ตอนพิเศษ 258 กวาดล้างตระกูลเจี่ยง
ตอนพิเศษ 258 กวาดล้างตระกูลเจี่ยง
ถงเวยหลินมองนางด้วยสายตาลึกซึ้ง ในใจนึกเกลียดชังเจี่ยงโม่เซิงและคนตระกูลเจี่ยงมากกว่าเดิม เขากำหมัดแน่น แต่ยังคงควบคุมอารมณ์ ก่อนจะหันกลับมาช้า ๆ และหันหลังให้ฮ่วนเหนียง เพื่อให้เนี่ยนเนี่ยนจัดการกับบาดแผล
สิ่งที่เขาหวังมากที่สุดในตอนนี้คือต้องรักษาอาการบาดเจ็บของเขาให้หายเร็วที่สุด แล้วหาทางแก้แค้นคนตระกูลเจี่ยง
เมื่อนึกถึงตระกูลเจี่ยง ถงเวยหลินก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เขารู้ว่าไป๋หลิวอี้กำลังลงมือทำอะไรบางอย่าง และเขาก็เข้าใจว่าพวกเขากำลังจะริเริ่มโจมตีตระกูลเจี่ยงก่อน
แผนของพวกเขาคืออะไร? ตอนนี้พวกเขาไปอยู่ที่ใดกัน
เมื่อคิดถึงได้ดังนั้น ถงเวยหลินก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเนี่ยนเนี่ยน แล้วถามว่า “เจ้ารู้ความคืบหน้าอะไรบ้างหรือไม่?”
เนี่ยนเนี่ยนยกยิ้ม “ตระกูลหลิ่วจบสิ้นลงแล้ว แต่ไป๋หลิวอี้ก็ไม่ยอมให้ข้ามีส่วนร่วมในเรื่องต่อไป ข้าจึงไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับความคืบหน้า”
ไม่เพียงแต่ไป๋หลิวอี้เท่านั้นที่ไม่ยอมให้นางเข้าร่วม แม้แต่พี่ใหญ่และเป่ยเป่ยก็เหมือนกัน พวกเขาทั้งสามพูดคุยทุกอย่างลับหลังนาง ราวกับว่าพวกเขากำลังจะขโมยของของใครบางคน
แต่มันก็มีเหตุผลที่ไม่อาจหักล้างได้อยู่ ซึ่งก็คือขณะพวกเขาทุกคนออกไปจัดการกับตระกูลเจี่ยง นางเป็นคนเดียวที่สามารถอยู่ปกป้องจวนซูกั๋วกงได้ ความปลอดภัยของฮูหยินเฒ่าไป๋ยังคงอยู่ในความรับผิดชอบของนาง
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนนึกถึงความจริงจังและความตั้งใจจริงของคนทั้งสาม นางก็ได้แต่กลั้นใจยอมรับ โดยต้องบิดหูเป่ยเป่ยสักสองครั้งเพื่อคลายความคับข้องใจ
นางคิดว่าต่อให้จะรออยู่ที่จวน ก็คงจะมีข่าวมาเร็ว ๆ นี้
แน่นอนว่าไป๋หลิวอี้และคนอื่น ๆ เริ่มลงมือในคืนนั้น รวดเร็วมากจนทุกคนไม่ทันได้ตั้งตัว
กรมราชทัณฑ์เพิ่งสอบปากคำหลิ่วเชียงและหลิ่วเหวย และค้นหาหลักฐาน ด้วยการค้นเรือนของลุงสามและลุงสี่ของเขาตามเบาะแสที่ถงเวยหลินให้ไว้ แล้วก็พบหลักฐานว่าตระกูลเจี่ยงก่อเรื่องชั่วร้ายกับตระกูลถงจริง ๆ
เดิมทีคิดว่าการส่งมอบเรื่องให้ไท่จื่อแล้วหารือเรื่องวิธีจัดการกับตระกูลเจี่ยง จะต้องใช้เวลาสองสามวันในการส่งกองกำลังไปประจำการ
คาดไม่ถึงเลยว่าทันทีที่หลักฐานอยู่ในมือ จวนตระกูลเจี่ยงจะถูกปิดล้อมทันที ดูเหมือนว่าการเตรียมการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นไปนานแล้ว และพวกเขากำลังรอการรวบรวมพยานและหลักฐาน เพื่อทำให้ตระกูลเจี่ยงตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการจับกุม
ถนนหน้าจวนตระกูลเจี่ยงเต็มไปด้วยทหารและกองกำลังที่มาปิดล้อม
คนตระกูลหวงและตระกูลลู่รีบไปที่ประตูจวนตระกูลเจี่ยงพร้อมกัน แล้วเข้าโจมตีตระกูลเจี่ยงด้วยความเร็วปานสายฟ้า
เช้าวันรุ่งขึ้น เนี่ยนเนี่ยนก็ได้ยินข่าว
นางกำลังกินอาหารเช้ากับฮูหยินเฒ่าไป๋ หลังจากหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น รวมถึงเรื่องฮูหยินเฒ่าถง ฮูหยินเฒ่าไป๋ก็ไม่ยืนกรานที่จะกินเนื้อสัตว์เพื่อสนองความอยากอาหารของตัวเองอีกต่อไป นี่เป็นสัญญาณที่ดี
อาเวินมารายงานสถานการณ์ ตามคำสั่งของไป๋หลิวอี้ “… ตระกูลเจี่ยงหยั่งรากลึก พวกเขาได้เตรียมการมากมายสำหรับเหตุการณ์ใหญ่ ไม่รู้ว่าพวกเขาไปรวบรวมจอมยุทธ์ในยุทธจักรมากมายมาตั้งแต่เมื่อใด โชคดีที่นายท่านและคนอื่น ๆ เตรียมใจไว้แล้ว และชิงลงมือตอนที่พวกเขาคาดไม่ถึง ในที่สุดเรื่องนี้ก็สำเร็จขอรับ”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น ฮูหยินเฒ่าไป๋ก็ยังกังวลเล็กน้อย “แล้วเหล่าจอมยุทธ์พวกนั้นก็ถูกกำจัดด้วยหรือ?”
อาเวินพยักหน้า “ตระกูลลู่และตระกูลหวงส่งปรมาจารย์ระดับสูงมา ตระกูลเจี่ยงใช้ผู้อาวุโสถงสามและผู้อาวุโสถงสี่เป็นไส้ศึกในคราวที่จัดการกับตระกูลถง ทว่าในตระกูลของพวกเขาก็ถูกปฏิบัติด้วยวิธีเดียวกัน เพราะมีบางคนในตระกูลเจี่ยงที่ง่ายต่อการกลายเป็นไส้ศึก”
หลายปีมานี้ หญิงสาวตระกูลหวงที่แต่งงานกับคนตระกูลเจี่ยงกำลังไม่พอใจ สามีของนางหลงใหลอนุแล้วละเลยฮูหยินของตน ลูกก็แยกย้ายกันไป หากไม่ใช่เพราะมีตระกูลของตนสนับสนุน นางคงกลายเป็นนางบำเรอไปนานแล้ว นางจึงเกลียดตระกูลเจี่ยงมานาน ดังนั้นครั้งนี้นางจึงให้ความร่วมมือเต็มที่ ทั้งยังใช้วิธีการที่ไร้ความปรานี ในการล้างแค้นอนุของสามีด้วยตัวเองอีกด้วย
เมื่อฮูหยินเฒ่าไป๋ได้ยินว่าพวกเขาเตรียมพร้อมมาอย่างดี และตระกูลเจี่ยงก็ถึงคราวจบสิ้นลงแล้ว ในที่สุดนางก็รู้สึกสบายใจขึ้น จึงหันกลับไปจับมือของเนี่ยนเนี่ยน แล้วพูดว่า “ในที่สุดคนชั่วก็ได้รับกรรม ถือได้ว่าเป็นการแก้แค้นให้กับตระกูลถง ข้าจะไปไหว้ป้ายวิญญาณของฮูหยินเฒ่าถงด้วยตนเองทีหลัง จะคุยกับนางดี ๆ เพื่อให้นางได้พักผ่อนอย่างสงบ”
เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้าด้วยอาการเหม่อลอย นางมองไปที่อาเวิน แล้วรู้สึกอยู่เสมอว่าเขายังมีเรื่องอยากจะพูด เขาจึงมองนางอย่างลังเล
นางตอบฮูหยินเฒ่าไป๋ว่า “อืม เมื่อสถานการณ์ข้างนอกสงบลง ข้าจะไปจวนตระกูลถงกับท่านด้วยเจ้าค่ะ”
ฮูหยินเฒ่าไป๋ถามอาเวินอีกสองสามคำถาม เมื่อรู้ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี นางก็รู้สึกโล่งใจและปล่อยเขาออกไป
เมื่อหันกลับมา นางก็จับมือของเนี่ยนเนี่ยนอีกครั้งด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“ตอนนี้เราก็โล่งใจแล้ว ทุกวันนี้พวกเรากังวลกันมากจริง ๆ เนี่ยนเนี่ยน ช่วงนี้เจ้าคอยปกป้องข้าจนเหนื่อยมากแล้ว กลับไปพักผ่อนให้เพียงพอเถิด”
“อืม ได้เจ้าค่ะ ข้าจะคอยดูแลท่านเอง”
“…” ฮูหยินเฒ่าไป๋หันกลับมามองด้วยความประหลาดใจ นางบอกให้กลับไปพักผ่อน เหตุใดนางถึงรับคำแต่ตอบตรงกันข้ามเช่นนี้?
เมื่อจ้องมองท่าทางของนาง ก็ตระหนักได้ว่าเนี่ยนเนี่ยนดูเหมือนกำลังใจลอยอยู่
“เนี่ยนเนี่ยน เนี่ยนเนี่ยน! เนี่ยนเนี่ยน?” ฮูหยินเฒ่าไป๋เรียกหลายครั้ง แต่เนี่ยนเนี่ยนไม่ตอบสนอง
จนกระทั่งนางผลักเบา ๆ เนี่ยนเนี่ยนถึงกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง แล้วหันมาถามด้วยความแปลกใจ “อืม เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ?”
“เหตุใดเจ้าถึงเหม่อลอย? เกิดอะไรขึ้น?” ฮูหยินเฒ่าไป๋ขมวดคิ้ว
เนี่ยนเนี่ยนได้สติอย่างรวดเร็ว เมื่อนางเงยหน้าขึ้นก็พบว่าอาเวินออกไปแล้ว นางฝืนยิ้มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า “ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ ข้าคิดว่าข้าควรจะไปบอกข่าวดีนี้แก่นายน้อยถงเจ้าค่ะ”
เมื่อนึกถึงถงเวยหลิน ฮูหยินเฒ่าไป๋ก็พยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “ใช่ๆๆ เจ้าพูดถูก รีบไปบอกข่าวดีเขา เขาจะได้สงบสติอารมณ์และบาดแผลจะได้หายเร็วขึ้น เพราะจะได้ไม่กังวลเรื่องต่าง ๆ ตลอดเวลา คนที่ต้องซ่อนตัวย่อมไม่อยู่อย่างสงบสุข”
เนี่ยนเนี่ยนยืนขึ้น จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วพูดว่า “เช่นนั้นข้าขอตัวลาไปก่อนนะเจ้าคะ ท่านพักก่อน แล้วข้าจะกลับมาใหม่เจ้าค่ะ”
“ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่หรอก หลังจากที่เจ้ากลับมาจากบ้านเจ้ารองแล้วก็กลับไปพักผ่อนที่หอหลินเยว่ให้เพียงพอเถิด เจ้าคงหมดแรงจากการวิ่งไปทั่วเช่นนี้แล้ว อย่างไรเสียตอนนี้ก็ดึกแล้ว ฝั่งข้าไม่มีอะไรต้องห่วง”
เนี่ยนเนี่ยนมีบางอย่างอยู่ในใจ นางจึงไม่ปฏิเสธและพยักหน้ารับ
จากนั้นนางก็หันหลังแหวกม่านออกไป ทันทีที่ออกจากโถงเล่อฝู นางก็เห็นอาเวินยืนรออยู่ตรงมุมไม่ไกล
เมื่อเห็นนางออกมา เขาก็รีบก้าวมาหา
ลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นในใจของเนี่ยนเนี่ยน “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกใช่หรือไม่?”
อาเวินพยักหน้า แต่ยังคงลังเล
เนี่ยนเนี่ยนเริ่มร้อนใจ “รีบพูดเร็วเข้า”
“ครั้งนี้เราเหวี่ยงแหได้สำเร็จ แม้ว่าตระกูลเจี่ยงจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่รากฐานของพวกเขาหยั่งลึกเกินไป จึงระวังตัวอยู่เสมอ เมื่อพวกเราจัดการกับพวกเขาครั้งนี้ จึงประสบกับความสูญเสียหนักเช่นกัน ทั้งตระกูลลู่และตระกูลหวงสูญเสียผู้คนไปหลายคน ทหารจำนวนมากเสียชีวิตและบาดเจ็บ ยิ่งกว่านั้น…เจี่ยงโม่เซิงหลบหนีไปได้ และ…” อาเวินเงียบอีกครั้ง แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ตัวการใหญ่รอดไปได้อีก แถมยังมีแววว่าใครจะบาดเจ็บอีกแล้วล่ะสิเนี่ย เฮ้อ
ไหหม่า(海馬)