รวยชั่วข้ามคืน?! 545 นักโทษ

ตอนที่ 545 นักโทษ

บทที่ 545 นักโทษ

“อีกทั้งความจริงแล้วเขามองข้ามรายละเอียดไปหลายอย่าง ก่อนที่ผมจะแจกใบปลิวให้คุณ ผมสังเกตคุณก่อนแล้ว บนตัวของคุณแผ่รังสีความสงบนิ่งอย่างที่เยาวชนทั่วไปไม่มี อีกอย่างผมสังเกตเห็นว่าในแววตาของคุณมีความมั่นใจปรากฏอยู่”

“ที่สำคัญที่สุดคือถึงแม้คุณจะแต่งตัวเชย แต่ว่าไม่มีฝุ่นผงเลยสักนิด ที่น่าแปลกใจที่สุดคือรองเท้าหนัง แม้แต่พื้นรองเท้าของคุณยังสะอาดมาก”

“ดังนั้นผมจึงคิดว่าถึงแม้คุณจะไม่มีเงินแต่คุณต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน” หลิวหงปิงเอ่ยสรุป

ด้านฉินหลั่งกลับหัวเราะออกมา รายละเอียดพวกนี้แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่ได้สังเกต เป็นเพราะว่าไท่หวงจิน ถึงแม้เขาจะไม่มีชี่แท้ปกป้องร่างกาย แต่ผิวภายนอกขอเขามักจะมีชี่ที่มองไม่เห็นไหลเวียนอยู่ตลอดซึ่งช่วยกันฝุ่นผงให้กับเขา

ทว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะสังเกตเห็นรายละเอียดพวกนี้

“ความจริงแล้วผมตั้งใจรออยู่ที่นี่เพื่อกล่าวคำขอโทษกับคุณ” หลิวหงปิงเอ่ยแกมหัวเราะ

“หืม?” ฉินหลั่งเกิดความสนใจขึ้นมาเพราะว่าอีกฝ่ายรออยู่นานครึ่งชั่วโมง

“ผมคิดว่าไม่ว่าจะทำการค้าหรือทำงาน การพูดจานั้นสำคัญมาก ถึงแม้คุณจะไม่ซื้อบ้านแต่คุณก็อาจจะแนะนำคนอื่นให้กับผมได้” หลิวหงปิงเผยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายพูดเก่งมาก

จากนั้นก็ถามฉินหลั่งกลับ

“คิดว่าผมโง่มากเลยใช่ไหม?”

“แกโง่จริงๆนั่นแหละ ถ้าแกยังทำแบบนี้อยู่ฉันจะไล่แกออก นี่แกกล้าแอบฉันมาคุยเล่นกับไอ้คนจนนี่หรือ บริษัทจ่ายเงินให้แกเพื่อให้แกมาคุยเล่นรึไง?”

ฉับพลันหัวหน้าพนักงานขายที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนก็หันไปด่าหลิวหงปิง

“ขอโทษครับหัวหน้า ผมสำนึกผิดแล้ว” หลิวหงปิงเม้มปากพลางเอ่ย

“ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้ว? สอนไม่รู้จักจำ แกดูสภาพการแต่งตัวของมันเหมือนคนที่มีปัญญาซื้อบ้านหรือ? ไม่แน่แม้แต่งานก็อาจจะไม่มีด้วยซ้ำ!” หัวหน้าพนักงานขายชี้หน้าฉินหลั่งพลางหันไปด่าทอหลิวหงปิง

“อี้เหอวิลล่าของเราหนึ่งหลังมูลค่าเกือบหนึ่งล้าน แพงที่สุดถึงหลักร้อยล้าน คนแบบมันมีปัญญาซื้อหรือ? แกไม่ต้องมาเสียเวลากับคนที่ไม่มีปัญญาซื้อจะได้ไหม?” หัวหน้าพนักงานขายด่าทออีกครั้ง

“คนไม่มีเงินแบบมันมีเกลื่อนถนน ไม่มีปัญญาซื้อบ้านแล้วแกเสียเวลาคุยกับมันจะเกิดประโยชน์อะไร?”

สำหรับเยาวชนอย่างฉินหลั่งแค่ดูการแต่งตัวก็รู้แล้วว่าไม่มีเงิน แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องพูดถึงคำว่าเคารพ ดูถูกเหยียดหยามอีกฝ่ายต่อหน้า หัวหน้าพนักงานขายคนนี้ก็ไม่รู้สึกว่าจะเสียหายไปตรงไหน

ในสายตาเขามีเงินถึงจะควรค่าแก่การเคารพ ไม่มีเงินก็สมควรโดนดูถูก

“เราควรจะมองหาลูกค้าคุณภาพ ลูกค้าที่มีเงิน”

“ปิ๊นๆ!”

เสียงแตรรถดังขึ้น

จากนั้นรถลัมโบกินี่คันหนึ่งก็จอดอยู่ริมถนน

ตามมาด้วยฉางจื่อชงที่คาบซิก้าลงมาจากรถแล้วเดินตรงเข้ามาหาฉินหลั่ง

หัวหน้าพนักงานขายเห็นภาพเหตุการณ์นี้ก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มกว้างทันทีแล้วเดินปรี่เข้าไปมา

ทว่าก็ไม่ลืมย้ำเตือนหลิวหงปิงอีกรอบ

“เห็นไหม คนแบบนี้ต่างหากคือลูกค้าของเรา” หัวหน้าพนักงานขายมั่นใจมากกับความสามารถในการมองคนของตน

“สวัสดีครับคุณผู้ชาย สนใจซื้อบ้านไหมครับ?”

“ไม่ซื้อ ขอบคุณ!” ฉางจื่อชงไม่สนใจหัวหน้าพนักงานขายคนนั้นทว่าเดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าฉินหลั่ง

ด้านหัวหน้าพนักงานขายที่เดินตามหลังก็ชะงักไป หรือว่าพวกเขารู้จักกัน?

“พี่ใหญ่ ทางด้านพันธมิตรศิลปะการต่อสู้……” ฉางจื่อชงเอ่ยขึ้น

“กลับไปค่อยคุยกัน” ฉินหลั่งพยักหน้า

พี่ใหญ่? รถลัมโบกินี่? นี่มัน?

หัวหน้าพนักงานขายอึ้งไป และจางจื่อจวุนก็ตะลึงเล็กน้อย

“ไม่โง่นี่ ฉลาดมาก” ตอนที่ฉินหลั่งจะไปก็หันไปยิ้มให้หลิวหงปิง ก่อนจะตบบ่าของหลิวหงปิงสองสามที

อะไรเรียกว่าไม่มีปัญญาซื้อ?

อีกทั้งน้องเล็กของเขาขับลัมโบกินี่มารับ สูบซิก้า แต่งตัวหรูหรา ต้องเป็นคนระดับสูงแน่นอน แต่เรียกฉินหลั่งว่าพี่ใหญ่

รถลัมโบกินี่คันนี้แค่ดูก็รู้แล้วว่าผลิตด้วยกระบวนการพิเศษ คงจะมีความสามารถในการกันกระสุน ไม่มีเงินเจ็ดแปดสิบล้านคงซื้อไม่ได้

นี่เรียกว่าไม่มีปัญญาซื้อบ้านหรือ?

ไม่มีปัญญาซื้อบ้านราคาล้านกว่าบาท?

ฉินหลั่งปรายตามองหัวหน้าพนักงานขายแวบหนึ่ง หัวเราะเย้ยหยันแล้วเดินจากไป

ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้คุยกับอีกฝ่ายสักประโยค

ราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นคนล่องหน

เมื่อสักครู่ยังดูถูกเขาอยู่เลย สุดท้ายตัวเองกลับไม่เคยได้อยู่ในสายตาของเขา

การถูกมองข้ามคือการดูถูกที่โหดร้ายที่สุด

หัวหน้าพนักงานขายคนนั้นเกิดความรู้สึกถูกคนมีเงินดูถูก

หัวหน้าพนักงานขายมองหลิวหงปิงแล้วก็หันไปมองฉินหลั่งที่เดินจากไป สุดท้ายเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าอึดอัด

สิบนาทีต่อมา พวกฉินหลั่งก็มาถึงห้องโถงของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เย็นจีน

เพิ่งปรากฏตัวพวกซ่งเสี้ยวหยู่ ลู้เป้าก็เข้ามาต้อนรับ ก่อนจะเอ่ยทักทายด้วยความเคารพ “สวัสดีครับท่านทูตฉิน!”

อยู่ข้างนอกฉางจื่อชงเรียกฉินหลั่งว่าพี่ใหญ่ ทว่าตอนนี้ก็เรียกท่านทูตฉินตามคนอื่นๆด้วยความเคารพ

เมื่อผ่านอุปสรรคมามากมาย พวกฉางจื่อชงก็นับถือฉินหลั่งอย่างสุดหัวใจ

ฉินหลั่งโบกมือทักทายพร้อมรอยยิ้ม “พวกเราคนกันเองทั้งนั้น ไม่ต้องเรียกกันห่างเหินขนาดนี้ ท่านทูตอะไรกัน ไม่น่าฟังเลย เรียกกันสบายๆเถอะ”

พวกฉางจื่อชงได้ยินดังนั้นก็พากันหัวเราะ บรรยากาศจึงผ่อนคลายขึ้นไม่น้อย

“อ้อใช่แล้ว นายบอกว่าจั่วเฉินบิงไม่ยอมรับสารภาพเลยอย่างนั้นหรือ?”

ฉินหลั่งเอ่ยถามลู้เป้าขณะที่เดินเข้าไปในห้องโถง “มาถึงขั้นนี้แล้ว มันยังดื้อดึงขนาดนี้หรือ?”

หลังจากที่จั่วเฉินบิงถูกจับ ฉินหลั่งก็สร้างแผนกบังคับใช้กฎหมายขึ้นมาใหม่ และยังให้ลู้เป้ารับตำแหน่งผู้ช่วยเพื่อคอยจัดการเรื่องในชีวิตประจำวันแทนเขา

“พี่ใหญ่ มันคงรู้ว่าตัวเองคงไม่ได้ตายดี ดังนั้นจึงหลับตาลงไม่พูดไม่จาอะไรเลย”

ลู้เป้าหันไประบายความทุกข์กับฉินหลั่ง “วิธีต่างๆในแผนกบังคับใช้กฎหมายล้วนเกิดจากเขา ดังนั้นใช้วิธีพวกนี้กับเขาจึงไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย”

“สองวันมานี้ ผมสู้มาสี่สิบกว่าชั่วโมง นอกจากอือๆอาๆเขาก็ไม่พูดอย่างอื่นอีกเลย”

เขาทำหน้าเอือมระอา “จัดการไม่ง่ายเลย”

“ถึงแม้โดยเนื้อแท้ของจั่วเฉินบิงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ แต่ว่าฝีมือและสภาพจิตใจของเขาแข็งแก่งมาก”

ซ่งเสี้ยวหยู่เอ่ยเสริมอีกประโยค “การจะง้างปากมัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

“ใช่!”

โจวกางหยุงก็พยักหน้าเบาๆ “พี่ใหญ่ พี่ลงโทษจั่วเฉินบิงไปเลยดีกว่า ทำไมต้องง้างปากมันอีก?”

“พี่ต้องการข้อมูลอะไรจากมันหรือ?”

เขาคลางแคลงใจ

ฉินหลั่งตอบกลับอย่างสงบนิ่ง “จั่วเฉินบิงทำงานในแผนกบังคับใช้กฎหมายมานาน จากนิสัยของมัน มันต้องเล่นพรรคเล่นพวกทำผิดกฎไม่น้อยแน่”

“หากขุดเรื่องนี้ออกมาได้ ข้อหนึ่งฉันสามารถเชือดไก่ให้ลิงดูได้ สร้างความเกรงกลัวไปทั่วทั้งพันธมิตร”

“ข้อสองสามารถจับจุดอ่อนของคนเหล่านี้ไว้เพื่อไม่ให้พวกมันทำผิดซ้ำอีก อย่างน้อยก็ไม่กล้าที่จะต่อต้านฉัน”

ฉินหลั่งหัวเราะออกมา “แน่นอนว่ายังมีอีกจุดประสงค์หนึ่ง นั่นก็คือดูว่าจั่วเฉินบิงรับเงินมาเท่าไหร่ ฉันต้องการจัดการคนรวย……” พวกหวังตงซานและหวงเทียนเจียวก็หัวเราะไปกับฉินหลั่ง และเกิดความรู้สึกเกรงกลัวฉินหลั่งมากกว่าเดิม ช่างจัดการเด็ดขาดสมกับเป็นผู้พิทักษ์อันดับหนึ่ง

ระหว่างที่คุยกัน คนกลุ่มหนึ่งก็ลงไปยังห้องใต้ดิน เรียกว่าห้องใต้ดินทว่าความจริงแล้วมีพื้นที่กว้างหลายร้อยตารางเมตร นอกจากอากาศที่อับทึบไปหน่อย อย่างอื่นก็ไม่ต่างจากสิ่งก่อสร้างทั่วไป

ชั่วอึดใจ ฉินหลั่งก็มาหยุดอยู่หน้าจั่วเฉินบิง คนที่เป็นพี่ใหญ่ของแผนกบังคับใช้กฎหมายในวันเก่า ตอนนี้กลายเป็นนักโทษชั้นใต้ดินที่น่าเวทนา

ฉินหลั่งเดินไปข้างหน้าอีกก้าว “สวัสดีท่านจั่ว”

“ฉินหลั่ง ไม่ต้องพูดไร้สาระแล้ว ฉันรู้ว่านายจะถามอะไร ฉันจะบอกอะไรให้นะ หยุดคิดเพ้อฝันได้แล้ว”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

Score 10
Status: Completed
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Options

not work with dark mode
Reset