ระบบใช้จ่าย 41: ฉันไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองต้องยอดเยี่ยม แต่ฉันควรจะหวังให้คู่ต่อสู้ล้มเหลวสิ

ตอนที่ 41: ฉันไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองต้องยอดเยี่ยม แต่ฉันควรจะหวังให้คู่ต่อสู้ล้มเหลวสิ

นิยาย ระบบใช้จ่าย ระบบใช้จ่ายตอนที่ 41

บทที่ 41: ฉันไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองต้องยอดเยี่ยม แต่ฉันควรจะหวังให้คู่ต่อสู้ล้มเหลวสิ

“ร้านหนังสือตุรกี? นี่เป็นเรื่องที่ต้อง ทําความเข้าใจและมันยากที่จะเข้าใจเลยล่ะ ฉันรู้ว่าแอฟพลิเคชั่นตุรกีมีพลังมาก มันเป็นซอฟต์แวร์แชทที่ใหญ่ที่สุดในรัฐนี้ใช่ไหม? ” หงต้าหลี่เกาจมูกของเขา สิ่งนี้คล้ายกับแอพพลิเคชั่นQQ จากชีวิตก่อนหน้านี้ของหงต้าหลี่ ซึ่งแอฟพลิเคชั่นนี้สามารถทําเงินได้มาก มันจึงไม่ใช่บริษัทที่ธรรมดา

“ใช่แล้วค่ะท่าน ” หลิงเสี่ยวหมี่ตอบ เขาอย่างเหมาะสม ” ตอนเช้านี้ ฉันได้ไปตรวจสอบกับท่านคุณผู้หญิง และได้ความว่าท่านหลิวหมิงเฉิงที่ได้ทะเลาะกับท่านนายน้อยเมื่อวานนี้ เขาเป็นลูกชายคนที่สองของซีอีโอหลิวของบริษัทหลิวฉีเหว่ยแห่งตุรกี ร้านหนังสือตุรกีนี้อยู่ภายใต้ชื่อของเขาค่ะ”

เอ๊ะ? หลิวหมิงเฉิงคนนี้เป็นลูกชายคนที่สองของซีอีโอหลิวของบริษัทหลิวฉีเหว่ยแห่งตุรกีอย่างนั้นหรอ? ผู้ชายคนนี้ที่กล้าแกล้งฉันในโรงเรียนชี้ให้เห็นว่า ตระกูลหลิวมีความสัมพันธ์กับตระกูลหงไม่ค่อยดีนัก ตระกูลของเราเป็นคู่แข่งที่สําคัญที่สุดในโลกธุรกิจประเภทที่ไม่เป็นมิตรกัน ถ้าไม่ใช่ด้วยตัวตนของเขา ในฐานะลูกชายคนที่สอง เขาคงไม่กล้าแกล้งฉันแน่

อีกทั้งร้านหนังสือตุรกีแห่งนี้เป็นของเขา กรณีนี้จึงยิ่งน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก ฉันจะลงเล่นกับเขาหน่อยละกัน

ยังไงฉันเองก็ซื้ออะไรมาหลาย ๆ อย่างแล้ว แถมตอนนี้ฉันก็ยังคงถลุงเงินของพ่อแม่ไปเยอะพอสมควร แต่พ่อแม่ของฉันกลับยังรักฉันมากไปอีก พวกเขารักฉันเหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ ฉันคิดว่าคงจะต้องยื่นมือออกไปต่อสู้กับคู่แข่งของพวกเขาสักหน่อยแล้วสิ อย่างน้อยเงินก็จะได้ไม่สูญเปล่า ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองยอดเยี่ยมหรอก แต่ฉันควรที่จะหวังให้คู่ต่อสู้ล้มเหลวสิ

ในขณะที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ในใจ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถพูดได้ตรง ๆ ก็เถอะ แต่เพราะมันจะไม่เข้ากับตัวละครของเขาเลย ดังนั้นหงต้าหลี่จึงได้พูดไปอีกแบบว่า “ยังไงเราก็ไปเล่นกับเขากันดีกว่า ตอนเธอว่าง ๆ ช่วยฉันค้นหารายละเอียดและข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับร้านหนังสือตุรกีนี้ที เพราะหลิวหมิงเฉิงจอมอันธพาลคนนี้ เขากล้าที่จะต่อต้านฉันในโรงเรียน ฉันจะไม่ปล่อยให้เขาทํากับฉันแบบนี้อีก คราวนี้ล่ะ ฉันจะถล่มเงินให้ยับเลย ฮ่าฮ่า! ”

“รับทราบค่ะ ท่านนายน้อย” หลิงเสี่ยวหมี่ตอบกลับ

ตอนนี้รถขับมาถึงที่โรงเรียนแล้ว หงต้าหลี่เลยออกคําสั่งครั้งสุดท้าย ” สําหรับบริษัทไกเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์ เสี่ยวหมี่ เธอจะต้องรับผิดชอบต่อการจ้างคนอื่น ๆ ฉันจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะฉันไม่มีความรู้ในด้านนี้อยู่แล้ว ”
เคียนจีอาคารสํานักงานใหญ่ เมืองเทียนจินชั้น 16

“ซีอีโอหง ” เลขานุการยืนอยู่ในห้องทํางานของหงเหว่ยกู โดยทํารายงานเกี่ยวกับการพัฒนาสี่แยกทิศตะวันตก ” ความคืบหน้าของการจัดการสี่แยกทิศตะวันตกทําได้ค่อนข้างราบรื่นค่ะ เราได้ตั้งถิ่นฐานบนที่ดินสามแห่งแล้ว คือ 60,000, 74,000 และ 105,000 ตารางเมตร ที่ดินทั้งสามนี้อยู่ไม่ไกลจากเย่ไหลเซียง อาคารในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นอาคารที่อยู่อาศัยเก่า ดังนั้นค่าใช้จ่ายก็จะไม่มากเกินไป ราคาพื้นที่ของพวก เขาจะมีราคาประมาน 40 ล้านหยวน 66 ล้านหยวนและ 120 ล้านหยวน ตามลําดับ สถานที่สุดท้ายเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพราะทําเลที่ตั้งนั้นค่อนข้างหนาแน่นและแออัด ”

สถานที่ทั้งสามนี้มีราคามากกว่า 200 ล้านหยวนโดยตรง แต่หงเหว่ยกูไม่กังวลและไม่ลังเลที่จะตัดสินใจซื้อ เขาพูดถึงสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องแทน ” เมื่อวานนี้ ต้าหลี่ทําให้ฉันมีความสุขอยู่พักหนึ่ง สภาพร่างกายของเขาดีขึ้นกว่าเดิมนั่นเป็นสิ่งที่ดีมาก ”

เลขานุการไม่เข้าใจว่าหงเหว่ยกูพยายามพูดถึงอะไร โชคดีที่หงเหว่ยกูกลับไปสนใจต่อที่หัวข้อเดิมหลังจากที่พูดเรื่องลูกชายของเขาจบ ” ดังนั้น ฉันจึงตัดสินใจมอบซองสีแดง 2,000 หยวนให้กับทุกคนในบริษัท เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสุขเพื่อตัวต้าหลี่ ”

หากมีซองสีแดง แน่นอนว่าข้างในซองมันย่อมเป็นเงิน

เลขานุการรีบโค้งคํานับและพูดในทันทีว่า ” ถ้าอย่างนั้นฉันขอขอบพระคุณก่อนเลยค่ะ ขอบคุณซีอีโอหงมากนะคะ”
“เอ๊ะ?” หงเหว่ยกูพ่นควันบุหรี่และยิ้ม และได้พูดว่า “ฉันมาคิด ๆ ดูแล้ว แม้ว่าต้าหลี่จะชอบถลุงเงิน การถลุงเงินนี้มันคงจะช่วยให้ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้นแน่ ๆ นั่นมันจึงเป็นข่าวที่ดีที่สุดในวันนี้ เพราะฉะนั้น ส่งข้อความ: เพิ่มเงินลงทุนเป็น 400 ล้านหยวนและซื้อที่ดินเพิ่มเติมรอบเย่ไหลเซียง หากไม่มีที่ดินมากพอ ให้ซื้อที่ดินที่อยู่อาศัยที่เปิดขายแทน เพื่อให้ต้าหลี่ได้เลี้ยงสุนัขเพื่อความสนุกของเขาเองด้วย ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่หงเหว่ยกูพูด เลขานุการก็รายงานเรื่องของเขาทันที ” ซีอีโอหง คนของเราเตรียมพร้อมแล้วค่ะ ”

“อืม..แค่นั้น…แค่นั้น… อะไรนะ? มีส่วนไหนที่มีปัญหาเหรอ? “หงเหว่ยกูได้สอบถาม

“อ่อ ใช่ค่ะ ” เลขานุการมอบเอกสาร ให้แก่หงเหว่ยกู ปัจจุบันที่ดินเพียงอย่างเดียว สําหรับการซื้อ คือ สามสถานที่ ส่วนที่เหลือได้รับการพัฒนาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคืนวานนี้เราเริ่มซื้อที่ดินที่ประกาศขายเหล่านั้น แต่…ไม่ได้มีจํานวนมาก เราซื้อเพียงแค่ 30 ที่เท่านั้น และเราใช้เงินไปทั้งหมด 22 ล้านหยวนค่ะ”

” โอ้? น้อยมาก? “หงเหว่ยกูเงียบไปครู่หนึ่ง ” แล้วอาคารเฉินหยและเนินเขาที่มีทะเลสาบเฟิงหยวนล่ะ? การเจรจาเป็นอย่างไรบ้าง? ”

เลขานุการรายงานว่า ” การเจรจาทั้งสองสถานที่นั้นราบรื่นมาก ราคาของอาคารเฉินหุยคือ 32 ล้านหยวน เราคิดว่าเราจะสามารถปรับราคาได้ต่ํากว่านี้ ส่วนทะเลสาบเฟิงหยวน สํานักงานทรัพยากรแห่งชาติไม่ได้ขอราคาที่สูงมากนัก เพียงประมาน 55 ล้านหยวน แต่ขั้นตอนนั้นค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้นเรายังต้องใช้เวลาอีกสักพัก ”

ดูเหมือนว่าส่วนที่ยากลําบากในปัจจุบัน คือย่านที่อยู่อาศัยรอบเย่ไหลเซียง หงเหว่ยกูเคาะโต๊ะเบา ๆ “ลองจัดการที่จะซื้อที่ดินผืนนั้นให้ดีที่สุดด้วย จากนั้นเราจะสามารถเป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมดรอบเย่ไหลเซียง สําหรับนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย ขอให้แผนกบริการธุรกิจคิดอะไรบางอย่างเป้าหมาย ของฉันคือการเป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมดรอบเย่ไหลเซียง เพื่อให้ง่ายต่อการวางแผนและพัฒนาในครั้งต่อไป ”

” ได้ค่ะ ซีอีโอหง ” หลังจากได้รับคํา สั่งซื้อล่าสุด เลขานุการก็หันกลับและ ออกจากห้องปิดประตูเบา ๆ ขณะที่เขาจัดการเอกสารต่อ

หลังจากเลขานุการออกไปแล้ว หงเหว่ยกูก็ดูแผนที่อย่างละเอียด ที่ตั้งของเย่ไหลเซียงอยู่ทางทิศตะวันตกและสามารถพิจารณาได้ว่าอยู่ที่วงแหวนรอบนอกของสี่แยก ถ้าไม่ใช่เพราะต้าหลี่จับจ้องที่เนินเขาใกล้กับทะเลสาบเฟิงหยวน เขาก็คงจะไม่ได้สังเกตบริเวณนี้อย่างถี่ถ้วน

ถ้าที่ดินรอบ ๆ ที่นี่ถูกล่ามโซ่ไว้ด้วยกัน แม้ว่ามันจะเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของสี่แยก แต่ถ้ามันถูกพัฒนาอย่างเหมาะสม มีโอกาส โอกาสที่ดีมากเลยทีเดียว เราสามารถสร้างถนนคนเดินและเปิดถนนที่เชื่อมต่อกับสวนสาธารณะ จากนั้นจะมีโรงแรม ร้านอาหารและสถานที่บันเทิงทั้งหมดในที่เดียว
ดูเหมือนว่าตอนที่ยากที่สุดในตอนนี้จะเป็นที่อยู่อาศัยที่ถูกที่สุดแทน หากผู้คนเหล่านี้ไม่ให้ความร่วมมือ มันจะเป็นงานที่ยากมาก แต่ยังไงก็แล้วแต่เราไม่สามารถบังคับพวกเขาให้ย้ายออกไปได้ เรามารอข่าวกันต่อไปเถอะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรีบนัก หาก 400 ล้าน หยวนไม่เพียงพอ ก็ใช้ 500 ล้านหยวน หาก 500 ล้านหยวนไม่เพียงพอ ก็ใช้ 600 ล้านหยวน ตราบใดที่ต้าหลี่ชอบ เขาก็จะปล่อยให้ลูกของเขาได้เล่นให้มาก ๆ สายตาของเด็กคนนี้ยังไงก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรอยู่แล้ว ฮิฮิ

” โอ้ ใช่แล้ว หลังจากซื้อที่ดินทั้งหม ดนี้แล้วฉันจะสร้างบ้านพักสักสองสามหลังบนเนินเขาที่ทะเลสาบเฟิงหยวน จากนั้นเราก็จะได้ไปที่นั่นเพื่อพักผ่อนและผ่อนคลาย แล้วเรายังสามารถไปพายเรือเล่นได้ด้วย มันจะต้องเป็นอะไรที่สนุกมาก ๆ แน่ ”

ในเวลาเดียวกันในย่านที่อยู่อาศัยรอบเยไหลเซียง

“ตาได้ยินไหม? ฉันได้ยินคนพูดกันว่า มีท่านนายน้อยจากตระกูลที่ร่ํารวยได้ซื้อที่ดินในบริเวณนี้ แค่เพียงเพื่อใช้เลี้ยงสุนัข มีไม่กี่ตระกูลหรอกที่ฉันรู้ แถมราคาที่ดินที่พวกเขาชื่อไปยังสูงอีกด้วย ” หญิงชรากล่าวกับสามีของเธอ ในขณะที่เธอถักเสื้อกันหนาว

ชายชรานอนบนเก้าอี้ไม้ไผ่เขย่าไปมา พัดลมก็ได้ส่ายไปมา และเขาได้นั่งเอนกายหลังดื่มชา ” แล้วพวกเขาซื้อขายมันยังไง? มันเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเราอย่างนั้นหรือ?”

“ฉันคิดว่า ในตอนนี้หลานของเราก็โต แล้วทําไมเราไม่ขายบ้านของเราด้วยเลยล่ะ? จากนั้นเราก็ค่อยไปซื้อบ้านที่อื่นก็ได้ มันไม่เสียเปล่านะ กับการที่เราอยู่บ้านหลังใหญ่กันแค่สองคน ตาคิดเหมือนกันไหมล่ะ? ” หญิงชราวางเสื้อกันหนาวแล้วพูดว่า ” ดูรอบ ๆ ตัวเราสิ บ้าน 90 ตารางเมตรนี้ว่างเปล่าเกินไป มันเหลือแค่เราสองคนเองนะ”

” อัยยา ยายจ๋า กําลังคิดจะทําอะไร จะเข้าไปยุ่งกับเจ้าหนูนายน้อยคนนั้นหรอ? ไม่ ฉันจะไม่ขายบ้าน หลังจากที่เราขาย เราก็จะต้องย้ายไปที่อื่นอีก มันลําบากเกินไปนะ ” ชายชราพึมพําและหันหน้าไปทางอื่น

“จริงด้วย งั้นก็อย่าขายมันกันดีกว่า ไว้ดูอะไรหลาย ๆ อย่างก่อน จากนั้นค่อยตัดสินใจกันใหม่เนาะ “

ระบบใช้จ่าย

ระบบใช้จ่าย

Score 10
Status: Completed
เรื่อง ระบบใช้จ่าย


โดย นำเรื่อง ระบบใช้จ่าย มาเป็นบางส่วน

บทนำ

เขาได้ตายไปเพราะช่วยเหลือคนจากการถูกรถชน จากนั้นก็ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมกับระบบแปลกๆและยังโลกใบเดิมที่ผิดไปจากเดิมอีก

เรื่องย่อ

” หงต้าหลี่ เพศชายอายุ 22 ปี ไร้ครอบครัว ได้เสียชีวิตอย่างโชคร้ายโดยที่ได้ช่วยเหลือเด็กสองคนที่กำลังจะถูกรถชน หลังจากหารือหลายครั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดสินใจให้เกียรติเขาในฐานะวีรบุรุษและนักศึกษามหาวิทยาลัยดีเด่นของจังหวัด “

– หนังสือพิมพ์รายวันประชาชน

” ไม่!ไม่!ไม่! ไม่มีทาง หนูจะไม่หมั้นกับตระกูลหงเด็ดขาด! ” ถังมู่ซินพูด เธอซ่อนศรีษะไว้ใต้หมอนและกะดิกขาไปมาอย่างหงุดหงิด ” หงต้าหลี่เป็นพวกเศษเดนที่คนรู้จักกันทั่วเมือง เขาเป็นพวกสุรุ่ยสุร่ายและเป็นที่ขายหน้าของตระกูลหง เขาทั้งอ่อนแอและสมองทึบอีกด้วย ไม่มีทางที่หนูจะเอาคนแบบนี้มาเป็นคู่หมั้นหรอกนะ! “

ถังมู่ซิน เป็นลูกคนเดียวของ ถังรุ่ยชี ประธานบริษัทถังเวชกรรม เธอเป็นคนที่มีความสามารถทั้งการอ่านและเขียน ทั้งนี้เธอยังเป็นคนที่เที่ยงธรรมและเป็นคนที่สวยงามอีก ด้วยรูปลักษณ์ของเธอ เปรียบได้กับดอกไม้ที่สวยที่สุดราวกับว่าทุกอย่างนั้นดีไปหมดเมื่ออยู่กับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นสุดยอดแม่ครัว ทำให้เธอเป็นภรรยาในแบบอุดมคติเลยทีเดียวเชียว

การที่ทั้งทำอาหารได้อร่อยและหน้าตาเป็นเลิศเช่นนี้ เธอจะต้องเป็นผู้หญิงในฝันของผู้ชายหลายคนในโรงเรียน

วันนี้ เธอได้ยินเสียงจากพ่อว่าจะพาเธอไปหาตระกูลหงต้าหลี่ที่แสนน่าอับอาย เพื่อที่จะได้หมั้นตัวเธอกับลูกชายของตระกูลหง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถยอมรับได้เลยสักนิดเดียว ” ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ของเขาตามใจและพวกเขายังมีลูกแค่คนเดียว คนไร้ค่าอย่างเขาคงจะถูกไล่ออกจากตระกูลหงไปนานแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ เขาจะยังสามารถใช่เงินสุรุ่ยสุร่ายได้แบบนี้อีกงั้นเหรอ? “

เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว ถังรุ่ยชีซึ่งนั่งอยู่หน้าเตียงก็ได้ยิ้มแย้ม ” ซินซิน1 ไม่ใช่ว่าพ่อมีทางเลือก การแต่งงานระหว่างหนูกับหงต้าหลี่ถูกตัดสินโดยคุณปู่เมื่อหลายปีก่อน แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กน้อยทึ่ม ๆ คนหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ใช่มั้ย จากสิ่งที่พ่อรู้จริง ๆ แล้ว หงต้าหลี่เป็นเด็กที่หน้าตาดีเลยนะ … “

ถังรุ่ยชี สวมเสื้อกล้ามสีเขียวที่สะอาดสะอ้านและเน็คไทที่มีปมเรียบง่ายตรงคอของเขา เขามีหนวดเคราอยู่เหนือริมฝีปาก เขาถือกล่องยาสูบไว้ในมือและผมสีดำสั้นของเขาก็ได้ถูกหวีอย่างเรียบร้อยไปทางด้านหลังของศีรษะอย่างดูดี ความแปลกเพียงอย่างเดียวก็คือ ตอนนี้ดวงตาของเขาเปล่งประกายพร้อมกับเต็มไปด้วยความรู้สึกหมดหนทางและไม่เต็มใจ

พูดตามตรง เพราะเขาไม่มีทางเลือกหรอกนะ เขาจะยอมมอบลูกสาวที่มีค่าของตัวเองให้กับคนไร้ค่าอย่างหงต้าหลี่งั้นหรอ? สาเหตุที่เขาเรียกว่าคนไร้ค่างั้นเหรอ ก็เพราะหงต้าหลี่อาจเรียกได้ว่าเป็นคนประหลาดที่สุดบนโลกใบนี้ สิ่งเดียวที่เขาชอบทำก็คือ การถลุงเงินที่มีอยู่ของตนเอง

คำพูดประจำตัวของเขาคือ ” ฉันจะต้องฟุ่มเฟือยสิ ถ้าฉันไม่ใช้เงิน เงินที่พ่อแม่ของฉันที่หามาก็คงสูญเปล่าใช่ไหมละ? “

คำพูดของเขาได้สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนในเมืองเทียนจิง ผู้ปกครองจำนวนมากต่างก็ได้สอนลูกของพวกเขาโดยพูดว่า ” ถ้าลูกกล้าเรียนรู้เรื่องการใช้เงินจากหงต้าหลี่ ไปกินข้าววัดเลยไป! “

ดังนั้นแล้ว จึงเป็นที่เข้าใจได้เลยว่าทำไมถังมู่ซินถึงได้อารมณ์เสีย

Options

not work with dark mode
Reset