ปล้นสวรรค์ 135มาร่วมงานกันเถอะ

ตอนที่ 135มาร่วมงานกันเถอะ

 

SPH บทที่ 135มาร่วมงานกันเถอะ

 

เมื่อเย่หยู่ได้กลับมาถึงห้องเรียนของเขาฮันเสวี่ยก็ได้เอ่ยคําถามที่เต็มไปด้วยความสงสัยว่า “อาจารย์หรูเรียกนายทําไมหรอ”

 

“เขาบอกว่าเขาจะไปปักกิ่งภายในสองสามวันนี้เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันคํานวณคณิตศาสตร์พรินซ์ตันน่ะ”

 

ฮันเสี่ยพยักหน้ารับแล้วพูดว่า “ยืมเราจะได้พบกับอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์มากมายในปักกิ่งตื่นเต้นอ่ะ!”

 

เมื่อเย่หยู่ได้เห็นท่าทีที่ร่าเริงของเธอ เขาจึงสายหัวพร้อมกับเสียงหัวเราะว่า “อะไรละนั่น” “ยังไงคนพวกนั้นก็สู้ฉันไม่ได้หรอกนะ!”

 

ฮันเสวี่ยจ้องมองไปยังเย่หยู เธอพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “มาดูกันว่านายจะทําได้ไหม!” โอ้ ใช่แล้ว ฉันเห็นผู้อาวุโสฉีด้วยนายรู้ไหมเขาก็มาที่นี่ด้วยเฮลิคอปเตอร์ด้วยล่ะ!”

 

เย่หยู่พยักหน้ารับและพูดว่า “ใช่ก่อนหน้านี้อาจารย์หรูเขาวาดภาพอยู่ที่ออฟฟิซของเขาแล้วพอดีว่าฉันมือคันไป หน่อยเลยไปขอมีส่วนร่วมในภาพนั้นด้วยน่ะแล้วบังเอิญผู้ อาวุโสดันถูกใจภาพนั้นเลยบินมาที่นี่เพื่อมาดูมันกับตาเลยล่ะ!” ถึงเขาจะอายุเยอะแล้วแต่เขาก็ยังกล้าทําเรื่องแบบนี้ยอมเขาเลย!”

 

ฮันเสวี่ยเห็นเย่หยู่ทําท่าทางพิลึกคน เธอยกมือขึ้นมาปิดปากและหลุดขําออกมา “ฮ่าฮ่า ถ้าผู้อาวุโสีรู้ว่าเธอว่าเขาเขาจะต้องโกรธจนทนไม่ได้แน่ๆ!”

 

“เย่หยู่!” อาจารย์ใหญ่กําลังตามหานายอยู่!”

 

ระหว่างบทสนทนาของทั้งคู่ จู่ๆสารวัตรเรียนคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในห้องเรียนของพวกเขาและตะโกนเรียกเย่ย

 

คิ้วของเหยู่ขมวดขึ้นมาในทันที เขาถามสารวัตรนักเรียนกลับด้วยความงุนงงว่า “ทําไมอาจารย์ใหญ่ถึงเรียกหาฉันล่ะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นเหรอ”

 

สารวัตรนักเรียนคนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากจนเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเขาโพส่งออกมาว่า “อาจารย์ใหญ่เขาขอให้ฉันมาบอกนายว่าบริษัททําเพลงหลายๆบริษัท พวกเขาได้มาที่นี่ พวกเขากําลังรอนายอยู่ที่ออฟฟิซ และพวกเขาก็ต้องการเซ็นสัญญากับนายให้ไปเป็นนักร้องในสังกัดด้วย!”

 

เมื่อนักเรียนคนอื่นๆที่อยู่ในห้องเรียนได้ยินที่สารวัตรนักเรียนพูดพวกเขาบางก็ระเบิดความโกลาหลออกมา แต่ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่เย่หยู่ด้วยความอิจฉาตาร้อน 

 

“ว้าว!” บริษัททําเพลงชื่อดังล่ะ! “

 

” ทรงพลังเกินไปแล้ว!” หลายบริษัทกําลังสู้กันเพื่อแย่งตัวเยี่หยู่! “

 

“ทําไมเย่หยู่ถึงนิ่งไปล่ะ!”

 

“ในอนาคตของฉันมีนักเรียนมากมายที่เป็นนักร้องชื่อดังด้วย! ถ้าฉันพูดมันออกไป ฉันจะต้องเสียหน้ามากแน่ๆ!”

 

“เย่หยู่เจ๋งสุด!” ถ้าฉันมีความสามารถถึงครึ่งหนึ่งของเย่หยู่ ฉันจะมีความสุขมาก! ”

 

“บ้าจริง!” ถ้าเธอทําได้ถึงหนึ่งในสิบของเหยู่ละก็เธอก็จะยิ้มในฝันได้แล้ว!”

 

“เย่หยู่ไปหาอาจารย์ใหญ่เร็วเข้าสิ!” ถ้านายดังแล้วอย่าลืมฉันนะเพื่อน! “

 

นักเรียนทุกคนห้องต่างพากันเชียร์ให้เหยู่รีบไปที่ออฟพิซของอาจารย์ใหญ่และเซ็นสัญญาเป็นนักร้องโดยเร็วที่สุด

 

เมื่อได้ยินดังนั้น เย่หยุยนคิ้วเล็กน้อย เขานั่งอยู่บนเก้าอี้โดยไม่ขยับและพูดกับสารวัตรนักเรียนด้วยน้ําเสียงที่นุ่มนว ลว่า ” กลับไปบอกพวกเขาว่าฉันจะไม่เซ็นสัญญา!”

 

เมื่อได้ยินคําจากปากของเหยู่ สารวัตรนักเรียนคนนั้นได้ตกใจกับคําตอบของเหยู่ไปชั่วขณะ เขามองไปยังเย่หย่อ ย่างคาดไม่ถึงว่านั้นคือคําตอบของเขาเขาได้ถามเย่หยู่กลับ ว่า” ทําไมล่ะนี่เป็นบริษัททําเพลงชั้นนําเชียวนะ!” ถ้านายยอมเซ็นสัญญากับพวกเขาล่ะก็นายต้องดังมากแน่ๆ!”

 

เย่หยู่ส่ายหน้า เขาตอบกลับอย่าเฉยชาว่า” ก็ฉันไม่ได้อยากเป็นนักร้องการร้องเพลงเป็นแค่งานอดิเรกของฉัน!”

 

สารวัตรนักเรียนคนนั้นนิ่งไปครู่หนึ่ง แต่เขายังไม่ละความพยายามจึงพูดโน้วน้าวเขาว่า “ นี่เย่หยู่ โอกาสแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนนะฉันอยากให้นายลองคิดดูอีกที”

 

คําพูดของอีกฝ่ายไม่สามารถเปลี่ยนใจเขาได้ เย่หยู่จึงพูดด้วยน้ําเสียงและท่าทีที่หนักแน่นกว่าเดิมว่า “ให้พวกเขา กลับไปเถอะฉันจะไม่เป็นนักร้อง! ไปบอกพวกเขาได้แล้ว!”

 

เมื่อเห็นคําตอบที่หนักแน่นและท่าทางที่มั่นคงของเหยู่หัวหน้าสารวัตรจึงพูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่ฟังดูเศร้าว่า “ใน เมื่อเป็นความต้องการของนายก็คงช่วยไม่ได้ละนะ” 

 

นักเรียนคนอื่นๆที่อยู่ด้วยต่างพากันพูดคุยไปต่างๆนาๆว่า “ไม่เป็นไรหรอกหรอกมั้งถึงเขาจะไม่ได้เซ็นสัญญา เป็นนักร้อง แต่ด้วยความสามารถของเย่หยู่ยังไงเขาก็ดังอยู่ดี

แหละ”

 

“ใช่แล้ว! ผลการเรียนของเหยู่ก็ดีเลิศยังไงเขาสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้ง่ายๆอยู่แล้ว”

 

“ใช่ๆแต่ถ้าเขาได้เซ็นสัญญาล่ะก็นะ เขาจะต้องเชื่อฟังคนเหล่านั้นและต้องอยู่ภายใต้ข้อตกลงของบริษัทเหล่านั้นอีกเขาก็จะไม่มีเวลาว่างหรืออิสระอีกด้วย!”

 

“ฉันก็เห็นด้วยกฏก็ยังไม่ได้กําหนดไว้ มันก็ไม่ได้แย่เลยนะถ้าเหยู่จะไม่ไปน่ะ!”

สารวัตรนักเรียนหมุนตัวหันหลังและเดินกลับไปยังออฟพิซของอาจารย์ใหญ่

 

ออฟฟิซของหลีเสวียซู

 

คนของบริษัททําเพลงหลายคนกําลังนั่งรอเย่หยู่อยู่ที่โซฟารับแขกพวกเขามองหน้าสลับกันไปมาด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความโกรธหลี่เสวี่ยซูกําลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ประจําของเขา เขาเหลือบมองไปยังพวกเขาเล็กน้อย ความไม่พอใจแวบเข้ามาในดวงตาของเขาตามความหมายของหลี่เสวี่ยซูแล้วคนที่ได้ชื่อว่านักเรียนนั้นควรทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างหนัก และไม่ควรทําอะไรที่มันไร้ประโยชน์ยกเว้นแต่สิ่งนั้นคือศิลปะ และแน่นอนว่าสําหรับเย่หยู่แล้วเขาไม่ใช่นักเรียนสายศิลปะและเขาก็ได้เป็นถึงความภาคภูมิใจของโรงเรียนมัธยมเซียงหยู!ถ้าไม่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นคะแนนอันดับ 1 หนึ่งของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังในปีนี้จะต้องตกเป็ นของเหยู่อย่างแน่นอน!

 

แน่นอนว่าหลี่เสวี่ยซูเองนั้นก็ไม่ได้มีความต้องการที่จะให้เรื่องของวงการบันเทิงอะไรพวกนั้นเข้ามารบกวนกับการเรียนของเย่หยู่เลยสักนิด

 

“แค่ก แคก!”

 

ตัวแทนของบริษัททําเพลงไอออกมาเบาๆ เพื่อทําลาย ความเงียบในห้องเขามองไปยังคู่แข่งคนอื่นๆของเขาแล้วพูดพร้อมกับรอยยิ้มว่า “สวัสดีครับทุกคน ผมเป็นตัวแทนของบริษัททําเพลงของเมืองอิมพีเรียล ชื่อของผมคือเล่ยหยง และเหตุผลที่ผมมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับเหยู่!”

 

เขาเว้นจังหวะครู่หนึ่งเล่ยหยงได้พูดต่อประโยคของเขาว่า “ ในสัญญาครั้งนี้ท่านประธานของเราได้ให้ความสนใจในความสามารถของเขาเป็นอย่างมากและท่านได้กําชับผมว่าค่าตัวของเขาจะเท่าไหร่ก็ไม่ว่าเราไม่มีปัญหาทางด้านการเงินของเพียงแค่ได้เซ็นสัญญากับเหยู่ก็พอ!”

 

ทันทีที่เล่ยหยงพูดจบประโยคหญิงวัยกลางคนที่นั่งข้างเขาก็ได้พูดขึ้นมาด้วยความหมั่นไส้ว่า”ฮ่าฮ่า อิมพีเรียลเอ๊ย! ฉันเป็นตัวแทนของบริษัทสตาร์มีเดียชื่อช่ายซูหมิน! และเราไม่อนุญาตให้ใครลงนามในสัญญานี้”

 

“ผมชื่อเกรซซี่ คาร์เตอร์เป็นตัวแทนจากประเทศสห รัฐอเมริกาและบริษัทเคเออินเตอร์เนชั่นนอล! เย่หยู่คนนี้ไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอของเราได้อย่างแน่นอน!” ชายร่างสูงพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มนัยตาของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่น

 

ส่วนคนที่นั่งตรงข้ามกับเกรซซี่นั้นเป็นชายวัยกลางคนเขามีผมที่ยาวและเขาได้หัวเราะออกมาด้วยความรังเกียจ” เงื่อนไขแบบไหนกันที่คุณจะให้กับเขาคงไม่ได้ใจดีเท่ากับเงื่อนไขของเราที่จะให้เขาได้เป็นดาราหรอก!”

 

เมื่อได้ฟังดังนั้น นัยตาของเกรซซี่เปี่ยมไปด้วยความโกรธในทันที่เขาพูดด้วยเสียงต่ํา

 

“จี้ หนาน! มือใหม่จากครั้งที่แล้วถูกคุณคว้าไป! พวกเรา เมอร์เซอนารี่ อินเตอร์เนชั่นนอลจะไม่ปล่อยให้เย่หยู่หลุดมือไปแน่นอน!”

 

จี้ หนานพูดเยาะเย้ย “ฟังให้ดีนะ! เงื่อนไขของเราคือการ เซ็นสัญญาเป็นระยะเวลาแปดปีและในเวลาเดียวกันพวกเขาจะใช้บรรจุภัณฑ์และโปรโมชั่นที่เป็นที่นิยมที่สุดของเรา!” 

 

“ชัด”

 

เกรซซี่หายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองยังจี้หนานด้วยความประ หลาดใจ “นี่พวกคุณบ้าไปเหรอ” เย่หยู่คนนี้ไม่ได้ดังขนาดนั้น! คุณไม่ได้ลงทุนมากเกินไปหรือไง”

 

จี้หนานมองดูเกรซซี่ด้วยความรังเกียจ “คุณจะไปรู้อะไร เพลงของเหยู่คู่ควรที่จะได้รับการสนับสนุนถึงครึ่งหนึ่งของอุตสาหกรรมเพลงด้วยซ้ํา!”

 

ทางด้านของช่ายซูหมินจากสตาร์มีเดียก็อดไม่ได้ที่จะหัว เราะออกมาเช่นกัน “คุณเป็นคนที่ใจกล้าดีนี่!” แต่บริษัทสตาร์มีเดียของเราก็ไม่ได้เลวเช่นกัน! สัญญาของเรามีระยะเว ลาสามปีและเราจะยกผลประโยชน์ให้เขาถึง 829%มากไปกว่านั้นคือเขายังสามารถยกเลิกสัญญาของเราได้ตลอดเวลา!

 

จี้หนานรู้สึกประหลาดใจหลังจากนั้นพูดว่า “แค่สามปีเอ งหรอ คุณไม่กลัวว่าเย่หยู่จะไปอยู่บริษัทอื่นเวลาที่เขาโมโหคุณหรือไง”

 

ช่ายซูหมินยิ้มออกมาเล็กน้อย “นักร้องที่มีความสา มารถอย่างเย่หยุไม่มีบริษัทไหนจัดการเขาได้อยู่หมัดหรอกนะ!”

 

ช่ายซูหมินเว้นจังหวะชั่วคราวแล้วพูดต่อว่า “สามปีไม่สิ หนึ่งปีเย่หยู่จะต้องดังระเบิดระเบ้อแน่นอน! เมื่อถึงเวลาเราจะเป็นคนที่ไปขอร้องให้เขาเซ็นสัญญาด้วย!”

 

“เหตุผลที่เรายอมเขาขนาดนี้ก็เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเหยู่!” เมื่อเธอพูดจบประโยคเธอไม่กังวลเลยว่าบริษัทนจะคิดเห็นอย่างไรกับสิ่งที่เธอทํา เธอรู้แค่เพียงว่าว่าบริษัท ทําเพลงเหล่านี้จะไม่ให้ข้อตกลงที่ดีเท่าบริษัทของเธอ!

 

บริษัททําเพลงอื่นๆต่างมองหน้ากันและต่างคนต่างตกอยู่ในความคิดของตัวเองพวกเขากําลังตระหนักถึงผลประโย ชน์ที่เย่หยู่จะสร้างให้แก่บริษัทของพวกเขาได้หรือไม่

 

แกรัก

 

เสียงเปิดประตูดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน หลี่เสวี่ยซูและกลุ่มตัวแทนบริษัททําเพลงมองไปยังต้นเสียงด้วยความคาดหวังนักเรียนคนหนึ่งเดินเข้ามา

 

ตัวแทนของเมืองอิมพีเรียลเล่ยหยงได้ถามขึ้นเป็นคนแรกว่า “เธอคือเหยู่หรอ”

 

“ปาวครับ ผมไม่ใช่เย่หยู่ ผมเป็นหนึ่งในสารวัตรนักเรียนครับชื่อเจาเล่อ”

 

เมื่อหลี่เสวี่ยซูเห็น เจาเล่อเขาจึงถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “เจาเล่อฉันไม่ได้บอกให้เธอไปตามเย่หยู่มาหรอทําไมฉันถึงไม่เห็นเขาล่ะ”

 

เจาเล่อสารวัตรนักเรียนชั้นปีที่สามลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “คือ… เย่หยู่เขา…”

 

เจาเล่อยังพูดไม่จบประโยค เกรซซี่ก็พูดแทรกขึ้น มาด้วยรอยยิ้มว่า “ฮ่าฮ่าประธานหลีไม่ต้องกังวลไป เย่หยู่ คงกําลังยุ่งอยู่ใจเย็นๆ เดียวเขาก็มา”

 

ตัวแทนของดาวรุ่งอย่างจี้หนานกล่าวว่า “ใช่แล้วเราเคย เห็นแบบนี้มาหลายคนแล้ว เย่หยู่เขายังเด็กอยู่เขาอาจจะตื่นเต้นจนทําตัวไม่ถูกอยู่ก็ได้!”

 

ตัวแทนคนอื่น ๆ ของ บริษัททําเพลงต่างพากันหัวเราะออกมาอย่างพร้อมเพียง“ ฮ่าฮ่าสําหรับคนทั่วไปพวกเขาจะตื่นเต้นมากถ้ามีบริษัททําเพลงอย่างพวกเราต้องการเซ็น สัญญากับเขาเย่หยู่ก็คงกําลังตื่นเต้นจนทําตัวไม่ถูกเหมือน กันนั้นแหละ!”

 

“ใช่แล้วเราจะรอเขาอีกสักพัก นี่เธอชื่อเจาเล่อสินะไปตามเย่หยู่อีกรอบ เวลาของพวกเรามีค่ามากนะ อย่าทําให้เรื่องนี้มันยุ่งยากนักเลย!”

 

ปล้นสวรรค์

ปล้นสวรรค์

Score 10
Status: Completed

เรื่อง ปล้นสวรรค์

นักเรียนมัธยมปลายธรรมดา นามว่าเย่หยู จู่ๆวันหนึ่งก็มีลำแสงพุ่งลงมาที่มือของเขา ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้ระบบปล้นสวรรค์มาคลอบครอง ในแต่ละวันเขาสามารถเปิดช่องมิติ เพื่อที่จะใช้มือของเขา ล้วงเข้าไปขโมยของต่างๆจากทุกที่มาเป็นของตน
“ยอดภูเขาดาบ ซึ่งมีดาบวิเศษปักอยู่ จู่ๆก็เกิดวังวน พร้อมทั้งมีมือยื่นออกมา คว้าดาบวิเศษ ที่นิกายดาบสวรรค์เฝ้ารอคอย”
“ดร.อากาสะแว่นตารุ่นล่าสุดของผมอยู่ไหนครับ” “ โอ้มันอยู่ตรงนี้ โคนัน เอ๊ะ! มันหายไปไหนแล้ว!”
“ ฮ่าฮ่า ในที่สุดตำราฝังเข็มเล่มนี้ก็เป็นของข้า! อ๊ะ! ใครบังอาจขโมยไป”

Options

not work with dark mode
Reset