จักรพรรดิมังกร 481ให้เจ็บจนจุกกันไปข้าง

ตอนที่ 481ให้เจ็บจนจุกกันไปข้าง

ผู้จัดการหวังคีบบุหรี่ไว้ที่มุมปากมวนหนึ่ง เขาเตรียมจะสูบบุหรี่เพื่อให้ใจเย็นลงหน่อย

คำขอร้องของคางเหวินซิงทำให้ผู้จัดการหวังตั้งตัวไม่ติด ถ้าจะดูบ้านไม่มีปัญหา แต่ถ้าอีกฝ่ายชอบขึ้นมาล่ะจะทำอย่างไร

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องเงินต้นทุนหรือไม่ใช่เงินต้นทุน ถ้าให้คางหย่งเฉียนคว้าคฤหาสน์หลังนี้มาได้ คงจะเก็บเงินไม่ได้สักแดงเดียว

พอนึกถึงคางหย่งเฉียน ผู้จัดการหวังก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาตะหงิดๆ นั่นเป็นปิศาจเจ้าสำราญตัวยงแห่งตระกูลคางเลยนะนั่น ที่กินนอนเที่ยวเล่นไปวันๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังไปคบหาสมาคมกับพวกสำมะเลเทเมา

ก่อนหน้าที่นายท่านคางจะโดนคางหย่งเฉียนปั่นหัวจนแทบระเบิด คนตระกูลคางส่วนมากทำเป็นไม่สนใจคางหย่งเฉียน ขอแค่คางหย่งเฉียนไม่ก่อเรื่องวุ่นวายก็พอ คนในตระกูลคางก็จะไม่ไปวุ่นวายอะไรกับคางหย่งเฉียนเหมือนกัน

ถ้าหากว่ายกคฤหาสน์ให้เพื่อนของคางเหวินซิงจริงๆ ถ้างั้นคางหย่งเฉียนคงจะหาคนมาตัดหัวเขาถึงที่ล่ะ

บุหรี่ยังไม่ทันสูบหมดมวน ผู้จัดการหวังบี้ขี้บุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่อย่างแรง รู้สึกว่าอย่างไรก็ต้องบอกคางหย่งเฉียนสักหน่อย ส่วนคางหย่งเฉียนจะไปสู้รบปรบมือกับคางเหวินซิงอย่างไร เป็นเรื่องของพวกเขา

หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพลิกหาเบอร์ของคางหย่งเฉียน ผู้จัดการหวังพูดอย่างยั่วยุ“พี่คาง ผมมีอะไรจะรายงาน”

คางหย่งเฉียนที่กำลังนั่งกินข้าวโม้แตกกับเพื่อนอยู่ โอบเอวดาราแล้วพูดขึ้น“เรื่องไรวะ มีอะไรก็รีบๆพูด โอ้เอ้เป็นหน้าตัวเมียอยู่ได้”

“คุณชายเหวินซิงจะพาเพื่อนไปที่คฤหาสน์ยอดเขาครับ ผมบอกไปแล้วว่าคุณได้ครอบครองคฤหาสน์ยอดเขานั่นแล้ว แต่คุณชายเหวินซิงก็ยังดึงดันจะพาเพื่อนไป”

“แม่งเอ๊ย!คางเหวินซิงกล้าไม่ไว้หน้ากูเหรอ ขนาดพ่อมันยังไม่กล้าวุ่นวายกับกูเลย!”

คางหย่งเฉียนระเบิดออกมา คฤหาสน์ยอดเขานั้นเป็นของขวัญที่คางเหวินซิงเตรียมมอบให้ผู้หลักผู้ใหญ่ จะปล่อยให้เพื่อนของคางเหวินซิงซื้อไปได้ไงเล่า

คางหย่งเฉียนผู้ที่ระหกระเหินในไม่กี่ปีนี้จนเบื่อ คิดเริ่มที่จะทำกิจการใหญ่ของตัวเอง ดังนั้นจากคอนเนคชั่นต่างๆ จึงได้ติดต่อกับผู้หลักผู้ใหญ่ไว้เป็นจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้ไม่นานรู้จักชาวต่างชาติสูงใหญ่ผู้นี้ผ่านทางเพื่อน ได้เห็นฝีไม้ลายมือของชาวต่างชาติสูงใหญ่ คางหย่งเฉียนจึงเกิดความคิดขึ้นในใจ

เมื่อลองเรียนกังฟูกับชาวต่างชาติผู้นี้ และก็ได้ทำความรู้จักกับพี่น้องที่มีศักยภาพ สุดท้ายก็ได้ร่ำรวยขึ้นมาด้วยกัน ดูท่าหนทางแห่งความสำเร็จนั้นไม่ง่ายเท่าไหร่

พอรู้ว่าชาวต่างชาติผู้นั้นจะกลับมาก่อร่างสร้างตัวที่เมืองฮ่านบ้านเกิดเมืองนอน คางหย่งเฉียนก็เลยนึกถึงคฤหาสน์บนยอดเขาในชุมชนหนานชุ่ย เตรียมที่จะยกคฤหาสน์นั้นให้เป็นของขวัญ

กำลังกินข้าวอยู่กับคางหย่งเฉียน ล้วนเป็นลูกศิษย์ลูกหาของชาวต่างชาติร่างสูงใหญ่ผู้นั้น กลับมาดูลาดเลาให้ก่อน และจัดเตรียมที่ทางให้

ตอนนี้คางหย่งเฉียนกำลังต้อนรับลูกศิษย์ลูกหาเหล่านั้นด้วยมิตรจิตมิตรใจ เพื่อที่จะกระชับสัมพันธ์ จึงได้เตรียมเน็ตไอดอลอายุสิบแปดซิงๆมาต้อนรับเอาอกเอาใจด้วย

“น้องหย่งเฉียนไปอะไรไปเล่า ไปเจอเรื่องอะไรมางั้นหรือ มีอะไรก็บอกพี่ได้ พวกเราพี่น้องจะช่วยจัดการให้เอง”

“ฮ่าๆๆ นั่นสิ คุณต้อนรับพวกเราดีขนาดนี้ พวกรุ่นพี่จะต้องคอยซับพอร์ตแน่นอน คนที่กล้าขัดใจ ตายสถานเดียว”

พวกลูกศิษย์ลูกหาพูดอย่างดุดัน แต่ละคนมีแววแห่งการสังหาร

คางหย่งเฉียนหัวเราะแล้วพูด“เรื่องในบ้าน ลูกของพี่ชายผมพาเพื่อนมาดูบ้าน จะมาดูบ้านที่ผมจะยกให้อาจารย์พอดี เด็กบ้านี่จริงๆเลย เดี๋ยวผมจะไปจัดการมัน”

สีหน้าของพวกพี่น้องเปลี่ยนไป กลิ่นอายสังหารรุนแรงขึ้น

“ไอ้บ้าที่ไหนไม่ดูตาม้าตาเรือ กล้ามาแย่งคฤหาสน์ของอาจารย์ พวกแกยังมัวแต่อะไรนะไปจัดการไอ้ฉิบหายนั่นให้ตายไปข้าง”

“ศิษย์พี่เกิ่งพูดถูกแล้ว พวกเราไปดูกันหน่อยสิ ที่พักของอาจารย์น่ะต้องชั้นหนึ่งอยู่แล้ว จะผิดพลาดไม่ได้แม้แต่น้อย”

พวกศิษย์พี่เกิ่งทยอยลุกขึ้น คางหย่งเฉียนเห็นสถานการณ์จึงเรียกบริกรมาคิดเงิน แล้วพาพวกศิษย์พี่เกิ่งไปที่ชุมชนหนานชุ่ย

……

รถเบนซ์ขับไปที่ชุมชนหนานชุ่ย ขับตรงไปทางยอดเขา

เขาหนานชุ่ยซานอยู่ตรงที่ราบของยอดเขา ที่ราบนั้นเอามาสร้างคฤหาสน์ รอบๆคฤหาสน์เป็นพรรณไม้เขียวชอุ่ม

ด้านหน้าคฤหาสน์มีลำธารไหลผ่าน ทำให้ฮวงจุ้ยของคฤหาสน์นั้นเยี่ยมยอดอย่าบอกใคร

ด้านหลังมีที่พึ่งพิง ด้านหน้ามีที่ไหลริน ที่ประตูใหญ่มีการวางฮวงจุ้ยไว้อย่างดี ทำให้คฤหาสน์ยอดเขานี้เหมือนเป็นวิมานชั้นเลิศ

รถเบนซ์ขับไปจอดนิ่งๆอยู่หน้าคฤหาสน์ ผู้จัดการหวังพาพนักงานขายสาวสองคนไปยืนรอหน้าคฤหาสน์เรียบร้อย

พอเห็นรถเบนซ์จอดลง ผู้จัดการหวังจึงรีบวิ่งเหยาะๆเข้ามา รีบเปิดประตูรถ

พวกหลี่โม่ทยอยกันลงจากรถ พอผู้จัดการหวังเห็นสาวสวยสุดยอดอย่างกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถง ก็อดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้ พนักงานขายในชุมชนหนานชุ่ย เป็นสาวงามที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี แต่สาวงามพวกนั้นพอมาเทียบกับกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงแล้ว ก็ดูเป็นสาวบ้านนอกขึ้นมาทันที

คางเหวินซิงเห็นผู้จัดการหวังดูทึมเป็นสุกร จึงจ้องไปที่ผู้จัดการหวังเขม็ง ยักไหล่แล้วถามว่า“มองไรวะ!รีบพาไปดูคฤหาสน์สิ”

“อ่อๆ ครับ ครับ”

ผู้จัดการหวังได้สติคืน จึงกุลีกุจอพาเข้าไปในคฤหาสน์

“เชิญทุกท่านครับ ฮวงจุ้ยบนยอดเขาเป็นเลิศ ก่อนสร้างซินแสได้ดูให้เรียบร้อยแล้วครับ ต้นไม้ใบหญ้ารอบๆก็ตกแต่งอย่างงาม สร้างตามภูมิทัศน์ที่ฮวงจุ้ยกำหนด พูดได้ว่าเมืองฮ่านทั้งเมือง ไม่มีที่ไหนจะฮวงจุ้ยดีไปกว่าบ้านหลังนี้แล้วครับ”

“ที่จริงพวกเราแอบพูดกันนะ ฮวงจุ้ยที่นี่ จัดเป็นอันดับหนึ่งทั่วประเทศเลยทีเดียว เคยได้ยินซินแสฮวงจุ้ยพูดว่า คนที่ดวงขึ้นเท่านั้นแหละที่จะมาอยู่ที่นี่ได้ คนรอบตัวกดดวงมังกรของคนพวกนี้ไม่ได้หรอก ได้ตายกันหมด”

ในตอนที่ผู้จัดการหวังพูด แววตาที่ทอดไปยังหลี่โม่ คำพูดนี้เขาจงใจกระทบหลี่โม่

ในฐานะที่เป็นผู้จัดการฝ่ายขาย แววตาของผู้จัดการหวังร้ายกาจมาก คะเนเพียงว่าทั้งเนื้อทั้งตัวของหลี่โม่น่าจะไม่เกินสองร้อย

แต่สิ่งที่ทำให้ผู้จัดการหวังงุนงงคือสุดยอดสาวงามอย่างกู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถง ทำไมถึงสนิทกับหลี่โม่ได้ หรือว่าพวกเขาจะล้อมรอบคางเหวินซิง อย่างไรเสียคางเหวินซิงก็เป็นคุณชายตระกูลคาง ตระกูลคางก็ถือเป็นตระกูลมหาเศรษฐี

หลี่โม่ยักคิ้ว แต่ไม่สนใจในคำพูดของผู้จัดการหวัง

เพราะหลี่โม่คิดว่าผู้จัดการหวังพูดไม่ผิด บ้านที่ฮวงจุ้ยดีก็ต้องดูด้วยว่าใครเป็นคนอยู่ ถ้าหากบารมีไม่ถึง ฮวงจุ้ยดีแค่ไหนก็เปลี่ยนเป็นร้ายได้

คางเหวินซิงจ้องผู้จัดการหวังอย่างเดือดดาล พูดเสียงค่อยกับผู้จัดการหวังว่า“ความหมายของคุณ ต้องการจะรื้อเวทีใช่ไหม เชื่อไหมว่าผมถลกหนังคุณได้ ให้เจ็บจนจุกกันไปข้าง!”

Options

not work with dark mode
Reset