ระบบใช้จ่าย 25

ตอนที่ 25

 

อาคารสํานักงานใหญ่ เคียนจี เมืองเทียนจิง ชั้น 16

 

” ซีอีโอ หง ข้อเสนอสําหรับการพัฒนาสี่แยกทิศตะวันตกนั้นสิ้นสุดลงแล้ว ได้โปรดดูเอกสารด้วยค่ะ “ เลขาได้วางเอกสาร 10 หน้าไว้บนโต๊ะทํางานของหงเหว่ยกูอย่างนุ่มนวลและเดินหันหลังกลับออกจากห้องไปพร้อมปิดประตูอย่างเบา มือ

 

“ ไหน ขอฉันดูผลประเมินหน่อยสิ “ หงเหว่ยกหยิบข้อเสนอขึ้นมาและเริ่มอ่าน “ สี่แยกทิศตะวันตกตั้งอยู่ 25 กม.ทางทิศตะวันตกของเมืองเทียนจิงเซ็นทรัล ถนนเบาฮัวอยู่ทางทิศตะวันออก โดยมีถนนตัดผ่านอยู่บริเวณชายแดนใต้แม่น้ําเป็งยี่และถนนเฉียนตั้งอยู่ทางทิศเหนือ แม่น้ําและภูเขาหงวอยู่ทางทิศตะวันตกและประตูยงเฉียนอยู่ทางทิศตะวันตกของถนนแม่น้ําทางทิศใต้ โดยมีประตูเชียนเอนติดกับเขตแดนที่เชื่อมต่อกับสามแยกทิศตะวันออก เมื่อรวมกัน มี 12 ถนนและ 178 ชุมชน ภายในเขตอํานาจของตน สี่แยกทิศตะวันตกใช้พื้นที่ 74 ตารางกิโลเมตร การสํารวจประชากรครั้ง ที่หกในปี 2010 คาดว่าประชากรของสี่แยกทิศตะวันตก จะ มีจํานวนประชากรประมาณ 1.819 ล้านคน ”

 

” พื้นที่สวน 16.67% พื้นที่ป่าไม้ 25.08% ที่อยู่อา ศัยและเชิงพาณิชย์ 30.1% ที่ดินที่ใช้ในการขนส่งร้อยละ 5.46% กักเก็บน้ํา 8.51% ที่ดินที่ไม่ได้ใช้งาน 14.18%

 

ไม่มีพื้นที่เกษตรกรรม ข้อเสนอแนะสําหรับผู้ให้เช่าที่มีศักยภาพในการมุ่งเน้นที่อยู่อาศัยและที่ดินที่ยังไม่ได้ใช้อย่างไรก็ตามที่ดินที่ไม่ได้ใช้นั้นอยู่ในเขตชานเมืองและไม่เหมาะสําหรับการลงทุน ควรเน้นการลงทุนในย่านที่อยู่อาศัย ”

 

เมื่อมองไปที่ข้อเสนอทางการเงิน หงเหว่ยกเคาะนิ้วของเขาบนโต๊ะเบา ๆ “ 30 %ของที่ดินเป็นที่อยู่อาศัยหรือเชิงพาณิชย์ ประมาณ 22 ตารางกิโลเมตร นั่นไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้ว “

22 ตารางกิโลเมตรอาจไม่ใหญ่นัก แต่ในการยึดที่ดินผืนใหญ่เช่นนี้ แทบเป็นไปไม่ได้เลย มันจะ ต้องเป็นเงินจํานวนมหาศาลที่แม้แต่ตระกูลหงก็ไม่อาจสามารถจะจ่ายไหว

 

แน่นอนว่าหงเหว่ยกไม่ได้อยากจะครอบครองที่ดินมหาศาลเขาแค่ต้องการซื้อที่ดินให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะมีการนํานโยบายของรัฐไปปฏิบัติ ทั้งหมดที่เขาต้องทําหลังจากนั้นคือรอให้มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นและเขาจะได้รับเงินอย่างมหาศาล

 

หงเหว่ยกได้อ่านต่อ ” สี่แยกทิศตะวันตกไม่เหมาะสําหรับการลงทุน มีที่ดินมากเกินไปสําหรับวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ภาคกลางเป็นพื้นที่คนพลุกพล่าน แต่ที่ดินเองก็มีราคาแพงเกินไป พื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ไม่ค่อยพลุกพล่าน แต่ก็มีโอกาสที่จะได้กําไรน้อยลงเช่นกัน ” ถัดไป คือการประเมินจํานวนเงิน ที่จําเป็นในการซื้อที่ดินผืนนั้น

 

ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายที่จะกัดเค้กชิ้นใหญ่แบบนี้ หงเหว่ยกลูบเคราของเขา “สถานที่นั้นใหญ่เกินไปแล้ว การลงทุนเพียง 300 ล้านบาทนั้นเท่ากับเป็นการเสี่ยง แต่ถ้าฉันลงทุนมากกว่า นี้มันจะกระทบกับสภาพกองทุนของครอบครัว นี่เป็นเรื่อง

ยากมากแฮะ 

 

หงเหว่ยกูสามารถจ่ายเงินได้สบาย แต่เขาเป็นนักธุรกิจเป้าหมายของเขาคือการใช้จ่ายให้ต่ําที่สุดและได้รับประโยชน์สูงสุด แม้ว่าเอกสารดังกล่าวระบุว่ารัฐบาลตั้งใจที่จะพัฒนาพื้นที่แต่ใครจะรู้ว่าจะพัฒนาเมื่อไหร่และมันจะเป็นอย่างไร? มันเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่จะได้รับเงินเพิ่มขึ้นไม่กี่พันล้านหยวน แต่ ถ้าเงินจํานวนนั้นไม่สามารถใช้ได้เล่า …

 

หากไม่มีกองทุน มันก็จะเป็นอันตรายมาก ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับบริษัท หากรัฐบาลเปลี่ยนใจและถอนแผนการพัฒนาออกไป นั่นก็เท่ากับว่าเป็นการขว้างเงินลงทะเลไปอย่างสูญเปล่า

 

“ ลืมไปเลยว่าฉันจะลงทุน 200,000 ถึง 300,000 ล้านเพื่อเริ่มต้นและดูว่าฉันจะไปได้ไกลมากแค่ไหน แผนการพัฒนาของรัฐบาลเองก็ไม่มั่นคงหรืออาจจะไม่แน่นอน ฉันคงไม่เอาด้วยดีกว่า ” ในที่สุดหงเหว่ยกูก็ตัดสินใจ หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง “ ขอแค่ที่ดินมาสักสองสามผืนก็พอ แล้วคอยดูดีกว่า”

 

ในขณะที่หงเหว่ยกกําลังคิดถึงเรื่องการได้มาของที่ดินและการพัฒนาที่ดิน แต่หงต้าหลี่กลับใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยตามใจตัวเอง

 

การที่หงต้าหลีไปโรงเรียนวันแรกและมาทานอาหารกลางวันที่โรงแรม เขาก็ทําให้ทุกคนในโรงแรมฮันลังวุ่นวาย ภายใน 20 นาที มีอาหารจานหลัก 108 รายการและอาหาร 54 รายการ เสิร์ฟบนโต๊ะขนาดใหญ่สี่โต๊ะงานเลี้ยงที่หรูหรามากมายไม่สามารถเทียบได้กับที่หงต้าหลี่ทําเลย

 

หงต้าหลี่นําถังปูซินไปหาจานอาหารมากมายที่อยู่บนโต๊ะ”ซินซิน ลองดูว่าอาหารจานไหนที่เหมาะกับเธอที่สุดดูสิ “ ผู้ติดตามได้เตรียมชามและช้อนส้อมให้เรียบร้อยแล้ว หงต้าหลีได้เอาตะเกียบครีบดอกระฆังจีนดองที่หวานและเปรี้ยวชิ้นหนึ่งและกัด “ อืม ไม่เลวเลย รสชาติดีนี่เธอควรลองชิมนะ! “

 

ผู้จัดการแผนกต้อนรับแทบทรุด โอ้พระเจ้าหงต้าหลี่สั่งให้พ่อครัวเตรียมอาหารมากมาย แต่สิ่งแรกที่เขาได้ลิ้มลองคือดอกระฆังจีนดอง!

 

ในขณะที่ผู้จัดการแผนกต้อนรับกําลังกังวลอยู่ ผู้ติดตามทั้งเก้าก็เมินเฉย ยังจะตกใจอีกหรือไง? เห็นได้ชัดว่าเขาคงไม่เคยเห็นสิ่งที่ท่านนายน้อยของเราได้ทํา ท่านนายน้อยของเราน่ะใช้เงินมากกว่า 30 ล้านซื้อที่นี้ในเมื่อคืนที่ผ่านมา ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อเลี้ยงสุนัขพันธุ์หายาก นี่ก็แค่การทานอาหารของเขาเอง มันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องตกใจขนาดนั้นเลย

 

ถังปูซินเก็บอาการของเธอและหยิบตะเกียบขึ้นมาด้วยนิ้วมีอซีด ๆ ของเธอ เธอหยิบชิ้นเนื้อขึ้นมาแล้วกัด “หอยสังข์ยีสต์แดงหมักกรอบนี้มีความกรอบและนุ่ม มีกลิ่นหอมมาก มันน่าเสียดายที่อมน้ํามันไปนิด ทําให้มันเสียรสชาติดั้งเดิมไป”

 

หงต้าหลี่รู้สึกประหลาดใจที่ถึงมู่ชินรีวิวเรื่องอาหารให้เข ฟัง ” เอ๋ ซินซิน ฉันไม่รู้ว่าเธอมีพรสวรรค์แบบนี้ด้วยหอยสังข์แดงหมักยีสต์นี้คืออะไร? บอกฉันที “

 

ถังปูซินเม้มริมฝีปากและยิ้ม การแสดงออกของเธอดูแปลก ๆ นั้นทําให้ทุกคนรอบตัวเธองงงวย พวกเขาต่างก็คิดกันไปในทางเดียวกันว่า: มันไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอได้กลายเป็นคู่หมั้นของท่านนายน้อย แค่ผู้หญิงเพียงคนนี้คนเดียวก็เหมาะสมกับนายน้อยมากแล้ว

 

ถังปูซินอธิบาย ว่า “ จานนี้ทําขึ้นโดยการเอาส่วนปลายของเนื้อหอยสังข์หันเป็นชิ้นบางๆ และลวกในน้ําร้อน หลังจากนั้นก็นําหน่อไม้ฤดูหนาวมาลวกด้วยน้ํามันร้อน ผัดกระเทียมสับและขิงสับละเอียดจนหอม แล้วใส่ยีสต์แดงหมักและผัดใส่เห็ดชิตาเกะแห้งและเห็ดหอมสดนั่นบาง ๆ ลวกในน้ํามันแล้วเทลงในน้ําดองที่ทําจากน้ําซุป, ผงชูรส, น้ํา ตาล, ซอสถั่วเหลือง,น้ํามันงาและแป้งผสมให้ เข้ากันและปล่อยให้เดือดเล็กน้อยจากนั้นหันหอยสังข์บาง ๆ ทอดจนทุกอย่างเข้าด้วยกันเนื้อขาวของหอยสังข์ที่นั่นพร้อมข้าวหมักสีแดง ไม่เพียงแต่จะทําให้ดูดีเท่านั้น แต่ยังมีรสชาติที่ดีอีกด้วย มันเป็นอาหารขึ้นชื่อที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณและมีคนไม่มากที่รู้ว่ามีอาหารจานนี้อยู่”

 

มันช่างน่าประหลาดใจจริง ๆ โรงแรมนี้ที่ซื้อมาด้วยแรงกระตุ้นกลับมาพร้อมกับพ่อครัวที่สามารถทําอาหารจานแบบนี้ได้

หงต้าหลี่ย่อมไม่พลาดโอกาสเช่นนี้แน่ เขาสั่งผู้จัดการแผนกต้อนรับว่า “ ถามพ่อครัวที่ทําอาหารจานนี้ และเรียกให้ออกมาพบฉันที่ ”

 

ไม่นานนักพ่อครัวอวบอ้วนก็เดินออกมาและโค้งคํานับอย่างเชื่องช้าเมื่อได้เห็นหงต้าหลี่ “ สวัสดีครับท่านนายน้อย กระผมคือเชฟเหว่ยเปา ”

 

เหว่ยเปา เป็นชื่อที่ดี หงต้าหลี่มองเขาตาโต บุคคลนี้รูปร่างเหมือนลูกชิ้น เขามองไม่เห็นนิ้วเท้าของเขาเลยสักนิด เมื่อเขายืนตรง ใบหน้าของเขาก็ดูอ้วนมาก จนตาของเขาถูกมองออกเป็นเส้นบาง ๆ ยิ่งริมฝีปากที่หนาเหมือนไส้กรอกทําให้เขาดูตลกขึ้นไปอีก

 

หงต้าหลี่พยายามไม่หัวเราะ” เป็นทักษะที่ดี ฉันขอถามอะไรนายหน่อย ถ้าฉันบอกสูตรอาหารบางอย่างออกไปนายจะทํามันขึ้นมาให้ฉันได้ไหม? ”

ระบบใช้จ่าย

ระบบใช้จ่าย

Score 10
Status: Completed
เรื่อง ระบบใช้จ่าย


โดย นำเรื่อง ระบบใช้จ่าย มาเป็นบางส่วน

บทนำ

เขาได้ตายไปเพราะช่วยเหลือคนจากการถูกรถชน จากนั้นก็ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมกับระบบแปลกๆและยังโลกใบเดิมที่ผิดไปจากเดิมอีก

เรื่องย่อ

” หงต้าหลี่ เพศชายอายุ 22 ปี ไร้ครอบครัว ได้เสียชีวิตอย่างโชคร้ายโดยที่ได้ช่วยเหลือเด็กสองคนที่กำลังจะถูกรถชน หลังจากหารือหลายครั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดสินใจให้เกียรติเขาในฐานะวีรบุรุษและนักศึกษามหาวิทยาลัยดีเด่นของจังหวัด “

– หนังสือพิมพ์รายวันประชาชน

” ไม่!ไม่!ไม่! ไม่มีทาง หนูจะไม่หมั้นกับตระกูลหงเด็ดขาด! ” ถังมู่ซินพูด เธอซ่อนศรีษะไว้ใต้หมอนและกะดิกขาไปมาอย่างหงุดหงิด ” หงต้าหลี่เป็นพวกเศษเดนที่คนรู้จักกันทั่วเมือง เขาเป็นพวกสุรุ่ยสุร่ายและเป็นที่ขายหน้าของตระกูลหง เขาทั้งอ่อนแอและสมองทึบอีกด้วย ไม่มีทางที่หนูจะเอาคนแบบนี้มาเป็นคู่หมั้นหรอกนะ! “

ถังมู่ซิน เป็นลูกคนเดียวของ ถังรุ่ยชี ประธานบริษัทถังเวชกรรม เธอเป็นคนที่มีความสามารถทั้งการอ่านและเขียน ทั้งนี้เธอยังเป็นคนที่เที่ยงธรรมและเป็นคนที่สวยงามอีก ด้วยรูปลักษณ์ของเธอ เปรียบได้กับดอกไม้ที่สวยที่สุดราวกับว่าทุกอย่างนั้นดีไปหมดเมื่ออยู่กับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นสุดยอดแม่ครัว ทำให้เธอเป็นภรรยาในแบบอุดมคติเลยทีเดียวเชียว

การที่ทั้งทำอาหารได้อร่อยและหน้าตาเป็นเลิศเช่นนี้ เธอจะต้องเป็นผู้หญิงในฝันของผู้ชายหลายคนในโรงเรียน

วันนี้ เธอได้ยินเสียงจากพ่อว่าจะพาเธอไปหาตระกูลหงต้าหลี่ที่แสนน่าอับอาย เพื่อที่จะได้หมั้นตัวเธอกับลูกชายของตระกูลหง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถยอมรับได้เลยสักนิดเดียว ” ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ของเขาตามใจและพวกเขายังมีลูกแค่คนเดียว คนไร้ค่าอย่างเขาคงจะถูกไล่ออกจากตระกูลหงไปนานแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ เขาจะยังสามารถใช่เงินสุรุ่ยสุร่ายได้แบบนี้อีกงั้นเหรอ? “

เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว ถังรุ่ยชีซึ่งนั่งอยู่หน้าเตียงก็ได้ยิ้มแย้ม ” ซินซิน1 ไม่ใช่ว่าพ่อมีทางเลือก การแต่งงานระหว่างหนูกับหงต้าหลี่ถูกตัดสินโดยคุณปู่เมื่อหลายปีก่อน แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กน้อยทึ่ม ๆ คนหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ใช่มั้ย จากสิ่งที่พ่อรู้จริง ๆ แล้ว หงต้าหลี่เป็นเด็กที่หน้าตาดีเลยนะ … “

ถังรุ่ยชี สวมเสื้อกล้ามสีเขียวที่สะอาดสะอ้านและเน็คไทที่มีปมเรียบง่ายตรงคอของเขา เขามีหนวดเคราอยู่เหนือริมฝีปาก เขาถือกล่องยาสูบไว้ในมือและผมสีดำสั้นของเขาก็ได้ถูกหวีอย่างเรียบร้อยไปทางด้านหลังของศีรษะอย่างดูดี ความแปลกเพียงอย่างเดียวก็คือ ตอนนี้ดวงตาของเขาเปล่งประกายพร้อมกับเต็มไปด้วยความรู้สึกหมดหนทางและไม่เต็มใจ

พูดตามตรง เพราะเขาไม่มีทางเลือกหรอกนะ เขาจะยอมมอบลูกสาวที่มีค่าของตัวเองให้กับคนไร้ค่าอย่างหงต้าหลี่งั้นหรอ? สาเหตุที่เขาเรียกว่าคนไร้ค่างั้นเหรอ ก็เพราะหงต้าหลี่อาจเรียกได้ว่าเป็นคนประหลาดที่สุดบนโลกใบนี้ สิ่งเดียวที่เขาชอบทำก็คือ การถลุงเงินที่มีอยู่ของตนเอง

คำพูดประจำตัวของเขาคือ ” ฉันจะต้องฟุ่มเฟือยสิ ถ้าฉันไม่ใช้เงิน เงินที่พ่อแม่ของฉันที่หามาก็คงสูญเปล่าใช่ไหมละ? “

คำพูดของเขาได้สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนในเมืองเทียนจิง ผู้ปกครองจำนวนมากต่างก็ได้สอนลูกของพวกเขาโดยพูดว่า ” ถ้าลูกกล้าเรียนรู้เรื่องการใช้เงินจากหงต้าหลี่ ไปกินข้าววัดเลยไป! “

ดังนั้นแล้ว จึงเป็นที่เข้าใจได้เลยว่าทำไมถังมู่ซินถึงได้อารมณ์เสีย

Options

not work with dark mode
Reset