุนัข เห้อ.. โอ้ ใช่แล้ว ฉันได้ยินมาว่าคนที่ดูแลสุนัขให้เขาจะได้รับเงินเดือน 1,000 หยวนต่อเดือนพร้อมให้ที่อยู่อาศัยฟรีด้วยนะ คน ๆ นี้เป็นคนฟุ่มเฟือยโดยแท้จริงเลย ฉันไม่เคยเห็นใครทําแบบนี้มาก่อนเลยแฮะ ”

ในย่านที่อยู่อาศัยใกล้เย่ไหลเซียง

เสียงสุนัขเห่าหอน ได้ยินอยู่ตลอดเวลา

โฮ่งโฮ่งโฮ่ง !!!

โฮ่งโฮ่งโฮ่ง !!!

บรู้ววว !!

” บ้าเอ๊ย! พวกเราควรมีชีวิตแบบนี้ไง! สุนัขบ้านี้อยากตายในตอนเช้ารึไงกัน! และไอ้สุนัขนี้ไม่ได้มีตัวเดียวด้วย! ” ผู้ชายคนหนึ่งคลุมศีรษะด้วยผ้าห่มของเขาอย่างโกรธเกรี้ยว แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็โยนผ้าห่มทิ้ง ” อ้าาาา ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันจะตีมัน! นี่มันอะไรกันนักกันหนา! มันเหมือนแมลงวันที่ ๆ ก็บินใกล้ ๆ หูของฉัน ฉันจะฆ่าคนแล้ว เห้ย! โอ้ ไม่ดิ ฉันจะไปฆ่าสุนัขแล้วเห้ย!”

ภรรยาของเขาจับเขา แล้วพูดว่า ” ที่รัก คุณไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้วหรอ? คนที่เลี้ยงสุนัขพวกนั้นเป็นนายน้อยจากตระกูลที่ร่ํารวยนะ! ว่ากันว่าเขาซื้อบ้านหลายสิบหลังเพื่อใช้เลี้ยงสุนัขเพียงอย่างเดียว คุณจะเอาชนะเขาได้อย่างไร? รอไปก่อนนะที่รัก หลังจากนั้น เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง”

“อะไรนะ … นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย! น่ารําคาญ! ฉันจะฟ้องร้องเขา! ” เห็นได้ชัดว่า ในกรณีนี้ เขามีโอกาสในการชนะคดีอยู่น้อยมาก ซึ่งเขาก็ได้แต่โกรธและกลับไปนอนต่อ เขาเอาผ้าห่มคลุมศรีษะอีกครั้ง แม้ว่าพวกเราจะต่อสู้กับเศรษฐีร่ํารวยไม่ได้ แต่พวกเราก็ไม่สามารถหนีความวุ่นวายจากเขาไปได้สินะ? “ถ้าเขาทําให้ฉันโกรธอีกล่ะก็ ฉันจะขายบ้านให้เขาซะ เราจะได้ย้ายออกไปจากที่นี้! ”

มีใครบางคนไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้น นั้นก็คือหงต้าหลี่ ตอนนี้เขานอนหลับอย่างสบายในชั้นเรียนอีกครั้ง

สําหรับหงต้าหลี่ที่สําเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยด้วยเกียรตินิยมในชีวิตที่ผ่านมาบทเรียนในโรงเรียนมัธยมนั้นง่ายเกินไปสําหรับเขา ไม่ว่าเขาจะฟังบทเรียนหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่มีความหมายกับเขาเลย

ใบหน้าของเขาหันหน้าไปทางด้านซ้ายในขณะนอนหลับหนึ่งบทเรียน เมื่อเขาเบื่อ เขาก็เปลี่ยนข้างและหันไปด้านขวาเพื่อนอนหลับสําหรับบทเรียนถัดไป

เมื่อเขาตื่นขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา มีข้อความจากหลิงเสี่ยวหยี่ส่งมาหาเขา

หลิงเสี่ยวหยี่: ท่านนายน้อยค่ะ ตอนนี้บริษัทของเราเริ่มจ้างคนมาทํางานในบริษัทสื่อบันเทิงแล้วค่ะ และฉันได้ตกลงทีมที่จะเข้าร่วมกับเราแล้วค่ะ และ ท่านผู้ชายกําลังเตรียมที่จะโอนกรรมสิทธิ์อาคารเฉินหุยให้ จะเสร็จเร็ว ๆ นี้ค่ะ

เมื่ออ่านข้อความของเสี่ยวหยี่ การที่มีผู้ช่วยที่มีความสามารถ มันทําให้เขาไม่ต้องเจอความยุ่งยากทั้งหลาย มันดีจริงๆ

หงต้าหลี่ตอบกลับด้วยข้อความ: แล้วการทํางานของน้องสาวลี่เนียนเหว่ยล่ะ? เธอเริ่มซ้อมแล้วหรือยัง? แล้วสนามกีฬาล่ะ? พวกเขาสามารถเริ่มสร้างเวทีได้ทันทีใช่ไหม? ฉันต้องการให้ออกมาดีที่สุด เอ๊ะ และเพิ่มขนาดของโฆษณา สําหรับตอนนี้ขอแค่เพิ่ม โฆษณารอบ ๆ พื้นที่ในสี่แยกทิศตะวันตก ทําสโลแกนว่า ” คอนเสิร์ตฟรี ยินดี ต้อนรับทุกคน ”

ฉันมีเงื่อนไขเดียว: จํานวนผู้เข้าร่วมดูคอนเสิร์ตจะต้องมีจํานวนมากพอสําหรับ คอนเสิร์ต! ฉันไม่ต้องการแค่คนสองสามพันคนมากระจัดกระจายเฉย ๆ

คําตอบของหลิงเสี่ยวหยี่มาอย่างรวดเร็ว: โอเคค่ะ ฉันจะพยายาม น้องสาวลี่เนียนเหว่ยได้ลงนามในสัญญากับบริษัทไกเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ เราจ่ายเงินทั้งหมด 200,000 หยวน สําหรับการละเมิดสัญญากับบริษัทก่อนหน้านี้ของเธอแล้ว อ่อ และอีกอย่างท่านนายน้อยค่ะ ฉันได้รวบรวมข้อมูลส่วนใหญ่เกี่ยวกับร้านหนัง สือตุรกีแล้วค่ะ ฉันจะส่งให้ท่านในตอนพักกลางวัน

หงต้าหลี่: โอเค เยี่ยม! ฉันจะคิดแผนการที่จะหลอกล่อเขาเอง! หึหึ

ในฐานะผู้อํานวยการสร้างเพลง ชางเวินชีและเพื่อนร่วมงานอีกสองคนของเขาได้ทําหน้าที่ตรวจสอบและแนะนําเพลงใหม่ ในรัฐสวรรค์มีบริษัทที่ได้มีผู้ผลิดซอฟต์แวร์กระจายเสียงได้ ออกอากาศเพลง กู จี ที่โด่งดังที่สุด และในรัฐสวรรค์มีกลุ่มคน แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม หน้าที่ของชางเวินชี คือการจัดหมวดหมู่เพลงที่มีคุณภาพในระดับที่แตกต่างกันออกไปและวางไว้ในซอฟต์แวร์ ซึ่งเพลง กู จี ได้ถูกแนะนําต่อสาธารณะตามอันดับเพลงของพวกเขา

งานนี้ดูเหมือนจะสนุกมาก แต่ในทางปฏิบัติมันตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง แม้ว่าเพลงส่วนใหญ่จะได้รับการตรวจสอบแล้ว ก่อนที่เขาจะฟังเพลงของศิลปินก็เถอะ แต่พวกเขายังได้ฟังเสียงแปลก ๆ ในหูอยู่ ซึ่งเมื่อทีมงานตรวจสอบเสียงที่พวกเขาได้ยินมันแทบจะเป็นเหมือนเสียงของปีศาจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพวกเขาต้องทํามันแทบทุกวันและทุกปี ชางเวินชีรู้สึกว่าต้องขอบคุณพรจากสวรรค์ที่เขาไม่ได้เป็นโรคทางจิตเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่ทําอาชีพเดียวกับเขา

แต่เมื่อตอนเช้าตรู่ เมื่อชางเวินชีได้ฟังเพลงที่ไม่สามารถเข้าใจได้ อย่างไม่มีเหตุผล

จู่ๆ เพื่อนร่วมงานของเขาก็รีบวิ่งด้วยความกระตือรือร้น เขามีอาการตื่นเต้น และน้ําลายก็แทบจะไหลลงมาจากปาก ” พี่ชาง ฉันพบสมบัติ ฉันพบสมบัติแล้ว เมื่อวานนี้! ”

“นายชนะพนันได้เงินห้าล้านหยวนมารึไง? ” ชางเวินชีโบกมือต่อหน้าเพื่อนร่วมงานของเขา “อะไรทําให้นายตื่นเต้นมากขนาดนี้กันเนี่ย? ”

” พี่ชางยังจําภารกิจที่เราตกลงกันได้อยู่ไหม? คนที่ทําบทเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องผู้ติดตามสายลม? ” เพื่อนร่วมงานของเขาเช็ดน้ําลายและจ้องมองไปที่ชางเวินชี ด้วยดวงตาที่แวววาวเหมือนหลอดไฟ

“อย่ามองฉันแบบนั้นแบบปลากัดสิ” ชางเวินชีก้าวถอยหลังสองก้าว เพราะ เขาตกใจ “ฉันรู้หรอกน่า ภารกิจบ้าบอนั้นน่ะ หัวหน้าขอให้เราช่วยเลือกเพลงประกอบ แต่ปัญหาก็คือจนถึงตอนนี้ยังไม่มีเพลงที่เหมาะสมเลย ทําไม? หรือว่านายค้นหาเพลงได้แล้ว? เปิดเพลงให้ ฉันได้ฟังหน่อยสิ” ภาพยนตร์เรื่องผู้ติดตามสายลมเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ หาดูยากในรัฐสวรรค์ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา การผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้มีค่าใช้จ่าย ประมาณแปดล้านหยวนหรือมากกว่านั้น มันเป็นประเภทนิยายวิทยาศาสตร์และ เป็นภาพยนตร์เกินคาดมากที่สุดแห่งปี มันไม่ใช่แค่หนึ่งในภาพยนตร์ที่ได้รับการคาดหวังมากที่สุด แต่มันเป็นภาพยนตร์ที่เกินความคาดหมาย ด้วยเหตุนี้ภารกิจในการค้นหาบทเพลงที่เหมาะสมสําหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ มันจึงเป็นเรื่องที่หายากเป็นพิเศษ

“ฉันไม่ได้แค่ฟังเพลงมานะ แต่ยังแอบบันทึกมันไว้ด้วย! “เพื่อนร่วมงานของเขาเริ่มเฉยเมย เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ พี่ชางไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนั้นที่ฉันถ่ายวิดีโอไว้ เธอสวยมากขนาดไหน! เธอน่ารักจริงๆ! และเพลงของเธอมันยังโคตรจะยอดเยี่ยมมาก! ”

“หยุดพล่ามสักที! เร็วเข้า และเอา เสียงมาให้ฉันฟัง! ” แม้ว่าเขาจะพูดแบบนี้ แต่ชางเวินชีก็ยังรู้สึกสับสนเล็กน้อยในใจของเขา เมื่อได้ยินคําพูดของเพื่อนร่วมงาน ศิลปินคนนี้ที่ถูกกล่าวถึงโดยเพื่อนร่วมงาน อาจจะเป็นศิลปินหน้าใหม่ และไม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งบางทีไอ้ศิลปินคนนั้นมันอาจจะห่วยแตกมากก็ได้ ใครจะไปสนใจกันฟระ

แต่เขาก็รู้ดีว่าในฐานะโปรดิวเซอร์เพลง การรู้จักรายใหญ่และรายเล็ก ๆ ในวงการเพลงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เนื่องจากเพื่อนร่วมงานของเขาไม่รู้จักชื่อของนักร้องคนนั้น เธอน่าจะต้องเป็นศิลปินหน้าใหม่ในสื่อบันเทิงแน่

โชคดีที่เพื่อนร่วมงานของเขาหยิบกล้องวิดีโอออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้น ก็ถอดการ์ดหน่วยความจําออกแล้วเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์

การบันทึกเสียงก็ได้แสดงขึ้นหลังจากนั้น

สภาพแวดล้อมในตอนบันทึกเสียงในที่แออัดและสภาพแวดล้อมแย่ ในช่วงต้นของวิดีโอ ฉากนี้ทําให้ชางเวินชีขมวดคิ้ว ใครบางคนที่ร้องเพลงในสถานที่เช่นนี้ เธอสามารถทําได้ดีแค่ไหนกัน?

ชางเวินชีสงสัยเล็กน้อย” นายแน่ใจ ใช่ไหม นายไม่ได้ล้อเล่นกับฉันนะ? ”

” คุณจะเข้าใจเองล่ะ หลังจากดูวิดีโอนี้เสร็จแล้ว ” เพื่อนร่วมงานของเขาจ้องมองอย่างตั้งใจที่หน้าจอและน้ําลายของ เขาก็พุ่งออกมาอีกครั้ง ” เธอกําลังออกมา เธอกําลังออกมา!”

และทันใดนั้น ในวิดีโอปรารกฏเด็กสาวคนหนึ่งยืนอยู่บนเวที ผมของเธอหย่อนลงมาถึงเอวของเธอและร่างกายของเธอเรียวสวย อารมณ์เข้าถึงเพลงของผู้หญิงที่งดงามคนนี้ รู้สึกได้ว่าเธอเติบโตมาจากครอบครัวที่ดีแน่ ๆ แต่ก่อนที่ชางเวินชีจะพูดอะไร อารมณ์ของเธอก็ได้เปลี่ยนไปในเสี้ยววินาที

หัวใจของชางเวินชีแทบจะกระโดดออกมา

” ฉันขอมอบเพลงไล่ตามฝันหาอัสนีบาตให้กับทุกคนค่ะ! ” หญิงสาวได้พูดอยู่บนเวที

เมื่อได้ฟังเพลงจังหวะสนุก เสียงที่ชัดเจนและสดใสของเด็กผู้หญิงคนนั้น เหมือนเสียงฟ้าร้องที่หูสั้น ๆ แค่สามนาทีผ่านไป ทําให้ชางเวินชีรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก หลังจากตกตะลึงมาเป็นเวลา 30 วินาที่แล้ว ชางเวินชีก็บีบคอเพื่อนร่วมงานของเขาอย่างรุนแรง ” ผู้หญิงคนนี้คือใคร? บอกฉันมาเดี๋ยวนี้! เธอเป็นใคร? ฉันจะหาเธอได้ยังไง?

“พาเธอมาพบฉันตอนนี้เลย!”

ระบบใช้จ่าย

ระบบใช้จ่าย

Score 10
Status: Completed
เรื่อง ระบบใช้จ่าย


โดย นำเรื่อง ระบบใช้จ่าย มาเป็นบางส่วน

บทนำ

เขาได้ตายไปเพราะช่วยเหลือคนจากการถูกรถชน จากนั้นก็ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมกับระบบแปลกๆและยังโลกใบเดิมที่ผิดไปจากเดิมอีก

เรื่องย่อ

” หงต้าหลี่ เพศชายอายุ 22 ปี ไร้ครอบครัว ได้เสียชีวิตอย่างโชคร้ายโดยที่ได้ช่วยเหลือเด็กสองคนที่กำลังจะถูกรถชน หลังจากหารือหลายครั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดสินใจให้เกียรติเขาในฐานะวีรบุรุษและนักศึกษามหาวิทยาลัยดีเด่นของจังหวัด “

– หนังสือพิมพ์รายวันประชาชน

” ไม่!ไม่!ไม่! ไม่มีทาง หนูจะไม่หมั้นกับตระกูลหงเด็ดขาด! ” ถังมู่ซินพูด เธอซ่อนศรีษะไว้ใต้หมอนและกะดิกขาไปมาอย่างหงุดหงิด ” หงต้าหลี่เป็นพวกเศษเดนที่คนรู้จักกันทั่วเมือง เขาเป็นพวกสุรุ่ยสุร่ายและเป็นที่ขายหน้าของตระกูลหง เขาทั้งอ่อนแอและสมองทึบอีกด้วย ไม่มีทางที่หนูจะเอาคนแบบนี้มาเป็นคู่หมั้นหรอกนะ! “

ถังมู่ซิน เป็นลูกคนเดียวของ ถังรุ่ยชี ประธานบริษัทถังเวชกรรม เธอเป็นคนที่มีความสามารถทั้งการอ่านและเขียน ทั้งนี้เธอยังเป็นคนที่เที่ยงธรรมและเป็นคนที่สวยงามอีก ด้วยรูปลักษณ์ของเธอ เปรียบได้กับดอกไม้ที่สวยที่สุดราวกับว่าทุกอย่างนั้นดีไปหมดเมื่ออยู่กับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นสุดยอดแม่ครัว ทำให้เธอเป็นภรรยาในแบบอุดมคติเลยทีเดียวเชียว

การที่ทั้งทำอาหารได้อร่อยและหน้าตาเป็นเลิศเช่นนี้ เธอจะต้องเป็นผู้หญิงในฝันของผู้ชายหลายคนในโรงเรียน

วันนี้ เธอได้ยินเสียงจากพ่อว่าจะพาเธอไปหาตระกูลหงต้าหลี่ที่แสนน่าอับอาย เพื่อที่จะได้หมั้นตัวเธอกับลูกชายของตระกูลหง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถยอมรับได้เลยสักนิดเดียว ” ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ของเขาตามใจและพวกเขายังมีลูกแค่คนเดียว คนไร้ค่าอย่างเขาคงจะถูกไล่ออกจากตระกูลหงไปนานแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ เขาจะยังสามารถใช่เงินสุรุ่ยสุร่ายได้แบบนี้อีกงั้นเหรอ? “

เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว ถังรุ่ยชีซึ่งนั่งอยู่หน้าเตียงก็ได้ยิ้มแย้ม ” ซินซิน1 ไม่ใช่ว่าพ่อมีทางเลือก การแต่งงานระหว่างหนูกับหงต้าหลี่ถูกตัดสินโดยคุณปู่เมื่อหลายปีก่อน แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กน้อยทึ่ม ๆ คนหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ใช่มั้ย จากสิ่งที่พ่อรู้จริง ๆ แล้ว หงต้าหลี่เป็นเด็กที่หน้าตาดีเลยนะ … “

ถังรุ่ยชี สวมเสื้อกล้ามสีเขียวที่สะอาดสะอ้านและเน็คไทที่มีปมเรียบง่ายตรงคอของเขา เขามีหนวดเคราอยู่เหนือริมฝีปาก เขาถือกล่องยาสูบไว้ในมือและผมสีดำสั้นของเขาก็ได้ถูกหวีอย่างเรียบร้อยไปทางด้านหลังของศีรษะอย่างดูดี ความแปลกเพียงอย่างเดียวก็คือ ตอนนี้ดวงตาของเขาเปล่งประกายพร้อมกับเต็มไปด้วยความรู้สึกหมดหนทางและไม่เต็มใจ

พูดตามตรง เพราะเขาไม่มีทางเลือกหรอกนะ เขาจะยอมมอบลูกสาวที่มีค่าของตัวเองให้กับคนไร้ค่าอย่างหงต้าหลี่งั้นหรอ? สาเหตุที่เขาเรียกว่าคนไร้ค่างั้นเหรอ ก็เพราะหงต้าหลี่อาจเรียกได้ว่าเป็นคนประหลาดที่สุดบนโลกใบนี้ สิ่งเดียวที่เขาชอบทำก็คือ การถลุงเงินที่มีอยู่ของตนเอง

คำพูดประจำตัวของเขาคือ ” ฉันจะต้องฟุ่มเฟือยสิ ถ้าฉันไม่ใช้เงิน เงินที่พ่อแม่ของฉันที่หามาก็คงสูญเปล่าใช่ไหมละ? “

คำพูดของเขาได้สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนในเมืองเทียนจิง ผู้ปกครองจำนวนมากต่างก็ได้สอนลูกของพวกเขาโดยพูดว่า ” ถ้าลูกกล้าเรียนรู้เรื่องการใช้เงินจากหงต้าหลี่ ไปกินข้าววัดเลยไป! “

ดังนั้นแล้ว จึงเป็นที่เข้าใจได้เลยว่าทำไมถังมู่ซินถึงได้อารมณ์เสีย

Options

not work with dark mode
Reset