ระบบใช้จ่าย 36 : คืนที่น่าจดจำ

ตอนที่ 36 : คืนที่น่าจดจำ

ระบบใช้จ่าย ระบบใช้จ่ายตอนที่ 36

 

บทที่ 36: คืนที่น่าจดจำ

 

“ เอ่อ..” เมื่อผู้จัดการสาวได้ยินหงต้าหลี่พูดว่าขอให้น้องสาวที่เป็นศิลปินมาร้องเพลงให้ฟังที่ไนท์คลับ ผู้จัดการสาวก็รู้สึกกังวลและทำตัวไม่ถูก “ ท่านนายน้อยต้าหลี่ มีคนอยู่ที่นี้จำนวนมาก ฉันกลัวว่าเธอจะตกใจ …”

 

“ ก็ดีแล้วนิ เมื่อมีผู้คนมากมายที่นี้ ก็เหมือนได้จัดคอนเสิร์ตให้คนที่นี้ได้ชม ” หงต้าหลี่ยิ้มขณะที่เขาพูด “ ผู้คนจำนวนมากต่างก็จะจับจ้องไปที่เธอ ถ้านักร้องมีความสามารถก็ถือว่า เป็นนักร้องที่ดีไม่อย่างนั้นมันก็จะไร้ประโยชน์ เธอเห็นด้วยไหมล่ะ? “

 

หงต้าหลี่เป็นความหวังสุดท้ายของเธอ หากปราศจากการสนับสนุนของเขา น้องสาวของเธอ ที่ชื่อลี่เนียนเหว่ย จะมีทางเลือกแค่สองทางเท่านั้น ทางเลือกที่หนึ่ง คือ การที่ต้องอยู่ใน การปกครองของหัวหน้าทางเลือกที่สอง คือ ต้องถูกกัก ซึ่งหมายถึงการไม่ได้ปล่อยซิงเกิลหรือป ล่อยเพลงตลอดระยะเวลาของสัญญาที่เธอเซ็นและเธอจะถูกทุกคนลืมไป ซึ่งตอนนี้เธอพึ่งจะอยู่ใน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพของเธอเลยนะ

 

เมื่อคำนึงถึงกฎสองข้อนี้ หงต้าหลี่ก็ถือว่าไม่ได้ขออะไรมากนัก และเขาก็ไม่ได้พูดอะไรผิดด้วย ถ้าเธอไม่มีความกล้าพอที่จะร้องเพลงต่อหน้าผู้คนที่นี้ มันจะไร้ประโยชน์มากและนั่นก็แสดงให้เห็นว่าเธอก็จะไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย แต่ถ้าหากเกิดปัญหาอะไร พวกเธอก็สามารถหนี้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หงต้าหลี่คนนี้ ทุกคนก็รู้จักเขาในเรื่องการถลุงเงินเท่านั้น ไม่เคยมีข่าวลือว่าเขาเป็นเพลย์บอยหรือข่าวซุบซิบเกี่ยวกับผู้หญิง เธอจึงมั่นใจว่าน้องสาวของเธอจะปลอดภัย ผู้จัดการสาวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและพูดว่า “ ฉันจะเรียกมิซซี่มาเดี๋ยวนี้! ”

 

ขณะที่เธอโทรศัพท์อยู่ที่มุมห้อง หงต้าหลี่ก็ถามหลิงเสี่ยวหยี่ว่า “ เสี่ยวหยี่ เจ้าของหัวเหว่ย เอนเตอร์เทนเมนท์ ดูแล้วเขาค่อนข้างบ้าอำนาจนะ บริษัทของพวกเขาทำอะไรมาบ้าง? “

 

* พวกเขาก็โอเคดีนะคะ * หลิงเสี่ยวหยกระซิบ ” ภาพยนตร์ยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก สภาพแวดล้อมก็ไม่ค่อยดีนัก แต่บริษัทของเขาผลิตภาพยนตร์ทำเงินได้สองเรื่อง ฉันได้ยินมาว่ามียอดขายทั่วประมาณ 60 ล้านใบ ซึ่งทำให้พวกเขาทำกำไรได้ค่อนข้างมาก ตอนนี้พวกเขาอยู่จุดสูงสุดของวงการบันเทิง ในเวลานี้เราจึงไม่ควรที่จะเข้ายึดบริษัทของพวกเขาค่ะ 

 

ขายตั๋วได้ 60 ล้านใบ สำหรับการทำภาพยนตร์แค่สองเรื่อง? มันน้อยไปหรือเปล่า?

 

หงต้าหลี่เกิดความสงสัย ที่จริงแล้วการขายตั๋วได้ 60 ล้านใบ มันเป็นเงินมากกว่า 300 ล้านหยวนหากแปลงเป็นเงินหยวนจริง ๆ อะนะ หลังจากภาพยนตร์ได้หักค่าใช้จ่ายในการผลิตและส่วนแบ่งของโรงภาพยนตร์แล้ว ผู้ผลิตและทีมงานจะได้รับส่วนแบ่งเล็กน้อยสำหรับการสร้างภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนี้ ซึ่งการผลิตภาพยนตร์ยังเป็นเรื่องเล็ก ๆ ของธุรกิจบนโลกนี้ ถึงจะได้กำไรน้อยแต่มันก็ดีกว่าที่มันจะขาดทุน แล้วทำไมทุกคนกลับบอกว่าบริษัทของไอ้พวกนี้อยู่บน “จุดสูงสุด” กัน !

 

ดูเหมือนว่าในโลกนี้การสร้างภาพยนตร์ต้องการใช้เงินจำนวนมาก ฉันชอบชะมัดเลยแฮะ!

 

ในไม่ช้าผู้จัดการสาว เธอก็เดินไปมา เธอดูร่าเริงขึ้นและพูดว่า ” ท่านนายน้อยต้าหลี่ เธอกำลังจะมาที่นี่ในไม่ช้าค่ะ”

 

“ อืม โอเค “ หงต้าหลี่ยกเท้าขึ้นบนโต๊ะข้าง ๆ มีคนนำเครื่องดื่มมาให้เขา เขารับแก้วมาและดื่มมัน ก่อนที่จะพูดว่า ” เธอมีเพลงใหม่ไหม? เพลงเก่าก็ดีนะ ร้องทั้งสองแนวเลยก็ดี อย่าร้องเพลงที่ทำให้คนอื่นหลับล่ะ นี่คือไนท์คลับ เธอไม่ควรร้องเพลงจนทำให้คนหลับ”

 

” ได้ ได้ ได้ค่ะท่าน ” ผู้จัดการสาวยินดีและทำตามคำสั่งของหงต้าหลี่ “ บริษัทยังไม่ได้เขียนเพลงให้กับเธอ เนื่องจากเธอโดนข่มขู่ให้ทำตามกฎ แต่เธอได้แต่งเพลงสองสามเพลงด้วยตัวของเธอเองและพวกเขาก็บอกว่าเพลงที่เธอแต่งไม่เลวเลย ฉันจะให้เธอเลือกสองเพลงทั้งสองแนวค่ะ ฉันสัญญาว่าจะทำให้ที่นี่มีสีสันมากขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ “

 

“ อัยยา ไม่เลวเลย เธอเขียนเพลงของเธอเองหรอ? นั่นมันเยี่ยมมาก” หงต้าหลี่หัวเราะ ” ถ้าเพลงของเธอโดนใจฉัน ฉันจะพาเธอมาอยู่ภายใต้บริษัทใหม่ของฉัน ฉันจะจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับการผิดสัญญากับบริษัทหัวเหว่ยให้ด้วย เธอคิดว่าดีไหม? “

 

“ ดี ดีค่ะท่าน “ ผู้จัดการสาวมีความสุขมาก เมื่อได้ยินหงต้าหลี่พูดแบบนั้น

 

อาเสี่ยคนนี้คือใคร? เขาคือผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองเทียนจิง ถ้าพูดง่าย ๆ คือเขาไม่มีอะไรเลย นอกจากการใช้เงินและมีสิ่งหนึ่งที่ดีเกี่ยวกับนายน้อยคนนี้ คือ ไม่เพียงแต่เขารวย แต่เขายังถลุงเงินไม่เหมือนกับการทำธุรกิจของใครอื่นเลย

 

ทุกอย่างนั้นหงต้าหลี่เป็นคนคุมเพียงคนเดียวเท่านั้น บนเส้นทางทุกสายต่างถูกกองทับทมด้วยเงินของเขา แม้ว่าลูกทีมของเขาจะประกอบไปด้วยมือสมัครเล่นก็ตามเถอะ แต่มันก็คงไม่เลวร้ายมากนัก และเมื่อ เธอ หรือ มิซซี่ มีชื่อเสียง เธอก็จะสามารถช่วยบริษัทสรรหาผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้ นั่นดีกว่าการทำงานกับบริษัทหัวเหว่ยในสภาวะที่ต้องอยู่ภายใต้กฎอย่างแน่นอน ในฐานะที่ตระกูลหงเป็นผู้สนับสนุนแล้ว ใครจะกล้าบังคับให้มิซซี่ทำในสิ่งที่เธอไม่ชอบกัน

 

เพื่อนร่วมห้องมองดูและยิ้มแย้ม เมื่อเห็นหงต้าหลี่ “ ฉันรู้ว่าพี่ใหญ่ต้าหลีน่าจะอยู่ที่นี่ พี่ใหญ่ต้าหลี่ ตอนนี้กำลังทำอะไรแปลก ๆ อยู่นะ? จะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์พวกเรากันนะ? ทุกคนแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นแล้ว! “

 

“ อ้า พร้อมแล้ว เสี่ยวหยี่ หงต้าหลี่สั่งผู้ติดตามที่น่าเชื่อถือที่สุด ให้ผู้ชายทั้งหลายจัดการกับสุนัขน่ารัก ๆ พวกนั้นได้เลย พวกเขาสามารถนำสุนัขกลับบ้านได้เท่าที่ต้องการ หาคนที่จะดูแลสุนัขที่เหลือ อืม ไม่ใช่ดูแลฟรีแน่นอน ฉันจะจ่ายให้ 1,000 หยวนต่อเดือนรวมที่พักด้วย “

 

ดูแลสุนัขเดือนละ 1,000 หยวน? นั่นเทียบเท่ากับที่พักและเงินเดือนละ 5,000 หยวน บนโลกนี้เชียวนะ นั่นมันเป็นงานในฝันของใครหลาย ๆ คนและคงจะมีแค่ในเมืองหลวงนี้เท่านั้น ซึ่งหลิงเสี่ยวหยี่รีบจัดการอย่างรวดเร็วในทันที

 

ค่ำคืนนี้เหล่าผู้ที่มาเที่ยวในไนท์คลับต่างสนุกสนานและไม่มีทางลืมคืนนี้ไปได้แน่

 

ในห้องโถงมันครึกครื้นมาก ไม่นานนักก็มีผู้ชายหลายคนผลักกรงบรรทุกขนาดและกรงพวกนั้นเต็มไปด้วยสุนัขหลายร้อยตัว มีลูกสุนัข สุนัขตัวใหญ่และสง่างาม และสุนัขตัวเล็กขนฟู ในช่วงเวลาหนึ่งคืนในไนท์คลับ ตอนนี้ในไนท์คลับก็เต็มไปด้วยสุนัข พวกมันเห่าหอนและมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นจากคนที่กลัวสุนัข และแน่นอนว่ามันโคตรจะวุ่นวายมาก

 

สุนัขที่นำเข้ามานั้นเป็นสุนัขหลายสายพันธุ์และเป็นสุนัขพันธุ์แท้ทั้งหมด โดยพวกมันถูกคัดเลือกโดยหลิงเสี่ยวหยี่ แต่ละตัวมีราคาอย่างน้อย 200 – 300 ดอลลาร์ เพื่อที่จะให้เพื่อนร่วมชั้นได้รับสุนัขพวกนี้ และสิทธิพิเศษนี้ก็มีแค่สำหรับเพื่อนร่วมชั้นของหงต้าหลี่เท่านั้น ลูกค้ารายอื่นก็ไม่มีทางเลยที่จะสามารถเพลิดเพลินกับเหล่าสุนัขนี้ได้

 

หากใครชอบสุนัข พวกเขาก็จะรักสุนัขเหล่านี้แบบจริงๆ ซึ่งแม้แต่คนที่ไม่ชอบสุนัขจริงจังนักก็ยังไม่เกลียดเหล่าสุนัขที่หงต้าหลี่นำมาด้วยเลย

 

อย่างที่คาดไว้ สาว ๆ จากชั้นเรียนเริ่มร้องออกมาเมื่อเห็นสุนัขขนปุย ๆ เล็ก ๆ เหล่านี้ที่ ห้องโถง เสียงสะท้อนของพวกเธอดังมาก บางคนร้องเสียงสูงมากราวกับนกหวีด ซึ่งสามารถเทียบได้เลยกับศิลปินวิตัสที่มีเพียงแค่คนเดียวในโลกใบนี้

 

พวกเขาต่างก็กำลังแย่งชิงเพื่อที่จะยืนอยู่ตรงหน้ากรงและขอจับลูกสุนัขที่พวกเขากำลังมองอยู่

 

” ฉันต้องการตัวนี้ สุนัขเชาเชาตัวนี้ดูร่าเริงมากเชียว! “ ” สุนัขชามอยด์ตัวนี้น่ารักเกินไปแล้ว! ฮิฮิ ฉันต้องการตัวนี้ ”

 

“ อะ อาาา มานี่สิ เอาล่ะ! ฉันขอสัมผัสแกหน่อยเถอะ! “

 

เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่เดินไปหาลูกสุนัข ลูกสุนัขพวกนั้นน่ารักมากเลยที่สุด ส่วนเด็กผู้ชายเดินไปหาสุนัขตัวใหญ่ บางคนต้องการสุนัขพันธุ์ทิเบตัน ซึ่งพวกมันก็ไม่ขยับไปไหนเลย เพราะสุนัขพันธุ์ทิเบตันมันอยากจะนั่งอยู่เฉย ๆ หงต้าหลี่ก็รู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่พวกมันบางตัวไม่ต้องการจะไป

 

หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที เพื่อนร่วมชั้นทั้งหมด 41 คน ทุกคนก็มีสุนัขคนละตัว บางคนอุ้มสุนัขของพวกเขาด้วยสายจูง บางคนอุ้มสุนัขของพวกเขาเฉย ๆ เพื่อนร่วมชั้นบางคนก็หัวเราะกันอย่างหนักที่ได้เห็นลูกสุนัขวนเวียนอยู่บนโต๊ะ

 

ดูซินเจิ้นโยนลูกสุนัขพันธุ์ทิเบตันตัวหนึ่งที่ถืออยู่ในอ้อมแขนของเธออย่างมีความสุข ๆ วันนี้ฉันรู้สึกว่าปลายนิ้วของฉันเนี่ยชี้ได้ถูกจริง ๆ ฮ่าฮ่า สุนัขทิเบตันตัวนี้เหมาะกับฉันมากเลย! ”

 

“ พี่ใหญ่ต้าหลี่ยอดเยี่ยมไปเลย! ฉันอยากเลี้ยงสุนัขมานานแล้ว แต่ครอบครัวของฉันคัดค้านมาตลอด ” หลิงหยี่เหม่ยอ้างอย่างมีความสุข “ ถ้าฉันบอกพ่อแม่ของฉันว่าได้สุนัขเชาเชาจากพี่ใหญ่ต้าหลี่ พ่อแม่จะไม่คัดค้านอย่างแน่นอน ฮ่าฮ่า! ”

 

จูเสี่ยวหลิงมองดูสุนัขฮัสกี้ในอ้อมแขนของเธอด้วยความรัก สุนัขฮัสกี้ตัวนี้ร่าเริงมาก” เธอยิ้มและได้กล่าวว่า “ เจ้านี้มันไม่เลวเลย เมื่อเทียบกับหมีแพนด้าของพี่สาวมู่ชินแล้วอะนะ “

 

ถังมู่ชินสนุกมากในคืนนี้ เมื่อหงต้าหลี่และหลิงเสี่ยวหยออกไปพูดคุยเรื่องบางอย่าง ในฐานะที่เป็นคู่หมั้นของหงต้าหลี่ เธอก็จะคอยช่วยดูแลเพื่อนร่วมชั้นของหงต้าหลี่” ขนของเสี่ยวเสี่ยวไบย้อมสี ฉันก็ไม่แน่ใจว่าต้าหลี่กำลังคิดอะไรอยู่กับการย้อมขนของเสี่ยวเสี่ยวไบ เวลาคนมองมาที่มันฉันล่ะอายมากเลย “

 

สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ หลังจากคืนนี้ราคาสุนัขเชาเชาสีขาวจะพุ่งทะยานอย่างยิ่งยวด ราคาของสุนัขพันธุ์เชาเชาจะเริ่มต้นที่ 5,000 หยวนขึ้น อย่างแน่นอน จากนั้นมันจะกลายเป็นเทรนด์ที่จะต้องซื้อสุนัขเชาเชาขนสีขาวและต้องย้อมขนเพื่อให้ดูเหมือนหมีแพนด้า อะไรกันฟะเนี่ย!

ระบบใช้จ่าย

ระบบใช้จ่าย

Score 10
Status: Completed
เรื่อง ระบบใช้จ่าย


โดย นำเรื่อง ระบบใช้จ่าย มาเป็นบางส่วน

บทนำ

เขาได้ตายไปเพราะช่วยเหลือคนจากการถูกรถชน จากนั้นก็ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมกับระบบแปลกๆและยังโลกใบเดิมที่ผิดไปจากเดิมอีก

เรื่องย่อ

” หงต้าหลี่ เพศชายอายุ 22 ปี ไร้ครอบครัว ได้เสียชีวิตอย่างโชคร้ายโดยที่ได้ช่วยเหลือเด็กสองคนที่กำลังจะถูกรถชน หลังจากหารือหลายครั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดสินใจให้เกียรติเขาในฐานะวีรบุรุษและนักศึกษามหาวิทยาลัยดีเด่นของจังหวัด “

– หนังสือพิมพ์รายวันประชาชน

” ไม่!ไม่!ไม่! ไม่มีทาง หนูจะไม่หมั้นกับตระกูลหงเด็ดขาด! ” ถังมู่ซินพูด เธอซ่อนศรีษะไว้ใต้หมอนและกะดิกขาไปมาอย่างหงุดหงิด ” หงต้าหลี่เป็นพวกเศษเดนที่คนรู้จักกันทั่วเมือง เขาเป็นพวกสุรุ่ยสุร่ายและเป็นที่ขายหน้าของตระกูลหง เขาทั้งอ่อนแอและสมองทึบอีกด้วย ไม่มีทางที่หนูจะเอาคนแบบนี้มาเป็นคู่หมั้นหรอกนะ! “

ถังมู่ซิน เป็นลูกคนเดียวของ ถังรุ่ยชี ประธานบริษัทถังเวชกรรม เธอเป็นคนที่มีความสามารถทั้งการอ่านและเขียน ทั้งนี้เธอยังเป็นคนที่เที่ยงธรรมและเป็นคนที่สวยงามอีก ด้วยรูปลักษณ์ของเธอ เปรียบได้กับดอกไม้ที่สวยที่สุดราวกับว่าทุกอย่างนั้นดีไปหมดเมื่ออยู่กับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นสุดยอดแม่ครัว ทำให้เธอเป็นภรรยาในแบบอุดมคติเลยทีเดียวเชียว

การที่ทั้งทำอาหารได้อร่อยและหน้าตาเป็นเลิศเช่นนี้ เธอจะต้องเป็นผู้หญิงในฝันของผู้ชายหลายคนในโรงเรียน

วันนี้ เธอได้ยินเสียงจากพ่อว่าจะพาเธอไปหาตระกูลหงต้าหลี่ที่แสนน่าอับอาย เพื่อที่จะได้หมั้นตัวเธอกับลูกชายของตระกูลหง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถยอมรับได้เลยสักนิดเดียว ” ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ของเขาตามใจและพวกเขายังมีลูกแค่คนเดียว คนไร้ค่าอย่างเขาคงจะถูกไล่ออกจากตระกูลหงไปนานแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ เขาจะยังสามารถใช่เงินสุรุ่ยสุร่ายได้แบบนี้อีกงั้นเหรอ? “

เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว ถังรุ่ยชีซึ่งนั่งอยู่หน้าเตียงก็ได้ยิ้มแย้ม ” ซินซิน1 ไม่ใช่ว่าพ่อมีทางเลือก การแต่งงานระหว่างหนูกับหงต้าหลี่ถูกตัดสินโดยคุณปู่เมื่อหลายปีก่อน แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กน้อยทึ่ม ๆ คนหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ใช่มั้ย จากสิ่งที่พ่อรู้จริง ๆ แล้ว หงต้าหลี่เป็นเด็กที่หน้าตาดีเลยนะ … “

ถังรุ่ยชี สวมเสื้อกล้ามสีเขียวที่สะอาดสะอ้านและเน็คไทที่มีปมเรียบง่ายตรงคอของเขา เขามีหนวดเคราอยู่เหนือริมฝีปาก เขาถือกล่องยาสูบไว้ในมือและผมสีดำสั้นของเขาก็ได้ถูกหวีอย่างเรียบร้อยไปทางด้านหลังของศีรษะอย่างดูดี ความแปลกเพียงอย่างเดียวก็คือ ตอนนี้ดวงตาของเขาเปล่งประกายพร้อมกับเต็มไปด้วยความรู้สึกหมดหนทางและไม่เต็มใจ

พูดตามตรง เพราะเขาไม่มีทางเลือกหรอกนะ เขาจะยอมมอบลูกสาวที่มีค่าของตัวเองให้กับคนไร้ค่าอย่างหงต้าหลี่งั้นหรอ? สาเหตุที่เขาเรียกว่าคนไร้ค่างั้นเหรอ ก็เพราะหงต้าหลี่อาจเรียกได้ว่าเป็นคนประหลาดที่สุดบนโลกใบนี้ สิ่งเดียวที่เขาชอบทำก็คือ การถลุงเงินที่มีอยู่ของตนเอง

คำพูดประจำตัวของเขาคือ ” ฉันจะต้องฟุ่มเฟือยสิ ถ้าฉันไม่ใช้เงิน เงินที่พ่อแม่ของฉันที่หามาก็คงสูญเปล่าใช่ไหมละ? “

คำพูดของเขาได้สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนในเมืองเทียนจิง ผู้ปกครองจำนวนมากต่างก็ได้สอนลูกของพวกเขาโดยพูดว่า ” ถ้าลูกกล้าเรียนรู้เรื่องการใช้เงินจากหงต้าหลี่ ไปกินข้าววัดเลยไป! “

ดังนั้นแล้ว จึงเป็นที่เข้าใจได้เลยว่าทำไมถังมู่ซินถึงได้อารมณ์เสีย

Options

not work with dark mode
Reset