พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่งบทที่ 452 คำบอกเล่า (2)

บทที่ 452 คำบอกเล่า (2)

ฮ่องเต้​ได้​ฟังก็​นิ่งอึ้ง​ไป​แต่​ทันใดนั้น​ก็​อยาก​จะหัวเราะ​ออกมา​ ทว่า​พอ​ครุ่น​คิดดู​กลับ​หัวเราะ​ไม่ออก​ สีหน้าท่าทาง​แปลกประหลาด​ยิ่ง​ ส่วน​ทาง​ไทเฮา​ทรง​หัวเราะ​ออกมา​แล้ว​

“เด็ก​คน​นี้​รู้จัก​พูด​เสีย​จริง​” นาง​ยิ้ม​เอ่ย​ “นึกไม่ถึง​ว่า​จะมีคน​ถ่อมตน​ไม่ขอ​รางวัล​อยู่​อีก​ ซ้ำยัง​สามารถ​เอ่ย​เหตุผล​ที่​ทำเอา​คน​เชื่อถือ​ศรัทธา​ได้​เช่นนี้​อีกด้วย​”

ฮ่องเต้​ยิ้มเจื่อน​ แม่นาง​ผู้​นี้​ไม่ทวง​ความดี​ความชอบ​ ซ้ำยัง​เอ่ย​ชื่นชม​พระองค์​อีก​ แต่​ก็​ไม่ลืม​เอ่ย​ประโยค​ที่​ทำเอา​พระองค์​เอ่ย​ไม่ออก​ออกมา​

เพราะ​บรรดา​พี่ชาย​ต้องการ​ นาง​ที่​เป็น​น้องสาว​จึงขอบคุณ​และ​ระลึกถึง​จึงได้​นึก​ขึ้น​มาได้​ ทว่า​ยาม​นี้​ไม่มีพี่ชาย​อยู่แล้ว​ ดังนั้น​นาง​จึงคิด​สิ่งอื่น​ใด​ไม่ออก​อีกแล้ว​

คิดไม่ออก​จริงๆ​ หรือว่า​ไม่พอใจ​กัน​แน่​

ไม่พอใจ​ก็​ไม่เลว​ อย่าง​น้อย​ก็​หมายความว่า​จิตใจ​ยังมี​ความปรารถนา​และ​ต้องการ​อยู่​ ดีกว่า​พวก​ไร้​หัวจิตหัวใจ​

อีก​อย่าง​ อย่างไร​เสีย​ก็​เป็น​เด็กสาว​คน​หนึ่ง​ ระบาย​อารมณ์​ออกมา​เสียหน่อย​ก็​มิใช่เรื่องใหญ่​อัน​ใด​ นี่​มิใช่ว่า​รู้​ว่า​พระองค์​คือ​ฮ่องเต้​ จึงไม่ลืม​เอ่ย​สรรเสริญ​สอง​สามประโยค​หรอก​หรือ​

การแสดงออก​ของ​แม่นาง​น้อย​ใน​ยาม​นี้​เหมือนกับ​ความเคยชิน​ที่​ผ่านๆ​ มาของ​นาง​ มั่นคง​แน่วแน่​แต่​ก็​มีลำดับความสำคัญ​อย่าง​เหมาะสม​ แน่ใจ​ได้​ว่า​นี่​มิใช่สิ่งที่​เฉินเซ่า​สั่งสอน​แน่นอน​ เรื่อง​ใน​ครา​นี้​เป็น​สิ่งที่​นาง​ทำ​ด้วยตัวเอง​จริงๆ​ ส่วน​เฉินเซ่า​และ​คนอื่นๆ​ เพียงแค่​ถือโอกาส​ทำ​ไป​ตามน้ำ​เท่านั้นเอง​

ในขณะที่​ทาง​ด้าน​นี้​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​นั้น​ ด้านนอก​ก็​มีเสียง​ฝีเท้า​ตึงตัง​อย่าง​เร่งร้อน​ดัง​ขึ้น​ ราวกับ​มีคน​กำลัง​วิ่ง​ด้วย​ความร้อนรน​

ฮ่องเต้​ขมวดคิ้ว​ ใคร​กล้า​เสียมารยาท​เช่นนี้​ใน​ตำหนัก​ไทเฮา​กัน​ ทว่า​ชั่ว​ขณะนั้น​พระองค์​ก็​นึกถึง​ขึ้น​มาได้​ทันที​ สีหน้า​ก็​ผ่อนคลาย​พยักหน้า​เงียบๆ​

เกิด​การโต้เถียง​เล็ก​ๆ ขึ้นหน้า​ประตู​ เพียง​ไม่นาน​ขันที​ก็​เข้ามา​ด้วย​สีหน้า​ลำบากใจ​อย่าง​มาก​

“ฝ่าบาท​ จิ้น​อัน​จวิ้น​อ๋อง​ขอ​เข้าเฝ้า​พ่ะย่ะค่ะ​”

ไทเฮา​หัวเราะ​ขึ้น​

“ดู​สิ ที่สุด​แล้วก็​มีคน​อยาก​พบ​เจ้าเพื่อ​สิ่งนี้​” นาง​เอ่ย​กับ​ฮ่องเต้​

ทรง​หมายความ​ถึงเรื่อง​ที่​เรียก​เข้าเฝ้า​ใน​ฐานะ​หมอ​เทวดา​ ฮ่องเต้​จึงหัวเราะ​ขึ้น​มาเช่นกัน​

เขา​ไม่มาสิแปลก​ เขา​ไม่พอใจ​และ​เอาแต่​เฝ้าคอย​แม่นาง​ผู้​นี้​เช่นกัน​ จะเกลียด​แต่​ก็​อด​ให้​ช่วยเหลือ​มิได้​ หาก​จุดประสงค์​นั้น​มิใช่ทำ​เพื่อ​ญาติพี่น้อง​ของ​ตน​ที่​ตน​ห่วงใย​เช่นเดียวกับ​แม่นาง​ผู้​นี้​แล้​วจะ​เป็นอื่น​ใด​ได้​อีก​

“ให้​เข้ามา​” ฮ่องเต้​เอ่ย​

ขันที​รับ​บัญชา​ ทันใดนั้น​ด้านนอก​พลัน​มีฝีเท้า​เร่งร้อน​ดัง​ขึ้น​ เฉิงเจียว​เหนียง​ลุกขึ้น​ยัง​ไม่ทัน​จะได้​เงยหน้า​ก็​รู้สึก​ว่า​มีคน​มาหยุด​อยู่​เบื้องหน้า​ราวกับ​ลมหอบ​หนึ่ง​ ศีรษะ​ที่​ก้มลง​เห็น​รองเท้า​ขุนนาง​คู่​สวย​ประณีต​อยู่​ใต้​ชุด​คลุม​ที่​เผ​ยอขึ้น​จาก​การ​เดิน​ ในขณะเดียวกัน​กลิ่นหอม​สะอาด​เจือจาง​ที่​ไม่เหมือน​กลิ่น​ธูป​หอม​ที่อยู่​ภายใน​ตำหนัก​ก็​ลอย​อวล​เข้าสู่​จมูก​

“แม่นาง​เฉิง เจ้ามาแล้ว​”

เสียง​ก้องกังวาน​ดัง​ขึ้น​จาก​บน​ศีรษะ​ สอด​ประสาน​กับ​ความตื่นเต้น​ที่​ปิดไม่มิด​

เฉิงเจียว​เหนียว​ก้าว​ถอยหลัง​ก้าว​หนึ่ง​แล้ว​ค้อม​กาย​คำนับ​

…….

กุ้ยเฟย​ใช้เล็บ​ยาว​เคาะ​โต๊ะ​ไม่หยุด​ ไม่สนใจ​ถ้วย​ทอง​ที่​นางกำนัล​ด้าน​ข้าง​ส่งมาให้​สักนิด​

“จิ้น​อัน​จวิ้น​อ๋อง​เสด็จ​ไป​จริงๆ​ ด้วย​พ่ะย่ะค่ะ​” ขันที​นาย​หนึ่ง​สาวเท้า​เข้าไป​เอ่ย​เสียง​เบา​

กุ้ยเฟย​ยิ้ม​เย็น​ครู่หนึ่ง​ ดึง​มือ​กลับ​แล้ว​รับ​ถ้วย​ทอง​มาจาก​นางกำนัล​ที่​ส่งให้​ ก่อน​จะค่อยๆ​ จิบ​อย่าง​อ้อยอิ่ง​

“จากนั้น​เล่า​ ฝ่าบาท​กับ​ไทเฮา​ทรง​ขอ​อัน​ใด​ นาง​ก็​ตอบ​ตกลง​รึ​” นาง​เอ่ย​ถาม

ขันที​ส่ายหน้า​

“ยัง​มิทัน​ได้​พูด​เรื่อง​ชิ่งอ๋อง​พ่ะย่ะค่ะ​” เขา​ตอบ​

กุ้ยเฟย​หยุด​มือ​ มอง​ไป​ยัง​ขันที​

“ยัง​มิได้​พูด​รึ​” นาง​เอ่ย​ จู่ๆ ก็​แย้มยิ้ม​ขึ้น​มา ยก​ถ้วย​ทอง​ขึ้น​ดื่ม​ต่อ​ช้าๆ “ก็ดี​เหมือนกัน​ รอ​มาตั้ง​นาน​เพียงนี้​แล้ว​ ไม่ต้อง​รีบร้อน​ไป​ จะได้​ไม่น่าเกลียด​”

พอ​ดื่ม​หมด​ก็​วาง​ถ้วย​ลง​ ลุกขึ้น​ยืน​

“ไป​กัน​ เรา​ก็​ไป​พบ​แม่นาง​เฉิงผู้​นี้​ด้วย​ดีกว่า​ ได้ยิน​ว่า​อักษร​ของ​นาง​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​ใน​แผ่นดิน​ จะได้​เชิญนาง​มาสั่งสอน​ชี้แนะ​องค์​ชาย​ใหญ่​” นาง​เอ่ย​

แม่นาง​เฉิน​สิบ​แปด​รอ​อยู่​อีก​ด้าน​นาน​แล้ว​ แต่​นั่ง​รอ​อยู่​ตรงนี้​กลับ​ไม่น่าเบื่อ​ บน​ชั้น​หนังสือ​มีตำรา​เรียง​ไว้​มากมาย​ นาง​ถือ​ตำรา​ม้วน​หนึ่ง​ไว้​ใน​มือ​ อ่าน​ไป​พลาง​ ได้ยิน​เสียง​อ่านหนังสือ​และ​สอนหนังสือ​ดัง​ออก​มาจาก​ด้านใน​ไป​พลาง​

“…กุ้ยเฟย​บอ​กว่า​หาก​ฝ่าบาท​เลิกเรียน​แล้ว​เสด็จ​ไป​ตำหนัก​ไทเฮา​ด้วย​พ่ะย่ะค่ะ​”

“ไป​ทำ​อัน​ใด​รึ​”

“…แม่นาง​เฉิงผู้​นั้น​มาแล้ว​ ไทเฮา​เห็น​อักษร​ที่​นาง​เขียน​กับ​ตา​ ต้อง​อยาก​ให้​นาง​สอน​ฝ่าบาท​แน่​…”

“แม่นาง​เฉิน​ผู้​นั้น​…”

“โธ่ มีอันดับ​หนึ่ง​ของ​แผ่นดิน​แล้ว​ ใคร​เป็น​อันดับ​สอง​กัน​เล่า​…”

แม่นาง​เฉิน​สิบ​แปด​วาง​ตำรา​ใน​มือ​ลง​

“แม่นาง​เฉิน”​ มีคน​เอ่ย​เรียก​

แม่นาง​เฉิน​สิบ​แปด​ตกใจ​เล็กน้อย​นาง​ลุกขึ้น​ขานรับ​ ทำให้​ขันที​น้อย​คน​นั้น​ตกใจ​ยกใหญ่​

“แม่นาง​เฉิน​ ฝ่าบาท​เชิญเจ้าเข้าไป​” เขา​รีบ​บอก​พลาง​เบี่ยง​กาย​เชื้อเชิญ​

แม่นาง​เฉิน​สิบ​แปด​ขานรับ​ ยืดตัว​หลัง​ตรง​ประสานมือ​เดิน​เข้าไป​

ใน​ท้องพระโรง​เสินเซ่า​ดุดัน​เพียงนั้น​ ขนาด​ฮ่องเต้​ยัง​ไม่กล้า​ล่วงเกิน​ แม่นาง​น้อย​ตระกูล​ของ​เขา​เข้า​วัง​มาก็​ตัวสั่น​งันงก​เชียว​ ก็​ไม่เท่าใด​นี่​นา​

ขันที​น้อย​ก้มหน้า​หัวเราะ​ หันหลัง​เดินตาม​ไป​

ขุน​นางใน​ราช​วิทยาลัย​ที่​เดิมที​บรรยาย​อยู่​ได้​ขอตัว​ลา​ไป​แล้ว​ ภายใน​ห้อง​จึงเหลือ​เพียง​องค์​ชาย​ใหญ่​ที่นั่ง​อยู่​หน้า​โต๊ะ​

องค์​ชาย​ใหญ่​ที่​อายุ​สิบ​สามปี​ไร้​ซึ่งกลิ่นอาย​ของ​เด็ก​แล้ว​ ตั้งแต่​เล็ก​จน​โต​ก็​มักจะ​มีอาจารย์​เฉพาะ​มาอบรมสั่งสอน​ตั้งแต่​เรื่อง​มารยาท​ คำสอน​ของ​ขง​จื้อ​ การคำนวณ​และ​อีก​มากมาย​อยู่​เสมอ​ ทำให้​เขา​สูงศักดิ์​ไม่เหมือน​เด็ก​รุ่นราวคราวเดียวกัน​

“แม่นาง​เฉิน”​ เขา​คำนับ​ให้​ครึ่งหนึ่ง​อย่าง​ถูก​ต้องตาม​ธรรมเนียม​

แม่นาง​เฉิน​สิบ​แปด​คำนับ​คืน​ แต่กลับ​มิได้​เริ่ม​ฝึก​คัด​อักษร​ในทันที​ สายตา​นาง​ตกไป​ยัง​โต๊ะ​ที่อยู่​เบื้องหน้า​และ​ด้าน​ข้าง​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​

ล้วน​เต็มไปด้วย​ตำรา​มากมาย​

“ตำรา​พวก​นี้​ล้วน​เป็น​สิ่งที่​ฝ่าบาท​ต้อง​อ่าน​หรือ​เพคะ​” นาง​ถามขึ้น​อย่า​อด​ไม่ได้​

เหล่า​พี่ชาย​น้องชาย​ใน​ตระกูล​นาง​ก็​ต้อง​อ่าน​ตำรา​เช่นกัน​ แต่​เหล่า​น้องชาย​ที่​อายุ​เท่ากับ​องค์​ชาย​ใหญ่​กลับ​ไม่ได้​อ่าน​มากมาย​เพียงนี้​

องค์​ชาย​ใหญ่​พยักหน้า​อย่าง​เคร่งขรึม​ วาง​ตำรา​ที่อยู่​ใน​มือ​แล้ว​หยิบ​อีก​ม้วน​ขึ้น​มา

“แม่นาง​เฉิน​ หาก​เจ้าต้อง​เตรียมตัว​สักหน่อย​ล่ะ​ก็​ ข้า​จะอ่าน​ตำรา​สัก​บท​ก่อน​” เขา​บอก​

สายตา​ของ​แม่นาง​เฉิน​สิบ​แปด​ตก​อยู่​บน​ตำรา​

“อ่าน​ถึงเล่ม​นี้​แล้ว​หรือ​เพคะ​” นาง​เอ่ย​ถาม

องค์​ชาย​ใหญ่​พยักหน้า​

“อ่าน​ตำรา​ย่อม​ต้อง​ขยันหมั่นเพียร​อยู่แล้ว​” เขา​บอก​

“ฝ่าบาท​ของ​พวกเรา​อ่าน​ตำรา​ที​อ่าน​ถึงมืดค่ำ​นู่น​ ขยันหมั่นเพียร​ยิ่งนัก​” ขันที​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​เอ่ย​ด้วย​ความภาคภูมิ​พร้อม​ชื่นชม​ “มีแต่​คน​ชื่นชม​ว่า​ฝ่าบาท​ของ​พวกเรา​อ่าน​ตำรา​เก่ง​”

จริง​ แม่นาง​เฉิน​สิบ​แปด​ก็​เคย​ได้ยิน​เฉินเซ่า​บอก​ตอน​อยู่​ที่​เรือน​เช่นกัน​ว่า​องค์​ชาย​ใหญ่​เรียนหนังสือ​เก่ง​นัก​

“ที่แท้​ฝ่าบาท​ก็​ขยันหมั่นเพียร​เช่นนี้​นี่เอง​” นาง​เอ่ย​

“การ​ร่ำเรียน​และ​จะทำ​สิ่งใด​ ย่อม​ต้อง​ขยันขันแข็ง​” องค์​ชาย​ใหญ่​เอ่ย​อย่าง​ตามมารยาท​ “หรือ​เจ้ามิได้​ขยันหมั่นเพียร​ใน​การ​ร่ำเรียน​กัน​”

ใช่ ย่อม​เป็น​เช่นนั้น​ นาง​ขยันหมั่นเพียร​จึงได้​เกิด​ดอก​ออกผล​

แม่นาง​เฉิน​สิบ​แปด​พยักหน้า​

ไม่เป็นไร​ ตราบใดที่​ยัง​เพียรพยายาม​จะต้อง​ให้ผล​ที่​ดี​แน่​ นาง​ไม่กลัว​ ไม่กลัว​

“ฝ่าบาท​ เช่นนั้น​ท่าน​อ่าน​ก่อน​เถิด​เพคะ​ หม่อมฉัน​จะเขียน​อักษร​เสียหน่อย​” นาง​บอก​

องค์​ชาย​ใหญ่​พยักหน้า​ หยิบ​ตำรา​ขึ้น​มาอ่าน​อย่าง​ตั้งใจ​ แม่นาง​เฉิน​สิบ​แปด​หันหลัง​กลับ​ไป​ ฝีเท้า​ที่​เดิมที​ยัง​สับสนวุ่นวาย​อยู่​ก็​มั่นคง​ขึ้น​ ใบหน้า​ประดับ​รอยยิ้ม​เดิน​ไป​หน้า​โต๊ะ​ของ​ตัวเอง​ นาง​ยก​พู่​กันที่​เตรียม​ไว้​แต่แรก​ขึ้น​มา ถก​แขน​เสื้อ​จรด​พู่​กันลง​

ในขณะนั้น​เอง​กุ้ยเฟย​ที่​ก้าว​เข้ามา​ใน​ตำหนัก​ไทเฮา​ก็​มิได้​พบ​กับ​เฉิงเจียว​เหนียง​

“กลับ​ไป​แล้ว​หรือ​เพคะ​” นาง​ถามอย่าง​ตกใจ​เล็กน้อย​

“ไปดู​ชิ่งอ๋อง​แล้ว​” ไทเฮา​อมยิ้ม​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ปราบ​ปลื้ม​อย่าง​มาก​

ความ​ปราบ​ปลื้ม​นี้​ตก​สู่สายตา​กุ้ยเฟย​ หมัด​ที่อยู่​ใน​แขน​เสื้อ​กำ​แน่น​ขึ้น​อย่า​งอด​มิได้​

“เฉิงฝั่ง”

จิ้น​อัน​จวิ้น​อ๋อง​หันหน้า​กลับมา​ เห็น​หญิงสาว​ที่​เดิน​ตามมา​ด้วย​รอม​ยิ้ม​บางเบา​

“เจ้ามาบ้าน​ข้า​ ไม่ต้อง​ปีน​กำแพง​หรอก​นะ​”

เฉิงเจียว​เหนียง​เงยหน้า​มอง​เขา​ แล้ว​หันไป​มอง​ประตู​ตำหนัก​ที่​ถูก​บรรดา​ขันที​ผลัก​เปิด​ออก​อย่าง​เนิบ​ช้าเบื้องหน้า​ ก่อน​จะเผย​ยิ้ม​บาง​ออกมา​

พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง

พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง

Score 10
Status: Completed

นิยายโรแมนติก-ย้อนยุค แนวแก้แค้นสุดแสบฉบับหมอเทวดาสุดสวย! ผลงานจากผู้เขียน ‘หวนชะตารัก’


เฉิงเจียวเหนียงก็เป็นแค่เด็กสติไม่สมประกอบคนหนึ่งไม่ใช่หรือ แต่เหตุใดนางถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ใช่เฉิงเจียวเหนียง?’

ภาพความทรงจำประหลาดมากมายปรากฏขึ้นมาในหัวของเด็กสาวคนหนึ่ง…

ภาพของเฉิงเจียวเหนียง คุณหนูที่ถูกทอดทิ้งอยู่ในวัดเต๋า แต่จู่ๆ กลับมีเหตุการณ์ฟ้าผ่าครั้งใหญ่ใจกลางวัดจนทำให้นางสลบไป

เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าแม้ร่างกายจะหายดีเป็นปกติ แต่ความทรงจำของนางกลับหายไปหมดสิ้น

นางจึงตัดสินใจกลับมายังบ้านตระกูลเฉิงเพื่อตามหาความทรงจำที่แท้จริงของตัวเอง

และระหว่างทางกลับบ้าน นางก็ค้นพบความสามารถพิเศษในการรักษาคน

กระทั่งใช้ทักษะนี้ รักษาคนไข้จนเลี้ยงตัวเองได้และกลายเป็นที่เลื่องลือในฐานะ ‘หมอเทวดา’

ทว่าทันทีที่คนในตระกูลทราบข่าวการกลับมาของนาง พวกเขากลับมิได้ยินดีแม้แต่น้อย

…แต่ถึงอย่างไร ก็อย่าหวังว่านางจะเป็นเหยื่อให้ใครกลั่นแกล้งเหมือนเมื่อก่อน!

และหากจะมีศึกใดที่น่าตื่นใจ… สำหรับนางแล้วก็เห็นจะเป็นศึกในบ้านตระกูลเฉิงหลังนี้นี่แหละ!

Options

not work with dark mode
Reset