ระบบใช้จ่าย 35 : การได้เล่นในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็น่าสนใจดี

ตอนที่ 35 : การได้เล่นในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็น่าสนใจดี

ระบบใช้จ่าย ระบบใช้จ่ายตอนที่ 35

บทที่ 35: การได้เล่นในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็น่าสนใจดี

 

“การเป็นคนมีชื่อเสียงนี้มันก็ช่างจะยุ่งยากจริง ๆเนาะ

เมื่อได้ยินหงต้าหลี่พูดอย่างนี้ ผู้จัดการหญิงสาวก็แทบจะสําลักออกมาอยู่พักหนึ่ง แต่หงต้าหลี่นั้นเป็นความหวังสุดท้ายของเธอ เธอไม่สามารถแสดงความไม่พอใจได้ เธอจึงได้แต่รีบอธิบายว่า “ ท่านนายน้อยต้าหลี่ท่านเข้าใจผิดแล้วค่ะมันเป็นเพราะน้องสาวของฉันไม่ต้องการปฏิบัติตามกฏก็แค่นั้นแหละค่ะ ฉันจึงได้มาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากท่าน หากเธอเต็มใจที่จะปฏิบัติตามกฏนั้น ฉันคงไม่ต้องมาพบกับท่านหรอกจริงไหมคะ? ”

สําหรับศิลปินที่ยังไม่ค่อยดังแล้ว มีคนที่ไม่กล้าปฏิบัติตามกฏอยู่งั้นเหรอ? ทุกวันนี้ยังมีศิลปินที่หายากแบบนั้นอยู่ด้วย?

 

หงต้าหลี่เริ่มสนใจขึ้นมาเล็กน้อย เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “ อืม. ศิลปินแบบนี้ค่อนข้างจะหายากเลยทีเดียว เอาล่ะ บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น ”

 

“ โอเค ได้ค่ะ! “ เมื่อได้ยินหงต้าหลี่พูดเช่นนั้น ดูเหมือนว่าเธอจะผ่อนคลายลงเล็กน้อย ผู้จัดการหญิงสาวก็โล่งใจ เธอเริ่มอธิบายสถานการณ์ “ น้องสาวของฉัน ชื่อ ลี่เนียนเหว่ย เธอมีเสียงที่ไพเราะตั้งแต่เธอยังเด็กเธอร้องเพลงได้ดีมากและเธอก็เป็นคนที่สวยมากดังนั้นเธอจึงเป็นที่นิยมในหมู่เพื่อนนักเรียนของเธอเสมอ เธอ ตั้งใจจะเข้าสู่วงการบันเทิงตลอดและเธอก็ได้ศึกษาที่มหาวิทยาลัยเทียนจิงสาขาสื่อภาพยนตร์ เมื่อเวลาผ่านไปน้องสาวของฉันได้รับการคัดเลือกโดยแมวมองระดับ 1 จากหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์และได้เซ็นสัญญากับพวกเขาจากนั้นฉันก็ได้มาเป็นผู้จัดการของ

เธอ ๕

 

“ โอเค แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น? ผู้อํานวยการบริษัทของเธอจับตาดูเธอและต้องการอะไรบางอย่างจากเธอใช่ไหม? “ หงต้าหลี่ก็ได้คิดในใจมันเป็นอุตสาหกรรมบันเทิง เพราะฉะนั้นปัญหาพวกนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดามาก

“ เฮ้อ ใช่ค่ะท่าน ” ผู้จัดการหญิงสาวถอนหายใจอีกครั้ง “ จริง ๆแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมของเรา ทุกคนเข้าใจ มันแต่น้องสาวของฉันเหมือนตายทั้งเป็น ตอนแรกฉันไม่ได้ตั้งใจที่ จะเข้าไปยุ่งในเรื่องนี้ แต่น้องสาวของฉันเธอเป็นคนดีมากและเราก็ มีช่วงเวลาที่ดีที่เราได้ร่วมทํางานด้วยกัน ถ้าเธอไม่เต็มใจฉันก็จะไม่ แนะนําให้เธอทํา ”

 

“ แต่ไม่มีใครคิดเลยว่าผู้กํากับของเรา เขา…เขาขู่ว่าจะหยุดกิจกรรมต่าง ๆ ของเธอ ถ้าเธอไม่ยอมปฏิบัติตาม ไม่เพียงแค่นั้น เขายังเข้าไปยุ่งกับครอบครัวของเธอ พ่อของเธอเป็นเพียงผู้จัดการแผนกในบริษัทเล็ก ๆ และตอนนี้เขาถูกไล่ออกเพราะผู้อํานวยการของเราถ้าฉันไม่ช่วยเหลือเธอ ในไม่ช้า ฉันก็กลัวว่าเธอจะไม่สามาร ถรับแรงกดดันและเธอก็จะยอมแพ้ไป ..

 

“ ในวันนี้ ฉันได้ยินจากคนอื่นว่าท่านนายน้อยต้าหลี่ได้ซื้อไนท์คลับแห่งนี้และจะมีงานเลี้ยงที่นี้คืนนี้ ฉันเลยคิดว่าอาจจะได้พบท่านที่นี่นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญเพื่อขอความช่วยเหลือจากท่านท่านนายน้อยต้าหลีได้โปรดช่วยเหลือน้องสาวของฉัน

 

เมื่อผู้จัดการสาวพูดเสร็จ ดวงตาของเธอก็แดง

 

ในตอนนี้หงต้าหลี่ก็เข้าใจสถานการณ์ที่ผู้จัดการสาวได้เข้ามาพบและขอความช่วยเหลือเขาแล้ว

สาเหตุของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มันเข้าใจง่ายมาก น้องสาวของเธอชื่อ ลี่เนียนเหว่ย เธอเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยและจิตใจดี เธอเป็นศิลปินของบริษัทหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์และเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่บริษัทกําลังปั้น แต่ผู้อํานวยการบริษัทของเธอได้จับตามองเธอเธอถูกข่มขู่และโดนยัดเหยียดให้เป็นในสิ่งที่เขาอยา กจะให้เป็น แต่ลี่เนียนเหว่ยปฏิเสธผู้อํานวยการของเธอจึงไม่พอใจและได้จัดการไล่พ่อของลี่เหนียนเหว่ยออกจากบริษัทแห่งหนึ่งผู้จัดการสาวคนนี้จึงทนไม่ได้อีกต่อไปที่เห็นน้องสาวโดนทําร้ายดังนั้นเธอจึงมาขอความช่วยเหลือจากเขา

 

ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก แต่มันดูน่าสนใจทีเดียว นี่เป็นโอกาสทองที่จะถลุงเงินเขาจะพลาดได้อย่างไร!

 

หงต้าหลี่พยักหน้าและพูดว่า “ ใช่ เรื่องนี้น่าสนใจเลยทีเดียวหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์ นี้อยู่ที่ไหน? ”

ผู้จัดการสาวตอบทันที ” มันตั้งอยู่บนชั้น 12 ของอาคารเทียนฟูที่ศูนย์กลางของสี่แยกทิศตะวันตกค่ะ ”

 

หงต้าหลี่โบกมือให้หลิงเสี่ยวหยี่ซึ่งยืนอยู่อีกด้านหนึ่งให้มาหาและได้ถามว่า “ เสี่ยวหยี่ เธอเคยได้ยินเรื่องบริษัทหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์นี้มาก่อนบ้างไหม? และอาคารเทียนฟูแห่งนี้อยู่ที่ไหน? * ทันใดนั้นหงต้าหลี่ก็ได้คิดในใจว่าผู้จัดการสาวคนนี้มาหาเขา ในนาทีสุดท้ายแบบนี้แสดงว่าเธอไม่มีความสัมพันธ์หรือพันธะใด ๆ กับ บริษัทของเธอแล้วดังนั้นไม่จําเป็นที่จะต้องกลัว ไม่ตกกังวลอะ ไรทั้งนั้น สงสัยก็ถามตรง ๆ ได้เลยแม้ว่าจะขอข้อมูลจากคนอื่นมาแล้วก็ตามที่เถอะ

 

“ ฉันเคยได้ยินเรื่องของพวกเขามาก่อนค่ะ หัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์เป็นบริษัทภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง พวกเขาคอยดูแลคนดังที่มีชื่อเสียงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ผลงานของพวกเขาในวงการภาพยนตร์และเพลงเรียกได้ว่าไม่เลวเลย “ หลิงเสี่ยวหยี่เป็นอัจฉริยะอย่างเถียงไม่ได้ เธอพูดข้อมูลทั้งหมดนี้ได้อย่างง่ายดาย “ อาคารเรียน ฟูอยู่ห่างจากที่นี่ประมาณสามกิโลเมตร เป็นอาคารสํานักงาน 15 ชั้นหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์ได้เช่าชั้นที่ 12 ของอาคารไว้ ”

“ โอเค ” หงต้าหลี่ลูบคางของเขา ” การที่จะเล่นในอุตสาหกรรมภาพยนตร์แบบนี้ มันก็น่าสนใจนะ…เราจะซื้อหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์นี้ได้หรือไม่? ราคาเท่าไหร่? ”

 

เมื่อได้ยินคําพูดของหงต้าหลี่ ผู้จัดการหญิงสาวก็รู้สึกว่าอากาศเย็นได้ไหลผ่านร่างกายของเธอและทําให้ตัวสั่นเทา

ท่านนายน้อยต้าหลี่คนนี้น่ากลัวจริงๆ เขาต้องการซื้อบริษัทบันเทิงทั้งหมดเพียงเพราะเหตุนี้จริง ๆ หรอ?

 

แต่คราวนี้ หลิงเสี่ยวหยี่ส่ายหัว ” นี่อาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะซื้อค่ะธุรกิจของหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์กําลังเป็นที่นิยม แม้ว่าท่านต้องการที่จะซื้อมัน แต่พวกเขาอาจไม่เต็มใจขายยิ่งไปกว่านั้นมันจะไม่ใช่ราคาถูก ๆอย่างแน่นอน ”

 

“ โอ้ ” ถ้าหลิงเสี่ยวหยี่บอกว่ามันไม่ถูก แน่นอนมันจะไม่เป็นอย่างนั้น มันอาจไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถซื้อได้เพียงแปดหรือสิบล้านหยวนมันอาจจะต้องใช้เงินหลายร้อยล้านหยวนหรือมากกว่านั้น ที่งมันไม่คุ้มอย่างแน่นอนที่จะใช้เงินมากมายเพื่อช่วยเหลือคนแปลกหน้าแบบนี้ดังนั้นหงต้าหลี่จึงเปลี่ยนเป้าหมายของเขา ” อย่างนั้น เราจะซื้ออาคารเทียนฟูนี้ได้ไหม? “

 

แต่คราวนี้ หลิงเสี่ยวหยี่ส่ายหัวอีกครั้ง “ แม้ว่าอาคารเทียนฟูแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ แต่ที่ตั้งของมันอยู่ที่ศูนย์กลางของสี่แยกทิศตะวันตก ราคาจะค่อนข้างสูงและก็มีมูลค่าไม่มากนักพอที่จะคุ้มกับการลงทุนค่ะ

 

” ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน แต่ราคานั้นอาจจะสูงเกินไป และครอบครัวของท่านนายน้อยอาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้ค่ะ ”

 

แม้ว่าหงต้าหลี่จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะทําอะไรแบบสุ่มเสี่ยง หากเขาต้องการซื้ออาคารเทียนฟูแห่งนี้ก็น่าจะมีราคาสิบหรือหลายร้อยล้านหยวน อีกประเด็นที่ต้องพิจารณาคือเนื่องจากหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์ได้เช่าพื้นที่ในนั้น พื้นที่ส่วนใหญ่ในอาคารเทียนฟูก็น่าจะมีคนเช่าอยู่เช่นกัน แม้ว่าจะมีเงินที่สา มารถทําได้โดยการขายอาคาร แต่เจ้าของอาคารก็คงไม่จําเป็นต้องขาย

 

“ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว เสี่ยวหยี่ เธอมีคําแนะนําที่ดี ๆ บ้างไหม? “ หงต้าหลี่ถาม

 

เนื่องจากเธอเป็นหัวหน้าผู้ติดตามของหงต้าหลี่ ในตอนนี้หลิงเสี่ยวหยี่อาจถูกมองว่าเป็นที่ปรึกษาครึ่งหนึ่งของเขา หลังจากคิดบางอย่าง ทันใดนั้นหลิงเสี่ยวหยี่ก็ยิ้มให้แล้วเธอก็พูดว่า ” ท่านนายน้อยค่ะ ท่านไม่คิดจะซื้อเนินเขาเล็ก ๆ นั่นแล้วหรอ? ตอนที่เรากําลังเดินเล่นกับสุนัข ฉันพบโดยบังเอิญว่า 200 เมตรไปทางทิศใต้ของ เนินเขาเป็นอาคารสํานักงานที่รู้จักกันในชื่ออาคารเฉินหุย มันมีทั้งหมด 16 ชั้นและมีรถยนต์ไม่กี่คันที่ชั้นล่าง ไม่มีโลโก้ของ บริษัทต่าง ๆ ในแต่ละชั้นธุรกิจดูเหมือนว่าจะค่อนข้างแย่เจ้าของอาคารอาจต้องการขายมัน ”

 

โอ้? เป็นที่ที่ดีอย่างนั้นหรอ? เพราะภารกิจของเขาเองก็ยังต้องการให้เขาใช้จ่าย 15 ล้านหยวนภายในหนึ่งเดือน การจัดตั้งบริษัทสื่อบันเทิงแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนั่นจะทําให้เงินของเขาไหลออกไปเหมือนสายน้ํา และเขาก็จะสามารถทําตามความต้องการของตัวเองได้ในทันทีการมาเป็นผู้กํากับภาพยนตร์ยังไงล่ะเขาจะได้มาเป็นผู้กํากับภาพยนตร์แล้ว!

 

หงต้าหลีดีใจมากและพูดว่า “ เสี่ยวหยี่ เธอเยี่ยมมาก ฮ่าฮ่าเธอนี้รู้ทุกเรื่องดีมากเลยนะ งั้นฉันก็ตกลงที่จะซื้อ ฉันวางแผนที่จะเปิดบริษัทภาพยนตร์และถ่ายทําภาพยนตร์ในราคาถูกเพื่อถลุงเงินดีกว่าช่วยติดต่อเจ้าของอาคารด้วย เราจะได้ดูว่าสามารถซื้ออาคารเฉินหุยทั้งหมดได้โดยตรงเลยไหม ”

 

“ รับทราบค่ะ ท่านนายน้อย “ หลิงเสี่ยวหยี่พูดอย่างเห็นด้วยกับท่านนายน้อยต้าหลี่ จากนั้นเธอก็โทรไปหาที่บ้านของเขา

 

” เอ่อ ท่านนายน้อยต้าหลี่ เรื่องน้องสาวของฉัน…? ” ผู้จัดการหญิงสาวถามด้วยความร้อนใจ

 

“ น้องสาวของเธอหรอ? ” หงต้าหลี่จับที่จมูกของเขาอย่างเมินเฉย ” ฉันวางแผนที่จะเปิดบริษัทภาพยนตร์เพื่อสู้กับบริษัทอื่น ๆ และฉันจะงดใช้จ่ายของที่ไม่จําเป็นหรือซื้อของตามที่เราต้องการเพื่อสนองความต้องการของฉันเอง ฉันเลยลืมเรื่องช่วยเหลือน้องสาวเธอไปสนิทเลยแฮะ

 

“ยังไงก็เถอะ เรียกน้องสาวของเธอมาที่นี่ตอนนี้เลย โอกกาสทองน่ะมาถึงแล้ว! บอกให้เธอร้องเพลงสักหนึ่งหรือสองบทเพลงให้ฉันได้ฟังก่อนจากนั้นค่อยว่ากันอีกที “

 

ระบบใช้จ่าย

ระบบใช้จ่าย

Score 10
Status: Completed
เรื่อง ระบบใช้จ่าย


โดย นำเรื่อง ระบบใช้จ่าย มาเป็นบางส่วน

บทนำ

เขาได้ตายไปเพราะช่วยเหลือคนจากการถูกรถชน จากนั้นก็ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมกับระบบแปลกๆและยังโลกใบเดิมที่ผิดไปจากเดิมอีก

เรื่องย่อ

” หงต้าหลี่ เพศชายอายุ 22 ปี ไร้ครอบครัว ได้เสียชีวิตอย่างโชคร้ายโดยที่ได้ช่วยเหลือเด็กสองคนที่กำลังจะถูกรถชน หลังจากหารือหลายครั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดสินใจให้เกียรติเขาในฐานะวีรบุรุษและนักศึกษามหาวิทยาลัยดีเด่นของจังหวัด “

– หนังสือพิมพ์รายวันประชาชน

” ไม่!ไม่!ไม่! ไม่มีทาง หนูจะไม่หมั้นกับตระกูลหงเด็ดขาด! ” ถังมู่ซินพูด เธอซ่อนศรีษะไว้ใต้หมอนและกะดิกขาไปมาอย่างหงุดหงิด ” หงต้าหลี่เป็นพวกเศษเดนที่คนรู้จักกันทั่วเมือง เขาเป็นพวกสุรุ่ยสุร่ายและเป็นที่ขายหน้าของตระกูลหง เขาทั้งอ่อนแอและสมองทึบอีกด้วย ไม่มีทางที่หนูจะเอาคนแบบนี้มาเป็นคู่หมั้นหรอกนะ! “

ถังมู่ซิน เป็นลูกคนเดียวของ ถังรุ่ยชี ประธานบริษัทถังเวชกรรม เธอเป็นคนที่มีความสามารถทั้งการอ่านและเขียน ทั้งนี้เธอยังเป็นคนที่เที่ยงธรรมและเป็นคนที่สวยงามอีก ด้วยรูปลักษณ์ของเธอ เปรียบได้กับดอกไม้ที่สวยที่สุดราวกับว่าทุกอย่างนั้นดีไปหมดเมื่ออยู่กับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นสุดยอดแม่ครัว ทำให้เธอเป็นภรรยาในแบบอุดมคติเลยทีเดียวเชียว

การที่ทั้งทำอาหารได้อร่อยและหน้าตาเป็นเลิศเช่นนี้ เธอจะต้องเป็นผู้หญิงในฝันของผู้ชายหลายคนในโรงเรียน

วันนี้ เธอได้ยินเสียงจากพ่อว่าจะพาเธอไปหาตระกูลหงต้าหลี่ที่แสนน่าอับอาย เพื่อที่จะได้หมั้นตัวเธอกับลูกชายของตระกูลหง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถยอมรับได้เลยสักนิดเดียว ” ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ของเขาตามใจและพวกเขายังมีลูกแค่คนเดียว คนไร้ค่าอย่างเขาคงจะถูกไล่ออกจากตระกูลหงไปนานแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ เขาจะยังสามารถใช่เงินสุรุ่ยสุร่ายได้แบบนี้อีกงั้นเหรอ? “

เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว ถังรุ่ยชีซึ่งนั่งอยู่หน้าเตียงก็ได้ยิ้มแย้ม ” ซินซิน1 ไม่ใช่ว่าพ่อมีทางเลือก การแต่งงานระหว่างหนูกับหงต้าหลี่ถูกตัดสินโดยคุณปู่เมื่อหลายปีก่อน แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กน้อยทึ่ม ๆ คนหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ใช่มั้ย จากสิ่งที่พ่อรู้จริง ๆ แล้ว หงต้าหลี่เป็นเด็กที่หน้าตาดีเลยนะ … “

ถังรุ่ยชี สวมเสื้อกล้ามสีเขียวที่สะอาดสะอ้านและเน็คไทที่มีปมเรียบง่ายตรงคอของเขา เขามีหนวดเคราอยู่เหนือริมฝีปาก เขาถือกล่องยาสูบไว้ในมือและผมสีดำสั้นของเขาก็ได้ถูกหวีอย่างเรียบร้อยไปทางด้านหลังของศีรษะอย่างดูดี ความแปลกเพียงอย่างเดียวก็คือ ตอนนี้ดวงตาของเขาเปล่งประกายพร้อมกับเต็มไปด้วยความรู้สึกหมดหนทางและไม่เต็มใจ

พูดตามตรง เพราะเขาไม่มีทางเลือกหรอกนะ เขาจะยอมมอบลูกสาวที่มีค่าของตัวเองให้กับคนไร้ค่าอย่างหงต้าหลี่งั้นหรอ? สาเหตุที่เขาเรียกว่าคนไร้ค่างั้นเหรอ ก็เพราะหงต้าหลี่อาจเรียกได้ว่าเป็นคนประหลาดที่สุดบนโลกใบนี้ สิ่งเดียวที่เขาชอบทำก็คือ การถลุงเงินที่มีอยู่ของตนเอง

คำพูดประจำตัวของเขาคือ ” ฉันจะต้องฟุ่มเฟือยสิ ถ้าฉันไม่ใช้เงิน เงินที่พ่อแม่ของฉันที่หามาก็คงสูญเปล่าใช่ไหมละ? “

คำพูดของเขาได้สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนในเมืองเทียนจิง ผู้ปกครองจำนวนมากต่างก็ได้สอนลูกของพวกเขาโดยพูดว่า ” ถ้าลูกกล้าเรียนรู้เรื่องการใช้เงินจากหงต้าหลี่ ไปกินข้าววัดเลยไป! “

ดังนั้นแล้ว จึงเป็นที่เข้าใจได้เลยว่าทำไมถังมู่ซินถึงได้อารมณ์เสีย

Options

not work with dark mode
Reset